ความสุขของลุง____________________________________________________________________
“คุณภัทรคะพรุ่งนี้มีประชุมที่ระยองนะคะ”
เลขาคนสวยที่ทำหน้าที่จัดการตารางงานกับเอกสารบางส่วนให้ภูมิภัทรเตือนความจำเมื่อเห็นว่าเจ้านายเดินเข้ามาในออฟฟิศพอดี
“ครับ เอกสารเสร็จแล้วใช่ไหมครับ”
เขาตอบรับและถามเธอกลับไปเพื่อเช็คความเรียบร้อยอีกครั้ง ส่วนเธอก็ตอบกลับมาตามที่ควรจะเป็น
“ค่ะ”
เขาบอกขอบคุณเลขาสาวสวยที่ทำงานด้วยกันมานานก่อนจะเดินเข้าห้องตัวเองไป เพราะช่วงนี้เป็นช่วงปิดไตรมาสกลางปีภูมิภัทรที่ปกติงานยุ่งหัวหมุนอยู่แล้วดูเหมือนจะยุ่งมากขึ้นไปอีก เขาเดินไปหยิบกาแฟซองมาชงด้วยตนเองแทนที่จะใช้ลูกน้องเพราะภัทรเชื่อว่านี่เป็นการผ่อนคลายจากงงานเขาอีกอย่างนึง เขาดมกลิ่นหอมของคาเฟอีนก่อนจะค่อยๆจิบมันลงคอ ภัทรที่ดื่มกาแฟของน้องเนมาตลอดรู้สึกได้ว่าไม่มีกาแฟที่ไหนจะกลมกล่อมเท่าที่ไอ้ตัวเล็กชงแล้ว ในตอนที่เขากำลังจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาคนที่คิดถึงเสียงโทรศัพท์ภายในก็ดังขึ้นเสียก่อน
“คุณภัทรคะ คุณปีเตอร์จากโรงงานที่เยอรมันรอสายอยู่ค่ะ”
เขาตอบรับสายที่เลขาหน้าห้องส่งมาให้ ก่อนจะใช้เวลาตั้งแต่บ่ายแก่ๆถึงตอนกลางดึกเพื่อแก้ปัญหาการขนส่งชิ้นส่วนจากไทยไปเยอรมันเพราะติดพายุฝน
“เรียบร้อยไหมครับพี่ชัย”
ภัทรที่พึ่งละสายตาจากคอมพิวเตอร์เงยหน้าถามคนที่มาใหม่ ดูจากท่าทางแล้วมือขวาของภูมิภัทรอย่างชัยชนะก็คงเหนื่อยไม่แพ้กัน
“เรียบร้อยครับ แต่ดูเหมือนงานอื่นจะเข้าแทน”
เขาเลิกคิ้วมองคนที่เหมือนพี่ชายก่อนจะถามออกไป
“น้องน้ำโกรธเหรอครับ”
ภัทรถามถึงคนรักของพี่ชัยที่ไม่ได้เจอกันมาสักพักแล้ว
“ครับ ดันไปสัญญาว่าวันนี้จะพาไปซื้อของให้หนูเล็กกับน้องคิน”
ชัยชนะพูดถึงลูกชายกับลูกสาวตัวเล็กวัยกำลังน่ารักด้วยหน้าตาอย่างคนกำลังสำนึกผิด นั่นทำเอาภูมิภัทรถึงกับเอามือลูบหน้าตัวเองแรงๆเพราะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ครอบครัวเขาร้าวฉาน ทั้งๆที่สถานการณ์ของตัวเองกับน้องเนในตอนนี้ก็ไม่ต่างกันนัก เพราะฉะนั้นในตอนนี้ถึงได้ทำแค่เพียงรีบแยกย้ายกันกลับบ้านก็เท่านั้น
***
“เน ไปนอนดีๆ”
ภูมิภัทรกลับมาถึงคอนโดตัวเองเกือบตีหนึ่ง พอเปิดประตูห้องมาก็เจอกับไอ้ตัวเล็กกำลังนอนหลับอยู่ตรงโซฟาหน้าทีวี ข้างๆกันนั้นมีโทรศัพท์เครื่องเล็กกับรีโมทวางอยู่ ภัทรถอนหายใจเล็กน้อยก่อนจะแตะที่แก้มอีกคนเบาๆ
“พี่ภัทร”
คนเรียกลืมตาแล้วลุกขึ้นมานั่งมองเขาด้วยความงัวเงีย ภัทรมองหน้าคนที่พึ่งตื่นอยู่หน่อยก่อนจะดึงมือเข้าไปในห้องนอน
หลังจากตกลงคบกันได้เกือบปีภูมิภัทรก็ใช้มารยาลุงหลอกล่อเด็กให้มาอยู่ด้วย ซึ่งจะเรียกว่าได้ผลก็คงไม่เต็มร้อยเปอร์เซนต์เพราะน้องเนจะมาค้างด้วยเฉพาะวันที่มีเรียนเช้าเท่านั้น เนื่องจากที่นี่ใกล้กับที่มหาวิทยาลัยของเนมากทีเดียว
“พี่ภัทร”
ก่อนที่เขาจะปล่อยมืออีกคนออก เด็กตัวเล็กก็กอดหมับเข้าแน่นจนคนที่กำลังจะไปอาบน้ำต้องหยุดความคิดเช่นนั้นไว้ก่อน
“คิดถึง”
ใครคนที่เอาหน้าซุกกับอกเขาบอกออกมาด้วยเสียงอู้อี้ ช่วงหลังมานี้หลังจากภัทรที่หยุดขอความช่วยเหลือจากสาขาแม่แล้วเขาต้องทำงานมากขึ้นอีกเกือบเท่าตัวเพราะทุกอย่างมันยังไม่ค่อยเข้ารูปเข้ารอยเสียเท่าไหร่ ในสามเดือนที่ผ่านมาเขาได้คุยกับไอ้ตัวเล็กแทบจะนับประโยคได้ ในที่สุดคนที่บริหารเวลาได้ดีเยี่ยมอย่างภูมิภัทรก็เริ่มเข้าใจคำว่าไม่มีเวลาเข้าแล้วจริงๆ ดังนั้นคำว่าคิดถึงที่น้องเนบอกจึงไม่ได้ดูแปลกประหลาดแม้แต่น้อย
“พี่ก็คิดถึง”
เขากระชับกอดอีกคนไว้แน่นก่อนจะก้มลงจูบกระหม่อมเล็กๆ เนที่กำลังฝังหน้าลงบนอกเขารู้ว่าพี่ภัทรงานเยอะเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ เช่นเดียวกับการที่เนก็คิดถึงก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้เช่นกัน
***
“เนไม่คุย”
“น้องเนใจเย็นก่อนนะ”
ในเย็นของวันที่อากาศแจ่มใจ นายพยายามคุยกับคนที่กำลังโกรธและดูท่าทางแล้วน่าจะโกรธมากเสียด้วย แม้น้องเนจะเป็นคนที่เข้าใจยากเสียหน่อยแต่เนมันก็ไม่เคยทำตัวงี่เง่าหรือไร้เหตุผล นั่นเป็นอีกอย่างที่ทำให้ทุกคนที่นั่งรวมหัวกันอยู่ในร้านตอนนี้พุ่งเป้าความผิดไปที่ผู้ใหญ่อีกคน
“มาคุยกันดีๆก่อน พี่ต่างหากที่ควรโกรธไม่ใช่เหรอครับ”
ปกติแล้วภูมิภัทรจะเป็นคนที่เงียบนิ่งและแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดีแต่คงยกเว้นครั้งนี้ เพราะดูท่าทางคนที่เป็นผู้ใหญ่ก็ไม่ยอมลดลาวาศอกลงแม้แต่น้อย
“ไม่มีใครควรจะโกรธทั้งนั้น พี่ภัทรจะมาโกรธเนทำไม”
ทุกคนต่างก็รู้ดีว่าเนค่อนข้างจะดื้อ ยิ่งถ้ารู้ว่าตัวว่าตัวเองไม่ได้ผิดก็ยิ่งดื้อ คนตัวเล็กว่าก่อนจะเดินออกนอกร้านไปปล่อยให้ภูมิภัทรยืนหัวเสียอยู่นานทีเดียว
“ลุงไปทำอะไรน้องเน”
นายผู้กำลังเก็บร้านหันไปถามคุณผู้บริหารที่ตอนนี้กำลังบริหารอารมณ์ตัวเองไม่ได้ พร้อมกันนั้นพี่ชัยก็เดินเข้าร้านมาพร้อมด้วยใบหน้าตื่นตระหนก
“คุณภัทร พี่เห็นน้องเนร้องไห้อยู่ข้างนอก ตานี่ดุจนพี่เข้าหน้าไม่ติดเลย”
พอจบประโยคนั่นนายกับพี่น้ำที่กำลังทำความสะอาดร้านอยู่ก็ตวัดสายตามาที่ภูมิภัทรทันที
“คือวันนี้ผมไปรับน้องเนที่มหาวิยาลัยแล้วเจอน้องอยู่กับรุ่นพี่ผู้ชายคนนึงท่าทางสนิทกัน แล้วก็รู้มาด้วยว่าเด็กคนนั้นชอบเน ผมก็เลยหึง”
พี่ชัยที่พึ่งจะเดินเข้ามาและเริ่มปะติดปะต่อเรื่องราวต่างๆได้และก็เชื่อเหลือเกินว่าเรื่องราวมันไม่ได้มีแค่นั้น
“คือน้องจับมือกับเด็กคนนั้น แล้วยังปล่อยให้เขากอดคอด้วย ผมไม่ชอบ”
ไอ้นายผู้เก๊กดุตามพี่ชายมานานแทบจะหลุดขำคุณภูมิภัทรที่กำลังเจอโหมดอินดี้ของน้องเน
“พี่เข้าใจนะครับ แต่ออกไปดูน้องก่อนเถอะ”
ภัทรมองหน้าคนที่เป็นเหมือนพี่ชายแท้ๆก่อนจะถอนหายใจออกมาเสียยาวแล้วค่อนผลักประตูร้านออกไปด้านนอกอันเป็นพื้นที่ใต้ร่มไม้
“ไหนใครร้องไห้”
อาจจะเป็นเพราะพวกเขาอายุต่างกันอยู่เยอะภูมิภัทรจึงมักจะปฏิบัติตัวกับเนราวกับน้องเป็นเด็กตัวเล็กๆและทำตัวเองอย่างกับเป็นอาเสี่ยที่หวงเด็กในสังกัด
“เนบอกไปแล้วไงว่าเนไม่ได้คิดอะไรกับพี่เขา ที่เห็นแบบนั้นก็แค่เล่นกันเฉยๆ”
สมกับเป็นน้องเนที่ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็จะตรงไปตรงมากับความรู้สึกกับตัวเองเสมอ และที่สำคัญคือภัทรถูกพี่ชัยหลอก...เนไม่ได้ร้องไห้ ทั้งยังไม่เข้าใกล้คำว่าเย็นลงเสียด้วยซ้ำ
“เนไม่คิดแต่พี่เขาคิด แล้วไปเล่นกับเขาแบบนั้นเขายิ่งคิดไปไกล”
ไอ้ประโยคนี้ภัทรพูดมาเป็นรอบที่ห้าของวัน เขารู้ว่าไม่ควรจะไปโทษที่เนทั้งหมดเพราะภูมิภัทรรู้ว่าคนอย่างไอ้ตัวเล็กนี่มักจะซื่อตรงอยู่เสมอ แต่เพราะนิสัยแบบนี้นี่เองที่ทำให้เขารู้สึกว่ามันทำให้เขาเป็นห่วงอยู่เรื่อย
“สงบศึกนะ”
คนตัวโตพูดก่อนจะยกมือขึ้นสองข้างเป็นอันยอมแพ้เมื่อเห็นอีกคนหรี่ตามองอย่างไม่พอใจ ไม่ทันไรเด็กคนนั้นก็เดินเข้ามากอดหมับอย่างที่ทำเป็นประจำ เนกับภูมิภัทรทะเลาะกันไม่บ่อยนัก แต่เพราะเอาเข้าจริงแล้วนิสัยของคนทั้งคู่ต่างกันอยู่มากเลยทำให้เรื่องเล็กๆกลายเป็นเรื่องใหญ่อยู่หลายที ภัทรเป็นผู้ใหญ่ที่ใจกว้างแต่เช่นเดียวกันก็เข้มงวดอยู่ในที ส่วนน้องเนที่ดูจะเชื่อฟังและน่ารักก็รักอิสระจนเหมือนจะเข้ากันไม่ได้ แต่เชื่อเถอะว่าคนทั้งคู่ประคับประคองมันไปได้ดีทีเดียว
“พี่ภัทรห้ามดุเนอีก”
ภูมิภัทรลูบหัวเล็กๆตรงอกตัวเองอย่างเอาใจแต่คำตอบกลับไปคนละทิศทาง
“ฮื่อ”
และคนที่มุดอยู่ตรงอกก็ส่งเสียงออกมาด้วยความไม่พอใจ แต่กระนั้นรอยยิ้มก็จุดขึ้นที่แก้มของคนทั้งคู่ เพราะพวกเขาต่างก็รู้ตัวเองดีว่าต่อไปตัวเองควรต้องปรับตัวยังไงบ้าง ตรงไหนบ้างที่พอจะทำให้เราไม่ทะเลาะกันแบบนี้
***
“พี่ภัทรอันนี้อร่อยไหม”
ภูมิภัทรที่วันนี้หยุดทำงานตัวเองแต่มาขลุกที่ร้านกาแฟของไอ้ตัวเล็กตั้งแต่เช้ารู้สึกเหมือนน้ำตาลกำลังจะขึ้นและอ้วนตายในที่สุด เพราะวันนี้ก็เป็นวันหยุดที่ร้านเช่นกันแต่น้องเนไม่ยอมหยุดพร้อมกับร้าน ไอ้ตัวเล็กจึงจับเขาเป็นหนูทดลองสูตรคาราเมลปั่นแบบใหม่ที่ยังไม่ได้บทสรุปเสียที
“ถ้าพี่เกิดอ้วนตายตัวเล็กจะอยู่กับใคร”
ภัทรว่าพร้อมกับดูดเครื่องดื่มสีน้ำตาลเนียนนุ่มลงคอ ไม่ใช่ว่ามันไม่อร่อย...แต่เขาดื่มเยอะจนแยกแยะรสชาติไม่ได้ต่างหาก
“อร่อยไหม”
คนที่แก่กว่ามองที่อีกคนนิ่งพร้อมกับพิจารณาบางสิ่ง...และสิ่งที่ภัทรคาดคำนึงไว้มักจะจริงเสมอ อย่างเช่นเรื่องที่ว่าน้องเนค่อนข้างจะโลกส่วนตัวสูงและเป็นตัวของตัวเองมาก หากได้ทำอะไรสักอย่างนึงแล้วจะไม่สนใจสิ่งรอบข้าง ถึงจะบอกอย่างนั้นแต่ภัทรก็ยังชอบจุดนี้ของน้องหรือพูดอีกอย่างคือเขาเริ่มจะชินเสียแล้ว
“ขยับมาใกล้ๆเดี๋ยวพี่บอก”
เนมองหน้าอีกคนอย่างไม่ค่อยเข้าใจแต่ก็ยอมละมือจากงานตัวเองแล้วเดินเข้าไปใกล้เขา เนมองท่าทางยิ้มๆของพี่ภัทรแบบไม่ค่อยไว้ใจ ไวเท่าความคิดคนที่นั่งยิ้มกริ่มอยู่บนเคาท์เตอร์ข้างในร้านนั่นก็คว้าเอวเจ้าตัวเล็กเข้าไปแล้วเอาขายาวของตัวเองหนีบไว้ไม่ให้ไปไหน แม้เนจะถูกแกล้งแบบนี้อยู่ซ้ำซากแต่ก็ไม่เคยจำเสียที มันดิ้นขลุกขลักแล้วดันหน้าอีกคนที่พยายามยื่นเข้ามาใกล้ออกไป
“นี่ลุง!!”
ภูมิภัทรหัวเราะให้กับสรรพนามที่ถูกเรียกก่อนจะบ่นด้วยท่าทางที่บอกว่าน้อยอกน้อยใจเป็นที่สุด
“ก็พี่แก่ไง แล้วน้องเนก็ให้กินแต่ของหวานๆ คงใกล้จะเป็นเบาหวานตายแล้ว”
คนตัวเล็กยู่หน้าก่อนจะต่อยเข้าไปที่หน้าท้องแข็งแรง ไอ้ลุงนี่หน้าตาไม่ต่างจากวัยรุ่นายุยี่สิบปลายๆแม้แต่นิดเดียว ร่างกายก็สูงใหญ่แข็งแรงกล้ามท้องซิคแพ็คก็ยังแน่น ยังจะมาทำสำออยเป็นคนแก่ไปได้
“เนจะทำงาน ปล่อย”
ไอ้เนว่าพลางใช้มือเปื้อนน้ำตาลของตัวเองยืดแก้มขาวๆของอีกคน ทำให้พี่ภัทรที่ปกติดูดีกลับดูตลกไปเสียได้
“ฮ่าๆๆ ฮะ ไม่เอา ปล่อยโว้ยยย”
ในที่สุดคนที่ถูกล็อคตัวไว้ก็ถูกจี้จนลงไปนั่งหอบหน้าแดงอยู่กับพื้นก่อนจะส่งสายตาค้อนวงใหญ่มาให้
“ดึงขึ้นเลยนะ”
อีกคนว่าพลางยื่นมือขึ้นมาหา ภัทรทำเมินอยู่หน่อยแต่ไม่ทันไรก็ทนสายตาจิกกัดไม่ไหวต้องรีบฉุดอีกคนขึ้นมาจากพื้น ในตอนที่เนกำลังจะเดินหนีไปเขารีบเอาขาตัวเองล็อคตัวบางๆของน้องเนไว้เหมือนเดิมพร้อมกับจับเอวเหมาะมือนั่นให้มั่น
“ถ้าจี้อีกเนจะโกรธ”
ไอ้ที่บอกจะโกรธนี่น้องเนเอาจริงเพราะอย่างนั้นภัทรเลยเปลี่ยนจากการจี้มาเป็นการกอดติดหนึบเป็นปลาหมึกแทน
“โว้ยยยยย”
และคนที่โวยวายก็ดิ้นอยู่ในอ้อมกอดแบบนั้น คนตัวโตตั้งใจก้มลงจูบตรงซอกคอเนียนของน้องพอให้ได้กลิ่นหอมๆก็ผละออก...ภัทรว่าวันหยุดมันดีแบบนี้นี่เอง...
“เมื่อไหร่จะโตสักที”
เขาว่าพลางฟัดแก้มนิ่มๆไปสองสามหน น้องเนที่จะอายุครบยี่สิบปีในเดือนหน้ารู้เลยว่าตัวเองต้องเจออะไรบ้าง เพราะขนาดที่เป็นอยู่ตอนนี้ยังถูกเกาะติดไม่ปล่อยถ้าหากพี่ภัทรได้เป็นเจ้าของไอ้เนเต็มตัวอาจจะลากไปทำงานด้วยก็เป็นได้ หรือไม่บางทีจริงๆแล้วอาจจะไม่ค่อยมายุ่งกับเนแบบนี้อีกก็ได้
“มีแผนอะไรต่อจากนั้นอีกลุง”
เด็กถามพร้อมกับหรี่ตามองอย่างไม่ไว้ใจความคิดของลุงคนข้างหน้านัก เนเชื่อว่าพี่ภัทรจริงใจกับเนมากแต่ไม่ได้หมายความว่าไอ้ความจริงใจนั่นจะไร้ซึ่งผลประโยชน์ทับซ้อนแต่อย่างใด
“แต่งงาน ฮันนีมูน โอ้ยย”
และแล้วไอ้ลุงที่วางแผนไว้ในหัวเป็นฉากๆโดนคนเด็กกว่าก้มลงงับที่แขนอย่างหมั่นไส้ เกิดมาเนไม่เคยเจอใครที่คิดว่าทุกอย่างจะเป็นไปตามแผนร้อยเปอร์เซนต์แบบภูมิภัทรมาก่อน มิน่าพี่เต้ถึงได้บอกว่าภูมิภัทรเป็นมือหนึ่งเรื่องการเก็งกำไรหุ้นของบริษัท
“รู้ได้ไงว่าเนจะอยู่ด้วยจนถึงตอนนั้น”
ไอ้ตัวเล็กว่าพลางยักคิ้วเป็นท่าทางประจำ เนที่ตอนแรกกะจะล้อเล่นพอเห็นใบหน้าเสียใจของอีกคนก็สลดลงทันที
“ตัวเล็กไม่อยากอยู่กับพี่เหรอครับ”
มันไม่ใช่แบบนั้นเสียทีเดียว เนค่อนข้างจะโลกส่วนตัวสูงดังนั้นเวลาที่ภูมิภัทรเข้ามาใกล้มากๆไอ้คนตัวเล็กจึงเลือกที่จะปฏิบัติตัวไม่ถูก แต่ก็ไม่ใช่ว่าเนไม่อยากให้เขาเข้าใกล้ เนรู้แล้วว่าถ้าสำหรับพี่ภัทรเนอยากให้อยู่ใกล้ๆกันแบบนี้ตลอดไปเสียด้วยซ้ำ
“เนเปล่า”
ไอ้ลุงเจ้าเลห์ที่แสร้งตีหน้าเศร้าผุดยิ้มขึ้นมาในที่สุดเมื่อตัวเองถูกแขนเล็กๆกอดไว้แน่น
“ลงโทษ”
คนตัวใหญ่กว่าก่อนที่จะจี้ลงไปที่เอวเนียนมือของอีกคน เนหัวเราะไปน้ำตาไหลไปแต่พอกะจะง้างปากงับแขนแกร่งอีกครั้งก็ถูกพี่ภัทรก้มลงมาระดมจูบจนอลวนไปหมด
“ฮ่าๆ พอแล้ววว”
ภัทรยิ้มให้คนที่นั่งหน้ายุ่งอยู่เช่นเดิม แต่ก่อนเขาเคยคิดว่าความสุขคืออะไรบางอย่างที่ต้องแลกมาด้วยเงินหรือแลกมาด้วยแรงกายแต่วันนี้เขาคิดว่ามันไม่ได้หายากแบบนั้นหรอก แค่ได้นั่งยิ้มให้กับคนข้างหน้าตนก็มีความสุขแล้ว
Fin.
________________________________________
one-short ที่ว่านี่คงอารมณ์เหมือนวันหนึ่ง....
เนื้อเรื่องหลักที่เคยเขียนไว้มีเท่านี้ค่ะ แต่นอกจากเนื้อเรื่องหลักนั้นมากมายก่ายกอง
เป็นการเขียไว้สองสามบรรทัดแต่ไม่สามารถเอามารวมเป็นตอนได้
ขอบคุณที่อ่านมันนะคะ
กอดจ่ะ