รักดั่งเส้นขนาน
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: รักดั่งเส้นขนาน  (อ่าน 112553 ครั้ง)

ออฟไลน์ nOn†ღ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-6
น่านนนน... ในที่สุดใหญ่ก็เผลอใจชอบเดชซะแล้ววว

จะเป็นยังไงต่อละเนี้ย รอลุ้นอยู่จ้า  :L2:

joypluss

  • บุคคลทั่วไป
นั่นไงงง  ...... เผยออกมาแล้ว  :o8:

KATHAE*

  • บุคคลทั่วไป
มาแล้วๆ


เค้าลางของความเศร้า ...


เดชอ่า รู้มั้ยเนี้ยๆๆๆ .. ใหญ่เค้าเผลอใจแล้ววว ว

pickki_a

  • บุคคลทั่วไป
ตอนที่ 19
 :a6:
เช้าวันใหม่ สดใส (หรือเปล่าก็ไม่รู้) เป็นปกติสุขของผมที่ผมจะตื่นสาย สายได้สายเอา บ้านก็ใกล้โรงเรียนนะ แต่ก็ไม่ได้ใกล้เกินไป นั่งรถเมล์ไปแป๊บนึงก็ถึงแล้วคับ แล้ววันนี้ก็เป็นอีกวันที่ผมมาสายและต้องเชิญธงชาติ หลังจากปฏิบัติภารกิจผ่านไปเรียบร้อย เช่นเดิมที่ผมก็ต้องเดินกลับไปที่แถว ผ่านแถวของเดช แล้วมันก็บอกว่าให้ไปหา (อีกแล้ว)

“อะไรล่ะ” - ผมถามมัน
“อ่ะ” - มันยื่นซองถุงกระดาษที่ผมคุ้นตาที่สุด
“อีกแล้วเหรอ อย่างอื่นก็ได้นะ”
“มันขายหน้าโรงเรียน ก็นึกไม่ออกว่าคนอย่างมึงจะกินอะไรได้”
“กินจนหน้ากูจะเป็นข้าวเหนียวหมูปิ้งแล้ว มึงเล่นซื้อมาให้กูติดๆกันทุกวัน”
“ถ้ามึงไม่อยากกินข้าวเหนียวหมูปิ้งอีก มึงมาเช้าๆ จะได้มากินข้าวกับกู”
“มึงก็น่าจะรู้ว่ากูมาเช้าได้วันเดียว ที่เหลือกูตื่นสาย”
“หัดตื่นให้มันเช้าๆเดชะ พรุ่งนี้ให้โทรปลุกป่ะ”
“ไม่ต้อง กูตื่นเองได้”
“หรือเมื่อคืนมึงทำการบ้านหนัก”
“มึงนั่นแหล่ะให้กูทำ”
“กูไปให้มึงทำไรมั่ง”
“ซักผ้า ถูพื้น สารพัดอ่ะ กูเหนื่อย เลยตื่นสาย”
“มึงรีบๆกินได้ป่ะไอ้ใหญ่ มัวแต่คุย”
“ใครชวนกูคุยวะ”
“ขอโทษค้าบบบ......”
“เฮ้ย พรุ่งนี้ไม่ต้องซื้อมาแล้วนะ กูจะพยายามมาเช้า เพื่อมึง”
“เพื่อกูเลยเหรอ ขอบคุณ”
“กูเกรงใจ แต่ถ้ามึงไม่ถือสากูก็ดี เพราะกูชอบของฟรี”
“เย็นนี้รอกูอีกนะใหญ่”
“แล้ววันนี้มึงเลิกกี่โมงวะ” - ผมถามเดช
“6โมงเย็นเหมือนเดิม”
“กูว่าวันนี้กูดึกแน่เลยว่ะ พี่แม่งท่าทางจะเครียดๆ เมื่อเช้ากูไปเอาพานไปเชิญธงชาติ ดูวันนี้แม่งอารมณ์ไม่ดี”
“เออ ดึกยังไงกูก็จะรอ ตกลงนะ”

เช้า เที่ยง เย็นผ่านไป ผมเรียนไปตามปกติคับ ไม่มีเรื่องอะไรให้คิดอีกแล้วคับ เพราะเรื่องที่คิดทั้งหมด ผมหาคำตอบให้มันได้แล้วคับ ตั้งแต่เมื่อคืน ผมคิดอยู่หลายรอบ หลายรอบจริงๆ หลายวันที่ผ่านมาผมไม่แน่ใจกับความรู้สึกที่ผมเองมีให้กับเดช จนวันนี้ เดี๋ยวนี้ และตอนนี้ ผมมั่นใจในสิ่งที่ผมคิดแล้ว ว่าผมชอบเดช คับ ผมชอบเดช ไม่ผิดหรอกคับ ผมเองไม่ได้ชอบผู้หญิงมาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เพื่อนบางคนเท่านั้นที่รู้นะคับว่าผมชอบผู้ชาย แต่ผมไม่ได้แสดงออกอะไรให้รู้ว่าผมเป็นเกย์ แล้วผมก็คิดว่า เดชเองก็คงจะไม่ได้รู้อะไรเรื่องนี้ เรื่องที่ผมชอบผู้ชาย และเรื่องที่ว่า ผมชอบมันแล้ว

ผมคงจะไม่บอกความรู้สึกที่ผมมีให้กับเดชหรอกคับ สำหรับผมคิดว่า การที่ผมได้มองเดชอยู่ตรงนี้ ผมเองก็มีความสุขพอแล้วคับ ผมดีใจมากๆที่หาคำตอบให้ตัวเองได้แล้ว สิ่งต่างๆ ที่ผมทำด้วยกันกับเดช ที่ผ่านมา เป็นเพราะผมชอบมันนั่นเอง และผมเลือกที่จะทำให้มันเป็นอย่างงี๊ ผมจะช่วยเหลือเดชให้มากที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้ และผมจะไม่มีทางที่จะบอกมันเด็ดขาดว่าผมชอบมัน ผมกลัวว่าถ้ามันรู้แล้วมันจะกลัวผม และไม่สนใจผมอีก มันเคยบอกผมว่าเราจะไม่ทิ้งกัน ซึ่งนั่นมันเป็นในฐานะเพื่อน แต่ถ้าผมคิดกับมันมากกว่าเพื่อน มันอาจจะทิ้งผมก็ได้ ถ้ามันได้รู้

“ใหญ่ ไอ้ใหญ่ ไอ้ใหญ่เว้ย” - ไอ้ไม้ตบหัวผม
“มึงตบหัวกูทำไม”
“เหม่อไปโน่น เลิกเรียนแล้วเว้ย”
“อ้าวเหรอ ไอ้ไม้ กูลอกที่จดวันนี้หน่อยดิ แป๊บนึง กูไม่ได้ฟัง”
“เออ เออ” – ไอ้ไม้ส่งสมุดมาให้ผมลอก ปกติผมไม่เคยลอกไอ้ไม้หรอกคับ วันนี้มันจำเป็นจริงๆ
“มึงเป็นไรวะ วันนี้มึงเหม่อทั้งวัน” – ไอ้ไม้ถามผม
“กูคิดเรื่อยเปื่อยว่ะ”
“คิดเรื่องต่ายอยู่อ่ะดิ”
“เชี่ยแล้วมึง ถ้ากูคิดเรื่องต่าย กูเอาต่ายเป็นแฟนกูดีกว่า กูไม่ช่วยมึงหรอก” – ปากพูดไปผมก็ลอกงานไป นี่เป็นความสามารถเฉพาะตัวของผม
“กูรู้หรอกน่า ว่ามึงไม่ชอบต่าย”
“เออดิ รู้แล้วจะถามทำไมวะ”
“แล้ววันนี้มึงเป็นไร”
“เปล่า ไม่ได้เป็นไร”
“งั้นกูถามไรมึงอย่างดิ ตอบตรงๆนะเว้ย”
“ถามเรื่องไอ้เดชอีกอ่ะดิ มาคำพูดแบบเนี๊ยะ มีไรล่ะว่ามาดิ”
“มึงดูสนิทกับเดชจังวะพักนี้”
“กูต้องคุยงานผ่านมัน เรื่องงานวันสถาปนาโรงเรียน” – ผมโกหก
“งานไรวะ”
“มันกับเพื่อนมันได้ไปแสดงโชว์ยิงปืนในสนามรบในวันสถาปนาโรงเรียน อาจารย์เขาเลือกพวกมัน”
“แล้วมันเกี่ยวไรกับมึงวะ”
“กูก็ต้องดูคิวลำดับพิธีการเด่ะ”
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับการแสดงของไอ้เดช”
“กูก็ไม่รู้เหมือนกัน อาจารย์เขาให้กูดูแลเรื่องการแสดง ตั้งแต่รำถวายพระพรจนถึงการกล่าวสุนทรพจน์ของ ผ.อ. ”
“เออช่างเหอะ พูดไปกูก็ไม่รู้อยู่ดี แล้วไอ้เดชไม่ได้ถามอะไรเรื่องต่ายใช่ป่ะ”
“คงงั้นแหล่ะ”
“ไอ้ใหญ่ มึงรู้ใช่ป่ะ ว่ากูชอบต่ายมากๆ”
“กูรู้แล้ว ตากูไม่ได้บอด”
“มึงต้องอย่าให้ไอ้เดชมันมายุ่งกับต่ายนะเว้ย เข้าใจป่ะ”
“เข้าใจคับนายท่าน”

ต่ายเดินเข้ามาทันที หยุดบทสนทนาระหว่างผมกับไอ้ไม้

“คุยอะไรกันสองหนุ่ม” - ต่ายทักทาย
“ไอ้ใหญ่มันไม่เรียน มันลอกเรา” - ไม้ฟ้องต่าย
“กูจดไม่ทันนี่หว่า แมร่ง กูเรียนนะเว้ย” - ผมเถียง
“ใหญ่น่ะมันไม่เรียนมันก็ยังสอบได้คะแนนเยอะกว่าเราอีก” - ต่ายหันมามองหน้าผม
“เหอะๆ...ขอบคุณ นี่จะชมหรือด่าน่ะต่าย” - ผมถาม
“ชมจ๊ะ ชม คนเก่ง เสาร์นี้ไปเรียนพิเศษกับเรานะ” - ต่ายชวน
“อยากไปกับใคร มีสองคน เลือกเอา คนหล่ออย่างใหญ่ หรือหน้าตาเหมือนปลิงถูกน้ำเกลือสาดอย่างไอ้ไม้” – ผมมองไปทางต่าย แซวไอ้ไม้ ไอ้ไม้ค้อนเล็กน้อย
“คนหล่ออย่างใหญ่สิจ๊ะ ควงได้ไม่อายใคร”
“เขาเลือกกูว่ะไม้ เสียใจด้วยนะ” – ผมเย้ยไอ้ไม้
“มึงเอาสมุดกูคืนมา กูไม่ให้ลอกแล้ว”
“ขอบคุณมากๆ กูลอกเสร็จแล้ว” – ผมส่งสมุดไปให้ไอ้ไม้ “วันพระไม่ได้มีหนเดียวว่ะ แต่ก็ไม่เป็นไร” แล้วผมกระซิบบอกมัน “ถ้ามึงอยากตามไปดูแลต่าย กูจะเปิดไฟเขียวให้ ตกลงป่ะ”
“มึงร้ายว่ะใหญ่ แต่ก็ขอบใจมาก.......เลยเว้ย” – ไอ้ไม้ขอบคุณ กอดคอผมเป็นการขอบคุณ
“คุยไรกันน่ะ” - ต่ายถามผมกับไอ้ไม้
“เปล่า” - ไอ้ไม้บอกต่าย
“กูรู้ละกูเหมาะกับอาชีพอะไร” - ผมพูดขึ้นมา
“อะไรวะ” - ต่ายกับไม้ถามเกือบพร้อมกัน
“บริษัทจัดหาคู่”
“ไอ้บ้า” – ต่ายบอกผม แล้วก็เดินออกไป

โดนไปอีก 1 ดอกเลยคับ ต่ายด่า นี่แหล่ะคับความสุขของผม

อ่ะ 5 โมงเย็นแล้ว ถึงเวลาที่ผมจะต้องไปประชุมซักที พูดไปแล้วก็ไม่อยากจะไปเลยคับ ผมเดินไปที่ห้องคณะกรรมการ อ้าว ไม่มีใครอยู่ ถามน้อง ม.4 ที่เฝ้าห้องบอกว่าวันนี้พี่ส้มไม่อยู่ ไปธุระ พรุ่งนี้คงจะคุยกันยาว ชดเชยของวันนี้ สรุปแล้วคือ รีบไปก็เท่านั้น ก็ดีคับ นานนานทีจะได้กลับบ้านเร็วๆ ไม่ได้คับ เดชรอผมอยู่ที่สนามบอล ผมจึงเดินไปหาเดชที่สนาม ซื้อน้ำเปล่าไปให้มัน 2 ขวด ไปถึงพวกมันกำลังพักพอดี ผมยื่นน้ำเปล่าให้มันกิน

“มีกัน 5 คนน่ะ ซื้อมา 2 ขวดเองเหรอ” - ไอ้เต้ปากหมาเริ่มแซวก่อนเพื่อน
“รู้จักป่ะ แบ่งกันกิน พวกแกก็ขอมันกินดิ” – ผมสวนไอ้เต้ มันนิ่งสนิท ม้วนตัวเป็นเกลียว
“ก็นึกว่าจะซื้อให้แต่เดช” - ไอ้เข้มกัดผมต่อ
“ก็เรารักกันนี่หว่า” – ผมกัดไอ้เข้ม ไปกอดตอกับเดช มันรับมุขผมได้ดี กอดผมตอบมั่ง
“ประชุมเสร็จแล้วเหรอ” - เดชถามผม
“รุ่นพี่ไม่อยู่ ไปธุระ ก็เลยไม่ได้ประชุม”
“ทำไมลงมาช้าจัง”
“ลอกงานเพื่อนอยู่น่ะ จดไม่ทัน”
“มัวแต่คัดลายมืออยู่อ่ะดิ”
“พอดีเขียนสายสือไทยไม่เป็น”
“วันหลังสอนให้ เอาป่ะ”
“กูพอใจในลายมือตัวเอง”
“กูอยากเห็นลายมือมึงบ้างอ่ะใหญ่”
“วันหลังเอาให้ดูละกัน”
“เฮ้ย คู่นั้นน่ะ แยกกันได้แล้ว ไอ้เดช มึงอย่าอู้ มานี่” - ไอ้เต้มันปากหมาอีกแล้ว
“รอกูตรงนี้นะ”- เดชบอกผม

มันวิ่งไปซ้อมยิงปืนต่อคับ ไม่ได้ซ้อมกับปืนจริงหรอก เป็นท่อPVCสีฟ้าๆอ่ะคับ ทำให้เหมือนปืน แล้วก็มีการกลิ้ง ลุก หมอบด้วย ผมว่าอาจารย์เลือกถูกคนแล้วคับ ถ้าอาจารย์มาเลือกผม เหอะๆ ผมคงทำไม่เป็นหรอกคับ ไม่มีเชื้อสายทหารเลยแม้แต่น้อย ระหว่างรอมันให้ผมเฝ้าของให้พวกมันด้วย ผมก็เลยถือวิสาสะดูโน่นดูนี่ ตามประสาผมอ่ะคับ หยิบเสื้อนักเรียนขึ้นมาดู ตัวนี้ของเดชคับ เห็นจากชื่อจริง (ขอสงวนชื่อจริงไว้คับ) เอามากางกู เหม็นเหงื่ออ่ะ แต่ก็ยังไปดม เฮ้อ!! รู้ว่าเหม็นยังจะไปดมอีก เป็นเอามากนะนั่น แต่ของคนอื่นที่อยู่ใกล้ๆกัน ผมไม่หยิบมาดูเลยคับ ไม่รู้ทำไม แอบเห็นเสื้อตัวนึง นามสกุลเพราะมาก (สงวนไว้อีกคับ) เด๋วผมคงจะได้รู้ว่ามันเป็นเสื้อของใคร 

6 โมงเย็น เลิกฝึกกันแล้วคับ พวกมันเดินมาที่กระเป๋าที่ฝากผมไว้ พวกมันไม่ค่อยคุยกันคับ มันคงจะเหนื่อย ถ้าเป็นผมฝึกอย่างงั้นคงตายอ่ะคับ พวกมันกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้ากลับเป็นชุดนักเรียน ผมมองมันอยู่ข้างๆ ผมถามขึ้นมา

“นามสกุล xxxxxx นี่ของแกเหรอเต้”
“เออ ผิดตรงไหน”
“สมควร นามสกุลคุณหนู แต่ปากหมา”
“ใหญ่กัดเราอีกแล้ว เดช แกดูเพื่อนแกดิ กัดเรา สงสัยในปากมีหมาตายเป็นครอก” - ไอ้เต้ฟ้องเดช
“น้อยไป เรามีหมาเป็นฟาร์มเว้ย กัดได้ตลอด” - ผมบอกไอ้เต้
“เอาน่า เพื่อนใหม่กู มันเป็นคนอย่างงี๊แหล่ะ มันก็น่ารักดีนะเว้ย” - เดชบอกเต้
“เหอะๆ แต่มันหล่อน้อยกว่ากู”
“เราหล่อน้อยกว่าแก เราก็ไม่คุณหนูนะเฟร้ย” - ผมบอกไอ้เต้
“คำก็คุณหนู สองคำก็คุณหนู”
“ไม่รู้ เดชมันบอกเราอย่างงั้นอ่ะ มันฟ้องแกว่าแกเป็นคุณหนู” – ผมบอกไอ้เต้

เกิดศึกการทะเลาะกันระหว่างเต้กับเดชเล็กน้อย แล้วพวกเราทั้งหมด 5 คนก็เดินออกมาจากสนามบอล เต้มีแม่มารับ (คุณหนูป่ะล่ะ) เข้มกับเอกไปหาแฟน เพื่อนอีกคน(ไม่รู้ว่าใคร รู้อีกที มันชื่อเล็ก) มันกลับบ้านเอง ก็เหลือผมกับเดชสองคน เดชชวนผมดูพระอาทิตย์ตกดิน เดชบอกว่าเห็นเมื่อวานแล้วสวยดี อยากให้ผมเห็น ผมเคยเห็นบรรยากาศตะวันตกดินแถวโรงเรียนมาแล้ว สวยงามมากๆเลยคับ แต่ผมก็ไม่ปฏิเสธคำชวนของเดชหรอกคับ ผมกับเดชเดินกันไปจนมาถึงที่นั่งตรงสนามบอล ที่สามารถมองเห็นพระอาทิตย์ตกดินอย่างชัดเจน
---------------

ออฟไลน์ nOn†ღ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-6

PakBeob

  • บุคคลทั่วไป
 :กอด1: ขอบคุณคับ

รออ่านต่อ อิอิ

pickki_a

  • บุคคลทั่วไป
ตอนที่ 20
 :o
“เฮ้ย ไอ้ใหญ่เป็นไงมั่ง”
“ก็ดีว่ะ สวยดี กูเคยเห็นแล้วแหล่ะตอนกูอยู่ ม.2”
“ไม่บอกกูวะ จะได้ไม่พามา กูนึกว่ามึงยังไม่เคยเห็น”
“กูไม่อยากขัดว่ะ เห็นมึงตั้งใจ”
“ถ้าตอนนี้กูอยู่กับต่ายก็คงจะดีเนอะ”
“อืม” – ผมรู้สึกเสียวแปล๊บในใจอย่างบอกไม่ถูก แล้วผมก็เงียบไป
“มึงว่ากูควรโทรไปหาต่ายทุกวันป่ะวะ”
“อยากโทรมึงก็โทรไปดิ เกี่ยวไรกับกู”
“อ้าว ไอ้นี่ กูปรึกษานะเฟร้ย กูควรทำไงให้ถูกใจต่าย”
“กูก็ไม่รู้เหมือนกัน”
“มึงเป็นเพื่อนต่ายไม่ใช่เหรอไอ้ใหญ่”
“ก็แค่เพื่อนน่ะ ไม่ได้สนิทอะไรเท่าไหร่ ก็พอมามีเรื่องมึงน่ะกูถึงเริ่มมาสนิทกับต่ายมากขึ้น”
“กูนึกว่ามึงสนิทกันมากๆ”
“อืม” – ผมเงียบ อีกแล้วล่ะคับ
“กลับเหอะว่ะไอ้ใหญ่ พระอาทิตย์ตกไปแล้วว่ะ”
“เออ”
“มึงเป็นไรป่ะวะ มึงดูเงียบๆ”
“เปล่านี่หว่า”
“กินไรกันดีอ่ะ” - เดชถามผมขึ้นมา
“กูขอกลับบ้านได้ป่ะ วันนี้กูไม่อยากไปไหน” - ผมโกหกอีกแล้ว
“เหรอ มึงแน่ใจนะเว้ยว่าไม่เป็นไร”
“กูไม่เป็นไรจริงๆ กูคงนอนน้อยละมั้ง”
“มึงพักผ่อนเยอะๆนะเว้ย มึงน่ะชอบทำกิจกรรมเยอะๆ มึงจะไม่มีเวลาเรียนและก็เวลาพักผ่อน”
“เออ ขอบคุณมาก”
“ให้กูไปส่งที่ป้ายรถเมล์นะเว้ย”
“ไม่เป็นไร กูกลับเองได้ว่ะ”
“มึงอย่าปฏิเสธกูได้ป่ะไอ้ใหญ่”
“ตามใจมึงละกัน”

ผมหยิบกระเป๋าเดินออกมาเลยคับ ไม่ได้รอเดชเลย แต่ผมเดินช้าๆนะคับ ให้มันเดินตามผมทัน ระหว่างทางที่ออกโรงเรียนมันพยายามชวนผมคุยโน่นคุยนี่ ผมก็เออๆ กับมันไป ไม่รู้เหมือนกันคับว่าทำไมเวลาเดชพูดถึงต่าย ผมถึงได้มีอาการแบบนี้ ทีแต่ก่อนล่ะไม่เป็น แต่ก่อนน่ะอยากให้มันไปๆจากผมซักที แต่เดี๋ยวนี้เวลาผมอยู่กับมัน ผมไม่อยากให้มันพูดถึงต่ายเลยคับ แต่นั่นก็เป็นจุดมุ่งหมายของมันตั้งแต่แรกอยู่แล้วล่ะคับที่มารู้จักกับผม ไม่น่าเลยคับ ไม่น่าไปชอบมันเลยจริงๆ

“มึงไหวป่ะใหญ่”
“กูยังไม่ตายน่า”
“มึงแน่ใจนะว่าจะไม่ไปกินข้าวกับกู”
“กูอยากกลับบ้านว่ะ”
“แล้วกูจะไปกินกับใครอ่ะ”
“ก่อนรู้จักกู มึงไปกินกับใคร ก็ไปกินกับคนนั้นดิ”
“กูกินคนเดียว กูเหงา กูอยากให้มึงไปกับกู”
“เหรอ”
“เออดิ ไม่งั้นกูไม่ง้อมึงขนาดนี้หรอก”
“ไปก็ได้วะ แต่อย่านานนะเว้ย ที่บ้านกูเริ่มด่ากูแล้ว” – โกหก อีกแล้วผม
“ให้กูโทรไปเคลียร์กับที่บ้านมึงป่ะ”
“ไม่ต้องว่ะ ขอบคุณ”
“กูให้มึงหาร้านนะวันนี้ ตกลงป่ะ”
“มึงเป็นคนชวนกูกินข้าว แต่ให้กูหาร้านให้”
“ก็อยากเอาใจมึงอ่ะ”
“เออ”

ผมก็ตกลงที่จะไปกินข้าวกับมันคับ ทั้งๆที่ผมไม่มีอารมณ์กินแม้แต่น้อย ผมหิวนะคับ แต่ผมไม่อยากเห็นหน้ามันอ่ะ กลัวว่าผมจะชอบมันมากขึ้น แล้วก็จริงอย่างที่ผมคิดคับ ผมชอบมันมากขึ้นกว่าเมื่อวาน มันทำดีกับผมสารพัด สรุปแล้วก็คือผมแพ้ความดีของมันล่ะคับ ผมถึงชอบมัน ผมไม่รู้ว่ามันจะคิดกับผมยังไง ครั้นจะถามมันผมก็ไม่กล้าพอหรอกคับ มันชอบต่าย นั่นก็คงจะเป็นเครื่องที่พิสูจน์ได้แล้วว่ามันไม่ได้เป็นเกย์คับ แล้วผมจะมีสิทธิ์อะไรกับมันถ้าจะคิดกับมัน เกินเพื่อน

“มึงเป็นเชี่ยไรเนี๊ยะ เดินเหม่อมาตั้งแต่ม๊ะกี๊แล้ว” - เดชบอกผม
“ให้กูบอกกี่รอบวะ ว่ากูไม่ได้เป็นไร”
“กูเมื่อย เมื่อไหร่จะหาร้านซักที”
“เอาร้านเดิมนะ ก๋วยเตี๋ยวที่กูเคยพามึงไปกินตอน 4 ทุ่มอ่ะ”
“เออ ก็ได้ๆ กำลังอยากกินพอดี”

เข้าไปในร้าน สั่งอาหารเรียบร้อย ร้านนี้รอนานมากคับ ตอนเย็นลูกค้าจะเยอะ ปกติร้านนี้จะเป็นร้านประจำของพวกไอ้ไม้กับผมแหล่ะคับ เลิกเล่นเกมดึกๆ หิว ก็แวะกันร้านนี้ ดึกๆ ก็จะไม่ค่อยมีคนคับ สั่งแล้วจะได้เร็ว

“มึงมีไรบอกกูได้นะใหญ่”
“มึงช่วยกูไม่ได้หรอก”
“ทำไมจะช่วยไม่ได้ มึงยังไม่ทันจะเล่าให้กูฟัง แล้วรู้เหรอว่ากูจะช่วยมึงไม่ได้”
“เล่าไปก็ช่วยไม่ได้อยู่ดี”
“มันจะทำให้มึงสบายใจขึ้นนะเว้ย มึงเล่าให้กูฟังดิ”
“อยากรู้จริงๆ ใช่ป่ะ”
“เออ เพื่อมึงกูทำได้”
“กูไปมีเรื่องกับรุ่นพี่มาว่ะ” – ผมโกหกเก่งโคตรๆ
............
.........

(เป็นเรื่องโกหกที่ผมแต่งขึ้นมาคับ จริงๆแล้วผมกับพี่คนนี้สนิทกันมากๆคับ) คือจะให้ผมเล่าเรื่องที่ว่าผมชอบมันได้ไงอ่ะ - มันก็บอกว่าอย่าไปคิดมาก ยังต้องร่วมงานกันอีกนาน  ดีที่ว่าก๋วยเตี๋ยวมาตรงหน้าแล้ว ผมเลยไม่ต้องเล่าต่อ

กินกันเสร็จเรียบร้อย จ่ายเงิน แล้วก็เดินออกจากร้าน มันเดินไปส่งผมที่ป้ายรถเมล์หน้าโรงเรียน ระหว่างทาง

“งานวันอาทิตย์นี้แกทำไรมั่งวะ” - เดชถามผม
“ก็ตั้งแต่รับแขกผู้ใหญ่ แล้วก็จัดลำดับการแสดงอ่ะ”
“ทำไมแกไม่ได้เป็นพิธีกรวะ”
“อาจารย์เป็นพิธีกร”
“เห็นแกพูดเก่ง”
“พูดเก่งต่อหน้าเพื่อนเว้ย พอเป็นพิธีการ ไม่ได้เรื่องว่ะ มันเกร็ง”
“ใหญ่แกรู้ป่ะว่าพิธีทั้งหมดเสร็จกี่โมง”
“ไม่เกินเที่ยง”
“งั้นตอนบ่ายไปกับกูนะ”
“ไปไหนวะ”
“ไปซื้อของกับกูหน่อย ที่เสาวรีย์”
“เออ ถ้ากูไม่ติดอะไร กูจะไป”
“มึงรับปากกูดิใหญ่ ว่ามึงจะไม่ติดอะไร”
“กูบอกว่า ถ้ากูไม่ติด กูไม่ได้ตกลงจะไปกับมึง”
“อืม กูเข้าใจ กูมันก็...คนอื่น” - ไอ้เดชมามุขนี้อีกแล้ว
“เออ เออ กูไปกับมึงก็ได้ โอเคมั้ย”
“เพื่อนรักเดช ต้องให้ได้อย่างงี๊ดิ” - กอดผมซะแน่นเลย
“เพื่อมึงกูทำได้” – ผมพูดเบาๆ
“อะไรนะ ไม่ได้ยิน”
“กูไปกับมึงก็ได้ โอเคยัง” – ผมตะโกนใส่หูมัน
“ดูมึงสบายใจกว่าม๊ะกี๊” - เดชบอกกับผม
“รู้ได้ไง ว่ากูสบายใจ”
“มึงได้เล่าให้กูฟังไง ถ้ามึงได้ระบายมันออกมา มันจะทำให้มึงดีขึ้น”
“เออ ขอบใจว่ะ” – (ไม่ได้รู้เลยว่าผมโกหก)
“จำไว้นะไอ้ใหญ่ มึงอย่าทำตัวเป็นหมาหงอยอีก มีไรมึงบอกกู กูช่วยมรึงได้ ถ้าช่วยไม่ได้ กูก็จะฟังมึง กูจะอยู่ข้างมึงเข้าใจป่ะ”
“เออ”
“มึงน่ะโลกส่วนตัวสูง ชอบแบกโลกไว้คนเดียว”
“เออ”
“แบกไม่ไหวมึงบอกกูนะ กูจะช่วยมึงแบก”
“เออ”
“กวนตรี๊นส์กู พูดแต่ เออ”
“ก็เออเด่ะ พ่อสอนลูก ลูกจะกล้าเถียงพ่อเหรอ” - ผมกัดมัน
“ถ้ามึงเห็นกูเป็นพ่อ พ่อสั่งอะไรลูกต้องทำตาม เข้าใจป่ะ” - มันกัดผมมั่ง
“กูไม่ใช่ลูกมึง กูมีพ่อคนเดียว”

เนี๊ยแหล่ะคับ เวลาที่ผมอยู่กับมัน ผมจะมีความสุขไปกับมุขของมันและการกระทำของมัน ผมอยากจะหยุดเวลาไว้อย่างงี๊ล่ะคับ ไม่อยากให้มันพูดถึงต่ายอีกแล้ว แต่มันก็คือความจริงคับ ผมไม่อยากหลอกตัวเองว่าที่มันมาอยู่ตรงนี้ก็เพราะผม

“กูอยากไปบ้านมึง” - เดชบอกผม
“บ้านกูไกล”
“ไอ้เต้บอกกูว่ามึงอยู่แถวบ้านมัน”
“มันไกลจากหอมึงอ่ะ กูเกรงใจ อีกอย่างบ้านกูแคบ”
“มึงไม่อยากให้กูไปขนาดนั้นเลยเหรอ”
“วันนี้กูไม่พร้อม”
“ทำอย่างกับมีประจำเดือน”
“สาด....” - ผมเตะตูดมันทีนึง
“แค่กูจะไปบ้านมึง มึงต้องลงมือกับกูเลยเหรอ ไอ้....” – วิ่งไล่เตะตูดกัน จนถึงป้ายรถเมล์

นั่งพักเหนื่อยกันที่ป้ายรถเมล์
“มึงไม่พร้อมก็ไม่เป็นไร วันหลัง กูต้องไปบ้านมึงให้ได้”
“ไม่มีทาง กูไม่ให้มึงไปบ้านกูหรอก”
“บ้านมึงมีอะไรวะ”
“หมาดุ”
“กูมั่นใจว่ากูดุกว่าหมาบ้านมึงแน่นอน”
“เออ กูเชื่อ”
“พรุ่งนี้มึงมาแต่เช้าได้ป่ะ”
“ทำไมวะ มีไรป่ะ”
“เห็นมึงเบื่อหมูปิ้ง ก็เลยว่าจะให้มึงมาเลือกกินเอาเอง”
“ถ้ากูตื่นได้ กูจะมาแต่เช้าละกัน”

รถเมล์มาพอดีคับ ผมเลยลากับเดช
“กูจะรอมึงนะ” - เดชบอกผมก่อนที่ผมจะขึ้นรถเมล์

marchmenlo

  • บุคคลทั่วไป
 :เฮ้อ: หลงรักความมั่นน่ารักของเดชอ่ะ ขอได้ไหมเนี๊ย :laugh:

pickki_a

  • บุคคลทั่วไป
ตอนที่ 21
 :sad2:
ตั้งแต่ผมรู้จักกับเดช ผมรู้สึกว่าผมถูกดูดวิญญาณยังไงไม่รู้คับ ผมรู้สึกว่าวันนึงของผมมันผ่านไปอย่างรวดเร็ว ผมต้องฟังมันพูดจนผมรู้สึกเหนื่อยมาก จนรู้สึกว่าเหมือนโดนดูดวิญญาณ แต่ทุกครั้งที่ผมได้อยู่กับมันแล้วผมเองก็มีความสุขมากๆ เลยคับ

วันนี้ผมกลับถึงบ้าน 2 ทุ่ม ก็ไม่ดึกมากคับ ที่บ้านรอกินข้าว ผมก็กินอีกคับ ทั้งๆที่กินมาแล้วนะเนี๊ย แบบว่าโดนบังคับกินอ่ะคับ ช่วยไม่ได้เพราะนานนานผมจะได้กลับมากินข้าวที่บ้านซักทีนึง ก็เลยนั่งกินกันพร้อมหน้า กินไปได้ซักพัก โทรศัพท์ดังแล้วคับ

“ใหญ่หวัดดี” - ปลายสายทักขึ้น
“ใครอ่ะ”
“มึงจำกูไม่ได้เหรอ น้อยใจนะเฟร้ย”
“ไอ้เดช มีไร”
“มึงทำไรอยู่”
“กินข้าว”
“กินอีกละ ไอ้อ้วน”
“กูไม่อ้วนเว้ย กูเรียกว่าสมบูรณ์”
“อย่ามาหลอกตัวเอง”
“ที่บ้านบังคับกูว่ะ กูเลยต้องกิน แล้วโทรมามึงมีไร”
“กูอยากโทรหามึง”
“ไว้กูทำธุระส่วนตัวก่อนได้ป่ะวะ” - ผมบอก
“ได้ๆ เสร็จแล้วโทรหากูนะ กูจะรอ”
“ได้คับ”

ผมรีบจัดการตัวเองให้เสร็จโดยเร็ว ทั้งกินข้าว อาบน้ำ แปรงฟัน เปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วก็กดโทรศัพท์หามัน ในเวลาครึ่งชั่วโมง

“ขอสายเดชคับ” - ผมบอก
“ไม่อยู่คับ”
“มึงอย่ามาโกหกกู เสียงมึงชัดๆ”
“ม๊ะกี๊ยังจำเสียงกูไม่ได้อยู่เลย”
“ก็...ตอนนี้กูจำได้แล้ว เสียงแหบๆ คอทองแดง มีมึงคนเดียว”
“ดีใจจังมีคนสนใจกูด้วย”
“อยากคุยอะไรกับกู” - ผมถาม
“กูไม่กล้าโทรหาต่าย”
“...........” - ผมเงียบไปซักพัก
“มึงยังอยู่ป่ะวะไอ้ใหญ่”
“อยู่ เออ เมื่อกี๊ว่าไรนะ” - ผมแกล้งถามมัน
“กูไม่กล้าโทรหาต่าย”
“มึงโทรไปเลย ต่ายเขาไม่ว่าอะไรหรอก”
“มึงก็รู้ว่ากูไม่กล้า”
“ลูกผู้ชายน่ะ กล้าป่ะล่ะ” - ผมท้ามัน
“กูกล้าที่จะทำทุกอย่าง แต่เรื่องนี้ มึงจะด่าว่ากูเป็นกระเทยกูก็ยอม”
“มึงจะให้กูทำไงล่ะ” - ผมถามมัน
“กูก็ไม่รู้เหมือนกันว่ะ กูลองกดเบอร์ต่ายแล้วนะ แต่กูก็วางหู กูไม่กล้าว่ะใหญ่ถ้าไม่มีมึง”
“กูคงไม่ออกไปหามึงตอนนี้หรอกนะ”
“เหรอ กูนึกว่ามึงจะออกมาหากูได้ซะอีก”
“เสียใจว่ะ การบ้านกูมี”
“กูช่วยมึงได้ป่ะการบ้านเนี๊ย” - มันถาม
“ไม่ได้หรอก”
“อืม กูเข้าใจ วันนี้ไม่ใช่วันของกู”
“มึงเป็นจิตตกอะไรอีกน่ะ” - ผมถามมัน
“กูอยากให้มึงมาอยู่กับกู กูไม่มีมึง กูไม่รู้ว่าจะเริ่มยังไงว่ะ”
“มึงก็..........”
“มึงไม่เข้าใจหรอกไอ้ใหญ่ ถ้าไม่มีมึง ต่ายเขาก็ไม่คุยกับกู เข้าใจป่ะว่า กูขาดมึงไม่ได้”
“แต่ว่า .......”
“กูขาดมึงไม่ได้ มึงเข้าใจป่ะ” - มันย้ำ
“มึงฟังกูนะ ถ้ามึงไม่มีกู มึงต้องทำได้เว้ย มึงจะมาหวังให้กูช่วยมึงตลอดเวลา มันก็คงเป็นไปไม่ได้ กูก็อยากมีโลกส่วนตัวบ้าง กูก็อยากช่วยมึงนะตอนนี้ แต่วันนึงถ้ามึงไม่มีกู มึงจะทำไง”
“กูเข้ามาในชีวิตมึงมากไปใช่ป่ะ” - มันถามผม
“...........”
“ว่าไงล่ะ มึงตอบคำถามกูมาดิ”
“กูขอร้องล่ะ มึงอย่าเซ้าซี้กูอีกเลยนะ” - ผมบอกมัน
“กูทำผิดไรวะใหญ่ มึงบอกกูดิ กูเข้ามาในชีวิตมึงนี่กูผิดใช่ป่ะ”
“มันไม่เกี่ยวกันเว้ย” - ผมบอกมัน
“กูเข้าใจ ใหญ่ กูเข้าใจ จริงๆ” - น้ำเสียงมันหดหู่ลง
“กูขอโทษ เดช กูขอโทษ กูอยากช่วยมึงนะ แต่กูออกไปหามึงตอนนี้ไม่ได้”
“มึงบอกกูดิ ว่าเพราะอะไร”
“ที่บ้านไม่ให้ออก” – ผมโกหก (จริงๆ แล้วจะออกไปก็ได้นะ)
“ให้กูบอกแม่มึงป่ะ ว่ามาขอนอนหอเพื่อน จะติวการบ้านกัน”
“อย่าเลยว่ะ มึงไม่เข้าใจที่บ้านกูหรอกเดช” – ผมบอกต่อ ไม่อยากคุยกับมันแล้ว “แค่นี้ก่อนนะ จะไปทำการบ้าน”

ผมเสียใจมากเลยคับ ที่มันถามผมอย่างนั้น แต่ก็ถูกของมันนะคับ มันเข้ามาในชีวิตของผมมากเกินไปแล้ว มันเป็นนายของผมไปแล้ว มันสั่งอะไรผมต้องทำตามมันตลอด ไม่เคยขัด แต่ผมกลับรู้สึกดีที่จะทำ เพื่อมัน เนี๊ยแหล่ะคับ ความรักสามารถทำได้ทุกสิ่ง แต่พอผมจะต้องปฏิเสธในสิ่งที่มันขอ ผมยอมรับว่าผมทำไม่ลง ผมอยากจะไปหามันใจจะขาด ไม่รู้ทำไมว่าผมถึงเอาที่บ้านมาอ้าง เหมือนผมจะรู้ว่าถ้าผมไปหามันแล้วมันจะขอให้ผมทำอะไรอีก ผมก็จะทำ ผมไม่อยากเป็นทาสมันมากไปกว่านี้ ผมว่าตอนนี้ผมรักมันไปแล้วคับ

ผมตัดสินใจโทรกลับไปหาเดช
“กูขอโทษนะเว้ย” - ผมขอโทษเดช
“มึงผิดอะไรวะ” - เสียงมันแปลกๆไป
“กูปฏิเสธคำขอของมึง กูไม่สบายใจ”
“ไม่เป็นไรหรอก” – เอาแล้วคับ มันร้องไห้ ผมรู้เลย “งั้นวันนี้กูไม่โทรหาต่ายก็ได้วะ”
“ตะกี๊กูขอโทษนะ” – ผมยังคงขอโทษเดช ที่มันร้องไห้ คงเป็นเพราะเรื่องนี้
“ใหญ่ มึงไม่ผิด กูแหล่ะที่ขอมึงมากไป”
“ไม่เว้ยเดช วันหลังมึงขออะไร กูจะทำเพื่อมึงทุกอย่างเลย”
“เหรอ แต่ก็ไม่เป็นไรหรอก กูทำเองได้”
“แต่ว่า....กูผิด ที่กูปฏิเสธมึง”
“เออน่า ใหญ่ แกอย่าคิดมากเลย เรื่องของกู กูจัดการเองได้ ขอบคุณนะเว้ยที่มึงช่วยกูมาตลอด”
“กูขอโทษ มึงจะให้กูทำอะไรก็ได้ มึงกลับมาเป็นคนเดิมเถอะเดช กูขอร้องล่ะ”
“ใหญ่ กูขอบคุณสำหรับทุกอย่างที่มึงทำให้กูนะ”
“มึงพูดอย่างงี๊แล้วมึงจะทำอะไร มึงบอกกูมานะ”
“กูไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น กูเหนื่อยเรื่องต่าย กูอยากคิดว่า จริงๆ แล้วกูชอบต่ายจริงหรือเปล่า”
“เหรอ มึงแน่ใจนะ ว่ามึงจะไม่คิดจะทำอะไรนอกจากคิดอย่างเดียว” - ผมกลัวมากเลยคับว่ามันจะคิดสั้น
“เออ”
“ตอนนี้มึงอยู่ที่หอใช่ป่ะ”
“เออ”
“รอตรงนั้น อย่าไปไหน เดี๋ยวกูไปหา”
“เห้ย แต่ที่บ้านมึง...”
“เออ มึงช่วยไรกูหน่อยดิ บอกที่บ้านว่ากูต้องไปติวหนังสือที่หอมึง”
“ตกลงตามนี้ มึงเรียกแม่มึงมาดิ”

ผมเรียกแม่มาคุยโทรศัพท์คับ ได้เรื่องดิคับ ตามแผนที่วางไว้เลยคับ ผมไม่ได้เอาอะไรไปทั้งนั้นนอกจากหนังสือสองสามเล่ม แล้วก็ชุดนอนที่ผมใส่อยู่ รอรถเมล์เพื่อไปหอมัน ตอนนี้ผมไม่คิดอะไรนอกจากว่า ผมจะไปอยู่กับมัน ที่หอมันคืนนี้ ผมจะได้อยู่กับคนที่ผมรัก แต่มันก็ไม่รู้ว่าผมรักมัน ผมกลัวมันจะคิดอะไรที่มันไม่ควรน่ะคับ ก่อนเข้าหอมันผมแวะตลาดซื้อขนมไปให้มันกินสองสามอย่าง กลัวมันหิว แล้วผมก็ขึ้นหอไปหามัน มนกำลังร้องไห้กับไดอารี่ที่มันเขียน

“มึงเป็นไรเดช มึงบอกกู” - ผมถามมัน
“ใหญ่ กูรักมึง กูขอบคุณที่มึงมาหากู” – มันเข้ามากอดผม ผมก็กอดมัน ลูกหัวมัน
“เออ แล้วมึงร้องไห้ทำไม”
“กูสับสน กูทำอะไรไม่ถูก กูชอบต่าย มึงได้ยินป่ะ”
“เออ”
“แต่กูขาดมึงไม่ได้ ใหญ่ ขาดมึงไม่ได้ กูไม่มีมึง กูทำอะไรไม่ถูกเลย”
“เออ”
“มึงอย่าทิ้งกูไปไหนนะเพื่อน”
“เออ”
“เมื่อกี๊ที่มึงปฏิเสธกู กูทำใจไม่ได้ว่ะ เหมือนมึงจะทิ้งกู”
“เออ กูอยู่นี่แล้ว กูไม่ทิ้งมึง”
“กูขอโทษที่กูเข้ามาในชีวิตมึง”
“เออ ไม่เป็นไร”
“กูขอโทษที่ทำให้มึงต้องมาวุ่นวายเรื่องของกู”
“เออ ไม่เป็นไร กูยินดี”
“กูรักมึงนะใหญ่”
“เออ กูก็รักมึง”
“มึงสัญญานะ ว่าเราจะเป็นเพื่อนกันไปตลอด”
“เออ สัญญา”
“มึงอย่ากลับคำนะเว้ยใหญ่”
“เออ กูรู้แล้ว” – เรายังกอดกันอยู่คับ ผมยังคงเกาหัวให้เดชไปเรื่อยๆ เดชยังคงร้องไห้อยู่
“ลูกผู้ชาย เขาไม่ร้องไห้กันหรอก กูมาอยู่กับมึงแล้ว เลิกร้องได้แล้ว” – ผมปลอบมัน แต่เหมือนจะไม่ปลอบ
“คนใจแข็งอย่างมึงจะไปเข้าใจอะไรไอ้ใหญ่ คนอย่างมึงน่ะไม่เคยมีความรัก”
“....................” – ผมเงียบไป เจ็บดิคับ เสียวแปล๊บถึงหัวใจเลย ผมเนี๊ยแหล่ะรักมัน - “เออ กูมันไม่มีความรัก ถ้ามีแล้วเป็นอย่างมึง กูไม่มีดีกว่า” – นั่น ปากผมยังแข็ง

เราเงียบกันไปชั่วครู สักพักเดชก็รู้สึกดีขึ้นแล้ว เรานอนกอดกันอยู่อย่างงั้น สายตาผมอยากอ่านไดอารี่มันเหลือเกิน แต่มันปิดเอาไว้ สงสัยที่มันร้องไห้เพราะว่าเขียนไดอารี่แน่ๆเลย ผมถามมันว่ากินขนมไรกันป่ะ ซื้อมาตั้งหลายอย่าง ได้ผลคับ มันเลิกร้องไห้แล้ว ว่าไปแล้วมันก็เหมือนกับเด็กๆเลยคับ พอมีขนมมาล่อ ก็อารมณ์ดี ผมเดินไปแกะขนมปังนึ่งให้มัน

“กูรู้ว่ามึงชอบ” - ผมบอกมัน
“มึงรู้ได้ไง”
“มึงบอกกูเมื่อวันก่อน กูจำได้”
“อ่อเหรอ เออ กูชอบ ขอบใจว่ะใหญ่”
“เออ” – แล้วเราก็มีความสุข....กับขนมปังนึ่งของโปรดของมัน
-------------
ปล.
1.แต่งไปก็ร้องไห้ไปด้วยคับ (แม้มันจะผ่านมานานแล้วก็ตาม)
2.ถ้าฟังเพลง "อยากรู้...แต่ไม่อยากถาม" จะได้อารมณ์มากๆเลยคับ
3.ผมอาจจะหายไปบ้างนะคับ แวะไปอ่านนิยายเรื่องอื่น เดือนนี้ Launch เยอะเหลือเกิน นิยายเก่าที่ผมอ่านค้างไว้ก็เยอะอีก แต่ก็จะพยายามแต่งเรื่องของตัวเองไปเรื่อยๆ ละกัน

4.เข้ามาแล้วช่วย comment กันเยอะๆนะคับ เป็นกำลังใจ(สำหรับผม)ในการแต่งไปเรื่อยๆ ขอบคุณทุก comment นะคับ ผมอ่านทุกข้อความเลยคับ ขอบคุณมากๆคับ

TaEnIaE_CoLi

  • บุคคลทั่วไป
เง้อ

รู้สึกเหมือนกับว่าเดชมันแอบชอบใหญ่เหมือนกันนะเนี่ย

แต่มันคงงงว่าเป็นผู้ชายด้วยกันจะชอบกันได้งัย

ประมาณนั้นมั้ง

ท่าจะเศร้ามากนะเนี่ย :o12:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






TaEnIaE_CoLi

  • บุคคลทั่วไป
แล้วก็ขอบคุงมากนะคับ

ที่มาต่อให้ยาวๆเกือบทุกวัน

ขอบคุงจริงๆ

marchmenlo

  • บุคคลทั่วไป
เหนื่อยใจแทนใหญ่อ่ะ ...เจอดอกนี้เข้าไปจุกอ่ะดิ
โดนบอกรัก แต่ไม่ใช่รักอย่างที่ต้องการ
สามารถบอกรัก แต่เค้าไม่เข้าใจในความรัก  :เฮ้อ:

KATHAE*

  • บุคคลทั่วไป
เหนื่อยจัง .... แต่ยังไหวอยู่
ประมาณนี้เลยหรือเปล่าใหญ่

โธ่ ..เพื่อเดช ทำได้ทุกอย่าง เพื่อคนที่เรารัก ...


ฮึ่กๆ ....  แล้วเดชก็คลุมเครือ  :sad2:

pickki_a

  • บุคคลทั่วไป
ต่อกันเลยนะคับ ลงทุกวันอย่างงี๊แหล่ะคับ ตอนนี้แต่งไปเยอะแล้วล่ะคับ แต่เอาเป็นว่าทยอยลงละกัน (เรียกความอยาก...วันละนิด)

ตอนที่ 22
 :o8:
เดชดูเงียบๆ ไปอย่างบอกไม่ถูก ไม่รู้ทำไม อาจเป็นเพราะมันคงเพิ่งจะร้องไห้ไปมั้งคับ ผมเลยเลือกที่จะไม่พูดอะไรดีกว่า เรากินขนมกันเสร็จผมก็เตรียมเก็บชามไปล้าง มันบอกว่าไม่ต้อง ห้องมันเดี๋ยวมันทำเอง

ระหว่างที่มันกำลังล้างจาน ผมก็เผลออีกแล้วคับ ไดอารี่ของมันที่วางอยู่บนเตียงก่อนผมจะมา ผมอยากรู้อ่ะคับว่าข้างในมันเขียนอะไรบ้าง

“เดช ขอกูอ่านไดอารี่ได้ป่ะวะ” - ผมตะโกนถามมัน
“อย่าเพิ่ง”- มันวิ่งออกมาจากห้องน้ำ
“ทำไมวะ”
“กูอาย”
“วันก่อนมึงยังหยิบให้กูอ่านเลยน่า”
“กูยังเขียนไม่เสร็จ” - มันบอก
“งั้นไว้เขียนเสร็จค่อยอ่านก็ได้” - ผมบอกมัน
“อย่าแอบอ่านนะเว้ย”
“เออ กูรู้แล้ว”

ทำธุระทุกอย่างเสร็จแล้วคับ เดชมานั่งบนพื้นข้างๆเตียง ขณะที่ผมก็นอนอย่างสบายใจบนเตียงของมัน ตกลงคืนนี้ผมต้องอยู่ที่นี่ ค้างที่หอมันจริงเหรอเนี๊ย ตื่นเไม้จังคับ ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยไปนอนค้างที่อื่น (ถ้าไม่นับเรื่องไปเข้าค่ายลูกเสือตอนประถมกับมัธยมนะคับ) วันนี้จะเป็นครั้งแรกที่ผมจะต้องมานอนที่อื่น แต่เป็นที่ที่ผมอยากมามากที่สุด

จากการมาที่หอเดช 2 ครั้ง ทำให้ผมทราบว่านิสัยของเดชจริงๆแล้วายนอกเป็นคนที่โผงผาง รุนแรง แต่ข้างในเป็นคนที่อ่อนไหวได้ง่ายมากเลยคับ ดูจากของที่แต่งห้องแล้ว ไม่น่าเชื่อนะคับว่านี่เป็นห้องเด็กผู้ชาย ทำไมมันสะอาดอย่างนี้ แล้วก็ที่โต๊ะมีรูปที่มันวาดเองด้วยคับ แปะเอาไว้ มันบอกผมว่ามันวาดตั้งแต่มันอยู่ ม.1 ที่โรงเรียนแถวสุพรรณน่ะคับ อาจารย์ชมว่ารูปนี้สวยดี และก็ยังบอกอีกว่ามันน่ะมีพรสวรรค์ในการวาดรูป แต่ผมดูแล้วก็งั้นๆน่ะคับ ในรูปนั้นเป็นรูปเด็กผู้ชาย 2 คนยืนกอดคอกัน คนนึงถือลูกบอล อีกคนนึงถือถ้วยรางวัล ไม่รู้ว่ามันจะสื่ออะไรกับูปวาดใบนี้ มันมีความหมายอะไรซ่อนอยู่หรือเปล่าที่มันเอารูปใบนี้มาแปะเอาไว้  หรือบางที...ผมอาจจะคิดมากไปเอง

“มึงเขียนอะไรอยู่วะ” - ผมถามมันในขณะที่มันกำลังทำอะไรไม่รู้อยู่ข้างๆเตียง
“ทำการบ้าน”
“กูช่วยมึงได้ป่ะเดช”
“ไม่ได้หรอก”
“เหรอ”
“กูไม่ทำละ มึงช่วยกูไม่ได้ ทำวิชาที่มึงจะช่วยกูได้ดีกว่า”
“วิชาไรวะกูช่วยมึงได้น่ะ?”
“เคมีไง มึงน่ะเก่งเคมี”
“เออ ไม่เก่งหรอก แต่ถามกูได้นะ ถ้ากูรู้กูจะตอบมึง”
“เออ” – ผมรับปากมันไปงั้นๆแหล่ะคับ มันเองก็ไม่ได้ถามอะไรผมเลย มันก็เก่งประมาณนึงล่ะคับ
“แล้วที่บ้านมึงไม่ด่าเหรอใหญ่”
“ไม่หรอก มึงบอกแม่กูแล้วไม่ใช่เหรอ แม่กูก็ไม่ได้ว่าอะไร”
“เออ ดีแล้ว”
“แต่มึงอย่าเล่นกับกูอย่างงี๊อีกนะเว้ย กูคงออกมานอนข้างนอกบ่อยๆไม่ได้”
“แค่มึงมาหากู กูก็ดีใจแล้วแหล่ะใหญ่ กูขอบคุณมาก”
“เออ”
“มึงว่าต่ายนอนยังวะ” – เดชถามผม ทำเอาผมสะอึกเล็กๆ
“กูว่าตอนแล้วแหล่ะ นี่ก็ 5 ทุ่มกว่าแล้วนะ”
“ก็คงจริงแหล่ะ ถ้ามึงมาเร็วกว่านี้ กูเองก็ได้คุยกับต่ายแล้ว เพราะมึงเลยใหญ่” - มันจะพยายามโทษผม
“ไอ้นี่ มึงไม่โทรเองวะ ถ้ามึงโทรหาต่าย มึงก็ไม่ต้องเรียกให้กูมานอนกับมึงหรอก”
“ใหญ่ ตอนมึงออกมาหากู มึงคิดอะไรอยู่”
“ก็...ไม่ได้คิดอะไร”
“มึงเป็นห่วงกูเหรอ”
“ไอ้บ้า ใครห่วงมึง”
“มึงอย่ามาปากแข็งไอ้ใหญ่ กูรู้ว่ามึงห่วงกู กลัวกูคิดอะไรที่ไม่ควรใช่ป่ะ”
“เออดิ”
“สรุปแล้ว มึงเป็นห่วงกู”
“เออ เออ กูเป็นห่วงมึง พอใจยัง”
“ทำไมมึงปากแข็งจังวะ”
“ใครปากแข็ง กูคิดไรกูก็พูดอย่างงั้น”
“ไม่จริงเว้ย มึงปากแข็ง ปากบอกจะไม่มาหากู แต่แล้วมึงก็มาหากู ปากบอกว่าไม่ห่วงกู จริงๆแล้วมึงก็ห่วงกู”
“.........” – ผมเงียบไป อึ้งกับสิ่งที่มันพูด
“ใหญ่ ถ้ามึงเป็นอย่างเงี๊ยะ เมื่อไหร่มึงจะมีแฟน”
“กูไม่มีหรอกน่า แฟนน่ะ”
“ปากแข็งอีกแล้ว มึงเจอใครถูกใจ มึงบอกไปเลยว่ามึงชอบเขา”
“กูยังไม่เจอ”
“ไม่เชื่อหรอกน่า กูว่ามึงน่ะต้องมีคนที่มึงชอบแหล่ะใหญ่”
“..........”
“เงียบไมวะ” - มันถาม
“การบ้านมึงเสร็จยัง เสร็จแล้วจะได้นอน กูง่วง”
“เสร็จแล้ว แต่กูยังไม่ให้มึงนอน”
“มึงจะให้กูทำไรอีกล่ะ”
“เออน่า” - มันไปหยิบไดอารี่มา
“เอามาทำไม”
“มึงอยากอ่านไม่ใช่เหรอ”
“ตอนนี้กูไม่อยากอ่านแล้ว กูง่วง”
“ปากแข็งอีก เอาไป” -มันยัดใส่มือผม
“ของวันนี้มึงเขียนเสร็จแล้วเหรอ”
“ยัง”
“แล้วให้กูอ่านทำไม”
“เออน่า”

ผมรับไดอารี่มันมาอ่าน ยอมรับว่าอยากรู้เรื่องที่มันเขียนเหมือนกันนะคับ เรื่องราวในไดอารี่วันนี้มันบอกว่า

“…วันนี้กูอยากโทรไปหาต่าย กูไม่กล้า ที่พึ่งหนึ่งเดียวก็คือไอ้ใหญ่ กูโทรมามัน มันไม่ช่วยกู กูเข้าใจมันว่ะ ถ้ากูเป็นมันกูก็คงไม่ออกมา กูเสียใจมาก ร้องไห้ ไม่ได้ร้องเพราะต่าย กูร้องเพราะไอ้ใหญ่ มันไม่ช่วยกู แล้วทำไมกูต้องร้องไห้ให้มันด้วยวะ”
..
..
“แต่กูก็ดีใจอีกรอบ ไอ้ใหญ่โทรมา มันบอกว่าจะมานอนหอกู กูดีใจจริงๆ แต่ไหนบอกว่ามันจะไม่มาวะ เอาเถอะ เท่านี้กูก็ดีใจละ อย่างน้อยมันก็ห่วงคนอย่างกู แล้วตอนนั้นใจมันคิดอะไรอยู่วะที่มันออกมาหากูเนี๊ย”


ผมอ่านจบก็ถามมัน

“แล้วไง”
“กูถามมึงไง กูจะให้มึงตอบ”
“ตอบไรวะ”
“ตอนที่มึงออกมาหากู ตอนนั้นมึงคิดอะไรอยู่”
“กูบอกมึงไปแล้วไง”
“มึงปากแข็ง เอาที่มึงคิดจริงๆดิ มึงคิดอะไรอยู่”
“กูเป็นห่วงมึง พอใจยัง” – ผมตะโกนบอกมัน
“เอาดีดีดิใหญ่”
“กูเป็นห่วงมึง เดช กูห่วงมึงมาก กูกลัวมึงคิดอะไรไม่ดี”
“แสดงว่ามึงรักกู”
“เออ กูรักมึงเดช”
“กูก็รักมึงใหญ่ เพื่อนอย่างมึงกูก็ไม่เคยหาจากที่ไหนมาก่อน พอมาเจอมึง เพื่อนแท้เป็นยังไงกูก็เพิ่งรู้จากมึงนั่นแหล่ะ”
“เออ” – โล่งอกไปทีคับ เหมือนมันจะไม่รู้
“มึงเขียนประโยคนั้นลงไดอารี่กูหน่อยดิ”
“ประโยคไหนวะ” 
“ประโยคที่ว่ามึงห่วงกูอ่ะ”
“แต่ว่านี่มันไดอารี่มึงนะ”
“ไม่เป็นไรหรอกน่า”

ผมเขียนประโยค  “กูเป็นห่วงมึงนะเดช” ในไดอารี่ของมัน มันมองผมเขียนอยู่คับ ผมเขียนเสร็จผมก็ส่งคืนไปให้มัน

“ลายมือมึงสวยว่ะ”
“เห็นป่ะล่ะ อ่านง่ายกว่าลายสือไทยของมึงอีก”
“ลายมืออย่างกู เขาบอกว่า อนาคตจะได้เป็นเจ้าคนนายคนเว้ย”
“แล้วไง”
“เอาเหอะ อนาคตก็เป็นเรื่องของอนาคต แค่ปัจจุบันกูมีมึงเป็นเพื่อน กูก็ดีใจมากๆแล้ว”
“เออ กูรู้แล้ว มึงไม่ต้องย้ำกูหรอก”
“มึงเอาแปรงสีฟันมาป่ะ” – อ้าวอยู่ดีดีมันก็เปลี่ยนเรื่อง
“ไม่ได้เอามา กูรีบออกจากบ้าน ไม่ได้เอาอะไรมาเลย”
“แม้แต่กางเกงใน” - มันแซวผม
“เออดิ กกน. กูก็ไม่ได้ใส่มา”
“ฮ่าๆ ไอ้ใหญ่ มึงเสร็จกูแน่” – มันทำท่าจะมาปล้ำผม
“มึงอย่าเข้ามานะเว้ย ไม่งั้นมึงเจอ....แน่” – (ไม่น่าเลยผม น่าจะสมยอมมันไปเนอะ)
“ไปแปรงฟันได้แล้วป่ะ จะได้นอน”
“กูไม่มีแปรง กูจะแปรงได้ไง”
“กูแปรงเสร็จ เอาของกูไปใช้ต่อก็ได้”
“แต่ว่า...”
“ไม่เป็นไร กูไม่ถือ”

เราแปรงฟันกันเสร็จก็มานอนด้วยกัน จริงๆ แล้วเตียงมันเป็นเตียงขนาดคนเดียว แต่พอผมมาอยู่ด้วยก็ต้องนอนเบียดกัน ตอนแรกผมบอกว่าจะนอนพื้น มันไม่ยอม มันจะให้ผมนอนกับมัน นิสัยของมันแล้วมันเป็นคนที่ไม่ใส่เสื้อเวลามันอยู่ในห้อง ผมก็ไม่รู้ว่าต่อหน้าเพื่อนๆมัน มันจะอายหรือเปล่า แต่ตอนที่ผมมาที่ห้อง มันไม่ใส่เสื้อตั้งแต่แรกแล้วคับ หุ่นมันก็ดีนะคับ มีกล้ามนิดๆ ผมก็มองมันอยู่ตลอด(แอบหื่นเล็กๆ) พอปิดไปปุ๊บมันก็มากอดผม

“มึงกอดกูทำไม”
“กูกอดเพื่อนกู กูผิดด้วยเหรอ” - มันกอดแน่นยิ่งกว่าเดิมอีกคับ
“มึงปล่อยเถอะ กูไม่ชิน” – ผมบอกมัน
“กูรู้ว่ามึงชอบ” – แน่ะ มันยังมารู้ดีอีกว่าผมชอบ
“ไอ้บ้า มึงปล่อยกู”
“ไม่เป็นไรหรอก เพื่อนกัน ตอนกูอยู่สุพรรณกูก็กอดเพื่อนกูอย่างเงี๊ยะ”
“แล้วพวกไอ้เข้มล่ะ”
“ไม่เคย ไม่กล้า”
“แล้วมึงก็มากล้ากอดกู มึงรู้จักไอ้เข้มก่อนกูนะเว้ย”
“แล้วไง กูจะกอดคนที่เป็นเพื่อนรักกู แล้วตอนนี้มึงก็เป็นเพื่อนรักกูด้วย”
“เออ ตามใจมึงละกัน”
“มีบ้างป่ะใหญ่ ที่มึงจะไม่ปฏิเสธก่อน แล้วมึงก็มาทำทีหลัง”
“ไอ้เชี่ยเดช มึงนอนได้แล้ว เที่ยงคืนกว่าแล้วมึง กูง่วง”
“ทำไมมึงไม่ถอดเสื้อนอน” - มันถามผม
“แล้วทำไมมึงไม่ใส่เสื้อนอน” - ผมย้อนถามมันบ้าง
“มันไม่ชิน” – มันบอกผม “แล้วมึงล่ะใหญ่”
“กูก็ไม่ชินเหมือนกัน”
“งั้นมึงก็ลองถอดเสื้อนอนดู ไอ้ใหญ่”
“ทำไมกูต้องเชื่อมึงด้วยวะ ก็บอกแล้วว่ากูไม่ชิน”
“กูแค่เสนอทางเลือกที่ดีให้มึง ถ้าไม่ถอดกูถอดให้นะเว้ย” - มันทำท่าจะมาถอดเสื้อให้ผม
“เออ เออ กูถอดก็ได้”
“ก็แค่นั้น ต้องให้ลงไม้ลงมือ”

ผมถอดเสื้อเสร็จผมก็ลงไปนอนกับมันเหมือนเดิม

“ต้องอย่างงี๊ดิ ว่าง่ายดีว่ะใหญ่”
“เออ”
“มึงอายไรวะ มึงไม่ค่อยถอดเสื้อ”
“กูบอกมึงแล้วไม่ใช่เหรอว่ากูหุ่นไม่ดี”
“ไม่เห็นเป็นไรเลย น่ารักดีออก” –มันเอามือที่กอดผมไปเล่นพุงของผม ผมปัดออกไป (ไม่น่าเลยกู)
“มึงเลิกเล่นพุงกูได้แล้ว กูจะนอน มึงจะชวนกูคุยไปถึงไหน”
-----------------
ต่อพรุ่งนี้คับ

ออฟไลน์ ~NeMeSiS_PURE~

  • 행 복 하 길 바 래 ...
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2009
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +196/-2
จิ้ม

เฮ้อ  :เฮ้อ: อ่านแล้วเหนื่อยอ่า


ไม่ค่อยชัดเจนเล้ยเดช

TaEnIaE_CoLi

  • บุคคลทั่วไป
มะไหร่จาเปิดเผยความในใจกันละเนี่ย

คนอ่านลุ้นตัวโก่งแว้วว :serius2:

pickki_a

  • บุคคลทั่วไป
--มาแล้วคับ มาแล้ว วันละตอนคับ กำลังดีเนอะ ลงมากไม่ดี เดี๋ยวไม่ลุ้น--

ตอนที่ 23
 o13
ผมนอนคุยกันซักพัก ก็ถึงเวลาแล้วคับที่ผมจะได้นอนซักที ผมนอนไม่หลับหรอกคับ มันแปลกที่ ผมก็เลยครึ่งหลับครึ่งตื่นอยู่ ในขณะเดียวกันไอ้เดชมันหลับเอาเป็นเอาตายเลยคับ ถ้าผมจะแอบหอมแก้มมันผมก็คงทำได้นะเนี๊ย แต่ผมไม่ทำหรอกคับ คนที่ผมรักย่อมมีคุณค่ากับผมเสมอ ผมขอเก็บมันไว้อย่างงี๊นั่นแหล่ะคับดีแล้ว ผมไม่อยากให้มันช้ำทั้งร่างกายและจิตใจเลยคับ ผมมองดูมันนอนหลับ ดูๆไปมันก็น่ารักดีนะคับ ไม่รู้ดูยังไงผมก็เลยหลับไปกับมันด้วย

มีอยู่ตอนนึงคับ รู้สึกว่าประมาณตีห้ากว่าๆ มันนอนตะแคงข้าง หันหน้ามาหาผม แล้วก็กอดผมอย่างจัง คงนึกว่าผมเป็นหมอนข้างมันมั้งคับ กอดไปอย่างจัง แถมเอาหน้ามาซุกบนหน้าอกผมต่างหาก แล้วมือมันก็มาจับน้องชายของผม น้องชายของผมนี่สะดุ้งเลยคับ ผมพยายามที่สุดว่าจะไม่คิดอะไร แต่แล้วด้วยสัญชาติญาณ มันก็คงเป็นไปไม่ได้ล่ะคับ น้องชายผมคงอยากจะออกมารับอรุณกับเขามั่ง แต่มันก็คงจะเป็นไปได้แค่นั้นแหล่ะคับ เพราะว่ามันหันหน้าไปทางอื่นแล้ว ผมก็เลยได้หลับอย่างสงบซักที

“ใหญ่เว้ย ไอ้ใหญ่ ตื่นๆ ติ่นได้แล้ว เช้าแล้วมึง”
“อือ.........” ผมง่วงเต็มที เพราะเมื่อคืนผมนอนไม่ค่อยหลับ “กี่โมงแล้ววะ”- ผมถามมัน
“หกโมงสิบห้า”
“ขอกูนอนต่ออีกครึ่งชั่วโมงได้ป่ะ เหงมๆๆ”
“ถ้ากูอาบน้ำเสร็จแล้วมึงยังไม่ตื่น มึงตายแน่ไอ้ใหญ่”
“เออ” – ผมรับปากแบบสลึมสลือ แล้วมันก็อาบน้ำเสร็จ
“เมื่อไหร่มึงจะตื่นวะใหญ่”
“ขออีก 10 นาทีน่า นะนะ” - ผมเป็นโรคอย่างงี๊แหล่ะคับ
“กูไม่ให้มึงนอนแล้ว ตื่น ตื่นเดี๋ยวนี้” - มันตะโกนใส่หูผม
“เชี่ย แมร่ง ตื่นก็ได้วะ”
“ไปอาบน้ำเดี๋ยวนี้เลยป่ะ นั่นผ้าเช็ดตัวกู ใช้ไปก่อน”

ผมไปอาบน้ำอย่างว่าง่าย แต่ผมจะเป็นโรคที่อาบน้ำนานคับ ประมาณ 15 นาทีเป็นอย่างน้อย

“ไมมึงอาบน้ำนานจังวะ” - เดชถามผม
“เรื่องของกู”
“เปลืองน้ำกูเว้ย”
“ถ้ามึงกลัวเปลืองน้ำ วันหลังก็ไม่ต้องให้กูมานอนที่ห้องมึง โอเคป่ะ”
“ไอ้ใหญ่นี่ กูล้อเล่นเว้ย”
“แล้วชุดนักเรียนกูล่ะ ตายห่า กูต้องกลับไปเอาที่บ้านเหรอวะ กูสายแน่ๆไอ้เดช” – ผมนึกเรื่องชุดนักเรียนได้ ผมไม่ได้เอาอะไรมาเลยนอกจากหนังสือสองสามเล่ม ที่ไม่ได้เกี่ยวอะไรเลย
“มึงเอาชุดนักเรียนกูไปก่อนก็ได้ วันนี้กูเรียนพละ”
“กูจะใส่ของมึงได้เหรอ” – (แน่แหล่ะคับ ผมตัวใหญ่กว่ามัน และสูงกว่ามันด้วย)
“กูเดี๋ยวกูหาตัวใหญ่ๆ ให้มึง”
“เออ ขอบคุณ แต่ว่า ชุดนักเรียนมึง มันก็...ชื่อมึงดิ”
“ก็เออดิ ถามได้ ชุดของกูมันก็ต้องชื่อกูเดชะ”
“แต่กู......”
“หรือมึงจะกลับไปบ้าน แล้วมาโรงเรียนสาย”
“เออ ก็ได้ วันนี้กูจะเป็นมึง วันนึงละกัน” – ผมบอกมัน มันท่าทางดีใจเล็กๆ แล้วผมก็หยิบชุดนักเรียนของมันมาใส่
“พอดีเป๊ะ” - มันบอก
“กูว่ามันสั้นๆว่ะ กางเกงอ่ะ”
“ก็กูเตี๊ยอ่ะ กางเกงกูก็สั้นอย่างงี๊แหล่ะ”
“เออ แต่ก็แปลกๆดี กูไม่เคยใส่กางเกงสั้นๆ ขอบใจนะเว้ยเดช”
“ไปได้ยัง จะ 7 โมงแล้ว”
“เออ ไปก็ได้ป่ะ เฮ้ย แล้วมึงมีกระเป๋าไปโรงเรียนเหรอ”
“กูก็เนียนๆเอา ไม่เป็นไรหรอก ฝ่ายปกครองกับกูสนิทกัน”
“กูว่ามึงเอาใบนี้ถือๆไปเหอะว่ะ เดี๋ยวมึงจะเดือดร้อน” – มันส่งกระเป๋าลายทหารสีเทาดำมาให้ผมถือ
“ขอบใจว่ะ”
“งั้นก็ไปได้แล้ว เดี๋ยวสาย”

เราสองคนเดินออกมาจากหอ ผ่านตลาดหน้าปากซอย ตอนเช้าเป็นตลาดสดคับ ขายแต่ของสด ผมก็ไม่รู้จะกินของพวกนี้ยังไง (ล้อเล่นคับ) เราตกลงกันว่าจะไปกินที่โรงเรียนละกัน เราใช้เวลาประมาณ 20 นาทีก็ถึงโรงเรียนแล้วคับ ก่อนเข้าโรงเรียนมันชี้ร้านหมูปิ้งให้ผมดูด้วยคับ คนต่อคิวซื้อเยอะเหมือนกัน ผมถามมันว่ามันมาต่อคิวซื้อให้ผมเหรอ “ใช่แล้ว” แต่วันนี้ผมทำสัญญาที่ให้กับมันได้แล้วคับ ผมจะมาเช้าเพื่อมัน ใช่ดิ ผมไปนอนกับมันนี่หว่า

เข้าผ่านประตูโรงเรียนไป ผ่านฝ่ายปกครองก่อน ผมแวะเข้าไปรายงานตัวว่าวันนี้ผมมาไม่สายแล้ว ผมคงได้ทันมาเอาพานไปเชิญธงชาติแน่ๆ อาจารย์ทักผมว่ากางเกงน่ะสั้นไปนะ เหมือนจะเป็นกางเกงผิดระเบียบ แต่อาจารย์ก็ไม่ได้ว่าอะไรผมอีกหรอกคับ เห็นป่ะล่ะเส้นใหญ่ขนาดไหน หลังจากนั้นผมกับเดชก็พากันไปที่โรงอาหาร เพื่อไปกินข้าวเช้ากัน

“ปกติมึงมาโรงเรียนกี่โมง” - ผมถามมัน
“7 โมง”
“ตอนนี้มัน 7 โมงจะครึ่งแล้วอ่ะนะ”
“เพราะวันนี้มีมึง ก็เลยมาสาย”
“มึงจะว่ากูเป็นไม้เหตุใช่ป่ะ”
“ไม่หรอกน่า ช่างเหอะ รีบกินรีบไปเข้าแถวเหอะ เพลงโรงเรียนดังแล้วมึง” – มันเร่งให้ผมกินข้าวเร็วๆ
“แล้วหลังเข้าแถวกูต้องไปหามึงที่ห้องป่ะ” - ผมถามมัน
“มาดิ กูอยากให้มึงดูอะไร”
“เออ”

แล้วอะไรล่ะที่มันจะให้ผมดู ผมคิดอยู่ในใจ สติผมหลุดลอยไปกับเสียงประกาศเรียกแถวของอาจารย์แล้วคับ ผมไม่รู้เรื่องอะไรเลยจนเพลงชาติขึ้น เพื่อนที่เชิญธงบอกว่าเพลงชาติขึ้นแล้ว สติผมถึงได้กลับมานั่นแหล่ะคับ ไม่รู้ว่าทำไมผมถึงได้อยากรู้เรื่องของคนที่ผมรักทุกเรื่องเลยคับ ไม่ว่าเขาจะทำอะไรที่ไหน หรือแม้แต่เขาจะคิดจะทำอะไร มันทำให้ผมอยากรู้ไปซะหมด นี่แหล่ะมั้งคับ รักข้างเดียวก็สุขใจ

ผมเดินกลับไปที่แถวหลังผมเชิญธงชาติเสร็จ เป็นธรรมเนียมแล้วคับที่ผมจะต้องเดินผ่านแถวของเดช มันบอกผมว่าวันนี้ผมหล่อเป็นพิเศษ แล้วมันก็ชี้ไปที่หน้าอกตัวเอง สงสัยจะภูมิใจว่าผมใส่เสื้อมันแล้วคงจะดูดี คือจริงๆแล้วผมชอบใส่เสื้อที่ใหญ่กว่าตัวเองหน่อยนึงอ่ะคับ แบบว่าซื้อเผื่อโต ดังนั้นชุดที่ผมใส่จะเป็นชุดที่โคร่งๆ นิดหน่อย แต่พอผมมาใส่ชุดของเดช (ซึ่งมันคงจะหาขนาดใหญ่สุดที่มันมีแล้วแหล่ะคับ) มันเลยทำให้ผมดูสูง เพราะว่าผมใส่ชุดของมันแล้วพอดีตัว ก็เลยส่งเสริมความสูงของผมที่ผมมีอยู่มากแล้ว ให้มันมากไปกว่าเดิมอีกคับ พวกไอ้ไม้ยังไม่เห็นคับ เพราะมันมาสายเป็นประจำ ดังนั้นที่แถวของผมจึงมีเพื่อนแค่ 7-8 คนเอง (ผู้ชายห้องผมมีน้อยคับ) มันทักผมว่าไปเอาเสื้อใครมาใส่ ไม่ได้ดูตัวเองเลย บางคนก็บอกว่าเท่ห์ดี ผมควรจะเชื่อใคร

หลังจากแยกแถวเข้าชั้นเรียนแล้ว ผมไปหามันที่ห้อง

“มึงมีไร” - ผมถามมัน
“ฟังเพลงนี้ดิ” – มันยื่นเครื่องเล่น MD (ของไอ้เข้ม) ให้ผมฟัง เพลง “คนไม่สำคัญ” ของพลพล ผมฟังจนจบ
“ให้กูฟังทำไม”
“มึงช่วยไปบอกต่ายหน่อยเหอะ ว่ากูมันเป็นคนที่ไม่สำคัญ”
“.............” – ผมเงียบไป อีกแล้วคับ ไม่อยากให้มันพูดถึงต่ายเลยจริงๆ
“มึงเป็นไรว่ะ”
“เปล่าๆ อะไรนะ”
“กูเขียนเนื้อเพลงนี้ไว้ ตั้งแต่เมื่อวาน มึงเอาไปให้ต่ายหน่อยดิ”
“ต่ายเขาเคยฟังเพลงนี้หรอกน่า”
“เออน่า มันเป็นคุณค่าทางจิตใจ มึงช่วยกูหน่อยละกัน”
“เออ”
“แล้วเย็นนี้มึงก็ต้องมารอกูเหมือนเดิมนะ”
“ทำไมวะ”
“มึงจะเอาชุดนักเรียนของกูไปให้ที่บ้านมึงดูเหรอ ยังไงมึงต้องกลับไปเอาของของมึงที่หอกูอยู๋ดีนั่นแหล่ะ”
“เออ กูรู้แล้ว”

ผมเอากระดาษเขียนเนื้อเพลงไปให้ต่าย ก่อนจะเริ่มเรียนคาบแรก

“ใหญ่ แกเอาเสื้อใครมาใส่น่ะ” - ต่ายถามผมก่อนที่จะเอากระดาษเพลงให้อีก
“ของเพื่อน”
“เพื่อนชื่อเดชใช่ป่ะ”
“แกรู้ได้ไง” - ผมถามอย่างสงสัย
“ชื่อจริงของเดช เรารู้ชื่อจริงของเดช”
“ไปรู้มาจากไหนวะ”
“ก็เราเคยเห็นนี่นา เอาเป็นว่า ทำไมแกไปเอาเสื้อเดชมาใส่”
“แน่ใจนะว่าแกอยากรู้”
“มันมีอะไรเหรอ”
ผมเล่าเรื่องเมื่อคืน ที่ผมต้องออกไปหาเดชให้ต่ายฟัง
“แกก็ทำ เพื่อเดช” - ต่ายบอกผม
“อืม”
“ทำไมล่ะใหญ่ ทำไมแกต้องทำให้เดชขนาดนี้”
“ก็มันเป็นเพื่อนเรา”
“ถ้าเดชให้แกไปตาย แกจะไปป่ะ”
“มันไม่ทำอะไรอย่างงั้นหรอกน่า”
“แกอย่าลืมนะ ว่ามันจีบเรา”
“เรารู้ต่าย เรารู้ดี มากๆด้วย”
“แล้วทำไมแกต้องทำเพื่อมันขนาดนี้”
“ก็...........ยังไงล่ะ เอ่อ...... คือว่า............”
“แกชอบมันเหรอ”
“เปล่าซักหน่อย แกจะบ้าเหรอ มันใช้เราเพื่อมาจีบแกนะต่าย แล้วเราจะไปชอบมันได้ยังไง”
“เราว่าแกแปลกๆว่ะใหญ่”
“ยังไง”
“ไม่รู้ดิ เหมือนว่าเดชสั่งอะไรแกก็ทำตาม”
“มันสั่งเรื่องของแกทั้งนั้นแหล่ะต่าย”
“เหรอ แต่บางอย่างแกก็ไม่ต้องทำก็ได้นี่หว่า เรียกแกออกไปกลางคืน ดึกๆ ถ้าใครทำอะไรแก แกจะทำไง”
“แกห่วงเราเหรอต่าย”
“เออดิ เพื่อนกันนะ แล้วยิ่งมาเกี่ยวกับคนที่จีบเราด้วย ถ้าแกเป็นอะไรที่เกี่ยวกับเดชเราจะไม่ให้อภัยตัวเองเลยล่ะ”
“แกอย่าเว่อร์ไปหน่อยเลย เราไม่เป็นไรหรอก อ่ะ อันนี้เดชฝากมา อย่าให้ไอ้ไม้เห็นนะ” - ผมส่งกระดาษเพลงให้ต่าย “ไปอ่านที่บ้านนะ เราว่ามันไม่น่าจะอ่านที่นี่ว่ะ”
“ขอบใจมากใหญ่”
“อืม”
“แต่แกแต่งตัวแนวแบบนี้ มันไม่ชินตาเราอ่ะ”
“ทำไมเหรอ”
“แกดูหล่อขึ้น สูงขึ้น ไม่รู้ดิ มันเท่ห์”
“ชอบเราเหรอ เราไม่ชอบแกหรอกนะ เสียใจด้วย เราคงเป็นได้แค่เพื่อน กร๊ากๆๆๆ” - ผมแซวต่าย
“เพื่อนก็เอา กร๊ากๆๆ” – ต่ายแซวกลับมั่ง
อาจารย์มาแล้วคับ ลากผมกลับเข้าไปที่นั่งของตัวเอง เราไม่ได้คุยอะไรกันอีกจนหมดคาบพักกลางวัน
-------------
ต่อพรุ่งนี้ค้าบ.........

KATHAE*

  • บุคคลทั่วไป
ไม่ชัดเจนๆๆ


ไม่ชัดเจน

เดชไม่ เคลียร์

TaEnIaE_CoLi

  • บุคคลทั่วไป
ถอนตัวยังทันนะ

pickki_a

  • บุคคลทั่วไป
-พรุ่งนี้หยุด 1 วันนะคับ เจอกันวันจันทร์นะคับ-

ตอนที่ 24
 o2
ผมโดนถามเรื่องเสื้อของเดชทั้งวันเลยคับ ก็ไม่ได้อะไรหรอกคับผมก็ตอบไปว่าของเพื่อน และผมก็คิดว่าไอ้ไม้ก็คงจะไม่รู้ชื่อจริงของเดชด้วยหรอกคับ เพราะมันมาทักผมว่าวันนี้เสื้อผมแปลกๆ ก็แค่นั้นเองคับ ก็ดีแล้วคับผมไม่ต้องคอยตอบคำถาม

คาบบ่ายหมดไป เย็นแล้วผมก็ไปประชุมเตรียมงานโรงเรียนคับ วันนี้ต้องอยู่เย็นเป็นพิเศษ เมื่อวานพี่ส้มไม่ได้ประชุมคับ วันนี้ก็เลยทบต้นคิดดอกเบี๊ย ผมล่ะนั่งหลังอาน (ไม่ใช่หมาน้า...) หิวด้วย ตอนที่ผมดูนาฬิกาก็ทุ่มนึงแล้วคับ ผมกระวนกระวายมาก เดชบอกให้ผมรอ ผมจะไปหามันตอน 6 โมง แล้วตอนนี้มันทุ่มนึงแล้วอ่ะ มันจะโกรธผมหรือเปล่า มันจะโดนยุงกัดไหม มันกินอะไรหรือยัง ผมห่วงแทนมันทุกอย่างเลยคับ

พอดีมีรุ่นน้อง ม.4 คนนึงเดินเข้ามาหาผม

“พี่ใหญ่ แฟนพี่มารอน่ะ” – รุ่นน้องบอกผม แน่ะ กวนซะด้วย
“พี่ไม่มีแฟนเว้ย แล้วใครมารอพี่วะ”
“พี่คนที่มาช่วยจัดของวันนั้นน่ะ”
“เหรอ เขาอยู่ไหนวะ”
“หน้าห้องน่ะ พี่ไปหาเขาหน่อยเหอะ เขาฝากบอกผมมาว่าเขางอนพี่แล้ว ให้เขารอตั้งนาน”
“แกเป็นแฟนมันเหรอใหญ่ ถึงว่า วันนี้แกแต่งตัวแปลกๆ” – เอาแล้ว พี่ส้มล้อผม เฮ้อ!!!
“เปล่าพี่ เพื่อนกัน เมื่อวานผมไปนอนหอมัน แล้วผมยืมชุดมันมาใส่”
“แก้ตัวเสร็จเรียบร้อย แฟนกันแน่ๆ” – พี่ส้มยังไม่หยุด
“ผมไม่ชอบมันหรอก เพื่อนกันคับพี่”
“เอางี๊ พี่ให้แกไปเคลียร์ก่อน แล้วค่อยกลับมาประชุม”
“คับพี่ ขอบคุณคับ”

ผมรีบวิ่งไปที่ประตู เห็นมันนั่งตบยุงอยู่ข้างหน้า

“มึงไม่ออกมาพรุ่งนี้เลยล่ะ” - มันประชดผม
“กูขอโทษ พี่เขาประชุมนาน”
“แล้วจะเสร็จยัง”
“ยังว่ะ มึงไปรอข้างในก็ได้นะเว้ย”
“อย่าดีกว่า กูเกรงใจ”
“เอาน่า พี่เขาก็รู้จักแกแล้ว ไม่เป็นไรหรอก”- ผมจูงมือมันเข้าไปข้างใน
“พี่ส้มให้เพื่อนผมอยู่ข้างในนะคับ”
“เออ ไม่เป็นไรหรอก แฟนกัน พี่เข้าใจ” – เอาแล้วพี่ส้ม มันยังไม่รู้เลยว่าพวกพี่แซวมันกับผมเป็นแฟนกัน ผมล่ะไม่อยากให้มันรู้เลย ซวยแน่ผม
“ผมเป็นเพื่อนกันคับพี่ส้ม” – ผมยังคงแก้ตัว แบบว่า น้ำขุ่นๆ
“ไม่เป็นไร พี่เข้าใจใหญ่ ชื่อที่เสื้อเหมือนกัน”
“ประชุมต่อเหอะพี่ ถึงไหนแล้ว ลำดับพิธีการ งานของผมแล้วนี่ บลาบลา.....” – ผมทำเป็นเปลี่ยนเรื่องคับ ให้ทุกคนดึงกลับมาสู่วงประชุม ผมอายดิคับ ลำพังผมอยู่กับพวกนี้ยังโดนซะขนาดนั้น แล้วยิ่งเอามันเข้ามานั่งด้วยอีก
“จบแล้ว งานของแก ใหญ่”
“ผมกลับบ้านได้ยังคับพี่”
“ก็จะกลับเลยก็ได้นะ ที่เหลือก็เป็นงานของผู้ใหญ่อ่ะ เดี๋ยวพวกพี่ประชุมกันต่อ พวกแกกลับกันไปเลย โอเคค่ะ” - พี่ส้มสั่งรุ่นน้อง ม.4 – ม.5 ให้กลับได้เลย
“ไอ้ใหญ่ดูแลแฟนแกด้วยนะ” – นั่นไง พี่ส้มยังไม่เลิก
“แฟนผม ผมดูแลได้น่าพี่” - ผมเริ่มหมดความอดทนกับการปิดบังแล้วคับ อยากล้ออะไรก็เอา

แล้วผมกับเดชก็เดินออกมานอกโรงเรียน สองทุ่มแล้วคับ ผมหิวข้าวมากๆเลย ระหว่างทางเดชก็คุยโน่นคุยนี่เหมือนเดิมคับ ไม่รู้ว่าพระเจ้าเอาปากมันให้มาพูดหรือไง

“ร้านไหนใหญ่วันนี้” - มันถามผม
“เมื่อวานเราพาไปแล้ว วันนี้แกพาไปมั่งดิ”
“โอเค”

มันพามาที่ร้านจิ้มจุ่มอีสาน ใกล้ๆกับหอของมันคับ

“มึงเคยกินป่ะใหญ่”
“เคย”
“นึกว่าคนกรุงอย่างแกจะไม่เคยกิน”
“อย่ามาดูถูก ของอะไรแปลกๆ ใหญ่กินมาหมดแล้ว”
“แล้วมีอะไรมั่งที่ยังไม่เคยกิน”
“แฟนเพื่อน” – ผมพูดเบาๆ อ้าปากน้อยๆ กลัวมันจับได้
“อะไรนะ”
“ขนมปนเปื้อน”- เข้าใจคิดเนอะ
“อย่าเลย มันอันตราย ไม่เคยเรียนเหรอ ต้องกินที่มี อ.ย. รับรอง”
“อืม....”

มาแล้วคับจิ้มจุ่ม เราสองคนหิวมาก ไม่ได้คุยอะไรกันซักคำเลย กินอย่างกับแร้งลง ไม่ถึง 10 นาทีหมดแล้วคับ เราสองคนตกลงจะไปกินบัวลอยกันอีก ซักไปซะเยอะจนอิ่มแปร่ จนเดชต้องเดินเกาะคอผมกลับหอ

“กูเมาว่ะใหญ่จ๋า...”
“เป็นเชี่ยไรของมึง”
“เมาบัวลอย” - มันยังดินเกาะคอผม
“เออ เข้าใจเมาว่ะ”
“เมารักด้วย”
“.................”
“กูเมารักว่ะใหญ่”
“รักต่ายอ่ะนะ”
“กูรักเขา กูอยากเป็นแฟนเขา แต่กูก็ขาดมึงไม่ได้เหมือนกัน”
“..........”
“หรือกูชอบมึงวะใหญ่”
“อย่ามาชอบกู กูสยอง” - ปากผมมันมักจะไม่ตรงกับใจคับ
“กูว่ากูต้องรู้สึกดีกับมึง”
“เหรอ”
“กูก็รู้นะว่ามึงรู้สึกยังไงกับกู”
“...........” – เอาแล้วคับ มันจะรู้ป่ะเนี๊ยว่าผมชอบมันอยู่
“มึงไม่เคยมีเพื่อนแบบกูไงใหญ่ พอมึงมีเพื่อนแบบกู มึงเลยดีใจ อยากเอาใจเพื่อนคนนี้ไง”
“เออ กูดีใจมาก ที่มีคนอย่างมึงเป็นเพื่อน” – โล่งอก แต่ก็เจ็บในใจน่ะคับ
“เออ นี่มึงเมาจริงป่ะเนี๊ย มึงดูเพ้อๆนะ” - ผมถามมัน
“ไอ้บ้า คนอะไรจะมาเมาบัวลอย”
“กูก็ว่าอย่างงั้นแหล่ะ”
“ใหญ่จ๋า ตู้โทรศัพท์อยู่ข้างหน้าน่ะ”
“ทำไมเหรอ”
“โทรหาต่ายกันนะ”
“เออ กูรู้แล้ว.............” – ผมหยิบเหรียญบาทมาสองสามเหรียญ หยอดตู้ แล้วก็กดเบอร์

“มึงจำเบอร์ต่ายได้เหรอ” - มันถามผม
“อืม จำได้ .............ติดแล้ว” - “ขอสายต่ายคับ” - ผมพูดกับปลายสายก่อน
“พูดอยู่ค่ะ ใหญ่ใช่ป่ะ” – ไม่ต้องรอให้พูดอะไรต่อ ผมส่งโทรศัพท์ให้เดชทันที แล้วผมก็ออกมายืนพิงตู้โทรศัพท์ข้างนอก
“เดชนะต่าย”
.....
...........
..............
...................
ครั้งนี้ก็คุยกันเหมือนเดิมแหล่ะคับ ไม่ถึงนาที แล้วก็...
“อ่ะ ต่ายอยากคุยด้วย” – ผมรับโทรศัพท์จากเดช
“มีไรต่าย” - ผมถาม
“เมื่อไหร่แกจะกลับบ้านซักที”
“เดี๋ยวก็กลับแล้ว มาเอาของที่หอเดช แล้วก็นั่งรถเมล์กลับ”
“เออ รีบกลับนะ เป็นห่วง”
“ห่วงคนอย่างเราเนี๊ยนะ”
“เออดิ แกเป็นเพื่อนเรานะ ที่แกต้องเป็นอย่างงี๊ ก็เพราะฉัน”
“บอกแล้วว่าเลิกโทษตัวเองซักที เลิกคิดได้แล้วว่าตัวเองต้องมาทำให้เพื่อนเดือดร้อน”
“ก็.........”
“แกสัญญาได้ป่ะ ว่าจะไม่พูดอย่างงี๊อีก”
“ก็ได้ แต่เราไม่สบายใจ เวลามีโทรศัพท์แกกับเดช”
“เออน่า เอาเหอะ วันหลังเราจะให้มันโทรหาแกเองแล้ว เดือดร้อนเราทุกวัน”
“อืมๆ งั้นแค่นี้ก่อนนะ”

แล้วผมกับมันก็เดินกลับไปยังหอมัน มันก็ยังเหมือนเดิมกับผมคับ คุยโน่นนี่กอดคอผมจนถึงหอ ผมรีบเก็บของที่ผมเอามา ก็แค่หนังสือสองสามเล่มที่ถือมาอย่างงั้นๆ แหล่ะคับ

“จะไปจริงๆเหรอใหญ่” - มันถามผม
“เออ ไปแน่ กูไม่ได้เป็นอะไรกับมึงนี่หว่า”
“นึกว่าคืนนี้จะยู่ด้วยกันอีก”
“ไอ้บ้า”
“คิดไรอยู่อ่ะไอ้ใหญ่” - มันถามเหมือนมันรู้ว่าผมคิดอะไรอยู่
“ไม่ได้คิดไรซักหน่อย” – สายตาดูลอกแล่ก แปลกๆ
“เหรอ”
“เดี๋ยวที่บ้านกูจะว่าเอาว่ะเดช เดี๋ยวไว้กูขอใหม่แล้วกูจะมานอนกับมึงนะ”
“กูรอมึงอยู่นะใหญ่”
“เออ สั่งเสียอย่างกับกูจะไปตาย”
“ก็อยากให้อยู่ด้วยกัน มันก็ดึกแล้วอ่ะ 3 ทุ่มกว่าแล้วนะ”
“กูกลับได้ รถเมล์ยังมี”
“ให้กูไปส่งมึงนะ”
“อย่าเลยว่ะ กูว่ามึงเก็บของที่ห้องมึงเหอะ นะนะ กูกลับได้ จริงๆ”
“แน่ใจนะเว้ย”
“เออ กลับได้”
“แต่กูอยากไปส่งมึงอ่า......”
“กูกลับได้ ให้กูบอกกี่ครั้งวะ”
“เออ ถ้ามึงต้องการอย่างงั้น”- เสียงมันดูหดหู่ลง
“พรุ่งนี้เจอกันนะ”
“มาเช้าๆนะเว้ย กูรออยู่”
“เออ”
“กลับดีดีนะ ระวังพวกจิ๊กโก๋ด้วย มึงยิ่งหน้าตาจะไปหาเรื่องมันอยู่”
“เออ”
“ถึงบ้านแล้วโทรบอกกูด้วยนะ”
“เออ”
“มึง............”
“เออ กูรู้แล้ว มึงจะสั่งอะไรกันนักหนาวะ เออ ถึงบ้านแล้วกูจะโทรบอกมึง โอเคป่ะ ไปนะเว้ย”
“โชคดีนะใหญ่” – มันมาส่งผมที่ประตูห้อง แล้วมันก็ผิดประตูห้อง
................






















.
..
...
“กูรักมึงนะเดช”  - ผมพูดเบาๆ กับประตูห้องมัน แล้วผมก็เดินออกจากหอมันเพื่อกลับบ้านผม
-------------

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






pickki_a

  • บุคคลทั่วไป
ตอบคำถามคับ
จิ้ม

เฮ้อ  :เฮ้อ: อ่านแล้วเหนื่อยอ่า


ไม่ค่อยชัดเจนเล้ยเดช

ไม่ชัดเจนๆๆ


ไม่ชัดเจน

เดชไม่ เคลียร์

คือว่ามันจะคงยังไม่เคลียร์ อีกนานเลยคับ เพราะผมเล่าเรื่องในมุมมองของผม ซึ่งผมไม่รู้จริงๆว่าที่เดชทำกับผมแล้วจริงๆแล้วตัวเดชเองคิดอะไรอยู่ แต่ท้ายที่สุดแล้วมันจะเคลียร์ตัวเองได้แหล่ะคับ เมื่อไหร่ ลุ้นเอาละกัน

ถอนตัวยังทันนะ

ผมว่ามันไม่ทันแล้วมั้งคับ รักไปแล้วนี่หว่า

แล้วก็ขอบคุณที่มาเม้นกันด้วยนะคับผม พรุ่งนี้หยุด 1 วันคับ เจอกันวันจันทร์นะคับ

ออฟไลน์ nOn†ღ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-6
คำว่า "รัก" อ่ะ อยากให้พูดดังๆ จังเลย   

รอตอนต่อไปจ้า :L2:


ออฟไลน์ Just let it be

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 979
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
กว่าจะรู้เรื่องทั้งหมด  อึดอัดตายก่อนแน่เยย

 :เฮ้อ:

chatnaha

  • บุคคลทั่วไป

บอกไปเลยป่ะ จะได้ไม่ต้องมาอึมครึมแบบนี้ รู้ๆกันไปเลย


ออฟไลน์ ronger

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 599
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
บรรยากาศอึมครึมจังเลย o7 o7 o7

ออฟไลน์ ~NeMeSiS_PURE~

  • 행 복 하 길 바 래 ...
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2009
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +196/-2
สุขปนเศร้า  :เฮ้อ:

angsumalin

  • บุคคลทั่วไป
ผมละอึดอัดแทนจริงๆไม่เคลียร์ๆ  :เฮ้อ:

แต่ก็มีความสุขที่ได้อยู่กับคนที่รักถึงแม้จะพูดออกมาไม่ได้   :m15:

รอลุ้นต่อไป  :a2:

pickki_a

  • บุคคลทั่วไป
มาแล้วคับมาแล้ว เมื่อวานไปพักผ่อน 1 วันคับ วันนี้เอามา 1 ตอนเหมือนเดิม

ตอนที่ 25
 o2
ผมกลับบ้านไปด้วยความคิดสองอย่าง อย่างแรกก็คือ ที่บ้านจะว่าผมหรือเปล่า เล่นหายไปโดยไม่ได้โทรบอกเลยตั้งแต่ผมออกมาจากบ้าน เบาะแสเดียวที่รู้ก็คือมาติวหนังสือก็แค่นั้นเอง ความคิดอย่างที่สองก็คือ ดูเหมือนว่าเดชจะไม่รู้ว่าผมคิดอะไรกับมัน มันยังทำตัวกับผมเหมือนเดิม ซึ่งผมก็ดีใจและก็คิดว่า แค่นั้นก็คงจะพอแล้วแหล่ะคับที่ผมจะขอจากมัน มันบอกรักผมทุกวันเลยคับตั้งแต่เราเริ่มสนิทกัน แต่ก็...แค่ฐานะของเพื่อนแหล่ะคับ ผมไม่รู้จริง ๆ คับว่าใจมันจริงๆแล้วมันคิดอะไร ได้แต่แอบเข้าข้างตัวเองไปวันๆ ว่ามันมาหาผมก็เพราะเอาเรื่องของต่ายมาเป็นข้ออ้าง ซึ่งในความเป็นจริง มันกลับกันคับ

กลับถึงบ้านแล้วคับ หูชาเล็กน้อยว่าทำไมไม่โทรบอก รู้หรือเปล่าว่าที่บ้านเขาเป็นห่วง วันหลังไปไหนโทรบอกด้วยนะ นั่นไงล่ะ แต่นั่นก็เป็นข้อดีของการโดนด่านะคับ เพราะที่บ้านบอกว่าจะซื้อโทรศัพท์ PCT ให้ผมเครื่องนึง เอาไว้โทรตาม ลึกๆผมน่ะอยากได้มานานแล้วคับ เพื่อนมีกันเยอะแล้ว ผมยังไม่มีเลย แต่คิดอีกที ก็เป็นเครื่องมือให้โทรตามกลับบ้านได้ง่ายขึ้นน่ะดิ เฮ้อ!!! แต่ก็ดีแหล่ะคับ มีโทรศัพท์ เอาไว้โทรหาใครก็สะดวกขึ้น (แต่ก็อย่างว่าล่ะคับ PCT สัญญาณดีมีคุณภาพ ก่อนโทรต้องเขย่าหาคลื่นก่อนทุกครั้ง)

ผมลืมอะไรไปบางอย่างแหล่ะคับ เหมือนว่าถึงบ้านแล้วต้องทำอะไรอีกอย่างนึง แต่ผมก็จำไม่ได้ว่าต้องทำอะไร จนกระทั่ง....

“ไหนบอกถึงบ้านจะโทรหา” – นั่นไง ผมจำได้แล้ว ไอ้เดชโทรหาผม
“กูลืม กูขอโทษ”
“มัวแต่ทำไรอยู่วะ”
“อาบน้ำ แล้วก็จัดของไปโรงเรียน”
“ให้กูนั่งรอโทรศัพท์ตั้งนาน”
“ชั่วโมงกว่าๆ เองอ่ะนะ ธรรมดาน่า” – แน่ะ ยังไปเถียงมันอีกนะผม
“ถึงบ้านปลอดภัยก็ดีแล้ว รู้ป่ะว่ากูเป็นห่วง”
“ไม่รู้” - ผมแกล้งมัน
“มึงอย่ามากวนตรี๊นส์กู”
“ใครกวนก่อน”
“มึงนั่นน่ะ ใหญ่ มึงเลย”
“กูไปกวนตึงตอนไหน”
“ตอนนี้ไง กูเป็นห่วงมึง มึงก็กวนตรี๊นส์กู”
“งั้น ขอบคุณมากๆที่เป็นห่วง”
“เออ”
“กูมีบางอย่างจะบอกมึงว่ะเดช”
“อะไรวะ”
“ที่บ้านเขาจะซื้อ PCT ให้กูว่ะ”
“เหรอ เออ ดีใจด้วยว่ะใหญ่”
“อืม เพราะมึงนั่นแหล่ะเดช”
“ทำไมเพราะกูวะใหญ่”
“ก็กูหายไปวันนึง กูไม่ได้โทรกลับบ้าน กลับมากูโดนด่า เขาก็เลยจะซื้อโทรศัพท์ไว้ให้กู เอาไว้โทรตาม”
“ดีดี กูจะได้โทรหามึงดึกๆได้”
“ดึกๆ กูจะนอน มึงไม่ต้องโทรมา”
“โห่ย รีบนอนทำไมวะ”
“แค่นี้กูก็ตื่นสายแล้วมึง”
“ไอ้ขี้เซา” – แมร่ง ด่ากู
“ด่ากูเหรอ เออ งั้นกูไปขี้เซาแล้วกัน กูง่วงแล้ว เมื่อคืนไม่ได้นอนเลย”
“อย่ามาอำกู กูปลุกมึงยังไม่ตื่นเลยเมื่อคืนน่ะ”
“กว่ากูจะหลับลง เชี่ย กูไม่คุ้นสถานที่เว้ย”
“เออเออ งั้นมึงไปนอนเหอะ ฝันดีเว้ยใหญ่”
“เออ ฝันดีว่ะเดช”

เช้าขึ้นมา ผมก็เหมือนเดิม ตื่นสายดิคับ แต่วันนี้ผมรีบทำธุระส่วนตัวเร็วเป็นพิเศษ เพื่อจะได้ไปโรงเรียนทันเข้าแถว และที่สำคัญ ผมจะไปกินข้าวกับเดชคับ แล้วถ้าผมได้เจอเดช ผมจะบอกว่าวันนี้ผมบังเอิญมาเช้าคับ ทั้งที่จริงแล้วผมจงใจที่จะมาเช้าเพื่อเจอมันคนเดียว เมื่อผมถึงโรงเรียนผมไม่รอช้าเดินตรงไปที่โรงอาหาร แต่กลับพบว่าโรงอาหารนั้นแทบจะไม่มีคน

ก็ใช่ดิคับ ผมมาพอดีเรียกแถวแล้วล่ะ ใครเขาจะมารอล่ะถ้าเรียกแถวแล้วก็ต้องไปเข้าแถวดิคับ สรุปแล้ววันนี้ความพยายามของผมสูญเปล่า ที่ผมพยายามที่จะมาเช้า ก็เพื่อที่จะได้เจอเดชแล้วก็ได้กินข้าวกับเดช

ในเมื่อผมไม่เห็นเดชที่โรงอาหารแล้ว ผมจึงตัดสินใจเดินไปที่แถวของผม ซึ่งในความเป็นจริงผมไม่ต้องเดินไปก็ได้ จริงๆแล้วผมจะไปดูว่าเดชไปเข้าแถวแล้วหรือยัง แล้วผมก็ยังไม่เห็นเดชคับ แล้วเดชไปไหนล่ะ เมื่อวานมันไม่ได้บอกอะไรผมเลยว่ามันไปไหน ปกติมันมาเช้าเป็นประจำ สัญญาณเรียกเข้าแถวแล้วจะต้องเห็นมันทุกครั้ง แล้ววันนี้มันไปไหนล่ะ

ไม่ได้แล้วคับ ผมรอไม่ได้ หน้าที่ของผมที่จะต้องไปทำ เชิญธงชาติไงคับ ผมเดินคอตกไปเอาพานและเอาธงชาติมาผูกไว้ โดยปกติแล้วผู้เชิญธงชาติเขาให้ผมผูกขาดเป็นผู้เชิญฝ่ายชาย จะเป็นผมคนเดียว ส่วนฝ่ายหญิงก็แล้วแต่คับ บางวันก็เป็นรุ่นน้องคณะกรรมการ บางวันก็เพื่อนผมเอง แล้งแต่ผมจะไปตกลงกับเขา แล้ววันนี้ก็เป็นวันที่ต่ายจะต้องมาเชิญธงชาติกับผม

ระหว่างรอเชิญธงชาติ
“เมื่อวานถึงบ้านกี่โมงอ่ะ” - ต่ายถาม
“เกือบๆ 4 ทุ่ม”
“โล่งอก รู้ป่ะว่าเป็นห่วง”
“อืม ขอบคุณมากๆ”
“แล้วเดชล่ะ”
“ทำไมเหรอต่าย”
“เดชมาส่งแกป่ะใหญ่”
“ไม่อ่ะ เราบอกมันว่าไม่ต้องมาหรอก”
“อ่อเหรอ”
“มีไรป่ะต่าย”
“เดชมันเอาเปรียบแกอยู่รู้ป่ะ”
“เหรอ”
“แกรู้ตัวมั่งป่ะเนี๊ยใหญ่”
“เหรอ”
“นี่แกไม่รู้ตัวเหรอว่ามันกำลังเอาเปรียบแก”
“เรายินดีว่ะต่าย” - ผมพูดเบาๆ
“ว่าไงนะ”
“ช่างมันเหอะ เราว่านะมันคงทำงี๊ได้อีกไม่นานหรอก เดี๋ยวมันก็เลิกไปเองแหล่ะ”
“ให้มันจริงเถอะ”
“อืม แต่ตั้งแต่มันเข้ามารู้จักเรา มันก็ดีเหมือนกันนะต่าย”
“ยังไง ไม่เห็นจะดีตรงไหน มันทำให้แกเดือดร้อน”
“ช่างเหอะ ไม่เป็นไรหรอก”

บทสนทนายุติลง เมื่ออาจารย์สั่งเคารพธงชาติ ผมเชิญธงชาติตามปกติ หลังจากเรียบร้อยแล้วผมเอาพานไปเก็บที่ห้องปกครอง แล้วก็เดินกลับไปที่แถวพร้อมกับต่าย อ้าว คราวนี้ผมเห็นเดชแล้วคับ คราวนี้มันส่งยิ้มให้ผมแทน มันเหมือนจะอายๆ ตอนที่ต่ายเดินมากับผมด้วย สังเกตว่าหลังจากมันยิ้มเสร็จแล้วมันก็ก้มหน้า ผมให้ต่ายเดินไปก่อน ต่ายก็ว่าง่ายเนอะ แล้วเดชก็คว้าแขนผมไว้ แล้วบอกผมว่า “ที่เดิม” ผมรู้แหล่ะคับว่าที่เดิมคือที่ไหน

หลังแยกแถวเข้าชั้นเรียนผมไปหามันตามที่นัดเอาไว้ มันส่งถุงกระดาษหน้าตาคุ้นตาอีกแล้วมาให้ผม

“ตื่นสายล่ะดิวันนี้” - มันบอกผม
“รู้ได้ไง”
“รอตั้งนาน จนเข้าแถว”
“รอที่ไหนวะ”
“โรงอาหาร”
“วันนี้กูมาทันเข้าแถวนะเว้ย กูไปหามึงที่โรงอาหาร แต่ก็ไม่เห็นมึง”
“กูรอมึง รอจนสัญญาณเข้าแถวดัง กูก็เลยวิ่งออกไปซื้อหมูปิ้งให้มึง”
“วันหลังไม่ต้องนะเว้ย กูเกรงใจ”
“เดี๋ยวมึงจะเป็นลมคาห้องเรียนมึง แล้วใครจะช่วยกูจีบต่าย”
“เออ กูรู้ดีหรอกน่า มึงมาคบกับกูเพราะอะไร” – (คือตอนผมพูด ผมไม่ได้คิดอะไรจริงๆนะคับ)
“มึงอย่าพูดแบบนั้นอีกนะใหญ่ กูขอร้อง”
“.............”
“ไม่ว่าจะยังไงก็ช่าง วันนี้กูรู้จักมึง กูมีมึงเป็นเพื่อน กูมีความสุขที่สุด กูพอใจแล้ว”
“แต่ว่า..............”
“ไม่มีแต่ วันนี้ พรุ่งนี้ วันไหนๆ กูก็จะรักมึงอย่างงี๊แหล่ะใหญ่”
“แต่ว่า...........”
“มึงจะแต่อะไรวะใหญ่ หรือว่ามึงไม่รักกู”
“แต่ว่ากูเบื่อหมูปิ้ง จริงๆนะ ถ้าวันหลังกูมาสาย มึงไม่ต้องซื้อมันมาแล้วนะเว้ย”
“อ้าว...เหรอ ก็แล้วมึงจะกินอะไรล่ะ”
“วันหลังกูจะมาให้เช้ากว่านี้ เพื่อมึงนะเดช”
“เพื่อกู เพื่อกูต้องทำขนาดนั้นเลยเหรอใหญ่ กูขอบคุณจริงๆ”
“มึงอย่าเว่อร์ ถ้ากูมาสายกูก็ต้องกินหมูปิ้งทุกวัน กูเบื่อ กูก็จะมาเช้าๆ ประหยัดค่าหมูปิ้งมึงด้วย”
“อืม ดีดี”
“เย็นนี้กูต้องรอมึงป่ะเดช” - ผมถาม
“อยู่แล้วแหล่ะใหญ่ มึงก็ต้องรอกู”
“ถ้ากูประชุมเสร็จช้ากว่ามึงอ่ะ”
“กูก็จะรอมึง”
“อืม ได้ๆ ถ้ามึงยืนยัน เอางี๊ ถ้ากูเสร็จก่อน กูจะไปหามึงที่สนามบอล แต่ถ้ามึงเสร็จก่อน มึงมาหากูที่ห้องกรรมการนักเรียนนะเว้ย”
“เออ” - มันรับปากผม
“งั้นกูไปละนะ”
“เพื่อนรัก ไปเหอะ เดี๋ยวเข้าห้องเรียนช้า”

ผมเดินก้มหน้ากลับห้องตัวเองไป มันก็วิ่งเข้าห้องตัวเองไปแล้ว






















“ตั้งใจเรียนนะคับ ที่รักของผม” - ผมพูดเบาๆให้ตัวเองได้ยิน
----------------
ต่อพรุ่งนี้คับ

TaEnIaE_CoLi

  • บุคคลทั่วไป
เง้อ มันช่างคลุมเครืออารายเช่นนี้

"...หมอกจางจางและควัน คล้ายกันจนบางทีไม่อาจรู้

อยากจะถามดูว่าเธอเป็นอย่างหมอกหรือควัน..."

TaEnIaE_CoLi

  • บุคคลทั่วไป
ปล.ถอนตัวออกมาเถ๊อะ เชื่อผม

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด