[ตัวอย่าง] ชั่งใจ ครั้งที่ 19
แปะให้เจิมจองที่กันก่อนค่ะ ไม่แน่ใจว่าจะมาวันไหน ดูอารมณ์ก่อนนะ แต่คงไม่นานหรอก
ช่วงนี้บอกเลยว่าน้องธารสารพัดขี้มาก ขี้หวง ขี้หึง ขี้อ้อน ขี้งอน ขี้โมโห ฯลฯ เป็นเด็กน้อยน่าตีจริงๆ (แต่พี่เหนือไม่กล้าตีหรอก เดี๋ยวโดนเอาคืน อิอิ)
ช่วงนี้น้องธารจะเริ่มงี่เง่ามากเป็นพิเศษหน่อยนะคะ แบบว่ามีคนเอาใจแล้วได้ใจไง ฮาาา
ไว้รออ่านตอนเต็มๆ กันเนอะ ใกล้เข้าไคลแม็กซ์แล้วล่ะ
-----------------------------------
“น้องธารจะขัดอะไรนักหนา ไม่เห็นเหรอว่าพี่เหนือกำลังคุยอยู่” ผมหลุดปากดุออกไปด้วยรำคาญเต็มพิกัด ทำเอาธารชะงักการลูบหัวลูบหางผมกึก ส่งสายตาเขียวๆ มาให้ทันควัน
“ทำไมธารจะขัดไม่ได้ มีอะไรสำคัญนักหรือไงถึงต้องคุยกับพี่ดื้อสองต่อสอง”
สองต่อสองอะไรกันเล่า! คนในร้านนมก็เยอะแยะ เพื่อนๆ มึงก็นั่งอยู่ตรงนั้น มึงก็ยืนหัวโด่อยู่ตรงนี้ด้วยเถอะ มันสองต่อสองยังไงวะ!
พี่จอมดื้อก็คิดเช่นเดียวกับผม ย่นคิ้วแล้วว่าเสียงขุ่น
“พูดอะไรของมึงไอ้ธาร มึงก็ยืนฟังอยู่แท้ๆ จะหวงอะไรนักหนาวะ”
เออ จะหวงอะไรนักหนา พี่เหนือไม่ไปไหนหรอก โดนตีตราจองขนาดนี้จะหนีไปไหนได้อีกฮะ!?
อยากจะถามมันเหมือนกัน แต่เห็นหน้ามู่ทู่เพราะถูกขัดใจของมันแล้ว ผมก็ไม่พูดดีกว่า เดี๋ยวเด็กนี่มันจะงอนอีก สุดท้ายแล้วผมก็จะคุยกับพี่จอมดื้อไม่รู้เรื่อง นี่ยืนมาจะสิบนาทีแล้วเถอะ ยังจับประเด็นไม่ได้เลยว่าตกลงพี่จอมดื้อจะพูดอะไรกันแน่ ไม่ใช่ว่าเพราะถูกธารกวนอย่างเดียวด้วยนะ ไอ้พี่จอมดื้อแม่งก็พูดไม่รู้เรื่องด้วยเถอะ อ้อมโลกอยู่นั่น
“ตกลงพี่ดื้อจะพูดอะไรกับเหนือกันแน่ครับ พูดมาเลยเถอะ เหนือมีเวลาไม่มาก”
ผมเลยวกกลับเข้าเรื่อง ยิงตรงประเด็นทันใด ชักจะอึดอัดกับสถานการณ์ตอนนี้ละ ส่วนไอ้เวลาไม่มากก็ไม่ใช่อะไร ขืนทู่ซี่ยืนคุยกับพี่จอมดื้อต่อไป แม้ธารจะยืนอยู่ด้วย แต่ก็เดาได้เลยว่าถ้าผมไม่รีบยุติสถานการณ์นี้ มีหวังได้กลายร่างเป็นอากง ให้หลานอย่างธารมันพยุงลงบันไดเพราะสะโพกครากอีกแน่
พี่จอมดื้อพ่นลมหายใจ ก่อนจะว่าออกมาตรงๆ บ้าง
“ก็ได้ๆ พี่พูดตรงๆ ก็ได้ คือพี่จะถามว่าตกลงเหนือจะเอาไอ้ธารจริงๆ เหรอ”
ธารชะงักรอบสอง หน้าตาที่ยับยู่อยู่แล้ว ตอนนี้ต่อให้เอาเตารีดนาบก็ไม่เรียบเถอะ ย่นเป็นแหนมป้าย่นเลยพ่อคุณ!
“แล้วเกี่ยวไรกับพี่วะ” แถมชิงตัดหน้าเป็นคนตอบแทนผมด้วย ตอบแทนไม่พอ ยังพุ่งเข้าไปหาพี่จอมดื้อด้วยท่าทางเอาเรื่องอีก จนผมคว้าตัวไว้แทบไม่ทัน
“น้องธาร ใจเย็นๆ ครับ” ดีที่ดึงมันกลับมาได้ มันสะบัดตัว ทำท่ากระฟัดกระเฟียดใส่ผมนิดหน่อย พอเริ่มนิ่ง ผมก็ตอบกลับพี่จอมดื้อ “เหนือน่ะชอบน้องธารจริงๆ ยังไงก็ต้องเอาอยู่แล้วล่ะครับถ้าน้องธารเอาเหนือเหมือนกัน”
“แต่มันเด็กกว่าเหนือหลายปีเลยนะ” พี่จอมดื้อไม่ยอมแพ้ ยกข้ออ้างมาอีก ทำให้ธารแหวกลับไปอีกระลอก
“เกี่ยวไรกับอายุ เด็กกว่าแล้วไงวะ พี่เหนือก็แค่เกิดก่อนผมไม่กี่ปีมะ”
“เออ ไม่เกี่ยวกับอายุ แต่มึงทำตัวเด็กน้อยด้วยแบบนี้ กูสงสารเหนือว่ะ เหนือควรมาเจอกับคนอย่างกูมากกว่า ไม่ใช่เด็กอย่างมึง” พี่จอมดื้อก็ตอกกลับหน้าด้านๆ เช่นกัน ซ้ำยังยั่วโมโหธารอีก “อีกอย่าง เหนือยังไม่ได้เป็นแฟนมึงไม่ใช่เหรอ กูเห็นในเฟซบุ๊กเหนือขึ้นสถานะโสดอยู่เลยนี่หว่า แสดงว่ากูก็ยังมีสิทธิ์จีบ”
ธารถึงกับหน้าตึง จังหวะลมหายใจแรงขึ้นเล็กน้อย ผมเห็นแล้วก็หวั่นใจขึ้นมาว่ามันจะต่อยหน้าพี่จอมดื้อเหลือเกิน ซึ่งถ้ามันทำแบบนั้น รับประกันได้เลยว่ามันโดนพี่จอมดื้อคว้าเก้าอี้มาฟาดคืนแน่ ผมเลยตั้งท่าจะห้าม ทว่าก็ถูกมันคว้าแขนแล้วกระชากอย่างแรง
“พี่เหนือ! กลับ!”
“อ้าว เดี๋ยว!” ผมจะทัดทานเพราะเราเพิ่งมาถึงเมื่อกี้นี้เอง ยังไม่ทันจะได้ทักทายพวกเพื่อนๆ มันที่นั่งอยู่เลยด้วยซ้ำ
แต่ธารไม่สนใจแล้ว คว้าแขนผมได้ก็เดินดุ่มๆ ไปยังหน้าร้าน ไม่สนใจเสียงของเพื่อนๆ ที่ร้องทักขึ้นเมื่อเห็นเราทั้งคู่เดินเข้าไปหาด้วย
“นั่นไง เด็กช่างกับเมียแก่ของนางมาแล้ว มานั่งนี่สิ จะได้สั่งของกิน...อ้าว ไปไหนน่ะธาร”
น้องมายด์ที่กำลังพูดๆ อยู่ทำหน้างงทันใด จอมแก่นกับโรมก็เช่นกัน มองตามผมกับธารราวขอคำตอบ ผมทำอะไรไม่ได้ก็ได้แต่ยิ้มแห้งๆ ให้ ก่อนจะเดินไปชนกับแผ่นหลังของธารอย่างจังเมื่อจู่ๆ มันก็หยุดเดินกะทันหัน
“มีอะไรเหรอครับน้องธาร” ผมออกปากถามทันที
ธารหันมาหา แต่ไม่ได้พูดกับผม ออกปากเรียกน้องมายด์แทน
“ไอ้ไม้ ตามกูมานี่หน่อย”
“อะไรยะ กูไม่ได้ด่าพี่เหนือเลยนะ แค่เรียกว่าเป็นเมียแก่ของมึงเฉยๆ” น้องมายด์ร้อนตัว โบกไม้โบกมือเป็นพัลวัน
ธารไม่ฟัง ตะคอกใส่แทน “กูบอกให้ตามมา!”
ด้วยความกลัวโดนกระทืบ น้องมายด์เลยต้องตามมาอย่างไม่มีทางเลือก จอมแก่นกับโรมเห็นท่าไม่ดีเลยตามมาด้วย ขณะที่ธารเอาแต่ลากผมไปยังลานจอดรถมอเตอร์ไซค์ เดินมาถึงรถตัวเองได้ก็ออกปากสั่งผม
“ขึ้นไปนั่ง”
“หืม?”
“ธารบอกให้พี่ขึ้นไปนั่ง!” ชี้นิ้วไปยังถังน้ำมันที่อยู่หน้าเบาะคนขี่ ทำเอาผมเลิกคิ้วสูง
“นั่งบนนี้เนี่ยนะ?”
“เออ ขึ้นไป”
ผมไม่เข้าใจนักว่ามันจะให้ผมขึ้นไปนั่งบนนั้นทำไม แล้วมันก็ไม่ให้คำตอบด้วย เห็นผมไม่ทำตามคำสั่งสักที มันก็เดินพรวดพราดไปนั่งคร่อมมอเตอร์ไซค์เอาไว้ พยักหน้าเรียกผมอีกที
“ขึ้นมานั่งบนนี้แล้วหันหน้ามาหาธาร จะได้ถ่ายรูป!”
หะ...หา!? หมายถึงจะให้นั่งหันหน้าเข้าหากันบนไอ้รถแมงกะไซนินจานี่น่ะนะ
แหม เลียนแบบเน็ตไอดอลเหรอจ๊ะ เห็นช่วงนี้กำลังฮิตเลยนี่
ผมแอบลอบยิ้มน้อยๆ ครู่เดียวก็ต้องรีบหุบยิ้มเมื่อถูกสั่งอีก
“มาเร็วๆ เข้า!”
จ้าๆ นั่งก็นั่ง
ปีนขึ้นไปนั่งบนถังน้ำมันอย่างยากลำบาก พอจัดท่านั่งได้เรียบร้อยแล้ว ธารก็ล้วงเอาโทรศัพท์ของตัวเองส่งให้น้องมายด์ที่ยืนมองอยู่อย่างงุนงง พลางออกปากสั่ง
“ถ่ายให้ที เอาหลายๆ รูป”
ส่งโทรศัพท์ให้น้องมายด์รับได้ ก็เอื้อมมือมาวางบนช่วงสะโพกผมแทน ทั้งยังสั่งไม่เลิก
“พี่เอามือมากอดคอธารด้วย”
ผมทำตามอย่างว่าง่าย ท่าทางของเราตอนนี้เลยดูเหมือนกำลังกอดกันก็ไม่ปาน อะไรไม่ว่า ไอ้คนสั่งให้ผมทำโน่นทำนี่ดันหน้าแดงขึ้นมาเมื่อได้ยินน้องมายด์ที่เพิ่งตั้งสติได้แซว
“แหม ก็นึกว่ามีเรื่องอะไร ที่แท้ก็คนอวดเมีย”
ผมเกือบหลุดหัวเราะอยู่แล้ว ทว่าธารดันหันไปแผดเสียงใส่เพื่อนซะก่อน
“ถ่ายเร็วๆ! พูดมาก เดี๋ยวกูก็ต่อยปากแตก”
“ย่ะ! ใช้คนอื่นแล้วยังจะมาขู่อีก ไอ้เด็กมารยาททราม” น้องมายด์บ่นอุบอิบ เรียกเสียงหัวเราะร่วนให้กับโรมและจอมแก่นที่โล่งใจไปเรียบร้อยว่าไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง
ธารหน้าแดงตลอดการถ่ายรูปนั้น ตามองมาทางผม แต่ไม่ได้มองหน้าผม มองไปทางด้านหลังราวกับไม่กล้าสบตา กระทั่งน้องมายด์ร้องบอกว่าถ่ายเสร็จเรียบร้อย ถึงได้ผ่อนคลายความเขินอายลง
“แล้วพวกมึงจะอยู่ดูอะไรกัน เข้าไปข้างในได้แล้ว” ไล่เพื่อนเป็นพัลวันด้วยเมื่อเพื่อนหมดหน้าที่
จอมแก่นกับโรมยักไหล่ไม่ยี่หระ มีแต่น้องมายด์ที่บ่นกระปอดกระแปดไม่เลิก ผมลงมายืนกับพื้นได้ก็หมั่นเขี้ยวมันขึ้นมา ยื่นมือไปดึงแก้มขาวๆ นั่นขณะที่มันนั่งคร่อมบนรถเหมือนเดิม เลื่อนหน้าจอโทรศัพท์ดูรูปที่ถ่ายเมื่อครู่เงียบๆ
“เด็กขี้หวงของพี่เหนือเอ๊ย”
ธารสะบัดหน้าหนี ก่อนยื่นโทรศัพท์ให้ผม
“เข้าเฟซบุ๊กพี่ดิ๊”
“เข้าทำไมอะ” ผมเลิกคิ้ว
“เปลี่ยนรูปโปรไฟล์”
พูดมาอย่างนี้ก็รู้เลยว่ามันต้องการประกาศให้โลกรู้ละว่าผมเป็นของมัน ผมก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรหรอก รู้อยู่ว่าที่มันทำแบบนี้เป็นเพราะรู้ว่าพี่จอมดื้อมีเฟซบุ๊กผม ผมเลยจัดการล็อคอินแอคเคาทน์ตัวเอง อัพรูปที่มันเลือกเป็นรูปโปรไฟล์ตามสั่ง
หากแต่นั่นก็ไม่พอสำหรับธาร แค่มันเห็นสถานะโสดบนหน้าข้อมูลส่วนตัว มันก็ย่นคิ้ว ว่าเสียงขุ่นออกมา
“เปลี่ยนสถานะด้วย”
“ให้เปลี่ยนเป็นอะไรล่ะครับ เรายังไม่ได้เป็นแฟนกันนี่” ผมแสร้งถามกลับ ใจจริงคือจะตะล่อมให้มันพูดว่าเป็นแฟนผมน่ะ
แต่ธารไม่พูด เอาแต่สั่งอย่างเดียว
“เปลี่ยนเป็นอะไรก็ได้ที่ไม่ใช่โสด”
“งั้นความสัมพันธ์แบบเปิดเนอะ” ผมว่าพลางเลื่อนหาสถานะที่ว่า
“มีอย่างอื่นมั้ยวะ ความสัมพันธ์แบบเปิดนี่เหมือนเชิญชวนให้คนอื่นมามั่วได้ตามใจชอบเลยนี่หว่า” มันยื่นหน้าเข้ามาใกล้ มองจอโทรศัพท์ด้วย ปากก็บ่นไปเรื่อย
ผมกลอกตา หันไปถามมันอย่างรำคาญนิดๆ
“แล้วน้องธารจะให้พี่เหนือขึ้นสถานะว่าอะไรล่ะครับ แฟนก็ไม่ได้เป็น แต่งงานก็ยังไม่ได้แต่ง ก็มีอันนี้แหละที่ตรงสุดแล้ว”
“มีผัวแล้วมีมั้ย อันนี้ตรงกว่า” ธารว่าเนิบๆ ทำเอาผมมองหน้ามันพลัน
มันจะไปมีได้ยังไงเล่าไอ้สถานะแบบนั้นน่ะ! ถ้ามี กูก็จัดรายการคนอวดผัวไปนานแล้วเว้ย!