หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน26 END. P.11 (30/03/59)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอน26 END. P.11 (30/03/59)  (อ่าน 94916 ครั้ง)

ออฟไลน์ MooKratai

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 89
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-0
อ้างถึง
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ
5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน
7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ
8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).
9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ
10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป
11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว
บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป
12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด
13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ
14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ
15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข
17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ
          ********************************************************************



ติดตามเพจได้ที่นี่นะคะ Moo_kratai.
                                                                   
ฝากอีกเรื่องด้วยนร้า




สารบัญ
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-03-2016 23:48:26 โดย MooKratai »

ออฟไลน์ MooKratai

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 89
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-0
Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนที่1
«ตอบ #1 เมื่อ01-02-2016 21:08:10 »

หลานคุณย่า
[/font][/size][/color]
            คีริน(คิณ) สตีเว่น แมคคาร์ล หนุ่มลูกครึ่งไทย-อเมริกัน วัย31 ปี เจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ หนุ่มสังคมผู้เพียบพร้อมด้วยรูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ อีกทั้งความสามารถในการบริหารงานได้อย่างโดดเด่นจึงทำให้ธุรกิจขยายตัวได้อย่างรวดเร็ว จนกลายเป็นผู้นำด้านอสังหาเบอร์ต้นๆ ของเมืองไทย ระดับความเจ้าชู้50%
                                                         

            ธีระนัย(พาย) ธีรธำรงค์กุล หนุ่มน้อยหน้าหวานวัย 24 ปี เป็นหลานคนที่สองของคุณหญิงย่า เพียงเพ็ญ หน้าตาสวยหวานกระเดียดไปทางผู้หญิงซะมากกว่า กอปรกับความสูงเพียงแค่167 ซม. จึงมักทำให้คนเจ้าใจผิดคิดว่าเป็นสาวห้าวซะมากกว่าที่จะเป็นผู้ชาย ทำให้เจ้าตัวไม่ค่อยจะพอใจในรูปร่างหน้าตาตัวเองเท่าใดนัก อีกทั้งนิสัยส่วนตัวยังชอบทานขนมหวานแทบจะทุกชนิด โดยเฉพาะเค้ก  ระดับความสวย100%



หลานคุณย่า1  ความสุขของครอบครัว
[/size][/color]

“พี่พายยยยย” เสียงหลานชายคนเล็กของคุณย่าเพียงเพ็ญโหวกเหวกมาแต่ไกล พร้อมกับเสียงวิ่งที่ไม่ค่อยจะเบานัก สร้างความขัดใจให้กับผู้เป็นพี่ ที่กำลังง่วนกับการทำอาหารเช้าให้ทุกคนทาน นี่ถ้าคุณย่ายังไม่ได้ออกไปวัดตั้วแต่เช้าสงสัยคงจะโดนเอ็ดทั้งสองคน เพราะน้องชายตัวเล็กที่แสนจะไฮเปอร์สอนไม่ค่อยจะฟัง พี่ชายหน้าสวยจึงทำได้เพียงส่ายหัวเบาๆ ในความแก่นของน้องชายตัวน้อย

“พี่อยู่ในครัวเจ้าตัวแสบ บอกกี่ครั้งแล้วว่าไม่ให้วิ่ง ไม่ให้ตะโกนเสียงดัง สอนนี่เคยจำบ้างมั้ยบราวนี่”   พี่ชายหน้าสวยดุเจ้าตัวแสบอันดับหนึ่งของบ้านอย่างเอือมระอา

“อย่าบ่นเหมือนคุณย่าได้ไหมคร้าบบบ พี่พายสุดสวยของน้องบราว”   มีหรือที่คนตัวเล็กจะสำนึกกลับยียวนพี่ชายจนน่าหมั่นใส้ จนคนหน้าหวานต้องยกนิ้วขึ้นมาหยิกแขนคนทะเล้นเบาๆ

“ระวังเถอะพี่จะฟ้องคุณย่า ถ้าไม่โดนลงหวายสักทีคงจะไม่เข็ด”

“ถ้าตัวกล้าฟ้องก็ฟ้องดิ รับรองว่าไม่ได้โดนแค่บราวแน่นอน คึคึ” เวลาที่ทำผิดคุณย่าจะสอนเสมอว่าคนเป็นพี่ต้องคอยเตือนน้อง แต่ถ้าน้องไม่ฟังต้องโดนลงโทษทั้งสองคน เพราะเป็นพี่ไม่ดูแลน้องให้ดี ถ้าคนทำผิดโดนตีสองที คนที่เป็นพี่จะโดนหนึ่งทีเป็นแบบนี้มาตลอดตั้งแต่เด็กจนโต

“ทะลึ่งใหญ่แล้วนะเราเนี่ย คุณป้านมดูหลานรักคุณป้านมสิฮะ” พายฟ้องป้านมคนสนิทของคุณย่าที่เลี้ยงพวกเขามาตั้งแต่เด็กๆ

“ป้านมพี่พายดุบราวอ่ะ” ทำเสียงอ้อนคุณป้านมเพื่อหาทางเอาตัวรอด

“คุณหนูเล็กก็อย่าทะเล้นนักสิคะ ป้านมปวดหัวแทนคุณท่านจริงๆ เลย”

“งืออออ! ทำไมทุกคนรุมบราวคนเดียวเลย” แกล้งเอ่ยเสียงตัดพ้อแต่หน้านี้กลับยิ้มระรื่นที่ได้แกล้งพี่ชาย

“พอแล้วไม่ต้องมาแกล้งงอน ไม่ได้ผลหรอก เข้ามาทำอะไรเนี่ย พี่จะทำกับข้าวออกไปรอข้างนอกก่อนไปตัวยุ่ง”

“ตัวทำอะไรทานเหรอ บราวอยากทานขนมปัง ใส้กรอก ไข่ดาว ทำให้หน่อยได้ไหมคร้าบบ”

“พอมีข้าวต้มก็อยากทานอาหารฝรั่ง”

“นะๆ ทำใหบราวหน่อยน๊า พี่พายคนสวย จุ๊บๆ” พูด
จบประโยคปุ๊บ ปากน้อยๆ ก็ฉกจุ๊บแก้มพี่ชายโดยเร็ว ก่อนจะวิ่งหน้าตั้งออกไปข้างนอก ทำเอาคนเป็นพี่ถึงกับส่ายหัว ส่วนป้านมนะเหรอได้แต่หัวเราะกับความทะเล้นตามหลายชายสุดที่รัก

              ครอบครัวของพายมีพี่น้องทั้งหมดสามคน คนโตชื่อซอง หรือชื่อเต็มๆ ก็คือครัวซองนั่นเอง นักธุรกิจหนุ่มที่เจ้าไปบริหารงานของครอบครัวเต็มตัว ส่วนพายเป็นคนรอง ไม่ชอบการเจรจาธุรกิจเป็นทุนเดิมอยู่แล้วจึงปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพี่ชายรับหน้าที่ไป ส่วนตัวเองก็เปิดร้านเค้กเล็กๆ ที่ไม่ไกลจากหมู่บ้านมากนัก คนสุดท้ายคือน้องชายคนเล็กของตระกูล ชื่อบราวนี่หรือตัวแสบของครอบครัว เพิ่งเรียนจบปริญญามาหมาดๆ หน้าที่หลักคือคอยป่วนพี่ๆ และคนในบ้าน 

              โดยมีคุณย่าเป็นคนคอยเลี้ยงดูเพราะพ่อและแม่ได้เสียชีวิตในขณะที่เดินทางไปเจรจาธุรกิจที่ต่างประเทศ สาเหตุของการเสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุทางรถยนต์หลังจากเดินทางเพื่อกลับมาเมืองไทย  คุณย่าเพียงเพ็ญจึงคอยดูแลทั้งสามคนตั้งแต่เล็กๆ มีเพียงพี่ชายคนโตอย่างซองเท่านั้นที่พอจะเข้าใจสถานการณ์ตอนนั้นดี่ที่สุดเพราะทั้งพายและบราวนี่เด็กเกินกว่าที่จะเข้าใจ

“คุณย่ากลับมาแล้วเหรอฮะ ทานข้าวมารึยัง พายจะได้เตรียมให้” พายเอ่ยถามย่าที่เดินเข้ามาในครัว ในขณะที่มือก็สาละวนเตรียมอาหารให้เจ้าตัวแสบ

“ทานเลยลูก ย่าทานมากับชาวบ้านที่ไปวัดด้วยกันแล้ว”

“ฮะ”

“แล้วเจ้าตัวแสบไปไหนซะล่ะ” คุณย่าเอ่ยถามเมือเดินเข้ามาในบ้านไม่เห็นบราวนี่ที่มักจะตื่นเช้ามาดูการ์ตูนเรื่องโปรดแทบจะทุกวันในตอนเช้า

“น้องไม่ได้อยู่ในห้องรับแขกเหรอฮะ” พายเอ่ยถามอย่างสงสัย พูดยังไม่ขาดคำคนที่โดนเอ่ยถึงก็เดินหน้ามุ่ยเข้ามาในครัว

“เป็นอะไรไปน้องบราวนี่ ทำไมทำหน้าอย่างนั้น” คุณย่าเอ่ยถามหลานรักด้วยความสงสัย

“ก็พี่ซองนะสิฮะย่า สัญญากับน้องบราวไว้แล้วว่าวันนี้จะพาไปกินข้าว ดูหนัง แล้วก็ซื้อเสื้อผ้าให้ด้วย แต่จนสายป่านนี้แล้วยังไม่ตื่นเลย”

“ขึ้นไปปลุกพี่เขารึยัง” คุณเอ่ยพร้อมกับเอามือลูบหัวหลานชายอย่างเอ็นดู

“ไปแล้วฮะ แต่ไม่ยอมตื่น บอกว่าขอนอนอีกสักชั่วโมงสองชั่วโมง น้องบราวก็เลยงอน”

“งอนจริงอ่ะ เดี๋ยวพี่ซองเอาของถูกใจมาล่อ ขี้คร้านจะหายงอนเป็นปลิดทิ้ง คิคิ”   พายเอ่ยอย่างรู้ทันนิสัยเจ้าแสบน้อยของที่บ้าน ที่เพียงแต่มีของกินอร่อยๆ มาล่อก็หายงอนภายในพริบตา

“น้องไม่หายงอนง่ายๆ หรอกคอยดู” คนตัวเล็กพูดอย่างหมายมั่นกับภารกิจการงอนพี่ชายตัวเอง

“มาทานข้าวก่อนมา แล้วจะงอนค่อยงอนต่อ”

“ก็ได้ แต่น้องไม่หายงอนจริงๆ ด้วย”

“จะงอนอะไรพี่พี่เค้านักหนาเต้าตัวแสบ วันหนึ่งๆ พี่ชายเราก็ทำงานแทบจะไม่มีเวลาพักผ่อน พอวันหยุดก็ให้เขาได้พักผ่อนบ้างสิ” คุณย่าเอ่ยปากเตือนหลานชายคนเล็กที่มักจะเอาแต่ใจกับพี่ชายคนโตเสมอ

“งืออออ ย่าอ่ะ” คราวนี้งอนย่าไปอีกคน

“พอแล้วๆ เนี่ยพี่ทำขนมปังปิ้งทาเนย กับไข่ดาว ใส้กรอกให้แล้วมาทานเร็วๆ” คนตัวเล็กนั่งทานอย่างเอร็ดอร่อยจนลืมอาการงอนไปชั่วขณะ ตบท้ายด้วยนมสดแก้วใหญ่

“ตัวทานข้าวต้มเหรอ อร่อยมั้ย”

“อร่อยมากกกกก” ลากเสียงยาวให้คนเป็นน้องได้ฟัง

“น้องยังไม่อิ่ม ขอข้าวต้มชามนึงได้ไหม” ทำสายตาอ้อนใสพี่ชายเหมือนทุกที เพราะไม่ว่าใครจะเจอสายตาแบบนี้ก้ต้องใจอ่อนเข้าจนได้

“กินไปไว้ไหนเนี่ยเรา กินแล้วก็ไม่เห็นจะโตขึ้น” ปากก็ว่าแต่ก็เดินไปตักข้าวต้มให้เจ้าตัวแสบจนเต็มชาม

“บราวหิวนี่นา”

“ครับๆ หิวก็ทานเยอะๆ จะได้มีแรงอาละวาดพี่ชายเรา”
 
“บราวอุตส่าห์ลืมแล้วนะเนี่ย แต่ตัวกลับมาทำให้บราวหงุดหงิด ชิส์” คำพูดทีเล่นทีจริงของน้องตัวน้อยทำให้พายถึงกลับหัวเราะออกมาเสียงดัง

“เดี๋ยวพี่ซองก็ตื่น ทานรองท้องไว้ก่อนค่อยไปหาอะไรกินที่ห้าง”

“อย่างนี้เขาไม่เรียกรองท้องแล้วล่ะย่าว่า เขาเรียกว่า..... ว่าอะไรนะน้องบราว” ย่าแกล้งหลานอีกแล้ว น่ารักใช่ไหมฮะครอบครัวของเรา อบอุ่นที่สุดจนบางครั้งรู้สึกร้อนเลยล่ะ คึคึ

“ย่าาาาา...ว่าน้องบราวอ่ะ”

“ฮ่า ฮ่าๆๆๆๆ” เสียงหัวเราะประสานเสียงกันเสียงดังทั้งคุณย่า คุณป้านม รวมทั้งพายด้วย หัวเราะถูกใจที่แกล้งเจ้าตัวแสบให้โวยวายได้

“ทำอะไรเสียงดังแต่เช้าเลยครับ ฟอดดดด” ว่าจบก็เดินตรงไปหาคุณย่าสุดที่รักหอมแก้มหนึ่งฟอดใหญ่ๆ ก่อนจะนั่งลงข้างๆ เจ้าเด็กแสบประจำบ้าน แต่คนตัวเล็กกลับเชิดหน้าใส่พี่ชาย พร้อมกับนั่งทานข้าวต้มต่อ ทำเหมือนกับว่าคนที่พึ่งมาใหม่ไม่มีตัวตนอย่างนั้นแหละ

“เป็นอะไรเนี่ยเรา โกรธอะไรพี่ครับ”   ไม่พูดเปล่ามือใหญ่กลับส่งไปยีหัวน้องชายจนฟูแทบจะไม่เป็นทรงอยู่แล้ว

“อืออออ ผมยุ่งหมดแล้วเนี่ย”   ส่งค้อนวงเบ้อเริ่มให้กับพี่ชายเข้าเต็มเปา ทำให้ซองต้องหันไปทำหน้าเหรอหราใส่น้องชายอีกคนที่นั่งสังเกตุการณ์อยู่อย่างเงียบๆ   เป็นเชิงถามว่าเจ้าตัวเล็กเป็นอะไร

“ก็น้องชายสุดที่รักของพี่สิฮะ   เขางอนทีขึ้นไปปลุกแล้วพี่ไม่ยอมตื่น” พายเอ่ยออกมาเพื่อให้พี่ขายเข้าใจสถานการณ์ที่อยู่ดีๆ ก็โดนเจ้าตัวแสบเหวี่ยงใส่ตั้งแต่เช้า

“น้องไม่ได้งอน” พูดจบปุ๊บก็ค้อนใส่ทั้งซองและพายคนละที ก่อนจะก้มหน้าทานข้าวต่อ ทำเป็นไม่สนใจคนที่นั่งลงข้างๆ โดยแม้แต่น้อย

“พี่ขอโทษครับตัวแสบ ก็พี่ง่วงนี่นา ขอพี่ทานข้าวก่อนแล้วพี่จะพาไปนะครับ” มือหนายกขึ้นขยี้หัวคนทำหน้างอจนผมเผ้ายุ่บเหยิงแทบจะไม่เป็นทรง

“อื้อ...ผมน้องบราวยุ่ง หมดแล้วนะ”

“ตามใจกันเข้าไป รู้ก็รู้ว่าน้องเรามันเอาแต่ใจขนาดไหน” คุณย่าสุดที่รักเอ่ยแทรกขึ้นหลังจากเงียบไปนาน

“ย่าาาาอ่ะ ว่าน้องบราวอีกแล้วนะ” คนโดนว่าหน้างอง้ำยิ่งกว่าเดิม แต่มือก็ยังตักข้าวเข้าปาก เพราะรู้ดีว่าแม้ย่าจะว่าตนแต่บทสุดท้ายก็ตามใจเขาอยู่ดี

“รีบๆ ทานเร็วๆ เข้า   จะพากันไปไหนก็จะได้รีบไป”
 ย่าก็ยังเป็นย่าอยู่วันยังค่ำ แม้ว่าจะดุจะว่าแต่ก็ตามใจเราสามคนเสมอ พายนั่งมองทุกคนเงียบๆ เพราะเป็นคนไม่ค่อยพูดแต่ไหนแต่ไรแล้ว เวลาอยู่รวมกันบทสนทนาส่วนใหญ่จะเป็นการสนทนาระหว่างพี่ชายคนโตกับน้องคนเล็กมากกว่า พายเพียงแค่เอ่ยแทรกบ้างในบางครั้ง หรือเวลาที่คนอื่นต้องการความคิดเห็นเท่านั้น ครอบครัวของเราเป็นแบบนี้ตลอด แต่ก็มีความสุขดี ไม่เคยรู้สึกขาดหรือต้องการอะไรเพิ่มไปมาก กว่านี้ รักย่า พี่ชาย น้องชายคนเล็กที่สุด พายนั่งยิ้มกับความคิดของตัวเอง

“น้องพายจะไปกับเขารึเปล่าเนี่ย” คุณย่าเอ่ยถามคนที่นั่งฟังบทสนทนาคนอื่นเงียบๆ

“ไปฮะ เจ้าตัวแสบบอกให้ไปช่วยเลือกเสื้อกับรองเท้า” ทำเอาคนที่ถูกเอ่ยถึงยิ้มร่าอย่างพอใจ

“อย่าตามใจกันมากนะน้องพาย ของในห้องน้องเราแทบจะทะลักออกมาแล้ว ไม่รู้ซื้ออะไรนักหนา” คุณย่าว่าน้องบราวที่ตอนนี้เริ่มจะทำหน้ามุ่ยอีกแล้วเมื่อโดนขัดใจ

“ขัดไม่ได้หรอกฮะ คุณย่าต้องบอกพี่ซองมากกว่าที่คอยตามใจจนน้องบราวจะเสียคนแล้วมั้งฮะ”

“พี่พาย!”

“ฮึฮึ โดนขัดใจจนได้สินะเจ้าตัวแสบ คุณย่าไปด้วยกันไหมครับ” ครัวซองเอ่ยชวนคุณย่าที่นั่งยิ้มอยู่ข้างๆ

“หนุ่มๆ ไปกันเองเถอะจ๊ะ ย่าแก่แล้วเดี๋ยวจะไม่สนุกซะเปล่าๆ”

“คุณย่ายังไม่แก่ซะหน่อย สวยกว่าพวกสาวๆ ของพี่ซองซะอีก”   พายพูดประจบเอาใจคนแก่ที่ตอนนี้ยื่นมือไปลูบหัวบราวนี่ที่ก้มหน้าทานอาหารอยู่ ส่วนตนเองก็เข้าไปกอดย่าอย่างเอาใจ

“พี่อยู่เฉยๆ ยังโดนเหรอเนี่ย ฮ่า ฮ่าๆ”

“สมน้ำหน้า”   เจ้าตัวแสบแลบลิ้นใส่พี่ชายแล้ววิ่งขึ้นบ้านไป พร้อมกับเสียงหัวเราะสดใสอย่างเช่นทุกวัน

“พายไปอาบน้ำก่อนนะฮะ พี่ก็รีบๆ ทานเดี๋ยวแต่งตัวช้าเจ้าตัวแสบจะงอนอีกรอบนะ”   ขโมยหอมแก้มคุณย่าสุดสวยหนึ่งฟอดก่อนเดินขึ้นห้องไปอาบน้ำแต่งตัว
                                     
*****************************************
“พี่พายเสื้อตัวนี้สวยไหมฮะ”   บราวนี่เอ่ยถามขณะที่เอาเสื้อเชิ้ตสีช๊อคกิ้งพิ้งค์ทาบตัว ทำให้พายได้ส่ายหัวกับรสนิยมของน้องชายที่นับวันจะเยอะเข้าไปทุกที ซึ่งแตกต่างกับตนเองที่ชอบใส่เสื้อผ้าเรียบๆ สีเอริ์ทโทนซะมากกว่า แต่ถึงแม้ว่าบราวนี่จะชอบใส่เสื้อผ้าสีแปร๋นๆ แต่มันก็เข้ากับน้องชายคนเล็กเขามากที่สุด คงจะมีแค่เจ้าตัวเล็กเท่านั้นแหละที่สามารถใส่เสื้อผ้าสีเจ็บๆ แบบนี้แล้วน่ารัก แต่ถ้าเป็นพายเองคงไม่ใส่ด้วยคนหนึ่งแหละ ทั้งดีไซน์และสีช่างไม่เข้ากับพายเอาซะเลย

“พี่ว่า มันจะเยอะไปรึเปล่า ทั้งสีทั้งแบบ อื๋อสุดๆ อ่ะ”

“หมายความว่าไงอ่ะ สรุปแล้วดีหรือไม่ดี ตัวนี้ดีไซน์ใหม่เลยนะฮะพี่พาย  ใช่ไหมฮะพี่สุดสวย” ว่าจบก็หันไปถามพนักงานขายที่ยืนอยู่ข้างๆ เพื่อให้คำแนะนำอยู่

“จริงค่ะ ดีไซน์นี้เป็นคอลเล็คชั่นใหม่ของช่วงซัมเมอร์นี้เลยนะคะ  พึ่งวางขายได้ไม่ถึงสัปดาห์เลย รับรองว่าถ้าซื้อไปไม่ตกเทรนด์แน่นอนค่ะ”  อื่อฮื้อ!  พี่คนขายก็เชียร์สุดแรง แล้วเราจะค้านยังไงล่ะเนี่ย

“พี่ซองว่าไงฮะ เสื้อตัวนี้เหมาะกับน้องรึเปล่า” ในเมื่อหาทางออกไม่เจอก็ให้พี่ชายนี่แหละมาช่วยขัด เพราะแบบมันค่อนข้างจะแรงไปนิด ไม่อยากให้น้องบราวซื้อแต่ไม่รู้ว่าคัดค้านยังไง

“แล้วแต่เราเลยตัวแสบพี่มีหน้าที่แค่มาจ่ายเงิน อยากได้แบบไหนก็เลือกเอาเลย” แทนที่จะช่วยกันคัดค้าน แต่กลับรู้เห็นเป็นใจกับน้องซะอีก

“งั้น...น้องบราวเอาแบบนี้ทุกสีเลยนะฮะ” ยิ่งพี่ชายตามใจคนตัวเล็กยิ่งได้ใจใหญ่ ซื้อโดยไม่คิดว่าตัวเองจะใส่ครบทุกสีรึเปล่า

“แต่พี่ว่าเลือกเอาแค่บางสีที่ชอบจริงๆ ดีไหมน้องบราว เดี๋ยวคุณย่าจะเอ็ดเอา”

“งืออออ... แต่นี่พี่ซองอนุญาตแล้ว ตัวตามใจบราวเถอะน้า ถ้าตัวไม่บอก พี่ซองไม่บอกคุณย่าก็ไม่รู้หรอกนะครับสุดสวยของน้องบราว”  รู้ว่าตัวเองอ้อนได้ผลก็เลยอ้อนใหญ่ เพราะถ้าลองใช้ไม้นี้ไม่ว่าใครต่อใครก็ต้องยอม ทำเสียงอ้อนๆ แล้วยังทำตาปริบๆ จนน่าหมั่นเขี้ยว

“อือๆ ตามใจ แต่ถ้าโดนคุณย่าว่าพี่ไม่ช่วยนะ  แก้ตัวเองกับพี่ชายสุดที่รักของเรา เข้าข้างกันดีนัก” ว่าอย่างเคืองๆ แต่ก็ยอมตามใจเพราะทำอะไรไม่ได้

“คร้าบบบบบ” ยิ้มหน้าระรื่นเมื่อได้ของถูกใจ
หลังจากนั้นก็พากันช้อบปิ้งทั้งกระเป๋าและรองเท้าให้เจ้าเด็กแสบ ไม่ว่าาจะเจออะไรที่เป็นคอลเล็คชั่นใหม่ต้องกระโดดเข้าใส่ ห้ามยังไงก็ไม่ฟัง ใช้ทั้งลูกอ้อนลูกตื้อทุกทางเพื่อให้ได้ของที่อยากได้ จนพายเองก็หมดปัญญาที่จะห้าม ยิ่งพี่ชายอีกคนนี่ไม่คิดจะห้ามเลยมีแต่ตามใจกันอย่างเดียว โอ๋กันยิ่งกว่าอะไร ตอนนี้ก็เลยมีแค่พายที่ต้องมานั่งเคืองพี่ชายจอมตามใจกับน้องชายขี้เอาแต่ใจ อ้อนก็เป็นที่หนึ่ง ขี้งอนก็ไม่เป็นรองใคร โอ๋กันทั้งบ้าน คุณย่าก็บ่นไปอย่างนั้นแหละพอเจอลูกอ้อนเจ้าตัวแสบเข้าไปแทบจะหาของมาประเคนให้ สรุปคือใจอ่อนกันทั้งบ้าน
[/left]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-02-2016 18:36:36 โดย MooKratai »

ออฟไลน์ MooKratai

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 89
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-0
Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนที่1
«ตอบ #2 เมื่อ01-02-2016 21:15:59 »

พายนั่งหน้ามุ่ยในร้านซูชิสายพาน รอพี่ชายเอาของไปเก็บที่รถ เพราะมันเยอะเกินกว่าที่จะถือไปไหนต่อไหน ซื้อของยังกับเขาแจกฟรี ส่วนใหญ่จะเป็นของบราวนี่ มีชุดทำงานของพี่ซองแค่สองชุด ส่วนของพายได้
รองเท้ามาคู่หนึ่งเพราะเด็กเอาแต่ใจบังคับให้ซื้อ บอกว่าใส่แล้วเหมาะกับพายที่สุด เลยจำใจต้องซื้อเพราะน้องชายบังคับ     เจ้าตัวแสบตอนนี้ไปเข้าห้องน้ำ จะไปเป็นเพื่อนก็ไม่ยอมบอกว่าโตแล้ว อยากจะเขกกะ โหลกซักทีสองที ว่าคนโตที่ไหนนิสัยยังกับเด็กสามสี่ขวบ ไม่ได้ดังใจก็อ้อนเอาให้ได้ ถ้าลงไปดิ้นกับพื้นได้คงทำไปแล้ว
   
 สักพักซองก็กลับมานั่งลงฝั่งเดียวกันกับพาย เหลือที่ว่างอีกฝั่งให้บราวนี่ที่ยังไม่กลับจากเข้าห้องน้ำแต่ทำไมไปนานนักก็ไม่รู้ จะเป็นสิบกว่านาทีแล้วยังไม่กลับ ไม่รู้ว่าเป็นอะไรรึเปล่า ชักจะเป็นห่วงแล้วสิ ออกไปตั้งแต่พร้อมกับพี่ซอง แล้วตอนนี้ยังไม่กลับมาเลย อยากจะลุกไปตามแต่พี่ชายก็ห้ามไว้ บอกว่าน้องโตพอที่จะดูแลตัวเองได้ ก็คนมันเป็นห่วงนี่นา    ถึงแม้ว่าอายุจะห่างกันแค่สามปี แต่กลับรู้สึกเหมือนน้องยังเล็กๆ ตลอดเวลา

“มาแล้วๆ ฮะ” เสียงเจ้าตัวเล็กตะโกนมาแต่ไกล ไม่คิดจะอายคนอื่นเลยใช่ไหมเนี่ย

“ทำไมไปนานจังบราวนี่” พี่ซองเอ่ยถามขณะที่อีกคนนั่งลงฝั่งตรงข้าม

“พอดีเกิดเรื่องนิดหน่อยนะฮะ” ยังพูดไม่ทันจบเลยพี่ชายทั้งสองก็ประสานเสียงกันถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง

“แค่เผลอเดินชนคนอื่นนิดหน่อยนะฮะ แฮะๆ ไม่มีอะไรหรอก”   คนที่กลัวพี่ทั้งสองเป็นห่วงรีบเอ่ยขัดขึ้นก่อนที่จะมีใครคนใดคนหนึ่งเดินเข้ามาสำรวจร่างกายเจ้าตัวเล็กจนทั่ว ก็ไม่เห็นร่องรอยความผิดปกติ จึงกลับมานั่งที่เดิม

“แล้วเจ็บตรงไหนรึเปล่า” พายมองอย่างสำรวจน้องชายที่นั่งยิ้มแป้นอย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไร

“ไม่ฮะ ทานกันดีกว่าน้าหิวจะแย่แล้ว” บราวนี่เปลี่ยนประเด็นให้คนอื่นหันมาสนใจกับการทานอาหารมากกว่า

ร้านที่เรามาทานเป็นซูชิสายพาน ร้านโปรดของเจ้าเด็กแสบเค้าหละ แต่สำหรับพายไม่ค่อยชอบอาหารญี่ปุ่นสักเท่าไหร่ ยิ่งเมนูพวกซาชิมิ หรือปลาดิบนี่ทานไม่ได้เลย ทานได้แค่บางเมนูเท่านั้น อย่างข้าวปั้นหน้าปลาไหลย่าง  ข้าวปั้นหน้าแซลมอนย่างเกลือ และอีกหนึ่งเมนูโปรดที่ชอบทานคือ แก้มปลาบูริย่างเกลือ   เทมปุระโรล แซลมอนโรล

 ในขณะที่พายก็เล็งเฉพาะเมนูที่ตนเองทานได้ ตรงกันข้ามกับคนน้องที่ตอนนี้ไม่ว่าสายพานจะเลื่อนจานไหนผ่านหน้าไปแทบจะหยิบขึ้นมาทุกอย่าง ดูจากการทานแล้วน่าจะอร่อยมาก ไม่ได้ดูเมนูหรอกว่าจานไหนถูกจานไหนแพง แค่ผ่านหน้านี่ก็ซัดซะเกลี้ยง ทั้งของถูกของแพงปนกันไป แต่พายกลับนั่งรอแก้มปลาบูริย่างเกลือ   เป็นเมนูที่สีของจานบ่งบอกว่าอยู่ในกลุ่มที่แพงที่สุด แต่ก็เนเมนูที่ชอบที่สุดแล้ว   แต่ไม่เห็นจะเลื่อนผ่านหน้ามาซักที จะมีแค่ข้าวหน้าไข่หวาน กับหน้าปลาไหลเท่านั้น พายนั่งมองพ่อครัวที่กำลังแก้มปลาบูริขึ้นมาวาง    เป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้ แต่กลับโดนผู้ชายที่นั่งอยู่ใกล้ๆ กับพ่อครัวตัดหน้าแทบจะทุกครั้ง เป็นอย่างนี้มาตลอดสามสี่รอบแล้ว ทำเอาคนมองของโปรดที่ถูกแย่งไปต่อหน้าต่อตา   หน้ามุ่ยลงจนเห็นได้ชัด

 ก่อนที่เผลอหันหน้าไปสบตากับคนที่คอยแย่งของโปรดของตน   เป็นจังหวะเดียวกับที่เขาหันหน้ามาทางนี้พอดี จึงทำให้เผลอสบตาเพียงแค่เสี้ยววินาที สายตาน่ากลัวชะมัดเลยผู้ชายอะไรก็ไม่รู้ อยากจะเอาตะเกียบจิ้มตาซะดีไหม  จ้องยังกับเราทำอะไรผิด ทั้งๆ ที่ตัวเองแย่งของคนอื่นด้วยซ้ำ    หันไปทีไรก็ต้องเจอกับสายตาที่จ้องมาแทบจะทุกครั้ง พายแกล้งทำเป็นไม่สนใจ   ก่อนจะหันไปสนใจสายพานเมนูโปรดที่เลื่อนมาตรงหน้าพอดี   พายยิ้มให้กับตัวเองก่อนจะหยิบเมนูโปรดมาทาน จนทำให้ลืมสายตาหน้ากลัวของคนที่นั่งฝั่งตรงข้ามได้ภายในพริบตา ทานไปคุยกับน้องชายและพี่ชายไปเรื่อยๆ จนลืมว่ามีสายตาคู่หนึ่งที่จ้องมองตนเองตลอด จนกระทั่งเงยหน้าขึ้นสบตากับคนที่จ้องตนอีกครั้งทำให้รู้สึกประหม่าจนต้องเสมองไปทางอื่น

       ‘ฮึ่ย! ผู้ชายบ้าอะไรเนียมานั่งจ้องคนอื่นตลอดเวลา ทั้งๆ ที่ตนเองก็มากับแฟน ’ 
คนสวยได้แต่สบถในใจ  จะทำอะไรก็ไม่ได้ เพราะถ้าเกิดเขาไม่ได้มองมาที่เราเนี่ยมีหวังหน้าแตก ขณะที่คนตัวเล็กตกอยู่ในภวังค์พี่ชายก็เอ่ยขึ้นเรียกสติคนที่ใจลอยไปถึงไหนต่อไหนให้กลับมา

“ผู้ชายโต๊ะนั้นเขามองพายรึเปล่า พี่เห็นเขาจ้องมาตลอดเลย” ครัวซองเอ่ยขึ้นทำให้ทั้งพายและบราวนี่หันไปมองชายคนนั้นอีกครั้ง

“ไม่ใช่หรอกมั้งฮะ เขาจะมองพายทำไม ไม่เคยรู้จักกันสักหน่อย เขามองเลยไปข้างหลังรึเปล่าฮะ” พายแก้ตัวเป็นพัลวัน ทั้งๆ ที่ตนเองก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน

“ผู้ชายคนที่ชนกับบราวหน้าห้องน้ำนี่นา คนผู้ชายก็ดีอยู่หรอก แต่ยัยผู้หญิงที่มาด้วยสินิสัยแย่ที่สุด” พูดไปก็ทำหน้าเบ้ไปด้วย ดูท่าทางจะเจอคู่ปรับตั้งแต่แรกที่เจอแล้วมั้ง

“ไปว่าเขา เขาเป็นผู้หญิง ถ้าคิดว่าเขานิสัยไม่ดีก็อย่าไปยุ่ง” ครัวซองปามน้องชายคนเล็กที่ตอนนี้พูดจาก้าวร้าวเกินเด็ก

“คงไม่ได้เจอกันแล้วล่ะฮะ รีบกินดีกว่าฮะจะได้ไปดูหนังซะที” พายตัดบทสนทนาระหว่างน้องชายกับพี่ชายก่อนที่จะปะทะกันบานปลายไปมากกว่านี้

หลังจากนั้นเราทั้งสามคนก็รีบทานรีบออกไปจากร้าน เพราะบรรยากาศไม่ค่อยจะน่านั่งต่อซะแล้ว ก่อนที่เราทั้งสามคนจะเดินไปเลือกดูโปรแกรมหนังว่าจะดูเรื่องอะไร บทสุดท้ายก็ต้องตามใจเจ้าตัวเล็กตามเคย จะโทษใครก็ไม่ได้ เป็นเพราะครอบครัวเราเองแหละที่เลี้ยงน้องตามใจมาตลอด แทบจะไม่เคยขัดใจเลยด้วยซ้ำ แค่เจ้าตัวเล็กทำหน้างอก็สงสารกันทั้งบ้านแล้ว  หนังเรื่องที่เราเลือกดูเป็นแนวบู้แอ๊คชั่น พายไม่ค่อยชอบดูเท่าไหร่ แต่ก็คงดีกว่าที่จะดูแนวรักโรแมนติกหรือหนังสยองขวัญก็แล้วกัน ดูจบก็กลับบ้านเลยโดยไม่ได้แวะไปไหนอีก เพราะจะกลับไปทานอาหารเย็นกับคุณย่าสุดที่รัก อิอิ เดี๋ยวคนแก่จะน้อยใจหาว่าปล่อยให้ทานข้าวคนเดียว
                                             
************************************
จบไปแล้วนะคะกับตอนแรก เราพึ่งเริ่มเขียน ผิดพลาดยังไงก็ติชมได้นะคะ พรุ่งนี้จะลงตอนที่สองนะคะ ขอกำลังใจให้เราด้วยนะคะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-02-2016 11:57:48 โดย MooKratai »

ออฟไลน์ MooKratai

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 89
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-0
Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนที่2
«ตอบ #3 เมื่อ02-02-2016 18:28:08 »

หลานคุณย่า 2  เค้ก เค้ก เค้ก[/size]
[/size][/size]
 
กลับสู่โหมดของการทำงานอีกวัน แต่พายกลับรู้สึกสนุกทุกครั้งที่ได้เปิดร้าน ทำเค้กรสชาติต่างๆ ที่ทำให้คนหลงไหลในความหวานได้ทาน พร้อมกับเครื่องดื่มหวานหอมหลากหลายเมนู  พายจะเป็นคนคิดค้นเมนูแทบจะทุกอย่างในร้าน โดยมีมิน (หมูน้อย)  ช่วยอีกแรง
 
มินเรียนเกี่ยวกับการทำเบเกอรี่โดยเฉพาะ จึงมีความชำนาญด้านการทำเบเกอรี่มากกว่าเค้ก แต่ก็สามารถทำได้ดี เมื่อได้รับการฝึกฝนจากพายโดยตรง สามารถที่จะทำเค้กเมนูต่างๆ แทนพายได้เกือบทุกเมนู

มินเป็นเพื่อนของบราวนี่ที่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กเพราะบ้านอยู่ติดกัน  เป็นเหมือนน้องชายคนเล็กอีกคน  พายรักและเอ็นดูมินเหมือนน้องแท้ๆ แต่แปลกที่พี่ซองกลับไม่คอยจะชอบมินตั้งแต่ไหนแต่ไร  มักจะล้อมินเสมอว่าอ้วนบ้างล่ะ หมูตอนบ้างล่ะ จนน้องน้อยใจไม่ค่อยจะมาบ้านเราถ้ารู้ว่าพี่ชายตัวโตอยู่บ้าน  และพยายามเลี่ยงที่จะเจอพี่ซองตลอด แม้ว่าตอนนี้มินจะไม่ได้อ้วนเหมือนในตอนเด็กก็ตาม  แต่พี่ซองก็ไม่เคยที่จะเรียกน้องดีๆ ซักครั้ง

“พี่พายฮะ แป้งสาลีกับไข่ใกล้จะหมดแล้วฮะ ให้มินไปซื้อไหม”

“ ไม่ต้องๆ หมูน้อยอยู่ช่วยพี่ทำขนม แล้วจดรายการให้เปรี้ยวไปซื้อดีกว่า” เปรี้ยวคือเด็กเสริพในร้าน หรืออาจจะมากกว่านั้น ทำงานจิปาถะจนบางครั้งรู้สึกว่าใช้งานน้องเยอะไปรึเปล่า ในร้านยังมีเด็กอีกสองคน แต่เปรี้ยวจะเป็นคนที่หัวไวที่สุดทำอะไรไม่ค่อยจะพลาด พายจึงไว้ใจให้ทำงานหลายๆ อย่างแทน

“ก็ได้ฮะ แล้วบราวนี่ไปไหนล่ะฮะ” ปกติจะมาพร้อมกันแต่วันนี้มินมีธุระที่ต้องไปทำเลยออกมาก่อน

“เห็นบอกว่าหิว แวะไปซื้อขนมอะไรของเค้าไม่รู้ ข้าวก็พึ่งทานมา”

“ เป็นแบบนี้ตลอดเลย แต่ก็ไม่เห็นจะโตขึ้นซักที”  คนที่โดนเพื่อนรักนินทาเข้ามาได้ยินเข้าพอดี จึงยืนแอบฟังว่าจะนินทาอะไรมากไปกว่านี้รึเปล่า แต่ก็ไม่มีการเอ่ยใดๆ ออกมานอกจากเสียงหัวเราะสนุกของทั้งสองคนที่พากันรุมว่าตนเอง

“แหมทำยังกับตัวแล้วก็ตัว ตัวสูงใหญ่กว่าเค้างั้นแหละ”  พูดไปก็เอามืออีกข้างจิ้มอกพี่ชายกับเพื่อนรักไปคนละที ข้อหาหมั่นใส้ จนทำให้ทั้งสามคนหัวเราะออกมาพร้อมกัน เพราะขนาดตัวแต่ละคนก็ไม่มีใครโตไปกว่าใครนักหรอก

“แล้วได้อะไรมาเยอะแยะ เต็มไม้เต็มมือไปหมด กะจะกินวันนี้ให้อิ่มไปถึงอาทิตย์หน้าเลยรึไง” มินว่าเพื่อนอย่างล้อๆ ที่เล่นขนอะไรมาไม่รูเต็มไปหมด

“ฮึ...ว่าเค้า อุตส่าห์ซื้อมาเผื่อทุกคน งั้นหมูน้อยห้ามกินส่วนคนอื่นๆ กินได้” บราวนี่พูดเสียงดังให้ได้ยินกันทั่วร้าน ทำให้เพื่อนตัวน้อยข้างๆ ทำหน้ามู่ขึ้นทันที

“ชิส์!  เค้าไม่กินก็ได้”  มินงอนกลับซะเลย  ทำท่าจะเดินไปทำงานต่อไม่สนใจเพื่อนที่ยืนข้างๆ อีก

“โอ๋ๆ เค้าขอโทษน๊าหมูน้อย ไม่งอลนะคร้าบบบบ ให้กินก็ได้”  พูดจบก็เข้าไปหอมแก้มเพื่อนสนิทซ้ายทีขวาที ทำแบบนี้มาตั้งแต่เด็ก เลยรู้สึกเป็นเรื่องปกติของตนกับเพื่อน รวมทั้งทุกคนในครอบครัว

“ไม่ต้องมาหอมเลยไอ้เพื่อนบ้า”  มินแหวใส่เพื่อนรักอย่างไม่จริงจังนัก ทำให้พนักงานในร้านพากันหัวเราะอย่างถูกใจ

“เล่นกันอยู่นั่นแหละเด็กพวกนี้นิ ใกล้จะได้เวลาเปิดร้านแล้วนะ”  พี่ใหญ่สุดในร้านตัดบท ทำให้แต่ละคนแยกย้ายไปทำงานของตนเอง ยกเว้นน้องชายตัวแสบที่ยังคงป้วนเปี้ยนอยู่ข้างๆ  ไม่คิดจะสำนึก หรือช่วยคนอื่นเขาเลย

“พี่พายยยยค้าบบบบ” หลังจากเงียบไปซักพักเจ้าน้องชายก็ร้องเรียกเสียงดัง  เดินดุ่มๆ เข้ามาหลังร้าน

“อะไรเจ้าตัวแสบ”

“บราวอยากกินบลูเบอรี่ชีสเค้กอ่ะ ตัวทำเสร็จยัง”  บราวเดินเข้าไปกอดข้างหลังพี่ชาย ทำเสียงออดอ้อนอย่างเช่นทุกครั้ง

“รอแป๊บครับ พี่แต่งหน้าอยู่ใกล้จะเสร็จแล้ว”

“คนสวยใจดีที่สุดเลย อิอิ” ว่าจบก็เอาหน้าถูๆ ข้างหลังทำเสียงอ้อนยังกับลูกแมวตัวน้อยๆ

“ขี้ประจบ *////*”

“ใช่ที่ไหนเล่า ก็พี่พายทั้งสวยแล้วก็ใจดีจริงๆ นี่นา”  คนนี้ชอบชมว่าพี่ชายตนเองสวยตั้งแต่ไหนแต่ไร ทั้งๆ ที่พายเป็นผู้ชาย ห้ามยังไงก็ไม่ยอมฟัง เพราะไม่อยากให้คนอื่นมองตนเองแปลกๆ  จึงอนุญาติให้พูดเฉพาะภายในครอบครัว หรือคนที่สนิทจริงๆ เท่านั้น

“เข้ามาอีกแล้ว จะเอาอะไรอีกล่ะเนี่ย” มินที่พึ่งเดินเข้ามาจากการไปช่วยดูหน้าร้าน เพราะช่วงเวลาเที่ยงๆ แบบนี้ลูกค้าค่อนข้างเยอะ โดยเฉพาะเหล่าบรรดาสาวๆ พนักงานบริษัท ที่บางครั้งมาทานเค้กแทนมื้อเที่ยงกันเลยทีเดียว

“ลูกค้าเยอะไหมหมูน้อย” พายเอ่ยถามคนมาใหม่ที่เดินมายืนข้างๆ

“เยอะฮะ ก็เลยจะมาเรียกบราวนี่ไปช่วยนี่และฮะ”

“งั้นเหรอ เดี๋ยวพี่ทำบลูเบอรี่ชีสเค้กเสร็จแล้วจะออกไปช่วย ส่วนเราน่ะก็ไปช่วยคิดเงินได้แล้วไป”

พี่ชายคนสวยผลักบราวนี่ให้ออกไปช่วยคนอื่นๆ ที่หน้าร้าน  ส่วนสาเหตุที่ให้ทำแค่นั่งโต๊ะแคชเชียร์คิดเงินน่ะเหรอ เพราะเจ้าตัวแสบมีความอดทนต่ำ โดนใครแซวหน่อยไม่ได้ โมโหเป็นฟืนเป็นไป เคยมีครั้งหนึ่งปาเค้กใส่หน้าลูกค้าผู้ชายที่ทำท่าก่อร่อก้อติกใส่ตนเอง  เกือบได้ไปเคลียร์ที่โรงพักแล้วไหมล่ะ ถ้าพายไม่ออกไปเคลียร์โดยให้บัตรกำนัลเขาทานขนมหรือเครื่องดื่มที่ร้านไปฟรีๆ สองพันบาท

“เก็บไว้ให้บราวสองชิ้นนะ บราวไปหน้าร้านกอ่น” ยังไม่ลืมที่จะพูดเรื่องของกิน

*********************************************

“รับอะไรดีฮะ” เสียงมินนี่เอ่ยถามลูกค้าสาวกลุ่มหนึ่งที่มานั่งทานประจำ

“วันนี้มีเมนูอะไรพิเศษไหมคะ”

“มีบลูเบอรี่ชีสเค้ก กับลูเบอรี่ชีสพายเพิ่มมาฮะ อีกสักพักน่าจะเสร็จ”  ทางร้านจะขนมและเค้กเมนูประจำที่ขายทุกวันอยู่ประมาณสิบอย่าง แต่จะมีเมนูพิเศษบ้างในบางวันที่พายและมินพอจะมีเวลาทำถ้าวันไหนลูกค้าไม่เยอะเกินไป และบริการทั้งเครื่องดื่มร้อนและเย็นต่างๆ บริการด้วย ทำให้เป็นที่ถูกอกถูกใจของเหล่าบรรดาสาวน้อยสาวใหญ่ที่เข้ามาทานเป็นอย่างมาก

“อีกนานไหมคะกว่าจะเสร็จ”

“น่าจะไม่เกินห้านาทีฮะ รอได้ไหมฮะหรือจะทานเค้กชาเขียวก็อร่อยนะฮะ ทานกับชามะลิร้อนๆ น่าจะเข้ากันดี หรือกับกาแฟก็ได้” ด้วยรสชาติและอัธยาศัยที่ดีและยิ้มแย้มตลอดเวลาของพนักงานทุกคน จึงเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ร้านมีลูกค้าประจำเยอะพอสมควร ทั้งที่พึ่งเปิดร้านได้ไม่นาน

“งั้นเอาเค้กชาเขียวสองที่  แล้วก็บลูเบอรี่ชีสเค้กสอง  บลูเบอรี่ชีสพายอีกหนึ่งค่ะ ส่วนเครื่องดื่มเอาชาร้อนสี่ที่ กับอเมริกาโน่เย็นที่หนึ่งค่ะ”  กลุ่มลูกค้าสาวๆ สั่งสิ่งที่ตนเองอยากทานคนละอย่างสองอย่าง

“รอสักครู่นะฮะ”

ทุกคนในร้านกำลังง่วนอยู่กับการบริการลูกค้า  เพราะเป็นช่วงทำเงิน ทั้งเปรี้ยว สอง คีย์ ก็บริการลูกค้าอย่างเต็มที่ ขณะที่พายก็ทำเมนูพิเศษเสร็จทันพอดี ก่อนที่จะมาช่วยเสริฟด้วยเช่นกัน

 หลังจากล่วงเลยเวลายุ่งๆ ในช่วงเที่ยงมาแล้วทุกคนจึงได้พักทานอาหาร โดยสลลับกันอยู่หน้าร้าน อาหารเที่ยงส่วนใหญ่พายจะเป็นคนซื้อให้ทุกคน แล้วแต่ว่าใครจะทานอะไร พวกเด็กๆ ที่ร้านเลยทั้งรักและหวงพายยิ่งกว่าคนในครอบครัวซะอีก  เพราะความใจดีและคอยช่วยเหลือเรื่องต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นค่าเทอมในยามที่เด็กที่ร้านเดือดร้อน พายไม่ได้ให้เลยแต่จะเป็นการยืมและหักจากเงินเดือนเดือนล่ะห้าร้อยบาท เพื่อไม่ให้เด็กๆ ในร้านเดือดร้อน หรือถ้าเดือนไหนจำเป็นต้องใช้เงินก็ให้บอก พายไม่เคยเกียงงอนที่จะช่วยเหลือเลยสักครั้ง
**********************************

“Sweet at Heart ยินดีต้อนรับครับ” บราวนี่เอ่ยทักทายลูกค้า เมื่อได้ยินเสียงกระดิ่งหน้าร้านดังขึ้นโดยที่ไม่ได้เงยหน้าดูลูกค้าที่พึ่งก้าวเข้ามาในร้าน จนกระทั่งได้ยินเสียงแว้ดๆ ของหญิงสาวดังขึ้น

“โอ๊ะโอ!  ช่างบังเอิญอะไรแบบนี้นะ” คำพูดและน้ำเสียงเยาะคนที่ยืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์แคชเชียร์ ทำให้บราวนี่ขมวดคิ้วมุ่น  ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาสบตากับลูกค้าสาว

“ยังมีคนกล้าจ้างแกทำงานอยูเหรอเนี่ยไอ้เด็กเหลือขอ” ร่างของหญิงสาวที่เคยปะทะคารมกันที่ห้างตรงเข้าไปหาบราวนี่อย่างจงใจแกล้ง

“ก็มีนะฮะ ไม่งั้นผมจะมายืนอยูนี่ได้ไง”  ในเมื่อโดนกวนประสาท ก็ไม่จำเป็นต้องให้เกีรยติ

“แก! ไอ้เด็กเหลือขอกล้ายอกย้อนฉันเหรอ” หญิงสาวทำท่างื้อมือจะตบบราวนี่

“เกิดอะไรขึ้นบราว ทำไมมายืนเถียงกับลูกค้าแบบนี้” พายซึ่งได้ยินเสียงคนทะเลาะกันอยู่หน้าร้านจึงรีบออกมาดู กลับเจอคู่กรณีของน้องชาย คือคนๆ เดียวกับกับวันที่ไปห้างวันนั้น

“บราวนี่ใจเย็นๆ นะ” มินเอ่ยเตือนเพื่อนเพราะรู้ดีว่าเพื่อนสนิทค่อนข้างเป็นคนตรงๆ แต่ถ้าไม่มีใครมาระรานก่อนบราวนี่ก็ไม่มีทางที่จะทำแบบนี้ ยังดีที่ตอนนี้เป็นช่วงบ่ายคนยังไม่เยอะ

“ใครเป็นเจ้าของร้าน” หญิงสาวคู่กรณีเอ่ยเสียงดัง ขณะเดียวกันกับที่ประตูร้านมีคนเปิดเข้ามาพอดี

“ผมเองฮะ” พายเอ่ยขณะเหล่ตาไปมองผู้มาใหม่ คือชายคนที่เจอที่ร้านซูชิวันนั้น

“คุณไม่คิดจะตักเตือนพนักงานในร้านบ้างเลยเเหรอ ที่มายืนเถียงกับลูกค้าแบบนี้ ที่สำคัญเด็กไม่มีมารยาทไร้การศึกษาขนาดนี้ยังรับเข้าทำงานอีกเหรอ” หญิงสาวด่ารัวเป็นชุด ไม่เปิดโอกาศให้ทั้งพายและบราวนี่ได้แก้ตัวเลยแม้แต่นิดเดียว

“ขอโทษด้วยครับ ทางร้านเราจะปรับปรุงให้ดีขึ้นกว่านี้” พายก้มหัวแสดงคำขอโทษกับลูกค้าสาว ซึ่งการกระทำทั้งหมดอยู่ในสายตาของชายหนุ่มที่มายืนข้างๆ หญิงสาวคนนั้น

“พี่!” บราวนี่ได้แต่เรียกพี่ชายเพราะทำอะไรไม่ได้

“ฉันว่าคุณน่ะไล่มันออกไปเลยดีกว่า ไอ้เด็กไม่มีมารยาท สงสัยพ่อแม่คงไม่มีเวลาอบรมสั่งสอน จึงกลายเป็นเด็กเหลือขอแบบนี้ เด็กไร้การศึกษา เข้าใจไหมคำว่าลูกค้าคือพระเจ้าน่ะ” คำด่าที่รุนแรงสร้างความตกใจให้กับทุกคนที่ยืนอยู่ในเหตุการณ์อย่างมาก
 
“คุณรตีพอได้แล้ว ผมว่าเรากลับกันเถอะครับ” ปากก็คุยกับผู้หญิงที่ชื่อรตี แต่สายตาของชายหนุ่มกลับจ้องมองพายอยู่ตลอดเวลา ‘ฮึ! นึกว่าจะยืนเป็นเสาหิน ไร้ความรู้สึก’ พายได้แต่สบถในใจ

“ยังไม่กลับค่ะ จนกว่าเจ้าของร้านจะไล่มันออก”

“ผมคงไล่ออกไม่ได้หรอกฮะ เพราะคนที่คุณยืนว่าอยู่ตอนนี้คือน้องชายของผม และพ่อแม่ที่คุณว่าไม่สั่งสอน ก็คือพ่อแม่ของผมด้วย” เป็นครั้งแรกที่พายพูดเสียยืดยาว หลังจากที่ออกมาก้มหน้าขอโทษทั้งๆ ที่ไม่ได้ทำอะไรผิด

“อ๊อ! พวกเดียวกัน คิดจะรุมชั้นงั้นสิ”

“ถ้าคุณไม่พอใจบริการร้านของเรา ผมก็ต้องขอโทษด้วยครับ”

“พวกแกรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร ถ้าฉันจะจัดการพวกแกง่ายยิ่งกว่าปลอกกล้วยเข้าปาก”

“ผมไมรู้หรอกว่าคุณใหญ่โตมาจากไหน แต่ที่นี่มันร้านของผม ถ้าคุณไม่พอใจก็ไปซื้อที่อื่น แต่ถ้าคุณยังอยากทานขนมร้านของเราผมก็ยินดี” พายเอ่ยอย่างไม่ใยดี ในเมื่อไม่มีมารยาทก็ไม่จำเป็นต้องสนใจ พยายามข่มอารมณ์ตัวเองให้มากที่สุด

“ร้านขนมห่วยๆ แบบนี้ฉันไม่ทานให้เสียปากหรอก มีแต่พวกชั้นต่ำเท่านั้นแหละที่จะทาน”

“อ้าวคุณ พูดอย่างนี้ได้ยังไงคะ คุณเคยทานเค้กร้านนี้บ้างรึเปล่า แล้วดิฉันก็เป็นลูกค้าประจำที่นี่ เจ้าของร้านและพนักงานทุกคนเค้าใจดี มีมารยาทนะคะ เผลอๆ จะเยอะกว่าคุณซะอีก ที่มายืนด่าฉอดๆ ตอนแรกไม่คิดว่าจะเข้ามายุ่งแล้วเชียว แต่มันชักจะเกินไป” ลูกค้าสาวท่านหนึ่งเอ่ยคำที่พนักงานทุกคนอยากจะพูด

“แล้วแกมาสอดเรื่องคนอื่นเขาทำไม”

“ตอนแรกฉันก็คิดว่าเป็นเรื่องคนอื่น แต่ตอนนี้มันคงไม่ใช่ เพราะคุณกำลังพาดพิงถึงดิฉัน”   คำพูดของลูกค้าสาวสร้างความงุนงงให้กับรตีเป็นอย่างมาก

“ฉันไปว่าแกตั้งแต่เมื่อไหร่” เธอเปลี่ยนเป้าหมายหันมาวีนใส่ลูกค้าที่ร้านแทน

“ก็ที่คุณว่าลูกค้าชั้นต่ำไง จำไม่ได้เหรอ หรือว่าความจำสั้น แล้วว่าคนอื่นกรุณาสำรวจตัวเองบ้างนะคะว่าใครกันแน่ที่ชั่นต่ำ มาถึงก็ด่าคนอื่นปาวๆ ทั้งๆ ที่ตัวเองก็ไม่ได้ดีไปซะเท่าไหร่” รตีถึงกับหน้าเหวอไปชั่วขณะ แต่ก็ดึงสติกลับมาได้

“แล้วแกจะได้เห็นดีกัน ฉันจะให้คุณพ่อมาจัดการแก” ยังคงวางอำนาจไม่เลิก

“งั้นก็เชิญกลับไปฟ้องคุณพ่อของคุณได้เลยนะคะ จำชื่อดิฉันให้ขึ้นใจนะคะ ดิฉัน กีรติกุล วงษ์ประเสริฐ ถ้าคุณอยู่ในแวดวงธุรกิจคงน่าจะรู้จักอยู่บ้าง” หญิงสาวเอ่ยชื่อตนเองอย่างเต็มยศ ทำให้คนที่ได้ฟังหน้าซีดเผือด เพราะตระกูลของเธอเป็นเจ้าของบริษัทนำเข้าและส่งออกเคมีภัณฑ์รายใหญ่ที่สุดในแถบเอเชียเลยก็ว่าได้

“ฝากไว้ก่อนเถอะ” พูดจบก็เดินดุ่มๆ ออกจากร้านอย่างเสียหน้า

“ผมขอโทษแทนคุณรตีด้วยนะครับ” หลังจากที่ยืนเงียบอยู่นาน ชายหนุ่มตัวโตที่ยืนเป็นเสาหินไร้ความรู้สึกก็เอ่ยขึ้น

“คุณไม่ได้ผิดไม่ต้องขอโทษฉันหรอกค่ะ คนที่ควรจะขอโทษคือผู้หญิงที่เดินออกไปข้างนอกแล้วต่างหาก และก็ไม่ต้องขอโทษดิฉันหรอก ควรขอโทษพวกน้องๆ เขามากกว่า” หญิงสาวชี้มือมาทางพายและน้องๆ อีกสองคน

“ขอโทษอีกครั้งนะครับ” ชายหนุ่มกล่าวขอโทษอย่างรู้สึกผิดจริงๆ

“ไม่เป็นไรหรอกฮะ เรื่องมันแล้วไปแล้วก็ให้มันผ่านไป” พายเอ่ยตอบอย่างไม่ได้แสดงอารมณ์ขุ่นเคืองเลยซักนิด ทั้งๆ ที่ในใจอยากจะกระโจนไปขย่ำคุณไฮโซซะเต็มประดา

“งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ” ชายตัวโตกล่าวแล้วหันหลังเดินออกไป

หลังจากเหตุการณ์ทุกอย่างสงบลง ทั้งพายและคนอื่นๆ ก็ได้แต่ถอนหายใจอย่างโล่งอก ที่เหตุการณ์ไม่บานปลายไปมากกว่านี้

“พายขอโทษด้วยนะฮะ ที่ทำให้คุณเสียบรรยากาศเลย” หนุ่มหน้าสวยหันมาขอโทษลูกค้าสาวเจ้าประจำ

“ไม่เป็นไรหรอกจ๊ะ พี่ต่างหากที่ต้องขอโทษ ทำให้ทุกคนวุ่นวายเลย อิอิ” พายพอจะรู้จักว่าหญิงสาวตรงหน้าอยู่บริษัทใหญ่ๆ ที่เดินไปอีกสองช่วงตึกก็ถึง แต่ไม่คิดว่าเธอจะเป็นเจ้าของบริษัทแห่งนั้น

“พี่สาวเจ๋งที่สุดเลย ตอกยัยนั่นหน้าหงายไปเลย คึคึ” เสียงคนทะเล้น และไม่ได้สำนึกว่าความผิดส่วนหนึ่งมาจากตนเหมือนกันดังขึ้น

“บราวนี่!”  พายเอ่ยปรามน้องชายที่แสนทะเล้น

“ก็มันจริงนี่นา บราวนี่ไม่ผิดซะหน่อย”
“พอเลยเราอย่างน้อยเขาก็เป็นผู้หญิง เราน่ะผู้ชาย” พายปรามน้องชายอีกครั้ง

“แต่ผู้หญิงแบบนี้ ไม่ต้องไปให้เกีรยติหรอกฮะ” มินเอ่ยเสริม จังหวะเดียวกันกับที่บราวนี่ยกมือขึ้นแท็กกันอย่างถูกใจ ที่เพื่อนรักเข้าข้าง

“พอๆ กันทั้งสองคนสินะ” คนพี่ได้แต่ส่ายหัวอย่างเอือมระอากับน้องชายทั้งคู่

“โธ่! ก็มันจริงนี่ฮะ” พูดจบก็อ้อนอย่างเอาใจ เข้าไปกอดพี่ชายคนสวย มีหรืออีกคนจะยอมก็เข้าไปกอดด้วยเหมือนกันคนละข้าง

“น่ารักกันจังนะคะ”

“ขอโทษด้วยนะฮะ เดี๋ยวเอาเค้กชิ้นใหม่ไปเสริฟให้นะฮะ กับเครื่องดื่มน่าจะละลายหมดแล้ว” พายเอ่ยอย่านึกขึ้นได้

“ไม่เป็นไรค่ะๆ”

“ไปนั่งรอเลยฮะพี่คนสวย บราวนี่จัดการให้เอง” คนตัวเล็กเอ่ยอย่างกระตือรือล้น ก่อนที่จะจูงมือหญิงสาวกลับไปนั่งโต๊ะ

“เรียกพี่กีก็ได้ค่ะ พี่คนสงคนสวยอะไรกัน เขินแย่เลย” พูดไปด้วยก็เดินกลับไปนั่งที่เดิม

“วันนี้บราวเลี้ยงพี่กีเองนะฮะ” เจ้าตัวแสบเอ่ยขึ้นอีกครั้ง

“ได้ยังไงล่ะคะ ของซื้อของขาย”

“ไม่เป็นไรหรอกฮะ ถือเป็นการขอบคุณที่เข้ามาช่วย” พายเอ่ยย้ำอีกครั้ง

“ได้จ๊ะ ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของมิตรภาพแล้วกัน” มินยกเค้กกับเครื่องดื่มมาเสริฟให้กับหญิงสาว

“ตามสบายนะฮะ ถ้ามีอะไรอยากให้ปรับปรุงก็บอกได้” พายเอ่ยก่อนที่จะขอตัวไปทำงาน เหลือแต่เจ้าตัวแสบที่นั่งเจื้อยแจ้วอย่างถูกคอกับพี่กี และแล้ววันนี้ก็เป็นก็จบลงด้วยความวุ่นวายสิ้นดี ‘เหนื่อยจริงๆ เลยเรา’
*********************************
  ดีไม่ดียังไงติชมได้นะคะ เพื่อเป็นกำลงใจให้คนเขียนได้แต่งต่อไป  :mew1: :mew3: ตอนนี้พึ่งเริ่มเรื่องก็ดำเนินไปเรื่อยๆ ยังไม่มีอะไรมาก  เรื่องจะเริ่มเข้มข้นขึ้นนะคะ แต่เป็นเรื่องที่ไม่ดราม่านะคะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-02-2016 18:42:44 โดย MooKratai »

ออฟไลน์ xirainx@gamil.com

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนที่2
«ตอบ #4 เมื่อ02-02-2016 19:13:48 »

 :-[ :-[ :-[

ออฟไลน์ angelnan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-5
Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนที่2
«ตอบ #5 เมื่อ02-02-2016 21:59:55 »

สนุกมากๆคะ แต่อยากให้พาย บทเด่นกว่านี้หน่อย เราอ่านแล้ว นึกว่า บราวนี่ เป็นนายเอก บทเด่นมาก จนเหมือนเป็นเรื่องของบราวนี่เอง 5555 แต่สนุกคะ ติดตาม ขอพระเอกแบบ ขี้หึง นะคะ เหมาะกับพายที่สวยหวาน อิออ

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนที่2
«ตอบ #6 เมื่อ02-02-2016 22:44:10 »

น่ารักดี แต่เห็นด้วยกับความเห็นข้างบน มีแต่บราวเต็มไปหมดในช่วงเริ่มที่ควรจะแนะนำพระนาย

ออฟไลน์ rainiefonnie

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-2
Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนที่2
«ตอบ #7 เมื่อ02-02-2016 23:13:26 »

อ่านๆไปนึกว่าบราวนี่เป็นตัวเอก 

ออฟไลน์ Jthida

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
Re: หลานคุณย่า (คีริณ+พาย) ตอนที่2
«ตอบ #8 เมื่อ02-02-2016 23:15:15 »

รอฉากพระนายคุยกันดีๆอยู่นะ ติดตามจ้าาา

ออฟไลน์ MooKratai

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 89
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-0
หลานคุณย่า3 เพื่อนรัก?
[/size][/color]
 
“คณย่าฮะ เย็นนี้พายไปงานลี้ยงวันเกิดเพื่อนนะฮะ” พายเอ่ยขึ้นขณะที่นั่งทานอาหารเช้าพร้อมหน้ากันกับทุกคนในบ้าน ทำให้ทั้งพี่ชายและน้องชายต่างก็เงยหน้าขึ้นมาพร้อมกันอย่างสนใจ เพราะแต่ไหนแต่ไรพายแทบจะไม่ออกจากบ้านไปไหนตอนกลางคืนคนเดียวด้วยซ้ำ

“วันเกิดใคร แล้วจัดที่ไหน จะกลับดึกรึเปล่า” คุณย่าเอ่ยถามอย่างเป็นห่วงหลานชายสุดที่รัก ที่ไม่เคยไปไหนมาไหนคนเดียวในตอนกลางคืน

“คุณย่าถามยังกับพี่พายจะไปทำอะไรไม่ดีอย่างนั้นแหละ” น้องเล็กของบ้านเอ่ยขึ้น เพราะความเป็นห่วงจนเกินไปของคุณย่า

“ย่าถามพี่ของเรา ไม่ได้ถามเราเจ้าตัวแสบ”

“ก็ทีบราวไปเที่ยวกับเพื่อนคุณย่ายังไม่เคยถามเลยนี่ฮะ น้องบราวเลยสงสัย”

“พี่ชายเราเหมือนเราซะที่ไหนล่ะ เคยออกไปตอนกลางค่ำกลางคืนแบบนี้ที่ไหน” 

“ย่าจ๋า น้องพายดูแลตัวเองได้ฮะ แค่ไปงานวันเกิดชะเอม เพื่อนพายที่เคยเรียนด้วยกันมาตั้งแต่เด็กๆ คุณย่าก็รู้จักนิฮะ” ชะเอมเพื่อนสนิทเพียงไม่กี่คนของพาย ที่รู้จักกันมาตั้งแต่ประถม จนตอนนี้ก็ยังติดต่อกันอยู่ แต่ไม่ค่อยได้เจอกันเท่าไหร่ เพราะต่างคนต่างยุ่งกับงานของตนเอง มีนัดเจอกันบ้างนานๆที เพื่อไถ่ถามสารทุกข์สุกดิบกันเป็นธรรมดา

“ย่ารู้ แต่ก็อดเป็นห่วงไม่ได้ เอาอย่างนี้ไหมล่ะ ให้พี่ชายเราไปเป็นเพื่อน หรือจะเอาเจ้าแสบไปด้วยก้ได้” คุณย่าเสนอทางออกให้เสร็จสรรพ

“น้องพายโตแล้ว ดูแลตัวเองได้ไม่ต้องห่วงหรอกนะฮะ” พายเดินเข้ามาออดอ้อนคุณย่าสุดที่รักให้ใจอ่อน

“ให้พี่ไปเป็นเพื่อนก็ได้นะ พี่ไม่ได้มีนัดไปที่ไหนวันนี้” พี่ชายที่อดเป็นห่วงน้องชายไม่ได้เอ่ยขึ้น

“พอกันทั้งคุณย่าทั้งพี่ซองเลย” บราวนี่เอ่ยขึ้น อย่างเอือมๆ กับความหวงจนออกจะเกินไปของทั้งคุณย่าและหลานชายคนโต

“ตามใจก็แล้วกัน ย่าไม่ห้ามแล้ว แต่อย่าลืมดูแลตัวเองดีๆล่ะ” มือที่เหี่ยวย่นไปตามวัยลูบหัวพายอย่างเอ็นดู

“ขอบคุณฮะ รักย่าที่สุดเลย”  พูดจบปุ๊บก็หอมแก้มคนเป็นย่าซ้ายทีขวาที แบบที่ทำเป็นประจำ

“ ก็เป็นซะอย่างนี้ทุกทีจะไม่ให้ย่าเป็นห่วงได้อย่างไร”
**************************************

 
พายเดินลงมาจากรถโฟล์คคันเล็กของตนที่ใช้ประจำอย่างประหม่า เพราะตั้งแต่โตพอที่จะเข้าผับได้ นี่ก็เป็นครั้งที่สองที่พายเคยมาสถานที่ที่เต็มไปด้วยนักเที่ยวกลางคืน  ครั้งแรกก็ตอนที่เพื่อนๆ ทั้งห้องชวนมาฉลองจบการศึกษา หลังจากนั้นพายก็ไม่เคยมาสถานที่แบบนี้อีกเลย เพราะมันค่อนข้างจะรู้สึกอึดอัดไปหมด ทั้งผู้คนและสถานที่ นี่ถ้าไม่ใช่วันเกิดของเพื่อนสนิทอย่างชะเอม พายคงไม่คิดจะมาที่แบบนี้อีกเป็นแน่

พายเดินตรงเข้ามาในผับที่ค่อนข้างจะดูไฮโซ ไม่เหมือนกับสมัยที่เคยไปกับเพื่อนตอนเรียน ภายในที่มีเพียงแสงสลัวๆ ของไฟที่ส่องพอให้เห็นทางเดิน กับเสียงเพลงที่ค่อนข้างดังเข้ามาในโสตประสาทของพายเป็นอย่างมาก  พายพยายามต่อสายหาเพื่อนตนเองว่านั่งอยู่โต๊ะไหน แต่อาจจะเป็นเพราะเสียงเพลงที่ดังเกินไปทำให้ชะเอมไม่รับสาย เขาพยายามต่อสายอีกครั้งจนมีคนรับ แต่เสียงนั้นกลับเป็นเสียงผู้ชาย

“สวัสดีฮะ ใช่เบอร์ชะเอมหรือเปล่าครับ” พายถามออกไป

“ใช่ครับ พอดีชะเอมไปเข้าห้องน้ำคุณมีอะไรรึเปล่า” ชายคนดังกล่าวเอ่ยตอบออกมา

“ผมมาวันเกิดชะเอมนะฮะ  ตอนนี้อยู่ตรงทางเดินเข้าไป ไม่ทราบว่านั่งตรงไหนกันฮะ”  ชายคนดังกล่าวบอกทางให้พายเดินตรงเข้าไปข้างใน โต๊ะที่เพื่อนของพายจองไว้อยู่ตรงหน้าเวทีชั้นหนึ่ง สังเกตุว่ามีชั้นบนที่แบ่งเป็นห้องกระจกใส น่าจะเป็นโซนวีไอพี พายเดินเข้าไปอย่างไม่ค่อยจะแน่ใจเท่าไหร่เพราะในโต๊ะไม่มีคนที่ตนรู้จักเลยแม้แต่คนเดียว มีสายตาหลายคู่จับจ้องมาที่พายอย่างจงใจ จนทำให้เขารู้สึกประหม่า พายพยายามเดินเร็วๆ โดยไม่สบสายตาพวกเสือสิงห์ทั้งหลาย  จนเกือบจะถึงโต๊ะเสียงของหญิงสาวที่คุ้นเคยก็ดังขึ้นมา

“พายทางนี้” ชะเอมเอ่ยเรียกพร้อมกับโบกไม้โบกมือเป็นสัญญานให้รู้ว่าตนเองอยู่ที่ไหน ก่อนที่จะเดินตรงไปยังโต๊ะที่เพื่อนตนจองไว้

“สุขสันต์วันเกิดนะเอม” พายยื่นของขวัญที่เตรียมมาให้เพื่อนส่งให้เจ้าของวันเกิด

“ขอบใจจ๊ะ แต่ไม่เห็นต้องเอาอะไรมาเลย แค่พายมาเอมก็ดีใจที่สุดแล้ว” เพื่อนสาวคนสนิทกอดพายอย่างขอบคุณ

“นานๆ เจอกันทีนี่นา คิดถึงจังเลย”

“เดี๋ยวเราแนะนำเพื่อนๆ ให้รู้จักนะ” ทุกคนในโต๊ะจ้องมองพายเป็นตาเดียวด้วยความที่พายเป็นผู้ชายหน้าหวานออกไปทางสวยแถมยังตัวเล็กอีกต่างหาก จึงเป็นที่สนใจของใครหลายๆ คน

“คนนี้น้ำหวาน  ส่วนนี่บอยแฟนเรา นี่คิม แป้ง มิลล์ และก็ต้น เพื่อนที่ทำงานของเรา”

“ยินดีที่ได้รู้จักฮะ” พายเอ่ยก่อนจะโค้งให้กับทุกคน

“เป็นไงเพื่อนเอมน่ารักอย่างที่บอกเลยใช่ไหมล่ะ”

“พายน่ารักจัง ไม่สิต้องบอกว่าสวย สวยจนเราที่เป็นผู้หญิงยังอายเลย” มิลล์เป็นคนเอ่ยขึ้น คนอื่นๆ ก็พยักหน้าหงึกๆ เป็นเชิงว่าเห็นด้วยกับสิ่งที่เธอพูด ยกเว้นเพียงหนึ่งคน คือน้ำหวานที่จ้องพายพร้อมกับเบะปากอย่างหมั่นใส้ที่ทุกคนดูจะให้ความสนใจกับผู้มาใหม่อย่างพาย
“ไม่หรอกฮะ ผมจะสวยได้ยังไง ผมเป็นผู้ชายนะฮะ” คนหน้าสวยรีบเอ่ยปฏิเสธในทันที

‘เราเป็นผู้ชายนะ ทำไมต้องชอบมองว่าเราสวยด้วยล่ะ T-T’  พายได้แต่เอ่ยตัดพ้อในใจ
อีกคนที่ดูจะสนใจพายเป็นพิเศษก็คือบอยแฟนของชะเอม ที่คอยจะตักนู่นตักนี่ให้พายตลอด จนทำให้คนตัวเล็กรู้สึกแปลกๆ  กับการกระทำของบอยที่ตอนนี้ย้ายมานั่งข้างพายตั้งตาเมื่อไหร่ไม่รู้

“คุณพายดื่มไหมครับ” บอยเอ่ยถามพายอีกครั้ง ทั้งๆ ที่พายพยายามจะไม่สนใจ

“พายขอเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอลล์นะฮะ” หลังจากตอบแล้วก็หันคุยกับมิลล์ที่ค่อนข้างจะเข้ากับพายง่ายกว่าคนอื่นๆ  ส่วนชะเอมก็ไม่ได้สังเกตุแฟนตนเองเลยว่ามายุ่มย่ามกับพายจนเกินไป เพราะต้องคอยเทคแคร์เพื่อนคนอื่นๆ  คงจะมีแต่น้ำหวานที่เวลาที่พายหันไปสบตาทีไรชอบทำตาขวางใส่ตลอดเวลา พายก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าไปทำอะไรให้เธอไม่พอใจตั้งแต่เมื่อไหร่ พยายามจะไม่คิดอะไร แต่พอมองไปทีไรก็เป็นแบบเดิม

ทุกคนที่มางานวันเกิดชะเอมวันนี้เป็นเพื่อนที่ทำงาน ทั้งหมดอยู่แผนกเดียวกันรวมทั้งแฟนของชะเอมด้วย คุณบอยเป็นหัวหน้าที่แผนกที่ชะเอมทำงานอยู่ เข้ามาจีบชะเอมก่อนจนคบกันเป็นแฟนสี่เดือนแล้ว เอมเล่าให้ฟังว่าคุณบอยเจ้าชู้มาก แต่ก็พยายามพิสูจน์ให้เห็นในความดี จนใจอ่อนยอมคบเป็นแฟนในที่สุด เห็นเพื่อนรักมีความสุขพายก็ดีใจ ขอให้เขารักชะเอมจริงๆ ทีเถอะ  แต่ไอ้ที่มานั่งทำสายตากรุ้มกริ่มใส่พายนี่สิ มันชักจะยังไงๆ แล้ว แต่พายก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากทำเป็นไม่สนใจ  เขาพยายามเอื้อมมือมาจับมือบางที่วางไว้บนโต๊ะ จนเจ้าตัวถึงกับสะดุ้ง ไม่ใช่แค่ครั้งเดียวยังมีครั้งที่สองที่สามจนพายต้องเอามือลงจากโต๊ะ
พายสังเกตุเห็นว่าคุณบอยกับน้ำหวานแอบจับมือกัน แถมบางครั้งคุณบอยยังเอามือลงไปลูบขาของหญิงสาวใต้โต๊ะอีกด้วย  อีกคนก็ไม่มีท่าทีจะปฏิเสธ แถมยังยิ้มยั่วคุณบอยอย่างจงใจ สงสารก็แต่ชะเอมเพื่อนของเขาที่ไม่รู้อะไรเลย หัวอ่อนก็ที่หนึ่ง อยากจะบอกให้เอมได้รู้ตอนนี้ แต่ก็ไม่อยากให้ทะเลาะกันในงานวันเกิดของเพื่อน หรืออีกอย่างอาจจะไม่มีใครเชื่อเลยก็ได้

“อย่าอ่อยให้มันมากนักนะนายน่ะ คนเขามีแฟนแล้ว แม้จริงๆ แล้วนายจะไม่แมนก็ตาม” อยู่ดีๆน้ำหวานก็เดินมากระซิบที่ข้างหูของพาย จนพายได้แต่อึ้งกับคำพูดของหญิงสาว

“มีอะไรกันเหรอ” ชะเอมที่เห็นเหตุการณ์เดินมาถาม

“ไม่มีอะไรหรอกเอม น้ำหวานแค่เข้ามาทักทายเพื่อนใหม่ก็แค่นั้น” หญิงสาวช่างคิดคำแก้ต่างได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งแตกต่างจากพายที่ยังทำหน้าเหวออยู่

“พายดื่มอะไรอีกไหม สั่งได้เลยนะ” ชะเอมบอกเพื่อนรัก ก่อนที่น้ำหวานจะชวนไปเข้าห้องน้ำ

หลังจากที่ทั้งสองคนไปเข้าห้องน้ำ คุณบอยก็ยิ่งทำตัวรุ่มร่ามใส่พายอย่างไม่เกรงใจสายตาคนอื่น เพื่อนร่วมโต๊ะก็ไม่มีใครกล้าทักท้วง เพราะกลัวตัวเองจะเดือดร้อน เพราะคุณบอยเป็นหัวหน้างาน มีก็เพียงแต่มิลล์ที่คอยพูดทีเล่นที่จริงให้คนที่คอยจะหาเศษหาเลยกับพายได้รู้ตัวบ้าง

“แหม! คุณบอยแฟนไปเข้าห้องน้ำแป๊บเดียว กะจะหาคนใหม่เลยเหรอคะ” มิลล์เอ่ยกลั้วหัวเราะ ก่อนจะกระซิบกับพายเบาๆ ให้ได้ยินแค่สองคน

“ระวังอีตาบอยดีๆ นะพาย ปากว่ามือถึง เราเห็นจ้องพายยังกับจะกลืนกินเข้าไปทั้งตัว”
“ไม่มีอะไรหรอกมั้งมิลล์  เขาคงแค่คอยบริการพายเพราะพายไม่รู้จักใครมั้ง”
“ให้มันจริงเถอะย่ะ ยังไงก็ระวังตัวไว้ดีกว่า”
“อือ เข้าใจแล้ว”

**************************************
ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นะคะ ตอนแรกเราก็คิดว่าบทของน้องบราวดูเด่นกว่า แต่มันเป็นพาร์ทของครอบครัวที่น้องบราวจะเป็นศูนย์กลางของทุกคนในบ้าน บทน้องบราวเลยเยอะไปหน่อย :mew2:  เราจะพยายามปรับปรงให้ดีขึ้นนะคะ ดีไม่ดียังไงบอกได้เลยค่ะ ยินดีรับทั้งคำติและคำชมเพื่อที่จะพัฒนาต่อไปค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
สงสารชะเอม รีบๆเลิกนะกับผู้ชายพรรค์นี้

ออฟไลน์ angelnan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-5
อยากให้พาย ทันคนกว่านี้ถ้าเป็นแบบนี้ เราว่าไม่น่ารอดมาจนอายุป่านนี้หลอก ทันคนขึ้น มันจะดูเหมาะสมกับอายุหน่อยเพราะว่าอายุก็ยี่สิบกว่าแล้ว น่าจะผ่านทั้งคนดีและไม่ดีมาบ้างตอนนี้เราอ่านแล้วรู้สึกว่า เหมือนพาย เพิ่งขึ้น ม.4 แล้วโดนเพื่อนบังคับมา

ออฟไลน์ MooKratai

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 89
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-0
 ต่ออีกนี๊ดดดนึงค่ะ

“ชะเอมเธอสังเกตุอะไรไหม” น้ำหวานเป็นคนเอ่ยขึ้นระหว่างทางเดินไปห้องน้ำ

“มีอะไรเหรอน้ำ สังเกตุอะไร” อีกคนทำหน้าสงสัยกับคำพูดของเพื่อนร่วมงาน

“ก็เพื่อนเธอนะสิ อ่อยคุณบอยซะออกนอกหน้าเลยนะ”   น้ำหวานพยายามใส่ไฟให้ชะเอมโกรธพาย ทั้ง ๆ ที่ก็รู้อยู่แก่ใจว่าไม่ใช่พายที่อ่อยหรือยั่ว จะมีก็แต่คุณบอยที่พยายามเข้าหาพายตลอดเวลา

“ไม่จริงหรอกมั้งน้ำ พายไม่ใช่คนแบบนั้นนะ” ชะเอมเอ่ยบอกเพื่อนอย่างที่ตนคิด

“เธอมันหัวอ่อนไงชะเอม เพื่อนจะสวมเขาให้ยังไม่รู้อีกเหรอ”  ทั้งๆ ที่คนที่จ้องจะสวมเขาให้กับเพื่อนก็คือตนเอง แต่กับใส่ความคนอื่น เพราะกลัวว่าคุณบอยจะหันไปสนใจพาย

ทั้งๆ ที่ตัวเองจ้องจะจับแฟนเพื่อนเอาไว้ซะเอง เพราะทั้งน้ำหวานและคุณบอยแอบบมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งลับหลังชะเอมมาตลอด  หญิงสาวกลัวว่าชายหนุ่มจะหันไปสนใจพายจึงคิดจะตัดไฟเสียแต่ต้นลม เพราะลำพังชะเอมนั้นน้ำหวานคิดว่าคงกำจัดได้ไม่ยาก ผู้หญิงเรียบๆ ที่แทบจะไม่มีอะไรน่าสนใจอีกไม่นานคุณบอยก็คงจะเบื่อ ตรงกันข้ามกับน้ำหวานที่ค่อนข้างจะเป็นคนมั่นใจในตัวเอง และแต่งตัวจัดจ้าน
 
แต่ตอนนี้กลับมีพายเดินเข้ามาเป็นหมากอีกตัว ทำให้น้ำหวานค่อนข้างจะหวั่นใจ เพราะเสน่ห์ บวกกับหน้าตาของพายที่สวยหวานเกินชาย ทำให้น้ำหวานเกิดระแวงในตัวของบอยขึ้นมาจึงคิดแผนเพื่อจะกำจัดพายออกไปให้พ้นทาง แม้ว่าพึ่งเคยเจอกันแค่ครั้งเดียวก็ตาม แต่สายตาที่คุณบอยจ้องมองพายแทบจะตลอดเวลา น้ำหวานจึงเกิดความระแวง เพราะคุณบอยเจ้าชู้น้อยซะที่ไหน

“ก็ไม่เห็นมีอะไรเลย พายก็คุยกับคุณบอยปกติดีน่นา” ชะเอมยังคงแก้ตัวให้เพื่อนรักที่คบกันมาแต่เด็ก เพราะรู้นิสัยใจคอกันดี

“ปกติที่ไหน นู่น เธอดูสิจับมือถือแขนกันซะขนาดนั้น ระวังไว้นะเพื่อนรักจะคาบคนรักของเธอไปกินซะก่อน” น้ำหวานไม่วายที่จะพูดประชดประชันใส่ชะเอม

“แล้วจะให้เอมทำยังไงเหรอน้ำ” ชะเอมเริ่มคล้อยตามคำยุแยงของน้ำหวานเพราะยืนมองจากจุดนี้ ค่อนข้างจะเห็นเหตุการณ์ต่างๆ ได้ชัดเจน ภาพของคุณบอยที่พยายามโอบกอดพายจากด้านหลังโดยที่พายไม่รู้ตัว จึงทำให้คนที่มองจากจุดนี้เห็นเหมือนกับคนที่โดนกอดรู้เห็นเป็นใจ คนที่หน้ามืดตามัวเพราะกลัวโดนแย่งคนรักไปจึงเห็นดีเห็นงามไปกับเพื่อนตนเอง

“เดี๋ยวน้ำจัดการเอง แค่เอมคอยทำตามที่น้ำบอกก็พอ”

“เธอจะไม่ทำอะไรรุนแรงใช่ไหมเอม เพราะถึงยังไงพายก็เป็นเพื่อนของเอม”

“ฉันรับรองว่าไอ้ตุ๊ดนั่นนะจะมีความสุขมากกว่า อาจจะต้องกลับมาขอบคุณเธอเสียด้วยซ้ำ” แผนการร้ายของผู้หญิงคนนี้เริ่มที่จะก่อตัวขึ้น ตอนแรกยานี้เธอตั้งใจจะเอามาใส่ให้เจ้าของวันเกิด แต่เหตุการณ์กลับตาลปัตรเพราะมีตัวแปรเพิ่มมาอีกคน จึงจำเป็นต้องจัดการหนามยอกอกก่อน

“กลับไปที่โต๊ะกันเถอะ เราออกมานานแล้ว” ชะเอมที่มีท่าทีลังเลกับสายตาที่น่ากลัวของเพื่อนร่วมงานเอ่ยขึ้น

“เธอกลับไปก่อน เดี๋ยวฉันขอจัดการอะไรบางอย่างแล้วจะเข้าไป” น้ำหวานโทรนัดแนะผู้ชายที่รู้จักสองคนให้มาที่ผับแห่งนี้ เพื่อจัดการกับพายเพราะเปลี่ยนแผนนิดหน่อยจากที่จะเป็นหญิงหน้าตาซื่อๆ ก็กลับกลายมาเป็นผู้ชายหน้าตาสวย ซึ่งเธอก็ชี้ให้ชายหนุ่มทั้งสองคนดูเป้าหมายที่จะจัดการ สร้างความพึงพอใจให้กับชายทั้งสองคนเป็นอย่างมาก

“เป้าหมายนี้น่าสนใจกว่ายัยผู้หญิงจืดชืดคนนั้นอีก” ชายหนึ่งในสองคนเอ่ยขึ้นอย่างพอใจ

“กูก็ว่างั้นแหละ แม่งผู้ชายอะไรวะโคตรแจ่ม”

“ถ้าพวกนายพอใจก็ดีแล้ว อย่าให้พลาดนะ” น้ำหวานกำชับผู้ชายสองคนก่อนจะเดินกลับเข้าไปในงานอีกครั้ง

พายยังคงนั่งอยู่ที่เดิม เพราะไม่อยากจะเดินไปไหนมาไหนในสถานที่ๆ ไม่คุ้นเคยแบบนี้ พยายามที่จะไม่สนใจคนเข้ามาเกาะแกะตนเอง  พายหันไปคุยกับมิลล์อยู่บ่อยครั้ง คิดว่าอีกซักพักก็คงจะขอตัวกลับ ถ้าเพื่อนตนเองเป่าเค้กวันเกิดเสร็จ เพราะค่อนข้างจะดึกมากแล้ว ไม่อยากจะอยู่ในสถานที่แบบนี้นานๆ เพราะรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยยังไงไม่รู้

“ดื่มนี่ก่อนซิพาย” เครื่องดื่มสีฟ้าใสถูกยื่นให้กับพายที่นั่งทานเพียงน้ำส้มกับน้ำอัดลมบ้างนิดหน่อยตั้งแต่มาถึง โดยที่ไม่แตะเครื่องดื่มที่มีแอลกอลฮอลล์เลยแม้แต่น้อย

“พายดื่มไม่เป็น น้ำดื่มเถอะ”
 
“นิดหน่อยเองไม่เมาหรอก ถ้าดื่มไม่หมดแก้วนี้น้ำไม่ปล่อยให้กลับแน่” หญิงสาวคะยั้นคะยอให้พายดื่ม จนยากที่จะปฏิเสธได้

“พายเขาดื่มไม่เป็นเธอจะยังคับทำไมน้ำ” มิลล์ที่นั่งข้างๆ เห็นอาการกระอักกระอ่วนใจของพายจึงเอ่ยแทรก ก่อนจะยื่นมือไปรับเครื่องดื่มนั้นซะเอง

“ฉันไม่ได้ให้เธอดื่มซะหน่อย เธอจะเดือดร้อนทำไมมิลล์” น้ำหวานเริ่มหัวเสียเมื่อเหุตการณ์ไม่เป็นไปตามที่วางแผนไว้

“ก็พายเขาไม่ดื่มอ่ะ อะไรของเธอเนี่ย”

“เพื่อมิตรภาพไงจ๊ะพาย สำหรับเพื่อนใหม่นะ ดื่มน้าๆ” น้ำหวานแย่งแก้วเครื่องดื่มกลับมาคืน ก่อนที่จะยื่นให้พายอีกครั้ง

“อืมมมม ก็ได้ แต่แค่แก้วนี้แก้วเดียวนะ เราไม่เคยดื่ม” พายไม่อยากให้ทั้งสองคนทะเลาะกันไปมากกว่านี้ จึงตัดบทด้วยการหยิบแก้วเครืองดื่มสีสวยมากระดกที่เดียวจนหมดแก้ว

“ไหวไหมพาย” มิลล์เอ่ยอย่างเป็นห่วง

“เรามึนๆ นิดหน่อยอ่ะ อยากจะกลับแล้วล่ะ” หันไปบอกกับมิลล์ ก่อนที่จะเดินไปบอกเพื่อนรักว่าขอตัวไปเข้าห้องน้ำแล้วจะกลับบ้านเลย
“ทำไมรีบกลับจังพาย เรายังไม่ได้เป่าเค้กเลยนะ” ชะเอมต่อว่าอย่างงอนๆ เพื่อนรักที่จะหนีกลับก่อน ช่างไม่รู้เรื่องอะไรซะเลยว่าพายกำลังแย่แล้ว

“พายรู้สึกมึนๆ อ่ะ อยากรีบกลับไปพัก เอมไม่ว่าอะไรใช่ไหม” พายเริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติในร่างกายของตนเอง จนอยากจะออกไปจากสถานที่แห่งนี้ให้เร็วที่สุด

“ก็ได้ เอาไว้เดี๋ยวเรานัดเจอกันใหม่” ชะเอมที่เริ่มจะเห็นอาการแปลกๆ ของเพื่อนจึงไม่คิดจะรั้ง พายเดินไปลาทุกคนในโต๊ะรวมทั้งคุณบอยที่มีท่าทีอยากจะรั้งร่างบางเอาไว้ซะเหลือเกิน แต่ติดอยู่ที่แฟนของตนอยู่ใกล้ๆ จึงทำอะไรไม่ได้ ก่อนที่พายจะเดินตรงไปห้องน้ำ เพื่อล้างหน้าล้างตาให้หายจากอาการแปลกๆ นี้ซะที
 
ระหว่างทางที่เดินไปห้องน้ำพายรู้สึกว่ามันช่างไกลซะเหลือเกิน เพราะความทรมานของร่างเล็กที่เกิดขึ้นกับร่างกาย ถึงแม้ว่าพายจะไม่เคยดื่มเครืองดื่มที่มีแอลกอฮอลแต่ก็พอจะรับรู้ได้ว่านี่ไม่ใช่อาการเมา แต่มันมีความผิดปกติซึ่งพายก็ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น มือเล็กวิดน้ำล้างหน้าตนเองเพื่อเรียกความสดชื่นให้กลับมา พายก้มหน้าก้มตาล้างหน้าโดยไม่ได้สนใจผู้มาใหม่เลยแม้แต่น้อย

“สวัสดีคนสวย” พายยังคงไม่สนใจ เพราะไม่คิดว่าจะมีคนที่ตนเองรู้จัก

“พูดด้วยยังไม่สนใจอีกเหรอ” ชายอีกคนกระชากแขนพายเต็มแรง ทำให้ร่างเล็กที่ตอนนี้ร่างกายไม่ค่อยปกติเซไปชนกับชายแปลกหน้าอีกคน

“พะ..พวกคุณจะทำอะไรผม ปล่อยนะ” พายพยายามสะบัดตัวออกจากมือหยาบที่โอบกอดตนเองไว้เต็มแรง แต่ก็ไม่เป็นผล ความร้อนรุ่มเริ่มเกิดขึ้นกับกายเล็กโดนยไม่รู้สาเหตุ

“คืนนี้เราไปสนุกกันดีกว่าไหมคนสวย รับรองเธอจะมีความสุขยิ่งกว่าได้ขึ้นสวรรค์เลยละ” คำพูดจาหยาบคายหลุดออกมาจากปากอีกคนที่ยื่นมือหนามาลูบไล้ร่างบางอย่างหยาบโลน

“ปละ... ปล่อยผมนะ อืออออ” พายดิ้นสุดแรงเกิดเพื่อให้พ้นจากปากหนาที่พยายามจะลวนลามตามร่างเล็ก แต่ทำอย่างไรก็ไม่สามารถที่จะหลุดไปจากตรงนี้ได้ ‘ใครก็ได้ช่วยด้วย ช่วยพายด้วย  ฮืออออ’

“ร้องให้ตายก็ไม่มีใครช่วยหรอกคนสวย ที่นี่มันที่เที่ยว  หน้าตาอย่างนายใครๆ เขาก็คิดว่าเป้นเด็กขายทั้งนั้นแหละ เตรียมตัวนอนครางเสียงเพราะๆ ให้เราสองคนฟังดีกว่า” คำพูดจาบจ้วงของคนตรงหน้าสร้างความหวาดกลัวให้กับพายยิ่งนัก

“ช่วย....” คำพูดที่หลุดจากปากพายออกมาได้เพียงเท่านี้

“รีบเอามันไปดีกว่ามึงเดี๋ยวมีคนเข้ามาเสือก” มือหยาบเริ่มที่จะลากพายออกไปด้านหลัง อีกมือก็ปิดปากคนตัวเล็กที่ไม่มีแรงแม้จะขัดขืน มีเพียงน้ำตาหยดใสๆ ที่ร่วงหล่นไปตามทางเดิน

‘คุณย่า พี่ซอง น้องบราวช่วยพายที ใครก็ได้ ได้โปรดช่วยด้วย’

**********************************************

       TBC.
ตอนเย็นๆ จะอัพตอนต่อไปนะคะ แสดงความคิดเห็นเพื่อเป็นกำลังใจให้เราด้วยน๊าาาาา :mew6: :mew6:  อาจจะไม่ค่อยสนุกเท่าไหร่  แต่ก็อยากลองเขียนลองดูค่ะ  :monkeysad:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-02-2016 14:54:18 โดย MooKratai »

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7

ออฟไลน์ MooKratai

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 89
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-0
หลานคุณย่า 4  ความบริสุทธิ์
[/size]
 
คิณ (Part)
ผมเห็นผู้ชายตัวเล็กหน้าตาสวยตั้งแต่เพียงก้าวแรกที่เขาย่างกรายเข้ามาในผับแห่งนี้  ผมนัดกับเพื่อนสนิทมาผ่อนคลายในวันสุดสัปดาห์หลังจากที่ทำงานหนักมาทั้งอาทิตย์ คนตัวเล็กที่ผมลืมไม่ลงตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอที่ร้านอาหารญี่ปุ่น คนที่เอาแต่จ้องอาหารจานหนึ่งที่ไหลมาตามสายพาน ผมพอจำได้ว่าน่าจะเป็นปลาบุริย่างเกลือ พอผมหยิบตัดหน้าเขาไปทีไร ก็ทำหน้ายุ่งแทบจะทุกครั้ง จนผมอดไม่ได้ที่จะแกล้งคนตัวเล็กที่นั่งฝั่งตรงข้าม เพราะสีหน้าเวลาที่เขาไม่พอใจมันช่างน่ารักซะเหลือเกิน  นี่ผมเป็นโรคจิตแน่ๆ เลยที่ชอบเห็นเขาหน้ายุ่งๆ แบบนั้น วันนั้นจบลงด้วยการที่ผมปล่อยให้เมนูโปรดของเขาไหลไปตามสายพาน จนคนตัวเล็กตรงหน้ายิ้มออกมาจนได้ รอยยิ้มของคนตรงหน้าสะกดให้ผมนิ่งมองอยู่อย่างนั้นเป็นนานสองนาน จนเขาหันมาสบตากับผมเพียงแค่แว๊บเดียวเท่านั้น แล้วก็แสร้งทำเป็นไม่สนใจ ทั้งๆ ที่เขาน่ะรู้เพราะผมจ้องหน้าเขาจนเรียกว่าเสียมารยาทก็ว่าได้

ครั้งที่สองที่ผมเจอคนตัวเล็ก ก็คือวันที่คู่ค้าของผมคุณรตี ไปสร้างเรื่องป่วนที่ร้านขนมเค้กของคนสวยตัวเล็กของผม(ขี้ตู่อ่ะ)  มันเป็นการเจอกันที่ไม่สวยงามเลยสักครั้ง ครั้งนี้ยิ่งแล้วใหญ่ เขามองผมด้วยสายตาตัดพ้อที่ไม่ช่วยอะไรเลย  การที่ผมไม่ช่วยใช่ว่าผมจะเข้าข้างคนผิด ผมแค่ต้องการเห็นปฏิกิริยาคนตรงหน้าว่าจะแก้ไขปัญหาอย่างไร  แต่คนเขาก็ทำเพียงก้มหัวขอโทษขอโพย  จนผมรู้สึกว่าเขาจะยอมคนอื่นมากเกินไปแล้ว อยากให้เขาสู้คนเหมือนน้องชายของเขาที่ดูจะไม่ยอมถ้าตนไม่ได้ทำอะไรผิด จนมีผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามาแก้สถานการณ์เหตุกาณ์วันนั้นจึงจบลงด้วยการที่คู่ค้าของผมออกไปอย่างเสียหน้า ผมมาทราบชื่อภายหลังว่าเขาชื่อพาย ผมอยากสานต่อความสัมพันธ์ แต่ก็ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไงเพราะการเริ่มต้นรู้จักกันของเรามันช่างไม่ดีเอาซะเลย
จนวันนี้ที่เขาเดินเข้ามาในผับอย่างประหม่า พยายามมองหาใครสักคน ก่อนจะยกโทรศัพท์ขึ้น อีกซักพักขาก็เดินไปนั่งโต๊ะ  น่าจะเป็นเพื่อนๆ ของเขา โต๊ะที่คนตัวเล็กนั่งนั้นอยู่ตรงหน้าเวทีซึ่งใกล้กับโซนวีไอพีชั้นสองที่ผมนั่งอยู่ ผมมองเขาแทบจะตลอดเวลาจนพวกเพื่อนๆ ผมแซว ผมเห็นปฏิกริยาทุกอย่าง ผู้ชายคนที่นั่งข้างๆ พยายามจะเกาะแกะคนตัวเล็ก แต่เขาก็พยายามหลบเลี่ยง  ผมแทบอยากจะกระโดดไปตะบันหน้าไอ้หมอมั่นให้มันรู้แล้วรู้รอด ที่วุ่นวายกับเขาตลอดเวลา 

พายดื่มเพียงน้ำส้มเท่านั้น  ดูเหมือนเขาจะไม่แตะแอลกอฮอลล์เลยแม้แต่นิดเดียว เขา น่ารักจริงๆ เลยผมต้องเขาตลอดเวลาจนเพื่อนๆ บอกให้ผมลงไปขอเบอร์เขาหรืออะไรก็ได้เพื่อที่ผมกับเขาจะได้สานความสัมพันธ์ แต่ผมไม่กล้าว่ะ ผมป๊อดครับกับคนที่ตนเองสนใจมากๆ แต่กลับไม่กล้าทำอะไร

  จนกระทั่งผมเดินไปเข้าห้องน้ำ เป็นจังหวะเดียวกันกับเพื่อนร่วมโต๊ะของเขาไปเข้าห้องน้ำพอดี ผมจึงได้ยินแผนการแทบจะทุกอย่าง จนนึกห่วงคนตัวเล็กขึ้นมา อยากจะเข้าไปบอกให้รู้ตัว แต่ผมก็เป็นคนนอกมีหรือที่เขาจะเชื่อ จึงทำได้เพียงมองเหตุการณ์อยู่ห่างๆ  เผื่อเกิดอะไรขึ้นจะได้เข้าไปช่วยได้ทัน

ผมเผลอมองไปทางอื่นแค่แป๊บเดียว เขาก็หายตัวไปจากโต๊ะนั้นซะแล้ว จนผมร้อนใจรีบออกเดินตามหาแทบจะทุกที่ เริ่มจากห้องน้ำก็ไม่พบ  เดินกลับเข้ามาข้างในอีกรอบก็ไม่เจอจนผมแทบบ้า รีบเดินออกมาตามทางเดินข้างหลังร้าน  เป็นจังหวะเดียวกันที่คนตัวเล็กถูกลากออกไปเพื่อที่จะขึ้นรถคนนั้น   ชายคนที่ผมเจอเขาหน้าห้องน้ำตอนที่เขาวางแผนกับผู้หญิงเลวคนนั้น  ผมรีบตรงเข้าไปกระชากไอ้คนที่ลากคนตัวเล็กสุดแรง

“เฮ้ย! อะไรว่ะ”  ความที่มันตกใจจึงเผลอปล่อยพายจนล้มลงกระแทกพื้น

“ช่วยด้วยฮะ ช่วยพายด้วย ฮึกกก” เขาขอความช่วยเหลือน้ำตานองหน้า

“มึงไม่เกี่ยวไอ้หน้าหล่อ กูซื้อมันมาแล้ว มันเป็นของกู”

“มึงซื้อมางั้นเหรอ แต่เท่าที่กูรู้มึงวางแผนกับนังผู้หญิงคนนั้นมอมยาเขาไม่ใช่เหรอ” ผมพูดออกมาอย่างที่เห็น จนหนึ่งในสองคนมันเริ่มจะกลัว

“มะ..มึง เอาอะไรมาพูด” มันเอ่ยออกมาด้วยเสียงสั่นๆ

“มึงลืมไปรึเปล่าว่าที่นี่มีกล้องวงจรปิด แล้วที่นี่มันก็ร้านเพื่อนกู”

“มึงไม่ต้องมาโกหกกู กูไม่เชื่อ” พูดจบปุ๊บก็เงื้อหมัดใส่หน้าของผม แต่คนอย่างคิณมีเหรอจะยอมโดนหมัดไอ้พวกนักเลงกระจอกพวกนี้ ผมสวนหมัดใส่หน้ามันเต็มๆ จนมันล้มลงไปกองกับพื้น แทบจะลงไปนอนนับดาวก็ว่าได้

“ได้ งั้นมึงเตรียมตัวเข้าไปนอนในตารางได้เลย ไม่เกินพรุ่งนี้กูจะเอาตำรวจไปจับมึง ถ้ามึงยังไม่ยกเลิกเรื่องบ้าๆ พวกนี้ กูให้โอกาสพวกมึงตัดสินใจอีกครั้ง” ผมไม่ได้ขู่พวกมันแต่ผมจะทำจริงๆ ถ้ามันยังขืนยุ่งกับคนสวยของผม ผมจะเอาเรื่องมันให้ถึงที่สุด

    “กูว่าเราไปกันเถอะมึง ท่าจะไม่ดีแล้ว” พอไอ้คนหนึ่งพูดอีกคนก็ลุกขึ้นวิ่งหางจุกตูดไปเลย
ผมหันไปมองคนที่นั่งกอดตัวเองตัวสั่นด้วยท่าทางน่าสงสารเสียเหลือเกิน น้ำตาหยดเล็กๆ ยังไม่หายไปจากดวงตาเรียวสีน้ำตาลคู่นั้น

“ไม่เป็นไรแล้วครับคนดี ไม่ร้องนะครับ” ผมปลอบคนตัวเล็กพร้อมกับถือวิสาสะดึงร่างบางเข้ามากอด

“ขะ...ขอบคุณ ขอบคุณฮะ ฮึกกก” เสียงสะอื้นดังซะจนผมใจหาย สงสารจับใจ ยกมือปาดน้ำตาที่ไหลรินไม่มีท่าทีว่าจะหยุด

 “ผะ...ผมทรมาน เป็น...ฮึกกก.. อะไรไม่รู้ มันร้อนไปหมดเลย”

“ไม่เป็นไรครับ กลับบ้านกันนะเดี๋ยวก็หาย” ผมรู้ว่าเขาโดนอะไรมา แต่ก็ไม่อยากบอกให้เขากลัวไปมากกว่านี้ ผมพยุงเขาขึ้นรถของผม ก่อนที่จะตัดสินใจขับรถพาเขาไปคอนโดของผมเอง ไม่ใช่ว่าผมคิดอกุศลกับพาย แต่ผมคิดว่าถ้าพาเขากลับบ้านตอนนี้คงไม่ดีแน่ เพราะดูเหมือนตอนนี้สติของคนตรงหน้าจะไม่เหลือแล้ว ผมต้องช่วยเขาก่อน

“ร้อน...อึก ร้อนมาก ทรมาน” ปากก็พูด มือก็พยายามที่ตะถอดเสื้อของตนเองออก จนผมต้องดึงมือคนที่ไม่มีสติไว้สุดฤทธิ์ อีกมือก็พยายามบังคับรถให้ตรงทาง ยิ่งเห็นผิวขาวๆ ที่โผล่พ้นเสื้ออกมายิ่งทำให้ใจผมสั่น แทบจะบังคับตัวเองไม่ได้ ยังดีที่คอนโดผมอยู่ไม่ห่างจากผับนี้มากเท่าไหร่ จึงสามารถกลับมาถึงคอนโดได้อย่างปลอดภัย
*********************
เดี๋ยวมาต่อนะคะ ฝากเม้นให้เราด้วยน้า เราก็เหมือนเด็กอนุบาลเพิ่งหัดเขียน กไก่  อยากได้กำลังใจ  เด็กเริ่มหัดเขียนคุณครูยังมีดาวให้ ส่วนเราขอแค่กำลังใจเล็กๆ น้อยๆ ก็ยังดี :impress3:

ออฟไลน์ nunuchhh

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 72
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1
รอเลยตื่นเต้น

ออฟไลน์ angelnan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-5
หวังว่าพาย คงยังไม่เสียตัวนะ หลับไปเลยเถอะพาย ยังไม่อยากให้ได้กัน

ออฟไลน์ MooKratai

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 89
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-0
ผมอุ้มคนตัวเล็กที่แทบจะไม่มีสติเดินตรงมาที่ห้อง ก่อนจะเดินตรงไปเปิดน้ำในอ่างเพื่อให้คนที่โดนยาได้เข้าไปแช่เพื่อให้ผ่อนคลายลงบ้าง ผมกลับออกมาจากห้องน้ำอีกครั้ง พายที่ตอนแรกผมปล่อยให้เขาอยู่ในห้องนอน กลับถอดเสื้อผ้าของตัวเองแทบจะหมดทุกชิ้น เหลือเพียงกางเกงในตัวจิ๋วที่มือบางกำลังจะดึงรั้งออกจากร่างกายที่แทบจะเปลือยเปล่าขาวเนียนซะจนผมอยากจะขย่ำให้แหลกคามือ แต่ผมก็ไม่สามารถที่จะทำแบบนั้นกับคนตรงหน้าได้ ผมไม่อยากฉวยโอกาสในเวลาแบบนี้ ไม่อยากให้เขาเสียใจเวลาที่สติของเขากลับมาครบถ้วน ถึงแม้ผมอยากจะทำอะไรๆ กับเขาก็ตาม

“พายครับ ไปอาบน้ำนะเดี๋ยวก็หายนะ” ผมช้อนมือเข้าไปใต้ข้อพับขาของเขา มืออีกข้างก็ช้อนด้านหลังอุ้มคนไม่มีสติเข้าห้องน้ำ หย่อนตัวร่างบางลงไปในอ่างอาบน้ำ มือบางพยายามลูบไล้เนื้อตัวเปลือยเปล่าของตนเอง เพื่อผ่อนคลายความทรมาน

“ช่วยพายที พายทรมาน อึกกกก” พายพยายามเอื้อมือมาดึงผมเข้าหา ผมแทบคลั่งที่คนร่างกายกึ่งเปลือยทำหน้าตาเย้ายวน เรียกร้องให้ผมช่วยเขา แต่ผมก็ต้องอดทน อย่างที่บอกว่าผมไม่อยากให้เขาเสียใจ

“อดทนนะครับคนดี” ผมทำได้เพียงแค่ปลอบแล้วเอื้อมมือไปลูบหลังให้เขาเพื่อผ่อนคลาย แต่ก็ไม่มีท่าทีว่าเขาจะดีขึ้น มือบางพยายามรูดรั้งแก่นกายตัวเองที่ตอนนี้มันพองขึ้นพร้อมกับอารมณ์ต้องการของคนตัวเล็ก

“จูบพาย จูบพายหน่อย” เสียงหวานสั่นพร่าอ้อนราวกับจะขาดใจ ผมที่พยายามใจแข็งก็แทบจะทนไม่ไหวเหมือนกัน เพราะลูกชายของผมมันตื่นตัวตั้งแต่คนตรงหน้าพยายามถอดเสื้ออยู่ในรถแล้ว คนอย่างผมจะทนได้ซักกี่น้ำที่ต้องมาเห็นร่างกายขาวบางตรงหน้าแต่กลับอะไรไม่ได้

“ชะ...ช่วยพายนะ อือออออ อึก” พายพยายามดึงมือผมมาจับแก่นกายของเขา เพื่อปลดปล่อยเขาจากความทรมาน ตอนนี้ผมก็ทรมานไม่ต่างกับคนที่โดนยาปลุกเซ็กตรงหน้านี้หรอก ผมรูดรั้งแก่นกายเล็กที่ตื่นตัวจนต้องทำหน้าเหยเกด้วยความเสียวปนทรมาน เขายื่นหน้าเข้ามาจูบผม มือเล็กรั้งท้ายทอยผมให้รับจูบของเขา แม้ว่าพายจะมีความต้องการมากเพียงไร แต่ความไม่ประสาของเขากลับทำให้ผมมีความต้องการมากขึ้น ผมแทบจะคลั่งเมื่อคนตรงหน้าจูบผม

“อื้ออออ มันแปลกๆ อ่ะ อึกกกก พายไม่ไหว ไม่ไหวแล้ว” น้ำสีขาวขุ่นพุ่งออกมาจากแก่นกายเล็ก ทำให้คนตรงหน้าผมผ่อนคลายลงบ้าง แต่ร่างกายของเขากลับยังร้อนรุ่มเหมือนเดิม แต่ดูจะรุนแรงขึ้นด้วยซ้ำ ทำไมเขายังไม่ผ่อนคลายลงอีกนะ

“คุณช่วยพายที พายไม่ไหวแล้ว ช่วย... เอาของคุณเข้ามาข้างในตัวพายที” ร่างบางขยับเข้าหาผมอีกครั้ง มือเล็กพยายามรูดรั้ง
แก่นกายใหญ่โตของผม ผมโคตรเสียว ทรมาน อยากจะเข้าไปในตัวคนตัวเล็กตรงหน้าตาคำเชื้อเชิญของคนไร้สติซะตอนนี้เลย

“อึก ถ้าผมทำแบบนั้น อ่า... จะต้องเสียใจนะพาย รู้ใหมว่าสิ่งที่คุณต้องการมันเท่ากับทำลายตัวคุฯเองเลยนะ” ผมโน้มน้าวเขาทั้งๆ ที่ร่างกายผมก็ตื่นตัวจนเต็มที่แล้ว ไม่อยากให้เขาตื่นมาแล้วเกลียดผม เพราะผมเป็นคนพรากความบริสุทธิ์ของเขาไป

“พะ พายรู้ ช่วยพายนะ เข้ามาในตัวพาย พายต้องการคุณ” เพราะความต้องการทางกามารมอยู่เหนือความผิดชอบชั่วดีแล้วตอนนี้ ผมก็เป็นแค่ผูชายชั่วๆ คนหนึ่ง ที่พยายามหักห้ามใจแล้วแต่ก็ทำไม่ได้ ผมช้อนตัวอุ้มพายในท่าเจ้าสาวตรงไปยังเตียงนอน เพราะผมรู้ดีว่านี่เป็นครั้งแรกของเขา อีกทั้งยังโดนยามาอีก ความต้องการที่มีมากเกินไป จนบางครั้งร่างกายที่ไม่เคยผ่านเรื่องแบบนี้มาอาจทนไม่ไหวก็ได้

ผมวางพายลงบนเตียงกว้างขนาดคิงส์ไซส์ มือบางไขว่คว้าผมเข้าไปกอด พยายามจูบผมครั้งแล้วครั้งเล่า ผมทนไม่ไหวแล้วจริงๆ จูบตอบพายอย่างเร่าร้อน ลิ้นเล็กที่ทำตามผมอย่างเงอะงะ ไม่ค่อยประสาแต่ก็พยายามทำตามที่ผมสอนอย่างตั้งใจ ลิ้นอุ่นของผมควานหาความหอมหวานภายในปากเล็กนั่นอย่างไม่รู้จักเบื่อ  มืออีกข้างของผมก็รูดรั้งก้อนเนื้อปูดโปนขนาดพอดีตัวเพื่อผ่อนคลายอารมณ์คนตรงหน้าลง

“มะ ไม่เอาแบบนี้ อึก เอาของคุณ ได้โปรด” กายเล็กบิดไปมาเพื่อระบายความเสียวซ่าน

“ถ้าผมทำเลย คุณจะเจ็บมากเข้าใจไหมเด็กดี ผ่อนคลายนะผมจะค่อยๆ เบิกทางให้คุณเอง” มือใหญ่ชะโลมโลชั่นใส่นิ้วตนเอง ก่อนจะไล้วนที่บั้นท้ายกลมกลึงอย่างใจเย็น นิ้วเรียวค่อยๆ ผ่านช่องทางคับแคบสีสดทีละนิ้ว ใบหน้าเหยเกของคนตัวเล็กตรงหน้ายิ่งปลุกเร้าอารมณ์เขามากขึ้น เกิดมาจนสามสิบปีผ่านผู้หญิงมาทุกรูปแบบ หน้าอกตู้มๆ ก็ผ่านมาหมดแล้ว แต่ทำไมถึงรู้สึกว่าคนตรงหน้านี้เซ็กซี่กว่าใครที่เคยผ่านมา

“เจ็บ เจ็บจัง อึกกกอ่า” พายส่งเสียงครางประท้วงเมื่อผมสอดนิ้วที่สองเข้าไปทางช่องทางคับแคบสีสวยนั้น

“ผ่อนคลายนะพาย ฉันจะใส่นิ้วที่สามแล้วนะ” พูดยังไม่จบผมก็จัดการแหย่นิ้วที่สามเข้าไปได้สำเร็จ ชักเข้าชักออกเพื่อให้ร่างกายของพายปรับตัวเข้ากับความใหญ่โตที่จะเข้าไปแทนที่นิ้วทั้งสามในอีกไม่ช้า ผมค่อยๆ ดึงนิ้วออกมา สอดใส่ความใหญ่โตของผมเข้าไปแทนที่ จนพายสะดุ้งสุดแรง ผมต้องก้มลงไปจูบปลอบเพื่อให้เขาคลายความเจ็บ และหันไปสนใจจูบร้อนแรงของผมแทน จนในที่สุดผมก็จัดการมันเข้าไปจนสุดทางจนได้ ก่อนที่จะหยุดร่างกายไว้ยังไม่ขยับ เพื่อให้ร่างเล็กปรับเข้ากับส่วนใหญ่โตของผมอีกครั้ง

“ผมขยับได้รึยัง” ร่างเล็กเพียงแค่พยักหน้าน้อยๆ เท่านั้น ผมเริ่มขยับช้าๆ เนิบๆ เพราะไม่อยากให้เขาเจ็บมากเกินไป ก่อนจะค่อยๆ เร่งจังหวะเร็วขึ้น เมื่อคนตัวเล็กเริ่มส่งเสียงเป็นสัญญานราวกับว่าให้เร่งจังหวะให้เร็วขึ้น

“อ่า อึกกกก สะ เสียวจัง ระแรงกว่านี้ได้ไหม”

“อ่า แรงกว่านี้เหรอ” ผมกระแทกจังหวะใส่คนตัวเล็กสุดแรง

พับ พับ พับ เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังเป็นจังหวะ

“เรียกชื่อผมสิพาย เรียกพี่คิณเร็วๆ” ผมอยากได้ยินเขาเรียกชื่อของผม ไม่อยากเป็นแค่คนแปลกหน้าที่มีอะไรกันแค่คืนเดียวแล้วก็จบ

“พะ พี่คิณ พายไม่ไหวแล้ว เร็วๆ ได้ไหม” ผมกระแทกแรงๆ ใส่พายอีกสามสี่ทีจนน้ำสีขาวขุ่นพุ่งออกมาเลอะหน้าท้องเนียน พายทรุดตัวลงนอนหมดแรง ผมกระแทกต่ออีกสักพักก็ปลดปล่อยน้ำสีขาวขุ่นเข้าไปช่องทางเล็กของคนที่นอนหอบหมดแรงอยู่ตางหน้า

ผมคิดว่ายาจะหมดฤทธิ์แล้ว แต่ผมกลับคิดผิด เมื่อพายพยายามที่จะทำกับผมต่อรอบที่สอง สาม สี่ แม้ว่าร่างเล็กจะหมดแรง แต่ความต้องการทางกายกลับมีมากกว่า จนร่างบางสลบไปในรอบสุดท้าย ผมจัดการอาบน้ำทำความสะอาดให้คนตัวเล็กจนเรียบร้อย ก่อนจะกลับมาเปลี่ยนผ้าปูที่นอนผืนใหม่ เพื่อให้คนข้างๆ ได้นอนหลับอย่างสบายตัว
 
เสียงโทรศัพท์ของพายดังขึ้นหลังจากที่เราเสร็จกิจกรรมมาได้ซักพัก ผมถือวิสาสะหยิบขึ้นมารับเมื่อเห็นว่าเป็นเบอร์ของน้องชายคนที่หลับไม่รู้เรื่องตอนนี้ ที่บ้านเขาอาจจะเป็นห่วง

“ฮัลโหล” ผมกรอกเสียงไปตามสายโทรศัพท์

“นั่นใครพูดฮะ ใช่โทรศัพท์พี่พายรึเปล่า” ปลายสายเอ่ยถามเสียงสั่น

“ใช่ครับ พอดีพายเขาหลับไปแล้ว ผมเลยรับแทน”

“ทำไมพี่พายไม่กลับมานอนที่บ้านล่ะฮะ”

“พายเขาดื่มนิดหน่อยก็เลยเมา ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ เดี๋ยวตอนเช้าผมจะไปส่งถ้าเขาสร่างเมาแล้ว”

“คุณเป็นเพื่อนพี่พายเหรอฮะ ชื่ออะไร แล้วพี่พายเป็นอะไรมากรึป่าว”

“ใช่ครับ ผมชื่อคิณ ส่วนพายไม่ได้เป็นไรมากหรอกแค่เมานิดหน่อยเลยหลับไปแล้ว”

“ฝากดูแลพี่พายด้วยนะฮะ เขาไม่เคยดื่มก็เลยเมาแบบนั้น”

“ครับ ผมจะดูแลอย่างดี” ผมรับปากเพื่อให้ปลายสายสบายใจที่รู้ว่าพี่ชายของตนไม่เป้นไร

“งั้นแค่นี้นะฮะ ไมรบกวนแล้ว”

“ครับ สวัสดีครับ” ผมวางสายไปอย่างห่วงๆ ดูท่าทางที่บ้านจะเป็นห่วงเขามาก ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง

ผมนั่งมองพายอยู่แบบนั้นจนเช้า มันบอกไม่ถูกว่าความรู้สึกที่มีต่อคนผู้ชายตรงหน้านี้เป็นยังไง รู้เพียงว่าไม่อยากให้เขาตื่นมาแล้วเสียใจ หรือไม่อยากให้เขารู้สึกไม่ดีกับผมเลยแม้แต่น้อย  แต่มันคงจะเป็นไปได้ยาก เพราะผมเป็นคนที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้ บางทีเขาอาาจะตื่นมาแล้วเกลียดผมไปเลยก็ได้ เพราะผมมันผิดตั้งแต่เริ่มต้น ที่รังแกคนที่ไม่มีสติแบบนั้น ผมควรจะหักห้ามใจตัวเองแต่กับทำไม่ได้เลย ยิ่งคิดมาถึงตรงนี้ก็ยิ่งรู้สึกว่าเขาน่าทนุถนอมมากเพียงไร ความน่ารักของเขาเวลาที่เรียกร้องเรื่องอย่างว่ามันช่างทำให้ผมต้องการเขามากขึ้น แต่ผมก็ไม่คิดจะรังแกเขาไปมากกว่านี้แล้ว

ผมอยากให้การเริ่มต้นของผมกับเขาเป็นสิ่งที่ดีๆ แต่มันกลับตรงข้ามไปหมดทุกอย่าง ผมจะทำยังไงดี อยากจะเริ่มต้นทุกอย่างใหม่แต่ก็ทำไม่ได้ ผมอยากจะรับผิดชอบความผิดในครั้งนี้ของผมถ้าเขาต้องการ  หรืออาจจะเป็นความต้องการของผมคนเดียวก็ว่าได้ ผมทำกับเขาตอนที่เขาไม่มีสติรู้ผิดชอบชั่วดี แต่ผมรู้เรื่องทุกอย่างตั้งแต่ต้น ยิ่งคิดผมก็ยิ่งปวดหัว ผมยอมรับว่ารู้สึกดีกับเขาตั่งแต่แว๊บแรกที่เจอกันที่ร้านอาหาร อยากจะเข้าไปทำความรู้จักตั้งแต่ตอนนั้น อยากจจะจีบ อยากสานความสัมพันธ์แต่ทุกอย่างกลับไม่เป็นใจ
ผมยกมือขึ้นลูบใบหน้าเนียนอย่างแผ่วเบา เส้นผมสีน้ำตาลที่ลู่ลงมาปิดหน้ายามที่คนหลับไม่รู้ตัว ช่างทำให้เขาน่ารักเสียจนผมแทบคลั่ง ใบหน้าสวยได้รูปหลับตาพริ้มเหมือนอย่างกับว่าไม่มีเรื่องทุกข์ร้อนใดๆ ในใจ

“คุณตื่นขึ้นมาเมื่อไหร่ เราคงมีเรื่องต้องคุยกันอีกเยอะนะคนดี” ผมนั่งหลับตาอยู่ข้างๆ เขาอย่างนั้น แต่ผมไม่ได้หลับ รับรู้ถึงการขยับตัวยุกยิกของคนข้างกาย เขาพยายามลืมตาขึ้นมาอย่างยากลำบาก

“อืออออ เจ็บ เจ็บจัง” มือบางเลื่อนไปจับสะโพกตนเองบ่งบอกความหมายว่าเขาเจ็บตรงไหน เขาพยายามปรับดวงตาเข้ากับแสง และเหมือนว่ากำลังคิดทบทวนเรื่องราวต่างๆ สีหน้ายุ่งๆ ของคนข้างๆผม สร้างความเอ็นดูให้กับผมซะเหลือเกิน จนกระทั่งเขาหันมาสบตากับผม อาการตระหนกอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนปรากฎขึ้นบนใบหน้าเนียนใสที่ตอนนี้เริ่มจะซีดเซียวลง

“คะ คุณ ผมขอเข้าห้องน้ำหน่อยได้ไหม” เป็นคำแรกที่เขาเอ่ยขึ้นหลังจากนิ่งเงียบไปสักพัก

“ห้องน้ำอยู่ทางนั้น” ผมชี้มือบอกทางให้กับคน่ไม่ยอมหันมาสบตากับผมเลยแม้แต่น้อย

“ขอบคุณครับ” ร่างบางพยายามลุกขึ้นจากที่นอนอย่างยากลำบาก เขาทำหน้าเหยเกเหมือนกับว่ามันเจ็บมาก แต่ก็พยายามฝืนลุกขึ้นด้วยตัวเอง ผมอยากจะเข้าไปพยุงเขา แต่ผมก็เป็นแค่คนแปลกหน้าที่ดูท่าทางแล้วเขาไม่ต้องการความช่วยเหลือจากผมเลยแม้แต่น้อย ร่างเล็กพาตัวเองเดินไปหเองน้ำด้วยท่าทางระมัดระวัง กว่าจะผ่านไปแต่ละก้าวช่างยากเย็นเหลือเกิน เขาเซเหมือนจะล้มก็หลายครั้ง

เสียงเปิดน้ำในห้องน้ำดังออกมาพอให้ผมได้ยิน เขาอาจจะกำลังล้างหน้าล้างตาอยู่หรืออาจจะสับสนอยู่ก็ได้ เสียงของคนในห้องน้ำเงียบไปสักพัก ก่อนที่ผมจะได้ยินเสียงสะอื้นแว่วมาจากในห้องน้ำ เขาร้องให้เพราะผม คนตัวเล็กใช้เวลาในห้องน้ำนานพอสมควร จนผมอดเป็นห่วงไม่ได้ ขณะที่ผมนั่งลังเลอยู่ว่าจะเอากุญแจสำรองไปเปิดดีหรือไม่ เขาก็เปิดประตูออกมาจากห้องน้ำด้วยดวงตาที่แดงก่ำแต่ไม่มีอาการสะอื้นให้เห็นแล้ว ร้องให้จนตาบวมสินะ

“เสื้อผ้าผมอยู่ไหนเหรอครับ” เขาพยายามบังคับเสียงตัวเองไม่ให้สั่น

“ผมส่งซักอยู่ อีกไม่เกินชั่วโมงน่าจะเสร็จ” เขายืนเก้ๆกังๆอยู่กลางห้อง มือเล็กประสานกันแน่นจนแทบจะสั่น

“เรามาคุยกันหน่อยดีไหม” เขาเงยหน้ามองผม เป็นครั้งแรกที่เขาหันมาสบตากับผม ดวงตาสีน้ำตาลสั่นระริกอยู่ในที น้ำใสๆ คลออยู่ที่หน่วยตาอย่างเห็นได้ชัด

“คะ คุย อะไรเหรอครับ”

“ออกไปนั่งคุยกันดีๆ ข้างนอกดีกว่า” ผมถือสิสาสะดึงมือนิ่มให้เดินตามผมออกไปนั่งตรงโซฟาห้องรับแขก ผมรั้งให้ร่างเล็กนั่งลงข้างๆ ผมในโซฟาตัวยาว ‘เอาแต่ก้มหน้าอีกแล้ว’

“เงยหน้ามาคุยกันดีๆ ได้ไหม” สายตาของเขาที่ดูเหมือนจะกลัวผมหน่อยๆ จนทำให้ผมรู้สึกเอ็นดูปนสงสารเขามากกว่าเดิม
 
“มะ มีอะะไรจะคุยกับผมเหรอครับ” เขาเงยหน้ามามองผมเพียงแว๊บเดียว ก่อนจะก้มหน้ามองมือตัวเองที่ประสานกันอยู่บนตัก

“เรื่องของเรา ผมยินดีที่จะรับผิดชอบทุกอย่าง” ผมยื่นข้อเสนอให้กับคนที่นั่งข้างๆ โดยที่ไม่คิดจะหันมาคุยกับผมดีๆ เลยแม้แต่น้อย

“มะ ไม่ต้องรับผิดชอบอะไรทั้งนั้นครับ ผมผิดเอง” น้ำเสียงสั่นๆ เจือด้วยความหวาดระแวงของเขายังคงไม่หายไป ทั้งๆ ที้ผมยินดีจะรับผิดชอบทุกอย่างแต่เขากลับปฏิเสธมัน ผมรู้สึกผิดหวังจริงๆ ถ้าเป็นคนอื่นคงกระโจนใส่ผมแล้วเรียกร้องความรับผิดชอบจากผมไปแล้ว

“ทำไมคุณถึงพูดแบบนี้ นี่มันครั้งแรกของคุณไม่ใช่เหรอ”

“ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเพราะผม ผมเป็นคนเรียกร้องมันจากคุณเอง อีกอย่างผมก็เป็นผู้ชายมันคงไม่เสียหายอะไรมากนักหรอก” เขาเอ่ยพร้อมกับฝืนยิ้มขื่นๆ ให้กับผม เขาแสร้งทำเหมือนว่าตัวเองไม่เป็นอะไร รับได้กับเหตุการณ์เมื่อคืนที่เกิดขึ้น แต่ความจริงกลับแอบร้องให้จนตาบวม นี่น่ะเหรอคนไม่เป็นอะไร

“คุณทำเหมือนกับว่าไม่แคร์ เหมือนกับคุณผ่านโลกมาเยอะอย่างนั้นแหละ ทั้งๆ ที่คุณเสียใจอย่างนั้นเหรอ” ผมตอกย้ำความเจ็บปวดให้กับเขาอีก ในเมื่อเสียใจแต่ทำไมกลับทำเหมือนว่าไม่มีอะไร ทำไมต้องเสแสร้งว่าตัวเองเข้มแข็งอย่างนั้นเหรอ

“ผมไม่เป็นไรจริงๆ....” ร่างบางพูดยังไม่ทันจบ เสียงออดหน้าห้องผมดังขึ้น พร้อมกับแม่บ้านที่นำชุดของพายมาส่งให้

“ผมขออาบน้ำแล้วกลับเลยได้ไหมฮะ” แค่ฟังเขาพูดแค่นี้ความโกรธของผมก็พุ่งสูงสุด จนต้องพุ่งไปกระชากเขาสุดแรง จนร่างบางเซมาปะทะอกผมอย่างไม่ได้ตั้งใจ

“คุยกันยังไม่จบ แล้วคุณคิดจะหนีปัญหาเหรอ” ผมตะโกนเสียงดังใส่คนตรงหน้า ที่ตอนนี้ตัวสั่นเป็นเจ้าเข้า ผมก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงโกรธเขามากเพียงนี้กับการที่เขาปฏิเสธผม เพราะถ้าเป็นคนอื่นผมคงดีใจที่ไม่ต้องมารับผิดชอบ แต่กับคนตรงหน้าผมตอนนี้ผมอยากดูแลเขาจริงๆ

“ปละ ปล่อย ผมเจ็บ” มือบางพยายามแกะมือของผมออกจากการเกาะกุมแขนของเขา แต่มีหรือที่แรงคนตัวเล็กจะสู้ผมได้

“ผมไม่ปล่อย จนกว่าเราจะพูดกันรู้เรื่อง” ผมยังคงดื้อดึงที่จะคุยกับเขาต่อ ผมรู้ว่าผมเป็นคนไม่มีเหตุผลเอาเสียเลยตอนนี้ แต่ผมก็ไม่ยอมที่จะเสียเขาไปเหมือนกัน

“เราไม่มีอะไรต้องคุยกันแล้ว มันจบแล้ว คุณจะรับผิดชอบผมในฐานะอะไร แล้วแฟนคุณล่ะ แล้วครอบครัวคุณอีก ใครเขาจะรับได้ อีกอย่างเราก็ไม่ได้รักกัน คุณไม่ได้รักผม ผมไม่ได้รักคุณ” เขาคงจะหมดความอดทนกับความดื้อรั้นของผม จนพรั่งพรูคำพูดต่างๆ ที่เก็บเอาไว้ในใจออกมาจนหมด

“ใครจะคิดยังไงก็ช่าง ฉันไม่สน ฉันสนแค่ความรู้สึกของเธอเท่านั้น” ผมกอดร่างบางที่ตอนนี้สะอื้นให้อยู่กับอกผม ผมไม่อยากปล่อยเขาไปทั้งๆ ที่ยังคุยกันไม่รู้เรื่องแบบนี้หรอก

“มันไม่มีประโยชน์ อึกกกก...อะไรที่เราจะทำแบบนี้” เสียงเล็กอู้อี้อยู่กับอกของผม

“ถ้าอย่างนั้นเรามาเริ่มต้นกันใหม่ได้ไหม เริ่มต้นในแบบที่ถูกต้อง” ผมยื่นข้อเสนอที่คิดว่าเขาพอจะรับได้ให้กับเขา

“มะ หมายความว่ายังไง” เขาผละออกจากอกผม เงยหน้าขึ้นมามองผมตาแป๋วเชียว ทั้งๆ ที่ยังมีคราบน้ำตาไหลอาบแก้มเนียนใส น่ารักชะมัด

“ผมจะเริ่มต้นจีบคุณ ตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป เตรียมรับมือผู้ชายอย่างผมไว้ให้ดีก็แล้วกัน” ผมพูดพร้อมกับทำเสียงเจ้าเล่ห์จนเขาทำหน้าสงสัย แก้มนวลซับสีเลือดขึ้นมานิดหน่อย สงสัยจะเขินสินะที่ผมรุกเขาแบบไม่ทันตั้งตัวแบบนี้

“ผะ ผมจะไปอาบน้ำ จะกลับบ้านแล้ว” พูดจบร่างบางก็ตรงเข้าห้องน้ำไม่รู้ว่าเขาได้ยินสิ่งที่ผมตะโกนตามหลังเขาไปรึเปล่า

“เอาเป็นว่าตกลงตามนี้นะครับน้องพาย” ทำไมเขาน่ารักแบบนี้นะ น่ารักจนผมอยากจะครอบครองเขาไว้คนเดียว

‘ในเมื่อไม่ยอมให้รับผิดชอบ ผมก็จะจีบเขาด้วยวิธีของผม เตรียมตัวให้ดีนะครับพาย’
***************************************

ขอโทษคุณ angelnan ด้วยนะคะที่ทำให้ต้องผิดหวัง ที่นายเอกเสียตัวไปแล้วจริงๆ แต่ต่อไปหนูพายจะสตรองนะคะ  แล้วก็ขอบคุณที่เม้นให้ตลอดเลย  :monkeysad:


      TBC.

ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
ติดตามความสัมพันธ์ของคู่นี้ต่อ
ว่าแต่อย่าลืมไปจัดหนักให้ยายตัวบงการกับไอ้ตัวเจ้าชู้เรี่ยราดด้วยนะครับ

ออฟไลน์ kajeaw

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 529
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2
    • กาเจี๊ยว
น่าติดตามครับ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
จะเป็นยังไงต่อรอๆๆๆๆ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
พี่คิณน่ารักอยู่น้า ถึงจะดูโหดๆไปบ้างก็เถอะ
คาดว่าขี้หึงระดับสิบแน่ๆ

ออฟไลน์ nunuchhh

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 72
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1
สงสารน้องพาย เพื่อนนี่ก็ไม่อยากจะว่าเลย คิณ นี่สงสัยเอาแต่ใจตัวเองแน่ๆเลย แต่สนุกนะค่ะจะรออ่านนะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ :L2:

ออฟไลน์ MooKratai

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 89
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-0
หลานคุณย่า ตอนที่5 ความสับสน
[/size]

พาย ( Part)

ผมนั่งอยู่ในรถซุปเปอร์คาร์คันใหญ่ของผู้ชายที่ผมมีอะไรด้วยเมื่อคืนนี้ ผมทำตัวไม่ถูก ไม่รู้ว่าจะทำหน้าอย่างไร เมื่อต้องเผชิญกับคนตรงหน้าที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน อีกทั้งผมยังมีอะไรกับเขาแล้วด้วย เขาบังคับที่จะไปส่งผมที่บ้าน ทั้งๆ ที่ผมพยายามจะปฎิเสธแล้วแต่เขากลับไม่ยอม ส่วนรถของผมที่จอดอยู่ที่ผับเขาบอกว่าจะให้คนขับไปส่งที่บ้านให้

ความสับสนที่เกิดขึ้นในใจไม่รู้ว่าคนตรงหน้านี้คิดอะไร เพราะตั้งแต่ขึ้นรถมา ก็ไม่ได้มีบทสนทนาใดๆ ระหว่างผมกับเขานอกจากถามทางไปบ้านผมก็เท่านั้น ความเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนมันยังไม่หายไหน เพียงแต่มพยายามที่จะเข้มแข็ง ไม่ให้คนตรงหน้าสงสารก็เท่านั้น

ผมไม่ต้องการให้เขามารับผิดชอบอะไรผมทั้งนั้น เหมือนอย่างที่ผมคุยกับเขาก่อนหน้านี้ แม้ว่าผมจะโดนยาแต่ผมก็มีสติพอ และรู้ว่าเขาไม่ผิด คนที่ผิดคือผมที่เรียกร้องให้เขาทำแบบนั้นกับร่างกายที่ควบคุมไม่ได้เลยแม้แต่น้อยของตนเอง แต่เขากลับบอกว่าจะจีบผม มันหมายความว่ายังไง ผมไม่เข้าใจเขาเลยเลยแม้แต่น้อย หรือว่าเขาแค่พูดเล่นๆ ไปอย่างนั้น ผมสับสนเกินกว่าจะคิดอะไรไปมากกว่านี้แล้ว ผมนั่งหันหน้าไปทางหน้าต่างหลับตาลงอย่างอ่อนล้า ไม่อยากคิดอะไรแล้วตอนนี้

“พาย! พายเข้าซอยนี้เลยใช่ไหม” ผมสะดุ้งตกใจเพราะเสียงเรียกของคนที่ขับรถอยู่ขางๆ หลังจากที่ผมข่มตาหลับไปนานพอสมควร

“เอ่อ...ฮะ เลี้ยวซ้ายแล้วตรงไปประมาณห้าร้อยเมตรก็ถึงแล้ว” ผมหันไปมองทางก่อนที่จะบอกทางกับคนข้างๆ อีกไม่ถึงห้านาทีก็ถึงรั้วบ้านหลังใหญ่ ก่อนที่ผมจะลงจากรถเพื่อเข้าไปในบ้าน คนบนรถกลับเรียกผมอีกครั้ง

“ไม่คิดจะชวนผมเข้าบ้านเลยเหรอครับ” ผมทำหน้าไม่ถูกเลยด้วยซ้ำ  เขาจะเข้าไปทำไม ทั้ง ๆ ที่เราก็แทบจะไม่รู้จักกันเลยด้วยซ้ำ ผู้ชายตรงหน้าผมนี่น่ากลัวจริงๆ เลย

“เข้าไปรอคนเอารถมาส่งคุณไง ไม่กลัวผมขโมยรถเธอไปขายรึไง” สงสัยเขาคงเห็นหน้าตาเหรอหราของผม จึงบอกเหตุผลให้หายข้องใจ

“เอ่อ...งั้นก็เชิญครับ”

ตอนนี้เราทั้งสองคนกำลังนั่งอยู่ที่ห้องรับแขก โดยมีผู้อาวุโสของบ้านอย่างคุณย่านั่งอยู่ด้วย เป็นครั้งแรกที่ผมทำตัวไม่ถูกต่อหน้าคุณย่าคนที่เลี้ยงผมมาตั้งแต่เล็กจนโต อาจจะเป็นเพราะความผิดของผมที่ก่อขึ้นเมื่อคืนนี้ จึงไม่กล้าสบตาท่านเลยแม้แต่น้อย
“ทำไมกลับเอาป่านนี้น้องพาย” นั่นคือประโยคแรกที่คุณย่าเอ่ยออกมา
“เอ่อ....พาย” ผมเอ่ยออกมาได้แค่นั้น เพราะตั้งแต่เกิดมาไม่เคยโกหกคุณย่าเลยสักครั้ง จึงไม่รู้จะอธิบายกับท่านว่ายังไง

“พายไปนอนที่ห้องผมเองครับ พอดีพายดื่มไปนิดหน่อยเลยขับรถกลับไม่ไหว” คุณคิณเป็นคนตอบคุณย่า ซึ่งทั้งหมดที่เขาพูดออกมาคือคำโกหก ผมไม่รู้ว่าตอนนี้ควรทำอะไร จะตอบคุณย่าว่าอย่างไร ทำได้เพียงก้มหน้ามองมือตัวเอง

“แล้วคุณเป็นใคร ทำไมน้องพายถึงต้องไปพักด้วย จะว่าเป็นเพื่อนก็ไม่น่าใช่ เพราะดูน่าจะอายุห่างกันเยอะอยู่”  คุณย่าเอ่ยอย่างจับผิด มีหรือคนที่ผ่านโลกมาเยอะอย่างคุณย่าจะมองไม่ออกว่าเราสองคนไม่ได้เป็นเพื่อนกัน

“ผมเป็นรุ่นพี่ของพายครับไม่ได้เป็นเพื่อนหรอกครับ” คุณย่ายังคงสงสัยอยู่ในทีแต่ก็ไม่ถามอะไรต่อ เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเราสองคน

“แล้วเป็นยังไงบ้างน้องพาย ดีขึ้นรึยัง”

“ดะ...ดีขึ้นแล้วฮะคุณย่า” อ่า...โกหกคุณย่าอีกแล้ว ‘ขอโทษนะฮะคุณย่า’

“คราวหลังถ้าจะไปค้างที่ไหนโทรบอกที่บ้านบ้างก็ดีนะน้องพาย ไม่ใช่ว่าอยู่ๆก็หายไปเลย รู้ไหมว่าทุกคนเป็นห่วงขนาดไหน” คุณย่าทำหน้าดุใส่ผมอีกแล้ว ผมทำผิดจริงๆ แต่ก็ไม่อยากให้คุณย่าโมโห

“เข้าใจแล้วฮะ แล้วน้องพายก็ขอโทษที่ทำให้คุณย่าเป็นห่วง” ผมทำได้เพียงยกมือไหว้ขอโทษผู้มีพระคุณที่ต้องทำให้อดหลับอดนอนเพราะความเป็นห่วง

คุณคิณนั่งรอรถของผมที่ให้คนของเขาขับมาส่งให้ จึงขอตัวกลับ  เราไม่ได้คุยอะไรกันไปมากกว่านั้น เขาแค่คงต้องการแกล้งผมเล่นๆ เรื่องที่บอกว่าจะจีบผม แถมยังจะรับผิดชอบทุกอย่างอีก จะมีใครที่ไหนที่อยากยอมรับผู้ชายเหมือนกันมาเป็นเมียหรือแฟน เขาก็คงพูดไปอย่างนั้นแหละมั้ง

หลังจากนั้นผมก็คุยกับคุณย่าอีกนิดหน่อย จึงขอตัวขึ้นห้อง นอนเพื่อไปพักผ่อน ตอนนี้ผมรู้สึกเจ็บช่องทางด้านหลังเป็นอย่างมาก รู้สึกเหมือนกับจะเป็นไข้ด้วย แต่จะโทษใครได้นอกจากความโง่ของตัวเอง แค่คิดก็ปวดหัวจนไม่อยากจะทำอะไร ทิ้งตัวลงนอนบนเตียงนุ่มที่เวลาสัมผัสทุกครั้งทำให้ผ่อนคลาย  แต่ครั้งนี้กลับต่างไปจากทุกครั้ง  ไม่ได้รู้สึกผ่อนคลายลงเลยสักนิด ผมพยายามข่มตานอนหลังจากทานยาลดไข้เข้าไปแล้ว อาจจะเป็นเพราะฤทธิ์ยาจึงทำให้ผมเคลิ้มหลับไปในเวลาอันรวดเร็ว

เสียงเคาะประตูดังมาจากข้างนอก ทำให้ผมสลึมสลือตื่นขึ้นมาอย่างยากลำบาก  ลุกขึ้นไปเปิดประตูทั้งๆ ที่รู้สึกเสียดสีทางด้านหลังเป็นอย่างมาก แต่ก็ต้องพยายามเดินให้เป็นปกติ
 
“พี่พายเป็นยังไงบ้างฮะ คุณย่าบอกน้องบราวว่าพี่ไม่สบาย” น้องชายคนเล็กของบ้านเอ่ยถามผมด้วยความเป็นห่วง

“อือออ ไม่สบายนิดหน่อยน่ะ” ผมไม่อยากยืนนานๆ จึงเดินกลับไปล้มตัวลงนอนตามเดิม เพราะรู้สึกปวดหัวจนแทบจะระเบิดแล้วตอนนี้

“ตัวร้อนจังเลย ตัวทานยารึยัง” บราวนี่ยื่นมือมาอังหน้าผากและใบหน้าของผม ผมทำได้เพียงพยักหน้าเบาๆ ก็เท่านั้น

“เดี๋ยวเค้าเช็ดตัวให้ แล้วทานข้าวทานยานะ” น้องชายที่ดูนิสัยเหมือนเด็ก แต่เวลานี้กับอาสาดูแลผมที่ป่วย น้องชายตัวน้อยของผมโตแล้วสินะ รู้จักดูแลและเป็นห่วงคนในครอบครัวด้วย  เสียงพูดของบราวนี่เงียบไปแล้ว ได้ยินเพียงเสียงกุกกักดังอยู่ในห้อง น้ำ  แต่ผมก็ปวดหัวเกินกว่าที่จะลืมตาขึ้นมาดูว่าน้องทำอะไรอยู่ ปวดหัวจนลืมว่าตามตัวมีแต่ร่องรอยที่ไม่ควรจะให้ใครเห็นแม้แต่น้องชายของตนเอง ผมเบลอๆยาด้วยแหละเลยได้แต่นอนหลับตาอยู่อย่างนั้น

“เดี๋ยวบราวถอดเสื้อเช็ดตัวให้นะ”  น้องคนเล็กของบ้านเอ่ยกับพี่ชายที่ตอนนี้ไม่รู้ว่าหลับไปรึยัง เพราะไม่มีการตอบรับจากร่างบางที่นอนอยู่บนเตียง

ผมไม่ได้หลับหรอกแค่ไม่อยากลืมตาหรือพูดอะไรก็เท่านั้น ปล่อยให้เจ้าตัวแสบเช็ดตัวไปนั่นแหละดีแล้ว ผมนอนหลับสบายๆ แบบนี้ดีกว่า

“พะ..พี่พาย! ระ..รอยอะไรเต็มตัวเลย” บราวนี่ตะโกนออกมาเสียงดังจนผมต้องลืมตาขึ้นมาอย่างเสียไม่ได้ ก่อนที่สมองของผมจะประมวลเหตุการณ์อย่างช้าๆ ว่าเจ้าตัวแสบตกใจเรื่องอะไร ผมรีบดึงผ้าห่มขึ้นมาปกปิดร่องรอยน่าอายนั่น แม้ว่ามันจะไม่ทันแล้วก็ตาม ก่อนที่จะหันไปสบตากับน้องชายคนเล็กที่ตอนนี้มองผมอย่างไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่ตนเองเห็น

“พี่พายเจ็บมากไหม” คนที่ดูตกใจมากในตอนแรกกลับถามผมออกมาด้วยความเป็นห่วง จนผมแทบจะกลั้นน้ำตาไว้ไม่ไหว น้องชายผมไม่ถามเลยสักนิดว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของผม เขาดูแค่นี้ก็น่าจะรู้แล้ว

“จะไม่ถามพี่เหรอว่าเกิดอะไรขึ้น” จนผมเป็นฝ่ายที่ต้องถามกลับซะเอง เพราะรู้ว่าน้องคงสงสัยแต่ก็ไม่กล้าที่จะเอ่ยออกมา

“ถ้าพี่พายยังไม่อยากเล่าก็ไม่ต้องหรอกฮะ รอให้พี่สบายใจก่อนค่อยบอกน้องบราวก๊ได้ นอนพักเถอะเดี๋ยวเช็ดตัวให้นะฮะ”  เขาเช็ดตัวให้ผมอย่างเบามือ แรงสะอื้นน้อยๆ ของน้องชายคนเล็กทำให้ผมต้องลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง

“พี่ไม่เป็นไร ไม่ร้องนะ” ผมยกมือลูบหัวๆของน้องชายอย่างเอ็นดู

“ฮะ” เสียงตอบรับเพียงสั้นๆ ของเขาทำให้ผมใจหาย คนที่ร่าเริงตลอดเวลากำลังร้องให้เพราะผมซึ่งเป้นพี่ชาย

“ไม่เอาไม่ร้อง พี่บอกแล้วว่าไม่ได้เป็นอะไรมาก”

“อืออออ...ไม่ร้องแล้ว” เขาเช็ดตัวให้กับผมจนเสร็จก่อนที่จะหาเสื้อผ้าชุดใหม่มาให้ผมใส่  ผมจึงหลับอีกรอบ

ตื่นขึ้นมาอีกทีก้ไม่รู้ว่ากี่โมงแล้ว รู้เพียงแต่ว่าเจ้าตัวแสบยังนั่งเฝ้าผมอยู่ที่เดิม แต่ตอนนี้นั่งสัปหงกจนหัวแทบจะโขลกกับเตียงนอนแล้ว

“บราว...น้องบราวกลับไปนอนที่ห้องตัวเองได้แล้ว”

“อืออออ....พี่พายเป็นไงบ้าง ดีขึ้นรึยัง”  มือบางยื่นมาแตะหน้าผากผมเพื่อวัดไข้

“ตัวยังร้อนๆ อยู่เลย เดี๋ยวทานข้าวนะฮะ จะได้ทานยา” พูดจบปุ๊บก็เดินออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว อีกสักพักเขาก็กลับมาพร้องกับข้าวต้มอีกชาม ผมทานข้าวต้มได้ไม่เยอะเพราะรู้สึกคอแห้งเวลากลืนข้าวลงไปแต่ละคำรู้สึกบาดคอชะมัด

“ทานอีกนิดสิฮะ ยังเหลือตั้งเยอะ” น้องชายผมยื่นช้อนที่ตักข้าวต้มจนเต็มคำมาให้ผม จำต้องอ้าปากรับทั้งๆ ที่เจ็บคอมาก

“พอแล้วน้องบราว พี่ทานไม่ไหวแล้ว”

“ง้นก็ดื่มน้ำอุ่น แล้วก็ทานยานะฮะ วันนี้น้องบราวจะนอนเป็นเพื่อน” หลังจากนั้นเขาก็กลับไปห้องตัวเอง อาบน้ำเปลี่ยนชุดนอนเรียบร้อย

คุณย่าขึ้นมาเยี่ยมตั้งแต่หัวค่ำตอนที่ผมยังนอนอยู่  หลังจากพี่ซองกลับมาจากทำงานก็ขึ้นมาดูอาการผมเช่นกันแต่ผมก็หลับเพราะฤทธิ์ยาเลยไม่รู้ว่าเข้ามาเยี่ยมกันตอนไหน มีเพียงน้องบราวเท่านั้นที่รู้เรื่องของผม เขาจึงพยยามเฝ้าผมตลอดเวลา เพื่อไม่ให้คนอื่นในบ้านเห็นรอยแปลกๆ ในตัวผม

‘คืนที่แสนจะเหนื่อยล้า ทั้งกายและใจแต่ก็ยังมีน้องชายอยู่เคียงข้าง’
**********************************

จบไปอีกตอน  ตอนนี้สั้นไปหน่อย จะพยายามๆ สู้ (นักเขียนอนุบาล) :กอด1: กอดๆๆๆเพิ่มความอบอุ่นในหัวใจ


             TBC.

ออฟไลน์ angelnan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-5
ไม่เป็นไรจ้า แต่งตามที่ว่าง พอร์ตเรื่องไว้เลยจ้า ติดตามน้า

ออฟไลน์ nunuchhh

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 72
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1
พี่น้องรักกันมากดีจังเลย เรื่องน่ารักมากเลยค่ะ

ออฟไลน์ xirainx@gamil.com

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ MooKratai

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 89
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-0
พี่น้องรักกันมากดีจังเลย เรื่องน่ารักมากเลยค่ะ

เราตั้งใจแต่งให้เป็นแนวครอบครัวนะ แต่ไม่รู้ว่ามันจะออกมาดีรึป่าว ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ MooKratai

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 89
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-0
หลานคุณย่า6 จีบ?
[/size]
 
พาย(Part)

หลังจากที่ผมป่วย ก็ผ่านมาเกือบอาทิตย์แล้ว ชีวิตผมยังคงดำเนินไปตามปกติ เหมือนๆ กับที่เคยเป็น แต่ที่ต่างออกไปคือมีดอกไม้ส่งมาให้ผมทุกวัน จนผมแทบจะทำหน้าไม่ถูกเลยด้วยซ้ำ แต่สิ่งที่แปลกกว่าอะไรทั้งหมดก็คือดอกไม้ที่ถูกส่งมาให้ มันไม่ใช่กุหลาบ คาร์เนชั่น ลิลลี่ หรืออะไรเทือกนั้น แต่มันคือดอกกล้วยไม้  กล้วยไม้จริงๆ นะครับผมไม่ได้พูดผิดหรอก ดอกกล้วยไม้สีม่วง สีขาว สีส้ม ชมพู ถูกส่งมาเปลี่ยนสีไปเรื่อยๆแล้วแต่วัน จนพวกน้องๆ ในร้านแซวว่าพ่อดอกกล้วยไม้ที่ส่งดอกไม้มาแทนเจ้าตัวนี้ทำไมไม่มาให้พวกเขาเห็นหน้าสักที เพราะผมไม่ได้บอกคนอื่นว่าเขาเป็นใครทั้งๆ  ที่ผมรู้อยู่แก่ใจ ข้อความที่ถูกถ่ายทอดมาในการ์ดใบเล็กก็เพียงสั้นๆ เท่านั้น

'จากคนที่คุณก็รู้ว่าใคร'

"ใจลอยไปหาพ่อดอกกล้วยไม้เหรอฮะ" เสียงมินดังขึ้นขณะที่ผมนั่งคิดถึงเจ้าของดอกกล้วยไม้จริงๆ นั่นแหละ

"พี่จะไปคิดถึงเขาทำไม ไม่ได้เป็นอะไรกันซักหน่อย" ตอนนี้เราสองคนอยู่ในครัว กำลังเร่งทำเค้กเพื่อให้ทันกับช่วงเวลาที่ลูกค้าเข้า

"อ้าว! ก็มินเห็นพี่แอบลอบยิ้มทุกครั้งที่ได้รับดอกกล้วยไม้นี่ฮะ"

"พี่แค่คิดว่าคนที่เอาดอกกล้วยไม้มาจีบคนอื่นนี่คิดอะไรอยู่ก็แค่นั้น" ผมเอ่ยอย่างที่ใจคิด เพราะตั้งแต่เกิดมา ผมก็ไมเคยเห็นใครส่งดอกกล้วยไม้มาให้กับคนที่ตนสนใจซักคน

"ไม่เห็นต้องสงสัยเลยฮะ พ่อดอกกล้วยไม้ของพี่พายอาจจะทั้งรักทั้งบูชาพี่พายเลยส่งมันมาแทนความรู้สึกไง" เสียงใสตะโกนมาก่อนตัวของน้องชายผมเอง ทั้งขี้โวยวายแล้วก็เสียงดังเป็นที่สุด

"บ้าเหรอบราว พี่พายไม่ใช่พระนะจะได้เอาดอกกล้วยไม้มาบูชา" มินเอ่ยขัดขึ้นซึ่งมันก็ตรงกับความคิดของผมพอดี

"ทะลึ่งใหญ่แล้วนะ เอาพระสงฆ์องคเจ้ามาล้อเล่น"

"ขอโทษคร้าบบบ" เสียงทะเล้นเอ่ยขึ้นอย่างไม่ได้สำนึก

"เออ!.น้องบราวลืมไปเลย ว่าพ่อดอกกล้วยไม้ส่งกำลังใจมาให้พี่พายแล้วนะฮะวันนี้"

"สีอะไรอ่ะ” มินเอ่ยขึ้นเพราะเป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่ามันคืออะไร

"สีออกชมพูๆ อมม่วงอ่ะสวยมากเลย" ผมพยายามตีสีหน้าขรึมเพื่อไม่ให้ริมฝีปากบางๆ ของผมยกยิ้มขึ้น แต่ก็ยังมิวายเดินออกจากครัวในทันที

ถึงมันจะเป็นดอกกล้วยไม้ก็จริงแต่มันไม่ใช่แบบตามท้องตลาดที่เขาเอาไว้สำหรับว่าพระ แต่มันค่อนข้างที่จะแพงแบบที่คนรวยๆ เขานิยมเลี้ยงกันนั่นแหละ  แต่จะให้ผมมานั่งอธิบายว่าวันนี้เขาส่งสายพันธุ์ไหนมาให้ก็คงบอกไม่ถูก มันก็สวยอยู่หรอกนะแต่บางทีผมก็เสียดายอยากให้มันยังสวยงามอยู่บนต้นของมันเหมือนอย่างเคย ปล่อยให้มันร่วงโรยไปตามกาลเวลาน่าจะดีกว่า
ดอกกล้วยไม้ถูกส่งมาให้ผมทุกวัน

 จนเวลาล่วงเลยเข้าอาทิตย์ที่สามแล้ว เจ้าของ มันก็ยังไม่เคยมาให้ผมเห็นหน้าเลยสักครั้ง   เค้าอาจจะแค่ส่งมาลองใจผมเล่นๆ ไม่ได้คิดจริงจังเหมือนที่เคยพูดไว้ หรือว่าอาจจะเป็นคนอื่นไม่ใช่ผู้ชายคนนั้น ผมอาจจะเข้าใจผิดไปเองคนเดียว ตอนนนี้ผมชักไม่แน่ใจแล้วว่าเค้าเป็นใคร จนเลิกคิดหาคำตอบให้กับตัวเองแล้ว ในเมื่อไม่มีเจ้าของดอกไม้ก็ไม่เป็นไร ก็ดีเหมือนกันชีวิตผมจะได้ไม่วุ่นวาย ผมจะได้อยู่อย่างสงบ ตามแบบที่เคยเป็นมาตลอด

จากที่น้องๆ แซวถึงพ่อดอกกล้วยไม้แทบจะทุกวัน ตอนนี้กลายเป็นเรื่องชินตาไปเสียแล้วที่จะมีคนเอามันมาให้ผมในทุกๆ เช้าก่อนที่ร้านจะเปิด ผมยังเก็บดอกไม้ทุกดอกที่เขาให้ไว้อย่างดี แม้ว่ามันจะแห้งเหี่ยวไปบ้าง แต่ผมก็ทำเพียงแค่เอามันไปสอดไว้ในหนังสือเล่มหนาๆ เพื่อทำเป็นดอกไม้แห้ง ตอนนี้สิ่งที่ผมกังวลใจอีกอย่างก็คือ ถ้าเขายังเอามาให้เรื่อยๆ แบบนี้ผมจะเอาไปเก็บไว้ไหน แม้มันจะถูกส่งมาแค่วันล่ะช่อก็ตามที

"แหมๆ หน้าบานเชียวนะพี่ชายเรา" น้องบราวจอมทะเล้นก็ยังแซวผมเหมือนทุกๆ วัน

"อือ พี่ยิ้มแล้วทำไมล่ะ ยิ้มไม่ได้เลยใช่ไหม" ผมหันไปทำหน้าดุใส่น้องชาย

"น่ากลัวมากกกกก" น้องชายผมทำตาโตใส่แล้วแลบลิ้นปลิ้นตา น่าจับมาหยิกให้ช้ำสักทีจะได้เลิกทำตัวทะลึ่งทะเล้นเสียที ผมไม่ได้พูดอะไรกับน้องอีก ก่อนที่จะหันหลังเดินกลับเข้าไปทำงานในครัวตามเดิม

************************

วันนี้เป็นอีกวันที่ร้านเค้กของผมค่อนข้างจะเงียบเหงา ลูกค้าน้อยเป็นพิเศษ หรือว่าอาจจะเป็นช่วงกลางเดือนลูกค้าเลยไม่ค่อยเยอะอย่างที่เคย จนน้องๆ แทบจะนั่งตบยุงเลยก็ว่าได้ แต่ก็ดีเหมือนกันน้องๆ จะได้พักผ่อนบ้าง เรานั่งเล่นกันบ้าง คุยกันบ้างตามประสา นานๆจะมีลูกค้าเข้ามาสักคน ได้แต่นั่งนึกขำๆ ว้าถ้าเป็นแบบนี้ทุกวันต้องแย่แน่ๆ เลย  ตัวผมไม่เป็นไรหรอกแต่น้องๆที่ร้านนี่สิ  นี่ผมคิดฟุ้งซ่านอะไรอีกเนี่ย ถ้าผมอยู่เฉยๆ แล้วไม่ได้ทำอะไรจะชอบคิดไปเรื่อยเปื่อย รวมทั้งเรื่องพ่อดอกกล้วยไม้นี่อีก วันนี้กลับไม่ส่งมันมาให้ผมเหมือนอย่างเคย หรือว่าเขาอาจจะเบื่อที่จะทำแบบนี้แล้วก็ได้  แล้วทำไมผมต้องคิดถึงเค้าด้วยนะ  ผมรีบลุกไปหาอะไรทำเพื่อไม่ให้ตัวเองคิดเพ้อเจ้อไปมากกว่านี้

"พี่พายไปไหนคะ" เปรี้ยวเอ่ยถามผมขณะที่กำลังลุกเดินเข้าไปข้างในครัว

"พี่ว่าจะไปทำขนมเพิ่มสักอย่างสองอย่างน่ะ เผื่อตอนเย็นมีลูกค้า หรือถ้าไม่มีก็แบ่งๆ กันเอากลับบ้านก็ได้” ผมเอ่ยยิ้มๆ ก่อนจะเดินเข้าไปข้างใน น้องบราวกับมินก็พากันเล่นเกมส์ไม่สนใจอะไรแล้วตอนนี้

 ร่อนแป้งเค้กกับผงฟู ผงชาเขียว และเกลือป่นเข้าด้วยกัน จากนั้นใส่น้ำตาลทรายที่เตรียมไว้ลงไปอย่างตั้งใจ ส่วนที่สองผมผสมไข่แดงน้ำมัน และน้ำเข้าด้วยกัน เตรียมไว้ จากนั้น ตีไข่ขาวกับน้ำตาลทราย เข้าด้วยกันจนตั้งยอดแข็ง   ก่อนที่นำส่วนผสมไข่แดงผสมกับแป้งที่ร่อนไว้ คนผสมให้เข้ากันจนเนียน และชาเขียวไม่เป็นเม็ด ใส่สีผสมอาหารสีเขียวลงไปเล็กน้อย จากนั้นนำไปผสมกับไข่ขาวที่ตีไว้ คนพอเข้ากันแล้วนำเข้าเตาอบ เท่านี้ก็ได้เค้กชาเขียวแสนอร่อย  ก่อนที่ผมจะแต่งหน้าเค้กด้วยวิปปิ้งครีม โรยผงชาเขียวเล็กน้อยเป็นอันเสร็จ ผมตั้งสมาธิทำมันอย่างมากเพื่อไม่ให้ตัวเองคิดฟุ้งซ่าน ทั้งๆ ทีมันเป็นแค่เค้กชาเขียวที่ผมแสนจะถนัด

ผมกำลังตั้งใจตัดแบ่งมันออกเป็นชิ้นที่เท่าๆ กันกลับมีใครก็ไม่รู้ยื่นดอกไม้ที่ผมคิดว่าวันนี้คงไม่ได้รับมันแล้วมาตรงหน้า จนผมตกใจแทบจะทำมีดที่ตัดเค้กหล่นเสียแล้ว แต่ผลมันก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่เพราะตอนนี้เค้กที่ผมตั้งใจทำนักหนา หน้าเละไปครึ่งหนึ่งจนผมต้องหันไปต่อว่าคนที่เล่นแผลงๆ  แต่กลับเป็นผมที่ตกใจเสียเอง

เป็นเขาๆ คนที่บอกว่าจะจีบผม ยื่นดอกกล้วยไม้มาให้ผม ยิ้มหวานๆ แปลกๆ ที่เขาส่งมาให้ผม เล่นเอาผมใจกระตุกกับการกระทำที่ผมไม่คาดคิด ผมยืนอึ้งแทบจะไม่ขยับ มีเพียงเสียงลมหายใจเท่านั้นที่บ่งบอกว่าผมยังมีชีวิตอยู่

“ให้” ถ้อยคำสั้นๆ ของคนที่ไม่ได้เจอหน้ากันเกือบเดือน เขาทักทายกันแบบนี้เหรอ คนอะไรแปลกจริงๆ หายไปตั้งนานอยากจะมาก็โผล่มาเสียเฉยๆ

“มาทำไมครับ” ผมไม่ได้ตัดพ้อเค้านะเพียงแค่สงสัยก็เท่านั้น

“คิดถึง”  สั้นไปไหมกับคำตอบที่ผมต้องการ หายไปสามอาทิตย์แล้วกลับมาหยอดกันแบบนี้อะไรของเค้า

“แค่นี้ใช่ไหมครับ” พูดจบก็ยื่นมือไปรับดอกกล้วยไม้จากคนตัวโตที่ยืนทำหน้าเอ๋ออยู่ข้างๆ

“ก็บอกว่าจะจีบ จะแค่นี้ได้ไง” เอาแต่ใจเกินไปรึป่าวครับคุณ ผมอนุญาติคุณแล้วเหรอครับ อย่ามามัดมือชกกันแบบนี้

“ใครอนุญาติ” ปากผมนี่ไปก่อนเลยครับ ทั้งๆ ที่ก็ไม่เคยคิดจะมายืนเถียงกับใครเรื่องบ้าบอพรรค์นี้เลย ผมบ้าไปแล้วแน่เลยครับ  ผมเป็นคนค่อนข้างนิ่งและสามารถควบคุมอารมณ์ตนเองได้ดี แล้วมายืนเถียงกับเขาทำไมกันเนี่ย

เขามันเป็นผู้ชายน่าหมั่นใส้ไง หายไปตั้งนานอยู่ดีๆ ก็มาพูดแต่ใจแบบนี้ใครจะยอมครับ เป็นคุณจะยอมไหมล่ะ แน่ะยังมาทำหน้าระรื่นยิมแป้นแล้นใส่ผมอีก เขาบ้าจริงๆคุณว่าไหม

“พูดอย่างนี้ผมน้อยใจนะครับ อุตส่าห์คิดถึง” หน้าตากับคำพูดคุณนี่สวนทางกันมากเลยนะครับคุณคิณ

“คงคิดถึงมากสินะครับ หายไปเกือบเดือน” ฮึ่ย ผมจะพูดประชดเขาทำไมเนี่ย ผมไม่รู้ตัวเลยปากมันพาไปเอง สมองผมผิดปกติแน่เลย

“อ่า....น้อยใจเหรอครับ” เป็นอีกครั้งกับการที่คนตรงหน้าพูดเข้าข้างตัวเองอย่างหน้าตาเฉย

“น้อยใจเรื่องอะไร เราไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย” ผมส่งค้อนให้คนตรงหน้าวงใหญ่ แต่เขากลับหัวเราะออกมาเสียงดัง แล้วพูดสิ่งที่ผมไม่คาดคิดว่าจะได้ยินจากปากคนตรงหน้า

“คุณน่ารักจังครับ”  อ่า...บอกผมทีว่าหน้าผมไม่ได้แดงเป็นลูกตำลึงสุกไปแล้วใช่ไหม

“........”

“หน้าแดงอ่ะ” แดงจริงๆ ใช่ไหมอ่ะ ผมเขินเขาเหรอ ไม่ใช่หรอกผมแค่โกรธคนกวนประสาทก็เท่านั้น

“........”ผมนับหนึ่งถึงสิบสติก็ยังไม่กลับมา นับจนเกือบจะถึงร้อยแล้วมั้งเพื่อเรียกสติตัวเอง

“คุณเข้ามาได้ยังไง”  ในที่สุดผมก็เอ่ยออกมาจนได้ หลังจากที่พยายามอยู่นานสองนาน

“ก็เข้ามาทางประตู อีกอย่างก็เดินเข้ามา”

“ประสาท”  ผมเอ่ยกับตัวเองเบาๆ

“ใครอนุญาติ”

“เอาอีกล่ะ จะจีบก็ต้องขออนุญาติ  เข้ามาหาก็ต้องขออนุญาติ”  คุณเคยเห็นคนบ้าลอยหน้าลอยตาตอบอยางหน้าไม่อายไหมครับ คุณคิณนี่แหละคนแรก

“ก็นี่มันที่ส่วนบุคคล ห้ามคนนอกเข้า”

“ผมไม่ใช่คนนอกสักหน่อย คุณก็รู้ว่าเราเป็น......” เขาจงใจเว้นคำพูดไว้แค่นั้น  ผมเกือบลืมไปแล้วนะ อาจจะเพราะมันผ่านมาสักพักแล้ว  แล้วตั้งแต่เขาเข้ามาเราก็ไม่ได้พูดเรื่องนั้นเลย มันเลยทำให้ผมสบายใจที่จะพูดกับเขา

“.......”

“........”

ผบเงียบเขาก็เงียบ คงจะรู้ตัวว่าพูดสิ่งที่ไม่ควรพูดออกมา ก่อนที่ผมจะหันไปจัดการกับเค้กเละๆ ตรงหน้าต่อโดยไม่หันไปคุยกับเขาอีก

“ขอโทษครับ” คุณคินเอ่ยออกมาไม่มีท่าทีของคนขี้เล่นคนเดิม  เขาไม่ได้ผิดอะไรเลย เพียงแต่ผมอยากจะลืมมันไปก็เท่านั้น ไม่อยากจะไปตามเอาเรื่องคนที่ทำให้เกิดขึ้น เพราะความขี้ขลาด และไม่อยากทำความรู้จักกับคนพวกนั้นไปมากกว่านี้ ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าชะเอมรู้เรื่องรึป่าว กลัวว่าถ้ารู้ความจริงว่าเพื่อนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วยผมจะรับมันไม่ไหว เลยเลือกที่จะทำเป็นลืมๆ มันไป รอให้พวกเขาได้รับผลกรรมจากการกระทำนั้นเอง

“คุณไม่ผิดซะหน่อย ขอโทษทำไมครับ” หันกลับมาพูดกับคนตรงหน้า ผมนี่แหละคนที่ผิดตัวจริง ผิดทุกอย่าง  แล้วตอนนี้ก็ผิดที่เผลอพาลใส่คุณคิณ

“ผิดสิครับ ผิดที่ผมทำให้พายไม่สบายใจ”

“ปละ..เปล่านะครับ แค่รู้สึกว่าเรื่องมันน่าจะลืมๆ ไปได้แล้วก็แค่นั้น”

“ผมลืมไม่ลงหรอก แต่ผมจะเก็บมันไว้ให้ลึกที่สุดเพื่อที่คุณจะได้สบายใจ” พ่อดอกกล้วยไม้ของน้องๆ ช่างพูดจาหวานจนเลี่ยนเลยครับคราวนี้

“งั้นเรามาเริ่มกันใหม่นะครับ เริ่มต้นจีบ เริ่มต้นชอบ เริ่มต้นรัก เริ่มต้นเป็นแฟน ”   

“คุณจะบ้าเหรอ มาพูดจาบ้าบออะไรแถวนี้ ไม่หลงกลหรอก”

“ว้า... อุตส่าห์ใช้จังหวะที่เผลอนะเนี่ย เผื่อสมองน้อยๆ จะคิดไม่ทัน”  เขาว่าผมโง่ ไม่ทันความคิดเขาเหรอ

“ผมไม่ได้โง่นะครับคุณคิณ”

“อ้าว..นึกว่างงอยู่แล้วจะตอบตกลงนี่นา”  เค้าพูดไปเรื่อยเลยครับ จากเรื่องนั้นต่อเรื่องนี้ สุดท้ายก็เข้าตัวผมเต็มๆ ชาติที่แล้วต้องเป็นปลาไหลแน่เลยคุณคิณเนี่ย ลื่นไปเรื่อยจับไม่ได้ไล่ไม่ทัน

“คุณคิณออกไปได้แล้วครับ ผมจะทำงาน” หาทางเลี่ยงไม่ได้ ก็ไล่ให้ออกไปตรงๆ นี่แหละ เบื่อคนหน้าด้าน

“ผมช่วยทำไหมครับ”

“ทำเป็นเหรอคุณ”

“อาหารไทย อิตาเลียน  อาหารฝรั่งเศส ขนม นมเนยผมผ่านมาหมดแล้ว”

“คุณทำเป็นทั้งหมดที่พูดมาเลยเหรอครับ” ผมทำตาวาวอย่างทึ่งๆ ในตัวของคุณเค้า

“เปล่า...แค่จะบอกว่าเคยกินมาหมด แต่ทำไม่เป็นซักอย่าง” อ่า.... ผมคุยอยู่กับคนบ้าจริงๆ แน่เลย  อยากจะหยิบมีดมาผ่าสมองเขาดูจริงๆ เลยว่าในนั้นมันมีอะไร ทำไมเขาถึงเป็นคนที่แปลกประหลาดได้ขนาดนี้ ถามเรื่องหนึ่งตอบไปอีกเรื่องซะงั้น

“งั้นก็กรุณาออกไปเลยครับ เกะกะเวลาทำงาน”

“ขอช่วยนะครับ นะครับ อย่าไล่กันเลย”  สายตาอ้อนๆ แบบนั้นคืออะไร

“อือ” ตอบไปแล้วเหรอ ปากผมมันขยับไปเองอ่ะ

“จริงเหรอครับ ให้ผมช่วยจริงๆ ใช่ๆไหม” ท่าทางกระตือรือล้นเกินจริงของคนตรงหน้าทำผมหมั่นใส้

“ถ้าอย่างนั้นช่วยตอกไข่ครับ สามฟองเอาใส่ชามนี้นะครับ” ผู้ช่วยจำเป็นหยิบไข่ขึ้นมา ก่อนที่จะยืนจ้องอยู่ว่าจะทำยังไงให้มันออกมาดี ผมยืนมองไม่บอกหรอกนะว่าทำยังไง จะดูสิว่าคนที่อยากช่วยนี่จะท่าดีทีเหลวรึป่าว

คุณคิณยืนนิ่งไปซักพัก ก่อนที่จะตัดสินใจตอกไข่ใบเล็กใส่ขอบชามจนเต็มแรง ทุกคนเข้าใจใช่ไหมครับว่าการตอกไข่ไม่จำเป็นต้องออกแรงมากมายขนาดนั้น ทำแค่เบาๆ เปลือกก็แตกแล้ว แต่นี่ผู้ชายตัวโต ออกแรงไม่ยั้ง ตอนนี้ผู้ช่วยของผมก็เลยมีสภาพอย่างที่เห็นนี่แหละครับ

“ฮึ...ฮึ....” ผมพยายามกลั้นเสียงไม่หัวเราะคนตรงหน้า ทั้งสงสารทั้งตลก ใครจะไปคิดล่ะว่าทำไม่เป็นแม้กระทั่งตอกไข่

“อ่า...เลอะหมดเลย” คุณคิณมองผมหน้าเจื่อนๆ ก่อนที่ผมจะยื่นทิชชู่ให้เขาเช็ด

“ขอบคุณครับ”  เขาใช้ทิชชูเช็ดไปเรื่อย เพราะไม่รู้ว่าจุดไหนที่มันเลอะบ้างบนหน้าของเขา แต่มันก็ไม่ค่อยจะตรงจุดซักเท่าไหร่

“ผมช่วยครับ” ผมดึงทิชชู่อันไหม่ออกมา ก่อนที่คุณคิณจะก้มหน้าลงมาเพื่อให้ผมเช็ดมันได้ง่ายขึ้น มุมนี้ไม่ดีเลยแฮะ ไม่ดีต่อใจดวงน้อยๆ ของผม ที่อยู่ดีๆ มันก็รัวราวกับผมพึ่งไปวิ่งหนักๆ มาอย่างนั้นแหละ

“ดีจัง” คุณคิณยิ้มน้อยๆ ทั้งๆ ที่ตาก็ยังจ้องผมอยู่อย่างนั้น

“เสร็จแล้วครับ”

“เร็วจังเลย ยังอยากอยู่แบบนี้ต่ออีกนานๆ จังครับ”  อย่าอ่อยไม่หลงกลหรอก ชิส์

“จะช่วยทำไหมครับ ถ้าช่วยก็เร็วๆ ถ้าไม่ก็ออกไปเลย” ผมแกล้งเอ่ยเสียงดัง เพื่อกลบเกลื่อนความอายของตนเอง

“ครับ ครับ ทำเดี๋ยวนี้แหละครับ”

 วันนั้นเลยจบลงด้วยการที่ผมเริ่มสอนคุณคิณตั้งแต่ตอกไข่ทำยังไง ร่อนแป้งทำยังไง เหมือนผมสอนเด็กสิบขวบทำขนมเลยครับ หรือไม่อาจจะต่ำกว่านั้น เพราะเด็กสิบขวบบางคนทำอาหาร หรือขนมง่ายๆ ได้ดีกว่าคุณคิณเยอะ  เขาไม่ได้ช่วยอะไรมากหรอกครับ เพราะแค่ให้ทำอะไรง่ายๆ ยังแทบจะต้องทำให้ดูเป็นตัวอย่าง คุณทำอะไรไม่เป็นจริงๆ ใช่ไหมเนี่ย

‘วุ่นวายครับ พูดได้คำเดียว เลยวันนี้’
*************************************

       ตอนนี้คุณคิณทำน้องพายเสียลุคคุณหนูผู้เรียบร้อยไปซะแล้ว เพราะความกวนบวกกับความบ้า น้องพายเลยบ้าตาม(อ่ะไม่ใช่ล่ะ) น้องพายจะทำอย่างไรดีล่ะทีนี้ พ่อดอกกล้วยไม้ผู้ไม่เหมือนใครซะด้วย ทำเป็นไม่กล้าจีบนะตอนแรก  เม้นๆ ให้ด้วยน๊า
 :L2:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-02-2016 08:37:32 โดย MooKratai »

ออฟไลน์ p_phai

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +154/-6

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด