ครูเขมชาติ
เมื่อวานผมออกมากันแต่เช้าและทำหน้าที่เป็นครูเวรโรงเรียนพร้อมกับเปิดจดหมายที่มีคนเขียนมาให้พ่อผมช่วยเหลือมีทั้งคนต่างชาติและคนไทยบางฉบับก็ถูกส่งไปเป็นส่วนหนึ่งในการขึ้นศาลช่วยเหลือคนที่ถูกกระทำรุนแรงผมเปิดดูแต่ว่าผมไม่พบชื่อลลิลภัทร์เลยสักคนแต่ผมเห็นมีอยู่ฉบับหนึ่งเขาต้องการตามหาครอบครัวผู้หญิงทำงานในบาร์แห่งหนึ่งทางพัทยามีลูกชายแต่ว่าเป็นตัวหนังสือที่ถูกขีดเขียนไว้หลายปีแล้วทำให้มึกมันจางไปผม ผมเห็นชื่อไม่ชัดมันขาดๆหายๆแต่ก็ผมเห็นอีเมลชัดเจนจากคนที่ต้องการให้พ่อผมติดต่อกลับแลชื่อภรรยาเขานั้นชื่อวนิดา ไม่ใช่ลลิลภัทร์ ผมเลยไม่แน่ใจเลยต้องพักไว้แค่นั้นก่อน
เมื่อวานคริสโตเฟอร์กลับไปนอนบ้านพักคริสบอกผมว่าโป้งและปันปันอยู่ด้วย โป้งกับปันปันเขาคบกันอย่างเป็นทางการแล้ว โป้งบอกความจริงกับแฟนสาวเขาแฟนและทุกอย่างก็จบลงด้วยดี ผมก็ยินดีด้วยนะ ที่สองคู่เขาลงเอ่ยด้วยดีเหลือแต่ผมกับคริสโตเฟอร์นีแหละวันนี้แม่ของเขาจะลงมาหาคริสโตเฟอร์จะลงมาหาผมรู้สึกกังวลนิดหน่อยแม้ว่าคริสโตเฟอร์จะบอกผมว่าแม่ของเขาไม่ได้ว่าอะไรเรื่องที่เขารักผมที่เป็นผู้ชายก็ตาม
ผมกำลังขับรถไปตรงด้านหลังที่คริสโตเฟอร์นั่งอยู่กับเพื่อน แปลกนะอยู่ใกล้กันนิดเดียวแต่เรากับต้องทำเหมือนเราไกลกันจะคุยกันก็ต้องคุยผ่านแอพพลิเคชั่นแทนแต่ก็ยังดีดว่าไม่ได้คุยเมื่อคืนผมสองคนคุยกันจนดึกจนผมหลับคามือถือเลยเช้านี้ต้องหยิบเอาที่ชาร์สติดตัวมาด้วย นานแล้วนะที่ไม่เป็นแบบนี้ มันเคยเกิดขึ้นเมื่อตอนที่ผมกับณัฐกานต์จีบกันใหม่ๆ โทรศัพท์นี้ไม่ห่างมือแต่พอเป็นแฟนกันแล้วและยิ่งผ่านไปหลายปี จะโทรหาทีเมื่อมีเรื่องจำเป็นเท่านั้น
"สวัสดีครับครูเขม" พวกโจ้ อาร์ท ปันปันและโป้งหันมายกมือไหว้ผมและพ่อตัวดีผมด้วยเงยหน้าขึ้นมาจากหน้าจอขนาดผมบอกจะถึงแล้วยังกดส่งข้อความคุยกีบผมอยู่นั้นแหละ
"สวัสดีเป็นไงพวกเราไปซ่ากันที่ไหนมาละ" ผมถาม
"ไม่ได้ไปซ่าที่ไหนครับอยู่บ้านอ่านตำราครับครู"อาร์ทบอกผม ผมพยักหน้าดีมาก
"ดีแล้วละอ่านเยอะ" เงยหน้าขึ้นมายิ้มแบบผมค่อยภูมิใจ ถึงจะแสบซ่าแต่ก็ยังมีเวลาอ่านหนังสือหนังหา
"ตำรานี้หรือเปล่าที่มึงเอามาให้กูกับโป้งดูนะ" ปันปันยกขึ้นมาโชว์ผมถึงกับขมวดคิ้วอ่านชื่อหนังสือ
ตำราว่าด้วยลีลารักเกย์หัดใหม่พร้อมท่ายาก(มีรูปประกอบ) !!! ผมหันมามองแต่ละคน นี้เหรอตำราที่พวกนายอ่านเนี๊๊ยะ
"เฮ้ย!! ยื่มอ่านมั้งดิว่ะ" พ่อตัวดีของผมรีบยื่มทันทีเลยนะ ผมหันมาเหล่มองหนังสือเมื่อวานหอบมาห้าเล่มอ่านยังไม่พออีกเหรอ คนที่แบมือไปขอรีบชักมือกลับมาทันที
"จริงๆเลยนะพวกนายนี้...หนังสือเรียนนะควรจะอ่านกัน และตั้งใจเรียนกันให้จบ พอจบแล้วค่อยอ่านก็ได้ตำราพวกนี้นะจะรีบไปไหน" ผมพูดและว่างกล่องที่ผมทำแซนวิสมาฝากคริสโตเฟอร์ลง คริสโตเฟอร์มองกล่อง
"หนังสือเรียนนะพวกผมอ่านอยู่แต่อันนี้เป็นหนังสืออ่านยามว่างครับครู " โจ้ ^_^ ผมเหล่ตามองว่ามันใช่หนังสืออ่านยามว่างตรงไหน
"ไม่ใช่เหรอครับครู...ถ้าอย่างนั้นโทษไอ้อาร์ทเลยครูมันเป็นคนไปหามา" โจ้พูด
"อ้าวเมียครับปากหมานนะครับ" อาร์ท
"ครูเขมแซนวิสปะครับ"โจ้ถามผมถึงของในกล่อง
"ใช่แล้ว"ผมตอบ
"ครูไอ้คริสมันบอกไม่ชอบกินแซนวิสครับ" โจ้บอกผม ผมก้มลงมองคริสโตเฟอร์ว่าทำไมไม่บอกละ
"จริงด้วยวันก่อนปันปันทำมันบอกไม่กินแซนวิสแล้วครู"
"งั้นครูให้พวกผมนะ" อาร์ทรีบดึงกล่องแซนวิสไปผมพยักหยักหน้าละหยิบจะส่งให้
"หมับ" มีคนดึงกล่องไว้ไม่ยอมให้ผมยกให้ใคร
"ใครบอก...และนี้พี่เขม..เอ้ย..ครูเขมทำมาให้กูต่างหากละดังนั้นกูต้องเป็นคนกิน" คริสโตเฟอร์แย้งคืนไป
"กูชอบกินแซนวิสโว้ยและที่ไม่ชอบเพราะว่าไอ้..อาร์ทกับไอ้โจ้ต่างหากพูดว่า..ปันปันกับไอ้โป้งจะชวนกินแซนวิส" คริสโตเฟอร์พูดผมเข้าใจความหมายว่าแซนวิสที่อาร์ทกับโจ้พูดนะหมายถึงอะไร ทั้งปันปันและโจ้สะบัดหน้ามามองคริสโตเฟอร์
"ไอ้อาร์ท! ไอ้โจ้! "
"มึงจะบ้าเหรอ...กูไม่เอาแบบนั้นแน่นอน" โป้งรีบออกตัวก่อนเลย
"โป้ง..พ่อเป็นยังไงบ้างคริสบอกครูว่าพ่อเราไม่สบาย" ผมถามโป้งดูสีหน้าไม่ค่อยดีเท่าไหร่ โป้งเงยหน้ามองผม
"พ่อผมต้องเข้ารับการรักษาโดยการทำบอลลูนครับอาจารย์แต่ค่าใช้จ่ายเยอะมาก ผมว่าจะพักการเรียนนะครับครู" ผมได้ยินแบบนี้ใจหาย
"แม่มีเงินเก็บไว้สำหรับให้ผมเรียนแต่ผมต้องการให้พ่อหายนะครับครู"
"โป้งครูเข้าใจนะแต่ครูก็ไม่เห็นด้วยที่เธอจะพักการเรียนตอนนี้อยากให้เรียนให้จบอีกปีเดียวเอง"
"ใช่โป้งแม่โป้งก็บอกว่าไม่อยากให้โป้งพักการเรียน" ปันปัน
"เอาอย่างนี้ขาดเหลือมากน้อยแค่ไหนครูจะช่วยครูพอมีตอนแรกว่าจะเอาไว้เปิด ร้านกาแฟกับเปิดติวเตอร์ ตอนนี้ครูให้เธอยื่มก่อน"
"อย่าเพิ่งคิดเป็นอื่น....ช่วยพ่อเธอก่อน....เลิกเรียนแล้วขึ้นไปหาครูนะโป้ง" ผมพูดคริสโตเฟอร์มองผม ผมพยักหน้าให้ก่อนจะที่เดินออกจากกลุ่มพวกเพื่อนของคริสโตเฟอร์ไป ผมเดินไปยังห้องพักครูผมหิ้วถุงกระดาษมาด้วยเป็นกระเป๋าและรองเท้านักเรียนที่ผมซื้อให้อนุชิต เขาจะได้มีของใหม่ใส่กับเขาบ้าง ผมเดินเข้าไปในห้องพักครูได้ยินเสียงบรรดาครูคุยกันก็คงเป็นครูนิด ครูลินดา ครูถาวรและครูสุมณฑา พอผมเดินเข้ามาอ้อมีครูโจ้อีกคน
"ครูเขมคะวันนี้ครูสมชายเขาไปเฝ้าแม่นะคะเห็นว่าแม่อาการทรุดลง ครูเขมเข้าสอนห้องครูสมชายทีได้ไหมคะ" ครูอรุโณทัยเดินตามผมเข้ามาพอดีเช่นกันคงตั้งใจมาบอกเรื่องนี้อยู่
"ได้ซิครับห้องไหนเหรอครับ"
"ห้อง...ม.2/3 ค่ะ"
"ห้องแก้มนะคะครู" ครูลินดาพูดผมพยักหน้าว่าได้อยู่แล้ว
"ถ้าอย่างนั้นรบกวนหน่อยนะคะพี่มีสอนหลายคาบติดกันจะให้ไปอีกคาบสังขารจะไม่ไหวเอานะคะ" ครูอรุโณทัยพูดผมก็หัวเราะนิดหน่อยแต่ก็พยักหน้าว่าผมยินดี
"ครูเขมผลเป็นยังไงบ้างคะที่ไปคุยเรื่องคริสโตเฟอร์นะคะ" ครูลินดารีบถามผมทันที
"ผมไปคุยกับอาจารย์มาแล้วครับ ผมก็ได้หนังสือมาเป็นแนวทางให้คริสโจเฟอร์อ่าน ผมคงต้องติวให้เขาเยอะขึ้นเป็นตอนเที่ยงครึ้งชั่วโมงและหลังสอนพิเศษอีกหนึ่งชั่วโมงนะครับ" ผมพูด
"มีวิชาอะไรบ้างคะเพื่อนว่าถาวรช่วยได้"
"จะมีวิชาคณิตศาตร์นะครับคริสโตเฟอร์บอกว่าบ้างสูตรยังไม่ค่อยแม่ ข้อสอบก็มี บวก ลบ คูณ หาร, เลขสถิติ,เรขาคณิต, พีชคณิต อะไรพวกนี้นะครับแต่ไม่เยอะครับและเขามีสูตรกับเครื่องคิดเลขให้อยู่แล้ว" ผมพูด
"ถ้าอย่างนั้นถาวรยินดีจะติวให้นะคะ"
"ขอบคุณมากเลยครับ"
"มีวิทยาศาสตาร์ด้วยใช่ไหมครับครูเขม" ครูโจ้หันมาถามผม
"ครับพี่จะมีบทความให้อ่าน มีรูปพวกดีเอ็นเอ พวกคาน พวกแรงไฟฟ้าอะไรพวกนี้นะครับดูจากรูปภาพและคำอธิบาย ส่วนนี้จากรูปภาพ ใช้ทำงานอะไร และถ้าขาดส่วนนี้ไป จะกระทบต่ออะไร ประมาณนี้ ครูโจ้" ผมพูด
"ถ้าอย่างนันให้ผมช่วยติวให้ก็ได้นะครับเพราะว่าถ้ามีบทความให้แต่ติวให้รู้จัดว่าส่วนไหนใช้อะไร ผมติวให้ได้นะครู"
"ดีเลยครับครูโจ้..ผมขอบคุณมากครับ" ผมพูดและทำท่าจะหันไปขอกอด
"แค่ขอบคุณก็พอครับครูเขม..อย่ากอดผมบ่อยเลยนะครับเดี๋ยวได้คิดบ้างละครับ" ครูโจ้พูดยืนตัวลีบเลยนะ
"แม้พี่โจ้กับไปอยู่กับภรรยาพี่นะดีแล้ว" ลินดาแซวครูโจ้
"ครูเขมวันนี้ วนิดา แม่ของคริสโตเฟอร์จะเดินทางทีโรงเรียนนี้คะ"
"แม่ของคริสโตเฟอร์ชื่อคุณวนิดาเหรอครับ" ผมคุ้นชื่อนี้มาก
"ใช่ค่ะ....แต่ปัจจุบันเธอเปลี่ยนเป็นลลิลภัทร์แล้วนะคะ" ครูนิดบอกผม ผมพยักหน้าไว้รอถามแม่ของคริสโตเฟอร์อีกทีดีกว่า เสียงสัญญาณเข้าแถวดังขึ้นพอดีเลยผมเดินลงไปกับครูทั้งหลายเพื่อไปควบคุมนักเรียนเข้าแถวเคารพธงชาติ ระหว่างที่ผมเดินลงไปผมเห็นผู้หญิงที่เป็นป้าของแชมป์เขามาหา ผู้อำนวยการอีกแล้วแต่รอบนี้ดูร่างกายซูบผอมลงไปมากสีหน้าหมองหม่นอย่างเห็นได้ชัด ผมได้แต่ยืนมองแค่นั้น
"ครูเขม" ผู้อำนวยการเรียกผม
"สวัสดีครับผู้อำนวยการ"
"เขามาหาผู้อำนวยการอีกแล้วเหรอครับ" ท่านคงรู้ว่าผมหมายถึงใครที่เพิ่งเดินผ่านผมออกไป
"ใช่ครับครู..เห็นเขาเข้มงวดกับแชมป์มากแต่เด็กคนนั้นก็เป็นหลานเพียงคนเดียวที่เขาจะฝากผีฝากไข้..โชคดีนะที่ครูไม่คิดจะทำอย่างนั้นเหมือนครูมิ้งกับแชมป์ผมกระทบมันตกอยู่กับคนข้างหลัง" ผู้อำนวยการพูด
"ผมไม่ทำแบบนั้นเด็ดขาดครับ"
"ดีแล้วแหละครู..ไม่ต้องเสียหน้าที่การงานว่าแต่ครูมีทางออกที่ดีเตรียมไว้แล้วใช่ไหครับ"
"ใช่ครับท่านแต่ผมรอถามแม่ของคริสโตเฟอร์อีกทีว่าเห็นด้วยกันกับที่ผมและคริสไหมนะครับ" ผมตอบท่าน
"นี้เขาบอกผมว่าเขาเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายเขาอยากเจอหน้าหลานเขาอีกครั้ง" ผมก็ต้องตกใจอย่างมาก นี้ก็อีกเรื่องที่ผมอยากจะหาตัวครูมิ้งให้ได้
"ผมให้พี่ชายที่เป็นปลัดอำเภอที่จังหวัดบ้านเกิดครูมิ้งแต่เขาไมได้กลับไปบ้านนะครับ ผมได้แต่ภาวนาว่าเขาจะติดต่อทางบ้านบ้าง"
"ผมได้ให้ข้อมูลไว้บ้างแล้วนะครับท่าน ข้อมูลที่ได้ก็ได้มาจากครูลินดา"
"ขอบคุณมากเลยนะครับครู...ช่วยทีเถอะครูสงสารแกเหมือนกันพ่อเด็กนะเป็นน้องชายทีป้าของแชมป์รักมากพอมาเสียพ่อแม่ของแชมป์ไปเขาก็ตั้งใจจะดูแลแชมป์อย่างดีแต่ดันมาหายออกไปจากบ้านซะก่อน"
"ตามเด็กให้มาดูใจหน่อยก็ยังดี" ผู้อำนวยการพูดก่อนจะเดินกลับขึ้นไป ผมต้องตามครูมิ้งกลับมาให้ได้และผมไม่ได้ต้องการทำเพื่อให้ทุกคนยอมรับผมกับคริสแต่ผมทำเพื่อคนหลายคนไม่จะว่าป้าแชมป์และครอบครัวของครูมิ้งผมคิดว่าครูมิ้งก็น่าจะเป็นครูทีมีคุณภาพคนหนึ่งนะแต่ด้วยเหตุผลอะไรผมไม่แน่ใจทำไมถึงได้ตัดสินใจทิ้งอาชีพครูไปแบบนั้น
หลังจากเข้าแถวเสร็จผมก็รีบเดินขึ้นห้องพักครูหยิบหนังสือเพื่อทำการสอนนักเรียนชั้น ม.4/2 และนักเรียนชั้น ม.2 /3 ที่ผมต้องไปดูแลแทนครูสมชายที่เขาขอไปดูแลแม่ของเขาที่ล้มป่วยลงครูสมชายแกก็พยายามทำทุกวิธีทางไปเข้าถือศิลให้แม่เขาหายเจ็บปวก
พอพูดถึงตรงนี้ยังมีอีกหลายคนเลยที่มองข้ามสิ่งสำคัญตรงนี้ไป บางคนพอชีวิตเข้าสู่วัยรุ่นไม่อยากอยู่กับพ่อแม่อยากอยู่กับเพื่อน รู้สึกเบื่อพ่อแม่ดุด่าว่ากล่าวหรือตักเตือนจนอยากออกไปมีชีวิตเป็นของตัวเองจะได้ไม่ต้องมีใครคอยบ่นคอยว่า แต่อายุเริ่มมากขึ้นทั้งตัวลูกและพ่อแม่ยิ่งพ่อแม่แก่ชราลงเวลาก็เหลือน้อยลงทุกทีและยิ่งมีโรคภัยไข้เจ็บถึงตอนนี้จะมาขอยื้อให้อยู่กับตัวเองนานๆ
ผมทำการเข้าสอนห้องคริสโตเฟอร์คาบแรกของทุกวันจันทร์ ผมก็ทำตัวตามปกติเป็นครูสอนส่วนคริสโตเฟอร์ก็ทำหน้าที่นักเรียนตั้งใจเรียนและดูการเข้ากับเพื่อนๆในห้องจะดีขึ้นอีกด้วยแม้จะรุ่นน้องก็ตาม ผมดีที่เขามีการพัฒนามนุษยสัมพันธ์กับเพื่อนไปด้วย
"นักเรียน...อีกสองอาทิตย์จะมีการแข่งขันตอบปัญหาภาษาอังกฤษเพื่อคิดเลือกเป็นตัวแทนแข่งขันระดับเขต"
"ครูอยากให้ห้องเธอส่งตัวแทนพวกเธอส่งตัวแทน"
"พี่คริสโตเฟอร์ดิแกพี่เขาเก่งขึ้นเยอะเลยอะ"
"ถ้าอย่างนั้นให้พี่คริสโตเฟอร์กับเอกรินทร์ค่ะครู" ผมหันไปมองหน้าเอกรินทร์เขาก็พยักหน้าคนนี้เก่งด้านแกรมม่า ผมรู้สึกว่าเขาจะเรียนติวเตอร์อยากด้านนอกไม่ได้เรียนกับผมเพราะว่าทางบ้านเขามีทุนทรัพย์เยอะ
"ถ้าอย่างนั้นเพื่อนๆช่วยกันติวให้เพื่อนที่เป็นตัวแทนด้วยแล้วกัน...ช่วยกันซ้อมเพราะว่าชื่อเสียงก็คือห้องเรานะ"
"เอาละไว้เจอกันพรุ่งนี้...อย่าลืมงานที่ครูให้นะให้เขียนเรื่องราวที่ประทับใจ" ผมพูด
"ครับครู " "ค่ะครู"
"นักเรียนทำความเคารพ"
"Thank you Teacher , See you tomorrow.
"See you tomorror " ผมพูดก่อนจะเดินออกจากห้องเรียน
ตื้ด!!! เสียงแอพพลิเคชั่นดังขึ้นผมหยิบมือถือขึ้นมาดู
KissKhem:พี่เขมคิดถึงอะ..ทำไมวันนี้พี่ไม่คอยยิ้มเหมือนทุกวันเลยอะมีอะไรหรือเปล่า"
My Darling: พี่มีเรื่องคิดนิดหน่อยแต่ไม่เกี่ยวกับเราหรอก
KissKhem: เรื่องอะไรอะบอกได้ไหมอะอยากรู้ผมเป็นห่วง (อันนี้ผมให้ผมอมยิ้มได้ทันทีที่รู้ว่าเขาเป็นห่วงผม)
My Darling: แค่นี้พี่ก็ดีขึ้นแล้วคริส...ตั้งใจเรียนละพี่จะเข้าห้องสอนต่อแล้ว
เจอกันตอนเที่ยงครึ้งนะที่ห้องสมุด
KissKhem: ครับที่่รัก..จูุ๊บ!
ผมเก็บมือลงกระเป๋ากางเกงตัวเก่งของผมก่อนจะก้าวเท้าเข้าห้องเรียนที่ไม่คุ้นเคยเพราะว่านี้เป็นวันแรกของผม นักเรียนชั้น ม.2/3 แต่ละคนตกใจที่เห็นผมอยู่หน้าห้อง
"เฮ้ย! ครูเขมมาสอนห้องเราแล้ววะ ...เย้ๆ " แต่ละคนดูดีใจกันที่เห็นว่าผมมาทำการสอนแทนครูสมชายที่ลาไปดูแลคุณแม่ของเขาที่ป่วยอยู่แต่ผมไม่รู้ว่าท่านป่วยเป็นโรคอะไร
"นักเรียนทำความเคารพ"
"Good mornign , How do you do ?
"Good morning teacher , I'm fine thank you , and you ?"
"Pretty good Thank you "
" Sit down pleas !!"
"Thank you teacher" และแต่ละคนก็นั่งลง ผมเหลือบมองไปเห็นแก้มนั่งอยู่คนเดียวโต๊ะตัวเดียวปากตินักเรียนจะนั่งคู่กันแต่มีอยู่แถวหนึ่งนั่งกันสามคน
"ทำไมครูเปิดด้วยประโยค How do you do ? "
"แก้มลุกขึ้นตอบครูซิครับ" ผมเรียกแก้มที่นั่งอยู่คนเดียวเธอเงยหน้ามองผมก่อนจะลุกขึ้น
"ไม่ทราบคะ" แก้มตอบผมว่าไม่ทราบ
"คิก คิก" เสียงเพื่อนๆหัวเราะ
"หนูทราบคะ เพราะว่าเราเจอกันครั้งแรกค่ะ"
"แก้มนั่งลง...เราด้วย" ผมหันไปบอกแก้มและคนที่ลุกขึ้นตอบ
"How do you do ? คือการทักทายของการพบกันครั้งแรกหรือคนอเมริกันเขาก็ใช้ทักทายกันแบบธรรมดาแต่ส่วนใหญ่จะใช่ how are you มากกว่าแบบว่าเน้นถามเรื่องสุขภาพ และประโยคตอบกลับสำหรับ How do you do ที่ถูกต้องคือ How do you do ? แต่ คำลงลงท้าย do เน้นเสียงสูง"
"How do you do ? คือการทักทายของการพบกันครั้งแรกและประโยคตอบกลับที่ถูกต้องคือ How do you do ? แต่ คำลงลงท้าย do เน้นเสียงสูงสำหรับการตอบกลับ"
"แต่พอเจอกันในครั้งต่อไปก็ใช้เป็น How are you ? แทน หรือถ้าใช่กับเพื่อนสนิทอาจจะไม่ใช่ How are you? อาจจะใช่ How’s it going ? หรือวัยรุ่นบางคนใช้สั้นว่า Howdy ? "
"ประโยคที่ใช้ตอบกลับ ซึ้งเราควรจะตอบกลับด้วยเพราะนี้คือมารยาท เช่น very good , แต่ไม่ควรใช่คำว่า I'm good มันแปลว่าฉันเป็นคนดี ซึ่งเขาไม่ได้ถามว่าคุณเป็นคนดีหรือไม่ "
"หรือไม่ควรจะตอบว่า Good , Thanks หรือ Thank you ก็ได้ และอีกอย่าง Can't complain. แปลกว่าทุกอย่างดีไปหมดนั้นเอง...บร้าๆๆๆ" ผมก็อธิบายบร้าๆ และก็มอบหมายงานที่ครูสมชายได้ให้ไว้อยู่แล้ว จู่ๆ แก้มก็เดินออกไปโดนไม่พูดไม่จาผมเห็นแบบนั้นจึงเดินตามออกไปเช่นกัน
"แก้มเธอจะไปไหนนะทำไมขออนุญาติครูก่อนละ" ผมเรียกแก้มไว้เธอแค่หยุดเดิน
"ครูพอใจหรือยังคะ...ไม่มีใครอยากให้แก้มนั่งอยู่ในห้องนี้หรอกค่ะ" แก้มหันมามองผมน้ำตาปริมๆอยู่ที่ขอบตาทั้งสอง
"แก้ม...มันไม่ใช่ความพอใจของครูเลยนะ"
"เธอจะไปไหนหรือ"
"หนูจะไปห้องน้ำคะ"
"แล้วทำไมไม่บอกครูละ"
"ก็หนู..หนู..พูดไม่ได้นี้คะภาษาอังกฤษนะคะ"
"แล้วทำไมเธอไม่อยู่เรียนติวตอนเย็นกับเพื่อนๆละ"แก้มเงียบผมรู้มาว่าเธอไม่ไปเรียนติวเตอร์ทีไหนเลยแม้กระทั้งที่โรงเรียนทั้งที่โรงเรียนนี้เขามีให้จะได้ไม่ต้องไปไขว้ขว้าหาที่ไหนแต่แก้มก็ไม่เคยเข้าเรียนเลยสักครั้งในตอนเย็น แก้มยืนนิ่ง
"แก้มครูคือผู้ให้ความรู้แต่ถ้าศิษย์ของครูไม่ได้รับความรู้ที่เพียงพอครูก็เสียใจนะแก้ม...ครูเชื่อว่าแม่ของเธอก็อยากให้เธอตั้งใจเรียนเพราะว่าไม่ทรัพย์สินเงินทองใดๆไม่มีค่ามากพอและอยู่กับเราได้นานเท่ากับความรู้นะแก้ม นั้นแหละที่มีค่ามีราคาและติดตัวเธอไปตลอด" ผมพูดเธอยังคงนิ่ง
"ทรัพย์สินเงินทองทีพ่อแม่สร้างมามันมีวันหมดแต่ความรู้ไม่มีวันหมดหายไปจากเธอ" ผมพูด
"รีบไปรีบมานะ...ครูจะได้ให้ทำงานกลุ่มกับเพื่อน ๆ" ผมพูดบอกแก้ม ก่อนะหันหลังเดินกลับเข้ามาในห้องเรียน
"เอาละครูสมชายสั่งงานกลุ่มไว้ใช่ไหมดังนั้นจับกลุมทำงานเลยมีปัญหาไม่เข้าใจตรงไหนยกมือถามครู" ผมบอกนักเรียนทุกคนก็หันหน้าเข้ากลุ่มผมยืนรอสักพักแก้มก็ยังไม่เดินกลับมาเข้าห้องเรียน
"ใครพอจะไปตามแก้มที่ห้องน้ำหญิงให้ครูได้บ้าง"ผมถามนักเรียนในห้องแต่ทุกคนกับเงียบไม่มีใครให้ตอบผมเลยว่าใครจะอยากไปตามแก้มขึ้นมาเข้าเรียน
"เขาเป็นเพื่อนเธอหรือเปล่า" ผมถามนักเรียนในห้อง
"แต่แก้มมันนิสัยไม่ดีนะคะครูและเรียนก็ไม่เก่งไม่มีใครอยากให้เข้ากลุ่มหรอกคะ"นักเรียนหญิงคนหนึ่งพูดขึ้น
"ทุกคนไม่ได้เก่งมาตั้งแต่เกิดบางคนต้องใช้เวลาในการฝึกฝน และอีกอย่างครูเชื่อว่าการให้โอกาสคนนั้นคือการให้ทานที่ประเสริฐที่สุด" ผมพูดทุกคนในห้องพากันเงียบ
"บางทีแก้มไม่ได้อยากจะเป็นคนนิสัยไม่ไดีก็ได้นะ" ผมพูด
"ใครจะทำเพื่อครูได้บ้าง"
"หนูไปตามเองคะครู" คนที่พูดกับผมเรื่องแก้มลุกขึ้นและอาสาจะออกไปตามแก้มให้ผมเอง
"ดีมาไปตามแก้มมาแหละให้เพื่อนเข้ากลุ่มด้วย"ผมบอกเด็กผู้หญิงที่อาสาคนนั้นก็วิ่งลงไปผมเดินไปดูงานตามกลุ่มต่างๆแต่คนละคนก็ตั้งใจเรียนกันดีจนกระทั้งแก้มขึ้นมาพร้อมกับเพื่อนในห้องดูก็รู้ว่าเพิ่งจะผ่านการร้องไห้มาด้วย
"เข้ากลุ่มกับเพื่อนและช่วยเพื่อนๆทำงานนะ...มีอะไรไม่เข้าใจถามครูนะแก้ม" ผมบอกเธอ เธอแค่พยักหน้าและนั่งลงแบบกล้าๆกลัวๆ แก้มนั่งอยู่กับเพื่อนแค่นั่งมองเพื่อนทำ ผมยืนมองผมคิดว่าผมควรจะบอกครูสมชายเรื่องนี้ อันนี้คือปัญหาของเด็กที่ครูไม่ควรจะปล่อยปะละเลยเพราะมันจะส่งผลไปถึงอนาคตของเด็ก
"แก้มทำไมไม่ช่วยเพื่อนทำละ" ผมเดินมาแตะที่ไหล่เธอเบาๆ
"แก้มทำไมได้ค่ะ"
"เอาหนังสือออกมานั่งที่โต๊ะกับครูนะแก้มครูจะอธิบายเธอเอง " ผมเรียกแก้มให้เธอหยิบหนังสือมาและผมก็นั่งดูให้เธอทำให้ดูตรงหน้า แก้มอ่อนภาษาอังกฤษมากคำศัพท์ง่ายๆแก้มยังไม่รู้เลยว่าหมายถึงอะไรแต่ผมเต็มใจที่จะฝึกฝน
"คราวนี้เข้าใจขึ้นแล้วใช่ไหมแก้ม"
"ค่ะครูแต่..."
"ครูคิดว่าเธอควรจะเรียนพิเศษนะในเมื่อทางโรงเรียนเขามีตรงนี้เธอควรที่จะเรียน..โชคดีที่ไม่ต้องไปหาติวเตอร์แพงๆนะแก้ม"
"มีปัญหาอะไรหรือเปล่า...บอกครูมาซิ"
"แม่ไม่ให้เรียนค่ะ....แม่บอกว่าเรียนไปก็ต้องไปมีผัวอยู่ดีแม่เลยบอกว่าเรียนแค่ในห้องเรียนก็พอแล้วค่ะครู"แก้มพูด เสียงเพื่อนๆพากันหัวเราะคิกคัก เพราะตลกในคำพูดของเธอแต่นี้ต้องถึงกับถอนหายใจทำไมแม่แก้มถึงได้สอนมาแบบนี้ ชีวิตลูกผู้หญิงไม่ได้จบลงที่การแต่งงานและไปอยู่บ้านให้สามีเลี้ยงดูทุกคนซะหน่อย
"แก้มเธอรู้ไหมมีผู้หญิงหลายคนที่ถูกกระทำความรุนแรงถูกเอารัดเอาเปรียบจากเพศที่เข็มแข็งกว่าและส่วนใหญ่พวกเขาไม่รู้หนังสือ อ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ถึงได้ถูกล้อลวง"
"และครูก็ไม่อยากให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับลูกศิษย์ของครู...ครูคิดว่ามันสำคัญกับเธอนะแก้ม" ผมพูดแก้มก้มหน้าลง
"ครูจะคุยกับแม่เธอดีไหมแก้ม"
"แม่ไม่ฟังหรอกคะครูแม่คิดแต่ว่าจะต้องมีเงินเก็บเยอะๆเพราะแม่ไม่เคยคิดว่าแก้มจะอยู่กับแม่ไปจนแก่"
"ครูจะลองทำหนังสือถึงคุณแม่เธอดู..เธอควรจะได้เรียนพิเศษทุกวัน ...กับครูก็ได้เพราะว่าครูยินดีสอนทุกคน"
"แม้กระทั้งหนูเหรอคะครู" แก้มเงยหน้าขึ้นถามผม
"ใช่ทำไมละ"
"หนู...หนู..ทำไม่ดีกับครูตังเยอะนะคะ"
"ทุกคนมีผิดพล้าดกันได้และมันไม่สายเกินไปนะแก้ม..ที่สำคัญนี้คืออนาคตของเธอครูไม่ทำลายอนาคตลูกศิษย์แค่เพราะเรื่องส่วนตัว" ผมพูด แก้มก้มหน้าลง
"เอาละไปนั่งที่นะหมดชั่วโมงแล้ว...พรุ่งนี้ครูมีสอนติวเตอร์ห้องเธอตอน 5โมงครึ้งครูจะยินดีถ้าเห็นเธออยู่ในห้องเรียน" ผมพูดแก้มลุกกลับไปนั่งที่ ผมลุกคนพยักหน้าให้ทุกคนว่าผมจะต้องไปแล้วพอนักเรียนทำความเคารพก็เดินออกจากห้องเรียน ระหว่างที่กำลังเดินผ่านนักเรียนชั้น ม.1 ผมเห็นอนุชิต ผมนึกขึ้นมาได้ว่าผมซื้อรองเท้ากับเสื้อผ้ามาให้เขา
"อนุชิต"
"ครับครู..ครูมีอะไรให้ผมช่วยครับ"
"ไม่มีหรอกตอนเที่ยงไปหาครูทีห้องพักครูนะ"
"ได้ครับครู"
"ครูเขมหวัดดีครับ " "ครูเขมหวัดดีคะ"
"ครูวันนี้เราเข้าห้องโสตกันใช่หรือเปล่าคะ"
"ใช่ครับ..วันนี้เราจะฝึกการฟัง"
"เย้ๆ..พวกเราชอบค่ะเพราะว่าที่ครูเอามาให้พวกเราฟังนะสนุกมากเลยค่ะ " พวกเด็กๆเหล่านี้ชอบที่จะเข้าไปฟังซีรีย์ภาษาอังกฤษ ที่ผมหามาให้โดยให้มีเนื้อหาสอดคล้องกับในหนังสือเป็นการฝึกการฟังไปในตัวผมรู้ว่าแกรมม่าก็สำคัญผมก็สอนเน้นแกรมม่าเช่นกันแต่ในชีวิตจริงๆ เราใช้การฟังและพูดมากกว่าในชีวิตประจำวันจริงๆ ยิ่งมีการใช้มากเท่าไหร่ก็จะยิ่งดีขึ้นเท่านั้นผมเดินกลับมานั่งเปิดจดหมายดูใหม่อีกครั้งผมต้องแกะลายมือจากหมึกที่จืดจางเต็มที จนกระทั้งใกล้เวลาพักเที่ยง
"ครูเขมครับ" อนุชิตเดินเข้ามาหาผมพอดีเลย
" มาแล้วหรอ"ผมเงยหน้าขึ้นก่อนจะหันไปหยิบถุงกระดาษและส่งให้อนุชิต เขาทำหน้างง ผมก็พยักหน้าว่าให้รับไป พอเขารับไปเปิดดูเขาเงยหน้ามองผมแววตาเต็มเปี่ยมไปด้วยความดีใจทันทีที่เขาได้เห็นของในถุง
"ครูซื้อให้รับไปซิจะได้มีใส่เหมือนเพื่อนๆเขา หรือจะลองเลยก็ได้นะ."
" ครูก้มมองดูเบอร์รองเท้าของเธอวันที่เธอถอดไว้หน้าห้องโสตนะและนี้ครูซื้อมาเพื่อสักเบอร์สองเบอร์นะ" ผมพูดอนุชิตหยิบมันขึ้นมากอดไว้ในอ้อมอกเขาดีใจที่จะได้รองเท้าคู่ใหม่ ถึงมันจะไม่มีค่าอะไรมากแค่สี่ห้าร้อยบาทแต่กับบางคนสี่ห้าร้อยบาทนี้หามาด้วยหยาดเหงือและแรงงานเหนื่อยยากจนสายตัวแถบขาด อนุชิตหยิบเสื้อตัวใหม่ขึ้นมาดูและกางเกงตัวใหม่สองชุดที่ผมซื้อให้เข็มขัดก็ใหม่ ถุงเท้าก็ใหม่
"ครูให้ผมจริงๆเหรอครับ"
"ใช่ครูให้เธอแต่เธอคงต้องไปให้ร้านเขาปักตัวย่อชื่อโรงเรียนเอานะ"
"ย่าผมปักได้ครับครู..ขอบคุณครับครู" อนุชิตวางและตรงมากราบผมแต่ผมรีบรับไว้เขาไว้
"ครูทำเพราะว่าเธอเป็นเด็กดีอนุชิตเป็นแบบนี้ตลอดไป เธอเลือกไม่ได้ว่าจะต้องเกิดมาร่ำรวยหรือยากจนแต่เธอเลือกเป็นคนดีได้ ตั้งใจเรียนได้แค่นี้ครูว่าเธอทำได้อนุชิต" ผมพูดเขาพยักหน้า
"ผมจะตั้งใจเรียนครับครู..ผมโตขึ้นผมจะเป็นครูครับ"
"ดีมากไปทานข้าวเถอะ" ผมพูดและอนุชิตก็หยิบถุงกระดาษออกไปรอยยิ้มดีใจของเขาแม้ว่าสิ่งที่ได้จะไม่ได้มากมายแต่เชื่อว่ามันทำให้เขามีความสุข ผมเก็บทุกอย่างลงจากโต๊ะก่อนจะเดินลงไปเพื่อหาซื้ออะไรทานและตอนเที่ยงผมจะต้องไปสอนพิเศษคริสโตเฟอร์ที่ห้องสมุดผมรีบทานและรีบไปผมเห็นคริสนั่งรอผมอยู่แล้วพร้อมกับกางหนังสือเกี่ยวกับ Reading ที่จะใช้ในการสอบGED อ่านอยู่ผมก็ต้องเทรนเรื่องการอ่านเพื่อจับใจความและใช้ในการตอบคำถาม ผมให้เขาอ่านคำถามก่อนเป็นอันดับแรกก่อนจะไปอ่านเนื้อเรื่องเพื่อช่วยประหยัดเวลาที่จะหาคำตอบได้เร็วขึ้น ผมสอนคริสท้ามกลางสายตานักเรียนที่มาอ่านหนังสือในห้องสมุดและสายตาครูประจำห้องสมุด ครูสุรีวัลย์ เขาก็ยิ้มให้ผม ส่วนคริสโตเฟอร์ก็ตั้งใจเรียนมากไม่ดื้อเลยสักนิดเพราะเขารู้ว่าเวลาครึ้งชั่วโมงนะมันน้อยนิดเดียวเขาควรจะตั้งใจฟังผมมากกว่า
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ชอบคุณที่ติดตามนะคะ ขอบคุณทุกำลังใจเลยคะ
ตอนหน้า ครูเขมจะได้เจอคุณแม่ของคริสโตเฟอร์แล้วนะ เรามาดูกันซิว่าครูเขมจะทำให้แก้มกลับมาเป็นเด็กตั้งใจเรียนได้ไหม
ส่วนโจ้ VS อาร์ท และปันปัน กับโป้ง จะมาเป็นบางตอนคะ
รักคนอ่านจัง