Ex - boyfriend
อย่าบอกใคร ♡ ว่าเรา (เคย) รักกัน
01
เสียงกลองดังสนั่นมาจากโถงโล่งใต้ตึกคณะวิทยาศาสตร์ ผมมองภาพเหล่านั้นด้วยหัวใจเต้นรัว การเข้ามาในรั้วมหาวิทยาลัย นับเป็นก้าวแรกของชีวิตที่เริ่มเข้าสู่วัยผู้ใหญ่เสียที ผมเลือกเรียนคณะวิทยาศาสตร์สาขาธรณีวิทยา กว่าจะเข้ามาได้ก็ลากเลือดเหมือนกัน วันประกาศผลนั่งแทบไม่ติดเก้าอี้พอได้ก็เฮลั่นบ้านแม่ผมนี่แทบจะปิดหมู่บ้านเลี้ยง
ผมเป็นเด็กต่างจังหวัดที่มาเรียนอยู่กรุงเทพฯตั้งแต่มัธยม ถึงจะเคยพบเจอกับอะไรใหม่ ๆ มาแล้วแต่ก็อดไม่ได้ที่จะตื่นเต้น ผมก้มมองนาฬิกาข้อมือของตัวเอง ใกล้เวลานัดแล้วทำไมเพื่อนสนิทผมถึงไม่มาสักที วันนี้มีกิจกรรมแรกพบของภาควิชาก่อนเปิดภาคเรียน เป็นกิจกรรมรับน้องสานสัมพันธ์กับพวกพี่ ๆ นี่แหละครับ อ่อ รู้สึกจะมีการจับสายรหัสกันด้วย
"
จิณณ์ โทษทีว่ะพอดีตื่นสาย"
เรียกชื่อเสียงหอบเหนื่อยทำให้ผมหันไปมองโฮมเพื่อนสนิทตั้งแต่มัธยมที่ได้เข้ามาเรียนในคณะเดียวกัน ส่วนเพื่อนสนิทอีกคนของผมชื่อบอสรายนั้นเรียนอยู่เศรษฐศาสตร์มหาลัยเดียวกันนี่แหละ
"เออไม่เป็นไรมึงยังไม่ถึงเวลา"
"เข้าไปข้างในกัน"
โฮมกอดคอผมเดินเข้ามาด้านในผมเหล่ตามองมันนิดหน่อย นึกขำกับความไม่เจียมของมัน เตี้ยก็เตี้ยยังพยายามกอดคอกูอีก ผมเองก็ไม่ได้สูงมากหรอก 175 เซนติเมตรมาตรฐานชายไทย แต่ไอ้โฮมนี่สมควรเรียกว่าคนแคระ เพราะมันสูงไม่ถึง 170 เสียด้วยซ้ำ
วันนี้พวกพี่ ๆ สั่งให้น้องปีหนึ่งใส่เสื้อสีน้ำเงินกับกางเกงขายาว ผมกับไอ้โฮมเลยนัดกันใส่เสื้อค่ายตอนม.หกซะเลย เพราะวันนี้คงจะเละ ทิ้งเสื้อไปจะได้ไม่เสียดาย ส่วนพวกพี่ ๆ เดาว่าน่าจะเป็นพี่ปีสองใส่เสื้อทีมสีเขียว ด้านหลังสกรีน...เอ่อ...ผมเดาว่าน่าจะเป็นสโลแกนของพวกพี่แกนี่แหละ
มาสาย กลับก่อน นอนกลางวัน มันส์กลางคืนยอมใจเลยครับ แต่บอกเลยว่าชอบ
"ปีหนึ่งมาลงทะเบียนด้านนี้เลยค่ะ"
พี่ผู้หญิงหน้าตาน่ารักคนนึงยิ้มกว้างกวักมือเรียกผมสองคน ผมเลื่อนสายตาลงไปอ่านป้ายชื่อ
"พี่ซินเด้~" เขียนแบบนี้จริง ๆ ครับ ไอ้โฮมพอเห็นคนน่ารักก็รีบวิ่งหางกระดิกเข้าไปตัดหน้าผม
"ลงชื่อตรงนี้เลยค่ะ"
พี่ผู้หญิงอีกคนเงยหน้าขึ้นมาบอกยิ้มหวาน
"พี่น้องมิว" พี่คนนี้ทำไอ้โฮมตาค้างไปเลยครับเพราะพี่แกสวยแบบโคตรพ่อมากหน้านี่แบบอั้มพัชราภาหุ่นสวยอย่างกับใหม่ดาวิกา สวยจนเหลียวหลัง
"ฮะแฮ่ม! เช็ดน้ำลายด้วยครับน้อง"
"
พี่คนหล่อ" ผมอ่านตามป้ายชื่อใช้มือดันคางไอ้โฮมที่อ้าปากกว้างให้หุบกลับเข้าที่ด้วยแววตาขำขัน ผมตบไหล่มันเบา ๆ พร้อมกับก้มหัวขอโทษพี่เขา
"ชื่ออะไรคะ"
พี่ซินเด้ ถามหลังจากที่ผมลงชื่อในใบรายชื่อเรียบร้อยแล้ว
"จิณณ์!"
ยังไม่ทันที่ผมจะบอกชื่อตัวเองก็มีเสียงทุ้มหวานเรียกขึ้นมาเสียก่อน ผมหันไปตามเสียงเรียกตกใจนิดหน่อยเมื่อคนที่ผมเห็นคือ
"พี่ณิน"
ผมเรียกชื่อพี่เขาอย่างประหลาดใจ แปลกใจนิดหน่อยที่เจอกันไม่คิดว่าเขาจะเรียนอยู่คณะนี้...แต่จะว่าไปบ้านเขาก็ทำธุรกิจเกี่ยวกับพวกนี้นี่นา ผมลืมไปได้อย่างไรกันนะ
"น้องจิณณ์จริง ๆ ด้วย ตอนแรกพี่เห็นไกล ๆ นึกว่าจำคนผิดเลยเข้ามาดูใกล้ ๆ"
พี่ณินพูดด้วยรอยยิ้มสดใสประจำตัว พี่ณินเป็นผู้ชายที่จัดว่าหล่อก็หล่อจะบอกว่าน่ารักก็น่ารัก เพราะใบหน้าหล่อปนหวานของพี่เขาทำให้มีทั้งสาว ๆ และหนุ่ม ๆ มาชอบพี่ณินมากมาย
"พี่ณินหวัดดี"
"อ้าวโฮม หวัดดี ๆ มองไม่เห็นเลย อากาศข้างล่างเป็นไงบ้าง"
"โหยพี่ พูดจาร้ายกาจ"
"ฮ่า ๆ ล้อเล่นน่า"
พี่ณินหัวเราะเสียงสดใส
"สวัสดีครับพี่ณิน"
ผมยกมือใหว้พี่เขา
"อื้อ ไม่ได้เจอกันตั้งนานตัวยังเท่าเดิมเลยแต่น่ารักขึ้นรึเปล่าเรา"
"โถ่ ผมเป็นผู้ชายต้องหล่อขึ้นสิครับ"
ผมบ่นใส่พี่ณินเสียงเบา
"น่ารักอ่ะ ฮืออออออ"
"มากกกกก เอ็งเห็นใช่มั้ยเมื่อกี้ที่น้องเค้ายู่ปากตอบณินอ่ะ โอ๊ยข้าจะบ้าน่ารักมาก ๆ"
พี่น้องมิวกับพี่ซินเด้จิกทึ้งกันไปมาเหมือนคนบ้า
"รู้จักกันมาก่อนหรอ"
พี่คนหล่อเอ่ยถามอย่างสงสัย
"ช่าย~ ก็น้องจิณณ์เป็น ฟะ..."
"เป็นน้องที่โรงเรียนพี่ณินครับ!"
ผมรีบตอบสวนกลับไปก่อนที่พี่ณินจะพูดจบประโยค พี่ณินหันมามองอย่างฉงนก่อนจะพยักหน้าเข้าใจ
"อือใช่ จิณณ์กับโฮมเป็นน้องโรงเรียนกูเอง"
พี่คนหล่อพยักหน้าก่อนจะไปเร่งให้พี่ซินเด้เขียนชื่อเล่นลงในป้ายชื่อเพราะตอนนี้แถวเริ่มยาวแล้ว ผมยกมือไหว้ขอบคุณพี่ ๆ ก่อนจะแยกตัวออกมานั่งตรงที่พี่เข้าจัดไว้ให้
"เป็นไรมึง"
โฮมมันถามเมื่อเห็นว่าผมเงียบไป
"กูไม่เคยรู้เลยว่าพี่ณินอยู่ที่นี่"
"ไม่แปลกหรอกที่มึงจะไม่รู้เพราะตั้งแต่ตอนนั้นมึงก็ไม่ได้สนใจอะไรเกี่ยวกับเรื่องของพี่เขาเลยนี่หว่า"
"แล้ว...เขา"
"อือ เตรียมใจไว้ดี ๆ ละกัน ยังไงเขาก็ต้องมาหาน้องเขา"
ผมก้มหน้าถอนหายใจ อุตส่าห์ไม่เจอกันเป็นปีและคิดว่าอาจจะตลอดไป แต่โลกก็กลมและสังคมที่ผมอยู่ดันเล็กเกินไป
อย่างไรก็คงต้องเจอกันสินะ
เข้มแข็งไว้ จิณณ์ นายต้องทำได้
ผมบอกกับตัวเองแบบนั้น
กิจกรรมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องผ่านไปด้วยเสียงหัวเราะ ผมโดนอยู่คนละกลุ่มกับโฮมเลยได้รู้จักเพื่อนใหม่เต็มไปหมด คุยกันถูกคอหน่อยก็จะมีเฟรน เฟรนมาจากเชียงใหม่ ตัวสูงผิวขาวคิ้วเข้มดูท่าจะเป็นตัวเต็งเดือนคณะแน่ ๆ ด้วยความหล่อที่เตะตาทำให้มันถูกรุ่นพี่เรียกบ่อยที่สุดและผมก็ถูกหางเลขไปด้วยเสมอสภาพตอนนี้เลย...เละมาก หัวมีแต่แป้งกับเม็ดแมงลัก ส่วนหน้านี่ไม่ต้องพูดถึง ถูกละเลงจนจำตัวเองไม่ได้ เดินสวนกับไอ้โฮมเห็นหน้ากันยังหัวเราะจนท้องแข็ง
"เหลือเวลาอีก 10 นาทีเปลี่ยนฐานนะคะ"
Timer ปั่นจักรยานพูดผ่านโทรโข่งมาบอก พวกผมซึ่งตอนนี้ทำภารกิจสำเร็จแล้วจึงนั่งคุยเล่นกับพวกพี่ ๆ ปีสามที่มีพี่ติณสุดหล่อเดือนคณะนั่งอยู่ด้วย ที่เขาว่าคนหล่อมักจะเก๊กผมว่าไม่จริงนะเพราะว่าเฮียแกหล่อเทพแต่นิสัยเฮฮามา
"โอเคครับน้อง ๆ ไว้เท่านี้แล้วกันนะเจอกันอีกทีตอนประชุมเชียร์ เปลี่ยนฐานได้ครับ"
พวกเราเต้นท่าประจำกลุ่มขอบคุณพี่ ๆ ก่อนจะเดินไปยังฐานของพี่ปีสอง
"เฮียตินแม่งโคตรเท่ ไอดอลเราเลย"
ผมหันไปยิ้มขำกับท่าทางบูชาพี่ตินของเฟรน
"เอารูปเขาแปะฝาบ้านเลยมั้ยล่ะ"
"เออว่ะเป็นความคิดที่ดีขอบใจมากนะจิณณ์"
ผมเหวอไม่คิดว่ามันจะจริงจัง เฟรนตบบ่าซาบซึ้งกับสิ่งที่ผมชี้แนะ
คือเพื่อน...กูพูดเล่นครับ
ฐานพี่ปีสองเป็นอะไรที่เห้มากครับ อยากจะถามว่าใครเป็นคนคิดเกมส์พวกนี้ เกมส์คล้าย ๆ กับวิ่งผลัด กลุ่มผมมีสิบคนต้องแบ่งออกเป็นสองกลุ่มย่อย โดยคนแรกจะต้องปั่นจิ้งหรีดสิบรอบแล้วพุ่งตัวไปหาทองในบ่อยางที่เต็มไปด้วยน้ำแข็ง หาเจอแล้วต้องวิ่งไปแตะมือคนที่สองเอาทองไปด้วย คนที่สองต้องกินเป็บซี่ใส่เกลือให้หมดแก้วแล้วเรอออกมาให้พี่ ๆ ได้ยินถึงจะผ่าน ส่วนคนที่สามกินหนมโก๋ชิ้นใหญ่เป้งสองชิ้นไม่มีน้ำให้กระดกด้วยนะ คนที่สี่จะถูกผูกเชือกกับข้อเท้าแล้วโยงเชือกข้ามเชือกที่ตรึงอยู่สองฝั่งเสาปลายเชือกห้อยกล้วยไว้ เวลาจะกินต้องยกเท้าขึ้นเพื่อให้กล้วยมันห้อยลงมา ลำบากไปอีก! ส่วนคนสุดท้ายต้องเป่าแป้งที่บรรจุอยู่เกือบครึ่งในพาน ไม่ได้เป่าหาอะไรหรอกครับแค่ต้องเป่าให้หมด!
ไม่ต้องห่วงว่าจะไม่ยุติธรรมเพราะคนที่จะไปลุยแต่ละด่านโดนจับฉลากสุ่มครับ ดีนะผมทำบุญมาดีหรือเปล่าได้อยู่ด่านสุดท้าย ยืนหล่อ ๆ รอเป่าแป้งในพาน ให้กำลังใจเพื่อน ๆ ส่วนไอ้เฟรน พี่ ๆ ผู้หญิงกรี๊ดกร๊าดกันใหญ่เพราะมันได้ด่านกินกล้วยท่าติดเรท ระหว่างรอเกมส์เริ่มพี่ณินก็เดินเข้ามายื่นน้ำแดงให้
"อ่ะ ร้อนมั้ย โดนปีสามเล่นหนักหรอหน้าเละเลย"
เจ้าตัวยังคงรอยยิ้มสดใส
"นิดหน่อยครับพี่พอดีนั่งข้างเฟรนเลยโดนหางเลขไปด้วย"
"อ่อ น้องคนที่หล่อ ๆ"
"ครับว่าแต่ใครคิดเกมส์นี้เนี่ยพี่ณินโคตรกาก"
พี่ณินหัวเราะชอบใจใหญ่ พร้อมกับยืดอกภูมิใจทำให้ผมรู้เลยว่าคนคิดนั่งอยู่ข้าง ๆ ผมนี่เอง
"เรื่องแบบนี้ขอให้บอกพี่และผองเพื่อน"
"ไม่คิดว่าพี่จะเป็นคนแบบนี้"
ผมส่ายหน้าอ่อนใจ พี่ณินเอียงคอมองตาแป๋ว
"ไม่ชินอีกหรอ"
ผมส่ายหัวจะไปชินได้ไงเล่า ก็เมื่อก่อนรู้อยู่หรอกว่าพี่ณินขี้แกล้ง เวลาไปบ้านที่ไรก็ชอบแหย่แต่ยังดีที่มี เขา คอยกันไว้ให้ ไม่ใช่ว่าพี่ณินนิสัยไม่ดีนะ พี่แกนิสัยน่ารักมาก ๆ เลยใครอยู่ใกล้ ๆ ก็หลงรักหมดแหละ
"คึคึ จิณณ์ยังน่ารักเหมือนเดิมเลยน้า"
พี่ณินลากเสียงยาวมือเรียวเอื้อมมาบิดแก้มผมด้วยความหมั่นเขี้ยว จนเสียงโห่แซวของเพื่อน ๆ พี่เขาดังขึ้นผมสองคนถึงหลุดออกจากโลกส่วนตัว
"จะแดกเด็กหรอณินเดี๋ยวกูฟ้องพ่อคริษฐ์มึงแน่"
"แต่ก็ดูน่ารักดีนะถึงจะหน้าหวานทั้งคู่ก็เถอะ"
"น้องจิณณ์โคตรน่ารัก อยากเอามาเก็บใส่โหลไว้ที่บ้านมาก"
หลายเสียงแย่งกันพูด พี่ณินถลึงตาใส่เพื่อนก่อนจะกอดคอผมไว้
"คนนี้ห้ามยุ่งนะเว้ย"
สิ้นเสียงพี่ณินก็ตามมาด้วยเสียงโห่แซวทั้งจากพวกพี่และเพื่อนผม พี่ณินยกมือเป็นสัญญาณให้เงียบ
"มึงจะจีบน้องเขาจริง ๆ หรอวะณินหรือว่าที่โรงเรียนเก่ามึงเคยกิ๊กกั๊กกับน้องเขาวะ"
ผมหันไปมองพี่สุดหล่อที่ทำหน้าทำตาอยากรู้เสียเหลือเกิน เอาจริงทุกคนตรงนี้ก็คงอยากรู้เหมือนกัน พี่ณินส่งเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอ
"กิ๊กกั๊กพ่องมึงสิ คนนี้อ่ะ
คนสำคัญของคนสำคัญของกูเอง"
อ่า...คนสำคัญของคนสำคัญอย่างนั้นเหรอ
ตอนนี้อาจจะไม่สำคัญแล้วก็ได้มั้ง
จากนั้นพี่ซินเด้ก็สั่งให้เราเริ่มเล่นเกมส์กันเพราะกินเวลาไปมากแล้ว ผมมองเพื่อนผู้ชายสองคนที่เล่นด่านน้ำแข็งอย่างสงสาร คือในบ่อมันแทบจะไม่มีน้ำเลยครับมันมีแต่น้ำแข็งจริง ๆ ได้ยินปอมไม้แรกกลุ่มผมโหยหวนมาว่าเย็นจนไข่มันแข็งแล้ว แต่สุดท้ายมันก็หาเจอนะถึงจะช้ากว่าทีมแรกไปเล็กน้อย
ด่านสองกลุ่มผมคนที่ได้ไปคือหมี ตุ๊ดหัวฟู ตอนแรกจับได้ก็เหนียมอายบอกว่าทำไม่ได้จะให้มาเรอต่อหน้าผู้ชายหล่อ ๆ ได้อย่างไรกันแต่สุดท้ายด้วยความที่ไม่ยอมแพ้มันกระดกเป็บซี่รวดเดียวก่อนจะเรอออกมาเสียงดังจนผู้ชมหัวเราะกันน้ำหูน้ำตาไหล พอเสร็จมันก็ทำหน้าแบบ อะไรใคร นั่นไม่ใช่หมี ผีเข้าเมื่อกี้
ด่านที่สามหยกทอมตัวเล็กจัดการขนมโก๋ชิ้นเป้งภายในคำเดียว ตามมาด้วยเฟรนที่เป็นจุดพีคของเกมส์นี้ เวลามันยกขาทีพี่บริทนีย์ก็กรี๊ดออกมาที พี่บริทนีย์คือพี่กระเทยปีสองร่างยักษ์ที่แทบจะสิงเฟรนตั้งแต่เช้าแล้วครับ
"อ๊าย น้องเฟรนงับกล้วย กรี๊ด กล้วยนั้นฉันปั้นเองกับมือนะ"
เฟรนแทบสำลักเมื่อพี่บริทนีย์แกพูด ผมหัวเราะจนท้องแข็งเพราะพี่แกลงไปนั่งให้กำลังใจไอ้เฟรนอยู่ข้าง ๆ ยิ่งมันขยับหนีพี่แกก็ยิ่งตามมันเลยฮึดอ้าปากงับกล้วยที่เหลืออยู่เข้าปากทั้งหมด พี่บริทนีย์กรี๊ดลั่นด้วยความฟิน?
เฟรนวิ่งมาส่งทองแท่งให้ผม ผมก้มเป่าแป้งในพานจนหน้ามืด ก็พวกพี่เล่นใส่แป้งซะเกือบเต็มพาน เป่าจนหน้ารู้สึกถึงการเกาะตัวของแป้งหลายชั้น เป่าจนหมดเงยหน้าขึ้นมาพี่ณินก็กลั้นขำอยู่ตรงหน้า
"ตอบครับ"
ใครวะผมหันกลับไปมองด่านผ่าน ๆ มา อะไรวะ!
น้ำแข็ง ทอง เป็บซี่ หนมโก๋ แป้ง
มันเกี่ยวกันตรงไหนเนี่ย
"แป้งอรจิรา"
เสียงคู่แข่งผมตอบ
"ผิดครับ"
"ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง"
โห แบ่งให้กูตอบบ้าง
"ผิดครับ"
ผมเริ่มลุกลี้ลุกลน ใครวะ ๆ คิดสิคิด ระหว่างนั้นผมก็ก้มลงไปมอง
พาน? ทอง?
"พานทองแท้"
"ถูก!!!!!!"
"เฮ!!!!!"
เสียงเพื่อนกลุ่มผมเฮก่อนที่จะวิ่งเข้ามากอดผม ผมยืนเอ๋อ ถูกด้วยหรอวะเนี่ย เกรียนสัด ไม่ได้ด่าตัวเองนะ ด่าพี่ณินคนคิดนั่นแหละ
หลังจากนั้นกลุ่มที่แพ้ก็ต้องเต้นจนกว่าพวกพี่เขาจะพอใจดีที่ฐานนี้เป็นฐานสุดท้ายแล้วก็เข้าสู่ช่วงเย็นแล้วด้วยพวกพี่ปีสองเลยให้พวกผมพักกันตามอัธยาศัยแล้วค่อยไปรวมกันใต้โถงคณะตอนสี่โมงเย็น ผมแยกตัวจากกลุ่มเดินมาหาไอ้โฮมที่นั่งพักอยู่ข้างลานบาสมีเฟรนเดินมาด้วย
"โอ้โหไอ้สัดแดกกลูต้าไปกี่โหลวะ หน้าขาวใสเชียว"
"ทำเป็นล้อกูนะมึง ปากมึงนี่จะเบินแข่งกับเงาะป่ารึไง"
"ก็พี่ณินแหละแม่งแกล้งกูเอาลิปสติกมาวาดซะสนุก นี่ถ้าไม่น่ารักกูไม่ยอมหรอก"
มันทำเป็นบ่นไปงั้นแหละ กล้าทำอะไรพี่ณินที่ไหน
"กูซื้อเก้าอี้ให้มะ"
"จะให้กูเอาไปฟาดหัวพี่ณินใช่มั้ย"
"ป่าว กูจะให้มึงเอาไปเหยียบต่อตัวจะได้สูงเท่าพี่เขา"
"ไอ้เหี้ยจิณณ์!!"
ผมขำน้ำหูน้ำตาไหล ไอ้โฮมมันโถมตัวมาดึงทึ้งผมแก้แค้น ก็จริงนี่นาตัวมันแค่นั้นมองพี่ณินทีเงยหน้าคอแทบหัก ยังไม่รวมพวกเพื่อนพี่ณินอย่างพี่คริษฐ์พี่วานะ พวกนั้นยักษ์ดี ๆ นี่เอง
"ดูเหมือนว่าจิณณ์กับโฮมจะสนิทกับพี่ณินมากนะ"
เฟรนถามหลังจากเงียบมานาน
"ก็สนิทนะ กูไปเตะบอลกับพวกพี่วาบ่อย ๆ เลยรู้จักพี่ณิน อีกอย่าง"
ไอ้โฮมหันมามองผมด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ ผมถลึงตาใส่มันให้เงียบปาก
"อีกอย่างอะไรหรอ"
เฟรนถามแต่ไอ้โฮมเงียบยักไหล่แล้วบุ้ยหน้ามาทางผม
"ถามมันเองสิ"
"ที่พี่ณินบอกว่าจิณณ์เป็นคนสำคัญของคนสำคัญของเขาน่ะเหรอ"
ไอ้โฮมตาโต
"ฮ่า ๆ พี่ณินแม่งออกตัวแรง"
"เงียบไปเลยมึง ไม่มีอะไรหรอก"
ผมผลักหัวไอ้โฮมให้เงียบก่อนจะหันมาตอบเฟรน
"แล้วตอนนี้จิณณ์มีแฟนยัง"
"แน่ะ ๆ จะจีบเพื่อนกูรึไง"
ไอ้โฮมเหล่ตามองเฟรนที่เอียงหน้ายิ้มหล่อมาให้
"แล้วจีบได้ป่าว"
"ไปกันเถอะพี่เขาเรียกรวมแล้ว"
ผมไม่ตอบเฟรน ฉุดไอ้โฮมให้ลุกขึ้นเดินเข้าไปในโถงคณะ ผมแค่ยังไม่พร้อมจะเริ่มใหม่กับใคร ไม่ได้ยังรักเขาอยู่หรอกนะ
จริง ๆ
สองขาที่กำลังก้าวชะงักค้าง เหมือนสรรพสิ่งรอบกายหยุดหมุน ภาพผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าผมแจ่มชัดกว่าสิ่งใด กายสูงโปร่งอย่างนายแบบ ดวงตาเฉี่ยวคมรับกับจมูกคมสัน ริมฝีปากเอิบอิ่มที่บัดนี้จุดรอยยิ้มกวนขึ้นตรงมุมปาก
เขาคนนั้นยืนอยู่ตรงหน้าผม
ภามิน เกียรติโชตธนัน TO...CHAPTER 2