[นิยายชุด ดวงใจไร่รัก]พระจันทร์ล้อนที *แจ้งข่าวงานหนังสือ* รัชพล-สิตางศุ์
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก]พระจันทร์ล้อนที *แจ้งข่าวงานหนังสือ* รัชพล-สิตางศุ์  (อ่าน 92892 ครั้ง)

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ yisren.

  • #คนที่ฉันไม่เคยลืม
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 830
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-4

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ Speirmint28

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 127
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-1
บทที่ 24





“เดี๋ยวๆพี่รัช พี่พูดใหม่ซิว่าพี่จะไปไหนนะ” ภุมรินตามย้ำอีกรอบเมื่ออยู่ๆพี่ชายของตัวเองก็เดินเข้ามาในบ้านพร้อมกับบอกว่าจะไปหาสิตางศุ์





“พี่จะไปกรุงเทพฯ พี่จะไปหาสิตางศุ์” รัชพลพูดพร้อมด้วยแววตามุ่งมั่น





เขาจะทำให้ทุกคนรู้ว่าเขาไม่ได้ทิ้งสิตางศุ์และจะไม่มีทางทำแบบนั้นด้วย สิตางศุ์ต้องการเขาในตอนนี้ มันอาจจะใช่ที่เขาไม่มีสิทธิ์ไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องในครอบครัวของสิตางศุ์ แต่ถ้านั่นมันทำให้สิตางศุ์ของเขาไม่มีความสุขเขาก็ต้องยุ่ง





“แล้วพี่จะไปหาพี่ตางได้ยังไง พี่ตางเขาเป็นถึงลูกหลานคนใหญ่คนโต อยู่ๆพี่บุกไปหาเค้าแบบนั้นไม่โดนยิงหัวมาเหรอ และยิ่งไปกว่านั้นเค้าหมายหัวพี่ไว้แล้วด้วย พี่ทำให้พี่สิตางศุ์ต้องโดนยิงเจ็บขนาดนั้น” ภุมรินพูด





“จะพูดอะไรตอนนี้ไอ้ตัวเล็ก พี่เราเพิ่งจะฮึดขึ้นมา เดี๋ยวก็หงออีกหรอก” ตะวันล๊อคคอคนรักพร้อมกับเอ็ดเล็กน้อย ภุมรินเลยหันมาค้อนตะวัน





“ก็มันจริงมั้ยล่ะ” ภุมรินยังไม่เลิก






“ไม่ว่าสิตางศุ์จะเป็นใคร พี่ก็จะไปหาเค้า พี่รู้ว่าสิตางศุ์ต้องการอะไร” รัชพลพูดก่อนจะเดินขึ้นไปชั้นบนของบ้าน






“เอาจริงดิพี่รัช เดี๋ยวๆ ให้รินโทรหาคุณยายก่อน” เมื่อเห็นว่าพี่ชายเอาจริง ภุมรินจึงเลยตามเลย





หาสิตางศุ์น่ะไม่ยาก แต่จะเข้าถึงสิตางศุ์นี่สิมันยาก ภุมรินคิดไม่ออกเลยว่ารัชพลจะทำยังไง





ทำไมมันยากขนาดนี้นะ

















 “สิตางศุ์เข้าโรงพยาบาลตั้งหลายวัน ย่าไม่ได้มาเยี่ยมเลย หายไวๆนะลูก”





“ขอบคุณครับคุณย่าณี”





เช้านี้สิตางศุ์ต้องต้อนรับริลณีเพื่อนของคุณหญิงพิมล เธอมาเยี่ยมพร้อมกับอัคคี อาการของสิตางศุ์นั้นดีขึ้นมากแล้ว อีกไม่กี่วันก็กลับบ้านได้





คุณหญิงพิมลมาเยี่ยมเธอทุกวันแต่ก็อยู่ไม่นานนักด้วยหน้าที่การงานที่ต้องทำแต่ก็ส่งคนมาเฝ้าตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง มินตรามารดาของสิตางศุ์นั้นเข้าแทบจะไม่ถึงตัว





ส่วนอนันต์แม้จะบอกว่ารู้สึกผิดที่ทอดทิ้งลูกชายแต่ท้ายที่สุดเขาก็ทิ้งงานที่มีไม่ได้ ครั้งสุดท้ายที่มาเยี่ยมก็สองวันก่อน นั่นทำให้สิตางศุ์รู้สึกปลงกับครอบครัว





เขาอยากหายเร็วๆ และอยากกลับไปที่ไร่น้ำริน แต่เขาก็ไม่กล้าพอที่จะร้องขอย่าของเขา เรื่องที่ภูวดลจะจัดการให้เขาก็ขอเพื่อนรักไว้ เหตุผลที่ต้องทำแบบนั้นสิตางศุ์เองก็ยังไม่รู้ว่าเพราะอะไร เขาแค่ไม่อยากให้รัชต้องเดือดร้อนถ้าบอกความจริงไปว่าสิตางศุ์คนนี้กำลังคบกับรัชพล





ส่วนเรื่องของมารดานั้นสิตางศุ์ไม่รู้ว่าย่าของเขาจะทำอะไรกับมินตรา แต่ที่แน่ๆมันไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ สิตางศุ์ไม่อยากเป็นสาเหตุที่ทำให้แม่ตัวเองต้องเดือดร้อน





“ไม่เจอตั้งนาน โตเป็นหนุ่มแล้ว ย่าจำไม่ได้เลย” ริลณีพูด เธอเคยเห็นสิตางศุ์ตอนเด็กๆ แต่ก็แค่ไม่กี่ครั้งเท่านั้น ไม่คิดว่าเจออีกทีสิตางศุ์จะโตขนาดนี้แล้ว ด้วยความที่เพิ่งจะร่วมหุ้นกับพิมลเธอจึงพาอัคคีมาเยี่ยมสิตางศุ์เพื่อที่จะได้สานสัมพันธ์กันไว้ ในอนาคตข้างหน้าต้องร่วมงานกันแน่นอน





“สิตางศุ์เป็นคนเงียบๆไม่ค่อยเจอใครด้วยแหละ ถามคนในสังคมสิมีใครเคยเห็นหลานฉันออกงานบ้าง” คุณหญิงพิมลที่ยืนอยู่ใกล้ๆพูดขึ้น





“แต่อีกหน่อยก็คงต้องช่วยงานคุณย่าแล้วล่ะ”






“เรื่องนั้นก็ต้องแน่นอนอยู่แล้ว ว่าจะให้สิตางศุ์เข้าทำงานที่บริษัท อีกหน่อยคงเจอตาอัคบ่อยๆ”





คำพูดเหล่านั้นเข้ามาในหูของสิตางศุ์ ร่างบางบนเตียงคนไข้เบือนหน้าหนีบทสนทนาเหล่านั้น ท้ายที่สุดก็หนีความจริงที่เขาต้องตกอยู่ในวังวนแบบนี้ไม่พ้น สิตางศุ์รู้สึกแย่เมื่อคิดว่าตัวเองต้องมีวงจรชีวิตเหมือนคุณย่าและพ่อของตัวเอง วงจรชีวิตที่ไม่มีความสุข





“ถ้าอย่างนั้นฉันขอตัวกลับก่อนนะ หายเร็วๆนะลูก” ริลณีพูดกับพิมลก่อนจะหันมาบอกคนเจ็บ สิตางศุ์ยกมือไหว้แล้วยิ้มให้ผู้อาวุโสกว่ารวมทั้งอัคคีด้วย





เมื่อทั้งสองออกไปแล้วสิตางศุ์จึงล้มตัวลงนอนเหมือนเดิม สิตางศุ์อยากจะหนีไปจากตรงนี้ อยากจะหนีไปที่ไร่น้ำรินอีกครั้ง อย่างน้อยที่นั่นก็มีรัชพล มีภุมรินและมีทุกคนที่ไร่น้ำริน ถึงแม้ที่นี่จะมีครอบครัวแต่มันก็ไม่เหมือนครอบครัวเลยสักนิด






เขานึกอิจฉาทุกคนที่มีครอบครัวที่อบอุ่น ทั้งภูวดล รัชพลหรือแม้กระทั่งเด็กก้อง แม้จะไม่มีบ้านที่หรูหรา ไม่ได้เรียนโรงเรียนดีๆ แต่ก็มีพ่อแม่ที่ให้ความรักและความเข้าใจ สิตางศุ์ต้องการแบบนั้น มันดีกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้





“ตกลงจะบอกย่าได้รึยัง ทำไมต้องหนีไปที่ไร่น้ำรินอะไรนั่น” คุณหญิงพิมลปรับสีหน้าให้เคร่งเครียดเมื่อริลณีและหลานชายออกไปแล้ว





สิตางศุ์ไม่ตอบ ได้แต่นอนนิ่ง นั่นยิ่งทำให้คุณหญิงพิมลไม่พอใจ เธอถามหลานชายมาหลานครั้งแต่สิตางศุ์ก็ไม่เคยตอบเธอซักที






“สิตางศุ์ ย่าถามทำไมไม่ตอบ” หญิงชราเริ่มจะโมโหอีกแล้ว มันจะอะไรนักหนา แค่บอกเธอมามันยากหรืออย่างไร






“คุณย่าไม่รู้จริงๆเหรอครับ” สิตางศุ์พูดนิ่งๆ เขาเริ่มน้ำตาเอ่อ





“แล้วมันเรื่องอะไรล่ะ!” ความอดทนขาดผึง เธอปวดหัวกับสิตางศุ์มาหลายวัน แค่บอกมาว่านังมินตรามันทำอะไรจะบากนักหรือไง เธอจัดการให้ได้อยู่แล้ว





“คุณย่าลองถามตัวเองดูสิครับว่ามันเรื่องอะไร คุณย่ารู้ดีอยู่แก่ใจ คุณพ่อก็ด้วย ทุกคนรู้ บ้านที่ร้อนเป็นไฟใครจะอยากอยู่ คุณย่าครับ ผมไม่ได้ต้องการเงินทองที่คุณย่าให้มา ผมแค่ต้องการครอบครัว” สิตางศุ์ลุกขึ้นเผชิญหน้ากับคนตรงหน้า คุณหญิงพิมลนิ่งไป





“แล้วย่าไม่ใช่ครอบครัวเหรอสิตางศุ์” เธอพูด สิตางศุ์ต้องการครอบครัว เธอนี่ยังไงล่ะครอบครัวของสิตางศุ์





“แล้วที่คุณย่าทำอยู่ตอนนี้มันคือสิ่งที่คนในครอบครัวเค้าทำกันเหรอครับ คุณย่าครับ ตอนนี้ผมโตแล้ว ผมขอเลือกชีวิตตัวเองจะได้มั้ย ผมอยากกลับไปอยู่ที่ไร่น้ำริน” สิตางศุ์กลั้นใจบอกเจตจำนงของตัวเอง เขาจะไม่พูดเรื่องที่ผ่านมา เขาจะให้มันหายไป แต่สิ่งที่เขาต้องการตอนนี้คือมีชีวิตเป็นของตัวเอง ไม่ต้องติดอยู่ในกรงทองที่ย่าของเขาสร้างขึ้นมา





“ไม่ได้ หลานจะกลับไปไร่น้ำรินไม่ได้อีก ย่าไม่ให้ไป หลานจะไปได้ยังไง ที่นั่นมีแต่คนอื่นและยังอันตรายอีก และอีกหน่อยหลานก็ต้องเข้าทำงานในบริษัทของพ่อเค้า ไปอยู่ที่นั่นจะสุขสบายเหมือนที่นี่ได้ยังไง มีแต่ไร่แต่สวน” เธอไม่เข้าใจ ทำไมสิตางศุ์ต้องถวิลหาไอ้ไร่บ้าบอนั่นด้วย ทั้งๆที่ไร่นั่นทำให้หลานของเธอต้องเป็นแบบนี้





“อย่างน้อยอยู่ที่นั่นก็สบายใจกว่าอยู่ที่นี่ และผมก็ไม่อยากเป็นเหมือนพ่อด้วย... คุณย่ากลับไปเถอะครับ วันนี้ผมอยากพักผ่อน” พูดจบก็ล้มตัวลงแล้วหันหลังให้คุณหญิงพิมล





ร่างเล็กของหญิงชราไม่สบอารมณ์ เธอคว้ากระเป๋าราคาแพงมาถือไว้ก่อนจะเดินออกไปจากห้อง สิตางศุ์กำหมอนแน่น น้ำตาไหลเอ่อ แม้แต่ชีวิตตัวเองยังเลือกไม่ได้





พี่รัช... ช่วยผมด้วย ผมไม่อยากอยู่ที่นี่
















“ว่าไงคะน้องริน คิดถึงยายเหรอ” เสียงของริลณีดังขึ้นในรถคันหรู เธอกำลังจะกลับบ้านหลังจากให้คนขับรถแวะไปส่งอัคคีที่บริษัท วันนี้เธอตั้งใจจะไม่ไปทำงาน ความจริงเธอเองก็เริ่มวางมือแล้ว ทั้งลูกชายและหลานชายก็รับช่วงต่อกันแล้วทั้งนั้น





“รินคิดถึงคุณยายที่สุดเลยครับ แต่ที่โทรตอนนี้มันมีเรื่องด่วน แบบด่วนมากๆ” ภุมรินพูดด้วยน้ำเสียงร้อนรน





“มีเรื่องอะไรเหรอลูก หรือพ่อตัวดีของเราทำอะไรอีก” ริลณีคิ้วขมวด คราวที่แล้วลูกเขยตัวดีของเธอก็สร้างเรื่องสร้างราวเอาซะหลานเธอร้องไห้ไปหลายวัน คราวนี้มีเรื่องอะไรอีกล่ะ






“ไม่ใช่คุณพ่อครับ ก็พี่รัชน่ะสิจะไปกรุงเทพฯ!”






“ตารัชจะมา น้องรินลูก มันแปลกตรงไหน พี่ชายเราก็มาหายายทุกปี แล้วเราล่ะจะมามั้ย ยายคิดถึ๊งคิดถึง” ริลณียิ้มเมื่อนึกถึงหน้าหลานชายทั้งสอง





ภุมรินกับรัชพลเป็นลูกของริลดาลุกสาวของเธอที่เสียไปเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน ตอนนั้นเธอมีเรื่องกับบุรินทร์พ่อลูกเขยตัวดีที่ทำให้ลูกสาวของเธอต้องไปตกระกำลำบากอยู่ในไร่ แล้วยังจะมาแย่งสิทธิ์ในการเลี้ยงดูภุมรินอีก ตอนนั้นเป็นเรื่องเป็นราวขึ้นโรงขึ้นศาลไม่มองหน้ากันเป็นสิบๆปี เพิ่งจะมาคุยกันก็ตอนที่เธอไปไร่น้ำรินครั้งล่าสุดนี่แหละ แต่ก็ไปจัดการไอ้ลูกเขยที่อุตส่าห์ได้ภุมรินไปเลี้ยงแล้วยังจะดูแลหลานเธอไม่ดีอีก





“มันไม่ใช่อย่างนั้นครับคุณยาย พี่รัชไปคราวนี้ไม่ใช่แค่ไปเยี่ยมคุณยายเฉยๆ แต่พี่รัชจะไปสู้กับมาเฟีย!”





“ห๊ะ! มาเฟีย เดี๋ยวๆ ตารัชไปมีเรื่องกับใครเข้าล่ะเนี่ย” ริลณีตะโกนลั่นรถจนคนขับหันมามอง นี่หลานชายของเธอไปมีเรื่องมีราวกับมาเฟียได้ยังไง โอ้ย... นี่มันเรื่องอะไรกันนี่





“เรื่องมันยาวครับคุณยาย แต่คุณยายต้องช่วยพี่รัชนะ”





“ยายจะช่วยอะไรได้ล่ะลูก ยายยิงปืนไม่เป็น” ริลณีควานหายาดมในกระเป๋ามาสูด อะไรทำให้รัชพลไปมีเรื่องกับมาฟงมาเฟียได้ เธอจะบ้าตาย คนพวกนั้นชอบใช้อำนาจมืดฆ่าคนเป็นผักปลา





“ก็คุณยายรู้จักพวกไฮโซเยอะแยะ คุณยายก็ต้องรู้จักศิรินทราใช่มั้ยล่ะครับ นั่นแหละคนที่พี่รัชไปมีปัญหาด้วย” คำตอบจากปลายสายทำให้ริลณีตกใจเป็นรอบที่สองของวัน





“เดี๋ยวนะลูก พูดใหม่อีกทีซิ ใครนะที่ตารัชมีปัญหาด้วย” ริลณีถามย้ำ





“คุณหญิงพิมล ศิรินทราครับ คนนี้แหละที่พี่รัชจะไปสู้ด้วย หลานชายคุณยายจะไปฉุดหลานเค้ามา ตายแน่ๆ ไอ้พี่รัชไม่รอดแน่” คำตอบที่แน่ชัดทำให้ริลณีต้องสูดยาดมเข้าปอดอีกรอบ





“เป็นเรื่องแล้วไงล่ะตารัช” ให้มันได้อย่างนี้สิรัชพลหลานรัก






เธอเป็นเพื่อนกับคุณหญิงพิมลก็จริง แต่เธอก็ไม่กล้าเสี่ยงจะมีเรื่องกับเพื่อนคนนี้ ความโหดนั้นใครๆก็รู้ แล้วหลานชายเธอจับพลัดจับผลูไปมีเรื่องได้ยังไงล่ะเนี่ย





หางานยากมาให้ยายแล้วมั้ยล่ะ

















เวลาสี่ทุ่มในห้องพักของสิตางศุ์ ร่างเล็กยังคงนอนไม่หลับ สิตางศุ์พลิกไปพลิกมาแต่ก็พยายามไมให้โดนแผลของตัวเอง เขาควานหาโทรศัพท์ของงตัวเองแล้วเปิดมัน





เครื่องที่ปิดไว้นานตอนนี้ถูกเปิดขึ้นมา แสงจากหน้าจอโทรศัพท์เป็นแสงเดียวที่ปรากฏอยู่ในห้องนี้ สิตางศุ์นึกอยากจะโทรหารัชพลแต่ก็ไม่มีเบอร์ เขามีเพียงแค่เบอร์ของภุมริน แต่ก็ไม่กล้าโทรไปรบกวนตอนนี้เพราะมันดึกมากแล้ว สุดท้ายก็ทำได้เพียงแค่ปิดไว้เหมือนเดิม





สิตางศุ์ถอนหายใจก่อนจะพยุงตัวเองให้ลุกขึ้นแล้วเดินออกไปข้างนอก เขาอยากจะไปเดินเล่นเสียหน่อยแต่ก็เจอคนของคุณหญิงพิมลห้ามไว้ เลยต้องกลับมาในห้องเหมือนเดิม





ร่างเล็กเดินไปที่ระเบียงห้อง มองออกไปข้างนอกที่เต็มไปด้วยแสงไฟในยามค่ำคืนของเมืองใหญ่ ที่นี่มีแต่แสงไฟ มันเทียบอะไรไม่ได้กับแสงดาวที่ไร่น้ำริน





ถ้าถามสิตางศุ์ตอนนี้ว่าให้เลือกระหว่างอยู่ที่นี่กับไร่น้ำริน เขาจะตอบทันทีว่าเลือกที่จะกลับไปไร่น้ำริน แม้ว่าที่นั่นจะไมสุขสบายเท่าที่นี่ แต่มันก็สบายใจกว่า





“ต่อให้คุณแพ้แดดแรงๆเข้าไปในไร่กับผมไม่ได้ ผมก็จะให้คุณอยู่แต่ในร่ม เพราะผมเองก็ไม่อยากให้คุณต้องเป็นอะไร คุณขี่ม้าไม่เป็นผมก็จะเป็นคนขี่ให้คุณเอง คุณต่อสู้ไม่เก่งผมก็จะคอยปกป้องคุณ และถ้าคุณมีเรื่องลำบากใจเหมือนตอนนี้ ผมก็จะคอยเป็นที่ระบายให้คุณเสมอ”





คำพูดของรัชพลลอยเข้ามาในหัว น้ำตาใสๆไหลลงข้างแก้มโดยที่สิตางศุ์ไม่รู้ตัว ถ้ารัชพลอยู่ตรงนี้ก็ดีสินะ





...ตอนนี้สิตางศุ์คิดถึงรัชพล















“ไปด้วยสภาพนี้จริงดิไอ้รัช” ตะวันถามร่างสูงของรัชพลเมื่อพากันยกโขยงมาส่งรัชพลที่สนามบินในเช้าวันรุ่งขึ้น





“นี่แหละชุดที่ดูดีที่สุดของพี่รัชแล้ว” ภุมรินพูดแม้ว่าเขาเองจะรู้สึกไม่โอเคกับสารรูปของพี่ชายตัวเองตอนนี้เท่าไหร่





“มึงยืมชุดกูก่อนก็ได้ โอ้ย... ย่าคุณสิตางศุ์เค้ายิ่งจะไล่ตะเพิดมา” ตะวันทำหน้าละเหี่ยใจ





“ยืมอะไรเล่า ตอนนี้ไม่ทันแล้ว จะขึ้นเครื่องแล้วเนี่ย” รัชพลไม่สนใจ เขากลับรู้สึกเฉยๆเสียมากกว่า แม้ว่าเสื้อเชิ้ตตัวเก่าที่ใช้ไปทำงานและกางเกงยีนส์ที่แอบขาดๆนั้นจะทำให้ตะวันและภุมรินรู้สึกท้อก็ตาม





บ้านเราก็ไม่ได้จนขนาดนั้นนะพี่รัช จะหาซื้อเสื้อผ้าดีๆซักตัวก่อนไปก็ไม่ได้ สมควรแล้วที่คุณย่าของสิตางศุ์ไม่ให้ไปยุ่งกับหลานเค้า คราวนี้ต้องให้คุณยายกับพี่อัคจับแปลงโฉม!   
 







**************************************************************************

























ตอนนี้ปั่นนรกอีกแล้ว  :z6: ฝากด้วยนะคะ เอาใจช่วยพี่รัชกันโหน่ยยยยยยยยยยยยยยย  :katai5:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-03-2016 21:54:58 โดย Speirmint28 »

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
ดูท่าพี่รัชจะโชคดีอยู่หน่อยที่ผู้ช่วยดูเหมือนจะช่วยได้บ้าง
สู้ๆนะพี่รัช รีบไปหาสิตางศุ์ สิตางศุ์จะตรอมใจแล้วมั้งน่ะ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ chancha

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4

ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1775
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
คุณยายจะเป็นแบ็คให้ได้ขนาดไหนน้า งานหินจริงๆ สู้ๆนะพี่รัช

ออฟไลน์ farfarneenee

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 365
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1

ออฟไลน์ cchompoo

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-4
สู้ๆนะพี่รัช เรารู้ว่าพี่ทำได้ 55

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
อยากเห็นพี่รัชแปลงโฉมมม

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
เป็นกำลังใจให้นะพี่รัช

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
ขอให้คุณยายช่วยได้ทีเถอะ สงสารพี่รัช

ออฟไลน์ yisren.

  • #คนที่ฉันไม่เคยลืม
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 830
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-4
ชักขำพี่รัช จะไปฉุดหลานเค้า เปลี่ยนขุดก่อนมั้ย? 555555

ออฟไลน์ Speirmint28

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 127
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-1
บทที่ 25




 
ริลณี จิระมนตรี หญิงชราวัยหกสิบกว่าปีต้องมานั่งพัดๆวีๆรอหลานชายอยู่ที่สนามบินพร้อมกับเพลิงนภาหลานสาวคนเล็กที่เพิ่งจะเลิกเรียน เธอได้รับโทรศัพท์จากภุมรินว่ารัชพลได้เดินทางมาแล้ว หลังจากรออยู่นานริลณีก็เห็นรัชพลเดินมาแต่ไกล





เสื้อเชิ้ตธรรมดาๆที่ติดจะซีดๆ กางเกงยีนส์ขาดเล็กน้อยแต่ก็เห็นได้ในระยะไกล เสื้อแจ็กเกตหนังสีหม่นที่เธอเห็นรัชพลใช้เมื่อปีที่แล้ว และกระเป๋าเบ้สะพายหลังใบขนาดย่อม





โอ้ย! ตารัช!





“พี่รัช อยู่ทางนี้ วู้ว!” หญิงสาวในชุดนักศึกษาโบกมือพร้อมตะโกนเรียก ริลณีหันไปมองด้วยสายตาที่ทำให้เพลิงนภาต้องเอามือลง





“สวัสดีครับคุณยาย หวัดดียัยเพลิง” รัชพลทักทายทั้งสองคนเมื่อเดินมาถึง ริลณีรับไหว้แล้วกอดหลานชายตัวโตก่อนจะหอมแก้มรัชพลไปหนึ่งที





“ไม่เจอตั้งนาน ดูซิ ผมเผ้าน่ะตัดซะบ้าง แล้วเสื้อผ้าน่ะพ่อเราไม่ซื้อให้บ้างรึไง ใครรู้ว่าเป็นหลานคุณริลณีนะอายเค้าตายเลย แล้วไปมีเรื่องกับใคร อะไรยังไง เราต้องคุยกันยาวนะตารัช” ริลณีใช้พัดตีไปที่ไหล่ของรัชพลหนึ่งที





“มาถึงก็ด่าพี่รัชเลยนะคุณย่า เพลิงว่าพี่รัชแต่งตัวแบบนี้เท่ดีออก” เพลิงนภาคว้าแขนพี่ชายไว้ รัชพลยิ้มให้หญิงสาวแล้วลูบหัวไปหนึ่งที





“ไม่ต้องเลยยัยเพลิง ไป พาพี่เรากลับบ้านเลย” ริลณีเหนื่อยใจกับหลานสาวคนเดียวของบ้าน เป็นผู้หญิงหัดทำตัวให้เรียบร้อยอ่อนหวานไม่เคยจะมี แล้วดูรัชพลสิ ทำไมบุรินทร์ถึงเลี้ยงหลานเธอได้แย่ขนาดนี้นะ สภาพดูไม่ได้ ต้องให้อัคคีลอกคราบพ่อหนุ่มบ้านไร่ทิ้งเสียแล้ว





ทั้งสามคนพากันมาขึ้นรถก่อนที่รถคันใหญ่จะแล่นมุ่งตรงไปสู่บ้านจิระมนตรี บ้านจิระมนตรีของริลณีนั้นมีเธอ คุณรุจลูกชาย พิมพ์นภาลูกสะใภ้ อัคคีและเพลิงนภาหลานทั้งสองคน รวมทั้งสาวใช้อีกสองสามคนและคนขับรถอีกหนึ่ง เป็นบ้านขนาดใหญ่ แม้ว่าคนในครอบครัวจะไม่ค่อยได้เจอกันพร้อมหน้าพร้อมตาบ่อยนักแต่ก็มีวันที่นัดกินข้าวพร้อมกันอยู่





เมื่อรถมาจอดที่บ้านเพลิงนภาก็ลากแขนรัชพลเข้าบ้านไปโดยมีริลณีเดินนำอยู่ก่อนแล้ว สาวใช้รีบมาต้อนรับและยกกระเป๋าเป้ใบเล็กของรัชพลไปเก็บ ร่างสูงของเจ้าของไร่น้ำรินมองไปรอบๆ





เขามาที่บ้านนี้ทุกปีบ้านหลังนี้ไม่เปลี่ยนไปมาก ลุงรุจเคยชวนรัชพลมาช่วยงานที่บริษัทอยู่บ่อยครั้ง แต่เขาก็ปฏิเสธไปเพราะชอบไวน์และชอบอยู่ไร่มากกว่า ตอนภุมรินมาเรียนที่นี่ก็มาพักอยู่ที่บ้านหลังนี้ เพราะไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยมากนัก





“มาเร็วกว่าที่คิดไว้เสียอีกนะเนี่ย กินอะไรมารึยังจ้ะรัช” พิมพ์นภาถามเมื่อเห็นว่ารัชพลมาถึงแล้ว เธอเตรียมกับข้าวให้หลานชายไว้เยอะแยะ เพราะกลัวว่ารัชพลยังไม่ได้ทานอะไรมา





“ตั้งโต๊ะเลยก็ได้ยัยพิมพ์ ใกล้จะเที่ยงแล้วเนี่ย” ริลณีสั่งลูกสะใภ้ก่อนจะนั่งลงบนโซฟา เพลงนภากับรัชพลก็นั่งตาม





“ค่ะคุณแม่” พิมพ์นภาตอบแล้วก็หายไปในครัวเพื่อทำหน้าที่ของตัวเอง ริลณีเบนสายตามาที่หลานชายสุดมอซอของตัวเอง แล้วจ้องมองอย่างจับผิด





“ตารัช ตกลงยังไง ไปมีเรื่องกับคุณหญิงพิมลได้ยังไงห๊ะเรา ไม่รู้หรือยังไงว่าคุณหญิงพิมลเค้าเป็นคนยังไง” พอเริ่มได้เธอก็ถามหลานชายทันที





“ความจริงผมไม่ได้ไปมีเรื่องกับคุณหญิงพิมลโดยตรงหรอกครับคุณยาย คือจริงๆแล้วมัน...” รัชพลนิ่งไปสักพักแล้วถอนหายใจ ก่อนจะเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ริลณีกับเพลิงนภาฟัง





เขามาที่นี่เพื่อที่จะพาสิตางศุ์กลับไปด้วย รัชพลรู้ว่ามันยากมากแค่ไหนแต่เขาก็จะทำ สิตางศุ์เคยบอกกับเขาว่าอยากอยู่ที่ไร่น้ำรินมากกว่าที่จะอยู่ที่นี่ นั่นอาจจะเป็นเพราะเรื่องครอบครัวของสิตางศุ์ เขาไม่มีสิทธิ์เข้าไปยุ่งเกี่ยวเรื่องในครอบครัว แต่เขามีสิทธิ์ที่จะช่วยเหลือสิตางศุ์ในฐานะคนรัก





“จนได้สิน่า...” ริลณีถอนหายใจหนักๆ เธอเองก็พอจะรู้ว่าครอบครัวของคุณหญิงพิมลนั้นไม่ลงรอยกับอดีตลูกสะใภ้เท่าไหร่ แต่เรื่องของสิตางศุ์หลานชายของคุณหญิงพิมลเธอไม่ค่อยรู้เรื่องเพราะไม่ได้เจอกันมานานมาก เคยเจอแค่ตอนเด็กๆเท่านั้น





“รัชแค่อยากเจอสิตางศุ์ครับคุณยาย รัชรู้ว่ารัชดูแลสิตางศุ์ไม่ดี แต่รัชก็รู้ว่าสิตางศุ์รู้สึกแย่แค่ไหนที่ต้องทนอยู่แบบนั้น ไม่อย่างนั้นคงไม่หนีไปที่ไร่”





“ยายช่วยให้รัชเจอสิตางศุ์ได้ แต่เรื่องที่รัชไปรักไปชอบกับหลานของพิมลยายว่าเรื่องนี้มันยากนะ ปกติพิมลหวงลูกหวงหลานอยู่แล้ว และเราเคยทำให้หลานเค้าเจ็บตัวขนาดนั้นเค้าจะยอมเหรอ” ริลณีก็คิดหนักไม่แพ้กัน





เธอตกใจเล็กน้อยที่รัชพลกับสิตางศุ์มีความสัมพันธ์กันแบบนั้น ไม่คิดว่าที่สิตางศุ์โดนยิงเจ็บตัวกลับมาจะเป็นเพราะไร่น้ำรินของลูกเขยของเธอ และยิ่งไปกว่านั้นหลานชายของเธอก็ดันไปมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับสิตางศุ์เสียนี่ มันจะไม่ยากเลยถ้าย่าของสิตางศุ์ไม่ใช่คุณหญิงพิมล ศิรินทรา แค่เธอไม่กำจัดรัชพลก็ดีแค่ไหนแล้วที่เป็นสาเหตุทำให้หลานเธอต้องเจ็บตัวแบบนั้น





แต่ก็นั่นแหละ เรื่องแบบนี้มันห้ามกันไม่ได้ รัชพลก็ยืนยันกับเธอว่ารักสิตางศุ์ด้วยใจจริง เธอเชื่ออย่างนั้น เพราะหลานชายคนนี้เป็นคนหนักแน่นมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว เรื่องนี้คงได้พ่อมา เป็นเรื่องเดียวที่ริลณียอมรับลูกเขยบ้านไร่ของเธอ จนมีหลานให้เธอตั้งสองคน เมื่อรัชพลจริงใจกับสิตางศุ์ขนาดนี้แล้ว เธอจะปล่อยให้หลานชายหอบแห้วกลับไร่น้ำรินมันก็ดูจะเป็นการใจร้ายเกินไป





“ทำไมพี่รัชกับพี่รินต้องงานยากตลอดเลย คราวที่แล้วแฟนพี่รินก็นอนหยอดน้ำข้าวต้มไปตั้งหลายวัน คราวนี้พี่รัชก็ดันไปหลังรักหลานมาเฟียซะงั้น นิยายชัดๆ” เพลิงนภาที่ฟังอยู่ก็เครียดไม่แพ้กัน เรื่องของภุมรินคราวที่แล้วเธอก็รับรู้ เธอว่าเรื่องคราวนั้นยากพอตัวแล้ว เรื่องคราวนี้มันแอดวานซ์กว่า





“ใครจะรู้ล่ะว่าสิตางศุ์เป็นหลานมาเฟีย พี่ก็หวังว่าความจริงใจของพี่จะทำให้ครอบครัวของสิตางศุ์รับรู้ว่าพี่รักสิตางศุ์จริงๆ” รัชพลพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น





“ย่ะพ่อหลานชายหัวใจลูกทุ่ง ดูสภาพเราซะก่อน ถ้าคิดจะรักหลานคุณหญิงพิมลอย่างแรกต้องตัดผมแล้วแต่งตัวดีๆซะก่อน พรุ่งนี้ยายจะให้ตาอัคพาไปซื้อชุด อยากเจอสิตางศุ์ใช่มั้ย อาทิตย์หน้ามีงานการกุศลของคุณหญิงอรนุช คุณหญิงพิมลก็น่าจะพาหลานเค้าไปอยู่แหละ ไปกับยายเดี๋ยวยายจัดการเอง แล้วอย่าเพิ่งกระโตกกระตากไปฉุดเค้ากลางโรงบาลล่ะ ไม่อย่างนั้นเรื่องจะยุ่งกว่านี้”





 ริลณีดักทางไว้ก่อนกลัวว่าพ่อหลานชายจะไปฉุดหลานเค้ามาเสียก่อน รัชพลทำได้เธอรู้ ยิ่งไปทำอย่างนั้นเรื่องยิ่งจะยาก เรื่องแบบนี้ต้องค่อยๆเป็นค่อยๆไป หวังว่าความเป็นเพื่อนมาสี่สิบกว่าปีของเธอกับพิมลนั้นจะทำให้เรื่องมันง่ายขึ้นล่ะนะ แม้จะเป็นแค่เพื่อนสมัยเรียนก็ตามที





“คุยอะไรกันหน้าเครียดเชียว ไปทานข้าวกันก่อนดีกว่า ป้าทำของโปรดรัชไว้เยอะเลยนะ” พิมพ์นภาเดินเข้ามาเรียกทั้งหมดไปทายข้าว ริลณีเดินนำไปก่อนแล้วทั้งหมดจึงตามไป





วันแรกในเมืองใหญ่ของรัชพลเริ่มขึ้นแล้ว ใจจริงเขาอยากจะไปหาสิตางศุ์ที่โรงพยาบาลตามความตั้งใจจริง แต่โดนริลณีดักทางไว้แบบนี้เลยต้องพับความตั้งใจนั้นเก็บไว้แล้วรอโอกาสที่จะมาถึง คงจะตรงๆเหมือนตอนอยู่ที่ไร่ไม่ได้แล้ว





เมื่อไหร่เราจะเจอกันซักทีนะสิตางศุ์

















สิตางศุ์กลับมาพักฟื้นที่บ้านหลังจากนอนโรงพยาบาลมาเกือบหนึ่งอาทิตย์ อาการดีขึ้นตามลำดับ เขามานอนพักอยู่ที่บ้าน บ้านหลังเดิม ห้องเดิมที่เคยอยู่ อนันต์กลับบ้านบ่อยขึ้นแม้แต่คุณหญิงพิมลเองก็ด้วย






ทุกคนเหมือนพยายามที่จะเอาใจและดูแลสิตางศุ์เพิ่มมากขึ้น นั่นทำให้สิตางศุ์รู้สึกดีไม่น้อย แต่เขาก็ไม่ได้เจอมินตราอีกเลย นั่นเป็นเพราะย่าของเขา สิตางศุ์รู้ดี แต่มันก็เป็นการดีตรงที่ว่าเขาจะได้ไม่ต้องเจออาทัศอีก เพราะเขาคงทำตัวไม่ถูก สิตางศุ์รังเกียจผู้ชายคนนี้ คบกับแม่ของเขาแต่กลับมาทำกิริยาแบบนั้นกับเขาทั้งๆที่เขาเป็นผู้ชาย ถ้าคุณย่ารู้เรื่องนี้คงไม่ปล่อยไว้แน่นอน





วันนี้ภูวดลมาหาสิตางศุ์ที่บ้าน สิตางศุ์รู้สึกผ่อนคลายเมื่อมีคนคุยด้วย





“เป็นไงไอ้แห้ง หายหงอยรึยัง กูมีข่าวใหม่จะมาบอกด้วย” ภูวดลพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ข่าวใหม่ที่เขาเพิ่งได้รับนั้นเขาได้ฟังมาจากภุมรินสดๆร้อนๆแล้วรีบตรงดิ่งมาที่บ้านศิรินทราทันที





“มีเรื่องอะไรเหรอภู” สิตางศุ์ขมวดคิ้ว ใจเริ่มจะเสียไม่รู้ว่าเป็นเรื่องดีหรือเรื่องร้ายกันแน่





“ตอนนี้คุณรัชพลมาที่นี่ มาหามึงที่กรุงเทพฯ!” สิ่งที่ภูวดลพูดนั้นทำให้สิตางศุ์ใจเต้นแรงขึ้น






“พี่รัชมาที่นี่เหรอ” สิตางศุ์ไม่คิดว่ารัชพลจะมาหาเขาที่นี่






มันไม่ใช่เรื่องง่ายกับการโดนขู่โดยคุณย่าของเขาแล้วรัชพลจะยังดันทุรังมาหาเขาต่อ เขาไม่คิดด้วยซ้ำว่ารัชพลคิดที่จะสู้กับย่าของเขา เพราะแค่เรื่องที่ผ่านมาก็ทำให้รู้ว่าตัวรัชพลเองก็เสี่ยงมากแค่ไหนถ้าคิดจะต่อกรกับคุณหญิงพิมล สิตางศุ์ดีใจแต่อีกใจหนึ่งก็ห่วงรัชพล คุณย่าของเขาต้องไม่อยู่เฉยแน่ และนั่นความปลอดภัยของรัชพลก็แทบจะไม่มี






“เออ มาเมื่อวาน รินเพิ่งบอกกูเมื่อเช้า เฮอะ... ไม่คิดว่าจะเอาจริง เอาแล้วไงเพื่อนกู ผู้ชายตามมาถึงนี่” ภูวดลพูด เขาเองก็ไม่คาดคิดว่ารัชพลจะเอาจริง ทั้งๆที่รู้ว่าย่าของสิตางศุ์เป็นใคร นับถือใจสุดๆ





“เราเป็นห่วงพี่รัช ถ้าคุณย่ารู้ต้องแย่แน่ๆ คุณย่าบอกว่าไม่ให้ยุ่งกับคนที่ไร่น้ำรินอีก แล้วคุณย่าก็ไม่รู้ว่าเราคบกับพี่รัช” สิตางศุ์หน้าเครียดลงเมื่อนึกถึงจุดนี้





“เรื่องมันไม่ยากขนาดนั้นแล้วไอ้ตาง ฟังนะ กูเพิ่งนึกได้ว่ารินน่ะมันเป็นหลานคุณริลณี แล้วคุณรัชของมึงก็ด้วย แล้วตอนนี้ยายของคุณรัชกำลังร่วมหุ้นกับย่ามึงอยู่ นอกจากนั้นยังเป็นเพื่อนสมัยเรียนกันอีก เรื่องนี้มันไม่ยากเว้ย” ภูวดลบอกเรื่องที่น่าตื่นเต้นให้สิตางศุ์ฟัง





เขาก็ลืมนึกไปเลยว่าภุมรินตอนเรียนที่กรุงเทพฯมาอยู่ที่บ้านของคุณริลณี และยังเป็นหลานรักอีก เรื่องอะไรที่ยากๆตอนนี้พอจะมีหนทางแล้ว อย่างนี้ไอ้แห้งของเขาก็ไปอยู่ไร่น้ำรินได้สบาย ถ้าคุณย่ามันอนุญาต





“หลานคุณยายณีเหรอ” สิตางศุ์ตกใจกว่าเดิม หลานยายณี คุณยายริลณีหุ้นส่วนของคุณย่าของเขาเนี่ยนะ สิตางศุ์ไม่คิดว่ารัชพลจะเป็นหลานของคุณยายริลณี คิดว่ารัชพลเป็นเพียงแค่ชาวไร่ธรรมดาเสียอีก เพราะดูแล้วไม่น่าจะมีความสัมพันธ์กับนักธุรกิจใหญ่อย่างริลณีได้





“ก็เออสิวะ โลกกลมชิบหาย แล้วตอนนี้รินก็ให้เบอร์คุณรัชพลมาแล้วด้วย เอาโทรศัพท์มึงมาดิ” ภูวดลแบมือขอมือถือจากสิตางศุ์





สิตางศุ์ก็ยื่นให้อย่างไม่รีรอ เขาเองก็อยากจะคุยกับรัชพลเหมือนกัน ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ก็หกวันแล้วที่ไม่ได้ติดต่อรัชพลอีกเลย





“เรียบร้อยละ มึงอยากคุยกับเขาก็คุย แล้วไม่ต้องทำมาเป็นนางเอกเล่นตัวเหมือนในละครนะไอ้แห้ง แห้วกูไม่รู้ด้วย จะมีผัวทั้งทีเสือกเอาแต่นิ่งไม่ยอมพูดยอมจา” คำพูดของภูวดลทำให้สิตางศุ์หน้าแดงขึ้นมา





“บ้าน่าภู พูดอะไร หยาบคาย” สิตางศุ์หันหน้าหนีด้วยความเขินอาย ผัวอะไรกัน ดูภูวดลใช้คำพูดเข้า อยากจะบ้าตายจริงๆ





“ทำเป็นเขิน ไปละ กูมีงานต้องทำอีกเยอะ เจอกันอีกทีงานแม่กูอาทิตย์หน้าเลยนะ” ภูวดลลุกขึ้นก่อนจะลาสิตางศุ์ งานที่ว่านั้นก็อีกสี่วันข้างหน้าแล้ว สิตางศุ์เองก็ตกปากรับคำย่าของเขาว่าจะไป





“อือ ขอบคุณมากนะภู” สิตางศุ์ยิ้มให้เพื่อนรักก่อนจะเดินออกไปส่งภูวดลที่หน้าประตู





เมื่อภูวดลกลับไปแล้วสิตางศุ์ก็ก้มมองดูเบอร์โทรสิบหลักในโทรศัพท์ เบอร์ของรัชพล


















“ตัดผมแล้วดูดีขึ้นเยอะเลยนะเรา เดี๋ยวพี่จะพาไปดูเสื้อผ้ากับรองเท้าต่อ รัชชอบแบบไหนเป็นพิเศษมั้ย” อัคคีถามน้องชาย วันนี้ริลณีให้เขาหยุดงานหนึ่งวันเพื่อพารัชพลมาดูเสื้อผ้า





“ไม่ชอบแบบไหนเป็นพิเศษหรอกครับ ไม่ค่อยรู้เรื่องเสื้อผ้าเท่าไหร่” รัชพลตอบ เขามองดูสภาพตัวเองกับอัคคีแล้วก็รู้สึกได้ถึงความแตกต่างอย่างชัดเจน





อัคคี จิระมนตรีหลานชายของคุณริลณี มาดนักธุรกิจมาเต็ม ผูกไทด์ใส่สูท เนี๊ยบตั้งแต่หัวจรดเท้า ตัดภาพมาที่เขาซึ่งก็เป็นหลานคุณริลณีไม่ต่างกัน แต่สภาพเหมือนกำลังจะเข้าไร่เข้าสวน เดินตามอัคคีเหมือนเขาเป็นคนขับรถไม่มีผิด จะพูดอะไรได้ล่ะ






เขาเกิดมาในไร่ของพ่อ เป็นธรรมดาที่จะเป็นคนแบบนี้ ขืนใส่สูทเข้าไร่เข้าโรงบ่มคงร้อนตาย แต่ถ้าให้มาแต่งตัวดีๆแล้วไม่ได้อยู่ในไร่แบบอัคคีเขาก็คงไม่เอาเหมือนกัน เขารักไร่น้ำริน ไร่ที่พ่อกับแม่สร้างและอยู่ด้วยกันมา





“ถ้าอย่างนั้นพี่จะช่วยเลือกแล้วกันเนอะ อาทิตย์หน้าคุณย่ามีงาน เห็นบอกว่าจะพาเราไปด้วย” อัคคีพูดเมื่อเดินมาถึงร้านเสื้อผ้าที่เขามาใช้บริการประจำ รัชพลเดินตาม พนักงานในร้านแอบมองพี่ชายของเขาแล้วหัวเราะคิกคัก เป็นเรื่องธรรมดาที่ใครๆก็ต้องชอบคนดูดี





“ครับ คุณยายจะท่านบอกว่าจะให้ผมไปด้วย” งานอาทิตย์หน้าคืองานที่เขาจะได้เจอสิตางศุ์ รัชพลรู้สึกดีใจไม่น้อย ไม่ได้เจอแค่อาทิตย์เดียวเหมือนเขาไม่เจอสิตางศุ์มาเป็นปียังไงอย่างนั้น ตอนนี้จะเป็นยังไงบ้างนะสิตางศุ์





อัคคีพยักหน้ารับก่อนจะเลือกเสื้อผ้าให้รัชพลหลายชุด รัชพลรับมาอย่างเกรงใจ เขาจะจ่ายเองแต่อัคคีก็ห้ามไว้เพราะริลณีให้เขาจัดการในเรื่องนี้ กว่าสองพี่น้องจะออกจากร้านมาก็นานอยู่เหมือนกัน อัคคีพารัชพลไปทานข้าวกลางวันก่อนจะกลับบ้าน






รัชพลเดินเข้าบ้านอย่างเหน็ดเหนื่อย มันก็จริงที่การเดินห้างที่มีแอร์เย็นๆนั้นสบายกว่าการเข้าไร่ที่ระอุไปด้วยไอแดด แต่ด้วยสภาพจิตใจของเขาตอนนี้มันแทบจะไม่อยากทำอะไรเลยด้วยซ้ำ เขาอยากเจอสิตางศุ์ อดใจรอไม่ไหวแล้ว อยากจะไปหาแต่ริลณีก็ห้ามไว้ เขาจะทำอะไรได้นอกจากนั่งรออยู่อย่างนี้






“กลับมาแล้วเหรอรัช มานี่หน่อยซิลูก มาช่วยยายยกต้นไม้หน่อย” เสียงของริลณีดังขึ้นจากหลังบ้าน





“ครับคุณยาย” รัชพลวางของลงพร้อมกับกระเป๋าตังค์และโทรศัพท์ เขาพับแขนเสื้อขึ้นแล้วเดินไปหลังบ้าน






ริลณีกำลังเลือกต้นไม้ที่จะใช้จัดสวนอยู่โดยมีลูกมือเป็นสาวใช้คนหนึ่งของบ้าน หลังจากวางมือจากงานที่บริษัท นายเหนือใหญ่ของจิระมนตรีก็มีเวลาทำอะไรมากขึ้น และสิ่งที่เธอยากจะทำก็คือการจัดสวนสวยๆที่หลังบ้าน เอาไว้อ่านหนังสือพักผ่อน






รัชพลช่วยริลณีจัดสวนจนถึงเย็น เขารู้สึกผ่อนคลายเล็กน้อยเมื่ออยู่กับต้นไม้ รอยยิ้มจางๆที่หายไปหลายวันปรากฏขึ้นบนใบหน้าของร่างสูง





และเสียงโทรศัพท์ที่ดังอยู่นานสองนานในบ้านก็ยังคงถูกเมินเฉยจากเจ้าของของมัน











































รอบที่สี่ที่สิตางศุ์กดโทรหารัชพลจากเบอร์ที่ภูวดลให้ไว้ เขาเริ่มไม่มั่นใจว่านี่คือเบอร์ของรัชพลจริงหรือเปล่า ถ้าเกิดว่าใช่แล้วทำไมรัชพลไม่ยอมรับโทรศัพท์ของเขา







สิตางศุ์หน้าเจื่อนลง เขาโทรไปตั้งหลายรอบแต่ก็ยังไม่ได้รับการตอบกลับจากอีกคน สุดท้ายร่างบางก็จำใจต้องหยุด สิตางศุ์ปิดโทรศัพท์แล้วล้มตัวลงนอน






ทำไมรัชพลไม่รับโทรศัพท์ของเขานะ











***************************************************************************





ตอนนี้เรื่อยๆ เอื่อยๆ ยังไม่เจอกันอยู่ดี ตอนหน้าสนุกแน่นอน ความบ้านนอกของพี่รัชจะป่วนกรุง  :laugh3: ตอนหน้าทั้งสองจะเจอกันแล้วนะจ้ะ ส่วนตอนนี้เอาความเหงาความหงอยของพี่รัชกับสิตางศุ์ไปก่อน ฝากด้วยนะคะ รักคนอ่านทุกท่านค่ะ  :katai5:



ปล. แก้ไขนิดนึงงงงง ลงเนื้อหาไม่ครบ เบลอหนัก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-03-2016 20:44:40 โดย Speirmint28 »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
พี่รัชคะะะ ทำตัวให้สมเป็นหนุ่มนักเรียนนอกนิดนึงงงงงงง
เข้าเมืองมาสู่ขอหลานมาเฟียทั้งที ฮ่าๆๆๆ

ออฟไลน์ cchompoo

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-4

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
ความบ้านนอกของพี่รัชจะป่วนกรุง ขนาดนั้นเลยเรอะ ฮา

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
มันสั้นไปดิ้นไปมาขอยาวๆ

ออฟไลน์ yisren.

  • #คนที่ฉันไม่เคยลืม
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 830
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-4

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1775
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
พี่รัชป่วนกรุง :laugh:
เอาจริงๆ พี่แกอยู่แต่ในไร่ ในโรงบ่ม จนบางทีก็ลืมไปว่าพี่แกเด็กนอก //อิพี่รัช เก๊าขอโต้ดดด

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12

ออฟไลน์ Speirmint28

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 127
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-1
บทที่ 26




รอบที่สี่ที่สิตางศุ์กดโทรหารัชพลจากเบอร์ที่ภูวดลให้ไว้ เขาเริ่มไม่มั่นใจว่านี่คือเบอร์ของรัชพลจริงหรือเปล่า ถ้าเกิดว่าใช่แล้วทำไมรัชพลไม่ยอมรับโทรศัพท์ของเขา สิตางศุ์หน้าเจื่อนลง เขาโทรไปตั้งหลายรอบแต่ก็ยังไม่ได้รับการตอบกลับจากอีกคน สุดท้ายร่างบางก็จำใจต้องหยุด สิตางศุ์ปิดโทรศัพท์แล้วล้มตัวลงนอน วงจรชีวิตของเขาน่าเบื่อกว่ายุงเสียอีก





“สิตางศุ์ อยู่มั้ยลูก” เสียงเรียกหน้าห้องพร้อมกับเสียงเคาะประตูทำให้สิตางศุ์ต้องลุกไปเปิดประตูห้อง





“มีอะไรเหรอครับคุณย่า” สิตางศุ์ตอบด้วยน้ำเสียงเนือยๆ





“ไปดูชุดกับย่า วันนี้ต้องไปทานข้าวกับคุณสินีนุช พรุ่งนี้มีงานวันเกิดคุณวิเชียรอีก” คุณหญิงพิมลในชุดผ้าไหมสีเข้มพร้อมกับหน้าผมที่ถูกจัดอย่างเต็มยศพร้อมออกไปข้างนอกพูดกับสิตางศุ์ที่สภาพเหมือนเพิ่งจะตื่นนอน





“คุณย่าครับ ผมไม่อยากไป” สิตางศุ์รู้สึกเบื่อ เขาเพิ่งกลับมาจากโรงพยาบาลได้แค่วันเดียวเท่านั้น แผลก็ใช่ว่าจะหายดี แต่คุณย่ากับลากเขาไปออกงานนู่นนี่





“ไม่อยากไปก็ต้องไป คนอื่นเค้าอยากเจอหลานจะแย่ ไม่เคยจะออกงานสังคมบ้าง อีกหน่อยก็ต้องรับช่วงต่อแล้ว เรียนรู้งานไว้แต่เนิ่นๆ”





ทุกวันนี้เธอต้องคอยยิ้มและบอกกับคนในวงสังคมตลอดว่าหลานชายของเธอนั้นยังไม่พร้อมที่จะมาเจอทั้งๆที่อายุอานามก็เหมาะสมที่จะเข้าทำงานแล้ว ลูกหลานบ้านอื่นเค้าไปงานนู้นงานนี้ตั้งแต่เด็ก จะมีก็แต่สิตางศุ์ที่ทำตัวแปลกแยก





“แต่ผมยังไม่หายดีนะครับคุณย่า”





“แต่มันก็หายแล้วนิ ไม่รู้ล่ะ ยังไงก็ต้องไป ย่าจะไปรอข้างล่าง เร็วๆด้วยล่ะ” พูดจบคุณหญิงพิมลก็เดินลงไปชั้นล่างโดยที่ไม่ฟังคำคัดค้านของสิตางศุ์





ร่างบางได้แต่ถอนหายใจ ทำไมเขารู้สึกเหนื่อยไปทุกวัน ต่อให้บอกความต้องการของตัวเองไปยังไง ย่าของเขาก็ไม่เคยฟังอยู่ดี บางทีเขาไม่อยากเกิดมาเป็นสิตางศุ์ ศิรินทราเลยด้วยซ้ำ





สุดท้ายสิตางศุ์ก็จำใจเดินเข้าห้องไปอาบน้ำแต่งตัวเพื่อไปข้างนอกตามความต้องการของคุณหญิงพิมล

















“เสร็จแล้วครับคุณยาย” รัชพลกลบดินเป็นการปิดท้ายก่อนจะถอดถุงมือออก ตอนนี้เป็นเวลาหกโมงเย็น ต้นไม้ของริลณีถูกนำลงดินครบทุกต้น โดยฝีมือของหลานชายคนเก่ง





“ขอบใจมากลูก ถ้ายายทำเองเดือนนี้ก็ไม่เสร็จ ไปอาบน้ำแต่งตัวเร็ว เปื้อนดินเปื้อนโคลนหมด” ริลณียิ้มกว้าง เรื่องใช้กำลังนี่ขอให้บอกรัชพลเค้าล่ะ แรงเยอะอย่าบอกใคร





เธอมองหลานชายคนรองแล้วแอบท้อใจ ถ้าอยู่กับเธอนะ รัชพลไม่มีทางตัวดำคร้ามแดดแบบนี้หรอก ยิ่งคิดยิ่งรู้สึกโกรธพ่อลูกเขยตัวดี ถ้าตอนนั้นแย่งหลานมาเลี้ยงได้หมด เธอจะรู้สึกดีกว่านี้





รัชพลยิ้มให้ผู้อาวุโสก่อนจะเดินเข้าบ้านแล้วตรงไปยังห้องของตัวเอง อาบน้ำอาบท่าเสร็จก็ลงมาข้างล่างเพื่อเอาของขึ้นไปเก็บ แล้วก็พลันเห็นแจ้งเตือนในโทรศัพท์





ไม่ได้รับห้าสาย จากเบอร์แปลก...





“ใครกัน” รัชพลงงเล็กน้อย ปกติเบอร์ของเขาไม่มีใครรู้นอกเสียจากคนที่สนิทจริงๆหรือไม่ก็มีงานที่ต้องทำร่วมกัน คิดได้ดังนั้นจึงกดโทรกลับ เผื่อว่าคนที่โทรมาจะมีธุระด่วน





รออยู่นานแต่ก็ยังไม่มีคนรับ รัชพลเลยตัดสินใจไม่โทรต่อ ถ้าคนที่โทรมามีธุระจริงๆเดี๋ยวก็คงโทรมาอีกรอบนั่นแหละ












โทรศัพท์เครื่องเล็กที่กระพริบอยู่บนเตียงนอนนั้นดับไป สิตางศุ์ลืมไว้ก่อนจะออกไปพร้อมกับคุณหญิงพิมล...

















วันงานมาถึง งานนี้เป็นงานการกุศลที่คุณอรนุชจัดขึ้นเป็นประจำโดยร่วมกับสมาคมของเธอ จัดขึ้นในโรงแรมใหญ่ใจกลางเมือง คุณหญิงพิมลมาร่วมงานในฐานะผู้ร่วมจัดงาน งานนี้เธอต้องการจะเปิดตัวหลานชายคนเดียวที่กำลังจะมาสืบทอดกิจการต่อ





สิตางศุ์ที่ยังคงเจ็บแผลอยู่วันนี้ใส่ชุดสีขาวซึ่งเข้ากับชุดของคุณหญิงพิมล เขาทำหน้าเบื่อๆ งานนี้เป็นงานของคุณย่าและป้านุชก็จริง ใช่ว่าเขาไม่อยากมาร่วม แต่เขาเบื่อกับการที่ย่าของเขาพาไปเจอคนนู้นคนนี้ต่างหาก สิตางศุ์ได้แต่ยิ้มแห้งๆแล้วยกมือไว้ไปก็เท่านั้น เขาไม่รู้จักใครเลย แน่ล่ะ เคยออกงานเสียที่ไหน





อีกด้านหนึ่งบ้านจิระมนตรีก็มาร่วมงานเช่นกัน วันนี้คุณริลณีมากับอัคคีและเพลิงนภา รวมทั้งรัชพลที่ติดสอยห้อยตามมาด้วย จากพ่อหนุ่มบ้านไร่ตอนนี้ถูกคุณยายจับเชตผม ใส่สูทสีเข้มมาเป็นลูกหลานตระกูลจิระมนตรีเรียบร้อย ค่อยพอไปวัดไปวากับเขาได้บ้าง รัชพลในชุดที่ดูสุภาพภูมิฐานก็ดูดีไม่น้อยเลยทีเดียว สมแล้วที่เป็นหลานของเธอ





“ใส่เน็กไทด์ให้มันดีๆสิลูก ตาอัคดูน้องยังไง น้องแต่งตัวไม่เรียบร้อยเนี่ย” คุณริลณีตรวจสอบความเรียบร้อยของหลานชายอีกรอบก่อนจะพาเข้างาน อัคคีกับเพลิงนภาแอบขำเล็กน้อยกับท่าทางเก้กังของรัชพลนั้น





“สวัสดีค่ะ คุณพี่ณี” คุณอรนุชเข้ามาทักทายเมื่อเห็นริลณีเดินเข้ามาในงาน






“สวัสดีค่ะคุณน้องนุช จัดงานใหญ่เหมือนกันนะคะเนี่ย” ริลณีทักทายตามประสาคนรู้จักกัน





“พอดีให้ตาภูเป็นคนจัดการน่ะค่ะ ต้องยกความดีความชอบให้ลูกชายคนนี้ ยังไม่ได้ทักทายหลานๆเลย เป็นไงบ้างพ่ออัค เริ่มทำงานกับพ่อเขาแล้ว” อรนุชถามอัคคีที่อยู่ข้างหลังริลณี





“เริ่มจะลงตัวแล้วครับน้านุช” อัคคีตอบ





“ดีแล้วลูก นี่ตาภูก็เข้าทำงานแล้วเหมือนกัน ว่าแต่นั่นใครกันล่ะนั่น ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน” อรนุชเพิ่งจะสังเกตเห็นรัชพลที่ยืนอยู่ข้างๆอัคคีกับเพลิงนภา





“อ๋อ ลืมแนะนำไปเลย นี่ตารัชหลานพี่เองแหละ ลูกยัยดาน่ะ เพิ่งมาจากเชียงราย” ริลณียิ้มกว้างเมื่อแนะนำหลานชายคนรองของตัวเอง





“สวัสดีครับ” รัชพลยกมือไหว้ เพลิงนภาบอกเขาว่าเจ้าของงานวันนี้คือแม่ของภูวดล ท่าทางแล้วดูเป็นคนใจดีไม่น้อยเลยทีเดียว





“ไหว้พระเถอะลูก” อรนุชยิ้มรับ เธอพอจะทราบว่าลูกสาวของริลณีนั้นเสียไปเมื่อหลายสิบปีก่อน แต่ก็ไม่คิดว่าจะมีลูกโตขนาดนี้แล้ว






“ถ้าอย่างนั้นขอตัวก่อนนะคะ ว่าจะไปหาพิมลเสียหน่อย” ริลณีตัดบท เธอมีภารกิจที่ต้องทำ ภารกิจช่วยหลานชายตัวดีของเธอนี่แหละ ไม่รู้ว่าจะไปได้ซักกี่น้ำกันเชียว





“เชิญเลยค่ะ” อรนุชพูด






หลังจากเข้างานมาอัคคีกับเพลิงนภาก็ขอแยกตัวออกไปเมื่อมีคนเข้ามาทัก ริลณีจึงพาแค่รัชพลเดินไปหาคุณหญิงพิมลที่กำลังยืนคุยกับลูกค้าคนสำคัญของศิรินทราอยู่ ข้างๆมีสิตางศุ์ที่ดูเหมือนจะไม่สนใจโลก เพียงเท่านั้นหัวใจของรัชพลก็พองโตขึ้นมา






หลายวันที่ไม่เจอกันมานี้สิตางศุ์ของเขาดูซูบลงไปมาก แล้วแผลหายดีแล้วหรือไงถึงได้มาออกงานแบบนี้ เรื่องนี้รัชพลแอบเป็นห่วงไม่น้อยเลยทีเดียว ใบหน้าที่ซีดจางและท่าทางเบื่อหน่ายนั้นทำให้รัชพลรู้ว่าสิตางศุ์ไม่มีความสุขที่ต้องมาทำอะไรแบบนี้ สิตางศุ์ที่น่ารักของเขากลับกลายมาเศร้าเหมือนเดิม ยิ่งเห็นรัชพลก็ยิ่งทนไม่ได้






“สวัสดีจ้ะพิมล ตามหาตั้งนาน” ริลณีทักเพื่อนสมัยเรียน คุณหญิงพิมลที่กำลังคุยอย่างออกรสออกชาติต้องหันมามอง รวมทั้งสิตางศุ์ด้วย






สิตางศุ์ตาโตแล้วแปลกใจไม่น้อยที่เห็นรัชพลอยู่ตรงหน้า บทสนทนาของคุณหญิงพิมลและริลณีไม่เข้าหัวเขาเลยสักนิด ตอนนี้สิตางศุ์นิ่งงัน มองคนตรงหน้าด้วยหัวใจที่เต้นระส่ำ






รัชพล รัชพลจริงๆด้วย แม้ว่าผมที่เคยปล่อยให้ดูรกๆตอนนี้ถูกเซตอย่างดี เสื้อผ้าที่เคยใส่เข้าไร่เข้าโรงบ่มก็ถูกเปลี่ยนเป็นสูทหรู แต่ภาพลักษณ์ภายนอกก็ไม่สำคัญเท่ากับตอนนี้ที่รัชพลมายืนอยู่ตรงหน้าเขา






“นี่ตารัชจ้ะ รัชพล หลานชายฉันเอง เพิ่งมาจากเชียงราย” ริลณีจับที่หัวไหล่ของรัชพลแล้วแนะนำให้คุณหญิงพิมลรู้จัก





“สวัสดีครับ” ร่างสูงเบนสายตามามองหญิงชราตรงหน้า แล้วยกมือไหว้ก่อนจะหันกลับไปมองสิตางศุ์เหมือนเดิม





“สะ..สวัสดีจ้ะ รัชพลเหรอ เพิ่งมาจากเชียงราย” คุณหญิงพิมลทำหน้างง รัชพลที่เพิ่งมาจากเชียงราย ชื่อนี้มันจำติดในหัวเธอยู่ตลอด คนที่ทำให้สิตางศุ์ต้องเจ็บตัว ไอ้เด็กชาวไร่นั่นอยู่ๆกลับมาเป็นหลานของริลณีเนี่ยนะ!






“ใช่แล้ว ตารัชไม่ค่อยได้มากรุงเทพฯหรอก มาปีละครั้งสองครั้งเอง มาครั้งนี้เลยถือโอกาสพามาออกงานด้วย” ริลณีพยายามพูดให้รัชพลดูดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่หลานชายของเธอนี่สิกลับไม่มองหน้าคุณหญิงพิมล เอาแต่จ้องสิตางศุ์อยู่นั่น






“อ้อ...” คุณหญิงพิมลพูดไม่ออก จะว่ารัชพลตรงนี้ก็ดูจะเป็นการเสียมารยาทกับริลณีเกินไป ถึงเธอจะไม่ชอบรัชพลแต่เธอก็รู้ว่าควรไว้หน้าริลณี






“ให้หลานๆคุยกันดีกว่า สิตางศุ์กับตารัชจะได้สนิทๆกันไว้เนอะ” ไม่พูดเปล่าริลณียังดันรัชพลให้เข้าไปใกล้สิตางศุ์อีกด้วย






“กะ...ก็ดีค่ะ” คุณหญิงพิมลกัดฟันพูด แม้ว่าเธอจะไม่ชอบหน้ารัชพลมากแค่ไหน แต่ก็ไม่อาจจะปฏิเสธริลณีได้






เมื่อได้เข้าใกล้สิตางศุ์แล้วรัชพลก็ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ร่างสูงจับข้อมือเล็กแล้วพาเดินออกไปจากตรงนั้น สิตางศุ์เองก็เดินตามอย่างเต็มใจ ทิ้งให้หญิงชรามองตาม ริลณีแอบถอนหายใจเล็กน้อย แต่คุณหญิงพิมลกลับทำหน้าท่าไม่พอใจ






รัชพลพาสิตางศุ์เดินออกมานอกงาน เมื่อพ้นสายตาคนรัชพลก็ก้มลงจูบสิตางศุ์โดยที่อีกคนไม่ทันจะตั้งตัว สิตางศุ์ได้แค่หลับตาแน่นแล้วกอดร่างนั้นไว้ เนิ่นนานกว่าที่รัชพลจะยอมปล่อยให้คนตัวเล็กเป็นอิสระ






“พี่คิดถึงสิตางศุ์มากรู้มั้ย พี่ขอโทษ พี่ไม่ได้ตั้งใจทำให้สิตางศุ์ต้องเจ็บตัวแบบนี้” รัชพลยกมือขึ้นลูบหน้าของสิตางศุ์เบาๆ






“อย่าโทษตัวเองเลยพี่รัช พี่ไม่ได้เป็นคนผิด มันเป็นเพราะผมเองที่ทะเล่อทะล่าออกไปแบบนั้น จนกลายเป็นเรื่องบานปลายขนาดนี้” สิตางศุ์พูดให้อีกคนสบายใจ รัชพลไม่ผิดอะไรเลย เขาเองที่เป็นต้นเหตุให้ตัวเองต้องเจ็บตัวแบบนี้ เป็นเขาเองที่เดินออกไปหารัชพลทั้งๆที่รู้ว่ามันอันตราย






“แต่พี่ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้สิตางศุ์ต้องโดนยิง พี่คิดถึงสิตางศุ์มากรู้มั้ย พี่มาที่นี่ก็เพื่อสิตางศุ์ พี่อยากมาขอโทษ และมาเพื่อพาสิตางศุ์กลับไปไร่น้ำรินกับพี่” คำพูดของรัชพลทำให้สิตางศุ์ยิ้มออกมา






ร่างบางโผเข้ากอดรัชพลแน่น เขาอยากได้ยินคำนี้ คำว่าที่ว่ารัชพลจะพาเขาไปอยู่ด้วย รัชพลยังรู้สึกดีๆกับเขาไม่เคยเปลี่ยน และยิ่งไปกว่านั้นรัชพลไม่กลัวที่จะต้องสู้กับย่าของเขา






“พี่รู้นะสิตางศุ์ว่าคุณย่าของสิตางศุ์ไม่ยอมแน่ๆ แต่พี่ก็จะทำให้ท่านเห็นว่าพี่จริงใจกับสิตางศุ์มากแค่ไหน พี่อยากดูแลสิตางศุ์ พี่รักสิตางศุ์นะครับ” รัชพลซบหน้าลงกับไหล่บางนั้นพร้อมกับลูบแผ่นหลังของคนรัก






“ผมก็รักพี่รัชเหมือนกัน”






เป็นครั้งแรกที่สิตางศุ์พูดว่ารักกับรัชพล นั่นยิ่งทำให้รัชพลกอดอีกคนแน่นขึ้น เขาก้มลงจูบที่หน้าผากนั้นอย่างสุดรัก แค่นี้ก็พอแล้ว แค่นี้รัชพลก็มีกำลังใจสู้ต่อแล้ว






“พี่รัชไม่ต้องกลัวเรื่องคุณย่า ผมจะช่วยพูดให้ ท่านยังคิดว่าพี่เป็นสาเหตุที่ทำให้ผมยังเจ็บตัวอยู่ ส่วนเรื่องที่เราจะคบกันนั้น ผมไม่รู้ว่าท่านจะยอมรับได้มั้ย มันยากที่จะทำให้ท่านเข้าใจ” สิตางศุ์แอบกังวลเรื่องของพิมลไม่น้อยเหมือนกัน เขารู้ว่าย่าของเขานั้นไม่ยอมง่ายๆแน่นอน แต่ถ้าเขาและรัชพลรักกันด้วยใจจริงมันก็น่าจะผ่านไปได้






“ต่อให้คุณย่าของสิตางศุ์ไม่ยอมพี่ก็จะพาสิตางศุ์กลับไปกับพี่ให้ได้ ทุกคนที่ไร่น้ำรินรอสิตางศุ์อยู่ พี่รู้ว่าสิตางศุ์ไม่มีความสุขที่จะอยู่ที่นี่”






เวลานี้ไม่มีใครเข้าใจสิตางศุ์ดีไปกว่ารัชพลอีกแล้ว ร่างเล็กแอบมีน้ำตา แม้แต่คนในครอบครัวเองยังไม่รู้ว่าเขาต้องการอะไร เขาต้องการอิสระ ต้องการชีวิตที่เป็นของตัวเองหลังจากที่มันเป็นของคุณย่ามาทั้งชีวิต เขาต้องการหนีเรื่องวุ่นวายที่นี่ และกลับไปยังไร่น้ำริน ที่เงียบสงบและมีความสุข และยังมีรัชพล คนที่รักเขาและเข้าใจเขาที่สุด






“ขอบคุณนะครับพี่รัช ขอบคุณที่เข้าใจผม” สิตางศุ์ซบหน้าลงกับไล่กว้าง น้ำตาไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัว รัชพลกอดร่างน้อยไว้แนบกาย ให้ความรู้สึกของเขาส่งผ่านไปให้สิตางศุ์แล้วโอบกอดร่างนั้นไว้






ครู่ใหญ่กว่าที่รัชพลจะพาสิตางศุ์กลับเข้างาน กลับมาก็เจอคุณหญิงพิมลหน้าบอกบุญไม่รับอยู่ สาเหตุก็มาจากคนที่ใส่ชุดสีแดงเข้มจนเป็นจุดเด่นที่มาพร้อมกับสามีที่อ่อนวัยกว่า คุณหญิงพิมลได้แต่เชิดหน้า เธอไม่อยากมองหน้าอดีตลูกสะใภ้ให้เป็นเสนียดตา






“คุณแม่” สิตางศุ์เรียกเบาๆ เป็นธรรมดาที่ย่าและแม่ของเขาจะออกงานแล้วเจอกันบ้าง แต่ทุกครั้งทั้งสองคนก็พยายามรักษาหน้าตัวเองโดยการไม่ด่าทอกันกลางงานได้เป็นอย่างดี






“แหม ลูกชายฉันเพิ่งจะออกจากโรงพยาบาลมาไม่เท่าไหร่ก็พามาออกงานแล้วหรือนี่ จะไม่รอให้หายก่อนรึไงกัน โถๆลูก สิตางศุ์ของแม่” มินตราตรงเข้ามากอดลูกชายเมื่อเห็นว่าสิตางศุ์เดินมาในงาน






กิริยานั้นทำให้คุณหญิงพิมลไม่พอใจ เธอเหมือนถูกหักหน้ากลางงานทำได้เพียงนิ่งไว้เท่านั้น แต่คนรอบๆตัวเธอกลับรู้ดีว่าตอนนี้คุณหญิงพิมลเริ่มจะโมโหแล้ว






“คุณแม่ดูแลลูกมินไม่ดีเหรอคะ ถึงปล่อยให้ลูกมินต้องโดนยิงเจ็บตัวแล้วยังจะพามาออกงานแบบนี้อีก” มินตราหันไปว่าคุณหญิงพิมล คนในงานดูจะตกใจไม่น้อยกับข่าวใหม่ที่ได้รับรู้และพากันจ้องมองคุณหญิงพิมลอย่างไม่วางตา นั่นทำให้ฟางเส้นสุดท้ายขาดลง






“อย่ามาว่าฉันนะ ไม่ใช่เพราะหล่อนเหรอที่ทำให้ลูกฉันต้องหนีไป แถมยังคบชู้สู่ชายอีก” เธอพูดแล้วมองมินตราอย่างเหยียดหยามแถมยังเผื่อแผ่สายตาไปหาทัศอีกด้วย







ตอนนี้สายตาทุกคนมองไปยังมินตราแทน สิตางศุ์ยืนนิ่งไม่พูดอะไร รัชพลมองความวุ่นวายนั้นก็ทำให้รู้ได้เลยว่าทำไมสิตางศุ์ถึงต้องหนีมา ครอบครัวที่เป็นแบบนี้ใครจะอยากอยู่ด้วยกัน ทั้งแม่ทั้งย่าไม่มีใครคิดถึงจิตใจสิตางศุ์เลยสักคน ยิ่งแม่ของสิตางศุ์พาผู้ชายคนนั้นมาด้วยยิ่งแล้วใหญ่ ไอ้ผู้ชายที่เกือบทำร้ายคนรักของเขา






รัชพลรู้สึกคิ้วกระตุกเมื่อมองหน้าทัศ ทัศเองก็มองกลับเมื่อรู้ว่ามีคนมองอยู่ แค่มองตาก็สัมผัสได้ถึงความไม่ถูกชะตาด้วย ผู้ชายอายุห่างจากเขาไม่มากแต่มีเมียคราวแม่ขนาดนั้น ดูก็รู้ว่าเกาะผู้หญิงกิน แล้วยังจะมายุ่งกับลูกเค้าอีก ยิ่งมองยิ่งน่าสมเพช






“คุณแม่จะพูดอะไรก็ได้ แต่ตอนนี้มินจะพาลูกมินกลับ ไป สิตางศุ์กลับกับแม่เดี๋ยวนี้” ไม่พูดเปล่ามินตราเดินมาจับแขนสิตางศุ์ไว้ แต่ก็ต้องชะงักเมื่อรัชพลจับแขนของสิตางศุ์อีกข้าง “แกเป็นใคร ปล่อยมือลูกฉันเดี๋ยวนี้!” มินตรามองหน้ารัชพลอย่างไม่พอใจ






“ผมเป็นใครไม่สำคัญหรอกครับ แต่ผมไม่ปล่อยให้สิตางศุ์ไปกับคุณแน่ คิดยังไงถึงเชื่อคนที่พยายามจะข่มขืนลูกตัวเองมากกว่าลูกแท้ๆ” รัชพลเริ่มจะเดือดดาล แค่เขาเห็นไอ้เหี้ยนั่น รวมทั้งแม่ของสิตางศุ์เขาก็เก็บอารมณ์ไม่อยู่ เผลอพูดสิ่งที่ไม่ควรพูดออกไป สิตางศุ์หันมามองหน้ารัชพลอย่างรวดเร็ว






“พี่รัช” ร่างเล็กจับแขนรัชพลไว้แน่น สิตางศุ์อายไม่น้อยที่รัชพลพูดเรื่องแบบนี้ต่อหน้าคนทั้งงาน แต่คนที่อึ้งที่สุดเห็นจะเป็นคุณหญิงพิมลเสียมากกว่า







“เธอว่าอะไรนะ นี่นังมินตรา แกปล่อยให้ไอ้ขี้ครอกนั่นมาทำกับหลานฉันแบบนี้เหรอ” คุณหญิงพิมลตลาดกร้าวพร้อมกับตบหน้ามินตราอย่างจัง






“ไม่ใช่นะครับพี่มิน สิตางศุ์ต่างหากที่ยั่วผมก่อน” ทัศแก้ตัวเมื่อเห็นท่าไม่ดี นั่นทำให้รัชพลโมโหมากขึ้น






“ไอ้เหี้ยเอ้ย!” ร่างสูงสบถพร้อมกับกระโดดถีบยอดอกของทัศ รองเท้าหนังที่อัคคีเพิ่งซื้อให้ใหม่แนบไปกับสูทราคาแพงของทัศเต็มๆ จนเซไปชนกับโต๊ะล้มระเนระนาดกองกันอยู่ตรงนั้น





“พี่รัช!” สิตางศุ์รีบจับตัวรัชพลไว้ก่อนที่ตามไปกระทืบซ้ำ มินตราปรี่เข้าไปช่วยทัศ ร่างเล็กเบือนหน้าหนี แค่นี้สิตางศุ์ก็รู้ว่าแม่ของเขาเลือกใครมากกว่า






“ใครรู้จักสิตางศุ์ดีก็จะรู้ว่าสิตางศุ์ไม่ใช่คนแบบนั้น! ทำไมสังคมไฮโซมันถึงได้สกปรกโสมมแบบนี้นักวะ ไม่ใช่แค่สิตางศุ์ที่ทนไม่ไหว ไอ้รัชก็ทนไม่ไหวเหมือนกันโว้ย! ไป สิตางศุ์ ไม่อยากอยู่ก็ไม่ต้องอยู่” พูดจบก็ลากสิตางศุ์ออกจากงานไป ทิ้งให้คนทั้งงานอึ้งอยู่อย่างนั้น






“เดี๋ยว นี่แกจะพาหลานฉันไปไหน” คุณหญิงพิมลตะโกนตามหลังพร้อมกับเดินตามแต่ริลณีที่มองเหตุการณ์อยู่รีบวิ่งเข้ามาจับไว้ก่อน





“เดี๋ยวๆพิมล ใจเย็นๆ” ริลณีขับแขนของเพื่อนไว้แน่น เธอแอบกร่นด่าพ่อหลานชายตัวดี บอกว่าอย่าทำอะไรกระโตกกระตาก เป็นเรื่องแล้วมั้ยล่ะ





“เย็นได้ยังไง! ชัชให้คนตามสิตางศุ์ไป โชติจับตัวนังแพศยากับไอ้ขี้ครอกนี้ไว้ นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย!” คุณหญิงพิมลสะบัดแขนออกจาริลณีแล้วเดินออกไปจากงานอย่างไม่สบอารมณ์






ริลณีแทบจะเป็นลมจนอัคคีและเพลิงนภาต้องเข้ามาช่วยพยุงไว้ เป็นเรื่องแล้วไงตารัชเอ้ย เล่นมาฉุดหลานเค้าต่อหน้าต่อตาแบบนี้ โอ้ย! แค่นี้ก็ยากแล้ว มาทำแบบนี้คิดว่ามันจะง่ายขึ้นรึไง






“ตาอัค ยัยเพลิง ใครก็ได้โทรหาพ่อตารัชด่วนเลยนะ ย่าเอาไม่อยู่แล้ว” ริลณีคว้ายาดมในมือของอัคคีมาสูดเข้าเต็มปอด






คุณหญิงพิมลก็ขิง ตารัชก็ข่า ร้อนแรงกันทั้งคู่ เรื่องที่เริ่มจะง่ายๆตอนนี้ยากขึ้นเป็นเท่าตัว ตารัชนะตารัช! 










***********************************************************************









เรื่องเกือบดีละพี่รัช เกือบจะไปได้สวย ค่อยๆเป็นค่อยๆไป แต่พี่แกตัดฉับซะอย่างนั้น ชะเออเอิงเอย~  :katai5: ตัวใครตัวมันแล้วล่ะคราวนี้ ฝากติดตามด้วยนะคะ รักคนอ่านทุกท่านค่ะ :katai1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด