The Little Merman ยอดชายกับนายเงือก : วันที่ 26-5-59 : ตอนที่24 บทส่งท้าย
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: The Little Merman ยอดชายกับนายเงือก : วันที่ 26-5-59 : ตอนที่24 บทส่งท้าย  (อ่าน 77524 ครั้ง)

ออฟไลน์ mymine

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 29
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
    • FaceBook
ตอนที่22


เงือกจำนวนไม่น้อยปรากฏตัวขึ้น โดยมีผู้นำอย่างรัชทายาทแห่งแฟริเซียร์ยืนเด่นเป็นสง่าอยู่ นั่นทำให้ผมยิ้มด้วยความโล่งใจ จนกระทั่ง...
   

“ฟรานส์!” เสียงเรียกของฟีโอล่าเรียกเอาความทรงจำก่อนหน้านี้กลับมาอีกครั้ง และเผลอคิดไปว่าบางทีที่อีกฝ่ายตามมา อาจจะเพราะเงือกสาวข้างตัวผม
   

“ท ท่านฟรานส์.. ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่...” ลูคัสมองอีกฝ่ายด้วยความตกตะลึง “ไหนท่านฟีโอล่าบอกว่า...”
   

“บอกว่าข้าตามล่านางไปอีกทางสินะ หึ” แววตาของอีกฝ่ายวาววับเหมือนสัตว์ป่าเวลาล่าเหยื่อ “ถ้าข้าไม่ให้นางบอกแบบนั้นเจ้าจะสารภาพอะไรออกมาเยอะแยะหรือ”
   

“ท่านเชื่อนาง? ทั้งที่ท่านฟีโอล่าเกลียดท่านโอเชี่ยนมากขนาดนั้น นางอาจจะโกหกอะไรท่านก็ได้นี่”
   

“ใช่” ฟรานส์ตอบง่ายๆ “ฟีโอล่าอาจจะโกหกข้าก็ได้... เพียงแต่ผู้ที่ข้าเค้นข้อมูลไม่ใช่นาง... แต่เป็นเงือกกลุ่มที่ลักพาตัวโอเชี่ยนมาต่างหาก”
   

หมายความว่ายังไงกัน...
   

“หึ ก่อนข้าจะมาเจอเจ้านี่ ข้าเจอกับพวกที่เอากระเบนของข้าไปก่อน แล้วระหว่างที่ข้าสอบสวนพวกมัน ฟรานส์ก็โผล่มาเอาตัวไปสอบสวนเพิ่มเท่านั้นล่ะ” เงือกสาวข้างตัวผมแสยะยิ้มชอบใจ “เพราะอย่างนั้นคำสารภาพที่ออกมาจึงมิได้ออกจากปากข้า แต่ออกจากปากลูกน้องของเจ้าเองทั้งนั้น!! แล้วยิ่งพอข้าหลอกให้เจ้าพูดความจริงอีกสักหน่อย... ใครจะนึกว่าเจ้าจะสารภาพด้วยตัวเองจนหมดเปลือก”
   

ลูคัสทำท่าตกใจมาก เจ้าตัวกวาดตามองเงือกโดยรอบ จนกระทั่งเห็นกำลังเสริมของตัวเองที่อยู่ห่างไปไม่ไกล นั่นทำให้เจ้าตัวแสยะยิ้ม “ต่อให้รู้ความจริงแล้วจะมีอะไร ในเมื่อคนของพวกเจ้าแม้จะรวมกันแล้วจำนวนก็ยังสู้กำลังเสริมของข้าไม่ได้สักนิด ถ้าข้ากำจัดเจ้าไปด้วยทางแฟริเซียร์ก็จะไม่มีรัชทายาทอีก แบบนี้ท่านโอเชี่ยนก็จะเป็นผู้สืบบัลลังค์แน่นอน หึหึ”
   

คำพูดนั้นให้ผมเหลียวมองโดยรอบ และก็ตรงกับที่อีกฝ่ายพูดจริงๆ
   

ตอนนี้เงือกที่อยู่โดยรอบส่วนมากจะเป็นเงือกของทางเรมเดล ดูจากครีบและสีเขียวใสอันเป็นเอกลักษณ์ แม้จะมีเงือกจำนวนหนึ่งที่ติดตามฟรานส์มาด้วย แต่ก็ไม่มีทางที่จะรับมือเงือกพวกนี้หมดแน่นอน...
   

ทว่าฟรานส์กลับไม่มีท่าทีตื่นตระหนก เจ้าตัวเพ่งมองอีกฝ่ายด้วยแววตาเหยียดหยามซึ่งนั่นทำให้เจ้าชายเงือกแห่งเรมเดลทนไม่ได้
   

“ข้าจะให้พวกเจ้าตายอยู่ที่นี่ล่ะ ทหาร จัดการพวกมันซะ เหลือไว้เฉพาะเจ้าเงือกสีขาวนั่น!!!” ผมสะดุ้งกระชับอาวุธในมือเตรียมกับคลื่นการโจมตีทันที ตาก็เหลือบมองฟรานส์ด้วยความเป็นห่วง แต่ดูเหมือนผมจะคิดผิด เจ้าตัวยังคงยืนนิ่ง ในขณะที่ลูคัสกลับตวาดเสียงดัง “พวกเจ้า!!! ทำไมข้าสั่งแล้วไม่ทำตาม!!”
   

“พวกนั้นไม่ทำตามคำสั่งเจ้าอยู่แล้วล่ะ” ฟรานส์เอ่ยปากหลังจากมองอีกฝ่ายด้วยแววตาสมเพช “เจ้าลองมองให้ดีๆ ว่าในกลุ่มพวกนั้นมีผู้ใดที่เจ้าคุ้นตาหรือเปล่า”
   

ลูคัสหันไปเพ่งมองกลุ่มกำลังเสริมก่อนจะตกใจ เจ้าตัวอ้าปากค้าง แววตาสั่นระริก
   

ใคร? ใครที่ทำให้เจ้าตัวทำสีหน้าแบบนี้ ผมมองตามสายตาของอีกฝ่าย ตรงกลางของกำลังเสริมแหวกเป็นช่อง มีเงือกตัวหนึ่งว่ายออกมา เป็นเงือกรูปร่างสูงใหญ่ เกล็ดเป็นเงางามสีเขียวใสเช่นเดียวกับลูคัส หน้าตาคมเข้ม
   

“นั่นใครกัน” ด้วยความอยากรู้ผมเลยหัวไปกระซิบถามเงือกที่อยู่ใกล้ตัวของผมที่สุด ซึ่งจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก...


“...นี่เจ้าโง่ ไม่คิดจะหัดเรียนรู้เรื่องราวของเมืองอื่นบ้างเลยรึ?” ฟีโอล่ากัดผมมาอีกดอก ก่อนจะยอมเฉลยให้ฟัง “นั่นรัชทายาทของเรมเดล พี่ชายของลูคัส”


ผมจะถือว่าผู้หญิงด่าแปลว่าผู้หญิงรักละกัน ฮือๆ


ตรงหน้าผมกลายเป็นศึกทะเลาะระหว่างพี่กับน้องชาย ดูเหมือนลูคัสจะไม่ยอมรับว่าสิ่งที่ตัวเองทำนั้นเป็นเรื่องไม่สมควร ผมมองดูอีกฝ่ายแล้วท่าทางทั้งคู่จะไม่ค่อยถูกกันเท่าไหร่ อาจจะเพราะเรื่องความอิจฉาริษยา สิทธิในการสืบทอดตำแหน่ง หรือเรื่องอื่นที่พวกผมไม่รู้


“ทั้งที่ข้ากำลังจะทำให้เมืองของเราก้าวล้ำเมืองอื่นแล้ว เจ้ากลับมาขวาง เจ้ามันก็แค่อิจฉาที่ข้าจะได้ความดีความชอบเท่านั้นล่ะ!!!”


“เจ้านี่มัน...” รัชทายาทแห่งเรมเดลหลับตาลง เหมือนเหลืออดกับอีกฝ่าย “เจ้ารู้บ้างไหม เพราะอะไรข้าถึงต้องออกมาด้วยตนเอง... ข้ารึอุตส่าห์พยายามเปลี่ยนความคิดเจ้า.. ให้ท่านฟรานส์เห็นว่าเจ้าสำนึกผิด.. หวังว่าท่านจะยอมเห็นแก่สัมพันธ์อันดีระหว่างเมืองทั้งสองยอมละเว้นให้...” แววตาของอีกฝ่ายกร้าวขึ้นหลังจากลืมตาอีกครั้ง กระทั่งผมเองยังรู้สึกสยองทั้งที่อีกฝ่ายไม่ได้มองมาที่ผมเลยสักนิด “ท่านฟรานส์เข้าไปพบกับท่านพ่อเรียบร้อยแล้วก่อนที่เจ้าจะมาถึง... และท่านก็ได้ตัดสินใจเรื่องของเจ้าแล้ว...”


“โทษของการลักพาตัวและคิดจะสังหารเจ้าชายของเมืองอื่น เจ้าจะถูกไล่ออกจากเรมเดลและจะถูกท่านฟรานส์พาตัวกลับไป ทางแฟริเซียร์จะเป็นผู้ตัดสินโทษของเจ้าเอง”


“เจ้าโกหก!!! ท่านพ่อไม่มีทางทำแบบนี้กับข้า” คนเป็นพี่เขวี้ยงอะไรบางอย่างให้น้องชายตัวเอง ซึ่งมองแล้วผมคิดว่าน่าจะเป็นจดหมายหรืออะไรที่ใช้แทนคำสั่ง เพราะทันทีที่ลูคัสกวาดตามอง "ไม่ ไม่จริง..”


กว่าอีกฝ่ายจะยอมรับก็ใช้เวลานานพอดู แต่สุดท้ายลูคัสก็ถูกทหารของแฟริเซียร์พาตัวไป ปิดคดีลักพาตัวผมอย่างเป็นทางการ
ในขณะที่คนน้องถูกพาตัวไป คนพี่กลับว่ายตรงเข้าหาผม แม้จะเห็นไกลๆ แล้วว่าอีกฝ่ายตัวใหญ่ขนาดไหน แต่พอเข้ามาใกล้ผมยิ่งต้องอ้าปากค้าง


ที่บ้านให้กินอะไรเป็นอาหารวะ


อีกฝ่ายตัวสูงกว่าผมมาก ยิ่งฟีโอล่าที่ลอยอยู่ใกล้ๆแล้ว เหมือนพ่อกับลูกสาวเลย


ว่าแต่ดูเหมือนอีกฝ่ายมีอะไรจะพูดกับผม?


“ข้ารู้ว่าสิ่งที่กำลังจะกล่าวอาจจะเป็นการขอที่มากเกินไป แต่ท่านโอเชี่ยน ข้าขอร้องโปรดละเว้นโทษตายแก่น้องข้าด้วย..”


หา ถึงตายเลยหรือ ผมชะงักเพราะสิ่งที่อีกฝ่ายพูดดูจะเป็นการลงโทษที่ร้ายแรงมาก แต่ผมไม่คิดว่าตัวเองจะเป็นคนตัดสินโทษหรอก “นาย เอ่อ ท่านน่าจะเอาเรื่องนี้ไปบอกกับฟรานส์มากกว่านะ”


“ไม่หรอก ถ้าท่านเป็นผู้พูด ท่านฟรานส์จะต้องฟังท่านแน่นอน” เจ้าตัวยืนยันหนักแน่น ก่อนจะคว้ามือผมไปกุมไว้ “ได้โปรดท่านโอเชี่ยน...” จะช่วยหรือไม่ช่วยไม่รู้ แต่ทำไมมือ...มือเอ็งต้องไวแบบนั้นด้วย นี่มันมุกหลอกจับมือสาวนี่หว่า อย่านึกว่าคนอย่างโอเชี่ยนไม่เคยใช้นะเฟร้ย!!


แล้วที่สำคัญน้ำหน้าสุดหล่ออย่างผมนี่มันน่าหลอกจับมือตรงไหน?? ตอบ!


“เอ่อ..คือ มือ..” ยังไม่ทันได้พูดจบประโยคมือของผมก็ถูกดึงออก โดยใครบางคนที่ไม่รู้พุ่งมาจากไหน


ฟรานส์ดึงผมไปอยู่ด้านหลัง ส่วนตัวเองจ้องหน้าอีกฝ่ายทั้งที่ตัวเล็กกว่าเค้าไม่ต่างจากผม อารมณ์เหมือนแมวกำลังแยกเขี้ยวขู่หมาเลย “ไม่ทราบว่าท่านมีปัญหาอะไรกับคนของข้าหรือลูเซียส”


รัชทายาทที่ผมพึ่งจะได้รู้ชื่อยกมือขึ้นเป็นเชิงยอมแพ้ “ข้าก็แค่อยากจะสร้างความสนิทสนมกับเจ้าชายของแฟริเซียร์เท่านั้นเอง” เจ้าตัวพูดยิ้มๆ “ท่านโอเชี่ยนสนใจที่จะทำตามสัญญาในอดีตแทนผู้ให้กำเนิดบ้างไหม” พี่แกหันมาพูดกับผมที่ยังทำหน้าพูดไม่ออกบอกไม่ถูก แต่เมื่อเจ้าตัวเห็นสีหน้าฟรานส์ที่ทำท่าจะกระโจนไปกัดแล้ว “โอเคๆ ข้าไม่หยอกท่านละ เลิกทำหน้าเหมือนจะงับหัวข้าเสียที... แต่ ฟรานส์ สิ่งที่ข้าพูดกับท่านโอเชี่ยนข้าพูดจริงนะ” อีกฝ่ายกลับมาทำท่าทางซีเรียสตามเคย แต่ดูเหมือนว่าคนที่กุมมือของผมจะอารมณ์ไม่ดีไปแล้วไง เจ้าตัวหันหนีเตรียมออกทันทีโดยไม่ตอบคำถามอีกฝ่าย


“แล้วเรื่องลูคัสล่ะ? ..ฟรานส์..” ผมแย้งขึ้นเพราะอีกฝ่ายลากๆ ผมไปเรื่อยโดยไม่มีวี่แววจะตอบคำถาม เรื่องนี้ผมเองก็อยากรู้เหมือนกัน.. แม้ผมจะเจ็บไม่น้อยและแอบแค้นอีกฝ่ายอยู่บ้าง แต่ผมก็ไม่ได้อยากให้อีกฝ่ายถึงตายนะ


“เรื่องน้องชายของท่านข้าไม่ใช่ผู้เดียวที่มีสิทธิตัดสิน ต้องปรึกษาท่านไลอาร์ด้วย” ฟรานส์ถอนหายใจหลังจากคนเซ้าซี้เพิ่มจากหนึ่งเป็นสอง “ข้าจะลองพูดให้แต่ไม่รับปากละกัน...” พอพูดจบ เจ้าตัวก็ลากผมออกจากวงเป็นการปิดการสนทนา จนกระทั่งห่างออกจากบรรดาเงือกทั้งหลายพอสมควร อีกฝ่ายหันมามองผมเต็มตา ก่อนจะเริ่มเอามือคลำไปทั่วตัวผม


เฮ้ยๆ อยู่ดีๆ ทำไมมาลูบมาคลำกันแบบนี้


“โล่งอกไปที...” เจ้าตัวจับจนพอใจแล้วจึงดึงผมเข้าไปกอดแน่น.. “ข้าตกใจแทบแย่ตอนเจ้าหายตัวไป” ร่างกายของอีกฝ่ายสั่นสะท้าน “ข้านึกว่าจะไม่ได้เจอเจ้าอีกแล้ว” ผมยกมือขึ้นกอดอีกฝ่ายด้วยความรู้สึกไม่แตกต่างกันนัก ตอนที่ผมกำลังหนี ผมเฝ้าภาวนาให้ฟรานส์ออกมาตามหาเหมือนตอนที่ผมถูกโยนลงไปในกระแสน้ำ แม้จะรู้ว่าแทบเป็นไปไม่ได้ที่อีกฝ่ายจะตามหาผมเจอท่ามกลางมหาสมุทรที่กว้างใหญ่


แต่อีกฝ่ายก็หาผมเจอจนได้


ฟรานส์ค่อยๆใช้ปลายนิ้วไล้ไปตามแก้ม แววตาที่มองมาสื่อทุกอย่างออกมาโดยไม่ต้องมีคำพูด ผมสบตาอีกฝ่ายด้วยความรู้สึกไม่แตกต่างกันนัก ใบหน้าของเราค่อยๆ เลื่อนหากันช้าๆ

   
“...อะแฮ่มๆ”
   

ใครขัดจังหวะวะ!! ผมหันไปมองอีกฝ่ายก่อนจะชะงัก ฟีโอล่ากำลังทำหน้านิ่วคิ้วขมวดเหมือนกำลังขัดใจ ไม่ชอบใจอะไรบางอย่าง


ผมลืมอีกฝ่ายไปได้อย่างไร ในเมื่อทุกอย่างมันยังค้างคาแบบนี้


“อะไรอีกล่ะฟีโอล่า” ฟรานส์เป็นฝ่ายเอ่ยปากทักก่อน แต่ทำไมผมถึงรู้สึกถึงความไม่พอใจบางอย่างที่แผ่ออกมาจากเจ้าตัว


“ไม่เหมาะ... มองยังไงก็ไม่เหมาะจริงๆ” เจ้าตัวพึมพำเสียงไม่เบานัก นั่นทำให้ผมก้มหน้าหลบตา มือที่โอบเงือกตรงหน้าอยู่ขยับมาดันอีกฝ่ายออกห่างจากตัว


แต่ดูเหมือนฟรานส์จะไม่ยอม เจ้าตัวรัดผมแน่นยิ่งกว่าเดิม และผมเริ่มจะจุก! เจ้าตัวลืมไปไหมว่าตัวเองแรงเยอะเนี่ย “ข้าบอกไปแล้วนะว่าโอเชี่ยนเป็นคนรักของข้า เป็นผู้ที่ข้าเลือกเองและข้าไม่ได้ขอความเห็นเจ้า!” สิ่งที่อีกฝ่ายพูดทำให้ผมหันควับทันที อีกฝ่ายว่าอะไรนะ?


แต่ดูเหมือนเงือกสาวตรงหน้าจะยังไม่พอใจ เจ้าตัวบ่นเสียงขรม “ทำไมเจ้าจะหาคู่ทั้งทีไม่เอาที่เหมาะกับเจ้าหน่อยเล่า! เจ้าเงือกนี่งามก็ไม่งาม มาเป็นภรรยาให้เจ้าหรือก็ไม่เหมาะ สามีอะไรงามกว่าภรรยา แต่จะให้เป็นสามี เจ้าปลิงทะเลนี่ก็แมนไม่พอ โอ้ย!! ดูยังไงฟิลันก็ดีกว่าตั้งเยอะ..”


หมายความว่ายังไงฟระ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับฟิลัน?


“ฟีโอล่า...” ฟรานส์ดูอดกลั้นมากที่จะพูดกับอีกฝ่าย “ยังไงข้ายืนยันคำเดิมว่าต่อให้ข้าไม่มีใคร ข้าก็ไม่คิดจะทำตามความคิดเจ้าอยู่ดี เจ้าก็เลิกหาทางจับคู่ระหว่างข้ากับฟิลันได้แล้ว”


หาอะไรนะ? จับคู่กับฟิลัน? เจ้าตัวเป็นพี่น้องแท้ๆกับเงือกตรงหน้าไม่ใช่หรือ ผมหรือตกข่าวอะไรไป?


“เชอะ! ไม่ได้ดังใจเลย ...แต่จะว่าไปเมื่อวันก่อนข้าเห็นท่านชาร์คอุ้มท่านราซันขึ้นพาดไหล่ แหมโมเม้นต์แบบนั้นก็ไม่เลวนะ... ข้าลองหันไปเชียร์คู่นี้บ้างดีกว่าเผื่อจะได้คู่ใหม่” พูดจบเงือกสาวตรงหน้าก็หันมาชี้นิ้วใส่ผม “ข้าล่ะเกลียดเจ้าจริงๆ เลย ทำเอาคู่จิ้นของข้าเสียหมด!!” อีกฝ่ายบ่นๆๆ ก่อนจะว่ายหนีไป คาดว่าคงจะไปหาคู่จิ้นใหม่อะไรนั่นทิ้งผมให้อ้าปากค้างกับสิ่งที่อีกฝ่ายพูด


“ฟรานส์นี่มัน...”


เจ้าตัวถอนหายใจ “ฟีโอล่ามีรสนิยมชอบจับคู่ที่เจ้าหล่อนถูกใจน่ะ โดยเฉพาะก่อนหน้านี้พยายามจับคู่ข้ากับฟิลันบอกว่าเป็นคู่รักต้องห้ามอะไรนั่น พอมีเจ้าเข้ามาเลยคิดว่าโดนแทรกคู่ในอุดมคติของเจ้าหล่อน เจ้าตัวเลยไม่ชอบใจ”


“แล้วที่หอมแก้มกับฟีโอล่าล่ะ”


“นั่นปกติของเจ้าหล่อน ก่อนหน้านี้ฟิลันก็โดน”


“แล้วที่กอดกันหน้าห้องพักล่ะ”


“นั่นข้าพูดแบบเมื่อครู่ออกไปแล้วเจ้าตัวไม่ยอมรับ โวยวายร้องไห้บอกเสียของแล้วก็กระโจนมาหาข้านี่ล่ะ”


“...งั้นที่ที่ฟิลันบอกว่า พอนางมาเจ้าก็ทิ้งน้อง”


“ข้าพยายามจะให้นางเลิกคิดแบบนั้นเลยเลี่ยงการอยู่ใกล้ฟิลัน เพราะยิ่งอยู่ใกล้นางก็จะยิ่งชอบใจ”


“แล้วฟิลันรู้เรื่องนี้ไหม?”


“รู้สิเจ้าตัวถึงได้ออกอาการเกลียดเจ้าหล่อนออกนอกหน้าแบบนั้น”


..........................................


สรุปว่าทั้งหมดผมคิดไปเอง งอนไปเองคนเดียว? ให้ตายเถอะ อับอายขายขี้หน้า ผมในตอนนี้ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ความจริงเรื่องฟีโอล่าทำให้ผมอายเสียจนอยากจะมุดลงรูมากเลย มีรูไหนใหญ่พอให้พี่โอมุดลงบ้าง...

-------------------------------------------------------

TalK...เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า อย่าได้ริจมเรือสาวY ........

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
เงือกก็มีสายวายได้ แหม่ สายนี้นี่ประมาทไม่ได้จริงๆ

ตอนแรกโผล่มานี่ปรปักษ์กับโอเชี่ยนเต็มที่เลยนาาาา  :mew4:

ออฟไลน์ เฉื่อย

  • UNCOMMON AS NORMAL.
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 66
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
ความวายนีาสามารถแพร่ไปไกลยันเมืองเงือกเลยเจ้าค่ะ//ยิ้มกริ่ม

ออฟไลน์ suikajang

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
มุดกับอกฟรานเลยจ้าน่าจะดีสุดๆ เค้าหนับหนุน
สาววายจงเจริญคะ แหมๆ หลงผิดไม่ชอบนางมาตั้งนานที่แท้พวกเดียวกันกะเค้า 55555

ออฟไลน์ ทั่วหล้า

  • ไม่ช่างพูดแต่ช่างพิมพ์
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1049
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-3
ฟรานส์xโอเชี่ยน
คู่เมียชนเมีย5555555555555

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 o13   :mew1:  ฟรานซ์xโอเชี่ยน 
ชูป้ายไฟเชียร์เต็มที่
ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ isuloveU Soly

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 30
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เรื่องนี้น่าติดตามากกก สนุกอ่านไม่มีเบื่อเลย o13 :-[

ออฟไลน์ Minty

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 743
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
นึกว่าฟิโอล่าเป็นคนไม่ดี :mew5:

ออฟไลน์ mymine

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 29
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
    • FaceBook
ตอนที่23


พวกเราทั้งหมดกลับถึงแฟริเซียร์ในอีก2วันต่อมา ทันทีที่ก้าวเข้าไปในปราสาท ฟิลันก็กระโจนมาหาผมด้วยแรงคิดถึง(?) จนหัวทิ่มทันที
   

บอกหลายทีแล้วนะเฟร้ยว่าตัวเองไม่ใช่เงือกตัวเล็กๆ แล้ว
   

พอท่านไลอาร์ทราบก็รีบให้เงือกมาเชิญพวกผมไปหา พอเจอหน้าไม่พูดพร่ำทำเพลงท่านยายก็รวบตัวผมเข้าไปกอดทำเอาผมเหวอเล็กน้อย แต่ดูจากอาการสั่นแล้ว การที่ผมหายไปคงทำให้ท่านนึกถึงแม่ของผมขึ้นมา
   

พอท่านหายตกใจแล้วเราก็มาพูดกันถึงเรื่องที่เกิดขึ้น อย่างที่คาดไว้ ดูท่านย่าจะไม่พอใจมากและต้องการให้อีกฝ่ายได้รับโทษในระดับสูงสุด แม้ผมจะขอร้องแล้วแต่ดูเหมือนท่านย่าจะไม่ไว้วางใจกลัวอีกฝ่ายจะกลับมาอีก
   

“เด็กคนนั้นมีนิสัยทะเยอทะยาน ข้าไม่เชื่อว่าอีกฝ่ายจะยอมเลิกราไปหรอก”
   

แล้วจะปล่อยให้อีกฝ่ายต้องตายไปจริงๆ หรือ มัน...ดูรุนแรงเกินไป ในเมื่อเถียงเองไม่ได้จึงได้แต่ลอบขอร้องฟรานส์ด้วยสายตา ผมคิดว่าอีกฝ่ายน่าจะมีวิธีดีๆเพียงแต่ไม่เอ่ยปากขึ้นมาเองก็เพราะเจ้าตัวเองก็แค้นเคืองไม่ใช่น้อย เลือกได้ก็คงอยากจะกำจัดอีกฝ่ายทิ้งไปซะ
   

เงือกข้างตัวรับรู้สายตาของผม เจ้าตัวถอนหายใจเล็กน้อย “ท่านไลอาร์ข้ามีเรื่องจะแจ้งให้ท่านทราบ...” สิ่งที่ฟรานส์เอ่ยออกมาจำให้ราชินีเงือกละสายตากลับมาหาตน “เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นข้าเองก็ไม่ชอบใจ และหวังให้ลงโทษไม่ละเว้นเช่นกัน... แต่ในความจริงแล้วเราไม่ควรทำเช่นนั่น มันจะทำให้เกิดปัญหาความขัดแย้งมากกว่า ถ้าเป็นไปได้ท่านก็ไม่อยากบาดหมางกับอีกฝ่ายใช่หรือไม่”
   

“แล้วเจ้าคิดว่าเราอยากทำหรือ? ...แน่นอนต้นเหตุจากเรื่องนี้มาจากทางเรา แต่สำหรับเด็กคนนี้...เขาไร้เดียงสาเกินไป แล้วถ้า...ถ้าเกิดเหตุการณ์น่ากลัวแบบนี้ขึ้นอีกครั้งข้าจะทนได้เช่นไร”
   

หยดน้ำตาที่ไหลลงอาบแก้มกลายเป็นไข่มุกกระทบลงบนตักของอีกฝ่าย นั่นทำให้ผมรู้สึกผิด ที่ทำให้อีกฝ่ายเป็นห่วงผมมากขนาดนี้ ผมจึงเคลื่อนตัวเข้าไปหาอีกฝ่าย ย่อตัวลงลงซบหน้าลงบนตัก ความรู้สึกที่อีกฝ่ายมีให้ทำให้ผมอบอุ่นแม้จะมีไข่มุกหล่นลงกระทบหัวเป็นระยะ
   

ให้ตายเถอะขัดอารมณ์ซึ้งเสียจริง
   

ฟรานส์เคลื่อนตัวมานั่งเคียงข้าง แต่เจ้าตัวเหมือนจะรู้ทันเลือกดึงมือหญิงชราผู้กุมตำแหน่งสูงสุดของแฟริเซียร์แทนที่จะทำแบบผม “ท่านอย่าได้กังวล ข้าให้สัญญาว่า หลังจากนี้จะไม่มีใครทำอันตรายโอเชี่ยนได้อีก... เพราะอย่างนั้น ปล่อยเรื่องนี้ให้ข้าจัดการได้หรือไม่” คุณย่าสะอึกสะอื้นราวกับเด็ก นั่นทำให้ไข่มุกยิ่งหล่นมามากขึ้น คือมันก็ไม่ได้เจ็บหรอกนะครับ แต่ผมก็ยังลังเลใจระหว่างให้ท่านหยุดร้องเพราะผมรู้สึกไม่ดีที่ทำคนแก่ร้องไห้ หรือจะปล่อยให้ร้องต่อไปเพราะจะได้ไข่มุกไปขาย น้ำตาไข่มุกของฟิลันที่เจอในตอนแรกว่าสวยแล้ว แต่ของท่านย่านี่ยิ่งสวยกว่า เม็ดใหญ่กลมเกลี้ยงสะท้อนแสงเป็นประกายแวววาว นี่ถ้าผมเอาไปขายบนบกต้องได้หลายตังแน่นอน
   

ว่าแต่มันใช่เวลาไหมเนี่ย
   

“เอาเถิด ถ้าเจ้ามั่นใจเช่นนั้นก็จัดการได้เลย”
   

ฟรานส์พยักหน้าพร้อมส่งยิ้มให้อีกฝ่ายเพื่อความมั่นใจ “แน่นอนแม้จะละเว้นโทษตายให้แต่โทษเป็นยังอยู่ จะข้าใช้กรณีนี้เป็นตัวอย่างให้ผู้อื่นเห็นว่าการที่ประสงค์ร้ายกับเจ้าชายแห่งแฟริเซียร์แล้วจะมีจุดจบยังไง”
   

อ่า ผมกำลังจะบอกว่าฟรานส์นี่ก็อ่อนโยนเหมือนกันนะ แต่เจอคำพูดนี้เล่นเอากลืนความคิดกลับลงคอแทบไม่ทัน
   

“และข้าก็มีอีกเรื่องที่อยากจะแจ้งให้ท่านทราบ” เงือกข้างตัวดึงมือผมไปกุมเอาไว้ “ข้ารักโอเชี่ยน” สิ่งที่ฟรานส์พูดทำเอาผมอ้าปากค้างหน้าเห่อร้อนไปหมด ที่เจ้าตัวพูดเรื่องนี้ต่อหน้าผู้ใหญ่ได้อย่างไม่มีอาการเขินอาย
   

ทว่าผู้อาวุโสตรงหน้ากลับไม่ได้มีสีหน้าเปลี่ยนไป ท่านย่าสบตากับฟรานส์นิ่งอยู่นาน จนกระทั่งท่านถอนหายใจออกมา “ข้าพอจะรู้อยู่แล้ว... เพียงแต่นึกไม่ถึงว่าเจ้าจะใช้ช่วงเวลาแบบนี้ในการบอกข้า”
   

“ไม่หรอกท่านไลอาร์ เพราะเป็นช่วงเวลานี้ต่างหากจึงเหมาะสม” เจ้าตัวดึงมือผมไปกุมไว้ “เวลาที่ท่านรับรู้ว่าภายใต้ผืนน้ำแห่งนี้ไม่ปลอดภัยสำหรับโอเชี่ยนเลยสักนิด เขาประสบการณ์น้อยเกินไป แน่นอนว่าข้าย่อมรู้ดีว่าท่านมีความต้องการที่จะให้เขาอยู่กับท่านแบบนี้ไปเรื่อยๆ แต่ถ้าเกิดเหตุร้ายขึ้นอีก โอกาสที่โอเชี่ยนจะเป็นอันตรายหรือเลือกกลับไปอยู่กับบิดาของเจ้าตัวก็เป็นไปได้มาก... เพราะอย่างนั้นยกเขาให้ข้าเถิด ข้าขอรับรองด้วยชีวิตว่าจะไม่มีใครหน้าไหนมาทำร้ายเขาได้อีก...”
   

ผมเหลือบไปมองหน้าฟรานส์ที่กุมมือผมอยู่ เจ้าตัวสบตากับอีกฝ่ายนิ่ง แววตามั่นคงที่สะท้อนออกมาทำเอาความรู้สึกของผมปั่นป่วนไปหมด ดีใจ ปลื้มใจ ระคนสับสน งุนงง
   

ก็คนที่ควรไปสู่ขอมันต้องเป็นผมไม่ใช่หรือวะ ทำไมว่าที่ภรรยาของผมพูดเอาๆ
   

ท่านย่าดูท่าทางไม่เห็นด้วย แต่ดูเหมือนคารมของฟรานส์จะดีไม่ใช่น้อย กล่อมจนสุดท้ายอีกฝ่ายก็ต้องยอมแพ้ ทั้งเรื่องผมและเรื่องลูคัส ส่วนว่าคุยอะไรบ้างผมขอละไว้แล้วกัน เพราะมัวแต่ปลื้มก็เลยไม่ได้ตั้งใจฝั่งเท่าไหร่
   

ใช้เวลาหลายชั่วโมงท่านย่าถึงได้ปล่อยพวกผมกลับไปพัก ตลอดเวลาที่คุยกันจนถึงตอนนี้ ฟรานส์ยังไม่ยอมปล่อยมือของผมเลยจนกระทั่งมาถึงห้อง ผมกระตุกมือเรียกอีกฝ่ายให้หันมามอง “ฟรานส์แล้วตกลงนายจะทำยังไงกับลูคัส”
   

เจ้าตัวเลิกคิ้วก่อนจะดุผมว่า “แทนที่เจ้าจะถามเรื่องของเรา เจ้าดันถามเรื่องเจ้านั่นก่อน ข้าควรจะรีบสั่งเชือดมันทิ้งซะดีไหม” อู้ย โหดด้วย ผมไม่ได้ไม่สนใจเรื่องนั้นนะ แต่บอกตรงๆ ผมเขินวะ เกิดมาไม่เคยมีโมเม้นมีคนมาสู่ขอแบบนี้ ความรู้สึกคงจะคล้ายๆ กับหนุ่มอินเดียที่ให้เจ้าสาวเป็นคนสู่ขอ
   

“เรื่องของเรา?”
   

ฟรานส์ทำหน้าประมาณว่า ‘ตรูรักไอ้โง่นี่ไปได้ยังไง’ เจ้าตัวลากผมไปที่เตียงก่อนจะเหวี่ยงผมลงไปแบบไม่เบาแรงนะ
   

โอ้ย!! โสรยา ทำไมรุ่นแรงกับพี่แบบนี้
   

ว่าแต่จำเลยรักเวอร์ชั่นไหนที่นางเอกทุ่มพระเอกลงเตียงเนี่ย...
   

แต่ทว่ายังไม่ทันได้อ้าปากถามโสรยา เอ้ย ฟรานส์ก็เข้าประชิดตัวผมแล้ว เจ้าตัวคร่อมผมที่นั่งกองอยู่บนเตียง กักผมไว้ด้วยแขนทั้งสองข้าง แต่พวกคุณๆทั้งหลายลืมโมเม้นต์สบตาหวานชื่นกลืนกินไปได้เลย... เพราะตอนนี้พ่อเงือกตรงหน้ากำลังทำหน้าดุแววตาที่พร้อมจะฆาตกรรมผม...
   

ผมทำอะไรผิดเนี่ย!!
   

ผมมองอีกฝ่ายด้วยแววตาตื่นๆ ระคนสงสัย ว่าอีกฝ่ายโมโหโกรธาอะไร ใยเจ้าทำหน้าเยี่ยงสตรีวันแดงเดือดเช่นนี้...
   

“คำตอบละ...”
   

คำตอบอะไรวะครับ ขอประธาน กริยาด้วยสิเฟร้ย อย่ามาแต่กรรม(ของผม)
   

ในใจคิดแบบนั้นนะ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ผมได้แต่พยายามทำท่าน่ารักด้วยการเอียงคอนิดๆ ทำหน้าประหนึ่งสาวน้อยใสซื่อ แบบคำตอบอะไร หนูไม่รู้เรื่อง “คำตอบอะไรหรือ?”
   

ไม่น่าตอบไปแบบนั้นเลย.. ทันทีที่พูดจบ หน้าฟรานส์ที่น่ากลัวอยู่แล้วยิ่งเพิ่มระดับความน่ากลัวมากไปอีก จนขนแขนพากันลุกชันหมดแล้ว
   

“ข้าพึ่งจะขอเจ้าแต่งงาน... แต่เจ้ากลับจำไม่ได้แถมสนใจแต่เจ้าลูคัสนี่นะ!” ผมสะดุ้งคืออันนั้นขอกับย่าผมไม่ใช่หรือ เจ้าตัวขอผมตอนไหนวะ แล้วที่สำคัญ.... “คำตอบล่ะ!” เป็นการขอแต่งงานที่ดูข่มขู่มาก...
   

“...ไม่”
   

คำตอบนั้นทำให้ฟรานส์ชะงัก เจ้าตัวถอยหลังออกไปเล็กน้อย เพ่งมองผมด้วยแววตาไม่เชื่อ “เจ้าไม่ต้องการแต่งกับข้า? เจ้าไม่ได้รักข้าหรือ...”
   

“ไม่ได้ดิ! ฉันต้องเป็นคนขอนายสิ!” มีอย่างที่ไหนภรรยามาเป็นฝ่ายทำเท่ขอแต่งงาน มันต้องให้สามีทำสิ
   

“.........อ๋อ สรุปว่าเจ้าอยากเป็นฝ่ายขอความรัก?” ได้ยินแบบนั้นเงือกตรงหน้าก็เลยถอยตัวไปนั่งบนเก้าอี้ ทำท่าประหนึ่งราชินีที่มีข้าทาสคลานเข่ามาขอให้ลงโทษ จะบอกว่าผมเหมือนเห็นภาพอีกฝ่ายนั่งไขว่ห้างกระดิกเท้าด้วย “ตกลงเอายังไง จะขอหรือไม่ขอ?”


มีการมาเร่งด้วยนะ
   

ทำไมไม่ว่าสถานะไหนผมก็ดูจะเป็นฝ่ายถูกข่มขู่ละนี่...
   

ผมว่ายไปคุกเข่าตรงหน้าอีกฝ่าย “ฟรานส์..คือ คือว่า...”
   

“...ตกลง”
   

“เฮ้ย!! ยังไม่ได้พูดอะไรเลย!”
   

“ขืนรอเจ้าชาตินี้คงไม่ต้องแต่ง..” ดูเจ้าตัวพูด “ให้โอกาสเจ้าอีกรอบ ถ้ายังไม่ได้อีกข้าจะฉุดแทนนะ”


ผมสูดหายใจลึก ก่อนจะยืดตัวขึ้นเพื่อให้สบตากับอีกฝ่าย กุมมือของเจ้าตัวไว้ “ฟรานส์... ฉันรักนาย” ทันทีที่พูดจบแก้มของอีกฝ่ายแดงก่ำขึ้น นัยน์ตาสีฟ้าใสของฟรานส์เบิกกว้าง ก่อนแววตาจะเปลี่ยนเป็นพราวระยับ “รับรองว่าฉันจะเป็นสามีที่ดี ไม่ทำให้นายเสียใจอีก เพราะอย่างนั้นได้โปรดแต่งงานกับฉันนะ”


“หือ?” ฟรานส์ทำท่าเลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจ ก่อนเจ้าตัวจะยิ้มหวาน เคลื่อนหน้าเข้ามาใกล้จนริมฝีปากของเราสัมผัสกันแผ่วเบา... “ตกลง หึหึ”
   

ทั้งที่ดูอ่อนหวาน แต่ทำไมผมถึงรู้สึกหนาววูปกับรอยยิ้มของอีกฝ่ายชอบกลวะ


   
ฟรานส์จัดการทุกอย่างรวดเร็วสมกับที่ทำงานมานาน แค่ไม่กี่วันการตัดสินโทษของลูคัสก็ถูกจัดขึ้น และโทษก็ถูกกำหนดขึ้นโดยเร็วจนผมยังไม่ทันถามเลยว่าจะลงโทษอีกฝ่ายยังไง รู้ตัวอีกทีก็ได้ยินแค่ว่าโทษของอีกฝ่ายคือถูกจองจำในสถานที่แห่งหนึ่งตลอดชีวิตถูกส่งตัวไปเรียบร้อยแล้ว

   

จนกระทั่งหลายวันต่อมา... ฟรานส์ก็ว่ายเข้ามาหาพร้อมยื่นของในมือให้
   

ในมือของอีกฝ่ายมีลูกแก้วใสกลมเกลี้ยงใหญ่ราวฝ่ามือ ผมมองของตรงหน้าสลับกับมองหน้าอีกฝ่าย พลางเลิกคิ้วถามว่า มันคืออะไร
   

“ของฝาก” ฟรานส์บอกสั้นๆ ก่อนจะยัดใส่มือผม “เห็นเจ้าอยากรู้เรื่องลูคัสนี่ ข้าก็เลยเอามาให้ดู” เจ้าตัวพูดติดประชดพร้อมทำหน้างอนๆ เพราะผมสนใจเรื่องผลการลงโทษมากกว่าถามความคืบหน้าเรื่องงานแต่ง เอ้า พอผมจะช่วยเจ้าตัวก็กลัวทำงานยุ่งวุ่นวายเพิ่ม นอกจากจะบังคับให้ผมไปนวดไปขัดตัว(กับไอ้เงือกน่าสยองกลุ่มเดิม)แล้ว ก็ไม่เห็นว่าจะยอมให้ผมทำอะไรอีก
   

“ลูคัส?” ได้ยินอย่างนั้นผมก็เลยเพ่งมองลูกแก้วในมือ แก้วที่ใสจนมองได้ทะลุค่อยมีควันขุ่นมัวขึ้นมา โอ้โห นี่มันลูกแก้วดูดวงหรือนี่...
   

จนเมื่อควันหายไปจนหมด ผมก็ได้เห็นอะไรบางอย่างชวนสยองขวัญ
   

มันคือริมฝีปากที่กำลังทำปากจู๋ใส่ลูกแก้วในระยะประชิดติดขอบจอ “ฟรานส์คิดถึงจังเลย มามะ จ๊วบๆ” เสียงคุ้นเคยที่ดังลอดออกมาทำให้ ผมต้องรีบโยนมันคืนฟรานส์ด้วยความรู้สึกสยอง ซึ่งอีกฝ่ายก็ยกมือรับงงๆ แต่พอเห็นว่าข้างในฉายภาพอะไรเท่านั้น เจ้าตัวก็ทำท่าจะเขวี้ยงไอ้ลูกแก้วในมือทิ้งทันที “อย่าทิ้งข้านะ~ พอๆ !!ข้าเลิกแล้ว แค่ทักทายนิดหน่อยทำมาเป็นโยนข้าทิ้ง รู้ไหมว่าเจ้าเนี่ยมันหายากแค่ไหน”
   

แน่นอนว่ามีหรือฟรานส์จะฟัง เจ้าตัวทำหน้าเหม็นเบื่อมากตอนที่ไซรัสบ่นตัดพ้อต่อว่าหงุงหงิงๆ
   

ใช่แล้ว ไอ้เจ้าของภาพและเสียงสยองนั่นคือเจ้าปลาหมึกมาโซคิสต์
   

“เลิกออกนอกเรื่องได้แล้ว ไม่อย่างนั้นข้าจะเอามันไปฝังดิน หรือเอาไปโยนในดงปลิงทะเลดี?”
   

ไซรัสทำท่าค้อนปะหลับปะเหลือก ก่อนจะพูดด้วยท่าทางอารมณ์ดีลันล้าว่า “เจ้าเงือกนั่นเดินทางมาถึงแล้วนะ แต่สลบไป และข้าก็ปฐมพยาบาลแบบถึงเนื้อถึงตัวแล้ว แม้จะสู้ที่รักของข้าอย่างเจ้าไม่ได้ แต่ก็หายเหงาดี” สิ่งที่ไซรัสพูดทำให้ผมงง ฟรานส์ส่งใครไปหาอีกฝ่าย “อ๊ะ เจ้าตัวจะหนีอีกแล้ว ไม่เข็ดเลยน้า~ เอาเป็นว่าข้าไปไล่จับก่อน เกิดออกไปผิดทางกลายเป็นอาหารสัตว์ทะเลแถวนี้ข้าคงเหงาแย่ เจ้าอุตส่าห์ส่งมาให้อยู่เป็นเพื่อนข้าทั้งที ไปละนะจ๊ะที่รัก จุ๊บๆ” ไซรัสหายไปจากจอแต่ภาพและเสียงยังคงอยู่แม้จะดูค่อนข้างห่าง ดูเหมือนเจ้าตัวจะลืมปิดกล้อง


‘จะหนีไปไหน~ เจ้าไม่มีทางหนีออกจากที่นี่ได้หรอก’


‘มาหาข้าซะดีๆมามะ...’


‘ว้าย!! อย่าดึงหนวดข้าแบบนั้นสิ ข้าจะทนไม่ไหวเอานะ’


‘อร๊างงง ชอบแบบรุนแรงก็ไม่บอก’


ผมกลืนน้ำลายดังเอือกทำหน้าสยองขวัญ พร้อมกับหันไปสบตาฟรานส์เชิงถามว่า นายส่งใครไปหาอีกฝ่าย จนกระทั่งนึกถึงสิ่งแรกที่ฟรานส์บอกก่อนหน้านี้ “...สถานที่ขังลูคัสคือที่อยู่ของไซรัสงั้นหรือ?” ซึ่งเจ้าตัวก็เพียงแต่ส่งยิ้มปริศนาแทนคำตอบ
ผมควรจะสงสารไซรัสหรือไว้อาลัยให้ลูคัสดี...
----------------------------------------
Talk:
       - ตอนหน้าก็จะจบแล้ว จะได้รู้แล้วค่ะว่าตกลงใครรุกรับกันแน่ (แต่คิดว่าก็คงจะเดากันได้)
       - ส่วนฟีโอล่านี่ได้แนวคิดมาจากเวลาดูเด็กๆตีกันตอนเชียร์ดารา นักร้องวงที่ตัวเองชอบ มันช่างเป็นสงครามที่น่ากลัวแท้....

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
 :a5: จะจบแล้ว!!!  ทำไมตอนจบมาไวจัง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
แอบวจหายที่จบไวค่ะ

รอนะคะ    :L1:

ออฟไลน์ rinny

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 517
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
เค้าขอแต่งงานกันแล้วค่ะแม่!!!!! ฟินมาก ในที่สุดก็จะได้แต่งสักที
ลั่นแรงมากตอนไซรัสโผล่มา คือนางเกิดมาเพื่อแย่งซีนโดยแท้5555

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
ห๊ะ

เดี๋ยวนะๆ นี่เราเคลียร์ปมทั้งหมดแล้วเหรอ?? เหลือขาดอะไรอีกไหม??

ออฟไลน์ มาม่าหมูสับ

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 140
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ฉันรักเธอ ฟิโอล่า  :hao7: รอตอนต่อไป อิอิ  :hao6:

ออฟไลน์ suikajang

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
ขอแต่งงานแระ แต่น้องโอเข้าใจไรผิดไปป่าวลูก ตื่นๆ จากมโนได้ละนะ
สงสัยได้เข้าใจถูกในคืนส่งตัวแน่ๆ รอลุ้นๆ :hao3:

ออฟไลน์ Minty

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 743
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
จะจบแล้วหรอ!!!

รู้สึกใจหาย ชอบเรื่องนี้นะ สนุกดี

งั้นขอตอนพิเศษเยอะๆหน่อยนะ :mew2:

ออฟไลน์ mymine

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 29
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
    • FaceBook
ตอนที่24 บทส่งท้าย

   
ในที่สุดก็ถึงวันนี้ วันที่ผมกับฟรานส์จะได้แต่งงานเป็นของกันและกันโดยสมบูรณ์ พวกคุณไม่รู้หรอกว่า ผมรอวันนี้มานานแค่ไหน ผมอยากจะเล่ารายละเอียดพิธีที่มากมายให้พวกคุณฟังหรอกนะ แต่ผมก็รู้ว่าพวกคุณไม่สนใจมันเท่าไหร่หรอก


พวกคุณสนแต่การเข้าหอของพวกผมเท่านั้นล่ะ ไม่ต้องมาทำเนียน อย่าคิดว่าผมไม่รู้


อย่าว่าแต่พวกคุณเลย แม้แต่ผมก็แอบสนใจเช่นกัน ว่าเงือกนี่มันเข้าหอด้วยวิธีไหนฟระ? แต่ช่างมันเถอะเพราะผมกำลังจะได้พิสูจน์ในอีกไม่กี่ชั่วโมงนี้แล้ว


ตอนนี้พวกผมอยู่ในงานเลี้ยงที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและรอยยิ้ม เงือกส่วนมากยินดีและคิดว่าการแต่งงานของพวกผมนั้นเหมาะสมที่สุดแล้ว


ยกเว้นก็แค่ใครบางคน


หนึ่งในนั้นก็คือฟิลันที่ร้องไห้สะอึกสะอื้น ไข่มุกไหลแทบจะท่วมห้องพัก เจ้าตัวกอดผมแน่นไม่ยอมให้ผมออกไปทำพิธี นัยน์ตาสีเขียวใสตัดพ้อผม ทำเอาผมรู้สึกผิด “ข้าเจอพี่โอก่อนแท้ๆ ฮึก...” จนกระทั่งงานจะเริ่มอยู่รอมร่อ ลงท้ายฟรานส์ก็เลยต้องลากน้องชายตัวเองออกไปปรับทัศนคติ ก่อนที่เจ้าตัวจะกลับมาด้วยสภาพที่สงบลง ยังคงมีแต่ดวงตาที่แดงก่ำเท่านั้น


ส่วนอีกหนึ่ง จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากแม่สาวฟีโอล่า เจ้าหล่อนยึดคอนเซปต์ไม่ชอบหน้าผมจนวินาทีสุดท้าย แม้จะแอบเห็นเจ้าตัวหันไปทำตาเป็นประกายใส่ชาร์คกับราซัน แต่พอมีโอกาสเจ้าตัวก็หันกลับมาจ้องจิกกัดผมเช่นเดิม


กวาดตามองบรรยากาศโดยรอบ ผมได้ประสบการณ์จากที่นี่มาเยอะจริงๆทั้งสุขและทุกข์ทั้งที่พึ่งมาอยู่ใต้น้ำแค่ไม่กี่เดือน และหลังจากวันนี้ ที่นี่คงจะกลายเป็นบ้านหลักของผม


พูดแล้วใจหายนิดๆ แม้ปกติแล้วผมจะอยู่คนเดียวเป็นส่วนมาก แต่ยังไงพ่อก็ยังกลับมาหาทุกครั้งที่ได้วันหยุด แล้วถ้าผมมาอยู่ที่นี่ ใครจะอยู่รอพ่อเล่า


มืออุ่นของเงือกข้างตัวกุมมือผมไว้ ฟรานส์ที่วนเวียนไปคุยกับแขกหลายๆท่านมองผมด้วยแววตาสงสัย เจ้าตัวเลิกคิ้วถามเป็นเชิงว่าเกิดปัญหาอะไรขึ้นหรือเปล่า


“ไม่มีอะไรฉันแค่คิดถึงพ่อ” ผมพูดเสียงเบา


“ข้าได้ยินเจ้าบอกว่านานๆ พ่อเจ้าจะกลับบ้านสักที” ผมพยักหน้าให้อีกฝ่าย “งั้นครบกำหนดเมื่อไหร่เราไปเยี่ยมท่านกัน”


“จริงๆ นะ” อีกฝ่ายส่งยิ้มแทนคำมั่นสัญญาก่อนจะโดนลากไปที่อื่นอีก แต่นั่นเพียงพอแล้ว สำหรับผมการได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากับคนที่ตัวเองรักนั่นก็ถือว่ามีความสุขที่สุดแล้ว



หลายชั่วโมงกว่างานเลี้ยงจะเลิก ผมถูกฟรานส์ว่ายไปส่งที่หน้าห้องๆหนึ่งก่อน เจ้าตัวบอกว่ามีเรื่องต้องจัดการอีกเล็กน้อย ระหว่างนี้ให้ผมเข้าไปคอยด้านในก่อน ไม่ทันให้ผมประท้วงอะไร เจ้าตัวก็ว่ายหนีไปแล้ว


มีอย่างที่ไหนเจ้าสาวทิ้งเจ้าบ่าวไว้ในห้องหอเนี่ย!


ผมยู่ปากเล็กน้อย จะบ่นอีกฝ่ายก็ไม่อยู่ให้บ่นแล้ว ก็เลยหันหน้าเข้าห้องตามคำสั่งอีกฝ่าย พลางคิดว่าเข้าไปก่อนก็ดี เผื่อจะทำเซอร์ไพรส์อะไรอีกฝ่าย


ที่ไหนได้คนที่ถูกทำเซอร์ไพรส์กลับเป็นผม


แทนที่ห้องที่ผมผ่านเข้าไปจะเต็มไปด้วยน้ำเหมือนห้องอื่นๆที่ผ่านมา มันกลับว่างเปล่า ไม่มีน้ำแม้สักหยดในห้องนั้น เหมือนผมหลุดเข้ามาในยานอวกาศที่มีการกักกันออกซิเจนไว้ในห้องเป็นอย่างดี


และที่น่าตกใจที่สุด.. คือขาที่หายไปของผมกลับมาแล้ว ผมเซเล็กน้อยก่อนที่จะยืนตั้งหลักได้ มองลงไปยังท่อนล่างพบผ้าคาดเอวทอจากเกล็ดสีไข่มุก คลุมต้นขาที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามของผมและซ่อนเจ้าหนูที่หายทำเอาผมแทบจะหลั่งน้ำตาด้วยความปลื้มปริ่ม อยากจะยกมือกอดรับขวัญลูกชายแต่ดูจะอุจาดไปหน่อยถึงผมจะอยู่ในห้องคนเดียวก็ตาม


ผมลองก้าวขยับเดิน ดูจะขัดๆในตอนแรก แต่สักพักผมก็สามารถวิ่งกระโดดไปมาได้ห้องได้อย่างสบายสมกับที่มีขามาตั้งแต่เกิด
“ทำอะไรของเจ้า?” เสียงของฟรานส์ดังขึ้นที่ตรงประตูทำเอาผมที่กระโดดเด้งเป็นลิงต้องเบรกหน้าแทบจะทิ่มลงพื้น หันไปมองอีกฝ่ายด้วยความอายเล็กๆ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นช็อคแทน


ฟรานส์ยืนอยู่ที่หน้าประตูด้วยสภาพไม่ต่างกับผมนัก เจ้าตัวมีผ้าคาดเอวเป็นเกล็ดสีทองคลุมอย่างหมิ่นเหม่อยู่บนสะโพกสอบทำเอาผมกลืนน้ำลายแทบไม่ทัน ตอนเป็นเงือกว่าน่ากินแล้ว ตอนมีขายิ่งทำให้ฟรานส์ดูน่ากินกว่าเดิมอีก แต่ทว่าผมกลับรู้สึกว่ามีบางอย่างแปลกไป ภาพฟรานส์ตอนมีขาเหมือนมนุษย์ดูต่างจากตอนเป็นเงือก ผมวนเวียนจ้องมองอีกฝ่ายตั้งแต่หัวจรดเท้า ซึ่งเจ้าตัวก็ยืนส่งยิ้มปริศนาพร้อมกับยืนให้ผมจ้องแต่โดยดี


“จะจ้องข้าให้ทะลุเลยไหม แค่มีขายาวๆ สองข้างขึ้นมานี่นะ” เจ้าตัวพูดกลั้วหัวเราะ นั่นทำให้ผมสังเกตได้ทันที


ฟรานส์ตอนเป็นมนุษย์สูงกว่าผมเกือบ10เซ็นต์!!! เป็นไปได้ยังไง ก็ตอนเป็นเงือกหางผมยาวกว่าตั้งเยอะ!!


ผมจริงตรงหน้าทำให้ผมเริ่มแอบหวั่น จากที่เคยได้ยินมา ส่วนมากฝ่ายรุกมันจะตัวใหญ่กว่ารับด้วยสิ แถมแววตาอีกฝ่ายตอนนี้ก็เหมือนสัตว์ที่กำลังจะล่าเหยื่อ ถ้านัยน์ตาของฟรานส์เป็นกล้อง ก็คงจะแสกนแทะเล็มผมไปทั้งตัวไม่ต่างจากที่ผมทำเมื่อครู่เลยสักนิด ผมเริ่มชะงักว่าจะรุกต่อหรือวิ่งหนีอีกฝ่ายก่อนดี


แต่เอะ ผมลืมอะไรไปอย่าง ถ้าเทียบกับผมที่มีขาสองข้างมาตั้งแต่เกิด กับฟรานส์ที่มีขาเพื่อมาประกอบกิจกรรมเข้าจังหวะแบบนี้ ความสามารถในการใช้ประโยชน์จากอวัยวะชิ้นนี้ย่อมต้องต่างกันอยู่แล้ว


ขอแค่ผมกดอีกฝ่ายลงบนเตียงได้ การจะพลิกกลับย่อมเป็นไปได้ยากแน่ หุหึหุหึ


คิดแบบนั้นผมก็ยิ้มกริ่ม ค่อยๆนั่งลงบนเตียง ยกขาขึ้นไขว่ห้าง โดยมีดวงตาสีเขียวใสจับจ้องตาแทบจะไม่กระพริบ ผมยิ้มยั่วอีกฝ่ายที่ยังคงยืนนิ่งหน้าประตู


“ทำไมไม่เดินมาหืม หรือว่าฉันต้องไปอุ้มเจ้าสาวมาส่งถึงเตียง”


“นั่นสินะ... เจ้าก็มาอุ้มข้าหน่อยสิ”


ได้ยินแบบนั้นก็ก็รับลุกขึ้นตรงเข้าหาอีกฝ่าย ยื่นริมฝีปากไปสัมผัสกับอีกฝ่ายแผ่วเบา และเร่งเร้าความร้อนแรงขึ้น สองแขนของผมกระชากอีกฝ่ายเข้าหาตัว ก่อนจะชะงักเล็กๆ ฟรานส์ยืนได้มั่นคงมากไม่มีเซตามแรงดึงของผมเลยสักนิด แต่นั่นไม่สำคัญ ร่างกายของเราตอนนี้เสียดสีกันจนร้อนระอุและผมคิดว่าถึงเวลาอุ้มเจ้าสาวขึ้นเตียงแล้ว แต่ทว่า...


หนัก! ตัวฟรานส์ตอนเป็นมนุษย์นี่หนักใช่เล่น ผมอุ้มจนเรียกว่าแทบจะแบกอีกฝ่ายแล้ว ก็ดูจะไม่ได้ผล จนกระทั่งผมต้องละริมฝีปากของตัวเองออกก่อนมาใช้กำลังทั้งหมดในการยกตัวอีกฝ่ายขึ้น


นัยน์ตาของฟรานส์ที่กำลังร้อนแรงปรากฏร่องรอยขบขัน เจ้าตัวไม่ได้ขัดขวางแต่ก็ไม่ให้ความช่วยเหลือผมสักนิด จนกระทั่งผมหน้ามุ่ยนั่นล่ะ เจ้าตัวถึงได้หัวเราะ


“อุ้มข้าไม่ไหวหรือ”


“นายกินอะไรแทนอาหารเนี่ยตัวหนักชะมัด” เจ้าตัวไม่ตอบแต่ส่งรอยยิ้มไม่น่าไว้ใจมาให้ นั่นทำให้ผมรู้สึกตื่นตัวอย่างประหลาด เหมือนกระต่ายกำลังโดนหมาป่าจ้องจับกิน


“ถ้าเจ้าไม่ไหวงั้นข้าอุ้มเองละกัน”


พูดจบไม่ทันให้ผมได้อ้าปากประท้วง เจ้าตัวก็ก้มลงช้อนผมในท่าอุ้มเจ้าสาว เฮ้ย!! มันอุ้มผมได้สบายๆ เลยหรือนี่ ไม่พอเจ้าตัวยังเดินฉับๆ ไปที่เตียงทำเอาผมช็อคตาค้างไปแล้ว


“เฮ้ย!!! หยุ๊ดดด ทำไมนายเดินคล่องแบบนี้วะ” ผมประท้วงอีกฝ่ายที่โยนผมลงเตียงและขึ้นคร่อมผมแล้ว mayday! mayday! ช่วยผมด้วย สถานะมันสลับกันแล้ว!!


“คล่อง? ไม่เห็นแปลก ข้าไม่เคยบอกเจ้าหรือว่าข้าเคยมีขามาก่อน”


“ห๊ะ!!! มีตอนไหน ใช้แบบวันนี้หรือ แปลว่านายแต่งงานมาแล้ว?” หน้าเสียสิผม นอกจากสถานการณ์เป็นอันตรายกับประตูหลังแล้ว นี่ฟรานส์ยังเคยมีคนรักมาก่อนหรือ


“คิดไปไหน” เจ้าตัวทำท่าจะดีดมะกอกผม ดีนะว่าเอามือขึ้นมาปิดเหม่งทัน “ข้าเคยมีขาเพราะข้าเคยขึ้นไปอาศัยอยู่บนบกไม่ต่างจากเจ้านะสิ”


!!!!!


“อะไรนะ อาศัยบนบก ที่ไหน ยังไง อึก!! หยุดมือนายก่อน ลิ้นนายด้วย อืออ” อีกฝ่ายเริ่มไม่ฟังแล้ว เจ้าตัวเริ่มรุกเร้าผมจนต้องประท้วง ผมยังไม่รู้เรื่องเลย แถมมันต้องเป็นผมรุกสิโว้ย ไม่ใช่มันมาเล้าโลมแล้วหรือผมอยู่นี่จนผมจะระทวยอยู่แล้ว


ฟรานส์ถอนหายใจนิดๆ ”วิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิทยาศาสตร์ทางทะเล...ข้าเรียนจนจบได้ปริญญามาแล้ว เพราะอย่างนั้นคิดว่าข้าจะเดินได้ไหม”


What  The F_ck!!!!!


ฟรานส์จบปริญญาตรีมาแล้ว แถมชื่อปริญญาแบบนั้นมันของประเทศไทยอีกอีก นี่ผมถูกหลอกหรือเนี่ย!


 “ข้าไม่ได้หลอกอะไรเจ้านะ แต่เจ้าไม่เคยถามเอง” อีกฝ่ายอมยิ้มหลังจากเห็นสีหน้าผม “แต่ตอนนี้หมดเวลาถามแล้ว อยากรู้อะไรเอาไว้หลังจากละกัน... ถ้าเจ้ายังมีแรงถามอยู่นะ”


“ห๊ะ เดี๋ยวก่อน ขอเวลานอก อิ๊บก่อน อิ๊บก่อนโว้ย!! อุ๊บบ” ตายๆ นี่ผมถูกหลอกมาตลอดเลยหรือเนี่ย แถมตอนนี้ฟรานส์ ก็ไม่ยอมให้ผมพูดอะไรทั้งนั้นเพราะเจ้าตัวจูบปิดปากผมแล้ว ทั้งมือและลิ้นเจ้าตัวประสานงานกันดีจนนึกว่าว่าอีกฝ่ายอาจจะเรียนวิธีมือไวมือปลาหมึกจากเจ้าไซรัสหรือเปล่าเนี่ย


แต่ไม่นะไม่ ใครก็ได้ช่วยผมที ม่ายยยยย


กว่าทั้งคู่จะได้ออกจากห้องก็ในอีกหนึ่งสัปดาห์ต่อมา และไม่ว่าเงือกตัวไหนเข้าไปใกล้ห้องหอ ก็จะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ได้ยินเสียงครางดังลั่นไม่หยุดตลอดทั้งอาทิตย์เลย เอวัง....

----------------------------------------------END

เรื่องหลักก็จบลงเพียงแต่เท่านี้ ขอบคุณที่ติดตามอ่านเงือกบ๊องๆมาตลอดค่ะ ส่วนเรื่องที่ยังไม่กระจ่าง ส่วนใหญ่จะมีบอกเป็นนัยๆไม่ได้เฉลยชัดเจนเอาไว้ ซึ่งบางข้อจะมีขยายความมากขึ้นในตอนพิเศษค่ะ

แต่ที่มีตรงไหนติดใจมากๆ ถามมาได้เลยค่ะ อาจจะมีบางจุดที่เราพลาดเองด้วย

ออฟไลน์ suikajang

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
 :m20: โหอุตส่าห์เกาะขอบหน้าต่างได้ยินแต่เสียง เซ็งเลย รบกวนเปิดหน้าต่างให้ส่องหน่อยนะคะ  :mew2:

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :m20:    ฟรานส์ ถึงโอเชี่ยนจะไม่ต้องเดินแต่ก็เบาๆหน่อยสิจ๊ะ
ขอบคุณมากๆค่ะ น่ารักมาก รอตอนพิเศษนะคะ.  :impress2:   

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ shannara

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 165
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
อายยย นี้ดดด สเปเชียล ชาปเต้อออออ



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-05-2016 13:43:15 โดย shannara »

ออฟไลน์ zeen11

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 432
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-5
อ่านแบบรวดเดียวจบ สนุกมากค่ะ แต่จบห้วนไปหน่อย รอตอนพิเศษนะคะ  :z1:

ออฟไลน์ Ice_Iris

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1227
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +74/-0

น่ารักอ่ะ

แหมโอเชี่ยนนี่ฮาได้จนหยดสุดท้ายจริงๆ

ขอบคุณที่แบ่งปันขอรับ

ปล. ท่านฟรานจบสาขาเดียวกับข้าเจ้าเลย


ออฟไลน์ มาม่าหมูสับ

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 140
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
โอ้ยยยยย สงสารโอ  :hao7: ว่าแต่ แง้มประตูไว้นิดนึงได้มั้ยคะ  :hao6:

ออฟไลน์ Minty

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 743
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
สงสารโอเชี่ยนจัง คิดว่าตัวเองเป็นรุกมาโดยตลอด กลับเป็นฝ่ายโดนจิ้มซะเอง :hao7:

ออฟไลน์ love noon

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 63
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
คือ ดีงามมาก ชอบบบบบแนวนี้สุด
.
.
.
แต่
.
.
.
แอบเสียดายฉากเข้าหออ่ะ
อยากบอกว่า คาดหวังมาก
คนเขียนทำร้ายเค้า :hao5: :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ naya-devil

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 122
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

ออฟไลน์ Chichi Yuki

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1584
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +94/-3
กรี๊ดดดดดดดดด
ขอตอนพิเศษ
อยากอ่านตอนพอเศษ #ที่สุด #ฟิน

ออฟไลน์ neno.jann

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 456
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
อยากอ่านฉากเข้าหอออ จะบอกมารอมาตลอดดด

ออฟไลน์ boworange

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 537
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-0

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด