[นิยายชุด ดวงใจไร่รัก]พระจันทร์ล้อนที *แจ้งข่าวงานหนังสือ* รัชพล-สิตางศุ์
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก]พระจันทร์ล้อนที *แจ้งข่าวงานหนังสือ* รัชพล-สิตางศุ์  (อ่าน 92888 ครั้ง)

ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1775
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
ในที่สุด... สมหวังซะที
พี่รัชจะมีเมียแล้ว และเมียก็ไม่ใช่ถังไวน์ เย้
  :katai2-1:

เจอของพี่รัชไป ตอนพี่ตะวันกับน้องรินนี่จิ๊บๆเลย

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
ในที่สุดก็มีวันนี้นะยินดีกับทั้งคู่ด้วย

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
ดีนะที่คุณย่าของสิตางศุ์ไม่ควักปืนมาไล่ยิงขบวนขันหมากน่ะพี่รัช เรื่องเลยไม่ยุ่งยากเท่าไหร่

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ yisren.

  • #คนที่ฉันไม่เคยลืม
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 830
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-4
โอ้ยยยย เป็นการขอเมียที่กวนติงมากกก 555555 คอนเกรทนะพี่รัชน้องตาง 5555 เครดิตความสำเร็จยกให้คุณพ่อทั้งสองฝ่ายเลย ย่าณีก็แซ่บมาก ยอมม

ออฟไลน์ MYTH_SUN

  • Summer *・❀●•♪.。
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 8
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ patchylove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1585
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-4
คุณย่าดูน้อยใจนะ เอาใจคุณย่าหน่อย อิออ :hao3:

ออฟไลน์ Psycho

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 388
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
รัชพลคนอินดี้
ขอเมียทั้งทีเกรียนชิบ

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Speirmint28

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 127
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-1
บทที่ 30





“คุณย่าโกรธพี่มากเลยรู้มั้ยพี่รัช” สิตางศุ์แอบขำขณะที่กำลังคุยกับรัชพลผ่านโทรศัพท์





กว่าบ้านจิระมนตรีจะกลับก็เลยเที่ยงไปมากโข คุณหญิงพิมลเองก็ยังไม่ยอมให้ใครเข้าพบ แม้กระทั่งอนันต์ลูกชายก็ตาม สิตางศุ์แอบรู้สึกผิด แต่ในใจก็ดีใจลึกๆ อย่างน้อยที่ก็เป็นครั้งแรกที่เขาได้ตัดสินใจอะไรเอง แต่คนที่ดูจะดีใจกว่าใครก็คงเป็นรัชพลที่กลับถึงบ้านปุ๊บก็โทรมาหาเขาเลย อะไรจะขนาดนั้นกันนะพี่รัช





“ถึงย่าของสิตางศุ์จะโกรธแต่เธอก็ทำอะไรพี่ไม่ได้อยู่ดี ตอนนี้สิตางศุ์เป็นของพี่แล้วนะ” รัชพลทำเสียงกรุ้มกริ่มผ่านเข้ามาจากปลายสาย





“เป็นของพี่อะไรกันเล่า ไม่ใช่ซักหน่อย” สิตางศุ์แย้ง นึกหมั่นไส้รัชพลเล็กน้อยที่พูดอะไรแบบนั้นออกมา ทำไมเป็นคนแบบนี้กันนะ หัดคิดก่อนพูดบ้างก็ดีนะพี่รัช






“เดี๋ยวก็ใช่เองแหละ เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็จะกลับไร่น้ำรินแล้วนะตาง ทิ้งงานมานานแล้ว จะกลับกับพี่เลยมั้ย” รัชพลถาม เขาตั้งใจจะกลับพร้อมบุรินทร์พรุ่งนี้ เพราะงานที่ไร่น้ำรินก็ใช่ว่าจะน้อยๆ ใจจริงอยากพาสิตางศุ์กลับเลย แต่กลัวว่าอีกคนจะยังไม่สะดวก





“ยังก่อนครับ เดี๋ยวผมตามไปทีหลัง ที่นี่มีเรื่องต้องจัดการอีกเยอะเลย พี่รัชกลับไปก่อนเลยครับ” สิตางศุ์ตั้งใจจะตามรัชพลกลับไปทีหลัง เพราะเรื่องที่บ้านเขายังจัดการไม่เสร็จเลย ทั้งคุณย่าและคุณพ่อ เขาต้องการปรับความเข้าใจกับทั้งสองให้เสร็จก่อน กับอนันต์นั้นไม่มีปัญหาอะไร แต่กับคุณหญิงพิมลนี่สิ สิตางศุ์คิดหนัก





“รีบตามกลับมานะครับ ถ้าช้าจะบุกไปฉุดถึงบ้านเลย” รัชพลหัวเราะน้อยๆ สิตางศุ์ยู่หน้าให้ปลายสาย





“ลองมาสิครับ โดนคุณชัชคุณโชติยิงไส้แตกไม่รู้ด้วย หึๆ ผมขอคุยกับคุณย่าก่อนนะพี่รัช ท่านยังไม่โอเคเลย” สิตางศุ์ก้มหน้าลง เขาแคร์ความรู้สึกของคุณหญิงพิมล อย่างน้อยเธอก็เป็นคนเดียวที่สนใจเขาตั้งแต่เด็ก แม้ว่าเธอจะไม่ว่าง มีงานเยอะ แต่เธอก็ยังไม่ลืมว่าเขาคือหลานของเธอ สิตางศุ์ไม่อยากไปดื้อๆอย่างนี้





“พี่เชื่อว่าซักวันคุณย่าของตางจะต้องเข้าใจ” น้ำเสียงจากปลายสายนั้นทำให้สิตางศุ์ยิ้มอ่อน นึกดีใจที่มีรัชพลคอยเป็นกำลังใจอยู่อย่างนี้ ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่กล้าคิดที่จะทำอะไรตามใจตัวเองต้องการ อยากขอบคุณที่มีคนคนนี้อยู่ข้างๆในเวลานี้






“ขอบคุณนะครับพี่รัช”



















หลังจากวางสายของสิตางศุ์ไปรัชพลก็เอนตัวนอนแผ่ลงไปกับโซฟาตัวยาว ร่างสูงยิ้มกว้าง วันนี้เป็นวันที่มีความสุขมากที่สุดวันหนึ่ง ไม่คิดไม่ฝันว่าวันหนึ่งตัวเองจะต้องมาสนใจคนอื่นนอกจากคนในครอบครัวแบบนี้ แค่คิดถึงคนตัวเล็กรัชพลก็ยิ้มไม่หยุด รอยยิ้มของเขาเวลานี้มีไว้เพื่อสิตางศุ์





“ยิ้มแก้มจะแตกแล้วไอ้ลูกหมา” บุรินทร์พุ่งตัวมานั่งทับลูกชายที่นอนแผ่หลาอยู่สนรัชพลสะดุ้งโหยง





“มันเจ็บนะพ่อ นั่งทับมาได้” รัชพลโอดครวญแต่บุรินทร์ก็ยังไม่ยอมลุก เขาหัวเราะร่วนอย่างอารมณ์ดี





“ทำไมเป็นคนอย่างนี้นะรัช ตั้งแต่คราวก่อนแล้ว ทำอะไรไม่คิดหน้าคิดหลัง เราโตแล้วนะ” แอบว่าลูกชาย ถึงจะพูดอย่างนั้นก็เถอะ แต่บุรินทร์เองก็พอใจไม่น้อยที่ลูกชายกล้ามุทะลุแบบนี้จนคุณหญิงพิมลอะไรนั่นไปไม่ถูก อยากขอบคุณแม่ยายที่ยอมเล่นตามน้ำไปกับพวกเขาสองพ่อลูกด้วย ไม่อย่างนั้นเรื่องมันคงยากกว่านี้แน่นอน





“ก็บ้านนั้นเค้าไม่ยอมซักทีนี่พ่อ” รัชพลพูด ในเมื่อไม่ยอมง่ายๆก็ต้องทำแบบนี้ ไม่อย่างนั้นชาตินี้ทั้งชาติเขาคงไม่ได้สิตางศุ์มาเป็นแฟนจริงๆหรอก





“ตอนพ่อมาขอแม่ยังไม่ขนาดนี้เลย ยายของเรานะโหดก็จริง แต่ยังไม่ดุเท่าย่าของสิตางศุ์เลย รัชน่ะเจองานหนักกว่าใครเพื่อน” บุรินทร์จับหัวรัชพลเขย่าไปมาอย่างอารมณ์ดี นั่นทำให้พ่อลูกชายหงุดหงิดไม่น้อย






“สงสัยคงเป็นเพราะไปห้ามรินมันมาก เลยเป็นอย่างนี้ไง” นึกถึงเรื่องของตะวันกับภุมรินทีไร รัชพลก็คิดเสมอว่าอาจจะเป็นเพราะเขาไปห้ามคู่นั้นมากไป พอมาเกิดเรื่องกับตัวเองแบบนี้ก็เลยหนักกว่า





เฮอะ... งานยากซะไม่มี






“รินแอบขำรัชอยู่แน่ๆ ไปเลย ไปเก็บของ พรุ่งนี้ไปแต่เช้า พ่อทิ้งงานมาตั้งสองสามวันเพราะเราเนี่ย” บุรินทร์ผลักหัวลูกชายเบาๆก็จะลุกขึ้น






เขาแอบถอนหายใจ ไปๆมาๆกลายเป็นว่าตัวเขาเองไม่ได้คิดอะไรมากที่รัชพลจะมีสิตางศุ์เป็นคนรัก แค่เห็นลูกมีความสุขพ่อคนนี้ก็ดีใจแล้ว อย่างที่ริลณีเคยบอกเขา ว่าตัวเขาเองก็ไม่ได้อยู่กับลูกไปตลอด คนที่ลูกเลือกต่างหากที่จะอยู่กับเขาไปตลอดชีวิต




















“คุณย่ายอมคุยรึยังครับ” สิตางศุ์ถามบิดาในมื้อค่ำวันนี้ คุณหญิงพิมลเธอประสงค์ที่จะกินข้าวในห้องไม่ลงมาร่วมโต๊ะกับสองพ่อลูก นั่นทำให้สิตางศุ์รู้ว่าเธอยังโกรธอยู่ไม่น้อย





“ยังเลยลูก ท่านคงโกรธที่พ่อทำอะไรไม่ไว้หน้า คุณย่าเองก็ต้องเจอกับความผิดหวังเสียบ้าง ว่าจะได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการไปเสียหมด แต่คราวนี้คงโกรธนานหน่อย” อนันต์พูด





เขารู้ว่ายังไงแล้วเสียมารดาก็ต้องโกรธเขาอยู่แล้ว แต่ถ้าไม่ทำอย่างนี้สิตางศุ์คงไม่ได้คบกับรัชพลต่อแน่ เขาเข้าใจมารดาเรื่องที่ต้องการให้สิตางศุ์สืบทอดกิจการต่อ เพราะศิรินทราเองก็ต้องเดินหน้าต่อไป เธอเองก็มีลูกชายคนเดียว เขาเองก็มีแค่สิตางศุ์ หากให้สิตางศุ์คบกับรัชพลใครจะอยู่สืบทอดกิจการต่อล่ะ แล้วรุ่นต่อๆไปอีกด้วย






แต่เขาเองก็อยากให้สิตางศุ์ได้เลือกชีวิตเองบ้าง เพราะสิตางศุ์ของเขาถูกบังคับให้เดินในทางที่มารดาของเขาเป็นคนขีดไว้ เขาไม่อยากให้ลูกต้องมีชะตากรรมแบบเขา





“เดี๋ยวผมคุยเองครับพ่อ” สิตางศุ์อาสา เขาอยากจะเปิดใจกับคุณหญิงพิมลแบบจริงจังซักที เขาอาจจะเป็นหลานที่ไม่ได้ดั่งใจ แต่เขาเองก็รักเธอไม่น้อยเหมือนกัน





ก่อนเข้านอนสิตางศุ์เอานมอุ่นๆขึ้นไปให้คุณหญิงพิมลข้างบนห้อง เขารู้เวลานอนของเธอดี เพราะเธอจะยังไม่นอนหากงานยังไม่เรียบร้อยแม้ว่าจะดึกแค่ไหนก็ตาม





สิตางศุ์เคาะประตูซักพักนายใหญ่ของบ้านศิรินทราก็ออกมาเปิด คุณหญิงพิมลในชุดนอนเบือนหน้าหนีเมื่อรู้ว่าคนที่มานั้นเป็นหลานชายคนเดียวของเธอ สิตางศุ์เดินตามเจ้าของห้องเข้าไปแล้ววางแก้วนมลงบนโต๊ะที่หัวเตียงก่อนจะสวมกอดร่างเล็กของคุณหญิงพิมลจากด้านหลัง






เขาใช้คางเกยไหล่ของเธอไว้ ไม่บ่อยนักที่สิตางศุ์จะทำแบบนี้ ถึงแม้ย่าจะเลี้ยงเขามา แต่ก็ไม่ได้สนิทกันถึงขั้นที่จะออดอ้อนได้ทุกเวลา





“คุณย่าครับ อย่าโกรธเลยนะครับ” หากเป็นเมื่อก่อนสิตางศุ์คงเคอะเขินไม่น้อยที่ต้องมาทำอะไรแบบนี้ แต่ตอนนี้เขารู้ว่าการกอดคนในครอบครัวนั้นทำไม่ยาก เพียงแค่เราลดทิฐิที่มีต่อกัน






“ยังเห็นว่าฉันเป็นย่าอีกเหรอ เห็นคนอื่นดีกว่าฉันขนาดนั้น” คุณหญิงพิมลทำเสียงตัดพ้อ เธอโกรธลูกและหลานของเธอมากที่ทำอะไรโดยไม่สนใจคำคัดค้านของเธอ อนันต์และสิตางศุ์ไม่เคยหักหน้าเธออย่างนี้





“คุณย่าครับ ผมไม่เห็นใครดีไปกว่าใครหรอกนะครับ พี่รัชก็คือพี่รัช คุณย่าก็คือคุณย่าของผม” สิตางศุ์ผละออกจากร่างนั้นแล้วเดินมาข้างหน้า คุณหญิงพิมลมองหน้าหลานชายอย่างตำหนิ เธอยังเคืองสิตางศุ์ไม่หาย รวมทั้งคนพวกนั้นด้วย ทำไมทุกคนต้องเห็นดีเห็นงามไปหมด





“แต่สิตางศุ์เลือกนายรัชพลมากกว่าย่า” เธอเชิดหน้าขึ้นอย่างไม่พอใจ





“ผมไม่ได้เลือกพี่รัชหรือคุณย่า ผมเลือกในสิ่งที่ใจตัวเองต้องการต่างหากล่ะครับ ผมรู้ว่าคุณย่าต้องการให้ผมรับช่วงต่อจากคุณพ่อ แต่คุณย่าก็รู้ว่าผมทำไม่ได้ ผมไม่ได้รักในสิ่งที่คุณย่าต้องการจะมอบให้ ผมอยากมีอิสระ ผมอยากใช้ชีวิตในแบบที่ผมอยากเป็น ผมอยากให้คุณย่าเข้าใจ” สิตางศุ์อธิบาย






“แต่สิงที่สิตางศุ์เลือกนั้นมันไม่ถูกต้อง”






“อะไรคือความถูกต้องเหรอครับ ผมไม่ได้สนใจว่าสิ่งที่ผมเลือกนั้นมันถูกต้องรึเปล่า ผมแค่เลือกในสิ่งที่ทำให้ผมมีความสุข บางทีคนเราไม่ต้องทำตามระเบียบแบบแผนของโลกใบนี้ไปเสียทุกอย่างหรอกนะครับ เราควรเลือกในสิ่งที่ทำให้ตัวเองมีความสุขมากกว่า คุณย่าเองก็ควรจะปล่อยวางบ้างได้แล้ว ลองหาความสุขให้ตัวเองบ้างนะครับ” คำพูดนั้นทำให้คุณหญิงพิมลต้องหันมามองสิตางศุ์ เธอกำลังถูกสอนจากคนเป็นหลาน แต่มันก็ทำให้เธอนิ่งไปไม่น้อย





ความสุข ความสุขที่แม้จริงของเธอนั้นในชีวิตนี้เธอเองก็ยังไม่รู้เลย เธอรู้แค่ว่าเธอต้องเป็นคนที่เด่นดัง เป็นคนมีอำนาจ และเป็นคนที่ทุกคนนับหน้าถือตา เพียงเท่านั้น นั่นอาจจะเป็นความสุขของเธอ






แต่เธอไม่แน่ใจว่ามันเป็นความสุขทางกายหรือทางใจกันแน่ และเธอก็ใช้สิ่งเหล่านั้น สิ่งที่เชื่อว่าความสุขปูทางให้ลูกและหลานของ เพื่อที่พวกเขาจะได้มีความสุขในแบบของเธอ






“แต่เล็กจนโตสิตางศุ์คนนี้ไม่เคยคิดที่จะขัดใจคุณย่าเพราะผมคิดว่านั่นเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่คุณย่าเลือกให้ผม แต่เมื่อมาทบทวนดูอีกทีแล้วนั่นไม่ใช่สิ่งที่ผมต้องการเลยสักนิด การที่ผมไปอยู่ไร่น้ำรินผมได้เจออะไรมากมาย ผมเจอครอบครัวที่อบอุ่น ผมเจอความรักของเพื่อนและผู้คนมากมายที่จริงใจต่อกัน ซึ่งที่นี่ไม่มี ทุกคนที่เข้าเราก็เพื่อผลประโยชนทั้งนั้น เรื่องนี้คุณย่ารู้ดี ให้ผมได้ทำในสิ่งตัวเองต้องการเถอะนะครับคุณย่า” สิตางศุ์ร้องขอ






คุณหญิงพิมลหันหน้าหนีอีกรอบ เธอไม่ตอบสิตางศุ์ เธออาจจะกำลังคิดทบทวนอยู่ก็เป็นได้ว่าสิ่งที่เธอทำอยู่นี้มันดีจริงๆหรือเปล่า ชีวิตที่ผ่านมาของเธอ เธอสัมผัสความสุขจริงๆกี่ครั้งกันแน่ และเธอได้ทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการหรือยัง เธออยากรั้งสิตางศุ์ไว้ แต่เธอก็เริ่มอยากที่จะให้สิตางศุ์ลองค้นหาความหมายของคำว่าความสุขจริงๆ ความสุขที่เธออาจจะไม่เคยสัมผัส






“ผมไม่รู้ว่าคุณย่าจะอนุญาตมั้ย แต่ตอนนี้ผมเลือกเส้นทางนี้แล้ว ผมหวังเพียงแค่ว่าวันหนึ่งคุณย่าจะเข้าใจผมนะครับ” เมื่อรู้ว่าไม่ได้คำตอบจากอีกคนแน่แล้วสิตางศุ์จึงตัดจบประเด็นนี้ไป ย่าของเขาอาจจะไม่เข้าใจในเร็วๆนี้ แต่เขาเองก็หวังว่าสักวันหนึ่งคุณหญิงพิมลจะเข้าใจเขา






คุณหญิงพิมลได้แต่มองตามแผ่นหลังของสิตางศุ์ที่เดินออกไป น้ำตาเธอไหลโดยที่ไม่รู้ตัว






นกน้อยในกรงทองของเธอตอนนี้กำลังจะโบยบินไปไกลแสนไกล สิตางศุ์หลานชายที่เธอเลี้ยงมาแต่เกิดกำลังจะมีชีวิตเป็นของตัวเอง เธอยังสับสน แต่เธอไม่อาจรั้งไม่ให้นกตัวนี้บินได้ เพราะซักวันนกน้อยตัวนี้ก็ต้องออกไปเรียนรู้โลกกว้าง โลกที่เธอเองก็ไม่เคยได้บินไป






“ฉันทำผิดอะไร” เธอได้แต่ตัดพ้อตัวเองอยู่อย่างนั้นแล้วล้มตัวลงปล่อยโฮกับตัวเอง






เธอผิดมากหรืออย่างไรที่ต้องการเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับสิตางศุ์...



















เช้าอันสดในกลางฤดูหนาว อากาศของดินแดนเหนือสุดของประเทศไทยอุณหภูมิลดลงต่ำเกือบติดลบ สิตางศุ์กระชับเสื้อคุมตัวหนาของตัวเองเข้าแน่นแล้วเดินทอดยาวไปตามเส้นทางที่แสนจะคุ้นเคย






รถสองแถวมาส่งเขาที่หน้าไร่น้ำริน แม้ว่าจะเป็นทางขึ้นเขาสูงไม่มีคนเข้ามาบ่อยนักแต่คนขับรถก็ยินดีที่จะมาส่งเขาด้วยค่าตอบแทนที่มากกว่าเดิม






ทางจากหน้าไร่ไปถึงตัวบ้านรักษ์นทีนั้นไกลกว่าสองกิโลเมตร สิตางศุ์มาที่นี่โดยที่ไม่ได้บอกใครล่วงหน้า เพราะต้องการทำให้รัชพลแปลกใจ แต่เขาเองก็ลืมไปเสียสนิทว่าระยะทางที่ต้องเดินเข้าไร่นั้นไกลพอสมควร






เมื่อคิดได้ดังนั้นร่างเล็กก็ล้วงเข้าไปในเสื้อคลุมตัวหนาแล้วหยิบเอาโทรศัพท์ออกมา






“แบตหมดเหรอ” สิตางศุ์ขมวดคิ้วแน่น แบตหมดอย่างนั้นเหรอ.. เอายังไงล่ะทีนี้ ติดต่อคนในไร่ไม่ได้ แล้วอย่างนี้เขาต้องเดินเข้าไปอย่างนั้นเหรอ มันไกลไม่น้อยเลยทีเดียว






สิตางศุ์ถอนหายใจให้กับความสะเพร่าของตัวเองก่อนจะเดินไปพิงป้ายทางเข้าไร่น้ำรินอย่างเซ็งๆ ยืนรอสักหน่อยคงไม่เป็นไร อีกซักพักคงมีคนออกมา เพราะภุมรินนั้นไปส่งองุ่นทุกเช้า อย่างน้อยให้ภุมรินตอดต่อรัชพลให้มารับก็ยังดี






ร่างบางนั่งลงพิงกับกระเป๋าเดินทางใบเดิมที่ใช้มาคราวที่แล้ว เมื่อมองไปบริเวณรอบๆก็ไม่เห็นอะไรแม้แต่น้อย ด้วยหมอกที่ลงจัดทำให้ทัศนียภาพถูกบดบัง ที่กรุงเทพฯนั้นไม่เคยมีหมอกหนาๆอย่างนี้ ทำให้เขารู้สึกแปลกตาไม่น้อย






อากาศเย็นจัดในฤดูหนาวของภาคเหนือทำให้สิตางศุ์จามไม่หยุด จมูกเขาเริ่มแดงเพราะแพ้อากาศ สิตางศุ์เพิ่งรู้ว่าตัวเองไม่เพียงแค่แพ้อากาศร้อนจัด แต่ยังแพ้อากาศหนาวอีกด้วย






มือทั้งสองข้างนั้นถูไปมาเพื่อเพิ่มอุณหภูมิร่างกาย เสื้อคลุมตัวใหญ่แทบจะเอาไม่อยู่ เมื่อไหร่จะมีคนออกมาเสียที ขืนรออยู่ตรงนี้สิตางศุ์คงได้แข็งตายก่อนแน่ๆ





“เฮ้ย! นั่นใครน่ะ” เสียงตะโกนดังมาจากข้างหลังพร้อมแสงไฟหน้ารถที่ทะลุผ่านหมกหนานั้นมาไม่ได้มาก สิตางศุ์จำเสียงนั้นได้ แม้ไม่เห็นตัวคนพูดแต่ก็รู้ว่านั่นคือรัชพล






ร่างเล็กอมยิ้ม รู้สึกราวกับว่าเหตุการณ์ครั้งแรกที่เจอกันมันถูกฉายวนซ้ำมาอีกครา








********************************************************************************







ตอนหน้าจบแล้ว จบเร็วไปมั้ยยยยยยย แต่จบช้ากว่าเรื่องแรก ตอนนี้เป็นตอนที่พยายามหาจุดจบสุดท้ายของย่าสิตางศุ์มาก คือจะให้คุณหญิงพิมลเข้าใจสิตางศุ์ง่ายๆมันก็ไม่ใช่ เลยก้ำกึ่งไว้แบบนี้ แต่อย่างน้อยเธอก็ยอมเปิดใจแล้ว ส่วนพี่รัชกับสิตางศุ์ของเรานั้นก็คงจะแฮปปี้กันแล้วล่ะค่ะ น้องแอบมาแบบเงียบๆ ฮี่ๆ อากาศหนาวๆของภาคเหนือมันดีมากจริงๆนะคะ อยากให้คนอ่านได้ไปสัมผัสเยอะๆ แต่... ตอนนี้ประเทศไทยมีแค่หน้าร้อนและร้อนจัดเท่านั้น วะฮ่าๆ อย่าถามว่าคนแต่งเป็นคนที่ไหน คนแต่งเป็นคนทุกที่ รู้แค่เพียงว่าตอนนี้อาศัยอยู่ในโซนร้อนที่สุดของประเทศค่ะ ทำไมวันนี้คุยยาว ไม่รู้เหมือนกัน ช่องทางการติดต่อนั้นนอกจากแฟนเพจแล้วมาพูดคุยกันได้ในทวิตเตอร์นะคะ เผื่อใครเล่น ชื่อแอคเดียวกับในเล้าเลย แล้ววันนี้เกิดอะไรขึ้นทำไมเพิ่งมาพูด โอ้ยยยยย วันนี้คนเขียนเพ้อเจ้ออะไรไม่รู้ เอาเป็นว่าฝากติดตามตอนหน้าด้วยนะคะ ตอนจบแล้ว และจะมีตอนพิเศษให้ด้วย รักคนอ่านทุกท่านค่ะ

 :katai5:

ออฟไลน์ yisren.

  • #คนที่ฉันไม่เคยลืม
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 830
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-4

ออฟไลน์ cchompoo

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-4

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
อ่านสามตอนรวด!พี่รัชจะมีเมียแล้ว~

ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1775
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4

ออฟไลน์ Speirmint28

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 127
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-1
อวสาน






“เฮ้ย! นั่นใครน่ะ” รัชพลตะโกนเมื่อพบเงาตะคุ่มๆอยู่หน้าไร่




วันนี้เขาไปส่งองุ่นแทนภุมรินที่มีไข้อ่อนๆเพราะอากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อย ออกมาเช้ากว่าปกติเพราะตอนสายๆเขาเองก็มีงานที่จะต้องทำเช่นกัน





ร่างสูงกระชับปืนในมือแน่นเพราะไม่มั่นใจ ไม่มีใครมายืนอยู่ที่นี่เช้าๆแบบนี้หรอก แล้วยังหมอกหนาขนาดนี้ด้วย คนปกติที่ไหนจะมายืนหนาวอยู่อย่างนี้ เขากลัวว่าจะมีใครคิดปองร้ายกับไร่น้ำรินอีก แค่ครั้งเสี่ยทรงยศก็พากันเกือบตายหลายรอบแล้ว





“ถามว่าใคร” ร่างนั้นยังไม่ตอบกลับมา รัชพลจึงเดินเข้าไปใกล้แต่ก็พบเพียงแค่กระเป๋าเดินทางขนาดกลางใบหนึ่งเท่านั้น





รัชพลยืนงงอยู่ไม่นานก็มีแขนเล็กสอดเข้ามาจากด้านหลังพร้อมกับซบลงที่แผ่นหลังของเขา กลิ่นที่คุ้นเคยนั้นลอยมาแตะจมูก เพียงเท่านั้นรัชพลก็ลดปืนในมือลงก่อนจะยิ้มกว้าง





“สิตางศุ์” เรียกชื่อนั้นเบาๆ สิตางศุ์ผละออกก่อนจะเดินมาอยู่ข้างหน้าแล้วยิ้มให้กับคนรัก





“สวัสดีครับพี่รัช คิดถึงจังเลย” ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่สิตางศุ์พูดคำหวานๆนี้เป็นปกติไปแล้ว อาจจะเป็นเพราะอีกคนกระมัง





“มาทำไมไม่บอกห๊า มายืนรอแบบนี้หมอกมันเยอะรู้มั้ย เดี๋ยวก็ไม่สบายเอาหรอก จมูกแดงไปหมดแล้วเห็นมั้ย ทำไมไม่โทรมา พี่จะได้มารับ” รัชพลเก็บปืนก่อนจะยื่นมือมากระชับหมวกไหมพรมของสิตางศุ์ให้คลุมลงมาอีกนิด เขาดึงผ้าพันคอของตัวเองออกแล้วพันไปรอบๆกและจมูกที่แดงก่ำของสิตางศุ์





“ก็อยากมาเซอร์ไพรซ์ไง แบตมันหมดเลยโทรไม่ได้ ไม่คิดว่าจะหนาวขนาดนี้” สิตางศุ์พูดด้วยน้ำเสียงอู้อี้ผ่านผ้าพันคอไหมพรมสีเขียวมะนาวนั้น





“รีบขึ้นรถไปเลย ก่อนอื่นมากอดหน่อยซิ พี่รัชคิดถึงสิตางศุ์ที่สุดเลยครับ” รัชพลรวบร่างเล็กว่าเข้ามากอดแน่น เขาดันหัวสิตางศุ์ให้ซุกลงไปในอก






เกือบอาทิตย์ที่ไม่เจอกันรัชพลทำได้เพียงแค่โทรไปหาอีกคนเท่านั้น เขาคิดถึงสิตางศุ์ในแทบจะขาดอยู่แล้ว คนตัวเล็กบอกว่ายังไม่ถึงเวลาที่จะต้องมาที่นี่ ไม่คิดว่าวันนี้จะโผล่มาให้เขาแปลกใจ มันน่านัก





รัชพลพาสิตางศุ์ไปนั่งในรถแล้วยกกระเป๋าของคนรักตามไป วันนี้เขาอาสาจะไปส่งเอง นพเลยได้หยุดงานในส่วนนี้ เพราะฉะนั้นในรถของไร่น้ำรินจึงมีเพียงแค่เขากับแขกผู้มาใหม่ที่พ่วงตำแหน่งคนรักของเขาแค่สองคน





“พี่มีผ้าคลุมอยู่ เอาคลุมไว้อีกชั้นก็ได้” รัชพลยื่นผ่านคลุมผืนหนาให้สิตางศุ์ ก่อนจะขับรถแล่นออกจากไร่น้ำรินไป






สิตางศุ์แอบเซ็งตรงที่เขาน่าจะรอรัชพลอยู่ในตัวเมือง ไม่อย่างนั้นคงไม่ได้ไปๆกลับๆแบบนี้ แต่ก็ดีตรงนี้ได้อยู่กับรัชพลสองคนนานๆแบบนี้





หลังจากส่งองุ่นเสร็จทั้งสองคนก็กลับมายังบ้านรักษ์นที ภุมรินรีบเข้ามาสวมกอดรุ่นพี่หลังจากรู้ว่าสิตางศุ์มาแล้ว คนป่วยหน้าแดง สิตางศุ์ก็หน้าแดง เพราะอากาศอันหนาวจัดนี้เอง ปีนี้เหมือนจะหนาวกว่าทุกครั้ง แม้แต่คนแข็งแรงอย่างรัชพลยังทนแทบจะไม่ได้เลยด้วยซ้ำ





“ตะวันบอกว่าบ่ายๆจะมาหา” รัชพลบอกน้องชาย ตะวันเป็นห่วงภุมรินไม่น้อยแต่เขาเองก็มีงานที่จะต้องทำ ปลีกตัวมาหาภุมรินนั้นยากเหลือเกิน





“พี่ตะวันเพิ่งโทรมาเมื่อกี้เอง ว่าแต่พี่สิตางศุ์เถอะ กินข้าวมารึยัง เดี๋ยวให้ป้าจันจัดให้” ภุมรินถามสิตางศุ์





“ยังเลย ก็ดีเหมือนกัน พี่เริ่มหิวแล้ว” สิตางศุ์ไม่ปฏิเสธ เขายังไม่ได้ทานข้าวเช้ามาเลย รีบมาจัดกว่าจะถึงก็ซักจะหิวขึ้นมาเสียแล้ว






“งั้นไปกินข้าวกัน” ภุมรินดูจะเป็นคนที่ดีใจที่สุดที่สิตางศุ์มา รัชพลมองน้องชายอย่างเอือมๆ นั่นแฟนของเขานะ ทำไมภุมรินยึดไปเป็นของตัวเองแบบนั้น





รัชพลเดินเอากระเป๋าของสิตางศุ์ไปไว้ชั้นบน คราวนี้กระเป๋าเดินทางของสิตางศุ์ถูกนำไปไว้ที่ห้องของเขาแทนที่จะเป็นห้องที่สิตางศุ์เคยนอนเมื่อครั้งที่แล้ว





เขาแอบยิ้มอยู่คนเดียวเมื่อคิดว่าตัวเองจะมีสิตางศุ์ให้นอนกอดทุกคืน กว่าจะได้คนรักคนนี้มาครอบครองรัชพลต้องเจอด่านหินแค่ไหนใครๆก็รู้ แต่นั่นมันก็ทำให้เขารักสิตางศุ์มากขึ้น เพราะมันทำให้เขารู้ว่าสิตางศุ์เองก็ต้องการเขาไม่น้อยไปกว่ากัน





เมื่อเก็บของเสร็จรัชพลก็เดินลงไปชั้นล่าง พบสิตางศุ์กับภุมรินกำลังหัวเราะอย่างเริงร่า อากาศในบ้านไม่เย็นเท่าข้างนอกนั่นทำให้สิตางศุ์ไม่จำเป็นต้องใช้ผ้าคลุมและผ้าพันคออีกแล้ว ร่างสูงเดินไปนั่งข้างๆของสิตางศุ์แล้วเผลอยื่นมือไปจับจมูกแดงๆนั้น สัมผัสได้ถึงความเย็นกว่าปกติของมัน





“อย่าบอกว่าแพ้อากาศอีกนะ” รัชพลถามขณะที่สิตางศุ์กำลังเคี้ยวข้าวอย่างเอร็ดอร่อย






“อื้อ...” สิตางศุ์ตอบเพียงเท่านั้นแล้วลงมือทานต่อ มื้อเช้าในวันนี้เป็นมื้อเช้าที่สิตางศุ์รู้สึกได้ถึงความอบอุ่นจากครอบครัวและคนรัก แม้ว่าอากาศภายนอกจะลดต่ำมากแค่ไหนก็ตาม





สิตางศุ์ดีใจที่ตัวเองคิดถูก คิดถูกที่เลือกกลับมาที่นี่






หลังจากกลับมาอยู่ไร่น้ำรินได้เพียงแค่วันเดียวสิตางศุ์ก็เข้าทำงานในตำแหน่งเดิมนั่นก็คือเลขาฯของรัชพลและพนักงานบัญชีที่คอยตรวจสอบรายรับรายจ่ายต่างๆ พ่วงด้วยตำแหน่งคนรักของรัชพลเข้าไปอีกหนึ่งตำแหน่ง






เรื่องนี้คนทั้งไร่รู้หมดแล้ว นั่นทำให้ทุกคนดูจะเกรงใจสิตางศุ์เพิ่มมากขึ้น รัชพลเอาโต๊ะทำงานมาให้สิตางศุ์ที่โรงบ่มอีกตัวหนึ่ง เขาไม่อยากให้สิตางศุ์ไปทำงานไกลเขา อยากให้คนรักอยู่ข้างๆตลอดเวลา






หมอชาญแวะเวียนมาหาหลังจากรู้ข่าวเรื่องที่เขากลับมาแล้ว รัชพลมีท่าทีที่ดีขึ้น ไม่คิดไปไกลเหมือนเมื่อก่อน และไม่หึงหวงสะเปะสะปะ นั่นทำให้สิตางศุ์พอใจกับพฤติกรรมของคนรักไม่น้อย






เย็นวันนี้ภุมรินตั้งใจจะเลี้ยงต้อนรับสิตางศุ์โดยชวนตะวันมาร่วมด้วย บุรินทร์ติดงานอยู่ในตัวเมืองตั้งใจจะกลับพรุ่งนี้ เพราะฉะนั้นเย็นนี้จึงมีเพียงแค่สี่หนุ่มที่อยู่กันเพียงลำพัง






ป้าจันตั้งเตาให้ตั้งแต่หกโมงเย็น ของสดที่ซื้อมาจากตลาดถูกวางไว้บนแคร่ข้างกองไฟขนาดไม่ใหญ่มากภายใต้ต้นไม้ใหญ่หน้าบ้าน อากาศเริ่มเย็นลงเมื่อเช้าสู่ช่วงโพล้เพล้แบบนี้





“มาผิงไฟตรงนี้สิริน เริ่มหนาวแล้ว” ตะวันรวบเอาตัวของภุมรินมานั่งข้างๆให้ชิดกันมายิ่งขึ้น เตาปิ้งย่างตั้งอยู่ตรงหน้า อีกฝั่งเป็นรัชพลกับสิตางศุ์ที่กำลังช่วยกันเอากุ้งไปย่างบนเตาไฟ





“วันนี้หนาวน้อยกว่าเมื่อวานอีกนะเนี่ย” รัชพลพูดพร้อมกับพลิกกุ้งตัวโตไปมา





“แต่ก็ยังหนาวอยู่ดีนะครับ” ดูเหมือนว่าสิตางศุ์ไม่ชินกับอากาศแบบนี้ อากาศร้อนนั้นเขายังพอจะชินอยู่บ้างเพราะที่บ้านของก็ไม่ต่างกัน แต่อากาศหนาวนี่สิ นานๆทีจะได้สัมผัส





“อยู่ใกล้ๆพี่สิจะได้อุ่นๆ” รัชพลยิ้มกรุ้มกริ่มให้สิตางศุ์ สิตางศุ์เสมองไปที่กุ้งตรงหน้าแทนที่จะมองรัชพล






“ก็อยู่ใกล้นี่ไง” พูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ดังมาก รัชพลหัวเราะอย่างพอใจแล้วคว้าเอาสิตางศุ์เข้ามากอดแน่น






“น้ำจิ้มซีฟู๊ดหวานหมดแล้วพี่รัช” ภุมรินแอบแซว






“ก็ให้มันหวานไปสิ” รัชพลพูดยิ้มๆแล้วคีบเอาเนื้อที่สุกแล้วเข้าปาก






แม้ว่าบรรยากาศจะหนาวเย็นไปเสียหน่อยแต่กองไฟและผ้าคลุมผืนหนาก็ยังช่วยบรรเทาได้ รวมไปถึงการได้กอดคนที่เรารักอย่างแนบแน่น อากาศเย็นๆนั้นก็แทบจะไม่มีผลอะไร






ทั้งสี่คนพูดคุยกันจนเกือบจะสามทุ่ม วันนี้ตะวันนอนที่นี่อีกตามเคย ป้าจันให้เด็กคนอื่นๆมาช่วยกันเก็บของ รัชพลกับตะวันเองก็ช่วยเก็บเตา สิตางศุ์ช่วยเก็บของเล็กๆน้อยๆ  ส่วนภุมรินนั้นขอตัวไปอาบน้ำก่อนใครเพื่อน





“เดี๋ยวกูขึ้นไปก่อนนะ รินอาบน้ำเสร็จแล้วมั้ง” ตะวันบอกหลังจากช่วยเก็บของเสร็จ






“เออ อย่าพากันนอนเร็วล่ะ เดี๋ยวน้องกูไข้กลับอีก” รัชพลพูดกับตะวันก่อนที่ร่างสูงของตะวันจะพยักหน้ารับแล้วเดินเข้าบ้านไป






หลังจากตะวันเข้าบ้านไปแล้วรัชพลก็หันมาหาสิตางศุ์ที่กำลังล้างมือลากขวดน้ำอยู่ สิตางศุ์แอบสะดุ้งเล็กน้อยเพราะน้ำมันเย็นมาก รัชพลขำแล้วยื่นผ้าเช็ดมือให้





“ขอบคุณครับ” สิตางศุ์รับมาแล้วใช้เช็ดมือตัวเอง






“อย่าเพิ่งเข้าบ้านมั้ย ไปกับพี่ก่อน” รัชพลยิ้มกว้าง สิตางศุ์มองหน้าคนรักอย่างงงๆ ดึกดื่นป่านนี้แล้วจะไปไหน แล้วยังหนาวขนาดนี้อีก






“ไปไหนพี่รัช” อะไรของเค้ากันนะ





“ไปเถอะน่า เดี๋ยวตางก็รู้เอง” รัชพลคว้าเอาหมวกไหมพรมมาสวมให้สิตางศุ์รวมทั้งผ้าคลุมเอามาคลุมไหล่ให้แล้วกระชับแน่นปิดไปทั้งส่วนบนของสิตางศุ์






มือหนานั้นจับมือสิตางศุ์แน่นแล้วพาเดินออกมาจากตัวบ้าน เดินออกมาไม่ไกลนัก รัชพลพาสิตางศุ์ไปยังบริเวณกว้างที่เยื้องๆกับโรงบ่ม บริเวณตรงนี้เป็นลานกว้างซึ่งเป็นส่วนที่ใช้สำหรับคักแยกองุ่นส่วนแรก มันเป็นพื้นที่โล่งไม่มีแสงไฟ มีเพียงแค่แสงจากไฟฉายของรัชพลเท่านั้น






“คืนนี้เป็นคืนเดือนมืด แล้วหมอกก็ลงน้อยด้วย พี่เลยพาตางมาดูทางช้างเผือก” รัชพลบอกแล้วเงยหน้ามองบนฟ้า






สิตางศุ์แหงนหน้ามองตาม ตอนนี้ผืนฟ้าสีดำแต่งแต้มไปด้วยดวงดาวดารดาษจนแทบจะไม่มีพื้นที่ว่าง ทางช้างเผือกพาดผ่าน มันมองเห็นได้อย่างชัดเจน อาจเป็นเพราะไร่น้ำรินอยู่บนเขาสูงและบริเวณนี้มืดสนิท สิตางศุ์ยิ้มออกมาโดยที่ไม่รู้ตัว เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นทางช้างเผือกชัดๆกับตาตัวเองแบบนี้






“สวยจังเลยพี่รัช”






สิตางศุ์ชอบดวงดาว สิตางศุ์ชอบพระจันทร์และสิตางศุ์ชอบท้องฟ้า ทุกครั้งที่มองมันสิตางศุ์ทำให้คิดถึงความอิสระ บางครั้งเขายังแอบอิจฉานกที่ได้โบยบินไปในโลกกว้าง ได้มองโลกนี้จากบนฟ้าทุกวัน ทุกเวลา ซึ่งสิตางศุ์ทำไม่ได้






“พี่รู้นะว่าสิตางศุ์ชอบดูดาว” รัชพลรวบมือทั้งสองข้างของสิตางศุ์มากุมแล้ว สิตางศุ์เลื่อนสายตาจากท้องฟ้ามามองคนตรงหน้าแทน






“ที่บ้านของผมไม่มีแบบนี้” แสงไฟมันกลบแสงดาวไปเสียหมด บ้านของเขาไม่เห็นดาวชัดขนาดนี้






“นี่ก็บ้านสิตางศุ์” รัชพลยิ้มให้คนรัก







“พูดอะไรน่ะพี่รัช “สิตางศุ์ยิ้มกว้าง บ้านของเขาอย่างนั้นเหรอ





“ก็พูดตามความจริงไง ต่อจากนี้สิตางศุ์ก็ต้องมาอยู่ที่นี่ มาอยู่กับพี่ สิตางศุ์เป็นคนในครอบครัวของเขา เป็นคนรักของพี่ เป็นพี่ของริน เป็นครอบครัว เป็นคนของไร่น้ำริน แม้ที่นี่จะไม่น่าอยู่และหรูหราเท่าบ้านของสิตางศุ์ แต่ที่นี่มีความอบอุ่นให้สิตางศุ์เสมอนะ”







เขาจับมือของสิตางศุ์แน่น รัชพลอยากจะบอกสิตางศุ์อย่างนี้มานานแล้ว เขาอยากให้สิตางศุ์รู้ว่าทุกคนที่นี่ไม่มีใครทิ้งสิตางศุ์ ทุกคนรักและต้องการสิตางศุ์ สิตางศุ์คือคนสำคัญ ไม่ได้ถูกเมินเฉยอย่างที่ผ่านมา







สิตางศุ์พูดไม่ออก น้ำตาของเขาไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัว มันไม่ใช่เพราะเขากำลังทุกข์ใจ แต่มันเป็นเพราะเขากำลังตื้นตัน สิตางศุ์เพิ่งได้รู้ว่าการมีอยู่ของตัวเองเพื่อใครอีกคนนั้นมันรู้สึกดีแค่ไหน รัชพลทำให้เขามีค่าขึ้นมา






“ดาวมันจะสวยและมองเห็นได้ชัดเมื่ออยู่ในมุมมืด ไม่ต่างกับพระจันทร์ดวงนี้ของพี่ สิตางศุ์อาจจะคิดว่าไม่มีใครมองเห็นสิตางศุ์ แต่พี่มองเห็นและพี่ก็อยากจะขโมยพระจันทร์ดวงนี้มาไว้เป็นของพี่แค่คนเดียว” รัชพลนึกขำ ไม่คิดว่าตัวเองจะมาพูดอะไรเสี่ยวๆแบบนี้ บางทีเขาก็คิดว่าเขาอาจจะติดนิสัยนี้มาจากตะวัน






สิตางศุ์ยกมือขึ้นปิดหน้าเมื่อน้ำตามันไหลซะจนเขาควบคุมมันไม่อยู่ รัชพลมองเห็นเขา ทั้งๆที่ผ่านมานั้นไม่เคยมีใครรับรู้ว่าเขาอยู่ตรงไหน ทุกคนเมินเฉย ทุกคนไม่สนใจตัวตนของเขาจริงๆ รัชพลคนนี้ทำให้แสงในตัวของพระจันทร์มันฉายเด่นชัดขึ้นมา






“พี่รัช... ขอบคุณ” ไม่มีคำพูดใดที่จะมากไปกว่าคำว่าขอบคุณ






สิตางศุ์โผเข้ากอดรัชพลแน่น เขาซบลงกับไหล่หนา รัชพลฝังจมูกลงกับไหล่บางนั้น กอดสิตางศุ์ไว้แน่น แน่นเสียจนอากาศที่หนาวเย็นมันไม่สามารถทำให้ความอบอุ่นในใจของเขาลดลงได้






“พี่รักสิตางศุ์นะครับ พี่จะบอกอย่างนี้ไปตลอด บอกว่ารัชพลคนนี้รักสิตางศุ์มากแค่ไหน”






ไม่มีครั้งไหนที่รัชพลรู้สึกว่าหัวใจของเขาสูบฉีดแรงเท่าครั้งนี้มาก่อน หัวใจของเขาตอนนี้กำลังสั่นระรัว สั่นเพราะสิตางศุ์คนนี้ คนที่เข้ามาในหัวใจของเขาอย่างไม่รู้ตัว ทั้งๆที่รัชพลไม่เคยคิดว่าชีวิตนี้จะรับใครอีกคนเข้ามานอกจากคนในครอบครัว






เขาเพียงแค่อยากเห็นรอยยิ้มจากคนตัวเล็กนี้ สิตางศุ์ของเขายิ้มแล้วเหมาะกว่าใบหน้าที่อมทุกข์นั้น เขาอยากปกป้องรอยยิ้มของสิตางศุ์ให้นานที่สุด





“ผมก็รักพี่รัช สิตางศุ์คนนี้รักรัชพล ขอบคุณสำหรับทุกอย่างนะครับ ขอบคุณ...”






สิตางศุ์ซับน้ำตาไปกับเสื้อตัวหนาของรัชพล แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว เขาไม่ขออะไรมากไปกว่าการที่ใครซักคนเห็นค่าของเขา และรัชพลคือคนนั้น ความรักที่จริงใจควรเป็นสิ่งตอบแทนที่รัชพลควรได้รับมากที่สุด





รัชพลผละออกจากร่างของสิตางศุ์ที่ยังคงสั่นเทา ร่างสูงยิ้มเล็กน้อยก่อนจะล้วงเข้าไปในกระเป๋าเสื้อ แหวนเล็กๆสีเงินวงหนึ่งถูกชูขึ้นมา มันเป็นแหวนเกลี้ยงที่ไม่มีสลักลวดลายใดๆทั้งนั้น สิตางศุ์มองแหวนนั้นแล้วมองหน้ารัชพลด้วยความตกใจเมื่อรู้ว่าความหมายของมันคืออะไร





“ไม่รู้ว่ามันช้าหรือเร็วเกินไป แต่ที่รู้คือตอนนี้พี่พร้อมที่จะดูแลสิตางศุ์ไปตลอดแล้ว จะรังเกียจมั้ยถ้าพี่อยากจะบอกว่า แต่งงานกันนะครับ” รัชพลยิ้มแล้วส่งสายตาเว้าวอนไปให้สิตางศุ์ที่นิ่งอึ้ง





แหวนตรงหน้า คนตรงหน้า มันทำให้เขามึนงงไปหมด เขากำลังถูกขอแต่งงานจากผู้ชายคนนี้ จากรัชพล...






“ว่ายังไงครับสิตางศุ์ จะแต่งงานกับพี่มั้ย” รัชพลถามย้ำอีกครั้งเมื่ออีกคนยังไม่ให้คำตอบกลับมา สิตางศุ์น้ำตาไหลอีกรอบ เขากลั้นมันไม่ไหวอีกแล้ว





“คะ... ครับ” เขามีแรงเปล่งเสียงเพียงเท่านั้น เพราะมันตื้นตันจนพูดไม่ออก






“ขอบคุณนะสิตางศุ์” รัชพลยิ้มกว้างแล้วสวมแหวนเข้ากับนิ้วของสิตางศุ์แล้วรวบร่างนั้นมากอดอีกครั้ง






ขอบคุณ... ขอบคุณที่สิตางศุ์ยินดีรับความรักของเขาโดยที่ไม่ปฏิเสธ มันอาจจะเป็นเรื่องที่แปลกสำหรับรัชพลที่วันหนึ่งมีใครซักคนเข้ามาอยู่ในหัวใจ แต่เมื่อสิตางศุ์ก้าวเข้ามาในชีวิตแล้ว เขาสัญญาว่าจะรักษาพระจันทร์ดวงนี้ไว้ให้ดีที่สุด






ใครอาจจะมองไม่เห็นพระจันทร์ที่กำลังอ่อนแรงดวงนี้ ทุกคนมองมันเพียงภาพความสวยงามบนฟ้า แต่เมื่อมันสะท้อนผืนน้ำมันบิดเบี้ยวไปตามเกลียวคลื่นที่สั่นไหวของผิวน้ำนั้น ต่อให้พระจันทร์จะสวยแค่ไหน แต่มันก็ต้องมีมุมสั่นไหว






เหมือนสิตางศุ์ของเขา แม้ว่าจะมีสิ่งที่ต้องการทุกอย่างอยู่รอบตัว แต่นั้นมันก็ไม่ใช่ความสุขที่แท้จริง ที่สิตางศุ์ต้องการไม่ใช่การได้อยู่บนฟ้าเพื่อเป็นจันทร์ประดับ แต่สิตางศุ์คนนี้ต้องการเป็นเพียงพระจันทร์ในน้ำเพียงเท่านั้นและอัศวินคนนี้ก็อยากจะดูแลพระจันทร์ในน้ำตลอดไป






ดวงดาวต้องขอบคุณเขาที่วันนี้รัชพลขโมยพระจันทร์มาจากท้องฟ้า วันนี้เหล่าดาราจึงได้ฉายแสง





รัชพลรักสิตางศุ์





























จบบริบูรณ์







***********************************************************




ตอนจบลิเกเบอร์แรงมาก ฮ่าๆ จบแล้วอ่ะ โอ้ยยยยย ต้องคิดถึงเรื่องนี้มากแน่ๆ เพราะอยู่กับเรื่องนี้มาเดือนกว่าๆ และที่สำคัญมันจบเรื่องของไร่น้ำรินแล้ว เรื่องต่อไปจะเป็นไร่เพียงระพีแทน เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เราทนไม่ไหวจริงๆ ไม่ไหวกับการดองไว้ปิดเทอมทั้งๆที่มีงานเยอะ แต่เวลาว่างๆก็พยายามแต่งตุนไว้ พักหลังๆเริ่มแต่งวันละตอน ลงสดกันเลยทีเดียว





คู่ของพี่รัชนี้เราวางคาแรกเตอร์ตัวละครมาตั้งแต่คิดว่าจะทำซีรีย์เรื่องต่อ เรื่องนี้เกิดจากการที่คนอ่านในเรื่องภมรอ้อนตะวันถามถึงคู่ของพี่รัช เราคิดว่าน่าจะแยกออกมาเป็นอีกเรื่อง เลยได้เรื่องนี้มา ในบรรดาชื่อนิยายทั้งสามเรื่องนี้ ภมรอ้อนตะวัน พระจันทร์ล้อนที ปฐพีเคล้าเมฆา เรื่องนี้เป็นเรื่องที่แต่งชื่อยากที่สุด หาจุดร่วมกับเรื่องอื่นไม่ได้ ตอนตั้งชื่ออิพี่รัชก็ไม่ได้คิดอะไร คิดแค่ว่าเอาให้เข้ากับภุมรินก็พอ ชื่อของพี่รัชแปลว่าอัศวินค่ะ ส่วนสิตางศุ์แปลว่าพระจันทร์ ในเมื่อมันหาจุดร่วมไม่ได้ก็เอารักษ์นทีนี่แหละวะ เลยได้เรื่องพระจันทร์ล้อนทีออกมา






ถ้าหากเรื่องนี้มีข้อผิดพลาด เราพิมพ์ตก ข้อมูลคลาดเคลื่อนยังไงก็ขอโทษคนอ่านด้วยนะคะ เราจะพยายามพัฒนาฝีมือต่อไปเรื่อยๆค่ะ เราอยากขอบคุณทุกคนที่คลิกเข้ามาอ่านนะคะ มาสนุกไปกับเรื่องราวความรักของรัชพลพ่อหนุ่มนักเรียนนอกที่ทำตัวบ้านๆเราเด็กเลี้ยงงัวมาก บางทีคนแต่งก็คิดว่าอิพี่รัชมันไม่ได้จบนอก ฮ่าๆ กับสิตางศุ์ที่มีปัญหาครอบครัวมากมาย เราเชื่อว่าอีกหลายครอบครัวเป็นแบบนี้ ความสุขที่แท้จริงของชีวิตคือความสุขทางใจ หวังว่าเรื่องนี้จะสร้างความสุขให้ทุกคนได้นะคะ เราไม่ได้หวังว่าจะให้ทุกคนจำตัวละครเล็กๆของเรานี้ เราขอเพียงแค่ว่าวันหนึ่งเมื่อพูดถึงพระจันทร์ล้อนทีคนอ่านเรื่องนี้จะยังไม่ลืมพี่รัชกับสิตางศุ์ ขอบคุณทุกคนค่ะ เราอยากจะบอกเหมือนทุกครั้งในแต่ละตอน เรารักคนอ่านทุกท่านค่ะ





ปล. เรื่องพี่ตะวันกับน้องรินกำลังจะตีพิมพ์กับสำนักพิมพ์เฮอร์มิทนะคะ และมีนิยายอีกเรื่องของเราด้วยค่ะ เรื่องของพี่รัชเองเราก็หวังว่าจะได้ตีพิมพ์ต่อจากเรื่องของน้องริน หากมีความคืบหน้าเรื่องรายละเอียดสามารถติดตามได้ที่หน้าแฟนเพจนะคะ https://www.facebook.com/Speirmint28-213061652381782/?ref=aymt_homepage_panel





ปล. 2 มีตอนพิเศษตอนหน้าค่ะ อย่าเพิ่งทิ้งพี่รัชนะ








และสุดท้ายท้าย สถานีต่อไป ปฐพีเคล้าเมฆา... TBC.






 :pig4:  :bye2:



ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
เราว่าไม่ลิเกน๊าา อบอุ่นดี อิพี่รัชมันหล่อเลยอ่ะตอนนี้ ฮ่าๆๆ
รอติดตามเรื่องต่อไปค่าาา

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
จบแล้วเหรอ ใจหายนะแต่ก็ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆสนุกๆกับความตรงเวลา
ของคนเขียนน่ารักจริงๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
เรื่องต่อไปจะมาแนวไหนนะ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
ขอบคุณคนแต่งครับ รออ่านคูที่สามนะ

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1775
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
จบได้อบอุ่น ขอแต่งงาน บรรยากาศหน้าหนาวท่ามกลางแสงดาว โรแมนติกมากๆค่ะ ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆ ที่มาลงให้ไม่ขาด รอตอนพิเศษน้า จะรออุดหนุนเล่มด้วยค่า รอเรื่องใหม่ด้วย :กอด1:

ออฟไลน์ Speirmint28

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 127
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-1
บทพิเศษ





“นั่งนิ่งๆสิพี่รัช เดี๋ยวมีดก็บาดหรอก” สิตางศุ์จับใบหน้าครึ้มหนวดของรัชพลให้อยู่นิ่งๆ ในมือถือมีดโกนเตรียมพร้อมเพื่อจัดการหนวดเคราของรัชพลที่ตอนนี้รกจนเหมือนโจรป่าเข้าไปทุกที สิตางศุ์ทนไม่ไหวต้องจับคนตัวโตมานั่งโกนหนวดนี่แหละ





เกือบปีแล้วที่สิตางศุ์มาอยู่ที่นี่และเกือบปีแล้วที่งานแต่งงานเล็กๆของพวกเขาถูกจัดขึ้นในไร่น้ำริน มีเพียงคนรู้จักเท่านั้นที่มาร่วมงานด้วย





เรื่องของคุณหญิงพิมลนั้นจนถึงทุกวันนี้เธอก็ยังทำใจที่สิตางศุ์มาอยู่กับรัชพลไม่ได้ ในงานแต่งเธอฝากเพียงแค่ของขวัญและส่งอนันต์มาแทน สิตางศุ์แวะเวียนไปหาเธอหลายครั้ง ทุกครั้งเธอเรียกร้องไห้เขากลับไปแต่สิตางศุ์ก็ทำให้ไม่ได้ แต่ถึงอย่างไรแล้วเธอก็ไม่ได้ทำอะไรรุนแรงเหมือนทุกครั้งที่เธอทำ สิตางศุ์กับรัชพลยังใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันได้อย่างปลอดภัย






อนันต์นั้นโทรมาแจ้งข่าวดีกับเขาเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาว่าตอนนี้เขากำลังคบหากับรมิตา เธอเป็นเลขาฯของคุณหญิงพิมล และตอนนี้เธอกำลังตั้งครรภ์ลูกของอนันต์ด้วย




ในตอนแรกนั้นภุมรินก็แอบเป็นห่วง เพราะหากรมิตาตั้งท้องแบบนี้ เธอจะเป็นแบบมารดาของเขาหรือไม่ แต่อนันต์ก็พูดให้เขาสบายใจเพราะอนันต์และรมิตานั้นต่างมีชีวิตที่ไม่ต่างกันมาก ทั้งสองไปกันได้ เพราะต่างทุ่มเทให้งานทั้งคู่ และรมิตาเองก็เข้าใจอนันต์เรื่องงานดี เธอไม่มีปัญหาหากอนันต์จะไม่กลับบ้านบ่อยๆ





ตอนนี้เธอย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านใหญ่แล้ว คุณหญิงพิมลเองก็ไม่ได้ว่าอะไร ออกจะชอบใจด้วยซ้ำที่อนันต์จะมีหลานให้เธออีกคน สิตางศุ์ยินดีกับบิดาด้วย แต่ก็แอบสงสารน้องต่างมารดาของเขาที่กำลังจะลืมตาดูโลกคนนี้ที่ต้องเป็นความหวังให้ศิรินทราคนต่อไป





หากพูดถึงความสัมพันธ์ของสิตางศุ์กับรัชพลแล้วตอนนี้ก็คงจะอยู่กันเช่นฉันสามีภรรยา ทุกคนรู้ดีว่าเขากับรัชพลมีความสัมพันธ์กันแบบไหน





ผู้หญิงหลายคนเข้ามาถามเขาเมื่อครั้งที่มีงานเกษตรประจำจังหวัดเมื่อปีที่แล้วว่าเขามีดีอย่างไรถึงทำให้รัชพลเมินเฉยพวกเธอแล้วเลือกผู้ชายจืดๆอย่างเขา เรื่องนั้นสิตางศุ์ตอบไม่ได้ เขาเลยไปถามรัชพล กลายเป็นว่ารัชพลโกรธผู้หญิงพวกนั้นที่เข้ามาวุ่นวายกับเขา





บ้านรักษ์นทีตอนนี้มีเพียงแค่รัชพลและสิตางศุ์เท่านั้นที่ดูแลอยู่ คุณบุรินทร์เองก็กลับบ้านเดือนละไม่กี่ครั้งเมื่อมีการคุยธุรกิจต่างประเทศทำให้ต้องเดินทางบ่อยๆ





ส่วนภุมรินย้ายไปอยู่กับตะวันอย่างถาวรได้เกือบสามเดือนแล้ว คราแรกนั้นรัชพลรั้งไว้ไม่อยากให้น้องชายออกจากบ้านไปอยู่ที่อื่น จนสิตางศุ์เองที่เป็นคนช่วยพูดให้เข้าใจ งานที่ไร่ในส่วนของภุมรินจึงตกมาที่รัชพล รัชพลได้เลือกคนงานเข้ามาดูแลในแต่ละส่วนเพิ่มมากขึ้น และงานของรัชพลเองก็เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย





กลายเป็นว่าตอนนี้รัชพลเข้ามาดูแลไร่อย่างเต็มตัว ซึ่งมีสิตางศุ์ช่วยเรื่องบริหารตามความสามารถของเขาที่พอจะช่วยคนรักได้ แต่ถึงอย่างไรแล้วภุมรินเองก็ไม่ได้ทิ้งงานไปเสียหมด ภุมรินเข้าไปจัดการเรื่องติดต่อค้าขายกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งงานในส่วนนี้สามารถทำร่วมกับตะวันได้โดยตรง เพราะฉะนั้นการที่ภุมรินไปอยู่กับตะวันจึงสะดวกในหลายๆด้าน





ตัดภาพมาปัจจุบัน หลายวันมานี้รัชพลโหมงานหนัก เขาไม่มีเวลาแม้แต่จะดูแลตัวเอง หนวดเริ่มเขียวครึ้มจนกลายเป็นยาวขึ้นเรื่อยๆ สิตางศุ์แอบติงหลายครั้งว่าให้ตัดได้แล้วแต่คนตัวโตยังคงนิ่ง รัชพลบอกว่าปล่อยไว้อย่างนี้ก็เท่ไม่หยอก ซึ่งสิตางศุ์ไม่ชอบ!





“ไม่ตัดได้มั้ยอ่ะตาง” รัชพลโอดครวญ ตอนนี้รัชพลสภาพกึ่งเปลือยกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ภายในห้องน้ำ โดยมีสิตางศุ์นั่งอยู่ตรงหน้า เขาไม่ต้องการโกนหนวด ไม่กี่ครั้งที่เขาคิดจะไว้ แต่พอไว้แล้วทำให้เข้มขึ้นไม่น้อย รัชพลคิดว่ามันก็ดูดีไม่น้อยไปกว่าการโกนเสียเท่าไหร่





“ไม่ได้ครับ ปล่อยไว้แบบนี้ไม่อายเค้าหรือไง ออกไปนู่นนี่ เดี๋ยวเสาร์นี้ก็มีสัมมนาที่อำเภออีก เจอคนอื่นเค้าจะมองว่าสกปรกเอาได้” สิตางศุ์ยืนยันเสียงแข็ง ยังไงซะวันนี้เขาจะต้องโกนหนวดรัชพลให้ได้





“ตัดจริงเหรอ” รัชพลก็ยังไม่เลือกล้มความตั้งใจที่จะไม่ตัด





“จริงสิครับ อยู่นิ่งๆเดี๋ยวนี้เลย” สิตางศุ์ใช้มือสองข้างจับหน้ารัชพลอีกรอบ คราวนี้รัชพลนั่งนิ่งยอมให้คนตัวเล็กทำตามใจชอบ เขาไม่อยากจะขัด ถ้าการที่เขาโกนหนวดแล้วทำให้สิตางศุ์พอใจรัชพลก็โอเค





สิตางศุ์แอบยิ้มอย่างชนะเมื่อรัชพลหยุดคิดที่จะต่อต้าน ร่างเล็กจัดการกับหนวดนั้นอย่างเบามือที่สุดเพื่อไม่ให้อีกคนต้องเจ็บตัว ไม่นานรัชพลที่หนวดเขียวครึ้มก็กลับมาหน้าเกลี้ยงเกลาดังเดิม สิตางศุ์ยิ้มอย่างพอใจแล้ววางอุปกรณ์ไว้ข้างๆก่อนจะลุกขึ้นยืน





“คราวนี้ก็อาบน้ำได้แล้วครับ รีบๆหน่อยก็ดีนะพี่รัช เดี๋ยวสายกว่านี้รถจะติดเอา” สิตางศุ์กำชับอีกรอบ





วันนี้รัชพลและสิตางศุ์ต้องไปรับเมฆาที่สนามบิน คุณหมอจบใหม่ต้องมาใช้ทุนที่นี่ ตะวันกับภุมรินไม่ว่างที่จะไปรับเพราะต้องบินคุยเรื่องธุรกิจที่มาเลเซียตั้งแต่สองวันก่อน รัชพลเลยอาสาไปรับโดยพาสิตางศุ์ไปเป็นเพื่อนด้วย






สิตางศุ์ออกไปแล้ว เจ้าตัวเล็กลงไปชั้นล่าง รอไม่นานรัชพลก็จัดการอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อย รถฟอร์จูนเนอร์คนโตแล่นออกจากไร่น้ำรินแต่เช้ามุ่งตรงไปยังสนามบินของจังหวัด เพื่อรอรับคุณหมอเมฆาลูกพี่ลูกน้องของตะวัน





เมื่อมาถึงสนามบิน รัชพลก็เดินยิ้มเมื่อพบว่าเมฆามาถึงแล้ว การจะหาตัวของเมฆานั้นไม่ยากเพราะเสื้อผ้าที่ดูจะมีแต่สีสันแสบตานั้นมันเด่นกว่าใครซะไม่มี แม้ตอนนี้เจ้าตัวจะไม่ย้อมผมสีประหลาดๆให้ตะวันปวดหัวเล่นแล้วก็ตามที





“ไอ้เมฆ” รัชพลตะโกนเรียก เมฆาที่ดูจะวุ่นวายกับอะไรบางอย่างรีบหันมามองแล้วพุ่งมาด้วยความเร็วแสง





“พี่รัช~” เมฆาตะโกนลั่นจนคนบริเวณนั้นหันมามอง คุณหมอพุ่งเข้ากอดรัชพลอย่างจัง รัชพลหัวเราะปนระอาก่อนจะยีหัวเมฆาแล้วดันลิงจอมซนนั้นออก





“ปล่อยก่อนสิวะ เกาะหนึบเป็นปลิงเลย” รัชพลดันหัวเมฆาออกนั่นทำให้เมฆามองค้อน





“สวัสดีครับคุณรัช คุณสิตางศุ์” เสียงที่ดังมาจากข้างหลังเมฆานั้นทำให้รัชพลต้องหันไปมอง





“อ้าว คุณดิน มาอยู่นี่ได้ยังไงครับ” รัชพลถามอย่างแปลกใจ ทำไมเพียงดินมาอยู่ที่นี่ได้





“พอดีเพิ่งกลับจากกรุงเทพฯน่ะครับ คุณรัชมารับเด็กคนนี้เหรอครับ” เพียงดินชี้ไปที่เมฆา เมฆานั้นทำหน้าไม่สบอารมณ์ไปเรียบร้อย





“ใช่ครับ พอดีเป็นน้องชายเพื่อน ว่าแต่คุณดินกลับยังไง กลับด้วยกันก็ได้นะครับ” รัชพลอาสา





เมฆาถลึงตาใส่รัชพล เขาพยายามสื่อสารด้วยสายตาและกระซิบกระซาบกับรัชพลเป็นเชิงว่าไม่ควรชวนเพียงดินไปด้วย





“เป็นอะไรเนี่ยได้เมฆา มาทำหน้าทำตา” รัชพลยังไม่เข้าใจ





“ดีเลยครับคุณรัช คนที่ไร่ไม่ว่างพอดี ถ้าไม่รบกวนมากไปผมขอกลับด้วยเลยแล้วกัน” ไม่พูดเปล่า เพียงดินยังเดินมายืนตรงหน้ารัชพลแล้วแอบเบียดเมฆาให้ถอยออกไป





“ยินดีครับ” รัชพลตอบรับอย่างเต็มใจ






“แล้วเราเอาไงไอ้เมฆ แบกของอะไรมาเยอะแยะ” รัชพลหันมาหาเมฆาที่ยืนหน้าบึ้งอยู่แล้วจึงไปช่วยยกของ เมฆาคงอยู่นี่อีกนานพอสมควรถึงได้หอบมาซะขนาดนี้





“เดี๋ยวผมช่วยถือขอฝากก็แล้วกันครับ” สิตางศุ์ที่ยืนเงียบอยู่นานอาสาเข้ามาช่วย เขารับถุงกระดาษมาไว้ในมือมากมาย เมฆาถือกระเป๋าใบเล็กหนึ่งใบเพราะใบใหญ่นั้นรัชพลแบกนำลิ่วไปนู่น





“ขอบคุณครับ นี่คงเป็นพี่สิตางศุ์แฟนพี่รัชใช่มั้ย” เป็นครั้งแรกที่เมฆาเจอสิตางศุ์ เขาได้แต่ฟังเรื่องราวเจ้าของหัวใจตาแก่แช่โรงบ่มคนนี้ผ่านทางภุมรินและรัชพล ดูท่าทางแล้วสิตางศุ์ไม่น่าจะมาใช้ชีวิตอยู่ในไร่ได้ แต่ก็ทนอยู่กับไอ้พี่รัชมาตั้งเกือบปีนึงแล้ว





“ใช่ครับ ยินดีที่ได้รู้จักนะครับน้องหมอเมฆ” สิตางศุ์ยิ้มหวาน เมฆาจึงยิ้มกลับ เขารู้สึกถูกชะตากับสิตางศุ์พิกล คนอะไรทำไมมารยาทดีได้ขนาดนี้





“ยินดีที่ได้รู้จักครับ” รัชพลจะยื่นมือไปจับ แต่สิตางศุ์ได้แต่ยิ้มแห้งให้เพราะของฝากของเมฆานั้นก็เต็มมือของเขาไม่น้อย เมฆาได้แต่ยิ้มเจื่อนๆรู้สึกผิดที่ใช้งานคนเพิ่งรู้จักแบบนี้





“ให้ผมช่วยถือมั้ยครับคุณสิตางศุ์ ของเต็มมือขนาดนั้น” เพียงดินที่ถาม เขามีแค่กระเป๋าเป้ใบเดียวเท่านั้น ไม่ได้หนักและเยอะเหมือนคุณหมอกางเกงเหลืองนี่หรอก





“ก็ดีครับ” สิตางศุ์ไม่ปฏิเสธเพราะเขาเองก็เริ่มรู้สึกไม่ไหว





เพียงดินเข้าไปช่วยถือ สิตางศุ์ยิ้มขอบคุณก่อนจะเดินตามรัชพลไป เมฆาหันมาตวัดสายตาใส่เพียงดิน ไอ้คนที่เพิ่งรู้จักกันบนเครื่องบินเมื่อกี้นี้มันชักยังไงแปลกๆซะแล้ว ทำไมไปทำสายตากรุ้มกริ่มใส่สิตางศุ์อย่างนั้น





“นี่นาย ห้ามคิดไม่ซื่อกับพี่สิตางศุ์นะ นั่นแฟนพี่รัช!” เมฆาชี้หน้า นายเพียงดินอะไรนี่แอบชอบพี่สิตางศุ์รึเปล่า





ไม่ได้... ไม่ได้เด็ดขาด! 





กว่ารัชพลจะยอมมีแฟน จะยอมคบใครจริงจังมันยากแค่ไหนรู้มั้ย กว่าจะได้พี่สิตางศุ์มาเป็นแฟนต้องฝ่าด่านนรกแค่ไหน แล้วจะให้คนอื่นมาเป็นมือที่สามแบบนี้ไม่ได้ เมฆาไม่ยอมแน่






“เป็นถึงหมอคิดได้แค่นี้เหรอ นายนั่นแหละคิดอะไรกับคุณรัชรึเปล่า วิ่งเข้าไปกอดแฟนเค้าขนาดนั้น” เพียงดินตอกกลับ คนรู้จักกันต่อให้สนิทแค่ไหนก็คงไม่พุ่งเข้าไปกอดต่อหน้าแฟนเค้าที่ยืนทำหน้าไม่พอใจอยู่อย่างนั้นหรอก ไอ้หมอกางเกงเหลืองนี่คิดไม่ซื่อกับรัชพลแน่ๆ





“ทำไมถึงไอ้มีความคิดอัปรีย์ขนาดนี้นะ ฉันไม่ได้คิดอย่างนั้นกับพี่รัช! และบอกไว้ตรงนี้เลยนะถ้านายคิดจะจีบพี่สิตางศุ์ล่ะก็ไม่มีทางซะหรอก”





เมฆาอยากจะชกหน้าอีกคนเสียจริง แต่ก็ทำได้เพียงแค่เดินตามรัชพลกับสิตางศุ์ไป แค่เรื่องบนเครื่องบินยังไม่เคลียร์ แล้วยังจะมีประเด็นใหม่มาอีก เห็นทีงานนี้เมฆาต้องไปลับฝีปากเพื่อช่วยกันท่าเพียงดินคนนี้ออกจากสิตางศุ์เสียแล้ว





เพียงดินทำหน้าระอาให้กับเมฆา นี่น่ะนะหมอ หมอบ้าอะไรเพี้ยนขนาดนี้ แค่เรื่องบนเครื่องบินก็ทำให้เขาปวดหัวจะแย่ ยังมาว่าเขาคิดไม่ซื่อกับคุณสิตางศุ์อีก ตัวเองนั่นแหละชอบคุณสิไม่ว่า







เห็นทีคราวนี้เขาคงต้องเป็นพระเอกคอยจัดการหมอเมฆอะไรนี่ไม่ให้เข้าใกล้รัชพลเกินงามเสียแล้ว ดูจากสีหน้าสิตางศุ์เมื่อกี้ก็รู้ว่าไม่สบายใจแค่ไหน กว่าสองคนนี้จะลงเอยกันต้องเจอปัญหาร้อยแปด อยู่ๆหมอเมฆที่เพิ่งมาจะมาทำลายความสัมพันธ์ของเค้าสองคนดื้อๆแบบนี้ไม่ได้ คิดได้ดังนั้นเพียงดินก็เดินตามทั้งสามคนไป





ยกที่หนึ่ง เริ่ม!

















“พี่รัช พี่ไม่ได้คิดอะไรกับน้องหมอเมฆจริงๆใช่มั้ย” สิตางศุ์ถามขึ้นระหว่างมื้อเย็น





เขาพยายามจะไม่เก็บเรื่องนี้มาคิดแต่จากความสนิทสนมนั้นแล้วทำให้สิตางศุ์รู้สึกไม่สบายใจ กว่าจะใจถามรัชพลได้ก็นานพอควร ไม่อยากเก็บไว้ทุกข์ใจคนเดียว คนรักกันต้องเข้าใจกันและถามเพื่อให้เรื่องกระจ่าง จะได้ไม่ต้องคิดไปเอง





หลังไปรับเมฆาแล้วก็พาเมฆาไปส่งที่บ้านประสิทธานนท์ก่อนจะแวะไปที่ไร่เพียงระพีแล้วค่อยเข้ามาที่ไร่น้ำริน สิตางศุ์คิดเรื่องของรัชพลกับเมฆามาทั้งวัน เขาไม่อยากเป็นคนงี่เง่าและคิดเล็กคิดน้อย แต่บางอย่างมันก็เกินพอดีจนเขาไม่สบายใจ





“ทำไมถามแบบนั้นล่ะสิตางศุ์” รัชพลถามกลับอย่างงุนงง อะไรทำให้สิตางศุ์ของเขาถามออกมาแบบนั้น






“ก็ที่สนามบิน พี่กอดกับน้องเมฆซะขนาดนั้น กับรินผมยังไม่เห็นพี่จะสนิทเท่าน้องเมฆ” สิตางศุ์ก้มหน้ามองจาน อ้อมแอ้มตอบเพราะกลัวว่ารัชพลจะหาว่าเขางี่เง่า





“หึๆ หึงอีกแล้วล่ะสิ” แต่รัชพลกลับยกยิ้มอย่างพอใจ นั่นทำให้สิตางศุ์ต้องเงยหน้ามาค้อนใส่อีกคน






“ก็หึงน่ะสิ” สิตางศุ์ตอบตามตรง






“พี่กับเมฆน่ะเป็นอย่างนี้มาตั้งนานแล้ว พี่ไม่ได้คิดอะไรกับเมฆมันไปมากกว่าน้องหรอก คนที่พี่รักคือสิตางศุ์ต่างหาก ถ้ามันทำให้สิตางศุ์คิดมากคราวนี้พี่จะระวังตัวกว่านี้แล้วกัน” รัชพลเอื้อมมือมาจับมือของสิตางศุ์ไว้







เขาไม่อยากให้คนรักต้องคิดมาก ไม่บ่อยครั้งที่สิตางศุ์จะหึง มาทีละน้อยแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน รัชพลจะได้รู้ว่าสิตางศุ์ก็หวงเขาไม่น้อยเลยทีเดียว






“ผมขอโทษที่งี่เง่า แต่พี่รัชอย่าทำอย่างนั้นเลย น้องเมฆไม่ได้ผิดอะไร ทำตัวตามปกติเถอะครับ”







สิตางศุ์แอบรู้สึกผิดถ้าหากจะเป็นต้นเหตุให้รัชพลห่างเหินกับเมฆาแบบนั้น เขาไม่ได้รู้สึกแย่กลับเมฆา แต่มองว่าเมฆาดูจะน่ารักสดใสเสียอีก ต่างกับเขาที่วันๆไร้สีสันจืดชืดจนบางครั้งก็กลัวว่ารัชพลจะเบื่อเอา







“ทำไมน่ารักอย่างนี้นะสิตางศุ์” รัชพลลูบหลังมือสิตางศุ์ ทำไมคนรักของเขาถึงได้น่ารักขนาดนี้นะ สิตางศุ์เคยโกรธใครบ้างหรือเปล่า แม้แต่หึงเขากับเมฆาก็ยังมองว่าเมฆานั้นไม่ใช่คนผิด มันทำให้รัชพลยิ่งรักสิตางศุ์มากขึ้น






“ผมจริงจังนะพี่รัช” สิตางศุ์ทำหน้าเคร่ง รัชพลหลุดหัวเราะก่อนจะเลื่อนไปลูบแหวนเงินที่อยู่บนนิ้วของสิตางศุ์






“โอเคครับ พี่จะทำตัวปกติกับเมฆเหมือนเดิม แต่สิตางศุ์รู้ไว้นะว่าพี่ไม่มีทางมีคนอื่นแน่นอน พี่มีแค่สิตางศุ์คนเดียวเท่านั้น” จ้องมองไปยังดวงตาของสิตางศุ์อย่างแน่วแน่เพื่อตอกย้ำความหมายของคำพูดของตัวเอง







สิตางศุ์ยิ้มรับเมื่อรัชพลให้คำมั่นที่หนักแน่นนั้น






“กินข้าวกันต่อเถอะ เดี๋ยวจะได้ช่วยตัดผมให้พี่หน่อย มันเริ่มยาวแล้ว” รัชพลปล่อยมือสิตางศุ์แล้วลงมือกันข้าวต่อ สิตางศุ์เองก็ทำตามบ้าง







เขารู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก การที่เราจะรักใครซักคนเราก็ต้องกล้าเปิดใจที่จะคุยกับเขาตรงๆ เรื่องอะไรที่ค้างคาใจนั้นจะได้กระจ่าย มันจะได้ไม่สร้างปัญหาที่จะนำไปสู่การทะเลาะวิวาทได้







สิตางศุ์รู้สึกโชคดีที่มีรัชพลอยู่ตรงนี้ คนที่เข้าใจเขาและสอนให้เขาเรียนรู้ที่จะเข้าใจคนอื่น หลายเดือนที่ผ่านมานั้นรัชพลทำให้สิตางศุ์รู้ว่าเขาหนักแน่นมากแค่ไหน เพียงแค่นี้มันก็เพียงพอต่อการซื่อสัตย์ในความรัก และการอยู่เคียงข้างกันไปตลอดอย่างนี้ หากมีคำพูดใดที่สิตางศุ์อยากจะบอกรัชพล ตอนนี้เขาก็พูดได้เพียงแค่ว่า






สิตางศุ์รักรัชพล




***************************************************************************************







ตอนพิเศษค่ะ ตอนนี้เป็นตอนที่สิตางศุ์กับรัชพลอยู่ด้วยกันแล้วนะคะ ความรักคู่นี้ดูจะเรียบง่ายที่สุด เพราะสิตางศุ์เป็นคนนิ่งๆ ส่วนคู่ของเพียงดินกับเมฆานั้นเปิดตัวแล้วจ้า เรื่องปฐพีเคล้าเมฆานี้จะเป็นเรื่องที่สดใสและฟิลกู๊ดที่สุดในสามเรื่องนี้แล้วเพราะน้องเมฆป่วนแรงมาก เพียงดินก็เพี้ยนสุดโต่งกว่าพี่รัช ฮ่าๆ ฝากติดตามคู่นี้ด้วยนะคะ อีกไม่นานเกินรอแน่นอน รักคนอ่านทุกท่านค่ะ





ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1775
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
เปิดตัวคู่คุณดินกับน้องเมฆแล้ว
รอติดตามนะคะ

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
ดีแล้วค่ะ คนรักกันมีอะไรก็ต้องพูดกัน
รอติดตามคู่ของพี่ดินกับน้องเมฆค่ะ
ให้กำลังใจคนเขียน

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

อยากกินไข่พะโล้ โปะ

  • บุคคลทั่วไป
ตอนแรกก็แบบว่าแอบจิ้นพ่อบูรับพ่อนันอ่ะ
อยากให้นางได้กันเอง มันมีจุดร่วมแปลกๆ555
พอมาตอนจบเฉลยว่าพ่อนันมีเมียใหม่แล้วก็รู้สึกอกหัก
อยากให้พ่อบูรมีคู่อ่ะ หมอชาญก็ได้5555 พ่อภูก็ดี ภูวดลก็เริศ
อยากให้มีภาคพ่อบูรด้วย 55 แบบมีผัวเด็กงี้55

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด