Until You [อัพเดท ตอนที่ 19] 17-07-2016
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Until You [อัพเดท ตอนที่ 19] 17-07-2016  (อ่าน 16379 ครั้ง)

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
Re: Until You [อัพเดท ตอนที่ 12 (1/2)] 23-04-2016
«ตอบ #60 เมื่อ23-04-2016 21:28:39 »

 :z1:    ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเพราะยกให้พี่มาร์ทไปหมดแล้วอะดิน้องแมค

ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ Janny

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 474
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-2
Re: Until You [อัพเดท ตอนที่ 12 (1/2)] 23-04-2016
«ตอบ #61 เมื่อ23-04-2016 22:37:22 »

น้องแมคผ่านด่านคุณแม่ไปได้แล้ววว ต่อไปก็เป็นพี่มาร์ทต้องไปผ่านด่านคุณแม่ของน้องแล้วค่ะ 5555 สู้ๆนะค้าา

ออฟไลน์ lnudeel

  • I wanna be a CAT!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-5
Re: Until You [อัพเดท ตอนที่ 12 (1/2)] 23-04-2016
«ตอบ #62 เมื่อ24-04-2016 07:25:02 »

โถ่ หนูแมคสับสนตอนนี้น่ะไม่ทันแล้วนะ พี่มาร์ทพาไปดูตัวมาแล้วนะ พาด้วย!! :hao7:

ออฟไลน์ Ferin1A

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 51
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: Until You [อัพเดท ตอนที่ 12 (1/2)] 23-04-2016
«ตอบ #63 เมื่อ24-04-2016 10:52:25 »

ต้องร้องว่าน่ารักกี่ครั้งกันให้กลับเรื่องนี้
น่ารัก น่ารัก น่ารัก
 :-[

ออฟไลน์ ClearHeart

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 43
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: Until You [อัพเดท ตอนที่ 12 (1/2)] 23-04-2016
«ตอบ #64 เมื่อ24-04-2016 11:09:45 »

ช่วง : Talk to Writer

Q : Janny >> แล้วตกลงเรื่องเวอร์จิ้นไม่เวอร์จิ้นนี่ยังไงค้าาา มองตาแล้วรู้ทันมุกกันเลยป่ะ ไม่ต้องพูด 55555555 แต่พี่มาร์ทนี่ดีนะคะ ได้น้องแล้วก็ดูแลดีถึงพี่มร์ทจะมีจุดประสงค์แอบแฝงว่าพอหายจะได้...ต่อก็ตาม มองเห็นอนาคตว่าน้องแมคได้มีคนดูแลตลอดชีวิตแล้วล่ะค่ะ  :mew3:
A : เวอร์จิ้นตอนที่พูดก็เป็นมุข แต่ก็สามารถตีความได้สองแง่ แล้วแต่คนอ่านจะตีความด้านไหนนะครับ สำหรับเรื่องมีคนดูแลตลอดชีวิตไหมนั้น ผมขอตอบว่า ให้เป็นเรื่องของอนาคตเถอะครับ (ฮ่าๆ พี่มาร์ทหลบไป พระเอกแมคมาแล้วกับโมเม้นต์นี้) เอาเป็นว่าตอนนี้ก็ดูแลกันและกันอยู่ครับ

Q : ❣☾月亮☽❣ >> ละมุนมาก ยินดีกับแมคด้วยนะเจอคนรักจริง
A : ขอบคุณครับ ละมุนและนุ่มนวลอยู่ตลอดละครับ เอ๊ะ ยังไง?

Q : lnudeel >> เกือบได้โดนจนท้อง(?)และหนูแมค :hao7:
A : นี่ก็แซวแรงไปนิ๊ดนะครับ เบากว่านี้หน่อยจะดีมากเลยครับ ขอบคุณครับ

Q : Ferin1A >> ผ่านด่านคุณหญิงแม่แล้วววว :o18
Q : lnudeel >> โอ้วววว~~~ ฉลุยเลย :hao7: :hao7:
A : แค่ไปทานข้าวเฉยๆเองครับ อย่าใช้คำว่าผ่านด่านเลย ดูไม่ค่อยเข้ากับสถานการณชอบกล คุณหญิงแม่ก็ไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร พูดด้วยเหตุผลท่านก็เข้าใจละครับ และที่สำคัญ...ผมก็ไม่ได้ไปในฐานะที่จะให้คุณหญิงแม่ต้องมากีดกันกับความสัมพันธ์ของลูกชายด้วยนะครับ ผมก็แค่น้องชาย?คนนึงของพี่มาร์ทเท่านั้นเอง

Q : ❣☾月亮☽❣ >> :katai2-1:   :mew1:  แมคสู้ๆนะ
A : ไฟต์โตะ!!

Q : ❣☾月亮☽❣ >>  :z1:    ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเพราะยกให้พี่มาร์ทไปหมดแล้วอะดิน้องแมค ขอบคุณค่ะ
A : ยกให้ทำไมละครับ พี่มาร์ทต้องยกให้ผมต่างหากละ ฮ่าๆ

Q : Janny >> น้องแมคผ่านด่านคุณแม่ไปได้แล้ววว ต่อไปก็เป็นพี่มาร์ทต้องไปผ่านด่านคุณแม่ของน้องแล้วค่ะ 5555 สู้ๆนะค้าา
A : ไม่หรอกครับ พี่มาร์ทเองก็มาในฐานะพี่ชาย? เช่นเดียวกัน

Q : lnudeel >> โถ่ หนูแมคสับสนตอนนี้น่ะไม่ทันแล้วนะ พี่มาร์ทพาไปดูตัวมาแล้วนะ พาด้วย!! :hao7:
A : ไปไกลแล้วครับ กลับมาก่อน สินสอดยังไม่ได้เตรียมเลย เอ๊ะ ยังไง?

Q : Ferin1A >> ต้องร้องว่าน่ารักกี่ครั้งกันให้กลับเรื่องนี้ น่ารัก น่ารัก น่ารัก :-[
A : ไม่ต้องร้องบ่อยนะครับ เดี่ยวคอแห้ง เอาเป็นว่า แค่พูดว่า น่ารัก ทุกวัน วันละครั้งแบบพี่มาร์ทก็พอแล้วละครับ ปีนึงก็ได้ 365 คำละ ฮ่า

ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นต์นะครับ อ่านแล้วมีสีสันกับชีวิตดีจริง
แมค

ออฟไลน์ MaRiTt_TCL

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1513
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-6
Re: Until You [อัพเดท ตอนที่ 12 (1/2)] 23-04-2016
«ตอบ #65 เมื่อ24-04-2016 18:41:22 »

พี่มาร์ทขี้หึงขี้หวง5555

ออฟไลน์ ClearHeart

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 43
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: Until You [อัพเดท ตอนที่ 12 (2/2)] 27-04-2016
«ตอบ #66 เมื่อ27-04-2016 22:21:03 »


Until You


ตอนที่ 12 (2/2)

          นี่ผมคิดถูกหรือคิดผิดก็ไม่รู้ครับที่เอ่ยปากชวนใครบางคนมากินข้าวบ้าน เพราะตั้งแต่ออกมาจากฟิตเน็ต พี่มาร์ทก็ถามถึงความชอบของครอบครัวผมว่า ใครชอบทานอะไรบ้าง พอผมบอกไปเขาก็พาผมตะลอนทัวร์แวะห้างสรรพสินค้า วนไปวนมานี่ก็ปาไปสี่ห้างละครับ ไม่รู้จะทุ่มเทอะไรนักหนากับแค่ของฝากนี่

                    "ปกติที่บ้านทานข้าวกี่โมง"
                    "5 ครึ่งบ้าง 6 โมงบ้าง"
                    "ยังพอมีเวลา งั้นพี่ไม่รีบขับละกัน" ร่างสูงเอ่ย "หิวก็หยิบอะไรมาแกะกินละกัน"
                    "ครับ แต่ตอนนี้ยังไม่หิว" ผมตอบพลางหันหน้าออกนอกหน้าต่างมองวิวไปเรื่อย ขณะที่สมองกำลังคิดหาคำตอบให้ตัวเองอยู่ว่า ผมกำลังหาเรื่องให้ตัวเองอยู่รึเปล่าในเมื่อสถานะผมกับคนพาไปยังคลุมเครืออยู่เลย ไม่น่าพลาดบอกแม่ว่าจะพาพี่มาร์ทไปกินข้าวบ้านเลย ให้ตายเถอะครับ แล้วนี่จะแนะนำที่บ้านว่ายังไง ไม่ค่อยอยากโกหกครอบครัวเท่าไหร่เลย แต่ครั้นจะบอกว่า เป็นเพื่อนมันก็ดูไม่น่าเป็นไปได้ ถ้าบอกรุ่นพี่ คงมีคนสงสัยเพิ่ม แล้วถ้าบอกความจริง บ้านแตกแน่ๆ แม้จะมีคนบอกว่าความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย แต่ผมว่ากรณีนี้ความจริงเป็นสิ่งที่จะทำให้ผมตายได้แน่นอน ใครจะกล้าบอกว่า ผมกับพี่มาร์ทซัมติงกันไปแล้ว....เสร็จกันไปแล้ว.... คิดแล้วเครียดหนักกว่าเดิมอีกกู ผมแม่งยอมได้ไงวะวันนั้นอะ มีอะไรกับเพศเดียวกันแถมยังเผลอมองหุ่นพี่มาร์ทอีก ผมเป็นเกย์ไปแล้วปะนี่ ไม่น้า!
                    "ยีหัวทำไมละนั่น?"
                    "พี่มาร์ทครับ ผมมีอะไรจะบอก แต่ก็ไม่แน่ใจนักอะนะ" พี่มาร์ทหันมาพยักหน้าเพียงครู่ก่อนจะหันกลับไปขับรถต่อ "สงสัยว่าผมจะชอบผู้ชายอะครับ"
                    "หืม?" เบรคทีเกือบหน้าทิ่ม แล้วนี่จะเบรคอะไรตั้งไกล ไฟแดงอยู่ตั้งโน่น "แมคพูดอะไร พี่ไม่เข้าใจ"
                    "ก็ความหมายตรงตัวไง พี่มาร์ทว่าผมเป็นเกย์ปะ"
                    "อะไรที่คิดว่าเป็น"
                    "ผมมีความรู้สึกกับหุ่นผู้ชายด้วยกันอะสิ อย่าให้เล่าเลยครับ เครียด" อนาจจิตขั้นสุดยอด มีบอดี้เหมือนกันแท้ๆแต่ดันชอบเข้าไปได้
                    "ห๊ะ!" คราวนี้พี่มาร์ทถึงกับร้องออกมาในทันที "ใคร? ที่ไหน? ตอนไหน? บอกพี่มา"
                    "ที่ฟิตเน็ตเมื่อกี้ไงครับ" พูดแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ
                    "ใคร?" พี่มาร์ทเอ่ยถามเสียงเข้ม "คนไหน? เทรนเนอร์นั่นใช่ไหม"
                    "ตลกละ รู้จักกันไม่ถึงเดือนจะชอบได้ไง อีกอย่างผมไม่ได้ชอบกล้ามหนาหุ่นล่ำพวกนั้นหรอก ใหญ่เกิน เกิดวันดีคืนดีโกรธผมขึ้นมาทุบหัวเบะ ตายกันพอดี ยังไม่ได้ทำประกันชีวิตเลย"
                    "แล้วตกลงใคร?"
                    "อ่า...ไม่มีไรหรอก ช่างมันเถอะครับ" ผมบอก จะให้พูดได้ไงว่าผมรู้สึกอะไรยังไงกับเขา อายตายห่า
                    "แมค...บอกมา" แล้วนี่จะลากเสียงยาวเรียกชื่อผมอีกนานไหม
                    "ก็พี่มาร์ทนั่นละ ไม่ต้องถามแล้ว ขับรถไปเลย"
                    "ห๊ะ!" นี่ก็ตกใจหลายรอบจังนะครับวันนี้ อุทานเสียงแปลกออกมาไม่พอยังจะหัวเราะผมอีก "หึๆ พี่เข้าใจละครับ ไม่ต้องอธิบายก็ได้ หึๆ"
                    "เข้าใจอะไรครับ ผมงง"
                    "แบบนี้ไม่เรียกชอบผู้ชายหรอกครับ เรียกแมคชอบพี่คนเดียวต่างหาก ทำตัวน่ารักอีกแล้วนะ" พี่มาร์ทยิ้มหวานส่งให้ซะงั้นเลย แยกเขี้ยวใส่ยังไม่หยุดอีกนะ "ก็แมคน่ารักจริงๆนี่ครับ"
                    "อะนะ" ชมแบบนี้อย่าคิดเลยว่าจะเห็นท่าผมเขิน บอกเลยว่ายาก เพราะมันชินซะละ "พี่มาร์ทๆ เรามาเตี๊ยมคำพูดกันหน่อยไหมครับ" ผมบอกออกไป แต่คนข้างกายกลับขมวดคิ้วมองด้วยความสงสัย "ก็เรื่องของเราไงครับ เผื่อที่บ้านผมถาม"
                    "เรื่องของเราสินะ หึๆ"
                    "พี่มาร์ทอะ ผมซีเรียสนะครับเรื่องนี้นะ ตอบมั่วๆก็โดนสงสัยเอาสิ"
                    "จะเครียดไปทำไม เราไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย ใครถามก็ตอบความจริงไปสิครับ ไม่เห็นต้องโกหกอะไรเลย"
                    "ความจริงจะทำผมซวยนะสิ"
                    "คิดมาก"
                    "ไม่รู้ละ มาช่วยกันคิดก่อนเลย รถติดๆอยู่" ผมว่าหยิบกระดาษโน๊ตขึ้นมาจด "พี่มาร์ทแนะนำตัวได้ตามปกติ ผ่าน ข้อต่อไป เรื่องอายุ พี่มาร์ทดูจะแก่กว่าผมงั้นก็เป็นรุ่นพี่ แล้วถ้าเป็นรุ่นพี่ เราจะรู้จักกันได้ไงครับ เรียนคณะเดียวกันเหรอ อืม...ไม่เหมาะชอบกล เกิดไมซ์ถามไอที พี่มาร์ทตอบไม่ได้แย่เลย"
                    "รู้จักกันที่งานอีเว็นต์ไหม? แมคชอบไปบ่อยๆไม่ใช่เหรอ"
                    "ความคิดดี งั้นเจอกันที่งานสัมมนาก็ได้ครับ แล้วสนิทกันได้ไงอะ" จะบอกว่าไปเข้าค่ายต่างจังหวัดทำกิจกรรมฝ่าฐานกิจกรรมด้วยกันเหมือนที่ผมเคยไปก็ดูไม่เหมาะกับท่าทางของพี่มาร์ทเลย เอาอันไหนดีหว่า? คิดๆ
                    "พอละ เลิกคิดๆ อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิดละครับ มาช่วยพี่ดูทางดีกว่า แยกหน้ามีทางลัดเข้าซอยไปหรือจะวิ่งถนนใหญ่เหมือนเดิมดี"




          นี่คงเป็นครั้งที่สองแล้วที่พี่มาร์ทมาเยี่ยมเยียนบ้านผม แต่ครั้งนี้ต่างจากครั้งแรกก็ตรงที่ในบ้านตอนนี้มีสมาชิกอยู่กันครบเลยนะสิครับ พูดแล้วก็อดหนักใจในชะตาต่อจากนี้ไม่ได้

                    "สวัสดีครับคุณพ่อ" อะหืม พ่อได้เต็มปากเต็มคำจนผมแอบสั่นในใจไม่ได้
                    "อ้าวมาแล้วเหรอ สวัสดีๆ" พ่อของผมยกมือรับไหว้ วางหนังสือพิมพ์ที่อ่านอยู่ไว้บนโต๊ะตัวใกล้ๆ ลุกขึ้นมารับของฝากเต็มไม้เต็มมือที่พี่มาร์ทพร้อมจะส่งให้ด้วยรอยยิ้มทุกเมื่อ
                    "เห็นแมคบอกว่าคุณพ่อคุณแม่ชอบทาน เลยซื้อมาฝากครับ" พี่มาร์ทว่าอย่างเอาใจ ผมรู้ได้ไงเหรอครับก็น้ำเสียงกับท่าทางมันบอกชัดเจนซะขนาดนี้ "คุณแม่ สวัสดีครับ"
                    "คราวหลังไม่ต้องซื้อมาเยอะแยะนะ แม่เกรงใจ เข้าบ้านมาลูก"
                    "นี่พี่มาร์ทครับคนที่เคยเล่าให้ฟังไงแม่ แล้วไมซ์ไปไหนอะ" แนะนำตามมารยาทเสร็จสรรพ ผมก็เบี่ยงตัวหลบเพื่อเดินเข้าไปวางของในบ้าน
                    "น่าจะทำคอมอยู่ในห้อง เดี่ยวแม่ตามให้ ใกล้จะได้เวลาทานข้าวพอดี" แม่หันมาพูดกับผมเพียงครู่ ก่อนจะตะโกนเสียงดังออกไปว่า "ไมซ์ เอาน้ำเย็นๆมาเสิร์ฟแขกหน่อย ตั้งโต๊ะกับข้าวด้วย"
                    "เดี่ยวแมคตั้งโต๊ะเองก็ได้ แม่ทำไรกินบ้างอะ"
                    "เยอะแยะ พ่อก็กลัวไม่พอกินตะกี้ออกไปซื้อไก่ย่างสุพรรณมาอีกตัว"
                    "แมคนะเหลือเฟือ แต่พี่มาร์ทไม่แน่" ว่าแล้วก็หัวเราะสักหน่อย "อันนี้แกงจืดเต้าหู้หมูสับใส่สาหร่ายจีนส่วนนี่ผัดบล็อกโครี่ใส่กุ้ง ปลาทูราดพริก ไข่ตุ๋นสูตรอาม่า แกงเลียง และผัดหอยลายน้ำพริกเผาจากตลาดแถวบ้าน ทำหน้าเหมือนไม่รู้จัก อร่อยทุกอย่างของบอก"
                    "ไปแซวพี่เขา มาๆกินข้าวกัน ไมซ์ตักข้าวสิ"
                    "อ้อ ลืมแนะนำ นี่ไมซ์ น้องชายของผมครับ" บอกเสร็จสรรพเจ้าของชื่อก็ยกมือไหว้อย่างงาม พี่มาร์ทเองจึงต้องยกมือรับไหว้กลับ
                    "กินช้าๆสิคุณ" แม่เอ็ดเสียงดังแต่ไม่จริงจังมากนัก เพราะพ่อชอบเคี้ยวข้าวไม่ละเอียด ไม่กี่นาทีหมดไปครึ่งจานแล้ว
                    "แหม ก็กับข้าวอร่อยนี่จ๊ะ แม่"
                    "พ่อๆ มิลานเมื่อคืนเป็นไง" นี่มาละครับประเด็นฟุตบอลคุ่เด็ด ขาดไม่ได้เลยกีฬากับน้องชายของผม
                    "1 – 0 กว่าจะยิงได้จะหมดเวลาอยู่ละ สูญสีๆ" พ่อผมตอบไปกินข้าวไป "หนังเมื่อกี้ถึงไหนละ เล่าต่อๆ"
                    "เอ้า พ่อไปตอนไหนอะ ดูถึงไหนละ?"
                    "หนังไร?" ผมถามบ้าง
                    "กิบส์ไง กิบส์" ไมซ์หันมาตอบ ก่อนจะหันไปมองพ่อบ้าง "ถึงตอนดั๊กกี้ผ่าศพยัง?"
                    "น่าจะยัง พ่อดูถึงตอนมีศพในสวน" 
                    "ตักข้าวเพิ่มให้พี่เขาหน่อยสิ แมค" ผมพยักหน้ารับเปิดหม้อคดข้าวตักใส่จานเป็นรอบที่สามของมื้อนี้ อะไรจะกินแก่งขนาดนั้น
                    "อิ่มยังอะ ข้าวจะหมดหม้อแล้ว" ผมเอ่ยแซว
                    "ก็คุณแม่ทำกับข้าวอร่อยนี่" พี่มาร์ทพูดขึ้นพร้อมตักผัดผักมาใส่จาน
                    "ชอบก็ทานเยอะๆเลย แม่มีอีกเยอะ" พี่มาร์ทยิ้มรับและหันไปตักแกงจืดเต้าหู้ใส่จานของแม่ผมบ้าง
                    "พ่อๆ รีโมทอะ"

          สุดท้ายแล้วช่วงรับประทานอาหารเย็นก็ไม่มีใครเอ่ยถามเรื่องพี่มาร์ทสักคนในวงสนทนาเลย มีแต่เสียงหัวเราะของทุกคนในบ้านมากกว่าจะเป็นเสียงยิงคำถามตามที่ผมคาดการณ์เอาไว้ ดูท่าว่าภาพยนตร์ต่างประเทศในจอทีวีที่ดูอยู่นี่ช่วยชีวิตผมเอาไว้เลย

                TBC
                 -----------------------------------------------------------------------------------------
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-04-2016 22:32:14 โดย ClearHeart »

ออฟไลน์ kokoro

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2
Re: Until You [อัพเดท ตอนที่ 12 (2/2)] 27-04-2016
«ตอบ #67 เมื่อ27-04-2016 23:31:59 »

ความรักแบบค่อยเป็นค่อยไปเนอะ
น้องแมคหลงรักพี่มาร์ทเต็มตัวแล้วค่ะ55

ออฟไลน์ NuNam

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3
Re: Until You [อัพเดท ตอนที่ 12 (2/2)] 27-04-2016
«ตอบ #68 เมื่อ27-04-2016 23:52:45 »

 :z1:

ออฟไลน์ klaew

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
Re: Until You [อัพเดท ตอนที่ 12 (2/2)] 27-04-2016
«ตอบ #69 เมื่อ02-05-2016 09:49:50 »

คิดถึงแมคจังเลยค่ะ
เคยติดตามเรื่อง the revenge project
ที่แมคเคยลงใน เด็กดี
ตอนเห็นชื่อผู้แต่งนี่แทบหุบยิ้มไม่ได้แน่ะ
คิดในใจว่าดีจังที่แมคมาลงที่เพจนี้ (เพราะเราเข้าเพจนี้บ่อยกว่า อิอิ)
ยินดีต้อนรับนะคะ
เรื่องนี้เาจะติดขอบเช่นเดิมค่ะ
ปล.1 คงจำกันได้เนอะ กับ A nice day
ปล.2 พี่มาร์ทน่ารักนะคะ ^^
ปล.3 จะเป็นกำลังใจให้ค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Until You [อัพเดท ตอนที่ 12 (2/2)] 27-04-2016
« ตอบ #69 เมื่อ: 02-05-2016 09:49:50 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
Re: Until You [อัพเดท ตอนที่ 12 (2/2)] 27-04-2016
«ตอบ #70 เมื่อ02-05-2016 10:14:02 »

 :L1:   

ออฟไลน์ Janny

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 474
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-2
Re: Until You [อัพเดท ตอนที่ 12 (2/2)] 27-04-2016
«ตอบ #71 เมื่อ02-05-2016 15:07:02 »

พี่มาร์ทคะ กลมกลืนมากประหนึ่งอยู่บ้านนี้มาตั้งแต่เกิดเลยค่ะ เอ๊ะ หรือความจริงทุกคนเมินพี่มาร์ท 55555555 แต่น้องแมคสบายใจก็ดีค่ะ ถ้ามีใครถามเราว่าพี่มาร์ทจะตอบไปตามตรงว่าผมได้น้องแล้วครับ มากกว่าจะบอกว่าเป็นคนที่เจอกันที่งานสัมนานะคะ  :mew3:

ออฟไลน์ ClearHeart

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 43
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: Until You [อัพเดท ตอนที่ 13 (1/2)] 02-05-2016
«ตอบ #72 เมื่อ02-05-2016 21:00:43 »


Until You


ตอนที่ 13 (1/2)

          เป็นธรรมเนียมของบริษัทเอกชนน้อยใหญ่รวมไปถึงข้าราชการและรัฐวิสาหกิจที่โดยปกติแล้วจะต้องมีการจัดอบรมสัมมนาเพื่อกระชับมิตรภาพของคนภายในองค์กรเฉลี่ยปีละประมาณสองครั้งและงานเลี้ยงปีใหม่อีกหนึ่งครั้งทุกปี ซึ่งงานเลี้ยงปีใหม่นี้ บางบริษัทเป็นองค์กรขนาดเล็กงบประมาณมีจำกัดก็จะจัดเพียงเลี้ยงสรรสสรค์กันที่ร้านอาหาร โดยอาจจะจัดหลังหรือก่อนปีใหม่นั่นก็ตามแต่สะดวก แต่สำหรับหน่วยงานเอกชนขนาดใหญ่ที่มีพนักงานหลักร้อยหลักพันคนอย่างบริษัทของพี่มาร์ท เขาก็จัดงานอย่างยิ่งใหญ่โดยมีนโยบายพาพนักงานไปพักผ่อนหย่อนใจกันที่พัทยาสามวันสองคืน พร้อมครอบครัว แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นครับ ประเด็นคือ ผมเป็นอะไรกับพี่มาร์ทกันนะครับ ถึงพาไปด้วยได้ หา?...
          ดังนั้นผมจึงนั่งเท้าคางพลางมองนาฬิกาข้อมือด้วยอาการจับเจ่ารอพี่มาร์ทมารับในบ่ายแก่ๆของวันศุกร์วันหนึ่งที่มหาวิทยาลัย พร้อมกระดกโอวันตินปั่นหมดไปเป็นแก้วที่สองของวัน หลังจากนั่งรอไปได้สองชั่วโมงเต็ม เพราะมีเรียนแค่ช่วงเช้า

                    "สวัสดีค่ะ คุณแมคใช่ไหมค่ะ" ผมถีงกับสะดุ้ง รีบวางแก้วน้ำและหยิบหลอดที่กำลังเป่าฟองฟู่ในแก้วออกจากปาก แต่พอหันมาถึงกับตกใจกว่าเดิม เพราะเจอสาวหน้าตาดีผมยาวเป็นลอนดัดปลายในชุดเดรสกระโปรงบานสีเทาอ่อนแซมลายก้อนเมฆสีขาวบนผืนผ้าโดยมีเสื้อสูทสีขาวโทนเดียวกันสวมทับแขนกุดเอาไว้ อยากบอกว่าเป็นสาวใหญ่ที่แต่งตัวดูดีมากเลยครับ "ดิฉันชื่อ ชาลิสา เป็นเลขาของคุณภิมุขนะค่ะ จำได้ไหมค่ะ ที่เราเคยคุยสายกันก่อนหน้านี้นะค่ะ"
                    "อ๊ะ... สวัสดีครับ" ผมรีบลุกขึ้นยืนยกมือไหว้อย่างงามตามแบบผู้ดีไทย เคยแต่โทรเข้าบริษัทพี่มาร์ทบ้างบางทีแต่ก็ไม่เคยคิดว่าเลขาของพี่มาร์ทจะดูสวยกว่าที่คิด
                    "อุ๊ย ไม่ต้องไหว้หรอกค่ะ ไม่แก่ขนาดนั้น" เธอยิ้มหวานให้ "ไปกันเลยไหมค่ะ บอสรออยู่ที่รถติดสายสำคัญไม่สะดวกลงมานะค่ะ เลยให้ดิฉันมารับแทน" พอผมบอกไม่เป็นไร เธอก็เดินนำผมไปยังรถตู้ Mercedenz Benz Vito สีดำมันวาว ที่จอดรออยู่
                    "ขอโทษที พี่ติดงานที่ออฟฟิคนะ" พี่มาร์ทว่าพร้อมกับกดวางสายวางมือถือไว้ข้างลำตัว
                    "อะครับ ไม่เป็นไร" บอกพร้อมกับถอดกระเป๋าเป้ใส่เสื้อผ้าไว้ข้างตัว ขณะที่ผู้เริ่มเดินทางอีกคนก้าวขึ้นมานั่งเบาะด้านหลัง ก่อนจะพูดต่อว่า "ผมนึกว่าพี่มาร์ทให้พนักงานหยุดวันนี้ซะอีก" ผมเอ่ยถามขึ้นด้วยเข้าใจว่า ก่อนหน้านี้พี่มาร์ทบอกผมว่า อนุญาตให้หยุดงานหนึ่งวันเพื่อไปพักผ่อน รวมเสาร์อาทิตย์ ก็ 3 วัน 2 คืนพอดิบพอดีครับ แต่จะมีบางส่วนที่ต้องอยู่เฝ้าออฟฟิค ก็คล้ายๆกับเข้าเวรละครับ ซึ่งน่าจะได้ค่าล่วงเวลาเพิ่มด้วย
                    "ใช่ แต่เมื่อเช้าพี่ว่าง พี่ก็เลยไปสะสางวางแผนงานล่วงหน้าไว้ก่อน วันจันทร์จะได้ไม่ยุ่งมาก"
                    "อ้อ...ครับ"
                    "ขออนุญาตออกรถนะครับ" เสียงคนขับรถดังขึ้นขัด ทำให้พี่มาร์ทต้องพยักหน้ารับทราบตามระเบียบ
                    "นี่คุณชาลิสา แมครู้จักแล้วใช่ไหม" ผมพยักหน้ารับ พี่มาร์ทจึงหันหลังไปยิ้มให้คุณเลขาสาวพร้อมกับพูดว่า "นี่ละ น้องชายที่ผมเล่าให้ฟังบ่อยๆ เจอตัวจริงแล้วเป็นยังไงบ้าง"
                    "น่ารักอย่างที่บอสบอกเลยค่ะ" พูดแล้วก็มีอมยิ้ม "อุ๊ย อย่างเพิ่งโมโหนะค่ะคุณแมค ดิฉันหมายถึงท่าทางการแสดงออกน่ะค่ะ เมื่อกี้คุณแมคยกมือไหว้ด้วยค่ะบอส สา ตกใจแทบแย่ กลัวหน้าแก่เกินวัยเกิน"
                    "เป็นปกติของแมคนะครับ นี่ถ้ากราบได้กราบไปละ"
                    "พี่มาร์ทเวอร์เกิน พอเลย" ถ้าไม่หยุดแซวผมจะเมินละนะ "แล้วเราไปพักโรงแรมไหนกันอะครับ?" พี่มาร์ทไม่ตอบคำถามแต่บอกอยากให้ผมเองกับตา ซึ่งแน่นอนว่าผมก็ยอมอดทนรอดูผลงานการคัดสรรของผู้บริหารใหญ่ขี้เก็กข้างๆผมนี่อยู่เหมือนกัน แต่ถ้าให้เดาผมก็พอมีอยู่ในใจบ้างละ เพราะว่าโรงแรมระดับ 3-4 ดาวที่สามารถรองรับคนได้เป็นร้อยๆมีเพียงไม่กี่แห่งในพัทยาหรอกครับ

          ทว่า...พอไปถึงกลับเป็นผมเองที่รู้สึกว่าคิดผิดถนัด ด้วยไม่คิดว่าข้อมูลที่ผมอุตส่าห์เตรียมหามากลับใช้ไม่ได้เลย เพราะชื่อโรงแรมตรงหน้าผมนี่ไม่มีอยู่ในรายการที่จดมา โรงแรมนี่ตกสำรวจของผมไปได้ไงกัน? ประตูรั้วอัลลอยบานใหญ่เปิดออกกว้างเพื่อให้รถตู้คนที่ผมนั่งอยู่ผ่านเข้าไป พนักงานรักษาความปลอดภัยในชุดเครื่องแบบสีขาวสวมหมวกเอ่ยต้อนรับเมื่อคนขับรถแจ้งชื่อของพี่มาร์ทและงานสัมมนาออกไป
          เบื้องหน้าของผมคือลานคอนกรีตกว้างขีดเส้นแดงแบ่งช่องเลนจอดรถได้ฝั่งละสิบคันหันหน้าเข้าหากันสองแถว ด้านซ้ายมือเป็นอาคารสูงสไตล์โคโลเนียนกึ่งโมเดิร์นหกชั้นตั้งเรียงกันขนาบข้างสามตึกและอาคารสไตล์เดียวกันสองชั้นอยู่เยื้องกันไปทางด้านข้างของตึกตรงกล้างคล้ายรูปตัวทีในภาษาอังกฤษพร้อมสวนสวยและสระว่ายน้ำพร้อมน้ำตกทางด้านหลัง ซึ่งคุณชาลิสาแอบกระซิบมาว่าอยากพาผมไปชมมากๆหากผมยินดีให้เธอพาทัวร์ ทั้งยังบอกอีกว่าเธอเคยมากับสามีแล้วยังปราบปลื้มกับโรงแรมนี้ไม่หาย จึงแนะนำที่นี่ให้พี่มาร์ทได้รู้จัก

                    "ให้ขนกระเป๋าไปไว้ที่ล็อบบี้เลยไหมครับ" คนขับรถเอ่ยถามอย่างใจดี เมื่อดับเครื่องยนต์
                    "ไม่ต้องค่ะลุงชาติ สาโทรบอกรีเซพชั่นของที่นี่แล้วค่ะ เดี่ยวส่งบอสกับคุณแมคเสร็จ ลุงแดงขับรถไปจอดใต้อาคาร A ตรงนั้นนะค่ะ เห็นไหมค่ะ สาให้เขาสำรองที่ไว้ให้แล้วค่ะ พวกสัมภาระเดี่ยวทางนั้นจัดการให้เองค่ะลุง"
                    "ดีเลย จะได้ไม่ต้องจอดรถตากแดด"
                    "บอสจะลงไปเดินเล่นก่อนไหมค่ะ หรือจะรอที่รถก่อน สาจะไปเอากุญแจห้องให้ค่ะ"
                    "ผมรอ..." / "พี่มาร์ทไปเดินเล่นกัน ผมอยากถ่ายรูป อุ๊บ...ขอโทษครับ"
                    "ตกลงว่าจะเดินไปเองใช่ไหมค่ะ" เธอยิ้มสวยส่งให้ ส่วนผมก็หน้าหุบเหลือสองนิ้ว เพราะดันพูดตัดหน้าบอสใหญ่ที่สุดในรถอย่างลืมตัว แต่เหมือนพี่มาร์ทจะพยักหน้าไม่ถือสาหาความอะไรกลับยีหัวผมและเปิดประตูลงไปยืนรอด้านล่าง "ล็อบบี้อยู่ตรงอาคารข้างหน้านั่นนะค่ะคุณแมค ส่วนสระว่ายน้ำกับสวนเดินเลยไปจนถึงอาคารสุดท้ายเลยค่ะ อยู่ขวามือ ไกลหน่อย แต่รับรองว่าคุ้มค่ะ"
                    "ครับ"
                    "ถ้าได้เลขห้องแล้ว สาจะเมล์ไปบอกนะค่ะบอส พักผ่อนตามสบายเลยค่ะ"
                    "อืม ขอบใจมาก" พี่มาร์ทพูดขึ้นเบี่ยงตัวหลบให้คุณเลขาสาวเดินผ่านไปก่อนแล้วจึงหันมาพูดกับผมว่า "เชิญครับคุณน้องชาย หึๆ"
                    "พี่มาร์ท! ล้อเลียนผมเหรอ" น่าเอาฟันกัดซะจริง แต่น่าเสียดายผมเป็นคน ทำไปคงไม่เหมาะ จึงได้แต่เดินกระฟัดกระเฟียดไปตามทางที่ได้ยินมา เดินไปหลายก้าวเหมือนกันครับกว่าใครจะบางคนจะเดินตามมาทัน
                    "ไม่รอพี่บ้างเหรอ?"
                    "ขายาวก็น่าจะเดินไวไม่ใช่เหรอครับ" ผมหันไปตอบยกกล้องคอมแพคที่คล้องแขนไว้ขึ้นมาเก็บภาพตามทางไว้เป็นที่ระลึก พลางกดเช็ครูปที่ถ่ายไปแล้วว่าเป็นอย่างไรบ้าง ภาพต้นไม้ดัดรูปกระต่ายนี่เบลอแฮะ ลบทิ้งแล้วกลับไปถ่ายใหม่ดีกว่า
                    "แมคระวัง!" ถึงกับหยุดกึกก้มมองพื้นคอนกรีต ไม่เห็นจะมีอะไรเลย พื้นก็เท่ากันไม่เห็นจะต่างระดับตรงไหน พี่มาร์ทเมารถสายตาเพี้ยนปะ แต่...เฮ้ย!! "เบาๆสิครับ เดี่ยวชาวต่างชาติกลุ่มนั้นก็ตกใจหมดหรอก" นั่นมันไม่ใช่ประเด็นครับ ประเด็นมันอยู่ที่แก้มผมโดนล่วงละเมิดอีกแล้ว 
                    "ไหนเราตกลงกันแล้วไงว่า ถ้าอยู่ในที่สาธารณะพี่มาร์ทต้องขออนุญาตผม ทำแบบนี้ได้ไงกัน"
                    "ไหนๆก็ไหนๆละ อีกข้างละกัน ...ฟอด...ขออนุญาตครับ" ดูทำเข้า?ยังมีหน้ามายิ้มกริ่มอีก ไม่ต้องไปดูมันละสระว่ายน้ำอลังการงานสร้างนั่น กลับลูกเดียวครับ ล็อบบี้อยู่ตึกไหนนะ ผมจะนอนยันเย็นเลย หมดอารมณ์
                    "เดี่ยวสิแมค จะรีบไปไหน"

                TBC
                 -----------------------------------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ lnudeel

  • I wanna be a CAT!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-5
Re: Until You [อัพเดท ตอนที่ 13 (1/2)] 02-05-2016
«ตอบ #73 เมื่อ02-05-2016 22:07:45 »

ที่พี่มาร์ทบอกให้ระวังอะ ระวังสะดุดมดใช่มั้ย หวานเน๊อะ :hao7: :mew3: :mew1:

ออฟไลน์ ClearHeart

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 43
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: Until You [อัพเดท ตอนที่ 13 (1/2)] 02-05-2016
«ตอบ #74 เมื่อ03-05-2016 20:42:23 »

ช่วง : Talk to Writer

Q : MaRiTt_TCL >> พี่มาร์ทขี้หึงขี้หวง5555
A : เป็นปกติครับเรื่องนี้ แต่พี่เขาไม่ค่อยแสดงออกชัดเจนหรอกครับ สังเกตยากนิ๊ดนึง (^_^)

Q : NuNam >>  :z1:
A : น้ำลายยืดเปรอะจอแล้วครับ ฮ่าๆ

Q : klaew >> คิดถึงแมคจังเลยค่ะ
เคยติดตามเรื่อง the revenge project
ที่แมคเคยลงใน เด็กดี
ตอนเห็นชื่อผู้แต่งนี่แทบหุบยิ้มไม่ได้แน่ะ
คิดในใจว่าดีจังที่แมคมาลงที่เพจนี้ (เพราะเราเข้าเพจนี้บ่อยกว่า อิอิ)
ยินดีต้อนรับนะคะ
เรื่องนี้เาจะติดขอบเช่นเดิมค่ะ
ปล.1 คงจำกันได้เนอะ กับ A nice day
ปล.2 พี่มาร์ทน่ารักนะคะ ^^
ปล.3 จะเป็นกำลังใจให้ค่ะ
A : โอ้ว สวัสดีครับ คิดถึงเหมือนกัน แฟนคลับยุคดั้งเดิมแต่วัยยังเอ๊าะ ฮ่าๆ เรื่องนี้ก็คล้ายๆกับที่เคยลงในเด็กดีนะครับ แต่ผมมีรีไรต์ใหม่ ทั้งเนื้อหา ฉาก ตัวละคร ให้เข้มข้นและเข้าถึงอารมณ์ยิ่งขึ้นประหนึ่งดู นิยาย HD กร๊ากกก ฝากผลงานชิ้นนี้ด้วยนะครับ ยืนยันว่าเนื้อหาหลักยังคงเดิมครับ แต่มีการเพิ่มบางส่วนให้ได้อรรถรสยิ่งขึ้น หวังว่าจะถูกใจนะครับ ขอบคุณครับผม ปล. ขอแก้หน่อยครับ สำหรับ ปล.2 ข้อนี้ผมน่ารักกว่าพี่มาร์ทครับ ฮ่าๆ

Q : ❣☾月亮☽❣ >> :L1:   
A : ขอบคุณสำหรับดอกไม้ ฟรุ้งฟรุิ้งมากๆ

Q : Janny >> พี่มาร์ทคะ กลมกลืนมากประหนึ่งอยู่บ้านนี้มาตั้งแต่เกิดเลยค่ะ เอ๊ะ หรือความจริงทุกคนเมินพี่มาร์ท 55555555 แต่น้องแมคสบายใจก็ดีค่ะ ถ้ามีใครถามเราว่าพี่มาร์ทจะตอบไปตามตรงว่าผมได้น้องแล้วครับ มากกว่าจะบอกว่าเป็นคนที่เจอกันที่งานสัมนานะคะ  :mew3:
A : ก็ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ

Q : lnudeel >> ที่พี่มาร์ทบอกให้ระวังอะ ระวังสะดุดมดใช่มั้ย หวานเน๊อะ :hao7: :mew3: :mew1:
A : สะดุดขี้ฝุ่นอะสิไม่ว่า เหอๆ (มองค้อน)

ตอบครบถ้วนทุกข้อความแล้วนะครับ หากมีอะไรสงสัยอยากถามอะไรเพิ่มเติม จัดมาได้เลยครับ รอฟังทุกความเห็นนะครับ
ขอบคุณครับ
แมค

ออฟไลน์ klaew

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
Re: Until You [อัพเดท ตอนที่ 13 (1/2)] 02-05-2016
«ตอบ #75 เมื่อ03-05-2016 22:36:04 »


ออฟไลน์ Sweettemp

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 169
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
Re: Until You [อัพเดท ตอนที่ 13 (1/2)] 02-05-2016
«ตอบ #76 เมื่อ05-05-2016 02:54:42 »

เรื่องอุ่นๆละมุนมากค่ะ แม้พี่มาร์ทจะกลายเป็นหมาป่าในตอนนั้นก็ตามที 5555+ ขอติดตามเรื่อยๆนะคะ


ปล.อ่าน comment แล้วขอถามได้มั้ยคะ คุณผู้แต่งชื่อแม็ค=แม็คใน until you หรือเปล่าคะ? Is it real?  :-[ แล้ว the revenge project นี่ยังตามอ่านได้อยู่หรือเปล่าคะ  :pig4:

ออฟไลน์ ClearHeart

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 43
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: Until You [อัพเดท ตอนที่ 13 (1/2)] 02-05-2016
«ตอบ #77 เมื่อ07-05-2016 10:38:42 »

เรื่องอุ่นๆละมุนมากค่ะ แม้พี่มาร์ทจะกลายเป็นหมาป่าในตอนนั้นก็ตามที 5555+ ขอติดตามเรื่อยๆนะคะ


ปล.อ่าน comment แล้วขอถามได้มั้ยคะ คุณผู้แต่งชื่อแม็ค=แม็คใน until you หรือเปล่าคะ? Is it real?  :-[ แล้ว the revenge project นี่ยังตามอ่านได้อยู่หรือเปล่าคะ  :pig4:

ขอบคุณที่ติดตามอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เรื่องก่อนๆเลยครับ ผมเองก็เพิ่งรู้ว่านักอ่านเพจเด็กดีมาอ่านไทยบอยเยอะเหมือนกัน ฮ่าๆ รู้งี้มานานละ เอ๊ะ ยังไง?

สำหรับเรื่อง the revenge project คงยุติเพียงเท่านั้นนะครับ ไม่มีเพลนเขียนต่อแต่อย่างใดนะครับ แต่ถ้าเป็นเรื่อง until you ผมก็เริ่มมีคิดๆเหมือนกันว่าหากจบภาคแรกแล้ว อาจจะ(ย้ำนะครับว่า อาจจะ)มีเพลนสำหรับภาคสองต่อ เพราะว่าเรื่องราวของแมคกับพี่มาร์ทยังมีอีกเยอะครับที่ยังไม่ได้แบ่งปันให้น้องๆพี่ๆได้อ่านกัน ฮ่าๆ

และสำหรับคำถามที่อยากรู้ที่สุด... ผมขอตอบเพียงสั้นๆว่า แมคเป็นคนเล่าเรื่องไงครับ ก็เลยชื่อแมค ฮ่าๆ  :laugh: งงอะดิ งั้นเอาใหม่นะครับ
...เรื่องนี้เขียนจากมุมมองของแมค ดังนั้นแมคก็คือคนเล่าเรื่อง
และถ้า...ผมเป็นคนบรรยายเรื่อง ดังนั้น...ผมก็คือคนเขียนเรื่องใช่ปะ?

ฝากไว้เพียงเท่านี้ละกันครับ ขอให้มีความสุขกับการอ่านนะครับ ขอบคุณครับ
แมค

ออฟไลน์ ClearHeart

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 43
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: Until You [อัพเดท ตอนที่ 13 (2/2)] 08-05-2016
«ตอบ #78 เมื่อ08-05-2016 16:44:51 »


Until You


ตอนที่ 13 (2/2)

          ตลอดทางที่ขึ้นลิฟท์มายังห้องพัก ผมไม่แม้แต่จะมองหน้าคนข้างกายเลยด้วยซ้ำ ถามว่าโกรธไหม ไม่ครับ เขินไหม ก็ไม่อีก เพียงแต่รู้สึกว่ามันไม่สมควรทำให้ใครเห็นก็แค่นั้น ยังไงเราก็ดูเป็นผู้ชายเหมือนๆกัน แม้โลกจะเปิดกว้างแต่ใช่ว่าทุกคนจะรับได้เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์สักหน่อย พี่มาร์ทเองก็ไม่ระวังตัวเลย รู้ทั้งรู้ว่าพนักงานอยู่กันเต็มโรงแรมอาจจะมีใครเห็นก็ได้ น่าจะคิดเยอะและห่วงชื่อเสียงตัวเองมากกว่านี้
                    "โมโหพี่มากไหม" ยังมีหน้ามาถามคำนี้อีกนะ
                    "ไม่ได้โมโห ไม่ได้โกรธ แต่ไม่ชอบครับ" ผมยอมพูดออกมาในที่สุด
                    "ถ้าแมคกังวลเรื่องพี่ พี่อยากบอกว่า มุมนั้นไม่มีใครเห็นหรอก ต้นไม้ใหญ่บังอาคารด้านบนอยู่ ส่วนฝรั่งตรงสระน้ำก็อยู่ไกลเกินกว่าจะเห็น พี่แน่ใจแล้วถึงทำนะ อย่าคิดมากสิครับ"
                    "มันก็อาจจะมีเล็ดลอดบ้างก็ได้นี่"
                    "เชื่อพี่เถอะ พี่ไม่มีวันทำให้แมคเสียหายหรอกครับ"   
                    "มันไม่ใช่เรื่องนั้นสักหน่อย พี่มาร์ทนี่...."
                    "มากันแล้วเหรอค่ะ สา เพิ่งเปิดห้องตะกี้เองค่ะ เชิญค่ะๆ"   

          ประตูไม้สีดำสนิทเปิดออกกว้างมากพอจะให้ผมเดินผ่านเข้าไปด้านในและพบกับความอลังการของห้องพักที่ผมจะนอนในคืนนี้ เริ่มด้วยผนังขวามือสีครีมที่ไม่มีอะไร อ้าวแล้วผมจะบรรยายทำไม ฮ่าๆ โอเค งั้นถอยหลังกลับมาที่ประตูเหมือนเดิมแล้วเอียงคอไปทางด้านซ้ายก็จะพบกับห้องครัวบิวต์อินขนาดย่อมติดผนังที่ประกอบไปด้วยไมโครเวฟและหม้อต้มน้ำไฟฟ้าวางอยู่ข้างอ่างล้างจานบนชุดครัวปูนซีเมนต์บอร์ดเคลือบผิวลามิเนตคล้ายพลาสติกกึ่งเงาสีขาว เหนือขึ้นไปน่าเป็นตู้สำเร็จรูปสำหรับเก็บอุปกรณ์ทำครัวต่างๆพร้อมลิ้นชักด้านล่างตู้ และผมก็เพิ่งสังเกตเห็นครับว่า พื้นห้องทำจากไม้ลามิเนตลายเหมือนกับไม้จริงเสียด้วย

          ครั้นพอเดินลึกเข้ามาในห้องด้านในก็จะเป็นห้องรับแขกผสมกับห้องนั่งเล่นในตัว มีทีวีจอแบนขนาดสามสิบสองนิ้ววางบนตู้ขนาบข้างด้วยมินิโฮมเทียเตอร์และมีพัดลมระบายอากาศวางไว้คู่กัน ถัดมาจะเป็นเก้าอี้โซฟาตัวยาวเบาะกำมะหยี่สีน้ำตาลพร้อมหมอนอิงสามใบไล่สีครีมเข้มไปอ่อนวางเรียงกันในแนวตั้ง แม้จะใช้สีโทนเดียวกันแต่เล่นระดับสีแบบนี้ ผมว่าเป็นอะไรที่ดูน่าสนใจมากจนต้องกดแชะถ่ายรูปเก็บเอาไว้อีกสักช็อต ข้างกันเป็นโคมไฟตั้งพื้นสูงและโซฟาเบดตัวยาวข้างประตูที่เชื่อมกับเทอร์เรสด้านนอก โอ้ว...มีต้นไม้ในกระถามด้านนอกระเบียงด้วยครับ แอบเห็นตอนม่านปลิวไสวตะกี้ ไว้ไปกันหมดห้องก่อนผมจะเก็บภาพไว้ทั้งห้องเลย คอยดูสิ

                    "หลังโซฟานี่เป็นห้องนอนใหญ่นะค่ะ ส่วนอีกห้องอยู่ตรงข้ามกันค่ะ" คุณชาลิสาอธิบายต่อ ส่วนผมก็เดินตรงไปยังประตูที่ปิดอยู่ "ปกติแล้วห้องนอนเล็กเป็นเตียงเดี่ยวสองเตียงนะค่ะ แต่ดิฉันให้ทางโรงแรมเปลี่ยนเป็นควีนไซด์ให้ละ คุณแมคจะได้นอนสบายขึ้น อ้อ...แล้วก็มีห้องน้ำในตัวทั้งสองห้องเลยนะค่ะ แต่จะมีแต่ห้องใหญ่เท่านั่นที่มีอ่างอาบน้ำ"
                    "อ้อ...ขอบคุณครับ" ดีเลยแบบนี้ผมจะได้แผ่หลาได้สบายหน่อย
                    "บอสค่ะ เมื่อกี้ทางฝ่ายมัลติมีเดียโทรมาว่ามีปัญหาเรื่องติดตั้งเครื่องเสียง ดิฉันขอไปเคลียร์กับทางโรงแรมก่อนนะค่ะ บอสมีอะไรให้..."
                    "ไม่มีละ ขอบใจมาก คุณไปเถอะ จัดการได้ตามเห็นสมควรเลยถือว่าผมอนุญาตแล้ว"
                    "ได้ค่ะบอส ไว้เจอกันที่งานนะค่ะ คุณแมค" ผมพยักหน้ารับพลางเอ่ยขอบคุณอีกครั้งและเดินไปเช็คกระเป๋าสัมภาระที่พนักงานโรงแรมขนมาวางไว้ให้ เมื่อนับจำนวนครบแล้วพี่มาร์ทจึงยื่นทิปให้ไป พนักงานหนุ่มกล่าวอวยพรสั้นๆแล้วจึงเดินตามคุณเลขาออกไปเช่นเดียวกันและประตูก็ปิดลงในที่สุด
                    "พี่มาร์ทครับ ผมว่าเราเอากระเป๋าไปวางในห้องนอน...."
                    "อะไรนี่? ในภาพดูกว้างกว่าที่เห็นแถมการวางเฟอร์นิเจอร์ยังไม่เหมือนในรูปด้วย" พี่มาร์ทบอกพร้อมกับเดินสำรวจไปรอบห้อง ในขณะที่ผมไม่รู้จะพูดอะไรจึงเดินยกกระเป๋าทั้งหมดตรงหน้าห้องมาวางในห้องรับแขกตรงหน้าโซฟา "แมคคิดว่าไง"
                    "ก็ตามปกติมันก็ไม่ได้เหมือนอยู่แล้วนี่ครับ ในภาพคงเป็นมุมกล้องละมั้ง" ผมเปิดกระเป๋าออกหยิบเสื้อผ้าที่จะใส่เย็นนี้ขึ้นใส่ไม้แขวนที่เอามาจากบ้าน สงสัยพ่อผมจะยัดใส่กระเป๋ามาให้ ดีเหมือนกันครับจะได้ไม่ต้องลำบากเดินไปหยิบในตู้ ซึ่งบางโรงแรมก็แขวนตัวล็อกเอาไว้ด้วยราวกับกลัวลูกค้าขโมยกลับบ้าน
                    "Executive 2 Bedrooms Suite ทั้งทีน่าจะทำได้ดีกว่านี้" คนนี้ก็ยังไม่เลิกบ่นเลยครับ หยิบโปรชัวร์มาพลิกเปิดอ่านสลับกับเดินเข้าเดินออกทะลุทุกห้องทั้งห้องนอนซ้ายขวา ห้องครัว ห้องรับแขกและจบที่ห้องน้ำสองรอบติด ไม่รู้จะซีเรียสอะไรนักหนาพักแค่ไม่กี่คืนก็กลับละ สมัยรู้จักกันใหม่ๆ ไม่เห็นจะขี้บ่นเรื่องหยุมหยิมเลยนี่
                    "นี่ก็น่าจะเป็นห้องที่ดีที่สุดของที่นี่แล้วนะครับ ผมว่าหรูหราดีออก ตกแต่งสวยอยู่แถมยังกว้างจะตาย นอนค้างได้ตั้งหลายคน ผมเพิ่งมาพักครั้งแรกยังชอบเลยครับ" ผมละมือจากการรื้อการรื้อของตรงหน้าเดินเข้าไปใกล้  "เลิกบ่นได้แล้วครับ เก็บกระเป๋าเข้าห้องของตัวเองกันเถอะ"
                    "นอนด้วยกันที่ห้อง Master นี่ละ" ไม่ใช่แค่พูดแต่รวบกระเป๋าที่วางอยู่ขึ้นมาถือเดินเข้าไปในห้องนอนทางขวามือเฉยเลย ในขณะที่ผมต้องรีบเดินตามไปให้ทันเพื่อจะถามว่า แล้วจะจองทำไมตั้งสองห้องนอน "เลขาพี่จัดให้ คงเห็นว่าแมคเป็นน้องชายของพี่ละมั้ง"
                    "อะนะ 4 โมงกว่าละพี่มาร์ทจะอาบน้ำหรือจะ... เฮ้ย! อะไรนี่!! กอดผมทำไม"
                    "รักนะครับ" สั้นและพูดออกมาจากปากได้ง่ายมากเกินไปหรือเปล่าครับ แต่แค่พูดมันคงไม่พอใช่ไหมถึงได้แถมทายด้วยการหอมแก้มซ้ายขวาครบเซตอีก
                    "ปล่อยก่อน ผมร้อน" อันที่จริงก็ร้อนไม่มาก ทั้งที่เพิ่งเปิดแอร์ได้ไม่นาน สงสัยพนักงานโรงแรมจะเร่งแอร์เบอร์แรงสุดเอาไว้ แต่นี่คงเป็นข้ออ้างที่ดีที่สุดแล้ว
                    "ร้อนก็ถอดเสื้อออกสิ" ยิ้มหื่นไม่พอยังมือไวปลดกระดุมเสื้อผมหลุดไป 2 เม็ดแล้วด้วย ดีที่กุมคอเสื้อไว้ได้ทันพยายามดันตัวออกห่าง แม้จะทำได้สำเร็จแต่พี่มาร์ทก็ยังมือเหนียวจับแขนผมไว้แน่นพาเดินไปนั่งตรงขอบเตียง เอ่อ...สถานการณ์มันเข้าเค้าที่เคยอ่านการ์ตูนมาชอบกลแฮะ
                    "เตรียมตัวกันเถอะครับ งานเริ่ม 6 ครึ่งไม่ใช่เหรอ?"
                    "ใช่ แต่กว่าจะเปิดงานก็ตั้งทุ่มครึ่ง อีกหลายชั่วโมง" พูดไปก็หอมแก้มผมไปแล้วยังไซร้คออีก ชักยังไงๆแล้วนะครับนั่น
                    "ไม่เอาๆ ไปให้ตรงเวลาสิครับ ไปช้าของกินจะเหลือเหรอ"
                    "เขาจัดเฉพาะสำหรับโต๊ะ VIP อยู่แล้ว" แขนขวาพี่มาร์ทเริ่มจะเลื่อนมากอดเอวผมประคองไว้แล้วด้วยครับ "แมค...อืม...ไม่ต้องห่วงหรอก" มือครับมือ อยู่เฉยๆสิครับ แล้วนี่ผมจะหาข้ออ้างอะไรอีกวะนี่
                    "พี่มาร์ท แมคอยากไปว่ายน้ำ"
                    "แทนชื่อตัวเองด้วย...น่ารักจัง" ถึงกับต้องหดคอหนี มันไม่ใช่แล้วครับแบบนี้ "ใกล้จะ 5 โมง คนเยอะ แมคไม่ชอบไม่ใช่เหรอครับ"
                    "แต่ผมอยากว่ายน้ำอะ นะครับๆ"
                    "ไม่เอาๆ" พี่มาร์ทพูดขึ้นเงยหน้าจากต้นคอของผมแล้วมาหยุดที่ริมผีปาก จุ๊บเบาๆก่อนจะผละออกไป "พี่ไม่อยากให้ใครเห็นแมคแบบนั้น ของๆพี่ พี่หวง ไว้ว่ายในสระส่วนตัวดีกว่า"
                    "แต่ๆ ผมหิวขนมแล้วอะ"
                    "ขอพี่หอมให้ชื่นใจก่อน เดี๋ยวสั่งรูมเซอร์วิสให้ทาน" ทำไงดีครับ ไม่รู้จะวกไปมุขไหนแล้วนี่ "ไม่ได้เจอกันตั้งหลายสัปดาห์ พี่คิดถึงแมคจะแย่"
                    "ผมต้องเรียนแล้วก็ทำโปรเจ็คส่งอาจารย์นี่ครับ พี่มาร์ทหยุดก่อน" ออกแรงดันร่างหนาออกไปพ้นตัว ยังจะโผกลับมาได้อีก ชักเมื่อยแขนแล้วนะนี่ "มาเหนื่อยๆ เหม็นเหงื่อ ผมขออาบน้ำก่อนนะครับ"
                    "ไหนเหม็น?" ไม่เชื่อผมขนาดต้องก้มลงมาทำมูกฟุตฟิตแถวคอและแขนของผมเลยเหรอครับ จั๊กจี๋นะนี่ "ไม่เห็นเหม็นเลย แต่มีกลิ่นอะ"
                    "จริงดิ กลิ่นไรๆ" เริ่มไม่มั่นใจตัวเองชอบกลละแบบนี้ ดมแล้วไม่เห็นมีกลิ่นอะไรเลย ตั้งแต่บ่ายยันมานี่ไม่มีเหงื่อเลยนะจะเหม็นได้ไง อยู่ในที่ๆมีแอร์ตลอด หลอกผมอีกปะนี่
                    "กลิ่นสเปร์ยของแมคไงครับ ยั่วพี่ดีจริง"
                    "งะ" อย่าตบหน้าผาก พูดแบบนี้หมดมุขเลยครับ จะทำไรก็ทำมาเลยละกัน เหนื่อยจะดิ้นเหนื่อยจะหาทางรอดละ
                    "เป็นอะไรละ นั่งนิ่งเชียว" พี่มาร์ทเองพอเห็นผมไม่ตอบโต้ก็หยุดมือกับปากเช่นกัน เออดีแฮะ รู้งี้ผมน่าจะทำแบบนี้นานละ "ไหนบอกพี่มาสิครับเป็นอะไร แมคอยากได้อะไร"
                    "อืม?" นั่นสิครับอยากได้อะไรดี พิจารณาคนข้างๆก่อนสักแป็บ อ้อ..คิดออกละ "อยากกดพี่มาร์ท" ผมสวนกลับไปแบบยิ้มๆ ผลักอีกฝ่ายที่ไม่ทันระวังลงกับเตียงพร้อมกับขึ้นคร่อมในทันที แต่ดูท่าคนข้างใต้กลับนอนนิ่งให้ผมทำ จนชักจะแปลกใจ "พี่ไม่ขัดขืนสักหน่อยเหรอครับ"
                    "ไม่อะ มันไม่ใช่นิสัยพี่" พี่มาร์ทตอบเสยผมที่ตกลงมาปรกหน้าให้กลับเข้าที่พลางยกยิ้มอย่างยียวน "อีกอย่างพี่ไม่อยากขัดใจแมค อยากทำก็เอาสิ พี่รออยู่"
                    "..."  อึ้งครับ แต่ก็รู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก แปลกใจว่าทำไมจู่ๆกลับรู้สึกเช่นนั้นได้


          สองมือกำคอเสื้อของร่างข้างใต้ไว้แน่นจนเห็นเส้นเลือดปูดบนหลังมือ สายตาของผมจบจ้องไปที่ใบหน้าของอีกฝ่ายด้วยความรู้สึกสับสนทั้งหงุดหงิดทั้งต้องการไปในคราวเดียว ทั้งที่อยากให้ร่างหนารู้สึกคล้อยตามไปกับผมแต่เขากลับนิ่งไม่มีท่าทีจะคิดหนีอย่างที่พูด แม้ผมจะโน้มตัวเข้าไปใกล้ใบหน้าคมจนริมฝีปากแทบจะแนบชิด เขาก็ยังไม่ขยับไปไหนทั้งยังรั้งเอวของผมให้แนบชิดกับลำตัวจนใบหน้าของเราห่างกันเพียงอากาศกั้น ได้ยินแม้กระทั่งเสียงลมหายใจที่ทำเอาผมเริ่มใจหายและหวาดหวั่นเกินหัวใจของผมจะยับยั้ง มันเต้นแรงจนแทบระเบิดออกมารู้สึกราวกับว่า ผิวกายของผมเริ่มร้อนรุ่มจากใบหน้าแผ่ซ่านลงยังคอและลามลงมาเรื่อยๆ ผมลอบกลืนน้ำลายอย่างยากลำบากเข้าไปทุกขณะเมื่อสายตาคมตรึงความรู้สึกของผมไว้ราวกับสะกดจิตและทำในสิ่งที่ผม...ต้องการ?

                    "อ๊ะ" กลับเป็นผมที่ร้องออกมา เพราะพี่มาร์ทยกตัวขึ้นขึ้นจูบริมฝีปากของผม ทั้งที่ควรเป็นผมที่ต้องเริ่มก่อน ช้ากว่าอีกแล้ว "โธ่โว๊ย!!"
                    “แมค?”
                    “ปล่อย!” ผมสะบัดข้อมือทิ้งทันทีที่พี่มาร์ทรั้งแขนผมไว้ รีบก้าวเดินลงจากเตียงตรงไปห้องน้ำอย่างหัวเสีย ไม่เข้าใจเลยทำไมกระดุมเสื้อมันได้แกะยากแกะเย็นขนาดนี้ เดี่ยวดึงขาดทั้งแถบซะเลย ร้อนโว๊ยอยากอาบน้ำ
                    "แมคเป็นอะไร" เสียงทุบประตูปังๆและเสียงแกร่งๆเหมือนคนพยายามบิดลูกบิดประตูนี่ทำให้ผมยิ่งเครียด "บอกพี่มาสิ โกรธอะไรพี่งั้นเหรอ"
                    "เปล่า" ผมตะโกนฝ่าเสียงน้ำจากฝักบัวที่กำลังไหลรดศีรษะ “ผมไม่ได้เป็นอะไร ได้ยินไหม เลิกทุบสักที”
                    "ให้พี่เข้าไปนะ อย่าเงียบสิ พูดกับพี่"
                    "ผมไม่ได้โกรธอะไรพี่ แค่หงุดหงิด... ขอผมอยู่คนเดียวสักพัก" เพิ่งรู้ว่าการถอนหายใจภายใต้สายน้ำ มันไม่ได้ช่วยอะไรขึ้นมาเลย กลับยิ่งทำให้แย่เข้าไปอีก
                    "แมค!!" ดูท่าว่าถ้าผมไม่ตอบอะไร พี่มาร์ทคงต้องกระแทกประตูจนพังแน่ๆ
                    "พี่มาร์ท ให้เวลาผมอยู่คนเดียวบ้าง...นะครับ" ผมพูดเสียงเย็นลงกว่าตอนแรกมาก จนพี่มาร์ทยอมถอยในที่สุดสังเกตจากเสียงที่เงียบลง


          สายน้ำเย็นฉ่ำที่ราดลงบนหัวไม่ได้ช่วยดับความร้อนในกายอย่างที่ผมคาดหวังไว้เลยแม้แต่น้อย มันยิ่งกลับทำให้ผมรู้สึกหนักหัวมากกว่าเดิม ผมคนนี้เป็นคนขี้ขลาดกลัวจะฝ่ายรุกตั้งแต่เมื่อไหร่กัน เท่าที่จำได้ผมไม่เคยเป็นแบบนี้เลยสักครั้งแค่เสนอผมก็สนอง ให้ตายเถอะ มันเกิดอะไรขึ้นกับผมคนนี้กันแน่? กลัวอะไรกับเรื่องพรรค์นี้? ทั้งที่อีกฝ่ายยอมนอนรอนิ่งๆแค่ผมต้องลงมือทำ มันก็แค่เรื่องง่ายๆเท่านั้นแต่สมองผมกลับไม่สั่งการให้ทำอะไรสักอย่าง แค่โดนจ้องผมก็ใจฟ่อไม่กล้าทำ? ไม่ใช่ ไม่มีทาง ยังไงผมก็ไม่เชื่อ งั้นเพราะอะไร มันเพราะอะไรผมถึงหยุดอยู่อย่างนั้น ... รัก... รักงั้นเหรอ? เป็นไปไม่ได้ คำๆนี้ผุดเข้ามาในหัวผมได้อย่างไร ผมไม่ได้อนุญาตให้มันเด้งขึ้นมาสักหน่อย ออกไปให้พ้นจากหัวเดี่ยวนี้เลย รัก? ผมแค่ชอบพี่มาร์ทมากกว่าคนอื่นเท่านั้น ยังไม่ถึงขั้นรู้สึกรักอะไรนั่นหรอก ต้องใช่สิ มันต้องเป็นแบบที่ผมสรุปสิ แต่ถ้าไม่ใช่รักแล้วมันคืออะไร ความเกรงใจงั้นเหรอ ตลกละ ทำไมผมต้องเกรงใจกับเรื่องพวกนี้ด้วย ไม่รู้เว้ย ไม่คิดละ หนาว เลิกสนใจดีกว่า คิดไปตอนนี้ก็ไม่รู้คำตอบอยู่ดี รีบอาบน้ำสระผมดีกว่า หนาวสั่นแปลกๆ ชอบกล

          ทว่า...ผมกลับรู้สึกอุ่นขึ้นอย่างน่าประหลาดเพราะอ้อมกอดของใครบางคนที่โผเข้ามาเกือบจะในทันทีที่ผมก้าวออกมาจากห้องน้ำ

                    "แมคเป็นอะไรบอกพี่มา" ร่างของผมถูกดึงเข้าไปหาซุกหน้าลงกับไหล่ผมกอดแน่นจนผมรู้สึกเจ็บไหล่อยู่ไม่น้อย "พี่เป็นห่วงแมคแทบตายรู้บ้างไหม ไหนดูมือสิ ซีดเลยเห็นไหม?"
                    "ครับ ผมขอโทษ"
                    "แมคมีอะไรไม่สบายใจบอกพี่มาตรงๆ ถ้าพี่ทำอะไรให้แมคไม่สบายใจ พี่ขอโทษนะครับ" พูดด้วยน้ำเสียงสั่นๆขนาดนี้ ทำเอาผมรู้สึกหน่วงในใจขึ้นมาชอบกล "อย่าเงียบอีกละ พี่ทำอะไรไม่ถูกรู้ไหม"
                    "อือ...ครับ" ผมพยักหน้ารับยันตัวออกมาในขณะที่พี่มาร์ทเองก็ยอมคลายอ้อมกอด ผมจึงได้มองเห็นพี่มาร์ทชัดขึ้น เขายังอยู่ในชุดเสื้อเชิ๊ตทำงานแต่ค่อนข้างยับกว่าปกติ "พี่ยังไม่เปลี่ยนชุดอีกเหรอ อย่าบอกนะว่า..."
                    "ตั้งแต่แมคเข้าห้องน้ำไป พี่ก็ยืนรอแมคตรงนี้ตลอด ไม่ได้ขยับไปไหน" พี่มาร์ทยิ้มเจือนถอนหายใจเบาๆพลางหัวเราะในลำคออย่างคงปลงตก "แมคอาบน้ำนานมาก ตั้งครึ่งชัวโมงกว่าๆ"
                    "หา!!!" ผมไม่ได้ตกใจเรื่องอาบน้ำนาน แต่ผมตกใจเรื่องที่พี่มาร์ทรอผมมากกว่าครับ "พี่มาร์ทนั่งรอผมก็ได้ ผมอุตส่าห์ตะโกนออกมาว่า ไม่ได้เป็นอะไรแล้วหรือไม่ได้ยิน?"
                    "ได้ยิน แต่พี่ทนนั่งเฉยๆไม่ได้ พี่อยากให้แมคเห็นพี่เป็นคนแรก" พี่มาร์ทยิ้มละมุน "พี่อยากให้แมครู้ว่าแมคเป็นคนที่พี่แคร์มากแค่ไหน" ผมถึงกับอึ้งไม่คิดว่าคำจริงใจนี้จะออกมาจากริมฝีปากของคนตรงหน้าได้ ทำเอาความรู้สึกหงุดหงิดเมื่อครู่จางหายไปเป็นปลิดทิ้ง มีเพียงความรู้สึกตื้นตันเข้ามาแทนที พี่มาร์ทลูบผมน้อยๆจับมือพาผมไปนั่งที่ปลายเตียงแล้วเดินหายไปทางห้องน้ำหยิบผ้าขนหนูแห้งอีกผืนเดินมานั่งคุกเข่าตรงหน้า ทำเอาผมรู้สึกหน้าแดงขึ้นมาเฉยเลย
                    "ไม่เป็นไรครับ ผมทำเองก็ได้"
                    "ให้พี่ทำนะครับ" ผมยังไม่ทันได้ตอบรับอะไร ผ้าเช็ดผมก็โปะลงมาทีศีรษะแรงขยี้ผมเบาๆราวกับนวดหนังศรีษะทำเอาเคลิ้มไปอยู่เหมือนกัน ซับอยู่ไม่นานก็หมาดจนเกือบแห้ง ผมจึงเอื้อมมือไปหยิบผ้าขนหนูอีกผืนที่พี่มาร์ทหยิบติดมือมาเช็ดไปตามลำตัว แต่พี่มาร์ทกลับคว้าไปถือไว้ซะเองพร้อมกับจับข้อมือของผมขึ้นนวางผ้าในมือลงอย่างเบามือลูบไล้ไปตามผิวพลางมองใบหน้าของผมไม่กระพริบตา
                    "เลิกจ้องได้แล้ว"
                    "ทำไม? อายหรือว่าเขิน" ผมไม่ตอบทำเป็นเมินหน้าหนี แต่อีกฝ่ายกลับไวกว่ายันตัวขึ้นนั่งข้างกดริมฝีปากลงบนกลีบปากของผม "แมคน่ารัก เห็นแล้วอยากจูบ"
                    "บ้าเปล่า มาพูดอะไรซ้ำๆย้ำๆอยู่ได้" แถมไม่พูดเปล่ายังกุมมือผมไว้หลวมๆจรดริมฝ่าปากลงกลางฝ่ามือ ทำเอาหน้าร้อนวูบวาบ
                    "น่ารักแบบนี้ตลอดไปนะ"
                    "..." แล้วผมจะพูดอะไรได้ละครับนั่น
                    "แมค"
                    "อืม?" ผมไม่อยากจะมองหน้าคนเรียกตอนนี้เลย ดึงมือกลับแล้วยังรู้สึกหวิวไม่หาย
                    "พี่ตื่นอะ" ตื่นที่ว่ามันคือเรื่องอย่างว่าใช่ไหมครับ อะหืม เบนสายตาก้มมองแล้วชัดขึ้นมาถนัดตา ตอนนี้ผมยังสวมแค่ผ้าขนหนูผืนเดียวอยู่ด้วยดูล่อแหลมไม่น้อย แถมชายผ้ายังร่นขึ้นมาเหลือแค่คืบครึ่งซ้ำยังผ่าข้างขึ้นมาอีก เรียกว่าเห็นต้นขาข้างซ้ายรำไรๆคิดแล้วผมลุกไปใส่เสื้อผ้าดีกว่า

          แต่ไม่ทัน...ร่างของผมถูกผลักล้มลงไปบนเตียงนอน ดีที่ยันข้อศอกเท้าไว้กับพื้นผยุงตัวก่อนจะล้มลงไปนอนราบ สองแขนพี่มาร์ทโน้มลงมากั้นไม่ให้ผมขยับลุกหนีได้ นัยต์ตาคู่สวยทรงอำนาจจ้องมองมาจนเห็นเงาร่างของตัวผมเองในแววตาคู่นั้น ผมแอบกลืนน้ำลายลงคอด้วยไม่รู้จะหาหนทางรอดได้ยังไง เพราะรู้สึกถึงปลายนิ้วเรียวที่กำลังลากผ่านผืนผ้าเพียงชิ้นเดียวไล้วนอยู่ตรงต้นขา แต่แล้วพี่มาร์ทกลับก้มลงมาช่วงชิงริมฝีปากของผมอีกครั้ง คราวนี้ฟัดลงมาเต็มแรงสองครั้งติดก่อนจะลุกเดินหนีไปทางห้องน้ำเสียดื้อๆ ทิ้งให้ผมมองตามด้วยความงงงวย


 TBC
                 -----------------------------------------------------------------------------------------
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-05-2016 20:10:23 โดย ClearHeart »

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
Re: Until You [อัพเดท ตอนที่ 13 (2/2)] 08-05-2016
«ตอบ #79 เมื่อ08-05-2016 17:03:57 »

บวก10คะแนนให้พี่มาร์ทเลยค่ะตอนนี้
ไม่อยากกดน้องเพราะกลัวว่าน้องยังไม่พร้อมสินะ
หนีเข้าห้องน้ำเฉยเลย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Until You [อัพเดท ตอนที่ 13 (2/2)] 08-05-2016
« ตอบ #79 เมื่อ: 08-05-2016 17:03:57 »





ออฟไลน์ lnudeel

  • I wanna be a CAT!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-5
Re: Until You [อัพเดท ตอนที่ 13 (2/2)] 08-05-2016
«ตอบ #80 เมื่อ08-05-2016 17:06:43 »

โถ่~ น้องแมคแต่งออกมาอ่อยมากอะ :hao7:

ออฟไลน์ ClearHeart

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 43
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: Until You [อัพเดท ตอนที่ 14 (1/2)] 15-05-2016
«ตอบ #81 เมื่อ15-05-2016 20:58:19 »


Until You


ตอนที่ 14 (1/2)

   ห้องประชุมใหญ่ตั้งอยู่ตรงชั้นสองของโรงแรมอาคารเดียวกันกับที่ผมและพี่มาร์ทพักอยู่ ทำให้ไม่ต้องเดินไปไกลทั้งที่ท้องของผมใกล้จะส่งเสียงร้องเตือนเรียกหามื้อเย็นให้เจ้าของร่างขายหน้า พี่มาร์ทผายมือให้ผมเดินออกจากลิฟท์ไปก่อนเมื่อประตูเปิดออกในขณะที่เขาเองยังคงแนบหูพูดสายต่อไม่มีพักเหนื่อยด้วยสีหน้าไม่ค่อยสบายใจนัก แต่พอผมถามกลับยิ้มให้อย่างเคยจนผมเองยังงง

                    "ครับ เข้าใจแล้วครับ" พี่มาร์ทกดวางสายในที่สุดลอบถอนหายใจ
                    "มาไม่ได้เหรอครับ" ผมเอ่ยถาม เพราะได้ยินมาว่างานนี้ประธานบริษัทจะลงเปิดงานด้วยตัวเอง
                    "ใช่ เพิ่งบินไปฮ่องกงกระทันหัน...วุ่นวายชะมัด"
                    "ก็นะ" ผมเองก็คนนอกครับเลยไม่รู้จะพูดอะไรออกไปได้
                    "เดี่ยวพี่ต้องขึ้นไปเปลี่ยนชุดใหม่ แมคจะไปด้วยกันไหม ถ้าหิวจะรอในงานก่อนก็ได้ครับ"
                    "ไม่อะ รอเข้าพร้อมพี่มาร์ทดีกว่า ผมรอแถวๆลิฟท์นี่ละกัน" ผมยิ้มรับพร้อมโบกมือลา ก่อนประตูลิฟท์จะปิดลง "เดี๋ยว?" ลืมถามไปเลยครับว่าจะเปลี่ยนชุดทำไม เสื้อโปโลที่ใส่อยู่ก็ไม่ได้ดูแย่อะไร ช่างเถอะครับสงสัยเป็นประธานในพิธีคงต้องใส่ชุดพิธีการละมั้งครับ ผมเดา
                    "เดี๋ยวครับ รอผมด้วย" แล้วนี่ใครกันมาวิ่งมายืนข้างๆไม่พอยังใช้คำซ้ำกับผมอีก สูงใหญ่ใช้ได้แต่ดูขนาดตัวยังบึกน้อยกว่าพี่มาร์ทของผม ของผมงั้นเหรอ? ไม่ใช่สักหน่อย "แล้วจะรู้ไหมนี่ว่าคุณภิมุขพักอยู่ห้องไหน ถามสาคงไม่ได้"
                    "..." ผมควรบอกหมายเลขห้องให้คนแปลกหน้าไหมครับ ดูเขาจะมีธุระสำคัญกับพี่มาร์ทด้วย
                    "น้องอยู่แผนกไหน? มางานเย็นนี้ด้วยใช่ไหม?" อึ้งดิครับ อยู่ๆหันมาคุยกับผมซะงั้นเลย "เป็นพนักงานใหม่เหรอครับถึงไม่รู้จักผม ไม่เป็นไรบอกชื่อกับแผนกก็พอ ผมตามตัวคุณถูก"
                    "..." ค้างไปแล้วครับ ไม่รู้จะตอบอะไรดีเลยครับ คงไม่ได้คิดว่าผมเป็นพนักงานบริษัทใช่ไหม
                    "รู้จักคุณภิมุขไหม" ผมพยักหน้ารับ "ดีเลย ไม่รีบเข้างานใช่ไหม" พยักหน้ารับอีกรอบ "ผมฝากของนี่ให้คุณภิมุขหน่อย รอหน้าลิฟท์ละ ห้ามหาย ห้ามขโมย ห้ามทำพัง และห้ามให้ใครเห็นเด็ดขาด สัญญาสิ"
                    "อ่า...ครับ"
                    "พูดว่า สัญญา ด้วยเกียรติลูกผู้ชายด้วย"
                    "สัญญาด้วยเกียรติลูกผู้ชายของผมครับ"
                    "ดีมาก ขอบคุณครับ ผมไปละ" ง่ายๆงี้เลย "อีกรอบ ห้ามหายเด็ดขาด" ผมพยักหน้ารับคำกำกล่องสี่เหลี่ยมในมือไว้แน่น "สาธุ ขอให้สำเร็จด้วยเถอะ" ไปซะละ ยังไม่ได้ทันถามสักประโยคเดียวเลยอะไรจะรีบร้อนขนาดนั้น ว่าแต่ผมถือของสำคัญอะไรอยู่ในมือครับนี่ อยากรู้แต่คงแกะดูไม่ได้มันไม่สุภาพเกิน แต่คนเมื่อกี้ก็แปลกนะครับ อยู่ๆมาฝากของกับคนที่เพิ่งรู้จักกันครั้งแรกได้ไง แม้บริษัทพี่มาร์ทจะจองทั้งโรงแรมไว้ก็จริงแต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีคนนอกเข้ามาปะปนสักหน่อย แต่เอาเถอะครับ ผมเองก็ไม่มีธุระที่ไหน ยังไงผมก็ต้องนั่งรอพี่มาร์ทอยู่ดี รับฝากของไว้ก็ไม่เสียหาย แถมยังได้ช่วยคนอีกถือว่าได้บุญ แม้เหตุการณ์เมื่อครู่ออกจะแปลกไปหน่อยก็เถอะ

          ทว่า...พอส่งของให้เป้าหมายเป็นที่เรียบร้อย พี่มาร์ทกลับยิ้มและฝากผมไว้จนกว่าจะถึงเวลาใช้ เป็นงั้นไปซะอีก ก่อนจะเดินนำผมไปยังห้องประชุมที่ว่า ซึ่งแค่พี่มาร์ทเดินไปยังทางเข้าแสงไฟก็สาดส่องมาตามทางเดินพร้อมเสียงแฟรชและเสียงฮือฮาภายในห้อง ผมคงลืมบอกใช่ไหมครับว่าพี่มาร์ทเปลี่ยนเป็นชุดสูทสามชิ้นแล้วดูหล่อเหลาขึ้นเป็นกอง ส่วนผมนะเหรอครับ ก็มีเสื้อคลุมมีฮูทสีน้ำเงินที่พี่มาร์ทยื่นให้ตอนออกจากลิฟท์สวมทับเสื้อเชิ๊ตแขนสั้นอีกตัว คงดูน่ารักขึ้นมากกว่าหล่อตามเคยอะสิ คิดแล้วเซ็งจิตจริงๆ



          ห้องจัดงานเลี้ยงในค่ำคืนนี้มีขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดาห้องทั้งสามที่ผมเดินผ่านมา เดาว่าคงเป็นห้องแกรนด์บอลลูม ภายในงานตกแต่งตามสไตล์ห้องจัดเลี้ยงโรงแรมทั่วไป มีเวทีสีขาวล้วนพร้อมป้ายชื่องาน ล้อมรอบพื้นที่ด้วยอาหารแบบปุฟเฟต์นานาชนิดวางเรียงไว้ตรงด้านข้างทั้งสองฝั่ง ตรงกลางมีโต๊ะจีนสำหรับคนนั่งแปดถึงสิบตัวต่อโต๊ะวางเรียงกันเป็นแถวหลายสิบชุด และมีพื้นที่ว่างตรงหน้าเวทีสำหรับจัดงานกิจกรรม ซึ่งตอนนี้คุณชาลิสากำลังกำกับให้ทีมงานเสื้อสีดำนำของขวัญมาวางเรียงกันไว้บนโต๊ะ ประจวบเหมาะกับที่เธอหันมาเห็นพี่มาร์ทพอดี จึงรีบเดินเข้ามาหาและพาไปยังโต๊ะวีไอพีด้านหน้าสุดที่จัดเอาไว้
          เมื่อเดินไปถึงโต๊ะเหล่าผู้บริหารหลากหลายสาขาต่างพร้อมใจกันลุกขึ้นยืนต้อนรับ พี่มาร์ทเองก็พยักหน้ารับก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้สีขาวผูกโบว์สีทอง ผมก็นั่งลงด้านข้างเช่นเดียวกันพร้อมกับส่งยิ้มให้บุคคลรอบโต๊ะอย่างเป็นมิตร ก่อนพิธีจะเริ่มต้นขึ้นด้วยมุขตลกของพิธีกรชายหญิงที่ไล่นักดนตรีลงจากเวที เพราะผิดคิว

                    "คุณพิชัย ไปไหนซะละ" พี่มาร์ทเอ่ยถามคนนั่งข้างในเสื้อโปโลสวมทับด้วยเสื้อสูทสีเข้ม เขากระชับเสื้อให้เข้ารูปก่อนจะตอบว่า
                    "เห็นว่าไปคุยธุระกับลูกน้องนะครับ อีกเดี่ยวคงตามเข้ามา"
                    "งั้นเหรอ" รับคำเสร็จก็ยิ้มกริ้มกรุ่มก่อนจะบอกต่อว่า "นี่แมค น้องชายของผม"
                    "สวัสดีครับ" ผมยกมือไหว้อย่างนอบน้อมรอบโต๊ะด้วยวัยวุฒิอ่อนกว่า พลางแอบกระซิบกับคนข้างกายเมื่อเห็นคนแปลกหน้าในระยะไกลถัดออกไปอีกสามโต๊ะทางซ้าย "พี่มาร์ทๆ คนนั่นอะครับที่ฝากของไว้กับผม"
                    "อืม พี่รู้ละ นั่นคุณพิชัย เจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายทรัพยากรบุคคล"
                    "ขอประทานโทษค่ะ" คราวนี้เป็นคุณเลขาสาวสวยครับที่เดินเลียบเคียงเข้ามาหา "บอสจะกล่าวเปิดงานก่อนหรือจะให้จัดอาหารลงมาก่อนดีค่ะ"
                    "ทานอาหารกันก่อนดีกว่า จะทุ่มละ คงหิวกันแย่" พี่มาร์ทพูดขึ้น "พวก Salad Appetizers ที่ผมสั่งให้ลงก่อนหมดไปนานยัง"
                    "เติมรอบสองเมื่อกี้ค่ะ เด็กๆเลยมีอะไรรองท้องกัน" เธอยิ้มให้ ส่วนผมหูพึ่งรอฟังเมนู "แต่น่าจะหมดแล้ว" แป่วเลยครับ อดกิน ท้องเริ่มร้องจ็อกๆแล้วด้วย
                    "อืม งั้น Main dish ต่อเลยเรื่องพิธีการต่างๆไว้ทีหลังก็ได้"
                    "ค่ะบอส"

          ผมเพ่งสายตามองฝาหม้อที่กำลังปิดลงสามฝา ก่อนพนักงานจะยกออก เห็นเด็กกับผู้ปกครองนั่นได้สองชิ้นสุดท้ายของแต่ละเมนูไปแล้วอดเจ็บใจไม่ได้ มีแต่ของชอบผมทั้งนั้น ปอเปี๊ยะทอดเอย สาคูไส้หมูเอย แถมยังมีขนมปังหน้ากุ้งโรยงาอีกนะ เห็นแล้วอยากชิมสักชิ้น ปกติเห็นแต่หน้าหมูอันนี้หน้ากุ้งด้วย แต่ช่างเถอะครับ เดี่ยวไปซื้อกินที่กรุงเทพก็ได้ รอดูเมนูใหม่ที่กำลังยกมาเสิร์ฟที่โต๊ะดีกว่า
          ผักลวกจิ้มน้ำพริก แกงส้มชะอมทอด แกงเขียวหวานทะเลกับขนมจีน หมูผัดพริกไทดำ เต้าหู้ทรงเครื่อง ปีกไก่ทอดซอสเม็กซิกัน ยำถั่วพลู ข้าวสวยร้อน นี่คือเมนูสำหรับมื้อเย็นในวันนี้ครับ มองแล้วอาจจะโดนใจไปทุกจาน เพราะผมไม่นิยมรับประทานของเผ็ด แต่ยามนี้ขอชิมทุกจานเลยละกันครับ หิวมากๆแล้วนี่

                    "ขนมหวานเป็นเมนูอะไรครับ" ผมแอบกระซิบถามเสียงเบา
                    "ของคาวยังไม่หมด ถามของหวานซะละ" พี่มาร์ทยิ้มมุมปาก
                    "ก็ถ้าเมนูน่าสน ผมจะได้เก็บท้องไว้ชิมเยอะๆไง"
                    "งก" พูดงี้ผมเลยแอบเอามือตีหน้าขาใต้โต๊ะไปที "ผลไม้รวม ทาร์ตผลไม้ ขนมไทย พาร์นาคอตต้า กับไอศครีมมะนาวเชอร์เบต ไอศครีมนี่สั่งมาเผื่อเด็กๆ ไม่รู้ชอบรสนี้กันหรือเปล่า"
                    "เด็กๆชอบช็อกโกแลตมากกว่าครับ พวกไอศครีมรสเปรี้ยว ผู้ใหญ่ชอบมากกว่า" พี่มาร์ทเลิกคิ้ว "เรื่องขนมขอให้บอก ผมนี่เชี่ยวชาญสุดๆ"
                    "นั่นสินะ หนูแมค" อะโห มีล้อผมด้วย เหยียบเท้าซะเลยดีไหมนี่
                    "พี่มาร์ทจะขึ้นพูดตอนไหนอะ"
                    "คงให้ทานอาหารกันเสร็จก่อน แล้วพี่ค่อยพูด"
                    "ถึงตอนนั้นผมค่อยออกไปเข้าห้องน้ำดีกว่า" พี่มาร์ทพยักหน้ารับทราบ เพราะรู้ว่าผมเป็นพวกไม่ชอบพิธีการเป็นทางการเท่าไหร่


                TBC
                 -----------------------------------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ lnudeel

  • I wanna be a CAT!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-5
Re: Until You [อัพเดท ตอนที่ 14 (1/2)] 15-05-2016
«ตอบ #82 เมื่อ15-05-2016 21:53:22 »

คุณพิชัยนี่ผ่านมาแล้วผ่านไปหรือมีบทอะ :hao7: o13

ออฟไลน์ เกริด้า(๐-*-๐)v

  • ไม่อยากคิดอะไรทั้งนั้นแหละ
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +349/-29
Re: Until You [อัพเดท ตอนที่ 14 (1/2)] 15-05-2016
«ตอบ #83 เมื่อ22-05-2016 21:08:24 »

เจอเรื่องนี้จากที่Dek-dอ่ะค่ะ เห็นว่ามีลงที่นี่ก่อนที่แรกเลยแว๊บมาอ่านที่นี่ด้วย อิอิ

เป็นคู่ที่สมกันดีนะคะ น่ารักมากเลย การเจอกันแล้วได้คุยกันก็พรหมลิขิตชัดๆ ฟินสุดๆ!

มาต่อไวๆน๊าาาาา ^^

ออฟไลน์ ClearHeart

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 43
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: Until You [อัพเดท ตอนที่ 14 (2/2)] 24-05-2016
«ตอบ #84 เมื่อ24-05-2016 21:46:21 »


Until You


ตอนที่ 14 (2/2)

          เมื่อได้เวลาพอเหมาะผมก็ขอตัวออกมาจากห้องเดินไปยังห้องน้ำ ตั้งใจว่าเสร็จแล้วจะเดินไปยังบาร์ชั้นล่างเพื่อจิบค็อกเทลสักแก้วแล้วจึงขึ้นมาร่วมงานต่อ แต่คิดไปคิดมาราคาเครื่องดื่มคงจะไม่ต่ำกว่าร้อยบาท แล้วผมก็ไม่ได้อยากกินมากขนาดนั้น เปลี่ยนใจไปเดินเล่นแถวสระว่ายน้ำที่ผมพลาดเมื่อกลางวันดีกว่า ในโปสเตอร์โปรโมทโรงแรมมีภาพเปิดไฟยามค่ำคืนตรงสระด้วย สวยไม่ใช่เล่น ถ่ายภาพเก็บเป็นที่ระลึกสักรูปสองรูปน่าจะยังทัน แต่แค่ก้าวยังไม่ทันพ้นล็อบบี้มือถือผมก็ดังขึ้น เป็นมิสคอลจากพี่มาร์ทซะด้วย มีอะไรปะหว่า ว่าแล้วคงอดได้ถ่ายภาพอีกตามเคย ผมชักสงสัยซะแล้วสิครับว่า สระว่ายน้ำโรงแรมที่นี่มีอาถรรพ์หรือเปล่า ผมจึงได้พลาดตั้งสองครั้งสองคราแล้ว

                    "กรี๊ดดดดดดด" เกิดอะไรขึ้น? ยังไม่ได้เปิดประตูเข้าไป เสียงก็ลอดออกมาละ
                    "ขอทางหน่อยครับ" ผมสะกิดบอกพนักงานโรงแรมสองคนที่ยืนบังประตูแอบลอบมองผ่านช่องว่างยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ซะด้วย ข้างในมีอะไรกันหว่า?
                    "ขอโทษครับ เชิญครับๆ"
                    "...แต่ผมไม่มีของที่คุณฝากไว้นะครับ" เสียงพี่มาร์ทพูดผ่านไมค์แถมยังหันมายิ้มให้ผมที่เพิ่งเดินเข้ามา
                    "อ้าว หมดกันๆ พนักงานคนนั้นไปไหนแล้วนี่?" ดูท่าคนที่ชื่อคุณพิชัยจะหัวเสียมากนะครับนั่น
                    "มีอะไรกันอะ สาเปิดตาได้ยัง" นั่นสิครับ แกล้งอะไรคุณเลขาก็ไม่รู้ครับ สาวๆเอาผ้ามาปิดตาไม่พอยังล้อมหน้าล้อมหลังกันให้วุ่นแถมหัวเราะคิกคักกันสนุกสนานใหญ่เลย
                    "อีกแป็บค่ะพี่สา คนสำคัญของงานกำลังหัวฟู"
                    "ใครอะ ยัยติ๋ม"
                    "อะโห พี่สาเรียกนามเดิมแบบนี้ หนูจะขายออกไหมอะค่ะพี่"
                    "นั่นไง!!" แล้วไฟสปอร์ตไลท์ก็สาดส่องมาที่ผม พร้อมกับเจ้าของชื่อคุณพิชัยก้าวย่างสามขุมเข้ามาหน้าตาดุดันเชียว "อยู่ไหม?" ผมล้วงมือในกระเป๋ากางเกงหยิบของที่ฝากไว้ออกมา "บอกให้คุณภิมุขไง ไม่รุ้จักอีกละสิ ช่างมัน มานี่เลย เอ้า... ตามมาสิครับ เดี่ยวฤกษ์เสียหมด"
                    "ครับๆ" ผมแทบจะวิ่งไปเลยครับ พอไปถึงเขาก็จับผมไปยืนข้างๆหน้าเวทีท่ามกลางเสียงโฮ่ฮิ้วดังขึ้นรอบห้องและแน่นอนว่า พี่มาร์ทที่ยืนอยู่บนเวทีกำลังกลั้นขำทั้งที่หน้านิ่ง ทันใดนั้นเองหนุ่มใหญ่นามคุณพิชัยก็นั่งลงคุกเข่าต่อหน้าคุณชาลิสา พร้อมกับผ้าผูกตาร่วงลงกับพื้นและเสียงกรี๊ดกร๊าดที่ดังอย่างต่อเนื่อง
                    "สา แต่งงานกับผมนะ"
                    "กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด" ส่วนผมนะเหรอครับ ค้างไปแล้ว อึ้งสุดๆไปเลย เพิ่งได้เห็นคนคุกเข่าขอแต่งงานครั้งแรกในชีวิต
                    "แหวน...แหวนพี่อะ" กระตุกแขนจนผมลนลานเลยครับ "กล่องที่ฝากไว้ไง ทำตัวเป็นว่าที่เพื่อนเจ้าบ่าวหน่อยครับ"
                    "อ๊ะ... อ้อ.... นี่ครับ"
                    "สา แต่งงานกับผมนะ" แหวนทองคำขาวประดับเพชรเม็ดเล็กเรียงกันเป็นรูปโบว์ตรงหัวแหวน ฉลุร่องตรงกลางโดยรอบตัวแหวนถูกหยิบออกมาจากหมอนสีขาวในกล่องกำมะหยี่สีน้ำเงิน "ว่าไง ผมอายนะ ตอบเร็วๆสิ"
                    "ขนาดนี้แล้วยังจะมาอายอีกเหรอ" สาวผู้โชคดีคนเดียวในงานเอ่ยแซว ทั้งรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ เธอยกมือข้างที่ว่างขึ้นปาดน้ำตา ยอมให้ฝ่ายชายประคองอีกมือไว้หลวมๆ "ถ้าสาตอบปฏิเสธละ"
                    "ผมก็จะเก็บแหวนนี้เอาไว้ ขอสาแต่งงานคราวหน้า" แค่เอ่ยประโยคนี้ เสียงเกรียวกราวก็ดังรอบห้องราวกับเป็นลูกคู่เลยครับ ผมเองยังอดยิ้มไปด้วยไม่ได้เลย
                    "มั่นใจจังนะว่า จะแต่งงานด้วย"
                    "ตกลงแต่งงานกับผมไหม"
                    "ตกลง แต่งค่ะ"



          ปังๆ เสียงจุดพลุแบบโคน ดังขึ้นรอบงานพร้อมเพลงบรรเลงงานแต่งงาน ทำเอาว่าที่เจ้าสาวอย่างคุณชาลิสาเขินจนหน้าแดง ส่วนคุณพิชัยก็ชี้นิ้วสั่งวงดนตรีให้หยุดเล่นเพลงงานวิวาห์ แต่ดูเหมือนจะไม่มีใครฟัง แถมยังมีบางคนเอาสายรุ้งกับพวงมาลัยมาห้อยคอทั้งสองอีก พี่มาร์ทเองก็เดินลงจากเวทีรับช่อดอกไม้จากมือพนักงานคนหนึ่งส่งให้เป็นของขวัญแสดงความยินดีให้กับเลขาสาวคนเก่ง เธอยิ้มรับจนแก้มปริหันไปกอดขอบคุณว่าที่เจ้าบ่าวของเธอ

                    "แมคหยิบกล่องของขวัญตรงโต๊ะนั่นให้หน่อย กล่องสีเงิน 2 กล่อง"
                    "นี่เหรอ" ผมตะโกนถามและหยิบของขวัญออกมาจากกองของรางวัลและของขวัญที่ไว้สำหรับจับฉลาก
                    "ผมให้คนละกล่องนะ ถือเป็นของรับขวัญจากผมกับแมค ขอให้มีความสุขและยินดีด้วยอีกครั้ง"
                    "ขอบคุณค่ะ / ครับ ขอถามหน่อยครับ นี่ไม่ใช่พนักงานบริษัทเราเหรอครับ"
                    "บ้าสิ คุณแมคเป็นน้องชายบอส ถามอะไรอย่างงั้นเล่า เสียมารยาท" คุณชาลิสาตอบแต่คุณพิชัยถึงกับหน้าเหวอ
                    "แกะเลยได้ไหมพี่สา พวกเราอยากเห็น"
                    "ได้ไหมค่ะ บอส"
                    "ตามใจครับ สิทธิ์ของคุณ" พี่มาร์ทว่าด้วยรอยยิ้ม "ยังมีอีก 2 กล่อง ผมให้เป็นของรางวัลพิเศษ ไม่เกี่ยวกับของขวัญปีใหม่ของผู้บริหาร"
                    "ว้าว ชั้นจองนะแก"
                    "ใครดีใครได้ยะ"
                    "เบาเสียงกันหน่อย เกรงใจคุณภิมุขกันบ้าง" คุณพิชัยเอ็ดเสียงดัง
                    "ไม่เป็นไรๆ ผมกำลังจะไปละ สนุกกันเต็มที่เลย" พี่มาร์ทว่าพาผมเดินออกจากงานไปยังลิฟท์
                    "ถามได้ไหมครับว่า พี่มาร์ทให้อะไรอะ"
                    "หึๆ"
                    "กรี๊ดดดดดดดดด" เสียงดังมากจากห้องอีกแล้วครับ โอย หูจะแตก พนักงานที่นี่กินนกหวีดเป็นอาหารหรือไงเสียงถึงได้ดีไม่มีตกขนาดนี้
                    "ไอโฟนนะ"
                    "ห๊ะ!" งั้นไม่แปลกละครับที่จะได้ยินเสียงดังซะขนาดนี้ เครื่องนึงก็หลายหมืนแถมยังลงทุนตั้ง 4 เครื่อง หล่อซะไม่มีพี่ชายผมนี่

                TBC
                 -----------------------------------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ ClearHeart

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 43
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: Until You [อัพเดท ตอนที่ 15 (1/2)] 30-05-2016
«ตอบ #85 เมื่อ30-05-2016 08:00:39 »


Until You


ตอนที่ 15 (1/2)

          เคยรู้สึกไหมครับเวลามีใครจ้องยามนอน ไม่ใช่ดวงตาอาฆาตมาดร้ายอะไร แต่ถึงยังไงก็ไม่ชอบที่มีคนมองอยู่ดีและนี่ทำให้ผมต้องลืมตาขึ้นมาก่อนเวลาตื่นตามปกติ พอหันไปมองด้านข้างถึงกับอึ้งกระพริบตาถี่ๆหลายครั้งภาพพี่มาร์ทเท้าแขนกับหมอนข้างจ้องผมอยู่ยังไม่หายไปเลย
                    "แมค"
                    "หือ?" ผมตอบรับในลำคอ พยายามตั้งสติให้ไวที่สุด ในขณะที่พี่มาร์ทส่งยิ้มละมุนให้ใจเต้นแต่เช้า
                    "น่ารัก"
                    "อืม...น่ารัก เฮ้ย! อุ๊บส์" โวยวายยังไม่ทันได้ออกลีลาก็ถูกปิดปากด้วยริมฝีปากของคนที่ผมไม่รู้ว่าพลิกร่างมาคร่อมผมเอาตอนไหน ปลายลิ้นเรียวไล้เกลี่ยริมฝีปากล่างขบเม้มราวกับเห็นเป็นของอร่อย ผมออกแรงดันอีกฝ่ายออกไปเท่าที่แขนจะมีพื้นที่ว่าง แต่กลับถูกพี่มาร์ทโถมทับเข้ามาทั้งตัวจนไม่เหลือช่องว่าง ซ้ำยังลุกล้ำเข้ามาในโพรงปากดุนดันลิ้นของผมให้คั่วไปตามจังหวะของเขาจนพอใจ ก่อนจะยอมปล่อยผมเป็นอิสระ "อาบน้ำไปกินข้าวกัน" พี่มาร์ทว่าสั้นๆกดปลายจมูกลงกับแก้มผมซ้ำแล้วซ้ำเล่า
                    "จะให้ไปอาบน้ำก็ลุกออกไปสิครับ"
                    "ฟอด.... นั่นสินะ"

          อาหารเช้าในวันนี้เป็นปุฟเฟต์แบบอเมริกันชนอย่างที่เคยเห็นกันทั่วไปตามโรงแรมต่างๆ เมื่อผมเดินดูไลน์อาหารครบแล้วจึงเดินไปสั่งไข่ดาวสองฟองกับเชพแล้วจึงเดินไปตักโกโกครั้นนมสดและหยิบขนมปังทาแยมติดมือมาสองแผ่น พี่มาร์ทเองก็แยกกันเดินไปหาอะไรทานในส่วนของเขา รู้สึกว่าพี่มาร์ทจะปลุกผมเร็วนะครับ เช้านี้เลยมีคนมาร่วมทานอาหารด้วยไม่ถึงสิบคนเอง สายๆคงจะทยอยกันมา
                    "เรื่องที่สั่งได้เรียบร้อยแล้วนะค่ะ" เสียงของคุณชาลิสา เลขาของพี่มาร์ทดังขึ้นจากด้านหลังของผม ดูท่าจะเดินตามผมมาที่โต๊ะ
                    "อรุณสวัสดิ์ครับ" ผมเองจึงเอ่ยทักทายออกไปบ้างตามมารยาท
                    "ค่ะ" เธอยิ้มรับ
                    "ขอบใจมาก" พี่มาร์ทกล่าวสั้นๆ ลงมือทานอาหารเช้าต่อไป ผมรอจนคุณเลขาสาวสวยเดินลับตาไปจึงพูดขึ้นว่า
                    "พี่มาร์ทมีธุระเหรอครับ"
                    "ใช่ สำคัญมากด้วย"
                    "บอกได้ไหมว่าอะไรนะครับ" ไม่ตอบเอาแต่ยิ้มแบบนี้ผมไม่อยากรู้ก็ได้

          หลังจากทานมื้อเช้ากันเสร็จแล้ว ผมจึงได้ฤกษ์เดินสำรวจโรงแรมตามที่ตั้งใจไว้สักทีแต่ผมเดินเล่นคนเดียวนะครับ เพราะพี่มาร์ทมีธุระต้องไปทำเกี่ยวกับงานสัมมนาที่จัดขึ้น จนนาฬิกาเดินมาถึงเวลาราวสิบโมงครึ่ง ผมจึงได้ขึ้นลิฟท์ไปยังห้องพักพร้อมกับโทรหาพี่มาร์ทไปด้วย เพราะไม่มีกุญแจห้อง โชคเข้าข้างตรงที่พี่มาร์ทเองก็นั่งดูทีวีอยู่ในห้องพักพร้อมกับคุยสายไปด้วย ผมเองก็ไม่อยากกวนจึงเดินเลี่ยงไปยังห้องนอน จัดการพับเสื้อผ้าที่ใช้แล้วลงทุนแพ็กใส่กระเป๋าเอาไว้ จะได้ไม่ยุ่งยากตอนขากลับ
                    "พี่ยังไม่ได้บอกเลยว่า จะย้ายโรงแรม แมครู้ได้ไง?"
                    "ย้ายโรงแรม? วันไหน วันนี้นะเหรอ?"
                    "ตกลงยังไม่รู้? แล้วเก็บของทำไม?"
                    "ก็เห็นมันรก" ผมตอบ "ตกลงจะย้ายไปไหนอะครับ"
                    "ไว้ถึงแล้วก็รู้เองละน่า" พี่มาร์ทตอบพลางลากกระเป๋าออกมาจากตู้เสื้อผ้า นี่เก็บของเสร็จแล้วเหรอ? "อีก 10 นาทีเก็บเสร็จไหม พี่จะได้ให้พนักงานมายกของ"

          พอออกมาจากลิฟท์ชั้นล่างสุด ผมก็เห็นคุณชาลิสารออยู่ตรงบริเวณเคาน์เตอร์ล็อบบี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว พี่มาร์ทเดินไปพูดคุยอะไรบางอย่างกับเธอ ก่อนจะเดินแยกมาสมทบกับผมที่ยืนดูแลกระเป๋าเดินทางทั้งหมดตรงประตูทางออก
                    "เอาให้เข้าท้ายรถหมดเลยไหมครับ"
                    "หมดเลยครับ เว้นแต่เป้นี่อย่างเดียว" ผมบอกพร้อมกับสะพายเป้ขึ้นบ่าไว้ข้างนึง ยืนมองไปรอบๆ   
                    "ลืมอะไรไหม?" พี่มาร์ทเอ่ยถามแต่ผมส่ายหน้า "งั้นขึ้นรถกัน"
                    "ครับ" เมื่อเข้าไปนั่งในรถด้านหลังและฝากระโปรงท้ายปิดลง คนขับก็ออกรถในทันที
                    "แล้วเราจะไปไหนกันครับ"
                    "ตอนแรกพี่ก็ว่าจะไปภูเก็ตนะ แต่คิดไปคิดมาไว้ทริปหน้าดีกว่า ไปถึงที่นั่นอยู่แค่คืนสองคืนไม่คุ้มค่าเท่าไหร่" ผมพยักหน้ารับ "พี่เลยให้คุณสาหาโรงแรมแถวๆนี้ให้ที่ค่อนข้างเป็นส่วนตัวและคนไม่พลุกพล่านหน่อย"
                    "คือที่ย้ายโรงแรม เพราะพี่มาร์ทนัดคนมาคุยธุระอีกที่และเรื่องนี้คุยต่อหน้าพนักงานไม่ได้?"
                    "นี่ยังคิดว่าพี่มาทำงานอีกเหรอ?" พี่มาร์ทยิ้มขำ แต่ผมกลับขมวดคิ้วด้วยความสงสัย แล้วถ้าไม่ใช่จะเปลี่ยนโรงแรมให้มันเปลืองเงินทำไม?
                    "ก็ใช่สิครับ ไม่งั้นจะเปลี่ยนโรงแรมทำไม มีเหตุผลอื่น?"
                    "ใกล้เที่ยงละ แมคหิวยัง" เปลี่ยนเรื่องไวตลอดเชียวนะ "พี่ไม่ได้มาพัทยาบ่อย ไม่รู้ว่าร้านไหนอร่อยเหมือนกัน"
                    "ผมก็ไม่ได้หาข้อมูลมาครับ เพราะพี่มาร์ทไม่ยอมบอกแผนการเดินทาง" พูดงี้ออกไปกลับโดนมองด้วยหางตากลับมาเลยครับ ก็แค่ประชดกลับบ้านจะข้องใจอะไรไม่ทราบ "โรงแรมอีกที่ไกลไหมครับ อยู่นอกเมืองรึเปล่า ถ้าใช่หาทานนอกเมืองก็ได้ครับ แถวๆข้างทางน่าจะมี ในเมืองรถติดแถมยังจอดยาก"
                    "ได้ แต่ปวดท้องขึ้นมาอย่ามาร้องให้พี่หายาให้กินนะ"
                    "ผมมีขนมกับยาเตรียมมาพร้อมหรอก"

          และแล้วก็ได้เวลารับประทานอาหารกลางวันสักทีครับกว่าจะได้กินก็เที่ยงครึ่ง ไม่รู้ว่ารถในตัวเมืองจะติดอะไรกันนักหนากว่าจะออกมาถึงถนนสุขุมวิทได้เล่นเอาคนนั่งอย่างผมลุ้นจนตัวโก่ง
                    "หมูทอดแดดเดียวคลุกงาได้แล้วค่ะ" เสียงพนักงานร้านอาหารอีสานดังขึ้น ผมจึงหันไปรับจานมาวางบนโต๊ะ
                    "เอาแบบนี้อีกจาน" พี่มาร์ทพูดขึ้นตักลาบหมูมาใส่จาน "เอาข้าวเหนียวมาอีก 2"
                    "ใครหิวกันแน่วะ" ผมกระซิบบ่นขำๆ เพราะตอนเลือกร้านพี่มาร์ททำท่าเหมือนไม่อยากกินร้านข้างทางนี่เท่าไหร่ ทั้งที่จริงควรเป็นผมเองที่ไม่อยากกิน เพราะอย่างที่รู้กันว่าร้านอาหารอีสานรสชาติจัดจ้านขนาดไหน แต่ในเมื่อเวลาใกล้บ่ายมากทุกที ท้องผมก็ร้องครวญจนไม่อยากจะเรื่องมากแล้วละครับ "พี่มาร์ทอย่ากินลาบของผมหมดดิ กินจานของพี่ดิ"
                    "มันก็ลาบเหมือนกัน"
                    "ไม่เหมือน ของผมไม่เผ็ดนะ"
                    "อืมๆ งั้นเอาน้ำตกมาจาน แมคกินคอหมูย่างเป็นไหม"
                    "เป็น แต่ไม่เอามันนะ"
                    "โอเค คอหมูย่างไม่เอามันจาน ปลาดุกย่างตัว ข้าวเหนียวอีกห่อ ส้มตำไทยไม่ใส่ปูจาน" ตะโกนสั่งเสร็จ พี่ชายผมก็ลงมือโซยอาหารต่ออย่างไม่ปราณีสายตาคนมองอย่างผมเลย
                    "ทานอาหารอีสานเป็นด้วยเหรอครับ" ผมเอ่ยถามอย่างแปลกใจ นึกว่าคนรวยกินแต่อาหารหรูกับของไม่เผ็ดซะอีก
                    "ก็เห็นพี่กินอยู่ไม่ใช่เหรอ" ตอบกวนไม่พอยังยิ้มกวนอีก "กินได้แต่ไม่บ่อย เคยกินกับพวกพนักงานที่โรงงาน"
                    "อะนะ" เปลี่ยนคนถามดีกว่าครับคุยกับพี่มาร์ทมากๆผมเหนื่อย "ลุงชาติสั่งอะไรเพิ่มไหมครับ เดี่ยวผมสั่งให้"
                    "ซุปหน่อไม้ได้ไหมครับคุณแมค" ผู้นั่งร่วมโต๊ะอีกคนเอ่ยปากบอกความต้องการออกมาในที่สุด ดูลุงแกจะเกร็งตอนกินจนผมต้องชวนแกคุย สงสัยจะกลัวเจ้านายอย่างพี่มาร์ท
                    "ได้สิครับลุง ลุงจะเอาอะไรบอกผมเลย ไม่ต้องเกรงใจ" เพราะผมไม่ได้จ่ายไง ฮ่าๆ
                    "มัวแต่ห่วงคนอื่น กินเองบ้างสิ" พี่มาร์ทเอ็ด "ข้าวยังไม่ลดเลย"
                    "รู้แล้วน่า"


                TBC
                 ------------------------------------------------------------------------------------

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
Re: Until You [อัพเดท ตอนที่ 15 (1/2)] 30-05-2016
«ตอบ #86 เมื่อ30-05-2016 08:22:37 »

 :L2:  ขอบคุณที่มาต่อค่ะ
น่ารักกันอย่างต่อเนื่องเลยคู่นี้

ออฟไลน์ ClearHeart

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 43
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: Until You [อัพเดท ตอนที่ 15 (2/2)] 04-06-2016
«ตอบ #87 เมื่อ04-06-2016 23:35:35 »


Until You


ตอนที่ 15 (2/2)

          เมื่อคุณลุงชาติคนขับรถดับเครื่องยนต์และลงมาเปิดประตูฝั่งคนนั่งออก ชายหนุ่มออกท่าทางตุ๊งติ๊งเล็กน้อยรีบก้าวออกมาจากล็อบบี้ตรงเข้ามายังรถของผมที่จอดคอยอยู่ เขาปัดผมเรียบแปร่กระชับเสื้อสูทเข้ารูปและเอ่ยทักทายพี่มาร์ทที่ก้าวลงจากรถเป็นคนแรก พร้อมกับแนะนำตัวว่าเป็นผู้จัดการโรงแรมอันใหญ่โตและหรูหราแห่งนี้ ด้วยสายตาแทบจะกลืนกินพี่ชายของผมไปทั้งตัว

                    “สวัสดีครับคุณภิมุข ยินดีต้อนรับสู่โรงแรมของเราครับท่าน” นึกว่าจะพูดค่ะขาซะอีก “โรงแรมของเรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง...”
                    “ร้อน” พี่มาร์ทพูดแสกหน้ากลับไปตรงๆทำเอาคนฟังเหวอ แต่ผมกลับแอบหัวเราะสะใจ เพราะไม่ถูกชะตากับเกย์สาวเป็นทุนเดิม “รถกอล์ฟอยู่ไหน”
                    “อะ...อยู่นั่นครับ ให้ผมนำไปไหมครับ นายช้างมารับกระเป๋าแขกสิ ให้ไวๆ”
                    “ไม่ต้อง” พี่มาร์ทพูดสั้นๆ หันมาบอกผมว่า “แมคไปรอที่รถกอล์ฟก่อนก็ได้ครับ เดี่ยวพี่เช็คอินท์แล้วจะตามไป"
                    “ครับผม” ยิ้มหวานส่งให้พี่ชายหนึ่งที เพราะน้ำเสียงอ่อนละมุนผิดกับที่พูดกับอีกคน อ้าว แล้วจะจิกสายตามองผมทำไมละครับนั่น “ไม่ตามคุณภิมุขไปเหรอครับ คุณผู้จัดการ”
                    “อืม...ห๊ะ....รอด้วยครับ คุณท่าน” โอยวิ่งสี่คูณร้อยก็ไม่ทันหรอกครับ โน่นพี่มาร์ทก้าวฉับๆไปถึงเคาน์เตอร์แล้ว
 "ลุงชาติพักที่นี่กับเราด้วยไหมครับ"
                    "เดี่ยวผมกลับไปนอนโรงแรมเดิมนั่นละครับ ไว้คุณมาร์ทกลับเมื่อไหร่ผมค่อยมารับเข้ากรุงเทพ"
                    "นี่ลุงไม่รู้กำหนดการเหรอครับ" ผมถามออกไปตรงๆ แต่ผู้ฟังทำเพียงยิ้มเจือนส่ายหัว ผมว่าชักยังไงๆแล้วนะครับพี่ชายผมคนนี้
                    "ลุงชาติกลับได้เลย นี่เอาไว้ใช้ช่วงที่พักโรงแรมนะ" พี่มาร์ทเปิดกระเป๋าเงินหยิบแบงค์ม่วงส่งให้จำนวนหนึ่ง "ไว้ผมจะโทรบอกคุณสา ถ้าผมจะใช้บริการจากลุง ขอบใจมาก"
                    "ขอบคุณครับ"
                    "แมคพร้อมแล้วใช่ไหม ไปกัน พี่เริ่มร้อนละ"


          รถกอล์ฟขนาดสามตอนขับพาผมกับพี่มาร์ทมาตามทางเส้นเล็กขนาดรถมอเตอร์ไซด์วิ่งสวนกันได้ด้วยความเร็วไม่มาก เข้าใจว่าคงจะให้แขกเข้าพักชื่นชมกับบรรยากาศรอบข้างที่ตกแต่งประดับดาสวนและก้อนหินใหญ่ไปตลอดทาง ผมสอดสายตามองโดยรอบด้วยความตื่นตาตื่นใจ เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้มาพักในโรงแรมที่มีแต่บ้านเดี่ยวภายในรั้วรอบขอบชิด ทั้งที่ปกติจะได้พักแต่ในห้องโรงแรมบนตึกสูงเท่านั้น
          ไม่นานรถกอล์ฟก็จอดหยุดลงหน้าบ้านหลังหนึ่งที่มีป้ายชื่อเขียนว่า Villa ตามด้ายชื่อต้นไม้มงคลและตัวเลข ผมชอบแนวคิดนี้ครับใช้ไม้สลักดูคลาสสิคไม่น้อย ว่าแล้วก็จัดภาพเก็บไว้ในกล้องอีกสักช็อต

                    "เชิญครับคุณผู้ชาย" ศัพท์หรูหรามาอีกแล้วครับ สงสัยจะเป็นถูกอบรมมาแบบนี้ "ระวังพื้นไม่เท่ากันด้วยครับ" เขาเอ่ยเตือนเพราะพื้นถนนที่นี่เป็นพื้นปูนใช้การแต่งแบบเล่นระดับทำให้ดูแตกต่างจากที่อื่นๆ
                    "แล้วกระเป๋า?" ผมถามขึ้นลอยๆ
                    "เดี่ยวผมดูแลให้ครับ เชิญเข้าวิลล่าเลยครับ" เขาผลักประตูไม้สองบานเปิดเข้าไปภายในวิลล่า ซึ่งทำเป็นทางเดินขั้นบันไดสามขั้นสลับกับทางเดินยาว ขนาบข้างด้วยต้นไม้ประดับตลอดสองข้างทาง ซึ่งแน่นอนว่ามันดูร่มรื่นมาก แต่ผมไม่ค่อยเข้าใจการออกแบบเท่าไหร่ว่า จะทำทางให้มันโค้งไปมาให้ผมสับสนทำไม นี่จากประตูบ้านตรงเข้ามาสุดทางนึกว่าจะถึง เปล่าเลย ผมต้องเดินเลี้ยวขวาหนึ่งแยกก่อนจะเดินตรงไปถึงประตูทางเข้าที่พักอีกบาน  ณ. ที่ตรงนี้มีพนักงานสาวในชุดล้านนาสองคนยืนต้อนรับด้วยรอยยิ้มพร้อมน้ำพันซ์และขนมชิ้นเล็กสามอย่างรอคอยอยู่แล้ว แอบว้าวในใจไปแล้วนะครับนี่ บริการดีเลิศประเสริฐศรีจริงๆที่นี่
                    "ยินดีต้อนรับค่ะท่าน เชิญทางนี้เลยค่ะ" เมื่อพนักงานสาวรับหน้าที่ต้อนรับแทนแล้ว พนักงานขับรถหนุ่มจึงได้ขอตัวเดินไปจัดการยกสัมภาระต่อ "รับเครื่องดื่มที่ไหนดีค่ะท่าน ในห้องรับแขกหรือสระว่ายน้ำ"
                    "ในบ้านละกัน ผมร้อนละ" พี่มาร์ทตอบอย่างไว ในขณะที่ผมอยากตอบว่าสระว่ายน้ำมากกว่า สระว่ายน้ำแบบส่วนตัวครั้งแรกในชีวิตผมเลยนะครับ พลาดได้ไง? พี่มาร์ทก็ไม่บอกว่าวิลล่ามีสระว่ายน้ำด้วย อ้าว เดินกันไปไม่รอผมอีกละนะ เดี่ยวแอบกินน้ำพันซ์แก้วพี่มาร์ทแก้แค้นซะเลย ทว่า... พอเข้ามาในตัวบ้านโซนห้องรับแขก ผมถึงกับผงะกับลมแอร์ที่เป่ามาปะทะใบหน้าเย็นฉ่ำสมใจผมจริงๆ งั้นผมไม่แกล้งคืนแล้วก็ได้
                    "น้ำพันซ์กับขนมเค๊กโฮมเมดจากทางโรงแรมค่ะท่าน" ทั้งสองพูดขึ้น "ชิ้นนี้เป็นเค๊กมะพร้าว ชิ้นนี้เป็นบราวนี่ช็อกโกแลต ส่วนชิ้นนี้เป็นคุ๊กกี้อัลมอนค่ะ หวังว่าท่านจะชื่นชอบกับการคัดสรรของทางเรานะค่ะ หากไม่มีอะไรให้รับใช้แล้ว ขอตัวนะค่ะ ขอให้ท่านทั้งสองมีความสุขและผ่อนคลายการต้อนรับจากโรงแรมของเราค่ะ"
                    "อืม" พี่มาร์ทรับปากสั้นๆ ก่อนจะหันไปบอกชายหนุ่มที่ยกกระเป๋ามาให้ "ไม่ต้องจัดเข้าตู้ เดี่ยวผมจัดการต่อเอง เสร็จแล้วใช่ไหม"
                    "ครับ / ค่ะ" ทั้งสามเดินมารับทิป ก่อนจะออกไปพร้อมกับปิดประตูให้เรียบร้อย ผมเหลือบตามองรอจนทุกคนออกไปหมดจึงหย่อนก้นนั่งลงบนโซฟาเบดรีบใช้นิ้วคีบเค้กเข้าปากในทันที แต่กลับโดนพี่มาร์ทตีมือดังเพี๊ยะ นั่งเก้าอี้ตัวเดียวแถมยังมีโต๊ะไม้กั้นกลางยังเอื้อมมือมาตีผมได้อีกนะ คิดดู
                    "ใช้ส้อมสิ มือไม่สะอาด" เซ็งเลย ขี้บ่นระวังจะแก่เร็วนะครับ
                    "รู้แล้วน่า แค่แกล้งหยิบเล่นลองเชิงพี่มาร์ทเฉยๆเอง" ผมบอกอย่างคนกระล่อนพลางฉีกยิ้ม
                    "พี่ไม่เชื่อ" ตอกกลับไม่พอยังจะหัวเราะใส่ผมอีก "ชอบขนมขนาดนี้ พี่สั่ง Afternoon Tea Set ให้เอาไหม?"
                    "จริงสิครับ" ตาลุกวาวเลยครับงานนี้ "แต่ไม่เอาดีกว่า เดี่ยวผมกินนานแล้วแขกพี่มาร์ทมาเห็น มันดูไม่สุภาพเท่าไหร่ ว่าแต่นัดใครมาเหรอครับ เลือกซะหรูเชียว"
                    "ยังคิดว่าพี่มาทำธุระอยู่เหรอ" ผมพยักหน้ารับ แต่พี่มาร์ทกลับถอนหายใจเบาๆ "ถ้าพี่บอกว่า พี่ไม่ได้มาเรื่องงานละ แมคจะเชื่อไหม"
                    "หือ?" เป็นงงเลยครับทีนี้
                    "พี่พามาพักผ่อนนะ ที่เลือกที่นี่ก็เพราะสงบและเป็นส่วนตัวดี" ง่ายๆงี้เลยเนอะ เหตุผลของคนเรา
                    "โอเค สรุปว่าพี่มาร์ทจะนอนที่นี่และไม่มีแขกมาเยือนใช่หรือไม่?" อีกฝ่ายผงกศีรษะรับคำน้อยๆยกน้ำพันซ์ขึ้นจิบ "ถ้าใช่ งั้นผมไปโดดน้ำแล้วนะครับ"
                    "เดี๋ยว!" เรียกไม่พอยังรั้งแขนผมไว้อีก "แดดแรงขนาดนี้ อย่าเพิ่งออกไปว่ายน้ำเลย เดี่ยวไม่สบายเอา"
                    "งั้นเดินรอบๆสระได้ไหมอะ" ผมชะเง้อมองออกไปตามรอยแยกของม่านพับคล้ายบานเกล็ด เห็นสระว่ายน้ำกระทบแสงแดดส่องประกายอยู่รำไร มีเก้าอี้อาบแดดสองตัวทางด้านซ้ายและโต๊ะดินเดอร์หนึ่งชุดสำหรับสองคนนั่งในศาลาขนาดเล็กทางด้านขวาด้วย อยากไปทัศนาจะแย่ละ
                    "ไม่ได้ ข้างนอกไม่มีร่มเลยเห็นไหม รอเย็นกว่านี้ก่อน"
                    "งั้นเดินสำรวจบ้านได้ไหมอะ ตรงสวนหย่อมอะ มีต้นไม้บังแดดด้วยนะ ผมอยากถ่ายรูป"
                    "ไม่ได้ เจอไอแดด เดี่ยวไข้ขึ้น"
                    "งั้นเดินในบ้านก็ได้ ปล่อยสิ" หลังบานประตูตรงหน้าน่าจะเป็นห้องนอน ดูท่าน่าจะมีประตูกระจกเชื่อมจากห้องนอนไปข้างนอกได้เหมือนกัน หรือจะวกเข้าไปทางประตูห้องน้ำซ้ายมือผมดี เท่าที่เคยดูพวกรายการทีวีมา ผมว่าโรงแรมหรูพวกนี้มันมีประตูเชื่อมกันหลายบาน เข้าทางนั้นออกทางนี้ก็ได้เหมือนกัน
                    "ไม่ได้"
                    "อะไรๆก็ไม่ได้ พี่มาร์ทจะอ้างอะไรอีก ในบ้านไม่มีแดดสักหน่อย" ผมสะบัดแขนออกจนหลุดยืนจ้องหน้าอีกฝ่ายอย่างหาเรื่อง แต่จ้องนานเมื่อยขาละ ผมนั่งกอดอกจิบน้ำรอดีกว่า
                    "เงียบเชียว" ไม่อยากพูดด้วยละ ทำหูทวนลมดีกว่า "แมคอย่าดื้อสิครับ ไว้เย็นกว่านี้ก่อนพี่จะไม่ห้ามเลย พี่พาแมคมาเที่ยวนะครับอย่าทำหน้าบูดสิ แบบนี้ไม่น่ารักเลย"
                    "ก็พี่มาร์ทไม่ให้ผมทำอะไรสักอย่างอะ จะให้นั่งเฉยๆยัน 5 โมงเย็น ผมเบื่อแย่"
                    "ทนหน่อยน่า ตากแดดนานๆ ไม่สบายอดเที่ยวไม่รู้ด้วย"
                    "ถึงผมจะบึกน้อยกว่าพี่มาร์ท แต่ผมก็ถึกพอควรนะ" ถ้าบอกไม่เชื่อเดี่ยวเบ่งกล้ามให้ดูซะเลย "ไม่ให้ทำอะไร งั้นผมนอนก็ได้"

          พูดจบผมก็ลุกขึ้นยืนเดินไปยังกระเป๋าเดินทางของตัวเองหิ้วขึ้นสะพานบ่า ก้าวฉับๆไปยังประตูที่ผมคาดว่าจะเป็นห้องนอน และเมื่อเปิดเข้าไปผมถึงกับผงะกับภาพที่แสนคุ้นเคย ใช่ว่าจะเคยมาที่นี่หรอกนะครับ ผมหมายถึงว่าเตียงนอนขนาดคิงส์ไซด์ปูด้วยผ้าปูเตียงสีขาวนี่มีมุ้งที่ถูกรวบเอาไว้ด้านข้างด้วยครับ มองแล้วคิดถึงตอนเป็นเด็กชะมัด ได้นอนในมุ้งกันยุงเปิดพัดลมปลิวไสวอากาศถ่ายเทกำลังดี นอนแล้วเย็นสบายมากๆเลย

                    "ชอบไหม?" พี่มาร์ทเอ่ยเสียงเบากระซิบข้างใบหู
                    "ชอบ" ผมตอบเบินหน้าหันข้างไปมองฟูกและหมอนสามเหลี่ยมบนพื้นตรงปลายเตียง
                    "ชอบพี่เหรอ พูดจาน่ารักอีกละนะ" พี่มาร์ทว่าพลางกดริมฝีปากลงข้างแก้มผม
                    "พี่มาร์ทมั่ว ผมบอกตอนไหนว่าชอบพี่ ผมหมายถึงห้องนอนต่างหาก"
                    "เหรอครับ พี่ก็นึกว่าแมคบอกรักพี่ซะอีก"
                    "โว๊ย ไม่คุยด้วยละ งงบวกงอน" ดูดิครับ ผมว่าแล้วยังมีหัวเราะเยาะผมอีก นิสัยแย่วะพี่ชายผมนี่
                    "ไหนบอกจะนอนเล่นไง"
                    "เก็บกระเป๋าก่อนสิครับ เดี่ยวเสื้อผ้ายับ ตู้อยู่ไหนนี่" เข้ามาในห้องนี้มีแต่เตียง โต๊ะโคมไฟกับโซฟายาวตัวนึง ไม่เห็นมีตู้เสื้อผ้าเลย
                    "เอาน่าๆ มาเอนกัน เสื้อผ้าเรียงมาดีแล้วไม่ยับหรอก" พี่มาร์ทพูดขึ้นพลางจับมือผมพาไปยังเตียงนอน แต่ผมว่า อารมณ์นี้มันชักยังไงๆแล้วนะครับ "วันว่างทั้งทีมานอนคุยเล่นกันดีกว่า"
                    "แค่นอน?"
                    "หรือจะทำอย่างอื่น? พี่ไม่ขัดนะครับ" ยิ้มได้เจ้าเล่ห์มากๆ
                    "งั้นนอนกัน" บอกเสร็จก็หยิบหมอนมากั้นกลางครั้บ ก่อนจะล้มตัวลงนอนเพื่อความปลอดภัยในหัวใจและร่างกายของผมเอง
                    "หลับจริง?"
                    "หลับตาอยู่นี่ไง"
                    "แล้วพูดตอบพี่ได้ไง" เอ๊ะ...ตกลงจะให้ผมนอนปะนี่ พูดจากกวนชะมัด
                    "มัวแต่พูดแล้วผมจะหลับได้ไง เงียบๆสิครับ"   
                    "ก็จริง" พี่มาร์ทขำน้อยๆ "พี่ชอบการตกแต่งและการบริการของที่นี่นะ สงบดีเหมาะสำหรับพักผ่อนคิดอะไรเงียบๆคนเดียว..."
                    "คนเดียวจริงอะ" ผมแกล้งถาม
                    "หรือแมคอยากมาด้วย พี่ก็ไม่ขัดนะครับ ที่สำหรับเรา รู้กันแค่สองคนก็พอแล้ว"
                    "น้ำเน่า" ผมลืมตามองด้วยหางตาก่อนจะปิดเปลือกตาลงอีกครั้ง "อย่างพี่มาร์ทนะเหรอจะมาเที่ยวสถานที่แบบนี้คนเดียว"
                    "ทำไมพี่จะมาคนเดียวไม่ได้ละ หืม?" มีหางเสียงตลอดนะครับช่วงนี้
                    "บรรยากาศเหมาะกับการฮีนนีมูนขนาดนี้ มาคนเดียวเสียดายแย่" ผมพูดขึ้นเลย แต่กลับได้ยินเสียงหัวเราะลอดเข้าหู "ขำอะไรละนั่น วิลล่าสวยขนาดนี้ มาคนเดียวจะให้นอนเล่นเฉยๆเหรอครับ?"
                    "ฮันนีมูนเหรอ ฮ่าๆๆ" พี่มาร์ทว่า "พี่ยังไม่ได้แต่งงานนะครับ จะมีช่วงเวลาฮันนี่มูนได้ไง"
                    "คือผมหมายความว่า พาแฟนมาเที่ยว มาเดทไรงี้"
                    "พี่ยังไม่เคยคบใครนาน ขนาดต้องพาไปเปิดตัวที่ไหนหรอก" พูดงี้ผมหันขวับเลยครับ แล้วสาวๆที่ผมเห็นควงไปไหนมาไหนนั่นอะ "อีกอย่าง พี่ยังไม่มีแฟน แล้วพี่ก็ไม่เคยคบใครจริงจังขนาดต้องใช้คำศัพท์นี้"
                    "ถามแค่นี้ ทำไมต้องทำเสียงจริงจังด้วยละ"
                    "พี่ไม่อยากให้แมคเข้าใจผิด"
                    "ผมจะเข้าใจอะไรผิดมิทราบครับ" ถามแค่นี้ทำไมต้องพลิกมานอนตะแคงจ้องหน้าผมด้วยก็ไม่รู้ "ไม่คุยด้วยละ นอนดีกว่า" นอนหันหลังให้ดีกว่าครับ คุยกับพี่มาร์ทมากๆไม่ได้หลับกันพอดี
      

          ทันใดนั้นเองผมกลับรู้สึกอุ่นขึ้นอย่างประหลาดจนต้องแขม่วพุงถดหนีต้นแขนที่โผเข้ามากอดรัด แต่ไม่พ้นทั้งยังถูกรวบเอวเข้าไปกอดเต็มอ้อมแขนอีก สายตาของผมจ้องมองไปยังกลางลำตัวค่อยๆออกแรงดึงต้นแขนล่ำออกอย่างเบามือ แต่ยิ่งแกะกลับยิ่งแน่น ซ้ำฝ่ามือหนายังเอื้อมมาบิดคางผมให้หันกลับไปรับริมฝีปากที่จรดมาแนบชิด
                   
                    "เรื่องอดีตมันจบไปแล้ว ตอนนี้พี่มีแมคคนเดียว"
                    "ไม่ได้ถามเรื่องนั้นสักหน่อย" ผมตอบเสียงอ่อยก้มหน้างุด
                    "ไม่ต้องถาม พี่มองตาเราก็รู้ละว่าคิดอะไร"
                    "มั่วชัดๆ งั้นตอนนี้ผมคิดอะไร?" จ้องมาเลยครับ หันมองให้เต็มตาเลย ตาใสๆสีน้ำตาลเข้มของผมบอกอะไร บอกมาเลย "ว่าไงครับพี่ชาย"
                    "อืม?...พี่ควงสาวกี่คน?"
                    "เฮ้ย รู้ได้ไง? อุ๊บส์!" ปิดปากแทบไม่ทัน "คือไม่ได้จะถามตรงแบบนั้น ผมสงสัยว่าอยู่ๆพี่มาร์ทมาชอบผมได้ไง สาวๆมีตั้งเยอะ อย่างคนที่เจอกันที่มอเตอร์โชว์สวยออก"
                    "ก็แมคไม่สวยไง"
                    "ครับ ผมมันหล่อ หล่อกระแทกใจพี่จนไม่มองคนอื่นเลยใช่ไหมละ" ผมพูดย้อนกลับไปบ้างอย่างคนหมั่นไส้
                    "ช่างพูดเกินไปแล้ว" พี่มาร์ทว่ายิ้มๆฝังจมูกแรงๆลงกับแก้มผม "พี่ชอบแมค เพราะเหตุผลอย่างอื่น"
                    "พอเลย" ผมยกมือห้าม บางทีการไม่รู้ความจริงอาจจะทำให้ผมนอนหลับได้สนิทมากกว่า "มัวแต่คุยอยู่นี่เมื่อไหร่จะได้นอน นอนกันเถอะครับ"

                TBC
                 -----------------------------------------------------------------------------------------



ออฟไลน์ lnudeel

  • I wanna be a CAT!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-5
Re: Until You [อัพเดท ตอนที่ 15 (2/2)] 04-06-2016
«ตอบ #88 เมื่อ05-06-2016 07:55:58 »

น้องแม็คน่ารักกก~~~ :hao7:

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
Re: Until You [อัพเดท ตอนที่ 15 (2/2)] 04-06-2016
«ตอบ #89 เมื่อ05-06-2016 08:22:02 »

 :man1:  น่ารัก   :L2:  ขอบคุณค่ะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด