รักดั่งเส้นขนาน
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: รักดั่งเส้นขนาน  (อ่าน 112828 ครั้ง)

maabbdo

  • บุคคลทั่วไป
 :เฮ้อ:  สงสัยคงไม่พอใจมั้ง

เข้าใจยากจริงๆๆ 

ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
อ่าฮ้า เดชน้อยใจที่ใหญ่พูดเมื่อกลางวันเหรอ  :m12:
ว่าแต่ จบได้ค้างมาก โฮก!! ป้าไม่อยากกินชาเย็น อยากกินกาแฟร้อน!  :m31:

ออฟไลน์ imon

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 902
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-10

ออฟไลน์ nOn†ღ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-6
เดชเป็นอะไรอีกละเนี่ย  :เฮ้อ:

marchmenlo

  • บุคคลทั่วไป
อืม คงไม่พอใจจริง ๆ นั้นแหล่ะ นี่จะเป็นชนวนให้ผิดใจกันรึเปล่าเนี๊ย

kongkilmania

  • บุคคลทั่วไป
แล้วเดชจะไม่พอใจเรื่องไรหล่ะ 

จีบต่ายสำเร็จไม๊  ก็ต้องขึ้นอยู่กะต่ายนะ

ใหญ่จะไปบังคับใจต่ายได้ไง
เบื่อเดชอ่ะ   :seng2ped:

pickki_a

  • บุคคลทั่วไป
ตัวอย่างตอนที่ 47

“มึงมีไรกับมันป่ะ” - ไอ้เต้ถามผม

“กูไม่ได้เป็นไรซักหน่อย”

“ถ้ามึงจะคิดอย่างงั้น”

“ถ่ายมากี่ม้วนวะ”
“4 ม้วน” - ไอ้เข้มตอบ”

“สนสิ เพื่อนเราทั้งคน”

“แล้วเราจะทำอะไรได้มากกว่านี้ล่ะ”
----------

พอละ เดี๋ยวเยอะเกิน คนอ่านจับได้
น่าจะภายในวันศุกร์นี้นะคับคงได้ลง
 :laugh:

ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
โอ้ย มายั่วกันซะขนาดนี้ จะให้รออีกสี่วันเชียวเร้อ เย็นๆนี้หรือพรุ่งนี้ก็มาได้แล้นใหญ่เอ้ยยยยยย  :t3:

ออฟไลน์ Just let it be

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 979
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
เบื่อชา

ขอเป็นอย่างอื่นแทนได้มะ  มะคต่อยชอบเลยจิงๆ นะเนี่ย

แหงะ

 :o11:

ออฟไลน์ ~NeMeSiS_PURE~

  • 행 복 하 길 바 래 ...
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2009
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +196/-2

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






maabbdo

  • บุคคลทั่วไป

pickki_a

  • บุคคลทั่วไป
47
 :m17:
ผมคิดว่า มันคงไม่อยากพูดกับผมละมั้ง คงเป็นเพราะเหนื่อยจากการเดินทาง ผมจึงไปหยิบของที่มุมห้อง
“กูกลับก่อนนะ”
“อืม”
“มึงโกรธอะไรกูป่ะ”
“เปล่านี่”

มันจะต้องมีอะไรแน่ๆ แต่ผมจะไม่มีทางได้รู้เลย เพราะมันคงไม่บอก จากวันนี้ไปผมคงถึงตัวมันได้ไม่ง่ายอีกแล้ว ความสนิทที่เราเคยมี แม้ตอนนี้ความเป็นเพื่อนก็คงไม่เหลืออีกแล้ว ผมคิดในใจ

แต่มันอาจจะเหนื่อยมั้ง ก็เลยพูดกับผมน้อย ดังนั้นผมเดินออกมาจากหอไอ้เดช โดยที่ไม่ได้ถามอะไรอีก

ผมออกมารอรถเมล์กลับบ้าน โดนแม่สวดไปตามระเบียบ ข้อหาหายไปหลายวันแล้วยังไม่รีบกลับบ้าน อาบน้ำกินข้าวเสร็จผมเข้านอนทันที เพราะผมเหนื่อยจากการเดินทาง

เช้าวันรุ่งขึ้น ผมทำทุกอย่างเป็นปกติ ผมพยายามชะเง้อมองหามัน ทั้งตอนเข้าแถว และตอนพักกลางวัน ปรากฏว่าผมไม่เห็นมันเลยแม้แต่เงา มันไปไหนก็ไม่รู้ ปกติอย่างน้อยมันจะต้องเดินออกมาให้ผมเห็นหน้าอยู่บ้าง แม้ว่าก่อนที่ผมตะรู้จักมัน มันเองก็มาเดินให้ผมเห็นหน้าอยู่บ่อย ๆ

หลังเลิกเรียน ผมเดินไปหามันที่ห้อง หวังว่าจะได้เจอมันมั่ง แต่แล้วก็เจอแค่ไอ้เต้

“เต้ เดชไปไหนวะ” - ผมถามไอ้เต้
“กลับไปแล้ว”
“นานยังวะ”
“ก็ตั้งแต่โรงเรียนเลิก”
“เหรอ”
“มึงมีไรกับมันป่ะ” - ไอ้เต้ถามผม
“อ่อเปล่า แล้ววันนี้มันพูดอะไรกับมึงป่ะ”
“ไม่เลยว่ะ มันดูซึม ๆ ยังไงไม่รู้ บอกไม่ถูก”
“เหรอ”
“เออใหญ่ เดี๋ยวไอ้เข้มไปล้างรูปวันนี้ แล้วพรุ่งนี้มึงมาดูรูปกันนะ”
“เออ ขอบใจว่ะ มึงยังไม่กลับบ้านอีกเหรอ” - ผมถามไอ้เต้
“เดี๋ยวว่าจะกลับแล้วแหล่ะ กลับด้วยกันเปล่า”
“ไม่เป็นไรว่ะ เดี๋ยวว่าจะไปเล่นเกมส์”
“เออโชคดีไอ้ใหญ่”

หมายความว่า วันนี้ทั้งวันมันก็ไม่พูดกับใคร มันตั้งใจจะหลบหน้าใครซักคนงั้นเหรอ คนนั้นเป็นใคร ต่าย หรือ ผมเอง สิ่งที่มันกำลังคิดอยู่ตอนนี้คืออะไร 

“มึงคิดอะไรอยู่วะเดช” – ผมพูดกับตัวเอง



“ใหญ่ ไปยังวะ”
“ไปดิ โทษทีที่ให้รอ”
“เออ” – ผมเก็บของที่เหลือทั้งหมดใส่ลิ้นชักใต้โต๊ะ แล้วเดินตามไอ้ไม้ไป
“มึงไปทำไรที่ห้อง 8 เมื่อกี๊วะ” - ไอ้ไม้ถามผม
“ไปหาไอ้เดช กูจะไปถามว่าได้รูปหรือยัง” – ผมโกหกไอ้ไม้
“ไปหามันบ่อย ๆ นี่มึงชอบมันป่ะเนี๊ย” - ไอ้ไม้แซว แต่ทำไมใคร ๆ ก็ชอบแซวผมเรื่องนี้จังวะเนี๊ย
“ป้าบ...........” – เสียงรองเท้านันทางประทับลงบนตูดไอ้ไม้
“ไอ้เดชมันยอมแพ้แล้วเหรอ” - ไอ้ไม้ถามผม
“ไม่รู้มัน ทำไมเหรอ”
“ก็มึงบอกกูเมื่อวานว่า คู่แข่งไม่ค่อยพร้อม”
“ก็.........ยังไงดีล่ะคือ.............. (ผมเล่าเรื่องที่เดชมันจะถอนตัวให้ไอ้ไม้ฟัง)”
“จริงเหรอวะ”
“กูจะโกหกทำเชี่ยไรล่ะ ไอ้ไม้”

ผมเล่นเกมส์กับพวกมันซักพัก ก็กลับบ้าน ผมทำทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยผมจึงโทรไปหาไอ้เดช

“เดชเหรอ ใหญ่นะมึง”
“มีไรวะ”
“มึงเป็นไรป่ะวะ วันนี้กูไปถามไอ้เต้ มันก็บอกว่ามึงซึม ๆ”
“กูไม่ได้เป็นไรซักหน่อย”
“แล้วเดชคนเดิมไปไหนซะล่ะ”
“ก็คุยกับมึงนี่ไง แล้วมึงมีธุระอะไรกับกูป่ะ”
“ธุระน่ะเหรอ ไม่มีหรอก แต่กูอยากโทรหาเพื่อนกู”
“กูเป็นเพื่อนมึงเหรอ”
“อ้าวยังไงล่ะเนี๊ย”
“กูเป็น....กับมึง อืม คงงั้นมั้ง”
“หรือมึงไม่อยากเป็นเพื่อนกับกู”
“ถ้ามึงจะคิดอย่างงั้น”
“....................”
“แล้วที่โทรมานี่ไม่มีธุระอะไรใช่ป่ะ”
“ใช่ ไม่มีแล้ว เราไม่มีอะไรจะพูดกับนายอีก”

บางครั้งคำพูดคำเดียว ที่บ้างครั้งเจ้าตัวอาจจะตั้งใจ หรือไม่ตั้งใจก็ตาม มันก็ทำให้อีกฝ่ายหนึ่งคิดได้ไปไกลเหมือนกัน ผมไม่รู้ว่าการที่มันพูดว่า “ถ้ามึงจะคิดอย่างงั้น” มันหมายความว่า มันไม่อยากเป็นเพื่อนกับผมจริง ๆ หรือว่าแค่อารมณ์ตอนนั้นที่ทำให้มันพูดออกไป ผมพยายามจะคิดเป็นอย่างหลัง แต่ผมทำไม่ได้

เท่านั้นแหล่ะ น้ำตาก็เริ่มไหลออกมาอย่างไม่มีสาเหตุ

หมายความว่าตลอดเวลา 3 เดือนกว่า ๆ ที่เรารู้จักกัน มันเป็นเพียงฝันของผมงั้นเหรอ ผมฝันว่าผมมีเพื่อนที่ดีที่สุด ฝันว่าผมได้รักกับมัน ฝันว่าวันนึงมันจะเห็นคุณค่าของผมบ้าง ไม่ต้องการให้รักตอบ แต่เมื่อความจริงคือ มันกำลังจะไปจากผม เพราะมันไม่มีความจำเป็นที่จะต้องคุยอะไรกับผมอีก คิดไปก็เหมือนกับทางผ่านแหล่ะ

วันนั้นทุกอย่างไม่ควรเกิดขึ้น อดีตมันกลับไปแก้ไขไม่ได้ ถ้ารู้อย่างงี๊ผมไม่น่ายุ่งกับมันเลย

เช้าวันรุ่งขึ้น ผมไปโรงเรียนตามปกติ เมื่อผมมาถึงหน้าห้อง เพื่อนผมมันก็บอกว่า ไอ้เข้มให้ไปหาที่ห้อง ผมรับคำแล้วก็วางกระเป๋า เดินไปห้อง 8 ทันที

“ไอ้ใหญ่ มาเลย มาดูรูป” – ไอ้โสเอ่ยปากชวนผม
“ถ่ายมากี่ม้วนวะ”
“4 ม้วน” - ไอ้เข้มตอบ”
“เชี่ย มึงดูรูปนี้ เทพ ๆ ลอยน้ำได้” – เสียงไอ้เดชเอ่ยชื่นชมรูปตัวเองที่ถ่ายตอนกระโดดจากหลังเพื่อนกลางทะเล
“ตัวแม่งก็หนัก ให้กูเป็นฐานโดดน้ำอีก” - ไอ้เล็กบ่น
“เชี่ย บ่นจังมึงน่ะ” – ไอ้เดชบ่นๆ

ผมนั่งดูรูปของผมไปเรื่อย ๆ รูปของผมมีน้อยคับ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นรูปพวกมันที่ชอบเสนอหน้า (กันหมด) เว้นแต่ผมกับไอ้โสที่ไม่ค่อยจะมีรูปกับเขามากนัก ดูรูปไปก็หันไปมองพฤติกรรมของไอ้เดชไป ไอ้เดชกลายเป็นคนปกติเรียบร้อยแล้วคับ แต่ว่ามันก็ยังไม่สนใจผมอยู่ดี

ผมดูรูปเสร็จก็กลับไปที่ห้อง ไม่ได้สนใจอะไรอีก

ผมรู้สึกปั่นป่วนมาทั้งวัน ก็ไม่ใช่อะไรหรอกคับ อาจารย์เล่นสั่งงานอย่างกับจะไปออกรบอย่างงั้นแหล่ะ ภาษาไทย อังกฤษ แม้กระทั่งวิชาที่ไม่ควรจะมีงานมากมาย เช่นสุขศึกษา ยังมีงานเข้ามาเลย

ถึงตอนเย็นแล้ว ได้เวลาที่ผมจะกลับบ้านซักที แต่วันนี้ผมต้องไปเรียนพิเศษ กับใครน่ะเหรอคับ ก็ต่ายล่ะสิ คือต่ายบอกผมตั้งแต่กลางวันแล้วคับว่าวันนี้ต่ายจะไปเรียนพิเศษด้วย อ่ะ...อยากไปก็ไป ดังนั้นพอถึงตอนเย็นผมต่าย และก็เพื่อนผมอีก 2 คนก็นั่งรถไปด้วยกันที่สยาม ระหว่างทางผมขอแยกกับเพื่อนไปซื้อขนม เหมือนโบวืจะรู้หรือยังไงก็ไม่รู้ ต่ายขอตัวมาคุยกับผม

“ยังไม่เล่าเรื่องที่ไปเที่ยวมาเลยนะ”
“ก็...เห็นต่ายยุ่ง ๆ แล้วเราก็ไม่รู้ว่าต่ายจะสนใจฟังหรือเปล่า”
“สนสิ เพื่อนเราทั้งคน”
“ก็หนุกดีนะ ถ้าไม่ติดว่าไอ้เดชมันงี๊เง่าไปบ้าง” – คือจริง ๆ แล้ว trip นั้นน่ะผมงี๊เง่ากว่ามันอีก
“ยังไง”
“ต่าย เดชมันจะเลิกจีบแกแล้วนะ”
“ว่าไงนะ !!!!!!!!!”
“เออ ไอ้เดชมันจะไม่จีบแกแล้ว”
“แกอย่าบอกนะว่า มันจะจีบแกแทนน่ะ” - ต่ายพูดพร้อมกับหัวเราะ
“ไอ้บ้า” – ถ้าไม่ติดว่าเป็นผู้หญิง ต่ายโดนผมเตะตูดไปแล้ว
“ล้อเล่น ๆๆ แล้วสรุปว่ายังไงเนี๊ย” - ต่ายถาม
“ก็อย่างที่บอก ว่าไอ้เดชมันเลิกจีบแกแล้วแหล่ะ”
“มันบอกป่ะว่าทำไม” – ต่ายถามด้วยความสนใจ ความสวยของต่ายคงไปทำร้ายใครหลายๆ คน
“มันบอกว่าเหนื่อย เห็นไอ้ไม้ตามแกทุกที แกก็ยังไม่ยอมใจอ่อน”
“แสดงว่า มันเองก็ไม่ค่อยจะตั้งใจจีบเราซักเท่าไหร่”
“คงงั้นมั้ง”

“ใหญ่ แล้วตัวแกล่ะ”
“ตัวเรา ยังไง” – ผมงง เลยถามต่ายกลับไป
“แกยังชอบเดชอยู่ใช่ป่ะ”
“ตอนนั้นน่ะใช่ แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้วว่ะ”
“ทำไมล่ะ”
“เรารักมันแล้วอ่ะดิ”
“เฮ้ย!!!!!” - ต่ายตกใจเล็กน้อย
“อืม เรารักมัน แต่มันไม่ได้รักเราอย่างที่เราคิดกับมันหรอก”
“.............”
“เราคงจะเป็นแค่เพื่อนกันเท่านั้นแหล่ะ”
“แกไม่เจ็บเหรอ” - ต่ายถามอย่างเป็นห่วง
“แล้วเราจะทำอะไรได้มากกว่านี้ล่ะ”
“เราไปบอกมันให้ป่ะ”
“แกกับไอ้เดชคุยกันไม่กี่ครั้งนั่นน่ะนะ จะไปคุยกับมัน เฮ้อ!!!!”
“เออว่ะ ลืมไป” – ต่ายเกาหัวเล็ก ๆ ผมก็อดหัวเราะไม่ได้
-----------------
ปอลอ.
เดี๋ยวละลงแดงไปกันซะก่อน  :m23:
เอาเป็นว่า ก็คงจะเกือบ ๆ โค้งสุดท้ายแล้วนะคับท่านผู้อ่านที่เคารพ
2-3 ตอนหน้าก็คงจะถึงบทสรุปซักที
คิดว่าจบยังไงก็เดากันเล่น ๆ นะคับ

ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
55555555 สุดท้ายทนแรงกดดันไม่ไหวเอาตอนใหม่มาลงจนได้ เฮ้อ เดชนี่จะเอาไงแน่เนี่ย มาทำนู๋ใหญ่ของป้าเจ็บหัวจาย เดี๋ยวเต๊อะ  :angry2:

ไม่อยากเดาตอนจบอะ แค่ชื่อเรื่องก็ทำเสียว(?)มาตั้งแต่แรกละ รออ่านตอนต่อไปดีก่า  o7

maabbdo

  • บุคคลทั่วไป
ยังไงกันนี่  เดชทำไมทำแบบนี้ล่ะ

 o2 :a5: :a6:

marchmenlo

  • บุคคลทั่วไป
อ้างถึง
บางครั้งคำพูดคำเดียว ที่บ้างครั้งเจ้าตัวอาจจะตั้งใจ หรือไม่ตั้งใจก็ตาม มันก็ทำให้อีกฝ่ายหนึ่งคิดได้ไปไกลเหมือนกัน

เห็นด้วยกับประโยคนี้น่ะ ถ้าเป็นเรา เราก็จะคิดว่าเราหมดประโยชน์ไปแล้ว เมื่อมันไม่ได้จีบต่ายต่อ เราก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องพูดด้วย .........เจ็บโคตร o12

ออฟไลน์ Just let it be

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 979
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0

ออฟไลน์ ~NeMeSiS_PURE~

  • 행 복 하 길 바 래 ...
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2009
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +196/-2

pickki_a

  • บุคคลทั่วไป
48
 :undecided:
“ใหญ่ แล้วแกจะทำไงต่อไป” - ต่ายถามผม
“ก็ไม่รู้ว่ะ ต่าย พูดตรงๆ ว่าตอนนี้มันเลวร้ายมาก ๆ มันไม่พูดกับเรามาหลายวันแล้ว โทรไปก็ไม่ค่อยคุยด้วย อ้างโน่นนี่”
“แกรักเดช หรือแกหวงเดชวะ”
“ก็ไม่รู้สินะ เพราะเหมือนว่า ยิ่งรักมาก ก็ยิ่งหวงมาก ห่วงก็ห่วง”
“............”
“คือเหมือนมันเคยมาเป็นส่วนหนี่งของชีวิตว่ะต่าย เคยคุยโทรศัพท์กันนานนาน เคยเดินเล่น อยู่โรงเรียนจนเย็น ๆ กินข้าวทุกเย็น แล้วอยู่ดีๆ มันก็มาเป็นอย่างงี๊น่ะ เราเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไม เราก็เลยเหมือนกับว่ามันขาดอะไรไป”
“แกก็กลับไปอยู่กับพวกไอ้ไม้เหมือนเดิมดิ”
“เราพยายามแล้วนะต่าย เวลาอยู่กับไอ้ไม้ พยายามไม่คิด พยายามไม่นึกถึงเวลาเราเดินผ่านห้อง 8 แต่เราก็ทำไม่ได้ เล่นเกมส์กับไอ้ไม้ ไอ้บอล แต่ทำไมก็ไม่รู้ สมาธิมันไม่มี นึกถึงตลอดเวลาว่าเวลานี้ตอนนั้นเรากำลังทำอะไรอยู่กับมัน”
“เราช่วยอะไรแกได้มั่งป่ะ” - ต่ายถามด้วยความเป็นห่วง
“ไม่ล่ะต่าย ขอบคุณ เราว่าปล่อยให้มันเป็นอย่างงี๊เหอะ”



แล้วสุดท้ายเวลาก็ผ่านไป ผ่านไปจนถึงต้นเดือนกันยายน เป็นเวลาที่ผมจะต้องไปสอบคัดเลือกเข้าค่ายโอลิมปิกวิชาการ แบบว่าโดนอาจารย์เลือกโดยไม่เต็มใจไปนัก ซึ่งก่อนไปมันก็ควรจะมีการเตรียมตัวเตรียมใจด้วย เพราะข้อสอบมันก็คงจะยากพอสมควร แต่ก็ไม่ถึงขนาดที่ว่าจะต้องไปเรียนพิเศษเพื่อให้สอบติดอะไรหรอก เอาเป็นว่าไปเพื่อโรงเรียนมากกว่า

เช้าวันอาทิตย์ เป็นวันที่ผมต้องไปสอบ ผมนัดกับเพื่อนอีกคนที่อนุเสาวรีย์ชัยเพื่อจะเดินทางไปสนามสอบแถวหน้า ม.ราม เช้าวันนั้นเป็นวันที่ไม่ต้องรีบร้อนอะไรมาก ผมจึงไปถึงที่นัดกันเร็วกว่าปกติ มาก่อนตั้งครึ่งชั่วโมง ผมไม่รู้จะไปไหนเลยนั่งรอที่ป้ายรถเมล์เลยแล้วกัน

เมื่อรถเมล์คันหนึ่งเทียบเข้าป้ายตรงหน้าผม รถเปิดประตู ผู้โดยสารต่างก็แย่งกันลง ตอนแรกผมก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมากหรอกคับ ก็แค่คนรถเมล์ แต่ด้วยจังหวะที่ผมหันไปมองผมเห็นคนรู้จักคนหนึ่ง

ไอ้เดช



ใช่แล้วคับ ไอ้เดชลงจากรถเมล์สายนั้น เพื่อไปเรียนพิเศษรอบเช้าวันอาทิตย์ที่อนุเสาวรีย์ ผมกำลังจะเดินเข้าไปทักมัน สายตาแวบหนึ่งของมันก็เหลือบมามองเห็นผมพอดี แล้วมันก็วิ่งหนีผมไป

“สงสัยจะรีบ” – ผมคิดในใจ แต่นิสัยของมันไม่ใช่คนแบบนี้นะ เท่าที่ผมรู้ ถ้ามันเจอใครรู้จัก มันจะทักอย่างเสียงดังและนานมาก “แสดงว่ามันจงใจหนีกู” – ผมคิดในใจอีก แต่ก็เป็นไปได้ เวลาผ่านไปครึ่งเดือนแล้วเราไม่เคยโทรหากันอีกเลย ตั้งแต่มันเลิกจีบต่าย มันก็ไม่มาสนใจผมอีก สิ่งที่มันเคยบอกว่า ต่ายกับผมเป็นคนละคน จะไม่เอามาเกี่ยวข้อง

สุดท้ายมันก็ไม่จริง คนเราถ้าไม่มีผลประโยชน์จะมายุ่งด้วยทำไม

สรุปแล้วผมรักมัน จนอยากเป็นเจ้าของมัน อย่างที่ต่ายว่าจริงๆ ด้วย

เวลาสอบสิ้นสุดลงที่เวลาเที่ยงตรง สรุปแล้ววันนั้นผมไปสอบ แต่ไม่มีจิตใจจะสอบแม้แต่น้อย ฝนกระดาษคำตอบให้มันจบ ๆ ไป ดูแตกต่างจากคนอื่นที่เขามีความมุ่งมั่นในการสอบแข่งขันครั้งนี้

“มึงทำได้มั่งป่ะวะ” - ผมถามเพื่อนที่ไปสอบด้วยกัน
“ไม่เลย มึงอ่ะใหญ่”
“เช่นกัน”
“กูว่าโรงเรียนเลือกคนผิด ทำไมไม่เอาที่ 1 ของห้องมาสอบวะ มาเอาพวกเรามาสอบทำไม” – เพื่อนผมเสนอความคิด ก็ถูกของมันนะ ทำไมไม่เอาไอ้ที่ 1 ของห้องผมมาสอบล่ะ มันน่าจะสอบได้มากกว่าผมอีก



“คลายเครียดเหอะมึง” - ผมชวน
“ไปไหนดีวะ”
“เดี๋ยวกูโทรหาไอ้ไม้ ให้มันชวนคนอื่นออกมาเล่นวินนิ่งกัน”
“ดีดี ไปไงวะ”
“ก็เดี๋ยวกลับเสาวรีย์ก่อน แล้วค่อยไปโรงเรียน” – ผมเสนอ



แล้วเราสองคนก็จับรถเมล์สายหฤโหดมายังอนุเสาวรีย์ นึกสภาพว่าตอนนั้นก็มีรถยูโรนะ แต่มันน้อยเหลือเกิน และตอนนั้นค่ารถร้อนก็แค่ 4 บาท แล้วมันก็มาแบบว่าถี่ยิบเลย กะว่าจะรอรถยูโรแต่ก็เอาเป็นว่าไปรถร้อนเหอะ เดี๋ยวจะหมดอารมณ์เล่นเกมไปซะก่อน

รถเข้าป้ายที่อนุเสาวรีย์แล้ว คนก็แย่งกันลงแย่งกันขึ้น (ใครใช้รถเมล์สาย ม.ราม - อนุเสาวรีย์คงนึกออกนะคับ) กว่าผมจะเบียดลงมาได้ก็ใช้เวลาพอสมควร จังหวะที่ผมหันไปลง มองทางขวา หวังว่าจะมีรถเมล์ที่ผ่านหน้าโรงเรียน

ทางขวาผมไม่ใช่รถเมล์ไปโรงเรียน แต่เป็นไอ้เดช ผมขอตัวจากเพื่อนผมเดินเข้าไปทัก

“กลับบ้านเหรอมึง”
“เออ”
“ไม่ไปเที่ยวไหนเหรอ”
“ไม่ล่ะ”
“จะสอบปลายภาคแล้วนี่ อ่านหนังสือยังล่ะ”
“ยัง”
“มีไรให้กูช่วยเหมือนตอนกลางภาคป่ะ”
“ไม่มี”
“งั้นกูขอตัวก่อนละกัน”
“................”



แม้แต่จะพูดมันยังไม่หันมามองหน้าผมเลยคับ ผมก็ไม่รู้จะดื้อด้านคุยกับมันต่อไปทำไม เลยขอตัวเดินออกไปหาเพื่อนที่รออยู่ดีกว่า





.
.
.
กาลเวลาล่วงเลยผ่านไปจนถึงสอบปลายภาค วันสุดท้ายของการสอบปลายภาคมาถึง เมื่อผมสอบวิชาสุดท้ายเสร็จ อิสระของผมและเพื่อน ๆ จึงเกิดขึ้น ไอ้ไม้และเพื่อน ๆ ก็พากันไปเล่นเกมกัน แต่ก่อนหน้านั้นจะต้องไปเดินห้างแก้เครียดกับเพื่อนผู้หญิงก่อน ก็เช่นเดิมคือ ไอ้ไม้ก็จะตามติดต่ายไม่เลิก

ระหว่างที่กำลังชุลมุน กับการเดินดูโน่นนี่

“ใหญ่ๆ แกคุยกับเดชมั่งป่ะ” – ต่ายถามผม
“ไม่เลย”
“ตอนนี้เดชมันมาคุยกับเราแล้วนะ”
“มันกล้ามาคุยกับแกเองเลยเหรอ” – ผมงงสิ เพราะไม่คิดว่าไอ้เดชจะกล้า
“ใช่”
“อืม...........ก็ดีแล้วนี่” – ผมบอกต่ายอย่างเรียบๆ
“แต่มันไม่ได้จีบเราแล้วนะ มันแค่อยากเป็นเพื่อนกับเราน่ะ”
“เหรอ”
“ใช่ๆ มันแค่จะเป็นเพื่อนเรา”
“ก็คงจะดีแล้วล่ะต่าย มีเพื่อนเยอะๆ”
“จ้า........พระเอก”
“อย่ามาแซว ไม่มีอารมณ์ว้อย” – ผมค้อยใส่ต่ายไปทีนึง
.
.
.
“ต่าย มันเป็นเพื่อนกับแกนานยัง” - ผมถามต่าย
“ก็เกือบสองอาทิตย์แล้ว”
“อืม”
“ทำไมเหรอ”
“ไม่มีไรหรอกต่าย”
“เอาจริง ๆ มีไรหรือเปล่าใหญ่”
“เปล่า ก็แค่คิดดู มันก็เป็นช่วงที่เราเริ่มไม่คุยกับมัน ก็เป็นช่วงเดียวกับที่มันเริ่มคุยกับแก”
“แกโกรธเราป่ะใหญ่”
“จะโกรธทำไมล่ะ เราเป็นเพื่อนแกนะ”
“แล้วเดชล่ะ”
“เดชเหรอ เอ่อ คือ เราคงหยุดไว้แค่นั้นแหล่ะ ให้มันเป็นเส้นขนานไปตลอดเถอะ เราไม่อยากฟื้นความหลังอะไรอีกว่ะ”
“............”
“ชีวิตเราถือว่าเราได้เรียนรู้ความรักก็แล้วกัน”
“โห ซึ่งอ่ะใหญ่ แสดงว่าแกรักเดชมาก”
“ก็รักมาก ก็เจ็บมาก เป็นแกก็คงลืมไม่ลงง่าย ๆ หรอก”
“เราเองก็ยังไม่สบายใจนะใหญ่”
“ไม่เกี่ยวกับแกเลยต่าย เราต่างหากที่พลาดเอง ไปรักคนอย่างมัน ทั้ง ๆ ที่แกก็เห็น แต่เราก็แพ้มัน”
“เราขอโทษ”
“ไม่หรอกต่าย แกไม่ผิด”
“แต่เราก็...............”
“มีไรกันวะ” - ไอ้ไม้เดินเข้ามาเหมือนหมาหวงก้าง
“ไม่มีไม้ ไม่มี” – ต่ายตอบไอ้ไม้ไป ผมยืนอยู่นิ่ง ๆ

ต่ายเป็นคนที่แคร์ความรู้สึกของคนรอบข้างมาก ๆ แสดงว่าการที่ผมห่างจากไอ้เดชไป ต่ายเองก็ไม่สบายใจเช่นกัน แต่ผมเองก็ไม่คิดหรอกว่าต่ายผิด ผมเองที่ผิด  ผิดที่ไปรักคนที่มันเป็นไปไม่ได้
------------------

ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
ผมเองที่ผิด  ผิดที่ไปรักคนที่มันเป็นไปไม่ได้

o7  กำลังจะไปนอนแล้วเชียว ดันมาเจอประโยคชวนปวดใจซะก่อน 

ถ้าคืนนี้ป้าหลับฝันร้ายจะไปเข้าฝันใหญ่ โทษฐานมาลงบทโศกให้อ่าน หึๆ o3

ออฟไลน์ [N]€ẃÿ{k}uñĢ

  • ~ῲเจ้าแม่Dramaῴ~
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +740/-5
สงสารใหม่จังเลยอะคราบ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






maabbdo

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ Just let it be

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 979
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
รักก็คือรัก

รักใครไม่ใช่ความผิด

 :m15:

marchmenlo

  • บุคคลทั่วไป
:เฮ้อ: ก็ได้แต่หวังว่าคงไม่เป็น เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดก็แล้วกัน

pickki_a

  • บุคคลทั่วไป
เรียนท่านผู้อ่านที่เคารพ :m23:

ตอนหน้าจะเป็นตอนสุดท้ายแล้วนะคับ
คาดว่าอีกไม่นานจะเอามาปล่อยนะคับ :a5:

จะไม่เอามาเป้นตัวอย่างตอนต่อไปนะคับ เพราะเดี๋ยวรู้ไต๋
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-11-2008 22:31:40 โดย pickki_a »

marchmenlo

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
เรียนท่านผู้อ่านที่เคารพ :m23:

ตอนหน้าจะเป็นตอนสุดท้ายแล้วนะคับ
คาดว่าอีกไม่นานจะเอามาปล่อยนะคับ :a5:

จะไม่เอามาเป้นตัวอย่างตอนต่อไปนะคับ เพราะเดี๋ยวรู้ไต๋



แอร๊ยยยยยยยส์ จะจบแล้วจริงๆเหรอ แง้ว ต่อไปป้าก็คิดถึงแย่เลยดิ  :m15:
(ไม่อยากทำร้ายจิตใจผู้สูงอายุกว่้าก็รีบเอาตอนต่อไปมาลง และต่อด้วยเรื่องใหม่ด้วย ขออย่างไว!!!! :a1:)

maabbdo

  • บุคคลทั่วไป

kongkilmania

  • บุคคลทั่วไป
 :เฮ้อ: เซ็งเดชอย่างแรง
ตอนหน้าจะจบแล้วเหรอน้องใหญ่   :serius2:
แล้วจะเคลียร์ไม๊เนี่ย  คาใจอ่ะ
เดชมานคิดไรอยู่กันแน่ว้า.....

pickki_a

  • บุคคลทั่วไป
49
 :freeze:
ปิดเทอม 1 เดือนที่ผ่านมา ผมพยายามที่จะลืมทุกสิ่งที่เกี่ยวกับเดช ผมตื่นเช้าขึ้น ไปเรียนพิเศษเช้ายันเย็นในช่วงแรก ส่วนช่วงหลังผมได้รับข่าวดี ว่าที่ผมไปสอบโอลิมปิกวิชาการนั้น ผมสอบติด (ตอนที่ประกาศผลสอบ ผมเองกับเพื่อนก็งงเหมือนกันว่าติดได้ไง ต่างคนก็ทำไม่ได้ทั้งคู่ แล้วเราก็หัวเราะ) ดังนั้นผมจึงต้องไปเข้าค่ายเก็บตัวรอบที่ 1 เพื่อสอบเข้ารอบที่ 2 เป็นเวลา 20 วัน ซึ่งก็เป็นช่วงเวลาที่จะได้เจอเพื่อนใหม่ สถานที่ใหม่ และต้องตื่นเช้ากลับเย็น ดังนั้นเรื่องไอ้เดชจึงไม่มารบกวนหัวใจผมอีก

หลังจากผมกลับจากค่าย ซึ่งโรงเรียนเปิดไปแล้ว 3 วัน ผมจึงกลับมาที่โรงเรียน สิ่งแรกที่ผมเห็นที่โรงเรียน และเป็นสิ่งที่ผมเสียใจมากที่สุดก็คือ ผมเห็นเดชเดินลงมาจากตึกที่เรียนกับพวกไอ้เต้ และเพื่อนๆ ทุกคนยังคงทักผมเช่นเดียวกับปกติ ยกเว้นไอ้เดช ที่มันเองก็ยังไม่มองแม้แต่หน้า ผมมองเข้าไปแล้วผมไม่อยากจะคิดอะไรถึงมันอีก ภาพเก่า ๆ มันย้อนกลับมา ภาพที่ผมเคยเดินกับมัน สิ่งที่เราเคยบอกว่าเราจะเป็นเพื่อนกันไปตลอด

บัดนี้มันไม่มี ไม่มีอีกแล้ว

“คิดไรวะ รกสมอง” – ผมพูดคนเดียว




หลังจากที่ผมขึ้นห้องเรียน ทุกคนต่างถามเช่นเดียวกันว่า แกไปสอบติดได้ไง แล้วไปทำอะไรบ้าง ผมก็เล่า ๆ ไปตามเรื่องตามราว แต่ไอ้หัวหน้าห้องมันสนใจเป็นพิเศษ มันถามทุกรายละเอียดจริง ๆ แม้กระทั่งตอนที่ผมไปอยู่ค่าย ก็โทรหาเกือบทุกวัน ผมก็ต้องเหนื่อยเล่าให้มันฟังอีกแล้ว

หลังจากคาบพักกลางวัน ผมเดินลงไปกินข้าวกับพวกไอ้ไม้ ก็คงเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว กินด้วยกันมากี่ปีแล้วล่ะ แต่พักกลางวันนั้นไม่เหมือนพักกลางวันอื่น ๆ ตรงที่หลังจากพักเสร็จ ผมเดินขึ้นมาบนห้อง และสิ่งที่ผมเห็นตรงหน้าห้องเรียนของผมก็คือ ต่ายนั่งคุยอยู่กับเดช

“หมายความว่าไงวะใหญ่ ตรงหน้ากูน่ะ” – ไอ้ไม้ถามผม อย่างมีอารมณ์โมโห
“กูเองก็ไม่รู้” - ผมก็โมโหเช่นกัน
“ไหนบอกว่ามันจะไม่ยุ่งกับต่ายแล้วไง”
“กูเองก็ไม่รู้ มึงเข้าใจป่ะ กูไม่รู้” – ผมโมโหมาก เผลอพูดเสียงดังออกไป
“มึงเป็นไรวะใหญ่” - ไอ้ไม้ถาม
“เปล่า”

ผมเดินผ่านไป ก่อนที่ผมจะเดินเข้าห้อง

“ใหญ่”
“อะไรเหรอ”
“เดชจะคุยกับแก” - ต่ายยิ้มให้อย่างอารมณ์ดี
“แต่เราไม่มีอะไรจะคุยกับมัน” – ผมพูดจบก็เดินหันหลังเข้าห้องทันที สังเกตสีหน้ามันครั้งสุดท้ายก่อนเข้าห้อง มันเปลี่ยนจากสีหน้าที่มีความหวังเป็นหน้าสลด แต่ผมเองก็ใม่สนใจมันหรอกคับ

“ไอ้ไม้ ไอ้เชี่ยไม้” – ผมตะโกนเสียงดัง กะให้หน้าห้องได้ยิน
“อะไรวะ” – มันเองก็เสียงดังเช่นกัน เพราะมันนั่งพิงกำแพงหน้าห้องอยู่
“ถ้าจะแดกก็รีบ เดี๋ยวหมามันคาบไปแดกหมดแล้วมึงจะอด” – ผมพูดเสียงดังมาก ๆ พูดไปก็มองไอ้สองคนนั้นที่นั่งอยู่หน้าห้อง





หลังจากที่ผมพูดจบซักพักต่ายก็เดินเข้ามาหาผม
“ใหญ่ แกทำอย่างงี๊ทำไม” - ต่ายถามผม
“เราทำไรล่ะ”
“เรื่องเดช”
“ก็ไม่มีอะไรจะคุยกับมันนี่หว่า”
“มันมาปรึกษาเรา ว่าทำไมแกไม่คุยกับมัน” – ต่ายออกแนวเป็นห่วงเดชเล็ก ๆ
“แกห่วงมันเหรอ”
“ก็เปล่าหรอก ตอนนี้เรากับมันก็เป็นเพื่อน แล้วเพื่อนกับเพื่อนไม่คุยกัน เราก็ไม่สบายใจ”
“ก็ต่ายไม่ลองถามมันดูล่ะ ที่ว่ามันไม่คุยกับเราก่อน เพราะอะไร”
“มันบอกว่า ก็แกไม่คุย”
“เราคุยกับมันก่อนนะต่าย แต่ว่าตอนนั้นน่ะ ทำไมไม่คุยกับเรา”
“มันบอกว่า มันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน”
“อืม งั้นเราก็คงบอกได้ว่า เราเองก็ไม่รู้เหมือนกัน”
“มันเครียดมากเลยนะใหญ่” - ต่ายยังคงแสดงความเห็นใจให้เดช
“แล้วทีเราล่ะ มันเคยคิดบ้างป่ะ”
“เราไม่รู้นะว่ามันทำไรแกไว้ แต่แกจะยกโทษให้มันได้ป่ะ”
“ขอไม่ตอบตอนนี้แล้วกันนะต่าย”
.
.
.
.
ตอนเย็นหลังเลิกเรียน
“ใหญ่ ใหญ่ รอด้วย” – ไอ้เดชเรียกผม ผมแกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน
“..............”
“ไอ้ใหญ่ แฮ็ก ๆ  ๆ ” - มันคงเหนื่อยจากการวิ่งตามผม
“มีธุระอะไรกับเรางั้นเหรอ” – ผมถามเสียงเรียบ ๆ
“จะไปไหนเหรอ”
“ธุระ”
“ธุระอะไรล่ะ”
“ธุระส่วนตัว” - พูดเสร็จผมกำลังจะเดินหนี
“แกเป็นอะไรวะ”
“ไม่นี่ ไม่ได้เป็นไร”
“แล้วแกทำอย่างงี๊ทำไม”
“เราทำอะไรเหรอ”
“ไหนบอกว่าเราจะเป็นเพื่อนกันไงล่ะ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น”
“เหรอ เหมือนว่า...เราจำไม่ได้”
“เพราะ............”
“แกทำอย่างงี๊กับเราก่อนนะ”
“เราขอโทษ ไม่รู้ตอนนั้นเราเป็นอะไร เราสับสน เหมือนว่า บางที.......เราเองก็เหมือนจะรักเพื่อนอย่างแกมากเกินไป”
“เหรอ”
“แกจะให้อภัยเพื่อนคนนี้ได้ป่ะ”
“แกไปคิดดูดี ๆ ก่อนละกันนะ บางที คนอย่างเราไม่สมควรจะเป็นเพื่อนแกหรอก ไม่สมควร จริง ๆ”
“เอ่อ..............”
“ขอตัวก่อนนะ” – ผมเดินออกจากตรงนั้นทันที





ผมเสียใจมากที่พูดอย่างงั้นออกไป แต่อย่างน้อยสิ่งที่ผมอยากให้มันรู้ก็คือ ช่วงที่มันทำกับผม อยากให้รู้ว่าผมรู้สึกยังไง แม้ว่ามันอาจจะไม่เท่ากับที่ผมรู้สึก เพราะมันไม่ได้รักผม แต่ผมรักมัน

และสิ่งที่ผมทำ ก็เป็นสิ่งสุดท้ายที่ผมคุยกับมัน เพราะหลังจากวันนั้น เราสองคนก็เหมือนคนที่ไม่รู้จักกัน ยอมรับว่าช่วงนั้นผมร้องไห้บ่อยมาก บอกตัวเองทุกครั้งว่าพอแล้ว พอซักที แต่พอเห็นหน้ามันอีกครั้ง ผมก็ทำใจไม่ได้ เดินก้มหน้าก้มตา แล้วก็เก็บเอามาคิดมากคนเดียว

คาบเรียนวิชาคณิตศาสตร์
“เป็นไรใหญ่” - ต่ายถาม
“..............”
“เป็นไร เงยหน้ามาหน่อย” – ต่ายคะยั้นคะยอ ผมเงยหน้ารับคำ
“เปล่า เราไม่ได้เป็นไร” – นัยน์ตาผมแดง สายน้ำไหลออกจากตา
“ใครทำไรแก”
“เปล่า”
“บอกเรามาดิ”
“แกจะไปทำไรได้วะต่าย”
“ได้สิ เราจะไปบอกมันเอง”
“บอกอะไร”
“ทำไมใหญ่ ทำไมแกต้องทำอย่างงี๊”
“เราทำไร”
“แกร้องไห้เพราะเดชใช่ไม๊”
“ใช่ต่าย”
“แล้วทำไมแกไม่คุยกับมันซักที”
“ให้มันจบเหมือนตอนเริ่มต้นเถอะ จะได้ไม่หลงทางอีก”
“...............”




แล้วการเรียนในระดับชั้น ม.5 ก็ใกล้จะสิ้นสุดลง ด้วยการเลือกประธานคณะสี เพื่อทำงานให้กับคณะสีในปีหน้า ซึ่งผมเองอยู่สีเขียว ไอ้เดชอยู่สีฟ้า ต่างคนต่างก็ได้รับเลือกในการเป็นประธานทั้งคู่ วันที่เรียกประชุมประธานคณะสีที่ห้องคณะกรรมการนักเรียนวันแรก ซึ่งเป็นวันที่ยังไม่ปิดเทอม ม.5 เลย เราใช้ห้องคณะกรรมการนักเรียนในการประชุม (โรงเรียนนี้ถือว่า ประธานคณะสีจะต้องเป็นคณะกรรมการนักเรียนไปโดยบริยาย)

ผมเดินเข้าไปห้องคณะกรรมการนักเรียนตามปกติ ซึ่งห้องนั้นผมก็รู้จักกันดี

“มารับตำแหน่งเหรอ” - พี่ส้มเจ้าเก่าแซว
“ตำแหน่งไร ผู้มาสายแห่งชาติอ่ะดิ”
“รู้ตัวด้วยเหรอว่าสายน่ะ”
“ไอ้ยอมันยังไม่มาเลยพี่” – ผมหาข้ออ้าง ไอ้ยอมันเป็นคณะกรรมการเช่นเดียวกับผม และมันก็ได้รับเลือกเป็นประธานสีแสดด้วย
“ไปนั่งกับเพื่อนมึงเลยป่ะ มันมานั่งนานแล้ว” – พี่กลอ์ฟบอกให้ผมไปนั่งกับไอ้เดช ผมเห็นมันเองก็มองหน้าผมเช่นเดียวกัน
“เดี๋ยวผมไปห้องน้ำก่อนนะ ไปตามไอ้ยอมัน”
“ไม่ต้องเลย เดี๋ยวแกก็หายไปอีก ประชุมไม่ได้” – พี่ส้มดักทาง กลัวผมชิ่ง
“พี่เดี๋ยวผมไปเก็บของผมมุมโน่นก่อนนะ” – ผมบอกกับพี่ส้ม ในเมื่อผมหาข้ออ้างไม่ได้ ผมก็อยู่ในห้องนั้นนั่นแหล่ะ แต่อยู่ด้วยกันคนละมุม

แล้วก็เริ่มประชุมกันซักที โดยที่ผมกับมันไม่พูด แม้แต่จะมองหน้ากันก็ยังไม่ทำ จนจบการประชุม เราก็ไม่ได้พูดอะไรกัน

จน ม.6 ครั้งสุดท้ายที่ต้องเจอกัน ก็คืองานกีฬาสี ที่ ม.6 จะต้องส่งท้าย แต่ละสีต่างก็ทำหน้าที่ของตัวเอง ส่วน ม.6 เองก็ไม่ได้ทำอะไรมาก นอกจากประสานงาน และก็เป็นหน้าที่ประธานสีอย่างผมที่จะต้องไปดูแลกิจการงานต่าง ๆ


พอถึงวันแข่งกีฬาสี ประธานแต่ละสีจะต้องถือธงประจำสี แล้วก็เดินสวนสนามแฟนซีกันอย่างสวยงาม และก็มีตอนที่จะต้องให้ประธานสีแต่ละสีมารวมกันตรงกลาง แล้วก็กล่าวคำปฏิญาณ ว่าข้าพเจ้าเป็นนักกีฬาสมัครเล่น อะไรประมาณนั้นน่ะ  แล้วด้วยตำแหน่งอะไรก็ไม่รู้ ผมเองก็ต้องยืนติดกับไอ้เดช

แต่ผมก็ไม่มองหน้ามันหรอก ผมไม่กล้าขนาดนั้น








จนกระทั่งวันสุดท้ายของ ม.6 ผมก็ไม่เห็นมัน แม้แต่เงา


1 ปีกว่า ๆ ที่ผ่านมา ผมไม่เคยลืมแม้แต่วันเดียว แต่ทำไมก็ไม่รู้ คำว่า “ขอโทษ” จากปากมัน ผมเองก็ยังไม่เคยได้ยินเลยจากมัน แม้ว่าผมเองก็รอให้มันมาพูดกับผมตรง ๆ แต่มันก็ไม่ทำ ไม่รู้เพราะผมหรือมันที่ไม่กล้า

ช่วงเวลาสุดท้ายที่เราจะได้เป็นเพื่อนกัน ผมก็ยังทำไม่ได้  เพราะทิฐิของผมเอง





ห้องผมจบ ม.6 ต่างก็แยกย้ายกันไปเรียนตามคณะที่ตัวเองไฝ่ฝัน ผมเองก็สอบเอ็นเข้ามหาลัยของรัฐชื่อดังแห่งหนึ่งได้ ส่วนต่ายก็ไปเป็นวิศวะกรหญิงรั้วเหลืองแดง ไอ้ไม้ก็เตร็ดเตร่แถวมหาลัยใกล้บ้านมัน ส่วนไอ้เดช เท่าที่มีคนบอกมา ก็เข้าไปเรียนวิศวะลาดกระบัง สรุปแล้วมันก็ทำตามความฝันของมันได้ ส่วนเพื่อน ๆ ห้อง 8 ผมไม่รู้ข่าวของใครอีกเลย




ทุกคนต่างก็มีความฝันเป็นของตัวเอง บางครั้งก็อาจจะมีความรัก ความสุข ความเศร้า ความเหงาในวัยเรียนบ้าง แต่เมื่อโตขึ้น ก็จะรู้เองว่าสิ่งใดควร สิ่งใดไม่ควร บางครั้งมาลองนั่งนึกเรื่องราวเก่า ๆ ที่เคยเกิดขึ้นตอนนี้ ก็ยังคิดว่าตัวเองอยู่ ว่าทำไมตอนนั้นไม่คุยกับมันวะ ทุกอย่างจะได้จบ ปล่อยให้ทิฐิครอบงำอยู่ได้  แต่ก็อย่างว่านั้นแหล่ะคับ ตอนนั้นเป็นวัยรุ่น คึกคะนอง ความคิดความอ่านอะไรก็คงไม่เข้าที่หรอกคับ มามองตอนนี้ ก็กว่า 6 ปีแล้ว

“เดช แกยังคงเป็นเพื่อนรักของกูเสมอ”



------------------------------------
ขออุทิศเรื่อง รักดั่งเส้นขนาน ให้กับเพื่อน ๆ ทุกๆคน ที่มีตัวตนอยู่ในโลกของความจริง แม้เขาจะไม่รู้เรื่องราวใด ๆ ที่ถูกนำมาแต่งเป็นนิยาย แต่ขอบอกไว้ว่า ทุกครั้งที่เรานัดเจอกัน ผมก็ยังคงคิดถึงเรื่องนี้เสมอ เพราะมันเป็นประสบการณ์ และความทรงจำที่ดีที่สุดในชีวิตของผม
-------------------------------

ปล. กำลังคิดว่าอาจจะมีตอนพิเศษ ดีป่ะคับ แต่คงไม่ยาวมากนักนะคับ

ออฟไลน์ artday

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด