Luckiest Gets The Highest Kite หนุ่มโชคร้าย x นายแชมป์ว่าว 2015 (Edit) จบแล้ว
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Luckiest Gets The Highest Kite หนุ่มโชคร้าย x นายแชมป์ว่าว 2015 (Edit) จบแล้ว  (อ่าน 176351 ครั้ง)

Kirimanjaro

  • บุคคลทั่วไป
น้ำก๋วยเตี๋ยวหรือจะสู้ความหวานของสองพี่น้อง  อิอิ

inimeg

  • บุคคลทั่วไป
ว้ายยยยยยยยยยยย

ชอบกลิ่นผู้ชายเหมือกันเลย ไม่รู้ทำไง กลิ่นของสะมีเวลามันออกกำลังกายเสร็จช่างเซ็กซี่อะไรเยี่ยงนี้


แต่ถ้าหากว่าวันนั้นหรือคืนนั้นกินเหล้ามาก่อน โอ้พระเจ้า.... มันไม่ใช่กลิ่นอันน่าดมแล้ว เหม็นแปลกๆ ปล. ถึงจะชอบ ก็มีอยู่สองสามคนนะที่ได้กลิ่นแล้วเซ็กซี่

ตอนที่บอกได้กลิ่นดื้ออ่ะ กรี๊ดดดดดดด กลิ่นบางคนก็ลอยเข้ามาในมโนสำนึกเลย


ออฟไลน์ A-ram 70

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 765
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
ชอบขนาดเลยปี้น้องกู่นี้

ขใจ๋มาเวยๆๆเด้ออ้าย

ออฟไลน์ ~NeMeSiS_PURE~

  • 행 복 하 길 바 래 ...
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2009
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +196/-2

ออฟไลน์ mist

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4505
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-3

ออฟไลน์ wan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5575
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +643/-10
 :เฮ้อ:จะหวานได้สักกี่น้ำน้อ มาลุ้นกันต่อดีกว่า 

เป็นกำลังใจให้นะครับ  :bye2:

chatnaha

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ Tifa

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1474
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +417/-2
อิจฉา ชิ (ขอตัวไปล้างตาก่อน)

kungkee

  • บุคคลทั่วไป
เขียนดีนะเนี่ย แต่อยากให้แต่ละตอนยาวๆ กว่านี้อ่ะ ติดตามอยู่เรื่อยๆ เป็นกำลังใจให้นะ :a11:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50

khunsea

  • บุคคลทั่วไป
กะน่าฮั๊ก อยู่น๊า


เอาอีก  มาลงให้โวยๆ เรย



andy_kwan

  • บุคคลทั่วไป
น้ำซุปก๋วยเตี๋ยวหวาน แต่น้ำ...ของน้องดื้อหวานกว่า  :m25:

ifwedo

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
อิอิ มีงอนๆ กันด้วย

ปล.เตรียมอุดมไม่มี ม.ต้น นะคับ

ออฟไลน์ A-ram 70

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 765
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
อย่างนี้ต้องรออ่านคับ

ขอให้สอบได้คะแนนเยอะๆๆนะคับ


ออฟไลน์ ไอ้หัวแห้ว

  • ยิ่งมืดเท่าไหร่ ยิ่งเห็นดวงดาวชัดเจน...
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +568/-5
 :laugh:

หวานจริงๆ ด้วย



ปล. แต่รู้สึกมันทะแม่งๆ ยังไงไม่รู้

 :o

ออฟไลน์ nOn†ღ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-6
หวานแต่แอบเศร้า ต้องรอลุ้นตอนต่อไป  :a3:

โชคดีในการสอบนะจ้ะ  :L2:

kana

  • บุคคลทั่วไป
น่าจะเอา สองร้ายมาผูกคอติดกันแล้วจับถ่วงน้ำ
อ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ไม่ได้ร้ายน๊า คนเขียน แต่อาฆาตินิดหน่อยเองงงงงงง :angry2:

funnyu

  • บุคคลทั่วไป
น่าฮักขนาดเลยยยย
แอบหวาน อิจฉา


ขะไจ๋มาต่อเน้อค้าบ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






marchmenlo

  • บุคคลทั่วไป
ชิส์ส กลัวใจไอ้เด็กดื้ออ่ะ  :sad2:

ออฟไลน์ TONG

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2535
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-4
ขอให้อีสองแมกซืมันได้กัน

ท่าทางจะตอแหลได้โล่

meawkung02

  • บุคคลทั่วไป
อ่ะ...ยังหวานได้อีก...อิอิ


เสียดายที่ว่า...มีอุปสรรคเล็กน้อย...สู้ต่อปายนะค้าบบ...มิว(ว่าว)...สู้ๆ

ออฟไลน์ ~NeMeSiS_PURE~

  • 행 복 하 길 바 래 ...
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2009
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +196/-2

ออฟไลน์ bennietakky

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 71
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-0

8.



แปดโมงเช้า หน้าห้องประชุมหม่อมหลวงตุ้ยคึกคักไปด้วยผู้คน ทั้ง อาจารย์ นักศึกษา เจ้าหน้าที่และประชาชนทั่วไป หลายคนในนั้นเป็นนักเขียนอาชีพในกลุ่มนักเขียนภาคเหนือ หลายคนมีรางวี่รางวัลการันตี และอีกมากมายเช่นกันที่ไม่ได้เป็นอะไรเลยแม้แต่นักอยากเขียน เช่นผมและเจ้าดื้อเป็นต้น (รบเร้าจะมา เจ้าดื้อก็นักอ่านตัวยงเหมือนกันนะ อย่าลืม)

วันนี้เราแต่งตัวด้วยชุดนักศึกษาถูกระเบียบเต็มที่ คือเสื้อเชิ้ตผูกไทด์ม่วง ส่วนของเจ้าดื้อไทด์ดำวิดวะ (ลืมไป ว่าเจ้าดื้อมันก็แต่งอย่างนี้ของมันทุกวันนั่นแหละ) ดูสมกันยังกะคู่รักในการ์ตูนบอยส์เลิฟ อันนี้คิดเอง ^ ^

พี่ต้อมของผม เอ้อ สมบัติของคณะ มาพร้อมกับ (แหวะ) ไอ้แมกซ์ ที่วันนี้ก็หล่อ ดูดีเป็นพิเศษล่ะนะ น่าหมั่นไส้ (แอบสังเกตเห็นมันปัดคิ้วด้วยมาสคาร่าใส โว้ย กระแดะ)

ขอฟ้องหน่อยเหอะ อินี่แผนสูงมาก โทรบอกพี่ต้อมว่ามอเตอร์ไซค์ยางแบน (ลงทุนถึงขั้นเจาะยางตัวเองเลยมั้งเนี่ย) เป็นภาระให้พี่ต้อม สุภาพบุรุษจุฑาเทพต้องถ่อไปรับ ที่รู้ก็เพราะพี่ต้อมโทรหาหรอก นึกว่าอยู่หอเดียวกันกับมัน พี่ต้อมหน้าเจื่อนลงเล็กน้อยเมื่อเจอเจ้าดื้อ เหมือนๆ กับที่เจ้าดื้อก็ดร็อปความร่าเริงลงนั่นแหละ จะว่าไปเราทุกคนเหมือนจะเก็บความไม่พอใจไว้ลึกๆ ดื้อ ไอ้แมกซ์ พี่ต้อมสุดหล่อ ผมกับไอ้แมกซ์ ไอ้แมกซ์กับเจ้าดื้อ ดี๊ดี สักพักพี่เมย์  รุ่นพี่อีกคนที่เป็นนักเขียนนิยายวัยรุ่นกุ๊กกิ๊กก็เดินเข้ามาทัก (ผมชวนพี่เขามาเองแหละ เพราะเห็นว่าพี่เค้าสนใจ) ตามมาด้วยน้องต่าย ที่มาถึงนานแล้วแต่เขินเจ้าดื้อไม่กล้าเข้ามาทัก  และเอ่อ ยัยเห็ดหูหนูเน่าที่ปั้นจิ้มปั้นเจ๋อมาเอง  ซึ่งไม่รู้ว่าใครชวนมันวะ นางกระวีกระวาด ทำตาลุก ดีกับผมและอีแมกซ์เป็นพิเศษเมื่อเห็นหน้าเจ้าดื้อและพี่ต้อม

ลงทะเบียนกันหมดทุกคนแล้ว พี่เจ้าหน้าที่แจกกล่องของว่าง ที่ประกอบด้วย โรลส้ม 1 ชิ้น ขนมไทยในถ้วยจิ๋ว 4 ชิ้น น้ำผลไม้และน้ำเปล่า พร้อมส้อมและกระดาษเช็ดปาก เราทั้งหมด นั่งเก้าอี้แถวกลางๆ ฝั่งซ้าย  เรียงลำดับดังนี้  นังเห็ด (ระริกสุดๆ) ดื้อ (อึดอัดสุดๆ) น้องต่าย(ชีนั่งแบบว่า-แข็งทื่อ) ผม (ที่อยากนั่งติดกับเจ้าดื้อ) พี่เมย์ (ชิวๆ) พี่ต้อม (ที่คอยเหลือบมองไอ้ดื้อและผมบ่อยๆ พร้อมๆ กับขำมุขควายไอ้แมกซ์แบบจำใจ) และ ไอ้แมกซ์ (ที่กระแซะพี่ต้อมจนน่าถีบ แต่ยังมีแอบเหล่ผมกับเจ้าดื้อ)

“พี่ต้อมใช้น้ำหอมอะไรครับเนี่ย หอมจัง”
“พี่ไม่ใช้น้ำหอมนะ กลิ่นแป้งเด็กละมั้ง”
“เหรอครับ อยากหอมมั่งจัง”

โว้ย ดอก

งานเริ่มด้วยการกล่าวเปิด ของนายกสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย ขึ้นมากล่าวแนะนำแขกรับเชิญ นักเขียน นักวิชาการด้านวรรณกรรม นักวิจารณ์ และนักหนังสือพิมพ์ ที่มาเป็นแขกรับเชิญ หนึ่งในนั้น คือผู้หญิงที่ผมรอคอยจะพบมากที่สุด เจ้าของนามปากกา ทอง บุหงา ชีมาในชุดลิทเทิลแบล็กเดรสสุดเปรี้ยวและผ้าคุมไหล่สีเดียวกัน (อย่างกับเซรีนา แวน เดอ วู้ดเซ่น เวอร์ชั่นร่างตันเล็กน้อย) นางมาถึงเลทกว่าใครนัยว่าเพื่อให้เป็นจุดสนใจ ผมกับพี่เมย์ปรบมือเสียงดัง มีปิ้วปากด้วย

 “ต๊าย คิดว่าเป็นคอนเสิร์ตซะอีก”

ยัยเห็ดเหน็บ  เหอะ ตอนเจอผู้หล่อๆ มึงกรี้ดยิ่งกว่านี้อีก อีปลาหมอสี

พิธีกรกล่าวเข้ารายการ หัวข้อของการเสวนาเกี่ยวกับวรรณกรรมสีเขียว อะไรซักอย่าง แต่วิทยากรกลับหลงประเด็นไพล่ไปเรื่องสถานการณ์ในแวดวงน้ำหมึกปัจจุบัน  โดยตั้งคำถามว่ามันเพิ่มขึ้นแต่ปริมาณแต่ไม่มีคุณค่าทางวรรณศิลป์จริงไหม อะไรประมาณนี้  ก็นะ งานนี้หนังสือแนวสอนรวย สอนเล่นหุ้น นิยายลูกกวาด เพ้อเจ้อ โดนถล่มยับ ตั้งแต่โดยท่านศาสตราจารย์ทางด้านวรรณกรรมและดนตรีคลาสสิกควบตำแหน่งนักวิจารณ์วรรณกรรม (ผมเคยอ่าน นิตยสารโลกหนังสือ แกวิจารณ์ คำพิพากษา ของชาติ กอบจิตติ ตั้งแต่ครั้งที่เพิ่งได้ซีไรต์ ผมยังไม่เกิดเลยเหอะ) บรรณาธิการหนังสือพิมพ์ในภาคเหนือ นักธุรกิจเจ้าของสำนักพิมพ์และนักเขียนลือชื่อผู้ที่งานเพิ่งถูกนำไปรีเมคเป็นละครก่อนข่าว ยัยพี่เมย์งี้ดิ้นเร่าๆ เพราะนิยายของนางเข้าข่ายวรรณกรรมขยะ อย่างที่เขาว่าไว้ (ชีเขียนนิยายวัยรุ่นแฟนตาซีดีสโทเปียให้สนพ. แจงแวง) ผมเองในฐานะคนอ่านก็เข้าใจเจ๊แกเลย

แต่ไม่จำเป็นที่คนบนนั้นจะต้องเออออด้วยทั้งหมด อย่างน้อยฮีโร่สาวของผม เจ๊ทอง บุหงา ก็ลุกขึ้นพูดแย้งแทนเด็กๆเยาวชนนักอ่านรุ่นใหม่อย่างไม่ยี่หระ สรุปย่อๆ นะ นางตั้งกระทู้ถามว่าการแบ่งประเภทวรรณกรรมเป็นชนิดดีหรือเลว ขยะหรือไม่ขยะนั้น จะใช้อะไรไปชี้วัด และใครเป็นผู้เลือก (selector)  บริบทของหนังสือและงานวรรณกรรมในสมัยก่อนนั้นเป็นเรื่องของอำนาจและการเมือง คนที่มีการศึกษาหรือแวดวงชั้นสูงเท่านั้นที่มีสิทธิ์อ่านหรือเขียน รวมถึงเลือกสรรว่างานชนิดใดสมควรได้รับการเผยแพร่ และการที่ใครสักคนจะก้าวขึ้นมาได้ชื่อว่าเป็นนักเขียนนั้นยากเสียยิ่งกว่าอะไร ต่างจากในสมัยนี้ ที่ใครก็สามารถเป็นนักเขียนได้  การพูดว่า เด็กๆ สมัยนี้สนใจแต่วรรณกรรมขยะ ความรักบ้าบอเพ้อฝัน ไม่ก็ต้องรวยกว่า ฉลาดกว่า (สังเกตจากหนังสือขายดีอันดับหนึ่งในร้านต่างๆ) ดูออกจะเกินไปนิด นางเชื่อว่าเทคโนโลยีเปิดโอกาสให้คนเขียนในสิ่งที่อยากจะเขียน อ่านในสิ่งที่อยากจะอ่าน สร้างขุมชน รวมถึงสร้างนักเขียนขึ้นได้จริง แม้ส่วนตัวนางจะไม่เคยชายตาแลนิยายลูกกวาดหรือหนังสือสอนรวยที่กำลังเป็นกระแสกลบวรรณกรรมอันว่ากันว่าทรงคุณค่าในอดีตอยู่ แต่นางก็มีความเชื่อของนางว่า แม้จะเป็นวรรณกรรมขยะ มันก็เป็นยังเรื่องน่าตื่นเต้นและยินดีอยู่ดี ที่มีเยาวชนและคนหน้าใหม่ๆ ให้ความสนใจกับแวดวงวรรณกรรมมากถึงเพียงนี้ เพราะท่ามกลางกองขยะวรรณกรรมนั้น เราอาจจะค้นพบเพชรเม็ดงามที่ซ่อนอยู่เพื่อรอวันพิสูจน์ตัวเอง

แหม พูดดี

มาถึงตรงนี้ พวกเราวัยรุ่นก็ปรบมือ ปิ๊ดปิ้วกันเกรียวกราว – เลิศ

“ดิชั้นว่า เราลองมาฟังความเห็นของผู้ชมผู้ฟังบ้างดีกว่าไหมคะ อาจารย์”
 
ผู้ดำเนินรายการถามเปิด

พี่เมย์กับน้องต่ายกระทุ้งสีข้างผม คนอื่นๆ ก็เอออตาม  บอกตรงๆ ไม่กล้าย่ะ ฉันไม่มีความเห็นอะไรทั้งนั้น

“เอาเลยค่ะพี่มิว ต่ายละโกรธจริงๆ ที่มาหาว่าเราไร้สาระ”
“นะว่าว แกช่วยพี่หน่อย พี่จะพูดเองก็ปากคอสั่น โกรธไปหมดแล้วเนี่ย”

เอาไงดีวะ  ขณะที่ลังเลอยู่นั้นก็มีเด็กคณะอื่นชิงยกมือขึ้นพูดก่อน

“เชิญเลยค่ะ”

เด็กผู้ชายท่าทางคุ้นๆ ที่นั่งอยู่อีกฟากของห้อง เดินเข้าไปหาไมโครโฟน  พร้อมกับโบกไม้โบกมือราวกับไอดอลมาทางพวกเรา ผมอ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจ ก่อนหันไปมองเจ้าดื้อที่ทำท่าปฏิเสธไม่รู้ไม่เห็น

“สวัสดีครับ ผมนายชวนนท์  เอนกกิตติขจรกุล นักศึกษาชั้นปีที่สองคณะวิศวกรรมศาสตร์ครับ”

“โอ มายกูดเนสส นั่นมันน้องแมกซ์นี่ แอร๊ยส์”

ยัยเห็ดหูหนูร้องกรี๊ด

“พี่เมี่ยงรู้จักเค้าเหรอคะ”

น้องต่ายชิงถามตัดหน้า เห็นนางแบ๊วๆ แต่แอ๊วผู้ชายอยู่นะ

“รู้จักดีเลยล่ะค่ะน้องต่าย น้องแมกซ์เป็นน้องพี่โรงเรียนปรินซ์  very, very wealthy and hot, just like me”

มิน่าล่ะ น่าถีบเหมือนกันเลย

“จากที่ท่านอาจารย์ได้กล่าวไว้เมื่อสักครู่ ผมเองก็เห็นด้วยในหลายประเด็นนะครับ หนังสือขายดีที่เห็นกันตามร้านหนังสือใหญ่ๆ ทุกวันนี้ ผมว่ามันสะท้อนถึงวิกฤตทางด้านสติปัญญาของเยาวชนไทยปัจจุบันได้อย่างชัดเจนมาก หนังสือสอนรวยก็ดี นิยายลูกกวาดก็ดี ถ้าอ่านเอาเพลินก็โอเคนะครับ แต่ถ้าเสพมากๆ เข้ามันก็อันตรายเหมือนกัน คือ อาจจะทำให้คนอ่านรับเอาค่านิยมผิดๆ มาได้ เช่นการหมกมุ่นอยู่แต่กับเงินทอง การเอาชนะคู่แข่งทางธุรกิจ หรือมัวเมาอยู่แต่กับเรื่องรักๆ ใคร่ๆ  ผมคิดว่าควรมีการควบคุม ปลูกฝังและสร้างพื้นที่ให้วรรณกรรมที่เป็นประโยชน์และเหมาะกับสังคมไทย โดยความร่วมมือจาก... บลาๆๆๆๆ”

“แหวะ น้องเธอนี่ ไฮโซมากเลยเหรอยะ”

พี่เมย์ แขวะยัยเห็ดหูหนู

“เอ่อ แต่น้องก็พูดมีประเด็นนะค แค่... ฟังดูน่าหมั่นใส้ไปหน่อยเท่านั้นเอง แต่ น้องเค้าหล่อนะ”
“ว่าว เธอต้องออกไปนะ พูดแทนพี่ พี่รู้เธอพูดดี”
"โอ้ย ไม่ไหวหรอกพี่ ผมไม่มี… "

พี่เมย์ยกมือขึ้น แล้วผลักผมออกจากเก้าอี้ อุ๊ย แหก
ฉิบหายละ

“คะ มีอะไรจะแสดงความเห็นเป็นการเพิ่มเติมไหมคะ”
พิธีกรถาม

“มีค่ะมี เพื่อนดิชั้นจะแสดงความเห็นค่ะ Go speak what’s on your mine ค่ะคุณเพื่อน let’s do it”

ยัยเห็ดหูหนูร้องบอก ผมยืนเอ๋อ ถูกผลักให้ขยัยออกไปที่ทางเดิน รู้เลยว่าสารรูปคงเสร่อสุดๆ หันไปกลับไปหากำลังใจ พี่ต้อมยกกำปั้นแล้วบอก ‘สู้ๆ’ ส่วนเจ้าดื้อยิ้มหวานอย่างเดียวเลย

“เชิญเลยค่ะ ส่วนน้องชวนนท์อยู่ก่อนได้ค่ะ เผื่อมีอะไรจะเพิ่มเติม”

ไอ้เด็กแมกซ์ยิ้มหวาน

“เอ่อ สวัสดีครับ ผม นายชิตตพล เอ่อ ใจเมือง นักศึกษาปีที่สาม คณะมนุษยศาสตร์ครับ ... “

ผมหันไปมองที่พี่เมย์ กับไอ้แมกซ์ ที่ปรบมือให้กำลังใจ จากนั้นก็ตามด้วยคนอื่น ยังไงดีล่ะ โว้ย ฉันต้องพูดอะไร

“คือ ก่อนอื่นขอทักทายพี่เข่ง ทอง บุหงา เป็นการส่วนตัวหน่อยนะครับ ติดตามงานเขียนมานานแล้ว”

ผมยกมือไหว้ นางก็รับไหว้ทันทีเหมือนกัน

“และก็วิทยากรทุกท่านด้วยนะครับ”

ไหนๆ ก็ไหว้ไปคนนึงละ จริตนางงาม ไหว้ให้ครบเลยละกัน

“ผมเห็นด้วยกับที่พี่เข่ง เอ้อ คุณทอง บุหงา พูดนะครับ ผมว่าการให้คุณค่ากับอะไรซักอย่างมันเป็นเรื่องที่เป็นปรัชญามากๆ และอาจจะปัจเจกจนไม่สามารถวัดตวงกันได้ อย่างที่เรารู้ๆ กัน ไอ้เรื่องรสนิยมนี่ มันตัดสินผิดถูกได้ยากนะครับ และผมเชื่อว่าการชี้ผิดถูกอะไรซักอย่างจากคนที่มีอำนาจเป็นเรื่องอันตรายยิ่งกว่า ที่ผ่านมาเราถูกทำให้คล้อยตามด้วยวาทกรรมอยู่มากมายหลายชุด เรื่องการให้คุณค่าก็เป็นหนึ่งในนั้น การจะไปจำเพาะเจาะจงว่า นี่ดี นี่เลว นี่ขยะ ควรขึ้นอยู่กับตัวบุคคลมากกว่าใคร หรือเปล่าครับ ไม่ค่อยแน่ใจ แต่ผมคิดตื้นๆ แค่ว่าเราควรจะได้เลือกตัดสินเองในฐานะผู้เสพย์ เรามีสิทธิ์ที่จะเลือก อย่างสมมุตินะครับถ้าผมไม่เคยอ่านงานของอาจารย์มาก่อน และไม่มีความสนใจที่จะอ่าน หรืออ่านแล้วไม่ชอบไม่ต้องรสนิยม ในขณะที่ใครๆ บอกว่ามันเป็นวรรณกรรมชั้นดี คือสำหรับผมมันอาจจะไม่ใช่ก็ได้ ในทางตรงกันข้าม ถ้าผมชอบอ่าน เอ่อ ดู… หนังสือโป๊ เป็นต้น  หรืออะไรที่แย่กว่านั้น และผมรู้สึกว่ามันตรงกับรสนิยมของผม ผมก็จะยกให้ว่านี่คือสิ่งผมเลือกที่จะให้คุณค่า”

ผมได้ยินเสียงกะเทยกรี๊ดเสียงดังมาก

“ขอบคุณครับ ต่อนะครับ... ผมไม่อยากให้ใครเลือก หรือ select ว่าผมควรจะบริโภคหรือไม่บริโภคอะไร และผมก็คิดว่าคนส่วนใหญ่ก็คงจะคิดเช่นนั้น อย่างที่น้องคนเมื่อกี้ เอ่อ ขอโทษนะครับ จำชื่อจริงไม่ได้ (หึหึ)ให้ข้อเสนอมามันก็ดีนะครับ ที่จะมีการส่งเสริมด้านรสนิยมอะไรแบบนั้น ผมแค่หวังว่ามันจะไม่ใช่การครอบงำกันทางความคิด ส่วนปัญหาเรื่องวรรณกรรมขยะ ยังไงดีล่ะ ผมไม่อยากเรียกแบบนี้เลย เอาเป็นว่า ผมเรียกวรรณกรรมตามกระแสละกันนะครับ

ผมไม่อยากให้ผู้ใหญ่มองเป็นปัญหาน่ะครับ คืออย่าไปซีเรียสอะไรกับมันเลยครับ อย่างน้อยๆ ผมเองก็ยังเชื่อว่า พัฒนาการของคนอ่านนั้นมันเป็นไปตามขั้นตามวัย คงไม่มีใครที่จะอ่านแค่หนังสือแนวนี้หรือเจนเรนี้ๆ เท่านั้นไปจนตลอดชีวิต เพราะจากที่เคยอ่านมาบ้าง พล็อตและกลวิธีมันก็ซ้ำๆ นั่นแหละครับ ส่วนเรื่องสาระก็อย่างที่ถกเถียงกันนั่นแหละ แป๊บเดียว พอคุณโต คุณก็จะหาอ่านอะไรที่มันตอบโจทย์คุณมากขึ้นเอง ไอ้ที่ว่ามันขายดิบขายดีนั่น ถ้าวิเคราะห์ตามหลักเศรษฐศาสตร์ง่อยๆ ของผม คือตลาดวัยรุ่นค่อนข้างเป็นตลาดใหญ่และมีกำลังซื้อไม่จำกัด การเอาแค่ยอดขายมาวัดรสนิยมคนทั้งประเทศจึงเป็นเรื่องที่ไม่น่าใช้ได้ เด็กก็แค่อ่านอะไรที่อยากอ่าน ที่มันใกล้เคียงชีวิตเขาในขณะนั้น สิ่งที่เราผู้ใหญ่ต้องกลับมาขบคิดก็คือ เราที่บ่นๆ กันอยู่นี้ เราได้สนับสนุนวรรณกรรมที่เราให้คุณค่ามากขนาดไหน ถ้าได้แต่ยกย่องแต่ไม่เคยควักสตางค์อุดหนุนต่อลมหายใจให้นักประพันธ์ ก็ไม่มีทางที่งานที่เราคิดว่าดีงาม จะได้มีโอกาสเชิดหน้าชูตาบนชั้นวางเบสท์เซลเลอร์แน่ๆ รวมถึงไม่มีทางรู้เลยว่า อะไรคือข้อจำกัดที่ทำให้มันไม่สามารถเข้าถึงคนส่วนใหญ่

แต่เอาเถอะครับ อย่างน้อยก็มีนักเขียนรุ่นใหม่ๆ ที่น่าจะพอฝากความหวังได้ ที่นั่งตรงนี้ก็หลายท่าน ผมยังมองไม่เห็นว่ามันเป็นเรื่องวิกฤตอะไร และถ้ากระแสที่ที่เป็นอยู่ทุกวันนี้เรียกว่าวิกฤต มันก็คงวิกฤตมาตลอกประวัติศาสตร์ของการเขียนและการอ่านนั่นแหละครับ เอ่อ แค่นี้ละกันครับ ผมว่าผมเริ่มจะพูดวนไปวนมาแล้ว ขอบคุณมากครับ”

เสียงปรบมือดังก้อง ว้าย ไม่จริงใช่ไหม

…….


“เริ่ดมากย่ะ เกิดเลยนะเนี่ย ฉันบอกแล้วแกต้องพูดได้ แล้วก็พูดดีfh;p”

พี่เมย์ ดี๊ด๊าสุดขีด ก็รู้สึกอยู่นะ เพราะมีหลายคนวิ่งข้ามห้องมาขอจับมือ ทั้งรุ่นพี่รุ่นน้อง ชมรมคนรักนิยายลูกกวาด ฯลฯ พี่เข่ง ยกนิ้วโป้งให้ในความใจกล้าหน้าด้าน ไม่นับคุณชม้อยพร นายกสมาคม และ คุณกนกลดา นักเขียนนวนิยายชื่อดัง ที่เข้ามาพูดคุยทักทายเป็นการส่วนตัวระหว่างเบรคเพื่อแยกกลุ่มเสวนาในตอนบ่าย ผมรู้สึกละอาย เพราะตัวเองแม่งไม่เคยเขียนอะไรเลย เอาแต่วิจารณ์คนอื่น รู้สึกว่าตัวเองจอมปลอมนิดๆ

“พี่มิวของผมเก่งจัง”

เหล็กดัดแอบมากระซิบในห้องน้ำ

“ไม่ชมเพื่อนตัวเองด้วยล่ะ”

เจ้าดื้อทำหน้ามุ่ย

“รู้นะว่าคิดอะไร หยุดเลย ผมไม่รู้ว่ามันมาด้วย”

“ว่าแล้ว ว่าต้องอยู่ในนี้”

ยังไม่ทันจะได้แกล้งงอน ให้แฟนง้อ ศรัตรูหัวใจก็โผล่มาจากไหนไม่รู้

“พี่มิว ขโมยซีนเต็มๆ เลยนะครับ ใจร้ายมาก ผมไปไม่เป็นเลย”

ทำมาชม เหอะ

“แล้วมึง ไอ้ดื้อ มางานนี้ก็ไม่บอก กูงอนแล้วนะเนี่ย นี่แนะๆ”

พูดไม่พูดเปล่า เอามือมาดึงแก้มเหล็กดัดของผมด้วย เหล็กดัดรีบปัดป้องเพราะเกรงใจผม

“เฮ้ย ไม่เล่น”
“แน่ะ ทำหวงตัวนะมึง”

ผมเดินหนีออกมาจากห้องน้ำอย่างใจเย็น เหล็กดัดเดินตามมาติดๆ แต่โดนยัยเห็ดหูหนูดึงแขนไว้คุยด้วย ทำให้ผมมีโอกาสได้เข้าไปคุยกับไอ้แมกซ์ที่ยืนรอพี่ต้อม พี่เมย์กับน้องต่ายลงชื่ออะไรซักอย่างที่โต๊ะประชาสัมพันธ์ เจ้าดื้อชะเง้อมอง ส่งสายตาดุขู่ผมฟ่อๆ

“แมกซ์  มึงยังไม่ได้บอกใครใช่ไหม ว่ากูคบกับดื้อ”

ไอ้แมกซ์ทำหน้าไม่พอใจ รู้สึกผิดเล็กน้อย

“เห็นกูเป็นคนยังไงวะ แต่ถึงไม่บอกคนเค้าก็รู้ กุ๊กกิ๊กระริกระรี้กันขนาดนี้ แล้วทำไม อย่าบอกนะว่าคิดจะจับปลาสองมือ จะเกี่ยวเอาพี่ต้อมไว้อีกคน”
“กูรู้ว่ามึงหมั่นใส้กู แต่กูมีเหตุผลที่ถาม แล้วเรื่องพี่ต้อมก็เหมือนกัน มึงจะดึงพี่เขามาเล่นด้วยทำไม มันไม่ได้ทำให้อะไรเปลี่ยนหรอก”
“สัด มึงมาขอร้องกูเพื่อไอ้เด็กวิดวะที่รู้จักกันแค่ไม่กี่วัน มึงคิดถึงใจกูบ้างไหม”
“มึงเป็นเพื่อนผู้ชายที่กูสนิทที่สุดแล้วนะ”

ไอ้แมกซ์จ้องหน้า

“แต่มึงก็ไม่ได้ชอบกู ไม่ กูก็ไม่รับปาก เอาจริงๆ นะ ตอนนี้กูอยากได้พี่ต้อมว่ะ มึงห้ามกูไม่ได้หรอก ดีขนาดไหน ที่กูไม่อยากได้ไอ้เด็กวิศวะของมึง”

ผมยกมือให้มันเป็นสัญญาณว่า พอ จบ เลิกคุย

“เหอะ กูว่า กูคงไม่ต้องลงมือเองหรอกให้มึงสองคนเลิกกัน กรรมมันติดจรวด”

ไอ้แมกซ์พยักพะเยิดไปทางไอ้เด็กแมกซ์ที่กำลังพยายามเล่นปล้ำเจ้าดื้อของผมอยู่

…..

การที่ต้องมากินข้าวกลางวันร่วมกับไอ้เด็กแมกซ์ติดกันสองวันนี่ ชักจะไม่ไหวละนะ

แล้วนี่มันยังทำตัวน่ารัก ร่าเริง เป็นมิตร แย่งซีนได้อีก ทั้งยัยเห็ดและน้องต่าย สองสาวนี่ชวนมันคุยไม่หยุด อ้อ ต้องรวมไอ้แมกซ์ที่(คง)แกล้ง(ผม)ตามน้ำกับเค้าไปด้วย สลับกับการฉอเลาะพี่ต้อม ส่วนผมกับพี่เมย์และเจ้าดื้อนิ่งเงียบ แอบเห็นพี่เมย์คว่ำปากใส่หลายทีเหมือนกัน ขำก็ขำ อึดอัดก็อึดอัด

"เดี๋ยวผมเลี้ยงน้ำนะครับ ใครจะเอาอะไรมั่ง"

ไอ้น้องแมกซ์ถามทั้งโต๊ะ พี่เมย์ดึงประป๋องน้ำส่วนตัวจากกระเป๋ามาตั้งวางไว้

"ไม่เป็นไรหรอกครับ พวกพี่ไปซื้อเองดีกว่า ใครเอาไรมั่ง"

ผมบอก ยัยเห็ดหันมาแหวใส่

"ได้ยังไง เสียความตั้งใจน้องเขาหมด ไม่รู้มารยาทเลยเธอเนี่ย น้องแมกซ์น่ารักจังค่ะ งั้น พี่เอาน้ำมะนาวชมพูนะคะ"

น้ำกระแดะสมตัวมันจริงๆ ผมคิดในใจ

"ต่ายขอน้ำเปล่าละกันค่ะ"
"พี่กับพี่ต้อมด้วยครับ"

อีนี่ด้วย เจ้ากี้เจ้าการเชียวนะ

"งั้นเดี๋ยวพี่ไปช่วยถือ"

พี่ต้อมเสนอ

"ไม่ต้องครับพี่ จะให้ใช้รุ่นพี่ได้ไง ดื้อ มึงไปกับกู"

ดื้อทำท่าลังเล ผมเอาเท้าเตะใต้โต๊ะให้มันลุกขึ้น

"พี่มิวล่ะครับ เอาน้ำอะไร"
"น้ำเปล่าครับ"
"ส่วนมึง" น้องแมกซ์หันไปทางเจ้าดื้อ "ชามะนาวใช่ป่ะ มึงชอบชามะนาว กูจำได้ แต่ของที่นี่ไม่รับรองว่าจะอร่อยเหมือนที่กูทำนะ"
"กูเอาน้ำเปล่า"

เหล็กดัดบอก โว้ย หน้าแตกว่ะ 555 ทำดีมาก ที่รัก


"น้องแมกซ์กับน้องดื้อ ดูท่าทางสนิทกันจังนะคะ"

เอ๊ะอีนี่ จะเปิดประเด็นอะไรอีกล่ะ

"ครับ ก็สนิทที่สุดแล้วอ่ะในเมเจอร์ นี่แมกซ์จีบมันอยู่นะเนี่ย แต่มันไม่ยอมใจอ่อนซะที"
"แอร๊ยส์ จริงเหรอคะน้องดื้อ"
"มะ ไม่ใช่ครับ หุบปากไปเลยไอ้แมกซ์"
"เห็นหรือยังล่ะครับ พี่เมี่ยง คนอะไรไม่รู้ใจแข็งเป็นบ้า"

เหล็กดัดนั่งหน้าเครียด แต่ผมเชื่อใจมันนะ ฉันเชื่อใจแฟนฉันโว้ย

"อย่าให้จริงเลยนะ ไม่งั้นต่ายคงห่อเหี่ยวพอดี คนหล่อๆ มาชอบกันเองหมด แล้วสาวๆ เราจะทำยังไง"
"เข้าคิวออดิชั่น คานทอง เดอะซีรีส์กับพี่เลยค่ะน้อง"

พี่เมย์บอก

"โห ต่ายพูดงี้ ผมรู้สึกผิดแย่เลย"

ไอ้น้องแมกซ์ทำแอ๊บแบ๊ว

"ไม่เห็นต้องรู้สึกผิดเลยครับ ถ้าน้องดื้อไม่เอา มาคบกะพี่ไหม 555"
"อ่ะ จริงๆ นะครับพี่แมกซ์ มากิ๊กกันไหมล่ะ ผมต้องขออนุญาตพี่ต้อมก่อนรึเปล่าครับ"

พี่ต้อมทำท่าเหรอหรา โธ่
อิแมกซ์หัวเราะร่วน สาธุ กูขอให้เมิงได้กันจริงๆ เถอะ

"เออดื้อ ที่เมื่อวานมึงโดดซ้อมฟุตบอลอ่ะ ไปไหนวะ วันนี้อย่าโดดอีกนะเมิง พี่เขาเล็งเมิงลงตัวคณะอยู่ กูไปได้ยินมา"

โวะ ทำไมต้องวกมาที่เจ้าเหล็กดัดทุกทีด้วยนะ หมั่นไส้ เแมนกันเหลือเกินนะ เตะบอล แล้วไมแม่งเป็นเกย์กันวะ

"กูไม่ได้เล่นกะลงคณะ"
"อ้าว มีสปิริตหน่อยดิเห้ย"
"เตะบอลด้วยเหรอเราสองคนอ่ะ เล่นกันสนามไหนอ่ะ"

อีแมกซ์รีบสอด ยัยเห็ดสนใจเต็มที่ คงกำลังมโนภาพผู้ชายถอดเสื้อวิ่งไล่ฟุตบอลล่ะสิ โวะ คุยไรกัน น่าเบื่อ

"เล่นตรงคณะแหละครับ แต่ช่วงนี้ย้ายไปสนามกลาง"
"จริงดิ"
"ครับ ช่วงนี้ใกล้แข่ง … บลาๆๆๆ"
“แล้วนี่เราเชียร์ทีมไหน บลาๆๆๆ”

จ้า คุยกันเสร็จ ปลุกกูด้วยนะ

"พี่มิว เตะบอลด้วยป่ะครับ"

หา ว่าไงนะ  มาถามกูทำไมเนี่ย หน้ากูแสดงความสนใจเรื่องที่พวกมึงคุยกันขนาดนั้นเลยเหรอ

ทุกคนยังคงรอคำตอบ อีแมกซ์ส่งยิ้มเยาะมาให้

"ก็..." เอาไงดี โอ๊ย คุยห่าอะไรเนี่ย "ไม่ได้เล่นแล้วครับ"

ไม่ได้เล่นตั้งแต่สองขวบครึ่งละ หันไปเล่นโดดหนังยาง ขายข้าวแกงกับเล่นพ่อแม่ลูกแทน สนุกกว่าวิ่งไล่ลูกบอลพลาสติกเหมือนคนบ้าเป็นไหนๆ

"อ้าว เหรอครับทำไมล่ะครับ"
"ก็..."

อะไรล่ะ ผมพูดอะไรไปเหรอ บอกไปดิ ว่าเกิดมาจับลูกบอลแบบนับครั้งได้ ปิงปองยังเล่นไม่เป็นเลย นับประสาอะไร
“ก็อะไรยะ”

นังเห็ดถามต่อ โว้ย จะปล่อยกูไปบ้างไม่ได้หรือยังไง

 "อุบัติเหตุน่ะ ข้อเท้าฉีกตอน ม.2 เลยเลิก"

อืม ฟังดูดี

"เฮ้ย มึงเคยเตะบอลด้วยเหรอ ทำไมกูไม่รู้วะ" ไอ้แมกซ์ถาม "แม่ง หนักจนข้อเท้าฉีกเลยเหรอ"

"ก็... ตอนนั้นกูยัง ม.2 อยู่เลย มึงจะไปมารู้อะไร ที่จริงนะ กูเป็นตัวจริงทีมเยาวชนเทศบาลด้วย เชี่ย พอเห็นคนอื่นเล่นแล้วตัวเองเล่นไม่ได้มันเจ็บปวดว่ะ  กูเลยหันไปฟังเพลงเล่นดนตรีแทน"
"พี่มิว เล่นตำแหน่งอะไรครับ"

โวะ นี่เหล็กดัดเชื่อด้วยเหรอเนี่ย

เอิ่ม มันมีตำแหน่งด้วยใช่ไหม ไอ้ฟุตบอลเนี่ย อ๋อ ที่แบบ... ปีกซ้าย ปีกขวา กองกลาง ใช่ไหมๆ

"ศูนย์หน้า เมื่อก่อนฝึกล็อคลูกทำประตูอย่างเดียวเลย"

อ่ะ ได้อีก ขอบคุณนิตยสารสตาร์ซอกเกอร์ของพี่ชายที่เคยแอบตัดรูปเดวิด เบ็คแคมสุดเซ็กซี่มาติดสแครปบุ๊ค

"อ้าวเหรอ กูนึกว่ามึงเป็น นายทวาร อิอิ"

เสร่อมาก มุขมึงเนี่ย

"ผมว่านะ" ไอ้น้องแมกซ์จะสาระแนอะไรอีกละเนี่ย พอเหอะ เปลี่ยนเรื่องคุยเห๊อะ "นั่นมันก็ตั้งนานแล้ว ไม่น่าจะมีอะไรแล้ว พี่มิวน่าจะลองเล่นอีกซักครั้งนะครับ ผมอยากเห็นอดีตดาวซัลโวทีมเยาวชนยิงประตู เอานะครับพี่ พรุ่งนี้ไปปัดฝุ่นกัน เดี๋ยวผมเอาสะตั๊ดมาให้ยืม พี่มิวใส่เบอร์ไรอ่ะ"
"อ่ะ ไม่เป็นไรมั้ง พี่ว่า พี่อาจจะ..."
"ไม่เป็นไร เดี๋ยวพี่จัดการให้มันเอง เท้ามันพี่จำได้"

ไอ้แมกซ์บอก ยิ้มชั่วร้าย

"ดื้อ มึงพาพี่มิวมาด้วยนะ พรุ่งนี้ 5 โมงตรง สนามกลาง พี่ต้อมเอาด้วยไหมพี่"
"เอาดิ น่าหนุกนะ พี่ก็อยากเห็นมิวในคราบ เจ้าหนูสิงห์นักเตะเหมือนกันนะ"
"แอร๊ยส์ งั้นพวกเราชวนทั้งเมเจอร์ไปดูกันเลยไหม แบบ แอะเมซซิ่งมากอ่ะ ที่ไอดอลแห่งเมเจอร์ปรัชญา เคยมีอดีตอันขมขื่นเกี่ยวกับฟุตบอล อะไรหยั่งงี้"
"งั้น เดี๋ยวต่ายจะเกณฑ์เพื่อนๆ น้องๆ ไปเชียร์เลยคะ พี่เมย์ว่างไหมคะ"
"เอ้อ แล้ว ไม่ซ้อมบูมกันรึไง" ผมท้วง "วันเสาร์จะขึ้นดอยละนะ"
"เดี๋ยวต่ายกับพี่แมกซ์ ต่อรองกับพี่คนอื่นๆ เองค่ะ เนอะพี่แมกซ์เนอะ พี่มิว สู้ๆ นะคะ"

อ่ะ

"ครับ"

ทำไมทุกคนดูกระตือรือร้นกันจัง
แบบนี้ใช่ไหมครับ ที่เขาเรียกว่า งานเข้า
ฆ่ะ งานเข้าแล้วกู


 :beat:  :beat:  :beat:  :beat:  :beat:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-04-2015 01:56:16 โดย bennietakky »

ออฟไลน์ nOn†ღ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-6
มาต่อเรื่องแล้ว  :oni2:

อยากจะสมัครเป็นน้องสาวนายเอกคุณสมบัติตรงหมดยกเว้นอายุเกิน  :laugh:

อิอิ ขอให้ได้รางวัลในการประกวดนะจ้ะ  :L2:

ออฟไลน์ Tifa

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1474
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +417/-2
คริๆ เกิดศึกย่อมๆซะแล้ว

อยากไปดูน้องๆเล่นบอลจังเลย

ท่าจะสนุกน่าดูชม 555

funnyu

  • บุคคลทั่วไป
ฮ่า ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ว่าว มิว เป๊ก งานเข้าแล้ววววว
 :a6: 55555555555


จะรออ่านน้า~~ >O<

ออฟไลน์ IZE

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4601
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-3
ดูสับสนวุ่นวายจริงๆๆเลยๆๆๆ

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
ชนะเลิศน้องว่าว

งานเข้าละเมิงเอ้ยยยย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด