ขอให้ ✖ (ไม่) ใช่รัก || [เปิดจอง Re-print : วันนี้ - 30 มิ.ย. 61]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ขอให้ ✖ (ไม่) ใช่รัก || [เปิดจอง Re-print : วันนี้ - 30 มิ.ย. 61]  (อ่าน 89996 ครั้ง)

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ marisa9397

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 246
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ขอบคุณมากนะคะ ดำเนินเรื่องได้น่าติดตามมากค่ะ  :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ AiiiKoiii

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 30
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เป็นเรื่องที่ดำเนินไปแบบเป็นเหตุเป็นผลดีนะคะ
นึกภาพตามออก เข้าใจความคิดของตัวละคร
ไม่หวือหวาแร่ว่ามันสมูททททททดี
:):):):)

ออฟไลน์ ketekitty

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 778
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
เฮียน่ารัก ไม่ไปไหนจริงๆ  :katai2-1:

ออฟไลน์ Raina

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 341
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-2
กว่าจะเข้าใจกันได้ ลุ้นแทบแย่ นี่เป็นนิยายวายเรื่องแรกที่อ่านที่พ่อมียศแต่รักและเข้าใจลูก อยากให้ชีวิตจริงเป็นแบบนี้จัง   :กอด1:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
จบแล้ว สมชื่อเลย
ขอให้ ✖ (ไม่) ใช่รัก ก็เลยไม่มีฉากสวิต วิ้ดวิ้ว หวานๆ ของป้องกับหนึ่งเลย
ขอไร้ท บ้าง  :mew2:  ขอตอนพิเศษ นะะะะ  :mew1: :mew1: :mew1:
 :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ ณ ที่เดิม™

  • มากกว่าชีวิต...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1699
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-0
อ่านจบแล้ว นั่งอ่านไปอึดอัดไปแทบแย่
อารมณ์เหมือนกลั้นหายใจดำน้ำอยู่ยังไงยังงั้นแหละ

อ่านจบก็โล่งเหมือนได้สูดออกซิเจนกลับคืนสู่ปอดอีกครั้ง
สุดท้ายขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆที่นำมาแบ่งปันฮะ :กอด1:

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆแบบนี้นะคะ อินมาก จัดไปซะเยอะเลย ภาษาดีงาม เนื้อเรื่องสมบูรณ์แบบมากค่ะ ชอบตัวละครทุกตัว เรารู้สึกสัมผัสได้ถึงความเป็นมนุษย์ ทุกคนมีความกลัวในตัวเอง จะแนะนำให้คนอื่นมาอ่านแน่นอนค่ะ  :L2:

ออฟไลน์ Natti

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 197
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
 ยกนิ้วให้เลยค่ะ  o13 o13 o13
ชื่นชมค่ะ พล็อตดี ภาษาดี ตัวละครก็ดี

ออฟไลน์ DREAM COME TRUE

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 379
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
แปลกใจที่มีคนอ่านน้อยนะครับ
ทั้งๆที่เป็นเรื่องที่สนุกมากๆเรื่องหนึ่ง

ดราม่าช่วงแรกอึดอัด และเครียดไปบ้าง
แต่ทำให้เรื่องนี้สมจริงขึ้นไปอีก
คงเหมาะกับสายดราม่าละครับ

สนุก เขียนได้ดี ลื่นไหล ไม่ได้อ่านเรื่องดีๆมานานแล้ว
ขอบคุณครับผู้แต่ง สำหรับเรื่องสนุกๆแบบนี้

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4

ออฟไลน์ ป้ากิ่งkingkarn

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 308
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
ยอมรับก่อนเลยว่าป้าอ่านชื่อเรื่องผิด เข้าใจว่าเรื่องนี้คือ ขอมีsexไม่ได้ขอให้มารัก รู้สึกอับอายเล็กๆค่ะ^^
ช่วงแรกเข้าใจว่าตัวปัญหาคือพี่ป้อง นึกว่าน้องรักพี่กลัวพี่รังเกียจ จึงพยายามเพิ่มระยะห่างเพื่อรักษาความเป็นพี่น้องไว้
อ่านๆไปพี่ป้องเริ่มเปิดเผยความรู้สึกมากขึ้นเรื่อยๆ กลายเป็นว่าน้องต่างหากที่ไม่กล้า เพราะตีค่าตัวเองต่ำไป
พอเปิดเผยว่าที่แท้คนป่วยที่อาการหนักสุดคือคุณแม่ จบปึ้งปมคลายหายสงสัย
เรื่องปัญหาความบอบช้ำทางจิตใจที่ตกค้างอยู่ภายในแต่ไม่ได้รับการเยียวยาของคุณแม่นั้น"สาหัส"มาก
ในสายตาของป้านะ(ไม่ได้เรียนจิตวิทยามา^^) คนที่ถูกทำร้ายแล้วยังยอมทนไม่แก้ไขหรือหลีกเลี่ยง
สถานการณ์ความรุนแรงนั้นน่ะเป็นคนป่วยนะ เชื่อว่าคุณแม่โทษตัวเองมาตั้งแต่ที่พ่อทำร้ายน้อง
โชคดีได้รับความช่วยเหลือจนหลุดพ้นมาได้ แต่ก็ยังมาเจอปัญหาที่โรงเรียนอีก
คุณแม่จึงเหมือนได้รับการตอกย้ำลงไปซ้ำๆว่า เป็นความผิดของตัวเองเป็นเพราะตัวเองดูแลลูกได้ไม่ดีพอ
วิธีการแก้ปัญหาจึงเหมือนปัดภาระไปให้คนอื่นรับผิดชอบแทน ซึ่งเป็นอะไรที่เบๆมาก
เพราะธรรมชาติคนมักจะมองหาสักคนสักอย่างเพื่อเอาไว้กล่าวโทษ เมื่อเกิดความผิดพลาดใดๆขึ้นมา
ตัวเองจะได้ไม่ทรมารเพราะถูกความรู้สึกผิดที่ลงโทษตัวเองอยู่ทำให้กลายเป็นบ้าไป
น้องที่รับรู้ความเจ็บปวดที่คุณแม่เฝ้าแต่ตำหนิตัวเองอยู่ตลอดๆนั้น จึงเหมือนถูกกดดันให้ไม่กล้าจะทำอะไร
ที่จะเป็นเหตุให้คุณแม่ผิดหวังเพราะรู้ว่าคุณแม่ต้องโทษตัวเองอย่างแน่นอน
นับว่าน้องนิวยังไม่ใจร้ายเกินไป ที่ให้คุณแม่ทำใจได้ในเร็ววันแบบนี้
เรื่องนี้ป้าว่านิวแต่งได้สนุกดีนะ ป้าอ่านไม่ถึงชั่วโมงก็จบเพราะว่าเขียนได้น่าติดตาม ไม่งี่เง่าร่ำไรดี
รู้สึกแนวเรื่องแปลกใหม่ไม่ซ้ำซาก(ป้าเพิ่งรู้ตัวว่าชอบอ่านYได้ไม่ถึงปีนี่เองค่ะ)หรือป้าอาจจะยังอ่านไม่มากพอ??55
ที่ชอบและรู้สึกแปลกใหม่อีกอย่าง คือการไม่ยอมรับจากพ่อแม่(ในกรณีนี้คือแม่ของน้องคนเดียว)
คือเป็นเหตุผลการไม่ยอมรับที่แตกต่างอย่างโดดเด่นมากๆ ซึ่งเป็นเหตุให้ชอบนะ
ไม่โมโหคุณแม่เลยเพราะเข้าใจ เราคาดหวังปฏิกริยาปกติจากคนป่วยไม่ได้หรอกค่ะว่าจะมีเหตุผลอย่างที่ควรจะเป็น
เพราะอาการบอบช้ำทางจิตใจที่ไม่ได้รับการรักษา คุณแม่จึงไม่สามารถเข้าใจว่ารสนิยมทางเพศมันเป็นเรื่องปกติธรรมดาได้
และเพราะจิตใจที่ไม่สามารถรับมือกับความรู้สึกผิดได้อีกแล้ว
จึงไม่แปลกเลยสักนิดที่คุณแม่จะหันไปโทษพี่ป้องยิ่งกว่า100%
นี่น่าจะเป็นตัวอย่างหนึ่งของผลเสียที่คนไทยบางคนยังคิดว่าคนป่วยทางจิตเป็นคนบ้า
การพูดคุยปรึกษากับจิตแพทย์ไม่ใช่เรื่องที่คนดีๆเขาทำกัน"คุณต้องบ้าเท่านั้น"
แต่จริงๆป้าว่าถ้ากลัวคนอื่นว่าบ้าเพราะมีบาดแผลทางจิตใจ แต่ไม่อยากหาจิตแพทย์
ธรรมะช่วยได้นะคะ^^(จากประสบการณ์ตรงน่ะค่ะ) สวดมนต์นั่งสมาธิ ถูกกว่าและได้ผลกว่าหาหมอกินยาเยอะเลย


ออฟไลน์ NONSENSE

  • เพ้อฝัน ไปวันวัน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 644
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-2
ขอบคุณค่ะ

ถึงจะขัดใจกับตัวละครในบางอย่าง  แต่สนุกมากค่ะ

ออฟไลน์ Baitaew

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 361
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-2
เป็นอีกเรื่องที่ดี  o13


 :pig4:

ออฟไลน์ NINEWNN

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-4

SPECIAL 1
‘ฝันดีนะ’


     หนึ่งเอาใจยาก...เป็นความจริงที่ผมรับรู้มาตั้งนานแล้ว

     “หนึ่งบอกเฮียแล้วใช่ไหมให้ไปนอน” มันพล่ามเรื่องเดิมๆ ซ้ำไปมาข้างหูของผม “แล้วเนี่ย เฮียก็หงุดหงิด นอนไม่พอ... ทั้งที่หนึ่งบอกเฮียแล้วนะ”

     “กูว่าอะไรมึงสักคำหรือยัง” พอโดนผมสวนเช่นนั้น เจ้าเด็กมากปัญหาที่ทำหน้าง้ำงออยู่แล้วก็ยิ่งหน้างอมากกว่าเดิมเสียอีก มันหุบปากฉับ เถียงอะไรไม่ออกสักคำแต่ดูปุ๊บก็รู้ว่าไม่พอใจ “กูนอนดึกเพราะช่วยมึง แทนที่มึงจะขอบคุณ มึงกลับบ่นกูงี้เหรอ?”

     “ก็...” อีกฝ่ายจนคำพูด “หนึ่ง...หนึ่งไม่อยากเห็นเฮียหงุดหงิดนี่”

     “กูหงุดหงิดตอนไหน”

     “ตอนนี้ไง”

     ผมถอนหายใจยาว เด็กดื้อก็ยังคงเถียงคอเป็นเอ็น “กูไม่ได้หงุดหงิด”

     “เฮียนอนดึก ตื่นไม่ทัน เข้าคาบเช้าสาย...และเฮียก็หงุดหงิด” หนึ่งจัดการแจกแจงเป็นฉากๆ “หรือหนึ่งพูดผิด”
คราวนี้ผมจนคำพูดเสียงเอง

     ที่หนึ่งพูดก็ไม่ได้ผิดเสียทีเดียว อันที่จริงก็ถูก แต่สาเหตุที่ทำให้ผมหงุดหงิดอย่างจริงจังไม่ใช่การตื่นสายจนต้องรีบบึ่งไปที่คณะ ไม่ใช่การโดนเช็กชื่อว่าเข้าสาย แต่เป็นการโดนอีกฝ่ายมางอแง บอกผมว่าผมไม่ควรช่วยมันตัดกระดาษ ทำโมเดลของอีกฝ่ายต่างหาก

     ผมอยากช่วยมันถึงผมไม่ถนัด...แล้วมันผิดตรงไหน

     ผมพยายามเข้าใจว่าหนึ่งไม่ชอบที่ผมช่วยเหลือมันบ่อยๆ คงเพราะมันไม่สามารถช่วยอะไรของผมได้ ช่วงหลังๆ มันก็
ระเห็จไปอยู่กับเพื่อนมันหรือพี่รหัสของมันบ่อยครั้ง แต่ถ้าทางนั้นมีงานเหมือนกันก็ตัวใครตัวมัน มันก็จะแบกของกลับมาที่ห้องผมแทนเสียเอง

     เมื่อวานก็เหมือนกัน เป็นช่วงเวลาเร่งด่วนแล้วสำหรับส่งงานตอนบ่ายนี้ หนึ่งไม่ได้ให้ผมช่วยทุกวันแม้ผมจะอาสาทุกวัน พอมันเป็นวันใกล้ส่ง หนึ่งก็ยอมให้ผมช่วยจนถึงตีสองตีสาม ทำจนเสร็จแล้วผมตื่นไปเรียนตอนแปดโมงเช้า ส่วนมันก็นอนยาว ตื่นมาก่อนพรีเซ้นต์เพียงสองสามชั่วโมงเพื่อเตรียมตัวเท่านั้น

     พอมันตื่นมาคำถามแรกของมันก็คือผมไปเรียนทันไหม ตัวผมก็ไม่ได้โกหก แค่ไม่ตอบ ดูเหมือนอีกฝ่ายจะรู้ตัวในที่สุด จากนั้นมันก็หยิบคำพูดที่ว่ามันเคยบอกให้ผมรีบนอนขี้นมา ซึ่งอีกฝ่ายก็ทำเช่นนั้นจริงๆ อย่างที่บอก เพียงแต่ผมไม่ฟังเอง

     เรามองหน้ากัน ตะโกนใส่กันในความเงียบ สุดท้ายคนผ่อนลมหายใจคือมัน

     “หนึ่งจะเอาของไปเก็บหอ”

     ผมไม่เสนอตัวจัดการขับรถไปให้อย่างทุกที อีกฝ่ายเองก็ไม่รอฟังคำนั้น มันแค่เดินออกจากห้องไปพร้อมกับข้าวของที่ทำให้ห้องผมรกเงียบๆ คนเดียว



     ผมไม่ชินเวลาหนึ่งเงียบ ทั้งที่มันเป็นคนพูดจ้อ พล่ามเรื่องไร้สาระไม่มีหยุด

     อย่างน้อยๆ ก็เป็นเรื่องจริงที่ว่าห้องของผมที่ไม่มีมันสงบอย่างพิลึกพิลัน ไม่ชวนสบายใจ แต่ถ้าหากมีมันอยู่ในห้องแต่อีกฝ่ายไม่พูดอะไรแบบนี้กลับแย่ยิ่งกว่าเสียอีก บวกกับสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างเรา ไม่ต้องคาดหวังว่าเราจะยิ้มได้เลย

     เราแค่นั่งหันหลังใส่กัน ผมอ่านหนังสือที่แทบจะไม่มีสิ่งใดซึมซับเข้าไปในหัว ส่วนหนึ่งนั่งบี้โทรศัพท์มือถือในมือ บางครั้งบางคราก็โยนมันไปอีกฝั่ง สักพักก็ไปหยิบมาใหม่เหมือนกับไม่มีอะไรให้ทำไปมากกว่านี้แล้ว

     คนข้างหลังเงยหน้าขึ้นเมื่อผมเลื่อนเก้าอี้ออกจากโต๊ะ แต่ไม่ยอมพูดอะไร ผมเองก็เช่นกัน

     ตอนออกมาจากห้องน้ำ หนึ่งทิ้งตัวลงนอนบนเตียงของเราที่ถูกเคลื่อนมาให้ชิดกันเรียบร้อย แต่ก็ยังเงยหน้าเล่นโทรศัพท์อยู่เหมือนเดิม

     “คุยกับใคร”

     “น้อง” ผมเดาะลิ้นเบาๆ เพียงเท่านั้นอีกฝ่ายก็เงยหน้าขึ้น “ทำไม”

     “เปล่านี่”

     ผมตอบปฏิเสธไป เข้าใจอยู่ว่าตอนนี้หนึ่งกำลังจะเป็นพี่ปีสอง คนอย่างมันแตกต่างกับผม หนึ่งตื่นเต้นมากตอนที่ไปร่วมกิจกรรมต่างๆ คงตั้งหน้าตั้งตารอตอนน้องๆ ได้เป็นเฟรชชี่ไม่ไหวแล้ว

     เพียงบทสนทนาสั้นๆ นั้นจบลง ผมเดินไปนั่งที่โต๊ะอ่านหนังสือใหม่ หนึ่งก็ยังคงกดโทรศัพท์ แน่นอนว่าผมเอาแต่จับจ้องมันผ่านเงาสลัวๆ ที่สะท้อนบนหน้าต่างตรงหน้าแทนที่จะเป็นหนังสือ ตั้งคำถามในใจว่าเรากำลังจะทำอะไรต่อไป เงียบแล้วค่อยๆ ให้เวลาทำให้เราหายหงุดหงิดอย่างนั้นเหรอ

     “เฮีย...” เสียงเรียกจากคนข้างหลังทำให้ผมรู้สึกตัว

     ผมเลิกคิ้ว ไม่หันกลับไป “อะไร”

     “ตอนนี่เที่ยงคืนแล้ว”

     “อืม...” ผมครางตอบรับในลำคอ

     “เที่ยงคืนแล้วนะ” มันย้ำคำเดิม “เมื่อคืนเฮียนอนตั้งดึก ไม่ต้องอ่านก็ได้มั้งหนังสือน่ะ”

     คราวนี้ผมไม่ได้พูดอะไร จับความเป็นห่วงได้จางๆ จากคำพูดที่อ้อมค้อมไปมาของอีกฝ่าย สักพักก็ได้ยินเสียงขยับผ้าห่ม พร้อมกับเสียงหาวของมัน

     “หนึ่งนอนแล้วนะ” จากนั้นก็เงียบไปพักใหญ่

     อีกฝ่ายที่นอนตะแคงข้างหันกลับมาให้ผมเห็นหน้ามู่ทู้ของมันผ่านเงาในหน้าต่าง เล่นเอาผมแทบหลุดอมยิ้ม หนึ่งไม่รู้ตัวอยู่พักหนึ่งจนอีกฝ่ายสบตาผมผ่านหน้าต่าง มันก็แผดเสียงร้อง

     “เฮีย!”

     ผมอมยิ้ม แกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง “อะไร?”

     “มานอนได้แล้ว”

     อันที่จริงการอ่านหนังสือได้ไม่จบเป้าหมายของผมเนี่ย ไม่ใช่นิสัยเลยแม้แต่น้อย แต่ผมก็ทำตัวว่าง่าย ลุกจากเก้าอี้ไปทิ้งตัวนอนข้างๆ มันที่ม้วนตัวเองกับผ้าห่มอย่างกับหนอน สีหน้าโทรมไม่ใช่น้อย อันที่จริง เด็กคณะมันก็หน้าโทรมตลอดเวลานั่นแหละ

     “เฮียมานอนเถอะ” มันพูดเสียงเบา คล้ายกระซิบนิดหน่อย

     “กูยังอ่านไม่จบเลย”

     “ขยันจริงๆ จะเอาเกียรตินิยมหรือไง” อีกฝ่ายบ่นอุบอิบ “นอน!”

     ผมมองหน้าอีกฝ่าย ก้มลงจุมพิตที่หน้าผากของมันเบาๆ จนหนึ่งตั้งตัวไม่ทัน พอรู้ตัวก็ถลึงตาใส่ผม “ทำเล่นอีก!”

     “เปล่าสักหน่อย” ผมเอื้อมมือไปดึงผ้าห่มของมันให้ห่มตัวดีๆ คนขี้ร้อนอย่างหนึ่งกลับชอบนอนขดตัวพันไว้ พอกลางดึกนี่เอาออกแทบไม่ทัน “นอนไป”

     “หนึ่งไม่ใช่ลูกนะ!”

     “รู้แล้วน่า”

     “หนึ่ง...” มันกัดปากเล็กน้อย “แค่อยากให้เฮียรีบๆ นอน เหนื่อยมาตั้งเยอะแล้วไม่ใช่เหรอ”

     คำพูดตรงไปตรงมาของมันทำให้ผมอมยิ้มออกมาอย่างห้ามไม่ได้

     หนึ่งเป็นแบบนี้เสมอ แสดงความเป็นห่วงโดยการพูดอ้อมไปมา ใช่ว่าไม่เข้าใจหรือรู้สึกแย่ แต่มีบ้างทีผมอยากให้มันพูดตรงๆ ใช้คำพูดีๆ น่าฟัง ผมรู้แหละว่าตอนที่เราทะเลาะกันก่อนหน้านี้ หนึ่งก็พูดด้วยความเป็นห่วงทั้งนั้น ผมเองก็รู้... ความหวังดีของมันชัดเจน แต่กลับถูกทำให้ขุ่นมัวด้วยคำพูดเสมอ

     “เฮีย...” มันส่งเสียงออดอ้อนอีกครา “นอนนะ”

     ผมเค้นยิ้ม “หัดพูดแบบนี้ง่ายๆ บ้างสิ”

     มันขยับกายหนี ห่อผ้าห่มไปเพื่อจัดการปิดไฟ เหมือนกับเป็นการบังคับกลายๆ ให้ผมรีบนอนตามที่มันว่า

     หนึ่งมากปัญหา แสดงออกไม่เป็น พูดไม่เก่งแถมยังชอบหาเรื่องอีกต่างหาก เรื่องเหล่านั้นเป็นเรื่องที่ผมเองก็รู้ดีอยู่แล้ว เพียงแต่อยากฟังอะไรที่รื่นหูบ้างในเวลาที่หงุดหงิด

     คนในอ้อมกอดซุกตัวลงมาใกล้

     “หนึ่งเป็นห่วง” กระซิบคำแผ่วเบาที่ดังชัดเจนไปเสียหมด

     ...ถึงก่อนหน้านั้นจะนอนไม่เต็มอิ่ม เจอแบบนี้ไป ผมก็รู้สึกว่าตัวเองจะฝันดีตามที่มันพูดจริงๆ



 

ออฟไลน์ treenature

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-0
น่ารักมากเลย

ออฟไลน์ แมลงมีพิษชนิดหนึ่ง

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 464
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-14
ไม่ชอบนายเอกเลย

 :hao3: :hao3: :hao3:

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
กว่าจะยอมรับกันได้
ลุ้นมากค่ะ

 :L2: :L2:

ออฟไลน์ me12inzy

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
ึก็ทนไปนะเฮียป้อง รักไปแล้ว ดีละที่หนึ่งมีเฮียป้อง ไม่งั้นคงไม่มีใครทนนิสัยเสียๆนี่ได้ อืม

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ jannie

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 782
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-0
ตามมาจากรีทวิตในทวิตเตอร์ค่า สนุกมากเลย ทุกคนต่างก็มีปัญหาและได้รับผลกระทบด้วยกันทุกคนนะคะ

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ NINEWNN

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-4

SPECIAL 2
‘เรื่องเล็กๆ’




     ความคิดที่ว่าผมเป็นคนดื้อ และเฮียเป็นคนขี้ตามใจเป็นเรื่องผิดถนัด

     เฮียป้องห่างไกลจากการเป็น ‘คนขี้ตามใจ’ อยู่หลายขุม...จริงอยู่ว่าเฮียป้องนั้นเวลาใจดีก็ใจดีเสียจนน่าใจหาย แต่ พอเราพูดคุยเรื่องความรู้สึกของเราให้ชัดเจนมากขึ้น เรื่องบางเรื่องของเฮียก็ทำให้ผมเหนื่อยใจอยู่บ้าง

     “หนึ่ง ไปกินข้าว”

     “หนึ่ง ไปอาบน้ำ”

     “หนึ่ง อย่านอนดึกให้มาก”

     เคยมีสักครั้งไหมที่เฮียจะไม่ออกคำสั่ง!

     ผมรู้อยู่แล้วว่าเฮียป้องเป็นพวกระเบียบจัด เป็นคนเคร่งครัดเสียจนผมอดคิดไม่ได้ว่าถ้าเฮียป้องไม่ได้อยู่กับผม เฮียหารูมเมทไม่ได้ตลอดชีวิต หรือถ้าจะมีผู้หญิงสักคนยอมแต่งงานกับเฮีย ก็คงเป็นพวกหัวอ่อน ไม่หือไม่อือ ไม่คิดต่อต้านทุกคำพูดของเฮียป้องเหมือนผมแน่ๆ

     จริงๆ ชีวิตนักศึกษาคณะสัตวแพทย์ฯ กับคณะสถาปัตฯ เป็นสองคณะที่ไม่ควรโคจรมาพบกันมากถึงมากที่สุด พอผมขึ้นปีสอง ก็เหมือนได้ใช้ชีวิตอยู่กับการทำงานหามรุ่งหามค่ำ แบกข้าวของไปส่งตอนเก้าโมง เรียนต่อยันสามโมงแล้วกลับมานอน ตื่นมาอีกทีตอนฟ้ามืด ส่วนเฮียน่ะตรงกันข้าม ตื่นแต่เช้า นอนไม่เกินเที่ยงคืน แต่พอตอนนี้เฮียขึ้นปีสี่ ก็เริ่มอยู่ห้องของตัวเองน้อยลงขณะที่ผมยึดห้องนี้มากขึ้นแทน

     มันน่าน้อยใจไหมล่ะ... บางครั้งผมก็อยากให้เฮียกลับมา ตรงปรี่มากอดผมเหมือนที่ผมอยากกระโดดเข้าไปกอดเฮีย ชวนไปทานข้าวด้วยกัน หรืออะไรก็แล้วแต่ที่ไม่ใช่บ่นๆๆๆ ใส่

     วันนี้ก็เหมือนเดิม เฮียเดินเข้ามาหน้ายุ่งในขณะที่ผมกำลังจัดการกับโมเดลงานวิชาดีไซน์

     “ทำไมยังไม่เก็บขยะจากคราวก่อน” เฮียป้องถามเสียงขุ่น ชี้ไปที่ถุงขยะที่ผมวางไว้ปลายเตียง

     “เก็บแล้วไง” ผมเถียงกลับ “แค่ยังไม่เอาลงไปทิ้ง”

     “แล้วทำไมไม่เอาไปทิ้ง”

     ผมเริ่มพ่นลมหายใจ “ก็แยกไว้แล้ว เดี๋ยวหนึ่งเอาไปทิ้ง จะให้หนึ่งปีนขึ้นๆ ลงๆ ทำไมล่ะ ไม่ใช่ของที่จะเสียหรือมดจะขึ้นเสียหน่อย นั่นกระดาษนะ!”

     เฮียป้องจ้องผมตาเขม็ง ส่วนผมเองก็ไม่ยอมแพ้ ไม่มีคำพูดใดๆ ระหว่างเรา ไม่นานผมเองก็เป็นฝ่ายวางข้าวของในมือ ลุกขึ้นคว้าถุงขยะจากกระดาษสองถุงนั่นและเดินออกจากห้องไป

     เฮียป้องแม่ง ไม่น่ารักเลย!

     ผมรู้สึกเหนื่อย ทำไมพวกเราเจอกันแต่ละครั้ง ในสถานที่ที่มีแต่เรา เราต้องตึงใส่กันด้วย ทำไมเราต้องคอยมาหงุดหงิดในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ของกันและกัน ทำไมเราพูดกันดีๆ สักชั่วโมงไม่ได้ เวลาที่ผมไม่ได้ทำงานหรือเฮียไม่ได้อ่านหนังสือเราเองก็สบายดีแท้ๆ แต่พอเรามีความเครียดสะสมจากเรื่องอื่นๆ รอบตัวก็พาลเป็นแบบนี้ไปหมด

     ผมเดินออกมาจากห้อง อารมณ์หงุดหงิดจนเขวี้ยงขยะที่ถังขยะใหญ่ประจำชั้น อยากจะเดินกลับไปในห้องแต่ก็ถือทิฐิเสียจนไม่อยากเจอหน้า ความคิดแรกคือผมควรลงไปซื้ออะไรมากิน แต่ดูเหมือนผมจะไม่ได้แบกอะไรออกมาเลย ทั้งโทรศัพท์และกระเป๋าสตางค์

     แย่ไปหมด ผมเริ่มรู้สึกว่าวันนี้เป็น bad day ของผมอีกแล้ว ท้ายที่สุดผมก็นั่งเก้าอี้ยาวหน้าลิฟต์ ขบคิดเรื่องต่างๆ เรื่อยเปื่อย

     เฮียเคยเหนื่อยแบบที่ผมรู้สึกบ้างไหม เวลาเราไม่ตรงกัน ทัศนคติเราแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ผมไม่ฉลาดพอจะเข้าใจงานของเฮีย และเฮียเองก็ไร้ศิลปะเกินกว่าจะเข้าใจงานของผม เฮียเคยคิดบ้างไหมว่าแค่เราเรียนมหาวิทยาลัยยังทำให้เราเป็นได้ขนาดนี้... ตอนเราทำงานจะอยู่ด้วยกันได้ขนาดไหน

     ถ้าเฮียไม่เคยคิดเลย...เป็นเพราะเฮียหวังว่าเราจะไปกันรอดแน่ๆ หรือเฮียคิดว่าเราอาจจะคบกันได้ไม่นานพอถึงช่วงทำงานด้วยซ้ำ?

     ผมเพ้อเจ้อ แต่ทุกอย่างทำให้ผมมีอาการบีบรัดในอก เจ็บเสียจนจะล้นปรี่ออกมาเป็นน้ำตารอมร่อ

     “หนึ่ง” ผมเงยหน้าขึ้นเมื่อจู่ๆ เสียงคุ้นหูก็ดังขึ้น “ไปกินข้าวกัน”

     “...” ปิดปากเงียบสนิท รู้ว่านี่ไม่ใช่นิสัยที่เฮียชอบแต่ก็ยังทำ

     “งานเร่งไหม” เฮียป้องว่าเสียงอ่อนลงกว่าตอนในห้องลิบลับ “ไปกินข้าวกันก่อนจะได้ไหม”

     ทั้งที่บอกว่าอย่าใช้น้ำเสียงเช่นนั้นแล้วแท้ๆ ทำแบบนี้ใจผมก็อ่อนยวบยาบกันหมดน่ะสิ

     “...ได้”

     ทั้งที่ผมพูดแบบนั้นแต่เฮียก็ไม่ขยับไปไหน จ้องหน้าผมนิ่งๆ ก่อนที่จะเริ่มไล้ปลายนิ้วลงบนแก้มของผมเบาๆ แต่ทำให้ใจผมสั่นไหวไปทั้งดวง

     “ขอโทษที... ช่วงนี้หงุดหงิดน่ะ แลปมันมีปัญหานิดหน่อย”

     “อื้อ” ผมพยักหน้า “หนึ่งไม่ยอมทำให้เรียบร้อยเอง”

     พวกเราไม่พูดอะไรกันอีก นานอยู่ทีเดียวที่ผมรู้สึกว่าเราใช้ความเงียบพินิจพิจารณาทั้งเรื่องที่เราผิด และเรื่องข้อบกพร่องของอีกฝ่าย จนเฮียป้องลุกขึ้นยืน

     “ไปกินข้าวกันเถอะ”

     มือผมไปก่อนความคิด ผมคว้าชายแขนเสื้อของเฮียป้องไว้ในขณะที่ปากของผมอ้ำอึ้ง “เดี๋ยว... เฮีย”

     อีกฝ่ายหันมาขมวดคิ้วมุ่น

     “เฮียเคยไม่อยากอยู่กับหนึ่งไหม”

     คำถามผมแผ่วเบา...เหมือนจะลอยไปกับสายลม

     คนอายุมากกว่าเงียบกริบแต่ไม่ได้แสดงทีท่าราวกับไม่ได้ยินในสิ่งที่ผมพูด เขาคงแค่ทบทวน แต่เป็นการทบทวนที่ทำให้ผมหวาดกลัวเหลือเกิน

     “หนึ่ง...” ผมพูด เสียงสั่นเล็กน้อย “หนึ่งเข้าใจว่าหนึ่งไม่เป็นระเบียบ นอนดึก ทำตัวไม่น่ารัก และชีวิตเฮียก็คงไม่ค่อยเจออะไรแบบนี้ ส่วนเฮียก็ตรงข้ามกับหนึ่งทุกอย่าง” เหมือนมีก้อนบางอย่างมาจุกอยู่ที่คอ แต่ผมก็ยังพูดอยู่ “เฮียเคยเหนื่อยไหม...ที่เราอยู่กันแบบนี้”

     “เคย” คำตอบสั้นๆ มาพร้อมเสียงถอนหายใจนั่นทำให้ผมเม้มปากแน่น “เคยเหนื่อยน่ะใช่...แต่เรื่องเคยอยากไล่มึงไปอยู่ที่อื่นน่ะ ไม่เคยคิดเลยด้วยซ้ำ”

     “...”

     “ไม่งั้นกูจะพยายามเรียกมึงมาอยู่ขลุกกับกูทุกสัปดาห์ทำไม จะอาสาทำโมเดลง่อยๆ ให้มึงทั้งที่กูตัดกระดาษไม่ตรงทำไม มึงก็รู้ไม่ใช่เหรอ...หรืออยากได้ยินชัดๆ”

     “...”

     “ขอโทษที่ขี้บ่น” เฮียพูดอ้อมแอ้ม ไม่ยอมสบตาผมด้วยซ้ำ “กูอาจจะทนสภาพรกๆ นั่นไม่ได้...แต่กูคงทนไม่ได้มากกว่าถ้าไม่ได้อยู่กับมึง”

     “บ้าจริง” ผมกระซิบเสียงแผ่ว ทำได้แต่ก่นด่าอีกฝ่ายในใจว่าขี้โกง มีก้อนความสุขมาจ่ออยู่ที่คอกับสิ่งที่เฮียป้องไม่ค่อยพูดอย่างตรงไปตรงมา “ไม่ยุติธรรมเลย”

     เฮียป้องกำลังเอามือเกาท้ายทอยแก้เก้อ ในขณะที่ผมแทบจะม้วนตัว ไม่นานเฮียป้องก็ทำลายบรรยากาศด้วยถ้อยคำแสนธรรมดา

     “ไปกินข้าวกัน กูหิวแล้ว”
   



--------------------------------------------------
นี่ก็ได้แต่สงสัยว่าทำไมตัวเองถึงเลือกเรียนวิศวะ
ยุ่งมากกกกกกกกกกกกกกกกกก ไม่มีเวลาเขียนนิยายเลย
นานๆ จะได้เปิดคอมแบบที่ไม่ใช่มานั่งจดเลคเชอร์หรือดูคลิปสอนพิเศษ

ปล. นี่เรียนดรออิ้งด้วยค่ะ แค่ตัวเดียวยังขนาดนี้ นังหนึ่งที่เรียนสถาปัตย์เจอแบบดรออิ้งหลายๆ ตัวหนูทนได้ไงคะ?

เจอกันใน #ขอให้ไม่ใช่รัก นะคะ

(กรี๊ด ไม่ได้พิมพ์แบบนี้นานแล้ว มีความสุข!)

ออฟไลน์ isBelle__

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
ทำไมต้องน่ารักกันขนาดนี้ หนึ่งเอ้ยรู้ตัวไว้เถอะว่าพี่เค้ารักมากมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว

ออฟไลน์ joyey6217

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 106
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ตบไหล่  เอาน่า อยู่ด้วยกันมันก็มีกระทบกระทั่งกันบ้าง แต่ค่อยๆปรับตัวกันไปเนอะ

ออฟไลน์ funland

  • https://www.facebook.com/pew.pal
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-2
    • pew.pure

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
ชอบความชีวิตประจำวันของเรื่องนี้ ปัญหาเล็กๆน้อยๆก็ยังทำเป็นเรื่องราวให้เราอ่านแล้วสัมผัสได้ว่าเฮียรักหนึ่ง ขอบคุณมากนะคะ ว่างๆก็แวะมาแต่งตอนพิเศษอีกนะคะ จะรออ่านค่ะ  :mew1:

ออฟไลน์ TaemyG

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 172
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ชอบการบรรยายของเรื่องนี้มาก ไหลรื่นดี

อ่านแล้วไม่สะดุดในสำนวนเลย

ไม่หวือหวา ไม่มุ่งมิ้งมาก แต่อ่านแล้วชอบ

เคลียร์ปมต่างๆให้กระจ่างได้ดี

ชอบค่ะ

ออฟไลน์ MorethanMore

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 94
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
อ่านจนจบ รวดเดียวยาว ๆ

ปัญหามันเริ่มจากการถูกล่วงละเมิดทางเพศตอนเด็ก แล้วก็ถูกปกป้องจนมากเกินไปจากแม่ แม่หนึ่งที่รักมากจนเกินไป พยามปกป้องลูก จนทำให้หนึ่งเป็นเด็กหวาดกลัว เราว่าหนึ่งน่าสงสาร แต่คนที่น่าสงสารกว่าคือปกป้อง คนที่ต้องจมอยู่กับความรู้สึกผิดตลอดเวลา ทั้งที่รักมาก แต่ยื่นมือไปทำอะไรไม่เคยได้

ยิ่งตอนที่กานดามาโวยวายว่าป้องล่วงละเมิดทางเพศ สิ่งแรกที่แว๊บในหัวเรา เออ ไม่แปลกใจละทำไมหนึ่งตีค่าตัวเองไว้ต่ำเตี้ยเรี่ยดิน เพราะมีแม่เป็นแบบนี้ แม่ที่คอยแต่จะมองว่าลูกถูกรังแกตลอดเวลา ไม่มองว่าลูกพร้อมที่จะเข้มแข็งและก้าวเดินด้วยตัวเอง

มันก็อึน ๆ อ่านไปคิดตามไปตลอดเลย ชอบพ่อกับแม่ปกป้องสุดละ รู้สึกว่าสมกับเป็นพ่อแม่ที่ดีจริง ๆ ไม่แปลกหรอกที่ปกป้องจะมีนิสัยสมชื่อ

ออฟไลน์ larynx

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 821
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
เป็นนิยายที่อึมครึมและอึดอัดมากค่ะ มีอ่านแบบสบายใจอยู่สองสามตอน แต่สนุกดีค่ะ ชอบปกป้องมากเลย  :man1: :man1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด