Chapter 10
ปรับความเข้าใจ
ทุกครั้งที่ผมสร้างปัญหาหรือทะเลาะกับพ่อ เราสองคนจะมานั่งคุยกันบนเตียงในห้องของผม มีบ้างที่ผมหลุดปากเถียงแรงไป แต่สุดท้ายพ่อก็จะหายโกรธ แล้วกอดปลอบผม บอกว่ารักผมมากแค่ไหน
ผมหวังว่าครั้งนี้...พ่อจะให้อภัยผมเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา
“ธาร คราวหลังอย่าโพสต์รูปแบบนั้นลงเฟสบุ๊คอีกนะครับ คนอื่นเห็นเข้าจะมองธารไม่ดี”
ประโยคแรกที่พ่อพูดหลังจากพวกเราเข้ามานั่งในห้อง ไม่ใช่การต่อว่าผมเรื่องพี่กฤษ ไม่ถามสักคำว่าผมกับเขาเป็นอะไรกัน แต่กลับเตือนที่ผมทำตัวไม่เหมาะสม อย่างกับกำลังทำหน้าที่พ่อที่ต้องอบรมสั่งสอนลูก ทั้งที่รู้ดีแก่ใจว่าความสัมพันธ์ของพวกเราสองคนมันมากกว่านั้น
“พ่อโกรธธารเรื่องนี้เหรอ”
“.....”
ความเงียบทำให้ผมอึดอัดจนกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ เลยต้องก้มหน้าร้องไห้เพราะไม่อยากให้พ่อเห็น แต่ก็ดันเผลอหลุดเสียงสะอื้นออกมาจนได้ เกลียดตัวเองชะมัดที่ไม่โตสักที ไม่รู้จักเก็บอารมณ์ได้เหมือนพ่อ ที่ไม่ว่าจะเกิดปัญหาอะไรก็แค่ทำหน้านิ่งเข้าไว้ นิ่งจนใครก็เดาอารมณ์ไม่ถูก และทำให้ผมต้องร้องไห้ไม่หยุดอย่างนี้
“พ่อ ธารกับพี่กฤษไม่ได้เป็นอะไรกันจริงๆ นะ” ผมบอกเสียงสั่นเครือ
“.....”
“เราแค่จูบกัน ไม่ได้ทำอะไรมากกว่านั้น”
“ที่จูบก็เพราะชอบเขาไม่ใช่เหรอ”
น้ำเสียงของพ่อเรียบเฉยราวกับไม่รู้สึกรู้สาอะไรที่ผมจูบกับคนอื่น มันทำให้ผมจุกจนแทบหายใจไม่ออก อย่างน้อยพ่อก็ควรตะคอกใส่ผมด้วยความโมโหสิ
...ไม่หึง ไม่หวงกันบ้างเลยเหรอ
“ไม่ต้องปิดพ่อหรอก จะคบกันพ่อก็จะไม่ว่า ไม่ห้ามเราอีกแล้ว”
ทำไมพ่อพูดแบบนี้ หรือพ่อไม่รักผมแล้ว...ไม่รักกันแล้วใช่ไหม!?
รักในแบบที่ผมต้องการ
“ธารไม่ชอบ ไม่อยากคบกับใครทั้งนั้น!” ผมตะโกนออกมาด้วยความอัดอั้น เงยหน้าขึ้นจ้องมองพ่อทั้งที่น้ำตายังไหลพรากอาบแก้ม ไม่คิดจะปกปิดความอ่อนแอของตัวเองอีก “พ่ออยากให้ธารมีแฟนนักรึไงถึงได้ยอมให้ธารกับพี่กฤษคบกัน ไม่รู้สึกอะไรบ้างเลยเหรอ ไม่หึงไม่หวงธารสักนิดใช่ไหม”
“......”
“ใช่สิ ก็ธารมันเป็นแค่ลูกไง ธารไม่ใช่แม่นี่”
“ธาร!”
เสียงตวาดกับสีหน้าดุดันของพ่อทำให้ผมสะดุ้ง
ไม่เคยเลยสักครั้งที่พ่อจะขึ้นเสียงใส่ผมด้วยสีหน้าน่ากลัวแบบนี้ พ่อคงรำคาญผมแล้วจริงๆ หรือไม่ก็คงเป็นเหมือนพี่กฤษที่จู่ๆ ก็รู้สึกผิดชอบชั่วดีขึ้นมา แล้วอยากผลักไสผมออกห่าง
ตัดใจกันง่ายดีเนอะ คงมีแต่ผมคนเดียวที่ต้องทนเจ็บจนปางตาย!
“รักแม่มากแล้วจะมากอดธารทำไม!”
เพล้ง!
ของที่อยู่บนโต๊ะข้างเตียงถูกผมกวาดทิ้งลงพื้นด้วยความโมโห แม้แต่กรอบรูปที่มีรูปคู่ของผมกับพ่อก็ตกแตก ไม่ต่างจากความรู้สึกของผมตอนนี้ที่แหลกละเอียดเหมือนเศษแก้วพวกนั้น
ผมฟุบหน้ากับหมอน ร้องไห้สะอึกสะอื้นเสียงดัง ไม่สนว่าคนที่นั่งอยู่ข้างๆ จะมองผมเป็นเด็กไม่รู้จักโต หรือจะมีใครนอกห้องเดินผ่านไปมาแล้วได้ยินเข้า ไม่สนว่าใครจะรู้ความลับของเรา ไม่สนอะไรทั้งนั้น!
“ทำผิดแล้วยังจะโมโหใส่พ่ออีก เอาแต่ใจมากไปแล้วรู้ตัวไหม”
ก็ใช่น่ะสิ! ก็พ่อเลี้ยงธารมาแบบนี้เองนี่
ผมเถียงพ่อในใจ ยังคงฟุบหน้าร้องไห้กับหมอนเลยไม่เห็นว่าพ่อกำลังมองผมด้วยสีหน้าแบบไหน แต่ถ้าให้เดาพ่อก็คงตีหน้าขรึมเหมือนทุกทีนั่นแหละ
“เฮ้อ”
เสียงถอนหายใจดังขึ้นเบาๆ
ผมคิดว่าพ่อจะรำคาญจนลุกหนีออกจากห้องไป พ่อกลับช้อนตัวผมขึ้นมานั่งบนตักแล้วกอดผมจากด้านหลัง เกยคางไว้บนไหล่เล็กๆ ของผม ก่อนจะกระซิบบอกด้วยน้ำเสียงนุ่มทุ้มที่ทำให้ผมแทบละลายทุกครั้งที่ได้ยิน
“พ่อรักธารนะครับ...รักมากกว่าใครในโลก ต้องให้พ่อบอกอีกสักกี่ครั้งถึงจะเข้าใจ”
“ฮึกๆ ฮือ” ผมใช้หลังมือป้ายน้ำตา พยายามหยุดร้องไห้แต่ก็ยังสะอื้นไม่หาย “โกหก พ่อรักแม่มากกว่า พ่อไม่อยากกอดธารแล้ว พ่อเลยอยากให้ธารคบกับพี่กฤษใช่ไหม”
“นี่เรียกว่าทำผิดแล้วโมโหกลบเกลื่อนรึเปล่า”
“ฮึก...ไม่ใช่...ไม่ใช่สักหน่อย”
“พ่อไม่ได้อยากให้ธารคบกับพี่กฤษ แต่นิสัยเราเป็นแบบนี้ ยิ่งห้ามก็ยิ่งเตลิดไปใหญ่” พ่อหอมแก้มผมแรงๆ หนึ่งฟอด “แล้วยิ่งโตขึ้น ธารก็ต้องพบคนอีกมาก พ่อคงตามหวงไม่ไหว พ่อเลยคิดว่าน่าจะลองให้เราคบกับคนอื่นดูบ้าง”
เวลาที่เห็นพ่อกอดแม่ผมยังรู้สึกอิจฉาเลยด้วยซ้ำ แต่ทำไมพ่อถึงยอมให้คนอื่นแตะต้องผม ยอมแม้กระทั่งให้ผมมีแฟน...พ่อรักผมแบบไหนกันแน่? แค่ในฐานะลูกชายน่ะเหรอ?
“ทำไมขมวดคิ้วนิ่วหน้าขนาดนี้ครับ”
“ถ้าพ่อไม่หึงไม่หวงธาร ก็แสดงว่าไม่ได้รัก” ผมพูดอย่างใจคิด
“ทำไมจะไม่หึงไม่หวง” พ่อหอมแก้มผมอีกฟอด “พ่อหวงเราจะแย่ แต่พ่อโตพอที่จะรู้จักอดทน...อดทนให้เราได้คบกับคนอื่น ได้ถูกรัก ได้เสียใจ แล้วสุดท้ายก็จะได้รู้ว่าไม่มีใครจะรักเรา หวังดีกับเรา เป็นห่วงเราเท่ากับพ่ออีกแล้ว”
“...จริงเหรอครับ” ผมเงยหน้าขึ้นมองพ่อ หยุดสะอื้นตั้งแต่ถูกหอมแก้มครั้งที่สอง “แล้วพ่อ...รักธารมากกว่าแม่รึเปล่า”
“ถ้าพ่อบอกธารเรื่องนึง สัญญาได้ไหมว่าจะไม่โกรธพ่อ” พ่อไม่ตอบแต่กลับพูดไปอีกเรื่อง
“เรื่องอะไรครับ”
“.....” พ่อนิ่งเงียบไปนานก่อนจะพูดขึ้นเรียบๆ เหมือนกับเรื่องที่จะบอกเป็นเรื่องธรรมดาทั่วไป “พ่อไม่ได้ชอบผู้หญิง”
ผมขมวดคิ้ว “ธารไม่เข้าใจ”
“แม่รู้เรื่องนี้ดี เรารักกันแบบเพื่อน ไม่เคยคิดเกินเลยกว่านั้น”
สิ่งที่ได้ยินทำให้ผมอึ้ง ปลายนิ้วเย็นเฉียบด้วยความกลัว...ถ้าพ่อไม่ได้ชอบผู้หญิง แล้วผมเกิดขึ้นมาได้ยังไง
ฝ่ามือของพ่อที่ลูบหัวผมเบาๆ ไม่ได้ช่วยให้จิตใจของผมสงบลงสักนิด ความคิดมากมายตีกันในหัวผมจนยุ่งเหยิง...ผมกับพ่อเราไม่มีตรงไหนเหมือนกันเลย สีผม สีตา ส่วนสูง หรือแม้แต่โครงหน้า คงไม่ใช่ว่า...
“ธารไม่ใช่ลูกพ่อเหรอครับ”
“ธารต้องเป็นลูกของพ่อสิ” พ่อกลายเป็นฝ่ายอึ้งบ้าง “เพราะพ่ออยากมีธาร แม่ถึงได้ตั้งท้องเราขึ้นมา ถึงพ่อจะไม่ชอบผู้หญิง แต่ไม่ได้หมายความว่าพ่อจะมีเซ็กส์กับผู้หญิงไม่ได้”
“......”
“แต่ยังไงธารก็เกิดขึ้นมาจากความรัก เกิดขึ้นมาเพราะพ่อกับแม่อยากมีลูกน่ารักๆ สักคน”
“......”
“รู้อย่างนี้แล้วโกรธพ่อรึเปล่าครับ”
ผมส่ายหน้า ถึงแม้จะตกใจอยู่บ้าง แต่ผมไม่โกรธพ่อเลย และไม่เสียใจด้วยที่เกิดมาเป็นลูกของพ่อ เพราะพ่อดูแลผมอย่างดีมาตลอด ไม่เคยดุด่าผมแรงๆ หรือตีผมเลยสักครั้ง ที่สำคัญคือ...ผมรักพ่อจนไม่เคยมองว่าสิ่งที่พ่อทำนั้นผิด
“ขอบคุณครับที่เข้าใจ” พ่อทาบฝ่ามือลงบนแก้มของผม เช็ดคราบน้ำตาให้ด้วยนิ้วโป้งที่ใหญ่จนแทบจะปิดหน้าผมอยู่แล้ว “กินอะไรมารึยัง หิวรึเปล่า”
“ยังเลยครับ แต่ยังไม่อยากกินอะไรเลยอะ”
ความอยากอาหารมันหายไปตั้งแต่พ่อโผล่มาที่คอนโดพี่กฤษแล้ว ทั้งตกใจ กังวล อึ้ง จนลืมหิวไปเลย
พูดถึงเรื่องนี้ผมก็นึกถึงตัวต้นเหตุขึ้นมา...สถานะในเฟสบุ๊คของผมถูกตั้งค่าไม่ให้พ่อมองเห็น แล้วพ่อจะรู้ได้ยังว่าผมอยู่กับพี่กฤษ แถมยังรู้อีกด้วยว่าคอนโดพี่กฤษอยู่ที่ไหน
คนๆ เดียวที่รู้เรื่องนี้และคิดอยากฟ้องพ่อคงมีแต่...พี่ภู!
“ไม่หิวก็ต้องกินครับ ลงไปกินมื้อเย็นกัน พ่อจะได้บอกให้แม่บ้านขึ้นมาทำความสะอาดด้วย...ไว้อิ่มแล้ว พ่อจะทำโทษเรา”
คำพูดของพ่อทำให้ผมต้องหยุดความคิดวุ่นวายในหัว
“ทำไมต้องทำโทษด้วย ธารยังไม่ได้ทำอะไรผิดเลย”
“ที่จูบกับคนอื่นนั่นไม่ผิดเหรอครับ”
ผมกัดปาก ก้มหน้าหลบสายตาพ่อ กลัวจะถูกซักเรื่องพี่กฤษขึ้นมาอีก ถ้าพ่อถามว่าผมรู้สึกยังไงกับพี่กฤษ ผมก็ไม่รู้จะตอบยังไงดี บอกว่าไม่รัก ไม่ชอบเลยสักนิด ก็คงต้องหาคำอธิบายที่ฟังขึ้น ในเมื่อผมยอมตามเขาไปถึงคอนโด แถมยังจูบกันด้วย
“ไม่เอากักบริเวณแล้วนะ” ผมบอกเสียงอ้อมแอ้ม
“ไม่แล้วครับ” พ่อกระซิบ ลูบต้นขาด้านในของผมเบาๆ “คราวนี้พ่อจะทำโทษอย่างอื่น...เอาให้เราไม่กล้าไปจูบกับใครอีกเลย”
ผมรีบเด้งตัวลุกขึ้นจากตักพ่อ หน้าร้อนผ่าวแบบที่ไม่ต้องดูกระจกก็รู้ว่ามันต้องแดงมากแน่ๆ “ลงไปกินข้าวกันดีกว่าครับ เดี๋ยวธารไปตามพี่ภูเอง”
ตั้งแต่กลับมายังไม่เจอพี่ภูเลย บางทีอาจจะอยู่ในห้อง...ไม่รู้ว่าเมื่อกี้ได้ยินที่ผมกับพ่อทะเลาะกันรึเปล่า ชักจะกังวลแล้วสิ
“พี่ภูไม่อยู่ครับ กลับมาถึงบ้านได้แป๊ปเดียวก็ออกไปแล้ว”
...ค่อยยังชั่ว
เอาไว้กลับมาถึงค่อยคิดบัญชีละกัน!
Pie2Na
อย่าเพิ่งปารองเท้า ปาระเบิดใส่คนเขียนนะ ขอโทษแรงมาก TT
ตั้งใจจะเขียน NC แหละ แต่ปั่นไม่ทันครับ เลยรีบอัพก่อนกลัวจะอัพให้ไม่ทันตามสัญญา
(บอกกับนักอ่านหลายคนไปว่าจะอัพตั้งแต่เมื่อวาน// โดนเตะ)
เอาเป็นตอนหน้านะ จัดไปไม่ให้เสีย อาจจะพ่อ พี่ภู หรือทั้งสองคนนั่นแหละ //สปอยล์หนักๆ!
ปล. รีบมาก อ่านทวนผ่านๆตาไปอย่างรวดเร็ว เจอคำผิดประโยคติดขัด หรือพลาดตรงไหน ปล่อยผ่านเนอะ
ไว้พายค่อยแก้ตอนรีไรท์ แต่ถ้ารักกัน เม้นบอกคนเขียนหน่อยก็ดี อิอิ ^^
เม้นนนนบ้างนะเธอออ รออ่านอยู่นะ และขอบคุณมากๆ สำหรับทุกคอมเม้น ^^
เกือบลืม!!
เห็นคนอื่นเล่นกัน อยากเล่นบ้างงงงงงงงงง
พูดคุยถึงเรื่องนี้ แอบนินทาพี่กฤษ ธาร อติณ พี่ภู พ่อตะวัน ใครก็แล้วแต่!
ติดแท็ก
#ฮาเร็มของธาร ในเฟสบุ๊คกับทวิสเตอร์นะครับบบ
ไว้พายจะเข้าไปอ่านบ้างงง เล่นกันเยอะๆนะ อยากรู้ววว!
รักนะ ไว้เจอกันน ^^