แอบรัก 22(จบ)
แสงแดดสีทองพาดผ่านผ้าม่านในเช้าของวันใหม่กระทบสองร่างที่นอนกอดก่ายหลังจากถ่ายทอดความรักให้กันทั้งคืน ร่างเล็กหลับสนิท แต่อีกคนกลับตื่นแต่เช้านั่งมองอีกคนในอ้อมกอดด้วยสายตาเอื้อเอ็นดู เสียงน้ำตกไหลกระทบโขดหินให้ได้ยินตลอดเวลาทำให้บรรยากาศในการมาพักผ่อนครั้งนี้โรแมนติกดีเหลือเกิน
หลังจากที่เราสองคนคบกันได้สักระยะหนึ่ง แล้วผมก็พิสูจน์ตัวเองให้ทั้งคุณย่า น้าดาว รวมทั้งน้องมินได้เห็นความจริงใจของผมแล้ว ท่านยอมรับความรักของผมที่มีต่อน้องแล้ว ผมจึงขออนุญาตพาน้องมาพักผ่อนตามลำพัง นี่ถือเป็นครั้งแรกที่เราสองคนได้อยู่ด้วยกันจริงๆ โดยที่ไม่มีคนอื่นมาเกี่ยวข้อง กว่าจะหาที่เที่ยวที่ตรงใจเราทั้งสองคนได้นี่ก็นานพอสมควร จนเราตกลงกันที่จะมาเที่ยวที่เชียงใหม่ ผมจองบ้านพักสุดหรูไว้สำหรับเราสองคน บ้านพักขนาดไม่ใหญ่มากเห็นวิวน้ำตกชัดเจน อีกทั้งยังมีสระว่ายน้ำส่วนตัวอยู่ในที่พักด้วย ผมกะว่าจะเซอร์ไพรส์ให้น้องตกใจ แต่พอมาเห็นที่พักเท่านั้นแหละ คำแรกที่ถามคือราคาห้องพัก ก่อนจะบ่นใหญ่เลยว่าเปลืองเงิน ทำไมไม่พักห้องธรรมดา แต่บ่นได้ไม่นานก็กลายเป็นตื่นเต้นดีใจที่ได้เห็นวิวสวยๆ อีกทั้งบรรยากาศรอบตัวนั้นแสนจะเย็นสบาย ไม่เหมือนกรุงเทพฯ ที่ร้อนจนตับจะแตก
เรามาถึงตั้งแต่เมื่อวานบ่ายๆ จนตอนนี้ยังไม่ได้ออกจากห้องพักไปไหนเลย ผมพึ่งปล่อยให้น้องได้พักผ่อนไปเมื่อตอนตีสองกว่าๆ นี่เอง ร่างเล็กหลับสนิทแขนเรียวยังกอดผมไว้ไม่ยอมปล่อย ผมนั่งมองคนรักด้วยหัวใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข ไม่คิดเลยว่าการยอมรับความรู้สึกตัวเอง แล้วจะทำให้มีความสุขขนาดนี้ ถ้าผมรู้อย่างนี้คงไม่ปล่อยให้เวลาผ่านเลยมาแบบไร้ประโยชน์หลายปีแบบนี้หรอก นั่งฟังเสียงน้ำตกเพลินๆ อีกคนก็ขยับตัวยุกยิกจนผมต้องก้มหน้าลงไปมองคนที่พึ่งตื่น หัวฟูเชียวลูกแมวเหมียวของผม มือเล็กขยี้ตาสองสามทีก่อนที่จะเงยหน้ามองผม
“พี่ตื่นนานแล้วเหรอครับ” ถามทั้งๆ ที่ยังงัวเงีย ตื่นไม่เต็มตา
“สักพักแล้วครับ ถ้ามินง่วงก็นอนต่อเถอะ พี่นั่งอ่านหนังสืออยู่นี่แหละ” ผมอยากให้น้องได้พักผ่อนเต็มที่เพราะเมื่อคืนผมเอาเปรียบน้องทั้งคืน
“นอนด้วยกันสิครับ มินไม่อยากนอนคนเดียว” น้ำเสียงรั้นปนอ้อนนิดๆของคนที่นอนไม่อิ่มสั่งให้ผมนอนเป็นเพื่อน
“พี่ไม่ได้ไปไหน นั่งอยู่บนเตียงนี่แหละครับ จะรอจนกว่ามินจะตื่น”
“ไม่เอา พี่ซองนอนลงเดี๋ยวนี้เลย ทำมินเจ็บขนาดนี้ต้องเชื่อฟังมินรู้ไหม” เดี๋ยวนี้เป็นอะไรไม่รู้ชอบบังคับผม แต่ไม่ใช่บังคับแบบที่ผมไม่ชอบนะครับ เวลาที่อยู่ด้วยกันทั้งๆ ที่เหมือนอยากจะอ้อนผม แต่เขาคงไม่เคยทำเลยกลายเป็นพูดแข็งๆ เหมือนบังคับ แต่ที่จริงคงอยากอ้อนเหมือนคนอื่นเขานั่นแหละแต่ทำไม่เป็นมากกว่า
“ครับๆ นอนแล้ว” ผมล้มตัวลงนอนอีกครั้ง หันหน้าหาร่างเล็กก่อนที่จะสอดแขนเข้าไปรองศรีษะเล็กของอีกคน น้องหันมากอดและซบอกผมตามความเคยชิน
“นอนนะครับ ถ้ามินหลับพี่ก็ต้องหลับ”
“คร้าบบที่รัก” ผมจุ๊บเหม่งไปหลายทีก่อนที่จะเคลิ้มหลับตามอีกคนไป ทั้งๆ ที่คิดว่าตัวเองนอนพอแล้ว แต่มันไม่ใช่เพราะร่างกายผมก็คงเพลียไม่ต่างจากน้องเท่าไหร่หรอก
กว่าที่เราสองคนจะตื่นก็เกือบสิบเอ็ดโมง ข้าวปลายังไม่ได้ทานเลย เมื่อคืนก็โทรสั่งรูมเซอร์วิส เพราะว่าไม่อยากออกไปไหนเสียเวลาปฏิบัติภารกิจ มื้อนี้ก็คงต้องอาศัยรูมเซอร์วิสตามเคย เพราะกลัวน้องตื่นมาแล้วจะหิว เลยสั่งมารอไว้ก่อน
“ไปอาบน้ำได้แล้วครับ หรือว่าจะอาบพร้อมพี่ดี” ผมมองคนที่ลืมตาตื่นมาสักพักแล้ว แต่ยังไม่ขยับตัวไปไปไหนนอนมองเพดานตาปริบๆ ไม่พูดไม่จา
“มินเมื่อยตัวอ่ะ ไม่อยากลุกเลย” น้องคงจะปวดเนื้อปวดตัวเพราะผมจัดหนักยิ่งกว่าวิ่งมาราธอนซะอีก
“เดี๋ยวพี่อาบน้ำให้ หรือว่าจะทานข้าวก่อนแล้วค่อยอาบพี่สั่งไว้ให้แล้ว” ผมเสนอทางเลือกให้คนหน้างอไม่รู้ว่างอนผมรึเปล่าที่ทำรุนแรงแบบนี้
“อาบน้ำก่อน พี่อาบให้มินจริงๆ นะครับ แต่ห้ามทำอย่างอื่นนอกเหนือจากอาบน้ำ” จะพยายามนะครับที่รัก อันนี้คิดในใจ
“ได้ครับ เดี๋ยวพี่เตรียมน้ำอุ่นให้ก่อนจะได้แช่ให้สบายตัว” ผมลุกขึ้นเดินโทงๆ เข้าห้องน้ำไปเสื้อผ้าไม่ได้ใส่ แต่ไม่คิดจะอายหรอกอะไรๆ ก็เห็นมาหมดแล้ว จะมีก็แต่น้องที่ยกมือปิดตาทั้งสองข้าง อีกทั้งแก้มยังแดงเป็นลุกตำลึงสุกอีกต่างหาก
ผมอุ้มน้องไปแช่น้ำอุ่นที่เตรียมไว้เรียบร้อย วางน้องลงในอ่างจากุซชี่อย่างเบามือเพราะกลัวอีกคนจะเจ็บ ก่อนที่จะออกมาจัดการกับเศษซากต่างๆ ที่วางเกลื่อนเต็มห้อง โทรแจ้งแม่บ้านรีสอร์ทให้เข้ามาเปลี่ยนผ้าปูที่นอนให้ด้วยเลยระหว่างที่เราอาบน้ำจะได้ไม่เสียเวลา จัดการธุระด้านนอกเสร็จก็เข้าไปอาบน้ำพร้อมน้องเลย
“ออกไปนานจังเลยครับ มินแช่น้ำจนตัวจะเปื่อยอยู่แล้ว” เสียงเล็กเอ่ยตัดพ้อที่ผมปล่อยให้อาบน้ำคนเดียวซะนาน
“พี่โทรแจ้งทางรีสอร์ทให้มาเปลี่ยนผ้าปูที่นอนให้ครับ” ผมถอดชุดคลุมแขวนไว้ก่อนจะเดินมาหาร่างเล็กที่จ้องผมไม่วางตา ไม่รู้ว่าตะลึงที่เจ้ามังกรยักษ์ของผมมันผงาดไม่ยอมกลับคืนสภาพเดิมหรือว่าอย่างไร ทั้งๆ ที่ผมเสร็จไปหลายรอบแต่มันกลับยังตื่นตัวเหมือนคนที่ต้องการเรื่องเซ็กตลอดเวลา ผมเหมือนคนโรคจิตที่เพียงแค่เห็นร่างเปลื่อยเปล่าของน้อง อะไรๆ ของผมมันก็พร้อมที่จะรบภายในเวลาไม่นาน กับผู้หญิงที่ผมเคยผ่านมาจะกี่คนก็ไม่เคยทำให้ผมคลั่งแบบนี้
“แล้วเสื้อผ้าเราที่กระจายอยู่เต็มห้องล่ะครับ แล้วก็ถะ...ถุงยางด้วย” ริมฝีปากเล็กสั่นๆ เอ่ยถามออกมาทันที ทั้งๆ ที่สายตายังจ้องเจ้าลูกชายผมไม่วางตา เหมือนจะรับรู้ว่าอีกไม่นานคงจะโดนผมจัดหนักๆ สักรอบสองรอบ
“อันนั้นพี่เก็บหมดแล้วครับไม่ต้องกลัว หึๆ”
“พี่บ้า หัวเราะทำไม มินแค่กลัวเขาจะมาเห็นแล้วเอาไปนินทานี่นา” ที่ผมหัวเราะมันคนละเรื่องกับที่น้องคิดครับ
“มันเป็นเรื่องปกติอยูแล้ว ทำงานโรงแรมก็ต้องเจอแบบนี้เป็นธรรมดา”
“แต่มินอายนี่ครับ” ผมลงนั่งเบียดร่างเล็กในอ่างจากุซชี่ขนาดใหญ่ ก่อนจะรั้งร่างเล็กให้มานั่งบนตักผมพร้อมกับกอดอีกคนแน่นจนน้องเผลอทำหน้ามุ่ยใส่ ทำหน้าตาแบบนี้เดี๋ยวก็จับฟัดแรงๆ ซะหรอก แค่นี้ก็จะทนไม่ไหวอยู่แล้ว
"ห้ามทำอะไรมินนะครับ" เหมือนจะเริ่มรู้ชะตากรรม ว่าความปลอดภัยของบั้นทายเริ่มจะมีน้อยลงทุกที สั่งห้ามผมเสียงเขียวเลยทีนี้
"ไม่รับปากครับ เพราะแค่นี้ลูกชายพี่ก็ผงาดจนปวดไปหมดแล้ว" ผมส่งสายตากรุ้มกริ่มใส่คนที่นั่งมองค้อนผมอยู่บนตัก
"ใจคอจะไม่ให้มินได้ออกไปเที่ยวไหนเลยเหรอ ตั้งแต่มาถึงยังไม่ได้ออกจากห้องเลยนะครับ" มันก็จริงครับเพราะตั้งแต่เมื่อวานบ่ายๆ ผมก็จัดหนักๆ ให้น้องจนเกือบเช้า สมควรที่อีกคนจะงอน
"พรุ่งนี้รับรองพาเที่ยวเต็มที่เลยครับ แต่วันนี้ขอให้พี่กินมินก่อนนะคนดี" มือหนาเริ่มลูบไล้หน้าท้องเนียนแผ่วเบา จนคนตัวเล็กขนลุกเกรียวเพราะความสะท้านจากสัมผัสของผม มือเล็กพยายามดันตัวผมออกจากเขา แต่ก็ไม่สำเร็จ ผมจูบซับแผ่นหลังขาวเนียนไปเรื่อยจนอีกคนครางออกมาแผ่วเบาก่อนจะเอ่ยประท้วงไม่เต็มเสียงเท่าใดนัก
"อื้อ...ไม่เอานะครับ"
"ไม่ทันแล้วคนดี พี่ไม่ไหวแล้ว ลูกชายตัวแสบพี่ประท้วงจนปวดหนึบไปหมดแล้ว" มือหนาของผมโอบรอบกายบางค่อยๆ ไล้วนสร้างความเสียวให้อีกคน ก่อนจะมาหยุดอยู่ที่กลางกายเล็กรูดรั้งจนเริ่มขยายเพราะความต้องการของร่างกาย แม้ว่าปากจะบอกว่าไม่แต่ร่างกายก็ไม่เคยปฏิเสธสัมผัสของผมเช่นกัน
"พะ..พี่ซอง มินไม่ไหวแล้วนะ" น้องข่มอารมณ์ที่เกิดขึ้นภายในร่างกายตนเอง
"มินอยากให้พี่ใส่เลยเหรอครับ มีอารมณ์เร็วจัง" ทั้งๆ ที่รู้ว่าร่างเล็กหมายถึงอะไร แต่ผมก็เฉไฉไปอีกเรื่อง
"ไม่ใช่! มินเหนื่อยแล้วต่างหากล่ะ ทำไมหื่นแบบนี้" ร่างเล็กเอี้ยวหน้าหันมาด่าผม แต่กลับถูกผมประกบปากเล็กนั้นเร็วๆ ทันที สอดลิ้นร้อนไล้วนไปตามเรียวลิ้นเล็ก จูบที่เกิดจากความรักของเราสองคน น้องตอบสนองผมได้อย่างไม่ยากเย็น เพราะผมรู้ว่าเขาคงมีความรู้สึกต้องการไม่ต่างจากผม
"ขอนะครับ พี่อยากทำรักกับมินจริงๆ นะ ทำยังไงก็ไม่อิ่มมันทรมานนะคนดี" ผมผละริมฝีปากออกทั้งๆ ที่เสียดาย
"ไอ้พี่บ้า ทำไมตะกละตะกรามแบบนี้" คราวนี้หันมาหาผมทั้งตัวเลยครับ กำปั้นน้อยๆ ทุบอกผมเบาๆ หลายที ปากก็บ่นไปเรื่อย ไม่รู้เลยใช่ไหมว่ากำลังเปิดโอกาสให้เสือร้ายขย้ำเหยื่อได้อย่างง่ายดาย
“ของพี่มันทิ่มก้นมิน พี่ซองลามกที่สุดเลย”
“ยอมรับครับ ทั้งลามก ทั้งหื่นเลย แล้วตอนนี้จะกินมินจริงๆ แล้วเสียเวลามานานแล้ว” ผมขบเม้มติ่งหูเล็กเบาๆ สลับกับลากลิ้นเลียหลังใบหูเล็ก ไล้ลงไปตามซอกคอขาวดูดเม้มจนเกิดรอยสีกุหลาบจางๆ
“ อื้อ...ดะ...เดี๋ยวแม่บ้านโรงแรมได้ยินนะครับ เขายังอยู่ในห้องอยู่เลย”
“ไม่ต้องไปสนใจแล้วครับ เดี๋ยวเขาเปลี่ยนผ้าปูที่นอนเสร็จก็ออกไปเอง”
“ตะ...” ผมไม่ปลอยให้น้องพูดแล้วครับ เพราะน้องชายผมทรมานสุดๆ แล้ว ประกบจูบริมฝีปากเล็กที่กำลังจะพูดอะไรไม่รู้ จูบครั้งนี้ร้อนแรงยิ่งกว่าทุกครั้ง ผมจะทำให้น้องคลั่งจนไม่สามารถปฏิเสธมันได้อีกแล้ว ใช้ความเชี่ยวชาญตลอดระยะเวลาหลายปีสะกดให้อีกคนตอบรับได้โดยง่าย ร่างเล็กเริ่มโอนอ่อนไปตามการนำทางของผม มือน้อยๆ ลูบไล้เม็ดไตของผมจนแข็ง สะโพกเล็กเริ่มขยับถูไถมังกรยักษ์ที่รอจะมุดเข้าร่องสวาทของน้องอยู่รำไร ผมบีบเค้นสะโพกเล็กอย่างมันมือ มันทั้งนิ่มและอวบจนผมอยากจะเข้าไปสัมผัสช่องทางรักซะตอนนี้เลย
“อือ...อ่าส์” น้องครางออกมาทั้งๆ ที่ยังจูบกับผมอยู่
“มิน...อ่าส์...ขึ้นขย่มได้ไหมคนดี พี่อยากให้มินทำให้” เพราะความปรารถนาเข้าครอบงำน้องจึงไม่ปฏิเสธ มือเล็กจับไหลผมทั้งสองขางก่อนจะยกสะโพกกลมกลึงขึ้นจ่อกับเจ้ามังกรยักษ์ที่ชูคอรออยู่ปากทางเข้าถ้ำรักของน้อง
“ไม่เบิกทางก่อนเหรอครับ”
“หึ..มินยะ....อยากแล้ว” น้องจับเจ้ามังกรยักษ์จ่อที่ช่องทางรักของตนเอง ก่อนจะรูดรั้งสองสามที พร้อมกับค่อยๆกดสะโพกลงเบาๆ แต่มันเข้าได้แค่ส่วนหัวช่องทางรักของน้องก็ตอดรัดถี่รัวจนไม่สามารถยัดแก่นกายของผมเข้าไปลึกกว่านี้ได้อีก น้องผ่อนลมหายใจเหมือนกับว่าเป็นการทำให้ร่างกายตัวเองผ่อนคลายลงก่อนที่จะกดสะโพกลงอีกครั้ง คราวนี้เข้าง่ายกว่าเดิมแต่ก็ยังคับแน่นจนน้องชายผมเจ็บ
“ไหวไหมครับ”
“อือ..หวะ..ไหวครับ” น้องขยับลงช้าๆ ก่อนที่จะกดสะโพกลงทีเดียวจนสุด
“อ่าส์...”
“อึก...เจ็บ” ตาเรียวเล็กมีหยดน้ำตาเกาะที่หางตาจนผมต้องใช้นิ้วโป้งเกลี่ยเบาๆ ก่อนจะก้มลงจูบซับหางตา มือก็ลูบสะโพกเบาๆ เพื่อคลายความเจ็บ แม้ว่ามันจะไม่ค่อยช่วยอะไรก็ตาม
“ขยับได้ไหม” น้องไม่ตอบแต่เริ่มขยับสะโพกเบาๆ มือเล็กจับไหลผมแน่น ก่อนจะโยกจังหวะเร็วขึ้นจนผมเสียว กระแทกสะโพกสวนขึ้นมาหลายที
“อ่า...พี่ซองมินเสียว...อือ”
“พี่ก็เสียว อืม... มินเซ็กซี่ชะมัด” สีหน้าน้องตอนนี้ยิ่งทำให้ผมคลั่ง ใบหน้าที่เต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อที่ผุดขึ้นมาเพราะออกแรงเยอะ ผิวขาวๆ เริ่มแดงระเรื่อขึ้นตัดกับร่องรอยสีกุหลาบที่ผมเป็นคนแต่งแต้มไปทั่วลำคอและอกเล็กของอีกคน
“อืม แบบนั้นแหละที่รัก กระแทกแรงๆ เลย เร็วกว่านี้อีก”
“มิน มะ..ไม่ไหวแล้วมินเหนื่อย อืม...” ผมจับน้องหันหลังให้คนตัวเล็กจับขอบอ่างเอาไว้ก่อนจะค่อยๆ สอดแท่งร้อนเข้าไปอีกครั้ง คราวนี้ผมเริ่มซอยถี่รัว และแรงจนน้องครางไม่เป็นภาษา ไม่รู้ว่าเพราะเสียวหรือเจ็บ แต่ผมว่าคงทั้งสองอารมณ์
“อ่า...มินจะเสร็จแล้ว พี่ซองแรงๆ เลยครับ”
“จัดให้ครับที่รัก” ผมกระแทกใส่เต็มแรง จนร่างเล็กโยกคลอนไปตามจังหวะ ก่อนที่จะปลดปล่อยน้ำรักออกมาออกมาทุกหยาดหยด ก่อนที่ผมจะรัวสะโพกเร็วๆ ถึงสวรรค์ตามน้องไปในเวลาไม่นาน
“พี่ซองเอาออกได้แล้ว” ผมค่อยๆ ดึงเจ้ามังกรยักษ์ที่ตอนนี้เริ่มเข้าสู่สภาวะปกติออกมาเบาๆ เพราะกลัวว่าน้องจะเจ็บ
“รักมินนะครับ” ผมดึงน้องเข้ามากอดถ่ายทอดความรู้สึกที่ตนเองมีให้อีกคนได้รับรู้ ก้มลงจูบหน้าผากมนที่ตอนนี้เต็มไปด้วยเหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดขึ้นมาเต็มดวงหน้า
“อืม...มินเจ็บเข่า”
“หึๆ เมื่อกี้ไม่เห็นบ่น”
“พี่ซอง! ทีหลังมินไม่ให้แล้ว” น้องมองผมเคืองๆ แค่แกล้งเฉยๆ เท่านั้นเอง
“ครับๆ ล้อเล่น พี่อาบน้ำให้แล้วไปทานข้าวกันดีกว่า" ผมจัดการอาบน้ำให้น้อง ทำให้แทบจะทุกอย่างก่อนจะอุ้มน้องออกมาแต่งตัว แม้แต่เสื้อผ้าผมก็เป็นคนจัดให้น้องเองกับมือ
หลังจากที่ทานอาหารมื้อเช้าที่ควบมื้อเที่ยงเสร็จ เราสองคนก็ออกมานั่งรับลมเล่นตรงระเบียงที่ยื่นลงไปในน้ำตก น้องหย่อนขาลงไปในน้ำ นั่งทอดอารมณ์ฟังเสียงน้ำตกกระทบโขดหิน ในมือถือหนังสือเล่มหนาออกมาอ่านอย่างตั้งใจ ก้มอ่านอยู่อย่างนั้นเป็นเวลานานนับชั่วโมง ไม่สนใจผมที่นั่งข้างๆ เลยสักนิด ผมลุกขึ้นไปหยิบเครื่องดื่มมายื่นให้ร่างเล็กก็ไม่มีทีท่าจะสนใจ
"น้ำผลไม้ครับ" นั่งลงข้างๆ ก่อนจะยื่นขวดน้ำผลไม้ให้คนที่เอาแต่ก้มหน้าสนใจหนังสือนิยายเล่มใหญ่
"อือ...ขอบคุณครับ" น้องยื่นมือมารับแล้วก็วางมันลงตรงระเบียงข้างๆ ตัว ไม่สนใจเลยสักนิด
ตอนนี้ผมเหมือนอยู่ตัวคนเดียว เมียตัวน้อยก็ไม่สนใจ ไม่รู้ว่าไอ้หนังสือนิยายเล่มหนานี่มันสนุกตรงไหน ยิ่งคิดก็ยิ่งเซ็ง ไม่รู้ว่าจะทำยังไงให้น้องหันมาสนใจผมบ้าง เอาว่ะ! ล้มตัวลงนอนตักเลยนี่แหละ น้องก้มลงมองผมนิดนึงก่อนจะกลับไปสนใจหนังสือตามเดิม ผมเอื้อมมือไปจับมือเรียวมาจูบเล่น ดอมดมไปตามแขนเรียวเล็ก ทำอยู่อย่างนั้นจนคนที่ทำเหมือนไม่สนใจตอนแรกก้มลงมองการกระทำของผมยิ้มๆ
"มีอะไรรึเปล่าครับเนี่ย" ในที่สุดก็สนใจผมวะทีหลังจากที่พยายามอยู่นาน
"หมูน้อยไม่สนใจพี่เลยนี่ครับ อ่านแต่หนังสืออยู่นั่นแหละ" ผมลองเรียกมินแบบที่น้องชายทั้งสองของผมชอบเรียกเขาตั้งแต่เด็กจนโต
"ทำไมเรียกแบบนี้ล่ะ มินไม่อ้วนซะหน่อย" น้องว่าผมเบาๆ แก้มใสเริ่มขึ้นสีระเรื่อ จนผมต้องยิ้มให้กับความน่ารักของคนตัวเล็ก
"อยากเรียกนี่นามันน่ารักดี"
"พี่ห้ามเรียกนะ" มีขู่ผมอีก ตาเล็กๆ เริ่มถลึงขึ้นแต่มันก็โตกว่าเดิมแค่นิดเดียวเท่านั้น
"ทำไมครับ” ผมแกล้งถามทั้งๆ ที่รู้ว่าน้องกำลังอายที่ผมเรียกเขาแบบนั้น
"ไม่รู้อ่ะ มันไม่ชิน"
"เขินมากกว่ามั้ง" ผมล้อน้องมือก็ยังลูบตามลำแขนเล็กเล่นเบาๆ ไปด้วย
"อย่าลูบได้ไหมครับเนี่ย จะนอนก็นอนเฉยๆ” ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ ผมหันเข้า
หาหน้าทองแบนราบไร้ไขมัน ก่อนจะซุกหน้าเข้ากับผิวเนียนๆ จูบซับหน้าท้องเนียนขาวไม่หยุด จนน้องต้องครางประท้วงออกมา
“อือ...มันจั๊กจี้ ฮ่าๆๆๆ พี่ซอง” มือน้อยๆ ยกขึ้นมาดันหน้าผมออก
“ไม่แกล้งแล้วก็ได้ครับ” ผมกลับมานอนหงายส่งยิ้มหวานให้น้องไปที
“ชอบแกล้งมิน" น้องบีบจมูกผมแรงๆ ไม่ยอมปล่อย ผมเงยหน้ามองน้องก่อนจะจับมือเล็กทั้งสองข้างมาวางทาบทับไว้บนอกผมจับมือเล็กไว้ไม่ยอมปล่อยเพราะกลัวว่าจะโดนทำร้ายร่างกาย
“ถ้าไม่รักก็ไม่แกล้งหรอกครับ”
“มิน่าล่ะแกล้งมินตั้งแต่เด็กจนโต จนมินนึกว่าพี่เกลียดมินซะอีก” น้องพูดเหมือนตัดพ้อเมื่อคิดถึงเหตุการณ์ตอนเด็กๆ ของเราสองคน เพราะว่าเรื่องร้ายต่างๆ มันผ่านมาแล้ว เราจึงสามารถนั่งคุยกันแบบนี้ได้ แต่กว่าจะผ่านทุกอย่างมาได้ก็ทำให้ทั้งน้องและผมเจ็บไปตามๆ กัน โดยเฉพาะน้องที่เจ็บเพราะการกระทำของผมมาตลอด
“พี่ขอโทษสำหรับทุกเรื่องที่ผ่านมา” น้องยังก้มมองผมอยู่เหมือนไม่ได้รู้สึกกับเรื่องพวกนั้นแล้ว แต่ผมรู้ว่ามันยังติดอยู่ในใจไม่มีทางที่จะลืมได้หรอก
“มันผ่านมาแล้ว มินไม่เป็นไร ตอนนี้มินมีความสุขมากเลยที่ได้อยู่กับพี่ซอง ถ้าไม่มีเรื่องต่างๆ เกิดขึ้นมินอาจจะไม่ได้อยู่กับพี่ซองแบบนี้ก็ได้นะครับ” น้องลูบหน้าผมเบาๆ เราสองคนสบตากันอยู่อย่างนั้น ไม่ได้พูดอะไรอีก จนน้องต้องเป็นฝ่ายหลบสายตาผมไปเอง
“พี่รักมินจังครับ”
“อยู่ๆ ก็มาบอกรัก อารมณ์ไหนเนี่ยครับ” ผมลุกขึ้นนั่งข้างๆ น้อง ก่อนจะรั้งร่างเล็กเข้ามากอดไว้ ความสุขมันล้นหัวใจจนไม่รู้ว่าจะอธิบายยังไงจริงๆ
“ขอบคุณที่วันนี้มินยังอยู่ข้างพี่นะครับ” ผมผลักร่างเล็กออกเบาๆ ก่อนจะประคองใบหน้าเล็กไว้มองสบตาอีกคนจ้องผมน้ำตาคลอ
“ทำไมต้องมาพูดอะไรซึ้งๆ แบบนี้ด้วย” น้องน้ำตาไหลอาบแก้มจนผมต้องเอื้อมมือไปเช็ดให้
“ร้องใหทำไมเนี่ย เดี๋ยวนี้ขี้แยจังเลย” ผมล้อน้องเพื่อให้คลายสะอื้น ไม่อยากให้เสียบรรยากาศแม้จะรู้ว่าที่น้องร้องให้เพราะมีความสุข แต่ผมไม่อยากเห็นน้ำตาน้องเลยแม้แต่น้อย
“ก็พี่อ่ะ”
“พี่ยังไม่ทำอะไรเลยนะครับ แค่พูดความจริง รักมินจะแย่รู้ไหมครับ”
“มินก็รักพี่ซอง อยากอยู่กับพี่ซองแบบนี้ตลอดไป”
“พี่ก็อยากอยู่กับมิน สัญญาว่าจะดูแลมินและรักมินคนเดียว ถ้าวันข้างหน้ามินต้องร้องให้ พี่จะเป็นคนที่อยู่เคียงข้างและเช็ดน้ำตาให้มินเอง” ผมไม่ได้พูดเพื่อให้น้องรู้สึกดี แต่สิ่งที่ผมพูดออกมาจากใจของผมจริงๆ ไม่ว่าจะอีกกี่ปีผมก็จะยังเป็นพี่ซองของน้องคนเดิม
“ห้ามทิ้งมิน ห้ามนอกใจ ห้ามเหล่สาวและที่สำคัญต้องรักมินคนเดียว”
“หึๆ เด็กอ้วน แค่นี้ก็รักจะตายอยู่แล้วจะให้รักแค่ไหนอีก”
เราสองคนตะกรองกอดกันอยู่อย่างนั้น ปล่อยให้เวลาล่วงเลยไปโดยไม่คิดที่จะสนใจ เพราะความสุขตอนนี้เป็นของเราแค่สองคน จากความทุกข์ที่เกิดขึ้นในอดีตจนแปลเปลี่ยนเป็นความสุขเมื่อเวลาผ่านไป แม้ว่าจะไม่สามารถลืมเรื่องราวเจ็บปวดเมื่อครั้งอดีต แต่ผมก็จะจำไว้เป็นบทเรียน และจะไม่ปล่อยให้มันเกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้นอีกแน่นอน ผมจะดูแลหัวใจของผมให้ดีที่สุด
“ผมสัญญา”
THE END.
***********************
จากตอนที่แล้วคนเขียนต้องขอโทษที่ทำให้นักอ่านหลายคนรู้สึกไม่ดีกับทั้งตัวซองแล้วก็มิน คนเขียนอาจจะคิดน้อยไปหน่อย เพราะคิดว่าเฟียเป็นคนที่ไม่ได้มีพิษมีภัยอะไร ซองเลยพาน้องมาด้วย หรือแม้แต่นักอ่านบางคนที่ผิดหวังกับนิยายของนักเขียนสมัครเล่น ผิดหวังกับตัวละครที่คนแต่งทำให้เป็นแบบนี้ แต่คนเขียนตั้งใจแบบนี้จริงๆ หรือบางทีอาจจะทำให้ผิดหวังที่จบง่ายไปอีก ทำไมเคลียร์ไม่ชัดเจน ขอน้อมรับมันค่ะ
แค่อยากลองทำในสิ่งที่ชอบ จะไม่อ้างเรื่องประสบการณ์เพราะบางคนแต่งเรื่องแรกก็สนุกมากๆ แต่งได้ไม่บกพร่องแต่สำหรับเราไม่ได้มีพรสวรรค์ มีแต่ความตั้งใจเท่านั้น
จบไปอีกเรื่องสำหรับซีรีย์ชุดหลานคุณย่า (แอบรัก) ใจหายเหมือนกันที่เรื่องมาถึงบทสรุป หวังว่านักอ่านทุกคนจะมีความสุขกับนิยายของนักเขียนสมัครเล่นคนนี้ ขอบคุณที่ติดตามมาตลอด ขอบคุณทุกคำติ คำชม ทุกคำวิจารณ์
ขอบคุณที่ติดตาม