ดูๆ แล้วคงไม่มีอะไรน่าสนใจเพิ่มเติมผมเลยปิดทีวีไป
ก็ท้องไส้เริ่มทำงานเหมือนกัน
และมื้อนี้ก็ยังคงเป็นขนมปังเหมือนเดิม
เบื่อมันก็เบื่อแต่มันเลือกไม่ได้ก็ต้องกินๆ ไป
พอกินเสร็จผมก็เริ่มรู้สึกว่างไม่รู้จะทำอะไร
หากเป็นตอนปกติผมคงจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นเหมือนที่ใครหลายๆ คนทำ
แต่ตอนนี้มันไม่ใช่อย่างนั้น
หัวว่างๆ เหมาะสำหรับการฟุ้งซ่าน
ผมลูบแขนตัวเองเบาๆ เมื่อเผลอลุกชัน
ทุกคนเหมือนจะโดนผลกระทบจากเกมเหมือนกันหมด
ตอนนี้ที่น่าเป็นห่วงคงเป็นเจ๊คิวปิดกั ขิง
ส่วนบอสกับต้าน่าจะยังไม่มีอะไร
เพราะอะไรที่ทำให้เจ๊คิวปิดกินกระต่าย.. ?
อาหารเหรอ
เจ๊แกได้ห้องควีนเลยนะ
จะไม่มีอาหารได้ไง
มีดข้างๆ ตัวนั้นอีก
เจ๊แกเกี่ยวข้องอะไรกับรอยกรีดบนผนังหรือเปล่า..
รอยฟันบนอกแมนเจ๊เป็นคนทำรึเปล่า
ถ้าเจ๊ทำ เจ๊ทำมันลงไปได้ยังไง..
เจ๊กับแมนสนิทกับมากเลยนะ เท่าที่ผมสังเกต
เจ๊ทำแมนลงจริงๆ เหรอ
ผมยังปักใจเชื่อไม่ได้ว่าเจ๊คิวปิดทำเพียงเพราะมีมีดอยู่ในมือ
ไม่รู้ว่าห้องอื่นเขามีระบบเปิดประตูแบบห้องผมหรือเปล่า
ถ้าประตูเปิดครั้งนี้น่าจะใช้เป็นโอกาสถามได้
ผมสะดุ้งเมื่อนึกอะไรได้
ถ้าห้องเจ๊คิวปิดหรือขิงเปิดมาตอนนี้ล่ะ..
สภาพทั้งสองคนตอนนี้มันดูไม่ปกติมากๆ
ผมไม่รู้ว่าจะรับมือไหวหรือเปล่า..
เจ๊คิวปิดมีมีด
ขิงผมไม่รู้ว่ามิอาวุธไหม
หวังว่าประตูห้องของสองคนนี้ไม่เปิด
ไม่งั้นแย่ทั้งผมทั้งเพลิงแน่
พูดถึงเพลิง มานั่งคิดๆ ดู
มันก็แปลกที่ดูเพลิงนิ่งกับทุกอย่างที่เปลี่ยนแปลงไปรวดเร็วนี่มาก
มนุษย์เป็นสัตว์ที่เปลี่ยนแปลงตัวเองตามสภาพแวดล้อม
แต่สำหรับเพลิงมันไวผิดปกติ
ถึงจะรู้ว่าจริงๆ อาจจะเศร้า
แต่มันไม่เหมือนกัน
เหมือนกิ้งก่าที่เปลี่ยนสีไปมา
เคยชินและชินชา
แต่ผมก็ไม่รู้อีกว่านิสัยจริงๆ ของเพลิงเป็นยังไง
ตั้งแต่ที่รู้จักกันมา
ก็รู้แค่ว่าเป็นรุ่นน้องว่าง่ายเท่านั้น ไม่มีอะไรมากกว่านั้นจริงๆ
หรือเพลิงอาจจะเจออะไรมามากกว่าที่ผมคิด
แต่บางทีผมก็อาจจะคิดมากไปเองเหมือนกัน
ผมเอามือนวดขมับ ที่ข้อมูลกำลังตีกันในหัวหาบทสรุปไม่ได้
คิดอะไรมากๆ ผลสุดท้ายก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
ผมก็ยังไม่ได้ข้อมูลอะไรเพิ่มเติม
ช่างมันก่อนแล้วกัน
ผมหลับตา
พยายามไม่นึกถึงอะไรอีก
อีกแปดวันที่ยังอยู่ในห้องนี้
ผมจะพยายามอยู่ให้ได้แล้วกัน
หลังจากร้องไห้อาละวาดหนักๆ ไปมาผมรู้สึกว่าตัวเองมีสติมากขึ้น
เคยได้ยินว่าร้องไห้ทำให้รู้สึกดีขึ้น
ไม่คิดว่ากับเรื่องแบบนี้มันให้ผลแบบเดียวกัน
ผมไม่ได้หายเศร้าเรื่องแมนหรือลืมเรื่องเจ้าของห้องสลาฟนั้น
เพียงแค่ปล่อยวางมันไว้
อย่าไปยึดติดกับสิ่งที่ผมไม่สามารถทำอะไรได้
มีแต่ผมที่ทุกข์จนเผลอๆ อาจจะตายตาม
ผมยังมีแม่กับพ่ออยู่ที่บ้าน
ผมยังมีคนที่อยู่ข้างหลัง..
ฉะนั้นผมยังตายไม่ได้
ผมเอามือลูบหัวเพลิงเบาๆ
หมาของผมก็ห้ามตายเหมือนกัน
ผมตัดสินใจแล้วว่า จะช่วยเท่าที่ช่วยได้เหมือนที่เพลิงบอก
เพราะมันไม่ประโยชน์อะไรที่จะขัดขืนคนคุมเกม
พวกเรามันก็เป็นแค่ตัวหมากบนกระดาน
มีผู้เล่นเป็นตัวบงการ
หากขัดขืนก็คงจะไม่วายโดนโยนทิ้ง
กึก กึก
เสียงกลไกที่เริ่มจะคุ้นหูแล้วดังขึ้น
ตอนนี้ผมแทบไม่รู้วันเวลาข้างนอกแล้ว ว่าพระอาทิตย์ขึ้นหรือพระจันทร์ลง
แต่จากความรู้สึก
ผมคิดว่าประตูนี่มันเปิดเฉพาะตอนเช้าๆ ส่วนเวลาปิดไม่รู้เพราะปิดกันเอง
พอประตูเปิดเพลิงก็ทำท่าจะเข้าไปทันที
แต่ผมรั้งแขนเพลิงเอาไว้
“ ระวังตัวไว้ก่อนดีกว่า ไม่รู้ว่าเป็นห้องเจ๊คิวปิดกับขิงหรือเปล่า ”
ผมกระซิบเสียงเบา
“ อือ ”
เพลิงตอบผมแค่นั้น
“ โง่ ! บอสหน้าโง่ ”
“ ฮือ.. ”
ผมเลิกคิ้วประหลาดใจ
ห้องบอสว่ะ
ผมเลยบุกเข้าไปเลยเนื่องจากห้องนี้ไม่มีภัยอันตรายใดๆ เลยเท่าที่ดูจากในทีวี
เจ้านกพูดมากเอาแต่บ่น
“ แกว้ก แกว้ก พวกโง่ ”
บอสนั่งอยู่มุมห้องเอาหัวซุกกับเข่าเอามือปิดหูเหมือนไม่อยากรับรู้อะไร
แม้แต่ตอนที่ผมเอาไฟฉายส่งหน้ายังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ
ผมยิ้ม
เอามือเขย่าตัวบอส
“ บอส นี่พี่อันเอง ”
บอสสะดุ้งเฮือกปัดมือผมออก แต่พอเห็นหน้าผมก็โถมกอดผมทันทีตัวสั่นเทา
“ พี่ พี่อัน ”
เรียกผมเสียงสั่น
ไหล่ของผมถูกเพลิงจับแน่น แต่ผมเลือกที่จะเมินมัน
เด็กร้องไห้อยู่
ผมยังไม่มีเวลาให้หมาน้อยหรอกนะ
“ เป็นอะไร บอส ร้องไห้ทำไม ”
บอสกอดผมแน่น
“ ห้องนี้มืดมาก.. ไม่มีอะไรเลย ไม่มีจริงๆ ผมกลัว ผมต้องอยู่คนเดียวในนี้จริงๆ เหรอ ผมกลัว ..หมือนว่าผมต้องอยู่คนเดียวบนโลก ไม่มีใครสนใจ ไม่มีใครต้องการ ”
“ ใจเย็นๆ บอส ใจเย็นๆ ”
คล้ายภาพฉายซ้ำ
เหมือนผมตอนสติแตก
บอสตะโกนเสียงดัง
“ จะเย็นยังไงวะพี่ ! ผมต้องอยู่ในห้องนี่อีกอาทิตย์นึง ! คนเดียว ฮึก จะไปอยู่ยังไงวะ.. ”
“ แกว้ก รำคาญ พูดมาก ”
บางทีผมก็รู้สึกรำคาญไอ้นกบ้านี่จัง
ตัวผมถูกดึงออกอย่างแรงผลักไปด้านหลัง
ผมขมวดคิ้วแน่น
ไอ้น้องเพลิงมันแกะผมเหมือนแกะเทปกาวเลย
“ จะบ้าก็บ้าไป แต่อย่ามาพูดพล่อยๆ แบบนี้ ”
เพลิงดูโกรธที่บอสขึ้นเสียงใส่ผม
“ แล้วจะให้ผมทำยังไง อยู่คนเดียวในห้องนี้ บ้าเข้าไปจริงๆ ? พวกพี่แม่งไม่รู้หรอกว่ามันแย่ขนาดไหน !! ”
“ ลืมเป้าหมายแล้ว ? ที่มาเล่นเกมนี้เพราะมีเป้าหมายไม่ใช่เหรอ ถ้าอยากได้ก็เล่นให้มันชนะก็แค่นั้น ไม่ใช่มาตีโพยตีพายใส่คนอื่น แค่อยู่ห้องมืดคนเดียวมันจะอะไรนักวะ คนอื่นเจอหนักกว่ามึงด้วยซ้ำ ”
หลังๆ เสียงเริ่มกระแทกกระทั้น
ผมเลยต้องแตะไหล่ปราม
แต่ก่อนจะได้พูดอะไรนกเวรก็ตะโกนดังลั่น
“ ตอแหล ! ตอแหล ! ”
--------------
เนื้อเรื่องเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ