เรื่อง :: บอกแล้วใช่ไหม ก่อนจีบให้ดูดีๆ ::
เขียน ::
ผู้ซึ่งหลงรักหญิงสาวในภาพวาด ::
บทที่ 41 : เมียรักเมียหลง ต้องแต่งหน้ายังไง
งานพี่ติ๊กจัดจนดึก มื้อค่ำครอบครัวผมกับครอบครัวฝั่งพี่นีก็กินที่บ้านผมต่อ กระทั่งงานเลิก ในระหว่างที่ทุกคนกำลังช่วยกันเก็บของ ส่วนที่เหลือทยอยกลับ คุณแก้วขอตัวไปเข้าห้องน้ำ
หลังจากไอ้ฟักตื่น มันก็ขอตัวกลับ ผมไม่ค่อยไว้ใจว่ามันจะขับรถไหว จึงบอกให้มันค้างที่บ้าน แต่มันบอกว่าวันนี้บ้านผมแขกเยอะแล้ว เดี๋ยวมันกลับเลยดีกว่า สุดท้ายผมจึงไม่รั้งมันไว้ แต่มันน่าจะสร่างแล้วเป็นเพราะหลับไปเกือบครึ่งวัน
“มึงจะให้กูเรียกรถให้มั้ย ไม่ต้องขับหรอก ไว้พรุ่งนี้กูขับไปหามึง ไม่มึงก็มาบ้านกู ค่อยมาเอารถ”
“กูสร่างแล้ว”
“เค เดินดีๆนะมึง” ผมมองมันอย่างเป็นห่วง ถึงแม้จะพูดอย่างนั้นก็ตาม ไอ้ฟักทำหน้าเนือยๆ คล้ายไม่สนใจสักเท่าไร ก่อนมันจะรีบกลับบ้านไป
พี่ติ๊กเดินเข้ามา หลังจากนี้เห็นว่าจะไปนอนที่บ้านใหม่ ส่วนผมไม่แน่ใจว่ามันจะทำอะไร
พอไปฟักกลับไป ผมก็พาคุณแก้วไปที่ห้อง หาเสื้อผ้าให้คุณแก้ว ส่วนผมออกไปอาบน้ำห้องแขก ยกห้องตัวเองให้คุณแก้ว เสร็จจากตรงนั้นผมกลับเข้ามาในห้องก็ยังไม่เห็นคุณแก้วออกมา สงสัยผมอาจจะอาบเร็วไป หลังจากนั้นชั่วโมงหนึ่งคุณแก้วถึงค่อยออกมา
ผมนอนเล่นอยู่บนเตียง เห็นคุณแก้วแต่งตัวเสร็จแล้ว เธอเดินเรืองรองส่องแสงออกมา เหลือเพียงผมยาวที่ชุ่มน้ำ ในขณะที่ผ้าเช็ดตัวพาดอยู่บนไหล่
ผมบอกแล้วว่าคุณแก้วเป็นเอลฟ์ เธอไม่ใช่คนแน่ๆ ดูยังไงก็ไม่ใช่
“คุณต๊อบ ไม่มีไดร์เป่าผมใช่มั้ยเอ่ย”
ผมลุกขึ้นมาก่อนจะมองไปทางโต๊ะเครื่องแป้งห้องตัวเองที่มีแต่กุญแจรถ และโทรศัพท์กับแป้งตรางูหนึ่งกระป๋อง ผมหัวเราะแห้งๆ “เดี๋ยวผมไปดูห้องแขกให้นะครับ”
คุณแก้วหัวเราะ “ไม่เป็นไรค่ะ บอกแก้วก็ได้ เดี๋ยวแก้วไปเอาเอง”
“ไม่เป็นไรครับ คุณแก้วเช็ดผมไปก่อนนะ เดี๋ยวผมเอามาให้”
ผมรีบไปหามาให้เธอ ไม่ได้ครับ คุณแก้วตอนเป่าผมกับต้นคอขาวๆ เร้าใจมาก ผมบอกไว้ก่อน ไม่ใช่สิ คุณแก้วต้องการอะไรผมต้องหามาให้ โดยเฉพาะเธอเป็นแขกผมด้วยแล้ว ในขณะที่ห้องผมแม่งไม่มีอะไรสักอย่างต่างกับห้องคุณแก้วมากๆ
หลังจากผมได้ไดร์เป่า ผมก็กลับไปที่ห้อง คุณแก้วนั่งอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง คุณแก้วกำลังเช็ดผมช้าๆ ชุดนอนของเธอเป็นชุดสีขาวโปร่ง กับกางเกงขายาว ในขณะที่ผมเสื้อยืดเกงบอล
ผมดูอย่างนี้ ใบหน้าคุณแก้วเกลี้ยงเกลา ดูสบายตา ผมแอบมองเพลิน ลืมไปเลยว่าคุณแก้วไม่ได้แต่งหน้า แต่อย่างหนึ่งที่ผมเห็นคือคุณแก้วเป็นคนมีคิ้ว เรียงเป็นเส้นๆ แต่ก็ยังไม่มากเท่าผมอยู่ดี จะว่าไปเหมือนไอ้ฟักมันก็กันคิ้ว มันเคยบ่นๆให้ผมฟังอยู่ ตั้งแต่เกิดมาผมยังไม่เคยไปยุ่งอะไรกับคิ้วเลยสักอย่าง
ผมทำการเสียบปลั๊ก วางไดร์เป่าผมให้คุณแก้วเสร็จสับ คุณแก้วยิ้มน้อยๆแล้วหยิกแก้มผมเบาๆเหมือนให้รางวัล “คุณต๊อบน่ารักจังเลย”
ถ้าต้องการให้ผมทำอย่างอื่น คุณแก้วแค่เพียงยิ้มมา ผมก็พร้อมจะมอบให้ทั้งชีวิตและหัวใจครับ
“เฉพาะกับคุณแก้วนั่นแหละครับ”
ผมส่งยิ้มหวานๆให้เธอ แต่ผมว่ามันต้องหล่อต้องดูดีแน่นอน คุณแก้วจึงให้รางวัลผมด้วยการพูดขอบคุณเสียงหวาน
คุณแก้วเป่าผมอยู่หน้ากระจก ผมนอนมองเธอเพลินๆ
เห็นชุดเดรสคุณแก้วที่แขวนอยู่แล้วก็แอบเสียดาย คุณแก้วดันเปลี่ยนใจปุบปับ ผมจึงอดเห็นเธอในชุดนั้นนานๆ
“พรุ่งนี้คุณแก้วใส่ชุดนั้นกลับมั้ยครับ” ผมพูดติดตลก
“หื้อ” คุณแก้วเลิกคิ้ว เธอหันมา หยุดไดร์เป่าผม ก่อนจะพูด “แน่ใจว่าจะรอแก้วแต่งตัวไหว”
น้ำเสียงคุณแก้วดูเรียบๆเรื่อยๆ ยังคงหวานหูผมเช่นเคยแต่ทว่าผมรู้ดีว่าคุณแก้วกำลังส่งนัยยะถึงผม
อันนี้ต้องบอกว่า มันเป็นเรื่องที่ยากจะกล่าว หากให้พูดตามตรงเลยก็คือ คุณแก้วต้องขี้เกียจแต่งหน้าแน่ๆ!
ถึงผมจะไม่ซีเรียสเรื่องความงามของผู้หญิง แต่ว่าเวลานี้ผมรู้สึกว่าคุณแก้วจะเริ่มปล่อยตัวด้วยความใกล้ชิดหรือวางใจผมมากขึ้น จึงทำให้เธอรู้สึกสบายๆเวลาที่อยู่กับผม
ผมกระพริบตา หลุดจากภวังค์เมื่อคุณแก้วขึ้นมาบนเตียง เธอเป่าผมเสร็จตั้งแต่เมื่อไรไม่ทราบ อาจจะเป็นช่วงที่ผมเหม่อๆ คิดบ้าบออยู่คนเดียว
แต่ว่าอย่างน้อยคุณแก้วก็ถอดชุดสูทนั่นออกสักที จะได้หล่อน้อยๆลงหน่อย ผมถอนหายใจ ไม่รู้ว่าตัวเองโล่งใจเรื่องอะไร แต่มันก็โล่งใจ
คุณแก้วขึ้นมาบนเตียง จากนั้นจู่ๆใจผมมันก็ชักจะเต้นๆไม่เป็นจังหวะ คุณแก้วยิ้ม เป็นยิ้มบริสุทธิ์ใจ จนผมรู้สึกว่าตัวเองกำลังคิดเรื่องบาปหนาอยู่
“นอนแล้วเนอะ ใช่มั้ยครับ”
ผมถามคุณแก้ว จากนั้นก็รีบลุกไปหาปลั๊กไฟก่อนจะหันไปมองทางคุณแก้ว “ปิดไฟแล้วนะครับ”
“โอเคค่ะ”
คุณแก้วพูดเสียงน่ารักๆกับผม บาดใจมาก
ทันทีที่ปิดไฟ ทั้งห้องก็มืดลง ผมใช้ความเคยชินในห้องตัวเองเดินไปที่เตียง คุณแก้วเลิกผ้าห่มขึ้นก่อนจะแบ่งมาทางผม ผมรีบซุกตัวเข้าไปในผ้าเพื่อหลบแอร์เย็นๆ
ด้วยความที่เหนื่อยมาทั้งวัน ทำให้พอถึงเตียงก็เงียบลงอย่างรวดเร็ว ไม่มีใครพูดอะไรนอกจากลมหายใจเบาๆและไออุ่นที่ใกล้กัน ผมเหลือบตามองเพดานมืดๆแล้วแอบเหล่ไปทางคุณแก้วเล็กน้อย
เหมือนว่าคุณแก้วจะยังไม่หลับ และดูเหมือนอีกว่าเธอกำลังมองผมอยู่
“คุณแก้วนอนไม่หลับเหรอครับ” ผมถามเธอเสียงเบา พอปิดไฟ หัวถึงหมอน จู่ๆเสียงก็อ่อยลงตามธรรมชาติ มันต้องเป็นกลไกอะไรสักอย่างแน่ๆ
สักพักคุณแก้วจึงตอบผม “คุณต๊อบลืมอะไรหรือเปล่า”
ผมร้องหื้อ กำลังจะถามเธอว่าลืมอะไร คุณแก้วจึงโน้มมาใกล้ๆผม ผมรู้ว่าเธออยู่ใกล้ผมมาก และใบหน้าเธอก็อยู่แค่ตรงนี้ ลมหายใจกับริมฝีปากแตะลงมาที่ข้างแก้มผม ก่อนที่เสียงนุ่มๆของเธอจะเฉลย คล้ายว่ามีรอยยิ้มที่มองไม่ชัดอยู่ตรงหน้าให้ผมเลือดสูบฉีดไม่ต้องหลับต้องนอนตลอดคืน
“ต้องมีจุ๊บก่อนนอนด้วยสิ”
ประโยคนั้นของคุณแก้วทำผมทนไม่ได้จริงๆ ผมหลับหูหลับตาประทับริมฝีปากลงบนแก้มนุ่มๆของเธอกลับ คุณแก้วหัวเราะเบาๆอย่างพอใจ แทนที่จะได้นอนอย่างสงบ คืนนั้นกว่าหัวใจผมจะกลับมาเต้นปกติ ก็เล่นเอาเกือบหลายชั่วโมง
คุณแก้วไหว้แม่กับพ่อผมเสร็จแล้วเราก็เดินไปที่รถ ผมอาสาไปส่งคุณแก้วที่บ้าน ทีแรกแม่ผมบอกให้คุณแก้วค้างแต่คุณแก้วเกรงใจ อยากขอตัวกลับบ้านมากกว่า หลังจากขึ้นรถมา คุณแก้วก็มองผมยิ้มๆ เธอยิ้มน้อยๆที่มุมปาก แต่ดูกระจ่ายทั่วใบหน้า ทำให้เวลาเธอยิ่งดูอ่อนโยน
“คุณแก้วยิ้มอะไรครับ”
คุณแก้วเอียงคอ เอนกับเบาะ จากนั้นก็มองผมหนักกว่าเดิม ตาเธอเป็นกระกาย ดูหวานเหมือนมีน้ำผึ้งไปหกไว้ทั้งขวด
“คุณแก้ว”
“แก้วยิ้มไม่ได้เหรอ”
“ได้ครับ”
ผมหัวเราะ พอหันไปก็ยังเห็นคุณแก้วยิ้มอยู่
“ยังยิ้มอีก” ผมแกล้งเย้าเธอ “ยิ้มให้ผมใช่มั้ยครับ”
คุณแก้วจึงค่อยๆยื่นหน้าเข้ามา ก่อนจะตอบกลับเสียงนุ่มชนิดที่ทำเอาผมชะงักค้างไป “ใช่ครับ”
คราวนี้ผมหัวเราะแห้งๆกลับไป เป็นเพราะตั้งรับไม่ทัน คุณแก้วช่างปุบปับเสียจริง!
พอเห็นผมเงียบ คุณแก้วจึงหัวเราะออกมา เหมือนแกล้งผมได้สำเร็จ หรือจริงๆแล้วเธอกำลังจงใจแกล้งผม ต้องใช่แน่ๆ
ขับรถไปได้สักพัก คุณแก้วก็เอ่ยขึ้นมา “คุณต๊อบจะค้างมั้ยเอ่ย”
ผมเลิกคิ้ว “แล้วเมื่อกี้ไม่ยอมค้างบ้านผม”
“ก็แก้วอยากให้คุณต๊อบค้างบ้านแก้วด้วย”
“ผมก็อยากให้คุณแก้วค้างบ้านผมครับ” ผมพูดต่ออย่างเอาใจ “แต่อยู่ไหนก็ได้ ผมไม่เกี่ยงเลยครับ”
คุณแก้วอมยิ้ม เธอยื่นมือมาวางบนปากผมเบาๆ “คุณแก้ว ผมขับรถนะครับ”
ถึงอย่างนั้นผมก็จับมือเธอไว้ ก่อนจะหอมไปสองทีอย่างเป็นธรรมชาติ ชื่นใจ
คุณแก้วมองหน้าผม เธอยิ้มแพรวพราว “งั้นแปลว่าคุณต๊อบจะค้างนะ”
“ครับผมครับ อยู่กับคุณแก้วไม่ไปไหนแล้ว”
“พูดแล้วต้องทำให้ได้นะคะ” คุณแก้วพูด “วันไหนเกิดอยากหนีขึ้นมา แก้วก็ไม่ปล่อยแล้วนะ ตอนนี้ก็ไม่ปล่อยแล้วด้วย”
“ผมสู้แรงคุณแก้วไม่ได้หรอกครับ” ผมส่ายหน้าประกอบ “สู้ไม่ได้เลย ต๊อบเป็นคนน่าสงสารมากๆ ผู้ชายตัวเล็กๆคนนี้จะไปขัดขืนอะไรคุณแก้วได้”
ผมกล่าวอย่างเจียมเนื้อเจียมตัว เขาเรียกว่ายอมให้คนที่รักครับ จริงๆแล้วผมแข็งแรงมาก อุ้มคุณแก้วสบายๆ ถ้านับไม่เรื่องหลังเดาะคราวนั้น
คุณแก้วอุทานอย่างหมั่นไส้ผมอยู่หลายคำ “แหม รู้ตัวก็ดีแล้ว แก้วจะได้ไม่ต้องลงมือกับคุณต๊อบรุนแรง”
“คุณแก้วทำผมลงจริงๆเหรอครับ”
“แก้วทำลงนะ” คุณแก้วคล้ายมองไม่เห็นสีหน้าอันน่าสงสารของ “ยิ่งมองก็ยิ่งอยากทำแรงๆซะด้วย”
“คุณแก้ว” ผมแกล้งงอแงเล็กน้อยให้ตัวเองยิ่งดูน่าสงสาร ตรงข้ามกับภาพลักษณ์ภายนอกมาก “ครั้งหน้าผมจะไม่ยอมคุณแก้วอีกแล้ว ผมจะขัดขืน”
คุณแก้วกลับหัวเราะอย่างไม่ร้อนใจที่เห็นผมลุกขึ้นมาปฏิวัติ “แก้วจะรอดูคุณต๊อบบนเตียงคืนนี้นะคะ…เอ๋ หรือจะห้องน้ำดี จะว่าไปห้องรับแขกก็ยังไม่เคยแบบจริงๆจังๆ”
คุณแก้วพึมพำเล็กน้อย เธอวางมือไว้ใต้คาง ผมกระแอมเบาๆในลำคอไม่ได้เถียงเธอต่อ เห็นคุณแก้วเบิกบานใจอย่างนี้จึงยอมให้เธอไปตลอด ในเมื่อการเป็นผู้ชายตัวเล็กๆจะทำให้คุณแก้วเอ็นดูผม ผมก็จะยอมครับ
เมื่อถึงบ้าน คุณแก้วขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนจะถามผมว่าอยากกินอะไร ผมไม่เรื่องมากจึงตามใจคุณแก้ว แต่ผมอยากกินน้ำปั่นเป็นเพราะอากาศตอนนี้แอบร้อนนิดหน่อย หาอะไรเย็นๆกินก็น่าจะดี เห็นว่าในตู้เย็นมีผลไม้อยู่คุณแก้วจึงจะทำให้ผมกิน
ผมเดินเล่นอยู่หน้าทีวี จากนั้นก็เปิดดูนั่นดูนี่เล่น เป็นพวกหนังสือวางไว้อ่านฆ่าเวลา ก่อนผมจะเจอตระกร้าหวายอันเล็กๆที่วางอยู่ในตู้ บนนั้นมีอัลบั้มรูปต่างๆอยู่หลายอัลบั้ม
ผมตื่นเต้น แอบมองไปรอบๆก็ยังไม่เห็นคุณแก้วออกมาสุดท้ายจึงขอเสียมารยามแอบเปิดดู เป็นอัลบั้มรูปจริงๆด้วย!
สีภาพบ่งบอกถึงความยาวนานและอายุของภาพเหล่านี้ ผมอมยิ้มเล็กๆเมื่อเห็นภาพเด็กคนคนหนึ่งในนั้น ดูจากแววตา ริมฝีปาก และปลายจมูก ไม่ต้องเดาเลยว่าเป็นใคร คุณแก้วของผมแน่นอน
ผมเปิดดูรูปคุณแก้วที่ถ่ายไว้เมื่อก่อน คุณแก้วหน้าตาดีมาตั้งแต่เด็กๆ
ผมแอบหัวเราะ เมื่อเห็นรูปคุณแก้วเปลือยล้อนจ้อน แล้วทำไมผมต้องรู้สึกหน้าแดง ไอ้ฉิบหาย นั่นคุณแก้วตอนยังไม่ถึงห้าขวบด้วยซ้ำ ต๊อบ มึง!
อาจเป็นเพราะผมไม่ได้เพียงแค่เห็นคุณแก้วแบบทั้งเนื้อทั้งตัวตอนเด็ก แต่ตอนโตมาผมก็ได้เห็นเต็มๆตาเหมือนกัน เห็นอย่างใกล้ชิดสนิทสนม ชัดเจนไม่มีตกร่อง
ผมรีบสลัดความฟุ้งซ่านทิ้ง เปลี่ยนดูรูปต่อไป เป็นรูปที่คุณแก้วถ่ายรูปกับดอกทานตะวัน เธอใส่หมวกกับชุดเอี๊ยมสีน้ำเงิน
น่ารัก
ในหัวผมคำนี้ผุดขึ้นมาครั้งแล้วครั้งเล่า จนผมแทบอยากจะมุดตัวลงไปในภาพนั้น แล้วฟัดแก้มเด็กในรูปหลายๆครั้งให้หนำใจ
นี่ผมเป็นอะไรไปแล้ว เลือดในกายก็สูบฉีดจนหน้าเห่อร้อนไปหมด
คุณแก้วขาวจั๊วะ รอยยิ้มเธอชวนให้โลกนี้ละลายลงมา ยิ่งตอนเด็กๆรอยยิ้มคุณแก้วก็ยิ่งดูไร้เดียงสา
ผมอยากจะแอบย้อนเวลาไปหาคุณแก้วในช่วงวัยนั้นแล้วขโมยจูบเธอไปสักหลายๆที
ไม่สิ นี่มันเข้าข่ายพรากผู้เยาว์ บัดซบมากต๊อบ!
ผมดูรูปคุณแก้วอย่างเพลิดเพลิน ได้เห็นช่วงเวลาที่เธอเติบโตตั้งแต่เด็กๆจนกระทั่งเปลี่ยนแปลง ทว่าสิ่งที่ไม่เปลี่ยนไปเลยคือรอยยิ้มของคุณแก้ว
คุณแก้วเป็นคนที่ยิ้มหวานมากๆ ยิ้มทีหนึ่งดวงตาก็จะเป็นประกายขึ้นมา
หัวใจผมค่อนข้างเต้นดัง เป็นจังหวะที่ผมรู้สึกได้ว่าตัวเองกำลังใจมีความสุขจริงๆ ให้ตาย นี่ผมหลงเธอขนาดนี้เลยหรือนี่
ผมเผลอยิ้มตามรูปต่างๆ ยิ่งคุณแก้วยิ้มหวานเท่าไร ตัวเองก็ยิ่งยิ้มออกมาเท่านั้น
กระทั่งรูปเริ่มเปลี่ยนไป เป็นคุณแก้วที่สูงขึ้น หน้าตาฉายแววหนุ่มน้อย เกลี้ยงเกลา ออกจะติดหวานนิดๆ ทว่าไม่ได้ลดความหล่อเหลาลงเลยนอกจากจะเพิ่มมากขึ้น ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นรูปที่เธอแต่งกายเป็นผู้ชายปกติ ยกเว้นผมที่ยาวเงางามเป็นสีดำสนิท รูปนี้เธอกำลังถือสายวัดตัว คนข้างๆน่าจะเป็นแม่คุณแก้ว รูปที่เธอกำลังซ้อมเทควันโด สายดำ มีรูปที่กำลังชกมวย แถมยังมีซ้อมยิงปืน เสื้อสีขาว ท่าทางการยืนสูงสง่า ดูดีมาก เธอสวมหูฟังสำหรับป้องกันเสียง
คุณพระ จู่ๆผมก็ขมวดคิ้ว เหงื่อตก
มีรูปที่คุณแก้วปล่อยผม กำลังเล่นเปียโน ส่วนรูปนั้นก็กำลังยิ้มหล่อละลายให้กับแจกันดอกไม้
ในทีแรกผมหวงแหนอยากจะค่อยๆเปิดทีละรูป ซึมซับใบหน้าของคุณแก้วช้าๆอย่างใจเย็น แม้ในใจจะละโมบอยากดูทุกๆรูปของเธอ
ทว่าเวลานี้ อืม โดยความจริงแล้วผมกำลังรอรูปที่เธอใส่กระโปรงฟูๆถ่ายรูปเล่นกับตุ๊กตาหรืออะไรแบบนั้น
นี่ก็ผ่านมาเกือบสิบอัลบั้มแล้ว
ว่าแต่ทำไมมันไม่มีเลยฟะ!
TBC
[23/11/2560]
หลังๆไม่ค่อยมีคนอ่าน จริงๆเกือบจะไม่อัพต่อแล้ว แต่ภาพวาดคลุงอดทนไม่ไหว คิดถึงคุณแก้วของไอ้ทุย
www.facebook.com/withmydreamhttps://twitter.com/withmydreamgg