-28-
-อิฐ-
ผมเดินไปที่โต๊ะอาหารอย่างกังวล ถึงแม้ว่าใบหน้าบีทจะยิ้มแย้มดีอยู่แต่แววตากลับมีบางอย่างที่แปลกออกไป ถ้าเขารู้เรื่องที่เชียงรายแล้ว... เป็นไปไม่ได้หรอกที่เขาจะไม่ระแวงสงสัย ต่อให้ผมจะพยายามบอกเขาไปแล้วว่าผมกับแม็ก เราไม่มีอะไร แต่เขาจะเชื่อเหรอในเมื่อ...
ตูม!! ยังไม่ทันที่ผมจะหยิบจานตักอาหารก็ได้ยินเสียงหนึ่งดังขึ้นเบื้องหลัง
ผมรีบหันกลับไปมองอย่างตกใจ หัวใจหล่นไปกองอยู่ที่ปลายเท้าเมื่อเห็นว่าบีทยืนนิ่งอยู่ที่ขอบสระ ส่วนแม็กตะเกียกตะกายอยู่ในสระน้ำ...
“แม็ก!!” ผมเรียก รีบวิ่งกลับไป ถอดรองเท้าและเสื้อนอกออกโยนก่อนจะกระโดดตามลงไปช่วยเขาทันที
ช่วงเวลาไม่นาน ผมก็พาร่างที่เปียกโชกของเขามาวางที่ขอบสระ โชคดีที่เขาไม่ได้จมน้ำลงไปนานจนหมดสติ เพียงแค่หลับตาไอแค่กเพราะสำลักน้ำอยู่ในอ้อมกอดของผมเท่านั้น
“เป็นยังไงบ้างแม็ก” ผมถามด้วยน้ำเสียงห่วงใย ปลายนิ้วเกลี่ยเส้นผมให้พ้นใบหน้านั้น เขาลืมตาขึ้นมองอย่างอ่อนแรง ส่ายหน้าซีดเซียวเป็นคำตอบพอทำให้ผมใจชื้น ยิ้มออกมาอย่างโล่งอก ก่อนจะช้อนร่างเขาลอยขึ้นในอ้อมแขนพาเดินแหวกฝูงไทยมุงออกไปเงียบๆ
“อิฐ...” ผมชะงักหันไปมอง ผมเห็นแววตากังวลของบีท แต่ก็ทำเป็นไม่สนใจ เดินผ่านเขาไปโดยไม่ตอบรับ เพราะไม่ว่าแม็กจะถูกผลักลงไปหรือตกน้ำลงไปเองก็ตาม บีทที่อยู่ใกล้มากที่สุดก็ใจดำมากเหลือเกินที่นิ่งดูดายไม่ช่วยเหลือ
ไม่เคยเลย... ผมไม่เคยรู้สึกโกรธเขามากขนาดนี้มาก่อนเลย!
ระหว่างที่ผมอุ้มแม็กออกมา น้าเพทายเข้ามาถามไถ่อาการของแม็กอย่างเป็นห่วง ผมบอกท่านว่าเขาไม่เป็นอะไรมาก ฝากให้จัดการงานเลี้ยงต่อไปไม่ให้เกิดความแตกตื่น ท่านตกปากรับคำ ส่วนผมก็อุ้มแม็กพาเข้าไปในโรงแรม
ในห้องพักของโรงแรม หลังจากมีเด็กที่ถือเสื้อคลุมและรองเท้าของผมตามมาส่งให้ที่พร้อมทิ้งกุญแจห้องกลับไป ห้องถูกปิดลงจนเหลือผมอยู่กับแม็กม่าตามลำพัง ผมรีบอุ้มเขาเข้าไปในห้องน้ำ ดึงผ้าขนหนูที่พาดไว้ลงมาคลุมหัวเขา แล้วแกะกระดุมเสื้อออกด้วยความร้อนใจ เพราะเขาเปียกไปทั้งตัวถ้าปล่อยไว้นานคงไม่สบายแน่
“จะทำอะไรน่ะคุณอิฐ” เสียงห้ามแหลมสูงแหวขึ้นอย่างตกใจ
“ช่วยเธอเปลี่ยนเสื้อสิ เดี๋ยวไม่สบาย” ผมตอบเรียบๆ ไม่ยอมผละออกไปจนเสื้อเชิ้ตเปียกนั้นหลุดออกเผยความขาว เนียนจนตาลาย ยอดอกสีหวานเตะตาจนชะงักไปชั่วอึดใจ จู่ๆ ก็หายใจไม่ออกขึ้นมาเฉยๆ
เขาแหงนเงยขึ้นมองผมอย่างประหม่า ใบหน้าแดงก่ำก่อนจะร้องห้ามขึ้นมาเสียงหลง
“พอแล้วคุณ! ผมทำเองดีกว่า” แขนเล็กที่หมดเรี่ยวหมดแรงหนาวสั่นนั่นผลักแขนผมออกแล้วขยับตัวหนี ทำให้ผมชะงักมือตัวเองที่ถือวิสาสะพยายามเปลื้องผ้าเขาอย่างลืมตัวรีบยืนขึ้นอย่างเขินๆ
ก่นด่าตัวเองในใจ... มันใช่มาเวลามาหื่นไหม!
“เช็ดตัวแล้วเปลี่ยนชุดซะนะ” ผมสั่งในที่สุด ถึงแม้โรงแรมจะไม่มีเสื้อผ้าปกติให้แต่โชคดียังมีชุดคลุมอาบน้ำให้บ้าง
เขาก้มหน้าลงกอดตัวเองนิ่งอยู่คงเพราะไม่อยากถอดเสื้อผ้าต่อหน้าผม ผมจึงไม่เห็นว่าใบหน้านั่นแดงเรื่ออยู่ไหม เนื้อตัวที่สั่นเทานั่นเป็นเพราะเหน็บหนาวหรือรู้สึกแบบไหน รู้แต่ควรรีบออกไปเสียดีกว่าก่อนจะตบะแตกทำอะไรไม่ควรขึ้นจริงๆ
“แล้วก็รออยู่นี่นะ เดี๋ยวฉันมา”
ผมเดินลงไปด้านล่างทั้งที่ยังไม่ได้เปลี่ยนเสื้อผ้าที่เปียกออก แต่ตอนนี้มันหมาดๆ ไปบ้างแล้ว บีทยังไม่ได้ไปไหน เขาเข้ามานั่งอยู่ที่ลอบบี้ด้านในโรงแรมราวกับรู้ว่าผมจะต้องลงมาพบ
ผมยืนนิ่งตรงหน้าเขาไม่ได้เอ่ยคำใด อีกฝ่ายเงยหน้าขึ้น พอเห็นผมก็รีบแก้ตัวโดยที่ผมไม่ได้เอ่ยถาม...
“ผมไม่ได้ผลัก เขาลื่นลงไปเอง” คำพูดนั้นฟังดูมีพิรุธมาก น้ำเสียงมีความกังวลเหมือนปกปิดความผิดบางอย่าง
“ผมยังไม่ได้พูดสักคำว่าคุณทำ ถึงผมจะสงสัยก็เถอะ” ผมดักคอ
“บางทีมันอาจจะตั้งใจกระโดดลงไปเองเพื่อปรักปรำผมก็ได้” คำพูดนั้นทำให้ผมอดหัวเราะไม่ได้
“อุบัติเหตุอาจเกิดขึ้นได้ แต่แม็กไม่มีทางทำร้ายตัวเองเพื่อโยนความผิดให้คุณแน่นอน” ผมพูดอย่างมั่นใจ เพราะรู้ว่าเขาไม่มีทางยอมเสี่ยงที่จะทำให้ลูกของผมเป็นอะไรไปเด็ดขาด
“ถึงผมจะพูดอะไร คุณก็คงไม่เชื่อหรอก” เขาทำเสียงงอน แต่ผมก็จับได้ว่าทำไปเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจเท่านั้น
“บีท... ผมไม่อยากเห็นคุณเป็นแบบนี้เลย คุณเคยเป็นคนหยิ่งทะนง รักศักดิ์ศรีมากไม่ใช่เหรอ แต่ดูสิ่งที่คุณทำตอนนี้สิ ไม่สมกับเป็นคุณเลย” บีทที่เคยอยู่เหนือทุกสิ่ง ไม่แคร์ต่ออะไรทั้งนั้น เข้มแข็ง และใจเด็ด
ผมไม่เคยลืมวันเวลาที่ใช้ไปเพื่อเอาชนะใจเขา ตั้งกี่วันกว่าจะรู้ชื่อ และได้เบอร์โทร อีกกี่เดือนกว่าเขาจะไว้ใจ เปิดใจให้ ผมภาคภูมิใจมากแค่ไหนที่ได้อยู่เคียงข้าง ครอบครองและสัมผัส เขามีค่าเพราะกว่าจะได้เขามามันยากมาก
“แล้วยังไง! ผมควรเป็นคนแบบไหนในสายตาของคุณ! สูงส่งจนไม่ให้ราคาเมียเก็บ เมียน้อย ทนโง่ไปเรื่อยๆ ต้องอยู่เฉยๆ แล้วรอไปจนกว่าคุณจะถูกแย่งไปจริงๆ งั้นเหรอไง?”
“แต่ทำแบบนี้มันก็แรงเกินไปนะ ถ้าแม็กเค้าเป็นอะไรไปขึ้นมาคุณจะทำยังไง”
“ผมจะไปรู้ได้ยังไงว่ามันว่ายน้ำไม่เป็น” ผมค่อนข้างผิดหวังที่เขายอมรับออกมาอย่างลืมตัวว่าตั้งใจจริง
“แต่เรื่องที่เค้าท้องอยู่ คุณรู้ คุณผลักเขาแบบนั้น ถ้ามันผิดพลาดจนลูกผมเป็นอะไรไปขึ้นมาล่ะ”
“ดีสิ จะได้ตายๆ กันให้หมดทั้งแม่ทั้งลูก ไม่อยู่เป็นเสี้ยนหนามตำใจกันอีก” ผมค่อนข้างตกใจกับคำตอบนั้น
“คุณพูดแบบนี้ได้ยังไงบีท” ผมถามแววตาบ่งบอกว่าผิดหวังจริงๆ
“อย่าพูดเลยอิฐ ถ้าคุณจะเข้าข้างมันน่ะ ใช่สิ! ผมมันเก่าแล้วนี่! จะไปสู้เนื้อเด็กได้ยังไง ปากคุณก็บอกไม่คิดอะไร แต่ความจริงผมรู้ว่าคุณชอบมัน!” แววตาของเขาเจ็บปวดที่เอ่ยคำนั้น
“คุณพูดอะไรของคุณ!”
“ก็ถ้าคุณแค่อยากมีลูกจริงๆ ทำไมไม่ให้ผู้หญิงท้องให้ล่ะ ผมคงสบายใจกว่า เพราะรู้ว่าคุณไม่มีทางรักผู้หญิง”
“แต่ผมทำทุกอย่างเพื่อคุณนะ อีกไม่กี่เดือน แม็กก็จะคลอด หลังจากนี้คุณแม่ก็จะไม่มีข้ออ้างที่จะให้ผมแต่งงงานกับผู้หญิงอีก และถึงเราจะคบกัน แม่ก็คงจะไม่ว่า”
“ถึงว่า... เราก็ยังคบกันอยู่ดี คุณไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้ก็ได้”
“ผมอยากอยู่กับคุณนะ ผมอยากให้แม่ยอมรับคุณ”
“แล้วคุณคิดว่าการที่คุณให้คนอื่นมาท้องให้แล้วแม่คุณจะยอมรับผมได้เหรอ หึ! ก็คงไม่อยู่ดี แต่ถึงแม่คุณจะยอมรับผมได้จริง ผมก็ยอมรับเด็กคนนั้นไม่ได้หรอก ผมไม่มีทางจะชอบเด็กที่อยู่ในท้องมันแน่!”
“แต่เด็กคนนั้นเขาเป็นลูกผมนะบีท”
“สมมุตินะ ถ้าผมเกิดมีลูกขึ้นมาบ้าง ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนก็ตาม คุณจะรักเขาได้ไหมล่ะ?”
“รักสิ ต้องรักอยู่แล้ว” ผมตอบโดยไม่ลังเล
“รักเท่ากับลูกแท้ๆ ของคุณหรือเปล่า” ผมขมวดคิ้ว... ยอมรับว่าลังเล
“แล้วทำไมต้องเทียบกันด้วย”
“ไม่เท่าใช่ไหม? แล้วแม่คุณล่ะ เขาจะยอมรับลูกผมเป็นหลานของท่านได้หรือเปล่า?
“......”
“เชื่อผมสิว่าไม่มีทาง คุณอาจจะมองผมว่าเป็นคนใจร้าย ใจดำ แต่สิ่งที่ผมพูดมันคือเรื่องจริง มันคือจิตใจที่แท้จริงของมนุษย์ทุกคนที่ไม่มีรักคนอื่นได้เหมือนกับรักตัวเอง ไม่สามารถรักลูกคนอื่นได้เท่าลูกตัวเอง ถ้ามีใครบอกคุณว่าเขาทำได้ เชื่อผมเถอะว่าเขาโกหก”
“งั้นเหรอ? จิตใจแท้จริงของมนุษย์ มันเป็นเหตุผลที่ทำให้คุณไม่รักครอบครัวของผมทุกคน ไม่ว่าจะลูกของผมหรือแม่ของผมใช่ไหมบีท?” ผมถามกลับอย่างเหลืออด สิ่งที่เก็บกดในใจเริ่มปะทุขึ้น...
“นี่คุณอย่ามาหาเรื่องผมนะ!”
“เปล่าเลย... คุณทำให้ผมรู้สึกอย่างนั้นเองต่างหาก ตลอดเวลาที่ผ่านมา คุณไม่เคยสนใจใครเลย คุณไม่คิดจะเข้าหาคุณแม่ คุณไม่คิดจะพยายามทำให้ท่านยอมรับ คุณไม่เห็นด้วยกับหนทางของผม แล้วมาตอนนี้... คุณถึงขนาดจะจะฆ่าลูกผมด้วย!” ทั้งๆ ที่ผมอยากมีลูกมาก แต่ถ้าเขาไม่อยากท้องให้ผมก็พยายามหาวิธีอื่น แต่เขากลับทำลายทุกอย่างทิ้งอย่างนั้นเหรอ?
“ใช่!! สำหรับผม... มันก็เป็นแค่มารหัวขนที่ถูกใช้มาเป็นข้ออ้างเรียกร้องความสนใจจากคุณเท่านั้นแหละ เพราะพวกมันทำให้เราต้องมาทะเลาะกันแบบนี้ไง เรามีกันแค่สองคน ไม่ต้องมีคนอื่นไม่ได้เหรอไง”
ทำไมนะบีท... ทำไมคุณต้องให้ผมเลือกด้วย... ผมมีทั้งคุณและลูกไม่ได้ใช่ไหม?
อีกแค่ไม่กี่เดือน ทุกอย่างก็จะสิ้นสุดแล้วแท้ๆ ผมทนมานานขนาดนี้ อีกแค่นิดเดียวผมเชื่อว่ามันจะผ่านไปได้...
ผมเห็นแก่ตัวยอมมองดูแม็กเจ็บปวดแบบนี้ โดยไม่ยอมปล่อยเขาไป ส่วนหนึ่งก็เพื่อไม่ให้ผิดสัญญากับคุณ
ผมทนทำร้ายเขา เหนี่ยวรั้งเขาไว้เพื่อรักษาสัญญาของเรา ผมเชื่อว่าสุดท้ายแล้วความดีของคุณ ความมั่นคงของผมจะไม่มีทางสูญสลาย เมื่อถึงวันนั้นคุณจะเปลี่ยนใจ คุณจะรักลูกเหมือนอย่างที่ผมรัก ส่วนผมจะหลงลืมรอยจูบและน้ำตาของเขาได้ กลับกลายเป็นว่าผมตัดสินใจผิดทั้งหมดเลยสินะ
ผมกลับจะต้องสูญเสียพวกเขาไปหมด...
“ไม่ได้หรอกบีท แม่เหลือผมแค่คนเดียว ถึงยังไงผมก็ทิ้งท่านไม่ได้หรอก ลูกก็เหมือนกัน ผมก็ทิ้งเค้าไม่ได้ ถ้าคุณยืนยันว่าคุณอยู่ร่วมกับคนที่ผมรักไม่ได้เลยสักคนล่ะก็... เราคงไปด้วยกันไม่ได้แล้วล่ะ” ผมพูดด้วยน้ำเสียงเศร้า... มันไม่ง่ายเลยที่จะตัดใจ ทำร้ายคนที่ใช้คำว่ารักร่วมกันมานานขนาดนี้ได้ลงคอ แต่...
“คุณ... คุณจะทิ้งผมเหรอ” เขาถามเหมือนไม่อยากเชื่อว่าผมจะพูดออกไปได้..
ผมก็ไม่อยากเชื่อเหมือนกันว่าผมพูดออกไปได้ คำพูดที่ยังไงก็คิดว่าจะไม่มีวันหลุดออกมา
แต่มันคงดีกว่ายื้อกันไปแบบนี้...
“คุณบังคับให้ผมเลือกเองนะ คุณก็ต้องยอมรับถ้าผมไม่เลือกคุณ”
“จะรักกันตลอดไป... ชั่วนิจนิรันดร์ คำพูดพวกนั้นมันเป็นแค่คำโกหก สัญญาอะไรนั่นไม่มีจริงสักอย่างใช่ไหม?”
“ผมเสียใจ แต่การที่คนสองคนจะอยู่ร่วมกันได้ มันคงต้องมีอะไรมากกว่ารัก”
“ไม่จริง ที่คุณพูดมามันก็เป็นแค่ข้ออ้างเท่านั้นแหละ ที่คุณจะไปไม่ใช่เพราะผมไม่ดี แต่เป็นเพราะมันต่างหาก เพราะมันกับเด็กนั่น ถ้าไม่มีพวกมัน...ฮึก...”
ผมไม่อยากจะเชื่อเลย... ผมไม่เคยเห็นบีทร้องไห้มาก่อน เขาเป็นคนเข้มแข็งมากเสียจนคิดว่าตลอดชีวิตนี้อาจจะไม่ได้เห็นมันเลยก็ได้ ผมไม่คิดเลยว่าคนที่ทำให้เขาหลั่งน้ำตาได้จะเป็นผม คนที่บอกเขาว่ารักมาก... จะรักและดูแลเขาไปตลอดชั่วชีวิต สุดท้ายผมก็รักษามันไว้ไม่ได้
“ก็อาจจะจริง ถ้าเขาจะผิด ก็คงเพราะเขามาทีหลัง... แต่คนที่ผิดมากที่สุด ก็คือผมที่เป็นคนพาพวกเขามา... ถ้าคุณจะโกรธแค้น เกลียดชัง ก็โยนทุกอย่างมาที่ผมคนเดียว อย่าไปโทษพวกเขาเลย”
เราจ้องตากันนิ่งนาน ผมมองเห็นความผิดหวังเสียใจเต็มเปี่ยม ผมก็เสียใจไม่แพ้กันแต่ผมก็ไม่มีทางเลือกแล้วจริงๆ
“จะเอาอย่างนั้นก็ได้ ผมจะเกลียดคุณ... เกลียดไปจนกว่าเราจะตายจากกัน” ผมเห็นเขากำมือแน่น ไหล่ตั้งตรงลุกขึ้นเดินผ่านผมออกไปทั้งน้ำตา...
“ดูแลตัวเองดีๆ นะ บีท”
ผมขอโทษ... ที่ผมทำตามสัญญาพวกนั้นไม่ได้อีกแล้ว...
+++++++++++++++++++
คดีพลิกซะงั้น...
* หากชอบเรื่องนี้แล้วจะไปลองอ่านเรื่องอื่นด้วยก็ได้นะคะ แต่บอกไว้ก่อนว่า นิยายทุกเรื่องของนิแนวต่างกันไปหมดเลยค่ะ บางทีคนก็สงสัย คนเขียนคนเดียวกันหรือเปล่า ดังนั้นไม่แปลกที่ว่า ชอบเรื่องหนึ่ง อาจจะไม่ชอบเรื่องอื่นก็ได้ เพราะคนละแนวกันเลย *-*