พิมพ์หน้านี้ - หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน26 END. P.11 (30/03/59)

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: MooKratai ที่ 01-02-2016 20:24:05

หัวข้อ: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน26 END. P.11 (30/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: MooKratai ที่ 01-02-2016 20:24:05
อ้างถึง
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ
5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน
7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ
8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).
9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ
10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป
11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว
บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป
12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด
13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ
14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ
15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข
17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ
          ********************************************************************



ติดตามเพจได้ที่นี่นะคะ Moo_kratai.
                                                                   
ฝากอีกเรื่องด้วยนร้า
หลานคุณย่า แอบรัก (ครัวซองต์+มินนี่) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=52068.0)




สารบัญ
ตอน1 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=51695.msg3297687#msg3297687)
ตอน1(2) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=51695.msg3297694#msg3297694)
ตอน2 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=51695.msg3298394#msg3298394)
ตอน3 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=51695.msg3298820#msg3298820)
ตอน3(2) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=51695.msg3299055#msg3299055)
ตอน4 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=51695.msg3299219#msg3299219)
ตอน4(2) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=51695.msg3299332#msg3299332)
ตอน5 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=51695.msg3300081#msg3300081)
ตอน6 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=51695.msg3300820#msg3300820)
ตอน7 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=51695.msg3301858#msg3301858)
ตอน7(2) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=51695.msg3302524#msg3302524)
ตอน8 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=51695.msg3303703#msg3303703)
ตอน9 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=51695.msg3304672#msg3304672)
ตอน10 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=51695.msg3306223#msg3306223)
ตอนพิเศษ วาเลนไทน์ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=51695.msg3307662#msg3307662)
ตอน11 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=51695.msg3308826#msg3308826)
ตอน12 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=51695.msg3309764#msg3309764)
ตอน13 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=51695.msg3311255#msg3311255)
ตอน14 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=51695.msg3312430#msg3312430)
ตอน15 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=51695.msg3314486#msg3314486)
ตอน16 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=51695.msg3316658#msg3316658)
ตอน17 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=51695.msg3318016#msg3318016)
ตอน18 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=51695.msg3320659#msg3320659)
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนที่1
เริ่มหัวข้อโดย: MooKratai ที่ 01-02-2016 21:08:10
หลานคุณย่า
[/font][/size][/color]
            คีริน(คิณ) สตีเว่น แมคคาร์ล หนุ่มลูกครึ่งไทย-อเมริกัน วัย31 ปี เจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ หนุ่มสังคมผู้เพียบพร้อมด้วยรูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ อีกทั้งความสามารถในการบริหารงานได้อย่างโดดเด่นจึงทำให้ธุรกิจขยายตัวได้อย่างรวดเร็ว จนกลายเป็นผู้นำด้านอสังหาเบอร์ต้นๆ ของเมืองไทย ระดับความเจ้าชู้50%
                                                         

            ธีระนัย(พาย) ธีรธำรงค์กุล หนุ่มน้อยหน้าหวานวัย 24 ปี เป็นหลานคนที่สองของคุณหญิงย่า เพียงเพ็ญ หน้าตาสวยหวานกระเดียดไปทางผู้หญิงซะมากกว่า กอปรกับความสูงเพียงแค่167 ซม. จึงมักทำให้คนเจ้าใจผิดคิดว่าเป็นสาวห้าวซะมากกว่าที่จะเป็นผู้ชาย ทำให้เจ้าตัวไม่ค่อยจะพอใจในรูปร่างหน้าตาตัวเองเท่าใดนัก อีกทั้งนิสัยส่วนตัวยังชอบทานขนมหวานแทบจะทุกชนิด โดยเฉพาะเค้ก  ระดับความสวย100%



หลานคุณย่า1  ความสุขของครอบครัว
[/size][/color]

“พี่พายยยยย” เสียงหลานชายคนเล็กของคุณย่าเพียงเพ็ญโหวกเหวกมาแต่ไกล พร้อมกับเสียงวิ่งที่ไม่ค่อยจะเบานัก สร้างความขัดใจให้กับผู้เป็นพี่ ที่กำลังง่วนกับการทำอาหารเช้าให้ทุกคนทาน นี่ถ้าคุณย่ายังไม่ได้ออกไปวัดตั้วแต่เช้าสงสัยคงจะโดนเอ็ดทั้งสองคน เพราะน้องชายตัวเล็กที่แสนจะไฮเปอร์สอนไม่ค่อยจะฟัง พี่ชายหน้าสวยจึงทำได้เพียงส่ายหัวเบาๆ ในความแก่นของน้องชายตัวน้อย

“พี่อยู่ในครัวเจ้าตัวแสบ บอกกี่ครั้งแล้วว่าไม่ให้วิ่ง ไม่ให้ตะโกนเสียงดัง สอนนี่เคยจำบ้างมั้ยบราวนี่”   พี่ชายหน้าสวยดุเจ้าตัวแสบอันดับหนึ่งของบ้านอย่างเอือมระอา

“อย่าบ่นเหมือนคุณย่าได้ไหมคร้าบบบ พี่พายสุดสวยของน้องบราว”   มีหรือที่คนตัวเล็กจะสำนึกกลับยียวนพี่ชายจนน่าหมั่นใส้ จนคนหน้าหวานต้องยกนิ้วขึ้นมาหยิกแขนคนทะเล้นเบาๆ

“ระวังเถอะพี่จะฟ้องคุณย่า ถ้าไม่โดนลงหวายสักทีคงจะไม่เข็ด”

“ถ้าตัวกล้าฟ้องก็ฟ้องดิ รับรองว่าไม่ได้โดนแค่บราวแน่นอน คึคึ” เวลาที่ทำผิดคุณย่าจะสอนเสมอว่าคนเป็นพี่ต้องคอยเตือนน้อง แต่ถ้าน้องไม่ฟังต้องโดนลงโทษทั้งสองคน เพราะเป็นพี่ไม่ดูแลน้องให้ดี ถ้าคนทำผิดโดนตีสองที คนที่เป็นพี่จะโดนหนึ่งทีเป็นแบบนี้มาตลอดตั้งแต่เด็กจนโต

“ทะลึ่งใหญ่แล้วนะเราเนี่ย คุณป้านมดูหลานรักคุณป้านมสิฮะ” พายฟ้องป้านมคนสนิทของคุณย่าที่เลี้ยงพวกเขามาตั้งแต่เด็กๆ

“ป้านมพี่พายดุบราวอ่ะ” ทำเสียงอ้อนคุณป้านมเพื่อหาทางเอาตัวรอด

“คุณหนูเล็กก็อย่าทะเล้นนักสิคะ ป้านมปวดหัวแทนคุณท่านจริงๆ เลย”

“งืออออ! ทำไมทุกคนรุมบราวคนเดียวเลย” แกล้งเอ่ยเสียงตัดพ้อแต่หน้านี้กลับยิ้มระรื่นที่ได้แกล้งพี่ชาย

“พอแล้วไม่ต้องมาแกล้งงอน ไม่ได้ผลหรอก เข้ามาทำอะไรเนี่ย พี่จะทำกับข้าวออกไปรอข้างนอกก่อนไปตัวยุ่ง”

“ตัวทำอะไรทานเหรอ บราวอยากทานขนมปัง ใส้กรอก ไข่ดาว ทำให้หน่อยได้ไหมคร้าบบ”

“พอมีข้าวต้มก็อยากทานอาหารฝรั่ง”

“นะๆ ทำใหบราวหน่อยน๊า พี่พายคนสวย จุ๊บๆ” พูด
จบประโยคปุ๊บ ปากน้อยๆ ก็ฉกจุ๊บแก้มพี่ชายโดยเร็ว ก่อนจะวิ่งหน้าตั้งออกไปข้างนอก ทำเอาคนเป็นพี่ถึงกับส่ายหัว ส่วนป้านมนะเหรอได้แต่หัวเราะกับความทะเล้นตามหลายชายสุดที่รัก

              ครอบครัวของพายมีพี่น้องทั้งหมดสามคน คนโตชื่อซอง หรือชื่อเต็มๆ ก็คือครัวซองนั่นเอง นักธุรกิจหนุ่มที่เจ้าไปบริหารงานของครอบครัวเต็มตัว ส่วนพายเป็นคนรอง ไม่ชอบการเจรจาธุรกิจเป็นทุนเดิมอยู่แล้วจึงปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพี่ชายรับหน้าที่ไป ส่วนตัวเองก็เปิดร้านเค้กเล็กๆ ที่ไม่ไกลจากหมู่บ้านมากนัก คนสุดท้ายคือน้องชายคนเล็กของตระกูล ชื่อบราวนี่หรือตัวแสบของครอบครัว เพิ่งเรียนจบปริญญามาหมาดๆ หน้าที่หลักคือคอยป่วนพี่ๆ และคนในบ้าน 

              โดยมีคุณย่าเป็นคนคอยเลี้ยงดูเพราะพ่อและแม่ได้เสียชีวิตในขณะที่เดินทางไปเจรจาธุรกิจที่ต่างประเทศ สาเหตุของการเสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุทางรถยนต์หลังจากเดินทางเพื่อกลับมาเมืองไทย  คุณย่าเพียงเพ็ญจึงคอยดูแลทั้งสามคนตั้งแต่เล็กๆ มีเพียงพี่ชายคนโตอย่างซองเท่านั้นที่พอจะเข้าใจสถานการณ์ตอนนั้นดี่ที่สุดเพราะทั้งพายและบราวนี่เด็กเกินกว่าที่จะเข้าใจ

“คุณย่ากลับมาแล้วเหรอฮะ ทานข้าวมารึยัง พายจะได้เตรียมให้” พายเอ่ยถามย่าที่เดินเข้ามาในครัว ในขณะที่มือก็สาละวนเตรียมอาหารให้เจ้าตัวแสบ

“ทานเลยลูก ย่าทานมากับชาวบ้านที่ไปวัดด้วยกันแล้ว”

“ฮะ”

“แล้วเจ้าตัวแสบไปไหนซะล่ะ” คุณย่าเอ่ยถามเมือเดินเข้ามาในบ้านไม่เห็นบราวนี่ที่มักจะตื่นเช้ามาดูการ์ตูนเรื่องโปรดแทบจะทุกวันในตอนเช้า

“น้องไม่ได้อยู่ในห้องรับแขกเหรอฮะ” พายเอ่ยถามอย่างสงสัย พูดยังไม่ขาดคำคนที่โดนเอ่ยถึงก็เดินหน้ามุ่ยเข้ามาในครัว

“เป็นอะไรไปน้องบราวนี่ ทำไมทำหน้าอย่างนั้น” คุณย่าเอ่ยถามหลานรักด้วยความสงสัย

“ก็พี่ซองนะสิฮะย่า สัญญากับน้องบราวไว้แล้วว่าวันนี้จะพาไปกินข้าว ดูหนัง แล้วก็ซื้อเสื้อผ้าให้ด้วย แต่จนสายป่านนี้แล้วยังไม่ตื่นเลย”

“ขึ้นไปปลุกพี่เขารึยัง” คุณเอ่ยพร้อมกับเอามือลูบหัวหลานชายอย่างเอ็นดู

“ไปแล้วฮะ แต่ไม่ยอมตื่น บอกว่าขอนอนอีกสักชั่วโมงสองชั่วโมง น้องบราวก็เลยงอน”

“งอนจริงอ่ะ เดี๋ยวพี่ซองเอาของถูกใจมาล่อ ขี้คร้านจะหายงอนเป็นปลิดทิ้ง คิคิ”   พายเอ่ยอย่างรู้ทันนิสัยเจ้าแสบน้อยของที่บ้าน ที่เพียงแต่มีของกินอร่อยๆ มาล่อก็หายงอนภายในพริบตา

“น้องไม่หายงอนง่ายๆ หรอกคอยดู” คนตัวเล็กพูดอย่างหมายมั่นกับภารกิจการงอนพี่ชายตัวเอง

“มาทานข้าวก่อนมา แล้วจะงอนค่อยงอนต่อ”

“ก็ได้ แต่น้องไม่หายงอนจริงๆ ด้วย”

“จะงอนอะไรพี่พี่เค้านักหนาเต้าตัวแสบ วันหนึ่งๆ พี่ชายเราก็ทำงานแทบจะไม่มีเวลาพักผ่อน พอวันหยุดก็ให้เขาได้พักผ่อนบ้างสิ” คุณย่าเอ่ยปากเตือนหลานชายคนเล็กที่มักจะเอาแต่ใจกับพี่ชายคนโตเสมอ

“งืออออ ย่าอ่ะ” คราวนี้งอนย่าไปอีกคน

“พอแล้วๆ เนี่ยพี่ทำขนมปังปิ้งทาเนย กับไข่ดาว ใส้กรอกให้แล้วมาทานเร็วๆ” คนตัวเล็กนั่งทานอย่างเอร็ดอร่อยจนลืมอาการงอนไปชั่วขณะ ตบท้ายด้วยนมสดแก้วใหญ่

“ตัวทานข้าวต้มเหรอ อร่อยมั้ย”

“อร่อยมากกกกก” ลากเสียงยาวให้คนเป็นน้องได้ฟัง

“น้องยังไม่อิ่ม ขอข้าวต้มชามนึงได้ไหม” ทำสายตาอ้อนใสพี่ชายเหมือนทุกที เพราะไม่ว่าใครจะเจอสายตาแบบนี้ก้ต้องใจอ่อนเข้าจนได้

“กินไปไว้ไหนเนี่ยเรา กินแล้วก็ไม่เห็นจะโตขึ้น” ปากก็ว่าแต่ก็เดินไปตักข้าวต้มให้เจ้าตัวแสบจนเต็มชาม

“บราวหิวนี่นา”

“ครับๆ หิวก็ทานเยอะๆ จะได้มีแรงอาละวาดพี่ชายเรา”
 
“บราวอุตส่าห์ลืมแล้วนะเนี่ย แต่ตัวกลับมาทำให้บราวหงุดหงิด ชิส์” คำพูดทีเล่นทีจริงของน้องตัวน้อยทำให้พายถึงกลับหัวเราะออกมาเสียงดัง

“เดี๋ยวพี่ซองก็ตื่น ทานรองท้องไว้ก่อนค่อยไปหาอะไรกินที่ห้าง”

“อย่างนี้เขาไม่เรียกรองท้องแล้วล่ะย่าว่า เขาเรียกว่า..... ว่าอะไรนะน้องบราว” ย่าแกล้งหลานอีกแล้ว น่ารักใช่ไหมฮะครอบครัวของเรา อบอุ่นที่สุดจนบางครั้งรู้สึกร้อนเลยล่ะ คึคึ

“ย่าาาาา...ว่าน้องบราวอ่ะ”

“ฮ่า ฮ่าๆๆๆๆ” เสียงหัวเราะประสานเสียงกันเสียงดังทั้งคุณย่า คุณป้านม รวมทั้งพายด้วย หัวเราะถูกใจที่แกล้งเจ้าตัวแสบให้โวยวายได้

“ทำอะไรเสียงดังแต่เช้าเลยครับ ฟอดดดด” ว่าจบก็เดินตรงไปหาคุณย่าสุดที่รักหอมแก้มหนึ่งฟอดใหญ่ๆ ก่อนจะนั่งลงข้างๆ เจ้าเด็กแสบประจำบ้าน แต่คนตัวเล็กกลับเชิดหน้าใส่พี่ชาย พร้อมกับนั่งทานข้าวต้มต่อ ทำเหมือนกับว่าคนที่พึ่งมาใหม่ไม่มีตัวตนอย่างนั้นแหละ

“เป็นอะไรเนี่ยเรา โกรธอะไรพี่ครับ”   ไม่พูดเปล่ามือใหญ่กลับส่งไปยีหัวน้องชายจนฟูแทบจะไม่เป็นทรงอยู่แล้ว

“อืออออ ผมยุ่งหมดแล้วเนี่ย”   ส่งค้อนวงเบ้อเริ่มให้กับพี่ชายเข้าเต็มเปา ทำให้ซองต้องหันไปทำหน้าเหรอหราใส่น้องชายอีกคนที่นั่งสังเกตุการณ์อยู่อย่างเงียบๆ   เป็นเชิงถามว่าเจ้าตัวเล็กเป็นอะไร

“ก็น้องชายสุดที่รักของพี่สิฮะ   เขางอนทีขึ้นไปปลุกแล้วพี่ไม่ยอมตื่น” พายเอ่ยออกมาเพื่อให้พี่ขายเข้าใจสถานการณ์ที่อยู่ดีๆ ก็โดนเจ้าตัวแสบเหวี่ยงใส่ตั้งแต่เช้า

“น้องไม่ได้งอน” พูดจบปุ๊บก็ค้อนใส่ทั้งซองและพายคนละที ก่อนจะก้มหน้าทานข้าวต่อ ทำเป็นไม่สนใจคนที่นั่งลงข้างๆ โดยแม้แต่น้อย

“พี่ขอโทษครับตัวแสบ ก็พี่ง่วงนี่นา ขอพี่ทานข้าวก่อนแล้วพี่จะพาไปนะครับ” มือหนายกขึ้นขยี้หัวคนทำหน้างอจนผมเผ้ายุ่บเหยิงแทบจะไม่เป็นทรง

“อื้อ...ผมน้องบราวยุ่ง หมดแล้วนะ”

“ตามใจกันเข้าไป รู้ก็รู้ว่าน้องเรามันเอาแต่ใจขนาดไหน” คุณย่าสุดที่รักเอ่ยแทรกขึ้นหลังจากเงียบไปนาน

“ย่าาาาอ่ะ ว่าน้องบราวอีกแล้วนะ” คนโดนว่าหน้างอง้ำยิ่งกว่าเดิม แต่มือก็ยังตักข้าวเข้าปาก เพราะรู้ดีว่าแม้ย่าจะว่าตนแต่บทสุดท้ายก็ตามใจเขาอยู่ดี

“รีบๆ ทานเร็วๆ เข้า   จะพากันไปไหนก็จะได้รีบไป”
 ย่าก็ยังเป็นย่าอยู่วันยังค่ำ แม้ว่าจะดุจะว่าแต่ก็ตามใจเราสามคนเสมอ พายนั่งมองทุกคนเงียบๆ เพราะเป็นคนไม่ค่อยพูดแต่ไหนแต่ไรแล้ว เวลาอยู่รวมกันบทสนทนาส่วนใหญ่จะเป็นการสนทนาระหว่างพี่ชายคนโตกับน้องคนเล็กมากกว่า พายเพียงแค่เอ่ยแทรกบ้างในบางครั้ง หรือเวลาที่คนอื่นต้องการความคิดเห็นเท่านั้น ครอบครัวของเราเป็นแบบนี้ตลอด แต่ก็มีความสุขดี ไม่เคยรู้สึกขาดหรือต้องการอะไรเพิ่มไปมาก กว่านี้ รักย่า พี่ชาย น้องชายคนเล็กที่สุด พายนั่งยิ้มกับความคิดของตัวเอง

“น้องพายจะไปกับเขารึเปล่าเนี่ย” คุณย่าเอ่ยถามคนที่นั่งฟังบทสนทนาคนอื่นเงียบๆ

“ไปฮะ เจ้าตัวแสบบอกให้ไปช่วยเลือกเสื้อกับรองเท้า” ทำเอาคนที่ถูกเอ่ยถึงยิ้มร่าอย่างพอใจ

“อย่าตามใจกันมากนะน้องพาย ของในห้องน้องเราแทบจะทะลักออกมาแล้ว ไม่รู้ซื้ออะไรนักหนา” คุณย่าว่าน้องบราวที่ตอนนี้เริ่มจะทำหน้ามุ่ยอีกแล้วเมื่อโดนขัดใจ

“ขัดไม่ได้หรอกฮะ คุณย่าต้องบอกพี่ซองมากกว่าที่คอยตามใจจนน้องบราวจะเสียคนแล้วมั้งฮะ”

“พี่พาย!”

“ฮึฮึ โดนขัดใจจนได้สินะเจ้าตัวแสบ คุณย่าไปด้วยกันไหมครับ” ครัวซองเอ่ยชวนคุณย่าที่นั่งยิ้มอยู่ข้างๆ

“หนุ่มๆ ไปกันเองเถอะจ๊ะ ย่าแก่แล้วเดี๋ยวจะไม่สนุกซะเปล่าๆ”

“คุณย่ายังไม่แก่ซะหน่อย สวยกว่าพวกสาวๆ ของพี่ซองซะอีก”   พายพูดประจบเอาใจคนแก่ที่ตอนนี้ยื่นมือไปลูบหัวบราวนี่ที่ก้มหน้าทานอาหารอยู่ ส่วนตนเองก็เข้าไปกอดย่าอย่างเอาใจ

“พี่อยู่เฉยๆ ยังโดนเหรอเนี่ย ฮ่า ฮ่าๆ”

“สมน้ำหน้า”   เจ้าตัวแสบแลบลิ้นใส่พี่ชายแล้ววิ่งขึ้นบ้านไป พร้อมกับเสียงหัวเราะสดใสอย่างเช่นทุกวัน

“พายไปอาบน้ำก่อนนะฮะ พี่ก็รีบๆ ทานเดี๋ยวแต่งตัวช้าเจ้าตัวแสบจะงอนอีกรอบนะ”   ขโมยหอมแก้มคุณย่าสุดสวยหนึ่งฟอดก่อนเดินขึ้นห้องไปอาบน้ำแต่งตัว
                                     
*****************************************
“พี่พายเสื้อตัวนี้สวยไหมฮะ”   บราวนี่เอ่ยถามขณะที่เอาเสื้อเชิ้ตสีช๊อคกิ้งพิ้งค์ทาบตัว ทำให้พายได้ส่ายหัวกับรสนิยมของน้องชายที่นับวันจะเยอะเข้าไปทุกที ซึ่งแตกต่างกับตนเองที่ชอบใส่เสื้อผ้าเรียบๆ สีเอริ์ทโทนซะมากกว่า แต่ถึงแม้ว่าบราวนี่จะชอบใส่เสื้อผ้าสีแปร๋นๆ แต่มันก็เข้ากับน้องชายคนเล็กเขามากที่สุด คงจะมีแค่เจ้าตัวเล็กเท่านั้นแหละที่สามารถใส่เสื้อผ้าสีเจ็บๆ แบบนี้แล้วน่ารัก แต่ถ้าเป็นพายเองคงไม่ใส่ด้วยคนหนึ่งแหละ ทั้งดีไซน์และสีช่างไม่เข้ากับพายเอาซะเลย

“พี่ว่า มันจะเยอะไปรึเปล่า ทั้งสีทั้งแบบ อื๋อสุดๆ อ่ะ”

“หมายความว่าไงอ่ะ สรุปแล้วดีหรือไม่ดี ตัวนี้ดีไซน์ใหม่เลยนะฮะพี่พาย  ใช่ไหมฮะพี่สุดสวย” ว่าจบก็หันไปถามพนักงานขายที่ยืนอยู่ข้างๆ เพื่อให้คำแนะนำอยู่

“จริงค่ะ ดีไซน์นี้เป็นคอลเล็คชั่นใหม่ของช่วงซัมเมอร์นี้เลยนะคะ  พึ่งวางขายได้ไม่ถึงสัปดาห์เลย รับรองว่าถ้าซื้อไปไม่ตกเทรนด์แน่นอนค่ะ”  อื่อฮื้อ!  พี่คนขายก็เชียร์สุดแรง แล้วเราจะค้านยังไงล่ะเนี่ย

“พี่ซองว่าไงฮะ เสื้อตัวนี้เหมาะกับน้องรึเปล่า” ในเมื่อหาทางออกไม่เจอก็ให้พี่ชายนี่แหละมาช่วยขัด เพราะแบบมันค่อนข้างจะแรงไปนิด ไม่อยากให้น้องบราวซื้อแต่ไม่รู้ว่าคัดค้านยังไง

“แล้วแต่เราเลยตัวแสบพี่มีหน้าที่แค่มาจ่ายเงิน อยากได้แบบไหนก็เลือกเอาเลย” แทนที่จะช่วยกันคัดค้าน แต่กลับรู้เห็นเป็นใจกับน้องซะอีก

“งั้น...น้องบราวเอาแบบนี้ทุกสีเลยนะฮะ” ยิ่งพี่ชายตามใจคนตัวเล็กยิ่งได้ใจใหญ่ ซื้อโดยไม่คิดว่าตัวเองจะใส่ครบทุกสีรึเปล่า

“แต่พี่ว่าเลือกเอาแค่บางสีที่ชอบจริงๆ ดีไหมน้องบราว เดี๋ยวคุณย่าจะเอ็ดเอา”

“งืออออ... แต่นี่พี่ซองอนุญาตแล้ว ตัวตามใจบราวเถอะน้า ถ้าตัวไม่บอก พี่ซองไม่บอกคุณย่าก็ไม่รู้หรอกนะครับสุดสวยของน้องบราว”  รู้ว่าตัวเองอ้อนได้ผลก็เลยอ้อนใหญ่ เพราะถ้าลองใช้ไม้นี้ไม่ว่าใครต่อใครก็ต้องยอม ทำเสียงอ้อนๆ แล้วยังทำตาปริบๆ จนน่าหมั่นเขี้ยว

“อือๆ ตามใจ แต่ถ้าโดนคุณย่าว่าพี่ไม่ช่วยนะ  แก้ตัวเองกับพี่ชายสุดที่รักของเรา เข้าข้างกันดีนัก” ว่าอย่างเคืองๆ แต่ก็ยอมตามใจเพราะทำอะไรไม่ได้

“คร้าบบบบบ” ยิ้มหน้าระรื่นเมื่อได้ของถูกใจ
หลังจากนั้นก็พากันช้อบปิ้งทั้งกระเป๋าและรองเท้าให้เจ้าเด็กแสบ ไม่ว่าาจะเจออะไรที่เป็นคอลเล็คชั่นใหม่ต้องกระโดดเข้าใส่ ห้ามยังไงก็ไม่ฟัง ใช้ทั้งลูกอ้อนลูกตื้อทุกทางเพื่อให้ได้ของที่อยากได้ จนพายเองก็หมดปัญญาที่จะห้าม ยิ่งพี่ชายอีกคนนี่ไม่คิดจะห้ามเลยมีแต่ตามใจกันอย่างเดียว โอ๋กันยิ่งกว่าอะไร ตอนนี้ก็เลยมีแค่พายที่ต้องมานั่งเคืองพี่ชายจอมตามใจกับน้องชายขี้เอาแต่ใจ อ้อนก็เป็นที่หนึ่ง ขี้งอนก็ไม่เป็นรองใคร โอ๋กันทั้งบ้าน คุณย่าก็บ่นไปอย่างนั้นแหละพอเจอลูกอ้อนเจ้าตัวแสบเข้าไปแทบจะหาของมาประเคนให้ สรุปคือใจอ่อนกันทั้งบ้าน
[/left]
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนที่1
เริ่มหัวข้อโดย: MooKratai ที่ 01-02-2016 21:15:59
พายนั่งหน้ามุ่ยในร้านซูชิสายพาน รอพี่ชายเอาของไปเก็บที่รถ เพราะมันเยอะเกินกว่าที่จะถือไปไหนต่อไหน ซื้อของยังกับเขาแจกฟรี ส่วนใหญ่จะเป็นของบราวนี่ มีชุดทำงานของพี่ซองแค่สองชุด ส่วนของพายได้
รองเท้ามาคู่หนึ่งเพราะเด็กเอาแต่ใจบังคับให้ซื้อ บอกว่าใส่แล้วเหมาะกับพายที่สุด เลยจำใจต้องซื้อเพราะน้องชายบังคับ     เจ้าตัวแสบตอนนี้ไปเข้าห้องน้ำ จะไปเป็นเพื่อนก็ไม่ยอมบอกว่าโตแล้ว อยากจะเขกกะ โหลกซักทีสองที ว่าคนโตที่ไหนนิสัยยังกับเด็กสามสี่ขวบ ไม่ได้ดังใจก็อ้อนเอาให้ได้ ถ้าลงไปดิ้นกับพื้นได้คงทำไปแล้ว
   
 สักพักซองก็กลับมานั่งลงฝั่งเดียวกันกับพาย เหลือที่ว่างอีกฝั่งให้บราวนี่ที่ยังไม่กลับจากเข้าห้องน้ำแต่ทำไมไปนานนักก็ไม่รู้ จะเป็นสิบกว่านาทีแล้วยังไม่กลับ ไม่รู้ว่าเป็นอะไรรึเปล่า ชักจะเป็นห่วงแล้วสิ ออกไปตั้งแต่พร้อมกับพี่ซอง แล้วตอนนี้ยังไม่กลับมาเลย อยากจะลุกไปตามแต่พี่ชายก็ห้ามไว้ บอกว่าน้องโตพอที่จะดูแลตัวเองได้ ก็คนมันเป็นห่วงนี่นา    ถึงแม้ว่าอายุจะห่างกันแค่สามปี แต่กลับรู้สึกเหมือนน้องยังเล็กๆ ตลอดเวลา

“มาแล้วๆ ฮะ” เสียงเจ้าตัวเล็กตะโกนมาแต่ไกล ไม่คิดจะอายคนอื่นเลยใช่ไหมเนี่ย

“ทำไมไปนานจังบราวนี่” พี่ซองเอ่ยถามขณะที่อีกคนนั่งลงฝั่งตรงข้าม

“พอดีเกิดเรื่องนิดหน่อยนะฮะ” ยังพูดไม่ทันจบเลยพี่ชายทั้งสองก็ประสานเสียงกันถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง

“แค่เผลอเดินชนคนอื่นนิดหน่อยนะฮะ แฮะๆ ไม่มีอะไรหรอก”   คนที่กลัวพี่ทั้งสองเป็นห่วงรีบเอ่ยขัดขึ้นก่อนที่จะมีใครคนใดคนหนึ่งเดินเข้ามาสำรวจร่างกายเจ้าตัวเล็กจนทั่ว ก็ไม่เห็นร่องรอยความผิดปกติ จึงกลับมานั่งที่เดิม

“แล้วเจ็บตรงไหนรึเปล่า” พายมองอย่างสำรวจน้องชายที่นั่งยิ้มแป้นอย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไร

“ไม่ฮะ ทานกันดีกว่าน้าหิวจะแย่แล้ว” บราวนี่เปลี่ยนประเด็นให้คนอื่นหันมาสนใจกับการทานอาหารมากกว่า

ร้านที่เรามาทานเป็นซูชิสายพาน ร้านโปรดของเจ้าเด็กแสบเค้าหละ แต่สำหรับพายไม่ค่อยชอบอาหารญี่ปุ่นสักเท่าไหร่ ยิ่งเมนูพวกซาชิมิ หรือปลาดิบนี่ทานไม่ได้เลย ทานได้แค่บางเมนูเท่านั้น อย่างข้าวปั้นหน้าปลาไหลย่าง  ข้าวปั้นหน้าแซลมอนย่างเกลือ และอีกหนึ่งเมนูโปรดที่ชอบทานคือ แก้มปลาบูริย่างเกลือ   เทมปุระโรล แซลมอนโรล

 ในขณะที่พายก็เล็งเฉพาะเมนูที่ตนเองทานได้ ตรงกันข้ามกับคนน้องที่ตอนนี้ไม่ว่าสายพานจะเลื่อนจานไหนผ่านหน้าไปแทบจะหยิบขึ้นมาทุกอย่าง ดูจากการทานแล้วน่าจะอร่อยมาก ไม่ได้ดูเมนูหรอกว่าจานไหนถูกจานไหนแพง แค่ผ่านหน้านี่ก็ซัดซะเกลี้ยง ทั้งของถูกของแพงปนกันไป แต่พายกลับนั่งรอแก้มปลาบูริย่างเกลือ   เป็นเมนูที่สีของจานบ่งบอกว่าอยู่ในกลุ่มที่แพงที่สุด แต่ก็เนเมนูที่ชอบที่สุดแล้ว   แต่ไม่เห็นจะเลื่อนผ่านหน้ามาซักที จะมีแค่ข้าวหน้าไข่หวาน กับหน้าปลาไหลเท่านั้น พายนั่งมองพ่อครัวที่กำลังแก้มปลาบูริขึ้นมาวาง    เป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้ แต่กลับโดนผู้ชายที่นั่งอยู่ใกล้ๆ กับพ่อครัวตัดหน้าแทบจะทุกครั้ง เป็นอย่างนี้มาตลอดสามสี่รอบแล้ว ทำเอาคนมองของโปรดที่ถูกแย่งไปต่อหน้าต่อตา   หน้ามุ่ยลงจนเห็นได้ชัด

 ก่อนที่เผลอหันหน้าไปสบตากับคนที่คอยแย่งของโปรดของตน   เป็นจังหวะเดียวกับที่เขาหันหน้ามาทางนี้พอดี จึงทำให้เผลอสบตาเพียงแค่เสี้ยววินาที สายตาน่ากลัวชะมัดเลยผู้ชายอะไรก็ไม่รู้ อยากจะเอาตะเกียบจิ้มตาซะดีไหม  จ้องยังกับเราทำอะไรผิด ทั้งๆ ที่ตัวเองแย่งของคนอื่นด้วยซ้ำ    หันไปทีไรก็ต้องเจอกับสายตาที่จ้องมาแทบจะทุกครั้ง พายแกล้งทำเป็นไม่สนใจ   ก่อนจะหันไปสนใจสายพานเมนูโปรดที่เลื่อนมาตรงหน้าพอดี   พายยิ้มให้กับตัวเองก่อนจะหยิบเมนูโปรดมาทาน จนทำให้ลืมสายตาหน้ากลัวของคนที่นั่งฝั่งตรงข้ามได้ภายในพริบตา ทานไปคุยกับน้องชายและพี่ชายไปเรื่อยๆ จนลืมว่ามีสายตาคู่หนึ่งที่จ้องมองตนเองตลอด จนกระทั่งเงยหน้าขึ้นสบตากับคนที่จ้องตนอีกครั้งทำให้รู้สึกประหม่าจนต้องเสมองไปทางอื่น

       ‘ฮึ่ย! ผู้ชายบ้าอะไรเนียมานั่งจ้องคนอื่นตลอดเวลา ทั้งๆ ที่ตนเองก็มากับแฟน ’ 
คนสวยได้แต่สบถในใจ  จะทำอะไรก็ไม่ได้ เพราะถ้าเกิดเขาไม่ได้มองมาที่เราเนี่ยมีหวังหน้าแตก ขณะที่คนตัวเล็กตกอยู่ในภวังค์พี่ชายก็เอ่ยขึ้นเรียกสติคนที่ใจลอยไปถึงไหนต่อไหนให้กลับมา

“ผู้ชายโต๊ะนั้นเขามองพายรึเปล่า พี่เห็นเขาจ้องมาตลอดเลย” ครัวซองเอ่ยขึ้นทำให้ทั้งพายและบราวนี่หันไปมองชายคนนั้นอีกครั้ง

“ไม่ใช่หรอกมั้งฮะ เขาจะมองพายทำไม ไม่เคยรู้จักกันสักหน่อย เขามองเลยไปข้างหลังรึเปล่าฮะ” พายแก้ตัวเป็นพัลวัน ทั้งๆ ที่ตนเองก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน

“ผู้ชายคนที่ชนกับบราวหน้าห้องน้ำนี่นา คนผู้ชายก็ดีอยู่หรอก แต่ยัยผู้หญิงที่มาด้วยสินิสัยแย่ที่สุด” พูดไปก็ทำหน้าเบ้ไปด้วย ดูท่าทางจะเจอคู่ปรับตั้งแต่แรกที่เจอแล้วมั้ง

“ไปว่าเขา เขาเป็นผู้หญิง ถ้าคิดว่าเขานิสัยไม่ดีก็อย่าไปยุ่ง” ครัวซองปามน้องชายคนเล็กที่ตอนนี้พูดจาก้าวร้าวเกินเด็ก

“คงไม่ได้เจอกันแล้วล่ะฮะ รีบกินดีกว่าฮะจะได้ไปดูหนังซะที” พายตัดบทสนทนาระหว่างน้องชายกับพี่ชายก่อนที่จะปะทะกันบานปลายไปมากกว่านี้

หลังจากนั้นเราทั้งสามคนก็รีบทานรีบออกไปจากร้าน เพราะบรรยากาศไม่ค่อยจะน่านั่งต่อซะแล้ว ก่อนที่เราทั้งสามคนจะเดินไปเลือกดูโปรแกรมหนังว่าจะดูเรื่องอะไร บทสุดท้ายก็ต้องตามใจเจ้าตัวเล็กตามเคย จะโทษใครก็ไม่ได้ เป็นเพราะครอบครัวเราเองแหละที่เลี้ยงน้องตามใจมาตลอด แทบจะไม่เคยขัดใจเลยด้วยซ้ำ แค่เจ้าตัวเล็กทำหน้างอก็สงสารกันทั้งบ้านแล้ว  หนังเรื่องที่เราเลือกดูเป็นแนวบู้แอ๊คชั่น พายไม่ค่อยชอบดูเท่าไหร่ แต่ก็คงดีกว่าที่จะดูแนวรักโรแมนติกหรือหนังสยองขวัญก็แล้วกัน ดูจบก็กลับบ้านเลยโดยไม่ได้แวะไปไหนอีก เพราะจะกลับไปทานอาหารเย็นกับคุณย่าสุดที่รัก อิอิ เดี๋ยวคนแก่จะน้อยใจหาว่าปล่อยให้ทานข้าวคนเดียว
                                             
************************************
จบไปแล้วนะคะกับตอนแรก เราพึ่งเริ่มเขียน ผิดพลาดยังไงก็ติชมได้นะคะ พรุ่งนี้จะลงตอนที่สองนะคะ ขอกำลังใจให้เราด้วยนะคะ
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนที่2
เริ่มหัวข้อโดย: MooKratai ที่ 02-02-2016 18:28:08
หลานคุณย่า 2  เค้ก เค้ก เค้ก[/size]
[/size][/size]
 
กลับสู่โหมดของการทำงานอีกวัน แต่พายกลับรู้สึกสนุกทุกครั้งที่ได้เปิดร้าน ทำเค้กรสชาติต่างๆ ที่ทำให้คนหลงไหลในความหวานได้ทาน พร้อมกับเครื่องดื่มหวานหอมหลากหลายเมนู  พายจะเป็นคนคิดค้นเมนูแทบจะทุกอย่างในร้าน โดยมีมิน (หมูน้อย)  ช่วยอีกแรง
 
มินเรียนเกี่ยวกับการทำเบเกอรี่โดยเฉพาะ จึงมีความชำนาญด้านการทำเบเกอรี่มากกว่าเค้ก แต่ก็สามารถทำได้ดี เมื่อได้รับการฝึกฝนจากพายโดยตรง สามารถที่จะทำเค้กเมนูต่างๆ แทนพายได้เกือบทุกเมนู

มินเป็นเพื่อนของบราวนี่ที่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กเพราะบ้านอยู่ติดกัน  เป็นเหมือนน้องชายคนเล็กอีกคน  พายรักและเอ็นดูมินเหมือนน้องแท้ๆ แต่แปลกที่พี่ซองกลับไม่คอยจะชอบมินตั้งแต่ไหนแต่ไร  มักจะล้อมินเสมอว่าอ้วนบ้างล่ะ หมูตอนบ้างล่ะ จนน้องน้อยใจไม่ค่อยจะมาบ้านเราถ้ารู้ว่าพี่ชายตัวโตอยู่บ้าน  และพยายามเลี่ยงที่จะเจอพี่ซองตลอด แม้ว่าตอนนี้มินจะไม่ได้อ้วนเหมือนในตอนเด็กก็ตาม  แต่พี่ซองก็ไม่เคยที่จะเรียกน้องดีๆ ซักครั้ง

“พี่พายฮะ แป้งสาลีกับไข่ใกล้จะหมดแล้วฮะ ให้มินไปซื้อไหม”

“ ไม่ต้องๆ หมูน้อยอยู่ช่วยพี่ทำขนม แล้วจดรายการให้เปรี้ยวไปซื้อดีกว่า” เปรี้ยวคือเด็กเสริพในร้าน หรืออาจจะมากกว่านั้น ทำงานจิปาถะจนบางครั้งรู้สึกว่าใช้งานน้องเยอะไปรึเปล่า ในร้านยังมีเด็กอีกสองคน แต่เปรี้ยวจะเป็นคนที่หัวไวที่สุดทำอะไรไม่ค่อยจะพลาด พายจึงไว้ใจให้ทำงานหลายๆ อย่างแทน

“ก็ได้ฮะ แล้วบราวนี่ไปไหนล่ะฮะ” ปกติจะมาพร้อมกันแต่วันนี้มินมีธุระที่ต้องไปทำเลยออกมาก่อน

“เห็นบอกว่าหิว แวะไปซื้อขนมอะไรของเค้าไม่รู้ ข้าวก็พึ่งทานมา”

“ เป็นแบบนี้ตลอดเลย แต่ก็ไม่เห็นจะโตขึ้นซักที”  คนที่โดนเพื่อนรักนินทาเข้ามาได้ยินเข้าพอดี จึงยืนแอบฟังว่าจะนินทาอะไรมากไปกว่านี้รึเปล่า แต่ก็ไม่มีการเอ่ยใดๆ ออกมานอกจากเสียงหัวเราะสนุกของทั้งสองคนที่พากันรุมว่าตนเอง

“แหมทำยังกับตัวแล้วก็ตัว ตัวสูงใหญ่กว่าเค้างั้นแหละ”  พูดไปก็เอามืออีกข้างจิ้มอกพี่ชายกับเพื่อนรักไปคนละที ข้อหาหมั่นใส้ จนทำให้ทั้งสามคนหัวเราะออกมาพร้อมกัน เพราะขนาดตัวแต่ละคนก็ไม่มีใครโตไปกว่าใครนักหรอก

“แล้วได้อะไรมาเยอะแยะ เต็มไม้เต็มมือไปหมด กะจะกินวันนี้ให้อิ่มไปถึงอาทิตย์หน้าเลยรึไง” มินว่าเพื่อนอย่างล้อๆ ที่เล่นขนอะไรมาไม่รูเต็มไปหมด

“ฮึ...ว่าเค้า อุตส่าห์ซื้อมาเผื่อทุกคน งั้นหมูน้อยห้ามกินส่วนคนอื่นๆ กินได้” บราวนี่พูดเสียงดังให้ได้ยินกันทั่วร้าน ทำให้เพื่อนตัวน้อยข้างๆ ทำหน้ามู่ขึ้นทันที

“ชิส์!  เค้าไม่กินก็ได้”  มินงอนกลับซะเลย  ทำท่าจะเดินไปทำงานต่อไม่สนใจเพื่อนที่ยืนข้างๆ อีก

“โอ๋ๆ เค้าขอโทษน๊าหมูน้อย ไม่งอลนะคร้าบบบบ ให้กินก็ได้”  พูดจบก็เข้าไปหอมแก้มเพื่อนสนิทซ้ายทีขวาที ทำแบบนี้มาตั้งแต่เด็ก เลยรู้สึกเป็นเรื่องปกติของตนกับเพื่อน รวมทั้งทุกคนในครอบครัว

“ไม่ต้องมาหอมเลยไอ้เพื่อนบ้า”  มินแหวใส่เพื่อนรักอย่างไม่จริงจังนัก ทำให้พนักงานในร้านพากันหัวเราะอย่างถูกใจ

“เล่นกันอยู่นั่นแหละเด็กพวกนี้นิ ใกล้จะได้เวลาเปิดร้านแล้วนะ”  พี่ใหญ่สุดในร้านตัดบท ทำให้แต่ละคนแยกย้ายไปทำงานของตนเอง ยกเว้นน้องชายตัวแสบที่ยังคงป้วนเปี้ยนอยู่ข้างๆ  ไม่คิดจะสำนึก หรือช่วยคนอื่นเขาเลย

“พี่พายยยยค้าบบบบ” หลังจากเงียบไปซักพักเจ้าน้องชายก็ร้องเรียกเสียงดัง  เดินดุ่มๆ เข้ามาหลังร้าน

“อะไรเจ้าตัวแสบ”

“บราวอยากกินบลูเบอรี่ชีสเค้กอ่ะ ตัวทำเสร็จยัง”  บราวเดินเข้าไปกอดข้างหลังพี่ชาย ทำเสียงออดอ้อนอย่างเช่นทุกครั้ง

“รอแป๊บครับ พี่แต่งหน้าอยู่ใกล้จะเสร็จแล้ว”

“คนสวยใจดีที่สุดเลย อิอิ” ว่าจบก็เอาหน้าถูๆ ข้างหลังทำเสียงอ้อนยังกับลูกแมวตัวน้อยๆ

“ขี้ประจบ *////*”

“ใช่ที่ไหนเล่า ก็พี่พายทั้งสวยแล้วก็ใจดีจริงๆ นี่นา”  คนนี้ชอบชมว่าพี่ชายตนเองสวยตั้งแต่ไหนแต่ไร ทั้งๆ ที่พายเป็นผู้ชาย ห้ามยังไงก็ไม่ยอมฟัง เพราะไม่อยากให้คนอื่นมองตนเองแปลกๆ  จึงอนุญาติให้พูดเฉพาะภายในครอบครัว หรือคนที่สนิทจริงๆ เท่านั้น

“เข้ามาอีกแล้ว จะเอาอะไรอีกล่ะเนี่ย” มินที่พึ่งเดินเข้ามาจากการไปช่วยดูหน้าร้าน เพราะช่วงเวลาเที่ยงๆ แบบนี้ลูกค้าค่อนข้างเยอะ โดยเฉพาะเหล่าบรรดาสาวๆ พนักงานบริษัท ที่บางครั้งมาทานเค้กแทนมื้อเที่ยงกันเลยทีเดียว

“ลูกค้าเยอะไหมหมูน้อย” พายเอ่ยถามคนมาใหม่ที่เดินมายืนข้างๆ

“เยอะฮะ ก็เลยจะมาเรียกบราวนี่ไปช่วยนี่และฮะ”

“งั้นเหรอ เดี๋ยวพี่ทำบลูเบอรี่ชีสเค้กเสร็จแล้วจะออกไปช่วย ส่วนเราน่ะก็ไปช่วยคิดเงินได้แล้วไป”

พี่ชายคนสวยผลักบราวนี่ให้ออกไปช่วยคนอื่นๆ ที่หน้าร้าน  ส่วนสาเหตุที่ให้ทำแค่นั่งโต๊ะแคชเชียร์คิดเงินน่ะเหรอ เพราะเจ้าตัวแสบมีความอดทนต่ำ โดนใครแซวหน่อยไม่ได้ โมโหเป็นฟืนเป็นไป เคยมีครั้งหนึ่งปาเค้กใส่หน้าลูกค้าผู้ชายที่ทำท่าก่อร่อก้อติกใส่ตนเอง  เกือบได้ไปเคลียร์ที่โรงพักแล้วไหมล่ะ ถ้าพายไม่ออกไปเคลียร์โดยให้บัตรกำนัลเขาทานขนมหรือเครื่องดื่มที่ร้านไปฟรีๆ สองพันบาท

“เก็บไว้ให้บราวสองชิ้นนะ บราวไปหน้าร้านกอ่น” ยังไม่ลืมที่จะพูดเรื่องของกิน

*********************************************

“รับอะไรดีฮะ” เสียงมินนี่เอ่ยถามลูกค้าสาวกลุ่มหนึ่งที่มานั่งทานประจำ

“วันนี้มีเมนูอะไรพิเศษไหมคะ”

“มีบลูเบอรี่ชีสเค้ก กับลูเบอรี่ชีสพายเพิ่มมาฮะ อีกสักพักน่าจะเสร็จ”  ทางร้านจะขนมและเค้กเมนูประจำที่ขายทุกวันอยู่ประมาณสิบอย่าง แต่จะมีเมนูพิเศษบ้างในบางวันที่พายและมินพอจะมีเวลาทำถ้าวันไหนลูกค้าไม่เยอะเกินไป และบริการทั้งเครื่องดื่มร้อนและเย็นต่างๆ บริการด้วย ทำให้เป็นที่ถูกอกถูกใจของเหล่าบรรดาสาวน้อยสาวใหญ่ที่เข้ามาทานเป็นอย่างมาก

“อีกนานไหมคะกว่าจะเสร็จ”

“น่าจะไม่เกินห้านาทีฮะ รอได้ไหมฮะหรือจะทานเค้กชาเขียวก็อร่อยนะฮะ ทานกับชามะลิร้อนๆ น่าจะเข้ากันดี หรือกับกาแฟก็ได้” ด้วยรสชาติและอัธยาศัยที่ดีและยิ้มแย้มตลอดเวลาของพนักงานทุกคน จึงเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ร้านมีลูกค้าประจำเยอะพอสมควร ทั้งที่พึ่งเปิดร้านได้ไม่นาน

“งั้นเอาเค้กชาเขียวสองที่  แล้วก็บลูเบอรี่ชีสเค้กสอง  บลูเบอรี่ชีสพายอีกหนึ่งค่ะ ส่วนเครื่องดื่มเอาชาร้อนสี่ที่ กับอเมริกาโน่เย็นที่หนึ่งค่ะ”  กลุ่มลูกค้าสาวๆ สั่งสิ่งที่ตนเองอยากทานคนละอย่างสองอย่าง

“รอสักครู่นะฮะ”

ทุกคนในร้านกำลังง่วนอยู่กับการบริการลูกค้า  เพราะเป็นช่วงทำเงิน ทั้งเปรี้ยว สอง คีย์ ก็บริการลูกค้าอย่างเต็มที่ ขณะที่พายก็ทำเมนูพิเศษเสร็จทันพอดี ก่อนที่จะมาช่วยเสริฟด้วยเช่นกัน

 หลังจากล่วงเลยเวลายุ่งๆ ในช่วงเที่ยงมาแล้วทุกคนจึงได้พักทานอาหาร โดยสลลับกันอยู่หน้าร้าน อาหารเที่ยงส่วนใหญ่พายจะเป็นคนซื้อให้ทุกคน แล้วแต่ว่าใครจะทานอะไร พวกเด็กๆ ที่ร้านเลยทั้งรักและหวงพายยิ่งกว่าคนในครอบครัวซะอีก  เพราะความใจดีและคอยช่วยเหลือเรื่องต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นค่าเทอมในยามที่เด็กที่ร้านเดือดร้อน พายไม่ได้ให้เลยแต่จะเป็นการยืมและหักจากเงินเดือนเดือนล่ะห้าร้อยบาท เพื่อไม่ให้เด็กๆ ในร้านเดือดร้อน หรือถ้าเดือนไหนจำเป็นต้องใช้เงินก็ให้บอก พายไม่เคยเกียงงอนที่จะช่วยเหลือเลยสักครั้ง
**********************************

“Sweet at Heart ยินดีต้อนรับครับ” บราวนี่เอ่ยทักทายลูกค้า เมื่อได้ยินเสียงกระดิ่งหน้าร้านดังขึ้นโดยที่ไม่ได้เงยหน้าดูลูกค้าที่พึ่งก้าวเข้ามาในร้าน จนกระทั่งได้ยินเสียงแว้ดๆ ของหญิงสาวดังขึ้น

“โอ๊ะโอ!  ช่างบังเอิญอะไรแบบนี้นะ” คำพูดและน้ำเสียงเยาะคนที่ยืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์แคชเชียร์ ทำให้บราวนี่ขมวดคิ้วมุ่น  ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาสบตากับลูกค้าสาว

“ยังมีคนกล้าจ้างแกทำงานอยูเหรอเนี่ยไอ้เด็กเหลือขอ” ร่างของหญิงสาวที่เคยปะทะคารมกันที่ห้างตรงเข้าไปหาบราวนี่อย่างจงใจแกล้ง

“ก็มีนะฮะ ไม่งั้นผมจะมายืนอยูนี่ได้ไง”  ในเมื่อโดนกวนประสาท ก็ไม่จำเป็นต้องให้เกีรยติ

“แก! ไอ้เด็กเหลือขอกล้ายอกย้อนฉันเหรอ” หญิงสาวทำท่างื้อมือจะตบบราวนี่

“เกิดอะไรขึ้นบราว ทำไมมายืนเถียงกับลูกค้าแบบนี้” พายซึ่งได้ยินเสียงคนทะเลาะกันอยู่หน้าร้านจึงรีบออกมาดู กลับเจอคู่กรณีของน้องชาย คือคนๆ เดียวกับกับวันที่ไปห้างวันนั้น

“บราวนี่ใจเย็นๆ นะ” มินเอ่ยเตือนเพื่อนเพราะรู้ดีว่าเพื่อนสนิทค่อนข้างเป็นคนตรงๆ แต่ถ้าไม่มีใครมาระรานก่อนบราวนี่ก็ไม่มีทางที่จะทำแบบนี้ ยังดีที่ตอนนี้เป็นช่วงบ่ายคนยังไม่เยอะ

“ใครเป็นเจ้าของร้าน” หญิงสาวคู่กรณีเอ่ยเสียงดัง ขณะเดียวกันกับที่ประตูร้านมีคนเปิดเข้ามาพอดี

“ผมเองฮะ” พายเอ่ยขณะเหล่ตาไปมองผู้มาใหม่ คือชายคนที่เจอที่ร้านซูชิวันนั้น

“คุณไม่คิดจะตักเตือนพนักงานในร้านบ้างเลยเเหรอ ที่มายืนเถียงกับลูกค้าแบบนี้ ที่สำคัญเด็กไม่มีมารยาทไร้การศึกษาขนาดนี้ยังรับเข้าทำงานอีกเหรอ” หญิงสาวด่ารัวเป็นชุด ไม่เปิดโอกาศให้ทั้งพายและบราวนี่ได้แก้ตัวเลยแม้แต่นิดเดียว

“ขอโทษด้วยครับ ทางร้านเราจะปรับปรุงให้ดีขึ้นกว่านี้” พายก้มหัวแสดงคำขอโทษกับลูกค้าสาว ซึ่งการกระทำทั้งหมดอยู่ในสายตาของชายหนุ่มที่มายืนข้างๆ หญิงสาวคนนั้น

“พี่!” บราวนี่ได้แต่เรียกพี่ชายเพราะทำอะไรไม่ได้

“ฉันว่าคุณน่ะไล่มันออกไปเลยดีกว่า ไอ้เด็กไม่มีมารยาท สงสัยพ่อแม่คงไม่มีเวลาอบรมสั่งสอน จึงกลายเป็นเด็กเหลือขอแบบนี้ เด็กไร้การศึกษา เข้าใจไหมคำว่าลูกค้าคือพระเจ้าน่ะ” คำด่าที่รุนแรงสร้างความตกใจให้กับทุกคนที่ยืนอยู่ในเหตุการณ์อย่างมาก
 
“คุณรตีพอได้แล้ว ผมว่าเรากลับกันเถอะครับ” ปากก็คุยกับผู้หญิงที่ชื่อรตี แต่สายตาของชายหนุ่มกลับจ้องมองพายอยู่ตลอดเวลา ‘ฮึ! นึกว่าจะยืนเป็นเสาหิน ไร้ความรู้สึก’ พายได้แต่สบถในใจ

“ยังไม่กลับค่ะ จนกว่าเจ้าของร้านจะไล่มันออก”

“ผมคงไล่ออกไม่ได้หรอกฮะ เพราะคนที่คุณยืนว่าอยู่ตอนนี้คือน้องชายของผม และพ่อแม่ที่คุณว่าไม่สั่งสอน ก็คือพ่อแม่ของผมด้วย” เป็นครั้งแรกที่พายพูดเสียยืดยาว หลังจากที่ออกมาก้มหน้าขอโทษทั้งๆ ที่ไม่ได้ทำอะไรผิด

“อ๊อ! พวกเดียวกัน คิดจะรุมชั้นงั้นสิ”

“ถ้าคุณไม่พอใจบริการร้านของเรา ผมก็ต้องขอโทษด้วยครับ”

“พวกแกรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร ถ้าฉันจะจัดการพวกแกง่ายยิ่งกว่าปลอกกล้วยเข้าปาก”

“ผมไมรู้หรอกว่าคุณใหญ่โตมาจากไหน แต่ที่นี่มันร้านของผม ถ้าคุณไม่พอใจก็ไปซื้อที่อื่น แต่ถ้าคุณยังอยากทานขนมร้านของเราผมก็ยินดี” พายเอ่ยอย่างไม่ใยดี ในเมื่อไม่มีมารยาทก็ไม่จำเป็นต้องสนใจ พยายามข่มอารมณ์ตัวเองให้มากที่สุด

“ร้านขนมห่วยๆ แบบนี้ฉันไม่ทานให้เสียปากหรอก มีแต่พวกชั้นต่ำเท่านั้นแหละที่จะทาน”

“อ้าวคุณ พูดอย่างนี้ได้ยังไงคะ คุณเคยทานเค้กร้านนี้บ้างรึเปล่า แล้วดิฉันก็เป็นลูกค้าประจำที่นี่ เจ้าของร้านและพนักงานทุกคนเค้าใจดี มีมารยาทนะคะ เผลอๆ จะเยอะกว่าคุณซะอีก ที่มายืนด่าฉอดๆ ตอนแรกไม่คิดว่าจะเข้ามายุ่งแล้วเชียว แต่มันชักจะเกินไป” ลูกค้าสาวท่านหนึ่งเอ่ยคำที่พนักงานทุกคนอยากจะพูด

“แล้วแกมาสอดเรื่องคนอื่นเขาทำไม”

“ตอนแรกฉันก็คิดว่าเป็นเรื่องคนอื่น แต่ตอนนี้มันคงไม่ใช่ เพราะคุณกำลังพาดพิงถึงดิฉัน”   คำพูดของลูกค้าสาวสร้างความงุนงงให้กับรตีเป็นอย่างมาก

“ฉันไปว่าแกตั้งแต่เมื่อไหร่” เธอเปลี่ยนเป้าหมายหันมาวีนใส่ลูกค้าที่ร้านแทน

“ก็ที่คุณว่าลูกค้าชั้นต่ำไง จำไม่ได้เหรอ หรือว่าความจำสั้น แล้วว่าคนอื่นกรุณาสำรวจตัวเองบ้างนะคะว่าใครกันแน่ที่ชั่นต่ำ มาถึงก็ด่าคนอื่นปาวๆ ทั้งๆ ที่ตัวเองก็ไม่ได้ดีไปซะเท่าไหร่” รตีถึงกับหน้าเหวอไปชั่วขณะ แต่ก็ดึงสติกลับมาได้

“แล้วแกจะได้เห็นดีกัน ฉันจะให้คุณพ่อมาจัดการแก” ยังคงวางอำนาจไม่เลิก

“งั้นก็เชิญกลับไปฟ้องคุณพ่อของคุณได้เลยนะคะ จำชื่อดิฉันให้ขึ้นใจนะคะ ดิฉัน กีรติกุล วงษ์ประเสริฐ ถ้าคุณอยู่ในแวดวงธุรกิจคงน่าจะรู้จักอยู่บ้าง” หญิงสาวเอ่ยชื่อตนเองอย่างเต็มยศ ทำให้คนที่ได้ฟังหน้าซีดเผือด เพราะตระกูลของเธอเป็นเจ้าของบริษัทนำเข้าและส่งออกเคมีภัณฑ์รายใหญ่ที่สุดในแถบเอเชียเลยก็ว่าได้

“ฝากไว้ก่อนเถอะ” พูดจบก็เดินดุ่มๆ ออกจากร้านอย่างเสียหน้า

“ผมขอโทษแทนคุณรตีด้วยนะครับ” หลังจากที่ยืนเงียบอยู่นาน ชายหนุ่มตัวโตที่ยืนเป็นเสาหินไร้ความรู้สึกก็เอ่ยขึ้น

“คุณไม่ได้ผิดไม่ต้องขอโทษฉันหรอกค่ะ คนที่ควรจะขอโทษคือผู้หญิงที่เดินออกไปข้างนอกแล้วต่างหาก และก็ไม่ต้องขอโทษดิฉันหรอก ควรขอโทษพวกน้องๆ เขามากกว่า” หญิงสาวชี้มือมาทางพายและน้องๆ อีกสองคน

“ขอโทษอีกครั้งนะครับ” ชายหนุ่มกล่าวขอโทษอย่างรู้สึกผิดจริงๆ

“ไม่เป็นไรหรอกฮะ เรื่องมันแล้วไปแล้วก็ให้มันผ่านไป” พายเอ่ยตอบอย่างไม่ได้แสดงอารมณ์ขุ่นเคืองเลยซักนิด ทั้งๆ ที่ในใจอยากจะกระโจนไปขย่ำคุณไฮโซซะเต็มประดา

“งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ” ชายตัวโตกล่าวแล้วหันหลังเดินออกไป

หลังจากเหตุการณ์ทุกอย่างสงบลง ทั้งพายและคนอื่นๆ ก็ได้แต่ถอนหายใจอย่างโล่งอก ที่เหตุการณ์ไม่บานปลายไปมากกว่านี้

“พายขอโทษด้วยนะฮะ ที่ทำให้คุณเสียบรรยากาศเลย” หนุ่มหน้าสวยหันมาขอโทษลูกค้าสาวเจ้าประจำ

“ไม่เป็นไรหรอกจ๊ะ พี่ต่างหากที่ต้องขอโทษ ทำให้ทุกคนวุ่นวายเลย อิอิ” พายพอจะรู้จักว่าหญิงสาวตรงหน้าอยู่บริษัทใหญ่ๆ ที่เดินไปอีกสองช่วงตึกก็ถึง แต่ไม่คิดว่าเธอจะเป็นเจ้าของบริษัทแห่งนั้น

“พี่สาวเจ๋งที่สุดเลย ตอกยัยนั่นหน้าหงายไปเลย คึคึ” เสียงคนทะเล้น และไม่ได้สำนึกว่าความผิดส่วนหนึ่งมาจากตนเหมือนกันดังขึ้น

“บราวนี่!”  พายเอ่ยปรามน้องชายที่แสนทะเล้น

“ก็มันจริงนี่นา บราวนี่ไม่ผิดซะหน่อย”
“พอเลยเราอย่างน้อยเขาก็เป็นผู้หญิง เราน่ะผู้ชาย” พายปรามน้องชายอีกครั้ง

“แต่ผู้หญิงแบบนี้ ไม่ต้องไปให้เกีรยติหรอกฮะ” มินเอ่ยเสริม จังหวะเดียวกันกับที่บราวนี่ยกมือขึ้นแท็กกันอย่างถูกใจ ที่เพื่อนรักเข้าข้าง

“พอๆ กันทั้งสองคนสินะ” คนพี่ได้แต่ส่ายหัวอย่างเอือมระอากับน้องชายทั้งคู่

“โธ่! ก็มันจริงนี่ฮะ” พูดจบก็อ้อนอย่างเอาใจ เข้าไปกอดพี่ชายคนสวย มีหรืออีกคนจะยอมก็เข้าไปกอดด้วยเหมือนกันคนละข้าง

“น่ารักกันจังนะคะ”

“ขอโทษด้วยนะฮะ เดี๋ยวเอาเค้กชิ้นใหม่ไปเสริฟให้นะฮะ กับเครื่องดื่มน่าจะละลายหมดแล้ว” พายเอ่ยอย่านึกขึ้นได้

“ไม่เป็นไรค่ะๆ”

“ไปนั่งรอเลยฮะพี่คนสวย บราวนี่จัดการให้เอง” คนตัวเล็กเอ่ยอย่างกระตือรือล้น ก่อนที่จะจูงมือหญิงสาวกลับไปนั่งโต๊ะ

“เรียกพี่กีก็ได้ค่ะ พี่คนสงคนสวยอะไรกัน เขินแย่เลย” พูดไปด้วยก็เดินกลับไปนั่งที่เดิม

“วันนี้บราวเลี้ยงพี่กีเองนะฮะ” เจ้าตัวแสบเอ่ยขึ้นอีกครั้ง

“ได้ยังไงล่ะคะ ของซื้อของขาย”

“ไม่เป็นไรหรอกฮะ ถือเป็นการขอบคุณที่เข้ามาช่วย” พายเอ่ยย้ำอีกครั้ง

“ได้จ๊ะ ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของมิตรภาพแล้วกัน” มินยกเค้กกับเครื่องดื่มมาเสริฟให้กับหญิงสาว

“ตามสบายนะฮะ ถ้ามีอะไรอยากให้ปรับปรุงก็บอกได้” พายเอ่ยก่อนที่จะขอตัวไปทำงาน เหลือแต่เจ้าตัวแสบที่นั่งเจื้อยแจ้วอย่างถูกคอกับพี่กี และแล้ววันนี้ก็เป็นก็จบลงด้วยความวุ่นวายสิ้นดี ‘เหนื่อยจริงๆ เลยเรา’
*********************************
  ดีไม่ดียังไงติชมได้นะคะ เพื่อเป็นกำลงใจให้คนเขียนได้แต่งต่อไป  :mew1: :mew3: ตอนนี้พึ่งเริ่มเรื่องก็ดำเนินไปเรื่อยๆ ยังไม่มีอะไรมาก  เรื่องจะเริ่มเข้มข้นขึ้นนะคะ แต่เป็นเรื่องที่ไม่ดราม่านะคะ
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนที่2
เริ่มหัวข้อโดย: xirainx@gamil.com ที่ 02-02-2016 19:13:48
 :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนที่2
เริ่มหัวข้อโดย: angelnan ที่ 02-02-2016 21:59:55
สนุกมากๆคะ แต่อยากให้พาย บทเด่นกว่านี้หน่อย เราอ่านแล้ว นึกว่า บราวนี่ เป็นนายเอก บทเด่นมาก จนเหมือนเป็นเรื่องของบราวนี่เอง 5555 แต่สนุกคะ ติดตาม ขอพระเอกแบบ ขี้หึง นะคะ เหมาะกับพายที่สวยหวาน อิออ
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนที่2
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 02-02-2016 22:44:10
น่ารักดี แต่เห็นด้วยกับความเห็นข้างบน มีแต่บราวเต็มไปหมดในช่วงเริ่มที่ควรจะแนะนำพระนาย
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนที่2
เริ่มหัวข้อโดย: rainiefonnie ที่ 02-02-2016 23:13:26
อ่านๆไปนึกว่าบราวนี่เป็นตัวเอก 
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนที่2
เริ่มหัวข้อโดย: Jthida ที่ 02-02-2016 23:15:15
รอฉากพระนายคุยกันดีๆอยู่นะ ติดตามจ้าาา
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนที่3 เพื่อนรัก?
เริ่มหัวข้อโดย: MooKratai ที่ 03-02-2016 00:45:08
หลานคุณย่า3 เพื่อนรัก?
[/size][/color]
 
“คณย่าฮะ เย็นนี้พายไปงานลี้ยงวันเกิดเพื่อนนะฮะ” พายเอ่ยขึ้นขณะที่นั่งทานอาหารเช้าพร้อมหน้ากันกับทุกคนในบ้าน ทำให้ทั้งพี่ชายและน้องชายต่างก็เงยหน้าขึ้นมาพร้อมกันอย่างสนใจ เพราะแต่ไหนแต่ไรพายแทบจะไม่ออกจากบ้านไปไหนตอนกลางคืนคนเดียวด้วยซ้ำ

“วันเกิดใคร แล้วจัดที่ไหน จะกลับดึกรึเปล่า” คุณย่าเอ่ยถามอย่างเป็นห่วงหลานชายสุดที่รัก ที่ไม่เคยไปไหนมาไหนคนเดียวในตอนกลางคืน

“คุณย่าถามยังกับพี่พายจะไปทำอะไรไม่ดีอย่างนั้นแหละ” น้องเล็กของบ้านเอ่ยขึ้น เพราะความเป็นห่วงจนเกินไปของคุณย่า

“ย่าถามพี่ของเรา ไม่ได้ถามเราเจ้าตัวแสบ”

“ก็ทีบราวไปเที่ยวกับเพื่อนคุณย่ายังไม่เคยถามเลยนี่ฮะ น้องบราวเลยสงสัย”

“พี่ชายเราเหมือนเราซะที่ไหนล่ะ เคยออกไปตอนกลางค่ำกลางคืนแบบนี้ที่ไหน” 

“ย่าจ๋า น้องพายดูแลตัวเองได้ฮะ แค่ไปงานวันเกิดชะเอม เพื่อนพายที่เคยเรียนด้วยกันมาตั้งแต่เด็กๆ คุณย่าก็รู้จักนิฮะ” ชะเอมเพื่อนสนิทเพียงไม่กี่คนของพาย ที่รู้จักกันมาตั้งแต่ประถม จนตอนนี้ก็ยังติดต่อกันอยู่ แต่ไม่ค่อยได้เจอกันเท่าไหร่ เพราะต่างคนต่างยุ่งกับงานของตนเอง มีนัดเจอกันบ้างนานๆที เพื่อไถ่ถามสารทุกข์สุกดิบกันเป็นธรรมดา

“ย่ารู้ แต่ก็อดเป็นห่วงไม่ได้ เอาอย่างนี้ไหมล่ะ ให้พี่ชายเราไปเป็นเพื่อน หรือจะเอาเจ้าแสบไปด้วยก้ได้” คุณย่าเสนอทางออกให้เสร็จสรรพ

“น้องพายโตแล้ว ดูแลตัวเองได้ไม่ต้องห่วงหรอกนะฮะ” พายเดินเข้ามาออดอ้อนคุณย่าสุดที่รักให้ใจอ่อน

“ให้พี่ไปเป็นเพื่อนก็ได้นะ พี่ไม่ได้มีนัดไปที่ไหนวันนี้” พี่ชายที่อดเป็นห่วงน้องชายไม่ได้เอ่ยขึ้น

“พอกันทั้งคุณย่าทั้งพี่ซองเลย” บราวนี่เอ่ยขึ้น อย่างเอือมๆ กับความหวงจนออกจะเกินไปของทั้งคุณย่าและหลานชายคนโต

“ตามใจก็แล้วกัน ย่าไม่ห้ามแล้ว แต่อย่าลืมดูแลตัวเองดีๆล่ะ” มือที่เหี่ยวย่นไปตามวัยลูบหัวพายอย่างเอ็นดู

“ขอบคุณฮะ รักย่าที่สุดเลย”  พูดจบปุ๊บก็หอมแก้มคนเป็นย่าซ้ายทีขวาที แบบที่ทำเป็นประจำ

“ ก็เป็นซะอย่างนี้ทุกทีจะไม่ให้ย่าเป็นห่วงได้อย่างไร”
**************************************

 
พายเดินลงมาจากรถโฟล์คคันเล็กของตนที่ใช้ประจำอย่างประหม่า เพราะตั้งแต่โตพอที่จะเข้าผับได้ นี่ก็เป็นครั้งที่สองที่พายเคยมาสถานที่ที่เต็มไปด้วยนักเที่ยวกลางคืน  ครั้งแรกก็ตอนที่เพื่อนๆ ทั้งห้องชวนมาฉลองจบการศึกษา หลังจากนั้นพายก็ไม่เคยมาสถานที่แบบนี้อีกเลย เพราะมันค่อนข้างจะรู้สึกอึดอัดไปหมด ทั้งผู้คนและสถานที่ นี่ถ้าไม่ใช่วันเกิดของเพื่อนสนิทอย่างชะเอม พายคงไม่คิดจะมาที่แบบนี้อีกเป็นแน่

พายเดินตรงเข้ามาในผับที่ค่อนข้างจะดูไฮโซ ไม่เหมือนกับสมัยที่เคยไปกับเพื่อนตอนเรียน ภายในที่มีเพียงแสงสลัวๆ ของไฟที่ส่องพอให้เห็นทางเดิน กับเสียงเพลงที่ค่อนข้างดังเข้ามาในโสตประสาทของพายเป็นอย่างมาก  พายพยายามต่อสายหาเพื่อนตนเองว่านั่งอยู่โต๊ะไหน แต่อาจจะเป็นเพราะเสียงเพลงที่ดังเกินไปทำให้ชะเอมไม่รับสาย เขาพยายามต่อสายอีกครั้งจนมีคนรับ แต่เสียงนั้นกลับเป็นเสียงผู้ชาย

“สวัสดีฮะ ใช่เบอร์ชะเอมหรือเปล่าครับ” พายถามออกไป

“ใช่ครับ พอดีชะเอมไปเข้าห้องน้ำคุณมีอะไรรึเปล่า” ชายคนดังกล่าวเอ่ยตอบออกมา

“ผมมาวันเกิดชะเอมนะฮะ  ตอนนี้อยู่ตรงทางเดินเข้าไป ไม่ทราบว่านั่งตรงไหนกันฮะ”  ชายคนดังกล่าวบอกทางให้พายเดินตรงเข้าไปข้างใน โต๊ะที่เพื่อนของพายจองไว้อยู่ตรงหน้าเวทีชั้นหนึ่ง สังเกตุว่ามีชั้นบนที่แบ่งเป็นห้องกระจกใส น่าจะเป็นโซนวีไอพี พายเดินเข้าไปอย่างไม่ค่อยจะแน่ใจเท่าไหร่เพราะในโต๊ะไม่มีคนที่ตนรู้จักเลยแม้แต่คนเดียว มีสายตาหลายคู่จับจ้องมาที่พายอย่างจงใจ จนทำให้เขารู้สึกประหม่า พายพยายามเดินเร็วๆ โดยไม่สบสายตาพวกเสือสิงห์ทั้งหลาย  จนเกือบจะถึงโต๊ะเสียงของหญิงสาวที่คุ้นเคยก็ดังขึ้นมา

“พายทางนี้” ชะเอมเอ่ยเรียกพร้อมกับโบกไม้โบกมือเป็นสัญญานให้รู้ว่าตนเองอยู่ที่ไหน ก่อนที่จะเดินตรงไปยังโต๊ะที่เพื่อนตนจองไว้

“สุขสันต์วันเกิดนะเอม” พายยื่นของขวัญที่เตรียมมาให้เพื่อนส่งให้เจ้าของวันเกิด

“ขอบใจจ๊ะ แต่ไม่เห็นต้องเอาอะไรมาเลย แค่พายมาเอมก็ดีใจที่สุดแล้ว” เพื่อนสาวคนสนิทกอดพายอย่างขอบคุณ

“นานๆ เจอกันทีนี่นา คิดถึงจังเลย”

“เดี๋ยวเราแนะนำเพื่อนๆ ให้รู้จักนะ” ทุกคนในโต๊ะจ้องมองพายเป็นตาเดียวด้วยความที่พายเป็นผู้ชายหน้าหวานออกไปทางสวยแถมยังตัวเล็กอีกต่างหาก จึงเป็นที่สนใจของใครหลายๆ คน

“คนนี้น้ำหวาน  ส่วนนี่บอยแฟนเรา นี่คิม แป้ง มิลล์ และก็ต้น เพื่อนที่ทำงานของเรา”

“ยินดีที่ได้รู้จักฮะ” พายเอ่ยก่อนจะโค้งให้กับทุกคน

“เป็นไงเพื่อนเอมน่ารักอย่างที่บอกเลยใช่ไหมล่ะ”

“พายน่ารักจัง ไม่สิต้องบอกว่าสวย สวยจนเราที่เป็นผู้หญิงยังอายเลย” มิลล์เป็นคนเอ่ยขึ้น คนอื่นๆ ก็พยักหน้าหงึกๆ เป็นเชิงว่าเห็นด้วยกับสิ่งที่เธอพูด ยกเว้นเพียงหนึ่งคน คือน้ำหวานที่จ้องพายพร้อมกับเบะปากอย่างหมั่นใส้ที่ทุกคนดูจะให้ความสนใจกับผู้มาใหม่อย่างพาย
“ไม่หรอกฮะ ผมจะสวยได้ยังไง ผมเป็นผู้ชายนะฮะ” คนหน้าสวยรีบเอ่ยปฏิเสธในทันที

‘เราเป็นผู้ชายนะ ทำไมต้องชอบมองว่าเราสวยด้วยล่ะ T-T’  พายได้แต่เอ่ยตัดพ้อในใจ
อีกคนที่ดูจะสนใจพายเป็นพิเศษก็คือบอยแฟนของชะเอม ที่คอยจะตักนู่นตักนี่ให้พายตลอด จนทำให้คนตัวเล็กรู้สึกแปลกๆ  กับการกระทำของบอยที่ตอนนี้ย้ายมานั่งข้างพายตั้งตาเมื่อไหร่ไม่รู้

“คุณพายดื่มไหมครับ” บอยเอ่ยถามพายอีกครั้ง ทั้งๆ ที่พายพยายามจะไม่สนใจ

“พายขอเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอลล์นะฮะ” หลังจากตอบแล้วก็หันคุยกับมิลล์ที่ค่อนข้างจะเข้ากับพายง่ายกว่าคนอื่นๆ  ส่วนชะเอมก็ไม่ได้สังเกตุแฟนตนเองเลยว่ามายุ่มย่ามกับพายจนเกินไป เพราะต้องคอยเทคแคร์เพื่อนคนอื่นๆ  คงจะมีแต่น้ำหวานที่เวลาที่พายหันไปสบตาทีไรชอบทำตาขวางใส่ตลอดเวลา พายก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าไปทำอะไรให้เธอไม่พอใจตั้งแต่เมื่อไหร่ พยายามจะไม่คิดอะไร แต่พอมองไปทีไรก็เป็นแบบเดิม

ทุกคนที่มางานวันเกิดชะเอมวันนี้เป็นเพื่อนที่ทำงาน ทั้งหมดอยู่แผนกเดียวกันรวมทั้งแฟนของชะเอมด้วย คุณบอยเป็นหัวหน้าที่แผนกที่ชะเอมทำงานอยู่ เข้ามาจีบชะเอมก่อนจนคบกันเป็นแฟนสี่เดือนแล้ว เอมเล่าให้ฟังว่าคุณบอยเจ้าชู้มาก แต่ก็พยายามพิสูจน์ให้เห็นในความดี จนใจอ่อนยอมคบเป็นแฟนในที่สุด เห็นเพื่อนรักมีความสุขพายก็ดีใจ ขอให้เขารักชะเอมจริงๆ ทีเถอะ  แต่ไอ้ที่มานั่งทำสายตากรุ้มกริ่มใส่พายนี่สิ มันชักจะยังไงๆ แล้ว แต่พายก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากทำเป็นไม่สนใจ  เขาพยายามเอื้อมมือมาจับมือบางที่วางไว้บนโต๊ะ จนเจ้าตัวถึงกับสะดุ้ง ไม่ใช่แค่ครั้งเดียวยังมีครั้งที่สองที่สามจนพายต้องเอามือลงจากโต๊ะ
พายสังเกตุเห็นว่าคุณบอยกับน้ำหวานแอบจับมือกัน แถมบางครั้งคุณบอยยังเอามือลงไปลูบขาของหญิงสาวใต้โต๊ะอีกด้วย  อีกคนก็ไม่มีท่าทีจะปฏิเสธ แถมยังยิ้มยั่วคุณบอยอย่างจงใจ สงสารก็แต่ชะเอมเพื่อนของเขาที่ไม่รู้อะไรเลย หัวอ่อนก็ที่หนึ่ง อยากจะบอกให้เอมได้รู้ตอนนี้ แต่ก็ไม่อยากให้ทะเลาะกันในงานวันเกิดของเพื่อน หรืออีกอย่างอาจจะไม่มีใครเชื่อเลยก็ได้

“อย่าอ่อยให้มันมากนักนะนายน่ะ คนเขามีแฟนแล้ว แม้จริงๆ แล้วนายจะไม่แมนก็ตาม” อยู่ดีๆน้ำหวานก็เดินมากระซิบที่ข้างหูของพาย จนพายได้แต่อึ้งกับคำพูดของหญิงสาว

“มีอะไรกันเหรอ” ชะเอมที่เห็นเหตุการณ์เดินมาถาม

“ไม่มีอะไรหรอกเอม น้ำหวานแค่เข้ามาทักทายเพื่อนใหม่ก็แค่นั้น” หญิงสาวช่างคิดคำแก้ต่างได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งแตกต่างจากพายที่ยังทำหน้าเหวออยู่

“พายดื่มอะไรอีกไหม สั่งได้เลยนะ” ชะเอมบอกเพื่อนรัก ก่อนที่น้ำหวานจะชวนไปเข้าห้องน้ำ

หลังจากที่ทั้งสองคนไปเข้าห้องน้ำ คุณบอยก็ยิ่งทำตัวรุ่มร่ามใส่พายอย่างไม่เกรงใจสายตาคนอื่น เพื่อนร่วมโต๊ะก็ไม่มีใครกล้าทักท้วง เพราะกลัวตัวเองจะเดือดร้อน เพราะคุณบอยเป็นหัวหน้างาน มีก็เพียงแต่มิลล์ที่คอยพูดทีเล่นที่จริงให้คนที่คอยจะหาเศษหาเลยกับพายได้รู้ตัวบ้าง

“แหม! คุณบอยแฟนไปเข้าห้องน้ำแป๊บเดียว กะจะหาคนใหม่เลยเหรอคะ” มิลล์เอ่ยกลั้วหัวเราะ ก่อนจะกระซิบกับพายเบาๆ ให้ได้ยินแค่สองคน

“ระวังอีตาบอยดีๆ นะพาย ปากว่ามือถึง เราเห็นจ้องพายยังกับจะกลืนกินเข้าไปทั้งตัว”
“ไม่มีอะไรหรอกมั้งมิลล์  เขาคงแค่คอยบริการพายเพราะพายไม่รู้จักใครมั้ง”
“ให้มันจริงเถอะย่ะ ยังไงก็ระวังตัวไว้ดีกว่า”
“อือ เข้าใจแล้ว”

**************************************
ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นะคะ ตอนแรกเราก็คิดว่าบทของน้องบราวดูเด่นกว่า แต่มันเป็นพาร์ทของครอบครัวที่น้องบราวจะเป็นศูนย์กลางของทุกคนในบ้าน บทน้องบราวเลยเยอะไปหน่อย :mew2:  เราจะพยายามปรับปรงให้ดีขึ้นนะคะ ดีไม่ดียังไงบอกได้เลยค่ะ ยินดีรับทั้งคำติและคำชมเพื่อที่จะพัฒนาต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนที่3 เพื่อนรัก?
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 03-02-2016 02:11:12
สงสารชะเอม รีบๆเลิกนะกับผู้ชายพรรค์นี้
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนที่3 เพื่อนรัก?
เริ่มหัวข้อโดย: angelnan ที่ 03-02-2016 07:43:13
อยากให้พาย ทันคนกว่านี้ถ้าเป็นแบบนี้ เราว่าไม่น่ารอดมาจนอายุป่านนี้หลอก ทันคนขึ้น มันจะดูเหมาะสมกับอายุหน่อยเพราะว่าอายุก็ยี่สิบกว่าแล้ว น่าจะผ่านทั้งคนดีและไม่ดีมาบ้างตอนนี้เราอ่านแล้วรู้สึกว่า เหมือนพาย เพิ่งขึ้น ม.4 แล้วโดนเพื่อนบังคับมา
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนที่3 เพื่อนรัก?
เริ่มหัวข้อโดย: MooKratai ที่ 03-02-2016 12:27:53
 ต่ออีกนี๊ดดดนึงค่ะ

“ชะเอมเธอสังเกตุอะไรไหม” น้ำหวานเป็นคนเอ่ยขึ้นระหว่างทางเดินไปห้องน้ำ

“มีอะไรเหรอน้ำ สังเกตุอะไร” อีกคนทำหน้าสงสัยกับคำพูดของเพื่อนร่วมงาน

“ก็เพื่อนเธอนะสิ อ่อยคุณบอยซะออกนอกหน้าเลยนะ”   น้ำหวานพยายามใส่ไฟให้ชะเอมโกรธพาย ทั้ง ๆ ที่ก็รู้อยู่แก่ใจว่าไม่ใช่พายที่อ่อยหรือยั่ว จะมีก็แต่คุณบอยที่พยายามเข้าหาพายตลอดเวลา

“ไม่จริงหรอกมั้งน้ำ พายไม่ใช่คนแบบนั้นนะ” ชะเอมเอ่ยบอกเพื่อนอย่างที่ตนคิด

“เธอมันหัวอ่อนไงชะเอม เพื่อนจะสวมเขาให้ยังไม่รู้อีกเหรอ”  ทั้งๆ ที่คนที่จ้องจะสวมเขาให้กับเพื่อนก็คือตนเอง แต่กับใส่ความคนอื่น เพราะกลัวว่าคุณบอยจะหันไปสนใจพาย

ทั้งๆ ที่ตัวเองจ้องจะจับแฟนเพื่อนเอาไว้ซะเอง เพราะทั้งน้ำหวานและคุณบอยแอบบมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งลับหลังชะเอมมาตลอด  หญิงสาวกลัวว่าชายหนุ่มจะหันไปสนใจพายจึงคิดจะตัดไฟเสียแต่ต้นลม เพราะลำพังชะเอมนั้นน้ำหวานคิดว่าคงกำจัดได้ไม่ยาก ผู้หญิงเรียบๆ ที่แทบจะไม่มีอะไรน่าสนใจอีกไม่นานคุณบอยก็คงจะเบื่อ ตรงกันข้ามกับน้ำหวานที่ค่อนข้างจะเป็นคนมั่นใจในตัวเอง และแต่งตัวจัดจ้าน
 
แต่ตอนนี้กลับมีพายเดินเข้ามาเป็นหมากอีกตัว ทำให้น้ำหวานค่อนข้างจะหวั่นใจ เพราะเสน่ห์ บวกกับหน้าตาของพายที่สวยหวานเกินชาย ทำให้น้ำหวานเกิดระแวงในตัวของบอยขึ้นมาจึงคิดแผนเพื่อจะกำจัดพายออกไปให้พ้นทาง แม้ว่าพึ่งเคยเจอกันแค่ครั้งเดียวก็ตาม แต่สายตาที่คุณบอยจ้องมองพายแทบจะตลอดเวลา น้ำหวานจึงเกิดความระแวง เพราะคุณบอยเจ้าชู้น้อยซะที่ไหน

“ก็ไม่เห็นมีอะไรเลย พายก็คุยกับคุณบอยปกติดีน่นา” ชะเอมยังคงแก้ตัวให้เพื่อนรักที่คบกันมาแต่เด็ก เพราะรู้นิสัยใจคอกันดี

“ปกติที่ไหน นู่น เธอดูสิจับมือถือแขนกันซะขนาดนั้น ระวังไว้นะเพื่อนรักจะคาบคนรักของเธอไปกินซะก่อน” น้ำหวานไม่วายที่จะพูดประชดประชันใส่ชะเอม

“แล้วจะให้เอมทำยังไงเหรอน้ำ” ชะเอมเริ่มคล้อยตามคำยุแยงของน้ำหวานเพราะยืนมองจากจุดนี้ ค่อนข้างจะเห็นเหตุการณ์ต่างๆ ได้ชัดเจน ภาพของคุณบอยที่พยายามโอบกอดพายจากด้านหลังโดยที่พายไม่รู้ตัว จึงทำให้คนที่มองจากจุดนี้เห็นเหมือนกับคนที่โดนกอดรู้เห็นเป็นใจ คนที่หน้ามืดตามัวเพราะกลัวโดนแย่งคนรักไปจึงเห็นดีเห็นงามไปกับเพื่อนตนเอง

“เดี๋ยวน้ำจัดการเอง แค่เอมคอยทำตามที่น้ำบอกก็พอ”

“เธอจะไม่ทำอะไรรุนแรงใช่ไหมเอม เพราะถึงยังไงพายก็เป็นเพื่อนของเอม”

“ฉันรับรองว่าไอ้ตุ๊ดนั่นนะจะมีความสุขมากกว่า อาจจะต้องกลับมาขอบคุณเธอเสียด้วยซ้ำ” แผนการร้ายของผู้หญิงคนนี้เริ่มที่จะก่อตัวขึ้น ตอนแรกยานี้เธอตั้งใจจะเอามาใส่ให้เจ้าของวันเกิด แต่เหตุการณ์กลับตาลปัตรเพราะมีตัวแปรเพิ่มมาอีกคน จึงจำเป็นต้องจัดการหนามยอกอกก่อน

“กลับไปที่โต๊ะกันเถอะ เราออกมานานแล้ว” ชะเอมที่มีท่าทีลังเลกับสายตาที่น่ากลัวของเพื่อนร่วมงานเอ่ยขึ้น

“เธอกลับไปก่อน เดี๋ยวฉันขอจัดการอะไรบางอย่างแล้วจะเข้าไป” น้ำหวานโทรนัดแนะผู้ชายที่รู้จักสองคนให้มาที่ผับแห่งนี้ เพื่อจัดการกับพายเพราะเปลี่ยนแผนนิดหน่อยจากที่จะเป็นหญิงหน้าตาซื่อๆ ก็กลับกลายมาเป็นผู้ชายหน้าตาสวย ซึ่งเธอก็ชี้ให้ชายหนุ่มทั้งสองคนดูเป้าหมายที่จะจัดการ สร้างความพึงพอใจให้กับชายทั้งสองคนเป็นอย่างมาก

“เป้าหมายนี้น่าสนใจกว่ายัยผู้หญิงจืดชืดคนนั้นอีก” ชายหนึ่งในสองคนเอ่ยขึ้นอย่างพอใจ

“กูก็ว่างั้นแหละ แม่งผู้ชายอะไรวะโคตรแจ่ม”

“ถ้าพวกนายพอใจก็ดีแล้ว อย่าให้พลาดนะ” น้ำหวานกำชับผู้ชายสองคนก่อนจะเดินกลับเข้าไปในงานอีกครั้ง

พายยังคงนั่งอยู่ที่เดิม เพราะไม่อยากจะเดินไปไหนมาไหนในสถานที่ๆ ไม่คุ้นเคยแบบนี้ พยายามที่จะไม่สนใจคนเข้ามาเกาะแกะตนเอง  พายหันไปคุยกับมิลล์อยู่บ่อยครั้ง คิดว่าอีกซักพักก็คงจะขอตัวกลับ ถ้าเพื่อนตนเองเป่าเค้กวันเกิดเสร็จ เพราะค่อนข้างจะดึกมากแล้ว ไม่อยากจะอยู่ในสถานที่แบบนี้นานๆ เพราะรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยยังไงไม่รู้

“ดื่มนี่ก่อนซิพาย” เครื่องดื่มสีฟ้าใสถูกยื่นให้กับพายที่นั่งทานเพียงน้ำส้มกับน้ำอัดลมบ้างนิดหน่อยตั้งแต่มาถึง โดยที่ไม่แตะเครื่องดื่มที่มีแอลกอลฮอลล์เลยแม้แต่น้อย

“พายดื่มไม่เป็น น้ำดื่มเถอะ”
 
“นิดหน่อยเองไม่เมาหรอก ถ้าดื่มไม่หมดแก้วนี้น้ำไม่ปล่อยให้กลับแน่” หญิงสาวคะยั้นคะยอให้พายดื่ม จนยากที่จะปฏิเสธได้

“พายเขาดื่มไม่เป็นเธอจะยังคับทำไมน้ำ” มิลล์ที่นั่งข้างๆ เห็นอาการกระอักกระอ่วนใจของพายจึงเอ่ยแทรก ก่อนจะยื่นมือไปรับเครื่องดื่มนั้นซะเอง

“ฉันไม่ได้ให้เธอดื่มซะหน่อย เธอจะเดือดร้อนทำไมมิลล์” น้ำหวานเริ่มหัวเสียเมื่อเหุตการณ์ไม่เป็นไปตามที่วางแผนไว้

“ก็พายเขาไม่ดื่มอ่ะ อะไรของเธอเนี่ย”

“เพื่อมิตรภาพไงจ๊ะพาย สำหรับเพื่อนใหม่นะ ดื่มน้าๆ” น้ำหวานแย่งแก้วเครื่องดื่มกลับมาคืน ก่อนที่จะยื่นให้พายอีกครั้ง

“อืมมมม ก็ได้ แต่แค่แก้วนี้แก้วเดียวนะ เราไม่เคยดื่ม” พายไม่อยากให้ทั้งสองคนทะเลาะกันไปมากกว่านี้ จึงตัดบทด้วยการหยิบแก้วเครืองดื่มสีสวยมากระดกที่เดียวจนหมดแก้ว

“ไหวไหมพาย” มิลล์เอ่ยอย่างเป็นห่วง

“เรามึนๆ นิดหน่อยอ่ะ อยากจะกลับแล้วล่ะ” หันไปบอกกับมิลล์ ก่อนที่จะเดินไปบอกเพื่อนรักว่าขอตัวไปเข้าห้องน้ำแล้วจะกลับบ้านเลย
“ทำไมรีบกลับจังพาย เรายังไม่ได้เป่าเค้กเลยนะ” ชะเอมต่อว่าอย่างงอนๆ เพื่อนรักที่จะหนีกลับก่อน ช่างไม่รู้เรื่องอะไรซะเลยว่าพายกำลังแย่แล้ว

“พายรู้สึกมึนๆ อ่ะ อยากรีบกลับไปพัก เอมไม่ว่าอะไรใช่ไหม” พายเริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติในร่างกายของตนเอง จนอยากจะออกไปจากสถานที่แห่งนี้ให้เร็วที่สุด

“ก็ได้ เอาไว้เดี๋ยวเรานัดเจอกันใหม่” ชะเอมที่เริ่มจะเห็นอาการแปลกๆ ของเพื่อนจึงไม่คิดจะรั้ง พายเดินไปลาทุกคนในโต๊ะรวมทั้งคุณบอยที่มีท่าทีอยากจะรั้งร่างบางเอาไว้ซะเหลือเกิน แต่ติดอยู่ที่แฟนของตนอยู่ใกล้ๆ จึงทำอะไรไม่ได้ ก่อนที่พายจะเดินตรงไปห้องน้ำ เพื่อล้างหน้าล้างตาให้หายจากอาการแปลกๆ นี้ซะที
 
ระหว่างทางที่เดินไปห้องน้ำพายรู้สึกว่ามันช่างไกลซะเหลือเกิน เพราะความทรมานของร่างเล็กที่เกิดขึ้นกับร่างกาย ถึงแม้ว่าพายจะไม่เคยดื่มเครืองดื่มที่มีแอลกอฮอลแต่ก็พอจะรับรู้ได้ว่านี่ไม่ใช่อาการเมา แต่มันมีความผิดปกติซึ่งพายก็ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น มือเล็กวิดน้ำล้างหน้าตนเองเพื่อเรียกความสดชื่นให้กลับมา พายก้มหน้าก้มตาล้างหน้าโดยไม่ได้สนใจผู้มาใหม่เลยแม้แต่น้อย

“สวัสดีคนสวย” พายยังคงไม่สนใจ เพราะไม่คิดว่าจะมีคนที่ตนเองรู้จัก

“พูดด้วยยังไม่สนใจอีกเหรอ” ชายอีกคนกระชากแขนพายเต็มแรง ทำให้ร่างเล็กที่ตอนนี้ร่างกายไม่ค่อยปกติเซไปชนกับชายแปลกหน้าอีกคน

“พะ..พวกคุณจะทำอะไรผม ปล่อยนะ” พายพยายามสะบัดตัวออกจากมือหยาบที่โอบกอดตนเองไว้เต็มแรง แต่ก็ไม่เป็นผล ความร้อนรุ่มเริ่มเกิดขึ้นกับกายเล็กโดนยไม่รู้สาเหตุ

“คืนนี้เราไปสนุกกันดีกว่าไหมคนสวย รับรองเธอจะมีความสุขยิ่งกว่าได้ขึ้นสวรรค์เลยละ” คำพูดจาหยาบคายหลุดออกมาจากปากอีกคนที่ยื่นมือหนามาลูบไล้ร่างบางอย่างหยาบโลน

“ปละ... ปล่อยผมนะ อืออออ” พายดิ้นสุดแรงเกิดเพื่อให้พ้นจากปากหนาที่พยายามจะลวนลามตามร่างเล็ก แต่ทำอย่างไรก็ไม่สามารถที่จะหลุดไปจากตรงนี้ได้ ‘ใครก็ได้ช่วยด้วย ช่วยพายด้วย  ฮืออออ’

“ร้องให้ตายก็ไม่มีใครช่วยหรอกคนสวย ที่นี่มันที่เที่ยว  หน้าตาอย่างนายใครๆ เขาก็คิดว่าเป้นเด็กขายทั้งนั้นแหละ เตรียมตัวนอนครางเสียงเพราะๆ ให้เราสองคนฟังดีกว่า” คำพูดจาบจ้วงของคนตรงหน้าสร้างความหวาดกลัวให้กับพายยิ่งนัก

“ช่วย....” คำพูดที่หลุดจากปากพายออกมาได้เพียงเท่านี้

“รีบเอามันไปดีกว่ามึงเดี๋ยวมีคนเข้ามาเสือก” มือหยาบเริ่มที่จะลากพายออกไปด้านหลัง อีกมือก็ปิดปากคนตัวเล็กที่ไม่มีแรงแม้จะขัดขืน มีเพียงน้ำตาหยดใสๆ ที่ร่วงหล่นไปตามทางเดิน

‘คุณย่า พี่ซอง น้องบราวช่วยพายที ใครก็ได้ ได้โปรดช่วยด้วย’

**********************************************

       TBC.
ตอนเย็นๆ จะอัพตอนต่อไปนะคะ แสดงความคิดเห็นเพื่อเป็นกำลังใจให้เราด้วยน๊าาาาา :mew6: :mew6:  อาจจะไม่ค่อยสนุกเท่าไหร่  แต่ก็อยากลองเขียนลองดูค่ะ  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนที่3 เพื่อนรัก?
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 03-02-2016 12:48:23
รอๆๆ
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนที่4 ความบริสุทธิ์
เริ่มหัวข้อโดย: MooKratai ที่ 03-02-2016 18:42:12
หลานคุณย่า 4  ความบริสุทธิ์
[/size]
 
คิณ (Part)
ผมเห็นผู้ชายตัวเล็กหน้าตาสวยตั้งแต่เพียงก้าวแรกที่เขาย่างกรายเข้ามาในผับแห่งนี้  ผมนัดกับเพื่อนสนิทมาผ่อนคลายในวันสุดสัปดาห์หลังจากที่ทำงานหนักมาทั้งอาทิตย์ คนตัวเล็กที่ผมลืมไม่ลงตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอที่ร้านอาหารญี่ปุ่น คนที่เอาแต่จ้องอาหารจานหนึ่งที่ไหลมาตามสายพาน ผมพอจำได้ว่าน่าจะเป็นปลาบุริย่างเกลือ พอผมหยิบตัดหน้าเขาไปทีไร ก็ทำหน้ายุ่งแทบจะทุกครั้ง จนผมอดไม่ได้ที่จะแกล้งคนตัวเล็กที่นั่งฝั่งตรงข้าม เพราะสีหน้าเวลาที่เขาไม่พอใจมันช่างน่ารักซะเหลือเกิน  นี่ผมเป็นโรคจิตแน่ๆ เลยที่ชอบเห็นเขาหน้ายุ่งๆ แบบนั้น วันนั้นจบลงด้วยการที่ผมปล่อยให้เมนูโปรดของเขาไหลไปตามสายพาน จนคนตัวเล็กตรงหน้ายิ้มออกมาจนได้ รอยยิ้มของคนตรงหน้าสะกดให้ผมนิ่งมองอยู่อย่างนั้นเป็นนานสองนาน จนเขาหันมาสบตากับผมเพียงแค่แว๊บเดียวเท่านั้น แล้วก็แสร้งทำเป็นไม่สนใจ ทั้งๆ ที่เขาน่ะรู้เพราะผมจ้องหน้าเขาจนเรียกว่าเสียมารยาทก็ว่าได้

ครั้งที่สองที่ผมเจอคนตัวเล็ก ก็คือวันที่คู่ค้าของผมคุณรตี ไปสร้างเรื่องป่วนที่ร้านขนมเค้กของคนสวยตัวเล็กของผม(ขี้ตู่อ่ะ)  มันเป็นการเจอกันที่ไม่สวยงามเลยสักครั้ง ครั้งนี้ยิ่งแล้วใหญ่ เขามองผมด้วยสายตาตัดพ้อที่ไม่ช่วยอะไรเลย  การที่ผมไม่ช่วยใช่ว่าผมจะเข้าข้างคนผิด ผมแค่ต้องการเห็นปฏิกิริยาคนตรงหน้าว่าจะแก้ไขปัญหาอย่างไร  แต่คนเขาก็ทำเพียงก้มหัวขอโทษขอโพย  จนผมรู้สึกว่าเขาจะยอมคนอื่นมากเกินไปแล้ว อยากให้เขาสู้คนเหมือนน้องชายของเขาที่ดูจะไม่ยอมถ้าตนไม่ได้ทำอะไรผิด จนมีผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามาแก้สถานการณ์เหตุกาณ์วันนั้นจึงจบลงด้วยการที่คู่ค้าของผมออกไปอย่างเสียหน้า ผมมาทราบชื่อภายหลังว่าเขาชื่อพาย ผมอยากสานต่อความสัมพันธ์ แต่ก็ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไงเพราะการเริ่มต้นรู้จักกันของเรามันช่างไม่ดีเอาซะเลย
จนวันนี้ที่เขาเดินเข้ามาในผับอย่างประหม่า พยายามมองหาใครสักคน ก่อนจะยกโทรศัพท์ขึ้น อีกซักพักขาก็เดินไปนั่งโต๊ะ  น่าจะเป็นเพื่อนๆ ของเขา โต๊ะที่คนตัวเล็กนั่งนั้นอยู่ตรงหน้าเวทีซึ่งใกล้กับโซนวีไอพีชั้นสองที่ผมนั่งอยู่ ผมมองเขาแทบจะตลอดเวลาจนพวกเพื่อนๆ ผมแซว ผมเห็นปฏิกริยาทุกอย่าง ผู้ชายคนที่นั่งข้างๆ พยายามจะเกาะแกะคนตัวเล็ก แต่เขาก็พยายามหลบเลี่ยง  ผมแทบอยากจะกระโดดไปตะบันหน้าไอ้หมอมั่นให้มันรู้แล้วรู้รอด ที่วุ่นวายกับเขาตลอดเวลา 

พายดื่มเพียงน้ำส้มเท่านั้น  ดูเหมือนเขาจะไม่แตะแอลกอฮอลล์เลยแม้แต่นิดเดียว เขา น่ารักจริงๆ เลยผมต้องเขาตลอดเวลาจนเพื่อนๆ บอกให้ผมลงไปขอเบอร์เขาหรืออะไรก็ได้เพื่อที่ผมกับเขาจะได้สานความสัมพันธ์ แต่ผมไม่กล้าว่ะ ผมป๊อดครับกับคนที่ตนเองสนใจมากๆ แต่กลับไม่กล้าทำอะไร

  จนกระทั่งผมเดินไปเข้าห้องน้ำ เป็นจังหวะเดียวกันกับเพื่อนร่วมโต๊ะของเขาไปเข้าห้องน้ำพอดี ผมจึงได้ยินแผนการแทบจะทุกอย่าง จนนึกห่วงคนตัวเล็กขึ้นมา อยากจะเข้าไปบอกให้รู้ตัว แต่ผมก็เป็นคนนอกมีหรือที่เขาจะเชื่อ จึงทำได้เพียงมองเหตุการณ์อยู่ห่างๆ  เผื่อเกิดอะไรขึ้นจะได้เข้าไปช่วยได้ทัน

ผมเผลอมองไปทางอื่นแค่แป๊บเดียว เขาก็หายตัวไปจากโต๊ะนั้นซะแล้ว จนผมร้อนใจรีบออกเดินตามหาแทบจะทุกที่ เริ่มจากห้องน้ำก็ไม่พบ  เดินกลับเข้ามาข้างในอีกรอบก็ไม่เจอจนผมแทบบ้า รีบเดินออกมาตามทางเดินข้างหลังร้าน  เป็นจังหวะเดียวกันที่คนตัวเล็กถูกลากออกไปเพื่อที่จะขึ้นรถคนนั้น   ชายคนที่ผมเจอเขาหน้าห้องน้ำตอนที่เขาวางแผนกับผู้หญิงเลวคนนั้น  ผมรีบตรงเข้าไปกระชากไอ้คนที่ลากคนตัวเล็กสุดแรง

“เฮ้ย! อะไรว่ะ”  ความที่มันตกใจจึงเผลอปล่อยพายจนล้มลงกระแทกพื้น

“ช่วยด้วยฮะ ช่วยพายด้วย ฮึกกก” เขาขอความช่วยเหลือน้ำตานองหน้า

“มึงไม่เกี่ยวไอ้หน้าหล่อ กูซื้อมันมาแล้ว มันเป็นของกู”

“มึงซื้อมางั้นเหรอ แต่เท่าที่กูรู้มึงวางแผนกับนังผู้หญิงคนนั้นมอมยาเขาไม่ใช่เหรอ” ผมพูดออกมาอย่างที่เห็น จนหนึ่งในสองคนมันเริ่มจะกลัว

“มะ..มึง เอาอะไรมาพูด” มันเอ่ยออกมาด้วยเสียงสั่นๆ

“มึงลืมไปรึเปล่าว่าที่นี่มีกล้องวงจรปิด แล้วที่นี่มันก็ร้านเพื่อนกู”

“มึงไม่ต้องมาโกหกกู กูไม่เชื่อ” พูดจบปุ๊บก็เงื้อหมัดใส่หน้าของผม แต่คนอย่างคิณมีเหรอจะยอมโดนหมัดไอ้พวกนักเลงกระจอกพวกนี้ ผมสวนหมัดใส่หน้ามันเต็มๆ จนมันล้มลงไปกองกับพื้น แทบจะลงไปนอนนับดาวก็ว่าได้

“ได้ งั้นมึงเตรียมตัวเข้าไปนอนในตารางได้เลย ไม่เกินพรุ่งนี้กูจะเอาตำรวจไปจับมึง ถ้ามึงยังไม่ยกเลิกเรื่องบ้าๆ พวกนี้ กูให้โอกาสพวกมึงตัดสินใจอีกครั้ง” ผมไม่ได้ขู่พวกมันแต่ผมจะทำจริงๆ ถ้ามันยังขืนยุ่งกับคนสวยของผม ผมจะเอาเรื่องมันให้ถึงที่สุด

    “กูว่าเราไปกันเถอะมึง ท่าจะไม่ดีแล้ว” พอไอ้คนหนึ่งพูดอีกคนก็ลุกขึ้นวิ่งหางจุกตูดไปเลย
ผมหันไปมองคนที่นั่งกอดตัวเองตัวสั่นด้วยท่าทางน่าสงสารเสียเหลือเกิน น้ำตาหยดเล็กๆ ยังไม่หายไปจากดวงตาเรียวสีน้ำตาลคู่นั้น

“ไม่เป็นไรแล้วครับคนดี ไม่ร้องนะครับ” ผมปลอบคนตัวเล็กพร้อมกับถือวิสาสะดึงร่างบางเข้ามากอด

“ขะ...ขอบคุณ ขอบคุณฮะ ฮึกกก” เสียงสะอื้นดังซะจนผมใจหาย สงสารจับใจ ยกมือปาดน้ำตาที่ไหลรินไม่มีท่าทีว่าจะหยุด

 “ผะ...ผมทรมาน เป็น...ฮึกกก.. อะไรไม่รู้ มันร้อนไปหมดเลย”

“ไม่เป็นไรครับ กลับบ้านกันนะเดี๋ยวก็หาย” ผมรู้ว่าเขาโดนอะไรมา แต่ก็ไม่อยากบอกให้เขากลัวไปมากกว่านี้ ผมพยุงเขาขึ้นรถของผม ก่อนที่จะตัดสินใจขับรถพาเขาไปคอนโดของผมเอง ไม่ใช่ว่าผมคิดอกุศลกับพาย แต่ผมคิดว่าถ้าพาเขากลับบ้านตอนนี้คงไม่ดีแน่ เพราะดูเหมือนตอนนี้สติของคนตรงหน้าจะไม่เหลือแล้ว ผมต้องช่วยเขาก่อน

“ร้อน...อึก ร้อนมาก ทรมาน” ปากก็พูด มือก็พยายามที่ตะถอดเสื้อของตนเองออก จนผมต้องดึงมือคนที่ไม่มีสติไว้สุดฤทธิ์ อีกมือก็พยายามบังคับรถให้ตรงทาง ยิ่งเห็นผิวขาวๆ ที่โผล่พ้นเสื้ออกมายิ่งทำให้ใจผมสั่น แทบจะบังคับตัวเองไม่ได้ ยังดีที่คอนโดผมอยู่ไม่ห่างจากผับนี้มากเท่าไหร่ จึงสามารถกลับมาถึงคอนโดได้อย่างปลอดภัย
*********************
เดี๋ยวมาต่อนะคะ ฝากเม้นให้เราด้วยน้า เราก็เหมือนเด็กอนุบาลเพิ่งหัดเขียน กไก่  อยากได้กำลังใจ  เด็กเริ่มหัดเขียนคุณครูยังมีดาวให้ ส่วนเราขอแค่กำลังใจเล็กๆ น้อยๆ ก็ยังดี :impress3:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนที่4 ความบริสุทธิ์
เริ่มหัวข้อโดย: nunuchhh ที่ 03-02-2016 18:50:56
รอเลยตื่นเต้น
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนที่4 ความบริสุทธิ์
เริ่มหัวข้อโดย: angelnan ที่ 03-02-2016 19:30:16
หวังว่าพาย คงยังไม่เสียตัวนะ หลับไปเลยเถอะพาย ยังไม่อยากให้ได้กัน
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนที่4 ความบริสุทธิ์
เริ่มหัวข้อโดย: MooKratai ที่ 03-02-2016 20:31:16
ผมอุ้มคนตัวเล็กที่แทบจะไม่มีสติเดินตรงมาที่ห้อง ก่อนจะเดินตรงไปเปิดน้ำในอ่างเพื่อให้คนที่โดนยาได้เข้าไปแช่เพื่อให้ผ่อนคลายลงบ้าง ผมกลับออกมาจากห้องน้ำอีกครั้ง พายที่ตอนแรกผมปล่อยให้เขาอยู่ในห้องนอน กลับถอดเสื้อผ้าของตัวเองแทบจะหมดทุกชิ้น เหลือเพียงกางเกงในตัวจิ๋วที่มือบางกำลังจะดึงรั้งออกจากร่างกายที่แทบจะเปลือยเปล่าขาวเนียนซะจนผมอยากจะขย่ำให้แหลกคามือ แต่ผมก็ไม่สามารถที่จะทำแบบนั้นกับคนตรงหน้าได้ ผมไม่อยากฉวยโอกาสในเวลาแบบนี้ ไม่อยากให้เขาเสียใจเวลาที่สติของเขากลับมาครบถ้วน ถึงแม้ผมอยากจะทำอะไรๆ กับเขาก็ตาม

“พายครับ ไปอาบน้ำนะเดี๋ยวก็หายนะ” ผมช้อนมือเข้าไปใต้ข้อพับขาของเขา มืออีกข้างก็ช้อนด้านหลังอุ้มคนไม่มีสติเข้าห้องน้ำ หย่อนตัวร่างบางลงไปในอ่างอาบน้ำ มือบางพยายามลูบไล้เนื้อตัวเปลือยเปล่าของตนเอง เพื่อผ่อนคลายความทรมาน

“ช่วยพายที พายทรมาน อึกกกก” พายพยายามเอื้อมือมาดึงผมเข้าหา ผมแทบคลั่งที่คนร่างกายกึ่งเปลือยทำหน้าตาเย้ายวน เรียกร้องให้ผมช่วยเขา แต่ผมก็ต้องอดทน อย่างที่บอกว่าผมไม่อยากให้เขาเสียใจ

“อดทนนะครับคนดี” ผมทำได้เพียงแค่ปลอบแล้วเอื้อมมือไปลูบหลังให้เขาเพื่อผ่อนคลาย แต่ก็ไม่มีท่าทีว่าเขาจะดีขึ้น มือบางพยายามรูดรั้งแก่นกายตัวเองที่ตอนนี้มันพองขึ้นพร้อมกับอารมณ์ต้องการของคนตัวเล็ก

“จูบพาย จูบพายหน่อย” เสียงหวานสั่นพร่าอ้อนราวกับจะขาดใจ ผมที่พยายามใจแข็งก็แทบจะทนไม่ไหวเหมือนกัน เพราะลูกชายของผมมันตื่นตัวตั้งแต่คนตรงหน้าพยายามถอดเสื้ออยู่ในรถแล้ว คนอย่างผมจะทนได้ซักกี่น้ำที่ต้องมาเห็นร่างกายขาวบางตรงหน้าแต่กลับอะไรไม่ได้

“ชะ...ช่วยพายนะ อือออออ อึก” พายพยายามดึงมือผมมาจับแก่นกายของเขา เพื่อปลดปล่อยเขาจากความทรมาน ตอนนี้ผมก็ทรมานไม่ต่างกับคนที่โดนยาปลุกเซ็กตรงหน้านี้หรอก ผมรูดรั้งแก่นกายเล็กที่ตื่นตัวจนต้องทำหน้าเหยเกด้วยความเสียวปนทรมาน เขายื่นหน้าเข้ามาจูบผม มือเล็กรั้งท้ายทอยผมให้รับจูบของเขา แม้ว่าพายจะมีความต้องการมากเพียงไร แต่ความไม่ประสาของเขากลับทำให้ผมมีความต้องการมากขึ้น ผมแทบจะคลั่งเมื่อคนตรงหน้าจูบผม

“อื้ออออ มันแปลกๆ อ่ะ อึกกกก พายไม่ไหว ไม่ไหวแล้ว” น้ำสีขาวขุ่นพุ่งออกมาจากแก่นกายเล็ก ทำให้คนตรงหน้าผมผ่อนคลายลงบ้าง แต่ร่างกายของเขากลับยังร้อนรุ่มเหมือนเดิม แต่ดูจะรุนแรงขึ้นด้วยซ้ำ ทำไมเขายังไม่ผ่อนคลายลงอีกนะ

“คุณช่วยพายที พายไม่ไหวแล้ว ช่วย... เอาของคุณเข้ามาข้างในตัวพายที” ร่างบางขยับเข้าหาผมอีกครั้ง มือเล็กพยายามรูดรั้ง
แก่นกายใหญ่โตของผม ผมโคตรเสียว ทรมาน อยากจะเข้าไปในตัวคนตัวเล็กตรงหน้าตาคำเชื้อเชิญของคนไร้สติซะตอนนี้เลย

“อึก ถ้าผมทำแบบนั้น อ่า... จะต้องเสียใจนะพาย รู้ใหมว่าสิ่งที่คุณต้องการมันเท่ากับทำลายตัวคุฯเองเลยนะ” ผมโน้มน้าวเขาทั้งๆ ที่ร่างกายผมก็ตื่นตัวจนเต็มที่แล้ว ไม่อยากให้เขาตื่นมาแล้วเกลียดผม เพราะผมเป็นคนพรากความบริสุทธิ์ของเขาไป

“พะ พายรู้ ช่วยพายนะ เข้ามาในตัวพาย พายต้องการคุณ” เพราะความต้องการทางกามารมอยู่เหนือความผิดชอบชั่วดีแล้วตอนนี้ ผมก็เป็นแค่ผูชายชั่วๆ คนหนึ่ง ที่พยายามหักห้ามใจแล้วแต่ก็ทำไม่ได้ ผมช้อนตัวอุ้มพายในท่าเจ้าสาวตรงไปยังเตียงนอน เพราะผมรู้ดีว่านี่เป็นครั้งแรกของเขา อีกทั้งยังโดนยามาอีก ความต้องการที่มีมากเกินไป จนบางครั้งร่างกายที่ไม่เคยผ่านเรื่องแบบนี้มาอาจทนไม่ไหวก็ได้

ผมวางพายลงบนเตียงกว้างขนาดคิงส์ไซส์ มือบางไขว่คว้าผมเข้าไปกอด พยายามจูบผมครั้งแล้วครั้งเล่า ผมทนไม่ไหวแล้วจริงๆ จูบตอบพายอย่างเร่าร้อน ลิ้นเล็กที่ทำตามผมอย่างเงอะงะ ไม่ค่อยประสาแต่ก็พยายามทำตามที่ผมสอนอย่างตั้งใจ ลิ้นอุ่นของผมควานหาความหอมหวานภายในปากเล็กนั่นอย่างไม่รู้จักเบื่อ  มืออีกข้างของผมก็รูดรั้งก้อนเนื้อปูดโปนขนาดพอดีตัวเพื่อผ่อนคลายอารมณ์คนตรงหน้าลง

“มะ ไม่เอาแบบนี้ อึก เอาของคุณ ได้โปรด” กายเล็กบิดไปมาเพื่อระบายความเสียวซ่าน

“ถ้าผมทำเลย คุณจะเจ็บมากเข้าใจไหมเด็กดี ผ่อนคลายนะผมจะค่อยๆ เบิกทางให้คุณเอง” มือใหญ่ชะโลมโลชั่นใส่นิ้วตนเอง ก่อนจะไล้วนที่บั้นท้ายกลมกลึงอย่างใจเย็น นิ้วเรียวค่อยๆ ผ่านช่องทางคับแคบสีสดทีละนิ้ว ใบหน้าเหยเกของคนตัวเล็กตรงหน้ายิ่งปลุกเร้าอารมณ์เขามากขึ้น เกิดมาจนสามสิบปีผ่านผู้หญิงมาทุกรูปแบบ หน้าอกตู้มๆ ก็ผ่านมาหมดแล้ว แต่ทำไมถึงรู้สึกว่าคนตรงหน้านี้เซ็กซี่กว่าใครที่เคยผ่านมา

“เจ็บ เจ็บจัง อึกกกอ่า” พายส่งเสียงครางประท้วงเมื่อผมสอดนิ้วที่สองเข้าไปทางช่องทางคับแคบสีสวยนั้น

“ผ่อนคลายนะพาย ฉันจะใส่นิ้วที่สามแล้วนะ” พูดยังไม่จบผมก็จัดการแหย่นิ้วที่สามเข้าไปได้สำเร็จ ชักเข้าชักออกเพื่อให้ร่างกายของพายปรับตัวเข้ากับความใหญ่โตที่จะเข้าไปแทนที่นิ้วทั้งสามในอีกไม่ช้า ผมค่อยๆ ดึงนิ้วออกมา สอดใส่ความใหญ่โตของผมเข้าไปแทนที่ จนพายสะดุ้งสุดแรง ผมต้องก้มลงไปจูบปลอบเพื่อให้เขาคลายความเจ็บ และหันไปสนใจจูบร้อนแรงของผมแทน จนในที่สุดผมก็จัดการมันเข้าไปจนสุดทางจนได้ ก่อนที่จะหยุดร่างกายไว้ยังไม่ขยับ เพื่อให้ร่างเล็กปรับเข้ากับส่วนใหญ่โตของผมอีกครั้ง

“ผมขยับได้รึยัง” ร่างเล็กเพียงแค่พยักหน้าน้อยๆ เท่านั้น ผมเริ่มขยับช้าๆ เนิบๆ เพราะไม่อยากให้เขาเจ็บมากเกินไป ก่อนจะค่อยๆ เร่งจังหวะเร็วขึ้น เมื่อคนตัวเล็กเริ่มส่งเสียงเป็นสัญญานราวกับว่าให้เร่งจังหวะให้เร็วขึ้น

“อ่า อึกกกก สะ เสียวจัง ระแรงกว่านี้ได้ไหม”

“อ่า แรงกว่านี้เหรอ” ผมกระแทกจังหวะใส่คนตัวเล็กสุดแรง

พับ พับ พับ เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังเป็นจังหวะ

“เรียกชื่อผมสิพาย เรียกพี่คิณเร็วๆ” ผมอยากได้ยินเขาเรียกชื่อของผม ไม่อยากเป็นแค่คนแปลกหน้าที่มีอะไรกันแค่คืนเดียวแล้วก็จบ

“พะ พี่คิณ พายไม่ไหวแล้ว เร็วๆ ได้ไหม” ผมกระแทกแรงๆ ใส่พายอีกสามสี่ทีจนน้ำสีขาวขุ่นพุ่งออกมาเลอะหน้าท้องเนียน พายทรุดตัวลงนอนหมดแรง ผมกระแทกต่ออีกสักพักก็ปลดปล่อยน้ำสีขาวขุ่นเข้าไปช่องทางเล็กของคนที่นอนหอบหมดแรงอยู่ตางหน้า

ผมคิดว่ายาจะหมดฤทธิ์แล้ว แต่ผมกลับคิดผิด เมื่อพายพยายามที่จะทำกับผมต่อรอบที่สอง สาม สี่ แม้ว่าร่างเล็กจะหมดแรง แต่ความต้องการทางกายกลับมีมากกว่า จนร่างบางสลบไปในรอบสุดท้าย ผมจัดการอาบน้ำทำความสะอาดให้คนตัวเล็กจนเรียบร้อย ก่อนจะกลับมาเปลี่ยนผ้าปูที่นอนผืนใหม่ เพื่อให้คนข้างๆ ได้นอนหลับอย่างสบายตัว
 
เสียงโทรศัพท์ของพายดังขึ้นหลังจากที่เราเสร็จกิจกรรมมาได้ซักพัก ผมถือวิสาสะหยิบขึ้นมารับเมื่อเห็นว่าเป็นเบอร์ของน้องชายคนที่หลับไม่รู้เรื่องตอนนี้ ที่บ้านเขาอาจจะเป็นห่วง

“ฮัลโหล” ผมกรอกเสียงไปตามสายโทรศัพท์

“นั่นใครพูดฮะ ใช่โทรศัพท์พี่พายรึเปล่า” ปลายสายเอ่ยถามเสียงสั่น

“ใช่ครับ พอดีพายเขาหลับไปแล้ว ผมเลยรับแทน”

“ทำไมพี่พายไม่กลับมานอนที่บ้านล่ะฮะ”

“พายเขาดื่มนิดหน่อยก็เลยเมา ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ เดี๋ยวตอนเช้าผมจะไปส่งถ้าเขาสร่างเมาแล้ว”

“คุณเป็นเพื่อนพี่พายเหรอฮะ ชื่ออะไร แล้วพี่พายเป็นอะไรมากรึป่าว”

“ใช่ครับ ผมชื่อคิณ ส่วนพายไม่ได้เป็นไรมากหรอกแค่เมานิดหน่อยเลยหลับไปแล้ว”

“ฝากดูแลพี่พายด้วยนะฮะ เขาไม่เคยดื่มก็เลยเมาแบบนั้น”

“ครับ ผมจะดูแลอย่างดี” ผมรับปากเพื่อให้ปลายสายสบายใจที่รู้ว่าพี่ชายของตนไม่เป้นไร

“งั้นแค่นี้นะฮะ ไมรบกวนแล้ว”

“ครับ สวัสดีครับ” ผมวางสายไปอย่างห่วงๆ ดูท่าทางที่บ้านจะเป็นห่วงเขามาก ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง

ผมนั่งมองพายอยู่แบบนั้นจนเช้า มันบอกไม่ถูกว่าความรู้สึกที่มีต่อคนผู้ชายตรงหน้านี้เป็นยังไง รู้เพียงว่าไม่อยากให้เขาตื่นมาแล้วเสียใจ หรือไม่อยากให้เขารู้สึกไม่ดีกับผมเลยแม้แต่น้อย  แต่มันคงจะเป็นไปได้ยาก เพราะผมเป็นคนที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้ บางทีเขาอาาจะตื่นมาแล้วเกลียดผมไปเลยก็ได้ เพราะผมมันผิดตั้งแต่เริ่มต้น ที่รังแกคนที่ไม่มีสติแบบนั้น ผมควรจะหักห้ามใจตัวเองแต่กับทำไม่ได้เลย ยิ่งคิดมาถึงตรงนี้ก็ยิ่งรู้สึกว่าเขาน่าทนุถนอมมากเพียงไร ความน่ารักของเขาเวลาที่เรียกร้องเรื่องอย่างว่ามันช่างทำให้ผมต้องการเขามากขึ้น แต่ผมก็ไม่คิดจะรังแกเขาไปมากกว่านี้แล้ว

ผมอยากให้การเริ่มต้นของผมกับเขาเป็นสิ่งที่ดีๆ แต่มันกลับตรงข้ามไปหมดทุกอย่าง ผมจะทำยังไงดี อยากจะเริ่มต้นทุกอย่างใหม่แต่ก็ทำไม่ได้ ผมอยากจะรับผิดชอบความผิดในครั้งนี้ของผมถ้าเขาต้องการ  หรืออาจจะเป็นความต้องการของผมคนเดียวก็ว่าได้ ผมทำกับเขาตอนที่เขาไม่มีสติรู้ผิดชอบชั่วดี แต่ผมรู้เรื่องทุกอย่างตั้งแต่ต้น ยิ่งคิดผมก็ยิ่งปวดหัว ผมยอมรับว่ารู้สึกดีกับเขาตั่งแต่แว๊บแรกที่เจอกันที่ร้านอาหาร อยากจะเข้าไปทำความรู้จักตั้งแต่ตอนนั้น อยากจจะจีบ อยากสานความสัมพันธ์แต่ทุกอย่างกลับไม่เป็นใจ
ผมยกมือขึ้นลูบใบหน้าเนียนอย่างแผ่วเบา เส้นผมสีน้ำตาลที่ลู่ลงมาปิดหน้ายามที่คนหลับไม่รู้ตัว ช่างทำให้เขาน่ารักเสียจนผมแทบคลั่ง ใบหน้าสวยได้รูปหลับตาพริ้มเหมือนอย่างกับว่าไม่มีเรื่องทุกข์ร้อนใดๆ ในใจ

“คุณตื่นขึ้นมาเมื่อไหร่ เราคงมีเรื่องต้องคุยกันอีกเยอะนะคนดี” ผมนั่งหลับตาอยู่ข้างๆ เขาอย่างนั้น แต่ผมไม่ได้หลับ รับรู้ถึงการขยับตัวยุกยิกของคนข้างกาย เขาพยายามลืมตาขึ้นมาอย่างยากลำบาก

“อืออออ เจ็บ เจ็บจัง” มือบางเลื่อนไปจับสะโพกตนเองบ่งบอกความหมายว่าเขาเจ็บตรงไหน เขาพยายามปรับดวงตาเข้ากับแสง และเหมือนว่ากำลังคิดทบทวนเรื่องราวต่างๆ สีหน้ายุ่งๆ ของคนข้างๆผม สร้างความเอ็นดูให้กับผมซะเหลือเกิน จนกระทั่งเขาหันมาสบตากับผม อาการตระหนกอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนปรากฎขึ้นบนใบหน้าเนียนใสที่ตอนนี้เริ่มจะซีดเซียวลง

“คะ คุณ ผมขอเข้าห้องน้ำหน่อยได้ไหม” เป็นคำแรกที่เขาเอ่ยขึ้นหลังจากนิ่งเงียบไปสักพัก

“ห้องน้ำอยู่ทางนั้น” ผมชี้มือบอกทางให้กับคน่ไม่ยอมหันมาสบตากับผมเลยแม้แต่น้อย

“ขอบคุณครับ” ร่างบางพยายามลุกขึ้นจากที่นอนอย่างยากลำบาก เขาทำหน้าเหยเกเหมือนกับว่ามันเจ็บมาก แต่ก็พยายามฝืนลุกขึ้นด้วยตัวเอง ผมอยากจะเข้าไปพยุงเขา แต่ผมก็เป็นแค่คนแปลกหน้าที่ดูท่าทางแล้วเขาไม่ต้องการความช่วยเหลือจากผมเลยแม้แต่น้อย ร่างเล็กพาตัวเองเดินไปหเองน้ำด้วยท่าทางระมัดระวัง กว่าจะผ่านไปแต่ละก้าวช่างยากเย็นเหลือเกิน เขาเซเหมือนจะล้มก็หลายครั้ง

เสียงเปิดน้ำในห้องน้ำดังออกมาพอให้ผมได้ยิน เขาอาจจะกำลังล้างหน้าล้างตาอยู่หรืออาจจะสับสนอยู่ก็ได้ เสียงของคนในห้องน้ำเงียบไปสักพัก ก่อนที่ผมจะได้ยินเสียงสะอื้นแว่วมาจากในห้องน้ำ เขาร้องให้เพราะผม คนตัวเล็กใช้เวลาในห้องน้ำนานพอสมควร จนผมอดเป็นห่วงไม่ได้ ขณะที่ผมนั่งลังเลอยู่ว่าจะเอากุญแจสำรองไปเปิดดีหรือไม่ เขาก็เปิดประตูออกมาจากห้องน้ำด้วยดวงตาที่แดงก่ำแต่ไม่มีอาการสะอื้นให้เห็นแล้ว ร้องให้จนตาบวมสินะ

“เสื้อผ้าผมอยู่ไหนเหรอครับ” เขาพยายามบังคับเสียงตัวเองไม่ให้สั่น

“ผมส่งซักอยู่ อีกไม่เกินชั่วโมงน่าจะเสร็จ” เขายืนเก้ๆกังๆอยู่กลางห้อง มือเล็กประสานกันแน่นจนแทบจะสั่น

“เรามาคุยกันหน่อยดีไหม” เขาเงยหน้ามองผม เป็นครั้งแรกที่เขาหันมาสบตากับผม ดวงตาสีน้ำตาลสั่นระริกอยู่ในที น้ำใสๆ คลออยู่ที่หน่วยตาอย่างเห็นได้ชัด

“คะ คุย อะไรเหรอครับ”

“ออกไปนั่งคุยกันดีๆ ข้างนอกดีกว่า” ผมถือสิสาสะดึงมือนิ่มให้เดินตามผมออกไปนั่งตรงโซฟาห้องรับแขก ผมรั้งให้ร่างเล็กนั่งลงข้างๆ ผมในโซฟาตัวยาว ‘เอาแต่ก้มหน้าอีกแล้ว’

“เงยหน้ามาคุยกันดีๆ ได้ไหม” สายตาของเขาที่ดูเหมือนจะกลัวผมหน่อยๆ จนทำให้ผมรู้สึกเอ็นดูปนสงสารเขามากกว่าเดิม
 
“มะ มีอะะไรจะคุยกับผมเหรอครับ” เขาเงยหน้ามามองผมเพียงแว๊บเดียว ก่อนจะก้มหน้ามองมือตัวเองที่ประสานกันอยู่บนตัก

“เรื่องของเรา ผมยินดีที่จะรับผิดชอบทุกอย่าง” ผมยื่นข้อเสนอให้กับคนที่นั่งข้างๆ โดยที่ไม่คิดจะหันมาคุยกับผมดีๆ เลยแม้แต่น้อย

“มะ ไม่ต้องรับผิดชอบอะไรทั้งนั้นครับ ผมผิดเอง” น้ำเสียงสั่นๆ เจือด้วยความหวาดระแวงของเขายังคงไม่หายไป ทั้งๆ ที้ผมยินดีจะรับผิดชอบทุกอย่างแต่เขากลับปฏิเสธมัน ผมรู้สึกผิดหวังจริงๆ ถ้าเป็นคนอื่นคงกระโจนใส่ผมแล้วเรียกร้องความรับผิดชอบจากผมไปแล้ว

“ทำไมคุณถึงพูดแบบนี้ นี่มันครั้งแรกของคุณไม่ใช่เหรอ”

“ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเพราะผม ผมเป็นคนเรียกร้องมันจากคุณเอง อีกอย่างผมก็เป็นผู้ชายมันคงไม่เสียหายอะไรมากนักหรอก” เขาเอ่ยพร้อมกับฝืนยิ้มขื่นๆ ให้กับผม เขาแสร้งทำเหมือนว่าตัวเองไม่เป็นอะไร รับได้กับเหตุการณ์เมื่อคืนที่เกิดขึ้น แต่ความจริงกลับแอบร้องให้จนตาบวม นี่น่ะเหรอคนไม่เป็นอะไร

“คุณทำเหมือนกับว่าไม่แคร์ เหมือนกับคุณผ่านโลกมาเยอะอย่างนั้นแหละ ทั้งๆ ที่คุณเสียใจอย่างนั้นเหรอ” ผมตอกย้ำความเจ็บปวดให้กับเขาอีก ในเมื่อเสียใจแต่ทำไมกลับทำเหมือนว่าไม่มีอะไร ทำไมต้องเสแสร้งว่าตัวเองเข้มแข็งอย่างนั้นเหรอ

“ผมไม่เป็นไรจริงๆ....” ร่างบางพูดยังไม่ทันจบ เสียงออดหน้าห้องผมดังขึ้น พร้อมกับแม่บ้านที่นำชุดของพายมาส่งให้

“ผมขออาบน้ำแล้วกลับเลยได้ไหมฮะ” แค่ฟังเขาพูดแค่นี้ความโกรธของผมก็พุ่งสูงสุด จนต้องพุ่งไปกระชากเขาสุดแรง จนร่างบางเซมาปะทะอกผมอย่างไม่ได้ตั้งใจ

“คุยกันยังไม่จบ แล้วคุณคิดจะหนีปัญหาเหรอ” ผมตะโกนเสียงดังใส่คนตรงหน้า ที่ตอนนี้ตัวสั่นเป็นเจ้าเข้า ผมก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงโกรธเขามากเพียงนี้กับการที่เขาปฏิเสธผม เพราะถ้าเป็นคนอื่นผมคงดีใจที่ไม่ต้องมารับผิดชอบ แต่กับคนตรงหน้าผมตอนนี้ผมอยากดูแลเขาจริงๆ

“ปละ ปล่อย ผมเจ็บ” มือบางพยายามแกะมือของผมออกจากการเกาะกุมแขนของเขา แต่มีหรือที่แรงคนตัวเล็กจะสู้ผมได้

“ผมไม่ปล่อย จนกว่าเราจะพูดกันรู้เรื่อง” ผมยังคงดื้อดึงที่จะคุยกับเขาต่อ ผมรู้ว่าผมเป็นคนไม่มีเหตุผลเอาเสียเลยตอนนี้ แต่ผมก็ไม่ยอมที่จะเสียเขาไปเหมือนกัน

“เราไม่มีอะไรต้องคุยกันแล้ว มันจบแล้ว คุณจะรับผิดชอบผมในฐานะอะไร แล้วแฟนคุณล่ะ แล้วครอบครัวคุณอีก ใครเขาจะรับได้ อีกอย่างเราก็ไม่ได้รักกัน คุณไม่ได้รักผม ผมไม่ได้รักคุณ” เขาคงจะหมดความอดทนกับความดื้อรั้นของผม จนพรั่งพรูคำพูดต่างๆ ที่เก็บเอาไว้ในใจออกมาจนหมด

“ใครจะคิดยังไงก็ช่าง ฉันไม่สน ฉันสนแค่ความรู้สึกของเธอเท่านั้น” ผมกอดร่างบางที่ตอนนี้สะอื้นให้อยู่กับอกผม ผมไม่อยากปล่อยเขาไปทั้งๆ ที่ยังคุยกันไม่รู้เรื่องแบบนี้หรอก

“มันไม่มีประโยชน์ อึกกกก...อะไรที่เราจะทำแบบนี้” เสียงเล็กอู้อี้อยู่กับอกของผม

“ถ้าอย่างนั้นเรามาเริ่มต้นกันใหม่ได้ไหม เริ่มต้นในแบบที่ถูกต้อง” ผมยื่นข้อเสนอที่คิดว่าเขาพอจะรับได้ให้กับเขา

“มะ หมายความว่ายังไง” เขาผละออกจากอกผม เงยหน้าขึ้นมามองผมตาแป๋วเชียว ทั้งๆ ที่ยังมีคราบน้ำตาไหลอาบแก้มเนียนใส น่ารักชะมัด

“ผมจะเริ่มต้นจีบคุณ ตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป เตรียมรับมือผู้ชายอย่างผมไว้ให้ดีก็แล้วกัน” ผมพูดพร้อมกับทำเสียงเจ้าเล่ห์จนเขาทำหน้าสงสัย แก้มนวลซับสีเลือดขึ้นมานิดหน่อย สงสัยจะเขินสินะที่ผมรุกเขาแบบไม่ทันตั้งตัวแบบนี้

“ผะ ผมจะไปอาบน้ำ จะกลับบ้านแล้ว” พูดจบร่างบางก็ตรงเข้าห้องน้ำไม่รู้ว่าเขาได้ยินสิ่งที่ผมตะโกนตามหลังเขาไปรึเปล่า

“เอาเป็นว่าตกลงตามนี้นะครับน้องพาย” ทำไมเขาน่ารักแบบนี้นะ น่ารักจนผมอยากจะครอบครองเขาไว้คนเดียว

‘ในเมื่อไม่ยอมให้รับผิดชอบ ผมก็จะจีบเขาด้วยวิธีของผม เตรียมตัวให้ดีนะครับพาย’
***************************************

ขอโทษคุณ angelnan ด้วยนะคะที่ทำให้ต้องผิดหวัง ที่นายเอกเสียตัวไปแล้วจริงๆ แต่ต่อไปหนูพายจะสตรองนะคะ  แล้วก็ขอบคุณที่เม้นให้ตลอดเลย  :monkeysad:


      TBC.
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนที่4 ความบริสุทธิ์
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 03-02-2016 21:06:48
ติดตามความสัมพันธ์ของคู่นี้ต่อ
ว่าแต่อย่าลืมไปจัดหนักให้ยายตัวบงการกับไอ้ตัวเจ้าชู้เรี่ยราดด้วยนะครับ
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนที่4 ความบริสุทธิ์
เริ่มหัวข้อโดย: kajeaw ที่ 03-02-2016 21:24:06
น่าติดตามครับ
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนที่4 ความบริสุทธิ์
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 03-02-2016 21:28:38
จะเป็นยังไงต่อรอๆๆๆๆ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนที่4 ความบริสุทธิ์
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 03-02-2016 22:40:40
พี่คิณน่ารักอยู่น้า ถึงจะดูโหดๆไปบ้างก็เถอะ
คาดว่าขี้หึงระดับสิบแน่ๆ
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนที่4 ความบริสุทธิ์
เริ่มหัวข้อโดย: nunuchhh ที่ 03-02-2016 23:11:28
สงสารน้องพาย เพื่อนนี่ก็ไม่อยากจะว่าเลย คิณ นี่สงสัยเอาแต่ใจตัวเองแน่ๆเลย แต่สนุกนะค่ะจะรออ่านนะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ :L2:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนที่4 สับสน
เริ่มหัวข้อโดย: MooKratai ที่ 04-02-2016 18:58:33
หลานคุณย่า ตอนที่5 ความสับสน
[/size]

พาย ( Part)

ผมนั่งอยู่ในรถซุปเปอร์คาร์คันใหญ่ของผู้ชายที่ผมมีอะไรด้วยเมื่อคืนนี้ ผมทำตัวไม่ถูก ไม่รู้ว่าจะทำหน้าอย่างไร เมื่อต้องเผชิญกับคนตรงหน้าที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน อีกทั้งผมยังมีอะไรกับเขาแล้วด้วย เขาบังคับที่จะไปส่งผมที่บ้าน ทั้งๆ ที่ผมพยายามจะปฎิเสธแล้วแต่เขากลับไม่ยอม ส่วนรถของผมที่จอดอยู่ที่ผับเขาบอกว่าจะให้คนขับไปส่งที่บ้านให้

ความสับสนที่เกิดขึ้นในใจไม่รู้ว่าคนตรงหน้านี้คิดอะไร เพราะตั้งแต่ขึ้นรถมา ก็ไม่ได้มีบทสนทนาใดๆ ระหว่างผมกับเขานอกจากถามทางไปบ้านผมก็เท่านั้น ความเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนมันยังไม่หายไหน เพียงแต่มพยายามที่จะเข้มแข็ง ไม่ให้คนตรงหน้าสงสารก็เท่านั้น

ผมไม่ต้องการให้เขามารับผิดชอบอะไรผมทั้งนั้น เหมือนอย่างที่ผมคุยกับเขาก่อนหน้านี้ แม้ว่าผมจะโดนยาแต่ผมก็มีสติพอ และรู้ว่าเขาไม่ผิด คนที่ผิดคือผมที่เรียกร้องให้เขาทำแบบนั้นกับร่างกายที่ควบคุมไม่ได้เลยแม้แต่น้อยของตนเอง แต่เขากลับบอกว่าจะจีบผม มันหมายความว่ายังไง ผมไม่เข้าใจเขาเลยเลยแม้แต่น้อย หรือว่าเขาแค่พูดเล่นๆ ไปอย่างนั้น ผมสับสนเกินกว่าจะคิดอะไรไปมากกว่านี้แล้ว ผมนั่งหันหน้าไปทางหน้าต่างหลับตาลงอย่างอ่อนล้า ไม่อยากคิดอะไรแล้วตอนนี้

“พาย! พายเข้าซอยนี้เลยใช่ไหม” ผมสะดุ้งตกใจเพราะเสียงเรียกของคนที่ขับรถอยู่ขางๆ หลังจากที่ผมข่มตาหลับไปนานพอสมควร

“เอ่อ...ฮะ เลี้ยวซ้ายแล้วตรงไปประมาณห้าร้อยเมตรก็ถึงแล้ว” ผมหันไปมองทางก่อนที่จะบอกทางกับคนข้างๆ อีกไม่ถึงห้านาทีก็ถึงรั้วบ้านหลังใหญ่ ก่อนที่ผมจะลงจากรถเพื่อเข้าไปในบ้าน คนบนรถกลับเรียกผมอีกครั้ง

“ไม่คิดจะชวนผมเข้าบ้านเลยเหรอครับ” ผมทำหน้าไม่ถูกเลยด้วยซ้ำ  เขาจะเข้าไปทำไม ทั้ง ๆ ที่เราก็แทบจะไม่รู้จักกันเลยด้วยซ้ำ ผู้ชายตรงหน้าผมนี่น่ากลัวจริงๆ เลย

“เข้าไปรอคนเอารถมาส่งคุณไง ไม่กลัวผมขโมยรถเธอไปขายรึไง” สงสัยเขาคงเห็นหน้าตาเหรอหราของผม จึงบอกเหตุผลให้หายข้องใจ

“เอ่อ...งั้นก็เชิญครับ”

ตอนนี้เราทั้งสองคนกำลังนั่งอยู่ที่ห้องรับแขก โดยมีผู้อาวุโสของบ้านอย่างคุณย่านั่งอยู่ด้วย เป็นครั้งแรกที่ผมทำตัวไม่ถูกต่อหน้าคุณย่าคนที่เลี้ยงผมมาตั้งแต่เล็กจนโต อาจจะเป็นเพราะความผิดของผมที่ก่อขึ้นเมื่อคืนนี้ จึงไม่กล้าสบตาท่านเลยแม้แต่น้อย
“ทำไมกลับเอาป่านนี้น้องพาย” นั่นคือประโยคแรกที่คุณย่าเอ่ยออกมา
“เอ่อ....พาย” ผมเอ่ยออกมาได้แค่นั้น เพราะตั้งแต่เกิดมาไม่เคยโกหกคุณย่าเลยสักครั้ง จึงไม่รู้จะอธิบายกับท่านว่ายังไง

“พายไปนอนที่ห้องผมเองครับ พอดีพายดื่มไปนิดหน่อยเลยขับรถกลับไม่ไหว” คุณคิณเป็นคนตอบคุณย่า ซึ่งทั้งหมดที่เขาพูดออกมาคือคำโกหก ผมไม่รู้ว่าตอนนี้ควรทำอะไร จะตอบคุณย่าว่าอย่างไร ทำได้เพียงก้มหน้ามองมือตัวเอง

“แล้วคุณเป็นใคร ทำไมน้องพายถึงต้องไปพักด้วย จะว่าเป็นเพื่อนก็ไม่น่าใช่ เพราะดูน่าจะอายุห่างกันเยอะอยู่”  คุณย่าเอ่ยอย่างจับผิด มีหรือคนที่ผ่านโลกมาเยอะอย่างคุณย่าจะมองไม่ออกว่าเราสองคนไม่ได้เป็นเพื่อนกัน

“ผมเป็นรุ่นพี่ของพายครับไม่ได้เป็นเพื่อนหรอกครับ” คุณย่ายังคงสงสัยอยู่ในทีแต่ก็ไม่ถามอะไรต่อ เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเราสองคน

“แล้วเป็นยังไงบ้างน้องพาย ดีขึ้นรึยัง”

“ดะ...ดีขึ้นแล้วฮะคุณย่า” อ่า...โกหกคุณย่าอีกแล้ว ‘ขอโทษนะฮะคุณย่า’

“คราวหลังถ้าจะไปค้างที่ไหนโทรบอกที่บ้านบ้างก็ดีนะน้องพาย ไม่ใช่ว่าอยู่ๆก็หายไปเลย รู้ไหมว่าทุกคนเป็นห่วงขนาดไหน” คุณย่าทำหน้าดุใส่ผมอีกแล้ว ผมทำผิดจริงๆ แต่ก็ไม่อยากให้คุณย่าโมโห

“เข้าใจแล้วฮะ แล้วน้องพายก็ขอโทษที่ทำให้คุณย่าเป็นห่วง” ผมทำได้เพียงยกมือไหว้ขอโทษผู้มีพระคุณที่ต้องทำให้อดหลับอดนอนเพราะความเป็นห่วง

คุณคิณนั่งรอรถของผมที่ให้คนของเขาขับมาส่งให้ จึงขอตัวกลับ  เราไม่ได้คุยอะไรกันไปมากกว่านั้น เขาแค่คงต้องการแกล้งผมเล่นๆ เรื่องที่บอกว่าจะจีบผม แถมยังจะรับผิดชอบทุกอย่างอีก จะมีใครที่ไหนที่อยากยอมรับผู้ชายเหมือนกันมาเป็นเมียหรือแฟน เขาก็คงพูดไปอย่างนั้นแหละมั้ง

หลังจากนั้นผมก็คุยกับคุณย่าอีกนิดหน่อย จึงขอตัวขึ้นห้อง นอนเพื่อไปพักผ่อน ตอนนี้ผมรู้สึกเจ็บช่องทางด้านหลังเป็นอย่างมาก รู้สึกเหมือนกับจะเป็นไข้ด้วย แต่จะโทษใครได้นอกจากความโง่ของตัวเอง แค่คิดก็ปวดหัวจนไม่อยากจะทำอะไร ทิ้งตัวลงนอนบนเตียงนุ่มที่เวลาสัมผัสทุกครั้งทำให้ผ่อนคลาย  แต่ครั้งนี้กลับต่างไปจากทุกครั้ง  ไม่ได้รู้สึกผ่อนคลายลงเลยสักนิด ผมพยายามข่มตานอนหลังจากทานยาลดไข้เข้าไปแล้ว อาจจะเป็นเพราะฤทธิ์ยาจึงทำให้ผมเคลิ้มหลับไปในเวลาอันรวดเร็ว

เสียงเคาะประตูดังมาจากข้างนอก ทำให้ผมสลึมสลือตื่นขึ้นมาอย่างยากลำบาก  ลุกขึ้นไปเปิดประตูทั้งๆ ที่รู้สึกเสียดสีทางด้านหลังเป็นอย่างมาก แต่ก็ต้องพยายามเดินให้เป็นปกติ
 
“พี่พายเป็นยังไงบ้างฮะ คุณย่าบอกน้องบราวว่าพี่ไม่สบาย” น้องชายคนเล็กของบ้านเอ่ยถามผมด้วยความเป็นห่วง

“อือออ ไม่สบายนิดหน่อยน่ะ” ผมไม่อยากยืนนานๆ จึงเดินกลับไปล้มตัวลงนอนตามเดิม เพราะรู้สึกปวดหัวจนแทบจะระเบิดแล้วตอนนี้

“ตัวร้อนจังเลย ตัวทานยารึยัง” บราวนี่ยื่นมือมาอังหน้าผากและใบหน้าของผม ผมทำได้เพียงพยักหน้าเบาๆ ก็เท่านั้น

“เดี๋ยวเค้าเช็ดตัวให้ แล้วทานข้าวทานยานะ” น้องชายที่ดูนิสัยเหมือนเด็ก แต่เวลานี้กับอาสาดูแลผมที่ป่วย น้องชายตัวน้อยของผมโตแล้วสินะ รู้จักดูแลและเป็นห่วงคนในครอบครัวด้วย  เสียงพูดของบราวนี่เงียบไปแล้ว ได้ยินเพียงเสียงกุกกักดังอยู่ในห้อง น้ำ  แต่ผมก็ปวดหัวเกินกว่าที่จะลืมตาขึ้นมาดูว่าน้องทำอะไรอยู่ ปวดหัวจนลืมว่าตามตัวมีแต่ร่องรอยที่ไม่ควรจะให้ใครเห็นแม้แต่น้องชายของตนเอง ผมเบลอๆยาด้วยแหละเลยได้แต่นอนหลับตาอยู่อย่างนั้น

“เดี๋ยวบราวถอดเสื้อเช็ดตัวให้นะ”  น้องคนเล็กของบ้านเอ่ยกับพี่ชายที่ตอนนี้ไม่รู้ว่าหลับไปรึยัง เพราะไม่มีการตอบรับจากร่างบางที่นอนอยู่บนเตียง

ผมไม่ได้หลับหรอกแค่ไม่อยากลืมตาหรือพูดอะไรก็เท่านั้น ปล่อยให้เจ้าตัวแสบเช็ดตัวไปนั่นแหละดีแล้ว ผมนอนหลับสบายๆ แบบนี้ดีกว่า

“พะ..พี่พาย! ระ..รอยอะไรเต็มตัวเลย” บราวนี่ตะโกนออกมาเสียงดังจนผมต้องลืมตาขึ้นมาอย่างเสียไม่ได้ ก่อนที่สมองของผมจะประมวลเหตุการณ์อย่างช้าๆ ว่าเจ้าตัวแสบตกใจเรื่องอะไร ผมรีบดึงผ้าห่มขึ้นมาปกปิดร่องรอยน่าอายนั่น แม้ว่ามันจะไม่ทันแล้วก็ตาม ก่อนที่จะหันไปสบตากับน้องชายคนเล็กที่ตอนนี้มองผมอย่างไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่ตนเองเห็น

“พี่พายเจ็บมากไหม” คนที่ดูตกใจมากในตอนแรกกลับถามผมออกมาด้วยความเป็นห่วง จนผมแทบจะกลั้นน้ำตาไว้ไม่ไหว น้องชายผมไม่ถามเลยสักนิดว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของผม เขาดูแค่นี้ก็น่าจะรู้แล้ว

“จะไม่ถามพี่เหรอว่าเกิดอะไรขึ้น” จนผมเป็นฝ่ายที่ต้องถามกลับซะเอง เพราะรู้ว่าน้องคงสงสัยแต่ก็ไม่กล้าที่จะเอ่ยออกมา

“ถ้าพี่พายยังไม่อยากเล่าก็ไม่ต้องหรอกฮะ รอให้พี่สบายใจก่อนค่อยบอกน้องบราวก๊ได้ นอนพักเถอะเดี๋ยวเช็ดตัวให้นะฮะ”  เขาเช็ดตัวให้ผมอย่างเบามือ แรงสะอื้นน้อยๆ ของน้องชายคนเล็กทำให้ผมต้องลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง

“พี่ไม่เป็นไร ไม่ร้องนะ” ผมยกมือลูบหัวๆของน้องชายอย่างเอ็นดู

“ฮะ” เสียงตอบรับเพียงสั้นๆ ของเขาทำให้ผมใจหาย คนที่ร่าเริงตลอดเวลากำลังร้องให้เพราะผมซึ่งเป้นพี่ชาย

“ไม่เอาไม่ร้อง พี่บอกแล้วว่าไม่ได้เป็นอะไรมาก”

“อืออออ...ไม่ร้องแล้ว” เขาเช็ดตัวให้กับผมจนเสร็จก่อนที่จะหาเสื้อผ้าชุดใหม่มาให้ผมใส่  ผมจึงหลับอีกรอบ

ตื่นขึ้นมาอีกทีก้ไม่รู้ว่ากี่โมงแล้ว รู้เพียงแต่ว่าเจ้าตัวแสบยังนั่งเฝ้าผมอยู่ที่เดิม แต่ตอนนี้นั่งสัปหงกจนหัวแทบจะโขลกกับเตียงนอนแล้ว

“บราว...น้องบราวกลับไปนอนที่ห้องตัวเองได้แล้ว”

“อืออออ....พี่พายเป็นไงบ้าง ดีขึ้นรึยัง”  มือบางยื่นมาแตะหน้าผากผมเพื่อวัดไข้

“ตัวยังร้อนๆ อยู่เลย เดี๋ยวทานข้าวนะฮะ จะได้ทานยา” พูดจบปุ๊บก็เดินออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว อีกสักพักเขาก็กลับมาพร้องกับข้าวต้มอีกชาม ผมทานข้าวต้มได้ไม่เยอะเพราะรู้สึกคอแห้งเวลากลืนข้าวลงไปแต่ละคำรู้สึกบาดคอชะมัด

“ทานอีกนิดสิฮะ ยังเหลือตั้งเยอะ” น้องชายผมยื่นช้อนที่ตักข้าวต้มจนเต็มคำมาให้ผม จำต้องอ้าปากรับทั้งๆ ที่เจ็บคอมาก

“พอแล้วน้องบราว พี่ทานไม่ไหวแล้ว”

“ง้นก็ดื่มน้ำอุ่น แล้วก็ทานยานะฮะ วันนี้น้องบราวจะนอนเป็นเพื่อน” หลังจากนั้นเขาก็กลับไปห้องตัวเอง อาบน้ำเปลี่ยนชุดนอนเรียบร้อย

คุณย่าขึ้นมาเยี่ยมตั้งแต่หัวค่ำตอนที่ผมยังนอนอยู่  หลังจากพี่ซองกลับมาจากทำงานก็ขึ้นมาดูอาการผมเช่นกันแต่ผมก็หลับเพราะฤทธิ์ยาเลยไม่รู้ว่าเข้ามาเยี่ยมกันตอนไหน มีเพียงน้องบราวเท่านั้นที่รู้เรื่องของผม เขาจึงพยยามเฝ้าผมตลอดเวลา เพื่อไม่ให้คนอื่นในบ้านเห็นรอยแปลกๆ ในตัวผม

‘คืนที่แสนจะเหนื่อยล้า ทั้งกายและใจแต่ก็ยังมีน้องชายอยู่เคียงข้าง’
**********************************

จบไปอีกตอน  ตอนนี้สั้นไปหน่อย จะพยายามๆ สู้ (นักเขียนอนุบาล) :กอด1: กอดๆๆๆเพิ่มความอบอุ่นในหัวใจ


             TBC.
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนที่5 สับสน
เริ่มหัวข้อโดย: angelnan ที่ 04-02-2016 19:12:48
ไม่เป็นไรจ้า แต่งตามที่ว่าง พอร์ตเรื่องไว้เลยจ้า ติดตามน้า
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนที่5 สับสน
เริ่มหัวข้อโดย: nunuchhh ที่ 04-02-2016 20:27:39
พี่น้องรักกันมากดีจังเลย เรื่องน่ารักมากเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนที่5 สับสน
เริ่มหัวข้อโดย: xirainx@gamil.com ที่ 04-02-2016 20:40:41
 :กอด1: :mew2:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนที่5 สับสน
เริ่มหัวข้อโดย: MooKratai ที่ 04-02-2016 22:31:28
พี่น้องรักกันมากดีจังเลย เรื่องน่ารักมากเลยค่ะ

เราตั้งใจแต่งให้เป็นแนวครอบครัวนะ แต่ไม่รู้ว่ามันจะออกมาดีรึป่าว ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนที่6 จีบ?
เริ่มหัวข้อโดย: MooKratai ที่ 05-02-2016 19:18:00
หลานคุณย่า6 จีบ?
[/size]
 
พาย(Part)

หลังจากที่ผมป่วย ก็ผ่านมาเกือบอาทิตย์แล้ว ชีวิตผมยังคงดำเนินไปตามปกติ เหมือนๆ กับที่เคยเป็น แต่ที่ต่างออกไปคือมีดอกไม้ส่งมาให้ผมทุกวัน จนผมแทบจะทำหน้าไม่ถูกเลยด้วยซ้ำ แต่สิ่งที่แปลกกว่าอะไรทั้งหมดก็คือดอกไม้ที่ถูกส่งมาให้ มันไม่ใช่กุหลาบ คาร์เนชั่น ลิลลี่ หรืออะไรเทือกนั้น แต่มันคือดอกกล้วยไม้  กล้วยไม้จริงๆ นะครับผมไม่ได้พูดผิดหรอก ดอกกล้วยไม้สีม่วง สีขาว สีส้ม ชมพู ถูกส่งมาเปลี่ยนสีไปเรื่อยๆแล้วแต่วัน จนพวกน้องๆ ในร้านแซวว่าพ่อดอกกล้วยไม้ที่ส่งดอกไม้มาแทนเจ้าตัวนี้ทำไมไม่มาให้พวกเขาเห็นหน้าสักที เพราะผมไม่ได้บอกคนอื่นว่าเขาเป็นใครทั้งๆ  ที่ผมรู้อยู่แก่ใจ ข้อความที่ถูกถ่ายทอดมาในการ์ดใบเล็กก็เพียงสั้นๆ เท่านั้น

'จากคนที่คุณก็รู้ว่าใคร'

"ใจลอยไปหาพ่อดอกกล้วยไม้เหรอฮะ" เสียงมินดังขึ้นขณะที่ผมนั่งคิดถึงเจ้าของดอกกล้วยไม้จริงๆ นั่นแหละ

"พี่จะไปคิดถึงเขาทำไม ไม่ได้เป็นอะไรกันซักหน่อย" ตอนนี้เราสองคนอยู่ในครัว กำลังเร่งทำเค้กเพื่อให้ทันกับช่วงเวลาที่ลูกค้าเข้า

"อ้าว! ก็มินเห็นพี่แอบลอบยิ้มทุกครั้งที่ได้รับดอกกล้วยไม้นี่ฮะ"

"พี่แค่คิดว่าคนที่เอาดอกกล้วยไม้มาจีบคนอื่นนี่คิดอะไรอยู่ก็แค่นั้น" ผมเอ่ยอย่างที่ใจคิด เพราะตั้งแต่เกิดมา ผมก็ไมเคยเห็นใครส่งดอกกล้วยไม้มาให้กับคนที่ตนสนใจซักคน

"ไม่เห็นต้องสงสัยเลยฮะ พ่อดอกกล้วยไม้ของพี่พายอาจจะทั้งรักทั้งบูชาพี่พายเลยส่งมันมาแทนความรู้สึกไง" เสียงใสตะโกนมาก่อนตัวของน้องชายผมเอง ทั้งขี้โวยวายแล้วก็เสียงดังเป็นที่สุด

"บ้าเหรอบราว พี่พายไม่ใช่พระนะจะได้เอาดอกกล้วยไม้มาบูชา" มินเอ่ยขัดขึ้นซึ่งมันก็ตรงกับความคิดของผมพอดี

"ทะลึ่งใหญ่แล้วนะ เอาพระสงฆ์องคเจ้ามาล้อเล่น"

"ขอโทษคร้าบบบ" เสียงทะเล้นเอ่ยขึ้นอย่างไม่ได้สำนึก

"เออ!.น้องบราวลืมไปเลย ว่าพ่อดอกกล้วยไม้ส่งกำลังใจมาให้พี่พายแล้วนะฮะวันนี้"

"สีอะไรอ่ะ” มินเอ่ยขึ้นเพราะเป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่ามันคืออะไร

"สีออกชมพูๆ อมม่วงอ่ะสวยมากเลย" ผมพยายามตีสีหน้าขรึมเพื่อไม่ให้ริมฝีปากบางๆ ของผมยกยิ้มขึ้น แต่ก็ยังมิวายเดินออกจากครัวในทันที

ถึงมันจะเป็นดอกกล้วยไม้ก็จริงแต่มันไม่ใช่แบบตามท้องตลาดที่เขาเอาไว้สำหรับว่าพระ แต่มันค่อนข้างที่จะแพงแบบที่คนรวยๆ เขานิยมเลี้ยงกันนั่นแหละ  แต่จะให้ผมมานั่งอธิบายว่าวันนี้เขาส่งสายพันธุ์ไหนมาให้ก็คงบอกไม่ถูก มันก็สวยอยู่หรอกนะแต่บางทีผมก็เสียดายอยากให้มันยังสวยงามอยู่บนต้นของมันเหมือนอย่างเคย ปล่อยให้มันร่วงโรยไปตามกาลเวลาน่าจะดีกว่า
ดอกกล้วยไม้ถูกส่งมาให้ผมทุกวัน

 จนเวลาล่วงเลยเข้าอาทิตย์ที่สามแล้ว เจ้าของ มันก็ยังไม่เคยมาให้ผมเห็นหน้าเลยสักครั้ง   เค้าอาจจะแค่ส่งมาลองใจผมเล่นๆ ไม่ได้คิดจริงจังเหมือนที่เคยพูดไว้ หรือว่าอาจจะเป็นคนอื่นไม่ใช่ผู้ชายคนนั้น ผมอาจจะเข้าใจผิดไปเองคนเดียว ตอนนนี้ผมชักไม่แน่ใจแล้วว่าเค้าเป็นใคร จนเลิกคิดหาคำตอบให้กับตัวเองแล้ว ในเมื่อไม่มีเจ้าของดอกไม้ก็ไม่เป็นไร ก็ดีเหมือนกันชีวิตผมจะได้ไม่วุ่นวาย ผมจะได้อยู่อย่างสงบ ตามแบบที่เคยเป็นมาตลอด

จากที่น้องๆ แซวถึงพ่อดอกกล้วยไม้แทบจะทุกวัน ตอนนี้กลายเป็นเรื่องชินตาไปเสียแล้วที่จะมีคนเอามันมาให้ผมในทุกๆ เช้าก่อนที่ร้านจะเปิด ผมยังเก็บดอกไม้ทุกดอกที่เขาให้ไว้อย่างดี แม้ว่ามันจะแห้งเหี่ยวไปบ้าง แต่ผมก็ทำเพียงแค่เอามันไปสอดไว้ในหนังสือเล่มหนาๆ เพื่อทำเป็นดอกไม้แห้ง ตอนนี้สิ่งที่ผมกังวลใจอีกอย่างก็คือ ถ้าเขายังเอามาให้เรื่อยๆ แบบนี้ผมจะเอาไปเก็บไว้ไหน แม้มันจะถูกส่งมาแค่วันล่ะช่อก็ตามที

"แหมๆ หน้าบานเชียวนะพี่ชายเรา" น้องบราวจอมทะเล้นก็ยังแซวผมเหมือนทุกๆ วัน

"อือ พี่ยิ้มแล้วทำไมล่ะ ยิ้มไม่ได้เลยใช่ไหม" ผมหันไปทำหน้าดุใส่น้องชาย

"น่ากลัวมากกกกก" น้องชายผมทำตาโตใส่แล้วแลบลิ้นปลิ้นตา น่าจับมาหยิกให้ช้ำสักทีจะได้เลิกทำตัวทะลึ่งทะเล้นเสียที ผมไม่ได้พูดอะไรกับน้องอีก ก่อนที่จะหันหลังเดินกลับเข้าไปทำงานในครัวตามเดิม

************************

วันนี้เป็นอีกวันที่ร้านเค้กของผมค่อนข้างจะเงียบเหงา ลูกค้าน้อยเป็นพิเศษ หรือว่าอาจจะเป็นช่วงกลางเดือนลูกค้าเลยไม่ค่อยเยอะอย่างที่เคย จนน้องๆ แทบจะนั่งตบยุงเลยก็ว่าได้ แต่ก็ดีเหมือนกันน้องๆ จะได้พักผ่อนบ้าง เรานั่งเล่นกันบ้าง คุยกันบ้างตามประสา นานๆจะมีลูกค้าเข้ามาสักคน ได้แต่นั่งนึกขำๆ ว้าถ้าเป็นแบบนี้ทุกวันต้องแย่แน่ๆ เลย  ตัวผมไม่เป็นไรหรอกแต่น้องๆที่ร้านนี่สิ  นี่ผมคิดฟุ้งซ่านอะไรอีกเนี่ย ถ้าผมอยู่เฉยๆ แล้วไม่ได้ทำอะไรจะชอบคิดไปเรื่อยเปื่อย รวมทั้งเรื่องพ่อดอกกล้วยไม้นี่อีก วันนี้กลับไม่ส่งมันมาให้ผมเหมือนอย่างเคย หรือว่าเขาอาจจะเบื่อที่จะทำแบบนี้แล้วก็ได้  แล้วทำไมผมต้องคิดถึงเค้าด้วยนะ  ผมรีบลุกไปหาอะไรทำเพื่อไม่ให้ตัวเองคิดเพ้อเจ้อไปมากกว่านี้

"พี่พายไปไหนคะ" เปรี้ยวเอ่ยถามผมขณะที่กำลังลุกเดินเข้าไปข้างในครัว

"พี่ว่าจะไปทำขนมเพิ่มสักอย่างสองอย่างน่ะ เผื่อตอนเย็นมีลูกค้า หรือถ้าไม่มีก็แบ่งๆ กันเอากลับบ้านก็ได้” ผมเอ่ยยิ้มๆ ก่อนจะเดินเข้าไปข้างใน น้องบราวกับมินก็พากันเล่นเกมส์ไม่สนใจอะไรแล้วตอนนี้

 ร่อนแป้งเค้กกับผงฟู ผงชาเขียว และเกลือป่นเข้าด้วยกัน จากนั้นใส่น้ำตาลทรายที่เตรียมไว้ลงไปอย่างตั้งใจ ส่วนที่สองผมผสมไข่แดงน้ำมัน และน้ำเข้าด้วยกัน เตรียมไว้ จากนั้น ตีไข่ขาวกับน้ำตาลทราย เข้าด้วยกันจนตั้งยอดแข็ง   ก่อนที่นำส่วนผสมไข่แดงผสมกับแป้งที่ร่อนไว้ คนผสมให้เข้ากันจนเนียน และชาเขียวไม่เป็นเม็ด ใส่สีผสมอาหารสีเขียวลงไปเล็กน้อย จากนั้นนำไปผสมกับไข่ขาวที่ตีไว้ คนพอเข้ากันแล้วนำเข้าเตาอบ เท่านี้ก็ได้เค้กชาเขียวแสนอร่อย  ก่อนที่ผมจะแต่งหน้าเค้กด้วยวิปปิ้งครีม โรยผงชาเขียวเล็กน้อยเป็นอันเสร็จ ผมตั้งสมาธิทำมันอย่างมากเพื่อไม่ให้ตัวเองคิดฟุ้งซ่าน ทั้งๆ ทีมันเป็นแค่เค้กชาเขียวที่ผมแสนจะถนัด

ผมกำลังตั้งใจตัดแบ่งมันออกเป็นชิ้นที่เท่าๆ กันกลับมีใครก็ไม่รู้ยื่นดอกไม้ที่ผมคิดว่าวันนี้คงไม่ได้รับมันแล้วมาตรงหน้า จนผมตกใจแทบจะทำมีดที่ตัดเค้กหล่นเสียแล้ว แต่ผลมันก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่เพราะตอนนี้เค้กที่ผมตั้งใจทำนักหนา หน้าเละไปครึ่งหนึ่งจนผมต้องหันไปต่อว่าคนที่เล่นแผลงๆ  แต่กลับเป็นผมที่ตกใจเสียเอง

เป็นเขาๆ คนที่บอกว่าจะจีบผม ยื่นดอกกล้วยไม้มาให้ผม ยิ้มหวานๆ แปลกๆ ที่เขาส่งมาให้ผม เล่นเอาผมใจกระตุกกับการกระทำที่ผมไม่คาดคิด ผมยืนอึ้งแทบจะไม่ขยับ มีเพียงเสียงลมหายใจเท่านั้นที่บ่งบอกว่าผมยังมีชีวิตอยู่

“ให้” ถ้อยคำสั้นๆ ของคนที่ไม่ได้เจอหน้ากันเกือบเดือน เขาทักทายกันแบบนี้เหรอ คนอะไรแปลกจริงๆ หายไปตั้งนานอยากจะมาก็โผล่มาเสียเฉยๆ

“มาทำไมครับ” ผมไม่ได้ตัดพ้อเค้านะเพียงแค่สงสัยก็เท่านั้น

“คิดถึง”  สั้นไปไหมกับคำตอบที่ผมต้องการ หายไปสามอาทิตย์แล้วกลับมาหยอดกันแบบนี้อะไรของเค้า

“แค่นี้ใช่ไหมครับ” พูดจบก็ยื่นมือไปรับดอกกล้วยไม้จากคนตัวโตที่ยืนทำหน้าเอ๋ออยู่ข้างๆ

“ก็บอกว่าจะจีบ จะแค่นี้ได้ไง” เอาแต่ใจเกินไปรึป่าวครับคุณ ผมอนุญาติคุณแล้วเหรอครับ อย่ามามัดมือชกกันแบบนี้

“ใครอนุญาติ” ปากผมนี่ไปก่อนเลยครับ ทั้งๆ ที่ก็ไม่เคยคิดจะมายืนเถียงกับใครเรื่องบ้าบอพรรค์นี้เลย ผมบ้าไปแล้วแน่เลยครับ  ผมเป็นคนค่อนข้างนิ่งและสามารถควบคุมอารมณ์ตนเองได้ดี แล้วมายืนเถียงกับเขาทำไมกันเนี่ย

เขามันเป็นผู้ชายน่าหมั่นใส้ไง หายไปตั้งนานอยู่ดีๆ ก็มาพูดแต่ใจแบบนี้ใครจะยอมครับ เป็นคุณจะยอมไหมล่ะ แน่ะยังมาทำหน้าระรื่นยิมแป้นแล้นใส่ผมอีก เขาบ้าจริงๆคุณว่าไหม

“พูดอย่างนี้ผมน้อยใจนะครับ อุตส่าห์คิดถึง” หน้าตากับคำพูดคุณนี่สวนทางกันมากเลยนะครับคุณคิณ

“คงคิดถึงมากสินะครับ หายไปเกือบเดือน” ฮึ่ย ผมจะพูดประชดเขาทำไมเนี่ย ผมไม่รู้ตัวเลยปากมันพาไปเอง สมองผมผิดปกติแน่เลย

“อ่า....น้อยใจเหรอครับ” เป็นอีกครั้งกับการที่คนตรงหน้าพูดเข้าข้างตัวเองอย่างหน้าตาเฉย

“น้อยใจเรื่องอะไร เราไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย” ผมส่งค้อนให้คนตรงหน้าวงใหญ่ แต่เขากลับหัวเราะออกมาเสียงดัง แล้วพูดสิ่งที่ผมไม่คาดคิดว่าจะได้ยินจากปากคนตรงหน้า

“คุณน่ารักจังครับ”  อ่า...บอกผมทีว่าหน้าผมไม่ได้แดงเป็นลูกตำลึงสุกไปแล้วใช่ไหม

“........”

“หน้าแดงอ่ะ” แดงจริงๆ ใช่ไหมอ่ะ ผมเขินเขาเหรอ ไม่ใช่หรอกผมแค่โกรธคนกวนประสาทก็เท่านั้น

“........”ผมนับหนึ่งถึงสิบสติก็ยังไม่กลับมา นับจนเกือบจะถึงร้อยแล้วมั้งเพื่อเรียกสติตัวเอง

“คุณเข้ามาได้ยังไง”  ในที่สุดผมก็เอ่ยออกมาจนได้ หลังจากที่พยายามอยู่นานสองนาน

“ก็เข้ามาทางประตู อีกอย่างก็เดินเข้ามา”

“ประสาท”  ผมเอ่ยกับตัวเองเบาๆ

“ใครอนุญาติ”

“เอาอีกล่ะ จะจีบก็ต้องขออนุญาติ  เข้ามาหาก็ต้องขออนุญาติ”  คุณเคยเห็นคนบ้าลอยหน้าลอยตาตอบอยางหน้าไม่อายไหมครับ คุณคิณนี่แหละคนแรก

“ก็นี่มันที่ส่วนบุคคล ห้ามคนนอกเข้า”

“ผมไม่ใช่คนนอกสักหน่อย คุณก็รู้ว่าเราเป็น......” เขาจงใจเว้นคำพูดไว้แค่นั้น  ผมเกือบลืมไปแล้วนะ อาจจะเพราะมันผ่านมาสักพักแล้ว  แล้วตั้งแต่เขาเข้ามาเราก็ไม่ได้พูดเรื่องนั้นเลย มันเลยทำให้ผมสบายใจที่จะพูดกับเขา

“.......”

“........”

ผบเงียบเขาก็เงียบ คงจะรู้ตัวว่าพูดสิ่งที่ไม่ควรพูดออกมา ก่อนที่ผมจะหันไปจัดการกับเค้กเละๆ ตรงหน้าต่อโดยไม่หันไปคุยกับเขาอีก

“ขอโทษครับ” คุณคินเอ่ยออกมาไม่มีท่าทีของคนขี้เล่นคนเดิม  เขาไม่ได้ผิดอะไรเลย เพียงแต่ผมอยากจะลืมมันไปก็เท่านั้น ไม่อยากจะไปตามเอาเรื่องคนที่ทำให้เกิดขึ้น เพราะความขี้ขลาด และไม่อยากทำความรู้จักกับคนพวกนั้นไปมากกว่านี้ ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าชะเอมรู้เรื่องรึป่าว กลัวว่าถ้ารู้ความจริงว่าเพื่อนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วยผมจะรับมันไม่ไหว เลยเลือกที่จะทำเป็นลืมๆ มันไป รอให้พวกเขาได้รับผลกรรมจากการกระทำนั้นเอง

“คุณไม่ผิดซะหน่อย ขอโทษทำไมครับ” หันกลับมาพูดกับคนตรงหน้า ผมนี่แหละคนที่ผิดตัวจริง ผิดทุกอย่าง  แล้วตอนนี้ก็ผิดที่เผลอพาลใส่คุณคิณ

“ผิดสิครับ ผิดที่ผมทำให้พายไม่สบายใจ”

“ปละ..เปล่านะครับ แค่รู้สึกว่าเรื่องมันน่าจะลืมๆ ไปได้แล้วก็แค่นั้น”

“ผมลืมไม่ลงหรอก แต่ผมจะเก็บมันไว้ให้ลึกที่สุดเพื่อที่คุณจะได้สบายใจ” พ่อดอกกล้วยไม้ของน้องๆ ช่างพูดจาหวานจนเลี่ยนเลยครับคราวนี้

“งั้นเรามาเริ่มกันใหม่นะครับ เริ่มต้นจีบ เริ่มต้นชอบ เริ่มต้นรัก เริ่มต้นเป็นแฟน ”   

“คุณจะบ้าเหรอ มาพูดจาบ้าบออะไรแถวนี้ ไม่หลงกลหรอก”

“ว้า... อุตส่าห์ใช้จังหวะที่เผลอนะเนี่ย เผื่อสมองน้อยๆ จะคิดไม่ทัน”  เขาว่าผมโง่ ไม่ทันความคิดเขาเหรอ

“ผมไม่ได้โง่นะครับคุณคิณ”

“อ้าว..นึกว่างงอยู่แล้วจะตอบตกลงนี่นา”  เค้าพูดไปเรื่อยเลยครับ จากเรื่องนั้นต่อเรื่องนี้ สุดท้ายก็เข้าตัวผมเต็มๆ ชาติที่แล้วต้องเป็นปลาไหลแน่เลยคุณคิณเนี่ย ลื่นไปเรื่อยจับไม่ได้ไล่ไม่ทัน

“คุณคิณออกไปได้แล้วครับ ผมจะทำงาน” หาทางเลี่ยงไม่ได้ ก็ไล่ให้ออกไปตรงๆ นี่แหละ เบื่อคนหน้าด้าน

“ผมช่วยทำไหมครับ”

“ทำเป็นเหรอคุณ”

“อาหารไทย อิตาเลียน  อาหารฝรั่งเศส ขนม นมเนยผมผ่านมาหมดแล้ว”

“คุณทำเป็นทั้งหมดที่พูดมาเลยเหรอครับ” ผมทำตาวาวอย่างทึ่งๆ ในตัวของคุณเค้า

“เปล่า...แค่จะบอกว่าเคยกินมาหมด แต่ทำไม่เป็นซักอย่าง” อ่า.... ผมคุยอยู่กับคนบ้าจริงๆ แน่เลย  อยากจะหยิบมีดมาผ่าสมองเขาดูจริงๆ เลยว่าในนั้นมันมีอะไร ทำไมเขาถึงเป็นคนที่แปลกประหลาดได้ขนาดนี้ ถามเรื่องหนึ่งตอบไปอีกเรื่องซะงั้น

“งั้นก็กรุณาออกไปเลยครับ เกะกะเวลาทำงาน”

“ขอช่วยนะครับ นะครับ อย่าไล่กันเลย”  สายตาอ้อนๆ แบบนั้นคืออะไร

“อือ” ตอบไปแล้วเหรอ ปากผมมันขยับไปเองอ่ะ

“จริงเหรอครับ ให้ผมช่วยจริงๆ ใช่ๆไหม” ท่าทางกระตือรือล้นเกินจริงของคนตรงหน้าทำผมหมั่นใส้

“ถ้าอย่างนั้นช่วยตอกไข่ครับ สามฟองเอาใส่ชามนี้นะครับ” ผู้ช่วยจำเป็นหยิบไข่ขึ้นมา ก่อนที่จะยืนจ้องอยู่ว่าจะทำยังไงให้มันออกมาดี ผมยืนมองไม่บอกหรอกนะว่าทำยังไง จะดูสิว่าคนที่อยากช่วยนี่จะท่าดีทีเหลวรึป่าว

คุณคิณยืนนิ่งไปซักพัก ก่อนที่จะตัดสินใจตอกไข่ใบเล็กใส่ขอบชามจนเต็มแรง ทุกคนเข้าใจใช่ไหมครับว่าการตอกไข่ไม่จำเป็นต้องออกแรงมากมายขนาดนั้น ทำแค่เบาๆ เปลือกก็แตกแล้ว แต่นี่ผู้ชายตัวโต ออกแรงไม่ยั้ง ตอนนี้ผู้ช่วยของผมก็เลยมีสภาพอย่างที่เห็นนี่แหละครับ

“ฮึ...ฮึ....” ผมพยายามกลั้นเสียงไม่หัวเราะคนตรงหน้า ทั้งสงสารทั้งตลก ใครจะไปคิดล่ะว่าทำไม่เป็นแม้กระทั่งตอกไข่

“อ่า...เลอะหมดเลย” คุณคิณมองผมหน้าเจื่อนๆ ก่อนที่ผมจะยื่นทิชชู่ให้เขาเช็ด

“ขอบคุณครับ”  เขาใช้ทิชชูเช็ดไปเรื่อย เพราะไม่รู้ว่าจุดไหนที่มันเลอะบ้างบนหน้าของเขา แต่มันก็ไม่ค่อยจะตรงจุดซักเท่าไหร่

“ผมช่วยครับ” ผมดึงทิชชู่อันไหม่ออกมา ก่อนที่คุณคิณจะก้มหน้าลงมาเพื่อให้ผมเช็ดมันได้ง่ายขึ้น มุมนี้ไม่ดีเลยแฮะ ไม่ดีต่อใจดวงน้อยๆ ของผม ที่อยู่ดีๆ มันก็รัวราวกับผมพึ่งไปวิ่งหนักๆ มาอย่างนั้นแหละ

“ดีจัง” คุณคิณยิ้มน้อยๆ ทั้งๆ ที่ตาก็ยังจ้องผมอยู่อย่างนั้น

“เสร็จแล้วครับ”

“เร็วจังเลย ยังอยากอยู่แบบนี้ต่ออีกนานๆ จังครับ”  อย่าอ่อยไม่หลงกลหรอก ชิส์

“จะช่วยทำไหมครับ ถ้าช่วยก็เร็วๆ ถ้าไม่ก็ออกไปเลย” ผมแกล้งเอ่ยเสียงดัง เพื่อกลบเกลื่อนความอายของตนเอง

“ครับ ครับ ทำเดี๋ยวนี้แหละครับ”

 วันนั้นเลยจบลงด้วยการที่ผมเริ่มสอนคุณคิณตั้งแต่ตอกไข่ทำยังไง ร่อนแป้งทำยังไง เหมือนผมสอนเด็กสิบขวบทำขนมเลยครับ หรือไม่อาจจะต่ำกว่านั้น เพราะเด็กสิบขวบบางคนทำอาหาร หรือขนมง่ายๆ ได้ดีกว่าคุณคิณเยอะ  เขาไม่ได้ช่วยอะไรมากหรอกครับ เพราะแค่ให้ทำอะไรง่ายๆ ยังแทบจะต้องทำให้ดูเป็นตัวอย่าง คุณทำอะไรไม่เป็นจริงๆ ใช่ไหมเนี่ย

‘วุ่นวายครับ พูดได้คำเดียว เลยวันนี้’
*************************************

       ตอนนี้คุณคิณทำน้องพายเสียลุคคุณหนูผู้เรียบร้อยไปซะแล้ว เพราะความกวนบวกกับความบ้า น้องพายเลยบ้าตาม(อ่ะไม่ใช่ล่ะ) น้องพายจะทำอย่างไรดีล่ะทีนี้ พ่อดอกกล้วยไม้ผู้ไม่เหมือนใครซะด้วย ทำเป็นไม่กล้าจีบนะตอนแรก  เม้นๆ ให้ด้วยน๊า
 :L2:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนที่6 จีบ?
เริ่มหัวข้อโดย: p_phai ที่ 05-02-2016 21:25:05
 :mew1:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนที่6 จีบ?
เริ่มหัวข้อโดย: kajeaw ที่ 05-02-2016 21:26:07
ว้าววว เริ่มจีบกันแล้ว น่ารัก
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนที่6 จีบ?
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 05-02-2016 23:47:07
เอิ่ม คารวะความลื่นความกะล่อน  o22
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนที่6 จีบ?
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 06-02-2016 00:40:25
จะผ่านด่านคุณย่า พี่ชาย และ น้องชายได้ไหมนะ
สู้ๆ นะครับ
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนที่6 จีบ?
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 06-02-2016 01:00:24
อร๊ายยย ฟินๆๆๆ
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนที่6 จีบ?
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 06-02-2016 09:35:59
อิอิ
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนที่6 จีบ?
เริ่มหัวข้อโดย: Kalamall ที่ 06-02-2016 10:54:43
 :-[ ชอบๆ น่ารัก ฟีลกูดแบบนี้เราชอบ
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนที่5 สับสน
เริ่มหัวข้อโดย: nunuchhh ที่ 06-02-2016 13:40:47
พี่น้องรักกันมากดีจังเลย เรื่องน่ารักมากเลยค่ะ

เราตั้งใจแต่งให้เป็นแนวครอบครัวนะ แต่ไม่รู้ว่ามันจะออกมาดีรึป่าว ขอบคุณค่ะ
เราชอบนะน่ารักมากกกกก เอาใจช่วยนะรออ่าน
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนที่6 จีบ?
เริ่มหัวข้อโดย: kokoro ที่ 06-02-2016 15:29:28
รอติดตามการจีบของพ่อกล้วยไม้ต่อไปค่ะ
น้องพายอย่าเขินบ่อยค่ะ เดี๋ยวพี่คินได้ใจ อิอิ
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนที่6 จีบ?
เริ่มหัวข้อโดย: MooKratai ที่ 06-02-2016 23:40:04
วันนี้ไม่ได้อัพนิยายนะคะ
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนที่7 รุก
เริ่มหัวข้อโดย: MooKratai ที่ 07-02-2016 09:40:16
หลานคุณย่า7 รุก
[/size]

คิณ(Part)

 ตลอดสามอาทิตย์ที่ผ่านมา ที่ผมไม่ได้ไปหาพาย ไม่ใช่ว่าผมไมคิดที่จะจริงจังกับเค้านะครับ เพียงแต่ผมมีงานด่วนที่ต้องบินไปคุยด้วยตนเองที่อเมริกา แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ไม่ได้หายไปเลยโดยที่ไม่มีอะไรแสดงถึงความจริงใจของผมนะ  อาจจะแปลกที่ผมส่งดอกกล้วยไม้วันล่ะช่อไปให้เขา แต่สำหรับผมมันคือสิ่งที่ดีที่สุดที่จะสามารถแสดงความจริงใจของผมออกไป  เขาคงคิดว่าผมแปลกแน่ๆ เลย ที่ส่งมันไปให้  แต่จะมีสักกี่คนที่รู้ความหมายที่แท้จริงของมัน ดอกกล้วยไม้เป็นสัญลักษณ์ของความรักและความสง่างาม  ตามความหมายของชาวจีนเป็นพืชแห่งกลิ่นกษัตริย์ หรือเป็นดอกไม้เอาไว้สื่อภาษารัก ดูมีสาระดีใช่ไหมครับ
 
'ฉันไม่อาจห้ามใจให้คิดถึงเธอได้'

มันจึงเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่จะแทนความรู้สึกในช่วงที่ผมไม่ได้เจอกับเขา เขาอาจจะมองมันเป็นแค่เรื่องตลกไปเลยก็ได้ คนบ้าที่ไหนส่งดอกกล้วยไม้มาจีบ 

ก่อนหน้านี้ที่ผมเคยบอกว่าไม่กล้าที่จะเข้าไปจีบพาย ก็เพราะเขาดูเป็นคนที่เหมาะจะอยู่ในที่ๆ คนอย่างผมเข้าไม่ถึง แต่หลังจากที่เขาเป็นของผมแล้ว แม้จะแค่ร่างกาย แต่ผมจะไม่ยอมปล่อยหัวใจของเขาให้คนอื่นแน่นอน

คิดแล้วก็ตลกตัวเอง เกิดมาก็ไม่เคยทำอะไรบ้าบอขนาดนี้ ไม่เคยคิดจะจีบใครด้วยวิธีแบบนี้เลยด้วยซ้ำ หรือเรียกว่าพายเป็นคนแรกที่ผมรู้สึกจริงจัง ผมใช้ให้คนของผมไปตัดดอกกล้วยไม้ที่แม่ผมผมเลี้ยงไว้ในสวนหลังบ้านทุกวัน ผมยังจำวันที่แม่โทรทางไกลไปด่าผมถึงอเมริกาได้ดีเลยครับ

"ไอ้คิณ แกทำอย่างนี้กับลูกรักฉันได้ยังไง" ผมงงเป็นไก่ตาแตกเลยครับ เพราะนี่มันเป็นคำทักทายแรกของคนที่อุตส่าห์โทรมาหาตั้งไกลแบบนี้เหรอ

"อะไรครับแม่ คิณยังไม่ได้ทำอะไรเลย"

"ฉันจะให้แด๊ดตัดแกออกจากกองมรดก โทษฐานที่บังอาจทำร้ายลูกรักของฉัน ไอ้ลูกเลว" แม่ผมนี่พ่นไฟใส่ผมแทบจะระเบิดแล้วมั้ง ฮ่าๆ

"โธ่แม่ แค่ไม่กี่ช่อเองให้คิณไม่ได้รึไง" ผมเริ่มจะเข้าใจแล้วว่าลูกรักของแม่คืออะไร เล่นโทรมาด่าข้ามทวีปโดยไม่ดูเวลาเลยว่าตอนนี้มันเป็นเวลากี่โมงกี่ยามแล้ว จะไม่ให้ไอ้คิณคนนี้ได้นอนเลยใช่ไหม

"ยังจะมาพูดดีอีกนะ ฉันอุตส่าห์เลี้ยงของฉันมาอย่างทะนุถนอม แต่แกกลับ โอ้ยยยย ไอ้ลูกชั่วฉันจะแพ่นกบาลแก"  ฮ่าๆ แม่ผมฮาร์ดคอร์ใช่ไหมครับ

"กลับมาแกไม่รอดแน่เจ้าลูกชาย บังอาจไปทำร้ายลูกรักแม่แกซะขนาดนั้น" เสียงแด๊ดแว่วเข้ามา ดูแด๊ดผมสิครับแทนที่จะพูดให้แม่ใจเย็นๆ กลับนั่งเฉยแถมยังสนับสนุนเมียให้ทำร้ายลูกชายสุดที่รักอีก

"แม่กับแด๊ดไม่อยากได้ลูกสะใภ้รึไง นี่คิณเอาไปจีบว่าที่เมียเลยนะเว้ย" 

"แกไม่ต้องมาพูดเลยนะ ผู้หญิงที่แกไปจีบเขานี่มันลูกเต้าเหล่าใคร ไม่ใช่เหมือนพวกผู้หญิงที่แกคั่วอยู่นะ"

"ไม่เหมือนเลยแม่ คิณรับรองว่าแม่ต้องชอบเขาแน่นอน" จะให้เหมือนได้ยังไงล่ะ แค่เพศก็ต่างกันแล้ว แต่ความสวย น่ารักนี่กินขาดแน่นอน หวังว่าแม่คงไม่เป็นลมไปก่อนนะครับ

"ให้มันจริงเถอะย่ะ แล้วเมื่อไหร่จะพามาให้ฉันรู้จัก"

"คิณยังจีบไม่ติดเลยครับ ถ้าชัวร์เมื่อไหร่ แม่เตรียมหอบสินสอดไปสู่ขอได้เลย" ถ้าผมไม่มั่นใจในตัวเองมากเกินไปอีกไม่นานผมน่าจะทำสำเร็จนะ

"เออๆ แค่นี้แหละ แต่ความผิดเรื่องที่แกให้คนของแกมาแอบตัดลูกรักของฉันน่ะยังมีอยู่นะ"  ยังไม่ลืมอีกนะคนเรา

"คร้าบบบๆ ลูกคิณจะกลับไปให้ทำโทษนะ" 

งานนี้ผมเลยโดนคุณแม่จัดหนักตั้งแต่ก้าวเข้าบ้านเลยครับ บิดหูผมแทบจะขาด ส่วนแด๊ดน่ะเหรอนั่งสงบเสงี่ยมอยู่ข้างๆ ไม่หือไมอือ ได้ยินคุณแม่คาดโทษว่าแอบไปเต๊าะเด็กที่ร้านอาหาร ผมเลยต้องเผชิญชะตากรรมคนเดียว โดยที่ไม่มีใครช่วยได้ ลงทุนเสี่ยงตายขนาดนี้หวังว่าคุณจะเห็นใจผมนะครับพาย

**************************

 หลังจากที่ผมไปหาพายเมื่อสองวันก่อน ก็ยังไม่ว่างอีกเลยจนล่วงเลยมาวันที่สาม ผมขับรถสปอร์ตคนโปรดไปยังบ้านของพายเลยครับงานนี้ จะว่าผมรุกหนักไหมก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน  ก็ผมกลัวมีคนจีบตัดหน้าผมนี่นา แค่สามอาทิตย์ที่ผมไม่ได้เจอเขาผมยังแทบจะคลั่ง เพราะกลัวมีคนอื่นมาฉวยโอกาสตอนที่ผมไมอยู่

คนในบ้านออกมาเปิดประตูให้ผมอย่างรวดเร็ว อาจจะเป็นเพราะจำรถผมได้หรือป่าวไม่แน่ใจ ผมจะนำรถไปจอดเทียบกับคนที่จอดอยู่ก่อนในโรงรถ ก่อนที่จะเดินเข้าไปข้างใน สงสัยวันนี้พายจะไม่อยู่ เพราะในโรงรถไม่มีรถของเขาจอดอยู่ แต่ไม่เป็นไร วันนี้เป้าหมายของผมไม่ใช่เขานี่  ใช่แล้วครับวันนี้ผมมาหาคุณย่าของพาย ผมเป็นคนที่เข้าตามตรอกออกามประตูนะครับ

แม้ว่ามันจะข้ามขั้นไปบ้างในตอนแรกก็ตามที ผมนั่งรอคุณย่าของพายสักพักก่อนที่ท่านจะเดินเข้ามานั่งตรงข้ามผม ท่านเป็นคนมีอายุที่ดูอบอุ่นมากๆ เลยครับ ขนาดผมไม่ได้รู้จักกับท่านมากนักยังสัมผัสได้ถึงความใจดีที่ส่งผ่านมาทางสายตาของท่าน

“สวัสดีครับคุณย่า” ผมยกมือไหว้ผู้อาวุโส ก่อนที่ท่านจะเอ่ยทักทายผมด้วยสีหน้าที่แย้มยิ้ม

“เห็นคนที่บ้านบอกว่าพ่อคิณมาหาย่ามีธุระอะไรรึป่าว” สายตาท่านบ่งบอกถึงความสงสัยเป็นอย่างมาก จะอธิบายอย่างไรดีล่ะทีนี้

“ครับ”  เอ่ยกับผู้สูงวัยอย่างนอบน้อม

“ผมอยากมาขออนุญาติคุณย่าจีบน้องพายครับ”  ไหนๆ ก็มาถึงที่แล้วจะต้องกลัวอะไรอีก ไม่เข้าถ้ำเสือแล้วจะได้ลูกเสือน้อยแสนน่ารักไปครอบครองได้อย่างไร

“คุณว่าอะไรนะ ย่าฟังไม่ผิดใช่ไหม”  ท่านยังสามารถควบคุมอารมณ์ได้อย่างดี จนตอนนี้ผมไม่รู้เลยว่าท่านคิดอย่างไร

“ครับ ผมขอจีบพายได้ไหมครับ”

“ทำไมไม่บอกเจ้าตัวเค้าเอง มาบอกย่าจะมีประโยชน์อะไร” มันก็จริงครับที่บอกคุณย่าไปอาจจะไม่ได้ทำให้พายรักผมขึ้นมา แต่ผมก็อยากแสดงให้คนที่บ้านนี้เห็นว่าผมจริงใจจริงๆ

“ผมแค่อยากบอกให้คุณย่ารับรู้ และถือโอกาสฝากตัวด้วยเลยครับ”

“ย่าน่ะไม่ได้มีปัญหาอะไรหรอกน่ะพ่อคิณ น้องพายก็โตพอที่จะดูแลตัวเองได้แล้ว ย่าให้เขาเป็นคนตัดสินใจเรื่องอนาคตด้วยตัวเอง จะเลือกเดินไปทางไหนก็ตามใจเจ้าตัวเค้า” ผมคิดไม่ผิดจริงๆ ที่ตัดสินใจมาคุยกับท่านเรื่องนี้

“ขอบคุณครับ” ผมยกมือไหว้ท่านอีกครั้ง พายเกิดมาในครอบครัวที่ดีจริงๆ มีคุณย่าที่เข้าใจ และพร้อมที่จะอยู่เคียงข้างเสมอ
จังหวะเดียวกันกับที่นายซองพี่ชายคนโตของบ้านเดินเข้ามาพอดี ผมนั่งมองคนที่เดินไปสวมกอดผู้อาวุโสก่อนที่จะห้อมแก้มคุณย่าของเค้า  ถ้าเป็นพายหรือน้องบราวทำแบบนี้ก็คงน่ารักอยู่หรอก แต่ไอ้ผู้ชายตัวยักษ์นี่มันทำ เอ่อผมอธิบายไม่ถูกครับ มันตรงข้ามกับคำว่าน่ารักเยอะเลย

“นั่งก่อนสิตาซอง”   เขาเหล่มองผมเพียงแว๊บเดียวก่อนที่จะเดินมานั่งข้างๆ คณย่า

“รู้จักกันรึยังตาซอง” คุณย่าเป็นคนเอ่ยขัดบรรยากาศแปลกๆ ในตอนนี้ให้ดีขึ้น

“พอจะรู้จักครับ แต่ไม่เคยร่วมงานกัน ว่าแต่คุณคีรินมาวันนี้มีธุระอะไรเหรอครับ”  ท่าทางของนายซองยังคงนิ่ง เหมือนหยั่งเชิงว่าผมจะทำอย่างไรต่อไป คนนี้สินะอุปสรรคในการจีบพายของผม ผมมองจากสายตาที่ไม่เป็นมิตรของเขา

“พ่อคิณเขามีธุระกับย่า” ทั้งๆ ที่เขาน่าจะได้ยินเรื่องทุกอย่างแล้วนะ จากตอนที่เขาเดินเข้ามาในห้องรับแขก แต่สงสัยมันยังไม่ชัดเจนพอ ผมจะตอบให้ฟังอีกครั้งก็ได้ เผื่อเขาจะเข้าใจอะไรมากขึ้น

“ผมมาขออนุญาติคุณย่าจีบพายครับ”   ผมตอบนิ่งๆ เพราะไม่ได้รู้สึกอะไรกับสายตาของคนตรงหน้าอยู่แล้ว คุณย่าไฟเขียวคนเดียวทุกอย่างก็ง่ายขึ้นเยอะ

“คุณจะบ้ารึไง น้องชายผมเป็นผู้ชายคุณก็เป็นผู้ชายมันจะเป็นไปได้ยังไง” เขาขึ้นเสียงใส่ผม สงสัยจะโกรธมากครับ ก็ผมจีบน้องชายสุดที่รักของเค้านิ อีกทั้งยังเป้นผู้ชายเหมือนกันอีก

“ครับผมรู้ว่าพายเป็นผู้ชาย” ผมกวนประสาทเขาเกินไปรึป่าวนะ แต่ชั่งเถอะผมมีแบ็คดี

“คุณอย่ามายั่วโมโหผม”

“ตาซองอย่าเสียงดัง ถ้าควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ก็ขึ้นไปบนบ้านเดี๋ยวนี้”  คุณย่าของเขาไล่คนที่นั่งหน้ายักษ์อยู่ตรงหน้าผม

“ครับย่า” เท่านั้นแหละครับเงียบเลย

“เราคุยกันถึงไหนแล้วนะพ่อคิณ” คุณย่าหันมาคุยกับผมอีกครั้ง ไม่ได้สนใจท่าทางของหลานชายคนโตเลยสักนิดว่าตอนนี้เสียหน้ามากแค่ไหน

“คุณย่าอนุญาติผมให้จีบน้องพายได้ไงครับ” คราวนี้ผมเน้นทุกคำเพื่อให้อีกคนได้ยินชัดๆ แถมยังเรียกน้องพายแบบที่ไม่เคยทำมาก่อน
 
“ถึงแม้ว่าย่าจะไม่ว่าอะไรแต่หลานย่าๆ รักทุกคนเท่ากัน ย่าเลี้ยงมาย่าก็รักของย่า  ถ้าใครมาทำให้หลานของย่าเสียใจ จะไม่มีวันให้อภัยเด็ดขาด หวังว่าพ่อคิณจะเข้าใจนะ”  ชัดเจนทุกคำพูดเลยครับ ไม่ต้องเอ่ยซ้ำผมก็เข้าใจ ว่าคุณย่าคงไม่อยากให้ใครเห็นหลานตนเองเป็นของเล่นแก้เหงาหรอก

“ผมเข้าใจครับ  ผมไม่ได้อยากคบกับพายแค่เล่นๆ แน่นอน เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นคงไม่ถึงนี่หรอกครับ” 

“ก็ดี ทีนี้ก็แล้วแต่เจ้าตัวเค้าล่ะนะว่าจะยังไง”

“คุณย่ามั่นใจได้ยังไง คุณคีริณมีข่าวกับผู้หญงแทบจะไม่ซ้ำหน้า” สงสัยจะทนไม่ไหวเลยเอ่ยขัดขึ้นอีกครั้ง

“ย่าก็ไม่ได้มั่นใจหรอก แค่อยากให้พ่อคิณได้พิสูจน์ก็เท่านั้น”

“แต่มันอาจจะแลกกับการที่เขาทำให้น้องเสียใจ”

“พอๆ ย่าไม่อยากคุยกับคนอคติอย่างแกแล้ว จะไปไหนก็ไป ส่วนพ่อคิณอยู่ทานข้าวเย็นด้วยกันนะ วันนี้น้องพายจะทำมัสมั่นไก่ ออกไปซื้อของตั้งนานแล้วทำไมยังไม่กลบัก็ไม่รู้” คุณย่าช่างประเสริฐจริงๆ ครับ ที่จริงผมก็อยากอยู่ต่อ แต่จะให้หน้าด้านขอเองก็กระไรอยู่

“ครับ” ผมยิ้มให้คุณย่า ก่อนที่จะเผื่อแผ่ไปถึงคนที่นั่งข้างๆ อีกหนึ่งที  เขาลุกเดินหนีไปแล้วครับ สงสัยไม่อยากเห็นหน้าหล่อๆ ของผม

ผมออกไปเดินเล่นในสวนเพื่อรอเวลาที่คนตัวเล็กจะกลับมา สวนที่บ้านนี้จัดสไตล์ไทยครับต่างจากบ้านผม ที่ไม่รู้ว่ามันเป็นสไตล์ไหน ปนกันมั่วซั่วไปหมด มีทั้งสไตล์ไทยของคุณแม่ แบบอังกฤษนี่ของแด๊ด ส่วนพี่ชายผมชอบแบบบาหลี คือใครชอบอะไรก็ซื้อมาจัดเพิ่มเติมเอาว่างั้น แต่เรือนกล้วยไม้ของคุณแม่นี่ใครห้ามแตะครับ เพราะท่านหวงมาก รักยิ่งกว่าลูกในใส้ซะอีก

สวนบ้านนี้ร่มรื่นดีครับ ดูไม่รกแต่สดชื่น ทางปีกซ้ายของสวนมีกระท่อมเล็กๆ ด้านในมีตุ่มใส่น้ำพร้อมกระบวยวางอยู่ด้วย ไม่รู้ว่าน้ำในตุ่มทานได้รึป่าว หรือแค่เอามาตั้งประดับไว้เฉยๆ ต้นชวนชมต้นใหญ่แผ่กิ่งก้านมาตามทางเดิน ดอกสีชมพูกำลังบานเต็มต้นเลยครับ
********************

ยังไม่จบตอนน๊า เดี๋ยวมาต่อ :mew1: เม้นให้กำลังใจด้วยน๊า
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนที่7 รุก (P.2)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 07-02-2016 09:50:29
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนที่7 รุก (P.2)
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 07-02-2016 10:08:28
โธ่ พี่คิณอย่ากวนพี่ซองให้มากนักเลยค่ะ พี่เขาแค่หวงน้องเองค่ะ
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนที่7 รุก (P.2)
เริ่มหัวข้อโดย: cheezett ที่ 07-02-2016 11:00:55
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนที่7 รุก (P.2)
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 07-02-2016 11:40:50
เออ  เข้าทางผู้ใหญ่เว้น มาแนวนี้ดี ฉลาด
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนที่7 รุก (P.2)
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 07-02-2016 11:51:41
ช่างเป็นคนที่ชัดเจนจริงๆ
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนที่7 รุก (P.2)
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 07-02-2016 12:04:33
ผ่านด่านคุณย่าแล้ว :mc4: :mc4: :mc4:
เหลือพี่ซองกับน้องบราวน์จะฝ่าได้ไหม

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนที่7 รุก (P.2)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 07-02-2016 12:21:19
เยี่ยมครับที่เข้าหาทางผู้ใหญ่ก่อน อย่างน้อยก็ทำอะไรชัดเจน จริงใจดี เหลือก็แต่เจ้าตัวเอง กับพี่ชาย น้องชาย ที่ไม่รู้ว่าจะผ่านด่านได้ไหม
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนที่7 รุก (P.2)
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 07-02-2016 15:36:05
อ่านแรก ๆ นี่นึกว่าอ่าน ชญ คือนิสัยบราวนี่เป็นแบบผู้หญิงง๊องแง๊งเลย
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนที่7 รุก (P.2)
เริ่มหัวข้อโดย: MooKratai ที่ 07-02-2016 17:09:11
อ่านแรก ๆ นี่นึกว่าอ่าน ชญ คือนิสัยบราวนี่เป็นแบบผู้
หญิงง๊องแง๊งเลย


อาจจะไม่สนุกถูกใจทุกคน แต่ก็ขอบคุณที่อ่านน๊า
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนที่7 รุก (P.2)
เริ่มหัวข้อโดย: Peung002 ที่ 07-02-2016 17:30:17
เพิ่งมีโอกาสได้เข้ามาอ่าน
ขอบอกว่าตอนนี้ติดงอมแงมแล้วหละค่ะ  :hao3:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนที่7 รุก (P.2)
เริ่มหัวข้อโดย: nunuchhh ที่ 07-02-2016 19:47:09
น่ารักจังเข้าทางผู้ใหญ่อย่าให้เสียชื่อนะคิณ
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนที่7 รุก (P.2)
เริ่มหัวข้อโดย: kong6336 ที่ 07-02-2016 21:26:53
มาต่อเร็วๆเลยนะ...  :angry2: :angry2:

อยากเห็นฉากหวานๆ ฟินๆ ของพี่คิณน้องพายจังเลย  :o8: :o8:

น้องบราวนี่คงไม่ป่วนสองคนนี้นะ  :hao7:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนที่7 รุก (P.2)
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 07-02-2016 21:58:21
 o13
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนที่7 รุก (P.2) จบตอน
เริ่มหัวข้อโดย: MooKratai ที่ 08-02-2016 07:42:49
**** ต่อ****

เสียงรถยนต์แล่นตรงเข้าไปจอดในโรงรถ พายน่าจะกลับมาแล้ว ผมจึงเดินตรงไปเข้าไปหาเขา คนตัวเล็กยังคงก้มๆ เงย เก็บของในท้ายรถเพื่อที่จะเตรียมเข้าไปในบ้าน โดยมีบราวนี่ยืนคุยเจื้อยแจ้วอยู่ข้างๆ

"สวัสดีครับ" ผมเดินเข้าไปทักทั้งสองคน ก่อนที่พายจะหันมาทำตาโตใส่ผม ท่าทางจะตกใจมาก

"สวัสดีฮะ" น้องบราวยกมือไหว้ผมพร้อมกับยิ้มสดใส ผมยิ้มตอบ

 "คุณมาได้ยังไง" แต่อีกคนนี่สิ คำแรกที่ทักผมนี่เหมือนกับวันนั้นเป๊ะ ไม่ดีใจที่เห็นผมเลยใช่ไหมเนี่ย

"ขับรถมาครับ" มุกเดิมครับวันนี้  ไม่ได้เตรียมมา ผมเป็นพระเอกนี่ไม่ใช่ตลกคาเฟ่จะได้คิดมุขใหม่ได้เร็วขนาดนั้น

"ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น คุณอย่ามากวนประสาท” ดูเขาทำหน้าสิครับ ทำอย่างนั้นคิดว่าผมจะกลัวเหรอ ผมว่ามันออกจะน่ารักมากกว่า

"มาหาคุณย่าครับ" ผมตอบยิ้มๆ ก่อนที่จะยื่นมือไปขอของในมือเขามาถือไว้เอง คนตรงหน้าก็ยื่นให้ผมโดยไม่อิดออด ก่อนจะเดินนำเข้าไปในบ้าน ยิ้มสิครับงานนี้ แม้ว่าเขาจะไม่พูดอะไร แต่ผมนี่โคตรฟินเลยว่ะ

"ตามพี่พายเข้าไปข้างในเลยฮะ" น้องบราวพูดแล้วเดินแยกไปอีกทาง ผมยิ้มให้น้องก่อนที่จะเดินตามอีกคนไปในครัว

"เอาวางไว้ตรงนี้เลยครับ” ผมวางของในมือไว้บนต๊ะใหญ่กลางห้องครัว

 "กลับมาแล้วเหรอน้องพาย จะทำกับข้าวเลยใช่ไหม" คุณย่าของพายเข้ามาอยู่ในครัวตั้งแต่เมื่อไหร่

"ฮะคุณย่า คุณย่าอยากทานอะไรเพิ่มไหม” เขาหันไปคุยกับคุณย่ายิ้มๆ ปล่อยให้ผมยืนเอ๋ออยู่อย่างนี้ได้ไงเนี่ย

"แค่นั้นก็พอแล้ว อ๊อ! แล้วก็ทำเผื่อพ่อคิณด้วย วันนี้ย่าชวนเขาทานข้าวที่บ้านเรา" ย่าหันไปบอกพ่อครัวหัวป่าที่เวลานี้เริ่มจะแยกเขี้ยวใส่ผมอีกแล้ว ทั้งๆ ที่ผมยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ

"พ่อคิณจะอยู่ช่วยน้องบราวในครัวก็ได้นะ เดี๋ยวย่าจะออกไปพักสักหน่อย"

"คุณคิณไม่ต้องช่วยผมหรอกครับ ออกไปรอข้างนอกเถอะ" เขากัดฟันพูดครับ ผมเห็นน่ะว่าเขาลอบถอนหายใจ ที่คุณย่าพูดแบบนั้น คนอย่างไอ้คิณหน้าด้านอยู่แล้วครับไม่มีทางยอมออกไปง่ายๆ หรอก

 "แต่ผมอยากช่วยนี่ครับ ครั้งที่แล้วพายยังให้ผมช่วยทำเค้กเลย"

 "ให้พ่อคิณช่วยนั่นแหละดีแล้ว จะได้เสร็จเร็วๆ" คุณย่านี่สุดยอดครับ สั่งจบก็เดินออกไปไม่หันมามองคนตัวเล็กที่กำลังหน้ามุ่ยอยู่ข้างหลังเลย

 "จะช่วยใช่ไหม" เขาหันซ้ายหันขวาสักพักก่อนจะยื่นผักมาให้ผม

 "ครับ?" ผมงงครับงานนี้ เอาผักมาให้ผมทำอะไรก็ไม่ยอมบอก

 “เอาไปล้างครับ” ร่างเล็กทำหน้าเซ็งๆ ใส่ผม เขาคงหงุดหงิดไม่น้อยที่มาทำให้วุ่นวาย 

 ผมนำผักออกจากถุง แล้วค่อยเปิดน้ำให้ไหลผ่านผัก ก่อนที่จะบรรจงใช้มืออันหนาของผมขัดมันครับ ขัดจนเต็มแรง เพราะไม่งั้นพวกฝุ่น หรือสารพิษต่างๆ ที่ตกค้างอยู่มันจะออกไม่หมด ฮ่าๆ แค่ล้างผักใครๆ ก็ทำได้ครับ แม้แต่เด็กอนุบาลยังทำได้เลย ผมทำไปเรื่อยๆ เพลินๆ แอบมองคนข้างๆ อีกด้วยว่ะครับ

 ถ้าเกิดว่าเป็นแบบนี้ทุกวันก็ดีสิ  เขาทำอาหารให้ผมทานทุกวัน มีผมเข้ามาช่วยทำนั่นทำนี่บ้าง แค่คิดก็อยากจะรวบหัวรวบหางจัดการเอามาเป็นเมียอย่างเป็นทางการซะเลย ผมละเมอเพ้อพกไปคนเดียวครับ ใครจะว่าบ้าก็ช่างสิ ก็ผมรักของผม

 “คุณทำอะไรของคุณเนี่ยครับ” คนตัวเล็กรีบพุ่งเข้ามาหาผมก่อนที่จะดึงผักในมือไปล้างซะเอง

 “ก็ล้างผักไง” ผมทำอะไรผิดตรงไหนว่ะ งง?

 “ใครสอนให้คุณทำแบบนี้ ผักก็ช้ำหมดสิครับ” เขาบ่นๆ มือบางก็กำลังบรรจงล้างผักอย่างเบามือ

 “ทำเบาขนาดนั้นมันก็ไม่สะอาดสิครับ”

 “ผมซื้อผักปลอดสารพิษ รับรองว่าสะอาดปลอดภัย คุณขัดขนาดนี้ผักก็ช้ำไม่น่าทานสิครับ” ก่อนที่จะหันมาสอนผมอีกที

 “ทำแบบนี้นะครับ” เขาจับมือผมวางลงบนผัก ก่อนที่จะจับมือผมลูบเบาๆ เป็นการล้างผักที่ผมคาดไม่ถึงเลยครับ  ใครก็ได้บอกผมทีว่าไม่ได้ฝันไป พายโคตรน่ารักว่ะ

 เขาทำไปเรื่อยๆ สงสัยไม่รู้ตัว แต่ผมไม่บอกหรอก ผมก้มลงไปใกล้เขามากขึ้น ตัวเขาหอมว่ะคับ หอมแบบอ่อนๆ ไม่รู้ว่ากลิ่นแป้งเด็ก หรือว่าตัวเขาหอมแบบนี้อยู่แล้ว

 “หอม” ผมเอ่ยแบบเพ้อๆ ครับ จนคนตัวเล็กรู้ตัวจึงรีบปล่อยมือผมออก ก่อนที่จะมองผมตาเขียวปั๊ดเลยงานนี้ แต่ผมไม่สนหรอก เพราะผมแอบเห็นสองแก้มน้อยๆ แดงปลั่งราวกับคนเป็นไข้ แต่นี่เป็นไข้ใจครับผมต้องรักษารึป่าวน่ะ ใจต้องรักษาด้วยใจจึงจะหาย

  “ล้างเป็นแล้วใช่ไหมครับ งั้นก็รบกวนล้างต่อให้เสร็จด้วยนะครับ” พูดแล้วไม่มองหน้านี่แปลว่าอะไรครับ เขินมากเลยเหรอ

  “ครับ” พอก่อนครับ ไม่อยากแซวเขาเยอะ เดี๋ยวคนตรงหน้าหัวใจวาย หรือเป็นอะไรไปผมจะไม่ได้ลูกสะใภ้ไปฝากแม่กับแด๊ด

 ผมไม่กวนเค้าแล้วครับเดี๋ยวอาหารเย็นมื้อนี้จะไม่เสร็จ  พายทำมัสมั่นครับ ผมเห็นเขาเคี่ยวน้ำกระทิ ใส่เครื่องแกงกลิ่นหอมน่าทานครับ พอเดือดก็ใส่เนื้อไก่ แล้วก็มันฝรั่งหั่นเป็นท่อนๆ ลงไป   จากนั้นเขาก็หันไปทำกับข้าวอีกสองสามอย่าง

 ผมก็สงสัยอยู่เหมือนกันนะว่าทำไมไม่มีใครมาช่วยพายทำกับข้าวเลย หรือว่าเขาไม่ชอบให้คนอื่นวุ่นวายเวลาทำกับข้าวก็ไม่รู้ ถ้าเป็นอย่างนั้นแล้วผมล่ะ ป่วนเขานาดนี้รำคาญบ้างรึป่าวนะ

 “ชิมครับ” อยู่ดีๆ คนตรงหน้าก็ยื่นช้อนที่มีน้ำแกงมัสมั่นมาจ่อที่ปากผม ผมทำยังไงล่ะครับ ได้แต่อ้าปากรับแล้วก่อนที่จะกลืนลงคออย่างงๆ เขาชอบทำอะไรที่ผมไม่คาดคิดครับ ทำตัวน่ารักโดยที่เจ้าตัวไม่ต้องพยายามอะไรมาก

 “อร่อยแล้วครับ” ร่างบางยิ้มให้ผมป็นครั้งแรกตั้งแต่รู้จักกันมา ขอบันทึกไว้ในประวัติชีวิตไอ้คิณเลยครับ โคตรมีความสุขว่ะ

"ผมลืมถามไปเลยว่าคุณคิณมาหาย่าทำไม" พายเงยหน้ามาคุยกับผมหลังจากที่เขาทำอาหารเสร็จแล้ว

"มาขออนุญาติ" ผมตอบแค่นั้นเพราะต้องการดูปฏิกริยาของคนตัวเล็กว่าเขาจะถามผมต่อรึป่าว

 "ขออนุญาติเรื่องอะไรครับ" ตากลมโตหรี่ลงเล็กน้อยด้วยความสงสัย

 "ก็เรื่องที่เราคุยกันวันนั้นไง พายจำไม่ได้เหรอ" ฮ่าๆ สงสัยมากสิท่า คิ้วขมวดจนเป็นปมแล้วครับคนน่ารักของผม

 "เรื่องที่เราคุยกัน?" สีหน้าเต็มไปด้วยคำถามของพาย ทำให้ผมอยากจะแกล้งเขาจริงๆ เลยว่ะ

 "จำไม่ได้เหรอครับ" ผมพูดเหมือนไม่มีอะไร แต่จริงๆ แล้วกำลังยั่วโมโหคนตรงหน้าครับ สนุกดี

 "ถ้าผมจำได้จะถามคุณคิณอีกทำไมครับ" เน้นทุกคำครับ ชัดจริงๆ บ่งบอกว่ากำลังเริ่มจะโมโหแล้วสินะ จะว่าผมโรคจิตก็ได้ แต่ผมโคตรสนุกเลยว่ะ ที่เห็นเขาแสดงอารมณ์หลากหลายให้ผมได้รับรู้

 "ก็มาขออนุญาติคุณย่าจีบน้องพายไงครับ"

 "จีบบ้าอะไรเล่า ใครให้จีบ" ถลึงตาโตๆ ใส่ผมอีกแล้วครับ

 "ก็คุณย่าไม่ได้ว่าอะไร แถมยังบอกว่าให้ผมมาคุยกับพาย ถ้าพายตกลงคุณย่าก็ไม่ว่าอะไร"

 "ไอ้คุณคิณ ก็บอกแล้วไงว่าไม่ได้" มือบางยกกำปั้นน้อยๆ ก่อนจะทำท่าเหมือนจะทุบผม แล้วก็วางมือลงเหมือนเดิม

 "พูดไม่เพราะ แถมยังจะทำร้ายร่างกายกันอีก" ผมแสร้งทำเป็นเสียงอ่อยๆ เรียกร้องความสงสาร อย่าว่าแต่ผู้หญิงมีมารยาร้อยเล่มเกวียนเลยครับ ไอ้คิณคนนี้นี่มารยาเกินร้อยเล่มเกวียนแน่นอน

 "ผมไม่ได้ตั้งใจ ขอโทษครับ" พายซื่อเกินไปไม่ทันผมหรอกครับ

 "ไม่เป็นไรหรอกครับ ก็พายไม่ชอบผมนี่ คงจะรำคาญที่ผมมายุ่งวุ่นวายตลอดเวลา ถ้าพายเบื่อที่จะอยู่ใกล้ๆ ผมก็บอกได้นะครับ ผมจะได้ไม่มาให้พายรำคาญอีก"  มันก็เสี่ยงครับกับการที่ผมพูดแบบนี้  ถ้าพายบอกว่ารำคาญแล้วให้ผมไปไกลๆ นี่ ผมตายเลยนะครับ  แต่ผมหวังว่าผลมันจะออกมาตรงข้ามมากกว่า เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นนี่เข้าทางผมเลย

"ผมไม่ได้รำคาญสักหน่อย แค่ตกใจที่คุณไปคุยเรื่องนี้กับคุณย่า"  สำเร็จครับงานนี้

"คุณย่าไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย ท่านใจดี ยอมให้ผมจีบพาย แต่พายนี่สิจะให้ผมจีบรึป่าว"

"....." เงียบครับงานนี้ ผมหน้าเสียไปเลย  ทำไมเขาเงียบไม่ยอมตอบอะไรผมเลย ใจเสียเลยงานนี้ 5ถ้าเขาบอกว่าไม่ ผมต้องถอยเหรอว่ะ ใจผมนี่เต้นรัวราวกับกลองเลย

 "ว่าไงครับ จีบได้ไหม" ตัดสินใจถามไปอีกครั้ง

 "อือ" เบาจนแทบจะไม่ได้ยิน ไม้รู้ว่าฟังผิดรึป่าว

 "พายว่าไงน่ะครับผมไม่ได้ยิน"

 "ก็บอกว่าจีบได้ไงเล่า จะให้ย้ำอะไรนักหนา " ยะฮู้ ผมอยากกระโดดเข้าไปกอดคนตรงหน้าจริงๆ เลย ทำไมผมดีใจขนาดนี้นะ ทั้งๆ ที่เราไม่ได้ตกลงเป็นแฟนกันซักหน่อย แค่เขายอมให้จีบยังบ้าขนาดนี้เลยกู

"พูดจริงๆ นะครับ" ผมจับมือบางเขย่าเบาๆ อย่างดีใจ

"ถ้าคุณไม่เลิกถามแม้แต่จีบก็จะไม่ได้ แล้วก็ช่วยปล่อยมือผมด้วยครับคุณคิณ"

 "ครับๆ" รีบปล่อยเลยครับงานนี้ กลัวพายเปลี่ยนใจ

 "ไปทานข้าวกันครับ"  เราสองคนเดินออกจากครัวไปพร้อมกัน

 

****************************

                            TBC.
คุณคิณรุกเร็วไปรึป่าวไม่รู้ น้องบราวเลยตั้งรับไม่ทัน งงตลอดเวลา เพราะไม่เคยเจอคนมาแนวนี้ แนวตลกแบบเนียนๆ กะล่อนอีกต่างหาก

 
มัดมือชกแบบไม่ทันตั้งตัว

 
ชอบก็กดถูกใจ เม้น ให้ด้วยนะคะ
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนที่7 รุก (P.2) จบตอน
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 08-02-2016 09:05:08
อีคิน เจ้าเลห์จริงๆ
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนที่7 รุก (P.2) จบตอน
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 08-02-2016 13:01:08
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนที่7 รุก (P.2) จบตอน
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 08-02-2016 15:03:55
แล้วพี่ชายจะว่าไงอ่ะน้องพาย
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนที่8 รุก (ภาค2)
เริ่มหัวข้อโดย: MooKratai ที่ 09-02-2016 19:45:46
หลานคุณย่า8 รุก (ภาค2)
 
[/size]

พาย(Part)

ความรู้สึกแปลกๆ ตอนนี้ไม่รู้มันคืออะไรกันแน่ครับ ไม่ว่าคุณคิณจะพูดอะไร ผมกลับเป็นฝ่ายตามเขาไม่ค่อยทัน แม้ว่าในตอนแรกจะไม่เห็นด้วย แต่บทสุดท้ายก็ลงเอยที่ผมเออออไปกับเขา ทั้งๆ ที่ยังงงอยู่เลย

ตอนนี้ก็เหมือนกันครับ ผมยอมให้เขาจีบได้ยังไง งง? ผมไม่ทันเขาหรือไงนะ หรือว่าผมโง่จริงๆ แต่ว่าผมเรียนหนังสือเก่งนะครับ  แล้วทำไมจึงตามความคิดคนตรงหน้านี้ไม่ทัน จะว่าเขาเจ้าเล่ห์ก็น่าจะใช่  แต่บางทีก็ดูจริงจังจนผมเชื่อว่าเขาไม่ได้เล่นๆ

เรากำลังทานอาหารเย็นครับ ทานที่บ้านผมนี่แหละ คุณย่าอนุญาตให้คุณคิณอยู่ทานด้วย  เขานั่งข้างๆ ผมครับ มีคุณย่านังอยู่ตรงหัวโต๊ะ พี่ซองกับน้องบราวนั่งข้างกัน คุณคิณเลยตั้งมานั่งข้างผมโดยปริยาย

พี่ซองดูจะไม่ค่อยสบอารมณ์กับคนตรงหน้านี้จริงๆ นั่งหน้าบูดจนน้องชายคนเล็กของบ้านต้องเอาใจโดยการตักนู่นตักนี่ให้ทาน จึงพอจะคลายความตึงเครียดบนโต๊ะอาหารลงไปได้

ส่วนไอ้คุณคิณนี่ก็ชอบยั่วโมโหครับ ตักอาหารให้ผมจนแทบจะเต็มจานแล้วเนี่ย ไม่ดูสายตาพี่ชายผมเลยรึไงนะ ผมได้แต่ก้มหน้าทานไปเรื่อยๆ ไม่กล้าหันไปหารังสีอำมหิตของพี่ซองเวลานี้หรอก

“พอแล้วครับคุณคิณมันเต็มจานผมไปหมดแล้ว” จนผมต้องปรามเขาครับ เพราะไม่งั้นก็ตักอยู่อย่างนี้ไม่ดูหรอกว่าผมจะทานหมดรึเปล่า

“อ้าวเต็มจานเลย เอามาคืนให้ผมก็ได้ครับ”  ยิ้มแหยๆ ของคุณคิณส่งให้ผม
“ไม่เป็นไรครับ ทานต่อเถอะ” ถ้าเขาไม่กวนประสาทผมก่อน ผมก็คุยกับเขาดีตลอดนะ แต่ส่วนใหญ่จะไม่เกินสามประโยค ไอ้คุณคิณคนเดิมก็กลับมา

“มัสมั่นนี่อร่อยจังเลยนะครับคุณย่า” เขาหันไปประจบคุณย่าผมแล้วครับงานนี้

“อร่อยก็ทานเยอะๆ  น้องพายเขาทำอาหารเก่ง ส่วนเจ้าตัวแสบนี่ทำอะไรไม่เป็น รอทานอย่างเดียว” ย่าชี้ไปทางน้องบราวที่นั่งทาน โดยไม่สนใจใครเลยตอนนี้

“ย่าอ่ะ ก็น้องบราวจะทำแล้วทำไมไม่ยอมให้หัดบ้างเล่า” เงยหน้างอๆ ขึ้นมาว่าอย่างเอาแต่ใจ

“ครัวย่าพังมากี่รอบแล้ว” เท่านั้นแหละครับก้มหน้าทานต่อ ไม่ต่อปากต่อคำคุณย่าเลยคราวนี้

“ดีจังเลยนะครับได้ทานอาหารอร่อยๆ ทุกวัน” คุณคิณเริ่มต่อแล้วครับคราวนี้

“ถ้าชอบก็มาบ่อยๆ อยากทานอะไรก็บอกเจ้าตัวเค้าได้” ผมเออเร่อชั่วขณะครับ ทำไมคุณย่าพูดแบบนี้ ถ้าจะทำขนาดนี้ยกผมให้เขาไปเลยดีไหม
 
“มาบ่อยๆ คงไม่ดีหรอกมั้งครับ บ้านอยู่กันคนละโยด ลำบากคุณคิณเขาเปล่าๆ” พี่ชายผมพุดเหมือนหวังดีกับเขานะครับ แต่สายตาที่แทบจะส่งไปฆ่าคนที่นั่งหน้าตายอยู่ข้างผมแล้ว

“ไม่ต้องห่วงหรอกครับคุณซอง พอดีผมมีคอนโดอยู่ใกล้แถวนี้” นี่ก็พอกันจะฆ่ากันให้ตายด้วยคำพูดเลยรึไง

“แต่ถ้ามาบ่อยเกิน มันก็คงจะรบกวนเวลาภายในของครอบครัวคนอื่นเขานะครับ” ถ้อยคำที่พูดออกมานี่สุภาพทุกคำ แต่มันเชือดเฉือนครับ

“เข้าใจแล้วครับ” อยู่ๆ คุณคิณก็เลิกต่อปากต่อคำกับพี่ซองไปเฉยๆ ก้มหน้าทานอาหารต่อ หลังจากนั้นบรรยากาศบนโต๊ะอาหารก็กลับมาเงียบอีกครั้ง  เป็นมืออาหารที่จบลงด้วยความอึดอัดจริงๆ

คุณคิณขอตัวกลับหลังจากทานอาหารเสร็จ โดยมีผมทำหน้าที่เดินไปส่งเขา คุณย่าบังคับหรอกครับไม่ได้เต็มใจ

“ขอบคุณที่ออกมาส่งนะครับ” น้ำเสียงนี่ดูสุภาพกว่าทุกครั้งนะครับคุณคิณ จะมาไม้ไหนเนี่ย

“ไม่เป็นไรครับ นี่ก็ดึกแล้วคุณรีบกลับเถอะ”ผมยืนรอคุณคิณขึ้นรถ แต่ทำไมไม่ไปซะที ยืนมองผมนานสองนานแล้วก็ไม่พูดอะไร

“ทำไมยังไม่ขึ้นรถอีกล่ะครับ” ถามย้ำอีกครั่งเพื่อความแน่ใจว่าคนตรงหน้าทำไมยังไม่ไปอีก

“พายยังไม่ให้เบอร์ผมเลย” ต้องการเบอร์โทรศัพท์ผมนี่เอง

“จะเอาไปทำไมครับ” ถ้าให้ง่ายๆ นี่ก็จะกลายเป็นว่าผมใจอ่อนกับเขา ไม่ได้หรอกเดี๋ยวจะได้ใจคิดว่าเรามีใจให้ แค่ให้จีบไม่ได้แปลว่าใจอ่อนให้แล้วสักหน่อย

“อ้าว! ถ้าไม่ให้ผมจะจีบพายได้ไงครับ” ฮึ ยังจะมีหน้าว่าจีบยังไง นี่ขนาดไม่มีเบอร์ยังบุกมาถึงบ้านเลย ไม่อยากคุยกับคนตรงหน้าเยอะเดี๋ยวหลงกลความเจ้าเล่ห์

“อยากได้ก็ไปหาเอาเองสิ ถ้าได้เมื่อไหร่ค่อยโทรมา”

“ถ้ามีแล้วโทรหาได้เลยใช่ไหมครับ”  จะถามอะไรนักหนานะคนเรา พูดไปแล้วก็น่าจะเข้าใจ ทำไมชอบให้ย้ำคำเดิม  คนตรงหน้าผมยกโทรศัพท์ขึ้นก่อนที่จะกดโทรออก เป็นจังหวะเดียวกันกับที่โทรศัพท์ผมดังขึ้น เป็นเบอร์ที่ผมไม่รู้จัก ใครโทรมาหาตอนนี้นะ
“ฮัลโหล” ผมรับสาย
“นี่เบอร์ผมนะครับน้องพาย อย่าลืมเมมเบอร์ไว้นะ” คุณคิณกรอกเสียงใส่โทรศัพท์ทั้ง ๆที่เขายืนอยู่แค่นี้

“คะ..คุณไปเอาเบอร์มาจากไหน” ไอ้คุณคิณบ้า เขาแกล้งผมอีกแล้ว จีบแบบไหนทำไมทำแบบนี้กับผม

“ไม่บอกหรอกครับ แต่โทรหาได้ใช่ไหม ผมกลับก่อนนะ ถึงบ้านแล้วจะโทรหา”

“ไอ้คุณคิณมาคุยกันให้รู้เรื่องเดี๋ยวนี้นะ” ไม่ทันแล้วครับ เขาขึ้นรถแล้วขับออกไปเลย ผมอยากจะบ้าตายเขาเป็นคนยังไงของเขากันแน่นะ  ไม่เข้าใจแล้วก็คงจะไม่มีวันเข้าใจ

************************************

เมื่อคืนคนบ้าคนนั้นก็โทรหาผมจริงๆ ครับ หลังจากกลับถึงบ้าน สายแรกผมก็ไม่รับหรอก จนมีสายที่สองที่สามโทรมาเรื่อยๆ ไม่รู้จะทำยังไงก็เลยรับให้มันจบๆ ไป แต่ปรากฎว่าชวนผมคุย ตั้งแต่สี่ทุมจนเที่ยงคืน  พอวางสายไปแล้วยังส่งไลลน์มาอีก คุยตั้งนานนี่ยังไม่พอใจอีกใช่ไหม ผมอ่านไลน์เขาแต่ไม่ตอบ ก่อนที่จะปิดเสียงโทรศัพท์ แล้วเข้านอนครับ

วันนี้นอนไม่ค่อยจะพอเลยรู้สึกเบลอๆ ให้น้องพายับรถให้ โดยไม่ลืมแวะไปรับมินมาด้วยกัน มาถึงร้านก็เกือบเก้าโมง เด็กๆ ในร้านอีกสามคนมาถึงก่อนพวกผม กำลังทำความสะอาดร้านพอดี

“สวัสดีค่ะ/ครับ  พี่พาย  พี่มิน พี่บราว” ทั้งสามคนยกมือไหว้ผมกับน้องๆ พร้อมกัน

“สวัสดีครับ ทานข้าวมารึยัง” ทักทายกันนิดหน่อย ก่อนที่จะแยกย้ายกันไปทำงานของตนเอง

ผมกับมินเข้าไปทำเค้าอยู่ในครัว ส่วนน้องบราวก็ทำนู่นทำนี่บ้างตามประสาเขาแหละครับ ทำอะไรไม่ค่อยเป็น  ส่วนใหญ่จึงมีหน้าที่เป็นแคชเชียร์มากกว่า ช่วยเสริฟบ้างบางครั้ง

 ผมได้ยินเหมือนเสียงลูกค้าเข้ามาที่ร้าน  แต่ว่าร้านกว่าจะเปิดก็อีกตั้งชั่วโมงเลยนะ  หรืออาจจะไม่ใช่ลูกค้าประจำเลยไม่รู้เวลา เดี๋ยวก็คงออกไปมั้ง ผมก้มหน้าก้มตาทำเค้กต่อ แบ่งกันทำคนล่ะเมนูกับมิน ทำไปเรื่อยๆ ครับ สนุกดีนะเวลาที่เราได้ทำงานที่เราชอบ แม้ว่าเงินมันจะได้ไม่มากมายเหมือนอาชีพอื่น แต่ความสุขของผมนี่มีไม่แพ้ใครแน่นอน

“พี่พายยยยย คุณคิณมาหา” ชื่อนี้อีกแล้ว ตลอดสามสี่วันที่เขาเข้ามาวนเวียนในชีวิตของผม  ชีวิตผมวุ่นวายดีจริงๆ

“มาหาพี่ มาทำไม”

“ไม่รู้สิฮะ ต้องออกไปคุยกับเขาเอง” เจ้าตัวแสบบอกแค่นั้น ก่อนที่จะเดินไปคุยกระซิบกระซาบกันสองคนกับมิน ผมมองหน้าคาดโทษเจ้าเด็กแสบ ก่อนที่จะเดินออกไปหาคนที่อยู่หน้าร้าน

เขาเห็นผมแล้วครับส่งยิ้มมาแต่ไกล แทบจะเห็นฟันครบสามสิบสองซี่แล้ว ไม่มีงานมีการทำรึไงนะ รู้ว่าเป็นผู้บริหารแต่จะมาทำตัวเรื่อยเปื่อยแบบนี้น่ะเหรอ มีหวังบริษัทเจ๊งพอดี

“อย่าถามผมอีกนะครับว่ามาทำไม เพราะคำตอบก็คือคำเดิม มาหาพายครับ” รู้อีกว่าผมจะพูดว่าอะไร ตอบให้เสร็จสรรพ

“แล้วไม่มีงานมีการทำรึไง มาทำไมแต่เช้า ผู้บริหารไม่เข้าบริษัทนี่ไม่มีความรับผิดชอบเลยนะครับ มีเจ้านายแบบนี้ลูกน้องจะนับถือได้ไง บริษัทขาดทุนตายเลย” ผมบ่นยืดยาวให้คนที่ยิ้มหน้าตายอยู่ตรงหน้า

“ขอบคุณที่ห่วงผมนะครับ”

“ผมไปห่วงคุณตั้งแต่เมื่อไหร่ อย่ามามั่ว”

“ก็พายห่วงว่าผมจะขาดทุน แล้วก็ยังกลัวลูกน้องไม่นับถืออีก” พูดอะไรไปก็เข้าทางเขาหมด

“ผมไม่ได้ห่วงคุณ ไม่เข้าใจอะไรเลยใช่ไหม คนอื่นเขาจะทำงานทำชอบมาวุ่นวา แบบนี้ เมื่อคืนก็ทีหนึ่งแล้วนะ” ผมโวยครับคราวนี้ เอาจริงแล้วนะ จะไม่ให้มีเวลาหายใจหายคอโล่งๆ เลยสักวันใช่ไหมเนี่ย

“พายเบื่อผมเหรอครับ ที่ผมเข้ามาวุ่นวาย” เขาตีหน้าเศร้าครับ ผมจะไม่หลงกลเขาอีกแล้ว

“คุณไม่ได้รู้สึกอย่างที่พูดจริงๆ หรอกมั้งครับคุณคิณ อย่ามาใช้มุกเดิมไม่ได้ผลหรอก” อยู่กับคนแบบบี้ต้องให้ทันครับ ถ้าเป็นแบบเมื่อก่อนนี้ตายอย่างเดียว เพราะผมเป็นคนขี้สงสารเห็นหน้าเศร้าๆ นี่แทบจะตอบตกลงไปในทันที ไม่ว่าอะไรก็ตาม

“ดีจังคุณเริ่มจะใส่ใจในตัวผมมากขึ้นแล้วรู้ด้วยว่าอันไหนผมพูดจริง อันไหนแกล้ง”

“พุดกับคุณนี่ไม่ได้สาระอะไรเลยจริงๆ จะอยู่ที่นี่ใช่ไหมวันนี้”

“ครับ รอลูกน้องเอางานมาให้อยู่จะนั่งทำที่นี่แหละ” ผมไม่ไล่เขาหรอก ถึงไล่เขาก็ไม่ไปอยู่ดี  ให้เขานั่งเงียบๆ ทำงานของเขาไปน่ะดีแล้ว

“ ไม่ใช่ว่านั่งทั้งวันแล้วดื่มกาแฟแก้วเดียวนะครับ”  ผมหันไปแขวะคนที่นั่งอยู่โต๊ะตัวที่ใกล้ประตูทางเข้าออกครัวมากที่สุด

“ไม่แน่นอนครับ ไปทำงานคุณเถอะผมจะนั่งตรงนี้แหละ รับรองจะไม่วุ่นวายเลย” ลูกน้องของเขาเอางานมาวางตรงหน้าเขาจริงๆ ครับ เขาเอางานมาทำที่นี่ หวังว่าจะไม่ทำแบบนี้ทุกวันนะ ผมเดินกลับเข้าไปด้านใน โดยไม่ลืมบอกให้เปรี้ยวคอยบริการเขาด้วย

“พ่อดอกกล้วยไม้ของพี่พายหล่อกมากอ่ะ” สองเอ่ยแซวก่อนที่ผมจะเข้าไปข้างใน

“เขาไม่ใช่ของพี่ ไปทำงานตัวเองเลยไป” ผมไล่น้องไม่จริงจังเท่าไหร่

“หูย แค่นี้ก็ต้องดุด้วย ถ้าไม่ใช่ของพี่พายนี่สองจีบได้ไหมเนี่ย” ยังเด็กอยู่เลย ยังจะมาแก่แดดอีก

“ไม่ต้องไปยุ่งกับเค้าเลย”

“หวงด้วยแน่ะ “ สองพูดขำๆ แล้วเดินไปทำงานตัวเอง

ผมเข้าไปทำเค้กข้างใน ไม่ได้ออกมาอีกเลย จนเวลาล่วงเลยไปนานพอสมควร ไกล้จะเที่ยงแล้วลูกค้าน่าจะเยอะ ผมจึงให้มินออกไปช่วยด้านนอกอีกคน ส่วนผมจะทำเพิ่มอีกสักสองสามอย่าง  ก็ว่าจะออกไปช่วยน้องๆ เหมือนกัน  แต่ถ้าไม่ได้ยุ่งอะไรมากก็ปล่อยให้เขาทำกันไปนั่นแหละ

แต่งหน้าเค้กเพลินเลยครับ มันเป็นส่วนที่ผมชอบที่สุดในการทำเค้กเลยแหละ ผมชอบครีเอทแบบต่างๆ ชอบเห็นความสวยงามของมันครับ ในเตาอบก็ยังมีช็อคโกแล็ตลาวาอยู่ น่าจะใกล้จะได้ที่แล้ว ส่วนอีกเตาก็เป็นช็อคโกแล็ตเค้กหน้านิ่ม สองเมนูนี้เป็นเมนูประจำร้านครับ ขายดีอันดับต้น เลยมีทุกวัน

น้องๆ สลับกันเข้ามาทานข้าวครับ เพราะเลยเวลาเที่ยงมานานแล้ว ส่วนผมรอทานพร้อมกับเจ้าน้องชายตัวแสบครับ อีกสักพักน่าจะเข้ามา

“พี่พาย คุณคิณยังไม่ได้ทานข้าวเที่ยงเลยอ่ะ”  น้องบราวเข้ามาแล้วครับ ผมลืมไปเลยว่าคุณคิณอยู่ที่ร้าน เวลาที่ผมทำงานเพลิน
มักลืมทุกอย่างเลยครับ โดยเฉพาะเวลาที่ทำขนมกับอาหารคือความสุขของผมเลย

“ก็เรื่องของเขาสิ ไม่ใช่เด็กๆ ซะหน่อยจะได้ให้หาไปป้อนให้ ลูกน้องเขาก็มี”  ก็มันจริงนี่นา ถ้าหิวเขาก็คงไปหาทานเองนั่นแหละ

“แล้วแต่พี่ก็แล้วกัน น้องบราวเห็นเขาดื่มกาแฟสามแก้วแล้วนะ” ก็ดีแล้วไงร้านเราจะได้มีกำไรเยอะๆ ไม่ต้องพูดแล้ว มาทานข้าว ผมตัดบทก่อนที่น้องชายจะพูดต่อ

“ก็ได้” เราทานข้าวเสร็จน้องบราวก็ออกไปหน้าร้าน ผมยังทำเค้กไม่เสร็จแต่ก็จวนแล้ว จะได้นั่งพักซักที  เดินออกมานั่งตรงเคาน์เตอร์ข้างน้องชาย ที่ตอนนี้กำลังนั่งเล่นเกมในโทรศัพท์มือถืออย่างตั้งอกตั้งใจ

“แก้วที่เท่าไหร่แล้ว” ผมหันไปถามน้องชาย

“อะไรพี่พาย”  ทำหน้างงใส่ผมอีก

“ก็คุณคิณน่ะ ดื่มกาแฟกี่แก้วแล้ว” ไม่ได้เป็นห่วงนะครับ อย่าเข้าใจผิด แค่กลัวว่าคนดื่มกาแฟเกินขนาดคืนนี้คงตาแข็งกันพอดี

“ไม่รู้สิฮะ แต่เมื้อกี้เห็นสั่งโกโก้ร้อนไปแก้วนึง” ดีที่ยังรู้จักหยุด ไม่ใช่มานั่งดื่มกาแฟทั้งวัน ข้าวก็ ไม่ยอมไปทาน ผมเดินเข้าไปหาคนที่ก้มหน้าก้มตาอ่านเอกสารในมืออย่างตั้งใจ โดยมีสายตาน้องๆ มองตามอย่างอยากรู้อยากเห็น

“ทำไมไม่ไปทานข้าว” เขาเงยหน้าขึ้นมาสบตาผม ก่อนที่เขาจะยิ้มบางๆ ให้กับผม

“ไม่หิวเลยครับ”

“ไม่หิวก็ต้องทานสิ มันเลยเวลาหารเที่ยงมาเยอะแล้วนะ” ผมโมโหครับ ทำไมเขาไม่ห่วงตัวเอง คิดจะมาดูแลคนอื่น แต่กับไม่ดูแลตัวเองเลย อย่างนี้จะดูแลใครได้อย่างไร

“ผมดื่มกาแฟจนแน่นท้องไปหมดแล้ว ทานข้าวไม่ไหวหรอก”

“แล้วดื่มไปแล้วกี่แก้ว”

“สาม เออไม่แน่ใจสามหรือสี่” ดื่มเข้าไปได้ไงเนี่ยห๊ะ คนปกติเขาไม่ทำแบบนี้หรอกนะ

“ใครเค้าให้ดื่มเยอะขนาดนั้นห๊ะคุณคิณ”  ยิ้มครับ ยิ้มอีกแล้ว โดนด่าแต่ทำหน้าระรื่นมีความสุขมากรึไง

“ก็เจ้าของร้านเขาบอกว่าถ้าจะนั่งทั้งวันไม่ให้ดื่มกาแฟแก้วเดียวนี่ครับ” นั่นกวนประสาท

“ไม่ได้หมายความว่าให้ดื่มกาแฟหลายๆ แก้วนี่ เครื่องดื่มอย่างอื่นก็มี ขนมก็เต็มร้านก็เลือกเอาสิอย่างสองอย่าง”

“ผมไม่ทานเค้ก มันหวานเกินไป”

“ไปครับ” ผมดึงมือคนตัวโตให้เดินตามเข้ามาข้างใน

“ไปไหนครับ” เขาเดินตามเข้ามาด้านในอย่างงๆ แต่ก็ชั่งเถอะ ไม่สนหรอกให้เอ๋อๆ แบบนี้แหละดีแล้ว จะได้ไม่วุ่นวาย
ผมหันไปเจียวไข่ เพราะที่นี่สามารถทำกับข้าวง่ายๆ ได้ครับ มีเครื่องปรุงครบ แต่อาหารสดในตู้เย็นไม่มี ผมก็เลยเอาไข่ที่เอาไว้สำหรับทำเค้กมาเจียว ก่อนจะหันไปตักข้าวใส่จานโปะหน้าด้วยไข่เจียวแค่นี้แหละครับอาหารที่ผมทำให้เขาทาน ก่อนจะหันไปหยิบขวดซอสพริกมาตั้งไว้ข้างหน้าคนที่นั่งนิ่งไม่ยอมพุดอะไรเลยตอนนี้

“จะทานไหมครับ หรือว่าทานไม่ได้ จะได้เอาไปเททิ้ง” คงไม่อยากทานล่ะสิ มันก็แค่ข้าวไข่เจียวนี่นา คนอย่างเขาคงทานแต่อาหารหรูๆ

“ทานครับทาน” ข้าวไข่เจียวคำโตถูกตักเข้าปาก ก่อนที่จะเคี้ยวตุ้ยๆ ราวกับมันเป็นอาหารเลิศรสอย่างนั้นแหละ

“น้ำครับ” ผมยื่นน้ำวางไว้ข้างๆ จานข้าวของเขา

“ขอบคุณครับ อร่อยมากเลย”   ผมไม่ตอบอะไรหรอกครับ ปล่อยให้เขาทานข้าวไปนั่นแหละดีแล้ว ไม่อยากให้ใครมาว่าผมใจดำหรอกนะ

“ผมออกไปข้างนอกก่อนนะครับ ทานเสร็จก็เอาวางไว้ตรงนี้แหละเดี๋ยวผมมาเก็บเอง” ผมกำลังจะเดินออกไป คนที่นั่งอยู่ยื่นมือมาจับผมไว้

“อยู่เป็นเพื่อนกันก่อนสิครับ” ทำไมต้องอยู่ล่ะ แค่ทานข้าว

“........”

“ถ้าพายไม่อยู่ ผมก็ไม่อยากทานหรอก” ผมเดินกลับมานั่งฝั่งตรงข้ามเขาแล้วครับ  ไม่ชอบสายตาตัดพ้อของเขา ชอบทำเหมือนผมเป็นคนผิดตลอดเวลา

“ทานต่อสิครับ ผมจะได้เอาไปล้าง” เท่านั้นแหละครับคนตรงหน้า ก็รีบทานจนหมด เขาเหมือนเด็กที่ต้องมีผู้ใหญ่คอยเอาใจ ทั้งๆ ที่ก็อายุปูนนี้แล้ว แก่กว่าผมไม่รู้กี่ปี

ผมล้างจานโดยมีเขาคอยช่วยป่วนอยู่ข้างๆ จะว่ายังไงดีล่ะ ก็เขาทำอะไรไม่เป็นเลย แล้วยังมีหน้ามาขอช่วยทำ ก็เลยต้องมานั่งสอนกันใหม่หมด กว่าจะเสร็จก็เลอะเป็นกันไปตามระเบียบ

เขาอยู่จนร้านผมปิด  ก่อนจะกลับก็ซื้อเค้กไปตั้งเยอะ บอกว่าจะเอาไปฝากแม่ของเขา ผมพึ่งรู้เดี๋ยวนี้เองว่าดอกกล้วยไม้ที่เขาส่งมาให้ผมทุกวันช่วงที่เขาไม่อยู่ เป็นดอกไม้ที่แม่เขาปลูกไว้ แล้วก็รักมากซะด้วย ผมนี่หน้าเสียเลย ท่านจะโกรธผมไปด้วยรึเปล่าเนี่ย ที่เป็นสาเหตุให้ลูกชายทำแบบนี้ ของรักของหวงของแม่เขาด้วย

แล้วคืนนี้ก็เป็นอีกคืนที่ไอ้ผู้ชายตัวโตๆ โทรมาคุยกับผมจนค่อนคืน สาเหตุน่ะเหรอ ก็เพราะเจ้ากาแฟที่เขาดื่มเข้าไปมันกำลังออกฤทธิ์ แล้วคุณคิณก็โทษว่าเป็นเพราะผม เลยทำให้เขาตาค้างนอนไม่หลับ ผมต้องรับผิดชอบ อยู่คุยกับเขา ผมฟังบ้างไม่ฟังบ้าง จนเวลาล่วงเลยไปนาน ผมหลับไปตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้เลย สงสัยเขาคงกดวางไปเองแล้วมั้ง  ตื่นเช้ามามีข้อความไลน์ด้งขึ้นมา บอกว่าฝันดีพร้อมกับส่งรูปตัวเขาที่อยู่ในชุดนอน นอนอยู่บนเตียงมาให้
****************************

ตอนที่8 จบแล้วเนะ อาจจะไม่ค่อยสนุกนัก ไม่ค่อยถูกใจใครหลายๆ คน  แต่ก็จะพยายามนะ

                 TBC.

หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนที่8รุก ภาค2 (P.2)
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 09-02-2016 21:14:05
จีบได้แบ๊วมาก วัยรุ่นมาก 5555
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนที่8รุก ภาค2 (P.2)
เริ่มหัวข้อโดย: Kalamall ที่ 09-02-2016 21:21:29
 :hao3: สนุกน่ะ เราชอบ

ขอเพิ่มนิดนึ่ง ตอนอัพตอนใหม่ขอให้ลงวันที่ตามหลังด้วยค่ะ จะได้รู้ว่าตอนใหม่หรือเก่า  :mew1:

หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนที่8รุก ภาค2 (P.2)
เริ่มหัวข้อโดย: panitanun ที่ 09-02-2016 21:39:16
น่ารักจังเลยยย
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนที่8รุก ภาค2 (P.2)
เริ่มหัวข้อโดย: MooKratai ที่ 09-02-2016 22:12:06
:hao3: สนุกน่ะ เราชอบ

ขอเพิ่มนิดนึ่ง ตอนอัพตอนใหม่ขอให้ลงวันที่ตามหลังด้วยค่ะ จะได้รู้ว่าตอนใหม่หรือเก่า  :mew1:

ขอบคุณที่ชอบนะคะ แล้วก็ขอบคุณสำหรับคำแนะนำดีๆ :mew1:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนที่8รุก ภาค2 (P.2) 9/02/59
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 09-02-2016 23:00:25
 :L2: :pig4:

ขอบคุณก่อน เดี๋ยวมาเม้นท์
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนที่8รุก ภาค2 (P.2) 9/02/59
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 10-02-2016 01:17:26
คุณชายคิณ ทำอะไรไม่เป็นเลยสินะ นอกจากทำงาน ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนที่8รุก ภาค2 (P.2) 9/02/59
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 10-02-2016 01:31:39
อีคินนี้หน้ามึนจริงๆ อิอิ  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนที่9 เคลียร์?
เริ่มหัวข้อโดย: MooKratai ที่ 10-02-2016 18:45:15
หลานคุณย่า 9 เคลียร์?

คิณ(Part)

“เฮ้ย! มาได้เหรอวะมึง กูนึกว่างานทับคอมึงตายไปแล้ว”  เพื่อนผมเองครับมันชื่อชาร์ล เจ้าของผับที่ผมมักจะมานั่งประจำ จนได้เจอกับพายนั่นแหละ

“เออ” ผมตอบมันแค่นั้น ไม่ได้ประหยัดคำพุดอะไรแต่ขี้เกียจต่อปากต่อคำกับมัน

“ได้ข่าวว่ามึงกลับมาจากอเมริกาป็นอาทิตย์แล้ว ทำไมพึ่งโผล่หัวมาว่ะ” ก็จริงครับปกตินี่ผมต้องมาผับมันแทบจะทุกอาทิตย์ ถ้าไม่ติดงานที่ต้องเดินทางไกลๆ

“แม่ง! สาวๆ ถามหามึงจนกูรำคาญแทน โดยเฉพาะยัยน้องปิ๊งของมึงนี่มาแทบจะทุกวัน วันนี้ก็มานะเว้ย  นั่งอยู่ตรงนู้นไง”  ผมไม่ได้อยากเจอเลยห่านเอ้ย

“มึงไม่ต้องเสือกไปบอกน่ะว่ากูมา กูไม่อยากเจอใครทั้งนั้น” 

“วันนี้มาแปลกว่ะมึง กินอะไรผิดสำแดงรึเปล่าว่ะ” จะสงสัยห่าอะไร ก็ผมมีคนที่กำลังจีบอยู่ถ้ายุ่งกับผู้หญิงพวกนี้เหรอ มีหวังความรักของผมพังทะลายตั้งแต่ยังไม่เริ่มแน่นอน

“แต่ไม่ทันแล้วว่ะ กูบอกน้องเขาไปแล้วว่ามึงอยู่ข้างบน”  ไอ้เพื่อนเวร งานจะเข้าผมแล้วไหมล่ะ

“ยุ่งยากฉิบหายแน่กูงานนี้ กูจะไม่ยุ่งกับพวกผู้หญิงแบบนี้อีกแล้วเว้ย” จังหวะเดียวกันกับที่ไอ้ขุนพลเพื่อนอีกคนเดินเข้ามาพอดี

“อะไรว่ะ กูฟังอะไรผิดรึเปล่า มึงจะถอดเขี้ยวเล็บแล้วเหรอวะ น่าเสียใจแทนพวกสาวๆ จริงๆ เลย”  มันเอ่ยแทรกขัดการสนทนาของผมสองคนครับ

“เรื่องของกู” ผมหงุดหงิดหน่อยๆ ที่เพื่อนผมดันมาพูดจาแบบนี้

“หงุดหงิดไรว่ะมึง น้ำไม่ออกรึไง” ไอ้ชาร์ลปากดีอีกแล้วครับ อันนี้มันก็ส่วนหนึ่ง แต่อีกเรื่องคือผมอยากจะสลัดพวกผู้หญิงในสต๊อคออกให้หมด คนอื่นให้เงินไปนิดๆ หน่อยๆ ก็คงไม่มาวุ่นวายอีก แต่ยัยน้องปิ๊งนี่แหละยากที่สุด

“มึงมีแฟนแล้วเหรอว่ะ” เป็นที่รู้กันดีครับวาพวกผมน่ะเจ้าชู้ ไม่ว่าจะหญิงหรือชายผมได้หมด ถ้าผู้ชายก็ต้องตัวเล็กๆ น่ารักๆ น่ะครับ ถ้าหล่อถึกมานี่ก็ไม่เอา เพราะผมยังไม่อยากเป็นเมียใคร

“กำลังจีบ”

“เล่ามาเลยมึง ปิดเพื่อนรักอย่างพวกกูได้ไงว่ะ” ไอ้ขุนพลมันคะยั้นคะยอผมไม่เลิกครับ งานเสือกมาเต็ม

“มึงจำคนที่กูเจอที่ผับวันนั้นได้ไหมว่ะ” ผมถามพวกมันก่อนที่จะเล่าให้มันฟัง

“คนไหนว่ะ หรือว่าผู้ชายที่มึงนั่งจ้องเขาไม่กระพริบน่ะเหรอ” ไอ้ชาร์ลมันฉลาดครับ ชอบสังเกตุคนนั้นคนนี้  มันรู้หลายอย่างแต่ไม่ค่อยพูด

“ใครวะมึง” ไอ้ขุนพลเลยโดนไอ้ชาร์ลเบิ๊ดกะโหลกไปที ก่อนที่มันจะอธิบายให้กันฟังว่าคนไหน

ผมเล่าตั้งแต่เรื่องราวก่อนหน้านั้นให้มันฟัง จนวันที่มาเจอพายที่ผับ แล้วเราสองคนก็มีอะไรกัน เพราะไอ้พวกสารเลวมันวางยาปลุกให้พายกิน คิดแล้วก็แค้น ถ้าผมเข้าไปช่วยพายออกมาไม่ทัน ไม่อยากจะคิดเลยว่าเขาจะเป็นยังไงตอนนี้

“มึงเลยต้องจีบเมียตัวเอง ทั้งๆ ที่ได้กันแล้วว่างั้น”  ดูไอ้ชาร์ลมันถามครับ

“แล้วมึงจะให้กูทำยังไง ในเมื่อกูรักเขานี่หว่า”

“คนนี้ตัวจริงว่างั้น”   มันสลับกันถามผมเป็นลูกคู่เลยครับ ไม่ปล่อยให้ผมได้มีเวลาหายใจหายคอเลย

“เออ” รู้สึกว่าอยากจะมีส่วนร่วมกับชีวิตของผมจริงๆ เลยไอ้สองตัวเนี่ย

“แต่เด็กนั่นเป็นผู้ชายไม่ใช่เหรอไงว่ะ แล้วคุณแม่จอมโหดของมึงไม่ว่าอะไรรึไง”

“เรื่องแม่กูไม่ห่วงหรอก กูกลัวแต่พวกผู้หญิงทั้งหลายของมันนี่แหละ” ไอ้ชาร์ลครับมันพูดจนผมเริ่มจะกังวลแล้ว

“นั่น พูดถึงก็มาเลยมึง คนนี้แหละน่ากลัวสุด” คราวนี้ไอ้ขุนพลมันพูดขึ้น

ร่างบางเดินนวยนาตเข้ามาหาผมเลยครับ ชุดแซกสีดำรัดจนส่วนที่ควรจะปกปิดกลับล้นทะลักออกมา  กระโปรงนี่สั้นจนก้าวขาแต่ละทีแทบจะเห็นหมด ทำไมผมไม่ได้รู้สึกตื่นเต้น หรือมีอารมณ์เหมือนทุกครั้งที่ผมเห็น  แต่คราวนี้กลับตรงข้ามทุกอย่าง  น้ำหอมกลิ่นเดิมที่ผมเคยรู้สึกหลงไหล มันกับฉุนเกินไปในความคิดของผม

“พี่คิณค่ะ หายไปไหนมาไม่มาหาปิ๊งบ้างเลย” ผมยอมรับครับว่าในบรรดาผู้หญิงของผมทั้งหมดปิ๊งนี่เป็นงาน แล้วก็เอาใจเก่งที่สุด รู้ว่าผมชอบอะไรยังไง เธอจึงเป็นคู่ควงที่ผมควงนานที่สุดเท่าทีมีเลย

“เรามีเรื่องต้องคุยกันนะปิ๊ง” ในเมื่อเจอกันแล้วก็พูดเลยแล้วกัน ผมเข้าเรื่องเลยครับ ไม่อยากให้ยืดเยื้อ

“ให้พวกกูออกไปก่อนไหมว่ะ” เพื่อนผมทั้งสองคนทำท่าจะลุกไปแล้ว

“พวกพี่ๆ ไม่เห็นต้องไปไหนเลยนี่คะ ปกติก็อยูด้วยกัน” ปิ๊งยังคงยิ้มโปรยเสน่หให้กับพวกเพื่อนๆ ผม แต่พวกเราไม่เคยยุ่งผู้หญิงของคนอื่น เพื่อนผมเลยไม่มีใครสนใจในตัวเธอเลยสักคน

“แต่ฉันอยากคุยกับปิ๊ง”

“ไม่เป็นไรนี่ค่ะ พวกพี่ๆ ไม่มีความลับกันอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ” ในเมื่อปิ๊งบอกอย่างนั้น ไอ้ตัวเสือกสองคนเลยนั่งลงที่เดิมครับ

“เธอพูดเองนะ”

“พี่คิณมีอะไรก็พูดมาเถอะค่ะ” ร่างบางขยับเข้ามาใกล้พร้อมกับโอบรอบคอเขาอย่างยั่วยวน

“นั่งดีๆ เถอะปิ๊ง ฉันซีเรียส”  ผมผลักร่างบางของปิ๊งให้ขยับลงไปนั่งเก้าอี้อีกตัว รู้สึกรำคาญเสียงแว๊ดๆ ของเธอขึ้นมาทันที

“เราเลิกติดต่อกันเถอะ” ผมเป็นคนตรงครับ ก่อนที่เราจะมีความสัมพันธ์แบบนี้ผมได้ตกลงกับเธอไว้แล้วครับ

“หมายความว่ายังไงค่ะพี่คิณ” ทั้งๆ ที่เรื่องนี้ทั้งเธอแล้วก็ผมเรารู้ดีครับว่ามันจะจบแบบไหน แต่เธอทำเหมือนว่าเราไม่เคยคุยกันมาก่อน ความสัมพันธ์ของเรามันก็แค่เซ็ก

“มันเข้าใจยากตรงไหนครับ ก็แค่ผมมีคนที่จะจริงจังด้วยแล้ว” อันนี้คือตรงสุดๆ แล้วนะถ้ายังไม่เข้าใจนี่ก็ไม่รู้จะทำยังไงแล้ว

“แต่พี่คิณไม่เคยบอกปิ๊งเลยนี่ค่ะ ว่ามีแฟนแล้ว”

“ยังไม่ใช่แฟนครับ แต่ตอนนี้กำลังจีบอยู่ แต่อีกไม่นานหรอก”  คนตรงหน้าผมแสร้งทำหน้าเศร้าเรียกร้องความสงสารจากผม แต่ผมผ่านเรื่องแบบนี้มาเยอะครับรู้ว่าอันไหนคือความจริง เรื่องไหนคือแสร้งทำ

“พี่คิณยังไม่ได้เป็นแฟนเธอ ก็คบกับปิ๊งต่อสิคะ เมื่อไหร่ที่เธอตกลงเป็นแฟนกันแล้วปิ๊งก็จะไม่รั้งพี่คิณไว้เลย” คำพูดออดอ้อนที่ผมไม่เคยคิดว่ามันมาจากใจจริงของเธอ ผมไม่เชื่อหรอก ถ้าผมไม่เลิกตอนนี้รับรองพอถึงเวลานั้น เธอก็ต้องหาข้ออ้างใหม่มาอีก ตัดไฟตั้งแต่ต้นลมดีที่สุดครับ

“ไม่ครับ เราเคยคุยเรื่องนี้กันแล้ว” ผู้หญิงคนนี้น่ากลัวครับผมรู้ แต่ตอนนั้นมันก็แค่เรื่องสนุกท้าทายสำหรับผู้ชายอย่างผม

“พี่คิณอย่าทำอย่างนี้กับปิ๊งเลยนะคะ เราแอบคบกันก็ได้  ปิ๊งไม่บอกเรื่องนี้กับคนนั้นของพี่คิณหรอกค่ะ ปิ้ง ฮือ...ฮึก รักพี่คิณนะคะ” เสียงเจือสะอื้นของเธออาจทำให้คนที่ไม่ได้รู้จักเธอดีสงสารจับใจ แต่สำหรับผมมันช่างน่าสมเพชครับ

“เธอแน่ใจเหรอปิ๊งว่าสิ่งที่เธอพูดมันออกมาจากใจ” จะว่าผมใจร้ายก็ได้นะ แต่สำหรับผมเมื่อเจอคนที่ใช่แล้ว ผมจะไม่ยอมปล่อยมือเด็ดขาด

“ทำไมพี่คิณพูดแบบนี้”  ตาคู่สวยแดงก่ำจากการร้องให้

“เธอไม่ได้มีฉันคนเดียว เหมือนกับที่ฉันก็ไม่ได้มีเธอคนเดียว”

“พี่คิณอย่ามาดูถูกปิ๊งนะคะ” สีหน้าเธอดูเหมือนตกใจครับแต่ก็เพียงแค่แว๊บเดียว ก่อนที่เธอจะแสร้งทำเหมือนไม่มีอะไร ผมพูดเรื่องจริงทุกอย่างครับ ผมรู้เพียงแต่ไม่เคยคิดจะเอามันมาพูด เพราะมันยังไม่ถึงเวลา

“ฉันไม่อยากเอาเรื่องนี้มาพูดนะปิ๊ง เราควรจะจบกันด้วยดี แต่ถ้าไม่เธอก็น่าจะรู้ว่ามันจะเป็นอย่างไร”

“ไม่เอา ปิ๊งไม่ยอม” เธอพยายามเบียดอกตู้มๆ เข้าหาผม  แต่ผมขยับออกก่อนที่เธอจะโดนตัวผม

“เราเคยตกลงกันแล้วนะ” ผมเริ่มจะหมดความอดทนแล้ว

“ตอนนั้นปิ๊งก็แค่อยากอยู่ใกล้ๆ พี่คิณเลยยอมตกลง แต่ตอนนี้ปิ๊งรักพี่คิณจริงๆ นะคะ”  ถ้ายังเป็นอย่างนี้เรื่องคงยืดเยื้อมากกว่านี้แน่ เพื่อนผมทั้งสองคนที่นั่งดูสถานการณ์ก็ได้แต่เงียบ ผมอยากให้มันสองคนเสือกบ้าง มันกลับพากันนั่งฟังอย่างสงบเงี่ยม ไม่คิดจะช่วยกันพูดเลยใช่ไหม

“แต่ฉันมีหลักฐานทุกอย่าง เธออยากเลิกกับฉันดีๆ แล้วได้เงินไปก้อนหนึ่ง หรือต้องการให้ฉันเอาภาพพวกนั้นมาประจานเธอทีหลัง”

ผมพูดจริงครับ ผมมีภาพทั้งหมดของเธอกับผู้ชายคนอื่นๆ ที่นอกเหนือจากผม ผมยอมรับว่าเจ้าชู้มาก ก่อนที่จะเจอกับพาย ผมเลยป้องกันตัวเองทุกอย่าง เผื่อวันที่พวกเธอกลับมาเรียกร้องอะไรในสิ่งที่นอกเหนือจากข้อตกลงของเราผมจะได้ไม่โดนพวกเธอจับกินโดยไม่มีทางสู้ คิดจะเจ้าชู้ก็ต้องฉลาดพอที่จะไม่ผูกปมเชือกให้แน่นจนคลายไม่ออกครับ

ปิ๊งไม่ได้รักผมหรอก แต่เพราะผมให้ในสิ่งที่ผู้ชายหลายคนของเธอให้ไม่ได้  เธออยากได้อะไร ผมให้เกือบทุกอย่าง ถ้าไม่เรียกร้องเกินพอดี ผมจึงเป็นถังข้าวสารชั้นดีที่เธอพร้อมที่จะตกลงไปตลอดเวลาถ้าผมพลาด

การที่ผมจะคบกับผู้หญิงแต่ละคนผมสืบประวัติมาอย่างดี ว่าแต่ละคนมีภูมิหลังยังไง คบใครอยู่รึเปล่า ยิ่งผู้หญิงร้ายๆ อย่างปิ๊งนี่ต้องรู้จักให้ถ่องแท้ รู้เขารู้เรารบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง

ปิ๊งเงียบไปนานเหมือนใช้ความคิดครับ ผมรู้ว่าเธอกำลังคิดหนัก ว่าจะยอมทู่ซี้ขอคบกับผมต่อ หรือยอมรับเงินก้อนนั้นไปแล้วจบกันตอนนี้

“คิดให้ดีนะปิ๊ง ถ้ายอมเลิกตอนนี้เธอก็ได้เงินก้อนหนึ่ง พร้อมกับเริ่มต้นชีวิตใหม่ แต่ถ้าไม่เธออาจจะไม่ได้อะไรเลย” เป็นไอ้ชาร์ลครับที่พูดขึ้น เพื่อกระตุ้นความรู้สึกของคนที่ลังเลอยู่ตอนนี้

“ก้ได้ค่ะปิ๊งจะเลิก” ผมยื่นเช็คจำนวนเงินตัวเลขเจ็ดหลักให้กับเธอไป ผมให้เธอค่อนข้างเยอะ เพราะผมติดต่อกับเธอมากกว่าคนอื่นๆ จบเรื่องปิ๊งแล้ว คนอื่นๆ ก็น่าจะง่าย  เพราะผู้หญิงพวกนั้นจะไม่ค่อยเข้ามาวุ่นวายกับผมมากนัก นอกจากเวลาที่ผมต้องการเปลี่ยนบรรยากาศจึงเรียกใช้บริการพวกเธอบ้าง ตามประสาหนุ่มโสดครับ

เธอลุกเดินออกไปจากห้องแล้วครับ เหลือแต่พวกผมสามคน ทั้งไอ้ขุนพลและไอ้ชาร์ลถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ พร้อมกับความโล่งใจของผม ที่อย่างน้อยก็แก้ปัญหาไปได้อีกเรื่อง ผู้ชายเจ้าชู้นี่เวลาจะจริงจังกับใครแล้วต้องมานั่งบอกเลิกทีล่ะคนนี่ช่างน่าเอือมระอาจริงๆ ครับ ผมรู้ซึ้งดีเลยครับตอนนี้

“ไอ้ห่ากูนึกว่าจะไม่จบ” ไอ้ขุนพลที่นั่งเงียบมาตลอดเอ่ยขึ้น  ผมอยากจะถวายบาทาให้มันจริงๆ เลยครับ ทีอย่างนี้ล่ะทำเป็นพูดดี
 
“ง่ายกว่าที่คิด” ลูกคู่มันตอบรับกันอีกแล้ว

“จ่ายไปเท่าไหร่ว่ะ”

“หลักล้านแต่ก็คุ้มถ้าไม่มายุ่งกับกูอีก” จริงๆ ครับ ผมไม่เสียดายหรอกเงินแค่นั้น ไม่ใช่ว่ารวยอะไรมากมายหรอก แต่ผมไม่อยากให้ใครไปวุ่นวายกับพาย จึงยอมจ่ายเยอะๆ เพื่อแลกกับการที่พายจะไม่โดนผู้หญิงพวกนั้นรังควาญ ขอให้เธอเลิกวุ่นวายกับผมจริงๆ เถอะ เพราะสายตาผู้หญิงคนนี้ค่อนข้างน่ากลัวเลยในความคิดของผม

“กูอยากจะรู้จักน้องพายคนดีของมึงจริงๆเลยว่ะ ที่สามารถทำให้เสืออย่างมึงถอดเขี้ยวเล็บได้”

“เดี๋ยวก็ได้เจอถ้าเขาตกลงเป็นแฟนกับกู”  ผมต้องพามาให้พวกมันรู้จักแน่นอน จะได้รู้ว่าพายของผมน่ารักขนาดไหน

“เออกูจะคอยต้อนรับเพื่อนสะใภ้ หรือเพื่อนเขยว่ะ” ถ้าน้ำหน้าอย่างผมเป็นเมียพายนี่พระอาทิตย์คงจะขึ้นทางทิศตะวันตกแล้ว

“กวนแล้วมึง แค่กูคิดก็ขนลุกแล้วไอ้เชี่ย”

“ฮ่าๆๆๆๆ” มันสองคนประสานเสียงกันครับ ตลกสัด

“แล้วเมื่อไหร่กูจะได้เจอตัวจริงแบบมึงบ้างว่ะ”  ไอ้ขุนพลมันพร่ำเพ้อไปเรื่อย

“ส่วนกูไม่ต้องการว่ะ สนุกไปวันๆ แบบนี้แหละดีแล้ว น้ำแตกแล้วแยกทาง”  ไอ้ชาร์ลนี่เจ้าชู้ขั้นเทพนะครับ ได้หญิงไม่ซ้ำหน้ายิ่งมันเปิดผับแบบนี้อีก ทั้งผู้หญิงทั้งผู้ชายเข้าหาเพียบ

ผมว่าพวกมันแค่ยังไม่เจอใครที่ทำให้รู้สึกแบบผม มันเลยพูดแบบนี้ เพราะผมก็เคยมีความคิดแบบไอ้ชาร์ลเหมือนกัน คิดว่ามันโคตรอิสระ ไม่ต้องมาคอยวิ่งตามใคร  ไม่ต้องคอยเอาใจใคร แต่พอเจอคนนั้นเข้าจริงๆ ให้ทำมากกว่านี้ก็ยอมว่ะครับ แค่เขารักผมตอบก็พอ

“แล้วมึงจะเอาไงต่อ”

“กูคงจะบอกเลิกให้หมดว่ะ อยากเคลียร์ตัวเองก่อนที่พายจะรับรักกู” ผมไม่อยากให้พายต้องมาคอยไม่สบายใจกับเรื่องพวกนี้หรอก เขาจะต้องเป้นคนที่มีความสุขที่สุดถ้าเราได้เป็นแฟนกัน

“มั่นใจว่าเขาจะรักมึง” กวนตีนครับเพื่อน

“รับไม่รับเดี๋ยวอีกไม่นานมึงก็รู้” ผมไม่ได้มั่นใจอะไรขนาดนั้น แต่ผมดูจากท่าทางที่พายก็ไม่ได้ดูรังเกียจผมเวลาที่เราอยู่ด้วยกัน ออกจะดูอายๆ ด้วยซ้ำ มันน่าจะเป็นการเริ่มต้นที่ดีสำหรับความสัมพันธ์ของเรา

“เออกูจะรอดู” พวกผมคุยเรื่องสัพเพเหระไปเรื่อยครับ พวกมันวกเข้ามาถามผมเรื่องพายในบางครั้ง ผมตอบมันบ้างบางครั้ง กว่าผมจะได้กลับก็ล่วงเลยเข้าเช้าวันใหม่ เลยไม่ได้โทรไปกวนพายเลยครับ

*******************************



             TBC.
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนที่9 เคลียร์? (10/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: arissara ที่ 10-02-2016 19:28:29
เพอร์เๆคมากกกก เคลียร์ตัวเองงง อยากเห็นตอนคู่นี้หึงกันเดั อยากเห็นที่สุดตอนกล้วเมียอีกช้อต
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนที่9 เคลียร์? (10/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 10-02-2016 23:45:26
อีพี่คิณจะดีแตกไหมเนี่ยะ
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนที่9 เคลียร์? (10/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: manami_01 ที่ 11-02-2016 17:42:56
ดีมากเคีรย์ให้สะอาดก่อนนะค่อยมาคบกับพาบ
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนที่9 เคลียร์? (10/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 11-02-2016 20:04:27
รออ่านต่อจ้า  :hao6:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนที่9 เคลียร์? (10/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: milin03 ที่ 11-02-2016 20:47:27
ชอบมากกกกก
มาต่อเร็วน้าาาาาา  :katai4:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนที่9 เคลียร์? (10/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Kalamall ที่ 11-02-2016 22:10:40
 o18 ลองไม่เคลียร์ดิ มีดปาดเค็กก็แทงคนได้น่ะพี่คิณ
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนที่9 เคลียร์? (10/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: ujen ที่ 11-02-2016 22:39:33
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนที่9 เคลียร์? (10/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 12-02-2016 02:45:29
 o13
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนที่9 เคลียร์? (10/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: s.mosis ที่ 12-02-2016 15:24:32
สนุกดี มาต่อไวๆ นะ
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนที่10 เมื่อความรักทำให้คิณตาบอด P.3 (12/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: MooKratai ที่ 12-02-2016 18:44:00
หลานคุณย่า10 เมื่อความรักทำให้คิณตาบอด
[/size]

พาย(Part)

“รับอะไรดีครับ” ผมออกมาช่วยน้องๆ เสริฟครับเพราะวันนี้ลูกค้าเยอะเป็นพิเศษ

ชายหนุ่มสามคนที่ดูไม่เข้ากับร้านเค้กเล็กๆ ของผมกำลังอ่านเมนูอย่างสนใจ ก่อนที่หนึ่งในนั้นจะเงยหน้าขึ้นมา ยิ้มบางๆ ให้กับผม

“อเมริกาโน่เย็นแก้วหนึ่งครับ” อีกสองคนก็สั่งไม่ต่างกัน มีเพียงเครื่องดื่ม ส่วนเค้กหรือคุ้กกี้ พวกเขาคงไม่พิศมัยที่จะทานมันมั้ง

“อเมริกาโน่สามที่นะครับ” ผมทวนเมนูอีกครั้งก่อนที่จะหมุนตัวเดินออกมา ชายคนเดิมกลับเรียกผมไว้

“สั่งเค้กด้วยครับ มีเมนูไหนแนะนำบ้างครับ” น้ำเสียงอ่อนโยนกับสายตาที่แพรวพราวนี่มันอะไรกัน

“ถ้าเมนูประจำร้านก็ช็อคหน้านิ่ม กับช็อคโกแลตลาวาครับ ไม่ทราบว่าทานหวานไหมครับ” ผมไม่คิดว่าผู้ชายตัวโตๆ แบบนี้จะชอบทานหวานหรอกครับ ดูอย่างคุณคิณสิไม่แตะสักคำ

“ผมชอบหวานๆ ครับ งั้นเอาตามที่แนะนำเลยครับ แล้วพวกมึงเอาไหม” เพื่อนทั้งสองคนของเค้าไม่ทานครับ

ท่าทางเขาดูตรงข้ามกับหน้าตานะครับ ดูแค่ภายนอกเหมือนน่าจะเป็นคนขรึมๆ แต่ไม่ใช่ เค้ายิ้มเก่ง แล้วก็ท่าทางใจดีอีก
ผมนำเครื่องดื่มมาเสริฟให้ทั้งสามคน ได้ยินเพื่อนเขาเรียกชื่อชายคนนั้น เขาชื่อทิม ส่วนอีกสองคนชื่อกันต์ กับ กิม เขาสอบถามผมหลายเรื่องจนผมต้องนั่งลงคุยกับคุณทิมครับ ตอนแรกก็รู้สึกอึดอัด แต่ในเมื่อเป็นลูกค้าผมจึงไม่กล้าที่จะปฏิเสธ

คุยกันสักพักผมก็เริ่มที่จะผ่อนคลายลงมาบ้างครับ เราคุยกันค่อนข้างถูกคอ เหมือนเจอเพื่อนที่รู้ใจเลย เขามีหลายๆ อย่างที่ชอบเหมือนผม ชอบทำอาหาร ทำเค้ก

“น้องพายเรียนทำเค้กที่ไหนเหรอครับ” เขาขออนุญาตเรียกผมแบบนี้ ก็ไม่มีเหตุผลที่ต้องปฏิเสธเลยปล่อยให้เขาเรียก

“เรียนที่XX ครับ” ผมบอกสถานที่ๆ เรียนกับพี่ทิม สถานที่ๆ ผมเรียนเป็นสถาบันที่มีชื่อเสียงติดอันดับท็อปในแถบเอเชียครับ เปิดสอนครบวงจรทั้งอาหารไทย อาหารต่างชาติ รวมทั้งเบเกอรี่ด้วย

“บังเอิญจังเลยครับน้องพาย สถาบันXX คือของที่บ้านพี่เอง” พี่ทิมบอกออกมา สร้างความตกใจให้กับผมเป็นอย่างมาก ไม่คิดเลยว่าจะบังเอิญขนาดนี้

“จริงเหรอครับ พายไม่คิดเลยว่าพี่ทิมจะเป็นคนใกล้ตัวขนาดนี้” ผมตื่นเต้นมากเลยครับ ที่ได้เจอคนเก่งๆ ที่เป็นเหมือนอาจารย์ของผม

“ถ้าอย่างนั้นพี่ทิมก็เป็นคนคิดสูตรเค้กต่างๆ สิครับ”  ผมถามออกไปอย่างตื่นเต้น

“ก็ไม่ทั้งหมดหรอกครับ ไอ้กันต์กับไอ้กิมก็มีส่วนช่วยเยอะ” ผมหันไปถามพวกพี่ๆ อีกสองคนบ้างจึงทราบว่าพี่กันต์เป็นเชฟอาหารอิตาเลี่ยน พี่กิมนี่สอนอาหารไทยล้วนๆ แต่พวกพี่เขาสามารถทำเบเกอรี่ได้ทุกคน แต่พี่ทิมนี่ชำนาญสุดครับ ผู้ชายทำอาหารเก่งๆ นี่สุดยอดมากเลยนะครับในความคิดของผม

พี่ทิมขอเบอร์ผม ผมก็ให้ไปครับเพราะคิดว่าไม่เสียหายอะไร ดีเสียอีกถ้ามีปัญหาอะไรจะได้โทรไปถามเขาเลย เป็นประโยชน์กับร้านอย่างมากเลยงานนี้ มีแต่ได้กับได้ อิอิ

พี่ทิมเป็นคนคุยเก่ง ยิ้มเก่งเหมือนคุณคิณเลย  แต่รายนั้นจะยิ้มเจ้าเล่ห์เสียมากกว่า ส่วนเพื่อนพี่เขาอีกสองคนก็คุยโต้ตอบบ้างในบางครั้ง

“แล้วพี่สามคนคงไม่ได้มาทานเค้กอย่างเดียวใช่ไหมครับ”

“รู้ทันซะงั้น ตอนแรกก็ไม่ได้คิดจะมาทานหรอก แค่เห็นคนพูดว่าเค้กร้านนี้อร่อยเลยมาลอง” พี่ทิมพูดยิ้มๆ

“แล้วเป็นไงบ้างครับใช้ได้รึเปล่า”

“ยิ่งกว่าใช้ได้อีกครับ อร่อยกว่าสูตรของสถาบันอีก” พี่กันต์พูดหลังจากที่ลองชิมไปบ้างแล้ว เพราะพี่ทิมบังคับ

“ไม่จริงมั้งครับ เจ้าของสูตรต้องทำอร่อยกว่าอยู่แล้ว” ผมไม่อยากเชื่อหรอกว่าจะอร่อยกว่า เขาอาจจะแค่พูดเอาใจผมก็ได้

“จริงครับ พายเอามาปรับสูตรได้ลงตัวมาก กลมกล่อม ไม่ขม แล้วก็ไม่หวานเลี่ยนเกินไป” พี่ทิมชมจนผมเขิน ไม่คิดว่ามันจะอร่อยขนาดนั้น

“พี่ว่าจะมาขโมยสูตรสักหน่อย” พี่กิมแซวผมยิ้มๆ

ผมคุยกับพวกพี่เขาอีกสักพัก ก่อนที่จะขอตัวไปดูลูกค้า แล้วก็ทำเค้กเพิ่ม ดูท่าทางน่าจะหมดในอีกไม่ช้า ต้องทำมาเติมก่อน เดี๋ยวลูกค้ารอนาน

“พี่พาย” น้องบราวเรียกผมไว้ขณะที่กำลังจะเดินเข้าไปในครัว

“ว่าไง”  ยิ้มบางๆ ของผมถูกส่งให้น้องชาย

“คุณคิณมาครับ” มาตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมผมไม่เห็น

“แล้วเขาอยู่ไหน” ผมมองไปรอบๆ ร้านก็ไม่เห็นใครอีกคนที่น้องชายผมบอก

“กลับไปเมื่อกี้นี้ฮะ” ทำไมกลับ พึ่งมาไม่ใช่เหรอ

“...........”

“คุณคิณเห็นพี่พายนั่งอยู่กับลูกค้า คงน้อยใจ....เลยกลับไปแล้ว” งง? สมองเออเร่ออีกแล้วครับ ทำไมต้องน้อยใจ ผมไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย

“น้อยใจเรื่องอะไร”  แม้จะไม่เข้าใจแต่ก็อยากรู้ ไม่อยากให้มันคาราคาซังแบบนี้

“ไม่รู้สิฮะ พี่พายคงต้องถามคุณคิณเองแล้วหละ”

“ก็เขากลับไปแล้ว จะให้ถามใครที่ไหนล่ะ” คิดจะมาก็มาคิดจะไปก็ไม่คิดจะบอกกันเลยใช่ไหม

“เบอร์โทรมีไว้ทำไมฮะ” ผมต้องโทรหาคุณคิณเหรอ โทรทำไมไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย น้อยใจเรื่องอะไรก็ช่างเขาสิ ผมไม่ผิด เขาไม่มีเหตุผลเอง

“ทำไมพี่ต้องโทร”

“ตามใจฮะ ไม่โทรก้ไม่โทร” บราวนี่พูดแค่นั้นก่อนที่จะหันไปทำงานของตนเองต่อ ส่วนผมก็กลับไปทำขนมในครัว มือผมทำงานตาจ้องที่เค้กปอนด์ใหญ่ แต่ใจกำลังคิดไปถึงใครอีกคน ผมต้องบ้าไปแล้ว คิดถึงเขาทำไม

*****************************

คิณ(Part)

ผมเดินตรงเข้ามาในร้านเค้ก ที่ช่วงนี้ผมมาบ่อยจนเป็นที่ชินตากับพนักงานในร้านรวมทั้งบราวนี่น้องชายคนเล็กของพายด้วย
ตอนแรกผมคิดว่าจะไม่มีเวลาว่างพอที่จะเข้ามา แต่เคลียร์งานเสร็จเร็วกว่าที่คิด เลยตรงดิ่งมายังสถานที่ๆ คุ้นเคย ที่จริงผมก็อยากมานั่งทำงานที่นี่ให้รู้แล้วรู้รอดไป แต่กลัวว่าพายอาจจะรำคาญ ทั้งๆ ที่ผมอยากจะเห็นหน้าเขาตลอดเวลาด้วยซ้ำ

สายตาผมเหลือบไปเห็นคนที่เฝ้าคิดถึงกำลังยิ้มเต็มดวงหน้าอย่างมีความสุขกับผู้ชายที่นั่งร่วมโต๊ะอีกสามคน ผมสะดุดตากับคนที่นั่งถัดจากพายทางฝั่งซ้ายมือจริงๆ สายตาที่เขามองพายทำให้ผมใจกระตุกไปที ก่อนที่ผมจะพยายามระงับอารมณ์ที่พลุ่งพล่านจวนเจียนจะระเบิด

ผมรู้ตัวดีว่าไม่มีสิทธิ์ที่จะเดินเข้าไปทำอย่างที่ใจคิด ผมยืนมองอยู่อย่างนั้น ทั้งๆ ที่อยากจะก้าวเข้าไปขัดบทสนทนาของคนตัวเล็ก แต่ขามันกลับยังอยู่ที่เดิม น้องบราวกำลังอ้าปากจะทักทายผม แต่ผมยกมือขึ้นห้ามไว้ก่อน

 ‘ผมเจ็บว่ะ’
 เขายิ้มให้คนอื่น แต่กับผมไม่เคยเลยสักครั้ง  เขายิ้มหัวเราะจนตาแทบจะปิด ผู้ชายคนนั้นเป็นใคร ถึงทำให้พายยิ้มอย่างมีความสุขได้ขนาดนี้ ผมยังพอจะมีหวังอยู่ไหมครับ  แต่จะให้ผมถอยก็คงจะทำไม่ได้เหมือนกัน ผมรักของผมไปแล้วนี่ครับ 

เขาคงไม่สังเกตุเห็นผม ผมหันหลังกลับออกไปโดยไม่ได้บอกใคร แค่หันไปยิ้มบางๆ ให้กับน้องบราวอย่างฝืนใจ อยากจะนั่งรอในร้านต่อแต่ขาก็ก้าวออกมาแล้วครับ

รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะพ่ายแพ้ว่ะ ความรู้สึกมันช็อคไปชั่วขณะ ใครจะว่าผมป๊อดก็ช่างแต่ผมไม่กล้าครับ ไม่กล้าที่จะเดินเข้าไปถาม กลัวว่าผู้ชายคนนั้นจะสำคัญกว่าผม ทั้งๆ ที่ผมพยายามมาตลอด ขอตั้งหลักก่อนครับ

ผมขับรถกลับบ้านด้วยความว่างเปล่า  กลัวสารพัด  ใจผมให้พายไปหมดแล้ว ไม่ได้มีเหลือเผื่อความผิดหวังเลยสักนิด  ในสมองคิดแต่ว่าพายเป็นของผมคนเดียว

เดินเข้าบ้านอย่างงงๆ แม่ผมเรียกผมยังแค่ขานรับ แล้วก็เดินขึ้นห้องไป อาบน้ำให้สมองโล่งครับเผื่อจะดีขึ้น เลิกบ้าบอสักที อยากสลัดภาพของพายที่กำลังยิ้มอย่างมีความสุขกับผู้ชายอีกคนแต่ก็ทำไม่ได้ ผมจะบ้าไหมครับ ทั้งๆ ที่เรายังไม่ได้เป็นอะไรกัน แต่ผมกลับเหมือนจะตายว่ะ

เอางานออกมาทำฆ่าเวลา ระงับความฟุ้งซ่านของตนเอง  อ่านเท่าไหร่ก็ไม่เข้าหัว ไม่รู้ว่าที่เขียนมาขออนุมัติเรื่องอะไร แค่เอาแฟ้มมาวางไว้ตรงหน้า เหมือนกับว่าผมจะเข้าใจทุกอย่างแต่มันไม่ใช่ อยากจะยกโทรศัพท์โทรหาพาย แต่คราวนี้กลับไม่กล้า ทั้งๆ ที่ทุกทีหน้าด้าน
 อาจจะเพราะตอนนั้นยังไม่มีคู่แข่ง ผมอยากทำบ้าบออะไรก็ทำไปตามใจตัวเอง แต่พอเห็นคนๆนั้นที่ดูท่าทางเพียบพร้อมจนผมกลัวว่าพายจะชอบ ผมไม่ได้ยอมแพ้นะครับ แต่ขอตั้งหลักก่อนจะไปสู้กับคู่แข่ง

โทรศัพท์เครื่องหรูที่นอนนิ่งอยู่บนเตียงแผดเสียงดังขึ้น ทำให้ผมหลุดจากภวังค์ ก่อนที่ผมจะหยิบมันขึ้นมารับสายโดยไม่มีแก่ใจที่จะดูว่าใครเป็นคนโทรมา

“ฮัลโหล” ผมกรอกเสียงไปตามสาย

“ทำไมรีบกลับ” ผมงงกับคำถามของคนที่โทรมา ก่อนที่จะดูว่าใคร ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขาจะโทรหาผมก่อน ไม่เคยมีแม้แต่ครั้งเดียวที่พายจะโทรหาผม

“.......” เงียบ

“.......” เขาก็เงียบ ต่างคนต่างไม่เอ่ยคำใดๆ ออกมา

“ถามว่าทำไมรีบกลับ” เสียงหวานค่อนข้างจะห้วนกรอกมาตามสาย

“เปล่า” ผมตอบบ้าอะไรไปครับ ไปไม่เป็นครับงานนี้  ไอ้คิณแพ้ราบคาบ ดีใจจนแทบบ้า ทั้งๆ ที่เมื่อไม่กี่นาทียังเสียใจจนแทบบ้าเหมือนกัน

“เปล่าอะไรครับ” อย่าโหดได้ไหมครับ ยังไม่พร้อมที่จะกลัวเมียนะเว้ย

“พอดีนึกได้ว่ามีธุระ”

“แน่ใจนะครับ” เหมือนเมียจับผิดผัวเลยครับ  ทำไมผมต้องกลัวด้วยไม่เข้าใจตัวเอง

“นะ...แน่” เห้ย! ผมจะเสียงสั่นทำไม

“ทำไมเสียงเป็นแบบนั้น บอกผมมาว่าทำไมไปหา แล้วไม่รอเจอ” ขอประตูข้ามมิติของโดเรมอนชั่วคราวครับ

“ก็แค่งี่เง่า” ผมตอบเสียงแผ่วเลยครับคราวนี้ ไม่เหลือมาดเลยไอ้คิณ     อนาคตนี่ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใครจะกุมอำนาจ แค่คิดก็เห็นหน้าแม่กับแด๊ดลอยมาเลย

“งี่เง่า? เรื่องอะไร” ต้องตอบยังไงว่ะ ก็คนมันหึงทั้งๆที่ยังไม่ได้เป็นอะไรกันนี่เรียกว่างี่เง่าถูกไหม

“ผมบ้าไปเองครับ หึงที่พายอยู่กับผู้ชายคนนั้น”  ไม่มีคำแก้ตัว ก็พูดมันไปตามความจริงนี่แหละ จะว่ายังไงก็ช่างเขา

“เขาเป็นลูกค้า”  ลูกค้าอะไรสายตานี่ราวกับจะจับกิน สายตาเขามันเหมือนกับสายตาที่ผมมองพายแรกๆ แต่ตอนนี้ผมไม่ได้แค่อยากกินครับ อยากครอบครองทั้งตัวแล้วก็หัวใจเลย

“ไม่รู้มันหึงไปแล้วไง งี่เง่าบ้าบอทุกอย่างนั่นแหละ” พูดเองก็เขินเองครับงานนี้

“ก็เลยหนีกลับออกมาก่อน ทั้งๆ ที่ไม่ได้มีงานด่วน” นี่ก็จับผิดจัง ทำตัวยังกับเป็นเครื่องจับเท็จอย่างนั้นแหละ

“ครับ”

“เป็นเด็กรึไงครับ” ดูเขาว่าผมครับ คนยิ่งน้อยใจอยู่ไม่คิดจะง้อเลยใช่ไหม

“แล้วจะให้ทำไง ในเมื่อผมเห็นพายนั่งยิ้มให้เขา แบบที่ไม่เคยทำกับผม คุยกับเขาดูสนิทสนมกว่าที่คุยกับผมซะอีก ทั้งๆ ที่ผมอยากเข้าไปตะบันหน้ามันซักหมัด แต่ผมก็ไม่มีสิทธิ์” เสียงอ่อยครับ ส่วนหนึ่งก็เรียกร้องควมสงสารจากพาย แต่มันก็ตรงกับความรู้สึกของผมที่สุดแล้ว

“รู้ได้ไงว่าสนิทกว่า คิดไปเอง” หมายความว่ายังไงว่ะ บทจะโง่นี่ก็โง่บรรลัยสติสตังค์ไปหมดแล้ว

“ก็พายเรียกเขาว่าพี่ ทีกับผมคุณอย่างนั้นคุณอย่างนี้” มันก็ตริงน่ครับจะไม่ให้น้อยใจได้ยังไง รู้จักกันมาพักหนึ่งแล้ว ไม่เคยเรียกว่าพี่ซักคำ

“อยากเป็นพี่?”

“ ไม่ อยากเป็นผัว”  อยากตะโกนดังๆ ครับ แต่คำหลังนี่แค่คิดในใจ

“ แล้วจะให้เรียกทำไม ในเมื่อไม่ได้อยากเป็น” เออก็จริง

“แล้วจะให้เป็นอะไรล่ะครับ” หยอดครับเผื่อฟลุ๊ค

“ไม่รู้ กำลังพิจารณา ถ้างี่เง่าแบบนี้อีกแม้แต่พี่ก็ไม่ได้เป็น” คำพูดนี่มาแนวโหดเลยครับงานนี้ ปกติจะพูดน้อยตามไม่ค่อยทัน แต่วันนี้มาแนวไหนรับไม่ทัน เขามีหลายมิติเหรอครับ บางที่ก็เหมือนซื่อๆ บางทีกลับพุดจาเชือดเฉือนจนน่ากลัว

“เข้าใจแล้วครับ” ดีใจเว้ย มีความหวังใช่ไหมที่พูดออกมานี่ผมไม่ได้คิดไปเองใช่ไหม

“วันอาทิตย์นี้ว่างไหมครับ มารับด้วย” ได้โปรดพาผมไปจูนสมองหน่อยวันนี้ไม่ทันความคิดของพายเลยครับ ไม่เข้าใจว่าเขากำลังจะสื่ออะไร ทั้งๆ ที่มันก็ไม่ได้น่าจะเข้าใจยาก สมองตายชั่วขณะ

“รับ รับไปไหน”  ร้านของพายไม่ได้เปิดวันอาทิตย์นี่นา

“จะไปไหมครับ ไม่ไปก็ไม่ต้องมา” รวบรัดมากครับไม่ให้โอกาสได้รู้อะไรเลยว่างั้น

“ไปๆ ครับ ไปไหนก็ไปทั้งนั้น”  ต่อให้เขาพาผมไปตายผมก็ยอมครับ แต่ผมจะเอาเขาไปด้วย ไม่ยอมไปคนเดียวหรอกมันเหงา
“ห้ามสาย” ขู่อีกครับ

 “พายครับ” ผมเรียกเสียงเบา

“ครับ”     เขาตอบรับแบบนี้เสมอเวลาที่ผมเรียก น่ารักว่าไหมครับ

“พายโทรมาง้อผมเหรอ” ขอเข้าข้างตัวเองสักหน่อยครับ ถ้าไม่โทรมาง้อจะทำแบบนี้ทำไม พยายามอธิบายทั้งๆ ที่ไม่จำเป็น ถ้าไม่ได้แคร์ผม พายก็ไม่จำเป็นต้องใส่ใจใช่ไหม

“ไม่ใช่ แค่เบื่อคนงี่เง่าคิดไปเอง กลัวจะไปฆ่าตัวตายซะก่อน สงสารลูกหมาตาดำๆ” คำแก้ตัวนื้ทำให้ผมแทบหลุดขำออกมาดังๆ แต่กลัวเขาจะโมโห ไม่เอาดีกว่าไม่ยอมเสี่ยงครับ

“ใจร้ายจังครับ”

“คึ คึ” เสียงหัวเราะแว่วมาตามสาย

“หัวเราะอะไรครับ”

“ก็แค่ตลกผู้ชายตัวยังกับยักษ์วัดแจ้งแต่ขี้ใจน้อย"  ดู แต่ละคำนี่ช่างน่าจับตีก้นซะให้เข็ด

“ก็ผมจีบพาย รักพายไปแล้วไม่ได้เผื่อใจไว้นี่ว่าจะมีคู่แข่ง”

“ก็บอกว่าเขาเป็นลูกค้า พึ่งเคยเจอกันไง อีกอย่างเขาก็เป็นเจ้าของสถาบันอาหาร XX ที่ผมเคยเรียน รู้จักกันไว้ก็ไม่เสียหายนี่นา เวลามีปัญหาจะได้ปรึกษาได้”

“ไม่ได้” เผลอเสียงดังใส่เขา
 
“ทำไม” โอ้ย! ผมพึ่งรู้ว่าพายก็กวนประสาทคนเป็นเหมือนกัน

“หวง ไม่ชอบให้โทรหาผู้ชายคนอื่น อย่าบอกนะว่าให้เบอร์เขาไปแล้ว”

“ครับ” อยากจะบ้าวันละหลายๆ รอบ เบื่อพวกที่จ้องจะแดกของคนอื่น มันน่าจับยัดกระสอบถ่วงน้ำให้มันรู้แล้วรู้รอดไป

“ลบเบอร์ออกเลยนะครับ หรือถ้าเขาโทรหาก็ไม่ต้องรับ” ผมออกคำสั่งกับปลายสายที่เงียบไปสักพัก

“แต่ผมโทรหาเขาได้”  ก็ลองโทรดูดิ คราวนี้ไอ้คิณจะจับจูบให้ปากเจ่อเลยคอยดู

“โทรหนึ่งครั้งจูบหนึ่งที ครบห้าครั้งจับปล้ำ” ขู่ไปงั้นแหละ ไม่กล้าทำหรอกถ้าไม่เต็มใจอ่ะนะ

“ไอ้คุณคิณ ไอ้บ้า” เสียงแว๊ดดังๆ มาตามสายครับ

“ฮ่าๆๆๆๆ” ผมอยากเห็นหน้าพายตอนนี้จัง คงจะแดงลามมาถึงหูแล้วมั้ง  มีความสุขว่ะ ไปสู่ขอพรุ่งนี้เลยได้ไหม อยากมีเมียครับ จะจับมาลงโทษซะให้เข็ด โทษฐานที่น่ารักเกินไป


“กู๊ดไนท์นะครับพายเมียคิณ”

***********************************

จบไปอีกตอนแล้วนะค ดีใจที่มีคนชอบ แม้ว่าจะเป็นแค่ส่วนเล็กๆ แต่ก็ขอบคุณที่เม้นให้กันมาตลอด มีข้อบกพร่องอีกหลายอย่างที่เราต้องแก้ไขมันอาจจะออกมาไม่ดันัก แต่ก็จะพยายาม :impress3:


                            TBC.
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนที่10 เมื่อความรักทำให้คิณตาบอด P.3 (12/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 12-02-2016 19:22:12
อาการหนักมาก  :ling2:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนที่10 เมื่อความรักทำให้คิณตาบอด P.3 (12/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Malila ที่ 12-02-2016 20:01:47
พี่คิณ  คนขี้งอนนนน  55
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนที่10 เมื่อความรักทำให้คิณตาบอด P.3 (12/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: manami_01 ที่ 12-02-2016 20:33:04
ขี้หึงยังดีกว่าพวกตีเนียนจีบล่ะนะพายอย่าไปหลงคารมเขานะสงสารคิณ
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนที่10 เมื่อความรักทำให้คิณตาบอด P.3 (12/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: nunuchhh ที่ 12-02-2016 21:01:47
 :katai2-1:พายง้อออออ
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนที่10 เมื่อความรักทำให้คิณตาบอด P.3 (12/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: zleep ที่ 12-02-2016 21:11:35
งื้อ น่ารักกันจังเลย
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนที่10 เมื่อความรักทำให้คิณตาบอด P.3 (12/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Kalamall ที่ 12-02-2016 21:53:32
มีโทรมาง้อด้วย~ แต่ก็น่ะท่าทางพี่คิณจะมีคู่แข่งจริงๆ ยกให้น้องบราวน์เถอะเนอะ^^
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนที่10 เมื่อความรักทำให้คิณตาบอด P.3 (12/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: powvera ที่ 12-02-2016 22:08:32
พี่คิณงอนน้องพายก็ง้อ แบบโหดแต่แฝงความน่ารัก 

 :hao3:      :hao3:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนที่10 เมื่อความรักทำให้คิณตาบอด P.3 (12/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 12-02-2016 22:25:32
อีพี่คิณนี้ขี้หึงจริงๆ
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนที่10 เมื่อความรักทำให้คิณตาบอด P.3 (12/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: ujen ที่ 12-02-2016 22:26:45
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนที่10 เมื่อความรักทำให้คิณตาบอด P.3 (12/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: PiSCis ที่ 12-02-2016 23:21:11
 :impress2: :impress2: หวานนนนนนนนนนนนนนนนนนนน
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนที่10 เมื่อความรักทำให้คิณตาบอด P.3 (12/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 13-02-2016 00:44:36
 :-[
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนที่10 เมื่อความรักทำให้คิณตาบอด P.3 (12/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 13-02-2016 04:47:04
ขี้หึงจริงคุณคิณ
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนที่10 เมื่อความรักทำให้คิณตาบอด P.3 (12/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 13-02-2016 11:30:55
ตอนนี้น่ารักดี ^^
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนพิเศษ วาเลนไทน์ NC P.3 (14/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: MooKratai ที่ 14-02-2016 16:46:59
หลานคุณย่า ตอนพิเศษ วาเลนไทน์
[/size]

วันนี้เป็นวันวาเลนไทน์ ร้านเค้กเล็กๆ ของผมคราคร่ำไปด้วยคู่รัก เป็นบรรยากาศที่ดูแล้วสดชื่น มีความสุขไปกับเขาด้วย ผมทำเค้กมือเป็นระวิง น้องๆ ในร้านก็แทบจะไม่ได้พัก แต่คนที่ดูไม่ค่อยจะสบอา รมณ์ ก็คือผู้ชายตัวโตที่นังหน้ายักย์อยู่ข้างๆ ผมนี่แหละ  จนมินที่ทำงานอยู่ข้างๆ ไม่กล้าจะคุยเล่นด้วยเลย ปกติคุณคิณจะขี้เล่น ทำให้น้องๆ ผ่อนคลาย ซื้อนู่นซื้อนี่มาฝากประจำ

"พี่พายสงสารคุณคิณจัง" เจ้าเด็กข้างๆ เอ่ยขึ้น

"สงสารเรื่องอะไร" ผมหันไปมองหน้าคุณคิณที่เอาแต่ก้มหน้ากดโทรศัพท์

"คุณคิณอยากไปเดทกับพี่รึเปล่าครับ จะกลับก่อนก็ได้นะ มินดูต่อให้เอง” ผมจะทิ้งให้น้องๆ ทำงานได้ยังไง ในเมื่อตัวเองเป็นเจ้าของร้าน ก็ต้องอยู่ช่วยกันสิ

"ไม่ๆ ทำต่อเลย ไม่ต้องห่วงพี่หรอก" ผมเดินเข้าไปหาคุณคิณที่นั่งหน้าเซ็งๆ เล่นโทรศัพท์

"เป็นอะไรครับหน้าบูดเชียว" ผมเดินเข้าไปจับมือคุณคิณเบาๆ คนตัวโตเงยหน้ามามองผมแค่แป๊บเดียว ก่อนจะก้มลงไปเล่นโทรศัพท์ต่อ

"เรามีเรื่องต้อยคุยกันนะครับ" ผมดึงมือเขาให้เดินตามออกไป "ฝากทำให้ก่อนนะหมูน้อย"

"ฮะ"

ผมจูงมือคุณคิณขึ้นไปชั้นสอง ซึ่งมีห้องว่างอยู่อีกห้องถูกจัดให้เป็นห้องพักผ่อน ถ้าน้องๆ คนไหนไม่สบายก็ขึ้นมานอนได้

"จะไม่พูดกันหน่อยเหรอครับ" ผมดึงคุณคิณให้นั่งลงบนเตียงนอน ก่อนที่ตนเองจะแทรกเข้าไปนั่งบนตัก มือบางโอบคอคนหน้างอไว้หลวมๆ

"......."

"พายบอกแล้วไงว่าวันนี้เป็นวันทำเงิน ถ้าปิดร้านน้องๆ ก็จะไม่ได้พิเศษเยอะะแบบนี้" ร้านเค้กที่ไหนๆ เขาก็เปิดวันนี้ทั้งนั้น เพราะเป็นเทศกาลพิเศษที่ทำเงินได้ดี แถมน้องๆ ในร้านยังได้ทิปจากลูกค้าเยอะอีกด้วย

"แค่เงินพิเศษ ผมจ่ายเองก็ได้" เสียงนี่ห้วนไปนะครับคุณคิณ

"อย่าพาลครับรู้ว่าบ้านรวย"

"ก็พายไม่ให้ความสำคัญกับผมนี่ ทั้งๆ ที่วันนี้เป็นวันของคู่รัก" ท่าทางกระเง้ากระงอดนี่ไม่เข้ากันเลยกับคนตัวโต แต่ขี้ใจน้อย

"จะให้พายรักคุณวันเดียวใช่ไหม วันอื่นไม่รักก็ไม่เป็นไร" ผมแกล้งพูดกับคนที่ทำหน้ามุ่ยเหมือนเด็กเลยครับ

"แต่วันนี้มันวันพิเศษไงครับ ก็อยากทำอะไรพิเศษๆ กับพายบ้างนี่นา" เขาเปลี่ยนสีหน้า ทำเสียงอ้อนผมแล้วครับคราวนี้

"คุณคิณทำตัวเหมือนเด็กเลย จะให้พายทำยังไงครับ บอกมาสิ" ถามความคิดเห็นเขาหน่อยเดี๋ยวจะหาว่าไม่ให้ความสำคัญ

"ไปดินเนอร์กันตอนเย็นสองคนนะครับ" ยิ้มบางๆ ให้กับผมเมื่อเสนอความคิดเห็น

"พายทำกับข้าวให้ทานทีคอนโดดีไหมครับ" ผมยื่นริมฝีปากบางๆ จูบที่ปลายคางคนขี้งอน เพื่อให้หายจากความน้อยใจ ผมย้ายมาอยู่ที่คอนโดกับคุณคิณสักระยะแล้วหลังจากที่เราแต่งงาน

"ก็ได้" ตอบรับไปงั้นแหละคนเรา ไม่ได้เต็มใจใช่ไหม

"พายขอโทษที่ไม่มีเวลาให้คุณเลย" ผมยื่นหนาเข้าไปใกล้ ยืดตัวขึ้นนจุ๊บร่างแกร่งอีกที

 "ไม่เป็นไรครับ แค่ได้อยู่แบบนี้กับพายก็ดีแล้ว" น้ำเสียงนี่น่าสงสารสุดๆ แล้วครับ ไม่รู้ว่าน้อยใจจริงๆ หรือแกล้ง เพราะปกติคุณคิณจะเป็นคนเจ้าเล่ห์

"คุณคิณน่ารัก"

"หึๆ น่ารักอะไรล่ะครับ ถ้าพายก็ว่าไปอย่าง" คุณคิณหอมแก้มผมแรงๆ หลายที ผมก็ไม่คิดจ ะห้ามหรอก ปล่อยให้เขาทำไปครับ สงสารคุณคิณจัง

"ออกไปข้างนอกกันครับ ถ้ายังอยู่แบบนี้อีก ผมต้องจับพายกินตอนนี้แน่ๆ เลย" สงสัยจะหายงอนขึ้นมานิ๊ดนึงแล้วมั้ง

"คุณคิณ" สายตาเจ้าเล่ห์จริงๆ เลยผู้ชายคนนี้

จนเวลาล่วงเลยเข้าช่วงเย็นลูกค้าก็ไม่มีทีท่าว่าจะน้อยลง  แต่ผมบอกให้มินทำเค้กเพิ่มอีกนิดหน่อย เพราะไม่อยากปิดร้านดึก ทั้งๆ ที่ทำงานอยู่ผมก็หันไปดูคุณคิณตลอด เขาช่วยน้องๆ เสริฟด้วย ท่าทางที่คนตัวโตทำแม้ว่าจะไม่เงอะงะเหมือนช่วงแรกๆ แต่ก็ยังเก้ๆกังๆ อยู่ไม่น้อย  ดูเหมือนว่าคนตัวโตจะเป็นที่สนอกสนใจของสาวๆ จริงๆ ทั้งที่แต่ล่ะคนมากับบรรดาหนุ่มๆ ของตนเองทั้งนั้น

จากที่ตอนแรกสงสารตอนนี้เริ่มจะหมั่นใส้แล้ว คนของเราก็เป็นอกเป็นใจยิ้มหน้าบานจนอยากจะเข้าไปดึงหูให้ยานสักที่ดีไหม แต่ก็ต้องอดทนครับเวลางาน เดี๋ยวลูกค้าตกใจ ผมยืนช่วยน้องๆ ตักเค้กเสริฟให้ลูกค้า

“สตรอเบอรี่ชีสเค้กหนึ่ง ช็อคโกแลตลาวาหนึ่ง แล้วก็น้ำสตรอเบอรี่ปั่น กับคาปูชิโน่เย็นแก้วหนึ่งครับ” เสียงบริกรหนุ่มดังขึ้น ซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหนครับ คุณคิณตัวดีของผมนี่เอง

“หน้าบานไปรึเปล่า” ผมแอบแขวะคุณคิณไปที

“เปล่านี่ครับ ก็บริการลูกค้าจะให้ทำหน้าบึ้งได้ยังไง”

“ที่นั่งงอนทั้งเช้านี่คงไม่ได้อยากเดทกับพายแค่สองคนหรอก สงสัยอยากจะออกมาส่องสาว” คราวนี้ผมประชดคุณคิณครับ แต่สงสัยคนตัวโตจะร้อนตัวเลยรีบเข้ามาด้านในเคาเตอร์ วานให้สองไปเสริฟแทน

“รักพายขนาดนี้จะอยากมองใครที่ไหนล่ะ มองพายคนเดียวก็พอแล้ว” คุณคิณทำตัวน่ารักแบบนี้เสมอ เวลาที่ผมมีทีท่าว่าจะเริ่ม
โกรธหรืองอนเขาจะง้อทันที ไม่ว่าตัวเองจะผิดหรือเปล่า แล้วอย่างนี้จะไม่ให้ผมกลัวใครมาแย่งไปได้ไงล่ะ

“ครับๆ” ผมหันไปยิ้มให้คุณคิณเพราะไม่อยากให้เขานอยด์มากกว่านี้ วันนี้เขาก็คงผิดหวังมากเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว

“รักพายนะครับ” เขากระซิบเบาๆ ที่ข้างหูจนผมหน้าร้อนผ่าว

“แหมๆ หวานกันจังเลยนะฮะ ไม่อายลูกค้าเลยว่างั้น” น้องบราวเอ่ยแทรกขึ้นมา ก่อนที่ผมกับคุณคิณจะหันไปดูลูกค้าว่ามีใครเห็นไหม แต่โชคดีที่มีฉากกั้น ทำให้ลูกค้าไม่สามารถเห็นได้

“ถ้าจะหวานขนาดนี้กลับไปก่อนก็ได้นะคะ” เปรี้ยวนี่ถึงกับแซว ผมอายไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน แต่คนข้างๆ นี่ยิ้มแป้น

“พี่พายกลับไปก่อนก็ได้ จะได้ไปดินเนอร์ใต้แสงเทียนกันไง” เด็กๆ ทุกคนลงความเห็นว่าให้ผมกลับก่อน เพราะสงสารคุณคิณ ผมก็เลยต้องจำยอม แต่ก็ไม่ลืมที่จะกำชับน้องๆ ให้เก็บของให้เรียบร้อย ไม่ให้กลับดึก หรือถ้าไม่มีรถก้เบิกเงินนั่งรถแท็กซี่ก็ได้ ส่วนเงินทิปค่อยให้เด็กๆ ทั้งสามคนมาแบ่งกันวันหลัง  บราวนี่ มิน แล้วก็ผมจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเงินส่วนนี้ น้องๆ จะเอามาหยอดรวมกันไว้ในกล่องทิป ไม่มาเถียงกันว่าคนไหนได้เยอะได้น้อยกว่ากัน เด็กทุกคนนิสัยดี น่ารัก

****************************
กลับถึงคอนโดก็เกือบสามทุ่ม แวะทานข้าวข้างนอกกันมา แม้ว่าจะไม่ได้เป็นร้านหรู ดินเนอร์ใต้แสงเทียน แต่ผมก็มีความสุข ผิดแผนนิดหน่อยที่ตอนแรกว่าจะทำอาหารให้คุณคิณแต่มันดึก เราจึงแวะทานที่ร้านอาหารเลยง่ายดี

“อาบน้ำก่อนไหมครับพาย” คุณคิณเอ่ยถามเมื่อเปิดประตูเข้ามายังห้องนอนของเราสองคน

“ครับ คุณคินอาบพร้อมพายไหม” ผมถามออกไปแล้วครับ จากที่คิดอยู่นานว่าทำแบบนี้จะดีไหม ตั้งแต่เราอยู่ด้วยกันมา น้อยครั้งมากที่เราสองคนจะอาบน้ำด้วยกัน ส่วนใหญ่ก็จะโดนคุณคิณบังคับมากกว่า

“ล้อเล่นรึเปล่าครับ” ร่างสูงเดินมาหาผมด้วยความตกใจ

“จะอาบไหมครับ ถ้าไม่....” คนตัวโตเอ่ยสวนขึ้นทันทีเลยครับคราวนี้ไม่มีลังเลว่าได้ยินผิดหรือเปล่า

“อาบๆ ครับ” คุณคิณช้อนตัวอุ้มเข้าห้องน้ำไปอย่างไม่ทันตั้งตัว เขาเดินไปเปิดน้ำใส่อ่างอาบน้ำ ก่อนที่จะผสมครีมอาบน้ำลงไปจนเกิดฟอง ผมมองการกระทำของคนที่ชอบเอาใจใส่ผมตลอดอย่างมีความสุข 

“มาแช่ได้แล้วครับพาย”

“ครับ”

ผมเริ่มที่จะผ่อนคลายจากความเมื่อยล้าตลอดทั้งวัน นั่งหลับตาอย่างสบายอารมณ์ในอ่างที่น้ำอุ่นๆ ช่วยให้คลายความเมื่อยขบได้ดี

“นวดให้นะครับ” คุณคิณขยับมือมาจับที่ไหล่ผมทั้งสองข้าง ก่อนที่จะเข้ามานั่งซ้อนด้านหลัง มือหนาค่อยๆ นวดอย่างเบามือ จนผมเคลิ้ม

“สบายจังเลยครับ”  ผมพูดทั้งๆ ที่ยังหลับตา  ไอร้อนจากตัวของคนที่นั่งซ้อนอยู่ด้านหลังทำให้ผมต้องหันไปถาม

“คุณคิณไมสบายรึเปล่าครับ ทำไมตัวร้อน” สายตาที่พราวระยับตอนนี้ทำให้ผมรู้แล้วว่าคิดผิดที่หันมาสบตากับเขา มือหนาจับมือบางของผมไปสัมผัสกลางกายที่กำลังค่อยๆ ตื่นตัวขึ้นมาทีละน้อย

“ตรงนี้ไม่สบายครับ” มือหนายังบังคับให้มือของผมรูดขึ้นรูดลงไอ้หนอนน้อยที่กำลังกลายร่างป็นมังกรยักษ์ในไม่ช้า

“คะ..คุณคิณ” สัมผัสกันมาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง แต่ก็ไม่เคยชินสักที

“ได้ไหมครับ รักษาให้คิณหน่อย” เสียงแหบพร่ากระซิบที่ข้างหู ปลายลิ้นร้อนไล้วนลงมาตามซอกติ่งหู ขยับมาจนถึงสันกราม จนตอนนี้ร่างกายของผมก็เริ่มที่จะมีอาการไม่ต่างกัน

“ได้ไหม หือ..คนดี”

“อือ...ครับ” แค่คำตอบรับของผมก็เป็นสัญญาณให้คนตรงหน้าเดินหน้าปฏิบัติการปลิดวิญญาณผมต่อแล้วครับ

“อ๊ะ...อือ” ผมร้องครางออกมาเมื่อคุณคิณเริ่มสัมผัสส่วนกลางกายที่กำลังบ่งบอกว่าต้องการๆปลดปล่อยไม่ต่างกัน มือหนารวบกลางกายเราสองคนเข้าด้วยกัน ก่อนที่จะขยับรูดรั้งให้เกิดความเสียว ปนกับความสุขสม ปากหนาก็ยังทำงานได้ดีประสานกับการทำงานของด้านล่าง

จูบหนักหน่วงสลับกับเบาราวกับปุยนุ่น ทำให้ผมแทบลอยคว้างกลางอากาศ รู้สึกดีจนยากที่จะอธิบาย ลิ้นร้อนเริ่มชอนไชไล่ลงมาตามไหปลาร้า ก่อนที่จะมาหยุดวนเวียนชิมควาหวายที่ตุ่มไตเม็ดเล็กสีหวาน

“อ่า...คุณคิณ” ความรู้สึกเสียวซ่านแผ่ไปแทบจะทุกรูขุมขน ผมได้แต่ครางเรียกชื่อคุณคิณอยู่อย่างนั้น มือหนาของเขาก็ยังไม่หยุดที่จะมอบความสุขให้กับเราทั้งสองคน

“เรียกชื่อคิณสิครับคนดี ผมอยากได้ยิน อ่า...” คุณคิณเริ่มรูดรั้งแรงและเร็วขึ้นจนผมบิดกายเร่าเพราะความสะท้าน จนใกล้จะถึงจุดหมายปลายทาง

“คะ..คิณพายไม่หวะ...ไหวแล้ว” ร่างผมกระตุกสองสามครั้งก่อนที่จะปลดปล่อยน้ำรักออกมาเต็มมือคุณคิน ส่วนคนตังโตก็ปลดปล่อยออกมาไม่ต่างกัน ผมเหนื่อยหอบยิ่งกว่าออกกำลังกายหนักๆ เสียอีก

“พายครับวันนี้ตามใจคิณได้ไหม” ผมเหนื่อยหอบซุกหน้าลงกับอกแกร่ง คุณคิณกอดผมไว้แน่น ปากหนาเริ่มซุกไซ้ตามซอกคอเรื่อยลงมาจนผมร้องห้ามแทบไม่ทัน

“ครับ แต่ไปที่เตียงได้ไหมพายเมื่อย” คุณคิณอุ้มผมไปล้างตัว ก่อนที่จะพามาที่เตียงนอน ตอนนี้ผมไม่มีแรงแม้แต่จะยืนได้แต่เกาะเกี่ยวคุณคิณไว้

“งั้นที่รักออนท็อปให้ผมหน่อยได้ไหม” ว่าอะไรนะ คุณคิณจะให้ผมออนท็อปเหรอ

“ไม่เอา พายทำไม่เป็น” ปฏิเสธออกไปทั้งๆ ที่ยังก้มหน้าก้มตาไม่กล้ามองคนที่ขออะไรน่าอายขนาดนี้ ตั้งแต่อยู่ด้วยกันมาไม่มีเลยที่ผมจะทำแบบนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่คุณคิณขอ ผมจะทำยังไงดี อายเกินกว่าที่จะทำแบบนั้นจริงๆนะ

“ไหนว่าจะตามใจคิณไงครับ พายไม่รักผมเลยเหรอ ทำไมมีแต่ผมคนเดียวที่อยากแสดงความรักกับพาย” คำพูดตัดพ้อที่ทำให้ผมรู้สึกผิดขึ้นมาทันที

“ก็ได้ แต่คุณต้องสอนพายนะครับ” ผมบอกเสียงเบา ก็คนมันอายนี่นา

“คนดีของคิณ” มือของผมเริ่มรูดรั้งแก่นกายแกร่งอีกครั้ง ก่อนที่จะครอบริมฝีปากบางลงไปตามที่คุณคิณบอก

“อย่างนั้นครับ อ่า....”  ลิ้นร้อนเลียที่ส่วนปลายเจ้ามังกรยักษ์อย่างเงอะงะ  แต่ผมก็พยายามทำให้คุณคิณพอใจ ก่อนที่จะใช้ริมฝีปากรูดเจ้ามังกรยักษ์ขึ้นลง จนคนตัวโตครางไม่หยุด  มือหนาของคุณคิณเริ่มลากผ่านแนวสันหลัง เลื่อนต่ำลงมาที่สะโพกอวบ ก่อนที่จะขย่ำอย่างเต็มแรงจนผมครางประท้วง เงยหน้ามองคนที่ชอบทำหน้าตาเจ้าเล่ห์ตลอดเวลา

นิ้วเรียวค่อยๆ สอดเข้าไปตามช่องทางคับแคบสีสวยอย่างใจเย็น จนผมอดไม่ได้ที่จะใช้ปากขยับรูดรั้งเจ้ามังกรยักษ์แรงๆ อีกครั้ง

“คิณ...พายเสียว ช่วยพายที” ผมทนไม่ไหวแล้วครับ จนต้องเรียกร้องจากคุณคิณด้วยน้ำเสียงที่น่าอาย

“ช่วยยังไงครับคนดี” คุณคิณกวนผม รู้ว่าผมต้องการอะไรแต่ก็ยังให้พูดอะไรที่มันน่าอายแบบนี้

“คะ..คุณเข้ามาในตัวพายนะครับ” น่าอายที่ต้องพูดแบบนี้ แต่มันทั้งเสียวและทรมานจนแทบจะทนไม่ไหว

“ทำเองซิครับคนดี อยากได้แบบไหน” ผมมองคุณคิณอย่างกระเง้ากระงอด แต่ก็ยอมขยับตัวขึ้นมานั่งคร่อมตรงหน้าท้องแกร่งของคนที่นอนยิ้มมีความสุขอยู่ใต้ร่างผม ก่อนจะค่อยจับความใหญ่โตของเขาชะโลมด้วยเจลหล่อลื่นด้วยมือสั่นๆ โดยมีสายตาหื่นกระหายของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีผมมองอยู่

ผมยกบั้นท้ายกลมกลึงขึ้นเล็กน้อย ก่อนที่จะสอดใส่เจ้ามังกรยักษ์เข้าไปได้แค่ส่วนหัว ผมก็ต้องร้องออกมาด้วยความเจ็บแปลบ เพราะมันแน่นจนผมไม่กล้าดันตัวเองเข้าไปครอบครองแก่นกายยักษ์

“ใจเย็นๆ นะครับ ค่อยๆ ไม่ต้องรีบ”เสียงคุณคิณตอนนี้ทำให้ผมรู้ว่าเขาอดทนกับความต้องการทางร่างกายมากแค่ไหน

“คะ...คิณเข้ามาทีเดียวเลยก็ได้พายไหว” ผมไม่กล้าทำเองต้องให้คุณคิณช่วย ไม่งั้นมันก็คงค้างคาอยู่แบบนี้ ยอมที่จะเจ็บครั้งเดียวเพื่อปลดปล่อยความต้องการของเราทั้งสองคน

“แต่พายจะเจ็บนะครับ”

“พายไม่เป็นไร.. นะครับ” พอผมเอ่ยออกมาแบบนั้น คุณคิณกลับแทงพรวดเข้ามาทีเดียวจนผมจุก

“อ่า....”

“อึกกก...” เสียงเราสองคนดังประสานกัน

“ขยับได้ไหวไหมครับ” มือหนาลูบสะโพกอวบเพื่อคลายความเจ็บ

ผมไมตอบแต่เริ่มขยับเบาๆ ก่อนที่จะค่อยๆเพิ่มความเร็วขึ้น ยิ่งผมเห็นสีหน้าที่แสดงออกถึงความต้องการของคุณคิณมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งย่ามใจเพิ่มความแรงขึ้นอีก ทั้งเสียวแล้วก็ทรมานจนเหมือนใจจะขาด จนคุณคิณกระแทกสวนขึ้นมาอย่างสุดที่จะอดกลั้น

เราสองคนขยับกายสอดประสานกันจนผมเริ่มที่จะทนไม่ไหว มันลึกกว่าทุกครั้ง แรงกระแทกที่เราทั้งสองคนส่งผ่านกันและกันทำให้ผมร้องครางออกมาอย่างไม่สามารถที่จะกลั้นเอาไว้ได้

“อึกกกก...อ่า” มือหนาจับเอวผมไว้ก่อนที่จะกระแทกจนสุดแรง ผมครางอย่างเดียวครับ ไม่ไหวแล้วคุณคิณทำผมแทบคลั่ง ผมเหมือนคนเสพติดเซ็กที่เขามอบให้ รู้สึกถึงความร้อนแรงจนไม่อยากจะหยุด

 ร่างกายผมก็แทบจะรับไม่ไหว จนคุณคิณพลิกตัวผมให้ลงไปนอนที่ใต้ร่างแกร่ง เสียงหายใจหอบสลับกับเสียงครางของเราสองคน ดังอยู่ตลอดเวลา จนใกล้จะถึงจุดหมายปลายทางของเราทั้งสองคน คุณคิณกระแทกรัวๆ อีกสองสามทีจนน้ำรักสีขาวขุ่นพุ่งออกมาโดนหน้าท้องแกร่ง ก่อนที่คุณคิณจะปลดปล่อยตามผมมาติดๆ
 
ผมเหมือนโดนสูบวิญญาณ ไม่มีเรี่ยวแรงเลยสักนิด แต่คุณคิณก็ยังไม่ยอมหยุด ความต้องการของเขาเหมือนจะไม่มีที่สิ้นสุด  ผมนอนให้คุณคิณพลิกร่างกายผมได้ตามใจชอบเลยครับ มีหน้าที่แค่ครางอย่างเดียวจนไม่มีเสียง จนรอบสุดท้ายผมสลบไปเลย

ตื่นมาอีกทีก็สายแล้ว ไม่รู้ว่าเขาอาบน้ำทำความสะอาดร่างกายให้ผมตั้งแต่ตอนไหน เสียงผมนี่แทบจะไม่มีแหบจนไม่คิดว่าเป็นเสียงของตนเอง  แค่คิดถึงเรื่องเมื่อคืนก็อายจนแทบแทรกแผ่นดินหนี ผมเรียกร้องจนน่าอาย ส่วนคุณคิณเองก็ตักตวงความสุขจากร่างกายผมจนเกือบเช้า

ผมนอนมองเพดานห้องอย่างไม่กล้าขยับ แม้ว่าเราจะมีอะไรกันบ่อยตามประสาคนรักกัน แต่ไม่มีครั้งไหนที่จะเร่าร้อนจนผมแทบลุกไม่ไหว จะโทษคุณคิณคนเดียวก็ไม่ได้ผมเรียกร้องเอง

แล้วตอนนี้คนที่ทำให้ผมเป็นแบบนี้เขาไปไหนแล้ว อยากให้ช่วยพยุงพาผมไปเข้าห้องตามแต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงา ห้องก็เงียบจนผิดปกติ หรือว่าเขาจะไปทำงานตั้งแต่เช้า เพราะนี่ก็สายมากแล้ว แต่ร่างกายผมคงไม่เหมาะที่จะลุกไปร้านในวันนี้แน่นอน

ร่องรอยสีกุหลาบมีบ้างประปราย ตามอก คอ แล้วก็ต้นขา ยิ่งมองเห็นก็ยิ่งน้อยใจ ทำไมไม่อยู่ดูแลผมบ้าง หรือว่ามีงานด่วน ไม่ห่วงผมเลยใช่ไหม อาการน้อยใจเริ่มตีตื้นขึ้นมาจนน้ำตาแทบไหล พยุงร่างกายตัวเองยืนขึ้นอย่างยากลำบาก แค่ปลายเท้าเหยียบลงพื้นก็เจ็บแปลบไปถึงสันหลัง จนน้ำตาร่วง จากที่น้อยใจอยู่แล้ว ทำให้น้ำตาผมไหลรินออกมาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เสียใจที่คุณคิณไม่อยู่ดูแล

พยายามก้าวขาอย่างช้าๆ เพื่อพยุงตัวเองให้ไปให้ถึงห้องน้ำ ก่อนที่มือผมจะเอื้อมไปเปิดประตูห้องน้ำ ขาเจ้ากรรมก็ดันอ่อนยวบ จนผมลงไปกองกับพื้น น้ำตาไหลพรากเลยครับคราวนี้ หลังจากที่พยายามไม่ให้มันรินไหลออกมาเสียนาน

“โอ้ย! ฮึกกกก....ฮือ” ผมร้องให้เสียงดังอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน  พยายามลุกขึ้นแต่ก็ไม่ไหว ได้แต่นั่งกอดเข่าปล่อยให้น้ำตามันไหลอยู่อย่างนั้น เจ็บทั้งร่างกาย แล้วก็หัวใจ

เสียงเปิดประตูห้องนอนดังขึ้น ทำให้ผมต้องเงยหน้าขึ้นไปมอง ใบหน้าที่เต็มด้วยคราบน้ำตามองคุณคิณอย่างตัดพ้อ เขามองผมด้วยท่าทางตกใจ ก่อนที่จะวิ่งเข้ามาหา

“พายเป็นอะไรครับ ทำไมมานั่งร้องให้อยู่ตรงนี้”

“ไปไหน ฮึก...มา ฮืออออ”  คุณคิณกอดผมไว้ พร้อมกับเช็ดน้ำตาให้กับผม รู้สึกใจชื้นขึ้นมาที่คุณคิณไม่ได้ทิ้งไปไหน แต่น้ำตาเจ้ากรรมกลับดันไม่หยุดไหล จนคุณคิณตกใจมากกว่าเดิม

“ไปโทรบอกน้องๆ ว่าพายไม่ได้เข้าร้าน แล้วก็โทรเคลียร์งานนิดหน่อยครับ”  อ้อมกอดที่อบอุ่นของคุณคิณทำให้ผมได้แต่ซุกหน้าไว้อย่างนั้น

“ฮึกกก....ฮือ”

“ทำไมร้องให้หนักแบบนี้ เจ็บมากเหรอครับ คิณขอโทษ”  คุณคิณช้อนตัวผมขึ้นอุ้มก่อนที่จะหันมาถาม

“จะเข้าห้องน้ำใช่ไหมครับ” ผมได้แต่พยักหน้า พร้อมกับเสียงสะอื้นที่ค่อยๆ หยุดลง

คุณคิณจัดการให้ผมทุกอย่าง อีกทั้งยังอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ ก่อนที่จะพาผมมานอนบนเตียงอีกครั้ง วันนี้ผมคงต้องนอนเป็นผักอย่างนี้ทั้งวัน

“ทานโจ๊กหน่อยนะครับ เดี๋ยวผมอุ่นให้ก่อน ไปซื้อมาตั้งแต่เช้ากลัวว่าพายตื่นมาแล้วจะหิว”  ผมรู้สึกผิดขึ้นมาทันทีที่คิดว่าคุณคิณไม่ห่วง คิดไปเรื่อยเปื่อย จนร้องให้บ้าบอคนเดียว

“มาแล้วคร้าบบบบ โจ๊กร้อนๆ ผมไปซื้อเจ้าอร่อยมาเลยนะครับเนี่ย เข้าแถวรอตั้งนาน” น้ำเสียงอบอุ่น กับสายตาอ่อนโยนที่ส่งมาให้ทำให้ผม อยากจะโกรธให้กับความงี่เง่าของตนเอง

“ขอโทษ” ผมเอ่ยออกไปทั้งๆ ที่คุณคิณยังงงๆ อยู่

“เรื่องอะไรต้องมาขอโทษผมครับ ผมต่างหากที่ต้องขอโทษที่ทำให้พายเป็นแบบนี้” ผมค่อยๆ พยุงตัวเองขึ้นนั่งพิงหัวเตียง คุณคิณเอาหมอนรองหลังให้นั่งง่ายๆ

“ก็พายคิดว่าคุณคิณไปทำงาน ไม่อยู่ดูแลพายแล้ว” พูดเสียงอ่อยๆ ไม่กล้ามองหน้าคุณคิณ ที่ตอนนี้เริ่มจะเข้าใจอาการของผมแล้ว

“จะไม่ดูแลเมียได้ยังไง เมียน่าสงสารขนาดนี้ฮึ” มือหนาเลื่อนมาลูบหัวผมอย่างเอ็นดู พร้อมกับสายตาอ่อนโยนที่ส่งมาให้

“คุณคิณ”

“ไม่ต้องทำหน้าหงอยแล้วครับ พายไม่ผิดสักหน่อย” เขานั่งลงบนเตียงนอนฝั่งตรงข้าม ก่อนที่จะเริ่มป้อนโจ๊กให้ผม มันทานไม่ค่อยลงเลยครับ เจ็บคอ แสบไปหมด

“อีกคำนะครับ”  ผมเริ่มทำหน้าแหย จนคุณคิณต้องปลอบราวกับผมเป็นเด็กๆ

“คำสุดท้ายนะ” ผมอ้าปากรับแต่ก็ยังไม่วายที่จะต่อรอง

“ครับๆ คำสุดท้ายก็สุดท้าย ทานยังไม่ถึงครึ่งเลย  แล้วก็ทานยานะครับ” คราวนี้บ่นกระปอดกระแปดแล้วครับที่ผมทานข้าวได้น้อย แต่คงไม่อยากบังคับ

ทานยาแล้วล้มตัวลงนอนอีกครั้ง โดยที่คุณคิณนั่งเฝ้าไม่ยอมห่าง ผมไม่ได้หลับ นอนมองคนตัวโตที่ก้มหน้าอ่านเอกสาร เกี่ยวกับงานของเขาอยู่ข้างๆ

“คุณคิณครับ” เงยหน้าจากเอกสารมามองหน้าผม

“ทำไมไม่นอนพักครับ”  คุณคิณหันมาตะแคงข้างใช้ศอกข้างหนึ่งค้ำยันที่นอนไว้  มืออีกข้างก็คอยลูบหัวผมอย่างแผ่วเบา

“นอนไม่หลับ” 

“แล้วเมื่อกี้เรียกทำไมครับ”

“พายรักคิณนะครับ” ไม่บ่อยหรอกครับที่ผมจะบอกรักคุณคิณแบบนี้ เพราะผมรู้สึกกระดากอายเวลาที่พูด มันรู้สึกจั๊กจี้ คันยุบยิบในหัวใจชอบกล

“หึ หึ... กว่าจะบอกรักกันต่ละทีนี่ แทบลุ้นข้ามปีเลยนะครับ” เขาล้อผมครับ เป็นแบบนี้ทุกที นี่แหละอีกสาเหตุที่ผมไม่อยากจะพูดว่ารักเขาบ่อยๆ ชอบล้อจนผมเขิน

“พายจะไม่บอกอีกแล้วนะ ถ้ายังไม่เลิกล้อ”

“คิณก็รักพายครับ รักที่สุด มีความสุขที่ได้อยู่ด้วยกันแบบนี้ทุกๆ วัน”  เขาก้มลงมาจูบหน้าผากผมอย่างอ่อนโยน ก่อนที่เราจะสบตากันยิ้มๆ

“สุขสันต์วันวาเลนไทน์ครับ”

“เลยมาแล้วนี่”  นิสัยไม่ดี ไม่อยากพูดดีๆ ด้วยแล้วนะ ทำไมเป็นคนแบบนี้

ความรักของเราสองคนก็เป็นแบบนี้แหละครับ ไม่มีอะไรพิเศษมากมาย แค่ได้อยู่ด้วยกันแบบนี้ก็พอแล้ว ไม่เคยต้องการอะไรไปมากว่านี้ แค่มีคุณคิณอยู่เคียงข้างทุกๆ วันก็มีความสุขที่สุดแล้ว

*****************************

ตอนพิเศษมาแล้ว สนุกรึเปล่าไม่รู้ แต่อยากแต่ง :mew1: เม้นให้ด้วยนะ สุขสันต์วันแห่งความรัก คนมีคู่ไม่รู้หรอก
 จอกันตอนหน้านะคะ
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนพิเศษ วาเลนไทน์ NC P.3 (14/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 14-02-2016 17:17:57
 :L2: :pig4:

Happy Valentine's Day
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนพิเศษ วาเลนไทน์ NC P.3 (14/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 14-02-2016 17:19:38
 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:
ถึงกับสลบ :oo1: :oo1:
happy valentine's day

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนพิเศษ วาเลนไทน์ NC P.3 (14/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 14-02-2016 17:24:23
So sweet
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนพิเศษ วาเลนไทน์ NC P.3 (14/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: cheezett ที่ 14-02-2016 17:43:40
เขินนนน><  :hao6: :hao6: :pighaun:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนพิเศษ วาเลนไทน์ NC P.3 (14/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 14-02-2016 18:05:43
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนพิเศษ วาเลนไทน์ NC P.3 (14/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Panehove ที่ 14-02-2016 18:25:05
น่ารักจังเลยค่ะ หวานเบาๆ รอติดตามนะคะ
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนพิเศษ วาเลนไทน์ NC P.3 (14/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: ujen ที่ 14-02-2016 18:46:46
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนพิเศษ วาเลนไทน์ NC P.3 (14/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 14-02-2016 19:24:56
คิณแม่งหื่นอ่ะ จัดหนักจัดเต็มแบบนี้สงสารพายจริงๆ เลย นอนเป็นผักเลยอ่ะ
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนพิเศษ วาเลนไทน์ NC P.3 (14/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: natt lUcky ที่ 14-02-2016 22:36:04
น่ารัก คุณคิณจัดหนักเลยสิ
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนพิเศษ วาเลนไทน์ NC P.3 (14/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: manami_01 ที่ 15-02-2016 05:42:07
หวานจนมดขึ้น

หวานจนคนไม่มีแฟนอิจฉาเว้ยเฮ้ย!!!  :m31:

งืออออ  เนื้อเรื่องพิเศษหวานขนาด เนื้อเรื่องหลักต้องอย่างน้อยหน้านะ อิอิ
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนพิเศษ วาเลนไทน์ NC P.3 (14/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: nunuchhh ที่ 15-02-2016 10:32:28
 :mew3: น่ารักจัง
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) หลานคุณย่า 11 ?????? P.4 (15/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: MooKratai ที่ 15-02-2016 19:09:17
หลานคุณย่า 11 ?????

พาย(Part)

“จะไปไหนน้องพาย”  แค่เดินลงจากบันไดในสายของวันอาทิตย์ก็โดนพี่ชายสุดที่รักถามด้วยสายตาจับผิดแล้วครับ

“ไปข้างนอกฮะ ขอคุณย่าแล้ว” เอาคุณย่ามาอ้างครับ เพราะน่าจะปลอดภัยที่สุดแล้วตอนนี้ แต่ขอคุณย่าแล้วจริงๆ นะครับไม่ได้โกหก

“ไปที่ไหน แล้วไปกับใคร” จะถามเยอะไปไหมครับคุณพี่ชาย แล้วจะให้ตอบได้ยังไงว่าไปกับคุณคิณ ถ้ารู้มีหวังบ้านแตกแน่เลย

“ถามอะไรน้องนักหนาเจ้าซอง” เสียงสวรรค์ครับ มาช่วยพายได้ทันเวลา

“ก็ซองเป็นห่วงน้องนี่นา แล้วพายเหมือนบราวนี่ที่ไหน รายนั้นไปไหนก็ไม่มีใครกล้าทำอะไร แต่กับพายนี่ทันใครที่ไหน” พี่ซองทำเหมือนผมเป็นเด็กสามขวบเลยครับ ผมไม่ได้ซื่อขนาดนั้นซักหน่อย แค่ไม่พูดใช่ว่าจะไม่รู้นะครับ

“ย่าอนุญาตให้น้องไปเอง ไม่ต้องห่วงหรอก ส่วนเราจะไปออกรอบไม่ใช่เหรอวันนี้” พี่ชายผมแต่งตัวเต็มยศพร้อมกับลากถุงกอล์ฟลงมาจากชั้นสองของบ้าน สงสัยมีเจรจาธุรกิจแน่ๆ เลย  แต่ไม่ถามหรอกกลัวจะชวนไปด้วยครับ ไม่ชอบที่แบบนี้สุดๆ อึดอัด

“ครับ แต่พายไปกับใคร” ยังไม่ลืมที่จะถามเรื่องเดิม

“ไปกับพ่อคิณ” คุณย่าบอกทำไม ผมตายแน่เลยงานนี้

“คุณย่าสนับสนุนให้น้องคบกับผู้ชายเหรอครับ”

“อย่ามาว่าย่าอยางนี้นะตาซอง ย่าไม่ได้สนับสนุน จะชายหรือหญิงย่าก็ไม่รู้หรอก ขอแค่น้องมีความสุขก็พอ” ทำไมต้องมาทะเลาะกันเพราะผมด้วยครับ ผมทำให้พี่ซองไม่สบายใจรึเปล่า
 
“พายไม่ไปแล้วก็ได้นะฮะ เดี๋ยวโทรบอกคุณคิณว่าไม่ต้องมาแล้ว” ผมรู้สึกผิดมากๆ

“ไม่ต้องโทร ย่าให้ไปแล้วจะอะไรอีก”

“แต่พี่ซองไม่สบายใจ” ผมมองหน้าพี่ชายที่ตอนนี้สีหน้าไม่ค่อยดีเท่าไหร่

“ถ้าน้องพายโทรยกเลิก แล้วทุกคนในบ้านสบายใจขึ้น แต่น้องพายจะรู้สึกยังไง” ผมก็คงเสียใจ แต่ก็ไม่อยากให้ทุกคนในบ้านต้องมาทะเลาะกัน

“เขาเจ้าชู้”พี่ซองเอ่ยเสียงแผ่ว

“แล้วเราล่ะตาซองเจ้าชู้รึเปล่า” ย่าย้อนถามพี่ชาย ทั้งๆ ที่ทุกคนก็รูว่าพี่ซองน่ะเสือผู้หญิง

“แต่ผมก็ไม่ได้หลอกใครนี่ครับย่า เราต่างเต็มใจทั้งสองฝ่าย”

“ก็ดี ถ้าอย่างนั้นตอนนี้ทั้งพ่อคิณและน้องพายก็เต็มใจทั้งสองฝ่ายจะยอมให้น้องไปไหม” คุณย่างัดเหตุผลที่พี่ซองไม่สามารถค้านได้ขึ้นมาบ้าง

“แต่ย่า...” ยังพูดไม่ทันจบก็ไดนคุณย่าเอ่ยขึ้นซะก่อน

“ย่าอยากให้น้อยพายได้เจอโลกด้วยตัวเองบ้าง ไม่ใช่ว่าเราจะกางปีกปกป้องไว้ตลอดเวลา จะให้น้องอยู่ภายใต้ปีกของเราตลอดไม่ได้หรอกนะ”

“ก็แค่เป็นห่วงครับ” เสียงพี่ซองอ่อยจนน่าสงสาร

“พี่ซอง” ผมเดินเข้าไปกอดพี่ชายอย่างสุดรัก

“พี่รัก และเป็นห่วงพี่ถึงพูด ไม่ใช่ว่าจะขัดขวางอะไร แต่ก็ยังไม่ไว้ใจไอ้หมอนั่นอยู่ดี” รู้แล้วครับรู้มาตลอดแหละว่าพี่ชายรักผมกับน้องบราวมากแค่ไหน ไม่อย่างนั้นคงไม่ยอมแบกภาระไว้เพียงคนเดียวหรอก

“คุยอะไรกันเสียงดังจังเลยฮะ”  น้องบราววิ่งลงจากบันไดเสียงดังตึงตัง

“น้องบราวมาพอดีเลย ถ้าอย่างนั้นให้น้องบราวไปเป็นเพื่อนดีไหม” แม้ว่าพี่ซองจะยอมแต่ก็คงยังเป็นห่วงอยู่ดี ผมเข้าใจความหวังดีของพี่ชายดีที่สุดครับ ไม่เคยคิดที่จะโกรธหรือน้อยใจ

“ไปไหนฮะ วันนี้น้องบราวมีนัดกับหมูน้อยแล้ว” ทำหน้าเหรอหราเลยครับน้องชายผม อยู่ดีๆ ก็โดนมัดมือชก

“ไปเป็นเพื่อนพี่พาย พี่ไม่อยากให้ไปกับไอ้คิณตามลำพัง” ดูพี่ชายผมเขาเรียกคุณคิณสิ ต่อหน้าก็ให้เกีรยติอยู่หรอก แต่ลับหลังก็อย่างที่เห็น

“เรียกเขาดีๆ” คุณย่าเอ่ยเสียงนิ่ง จนพี่ซองก้มหน้าขอโทษ

“แต่น้องบราวจะไปดูหนัง แล้วก็ซื้อหนังสือการ์ตูน” หน้างอแล้วครับคราวนี้ขัดใจเขาล่ะ

“แล้วเราล่ะจะไปไหนน้องพาย” คุณย่าถามผมครับ

“พายว่าจะไปซื้ออุปกรณ์ทำเค้กนิดหน่อยนะฮะ”

“ถ้าอย่างนั้นก็ไปด้วยกันเลยแล้วกัน” ย่าพูดตัดบทเพราะว่าทั้งพี่ซองแล้วก็น้องบราวเหมือนจะทะเลาะกันแล้ว

“ก็ได้” เจ้าตัวเล็กเสียงอ่อยๆ น่าสงสาร คงอยากไปเที่ยวเล่นกับเพื่อนรักแค่สองคนมั้ง

“ส่วนเราตาซองจะไปไหนก็รีบไป เดี๋ยวสาย” คุณย่าไล่พี่ซองแล้วครับสงสัยจะเบื่อคนพาล

“แล้วพี่จะโทรหา” จะโทรเช็คว่าผมอยู่กับน้องจริงรึเปล่าแน่เลย

“ฮะ พี่ซองไม่ต้องเป็นห่วงนะ” มือหนายืนมาลูบหัวผมเบาๆ ก่อนที่จะเดินออกไป

***********************************

คุณคิณมาถึงเก้าโมงกว่าๆ ครับ ส่วนน้องบราวก็โทรตามมินให้มาขึ้นรถที่บ้าน คุณคิณออกจะอึ้งๆ ด้วยซ้ำที่รู้ว่าน้องบราวแล้วก็มินจะไปด้วย สายตาที่มองมาทางผมเหมือนจะตัดพ้อ จนผมต้องเดินไปหา

“น้องสองคนจะไปดูหนังแล้วก็ซื้อหนังสือเลยถือโอกาสไปด้วยกันเลย ประหยัดน้ำมันดี” ผมพูดทีเล่นทีจริงกับคนที่ตอนนี้แสดงสีหน้าอึดอัดใจ

“แค่อยากพาน้องไปดูหนังแล้วก็ซื้อหนังสือ?”

“ไม่ใช่นะครับ เพียงแต่มันบังเอิญ ให้น้องไปด้วยไม่ได้เหรอ” ทำเสียงอ้อนครับ เพราะไม่อยากให้เขาไม่สบายใจ เป็นคนนัดเขาเองแท้ๆ แต่กลายมาเป็นแบบนี้

“ได้ครับ แล้วน้องๆ อยู่ไหน”

“มาพอดีเลย” ผมชี้ไปที่เจ้าตัวแสบทั้งสองคน ที่เดินยิ้มหน้าระรื่นกระซิบกระซาบอะไรไม่รู้

เราทั้งสี่คนนั่งรถมาที่ห้างชื่อดังในย่านวัยรุ่น มีเสียงคุยกันงุ้งงิ้งของน้องๆ ทั้งสองคน ทำให้ภายในรถไม่ดูอึดอัดเกินไป เพราะตอนนี้คนขับรถนั่งหน้าไม่รับแขกเลย จนน้องๆ ไม่มีใครกล้าคุยเสียงดัง กว่าที่จะถึงห้างก็กินเวลาเกือบครึ่งชั่วโมง

“พี่พายกับคุณคิณไปเดินสองคนเลยนะฮะ น้องบราวจะไปซื้อหนังสือการ์ตูน” น้องบราวเอ่ยขึ้นขณะที่พวกเรากำลังเดินเข้าไปนห้าง

“ทำไม”

“ก็แค่ไม่อยากอยู่เป็นกขค.คนที่กำลังจะออกเดท เที่ยวให้สนุกนะฮะ” คุณคิณจากที่หน้าตึงๆ คราวนี้ยิ้มหน้าบานเลยครับ

“ไม่ได้มาเดท” ผมพูดไม่เต็มเสียงเท่าไหร่

“ใช่ครับ พี่สองคนไม่ได้มาเดทซะหน่อย พี่แค่พายมาซื้อของเองเนอะ”  พูดล้อๆ ก่อนที่จะหันมาทำหน้าทะเล้นใส่ผม

“เชื่อแล้วฮะ ออ... แล้วไม่ต้องรอเราสองคนนะฮะ จะกลับแท็กซี่เอง” รวบรัดตัดความดีเหลือเกินนะ

“แล้วถ้าพี่ซองโทรมา” ผมกลัวว่าถ้าพี่ซองรู้แล้วจะพาลโกรธหนักกว่าเดิม

“พี่พายก็แค่บอกว่าน้องบราวเข้าห้องน้ำ ไปแล้วนะฮะ”

“เที่ยวให้สนุกนะฮะพี่พาย” มินเอ่ยขึ้นตามเพื่อนรักก่อนที่จะดึงกันเดินไปอีกทาง ผมหันไปมองหน้าคุณคิณอย่างไม่รู้จะพูดอะไร

“เราจะไปไหนกันก่อนดีครับ”

“บอกไว้ก่อนนะครับ ไม่ได้ชวนมาเดทอย่าเข้าใจผิด” ทำอะไรไม่ค่อยจะถูกเวลาที่อยู่ด้วยกันสองคน จนต้องเอ่ยดักทางคนอย่างคุณคิณก่อน

“ครับๆ พายแค่ชวนผมมาซื้อของเป็นเพื่อนเนอะ” ฟังเสียงเขาสิครับล้อเลียนผมมาก

“คุณคิณ”ผมเอ่ยเสียงดังจนคนตัวโตยกมือขึ้นยอมแพ้ ผมเดินนำคุณคิณไปยังร้านขายอุปกรณ์เครื่องครัวต่างๆ  ผมอยากให้เขาได้สัมผัสกับชีวิตผมจริงๆ ว่าวันหนึ่งผมทำอะไรไปบ้าง ถ้าเกิดว่าเขาไม่ชอบหรือเบื่อที่ต้องอยู่กับคนเงียบๆ ที่ชีวิตไม่ได้หวือหวาน่าตื่นเต้น เขาจะได้ถอยในตอนนี้ ดีทั้งกับตัวคุณคิณแล้วก็ผมด้วย  ก่อนที่หัวใจผมจะถลำลึกไปมากกว่านี้

ผมเดินเลือกอุปกรณ์ต่างๆ ที่ต้องใช้ในร้านอยู่เงียบๆ มีคุณคิณเดินตามแต่ไม่ได้พูดอะไร ผมคอยสังเกตุเขาตลอดว่ามีท่าทางเบื่อบ้างรึเปล่า ฝืนใจที่จะเดินในร้านแบบนี้กับผมรึเปล่า หรือว่าแค่แสร้งยิ้มเวลาที่ผมหันไปสบตากับเขา

**********************

คิณ(Part)

ผมไม่รู้ว่าพายพาผมมาที่ร้านขายอุปกรณ์ทำขนมพวกนี้ทำไม ตั้งแต่เกิดมาผมยังไม่เคยที่จะย่างกรายเข้าร้านแบบนี้ มันไม่เหมาะกับผมเลยสักนิด แต่การที่ได้เดินดูเขาเลือกนู่น เลือกนี่อย่างพิถีพิถันก็มีความสุขดีครับ  มันเพลินไปอีกแบบทั้งๆ ที่ไม่คิดว่าตนเองจะสามารถอยู่ในร้านแบบนี้ได้เป็นชั่วโมงๆ
 
“คุณคิณเบื่อรึยังครับ”  พายหันมาถามผมหลังจากที่ง่วนอยู่กับการเลือกของอยู่นาน

“ไม่ค่อยเท่าไหร่ครับ ดูพายเลือกของก็เพลินไปอีกแบบ”

“แน่ใจนะครับ ถ้าเบื่อจะได้ออกไปที่อื่น” เขาลองใจผมรึเปล่า ไม่แน่ใจ เพราะดูจากที่เขาเลือกของนี่ค่อนข้างนาน แต่ได้ไม่ถึงสามสี่อย่าง

“แค่ได้อยู่ใกล้พายผมก็มีความสุขแล้ว” หยอดไปหนึ่งดอกก่อนครับ

“เวอร์ตลอด” เขารู้ทันว่าผมแกล้งพูด

“หึๆ..” หัวเราะในลำคอเบาๆ เพราะพายคนเดิม แต่ไม่เหมือนเดิมรู้ทันผมแทบจะทุกอย่าง บางทีก็ยังแอบกวนเล็กๆ ด้วย

“มีอะไรน่าขำ” เขาคงงงกับอาการที่ผมแสดงออกแบบไม่มีเหตุผล

“ขำตัวเองที่ตอนนี้แพ้ทางพาย”

“พูดอะไรไม่เข้าใจสักอย่าง ไปจ่ายเงินกันครับ” ผมว่าเขารู้ แต่แสร้งทำเหมือนไม่รู้ไม่เข้าใจก็เท่านั้นเอง

รอไม่นานก็คิดเงินเสร็จ ก่อนที่ผมจะเป็นคนเอาลงไปไว้ในรถ ให้เขาไปรอที่ร้านอาหาร เพราะตอนนี้ก็ใกล้จะบ่ายโมงแล้ว  ผมหิวครับ เพราะยังไม่ได้ทานอะไรตั้งแต่เช้า มีแค่กาแฟแก้วเดียวแล้วขับรถตรงดิ่งมาหาพายที่บ้านเพราะกลัวจะสาย

แม้ว่ามันจะไม่เหมือนการเดทกันเลยแม้แต่น้อย ก็ไม่เป็นไร อย่างน้อยเราก็ได้อยู่กันสองคน  ได้พูดคุยเรื่องต่างๆ มีสาระบ้าง ไร้สาระบ้าง กวนประสาทเขาบ้างบางที แค่นี้มันก็เติมเต็มวันธรรมดาของผมได้ดีเลย

พายนั่งรอผมอยู่ที่ร้านอาหารไทยชื่อดัง หลังจากที่ผมเอาของไปเก็บเรียบร้อยแล้ว เราสองคนสั่งอาหารมาสามสี่อย่าง พร้อมกับข้าวสวยร้อนๆ  หน้าตาน่าทานจนผมอดใจไม่ไหว รีบตักเข้าปากคำแรก อร่อยใช้ได้เลย

“ทานเยอะๆ นะครับ” ผมตักพล่ากุ้งใก้กับพาย

“คุณก็เหมือนกันนะครับ”  เขาบอกผม แม้มันจะไม่ได้มีนัยยะสำคัญอะไร แต่ผมก็ดีใจ่อย่างน้อยพายแสดงออกถึงความใส่ใจผมบ้าง

“เบื่อรึเปล่าที่ต้องมาที่แบบนี้ คงไม่เป็นอย่างที่คิดไว้ใช่ไหมครับ” อยู่ดีๆ พายก็ถามผมขึ้นมา ผมไม่ได้รู้สึกเบื่ออะไรเลยแม้แต่น้อย

“ไม่นะครับ แค่สงสัยนิดหน่อย”

“สงสัยอะไร” ร่างบางชะงักช้อนที่กำลังจะตักอาหารเข้าปาก

“พายลองใจอะไรผมอยู่รึเปล่า ถึงแกล้งพาผมมาที่ๆ ไม่น่าจะเข้ากับคนแบบผม แต่บอกเลยนะครับว่าผมไม่มีทางเปลี่ยนใจ “

“ไม่ได้ลองใจ แค่อยากให้คุณรู้ว่าชีวิตผมไม่ได้มีอะไรน่าตื่นเต้น หวือหวา คุณอาจจะเบื่อ ถ้าเป็นอย่างนั้น คุณจะถอยตอนนี้ก็ยังทัน” พายพูดตรงซะจนใจผมแกว่ง เขาแค่ต้องการให้ผมรู้จักชีวิตของเขาบ้าง จะได้รู้ใจตนเองว่าอยากอยู่ข้างๆ เขารึเปล่า เป็นคนที่คิดไม่เหมือนใครจริงๆ ครับ

“ไม่ได้ชอบความตื่นเต้นนิครับ ชอบพาย” ยกสองครับ นิดๆ หน่อยๆ ก็ยังดี

“อย่าหยอดบ่อย ไม่ได้ผลหรอก มีภูมิคุ้มกัน” บอกแล้วว่าพายเขามีหลายมิติ ตอนนี้เป็นผมต่างหากที่ตามเขาไม่ค่อยทัน ไม่รู้หรอกว่าเขาคิดอะไรอยู่ ที่ชวนมาวันนี้ก็เหมือนกัน พึ่งจะมาเข้าใจจริงๆ ก็ตอนที่เขาบอกนี่แหละ ตอนแรกแอบดีใจเสียยกใหญ่นึกว่าได้ออกมาเดท

“ครับๆ ภูมิคุ้มกันนี่ทำงานเต็มที่เลยว่างั้น”

“ครับ”

“แล้วจะให้ทำไงล่ะทีนี้ หมดมุข พายบอกผมหน่อยสิว่าจีบแบบไหนจะทำให้พายใจอ่อน” ในเมื่ออ้อมๆแล้วไม่ได้ผล ก็ถามมันตรงๆ นี่แหละ หน้าด้านดีมั้ยกู

“ประหลาด ใครเค้าจะบอกล่ะ”

“บอกหน่อยไม่ได้เหรอ ว่าทำยังไงจะใจอ่อนกับไอ้คิณคนโง่คนนี้” ลงทุนด่าตัวเองเลยนะครับงานนี้ เพื่อความสำเร็จที่เห็นอยู่ที่ปลายอุโมงค์ แม้แสงของมันจะแค่ริบหรี่ก็ตาม

“บ้ารึเปล่าเนี่ย มีใครเขาจีบคนอื่นแบบคุณบ้าง” ไม่รู้ว่าคนอื่นเขาจีบกันยังไง แต่นี่มันเป็นสไตล์ของคิณเข้าใจไหมครับ

“นะครับบอกหน่อย หมดหนทางจริงๆ” พายดูเหมือนจะใจอ่อนให้กับผมหลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ไม่ใช่  เหมือนมีกำแพงบางอย่างที่ผมไม่สามารถทะลายมันลงได้ ทั้งๆ ที่เขาเหมือนให้ความสำคัญกับผมกว่าหลายๆ คน แต่มันยังไม่ใช่รึเปล่า ผมยังไม่สามารถก้าวไปข้างหน้าได้เลย ไม่รู้ว่าเข้าใกล้พายได้อีกนิดรึเปล่า

“ก็แค่เป็นตัวของตัวเอง ไม่ต้องแสร้งทำเหมือนชอบอะไรที่ไม่ชอบ แล้วจะพิจารณาเองนั่นแหละ ไม่เห็นจะยากตรงไหน” พูดง่ายดีครับแต่ทำยาก เพราะไอ้เป็นตัวของตัวเองนี่แหละ

ถ้าพูดตามจริงสันดานผมไม่ใช่คนดีไงครับ แต่กับพายผมรักเขา เลยชอบที่จะทำดีด้วยอย่างไม่มีข้อแม้  เคยได้ยินไหมครับว่ายอมร้ายกับทุกคนเพื่อคนที่ตนรัก นิยามนี้คือตัวผมเลยล่ะครับ  ยิ่งถ้ากับคนที่ผมเกลียดนี่แทบจะฆ่าเลยก็ว่าได้ พายยังไม่เคยเห็นด้านมืดของผมเลยสักครั้ง ไม่อย่างนั้นผมจะคบกับบรรดาเพื่อนเชี่ยๆ ของผมได้จนถึงุกวันนี้เหรอ เพราะนิสัยพวกเราไม่ต่างกัน

พายขอตัวไปเข้าห้องน้ำ ที่จริงผมชวนเขาดูหนังก่อนที่จะกลับ เขาก็ตกลงไม่ได้ปฏิเสธอะไร ผมจ่ายตังค์ค่าอาหารมื้อนี้เพราะผมบอกว่าจะเลี้ยง ตอนแรกก็ไม่ยอมหรอก จนผมเสนอข้อแลกเปลี่ยนให้เขาเลี้ยงหนังจึงยอม ผมก็ไม่เข้าใจว่าอะไรนักหนากับแค่ผมเลี้ยงข้าวมื้อเดียว  เป็นคนอื่นเหรอคงหาทางให้ผมเลี้ยงตลอดชีวิตไปแล้ว

เขาเดินกลับมาจากห้องน้ำหลังจากที่ไปทำธุระเสร็จ สีหน้าพายดูเปลี่ยนไปจนผมสังเกตุเห็น ปกติเขาจะเป็นคนที่ใบหน้าปื้อนยิ้มตลอดเวลา  แต่ตอนนี้มันเต็มไปด้วยความเครียดนะ ถ้าผมเข้าใจไม่ผิด หรือคิดมากไปเอง

“เรากลับเลยได้ไหมครับ” พายเป็นอะไรทั้งๆ ที่เราตกลงว่าจะดูหนังกัน เกิดอะไรขึ้นช่วงที่เขาไปห้องน้ำรึเปล่า

“ไม่ดูหนังแล้วเหรอ”

“........” เขาส่ายหน้าเบาๆ

“ทำไมครับ เป็นอะไรรึเปล่า”  ผมอยากจะรู้จริงๆ ว่าเขาไปเจออะไรมา แต่ทำไมเขาไม่พูด

“เปล่า...แค่ปวดหัว”  คิดจะโกหกกันอย่างนี้เหรอ  ผมไม่ได้โง่พอที่จะเชื่อว่ามันเป็นอย่างนั้น แต่ก็ไม่อยากเซ้าซี้อะไรมาก

“พี่ชายโทรมาว่าเหรอ”

“เปล่า ไม่เกี่ยวกับพี่ซอง ก็บอกว่าปวดหัวไง”  เขาขึ้นเสียงดัง ทั้งๆ ที่ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน กลับก็กลับครับ ทำอะไรไม่ได้แล้วนี่ ในเมื่อถามอะไรก็ไม่ยอมบอก รอให้ใจเย็นกว่านี้ก่อนแล้วกัน

ผมขับรถพาเขามาส่งที่บ้าน  เขาไม่พูดกับผมซักคำ เอาแต่นั่งนิ่งจนผมกลัว หันหน้าออกไปนอกหน้าต่าง ความเงียบครอบคลุมจนบรรยากาศในรถนี่แทบจะเรียกว่าป่าช้าก็ได้ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้เรายังดีๆ กันอยู่เลย ไม่มีท่าทีว่าจะเป็นแบบนี้เลยแม้แต่น้อย

ผมเหลือบมองเขาตลอดว่าเขาจะพูดอะไรบ้างรึเปล่า แต่ก็ไม่มีคำพูดใดๆ หลุดออกมาสักคำ ผมกังวลบ้าบอไปเรื่อย คิดไปต่างๆ นาๆ ว่าเขากำลังตัดสินใจเรื่องผมหรือเปล่า  หรือเขาไม่อยากสานต่อความสัมพันธ์ของเรา อยากจะรู้ใจจะขาดแต่ก็ทำอะไรไม่ได้สักอย่าง โคตรอึดอัดว่ะกับบรรยากาศแบบนี้ ส่งพายถึงบ้านผมก็บึ่งรถออกมาเลยครับ

ขับรถกลับบ้านตัวเองด้วยความมึนงง ทั้งๆ ที่ตอนออกมายิ้มจนแก้มแทบแตก เหมือนขาข้างขวากำลังก้าวขึ้นสวรรค์ แต่ก็มีคนมากระชากขาข้างซ้ายให้ตกลงไปในนรกอย่างนั้นแหละ  เพราะตอนนี้ใจผมร้อนรุ่มยังกับมีใครเอาไฟมาสุม มันคาใจจนอยากจะเคลียร์ให้จบๆ  แต่อีกคนกลับเงียบจนผมไม่กล้าแม้แต่จะเอื้อนเอ่ยอะไรออกไป

**********************
จบไปอีกตอน แบบงงๆ ในตัวเอง ตอนนี้ไม่มีอะไร เรื่อยๆ เอื่อย อาจจะไม่ค่อยสนุกเนอะ เจอกันตอนหน้า :katai5:


              TBC
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน11 ????? P.4 (15/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Kalamall ที่ 15-02-2016 19:38:02
 :-[ หวานมากกกก
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน11 ????? P.4 (15/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 15-02-2016 19:38:55
น่องพายต้องทำตัวมีเหตุผลด้วยนะ พี่เค้างงหมดแล้วทำตัวไม่ถูก
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน11 ????? P.4 (15/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: milin03 ที่ 15-02-2016 20:43:18
พายเป็นไรอ่ะ
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน11 ????? P.4 (15/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: powvera ที่ 15-02-2016 21:25:28
เจอคนที่ไม่อยากเจอในห้องน้ำหรือเปล่า

 :katai1:      :katai1:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน11 ????? P.4 (15/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 15-02-2016 23:13:20
มาให้กำลังใจจ้า
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน11 ????? P.4 (15/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 16-02-2016 00:06:50
พายเป็นไรหว่าาา
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน11 ????? P.4 (15/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: zleep ที่ 16-02-2016 19:04:38
เจอเด็กเก่าของคุณคินหรือเปล่าคะ หรือยังไงดี เดาทางยากจังแหะ
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน11 ????? P.4 (15/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Panehove ที่ 16-02-2016 19:44:42
กำลังหวานอยู่ดีๆ ใครทำเสียบรรยากาศเนี่ย  :katai1:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน12 เหตุผลของความรัก P.4 (16/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: MooKratai ที่ 16-02-2016 20:57:15
หลานคุณย่า 12 เหตุผลของความรัก

พาย(Part)

ทุกคนมีเหตุผลของตัวเอง ผมก็มีเหตุผลที่ทำแบบนั้นกับคุณคิณ แม้ว่าจะดูงี่เง่า แต่ก็ไม่รู้ว่าจะจัดการเรื่องที่เกิดขึ้นอย่งไร ผมไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบเมื่อวานนี้มาก่อน มันทำให้ผมหน้าชาจนเหมือนจะไร้ความรู้สึก แต่หัวใจมันกลับเจ็บแปลบราวกับมีใครเอาเข็มแหลมๆ มาทิ่มเสียอย่างนั้น อยากเดินหนีจากเหตุการณ์ตรงหน้า แต่ก็ทำไม่ได้ สายตาของหญิงสาวคนนั้นที่มองมายังผมในตอนแรกที่เราเจอกัน ช่างดูเหยียดหยามซะจนผมไม่กล้าที่จะหันไปสบตาเขานานเกินกว่านี้

“นาย...นี่นาย!” ผู้หญิงคนนั้นเรียกใคร หวังว่าคงไม่ใช่ผม เพราะผมแน่ใจว่าตั้งแต่เกิดมาไม่เคยรู้จักเธอแน่นอน

“นายนั่นแหละ  เรียกทำไมไม่หัน” ผมเหลียวซ้ายแลขวาก็ไม่เห็นใคร จนต้องหันไปตามเสียงเรียกของเธอ

“เรียกผมเหรอครับ” ผมชี้เข้าตัวเองอย่างงงๆ

“ใช่ นายนั่นแหละ” หญิงสาวคนนี้จัดว่าสวย แต่สวยด้วยมีดหมอรึเปล่าไม่แน่ใจ หน้าอกหน้าใจนี่ก็ล้นทะลักจนผมไม่กล้าที่จะมองเธอมาก กลัวจะหาว่าผมเสียมารยาททั้งๆ ที่มันเด้งมากระแทกสายตาผมเอง

“มีอะไรเหรอครับ” ผมอดที่จะถามออกไปไม่ได้

“นายรู้รึเปล่าว่าผู้ชายที่นายมาด้วยน่ะ เขาเป็นใคร” ผู้ชายที่ผมมาด้วย คุณคิณน่ะเหรอ

 “รู้ครับ” ไม่รู้ผมจะมาด้วยได้ยังไง

“นายเป็นอะไรกับพี่คิณ” เธอรู้จักคุณคิณด้วยเหรอ

“คุณอยากรู้ไปทำไมครับ” ผมไม่ตอบแต่ถามกลับเธอไปอีกครั้ง เพราะไม่รู้จะตอบว่ายังไงผมเป็นอะไรกับคุณคิณ ถ้าให้ตอบตอนนี้บอกเลยว่าไม่รู้

“นายเป็นเด็กในสต็อคของพี่คิณอีกคนเหรอ” เด็กในสต็อคหมายความว่ายังไง ผมไม่ได้เป็นอะไรกับเขาทั้งนั้นแหละ

“ปละ...เปล่า” ปฏิเสธออกไปทั้งที่ใจเต้นแรงและรัวจนกลัวจะหัวใจวายซะตอนนี้

“แต่เท่าที่ดูนี่นายไม่น่าจะใช่แค่พี่น้องกับพี่คิณ เพราะจากสายตาที่พี่คิณมองนายน่าจะมีอะไรมากกว่านั้น” ผู้หญิงคนนี้ต้องการอะไรจากผมกันแน่ ต้องการจะบอกอะไร

“คุณเป็นใคร แล้วทำไมต้องมาถามผมแบบนี้” ผมอึ้งอยู่นานก่อนที่จะเอ่ยคำถามออกมาได้

“ฮึ ฮึ นายคงไม่รู้ว่าฉันก็เป็นหนึ่งในผู้หญิงของพี่คิณ” เธอหมายความว่ายังไง ผมเรียบเรียงความคิดในหัวสมองไม่ได้เลย
“........” มันว่างเปล่า ไร้คำตอบให้กับตัวเอง

“แต่นายไม่ต้องกลัวหรอกว่าฉันจะกลับไปยุ่งกับผู้ชายเลวๆ พรรค์นั้นอีก แค่อยากมาบอกเผื่อนายจะตาสว่างขึ้น” ช่วยอธิบายให้ผมเข้าใจมากกว่านี้ไดไหม

“ตาสว่าง?”

“นายมันโง่ไง โง่จริงๆ ขนาดฉันพูดขนาดนี้ยังไม่รู้เลย” ผมจะไปรู้ได้ไงในเมื่อคุณไม่พูดอะไรที่มันชัดเจน จะให้ผมมานั่งตีความหมายตามคำพูดของเธอก็คงทำไม่ได้หรอกตอนนี้  สมองของผมหยุดสั่งงานตั้งแต่เธอบอกว่าเป็นผู้หญิงของคุณคิณแล้ว

“ผมไม่เข้าใจ คุณหมายถึงอะไร”

“นายรู้หรือเปล่าวาพี่คิณมีเด็กในสต็อคเยอะแค่ไหน แต่ตอนนี้เขาเอาเงินจ้างให้พวกเราเลิกกับเขา ฉันก็ยอมรับน่ะว่าฉันมันเห็นแก่เงินเลยยอมเลิก อย่างน้อยมันก็สามารถชดเชยสิ่งที่ฉันเสียไปได้ แต่ที่ฉันแปลกใจ ทำไมพี่คิณยังควงนายอยู่ ทั้งๆ ที่เขาบอกเลิกฉันและคนอื่นๆ เพราะเขากำลังจีบผู้หญิงคนหนึ่งอยู่”

  ถ้าเป็นแบบนั้นเขาเข้ามายุ่งกับผมทำไม ตลอดสามเดือนที่ผ่านมาเขามาวุ่นวายในชีวิตผมทำไม ผู้หญิงอย่างนั้นเหรอ

“ผมไม่ใช่คู่ควงของคุณคิณ” เอ่ยออกไปทั้งๆ ที่ใจผมก็เจ็บปวดไม่แพ้กัน ตลอดเวลาที่ผ่านมาใช่ว่าผมไม่รู้สึกอะไร ใช่ว่าผมไม่เปิดใจให้คุณคิณ ผมกำลังพยายามทั้งๆ ที่ไม่เคยทำ เปิดใจให้ผู้ชายอย่างคุณคิณเข้ามาในชีวิต ทั้งๆ ที่เขาก็เป็นผู้ชายเหมือนกับผม

 พยายามทำใจมาตลอดว่าถ้าวันหนึ่งผมตกลงคบกับเขา คนที่ต้องตกเป็นเมียไปโดยปริยายก็คือผม ยอมลบความคิดเรื่องเพศออกไป ใช้ความรู้สึกของตนเองมาตัดสินทุกอย่างแทน ผอมรับว่าตลอดเวลาที่คุณคิณเข้ามาวุ่นวายกับชีวิตของผม มันมีความสุข ชีวิตผมดูมีสีสีนมากขึ้น  แต่กลับต้องมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ มันตั้งรับไม่ทัน เขาหลอกผมทั้งๆ ที่บอกว่ารักผม แต่กลับมีใครอีกคนที่สำคัญมากกว่าผม

เขากำลังจะมีแฟน ผู้หญิงคนที่เคยไปร้านเค้กวันนั้นรึเปล่า คนที่เคยมีเรื่องกับผมในวันนั้น เริ่มปะติดปะต่อเรื่องราวสะเปะสะปะจนไม่รู้ว่าเรื่องไหนจริงเรื่องไหนโกหก

“หึหึ เชื่อก็บ้าแล้ว ฉันแค่มาบอกให้นายเตรียมใจอีกไม่นานนายก็คงไม่ต่างจากฉันหรอก” ผู้หญิงคนนั้นพูดทิ้งท้ายก่อนที่จะเดินไป ผมยืนมองตามหลังเธอจนลับตา

อีกไมนานผมก็คงไม่ต่างจากเธองั้นเหรอ ทำไมล่ะในเมื่อเขาไม่เคยซื้อผมด้วยเงินสักหน่อย ทำไมผมต้องเหมือนเธอด้วย ผมไม่มีทางที่จะเป็นเหมือนคนพวกนั้นแน่นอน และจะไม่มีวันเป็นหนึ่งในคนที่เขาเอาเงินมาล่อเพื่อให้เลิกกับตนเองแน่นอน
วันนั้นผมจึงกลับมาหาคุณคิณด้วยความว่างเปล่า เขาก็คงสงสัยไม่น้อยว่าเป็นอะไร แต่จะให้บอกว่าไงดีล่ะ จะให้ถามไปตรงๆ ใครหน้าไหนจะบอกความจริงว่ากำลังหลอกอีกคนอยู่  ผมไม่สามาถมองหน้าเขาได้อย่างเต็มตา พอมองทีไรก็นึกถึงแต่คำพูดของเธอคนนั้น

‘เด็กในสต็อค’

ตลกสิ้นดีผมต้องมากลายเป็นหนึ่งในนั้นเหรอ ผมไม่ใช่ผู้หญิง และก็ไม่ใช่คนที่จะขายศักดิ์ศรีตัวเองแลกเงินหรอกนะ หรือจะให้ไปตบตีแย่งชิงคุณคิณคงทำไม่ได้

ผมเฝ้าถามตัวเองซ้ำๆ คำเดิมอยู่หลายรอบ ถ้าผมไม่ได้รู้สึกอะไรกับเขา ทำไมจึงรู้สึกปวดหนึบที่หัวใจ ราวกับว่ามันจะแตกเป็นเสี่ยงๆ ทั้ง ๆที่อยากจะลองเริ่มต้นกับใครสักคน แต่กลับจะพังไม่เป็นท่าตั้งแต่ยังไม่เริ่ม ถ้ามันจะเจ็บขนาดนี้ ทำไมคนเราถึงยอมเสี่ยงเดินเข้าไปหามัน

***********************

คิณ(Part)

ผมออกจากบ้านมาทำงานแต่เช้า ทั้งๆ ที่เมื่อคืนแทบจะไม่ได้นอน เพราะคิดถึงแต่สาเหตุ ที่ทำให้พายเป็นแบบนั้น ผมทำอะไรผิดไปรึเปล่า ทำผิดพลาดไปตอนไหน

วันนี้มีประชุมตั้งแต่เช้า พร้อมกับหุ้นส่วนที่ลงทุนร่วมกัน เพราะผมต้องการที่ตรงนั้นสร้างโรงแรมในเครือของบริษัท แต่เธอไม่ยอมขาย จึงยื่นข้อเสนอให้เธอร่วมหุ้นกับเรา แบ่งรายได้ตามสัดส่วนที่ลงทุนไป

“คุณรตีมีความเห็นว่ายังไงครับ” ผมเอ่ยถามหุ้นส่วนที่เพิ่งจะเริ่มลงทุนร่วมกัน

“รตีอยากได้รีสอร์ทสไตล์โมเดิร์นค่ะ มีสิ่งอำนวยความสะดวกทุกอย่าง” ความคิดของเธอกับผมสวนทางกันอย่างเห็นได้ชัด

“แต่ผมว่าไม่เหมาะนะครับ เพราะที่เราอยู่ริมทะเล ถ้าจะทำเป็นแนวไทยคลาสสิค เพราะนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มีแต่ชาวต่างชาติ เขามาเที่ยวน่าจะอยากสัมผัสบรรยากาศไทยๆ มากกว่า” แค่เริ่มต้นก็ความเห็นไปคนละทางจนต้องให้คณะกรรมการช่วยกันออกเสียง สรุปคือทำตามที่ผมเสนอ

คุณรตีดูจะไม่มีประสบการณ์ในการทำงานด้านนี้เลย พอถามอะไรไปเธอก็ตอบไปเรื่อยเปื่อย ไม่ค่อยได้สาระเท่าไหร่ ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมจึงยอมลงทุนร่วมกับผม ทั้งๆ ครอบครัวเธอไม่มีธุรกิจด้านนี้  ถ้ายอมขายที่ให้ผมแต่แรก เธอก็คงไม่ต้องมานั่งเป็นสากกระเบืออยู่นี่หรอกครับ

จะไม่ให้ผมว่าอย่านั้นได้อย่างไร เพราะถามอะไรไปก็ตอบเข้าดงพงพรไปเรื่อย หาสาระไม่ค่อยจะเจอหรอก กว่าจะประชุมตกลงกันได้ก็ล่วงเลยเวลามาจนบ่าย ผมคิดว่าเลิกงานเร็วจะรีบไปหาหัวใจของผม แต่ก็ต้องมีมารมาขัดขวาง

“คุณคิณเย็นนี้ไปดินเนอร์กับรตีนะคะ” ไม่พูดเปล่าเข้ามากอดแขนผมยังกับปลิง ถึงผมจะเจ้าชู้แต่ผมก็ ไม่มีทางยุ่งเกี่ยวกับลูกค้า หรือหุ้นส่วนแน่นอน เพราะไม่อยากมีปัญหาภายหลัง ยิ่งตอนนี้ผมมีคนที่เป็นเจ้าของหัวใจแล้ว ผมยิ่งไม่อยากยุ่งกับเรื่องแบบนี้อีก
แค่คิดถึงพายก็อยากจะไปหาซะตอนนี้เลย แต่ติดอยู่ที่งานยังไม่เสร็จ แล้วก็ยังมีแม่เสือสาวจ้องจะงาบผมอยู่อย่างนี้

“เย็นนี้ผมมีธุระครับ ต้องขอโทษด้วย” ผมพูดก่อนที่จะพยายามแกะมือที่เธอเกี่ยวแขนผมไว้ออก

“เสียดายจังเลยค่ะ รตีอยากชวนคุณไปดูตัวอย่างคอนโดด้วยหน่อยค่ะ พอดีอยากซื้อแต่ไม่มีความรู้ อยากให้คุณคิณช่วย” เสียงอ่อยๆ ของเธอนี่ไม่ได้ทำให้ผมสงสารหรอกครับ เพราะเธอแค่ยั่วยวนผม คงคิดว่าผมจะหลงกลอย่างนั้นเหรอ ไม่หรอกครับ
ในสมองของผมมีแต่พายแค่คนเดียว ไม่ใช่ว่าผมไร้ความรู้สึกทางเพศไปแล้วหรอก แต่แค่ไม่อยากให้มามีปัญหากับเรื่องที่ผมกำลังทำ ผมเป็นคนที่ทำทุกอย่างๆ รอบคอบเสมอ

“เดี๋ยวผมให้คนของผมไปช่วยดูให้นะครับ นัดสถานที่มาเลย”

“เอ่อ...ถ้าอย่างนั้นไม่รบกวนดีกว่าค่ะ”  เห็นไหมครับผมบอกแล้วว่าเธอมีแผน ผมดูคนไม่ผิดหรอก คนไหนต้องการผลประโยชน์จากผม หรือต้องการอย่างอื่น

“ถ้าอย่างนั้นผมลาคุณรตีตรงนี้เลยนะครับ ขอเข้าไปเคลียร์งานต่อก่อน” ผมรีบหาทางปลีกตัวออกมาให้เร็วที่สุด ไม่รู้ว่าคิดถูกหรือคิดผิดที่ผมอยากได้ที่ดินตรงนั้นมาก จนยื่นข้อเสนอให้เธอเป็นหุ้นส่วนในครั้งนี้

“ก็ได้ค่ะ เจอกันคราวหน้าห้ามเบี้ยวรตีนะคะ” ส่งรอยยิ้มยั่วยวนมายังผม จนผมขนลุกเลยครับ ผู้หญิงคนนี้ท่าทางร้ายน่าดู สงสัยคงต้องระวังตัวให้มาก ถ้าไม่จำเป็นจะไม่นัดเจอเธอแน่นอน

ผู้หญิงสมัยนี้ทำไมร้ายกันจัง หรือว่าผู้ชายในสังคมมันเหลือน้อย เลยต้องเป็นฝ่ายเข้าหาอย่างนั้นเหรอ แค่คิดก็ขำกับความคิดตัวเอง  เพราะมันคงจะจริง ขนาดผมยังชอบผู้ชายด้วยกันเลย

รีบไปทำงานดีกว่าครับ จะได้เข้าไปเคลียร์กับพายซะที  ผมยังกังวลอยู่มาก แต่ก็พยายามไม่คิดอะไร อยากทำงานให้เสร็จเร็วๆ จึงจดจ่อกับงานตรงหน้าเป็นพิเศษ

ผมโทรไปขอคุณย่าของพายแล้ว ว่าเย็นนี้จะพาเขาไปข้างนอก เพราะมีเรื่องต้องปรับความเข้าใจกัน จนคุณย่าท่านสงสัย ผมเลยจำเป็นต้องเล่าให้ท่านฟังทั้งหมด  ผมไม่คิดจะปิดบังท่านหรอกครับ เพราะเรื่องใหญ่กว่านี้ผมก็บอกคุณย่ามาแล้ว
จำวันที่ผมไปขอท่านจีบพายได้ไหมครับ ที่จริงเรื่องมันมีเยอะกว่าที่ทุกคนรู้ แม้แต่ตัวพายเองก็ไม่รู้ ผมบอกท่านเกี่ยวกับเรื่องของความสัมพันธ์ชั่วข้ามคืนของผมกับพาย  ท่านตกใจมากในตอนแรก จนท่านต้องเรียกขอยาดมยาหอมจากเหล่าบรรดาแม่บ้าน หลังจากนั้นท่านก็ไล่ทุกคนออกจากห้องรับแขกไป

“พ่อคิณไม่ได้ล้อคนแก่เล่นใช่ไหม ย่าหัวใจจะวาย” ท่านยกมือกุมเข้าที่หัวใจตัวเอง มืออีกข้างก็ถือยาดม ยกขึ้นมาสูดดม

“ครับ ทุกอย่างที่ผมพูดเป็นความจริง และที่ผมขอจีบพายไม่ใช่แค่จะรับผิดชอบในสิ่งที่ผมทำแค่อย่างเดียว แต่ผมรู้สึกดีๆ กับพายมาก่อนหน้านั้นแล้วครับ”

“ย่ามันคนแก่ ไม่เข้าใจสังคมหนุ่มสาวสมัยนี้หรอก ย่าบอกเลยว่าย่าก็ยังรับไม่ได้” สายตาจริงจังที่ท่านส่งมาให้ผม  เป็นสิ่งที่ผมเข้าใจได้ดี

“ผมรู้ครับว่าผมทำผิด ที่ไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจ ทั้งๆ ที่ควรจะช่วยพาย แต่กลับฉวยโอกาส”

“ไม่หรอก ถ้าวันนั้นน้องพายไม่เจอพ่อคิณ ย่าไม่อยากจะคิดเลยว่าหลานย่าจะเป็นยังไง”  มันก็จริงครับถ้าวันนั้นผมไม่ได้เห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง ไอ้สารเลวนั่นคงทำร้ายพายมากกว่านี้ไปแล้ว

ไม่ได้บอกว่าตัวเองดีกว่าหรอกครับ เพราะที่ทำทุกอย่างก็หวังผลเหมือนกับคนอื่น แต่ผมไม่ได้แค่คิดเล่นๆ ไง จริงจังตั้งแต่ตัดสินใจที่จะจีบเขาแล้ว ไม่เคยลังเลแม้สักวินาทีเดียวกับความรู้สึกที่มีให้พาย

“แต่ผมก็ยังรังแกพาย”

“ย่าเข้าใจนะเรื่องนี้มันห้ามกันไม่ได้หรอก ยิ่งกับคนที่เราบอกว่าชอบแล้ว” แม้ท่านจะบอกว่ายังรับไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้ห้ามแถมยังยังอยู่ข้างผมเสียอีก

“ขอบคุณที่ให้โอกาสผมนะครับ” ยกมือไหว้ท่านอีกทีกับความเมตตาที่มอบให้ผม

ผมขับรถตรงไปยังร้านเค้กที่หลังๆ ผมไปบ่อยกว่าบ้านตัวเองเสียอีก ถ้าไม่ยอมออกมาตกลงกันดีๆ สงสัยคงต้องใช้กำลังเลยล่ะงานนี้  คุณย่าท่านบอกว่าที่จริงพายน่ะดื้อเงียบ ที่เห็นไม่ค่อยพูด อืออตามคนอื่นน่ะเขาแค่ไม่อยากวุ่นวาย แต่ถ้าสิ่งไหนที่เขาเชื่อว่าไม่ผิด ก็จะยืนยันหัวชนฝาเลย ใครห้ามยังไงก็ไม่ฟัง

ท่านยังเล่าวีรกรรมตอนเด็กให้ผมฟังเลย ว่าครั้งหนึ่งมีเด็กรุ่นน้องมารังแกน้องบราวที่โรงเรียน เป็นเพื่อนห้องเดียวกันกับน้องบราวนี่แหละ น้องบราวตัวเล็กกว่าสู้ไม่ได้ วิ่งไปฟ้องพายที่เรียนอยู่อีกห้องหนึ่ง  คนเป็นพี่ปลอบน้องที่น้ำหูน้ำตาไหลอยู่นาน พอน้องคลายจากสะอื้นแล้ว ก็ให้พาไปชี้ตัวคนที่รังแกน้องบราว  พายตรงเข้าไปต่อยเด็กคนนั้นจนเลือดกลบปาก ไม่ใช่ครั้งเดียวด้วยนะครับ หลายหมัดจนคุณครูมาเจอ ก็โดนเรียกผู้ปกครองตามระเบียบ โดนคุณย่าตีด้วยก้านมะยาจนก้นระบม ไข้ขึ้นไปหลายวัน หลังจากนั้นก็เลยเลิกซ่าเพราะกลัวโดนทำโทษ

แค่คิดผมก็ยิ้มบ้าคนเดียว ทั้งๆ ที่เรื่องมันเครียดนะตอนนี้ แต่ผมอยากเห็นตอนพายดื้อจริงๆ ว่าจะเป็นยังไง  ถ้าตกลงกันไม่ได้จะจับขังไว้ที่คอนโดเลยคอยดู จนกว่าจะเคลียร์กันจบ  งานนี้คุณย่าไฟเขียวแล้ว

คอยดูสิว่าจะกล้าพยศหรือเปล่า สงสัยจะใจดีเกินไปแล้วผม ต้องใช้ไม้แข็งซะบ้าง ถ้าดื้อมากๆ เคลียร์ไม่ได้จับปล้ำเลยดีไหม จะได้จบๆ จับทำเมียแล้วบังคับแต่งงานนี่น่าจะดี  คิดว่าผมจะกล้าไหมล่ะ  ขนาดรอบที่แล้วยังบังคับไม่ได้เลย  เอาไงดีว่ะ

จะมัดมือชกให้แม่ไปขอเลยดีไหม จะได้ไม่กล้าปฏิเสธ เล่นตัวดีนัก โอ้ยทำไงดี ว่าทีเมียผมทำไมเข้าใจยากอย่างนี้วะเนี่ย ได้เป็นเมียเมื่อไหรจะจับปล้ำเช้าปล้ำเย็นเลยคอยดู เอาให้ดื้อไม่ได้อีกเลย

ผมก้าวเข้ามาในร้านแล้วคับ แต่ยังไม่เจอเจ้าตัวดี ที่ทำเอาผมนอนไม่หลับทั้งคืน น้องๆ ยกมือไหว้ผมอย่างทุกที ก่อนที่น้องบราวจะบอกให้ผมเดินเข้าไปด้านในได้เลย   แต่มินเรียกผมไว้ซะก่อน บอกผมว่าวันนี้พายดูเครียดๆ จนทำเค้กพังไปหลายก้อน
 
คิดมากเหมือนกันเหรอครับน้องพาย ไม่ใช่แค่ผมคนเดียวใช่ไหมที่เครียด ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงผมควรที่จะดีใจใช่ไหม ที่พายรู้สึกไม่ต่างจากผม
********************


ตอนนี้เขียนสับสนมากเลย เหมือนวกวนเรื่องเดิม งงๆ กับตัวเอง

TBC.
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน12 เหตุผลของความรัก P.4 (16/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: angelnan ที่ 16-02-2016 21:37:03
พายอย่าเพิ่งคืนดี นะ อยากให้คิน ชัดเจนกว่านี้ แลเหยาะๆแหยะเหมือนหลง ไม่ใช่รัก
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน12 เหตุผลของความรัก P.4 (16/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: milin03 ที่ 16-02-2016 22:58:47
 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน12 เหตุผลของความรัก P.4 (16/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 17-02-2016 00:33:01
อีชะนีนี้น่าตบจริงๆ
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน12 เหตุผลของความรัก P.4 (16/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Kalamall ที่ 17-02-2016 09:32:06
ถามตรงๆกันไปเลย~
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน12 เหตุผลของความรัก P.4 (16/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: neverland ที่ 17-02-2016 10:13:18
ผู้หญิงในเรื่องนี้มันน่า...  :z6:  :z6:  :z6: (ยกเว้นคุณย่าน้องพายนะคะ555555)
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน12 เหตุผลของความรัก P.4 (16/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: kajeaw ที่ 17-02-2016 10:26:26
ปล้ำ เอ๊ย ง้อน้องด่วนเลยครับพี่คิณ
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน12 เหตุผลของความรัก P.4 (16/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 17-02-2016 13:55:45
ผู้หญิงคนที่เจอตอนไปเข้าห้องน้ำ กับยัยรตี นี่น่ากลัวมากนะครับ ยังไงก็จัดการให้เรียบร้อยนะครับ แค่นี้น้องพายก็เครียดมากพอแล้ว สงสารน้อง
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน12 เหตุผลของความรัก P.4 (16/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 17-02-2016 22:03:12
พายก็ค่อนข้างใจหวั่นไหวง่ายนะ ใครพูดอะไรก็เก็บไปใส่ใจทันทีทันใด
อ่อนหัดด้านความรัก...  :mew4:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน12 เหตุผลของความรัก P.4 (16/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: badbadsumaru ที่ 18-02-2016 00:26:27
คุยกับน้องดีๆนะพี่คิณ
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน12 เหตุผลของความรัก P.4 (16/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Toon_TK ที่ 18-02-2016 01:56:06
พี่คิณต้องทำไรสักอย่างแล้วล่ะนะ
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน13จบปัญหา P.5 (18/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: MooKratai ที่ 18-02-2016 19:36:52
หลานคุณย่า13 จบปัญหา

คิณ(Part)

พายก้มหน้าก้มตาทำเค้ก โดยไม่ได้สนใจผู้มาใหม่อย่างผม  เสียงของผมไม่น่าจะเบานักตอนที่เข้ามาทักน้องๆที่หน้าร้าน แต่คนตรงหน้ากับทำเหมือนผมไม่มีตัวตน ไม่คิดที่จะหันมามองกันบ้างเลยรึไง

“พายครับ” เรียกครั้งแรกไม่หัน จนต้องเรียกซ้ำรอบสอง รอบสามก็ยังไม่สนใจ ทำเหมือนผมเป็นธาตุอากาศ  ไม่มีตัวตนอย่างนั้นแหละ

ผมเดินเข้าไปกอดคนตัวเล็กจากข้างหลัง จะว่าผมฉวยโอกาสหรืออะไรก็ช่างผมยอม เพราะถ้าไม่ทำอย่างนี้เขาก็คงจะก้มหน้าก้มตาทำเค้กต่อไป ราวกับว่าผมไม่ได้อยู่ในนี้แน่นอน

“ปล่อย”  เสียงห้วนได้อีกนะครับ

“ผมจะปล่อยถ้าพายยอมคุยกับผม”  ปากผมคลอเคลียอยู่กับซอกคอของเขา จนร่างบางหดคอหนี เพื่อให้พ้นจากการก่อกวนของผม

“ไม่มีอะไรต้องคุย” เสียงที่เคยหวานตอนนี้ห้วนยิ่งกว่ามะนาวไม่มีน้ำ

“ถ้าไม่คุยจะเข้าใจกันได้ยังไง”

“เข้าใจหมดทุกอย่างแล้ว” เข้าใจอะไรของเค้านะ คิดเองเออเองเก่งที่สุดล่ะคนนี้

“แต่ผมไม่เข้าใจ ว่าทำไมพายเป็นแบบนี้”

“แบบไหน ผมก็เหมือนเดิม” คำว่าเหมือนเดิมของพายนี่มันไม่น่าจะใช่นะครับ  ถ้าเหมือนเดิมทำไมไม่คุยกันดีๆ

“พายครับ คุยกันดีๆ ไม่ได้เลยเหรอ” ผมพยายามง้องอนคนตรงหน้าให้เราได้คุยกันดีๆ แต่เขาก็เอาแต่ก้มหน้าก้มตาทำเค้กต่อ

“กลับไปเถอะครับ แล้วอย่ามาที่นี่อีก” ทำไมพูดแบบไร้เยื่อใยแบบนี้ล่ะครับ ใจผมนี่หล่นวูบไปอยู่ที่ตาตุ่มแล้ว แต่ก็เพียงครู่เดียวเพราะตอนนี้ความรู้สึกโมโหกำลังเข้ามาแทน แต่ก็พยายามระงับอารมณ์พราะตอนนี้เราไม่ได้อยู่แค่สองคน ยังไงก็ต้องพาออกไปเคลียร์ให้ได้ ถ้าขืนยังอยู่ตรงนี้ยังไงก็ไม่มีวันที่จะรู้เรื่องกันหรอก

“ทำไมพายทำแบบนี้ล่ะ  ไม่มีเหตุผลเลย ออกไปคุยกันครับ เราต้องคุยให้รู้เรื่อง” ผมพยายามดึงข้อมือพายให้เขาเดินตามออกมา แต่คนตัวเล็กกลับพยายามยื้อเอาไว้จนสุดแรง  อยากกระชากข้อมือแรงๆ จะได้รู้สึกซะบ้างว่าความเจ็บมันเป็นยังไง แต่ก็ไม่กล้าทำเพราะกลัวเขาจะโมโหแล้วเราจะคุยกันไม่เข้าใจ แค่นี้ก็วุ่นวายมากพอแล้ว

“ไม่ไปไหนทั้งนั้น ปล่อย”  มือบางพยามแกะมือผมออกจาการเกาะกุม แต่แรงเท่ามดอย่างนี้มีหรือจะสู้แรงช้างสารอย่างผมได้ ดิ้นเข้าไปอีกสิ จะได้เจ็บๆ

“ถ้าไม่เลิกดิ้น จะอุ้มแล้วนะ เอาให้อายกันไปข้างหนึ่งเลยคอยดู” ผมน่ะไม่มีทางอายอะไรหรอก หน้าฉาบด้วยปูนตราช้างอย่างหนาขอบอก แต่คนที่หน้าบางอย่างพายนี่สิ

“ก็ปล่อยก่อนสิ” อย่ามาเจ้าเล่ห์นะครับ เรื่องอย่างนี้ไม่ทันผมหรอก

“ถ้าปล่อย แล้วจะไปด้วยกันใช่ไหม” ผมถามเสียงเข้มออกไป แค่ขู่เท่านั้นแหละครับ ไม่ได้คิดจะทำอะไรรุนแรงหรอก กลัวร่างน้อยๆ จะหักคามือซะก่อน

“จะไปไหนเล่า ร้านยังไม่ปิดเลย” เหวี่ยงแล้วครับคราวนี้ เริ่มจะดื้ออย่างที่คุณย่าว่าแล้วใช่ไหม

“ให้น้องๆ ดูแทน” หน้าผมนี่ก็โหดไม่แพ้ใครนะครับ ถ้าอารมณ์ขึ้น ตอนนี้กำลังเป็นแบบนั้น เพราะคนตัวเล็กตรงหน้าที่เริ่มจะขึ้นเสียงใส่ผมเหมือนกัน

“บอกไม่ไปไง”

“จะเอาจริงๆ ใช่ไหม” ผมดึงเขาเข้ามากระแทกอกอย่างแรง ก่อนที่จะก้มลงอุ้มคนตัวเล็กขึ้นพาดบ่า พาเดินออกมาทางหน้าร้าน ท่ามกลางความตกใจของน้องๆ รวมทั้งลูกค้าที่นั่งทานเค้กในร้านด้วย

“ปละ...ปล่อยผม” กำปั้นน้อยๆ ทุบรัวๆ ลงกลางหลังผม แต่มันไม่ได้รู้สึกเจ็บพอที่จะทำให้ผมปล่อยตัวเขาหรอก อยากอายนักก็ทำให้อายแบนี้แหละ เอากับผมสิ ถ้าดื้อมากๆ นี่จับปล้ำ แล้วค่อยเคลียร์

“ดูแลร้านต่อต่อด้วยนะครับ พี่จะพาพายไปทำธุระหน่อย แล้วก็ไม่ต้องรอนะพี่บอกคุณย่าไว้แล้ว”  แม้ว่าทั้งน้องบราวแล้วก็มินจะงงๆ อยู่แต่ก็ยอมยักหน้ารับคำ

“อือ...ไม่ไป” ร่างเล็กก้มหน้างุดกับบ่าผมแล้วครับ สงสัยจะอาย

ผมรีบอุ้มเขาเดินมาที่รถของตนเอง ก่อนที่จะเปิดประตูแล้วจับพายยัดเข้าไปนั่งเบาะข้างคนขับ ก่อนที่ผมจะรีบเข้ามานั่งอีกฝั่ง หน้าเขาแดงลามไปถึงหูแล้วครับ คงไม่ใช่เพราะอายแน่นอน แต่คราวนี้อารมณ์คงจะโกรธสุดขีดแล้ว

“จะไปไหน” หลังจากที่ขับรถออกมาไกลพอสมควรพายจึงเอ่ยถามผมขึ้นมา เสียงที่เคยหวานในความคิดผมตอนนี้ฟังยังไงก็ไม่ใช่อารมณ์ปกติแน่นอน

“เดี๋ยวก็รู้” กวนมาก็กวนกลับนะครับ เสียงดังมาก็เสียงดังกลับ จะเอายังไงครับที่รัก ไอ้คิณคนเดิมไม่มีแล้วนะครับวันนี้ มีแต่คนโหด หื่น เท่านั้น

“จอดรถ” ตาโตๆ ถลึงใส่ผมคงคิดว่าน่ากลัวใช่ไหม แต่ผมไม่ได้รู้สึกอย่างนั้นเลย เหมือนแมวตัวน้อยๆที่กำลังขู่เสือโคร่งตัวยักษ์อย่างผมมากกว่า

ผมไม่จอด แล้วก็ไม่ตอบด้วยว่าจะไปไหน จนคนที่นั่งข้างๆ ผมงียบๆ จนน่ากลัว จากที่ตอนแรกต่อปากต่อคำกับผม แต่ตอนนี้เปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลยล่ะ จนผมต้องเอ่ยขึ้นมาเพื่อลดความอึดอัดระหว่างเราสองคน

“ไปที่คอนโดผม ขอคุณย่าแล้ว” ผมเหลือบไปมองเขานิดนึง ก่อนที่จะหันมาขับรถต่อ พายกำมือตัวเองแน่นจนผมกลัวว่าเขาจะเผลอจิกเข้าเนื้อให้ได้เจบตัวกันพอดี

“พายครับ”

“..............” คราวนี้คนข้างๆ ผมเงียบจริงๆ ครับ เขานาจะโกรธผมมากกว่าทุกครั้ง เรียกก็ไม่คิดจะสนใจ  เอาแต่มองออกไปนอกหน้าต่างรถ ผมจนปัญญาแล้วครับ ได้แต่ขับรถต่อไปเรื่อยๆ เพื่อให้ถึงคอนโดผมเร็วที่สุด

ผมเลี้ยวรถเข้ามาจอดที่ประจำ ก่อนที่จะเดินไปเปิดประตูให้คนที่นั่งนิ่ง ตัวสั่นๆ เมื่อผมได้สัมผัสเขา พายเป็นอะไรทำไมดูกลัวๆ

“พะ ...พามาที่นี่ทำไม” ทำไมต้องกลัวขนาดนี้ล่ะ ผมยังไม่ได้ทำอะไรเลย

“พายเป็นอะไรครับ บอกผมหน่อยสิ” ผมดึงร่างเล็กเข้ามากอด เสียงหัวใจของพายเต้นแรงจนผมกลัว มือหนาๆ ของผมยกขึ้นลูบหลังเพื่อคลายความเครียด

“พามาที่นี่ทำไม”

“มาคุยกันครับ ปรับความเข้าใจกัน” ผมผละออกจากร่างเล็กก่อนที่จะดึงเขาให้เดินตามมา ท่าทีขัดขืนที่มีค่อนข้างเยอะในตอนแรกตอนนี้เริ่มที่จะผ่อนคลายลงบ้าง

“ไม่เข้าไปได้ไหม” ถึงหน้าห้องแล้ว แต่พายกับลังเลที่จะเดินเข้าไป

“กลัวอะไรครับ ไม่ทำอะไรจริงๆ ด้วยเกีรยติของลูกเสือสามัญเลยครับ” ผมยกนิ้วขึ้นสามนิ้วเหมือนปฏิญาณตน พอจะเข้าใจแล้วว่าทำไมเขาถึงเงียบจนน่ากลัว เพราะเขาคงอยากลืมความทรงจำเลวร้ายในวันนั้นลง

“.........” พายยกมือปิดปากพยายามกลั้นยิ้ม ทั้งๆ ที่เมื่อกี้เขายังกลัวผมอยู่เลย แต่ก็ดีแล้วครับที่เขาไม่คิดมากแล้ว

“เชื่อใจผมนะ” เขาพยักหน้าเป็นเชิงรับรู้ ผมยื่นมือไปจับมือเขา ก่อนที่จะจูงเข้ามาในห้อง

"นั่งรอตรงนี้ก่อนครับเดี๋ยวเอาน้ำมาให้” ผมดึงเขาให้นั่งลงบนโซฟาห้องนั่งเล่น

"น้ำมาแล้วครับ" พายดูลังเลที่จะรับจากผมไปดื่ม สายตาเขาเหมือนหวาดระแวงบางอย่าง

"ไม่ใส่อะไรแปลกๆ ลงไปแน่นอนครับ"

"......" รับน้ำไปแล้วครับ แต่ก็ถือไว้อย่างนั้น คงกลัวจะจะโดนทำอะไรไม่ดีแบบวันนั้น

"ผมเชื่อใจคุณได้ใช่ไหม" ผมนั่งลงข้างๆ เขาบนโซฟาตัวยาว ก่อนที่จะหันไปยิ้มที่คิดว่าอ่อนโยนที่สุดให้กับพาย

"อันนี้ก็คงต้องขึ้นอยู่กับพาย ว่าจะไว้ใจผมรึเปล่า" มือบางที่กำแก้วน้ำเริ่มขยับจ่อมันที่ริมฝีปากบาง ก่อนที่จะดื่มมันลงไป ผมดีใจนะครับ แม้เขาจะดูระแวง แต่สุดท้ายก็เชื่อในตัวผม

"ที่เรามาเริ่มคุยเรื่องของเราดีกว่านะครับ"

"เรื่องอะไร" แสร้งทำเป็นไม่รู้ใช่ไหมยังจะมีหน้ามาถามกลับอีกนะคนเรา

"อย่าให้โมโหนะครับพาย ก็เรื่องวันก่อนที่พายโกรธผม" ผมมองหน้าเขานิ่งๆ ส่วนคนตรงหน้าก็นิ่งไม่แพ้กัน

"เปล่า" คำนี้อีกแล้ว เวลาไม่อยากตอบอะไรนี่จะเปล่าตลอด
 
"จะอะไรนักหนาว่ะ แค่ตอบมาว่าเป็นอะไรมันยากนักเหรอ ทำให้ผมบังคับแบบนี้มีความสุขนักเหรอ" ผมพูดเสียงดัง จนเหมือนตะหวาดเขา พายสะดุ้งน้อยๆ ก่อนที่จะปรับสีหน้าให้เหมือนเดิม

"อย่ามาขึ้นเสียงใส่ผม คุณไม่มีสิทธิ์"

"ไม่มีสิทธิ์งั้นเหรอ ได้จะทำให้มีสิทธิ์เดี๋ยวนี้แหละ" ผมจับแขนของพายทั้งสองข้างขึ้นเหนือหัวก่อนที่จะทาบทับตัวเองลงไปกับร่างบางที่ดิ้นเร่าอยู่ใต้ร่างของผม ปากผมเรื่อมซุกไซ้ตามซอกคอขาวอย่างย่ามใจ อยู่ๆ เขาก็เลิกต่อต้านผม จนต้องเงยหน้าขึ้นมาดู น้ำตาพายไหลออกมาจากหน่วยตาที่สั่นระริกทั้งสองข้าง

"พาย พายครับคิณขอโทษ" ผมดึงเขาให้ลุกขึ้นนั่ง สวมกอดร่างบางไว้อย่างกลัวว่าเขาจะหายไป อยากจะต่อยหน้าตัวเองให้สมกับความเลวที่เผลอทำให้พายกลัว

"อึก ฮึกกก" พายกลั้นก้อนสะอื้นเอาไว้ เพื่อไม่ให้ร้องให้ออก

"ขอโทษๆ” พายสะอื้นกับอกผม ผมทำผิดพลาดมากครับครั้งนี้ ผมลูบหลังคนคนตัวเล็กอย่างปลอบโยน

"คิณขอโทษนะครับ" พายเงยหน้ามองผมผ่านม่านน้ำตา มือผมค่อยๆ เกลี่ยหยดน้ำใสๆ ของคนที่กำลังสะอื้นให้

"กลัวผมรึเปล่าที่ทำแบบนี้ เกลียดรึเปล่าที่ผมรังแกพาย"

".......” เขาส่ายหน้าน้อยๆ ก่อนที่จะก้มหน้างุดกับอกผมอีกแล้ว ไม่รังเกียจแล้วก็ไม่ได้กลัว

'สัสเอ้ยกูงง'

"แล้วเป็นอะไรครับ"

"ตกใจ" เสียงตอบอู้อี้อยู่กับอกผม

"หึ หึ น่ารักว่ะพาย"

"อะไรเล่า" เขินล่ะสิ แกล้งทำเป็นเสียงดังกลบเกลื่อน หน้านี่ขึ้นสีระเรื่อจนผิวแก้มขาวๆ กลายเป็นลูกมะเขือเทศสุกแล้ว

"เข้าเรื่องได้แล้วครับ จะได้เข้าใจกันสักที” ร่างเล็กชั่งใจอยู่สักพัก ก่อนที่จะมองค้อนผม เอากับเขาสิ ด่าไม่ได้ เถียงไม่ได้ก็ค้อนเอาๆ

"ผู้หญิงของคุณ......." เขาพูดยังไม่ทันจบผมก็เอ่ยแทรกขึ้นมาทันที

"ใคร"

"จะไปรู้ได้ไงเล่า คุณยังไม่รู้เลย มีเยอะมากนักรึไง" เริ่มเหวี่ยงอีกแล้ว หมู่นี้เป็นอะไรนะ เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย หรือว่าเป็นวันนั้นของเดือน อย่าพึ่งเชื่อในความเพ้อเจ้อของผมนะครับ

"ครับๆ เล่าต่อ" พายเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้กับผมฟังอีกครั้ง ตอนนี้ผมเริ่มที่จะรู้แล้วว่าผู้หญิงคนที่ทำให้พายเป็นแบบนี้คือปิ๊ง คนที่ผมพึ่งเคลียร์กับเขาไป ส่วนคนอื่นๆ ผมก็เคลียร์จบแล้วเหมือนกัน แต่ไม่มีใครรู้เรื่องที่ผมกำลังตามจีบพายนอกจากปิ๊ง แต่ผมไม่เคยพูดซะหน่อยว่าจีบผู้หญิง ผมจีบพายต่างหากล่ะ

"ผมไม่ได้บอกเขาซะหน่อยว่าตามจีบใคร ผู้หญิงหรือผู้ชาย" ผมยังไม่ปล่อยให้พายเป็นอิสระหรอก ยังกอดเขาไว้อย่างนั้น

"ไม่รู้" พูดอะไรของเค้า

"ผมยอมรับว่าผมเจ้าชู้" มือน้อยๆ หยิกเข้าที่สีข้างผมเจ็บแสบได้เรื่องเหมือนกัน

"ฟังให้จบก่อนครับเด็กดื้อ หลังจากนั้นอยากทำอะไร ให้ทำหมดทุกอย่างเลย" หันมามองผมตาเขียวปั๊ดเลยคราวนี้ ผมจับให้พายนั่งดีๆ แต่ก็จับมือเค้าไว้ตลอด
 
"ผมคบกับผู้หญิงหลายคน แต่ผมตกลงกับพวกเธอแล้วนะครับ แค่เรื่องบนเตียง พวกเราแค่สนุก แล้วผมก็ตอบแทนทุกคนอย่างสมน้ำสมเนื้อ ผมยอมรับว่าเอาเงินจ้างให้ผู้หญิงพวกนั้นเลิกกับผม แต่มันก็ดีกว่าที่พวกเธอจะมาวุ่นวายกับคนที่ผมกำลังตามจีบอยู่ ต่างคนต่างได้ผลประโยชน์ทั้งสองฝ่าย ในเมื่อผมจริงจังกับรักครั้งนี้มาก ผมก็ต้องจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย แม้ว่าคนที่ผมกำลังตามจีบอยู่เขาอาจจะไม่ได้รู้สึกอะไรกับผมก็ได้” เสียงอ่อยๆ ตอนสุดท้ายทำให้พายหันมามองผมด้วยสายตาหมั่นใส้

"แล้วมาบอกทำไม" ยังจะมาทำเป็นถามอีก ถ้าไม่บอกนี่จะยังได้คุยกันดีๆ แบบนี้อยู่ไหม

"ก็ผมจีบพายอยู่ ก็ต้องบอกพายสิ หรือจะให้บอกใคร"

"ไม่เห็นจะอยากรู้” ผมยกมือขึ้นไปบีบปากบางเบาๆ

"ปากแข็งแฮะ" เขายกกำปั้นทุบอกผมเสียงดังจนจุกแล้วครับ เขินรุนแรงมาก

"ดึกแล้ว จะกลับบ้าน" เปลี่ยนเรื่องเร็วจังนะครับ

"คุณย่าอนุญาตแล้ว ให้พายค้างกับผม"

ตาโตๆ ถลึงมองผมด้วยความตกใจ ท่านอนุญาตจริงๆ ครับเพราะท่านบอกว่าเชื่อใจ ในความจริงใจที่ผมแสดงออกเสมอมา

"โกหก"

"ถามคุณย่าได้เลยครับ ท่านบอกว่าถ้าดึกก็ให้ค้างที่นี่เลย ไม่อยากให้ขับรถไปมาดึกๆ อันตราย" พูดยังไม่ทันจบก็ยกหูโทรศัพท์ขึ้นคุยกับคุณย่าอยู่สักพัก หน้างอจนผมขำ สงสัยคุณย่าจะขัดใจเขาล่ะ ก่อนที่จะวางสายไป

"จะให้นอนได้ไงเล่า ห้องนอนก็มีห้องเดียว เสื้อผ้าก็ไม่มีเปลี่ยน” หาเหตุผลไปเรื่อยแล้วครับ ก็คนอยากกลับบ้านนี่นา

"เดี๋ยวหาให้ครับ แต่ตอนนี้หิวข้าวแล้ว" มัวแต่เคลียร์ปัญหาจาลืมหิว แต่พอเรื่องทุกอย่างจบลงด้วยดี กระเพาะก็เริ่มทำงานแล้ว
 
"ไม่หิว"

"พายครับ" เรียกเสียงเข้ม เพื่อให้รู้ว่าผมเริ่มที่จะไม่พอใจแล้ว หิวจนจะกินพายตัวเป็นๆ ที่นั่งอยู่ตรงหน้าเข้าไปทั้งตัวแล้ว

"ก็ได้" ว่าง่ายๆ อย่างนี้แหละดีแล้ว คิณคนโหดจะได้ไม่โผล่มา

ผมกับพายเดินลงไปข้างล่างด้วยกัน ซื้อของที่ซุปเปอร์เพราะมีมินิมาร์ทเล็กๆ ขายของแทบจะทุกอย่าง ผมอยากกินอาหารฝีมือของเค้า อ้อนนิดอ้อนหน่อยก็ใจอ่อนแล้วครับ  เราเลือกซื้อของสดที่จะสามารถทำอาหารง่ายๆ ได้ พายบอกว่าจะทำข้าวผัดกุ้ง กับต้มจืด แล้วก็ไข่เจียวเพิ่มอีกอย่าง แม่ศรีเรือนจริงๆ ครับว่าที่เมีย

เขาลงมือทำอาหารโดยมีผมคอยป่วนอยู่ข้างๆ ก็อยากช่วยนะครับแต่ไม่รู้จะช่วยยังไง ที่พอจะทำได้ก้คงมีแค่ล้างผักเพราะเคยทำมาแล้ว

“ทำไมคุณย่าไว้ใจคุณจัง” อยู่ๆก็สงสัยขึ้นมา ความรู้สึกนี่จะช้าไปไหม

“เพราะผมหล่อ” กวนประสาทดีไหมครับ

“ตอบดีๆ สิครับ อยากรู้” เขาพุดกับผมทั้งๆ ที่ยังก้มหน้าก้มตาหั่นผักต่อ

“ท่านบอกว่าสงสารผม ที่พายไม่ค่อยมีเหตุผล แล้วก็เห็นความจริงใจที่ผมแสดงออกกับพายมาตลอดก็เลยไว้ใจ”  ช่วงแรกๆ นี่แต่งเติมเอานะครับ จะจริงก็แค่ครึ่งหลังเท่านั้นแหละ เขาหันหน้ามามองผมแว๊บหนึ่งอย่างไม่อยากเชื่อ ก่อนที่จะหันไปทำอาหารต่อ

กว่าจะได้ทานก็ดึกจริงๆ เกือบจะสี่ทุ่มแล้ว เรานั่งทานอาหารกันสองคนงียบๆ พายทานอาหารของเขาไปเรื่อย ผมคอยตักให้บ้างอย่างเอาใจ ทานจนหมด ไม่เหลือแม้แต่น้ำแกงจืด ผมยอมรับเลยว่าพายฝีมือด้านนี้จริงๆ ไม่ว่าจะทำอะไรก็ดูคล่องแคล่ว แถมรสชาติยังอร่อยกว่าบรรดาร้านอาหารดังๆ หลายๆ ร้านที่ผมเคยทานมาด้วยซ้ำ

 จนผมอดแซวเขาไม่ได้ว่าให้ไปเปิดร้านอาหาร แต่อย่าเลย เดี๋ยวไม่มีเวลาให้ผม แค่นี้ก็ทำงานตั้งหกวันแล้ว กว่าจะเลิกก็ทุ่มสองทุ่ม แบบนี้แหละดีสุดๆ แล้ว

***************************


จบอีกตอนแล้วค่ะ ตอนนี้คุณคิณเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายจนเริ่มสับสนแล้ว ตกลงนี่เป้นพ่อเทพบุตรหรอซาตาน  เม้นๆๆ ให้ด้วยนร้า.




                   TBC.
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน13 จบปัญหา P.5 (18/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 18-02-2016 19:58:50
 :katai2-1: เย้เย ดีกันแล้ว
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน13 จบปัญหา P.5 (18/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Kalamall ที่ 18-02-2016 20:49:23
 :hao3: อ้อนเข้าไว้พี่คิณ
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน13 จบปัญหา P.5 (18/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: milin03 ที่ 18-02-2016 21:03:25
เย้ๆๆๆ
ดีกันเเล้ว  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน13 จบปัญหา P.5 (18/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: nunuchhh ที่ 18-02-2016 22:21:22
 :mew3:อ๊ายยยยยย จะทำอะไรพาย
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน13 จบปัญหา P.5 (18/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 18-02-2016 23:49:41
ดีกันแว้วววว
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน13 จบปัญหา P.5 (18/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 19-02-2016 03:18:54
หวังว่าบรรดาผู้หญิงเหล่านั้นของคุณคิณจะไม่มาตามน้องพายนะครับ
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน13 จบปัญหา P.5 (18/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: มะเขือม่วง ที่ 19-02-2016 22:23:00
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน13 จบปัญหา P.5 (18/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: manami_01 ที่ 19-02-2016 22:42:53
น้องพายอย่าโหดกับพี่คิณมากสะครับ

เดี๋ยวพี่คิณร้องไห้นะ  :hao6:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน14 คืนนี้ของเรา( Mini NC) P.5 (20/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: MooKratai ที่ 20-02-2016 08:20:08
หลานคุณย่า 14 คืนนี้ของเรา( Mini NC)

คิณ(Part)

 

ตอนนี้เราสองคนอยู่ในห้องนอนของผมแล้วครับ โดยมีคนตัวเล็กยืนเก้ๆ กังๆ อย่างไม่รู้จะทำอะไร มือก็ถือถุงเสื้อกับบ็อกเซอร์ที่ซื้อมาจากมินิมาร์ทข้างล่างคอนโด

 

“ไปอาบน้ำได้แล้วครับ” ผมเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าหยิบผ้าเช็ดตัวออกมาให้พาย ผมก็ตื่นเต้นไม่แพ้กันหรอกครับ การที่ต้องอยู่กับคนที่เรารักมากๆ สองต่อสอง แถมในห้องสี่เหลี่ยมแคบๆ อีก ใจมันเต้นโครมครามเป็นจังหวะร็อคเลยครับตอนนี้

 

“ครับ” หยิบผ้าเช็ดตัวจากผมด้วยสีหน้างงๆ ก่อนที่จะเดินตรงไปทางห้องน้ำ

 

“เดี๋ยวๆ ครับ แปรงสีฟัน” ผมเดินไปหาแปรงสีฟันที่ผมซื้อมาสำรองไว้ ลืมอะไรอีกรึเปล่านะ ผมยืนคิด

 

“ครีมอาบน้ำอยู่ฝั่งซ้ายมือนะครับ ถัดมาก็ยาสระผม แล้วก็โฟมลางหน้าใช้ได้เลยนะครับ หรือว่าพายใช้ไม่ได้ ผมจะได้ไปซื้อมาให้ใหม่ อ้อ! ยาสีฟันผมใชยี่ห้อXX พายใช้ได้ไหมครับ” จะประหม่าไปไหมครับ ทำยังกับสาวน้อยที่เขินหนุ่มๆ อย่างนั้น ทำอะไรไม่ค่อยถูกเลย

 

“ใช้ได้หมดครับ ไม่เป็นไร” เป็นพายซะเองที่ดูจะนิ่งกว่าผม ส่วนผมนี่รนหานู่นหานี่ไปเรื่อยแก้เขิน

 

พายเดินเข้าห้องน้ำไปแล้ว  เสียงน้ำจากฝักบัวดังกระทบพื้นทำให้ผมจินตนาการถึงร่างเล็กที่อยู่ใต้สายน้ำ

 

“แมร่ง กูจะทนไหวไหมว่ะคืนนี้” ผมกลัวว่าตัวเองจะทนมาไหวจนหน้ามืดจับพายกินเสียคืนนี้เลย คิดถูกหรือผิดว่ะเนี่ยที่วางแผนให้คนตัวเล็กค้างกับผม

 

นั่งคิดอะไรเพลินๆ ก็ได้ยินเสียงเปิดประตูห้องน้ำ จนผมอดไม่ได้ต้องหันไปมอง พายใส่เสื้อยืดตัวบางสีขาวพอดีตัว กับกางเกงบ็อกเซอร์สีเข้ม ขามันสั้นครับ แต่ตอนที่ซื้อไม่คิดว่ามันจะสั้นขนาดนี้ ผมเผลอจ้องพายนานมาก จ้องแบบเสียมารยาทเลยครับรู้ตัวเองดี

 

“เอ่อ...มีกางเกงให้ยืมไหมครบมันสั้น” พายเดินมายืนตรงหน้าผมแล้วชี้ให้ดูที่บ็อกเซอร์ การกระทำซื่อๆ ของเขาทำให้ผมถึงกับสะอึก ยั่วกันเหรอว่ะ เย็นไว้ๆ คิณน้อย

 

“อะ...อะไรนะครับ” เสียงจะสั่นไปไหนว่ะ เดี๋ยวพายก็รู้หรอกว่าผมจ้องจะงาบเขา พยายามควบคุมความรู้สึกบางอย่างที่กำลังเกิดขึ้นกับแก่นกายตัวเอง

 

“มีกางเกงตัวใหม่ให้ยืมไหมครับ” สายตาที่ดูซื่อๆ ตอนนี้ทำให้ผมอยากจับเขาปล้ำตอนนี้เลยว่ะ

 

“เดี๋ยวหาให้ครับ” ควบคุมเสียงตัวเองไม่ให้สั่นครับ เอาให้เนียนที่สุด แม้ว่าสายตาผมตอนนี้จะจ้องแต่ขาขาวๆ กับหน้าอกที่เห็นรางๆ ผ่านเสื้อตัวบาง จนพายเริ่มจะรู้ตัวหันหน้าหนีผมไปอีกทาง

 

ผมเปิดตู้พยายามหาบ็อกเซอร์หรือกางเกงตัวที่เล็กที่สุด แต่มันก็ไม่มี เพราะถ้าพายใส่นี่กางเกงคงหลุดลงไปกองกับพื้นแน่ พายเป็นผู้ชายรูปร่างเล็กไซส์เอส ส่วนผมนี่ตัวยักษ์ครับ ผมใส่ไซส์แอล ต่างกันสองไซส์แล้วเขาจะใส่กางเกงผมได้ไง

 

“ไม่มีเลยครับพาย” ผมหันมายิ้มแหยๆ หลังจากพยายามควานหากางเกงนานสองนาน

 

“ไปอาบน้ำสิครับ ไม่มีก็ไม่มี มองอะไรนักหนา”  มองค้อนผมกลับ ก่อนจะเดินไปที่เตียงนอน ส่วนผมนี่มองตามน้ำลายแทบหยดติ๋งๆ เลือดกำเดาเกือบสาด

 

‘แมร่งขาขาวๆ เอวคอดๆ หัวนมชมพู น่ากอด น่าฟัด น่ากิน ไอ้คิณจะตายแล้วครับ’

 

“แล้วให้ผมนอนไหน” หันมาถามหน้าตาเหวี่ยงๆ

 

“ฝั่งนั้นก็ได้ครับ หรือฝั่งนี้แล้วแต่พายเลย” เอากับผมสิสับสนไปหมด

 

“คุณนอนฝั่งไหน” พายถามผมออกมา

 

“ฝั่งนี้ครับ”

 

“งั้นผมนอนนี่” พายเดินไปนั่งฝั่งด้านในที่ผมไม่ได้นอน ก่อนจะหันมาหาผม

 

“ไปอาบน้ำสิครับ จะได้นอน” ผมมัวแต่ยืนมองเขาอยู่ครับ สติไม่ค่อยจะสมประดีเท่าไหร่หรอกตอนนี้ ในสมองคิดได้เรื่องเดียวคืออยากจับคนตรงหน้ากดให้มันรู้แล้วรู้รอดไป

 

“ครับๆ” ผมรีบเดินตรงเข้าห้องน้ำไปเลยครับ อยู่นานกว่านี้พายไม่ปลอดภัยแน่ ผมใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำค่อนข้างนานครับ คงไม่ต้องบอกหรอกมั้งว่าทำอะไร ยิ่งทำก็ยิ่งอยาก ไม่มีท่าทีจะลดน้อยลงเลย

 

ผมรูดเจ้ามังกรยัก์ขึ้นลง จินตนาการถึงแต่ร่างขาวๆ ของคนที่คงจะนอนไม่รู้สึกตัวไปแล้วอยากเข้าไปขย่ำให้จมเขี้ยว

 

“พาย...ครับ คิณไม่ไหวอยากเข้าไปในตัวพายจัง”  ความรู้สึกตอนนี้คือมันไม่พอ แม้ว่าผมจะเสร็จไปสองรอบแล้ว แต่มันก็ยังไม่ใช่ปลายทางของผม อยากกระแทกแรงๆ ยิ่งคิดความต้องการยิ่งพลุ่งพล่าน ผมจะตายไหมว่ะวันนี้ ตายเพราะอยากเรื่องอย่างว่า คงได้ออกข่าวหน้าหนึ่งแน่เลยกู

 

รอบที่สามแล้วที่ผมช่วยตัวเอง แต่มันไม่ถึงใจครับ ทั้งๆ ที่ผมๆไม่ได้มีเซ็กส์กับผู้หญิงมาตั้งแต่ผมตั้งใจจะจีบพาย ก็ช่วยตัวเองมาตลอด ร่างกายก็พอทนไหวนะครับ ไม่ไต้องการอะไรมากมายขนาดนั้น  แต่วันนี้มีคนที่ผมรักมานอนยั่วอยู่ด้านนอก เลยกระตุ้นความต้องการผมจนถึงขีดสุด จะทำยังไงดีว่ะ

 

“คุณคิณ ทำไมอาบน้ำนานจังเป็นอะไรรึเปล่าครับ” เสียงหวานๆ แว่วมาจากข้างนอกยิ่งกระตุ้นผมสุดๆ เลยครับ

 

“คะ...ครับ อึก....” พยายามกลั้นเสียงกระเส่าของตนเอง

 

“ทำไมอาบน้ำนานจังครับ”

 

“จะ....จะเสร็จแล้วครับ อึก อีกแป๊บเดียว” ผมรูดรั้งแก่นกายตนเองถี่รัว จนกระทั่งถึงจุดหมายปลายทาง แล้วล้างตัวออกมาข้างนอกด้วยความรู้สึกแปลกๆ ที่ยังไม่หายไปไหน

 

พายกลับไปนอนหันหลังให้กับผมแล้วครับ ร่างบางนอนขดตัวโชว์เรียวขาขาวๆ ผ้าห่มมีทำไมไม่เอาไปห่มวะ หรือว่าจะร้อน ผมจึงเดินไปปรับแอร์ให้เย็นขึ้น ก่อนที่จะเดินกลับมาแต่งตัว ใส่แค่กางเกงนอนตัวเดียวครับ เสื้ออะไรนี่ไม่ใส่หรอกไม่ชอบ มันอึดอัดนอนไม่หลับ

 

ผมทิ้งตัวลงนั่งบนเตียงนอนอีกฝั่ง เตียงนอนยุบตัวลงค่อนข้างเยอะเพราะตัวผมค่อนข้างใหญ่ แต่พายก็ยังนอนนิ่ง มีหมอนข้างกั้นกลาง สงสัยจะเป็นเขาเองที่เอามาวางไว้ พายนอนนิ่งเกินไปจนผมคิดว่าเขาน่าจะยังไม่หลับ

 

“พาย...พายครับ”ผมขยับขึ้นไปนั่งพิงหัวเตียงเรียกเขาเสียงเบา พายขยับยุกยิกสองสามทีก่อนที่จะพลิกตัวหันมาทางผม พร้อม กับบ็อกเซอร์ตัวเล็กที่ร่นขึ้นไปจนขาขาวๆ โผล่พ้นขอบกางเกงออกมา

 

‘ใครก็ได้ช่วยไอ้คิณที จะตายแล้ว’

 

“อะไรครับ” ตาปรือๆ หันมามองผม มันช่างยั่วยวนจนผมเผลอขยับตัวเข้าไปหาเขา จนร่างเล็กเบิ่งตาขึ้นมาทันที  ผมเองก็ตกใจเหมือนกันที่ห้ามร่างกายตัวเองไม่ได้ตอนนี้

 

“ยังมะ..ไม่หลับเหรอครับ”

 

“กำลังจะหลับแล้ว แต่คุณคิณเรียกผมก่อน”  เขาคงระแวงผมอยู่พอสมควร จึงดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมจนถึงเอว

 

“อ๋อ...ครับ นอนเถอะ”ผมล้มตัวลงนอนปิดไฟหัวเตียง พยายามข่มตาให้หลับ แต่สมองก็เอาแต่คิดถึงหน้าอกสีสวยที่ผมเคยสัมผัส  ก้นอวบๆ เอวคอดกิ่วยิ่งกว่าผู้หญิง   

 

นอนพลิกตัวไปมาอยู่อย่างนั้นจนเที่ยงคืนก็ยังไม่หลับ จนสติผมเริ่มที่จะขาดผึงทันที เมื่อคนที่นอนข้างๆ พลิกตัวมากอดหมอนข้างอย่างไม่รู้ตัว ผ้าห่มที่เคยคลุมตัวก็หลุดออกอย่างไม่ได้ตั้งใจ แสงสว่างที่ลอดเข้ามาในห้องทำให้ผมเห็นร่างเล็กอย่างชัดเจน

 

ผมค่อยๆ ขยับเข้าไปหาพายช้าๆ อย่างกลัวว่าคนตัวเล็กจะตื่น  ถ้าผมลักหลับพายนี่จะเป็นอะไรไหมครับ  ผมยินดีรับผิดชอบทุกอย่างเลย ให้หมดแล้วทั้งตัวแล้วก็หัวใจ             

 

รู้สึกตัวอีกทีปากผมก็ก็ขยับเข้าไปจนชิดซอกคอขาวของคนที่นอนหลับไม่รู้เรื่อง ผมขบเม้มไปตามซอกคอขาว ก่อนที่จะลากลงมาตามไหล่ลาดอย่างย่ามใจ พายตัวหอมจนผมไม่มีสติพอที่จะห้ามร่างกายตนเองได้แล้วตอนนี้

 

ผมเอื้อมมือไปเลิกเสื้อนอนสีขาวตัวบางขึ้น ก่อนที่จะประกบปากลงกับตุ่มไตสี่ชมพูสดอีกครั้ง ดูดกลืนกินอย่างไม่รู้จักเบื่อ

 

“อือ...อึก” เสียงพายครางออกมาเบาๆ ผมถึงกับชะงัก ก่อนที่จะปฏิบัติการณ์ต่ออีกรอบ ลิ้นร้อนของผมผมค่อยๆ ลากเลียผ่านหน้าท้องแบนราบอย่างหลงไหล มืออีกข้างก็ขยับลูบไล้กายบางที่นอนหลับตาพริ้มโดยไม่รู้ว่ากำลังจะโดนเสือร้ายอย่างผมขย่ำ

 

ผมขยับตัวขึ้นมาจับมือบางมากำแก่นกายผม แล้วจับรูดขึ้นลงจนผมเผลอครางออกมาเสียงดัง มืออีกข้างของผมก็ยังคงลูบไล้แก่นกายน่ารัก ที่ตอนนี้เริ่มจะชูชันไม่ต่างจากผม แต่เจ้าของร่างก็ทำเพียงแค่ขยับอย่างรำคาญ แล้วครางกระเส่าจนผมแทบจะแตก ทำไมพายยั่วผมแม้กระทั่งเขานอนหลับ

 

ความเสียวซ่านที่เกิดจากมือเล็กๆ ของคนที่หลับทำให้ผมสุขสมเสียจนอยากจะสัมผัสเขาให้มากกว่านี้

 

“อึกกก...พายครับคิณเสียว” ผมเหมือนโรคจิตที่กำลังมีความสุขกับร่างกายของคนที่หลับลึกอยู่ตรงหน้า  ผมขยับตัวเข้าใกล้แก่นกายเล็กก่อนที่จะก้มลงครอบครองมันด้วยปากของผม  ลิ้นร้อนผมค่อยๆ เลียตรงหัวป้านสีสวยอย่างเมามัน

 

“อือ....ทะ...ทำอะไร” พายตื่นแล้วครับ ตายแน่ครับงานนี้ ก้มลงมองการกระทำของผมอย่างงัวเงีย ก่อนที่เขาจะตั้งสติได้ มองผมอย่างตั้งคำถาม

 

“ผมขอโทษ แต่ผมทนไม่ไหวแล้วพายช่วยผมหน่อยได้ไหม” ผมไม่รู้ว่าพายรู้สึกยังไงตอนนี้ เขานิ่งจนผมกลัว แต่ปากผมก็ยังพูดแบบนั้นออกไป

 

“นะ...นะครับ” ผมขยับขึ้นไปหาก่อนที่จะประกบปากผมลงกับริมฝีปากบางอย่างโหยหา กลีบปากนุ่มทำให้ผมแทบคลั่ง ทำไมพายทำให้ผมเป็นแบบนี้ ไม่เคยรู้สึกทรมานแบบนี้มาก่อน ต้องการจนแทบบ้า

 

พายดิ้นขัดขืนผมแค่แรกๆ หลักจากที่นั้นร่างบางกลับโอนอ่อนไปตามผม  ลิ้นเล็กตอบรับ กอดเกี่ยวกับลิ้นร้อนของผมอย่างเร่าร้อน แม้ว่าพายจะไม่ได้เก่งเหมือนผู้หญิงที่ผมเคยผ่านมา แต่กลับทำให้ผมต้องการเขามากว่าใคร

 

“อือ...” พายดิ้นอีกครั้ง เหมือนกับเขาดึงสติตัวเองกลับมา ผมจึงยอมผละออกจากร่างเล็ก มองพายด้วยสายตาที่หื่นกระหาย

 

“พายคับ คิณไม่ไหวได้โปรดช่วยคิณได้ไหม” คำขอร้องของผมไม่รู้ว่าพายจะเข้าใจและเห็นใจไหม

 

“ตะ... แต่ผมกลัว”  ฟังเสียงสั่นๆ แล้วผมได้แต่ขยับเข้าไปกอดอย่างปลอบโยน

 

“ขอโทษ ที่ทำแบบนี้กับพาย” ไม่รู้จะพูดยังไงดี ความรู้สึกตอนนี้คือร่างกายต้องการพายมากแค่ไหน แต่จิตใจไม่อยากทำให้พายกลัวผมไปมากกว่านี้

 

“ทำค่อยๆ ได้ไหม” พายพูดอะไรออกมา เขารู้ตัวรึเปล่าว่ามันเป็นการอนุญาตให้ผมทำกับร่างกายของเขา ผมขยับมองหน้าพายอีกครั้ง แต่คนตรงหน้าก็ก้มหน้างุด จนผมก้มลงไปจูบซับหน้าผากมนอย่างเอ็นดู

 

“แค่ช่วยก็พอครับ ผมไม่อยากให้พายเจ็บ พรุ่งนี้ต้องไปร้านอีก” ร่างเล็กพยักหน้ากับอกผมเบาๆ คงจะอายที่ต้องมาทำเรื่องแบบนี้กับผม ทั้งๆ ที่เรายังไม่ได้ตกลงสถานะของความสัมพันธ์ของเราสองคน

 

ผมค่อยๆ สัมผัสร่างบางอีกครั้ง จับมือเล็กๆ ของพายให้ช่วยปลดปล่อยความทรมานของคิณน้อย ผมชักนำให้พายทำตามก่อนที่จะปล่อยมือผมออก ปล่อยให้พายทำอย่างที่ผมสอน

 

“อย่างนั้นครับคนดี อือ...” มือผมเลื่อนไปสัมผัส แก่นกายเล็กอีกครั้ง ทำให้พายตกใจขยับออกไป

 

“พายจะได้ไม่ทรมานนะครับ” ผมขยับมืออีกครั้ง พร้อมๆ กับพายที่ทำให้ผมไม่ต่างกัน

 

“อึก...อือ”

 

“เสียวจังครับ”  โคตรของความรู้สึกดีเลยครับครั้งนี้

 

เราสองคนแลกจูบกันอยู่อย่างนั้น อย่างไม่รู้จักอิ่ม จนพายหายใจหอบผมจึงผละออกกลัวว่าเขาจะขาดอากาศหายใจ

 

“อือ คุณคิณ พะ...พายไม่ไหว ไม่ไหวแล้ว”  มือผมเริ่มขยับช้าลงเพราะไม่อยากให้เขาไปก่อน

 

“อย่าพึ่งเสร็จสิครับ รอคิณก่อน” มือบางเริ่มขยับเร็วและแรงขึ้นจนผมใกล้จะแตกไม่ต่างจากร่างเล็ก เสียงเราสองคนครางอย่างสุขสมก่อนจะปล่อยน้ำสีขาวขุ่นใส่มือของกันและกัน พายหลับตาลงช้าๆ ไม่รู้ว่าง่วงหรือว่าอาย แต่ผมว่าน่าจะอย่างหลังมากกว่า

 

“มีความสุขจังเลยครับ” ผมล้มตัวลงนอนข้างๆ กอดร่างบางของพายไว้อย่างหวงแหน เขาแอบลืมตาขึ้นมามองผมช้าๆ

 

“รักพายนะครับ” พายตีเข้าที่ไหล่ผมเบาๆ จนผมอดหัวเราะไม่ได้

 

“อะไรครับ ทำร้ายร่างกายกันแบบนี้ได้ไง” ผมบีบจมูกเล็กอย่างล้อๆ

 

“หยุดพูดเลย”  เดี๋ยวนี้งอนผมบ่อยเกินไปแล้วนะ

 

“พายครับ คบกับคิณได้ไหม” ไม่รู้ว่าการที่ผมพูดเรื่องแบบนี้ออกมาตอนนี้ดีแล้วรึเปล่า แต่ผมก็ไม่อยากเป็นคนอื่นสำหรับพายอีกแล้ว ทั้งรักทั้งหวง ถ้ามีใครมาตัดหน้าไปจะทำยังไง ยิ่งเสน่ห์แรงๆ อยู่

 

“ขนาดนี้แล้วยังจะมาถาม” อ้อมได้อีกนะครับคำตอบ

 

“ตอบดีๆ สิครับ คิณโง่ไม่เข้าใจหรอก” ผมนอนสบตากับเขาอยู่อย่างนั้น รู้แหละว่าเขาหมายถึงอะไร ดีใจจนแทบบ้า แต่ก็อยากฟังชัดๆ มือน้อยๆ ตีผมอีกแล้วแต่ไม่แรงหรอกครับ แค่แสบๆ คันๆ

 

“เรื่องมากจัง คบก็ได้”  ผมแทบจะกระโดดลงจากเตียง วิ่งไปตะโกนดังๆ ว่าพายยอมคบกับผมแล้ว

 

“น่ารักที่สุดเลย”

 

“ถ้าไม่ตอบตกลง ยังจะคิดว่าน่ารักอีกไหม”  ยังจะมาย้อนถามเรื่องที่มันไม่เกิดขึ้นอีก

 

“ยังไงก็ยอมคบแล้ว น่ารักที่สุดแล้วครับ” ผมทั้งกอด ทั้งหอมหัว ริมฝีปาก ไล่ไปเรื่อย จนเขาประท้วง

 

“นอนได้แล้วนะครับ ดึกมากแล้ว”

 

“ราตรีสวัสดิ์ครับ”

 

ผมหลับฝันดีแน่ครับวันนี้ สมหวังในสิ่งที่พยายามมาตลอด ผมกอดร่างบางไว้ในอ้อมแขน ก่อนที่เราสองคนจะเข้าสู่ห้วงนิทราไปพร้อมกัน

 

*******************************


มาลงให้แต่เช้า เรียกเลือดกันค่ะ  คุณคิณคนหื่น น้องพายคนน่ารัก คบกันแล้ว คุณคิณจะเพิ่มความหื่นขึ้นอีกหลายเท่า5555 สนุกไหมเอ่ย เม้น ให้ด้วยนะคะ มีคำผิดรบกวนบอกด้วยนร้า :pighaun: :กอด1: :impress2:



            TBC.

หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน14 คืนนี้ของเรา( Mini NC) P.5 (20/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: nunuchhh ที่ 20-02-2016 09:11:31
 :mew3:เขินแทนพายยยยย
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน14 คืนนี้ของเรา( Mini NC) P.5 (20/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 20-02-2016 09:27:50
โอ๊ยยยยยย จะหวานไปไหนเนี่ย อิจฉาแท้เน้ออออ
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน14 คืนนี้ของเรา( Mini NC) P.5 (20/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Panehove ที่ 20-02-2016 10:15:10
ใจหายหมดเลย นึกว่าจะโกรธกันนาน  คบกันแล้วด้วย เย้ๆ
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน14 คืนนี้ของเรา( Mini NC) P.5 (20/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: angelnan ที่ 20-02-2016 10:32:09
สนุกม่ก อยากให้คินหื่นๆๆ ขี้หึง อิอิ
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน14 คืนนี้ของเรา( Mini NC) P.5 (20/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 20-02-2016 10:50:10
นี่ถ้าพี่ชายน้องพายรู้ ไม่โกรธไปใหญ่เหรอครับ ยิ่งหวงน้องอย่างกับอะไร อิอิ
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน14 คืนนี้ของเรา( Mini NC) P.5 (20/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 20-02-2016 11:34:00
 :z1: :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน14 คืนนี้ของเรา( Mini NC) P.5 (20/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 20-02-2016 11:44:47
ตกลงคบกันแล้ว :mew1: :mew1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน14 คืนนี้ของเรา( Mini NC) P.5 (20/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 20-02-2016 11:58:24
ไหนคินสัญญาจะไม่ทำอะไรไงแต่เข้าใจนะคนมันรักมันหลงทำใจไม่แตะต้องคงยาก
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน14 คืนนี้ของเรา( Mini NC) P.5 (20/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Kalamall ที่ 20-02-2016 14:00:38
 :hao3: ขนมพายท่าจะหวานเนอะ
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน14 คืนนี้ของเรา( Mini NC) P.5 (20/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 20-02-2016 14:13:42
 :L2: :pig4:

ชอบพาย  เรียกว่า "หวานอมเปรียว"  ไม่น่าเบื่อเลย
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน14 คืนนี้ของเรา( Mini NC) P.5 (20/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 20-02-2016 16:46:52
 :pig4:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน14 คืนนี้ของเรา( Mini NC) P.5 (20/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Dee^daY ที่ 20-02-2016 18:47:49
อ่านที่เดียว จนถึงตอนนี้ น่ารัก น่าชัง ..
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน14 คืนนี้ของเรา( Mini NC) P.5 (20/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: zeroj ที่ 20-02-2016 19:30:09
เพิ่งเข้ามาอ่าน  ปาดดดดดดด   โคตรหวานจนน้ำตาลเรียกพี่เลยเหอะ    :-[ :-[ :-[ :-[ :-[

ยินดีด้วยนะที่คบกันแล้ว  พี่คิณ  น้องพาย    :กอด1:    :mc4:

พี่คิณก็ดูแลน้องพายให้ดีๆ  ล่ะ  อย่าทำให้พายเสียใจนะ    :mew1:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน14 คืนนี้ของเรา( Mini NC) P.5 (20/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 20-02-2016 20:15:53
พายใจอ่อนแล้ว ตอนต่อไปไม่ต้องมินินะคะ ขอเต็มๆ  :hao6:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน14 คืนนี้ของเรา( Mini NC) P.5 (20/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 20-02-2016 20:56:41
 :mew1:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน14 คืนนี้ของเรา( Mini NC) P.5 (20/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: MooKratai ที่ 21-02-2016 08:53:03
นี่ถ้าพี่ชายน้องพายรู้ ไม่โกรธไปใหญ่เหรอครับ ยิ่งหวงน้องอย่างกับอะไร อิอิ

ต้องรอดูว่าระเบิดจะลงหรือเปล่า 555
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน14 คืนนี้ของเรา( Mini NC) P.5 (20/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Peung002 ที่ 21-02-2016 14:01:43
พี่คิณคะ พี่หื่นมากค่ะ ในห้องน้ำสามรอบแล้วยังมาตอดเล็กตอดน้อยน้องพายอีก  :m25: คนอ่านอย่างเรา ก็อิจฉาแย่สิคะ 5555
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน14 คืนนี้ของเรา( Mini NC) P.5 (20/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: zleep ที่ 21-02-2016 21:46:19
ความรู้สึกเหมือนเห็นลูกสาวออกเรือนเลยอะค่ะ แม้จะชิงสุกไปก่อนแล้วก็ตาม ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน15 คิดชื่อตอน P.5 (22/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: MooKratai ที่ 22-02-2016 16:33:45
หลานคุณย่า15 คิดชื่อตอนไม่ออก


พาย(Part)

ตื่นเช้ามาคุณคิณก็เอาแต่มองหน้าผมแล้วก็ยิ้ม พอผมหันกลับไปมองก็แสร้งทำเป็นมองทางอื่น เป็นแบบนี้ตั้งแต่เช้า จนตอนนี้ผมทำอะไรไม่ถูกเลย สายตาหื่นๆราวกับจะกลืนกิน

“มองอะไรนักหนาครับ” ผมกลั้นใจถามออกไป ทั้งๆ ที่ตอนนี้อายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน  เราสองคนพึ่งผ่านเรื่องอย่างว่ามา อีกทั้งผมยังยอมตกลงคบกับคุณคิณไปแล้ว ตอนนั้นไม่รู้อะไรดลใจ หรืออารมณ์มันพาไปก็ไม่รู้ จะกลับไปตอบใหม่อีกครั้งก็คงไม่ทันแล้ว เพราะไอ้คนตรงหน้าที่ทำหน้ามีความสุขสุดๆ ไม่อยากทำร้ายให้ฝันสลาย

“มองแฟนครับ แฟนน่ารัก” พูดอะไรไม่เคยคิดว่าคนอื่นเขาจะอายเลยใช่ไหม คนอื่นเขาไม่ได้หน้าด้านเหมือนคุณนะครับ ผมได้แต่หันหน้าหนี่ไปอีกทางเพื่อซ่อนแก้มแดงๆ ที่ตอนนี้รู้สึกเหมือนมันกำลังจะแตก

“ไม่น่าถามเลย” ได้แต่บ่นกระปอดกระแปดออกไป เพราะทำอะไรเขาไม่ได้นี่นา รายนี้พูดอะไรไปก็ไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรหรอก ไม่รู้ว่าหน้านี้ฉาบปูนไว้กี่ชั้น สามารถรับแรงกระแทกเสียดทานได้ทุกรูปแบบ

“ฮึฮึ” ยังมีหน้ามาหัวเราะ มืออีกข้างก็ยื่นมาลูบแก้มแดงๆ ของผม จนต้องจำใจหันไปเผชิญหน้า

“คุณขับรถอยู่ นะ มองถนนสิครับ มองหน้าผมแล้วจะไปถึงบ้านไหม” ผมแหวเสียงดังกลบเกลื่อน

“ครับๆ”
ขับรถไปเรื่อย ไม่รีบร้อน คุณคิณก็ชวนผมคุยไม่หยุด ไม่รู้ว่าสรรหาเรื่องอะไรมาพูดบ้าง ผมเผลอหัวเราะจนท้องแข็ง ถ้าอยู่ด้วยกันทุกวันผมคงไม่แก่ง่ายๆ หรอกนะ

‘เผลอคิดบ้าอะไรเนี่ยผม’
ใช้เวลาไม่นานก็ถึงบ้านผมแล้วครับ เพราะคอนโดคุณคิอยู่ไม่ไกลมากนัก แต่เห็นคุณคิณบอกว่าบ้านเขาอยู่ออกไปนอกเมืองไกลกว่านี้เยอะเลยย้ายมาอยู่คอนโด เพราะใกล้ที่ทำงาน

เราสองคนเดินเข้ามาในบ้านพร้อมกัน  ก่อนที่จะพาคุณคิณไปนั่งรอที่ห้องรับแขก แค่ไปถึงหน้าประตูบ้าน เสียงพี่ชายคนโตของบ้านกลับตะโกนออกมาเสียงดังจนผมตกใจ

“ไปไหนมาน้องพาย ทำไมไม่นอนบ้าน” แม้ว่าจะถามผม แต่สายตากลับหันไปมองอีกคนที่ยืนไม่สะทกสะท้านอยู่ข้างๆ ผม

“ไปนอนคอนโดคุณคิณ ย่าอนุญาตแล้ว” ผมตอบเสียงเบา ไม่กล้ามองหน้าพี่ซองตอนนี้จริงๆ ยอมรับเลยว่าตั้งแต่เกิดไม่เคยเห็นพี่ชายผมน่ากลัวขนาดนี้มาก่อน

“เป็นอะไรกับมันทำไมต้องไปนอนกับมัน อยากเป็นเมียมันรึไง” เสียงที่ดังของพี่ชายทำให้เหล่าบรรดาแม่บ้าน รวมทั้งป้านมวิ่งมาดู

“นายทำไมดูถูกน้องตัวเองอย่างนี้”  เสียงคุณคิณที่ดูนิ่ง แต่ผมรู้ดีว่าเขาพยายามระงับอารมณ์กรุ่นโกรธให้ได้มากที่สุด

“มึงเป็นคนอื่นไม่มีสิทธิ์มายุ่งกับเรื่องของคนในครอบครัว” พี่ซองชี้หน้าคุณคินด้วยความโมโห

“พี่ซองใจเย็นๆนะฮะ” ผมเดินไปเกาะแขนพี่ชาย แต่โดนเหวี่ยงออกเต็มแรง จนผมเกือบล้มถ้าคุณคิณไม่เข้าไปรับไว้

“จะมากไปแล้วนะ ทำแบบนี้ได้ยังไง”

“คุณคิณพอเถอะครับ” ผมดึงขนคุณคิณไว้ ขณะที่เขากอดผมไว้อย่างปกป้อง

“ออกมาเลยนะพาย ไปให้มันมายืนกอดอยู่แบบนี้ได้ยังไง ไม่อายคนอื่นบ้างรึไง” พี่ซองเดินมากระชากผมออกจากอ้อมกอดคุณคิณ ส่วนอีกคนก็ไม่ยอมดึงไว้สุดแรงเหมือนกัน จนผมเจ็บแขนทั้งสองข้างแทบจะฉีกขาด สุดท้ายคุณคิณก็เป็นฝ่ายปล่อยเพราะท่าทางจะรู้ว่าผมเจ็บ

“น้องชายคุณเจ็บเห็นไหม จะทำแรงทำไม”

“เพราะมึงไง ถ้ามึงไม่ดึงไว้น้องกูก็ไม่เจ็บ ถ้ามึงไม่มายุ่งน้องชายกูพวกกูก็ไม่ต้องทะเลาะกัน” ผมยืนตัวสั่นอยู่ข้างๆ พี่ซอง น้ำตาก็พาลจะไหล

“ก็ผมรักน้องชายคุณ เราสองคนรักกัน”

“หยุดปากพล่อยๆ ของมึงเดี๋ยวนี้เลยนะ” พูดจบปุ๊บก็พุ่งเข้าไปชกหน้าคุณคิณจนเต็มแรง อีกคนที่ไม่ได้ตังรับถึงกับหน้าหงาย เซไปอีกทาง

“คุณคิณ” ผมรีบวิ่งเข้าไปหาคนที่ตอนนี้เลือดสีแดงสดกำลังไหลออกข้างริมฝีปากซ้าย รีบพยุ่งเขาไว้เพราะกลัวว่าจะล้ม ถึงจะแค่หมัดเดียวแต่พี่ชายผมก็หมดหนักนะครับ เรียนมวยไทย เทควันโด ยูโด คาราเต้  ทุกอย่างที่ว่ามาเรียนมาตั้งแต่เด็ก

“เจ็บไหมครับ”  นิ้วเรียวของผมลูบตรงแผลที่มุมปากของคุณคิณด้วยความเป็นห่วง

“ไม่เท่าไหร่ครับ ไกลหัวใจ”  ยังมีหน้ามาพูดเล่นอีก คนเป็นห่วงแทบแย่

“น้องพายออกมาเดี๋ยวนี้ จะให้พี่ต้องโมโหนะ” สายตาแบบนี้ที่ผมไม่เคยเห็น พี่ซองน่ากลัว

“ไม่ครับ พี่ซองทำเกินไป  คุณคิณไม่ได้ทำอะรผิด” ผมเถียงพี่ซองออกไปทั้งๆ ที่ไม่เคยคิดว่าต้องมาทะเลาะกันรุนแรงขนาดนี้

“เข้าข้างมันมากกว่าพี่ชายตัวเองหรอ”

“เปล่า” ผมไม่ได้เข้าข้างคุณคิณ แต่เขาไม่ได้ทำอะไรผิด

“รักมันเข้าแล้วล่ะสิ เป็นเมียมันรึยังล่ะ”

“ครับ” ผมก้มหน้ายอมรับ เพราะไม่อยากจะโกหก ยอมรับว่าเสียใจที่พี่ชายตนเองดูถูก แต่มันก็คือเรื่องจริงผมเป็นของคุณคิณตั้งแต่วันแรกที่เรารู้จักกัน

“ครับอะไร รักมัน หรือเป็นเมียมัน”
“พอแล้วครับพายไม่ต้องพูด เดี๋ยวคิณจัดการเอง”  ผมพยักหน้า เพราะตอนนี้เชื่อใจคุณคิณที่สุดแล้ว ไม่รู้ด้วยว่าจะจัดการยังไง แค่คุณคิณอยู่ข้างๆ ก็พอ

“เชื่อฟังกันดีเหลือเกินนะ” พี่ซองประชดผมอีกแล้ว ทำไมล่ะ การที่ผมจะรักกับคุณคิณมันผิดขนาดนั้นเลยเหรอ

“ผมรักพาย เราสองคนรักกัน ผมยินดีรับผิดชอบทุกอย่าง”

“ไม่ต้องรับผิดชอบอะไรทั้งนั้น แค่มึงเลิกยุ่งกับน้องกูก็พอ”

“ผมคงทำตามที่คุณบอกไม่ได้”

“แต่มึงเจ้าชู้ พายจะต้องเสียใจเพราะความเจ้าชู้ของมึง” พี่ชายผมก็ยังไม่ยอม ต่างคนต่างจ้องตากันจนผมกลัวว่าจะวางมวยกันอีกรอบ

“เสียงดังอะไรกันนักหนา ย่าได้ยินไปถึงหน้าบ้าน” คุณย่าเดินเข้ามาสมทบด้วยสีหน้าที่ไม่ดีนัก วันนี้คุณย่าคงไปทำบุญที่วัดแต่เช้าพึ่งจะกลับมา

“คุณย่า” ผมรับพุ่งเข้าไปกอดย่าเลยครับตอนนี้ ไม่รู้จะทำยังไงดี

“บอกย่ามาสิตาซอง โวยวายอะไรนักหนา ทำไมไม่ยอมไปทำงาน”  แค่คุณย่าพูดไม่กี่คำทุกคนก็เงียบราวกับเมื่อกี้นี้ไม่เคยมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น

“น้องพายไปนอนกับมันมา”

“ย่าให้นอนเอง เพราะมันดึกแล้วไม่อยากให้น้องต้องเดินทางตอนดึกมันอันตราย”

“นอนกับไอ้หมอนี่อันตรายกว่าอีก”

“แล้วจะให้ทำยังไง น้องก็กลับมาแล้ว ไม่ได้มีอะไรเสียหาย” เสียหายไปแล้วครับย่า แต่ไม่รู้จะบอกย่าว่ายังไง

“จะไม่เสียหายได้ยังไง เป็นเมียมันไปแล้วด้วย”

“จริงเหรอน้องพาย”

“เอ่อ....ฮะย่า” คุณคิณยังจับมือผมไว้ไม่ยอมปล่อย บีบเบาๆ ราวกับให้กำลังใจ

“พายไม่ผิดหรอกครับคุณย่า ผมผิดเองที่ทำกับน้องแบบนั้น”

“ไหนสัญญากับย่าแล้วว่าจะไม่ทำน้อง ถ้าน้องยังไม่ตกลงเป็นแฟนกับพ่อคิณไง” คุณย่าเดินไปนั่ง พร้อมกับทุกๆ คนที่นั่งตามลงไป

“ผมขอโทษที่ไม่รู้จักหักห้ามใจตัวเอง แต่ผมรักพายนั่นคือความจริง” คุณคิณบอกเหตุผล แม้ว่ามันจะฟังไม่ค่อยขึ้นก็ตาม

“แล้วน้องพาย ยอมเขาหรือเขาข่มเหง”

“เอ่อ...น้อ..น้องพายยอมเอง” 

“ถ้าอย่างนั้นเราสองคนบอกย่ามาซิว่าจะจัดการยังไง” คุณย่ายังคงเป็นคนที่จะการทุกอย่างๆ ใจเย็น

“ผมยินดีรับผิดชอบทุกอย่าง จะให้คุณแม่กับแด๊ดมาสู่ขอน้องเลยได้ไหมครับ”  อะไรกันครับคุณคิณ จะมามัดมือชกกันแบบนี้เลยเหรอ พึ่งตกลงเป็นแฟนกันเอง

“แต่มันจะทำให้น้องเสียใจถ้าต้องแต่งงานกัน”

“แล้วตอนนี้น้องเสียใจไหมซอง ที่เราบังคับน้องแบบนี้” เสียใจสิครับ ที่พี่ชายของผมไม่เข้าใจ แล้วยังว่าผมสารพัด

“ย่าจะบอกให้นะ ว่าย่าน่ะไม่รู้หรอกว่ารักแบบนี้เป็นยังไง แต่ในเมื่อน้องมีความสุขย่าก็ไม่อยากห้าม แล้วถ้าวันหนึ่งน้องจะผิดหวังเสียใจก็ปล่อยให้มันเป็นเรื่องของอนาคต แต่ตอนนี้น้องเรามีความสุขที่ได้อยู่กับคนที่เขารัก” คุณย่าอธิบายยืดยาวจนผมแทบกลั้นน้ำตาไว้ไม่ไหว

“เราตัดไฟตั้งแต่ต้นลมไม่ดีกว่ารึไงครับ น้องจะได้เสียใจน้อยที่สุด

“แล้วเรารู้ได้ยังไงว่าในอนาคตน้องจะต้องเสียใจ ตรงกันข้ามน้องอาจจะเป็นคนที่มีความสุขที่สุดก็ได้” คุณย่าดีที่สุดเลย รักคุณย่าที่สุด

“ผมไม่รู้แค่ไม่อยากให้น้องเสียใจ”

“แต่ตอนนี้คนที่ทำให้น้องเสียใจ ก็คือพี่ชายสุดที่รักของตัวเอง” พี่ซองหน้าซีด แทบสะอึกกับคำพูดของคุณย่า

“แต่ผม....” คราวนี้พูดไม่ออกจริงๆ แล้วครับ แต่สายตาที่มองมายังผมกับคุณคิณก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง เพียงแต่อาจจะไม่อยากทะเลาะกับคุณย่า

“ไม่มีแต่แล้วตาซอง เรื่องของคนสองคน ปล่อยให้เขาจัดการกันเอง” 

“ครับย่า”

“ส่วนคิณก็ตกลงกันเองว่าจะเอายังไง น้องพายด้วย” ย่าพูดแค่นั้นแล้วก็ลุกเดินเข้าครัวโดยมีพี่ซองพยุงไป เหลือแต่ผมกับคุณคิณที่นั่งมองหน้ากันอย่างงงๆ

“พายว่าไงครับ”

“ว่าอะไรครับ” ถามอะไรของเขา ผมไม่เข้าใจ

“ก็เรื่องที่ผมจะให้แม่กับแด๊ดมาสู่ขอพาย” ตอนนี้ผมตกใจยิ่งกว่าเห็นผีอีกนะครับ ตอนแรกนึกว่าเขาแค่พูดเพื่อแก้ปัญหา แต่นี่เอาจริงเหรอ

“จะบ้าเหรอครับ พึ่งคบกันยังไม่ข้ามวัน” ผมแหวเสียงดังใส่คนที่นั่งทำหน้าทะเล้นอยู่ข้างๆ ปากก็แตกแต่ไม่ได้สำนึกเลยใช่ไหม

“ถึงจะพึ่งคบกันเมื่อวาน แต่เอากันมาชาติเศษแล้วนะครับ” ประโยคหลังนี่เบาไปนะ แต่ผมก็ได้ยิน หยิกเข้าสีข้างเต็มแรง มีปากสักแต่ว่าจะพูด ไม่คิดใช่ไหมว่าคนอื่นน่ะเขาไม่หน้าด้านหน้าทนเหมือนตัวเอง

“โอ้ยๆๆๆ เจ็บครับ”

“จะทาไหมยา ถ้าไม่ทาก็ปล่อยไว้อย่างนี้แหละ”

“ทาครับที่รัก แฮ่ๆๆ” ลื่นกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว ยิ่งกว่าปลาไหลราดน้ำมันเสียอีก

“ถ้าทาก็เงียบๆ” ผมชี้หน้าคนตรงหน้าที่ทำหน้าเหมือนกลัวนักกลัวหนา  แต่ที่จริงเขาไม่ได้กลัวผมหรอกแค่ทำไปอย่างนั้น

“ครับ”  ผมหยิบกล่องประฐมพยาบาลออกมาทำแผลให้คนตรงหน้า นึกหมั่นใส่เลยเอาสำลีจิ้มลงไปแรงๆ ตรงแผล

“พายๆๆๆ ครับเจ็บ”  มองหน้าผมเคื่องๆ แต่มีเหรอผมจะสน สมน้ำหน้า อยากเอาหน้าไปรับหมัดพี่ชายผมทำไม

“คิคิ....” ผมอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา ก็ดูเขาทำหน้าสิ เหมือนเด็กน้อยขี้น้อยใจอย่างนั้นแหละ แต่ตังเองตัวยังกับหมียักษ์ ไม่น่ารักเหมือนเด็กหรอกนะ

“มีความสุขจังนะแกล้งผมได้”

“ครับๆ ไม่ทำแล้ว” ผมยิ้มให้คนที่ทำหน้าน้อยใจซะเต็มประดา

“แล้วจะให้แม่มาขอได้รึเปล่าเนี่ย” ยังไม่จบอีกนะครับ ไม่รู้ว่าอะไรของเขา ไอ้คุณคิณคนบ้า

“ผมยังไม่รู้จักคุณแม่กับแด๊ดคุณเลย ท่านอาจจะไม่ชอบผมก็ได้ อีกอย่างเราก็เป็นผู้ชายทั้งคู่” มันคือเรื่องจริงที่ท่านทั้งสองอาจจะไม่ชอบหน้าผม ท่านเป็นผู้ใหญ่อาจจะอยากมีสะใภ้ อยากมีหลานน่ารักๆ วิ่งเล่นในบ้าน

“ถ้าอย่างนั้นอาทิตย์ที่จะถึงนี้เข้าไปบ้านผมกัน ผมรับรองว่าแม่ผมท่านต้องรักพายเหมือนกับที่ผมรัก” มั่นใจจริงๆ เลยนะ
“ก็ได้ครับ แต่แม่คุณไม่โหดจริงๆ ใช่ไหม”
“กลัวเหรอครับ” สัมผัสเบาๆ จากมือใหญ่ที่ลูบหัวผม มันทำให้รู้สึกอบอุ่นเวลาที่คุณคิณทำแบบนี้

“อือ” พยักหน้าหงึกหงักสองสามที กลัวว่าไปหาท่านแล้วจะไม่ประทับใจ จะไม่ชอบขี้หน้าหรืออะไรก็แล้วแต่ที่เป็นผม

“ไม่ต้องกลัวหรอกครับ ถ้าแม่กับแด๊ดไม่ชอบ เดี๋ยวผมพายหนี”

“ใครเขาจะทำแบบนั้นเล่า”  กำปั้นน้อยๆ ยกขึ้นหมายจะทุบตรงอกแกร่ง แต่สงสัยผมจะใช้วิธีนี้บ่อยไป เขาเลยรู้ทันรีบรวบมือผมทั้งสองข้างดึงผมเข้าไปแนบอก สัมผัสแผ่วเบาจากริมฝีปากได้รูปจรดตรงหน้าผากมนอย่างนุ่มนวล  จากที่ตอนแรกผมคิดจะขัดขืนกลับยอมให้คุณคิณสัมผัสอยู่อย่างนั้น

“ไม่ต้องกลัวครับ แม่ผมต้องรักพายแน่นอน เชื่อผมนะครับ”

“ครับ พายเชื่อคุณคิณ” ตอนนี้ผมไว้ใจคุณคิณเต็มร้อยครับ ไม่ว่าเขาจะพาผมไปไหน ผมยอมที่จะเดินตามเขา ตลอดเวลาที่เรารู้จักกัน แม้เวลามันจะแค่สั้นๆ แต่เขาก็แสดงความจริงใจให้ผมเห็นตลอดมา
***************************************

วันหยุดอยู่บ้าน ตื่นมาแต่งนิยายแต่เช้า ทั้งวันได้แค่นี้แหละ อ่านตอนนี้แล้วเหมือนเรื่องใกล้จะจบเลยเนอะ5555 สนุกไหมๆ คุณคิณน่ารักเนอะ คิดชื่อตอนไม่ออกเลย ช่วยคิดให้หน่อยค่ะคนอ่านที่น่ารักทุ๊กกกคน กราบเบญจางคประดิษฐ์สามที :monkeysad: :3123:



                TBC.
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน15 คิดชื่อตอนไม่ออก P.5 (22/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 22-02-2016 17:20:53
น่ารักจังเลย อยากอ่านต่อแล้ว
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน15 คิดชื่อตอนไม่ออก P.5 (22/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 22-02-2016 18:23:50
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน15 คิดชื่อตอนไม่ออก P.5 (22/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 22-02-2016 18:46:06
 :L2: :pig4:

ชื่อตอนคือ พี่ซองจอมหาเรื่อง!
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน15 คิดชื่อตอนไม่ออก P.5 (22/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 22-02-2016 19:11:32
น้องพายน่ารัก เรียกพี่คิณได้แล้ว จะได้เป็นฝั่งเป็นฝาแล้ว
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน15 คิดชื่อตอนไม่ออก P.5 (22/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Kalamall ที่ 22-02-2016 21:37:56
พาเข้าบ้านเลย   :hao3:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน15 คิดชื่อตอนไม่ออก P.5 (22/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Peung002 ที่ 22-02-2016 22:35:59
พี่ซองขา ก็เข้าใจว่าพี่เป็นห่วงน้องพาย แต่ปล่อยน้องให้ไปมีความสุขเถอะ จะสุขจะทุกข์ก็ให้เค้าเลือกเองเนอะ คอยประคับประคองอยู่ห่างๆก็พอ

ตอนนี้พี่คิณเท่ห์มากเลยค่ะ ปกป้องน้องพายสุดๆ  :-[ คถณย่าขายกน้องพายให้พี่คิณไปเลยค่ะ  :laugh:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน15 คิดชื่อตอนไม่ออก P.5 (22/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 22-02-2016 22:46:28
 :hao3:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน16 ศัตรูหัวใจ P.6 (24/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: MooKratai ที่ 24-02-2016 23:21:52
หลานคุณย่า16 ศัตรูหัวใจ


คิณ(Part)

 
ตอนนี้ผมกับพายเริมคบกันจริงจังมากขึ้นแล้วครับ จนตอนนี้ผมเริ่มคิดไปอีกก้าวแล้ว อยากแต่งงานว่ะ แค่คิดว่าชีวิตทุกๆ ที่มีพายอยู่ข้างๆ มันจะวิเศษขนาดไหน อาทิตย์ที่ผ่านมาเราตกลงว่าจะไปบ้านหาแม่กับแด๊ดผม แต่ก็มีอันต้องเลื่อน เพราะท่านทั้งสองไปฮันนีมูนกันอีกแล้ว ไม่รู้ว่ารอบที่เท่าไหร่แล้วบทจะสวีทนี่หวานกว่าวัยรุ่นซะอีก แต่อย่าให้หม่อมแม่ผมโมโหนะครับ แด๊ดก็แด๊ดเถอะไปไม่เป็นเลย

 
ถึงตอนนี้ผมจะยุ่งมากแค่ไหน ผมก็จะต้องปลีกเวลาไปหาพาย หรือถ้าไปไม่ได้จริงๆ ก็จะโทรศัพท์หาเสียมากกว่า วันนี้ก็เหมือนกัน ผมมีประชุมตั้งแต่เช้า จนตอนนี้บ่ายกว่าแล้วแต่ยังตกลงกันไม่ได้ ก็งานเดิมๆ กับคุณรตีนั่นแหละครับ ตอนนี้ผมเริ่มะรู้แล้วว่าคิดผิด ที่ยอมลงทุนร่วมกับเขา ดีแต่สร้างปัญหา

 

                “คุณรตีครับผมว่าคุณควรจะศึกษาหัวข้อการประชุมด้วยนะครับ ก่อนที่จะเข้าประชุม” ผมต่อว่าอย่างไม่คิดจะเกรงใจ เหล่าบรรดาคณะกรรมการบริหารเลยแม้แต่น้อย

 

“ก็รตีไม่มีความรู้เรื่องนี้นิคะ อ่านไปก็ยังไม่เข้าใจ รบกวนคุณคิณช่วยอิบายรตีนอกรอบได้ไหมคะ”  เธอหันมาเล่นหูเล่นตากับผม โดยไม่ได้คิดจะสนใจอารมณ์ผมในตอนนี้เลยด้วยซ้ำ

 

“ผมไม่สะดวกหรอกครับ แต่ผมมีลูกน้องเก่งๆ หลายคน เดี๋ยวส่งไปสอนงาน จะได้ไม่เสียเวลาคนอื่นเขา”

 

“แต่รตีอยากให้คุณคิณสอนนี่คะ”

 

“งานผมเยอะครับ เยอะจนล้นมือไปหมด ให้ผู้ช่วยส่วนตัวผมไปสอนน่ะดีแล้ว คุณจะได้ๆ ความรู้ เผลอๆ เขาเก่งกว่าผมอีก” ผมผ่านผู้หญิงมาแทบจะทุกรูปแบบมีเหรอจะไม่รู้ว่าเธอหวังอะไร แต่ผมไม่มีทางสร้างฝันลมๆ แล้งๆ ให้กับเธอหรอก

 

 

“ก็ได้ค่ะ” ตอบรับเสียงอ่อยๆ อย่างไม่มีทางเลือก

 

“ดีครับ งานของเราจะได้เดินต่อไปซะที รู้สึกว่าจะหยุดนิ่งอยู่นานแล้วกับแค่หัวข้อประชุมเล็กๆ ยังสรุปไม่จบซะที” ผมรู้ว่าเหล่าบรรดากรรมการก็รู้สึกเหมือนผม แต่ไม่มีใครกล้าพูด เพราะเธอเข้ามาในฐานะหุ้นส่วนของผม ไม่ได้เป็นแค่กรรมการทั่วไป อำนาจการตัดสินใจเธอจึงมีพอๆ กับผม

 

“บ่ายแล้วเราไปทานข้าวกันนะคะ รอบที่แล้วคุณก็เบี้ยวรตี” เธอพูดเสียงอ่อนเสียงหวาน จนผมรู้สึกเลี่ยนกับการกระทำของเธอ

 

“แต่ผมมีนัดแล้ว”

 

“ให้รตีไปด้วยไม่ได้เหรอคะ รตีไม่มีเพื่อนทานข้าว” ยังคงตื้อไม่เลิกครับ

 

“ถ้าคุณรู้ว่าผมไปที่ไหน คุณคงไม่อยากไป”

 

“รตีไปได้หมดค่ะ ขอแค่คุณคิณให้ไปด้วยก็พอ”

 

“ก็ตามใจครับ” ผมเริ่มที่จะรำคาญกับผู้หญิงตรงหน้าอย่างมาก จึงตัดบทไป

 

“รตีไปรถคุณนะคะ” ทั้งๆ ที่เธอก็มีรถส่วนตัวแต่กลับมาขอไปกับผม ทำไมถึงเป็นผู้หญิงที่น่าเบื่อน่ารำคาญขนาดนี้นะ

 

 ผมไม่ได้ปฎิเสธ ให้เธอนั่งรถไปด้วย ตลอดทางเธอพูดเจื้อยแจ้วไปเรื่อย ไม่ค่อยจะมีสาระจนผมอยากจะหาอะไรมาปิดปากเธอไว้จริงๆ จนกระทั่งถึงร้านเค้กของคนตัวเล็ก ผมจึงนำรถเข้าไปจอดที่ลานจอดรถของร้าน

 

“คุณคิณมาที่นี่อีกทำไมคะ” เธอแหวขึ้นเสียงดัง ทำให้ผมแสดงสีหน้าให้เธอรู้ว่าผมไม่พอใจเป็นอย่างมาก

 

“ผมบอกคุณแล้วไง แต่ก็ดันทุรังจะมาให้ได้” ผมไม่ใช่คนใจเย็นนะครับ ยิ่งกับคนที่ผมไม่คิดจะสนใจนี่ อย่าคิดจะมาแสดงท่างทางแบบนี้ใส่ผม

 

“ไม่เป็นไรค่ะรตีไปกับคุณก็ได้”

 

“งั้นก็เชิญครับ” ผมผายมือให้เธอเดินนำไปก่อน ผมจึงเดินตามไปอยู่ห่างๆ ไม่อยากให้พายไม่สบายใจ

 

บราวนี่ยังนั่งจองตำแหน่งแคชเชียร์เหมือนเดิม  เด็กๆ คนอื่นในร้านก็พากันบริการลูกค้าอย่างใจเย็น  พายน่าจะอยู่ข้างในครัวเหมือนทุกครั้ง

 

“พายอยู่ไหนครับน้องบราว” คนที่มัวแต่ก้มหน้าก้มตาเล่นโทรศัพท์เงยหน้าขึ้นมายิ้มก่อนที่จะยกมือไหว้เหมือทุกครั้ง สายตาคนตัวเล็กมองเลยไปที่ผู้หญิงอีกคนที่มากับผม

 

“พี่พายคุยอยู่กับลูกค้า โต๊ะนั้นครับ” ผมหันไปมองตามมือน้องบราวที่ผายออกไป ผู้ชายคนเดียวกันกับวันนั้น คนที่มองพายด้วยสายตากรุ้มกริ่ม แต่วันนี้เขามาคนเดียว สงสัยจะออกตัวแล้วสินะ ว่าไม่ได้มีจุดประสงค์แค่มาเป็นลูกค้าอย่างเดียว

 

“อ้อ!” ผมตอบแค่นั้น

 

“คุณรตีจะทานอะไรไหมครับ” ผมหันไปถามคนที่ทำหน้าเชิดอยู่ข้างๆ จนผมเองยังรู้สึกหมั่นใส้ เกิดมายังไม่เคยรู้สึกกับผู้หญิงคนไหนแบบนี้เลยครับ จนมาเจอผู้หญิงแบบคุณรตีนี่แหละ

 

“ไม่อยากทานค่ะ”

 

“ถ้าอย่างนั้นคุณคงต้องนั่งรอตรงนี้แล้วล่ะครับ ผมขอไปหาแฟนผมก่อน”

 

“ฟะ...แฟนคุณคิณ” เสียงเธอขาดหายไปตลกดีครับ หน้าเสียเลยคราวนี้ ผมไม่สนใจเดินไปหาพายก่อนที่จะโดนไอ้ผู้ชายคนนั้นมาคาบเมียผมไป ดูมันมองพายสิ ผมอยากเอาอะไรสักอย่างไปควักลูกตามันจริง ส่วนคนตัวเล็กของผมก็ไม่ได้รู้เรื่องอะไรกับเขาหรอก หัวเราะมีความสุขอย่างเดียว

 

ผมสาวเท้ายาวๆ แค่ไม่กี่ก้าวก็ถึงโต๊ะที่พายนั่งอยู่ พายไม่เห็นผมเพราะมันมีเสาต้นใหญ่บังอยู่ จนกระทั่งผมเดินไปหยุดอยู่หน้าคนทั้งคู่

 

“ที่รักครับ” ผมพูดไม่ค่อยจะเบานัก น่าจะพอได้ยินกันทั้งร้าน จนพายหันมาค้อนผม แต่มีเหรอผมจะสน  นั่งลงเก้าอี้ว่างข้างๆ พายเลยครับ จนคนตัวเล็กอ้าปากพะงาบๆ ว่าผมเสียมารยาท

 

“สวัสดีครับคุณ.....” ผมเป็นฝ่ายเอ่ยกับบุคคลแปลกหน้าขึ้นก่อน จนเขาหันมาทักผมตอบแทบไม่ทัน แต่สายตาที่เขามองผมนี่คงสงสัยอย่างมากว่าผมเป็นใคร

 

“สวัสดีครับ ผมทิม” เขาแนะนำตัว ยื่นมือมาจับกับผม ผมก็ไม่ขัดครับจับก็จับ ก่อนที่ผมจะหันไปหาเจ้าของหัวใจของผมที่นั่งหน้างออยู่ข้างๆ

 

“พายครับหิวข้าว” รู้ครับว่ามันไร้สาระที่หิวข้าวก็บอกเมีย อย่าบอกพายนะครับว่าผมเรียกเขาว่าเมีย เดี่ยวจะงอน

 

“ยังไม่ได้ทานมาล่ะครับ ทำอะไรอยู่ นี่มันจะบ่ายสองแล้ว” เขาหันมาถามผมทั้งๆ ที่ยังเคืองๆ อยู่  แต่ผมก็รู้สึกดีนะ ตลอดเวลาที่รู้จักกันมา เขาห่วงผมเสมอ

 

 ผมยังจำวันแรกที่ผมมาตั้งเฝ้าเขาทั้งวันได้ดี  เขาทำไข่เจียวให้ผม เพราะความเป็นห่วง ทั้งๆ ที่เราสองคนไม่ได้เป็นอะไรกัน

 

“พึ่งประชุมเสร็จเลยรีบมาหาที่รัก” ผมทำสายตาอ้อนที่สุดเท่าที่คิดว่าตัวเองทำแล้วน่ารัก ไม่สนหรอกว่าใครจะมองผมอยู่ แต่ผมทำกับคนที่ผมรัก  ไม่ได้ทำให้พวกเขา

 

“เดี๋ยวพายเจียวไข่ให้นะครับ ไม่มีกับข้าวเลย ทำไมไม่โทรบอกก่อนที่จะมา” บ่นไปเรื่อยเลยครับ เขาคงลืมตัวว่ามีคนอื่นนั่งอยู่ด้วย

 

“ครับๆ”

 

“อุ้ย! พายขอโทษนะครับพี่ทิม ลืมเลยว่านั่งอยุ่ตรงนี้” คนฟังหน้าเสียไปเลยครับคราวนี้

 

“พายลืมแนะนำเลยครับ นี่คุณคิณเป็น....” พายยังพูดไม่จบ ผมตอบแทนเองครับ

 

“เป็นแฟนพายครับ” ถ้ายังไม่ชัดจะบอกให้ชัดกว่านี้ก้ได้นะว่าเป็นผัว คำหลังนี่เก็บไว้พูดในใจครับ แต่นิ้วเล็กๆ นี่โผล่มาจากไหนไม่รู้ครับ หยิกเข้าต้นขาของผมที่อยู่ใต้โต๊ะ แสบใช่ย่อยครับที่รักของผมเนี่ย

 

“อ๋อ! ครับ” ไอ้คุณทิมมันตอบแค่นั้นครับ สงสัยจะอึ้งอยู่

 

“ถ้าอย่างนั้นพายขอตัวก่อนนะครับ” เขาลุกขึ้นพร้อมกับดึงผมให้เดินตาม ส่วนผมก็ได้แต่โค้งให้คุณทิมเพื่อเป็นการกล่าวลา เราสองคนเดินตรงไปยังอีกมุมของร้านซึ่งมีอีกหนึ่งตัวปัญหาที่นั่งหน้าเชิดอยู่ ผมบอกให้พายรู้แล้ว คนตัวเล็กก้ไม่ได้ว่าอะไร แต่ท่าทางดูจะเครียดลงไปในทันที

 

“พายครับเป็นอะไรรึเปล่า” ผมดึงพายให้หยุดก่อนที่เราจะหันมาคุยกันเบาๆ

 

“ไม่เป็นไรครับ คุณคิณไม่ต้องห่วงนะ” ผมยกมือลูบหัวคนข้างๆ อย่างเอ็นดู ส่วนเขาก็หันมายิ้มบางๆ ให้กับผม พายน่ารักว่ะ

 

“คนดีของคิณ”

 

“เวอร์อีกแล้ว” เขาว่าผมยิ้มๆ เขินอีกแล้วล่ะสิ

 

ก่อนที่เราสองคนจะเดินตรงไปหาคุณรตี ที่หันมามองเราสองคนเหมือนกัน แต่ดูเธอจะจ้องพายเสียมากกว่า จนผมเริ่มจะรู้สึกไม่พอใจสายตาที่เธอมองพาย

 

“สวัสดีครับ” พายเป็นฝ่ายทักคุณรตีก่อน

 

“สวัสดีค่ะ”  แม้ว่าจะทักกลับ แต่เสียงเธอนี่ห้วนจริงๆ ครับ

 

“ทานอะไรมารึยังครับ รับเค้ก หรือเครื่องดื่มอะไรไหมครับ” พายยังคงยิ้ม ให้กับเธอเหมือนเดิม แม้ว่าคนตรงหน้าจะไม่สนก็ตาม

 

“ฉันไม่หิว คุณคิณคะรตีอยากไปทานอาหารที่ร้านXX ที่เราเคยไปคราวที่แล้วน่ะค่ะ” พูดอย่างนี้จะทำให้พายเข้าใจผิดแล้วโกรธผมใช่รึเปลา

 

“ร้านที่เรานัดเจรจาลงทุนร่วมกันเมื่อสี่เดือนที่แล้วน่ะเหรอครับ” เอาให้ชัดเจนที่สุดครับ จะได้รู้ตัวว่าตัวเองเป็นใคร แล้วพายเป็นใคร

 

“เอ่อ...ค่ะ” เพราะนอกจากครั้งนั้นแล้ว ไม่เคยมีแม้แต่ครั้งเดียวที่ผมจะตอบรับคำเชิญของเธอ

 

“แต่วันนี้ผมอยากทานไข่เจียวฝีมือพายครับ คุณรตีจะทานด้วยกันรึเปล่า”

 

“อะไรนะคะ ไข่เจียว” จะเสียงสูงไปไหนครับคุณ แสบแก้วหู

 

“ทานไหมครับ” ผมถามแค่นี้แหละครับ ไม่ได้บังคับให้มาด้วย อยากทานก็ทานไม่อยากทานก็แล้วแต่

 

“ถ้าอย่างนั้นพายโทรสั่ง กับข้าวอย่างอื่นเพิ่มดีไหมครับ คุณรตีอยากทานอะไรครับ” จะใจดีกับคนไปทั่วเกินไปแล้วนะครับ

 

“แต่ผมหิวแล้ว” เป็นผมที่เริ่มงอนพาย

 

“ถ้าอย่างนั้นผมเจียวไข่ให้คุณคิณทานก่อน แล้วโทรสั่งอาหารให้คุณรตีอีกทีนะครับ”  เขาหันมายิ้มบางๆให้กับผม จนผมต้องยิ้มตาม

 

“คุณรตีจะรออยู่นี่หรือเข้าไปในครัวกับเราครับ”

 

“ไม่ไปค่ะ เดี๋ยวเหม็น” ดีเหมือนกันผมจะได้อยู่กับพายสองต่อสองซะที อยากกอด อยากหอมจะแย่ ผมดึงมือพายให้เดินตามเลยครับคราวนี้  ไม่อยากช้าแม้แต่วินาทีเดีว

 

“จะรีบไปไหนครับ” ร่างเล็กหันมาว่าผมเบาๆ

 

“ก็หิวนี่นา”

 

“ครับๆ ตอกไข่ใส่ชามให้หน่อยครับ จะเอากี่ใบ”

 

“สาม”

 

“เยอะไปไหมครับ”

 

“นะครับที่รัก” ไม่ได้พูดอย่างเดียวครับ มือผมก็ตอกไข่ใส่ชามไปแล้วครับสามฟอง ผมมีทักษะในการตอกไข่แล้วนะครับ จากการสอนของมืออาชีพอย่างสุดที่รักของผมเอง

 

“ไม่ต้องขอแล้วมั้งครับ” ผมขยับเข้าไปไกล้ขโมยหอมแก้มพายไปฟอดใหญ่ ชื่นใจที่สุดครับงานนี้ งานนี้ เลยโดนตอบแทน ด้วยหน้าบึ้งๆ ของคนข้างๆ ที่มองยังไงก็น่ารัก โคตรรักโคตรหลงเลยว่ะคนนี้

 

“แหะๆ”

 

ผมทานข้าวเสร็จแล้วก็ไม่ได้ทำอะไรแล้วครับ นั่งเล่นรอพายอย่างเดียว วันนี้ผมไม่มีงานอะไรที่สำคัญแล้ว ส่วนพายก็จัดการเรื่องอาหารให้กับคุณรตี  เตรียมให้ทุกอย่าง แม้กระทั่งเครื่องดื่มก็ยังหามาบริการเอง

 

ส่วนน้องๆ นี่ก็เอาแต่ห้ามพายอย่างเดียว คนตัวเล็กก็ไม่สน  บอกว่าเขาเป็นผู้หญิงต้องคอยดูแล อีกทั้งไม่รู้จักใครมานั่งคนเดียวคงเหงา เลยเข้าไปชวนเธอคุยนั่นคุยนี่ทั้งๆ ที่อีกคนไม่มีท่าทีจะอยากคุยด้วยเลยสักนิด

 

ผมก็ไม่อยากยุ่งครับ ปล่อยให้พายจัดการเอง คุณรตีเธอจะได้รู้เสียทีว่าทำไมผมจึงรักผู้ชายตัวเล็กๆ คนนี้ เพราะความที่พายไม่เหมือนใครไง ทำหลายๆ อย่างที่เราคาดไม่ถึง  อย่างเช่นเรื่องที่ทำอยู่ตอนนี้ เป็นห่วงทุกคนแม้กระทั่งคนที่เขาเกลียดตัวเอง

 

ผมอยู่จนพายปิดร้าน อีกทั้งยังอาสาที่จะไปส่งเขาด้วย เรากำลังเดินมาที่รถของผม  พายเดินตามมาเงียบๆด้านหลัง  ส่วนคุณรตีนี่ก็เกาะแขนผมจัง เป็นปลิงรึไง

 

“คุณรตีนั่งด้านหลังนะครับ” ผมเปิดประตูรถด้านหลังออก ก่อนที่จะหันไปบอกกับเธอ ที่ตอนนี้ทำอะไรไม่ถูกเพราะโดนผมมัดมือชก เธอนั่งลงเบาะหลังเงียบๆ เพราะผมรู้ว่าเธอค่อนข้างเสียหน้า แต่ก็ทำอะไรไม่ได้

 

ผมหันมาหาพายที่ตอนนี้บ่นผมใหญ่เลย ว่าผมแกล้งคุณรตี เธอน่าสงสารอย่างนั้นอย่างนี้ แต่คุณรตีไม่ได้ยินหรอกครับ เพราะผมปิดประตูรถไปแล้ว

 

รถยุโรปคันหรูมุ่งตรงไปยังบริษัทของผมก่อน เพื่อไปส่งคุณรตีให้ไปเอารถตัวเองที่จอดไว้ที่ลานจอดรถ จนกระทั่งรถของเธอเคลื่อนออกไปผมจึงขับรถไปส่งพายที่บ้าน

 

“คุณคิณนิสัยไม่ดี”

 

“ไม่ดีเรื่องอะไรล่ะครับ” ผมรู้แหละว่าเขาหมายถึงเรื่องอะไรแต่ก็แกล้งไปอย่างนั้น

 

“อย่าทำเป็นไม่รู้เรื่องเลย แกล้งคุณรตีทั้งวันเลยนะครับวันนี้”

 

“รู้ได้ไง ผมออกจะเป็นสุภาพบุรุษ”

 

“ครับ คุณสุภาพบุรุษ” บทสนทนาของเราดำเนินต่อไปเรื่อยๆ จนผมส่งเขาถึงบ้าน แต่ไม่ได้แวะเข้าไปด้านใน เพราะดึกมากแล้ว ก่อนที่เขาจะบอกผมให้โทรหาถ้าถึงคอนโดแล้ว ผมก้มไปจุ๊บเหม่งพายเบาๆ รอให้เขาเปิดประตูเข้าบ้านไป ผมจึงตรงกลับคอนโดด้วยหัวใจที่พองโต มีความสุขแทบบ้า

 

 

*******************************

มาดึกเลยวันนี้  แต่งเอง งงเอง  เนื้อหาตอนนี้เหมือนมันไม่ค่อยสมูทเท่าไหร่ แต่งไปแก้ไปหลายรอบ สนุกไม่สนุกบอกได้นะคะ ไว้แก้ตัวตอนหน้าเนอะ  ฝันดีๆๆๆ :katai5: :katai5:



                             TBC.
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน16 ศัตรูหัวใจ P.6(24/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 25-02-2016 00:50:44
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน16 ศัตรูหัวใจ P.6(24/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 25-02-2016 03:37:32
เข้าใจพี่ซองนะที่ห่วงและหวงน้องพาย แต่เรื่องของความรักเป็นเรื่องของคนสองคน ปล่อยให้เขาทั้งคู่ทำความเข้าใจและจับมือกันเดินก้าวข้ามผ่านปัญหาต่างๆ ด้วยกันเองดีกว่านะครับ ส่วนพี่น้องและครอบครัวแค่คอยดูแลอยู่ห่างๆ ดีกว่านะครับ
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน16 ศัตรูหัวใจ P.6(24/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 25-02-2016 07:19:31
พี่ซองมีเหตุผลหน่อยค่ะ  :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน16 ศัตรูหัวใจ P.6(24/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: milin03 ที่ 25-02-2016 10:07:04
 :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน16 ศัตรูหัวใจ P.6(24/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Dee^daY ที่ 25-02-2016 12:39:27
น่ารัก ..
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน16 ศัตรูหัวใจ P.6(24/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 25-02-2016 18:22:06
คิณน่ารักได้อีก  :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน16 ศัตรูหัวใจ P.6(24/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 26-02-2016 10:27:37
 :mew1:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน16 ศัตรูหัวใจ P.6(24/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 26-02-2016 12:10:08
คุณคินชัดเจนมาก น้องพายก็น่ารัก  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน17P.6(26/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: MooKratai ที่ 26-02-2016 22:23:07
หลานคุณย่า17........

พาย(Part)

             

  ตอนนี้ผมยืนอยู่หน้าบ้านหลังใหญ่ พร้อมกับคุณคิณที่จับมือผมไว้ ยิ้มอ่อนโยนส่งมาให้ผม แต่กลับไม่ทำให้ผมสบายใจขึ้นมาสักนิด เพราะความกังวลที่อัดแน่นอยู่ในอกมาตลอดอาทิตย์ ตอนแรกที่การนัดหมายถูกเลื่อนออกไป ผมยอมรับเลยว่าดีใจจนบอกไม่ถูก ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากมาหาแม่กับแด๊ดของคุณคิณ แต่ผมกลัวท่านจะไม่ชอบผม กลัวท่านจะรับไม่ได้ที่ลูกชายนเดียวของบ้านมีแฟนเป็นผู้ชาย

 

แต่ความดีใจของผมก็อยู่เพียงแค่ไม่นาน ยิ่งใกล้วันผมก็ยิ่งกังวล  แม้กระทั่งตอนนี้ที่มีคุณคิณยืนกุมมือผมไว้แบบนี้ เวลามันใกล้เข้ามาจนผมกลัว

 

“มือเย็นจัง” คุณคิณยกมือข้างที่ยังว่างอยู่มาลูบมือผมเบาๆ

 

“พายกลัวท่านไม่ชอบพายจัง”

 

“คิดมากมาทั้งอาทิตย์แล้วนะครับ เรื่องจริงอยู่ตรงหน้าแล้ว เราจะผ่านมันไปด้วยกันนะครับ” คุณคิณพาผมเดินตรงมายังห้องรับแขก ที่ตอนนี้มีแม่กับแด๊ดคุณคิณนั่งรออยู่ก่อนแล้ว

 

“แม่ครับ แด๊ด  นี่พายคนรักของผม”

 

“สวัสดีครับ” ผมไหว้ท่านทั้งสองก่อนที่จะหันไปสบตากับแม่คุณคิณ ท่านเป็นผู้หญิงวัยกลางคนที่ดูสาวและสวยกว่าอายุจริงอยู่มาก แต่แววตาแฝงไปด้วยความน่ากลัวจนผม ได้แต่กุมมือทั้งสองข้างแน่นขึ้นอีก

 

“มาถึงแล้วก็นั่งสิยื่นค้ำหัวผู้ใหญ่ทำไม”  ท่านมองผมด้วยสายตาที่ทำให้ผมต้องสะอึก ส่วนคนตัวโตก็ดึงผมให้นังโซฟาเดี่ยวฝั่งตรงข้ามกับแม่คุณคิณ ส่วนแด๊ดท่าทางดูสบายๆ ทำให้ผมหายใจโล่งไปอีกนิด

 

“แม่อย่าเสียงดังใส่แฟนผมสิ” พูดอะไรของคุณเนี่ย ไม่ดูหรือไงว่าแม่ตัวเองส่งสายตาพิฆาตมาให้ผม

 

“ทำไม? แตะไม่ได้เลยใช่ไหมแฟนแกเนี่ย แล้วคิดเหรอว่าฉันจะยอมรับ” น้ำเสียงต่อว่าลูกชายตัวเอง แต่หันหน้าส่งสายตามองมาทางผม

 

“ไม่ใช่อย่างนั้นซะหน่อยครับแม่”

 

“คนนี้น่ะเหรอที่ทำให้แกถึงกับแอบขโมยดอกกล้วยไม้ไปให้” ท่านคงพาลโกรธผมไปด้วยแล้วแน่ๆ ยังมาถึงไม่ทันไรท่านก็มีท่าทีว่าจะไม่ชอบผมซะแล้ว

 

“ก็ใช่นะสิครับ น่ารักเหมือนที่บอกไว้ไหม” ผมได้แต่นั่งก้มหน้า ไม่กล้าหันไปสบตาใคร ภายในใจนี่สั่นจนแทบอยากจะควักออกมาโยนทิ้งให้รู้แล้วรู้รอด

 

“ตรงไหนที่แกว่าน่ารัก ที่ฉันเห็นตรงหน้าก็แค่เด็กผู้ชายคนหนึ่ง ที่ตรงข้ามกับคำที่แกพูดโดยสิ้นเชิง”

 

“แม่ทำไมว่าพายแบบนั้น” คุณคิณตะโกนเสียงดังใส่หน้ามารดาบังเกิดเกล้า  จนผมต้องยกมือไปจับแขนคุณคิณเพื่อเป็นการปรามไม่ให้เขาเสียมารยาทกับแม่ตนเอง

 

“แกกล้าขึ้นเสียงใส่ฉันเหรอตาคิณ ที่ผ่านมาฉันไม่เคยห้าม แกจะเจ้าชู้เสเพลมากแค่ไหน จะมั่วทั้งผู้หญิงหรือผู้ชายฉันก็ไม่เคยว่า เพราะฉันคิดว่าแกแค่เล่นๆ แต่นี่แกถึงกับพามาเปิดตัว ฉันรับไม่ได้” คำพูดทุกคำยังคงดังก้องอยู่ในหัวผม  สายตาที่ท่านมองทำให้ผมแทบกลั้นหยดน้ำใสๆ ที่จ่อหน่วยตาไว้ไม่ไหว

 

“ทำไมแม่ไม่เปิดใจให้พายบ้างครับ ยังไม่รู้จักเลยก็อคติ”

 

“ฉันต้องการลูกสะใภ้ ไม่ได้ต้องการคู่นอนของแก” ผมทนต่อไปไม่ไหวแล้ว ใครก็ได้มาพาผมออกไปจากความกดดันตรงหน้าที

 

“พอแล้วน่าคุณ” คำกล่าวสั้นของแด๊ดไม่ได้ทำให้แม่คุณคิณใจเย็นลงเลยสักนิด เหมือนจะเพิ่มระดับความโมโหแล้วด้วยซ้ำ

 

“นั่งเฉยๆ อย่ายุ่ง” น้ำใสๆ หยดน้อยเริ่มไหลคลอจากหน่วยตาของผม ก่อนที่จะหยดลงกระทบกับมือบางที่วางไว้บนตัก ผมไม่กล้าแม้แต่จะยกมือขึ้นมาเช็ดมันออกจากใบหน้า ได้แต่ปล่อยให้มันไหลอยู่อย่างนั้น

 

“แม่เลิกดูถูกพายสักที เห็นไหมว่าพายเขาร้องให้แล้ว”

 

“ทำไมแค่ฉันว่าแค่นี้ก็ทนไม่ได้ รักกันมากนักรึไง แม่บอกแกแล้วนะว่าแม่ไม่ยอมที่จะใหแกมีเมียเป็นผู้ชายเด็ดขาด” ทำไมท่านถึงเกลียดผมมากขนาดนี้ ทั้งๆ ที่เราพึ่งจะเคยเจอหน้ากันครั้งแรก ถ้าผมมาหาท่านในฐานะอื่นยังจะพูดแบบนี้กับผมไหมนะ คุณคิณกำมือผมแน่น คงจะโมโหเหมือนกัน

 

“.............” ไม่มีเสียงสะอื้นจากผม มีเพียงน้ำตาเท่านั้นที่บ่งบอกว่าผมไม่ได้อยู่ในอารมณ์ปกติ

 

“แล้วมานี่ไม่คิดจะพูดอะไรหน่อยเหรอหรือว่าเป็นใบ้ แล้วก็ช่วยเงยหน้าขึ้นด้วย ก้มอย่างนั้นมันเสียมารยาท” แม้ว่าสองแก้มของผมจะยังมีน้ำตา แต่ผมก็จำต้องเงยหน้ามองท่าน จะให้ผมพูดอะไร ผมมีสิทธิ์พูดเหรอ ถึงจะให้พูดจริงๆ ก็คงไม่รู้จะพูดอะไรให้ทุกอย่างมันดีขึ้น

 

“คะ...ครับ” ผมตอบไปแค่นั้นแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ ตาผมพร่าเพราะหยาดน้ำตาเกาะแพรขนตา จนไม่สามารถมองเห็นว่าคนตรงหน้ามองผมด้วยสายตาแบบไหน  แต่ไม่ต้องอธิบายอะไรผมก็พอจะเข้าใจหมดแล้ว

 

อยากกลับบ้านแล้ว ไม่อยากเผชิญเรื่องบ้าๆ แบบนี้ ทั้งๆ ที่เตรียมใจมาแล้ว พร้อมที่จะเผชิญกับเรื่องที่จะเกิดขึ้น แต่พอถึงเวลาจริงๆ กลับทำไม่ได้อย่างที่ใจคิด ผมมันก็แค่คนอ่อนแอ ขี้ขลาด ไม่กล้าที่จะต่อสู้เพื่อความรักของผมเอง

 

“นายรู้ใช่ไหมว่าฉันเหลือลูกชายคนเดียว แล้วฉันก็ต้องการให้ลูกของฉันใช้ชีวิตปกติแบบคนทั่วไป ไม่ใช่ผิดที่ผิดทางแบบนี้” ผมพยักหน้าสองสามทีเหมือนเข้าใจ แต่ความจริงไม่เข้าใจอะไรเลยในตอนนี้

 

“แม่ครับผมกับพายเราไม่ได้ผิดปกติ” การที่ผู้ชายรักกับผู้ชายมันผิดธรรมชาติผมรู้ แต่จะให้ทำยังไงในเมื่อหัวใจมันห้ามไม่ได้

 

“พูดสิ ฉันให้โอกาสเธอพูด นั่งเงียบทำไม”

 

“ผะ..ผมขอโทษที่ทำให้ลูกชายคุณป้าเป็นแบบนี้”  ผมยกมือไหว้ผู้ใหญทั้งสอง เพื่อขอขมากับความผิดของตนเอง

 

“ฉันไม่ใช่ป้าเธอ เรียกันว่าคุณผู้หญิง”

 

“คะ..ครับ”

 

“พายไม่ได้ทำให้ผมเบี่ยงเบน ผมไม่ได้รักที่เพศ  ผมรักที่ตัวตนของพาย ไม่ว่าพายจะเป็นหญิงหรือชายผมก็รัก” คุณคิณพยายามเพื่อความรักของเราสองคน แต่ผมกลับอยากถอยออกไปจากตรงนี้ ไม่อยากให้ใครมาว่าๆ ผิดปกติ

 

ผมไม่โกรธท่านหรอกที่จะรังเกียจผม ไม่ว่าใครก็คงรับไม่ได้ ผมอ่อนแอเกินกว่าจะเผชิญเรื่องตรงหน้า ต้องให้ผมมานั่งสู้รบกับแม่แฟนผมทำไม่ได้จริงๆ ผมรู้ว่าท่านก็รักลูกชายของท่าน จึงไม่กล้าที่จะทำร้ายความรู้สึกของบุพการีของคนรัก

 

“คุณผู้หญิงไม่ยอมรับผมใช่ไหมครับ” ผมเอ่ยออกมาทั้งๆ ที่คราบน้ำตายังเต็มหน้า

 

“ถ้าฉันบอกว่าใช่ล่ะ” ท่านเป็นคนที่ตรงมากจนผมกลัวที่จะรับคำพูดแรงๆ ไม่ได้ แต่ผมก็ยังแปลกใจว่าทำไมผมยังนั่งอยู่ตรงนี้

 

“ในเมื่อท่านทั้งสองไม่ยอมรับความรักของเรา ผะ...ผมก็คง...ก็คงไม่ฝืนอีกต่อไป ผมเป็นแค่คนอื่นที่บังเอิญได้รู้จักกับลูกชายของท่าน ตะ..แต่ท่านเป็นผู้ให้กำเนิด เป็นผู้มีพระคุณ ผมไม่อยากให้ท่านทั้งสองต้องมาทุกข์ใจเพราะคนอื่นอย่างผม” ผมตัดสินใจพูดทุกอย่างที่ค้างคาอยู่ในใจออกมาจนหมด ยอมรับว่าทกคำที่พูดออกมา นั้นล้วนแต่ทำให้ตัวเองเจ็บ แต่ก็ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว

 

“พายพูดแบบนี้ได้ไง ไหนว่าว่าจะเผชิญมันด้วยกันไง” คุณคิณขึ้นเสียงใส่ผม เสียงดังจนทุกคนสะดุ้ง

 

“แสดงว่านายไม่ได้รักลูกันจริงสินะ ถึงยอมเลิกง่ายขนาดนี้”  แม่คุณคิณยิ้มเยาะผม ก่อนที่จะปรายตามมองผม

 

“เปล่าครับ เพราะผมรักคุณคิณมากจึงยอมที่จะเลิกต่างหาก”

 

“นายหมายความว่ายังไง”

 

“เพราะรักมาก จึงไม่อยากให้คนในครอบครัวของคนที่ผมรักต้องมาทุกข์ใจ ทั้งๆ ที่พวกท่านคาดหวังกับคุณคิณเป็นอย่างมาก ผมจึงไม่สามารถทำลายความหวังของคนในครอบครัวของคนที่ผมรักลงได้” สายตาของคุณคิณตอนนี้ตัดพ้อผมเป็นอย่างมาก รู้ว่าเขาคงโกรธที่ผมยอมแพ้อะไรง่ายๆ

 

“เพราะรักจึงยอมเลิกอย่างนั้นเหรอ หึๆๆ” ท่านคงยิ้มเยาะกับความคิดโง่ๆ ของผม

 

ตอนนี้ผมไม่ได้ต้องการอะไร แค่อยากจะขอโทษคุณคิณก่อนที่จะจบเรื่องนี้ แล้วผมก็จะกลับไปเป็นพายคนเดิม ที่ยังไม่รู้จักคำว่ารักดีพอ

 

“ผมขอโทษคุณคิณ ที่เป็นคนทำลายทุกอย่างลงด้วยมือของผมเอง” ผมฝืนพูดมันออกมา ก่อนที่จะยกมือไหว้แม่กับแด๊ดคุณคิณอีกครั้ง

 

“ผมขอโทษท่านทั้งสองอีกครั้ง ลาก่อนนะครับ” ผมพยุงตัวเองลุกขึ้นเพื่อที่จะก้าวออกไปจากจุดนี้ รู้ว่าเสียมารยาท แต่ก็ไม่สามารถอยู่ต่อหน้าคนที่รังเกียจตนเองได้นานกว่านี้

 

สองขาของผมค่อยๆ ก้าวเดินไปอย่างยากลำบาก มองออกไปข้างหน้าด้วยสายตาว่างเปล่า ไม่อยากจากคุณคิณไป เพราะตอนนี้ผมรักเขามาก รักที่สุด

 

“พาย พายจะไปไหน” คนที่นั่งนิ่งอยู่นานเรียกผม ก่อนที่จะวิ่งมากอดผมจากด้านหลัง คางมนเกยตรงไหล่ลาดของผม พร้อมกับพูดพร่ำขอร้องไม่ให้ผมไปจากเขา

 

“ปล่อยเถอะครับ มันไม่ดี แม่คุณมองอยู่” ผมกลั้นก้อนสะอื้นที่ตอนนี้ มันขึ้นมาจุกอยู่ที่ลำคอ

 

“ไม่เอา ไม่ให้ไป ห้ามไปไหนทั้งนั้น แม่จะขัดขวางรังเกียจยังไงคิณก็ไม่สน คิณรักพายๆ คนเดียว ไม่มีวันที่จะเปลี่ยนใจ”

 

“ผมก็รักคุณ” เสียงแผ่วๆ ของผม พูดพอที่จะให้ได้ยินกันสองคน

 

คนหนึ่งพยายามที่จะสู้ แต่ผมกลับพยายามที่จะถอย มันเลยกลายเป็นแบบนี้

 

“ฉันอนุญาตให้นายกลับเหรอ” เสียงแม่คุณคิณดังอยู่ข้างหลัง จนผมต้องหันกลับไปด้วยคราบน้ำตาอาบหน้าแบบนี้

 

“ผม...ผม..มะ..ไม่รู้ว่าจะอยู่ทำไม คุณ... ฮึก..ผู้หญิงคงไม่อยากเห็นหน้าผมนานกว่านี้หรอ...ฮึก หรอกครับ” เพราะแรงสะอื้นทำให้ผมพูดขาดช่วง คุณคิณก็เหมือนกัน น้ำตาไหลอาบหน้าไม่ต่างจากผม ถ้าเป็นเวลาอื่นผมคงล้อเขาแล้ว แต่ตอนนี้ผมทำได้แค่มอง

 

“กลับเข้าไปข้างใน”

 

“ทะ..ทำไม”

 

“ไม่ต้องถาม บอกให้เข้าก็เข้า” ผมเดินตามท่านกลับเข้าไปในบ้าน มืออีกข้างก็ยังไม่ปล่อยจากคุณคิณ

 

“มานั่งลงตรงนี้ ทั้งสองคน” คุณคิณจูงผมให้ไปนั่งลงบนพื้นข้างคุณแม่ของเขา ตอนแรกผมจะนั่งด้านนอก แต่ท่านเรียกผมให้มานั่งข้างในเสียก่อน  ผมนั่งนิ่งอย่างไม่รู้ว่าจะทำตัวอย่างไร ท่านกำลังจะทำอะไร ผมสับสนไปหมดแล้ว

 

อยู่ดีๆ ก็มือมือบางๆ ยื่นมาจับปลายคางของผม โดยที่ผมไม่ทันตั้งตัว ตกใจจนสะดุ้งตื่นจากภวังค์ความคิดของตนเอง  แม่คุณคิณท่านจับปลายคางผมให้เงยขึ้นสบตากับท่าน มืออีกข้างก็ยกขึ้นเกลี่ยน้ำตาที่ยังไหลไม่หยุด  ยิ่งท่านทำแบบนี้น้ำตาเจ้ากรรมของผมก็ยิ่งไหลหนักกว่าเดิม

 

“อะไรเนี่ย ยิ่งเช็ดยิ่งไหล กลัวแม่มากขนาดนั้นเลยเหรอ ฮึฮึ” ท่านส่งสายตาล้อๆ มาให้ผม ผมก็ยิ่งสะอื้นหนักกว่าเดิม กลัวแสนกลัวกับเหตุการณ์ที่ผ่านมา แต่ตอนนี้มันกลับตาลปัตรจนผมตั้งตัวไม่ทัน

 

“นี่อย่าบอกนะว่าที่คุณทำนี่แค่แกล้งเด็กๆ” แด๊ดเอ่ยออกมาเมื่อเริ่มจะกระจ่างว่าคุณแม่แค่แกล้ง

 

“แม่แกล้งผมกับพายเหรอ” คุณคิณตะโกนเสียงดังลั่นบ้าน มีแค่ผมคนเดียวที่ยังเอาแต่ร้องให้ ร้องมันอยู่อย่างนั้น ล้อเล่นงั้นเหรอ ทำไมแม่คุณคิณเล่นแรงแบบนี้ ท่านหลอกทุกคน

 

“ทำไมไอ้ลูกชาย ฉันแค่จะแกล้งลูกสะใภ้สนุกๆ ฮ่าๆ ไม่คิดว่าเมียแกจะขี้กลัวขนาดนี้ แค่ขู่นิดหน่อยก็จะเลิกกับแกแล้ว นี่ถ้าเจอเหล่าบรรดาสาวๆ ของพ่อเพลย์บอยจะสู้รบปรบมือกับเขาไหวเหรอเนี่ย” ดูท่านพูดสิ คงสนุกมากสินะแกล้งผมได้

 

“แม่เล่นแรงเกินไปแล้วนะ”

 

“แด๊ดก็ว่าอย่างนั้น สงสารหนูพาย ดูสิร้องให้เป็นเผาเต่าเลย”  ท่านล้อผมด้วยท่าทางใจดี แม้ว่าผมจะรู้สึกดีขึ้นมาบ้างแล้ว แต่ก็ยังหยุดร้องให้ไม่ได้ ไม่รู้น้ำตามันมาจากไหนเยอะแยะ

 

“มาหาแม่มา” ท่านดึงผมเข้าไปกอด มันอบอุ่นจนผมแทบจะลืมความรู้สึกที่ผ่านมาจนหมด

 

“แม่แกล้งแรงไปเหรอเนี่ย ร้องไม่หยุดเลย” ผมร้องให้กับไหล่ท่านอยู่อย่างนั้น

 

“ไม่แรงเลยคุณ แค่ใจหายใจคว่ำกันทั้งบ้าน ดูลูกชายคุณสิยังร้องเลย”  แด๊ดหันไปล้อคุณคิณบ้าง

 

“บ้ารึเปล่าแด๊ด มั่วแล้ว”

 

“มั่วตรงไหน เขาเห็นกันทั้งบ้านใช่ไหมหนูพาย” ผมพยักหน้ารับ ทั้งๆ ที่ยังไม่หายสะอื้น คุณแม่ดึงผมขึ้นมานั่งข้างๆ กอดผมไว้ ก่อนที่จะไล่แด๊ดให้ไปนั่งโซฟาอีกตัว

 

“ไม่ต้องเลยนะพาย มีความผิดอยู่ แค่นี้ก็ยอมแพ้แล้วเหรอ” ผมอยากขอโทษคุณคิณสักร้อยครั้งพันครั้ง แต่ค่อยเคลียร์ก็แล้วกัน

 

“เงียบๆ ไปเลยตาคิณ แกนั่นแหละโง่เอง ไม่ทันแม่ ฉันเลี้ยงแกมาตังแต่เกิด ยังไม่รู้หรือไงว่าแม่ตัวเองเป็นคนยังไง”

 

“โหแม่ นาทีนั้นใครจะไปคิดวะ เมียก็เอาแต่ร้องให้ แล้วก็ยอมแพ้อย่างเดียวเลย”

 

“คุณคิณ” ผมหันไปมองตาเขียว ทั้งๆ ที่ยังไม่ค่อยปกติ ทำไมคนบ้านนี้เขาพูดเรื่องผัวๆ เมียๆ ไม่อายกันเลย

 

“คร้าบบบ” ยิ้มทะเล้นกลับมาแล้ว กลายเป็นคุณคิณจอมกวนประสาทเหมือนเดิม

 

“ฮ่าๆๆๆ หนูพายน่ารักจัง  อย่าไปยอมผู้ชายพวกนี้นะลูก เรายิ่งยอมเขายิ่งจะได้ใจ”

 

“แม่สอนอะไรพายเนี่ย ผมไม่เหมือนแด๊ดหรอกนะ”

 

“จำคำแกไว้แล้วกัน ลูกสะใภ้ฉัน ๆ จะสอนเอง” คุณแม่โหดได้อีกนะครับ ตอนนี้ผมดีใจที่ได้รักกับคุณคิณ ดีใจที่คุณแม่แค่แกล้ง ดีใจที่ยังได้นั่งอยู่ตรงนี้ ข้างๆ คุณคิณ

 

“ตาบวมหมดแล้วเรา ทำไมยังสะอื้นอยู่อีกเนี่ย แม่ไม่ว่าอะไรแล้ว”  ผมก็ไม่รู้ว่าทำไมน้ำตามันไม่หยุดไหลสักที ตอนแรกที่ร้องเพราะเสียใจ แต่ตอนนี้ที่ร้องไม่แน่ใจว่าเพราะดีใจแล้วก็โล่งใจรึเปล่า

 

“ทำไมมันไม่หยุดก็ไม่รู้ครับ คุณมะ... คุณผู้หญิง” ผมเกือบลืมตัวเรียกท่านว่าแม่แล้ว

 

“น่าตีจริงๆ เด็กคนนี้ ยังจะมาเรียกแบบนี้อีก เรียกแม่สิคะ”

 

“ขอบคุณครับแม่” ผมยกมือไหว้ท่านอีกครั้ง

 

หลังจากที่ผ่านเรื่องร้ายๆ จนผมร้องให้เป็นบ้าเป็นหลัง ตอนนี้ผมนั่งฟังคุณแม่เล่าวีรกรรมคุณคิณตั้งแต่เด็ก แล้วก็เรื่องความเจ้าชู้ที่ได้แด๊ดมาเต็มๆ โดยคุณคิณทำได้เพียงแค่นั่งหน้างอ แล้วขัดขึ้นบ้างบางครั้ง แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ จนตอนนี้ผมรู้แล้วว่าบ้านนี้ใครใหญ่สุด

 

**********************************

 

มาแล้วๆ แต่ยังไม่ได้ตรวจคำผิดเลย ไม่รู้ว่าผิดเยอะรึเปล่า ยังไม่ได้อ่านทวนเนื้อหาเลย( แหะๆ พูดเหมือนทบทวนบทเรียนสมัยเป็นนักศึกษาเลยผ่านวัยนั้นมานานมากๆจนลืมไปเลย อิอิ)  อ่านให้นุกน๊า ไม่สนุกก็อ่านต่อไปแล้วกันเนอะ




              TBC.

 

หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน17...... P.6(26/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 26-02-2016 22:55:20
 :hao5:   น้ำตาจิไหลไปกับหนูพาย. แม่เล่นใหญ่มากๆค่ะ
ขอบคุณนะคะ
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน17...... P.6(26/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Noi ที่ 26-02-2016 23:08:16
ไม่ชอบแม่คิณเล่นแบบนี้ คนเราเมื่อเสียความรู้สึกแล้ว เอากลับมาไม่ได้ :seng2ped:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน17...... P.6(26/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 26-02-2016 23:47:15
 :L2: :pig4:

คุณแม่ยังติดใจเรื่องดอกไม้ 55
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน17...... P.6(26/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: LoveYoukissme ที่ 27-02-2016 00:40:40
คุณแม่ค่า ทำหนูพายใจหายใจคว่ำหมด
ที่หลังไม่เอาแบบนี้นะคะ เขาตกใจกัน
เอาซะแบบพายร้องไห้เลย
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน17...... P.6(26/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 27-02-2016 02:06:04
คุณหญิงแม่แกล้งแรงไปนะ อิอิ
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน17...... P.6(26/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 27-02-2016 02:18:22
หวังว่าคุณหญิงแม่จะช่วยน้องพายจัดการเหล่าสาวๆ ของพี่คิณได้นะครับ
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน17...... P.6(26/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 27-02-2016 02:57:20
 :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน17...... P.6(26/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 27-02-2016 03:23:02
 :mew1:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน17...... P.6(26/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 27-02-2016 06:33:18
 :mew1:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน17...... P.6(26/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Duangjai ที่ 27-02-2016 08:44:43
เรื่องน่ารักดีอ่ะ
ติดตามตอนต่อไป

 :katai4:  :katai5:  :katai2-1:

หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน17...... P.6(26/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 27-02-2016 09:33:14
ยังงี้ต้องให้รางวัลออสก้ากับคุณแม่แล้วล่ะ ไม่มีใครดูออกเลยว่าเล่นละครเนี่ย
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน17...... P.6(26/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 27-02-2016 10:20:22
โอ้โห !!!! คุณแม่ยังกล้าถามอีกเหรอว่าหลอกเล่นแรงไปเหรอ
ึคือถ้าคุณแม่เป็นคนข้างบ้านไม่ใช่แม่คิณนี่ขอบอกว่า
กระโดดถีบขาคู่ยังไม่สะใจเลยนะ แต่อย่างน้อยก็เบาใจเรื่องสาวๆ คนอื่นที่จะเข้ามาวุ่นวายกับคิณพาย
เพราะอย่างน้อยคุณแม่ก็รับลูกสะใภ้ที่ชื่อพายแล้ว

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน17...... P.6(26/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: MooKratai ที่ 27-02-2016 11:29:08
โอ้โห !!!! คุณแม่ยังกล้าถามอีกเหรอว่าหลอกเล่นแรงไปเหรอ
ึคือถ้าคุณแม่เป็นคนข้างบ้านไม่ใช่แม่คิณนี่ขอบอกว่า
กระโดดถีบขาคู่ยังไม่สะใจเลยนะ แต่อย่างน้อยก็เบาใจเรื่องสาวๆ คนอื่นที่จะเข้ามาวุ่นวายกับคิณพาย
เพราะอย่างน้อยคุณแม่ก็รับลูกสะใภ้ที่ชื่อพายแล้ว

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:


ถึงกับจะกระโดดถีบขาคู่แม่สามีเลยเหรอคะ .คุณแม่เป็นคนขี้เล่น อิอิิ
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน17...... P.6(26/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: GGamy ที่ 27-02-2016 13:23:02
โอ้ยก็ว่าอยู่ คุณแม่นี้รู้สึกตอนแรกจะแค้นจริงเรื่องกล้วยไม้นะเนี้ย  :hao7:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน17...... P.6(26/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 27-02-2016 13:55:57
พึ่งได้เข้ามาอ่านสนุกมากๆเลยจะติดตามต่อไปนะครับ
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน17...... P.6(26/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Kalamall ที่ 27-02-2016 21:24:01
คุณแม่ขาตุ๊กตาทองมากค่ะ แสดงเก่งจริงๆ  :katai2-1:

ดูท่ารตีจะไม่ยอมแพ้ งานนี้น่ารำคาญแน่ๆ
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน17...... P.6(26/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: DE SaiKuNee ที่ 28-02-2016 03:59:27
 :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน17...... P.6(26/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Dee^daY ที่ 28-02-2016 14:39:01
เครียดไปเลย ..
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน17...... P.6(26/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 29-02-2016 01:14:05
คุณแม่เล่นแรงนา ขนาดลูกตัวเองยังร้องไห้เลย
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน17...... P.6(26/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: badbadsumaru ที่ 29-02-2016 02:18:51
คุณแม่แกล้งแรงไปแล้ว
ใจหายใจคว่ำหมด .____.
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน17...... P.6(26/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: milin03 ที่ 29-02-2016 11:08:22
ทำเอาน้องพายใจไม่ดี :ling3:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน17...... P.6(26/02/59)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 29-02-2016 22:26:12
อ่านทันแล้ว~ สนุกมากๆเลย
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน18..... P.7 (01/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: MooKratai ที่ 01-03-2016 18:59:32
หลานคุณย่า 18

 

คิณ(Part)

 
ตอนนี้ผมกลายเป็นหมาหัวเน่าแบบเต็มขั้นแล้วครับ เพราะคุณแม่จอมโหดของผมยึดเมียผมไปแล้ว ตั้งแต่ตอนบ่ายๆ ทั้งสองพากันไปซื้อวัตถุดิบสำหรับทำอาหารเย็น ผมอาสาเป็นคนขับรถให้แต่แม่กลับไม่ยอม ผมกลัวจริงๆ เลยว่าท่านจะสอนอะไรแผลงๆ ให้กับพาย แค่คิดก็กลัวแล้วครับ ไม่รู้คิดถูกหรือคิดผิดที่พามาหาแม่ผม

 
พอกลับมาจากจ่ายตลาดก็พากันขลุกอยู่ในครัว พอผมเดินไปส่องดูว่ทำอะไรกัน ก็โดนแม่โวยกลับมาซะงั้น  เวลาอยู่ด้วยกันสองต่อสองไม่มีเลยครับงานนี้ ผมจึงได้แต่ไปนั่งเป็นหมาหัวเน่าเป็นเพื่อนแด๊ด ที่ห้องรับแขก ผมตั้งปณิธานชัดเจนแล้ว ว่าถ้าแต่งงานจะไม่ย้ายกลับมาอยู่บ้านเด็ดขาด เดี๋ยวแม่ยึดเมียผมทำไง

 
ตอนนี้เข้าขากับว่าที่ลูกสะใภ้เป็นที่สุด ได้ยินแต่เสียงหัวเราะคิกคักอยู่ในครัว ไม่รู้นินทาผมบ้างรึเปล่า แค่คิดก็เครียดแล้วครับ ก็ผมน่ะวีรกรรมน้อยเสียเมื่อไหร่ ก่อนที่จะมาเจอพาย ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงาตบกันแย่งผมที่หน้าบริษัท รถไฟชนกันเพราะผู้หญิงพวกนั้นมาตามตัวผมที่บ้าน จนแม่กับแด๊ดแทบกุมขมับ

 
หลังจากนั้นผมจึงเพลาๆ เรื่องผู้หญิงลง แต่ไม่ใช่ว่าเลิกนะครับ แค่จัดการทุกอย่างให้เป็นระบบขึ้น ชีวิตจะได้ไม่ยุ่งยากเหมือนที่ผ่านมา แต่ตอนนี้ไอ้คิณคนนี้เลิกหมดแล้วครับ เจอแม่ของลูกแล้ว(ล้อเล่นครับว่าที่เมียเป็นผู้ชาย) คนนี้แหละผมไม่มีทางปล่อยไปเด็ดขาด  แม้ว่าใครจะเอาอะไรมาลากผมก็ไม่ยอมยกพายให้ใครแน่นอน แค่คิดก็ฝันหวานแล้วผม

 

มีเรื่องดีอีกเรื่องคือคุณแม่ผมโทรไปหาคุณย่าของพายแล้วครับ ว่าจะเข้าไปคุยเรื่องของผมกับพาย และก็ยังขอให้พายนอนที่บ้านด้วย นี่คงเป็นเรื่องดีเรื่องเดียวของวันนี้ อย่างน้อยพายก็ได้นอนที่บ้านนี้

 

คิดถึงพายใจจะขาดอยากเข้าไปกอดไปหอมแต่ก็มีนางมารคอยขวาง ผมรู้ว่าแม่ผมแกล้งให้ผมทรมาน คงจะเคืองเรื่องกล้วยไม้ไม่หาย ไม่อย่างนั้นคงไม่แกล้งผมกับพายจนเสียน้ำตากันเป็นปี๊บๆ

 

“ทานข้าวได้แล้วครับ” เสียงพายของผมดังมาจากข้างหลัง ผมกับแด๊ดนี่นั่งหมดอาลัยตายอยากกันอยู่สองคน

 

“พาย” ผมยิ้มร่าอารม์ดีแล้วครับ รีบลุกพรวดตรงไปหาพาย จนแด๊ดของผมแทบสะดุ้ง

 

“เกินไปแล้วเจ้าคิณ หนูพายอยู่แค่นี้”

 

“โหแด๊ดอิจฉาอะดิที่แม่ไม่สนใจ”

 

“ไปเลยๆ ไม่ต้องมายุ่งกับแด๊ด แม่แกไม่เคยสนใจแด๊ดอยู่แล้วนี่”  สงสัยงานนี้แด๊ดจะงอนแม่แล้วจริงๆ เพราะตั้งแต่พายมาที่บ้าน แม่ยังไม่สนใจแด๊ดเลย เอาอกเอาใจว่าที่ลูกสะใภ้อย่างเดียว

 

“อะไรคะคุณ ใครไม่สนใจ”

 

“เปล่า” แด๊ดเดินเข้าไปห้องอาหารแล้ว ไม่หันมาสนใจแม่อีก ปกติอแด๊ดจะไม่เป็นแบบนี้นะครับ ผมเพิ่งเคยเห็นนี่แหละ สงสัยคนแก่จะน้อยใจ

 

“แด๊ดแกเป็นอะไรเจ้าคิณ” แม่คงสงสัยท่าทีของแด๊ด ส่วนพายนี่หน้าเสียไปแล้วครับ คงเพราะคิดว่าสาเหตุมาจากตนเอง

 

“แม่ก็ไปถามเอาเองสิ ส่วนนี่น่ะเมียผม ผมดูแลเอง” ผมรีบเดินไปกอดพายก่อนที่จะพาเดินไปข้างในห้องอาหาร ทิ้งให้แม่ยืนงงอยู่คนเดียว

 

“แด๊ดจะโกรธพายรึเปล่า”

 

“ไม่หรอกครับ แค่คนแก่เรียกร้องความสนใจ ปกติเขาจะอยู่กันสองคนไงครับ แม่ก็จะคอยอยู่เป็นเพื่อนแด๊ดตลอด” ถึงแม่ผมจะปากร้าย แต่ก็ดูแลแด๊ดไม่มีขาดตกบกพร่องนะครับ ไม่อย่างนั้นแด๊ดจะทั้งรัก ทั้งหวง แล้วก็เคารพแม่ผมขนาดนี้เหรอ

 

“จริงนะครับ” พายดูกังวลเหลือเกิน คงกลัวว่าแด๊ดจะโกรธมากล่ะสิครับ

 

“จริงครับ” ผมยกมือลูบหัวพายด้วยความเอ็นดู นี่ขนาดเรายังไม่ได้เป็นครอบครัวเดียวกัน เขายังเอาใจใส่ทุกคน เหมือนครอบครัวผมเป็นครอบครัวเขาด้วย ผมมั่นใจว่าเลือกคนไม่ผิดแน่ครับ ถึงพายจะไม่ได้เป็นผู้หญิง มีลูกให้ผมไม่ได้ก็ไม่เป็นไร แค่นี้ผมก็มีความสุขที่สุดแล้ว

 

อาหารเย็นมื้อนี้เป็นอีกมื้อที่ดูจะอร่อยมากในความคิดของผม แม้กระทั่งแด๊ดยังเอ่ยชมไม่ขาดปาก แด๊ดเป็นคนอเมริกันแท้ๆ แม้จะอยู่ไทยมานานแต่ก็ยังไม่ชินกับรสชาติอาหารที่จัดจ้าน แต่วันนี้แด๊ดทานเยอะเป็นพิเศษ

 

“มัสมั่นนี่อร่อยมาก แด๊ดก็เคยทานที่ดังๆ มาเยอะนะแต่สู้หนูพายทำไม่ได้เลย”

 

“ขอบคุณครับ” พายยิ้มตอบรับ ค่อยคลายความเครียดลงมาหน่อยแล้ว หลังจากที่กลัวว่าแด๊ดจะโกรธที่คุณแม่ผมมัวแต่สนใจลูกสะใภ้คนโปรด

 

“จริงค่ะคุณ ผัดผักรวมยังอร่อยเลยนะคะ ผักดูสดแล้วก็กรอบมาก ทั้งๆ ที่หนูพายก็ไม่ได้ใส่อะไรเป็นพิเศษ” แม่หันมาชมอีกคนจนคนที่นั่งข้างๆ ผม ยิ้มไม่หุบเลยครับ รายนี้ชอบทำอาหารให้คนอื่นทาน ยิ่งมีคนชมว่าอร่อยนี่รอบหน้ารับรองจัดเต็มกว่านี้อีก

 

“แสดงว่าผมหาลูกสะใภ้ได้ดีใช่ไหมครับ”

 

“ย่ะ คนนี้ผ่านฉลุย แต่ถ้าไม่ใช่หนูพายฉันไม่เอานะยะ” พายชนะใจแม่ผมร้อยเปอร์เซนต์แล้วครับ สงสัยอีกไม่นานคงจะมีข่าวดีแล้วว่ะ

 

“ไม่ปล่อยหลุดมือหรอกครับคุณนาย จริงไหมครับพาย” ตอบแม่แต่หันไปถามพาย ที่ตอนนี้ทำหน้าไม่ถูกแล้วครับ แก้มสองข้างแดงปลั่งลามไปถึงหู ก้มหน้าก้มตาทานข้าวไม่คุยกับใคร

 

“แซวลูกสะใภ้ฉัน ดูสิแก้มแดงเชียว”  ว่าแต่ผมน่ะครับ คุณแม่นี่ก็ใช่ย่อย ชอบแกล้งให้พายอาย บ้านผมนี่แปลกทั้งบ้านนะผมว่า ชอบแกล้งคนที่เรารักให้เขิน ให้โมโห มันดูน่ารักดีว่ะ

 

“คุณแม่....” พายได้แต่เรียกแม่ผมเบาๆ อย่างไม่รู้จะทำยังไง เพราะทุกคนดูจะรุมแซวเขากันหมด ยกเว้นแด๊ดผมไว้คนหนึ่ง รายนี้ไม่แซวด้วยคำพูดหรอกครับ แต่ส่งสายตล้อเลียนพายตลอด

 

ทานข้าวเสร็จต่อด้วยของหวาน กระท้อนลอยแก้วฝีมือพายอีกแหละครับ พอดีไปตลาดแม่เห็นกระท้อนน่ากิน พายเลยเสนอว่าทำกระท้อนลอยแก้ว พายคว้านกระท้อนได้สวยมาก จนแม่ผมยังทึ่ง แม่บอกว่านั่งมองพายทำตั้งนาน แล้วลองทำบ้างแต่ปรากฎว่าแหว่ง กลัวเสียของเลยนั่งให้กำลังใจอย่างเดียว แด๊ดไม่เคยทาน แต่พอลองแล้วติดใจใหญ่ บอกว่าคราวหน้าให้พายทำให้ทานอีกด้วย  จบจากมื้ออาหารเย็นเราทุกคนก็คุยกันอีกนิดหน่อย ก่อนที่ผมกับพายจะแยกขึ้นห้องไป

 

****************************

 

“อือ...อึก คุณคิณ” พายส่งเสียงกระเส่าอยู่ใต้ร่างของผม ร่างน้อยบิดเร่าจนผมเกิดอารมณ์ตามไปด้วย ผมค่อยๆ เลื่อนริมฝีปากลงมาขบเม้มตุ่มไตที่ตื่นตัวรับกับสัมผัสลิ้นร้อนๆ ของผมที่กำลังเกี่ยวกระหวัด ดูดเลียจนพายเริ่มจะตอบสนอง

 

ไม่ต้องถามหรอกครับว่าเราสองคนมาถึงขั้นนี้ได้อย่างไร เพราะคุณแม่สุดที่รักของผมเปิดทางให้เต็มที่ครับวันนี้ เริ่มจากจัดแจงโทรไปขออนุญาตคุณย่าให้พายค้างที่บ้านผมด้วยตัวเอง ก่อนที่จะบอกให้พายนอนห้องเดียวกัน เพราะห้องอื่นยังไม่ได้ทำความสะอาด  คิดดูสิครับว่าแม่ผมเจ้าเล่ห์ขนาดไหน แล้วผมได้นิสัยแบบนี้มาจากแม่ผมเต็มๆ ครับ ตอนนี้พายเลยต้องมานอนครางใต้ร่างผมแบบนี้

 

ตอนแรกก็เหมือนจะไม่มีอะไรหรอก เป็นผมที่เริ่มมีความต้องการจนใช้เล่ห์เหลี่ยมนิดหน่อยหลอกพาย  คนตัวเล็กที่ไม่ทันความมารยาของผมจึงตกเป็นทาสกามารมณ์ของผมสมบูรณ์แบบ จนตอนนี้เขาก็มีความต้องการไม่ต่างจากผม

 

“อ่า....” น้ำเสียงหวานๆ ที่ครางอยู่ตลอดเวลา สร้างความต้องการทางกายของผมให้พวยพุ่งจนเกินที่จะทนไหวแล้วครับ อยากให้พายทำให้ผมบ้าง เรียวขาเล็กบิดเร่าเพราะความเสียวซ่านที่เกิดจากการดูดเม้มหน้าท้องแบนราบ ยิ่งเขาดิ้นพร่านมากเท่าไหร่ผม็ยิ่งเพิ่มแรงดูดเม้มมากขึ้นเท่านั้น

 

ก่อนที่ผมจะเลื่อนริมฝีปากลงมาดูดกลืนกินน้ำหวานตรงปลายแก่นกายเล็ก  ทั้งดูดทั้งเลีย จนเสียงดังน่าอาย แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ผมหยุดการกระทำอันเกิดจากความต้องการของผมได้ มือข้างขวาผมรูดรั้งแก่นกายของคนตัวเล็ก ประสานกับลิ้นล้อนที่ชอนไชหาควาหวานจากปลายแก่นกายสีชมพู มืออีกข้างผมยกขึ้นบีบสะโพกกลมกลึงอย่างหมั่นเขี้ยว

 

“ก้นใหญ่ แน่นชะมัด” ผมเงยหน้าขึ้นพูดกับคนที่นอนครางไม่ได้ศัพท์อยู่ใต้ร่างผม มือก็ยังทำงานประสานกันอย่างดี จนมือบางยื่นมาตีผมเต็มแรง แต่ผมไม่สนหรอก ยิ่งตีผมก็ยิ่งจะแกล้งเขา คอยดูวันนี้จะไม่ให้เสร็จก่อนแน่ๆ อยากตีผมดีนัก จะแกล้งให้เข็ด จะได้รู้ว่าอย่าหือกับผัวเรื่องบนเตียง เรื่องอื่นยอมได้แต่เรื่องนี้คิณต้องเป็นผู้นำครับ นอกนั้นยอมหมด

 

ผมดูดเม้มจนเสียงดังทั่วห้อง ผสานกับเสียงครางหวานหู ก่อนที่มือที่บีบเค้นก้นอวบ จะค่อยๆ เลื่อนไปตรงช่องทางรักสีสวย ผมค่อยๆ สอดนิ้วเข้าไปทีละนิ้ว จนตอนนี้ครบสามนิ้วแล้วครับ ช่องทางของพายตอดรัดถี่รัวจนผมกลัวว่าถ้าเป็นคิณน้อยนี่อาจจะขาดได้

 

“คุณคิณ พา…พายไม่ไหวจะเสร็จ..แล้ว อึก อ่า”  พายเด้งรับประสานกับแรงกระแทกเข้าออกของนิ้วผม เพราะต้องการที่จะปลดปล่อยเต็มที แต่ผมกลับหยุดมือกับปากลงกระทันหัน ไม่ยอมให้เสร็จง่ายๆ แน่

 

“ทะ..ทำไม” เสียงกระท่อนกระแท่นเอ่ยถาม พร้อมกับหยดน้ำเล็กๆ ที่หางตาสวย ผมรู้ว่าพายหมายถึงอะไร แต่ผมไม่ทำต่อหรอก

 

“พายทำให้คิณบ้างสิครับ” ร่างเล็กมองค้อนผม คงค้างมากกว่า เพราะเขาใกล้จะถึงจุดหมายแต่กลับดึงเขากลับมาเริ่มต้นใหม่ แม้จะค้อนผมแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ผมพลิกตัวพายให้ขึ้นมาอยู่ด้านบน ดวงตาฉ่ำน้ำนี่โคตรเซ็กซี่จนผมอยากจะฟัดให้จมเขี้ยว แต่ก็ต้องอดทน อดเปรี้ยวไว้กินหวาน

 

พายก้มลงดูดเลียเจ้ามังกรยักษ์ที่ค่อยๆ ผงาดสู้กับริมฝีปากบาง เรียวลิ้นเล็กกดย้ำตรงปลายแก่นกายผมอยู่อย่างนั้น เลียอยู่อย่างนั้นจนผมเสียวสุดๆ ไปเลยครับ โคตรทรมาน ก่อนที่ผมจะเอามือผมกดหัวพายให้ขยับเข้าออกดูดเลียไอติมแท่งยักษ์  เสียวโคตรๆ จริงๆ ครับ

 

“อือ...อืม อย่างนั้นแหละครับคนดี เก่งมากเลย” ยิ่งพายได้รับคำชม เขาก็ยิ่งดูดเร็วและแรงขึ้น ความเสียวนี่ไม่ต้องบรรยายเลยว่าขนาดไหน เสียวยันชาติหน้าน่ะครับ

 

พายเงยหน้ามองผมอีกครั้ง สายตาพราวระยับเลยครับงานนี้ มือน้อยๆ อีกข้างของเขที่ไม่ได้ใช้งาน กลับเลื่อนไปจับแก่นกายของตนเอง รูดรั้งขึ้นลงจนผมโคตรอยากจะสอดใส่ ไม่ไหวแล้วครับ ยิ่งเห็นท่าทางยั่วยวนที่พายส่งมาให้ผมยิ่งทรมาน จากที่ตอนแรกจะแกล้งร่างเล็กให้ทรมาน กลายเป็นผมเองที่ทรมานจนแทบขาดใจ

 

มือบางยังคงรูดแก่นกายตนเอง พร้อมกับส่งเสียงครางยั่วผมอีกครั้ง ยิ่งเขาทำแบบนี้ผมก็ยิ่งอยากกระแทกแรงๆ เขาแกล้งผมคืนใช่ไหมครับ ผมจับร่างบางพลิกตัวหันหลักอีกครั้ง ก่อนที่จะรั้งสะโพกมนให้โก้งโค้งขึ้น

 

‘เพ๊ยะ เพี๊ยะ’

 

 ผมตีสะโพกอวบอย่างหมั่นเขี้ยว โคตรแน่น โคตรน่าฟัด โคตรฟิตครับ ก่อนที่จะเห็นร่างบางเอี้ยวตัวมามองผมตาขัยวปั๊ด นาทีนี้ไม่มีกลัวครับเมีย

 

แก่นกายของผมค่อยๆ เคลื่อนเข้าไปช่องทางรักของพายอย่างระวัง เพราะตั้งแต่ครั้งนั้น ผมกับพายก็ยังไม่เคยทำอะไรถึงขั้นสุดเลย

 

“อึก...พายเจ็บ เบาๆสิครับ”

 

“ครับๆ ขอโทษ” ผมเบาสุดแล้วนะครับ ทั้งๆ ที่ทรมานแทบตาย อยากจะแทงพรวดทีเดียวให้จบๆ แต่ก็สงสารคนตัวเล็กที่ต้องมารองรับอารมณ์ป่าเถื่อนของผม แม้ว่าผมจะต้องการมากเพียงไร แต่ผมก็ต้องอดทน  ช่องทางรักของเขามันแน่ยิ่งกว่าคราวที่แล้วเสียอีก

 

“อย่าเกร็งสิครับ เข้าไม่ได้” ช่องทางด้านหลังของพายตอดรัดถี่รัวยิ่งกว่าตอนที่ผมใช้นิ้วให้กับเขา จนผมเจ็บ

 

“คุณคิณเข้ามาทีเดียวเลย พายทนไหว” เขาคงทรมานไม่ต่างจากผม เพราะความต้องการทางร่างกายมันมีมากกว่า ผมแทงพรวดทีเดียวจนมิดลำ ส่วนพายนี่หน้าตาเหยเกเพราะความเจ็บ น้ำตาที่คลอๆ หางตาหยดแหมะลงบนเตียงนอนนุ่มอย่างห้ามไม่ได้

 

“เจ็บมากเหรอครับ”

 

“อือ”

 

“ขอโทษๆ ครับคนดี” มือผมค่อยๆ ลูบสะโพกกลมกลึงเพื่อให้คลายความเจ็บ ก่อนที่จะลองพยายามขยับช้าๆ อีกครั้ง

 

“อ่า ซี๊ด เสียวโคตร”  ผมค่อยๆ ขยับเร็วขึ้น มือของพายก็จัดการกับพายน้อยของเขาด้วยตนเอง ผมก้มลงไปดึงให้พายแหงนหน้ามารับจูบของผม จูบหนักๆ สองสามทีก่อนที่จะปล่อยให้พายครางยาวครับคราวนี้

 

ร่างเล็กเด้งสะโพกสวนมาจนผมเสียว ความต้องการของเราสองคนพุ่งทะยานสูงสูดพร้อมกับน้ำสีขาวขุ่นของพายที่พุ่งออกมาเปรอะเปื้อนมือบาง

 

ผมดึงมือน้อยๆ มาตรงหน้าก่อนที่จะใช้ลิ้นเลีย ของเหลวสีขุ่นที่ไหลเยิ้มเต็มมือพาย พายจะชักมือกลับแต่ผมไม่ยอม ก่อนที่ผมจะค่อยๆ ขยับสะโพกอีกรอบ ร่างเล็กจึงได้แต่ครางรับ  ผมยังคงดูดเลียไปตามง่ามนิ้วมือเล็กอย่างหลงไหล ความฝาดเฝื่อนจากน้ำรักไม่ได้ทำให้ผมขยะแขยง แต่ผมกลับต้องมันการมากขึ้น

 

ผมเร่งกระแทกถี่รัวจนพายเสร็จไปอีกรอบ แต่ผมยังคงไปได้แค่ครึ่งทาง ก่อนที่จะรัวสะโพกหนักจนพายครางไม่ได้ศัพท์ เพียงไม่นานผมก็เสร็จข้างในตัวพาย ก่อนที่ผมจะถอดแก่นกายออก น้ำกามของผมไหลลงมาตามเรียวขาขาว  พายล้มตัวลงนอนอย่างหมดแรงจนผมสงสาร ที่จริงอยากจะต่ออีกสักรอบ แต่กลัวว่าคนตัวเล็กจะรับไม่ไหว

 

ผมนอนลงตะแคงข้างหันหน้าไปหาพาย ก่อนที่จะเอื้อมแขนแกร่งโอบกอดคนตัวเล็กเอาไว้ เสียงหัวใจพายเต้นแรงจนผมได้ยิน เสียงหอบถี่รัวจนผมสงสาร

 

“ขอโทษนะครับ ที่คิณเอาแต่ใจ” ผมยกมือเกลี่ยปอยผมที่หล่นลงมาปิดบังใบหน้าเรียว ก่อนที่จะเช็ดเม็ดเหงื่อที่ผุดมาเต็มดวงหน้า

 

“ไม่เป็นไรซักหน่อย พายแค่เหนื่อย”  พายของผมเขาน่ารักใช่ไหมครับ เขาหันหน้ามาหาผม  แต่ก็ยังหลบสายตาผมอยู่

 

“ไปอาบน้ำนะครับ คิณอาบให้” ร่างเล็กพยักหน้ารับคำ ก่อนที่ผมจะอุ้มเขาเข้าห้องน้ำไป จัดการให้ทุกอยางครับ สงสารคนตัวเล็กที่โดนผมรังแกซะจนแทบจะหลับทั้งๆ ที่ยังอาบน้ำไม่เสร็จ

 

“ง่วงนอน” ร่างเล็กโอบคอผมไว้ ตาก็หลับ ปากก็บ่นงึมงำ

 

ผมรีบจับเขาแต่งตัวก่อนที่จะอุ้มกลับมานอนบนเตียง ที่ผมเปลียนผ้าปูที่นอนเรียบร้อยแล้ว อยากให้เขานอนสบายๆ กลัวว่าพรุ่งนี้เขาจะตื่นมาไม่สบายตัว จึงบังคับให้เขาทานยาแก้ปวด พายก็พยุงตัวลุกขึ้นมานั่งทานยาที่ผมเตรียมให้ ทั้งๆ ที่ตาก็ยังหลับ  หวังว่าพรุ่งนี้คนดีของผมคงไม่ป่วยอีกรอบนะครับ ผมล้มตัวลงนอนข้างๆ ก่อนที่จะโอบกอดคนที่นอนหลับหันหลังให้ คางผมวางตรงหัวเล็ก ก่อนที่จะหลับลงไปด้วยความเพลียไม่ต่างกัน

 

 

**************************



จบไปแบบงงๆ อยู่ดีๆ NC ก็มาซะงั้น ไม่บอกไม่กล่าว  บ้านคุณคิณไม่ค่อยจะปกติเนอะว่าป่าว แล้วเรื่องชื่อตอนบางทีก็คิดไม่ออก เลยไม่ใส่นะ  คนเขียนบ้าๆ บอๆ บางทีสมองก็ไหลลื่น เขียนแป๊บเดียวจบตอน บางทีนั่งเป็นชั่วโมงยังไม่ได้ซักตัวเลย


                      TBC.

หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน18..... P.7 (01/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 01-03-2016 19:49:22
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน18..... P.7 (01/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 01-03-2016 19:55:59
อูย พายหวานสินะ กินเรียบเลยอะคุณคิณ


 :jul1:
ครางไม่ได้ศัพท์ค่ะ ไม่ใช่สับ
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน18..... P.7 (01/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: cheezett ที่ 01-03-2016 20:03:23
ชอบพาทคินมากกกก เด็ดเว่ออร์ พริก10เม็ดค่ะะ  :haun4: :pighaun:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน18..... P.7 (01/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: MooKratai ที่ 01-03-2016 20:34:08
อูย พายหวานสินะ กินเรียบเลยอะคุณคิณ


 :jul1:
ครางไม่ได้ศัพท์ค่ะ ไม่ใช่สับ

รับทราบค่ะ แก้ไขแล้วนะคะ ขอบคุณ
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน18..... P.7 (01/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 01-03-2016 20:51:24
ก็ ok นะกับ nc
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน18..... P.7 (01/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 01-03-2016 21:35:59
อีคินชอบจับพายกินตลอดๆ
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน18..... P.7 (01/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: milin03 ที่ 01-03-2016 21:43:36
 :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน18..... P.7 (01/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 01-03-2016 21:43:46
 :pighaun: :pighaun: :pighaun: :pighaun: :pighaun:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน18..... P.7 (01/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 01-03-2016 23:39:55
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน18..... P.7 (01/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: badbadsumaru ที่ 02-03-2016 01:12:23
ได้กินพายแล้ว 55555
ชอบแกล้งน้องจังเลยคุณคิณ
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน18..... P.7 (01/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 02-03-2016 01:40:25
แกล้งน้องพายนะครับพี่คิณ
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน18..... P.7 (01/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 02-03-2016 09:23:40
หื่นตลอดๆคุณคิณ!
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน18..... P.7 (01/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 02-03-2016 09:30:34
 :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน18..... P.7 (01/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: DE SaiKuNee ที่ 02-03-2016 21:21:09
 :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน18..... P.7 (01/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 03-03-2016 02:02:21
จ้องจะกินตลอดๆ
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน18..... P.7 (01/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Dee^daY ที่ 03-03-2016 17:50:38
เข้าห้องหอ เรียบร้อย ..
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน19... P.7 (03/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: MooKratai ที่ 03-03-2016 19:34:04
หลานคุณย่า19





พาย(Part)



คุณคิณทำผมนอนป่วยอีกรอบ นอนซมจนไม่สามารถไปร้านได้ ผมไม่รู้เลยว่าการที่ผู้ชายมีอะไรกันแต่ละทีแล้วฝ่ายรับต้องป่วยแบบนี้ตลอดเลยเหรอ  หรือเพราะร่างกายของผมที่อ่อนแอเกินไป ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ แล้วต้องป่วยทุกครั้ง คุณคิณจะเบื่อกับการที่ต้องคอยดูแลผมรึเปล่า



ผมนินซมอยู่บ้านสองวัน แต่คุณย่าท่านไม่ได้ว่าอะไร คงรู้นั่นแหละครับว่าทำไมผมถึงป่วย ต้องยกความดีความชอบให้คุณคิณที่ทำให้ย่ามั่นใจในตัวเขา จนยอมที่จะให้ผมไปไหนมาไหนกับคุณคิณโดยไม่ต้องขออนุญาต แม่คุณคิณโทรมาถามอาการผมตลอดว่าดีขึ้นรึยัง แถมยังบอกอีกว่าจะจัดการคุณคิณให้เอง แต่ผมไม่รู้หรอกว่าท่านจะทำอะไร ปล่อยให้ครอบครัวเขาลงโทษกันเอง



หลังจากที่โดนคุณย่าว่าคราวนั้น พี่ซองก็ไม่ค่อยจะอะไรกับคุณคิณแล้ว แต่ก็ยังมีบ้างที่แขวะกันตามประสา  ทุกอย่างดีขึ้นมาบ้างเล็กน้อย แม้ว่าจะยังไม่เคยคุยกันดีๆ สักที แต่ก็ไม่รุนแรงเหมือนเดิม  ส่วนคุณคิณนี่ยังชอบกวนประสาทพี่ซองเหมือนไม่เคยเปลี่ยน



ตอนนี้พี่ชายผมกลับมีท่าทางแปลกๆ อีกอย่าง จากคนที่ยิ้มให้กับทุกคน แต่ตอนนี้ดูเขาจะเครียด ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร  อีกทั้งยังชอบนั่งเหม่อ ผมเรียกสองสามครั้งยังไม่หัน  แล้วก็เข้าไปที่ร้านบ่อยจนผิดปกติ ผมสังเกตุมาระยะหนึ่งแล้ว ต้องมีอะไรผิดปกติแน่นอน พอถามก็ตอบแค่ว่าไม่มีอะไร เลยป่วยการที่จะถาม



คุณคิณกลายเป็นสารถีประจำตัวรับส่งผมเช้าเย็น ส่วนรถผมน้องบราวก็ยึดไปโดยปริยาย มีมินคอยนั่งไปเป็นเพื่อนด้วยทุกวัน วันนี้ผมมีนัดไปดูหนังกับคุณคิณ เพราะรายนั้นบังคับผม บอกว่าตั้งแต่เป็นแฟนกันยังไม่ได้ไปไหนด้วยกันเลย ผมก็เลยต้องไป คนอะไรไม่รู้ตัวก็โตแต่ขี้น้อยใจเป็นที่หนึ่ง



วันนั้นบอกผมว่าอยากทานแกงเขียวหวานไก่ แต่ผมลืมทำให้ ก็บ่นน้อยใจอย่างนั้นอย่างนี้ ว่าผมไม่ให้ความสำคัญกับเขาบ้างแหละ ไม่ใส่ใจบ้างแหละ สรรหาคำมาพูดจนผมรู้สึกผิด ตอนนี้เลยไม่รู้ว่าคิดถูกรึเปล่าที่ยอมคบกับคนแบบนี้ จนต้องโทรไปปรึกษาแม่คุณคิณ ท่านบอกว่าไม่ให้ผมตามใจเขามาก เดี๋ยวจะได้ใจ เราต้องเก่งกว่า และทำให้เขาอยู่ใต้อาณัติของเราให้ได้  แต่ผมก็เผลอใจอ่อนทุกที ยิ่งเวลาทำหน้าเป็นหมาหงอยนี่น่าสงสารที่สุด



ผมนั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อย เสียงแตรรถก็ดังมาจากหน้าบ้าน ก่อนที่ผมจะหลุดจากภวังค์ รีบคว้ากระเป๋าใบโปรด แล้วเดินตรงไปยังหน้าบ้าน แล้วก็เป็นคุณคิณที่เดินตรงมาหาผม ฉีกยิ้มจนปากจะถึงรูหู คนอะไรไม่รู้ พอมาถึงปุ๊บก็ตรงเข้ามากอดผม ก่อนที่จะจุ๊บเหม่งผมไปที



“คิดถึงจังครับ” พูดคำนี้ทุกวัน ทั้งๆ ที่เราก็เจอกันทุกวันเหมือนกัน ตอนแรกผมก็ว่าเขาโอเวอร์ แต่ไปๆ มาๆ ก็แล้วแต่เขาแล้วกัน ไม่อยากขัด อยากเพ้อเจ้ออะไรก็ปล่อยเขาไป



“เฮ้อ!” เสียงถอนหายใจหนักๆ ของผมทำให้คุณคิณเริ่มจะหน้ามุ่ยอีกแล้ว



“ไม่คิดถึงกันเลยรึไงครับ” เหมือนที่ผมบอกไว้ไม่ผิดใช่ไหมล่ะครับ ว่าคุณคิณเป็นคนขี้น้อยใจ



“เจอกันทุกวัน เช้าเย็น ส่วนเสาร์อาทิตย์คุณก็มาอยู่กับพายทั้งวันนี่ยังไม่พอรึไงครับคุณ” ผมไม่ได้ประชดเขานะครับ เพราะทุกวันนี้ผมอยู่กับคุณคิณมากกว่าครอบครัวตัวเองซะอีก



“ไม่พอครับ ทางที่ดีต้องอยู่ด้วยกันตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง”  จะไม่ให้ผมมีโอกาสได้ใช้อากาสหายใจร่วมกับคนอื่นหรือไง



“จะไปไหมครับห้างเนี่ย เพ้อใหญ่แล้วนะครับ” อีกคนเดินมาเปิดประตูฝั่งตรงข้ามคนขับให้กับผม  ไม่ได้ชอบให้เขาทำแบบนี้นะครับ แต่คุณคิณไมยอมท่าเดียว ผมขี้เกียจทะเลาะกับเขาเลยยอมๆ ไป เพราะไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร



ถึงห้างเราสองคนก็ตรงไปดูโปรแกรมหนังทันที มีหนังใหม่เข้าโรง เราสองคนอยากดูเหมือนกัน คุณคิณเลยเดินไปจองตั๋ว ส่วนผมยืนรออยู่ด้านนอก มองอะไรเพลินๆ ไปเรื่อย  ไม่รีบร้อนอะไร เพราะเราจองรอบบ่าย กะว่าจะทานข้าวด้วยกันก่อน แล้วนั่งย่อยสักพัก คงทันรอบหนังพอดี



ผ่านไปสักพักคุณคิณก็เดินกลับมาพร้อมกับตั๋วหนังในมือสองใบ ไม่ต้องบอกก็รู้ครับว่าคนตรงหน้าผมมีความสุขขนาดไหน เพราะมันแสดงออกทางสีหน้าหมดแล้ว ยิ้มมีเสน่ห์เผื่อแผ่ให้กับทุกคน รวมทั้งสาวๆ หนุ่มที่เดินผ่านไปผ่านมา เหลียวหลังกันจนคอแทบหัก คนข้างๆ ผมก็ยังทำสีหน้าแป้นแล้นเหมือนเดิม



ผมยื่นมือบางไปจับมือใหญ่ในทันที ผมไม่ได้หึงนะครับ แค่แสดงความเป็นเจ้าของ ก็คุณคิณเป็นแฟนผมนิ จะจับมือกันเดินก็ไม่เห็นแปลก พอผมยิ่งทำแบบคนที่เดินผ่านไปผ่านมายิ่งมีท่าทีสนใจมากกว่าเดิม



“พายจับมือผม?” สีหน้าเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม



“ทำไม ไม่อยากให้จับเหรอ หรือว่ากลัวคนอื่นจะรู้ว่าเป็นแฟนพาย”  ถึงผมจะเป็นคนไม่ค่อยแสดงความรู้สึกเท่าไหร่ แต่ผมก็หึงเป็นนะครับ (ไหนตอนแรกบอกว่าไม่หึงไง)



“ไม่ใช่สักหน่อย แค่แปลกใจ ปกติพายไม่ทำแบบนนี้นี่นา”



“วันนี้อยากทำ มีอะไรไหม” ผมตอบกวนประสาทไอ้ผู้ชายเจ้าเสน่ห์ข้างๆ หมั่นใส้จนอยากเอาคัตเตอร์มากรีดหน้าหล่อๆ ให้เสียโฉมสักที



“ไม่มีครับ ทำทุกวันเลยยิ่งดี” ยิ้มกว้างกว่าเดิมอีกงานนี้ ผมได้แต่ส่งค้อนวงใหญ่ให้กับคุณคิณ



“ใครเขาจะบ้าทำบ่อยๆ เล่า”



“พายไม่ทำคิณทำคนเดียวไม่ได้หรอก” ตอบไปคนละเรื่องแล้วนะครับสุดหล่อ  เอะอะก็วกเข้าแต่เรื่องใต้สะดือ



“ไปทานข้าวครับหิวแล้ว” ผมพูดตัดบทไป เพราะไม่อยากจะต่อล้อต่อเถียงกับคุณคิณ เพราะไม่มีหนทางที่จะชนะ



“ครับๆ” เราสองคนเดินจับมือเดินไปพร้อมๆ กัน แม้ว่าจะมีสายตาหลายคู่จับจ้อง หรือแม้แต่กระซิบกระซาบอย่างสงสัย ผมก็ไม่คิดที่จะเก็บมาใส่ใจ เพราะคนพวกนั้นไม่ได้มีอิทธิพลพอให้ผมต้องสนใจ



เราตกลงกันแล้ววันนี้จะทานชาบู ที่จริงอยากจจะกินพวกเนื้อย่างเกาหลีมากกว่า แต่กลัวหัวจะเหม็นแล้วต้องเข้าไปนั่งในโรงหนังอีกสองสามชั่วโมงคงทนไม่ไหวแน่เลย



เรานั่งทานกันไป คุยกันไปเรื่อยเปื่อย โดยเฉพาะคุณคิณ รายนี้คุยอะไรไม่รู้ เดี๋ยวก็เล่นมุขตลก คงนึกว่าตัวเองเป็นคิณเชิญยิ้ม ผมหัวเราะบ้างบางที  เพราะมันไม่ได้ตลกไปซะหมดนี่นา



“ทานนี่ครับ อันนี้อร่อย” คุณคิณตักหอยเชลล์ให้ผม ผมไม่ชอบหรอกครับแต่คุณคิณตักให้ก็เลยทาน  ที่ชอบจริงๆ ก็จะเป็นพวกเนื้อหมูสไลส์มากว่า ไม่ได้ชอบอะไรที่มีราคาแต่ไม่คอยถูกปากเท่าไหร่



“คุณก็ทานเยอะๆนะ มัวแต่ตักให้พาย” ผมตักให้คุณคิณบ้าง ไม่อยากให้เขาคิดว่าต้องคอยดูแลผมฝ่ายเดียว ผมไม่เคยมีแฟน เลยไม่รู้ว่าต้องทำยังไง อีกอย่างเราสองคนก็เป็นผู้ชายด้วย การปฏิบัติต่อกันมันเลยยากไปใหญ่สำหรับผม



เราทานอาหารเสร็จ นั่งย่อยสักพัก ก่อนที่จะพากันไปเข้าห้องน้ำ  เพราะไม่อยากเสียอารมณ์เวลาที่หนังกำลังสนุก แล้วต้องลุกออกมาทำธุระ ผมออกมายืนรอคุณคิณด้านนอก เพราะเขาให้ผมเข้าก่อน ส่วนตัวเองน่ะยืนเฝ้า คิดว่าผมไม่อายเหรอครับ แต่จะให้ทำยังไงล่ะในเมื่ออีกคนเอาแต่ใจเสียเหลือเกิน



ยืนมองผู้คนผ่านไปผ่านมารอบๆ  ไม่ค่อยได้ออกมาเที่ยวแบบนี้เท่าไหร่ คิดอะไรเพลินๆ กลับมีแรงสะกิดจากด้านหลังพร้อกับน้ำเสียงที่คุ้นหู แต่ผมยังไม่รู้วาเป็นใคร  จึงหันกลับไปตามแรงสะกิด



“ดีใจจังเลยครับที่ได้เจอพายที่นี่” เขาถือวิสาสะจับมือผมทันที อย่างไม่ทันได้ตั้งตัว ผมพยายามดึงมือออกแต่อีกคนกลับไม่ปล่อย



“สวัสดีครับคุณบอย เอ่อ..ปล่อยมือผมได้รึยังครับ” เขาเหมือนแสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน แล้วจับกุมมือผมไว้อย่างนั้น ผมยิ่งดึงมืออกเขายิ่งกำมือผมแน่นขึ้น



“ดีใจจังเลยครับที่ได้เจอ นึกว่าจะไม่มีโอกาสเจอกันอีกแล้ว” น้ำเสียงสุภาพที่เอ่ยออกมาตรงกันข้ามกับสายตาที่โลมเลียผมจนน่าขยะแขยง



“ปล่อยมือผมครับ” ถ้าไม่ปล่อยดีๆ ผมจะสะบัดให้มันหลุดเอง แต่ยังไม่ทันที่จะได้ทำอย่างที่ใจคิด ก็มีอีกคนเอ่ยแทรกขึ้นมาทันที



“แกนี่เองนึกว่าใคร อ่อยแฟนคนอื่นไม่เลือกเลยนะ”  ผู้หญิงคนนี้คือคนเดียวกันกับคนที่ผมเจอที่งานวันเกิดชะเอม เธอชื่อน้ำหวานถ้าผมจำไม่ผิด แล้วทำไมมากับแฟนชะเอม



“.....”



“หรือว่าติดใจลีลาผู้ชายพวกนั้น จนลืมไม่ลงเลยอ่อยไปทั่ว” คำพูดจาที่แสนจะร้ายกาจส่งมายังผม



“กรุณาให้เกียรติผมด้วยนะครับ” ช่างเป็นผู้หญิงที่น่างรังเกียจจริงๆ เลย จิตใจคิดแต่เรื่องอกุศล



“นายมีเกียรติด้วยเหรอ เป็นยังไงคื้นนั้น มันสะแด่วกับไอ้จิ๊กโก๋สองคนนั้นไหม”



“คุณเป็นคนวางแผนทุกอย่างเหรอ”  คนเราสามารถำร้ายคนอื่นได้มากมายขนาดนี้เลยเหรอ เพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ ผมไม่เคยคิดเลยว่าเธอจะเป็นผู้หญิงที่น่ากลัวขนาดนี้



“ก็ใช่สิยะ แกอยากมาอ่อยคุณบอยของฉันทำไม” ผมเนี่ยนะไปอ่อยไอ้คุณบอยไม่มีทาง ยกให้ผมพร้อมเงินร้อยล้านยังไม่เอาเลยครับผู้ชายพรรค์นี้



“ผู้ชายคนนี้เป็นแฟนชะเอมไม่ใช่เหรอ”



“จืดชืดอย่างนั้นใครจะเอา ก็แค่ของเล่นฆ่าเวลา จริงไหมคะบอย” ไม่เคยคิดเลยว่าเธอจะร้ายกาจได้ขนาดนี้ สามารถแย่งแฟนเพื่อนได้อย่างหน้าตาเฉย อีกทั้งยังไม่รู้สึกผิดเลยด้วยซ้ำ



“ผมไม่เคยคิดจะแย่งของๆ ใคร”



“ตุ๊ดอย่างแกก็แค่หาที่ระบายใช่ไหมล่ะ” ปากพล่อยๆ แบบนี้ถ้าผมไม่เห็นว่าเป็นผู้หญิงผมคงชกไปสักหมัด ส่วนไอ้คุณบอยน่ะเหรอ ได้แต่ยืนอ้าปากหวออยู่ข้างๆ



“หยุดปากพล่อยๆ ของคุณเดี๋ยวนี้เลยนะ” เสียงคุณคิณดังแทรกมาจากข้างหลัง ทำให้ทั้งสองคนรีบหันไปมอง ก่อนที่คุณคิณจะเดินมายืนข้างๆ ผม



“คุณเป็นใคร แล้วมายุ่งเรื่องของเราทำไม คุณไม่รู้หรอกว่าไอ้ตุ๊ดเนี่ยมันยืนอ่อยแฟนฉันอยู่”  ใส่ร้ายกันขนาดนี้ ผมเคยไปทำอะไรให้คุณไม่ทราบ



“ไม่ใช่แฟนคุณเหรอครับที่อ่อยแฟนผม คุณเห็นอะไรไหมครับระหว่างแฟนของคุณกับผม” ผมกำลังงงกับคำพูดของคนข้างๆ นี่เขาหมายความว่ายังไง คุณคิณต้องการจะสื่ออะไรออกมา



“อะไร” สีหน้าของน้ำหวานก็คงงงไม่ต่างจากผม



“ความแตกต่างไง ผมทั้งหล่อ ทั้งรวย แถมนิสัยดีอีกต่างหาก เมื่อเทียบกับผู้ชายของคุณแล้ว คิดว่าพายยังจำเป็นต้องอ่อยเขาไหมครับ”  คุณคิณยิ้มให้ผม ก่อนที่จะยกมือมากอดผมไว้ รู้สึกอุ่นในใจจนเผลอยกมือกอดคุณคิณตอบ



“คนอย่างไอ้นี่ก็อ่อยไปทั่วแหละไม่ว่าผัวใครก็ตาม” แม้ว่าสีหน้าของเธอจะดูซีดลงอย่างเห็ฯได้ชัด แต่ก็ยังปากเก่งเหมือนเดิม



“จะมากไปแล้วนะครับ” คุณคิณส่งสายตาอาฆาตใส่สองหญิงชายตรงหน้า



“ทำไมคะ ถ้าคุณรู้ว่าคนข้างตัวคุณผ่านใครมาบ้างคุณยังจะพูดแบบนี้อยู่รึเปล่า”



“ไม่หรอกครับ ไม่ว่าพายผ่านใครมากี่คนผมก็รักเขา แต่ผมมั่นใจว่าผมเป็นผู้ชายคนแรกแล้วก็คนเดียวของเขา” ผมยกยิ้มน้อยๆ ส่งให้คุณคิณอย่างขอบคุณ ขอบคุณทุกอย่างที่ทำให้ผมมีเขาเคียงข้าง หรือต้องขอบคุณคุณน้ำหวานด้วยก็ได้ที่ทำให้ผมได้รู้จักคนที่น่ารักอย่างผู้ชายคนนี้



“มันโดนผู้ชายเอามากี่คนแล้ว ยังสามารถหลอกคุณได้อีกเหรอ”



“เธอคงหมายถึงคืนนั้นสินะ ฉันจะบอกอะไรดีๆ ให้อย่างนะ  ฉันเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างตั้งแต่เริ่มต้น”



“มะ...หมายความว่ายังไง” ท่าทีของเธอเปลี่ยนไปในทันที  อยู่ดีๆ ก็พูดติดอ่างซะอย่างนั้น



“เธอนี่โง่หรืออะไร ถ้าไม่เข้าใจอธิบายใหม่ก็ได้ ฉันเห็นตั้งแต่เธอวางแผนนัดแนะกับไอ้ชั่วสองตัว จนเธอวางยาพาย.....” แฟนผมนี่เป็นผู้ชายปากจัดใช่ย่อยนะครับ แต่ก็ดีเหมือนกัน เพราะถ้าไม่มีเขาผมคงได้แต่ยืนอึ้งให้ผู้หญิงตรงหน้าด่าแน่นอน



“ไม่จริง”



“เธอรู้ไหมว่าผับนั้นมันเป็นของเพื่อนฉัน มีกล้องวงจรปิดทุกมุม”  คนเราเมื่อถึงทางตันนี่เป็นแบบนี้ทุกคนรึเปล่า  ได้แต่ส่งเสียงร้องแว๊ดๆ โหยหวนต่ก็ทำอะไรไม่ได้



“บ้าๆ พวกแกมันบ้า”



“แต่ฉันต้องขอบใจเธอนะ ที่ทำให้เราสองคนได้รู้จักกันเร็วขึ้น”  คุณคิณยิ้มให้ผมอีกครั้ง ผมยิ้มตอบกลับไปด้วยความรู้สึกที่เต็มตื้นในหัวใจ



“ไปครับที่รัก” คุณคิณดึงมือผมออกมาจากสองคนผัวเมียที่เหมาะสมกันยังกับผี่เน่ากับโลงผุ ก่อนที่เราสองคนจะเดินตรงไปยังโรงหนัง ผมไม่ใส่ใจกับสองคนนั้นแล้ว เพียงแค่ยังสงสัยว่าชะเอมเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกิดขึ้นรึเปล่า



“ขอบคุณนะครับ”



“เรื่องอะไร” ยังจะมาถามอีก ทั้งๆ ที่ก็รู้ว่าผมหมายถึงเรื่องอะไร



“ฮึ่ย! กวนประสาท” พอโดนผมด่า คนข้างๆ กลับหัวเราะชอบใจ เป็นโรคจิตรึยังไงก็ไม่รู้



“ครับๆ ไม่ต้องขอบคุณหรอก เพราะผมรู้ดีว่าผัวพายมีแค่ผมคนเดียว”  ผมยกมือขึ้นทุบไหล่แกร่งเสียงดังอั๊ก จนคนข้างๆ ทำหน้าเบ้



“สมน้ำหน้า พูดจาไม่เข้าหู”



“อายเหรอครับเมีย”  อยากโดนอีกสักทีใช่ไหม เดี๋ยวจัดให้หนักๆ เลยคราวนี้ แต่ไม่ได้เป็นอย่างที่ใจคิด คุณคิณจับมือผมไว้ซะก่อน ทำอะไรไม่ได้นอกจากส่งค้อนให้เขาไปหลายๆ ที



“มันก็จริงนี่ครับ เพราะผมเป็นผู้ชายคนแรกและคนสุดท้ายของพายจริงไหมครับ”



“จะไปรู้ได้ยังไง วันหนึ่งพายอาจจะเจอคนดีกว่าคุณคิณ น่ารักกว่า ไม่กวนโมโห แล้วก็รวยกว่าคุณคิณก็ได้”  แกล้งผมดีนัก พอผมพูดแกล้งคืนบ้างกลับหน้างอง้ำ ปล่อยมือออกจากการเกาะกุมมือผมไปซะเฉยๆ



“ก็ไปสิ คิณมันไม่ดีนี่นา ชอบแกล้ง เอาแต่ใจ แล้วก็ปากไม่ดี”



“รู้ตัวด้วย” สีหน้าของคุณคิณตอนนี้ตลกดีครับ อยากจะยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปเก็บไว้จริงๆ เลย



“เออ รู้มาตลอดแหละ”



“พูดไม่เพราะ” ผมยกมือตีปากเขาไปที แต่ไม่ได้แรงนะครับ



“ไม่มีอารมณ์”  เห็นไหมครับผมกับคุณคิณชอบทะเลาะกันเรื่องไร้สาระแบบนี้เป็นประจำ แล้วก็เป็นเขาที่จะเป็นฝ่ายงอนผมตลอด



“ตามใจ”



“ไม่คิดจะง้อเลยใช่ไหม” นี่ผมมีแฟนหรือมีลูกเนี่ย อยากจะรู้จริงๆ เลย



“ติดนิสัยไง นิดๆ หน่อยๆ ก็งอนอย่างเดียวเลย”



“หายแล้วก็ได้ แต่พายห้ามพูดแบบนั้นอีก” เปลี่ยนอารมณ์ไวดีไหมครับแฟนผม



“แบบไหนครับ”



“พาย!”



“ครับๆ เข้าใจแล้วครับ แกล้งเล่นเฉยๆ พอใจยังครับที่รัก” นี่แหละครับคุณคิณ เดี๋ยวดี เดี๋ยวบ้า เดี๋ยวงอน ตามอารมณ์ไม่ค่อยจะทันหรอก



บทสนทนาไร้สาระของผมกับคุณคิณก่อนเข้าโรงหนัง มันน่าจับไปล้างสมองดีไหมครับคนเรา โตจนป่านนี้แล้ว ยังไร้สาระไม่เปลี่ยนไม่รู้ว่าเป็นผู้บริหารได้ยังไง



หนังจบไปแบบงงๆ เพราะเราสองคนไม่ได้สนใจที่จะดูมันเลย เดินออกมาจากโรงหนังยังไม่รู้เลยว่าเหตุการณ์ในเรื่องเป็นยังไง พอผมกำลังตั้งหน้าตั้งตาดูคุณคิณก็ชวนคุย จับมือผมมาหอมบ้าง จุ๊บหน้าผากผมบ้าง สาระพัดจะทำ ดีนะครับที่เราจองแบบฮันนีมูน ไม่อย่างนั้นอายคนอื่นแย่เลย



*********************

 :mew1: :mew2: :mew4: :mew6: :ling1:  :กอด1: :กอด1:


                    TBC.
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน19... P.7 (03/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 03-03-2016 19:49:37
 :katai2-1:    น่ารักกันดีนะคู่นี้
คุณแม่กลายเป็นโค้ชไปเสียแล้ว อิอิ
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน19... P.7 (03/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Duangjai ที่ 03-03-2016 20:25:14
 :hao3:  :hao3:  :hao3:

หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน19... P.7 (03/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 03-03-2016 20:25:42
มดเต็มจอคอมฯ  :-[ :-[
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน19... P.7 (03/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 03-03-2016 20:32:20
ขอบคุณมากครับ
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน19... P.7 (03/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 03-03-2016 20:49:50
 สงสารชะเอม   :heaven :heaven :heaven
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน19... P.7 (03/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Ouizzz ที่ 04-03-2016 07:41:23
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน19... P.7 (03/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 04-03-2016 08:40:45
ขี้งอนจริงคุณคิณ
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน19... P.7 (03/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 04-03-2016 09:08:03
 :mew1:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน19... P.7 (03/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: nunuchhh ที่ 04-03-2016 17:01:27
อยากให้พายเจอเพื่อนจังจะได้รู้ว่าความจริงเป็นยังไง
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน20.. P.8 (06/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: MooKratai ที่ 06-03-2016 10:19:51
หลานคุณย่า 20



พาย(Part)

 

คุณย่านั่งตรงโซฟาตัวใหญ่ โดยมีพี่ซองนั่งข้างๆ ส่วนผมกับคุณคิณ เราสองคนนั่งที่พื้นที่ฝั่งซ้ายเป็นคุณย่ากับพี่ซอง ฝั่งขวาเป็นแม่กับแด๊ดของคุณคิณ   ผมทำตัวไม่ค่อยถูกเลย ไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไง ได้แต่นั่งก้มหน้าอยู่อย่างนั้น บอกตามตรงเลยคืออายครับ ที่อยู่ดีๆ ก็มีผู้ชายมาเจราจาสู่ขอทั้งๆ ที่ผมก็เป็นผู้ชายเหมือนกัน อีกทั้งผมยังต้องเป็นเมียเขาอีก โอ้ย! น่าอายชะมัด

 

 ตรงข้ามกับไอ้คนที่นั่งหน้าบานเป็นจานดาวเทียมอยู่ข้างๆ ผมเนี่ยแหละ รายนี้เขาไม่รู้สึกอะไรหรอก เพราะคติประจำใจเขาคือด้านได้อายอด  ดังนั้นจึงหน้าด้านตลอด คำว่าอายนี่สะกดเป็นรึเปล่ายังไม่รู้เลย

 

ผู้ใหญ่ก็ตกลงคุยกันไปทั้งเรื่องสินสอด และกำหนดการที่จะจัดขึ้น  คุณย่าไม่ได้เรียกร้องอะไร ท่านบอกว่าแล้วแต่ทางแม่กับแด๊ดจะเห็นสมควร

 

“ได้ยังไงล่ะคะคุณป้า สินสอดนี่ต้องเป็นหน้าเป็นตานะคะ อีกอย่างปิ่นถูกใจลูกสะใภ้คนนี้มาก ต้องจัดให้สมน้ำสมเนื้ออยู่แล้วล่ะคะ” แม่คุณคิณนี่ก็โอเวอร์เหมือนลูกชายตลอดเลย นิสัยนี่ถอดแบบกันมาเป๊ะ

 

“แล้วแต่แม่ปิ่นแล้วกัน ฉันขอแค่ให้เด็กทั้งสองรักกัน  ดูแลกันก็พอ เงินทองเป็นของนอกกาย แต่ถ้าจะให้เขาสองคนเอาไว้ตั้งตัว ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไร” บทสนทนาถูกผูกขาดโดยผู้ใหญ่สองคน ส่วนแด๊ดนี่นั่งมองตาปริบๆ ไม่รู้ว่าอยากพูดอะไรรึเปล่า

 

“แล้วฤกษ์ล่ะคะคุณป้า”

 

“ต้องถามเด็กสองคนว่าอยากแต่งเร็วๆ หรือว่าช้าก็ไม่เป็นไรรอฤกษ์งามยามดีแล้วค่อยแต่ง”

 

“ว่าไงทั้งสองคน”

 

“รอฤกษ์ดีกว่าฮะ / แต่งเร็วที่สุดครับ” คงไม่ต้องบอกนครับว่าประโยคไหนของผม ประโยคไหนของคุณคิณ

 

“เอายังไงล่ะทีนี้”

 

“เอาเป็นว่าเราหาฤกษ์ดีๆ ในช่วงสามเดือนนี้ดีไหมคะ”

 

“แล้วแต่เราแล้วกัน ส่วนเรื่องงานจะจัดเล็กใหญ่ก็ตามใจเด็กๆ เขา” คุณย่าแสดงความคิดเห็น

 

“พายว่าจัดเล็กๆ ก็พอฮะ” ไม่อยากให้ทุกอย่างวุ่นวาย เพราะเราสองคนก็เป็นผู้ชาย ที่จริงแค่รับรู้กันทั้งสองครอบครัวก็พอแล้ว

 

“ได้ยังไงล่ะลูก จัดงานทั้งทีแม่ก็อยากประกาศให้คนเขารู้ว่าลูกชายแม่น่ะ หาลูกสะใภ้ได้น่ารักขนาดไหน”

 

“เอาเป็นว่าตกลงตามที่แม่ว่าเลยแล้วกันครับ” สองแม่ลูกเข้ากันดีเป็นปี่เป็นขลุ่ย ส่วนผมได้แต่นั่งมองตาปริบๆ เพราะทำอะไรไม่ได้ สองคนแม่ลูกเขาจัดการหมดแล้วนี่

 

 โมโหคุณคิณ ไม่ถามความคิดเห็นกันบ้างเลย นี่มันงานแต่งงานคุณคิณคนเดียวใช่ไหม ส่วนผมมีหน้าที่แค่ทำตาม ที่จริงก็ไม่ได้อยากโกรธอะไร แต่ทำเหมือนผมไม่มีตัวตนอยางนั้นแหละ ไม่รู้เป็นบ้าอะไรเรื่องแค่นี้กลับทำให้รู้สึกน้อยใจไม่หาย รู้สึกว่าตัวเองสาวแตกยังไงไม่รู้

 

ผมไม่คุยกับคุณคิณตั้งแต่ที่ผู้ใหญ่คุยกันเสร็จ มันรู้สึกน้อยใจครับ ผมไม่มีสิทธิเรียร้องอะไรเลยหรือไง พูดอะไรก็ขัดไปซะหมด ไม่รู้จะให้ผมมานั่งด้วยทำไม คุยกันเองก็จบแล้ว

 

ก้มหน้าก้มตาทำอาหารตั้งแต่บ่าย อยู่แต่ในครัวไม่ยอมออกไปข้างนอก ไม่อยากเห็นหน้าคุณคิณเลยตอนนี้ แม้ว่าในครัวจะยังไม่มีอะไรให้ทำมากมายผมก็นั่งอยู่อย่างนั้น จนพี่ๆ แม่บ้านสงสัย  ทำมันทุกอย่าง ไม่ให้ใครเข้ามาช่วย ไม่ใช่พราะอยากแสดงฝีมืออะไร แต่ไม่รู้จะออกไปข้างนอกทำไม

 

คิดถูกหรือคิดผิดไม่รู้ที่ยอมตกลงแต่งงานกับเขาง่ายขนาดนี้  นี่ขนาดยังไม่แต่งยังไม่สนใจความรูสึกผมบ้างเลย ถ้าแต่งไปคงไม่ต้องพูดมั้งว่าจะเกิดอะไรขึ้น ยิ่งคิดก็ยิ่งอยากถอยอีกสักก้าว หรือว่าเราสองคนเดินหน้าเร็วเกินไป ยังไม่ได้รู้จักนิสัยใจคอกันดีเลยก็คิดจะใช้ชีวิตร่วมกันแล้ว

 

“ทำอะไรอยู่ครับ” เสียงของคนที่คุ้นเคยดังมาจากข้างหลัง พร้อมกับอ้อมกอดอุ่นๆ ที่ของคนที่พึ่งเดินเข้ามา

 

“หือ..ถามทำไมไม่ตอบครับ”

 

“เปล่า...ปล่อยพายก่อน ทำไม่ถนัด” พยายามเก็บอารมณ์ที่คุกรุ่นในใจไม่ให้ตัวเองแสดงออกจนน่าเกลียดเกินไป

 

“โกรธผมเหรอ”

 

“......”

 

“บอกหน่อยครับโกรธเรื่องอะไร เรื่องงานแต่งของเราเหรอ” รู้ตัวด้วยเหรอว่าทำให้ผมเสียความรู้สึก แล้วทำไมทำล่ะ ถามกันสักคำก็ไม่มี

 

“......”

 

ความเงียบยังคงเป็นคำตอบของผม ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรยังไง มันสับสน กลัวไปหมด แค่รักกับผู้ชายก็แปลกแล้ว แต่ผมก็ยอมรับมันมาตลอดเพราะผมรักคุณคิณ

 

“หันมาคุยกันดีๆ ครับ มีอะไรให้ก้มหน้าก้มตาทำนักหนา” มือหนาจับไหล่ผมทั้งสองข้างก่อนที่จะบังคับให้ผมหันมาเผชิญหน้ากับเขา

 

“.......” รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นใบ้ขึ้นมาทันที อยู่ๆ ปากมันก็ไม่อยากจะเอื้อนเอ่ยขึ้นมาซะเฉยๆ หลบสายตาคมด้วยการเบนไปมองข้างๆ เหมือนกับว่ามันมีอะไรน่าสนใจอย่างนั้นแหละ

 

“โกรธที่ผมเอาแต่ใจใช่ไหม โกรธที่ผมไม่ฟังพาย ทำเหมือนพายไม่สำคัญใช่ไหมคับ” เขายื่นมือมาจับปลายคางผมให้หันมาตรงๆ ก่อนที่จะดันให้หน้าผมเชิดขึ้น สายตาปะทะกับตาคมของเขาพอดี

 

“อือ....” ผมพยักหน้ารับทั้งๆ ที่หัวใจเหมือนจะแตกเป็นเสี่ยงๆ

 

“ขอโทษ ผมแค่อยากให้ทุกคนได้รับรู้ว่าผมกับพายเป็นอะไรกัน ไม่อยากให้ใครมองว่าผู้ชายรักกับผู้ชายมันไม่ยั่งยืน”

 

“แต่งานแต่งใหญ่โต ก็ไม่ได้ยืนยันว่าเราสองคนจะไปได้ตลอดรอดฝั่ง”

 

“เข้าใจครับ แต่ผมเป็นนักธุรกิจนะพายลืมไปรึเปล่า ว่าเวลาที่ผมออกงานมีคนจ้องจะจับผมกันกี่คน ถ้าเราจัดเล็กๆ ภายในครอบครัว จะมีใครรู้ว่าผมมีเมียแล้ว มันไม่เป็นผลดีเลย  แต่ถ้าจัดเอิกเกริกใหญ่โตก็จะทำให้ผู้หญิงพวกนั้นเลิกยุ่งกับผม อีกทั้งพวกนักข่าวที่คอยตามผมอีกล่ะ เขาจะมองพายยังไงที่ผมควงพายตะลอนๆ ทั้งๆ ที่ไม่ได้เป็นอะไรกัน เขาอาจจะมองว่าพายเป็นแค่ของเล่นของผม ซึ่งผมไม่ต้องการให้ใครมองเมียผมไม่ดี” คุณคิณอธิบายเสียจนยืดยาว ที่จริงผมเริ่มจะเข้าใจตั้งแต่เขาเริ่มพูดแรกๆ แล้ว แต่มันก็ยังรู้สึกไม่ดีอยู่

 

“พายเข้าใจแล้ว”

 

“เข้าใจแล้วก็ยิ้มให้คิณหน่อยเร็ว”

 

“ยิ้มแบบนี้” มือใหญ่ยกขึ้นมาจับมุมปากผมทั้งสองข้างก่อนจะยืดออกจนเห็นฟันแทบจะครบสามสิบสองซี่

 

“อือ...เอ็บ”  มือเรียวเล็กยกขึ้นมาตีมืออีกคนที่ยังไม่ยอมปล่อย ทั้งยังหัวเราะราวกับตลกมากอย่างนั้นแหละ

 

“ขอโทษครับ ขอโทษ”

 

“ขอโทษพายอีกแล้ว ทั้งๆ ที่พายเองเป็นคนผิด คิดมากไปเองคนเดียว”

 

“ช่างมันเถอะครับ แล้วมาอยู่ในครัวทำไมตั้งนาน”  คุณคิณยกมือลูบหัวผมแบบที่เขาชอบทำอยู่บ่อยๆ

 

“ทำอาหารไง” ผมก้มหน้าเพราะไม่อยากสบสายตาเจ้าเล่ห์ที่รู้ทันความคิดผมไปแทบจะหมดทุกอย่าง

 

“ทำอาหารอะไรตั้งแต่บ่าย ไม่ใช่หลบผมอยู่รึไง”

 

“รู้แล้วยังจะมาถาม”

 

“ออกไปข้างนอกกันทุกคนรออยู่นะครับ”

 

“ครับ” เราสองคนเดินจับมือกันออกไปข้างนอก รู้ว่าตัวเองผิดที่ทำแบบนี้ ทำให้ผู้ใหญ่หลายๆ คนต้องมานั่งรอเราคนเดียว แต่มันเป็นอารมณ์ของคนที่กลัวไงครับ ความรู้สึกเหมือนเจ้าสาวที่กลัวฝนอะไรประมาณนั้น

 

“มาแล้วเหรอลูก มานั่งกับแม่มา” ผมเดินมานั่งข้างๆ แม่คุณคิณ มือบางๆ ของท่านยกมากอดผมไว้ มันอุ่นดีนะครับ ไม่ใช่อุ่นที่ร่างกายภายนอก แต่มันรู้สึกอุ่นไปถึงหัวใจ  ใจมันพองโตจนแทบจะระเบิด แต่ก็รู้แหละว่าตัวเองทำผิด

 

“พายขอโทษนะครับ” ยกมือไหว้คุณย่า แม่คุณคิณ รวมทั้งแด๊ดด้วย แต่ท่านทั้งหมดก็ไม่ได้ว่าอะไร แถมยังส่งยิ้มอ่อนโยนมาให้ผมอีก

 

“ไม่เป็นไรลูกแม่เข้าใจ จะจัดงานแบบเล็กๆ ก็ได้แม่ไม่ได้ว่าแล้วแต่เรา”

 

“เอาอย่างนี้ดีไหมครับ จัดงานเล็กๆ ในครอบครัวเรา เชิญเฉพาะคนสนิท แล้วผมค่อยพาพายไปออกงานแล้วแถลงข่าวเลยทีเดียว” เป็นความคิดที่ดี งานแต่งผมอยากให้มีแค่คนสำคัญของเราทั้งสองคนอยู่ร่วมแสดงความยินดีจากใจจริง ไม่ใช่มีใครก็ไม่รู้มาร่วมงานเต็มไปหมด แต่มันโคตรอึดอัด

 

“ถ้าอย่างนั้น ย่าว่าจัดที่บ้านดีกว่า จะได้ดูอบอุ่น” ผมยิ้มทันทีที่คุณย่าพูดจบ มันตรงกับความคิดผมที่สุด

 

“ว่าไงคะน้องพาย” ท่านยังคงยิ้มให้ผม ไม่มีท่าทีขี้เล่นเหมือนอย่างเช่นทุกครั้ง

 

“แบบนี้ก็ดีฮะ พายอยากให้มีเฉพาะคนที่รักเราสองอยู่ในงาน ร่วมยินดีกับเราสองคนจากใจจริงๆ”

 

“ตามนั้นเลยจ๊ะ แม่ขอโทษนะที่ไม่ได้นึกถึงใจของพายเลย”

 

“ไม่หรอกฮะ พายรู้ว่าแม่หวังดี” บทสนทนายังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ คุยเรื่องนู้นเรื่องนี้ไปเรื่อย แต่คนที่ดูจะเงียบที่สุดน่าจะเป็นพี่ชายของผม เขาไม่ค่อยพูดเลยถ้าไม่มีคนถาม บางทีนั่งใจลอยเหมือนอยู่อีกโลกหนึ่ง

 

พี่ซองเป็นแบบนี้มาสักระยะแล้ว ไม่ค่อยพูดพอกลับมาจากทำงานก็ขึ้นบ้าน เหมือนคนมีอะไรในใจตลอดเวลา ที่ผมไม่ถามใช่ว่าจะไม่เป็นห่วง  เขาไปที่ร้านบ่อยจนผิดปกติ ไปถึงก็ไม่คุยกับใคร นั่งอยู่อย่างนั้น บางทีผมก็สังเกตุเห็นว่าเขาเอาแต่มองมินที่กำลังยิ้มสดใส แต่อีกคนกลับไม่สนใจที่จะมองพี่ชายผมเลย

 

สองคนนี้มีอะไรผิดปกติเกินไป ทั้งๆ ที่พี่ซองไม่เคยคิดจะยุ่งกบมิน แต่คราวนี้มันแตกต่าง เขาเหมือนอยากจะเข้าหาแต่ไม่กล้า หรือว่าทั้งสองคนมีเรื่องผิดใจอะไรกันอีก ผมรู้ดีว่าตั้งแต่เด็กพี่ชายผมตั้งแง่กับมิน ไม่เล่น ไม่คุย แต่ถ้าคุยนั่นคือด่าอย่างเดียว จนพักหลังๆ มินจะหลบเขาเสมอ เพื่อไม่ให้ต้องปะทะกันผมไม่รู้ว่าทำไมพี่ซองทำแบบนั้นกับมิน สงสัยมาตลอดแต่ก็ไม่เคยได้คำตอบ

 

“แม่ลืมถาเลย แล้วน้องคนเล็กไปไหนล่ะ ยังไม่ได้เจอกันเลย” เสียงแม่คุณคิณเอยขัดความคิดเรื่อยเปื่อยของผม

 

“ฉันไล่ให้เขาออกไปเที่ยวเองแหละ ไม่อยากให้มาป่วนเวลาที่ผู้ใหญ่คุยกัน รายนั้นน่ะไร้สาระตลอด” ถ้าน้องบราวรู้ว่าย่านินทาตัวเองแบบนี้ จะเป็นยังไงบ้างนะ

 

“กลับมาแล้วววววว” เสียงใสๆ ตะโกนมาแต่ไกล ตามแบบที่เคยทำ มือไม้เต็มไปด้วยข้าวของที่ซื้อมา วิ่งแถดๆ เข้ามาด้านใน สายตาทุกคนจับจ้องที่เจ้าตัวเล็กที่ยังไม่รู้ตัว

 

“อุ้ย!” ขาสั้นๆ หยุดชะงักทันที ก่อนที่จะก้มหน้าก้มตาเดินเข้ามายังกับเป็นคนละคน

 

“น้องบราวขอโทษฮะ ไม่นึกว่าจะมีแขก” เจ้าตัวแสบวางถุงทั้งหลายแหล่ในมือลง  ก่อนที่มือเล็กๆ ยกขึ้นมาไหว้ผู้ใหญ่ทุกคน

 

“มานั่งข้างย่ามา” บราวนี่เดินมานั่งข้างย่า อีกฝั่งมีพี่ซองนั่งอยู่ คราวนี้รู้ว่าตัวเองทำผิดเลยเอาแต่ก้มหน้าไม่ยอมมองใคร

 

“น้องบราวน่ารักจังเลย ตาโตยังกับตุ๊กตา” วันนี้น้องบราวใส่เสื้อสีขาวตัวใหญ่ ลายด้านหน้าเป็นตุ๊กขนตายาวๆ  สวมหมวกแก๊ปดีไซน์เก๋ กางเกงขาสั้นเหนือเข่าสีสด อีกทั้งยังคงใส่คอนแทคเลนส์สีฟ้า โกรกผมนี่สีออกเทาๆเหลือบฟ้า เยอะกว่านี้ไม่มีแล้วครับ

 

“ขอบคุณฮะ” แม้ว่าจะเกร็งที่ตนเองไม่รู้จักกาละเทศะ แต่ก็เงยหน้าขึ้นมายิ้มเผล่ให้กับคนชม เพราะเขาโดนที่บ้านว่ามาตลอดเรื่องการแต่งตัวว่ามันเยอะจนไม่รู้จะมองตรงไหน แม่คุณคิณท่าจะปลื้มในความน่ารักของเจ้าตัวแสบ

 

“น่ารักจังเลย ส่วนหนูพายของแม่ก็สวย แม่ฟินนนค่ะ”  ท่านยังคงกอดผมไม่ยอมปล่อย มองน้องชายผมยิ้มๆ จนเจ้าตัวแสบท่าจะเขิน

 

“แล้วนี่ซื้ออะไรมาเยอะแยะ” คนยิ้มหน้าบานเมื่อกี๊ หุบยิ้มแทบจะไม่ทัน

 

“นิดหน่อยเองฮะย่า” นิดหน่อยของเขานี่น่าจะมีถุงเสื้อผ้าอยู่ประมาณห้าถุง แล้วอีกสามถุงน่าจะเป็นรองเท้าแบรนด์ดังที่เจ้าตัวเขาชอบนั่นแหละ

 

“แล้วเอาเงินที่ไหนไปซื้อ ย่าตัดค่าขนมอยู่ไม่ใช่เหรอ หรือว่าตาซอง” ไม่ต้องบอกก็รู้แล้วครับคนที่เอาให้ย่าจะเป็นพี่ซองนี่แหละ เขาตามใจเจ้าตัวแสบสุดๆ แล้ว แค่อ้อนสองสามทีอยากได้อะไรที่แทบจะหามาถวายทันที

 

“อย่าพึ่งว่าน้องบราวซิฮะย่า แขกเยอะแยะน้องบราวก็อายเป็นนะ” เจ้าตัวแสบค้อนให้ย่าหนึ่งที ก่อนที่จะขยับตัวเข้าไปกอดเอาใจคนแก่

 

“ขี้ประจบ” ย่าเขกหัวเบาๆ ไปที แต่ก็ได้ผล ไม่มีเสียงบ่นจากปากของย่าอีกเลย

 

ครอบครัวคุณคิณอยู่ทานอาหารเย็นฝีมือผมด้วยกัน ผมพึ่งรู้ก็วันนี้แหละว่าคุณคิณมีพี่ชาย แต่เสียชีวิตมาสามปีแล้วเนื่องจากอุบัติเหตุ แต่งงานกับผู้หญิงต่างชาติ มีลูกด้วยกันหนึ่งคน ทางนั้นเป็นฝ่ายเลี้ยงหลาน แต่ครอบครัวคุณคิณเป็นคนส่งเสียทุกอย่าง ท่านบอกว่าพึ่งเคยเจอหน้าหลานแค่ครั้งเดียว คือตอนที่เกิดใหม่ๆ เพราะบินไปเยี่ยมทั้งครอบครัว หลังจากนั้นก็แทบจะไม่ได้ติดต่อกันเหมือนอยู่คนละโลก โตขนาดไหนแล้วยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำ ครอบครัวคุณคิณน่าสงสารจัง

 

ผมเผลอทำหน้าเศร้าจนคุณคิณยกมือมาลูบหลังเบาๆ  แววตาที่เข้มแข็งส่งมันมาให้กับผม จนผมต้องยิ้มตอบกลับไป กว่าที่ทั้งสองครอบครัวจะแยกย้ายกันได้ ก็ค่อนข้างดึก คุณย่าต้องขึ้นไปพักผ่อนด้วย  เพราะท่านอายุเยอะแล้วนอนดึกมากไม่ดี คนแก่ก็ต้องคอยดูแลใกล้ชิดแบบนี้แหละครับ จะได้มีอายุยืนยาวอยู่กับผมไปนานๆ

***************************

:mew2: มาแล้วๆ ไม่มีอะไรจะพูด อ่านตามสบายเลยค่ะ :pigha2:



                         TBC.
 

หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน20.. P.8 (06/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: nunuchhh ที่ 06-03-2016 10:35:19
 :กอด1: เป็นครอบครัวที่น่ารักจังคะ
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน20.. P.8 (06/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 06-03-2016 11:41:05
พี่คิณนี่รีบแต่ง  กลัวหนุ่มๆมาจีบพายละสิ
แสดงความเป็นเจ้าของตัวจริง
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน20.. P.8 (06/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 06-03-2016 11:51:14
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน20.. P.8 (06/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 06-03-2016 12:04:07
รองานแต่งน้า~
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน20.. P.8 (06/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Dee^daY ที่ 06-03-2016 15:53:28
สู่ขอ ..
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน20.. P.8 (06/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: DE SaiKuNee ที่ 06-03-2016 17:25:05
 :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน20.. P.8 (06/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 06-03-2016 18:22:50
เป็นครอบครัวที่อบอุ่นสมบูรณ์พร้อมจริงๆ
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน20.. P.8 (06/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 06-03-2016 18:28:21
จะได้เป็นเจ้าสาว?แล้วนะน้องพาย
น่ารีกดีค่ะ พูดกันจากใจมันจะดีเอง
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน20.. P.8 (06/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Kalamall ที่ 06-03-2016 18:56:34
เหตุผลพี่คิณถูกน่ะ  o13 แต่งเลยๆ
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน20.. P.8 (06/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 06-03-2016 19:36:45
สองครอบครัวนี้อบอุ่นจริงๆ แต่ทำไม่ซองถึงผ่าเหล่าไปได้นี่
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน20.. P.8 (06/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 06-03-2016 20:54:07
พี่คิณมีหลานด้วย
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน20.. P.8 (06/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 06-03-2016 21:53:14
รองานแต่ง :mc4: :mc4: :mc4:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน20.. P.8 (06/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Papangtha ที่ 06-03-2016 22:14:02
เค้าจะแต่งงานกันแล้วว :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน20.. P.8 (06/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: badbadsumaru ที่ 07-03-2016 01:13:23
ครอบครัวน่ารักจัง รองานแต่งงานนะคะ
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน20.. P.8 (06/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 07-03-2016 01:53:09
เกือบจะครบคู่แล้วนะครับ พาย - คิณ / มิน - ซอง / บราว - ?
รอคู่น้องบราวอยู่นะครับ ^^
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน20.. P.8 (06/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 07-03-2016 12:55:10
บราวน่าจะเป็นคอนเพลเยอร์นะ
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน20.. P.8 (06/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: BB-c-TOO ที่ 08-03-2016 18:01:36
การเดินเรื่องมาดีเลยนะค่ะ ชอบ ฟิน เรื่อยๆดีอยู่ ไม่ดราม่ามาก(ชอบที่สุด)ขอแนะนำนิดนึงนะ บางตอนตัดเร็วมากยังไม่ทันจบความก็เริ่มฉากใหม่แล้ว อย่างตอนนี้ (ตอนที่15) เรื่องที่ซองโวย พายกับคิณแล้วมีคุณย่ามาเคลียเอาจริงๆเรายังอยากอ่านถึงคำตอบของพายต่อหน้าย่า แล้วค่อยมาทำแผลนะ การวางฉากของตัวละครยังไม่ค่อยลื่นไหลทำไร ตัดเร็วไปนิดนึงน่าจะฟีคให้จบค่อยเริ่มใหม่
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน20.. P.8 (06/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: MooKratai ที่ 08-03-2016 20:20:58
การเดินเรื่องมาดีเลยนะค่ะ ชอบ ฟิน เรื่อยๆดีอยู่ ไม่ดราม่ามาก(ชอบที่สุด)ขอแนะนำนิดนึงนะ บางตอนตัดเร็วมากยังไม่ทันจบความก็เริ่มฉากใหม่แล้ว อย่างตอนนี้ (ตอนที่15) เรื่องที่ซองโวย พายกับคิณแล้วมีคุณย่ามาเคลียเอาจริงๆเรายังอยากอ่านถึงคำตอบของพายต่อหน้าย่า แล้วค่อยมาทำแผลนะ การวางฉากของตัวละครยังไม่ค่อยลื่นไหลทำไร ตัดเร็วไปนิดนึงน่าจะฟีคให้จบค่อยเริ่มใหม่

-ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะคะ จะปรับปรุงให้ดีขึ้นค่ะ  :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน21.. P.8 (08/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: MooKratai ที่ 08-03-2016 20:22:43
หลานคุณย่า21


 

คิณ(Part)

 

เป็นอีกวันที่ผมต้องนั่งประชุมประชุมตั้งแต่เช้า พร้อมกับคุณรตีอีกตามเคย มันเป็นอะไรที่น่าเบื่อนะครับที่ต้องนั่งพูดเรื่องงานเดิมซ้ำๆ ซากๆ เพราะความไม่เข้าใจของหุ้นส่วนอีกคน จนผมคิดอยากจะล้มเลิกโครงการที่ทำร่วมกันไปซะเลย จะเรียกค่าเสียหายเท่าไหร่ผมก็ยินดีจะจ่าย แต่ตอนนี้ผมยังพอที่จะทนได้อยู่ ลองทนอีกสักตั้ง

 

ผมนัดพายให้ทำอาหารเที่ยงมาให้ทานครับ บังคับให้เขาเอามาให้ที่บริษัทก่อนมื้อเที่ยงของผม แต่ตอนนี้เวลาก็ล่วงเลยมาเที่ยงครึ่งแล้ว ผมยังไม่ได้ออกจากห้องประชุมเลย นั่งมองนาฬิกาหลายต่อหลายครั้ง ก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะเลิกประชุม

 

ก่อนจะหยิบโทรศัพท์เครื่องหรูขึ้นมาดูว่ามีใครโทรเข้ามาบ้างรึเปล่า แต่กลับไม่มีเบอร์ของคนที่ผมต้องการที่จะเจอ กว่าที่จะตกลงกันได้ก็เกือบบ่ายโมง ทั้งๆ ที่คิดว่าวันนี้แค่จะมาฟังสรุปผลการประชุมครั้งที่แล้วนิดๆ หน่อย แต่กลับเสียเวลาไปเยอะ

 

ผมรีบลุกจากเก้าอี้อย่างรีบเร่ง มืออีกข้างก็พยามกดหมายเลขของคนรักของผม ไม่รู้ว่าตอนนี้พายอยู่ที่ไหน มาถึงแล้วรึยัง แล้วทำไมเขาไม่โทรหาผม

 

“คะ...คุณคิณคะ” ผมยกมือเป็นเชิงห้ามไม่ให้คุณรตีพูด เพราะผมรีบ ไม่มีเวลาฟังเรื่องไร้สาระหรอก

 

“อยู่ไหนครับ” แค่ปลายสายเอ่ยทักทายมาแค่นั้นแหละผมก็หัวเสียทันที

 

“พายอยู่ข้างล่าง ตรงประชาสัมพันธ์” ทำไมพายถึงไม่ขึ้นมาห้องผมไปนั่งอยู่ตรงนั้นทำไม

 

“รออยู่ตรงนั้นนะครับเดี๋ยวไปรับ” ผมรีบวางสายทันที ก่อนที่จะตรงไปที่ลิฟท์ของผู้บริหาร เป็นห่วงพายที่ต้องอยู่ข้างล่างคนเดียว ทั้งๆ ที่มันเป็นบริษัทผมแท้ๆ เพียงไม่นานสัญญาณลิฟท์ก็เตือนเมื่อถึงชั้นที่ผมต้องการที่จะไป

 

ผมเห็นเขาแต่ไกล ผู้ชายตัวเล็กๆ ผิวขาวๆ แต่ไม่ซีด ตากลมโตก้มลงมองมือตัวเอง ไม่ได้คิดจะสนใจคนที่เดินผ่านไปผ่านมาเลยสักนิด

 

“พายครับ” ผมพยายามระงับอารมณ์โมโหขงตัวเอง ทำไมพนักงานไม่ให้พายขึ้นไปรอผมข้างบนทั้งๆ ที่ผมก็สั่งไว้เรียบร้อยแล้ว

 

“มาแล้วเหรอครับ” พายส่งยิ้มให้ผม ก่อนที่จะยื่นกล่องข้าวที่เตรียมมาให้ผมดู แม้ว่ารอยยิ้มจะทำให้ผมผ่อนคลายลง แต่ก็ไม่ได้คลายอารมณ์โกรธของผมลงเลยสักนิด

 

“รอนานไหม มาตั้งแต่กี่โมง”

 

“ก็....ไม่นานครับ” เสียงตอบนี่แผ่วไปนะ โกหกกันอยู่ใช่ไหม

 

“มารอตั้งแต่กี่โมง” ผมเน้นคำพูดให้ชัดเจนมากขึ้น เพราะต้องการคำตอบจากเขา ไม่ใช่ว่าเลี่ยงอย่างเดียว

 

“สิบเอ็ด เอ้ย...ไม่ใช่ๆ เกือบเที่ยงครับ”  โกหกกันล่ะสิคราวนี้ลนลานเชียว

 

“ผมจะพยายามเชื่อนะครับ แม้จะรู้ว่าพายโกหกก็ตาม” ผมรับกล่องอาหารมาถือไว้เอง มืออีกข้างก็ยื่นไปจับมือบางของอีกคนให้เดินตามมา

 

“สวัสดีค่ะบอส” ประชาสัมพันธ์สาวทั้งสองคนลุกขึ้นเอ่ยทักทายผม

 

“ใครเป็นคนรับโทรศัพท์ผมเมื่อเช้า” ผมถามเสียงเข้มจนหญิงสาวทั้งสองคนหน้าซีดเผือดลงไปนิดนึง

 

“วารีเองค่ะ”

 

“แล้วเธอจำได้ไหมว่าผมสั่งว่ายังไง” ตาผมยังคงจ้องประชาสัมพันธ์สาวไม่วางตา

 

“บอสบอกว่าคนรักจะมาทานข้าวเที่ยงด้วย ถ้ามาถึงแล้วให้พาขึ้นไปบนห้องบอสค่ะ” เธอพยายามตอบเสียงนิ่งทั้งๆ ที่ก็ยังสั่นไม่หาย

 

“แล้วนี่อะไร แฟนฉันรอตั้งกี่ชั่งโมง”

 

“พอเถอะครับคุณคิณ เธอไม่ผิดหรอก” พายเป็นคนชอบสงสารคนอื่นไม่ว่าเขาจะดีกับตนเองหรือไม่

 

“ได้ยังไงล่ะ ก็ผมสั่งไว้แล้ว นี่คำพูดของผมพวกคุณไม่ใส่ใจกันเลยใช่ไหม”  ผมโมโหมากเลยครับ นี่ถ้าพายไม่ได้อยู่ด้วย ผมคงไล่ตะเพิดเธอไปแล้ว

 

“วารีขอโทษค่ะบอส วารีไม่คิดว่า...คนที่บอสพูดถึงจะเป็นผู้ชาย” เธอยกมือไหว้ผมยกใหญ่ สงสัยจะกลัวถูกไล่ออก

 

“เลิกว่าเธอเถอะครับ เธอคงไม่คิดว่าพายจะเป็นแฟนคุณ”

 

“พวกเธอสองคนจำไว้เลยนะ ว่าถ้าพายมาหาผมเมื่อไหร่ให้พาขึ้นไปรอที่ห้องผม ไม่ใช่ให้มานั่งอยู่ตรงนี้” คราวนี้ผมจะไม่ทำโทษเพราะพายขอร้องไว้ แต่ถ้ามีคราวหน้าผมไล่ออกแน่ครับ

 

“ค่ะบอส/ค่ะบอส” ทั้งสองคนเอ่ยออกมาพร้อมกัน ก่อนที่ผมจะดึงมือพายออกไป ยังมีหน้าหันไปส่งยิ้ม แล้วเอ่ยขอโทษพนักงานสองคนนั้นอีกนะคนเรา

 

ผมดึงคนตัวเล็กไม่ค่อยจะเบานักให้เดินตามมาก่อนที่ประตูลิฟท์จะเปิดออก ปรากฏร่างของหญิงสาวที่ผมไม่คิดอยากจะเจอเลยถ้าไม่จำเป็น

 

“คุณคิณจะไปไหนเหรอคะ” เธอเหล่มองพายนิดนึง ก่อนที่จะหันมาส่งยิ้มหวานให้ผม

 

“ไปทานข้าวครับ”

 

“พอดีเลยค่ะ รตีก็กำลังจะไปทาน ให้รตีทานด้วยนะคะ”

 

“พายทำกับข้าวมาให้ผม ผมจะขึ้นไปทานข้างบนครับ”

 

“ทานด้วยกันก็ได้นะครับ พายทำมาเยอะ” ผมบีบมือเล็กของคนที่ใจดีเกินเหตุ เพื่อให้เขารู้ว่าผมไม่พอใจ

 

“ถ้าอย่างนั้นรตีไม่รับกวนคุณคิณดีกว่าค่ะ เพราะอาหารแบบนี้ถ้ารตีทานเข้าไปมีแต่จะท้องเสียเปล่าๆ”  ดูเธอพูดสิครับไม่คิดจะให้เกียรติพายเลยสักนิด

 

“งั้นก็เชิญคุณตามสบาย” ผมรีบดึงมือพายเข้ามาในลิฟท์ก่อนที่จะกดปิด ไม่มีแม้คำกล่าวลาจากปากของผม เพราะผมค่อนข้างจะโมโหมากจนแทบจะควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ไหว

 

“คุณคิณทำไมพูดกับเธอแบบนั้นล่ะครับ”

 

“พายก็อีกคน จะใจดีอะไรนักหนา” ผมเผลอตวาดเสียงดังทั้งๆ ที่มือก็ยังเกาะกุมมือบางไว้ แต่ผมรู้สึกได้ถึงแรงขยับยุกยิกของอีกคน พยายามที่จะดึงมือออก ผมมองคนตัวเล็กที่ตอนนี้เอาแต่ก้มหน้าไม่หันมามองผมสักนิด ยอมรับว่าผมควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่จนเผลอตะคอกเสียงดัง

 

เราสองคนไม่ได้คุยอะไรกันเลยตลอดทางที่เดินมายังห้องทำงานของผม พายเพียงแค่เดินตามแรงดึงของผมเท่านั้น

 

ผมรีบเปิดประตูห้องทำงานก่อนที่จะผลักคนตัวเล็กให้เดินเข้าไปข้างใน ผมไม่ปลอบเขาหรอก เพราะเขาก็ผิดที่ทำอะไรไม่นึกถึงใจผมบ้าง รู้รึเปล่าว่าผมเป็นห่วงขนาดไหน

 

“เป็นอะไร”

 

“เปล่า” ตอบเพียงเท่านั้นแต่ก็ยังยืนอยู่จุดเดิม

 

“มีความผิดอย่ะครับ ผมไม่ง้อหรอก อยากจะร้องก็ร้องไปเลย” พายกำมือแน่นราวกับจะระบายไม่ให้น้ำตามันไหลออกมา เขาพยายามกลั้นสะอื้นเพื่อไม่ให้ผมได้ยิน

 

“....ฮึก....” แรงสะอื้นเริ่มดังมาขึ้นจากการที่ร้องให้ไม่ยอมหยุด น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าหล่นใส่หลังมือเนียนสวย 

 

“เป็นอะไร ร้องให้ทำไม คิณว่าเพราะเป็นห่วง” ผมเดินเข้าไปหาคนที่เอาแต่ก้มหน้าก้มตาร้องให้อยู่อย่างนั้น

 

“........”

 

“รู้ไหมว่าทำไมคิณถึงโกรธมาก” เวลาที่ผมโมโห ผมจะแทนชื่อตัวเองกับเขาเพื่อให้มันดูไม่รุนแรงเกินไป เหมือนกับเวลาที่ผมอยากจะอ้อนผมก็แทนชื้อตัวเองเหมือนกัน

 

“.........”

 

 

“พายมาถึงไม่โทรหาคิณ กี่ชั่วโมงที่นั่งรอข้างล่าง คิณนั่งประชุมแทบจะไม่รู้เรื่องเพราะกลัวพายมาแล้วไม่เจอ”

 

“พาย... คิดว่าถ้าคุณคิณประชุมเสร็จก็คงโทรมาเอง พายไม่อยากรบกวนเวลางานของคุณ” นิ้วโป้งของผมไล่เกลี่ยคราบน้ำตาที่ไหลอาบสองแก้ม

 

“แล้วถ้าคิณไม่โทร พายก็จะนั่งอยู่อย่างนั้น” ผมโมโหกับความคิดของเขาจริงๆ เลย  เขากับผมเป็นอะไรกันทำไมกลัวที่จะรบกวน

 

“พายคิดว่ายังไมคุณประชุมเสร็จก็ต้องโทรหาพายอยู่แล้ว”

 

“มั่นใจขนาดนั้น” ผมดึงพายให้ตามมานั่งที่โซฟาตัวใหญ่ ดึงร่างเล็กให้มานั่งคร่อมบนตักผม

 

 “ครับ”

 

“แล้วถ้าคิณไม่โทรล่ะ”

 

“ไม่รู้” เสียงอ่อยๆ เวลาตอบกลับไม่มองหน้าผมเลยสักนิด

 

“เห็นไหมครับ ว่าพายเป็นคนผิด อย่างนี้ต้องโดนลงโทษ” พายทำหน้างงๆ ที่อยู่ดีๆ ผมก็เปลี่ยนอารมณ์กระทันหัน จากที่เมื่อกี้โกรธอยู่ตอนนี้มีอารมณ์อื่นมาแทนที่

 

“ลงโทษยังไง” ผมหมั่นเขี้ยวว่ะ ยื่นริมฝีปากใปใกล้ๆ แก้มใส ก่อนที่จะตั้งใจกัดแรงๆ ไปทีหนึ่ง

 

“อื้อ....เจ็บอ่ะ เป็นหมารึไง”

 

“ว่าอะไรนะครับ ใครเป็นหมา”

 

“เปล่า...”

 

“เปล่าอะไรได้ยินเต็มสองหู กล้าว่าผัวเป็นหมาเหรอ ได้หมาตัวนี้จะกัดให้พรุนไปทั้งตัวเลย”

 

“อือ..เอ็บ”ผมเคลื่อนริมฝีปากมาบดเบียดริมฝีปากบางของคนตัวเล็ก ที่ดิ้นหาทางเอาตัวรอดจากเงื้อมือของเสือร้ายอย่างผม แต่ไม่มีทางรอดหรอกครับงานนี้ ผมค่อยๆ ลากลิ้นไปตามสันกราม ก่อนที่จะตรงมาหยุดอยู่ที่ใบหูเล็ก ทั้งดูดเม้มสลับกับกัดเบาๆ จนพายครางออกมาเสียงเบาหวิว ยิ่งสัมผัสร่างเล็กมากเท่าไหร่ผมก็ยิ่งตื่นตัวมากขึ้น

 

ผมบังคับให้มือเล็กของพายลูบไล้แก่นกายที่กำลังขยายใหญ่ขึ้นตามอารมณ์ของผม ร่างเล็กก็ทำตามแต่โดยดี ไม่ใช่แค่ผมที่เริ่มจะมีความต้องการ แต่คนตัวเล็กก็ไม่ต่างกัน เพราะอะไรๆที่อยู่กึงกลางเรียวขาที่คร่อมผมอยู่กำลังดุนดันที่เอวแกร่งของผมเหมือนกัน ร่างน้อยๆ บิดเร่าบนตักของผม ดวงตาฉ่ำน้ำที่ส่งมาให้กันนี่ช่างเย้ายวนใจจนผม แทบจะทนไม่ไหว จับปล้ำตรงนี้เลยจะดีไหม

 

“อึก....อืม” เสียงครางหวานของพายทำให้ผมเร่งริมฝีปากที่บดเบียดใบหัวเล็กให้รุนแรงมากขึ้น ลิ้นร้อนยังคงสาละวนอยู่กับการสัมผัสติ่งหูเล็กของเขา

 

“พะ...พอก่อนครับ อึก....มะไม่ทานข้าวเหรอ”

 

“อือ...ทานพายก่อนดีกว่า อร่อยกว่าตั้งเยอะ” ผมไม่เปิดโอกาสให้พายได้โต้ตอบกับผมอีก กดริมฝีปากหนาลงไปตรงปากบางอย่างรุนแรงอีกครั้ง คราวนี้มือของผมเริ่มที่จะลูบไล้แก่นกายเล็กที่ตื่นตัวรอรับสัมผัสของผม  ก่อนที่จะรูดซิบกางเกงของเขาลง ดึงพายน้อยแสนน่ารักออกมาสูดอากาศบริสุทธิ์

 

“ใช้มือให้คิณหน่อยครับ” ผมจับมือเขาให้สัมผัสมันอีกครั้ง ก่อนที่มือเล็กจะรูดซิบกางเกงผมลงเช่นก่อน กลางกายของผมเด้งสู้ทันที จนพายที่นั่งมองอยู่ถึงกับหน้าแดง

 

“อายอะไรครับที่รัก เห็นกันมาหมดแล้ว” ผมก้มลงจูบซับเหงื่อกาฬที่หน้าผากมน

 

“ไม่เข้าในตัวพายได้ไหม” เหมือนเขาจะคิดอยู่นานก่อนที่จะตัดสินใจพูดมันออกมา

 

“ครับ เสร็จข้างนอก” ผมหยิบทิชชู่มาเตรียมไว้ ก่อนที่จะเริ่มปฏิบัติภารกิจให้สำเร็จ เสียงพายครางดังระงมทั่วห้อง ดีนะครับที่มันเป็นห้องเก็บเสียง ไม่อย่างนั้นคนที่เดินผ่าไปผ่านมาคงได้ยินแน่นอน

 

 ผมรวบจับทั้งของผมและของพายเข้าด้วยกัน ก่อนที่จะเริ่มรูดรั้ง เร็วบ้างช้าบางตามความต้องการของเราสองคน หน้าของพายเวลานี้โคตรเซ็กซี่เลย ยิ่งกว่าพวกนางเอกหนังเอวีซะอีก ร่างเล็กยังเด้งสะโพกสวนผมมาตามจังหวะที่ผมดึงเข้าออก

 

“คุณคิณอึก....พายจะไปแล้ว เร็วหน่อยได้ไหมครับ”  ได้เลยครับที่รักผัวจัดให้

 

“ระ..แรงอีก”

 

“หึๆ” เสียงเล็กๆ เรียกร้องได้อย่างน่ารักจนผมต้องรีบรูดรั้งความเป็นชายของเราสองคนเร็วและรงขึ้น จนพายปลดปล่อยน้ำรักออกมาเต็มมือ แต่ผมยังไม่เสร็จจึงจับมือบางให้มาจัดการกับคิณน้อยให้เสร็จ เพียงไม่นานผมก็ถึงจุดหมายไม่ต่างกัน

 

เสียงหอบของร่างน้อยๆ บนตักผม ช่างน่าสงสารเสียจริง ผมดึงทิชชู่ออกมาทำความสะอาดให้เราทั้งสองคน เพราะพายเอาแต่กอดผมไว้อย่างเดียว ก่อนที่จะดึงเขาไปเข้าห้องน้ำด้วยกัน ล้างมือ ล้างหน้าเพื่อให้พายสดชื่นขึ้น

 

“แค่นี้เหนื่อยเหรอครับ ยังไม่ได้เข้าไปในตัวพายเลยนะ”

 

“พอเลย ไม่ต้องมาพูด ทำบ้าอะไรก็ไม่รู้”

 

“บ้าที่ไหน มีความสุขจะตาย” ผมยิ้มเจ้าเล่ห์ให้กับคนที่หน้างอมองผมอยู่ เขาไม่กล้าว่าอะไรผมมากหรอกครับ เพราะเขารู้ตัวดีว่าตนเองก็ต้องการมันไม่ต่างจากผม

 

“คุณคิณ!” ตาโตๆ ถลึงมองผมผ่านกระจก ร้องเสียงดังจนผมตกใจ

 

“ครับ”

 

“มันมีรอยอ่ะ” มือบางชี้ไปที่ต้นคอตอนนี้ที่มีรอยสีกุหลาบจางๆ เขาหน้าเสียไปแล้วครับ

 

“ไม่เป็นไรนะครับ เล็กๆ เอง ไม่สังเกตุดีๆ ก็ไม่เห็นหรอกเนอะ” ที่จริงมันไม่ได้เล็กอะไรเลย แต่สีมันจางๆ ผมแค่พูดให้เขาสบายใจขึ้นก็เท่านั้น

 

“แต่คนอื่นเห็นมันจะไม่ดี”

 

“ไม่เห็นหรอกครับ นี่ไงคอเสื้อปิดพอดี” พายใส่เสื้อคอปกครับ ส่วนรอยที่เกิดอยู่ช่วงที่คอปกขอเสื้อปิดได้พอดี ถ้ายืนนิ่งๆ ก็มีมีใครเห็นหรอก แต่ถ้าขยับก็มีเห็นบ้างแน่นอน

 

“จริงนะครับ” ผมยกมือลูบหัวพาย ก่อนที่จะจูงมือร่างบางมานั่งที่โซฟาตัวเดิม แต่ผมเช็ดทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว

 

“กับข้าวเย็นหมดแล้ว” ผมเปิดกล่องอาหารที่พายเตรียมมาให้

 

“เพราะใครล่ะ แล้วมีที่อุ่นอาหารไหมครับ”

 

“มีครับ เดี๋ยวผมเรียกเลขาเอาไปอุ่นให้”

 

“พายเอาไปเองก็ได้”

 

“ไม่อายเขารึไงครับ”

 

“อือ..ไม่ไปแล้ว”  ไม่นานเลขาผมก็เดินมาเอาอาหารทั้งหมดไปอุ่น เธอส่งยิ้มให้พายนิดๆ ก่อนที่พายจะส่งยิ้มกลับ ทั้งยังยกมือไหว้เลขาผมด้วย  อายุเธอสามสิบปลายๆ แล้วครับ ผมเล่าเรื่องของพายให้เธอฟังบ่อย เธอยังบอกว่าอยากเห็น อยากรู้ว่าจะน่ารักขนาดไหน

 

ไม่นานอาหารที่พายทำมาให้ก็ถูกนำกลับมาพร้อมกับกลิ่นหอมฉุย เธอวางอาหารลงแอบมองพายนิดนึงก่อนที่จะหันมาแซวผม

 

“น่ารักน่าชังจริงค่ะ สมกับที่บอสโม้ไว้เลย”

 

“ใช่ไหมล่ะครับพี่อิง”

 

“ชื่ออะไรนะคะ” เธอหันไปถามคนที่นั่งนิ่งฟังผมกับพี่อิงคุยกัน

 

“ชื่อพายครับ” พายยิ้มเขินให้กับคนตรงหน้า

 

“หน้าตาน่ารัก ชื่อยังน่ารักอีก มีข่าวดีเมื่อไหร่อย่าลืมบอกพี่นะคะ”

 

“เร็วๆนี้แหละครับ”

 

“จริงเหรอคะ อ้อ! พี่ชื่ออิงนะคะ เรียกพี่อิงก็ได้ แล้วน้องพายมาหาบอสบ่อยๆ นะคะ” พูดจบเธอก็เดินออกไป ไม่เปิดโอกาสให้พายได้พูดบ้างเลย ผมได้แต่นั่งอมยิ้มมองคนที่นั่งทำหน้างงๆ อยู่ข้างๆ

 

“ทานข้าวได้แล้วครับ”

 

“พี่อิงเขาน่ารักดีนะครับ”  พายหันมาพูดกับผม ก่อนที่เราสองคนจะนั่งทานอาหารกันอิ่ม วันนี้พายต้องรอกลับพร้อมผมเพราะผมให้เขานั่งแท็กซี่มาหาผมที่บริษัท

 

ทานข้าวเสร็จสักพักเขาก็หลับสงสัยคงจะเพลียจากการที่โดนผมดูดพลังงานไป  ผมกลับไปทำงานต่อ เงยหน้าขึ้นมามองพายบ้างเป็นระยะ แต่ร่างเล็กก็หลับสนิทจนผมไม่กล้ากวน สงสารคนที่ถูกรังแก เมียผมน่ารักใช่ไหมล่ะครับ

 

***************************




                     TBC.
 
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน21.. P.8 (08/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 08-03-2016 20:36:27
น่ารักมากๆเลยน้องพาย
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน21.. P.8 (08/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 08-03-2016 20:39:17
 :mew1:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน21.. P.8 (08/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: milin03 ที่ 08-03-2016 21:40:37
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน21.. P.8 (08/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 08-03-2016 21:59:00
ที่ทำงานยังหื่นอีกนะอีพี่คิณ
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน21.. P.8 (08/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 08-03-2016 21:59:42
พี่คิณหื่น กินพายก่อนอาหารเที่ยง
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน21.. P.8 (08/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 08-03-2016 22:07:52
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน21.. P.8 (08/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 08-03-2016 22:08:34
 :impress2: :impress2: :impress2:
ที่ทำงานก็ฟินได้ :hao6: :hao6:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน21.. P.8 (08/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Panehove ที่ 08-03-2016 22:40:18
แหมๆ คุณคินทั้งของหวาน ของคาวจัดไปอิ่มเลยทีเดียวนะคะ
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน21.. P.8 (08/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 08-03-2016 22:50:50
จ้ะ!พ่อคนหลงเมีย
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน21.. P.8 (08/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: arissara ที่ 08-03-2016 23:12:34
อื้อหือออ  โคตรรักโคตรหลงอ่ะ อยากได้เดือนคงพาไปดาวอังคาร
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน21.. P.8 (08/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 09-03-2016 02:14:59
อิจฉาจริงจริ๊ง
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน21.. P.8 (08/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Kalamall ที่ 09-03-2016 10:26:50
 :hao3: ห้องพี่คิณมีกล้องมั้ยนั่น
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน21.. P.8 (08/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Dee^daY ที่ 10-03-2016 12:25:41
ยาก่อนอาหาร ..
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน22P.9 10/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: MooKratai ที่ 10-03-2016 20:48:07
หลานคุณย่า 22



คิณ(Part)

 

ช่วงนี้ผมยุ่งหนักกว่าเดิมอีกครับ เพราะต้องรีบจัดการงานที่ค้างอยู่ให้จบ ก่อนที่จะถึงงานแต่งงานของผมกับพาย ผมแทบจะไม่ได้เจอหน้าพายเลยด้วยซ้ำ แทบจะเป็นอาทิตย์แล้วนะครับ วันนี้ก็เหมือนกันทั้งๆ ที่พายเข้ามาหาแม่ของผมที่บริษัท เห็นว่านัดกันไปช๊อปปิ้ง แต่น่าจะเป็นแม่ผมมากว่าที่อยากจะเจอลูกสะใภ้เลยหาข้ออ้างไปเรื่อย

 

“พายอยู่ไหนครับ” ผมโทรหาพายทันทีที่รู้ว่าเขามาถึงบริษัทแล้ว

 

“อยู่ห้องคุณแม่ครับ กำลังจะออกไปข้างนอก” ขัดใจผมจริงๆ เลยครับ ไม่คิดถึงผมบ้างรึไง มาบริษัททั้งที

 

“ทำไมไม่แวะมาหาผมก่อนล่ะครับ”

 

“พายกลัวคุณยุ่งอยู่นี่นา แล้วคุณคิณอยากได้อะไรไหมเดี๋ยวขากลับพายซื้อมาฝาก” เสียงหวานทำเอาผมเคลิ้ม จนอยากจะเกเรสักวันแล้วตามพายไปข้างนอกด้วยจริงๆ เลย

 

“อยากได้พาย” อยากได้จริงๆนะครับ ตอนนี้ขาดน้ำตาล ไม่มีคนคอยเติมความหวานให้เลยช่วงนี้

 

“บ้า..” ตอนนี้คงหน้าแดงไปแล้วครับรายนี้พูดอะไรนิดอะไรหน่อยก็เขินจนหน้าแดงตัวแดงไปหมด

 

“จริงๆ นะครับ ขากลับพายเข้ามาหาผมนะแล้วกลับพร้อมกัน”

 

“ก็ได้ครับ แต่ไม่เอาอะไรใช่ไหม”

 

“บอกว่าเอาพายไงครับ”

 

“ไม่คุยด้วยแล้ว ไร้สาระจริงๆ เลย” ว่าจบปุ๊บก็วางสายเลย ผมยังไม่ทันได้บอกรักเลยอ่ะ ทำแบบนี้ได้ไง ผมต่อสายกลับไปอีกรอบ ปลายสายรับรับแล้วครับ แต่ไม่ยอมพูด

 

“วางสายทำไม คิณยังไม่บอกรักพายเลยนะ”

 

“ฉันไม่อยากรู้ย่ะ รักไม่รักก็เรื่องของแก ตอนนี้ฉันกับลูกสะใภ้จะออกไปข้างนอกแล้ว เลิกโทรมาได้แล้วเข้าใจไหม”

 

“เฮ้ย! แม่มารับโทรศัพท์เมียผมได้ไงอ่ะ” ทำไมแม่ผมเป็นคนแบบนี้ ก็เข้าใจอยู่หรอกว่าชอบกวนประสาทคนไปทั่ว แต่นี่ลูกจะคุยกับเมียตัวเองยังขัดขวาง เป็นแม่ประสาอะไร

 

“เมียแกรำคาญไง เลยยื่นมาให้ฉันรับ”

 

“ไม่จริงอ่ะ แม่โกหก” ผมว่าแม่ผมนั่นแหละอยากรับเอง พายไม่มีทางทำแบบนี้หรอก นางมารร้ายชัดๆ เลย ขัดความสุขของคนรักกัน ผมได้ยินเสียงหัวเราะของพายแทรกเข้ามาในสาย สงสัยคงจะเปิดลำโพง

 

“งั้นฝากบอกพายด้วยนะครับ ว่าคิณรักพาย”

 

“ฉันอยากอ๊วกอ่ะไอ้ลูกชาย ขอกระโถน”

 

“แม่ท้องเหรอ ท้องตอนแก่เนี่ยนะ แด๊ดนี่น้ำยาดีจริงๆ เลย”  ทีผมบ้างแล้วครับ หลังจากโดนแม่แกล้งมาสักพัก เข้าทางผมเลยงานนี้

 

“ไอ้ลูกเลว ใครแก่ห๊ะ ฉันจะบอกหนูพายเลิกกับแก”

 

“แม่ไม่กล้าหรอก อยากได้พายเป็นลูกสะใภ้ขนาดนั้น” สงสัยจะอึ้งครับเงียบไปนานเลย

 

“คุณคิณ” เสียงสวรรค์มาแล้ว

 

“คร้าบบบบบ”

 

“พายจะออกไปแล้วแค่นี้นะครับ” 

 

“ครับ เจอกันตอนเย็น” คิดถึงพายว่ะครับ ทำยังไงดี ไม่ได้เจอกันอาทิตย์เดียวผมนี่แทบจะลงแดงตายแล้วนะครับ เขาเหมือนสารเสพติด ที่ผมเสพเท่าไหร่ก็ไม่เคยพอ อยากเก็บเขาไว้กับตัวเองไม่อยากแบ่งให้ใคร ผมว่าอีกไม่นานผมต้องบ้าแน่เลย  รักพายจนไม่รู้ว่าทำไมรักมากมายขนาดนี้

 

********************

เราสองคนมาเดินเที่ยวครับวันนี้ พายเขาบ่นว่าอยากได้เครื่องปั่นใหม่ ผมก็เลยอาสาพามาซื้อ  ที่จริงหาเรื่องอยู่กับเขาสองคนซะมากกว่า เราเดินจับมือกันเหมือนทุกที  ประชาชนผู้อยากรู้เรื่องชาวบ้านก็หันมามองกันเป็นแถบ แต่เราสองคนก็ไม่ได้คิดจะใส่ใจเดินดูของไปเรื่อยๆ พายนี่เลือกเครื่องปั่นนานมากนะครับ เขาอ่านรายละเอียดแทบจะทุกอย่าง อันไหนที่ไม่รู้ก็ถามพนักงาน ยิ้มให้เขาไปทั่วจนผมอยากจะเดินเอามือไปปิดหน้าเขาไว้ ไม่ให้ใครเห็น

 

“เอาอันนี้นะครับคุณคิณ” เขามาบอกผมก่อนที่ผมจะพยักหน้า ที่จริงเขาจะเลือกอันไหนผมก็ตกลงหมดนั่นแหละ  ผมไม่รู้หรอกว่าอันไหนดีไม่ดียังไง จึงได้เพียงยืนมองพายเลือกไปเรื่อยๆ

 

“เดี๋ยวผมจ่ายให้เองนะครับ”

 

“ไม่เอาพายจ่ายเอง” หน้ามุ่ยใส่ผมแล้วครับงานนี้ เขาไม่ชอบให้ผมซื้ออะไรให้ ถ้าไม่ใช่เทศกาลอะไรพิเศษ เขาถึงจะยอมรับมันแต่โดยดี ไม่ว่าจะแพงแค่ไหนเขาก็ต้องรับ เพราะเราตกลงกันไว้แบบนั้น

 

เดินดูของสักพักก็เหนื่อยแล้ว เราสองคนจึงเข้าไปนั่งทานของว่าที่ร้านกาแฟชื่อดังก้องโลก มันก็อร่อยดีนะครับ แต่ผมไม่เข้าใจว่าจะแพงอะไรนักหนา

 

“กรีนที ไวท์ ชอ็กโกแล็ต พุดดิ้ง เฟรบปูชิโน่ครับ  คุณคิณดื่มอะไรดีครับ” พายหันมาถามผม ก่อนจะยิ้มให้พนักงาน

 

“เอสเพรสโซ่ มัคคิอาโต ครับ”  เราสองคนเลือกนั่งตรงมุมด้านใน ดีหน่อยที่คนไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ คนตัวเล็กก็มองนั่นมองนี่ดูผ่อนคลาย

 

“มองพายทำไมครับ หน้าพายมีอะไรผิดปกติ” พายยกมือขึ้นลูบหน้าตัวเองไปมาตามแก้มใสทั้งสองข้างด้วยความสงสัย

 

“อยากมองเฉยๆ ไม่มีอะไร”

 

“เห็นหน้ากันทุกวันมองนานๆ ระวังจะเบื่อนะครับ”

 

“ไม่มีทางหรอก  ผมรักของผมขนาดนี้ จะเบื่อได้ไง”  ก็ใครอยากให้น่ารักล่ะ ความน่ารักของเขานี่ไม่อาจทำให้ผมละสายตาจากเขาได้เลย นั่งมองจนอีกคนมีท่าทางเหมือนจะอาย หลังจากที่พยายามทำหน้านิ่งๆ มานาน ร่างบางจึงยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย แก้มใสแดงปลั่งยิ่งกว่าลูกตำลึงสุก

 

“เลิกมองเถอะครับ จ้องอะไรนักหนา”

 

“อยากจ้อง จะทำไม”

 

“ไม่ทำไมครับ ถ้าอย่างนั้นก็เอาที่สบายใจ” ผมไม่ได้โต้ตอบเขา เพียงแค่ยิ้มเจ้าเล่ห์ใส่อีกคน เราสองคนนั่งดื่มไปเรื่อยๆ ผมรู้สึกเหมือนมีคนแอบถ่ายรูปเราสองคนเลยครับ หรือว่าผมคิดมากเกินไปก็ไม่รู้ ผมหันไปมองข้างนอกร้าน มีเด็กกลุ่มหนึ่งกำลังจับกลุ่มมองมาทางเรา  แล้วยิ้มเขินๆ พายคงไม่รู้หรอก เพราะเขานั่งหันหลังอยู่

 

เด็กกลุ่มนี้จะทำท่าบอกว่าขอถ่ายรูปเราสองคน ผมจึงเรียกให้พายหันไป  อีกคนก็ทำตามโดยไม่รู้เรื่องอะไร พอเห็นเท่านั้นแหละคนข้างๆ ผมหน้าเหวอไปเลย เด็กสาวพวกนั้นทำท่าเหมือนดีใจอะไรประมาณนั้น แต่ผมรู้หรอกว่าเขาคุยอะไรกัน เห็นแต่ท่าทางเขินๆ ของเด็กกลุ่มนั้น

 

“อะไรครับคุณคิณ” พายถามผมทำหน้างงๆ

 

“เด็กๆ เขาขอถ่ายรูปเราสองคน”

 

“หือ ไม่แปลกไปหน่อยเหรอครับ ขอถ่ายรูปผู้ชายสองคน” พายส่งยิ้มให้เด็กๆ พวกนั้นก่อนที่จะหันมาถามผม

 

“แต่ผู้ชายสองคนนั้นป็นแฟนกันนี่ครับ”

 

“น่าอายจะตาย”

 

“พายอายที่เป็นแฟนกับผม” แกล้งทำหน้ามุ่ยใส่อีกคน โกรธดีไหมนะ พูดอะไรไม่คิดถึงความรู้สึกคนฟังเลยสักนิด

 

“ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น พายอายที่น้องๆถ่ายรูปต่างหาก”  มือบางยกขึ้นมากุมมือผมที่วางไว้บนหน้าขา ผมได้ยินเสียงเด็กกลุ่มนั้นกรี๊ดกร๊าดกันแว่วๆ เข้ามาในร้าน

 

“ครับๆ ไปได้ยัง” ผมส่งยิ้มให้พาย ก่อนที่เขาจะพยักหน้าแล้วลุกเดินตามผมออกมา เขาเดินก้มหน้านิดหน่อยสงสัยจะอายเด็กกลุ่มนั้นที่ยังจับกลุ่มอยู่ที่เดิมไม่ยอมไปไหน  ผมยกมือขึ้นโอบไหล่ร่างเล็ก ให้เขาเดินอีกฝั่ง เพราะผมจะได้บังเขาจากเด็กๆ กลุ่มนั้น

 

เราสองคนเดินเล่นไปเรื่อยๆ ก่อนที่จะมาหยุดอยู่ที่ร้านเพชร ผมลืมไปเลยว่าเรายังไม่มีแหวนแต่งงานเลย ผมชวนพายเดินไปดู แต่เขาอิดออดบอกว่าไม่อย่างเดียว จะแต่งงานแต่ไม่มีแหวนได้ยังไงกันนะ ผมจึงใช้มาตรการขั้นเด็ดขาด คือการบังคับแล้วครับงานนี้ เขาคงโกรธผมอยู่แต่ไม่กล้าแสดงออกมาก เพราะอยู่ในที่สาธารณะ

 

“เอาแบบไหนดีครับ” ถามความคิดเห็นเขาหน่อยครับ เดี๋ยวจะหาว่าบังคับทุกเรื่อง

 

“เอาเรียบๆ ไม่ต้องเยอะนะครับ พายไม่ได้อยากได้ซะหน่อย” เขากระซิบบอกผมเบาๆ ก่อนที่จะเหล่ตามองพนักงาน สงสัยจะกลัวเขาได้ยิน

 

“โทรหาแม่ดีไหมครับ ว่าจะซื้อดีไหม” ผมรู้วิธีที่จะไม่ให้เขามีทางปฏิเสธผมได้ครับ เพราะพายน่ะเกรงใจผู้ใหญ่ เกรงใจแม่ผมยิ่งว่าอะไร

 

“ไม่เอาหรอก เดี๋ยวคุณแม่ก็บอกให้ซื้ออยู่ดี”  หน้ามุ่ยจนอยากจะจับฟัดให้รู้แล้วรู้รอดไปสักที ทำไมทำตัวงอนได้น่ารักขนาดนี้ว่ะครับ อยากพากลับคอนโดจับแก้ผ้าแล้วปล้ำเลยดีไหม

 

“รู้อย่างนี้แล้วก็เลิกทำหน้ามุ่ย แล้วมาเลือกแบบได้แล้วครับ”

 

“ครับ” ร่างเล็กเดินไปหยุดหน้าเค้าเตอร์จิวเวลรี่ ก่อนที่จะยืนมองอยู่อย่างนั้น ไม่รู้ถูกใจรึเปล่า

 

“มีแหวนคู่แบบเรียบๆ ของผู้ชายไหมครับ” พายเงยหน้ามองพนักงานแก้มแดงเชียว สงสัยจะอายที่ผู้ชายสองคนมาหาแหวนคู่  แต่ผมไม่อายหรอกดีใจเสียด้วยซ้ำ ยิ่งมีคนเห็นคนรู้เยอะๆ ยิ่งดี จะได้รู้ว่าพายมีเจ้าของแล้ว

 

“มีในเซฟอีนะคะ ออกแบบพิเศษมาแต่ยังไม่ได้เอามาโชว์ มีแค่คู่เดียว เดี๋ยวเอาออกมาให้ดูค่ะ”

 

“ได้ครับ” พนักงานสาวยื่นให้ผมทั้งสองคนดู เป็นแหวนทองคำขาวเรียบๆ ฝังด้วยเพชรสีฟ้าเม็ดละหนึ่งกะรัต  ดูเรียบหรูดีครับ ผมชอบน่าจะเหมาะกับพายดี

 

“เพชรสีฟ้านี่หายากมากเลยนะคะ ทางร้านเรามีแค่สองวงเท่านั้นค่ะ เพราะค่อนข้างหายากและราคาสูง คุณลูกค้าลองดูก่อนไหมคะ”  หญิงสาวยื่นแหวนส่งให้พายลองวงเล็ก ส่วนผมก็ลองวงใหญ่” ไซส์ของผมพอดี แต่ของพายดูจะใหญ่ไปนิดนึง เพราะนิ้วพายเล็กนิดเดียว

 

“ชอบไหมครับ”

 

“ครับ” ร่างบางพยักหน้ายิ้มๆ คงจะถูกใจเขาแล้วล่ะสิ ดีเลยครับจะได้ไม่ต้องเดินดูหลายร้าน เพราะผมก็ค่อนข้างถูกใจเหมือนกัน

 

“ถ้าคุณลูกค้ารับสองวงนี้เราแก้ไซส์ให้ได้เลยนะคะ รอประมาณครึ่งชั่วโมง”

 

“ราคาเท่าไหร่ครับสองวง” คนขี้งกเอ่ยถามขึ้นแล้วครับ ส่วนผมไม่ได้ซีเรียสเลย จะแพงหน่อยก็ไม่เป็นไร ขอแค่ถูกใจทั้งสองคนก็พอแล้ว

 

“ราคา XXX บาทค่ะ แพงหน่อยแต่รับรองได้ว่าเป็นแหวนที่มีไม่ซ้ำใครแน่นอนค่ะ” พนักงานก็เชียร์ขายกับร่างเล็กเต็มที่ครับ เขาคงรู้แหละว่าผมยังไงก็ได้ เลยหันไปสนใจโน้มน้าวพายมากกว่า

 

“คุณคิณว่าไงครับ แพงไปไหมครับ”

 

“ไม่หรอกครับ แหวนแต่งงานเรานะ”  ผมยกมือลูบหัวคนตัวเล็กไม่อยากให้เขาคิดเล็กคิดน้อย ผมมีเงินพอที่จะซื้อของแพงๆ ให้เขามากมาย แต่เขาก็ไม่เคยเรียกร้อง ครั้งนี้จึงเป็นเหมือนการบังคับเขากลายๆ ร่างบางจึงไม่ขัด

 

“ถ้าอยางนั้นก็แล้วแต่คุณคิณแล้วกันนะครับ” ดูทำหน้าเข้าสิ เสียดายอะไรนักหนาก็ไม่รู้เงินของผมเนี่ย

 

“เอาสองวงนี้เลยครับ”

 

“ได้ค่ะ รอตัดไซส์สักครู่นะคะ” พนักงานเดินไปข้างใน ก่อนที่เธอจะเดินกลับมาอีกรอบ ผมยื่นบัตรเครดิตให้เธอ แต่อีกคนก็พูดขัดขึ้นก่อน

 

“พายออกครึ่งหนึ่งนะครับ” จะหาทางจนได้สินะคนอะไรไม่รู้  แต่ไม่มีทางที่ผมจะให้เขาจ่ายหรอก

 

“ได้ยังไงครับ แหวนแต่งงานคิณต้องซื้อ ไม่ใช่มาหารสองแบบนี้”

 

“แต่มันแพงนี่นา”  ตั้งแต่เข้ามาร้านเพชรนี่ไม่ยิ้มให้ผมเลยนะครับ เอาแต่ทำคิ้วขมวดจนแทบจะผูกโบว์ได้แล้วมั้ง

 

“ลืมไปรึเปล่าว่านี่ใคร นักธุรกิจหมื่นล้านนะครับ”

 

“คร้าบบบ..พ่อคนรวย” ยิ้มออกแล้วครับหลังจากที่ผมอวดความร่ำรวยของผม สงสัยเขาจะหมั่นใส้

 

เราสองคนนั่งรอที่โซฟาตัวยาวสำหรับลูกค้า  ผมชอบมองเวลาที่พายยิ้มมีความสุข มากกว่าทำหน้าเศร้าๆ แต่อีกอย่างที่ชอบมากๆ คงหนีไม่พ้นแกล้งให้เขาโกรธมากๆ แล้วค่อยง้อ หน้ามุ่ยๆ ปากยื่นๆ เวลาที่เขาโมโหผมมันน่ารักเกินบรรยายจริงๆ ครับ

 

รอสักพักพนักงานก็นำแหวนมาให้พายลองไซส์อีกครั้ง คราวนี้เขาใส่ได้พอดี ก่อนจะยื่นคืนให้พนักงานนำไปใส่กล่อง ก่อนออกจากร้านพนักงานในร้านยังขออนุญาตถ่ายรูปเราสองคนไว้ด้วย เธอบอกว่าคู่เราสองคนน่ารัก ส่วนพายนะหน้าหวานเหมือนผู้หญิงเลย เราเดินออกจากร้าน ก่อนที่จะตรงไปยังลานจอดรถ เพราะไม่มีอะไรที่เราต้องซื้ออีกแล้ว

 

“แดดดี๊” เสียงเด็กที่ไหนดังมาตามหลัง  ก่อนที่ผมและพายจะหันไป เด็กคนนั้นก็วิ่งเข้ามาเกาะขาผมพอดี

 

“มามี๊ มาเร็วๆ สิครับ”

 

******************************

เอาน้องพายมาเสริฟแล้วนะคะ อ่านให้สนุก เม้นให้ด้วยนะ บังคับนะ  :hao3: ใครไม่ทำขอให้อีซองไปปล้ำคืนนี้ที่บ้านเลยนะ   :haun4: :pighaun:
 


                     TBC.

 

 

 
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน22P.9 10/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 10-03-2016 21:26:38
เด็กที่ไหนมาอะ  :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน22P.9 10/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 10-03-2016 22:45:10
ไอ้ตอนท้ายนี่คือ?
ดราม่ากำลังมา(?)
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน22P.9 10/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 10-03-2016 22:55:31
งานงอกแลัว
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน22P.9 10/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: nunuchhh ที่ 10-03-2016 23:00:34
 :katai1: ไม่นะะะะะะะะ ยังไม่อยากกินมาม่า   ได้โปรดค่ะ
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน22P.9 10/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Kalamall ที่ 10-03-2016 23:06:40
 :hao3: พี่คิณอะไรคือแดดดี้
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน22P.9 10/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: มะลิลา ที่ 10-03-2016 23:15:51
ต้องมาเม้น กลัวพี่ซองจะเข้าบ้านผิดไปบ้านน้องมิน
รอพี่ซองหื่นใส่น้องมินอยู่นะ 555

ขอสารภาพว่าติดเรื่องนี้เพราะน่ารักมุ้งมิ้งดี
น้องพายหลานคุณย่าน่ารัก
แต่พอหลานคุณย่าเปิดเรื่องเป็นซองมิน
ไหงติดเริ่องนั้นยิ่งกว่า

หลานคุณย่ายังเหลืออีกหนึ่ง
ีิหาคู่ให้น้อง


หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน22P.9 10/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: milin03 ที่ 11-03-2016 00:02:05
งานเข้า  :ling3:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน22P.9 10/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 11-03-2016 00:24:52
อ้าวอะไรจ้ะหนู
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน22P.9 10/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 11-03-2016 00:40:20
 :a5: ลูกของคิณแน่ๆ
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน22P.9 10/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Papangtha ที่ 11-03-2016 07:51:19
คุณคิณอะไรยังไงคะ :m16:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน22P.9 10/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: MooKratai ที่ 11-03-2016 10:24:00
ต้องมาเม้น กลัวพี่ซองจะเข้าบ้านผิดไปบ้านน้องมิน
รอพี่ซองหื่นใส่น้องมินอยู่นะ 555

ขอสารภาพว่าติดเรื่องนี้เพราะน่ารักมุ้งมิ้งดี
น้องพายหลานคุณย่าน่ารัก
แต่พอหลานคุณย่าเปิดเรื่องเป็นซองมิน
ไหงติดเริ่องนั้นยิ่งกว่า

หลานคุณย่ายังเหลืออีกหนึ่ง
ีิหาคู่ให้น้อง

น้องบราวเค้ามีคู่นะคะ อยากรู้ตามไปดูที่เพจ น้า Moo_kratai. ฝากติดตามด้วยนะ
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน22P.9 10/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 11-03-2016 10:33:59
 :z3:   มามี้ชี้แจงด่วนค่ะ
ใครพ่อ?   :hao7: 
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน22P.9 10/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Dee^daY ที่ 11-03-2016 11:43:44
รอติดตามต่อไป ..
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน22P.9 10/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 11-03-2016 13:26:43
ฟินมาก น่ารักมาก แต่แบบ ... ตอนท้ายคืออะไรครับ งงหนักมากเลย รบกวนคุณคิณช่วยจัดการเคลียร์ปัญหาด้วยนะครับ ไม่อยากให้น้องพายเครียด
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน22P.9 10/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: llmaumill ที่ 11-03-2016 15:59:31
เดาว่าเด็กที่เรียกคิณว่าแด็ดดี้ น่าจะเป็นลูกของพี่ชายคิณที่เสียไปแล้ว เด็กที่อยู่กับแม่ที่ต่างประเทศ ..ขอเดาอีกว่า ชะนีนางแม่ก็คงจะหวังมาปั่นประสาทคู่นี้อีกแน่เลย
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน22P.9 10/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 11-03-2016 20:21:15
หลานชายเปล่า  :m28: :m28:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน22P.9 10/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 11-03-2016 21:15:52
 :mew1:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน22P.9 10/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: phenomintna ที่ 11-03-2016 22:29:48
what daddy ?
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน22P.9 10/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: DE SaiKuNee ที่ 12-03-2016 20:14:28
 :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน22P.9 10/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: ka[ze]na ที่ 14-03-2016 15:38:21
ลูกพี่ชาย?
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน22P.9 10/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 14-03-2016 17:28:35
ลูกของพี่ชายคินแน่ๆเลย
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน23P.10 (14/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: MooKratai ที่ 14-03-2016 22:52:07
หลานคุณย่า 23



พาย(Part)

 

เด็กผู้ชายตัวเล็กๆ วิ่งตรงมายังคุณคิณ ตามหลังมาด้วยผู้หญิงชาวต่างชาติ หน้าตาสวยจนผมยังกลัว  ไม่รู้ว่ากลัวอะไร แต่ในใจตอนนี้มันสั่นจนแทบจะยืนไม่อยู่ ผมหันไปมองหน้าเด็กชายตัวน้อยอีกครั้ง เค้าหน้านี่ได้คุณคิณมาเต็มๆ มันไม่ใช่แบบที่ผมคิดใช่ไหม ขอบตาผมเริ่มร้อนผ่าว ไม่กล้าที่จะเอ่ยถามกลัวว่าจะเป็นจริง

 

เด็กชายตัวน้อยวิ่งมาเกาะขาคุณคิณ ก่อนที่เขาจะก็อุ้มขึ้นมาหอมแก้มเด็กน้อยน่ารักไปหนึ่งที แม่ของเด็กเดินมาพร้อมกับส่งร้อยยิ้มหวานให้คุณคิณ เขายืนคุยกันอยู่สักพัก โดยมีเด็กตัวน้อยๆ เจื้อยแจ้วตามประสา เขาเป็นของผมไม่ใช่เหรอ ทำไมผมรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นส่วนเกินของครอบครัวเขา ทำไมคุณคิณต้องหลอกผม ผมหันหลังเตรียมตัวที่จะเดินออกไปจากจุดนี้ ผมกลัวคำตอบของคุณคิณจริงๆ เลย

 

“จะไปไหนครับพาย”

 

“กลับบ้านครับ” หันกลับไปหาคุณคิณที่ตอนนี้มีผู้หญิงคนนั้นยืนอยู่ข้างๆ ส่งยิ้มจริงใจมาให้ผม แต่ทำไมผมรู้สึกเหมือนอยากร้องให้ ไม่สามารถยิ้มตอบเธอได้จริงๆ

 

“กลับพร้อมกันสิครับ จะไปแบบนี้ได้ยังไง คิณยังไม่แนะนำให้รู้จักกันเลย” คุณคิณเดินมาดึงมือผมกลับมาที่เดิม ก่อนที่จะชวนหญิงสาวคนนั้นไปนั่งที่โซฯพักผ่อนของห้างดัง

 

 “แดดดี๊ๆพี่คนนี้เป็นใครครับ” เสียงเด็กน้อยเอ่ยถามคุณคิณเสียงดัง

 

“นั่งก่อนครับเดม่อน ห้ามซนนะ” คุณคิณดูอบอุ่นเมื่อเขาอยู่กับเด็กคนนี้ ผมนั่งลงอีกฝั่งของโต๊ะ ส่วนผู้หญิงคนนั้นก็นั่งข้างคุณคิณอีกฝั่ง

 

"พายครับนี่ไวโอเล็ต แม่ของเดม่อน" ทำไมต้องแนะนำให้รู้จักกันด้วย เพื่ออะไร แถมยังรอยยิ้มที่คุณคิณส่งให้สองแม่ลูกนี้อีก ลำพังแค่เด็กก็พอจะรับได้อยู่หรอก แต่นี่อะไรแม่เด็กก็มาด้วย ผมไม่รู้ว่าตัวเองแสดงสีหน้ายังไงตอนนี้ รู้แต่ว่าเสียใจเกินที่จะรับไหว ทำไมเขาไม่เคยบอกผมเลย

 

"สวัสดีค่ะ ยินดีที่ได้รู้จัก" เสียงหวานเอ่ยทักทาย แต่ผมกลับไม่รู้สึกยินดีเลยสักนิด

 

"ครับ"ผมยิ้มมออกไปตอนนี้ไม่ได้คร้บ เพราะมันคงเป็นรอยยิ้มที่เสแสร้งไม่ได้ออกมาจากใจของผมอย่างแน่นอน 

 

"พายเป็นอะไรครับ สีหน้าไม่ดีเลย" จะให้ผมอารมณ์ดีได้ยังไง  ทั้งลูกทั้งเมียคุณนั่งพร้อมหน้ากันขนาดนี้ แล้วผมล่ะเป็นตัวอะไร จะอธิบายให้ผมเข้าใจได้ไหม ไม่ใช่ให้ผมมานั่งคิดเองเออเองแบบนี้

 

"Would you mind if I sit here?" เดม่อนเดินมาหาผม ก่อนที่จะกระโดดขึ้นมานั่งบนตัก  เด็กน้อยคนนี้แปลกเกินไปแล้ว อยู่ๆ มานั่งตักผมได้ยังไง

 

"พูดภาษาไทยครับเดม่อน" เสียงคุณคิณเอ่ยเตือนเด็กน้อยตัวเล็ก

 

"ไอ นัง ด้วย ได่ ไม่ คับ" เสียงภาษาไทยกระท่อนกระแท่นของเด็กตัวน้อยเอ่ยขออนุญาตผม ทั้งๆ ที่เขาเดินมานั่งตักผมอยู่ก่อนแล้ว

 

"ได้ครับ" ผมยิ้มให้เจ้าตัวน้อยที่ไม่มีท่าทีจะกลัวใคร เด็กน้อยยิ้มตอบด้วยความไร้เดียงสา จะรู้ไหมว่าผู้ใหญ่บางคนกำลังรู้สึกอึดอัดกับสถานการณ์แบบนี้

 

"ใจ่ ดี้ จั่ง เล้ย" เด็กน้อยหันมายิ้มให้ผมจนตาปิด ผมจะทำยังไงได้ล่ะ เด็กไม่ได้ผิดอะไรสักหน่อย จะผิดก็แค่ผมที่มาอยู่ผิดที่ผิดทางตอนนี้ แสนจะอึดอัดกับสถานการณ์ตรงหน้า แต่เขาสองคนกลับยิ้มอย่างสบายใจ ไม่คิดจะบอกอะไรกันจริงๆ ใช่ไหม

 

"ใจดีจังเลย ไหนพูดใหม่สิครับ"  ผมก้มหน้าลงไปคุยกับเดม่อนแค่สองคน คงจะมีแต่วิธีนี้ที่จะคลายความอึดอัดลงได้ ผมเหลือบไปเห็นเขาสองคนส่งสายตาให้กันแปลกๆ แบบที่คนรู้จักกันทั่วไปเขาคงไม่แสดงออกต่อกันแบบนี้ ก่อนที่ผมจะก้มหน้าลงอย่างเดิม

 

"ใจ ดี จัง เล่ย" เด็กน้อยหัดพูดไทย เจื้อยแจ้วตามที่ผมบอก ไม่สนใจสักนิดว่าพ่อกับแม่ของตนทำอะไรอยู่

 

"ถ้าอย่างนั้นฉันคงวางใจได้แล้วสินะคะ ที่จะให้เดม่อนอยู่ที่นี่กับคิณแล้วก็น้องพาย" ผมที่กำลังก้มหน้าคุยกัยเดม่อน จำต้องเงยมองทั้งสองคนด้วยความสงสัย เธอหมายความว่ายังไง ทำไมต้องให้อยู่กับคุณคิณแล้วก็ผม แล้วเธอจะไปไหน

 

"ไวโอเลตเธอกำลังตะแต่งงานใหม่ครับ แล้วสามีใหม่ของเธอต้องย้ายที่ทำงานบ่อยๆ จึงให้เดม่อนไปด้วยไม่ได้ เพราะอีกไม่นานเดม่อนก็ต้องเข้าโรงเรียน เดม่อนจึงมาอยู่กับผม แล้วผมก็รับเดม่อนเป็นลูกบุญ ธรรมแล้วนะครับ พายจะว่าอะไรไหม"

 

"เดม่อนไม่ใช่ลูกคุณกับคุณไวโอเลตเหรอครับ" ผมงงจังเลยครับ ทำไมต้องเป็นลูกบุญธรรม

 

 "จะใช่ได้ยังไงครับ เดม่อนลูกพี่ชายผมที่เสียไปแล้วต่างหาก"

 

"พายนึกว่า...." ได้ยินเสียงอะไรไหมครับ เสียงหน้าผมเอง แตกยับเยินเลยงานนี้ ช่วยเก็บเศษหน้าที่แหลกละเอียดขึ้นมาที  เผลอคิดบ้าบออะไรคนเดียว ทำไมไม่รู้จักถามก่อน

 

"นึกว่าอะไรครับ มิน่าทำหน้าเศร้าเชียว" สายตาล้อๆ ของคุณคิณทำให้ผมอดไม่ได้ที่จะยกมือไปหยิกสีข้างแรงๆ จนคิณคิณทำหน้บูดเบี้ยวตามแรงหยิกของผม

 

"อ้าว!นี่น้องพายเข้าใจผิดเหรอคะ ฉันจะมีลูกกับคิณได้ยังไง ในเมื่อฉันเป็นภรรยาพี่ชายเขา แล้วอีกอย่างฉันกับคิณเราเป็นเพื่อนที่เรียนมหาวิทยาลัยมาด้วยกันค่ะเลยสนิทกัน"  ไม่ต้องอธิบายแล้วครับ แค่นี้ก็อายจะแย่ ทำไมไม่บอกผมให้เร็วกว่านี้ จะได้ไม่ต้องเสียใจฟรี

 

"พายขอโทษครับ" ผมก้มหัวให้คุณไวโอเลต ก่อนที่จะหันมาขอโทษคุณคิณบ้าง

 

"แล้วพายจะว่าอะไรไหม ที่ต้องแต่งงานกับผู้ชายมีลูกติดแบบผม"

 

"จะว่าได้ยังไงครับ เดม่อนออกจะน่ารัก" ผมหันไปลูบแก้มย้วยๆ ของเด็กชายตัวน้อยที่ยังนั่งตักผม มองบทสนทนาของผู้ใหญ่ตาไม่กระพริบ ราวกับว่าเขาเข้าใจอย่างนั้นแหละ

 

"เดม่อนก็ช้อบผีพาย" เจ้าตัวน้อยเรียกเสียงหัวเราะให้เราทั้งสามคนในทันทีหลังจากที่เงียบไปนาน

 

"หึๆ พี่พายครับ ไม่ใช่ผี" คุณคิณสอนให้เดม่อนพูดตามอีกครั้ง

 

"พี่ พาย" เดม่อนทวนคำอีกครั้ง

 

"เดม่อน จะไปกับแม่ไหมครับ หรือจะอยู่กับแดดดี๊"

 

"Where’re you going?"  เด็กน้อยเผลอพูดภาษาอังกฤษออกมาเพราะความเคยชิน

 

"แม่นัดกับลุงริชาร์ดว่าจะไปทำธุระครับ"เธอตอบเดม่อนด้วยภาษาไทยที่ค่อนข้างชัด อาจจะเป็นเพราะว่าอยู่กับพี่ชายคุณคิณมานานเลยพูดภาษาไทยได้ดี

 

"เดม่อน อยู่ กับ พี่ พาย ได่ ไช่ ไหม คับ"  เด็กน้อยพยายามพูดภาษาไทยที่ละคำอย่างตั้งใจ

 

"ถามพี่พายซิครับว่าจะให้เดม่อนอยู่ด้วยได้ไหม"

 

"ถ้าเดม่อนอยากอยู่กับพี่พายก็ได้ครับ แต่จะงอแงคิดถึงหม่ามี๊ไหม" ผมไม่มีปัญหาหรอกครับที่เดม่อนจะอยู่ด้วย กลัวอย่างเดียวจะคิดถึงคนเป็นแม่จนงอแงขึ้นมาก็เท่านั้น

 

"ม่าย ง้อ แหง หรอก" เดม่อนส่ายหน้ารัวๆ จนผมกลัวว่าคอเขาจะเคล็ดไปซะก่อน

 

"ถ้าอย่างนั้นก็ตกลงครับ"

 

"ดีจังเลย ขอบคุณนะคะน้องพายที่ไม่รังเกียจลูกพี่" เธอส่งยิ้มสวยมาให้ผมอีกครั้ง คราวนี้ผมยิ้มตอบอย่างไม่ลังเลเหมือนครั้งที่แล้ว

 

"พายจะรังเกียจได้ยังไงครับ ลูกคุณคิณนี่นา"

 

"ครับ ลูกของผมก็เหมือนลูกของพาย"

 

"พอแล้วน่าคิณ แซวน้องพายหน้าแดงหมดแล้ว พี่ไปก่อนนะคะริชาร์ดโทรตามแล้ว ส่วนเดม่อนห้ามดื้อกับแดดดี๊ แล้วก็มามี๊คนใหม่นะครับ" เธอเอ่ยกับลูกชายตัวน้อย ก่อนที่จะเดินมาหอมหน้าผากของเด็กน้อย

 

"ครับโผม" เด็กตัวน้อยยืนตะเบ๊ะรับคำสั่งผู้เป็นแม่ได้อย่างน่าเอ็นดู แต่อะไรคือมามี๊คนใหม่ผมเป็นผู้ชายนะ

 

"บาย" เดม่อนโบกไม้โบกมือให้กับผู้เป็นแม่ที่เดินลับตาไปแล้ว

 

"แล้วเราจะทำอะไรล่ะทีนี้"

 

"เดม่อนอยากไปไหนไหมครับ" เด็กน้อยทำท่าคิดราวกับว่าเป็นเรื่อใหญ่ มุ่นคิ้วน้อยๆ จนผมรู้สึกหมั่นใส้ระคนเอ็นดู เด็กอะไรไม่รู้โตเกินอายุ

 

"ยาก กิน ไอศครีม" ในที่สุดก็คิดออกสักที หลังจากที่อิคคิวซังตัวน้อยใช้สมองมาสักพัก

 

"ขอมามี๊ซิครับว่าจะพาไปไหม" นี่ก็สอนเด็กไปในทางที่ผิด จะบ้ารึไงมามี๊เขาไม่ได้อยู่นี่แล้วซะหน่อย

 

"มามี๊..." เสียงน้อยๆ ร้องเรียกเสียงดัง ก่อนที่ผมจะเอามือไปปิดปากเพราะกลัวเขาจะเรียกผมแบบนี้อีก

 

"พอเลยครับถ้าไม่เลิกเรียกแบบนี้จะไม่พาไปนะครับ"

 

"ทำไหมล่ะคับ"

 

"อย่าไปเชื่อแดดดี๊เรามากครับ แดดดี๊มั่ว"

 

"ใช่ที่ไหนล่ะครับ แดดดี๊เป็นแฟนกับพาย ถ้าอย่างนั้นพายก็ต้องเป็นมามี๊ใช่ไหมครับ"

 

"จริงด่วยคับ เป็นแฟนแดดดี๊ ก็ต้องเป็นมามี๊ของเดม่อน" ทำไมทั้งสองคนพูดไม่รู้เรื่องแบบนี้เนี่ย ผมเป็นผู้ชายเรียกแบบนี้ได้ไง

 

"ให้เรียกพี่พายหรือไม่ก็ปาป๊าแค่สองอย่าง ถ้าจะเรียกอย่างอื่นไม่ต้องมาคุยกัน" คุณคิณหันมายิ้มกวนประสาทใส่ผม ถ้าวันไหนที่ไม่กวนหรือไม่แกล้งผมนี่แสดงว่าตัวปลอมนะครับ

 

"ก่อได้"

 

"เก่งมากครับ ป่ะ"ผมวางเจ้าตัวเล็กลงพื้นก่อนที่จะจับมือป้อมๆ พาเดินไปร้านไอศครีม ส่วนคุณคิณก็ไม่น้อยหน้าคว้ามือเจ้าตัวน้อยอีกข้างมาจับไว้ กลายเป็นว่าเราสองคนจับมือเดม่อนไปด้วยกัน เจ้าตัวน้อยยิ้มร่าอย่างมีความสุข

 

 "แล้วเดม่อนต้องอยู่ไทยเลยเหรอครับ" ผมละสายตาจากเดม่อนหันไปถามคุณคิณ

 

"ครับ อยู่กับเรา ครอบครัวของเรา" ครอบครัวของเราอย่างนั้นเหรอ เหมือนเป็นพ่อแม่ลูกกันใช่ไหม บ้าๆ จะเป็นไปได้ยังไงผมเป็นผู้ชาย ก็ต้องเป็น ลูก ปาป๊า แดดดี๊

 

"เป็นอะไรครับหน้าแดงๆ"

 

"เปล่า แล้วเดม่อนจะไม่คิดถึงมามี๊เหรอครับ" ผมรีบเบี่ยงประเด็นไปที่เจ้าตัวน้อยทันที เพราะไม่อยากจะตอบคำถามบ้าบอของคนตัวโตข้างๆ

 

"คิดถึงแต่เดม่อนอยู๋ได่ เดม่อนรักแดดดี้ รักปาป๊า" ความไร้เดียงสาของเด็กนี่ดีจังเลยนะครับ คิดยังไงก็พูดออกมาอย่างนั้น ทำให้ผู้ใหญ่ฟังแล้วยิ้มได้อย่างบริสุทธิ์ใจ

 

"น่ารักจังเลย" ผมก้มลงไปชมเจ้าตัวน้อยที่เงยหน้ามาหาผมพอดี

 

"เดม่อนน่าร้าก" เด็กตัวน้อยเอ่ยชมตัวเองหน้าบานเชียว จนผมหัวเราะออกมากับความน่ารักของเจ้าตัวน้อย เราสามคนเดินมานั่งที่ร้านไอศครีมก่อนที่เจ้าตัวเล็กจะดูเมนูนั้นเมนูนี้ไปเรื่อย

 

"กินอะไรดีครับเดม่อน"

 

"เอาอันนี่"

 

"อันนี้นะครับ คุณคิณทานอะไรไหมครับ"

 

"ไม่ครับ พายทานกับเดม่อนเถอะ" ผมจึงสั่งไอศครีมให้เดม่อนคนเดียว ส่วนผมไม่ได้อยากทานเหมือนกัน เจ้าตัวเล็กมองไปทั่วร้าน แล้วหัวเราะออกมาเสียงดังจนผมสงสัย

 

"หัวเราะอะไรครับเนี่ย" คุณคิณกับผมหันไปมอง ก่อนที่จะถามออกมาด้วยความสงสัย

 

"เดม่อนมีความสุขค้าบ"

 

"เป็นเด็กนี่ดีจังเลยนะครับ มองอะไรก็สดใสไปหมด”  ผมอดที่จะเอ่ยกับคุณคิณไม่ได้

 

“มาแล้วๆ” เด็กน้อยยิ้มร่าดีใจที่ไอศครีมมาเสริฟหลังจากที่นั่งรอมาสักพัก จนพนักงานอดยิ้มให้ไม่ได้

 

“ปาป๊า แดดดี๊ กินด่วยกันไหมคับ” รู้จักเป็นห่วงคนอื่นด้วย คุณไวโอเลตเลี้ยงเดม่อนได้ดีจริงๆ เลยครับ

 

“ป้อนปาป๊าสิครับ” คุณคิณที่นั่งมองอยู่บอกเจ้าตัวน้อยที่นั่งรอคำตอบอยู่ข้างๆ ดวงตาคู่ใสพราวระยับอย่างดีใจ

 

“ปาป๊าอ้ำๆ” หือผมไม่ใช่เด็กนะครับ สงสัยเขาคงจะเลียนแบบเวลาที่ผู้ใหญ่ป้อนอาหารเขาแน่เลย แต่ก็ยอมอ้าปากรับไอศครีมจากช้อนเล็กๆที่เด็กน้อยตักให้

 

“ป้อนแดดดี๊ด้วยครับ”  คุณคิณถึงกับทำหน้าแหยเลยทีเดียวที่ผมพูดแบบนั้น พร้อมกับทำหน้าคาดโทษ ก็เขาไม่ทานของแบบนี้นี่ครับ เขาบอกว่ามันเลี่ยน แต่คราวนี้จำใจต้องทานเพราะลูกป้อน

 

“ฝากไว้ก่อนเถอะ”

 

“ฝากอะไหรเหรอแดดดี๊” เจ้าตัวเล็กเงยหน้าจากถ้วยไอศครีมหันมาถามด้วยความสงสัย

 

“แดดดี๊ฝากหัวใจกับปาป๊าครับ” ดูเขาพูดกับลูกเขาสิครับ ลูกยังเด็กอยู่ทำไมพูดอะไรไม่รู้จักคิดบ้างเลยเนี่ย อายบ้างรึเปล่าก็ไม่รู้

 

“ฝากหัวใจดั้ยด้วยเหร้อคับ”

 

“เดม่อนอย่าไปเชื่อแด๊ดมากครับ”

 

“แดดดี๊โก้หกเหรอคับ” อ่า.. ผมจะตอบยังไงดีล่ะทีนี้ หันไปหาคุณคิณให้ช่วย ก็เอาแต่นั่งยิ้มไม่คิดจะช่วยกันเลยหรือไง

 

“เปล่าครับ แดดดี๊ไม่ได้โกหก แต่อย่าไปเชื่อแดดดี๊เลยเนอะ”

 

“.........” เจ้าตัวเล็กทำหน้างง แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรเพิ่ม เพียงแค่หันไปหาแดดดี๊ของเขาที่กำลังหัวเราะอยู่

 

“หึๆ..” หัวเราะอีกแล้ว คนบ้านี่ จะอธิบายยังไงให้เด็กวัยสามขวบกว่าๆ เข้าใจ กับเรื่องที่เข้าใจยากเกินอายุของเชา  การเลี้ยงเด็กนี่ยากจริงๆ เลยครับ เพียงแค่วันแรกผมก็หาคำตอบดีๆ ให้เจ้าตัวเล็กไม่ได้แล้ว ถ้าต้องอยู่ด้วยกันจริงๆ ผมคงต้องเรียนรู้อะไรมากขึ้นกว่านี้

 

**********************************

    แอบมาดึกๆๆๆ มากๆ เมื่อวานปวดหัวมากจริงๆ หลังจากที่กลับมาจากทำธุระ แดดแรงจนมึนหัวไม่ได้แต่งนิยายเรื่องไหนเลย 

  พึ่งได้นั่งแต่งจริงๆ ก็หลังเลิกงานวันนี้ ขอโทษที่มาช้า  นะคะ รอกันอยู่รึเปล่าไม่รู้ ตอนนี้อาจมึนๆ งงๆ เพราะพยายามจะ

      เขียนคำพูดของเด็กฝรั่งที่หัดพูดไทยให้เป็นภาษาแต่ก็ยังทำได้ไม่ดีพยายามต่อไปนะเรา(บอกตัวเอง)
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน23P.10 (14/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 14-03-2016 23:16:35
 :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน23P.10 (14/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 14-03-2016 23:39:49
เดม่อนน่ารักจัง เข้ากับคนง่าย
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน23P.10 (14/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 14-03-2016 23:40:05
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน23P.10 (14/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 14-03-2016 23:54:02
 :-[ มีลูกกันแล้วเย้ๆๆ
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน23P.10 (14/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Papangtha ที่ 15-03-2016 00:03:59
 :katai2-1: :katai2-1:

ขอบคุณนะคะ
รอตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน23P.10 (14/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 15-03-2016 00:08:38
ครอบครัวสุขสันต์  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน23P.10 (14/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: milin03 ที่ 15-03-2016 00:30:52
so cute!  o13
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน23P.10 (14/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: nunuchhh ที่ 15-03-2016 01:46:26
 :impress2: น่ารักจังครอบครัวนี้
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน23P.10 (14/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: badbadsumaru ที่ 15-03-2016 02:38:03
ครอบครัวสุขสันต์ น่ารักกก
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน23P.10 (14/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: noy ที่ 15-03-2016 03:15:26
น่ารักมากค่ะ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน23P.10 (14/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 15-03-2016 05:15:10
รับมรดกกันไปนะป๊าพาย
น่ารักมากๆ
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน23P.10 (14/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: มะลิลา ที่ 15-03-2016 07:23:20
น้องพายนี่โชคดีจริงได้ทั้งลูกและสามี
ครอบครัวสุขสันต์^^
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน23P.10 (14/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 15-03-2016 07:46:39
ครอบครัวอบอุ่นจริงๆ
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน23P.10 (14/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 15-03-2016 08:20:33
 :o8: :o8: :o8: :o8:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน23P.10 (14/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 15-03-2016 08:24:26
มีลูกซะแล้ว
เดม่อนน่ารัก~
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน23P.10 (14/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 15-03-2016 09:17:45
มีลูกโตทันใช้ แด๊ดดี้ ปาป๊า
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน23P.10 (14/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Kalamall ที่ 15-03-2016 12:34:11
มีลูกโตทันใช้ดีจริงๆ น้องพายให้เดม่อนมาช่วยเรียกแขกเข้าร้านเร็ว
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน23P.10 (14/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 15-03-2016 12:43:23
จริงๆ แล้วอยากให้เดม่อน เรียกพายว่า มามี๊ นะครับ น่ารักดี ^^
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน23P.10 (14/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: ujen ที่ 15-03-2016 15:22:19
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน23P.10 (14/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Dee^daY ที่ 15-03-2016 16:29:36
แปบ แปบ มีลูกละ ..
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน24P.10 (16/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: MooKratai ที่ 16-03-2016 23:07:43
หลานคุณย่า24



พาย(Part)

 

วันนี้ผมพาเดม่อนมาที่ร้านด้วย แม่ของเขาต้องเดินทางกลับไปที่อเมริกาอาทิตย์หน้าแล้ว ผมจึงต้องทำความสนิทสนมกับเดม่อนให้มากขึ้น ผมกลัวเดม่อนจะร้องให้จังเลย เขาเคยอยู่แต่กับแม่มาตลอด แต่คุณไวโอเลตเธอมีความจำเป็นจริงๆ เพราะเธอต้องทำงาน ย้ายที่ไปประเทศนั้นประเทศนี้เรื่อยๆตามแต่บริษัทจะส่งไป เธอกับแฟนใหม่ของเธอทำงานบริษัทเดียวกัน แฟนใหม่ของคุณไวโอเลตเป็นหัวหน้าของเธอ เขาแอบชอบเธอตั้งแต่พี่ชายของคุณคิณยังไม่เสีย แต่เพราะเธอมีครอบครัวแล้วเขาเลยไม่ได้วุ่นวายกับเธอนอกเหนือจากหน้าที่การทำงานในฐานะเจ้านายกับลูกน้องก็เท่านั้น แต่พอพี่ชายของคุณคิณเสียไปเขาเลยจีบคุณไวโอเลต ก่อนหน้านี้เวลาที่เธอต้องเดินทางไปประเทศต่างๆ ก็จะพาเดม่อนไปด้วยตลอด แต่ตอนนี้เดม่อนโตพอที่จะเข้าโรงเรียนแล้ว เลยจำเป็นต้องย้ายเดม่อนมาอยู่ไทย กับครอบครัวของคุณคิณ แด๊ดกับแม่คุณคิณดีใจใหญ่เลยที่หลานชายจะมาอยู่ด้วย พากันแต่งห้องให้เดม่อนใหญ่เลย ตอนนี้ไม่รู้ว่าทะเลาะกันเสร็จหรือยัง ได้ยินคุณคิฯเล่าว่าทะเลาะกันเรื่องสีห้องนอนหลาชายตัวน้อย

 

วันนี้ลูกชายตัวน้อยนี่ร่างเริงใหญ่ที่ได้มาเที่ยวเล่น พี่ๆ ในร้านต่างพากันตื่นเต้น ที่เจอเด็กน้อยน่ารัก เดม่อนเป็นเด็กฉลาดเรียนรู้เร็ว และมีความเป็นผู้ใหญ่ในตัวด้วยในบางครั้ง จนบางทีผมยังเผลอคิดเลยว่าเด็กอายุแค่สามสี่ขวบทำไมฉลาดขนาดนี้.เหมือนเขาเข้าใจความจำเป็นของผู้ใหญ่ด้วย เข้าใจความจำเป็นของแม่เขาด้วย แต่อาจจะเสียใจบ้างที่ไม่ได้อยู่กับแม่ของเขา

 

"เดม่อนห้ามซนนะครับป๊าจะเข้าไปทำเค้กในครัว" ผมเอ่ยกับเดม่อนเมื่อพามาถึงร้านได้สักพัก

 

"คับ เดม่อนม่ายซน เดม่อนน่าร้ากกก" เขาชอบชมตัวเองครับ ยิ่งเวลาเขาทำตัวดีน่ารัก เราชมเขายิ่งชอบ เป็นเด็กที่ยิ้มง่าย เข้ากับคนอื่นได้หมด

 

"ดีมากครับ"  ผมก้มลงหอมหัวเล็กๆ ของเด็กน้อยที่ยืนยิ้มร่าอย่างน่ารัก

 

"ค้าบบบ"

 

"เดม่อนชวยพี่ได่ไหมคับ" เขาหันมาถามผมขณะที่มองดูพวกพี่ๆ ที่ร้านจัดโต๊ะ และทำความสะอาดก่อนร้านเปิด

 

"ถามพี่ๆ สิครับ ว่ามีอะไรให้เดม่อนช่วยไหม"

 

"พี่ๆมีอะไรให้เดม่อนชวยไหมคับ" เดม่อนหันไปถามด้วยท่าทีกระตือรือร้นเสียเหลือเกิน เด็กตัวน้อยจะช่วยอะไรได้เยอะแยะคงจะเล่นซนไปตาประสา แต่ผมก็ไม่ห้ามหรอก เขาอยากจะช่วยก็ดีแล้วจะได้ฝึกความขยัน อดทนตั้งแต่เด็ก

 

"ช่วยพี่เช็ดเก้าอี้ดีไหมครับ" เปรี้ยวหันมาบอก และคงเป็นหน้าที่เปรี้ยวอีกแหละที่ต้องช่วยดูแลเจ้าตัวเล็ก เพราะถ้าฝากไว้กับน้องบราวกลัวเละเทะ หรือไม่ก็อาจจะสอนอะไรแผลงๆ ให้เดม่อนก็ได้ ยังไม่อยากปวดหัวตอนนี้

 

"ดีคับ" เดม่อนตัวน้อยพยักหน้าหงึกๆ ส่งยิ้มให้พี่ๆ ใจละลาย

 

"ถ้าอย่างนั้นเดม่อนช่วยพี่ๆ นะครับ เดี๋ยวป๊าเข้าไปข้างใน” ผมบอกก่อนที่จะยกมือลูบหัวน้อยๆ ของเด็กตัวเล็กไปหลายที

 

"ได้ค้าบบ" เดม่อนเป็นเด็กสอนง่ายไม่ค่อยดื้อเท่าไหร่ แต่ถ้าจะไม่ดื้อไม่ซนเลยก็คงจะไม่ใช่ก็เขาเป็นเด็กผู้ชายนี่นา

 

ผมเข้าไปช่วยมินทำเค้กอยู่ข้างในแต่ก็อดเป็นห่วงเจ้าตัวเล็กไม่ได้ จึงแอบมาดูบ่อยๆ เจ้าตัวน้อยวิ่งวุ่นไปทั่วร้าน เหมือนกับว่าตัวเองยุ่งมาก ตอนนี้เขาช่วยเปรี้ยวรับออเดอร์ไม่รู้ว่าคอยช่วยหรือคอยป่วน ลูกค้าก็ชอบใจใหญ่ที่บริกรตัวน้อยทำงานขยันขันแข็ง

 

"รับอายัยดีคับ"ยื่นเมนูให้ลูกค้า สงสัยเปรี้ยวนั่นแหละสอน พูดเสียงดังแต่ไม่ชัดจนลูกค้าโต๊ะอื่นๆ หันมามอง เจ้าตัวน้อยส่งยิ้มให้คนนั้นคนนี้ที จนลูกค้าเอ่ยชมกันใหญ่ว่าน่ารัก ยิ่งถูกชมก็ยิ่งขยันแจกยิ้มไปทั่ว จนลูกค้าบางคนถึงกับหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายด้วยความเอ็นดู

 

"เอาเค้กช็อกโกแลต เค้กชาเขียว กับชาเขียวนมปั่นครับ" สาวๆโต๊ะนั้น สั่งพร้อมกับส่งยิ้มหวานให้บริกรตัวน้อย

 

"ไหนทวนเมนูสิครับว่าลูกค้าสั่งอะไร"  เปรี้ยวบอกเจ้าตัวน้อย เขานึกคำพูดอยู่สักพักก่อนที่จะบอกเมนูที่ลูกค้าสาวสั่ง

 

"ช็อกโกแยตเค้ก เค้กช่า...อายัยนะเดม่อนจำไม่ได้" หันมาถามเปรี้ยวหน้างงๆ

 

"เค้กชาเขียว"

 

"อ้อ!เค้กช่า..เขีย..ว"กว่าจะออกเสียงได้ก็นานพอสมควรเลยคราวนี้  ภาษาไทยก็ยังไม่แข็งแรง แถมอายุก็แค่นี้จะให้พูดชัดกว่านี้ก็คงยาก  ถึงแม้จะนานแต่ผมก็เห็นว่าลูกค้าทุกคนยิ้มแย้มเพราะเจ้าตัวน้อยของผม

 

"อีกอย่างล่ะครับ" เปรี้ยวเอ่ยถามเพราะเจ้าตัวน้อยยังทวนเมนูไม่ครบ

 

"ช่าเขีย...วนมปั่น"

 

"เก่งมากครับ"

 

"หนุ่มน้อยนั่งเล่นกับพี่ๆ ก่อนครับ" สาวๆ กลุ่มที่เดม่อนรับออเดอร์เรียกเจ้าตัวน้อยไว้ก่อน

 

"ค้าบ" เดม่อนกระโดดขึ้นไปนั่งเก้าอี้ว่างข้างสาวๆ ก่อนที่พวกเธอจะผลัดกันถ่ายรูปคู่เดม่อน บอกว่าจะโพสต์ลงเฟชบุ๊คบ้าง ทวิสเตอร์บ้าง ไอจีบ้าง แต่ก็ไม่ลืมแท็กเฟชบุคร้านผมด้วย เจ้าตัวน้อยเป็นดาราดังประจำร้าน ใครเห็นใครก็ชอบ

 

ผมปล่อยให้เขาอยู่ข้างนอกกับพวกพี่ๆ ไป คงไม่มีปัญหาอะไร  ก่อนที่ผมจะกลับเข้าไปทำงานหลังร้านเหมือนเดิม ผมดีใจที่เขาไม่ดื้อ ไม่ซน แล้วก็ไม่งอแง ไม่อย่างนั้นผมคงไม่เป็นอันทำงานแน่

 

ช่วงนี้ไม่ใช่แค่พี่ชายผมที่ดูแปลก มินเองก็เหมือนกัน เหม่อจนบางทีผมเรียกตั้งหลายทียังไม่หัน ทำเค้กพังไปหลายก้อน จนผมต้องใหไปนั่งพัก เมื่อหลายวันก่อนผมบังเอิญเห็นพี่ชายผมไปที่บ้านมิน ไม่รู้ว่าไปทำไม ทั้งๆ ที่ร้อยวันพันปีนี่แทบจะไม่ไปเหยียบ ผมสงสัยแต่ก็ไม่รู้จะเริ่มต้นถามยังไง จึงปล่อยให้มันเป็นเรื่องของเขาสองคน ถ้ามีอะไรที่มันรุนแรงกว่านี้ค่อยถามก็แล้วกัน

 

"แดดดี๊" ทำเค้กอยู่เพลินๆ เดม่อนก็ร้องเสียงดังจนผมต้องวิ่งออกมาดู เห็นแต่เขากำลังวิ่งไปหาคุณคิณที่หน้าประตูร้าน ก่อนที่คนเป็นพ่อจะนั่งคุกเข่าหอมเจ้าตัวน้อยไปหลายที

 

“คิดถึงจังครับ วันนี้ซนไหมเอ่ยคนเก่ง” คุณคิณอุ้มเดม่อนแบบที่เขาชอบทำบ่อยๆ ก่อนจะพาเดินตรงเข้ามาข้างใน

 

“ม่ายซน” ยิ้มจนตาหยี ผมเดินตรงมาหาสองพ่อลูกที่คุยกันหงุงหงิง

 

“ดีมากครับ ลูกแด๊ดเก่งที่สุด” เจ้าตัวน้อยปีนลงไปยืน ก่อนจะดึงมือคุณคิณให้เดินตามก่อนจะจัดแจงที่นั่งให้กับพ่อของเขา ผมยืนสังเกตุดูท่าทางจริงจังของเดม่อน

 

"แดดดี้จะทานอาไรดีคับ"พูดพร้อมกับยื่นเมนูมาให้คนเป็นพ่อ เอ่ยถามน้ำเสียงจริงจังจนผมยังอดขำในความน่ารักไม่ได้ลูกค้ายกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายเยอะแยะเลยครับ ทั้งถ่ายรูป ถ่ายวีดีโอ แต่ละคนยิ้มให้กับความฉลาดของพ่อค้าตัวน้อย

 

"อะไรครับ" คุณคิณคงจะงงกับการกระทำของลูกชาย จนผมต้องเดินเข้าไปหาทั้งสองคน ยืนอยู่ข้างหลังเดม่อนอีกที คุณคิณหันมายิ้มให้ผม ก่อนที่จะคุยกับเจ้าตัวน้อย

 

"สั่งเล้ย"  คราวนี้บริกรน้อยยัดเมนูใส่มือลูกค้าคนพิเศษเลยครับ จะปฏิเสธยังไงล่ะทีนี้

 

"ช่วยปาป๊าทำงานหาเงิน  แถมยังบังคับแด๊ดหรือไงครับเนี่ย"เด็กน้อยยิ้มจนเห็นฟันขาวแทบจะทุกซี่

 

"สั่งสิครับจะทานอะไร ลูกบริการด้วยตนเองเลยนะ” มัดมือชกคนไม่ชอบทานเค้กแล้วครับทีนี้ ดูสิว่าจะทำยังไง ผมยืนดูอยู่ข้างๆ เดม่อน เจ้าตัวน้อยมองด้วยท่าทางมีความหวังเต็มที่

 

“งั้นแด๊ดสั่งอเมริกาโน่เย็นหนึ่งแก้ว” เจ้าตัวน้อยยืนมองไม่ยอมพูดอะไร ผมสังเกตุดูว่าเขาจะทำยังไงต่อไป

 

“สั้งอีก” ออกคำสั่งกับแด๊ดของเขาแล้วครับ  มือน้อยๆ จิ้มให้ดูว่ายังมีเค้กที่แด๊ดยังไม่ได้สั่ง จนคนเป็นพ่อเริ่มจะยิ้มแหยๆ ออกมา

 

“สั่งสิครับลูกรออยู่” สนับสนุนลูกเต็มที่ครับงานนี้ ถือโอกาสแกล้งคนตัวโตด้วยอีกแรง

 

“งั้นแด๊ดเอาช็อกโกแล็ตลาวาครับ”  เจ้าตัวน้อยยิ้มออกแล้วครับคราวนี้หลังจากที่ยืนลุ้นอยู่นาน  เขาคงจะเห็นลูกค้าสั่งแบบนี้เลยคิดว่าทุกคนต้องกินทั้งเค้ก แล้วก็มีเครื่องดื่มด้วย

 

“ทวนเมนูสิครับ ลูกค้าวีไอพีของเราสั่งอะไร” คุณคิณส่งสายตาคาดโทษมาให้ผม แต่ไม่กลัวหรอกครับงานนี้มีลูกช่วย

 

“ช็อกโกแยตลาวา กับ อือ... อเมยิกาโน่” พูดจบก็หันมาหาผมเหมือนจะถามว่าเขาพูดถูกไหม จนผมต้องพยักหน้าให้เขาไปที

 

“เก่งมากครับ ป่ะ เราไปบอกพี่ๆดีกว่าว่าแดดดี๊สั่งอะไร” ผมเดินจูงมือเดม่อนมาที่ตู้เค้ก ก่อนที่จะลงมือทำอเมริกาโน่ด้วยตนเอง ตักเค้กใส่จาน ส่งให้เดม่อนเป็นคนถือ ส่วนผมถือแก้วเครื่องดื่มเอง เพราะกลัวเขาจะทำหล่น เจ้าตัวน้อยเดินถือจานเค้กอย่างระมัดระวังค่อยๆ ก้าว ตาก็มองพื้นข้างหน้า ผมเดินตามไม่ห่างกลัวว่าเขาจะสะดุดล้มเหมือนกัน  แต่เจ้าตัวน้อยก็ทำได้ดี เดินจนมาถึงโต๊ะที่คุณคิณนั่งอยู่ก่อนที่พ่อของเขาจะยื่นมือมารับจานเค้กกับเจ้าตัวน้อย

 

“ขอบคุณครับ”

 

“ค้าบบ” เด้กน้อยยิ้มร่าเมื่อทำงานได้สำเร็จ

 

“มานั่งพักได้แล้วครับคนเก่ง” คุณคิณยกร่างน้อยๆ ให้ขึ้นมานั่งเก้าอี้ข้างๆ  ผมก็นั่งถัดจากเดม่อนอีกที

 

“แดดดี๊ทานสิคับ อาหย่อยนะปาป๊าทำ”

 

“ครับๆ ลูก” คุณคิณจำต้องตักเค้กเข้าปาก รีบเคี้ยวก่อนที่จะยกแก้วกาแฟขึ้นดื่มเพื่อดับความเลี่ยนของเค้กที่พึ่งทานเข้าไป

 

“อาหย่อยไหมอ่ะคับ”

 

“อร่อยมากครับ แล้วเดม่อนทานข้าวรึยัง เที่ยงแล้วนะ”

 

“เดม่อนยากกิ่นเค้ก”

 

“ทานข้าวก่อนครับ เดี๋ยวป๊าให้ทานเค้ก”

 

“ก่อได้”

 

“หึๆ ถ้าอย่างนั้นให้ป๊าไปเอาข้าวมาให้นะครับ” คุณคิณพูดกับเดม่อน ก่อนที่เขาจะพยักหน้า แล้วหันมามองหน้าผมอ้อนๆ ผมรักเจ้าตัวน้อยจังครับ แม้จะเพิ่งจะอยู่ด้วยกันยังไม่นานแต่บอกได้เลยว่าผมรักเขาหมดใจไปแล้ว อยากดูแลเขาให้ดี เหมือนที่แม่เขาดูแลมาตลอด

 

“รออยู่กับแด๊ดนะครับ”

           

“ค้าบบบ”  ปล่อยให้สองพ่อลูกเขาอยู่ด้วยกัน เตรียมอาหารให้เจ้าตัวน้อย ก่อนที่จะนำมาให้เขาตักทานเอง พอทานข้าวเสร็จก็ต่อด้วยเค้กหนึ่งชิ้นกับโกโก้เย็น ก่อนที่เจ้าตัวน้อยจะง่วงนอน ผมพาไปนอนแล้วกลับออกมาทานข้าวกับคุณคิณ ส่วนน้องๆ ทานกันไปหมดแล้ว

             

“ขอบคุณนะครับที่ดูแลเดม่อน เหนื่อยแย่เลยทั้งทำงานแล้วก็ดูแลลูก”

             

“ไม่เป็นไรครับ ไม่เหนื่อยเลย เดม่อนไม่ดื้อแถมยังช่วยรับออเดอร์ลูกค้าด้วยนะครับ วิ่งวุ่นทั้งเช้าเลย” ผมพูดยิ้มๆ นึกถึงความน่ารักของเจ้าตัวน้อยที่ตอนนี้นอนหลับอุตุไม่รู้เรื่องรู้ราว คงจะเหนื่อยจากการช่วยพี่ๆ ทำงาน

             
“ผมดีใจที่พายรักเดม่อนนะครับ”

 

“ก็เดม่อนเป็นลูกของเรานี่นา” พูดเองก็หน้าแดงเองเลยครับ เขินไปแล้วด้วย

 

“หน้าแดงนะครับ”

 

“ทานเข้าไปเยอะๆ เลยครับข้าวเนี่ย หิวไม่ใช่เหรอ” ผมตักอาหารใส่จานให้คุณคิณ ตักไปเรื่อยเพราะไม่อยากให้เขาพูดอะไรแล้ว ชอบทำให้ผมขินอายตลอดเวลา   

 

“พอแล้วครับเต็มจานแล้วเนี่ย”

 

“อ้าวลืมมองเลย” เราสองคนนั่งทานข้าวเสร็จ คุณคิณก็เดินเข้าไปอยู่กับเดม่อน ส่วนผมก็กลับมาทำงานตามเดิม  นึกถึงเจ้าตัวน้อยแล้วมีความสุข  เขามาเติมเต็มชีวิตของผมและคุณคิณ ทำให้เราเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์

 

บ่ายสามกว่าๆ เดม่อนก็ตื่นแล้วครับ คุณคิณพาไปล้างหน้าล้างตา ก่อนที่เจ้าตัวน้อยจะวิ่งมาเกาะขาผม โดยมีคุณคิณเดินตามมายิ้มๆ

 

“มาอ้อนอะไรป๊าครับเนี่ย” ผมนั่งลงคุยกับเจ้าตัวน้อย

 

“แดดดี๊ให้มาข้อปาป๊า”

 

“ขอทำไมครับ”

 

“เดม่อนยากไปกินไอศครีม”

 

“พึ่งกินไปวันนั้นเอง เดี๋ยวจะไม่สบายนะครับ ทานเยอะๆ ไม่ดีรู้ไหม เอาอย่างนี้ วันนี้ป๊าจะพาไปซื้อของเล่น เป็นรางวัลให้คนขยันดีไหมครับ”

 

“ดี เย้ๆๆๆๆ” เขากระโดดกอดคอผมทันทีจนแทบล้มหัวคะมำกันเลยที่เดียว ลูกชายตัวน้อยของผมน่ารักที่สุด ผมกอดตอบร่างน้อยๆ ก่อนที่คุณคิณจะเดินมากอดผมอีกที จนน้องๆ โห่แซวกันเสียงดัง แม้แต่ลูกค้ายังแอบถ่ายรูปเราเลย ผมอายครับ แต่จะทำยังไงได้ก็ทั้งสองคนเป็นคนที่ผมรักนี่นา การแสดงความรักต่อกันคงไม่ผิดหรอกมั้ง มีความสุขจนอยากอยู่แบบนี้ไปนานๆ

 

*****************

 

มาแล้วมาตอนดึก  สนุกไหมเอ่ย เดม่อนน่ารักไหม ไม่รู้ว่าเขียนน้องเดม่อนออกมาได้สมวัยเด็กสามสี่ขวบหรือเปล่า บอกด้วยนะคะ
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน24P.10 (16/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 16-03-2016 23:25:09
สนุกมากๆเลย
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน24P.10 (16/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 16-03-2016 23:27:36
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน24P.10 (16/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: ДηοηγМ ที่ 16-03-2016 23:44:10
น่ารักสมวัยค่ะ
แต่แอบบอกนิดนึงเด็กวัยนี้ฟันน้ำนม20ซี่ค่ะ

"ช่วยปาป๊าทำงานหาเงิน  แถมยังบังคับแด๊ดหรือไงครับเนี่ย"เด็กน้อยยิ้มจนเห็นฟันครบสามสิบสองซี่

เปลี่ยนเป็นแบบ เด็กน้อยยิ้มโชว์ฟันน้ำนมเต็มปาก ไรงี้น่าจะเนียนกว่านะคะ แหะๆ
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน24P.10 (16/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 16-03-2016 23:44:37
เดม่อนกินเก่งจังลูก
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน24P.10 (16/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: MooKratai ที่ 17-03-2016 00:11:43
น่ารักสมวัยค่ะ
แต่แอบบอกนิดนึงเด็กวัยนี้ฟันน้ำนม20ซี่ค่ะ

"ช่วยปาป๊าทำงานหาเงิน  แถมยังบังคับแด๊ดหรือไงครับเนี่ย"เด็กน้อยยิ้มจนเห็นฟันครบสามสิบสองซี่

เปลี่ยนเป็นแบบ เด็กน้อยยิ้มโชว์ฟันน้ำนมเต็มปาก ไรงี้น่าจะเนียนกว่านะคะ แหะๆ
อ่าอันนี้ลืมไปเลย สอบตกแล้วเรา
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน24P.10 (16/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: noy ที่ 17-03-2016 00:41:32
แต่งได้น่ารักดีค่ะ
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน24P.10 (16/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: badbadsumaru ที่ 17-03-2016 02:31:26
เดม่อนน่ารักกก 555555
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน24P.10 (16/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: milin03 ที่ 17-03-2016 07:31:17
น่ารักมากกกก
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน24P.10 (16/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 17-03-2016 08:26:26
 :impress2:  เด็กฉลาดชาติเจริญจริงๆจ้ะ
คะมำเขียนแบบนี้ค่ะไม่ใช่ขมำ
ครอบครัวสมบูรณ์แล้ว รอก้อแต่ผ่าหมาออกจากปากพี่ซองนี่แหละ
ชอบมาก อยากไปกินเค้กร้านนี้ เดม่อนมารับออเดอร์ให้พี่นะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน24P.10 (16/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: ujen ที่ 17-03-2016 08:40:07
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน24P.10 (16/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 17-03-2016 09:20:20
น่ารักนะหนูเดม่อน

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน24P.10 (16/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 17-03-2016 10:15:32
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน24P.10 (16/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 17-03-2016 10:44:11
น่ารักดีค่ะ
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน24P.10 (16/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 17-03-2016 11:22:21
ครอบครัวสุขสันต์ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน24P.10 (16/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Papangtha ที่ 17-03-2016 11:53:10
ดีกับใจ
อยากให้ถึงวันแต่งงานล้าาาาาาาา :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน24P.10 (16/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 17-03-2016 13:58:41
มีเดม่อนแล้ว ครอบครัวน่ารักมากขึ้นนะครับ ^^
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน24P.10 (16/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Dee^daY ที่ 17-03-2016 14:08:04
น่ารักดีนะ ..
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน24P.10 (16/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: ketekitty ที่ 17-03-2016 22:18:23
น่ารัก ยิ่งมีเด็กน้อยๆ ยิ่งน่ารักค่ะ :mew3:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน24P.10 (16/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: aurusma ที่ 17-03-2016 22:21:41
นั้ลล้าคคคคคคคคคค :mew3:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน25P.10 (20/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: MooKratai ที่ 20-03-2016 13:53:36
หลานคุณย่า 25

พาย(Part)

"เดม่อนมาแต่งตัวก่อนครับ" ผมเรียกลูกชายตัวน้อย  ที่ตอนนี้สนใจเจ้าหุ่นย์ตัวยักษ์ที่พี่ซองซื้อรับขวัญหลาน เห็นเป็นคนเย็นชาแบบนั้น แต่ความจริงก็อ่อนโยนเหมือนกันนะครับ เวลาเจอหลานที่ไรเขาจะน่ารักอย่างที่ไม่เคยเป็น เล่นกับเดม่อนจนทุกวันนี้เรียกหาแต่ลุงซอง จนคนป็นพ่ออย่างคุณคิณยังบ่นว่าน้อยใจ

 

"คร้าบบ" เด็กตัวน้อยรับคำ วิ่งมาหาผม ก่อนที่ผมจะจัดการหยิบเสื้อคอตั้ง แขนยาวสีครีมทอง ติดกระดุมด้านหน้าสี่เม็ด โจงกระเบนผ้าตาดดิ้นสีทองดำ สวมให้เจ้าตัวน้อยที่ยืนนิ่งให้จัดการกับตัวเขา หยิบผ้าคาดเอวสีเดียวกันกับโจงกระเบนมาผูกเอวให้กับเขา

 

"ปาป๊าคับ" ผมเงยหน้ามองเดม่อน ขณะที่มือก็จัดการกับชุดที่ใส่ให้กับเขา มองสีหน้างงแกมสงสัยของเจ้าตัวน้อย

 

"ว่าไงครับ"

 

"ทำไมต้องแต่งแบบนี่" เขาคงจะสงสัยกับการแต่งตัวแปลกๆ ของเราสองคน เพราะผมก็ใส่แบบเดม่อนเหมือนกัน สีเดียวกัน แบบเดียวกัน แต่ผ้าที่ใช้คาดเอวเอามาพาดบ่าแทน

 

"นี่เขาเรียกว่าชุดไทยครับ เอาไว้ใส่เวลามีงานสำคัญๆ เข้าใจไหมครับ"

 

"อ้อ! วันสำคัญ ที่แดดดี๊แต่งงานกับปาป๊า" ผมไม่รู้ว่าเขาเข้าใจรึเปล่า กับสิ่งที่ผมบอก แต่เดม่อนก็พยักหน้าหงึกๆ เหมือนรู้เรื่อง เจ้าตัวน้อยจับแก้มผมสองข้าง จ้องมองอยู่อย่างนั้น

 

"ใช่ครับ วันนี้ลูกชายป๊าน่ารักที่สุดเลย"

 

"เดม่อนน่าร้ากกกที่ซู๊ด แล้วปาป๊าก็ต้องน่าร้ากกเหมือนกัน" มือน้อยๆ ลูบแก้มผมทั้งสองข้าง ผมก็ปล่อยให้เขาทำไป ดูท่าทางจะมีความสุขมากเลยไม่อยากจะขัด

 

"หึๆ.." ผมยืดตัวไปจุ๊บแก้มเจ้าตัวน้อยหลังจากแต่งตัวให้เขาเสร็จ

 

"เลิกคุยกันได้แล้วค่ะสองแม่ลูก"  เสียงชะเอมดังมาจากข้างหลัง วันนี้เพื่อนรักของผมมาช่วยแต่งหน้าเซตผมให้ โดยมีน้องบราวกับกับมินคอยช่วย แต่ตอนนี้สองหนุ่มน้อยกำลังพากันเปลี่ยนชุดอยู่ สองคนนั้นพากันไปเลือกชุดกันเองบอกว่าจะใส่เหมือนกัน แถมยังเก็บไว้เป็นความลับอีก

 

"บ้ารึเปล่าเอมเราผู้ชายนะ" ผมแหวชะเอมเสียงดัง แต่ก็ไม่ได้โกรธอะไรแค่รู้สึกแปลกๆ ที่กับคำพูดแบบนี้

 

"เป็นผู้ชาย แต่เขามาขอไปเป็นสะใภ้ ก็ต้องเป็นแม่เดม่อนน่ะถูกแล้ว"  ยังไม่หยุดครับ จะให้ผมเป็นแม่ให้ได้

 

"ช่ายเดม่อนก็ยากเรียกมามี๊"

 

"เดม่อน! " ผมร้องเสียงหลงที่เด็กน้อยพูดแบบนี้ ไม่รู้ว่าคิดเองหรือมีใครสอนมา สงสัยคงต้องไปเค้นถามกับคุณคิณซะแล้ว

 

"ค้าบบ"

 

"ห้ามเรียกแบบนี้อีกนะ ไม่งั้นป๊าจะโกรธ" ผมขู่ไปอย่างนั้นแหละครับ เพราะไม่มีทางที่จะโกรธเขานานหรอก รายนี้อ้อนเก่ง ไม่รู้ว่าได้คุณคิณมาหรือเปล่า นิสัยเหมือนกันมาก

 

"แดดดี๊ก็บอกแบบนี่เหมือนกัน ว่าอย่าเรียกให้ปาป๊าได้ยิน ให้เหรียกเวลาอยู่กับแด๊ดแค่ฉองคน" รู้แล้วว่าใครสอนมา คงไม่ต้องไปถามหาความจริงเองให้เมื่อยแล้ว เดี๋ยวจะจัดการทีหลัง

 

"เดม่อนฉลาดจังเลย แด๊ดก็สอนดี้ดี"  ชะเอมก็รู้เห้นเป็นใจไปกับเขาด้วย

 

"พอแล้วเอม"

 

"จ๊ะๆ มาหนุ่มน้อยมาหาน้ามา เดี๋ยวแต่งหน้าให้หล่อๆ เลย" ชะเอมจับเดม่อนมาทาแป้งเด็ก แล้วเซตผมให้เป็นทรง ไม่ได้แต่งอะไรให้เยอะแยะหรอก เพราะลูกผมเป็นผู้ชายนี่นา ถ้าจะจับแต่งหน้า พอกแป้งคงไม่ไหว

 

ผมกับชะเอมคุยกันแล้วครับสำหรับเรื่องที่ผ่านมา ชะเอมเล่าเรื่องทั้งหมดให้ผมฟัง ว่าเธอก็มีส่วนผิดที่ทำให้ผมตกอยู่ในอันตรายแบบนั้น แต่ก็ยังดีใจที่คุณคิณเข้าไปช่วยไว้ได้ทัน ไม่อย่างนั้นคงจะรู้สึกผิดไปตลอดชีวิต ถ้าถามผมว่าทำไมให้อภัยเพื่อนเร็วจัง ผมตอบได้เลยว่าไม่เร็วไปหรอก สำหรับความเป็นเพื่อนของเราตลอดสิบกว่าปี ชะเอมหัวอ่อนเกินไป เชื่อคนง่ายเกินไป ชะเอมเป็นคนโทรมาหาผมเอง ก่อนที่เราจะนัดคุยกัน เธอเล่าเรื่องทุกอย่าง และสารภาพผิดกับผม  ตอนแรกๆ ผมทั้งโกรธและตกใจว่าทำไมเพื่อนถึงเชื่อคนที่พึ่งจะคบกัน เมื่อเทียบกับผมแล้ว โมโหจนเผลอด่าชะเอมไปเยอะเลย แต่เธอกลับเอาแต่ร้องให้พร่ำบอกว่าขอโทษผมอยู่อย่างนั้น จนคุณคิณที่ไปด้วยในวันนั้นบอกให้ผมยกโทษให้ชะเอม เพราะถ้าไม่เกิดเหตุการณ์ในวันนั้น ผมกับคุณคิณก็ไม่ได้เจอกัน

 

อีกเรื่องที่เราสองคนคุยกันก็คงไม่พ้นเรื่องไอ้คุณบอยอะไรนั่น ชะเอมบอกว่าเลิกกับเขามาสักระยะแล้ว เพราะยายน้ำหวาน  แต่ผมว่าก็ดีแล้วเพื่อนผมจะได้หลุดพ้นจากคนเลวๆ ทั้งสองคนซะที อีกทั้งยังลาออกจากบริษัทนั้นแล้วด้วย ตอนนี้ได้งานใหม่ เงินเดือนเยอะขึ้น  งานก็สบายมากขึ้นกว่าเดิมเยอะ เพราะไม่ต้องทนรับงานที่น้ำหวานคอยโยนให้ตลอดเวลา

 

“แท่น แทน แท้นนนน” เสียงบราวนี่ดังมาแต่ไกล พร้อมกับเสียงเปิดประตูเข้ามาในห้อง ผมหันไปมองน้องสองคนที่แต่งตัวเหมือนกัน เซตผมเหมือนกัน ตัวเล็กพอกัน ราวกับฝาแฝด แต่ดูจากชุดแล้วคนที่เลือกน่าจะเป็นบราวนี่ ส่วนมินคงเป็นแค่ผู้ตามที่โดนบังคับอย่างน่าสงสาร

 

“ว้าว! อาบราวนี่กับอามินน่ารักจังเล้ย” เดม่อนวิ่งเข้าไปหาตบมือแปะๆ เหมือนกับถูกใจที่มีคนแต่งตัวคล้ายๆ ตัวเอง  ทั้งสองใส่เสื้อคล้ายๆของผม โจงกระเบนผ้าตาดดิ้นสีชมพูทอง ผ้าคาดเอวสีเดียวกัน หวานไปไหมน้องชายผม

 

“เดม่อนของอาก็น่ารักที่สุดเลยครับ” มินนี่เอ่ยกับหลานชายที่ตอนนี้ยิ้มแป้นเต็มดวงหน้า ส่วนน้องบราวก็ได้แต่ยืนยิ้มเฉยๆ เพราะรายนี้เล่นกับเด็กไม่เป็น เข้าหาเด็กไม่เก่งเอาซะเลย

 

“แต่งตัวกันเสร็จหมดแล้วเนอะ” ชะเอมเยถามพวกเราที่ตอนนี้พร้อมกันแล้ว

 

วันนี้เป็นวันสำคัญของผมกับคุณคิน เราสองคนแต่งงานกัน และตอนนี้ผมก็ถูกจับให้อยู่ในห้องนอนของตนเอง เพราะงานถูกจัดขึ้นที่บ้านของผม เชิญแขกไม่ถึงร้อยคน เป็นญาติคนสำคัญของผมและคุณคิณ

 

ส่วนคุณคิณน่าจะไปเตรียมตัวแห่ขันหมาก วันนี้เป็นอะไรที่เหนือความคาดหมายของลูกผู้ชายอย่างผม ไม่เคยคิดเลยว่าต้องให้ใครมาสู่ขอราวกับตัวเองเป็นผู้หญิง มันตื่นเต้นแปลกๆ ระคนกับความดีใจที่แม้ความรักของเราจะไม่ได้เหมือนชายหญิงทั่วไป แต่ผมก็มั่นใจว่าเราสองคนมั่นคงในรักไม่แพ้ชายหญิงปกติแน่นอน

 

  ผมอยู่กับน้องๆ แล้วก็ลูกชายตัวน้อยที่นั่งยิ้มแป้นแล้นอยู่ข้างๆ เดม่อนสดใสร่าเริงจริงๆ แม้ว่าแม่ของเขาจะกลับไปเป็นเดือนแล้ว อาจจะมีช่วงแรกๆ ที่ดูเศร้าๆ เพราะคงคิดถึงแม่ของเขา แต่ผมก็พยายามไม่ให้เจ้าตัวน้อยอยุู่คนเดียว เป็นเพื่อนเล่นเขาตลอดเวลา และตอนนี้เด็กน้อยของผมก็ร่าเริงมากซะด้วย

 

เมื่อเช้าเราพึ่งทำพิธีสงฆ์ไป ตอนใส่บาตรผมจับทัพพีเหนือคุณคิณด้วย เพราะคุณแม่มากระซิบบอกว่าให้ทำอย่างนั้น  แต่ผมก็ไม่ให้ความสำคัญกับการที่ใครต้องอยู่เหนือใครหรอก เพราะทุกวันนี้คุณคิณก็ให้เกียรติผมมากพอแล้ว

 

“ปาป๊า...แดดดี๊ไปไหน”

 

“แด๊ดไปเตรียมตัวแห่ขันหมากเดม่อนอยู่กับป๊าเข้าใจไหมครับ”

 

“ขันมากคืออะไร”  คำถามนี้อธิบายยากจริงๆ จะตอบยังไงให้เด็กตัวน้อยๆ เข้าใจ ผมหันไปมองทั้งเพื่อนและน้องอีกสองคนอย่างขอความช่วยเหลือ แต่ทุกคนกลับส่ายหน้ารัวๆ เพราะไม่สามารถอธิบายได้เหมือนกัน ภาระจึงตกอยู่กับผม ที่ต้องมาอธิบายให้เด็กลูกครึ่งวัยสี่ขวบเข้าใจ

 

“ขันหมากคือ....เอ่อการที่แด๊ดแต่งงานกับป๊า แล้ววันก็เป็นขั้นตอนการแต่งงานของเราสองคน เข้าใจไหมครับ”

 

“ไม้เข้าใจเลย” เด็กน้อยส่ายหน้ากับคำอธิบายทื่อๆ ของผม  ก่อนที่จะนั่งรอฟังคำตอบใหม่จากผม พยายามนึกหาคำพูดที่จะทำให้เขาเข้าใจแต่ก็นึกไม่ออก จนเสียงโห่ดังมาจากข้างล่าง จึงทำให้เดม่อนหันไปสนใจเสียงนั้นมากกว่า

 

“เสียงอาไรเหรอคับ”

 

 

“นี่แหละครับเสียงแห่ขันหมากไง” มินเป็นคนตอบแทนผมแล้วครับ ดีจริงๆ ไม่ต้องอธิบายแล้วให้เขาเห็นเองจะได้เข้าใจ

 

“เดม่อนยากเห็น” เด็กน้อยลุกขึ้นทำท่าจะวิ่งไปเปิดประตูแต่น้องบราวจับไว้ซะก่อน

 

“เดี๋ยวแด๊ดก็ขึ้นมารับครับ รออยู่นี่กับป๊านะ” ชะเอมพูดกับเดม่อนที่ตอนนี้มีท่าทื้อดึงจะลงไปให้ได้ เขาคงอยากจะเห็นว่าทำไมเสียงข้างล่างจึงดังขนาดนี้ ทำให้ผมลืมความตื่นเต้นไปเลยครับ เพราะการป่วนของเจ้าตัวน้อย

 

“ก็ได้” หน้างอๆ เดินกลับมานั่งข้างๆ ผมแล้วครับ จนผมต้องลูบหัวลูกชายตัวน้อยปลอบโยนที่เขาไมได้ลงไป

 

“หน้างอจังลูกป๊า ไม่อยากอยู่กับป๊ารึไงครับ” เด็กน้อยส่ายหน้ารัวๆ แทนคำปฏิเสธ ตอนนี้คงไม่อยากพูดกับใคร แล้วครับลูกชายของผม

 

ผ่านไปไม่นานเสียงดังเซงแซ่จากข้างล่างก็เงียบลง ก่อนที่ประตูห้องนอนผมจะเปิดออกพร้อมกับคุณคิณที่ในมือถือช่อดอกไม้ยิ้มให้กับผม เดินมาหยุดตรงหน้าผมกับเดม่อน เพราะตอนนี้เราสองคนนั่งอยู่บนเตียงนอน

 

“แดดดี๊” เดม่อนทำท่าจะพุ่งไปหาพ่อของเขา แต่ผมดึงไว้ก่อนที่จะกระซิบให้เขานั่งอยู่กับผมก่อน คุณคิณคุกเข่าข้างหนึ่งลงกับพื้นพร้อมกับยื่นช่อดอกไม้ให้กบผม

 

“ขอบคุณครับ” ผมยิ้มให้คุณคิณก่อนที่จะรับช่อดอกไม้มาถือไว้

 

“แด๊ด” เด็กน้อยเรียกพ่อเขาเบาๆ พร้อมกับยื่นมือออกไปทำท่าเหมือนเวลาที่เขาจะให้คุณคิณอุ้ม ร่างสูงของคุณคิณอุ้มเดม่อนขึ้นด้วยแขนข้างเดียว ส่วนอีกข้างก็เดินจูงมือผมออกจากห้อง

 

“งอแงรึเปล่าเนี่ย หน้ามุ่ยแบบนี้”

 

“ตอบแด๊ดสิครับ ว่าวั้นนี้เดม่อนงอแงรึเปล่า”

 

“งอแง” เสียงอ่อยๆ ของเจ้าตัวน้อยทำให้ผมนึกขำกับท่าทางสำนึกผิด จนผมต้องยกมือขึ้นลูบแก้มป่องๆ ของลูกชาย

 

“งอแงนิดหน่อยครับ ไม่เยอะหรอก” เจ้าตัวน้อยเงยหน้าจากอกพ่อของเขา ก่อนที่จะหันมามองผม

 

“ปาป๊า ถ้าเดม่อนดื้อจารักเดม่อนไหม”

 

“เดม่อนเป็นลูกป๊าไม่รักเดม่อนแล้วจะให้รักใครครับ” วันนี้เขางอแง แล้วก็ดื้อนิดหน่อยคงจะกลัวผมเบื่อแล้วก็รำคาญเขา แต่มันไม่มีทางที่จะเป็นแบบที่เจ้าตัวน้อยคิดหรอก ผมรักเขามากเกินกว่าที่จะเกลียดเด็กตัวน้อยคนนี้ อาจจะโมโหบ้างเวลาที่เขาทำผิด แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าผมไม่รักเขา

 

“เดม่อนก็รักปาป๊า”

 

“แล้วแด๊ดล่ะครับ”

 

“แด๊ดก็รัก รักฉองคนเท่าๆกัน” เราสามคนคุยกันไปตามทางเดินเรื่อยๆ จนลงมาถึงห้องโถงข้างล่างจึงหยุดบทสนทนา เพราะผู้ใหญ่รออยู่เยอะเลย  คุณคิณส่งเดม่อนให้ไปอยู่กับพวกน้าและก็อาๆ ของเขา แต่ผมกลับเห็นเขาวิ่งไปหาพี่ซอง สงสัยจะติดลุงของเขาไม่น้อยเลย

 

แหวนแต่งงานถูกบรรจงสวมเข้านิ้วนางขางซ้ายของผม มือผมสั่นจนคุณคิณต้องพยายามจับให้นิ่งๆ เราสองคนสบตากัน ก่อนที่คุณย่าจะบอกให้ผมไหว้คุณคิณหลังจากสวมแหวนเสร็จ คุณคิณรับไหว้ก่อนที่จะยิ้มให้ผมเหมือนอย่างเคย

 

คุณย่าส่งแหวนให้ผมสวมให้กับคนตัวโตตรงหน้าที่วันนี้แต่งชุดไทยไม่ต่างจากผม ผู้ชายลูกครึ่งตัวโตๆ เวลาใส่ชุดไทยแบบนี้ก็น่ารักไปอีกแบบนะครับ ผมเผลอคิดจนคุณคิณ สะกิดมือผมเบาๆ ก่อนที่จะนึกขึ้นได้ว่าตัวเองต้องสวมแหวนให้คุณคิณ 

 

พิธีการต่างๆ ผ่านไปเรียบร้อย ได้เวลาส่งตัวเข้าหอ เราจัดงานแค่ช่วงเช้าถึงเที่ยง ดังนั้นการส่งตัวเข้าหอจึงต้องทำให้เสร็จตามฤกษ์ที่วางไว้

 

“ย่าฝากพ่อคิณดูแลน้องด้วยนะ  ส่วนน้องพายก็เชื่อฟังพี่เขาด้วย มีอะไรก็ให้คุยกัน อย่าเก็บเอาไว้กับตัว แต่ต้องคุยด้วยเหตุผลอย่าใช้อารมณ์”  ผมกับคุณคิณยกมือไหว้คุณย่าพร้อมกัน รู้สึกเหมือนน้ำตากำลังไหลอย่างนั้นแหละ จนมือหนาๆ ของคนข้างๆ ยกมาปาดเช็ดน้ำตาให้

 

“แม่ก็ขอฝากหนูพายดูแลพี่เขาด้วยนะครับ ส่วนตาคิณก็รักน้องให้มากๆ อย่าทำให้น้องเสียใจ ถ้าพี่เขาออกนอกลู่นอกทางบอกแม่ เดี๋ยวจัดการให้” แม่คุณคิณพูดที่เล่นทีจริง จนผมยังอดขำไม่ได้

 

“ส่วนแด๊ดก็ไม่มีอะไรมาก ลูกทั้งสองก็ทำตามที่แม่เขาบอกแล้วกัน” แด๊ดเรียกเสียงหัวเราะจากเราทุกคน ไม่คิดจะพูดเยอะกว่านี้สักหน่อยเหรอเนี่ย

 

“ถ้าอย่างนั้นพวกย่าไปก่อนนะ” ทุกคนตั้งท่าจะลุกขึ้นเดินออกไปข้างนอก แต่เจ้าตัวน้อยหน้างอที่จะไม่ได้อยู่กับผมและคุณคิณ

 

“เดม่อนจาอยู่ด้วย” เจ้าตัวน้อยสะบัดมือจากพี่ซองก่อนจะวิ่งมาหาผมกับคุณคิณที่นั่งอยู่บนเตียง จนผมรับไว้แทบไม่ทัน

 

“ไม่ได้ครับ ออกมากับย่ามา” แม่คุณคิณตรงเข้ามาหาเจ้าตัวน้อย ที่ตอนนี้เริ่มเบะปาก กลั้นสะอื้นจนตัวโยน

 

“ฮึกๆเดม่อนน้อยของผมน่าสงสารจริงๆ  ผมอุ้มเขามานั่งบนตักลูบหลังเบาๆ เจ้าตัวน้อยมุดหน้าเข้ากับอกผม ร้องให้อยู่อย่างนั้น

 

“ไม่ได้นะครับเดม่อน ไปกับคุณย่านะครับ”  แทนที่คุณคิณจะปลอบลูกกับ ไล่ให้ลูกออกไป คราวนี้จากที่สะอื้นเบาๆ กลายเป็นร้องให้จ้าจนผมอดสงสารไม่ได้

 

 

“ให้เดม่อนอยู่ด้วยไม่ได้เหรอฮะคุณย่า” ผมหันไปถามย่า เพราะสงสารลูกชายที่วันนี้จะไม่ได้นอนกับผมและคุณคิณ

 

“ไม่ได้”  เสียงคุณคิณดังแทรกขึ้นมา ทั้งๆ ที่คุณย่ายังไม่ได้ตอบเลยด้วยซ้ำ

 

“แงๆๆ ฮึก ฮือๆๆ” เดม่อนร้องให้เสียงดังกว่าเดิมอีกครับ กอดผมไว้แน่นจนแทบหายใจไม่ออก

 

“เอาไงดีล่ะทีนี้แม่ปิ่น” คุณย่าขอความเห็นจากแม่ของคุณคิณ

 

“ไม่รู้เหมือนกันค่ะ ถ้าเดม่อนอยู่มันก็ผิดธรรมเนียม แต่ถ้าเดม่อนร้องให้อยู่แบบนี้ปิ่นก็ไม่รู้จะทำยังไงแล้วค่ะ” ทุกคนก้มมองเจ้าตัวน้อยที่เอาแต่ร้องให้ไม่สนใจใคร ไม่ว่าผู้ใหญ่รอบข้างจะเกลี้ยกล่อมยังไงก็ไม่สน พี่ซองเอาหุ่นยนต์ที่เขาชอบมาล่อยังเมินเลย ทั้งๆ ที่บอกว่าจะซื้อให้ตัวโต แล้วก็คอลเล็คชั่นใหม่ด้วยแต่เขาก็ไม่เอา

 

“ไม่...ฮึก..เอา ฮือออ”

 

“ไปอยู่กับลุงซองกับย่า กับอาๆ ก่อนนะครับลูก แค่คืนนี้คืนเดียว” ใช้ไม้แข็งไม่สำเร็จ ก็เริ่มจะใช้ไม่อ่อนเหมือนเดิม แต่เจ้าตัวน้อยก็ยังไม่ยอม  ร้องให้เป็นเผาเต่าจนตาบวมหมดแล้ว

 

“ให้ลูกอยู่ด้วยได้ไหมครับ สงสารลูกคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง” ผมหันไปถามคุณคิณ ก่อนที่จะหันไปถามผู้ใหญ่ที่ยืนมองเหตุการณ์อย่าง

 

“แต่วันนี้เราต้องเข้าหอนะครับ” คุณคิณงอนผมแล้วครับ เพราะเขารอเวลานี้มานาน แต่จะให้ผมทำยังไงในเมื่อผมสงสารลูกนี่นา

 

“ย่าก็ไม่รู้แล้ว ผิดธรรมเนียมก็ช่างมัน ให้เดม่อนอยู่นี่แหละ” ทั้งย่าและคนอื่นๆ พากันเดินออกไปหมดแล้ว เหลือเพียงบรรยากาศอึมครึมของเราสามคนที่อยู่ในห้อง เดม่อนหยุดร้องทันทีที่รู้ว่าตัวเองได้อยู่กับผมแล้วก็คุณคิณ ผมเงยหน้ามองพ่อของเขาที่กำลังมองผมด้วยสายตาตัดพ้อ

 

“พายสงสารลูกนี่ครับ”

 

“แต่วันนี้มันเป็นวันสำคัญของเรา” คุณคิณหน้ามุ่ย ก่อนที่จะลุกเดินไปตรงระเบียง

 

“แดดดี๊โกรธเดม่อน” เดม่อนก็เสียงอ่อยไม่แพ้กัน ไม่รู้ว่าจะง้อยังไงดีทีนี้  ทั้งพ่อทั้งลูกหันหน้าไปคนละทาง

 

“เดม่อนไปง้อแด๊ดสิครับ บอกแด๊ดว่าทำไมเดม่อนจึงอยากอยู่ด้วย” ผมนั่งมองเดม่อนเดินไปหาพ่อของเขาอยางกล้าๆ กลัวๆ ก่อนที่มือน้อยๆ จะจับมือใหญ่เขย่าเบาๆ

 

“แดดดี๊โกรธเดม่อนเหรอคับ”

 

“เปล่า”

 

“เดม่อนยากอยู่กับปาป๊ากับแดดดี๊เพราะเดม่อนร้ากมากๆ” เด็กตัวน้อยก้มหน้าก้มตาพูดไม่รู้ว่าเผลอร้องให้ออกมาอีกรึเปล่า

 

“แด๊ดไม่ได้โกรธเดม่อนเลยครับ” คุณคิณนั่งยองๆ คุยกับลูกที่ตอนนี้ก้มหน้าร้องให้อีกแล้ว

 

“แต่แด๊ด...ฮึก ไม่ยากอยู่กับเดม่อน”

 

“อยากอยู่สิครับ เอาเป็นว่าวันนี้เราอยู่กันสามคนเลยเนอะ”

 

“ค้าบบบ” เสียงใสขึ้นมาทันทีครับลูกชายผม ยิ้มออกแล้วครับหลังจากที่ร้องให้จนตาบวม เจ้วตัวเล็กเดินจูงมือคุณคิณกลับเข้ามาด้าในอีกครั้ง แต่คนตัวโตยังหน้าบึ้งใส่ผมไม่ยอมเปลี่ยน

 

“แดดดี๊อย่างอนปาป๊านะคับ” เดม่อนเขย่าแขนคุณคิณที่นั่งมองผมเคืองๆ

 

“นะครับอย่างอนพายเลย” ผมเขย่าแขนคุณคิณอีกข้างแบบที่เจ้าตัวน้อยทำ แต่คุณคิณก็ยังหน้าบึ้งไม่เปลี่ยน ทำไมคนตัวโตๆ ถึงงอนได้ตลกแบบนี้เนี่ย ไม่คิดจะอายเลย ยิ่งทำหน้าบึ้งๆ งอๆ ยิ่งตลก แต่ผมก็ไม่กล้าหัวเราะหรอก กลัวเขาจะงนผมมากกว่าเดิม

 

“แดดดี๊..ฉงฉารปาป๊า”

 

“ถ้าจะให้แด๊ดหายต้องมีข้อแลกเปลี่ยน”

 

“อะไรเหรอคับ”

 

“บอกปาป๊าใหตอบตกลงข้อเสนอของแด๊ดก่อน”สายตาเจ้าเล่ห์ไม่มีใครเกิน ต้องคิดอะไรเจ้าเล่ห์อยู่น่เลยครับ

 

“ปาป๊าตกลงก่อนสิคับ” เดม่อนกระโดดลงจากเตียงอีกฝั่งเดินมาหาผมก่อนที่จะทำหน้าอ้อน จนผมแอบใจอ่อนไปแล้ว ทั้งๆ ที่รู้ว่านี่คือแผนของคุณคิณก็ตาม

 

“ก็ได้ครับ”

 

“ถ้าอย่างนั้นเดม่อนปิดหูก่อน” เจ้าตัวน้อยยกมือขึ้นปิดหูงงๆ ก่อนที่จะหันไปมองคุณคิณสลับกับผม

 

“หลังจากลูกหลับ พายต้องให้คิณกินพายจนกว่าจะพอใจ”  ผมมองคุณคิณตาแทบถลนออกมาจากเบ้า ดูเขาพูดสิครับ ต่อหน้าลูกก็ไม่เว้นถึงแม้ลูกจะไม่ได้ยินก็เถอะ

 

“........”

 

“ตกลงไหมครับ”

 

“อือ”

 

“เดม่อนเอามือออกได้ยังคับ”

 

“ได้แล้วครับ” คุณคิณดึงมือป้อมๆออกจากหูทั้งสองข้าง  คงจะมีผมเพียงคนเดียวที่ทำตัวไม่ถูกกับสถานการณ์ตรงหน้า

 

“แดดดี๊จะกินปาป๊าเหรอครับ ไม่เอาเดม่อนกลัวปาป๊าตายอย่ากินนะ” ห๋า! เดม่อนได้ยินเหรอเนี่ย ตายแน่ๆ เลยงานนี้  ผมนั่งอึ้งไปไม่เป็นแล้วครับลูกได้ยินหมดเลย

 

“ไม่ตายแน่นอนครับแด๊ดรับรอง”

 

“จริงเหรอคับปาป๊า” แล้วจะหันมาถามผมทำไมเนี่ย ลูกหนอลูก

 

“ไม่ตายแน่นอนครับ แถมจะมีความสุขอีกต่างหาก” อย่าคิดว่านี่คือคำตอบของผม เปล่าเลยครับ คุณคิณต่างหาก หน้าไม่อาย

 

“พอแล้วครับคุณคิณ”

 

“ปาป๊าไม่ตายจริงๆ นะคับ”

 

“ครับๆ” ผมตอบรับเจ้าตัวน้อยเพราะเขาคะยั้นคะยอให้ผมตอบให้ได้ 

 

และคืนนี้ก็จบด้วยการที่คุณคิณจับผมกินครั้งแล้วครั้งเล่า จนผมได้แต่หอบหายใจถี่ๆ อย่าถามว่าเราทำกันที่ไหน เพราะแทบจะทุกที่ไม่เว้นแม้แต่ใกล้ๆ ตรงที่ลูกชายนอนอยู่ หรือแม้กระทั่งในห้องน้ำก็ไม่เว้น บอกให้หยุดก็ไม่ยอม จนขาผมแทบทรุด แต่งงานกับคนหื่นก็แบบนี้แหละครับ ต้องทำใจ

**************************

 

จบไปอีกตอนแล้วนะคะ ตอนหน้าจะจบจบจริงๆ แล้ว

 :mew2: :mew1:

เม้น  ให้ ด้วย นะคะ

 
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:


                     TBC.
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน25P.10 (20/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: milin03 ที่ 20-03-2016 14:13:14
ชอบๆ เอาอีกๆ
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน25P.11 (20/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: ujen ที่ 20-03-2016 14:41:25
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน25P.11 (20/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 20-03-2016 14:56:47
มีลูกกวนตัว มีผัวกวนใจ5555
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน25P.11 (20/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Dee^daY ที่ 20-03-2016 15:10:32
ทุกทุกที่ ที่มีที่ ..
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน25P.11 (20/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 20-03-2016 16:19:35
อ่ะจบซะแล้วสิ
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน25P.11 (20/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 20-03-2016 18:21:59
 :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน25P.11 (20/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 20-03-2016 18:34:09
 :pighaun:   เด็กหลับลึกดีมาก เดม่อนติดป๊ากับแด๊ดแล้วแบบนี้จะแยกห้องได้ไงอ่า. เหอะๆๆ
ขอบคุณค่ะ รอตอนจบ
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน25P.11 (20/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: badbadsumaru ที่ 20-03-2016 18:59:00
ตอนหน้าจบแล้วหรอเนี่ย .____.
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน25P.11 (20/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 20-03-2016 19:27:53
เดม่อนน่าร๊ากกกก~
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน25P.11 (20/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: omyim_jjj ที่ 22-03-2016 20:57:48
น่ารักมากกก  ตามมาอ่านทันแล้ว
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน26 END. P.11 (30/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: MooKratai ที่ 30-03-2016 23:52:19
หลานคุณย่า ตอน26 END.

 
หลังจากที่ผมและพายแต่งงานกันแบบเงียบๆ รู้กันเฉพาะคนสำคํญของครอบครัวเท่านั้น พายกับเดม่อนก็ย้ายมาอยู่ที่คอนโดผม เพราะผมซื้อเตรียมไว้สำหรับครอบครัวของเรา ห้องเดิมที่ผมเคยอยู่มันเล็กไปสำหรับการอยู่สามคน  ผมจึงซื้อคอนโดที่อยู่ระหว่างบ้านผมกับบ้านของพาย จะได้เดินทางไปมาสะดวก เอาแบบกึ่งกลางระหว่างสองบ้าน เวลาเสาร์อาทิตย์ก็สลับไปนอนบ้านนั้นทีบ้านนี้ที นอกจากอาทิตย์ไหนที่ไม่ว่างจริงๆ ก็จะนอนที่คอนโดแทน

 

 วันนี้ผมพาพายกับเดม่อนมาที่บริษัทด้วย นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พายมาที่บริษัทของผม หลายคนจึงพอที่จะรู้จักว่าพายเป็นใคร แต่ยังไม่มีใครรู้ว่าเราสองคนแต่งงานกันแล้ว นอกจากเลขาและคนสนิทของผมเพียงไม่มี่คน  เพียงแค่ก้าวท้าวถึงหน้าบริษัทแสงแฟลชก็กระทบกับเราทั้งสามคนทันที เสียงรัวชัตเตอร์ยิ่งกว่าเราสามคนเป็นดาราดังซะอีก ผมไม่แปลกใจเลยที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ เพราะเมื่อเช้าเกือบทุกสำนักพิมพ์ลงข่าวผมที่ควงพายไปเดินห้าง  มือดีแอบถ่ายเราสองคน ซึ่งทั้งผมและพายก็ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ ภาพที่เป็นข่าวเป็นวันเดียวกันกับที่เราสองคนพากันไปเลือกซื้อของเข้าคอนโด  หัวข้อข่าวแต่ละสำนักนี่เขียนซะจนพายเสียหาย บ้างก็ว่าพายเป็นเด็กในสต็อคของผม บ้างก็ว่าพายเป็นเด็กขาย ผมโมโหจนอยากจะสั่งปิดสำนัก พิมพ์พวกนี้ไปเลย ไม่รู้ว่าอะไรจริงไม่จริงใส่สีตีไข่จนคนๆ หนึ่งเสียหายขนาดนี้

 

 เลขาของผมโทรไปแจ้งตั้งแต่เช้าว่ามีบรรดานักข่าวรออยู่หน้าบริษัทเยอะพอสมควร ผมเลยพาทั้งพายและเดม่อนมาด้วยซะเลย  ผมดึงอีกคนให้มายืนอีกฝั่ง หลบแสงแฟลชให้มากที่สุด งานนี้ไม่จำเป็นต้องเชิญนักข่าว ก็มีคนรอจนเต็มหน้าบริษัทแล้ว ผมจึงจะใช้โอกาสนี้เปิดตัวพายและเดม่อนเพราะจะได้จัดแถลงข่าวไปเลยทีเดียว

 

ผมพาพายและเดม่อนเดินฝ่าวงล้อมนักข่าว เข้าไปยังลิฟท์ตรงไปยังชั้นบนสุดคือห้องทำงานของผม เอง เป็นห่วงพายที่ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ สำหรับผมเองไม่เป็นไรหรอกเพราะค่อนข้างชินชากับบรรดาข่าวฉาวทั้งหลายแหล่ ที่โดนใส่สีตีไข่จนเหลือความจริงไม่ถึงยี่สิบเปอร์เซนต์ด้วยซ้ำ     

 

"เป็นยังไงบ้างครับพาย" ผมเอ่ยถามขึ้นหลังจากที่พาพายและเดม่อนมานั่งโซฟาตัวใหญ่ในห้องทำงานของผม

 

"...." คนตัวเล็กเอาแต่ส่ายหัวจนไม่รู้ว่าตอนนี้รู้สึกอย่างไร

 

"ไม่เป็นไรนะครับ" มือหนาของผมจับมือบางไว้อย่างให้กำลังใจ

 

"ไม่ครับ แค่คุณคิณกับลูกอยู่ด้วยก็พอแล้ว" พายยิ้มบางๆ ให้ผม แม้ว่ารอยยิ้มนั้นจะไม่ได้มาจากความสุขแบบจริงๆ แต่ก็ดีกว่าที่พายจะมีท่าทางกังวลก็แล้วกัน อย่างน้อยเขาก็ยังยิ้มได้

 

"ครับ"

 

"เดม่อนรักปาป๊า" เจ้าตัวเล็กวิ่งมากอดพาย จนเขาย่อตัวลงไปกอดเดม่อนตอบ ส่วนผมก็สวมกอดสองคนอีกที

 

"คิกๆๆ เรากอดกันสามคนเลย" เด็กน้อยที่ไม่รู้ว่าวันนี้ต้องเผชิญกับอะไรเอาแต่หัวเราะคิกคัก แต่ก็ทำให้ผู้ใหญ่อย่างผมและพายยิ้มกว้างออกมาได้

 

"ครับกอดกันสามคน" ผมเอ่ยขึ้นก่อนที่จะก้มลงมองสองคนที่ผมรักสุดหัวใจ

 

"พ่อ แม่ ลูก"มือป้อมๆ ของเดม่อนชี้ที่เราสามคน เรียงลำดับตามที่เขาคิด ลูกของผมนี่ฉลาดจริงๆ นะครับ ชี้ได้ถูกต้องเป๊ะ

 

"เดม่อน! นี่ปาป๊า" พายร้องเสียงหลง เมื่อเดม่อนพูดคำว่าแม่แล้วชี้ที่พาย จนผมอดขำไม่ได้ที่คนตัวเล็กโวยวายใส่ลูกที่ตอนนี้เริ่มจะทำหน้างอแล้ว

 

"ไม่อาว จาให้เป็นมามี๊แล้ว" เดม่อนเริ่มงอแงอย่างที่ไม่เคยเป็น เขาชอบบอกกับผมว่าพายเป็นมามี๊ตลอด เวลาที่อยู่กับผมสองคน เขาอยากเรียกแบบนี้ แต่พายสั่งห้ามมาตลอดเจ้าตัวเล็กเลยไม่กล้าขัด แต่ทำไมวันนี้ถึงกล้าเถียงก็ไม่รู้

 

"ทำไมล่ะครับ" พายเริ่มเอ่ยเสียงอ่อนลง คงจะสงสารเจ้าตัวเล็กที่ตอนนี้เริ่มจะหน้าเสียแล้ว

 

"เดม่อนยากมีมามี๊" เสียงอ่อยๆ ของเด็กตัวน้อยทำเอาผู้ใหญ่ใจแข็งย่างผมใจอ่อนยวบ มีเหรอคนขี้สงสารอย่างพายจะไม่รู้สึกอะไรเลย

 

"ก็มามี๊ไวโอเลตไงครับ” พายพยายามหาทางออกที่ดีที่สุดให้กับเขาและเจ้าตัวเล็กแต่ก็ไม่ได้ดีขึ้นเลย เจ้าตวเล็กเริ่มจะตาแดงๆ แล้วครับ ผมเพียงแค่มองดูคนที่ผมรักทั้งสองคนตกลงกัน แต่คงไม่ต้องเดาให้ยากเพราะคนที่แพ้ต้องเป็นพายอยู่แล้ว

 

"แต่มามี๊ไม่อยู่นี่นา"

 

"ปาป๊าเป็นผู้ชายนี่ครับ" มือบางลูบหัวเดม่อนเบาๆ แต่อีกคนกลับไม่สนใจ น้ำตาหยดใสๆ เริ่มจะไหลออกมาเต็มหน่วยตาเล็ก

 

"ฮึกๆ"

 

"ลูกร้องให้ทำไมครับ เรียกอะไรปาป๊าก็ยังรักเดม่อนเหมือนเดิม" ผมเอ่ยปลอบลูกชายให้คลายสะอื้นเจ้าตัวน้อยเอาแต่ซุกหน้ากับอกของพายอยู่อย่างนั้น เสียงสะอื้นดังออกมาเบาๆ สงสัยว่าเจ้าตัวเล็กจะพยายามไม่ร้องให้ แต่ก็คงทนไม่ไหวตามประสาเด็ก

 

"ทำไงดีครับคุณคิณ" พายหันมาขอความช่วยเหลือจากผม คงจะหมดหนทางที่จะทำให้เจ้าตัวเล็กเลิกร้องให้แล้ว

 

"พายว่ายังไงล่ะครับ"

 

"ก็ได้ครับ มามี๊ก็มามี๊ เลิกร้องได้แลัวนะครับ" เสียงถอนหายใจของคนตัวเล็กดังออกมา ก่อนที่จะยอมให้เจ้าตัวเล็กเรียกแบบที่เขาต้องการ

 

"ฮึกๆ จริงๆ นะคับ"

 

"ครับๆ" ในที่สุดพายก็พ่ายแพ้ให้กับน้ำตาลูกชายตัวน้อยจนได้ ทั้งๆ ที่สียงแข็งมาตลอด ไม่ยอมให้เดม่อนเรียกแบบนี้ แต่พอเจอฤทธิ์ของน้ำตาที่ไหลอาบแก้มของลูกชายตัวน้อยก็คงใจอ่อนยวบไปเลย เราสามคนนั่งกอดกันอยู่อีกพักใหญ่ๆ ก่อนที่พายจะพาลูกชายไปล้างหน้าล้างตา

 

หลังจากที่เคลียร์กับเจ้าตัวน้อยอยู่พักใหญ่ ก็ได้เวลาที่เราจะแถลงข่าวในวันนี้แล้ว  ผมอุ้มเจ้าตัวน้อยแบบที่ชอบทำประจำ มืออีกข้างก็จับกับมือเรียวเล็กของคนรัก ที่ตอนนี้เริ่มจะแสดงออกถึงความกังวลผ่านทางสีหน้าและแววตา แม้ว่าร่างบางจะพยายามยิ้มกลบเกลื่อก็ตาม เราเดินมาตามทางเดินเรื่อย ตรงไปยังห้องโถงใหญ่ของบริษัทที่ถูกจัดเซตให้เป็นห้องแถลงข่าวชั่วคราว

 

“กังวลเหรอครับ” มือของพายเย็นเฉียบ เหงื่อซึมผ่านฝ่ามือเล็กจนผมยังกลัวว่าเขาจะจะเป็นอะไรไป

 

“นิดหน่อยครับ พายไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้” คนตัวเล็กของผมตอบเสียงอ่อยๆ จนผมอดสงสารไม่ได้

 

“ไม่เป็นไรนะครับ ทุกอย่างจะต้องผ่านไปได้ด้วยดี” ผมยิ้มให้กำลังใจพาย มือข้างที่จับกันอยู่ก็บีบเบาๆ เพื่อคลายความเครียดให้กับเขา แต่ไม่รู้ว่าจะช่วยได้รึเปล่า

 

“ขอบคุณครับ” พายหันมายิ้มให้ผม

 

“มามี๊เป็นอาไร” เจ้าตัวเล็กยื่นมือป้อมๆ ไปลูบแก้มใสของพายอีกที

 

“ไม่ได้เป็นอะไรครับลูก”

 

ประตูห้องแถลงข่าวถูกเปิดออก เสียงรัวชัตเตอร์ยังคงดังอย่างต่อเนื่อง ผมเดินนำหน้าพายมืออีกข้างก็ยังจับจูงให้อีกคนเดินตาม ก่อนที่ผมจะเลื่อนเก้าอี้ให้คนตัวเล็กนั่ง ผมจึงนั่งลงข้างพายอีกที โดยที่เดม่อนยังคงนั่งบนตักผม

 

“สวัสดีครับสื่อมวลชนทุกท่าน ที่มาในวันนี้ก็คงจะมีข้อสงสัยในตัวผม และคนที่นั่งอยู่ข้างๆ ผมไม่น้อยเลยใช่ไหมครับ ผมจะไม่อ้อมค้อมให้เสียเวลาไปมากกว่านี้แล้วนะครับ ใครที่มีข้อสงสัยให้ยกมือถามทีละคนเลยนะครับ”  ผมเริ่มที่จะเอ่ยขึ้นมาก่อน เพราะไม่ได้มีพิธีรีตรองอะไรมาก

 

“ขอถามคุณคีรินค่ะ คนที่นั่งข้างๆ คุณนี่เป็นใครคะ แล้วเกี่ยวข้องอะไรกับคุณ?” นักข่าวผู้หญิง จากสำนักข่าวชื่อดังที่ผมค่อนข้างคุ้นหน้าคุ้นตาเอ่ยขึ้นมาคนแรก

 

“คนนี้คือคุณพาย ธีระนัย ธีรธำรงค์กุล หลานชายคนกลางของคุณหญิงเพียงเพ็ญ ธีรธำรงค์กุล ส่วนที่ถามว่าเกี่ยวข้องอะไรกับผม พายเป็นภรรยาของผมครับ” เสียงนักข่าวฮือฮาขึ้นมาเสียงดัง ซะจนเดม่อนที่นั่งตักผมอยู่ยังสะดุ้ง จนเหล่าบรรดาพนักงานคนสนิทผมสามสี่คนที่ยืนอยู่ต้องห้ามเสียงดัง

 

“ที่บอกว่าภรรยา พวกคุณแต่งงานกันแล้วเหรอครับ? อีกอย่าง...พวกคุณก็เป็นผู้ชายั้งคู่” นักข่าวชายอีกคนยิงคำถามทันทีหลังจากที่ผมตอบคำถามแรกจบ

 

“แต่งแล้วครับ แต่จัดแค่ภายในครอบครัว เพราะพายเขาอยากจัดงานเล็กๆ ให้มีแค่แขกคนสำคัญของเราจริงๆ แล้วการที่เราสองคนเป็นผู้ชายทั้งคู่นี่มันทำให้เรารักกันไม่ได้เหรอ อะไรเป็นข้อกำหนดคำว่ารักในความหมายของคุณ” ผมตอบเสียงนิ่งจ้องไปยังคนที่ถามผมเมื่อสักครู่ พร้อมกับยกมือข้างซ้ายที่สวมแหวนแต่งงานให้กับบรรดาเหล่านักขาวดู  เสียงชัตเตอร์รัวอีกครั้ง ก่อนที่จะมีนักข่าวอีกคนบอกให้พายโชว์แหวนบ้าง ร่างบางที่นั่งข้างผมจึงชูมือข้างที่ใส่แหวนโชว์ให้นักข่าวดู

 

“คุณแค่กลบเกลื่อนข่าวที่ออกมาหรือเปล่าคะ ที่จริงคุณพายที่นั่งข้างๆ คุณอาจจะเป็นแค่คู่ควงของคุณเหมือนอย่างที่ผ่านมาก็ได้”

 

“คุณกล้ามากนะครับที่ถามคำถามนี้ ถ้าพายเป็นแค่คู่ควงเหมือนที่เคยเป็นข่าว จำเป็นด้วยเหรอครับที่ผมจะต้องมานั่งแถลงข่าวให้เสียเวลา แล้วถ้าพวกคุณไม่เชื่อ ผมก็ยังมีหลักฐานการแต่งงานของเรา”  คุณอิงอรเลขาของผมเริ่มฉายสไลด์บรรยากาศงานแต่งของผมและพาย ทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว รวมทั้งทะเบียนสมรสที่ผมกับพายพึ่งบินไปจดที่ประเทศอังกฤษเมื่อสัปดาห์ที่แล้วนี่เอง

 

“มีอะไรจะถามอีกไหมครับ”

 

“แล้วเด็กที่นั่งกับคุณคีรินนี่เป็นใครคะ”

 

“ลูกพี่ชายของผมที่เสียไปแล้ว แต่ตอนนี้เป็นลูกบุญธรรมของผมกับพาย”  ผมบอกให้เดม่อนยกมือขึ้นไหว้ทุกคนอีกครั้ง

 

“ซาหวัดดีคับ เดม่อนชื่อ ชลทิศ เดม่อน แมคคาร์ล  ลูกของแดดดี๊คิณ กับมามี๊พายคับ”  แนะนำตัวเองเสร็จก็ส่งยิ้มเรียกคะแนนให้กับบรรดานักข่าว  นักข่าวชมกันใหญ่ว่าลูกชายผมน่ารัก จนผมยังอดยิ้มไม่ได้เลย ที่มีคนเอ็นดูเจ้าตัวเล็กของผม

 

“ขอถามคุณพายหน่อยได้ไหมคะ ทำไมไม่เคยเห็นออกงานสังคมเลย แล้วตอนนี้ทำอะไรอยู่คะ” หลังจากที่นักข่าวผู้หญิงคนนี้ถามจบ เหล่าบรรดานักข่าวต่างสามัคคีกันเงียบจ้องคนรักของผมเป็นตาเดียวกัน ตั้งใจรอคำตอบของพายอย่างใจจดใจจ่อ

 

“ก่อนอื่นพายก็ขอสวัสดีอีกครั้งนะครับ  ทุกท่านคงไม่เคยรู้จักพายเพราะงานที่บริษัทพี่ซองจะเป็นคนจัดการทั้งหมด พายไม่ชำนาญด้านธุรกิจ ส่วนงานสังคมพายก็ไม่เคยออกหรอกครับเพราะ...เอ่อ จะให้ตอบยังไงดีล่ะ  ถึงพายไปออกงานจริงๆ ก็คงช่วยอะไรพี่ชายไม่ได้เพราะพายไม่เข้าใจด้านนี้เลย ส่วนที่ถามว่าตอนนี้ทำอะไรอยู่ พายเปิดร้านเค้กครับ เป็นร้านเล็กๆ ที่อยู่ย่านธุรกิจนะครับ” พายตอบยิ้มๆ ให้กับนักข่าว รอยยิ้มจริงใจเผื่อแผ่ให้กับทุกคน จนหลายๆ คนพากันยิ้มตามพายไปด้วย

 

“แต่คุณพายน่าจะออกงานบ้างนะคะน่ารักขนาดนี้ เสียดายน่าจะได้รู้จักคุณพายเร็วกว่านี้”

 

“รู้จักตอนนี้ก็ไม่สายนี่ครับ แล้วก็ขอบคุณที่หลายๆคน ไม่ได้รู้สึกแปลกกับความรักของเรา” พายเอ่ยเสียงนิ่ง ควบคุมความประหม่าได้ดีกว่าที่คิด

 

“เดี่ยวนี้ความรักของเพศเดียวันมีเยอะแยะไปค่ะ แล้วอีกอย่างคุณทั้งสองคนเป็นคู่ที่เหมาะสมกันมากเลย หวังว่าต่อไปนี้คุณคีรินจะพาครอบครัวที่น่ารักออกงานบ่อยๆ นะคะ” นักข่าวสาวคนเดิมกล่าวอีกครั้ง

 

“อันนี้ก็คงต้องแล้วแต่ทั้งสองคนอีกแหละครับ”

 

“สาวๆ ทั้งประเทศคงอกหักกันเป็นแถว ที่นักธุรกิจสุดสจะเพอร์เฟคอย่างคุณคีรินแต่งงานมีครอบครัวแล้ว” 

 

หลังจากที่ผ่านช่วงตึงเครียดไปแล้ว กลับกลายเป็นว่านักข่าวทั้งหลายชมชอบพายกับเดม่อนกันใหญ่ ทั้งพูดคุย ขอถ่ายรูปพายกับเดม่อนยิ่งกว่าดาราดัง  ทั้งสองคนก็ยอมทำอย่างไม่อิดออดจนตอนนี้ผมแทบจะกลายเป็นส่วนเกินไปเลย  เสียงหัวเราะของลูกชายตัวน้อยของผมดังไปทั่ว

 

ผมไม่เอาเรื่องเหล่าบรรดาสำนักพิมพ์ที่ลงข่าวมั่วๆ แค่ให้ลงข่าวขอโทษพายเป็นเวลาหนึ่งเดือน  แต่ผมจะเอาผิดกับแหล่งข่าวที่ทำให้พายเสื่อมเสียชื่อเสียง ไม่เกินอาทิตย์น่าจะรู้ว่าใครเป็นต้นตอของข่าวบ้าๆ แบบนี้

 

งานแถลงข่าวผ่านไปแล้ว ตอนนี้ผมพาพายและเดม่อนขึ้นมาพักในห้องทำงานผมอีกครั้ง เจ้าตัวเล็กหลับไปบนโซฟาตัวใหญ่ สงสัยคงจะเพลียเพราะวิ่งเล่นไม่หยุดกับพี่ๆ นักข่าว ส่วนพายอยู่ที่โซฟาตัวเล็กอีกตัว หลับตาทั้งๆ ที่ยังนั่งอยู่ สงสัยคงจะเหนื่อยไม่ต่างกัน

 

“เหนื่อยเหรอครับ” ผมหย่อนกายลงนั่งตรงพนักโซฟา ก้มลงกระซิบข้างหูเล็กเบาๆ จนคนที่หลับอยู่ลืมตาขึ้นมามองผมปริบๆ

 

“นิดหน่อยครับ แต่ก็โล่งใจที่ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี” ผมก้มลงจูบปากเล็กที่ขยับขึ้นลงตามจังหวะการพูด จูบเบาๆ ไม่ได้ลึกซึ้ง แต่สัมผัสกลับอบอุ่นราวกับได้เติมพลังงานที่เสียไปตั้งแต่เช้า

 

“กลับเลยไหม พายจะได้ไปพักผ่อนด้วย”

 

“รอลูกตื่นก่อนดีกว่าครับ ถ้านอนไม่พอกลัวลูกจะงอแง”

 

“ขอโทษที่ทำให้พายต้องมาเจอเรื่องแบบนี้นะครับ” มือหนาๆ ของผมโอบร่งบางที่นั่งซบหน้าลงกับอกแกร่งของผม

 

“ไม่ใช่ความผิดคุณซักหน่อย ดีซะอีกจะได้ไม่ต้องเชิญนักข่าวมางานแถลงข่าวของเรา อยู่ดีๆ ก็มาทำข่าวให้เลย”  พายพูดติดตลก ใบหน้าเปื้อนยิ้มที่ผมหลงไหลเงยขึ้นมาสบตากับผมซะหวานเยิ้ม  นี่กำลังยั่วผมอยู่รึเปล่า เดี่ยวก็จับกินซะเลย

 

“หึๆ...อย่ายั่วครับ”

 

“บ้ารึเปล่า ใครยั่ว” ร่างบางแก้มแดงปลั่งขึ้นในทันที ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าอายกับคำพูดของผม

 

“ไม่ยั่วก็อย่ายิ้มทำตาเยิ้มใส่คิณแบบนี้ครับ เพราะคิณจะทนไม่ไหว”

 

“คนลามก หื่นกาม”

 

“อันนี้ยอมรับครับ โดยเฉพาะกับพายไอ้คิณน้อยมันพร้อมรบตลอดเวลา” ผมจับมือบางมาวางไว้บนเป้ากางเกงของตัวเอง ที่ตอนนี้ไอ้คิณน้อยกำลังจะกลายร่างเป็นคิณยักษ์ที่พร้อมจะยิงกระสุนตลอดเวลา พายพยายามดึงมือออก แต่ผมก็ยังบังคับให้มือบางลูบคลำตามความยาวของวัตถุใต้กางเกงที่กำลังสู้มือเขาอยู่

 

“คุณคิณ!” พายร้องออกมาเสียงดัง

 

“อย่าเสียงดังครับลูกนอนอยู่” เขาหันขวับไปมองลูกชายที่ยังนอนหลับตาพริ้มอย่างมีความสุข

 

“ปล่อยมือพายสิครับ แล้วก็รีบไปจัดการตัวเองเลยคนบ้า” พายสั่งผมสียงเขียว แต่คนอย่างไอคิณนี่ไม่กลัวหรอกครับ เรื่องนี้ผมเป็นผู้นำ ส่วนเรื่องอื่นๆ ก็อย่างที่ทราบนั่นแหละครับ

 

“อย่ามายิ้มเจ้าเล่ห์แบบนี้นะ”

 

“เจ้าเล่ห์อะไรครับ” มือผมยังบังคับมือบางให้ลูบไล้คิณยักษ์ตามใจชอบ จนร่างบางข้างๆ ผมส่งยิ้มแปลกๆ ให้กับผม ทำเอาผมขนลุกเกลียวทันที เสียวสันหลังวูบ สายตาแบบนี้พายกำลังคิดจะทำอะไร

 

“โอ้ยๆ..พายครับคิณเจ็บยอมแล้วๆ” มือเล็กที่ตอนแรกทำเป็นโอนอ่อนตามการกระทำของผม แต่ตอนนี้กำลังบีบไอ้คิณยักษ์เต็มๆ 

 

“แน่นะครับ”

 

“ครับๆ เลิกบีบนะคิณจุก”

 

“คิคิ” พายหัวเราะคิกคักถูกใจที่เอาคืนผมได้  ฝากไว้ก่อนเถอะครับเมีย รับรองว่าคืนนี้คีรินจะจัดให้หนักๆ เลย

 

“สนุกเหรอครับ” ผมบีบจมูกคนที่เอาแต่หัวเราะไม่ยอมหยุด ร่างบางพยักหน้าหงึกหงักเพราะพูดไม่ได้

 

“อือๆ อ่อยๆ” ผมกลัวร่างเล็กขาดใจไปซะก่อนจึงยอมปล่อยแต่โดยดี  กลับมากอดเขาไว้เหมือนเดิม ผมนึกไมออกเลยว่าถ้าผมไม่ได้รู้จักกับพาย ผู้ชายตัวเล็กๆ หน้าสวยหวาน แล้วจะได้มีโอกาสรู้จักคำว่ารักแบบคนอื่นเขาหรือเปล่า

 

อดีตที่ผ่านมาไม่เคยคิดที่จะมีครอบครัวเป็นตัวเป็นตน แต่พอเจอพายทุกอย่างก็เปลี่ยนไป จากที่เคยคิดแค่ว่าคนนี้น่ารักดี  ถ้าได้รู้จักจะเป็นยังไงบ้าง  สงสัยในความรู้สึกของตนเองแต่ไม่กล้าที่จะสานสัมพันธ์ในตอนแรก แต่พอพายตกเป็นของผมจริงๆ ผมจึงต้องการครอบครองทั้งตัวแล้วก็หัวใจของเขา จนวันนี้ทุกอย่างที่ผมเคยวาดฝันเอาไว้ ก็เป็นไปอยางที่คิด มันทำให้ผมรับรู้ได้ว่าควาสุขจริงๆ ของคนเราเป็นอย่างไร

 

ครอบครัวของผมไม่ได้สมบูรณ์แบบ แต่เต็มไปด้วยความรักที่มีให้กัน มีเมียที่ผมรัก ลูกที่ผมต้องดูแล  แค่นี้ก็พอแล้ว

                 

    รักแรกของผม************ แลกด้วยรักจริงใจของใครอีกคน


                                                  END.

 
*****************************************************************

 

ขอโทษที่หายไปนานเลยค่ะ คุณยายเสียเลยต้องจัดการหลายอย่าง กว่าจะมาลงตอนจบได้ก็ผ่านมาหลายวันทีเดียว ไม่รู้ว่าคนอ่านลืมกันไปแล้วรึยัง ตอนจบดูห้วนๆ ไปนิด ไม่ได้หวานหยดจนมดขึ้น


 :mew1:

ขอบคุณใครหลายๆ คนที่กรุณานักเขียนสมัครเล่นคนนี้นะคะ ขอบคุณทุกคำติ คำชม ทุกกำลังใจที่ดีเสมอ บางคนเม้นให้ทุกตอน จนคนเขียนรู้สึกเหมือนเป็นญาติ เป็นพี่ เป็นน้อง    แม้ฝีมือไม่ได้ดีเด่อะไรก็ยังมีคนคอยอ่าน คอยติดตามในทุกๆ วัน ดีใจที่ได้รู้จักกันผ่านตัวหนังสือนะคะ
 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:



 

ฝากติดตามเรื่องอื่นๆ ด้วยนะคะ

 :L2: :3123: :L1: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน26 END. P.11 (30/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 31-03-2016 00:32:11
 :L2: :L2: :L2: thanksssss
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน26 END. P.11 (30/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 31-03-2016 00:37:49
จบแล้ว~เรื่องนี้น่ารักมากเลย ขอบคุณนะคะ
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน26 END. P.11 (30/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Kunpimook ที่ 31-03-2016 00:44:02
 :katai2-1: :katai2-1: สนุกมากกๆๆค่ะ ครอบครัวอบอุ่น ....อยากให้มีตอนพิเศษเพิ่มๆ  :mew1:
ปล. รอคนเขียนมาต่ออีกคู่นะคะ สนุกๆ  :impress2:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน26 END. P.11 (30/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 31-03-2016 00:47:59
จบไปแล้วแอบเสียดายแต่ก็จะติดตามเรื่องอื่นต่อไป
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน26 END. P.11 (30/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 31-03-2016 01:02:16
เป็นเรื่องที่หวาน อ่านง่าย ชอบมากค่ะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน26 END. P.11 (30/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 31-03-2016 01:55:42
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน26 END. P.11 (30/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 31-03-2016 02:36:38
น่ารักมากเลย โดยเฉพาะเดม่อน
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวน่ารักๆ นะครับ
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน26 END. P.11 (30/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: noy ที่ 31-03-2016 04:51:00
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน26 END. P.11 (30/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: ujen ที่ 31-03-2016 07:34:59
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน26 END. P.11 (30/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: มะลิลา ที่ 31-03-2016 07:42:04
ขอบคุณเช่นกันสำหรับหลานคุณย่าที่น่ารักคนนี้
รอติดตามผลงานเรื่องอื่นอื่นต่อจ้ะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน26 END. P.11 (30/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 31-03-2016 07:55:43
 :mew1:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน26 END. P.11 (30/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 31-03-2016 08:36:14
 :mew1:  ขอบคุณสำหรับตอนจบน่ารักอบอุ่นค่ะ
เสียใจด้วยเรื่องคุณยายนะคะ ขอให้คนเขียนพัฒนาฝีมือขึ้นๆไปอีกค่ะ
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน26 END. P.11 (30/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 31-03-2016 09:29:33
 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน26 END. P.11 (30/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 31-03-2016 10:44:07
 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:

เรื่องคุณยายเสียใจด้วยนะ

เราจะรอเรื่องต่อไป :L1: :L1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน26 END. P.11 (30/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Papangtha ที่ 31-03-2016 10:47:14
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน26 END. P.11 (30/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Dee^daY ที่ 31-03-2016 11:58:44
ขอบคุณสำหรับเนื้อเรื่องดีๆ และ ให้กำลังใจสำหรับผู้เขียน ..
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน26 END. P.11 (30/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Legpptk ที่ 31-03-2016 13:17:04
ชอบเรื่องนี้มากกกกก  น่ารักดี
จะติดตามเรื่องต่อไปนะ
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน26 END. P.11 (30/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 31-03-2016 18:34:32
 :pig4: :pig4: :3123: :3123:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน26 END. P.11 (30/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Kalamall ที่ 31-03-2016 21:57:04
ไม่ได้เข้าเล้าหลายวัน น้องพายมีลูกมีสามีเรียบร้อยเลย แฮปปี้~
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน26 END. P.11 (30/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: phai ที่ 01-04-2016 08:57:35
 :impress2:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน26 END. P.11 (30/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: nnewy ที่ 01-04-2016 15:33:44
Happy ending  :3123:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน26 END. P.11 (30/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: [€]ŝĊörŦ ที่ 01-04-2016 15:44:07
เรื่องน่ารัก ครอบครัวของทั้งสองฝ่ายก็น่ารักมาก ๆ ครับ

ขอบคุณผู้แต่ง และเป็นกำลังใจให้ครับผม
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน26 END. P.11 (30/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: pp_song ที่ 01-04-2016 21:28:41
ขอบคุณนะคะ :กอด1: :pig4:

น่ารักมากเลยยยย
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน26 END. P.11 (30/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: samsung009 ที่ 02-04-2016 00:49:41
 :pig4:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน26 END. P.11 (30/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: akeins ที่ 02-04-2016 08:53:36
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน26 END. P.11 (30/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: badbadsumaru ที่ 02-04-2016 11:55:15
ตามมาอ่านตอนจบ น่ารักมากค่ะ
ขอบคุณนะคะ
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน26 END. P.11 (30/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: am_am ที่ 02-04-2016 12:06:56
น่ารักมากๆเลยค่ะ อย่าลืมตอนพิเศษนะคะ :mew1:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน26 END. P.11 (30/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Anong2013 ที่ 02-04-2016 12:31:38
อยากอ่านของ พี่ชองบ้าง
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน26 END. P.11 (30/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 02-04-2016 19:05:06
 :กอด1: :กอด1: :กอด1:

 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน26 END. P.11 (30/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: ketekitty ที่ 02-04-2016 22:31:15
น่ารักมากมายค่ะ เจ้าหนูเดม่อน น่ารักมาก
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน26 END. P.11 (30/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Jadd ที่ 04-04-2016 20:25:59
 :pig4:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน26 END. P.11 (30/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 05-04-2016 17:03:55
น่ารักมากๆ เลยค่ะ ครอบครัวอบอุ่น สุขใจจัง
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน26 END. P.11 (30/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: reborn ที่ 06-04-2016 11:08:25
 o13
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน26 END. P.11 (30/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: meadthat ที่ 10-04-2016 09:29:53
เดม่อน น่ารักจังเลยครับ
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน26 END. P.11 (30/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 12-04-2016 18:29:38
ชอบเดม่อน น่ารักมากๆ เป็นครอบครัวสุขสันต์ค่ะ
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน26 END. P.11 (30/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: khwanruen ที่ 03-05-2016 16:38:38
 :pig4: :pig4: :pig4:
  :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน26 END. P.11 (30/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: secretowl ที่ 04-05-2016 21:50:35
สนุกมากๆเลยค่าา อ่านรวดเดียวจบเลย
เป็นกำลังใจให้นะคะ
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน26 END. P.11 (30/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: sunipum ที่ 06-05-2016 12:49:35
เป็นเรื่องที่น่ารักมากๆเลยค่ะ ขอบคุณนะค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน26 END. P.11 (30/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 12-05-2016 11:46:59
 :L2: เรื่องสนุก น่ารักมากค่ะ จะมีตอนของพี่ซองมั๊ยน้า
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน26 END. P.11 (30/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: imseries ที่ 13-05-2016 16:12:30
น่ารักกกก :mew1:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน26 END. P.11 (30/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: puchi ที่ 17-05-2016 22:00:49
 :mew1:
สนุกมากค่ะ
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน26 END. P.11 (30/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: MyMine104 ที่ 28-05-2016 19:51:55
เป็นนิยายที่อ่านได้เรื่อยๆให้ฟีลสบายๆมากเนื้อเรื่องน่ารักดีค่ะขอบคุณคนเขียนมากค่ะที่ตั้งใจเขียนนิยายเรื่องนี้ให้อ่าน :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน26 END. P.11 (30/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: มะเขือม่วง ที่ 02-06-2016 17:37:57
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน26 END. P.11 (30/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: แมลงมีพิษชนิดหนึ่ง ที่ 02-06-2016 21:50:25
นายเอกหน้าสวยไม่ค่อยถูกจริตเราเท่าไหร่ แต่เนื้อเรื่องสนุกดีนะ
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน26 END. P.11 (30/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: mickeyz.min ที่ 04-06-2016 19:25:18
น่ารักน่าเอ็นดู น่าแกล้ง ชอบจัง น้อยพายพี่คิณ
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน26 END. P.11 (30/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: meng ที่ 30-09-2016 20:56:00
บอกเลยสนุกมากกกกกกกกก

อยากให้พี่คีนจัดการกับคนที่เข้ามาทำร้ายพายให้มากกว่านี้จริงๆคนที่เข้ามายุชะเอม

มันน่าโดนจริงๆเลย
หัวข้อ: Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน26 END. P.11 (30/03/59)
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 27-11-2017 08:32:47
คู่นี้ก็แซ่บ  :กอด1: