[ตัวอย่าง] ชั่งใจ ครั้งที่ 22
มาแปะไว้ก่อน ช่วงสงกรานต์นี้คงจะอัพตอนใหม่เพิ่มอีกตอน พรุ่งนี้หรือมะรืนก็ยังไม่รู้นะคะ มาเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้นแหละเนอะ //โดนตบ
เรื่องนี้อีก 6 ตอนก็จะจบแล้วค่ะ แต่มีบทส่งท้าย 2 ตอน/ พาร์ทตอนพิเศษที่น้องธารดำเนินเรื่อง 3 ตอน/ ตอนของโรมกับจอมแก่น 1 ตอน/ ตอนของน้องมายด์ 1 ตอน อันนี้จะเอาลงให้อ่านทั้งหมดนะ ถ้าผ่านพิจารณากับ สนพ.ก็จะมีตอนพิเศษเพิ่มอีก 3-4 ตอน (หรือถ้าพิมพ์เองก็จะมีเพิ่มเช่นกันค่ะ)
รออ่านกันเน้อ เจิมแล้วปูเสื่อรอ จับจองที่นั่งไว้ก่อนเลยค่า
----------------------------------------------------
ธารนั่งไหว้อยู่นาน นานจนผมลุกขึ้นไปเสี่ยงเซียมซีก็แล้ว เดินไปเอาใบเซียมซีมาอ่านก็แล้ว เดินวนดูรอบๆ โบสถ์ก็แล้ว มันยังไหว้ไม่เสร็จ ผมเลยคว้าเอาโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปไปมันที นานๆ จะได้เห็นอะไรแบบนี้ ถ่ายเสร็จแล้วก็จัดการอัพขึ้นเฟซบุ๊ค ให้พวกเพื่อนๆ ได้มาสครีมกันไปตามเรื่องหลังจากที่พวกมันสครีมกับรูปคู่ผมกับธารที่นั่งหันหน้าเข้าหากันบนคาวาซากินินจากันไปยกนึงแล้ว
ผมยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับคอมเม้นต์เหน็บระคนอิจฉาจากเพื่อนๆ ก่อนจะละสายตาจากหน้าจอโทรศัพท์เมื่อได้ยินเสียงของธารดังขึ้นตรงหน้า
“ยิ้มบ้าอะไรอยู่”
“ไม่มีอะไรครับ” ผมเก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋า
ธารทำหน้าสงสัยเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร พยักปลายคางเป็นเชิงให้ออกไปข้างนอก ปากก็พูดไปด้วยว่าเดี๋ยวจะพาผมไปเดินเที่ยวรอบๆ วัดเพราะผมเพิ่งจะเคยมาที่นี่เป็นครั้งแรก
ผมเดินตามไปเรื่อยๆ จนถึงบริเวณที่มีร้านรวงขายของที่ระลึก ธารบอกว่าเผื่อผมอยากจะซื้ออะไร
ผมน่ะไม่ได้อยากซื้ออะไรหรอก ไม่ได้สนใจจะดูของพวกนั้นด้วย ที่สนใจก็คือ ผมอยากรู้ต่างหากว่าธารขออะไรกับหลวงพ่อ ถึงได้ขอนานเหลือเกิน
“น้องธาร พี่เหนือถามอะไรหน่อยได้มั้ยครับ”
“อะไร” ธารชะงักมือที่กำลังหยิบดาบไม้ของเล่นขึ้นมาดู หันมามองหน้าผม
“เมื่อกี้น้องธารขอพรอะไรจากหลวงพ่อเหรอ ทำไมขอนานจัง” แค่คิดก็ถามเลย
ธารทำหน้ารำคาญ วางดาบไม้ลงที่เดิม ปากก็พูดไปด้วย
“พี่จะรู้ไปทำไม”
“อยากรู้เฉยๆ น่ะว่าขออะไร เผื่อจะเกี่ยวกับพี่เหนือบ้างอะไรบ้าง” ผมแกล้งทำหน้าทะเล้น
ธารเหลือบมองผมด้วยหางตาแล้วว่านิ่งๆ
“ไม่มีอะไร ก็แค่ขอให้พ่อหายดีไวๆ” แล้วก็ไม่พูดอะไรต่อ ทำเอาผมเลิกคิ้วสูง
“ถ้าไม่ใกล้จะเสียไป คงไม่รู้ว่ารักแค่ไหนเนอะ” ผมหยอก ให้ธารได้เอื้อมมือมาบีบปลายจมูกผมซะเต็มแรง
“พูดมาก ถ้าจะสอนก็หุบปากไปเลย”
“เจ็บๆ!” ผมรั้งมือธารออก บุ้ยปากใส่มันไปที ก่อนจะถามต่อ “แต่ขอแค่นี้เองเหรอ เห็นนั่งตั้งนาน นึกว่าจะขอเยอะ”
ธารเหลือบมองหน้าผมอีกครั้ง พลางปฏิเสธ
“เปล่า”
“เอ้า แล้วขออะไรอีกล่ะครับ บอกพี่เหนือหน่อย”
“บอกแล้วมันจะศักดิ์สิทธิ์มั้ยฮะ ใครเค้าให้บอกกันมั่ง”
“แล้วที่ขอนี่เกี่ยวกับพี่เหนือปะ?”
“ก็บอกแล้วไงว่ามันจะไม่ศักดิ์สิทธิ์ จะตื๊อทำไมวะ”
ธารกระชากเสียงนิดๆ ฟังก็รู้ว่ารำคาญ แต่เป็นการรำคาญที่เอามากลบเกลื่อนความเขินอาย เห็นหน้าแดงเรื่อของมันนิดๆ ผมก็พอจะเดาได้ว่ามันคงจะขอเรื่องผมเยอะกว่าเรื่องพ่อมันอีก ผมเลยไม่ตอแยต่อ ยื่นมือไปยีผมมันเบาๆ แทน
“โอเค ไม่บอกก็ไม่บอก เดี๋ยวไม่ศักดิ์สิทธิ์เนอะ ปะ ไปหาข้าวกินกันดีกว่า พี่เหนือเริ่มหิวละ” ผละออกมาได้ ผมก็เปลี่ยนเรื่อง ทำท่าจะเดินนำไป
หากแต่ธารคว้ามือผมเอาไว้ก่อน แล้วจับแน่น
“ถ้าพี่อยากรู้ ธารจะบอกก็ได้”
“เอ้า แล้วเมื่อกี้บอกว่าเดี๋ยวไม่ศักดิ์สิทธิ์?”
“จะศักดิ์สิทธิ์หรือไม่ มันไม่ได้อยู่ที่หลวงพ่อเว้ย มันอยู่ที่คนต่างหาก ขอพรก็แค่ทำให้รู้สึกดีขึ้นเฉยๆ ที่พึ่งทางใจน่ะรู้จักมะ แค่นี้ต้องให้สอน”
โหๆ ร่ายยาวเชียว ปากดีเหลือเกิน แล้วเมื่อกี้ใครนะที่ทำท่าไม่อยากบอก
ผมทำปากยื่นใส่นิดหน่อย ก่อนจะถามต่อ
“แล้วตกลงน้องธารขออะไรไป”
ธารนิ่งไปครู่ เสมองไปทางอื่นพลางพูด
“ขอให้พี่เหนืออยู่กับธารนานๆ”
ฟังแล้ว ผมก็หลุดยิ้มกว้างออกมา ขณะที่ธารเริ่มหน้าแดงไปไหนต่อไหน
“แค่นี้?”
“ขอให้พี่รักธารมากๆ”
“แค่นี้ยังรักไม่มากพอ?”
“อยากได้อีก” ประโยคนี้พูดซะเสียงเบา
ผมล่ะอยากจะบอกมันเหลือเกินว่าเปย์ให้มันทุกอย่างและทุกครั้งที่มันมาขายอ้อยนี่ ยังไงผมก็รักมันมากอยู่แล้ว และการที่มันพูดประโยคนี้ ทำให้ผมยิ่งเอ็นดูมันขึ้นไปอีก ยกมือไปดึงแก้มมันไปมาทันใด
“เด็กขี้อ้อน”
“อย่าน่า คนมอง” ธารสะบัดหน้าหนี ผมเลยยอมดึงมือออกแต่โดยดี
“แล้วขออะไรอีก พี่เหนือว่าไม่ใช่แค่นี้แน่”
“อือ ก็ขอให้พี่เลิกแรด”
“ฮะ?” ทำท่าเหมือนไม่เชื่อหู แต่ก็ต้องเชื่อเมื่อมันย้ำมาอีก
“พี่จะได้เลิกไปยุ่งกับคนอื่นแบบถาวรซะที ลดๆ ไปบ้างความแรดน่ะ”
ด่าขนาดนี้ ต่อยกูเลยมั้ยจะได้สบายใจ!?
“คร้าบๆ เลิกแล้ว แล้วขออะไรอีก” ผมแสร้งทำเป็นไม่สนใจ ถามต่อ
“ขอให้พี่มองแต่ธารคนเดียว มีธารในใจแค่คนเดียว คิดถึงแต่ธารคนเดียว” คราวนี้ธารตอบมาเป็นประโยคยาว
ผมนิ่งไปทันที ก่อนจะยิ้มกว้างเห็นฟันทันทีที่เห็นหน้าหล่อแดงเรื่อนั้นแดงมากขึ้นจนไม่เหลือพื้นที่ให้สีเนื้อ
ดีใจ... ดีใจโคตรๆ ถึงจะรู้อยู่แล้วว่าตัวเองเป็นทุกอย่างของคนตรงหน้า แต่พอมาได้ยินกับหูตัวเองว่าเด็กนี่คิดถึงแต่ผม ผมก็อดดีใจไม่ได้ ทว่าก็เก็บอาการ หยอกมันไปอีก
“ฮั่นแน่ ขอเกี่ยวกับพี่เหนือมากขนาดนี้ แสดงว่าคิดอะไรกับพี่เหนืออยู่ใช่มะ”
ธารมองผมด้วยสายตายากจะอ่าน ริมฝีปากเม้มแน่นอยู่ขณะหนึ่ง ก่อนจะคลายตัวออกจากกัน เอ่ยคำที่ผมไม่คิดว่าจะได้ยินออกมา
“แค่นี้ยังไม่รู้อีกเหรอว่าธารรักพี่แค่ไหน งี่เง่า”
ระ...รัก
นะ...น้องธาร กลับบ้าน... กลับบ้านเดี๋ยวนี้! ไปบอกรักพี่เหนือบนเตียงเถอะนะ
โหย มันจะรู้ตัวมั้ยเนี่ยว่าโคตรน่ารักเลย น่ารักจนอยากจะลากมันไปหาห้องพักรายวันแถวนี้แวะก่อนกลับบ้าน ไอ้บุญที่ทำมาเมื่อกี้แปรเปลี่ยนเป็นบาปทันตา
แสงเหนือเอ๊ย ตกนรกหมกไหม้แท้ๆ...