Poor Boy 17
เสียงเพลงที่ดังสนั่นพร้อมกับเหล่าผีเสื้อราตรีที่พากันวาดลวดลายอย่างไม่มีใครยอมใครเป็นธรรมดาของผับที่มีชื่อเสียง
วินเดินเข้าไปก่อนจะนั่งลงที่เคาน์เตอร์บาร์แล้วสั่งเครื่องดื่มที่คุ้นเคยจากบาร์เทนเนอร์ หลังจากเมื่อตอนบ่ายที่เขาระเบิดอารมณ์กับ
เทียนไป เขาก็กลับไปสงบสติอารมณ์ตัวเองที่บ้านก่อนจะออกมาดื่มแก้เครียดในผับที่ประจำ
“ว้อดก้าได้แล้วครับ” บาร์เทนเนอร์ว่า วินรับมาก่อนจะกระดกดื่มในรวดเดียวแม้ว่ารสชาติจะแสบคอแค่ไหนแต่คนดื่มบ่อย
อย่างเขาก็ไม่สะทกสะท้านเสียเท่าไหร่หรอก
“มาคนเดียวเหรอคะ” เสียงหวานหนึ่งทักขึ้นทำให้วินหันไปมอง ตาคมมองหญิงสาวในชุดเดรสดำที่โชว์เนินอกที่ล้นออก
มาดูเซ็กซี่ยั่วยวนไม่ใช่น้อย
“ครับ” วินตอบรับสั้นๆ
“งั้นปีใหม่ขอนั่งด้วยคนนะคะ” ว่าแล้วหญิงสาวก็ถือวิสาสะนั่งข้างๆร่างสูงทันทีก่อนจะหันไปสั่งเครื่องดื่มจากบาร์เทน
เนอร์...จากหนึ่งแก้ว เป็นสองแก้ว สามแก้วจนในที่สุดวินก็ดื่มไปเกือบสิบแก้ว ร่างสูงมึนไม่ใช่น้อยแต่ก็พยายามครองสติให้อยู่
เพราะเขามาคนเดียวไม่มีเพื่อนหิ้วกลับ
“เมาแล้วเหรอคะวิน” เสียงหวานจากคนข้างๆถามขึ้น วินหันไปมองหญิงสาวที่ส่งยิ้มยั่วมาให้ มือเรียวเอื้อมมาจับที่แก้ม
สากพร้อมกับลูบไปมา
“คุณเป็นใคร” วินถาม
“อะไรกัน รู้จักกันไม่ถึงชั่วโมงลืมชื่อกันเสียละ น่าเสียใจที่สุด” ปีใหม่ว่าพลางแสร้งทำท่าเสียใจสุดๆ
“งั้นก็บอกมาอีกทีสิว่าคุณชื่อไร” วินว่า
“ปีใหม่ค่ะ” หญิงสาวกระซิบข้างหูของร่างสูงก่อนจะหันมาสบตาคมอย่างสื่อความหมาย วินกระตุกยิ้ม...
“อื้มมมมม” เสียงแลกจูบกันอย่างร้อนแรงดังขึ้นก่อนที่มือหนาจะเปิดประตูเข้าไปในห้องพักชั้นบนของผับ มือหนาขยับที่
หน้าอกหน้าใจของหญิงสาวที่เต็มไม้เต็มมืออย่างเมามันส์พอๆกับหญิงสาวที่ปลดกระดุมเสื้อของร่างสูงออก
ตุบ
วินถูกหญิงสาวผลักลงนอนบนเตียงก่อนที่เธอจะขึ้นค่อม ลิ้นร้อนของหญิงสาวไล้เลียไปทั่วที่แผงอกกว้าง กล้ามหน้าท้องก่อนที่จะ
ค่อยๆใช้มือปลดเข็มขัดของร่างสูงออกวินนอนนิ่งอย่างไม่ขัดขืน ดีเสียอีกมีคนทำให้ เขาก็ไม่ต้องเหนื่อย
“อื้มมม” วินครางในลำคออย่างพอใจเมื่อหญิงสาวจับแก่นกายที่นิ่งสงบอยู่ในบ็อกเซอร์มาอมและค่อยๆใช้ลิ้นเลีย ลีลา
ของหญิงสาวดีไม่ใช่น้อยบ่งบอกถึงประสบการณ์ที่เจนจัดต่างจากใครอีกคน...ใครอีกคน วินพยายามสะบัดใบหน้าของอีกคนออก
ไปจากหัว ใบหน้าขาวใสที่มักจะมีแต่คราบน้ำตาเวลาที่อยู่กับเขา
“พอใจมั้ยคะวิน” หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมาถาม วินมองด้วยสายตานิ่งๆก่อนที่ภาพของใครอีกคนจะเข้ามาซ้อนทับหญิง
สาวอีกครั้งและขณะที่ปีใหม่จะก้มลงไปจัดการให้ร่างสูงต่อวินก็พูดขึ้น
“พอ”
“ห๊ะ อะไรนะคะ” ปีใหม่ถามอย่างงุนงง
“พอ ไม่มีอารมณ์แล้ว” วินว่าก่อนจะลุกขึ้นแล้วใส่เสื้อผ้าก่อนจะเดินออกจาหห้องไปหน้าตายเฉยท่ามกลางความงุนงงของ
หญิงสาว...วินที่สร่างเมาแล้วก็ขับรถกลับมาที่คอนโด อดคิดไม่ได้ว่าขึ้นไปเจอร่างบางควรทำหน้ายังไง ควรพูดคุยแบบไหน
หรือควรจะเงียบดี
แกร็ก
มือหนาเปิดประตูเข้าไปก็พบว่าห้องทั้งห้องเต็มไปด้วยความมืดมิด วินขมวดคิ้วก่อนจะเปิดไฟแล้วก้พบกับความว่างเปล่า ร่างสูง
วิ่งเข้าไปดูในห้องนอนก็พบว่าไม่มีใครอีกคนอยู่
“โธ่เว้ย!” มือหนาปาหมอนลงพื้นอย่างหัวเสียที่พบว่าอีกคนไม่ได้อยู่ที่ห้องความโมโหเข้าครอบครองจิตใจอีกครั้ง มือหนา
หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วกดโทรหาร่างบางที่หายไปทันที
‘หมายเลขที่ท่านเรียก...’
“แม่งเอ๊ย!” เมื่อไม่สามารถติดต่ออีกคนได้วินก็ปาโทรศัพท์เครื่องหรูลงพื้นอย่างระบายอารมณ์ อยากจะไปหาอีกคนที่
หอพักแต่มันก็ดึกเกินไป ตอนนี้เขาทำได้เพียงแต่รอให้เช้าเท่านั้น แม้ว่ามันจะทุกข์ทรมานมากก็ตาม...ทางด้านของเทียน...
“ถ้ามึงจะเหม่อขนาดนี้กลับไปหามันมั้ย” คีย์พูดขึ้นซึ่งก็ทำให้เทียนที่กำลังวาดภาพส่งอาจารย์สะดุ้งทันที
“เรา...” เทียนกัดปาก
“มึงไม่โกรธมันหน่อยหรือไงที่มันโกหกมึง ทั้งๆที่มันจำมึงได้แต่ดูมันทำกับมึงสิ”คีย์ว่าอย่างหัวเสียหลังจากที่รับรู้เรื่อง
ทั้งหมดจากเทียน
“โกรธสิแต่...ถึงโกรธไปพี่วินก็คงไม่ง้อเราอยู่ดี” เทียนว่าเสียงเศร้า ใช่...เขาโกรธที่อีกคนทำกับเขาแบบนี้ เขาอยากจะ
เปิดปากอธิบายถึงสาเหตุที่เขาหายไปแต่ดูเหมือนอีกคนจะไม่รับฟังเลยเพราะฉะนั้นต่อให้เขาพูดอะไรก็คงจะไม่มีประโยชน์ คิดๆ
ไปเขาอยากจะกลับไปเป็นเทียนคนเดิม เทียนที่ไม่ยอมพูดจา เทียนที่เอาแต่นิ่งเงียบจนคนอื่นหาว่าเป็นใบ้เพราะอย่างน้อยมันก็ดี
กว่าพูดได้แต่อีกคนไม่รับฟังแบบนี้
“เฮ้อ ก็แล้วแต่มึงจะคิดนะแต่ให้เดาตอนนี้มันคงหัวเสียน่าดูเมื่อรู้ว่ามึงไม่อยู่ที่คอนโด” เทียนนิ่งคิดก่อนจะมองไปที่
โทรศัพท์มือถือที่เขากดปิดเครื่องเอาไว้ บางทีอาจจะไม่ใช่อย่างที่คีย์บอกก็ได้ บางทีตอนนี้พี่วินอาจจะอยู่ที่ไหนสักแห่ง อยู่กับ
คนอื่นอาจจะไม่ได้นึกถึงเขาก็ได้...ตั้งแต่วันนั้นก็ผ่านมาหนึ่งสัปดาห์แล้วที่เทียนหนีมาอยู่ที่ห้องของคีย์ ถามว่าเขาสามารถหลบอีก
คนที่มหาวิทยาลัยได้อย่างไรก็ตอบเลยว่าเขาไม่ได้ไปมหาวิทยาลัยไงล่ะ ช่วงนี้ใกล้สอบแล้วเขาเลยต้องทำงานชิ้นใหญ่ส่งซึ่งไม่
จำเป็นต้องเข้าเรียน ส่วนวิชาของมหาวิทยาลัยก็มีคีย์นี่ล่ะที่เข้าไปฟังบรรยายให้แต่ก็ไม่รู้ได้ฟังหรือเปล่า เผลอๆหลับตั้งแต่ต้น
ชั่วโมงเหมือนเคย เทียนออกมาซุปเปอร์มาเก็ตใกล้ๆคอนโดของคีย์เพื่อซื้อของสดมาทำอาหาร มาอยู่ห้องคีย์เขาก็ไม่ได้มาอยู่
เฉยๆ เขาช่วยทำความสะอาด ทำอาหารให้อีกคนเป็นการตอบแทน แม้ว่าคีย์จะห้ามแต่เขาก็ไม่ฟังหรอก ว่าแต่เย็นนี้จะทำอะไรให้
คีย์กินดีนะ หมูทอดกระเทียมดีมั้ยเห็นบ่นๆว่าอย่างกิน
“อ๊ะ...พี่วิน” เทียนเบิกตากว้างทันทีเมื่อเห็นเจ้าของมือหนาที่แย่งแพ็คหมุจากมือของเขาไป
“ซ่อนตัวเก่งดีนี่” วินว่าเสียงเย็น เทียนตกใจทำอะไรไม่ถูกจะหนีก็คงหนีไม่พ้นแน่ๆ
“พี่วินมีอะไรกับผมครับ” เทียนถามขึ้นพยายามควบคุมเสียงไม่ให้สั่น
“ว่าไงนะ” วินถามอย่างไม่เชื่อหู มันหนีเขามาจนเขาตามหามันแทบบ้ายังจะมาถามแบบนี้
“โอ๊ย ผมเจ็บนะ” เทียนว่าเมื่ออีกคนบีบข้อมือของเขาจนขึ้นรอยแดง
“มึงหนีกูมายังจะถามแบบนี้อีกเหรอฮะ” วินว่าด้วยความไม่พอใจ
“ผมไม่ได้หนีแต่ผมแค่กลับมาอยู่ในที่ของผม” เทียนตอบ
“ที่ของมึง? มึงหมายความว่าไง” วินถามเสียงแข็ง
“ก็หมายความตามที่บอก ผมกลับมาอยู่ในที่ของผม พี่เองก็ควรจะกลับไปอยู่ในที่ของพี่” เทียนว่าเสียงเรียบแม้ว่าภายใน
จะสั่นไหวแค่นั้นแต่เขาก็จะไม่แสดงมันออกมา คีย์บอกว่าเขาต้องเข้มแข็งถ้าเขาคิดจะตัดใจ ตัดขาดจากผู้ชายคนนี้ เขาต้อง
เข้มแข็งและเป็นคนใหม่ เริ่มใหม่ซะ
“มึงจะเลิกกับกูว่างั้น?” วินกลั้วปากถาม
“เปล่าครับ...” วินยกยิ้มในใจ
“...เพราะผมกับพี่เราไม่เคยคบกันตั้งแต่แรก” สิ้นเสียงหวานวินก็เผลอปล่อยข้อมืออีกคนทันที เขาไม่เคยเห็นสีหน้าและ
แววตาแบบนี้ของเทียนมาก่อน แววตาที่ว่างเปล่า...
“ผมขอตัว” เทียนว่าก่อนจะเดินออกไป...พอลับสายตาจากร่างเทียนเทียนก็ถอนหายใจออกมา พยายามบอกกับตัวเอง
ว่าทำดีแล้วแต่ทำไมนะทั้งๆที่คิดแบบนั้นนัยน์ตาก็ร้อนผ่าวเมื่อเห็นว่าไม่มีแม้แต่เงาของอีกคนที่เดินตามมา นี่เขากำลังหวังอะไรอยู่
“ทั้งหมดสี่ร้อยห้าสิบบาทค่ะ” แคชเชียร์สาวพูดเทียนพยักหน้ารับก่อนจะก้มหยิบเงินในกระเป๋าสตางค์
“รับมาหนึ่งพันบาทนะคะ” เทียนเงยหน้าด้วยความงุนงงทันทีเพราะเขายังไม่ได้จ่ายเงินเสียหน่อย
“พี่วิน” เทียนทำหน้าตกใจอีกครั้งที่เห็นร่างสูงยืนอยู่ใกล้ๆ
“เงินทอนห้าร้อยห้าสิบบาทค่ะ” แคชเชียร์สาวยื่นเงินทอนให้กับวิน ก่อนที่ร่างสูงจะเดินมาหยิบถุงใส่ของที่เทียนซื้อไป
ท่ามกลางความงุนงงของร่างบาง
“เดี๋ยวครับ พี่วินจะเอาของๆผมไปไหน” เทียนวิ่งตามอีกคนมาแล้วถามขึ้น
“ห้องเพื่อนมึงอยู่ชั้นไหน” วินถามพร้อมมองไปที่คอนโดสูงตรงหน้า
“หมายความว่ายังไงกันครับ”
“...” วินเงียบ
“เอาของๆผมมาครับ” เทียนพยายามแย่งถุงในมือร่างสูงแต่วินก็ยอมให้
“พี่วิน” เทียนเรียกอีกคนด้วยใบหน้าง้ำงอ
“พึ่งเคยเห็นมึงทำหน้าแบบนี้ครั้งแรก” วินพูดขึ้น
“ผะ...ผมจะทำหน้ายังไงมันก็เรื่องของผม เอาของๆผมคืนมานะ” เทียนว่า
“ปกติอยู่กับกูไม่ร้องไห้ก็ทำหน้าเศร้า มึงคงไม่มีความสุขมากเลยสินะ” วินพูดต่อ เทียนนิ่งอยากจะตอบใส่อีกคนดังๆว่าใช่
แต่มันกลับพูดไม่ออก แม้ว่าตลอดเวลาที่อยู่กับพี่วินเขาจะร้องไห้และเสียใจบ่อยแค่ไหนแต่เขากลับมีความสุข มีความสุขที่ได้
อยู่ใกล้กับอีกคนทดแทนเวลาสามปีที่ไม่ได้เจอกัน
“สามปีที่มึงหายไปถ้าพร้อมเล่าเมื่อไหร่ก็บอกนะ กูพร้อมฟังละ” เทียนมองอีกคนอย่างไม่เข้าใจ ทำไมอยู่ๆ...
“อยู่ชั้นห้าครับ” เทียนตอบออกมา วินพยักหน้าก่อนจะเดินนำอีกคนเข้าคอนโดไป เทียนมองตามแผ่นหลังกว้างอย่างไม่
เข้าใจ พี่วินต้องการอะไรจากเขาทำไมถึงต้องทำแบบนี้ ทำให้เขาหวั่นไหวแบบนี้...
งงกับอิพี่วินใช่มั้ย 55555 เดี๋ยวให้นายเฉลยเองเนอะว่าทำไมอยู่ๆนางก็เปลี่ยนไปความจริงก็ไม่ได้เปลี่ยนไปหรอกแค่เหมือนคิด
ได้เฉยๆ 5555 ยังไงก็เชียร์น้องเทียนอย่าพึ่งใจอ่อนด้วยนะคะ เอาคืนๆ อิๆ ^ ^
___จางบิวตี้___