[นิยายชุด ดวงใจไร่รัก]พระจันทร์ล้อนที *แจ้งข่าวงานหนังสือ* รัชพล-สิตางศุ์
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก]พระจันทร์ล้อนที *แจ้งข่าวงานหนังสือ* รัชพล-สิตางศุ์  (อ่าน 92871 ครั้ง)

ออฟไลน์ cchompoo

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-4

ออฟไลน์ chancha

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-0

ออฟไลน์ omyim_jjj

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 632
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
โอเค ลืมๆ ไปเถอะว่าอิพี่รัชจบนอกมา 5555555
นางมาดลูกทุ่งมากกกกกกกกก แล้วยังฉุดหลานเค้าไปเฉยๆ งี้อีก
จะรอดกระบอกปืนไหมพี่รัช

ออฟไลน์ farfarneenee

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 365
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
โถ่พี่รัชชช ไปฉุดหลานเขามายังไงได้ไง น่าจะเอาไปตั้งแต่แรกแล้ว 55555

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
แทนที่จะเปิดตัวแบบเรียบๆ พี่รัชดันฟิวส์ขาดมีเรื่องซะกลางงาน (แอบสงสารเจ้าของงาน แม่คุณภู นิดหน่อย)
แต่อย่างนี้ก็(เหมือนจะ)ดีนะ ถ้ารอให้สิตางศุ์พูดเอง คุณย่าคงไม่รู้เรื่องแน่ แถมแม่ก็เข้าข้างสามีเด็ก ต่างฝ่ายต่างก็เอาชนะกัน
อ่านบทนี้แล้วอินสุดๆเลยค่ะ ว่าสิตางศุ์ไม่มีความสุขในบ้านของตัวเอง ตอนเจอพี่รัชในงานนี่อารมณ์แบบ พระเอกขี่ม้าขาวมาแล้ว...
ไม่รู้หลังจากนี้จะยังไงต่อ หวังว่าทั้งสองคนจะฟันฝ่าไปได้อย่างสวยงาม
ให้กำลังใจคนเขียนค่ะ

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1775
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
อิผัวเด็กแม่สิตางศุ์ มันพูดออกมาได้ไง
อย่าว่าแต่พี่รัชเลย อิชั้นเองก็ฟิวส์ขาดค่ะ
 :katai1:

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
พี่รัชเร็ว แรง ทะลุนรกมาก!

ออฟไลน์ yisren.

  • #คนที่ฉันไม่เคยลืม
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 830
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-4
อะไรก็ฉุดพี่รัชแกไม่อยู่แล้วล่ะ แต่ดันมาโพล่งฟามลับแบบนี้ สงสารสิตาง แต่ก็ยินดีด้วยกับสิตาง เพราะชาติทั้งชาติ คงไม่กล้าบอกเอง แรง เร็ว ทะลุนรกมากพี่รัช บ้านนอกสุด 5555555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
พี่รัชใจร้อนหลายยย ทีนี้จะแก้ปัญหายังไงเนี่ยยย  ขุ่นย่าไม่ยอมแน่

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ Speirmint28

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 127
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-1
บทที่ 27





รัชพลลากสิตางศุ์ออกมาจากงานด้วยอารมณ์โมโหสุดขีด ทำไมนะ ทำไมสิตางศุ์ต้องทนอยู่ในสังคมแบบนี้มาตั้งนาน ยิ่งคิดยิ่งโมโห โกรธทุกคนที่ทำให้สิตางศุ์ต้องทุกข์ใจแบบนี้ ทั้งๆที่เป็นคนในครอบครัวแท้ๆ แต่กลับใช้สิตางศุ์เป็นเครื่องมือในการเอาชนะกัน





“หาให้ทั่ว” เสียงของชัชดังอยู่ไกลๆ ทั้งรัชพลและสิตางศุ์หันไปมองอย่างตกใจ





“พี่รัช คนของคุณย่า” สิตางศุ์จับมือรัชพลไว้แน่น คุณชัชกำลังตามตัวเขาอยู่ รัชพลต้องแย่ๆแน่ๆถ้าเกิดถูกจับได้





รัชพลไม่พูดอะไรแต่ดึงร่างบางให้หลบออกไปตรงทางเชื่อมของโรงแรมแล้วค่อยดันทั้งตัวเองและสิตางศุ์ให้ซ่อนตัวอยู่ในมุมเล็กๆซึ่งเป็นพุ่มไม้ประดับของทางโรงแรม ร่างสูงกดหัวสิตางศุ์ให้ก้มลงต่ำแล้วใช้ตัวเองบังร่างเล็กนั้นไว้ กลัวว่าเสื้อสีขาวของสิตางศุ์นั้นจะมองเห็นได้ง่ายในที่มืด





“ไม่ต้องกลัวนะสิตางศุ์” รัชพลปลอบคนใต้ร่างที่ตัวสั่นเทา เสียงรองเท้าของการ์ดหลายคนยังคงดังวนเวียนอยู่บริเวณนั้นไม่หายไปไหน





“หาเจอรึยัง!” เสียงตวาดลั่นนั้นทำให้สิตางศุ์สะดุ้งจนรัชพลต้องกอดร่างเล็กแน่น เสียงของคุณหญิงพิมล แค่ฟังก็รู้ว่าโมโหมากแค่ไหน





“ยังไม่เจอครับ” ชัชตอบ





“ไม่เจอได้ยังไง ให้คนไปดูกล้องวงจรปิด เจอแล้วมาบอกฉันด้วย แล้วอย่าเพิ่งทำอะไรนายรัชพลนั่น มันเป็นหลานของคุณริลณี ฉันไม่อยากมีปัญหา” คุณหญิงพิมลสั่ง แล้วเสียงร้องเท้าส้นสูงก็ดังไกลออกไปพร้อมกับชัชและคนอื่นๆ





รัชพลและสิตางศุ์ถอนหายใจอย่างโล่งอกก่อนที่รัชพลจะค่อยๆโผล่ออกมาจากพุ่มไม้แล้วช่วยดึงสิตางศุ์ออกมาด้วย เมื่อบริเวณนั้นไม่มีใครอยู่ พ่อหนุ่มบ้านไร่ก็จับมือคนรักวิ่งอีกครั้ง ทั้งสองคนวิ่งออกมาทางหลังโรงแรมที่เป็นถนนสายเล็ก มองหารถอยู่นานจนมีรถสองแถวผ่านมาคันนึง รัชพลรีบพาสิตางศุ์ขึ้นไปอย่างไม่รีรอ





เมื่อรู้ว่าตัวเองพ้นเขตโรงแรมแล้วสิตางศุ์ก็ถอนหายใจพร้อมกับเอนตัวไปซบรัชพลอย่างอิดโรย เรื่องวันนี้มันเกิดขึ้นเร็วมาก เร็วซะจนเขาไม่ทันตั้งตัวอะไรทั้งนั้น แต่ที่แน่ๆตอนนี้คุณย่ารู้เรื่องแล้ว แม่ของเขาต้องแย่แน่ๆ





ถึงสิตางศุ์จะไม่เคยสัมผัสความรักจากมารดา แต่ว่าเขาอยากให้มินตราเดือดร้อน เพราะเธอก็คือแม่ของเขา มินตรานั้นไม่เคยปฏิบัติกับเขาเหมือนแม่ทั่วไปก็จริง แต่เขาเชื่อว่ามินตราไม่ได้เกลียดเขาขนาดนั้น อาจจะเป็นเพราะมินตรามีเขาตอนที่ยังไม่พร้อมและด้วยปัจจัยหลายๆอย่างทำให้เธอเป็นนคนอย่างนั้น






สิตางศุ์เข้าใจ แต่บางครั้งเขาก็แอบน้อยใจที่มินตราไม่เคยสนใจเขาเลย เขาไม่อยากให้คุณย่าต้องทำร้ายเธอ คุณย่าทำร้ายมินตราได้ เขารู้ ทุกคนรู้ แต่เขาเองก็ห้ามคุณย่าไม่เคยได้อยู่ดี





รัชพลรู้ดีว่าตอนนี้สิตางศุ์รู้สึกแย่มากแค่ไหน เขาทำได้เพียงโอบกอดร่างน้อยนั้นไว้แล้วลูบไหล่เบาๆเพื่อปลอบโยนอีกคน






สิตางศุ์ต้องเข้มแข็งแค่ไหนถึงได้ทนยู่ในสภาพแวดล้อมแบบนี้มาได้ ถึงแม้ว่าจะมีทุกอย่างครบครัน มีบ้าน มีรถ มีชื่อเสียง ได้รับการศึกษาดีๆ แต่กลับไม่มีความสุข






หากมองในมุมเขาแล้ว แม้ว่ารัชพลจะไม่มีแม่ มีแค่พ่อที่เป็นชาวไร่ทำงานดากแดดทุกวัน แต่เขาก็ยังมีความสุข มีอ้อมกอดของพ่อ มีรอยยิ้มของน้องชาย มีเพื่อนแท้อย่างตะวัน






แล้วสิตางศุ์ล่ะ สิตางศุ์ต้องผ่านวัยเด็กมาจนถึงทุกวันนี้ด้วยน้ำตา มันทำให้ช่วงเวลาหนึ่งของคนคนหนึ่งไม่ได้เรียนรู้สิ่งที่เรียกว่าความสุข






แต่ต่อจากนี้ เขาจะเป็นคนหยิบยื่นความสุขนั้นให้สิตางศุ์เอง ความสุขที่คนในครอบครัวให้สิตางศุ์ไม่ได้





รถสองแถวแล่นไปตามทาง จากถนนเส้นเล็กมุ่งสู่ถนนใหญ่ แสงไฟยามค่ำคืนของเมืองหลวงสะท้อนเข้าไปในดวงตาสีหม่นของสิตางศุ์ ลมที่พัดโกรกมานั้นทำให้ปลายผมพลิ้วไหว สองร่างกอดกันมองไปยังผืนฟ้าที่มีแต่แสงไฟที่กลบแสงดาวจนหมดนั้น





...คิดถึงไร่น้ำริน





ครึ่งชั่วโมงผ่านไปรถคันเก่าก็มาจอดอยู่หน้าโรงแรมขนาดเล็ก รัชพลพาสิตางศุ์เดินเข้ามาในห้องหลังจากได้กุญแจมาแล้ว เขาคิดว่าคืนนี้ควรตั้งหลักก่อน เรื่องอย่างอื่นจะเป็นยังไงก็ค่อยว่ากันอีกที ตอนนี้ทั้งเขาและสิตางศุ์เหนื่อยจนแทบจะเป็นบ้า





“เดี๋ยวสิตางศุ์ไปอาบน้ำก่อน เนื้อตัวเลอะเทอะไปหมด” เสื้อสีขาวของสิตางศุ์แอบเปื้อนดินและเศษใบไม้หลังจากไปซ่อนตัวในพุ่มไม้มา






สิตางศุ์ก้อมมองดูตัวเอง ก่อนจะพยักหน้าแล้วทำตามที่รัชพลบอก เมื่อร่างบางเข้าไปอาบน้ำเรียบร้อยรัชพลจึงถอดสูทด้านนอกออกแล้วพาดมันไว้กับเก้าอี้ไม้ตัวเดียวภายในห้องก่อนจะทิ้งตัวลงนอนบนเตียงนั้น





รัชพลคิดหนัก เขาพาสิตางศุ์ออกมาแบบนี้ คุณหญิงพิมลไม่มีทางพอใจแน่ แต่เขาทนไม่ได้ ทนเห็นสิตางศุ์อยู่อย่างนั้นไม่ได้ ต่อจากนี้ไม่ว่าอะไรจะเกิด มันก็ต้องเกิด มาถึงขั้นนี้แล้วก็ต้องเอาให้สุด

















อีกด้านหนึ่งในงานของคุณอรนุช หลังจากเกิดเหตุการณ์วุ่นวายไม่นานงานก็กับมาดำเนินต่อเหมือนเดิม คุณอรนุชและภูวดลต้องช่วยกันจัดการและอธิบายให้คนในงานเสียยกใหญ่





คุณหญิงพิมลและริลณีออกมาข้างนอกงานแล้วมาคุยกันอยู่ข้างนอก ริลณีหน้าซีดสลับแดง ทั้งโมโหรัชพลและกลัวว่าคุณหญิงพิมลจะโกรธจนทำอะไรหลายชายเธอ อัคคีกับเพลิงนภาต้องคอยพัดวีอยู่ไม่ห่าง





“นายรัชพลทำแบบนี้ถือว่าเป็นการหยามหน้าฉันมาก กล้าดียังไงมาพาตัวสิตางศุ์ไปแบบนี้” คุณหญิงพิมลพูดด้วยน้ำเสียงที่โมโห นั่นทำให้ริลณีหน้าเจื่อนลง รู้สึกขายหน้าไม่น้อยที่พ่อหลานายตัวดีมาทำแบบนี้





“ฉันต้องขอโทษแทนตารัชมันด้วย แต่ตารัชมันก็รักน้องจริงๆนะพิมล” ริลณีค่อยๆพูดเพื่อให้คุณหญิงพิมลอารมณ์เบาลง





“ถ้าฉันไม่เห็นว่าเป็นหลานเธอนะ ฉันจัดการไปนานแล้ว มันใช่เรื่องมั้ยที่อยู่ๆหลานเธอมาพาสิตางศุ์ออกไปแล้วบอกว่าที่ทำไปเพราะรักอย่างนั้นอย่างนี้” คุณหญิงพิมลยังคงอารมณ์เดือดอย่างต่อเนื่อง






นี่มันเรื่องบ้าบออะไรกัน ตั้งแต่สิตางศุ์ไปอยู่ที่ไร่น้ำรินอะไรนั่นกลับมาก็มีแต่เรื่องทั้งนั้น และที่สำคัญยังไปคบกับรัชพลในเชิงชู้สาวแบบนั้นอีก แล้วจะให้เธอยอมรับได้ยังไง






นายรัชพลอะไรนั่นจะรักสิตางศุ์จริงรึเปล่า ใช่ว่าจะมาหลอก แล้วถ้าหลานเธอต้องไปตากแดดตากลมในไร่ล่ะ แค่คิดเธอก็จะบ้าตาย เธอเลี้ยงสิตางศุ์มาอย่างดี อยู่ๆจะให้ไปคบกับชาวไร่ชาวสวนตากแดดตัวดำแบบนั้นน่ะนะ






“แต่สิตางศุ์เองก็เต็มใจที่จะไปกับตารัชไม่ใช่เหรอ และอีกอย่างนึงนะพิมล เธอเคยถามความต้องการของสิตางศุ์จริงๆรึเปล่า ไม่ใช่มายัดเยียดความคิดให้สิตางศุ์แบบนี้” ริลณีพยายามคุยด้วยเหตุผล




ไม่คิดว่าชีวิตนี้จะต้องมีพูดจาแบบนี้กับคุณหญิงพิมลที่ใครๆก็ไม่กล้าหือ แต่มาถึงขั้นนี้แล้ว หลานของเธอก็ไปฉุดหลานเค้าแบบนั้น ไหนๆก็ไหนๆแล้ว เธอจะขอช่วยพ่อหลานชายตัวดีให้มันสุดๆเลยแล้วกัน





“นี่เธอว่าฉันเหรอริลณี” คุณหญิงพิมลไม่พอใจกับคำพูดนั้น เหมือนเธอกำลังถูกสั่งสอนจากเพื่อนสมัยเรียนคนนี้ กล้าดียังไงมาสอนเธอ





“ก็ใช่น่ะสิ เธอหัดฟังความคิดเห็นคนอื่นบ้าง ใช่ว่าจะเอาตัวเองเป็นใหญ่ไปซะหมด ไปกำหนดชีวิตคนอื่นแบบนั้นแล้วเป็นยังไงล่ะ ฉันไม่อยากจะพูดหรอกนะพิมล แต่เธอดูครอบครัวเธอสิ ลูกชายเธอ ลูกสะใภ้เธอ หลานเธอ ใครมีความสุขจริงๆบ้าง ตอนนี้สิตางศุ์โตแล้วนะ เธอจะไปบังคับเค้าไม่ได้แล้ว ให้เค้าได้เลือกทางเดินของตัวเองบ้าง”





แต่ไหนแต่ไรมาแล้วที่คุณหญิงพิมลไม่เคยฟังใคร อาจจะเป็นเพราะเธอต้องรับช่วงต่อหลังจากที่สามีเสียไปเมื่อยี่สิบกว่าปีที่แล้ว มันเลยทำให้เธอกลายเป็นคนแข็งกร้าวและบงการชีวิตคนอื่นไปเสียทั้งหมดแบบนี้ และผลมันก็ตกไปที่ลูกและหลานของเธอทั้งนั้น






อนันต์ต้องเข้าทำงานตั้งแต่อายุยังน้อย แต่งงานทั้งๆที่ยังเรียนไม่จบปริญญาโทด้วยซ้ำ ความรักที่มีต่อมินตรากลายเป็นเฉยชาเพราะไม่มีเวลาดูแลครอบครัว สุดท้ายก็บ้านแตก สิตางศุ์กลายเป็นเด็กที่เก็บตัวเงียบไม่พูดไม่จา ไม่เคยบอกความต้องการให้ใครรู้ ได้แต่ทำตามคำสั่งของคุณย่า






วันนี้ วันที่สิตางศุ์อยากเลือกชีวิตเอง ผลมันเลยออกมาเป็นแบบนี้ พิมลไม่ยอมให้ใครหลุดออกไปจากเส้นทางที่เธอสร้างไว้






“ที่ฉันทำแบบนี้เพราะฉันรักสิตางศุ์ สิตางศุ์ต้องมีชีวิตที่ดี และอีกหน่อยเขาจะเป็นเหมือนพ่อของเขาและเป็นเหมือนฉัน” คุณหญิงพิมลแอบหน้าชาเล็กน้อยที่โดนต่อว่าแบบนั้น แต่เธอก็ยังคงเชิดหน้าและยึดมั่นใจสิ่งที่ตัวเธอคิด






“อะไรคือคำว่าชีวิตทีดีของเธอ การมีอำนาจ การมีคนใต้บังคับบัญชามากมาย การมีเงินทอง อย่างนั้นเหรอ นั่นมันคือชีวิตที่ดีในความคิดของเธอเองรึเปล่า ไม่อย่างนั้นหลานเธอคงไม่หนีไปอยู่ในป่าในเขาทำงานในไร่แบบนั้นหรอก”






ริลณีเองก็เริ่มจะไม่พอใจพิมลแล้ว คนอะไรไม่เคยจะฟังคนอื่น เอาความคิดตัวเองเป็นใหญ่ คิดว่ามันดีทั้งๆที่มันแย่มาก ลูกหลานเป็นยังไงไม่เคยจะสนใจ ต้องเป็นคนยังไงถึงได้เติบโตมาเป็นคนแก่ที่เห็นแก่ตัวแบบนี้ รั้นยิ่งกว่าพ่อลูกเขยตัวดีของเธอซะอีก






“อย่างน้อยอยู่กับฉันก็ยังดีกว่าการอยู่ในไร่กับหลานเธอ” คุณหญิงพิมลมองหน้าริลณีอย่างไม่สบอารมณ์






“เรื่องนี้คงต้องถามสิตางศุ์แล้วล่ะ แต่ฉันมั่นใจว่าสิตางศุ์อยู่กับหลานฉันมีความสุขกว่าอยู่กับเธอแน่นอน!” ริลณีลุกพรึบด้วยอารมณ์ที่พุ่งปรี๊ด





เธอโมโหแล้ว โมโหมากด้วย ทำไมพิมลถึงได้เป็นคนอย่างนี้นะ รู้อย่างนี้ตั้งแต่แรกจะยุให้ตารัชฉุดไปทำเมียตั้งแต่แรก ไม่ต้องมาค่อยๆพูดค่อยๆจาแบบนี้หรอก เพราะยังไงพิมลก็ไม่ฟังอยู่แล้ว






“ตาอัค ยัยเพลิง กลับ! ย่าเบื่อจะคุยกับคนพูดไม่รู้เรื่อง” หญิงชราคว้ากระเป๋าราคาแพงของตัวเองมาถือก่อนจะเดินนำหลานทั้งสองคนออกไป ทิ้งให้พิมลตบโต๊ะเสียงดังอย่างไม่พอใจ





“แล้วเราจะได้เห็นดีกัน!” พูดจบก็ลุกขึ้นแล้วเดินออกไปจากตรงนั้นอย่างไม่สบอารมณ์

















ภายในห้องเล็กที่ตอนนี้มีสิตางศุ์และรัชพลกำลังนั่งทานข้าวกล่องที่รัชพลลงไปซื้อมาให้ขณะที่สิตางศุ์กำลังอาบน้ำพร้อมด้วยน้ำเปล่าแค่สองขวดเท่านั้น ยังดีที่เอากระเป๋าตังค์และโทรศัพท์ติดตัวมาด้วย บรรยากาศภายในห้องเล็กๆนี้ดูจะอึมครึมไม่น้อย สาเหตุก็เป็นเพราะสิตางศุ์ที่ยังคงทำหน้าหงอย รู้สึกแย่กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น






“ข้าวเลอะหมดแล้ว” รัชพลเอื้อมมือไปปัดเม็ดข้าวที่ติดแก้มเนียนนั้นออก





สิตางศุ์รีบยกมือขึ้นลูบแก้มตัวเอง แอบอายเล็กน้อยที่มัวแต่เหม่อแล้วทำอะไรเซ่อซ่าออกไป






“ไม่ต้องคิดมากหรอกสิตางศุ์ เรื่องมันจะเกิดมันก็ต้องเกิด พี่อาจจะทำอะไรหุนหันพลันแล่นไปหน่อยที่พาสิตางศุ์หนีมาแบบนี้ แต่นั่นก็เพราะสิตางศุ์ทั้งนั้น พี่ไม่อยากให้สิตางศุ์ต้องเป็นแบบนี้ รอยยิ้มเหมาะกับสิตางศุ์ของพี่มากกว่า” รัชพลวางกล่องข้าวลงแล้วรวบมือทั้งสองข้างของอีกคนมาจับแน่น






ช่วงเวลานี้รัชพลเองก็คิดหนักไม่ต่างจากอีกคน เพราะปัญหาทั้งหมดเขาเป็นคนสร้างขึ้นเองทั้งนั้น แต่เขาก็ยินดีที่จะรับผิดชอบเองทั้งหมด





“ผมกลัว กลัวว่าคุณย่าจะทำอะไรพี่ ทำกับท่านแบบนี้มันไม่ดีเลย ท่านต้องโมโหมากแน่ๆ”





“ย่าของสิตางศุ์ทำอะไรพี่ไม่ได้หรอก ไม่ต้องกลัว ไม่ต้องคิดมาก เชื่อพี่สิ” ทั้งๆที่รัชพลก็ไม่รู้ว่าสุดท้ายแล้วเรื่องนี้จะออกมาในรูปแบบไหน แต่ตอนนี้เขาต้องทำใจดีสู้เสือไว้ก่อน ถ้าเกิดเขาท้อสิตางศุ์จะยิ่งท้อตาม






“กินข้าวต่อเถอะ เย็นหมดแล้ว” รัชพลยิ้มให้อีกคน สิตางศุ์ยิ้มน้อยๆก่อนจะกินข้าวต่อ






หลังจากกินข้าวเสร็จรัชพลก็เข้าไปอาบน้ำ ออกมาก็เจอสิตางศุ์กำลังนั่งอยู่อีกฝั่งของเตียงด้วยท่าทางที่เหม่อลอย ร่างสูงค่อยๆเข้าไปสวมกอดเอวบางจากด้านหลังแล้วจูบที่เรือนผมนุ่มนั้นหนึ่งที สิตางศุ์สะดุ้งโหยงแล้วหันมากอดตอบ





“แผลเป็นยังไงบ้าง ยังไม่หายดีไม่ใช่เหรอ” รัชพลถาม





“ตอนนี้โดนน้ำได้แล้วครับ แผลข้างนอกก็ปิดแล้ว แต่ยังเจ็บอยู่ แต่ก็ไม่มากเท่าตอนแรกๆ” สิตางศุ์บอก เรื่องแผลโดนยิงมีแต่รัชพลนี่แหละที่คิดจะเป็นห่วงถามว่ามันหายรึยัง คนอื่นไม่เคยคิดจะสนใจเขาเลย คิดแค่ว่าเขาออกจากโรงพยาบาลมาก็คือหายแล้ว





“พี่ขอดูหน่อยได้มั้ย”






“ดะ...ดูอะไรเล่า” สิตางศุ์เบือนหน้าหนี ใบหน้าเห่อร้อนพร้อมกับกระชับเสื้อคลุมไว้แน่น มันอาจจะใช่ที่รัชพลแค่อยากจะดูแผล แต่เป็นเขาเองที่คิดไปไกลเสียแล้ว





“พี่แค่ดูแผล ไม่ได้ดูอย่างอื่นเสียหน่อย” รัชพลอมยิ้มเมื่อรู้ว่าสิตางศุ์นั้นคิดอะไรอยู่ ไม่อย่างนั้นคงไม่เขินจนม้วนหนีไปแบบนี้หรอก





“ไม่ต้องดูหรอก มันใกล้จะหายแล้ว ดึกขนาดนี้ ผมว่าเรานอนกันเถอะ” สิตางศุ์แก้เขินด้วยการล้มตัวลงนอนแล้วหันหลังให้รัชพล เขาไม่อยากเห็นหน้ารัชพลตอนนี้ มันอายเกินกว่าจะสบสายตากรุ้มกริ่มของคนตัวโต





รัชพลหัวเราะเบาๆกับท่าทางนั้นของสิตางศุ์ก่อนจะล้มตัวลงนอนตามแล้วกอดอีกคนไว้ อ้อมแขนแกร่งกระชับร่างของสิตางศุ์เข้าแนบกาย แผ่นหลังที่มีเพียงแค่เสื้อคลุมที่ทางโรงแรมจัดให้แนบไปกับแผ่นอกของรัชพล





พ่อเลี้ยงรัชยิ้มแล้วจูบที่ท้ายทอยของสิตางศุ์ เขาเพิ่งจะเข้าใจวันนี้ว่าการมีใครซักคนที่เรารักมากๆและอยากปกป้องเขาไปตลอดชีวิตมันเป็นยังไง เขาอาจจะไม่ใช่คนที่ดีที่สุดของสิตางศุ์ แต่เขาจะเป็นคนที่ดีพอที่จะดูแลสิตางศุ์คนนี้





“ฝันดีนะครับ” เสียงนั้นดังอย่างแผ่วเบาในห้องเล็กกลางเมืองใหญ่ของวันที่เกิดเรื่องราวมากมาย



















เช้านี้ไร่น้ำรินต้องวุ่นวายอีกรอบ เมื่ออยู่ๆบุรินทร์ก็ร้อนรนเพราะต้องไปขึ้นเครื่องแต่เช้า ด้วยความที่เพิ่งได้รับโทรศัพท์จากหลานสาวเมื่อคืนนี้ เพลิงนภาโทรมาด้วยน้ำเสียงที่ตื่นตระหนก บอกว่าลูกชายคนโตของเขาไปสร้างเรื่องไว้ที่กรุงเทพฯ แล้วยังพาลูกพาหลานเค้าหนีอีก





“พี่เราเนี่ยนะริน จริงๆเลย พ่อบอกให้ค่อยเป็นค่อยไป ไปสร้างเรื่องจนได้” พูดไปก็มัดสายรองเท้าไป





ตอนแรกที่คิดจะห้ามรัชพลคบกับสิตางศุ์นั้นตอนนี้กลับกลายเป็นว่าบุรินทร์ต้องไปจัดการให้พ่อลูกชายตัวดีสมหวังซะอย่างนั้น ก็แน่ล่ะ เล่นบุกไปถึงนู่นแล้วยังไปพาลูกหลานเค้าหนีไปแบบนั้นอีก รัชพลถ้าจริงจังกับอะไรซักเรื่องแล้วใครก็ห้ามไม่ได้ทั้งนั้น





“นี่ถ้าโดนยิงตายขึ้นมาแม่ไม่มาหักคอพ่อหรือไง” นายเหนือแห่งไร่น้ำรินคว้ากระเป๋าเดินทางขึ้นพาดบ่าก่อนจะตรงไปที่รถ ปากก็บ่นไม่หยุดโดยมีภุมรินเดินตาม






“ฝากบอกพี่รัชด้วยนะพ่อ จะทำอะไรต้องใจเย็นๆ ใจร้อนเป็นวัยรุ่นไปได้” ภุมรินเองก็เหนื่อยใจกับพี่ชายคนนี้เหมือนกัน อะไรจะขนาดนั้น ย่าของสิตางศุ์ยิ่งหวงอยู่ ไปทำแบบนั้นเค้าจะยอมง่ายๆหรือไง





“ไม่ทันแล้วล่ะลูกเอ้ย พี่เราน่ะมันใจเร็ว คิดยังไงก็ทำอย่างนั้น พ่อไปละ ดูแลบ้านด้วย ให้ตะวันมาอยู่ด้วยก็ดี” บุรินทร์พูดก่อนจะโยนกระเป๋าขึ้นรถแล้วเดินไปนั่งข้างคนขับซึ่งมีนพประจำที่อยู่ตรงตำแหน่งคนขับอยู่แล้ว





“โชคดีนะพ่อ” ไม่รู้ว่าคำอวยพรของลูกชายคนเล็กจะได้ผลมากแค่ไหน ถึงคราวต้องลงกรุงไปชิงเมียให้ไอ้ลูกชาย เหมือนตอนที่เขาไปพาแม่ของรัชพลกับภุมรินมาไม่ผิด เชื้อไม่ทิ้งแถวจริงๆ





แต่ไปคราวนี้จะได้ลูกสะใภ้หรือลูกตะกั่ว บุรินทร์ก็ยังไม่แน่ใจ














**************************************************************************










ตึ่งๆ มีเรื่องแล้ว  :katai1:

ออฟไลน์ booboos

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0

ออฟไลน์ chancha

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-0

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1775
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
เอาใจช่วยพี่รัช
ขอให้คุณพ่อรอดพ้นลูกปืน และได้ลูกสะใภ้กลับมาน้า

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
โอ้ย ทำไมเราขำคุณพ่อมาก แค่บรรยาย ออกมานิดเดียวแต่ขำอ่ะ

ออฟไลน์ farfarneenee

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 365
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Speirmint28

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 127
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-1
บทที่ 28




แท็กซี่คันหนึ่งแล่นมาจอดที่หน้าบ้านจิระมนตรี หลานชายคนรองของเจ้าของบ้านเดินจับมือสิตางศุ์ให้เข้าไปข้างใน เช้านี้รัชพลรีบตื่นและพาสิตางศุ์มาที่นี่ก่อน เขาไม่อยากพาสิตางศุ์ไปที่อื่น ไม่อย่างนั้นคงหนีไม่จบไม่สิ้น เขายินดีจะคุยกับย่าของสิตางศุ์ตรงๆ ถ้าเธอยอมน่ะนะ





“ตารัช!” พอเข้ามาก็เจอริลณีกอดอกยืนรออยู่ก่อนแล้ว สีหน้าของริลณีทำให้รู้ว่าเธอไม่พอใจแค่ไหน





“สวัสดีครับคุณย่าณี” สิตางศุ์ยกมือขึ้นไหว้ ริลณีรับไหว้นั้นก่อนจะเดินไปนั่งที่โซฟา สิตางศุ์กับรัชพลก็ไปนั่งตาม





อัคคีกับคุณรุจไปทำงานแล้ว เพลิงนภาก็ไปเรียนแต่เช้า เหลือเพียงแค่ริลณีและพิมพ์นภาที่อยู่บ้าน ผู้อาวุโสกว่าสองคนมองสิตางศุ์และรัชพลอย่างตำหนิ โดยเฉพาะพ่อหลานชายที่ไปฉุดหลานเค้ากลางงานแบบนั้น





“มีอะไรจะพูดมั้ยตารัช” ริลณีพูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งเครียด รัชพลกับสิตางศุ์ก้มหน้าลงอย่างสำนึกผิด





“ผมรักสิตางศุ์ครับ” รัชพลพูดกับยายของตัวเอง





“รักสิตางศุ์แต่รัชก็ไม่มีสิทธิ์ไปทำแบบนั้น ย่าของสิตางศุ์ไม่พอใจมากแค่ไหนรัชรู้มั้ย ทำไมไม่ค่อยๆเป็นค่อยๆไป ทำแบบนั้นเค้ายิ่งไม่พอใจรัช” เป็นรอบที่เท่าไหร่ไม่รู้ที่ริลณีถอนหายใจเพราะรัชพล หากเธอจะอายุสั้นลงก็คงเป็นเพราะพ่อหลานชายคนนี้แหละ





“แล้วย่าของสิตางศุ์เค้าฟังที่ไหนล่ะครับ คุณยายก็รู้ สิตางศุ์ต้องทนอยู่แบบนั้นผมทนไม่ได้ ผมรักสิตางศุ์ ผมแค่อยากให้สิตางศุ์มีความสุข” รัชพลกำมือสิตางศุ์ไว้แน่น ร่างเล็กนั้นได้แต่นั่งนิ่งไม่ยอมพูดอะไร สิตางศุ์เห็นว่าการนิ่งเงียบนั้นเป็นการดีที่สุด





“แล้วมันไม่มีวิธีที่ดีกว่านี้แล้วเหรอรัช ฟังนะรัชพล ไม่มีใครเค้าชอบหรอกที่อยู่ๆจะพาตัวหลานเค้าหายไปดื้อๆแบบนี้ ถ้ารัชรักสิตางศุ์จริงรัชก็ต้องทำให้ถูกต้อง บอกครอบครัวของสิตางศุ์ให้รับรู้ ยายยินดีจะไปเจรจาให้ ตอนนี้เรื่องมันบานปลายไปมากแล้ว สิ่งแรกที่รัชต้องทำก็คือไปขอโทษคุณหญิงพิมลซะก่อน เข้าใจมั้ย” ริลณีพยายามสงบสติอารมณ์แล้วค่อยๆพูดกับรัชพล ถ้าเกิดพากันอารมณ์ร้อนเรื่องจะแย่ไปกว่านี้





เฮ้อ... ทำไมเธอต้องมาคอยจัดการเรื่องรักๆใคร่ๆของพวกหลานๆล่ะเนี่ย ตอนนั้นก็น้องริน ตอนนี้ก็ตารัช เรื่องมันวุ่นวายซะไม่มี ใครจะคิดว่าเรื่องมันจะยากจะเย็นขนาดนี้





“พากันอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนไป เดี๋ยวยายพาไปบ้านคุณหญิงพิมลเค้า” ริลณีไล่ก่อนจะเอายาดมมาสูดเข้าปอด เธอภาวนาให้เรื่องมันจบเร็วๆ ก่อนที่จะเป็นลมตายวันละหลายๆรอบ





“ครับ” รัชพลรับคำแล้วจึงพาสิตางศุ์ขึ้นไปชั้นบนตามคำสั่ง
















“ได้เรื่องว่ายังไง” คุณหญิงพิมลที่ไม่ได้นอนเกือบทั้งคืนถามชัชที่เดินเข้ามาหลังจากเธอทานอาหารเช้าเสร็จ





“จากกล้องวงจรปิดเราพบว่านายรัชพลพานายน้อยขึ้นรถสองแถวออกไปทางหลังโรงแรมครับ ตอนนี้ให้คนไปตามสืบ ได้ข้อมูลใหม่มาว่าทั้งสองคนอยู่ที่บ้านของคุณริลณีครับ ส่วนเรื่องของคุณมินตราและคุณทัศนั้นตอนนี้โชติจัดการให้ทั้งสองคนออกนอกประเทศเรียบร้อยแล้วครับ” ชัชรายงานเรื่องทั้งหมดที่เพิ่งเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เรื่องราวมากมายผ่านไปไม่ถึงยี่สิบสี่ชั่วโมงด้วยซ้ำ





“บ้านริลณีเหรอ เหอะ... คิดว่าหนีไปที่นั่นแล้วฉันจะไม่กล้ารึไง” คุณหญิงพิมลแสยะยิ้มอย่างดูแคลน ไม่ว่ายังไงเธอก็ไม่มีทางให้สิตางศุ์ต้องคบกับนายรัชพลอะไรนั่นหรอก จะบ้ารึไง เป็นผู้ชายแล้วยังทำไร่ทำสวนอีก หลานเธอไม่ต้องไปตกระกำลำบากเหรอถ้าต้องไปคบกับหมอนั่น





“ตอนนี้เราให้คนไปเฝ้าดูอยู่ครับ เหมือนกับว่าคุณริลณีจะพานายรัชพลและนายน้อยออกไปไหนซักที่ ผมเดาว่าน่าจะตรงมาที่นี่” ชัชพูดต่อ นั่นทำให้คุณหญิงพิมลแปลกใจเล็กน้อย แต่ก็กระตุกยิ้มอย่างพอใจ





“ดี” เธอลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินไปที่ห้องรับแขกเพื่อรอพบริลณีและหลานชายนอกคอกนั่น





ไม่นานรถของบ้านจิระมนตรีก็แล่นเข้ามาจอดในบ้านศิรินทรา ริลณีเดินนำหลานๆเข้าไป ชัชที่รออยู่ก่อนแล้วเชิญทั้งหมดเข้าไปหาพิมลที่รออยู่ในห้องรับแขก เมื่อเห็นหน้าพิมล ริลณีก็รู้สึกไม่พอใจขึ้นมาโดยทันที แต่เธอก็ต้องทำเป็นไม่สนใจ เธอมาที่นี่เพื่อมาเจรจา ไม่ได้มาทะเลาะ





“มาได้แล้วเหรอ ฉันรออยู่ตั้งนาน” คุณหญิงพิมลพูดแล้วจ้องไปที่รัชพลกับสิตางศุ์ที่เดินตามหลังเข้ามา สิตางศุ์หลบตาวูบ ไม่กล้ามองหน้าย่าของตัวเอง





“วันนี้ฉันอยากมาคุยกับเธอดีๆนะพิมล เรื่องของหลานฉันและหลานของเธอ” ริลณีนั่งลงตรงข้ามแล้วเริ่มประเด็น





“มีอะไรก็ว่ามาสิ ฉันรอฟังอยู่” นายเหนือแห่งบ้านศิรินทรากอดอกแล้วเชิดหน้าขึ้น





“ถ้าอย่างนั้นฉันคงไม่ต้องอ้อมค้อม ตารัชหลานฉันกับสิตางศุ์หลานของเธอ เค้ามีความรักที่จริงใจต่อกัน ฉันขอเป็นตัวแทนรัชพลมาพูดเรื่องที่จะให้เค้าทั้งสองคนคบหากัน ฉันหวังว่าเธอคงจะไม่มีปัญหาอะไร” ริลณีไม่อ้อมค้อม เข้าประเด็นอย่างรวดเร็ว





“เธอคงผิดหวังแล้วล่ะ เรื่องอะไรฉันจะยอมให้สิตางศุ์ไปคบกับคนที่ทำให้เค้าโดนยิงเกือบตายแบบนั้น” คุณหญิงพิมลตวัดสายตามองริลณี





“แต่คุณย่าครับ เรื่องนั้นพี่รัชไม่ได้เป็นคนผิดนะครับ ผมเองที่ทะเล่อทะล่าออกไป” สิตางศุ์รีบแย้งขึ้น เขาไม่ยอมให้รัชพลถูกมองว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาต้องเจ็บตัวแบบนั้น





“แล้วใครล่ะไปมีเรื่องกับพวกนักเลงพวกนั้น ไม่ใช่รัชพลของหลานเหรอสิตางศุ์” คุณหญิงพิมลเริ่มที่จะขึ้นเสียง





“ผมยอมรับครับว่าผมผิดที่ดูแลสิตางศุ์ไม่ดี และเป็นต้นเหตุที่ทำให้สิตางศุ์ต้องเจ็บตัวแบบนั้น แต่ผมขอโอกาส ผมรักสิตางศุ์จริงๆ และผมก็ไม่มีทางให้สิตางศุ์ต้องเจ็บตัวแบบนั้นอีกแน่นอน” รัชพลที่เงียบอยู่นานพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น





“เธอจะพูดอย่างเดียวไม่ได้หรอกนะ ฉันไม่มั่นใจว่าการที่เธอคบกับหลานฉันเธอจะทำให้สิตางศุ์มีความสุขได้อย่างที่พูดรึเปล่า ไร่น้ำรินของเธอนั่นก็ชอบไปมีเรื่องกับนักเลงท้องถิ่น แล้วถ้าคบกับเธอหลานฉันต้องไปตากแดดในไร่ฉันยอมไม่ได้ และฉันก็ไม่เห็นว่าการที่สิตางศุ์คบกับเธอนั้นมันไม่ได้สร้างประโยชน์อะไรเลย” คุณหญิงพิมลมองหน้ารัชพลด้วยสายตาที่เหยียดหยาม นั่นทำให้รัชพลกำมือแน่นแล้วกำลังจะตอกกลับ แต่ริลณีห้ามไว้ก่อน





“นี่พิมล มันก็จริงที่หลานฉันคบกับหลานเธอแล้วไม่ได้สร้างผลประโยชน์ทางธุรกิจเหมือนกับที่เธอทำกับลูกชายและลูกสะใภ้ของเธอ แต่ฉันมั่นใจว่ารัชพลทำให้สิตางศุ์มีความสุขแน่นอน เอาตรงๆเลยนะ ฉันเองไม่ใช่คนในครอบครัวเธอ แต่ฉันยังดูออกว่าหลานเธอต้องการอะไร สิตางศุ์ต้องการความสุขและความรักซึ่งรัชพลให้ได้ สิตางศุ์ต้องการอิสระที่ไม่ต้องมาอยู่ในกรอบที่เธอวางไว้ ต่อให้เขาไปอยู่กลางไร่สิตางศุ์ก็ยังจะยินดีมากกว่าอยู่ที่นี่” ริลณีร่ายยาว ทำไมพิมลหัวรั้นขนาดนี้นะ เหมือนเธอกำลังพูดอยู่กับเด็กยังไงอย่างนั้น





“ริลณี!” เจ้าของบ้านศิรินทราตวาดกร้าวเมื่อถูกต่อว่าอย่างนั้น





“ที่คุณย่าณีพูด มันก็จริงนะครับคุณย่า...” สิตางศุ์แทรกขึ้นมา เขามองไปยังคุณหญิงพิมลด้วยสายตาที่ตัดพ้อ





“หมายความว่ายังไงสิตางศุ์”





“ที่ผ่านมาผมไม่เคยพูดหรือไม่เคยขออะไรคุณย่าเลย ตอนนี้ผมโตแล้วผมอยากเลือกชีวิตเองบ้าง ผมไม่อยากเหมือนคุณพ่อที่ต้องมากลับบ้านเดือนละไม่กี่ครั้งเพราะต้องทำงานตลอดเวลา ต้องเหมือนคุณย่าที่ทำงานหนักและไปพบปะสมาคมกับคนนั้นคนนี้ไปทั่ว ผมแค่อยากมีชีวิตอิสระเป็นของตัวเอง สองเดือนที่ผมไปอยู่ไร่น้ำริน ผมมีความสุขมาก คุณรัชเค้ามีและคนที่นั้นดีกับผม แม้ว่าผมจะเป็นคนแปลกหน้าที่ไปขออาศัยอยู่ก็ตาม และผมก็ได้พบกับความรักที่จริงใจ พบกับครอบครัวที่แสนอบอุ่นของคุณรัช นั่นเป็นสิ่งเดียวที่ผมต้องการ คุณย่าครับ ผมขอได้มั้ยครับ ครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายที่ผมจะขออะไรจากคุณย่า” สิตางศุ์มองหน้าย่าของตัวเอง สายตาที่แน่วแน่นั้นจับจ้องพิมลไม่วางตา





พิมลรู้สึกเบือนหน้าหนี เธอไม่กล้าสบตาหลานชาย เป็นครั้งแรกที่สิตางศุ์พูดกับเธอแบบนี้ เป็นครั้งแรกที่สิตางศุ์บอกความต้องการของตัวเองออกมา เพราะทุกครั้งสิตางศุ์คอยทำตามสิ่งที่เธอต้องการอยู่เสมอ คำพูดเหล่านั้นทำให้พิมลพูดไม่ออก





เธอปฏิเสธไม่ได้ว่าการที่สิตางศุ์อยู่กับเธอนั้นไม่มีความสุข แม้ว่าจะเป็นคนในครอบครัวก็ตาม แต่กลับห่างเหินกันเหลือเกิน สิตางศุ์กับพ่อแม่เหมือนเป็นคนแปลกหน้าต่อกันและกัน  สิตางศุ์กับเธอเหมือนเจ้านายกับลูกน้องที่ต้องคอยทำตามคำสั่งตลอดเวลา ตอนนี้เธอแอบรู้สึกผิดแต่เธอก็ทำใจให้สิตางศุ์ไปมีชีวิตไปของตัวเองไม่ได้ เพราะศิรินทราของเธอต้องการสิตางศุ์





“ชัช พาคุณสิตางศุ์ขึ้นไปข้างบน ส่วนเธอริลณี ขออนุญาตเสียมารยาทพูดว่ากลับไปพร้อมกับหลานเธอได้แล้ว วันนี้ฉันอยากพักผ่อน” พูดจบคุณหญิงพิมลก็ลุกไปจากตรงนั้นเสียดื้อๆ





“คุณย่าครับ!” สิตางศุ์ตะโกนตามหลังแต่คุณหญิงพิมลก็ยังไม่หันมามอง





“ขอเชิญข้างบนครับนายน้อย” ชัชพูดกับสิตางศุ์ที่ยังคงจับมือรัชพลไว้แน่น





“ไม่ได้ สิตางศุ์ถ้าย่าของสิตางศุ์ไม่ยอมก็หนีไปกับพี่” รัชพลไม่ฟังอะไรพิมลทั้งนั้น ยังไงเขาก็ไม่ยอมแน่หากคุณหญิงพิมลไม่ยอมให้เขาคบกับสิตางศุ์แบบนี้





“แต่คุณย่าท่านจะยิ่งโกรธนะครับ” สิตางศุ์แอบค้าน ยังไงสิตางศุ์ก็ยังคิดว่าการที่ค่อยๆพูดกับย่าของเขานั้นเป็นการดีกว่า น้ำหยดลงหินทุกวันหินมันยังกร่อน เพียงแต่รัชพลนั้นรอหินกร่อนจากน้ำไม่ไหว





“แล้วย่าของสิตางศุ์ยอมฟังที่พวกเราพูดมั้ยล่ะ” รัชพลโมโหหนัก





“ที่สิตางศุ์พูดน่ะถูกแล้ว ยิ่งทำแบบนั้นพิมลยิ่งจะไม่พอใจ ตอนนี้ให้สิตางศุ์อยู่ที่นี่น่ะถูกแล้ว อย่างนั้นพิมลก็มีท่าทีที่อ่อนลงแล้ว” ริลณีต้องปรามหลานชาย ขืนปล่อยรัชพลทำตามใจตัวเองแบบนี้อีกมีหวังชาตินี้ทั้งชาติก็ไม่สมหวังหรอก





“คุณยาย” รัชพลหันมาทำเสียงตัดพ้อริลณี ทำไมทุกคนต้องคิดว่าการที่สิตางศุ์อยู่ที่นี่เป็นเรื่องดี ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ก็เห็นด้วยกับเขา





“ฟังยาย ไป กลับบ้านเรา แล้วพรุ่งนี้ค่อยมาใหม่” ริลณีลุกขึ้นก่อนจะพยายามดึงแขนรัชพลให้เดินตามเธอ





“เชิญครับนายน้อย” ชัชเองก็เร่งสิตางศุ์ให้เดินขึ้นไปชั้นบนของบ้านตามที่คุณหญิงพิมลสั่งไว้





“ไม่ต้องห่วงนะสิตางศุ์ พรุ่งนี้พี่จะมาหาใหม่” รัชพลให้คำมั่นก่อนจะยอมเดินตามริลณีไป





“ผมจะรอนะพี่รัช” สิตางศุ์ตอบกลับแล้วเดินตามชัชขึ้นไปข้างบนตามคำสั่ง รัชพลได้แต่มองตามตาละห้อย





น้ำหยดลงหินอะไร ไม่มีทางทันใจเขาหรอก อย่างนี้มันต้องเอาสว่านมาเจาะ!

















“นั่นไง มาแล้วค่ะ” พิมพ์นภาเรียกบุรินทร์เมื่อพบว่าริลณีและรัชพลเดินเข้าบ้านมาแล้ว





“พ่อ” รัชพลแปลกใจไม่น้อยที่อยู่ๆก็เห็นบุรินทร์มาอยู่ที่นี่ เดี๋ยวๆ พ่อของเขามาได้ไง





“มาแล้วเหรอพ่อลูกเขย รู้มั้ยว่าลูกชายแกน่ะไปทำเรื่องอะไรไว้” มาถึงไม่ทันไรริลณีก็ชิงด่าบุรินทร์เสียแล้ว เธอเดินมานั่งที่โซฟาแล้วหยิบยาดมเข้ามาสูด พิมพ์นภาเดินมานั่งข้างๆแม่สามีแล้วช่วยพัดให้





“ก็พอจะรู้แหละครับ ตารัชมันเป็นคนยังไงคุณแม่ก็รู้ เรื่องนี้เองผมก็ยังห้ามมันไม่ได้เลย” บุรินทร์ว่า





“แล้วยังไงล่ะ ไปมีเรื่องกับใครไม่มี ไปมีเรื่องกับคุณหญิงพิมล แล้วยังไม่ฉุดหลานเค้ามาอีก เพิ่งจะเอาไปส่งเมื่อกี้นี้เอง ไม่โดนยิงตายก็บุญเท่าไหร่แล้ว”





“แล้วผมจะรู้มั้ยครับว่าสิตางศุ์เป็นลูกหลานใคร รู้แค่ว่าเป็นเพื่อนรินก็แค่นั้น และอีกอย่างผมมั่นใจว่าลูกผมทำแบบนั้นก็เพราะมีเหตุผล ตารัชไม่ใช่คนที่ทำอะไรโดยไม่มีเหตุผล และที่สำคัญ ตารัชรักสิตางศุ์จริง” บุรินทร์เถียงกลับ





“แล้วแกมาบอกฉันมันจะมีประโยชน์มั้ยล่ะ นู่น ไปบอกครอบครัวสิตางศุ์นู่น” ริลณีเริ่มเหนื่อย เถียงกับพิมลไม่พอ เธอต้องมาเถียงกับบุรินทร์อีกระลอกหนึ่ง





“ใจเย็นๆกันนะคะ อย่าเพิ่งทะเลาะกันตอนนี้ มาช่วยกันแก้ปัญหาก่อนดีกว่า อย่าทะเลาะกันเองเลย” พิมพ์นภารีบห้ามก่อนที่ลูกเขยกับแม่ยายคู่นี้จะทะเลาะกันแรงขึ้น เพราะยิ่งกว่านี้เธอก็เจอมาแล้ว






“พ่อกับคุณยายอย่าเพิ่งทะเลาะกันเลยครับ ตอนนี้เราต้องช่วยกันคิดก่อนว่าจะทำยังไงให้บ้านของสิตางศุ์ยอมรับผม” รัชพลทำหน้าเครียด เขาเครียดเรื่องสิตางศุ์แล้วยังต้องมาฟังพ่อกับยายทะเลาะกันแบบนี้อีกเหรอ





“ถ้ามันยากมากก็เอาขันหมากไปสู่ขอเลย ดูซิคราวนี้จะยอมมั้ย” บุรินทร์โพล่งขึ้นด้วยความโมโห แต่รัชพลกลับหันขวับไปมองหน้าบิดาอย่างเห็นทางสว่าง





“ก็ดีเหมือนกันนะพ่อ ในเมื่อพูดดีๆไม่ยอม จะพาหนีก็ไม่ได้ ก็ไปขอตรงๆเลย” รัชพลยิ้ม





“จะบ้าหรือไงตารัช” ริลณีทำสีหน้าไม่เห็นด้วย





“ไม่บ้าล่ะครับ ผมทำจริง!” ทุกคนหันมามองหน้ารัชพลอย่างไม่เข้าใจ งานนี้มีวิธีไหนที่คิดว่าทำแล้วรุ่งก็ต้องทำ คุณหญิงพิมลยิ่งเป็นคนมีหน้ามีตาอยู่ รัชพลจะได้ไปต่อรึเปล่าก็ต้องมาดูกันคราวนี้ล่ะ















สิตางศุ์นั่งเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง ท้องฟ้าตอนนี้เปลี่ยนเป็นสีดำเรียบร้อย เขายังไม่รู้ว่าจะเอายังไงต่อไปดี เพราะพูดตรงๆย่าของเขาก็ยังไม่ยอมอยู่ดี สิตางศุ์ไม่รู้ว่าจะทำยังไงดีแล้ว





“สิตางศุ์... อยู่มั้ยลูก” เสียงเรียกหนึ่งดังขึ้นหน้าห้องพร้อมกับเสียงเคาะประตู สิตางศุ์ลุกขึ้นไปเปิดประตูนั้นแล้วพบว่าเป็นอนันต์ที่ยืนอยู่หน้าห้องด้วยชุดทำงานเต็มยศ






“คุณพ่อ” นานๆทีอนันต์จะกลับบ้านครั้งนึง เฉลี่ยเดือนละไม่กี่ครั้ง ทุกครั้งสิตางศุ์จะเจออนันต์ในตอนกินข้าวก็เท่านั้น ไม่บ่อยครั้งนักที่อนันต์จะมาหาเขาถึงห้องแบบนี้





“พอดีพ่อมีเรื่องอยากจะคุยด้วยหน่อยน่ะ” อนันต์ยิ้มให้ลูกชายก่อนจะเดินเข้าไปในห้องแล้วนั่งบนเตียงนอนของสิตางศุ์ สิตางศุ์เองก็เดินมานั่งตาม





“คุณพ่อมีอะไรรึเปล่าครับ” สิตางศุ์ถามด้วยความแปลกใจ ตั้งแต่เกิดมานั้นเขามีเรื่องคุยกับพ่อตัวเองแค่ไม่กี่เรื่องเท่านั้น






“พ่อรู้เรื่องเมื่อตอนกลางวันแล้วนะ” คำพูดของอนันต์ทำให้สิตางศุ์ต้องหันไปมองหน้าบิดา





“หึ.. คุณย่าท่านไม่ยอมรับฟังผมหรอก” สิตางศุ์ก้มหน้าลง เขารู้ว่ายังไงแล้วย่าของเขาก็ไม่มีทางรับฟังความเห็นใคร





“ที่คุณย่าทำน่ะมีเหตุผลนะลูก”






อนันต์เอื้อมมือไปโอบไหล่ลูกชายไว้ แล้วดันหัวสิตางศุ์ให้ซบลงบนไหล่เขา สิตางศุ์แอบตกใจเล็กน้อย เขาไม่เคยถูกปฏิบัติแบบนี้จากคนเป็นพ่อเลย






“คุณย่าน่ะท่านตั้งความหวังกับศิรินทราไว้มากเพราะท่านต้องเจองานหนักเมื่อตอนที่รับช่วงต่อจากคุณปู่ พ่อเองก็ถูกท่านเลือกทางเดินชีวิตให้ จนมันกลายเป็นแบบนี้ พ่อรู้ว่ามันไม่มีความสุขแค่ไหนแต่ก็ต้องยอมเพราะพ่อไม่อยากให้ย่าของลูกต้องผิดหวัง” อนันต์พูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบนิ่ง แต่สิตางศุ์สัมผัสได้ถึงความสั่นเครือนั้น





“คุณพ่อเคยมีความฝันบ้างมั้ยครับ” ไม่รู้อะไรดลใจให้สิตางศุ์ถามแบบนั้น






“มีสิ... ใครๆก็ต้องเคยมีความฝัน แต่พ่อลืมมันไปตั้งแต่ตอนที่รู้ว่าตัวเองต้องรับช่วงต่อที่บ้านแล้ว”






เรื่องใหม่ที่สิตางศุ์ไม่เคยรู้ ไม่เคยรู้เลยเกี่ยวกับพ่อตัวเอง เขารู้ว่าความรู้สึกนี้เป็นยังไง พ่อของเขาเองก็คงไม่ต่างกัน






“แล้วสิตางศุ์ล่ะลูก ลูกฝันอยากจะทำอะไร” คราวนี้เป็นอนันต์ที่ถามกลับ







“ผมอยากมีชีวิตเป็นของตัวเอง ผมอยากไปได้ทุกที่ตามที่ต้องการ โดยไม่ต้องมีคนของคุณย่าคอยแอบตามตลอดเวลา ไม่ต้องมีถูกกำหนดว่าให้กลับบ้านตอนไหนและอยากทำอย่างที่ใจตัวเองต้องการ” นั่นคือสิ่งเดียวที่สิตางศุ์ปรารถนาในตอนนี้ อนันต์ยกยิ้มเล็กน้อย นี่เป็นครั้งแรกที่สิตางศุ์บอกความต้องการกับเขาแบบนี้





“ทำไมมันซะลูก... ทำอย่างที่ใจสิตางศุ์ต้องการ พ่อรู้ว่าตอนนี้สิตางศุ์มีใครมากกว่าพ่อและคุณย่า ถ้าเค้าทำให้สิตางศุ์มีความสุข สิตางศุ์ก็ไปหาความสุขนั้น” อนันต์หันมายิ้มให้ลูกชาย






ความสุขที่สิตางศุ์ต้องการ เขายินดีที่จะให้ เพราะเขาไม่มีทางให้สิตางศุ์ได้ เขายินดีจะปล่อยสิตางศุ์ไปหาความสุขนั้น ความสุขที่สิตางศุ์ไม่เคยได้รับมาตลอดยี่สิบสี่ปี





“...คุณพ่อ” สิตางศุ์มองบิดาอย่างไม่เข้าใจ






“พ่อจะไม่ห้าม ไม่ห้ามสิตางศุ์ไม่ให้รักใคร พ่อให้ความสุขกับสิตางศุ์ไม่ได้ สิตางศุ์ก็จงไปหามัน ตอนนี้ลูกโตแล้ว ลูกมีสิทธิ์ที่จะเลือกทางเดินชีวิตของตัวเอง ถ้าวันหนึ่งสิตางศุ์ต้องเป็นเหมือนพ่อ พ่อคงยอมไม่ได้”






สิตางศุ์มองอนันต์ไม่วางตา แล้วน้ำตาก็ไหลออกมาไม่รู้ตัวก่อนจะโผกอดบิดาเต็มแรง เป็นครั้งแรกที่อนันต์รับฟังเขา เป็นครั้งแรกที่สิตางศุ์รู้สึกว่าเขาเป็นลูกของอนันต์จริงๆ






“พ่ออาจจะเป็นพ่อที่ดีที่สุดไม่ได้ พ่อทำให้สิตางศุ์ต้องเป็นเด็กที่เก็บตัวและร้องไห้ตลอดเวลา พ่อไม่มีเวลาดูแลสิตางศุ์ พ่อขอโทษ พ่อพยายามทำมันแล้ว แต่พ่อก็ทำไม่ได้ พ่อทิ้งงานไม่ได้ ถ้ามีสิ่งไหนที่พ่อจะทดแทนได้ พ่อก็ยินดีถ้ามันจะทำให้สิตางศุ์ของพ่อมีความสุข” อนันต์กอดร่างเล็กของลูกชายไว้แน่น สิตางศุ์สะอื้อไห้แล้วมุดลงกับเสื้อสูทราคาแพงนั้นของบิดา





“ขอบคุณครับ ขอบคุณนะครับพ่อ”





“พ่อจะช่วยคุยกับคุณย่าให้ ตอนนี้ลูกก็นอนพักผ่อนก่อนนะ อย่าคิดมาก แผลยังไม่หายดีเลย” อนันต์ดันสิตางศุ์ออกแล้วลุกขึ้น เขาลูบหัวลูกชายที่ยังคงสะอื้นอยู่




“พ่อรักสิตางศุ์นะ แม้ว่าพ่อจะไม่เคยทำให้สิตางศุ์รู้ว่าพ่อรักสิตางศุ์ แต่พ่อไม่เคยคิดที่จะทิ้งลูก พ่ออยากเห็นสิตางศุ์มีความสุข”





“ผมก็รักพ่อนะครับ” คำพูดที่สิตางศุ์ไม่เคยพูดกับบิดา วันนี้เขาสามารถพูดมันได้อย่างไม่เคอะเขินอีกต่อไป คนแปลกหน้าในบ้านเดียวกันตอนนี้กลับกลายเป็นพ่ออย่างที่ควรเป็น





บางทีสิตางศุ์ก็คิดว่า เขาควรบอกความต้องการขอตัวเองมาตั้งนานแล้ว ไม่ควรเก็บมันไว้อย่างนี้ ไม่เช่นนั้นเรื่องมันคงไม่แย่มาจนถึงทุกวันนี้ อาจจะเป็นครั้งแรกที่สิตางศุ์สัมผัสได้ถึงคำว่าครอบครัวที่แท้จริง











**********************************************************************************








แต่งงานกันเด้อ เด้อ เด้อ นางเดอ~ แมรี่มี เด้อแมรี่มี เมียซื้อเงินสด รถซื้อเงินผ่อน อะ อะ อยากแต่งงานนนนนนน~  :katai5:

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ omyim_jjj

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 632
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
น้ำตาไหลเลยยย ซึ้งคุณพ่อสิตางศุ์มาก
ส่วนพี่รัชนี่ เข้าใจเลยว่าเหมือนใคร 5555

ออฟไลน์ farfarneenee

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 365
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1

ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1775
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
ซาบซึ้งกับคุณพ่อ
พี่รัช ยกขันหมากมาเลย มีพ่อตาเป็นแบ็คให้

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ Speirmint28

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 127
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-1
บทที่ 29





เค้าไม่มา...





รัชพลยังไม่มาหาเขา สิตางศุ์รอแต่เช้าจนตอนนี้คล้อยบ่ายแก่ๆรัชพลก็ยังคงไม่มีหาเขาทั้งๆที่รัชพลบอกกับเขาว่าวันนี้จะมาหา สิตางศุ์รอเพื่อที่จะบอกอีกคนว่าตอนนี้พ่อของเขายินดีที่จะช่วยคุยกับคุณย่าให้ แต่จนแล้วจนรอดตอนนี้รัชพลก็ยังไม่โผล่มาที่นี่





เกิดอะไรขึ้นนะ ทำไมรัชพลต้องผิดสัญญา คุณย่าทำอะไรรึเปล่า หรือรัชพลถอดใจแล้ว





ไม่น่าจะใช่อย่างนั้น!





รัชพลไม่ใช่คนที่คิดจะถอดใจกับอะไรง่ายๆ แต่ทำไมยังไม่มาล่ะ สิตางศุ์นั่งรอทั้งในบ้านนอกบ้านก็ยังไม่มีวี่แวว คุณย่าก็ให้โชติคอยตามเขาตลอดเพื่อดูความเคลื่อนไหวเพื่อที่ว่าเวลารัชพลมาหาเขาจะได้รายงานท่านถูก ตอนนี้คุณย่าคงมองรัชพลเป็นคนเหลาะแหละโลเล ไม่กล้าที่จะเผชิญหน้ากับเธอไปแล้วแน่ๆ





“เค้ายังไม่มาอีกเหรอลูก” อนันต์มานั่งข้างๆลูกชายที่ทำหน้าเจื่อนอยู่กลางบ้าน อาทิตย์นี้ทั้งอาทิตย์อนันต์ขอหยุดงานเพราะต้องการอยู่กับสิตางศุ์





“ยังเลยครับพ่อ” สิตางศุ์ตอบพร้อมกับก้มหน้าลงอย่างท้อใจ





“ไมต้องกังวลไปหรอก เดี๋ยวเค้าก็มา พ่อก็อยากจะคุยเหมือนกัน” อนันต์ลูบหัวลูกชายเบาๆ เอาเข้าจริงๆเขาก็อยากจะเจอรัชพลคนนี้เหมือนกัน อะไรทำให้สิตางศุ์อยู่กับคนคนนั้นแล้วมีความสุขมากกว่าการอยู่ที่บ้าน อยากรู้จริงๆ






สิตางศุ์ยิ้มเจื่อนๆไปให้ก่อนจะทิ้งตัวลงพิงกับโซฟาแล้วถอนหายใจ อย่านะพี่รัช อย่าเพิ่งทิ้งสิตางศุ์ไปตอนนี้






แต่จนแล้วจนรอดรัชพลก็ไม่มาจริงๆ สิตางศุ์นั่งอยู่ที่ระเบียงด้านนอกพร้อมกับเหม่อมองออกไปข้างนอกหน้าต่าง ท้องฟ้าสีดำสนิทนั้นทำให้ใจของเขารู้สึกหม่นหมองไปด้วย รอจนจะสี่ทุ่มแล้วรัชพลก็ยังไม่มา โทรมาหาสักนิดก็ไม่มี เขาจะโทรไปก็ไม่กล้า เพราะไม่รู้ว่ารัชพลยังต้องการคุยรึเปล่า ไม่อย่างนั้นคงมาหาเขาแล้ว





ลองคิดดีๆแล้วเขากับรัชพลก็รู้จักกันแค่สองเดือนเท่านั้น มันเป็นเวลาไม่นาน มันสั้นเกินกว่าที่จะสานสัมพันธ์ให้แน่นหนาขึ้น และอีกอย่างคุณย่าของเขาก็เป็นแบบนี้ ท่านคัดค้านไปเสียทุกอย่าง ไม่รู้ว่ารัชพลยังอยากจะคบกับเขาอยู่มั้ย สิตางศุ์ไม่เคยมีประสบการณ์รักด้วยสิ ไม่รู้ว่าตอนนี้เขาต้องทำตัวยังไง






ร่างเล็กถอนหายใจเป็นรอบที่ร้อยแปดของวันแล้วหมุนตัวเดินกลับเข้าไปในห้อง บางทีวันพรุ่งนี้รัชพลอาจจะมาหาเขา












ล่วงเข้าวันที่สาม ...รัชพลก็ยังไม่มา






“เฮอะ... สงสัยคงกลับบ้านไร่ไปแล้วมั้ง” คุณหญิงพิมลพูดกับหลานชายในมื้อเช้าของวันนั้น สิตางศุ์ไม่กล้าสบตาเธอ และเขาก็รู้สึกกินข้าวไม่ลงเสียดื้อๆ






“คุณแม่ครับ” อนันต์ปรามมารดา ไม่บ่อยครั้งนักที่เขาจะขัดใจคุณหญิงพิมล






“ฉันพูดถูกมั้ยล่ะ รอเก้อมากี่วันแล้ว ฉันอยากจะรู้นักว่านายรัชพลอะไรนั่นจะไปได้ซักกี่น้ำเชียว สุดท้ายก็กลัวหัวหดหนีหายกลับไป” เธอยังพูดถากถางต่อ สิตางศุ์เถียงไม่ออก เพราะรัชพลไม่มีหาเขาจริงๆ และยังไม่ติดต่อมาด้วย






“เดี๋ยวเค้าก็มาน่าสิตางศุ์ หรือจะให้พ่อพาไปหาที่บ้านคุณริลณีดีมั้ย” อนันต์พยายามพูดเพื่อให้สิตางศุ์สบายใจ แต่ตอนนี้หน้าสิตางศุ์นั้นเจื่อนลงอย่างเห็นได้ชัด






“ไม่ต้องหรอกครับ เดี๋ยวพี่รัชก็มา” เขาอยากจะเชื่ออย่างนั้น






“คงไม่มาแล้วล่ะ ไม่ต้องรอ ดีเลย ย่าว่าจะพาไปเจอหนูพิมพ์ธารา เพิ่งกลับมาจากเมืองนอกได้ไม่นานนี้เอง ลองไปคุยกับเค้าก็ดีนะลูก” คุณหญิงพิมลยิ้ม เธอพอจะเห็นลู่ทางที่จะตัดรัชพลออกไปจากชีวิตของสิตางศุ์ได้แล้ว






“แต่ผมไม่อยากไปเจอนี่ครับคุณย่า” สิตางศุ์ค้าน เขาไม่อยากไปเจอคนที่คุณย่าเลือกให้ ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครสิตางศุ์ยังไม่รู้จักเลย








“แล้วหลานจะรอนายรัชพลนั่นน่ะเหรอ ชาตินี้ทั้งชาติก็ไม่มาหรอก”  คุณหญิงพิมลเริ่มจะขึ้นเสียง เช้านี้มีเรื่องให้หงุดหงิดแต่เช้า







“คุณแม่ครับ ผมขอร้องเถอะครับ อย่าบังคับสิตางศุ์เค้าเลย คุณแม่ก็เห็นว่าสุดท้ายแล้วผมกับมินตรามันจบลงยังไง” อนันต์เข้าข้างสิตางศุ์ เขาไม่อยากให้สิตางศุ์เป็นแบบเขา ชีวิตคู่ที่ไม่มีความสุข สุดท้ายผลกรรมมันจะตกที่ใครถ้าไม่ใช่ลูกที่เกิดมา






คุณหญิงพิมลไม่ตอบ เพราะเรื่องนี้เธอเถียงไม่ได้ ตอนนี้แม่ลูกสะใภ้ตัวดีของเธอก็ถูกจัดการเด้งไปนอกประเทศ ชาตินี้ทั้งชาติคงไม่ได้กลับมา นี่ถือว่าเธอยังปราณี เพราะยังเห็นว่าเป็นแม่ของสิตางศุ์ ไม่อย่างนั้นเธอเก็บไปนานแล้ว






“ผมขอตัวก่อนนะครับ” สิตางศุ์ลุกขึ้น เขากินต่อไม่ลงแล้ว บทสนทนาของคนในบ้านมันเหมือนกับการทะเลาะกันทุกวัน ยิ่งคุยยิ่งแย่ สิตางศุ์เกลียดบรรยากาศน่าอึดอัดแบบนี้ที่สุด






“ใครมีมะกรูดมาแลกมะนาว ใครมีลูกสาวมาแลกลูกเขย อาวะอาเหวย ลูกเขยตะลาลา~ ฮิ้ว~” เสียงที่ดังขึ้นหน้าบ้านทำให้สิตางศุ์ที่กำลังจะเดินขึ้นชั้นบนต้องชะงัก ไม่ต่างกับคุณหญิงพิมลและอนันต์ที่หันไปมองไม่ต่างกัน







หลังจากนั้นเสียงกลองยาวและเสียงดนตรีก็ดังขึ้นตามมาติดๆ ชัชกับโชติที่อยู่ไม่ไกลต้องพากันรีบวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว เพื่อไปดูสถานการณ์ข้างนอก






“เรื่องบ้าอะไรอีกเนี่ย” คุณหญิงพิมลลุกขึ้นก่อนจะก้าวฉับๆออกไปนอกบ้าน อนันต์และสิตางศุ์ก็รีบตามไป เพราะไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น






และภาพที่เห็นนั้นก็ทำให้เจ้าของบ้านตกใจไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะตอนนี้หน้าบ้านของเขากำลังเต็มไปด้วยบวนกลองยาว มีทั้งต้นกล้วยต้นอ้อยต้นอะไรไม่รู้เยอะแยะเต็มไปหมด นอกจากนั้นยังมีคนที่แต่งตัวด้วยชุดไทยประยุกต์ถืออะไรไม่รู้เต็มไปหมด ยิ่งไปกว่านั้นสิตางศุ์เห็นรัชพลอยู่หน้าขบวนและยังใส่ชุดเจ้าบ่าวอีก!






“นี่มันอะไรกันเนี่ย!” คุณหญิงพิมลตวาดลั่น การ์ดพยายามออกไปกั้นเมื่อขบวนเหล่านั้นหลุดผ่านประตูรั้วเข้ามาในบ้านได้แล้ว เธอมองคนพวกนั้นด้วยสายตาที่พร้อมจะแผดเผา คนพวกนี้เป็นบ้าอะไรกัน มาทำอะไรในบ้านของเธอ






“หยุด... หยุดๆๆ” คุณริลณีเดินออกมาหน้าขบวนก่อนจะทำสัญญาณมือให้หยุด วงดนตรีทั้งหมดหยุดเพลง ทั้งล้านกว้างหน้าบ้านเงียบฉี่ มีเพียงแค่ประกายไฟในตาของคุณหญิงพิมลเท่านั้นที่กำลังแผดเผาไปทั่วบริเวณ






“เธอทำบ้าอะไรของเธอริลณี!” จากน้ำเสียงนั้นทำให้คนฟังรู้ว่าคุณหญิงพิมลไม่พอใจมากแค่ไหน







“แหม ก็อย่างที่คุยกันไง ก็ว่าจะให้หลานฉันกับหลานเธอดองกัน วันนี้เลยพาตารัชมาขอ” ริลณีพูดหน้าดื้อๆ นั่นทำให้คนในบ้านศิรินทราทั้งหมดตกใจ โดยเฉพาะสิตางศุ์






บะ... บ้าน่า พี่รัชทำบ้าอะไรเนี่ย สิตางศุ์หันไปมองรัชพลที่ยังคงยิ้มแฉ่งมาให้เขา การแต่งตัวดูก็รู้ว่ามาทำอะไร อย่าบอกว่าที่หายไปตั้งหลายวันเพราะไปทำอะไรแบบนี้เนี่ยนะ







“ฉันไปคุยกับเธอตอนไหน เรื่องที่จะให้สิตางศุ์ไปคบกับหลานเธอน่ะ! แล้วยังบุกรุกบ้านฉันมาทำอะไรบ้าๆแบบนี้อีก ออกไปเลยนะ!” คุณหญิงพิมลยังคงเดือดไม่หาย จนสิตางศุ์ต้องเข้าไปใกล้ๆแล้วลูบแขนหญิงชราให้อารมณ์เย็นลงก่อนที่จะเป็นลมเป็นแล้งไปตรงนี้






“ไม่ออก! ถ้าออกตอนนี้ตารัชก็คงไม่ได้เมียซักทีหรอก ฉันตั้งใจมาสู่ขอแบบตรงๆแล้ว และเธอก็ต้องยอมยกให้ด้วย” ริลณีเชิดหน้าสู้ วันนี้เธอสู้ตาย เป็นไงเป็นกัน







“ฉันไม่ยอมยกสิตางศุ์ให้หลานเธอหรอก” คุณหญิงพิมลอยากจะบ้าตาย ทำไมคนพวกนี้พูดไม่รู้เรื่องขนาดนี้นะ







“แต่ผมยอมครับ” เสียงนั้นทำให้คุณหญิงพิมลต้องหันขวับ






“ตานัน!” เธอหันไปเอ็ดลูกชาย






“ผมเป็นพ่อของสิตางศุ์ ผมยินดีที่จะคุยเรื่องของลูกชายผมและหลานของคุณน้าณี เชิญข้างในก่อนครับ” อนันต์ไม่พูดเปล่า เขาผายมือเชิญริลณีให้เข้าไปในบ้าน เพียงเท่านั้นนายหญิงของบ้านจิระมนตรีก็ยิ้มกว้าง






“ขอบคุณมากนะจ้ะหลานนัน ป่ะ... พวกเรา พ่อเค้าอนุญาตแล้ว” ริลณีพูดด้วยรอยยิ้มก่อนจะเดินเชิดผ่านคุณหญิงพิมลเข้าไปในบ้าน บุรินทร์ รัชพลรวมทั้งคนอื่นๆก็ตามเข้าไปด้วย






“ไม่ได้นะตานัน แกจะทำแบบนี้ไม่ได้” คุณหญิงพิมลพยายามค้านแต่เสียงแตรวงและเสียงกลองยาวก็ดังขึ้นกลบเสียงเธอ






ริลณีพาลูกๆหลานๆเข้ามาในบ้านศิรินทราซึ่งได้รับการต้อนรับอย่างดีจากอนันต์ เธอให้คนเอาสินสอดมาวางไว้ นั่นทำให้สิตางศุ์รู้ว่ารัชพลไม่ได้ทำเพื่อต่อกรกับย่าของเขา แต่รัชพลต้องการมาสู่ขอเขาจริงๆ







บ้าไปแล้วรึไงพี่รัช ทำยังกับเขาเป็นผู้หญิงที่ต้องรอให้ผู้ชายมาขออย่างนั้นแหละ โอ้ย... สิตางศุ์ก็อายไม่น้อยเหมือนกันนะ แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้สิตางศุ์รู้ว่ารัชพลไม่ทิ้งเขาจริงๆ รัชพลคิดที่จะจริงจังกับเขา นั่นทำให้สิตางศุ์แอบยิ้ม สองวันที่ผ่านมานั้นสิตางศุ์รู้สึกไม่มั่นใจและหวั่นไหวอยู่บ่อยครั้ง ไม่มั่นใจว่ารัชพลยังจะรักและต้องการเขาอยู่หรือไม่ แต่ตอนนี้สิตางศุ์รู้แล้ว รู้ว่ารัชพลคนนี้หนักแน่นแค่ไหน






“เอาล่ะค่ะ เมื่ออยู่กันพร้อมหน้าแล้ว ดิฉันในฐานะตัวแทนของฝ่ายชาย เอ่อ... ตัวแทนของรัชพล”







ริลณีต้องรีบแก้คำพูด เมื่อนึกขึ้นได้ว่าสิตางศุ์นั้นหาใช่สาวน้อยไม่ เธอกระแอมเล็กน้อยก่อนจะพูดต่อ







“ในเมื่อหลานทั้งสองก็รักก็ชอบพอกัน มันก็ถึงเวลาแล้วที่เราสองตระกูลจะได้ดองกันซักทีเนอะ”







“ใครอยากจะดองกับเธอกัน” คุณหญิงพิมลชักอยากจะตัดเพื่อนริลณีก็วันนี้แหละ เธอบอกกี่ครั้งแล้วว่ายังไงก็ไม่ยอมยกสิตางศุ์ให้







“คุณแม่ครับ” อนันต์หันไปปรามมารดาเล็กน้อย







“ผมเองก็พอจะทราบเรื่องลูกชายของผมกับหลานของน้าณีมาบ้างแล้ว ยังไงก็ต้องขอบคุณคุณรัชพลที่ดูแลสิตางศุ์ระหว่างที่ไปอยู่เชียงราย และต้องขอโทษที่ทำให้สิตางศุ์ต้องไปรบกวนแบบนั้น” อนันต์กล่าว เป็นครั้งแรกที่เขาเจอกับรัชพล คนนี้น่ะเหรอ ที่เป็นความสุขของสิตางศุ์






“ไม่เป็นไรครับ ผมยินดีดูแลสิตางศุ์ ตลอดไปเลยก็ทำได้ครับ” รัชพลพูดพร้อมกับมองหน้าสิตางศุ์ที่นั่งนิ่ง สิตางศุ์หลบสายตานั้นวูบ เขาไม่กล้ามองรัชพลตอนนี้ มันรู้สึกเขินเกินกว่าที่จะมองอีกคนตรงๆ







“เมื่อเรื่องมันเป็นอย่างนั้นน้าก็อยากจะให้สิตางศุ์กับตารัชเนี่ยหมั้นหมายกันไว้ก่อน นันจะว่ายังไง” ริลณีรุกคืบ








“เรื่องนั้นผมแล้วแต่สิตางศุ์ครับ ถ้าลูกยินดีผมก็ไม่มีปัญหาอะไร” อนันต์พูดนั่นทำให้ทุกสายตาเบนไปมองสิตางศุ์ คนตัวเล็กทำตัวไม่ถูกเมื่อถูกจ้องมองแบบนั้น โดยเฉพาะรัชพลที่มองเขาไม่วางตาเพื่อต้องการคำตอบ






“เอ่อ...” สิตางศุ์พูดไม่ออก เขาไม่รู้จะตอบว่ายังไง เขายังไม่ได้เตรียมรับมือกับเหตุการณ์นี้






“ว่าไงจ้ะสิตางศุ์” ริลณีกดดัน สิตางศุ์แอบหันไปมองคุณหญิงพิมลเล็กน้อย ย่าของเขาเบือนหน้าหนี นั่นทำให้สิตางศุ์สูดหายใจเข้าปอดลึกๆแล้วมองตรงไปที่บิดาของตัวเอง






“ถ้าคุณพ่อกับคุณย่าไม่ว่าอะไร ผมก็... เอ่อ.... ผมก็ยินดีครับ” พูดจบก็ก้มหน้าลงอย่างเขินอาย ในชีวิตนี้ไม่เคยคิดมาก่อนว่าตัวเองต้องมาทำอะไรแบบนี้ พูดออกไปแล้ว เขาพูดออกไปแล้ว






“เยส!” รัชพลอุทานลั่นนั่นทำให้ริลณีต้องรีบกันไปจิกสายตาใส่หลานชายอย่างห้ามปราม






“ถ้าอย่างนั้นก็ดีเลยค่ะ...” ริลณียิ้มกว้างแล้วคุยกับอนันต์ต่อ บทสนทนานั้นไม่เข้าหัวรัชพลกับสิตางศุ์แล้วในตอนนี้ ทั้งสองคนมองหน้ากันอย่างยิ้มๆ สิตางศุ์หลบตาบ้างมองหน้ารัชพลบ้าง นั่นทำให้รัชพลแอบขำไม่น้อย






ไอ้พี่รัชบ้า คนบ้าอะไรจะสุดโต่งได้ถึงขนาดนี้ หายไปตั้งหลานวันพอกลับมาก็มาทำแบบนี้เนี่ยนะ รู้ทั้งรู้ว่าคุณย่าเป็นคนยังไงก็ยังจะบุกมาอย่างนี้ คิดแล้สิตางศุ์ก็นับถือความบ้าระห่ำของรัชพล ถ้าเกิดเป็นเขา เขาคงไม่คิดที่จะทำอะไรอย่างนี้หรอก







รัชพลมองสิตางศุ์ด้วยรอยยิ้ม เขาดีใจที่สิตางศุ์ไม่คิดจะปฏิเสธ เรื่องนี้เขาตกลงกับบุรินทร์และริลณีให้ช่วยเขา คนอย่างคุณหญิงพิมลมาคุยดีๆคงไม่มีทางรู้เรื่อง มันต้องหักดิบแบบนี้ ไม่คิดว่าพ่อของสิตางศุ์นั้นจะเห็นด้วย อย่างน้อยผู้ชายคนนี้ก็ยังมีดีอยู่ แม้จะทำให้สิตางศุ์ของเขาร้องไห้ตั้งหลายครั้ง เขาอยากดูแลสิตางศุ์ให้ดีที่สุด เขาไม่อยากให้สิตางศุ์ต้องทนกับความโดดเดี่ยวในบ้านหลังใหญ่นี้อีกแล้ว







“ตกลงตามนี้นะ น้าหาฤกษ์หายามมาแล้ว อีกสองเดือนข้างหน้า” ริลณียังคงคุยกับอนันต์ไม่หยุด







“ดีเลยครับ ผมจะได้เตรียมตัวเคลียร์งาน” อนันต์หัวเราะร่วนอย่างอารมณ์ดี นานแค่ไหนแล้วที่เขารู้สึกว่าตัวเองเป็นพ่อของสิตางศุ์จริงๆ ไม่เคยคิดว่าวันหนึ่งต้องมาคุยเรื่องแต่งงานให้ลูกชายแบบนี้






“แล้วตกลงหนูสิตางศุ์ว่าไงจ้ะ จะไปอยู่กับตารัชที่ไร่มั้ย” ริลณีหันมาถามสิตางศุ์ สิตางศุ์รีบละจากใบหน้าของรัชพลแล้วหันมามองริลณี






“ว่ายังไงนะครับคุณย่าณี” เขาถามย้ำเพราะไม่ได้ตั้งใจฟังคำถามของริลณี






“ย่าถามว่าก่อนแต่งเนี่ยจะไปอยู่กับตารัชที่ไร่น้ำรินมั้ย พ่อเค้าอนุญาตแล้ว”






“เอ่อ... คะ...ครับ แต่คุณย่า...” สิตางศุ์นั้นยินดีที่จะไปอยู่แล้ว เพราะเขาเองก็คิดถึงไร่น้ำรินไม่น้อย






เขาคิดถึงทุกคนที่นั้น ทั้งภุมริน ตะวัน ป้าจัน หมอชาญ หรือแม้กระทั่งเด็กก้องกับหมาด่า ป่านนี้หมาด่างคนขาหายดีแล้วกระมัง แต่คุณย่าของเขานี่สิ สิตางศุ์กลัวว่าเธอจะไม่พอใจและตามเขาไปที่ไร่อีก







“พ่อเค้าพูดซะขนาดนั้นแล้วย่าจะห้ามอะไรได้ล่ะ อยากทำอะไรก็เชิญ ไม่เห็นหัวฉันแล้วนิ” พูดจบคุณหญิงพิมลก็ลุกออกไปอย่างไม่พอใจ สิตางศุ์มองตามด้วยความรู้สึกผิดไม่น้อย






“เดี๋ยวพ่อคุยเอง ตอนนี้สิตางศุ์ตอบคุณย่าก่อน ว่าจะไปมั้ย พ่อขอคำตอบที่ออกมาจากหัวใจของงสิตางศุ์จริงๆนะ” อนันต์พูด สิตางศุ์มองหน้าบิดาแล้วหันไปมองรัชพล






“ไปครับ ตางจะไปอยู่ไร่น้ำริน” มันไม่ใช่เรื่องยากที่สิตางศุ์จะตอบตกลง เพราะนั่นมันก็คือสิ่งที่เขาต้องการเหมือนกัน ใช่ว่าเขาอยากจะทิ้งบ้านหลังนี้ไป อยากจะทิ้งคุณย่า อยากจะทิ้งบิดา แต่เขาเองก็อยากจะทำตามความต้องการของตัวเองบ้าง ขอสักครั้งในชีวิต ที่ได้ทำตามหัวใจของตัวเอง







“ดีเลย ถ้าอย่างนั้นก็จัดงานแต่งที่ไร่น้ำรินเลยดีกว่าเนอะ บรรยากาศดีมาก” ริลณีหัวเราะร่วน หลังจากนั้นบรรยากาศก็เต็มไปด้วยความชื่นมื่น








รัชพลยิ้มกว้าง เขาอยากจะตะโกนลั่นเสียตรงนี้ให้สมกับความสาแก่ใจ แต่ก็ต้องรักษามารยาทไว้ เขาดีใจที่ในที่สุดแล้วนั้นเขาก็มีสิตางศุ์อยู่ข้างๆ รัชพลคนนี้รักสิตางศุ์ และจะดูและสิตางศุ์ของเขาให้ดีที่สุดเท่าที่ผู้ชายคนหนึ่งจะทำได้ คราวนี้แหละ ไร่น้ำรินจะได้มีสมาชิกใหม่ซักที ภุมรินจะได้เลิกบ่นให้เขาซักที







พี่สะใภ้ของรินใช่ถังไวน์ที่ไหนกัน แต่เป็นสิตางศุ์คนนี้ต่างหาก











*******************************************************************************








มาต่อแล้ว วันนี้มาช้าไปมาก แหะๆ มีธุระนิดหน่อยค่ะ  :m17: ตอนนี้ไม่ได้ตรวจดูอีกรอบนะคะ ข้อผิดพลาดอาจจะเยอะหน่อย  :try2: พี่รัชได้เมียซักที คนเขียนก็เหนื่อยแทนอิพี่รัชจะแย่  :เฮ้อ: เรื่องในใกล้จบแล้วนะคะ ไม่เกินสามตอน รู้สึกใจหายเล็กน้อยเหมือนกัน แต่ก็ยังมีเรื่องสุดท้ายของนิยายชุดนี้ให้ติดตามค่ะ ไม่ต้องห่วง พี่รัชกับสิตางศุ์โผล่ไปในเรื่องหน้าแน่นอน  :z2: ฝากด้วยนะคะ รักคนอ่านทุกท่านค่ะ  :m1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด