ตอนที่ 1
คุณเคยเชื่อเรื่องบาปกรรมไหมครับ ?
อย่าเพิ่งส่ายหน้าหนี นิยายเรื่องนี้ไม่ใช่หนังสือธรรมมะครับ
ผมแค่เกริ่นนำเฉยๆ เท่านั้นแหละ
ที่ผมหมายความถึงก็แค่เรื่องสิ่งที่ทำไว้ในอดีตส่งผลถึงปัจจุบันครับ
ย้อนกลับไปเมื่อสมัยม. ปลาย ตอนนั้นผมอยู่ม.6 เฮี้ยวมากช่วงพักเที่ยงจะแบ่งเวลาเล็กๆ น้อยๆ มาเล่นเกมพระราชากับเพื่อนในกลุ่ม ผมเล่นทีไรดวงซวยตลอดชาติไม่เคยได้เป็นพระราชา นานๆ ทีที่ได้เป็นก็ไม่รู้จะสั่งให้แจ็คทั้งหลายทำอะไรอีก เอาเป็นว่าถึงดวงซวยแต่ผมก็ชอบเล่นนั่นแหละ
อย่างว่าอยู่ม.6 ปีสุดท้ายแล้วไม่มีอะไรจะเสียแล้ว ต่อให้ทำอะไรน่าอายก็อายแค่แปปๆ เดี๋ยวก็จบ
ผมชอบแพ้ตลอดเลยครับ ไม่พอยังชอบให้ผมทำอะไรบ้าๆ บอๆ อย่างตะโกนร้องเพลงชาติบ้าง ไปนั่งกินขนมกับน้องบ้าง ช่วยภารโรงถูพื้น ซื้อน้ำไปถวายให้ครู
ซึ่งแค่นี้ถือว่าเป็นเรื่องจิ้บๆ เลยครับท่าเทียบกับเรื่องนี้
ไอ้พระราชามันให้ผมไปบอกชอบน้อง ม.4 ผู้ชายครับ !
ซึ่งมันจะไม่มีปัญหาอะไรเลย ถ้าไอ้น้อง ม.4 ที่ว่าเป็นเด็กเส้นเข้ามาใหม่ หล่อมาก เงียบ ดูดุๆ นั่งกับกลุ่มเพื่อนกลุ่มใหญ่ ในมือผมถือน้ำชานมเจ้าประจำที่ผมชอบกิน พยายามควบคุมไม่ให้ขาสั่นจนน้ำในแก้วกระฉอกออกมาจนหมด ปัญหาใหญ่ไม่ใช่อะไรครับนอกจากมันเป็นเด็กฝากของ ผอ.
มีผู้หญิงกรี๊ดไอ้เด็กนี้เยอะครับรวมถึงเพื่อนผมด้วย
เดี๋ยวผมจะยกตัวอย่างคอมเมนต์จากเพื่อนผมนะครับ
/ กรี้ดดด หล่อชิบหายวายวอด น้องไปทำอะไรมาคะ ถึงได้หล่อขนาดนี้ ถ้าไม่ติดว่าอีกปีจบ พี่ไม่ปล่อยน้องไปหรอก /
/ เด็กเส้นแล้วไง เรารักเด็กหล่อ กินเด็กแล้วกระปรี้กระเปร่านะ /
เอาแค่สองคนพอครับเพราะมันก็เหมือนๆ กันนั่นแหละ
สรุปคือ มันหล่อ เคนะ
กลับมาที่ฉากผู้ชายในชุดนักเรียนเนียนกริบขากางเกงสั้นเต่อเนื่องจากต้องการที่จะแหกกฎโรงเรียนเพื่อให้คุณครูฝ่ายระเบียบเอามาวิ่งไล่จับแก้อาการเมื่อยขัดจากการนั่งเฉยๆ ผมรองทรงถูกจัดมาอย่างดีพร้อมไฝใต้ตาที่เจ้าตัวเรียกว่าไฝสเน่ห์มหากาพย์แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่เห็นมันใช้ดักใครสักที กำลังเดินด้วยสีหน้าจริงจังกับคำสั่งใหญ่หลวงที่ได้รับมา
“ มึงเอาน้ำชานมที่มึงกำลังแดกอยู่เนี่ย ไปให้ไอ้น้องเพลิงเด็กใหม่นั่นนะเว้ย ” ไอ้เต้อเพื่อนสนิทผมที่ได้ใบพระราชาไปชี้ไปยังที่นั่งกลางโรงอาหาร
“ แค่ให้เฉยๆ ใช่เหรอวะ ”
อย่างนี้ก็หวานหมูสิครับ สบายสบาย ยากกว่านี้มีอีกไหม ~
คิดจบประโยคไปได้สองวิ เพื่อนมาร์กมันบังอาจครับ
“ มึงต้องบอกชอบแม่งด้วย ! ”
ผมถลึงตามองหน้าแม่ง กินหัวได้กินไปแล้ว
“ สัส ! ไม่ใช่คำสั่งพระราชา กูไม่ฟังเว้ย ”
“ ตามนั้น มึงบอกชอบน้องด้วยขอจริงจังนะครับ น้องอันทิว ”
“ ... ”
เลิกเรียนโดนกูดักต่อยแน่ไอ้มาร์ก !
ผมสูดหายใจลึกเรียกขวัญกำลังใจตัวเอง เอาวะ ลูกชายต้องพูดจริงทำจริง ตัวผมเลิกสั่น หางตาเห็นพรรคพวกตามมากระจุกให้กำลังใจกันใกล้ๆ และกำลังป่าวประกาศอะไรบางอย่าง
“ รอดูฉากสำคัญในชีวิตไอ้ทิวเร็ว ! แม่งจะสารภาพความในใจเว้ยยย ”
ฉับพลันจากที่น้องๆ ม. ปลายที่น่ารักผู้กำลังกินอาหารกันเมาท์แตกได้หันขวับมองผมเป็นตาเดียว เพื่อนร่วมสายชั้นก็เช่นกันส่งเสียงไชโยโห่ฮิ้วเหมือนผมกำลังจะยกขบวนไปสู่ขอ
และผมก็ได้กำลังใจอย่างล้นเหลือ !
“ กรี๊ดดดดดด พี่อันทิวจะสารภาพรักกับใครอ้ะ ”
“ ไหนบอกไม่คุยกับใครไง ทำไมถึงได้ทำแบบนี้ล่ะ ฮือ ๆ ”
“ ว้ายยย พี่อันทิวเดินไปโต๊ะเพลิง ! ”
กำลังใจดีจริงๆ ครับ
แล้วพวกกรี๊ดๆ นี่ไม่กรี๊ดอย่างเดียวครับ มันยังหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเตรียมถ่ายคลิปฉากสารภาพอันร้อนแรงของผมซะด้วย เย็นๆ อย่าลืมไปกดไลค์กันนะครับ เผลอๆ ลงยูไลค์อีก ให้ตายเถอะ
ชีวิตแสนสมถุยจริงเลยกู
ผมหยุดยืนหน้าโต๊ะเพลิงครับ เพื่อนมันถอยกรูดออกให้ด้วยรอยยิ้ม สมมุติว่ากูมาสารภาพกับคนอื่นนี่พวกมึงจะเหวอกันไหมครับ ถามใจ เอาเหอะหลบก็ดี การเผชิญหน้าของลูกผู้ชายจะได้เป็นที่ประจักษ์ไปทั่วโรงเรียน
แม่งทำไมผมมีลางสังหรณ์ว่าจะได้ลงหนังสือพิมพ์โรงเรียนด้วยวะ
ฮือๆ
กูต้องใช้ชีวิตดุจเซเลบแน่
ผมนั่งบนเก้าอี้ตรงข้ามเพลิงครับ มันไม่ได้สนใจผมเลยครับเพราะกำลังก้มลงเล่นโทรศัพท์พร้อมสวมหูฟังสีดำที่เหมือนจะตัดเสียงทุกชีวิตออกจากโลกของมัน
“ เพลิง ”
ผมเรียกชื่อมันพร้อมวางแก้วชานมที่พร่องไปเกือบครึ่งแก้วตรงหน้ามัน
ทำไมแม่งทุเรศอย่างนี้วะ ของมาจีบเด็กเนี่ย
จะให้กูแกล้งมาบอกชอบนี่ให้เอาของช็อกโกแลตดีๆ ไม่ได้เหรอครับเพื่อน
เพลิงเงยหน้าขึ้นจากโทรศัพท์เหลือบมองแก้วชานมนิ่งๆ และเปลี่ยนมามองหน้าผมเขม็ง
เออกูรู้มึงไม่ได้ยินเสียงที่กูเรียก
ขอความกรุณาถอดหูฟังออกด้วยครับ
ไอ้เพลิงสงสัยจะได้ยินเสียงผมนินทาในใจมันถอดหูฟังเก็บ หน้าหล่อๆ นิ่งๆ ของมันไม่แสดงอารมณ์อะไรสักนิด มันเลิกคิ้วให้ผมเชิงถาม
ไอ้ไม่มีมารยาท มึงมีปากไหม ถามกูหน่อยก็ได้จะได้ตอบได้ว่ามาหาเพราะชอบไรงี้ จะได้จบๆ
“ พี่... ”
ผมพูดออกมาคำแรก เสียงจอแจนรกแตกนักเรียนสวาปามอาหารเหมือนไม่ได้กินมาสิบชาติเงียบลงทันตาแม้แต่เสียงลมหายใจสักแอะก็ยังไม่ได้ยินเลยครับ
บอกเลยครับดอกมาก
ดอกเอวี่ติงอินไลฟ์
“ ชอบน้องครับ ”
โว้ะ กว่าจะพูดจบวุ้ย
“ กรี้ดดดดด !! พี่อันทิวชอบเพลิง ”
“ กรี้ดดด ”
โอ้ ซาวน์เอฟเฟคยิ่งกว่าหนังโฮลีวูด ถ้าหลังคาโรงอาหารถล่มอย่ามาเรียกเก็บที่ผมนะครับ ไปไล่เก็บตามหัวที่กรี๊ดนี้เลยครับ อันทิวไม่เข้าใจเลยครับว่าผู้ชายสารภาพรักกับผู้ชายแม่งน่ากรี๊ดตรงไหน
“ กินเด็ก กินเด็ก กินเด็ก ”
ทำไมหลังๆ มันส้นตีนจังครับ เสียงจากพวกพ้องที่ใกล้จะเข้าสู่มหาลัยเนี่ย
น้องเพลิงเห็นหน้าผมเริ่มเจื่อนก็อมยิ้มซะงั้นครับ หยิบน้ำชานมผมไปกินจิบต่อ
“ ครั้งหน้าขอเต็มแก้วก็ดีนะครับ ”
แม่งพูดจบปุ๊ป
หูผมดับปั้ป
“ กรี้ดดด ”
แม่จ๋า พาทอยไปหาหมอรักษาหูหน่อย ฮือๆ
แต่ความสัมพันธ์ของผมกับน้องเพลิงก็ไม่มีอะไรเพิ่มเติมครับ โดนล้อบ้างอะไรบ้างจากเพื่อน ผมก็ไม่ได้อะไรเนื่องจากไม่ได้คิดอะไร
มันก็แค่เกมเท่านั้นแหละ
ผมโดนแกล้งให้ไปบอกรักเพลิงให้ของขวัญนู่นนี่นั่น
“ โดนแกล้งอีกแล้วเหรอครับ ? ”
มันถามผมในมือมีตุ๊กตาหมีน้อย
“ เออดิ ”
ผมหัวเราะตอบ
แต่ไม่รู้ทำไมเพลิงมันถึงหน้าเจื่อนลง
ชีวิตวนไปวนมาระหว่างการอ่านหนังสือสอบเข้าสลับกับการเล่นผ่อนคลาย ไม่ถึงอึดใจผมก็จบออกไป เสื้อนักเรียนเต็มไปด้วยคำสบถหยาบ กลอน คำด่า ชื่อพ่อแม่ ผมเดินท่องโรงเรียนไปทั่วคนเดียว เพื่อนคนอื่นมันกินข้าวกันอยู่ แต่ผมไม่หิว บรรยากาศคุ้นเคยวันสุดท้ายทำให้ผมรู้สึกใจหาย
นึกถึงเรื่องที่เคยทำตอนนี้จะไม่ได้ทำอีกแล้วก็เศร้าเลยนั่งลงใต้ไม้ใหญ่
“ พี่อัน ”
ผมเงยหน้าตามเสียงเรียก มีคนเดียวที่เรียกผมว่าอัน
น้องเพลิง
“ มีอะไรเหรอ ที่รัก ”
ผมพูดกลั้วหัวเราะ “ วันนี้ก็วันสุดท้ายแล้วดิที่จะเจอกัน ” มองหน้าเพลิงที่ตอนนี้ดูอ่อนลงขึ้นเยอะ “ คงไม่มีใครมาแกล้งบอกชอบเรากลางโรงอาหารแล้วเนอะ ”
เพลิงยิ้มตอบผมไม่แสดงความเห็นอะไรยื่นเชือกลูกโป่งใสที่ภายในเป็นลูกโป่งสีเงินเป็นตัวอักษรภาษอังกฤษว่าอันทิว ซึ่งรวมๆ แล้วมีหกอัน “ ยินดีด้วยนะพี่อัน ”
ผมรับมาด้วยความดีใจ ไม่มีใครให้ลูกโป่งผมสักคนมีแต่ให้ลูกอมบ้างตุ๊กตาหมีบ้าง “ ขอบใจนะ เพลิง ”
“ ครับ ”
รับคำผมก่อนจะเดินไปเลย
แต่น้ำเสียงตอบครับนั้นสั่นจนผมรู้สึกได้
ผมทำอะไรผิดหรือเปล่า ?
สุดท้ายเรื่องของเพลิงก็ถูกกลืนหายไปกับความสนุกสนานของชีวิตในช่วงต่อจากม. ปลาย
กลายเป็นเพียงความทรงจำของอันทิว
ที่บัญญัติไว้ว่า การกระทำของตัวเองที่ทำต่อเพลิงนั้น โคตรจะระรานคนอื่น
♪ ~
เสียงริงโทนดังขึ้นพร้อมขึ้นเบอร์แปลกที่ไม่รู้ว่าใครโทรมาครับ
ผมกดรับกรอกเสียงลงไป
“ สวัสดีครับ อันทิวพูดครับ ”
// ... ///
“ ฮัลโหล ? ”
น้ำเสียงงุนงง
“ ไม่ตอบผมวางแล้วนะครับ ”
// ... //
ผมกดตัดสายทิ้ง ขมวดคิ้วกับสมาทร์โฟนในมือ
โทรมาแล้วไม่คุยจะโทรมาทำไมวะ
ซึ่งถ้าโทรมาเพียงครั้งเดียวผมจะไม่บ่นอะไรเลยครับ แต่นี่เล่น โทร-มา-ทุก-วัน ย้ำอีกครั้งครับ โทรมาทุกวัน ซึ่งผมนี่เซ็งเป็ดมาก จะบล็อกเบอร์ก็ไม่กล้าบล็อกเพราะแม่สอนไว้ว่าห้ามบล็อกเบอร์ใคร เผื่อว่าเราส่งชิงโชคแล้วได้รางวัลขึ้นมาเกิดบล็อกเบอร์ไว้เราอาจจะชวดรางวัลไปฟรีๆ
ผมเลยยอมรับสภาพการโทรมาทุกวันแล้วไม่พูด
แล้วผมก็บ้าจี้รับคุยทุกครั้งด้วยนะ
ยังไงผมก็ไม่ได้เสียตังค์นี่หว่า คุยบ้างจะเป็นอะไรไป
“ คุณครับ ? อยู่หรือเปล่า ผมเป็นเจ้าของเบอร์คนใหม่นะครับ ”
แล้วผมก็บอกคนในสายอย่างนี้ทุกวัน
// ... //
ซึ่งมันก็ไม่ยอมตอบผมอยู่ดี ไม่แน่ใจว่าเขินหรืออะไร
จะผู้หญิงหรือผู้ชายก็เหอะ แต่ตอนนี้ผมไม่ไหวแล้วว่ะ
ลาขาดละ
“ คุณไม่ยอมพูดอะไรเลยสักครั้งที่โทรมา ต่อไปผมจะบล็อกเบอร์คุณและอย่าพยายามโทรมาหาด้วยเบอร์อื่น เพราะผมก็จะบล็อกมันทั้งหมด ผมไม่ได้มีเวลาว่างหรือเป็นคนบ้ามานั่งคุยกับออกซิเจนในอากาศหรอกนะ ”
ผมขอโทษนะแม่ แต่อันทิวไม่ไหวละ
เสียเวลาด้วย ไม่สนุกด้วย
ผมมองแถบสีแดงรูปโทรศัพท์คว่ำชั่งใจอยู่สักพัก
// ช่วยด้วย.. //
น้ำเสียงทุ้มพร่าดังเล็ดลอดออกมา
ทำเอาผมสะดุ้ง
ถ้าต้องการความช่วยเหลือทำไมมึงไม่โทร 191 ล่ะครับ มาโทรหาอันทิวทำไม
“ ฮัลโหล ช่วยอะไร คุณอยู่ไหน โอเครึเปล่า ”
ผมรัวคำพูดออกไป ในหัวเริ่มปะติปะต่อเรื่องราว ไอ้เสียงทุ้มนี่ผู้ชายชัวร์ๆ แต่น้ำเสียงแหบพร่านี่ไม่รู้ว่าทำอะไรมา สรุปคือเดาได้สองอย่างเจริญจริงๆ ครับ นายอันทิว
อยากจะมีโคนันเป็นเพื่อนบ้างอะไรบ้างเหมือนกันนะ
// .... ช่วยด้วย //
โอ้ย คุณมึงครับกูรู้ว่าต้องการความช่วยเหลือ
“ ช่วยอะไรครับ บอกผมก่อน ”
เกิดไอ้เจ้าของเบอร์มันเป็นฆาตกรโรคจิตผมไม่ตายฟรีเลยเหรอครับ
// ฮือ ช่วยด้วย //
อ้าวชิบหาย ทำผู้ชายร้องไห้ เอาไงดีวะเนี่ยยย
“ ใจเย็นๆ สิคุณ คุณอยู่ไหน ”
เอาวะ ไปบ้านก็ไป เสียงร้องไห้เหมือนจะขาดใจแบบนี้
// หมู่บ้าน ## เลขที่ ## ฮือ //
อ้าวหมู่บ้านข้างผมนี่ แปลว่าผมโดนเพื่อนใกล้เรือนเคียงกระหน่ำโทรมาทุกวันสินะ น่าตีจริงๆ เลย ผมรีบบึ่งมอเตอร์ไซต์ไปหาทันทีครับ
ไม่รู้ว่าไปเอาเบอร์ผมมาจากไหนสิน่า
บ้านเดี่ยวชั้นเดียวปรากฏตรงหน้าผม รั้วเตี้ยๆ มีเครือดอกอัญชันเลื้อย หน้าบ้านเป็นหญ้ารกรุกรังเหมือนขาดการดูแลไป ใบค่าไฟค่านำทวงหนี้ต่างๆ ถูกเสียบไว้เต็มตู้จดหมาย
นายอันทิวยืนนิ่งชั่งใจสักพักในมือมีโทรศัพท์ที่ยังคงถือสายอยู่
เข้าไม่เข้าดีวะ ใจนึงก็กลัวโดนหลอก อีกใจก็อยากเข้าไปดูอาการ
// ช่วยผมด้วย พี่อัน.. //
ผมสะดุ้งโหยงกระแทกเสียงใส่ปลายสาย
“ ไอ้น้องเพลิง !? ”
// .... อือ //
ณ จุดนี้ไม่มีคำว่าลังเลแล้วครับ ผมบุกเข้าไปในบ้านที่แม้แต่ประตูบ้านไม่ได้ล็อคเอาไว้ “ เพลิง ! ” ผมตะโกนเรียกมองข้ามเอกสารต่างๆ ที่ถูกโยนเกลื่อนพื้น รูปภาพครอบครัวที่ถูกฉีกเป็นชิ้นๆ ผมวิ่งไปวิ่งมาสักพักมาเจอเจ้าของโทรศัพท์นั่งกอดตัวเองอยู่ตรงครัว
บนพื้นเต็มไปด้วยคราบน้ำกับเศษแก้วแตก
ผมมองเพลิงแทบไม่เชื่อสายตา
ตอนนี้เพลิงโตขึ้นกว่าเดิมมาก ตัวโตกว่าเดิมหน้าแต่สิ่งที่เหมือนเดิมคือหน้าที่ยังหล่อหนวดที่ขึ้นครึ้มทำให้ดูดุยิ่งกว่าเดิมมากโข สิ่งที่ทำให้ผมตกใจจริงๆ คือโทรศัพท์ที่กำลังคุยกับผมถูกย้อมด้วยเลือด
นี่มันหนังสยองขวัญชัดๆ
ผมกดวางสายของตัวเองพรวดเข้าไปแย่งโทรศัพท์เพลิงออกและออกแรงกอดแน่น ลูบหัวเบาๆ “ เกิดอะไรขึ้น ? บอกพี่อันได้ไหมเพลิง ”
เพลิงกอดตอบซุกหัวลงกับอกผมแต่ไม่ยอมพูดอะไร
ผมไม่ได้ซักไซร้อะไรต่อ
สิ่งที่เพลิงต้องการตอนนี้คือการอุ่นๆ ของคนที่ไว้ใจได้
และผมยินดีที่จะมอบสิ่งนั้นให้กับน้องคนสำคัญ
กว่าเพลิงจะยอมพูดอะไร ก็ถูกผมลากมาอยู่ที่บ้านผมแบบงงๆ แล้ว ผมลงมือทำแผลให้เบามือ บาดแผลนั้นส่วนใหญ่มีแค่มือกับแขนโชคดีที่ไม่ลึกมากถึงขนาดต้องเย็บ
“ สรุปเล่าให้พี่อันฟังได้ยัง ? ”
เพลิงพยักหน้าเบาๆ
ผมตั้งหน้าตั้งตาฟัง
เพลิงกำหมัดแน่นจนผมอดเอามือไปจับไว้ไม่ได้
มึงเป็นแผลอยู่นะครับ น้องเพลิง กรุณาเห็นใจคนทำแผลให้มึงด้วย
“ พ่อผมเสียปีที่แล้ว แม่ผมกับผอ. เลยแต่งงานกันเดือนที่ผ่านมา ผมโวยวายไม่พอใจพยายามขัดขวางงานแต่ง ผอ. โกรธมากเลยไม่ช่วยเหลืออะไรผมอีก หนี้ก้อนโตที่ไม่รู้มาจากไหนกำลังจะมายึดบ้านที่ผมอยู่ ”
ตอนนี้ผมไม่รู้จะตอบอะไรน้องแกจริงๆ ครับ
เรื่องนี้มันใหญ่มาก...
ตอนแรกผมคิดว่ามันรวยแล้วยัดเงินเข้าโรงเรียน แต่เหตุผลที่แท้จริงที่มันเข้าได้คือแม่ของเพลิงสนิทสนมกับผอ. โรงเรียน
...
ผมเสียใจที่คิดแบบนั้นในตอนที่รู้จักเพลิงมัน
ผมดึงตัวเพลิงมากอดแน่น
จรรยาบัญครูตีตื้นในหัว ถึงแม้ผมจะมีอาชีพติวเตอร์ก็เถอะ
“ ใจเย็นๆ ก่อนเพลิง ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นนายก็ห้ามทำร้ายตัวเอง ” ผมเหลือบมองผ้าผันแผล “ ถึงชีวิตนายมันจะห่วยแตก แต่นายยังมีพี่อัน อย่าลืมดิ พี่อันม. 6 บ้าๆ บอๆ พี่ชายคนสนิทที่ชอบโดนเพื่อนแกล้งมาบอกชอบ ฉะนั้นนายจะระบาย ร้องไห้ อะไรกับพี่อันก็ทำได้ทั้งนั้น หรือจะอยู่กับพี่ไปชั่วคราวก่อนก็ได้ ”
เพลิงเงียบไปครับ
เงียบไปนานมาก แต่ผมไม่ได้ทักท้วงอะไร
แค่ตะคริวกินเฉยๆ
♪~
เสียงริงโทนที่ดังขึ้นมาแต่ไม่ใช่ของผม
โทรศัพท์เลือดสาดนั่นนั้นแหละ
เพลิงปล่อยผมออกก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มาเปิดลำโพงแต่ยังไม่ได้กดรับ
“ เจ้าหนี้ผม.. ”
เพลิงบอกเบาๆ และกดรับ
// ไอ้เพลิง สรุปมึงจะจ่ายรึเปล่า ? 5 ล้านน่ะ ถ้าไม่จ่าย นายบอกว่ามีข้อเสนอให้ ! //
“ ข้อเสนออะไร “
มือของเพลิงสั่นจนผมรู้สึกได้
// นายเขาเสนอให้มึงมาเล่นเกม กับเขา ถ้ามึงชนะบ้านมึงก็รอดพร้อมเงินอีกล้านนึงไปใช้เล่น //
หนี้จำนวนมากที่ถูกหักได้ง่ายๆ กับเกม ?
ผมคิดงงๆ ไอ้เกมนี่แม่งต้องอันตรายแน่เลยว่ะ
// จะเอาไม่เอา ไม่เอาพรุ่งนี้บ้านมึงโดนแน่ //
“ เอาครับ ”
เพลิงสบตาผมเหมือนกับกำลังวอนขอ
มันกำลังขอให้ผมไปช่วยมันครับ..
มันจะอันตรายถึงชีวิตไหม..
ผมยอมรับว่าตัวเองรู้สึกกลัว แต่ไม่รู้ทำไมถึงยอมพยักหน้ารับ
// เออดี กูจะได้ไปบอกนาย //
“ เอาคนไปเล่นเป็นเพื่อนได้รึเปล่าครับ คนนึง ”
// .... เกือบลืมว่ะ ได้ๆ แต่แค่คนเดียวนะ ห้ามมึงป่าวประกาศเรื่องนี้ออกไปด้วย ไม่อย่างงั้นแม้แต่บ้านมึงก็ยังไม่เหลือให้อยู่แน่ //
“ ครับ ”
เพลิงตอบเป็นครั้งสุดท้ายได้การตอบรับเป็นเสียงการตัดสายลากยาว เพลิงสบตาผมอมยิ้มมุมปาก
โครม !
และสลบไปทันที
--------------
โถ่ เพลิงจบไม่หล่อเลย
สำหรับแจ้งข่าวการอัพค่ะ
:
https://www.facebook.com/FoggyTime/?ref=hl