♗☀interstellar☀♗ รัก➀ล้านปีแสงตอนที่ 4 ✲ อารมณ์เปลี่ยว "เนตั้น ฉันขอจูบนายอีกครั้งได้มั้ย"
คนถูกถามดีดตัวลุกขึ้นนั่งบนเตียง หน้าเหวอราวกับถูกผีหลอกก็ไม่ปาน เอาอีกแล้ว นายหมอนี่ท่าจะเพี้ยน รับโทรศัพท์อยู่ดีๆ ก็จะมาขอจูบกันดื้อๆ
"นายจะจูบฉันอีกทำไม!" เนตั้นถามหน้าตาตื่นและหวาดระแวง แล้วก็รีบเอามือปิดปากไว้
แม้จะดูน่าขำ แต่เนบิวลาก็ขำไม่ออกเลยในเวลานี้ จ้องมองคนตรงหน้าแล้วก็ ค่อยๆ เขยิบเข้าไปใกล้ เนตั้นเขยิบถอยหนีไปเล็กน้อย แต่พอเห็นสีหน้าเศร้าๆ ของเนบิวลาแล้ว ความรู้สึกกลัวว่าจะถูกคุกคามก็ค่อยๆ ลดลง
"ฉันกลัวน่ะเนตั้น กลัวว่าฉันจะไม่ได้กลับมาหานายอีก"
เนบิวลาอดโทษตัวเองไม่ได้เลยที่พาคนๆ นี้มาเสี่ยงชีวิตด้วย แล้วสุดท้ายก็จะช่วยไว้ไม่ได้ คงไม่โทษเนตั้นหรอกที่แอบหนีออกไปข้างนอกเมื่อกี้ เพราะถ้าไม่พาเนตั้นมาก็คงไม่เกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้น
"นายหมายความว่ายังไง นายจะไปไหนเหรอ แล้วทำไมกลับมาไม่ได้ล่ะ แล้วฉันจะอยู่ยังไงล่ะเนบิวลา ฉันอยู่ในนี้คนเดียวไม่ได้หรอก"
เนตั้นทำหน้าเศร้า แม้เนบิวลาเป็นคนแปลกหน้าและเพิ่งรู้จักกันไม่นาน แต่ก็เป็นเพียงคนเดียวที่เนตั้นพึ่งได้ในเวลานี้
เนบิวลาใจหายวาบเมื่อได้ยินเนตั้นพูดอย่างนั้น น้ำตาลูกผู้ชายปริ่มขอบตาเมื่อได้เห็นแววตาซื่อๆ ไร้เดียงสากำลังหวาดกลัว แค่คิดว่าหนุ่มน้อยหน้าใสคนนี้จะถูกปล่อยทิ้งให้ตายกลางอวกาศก็แทบจะทนไม่ได้แล้ว เนบิวลากลืนน้ำลายลงคงอย่างยากเย็น ค่อยๆ เอื้อมมือไปจับไหล่ทั้งสองข้างของเนตั้นไว้ จ้องลึกเข้าไปในดวงตาคู่นั้นของคนตรงหน้า
"เนตั้น ฉันจะพยายามกลับมาหานายให้ได้ ฉันจะไม่ทิ้งนายเป็นอันขาด รอฉันนะเนตั้น ฉันจะกลับมาหานายแน่นอน เพราะฉัน...เป็นที่พึ่งเดียวของนายบนยานลำนี้"
"มีเรื่องอะไรหรือเปล่าเนบิวลา มีคนสงสัยหรือเปล่าว่านายพาฉันหนีมา นายจะโดนลงโทษเหรอเนบิวลา ถ้านายโดนลงโทษ ฉันก็ต้องโดนลงโทษด้วยสิ ใช่มั้ยเนบิวลา"
เนบิวลาไม่ตอบคำถามนั้น ค่อยๆ ประทับรอยจูบลงไปอย่างแผ่วเบาบนริมฝีปากแดงที่เจ้าของร่างได้มาจากผู้เป็นพ่อ แม้ไม่ทันตั้งตัว คราวนี้เนตั้นกลับไม่ดิ้นหนีเหมือนครั้งแรก ตรงกันข้ามกลับปล่อยให้เนบิวลาใช้ปลายลิ้นซอกซอนหารสหวานและมอบสัมผัสเสียวซ่านแสนประหลาดให้จนเจ้าตัวสั่นเทิ้มเบาๆ มิหนำซ้ำสองมือยังทรยศเจ้าของด้วยการเลื่อนไปโอบอีกฝ่ายไว้อีกต่างหาก
เนตั้นเป็นเกย์ไปแล้วเหรอ!? เนตั้นไม่อยากเป็นเกย์เลย!!!ไม่นานนักเนบิวลาก็ถอนจูบไปดื้อๆ จนอีกฝ่ายหน้าเหลอ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะตกใจหรือเสียดายกันแน่ที่จูบนั้นสั้นเหลือเกิน เนบิวลาได้แต่หวังว่าจูบนี้จะไม่ใช่จูบสุดท้าย ที่ยอมพาหนีมาอยู่ด้วยก็เพราะความรู้สึกบางอย่างที่เนบิวลาไม่เชื่อว่าจะมีจริง ตอนที่ความรู้สึกนั้นเกิดขึ้นก็สองจิตสองใจ แต่ไม่รู้ยังไง สุดท้ายก็เลือกที่จะพาเนตั้นหนีมา ในเมื่อพามาแล้ว เนบิวลาก็ไม่มีทางเลือกอื่นใดนอกจากปกป้องคนๆ นี้ให้ดีที่สุด ถ้าอย่างนั้น ไม่ว่ายังไงๆ เนบิวลาก็ต้องทำทุกวิถีทางให้กลับมาเจอเนตั้นอีกให้ได้
"นายรอฉันนะเนตั้น เดี๋ยวฉันมา ฉันต้องไปแล้ว"
เนบิวลาบอกแล้วก็ถอยออกอย่างรวดเร็ว ลงจากเตียงได้แล้วก็รีบเดินไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดทำงานเหมือนเดิม เนตั้นเดินตามมาดูและมองอย่างไม่เข้าใจ
"นายกลับมาหาฉันนะเนบิวลา"
น้ำเสียงและท่าทางหวาดหวั่นของเนตั้นทำให้เนบิวล่าหยุดชะงัก แม้ว่าไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย แต่คำพูดนี้ยิ่งตอกย้ำให้เนบิวลารู้ว่าตัวเองมีเพียงทางเลือกเดียวเท่านั้นคือ...ต้องเอาร่างที่ยังมีชีวิตกลับมาหาเนตั้นให้ได้
"ฉันจะกลับมาหานายนะเนตั้น นายไม่ต้องกลัวหรอก ฉันจะกลับมาอย่างแน่นอน เชื่อฉันนะเนตั้น อ้อ อย่าลืมใส่ชุดคลุมล่องหนไว้ด้วย แล้วก็อย่าออกไปไหน ถ้ามีคนเข้ามาในห้องนี้ นายอย่าขยับเขยื้อนเป็นขาด เข้าใจนะเนตั้น"
เนตั้นพยักหน้ารับรู้พร้อมกับยิ้ม รู้สึกอุ่นใจอย่างประหลาดเมื่อได้คำสัญญาที่หนักแน่นของเนบิวลา เนบิวลายิ้มพอใจแล้วก็ใส่เสื้อผ้าต่อจนเรียบร้อย
ทันทีที่เปิดประตูออกไป ร่างของทหารอารักขานายหนึ่งก็กระเด็นหวือลอยผ่านหน้าเนบิวลาไปอย่างรวดเร็วราวกับถูกระทำจากแรงบางอย่างที่ไม่ธรรมดา ร่างนั้นกระแทกเข้ากับผนังเพชรอย่างจัง เจ้าของร่างร้องโอดโอยอย่างเจ็บปวดราวกับจะสิ้นใจ ที่ดาวแม็กโซนาเดียนั้นมีแร่เพชรอยู่มากจึงราคาไม่สูง แต่ด้วยความแข็งแรงจึงถูกนำมาใช้สร้างยานอวกาศด้วย
เมื่อหันไปมองอีกด้านก็เห็นกลุ่มทหารอารักขากำลังถอยกรูดอย่างทุลักทุเล เหมือนกำลังหนีจากอะไรบางอย่างที่น่ากลัว
"เนบิวลา พวกไวท์ทอลมันแฝงตัวเข้ามาในยานของเรา หลบเข้าไปข้างในห้องก่อน"
เสียงทหารอารักขานายหนึ่งร้องเตือนมา ยังไม่ทันขาดคำ ร่างของทหารเหล่านั้นก็ถูกแรงบางอย่างผลักอย่างแรงจนกระเด็นไปคนละทิศละทาง
แล้วเนบิวลาก็ได้เจอมนุษย์ต่างดาวไวท์ทอลสามตัวย่างสามขุมเข้ามาหา ปล่อยคลื่นเสียงความถี่สูงรบกวนออกมาด้วย การสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาวพวกนี้ต้องใช้พลังจิตชนิดพิเศษเท่านั้น พวกไวท์ทอลเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีเทคโนโลยีล้ำหน้ากว่าหลายล้านปี ใช้พลังจิตสื่อสารแทนการพูด พวกมันตัวเล็กกว่ามนุษย์จากดาวโลกประมาณสองในสาม เดินสองขา มีตาโตสีดำ ปากเล็ก ผิวซีดขาว ไม่มีผมและไม่สวมเสื้อผ้า
"ฉันบอกพวกแกแล้วใช่มั้ยว่าห้ามลักพาตัวมนุษย์จากโลกอื่นมาสร้างอาณานิคมแข่งกับดาวของฉัน พวกแกมันก็แค่สิ่งมีชีวิตโง่ๆ ไม่มีทางสู้พวกฉันได้หรอก แต่ถ้ายังอยากจะลองดีก็เตรียมตัวรับความหายนะได้เลย!"
สัญญาณพลังจิตขั้นสูงถูกส่งผ่านออกมาจากหนึ่งในสามไวท์ทอลอย่างเกรี้ยวกราด เนบิวลาสามารถจับพลังงานนั้นได้จึงเข้าใจสิ่งที่พวกมันพูดได้เป็นอย่างดี
เนบิวลาก้าวเท้าออกไปประจัญหน้ากับพวกไวท์ทอลพร้อมกับจ้องตาพวกมันเขม็ง เสียงสัญญาณเตือนภัยดังขึ้นทั่วยานอวกาศ นักวิทยาศาสตร์คนอื่นๆ ต่างวิ่งหลบเข้าไปในห้องของตัวเอง รวมถึงหัวหน้าของเนบิวลาที่เพิ่งโทรมาตามเมื่อกี้ด้วย ทหารอารักขาที่กระเด็นกระดอนไปคนละทิศละทางจากการถูกกระทำด้วยอาวุธพิเศษจากไวท์ทอล ต่างก็พยายามลุกขึ้นมาระดมยิงแสงเลเซอร์ใส่พวกไวท์ทอลอีกคำรบ แต่อาวุธที่ปล่อยคลื่นพลังงานสูงของพวกไวท์ทอลก็ทำให้แสงเลเซอร์เบนเส้นทางออกไป ไม่สัมผัสถูกตัวของพวกมันแม้แต่นิดเดียว
"หยุดก่อน เดี๋ยวฉันจะคุยกับพวกมันเอง"
เนบิวลาร้องห้าม ทหารอารักขาสิบกว่านายจึงหยุดยิงเพราะถึงยิงไปก็ไม่สามารถทำอะไรพวกไวท์ทอลได้อยู่ดี
"พวกเราไม่ได้จับมนุษย์พวกนี้มาเพื่อสร้างอาณานิคมบนดาวดวงใหม่อย่างที่พวกท่านเข้าใจผิดหรอก พวกเราแค่สงสัยว่าพวกเค้าเป็นเผ่าพันธุ์เดียวกับเรา เราแค่จะจับไปศึกษาวิจัยและทดลองเท่านั้น"
เนบิวลาส่งพลังจิตกลับไปหาเจ้าไวท์ทอลสามตัวนั้น พวกมันหยุดกึกเมื่อรู้ว่ามีคนสื่อสารด้วยพลังจิตขั้นสูงได้ จากนั้นเนบิวล่าก็กลายเป็นเป้าสายตาของพวกมันทั้งสามคนแทน
"ไม่ว่าจะจับไปทำอะไร พวกเราจากดาวทีคาสจะไม่ยอมให้มีการจับมนุษย์จากดาวดวงอื่นมาอย่างเด็ดขาด เพราะฉะนั้น ฉันจะฆ่าทุกคนที่อยู่บนยานลำนี้โทษฐานที่จับมนุษย์จากดาวอื่นมา ส่วนมนุษย์พวกนี้จะถูกส่งคืนกลับไปที่โลกของพวกเค้า"
พอขาดคำ เจ้าไวท์ทอลตัวหนึ่งก็เดินไปยืนอยู่หน้าห้องที่ขังมนุษย์ดาวโลกไว้ ไม่นานนักประตูห้องนั้นก็ถูกเปิดออก มนุษย์สิบกว่าคนที่ถูกจับได้แตกตื่นออกมาพร้อมกับส่งเสียงดัง แต่ละคนดูหวาดกลัวกันมากทีเดียว
เนบิวลาคิดหนักมากทีเดียว ใจจริงก็อยากจะส่งมนุษย์กลุ่มนี้กลับคืนไปที่ดาวโลกอยู่แล้วรวมทั้งเนตั้นด้วย แม้จะเสียดายแต่ก็ยังดีกว่าต้องให้เนตั้นมาเสี่ยงชีวิตด้วย แต่ถ้าจะต้องแลกด้วยการเสียชีวิตของคนทั้งหมดในยานที่มาจากดาวแม็กโซนาเดียแล้ว เนบิวลาก็คงยอมไม่ได้ ยังไงก็ต้องพายานลำนี้และทุกคนกลับไปที่ดาวแม็กโซนาเดียให้ได้อย่างปลอดภัย จากนั้นค่อยหาทางเจรจาส่งมนุษย์ทั้งหมดกลับไปที่ดาวโลกดีกว่า
กลุ่มไวท์ทอลรู้แล้วว่าดาวแม็กโซนาเดียลักพาตัวมนุษย์จากดาวอื่นมา ไม่ช้าพวกมันก็อาจจะส่งคนมาก่อกวนดาวแม็กโซนาเดียได้ เหตุผลนี้จึงน่าจะเพียงพอที่จะทำให้รัฐบาลและองค์การวิทยาศาสตร์เปลี่ยนใจส่งมนุษย์กลุ่มนี้กลับคืนดาวโลก
เจ้าหน้าที่ทั้งหมดบนยานลำนี้ มีเพียงเนบิวลาคนเดียวเท่านั้นที่ได้รับการฝึกอบรมการใช้พลังจิตขั้นสูง บทบาทในการเจรจาครั้งนี้จึงตกเป็นของเนบิวลาอย่างไม่ต้องสงสัย
เจ้าไวท์ทอลทั้งสามเดินมารวมตัวกันอีกครั้ง ส่วนมนุษย์ที่ถูกปล่อยออกมาเกาะกลุ่มยืนมองอยู่ห่างๆ ด้วยท่าทางหวาดกลัว เนบิวลาจ้องเขม็งด้วยความระมัดระวังเมื่อเจ้าไวท์ทอลทั้งสามตัวลอยตัวเข้ามาใกล้ พวกมันมาอยู่เหนือจุดสำคัญที่เนบิวลาต้องการพอดี
เนบิวลากดปุ่มบนอุปกรณ์คล้ายนาฬิกาบนข้อมือ จากนั้นก็กรอกเสียงลงไปเพื่อสื่อสารกับเจ้าหน้าที่ที่ควบคุมยานอวกาศ
"เร่งความเร็วของยานสูงสุด!"เจ้าไวท์ทอลสามตัวยกอาวุธทรงกระบอกสีเทาๆ ขึ้นเตรียมพร้อมทำลายล้าง อาวุธของพวกมันเป็นอาวุธที่ทำได้หลายอย่าง เช่น ส่งคลื่นเสียงความถี่สูงรบกวนเพื่อให้เสียสมาธิ บีบหดกาลอวกาศในพื้นที่ด้านหน้าเพื่อให้ศัตรูถูกผลักด้วยแรงคล้ายคลื่นขนาดใหญ่ และที่ร้ายแรงที่สุดคืออาวุธนี้จะปล่อยปฏิสสารออกมา เมื่อใครสัมผัสกับสสารชนิดนี้เข้าก็จะทำให้ส่วนของร่างกายที่สัมผัสขาดหายไปทันที จากนั้นก็จะตายอย่างทรมาน
โชคไม่ดีนักที่มนุษย์คนหนึ่งเกิดคลุ้มคลั่งแล้วเข้าไปทำร้ายทุบตีพวกไวท์ทอล มนุษย์คนนั้นจึงโดนทำร้ายด้วยปฏิสสารเข้าให้ ทำให้ร่างกายทั้งหมดถูกทำลายหายไปในพริบตา มนุษย์คนอื่นๆ ได้แต่ยืนมองอย่างตกตะลึงและค่อยๆ หยุดร้องโวยวาย
ในที่สุดก็ตายไปแล้วหนึ่งคน ไม่มีโอกาสได้กลับไปที่ดาวโลกอีกแล้ว!เนบิวลาลอยตัวหลอกล่อพวกไวท์ทอลเพื่อให้พวกมันเดินตามมา พอพวกมันมาอยู่เหนือพื้นที่ที่ต้องการแล้ว เนบิวลาก็ส่งกระแสจิตชนิดธรรมดาสื่อสารกับประตูใต้ยาน บอกรหัสผ่านไปแล้วประตูใต้ยานก็เปิดออกอย่างรวดเร็วและดูดร่างของเจ้าไวท์ทอลทั้งสามตัวออกไปจากยานอวกาศทันที จากนั้นเนบิวลาจึงใช้พลังจิตสั่งการให้ประตูปิดอย่างรวดเร็วเพื่อป้องกันไม่ให้รังสีคอสมิกปริมาณมหาศาลจากอวกาศเข้ามาทำร้ายคนที่อยู่ข้างในยาน
ทันทีที่เจ้าไวท์ทอลถูกปล่อยออกสู่อวกาศ พวกมันก็น่าจะเสียชีวิตทันทีเพราะอุณหภูมิของอวกาศนั้นต่ำมากจนเกือบถึงศูนย์องศาเคลวิน หรือ -273 องศาเซลเซียส ความหนาวเย็นขนาดนี้ทำให้สิ่งมีชีวิตตายได้ทันที ถึงไม่ตายทันทีพวกมันก็จะถูกสารพัดรังสีทำให้ตายจนได้
"ต้อนมนุษย์พวกนี้เข้าไปในห้องเร็ว แล้วเช็คดูว่ายังมีพวกไวท์ทอลเหลืออยู่มั้ย"
เนบิวลาหันไปสั่งการทหารอารักขา จากนั้นจึงรีบเดินกึ่งลอยตัวไปที่ห้องของหัวหน้าของแผนกที่เนบิวลาสังกัดอยู่เพื่อรายงานความคืบหน้าให้ทราบ
"หัวหน้า พวกไวท์ทอลแฝงเข้ามาอยู่ในยานของเรา เมื่อสักครู่นี้ผมให้ประตูใต้ยานดูดพวกมันออกไปแล้ว"
เนบิวลารีบรายงานทันทีที่ประตูห้องของหัวหน้าถูกเปิดออก
"เนบิวลาสั่งการให้ทุกคนออกมาจากหน้าห้องของตัวเองด่วน เปิดประตูห้องทุกห้องไว้ แล้วให้ทหารอารักขาตรวจค้นทุกห้องเดี๋ยวนี้"
หัวหน้าของเนบิวลาสั่งการทันทีหลังจากที่ฟังจบ
"ได้ครับ"
เนบิวลารับคำแล้วก็กดปุ่มบนอุปกรณ์บนข้อมือเพื่อติดต่อกับแผนกดูแลยานอวกาศ
"อาเซ็นเจอร์ เมื่อกี้นี้มีพวกไวท์ทอลแฝงตัวเข้ามาในยานของเรา คุณช่วยเปิดประตูห้องทุกห้องไว้เดี๋ยวนี้ ทหารอารักขาจะเข้าตรวจค้นทุกห้องอย่างละเอียด"
"รับทราบค่ะ"
เสียงสวยตอบกลับมาทันทีที่เนบิวลาสั่งการ ทันใดนั้นประตูห้องทุกห้องก็ถูกเปิดออกค้างไว้ แม้ว่าห้องต่างๆ จะต้องเปิดด้วยรหัสผ่านจากพลังจิตธรรมดา แต่แผนกดูแลยานสามารถใช้รหัสผ่านกลางสั่งให้ห้องทุกห้องเปิดออกได้ในกรณีที่มีเหตุฉุกเฉินหรือตามเหตุจำเป็นที่อาจเกิดขึ้น
ทหารอารักขาแยกย้ายกันเข้าไปเดินตรวจตามห้องแต่ละห้อง ทั้งห้องทำงาน ห้องพักและห้องอื่นๆ เนบิวลาได้แต่ภาวนาให้เนตั้นปลอดภัยและรอดพ้นจากการถูกจับได้
นักวิทยาศาสตร์ที่แตกตื่นและแยกย้ายกันไปจากเหตุการณ์เมื่อสักครู่นี้กลับมารวมตัวกันที่ห้องทำงานอีกครั้ง เพื่อประชุมสอบสวนเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น เมื่อดูภาพจากกล้องที่ติดไว้ตรงประตูขนถ่ายอย่างถี่ถ้วนจึงพบร่องรอยการแฝงตัวของพวกไวท์ทอลตอนที่จับเนตั้นขึ้นมานั่นเอง ในภาพนั้นเห็นสิ่งมีชีวิตสีขาวๆ เคลื่อนไหวในช่วงเวลาไม่ถึงหนึ่งวินาทีแล้วก็หายตัวไปใกล้ๆ กับจุดที่เนตั้นนั่งจับเจ่าอยู่ พวกมันน่าจะติดตามยานของเนบิวลามาสักพัก จากนั้นจึงส่งเจ้าสามตัวนั้นมาอยู่ใกล้ๆ เนตั้นแล้วใช้เทคนิคพรางตัว พอถูกดูดขึ้นมาบนยานแล้วจึงไม่มีใครเห็นพวกมัน ถ้าพวกมันทำการสำเร็จ ยานลำนี้ก็จะถูกยึดและบินกลับมาที่ดาวโลกเพื่อส่งมนุษย์ที่ถูกจับกลับคืนดาวโลก
"แล้วเจ้ามนุษย์นั่นอยู่ที่ไหน เนบิวลา ให้ทหารไปเช็คที่ห้องกักตัวมนุษย์ด่วน"
หัวหน้าของเนบิวลาสั่งการอีกครั้งเมื่อดูภาพจากกล้องนั้นจนมั่นว่าพวกไวท์ทอลแฝงตัวมาในจังหวะนั้น เนบิวล่ากดปุ่มบนอุปกรณ์ข้อมือแล้วเรียกให้หัวหน้าทหารอารักขาเข้ามาพบในห้องประชุม เมื่อได้ดูภาพจากกล้องและเห็นหน้าของเนตั้นชัดเจนแล้วจึงออกไปดำเนินการตรวจค้นทันที
สักพักใหญ่ๆ หัวหน้าทหารอารักขาจึงกลับมารายงานความคืบหน้า
"ไม่พบตัวมนุษย์คนนั้นเลยครับ คาดว่าอาจจะถูกพวกไวท์ทอลฆ่าด้วยอาวุธปฏิสสารแล้วครับ"
เนบิวลารู้สึกโล่งใจอย่างมากทีเดียวที่ได้ยินอย่างนั้น คำให้การของหัวหน้านายทหารอารักขาย่อมฟังดูน่าเชื่อถือและไม่น่าจะมีเหตุอื่นใดให้หัวหน้าของเนบิวลาสงสัยอีก อาวุธปฏิสสารนั้นสามารถฆ่าสิ่งมีชีวิตได้โดยไม่เหลือร่องรอยเพราะปฏิสสารนั้นจะทำลายทุกอย่างที่เป็นสสารให้สลายหายไปราวกับไม่มีสิ่งนั้นอยู่ การไม่พบศพของเนตั้นจึงไม่ใช่สิ่งที่น่าสงสัยเลย
แสงจ้าตรงประตูทางเข้าเปิดออกอีกครั้ง เนบิวลากลับเข้ามาในห้องอย่างเหนื่อยอ่อนเพราะเลยเวลานอนไปหลายชั่วโมงแล้ว พอประตูปิดลง เนบิวลาก็รู้สึกเหมือนถูกกอดไว้จากใครสักคนที่มองไม่เห็นตัว แต่กระนั้นก็ยิ้มดีใจ หรือถึงขั้นเขินด้วยซ้ำ
"นายเหรอเนตั้น นายกอดฉันทำไม"
สักพักเนบิวลาก็รู้สึกเหมือนคนกอดปล่อยอ้อมแขนออกไปแล้ว เพียงครู่เดียวร่างของเนตั้นก็ปรากฎขึ้นตรงหน้าพร้อมกับรอยยิ้มดีใจเช่นเดียวกัน
เนบิวลาอดที่จะดึงคนตรงหน้ามากอดไว้อีกไม่ได้ รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูกที่เนตั้นเป็นฝ่ายเข้ามากอดก่อน แสดงว่าเนตั้นต้องรู้สึกดีกับเนบิวลาแล้วแน่ๆ แม้ว่าการที่พวกไวท์ทอลแฝงตัวเข้ามาจะเป็นอันตราย แต่พวกมันก็ช่วยให้เนบิวลาและเนตั้นรอดพ้นจากการถูกสงสัยไปได้อย่างหวุดหวิด
"เนตั้น ฉันกลับมาตามที่ฉันสัญญาแล้ว นายดีใจหรือเปล่า"
เนตั้นยิ้มเขินทั้งๆ ที่ไม่อยากเขินแล้วก็พยักหน้าหงึกๆ เนบิวลารับรู้อาการสั่นไหวแล้วก็ค่อยๆ ปล่อยเนตั้นเป็นอิสระ ส่งยิ้มหวานให้จนอีกคนวางหน้าไม่ถูกเลยทีเดียว
"อย่าจูบฉันอีกล่ะ!"เนตั้นร้องห้ามเกือบจะทันที เห็นสายตาของเนบิวลาอย่างนี้ทีไรเป็นต้องโดนจูบทุกทีเลย
"ฉันไม่มีแรงจะจูบนายแล้ว ตอนนี้ฉันเหนื่อยมาก อยากพักผ่อน ฉันไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะ"
เนบิวลายิ้มอย่างเอ็นดูแล้วก็เดินฉับๆ ไปตรงที่เก็บเสื้อผ้า ส่วนเนตั้นก็เดินกลับมาที่เตียงนอนเพราะเริ่มง่วงแล้วเช่นเดียวกัน ถอดเสื้อคลุมออกวางไว้แล้วก็ขึ้นมานั่งรอบนเตียงอย่างอารมณ์ดี ตอนนี้ชีวิตของเนตั้นก็คงเหลือแต่นายต่างดาวคนนี้แล้วสินะ แม้ไม่อยากจะรู้สึกผูกพันแต่สถานการณ์ก็บังคับให้ต้องเป็นอย่างนั้นไปแล้ว
เนบิวลาเดินมาที่เตียงในชุดสบายๆ แล้วก็นอนลงไปบนเตียงอย่างเหนื่อยอ่อน เนตั้นนั่งมองแล้วก็หัวเราะ
"นายเหนื่อยขนาดนั้นเลยเหรอ"
"เหนื่อยสิ เลยเวลานอนของฉันมาหลายชั่วโมงแล้ว เมื่อกี้ประชุมเครียดมาก ยานของเราถูกมนุษย์ต่างดาวอีกกลุ่มแฝงตัวเข้ามา พวกเราเกือบจะถูกฆ่าตายหมดแล้วรู้เปล่า"
"จริงเหรอ แล้วพวกมันเข้ามาได้ยังไงล่ะ" เนตั้นถามอย่างสงสัย
เนบิวลาจึงเล่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นให้ฟัง เนตั้นฟังจบก็ตาโต
"ถึงว่าล่ะ เมื่อกี้มีคนเข้ามาค้นในห้องของนายด้วย ฉันกลัวแทบแย่เลย ที่แท้มาหาพวกมนุษย์ต่างดาวนี่เอง"
"ใช่ พวกมนุษย์ต่างดาวที่เทคโนโลยีสูงๆ ชอบลักพาตัวคนจากดาวหนึ่งไปไว้อีกดาวหนึ่ง แล้วก็สร้างเป็นอาณานิคมใหม่ของตัวเองขึ้นมา ใครที่สร้างอาณานิคมใหม่ได้เยอะกว่าจะถือว่ามีอำนาจมาก"
เนตั้นพยักหน้ารับรู้ อาจจะไม่เข้าใจทั้งหมดดีหรอก รู้แค่ว่ามีการแข่งขันกันระหว่างมนุษย์ต่างดาวด้วยกันก็พอแล้ว
"นวดขาให้ฉันหน่อยได้มั้ยเนตั้น ปกติฉันจะให้แม่นวดขาให้ก่อนนอน ไม่งั้นฉันจะนอนไม่หลับ"
เนตั้นมองอย่างงงๆ แล้วก็ชี้มาที่ตัวเอง "ให้ฉันนี่นะนวดให้นาย"
"ได้หรือเปล่าล่ะ ไม่งั้นฉันนอนไม่หลับ"
เนตั้นนิ่วหน้า แต่สุดท้ายก็ยอมทำตามที่ขอแต่โดยดี เนบิวลาจึงยิ้มพอใจ
"ถ้านายไม่มีแม่ นายจะให้ใครนวดให้ล่ะ"
เนตั้นถามขึ้นขณะที่กำลังบีบๆ นวดๆ บริเวณน่องทั้งสองข้างของเนบิวลา คนถูกถามนิ่งเงียบแต่ดูยิ้มๆ
"มีก็แล้วกันน่า"
"สาวๆ เหรอ"
เนตั้นถามอย่างพาซื่อ คนถูกถามชะงักไปเล็กน้อย
"คงงั้นมั้ง" เนบิวลาหัวเราะร่วน
"บนยานนี้มีสาวๆ ด้วยเหรอ"
"มีสิ มีหลายคน เป็นเจ้าหน้าที่ด้วยกันนี่แหละ"
เนตั้นพยักหน้าเข้าใจแล้วก็ก้มหน้าก้มตานวดต่อไป
"พวกนายเป็นมนุษย์ต่างดาวจริงเหรอ ทำไมถึงหน้าตาเหมือนคนบนโลกของฉันเลย"
"ฉันเล่าให้ฟังสั้นๆ อย่างงี้ละกัน พวกเราที่ดาวแม็กโซนาเดียสงสัยกันว่าพวกเราถูกมนุษย์ต่างดาวลักพาตัวมาอยู่ที่ดาวดวงนี้เมื่อหนึ่งล้านปีก่อน เมื่อก่อนที่ดาวแม็กโซนาเดียมีแต่สิ่งมีชีวิตที่เป็นสัตว์ป่า ไม่มีสิ่งมีชีวิตที่เหมือนมนุษย์เลย พวกเราก็เลยลองสืบข้อมูลจากมนุษย์ต่างดาวจากดาวดวงอื่นที่เคยไปเยือนดวงดาวต่างๆ มา มนุษย์ต่างดาวพวกนี้มีฐานข้อมูลดวงดาวที่ไปเยือนเก็บไว้เยอะเลย พวกเค้าเคยมาที่โลกของนายด้วยแล้วก็เก็บข้อมูลภาพไว้ พอเราเห็นข้อมูลนี้ก็เลยสงสัยกันว่าบรรพบุรุษของเราน่าจะมาจากโลกของนายนี่แหละ เพราะมนุษย์จากโลกอื่นๆ หน้าตาไม่เหมือนพวกเราเลย มีแต่ดาวโลกที่เดียว ทางรัฐบาลของเราก็เลยให้เรามาลักพาตัวมนุษย์จากโลกของนายไปชำแหละศึกษา"
เนตั้นหยุดนวดแล้วก็คิดตาม ฟังๆ แล้วก็น่าจะมีเค้าความเป็นไปได้อยู่ ไม่อย่างนั้นแล้วเนบิวลาก็ไม่น่าจะมีหน้าตาเหมือนมนุษย์จากดาวโลกมากถึงขนาดนี้
"นายต้องอดทนอยู่ในห้องนี้กับฉันหน่อยนะเนตั้น แต่ไม่ต้องห่วง พอไปถึงดาวของเราแล้ว ฉันจะพานายไปเที่ยวให้ทั่วเลย ไปเที่ยวต่างดาวด้วย นายอยากไปเที่ยวต่างดาวมั้ย เท่าที่ฉันเก็บข้อมูลมา เทคโนโลยีที่ดาวโลกของนายยังไม่สามารถเดินทางไปดาวอื่นได้หรอก นายอยากไปเที่ยวต่างดาวมั้ย"
เนตั้นพยักหน้าอย่างตื่นเต้น "ก็ดีนะ ฉันอยากไปเที่ยวต่างดางมั่ง คงสนุกแน่ๆ เลย"
เนบิวลายังไม่ทันได้พูดก็มีแสงสว่างวาบขึ้นแถวๆ ประตูพร้อมกับเสียงเตือน มีคนมาหาเนบิวลานั่นเอง
"เนตั้นใส่ชุดคลุมก่อน มีคนมาหาฉัน"
เนตั้นหยุดนวดแล้วไปหยิบเสื้อคลุมล่องหนมาใส่แล้วกดปุ่มพรางตัว ส่วนเนบิวลาก็ลุกจากเตียงแล้วเดินไปที่ประตู แสงที่เนตั้นเห็นเมื่อสักครู่นี้ก็คือภาพจากหน้าจอที่ติดไว้ตรงประตู หน้าจอนี้แสดงให้เห็นว่าใครมายืนรออยู่ จากนั้นก็ส่งเสียงเตือน
"อาเซนเจอร์!"เนบิวลาพึมพำเบาๆ กับตัวเองด้วยสีหน้ากังวล ยังไงๆ ก็คงต้องเปิดประตูให้สาวที่เป็นคู่นอนชั่วคราวเข้ามาอยู่ดี หลังจากนั้นค่อยหาทางปฏิเสธเอา
เนบิวลาสั่งให้ประตูเปิดออก หญิงสาที่เป็นเพื่อนร่วมงานเข้ามาในห้องแล้วก็โถมตัวกอดเนบิวลาอย่างดีใจ คนที่มองเห็นคงจะพอเดาความสัมพันธ์ของทั้งคู่ได้เป็นอย่างดี
"เนบิวลายังไม่นอนอีกเหรอ ดีเลย ฉันกำลังเหงาๆ อยู่พอดี"
อาเซนเจอร์ผละตัวออกแล้วก็ยิ้มร่า มองชายหนุ่มตรงหน้าด้วยสายตาที่บ่งบอกความต้องการบางอย่าง ผู้หญิงที่ดาวแม็กโซนาเดียนั้นชัดเจนและไม่อ้อมค้อมในเรื่องนี้เลย
"อาเซนเจอร์ วันนี้ฉันเหนื่อย ขอฉันนอนพักก่อนได้มั้ย"
เนบิวลาพยายามกันท่า ไม่อย่างงั้นคงถูกหญิงสาวคนนี้จู่โจม
"อ๋อ...เมื่อกี้น่ะเหรอ ประชุมกันนานเลยเหรอเนบิวลา"
เนบิวลาพยักหน้า
"ใช่ พวกเราต้องเช็คให้แน่ใจว่าพวกไวท์ทอลไปหมดแล้ว อ้อ ตอนนี้ยานของเราเดินทางด้วยความเร็วมากกว่าแสงแล้วใช่มั้ย ฉันกลัวพวกมันส่งคนตามมาทัน"
"อืม พอเกิดเรื่องอย่างนี้ก็ต้องใช้วิธีนี้นั่นแหละ"
อาเซ็นเจอร์เสียงเรียบ เมื่อวัตถุใดๆ เดินทางด้วยความเร็วมากกว่าแสง วัตถุนั้นจะล่องหนไปโดยปริยาย ยากที่จะมีสิ่งใดตรวจจับได้เพราะคลื่นที่เดินทางได้เร็วกว่าแสงก็ยังเดินทางช้ากว่าความเร็วของยานอวกาศลำนี้อยู่ดี จึงไม่ต้องกังวลว่าพวกไวท์ทอลจะตามมาทัน
"ว่าแต่เนบิวลาไม่ต้องการฉันจริงๆ เหรอ"
อาเซนเจอร์ถามพลางเอามือโอบคอเนบิวลาไว้ ทำหน้ากระเง้ากระงอดแต่ก็เชื้อเชิญอยู่ในที เนบิวลายืนตัวแข็งทื่อจนสาวเจ้าอดแปลกใจไม่ได้
"ทำไมล่ะเนบิวลา ไม่นานหรอก ฉันไม่ทำให้เนบิวลาเหนื่อยหรอกน่า ปกติเนบิวลาแข็งแรงจะตาย"
เจอลูกอ้อนเข้าไปอย่างนี้เนบิวลาก็ยิ่งลำบากใจเข้าไปใหญ่
"ฉันเหนื่อยจริงๆ อาเซนเจอร์ วันนี้ฉันขอพักก่อนได้มั้ย"
อาเซนเจอร์ปล่อยมือออกแล้วก็ทำหน้าไม่สบอารมณ์ วันนี้เนบิวลาแปลกไปจริงๆ ปกติไม่เคยปฏิเสธเธอเลย แสดงว่าคงต้องมีบางอย่างเปลี่ยนไป บางทีเนบิวลาอาจจะมีคู่นอนคนใหม่แล้วก็ได้
"เอาไว้คราวหลังก็ได้ เดี๋ยวฉันมาใหม่นะ"
เนบิวลาพยักหน้า จากนั้นก็สั่งประตูให้เปิดออก อาเซนเจอร์ค่อยๆ เดินออกไป มีแอบหันแวบกลับมามองเหมือนจะให้เนบิวลาทบทวนอีกครั้งด้วย แต่เนบิวลาก็แสดงอาการว่าจะไม่เปลี่ยนใจ อาเซนเจอร์จึงจากไปอย่างหัวเสียเล็กน้อย
เป็นธรรมดาของหนุ่มๆ สาวๆ ที่เดินทางในอวกาศนานๆ หลายเดือนจะเกิดอาการ "อารมณ์เปลี่ยว" ขึ้นมาได้ การมีคู่นอนชั่วคราวจึงเป็นเรื่องธรรมดา บนดาวแม็กโซนาเดียนั้นไม่ถือว่าเป็นเรื่องเสียหาย แม้ว่าบางคนจะแต่งงานแล้วก็ตาม
พอประตูปิดลงอีกครั้ง เนบิวลาก็หันหลังกลับแล้วเดินมาที่เตียงนอน พอมาถึงก็พบว่าเนตั้นยังไม่ปรากฎตัว คิ้วบนใบหน้าคมเข้มย่นเข้าหากันด้วยความสงสัย
"เนตั้น เค้าไปแล้ว นายอยู่ไหน"
ไม่มีเสียงตอบรับ แถมเนตั้นก็ยังไม่ยอมปรากฎตัวอีก
"เนตั้น ปิดปุ่มเสื้อคลุมได้แล้ว"
ยังคงไม่มีเสียงตอบรับเช่นเดิมจนเนบิวลาชักกังวล
"นายหึงฉันเหรอเนตั้น!"ทันที่ที่พูดจบ ร่างของเนตั้นก็ปรากฎขึ้นทันที หนุ่มน้อยหน้าใสทำหน้ายิ้มยาก
"หลงตัวเองมากไปมั้ย อีกอย่าง...ฉันเป็นผู้ชายนะ ไม่ได้ชอบนายซะหน่อย"
พูดจบแล้วก็ขึ้นไปนอนบนเตียง เนบิวลามองตามแล้วก็ยิ้ม แต่ใจหนึ่งก็อดเกรงใจเนตั้นไม่ได้เหมือนกัน พอขึ้นไปนั่งบนเตียงกับเนตั้นแล้ว เนตั้นก็หยิบผ้าห่มมาห่มแล้วหันหน้าไปอีกทาง
"ถ้านายไม่ชอบ ต่อไปฉันจะบอกเขาไม่ให้มาหาฉันอีก โอเคมั้ย"
"ก็ไม่ได้ว่าอะไรซะหน่อย"
เนตั้นพูดด้วยเสียงกระเง้ากระงอดเล็กน้อย คนซื่ออย่างเนตั้นเก็บอาการหรือเสแสร้งไม่ค่อยเป็นหรอก เพราะฉะนั้นจึงไม่ใช่เรื่องยากที่คนอื่นๆ จะเดาอารมณ์ของเนตั้นได้
แล้วเนตั้นก็พูดต่อ
"ต่อไปถ้าเค้ามาหานายอีก ฉันไปหลบในตู้เสื้อผ้าก็ได้"
เนบิวลาอยากจะขำก๊ากแต่ก็กลัวหนุ่มน้อยงอนยิ่งกว่าเดิม เลยต้องยั้งไว้ก่อน
"แต่นายก็จะได้ยินเสียงอยู่ดี"
"แล้วนายจะให้ฉันทำยังไงล่ะ จะให้ฉันออกไปข้างนอกมั้ย เดี๋ยวก็เกิดเรื่องอีกพอดี"
เนบิวลายิ้มกรุ้มกริ่ม แลดูมีเลศนัย
"เชื่อฉันสิ ต่อไปฉันจะไม่ให้เค้ามาหาฉันอีกแล้ว แต่นาย..."
เนบิวลาโน้มใบหน้าลงไปใกล้ๆ แล้วใช้ข้อศอกค้ำตัวไว้ ใบหน้าที่อยู่ใกล้แค่คืบทำให้เนตั้นประหม่าจนตัวแข็งทื่อ แทบจะลืมหายใจเลยทีเดียว
"ต้องช่วยฉันนะเวลาที่ฉัน..."
เนบิวลาหัวเราะชอบใจเบาๆ แล้วก็นอนลงข้างๆ อีกคนอย่างอารมณ์ดี ซื่อจริงๆ นะเนตั้น
ฉันจะหลงนายจนหัวปั่นก็เพราะความใสซื่อของนายนี่แหละ!✰ TBC ✰