【❤เพราะแบบนี้ไงผมถึงปล่อยเขาไปไม่ได้❤】:: UP!! ตอนพิเศษปีใหม่ 1/1/2560!
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: 【❤เพราะแบบนี้ไงผมถึงปล่อยเขาไปไม่ได้❤】:: UP!! ตอนพิเศษปีใหม่ 1/1/2560!  (อ่าน 115131 ครั้ง)

ออฟไลน์ mayomhwan

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
สะสะ สามที่~  :pighaun: :pighaun: :pighaun:

จริงๆแล้ว อ้อนนี่คือคนแต่งใช่ไหมคะ 5555555


ออฟไลน์ shishy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 13
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เก็บกดหรอไทกริส   :hao7:

ออฟไลน์ bevobova

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 58
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
บทที่ 29   เซอร์ไพร์ส!





โรงงานที่จะได้ไปฝึกงานนั้น  เจ้าของเป็นเครือญาติของแม่เพื่อนรักของต่ายอย่างแชมเปญ หลังจากสัมภาษณ์เสร็จอะไรเสร็จ   ทำตัวไร้สาระไปได้ไม่กี่วัน ก็ได้รับตอบกลับมาว่าให้เข้าไปฝึกงานได้ ซึ่งไอ้แชมมากระซิบบอกว่า จริงๆก็ให้เข้าแน่ๆอยู่แล้ว แต่ต้องทำให้มันเป็นขั้นเป็นตอน เพราะถ้าถูกตรวจสอบ จะซวยเอาได้
 
ตัวโรงงานตั้งแถบชานเมือง  ไม่ต้องวุ่นวายกับจราจรอันวุ่นวาย ในตอนแรกต่ายก็ลังเลว่า ตัวเขาควรจะอยู่บ้านเดิม ที่ใช้เวลาเดินทางราวๆ เกือบ 2 ชั่วโมง ถ้าออกแต่เช้ามืด แต่ไปคุยกับแชม ซึ่งรายนั้นจะเช่าห้องพัก ที่อยู่ไม่ไกลจากโรงงานเท่าไหร่ พอได้รับคำเชิญชวนให้ไปอยู่ด้วยกันแล้ว เขาก็ตอบตกลงอย่างไม่คิดอะไรเลย  อย่างน้อยก็ประหยัดเวลาเดินทาง แถมไม่ต้องตื่นเช้าอีก


ดังนั้น ในเช้าวันอาทิตย์ที่ควรจะได้นอนพักผ่อนสบายๆ อยู่กับบ้าน  ต่ายและไทกริสที่ทำหน้าที่ขับรถมาส่ง กลับต้องมายืนอยู่หน้าที่พัก ที่คำนวณสภาพคร่าวๆแล้ว คงมากกว่าอายุเขาเป็นแน่ อันที่จริงไอ้แชมก็เสนอไว้หลายที่ แต่เพราะที่นี่ทั้งเดินทางสะดวกแถมใกล้โรงงานชนิดที่ว่าเดินเพลินๆ แปปเดียวก็ถึง  แม้สภาพดูเก่าไปหน่อย แต่ผู้ชายแบบเขาอยู่ได้สบายๆอยู่แล้ว


จะมีก็แต่ เจ้าเด็กโค่งที่มาด้วยกันนี่สิ

ทำหน้าอย่างกับเห็นบ้านผีสิงงั้นแหล่ะ  แม้จะสภาพข้างนอกอาจจะดูหลอนๆ  แต่ข้างในเจ้าแชมบอกว่ายังดูดีอยู่พอสมควร


พอได้รับกุญแจจากลุงแก่ๆข้างล่าง ก็พากันขนของที่มีไม่มากขึ้นข้างบน หอนี้มีทั้งหมด 5 ชั้น  มีแต่บันได ไม่มีลิฟต์และตัวเขาก็ได้ไปอยู่ชั้น 5 ซึ่งกว่าจะเดินไปถึง


ลูกผู้ชายที่(แต่ก่อน) ออกกำลังบ่อย ยังหอบแฮ่กอย่างกับหมา


ห้องสี่เหลี่ยมจัตุรัส  ถูกจัดเป็นห้องครัวเล็กๆ มีตู้เย็น กับที่โล่ง มีเพียงเตียงและฟูกเหี่ยวๆ และตัวห้องน้ำที่อยู่ที่ระเบียง แอร์คอนดิชั่น สภาพใหม่เอี่ยม ได้ยินมาว่า ห้องที่เปิดเช่าใหม่ เป็นห้องที่เพิ่งปรับปรุงเสร็จ


ต่ายเหลือบมองไทกริสที่ขนกระเป๋าใบโตที่ไม่ใช่ของเขา  ครั้นพอจะถาม ก็เห็นร่างสูงก็เปิดกระเป๋า แล้วยัดของที่มีอยู่ในนั้นเข้าตู้เย็น

อาหารแช่แข็ง เครื่องดื่ม พร้อมขนมขบเคี้ยวทั้งหลาย ถูกบรรจุเข้าตู้เย็นขนาดกลาง จนแทบจะไม่เหลือช่องว่างใดๆ   


“ขนมาเยอะขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย” ได้แต่พูดอึ้งๆ มองอีกคนที่ปิดตู้เย็นด้วยท่าทางนิ่งตามสไตล์

“แม่ฝากเรามาให้ ” เขาได้แต่อมยิ้มขอบคุณให้กับน้านีที่แสนใจดีกับลูกชายที่น่ารัก

ส่วนพ่อกับแม่เขาน่ะเหรอ  สั่งซื้อของแห้งมาให้เขาเพียบ  จนแอบคิดไปว่า ตัวเองกำลังมาเข้าค่ายอะไรอยู่รึเปล่า



“มากันแล้วเหรอวะ  ฮ้าววว~” ต่ายหันไปหาเสียงงัวเงียนั้น  เจอเพื่อนตัวเองในสภาพเสื้อบอลเน่าๆ กับหน้าตาที่บ่งบอกว่าเพิ่งตื่น ที่เห็นแล้วอยากจะไล่ให้ไปนอนซะจริง

ซึ่งก็เป็นความโชคดีที่มีห้องว่างติดกันอยู่พอดี  เพราะผู้ชายที่โตเต็มวัยอย่างพวกเขา ไม่มีทางนอนอัดกันอยู่ในห้องเล็กรูหนูอย่างนี้แน่ๆ 


“โหหห  นี่กะจะอยู่ทั้งปีเลยปะวะ” แชมเปญพูดขึ้นอย่างตะลึง  หลังเห็นข้าวของที่เป็นของกินวางเรียงราย

“แม่ให้เอามาให้เผื่อด้วย” ว่าแล้วพ่อคุณก็คุ้ยๆรื้อๆ ในตู้เย็น เป็นอาหารทำสำเร็จแช่แข็ง หน้าตาน่าทานสี่ห้ากล่อง แล้วยื่นให้แชมที่ยืนรับงงๆ 

“หืม~  มีให้ด้วยเหรอ   เอาฝากไว้ที่นี่แหล่ะ  หิวแล้วจะมาขอกิน ฮ่าๆ  ฝากขอบคุณแม่นายด้วยละกัน”

“ค่าไฟกูไหมล่ะ ” ต่ายบ่นออกมา  ใช้เท้าเขี่ยเพื่อนที่ยืนขวางทาง

“แหม แค่นี้ทำบ่น”

“แล้วนี่มึงมาตั้งแต่เมื่อไหร่”

“วันศุกร์  ว่างๆก็เลยเข้ามา” แชมยักไหล่ ก่อนจะเดินสำรวจรอบห้อง  จนต่ายต้องยัดของแห้งที่มี ถึงยอมหยุดกับที่ 

“ไง  จะอยู่ที่นี่ หรือกลับเลย”  ต่ายหันมาถามเด็กโค่งมองตาแป๋วอยู่ปลายเตียงที่ถูกปูผ้าไว้เรียบร้อย

คนถูกถามเหลือบมองต่ายที่ยืนค้ำหัวอยู่ กับแชมที่นั่งแกะถุงปลากรอบอย่างไม่สนใจ
 
“อยู่ที่นี่”  ต่ายยิ้มรับคำตอบนั้น ก่อนจะหันไปไล่เพื่อนรักที่กำลังกินขนมอย่างไม่เกรงใจด้วยสายตา   อีกฝ่ายพอรู้ว่าถูกมอง ก็ลุกขึ้นก่อนจะเบะปากใส่


“ใช่ซี่ มีผัวแล้วเพื่อนจะสำคัญอะไร” พูดจบก็รีบวิ่งออกมา  ก่อนที่จะโดนแม่ไม้มวยไทยของเจ้าของห้องซัดเสียก่อน
ต่ายอยากจะกรอกตาเป็นเลขแปดไทย


“ง่วงมั๊ย ฮ้าว~” ถามอีกคน แต่ตัวเองกลับหาว  เพราะวันนี้ออกมาตั้งแต่ตีห้า เพราะไม่อยากเจอรถติด  เลยต้องตื่นเช้ากัน แถมเมื่อคืนกว่าจะหลับจะนอนได้ ก็ล่อซะดึก


ไม่ต้องคิดไกล…..



ต่ายแค่เพิ่งเก็บของใส่กระเป๋า  ส่วนเจ้าไทกริสที่มาค้างด้วยนั้น  นาฬิกาตีบอกสี่ทุ่มปุ๊บก็ตาปรือ จนเขาต้องไล่ไปนอนนั่นแหล่ะ 


............................
..........................................



ครืด ครืด ~

ต่ายละมือจากกองกระดาษตรงหน้า ก่อนจะเหลือบมองหน้าจอโทรศัพท์ที่ส่งเสียงแจ้งเตือนว่ามีข้อความเข้า

ซึ่งเป็นเชกเช่นทุกวัน ตั้งแต่เขาเริ่มฝึกงาน 

ไทกริสมักจะส่งข้อความมาเสมอ เช่น

กินข้าวด้วยนะ

เหนื่อยมั๊ย

คิดถึง



ไม่ว่าจะเป็นตอนเช้า ตอนสาย ตอนพักเที่ยง  ตอนเย็น และก่อนนอน ข้อความพวกนี้มักจะส่งมาเสมอ จนรุ่นพี่ที่ทำงานด้วยถึงกับแซวว่าแฟนติดเขาจริงๆ


มันก็จริงอย่างที่ว่า  แต่ก็ไม่ใช่ฝ่ายนั้นที่ติดเขาอย่างเดียว เขาเองก็ด้วย แม้มันจะไม่ได้เป็นคำหวานๆแต่ก็รู้สึกอบอุ่นที่หัวใจ 



เขาเคยแอบหวั่นว่า  ถ้าเขามาอยู่ที่นี่ตอนฝึกงานตลอด ไทกริสจะมีท่าทีอย่างไร

ซึ่งในตอนแรก ก็ยังมีอาการต่ายลิซึ่ม   แต่เพราะต่ายเพียรพยายามบอกด้วยเหตุผลต่างๆนานา แทบจะชักแม่น้ำทั้งโลกมาพูด  พร้อมทั้งผนึกกำลังกะเหล่าครอบครัวของไทกริสด้วย

 
สุดท้ายก็ยอมเข้าใจและไม่งอแง อย่างที่เขากังวล  แถมตามมาส่งเขาถึงหอพักอีกต่างหาก

ซึ่งนั่นก็เป็นเรื่องดี อย่างน้อยก็โตขึ้นกว่าแต่ก่อน






ต่ายอมยิ้มกับข้อความ ที่ขึ้นว่าอีกคนส่งรูปภาพมาให้

พอกดเข้าไปก็ต้องยิ้มจนปากแทบฉีก


ภาพใบคะแนนสอบ



เมื่อคืนอีกฝ่ายบอกว่า วันนี้จะมีเทสต์ย่อยแต่เช้า พร้อมทั้งบอกอีกว่าจะเอาคะแนนเต็มมาให้ดู เตรียมรางวัลไว้ได้เลย

พอเห็นคะแนนแล้วก็อดดีใจด้วยไม่ได้  คะแนนเต็ม  อย่างที่เจ้าตัวพูดไว้จริงๆ


ว่ากันตามตรง
ตั้งแต่เขาเรียนมา 3 ปี ไม่เคยมีครั้งไหนที่เขาจะเทสต์แล้วได้คะแนนเต็มเลย
แค่เกินครึ่งนี่เป็นอะไรที่สุดๆแล้ว

เขาส่งข้อความบอกว่า  เก่งมาก พร้อมด้วย ส่งสติกเกอร์หัวใจไป

เห็นความเป็นไปของอีกคนแล้วก็รู้สึกมีกำลังใจทำงานมากขึ้น  เพราะวันนี้วิศวกรประจำโรงงานให้พวกเขาลองศึกษาเอกสารเครื่องจักรที่ได้มาใหม่ดู


มองเพื่อนรักที่นั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดไม่แพ้กัน


ไม่ใช่อะไรหรอก  เนื้อหาเอกสารเป็นภาษาอังกฤษล้วนๆ

 
ไอ้พวกเขาก็เก่งซะด้วย


รุ่นพี่ที่เคยฝึกงานที่นี้ แอบมาบ่นว่า  เคยได้เอกสารที่เป็นภาษาเยอรมันล้วนๆ   รีบหาดิกชันนารีมาเปิดแทบไม่ทัน



พอพักกลางวันก็มานั่งกินข้าวกันที่โรงอาหาร  เหล่าพนักงานออฟฟิศในโรงงานบวกกับเหล่าคนงานจำนวนไม่น้อย เลือกที่นี่เป็นอันดับแรก ด้วยเหตุผลหลักๆก็คือ

เพราะ 1.ให้เยอะ 2.ให้เยอะ สามให้เยอะ  ………… 10. ให้เยอะ


ซึ่งต่ายและแชมก็เป็นหนึ่งในนั้น  คนถูกใช้แรงงานอย่างพวกเขา จะให้กินข้าวทัพพีเดียวแบบที่ร้านตามสั่งชอบให้คงไม่ไหว  หมดแรงตายกันพอดี


ต่ายเลือกที่นั่งประจำ  ก่อนจะสไลด์โทรศัพท์รอเพื่อนรักไปซื้อข้าว


จนมาเจอภาพในอินสตาแกรม ของโจ เพื่อนไทกริส 

ที่เป็นภาพเหล่าสามทหารเสือชูใบคล้ายกับที่เพิ่งเห็นเมื่อตอนสาย
 
 
ใบหน้าของสามทหารเสือที่ชูใบข้อสอบ โดยมีคะแนนสอบถูกเขียนด้วยปากกามาร์กเกอร์สีแดง เส้นหนาได้ใจ สีหน้าดูยิ้มแย้ม เบิกบานรับกับคะแนนเต็มที่ได้รับ  จะเว้นแต่เจ้าเสือยิ้มยากอย่างไทกริส


ต่ายหัวเราะกับตัวเอง  เพราะคิดว่า

แค่อีกคนยอมร่วมเฟรมด้วย ก็เป็นบุญล้นพ้นอยู่แล้ว

ในรูปที่พวกเขาถ่ายด้วยกัน แทบไม่มีรูปที่ไทกริสยิ้มเลย


ยอดไลค์นับพัน ทั้งๆที่เพิ่งโพสต์ไปไม่กี่นาทีก่อน 

เจ้าพวกนี้มันศัตรูของเหล่าผู้ชายจริงๆ


นั่งอ่านคอมเม้นท์ ส่วนใหญ่ก็เป็นพวกสาวๆ ที่นิยมชมชอบสไตล์หนุ่มลูกครึ่ง มีทั้ง...

        lilylemonade หล่อทั้งหมดเลย   เหมาหมดเลยค๊า ♥♥♥♥♥

อ่าาาาา

        khunbevooo หนุ่มๆบริหารเก่งจังค่ะ มาบริหารรักกับเราหน่อยมั๊ยย   อิอิ

เอิ่มมมมมม

       kokokola ทั้งเก่ง ทั้งหล่อ แบบนี้ พี่เห็นแล้วน้ำเดินเลยจ้าาาา  โดยเฉพาะคนริมซ้าย #ได้ซักทีจะตั้งใจเรียน 

หืมมมมมมมมมมมมมมม!!!


ต่ายได้แต่อุทานในใจ  ทำไมผู้หญิงสมัยนี้ช่างน่ากลัว   อยากจะแฮชแท็ค #โลกหมุนเร็วจนฉันตามไม่ทันแล้วพี่บัวลอย ใส่ทุกโซเชียลที่มีอยู่


แต่เดี๋ยวนะ ...


คนริมซ้าย



นิ้วเรียวสไลด์หน้าจอขึ้นไปดูภาพ

คนริมซ้าย ก็คือไทกริสน่ะสิ


เหอะ!! ข้ามศพ เขาไปก่อนเถอะ !!!

ได้แต่ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอยู่คนเดียว  ถ้าเขาพูดแบบนี้ คงวงแตกแน่ๆ


“ทำหน้าตาเหมือนจะฆ่าคนเลยนะมึง” ต่ายสะดุ้งเล็กน้อย   ก่อนจะมองค้อนเจ้าเพื่อนตัวดี ที่มาอย่างไม่ให้สุ้มให้เสียง อีกคนไม่สะทกสะท้านใดๆ  แถมยังชะโงกหน้ามาดูจอมือถือของเขาอีก

“อ๊ะ หน้าสลอนกันดีจริงๆ พวกนี้” แชมว่าอย่างขำๆ  ก่อนจะลงมือกินก๋วยเตี๋ยว ทิ้งให้เพื่อนตัวเองทำหน้าตาแปลกๆกับโทรศัพท์ไป

จนกระทั่ง เจ้าของไอจีมาตอบกลับข้อความนั้น  ต่าย ก็รู้สึกหน้าร้อนฉ่า ชนิดที่ว่า เอาเนื้อมานาบคงสุกแน่ๆ



     jeojoe @kokokola  คนนั้นเขามีเจ้าของแล้วค้าบบบ  เจ้าของหวงหนักมากครับ 


ทำได้ดีมาก เจ้าโจ  วันหลังจะซื้อสมาร์ทฮาร์ทไปฝากนะ




อาทิตย์นี้มีวันหยุดติดกัน 4 วัน  ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ และจันทร์ ซึ่งต่ายและแชมตัดสินใจว่าจะกลับบ้าน หลังจากไม่ได้กลับไปนาน เพราะปกติทุกอาทิตย์ ไทกริสจะเป็นฝ่ายมาหาเขาเสมอ  ครั้งนี้ต่ายคิดว่าน่าจะเป็นฝ่ายไปหาอีกคนบ้างก็เท่านั้น
 
เช้าวันศุกร์ ต่ายและแชมก็ออกจากชานเมืองที่สงบสุขเพื่อมุ่งสู่ตัวเมืองตัววุ่นวายที่เจอมาทั้งชีวิต


อันที่จริงแล้ว วันศุกร์ไม่ใช่วันหยุด แต่เพราะเจ้าของโรงงานที่แสนใจดี บอกว่าเป็นโบนัสที่ทำงานอย่างเหน็ดเหนื่อยมาตลอด

ไอ้นักศึกษาฝึกงานอย่างพวกเขาก็พลอยได้ส่วนบุญไปด้วย
 

หยุดครั้งนี้ เขาไม่ได้บอกไทกริสว่าจะมา  กะว่าจะไปเซอร์ไพร์สที่มหาลัย 


น่าสนุกดี
อยากจะเห็นหน้าเจ้าเด็กโค่งเวลาตกใจนัก



วันศุกร์นั้น ไทกริสเรียนครึ่งวัน
 
ต่ายย้ำกับตัวเองในใจ


รึเปล่าวะ ...??


ชักไม่แน่ใจตัวเอง  เลยต้องนั่งคุ้ยประวัติแชท ที่ย้อนไปนานโขจนต้องถอดใจ  สุดท้ายก็นั่งรอแม่งมันตรงหน้าคณะนั่นแหล่ะ
 
แต่เพื่อความไม่พลาด

ลองถามดูก็สิ้นเรื่อง
 

     วันนี้มีเรียนครึ่งวันรึเปล่า


ห้านาทีผ่านไป
เงียบ ..



สิบนาทีผ่านไป
ยังเงียบกริบ...




ยี่สิบนาทีผ่านไป
ข้อความถูกอ่านแล้ว 


พร้อมกับข้อความที่คุ้มค่ากับการรอคอยของต่าย




        อือ



ต่ายแทบจะก้มไหว้สี่มุม แบบนักหมวย

พอได้รับการยืนยันจากเจ้าตัว มองดูเวลา เที่ยงตรงพอดี   อีกไม่นานก็เลิก




-จ๊อกแจ๊ก จอแจ-


ต่ายรีบไปหาที่หลบ เมื่อได้ยินเสียงพูดคุย  ถึงจะไม่รู้ว่าใช่เพื่อนเอกเดียวกับไทกริสรึเปล่าก็ตาม  หันซ้ายขวา เห็นรถ BMW คันคุ้นตาจอดอยู่ไม่ไกลจึงตัดสินใจไปแอบอยู่ท้ายรถ  รออีกคนมา

สายตาคอยสอดส่อง เพื่อมองหาเจ้าของรถ ที่ยังไม่มีวี่แววจะมาเลยซักนิด


ชายหนุ่มรู้สึกขำกับตัวเอง ที่มาทำแบบนี้  นี่ถ้าเป็นเขาสมัยก่อน คงไม่มีทางทำอะไรแบบนี้แน่ อย่างกับเด็กเล่นซ่อนหา

แต่ถึงจะว่าอย่างนั้น หัวใจที่รัวเต้นอย่างกับจะหลุดออกมา ในขณะซ่อนตัว คงจะหมายความว่าเขากำลังสนุกกับมันสินะ


นั่งแอบไปได้ซักพัก เป้าหมายก็เดินตรงเข้ามา

หน้านิ่งๆ แต่ออร่าความหล่อที่แผ่กระจาย ยิ่งแสงแดดส่อง ผิวขาวๆของไทกริสยิ่งเปล่งประกาย ถ้าไม่ได้เป็นการอวยแฟนตัวเองนัก ต่ายเห็นแสงระยิบระยับออกจากตัวไทกริสด้วย


ต่ายเม้มปากแน่น เรียกกำลังใจตัวเอง


จนกระทั่งอีกคน  กำลังปลดล๊อครถ ต่ายก็พุ่งตัวเข้าประชิดจากทางด้านหลัง  จับแขนอีกคนไขว้หลังเอาไว้หลวมๆ

พลางกระซิบข้างหูอีกคนว่า


“หยุดนะ  นี่คือการปล้น”


ร่างที่เกร็งแข็งในตอนแรก คลายลง เมื่อได้ยินเสียงของเขา  ก่อนจะกลายมาเป็นยืนนิ่ง สบตาเขาพลางทางกระจกรถฟิล์มดำนั่นแทน

“ฮ่าๆ ตกใจมั๊ย” ต่ายคลายมือที่ล๊อคแขนขาวออก แล้วย้ายตัวเองมายืนข้างๆเด็กโค่ง

แต่อีกคนนิ่งจนเริ่มใจเสีย

ไม่ใช่ตกใจจนตัวแข็งไปแล้ว?


แต่ก่อนจะได้สำรวจอาการ ร่างของต่ายก็ถูกรวบเข้าไปกอดแน่น จนรู้สึกหายใจแทบไม่ออก ได้ยินเสียงสูดลมหายใจของอีกคนข้างๆซอกคอของเขา ตัวต่ายเองก็เช่นเดียวกัน ซึมซับกลิ่นหอมจางๆอันเป็นเอกลักษณ์ของเจ้าตัวจนเต็มปอด


“อืออ ใจเย็นน  กอดแน่นไปแล้ว”  ทุบไหล่แข็งแรงดังปึก  ทั้งหายใจไม่ออก ทั้งอายประชาชี  แม้มันจะไม่ใช่ที่พลุ่นพล่าน แต่มันก็มีกล่องวงจรปิดนะเฮ้ย


คิดได้ดังนั้น ก็รีบดันเจ้ามือปลาหมึกออก ก่อนจะจับยัดเข้าไปในรถ ส่วนตัวเองก็เดินอ้อมมาอีกฝั่ง  ทำหน้าที่เดิม

ตุ๊กตา(ยักษ์)หน้ารถ



“ไปบ้านพี่นะ”  ต่ายบอกกับคนขับ  ไทกริสเลิกคิ้วกลับเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร 


จนกระทั่งรถคันหรูเลี้ยวเข้าทางเข้าหมู่บ้าน  ต่ายก็เอ่ยทักกับลุงยามคนเดิม ไม่มีเพิ่มเติมอะไรทั้งนั้น  ซึ่งรายนั้นพอเห็น ว่าเป็นใคร ก็ดีใจซะจนแทบทะลุป้อมออกมา แถมยังเอ่ยถามถึงพ่อแม่ของเขาอีก

พูดคุยพอเป็นพิธี ต่ายก็ขอตัว เพราะเริ่มจะหิว ลุงยามก็รีบกุลีกุจอกดปุ่มยกไม้กั้น พร้อมด้วยรอยยิ้มกว้างจนตีนกาโผล่


บ้านเขาก็ยังคงเหมือนเดิมทุกระเบียดนิ้ว  สวนสวยๆที่คุณนายของบ้าน หวงนักหวงหนา ก็ยังคงเขียวชะอุ่ม สวยสดงดงาม ดอกกล้วยไม้พันธุ์ที่ชอบบ่นแพงหูฉี่ แต่ก็ซื้อมา ออกดอกบานสะพรั่งล่อตาล่อใจหัวขโมย คงต้องยกเครดิตให้ป้าแม่บ้านที่มาคอยดูแลทุกอาทิตย์นั่นแหล่ะ


เขาโทรบอกแม่บ้านแล้ว ว่าให้ซื้อของติดตู้เย็นมาซักสามสี่อย่าง แต่นี่ อย่างกับจะอยู่เป็นเดือน 
 
มื้อกลางวันจบลงด้วยข้าวผัดสูตรพิเศษ  เพราะใส่ใจลงไป


เอ่อ ….
เล่นเอง เลี่ยนเองแฮะ ...



ทุกครั้งที่ไทกริสมาหานั้น  ก็ปาไปเกือบเย็น ดังนั้น มื้อแรกที่เจอกันมักจะเป็นมื้อเย็นของวันศุกร์ตลอด
นี่จึงเป็นครั้งแรกที่เจอกันแล้วได้กินข้าวกลางวันด้วยกัน แถมเป็นฝีมือของเขา ไม่ใช่ ป้าร้านอาหารตามสั่งอีกต่างหาก


“อยากกินอะไรอีกไหม”  ต่ายถามคนข้างๆ ที่กำลังนั่งดูซีรี่ย์เรื่องโปรดอย่างใจจดใจจ่อ

อีกคนส่ายหัว  ก่อนจะค่อยๆเลื้อยลงมานอนตักเขา

นิ้วเรียวรีบดีดหูคนนอนอย่างเร็วไว  ไทกริสสะดุ้งผุดลุกขึ้น พลางมองเขาอย่างงงๆ


“เพิ่งกินอิ่ม อย่าเพิ่งนอนสิ  เตือนหลายรอบแล้วนะ”  เอ่ยเสียงขรึม เจ้าเด็กโค่งดูซึมไปถนัดตา


อะไรจะโอเวอร์แอคติ้งขนาดนั้น 


แต่ก็ช่วยไม่ได้ล่ะนะ..

ต่ายขยับตัวเองให้เข้าไปชิดกับไทกริส จนไหล่เกยกัน  ก่อนจะเอื้อมมือไปดันหัวให้มาซบกับไหล่ของเขา
ซึ่งอีกคนก็ว่าง่ายสอนง่าย ไม่ขัดขืนใดๆ
 


จนเมื่อซีรีย์จบ  ห้องนั่งเล่นก็ตกอยู่ในความเงียบ  ก่อนจะถูกทำลายเมื่อเสียงทุ้มนุ่มของเจ้าเด็กโค่ง

“ต่ายโดดงานมาเหรอ”  ได้ยินคำถามนี้  คนฟังถึงกับหัวเราะพรืดออกมา

นี่คิดได้ไง


“ฮ่าๆๆๆๆ จะบ้าเหรอ  วันนี้เขาให้หยุดต่างหาก  จะได้หยุดยาวเลยไง” พูดไป ก็ลูบผมนุ่มนั้นไปพลาง  ชวนเคลิ้มทั้งคนลูก และคนถูกลูบ


“คิดถึง” คำพูดเรียบๆ แต่ความหมายลึกซึ้ง   แม้จะถูกพูดทุกครั้งที่เจอกัน ไม่ว่าจะทั้งเจอกันต่อหน้า  คุยทางโทรศัพท์ หรือจะเป็นทางข้อความก็ตาม
 

ต่ายก็ไม่มีเคยเบื่อมันเลย


“อืม เหมือนกัน” ยิ้มบางๆ ให้เด็กโค่ง   ก่อนจะถูกปิดด้วยฝีมือของอีกคน


“อือ~” เพราะไม่ทันตั้งตัว เลยเผลอดิ้นไป แต่พอเข้าที่เข้าทาง อะไรๆก็เกิดขึ้น
 

ร่างทั้งสองต่างค่อยๆนอนราบไปกับบพื้นโซฟา  โดยที่ปากของทั้งคู่ยังคงไล้เลียชิมกันอย่างโหยหา ด้วยตำแหน่งที่นั่งของต่าย ทำให้ไทกริสมาอยู่ใต้ร่างเขา  แต่มีหรือว่าไทกริสจะสน


มือขาวสอดเข้ามาใต้เสื้อของต่าย  ลูบไล้ตามแนวกระดูกสันหลัง  เรียกเสียงครางแผ่วๆออกมา


ในขณะที่กำลังมัวเมาในรสจูบนั้น


เสียงรถจอดที่หน้าบ้าน ไม่ได้ทำให้ทั้งคู่สนใจได้  อาจจะะเป็นเพราะอามรมณ์ที่เริ่มพุ่งสูง


ต่ายชะงักเบาๆ เมื่อได้ยินเสียงดังกริ๊ก   หัวใจหวิวๆ  รู้สึกเหมือนมีภัยกำลังมา


แต่เพราะความหื่นมันบังตา   ตอนนี้เขาไม่สนอะไรทั้งนั้น  ต่อให้ตำรวจบุกมาก็เถอะ


มือหนาขยุ้มกลุ่มผมสีอ่อนไว้  สัมผัสทีไรก็รู้สึกเหมือนขนแมวทุกครั้ง 


“ทำไมมันเงียบแบบนี้ล่ะเ-------  ว๊ายยย  อกอีกแป้นจะแตกกก   ไอ้ต่ายยยย แกทำไรน้องไทก์น่ะ!!!!!!!!!”



ต่ายรีบผละออก ทันทีที่ได้ยินเสียงแหลมชนิดแปดหลอด  จะเป็นใครไม่ได้นอกจาก




“แม่!!!”
 


นี่มัน เดจาวู ชัดๆ


TBC
----------------------------------


BEVA TALK : หายไปนานอีกล้าวววว  คุกเข่าขอขมา  แบบว่า แต่งไม่ออก ฮรึกกกก  :hao5:    พยายามเข็นออกมาเท่าที่จะทำได้ 
ขุ่นแม่มาเจอแบบนี้    ทำยังไงล่ะเนี่ยยยยย   :katai1:  (แต่งเอง ลุ้นเอง)

ขอบคุณทุกคอมเม้นท์ ทุกบวกเป็ดนะคะ  บีว่ายังเป็นนักเขียนมือสมัครเล่นมากๆ สำนวนการแต่งยังไม่ดีพอ  แต่สัญญาว่าจะทำให้ดีขึ้นนะคะ  :pig4: :pig4: :pig4:

รักคนอ่าน จุ๊บบบบ  :กอด1: :กอด1:

[/b]

คิดเห็นอย่างไรกับตอนนี้ บอกกันด้วยนะจ๊ะ   
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-07-2016 00:22:51 โดย bevobova »

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ดีใจที่มาต่อสักที

ออฟไลน์ SOMCHAREE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-2
ขำแม่ต่าย ขนาดตกใจยังอุทานเป็นต่ายกอะไรน้อง ทั้งๆที่ต่ายถูกกระทำนะฮะ

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
แม่ทักผิดรึป่าวคะ น้องไทก์เป็นคนทำไม่ใช่เรอะ :hao3:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
คุณแม่จะว่ายังไงนะทีนี้

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
เอาแล้วไงๆๆๆๆๆ ขุ่นแม่มาเจอ!!!

ออฟไลน์ mayomhwan

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
โอยยยย  ค้างสิครัชชชชช  :katai1:

ออฟไลน์ inspirer_bear

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-5
ตอนต่อไปล่ะค่ะร่ำร้องงงงง อยากอ่านแล้วววว
คราวนี้ต่ายต้องรับผิดชอบน้องนะคึคึ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ drasil

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1690
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +95/-1

ออฟไลน์ shishy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 13
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ตายแน่  หว๋ายยยยยยยยยยยยยย  :hao7:

ออฟไลน์ Sweettemp

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 169
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
บรรดาคุณแม่นี่สีสันของเรื่องจริงๆ อกอีแป้นจะแตก!!!!!  :laugh:

ออฟไลน์ ่patsaporn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-6
ตายหอง จะรอดไหมต่ายกริส เอาใจช่วยนะคะ

ออฟไลน์ bevobova

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 58
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
บทที่ 30    ด่านสุดท้าย ?!!!






 “แม่!!!”  ต่ายร้องลั่น มองแม่ตัวเองที่ยืนจังก้าเท้าสะเอวอยู่ตรงหน้าทีวีด้วยท่าทางขึงขัง  มือไม้ทำอะไรไม่ถูกคว้าสะเปะสะปะไปหมด   ยิ่งเห็นสายตาเยี่ยงนางมารร้าย หัวใจน้อยๆก็แทบจะวายตาย


ในหัวมีแต่คำว่า  ซวยแล้ว!! เต็มไปหมด
 

“บอกแม่มานะ  แกทำอะไรน้องไทก์ห๊ะ!!”

“ทะ-ทำอะไรแม่  เล่นกันเฉยๆ”  ต่ายที่ทำอะไรไม่ถูก ได้แต่หัวเราะแบบแห้งๆไป 


แต่มีหรือที่คนอย่างนาถลดาจะเชื่อ !!


“อย่ามาโกหก แม่เห็นอยู่ตำตา  แกขืนใจน้องใช่ไหม  นี่อะไร กลางวันแสกๆแท้ๆ แกยังกล้าทำแบบนี้อีก”

ต่ายอ้าปากเหวอกับคำพูดของคนตรงหน้า 

เมื่อกี้ ….


แม่บอกว่าเขา …


ขืนใจไทกริสงั้นเหรอ?!



“ชักจะไปกันใหญ่แล้ว แม๊!!!!!” ต่ายตะโกนลั่น    มองเจ้าเด็กโค่งที่ยืนอยู่ข้างๆ  ใบหน้ามึนๆ แต่รู้สึกแววตาเต้นระริก ราวกับสนุก
 

หน้าตาแบบนี้เหมือนคนโดนขืนใจตรงไหนกันเนี่ย !!!


“นี่แกตะโกนใส่แม่หรอ หาาา?”   สองแม่ลูกตะโกนใส่กัน อย่างกับอยู่ห่างกันเป็นวา  ทั้งที่อยู่ห่างกันแค่โต๊ะเล็กๆกั้นไว้

“เปล่าซะหน่อย    ต่ายว่า.... แม่นั่งก่อนนะ  ทำใจดีๆก่อนนะแม่นะ”

“แม่ยังไม่ตายนะ มาทำใจดีๆอะไร”  อีกคนว่าเสียงสะบัด   ต่ายแทบอยากจะระเบิดตัวตายไปซะเดี๋ยวนั้น 

ชายหนุ่มรีบเข้าไปประคองมารดา ก่อนจะพาไปนั่งโซฟา ที่เดียวกับที่เพิ่งลุกไปเมื่อกี้

“แล้วนี่แกจะบอกได้ยัง ว่าทำอะไรน้องห๊ะ?”

“แม่ก็ใจเย็นๆก่อนได้ไหมเนี่ย  มันไม่ใช่อย่างที่แม่คิดหรอกน่าาา”   ชายหนุ่มมองหน้ามารดาตนที มองหน้าผู้ร่วมก่อเหตุ?!ที   แต่พออีกคนทำหน้าซื่อตาใสแล้ว  ได้แต่ใบ้กิน   

ทำไมไม่ช่วยกันทำมาหากินเล้ยยย


ในขณะที่กำลังเรียบเรียงคำพูด ราวกับคอมพิวเตอร์ที่กำลังประมวลภาษาจากตัวเลข0 1 อยู่นั้น ….


เจ้าเด็กโค่งที่เงียบมานาน ก็เอ่ยขึ้น


“ป้าดาครับ”

“จ๋า ว่าไงลูก”
 

ทีงี้รับเสียงหวานเชียว กับลูกแทบจะฆ่ากันให้ได้  ชายหนุ่มบ่นในใจ   

แต่ก็ได้แต่ลุ้นว่า เจ้าเด็กโค่งจะพูดอะไรออกมา

หวังว่าคงจะไม่พูดอะไรแปลกๆออกมานะ



“เราสองคนเป็นแฟนกันครับ”


โอ้ จอร์จจจจจจจจจจจจจจ

นี่มึงก็ตรงเกินไปแล้ววว  !!!



แม้จะตอบแบบไม่ตรงคำถาม แต่ก็อธิบายเรื่องราวได้ทั้งหมดภายในคำพูดเดียว .....


“หา???” สีหน้าของนาถลดาไม่เหลือเค้านางมารร้ายเมื่อสักครู่


ต่ายแทบอยากจะเอาหัวโขกกับกำแพงรัวๆ   แต่ก็ได้แต่คิดเพราะกลัวเจ็บ  ยิ่งเห็นสีหน้าแม่ตัวเองลางร้ายเริ่มส่งสัญญาณ 

เลยต้องรีบเข้าชาร์จแขนของหญิงสาวเอาไว้


“แม่  ต่ายขอโทษที่ไม่ได้บอกแม่เรื่องนี้  แต่ว่า...”  สายตาเหลือบมองคนข้างๆ


“คือเราก็เพิ่งคบกัน ไม่กี่เดือนนี้เอง  ที่ต่ายไม่ได้พูดเรื่องนี้ เพราะต่ายก็ไม่รู้จะพูดยังไง”

“ต่ายขอโทษที่ต่ายเลือกทางนี้  และก็อาจจะทำให้พ่อกับแม่ผิดหวัง  แต่ต่าย .....  ไม่ปึ๋งปั๋งกับผู้หญิงตั้งแต่อยู่กับไทกริสแล้วอ่ะ” ต่ายกลืนน้ำลาย  รอดูปฏิกิริยาของแม่ตน  ว่าจะเข้าโหมดไหน ..



นาถลดามองหน้าลูกชายตนกับคนที่เป็นเหมือนลูกชายอีกคน  พลางถอนหายใจเฮือกใหญ่ 


เด็กสองคนนี้ คนแรกก็คลอดเองก็มือกับอีกคนก็เห็นมาตั้งแต่อ้อนแต่ออก
 
แม้เธอจะเคยแปลกใจ  ในครั้งแรกที่เจอกับไทกริส ก่อนที่จะได้รับฝากฝังจากรุ่นน้องสมัยเรียน   

เด็กในวัยนี้ น่าจะเริ่มเข้าสู่วัยต่อต้านแล้วแท้ๆ แต่กลับอยู่กับลูกชายของตนที่เป็นคนห่ามๆ ได้อย่างนี้



“...ถามว่าแม่ผิดหวังไหม  ก็นะ  แม่ก็อยากเห็นลูกได้แต่งงานกับคนที่ตัวเองรักและรักเรา   แต่เหนือสิ่งอื่นใด  แม่อยากให้ลูกมีความสุขกับสิ่งที่ลูกเลือกมากกว่า แม่เองก็เคยสอนหลายครั้งแล้วว่าลูกรักใครซักคนมันไม่ผิดหรอก ตราบใดที่ลูกมีความสุขอย่างแท้จริง ไม่เดือดร้อนใคร  แม่ก็ยอมรับด้วย” ฝ่ามือนุ่มลูบหัวเด็กทั้งสองอย่างรักใคร่


“แม่ครับ..”  คำพูดหวานซึ้งที่ไม่ค่อยได้รับจากมารดา ทำเอาต่ายน้ำตาคลอ  มองหน้าแม่ตัวเองอย่างอึ้งๆ

“น้องไทก์  แน่ใจนะ ว่าจะเลือกลูกป้าน่ะ”

“แน่ใจครับ”

“เบื่อแล้วไม่รับคืนนะ  เดี๋ยวแถมข้าวสารไปให้ถังนึงด้วย”

“แม่!”

“โอ้ยย  อยู่ใกล้แค่นี้จะเรียกเสียงดังทำไม  ไม่ได้หูตึงนะยะ”

“นึกว่าตึงแล้ว!” 

 “เดี๋ยวเถอะ  แล้วนี่.. แม่เรารู้เรื่องงรึยัง  คงจะยังสินะ  นี่แม่ต้องเตรียมดอกไม้ไปขอขมาไหมเนี่ย เฮ้ออออ ”

เด็กหนุ่มทั้งสองได้แต่กระพริบตาปริบๆให้กับหญิงสาวตรงหน้าที่สามารถเปลี่ยนอารมณ์ได้อย่างรวดเร็ว เหมือนกสับสวิตซ์ได้



แบบนี้ แปลว่า ผ่าน แล้วใช่ไหม


ในความสับสนและมึนงง ที่อยู่ๆคุณนายของบ้านที่ไม่ได้เจอหน้ากันมาชาติเศษ  จนคิดว่าไปปักหลักตั้งถิ่นฐานอยู่เชียงใหม่ไปแล้วด้วยซ้ำ กลับมาบ้าน โดยไม่บอกล่วงหน้าเลย

ไหนจะเรื่องที่ยอมรับพวกเขาได้ง่ายๆแบบนี้ 


 ซึ่งถามว่าดีใจไหม 

ทำไมจะไม่ดีใจกัน

แต่ …..


มันก็ง่ายเกิ๊นนนนนนนน   นี่เขาคิดมากจนเป็นตุเป็นตะ จนทะเลาะกับไทกริสไปเพื่ออะไร??


แม้ด่านแรกจะผ่านไปได้ด้วยดี  แต่พ่วงด้วยการโดนแม่บังเกิดเกล้าขัดขวางวันหยุดที่มีค่าของพวกเขา ด้วยการอยู่กับบ้านเฝ้าคอยเฝ้าระวัง

ด้วยเหตุผลที่ว่า

เพื่อไม่ให้กระต่ายป่าผู้หิวโหยกระโดดฟัดกับลูกเสือน้อยที่น่าสงสาร

พอได้ยิน ต่ายแทบฮาก๊าก 


นี่แม่เขาคิดว่า  ไทกริสนั้นเป็นเสือน้อยไร้เขี้ยวเล็บเรอะ

ขอบอกว่า

ผิดถนัดเลยเถอะ!



แต่ครั้นจะชี้แจงแถลงไขให้เข้าใจแบบถูกก็ป่วยการณ์ เพราะนายไทกริสในตอนนี้ ก็ไม่ต่างอะไรกับเด็กชายไทกริสในวันวานสำหรับคุณนายนาถลดา






เช้าวันอาทิตย์อันสดใส  เด็กหนุ่มทั้งสองก็ถูกปลุกด้วยนาฬิกาเดินได้อย่างนาถลดา  เพื่อให้ทั้งคู่ไปช่วยกันหิ้วของสดจากตลาด

ตลาดสดยามเช้าผู้คนช่างคึกคัก พอๆกับกับกลิ่นคาวจากอาหารทะเล   ต่ายน่ะพอชิน  แต่เด็กโค่งตัวขาวที่เดินอยู่ข้างๆเขานี่สิ

หน้างี้มุ่ยเชียว  อย่างกับใครเอาขี้หมาทาจมูก


ก็นะ คุณหนูไทกริส ที่ครอบครัวแสนรักแสนหวงแสนสปอยล์  คงไม่เคยเดินตลาดสดแบบนี้แน่ๆ

เดินไปตามทางก็มีแต่แม่ค้าทักกัน ว่ามีลูกชายหล่อ  โดยเฉพาะเจ้าเด็กโค่งตัวขาว

คุณนายนาถลดาพอได้ยินก็ยิ้มหน้าบานอย่างกับจานดาวเทียมดำ ประหนึ่งเป็นคนคลอดออกมาเอง


ต่ายคิดว่า ที่ให้พวกเขามาสองคน คุณนายต้องซื้อของเยอะแน่ๆ
 
แต่ ......   ถ้าไม่นับข้าวของจากแม่ค้าปากหวาน  ก็มีแค่ปลานิลขนาดโลกว่าๆ 2 ตัว  กับ ฟอยล์ห่อปลา ที่หาซื้อในเซเว่นก็ได้

โถ่ เวลานอนอันมีค่า ....

พอบ่นออกมาให้ได้ยิน  ก็โดนตอกกลับด้วยน้ำเสียงตัดพ้อ ที่ดูยังไงก็เสแสร้งชัดๆ

“แกจะไม่คิดจะช่วยแม่ถือเลยรึไง  ถ้าเกิดแม่เป็นลมเป็นแล้งขึ้นมาจะทำยังไง”

ต่ายได้แต่กลอกตา   ผู้หญิงคนนี้น่ะเหรอ
ตั้งแต่จำความได้ ไม่เคยเห็นคนคนนี้ป่วยซะครั้ง  เชื่อเถอะ ผู้หญิงคนนี้แข็งแรง บึกบึน ขนาดล้มหมีมือเปล่าได้ง่ายๆ
(อ้างอิง : จากคำบอกเล่าของพ่อ)



พอกลับถึงบ้าน คุณนายท่านก็เดินตัวปลิว  ปล่อยให้ลูกในไส้กับนอกไส้  นั่งก่อเตาไฟหน้าดำหน้าแดง (คงจะรู้นะว่าใครหน้าอะไร)


สุดท้าย เมี่ยงปลาเผาสูตรคุณนายนาถลดา ก็กลายมาเป็นอาหารมื้อเช้า+เที่ยงของพวกเขาไป


การที่มีคุณนายนาถลดาอยู่ในบ้านหลังนี้ ! ฉะนั้นวันหยุดที่แสนโหยหาของต่าบและไทกริส ก็ผ่านไปด้วยกันแค่กินข้าวด้วยกัน นอนด้วยกัน(โดยมีแม่ของต่ายนอนตรงกลาง!!) ที่ลงทุนปูฟูกหนานุ่มนอนแทนที่จะนอนเตียง

ก่อนนอน นาถลดาก็มอบจุมพิตแสนอบอุ่นให้เด็กหนุ่มที่รักทั้งสอง  พร้อมกับเล่าเรื่องในตอนที่ไปอยู่ที่เชียงใหม่มาราวกับเป็นนิทานก่อนนอนดั่งเช่นทุกคืน

แม้ต่ายจะรู้สึกอึดอัดปนขัดเขิน ที่โตป่านนี้แล้วแม่เขายังทำกับเขาเหมือนเด็กอนุบาล   


แต่ก็อดปฏิเสธไม่ได้ว่า 

มันอบอุ่นจริงๆ  เหมือนได้ย้อนกลับเป็นเด็กอีกครั้ง





ต่ายมองกองเอกสารด้วยสายตาเหม่อลอย  จนกระทั่งเพื่อนรักอย่างแชมตบเข้าที่หน้าผาก จนแทบเห็นนกบินบนหัว
สติสัมปชัญญะได้กลับมา


“มึงอย่าเพิ่งชิงตายไปก่อนนะเว้ย  มาช่วยกันเขียนรายงานก่อนสิวะ” แชมบ่นออกมา  ปรายตามองเพื่อนที่มองเขาตาเขียวปั๊ด   


ใช่ว่าเขาเองจะไม่รู้สึกเหนื่อย ที่ต้องเขียนทั้งรายงานสรุปผลการฝึกงาน กับเขียนรายงานประจำวันส่งพี่เลี้ยง


สัปดาห์นี้ เป็นสัปดาห์สุดท้ายที่ฝึกงานที่นี่  จะบอกว่าดีใจก็ดีใจ แต่ก็ใจหายเหมือนกัน เพราะผ่านทั้งความสุข ความเศร้า ความเหนื่อย  ความมึน มาตลอด 2 เดือน


ยังจำสัปดาห์แรกๆได้     พี่เลี้ยงให้เขาเดินตามคอยอธิบายส่วนต่างๆของโรงงาน  พร้อมกับบอกเรื่องเครื่องจักรว่าทำงานอย่างไร     ต่อมา ก็เริ่มตรวจเช็คสภาพระบบ และรายงานผลส่งหัวหน้า   หลังจากนั้นก็เป็นคิวอ่านเอกสารประกอบ ที่ไม่มีภาษาไทย  ยังจำวันเวลาที่หัวหมุน เพราะทั้งศัพท์เฉพาะกับศัพท์ธรรมดา ตีกันมั่ว


ส่วนสัปดาห์สุดท้าย  เก็บเกี่ยวประสบการณ์ให้มากที่สุด  นี่คือสิ่งที่พี่เลี้ยงบอกมา
และนั้นทำให้เขาได้ลองปฏิบัติจริง ลองผิดลองถูกจริง โดยมีรุ่นพี่คอยให้คำนะนำ และคอยเตือนว่าตรงไหนผิด ตรงไหนถูก

เรียกว่า เลือกไม่ผิดเลย ที่มาที่นี่   


“โหยพี่คงคิดถึงต่ายกับแชมแย่เลย  ใครจะเป็นคนเอาขนมอร่อยๆมาฝากพี่อีกล่ะเนี่ย” พี่จอย  นักธุรการร่างท้วมน่ารัก บ่นออกมา

“โชคดีนะ ทั้งสองคน  หวังว่าที่นี่คงจะให้อะไรเราได้บ้างนะ”  พี่ทีม  พี่เลี้ยงของพวกเขาพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม   พลางตบไหล่ให้กำลังจนแทบทรุด

“แล้วเจอกันนะ”  เหล่าผู้ร่วมงาน ที่ทั้งสนิทและเคยคุยกันบ้าง  ต่างก็พากันมาบอกลาเหล่านักศึกษาฝึกงาน ที่ไม่ได้แค่พวกเขา แต่ยังมีนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยอื่นอีกด้วย


“แล้วมึงจะกลับไง”  แชมถามขึ้น ขณะพาตัวเองมายังรถเชฟโรเลตคันคู่ใจ

“กริสมารับอ่ะ  กูว่าจะเอาของกลับเลย” ต่ายบอก พลางนึกไปถึงข้าวของที่ไม่ต่างจากที่ขนมาเท่าไหร่   

“อ่อ  กูว่าจะเอากลับอาทิตย์หน้า  วันนี้กูขอบาย”

“โอเค  ไว้เจอกันที่มอ”

“เออ”


ต่ายเดินกลับไปที่หอพัก ก่อนจะขนของลงมาไว้ข้างล่าง   จากนั้นก็จัดการคืนกุญแจให้ลุงแก่ๆข้างล่าง   แล้วก็มานั่งรอเจ้าเด็กโค่งอยู่หน้าหอ

“นั่งรอใครหรอต่าย” ใบบัว  นักศึกษาฝึกงานสาวที่ทำงานอยู่ฝ่ายออกแบบถามขึ้น พร้อมรอยยิ้มหวาน ที่ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงจะละลายไปแล้ว


แต่ตอนนี้ ...

อย่างที่รู้ๆกัน



“รอ..คนมารับน่ะ”  อยากจะบอกว่าแฟน  แต่กลัวสาวเจ้าเห็นตัวจริงแล้วจะตกใจ  เพราะดูเหมือนใบบัวดูจะชอบมาคุยกับเขาบ่อยๆ  ทั้งๆที่ทำงานอยู่คนละฝ่ายแท้ๆ


“อ้อ งั้นให้ใบบัวรอเป็นเพื่อนไหม”  ไม่รอคำตอบ ร่างเล็กก็ทรุดนั่งข้างๆต่าง พลางยิ้มหวานให้อีกหนึ่งดอก

ต่ายยิ้มแห้งๆให้   จะปฏิเสธก็กลัวจะเสียน้ำใจ  แค่นั่งรอ  คงไม่เป็นอะไรหรอกมั้ง


จะได้มีเพื่อนคุยด้วย


ใบบัวเป็นคนที่มีเรื่องมากมายมาเล่าเสมอ   จนบางที เขาก็อดสงสัยไม่ได้ว่า คนตรงหน้าเป็นหนังสือภาพเคลื่อนที่รึเปล่า

“แล้วก็นะ เราก็--- ”  ปรี๊นน ปรี๊นนนนนน !!


ทั้งสองสะดุ้งกับเสียงแตรรถที่ดังลั่นท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงัด  ต่ายหันไปมองทันที  พอเห็นว่าเป็นรถใคร ก็เผลอยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว  พลางลุกขึ้นตรงไปหาอย่างรวดเร็ว 


ไทกริสเดินลงจากรถ  ใบหน้าหล่อถูกบดบังด้วยแว่นตากันแดดอันใหญ่  เสื้อนักศึกษาที่ไร้เนคไท แขนเสื้อทั้งสองข้างพับขึ้นมาอย่างลวกๆ


ทำไมเห็นแล้ว ใจสั่นจังแฮะ


“ตกใจหมดเลย  รบกวนคนอื่นเขานะ”  ต่ายบ่นออกมา  พลางมองไปรอบๆ  ที่พอมีคนบ้าง แต่ก็ไม่มีใครใส่ใจกับรถคันหรูที่ส่งเสียงซักเท่าไหร่

“กระต่ายชักช้า” เสียงทุ้มนุ่มอันเป็นเอกลักษณ์ของไทกริส เอ่ยออกมา

“ขอโทษ  คุยเพลินไปหน่อย”  ต่ายยิ้มแห้งๆใส่   พลางพาอีกคนมาหาใบบัวที่มองมาทางเขาอย่างงุนงงปนสนใจ

“ขอโทษนะใบบัว  แต่ผมไปก่อนนะ”  โบกมือบ๊ายบายให้ พลางยิ้มอ่อน  ก่อนจะขนข้าวของตัวเองขึ้นรถ  โดนมีเด็กโค่งตัวขาวเดินตามอยู่ข้างหลัง


คิดไปเองรึเปล่า ว่าอีกคนแผ่รังสีแปลกๆออกมานะ


พอขึ้นมาบนรถ ก็ได้รู้ว่า รังสีแปลกๆนั่นก็คือ

รังสีความหึงนั่นแล


 
ใบหน้าหล่อภายใต้แว่นกันแดด ถึงไม่ต้องถอดออกก็รู้ว่า หงุดหงิดแค่ไหน 

แต่ต่ายกลับรู้สึกอารมณ์ดี ที่ได้เห็นอีกคนหึงได้น่ารักขนาดนี้   


ไม่พูดไม่จาตั้งแต่ขึ้นรถ เอาแต่เหยียบคันเร่งท่าเดียว  แต่ด้วยความมหาศาลของรถรานั้น  ทำให้ไม่สามารถเร่งความเร็วของรถได้  เลยได้แต่ฟึดฟัดกับตัวเอง


หากแต่ทางข้างหน้าไม่ได้เป็นอย่างที่ตกลงกันไว้  ต่ายเห็นท่าไม่ดี จึงต้องเอ่ยถามขึ้นมา


“จะไปไหนน่ะ”

“....”


พอเห็นอีกคนไม่ตอบ ก็ได้แต่ถอนหายใจ 

“กริส จอดรถก่อน”  อีกคนยังคงนิ่งเฉย   

ต่ายจึงกดเสียงตัวเองให้เข้มขึ้นกว่าเดิม

“กริส พี่บอกให้จอดก่อน”


ตามคำสั่ง รถหรูค่อยลดความเร็วลง ก่อนจะจอดในลานจอดรถของร้านอาหารร้านหนึ่ง


“เป็นอะไรไป หืม?”  ลูบแก้มอีกคนเบาๆ ก่อนจะถือวิสาสะถอดแว่นกันแดดออก


เผยให้เห็นดวงตาสีน้ำตาลไหม้ที่ดูไม่สบอารมณ์  พร้อมจะระเบิดได้ทุกเมื่อ

แต่อีกคนก็ไม่ได้ระเบิดอารมณ์ใส่เขาแต่อย่างใด


“เรื่องพี่กับใบบัวน่ะเหรอ” แม้จะรู้อยู่แล้ว  แต่ก็เลือกที่จะถาม 

“...”  คุยกับเจ้าเด็กโค่ง ต้องมีความสามารถพิเศษหน่อย  เพราะอีกฝ่ายไม่ค่อยพูด   ยิ่งเวลาอารมณ์ไม่ดีแบบนี้

ก็เงียบ แทนที่จะระบายออกมา

แต่ถึงแบบนั้น  ต่ายก็ชินซะแล้ว  เพราะสีหน้าเจ้าเด็กนี่ มันอ่านง่ายจะตายไป

“ใบบัวกำลังเล่าเรื่องแมวที่บ้านน่ะ  พอฟังแล้วพี่ก็เลยนึกถึงนาย”

“..ทำไม”

“ก็แมวที่บ้าน ไม่ชอบของร้อน ชอบอยู่แต่ในห้องแอร์  ชอบกินน้ำแข็ง  ไม่ค่อยร้อง จะร้องก็แค่ตอนหิว แต่ก็ชอบมาอ้อน  ฮ่าๆ เหมือนนายดีใช่ไหมล่ะ”   


ไทกริสนิ่งไป เมื่อได้ยินประโยคนั่น  ก่อนจะหลับตาลงอย่างอ่อนใจกับคนๆนี้ 


“กระต่ายยิ้มเยอะเกินไป” ไทกริสพูดทั้งๆที่กำลังหลับตา

“ห๊ะ?”  ต่ายงุนงง   คือเขาไม่รู้ตัวว่าแสดงสีหน้าอย่างไร  เพียงแต่เรื่องเล่าของใบบัว ทำให้เขาหัวเราะออกมา แถมยังทำให้เขานึกถึงอีกคนอีก   คงจะเผลอยิ้มออกไปล่ะมั้ง


“หึ  ขอโทษแล้วกันนะ” ต่ายไถ่โทษด้วยการหอมแก้มเด็กโค่งดังฟอด   คนโดนหอมหลุดยิ้มออกมาเล็กน้อย  แต่ก็ทำให้ต่ายรู้ว่า อารมณ์หึงนั้น ถูกจัดการไปแล้ว



ต่ายขมวดคิ้วมุ่น เมื่อภาพตรงหน้าคือ บ้านสไตล์โมเดิร์นขนาดใหญ่ เหมือนที่เคยเห็นประกาศจองตามหน้าหนังสือพิมพ์  เขาไม่เคยมีโอกาสได้มาบ้านใหม่ของไทกริสซักครั้ง เพราะติดฝึกงาน  ส่วนใหญ่ถ้าไทกริสไม่ไปหาเขา เขาก็จะไปหาไทกริสแต่เป็นที่คอนโดแทน


อย่างกับเด็กใจแตกหนีออกจากบ้าน


เคยเห็นแต่ในรูป พอได้มาเจอของจริงแล้ว  ได้อึ้งกับความอลังการกับตัวบ้านที่ไม่ค่อยได้เห็นในเมืองไทยซักเท่าไหร่

แต่ทำไมความรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัว  ใจเต้นแปลกๆ นี่มันอะไรกัน


“จะพามานี่ก็ไม่บอก” เด็กหนุ่มไม่พูดอะไร เพียงแต่ยกยิ้มมุมปาก ก่อนจะจูงมือคนอายุมากกว่าเข้าบ้าน

“มากันแล้วเหรอจ๊ะ  มาๆ  กับข้าวเสร็จพอดี” พอเข้าไปถึงตัวบ้าน ก็พบกับ

เหล่าคนตระกูลเคอดิส     …..


ต่ายได้แต่ยกมือไหว้อย่างนอบน้อม  ผู้ใหญ่แต่ละท่านยิ้มรับ ก่อนจะชักชวนไปที่โต๊ะกินข้าว


ระหว่างทานอาหาร ไม่มีการพูดคุยอะไรใดๆ  ต่างคนต่างสนใจอาหารตรงหน้าของตัวเอง จะมีเพียงคำถามว่า ถูกปาก อร่อยไหม  จากนีรดาเท่านั้น

เมื่อทานอาหารเสร็จ ก็มานั่งล้อมกับที่ห้องนั่งเล่น   ต่ายรู้สึกเหมือนกับตัวเองเป็นตุ๊กตา คอยให้เจ้าเด็กโค่งคอยลากไปโน่นไปนี่

“ฝึกงานเป็นยังไงบ้างคะ น้องต่าย” น้านีเอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม

ต่ายยิ้มรับ พลางนึกไปถึงตอนตัวเองฝึกงาน

“สนุกดีครับ  ต่างกับตอนเรียนจริงๆ”

“ถ้าเป็นแบบนั้นก็ดี  ตั้งใจไว้นะลูก”

จากนั้นพวกเราก็ต่างพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์  ฝ่ายผู้ใหญ่ก็เล่าเรื่องตอนสมัยบริษัททเกิดปัญหา

“จำไว้นะ  ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น  สติสำคัญที่สุด”


ต่ายรับคำ พร้อมด้วยรอยยิ้มราวกับขอบคุณเหล่าคำสอนดีๆที่ให้เขามา


แต่พอสบตากับเจ้าเด็กโค่งตัวขาวอยู่ข้างๆ

ความรู้สึกผิดก็ตีเข้ามาอย่างไม่รู้สาเหตุ 

“เอ่อคือ ทุกๆคนครับ   คือ.... ผมมีเรื่อง...อยากจะบอกกับทุกคนครับ”  ผู้ใหญ่ทั้งหลายต่างจ้องมามาทางเขาด้วยรอยยิ้ม  แต่ถ้าต่ายไม่คิดไปเอง  ดวงตาของทุกคนแวววาว อย่างกับรู้ว่าเขาจะพูดเรื่องอะไร


“คือ.... ผม กับกริส  เรา................



กำลัง............


คบกันครับ!!”   พูดจบก็ก้มหน้า ไม่กล้าสบตาใครๆ 

มีเพียงเสียงสะท้อนเบาๆ เป็นเครื่องยินยันว่าเขาได้พูดออกไปแล้ว


ท่ามกลางหัวใจที่เต้นรัวเร็วอย่างลุ้นระทึก  มือขาวที่อบอุ่นก็เคลื่อนมากุมมือของเขาไว้   ต่ายลืมตาขึ้นมองคนข้างๆ ที่ยกยิ้มจนตาหยี


รอยยิ้มที่นานๆจะได้เห็น   ก่อนอีกคนจะพยักเพยิดไปข้างหน้า 


เหล่าคนตรงหน้า ต่างยิ้มรับ ประหนึ่งรอคำพูดนี้มานาน   

จะมีก็แต่ ...




ชั้นไม่ยอมยกให้หรอก!” ต่ายสะดุ้งเฮือกกับเสียงตวาดที่ไม่เคยได้ยินจากน้านี





“อุ้ย!   ตกใจเหรอ น้าก็อยากจะพูดคำนี้บ้างอ่ะ น้องต่ายอย่าเพิ่งทำหน้าตาแบบนั้นสิจ๊ะ”


“อ่ะ เอ่อ...” 


“จริงๆแล้ว   พวกเรารู้เรื่องนี้มาตั้งนานแล้วล่ะ   เจ้าลูกชายของน้าสารภาพจนหมดเปลือกเลยน๊าว่ารู้สึกกับเรายังไง  นี่น้าก็ลุ้นว่าน้องต่ายจะสนใจลูกชายน้าบ้านไหมน้อออ”


ต่ายหันขวับไปมองคนข้างกายทันที   คนถูกมองตีหน้ามึนใส่


“ละแล้ว น้านี...”

“แหม เรื่องพวกนี้ ยุโรปก็มีถมเถไป อีกอย่างครอบครัวนี้  เคารพความต้องการของทุกคนแหล่ะจ้ะ   ชีวิตเราเกิดมาทั้งที จะให้อยู่แต่ในกรอบที่เรียกว่า มันต้องเป็นอย่างนี้ มันถูกกำหนดมาอย่างนี้  ก็คงจะไม่ได้หรอก    ได้น้องต่ายมาก็ดีเหมือนกัน  จะได้ดูแลเจ้าลูกชายของน้า   ไม่มีใครเหมาะกับหน้าที่เท่ากับน้องต่ายแล้วล่ะ”

“ดูแลกันดีๆล่ะ  ฝากไทกี้ด้วยนะ” ลุงอาธที่นั่งเงียบฟังพวกเรามาตลอดเอ่ยด้วยเสียงสุขุม แต่แฝงไปด้วยความใจดี


ต่อจากนั้น ทุกๆคนก็พูดอะไร ต่ายก็จำไม่ได้  เพราะเขารู้สึกเบลอไปหมด   ได้แต่พยักหน้ารับคำเหล่านั้น   
 

มารู้สึกตัวอีกที ก็ถูกเจ้าเด็กโค่งลากมาที่ห้องนอนซะแล้ว


“กระต่ายร้องไห้ทำไม” เด็กหนุ่มใช้ข้อนิ้วเกลี่ยน้ำตาที่คลอหน่วงอย่างแผ่วเบา

ต่ายส่ายหัว พลางยิ้มให้อีกคน


“ใครร้อง  ไม่มีซะหน่อย”  ว่าแล้วก็สูดน้ำมูกนึงเฮือก ก่อนจะสบตากับเด็กโค่งตัวขาวตรงหน้า

อีกคนหัวเราะในลำคอ  ก่อนจะเคลื่อนหน้าเข้ามาชิด จนปลายจมูกชนกัน

ริมฝีปากอุ่นแนบเข้ากับปากของต่ายอย่างพอดิบพอดี  จูบธรรมดาแต่รู้สึกอบอวลไปด้วยความรู้สึกของคนตรงหน้า



เพราะแบบนี้ไง เขาถึงปล่อยอีกฝ่ายไปไม่ได้

เพราะทำให้รักขนาดนี้ 

เพราะน่าให้รักขนาดนี้

เพราะเป็นคนคนนี้ไง  ถึงปล่อยให้คนอื่นมาดูแลแทนไม่ได้


ถ้าปล่อยไป  ผมคนเป็นที่โง่ที่สุดในโลกแล้วล่ะ ....






END ?!


----------------------------

BEVA TALK :  จะ--จบแล้วค่ะ  แต่ยังมีบทส่งท้าย กับตอนพิเศษที่ยังไม่ได้แต่งอีก     หายไปนานอีกแล้ว  เนื่องจากภาระหน้าที่108ที่ต้องจัดการ  กับสมองที่เริ่มตีบตันคิดอะไรไม่ออก 

เรื่องมันอาจจะดูเรียบง่าย  ที่ครอบครัวทั้งคู่ดูไม่ได้เคร่งครัดเรื่องแบบนี้  บีว่าอยากเสนอครอบครัวที่หัวสมัยใหม่ ยอมรับในสิ่งที่ลูกเป็นมากกว่าค่ะ    จริงๆ แต่แบบมาม่าไม่ได้  มันปวดหัวใจ   อยากให้เรื่องนี้ใสๆ มากกว่า

อิอิ  พล่ามมาเยอะแล้ว   ขอให้เรื่องนี้เป็นเรื่องนึงที่ถูกใจคนอ่านนะคะ 

ขอบคุณทุกกำลังใจ ทุกคอมเม้น ทุกบวกเป็ด ตั้งแต่ตอนแรกจนถึงตอนนี้  ขอบคุณจริงๆค่ะ

เจอกันใหม่ ตอนหน้าน๊าาา

คิดอย่างไรกับตอนนี้ บอกเค้าหน่อยน๊าา :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ Shonteen

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
ง่าาาาาา จบแล้วหรอคะ โธ่ อยากอ่านต่ออีกอ่ะ  :mew2: :mew2:
รอตอนส่งท้ายกับตอนพิเศษนะคะ :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7524
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
 o13 น่ารัก ขอบคุณมากๆค่ะ ตัวละครไม่น่าเบื่อ มีสีสัน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
เริศ !!! รอตอนต่อไปนะ

ออฟไลน์ SOMCHAREE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-2

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
กรี๊ดดดดดดด ชอบบบบบบบบ
ชอบทั้งไทก์ ทั้งต่ายเลยอ่ะ นางน่ารัก >\\\\\\\\<
จบแบบ happy ending จิงๆ

ออฟไลน์ inspirer_bear

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-5
จบแล้วววววว ไวแท้ รออ่านบทสรุปกับตอนพิเศษน้าาาเราชอบๆ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ผ่านฉลุย เลย  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
กริส หึงต่าย  :mew1: :mew1: :mew1:
รอ ตอนพิเศษ  :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
คือ...ง่ายๆอย่างนี้เลยเหรอ!!!!

ออฟไลน์ ่patsaporn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-6
น่ารักทั้งสองครอบครัว แล้วกระต่ายก็ต้องโดนกริสกินตลอดไป~~~ วะฮ่าฮ่า
กระต่ายอย่ายิ้มเยอะเกินไป มีคนหึง โหย น่ารัก

ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ mayomhwan

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ง่ายมากกกก  แต่ก็ไม่อยากให้ดราม่ากะพ่อแม่แหล่ะ  จบแบบนี้ก็ดีละ 5555

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
เรื่องน่ารักดีค่ะ จบแบบนี้ก็โอเคอยู่ไม่ได้รู้สึกติดขัดอะไร
รอบทส่งท้ายกับตอนพิเศษนะคะ
ให้กำลังใจคนเขียนค่ะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด