❤️ (✘) ไร้รัก ✢ Lovelessly
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ❤️ (✘) ไร้รัก ✢ Lovelessly  (อ่าน 92958 ครั้ง)

ออฟไลน์ kitty08

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-4
 o13 ตอนนี้แบบสะใจหลาย ๆ อย่างเลยน่ะ ทั้งตอนที่นัทคุยกับต้องตา แบบสุดยอดน่ะนัท  :กอด1: ส่วนแฟรงค์ก้อแต่งงานให้สะใจพ่อแม่ไปเลย ในเมื่อชะตาเขากำหนดมาแล้วว่าให้คนทั้งสองรักกัน คุณยังไปฝืนไปบังคับกะเกณฑ์เขา ด้วยการพรากคนทั้งสองจากกันแล้วเขายังหวนกลับมาเจอกันใหม่ในวันที่แฟรงค์กำลังเดินทางผิดก้อแสดงว่าทั้งคู่เกิดมาคู่กันแล้ว พ่อแม่แฟรงค์ต้องยอมรับแล้วล่ะ เฟิรน์น่ารักจริง  ๆ เลยสมกับมีดีกรีเป็นด็อกเตอร์น่ะ  :impress2: ตอนหน้าคงสนุกแน่ ๆ นัทนายได้โอกาสอีกครั้งแล้วน่ะ จงสู้เพื่อความรักของตัวเองน่ะ ทุกคนล้วนมีทางเดินของตนเองต้องเจอทั้งทุกข์ทั้งสุขไม่มีใครจะแบกความทุกข์ของคนอื่นได้หรอก ดังนั้นเป็นกำลังใจให้ทั้งสองน่ะจ้ะ  :o8: :mew1:

ออฟไลน์ sarawatta

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-10
ขอพักอารมณ์แป๊บ ไปอัปเดตสองเนก่อน

สรุปว่าหนังไทยที่ผมเคยดูเมื่อปี 2529 ก็คือเรื่อง "ลูกหลง" ฉากจบของเรื่องนี้คือพระเอกพานางเอกหนีไปจากงานแต่งงานอย่างนี้แหละ จำได้ว่าฉากจบคือทั้งสองคนวิ่งจูงมือกันไปแล้วก็กระโดด ติดตาติดใจมาจนถึงทุกวันนี้

@Mouse2U - แก้คำผิดที่เกิดจากความสับสนได้แล้วนะครับ ตัวละครผู้หญิงของผมนี่มีทั้ง เพียว แพรว เฟิร์น แก้วตา ต้องตา เขียนไปก็งงไป อิๆ

Sarawatta

ออฟไลน์ Magis

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-1
พาหนีกันแบบนี้เลยนะ เหอๆๆ มาต่อด่วนๆๆเลยครับ

ออฟไลน์ sarawatta

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-10
ตอนพิเศษที่แสนสั้นนี้แยกออกมาเพื่อไม่ให้เป็น กขค. บรรยากาศงานพิเศษของแฟรงค์กับนัทหลังจากที่หนีงานแต่งงานออกมาด้วยกัน อยากให้อ่านตอนที่ 20 แบบเต็มๆ โดยไม่มีอะไรมาคั่นกลางครับ

❤️ (✘) ไร้รัก ✢ Lovelessly

ตอนพิเศษ 2 ✢ อีเมล์จากน้องสาว



พี่แฟรงค์

เฟิร์นอยากจะพูดในมุมของเฟิร์นให้ฟังอย่างนี้ละกันนะคะ

ความอดทนกับความกดดันของคนไม่เท่ากันหรอก เราสองคนเกิดมาในครอบครัวนักธุรกิจ ถูกสอนให้รับมือกับความกดดันได้ดีกว่า แต่นัทไม่ใช่ ถึงนัทอดทนกับความกดดันไม่ได้ก็ไม่ได้แปลว่านัทไม่รักพี่แฟรงค์ อย่าโกรธนัทเลยค่ะ นัทคงมองคนละมุมกับพี่ว่าตัวเองทำให้ชีวิตของพี่มีปัญหา ก็เลยเลือกที่จะหนีไป จดหมายที่นัทเขียนคงทำร้ายจิตใจพี่แฟรงค์มาก แต่คนที่รักกันจริงต้องให้อภัยกันได้นะคะ นัทไม่ได้ตั้งใจหรอกค่ะ

อีกอย่าง พี่ไม่ได้ทำให้มันชัดเจนตั้งแต่แรก พานัทเข้ามาในสถานการณ์อย่างนี้มันก็เสี่ยงมาก เสี่ยงที่นัทจะเป็นมือที่สาม ถูกมองไม่ดี แล้วก็เสี่ยงที่นัทจะทนไม่ไหว แต่เชื่อเถอะค่ะ ถ้านัทไม่รักพี่จริง นัทคงไม่ยอมมาเสี่ยงด้วยตั้งแต่แรก แต่พอมันกดดันมากๆ นัทก็คงแค่อยากถอยออกมาก่อน พอหายกดดันแล้วนัทก็จะคิดถึงพี่เหมือนเดิม เฟิร์นไม่คิดว่านัทอยากหนีไปจริงๆ หรอกค่ะ อย่ากดดันนัทมากนะคะ แต่เฟิร์นก็เข้าใจ เวลาน้อยก็เลยรีบ แต่ยิ่งรีบยิ่งกดดันค่ะ

เฟิร์นเชื่อว่าหัวใจของนัทพร้อมที่จะมอบให้พี่แฟรงค์อยู่แล้ว ถ้าพี่แฟรงค์รักนัทจริงก็ต้องไปเอากลับมาให้ได้ เคยจากกันตั้งสิบกว่าปี พี่ยังเอาหัวใจนัทกลับมาได้เลย แค่นัทจากไปไม่กี่วัน ทำไมพี่จะเอาหัวใจนัทกลับมาอีกไม่ได้

นัทหนีไปอย่างนี้ก็ดีเหมือนกันนะคะ ถ้านัทอยากชดใช้บาปกรรม (ตามที่นัทเขียน) ก็ปล่อยให้นัททำไป วันหนึ่งที่นัทกับพี่แฟรงค์ได้กลับมาอยู่ด้วยกัน นัทจะได้สบายใจว่านัทได้ชดใช้ความผิดของตัวเองไปแล้ว เฟิร์นคิดว่าถ้านัทไม่ได้ทำอย่างนี้ ความผิดนี้จะอยู่ในใจนัทไปตลอด ถึงสมหวังในรักแต่ลึกๆ ก็คงไม่มีความสุข

พี่แฟรงค์บอกพ่อกับแม่ไปเลยว่าจะแต่งงานกับเพียว จะได้เลิกดราม่ากันเสียที แต่อย่าจดทะเบียนก่อนแต่งงานนะคะ พี่แฟรงค์ต่อรองกับพ่อแม่ไปเลยเพราะพี่ยอมแต่งแล้ว พ่อกับแม่ก็ต้องยอมถอยบ้าง แต่งไปเลยค่ะ วันแต่งงานนัทจะได้มาหาพี่แฟรงค์ไงคะ เฟิร์นขอเสนอว่า พี่พานัทหนีไปเลย ล้มงานแต่งงานวันนั้นไป ไม่ใช่ว่าไม่รักพ่อแม่ ไม่ใช่ว่าหนีความรับผิดชอบ แต่พี่ต้องให้บทเรียนกับพ่อแม่บ้าง ให้ผู้ใหญ่แก้ปัญหาที่ตัวเองก่อไว้บ้างก็ดี ทางนั้นได้เงินไปแล้วไม่กล้าฟ้องหรอก ถึงฟ้องก็ให้ผู้ใหญ่แก้ปัญหากันไปค่ะ พี่แก้ส่วนของพี่จบไปแล้ว ที่เหลือผู้ใหญ่ต้องช่วยกันแก้ค่ะ อย่าเชื่อเรื่องแต่งแล้วค่อยหย่า ปัญหายุ่งยากตามมาแน่เพราะพี่แฟรงค์ไม่ใช่คนกำหนดเงื่อนไข

เฟิร์นมีความลับจะบอกค่ะ ตอนที่เฟิร์นกลับบ้านคราวนั้น เฟิร์นแอบได้ยินพ่อกับแม่คุยกันเรื่องที่ทางบ้านเพียวขอยืมเงิน ทางนั้นตกลงว่าจะให้เพียวแต่งงานกับพี่แฟรงค์ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเพื่อแลกกับเงินก้อนนั้น พ่อกลัวมากว่าพี่จะกลับไปเป็นเหมือนเดิม ก็เลยหาทางล้อมรั้วไว้ทุกด้าน เพียวก็น่าสงสารนะ แต่เพียวควรจะรักศักดิ์ศรีของตัวเอง ไม่ใช่ยอมให้พ่อแม่บีบบังคับจนต้องทำอะไรโง่ๆ

เราสองคนรู้จักพ่อของเราดี ไม่มีประโยชน์ที่จะเจรจาหรอกค่ะ พ่อลงทุนทำถึงขนาดนี้ ยังไงก็ไม่มีทางยอมง่ายๆ แต่พ่อจะยอมรับจากความสำเร็จที่พี่แฟรงค์กับนัทช่วยกันสร้าง พิสูจน์ให้พ่อเห็นให้ได้นะคะว่าพี่แฟรงค์กับนัททำได้ เฟิร์นเชื่อว่าพี่ชายของเฟิร์นเก่งอยู่แล้ว ทำได้แน่นอนค่ะ ขออวยพรล่วงหน้าให้พี่แฟรงค์กับนัทใช้ชีวิตคู่ด้วยกันอย่างมีความสุขนะคะ กลับไปบ้านเกิดของเรา สร้างชีวิตด้วยกัน สร้างอะไรดีๆ ให้ผืนแผ่นดินเกิด เฟิร์นจะรอฟังความสำเร็จของพี่แฟรงค์ค่ะ

เฟิร์นว่าพี่แฟรงค์เข้าใจแนวคิดคนสำเร็จดีตามที่เราสองคนถูกสอนมา แต่เฟิร์นแค่อยากย้ำเผื่อพี่ลืม พี่แฟรงค์ตัดสินใจเลือกแล้วเดินหน้าไปเลยค่ะ ไม่ต้องสนใจคำวิพากษ์วิจารณ์ถูกผิดของใคร อย่าเลือกทำสิ่งที่ทำให้เราดูดี เพราะเป็นแค่เปลือก แต่เลือกทำในสิ่งที่ใช่ ความคิดเห็นก็คือความคิดเห็น ห้าปีสิบปีผ่านไปคนอื่นๆ ก็ลืมกันหมดแล้ว แต่ชีวิตต้องเป็นอย่างที่เราต้องการ เพราะถ้าไม่ใช่ จะไปโทษความคิดเห็นของคนอื่นไม่ได้หรอกค่ะ ไม่มีใครรับผิดชอบให้เราหรอก บางคนจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเคยวิพากษ์วิจารณ์อะไรไว้ ไม่มีชีวิตของใครไม่เคยทำอะไรผิด แต่อย่าไปจมกับความผิด ผิดแล้วผิดไปแก้ไขไม่ได้ อย่าเฝ้าโทษตัวเองหรือคนอื่น เดินหน้าแก้ปัญหาให้ดีที่สุด จบแล้วก็ไปต่อค่ะ

ถ้าพี่เลือกที่จะไปกับนัท เฟิร์นกับพ่อจะช่วยกันดูแลธุรกิจเอง ถึงพี่ไม่อยู่ พ่อก็ยังสอนงานให้เฟิร์นได้ น้องสาวของพี่คนนี้เก่งจะตาย ดูแลแทนพี่ได้สบายอยู่แล้ว ถือว่าผลัดกันละกัน ตอนเฟิร์นเรียน พี่แฟรงค์ก็ทำงานหาเงินให้เฟิร์น ตอนนี้เฟิร์นจะทำงานแทนพี่บ้าง เฟิร์นก็อยากพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่าลูกสาวก็ทำได้เหมือนกัน

ไม่มีพ่อแม่คนไหนไม่รักลูกหรอกค่ะ วันหนึ่งพ่อกับแม่จะรู้ซึ้งเองว่าความสุขของลูกสำคัญที่สุด แล้วเฟิร์นจะคอยส่งข่าวให้เรื่อยๆ พ่อแม่ยอมอ่อนลงเมื่อไหร่ค่อยพานัทมาขอขมานะคะ

คิดบวกนะพี่แฟรงค์ สู้ๆ ค่ะ เจอกันปีหน้านะคะ

รักพี่แฟรงค์เสมอ

เฟิร์น




- จบตอนพิเศษ 2 -

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-01-2016 13:33:35 โดย sarawatta »

ออฟไลน์ Alice111

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-1
ดีใจที่แฟร้งยังมีคนที่เข้าใจอย่างเฟิร์นและเฟิร์นนี้แหละที่จะช่วยให้สถานการณ์เย็นลงได้ ช่วยให้พ่อแม่ให้อภัยแฟร้งและนัทได้
แฟร้งโชคดีนะที่มีน้องสาวที่น่ารักและเก่งอย่างนี้ คราวนี้แฟร้งคงจะหมดกังวลเรืองพ่อแม่และธุรกิจไปได้เปาะหนึ่ง
ต่อไปนี้แฟร้งและนัทต้องไม่ปล่อยมือกันอีกนะ สู้ต่อไป อย่างที่เฟิร์นบอกคิดบวก

 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
เฟริ์นสุดยอดๆๆๆ

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
ดีใจที่เฟิรน์เข้าใจและเป็นกำลังใจให้พี่ชายอย่างแฟรงค์แบบนี้จัง

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
ปรบมือดังๆ ให้น้องเฟิร์นหน่อยค่า   :katai2-1: 

 :a2: แจ่มมากพี่แฟรงค์ มันต้องอย่างนี้ซิ ล่มงานแต่งมันซะเลย 555

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
น้องสาวหรือพี่สาว?   มองปัญหาเก่งมากๆ  แก้ตรงจุด  เด็ดขาดด้วย

เยี่ยมมากค่ะ

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
เห็นด้วยกับเฟิร์นเลยค่ะ เพราะตราบใดที่ทางครอบครัวของเพียวยังมีเรื่องหนี้สินค้ำคออยู่คงไม่กล้าออกมาโวยวายให้เรื่องมันเอิกเกริกไปมากกว่านี้แน่ๆ เพราะดีไม่ดีถ้าเงื่อนไขที่ตกลงกันเอาไว้หลุดรอดออกไปถึงหูบุคคลภายนอกก็มีแต่จะเข้าตัวเองเท่านั้นนะคะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
ทีแรกอึ้งมากกับทางออกของแฟรงค์ เฮ้ย หนีกันดื้อๆ ในวันแต่งอย่างนี้เลยเหรอ แต่พอได้อ่าน email เฟิร์นก็พอเข้าใจ จริงๆ มันน่าจะมีทางออกที่ดีกว่าหักหน้าพ่อแม่แบบสุดๆ อย่างนี้ แต่เฟิร์นซึ่งคงรู้จักนิสัยพ่อตัวเองดีมองแล้วว่าทำยังไงก็ไม่มีประโยชน์ เลยออกมารูปนี้ ก็สะใจไปอีกแบบ หวังว่าคุณแม่คงไม่เป็นลมนะ
ถ้าเป็นนิยายสมัยก่อนก็รอให้มีหลานแล้วอุ้มไปขอขมา แต่นัทท้องไม่ได้คงต้องให้ธุรกิจที่สองคนทำร่วมกันประสบความสำเร็จแล้วค่อยกลับไป เหมือนเรื่องจะใกล้จบแล้ว ไม่รู้จะมีอะไรมา Surprise คนอ่านอีกเปล่า

ออฟไลน์ Malimaru

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 483
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-4
    • facebook


สวัสดีปีใหม่ค่ะ ขอให้ปีใหม่นี้เป็นปีที่คุณ sarawatta มีความสุขยิ่ง ๆ ขึ้นไปนะคะ ^^

ก่อนอื่น เรามีข้อสงสัยค่ะ คือ... การที่เราจะรดน้ำสังข์คู่บ่าวสาวได้นี่ เราต้องมีอาวุโสมากกว่าคู่บ่าวสาวไม่ใช่เหรอคะ?
ขอโทษนะคะหากเราเข้าใจผิด (จริง ๆ เรามีปมเพราะเราอยากรดน้ำสังข์งานแต่งพี่ชายมากเลย แต่จังหวะที่จะไปต่อแถวแซวพี่กับพี่สะใภ้ใกล้ ๆ เราก็โดนพ่อลากออกมา บอกว่าไม่ใช่เรื่องของเด็ก - เป็นงั้นไป 555 )

ส่วนเนื้อเรื่อง อืม... เอาเป็นว่าเรารออ่านตอนต่อไปดีกว่าเนอะ เพราะไม่รู้ว่าแฟรงค์วางแผนอะไรอยู่
ก็ขอให้เรื่องราวทั้งหมดจบลงด้วยดีก็แล้วกันค่ะ (แม้จะแอบขัดใจนิด ๆ ที่ไหน ๆ แฟรงค์ก็ตัดสินใจจะไม่แต่งงานกับเพียวแล้ว ก็ไม่น่าจะสร้างเรื่องให้ใหญ่โตฉีกหน้าเจ้าสาวหนักไปกันใหญ่ - ถึงเบื้องหลังของการแต่งงานจะมีเรื่องอื่น ๆ มาเป็นปัจจัยก็เถอะ เราว่าเลิกกันก่อนแต่งมันก็ไม่ได้แย่เท่ากับการที่เจ้าบ่าวหายไปกลางงานแต่งท่ามกลางแขกเหรื่อมากมายหรอกมั้งคะ)

ส่วนนิยายที่แนะนำมา หากเราว่าง เราจะลองอ่านดูนะคะ
ขอบคุณมากค่ะ ^^


ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
     น้องสาวของแฟรงค์แนะนำแบบสุดโต่งจริงๆ อ่านแล้วสะใจดี ๕๕๕ แต่ก็อย่างว่านะคับ สมัยนี้เด็กดื้อจริงๆ ดูอย่างน้องสาวกับแฟรงค์ บทจะดื้อก็ดื้อ เอาซะไม่ไว้หน้าผู้ใหญ่เลย ๕๕๕ ผู้ใหญ่ต้องเข้าใจโลกของคนสมัยนี้จริงๆคับ  รอ รออ่านตอนใหม่นะคับ

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
ต่อให้ฟ้า ข้างหน้า มาขวางกั้น
มหาสมุทร ลึกพัน มากั้นขวาง
ภูเขาสูง ตระหง่าน มากั้นกลาง
ไม่อาจขวาง แบ่งทาง รักของเรา

สุดยอดไปเลย แฟรงค์
นี่ดิพระเอกตัวจริงไม่ทิ้งนายเอก


ถ้าเป็นนัท..ตรูก็ยอม
ให้หมดเลย
อิอิ

+1 ให้กับแฟรงค์+นัท....และน้องเฟิร์น

ออฟไลน์ Magis

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-1
เฟิร์นวิเคราะห์ซะยิบเลยยยยย

ออฟไลน์ PFlove

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 844
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-1
เฟิร์นนี้ช่วยพี่ได้มากเลยค่ะ..เก่งมากค่ะลูกสาว!!!  ที่พ่อแม่กลัวเสียแฟร้งไปเพราะว่าเขาไม่มั่นใจในความสามารถลูกสาวหรอกเหรอ กลับมาค่ะลูกมาทำให้พ่อแม่เห็นว่าผู้หญิงก็ทำได้ทำหน้าที่แทนพี่ชายได้ค่ะ...

ดีใจแทนแฟร้งนะค่ะที่เฟิร์นช่วยให้คำแนะนำ แฟร้งก้ไม่ใช่ไม่เก่งนะแต่เวลาแบบนี้คนรับยอมจะมีภาวะมืดแปดด้านคิดหาทางไม่ออกทั้งที่มันอยู่ใกล้ๆนิดเดียวเอง  :n1: อย่าปล่อยมือกันอีกนะสู้ๆไปด้วยกันอีกนิดเดียวจะก้าวผ่านมันมาได้
ยกเว้นแต่จะมี เรื่องเซอไพรส์จากคุณSarawatta  :mew4: :mew4: :mew4:

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ sarawatta

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-10


สวัสดีปีใหม่ค่ะ ขอให้ปีใหม่นี้เป็นปีที่คุณ sarawatta มีความสุขยิ่ง ๆ ขึ้นไปนะคะ ^^

ก่อนอื่น เรามีข้อสงสัยค่ะ คือ... การที่เราจะรดน้ำสังข์คู่บ่าวสาวได้นี่ เราต้องมีอาวุโสมากกว่าคู่บ่าวสาวไม่ใช่เหรอคะ?
ขอโทษนะคะหากเราเข้าใจผิด (จริง ๆ เรามีปมเพราะเราอยากรดน้ำสังข์งานแต่งพี่ชายมากเลย แต่จังหวะที่จะไปต่อแถวแซวพี่กับพี่สะใภ้ใกล้ ๆ เราก็โดนพ่อลากออกมา บอกว่าไม่ใช่เรื่องของเด็ก - เป็นงั้นไป 555 )

ส่วนเนื้อเรื่อง อืม... เอาเป็นว่าเรารออ่านตอนต่อไปดีกว่าเนอะ เพราะไม่รู้ว่าแฟรงค์วางแผนอะไรอยู่
ก็ขอให้เรื่องราวทั้งหมดจบลงด้วยดีก็แล้วกันค่ะ (แม้จะแอบขัดใจนิด ๆ ที่ไหน ๆ แฟรงค์ก็ตัดสินใจจะไม่แต่งงานกับเพียวแล้ว ก็ไม่น่าจะสร้างเรื่องให้ใหญ่โตฉีกหน้าเจ้าสาวหนักไปกันใหญ่ - ถึงเบื้องหลังของการแต่งงานจะมีเรื่องอื่น ๆ มาเป็นปัจจัยก็เถอะ เราว่าเลิกกันก่อนแต่งมันก็ไม่ได้แย่เท่ากับการที่เจ้าบ่าวหายไปกลางงานแต่งท่ามกลางแขกเหรื่อมากมายหรอกมั้งคะ)

ส่วนนิยายที่แนะนำมา หากเราว่าง เราจะลองอ่านดูนะคะ
ขอบคุณมากค่ะ ^^

สวัสดีปีใหม่ด้วยครับ ขอบคุณสำหรับความคิดเห็น

เรื่องรดน้ำสังข์ รดได้นะครับ ผมยังไปรดน้ำสังข์ให้พี่ที่ทำงานเก่าเลย ไม่เห็นมีใครว่าอะไร อิๆ (บางที่คงไม่ถือมั้งครับ)

สำหรับคนที่ติดค้างหรือคาใจเรื่องนี้ ผมอธิบายอย่างงี้ละกันครับ (ถ้าอ่าน "ตอนพิเศษ 2 อีเมล์จากน้องสาว" ด้วยก็จะเข้าใจมากขึ้น)

ลองสมมติง่ายๆ ว่าถ้าเกิดเขาเชื่อเราแล้วไม่ได้ชีวิตอย่างที่เขาต้องการ เราจะรับผิดชอบให้เขาได้หรือเปล่า?
ถ้าผมเป็นเพื่อนแฟรงค์ พยายามจะให้แฟรงค์เชื่อและทำอย่างที่ผมแนะนำ แฟรงค์ก็ดันเชื่อและทำตาม แต่ปรากฎว่าแฟรงค์ไม่ได้อย่างที่แฟรงค์อยากได้ ผมจะรับผิดชอบให้แฟรงค์ได้หรือเปล่า ถ้าเกิดแฟรงค์ติดกับดัก ถูกผูกมัดจนไปไหนไม่ได้ นัทก็หนีไปไม่ยอมมาหาอีกเลย ผมคงรับผิดชอบให้ไม่ไหวจริงๆ ครับ ต่อให้อยากรับผิดชอบก็เถอะ

ในฐานะคนมองเรื่องนี้จากข้างนอก เราก็ต้องระวังเหมือนกันครับ สุดท้าย เราก็ต้องคิดให้ง่ายๆ เข้าไว้ว่า คนเลือกต้องได้อย่างที่เขาต้องการ เพราะถ้าไม่ได้ เรารับผิดชอบให้ไม่ได้หรอก โดยส่วนตัว ผมคงไม่กล้าทำอย่างแฟรงค์เพราะเป็นคนขี้สงสาร แฟรงค์ก็สงสารนะ แต่เขาเลือกที่จะให้บทเรียนกับทุกคนได้คิดและทบทวนว่าเกิดอะไรขึ้น ถ้าคิดได้ก็จบ ถ้าคิดไม่ได้ ไม่ว่าแฟรงค์จะหนีหรือไม่หนีก็คิดไม่ได้อยู่ดี

ผมอยากเสนอมุมมองนี้ให้ลองคิดดูครับ เผื่อว่าเราจะให้อภัยแฟรงค์และยอมรับสิ่งที่แฟรงค์ตัดสินใจได้ แม้ไม่ถูกใจเราเลย

เรื่องนี้ผมพยายามคิดหาทางออกให้ตัวละครไว้หลายๆ แบบเหมือนกัน เจรจาอย่างเดียวบ้าง หนีไปเลยไม่เจรจาก็มี ไม่เอาใครเลยก็มี
แต่ทางเลือกนี้จะผสมๆ กันระหว่างเจรจาแล้วค่อยตัดสินใจหนีเมื่อรู้ว่าถ้าไม่หนีจะติดกับดักอย่างแน่นอน
ที่ผมเลือกทางนี้ให้ตัวละครถูกบีบด้วยเงื่อนไขของเวลา แถมพ่อแฟรงค์ก็ลงทุนเป็นล้านไปแล้ว ไม่ยอมง่ายๆ แน่
แฟรงค์จะติดกับดักได้ โดยเฉพาะเมื่อเวลาบีบบังคับแถมยังเจรจากับใครไม่ได้

มีอยู่ตอนหนึ่งที่แฟรงค์บอกว่ากลับไปบ้านแล้วไม่เจอทั้งพ่อทั้งแม่ โทรไปก็ไม่รับสาย เป็นสัญญาณบอกอะไรบางอย่างแล้ว
ถ้าผมเป็นแฟรงค์ผมก็ระแวงนะว่าพ่อกับแม่กำลังคิดจะทำอะไรอยู่
แล้วแฟรงค์เองก็เคยบอกว่าจะเป็นพายุ พายุที่สามารถพัดทำลายล้างอะไรก็ได้ที่ขวางหน้าโดยที่มันไม่สนใจหรือรู้สึกผิดใดๆ
พายุผ่านไปแล้วคนที่ยังเหลือรอดก็ต้องจัดการชีวิตที่เหลือของตัวเองไป
แต่แฟรงค์เป็นพายุมนุษย์ มีความรู้สึก คงไม่ใจร้ายขนาดนั้นหรอก ก็ยังมีเจรจาต่อรองทำความเข้าใจอยู่บ้าง
สรุปสั้นๆ ง่ายๆ ก็คือ ที่แฟรงค์หนี เพราะไม่ต้องการติดกับดัก

ผมต้องการให้แฟรงค์เป็นคนที่กล้าตัดสินใจ เลือก แลก ลุย ซึ่งเป็นบุคลิกที่ผมพบในคนทำธุรกิจที่ประสบความสำเร็จหลายคน
เพราะถ้าแฟรงค์ไม่ใช่คนแบบนี้ พานัทหนีไปแล้วชีวิตลำบากแน่ๆ การไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ ไม่มีใคร ไม่รู้จักใคร ไม่ง่ายครับ

อาจจะไม่ถูกใจใครหลายคนที่เห็นตัวละครทำอย่างนี้ ใครที่อ่านนิยายผมบ่อยๆ คงจะคุ้นเคยแล้วและรู้ว่าทำไม อิๆ

ป.ล.
รอแนนกับสารินอยู่นะครับ

Sarawatta

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
สำหรับเรานี่มองว่าถ้าหากว่าแฟรงค์สามารถเจรจาได้  การหักหน้าทุกฝ่ายในงานแต่งงานก็คงจะไม่เกิดขึ้น  พ่อแม่ของทั้งแฟรงค์และเพียวไม่เหลือทางเดินให้ลูกๆเลย ยอมหักไม่ยอมงอ   ถ้าเป็นคนที่ใจอ่อนก็คงยอมไหลไปตามน้ำ  ปล่อยทุกอย่างไป   แต่แฟรงค์และเฟิร์นเป็นคนรุ่นใหม่ที่รู้ว่าถึงไม่มีพ่อแม่หนุนก็สามารถเอาตัวรอดได้   ครอบครัวกับสมบัติพัสถานทั้งหลายสามารถเป็นเครื่องผูกพันธ์ได้  แต่ก็ต้องมีความรัก ความเห็นใจเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย   เพราะพอไม่มีสิ่งหลังนี้แล้วก็เป็นได้แค่บ่วงหรือภาระ    แฟรงค์เองก็โดนพ่อล้อมกรอบมาทุกอย่างตั้งแต่เด็ก   กับเพียวเรารู้สึกว่าแฟรงค์เองก็รู้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้แคร์ตัวเองเหมือนที่คิดที่นางพยายามเยื้อการแต่งงานไว้  จะด้วยเรื่องเงินหรือศักดิ์ศรีก็สุดที่จะเดาได้

จริงๆถ้าหากว่าพ่อแม่เลือกที่จะจัดงานเล็กๆ เงียบๆเรื่องราวก็อาจจะไม่กระพือใหญ่โต  แต่เพราะว่าเลือกที่จะทำตามกำหนดเดิมทั้งๆที่รู้อยู่แล้วว่ามีความเสี่ยง  ไม่รู้จะเรียกว่าชะล่าใจได้หรือเปล่า

ในกรณีที่แฟรงค์หนีหายไปจากงานแต่งแบบนี้เป็นการวางแผนไว้ ซึ่งอาจจะทำให้รู้สึกว่าเลือดเย็นมากไปสักหน่อย   เราเคยอ่านถึงกรณีที่เจ้าบ่าวหนีเอานาทีสุดท้าย (ฝรั่ง)  หลายๆกรณีเป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นกระทันหัน  Impulse  แล้วก็ทำตามความรู้สึกนั้น  แต่ส่วนใหญ่ก็เกิดอาการสองจิตสองใจมาแล้วช่วงหนึ่ง   ส่วนใหญ่จะปัดไปและก็ทำตามนั้น   บางส่วนก็พยายามล้มเลิกแต่ไม่เป็นผลก็เลยเกิดอาการแบบนี้ขึ้น

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
รอดูต่อไป

บอกตรง ๆ ก็ไม่เห็นด้วยกับการฉีกหน้าในงานแต่ง เราว่ามันทำร้ายจิตใจทุกฝ่ายมากเกินไป
ทุกคนได้บทเรียน แต่ไม่ได้หมายความว่า เขาจะคิดได้ตามแนวทางที่แฟนงค์กับเฟิร์นคิดไว้
อย่าลืมว่า มนุษย์ไม่ได้มีพื้นฐานจิตใจที่สามารถรับมือกับเหตุการณ์กระทบจิตใจได้เท่ากัน (resillience)
บางคนลุกได้ บางคนลุกช้า บางคนไม่อาจจะลุกขึ้นมาได้อีกเลย
จุดนี้เราว่า แฟรงค์กับเฟิร์นใจเหี้ยมเกินไป

พ่ออาจจะช็อค เพราะคาดหวังไว้มาก และเมื่อแฟรงค์ยอมแต่งพ่อก็ไม่เผื่อใจผิดหวังไว้แน่นอน ถ้าหนีงานแต่งเฉย ๆ อาจจะไม่ทำร้ายจิตใจมาก แต่นี่หนีงานแต่งไปอยู่กินกับผู้ชาย ทำร้ายจิตใจแบบยกกำลังสอง

เพียวก็ได้แผลเป็นในใจแบบจนตายก็ไม่ลืม ว่าที่เจ้าบ่าวนอกใจไปมีชู้เป็นผู้ชาย ตามด้วยเจ้าบ่าวหนีงานแต่งไปกับผู้ชาย (โอเค คนอื่น ๆ คงไม่รู้ตื้นลึกหนาบางว่า แฟรงค์ไปกับนัท แต่คนที่รู้เรื่องจะไม่มีวันลืม)
ในมุมความสะใจ มันก็จริงที่เพียวได้บทเรียน แต่มันจำเป็นต้องเหยียบคน ๆ หนึ่งให้จมดินขนาดนี้เลยเหรอ? เธออาจจะผิดที่ยอมให้ครอบครัวบังคับ แต่เราก็คิดว่า เพียวรักแฟรงค์มากในระดับหนึ่ง (มันไม่ถึงระดับรักในอุดมคติที่ว่า ขอให้คนที่ฉันเป็นสุข เธอจะเลือกทางไหนฉันก็ยอมรับ) คน ๆ นี้อาจจะผิดที่ดึงดันแต่งงาน แต่รวม ๆ เราก็มองว่า เธอไม่ได้ทำผิดรุนแรงจนสาสมแก่บทลงโทษนี้

แฟรงค์กับนัท เมื่อเลือกทางนี้แล้วก็ขอให้เข้มแข็ง รับผลในสิ่งที่ตัวเองเลือก

เอาเถอะ นี่เป็นนิยาย ย่อมสามารถปั้นแต่งให้ผลลัพธ์ของเหตุการณ์นี้ออกมาในแง่ดีได้
เรายอมรับว่า เรามีความคิดเห็นจริงจังกับเรื่องนี้เกินกว่าการอ่านเพื่อบันเทิงอารมณ์

ถ้าความเห็นของเรากระทบอารมณ์ใครก็ขออภัยมาตรงนี้

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Kaemmiizz

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 727
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-4
ไม่รู้จะเม้นอะไร เพราะมันถูกใจหมดเลย
ทั้งตอนที่นัทตอกกลับต้องตาเอาซะหน้าหงายเลยอ่ะ
แล้วชอบตัวละคร "แฟรงค์" กล้าทำอะไรหลายๆอย่างเพื่อคนที่รัก
ส่วนเฟิร์น เป็นสาวที่มีมุมมองเริ่ดมากกกก (ก.ไก่ล้านตัว)  มีความคิดแนวคิดเป็นของตัวเอง เฟิร์นนี่ล่ะจะเปรียบเสมือนน้ำเย็นดับไฟร้อนระหว่างครอบครัว

รออ่านตอนต่อไป

ออฟไลน์ sarawatta

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-10
รอดูต่อไป

บอกตรง ๆ ก็ไม่เห็นด้วยกับการฉีกหน้าในงานแต่ง เราว่ามันทำร้ายจิตใจทุกฝ่ายมากเกินไป
ทุกคนได้บทเรียน แต่ไม่ได้หมายความว่า เขาจะคิดได้ตามแนวทางที่แฟนงค์กับเฟิร์นคิดไว้
อย่าลืมว่า มนุษย์ไม่ได้มีพื้นฐานจิตใจที่สามารถรับมือกับเหตุการณ์กระทบจิตใจได้เท่ากัน (resillience)
บางคนลุกได้ บางคนลุกช้า บางคนไม่อาจจะลุกขึ้นมาได้อีกเลย
จุดนี้เราว่า แฟรงค์กับเฟิร์นใจเหี้ยมเกินไป

พ่ออาจจะช็อค เพราะคาดหวังไว้มาก และเมื่อแฟรงค์ยอมแต่งพ่อก็ไม่เผื่อใจผิดหวังไว้แน่นอน ถ้าหนีงานแต่งเฉย ๆ อาจจะไม่ทำร้ายจิตใจมาก แต่นี่หนีงานแต่งไปอยู่กินกับผู้ชาย ทำร้ายจิตใจแบบยกกำลังสอง

เพียวก็ได้แผลเป็นในใจแบบจนตายก็ไม่ลืม ว่าที่เจ้าบ่าวนอกใจไปมีชู้เป็นผู้ชาย ตามด้วยเจ้าบ่าวหนีงานแต่งไปกับผู้ชาย (โอเค คนอื่น ๆ คงไม่รู้ตื้นลึกหนาบางว่า แฟรงค์ไปกับนัท แต่คนที่รู้เรื่องจะไม่มีวันลืม)
ในมุมความสะใจ มันก็จริงที่เพียวได้บทเรียน แต่มันจำเป็นต้องเหยียบคน ๆ หนึ่งให้จมดินขนาดนี้เลยเหรอ? เธออาจจะผิดที่ยอมให้ครอบครัวบังคับ แต่เราก็คิดว่า เพียวรักแฟรงค์มากในระดับหนึ่ง (มันไม่ถึงระดับรักในอุดมคติที่ว่า ขอให้คนที่ฉันเป็นสุข เธอจะเลือกทางไหนฉันก็ยอมรับ) คน ๆ นี้อาจจะผิดที่ดึงดันแต่งงาน แต่รวม ๆ เราก็มองว่า เธอไม่ได้ทำผิดรุนแรงจนสาสมแก่บทลงโทษนี้

แฟรงค์กับนัท เมื่อเลือกทางนี้แล้วก็ขอให้เข้มแข็ง รับผลในสิ่งที่ตัวเองเลือก

เอาเถอะ นี่เป็นนิยาย ย่อมสามารถปั้นแต่งให้ผลลัพธ์ของเหตุการณ์นี้ออกมาในแง่ดีได้
เรายอมรับว่า เรามีความคิดเห็นจริงจังกับเรื่องนี้เกินกว่าการอ่านเพื่อบันเทิงอารมณ์

ถ้าความเห็นของเรากระทบอารมณ์ใครก็ขออภัยมาตรงนี้

ไม่หรอกครับ ผมรับฟังได้ทุกความคิดเห็น เพราะสุดท้าย ความคิดเห็นก็คือความคิดเห็น มาจาก ปสก. ของแต่ละคน
แต่ผมก็ชอบที่จะรับฟังมุมมองต่างๆ เพื่อขยายฐานความคิดให้กว้างออกไป

ผมรู้อยู่แล้วว่าถ้าเลือกทางเดินนี้ให้ตัวละคร อาจจะมีคนคิดและรู้สึกอย่างนี้ได้
มันท้าทายคนเขียนมากๆ ครับ แบบอื่นๆ ที่ผมคิดไว้ไม่ท้าทายเท่าอันนี้ แล้วก็ได้ผลจริงๆ ด้วย อิๆ

ยังไงๆ แฟรงค์ก็เป็นมนุษย์ธรรมดาครับ เด็ดเดี่ยวแค่ไหนแต่ใจก็ไม่ใช่หิน
แม้กระทั่งตัดสินใจและวางแผนมาแล้ว แต่พอทำจริงๆ คงไม่ใช่ว่าทำได้เลยโดยไม่ลังเล หรือไม่คิดจะสงสารใคร
ผมคิดว่าแฟรงค์ผ่านการคิดตรงนั้นมาหมดแล้ว สงสารก็คงสงสาร เห็นใจก็คงเห็นใจ
แต่แฟรงค์จะไม่ยอมเสี่ยงกับทางเลือกใดๆ ที่ไม่มั่นใจอีกแล้ว เพราะไม่คุ้ม
พ่อกับแม่ของแฟรงค์ไม่ได้หยุดแค่ให้เงินหนึ่งล้าน แฟรงค์รู้ดี เห็นพิรุธแล้ว (ไม่รู้ว่าคนอ่านจับสังเกตได้หรือเปล่า)

นิยายของผมจะเน้นความเป็นจริงครับ ไม่โลกสวย เมื่อเลือกอย่างนี้แล้วก็ย่อมได้รับผลอะไรบางอย่าง
แต่คนที่ตั้งใจจะพิสูจน์ตัวเองด้วยการทำดีหลังจากนี้ แม้จะลบล้างเรื่องที่ผ่านมาไม่ได้ เขาก็ควรได้รับผลของความพยายาม

อย่าว่าแต่คุณเลย ผมเขียนเองก็ยังคิดเลยว่าแรงไปมั้ย แต่ผมต้องการฝึกตัวเองเรื่องนี้ครับ
เลือกแล้วก็ต้องจบ หยุดคิดและเดินหน้าไปเลย ไม่มีใครพอใจทุกอย่างที่เราทำ แต่เราต้องพอใจสิ่งที่เราเลือก
เพราะเราเป็นเพียงคนเดียวที่ได้รับผลจากสิ่งที่เลือก คนอื่นมารับผลแทนไม่ได้

กำลังจะลงตอนใหม่อีกไม่เกินสองชั่วโมงนะครับ มาลุ้นกันต่อไป ใกล้จะจบแล้วล่ะ

Sarawatta

ออฟไลน์ ▶August5th◀

  • it was fate
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +184/-2
อ่านตอนนี้..แล้วผมสะใจนะ
ในเมื่อทุกคนทำแต่ตามความต้องการของตัวเอง โดยไม่สนความต้องการของผู้ถูกกระทำ
มันก็ต้องเป็นแบบนี้แหละ..ชิ่งงานแต่งซะเลย หุหุ... มันก็ต้องให้บทเรียนกันบ้าง
ถามว่าสงสารใครไหมจากเหตุการณ์นี้...บอกเลยไม่ มันเป็นงานแต่งของคนที่ไม่ได้รักกันอะ
เป็นเรื่องของผลประโยชน์ เงินๆ ทองๆ ท้้งนั้น

อ่อ...มีคนนึงที่น่าสงสาร
ผมสงสารนัท ตอนรดน้ำสังค์พี่แฟรงค์ละร้องไห้รีบเดินออกไป

สู้ๆ ต่อไปนะพี่แฟรงค์กับนัท พิสูจน์ตัวเองให้ได้ล่ะ
อย่าปล่อยมือจากกันอีกนะ เศร้า..


ู้

ออฟไลน์ sarawatta

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-10
❤️ (✘) ไร้รัก ✢ Lovelessly

ตอนที่ 20 ✢ วิวาห์ใต้ฟ้าดาราพราว



สองมือที่ประคองน้ำสังข์รดให้เจ้าสาวของผมดูสั่นไหว เจ้าตัวคงเสียใจไม่น้อยที่รู้ว่าพี่ชายที่รักมานานแสนนานกำลังจะเป็นของคนอื่น พ่อ แม่และน้องสาวของผมมองมาที่นัทพร้อมกัน ไม่รู้ว่าคิดอะไรกันบ้าง พอเห็นหน้าทั้งสามคนแล้วผมก็ใจหาย กลัวว่าการตัดสินใจครั้งนี้จะทำให้ผมไม่ได้กลับมาหาครอบครัวที่ผมรักอีกเลย แม้ว่าจะคิดและตัดสินใจมาแล้ว พอจะทำจริงกลับไม่ง่าย

แล้วเพียวล่ะ ผู้หญิงที่ถูกครอบครัวบีบบังคับ ถูกคนรักหักหลัง และกำลังจะถูกฉีกหน้าให้อับอายเพราะงานแต่งล่ม ผมไม่รู้เลยว่าเธอจะทนรับความเจ็บปวดมากกว่านี้ได้ แม้เราไม่ถึงกับรักกันมากเพราะไม่ได้เกิดจากความผูกพันที่ลึกซึ้ง แต่เราสองคนก็เคยรักกัน ผมจะกล้าทำร้ายผู้หญิงคนนี้ที่เคยรักกันให้เจ็บหนักยิ่งกว่าเดิมอีกหรือ?

หรือว่าผมควรจะเปลี่ยนใจ!? แต่งงานแล้วค่อยเจรจากันทีหลัง!

ก่อนจะคิดอะไรต่อนัทก็มายืนอยู่ตรงหน้าผมแล้ว มองตากันเพียงครู่เดียวนัทก็เอ่ยคำอวยพรออกมาจากปากที่ผมเคยหลงใหลในรสจูบแสนหวาน

"พี่แฟรงค์ นัทขอให้พี่แฟรงค์มีความสุขมากๆ นะครับ ดูแลเพียวให้ดีๆ รักกันให้มากๆ รักกันตลอดไปนะครับ"

ผมแทบไม่ได้ยินคำอวยพรเลย ไม่รู้ว่าเป็นเพราะนัทพูดเบาเกินไปหรือสมองผมไม่รับกันแน่ ผมได้ยินแต่คำพูดนั้นของนัทในคืนที่เมามายไม่ได้สติ

"แล้วทำไม...พี่แฟรงค์ถึงไม่กลับมาหานัทล่ะ นัทเหงา เหงามาก นัทรอพี่แฟรงค์ทุกวันเลย..."

นั่นสิ ผมควรจะทิ้งนัทให้รอคอยพี่ชายคนนี้อีกหรือ? ก่อนที่น้ำสังข์จากนัทจะไหลรดลงมา ผมก็พลันนึกถึงวันนั้นเมื่อสิบสามปีที่แล้วที่นัทเคยร้องไห้อ้อนวอนผม

"นัทไม่มีพ่อแล้ว นัทมีพี่แฟรงค์คนเดียว นัทมีพี่ชายคนเดียว พี่แฟรงค์ไปแล้วนัทจะอยู่กับใคร พี่แฟรงค์ไม่สงสารนัทเหรอ"

ถ้าไม่ใช่เพราะรักผมมาก เด็กคนหนึ่งคงไม่ลงทุนขอร้องอ้อนวอนกันถึงขนาดนี้ "พี่แฟรงค์ไม่สงสารนัทเหรอ" ใครไม่เคยเจอคำถามนี้จากคนที่รักและผูกพัน ก็คงไม่รู้ว่ามันเจ็บปวดทรมานมากแค่ไหน

นั่นสิ ผมไม่สงสารนัทหรือถ้าเปลี่ยนใจตอนนี้ หรือเรา...ไม่ได้เกิดมาคู่กันอย่างที่ผมคิดไปเองเสียแล้ว หรือว่า...ผมจะยอมทิ้งนัทไว้ข้างหลังแล้วก้าวเดินไปตามทางของตัวเอง ไม่ต้องสนใจว่าชีวิตที่เหลือจะมีความสุข มีชีวิตอยู่กับงานและภาระเหมือนผู้ใหญ่ทั่วไป แม้ไม่มีรักก็ยังอยู่ต่อไปได้ แสดงว่าผมกำลังจะยอมแพ้และล้มเลิกความตั้งใจอย่างนั้นหรือ?

ผมก้มหน้ารำพันในใจอย่างอดสู 'นัทน้องพี่...พี่ไม่มั่นใจแล้วว่าจะกล้าทำอย่างที่ตั้งใจหรือเปล่า'

นัทเอียงสังข์ลงมาแล้วแต่กลับไม่มีหยดน้ำสักหยด ผมเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของใบหน้าแสนเศร้าจังหวะนั้นพอดี ดวงตาคู่นั้นมีหยดน้ำใสๆ เอ่อล้นออกมา ไม่นานหนึ่งหยดนั้นก็ร่วงลงมาใส่มือของผมโดยที่เจ้าตัวไม่ทันรู้ตัว แต่พอรู้ตัวก็ตกใจจนทำตัวไม่ถูก รีบส่งสังข์คืนให้เด็กที่รอรับ ก่อนจะหันหลังเดินจ้ำอ้าวตามหลังแม่กับพี่สาวไป

นัทไม่มีน้ำสังข์ให้ผมสักหยด แต่กลับมีน้ำตาหยดนี้ให้พี่ชายแทน คำพูดตัดพ้อที่แสนบาดใจของเด็กชายนัทเมื่อวันวานดังกึกก้องในใจผมอีกครั้ง

"พี่แฟรงค์ไม่สงสารนัทเหรอ"

คนรดน้ำสังข์ถัดมาคงตกใจไม่น้อยที่จู่ๆ ก็เห็นเจ้าบ่าวน้ำตาไหล ผมหันไปมองพ่อ แม่ น้องสาวและเพียวที่นั่งอยู่ข้างๆ แม้จะลำบากใจแต่ผมก็ต้องเลือกชีวิตของผมเองเสียที หวังใจว่าทุกคนจะเข้าใจผมเท่าที่จะพอเข้าใจได้ หวังใจว่าวันหนึ่งทุกคนจะให้อภัย และหวังใจว่าทุกคนคงรักษาบาดแผลครั้งนี้ได้เองเมื่อเวลาผ่านไป ความผิดบาปครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายของผมแล้ว

ทำไมพี่จะไม่สงสารนัทล่ะ พี่ชายคนนี้...ยินดีจะให้คนทั้งโลกด่าประณามกับความผิดที่ทำ พี่ยอมเป็นคนเลวในสายตาของใครก็ได้ แต่พี่ชายคนนี้...จะไม่มีวันทิ้งน้องที่พี่รักให้รอคอยอย่างอ้างว้างเหมือนคราวนั้น และชีวิตที่เหลือของพี่ชายคนนี้...จะขออยู่ดูแลน้องของพี่ไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่

ก่อนที่น้ำสังข์หยดต่อไปจะรดลงมา ผมก้มลงมองหยดน้ำตาของนัทบนมือของผมอีกครั้ง นับจากวันนี้ไป นัทจะไม่ต้องร้องไห้เพราะกลัวเสียพี่ไปอีกแล้ว

แม้ว่าเขาจะสูง ฟ้าจะกั้น ม่านประเพณีจะขวาง พลานุภาพของความรักชนะได้ทุกอย่าง บรรทัดฐานความถูกผิดใดๆ ก็หยุดความรักไม่ได้

ผมลุกขึ้นยืนแล้วถอดมงคลแฝดออก แม้ว่าจะสงสารเพียว แต่คนไม่รักอยู่ปลอบใจเธอนานแค่ไหนก็ไร้ประโยชน์ ถึงเวลาที่เธอต้องเข้มแข็งและอยู่ต่อไปด้วยตัวเองแล้ว

"พี่ขอโทษนะเพียว"

พอสิ้นคำผมก็วางมงคลลงบนหมอน ก่อนจะออกแรงวิ่งตามนัทไปสุดชีวิต เสียงคนร้องเอะอะโวยวายดังขึ้นไปทั่วงาน พอไปถึงคนที่ต้องการแล้ว ผมก็ฉวยข้อมือของนัทพาวิ่งออกไป

"นัท! ไปกับพี่เร็ว!"

นัทคงตกใจไม่น้อย แต่พอรู้ว่าเป็นผม นัทก็วิ่งตามไปทั้งๆ ที่ไม่รู้ว่าจะไปไหน ผมได้ยินเสียงพ่อสั่งให้คนวิ่งตามผมกับนัทมา เราจึงเร่งความเร็วจนสุดฝีเท้าเท่าที่คนๆ หนึ่งจะสามารถวิ่งได้ พอวิ่งมาเจอแนวพุ่มไม้สูงเกือบถึงเอวขวางหน้า แรงส่งจากความเร็วก็ช่วยให้เราสามารถกระโดดข้ามไปได้อย่างไม่น่าเชื่อ

'เก่งมากน้องพี่' ผมนึกชมในใจ

ผมไม่ได้จอดรถไว้ตรงลานจอดรถเหมือนเคย แต่จอดไว้บริเวณด้านหน้าเพราะคิดเผื่อไว้แล้วว่าจะหนีทันโดยไม่ถูกรถคันอื่นขวาง พอวิ่งมาถึงรถแล้วผมก็รีบปลดล็อกทันที เราสองคนแยกกันขึ้นประตูคนละด้านก่อนที่ผู้ชายสามคนจะวิ่งตามมาถึง ผมสตาร์ทรถได้แล้วก็รีบขับออกไป มองกระจกหลังก็เห็นสามคนนั้นวิ่งตามมา พอวิ่งไม่ไหวก็หยุดยืนหอบหายใจ

ผมเป็นอิสระแล้ว!

ผมหันไปยิ้มกับนัทแต่ก็ไม่ได้พูดคุยกัน ขอให้หนีออกไปจากที่นี่ก่อนเถอะ เพราะหลังจากนี้แล้วเราสองคนจะมีเวลาพูดคุยกันจนชั่วชีวิต

รถของผมแล่นฉิวไปตามถนนสุวินทวงศ์ มุ่งหน้ารามคำแหงเพื่อไปขึ้นทางด่วน ผมกับนัทหันมามองกันเป็นระยะๆ ยิ้มให้กันเล็กน้อย แต่ก็ยังคงไม่พูดอะไรกันอยู่ดี หัวใจของเรายังคงเต้นตึ๊กตั๊กด้วยความตื่นเต้นไม่หาย คิดไปแล้วผมก็ไม่อยากเชื่อตัวเองเหมือนกันว่าอารมณ์วูบนั้นจะทำให้ผมกล้าหาญมากขนาดนี้ ไม่ใช่ว่าผมไม่รู้สึกอะไรหรอก แต่ผมเลือกแล้ว แม้ว่าจะโหดร้ายแต่ผมก็ตัดสินใจแล้ว

ป่านนี้ทุกคนคงกำลังวุ่นวายและตื่นตระหนกตกใจกันไปหมด เพียวคงร้องไห้อย่างหนักเพราะความอับอายแขกเหรื่อที่มาในงาน พ่อผมคงโมโหมากและอาละวาดไปทั่ว แม่ผมคงเป็นลมล้มพับ ส่วนแม่ของนัทก็คงตกใจไม่แพ้กัน เผลอๆ ครอบครัวของผมก็คงโกรธน้านวลไปด้วย แต่ในเวลานี้ ผมขอเป็นพายุที่ไร้ซึ่งชีวิตจิตใจ พัดพาทำลายล้างทุกอย่างที่ขวางหน้าให้ราบคาบ แล้วปล่อยให้คนที่เหลือรอดจัดการดูแลชีวิตที่เหลือของตัวเองเท่าที่ศักยภาพจะเอื้ออำนวย

ผมขึ้นทางด่วนแล้วมุ่งหน้าไปทางลำลูกกา ก่อนจะเบี่ยงออกไปทางรังสิต ตรงไปยังห้างฟิวเจอร์พาร์ค พอถึงห้างก็เลี้ยวขึ้นที่จอดรถและวนหาที่จอดจนได้ที่ พอรถจอดสนิท ผมกับนัทก็หันมามองหน้ากันอย่างเต็มตาเป็นครั้งแรก

"พี่แฟรงค์"

"นัท"

เราสองคนเอ่ยชื่อเรียกของเราพร้อมกัน ก่อนจะโผเข้ากอดกันแน่นและร้องไห้อย่างคนเสียขวัญ

"เราจะไม่จากกันไปไหนอีกแล้วนะนัท ต่อไปนี้...พี่จะอยู่ดูแลนัทจนชั่วชีวิตของพี่ นัทดีใจหรือเปล่า"

ผมละล่ำละลักบอก กอดนัทแน่นราวกับกลัวว่าใครจะมาฉุดกระชากไปไหน

"พี่แฟรงค์ นัทรักพี่นะ นัทรักพี่คนเดียว"

ผมรู้ความหมายที่นัทพูดเป็นอย่างดี ที่ผ่านมานัทคงใจหายไม่น้อยที่รู้ว่าพี่ชายคนนี้จะเป็นของคนอื่น ความรู้สึกของนัทคงเหมือนคนที่ยื้อของรักไว้จนเกือบหมดแรงสู้ คิดว่าต้องสูญเสียไปแน่แล้ว แต่สุดท้ายก็ได้คืนกลับมาราวปาฏิหาริย์

เรากอดกันอยู่สักครู่ใหญ่จึงค่อยๆ ผละออกจากกัน ผมลูบผมของนัทเบาๆ อย่างรักใคร่ มองหน้าใสที่ผมคุ้นเคยแล้วก็ใจหาย ผมเกือบสูญเสียคนๆ นี้ไปแล้วแท้ๆ จากความลังเลของตัวเอง

ผมหยิบกระดาษเช็ดหน้ามาซับน้ำตาให้นัท จากนั้นนัทจึงเป็นฝ่ายซับน้ำตาให้ผมบ้าง ก่อนที่นัทจะวางมือลงผมก็จับมือนัทมากุมไว้ ก่อนจะดึงมาหอมเบาๆ

"นัทรู้แล้วใช่มั้ยว่าพี่รักนัทมากแค่ไหน"

นัทพยักหน้าแล้วก็ทำท่าเหมือนจะร้องไห้ "พี่แฟรงค์จะชวนนัทร้องไห้อีกแล้วนะ"

ผมขำเบาๆ แล้วก็ดึงนัทมากอดไว้อีกครั้ง อดที่จะน้ำตาไหลอีกรอบไม่ได้เลย

"นัทจำไว้นะ ต่อให้คนทั้งโลกด่าพี่ โกรธพี่ หรือเกลียดพี่ พี่ก็จะไม่ยอมสูญเสียนัทไปอีกแล้ว พี่รู้ว่าที่พี่ทำมันโหดร้าย พี่รู้ว่ามีวิธีอีกมากมายให้เลือก แต่พี่จะไม่ยอมเสี่ยงเลือกทางเลือกอะไรก็ตามที่พี่ไม่มั่นใจว่าจะได้นัทกลับคืนมา นัทเข้าใจพี่ใช่มั้ย คนอื่นไม่เข้าใจพี่ก็ไม่เป็นไร พี่ขอแค่นัทคนเดียวเท่านั้นที่เข้าใจพี่ ให้อภัยพี่"

ผมเผลอปล่อยโฮอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อนเพราะสะเทือนใจกับเรื่องนี้มาก รู้ดีว่าที่ทำไปครั้งนี้คงทำให้ผมไม่เหลือใครอีกแล้ว นอกจากคนๆ นี้ที่ผมกอดไว้

นัทกอดผมแน่นแล้วก็ละล่ำละลักบอกด้วยความสะเทือนใจไม่แพ้กัน "นัทเข้าใจพี่แฟรงค์ทุกอย่าง นัทรู้ว่าทั้งหมดที่พี่แฟรงค์ทำ...เพราะพี่แฟรงค์รักนัท นัทขอโทษที่หนีไป พี่แฟรงค์ยกโทษให้นัทด้วยนะ นัทผิดไปแล้ว"

ผมรู้ว่านัทคาใจเรื่องนี้ แต่คนอย่างผมจะโกรธนัทได้ด้วยหรือ

"พี่ไม่โกรธนัทหรอก คนดีของพี่ พี่รู้ว่านัทหนีไปเพราะความกดดัน ไม่ใช่เพราะไม่รักพี่ พี่แฟรงค์น่ะ...สงสารน้องของพี่จะตายไม่รู้เหรอ"

ในที่สุดผมก็ได้ตอบคำถามนั้นที่นัทเคยถามเมื่อสิบสามปีที่แล้วเสียที นัทคงเข้าใจความหมายที่ผมพูดก็เลยกอดผมแน่นขึ้นยิ่งกว่าเดิม

"พี่แฟรงค์ นัทรักพี่ นัทไม่รู้จะบอกยังไงว่านัทรักพี่มากแค่ไหน ถ้าไม่ได้อยู่กับพี่ นัทก็ขอยอมตายดีกว่า ชาตินี้...นัทจะขอรักพี่จนลมหายใจสุดท้าย ถ้าจะตาย...นัทก็จะขอตายในอ้อมแขนของพี่คนเดียว"

พอได้ยินอย่างนี้แล้วผมก็มีกำลังใจมหาศาล แม้ว่าจะรู้สึกผิดบาปแค่ไหน ผมก็จะยังไปต่อได้อย่างแน่นอน

"พี่รู้ พี่ก็รักนัทมากนะ ใครจะว่าพี่เลวหรือผิดแค่ไหนก็ช่าง แต่พี่จะไม่มีวันทิ้งน้องของพี่ เราจะไปด้วยกันนะนัท ต่อจากนี้ไปเราจะอยู่ด้วยกัน ไปไหนไปด้วยกัน สร้างชีวิตของเราด้วยกัน"

นัทพยักหน้าหงึกๆ จนผมรู้สึกได้จากความสั่นไหวบนบ่า สักพักเราก็ผละออกจากกันอีกครั้ง แล้วก็เช็ดน้ำตาให้กันอีกรอบ เช็ดไปขำไปเพราะไม่รู้ว่าเราจะร้องไห้กันอีกหรือเปล่า

"พี่แฟรงค์พานัทมาที่นี่ทำไม" นัทถามขึ้นเมื่อสงบสติอารมณ์ได้

"ซื้อของใช้ไง พี่กลัวไปซื้อที่นู่นแล้วไม่มี"

"ที่นู่นคือที่ไหน พี่แฟรงค์จะพานัทไปไหนเหรอ" นัทถามอย่างงงๆ

ผมก็เลยขำตัวเองเบาๆ ที่พานัทหนีมาแต่ไม่บอกอะไรเลย "บ้านเกิดของเราไง เราจะไปอยู่ด้วยกันที่นั่น"

"จริงเหรอ" นัททำหน้าเหมือนไม่เชื่อ แต่ก็ยิ้มดีใจ

ผมพยักหน้าแล้วก็ยิ้มให้นัทบ้าง แม้จะกังวลแค่ไหนแต่ก็รู้ว่าโลกนี้ยังพอมีความสดใสเหลืออยู่ อย่างน้อยก็คนตรงหน้าของผม

"แล้วพี่แฟรงค์จะซื้ออะไรมั่ง"

"เสื้อผ้า ของใช้ส่วนตัวบางอย่าง แล้วก็...ฮาเก้นดาสของโปรดนัทไง"

ผมทำเสียงตื่นเต้นตรงประโยคท้าย นัทถึงกับยิ้มร่าเลย

"ไปกันเถอะ เดี่ยวจะค่ำ พี่อยากไปถึงที่นั่นก่อนหกโมงเย็น"

"แล้วเราจะไปนอนที่ไหนล่ะ" นัทถามก่อนที่เราสองคนจะขยับตัวลงจากรถ

"เดี๋ยวพี่จัดการเอง"
.
.
.
ผมกับนัทเลือกซื้อเสื้อผ้าด้วยกันก่อนเป็นอันดับแรก ชอบแล้วหยิบเลย ไม่ต้องเสียเวลามาก พอผมพาไปซื้อชุดสูทหรูๆ นัทก็สงสัย ผมจึงบอกไปว่าเอาไว้ใส่ตอนทำธุรกิจ นัทดูเหมือนไม่เชื่อแต่ก็ไม่ว่าอะไร

ตอนกินข้าวด้วยกัน ผมแอบขอตัวไปห้องน้ำแล้วก็หยิบโทรศัพท์ออกมาโทรเพื่อจัดเตรียมงานพิเศษของผมไว้ก่อนจะไปถึง

"พิโน่ลาเต้รีสอร์ทนะครับ ตอนนี้มีห้องว่างมั้ยครับ โอเค...งั้นผมขอจองหนึ่งคืนครับ รบกวนช่วยเตรียม..."

จากนั้นผมก็โทรหาเพื่อนเก่าสมัยประถมอีกคน หลังจากทักทายกันพอหอมปากหอมคอผมก็บอกสิ่งที่ต้องการไป

"เฮ้ยโซ้ย มึงช่วยหาช่างภาพที่ถ่ายภาพสวยๆ ให้กูซักคนได้มั้ยวะ เออๆ ดีๆ กูต้องการพรุ่งนี้เช้าเลย ให้เค้ามาที่พิโน่ลาเต้รีสอร์ทนะ มึงรู้จักใช่มั้ย ดีเลย อ้อ...กูอยากให้มึงหาหมามาให้กูซักตัวด้วย โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ก็ได้ หรือหมาอะไรก็ได้ที่ตัวใหญ่ๆ หน่อย แต่ขอหมาที่หน้าไม่ดุ ไม่กัดคนนะเว้ย มีมั้ย อ๋อ...มึงมีตัวนึงเหรอ เออๆ งั้นพรุ่งนี้มึงเอามาให้กูหน่อย ที่รีสอร์ทนั่นแหละ..."

พอจัดการธุระเสร็จแล้วผมก็กลับไปนั่งกินข้าวกับนัทเหมือนเดิม แล้วก็ปิดเครื่องมื่อสื่อสารไปเพราะไม่ต้องการให้จิตใจถูกรบกวนจนวอกแวกอีก

เสร็จธุระหมดแล้ว เราสองคนก็ออกจากรังสิตตอนบ่ายโมงเศษๆ มุ่งหน้าสู่เขาค้อด้วยกัน ใช้เวลาจากนี้ไปประมาณสามชั่วโมงกว่าก็จะถึงที่หมาย แต่ถ้าหยุดพักเติมน้ำมันเข้าห้องน้ำบ้างก็อาจจะกลายเป็นสี่ชั่วโมงหน่อยๆ ก็ยังทันเวลาอยู่

ระหว่างเดินทาง ผมเอาอีเมล์ที่เฟิร์นเขียนให้นัทอ่าน ผมพิมพ์ใส่กระดาษเตรียมไว้รถแล้ว พอนัทอ่านจบก็ดูเหมือนจะอึ้งๆ ไปเหมือนกัน

"นัทสงสารเพียวจังเลยพี่แฟรงค์" นัทพึมพำเบาๆ คล้ายกับกำลังพูดกับตัวเอง

"พี่ก็สงสารเค้า แต่ไม่ว่าพี่จะสงสารเค้ามากแค่ไหน พี่ก็จะไม่ยอมเสี่ยง ก่อนแต่งงาน พี่พยายามจะไปคุยกับเค้าแล้ว พี่ก็ไม่อยากฉีกหน้าเค้าขนาดนี้หรอก ถ้าเจรจาก่อนแต่งงานได้ก็น่าจะดีกว่า แต่พี่โทรหาเค้าไม่ได้เลย เค้าไม่อยู่บ้านทุกวัน ไปหาก็ไม่เจอ พี่ก็เลยเดาว่า...พ่อกับแม่พี่คงไปคุยอะไรกับทางนั้นไว้ นัทจำได้ใช่มั้ยที่พี่เคยบอกว่ากลับบ้านแล้วไม่เจอใคร โทรหาพ่อหาแม่หรือเพียวก็ไม่ติด พี่ก็ไม่รู้ว่าเค้าแอบไปคุยอะไรกัน รู้แต่ว่า...หลังจากนั้นพี่ติดต่อเพียวไม่ได้เลย เจอเพียวอีกทีก็วันแต่งงาน เหมือนพ่อกับแม่ไม่ต้องการให้พี่เจรจาอะไรกับเพียวอีก"

นัทพยักหน้าเข้าใจ แล้วสีหน้าก็ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นเศร้า "แล้วพี่แฟรงค์จะไม่กลับบ้านจริงๆ เหรอ"

ฟังแล้วผมก็ใจหายวาบ ผมไม่เคยจากพ่อจากแม่ไปไหนเลยนานเลย อยู่กับพ่อแม่มาตลอดชีวิต ถึงจะดุและเข้มงวดไปบ้างแต่ก็รักผมมาก สรรหาสิ่งดีๆ มาให้ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนไม่เคยขาด ปู่ก็เตรียมจะมอบมรดกรีสอร์ทให้ ใครๆ ต่างก็ฝากความหวังไว้ที่ผมจนเฟิร์นน้อยใจ เพราะรู้สึกว่าตัวเองไม่มีบทบาทสำคัญในครอบครัวเลย แต่เฟิร์นก็พยายามพัฒนาตัวเองให้เก่ง คราวนี้เฟิร์นคงได้โอกาสพิสูจน์ตัวเองให้พ่อกับแม่เห็นว่าเธอดูแลกิจการแทนพี่ชายได้

"พี่จะกลับไป แต่ไม่ใช่เร็วๆ นี้ วันที่พี่กลับ พี่จะกลับไปพร้อมกับความสำเร็จของเราสองคน ไม่อย่างงั้นแล้ว...พ่อพี่คงไม่ยอมรับเราแน่ๆ"

นัทพยักหน้าและยิ้มน้อยๆ ให้ผม "นัทจะอยู่ข้างๆ พี่แฟรงค์นะ"

ผมยิ้มพอใจแล้วก็เอื้อมมือไปลูบผมนัทเบาๆ "ขอบคุณมากน้องพี่ อ้อ...ถ้าอยากเข้าห้องน้ำหรือหิวก็บอกพี่นะ เดี๋ยวพี่แวะให้"

"ครับพี่ชาย" นัทรับคำแล้วยิ้มสดใส "นัทดีใจที่สุดเลยที่ได้พี่ชายใจดีของนัทกลับมา"

ได้ยินแล้วผมก็มีความสุขเหลือเกิน แม้ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ผมจะเอาชนะความรู้สึกผิดบาปในตอนนี้ แต่ผมก็มีกำลังใจที่ดีอยู่ข้างๆ แม้ไม่รู้ว่าวันข้างหน้าจะเจออะไรหรือชีวิตจะเป็นยังไง แต่ผมก็จะพยายามพาชีวิตของเราสองคนไปต่อให้ได้อย่างสุดความสามารถ

"พี่ก็ดีใจที่พี่ได้กลับมาอยู่กับนัทนะ นึกว่าจะต้องเสียน้องที่พี่รักไปแล้ว นัทไม่ต้องรู้สึกผิดอีกแล้วนะ เพราะเราสองจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ พี่เอง...ก็ทำผิดครั้งใหญ่ไปแล้ว แต่พี่จะไม่หันหลังกลับ ไม่ฟังเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถูกผิดของใคร เพราะไม่ว่าพี่จะเลือกอะไร ก็คงไม่มีทางทำให้ทุกคนพอใจอยู่แล้ว แต่พี่...ต้องเลือกชีวิตที่เป็นของพี่เอง ไม่ทำตามที่ใครเห็นว่าถูกหรือผิด ไม่เขวไปตามความคิดเห็นของใคร ไม่รอเวลา ไม่เสี่ยงในทางเลือกที่พี่ไม่เชื่อ เพราะชีวิตเป็นของพี่ คนอื่นๆ กำหนดชีวิตพี่มาพอแล้ว พี่จะขอกำหนดชีวิตของพี่เองนับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป"

ผมย้ำหนักแน่น จะว่าไป...วิธีคิดนี้ผมก็ได้มาจากพ่อนั่นแหละ พอเลือกแล้วก็ต้องโฟกัส อย่าวอกแวก อย่าเขวกับคำวิพากษ์วิจารณ์ของใคร ตัดทุกอย่างที่ไม่เกี่ยวข้องออกไปให้หมด จดจ่อกับสิ่งที่เลือก เมื่อก่อนผมใช้วิธีคิดเหล่านี้กับธุรกิจ แต่ตอนนี้...ผมจะใช้กับความรักของผมบ้าง!

... ... ...

ผมพานัทมาถึงพิโน่ลาเต้รีสอร์ทตอนเกือบหกโมงเย็น พอผมยกกระเป๋าลงมาจากรถ นัทก็ถามด้วยความสงสัยและมีสีหน้ากังวล

"เราจะพักที่นี่เหรอพี่แฟรงค์ มันแพงนะ คืนนึงตั้งเป็นหมื่นแน่ะ"

"ไม่เป็นไร เราไม่ได้พักทุกวันซะหน่อย พอดีรีสอร์ทเก่าที่เราเคยไปพักคนเต็มแล้ว เหลือแต่ที่นี่ที่เดียวที่ว่างอยู่ พักที่นี่ซักคืนละกัน เดี๋ยวพรุ่งนี้เราค่อยไปหาที่พักใหม่"

"เหรอ เอางั้นก็ได้" แม้จะยิ้ม แต่ดูท่าทางเจ้าตัวยังเสียดายเงินหมื่นที่ต้องจ่ายไม่น้อย

"หนาวหรือเปล่า"

ผมถามเพราะเราสองคนใส่เสื้อเชิ๊ตธรรมดาที่แทบจะกันหนาวไม่ได้เลย อากาศตอนนี้หนาวมากจนตัวแทบสั่น คนละเรื่องกับกรุงเทพเลย

"ไม่เป็นไร เดี๋ยวก็เข้าห้องพักแล้ว"
.
.
.
พอเห็นข้างในห้องพัก นัทก็ตกตะลึงตาโตกับความสวยงามของมัน ทุกอย่างตกแต่งไว้อย่างดีมาก มีห้องนอนและโซฟารับแขกอย่างดี ด้านหลังเป็นกระจกใสบานใหญ่ มองออกไปเห็นภูเขาน้อยใหญ่สลับซับซ้อนไกลสุดลูกหูลูกตา มีระเบียงให้เราออกไปนั่งชมวิวแบบพาโนรามาได้อีกด้วย

"โห...สวยจังพี่แฟรงค์ นัทไม่เคยพักห้องอย่างนี้มาก่อนเลย" นัทพูดพลางมองไปรอบห้อง ก่อนสายตาจะไปหยุดตรงระเบียงด้านหลังแล้วมองไกลออกไป

"ชอบมั้ย"

"ชอบมากเลย" นัทหันมาบอกพลางยิ้ม

น้องพนักงานชายที่มาด้วยแนะนำข้อมูลเรื่องการใช้ห้องและบริการต่างๆ ให้เราสองคนฟัง พอเห็นว่าเราเข้าใจดีแล้วก็ขอตัวกลับ

"นัทอาบน้ำเร็ว" ผมบอกด้วยน้ำเสียงเร่งเร้า

"ทำไมต้องรีบอาบล่ะ เพิ่งหกโมงเอง" นัทเอียงคอถามอย่างสงสัย

"น่า...อาบน้ำก่อนนะคนดีของพี่แฟรงค์" ว่าแล้วผมก็เดินอ้อมไปกอดนัททางข้างหลัง "ถ้าไม่อาบ...ก็ตัวไม่หอมสิ เห็นมั้ย...พี่แฟรงค์ไม่กล้าหอมเลย"

ผมทำท่าจะหอมแต่ก็ไม่หอม นัทก็เลยหัวเราะ

"แล้วพี่แฟรงค์จะอาบเปล่า"

"อาบสิ เอางี้ดีกว่า...อาบด้วยกันเลย จะได้ประหยัดเวลา" ผมบอกพลางยิ้มมีเลศนัย

นัทหันมามองแล้วก็นิ่วหน้า "ไม่เอาหรอก นัทอาย"

"อายทำไม พี่เห็นหมดแล้ว นัทก็เห็นของพี่หมดแล้วเหมือนกัน อาบด้วยกันดีกว่านะ เดี๋ยวพี่ถูหลังให้ ขัดตัวให้ด้วย เราไม่เคยอาบน้ำด้วยกันเลยนี่ อาบด้วยกันนะ พี่ไม่ทำอะไรนัทหรอก พี่สัญญา ถ้าพี่แฟรงค์คนนี้ทำอะไรนัทในห้องน้ำนะ ขอให้ฟ้าผ่าเลยเอ้า" ผมอ้อนสุดฤทธิ์

"จะผ่าได้ไง ตอนนี้หน้าหนาว ไม่มีฝนซะหน่อย"

นัทขำเบาๆ ไม่เจอกันสามสัปดาห์ก็คงอายเป็นธรรมดา แต่ผมก็ไม่รอช้า ช้อนตัวนัทขึ้นมาอุ้มไว้

"พี่แฟรงค์จะทำอะไร"

นัทโวยวายเล็กน้อย แต่พอผมส่งสายตาซึ้งๆ ไปให้นัทก็เลยเงียบ

"อาบน้ำกับพี่นะ"

ผมทำเสียงอ้อนจนดูน่าสงสาร นัทก็เลยพยักหน้าตกลงอย่างอายๆ ผมอุ้มนัทเข้าไปในห้องน้ำทันที ไม่ได้ทำอะไรกันหรอกนอกจากอาบน้ำ สระผมให้กัน ถูหลังให้กัน มีกอดจูบลูบคลำบ้างเล็กน้อย แต่ก็ยั้งเอาไว้ก่อนเพราะคืนนี้ยังอีกยาวไกล

พอเราสองคนอาบน้ำเสร็จแล้ว ผมก็พานัทมาแต่งตัวด้วยชุดสูทที่ผมซื้อมาใหม่ ผมทุ่มไปกว่าครึ่งแสนซื้อเสื้อผ้า กระเป๋าเดินทางและของใช้ต่างๆ ที่จำเป็นของเราสองคนเลยวันนี้

"ทำไมต้องแต่งตัวดีขนาดนี้ล่ะ" นัททำหน้าสงสัยเมื่อเห็นผมหยิบชุดสูทออกมาจากกระเป๋า

"ก็เราจะกินข้าวเย็นหรูๆ ด้วยกันไง"

นัทยังขมวดคิ้วสงสัยไม่หาย กระนั้นก็ให้ความร่วมมือและช่วยกันแต่งตัวจนเสร็จเรียบร้อย

"นัทหล่อมาก สมกับเป็นเจ้าชายน้อยของพี่เลย" ผมอดจะเอ่ยปากชมไม่ได้เมื่อเห็นเจ้าชายน้อยของผมในชุดสูทเข้ารูปสมัยใหม่สีขาวครีม ผูกหูกระต่ายอย่างหล่อ

"พี่แฟรงค์ก็หล่อ หล่อที่สุดเท่าที่นัทเคยเห็นเลย" นัทยิ้มเขิน คนถูกชมยิ้มแก้มแทบปริ

ผมโทรไปบอกพนักงานให้นำอาหารที่สั่งไว้มาให้ มีโต๊ะกินข้าวใต้แสงเทียนเตรียมไว้อยู่ก่อนแล้ว จึงนำแค่อาหารมาวางไว้พร้อมกับจุดเทียนให้สว่าง ผมขอให้ทางรีสอร์ทตกแต่งระเบียงด้วยดอกไม้และผูกผ้าบางๆ ให้ปลิวไสวไปมาพอสวยงามไว้ก่อนด้วย

"โห...โรแมนติกจัง" นัทพูดขึ้นหลังจากพนักงานออกไปหมดแล้ว

"สำหรับคนพิเศษของพี่ไง"

บอกแล้วผมก็จูงมือนัทไปที่โต๊ะอาหารตรงระเบียงหลังห้อง แม้อากาศจะหนาว แต่ชุดสูทของเราก็พอช่วยได้

"อาหารฝรั่งซะด้วย สเต๊กอะไรน่ะ"

นัทถามด้วยความอยากรู้ พอจะนั่งที่เก้าอี้ผมก็ฉุดมือไว้เสียก่อน

"เดี๋ยวก่อนสิ อย่าเพิ่งนั่ง ยังกินตอนนี้ไม่ได้"

"ทำไมล่ะ" นัททำหน้าฉงน คงสงสัยเหมือนกันที่วันนี้ผมทำแปลกๆ หลายอย่าง

"รอแป๊บนึงนะ"

ผมไม่ตอบคำถามแต่เดินกลับเข้ามาข้างในห้อง หยิบของสำคัญมาเตรียมไว้แล้วก็ปิดไฟทุกดวงจนหมด เหลือแต่แสงเทียนที่อยู่ในเชิงเทียนแก้วที่ช่วยกันลมหนาวได้อย่างดี

ผมเดินกลับมาหานัทที่ยืนข้างๆ โต๊ะอาหาร จูงมือนัทมาตรงมุมซ้ายของระเบียง แม้เพิ่งทุ่มเศษๆ แต่หน้าหนาวก็มืดเร็วกว่าปกติ พอปิดไฟเหลือแต่แสงเทียนจึงเห็นดวงดาวพร่างพรายเต็มท้องฟ้า เราสองคนยืนเคียงคู่แล้วมองดูดาวด้วยกัน

"นัทเคยเห็นดาวลูกไก่มั้ย มันจะมองหายากหน่อย ต้องเพ่งดีๆ อยู่ตรงนั้นน่ะ"

ผมชี้มือให้ดูแล้วนัทก็พยายามมองตาม

"ตรงไหน ไม่เห็นเลย" นัทถามพลางพยามเพ่งมอง หาใหญ่

ผมถือโอกาสนี้คุกเข่าลง พอนัทรับรู้การเคลื่อนไหวบางอย่างจึงหันมามอง เห็นผมนั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้าแล้วก็แปลกใจ ผมเงยหน้าขึ้นสบตากับนัท ส่งยิ้มที่คิดว่าจริงใจที่สุดไปให้ เตรียมพร้อมบอกสิ่งสำคัญต่อจากนี้

"แต่งงานกับพี่นะ...เจ้าชายน้อยของพี่"

นัทเบิกตากว้างอย่างคาดไม่ถึง ผมหยิบแหวนที่เตรียมไว้ออกมาจากกระเป๋าสูท ดึงมือนัทมาจับไว้แล้วค่อยๆ สวมแหวนที่มีเพชรน้ำงามเม็ดเล็กๆ เข้าที่นิ้วนางอย่างเบามือ ไม่น่าเชื่อว่าผมเลือกมาได้พอดีเป๊ะเลย

"พี่แฟรงค์" นัททำท่าจะร้องไห้

"เจ้าชายน้อยของพี่แฟรงค์ แต่งงานกับพี่นะ" ผมถามย้ำอีกครั้ง ดึงมือนัทมากุมไว้เบาๆ

นัทเอามือข้างหนึ่งปิดปากตัวเองไว้ พยายามสะกดตัวเองไม่ให้ร้องไห้ กระนั้นผมก็รู้ว่านัทดีใจมากแค่ไหน เราเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าพร้อมกัน วันแต่งงานของเราสองคนในวันนี้ ไม่มีผู้ใหญ่แม้แต่คนเดียวเป็นสักขีพยานรักให้ มีเพียงดวงดาวบนท้องฟ้าเท่านั้นที่รับรู้และส่งแสงระยิบระยับแสดงความยินดีกับเราสองคน

เราหันหน้ากลับมาตามเดิม นัทยิ้มอย่างมีความสุข ก่อนพยักหน้าตกลงอย่างช้าๆ ผมยิ้มกว้างดีใจสุดชีวิต

"มาสร้างชีวิตใหม่ของเราด้วยกันกับพี่นะ"

นัทพยักหน้าอีกครั้ง คราวนี้ห้ามน้ำตาแห่งความตื้นตันใจไว้ไม่ได้แล้ว

"พี่ไม่มีเจ้าสาว พี่มีแต่เจ้าชายตัวน้อยที่พี่รักและหวงแหน เฝ้ารักเฝ้าดูแลมาตั้งแต่อยู่ปอสาม เจ้าชายน้อยของพี่แฟรงค์ ถึงวันนี้เราสองคนไม่มีสักขีพยานเลย แต่ดวงดาวบนท้องฟ้าจะเป็นสักขีพยานให้เราสองคน พี่ขอสัญญาด้วยเกียรติของพี่ชายว่า...พี่จะรักและจะอยู่เคียงข้างเจ้าชายน้อยของพี่ไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่"

ผมค่อยๆ ลุกขึ้นยืนโดยไม่ละสายตาจากนัทเลย จากนั้นนัทจึงเป็นฝ่ายพูดบ้าง

"นัทก็ไม่มีเจ้าบ่าว มีแต่เจ้าชายใหญ่คนนี้ที่คอยดูแลเป็นอย่างดีมาตลอด เป็นทั้งเพื่อน เป็นทั้งพี่ชาย แล้วก็เป็นคนที่นัทรักหมดหัวใจ เจ้าชายน้อยคนนี้ขอสัญญาต่อดวงดาวทุกดวงบนท้องฟ้าว่า...จะรักและอยู่เคียงข้างเจ้าชายใหญ่จนกว่าชีวิตจะหาไม่เช่นเดียวกัน"

นัทพูดเสียงสั่นเครือแต่ก็ชัดเจนทุกถ้อยคำ งานวิวาห์ใต้ฟ้าดาราพราวของเราเสร็จสิ้นลงแล้วในเวลาอันสั้น แต่ทว่ามีความหมายยิ่งใหญ่กับเราสองคนชั่วชีวิต

เราสวมกอดกันไว้ ปล่อยให้น้ำตาจากความซาบซึ้งไหลลงอย่างอิสระ จากนี้ไปจะไม่มีใครพรากเราสองคนได้อีกแล้ว แม้ว่าต้องสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่าง ผมก็ยอมแลกเพื่อให้ได้กลับมาอยู่ดูแลคนๆ นี้อีกครั้ง แม้ว่าทำผิดพลาดสักแค่ไหน ผมก็ยอมวางทุกอย่างไว้ข้างหลังแล้วเริ่มต้นใหม่

นับจากวันนี้ไป เราจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ของเราอย่างถูกต้อง แม้ว่าไม่ง่ายเหมือนภาพฝัน แต่ด้วยพลานุภาพแห่งความรักและความมุ่งมั่นตั้งใจ ผมเชื่อว่าเราจะเจอหนทางที่สดใสอยู่ข้างหน้า

ขอเพียงเจ้าชายน้อยยังจับมือเจ้าชายใหญ่ไว้เสมอ ผมก็พร้อมมอบกายถวายชีวิต สร้างสิ่งฝันของเราสองคนให้เป็นจริงให้จงได้!


- TBC -[/center]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-03-2017 14:09:12 โดย sarawatta »

ออฟไลน์ Alice111

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-1
ถามว่าโหดร้ายไปไหมทำร้ายผู้หญิงคนหนึ่ง ใช่เพียวคงจะจดจำไปอีกนานเพลอๆอาจจะเข็ดขยาดกับความรักไปเลย ถ้าแฟร้งไม่แสดงท่าทีว่ารักเพียวก็คงยอมที่จะยุติก่อนแต่งแต่ก่อนเจอนัทแฟร้งได้ให้ความหวังทุกอย่างกับเพียว วาดฝันกันสวยหรูเลยทีเดียว เฮ้อ งานนี้พ่อแม่รังแกเพียวด้วยเช่นกัน คนไม่รักยังจะให้แต่งงานเขาขอเจรจาแล้วนะก็ยังไม่ยอมรับความจริง และคนที่รับกรรมคือเพียวแบบเต็มๆ
ต่อไปนี้คือการเริ่มต้นจากศูนย์เลยซินะนัทแฟร้ง ต่อไปขอแค่อย่าปล่อยมือก็พอ :n1:
ปล.ที่นัทบอกสงสารเฟิร์นนั้นจริงๆแล้วคือเพียวหรือเปล่าค่ะ  :hao4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-01-2016 21:16:20 โดย Alice111 »

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
ระหว่างเดินทาง ผมเอาอีเมล์ที่เฟิร์นเขียนให้นัทอ่าน ผมพิมพ์ใส่กระดาษเตรียมไว้รถแล้ว พอนัทอ่านจบก็ดูเหมือนจะอึ้งๆ ไปเหมือนกัน

"นัทสงสารเฟิร์นจังเลยพี่แฟรงค์" นัทพึมพำเบาๆ คล้ายกับกำลังพูดกับตัวเอง

ตรงนี้น่าจะเป็น เพียว มากกว่านะคะ

อ่านตอนนี้แล้วแอบคิดถึงคู่พี่พอร์ชกับน้องอามค่ะ เวลามโนถึงหน้าพี่แฟรงค์ ชอบกลายเป็นหน้าพี่พอร์ชแทนอยู่บ่อยๆ       


ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4
ชอบมากๆๆๆๆๆๆ
อ่านของคุณผู้เขียนจะครบทุกเรื่องแล้วๆ
ประทับใจทุกเรื่อง
เป็นกำลังใจให้นะๆๆๆ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
อืม....

โรแมนติก


 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด