หลานคุณย่า 22
คิณ(Part)
ช่วงนี้ผมยุ่งหนักกว่าเดิมอีกครับ เพราะต้องรีบจัดการงานที่ค้างอยู่ให้จบ ก่อนที่จะถึงงานแต่งงานของผมกับพาย ผมแทบจะไม่ได้เจอหน้าพายเลยด้วยซ้ำ แทบจะเป็นอาทิตย์แล้วนะครับ วันนี้ก็เหมือนกันทั้งๆ ที่พายเข้ามาหาแม่ของผมที่บริษัท เห็นว่านัดกันไปช๊อปปิ้ง แต่น่าจะเป็นแม่ผมมากว่าที่อยากจะเจอลูกสะใภ้เลยหาข้ออ้างไปเรื่อย
“พายอยู่ไหนครับ” ผมโทรหาพายทันทีที่รู้ว่าเขามาถึงบริษัทแล้ว
“อยู่ห้องคุณแม่ครับ กำลังจะออกไปข้างนอก” ขัดใจผมจริงๆ เลยครับ ไม่คิดถึงผมบ้างรึไง มาบริษัททั้งที
“ทำไมไม่แวะมาหาผมก่อนล่ะครับ”
“พายกลัวคุณยุ่งอยู่นี่นา แล้วคุณคิณอยากได้อะไรไหมเดี๋ยวขากลับพายซื้อมาฝาก” เสียงหวานทำเอาผมเคลิ้ม จนอยากจะเกเรสักวันแล้วตามพายไปข้างนอกด้วยจริงๆ เลย
“อยากได้พาย” อยากได้จริงๆนะครับ ตอนนี้ขาดน้ำตาล ไม่มีคนคอยเติมความหวานให้เลยช่วงนี้
“บ้า..” ตอนนี้คงหน้าแดงไปแล้วครับรายนี้พูดอะไรนิดอะไรหน่อยก็เขินจนหน้าแดงตัวแดงไปหมด
“จริงๆ นะครับ ขากลับพายเข้ามาหาผมนะแล้วกลับพร้อมกัน”
“ก็ได้ครับ แต่ไม่เอาอะไรใช่ไหม”
“บอกว่าเอาพายไงครับ”
“ไม่คุยด้วยแล้ว ไร้สาระจริงๆ เลย” ว่าจบปุ๊บก็วางสายเลย ผมยังไม่ทันได้บอกรักเลยอ่ะ ทำแบบนี้ได้ไง ผมต่อสายกลับไปอีกรอบ ปลายสายรับรับแล้วครับ แต่ไม่ยอมพูด
“วางสายทำไม คิณยังไม่บอกรักพายเลยนะ”
“ฉันไม่อยากรู้ย่ะ รักไม่รักก็เรื่องของแก ตอนนี้ฉันกับลูกสะใภ้จะออกไปข้างนอกแล้ว เลิกโทรมาได้แล้วเข้าใจไหม”
“เฮ้ย! แม่มารับโทรศัพท์เมียผมได้ไงอ่ะ” ทำไมแม่ผมเป็นคนแบบนี้ ก็เข้าใจอยู่หรอกว่าชอบกวนประสาทคนไปทั่ว แต่นี่ลูกจะคุยกับเมียตัวเองยังขัดขวาง เป็นแม่ประสาอะไร
“เมียแกรำคาญไง เลยยื่นมาให้ฉันรับ”
“ไม่จริงอ่ะ แม่โกหก” ผมว่าแม่ผมนั่นแหละอยากรับเอง พายไม่มีทางทำแบบนี้หรอก นางมารร้ายชัดๆ เลย ขัดความสุขของคนรักกัน ผมได้ยินเสียงหัวเราะของพายแทรกเข้ามาในสาย สงสัยคงจะเปิดลำโพง
“งั้นฝากบอกพายด้วยนะครับ ว่าคิณรักพาย”
“ฉันอยากอ๊วกอ่ะไอ้ลูกชาย ขอกระโถน”
“แม่ท้องเหรอ ท้องตอนแก่เนี่ยนะ แด๊ดนี่น้ำยาดีจริงๆ เลย” ทีผมบ้างแล้วครับ หลังจากโดนแม่แกล้งมาสักพัก เข้าทางผมเลยงานนี้
“ไอ้ลูกเลว ใครแก่ห๊ะ ฉันจะบอกหนูพายเลิกกับแก”
“แม่ไม่กล้าหรอก อยากได้พายเป็นลูกสะใภ้ขนาดนั้น” สงสัยจะอึ้งครับเงียบไปนานเลย
“คุณคิณ” เสียงสวรรค์มาแล้ว
“คร้าบบบบบ”
“พายจะออกไปแล้วแค่นี้นะครับ”
“ครับ เจอกันตอนเย็น” คิดถึงพายว่ะครับ ทำยังไงดี ไม่ได้เจอกันอาทิตย์เดียวผมนี่แทบจะลงแดงตายแล้วนะครับ เขาเหมือนสารเสพติด ที่ผมเสพเท่าไหร่ก็ไม่เคยพอ อยากเก็บเขาไว้กับตัวเองไม่อยากแบ่งให้ใคร ผมว่าอีกไม่นานผมต้องบ้าแน่เลย รักพายจนไม่รู้ว่าทำไมรักมากมายขนาดนี้
********************
เราสองคนมาเดินเที่ยวครับวันนี้ พายเขาบ่นว่าอยากได้เครื่องปั่นใหม่ ผมก็เลยอาสาพามาซื้อ ที่จริงหาเรื่องอยู่กับเขาสองคนซะมากกว่า เราเดินจับมือกันเหมือนทุกที ประชาชนผู้อยากรู้เรื่องชาวบ้านก็หันมามองกันเป็นแถบ แต่เราสองคนก็ไม่ได้คิดจะใส่ใจเดินดูของไปเรื่อยๆ พายนี่เลือกเครื่องปั่นนานมากนะครับ เขาอ่านรายละเอียดแทบจะทุกอย่าง อันไหนที่ไม่รู้ก็ถามพนักงาน ยิ้มให้เขาไปทั่วจนผมอยากจะเดินเอามือไปปิดหน้าเขาไว้ ไม่ให้ใครเห็น
“เอาอันนี้นะครับคุณคิณ” เขามาบอกผมก่อนที่ผมจะพยักหน้า ที่จริงเขาจะเลือกอันไหนผมก็ตกลงหมดนั่นแหละ ผมไม่รู้หรอกว่าอันไหนดีไม่ดียังไง จึงได้เพียงยืนมองพายเลือกไปเรื่อยๆ
“เดี๋ยวผมจ่ายให้เองนะครับ”
“ไม่เอาพายจ่ายเอง” หน้ามุ่ยใส่ผมแล้วครับงานนี้ เขาไม่ชอบให้ผมซื้ออะไรให้ ถ้าไม่ใช่เทศกาลอะไรพิเศษ เขาถึงจะยอมรับมันแต่โดยดี ไม่ว่าจะแพงแค่ไหนเขาก็ต้องรับ เพราะเราตกลงกันไว้แบบนั้น
เดินดูของสักพักก็เหนื่อยแล้ว เราสองคนจึงเข้าไปนั่งทานของว่าที่ร้านกาแฟชื่อดังก้องโลก มันก็อร่อยดีนะครับ แต่ผมไม่เข้าใจว่าจะแพงอะไรนักหนา
“กรีนที ไวท์ ชอ็กโกแล็ต พุดดิ้ง เฟรบปูชิโน่ครับ คุณคิณดื่มอะไรดีครับ” พายหันมาถามผม ก่อนจะยิ้มให้พนักงาน
“เอสเพรสโซ่ มัคคิอาโต ครับ” เราสองคนเลือกนั่งตรงมุมด้านใน ดีหน่อยที่คนไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ คนตัวเล็กก็มองนั่นมองนี่ดูผ่อนคลาย
“มองพายทำไมครับ หน้าพายมีอะไรผิดปกติ” พายยกมือขึ้นลูบหน้าตัวเองไปมาตามแก้มใสทั้งสองข้างด้วยความสงสัย
“อยากมองเฉยๆ ไม่มีอะไร”
“เห็นหน้ากันทุกวันมองนานๆ ระวังจะเบื่อนะครับ”
“ไม่มีทางหรอก ผมรักของผมขนาดนี้ จะเบื่อได้ไง” ก็ใครอยากให้น่ารักล่ะ ความน่ารักของเขานี่ไม่อาจทำให้ผมละสายตาจากเขาได้เลย นั่งมองจนอีกคนมีท่าทางเหมือนจะอาย หลังจากที่พยายามทำหน้านิ่งๆ มานาน ร่างบางจึงยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย แก้มใสแดงปลั่งยิ่งกว่าลูกตำลึงสุก
“เลิกมองเถอะครับ จ้องอะไรนักหนา”
“อยากจ้อง จะทำไม”
“ไม่ทำไมครับ ถ้าอย่างนั้นก็เอาที่สบายใจ” ผมไม่ได้โต้ตอบเขา เพียงแค่ยิ้มเจ้าเล่ห์ใส่อีกคน เราสองคนนั่งดื่มไปเรื่อยๆ ผมรู้สึกเหมือนมีคนแอบถ่ายรูปเราสองคนเลยครับ หรือว่าผมคิดมากเกินไปก็ไม่รู้ ผมหันไปมองข้างนอกร้าน มีเด็กกลุ่มหนึ่งกำลังจับกลุ่มมองมาทางเรา แล้วยิ้มเขินๆ พายคงไม่รู้หรอก เพราะเขานั่งหันหลังอยู่
เด็กกลุ่มนี้จะทำท่าบอกว่าขอถ่ายรูปเราสองคน ผมจึงเรียกให้พายหันไป อีกคนก็ทำตามโดยไม่รู้เรื่องอะไร พอเห็นเท่านั้นแหละคนข้างๆ ผมหน้าเหวอไปเลย เด็กสาวพวกนั้นทำท่าเหมือนดีใจอะไรประมาณนั้น แต่ผมรู้หรอกว่าเขาคุยอะไรกัน เห็นแต่ท่าทางเขินๆ ของเด็กกลุ่มนั้น
“อะไรครับคุณคิณ” พายถามผมทำหน้างงๆ
“เด็กๆ เขาขอถ่ายรูปเราสองคน”
“หือ ไม่แปลกไปหน่อยเหรอครับ ขอถ่ายรูปผู้ชายสองคน” พายส่งยิ้มให้เด็กๆ พวกนั้นก่อนที่จะหันมาถามผม
“แต่ผู้ชายสองคนนั้นป็นแฟนกันนี่ครับ”
“น่าอายจะตาย”
“พายอายที่เป็นแฟนกับผม” แกล้งทำหน้ามุ่ยใส่อีกคน โกรธดีไหมนะ พูดอะไรไม่คิดถึงความรู้สึกคนฟังเลยสักนิด
“ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น พายอายที่น้องๆถ่ายรูปต่างหาก” มือบางยกขึ้นมากุมมือผมที่วางไว้บนหน้าขา ผมได้ยินเสียงเด็กกลุ่มนั้นกรี๊ดกร๊าดกันแว่วๆ เข้ามาในร้าน
“ครับๆ ไปได้ยัง” ผมส่งยิ้มให้พาย ก่อนที่เขาจะพยักหน้าแล้วลุกเดินตามผมออกมา เขาเดินก้มหน้านิดหน่อยสงสัยจะอายเด็กกลุ่มนั้นที่ยังจับกลุ่มอยู่ที่เดิมไม่ยอมไปไหน ผมยกมือขึ้นโอบไหล่ร่างเล็ก ให้เขาเดินอีกฝั่ง เพราะผมจะได้บังเขาจากเด็กๆ กลุ่มนั้น
เราสองคนเดินเล่นไปเรื่อยๆ ก่อนที่จะมาหยุดอยู่ที่ร้านเพชร ผมลืมไปเลยว่าเรายังไม่มีแหวนแต่งงานเลย ผมชวนพายเดินไปดู แต่เขาอิดออดบอกว่าไม่อย่างเดียว จะแต่งงานแต่ไม่มีแหวนได้ยังไงกันนะ ผมจึงใช้มาตรการขั้นเด็ดขาด คือการบังคับแล้วครับงานนี้ เขาคงโกรธผมอยู่แต่ไม่กล้าแสดงออกมาก เพราะอยู่ในที่สาธารณะ
“เอาแบบไหนดีครับ” ถามความคิดเห็นเขาหน่อยครับ เดี๋ยวจะหาว่าบังคับทุกเรื่อง
“เอาเรียบๆ ไม่ต้องเยอะนะครับ พายไม่ได้อยากได้ซะหน่อย” เขากระซิบบอกผมเบาๆ ก่อนที่จะเหล่ตามองพนักงาน สงสัยจะกลัวเขาได้ยิน
“โทรหาแม่ดีไหมครับ ว่าจะซื้อดีไหม” ผมรู้วิธีที่จะไม่ให้เขามีทางปฏิเสธผมได้ครับ เพราะพายน่ะเกรงใจผู้ใหญ่ เกรงใจแม่ผมยิ่งว่าอะไร
“ไม่เอาหรอก เดี๋ยวคุณแม่ก็บอกให้ซื้ออยู่ดี” หน้ามุ่ยจนอยากจะจับฟัดให้รู้แล้วรู้รอดไปสักที ทำไมทำตัวงอนได้น่ารักขนาดนี้ว่ะครับ อยากพากลับคอนโดจับแก้ผ้าแล้วปล้ำเลยดีไหม
“รู้อย่างนี้แล้วก็เลิกทำหน้ามุ่ย แล้วมาเลือกแบบได้แล้วครับ”
“ครับ” ร่างเล็กเดินไปหยุดหน้าเค้าเตอร์จิวเวลรี่ ก่อนที่จะยืนมองอยู่อย่างนั้น ไม่รู้ถูกใจรึเปล่า
“มีแหวนคู่แบบเรียบๆ ของผู้ชายไหมครับ” พายเงยหน้ามองพนักงานแก้มแดงเชียว สงสัยจะอายที่ผู้ชายสองคนมาหาแหวนคู่ แต่ผมไม่อายหรอกดีใจเสียด้วยซ้ำ ยิ่งมีคนเห็นคนรู้เยอะๆ ยิ่งดี จะได้รู้ว่าพายมีเจ้าของแล้ว
“มีในเซฟอีนะคะ ออกแบบพิเศษมาแต่ยังไม่ได้เอามาโชว์ มีแค่คู่เดียว เดี๋ยวเอาออกมาให้ดูค่ะ”
“ได้ครับ” พนักงานสาวยื่นให้ผมทั้งสองคนดู เป็นแหวนทองคำขาวเรียบๆ ฝังด้วยเพชรสีฟ้าเม็ดละหนึ่งกะรัต ดูเรียบหรูดีครับ ผมชอบน่าจะเหมาะกับพายดี
“เพชรสีฟ้านี่หายากมากเลยนะคะ ทางร้านเรามีแค่สองวงเท่านั้นค่ะ เพราะค่อนข้างหายากและราคาสูง คุณลูกค้าลองดูก่อนไหมคะ” หญิงสาวยื่นแหวนส่งให้พายลองวงเล็ก ส่วนผมก็ลองวงใหญ่” ไซส์ของผมพอดี แต่ของพายดูจะใหญ่ไปนิดนึง เพราะนิ้วพายเล็กนิดเดียว
“ชอบไหมครับ”
“ครับ” ร่างบางพยักหน้ายิ้มๆ คงจะถูกใจเขาแล้วล่ะสิ ดีเลยครับจะได้ไม่ต้องเดินดูหลายร้าน เพราะผมก็ค่อนข้างถูกใจเหมือนกัน
“ถ้าคุณลูกค้ารับสองวงนี้เราแก้ไซส์ให้ได้เลยนะคะ รอประมาณครึ่งชั่วโมง”
“ราคาเท่าไหร่ครับสองวง” คนขี้งกเอ่ยถามขึ้นแล้วครับ ส่วนผมไม่ได้ซีเรียสเลย จะแพงหน่อยก็ไม่เป็นไร ขอแค่ถูกใจทั้งสองคนก็พอแล้ว
“ราคา XXX บาทค่ะ แพงหน่อยแต่รับรองได้ว่าเป็นแหวนที่มีไม่ซ้ำใครแน่นอนค่ะ” พนักงานก็เชียร์ขายกับร่างเล็กเต็มที่ครับ เขาคงรู้แหละว่าผมยังไงก็ได้ เลยหันไปสนใจโน้มน้าวพายมากกว่า
“คุณคิณว่าไงครับ แพงไปไหมครับ”
“ไม่หรอกครับ แหวนแต่งงานเรานะ” ผมยกมือลูบหัวคนตัวเล็กไม่อยากให้เขาคิดเล็กคิดน้อย ผมมีเงินพอที่จะซื้อของแพงๆ ให้เขามากมาย แต่เขาก็ไม่เคยเรียกร้อง ครั้งนี้จึงเป็นเหมือนการบังคับเขากลายๆ ร่างบางจึงไม่ขัด
“ถ้าอยางนั้นก็แล้วแต่คุณคิณแล้วกันนะครับ” ดูทำหน้าเข้าสิ เสียดายอะไรนักหนาก็ไม่รู้เงินของผมเนี่ย
“เอาสองวงนี้เลยครับ”
“ได้ค่ะ รอตัดไซส์สักครู่นะคะ” พนักงานเดินไปข้างใน ก่อนที่เธอจะเดินกลับมาอีกรอบ ผมยื่นบัตรเครดิตให้เธอ แต่อีกคนก็พูดขัดขึ้นก่อน
“พายออกครึ่งหนึ่งนะครับ” จะหาทางจนได้สินะคนอะไรไม่รู้ แต่ไม่มีทางที่ผมจะให้เขาจ่ายหรอก
“ได้ยังไงครับ แหวนแต่งงานคิณต้องซื้อ ไม่ใช่มาหารสองแบบนี้”
“แต่มันแพงนี่นา” ตั้งแต่เข้ามาร้านเพชรนี่ไม่ยิ้มให้ผมเลยนะครับ เอาแต่ทำคิ้วขมวดจนแทบจะผูกโบว์ได้แล้วมั้ง
“ลืมไปรึเปล่าว่านี่ใคร นักธุรกิจหมื่นล้านนะครับ”
“คร้าบบบ..พ่อคนรวย” ยิ้มออกแล้วครับหลังจากที่ผมอวดความร่ำรวยของผม สงสัยเขาจะหมั่นใส้
เราสองคนนั่งรอที่โซฟาตัวยาวสำหรับลูกค้า ผมชอบมองเวลาที่พายยิ้มมีความสุข มากกว่าทำหน้าเศร้าๆ แต่อีกอย่างที่ชอบมากๆ คงหนีไม่พ้นแกล้งให้เขาโกรธมากๆ แล้วค่อยง้อ หน้ามุ่ยๆ ปากยื่นๆ เวลาที่เขาโมโหผมมันน่ารักเกินบรรยายจริงๆ ครับ
รอสักพักพนักงานก็นำแหวนมาให้พายลองไซส์อีกครั้ง คราวนี้เขาใส่ได้พอดี ก่อนจะยื่นคืนให้พนักงานนำไปใส่กล่อง ก่อนออกจากร้านพนักงานในร้านยังขออนุญาตถ่ายรูปเราสองคนไว้ด้วย เธอบอกว่าคู่เราสองคนน่ารัก ส่วนพายนะหน้าหวานเหมือนผู้หญิงเลย เราเดินออกจากร้าน ก่อนที่จะตรงไปยังลานจอดรถ เพราะไม่มีอะไรที่เราต้องซื้ออีกแล้ว
“แดดดี๊” เสียงเด็กที่ไหนดังมาตามหลัง ก่อนที่ผมและพายจะหันไป เด็กคนนั้นก็วิ่งเข้ามาเกาะขาผมพอดี
“มามี๊ มาเร็วๆ สิครับ”
******************************
เอาน้องพายมาเสริฟแล้วนะคะ อ่านให้สนุก เม้นให้ด้วยนะ บังคับนะ
ใครไม่ทำขอให้อีซองไปปล้ำคืนนี้ที่บ้านเลยนะ
TBC.