กับดักที่
- 17 -
แรงขยุกขยิกข้างๆตัวทำให้ปอรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ เขาไม่รู้ว่าตัวเองหลับไปนานแค่ไหนแต่เท่าที่มองออกไปนอกหน้าต่าง ฟ้าสว่างโร่ขนาดนี้แสดงว่าเขาคงหลับไปไม่นาน ก้มลงไปมองคนในอ้อมแขนก็เห็นเจ้าตัวเงยหน้ามองเขาอยู่เหมือนกัน แถมดิ้นขยุกขยิกจะออกจากแขนเขาให้ได้
“ปล่อย” เลิฟบอกเสียงแหบ ปอไม่ปล่อยแต่ยกฝ่ามือขึ้นมาจับตามตัวของเลิฟแทน
“มึงมาได้ยังไง” เลิฟเห็นท่าทางของปอก็รู้แล้วว่าคงไม่ทำตามเลยเปลี่ยนเป็นถามแทน เขารู้สึกตัวตื่นขึ้นมาเพราะหิวน้ำแต่พอลืมตาขึ้นมา แทนที่จะเห็นหน้านาวกลายเป็นเห็นหน้าปอซะงั้นแถมยังมานอนกอดเขาอีก
เลิฟสบตากับปอที่มองอยู่ด้วยแววตาสับสนเขาไม่เข้าใจว่าปอมาหาเขาทำไม ทั้งๆที่เมื่อวานมันพูดแบบนั้นแล้วปล่อยเขาทิ้งไว้ที่สี่แยก ถึงจะเป็นเขาเองที่อยากจะลงจากรถแต่มันก็ไม่ได้คิดจะห้ามไม่ใช่หรอ แล้ววันนี้มาหามานอนกอดทำไม
ปอยกคิ้วข้างนึงขึ้นสูงที่ได้ยินคำถามของเลิฟ ตอนเขามามันก็เห็นเขา แล้วตอนนี้มันมาถามว่าเขามาได้ยังไง ไอ้อาการเมื่อตอนเที่ยงนี่มันละเมอเหรอครับ มันถึงตื่นมาอีกทีแล้วจำไม่ได้
“นี่มึงจำไม่ได้” ปอถามกลับ
“จำอะไร” เลิฟขมวดคิ้วสงสัย
“ตอนเที่ยง” ปอว่าแค่นั้นแล้วลุกขึ้นยืน เดินเอากะละมังไปเปลี่ยนน้ำ เมื่อกี้จับตัวดูไม่ค่อยร้อนเท่าไหร่แล้ว
เลิฟมองตามหลังปอที่เดินออกไป แล้วค่อยๆพยุงตัวเองขึ้นมานั่งพิงหัวเตียงคิดตามที่ปอพูด เมื่อตอนเที่ยงงั้นเหรออย่าบอกนะว่า....นั่นไม่ใช่ความฝัน โอ๊ยยยย นี่เขาทำอะไรลงไปบ้างเนี่ยจะบ้าตาย
“มึงเป็นอะไร” ปอที่เดินกลับเข้ามาพร้อมกับกะละมังในมือถามเลิฟขึ้นอย่างสงสัย เพราะเห็นว่าเลิฟกำลังเอามือขยี้หัวตัวเองอยู่
“ยุ่ง!!” เลิฟหันมาตอบปอหน้ายู่ก่อนจะสะบัดหนีไปอีกทาง เขายังโกรธมันอยู่นะเรื่องเมื่อวาน
ปอเห็นท่าทางๆของเลิฟก็ส่ายหัวเบาๆอย่างเหนื่อยใจ แม่งอารมณ์ขึ้นลงยังกับผู้หญิงเวลาเป็นเมนส์ (ได้ยินเขาว่ามา) เขาวางกะละมังน้ำไว้ที่โต๊ะข้างเตียงแล้วนั่งลงข้างๆเลิฟ ยื่นมือไปแกะแผ่นเจลลดไข้ออกให้ก่อนจะเอามือทาบลงไปที่หน้าผากเพื่อเช็คอุณหภูมิอีกที ตัวมันเย็นลงกว่าตอนเที่ยงเยอะเป็นเพราะมันไม่ยอมกินยา ไม่ยอมเช็ดตัวนั่นแหละมันเลยนอนเปื่อยแบบนั้น
“มึงเป็นไงบ้าง” ปอถามด้วยความเป็นห่วงแต่ตอนนี้หน้าเลิฟก็มีเลือดฝาดขึ้นมาบ้างแล้ว แสดงว่าอาการคงดีขึ้นไม่ต้องแบกกันไปหาหมอ
“มึงมาทำไม” เลิฟหันมาถามแล้วจ้องตากับปอตรงๆ
“เดี๋ยวกูเช็ดตัวให้จะได้กินข้าวกินยาแล้วนอนพัก” ปอเลี่ยงไปพูดเรื่องอื่นแทน
“มึงมาทำไม”
“ถอดเสื้อกูจะเช็ดตัวให้”
“มึงมาทำไม...ไม่ต้องมาถอดเลยนะ!!!” เลิฟโวยวายเสียงดังเพราะนอกจากปอจะไม่สนใจตอบคำถาม เจ้าตัวยังบังคับถอดเสื้อผ้าเขาอีก
“อยู่นิ่งๆดิวะจะดิ้นทำไม” ปอดุเลิฟนิดๆเพราะคนตัวเล็กไม่ยอมอยู่นิ่งๆให้เขาถอดเสื้อ เขาเองก็ไม่กล้าทำอะไรแรงๆเดี๋ยวเป็นหนักกว่าเดิมจะซวยเอา
“โอ๊ย!!!!!” เลิฟร้องออกมาด้วยความเจ็บเพราะดิ้นจนตกลงจากเตียงไปกองที่พื้น
ปอมองเสื้อของเลิฟในมือที่ตัวเองถอดสำเร็จ แล้วเหลือบสายตาไปมองเลิฟที่นั่งโอดโอยอยู่บนพื้น สมน้ำหน้ามันดิ้นดีนักดิ้นจนได้เรื่อง
เลิฟเงยหน้ามองปอด้วยความเจ็บใจและก็เจ็บตัว ส่วนปอก็ได้แต่ส่ายหัวให้กับความรั้นของเลิฟ ก่อนจะเดินมายืนอยู่ข้างๆคนตัวเล็กที่กำลังทำหน้างอน้ำตาคลอเบ้าอยู่ ปอจัดการอุ้มคนตัวเล็กขึ้นมานั่งบนตักตัวเองแล้วลงมือเช็ดตัวให้ทั้งอย่างนั้น โดยมีเลิฟคอยดิ้นจะลงจากตักตลอดเวลา
“หยุดดิ้น!!” ปอดุเลิฟเสียงเข้ม ตอนนี้ทั้งเขาทั้งมันเปลือยท่อนบนทั้งคู่ แค่ลำพังต้องมามองมันแก้ผ้าก็ทำใจลำบากแล้ว นี่มันยังไม่รู้ตัวว่ายิ่งมันดิ้นอะไรๆมันก็ยิ่งสัมผัสกัน เดี๋ยวถ้าอะไรแม่งลุกขึ้นมาคนที่จะเจ็บตัวก็มันนั่นแหละ
“อย่ามาสั่งนะ!!” เลิฟหยุดดิ้นแล้วตวาดเสียงดังทำตาเขียวใส่ปอ
“นี่มึงกล้าขึ้นเสียงใส่กูหรอห๊ะ!!” ปอว่าเสียงเข้มทำตาดุใส่
“ทำไมจะไม่กล้ามึงเป็นอะไรกับกูล่ะ” เลิฟว่ากลับไป คำพูดที่เหมือนไม่มีอะไรแต่แฝงความหมายเอาไว้ ในใจก็รอฟังคำตอบ
“แล้วมึงคิดว่ามึงเป็นอะไรกับกูล่ะ” ปอว่าเสียงเรียบแล้วมองตาเลิฟนิ่งๆ
ปอไม่ได้ตอบคำถามอะไรเลิฟไป เพราะเขาก็ไม่รู้เหตุผลในการกระทำของตัวเองเหมือนกัน สิ่งที่เขาแสดงออกกับเลิฟมันต่างจากคนอื่นมาแล้วตั้งแต่ต้น แค่เขาเองยังไม่รู้เหตุผลในความต่างนั้น ถ้าแม้แต่ตัวเขาเองก็ยังไม่รู้เหตุผล เขาก็คงจะบอกใครหรือแม้แต่ตัวไอ้เลิฟเองไม่ได้ ว่าระหว่างมันกับเขาคืออะไร
เขาไม่ใช่คนดีออกไปทางเลวด้วยซ้ำ ถ้าใครสักคนมันจะเสียใจเสียความรู้สึกก็ช่างหัวมัน แต่กับไอ้เลิฟเท่านั้นที่เขารู้สึกว่าไม่อยากให้มันเสียใจ แต่จะให้ปล่อยไปเขาก็ทำไม่ได้ ถ้ามันจะต้องเสียใจจริงๆก็ให้มันเสียใจเพราะเขาแล้วกัน
จะบอกว่าเขาเห็นแก่ตัวก็ยอมรับ อะไรที่มันอยู่ในมือเขาถ้าไม่เบื่อเขาจะไม่ปล่อย และถ้ามันจะพังก็ต้องพังเพราะมือเขาเท่านั้น ถามว่าตอนนี้รักไอ้เลิฟไหมบอกเลยว่าไม่ได้รักแต่มันเป็นคนพิเศษ ใช่...พิเศษกว่าคนอื่นแบบที่ไม่มีใครเคยได้มาก่อน แต่อย่าเอาอะไรกับเขามากนักเลยเพราะมันแค่ความรู้สึกตอนนี้แค่นั้น
เลิฟจ้องเข้าไปในดวงตาของปอเพื่อหาคำตอบ แต่แววตาคมดุมีแค่ความว่างเปล่าเท่านั้นมันเย็นชาจนเขาใจหายและเจ็บ มันจะไม่เจ็บขนาดนี้เลยถ้าเขาจะไม่รู้สึกอะไรมากกว่าที่คิด ไม่รู้ว่าตัวเองมีความรู้สึกแบบนี้ตั้งแต่ตอนไหน บางทีอาจจะรู้สึกมาตั้งแต่แรกแค่ไม่เคยรู้ตัวก็ได้
“แค่เท่าที่เป็นอยู่ตอนนี้ไม่ได้เหรอวะ” คำพูดของปอที่หลุดออกมา ทำให้น้ำตาของเลิฟที่คลอเบ้าไหลลงมาอย่างช่วยไม่ได้ แค่เท่าที่เป็นหรอ...แล้วเท่าที่เป็นระหว่างมันกับเขาคืออะไรล่ะ แค่ความรู้สึกที่มีตอนนี้มันก็ไม่เท่ากันแล้ว
ปอยกมือขึ้นมาเช็ดน้ำตาที่ข้างแก้มให้เลิฟอย่างเบามือ ก่อนจะกดริมฝีปากลงที่หน้าผากเนียนเพื่อปลอบโยน เขาพอจะเดาความรู้สึกของเลิฟออก เพราะสังเกตุจากท่าทางและอาการที่มันฟ้องออกมาตลอด เหลือแค่คำพูดที่จะออกจากปากมันแค่นั้น ซึ่งแม้แต่ตัวเขาเองก็ยังไม่แน่ใจว่าอยากจะได้ยินรึเปล่า
น้ำตาที่ควรจะหยุดไหลของเลิฟกลับไหลลงมายิ่งกว่าเก่า จนตอนนี้ภาพข้างหน้ามันพร่าไปหมดเขาไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี แต่เท่าที่เป็นอยู่ตอนนี้มันก็คงดีกว่าไม่ได้อะไรเลยใช่ไหม
“ปอ...” เลิฟเรียกชื่อปอด้วยเสียงสั่นๆก่อนจะโผเข้ากอดปอแน่น ซบหน้าลงกับไหล่ของปอปล่อยให้น้ำตาไหลอยู่อย่างนั้น มีปอคอยกอดและลูบหลังปลอบ
“แล้วมึงมาที่นี่ได้ยังไง” เลิฟถามเสียงอู้อี้เพราะหน้ายังซบกับไหล่ปออยู่
“เพื่อนมึงบอก...กูเลยมาดูว่ามึงตายรึยัง” ปอว่าเสียงกวนๆ
“ไอ้เหี้ย” เลิฟเงยหน้าจากไหล่มาตวาดเสียงเขียวใส่ปอ ก่อนจะเอื้อมมือดึงหูปอสองข้างด้วยความหมั่นไส้
“โอ๊ย!!! มึงกล้าทำกูหรอฮะ” ปอแกล้งทำเสียงดุใส่เลิฟ
“เออ!!! เห็นแล้วนี่ว่ากูยังไม่ตาย มึงกลับไปได้ละกูจะได้โทรตามให้พี่โชนมาเยี่ยม” เลิฟพูดประชดออกไปเพราะความอยากเอาชนะ
“อย่าให้กูรู้ว่ามึงไปไหนกับมันสองคนอีก” ปอว่าเสียงเข้ม ทำเอาเลิฟหน้าจ๋อยก้มลงไปซุกกับไหล่ปออีกครั้ง
“ปอ...หิวข้าวอ่ะ”
“สมควรหิว” ปอว่าออกไปเพราะหมั่นไส้ เลิฟเงยหน้าขึ้นมาทำปากยื่นใส่ปอเลยโดนปอดึงปากเข้าให้
“โอ๊ย!! ปออ่ะชอบดึงปาก” เลิฟว่าเสียงแหวแล้วก็ยกมือมาจับปากตัวเอง
“ทำอีกบ่อยๆสิ...รออยู่นี่เดี๋ยวกูลงไปถามเพื่อนมึงให้ว่ามีอะไรกินบ้างแล้วก็ใส่เสื้อได้แล้วก่อนที่มึงจะตายจริงๆ” ปอสั่งแล้วยกตัวเลิฟลงจากตักไปวางไว้บนที่นอน ก่อนจะเดินลงไปหาข้าวมาให้เลิฟกิน
...
...
“มีอะไรกินไหม” ปอถามนาวที่นั่งคุยอยู่กับพีทในห้องนั่งเล่น นาวสะดุ้งเล็กน้อยเพราะอยู่ดีๆปอก็ถามขึ้นแบบไม่ให้สุ้มให้เสียง
“มีข้าวต้มในครัวน่ะคะพี่ปอหิวข้าวเหรอคะ” นาวหันมาคุยกับปอตาก็แอบมองสำรวจปอไปด้วย ตอนนี้พี่ปอไม่ได้ใส่เสื้อเธอยิ่งเห็นหุ่นได้ชัด ผู้ชายอะไรหุ่นโคตรดีมีกล้ามกำลังสวยแถมไอ้หน้าตาหล่อๆนั่นอีก ถ้าพวกสาวๆในมหา’ลัยรู้ว่าตัวจริงของมหาปอแห่งคณะวิศวะหล่อขนาดนี้นะ สงสัยหัวบันไดคณะคงไม่แห้งเพราะลำพังแค่พวกไอ้พี่กิงสาวๆก็เวียนมาให้วุ่น
“เปล่า...ไอ้เลิฟมันบ่นหิว” ปอว่า
“เลิฟตื่นแล้วหรอคะอาการมันดีขึ้นบ้างไหม” นาวถามด้วยความเป็นห่วง
“ดีขึ้นล่ะ”
“เฮ้อ!!! งั้นนาวไปตักข้าวต้มให้นะคะ” นาวถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกเดินเลี่ยงเข้าไปในครัวเพื่อตักข้าว สักพักนาวก็ออกมาพร้อมข้าวต้มหนึ่งชามก่อนจะส่งให้ปอ
“ระวังร้อนนะคะพี่”
“ขอบใจ” ปอยื่นมือมารับแล้วเดินหันหลังกลับขึ้นไปชั้นบน
วินาทีที่ปอหันหลังทำเอานาวกับพีทต้องอ้าปากค้าง เพราะว่าแผ่นหลังที่เธอคิดว่าไม่น่าจะมีอะไร แต่กลายเป็นว่ามีรอยแผลข่วนเล็กๆเต็มไปหมด พอเอาไปคิดรวมกับรอยแดงรอบคอของเลิฟ มันก็ชัดเจนทุกอย่างแบบที่ไม่ต้องไปเอ่ยปากถามให้ยุ่งยาก
“นาว...มึงคิดแบบที่กูคิดไหม” พีทหันมาถามนาวด้วยสีหน้าที่ยังตกใจไม่หายกับสิ่งที่พึงเห็น
“กูคิดก่อนมึงอีก” นาวว่าออกไปบ้าง
“สรุปเพื่อนเขยไม่ใช่เพื่อนสะใภ้สินะ” พีทพึมพำออกมาเบาๆแต่นาวได้ยินชัดเจน แล้วพยักหน้าเห็นด้วยกับพีทว่าพวกเธอได้เพื่อนเขยชัวร์ๆ
...
...
เลิฟกินข้าวที่ปอถือมาให้จนเกลี้ยง ก่อนจะรับยามากินตามลงไป กำลังจะล้มตัวลงนอนเสียงโทรศัพท์ของปอก็ดังขึ้น ทำให้เลิฟต้องมองตามอย่างสนใจ
“ว่าไงปราง”
ทันทีที่ได้ยินชื่อของคนที่โทรมาก็ทำเอาแววตาของเลิฟสลดวูบ จิตใจเริ่มห่อเหี่ยวอีกครั้งน้ำตาทำท่าจะไหลออกมาอีกรอบ จนเขาต้องกระพริบตาถี่ๆเพื่อไล่น้ำตาไม่ให้ไหล
“พี่อยู่กับมันเนี่ยแหละจะคุยไหมล่ะ” ปอตอบคำถามน้องสาวตัวเองแบบเซ็งๆ ไม่รู้ว่าใครคาบข่าวไปบอกยัยปรางว่าไอ้เลิฟไม่สบาย แถมยัยตัวแสบยังรู้ด้วยว่าเขามาหาไอ้เลิฟที่นี้
“............” เลิฟมองโทรศัพท์ยื่นมาตรงหน้าด้วยความงง
“ปรางอยากคุยกับมึง” ปอว่าแล้วยัดโทรศัพท์ใส่มือเลิฟ ส่วนตัวเองก็เดินเลี่ยงออกไปสูบบุหรี่ที่ระเบียงแทน
เลิฟมองโทรศัพท์ในมืออย่างชั่งใจ หัวใจมันเต้นเร็วจนเหมือนจะทะลุออกจากอกฝ่ามือเย็บเฉียบไปหมด หรือว่าปรางจะรู้ความจริงเรื่องเขากับไอ้ปอเลยจะด่า ยิ่งคิดก็ยิ่งประสาทเสีย
“ครับ” เลิฟพูดใส่โทรศัพท์แบบกล้าๆกลัวๆ
“(เลิฟ!!!)” ปรางตะโกนเรียกชื่อเลิฟเสียงดัง
“คะ...ครับ” เลิฟสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะขานรับตะกุกตะกัก
“(ไม่สบายอาการดีขึ้นรึยัง)”
“ดีขึ้นแล้วครับ”
“(แล้วนี่ใครดูแลเลิฟคะเนี่ย..ปอรึเปล่า?)”
“อะ...เอ่อ” เลิฟอึกอักขึ้นมาทันทีเพราะไม่รู้ว่าปรางพูดถึงปอขึ้นมาทำไม
“(มันน่าหยิกให้เนื้อเขียวจริงๆคนอะไรนิสัยไม่ดี ทำตัวเป็นแมวขโมยแล้วยังมาทำแบบนี้อีก)”
“..........” คำพูดของปรางทำเอาเลิฟหน้าซีดยิ่งกว่าเดิม แมวขโมยเหรอ?
“ชอบทำอะไรแบบนี้อยู่เรื่อยแถมคราวนี้กับคนใกล้ตัวปรางอีก”
“...........”
“(เลิฟคะทำไมเงียบไปล่ะ)”
“คือ...ผม”
“(นี่ปอทำอะไรเลิฟหรือเปล่าเนี่ย)”
“เปล่าครับ..คือ”
“(พี่ชายปรางนิสัยเสียแบบนี้แหละเลิฟอย่าถือสานะ)”
“พี่ชาย? ใครครับ” เลิฟถามกลับด้วยความงง พี่ชายปรางเหรอใคร?
“(ก็ปอไงคะพี่ชายปรางมีอะไรรึเปล่า)” คำตอบของปรางทำเอาเลิฟถึงกับอึ้งปอเป็นพี่ชายปรางเหรอ งั้นที่ผ่านมาเขาก็คิดไปเองคนเดียวนะสิ
เลิฟรู้สึกทั้งโล่งอกทั้งอายที่คิดอะไรคนเดียวเป็นเรื่องเป็นราว แต่ตอนนี้รู้สึกเคืองปอที่สุด ทำไมไม่ยอมบอกว่าปรางเป็นน้องสาว ไอ้คนนิสัยเสีย
หลังจากนั้นเลิฟก็คุยโทรศัพท์กับปรางอีกสักพัก ส่วนมากก็เป็นปรางนั้นแหละที่พูด เขาได้แต่ครับๆพูดมากกว่านั้นไม่ได้เจ็บคอ ไม่นานอีกฝ่ายก็วางสายไปพอดีกับที่ปอสูบบุหรี่เสร็จแล้วเดินกลับเข้ามาในห้อง เลิฟเลยทำหน้าบึ้งยื่นโทรศัพท์คืนให้
“ทำไมปอไม่บอกว่าปรางเป็นน้อง”
“มึงเคยถาม” ปอทำหน้ายียวนใส่
“ไอ้คนนิสัยไม่ดี” เลิฟทำเสียงเหวี่ยงใส่ก่อนจะสะบัดหน้าไปอีกทาง
“หึ หึ มึงควรทำใจเพราะกูเหี้ยกว่านี้เยอะ” ปอนั่งลงข้างๆแล้วอุ้มคนงอนขึ้นมานั่งบนตัก
“แล้วนี่มึงงอนอะไรกู”
“เปล่างอน” เลิฟว่าหน้างอ
“ไม่งอนแต่หน้ามึงงอปากมึงยื่นออกมาเนี่ยนะ” ปอว่ายกมือเตรียมจะดึงปากเลิฟเล่น
“อย่านะ!!” เลิฟว่าเสียงแหวก่อนจะยกมือขึ้นมาปิดปากตัวเองทั้งสองข้าง เพราะกลัวว่าปอจะดึงปากตัวเองเล่น
“หึ หึ” ปอหัวเราะในลำคอแล้วก้มลงหอมแก้มเลิฟเต็มแรง
ฟอดดดดด
“ไม่ต้องมาหอมเลย” เลิฟว่างอนๆแล้วยกมือปิดแก้มไว้ทั้งสองข้าง
“กูไม่หอมก็ได้” ว่าแค่นั้นปอก็ประกบปิดปากเลิฟทันที ส่งลิ้นเข้าไปหยอกล้อกับลิ้นเล็กเป็นการทักทาย ส่วนเลิฟก็เปิดปากรับสัมผัสเต็มที่จูบตอบไปตามประสา แขนเรียวทั้งสองข้างย้ายมากอดคอปอไว้แน่น มือของปอล้วงเข้าไปในเสื้อของเลิฟลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลัง ก่อนจะวกกลับมาด้านหน้าสะกิดยอดอกเล็กๆจนมันขึ้นเป็นตุ่มไต
ปอผละริมฝีปากออกมาแล้วจูบไซร้ตามแก้มลงมาเรื่อยๆ พอถึงซอกคอก็อดไม่ได้ที่จะดูดจนมันขึ้นรอยแดง มือทั้งสองข้างก็บีบเค้นไปทั่วตัวเลิฟ
“อื้อ..” เลิฟส่งเสียงออกมาเพราะว่ารู้สึกเจ็บจากแรงบีบของปอ
“พอแค่นี้มึงไม่สบาย” ปอบอกเสียงพร่า หยุดการกระทำทุกอย่างลงก่อนที่มันจะเลยเถิดไปกว่านี้ จูบปากเลิฟแรงๆอีกทีนึงทิ้งท้ายแล้วก็กอดคนตัวเล็กไว้แน่นเพื่อข่มอารมณ์ จริงๆไม่ใช่เพราะเลิฟไม่สบายแต่เป็นเพราะห้องนี้เป็นห้องของนาว แล้วน้องก็เป็นผู้หญิงขืนเอากันในนี้เจ้าของห้องคงช็อคตาย สงสารครับเพราะดูแล้วน้องน่าจะยังโสด
“อือ” เลิฟว่าแล้วก็กอดคอปอไว้แน่น ซบหน้าลงที่ไหล่เพื่อซ่อนหน้าแดงๆของตัวเอง
...
...
“มึง...เลิฟมันดีขึ้นรึยังวะ” กั้มหันมาถามนาวเขาพึ่งมาถึงเมื่อกี้นี่เอง
“ดีแล้ว” นาวว่า
“มึงรู้ได้ไงก็มึงนั่งอยู่เนี่ย”
“พี่ปอเป็นคนบอก”
“พี่ปอ? คนที่ทะเลาะกับไอ้เลิฟอ่ะนะ”
“เออ...คนนั้นแหละ”
“เฮ้ย!!! แล้วมึงปล่อยให้พี่เขาอยู่กับมันสองคนเหรอวะ ไม่ใช่เขาฆ่าไอ้เลิฟหมกใต้เตียงแล้วนะเว้ย” กั้มโวยวายออกมาด้วยความเป็นห่วงเพื่อน
“เขาไม่ทำหรอกเชื่อกู”
“มึงรู้ได้ไง”
“เออน่า” นาวตอบปัดๆ
“ไม่เอากูจะขึ้นไปดูกูเป็นห่วงมัน” กั้มว่าแล้วลุกเดินขึ้นบันไดไปทันที นาวจะห้ามก็อ้าปากไม่ทัน เลยต้องเดินตามหลังกั้มขึ้นไปแทน มีพีทเดินตามไปอีกคนอย่างช่วยไม่ได้
พอเดินมาถึงหน้าห้องกำลังจะเคาะประตูเรียก แต่เห็นว่าประตูเปิดแง้มอยู่กั้มเลยผลักเข้าไปโดยไม่ขออนุญาต และก็ต้องหยุดชะงักไปเพราะภาพที่เห็นในห้องทำเอาไม่กล้ารบกวน เลิฟกำลังจูบกับพี่ปอดูดดื่มเสียงดังจ๊วบจ๊าบมาถึงนี่ แล้วมือพี่ปอที่ล้วงเข้าไปในเสื้อนั่นอีกอะไรกันวะไหนบอกว่าไม่ถูกกันไง
นาวเอื้อมมือมาปิดประตูห้องเบาๆแล้วจัดการลากเพื่อนทั้งสองคนลงข้างล่าง เมื่อกี้เธอก็ตกใจเหมือนกันเพราะไม่ได้คิดว่าจะมาเจอช๊อตเด็ดแบบนี้ ที่สำคัญนั่นมันห้องนอนเธอนะจะทำอะไรช่วยเกรงใจบ้างได้ไหม โอ๊ย!!ให้ตายสิ
“มึง...ตกลงยังไงวะ” กั้มหันมาถามนาวเพราะยังอึ้งไม่หาย
“ภาพชัดขนาดนั้นมึงยังจะถามอีกหรอวะ”
“ไปได้กันตอนไหนวะ”
“ตอนที่มึงกับกูไม่รู้ไง”
“เหี้ย!!! โคตรจะเซอร์ไพรซ์” กั้มถึงกับครางออกมา
“มึงว่าหลังจากจูบเขาจะต่อป่ะ” กั้มถามต่อด้วยความทะลึ่ง
“กูจะรู้ไหม...แต่นั่นมันห้องกูควรเกรงใจไอ้เหี้ย” นาวว่าหน้าแดง
“...Yes แน่นอน คนนี้ Yes แน่นอน...” พีทไม่ตอบแต่ร้องเพลงขึ้นมาแทน ทำเอาอีกสองคนที่เหลือถึงกับขำก๊ากอย่างถูกใจ ไม่คิดว่าพีทจะกล้าเล่นเพราะปกติพีทจะไม่เล่นอะไรแบบนี้ ถ้าเป็นกั้มก็ว่าไปอย่าง
“ฮ่าๆๆ...สัส...คิดได้นะมึง” กั้มว่าแล้วนั่งหัวเราะต่อ ส่วนพีทก็ยักคิ้วส่งให้กวนๆ
นาวได้แต่ขำไปส่ายหัวไปแต่ในใจหวังว่าพี่ปอคงจะไม่ทำอะไรเลิฟในห้องเธอนะ ขอร้องเถอะอย่าสร้างราคีให้พื้นที่ส่วนตัวของเธอเห็นใจคนโสดแบบเธอบ้าง!!!
2 Be Con...