【(Not) Innocent】 รัก☆ร้าย★ เดียงสา ┇3P :Incest: 18+┇•ตอนจบ•
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: 【(Not) Innocent】 รัก☆ร้าย★ เดียงสา ┇3P :Incest: 18+┇•ตอนจบ•  (อ่าน 85225 ครั้ง)

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
กฤษ จับปลาสองมือสินะ
แต่ปลาตัวหนึ่ง ไม่ชอบมือที่จับแล้ว
แถมเห็นอีกมือก็มีปลาอีกตัว
ตกลงธาร เป็นลูกใคร ใช่พี่อติณหรือเปล่า?
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ กบกระชายไทยนิยม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 502
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
เริ่มคิดถึงคุณพ่อของน้องธารแล้ว  :hao4:

ออฟไลน์ pie2na

  • ติดตามข่าวสารได้ที่เพจ Pie2Na นะครับ ^^
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-2

Chapter 19
เรื่องราวในอดีต

2: 15 P.M.

@Atin’s House
   
ช่วงบ่ายผมมาหาพี่อติณที่บ้าน ตอนแรกเขานัดเจอผมที่คอฟฟี่ช็อปใกล้คอนโดพี่ภู แต่เพราะเรื่องที่ผมจะคุยกับพี่อติณไม่เหมาะจะพูดในที่สาธารณะ พวกเราเลยนัดเจอกันที่นี่แทน
   
หลังจากกดออดสั้นๆ สองครั้ง ผมก็ยืนรออยู่หน้ารั้ว ไม่ถึงสองนาทีพี่อติณก็ออกมาเปิดประตูพาผมเดินเข้าไปในบ้าน ตอนเดินผ่านห้องนั่งเล่น เจอป้าขิงนั่งเฝ้าน้องตุลย์เล่นต่อรางรถไฟอยู่ ผมจึงรีบยกมือไหว้
   
“สวัสดีครับป้าขิง”    

“สวัสดีค่ะน้องธาร”
   
ป้าขิงรับไหว้ด้วยรอยยิ้มเอ็นดู เป็นจังหวะเดียวกับที่น้องตุลย์เงยหน้าขึ้นมาจากรางรถไฟพลาสติก พอเห็นผมก็ทิ้งของเล่นในมือแล้ววิ่งมากอดขาทันที
   
“พี่ธารๆ เล่นรถไฟ”
   
“พ่อต้องคุยธุระกับพี่ธารก่อนครับ ไว้เดี๋ยวเสร็จแล้วจะให้พี่เขามาเล่นด้วยนะ” พี่อติณที่ยืนอยู่ข้างผมก้มลงพูดกับลูกชาย
   
น้องตุลย์อิดออดเล็กน้อยแต่ก็ยอมปล่อยขาผมออก ยืนจ้องผมกับพ่อตัวเองด้วยดวงตากลมแป๋ว “ขอช็อกๆ”
   
“คร้าบ เป็นเด็กดีพ่อต้องให้รางวัลเนอะ ป้าขิงเอาช็อกๆ ให้น้องด้วยนะครับ” พี่อติณขยิบตาให้ป้าขิง ป้าแกเลยรีบเดินไปหยิบช็อกโกแลตบาร์ในตู้เย็นให้น้อง พอเจ้าตัวเล็กนั่งจุ้มปุ๊กลงกับพื้น ยุ่งอยู่กับการแกะห่อช็อกโกแลตจนลืมสนใจพวกเรา พี่อติณก็ส่งสัญญาณให้ผมเดินตามเขาไปที่ห้องทำงาน
   
ในห้องทำงานพี่อติณมีโซนรับแขกสำหรับสี่คนอยู่ เขาให้ผมนั่งรอที่โซฟา ส่วนตัวเองเดินไปหยิบนมกับขนมในตู้เย็นเล็กตรงมุมห้องมาให้
   
“น้องตุลย์ชอบงอแงตามพี่เข้ามาในนี้บ่อยๆ พี่เลยต้องตุนขนมกับเครื่องดื่มสำหรับเด็กไว้ แต่ถ้าธารอยากได้เบียร์แทนนมเดี๋ยวพี่ไปหยิบให้ใหม่” พี่อติณพูดติดตลกพลางวางขนมกับนมพลาสเจอไรส์ลงบนโต๊ะ เขายิ้มอย่างอารมณ์ดี แต่รอยยิ้มเหมือนจะสะดุดไปนิดตอนที่สายตาหลุบลงมองที่ต้นคอของผม ทำให้ผมต้องแกล้งทำเป็นยกมือเกาท้ายทอย เพื่อใช้ฝ่ามือปิดบังรอยคิสมาร์กพวกนั้น...คิดแล้วก็โมโหพี่กฤษชะมัด
   
“.....”

“ที่นัดเจอพี่วันนี้ มีเรื่องอะไรจะคุยกับพี่เหรอ” อีกฝ่ายนั่งลงบนโซฟาฝั่งตรงข้าม รอยยิ้มยังคงไม่จางจากใบหน้า
   
“เมื่อวันเสาร์ ในห้องล็อกเกอร์...ธารได้ยินที่พี่อติณกับพ่อคุยกันครับ”

   
[Atin’s Part]
   
ธารได้ยินที่ผมกับตะวันคุยกัน?
   
ผมเงียบไปเกือบนาทีถึงค่อยฝืนยิ้มถาม “ธารรู้อะไรมากแค่ไหนจากสิ่งที่ได้ยินวันนั้นครับ”
   
น้องธารก้มหน้า บีบมือตัวเองเล่น เขาไม่ได้ตอบแต่กลับย้อนถามผมแทน “พี่อติณว่าธารกับพ่อดูคล้ายกันไหมครับ”
   
ลองถามมาแบบนี้แสดงว่าน้องต้องพอจะรู้อะไรมาบ้างแล้ว แล้วมันก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่ผมจะต้องโกหก ที่สำคัญความเห็นแก่ตัวของผม มันกำลังสั่งให้ผมพูดทุกอย่างออกไป บอกให้ธารรู้เพื่อจะพรากเขาออกมาจากตะวันซะ
   
ถ้ายึดติดแค่สายเลือด...ธารเป็นของผมโดยชอบธรรม
   
“ตากับผมของธารเป็นสีน้ำตาลอ่อน” ผมพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อย แม้ว่าความรู้สึกภายในจะเริ่มปั่นป่วน จิตใจฝั่งดีกับฝั่งเลวกำลังถกเถียงกันไม่หยุด ใจหนึ่งก็อยากให้ธารรู้ความจริง แต่อีกใจ...ก็ไม่อยากทำร้ายความสัมพันธ์ของสองพ่อลูกคู่นี้ “...สีเดียวกับของน้องตุลย์”
   
“......” มือเล็กๆ ทั้งคู่ที่วางอยู่บนหน้าตักบีบแน่นยิ่งกว่าเดิม
   
“ตอนแรกพี่ยังแอบคิดเลยว่าธารเป็นลูกครึ่งรึเปล่า อย่างพ่อพี่...ปู่น้องตุลย์เป็นลูกครึ่งไทยอังกฤษ น้องตุลย์เลยได้ตากับผมสีน้ำตาลเหมือนของปู่มา”

ตัวผมเองเค้าโครงหน้าก็พอจะดูออกบ้างว่าอาจมีเสี้ยวต่างชาติ อย่างสีผมกับตาก็เป็นสีน้ำตาลเข้ม ส่วนธารกับน้องตุลย์ ถึงรูปร่าง เค้าโครงหน้าจะเหมือนคนเอเชีย แต่สีผิว สีผม สีตากลับแตกต่างออกไป หลังจากที่ได้คุยกับตะวันที่ยิม ผมเลยเริ่มเอะใจมากขึ้น
   
“พ่อกับแม่ธารเป็นคนไทยแท้ทั้งคู่ สีผมกับสีตาของธารแค่เพี้ยนไปเท่านั้นล่ะครับ” ธารพูดทั้งที่ยังก้มหน้า น้ำเสียงของน้องฟังดูก้าวร้าวเล็กน้อย “ไม่ว่าคนที่ทำให้ธารได้เกิดมาจะเป็นใคร แต่ยังไงพ่อตะวันก็ยังเป็นพ่อของธาร”
   
ผมยื่นมือไปจะลูบหัวธาร แต่กลับถูกน้องปัดออกอย่างแรง การกระทำที่เหมือนจะต่อต้านและไม่ต้องการผม มันทำให้ผมรู้สึกผิดหวัง เสียใจ และจุกจนพูดไม่ออก ความโกรธเคืองต่อตะวันที่เหมือนจะจางหายไปนานแล้ว เอ่อท้นขึ้นมาอีกจนได้...บางทีอาจจะไม่ใช่โกรธหรือแค้นอะไร แต่ผมอิจฉาเขามากกว่า
   
เขาแย่งคนที่ผมรักไปจนหมด และผมเองก็อยากจะแย่งคืนมา...
   
“ถ้าธารยืนยันว่าตะวันเป็นพ่อของธาร ทำไมธารถึงยังมาถามหาความจริงจากปากพี่”
   
“ธารก็แค่ต้องการยืนยันว่าความรักที่เกิดขึ้น มันไม่ได้เป็นสิ่งที่ผิด”

“.....” ผมขมวดคิ้ว ไม่ค่อยเข้าใจที่ธารพูดสักเท่าไหร่
   
“งั้นธารกลับก่อนนะครับ” พูดจบธารก็ผุดลุกขึ้นทันที พอน้องเดินผ่านโซฟาที่ผมนั่งอยู่ ผมจึงคว้าข้อมือเล็กๆ นั่นเพื่อรั้งเขาไว้
   
“ธารไม่อยากรู้เหรอว่าเรื่องราวทุกอย่างมันเกิดขึ้นได้ยังไง” ใบหน้าน่ารักก้มต่ำ ดวงตากลมโตมีแววสั่นไหว เขาอาจจะอยากรู้ แต่ก็คงกลัวว่าความจริงพวกนั้นเลวร้ายเกินกว่าจะรับได้
ผมหวังว่าความอยากรู้จะมีมากกว่า...
   
“ถ้าธารยังไม่อยากฟังตอนนี้ ไว้คราวหน้านึกอยากรู้ขึ้นมา พี่ก็พร้อมจะเล่าให้ฟังนะ”
   
“......” น้องพยายามบิดมือออกจากการเกาะกุม แต่แค่ผมกระชากแรงๆ ครั้งเดียว ร่างผอมบางก็ถลาล้มลงมาบนตัวผม ดวงตากลมโตที่คลอไปด้วยน้ำตานั่นเบิ่งกว้างขึ้นเล็กน้อย มือเล็กๆ ผลักดันผมออกห่าง ผมจึงรีบโอบเอวอีกฝ่ายไว้ กักขังเขาด้วยแขนแข็งแรงทั้งสองข้าง
   
เมื่อกี้ธารแทบจะนั่งก้มหน้าตลอดเวลา ผมเลยไม่มีโอกาสได้มองสีหน้าของเขา ตอนนี้ผมได้เห็นแล้วว่าธารไม่ได้เข้มแข็งอย่างที่แกล้งทำเลยสักนิด ที่น้องทำเหมือนไม่แยแส และแสดงท่าทีก้าวร้าวแบบนั้นออกมา ก็เพื่อจะต่อต้านผม ทั้งที่ในความเป็นจริงเขาคงทั้งตกใจและเสียใจมากที่รู้ว่าตะวันไม่ใช่พ่อแท้ๆ
   
“ปล่อยนะ ธารจะกลับ”
   
อ้อมกอดของผมยังคงรัดแน่น ฝ่ามือค่อยๆ ลูบลงบนแผ่นหลังเล็กบาง ...ตัวของน้องสั่น ถึงจะเล็กน้อยแต่ผมก็รู้สึกได้
   
“ต่อไป เราเจอกันบ่อยขึ้นได้ไหม...พี่คงทนไม่ได้ถ้าธารหลบหน้าพี่ หรือไม่ยอมมาเจอพี่อีก”
   
“.....”
   
“น้องตุลย์ชอบธารมากนะ เมื่อวานยังร้องไห้งอแงจะให้พี่พาไปหาธารอยู่เลย...ธารไม่สงสารน้องเหรอ”

เมื่อรู้สึกได้ว่าธารไม่ได้เกร็งจนแข็งทื่อไปทั้งตัวเหมือนตอนแรก ผมจึงค่อยๆ กดตัวน้องเข้ามาแนบชิดมากขึ้น โอบกอดร่างเล็กๆ นั่นไว้จนแทบจะกลืนหายไปกับอก ริมฝีปากของผมคลอเคลียอยู่ข้างใบหูขาวเนียน สายตาหลุบต่ำ มองรอยจ้ำสีแดงช้ำตัดกับผิวขาวละเอียดบนต้นคอเรียวเล็ก

ลมหายใจของผมติดขัดด้วยความโกรธเมื่อคิดไปถึงว่ารอยพวกนี้มันเกิดขึ้นมาได้ยังไง...ถ้าธารกลายเป็นคนของผม ผมจะไม่มีทางปล่อยให้ใครมาทำรอยพวกนี้ได้อีก

“พี่จะรอนะครับ”

“ธารอยากกลับบ้านแล้วครับ” น้ำเสียงที่สั่นนิดๆ นั่นเบาจนแทบจะกลายเป็นกระซิบ มันเป็นเสียงเล็กๆ ของเด็กผู้ชายที่ยังไม่เข้าสู่วัยรุ่น ทั้งที่เจ้าตัวก็อายุสิบสี่แล้ว

...แต่ผมกลับชอบนะ และทุกทีที่ได้ยิน มันก็ทำให้อารมณ์ของผมปั่นป่วน

“งั้นก็ไปกันครับ เดี๋ยวพี่ไปส่ง” ผมยอมคลายอ้อมกอด ปล่อยให้คนตัวเล็กลุกออกไป
   
[End Atin’s Part]

Pie2Na
ตอนหน้าพี่น้องธารจะตกอยู่ในอันตรายครับ TT

ปล.เพิ่งเห็นว่านิยายพายโดนลงโทษแหละ โดนย้ายไปอยู่ในห้องนิยายที่ไม่มาอัพต่อให้จบ 5 5 5 5 5 5 5
ขอบคุณคอมเม้นนะครับ หวังว่าจะมีคนหลงเข้ามาอ่านบ้าง
 :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:


ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
แอะ.... เอาละสิ สีผม สีตา เหมือนน้องตุลย์
น้องธาร เสน่ห์ ฟุ้ง ฟีโรโมนกระจาย เกินบรรยาย
ธาร กลัวต้องแยกออกจากพ่อ
ไม่ได้ดีใจที่ไม่มีสายเลือดเดียวกับพ่อ
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ hunhan

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 77
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
 :o8: :-[
พี่ตรินพูดแบบนี้ต้องมีอะไรแน่ๆ
แต่ที่แน่ๆคือเราชอบคุณพ่อตลอด น้องธารฟีโรโมนคลุ้งจริงๆ ไม่ใช่อะไรจริงๆชอบนิยายแนวแบบพ่อลูก พี่น้อง เข้าขั้นโรคจิตและ555 เนื้อเรื่องกำลังสนุก อิอิ รอนะค่ะ สู้ๆ
 :mew1: กอดคนเขียน อิอิ

ออฟไลน์ pie2na

  • ติดตามข่าวสารได้ที่เพจ Pie2Na นะครับ ^^
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-2
เปิดจองนิยาย
(Not) Innocent รัก ‘ร้าย’ เดียงสา


วันนี้-30 พฤศจิกายน
(สั่งพิมพ์ทันทีหลังปิดจอง และหนังสือน่าจะถึงมือคนอ่านไม่เกินหนึ่งเดือนหลังปิดจองครับ)






รายละเอียดหนังสือ ::
หนังสือขนาด A5 กระดาษถนอมสายตา
มีภาพประกอบ 18+ จำนวน 2 ภาพในเล่ม
ความหนา : 350 หน้า +
ของแถม : ที่ขั้นทุกเล่ม //โปสการ์ด2ใบสำหรับ 10 คนแรกที่โอนเงิน//โปสการ์ด 1 ใบสำหรับคนที่โอนก่อน 31 ต.ค.
ราคา : 385 บาท (ไม่รวมส่ง)

รายละเอียดเนื้อหา ::
-   เนื้อเรื่องทั้งหมดที่ลงในเว็บ
-   ตอนพิเศษ 5 ตอน (ไม่ได้ลงในเว็บ) มีฉาก 3P NC 18+ ซึ่งต้องลุ้นเอาว่ามาลงเอยกันได้ยังไง ทั้งที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ (แต่เนื้อเรื่องสมเหตุสมผลแน่นอนครับ)
>>ตอนพิเศษ 4 ตอนแรกคล้ายๆ เนื้อเรื่องภาคต่อ คือเป็นเรื่องราวหลังจากธารอายุครบ 18 ปี ว่าความสัมพันธ์ของธารระหว่างธาร พ่อ พี่ภู และคนอื่นๆ จะเป็นอย่างไร
>>อีกหนึ่งตอนเป็นเรื่องของ กฤษXณัฐว่าสองคนนี้มารักกันได้ยังไง จุดจบความรักเป็นอย่างไร (จบดี อบอุ่นหัวใจครับ)
*** เรื่องนี้เล่มเดียวจบ และจบแบบแฮปปี้ อบอุ่นละมุนละไม ดีต่อใจกับทุกฝ่ายนะครับ

รายละเอียดการจอง ::

**** ****10 คนแรกที่โอเงินเข้ามา จะได้โปสการ์ดเป็นของแถม 2ใบ+ที่ขั้น นะครับและ คนที่โอนเงินก่อน 31 ต.ค. จะได้โปสการ์ดลายปกแถม 1 ใบ+ที่ขั้น

ค่าจัดส่งลงทะเบียนธรรมดา 50 บาท/รวมค่าหนังสือ = 435 บาท
ค่าจัดส่ง EMS 80 บาท /รวมค่าหนังสือ =465 บาท

โอนเงินมาที่บัญชีธนาคารกรุงเทพ
เลขที่บัญชี : 634-012096-0
ชื่อบัญชี : NAWAPORN

***หลังโอนเงินแล้วถ่ายรูปสลิป/แคปหน้าจอสำหรับ iBanking หรือแจ้งเวลาโอน ยอดโอน
เข้ามาทางแชทเพจ Pie2Na<<คลิก /แชทเฟส Pie Area / ไลน์ไอดี Pie2na ทางใดทางหนึ่ง
รอยืนยันตอบกลับ และส่งชื่อที่อยู่สำหรับจัดส่งหนังสือให้พายนะครับ ^^
ขอบคุณที่ติดตามเรื่องนี้ครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-10-2016 15:17:48 โดย pie2na »

ออฟไลน์ pie2na

  • ติดตามข่าวสารได้ที่เพจ Pie2Na นะครับ ^^
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-2
Chapter 20
โดนเอาคืน
(ครึ่งแรก)

   
P’ Krit: ตอนนี้ธารอยู่ไหนครับ?
   
ขณะอยู่บนรถระหว่างทางกลับคอนโด ผมหยิบมือถือขึ้นมาเปิดดูไลน์ แล้วก็ต้องขมวดคิ้วนิดๆ กับข้อความของพี่กฤษที่ถูกส่งมาเมื่อสิบห้านาทีก่อน
   
Thara Than: กำลังกลับคอนโดครับ มีอะไรเหรอ?

P’ Krit: ถึงคอนโดแล้วแวะมาหาพี่ที่ห้องหน่อย มีเรื่องจะคุยด้วย

พี่กฤษกลับห้องแล้ว? ไหนบอกว่าจะกลับเย็นๆ นี่เพิ่งจะบ่ายสามเอง

Thara Than: อยากจะคุยเรื่องเมื่อเช้า?

P’ Krit: อืม

Thara Than: ไม่จำเป็น

P’ Krit: ไม่ใช่แค่เรื่องนั้น ยังมีเรื่องอื่นด้วย

เรื่องอะไรของเขานะ แล้วที่ไม่ยอมมาหาผมที่ห้องพี่ภู แต่ดันเรียกไปห้องตัวเองแทนนี่คือเป็นเรื่องที่พี่ภูรู้ไม่ได้? ผมชักจะสงสัยขึ้นมานิดๆ แล้วสิ

Thara Than: ก็ได้ครับ เดี๋ยวถึงแล้วจะไปหาที่ห้องนะ

ข้อความถูกอ่านทันที หลังจากนั้นพี่กฤษก็ไม่ได้ตอบอะไรมาอีก

สิบห้านาทีต่อมารถของพี่อติณก็เข้ามาจอดที่หน้าคอนโด ผมหันไปยกมือขอบคุณเขา แล้วปลดสายเบลท์เพื่อจะลงจากรถ แต่ก่อนจะได้เปิดประตู พี่อติณกลับขว้าข้อมือของผมไว้

“ธาร”

“...ครับ?”

“ตอนนี้ธารคบกับใครอยู่รึเปล่า”

“.....” ผมขมวดคิ้วมองอีกฝ่าย เลือกที่จะเงียบเพราะไม่อยากตอบคำถามนั้น อีกอย่างผมก็ไม่รู้ด้วยว่าเขาจะถามไปเพื่ออะไร...แค่อยากรู้งั้นเหรอ?

“พี่แค่เป็นห่วงน่ะ” พี่อติณยื่นมือมาที่ลำคอของผม ปลายนิ้วสากไล้ไปตามผิวบริเวณที่มีรอยคิสมาร์กอยู่ เขาขมวดคิ้วเหมือนกำลังไม่พอใจอะไรสักอย่าง ขณะที่ผมได้แต่มองอีกฝ่ายอย่างนิ่งงัน “...ไม่อยากให้ใครมาแตะต้องตัวธาร” 

ใครจะแตะต้องตัวผมแล้วมันเกี่ยวอะไรกับเขาด้วย?

“ธารดูแลตัวเองได้ครับ” ผมบอกพร้อมกับปัดมือข้างนั้นออก แล้วรีบเปิดประตูลงจากรถไปทันที



3: 47 P.M.
@The Attribute Condominium

ผมไม่ได้ส่งไลน์บอกพี่กฤษว่ามาถึงคอนโดแล้ว และเพราะว่ามีคีย์การ์ดห้องพี่กฤษอยู่ มาถึงหน้าห้องเลยเปิดประตูเข้าไปเลยโดยไม่ได้กดออด

ประตูเพิ่งถูกเปิด ยังไม่ทันก้าวเท้าเข้าไปข้างใน เสียงแจ้งเตือนไลน์ก็ดังขึ้น ทำให้ผมต้องยกไอโฟนในมือขึ้นมาเปิดดูข้อความ

Ahpuhp : อยู่ไหน

Thara Than: เพิ่งมาถึงคอนโดครับ ขอแวะห้องพี่กฤษก่อนนะ

ระหว่างที่ก้มหน้าก้มตาพิมพ์ข้อความตอบพี่ภู ผมก็เดินเข้าไปด้านในโดยไม่ได้ส่งเสียงบอกเจ้าของห้อง ซึ่งถ้าอีกฝ่ายไม่ได้อยู่ในห้องนอนหรือสวมหูฟังอยู่ ก็น่าจะได้ยินเสียงเปิดปิดประตูและรู้ว่าผมมาถึงแล้ว

อ้อ ไลน์ของพี่ภู ผมเพิ่งจะได้แอดก็ตอนย้ายมาอยู่คอนโดเดียวกับเขา ถ้าไม่ติดว่าต้องคอยตามผม พี่ภูก็คงไม่ให้ผมแอดไลน์เขาหรอก

Ahpuhp : ห้ามกลับเกินสี่โมง

ผมมองเวลาที่ข้อความถูกส่งมาล่าสุด แล้วก็ต้องกรอกตาเล็กน้อย...นี่เอาจริงเหรอ ก้นผมยังไม่ทันได้แตะโซฟาก็คงเลยสี่โมงแล้ว พี่ภูจะเข้มงวดไปไหมเนี่ย

ผมยังยืนอยู่บริเวณประตูห้อง ขณะรัวนิ้วพิมพ์ข้อความตอบกลับ ขาก็สลัดรองเท้าออกวางทิ้งไว้อย่างเกะกะ ในตอนนั้นเองที่เท้าคู่หนึ่งเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าผม

Thara Than: ขอเป็นสี่ทุ่มแทนนะครับ

ข้อความนี้ถูกส่งไปพร้อมกับอีโมติคอลแลบลิ้น แต่ยังไม่ทันที่ผมจะเก็บไอโฟนเข้ากระเป๋า มันก็โดนคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าคว้าเอาไป ทำให้ผมต้องเงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่ายด้วยความหงุดหงิด จากนั้นถึงได้ชะงักค้างเมื่อเห็นว่าเขาคือใคร

“เอามือถือคืนมา” ผมบอกด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ ถ้ารู้ว่าพี่ณัฐอยู่ในห้องพี่กฤษด้วย ผมคงไม่ยอมตกลงมาหาเขา
หวืด…ปั่ก!

นอกจากอีกฝ่ายจะไม่ยอมคืนแล้ว มือถือของผมยังถูกขว้างผ่านหน้าไปกระทบกับผนัง ก่อนจะตกลงบนพื้นจนหน้าจอสีดำแตกละเอียด

“ทำบ้าอะไรวะ!” ผมตะคอกใส่หน้าเขาด้วยความโมโห แต่พี่ณัฐกลับยกยิ้มมุมปาก ก้าวเท้าเข้ามาประชิดตัวผม แล้วพูดเสียงต่ำอย่างข่มขู่

“กูจะทำมากกว่านี้อีก”

ผมเม้มปากแน่น ขมวดคิ้วจ้องพี่ณัฐอย่างโกรธๆ ขณะที่เขากลับยิ้มมองสำรวจร่างกายของผมไล่ตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยสายตาจาบจ้วง ดูจากสีหน้าโรคจิตๆ ของอีกฝ่ายตอนนี้ผมก็พอจะเดาได้ว่าเขาคิดจะทำอะไร

เท้าข้างหนึ่งของผมก้าวถอยหลังอย่างไม่รู้ตัว สายตากวาดมองรอบห้องแต่กลับไม่เห็นแม้แต่เงาร่างของพี่กฤษ ไอ้พี่บ้านั่นหายไปในตอนนี้นะ! ในตอนที่ผมกำลังจะโดนแฟนเก่าเขาขย้ำ!

“มองหาแฟนเก่ามึงอยู่เหรอ” พี่ณัฐสาวเท้าเข้ามาใกล้อีกก้าว เขาล้วงไอโฟนสีทองออกมาจากกระเป๋ากางเกง แล้วกดปิดเครื่อง ชั่วขณะหนึ่งก่อนที่หน้าจอจะดับไป ผมเห็นว่าภาพ Home Screen คือใบหน้าเอ๋อๆ ของตัวเองตอนหลับ

...มือถือของพี่กฤษ!

ไม่รู้ว่าณัฐเอามือถือเครื่องนี้มาได้ยังไง แต่ที่แน่ๆ คนที่ส่งข้อความให้ผมมาหาที่นี่คือเขา และที่แย่ไปกว่านั้น...ในห้องนี้มีแค่เราสองคน

“มึงคิดจะทำอะไร” ผมมองหาทางหนีทีไล่ หมอนี่สูงเกินร้อยแปดสิบด้วยซ้ำ ถึงจะเป็นคนสูงโปร่งไม่ได้ตัวหนามากแต่ก็มีกล้าม ไม่ได้ผอมแห้งแรงน้อยแบบผม ถ้าให้ต่อสู้กันตัวต่อตัวแบบไร้อาวุธ ผมคงไม่มีทางชนะเขาได้แน่

“ทำมึงไง” พี่ณัฐวางไอโฟนเครื่องนั้นไว้บนตู้เก็บรองเท้าชั้นบนสุด ห่างจากผมหลายก้าว

“….!”

ผมคว้าตุ๊กตากระเบื้องที่วางประดับอยู่บนตู้เก็บรองเท้าขว้างใส่อีกฝ่ายสุดแรง แต่หมอนั่นกลับเบี่ยงศีรษะหลบได้อย่างเฉียดฉิว

เพล้ง!

ของประดับชิ้นนั้นกระทบเข้ากับผนังแตกเป็นเสี่ยงๆ เศษกระเบื้องบางส่วนกระเด็นใส่หน้าพี่ณัฐ สร้างรอยแผลเล็กๆ เลือดไหลซิบไว้บนโหนกแก้ม

ไม่รอให้พี่ณัฐได้สติ ผมก็รีบหันหลังกลับ ก้าวไปยังประตูซึ่งอยู่ห่างไปแค่เอื้อม แต่มือยังไม่ทันได้แตะลูกบิด แขนอีกข้างกลับถูกกระชากอย่างแรงจากทางด้านหลัง ส่งให้ร่างของผมกระแทกเข้ากับแผงอกของอีกฝ่าย  หมอนั่นก้มมองผมด้วยสีหน้าโกรธๆ ดึงรั้งให้ผมเดินตามไปด้านใน

คิดว่าผมจะยอมงั้นเหรอ...

ปึก!

ผมกระทืบลงบนหลังเท้าพี่ณัฐเต็มแรง ตามด้วยเหวี่ยงหมัดเข้าใส่หน้าของเขา

พี่ณัฐไม่ได้โชคดีเหมือนครั้งแรก คราวนี้เขาถูกผมชกเข้าอย่างจัง หน้าหล่อๆ นั่นหันไปตามแรงหมัด ในจังหวะที่เขาไม่ทันตั้งตัว ผมก็รีบหมุนตัวไปทางประตูอีกครั้ง ตอนนั้นเองที่ร่างของผมล้มกระแทกพื้นเพราะถูกหมอนั่นยื่นเท้าเข้ามาขัด

บ้าเอ้ย!

ในขณะที่ผมพยายามตะกายลุกขึ้น พี่ณัฐกลับโถมร่างลงมาทาบทับ ก่อนจะจับผมพลิกตัวนอนคว่ำ แล้วรวบมือทั้งสองข้างไว้บนแผ่นหลังด้วยมือเพียงข้างเดียวของเขา

ผมกระเสือกกระสนดิ้นรน เหลือบมองไปด้านหลังก็เห็นว่าหมอนั่นกำลังล้วงไอโฟนสีดำอีกเครื่องออกมาจากกระเป๋ากางเกง จิ้มนิ้วลงบนหน้าจอสองสามครั้ง แล้วเอามันไปวางไว้บนชั้นวางรองเท้าเหนือศีรษะของผมขึ้นไปเล็กน้อย

ผมกัดฟันกรอด...ทุกสิ่งทุกอย่างที่กำลังเกิดขึ้นปรากฏเป็นภาพเคลื่อนไหวอยู่บนหน้าจอมือถือ และในมุมนี้ กล้องสามารถจับภาพใบหน้าของผมได้อย่างชัดเจนจนแทบเห็นรูขุมขน

“ไง ร่านมากก็มาลองกับกูหน่อยไหม”

“สัตว์! ปล่อย!”

“เหอะ!” พี่ณัฐโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้ ลมหายใจอุ่นร้อนที่เป่ารดอยู่บริเวณกกหูทำให้ผมรู้สึกขยะแขยงจนขนลุก “ถ้าไม่อยากให้คลิปมึงไปโฆษณาอยู่บนหน้าเว็บโป๊ ต่อไปก็อย่ามายุ่งกับคนของกูอีก”

Pie2Na
ครึ่งหลังจะรีบมาอัพให้ภายในพรุ่งนี้มะรืนนี้นะครับ ^^
แจ้งข่าว
หนังสือเปิดพรีออเดอร์แล้วนะครับ
รายละเอียดหนังสือ ของแถม ตอนพิเศษ อยู่ในเพจ(คลิก)>> Pie2Na <<นะครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-10-2016 18:01:26 โดย pie2na »

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :L2: :pig4:

นัฐ มาทำให้เขาแตกแยก แกแค้นเขาได้ด้วยหรอ  :katai1:

ออฟไลน์ GGamy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 156
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
อิณัฐเดี๋ยวเจอๆๆ ชั่วจริงๆ

ออฟไลน์ pie2na

  • ติดตามข่าวสารได้ที่เพจ Pie2Na นะครับ ^^
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-2
Chapter 20
โดนเอาคืน (ครึ่งหลัง)

คอเสื้อของผมถูกกระชากจนได้ยินเสียงเนื้อผ้าฉีกขาด หัวไหล่ขาวเนียนโชว์หราอยู่บนหน้าจอ ได้แต่มองไอ้พี่ณัฐก้มลงมาดูดเม้ม ขบกัดจนสร้างรอยเอาไว้ด้วยความเจ็บใจ ในท่าที่ต้องนอนคว่ำโดนอีกฝ่ายกดทับเอาไว้ทั้งตัว แถมข้อมือทั้งสองยังถูกรวบเอาไว้ด้านหลังแบบนี้ ผมไม่มีทางหนีได้เลย

ผมพยายามตั้งสติ รวบรวมคำพูดเพื่อเอามาต่อรองกับเขา “ได้! ต่อไปสัญญาว่าจะไม่ยุ่งแล้ว ปล่อยสิ!”

“.....” ไม่มีคำพูดตอบกลับมา ได้ยินเพียงแค่เสียงดูดเม้มที่ดังอยู่ข้างหู ทำให้ผมรู้สึกขยะแขยงจนแทบอ้วก “ตอนแรกกูก็ไม่ชอบคนตัวผอมแห้งแบบมึงนะ ยังสงสัยอยู่เลยว่ากฤษมันเอามึงลงไปได้ยังไง แต่ตอนนี้กูเปลี่ยนใจละ...ขาวเนียนไปทั้งตัวแบบนี้ จับตรงไหน...” ฝ่ามืออีกฝ่ายสอดเข้ามาใต้เสื้อยืด ลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลัง “...ก็นุ่มนิ่มไปหมด...กอดแล้วได้อารมณ์ชะมัดเลยว่ะ”

“ไอ้เหี้_ กูบอกให้ปล่อยไง!”

พี่ณัฐเค้นหัวเราะ เขาเลื่อนฝ่ามือไปลูบบริเวณต้นขาเปล่าเปลือยของผม ถึงจะสวมกางเกงอยู่ก็จริง แต่ขากางเกงสั้นมาก ยิ่งขยับตัวก็ร่นขึ้นไปอีก

“เกะกะชะมัด ถอดออกซะดีไหม”

ไม่ว่าเปล่า หมอนั่นพยายามถอดกางเกงของผมออกจากสะโพก กระชากแรงๆ ไม่กี่ครั้ง มันก็หลุดไปกองที่หัวเข่า คราวนี้ผมเริ่มกลัวขึ้นมาจริงๆ แล้ว กลัวจนรู้สึกได้ว่าร่างกายกำลังสั่นและเหงื่อซึมไปทั่วตัว

ผมดิ้นรนกระเสือกกระสนหนักกว่าเดิม คนด้านบนสบถคำหยาบออกมาด้วยความโมโห ก่อนจะคว้าเอาเชือกผูกรองเท้ามามัดข้อมือของผมไว้อย่างแน่นหนา รัดแน่นเสียจนเส้นเชือกครูดผิวจนผมรู้สึกเจ็บ

หมอนั่นพลิกตัวของผมหันกลับมานอนหงาย ใช้มือข้างหนึ่งบีบคอผมไว้ ยิ่งผมดิ้นคอก็ถูกบีบแรงขึ้นจนหายใจไม่ออก เรี่ยวแรงทั้งหมดจึงเริ่มหดหายไปพร้อมกัน

“ถ้าไม่อยากเจ็บตัวก็ทำตัวดีๆ” เห็นผมทุรนทุรายเหมือนกำลังจะขาดใจ มือข้างที่บีบคอผมไว้จึงยอมคลายออก ปล่อยให้คอเล็กๆ ของผมเป็นอิสระ ถึงจะโกรธแค้นผมแค่ไหน แต่เขาคงไม่กล้าพอจะฆ่าผมให้ตาย

ผมไอโขรก พยายามหอบหายใจเอาอากาศเข้าปอด ไม่มีแม้เรี่ยวแรงจะดิ้นรนอีก และเมื่อตั้งสติได้อีกครั้ง กางเกงของผมก็หลุดพ้นข้อเท้าไปแล้วด้วยฝีมือของคนด้านบน ยังดีที่เหลืออันเดอร์แวร์ขาสั้นปกปิดร่างกายส่วนล่างเอาไว้ แต่ไม่รู้ว่ามันจะอยู่บนร่างของผมได้อีกนานเท่าไหร่

พี่ณัฐโถมตัวลงมาทาบทับอีกครั้ง ใช้ริมฝีปากดูดเม้มสร้างรอยบนผิวขาวจัด ขณะเดียวกันฝ่ามือทั้งคู่ก็ลูบไล้บีบเค้นไปทั่วทุกส่วน สัมผัสพวกนั้นทำให้น้ำตาของผมไหลออกมาด้วยความกลัวและขยะแขยง แต่ก็พยายามหยุดตัวเองไม่ให้ต่อสู้ดิ้นรนอีกเพื่อให้อีกฝ่ายตายใจ

ที่ด้านหลัง ผมพยายามง้างข้อมือทั้งสองข้างออกจากกัน ถึงจะถูกพี่ณัฐมัดเอาไว้อย่างแน่นหนา แต่เชือกที่ใช้ก็เป็นแค่เชือกผูกรองเท้าเส้นเล็กๆ ที่ยืดหดได้ เมื่อมันหลวมขึ้นเล็กน้อยจากการขยับข้อมือแรงๆ ผมก็ดึงมือข้างหนึ่งจนหลุดออกมา โดยไม่สนว่าเชือกนั่นจะบาดผิวจนเจ็บแสบ

ทันทีที่มือทั้งสองข้างเป็นอิสระ ผมพยายามเอื้อมหยิบไอโฟนบนชั้นวางรองเท้าโดยไม่ให้คนด้านบนรู้ตัว สิ่งของที่อยู่ในระยะเอื้อมถึง มีแค่มือถือเครื่องนี้เท่านั้นที่ใช้เป็นอาวุธได้

ออกแรงเอื้อมจนสุดแขนก็ยังไม่สามารถคว้ามาได้ ขณะเดียวกันเสื้อยืดบางๆ บนตัวผมก็ถูกถลกขึ้นมาไว้เหนืออก ริมฝีปากอุ่นร้อนที่กำลังดูดเม้มตุ่มไตสีแดงข้างหนึ่งบนผิวขาวจัด ไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกอะไรมากไปกว่าความรังเกียจ คงเห็นผมไม่ขัดขืน หมอนั่นถึงได้สัมผัสไปทั่วทุกส่วนบนร่างกายของผมอย่างได้ใจ

ผมข่มความรู้สึกอยากอาเจียน กระเสือกตัวไปข้างหน้าอีกเล็กน้อย ก่อนจะคว้าเอามือถือเครื่องนั้นมาไว้ในมือได้สำเร็จ แต่ในขณะเดียวกัน สายตาของพี่ณัฐก็เหลือบมาเห็นเข้าพอดี เขายื่นมือออกมาเพื่อแย่งคืน แต่ก็ช้าไป...
ตุบ!

ไอโฟนในมือผมกระแทกเข้าที่ขมับหมอนั่นเต็มแรง กำลังจะกระแทกลงไปอีกก็ถูกเขาคว้าข้อมือเอาไว้ ผมใช้มืออีกข้างเหวี่ยงหมัดออกไป แต่ยังไม่ทันจะแตะโดนตัวอีกฝ่าย กลับกลายเป็นผมเองที่ต้องจุกจนร่างคุดคู้เพราะถูกชกเข้าที่ท้องอย่างจัง

“กูบอกให้ทำตัวดีๆ มึงไม่เข้าใจเหรอ!”

ข้อมือทั้งสองข้างถูกรวบเอาไว้เหนือหัว และถึงแม้ขาของผมจะเป็นอิสระ แต่เพราะถูกอีกฝ่ายคร่อมทับลำตัวช่วงบนเอาไว้ ต่อให้เตะถีบไปก็ไร้ประโยชน์

ชั่วแวบหนึ่งแววตาของพี่ณัฐมีแววลังเลเล็กน้อย แต่ก็แค่นิดเดียวเท่านั้น ก่อนที่เขาจะเกี่ยวรั้งอันเดอร์แวร์ของผมลงไปกองอยู่ที่ต้นขา จากนั้นก็ใช้ไอโฟนถ่ายใบหน้าของผม ไล่มาตามลำคอ ช่วงตัวที่แทบเปลือยเปล่าและมีรอยคิสมาร์กเด่นหราเต็มไปหมด ต่ำไปจนถึงส่วนล่าง แล้วจึงยัดมือถือเก็บเข้ากระเป๋ากางเกง

ตอนที่ผมคิดว่าคงจะต้องตกเป็นของอีกฝ่าย เขากลับหยุดนิ่ง จ้องมองผมด้วยแววตาข่มขู่ ปล่อยให้ผมตัวสั่นเทาด้วยความกลัวและอับอาย

“ถ้ามายุ่งกับคนของกูอีก รู้ใช่ไหมว่ามึงต้องเจออะไร”

หมอนั่นผละออกไป ผมถึงเข้าใจว่าเขาไม่ได้ตั้งใจจะทำมันตั้งแต่แรก แค่จะคู่ให้ผมกลัวและถ่ายคลิปน่าอายเก็บไว้แบล็คเมล์เท่านั้น ตราบใดที่ผมไม่ยุ่งกับพี่กฤษ คลิปนั่นก็จะไม่หลุดออกไป แต่ถ้าผมยังดื้อด้านไม่เลิก นอกจากจะต้องถูกปล่อยคลิปแล้ว เรื่องที่ไม่ได้เกิดขึ้นในวันนี้ก็จะเกิดขึ้นจริงๆ

ผมยังคงนอนสั่นเทาอยู่ที่เดิม ไม่รู้ว่าเพราะอาการจุกและบอบช้ำไปทั่วร่าง หรือเพราะรู้สึกกลัวจนสติกระเจิดกระเจิง ถึงทำให้ผมแทบไม่มีแรงจะขยับตัว ทำได้แค่ใช้มือสั่นๆ ดึงอันเดอร์แวร์ที่ค้างอยู่บนต้นขาขึ้นมาสวม ดึงชายเสื้อลงมาปิดบังร่างกาย แล้วพลิกตัวตะแคงข้าง นอนคุดคู้กอดร่างกายตัวเองไว้อย่างปกป้องก็เท่านั้น

ความรู้สึกโกรธเกลียดในใจผมมันถูกความกลัวบดบังไปหมด ในตอนนี้แม้ว่าร่างกายของผมจะเป็นอิสระ ไม่ได้ถูกจับมัดเอาไว้ และต่อให้ผมอยากเอาคืนเขามาแค่ไหน แต่ผมจะทำอะไรได้? ผมไม่มีแรงมากพอจะไปสู้กับเขา แค่เอาตัวรอดจากสถานการณ์ตรงหน้าให้ได้ก็ยากแล้ว

เรื่องมาถึงขนาดนี้ผมถึงเพิ่งสำนึกได้ว่าตัวเองไม่ควรไปปากดีกับพี่ณัฐตั้งแต่แรก ผมก็แค่เด็กผู้ชายอายุสิบสี่เท่านั้น ไม่มีความกล้าเท่ากับเขาที่สามารถทำเรื่องพวกนี้ได้ วันนี้ผมโชคดีที่เขายอมปล่อยผมไป แต่ถ้าครั้งหน้าผมเกิดทำให้เขาโมโหอีกล่ะ?

ไม่รู้ว่าด้วยความสงสารหรือสมเพช พี่ณัฐโยนกางเกงมาให้ บอกด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ก่อนจะลุกยืนขึ้นว่า “แต่งตัวซะ”

คำพูดสั้นๆ นั้นทำให้ผมสะดุ้งเล็กน้อย เมื่อเริ่มตั้งสติได้ผมจึงขยับตัวลุกขึ้นนั่ง กำลังจะสวมกางเกง ก็เห็นเท้าของพี่ณัฐก้าวผ่านตัวผมไปทางประตู แต่ยังไม่ทันที่ผมจะสอดขาเข้าไปในกางเกงและอีกฝ่ายยังไม่ได้ออกจากห้อง เสียงติ๊ดๆ ก็ดังขึ้น ก่อนที่ประตูจะถูกผลักเข้ามา

ผมแหงนหน้ามองไปทางนั้นด้วยความตกใจ คนที่ยืนอยู่หน้าประตูห้องยังไม่สังเกตเห็นผมเพราะถูกพี่ณัฐยืนบังไว้ เขาขมวดคิ้วมองคนตรงหน้า ขณะที่พี่ณัฐดูจะอึ้งๆ ไปนิด
 
“ไอ้กฤษอยู่ไหน” อีกฝ่ายพูดก่อนจะผลักไหล่พี่ณัฐที่ยังยืนนิ่งอึ้งให้หลีกทาง

Pie2Na
คอมเม้นเป็นกำลังใจให้เค้าบ้างน้า
ขอบคุณที่ติดตามครับ ^^
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-10-2016 17:55:40 โดย pie2na »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :katai1:ลุ้นกันอีกรอบงง :ling1:

 :L2: :pig4:

ออฟไลน์ pie2na

  • ติดตามข่าวสารได้ที่เพจ Pie2Na นะครับ ^^
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-2
Chapter 21
สั่งสอน

4: 12 P.M.
@The Attribute Condominium

[Phupha's Part]

ธารจะคบกับกฤษก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไร ถึงเพื่อนผมคนนี้จะเจ้าชู้ไปหน่อย แต่มันก็ดูจริงจังกับธาร เต็มที่กับธารต่างจากแฟนคนก่อนๆ ที่มันเคยคบ...ผมไม่ควรจะขัดขวาง ไม่ควรไปยุ่งเรื่องของสองคนนี้ ผมเป็นแค่พี่ชายของธารเท่านั้น...พี่ชายที่ไม่มีสิทธิ์หึงหวง

แต่รู้อะไรไหม...ถึงผมจะย้ำกับตัวเองแค่ไหน ตอนนี้ผมกลับมายืนอยู่หน้าห้องไอ้กฤษ และกำลังใช้คีย์การ์ดที่น้าตะวันให้มา เปิดเข้าไปในห้องมันโดยไม่ได้กดออด เพราะอยากให้เจ้าของห้องรู้ว่า ต่อให้เอาน้องชายผมมากกที่นี่ ผมก็บุกเข้าไปได้อยู่ดี

น้าตะวันให้คีย์การ์ดใบนี้ตั้งแต่ช่วงสองสามวันแรกที่ธารย้ายมาอยู่กับผม ตอนแรกผมก็งงว่าเขาจะให้ไว้ทำไม แต่มาตอนนี้ผมพอจะเข้าใจความคิดของเขาแล้วล่ะ…น้าตะวันอยากให้ผมคอยเป็นหูเป็นตาแทนเขา ซึ่งในขณะเดียวกันเขาก็ยืมมือไอ้กฤษมาเป็นตัวแทรกกลางระหว่างผมกับธาร

.....

ประตูถูกผลักเปิดเข้าไป คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าทำให้ผมต้องขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจ ขณะที่อีกฝ่ายมองผมอย่างอึ้งๆ...ผมรู้จักหมอนี่ มันชื่อณัฐ เรียนคณะนิติศาสตร์ พ่อแม่มีอิทธิพลพอสมควร และที่สำคัญมันเคยเป็นคู่นอนของไอ้กฤษ (ไอ้กฤษบอกว่าพยายามสลัดมันอยู่ แต่หมอนี่ดันหลงเพื่อนผมหัวปักหัวปำ)

แล้วทำไมไอ้ณัฐถึงมาอยู่ที่นี่?

ไอ้กฤษชวนธารมาที่ห้องทั้งที่มีอดีตคู่นอนของมันอยู่ด้วย!?

“ไอ้กฤษอยู่ไหน” ผมผลักไหล่คนตรงหน้าให้หลีกทาง ดูเหมือนไอ้ณัฐเพิ่งจะได้สติหลังจากยืนอึ้งมองผมอยู่นาน มันอ้าปากจะพูดอะไรสักอย่าง ใครบางคนก็พูดแทรกขึ้นมา

“พี่ภู...ฮึก...”

น้ำเสียงสั่นเครือที่เอ่ยเรียกชื่อผมดังมาจากด้านหลังของไอ้ณัฐ ผมมองข้ามไหล่อีกฝ่ายไปก็เห็นร่างสั่นเท่าของธารกำลังนั่งกอดเข่าอยู่บนพื้น สังเกตให้ดีถึงเห็นว่าน้องไม่ได้สวมกางเกง ใบหน้าน่ารักมีน้ำตาอาบแก้ม แถมยังมีรอยแดงช้ำรอบคอและข้อมือ ภาพที่เห็นทำให้ผมคิดได้แค่อย่างเดียว...

ไอ้เหี้ยนี่มันทำระยำกับธาร!

ผัวะ!

หมัดของผมซัดเข้าที่แก้มไอ้ณัฐอย่างจังจนมันหน้าหงาย ตามด้วยยกเท้าถีบเข้าที่ท้อง ส่งร่างสูงโปร่งลงไปนอนกองกับพื้น ผมไม่ปล่อยโอกาสให้ไอ้ณัฐทันตั้งตัวก็ขึ้นคร่อมบนตัวมัน แล้วซัดหมัดใส่หน้าหล่อๆ นั่นไม่ยั้ง

“กู...กูยังไม่...ได้ทำ”

เสียงพูดขาดๆ หายๆ ของไอ้ณัฐทำให้ผมชะงัก หมัดที่กำลังจะอัดลงบนหน้ามันครั้งที่เท่าไหร่เกินจะนับ ค้างอยู่กลางอากาศ ผมหันไปมองธาร เห็นน้องยังนั่งร้องไห้ตัวสั่นก็กระชากคอเสื้อคนใต้ร่าง เค้นเสียงเย็นถาม

“ยังไม่ได้ทำ? งั้นมึงทำอะไรไปแล้วบ้าง”

ผัวะ!

อีกหมัดกระแทกเข้าที่แก้มซ้ายจนหน้าสะบัด มันถุยน้ำลายปนเลือดออกจากปาก มองผมด้วยสีหน้าสะลึมสะลือเหมือนใกล้จะสลบเต็มที

“กูแค่จะขู่ธาร”

ผมง้างหมัดจะชกมันอีกก็รู้สึกว่าชายเสื้อโดนกระตุก จากหางตาผมเห็นว่าธารกำชายเสื้อของผมเอาไว้

“พอ...พอแล้ว...ธารกลัว”

ผมกัดกรามอย่างระงับอารมณ์ ยอมผละออกจากร่างของไอ้ณัฐด้วยความจำใจ สภาพของมันตอนนี้คงทำให้ธารกลัวได้อยู่หรอก หน้าตายับเยิน เลือดกำเดาไหลย้อมพื้นพรมกับเสื้อเป็นหย่อมๆ ถ้าโดนผมอัดอีกหมัดเดียวคงได้สลบไปจริงๆ แน่

“มันทำอะไรธาร บอกพี่มา”

ธารกัดปาก ก้มหน้าเหมือนไม่กล้าพูด แต่สุดท้ายก็พึมพำออกมาเบาๆ จนแทบไม่ได้ยิน “เขาอัดเอาไว้ในมือถือ”

ไม่ทันที่ธารจะพูดจบผมก็คลำไปที่กระเป๋ากางเกงของไอ้ณัฐ ก่อนจะหยิบเอาไอโฟนสีดำออกมา ยืนขึ้นข้างๆ ร่างไร้เรี่ยวแรงของมันแล้วเปิดดูคลิปวีโอล่าสุดที่ถูกอัดไว้ เสียงที่ดังลอดออกมาจากคลิปทำให้ธารตัวสั่นยิ่งกว่าเดิม และมันก็ทำให้ผมโมโหจนต้องกระทืบลงบนร่างสูงโปร่งนั่นอีกรอบ!

ผมกดส่งคลิปเข้ามือถือตัวเอง ก่อนจะลบคลิปต้นฉบับทิ้ง แล้วปาไอโฟนในมือใส่ผนังอย่างแรงจนหน้าจอแตกละเอียด จากนั้นจึงหันกลับมาเค้นถามคนที่นั่งตัวสั่นอยู่บนพื้น

“มันทำอะไรมากกว่านี้รึเปล่า”

“.....” ธารส่ายหน้า

“มึง...” ผมชี้หน้าไอ้ณัฐ “อย่ามายุ่งกับน้องกูอีก ไม่งั้นเรื่องถึงตำรวจแน่”

อย่างที่บอกว่าพ่อแม่ของมันมีเส้นสายพอสมควร ถ้าผมไปแจ้งความตอนนี้ ไอ้ณัฐก็จะแค่ถูกลงบันทึกประจำวัน ปรับเงินนิดหน่อย แล้วโดนปล่อยตัวไป เพราะมันยังไม่ได้ลงมือข่มขืนน้องผมจริงๆ อีกอย่างธารเป็นผู้ชาย อย่างมากคือผิดฐานทำอนาจาร ซึ่งไม่หนักพอที่จะเอาเรื่องได้ และเป็นไปได้ว่าหลังจากนั้นมันจะมาหาเรื่องน้องผมอีก

ในทางตรงข้าม ถ้าผมไม่แจ้งความแต่เก็บคลิปเอาไว้ข่มขู่ มันก็จะไม่กล้ามายุ่งกับธาร เพราะไอ้ณัฐเรียนนิติ พ่อแม่อยู่ในสายงานด้านกฎหมาย มันเองก็คงหวังอยากจะทำงานทางด้านนี้ในอนาคต ซึ่งถ้าเรื่องถึงตำรวจ ถึงจะไม่ถูกจับแต่มันก็จะมีประวัติแย่ๆ ติดตัวไปจนตาย และหากทางมหาลัยรู้ก็อาจกระทบถึงการเรียน เท่ากับอนาคตของมันจะดับวูบไปด้วย

“แค่กๆ” ไอ้ณัฐตะเกียกตะกายลุกขึ้น มองผมด้วยสายตาโกรธแค้นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ “กูไม่ได้อยากจะเอาน้องมึง ที่กูทำทั้งหมด ก็เพื่อไม่ให้มันมายุ่งกับคนของกูอีก...” มันหันไปมองธาร พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนแรง “กูรักกฤษจริงๆ กูขอได้ไหม”
ใช้แรงข่มขู่ไม่ได้ก็มาอ้อนวอนแทน?

“มึงออกไปได้ละ” ผมเบื่อจะฟัง รำคาญสายตาเต็มทีที่เห็นมันยังอยู่ในห้องนี้

“ก็ได้...ธารจะไม่ยุ่งกับพี่กฤษ” จู่ๆ ธารก็พูดขึ้น ไอ้ณัฐที่กำลังเดินสะโหลสะเหลไปที่ประตูชะงักเท้า หันกลับมามองน้องผมด้วยสายตามีความหวัง “...แต่ถ้าพี่กฤษยังมายุ่งกับธาร นั่นก็เป็นเรื่องระหว่างพี่กับพี่กฤษสองคน ไม่เกี่ยวกับธาร”

อืม...เลิกยุ่งในความหมายของธารคงหมายถึง หยุดความสัมพันธ์ที่เกินเลย แต่ยังคงต้องเจอหน้ากันอยู่ เพราะกฤษก็พักอยู่ที่นี่ แถมมันยังเป็นเพื่อนผม อย่างวันนี้ผมก็ต้องเรียกไอ้กฤษมาคุยให้รู้เรื่อง ว่าทำไมถึงปล่อยให้คู่นอนมันมาทำร้ายธารได้
ว่าแต่ไอ้เวรนั่นหายหัวไปไหน?

“ขอบคุณ...” ไอ้ณัฐพึมพำเบาๆ แล้วชะงักไป สีหน้าดูลังเลเล็กน้อยก่อนจะพูดอีกคำหนึ่งออกมา “ขอโทษ”
ประตูถูกดึงเปิดออก ก่อนจะปิดลง ในห้องนี้เหลือแค่ผมกับธารสองคน...

ผมเหลือบมองคนที่ยังนั่งก้มหนนิ่งเงียบอยู่บนพื้น พอย่อตัวนั่งคุกเข่าข้างเดียวลงตรงหน้าอีกฝ่าย น้องก็โผเข้ากอดผมทันที ได้ยินเสียงสะอื้นดังมาจากร่างเล็กๆ นั่น ผมจึงลูบหลังปลอบ

ต่อหน้าไอ้ณัฐ ธารคงพยายามฝืนให้ได้มากที่สุดเพื่อไม่ให้หมอนั่นรู้ว่าตัวเองอ่อนแอแค่ไหน แต่พอเหลือแค่เราสองคน น้องก็ร้องไห้เหมือนเด็กๆ ซุกหน้าลงกับอกผมอย่างต้องการที่พึ่ง

ถึงจะเอาแต่ใจและทำตัวร้ายกาจบ้าง แต่จริงๆ แล้วจิตใจของธารเปราะบางกว่าเด็กวัยเดียวกันซะอีก น้องถูกปกป้องมากเกินไปจนไม่เคยต้องเจอกับเรื่องร้ายๆ ตรงกันข้ามกับผมที่ใช้ชีวิตตัวคนเดียวในต่างประเทศตั้งแต่เด็ก เพราะเป็นเด็กเอเชียที่ตัวเล็กกว่าคนอื่นก็เลยโดนกลั่นแกล้ง ต้องต่อสู้ดิ้นเพื่อไม่ให้ตัวเองถูกรังแกอยู่ฝ่ายเดียว

อาจจะเพราะว่าผมเป็นคนที่แข็งกระด้างเกินไป...ในสถานการณ์แบบนี้จึงไม่รู้จะพูดปลอบน้องยังไงดี ได้แต่หุบปากเงียบแล้วลูบหลังเขาเท่านั้น

“กลับห้องกัน” ผมบอกหลังจากธารเริ่มสงบลง

น้องขยับออกห่าง ในตอนนี้เองที่ผมเพิ่งสังเกตเห็นว่าเขายังไม่ได้สวมกางเกง ธารก็คงรู้ตัว ใบหน้าที่เปื้อนน้ำตาถึงเห่อแดงไปหมด มือเล็กๆ นั่นรีบคว้ากางเกงมาสวมอย่างลุกลี้ลุกลน ภาพที่เห็นทำให้ผมหลุดยิ้มออกมาได้แม้ในใจจะยังกังวลอยู่บ้าง

รอจนธารแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว ผมจึงพาน้องออกจากห้องไอ้กฤษ ขณะเหวี่ยงบานประตูปิดลงก็ล้วงไอโฟนขึ้นมากดโทรหาไอ้เวรนั่น แต่ดันโทรไม่ติด

เสือ_ปิดเครื่องในเวลาแบบนี้?

ผมยกมือเสยผมอย่างหัวเสีย คงต้องรอมันกลับมาหลังห้าโมงเย็นโน่นล่ะถึงจะได้คุยกัน
           
[End Phupha’s Part]

Pie2Na
ตอนหน้ามาลุ้นกันว่าไอ้พี่กฤษมันจะต้องคุกเค่าอ้อนวอนเบอร์ไหนเพื่อจะรั้งน้องธารไว้ 5 5 5 5  5
เรื่องนี้โดนทรมานใจกันทุกคนเลย หนักสุดน่าจะเป็นพี่ภูนะ
รักเค้าแต่ทำไรไม่ได้ ก็มาสายซึนให้ทำไง 5 5 5 5
#ขออ่านคอมเม้นให้ชื่นใจหน่อยน้า
เม้นเยอะอัพไว พลังใจมาเพียบ 5 5 5 5
ขอบคุณนะครับ

 :sad4: :sad4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-10-2016 20:49:17 โดย pie2na »

ออฟไลน์ Psycho

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 388
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
โดนป้ายยามา ^^

ออฟไลน์ waza

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 161
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
เก็บตังแป็บ เรื่องนี้คือดี มันผิด มันบาปได้ใจ ชอบดาร์คๆ แบบนี้มาก นานทีปีหนจะโผล่มาสักเรื่อง ต้องเสียเงินให้เรื่องนี้จนได้สินะ :katai3:

ออฟไลน์ pie2na

  • ติดตามข่าวสารได้ที่เพจ Pie2Na นะครับ ^^
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-2
Chapter 22
ตัดสัมพันธ์

[Special Part: Phupha]

6: 17 P.M.

เสียงออดปลุกให้ผมสะลึมสะลือตื่น ก้มมองคนที่นอนหนุนตักตัวเองอยู่ ดวงตาอีกฝ่ายยังคงปิดสนิท ใบหน้าตอนหลับของธารดูน่ารักเสียจนผมอดใจไม่ไหว ต้องยื่นมือไปลูบแก้มอีกฝ่ายเบาๆ แต่พอเห็นรอยแดงช้ำที่คอกับข้อมือเล็กๆ นั่นก็รู้สึกโมโหขึ้นมาอีก ไม่รู้ว่าไอ้ณัฐทำน้องแรงขนาดไหนถึงมีรอยเต็มไปหมด ยิ่งผิวขาวจัดแบบนี้ด้วยแล้ว รอยช้ำจึงยิ่งเด่นชัด

ถึงจะไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ตอนนั้น ผมก็พอเดาได้ว่าธารต้องกลัวมากแน่ เพราะตั้งแต่ออกมาจากห้องไอ้กฤษจนถึงตอนนี้ น้องไม่ยอมห่างผมเลย เอาแต่กอดแขนผม คลอเคลียอยู่ใกล้ๆ ทำตัวไม่ต่างจากลูกแมว ครึ่งชั่วโมงที่แล้วถึงผล็อยหลับไปด้วยความเหนื่อยอ่อน

ธารที่อ่อนแอแบบนี้ทำให้ผมทำใจแข็งไม่ลง...

เสียงออดดังขึ้นอีกสองครั้ง ร่างที่เคยนอนนิ่งสนิทบนโซฟาขยับพลิกตัวเล็กน้อย ผมจึงอดหงุดหงิดคนที่กดออดไม่ได้ ถ้าไม่ใช่ว่ากำลังรอไอ้กฤษอยู่ และอาจจะเป็นมันที่กำลังยืนอยู่หน้าห้อง ผมคงไม่เสียเวลาลุกไปเปิดประตูให้หรอก

ผมช้อนหัวของธารวางลงบนโซฟา ขณะเดียวกันก็ขยับตัวลุกขึ้นอย่างระมัดระวัง แล้วจึงก้าวเดินไปทางประตู

"กว่าจะมาเปิด กูเกือบจะไปละเนี่ย นึกว่าไม่มีใครอยู่" คนที่ยืนอยู่หน้าประตูพ่นน้ำลายใส่ผมทันทีที่เจอหน้า

"หุบปากแล้วเข้ามา น้องกูหลับอยู่"

ไอ้กฤษเลิกคิ้ว แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ มันเดินตามผมเข้าไปที่ห้องนั่งเล่นอย่างเงียบๆ พอเห็นว่าธารกำลังนอนขยี้ตาด้วยท่าทางสะลึมสะลืออยู่บนโซฟา ก็หันมาขยับปากบอกผมแบบไม่มีเสียงว่า 'ตื่นแล้ว'

"เออ" ผมเค้นเสียงใส่มันอย่างหมั่นไส้ ก่อนจะเดินไปนั่งลงข้างธารที่กำลังงัวเงียลุกขึ้น ส่วนไอ้กฤษเลือกนั่งลงบนโซฟาอีกตัวข้างๆ ผม ไม่ได้มาเบียดบนโซฟายาวตัวเดียวกับพวกเรา ยังดีที่มันพอรู้มารยาทอยู่บ้าง

"พี่ภู" ธารเรียกผมเสียงอ้อนๆ แล้วเข้ามากอดแขน ซบหน้าลงกับไหล่ของผม ไม่เหลือบแลแฟนเก่าตัวเองสักนิด ซึ่งการได้เห็นสีหน้าหึงหวงของไอ้กฤษก็ทำให้ผมสะใจอยู่หน่อยๆ

"ธ...."

“นี่ไอ้กฤษ...” อีกฝ่ายยังไม่ทันได้พูดออกมาเป็นคำก็โดนผมขัดซะก่อน "มึงสั่งสอนคู่นอนมึงยังไง ถึงปล่อยให้มันมาข่มขู่น้องกูได้"

"คู่นอนกู?" กฤษทำหน้างง "ไอ้ณัฐ? มันก็แค่อดีตป่าววะ...แล้วมันทำอะไรธาร"

"กระเป๋าตังค์กับมือถือมึงอยู่ไหน" ผมถามไปอีกเรื่อง

"ไม่รู้วางลืมไว้ที่ไหนว่ะ...ทำไมจู่ๆ ถามวะเนี่ย"

"มือถือพี่กฤษอยู่บนตู้วางรองเท้าในห้องพี่ กระเป๋าตังค์ก็น่าจะอยู่ในห้องนั่นล่ะครับ" ธารที่เอาแต่นิ่งเงียบมาตลอดพูดแทรกขึ้น "พี่ณัฐเขาคงจะแอบหยิบมา"

ไอ้กฤษขวดคิ้ว ทำท่าคิด "วันนี้พี่มีถ่ายงานตั้งแต่เช้า เป็นโปรเจ็กต์กลุ่มที่ต้องทำส่งอาจารย์เดือนนี้ แต่ยังหานายแบบไม่ได้ เลยขอให้ณัฐช่วยเป็นนายแบบให้ มันถ่ายเสร็จตั้งแต่ช่วงบ่าย แต่พี่ต้องอยู่แต่งภาพต่อ กว่าจะเสร็จก็เย็นแล้ว มัวแต่ยุ่งทั้งวันเลยเพิ่งรู้ตัวว่ามือถือกับกระเป๋าตังค์หายไปก็ตอนจะแยกย้ายกันกลับ...เป็นไปได้ว่าณัฐอาจจะแอบหยิบไปตอนพี่กับเพื่อนยุ่งๆ กันอยู่"

"......" ขนาดนี้แล้วยังต้องใช้คำว่า 'อาจจะ' อีกเหรอ นี่ไอ้กฤษเข้าข้างอดีตคู่นอนมันใช่ไหม?

"แล้วที่มือถือกับกระเป๋าตังค์กูโดนเอาไป มันเกี่ยวอะไรกับที่ณัฐข่มขู่ธาร?" คราวนี้ไอ้กฤษหันมาถามผม

"ไอ้ณัฐใช้มือถือมึงส่งข้อความบอกน้องกูให้ไปหาที่ห้อง ธารนึกว่ามึงเป็นคนส่งเองเลยยอมไป"

"......"

"มันปล้ำน้องกูแล้วอัดคลิปไว้แบล็คเมล์"

"...!!!" ไอ้กฤษอึ้ง มันมองไปที่ธารอย่างสำรวจ แล้วคงจะเห็นรอยช้ำแดงรอบคอกับข้อมือของน้อง สีหน้าเลยยิ่งดูกังวลเข้าไปใหญ่ “แล้วธาร...”

“ไอ้ณัฐไม่ได้ลงมือทำถึงขั้นนั้นจริงๆ แล้วกูก็จัดการเรื่องนี้เรียบร้อยแล้ว"

ไม่รู้ว่าไอ้กฤษตีความคำว่า 'จัดการ' ของผมไปถึงขั้นไหน หน้าของมันถึงได้ซีดจนแทบจะกลายเป็นกระดาษ ดูท่าทางเป็นห่วงไอ้ณัฐมาก แค่ไม่ได้ถามออกมาตรงๆ เพราะเกรงใจผมกับธาร...แต่เวลาแบบนี้คนที่มันควรเป็นห่วงคือน้องผมไม่ใช่เหรอ?

แม่_! เห็นหน้าซีดๆ ของมันแล้วหงุดหงิดจังวะ

"มึงเอาคีย์การ์ดมึงคืนไป" ผมล้วงคีย์การ์ดในกระเป๋ากางเกงยื่นให้มัน ซึ่งไอ้กฤษก็ยอมรับไว้ด้วยสีหน้าสับสนกังวล คีย์การ์ดใบนี้ธารฝากผมเอาคืนให้ไอ้กฤษ ส่วนอีกใบที่น้าตะวันให้มา ผมจะเก็บเอาไว้เผื่อฉุกเฉิน "ต่อไปนี้อย่ามายุ่งกับน้องกูอีก ธารไม่อยากกลับไปคบกับมึง ระหว่างมึงกับน้องกูให้มันจบลงแค่นี้ ถ้ายังจะมากเรื่อง...มึงรู้นะว่าจะโดนอะไร"

"แต่กู..."

"มึงจะบอกว่ามึงรักน้องกู? ปากมึงพูดอย่าง แต่คนที่มึงห่วงตอนนี้เป็นใคร ถามใจตัวเองดู"

"....."

ธารที่นั่งซุกอกผมอยู่ขยับตัวเล็กน้อย ผมก้มมองน้อง เห็นว่าเขากำลังถอดจิลที่หูข้างซ้ายออก

“ขอมือหน่อยครับพี่กฤษ” น้องบอกเสียงเบา ไอ้กฤษที่ยังไม่เข้าใจว่าธารจะทำอะไร ขมวดคิ้วนิดๆ แต่ก็ยอมยื่นมือออกมา มือเล็กๆ ของธารจับมือไอ้กฤษให้แบออก แล้ววางต่างหูข้างนั้นลงไป “ธารคืนให้พี่นะครับ”

“.....”

ผมนั่งกั้นกลางระหว่างคนสองคนอยู่ มือของคนทั้งคู่จึงอยู่ตรงหน้าผมพอดี ทำให้ผมเห็นลักษณะต่างหูข้างนั้นค่อนข้างชัด เป็นจิลเงินทรงกลมแบนเล็กๆ ที่มีรูปตัว K สีดำตรงกลาง

K ย่อมาจาก Krit?

ผมเห็นน้องใส่จิลอันนี้เอาไว้ตลอด แต่ก็เพิ่งได้รู้ว่ามันมีความหมายยังไง...ผมไม่รู้หรอกว่าธารยังรักกฤษอยู่รึเปล่า แต่ในเมื่อกฤษเป็นแฟนคนแรก น้องต้องรู้สึกผูกพันกับมันบ้างอยู่แล้ว ดังนั้นถึงจะเลิกกัน ธารก็ยังใส่ต่างหูที่กฤษเคยให้ไว้ มาตอนนี้น้องไม่อยากจะยุ่งเกี่ยวกับอีกฝ่ายในฐานะที่เกินเลยอีก ถึงตัดใจคืนมันไป

“ธาร...”

"ไสหัวออกไปจากห้องกูได้ละ" ผมตัดบท ไม่อยากทนเห็นฉากล่ำลาบอกรักของสองคนนี้ต่อ

ไอ้กฤษมองธารเหมือนต้องการให้น้องพูดอะไรออกมาบ้าง แต่หลังจากคืนของสำคัญให้แล้ว ธารก็ไม่แม้แต่จะเหลือบหางตาไปมองมันอีก

"ขอโทษแทนณัฐด้วยนะ...งั้นกูกลับล่ะ" ตอนพูดประโยคนี้สีหน้าไอ้กฤษฝืดเฝื่อนเต็มทน

"โชคดีครับ" คำพูดสั้นๆ ที่เฉยเมยของธารแทนคำบอกลาได้ดี แล้วดูจากแววตาไอ้กฤษตอนนี้ มันคงเจ็บจนแทบทรุด เอาจริงๆ ผมก็เห็นใจมันนั่นล่ะ แต่ความรักความห่วงน้องย่อมมีมากกว่า

อย่างที่บอกว่าไอ้กฤษไม่ใช่คนเลวร้าย แต่ความโลเลของมันในวันนี้ ทำลายความเชื่อใจ (อันน้อยนิด) ที่ผมเคยมีให้จนหมด
ผมส่งสายตาบอกให้ไอ้กฤษกลับๆ ไปสักที ซึ่งมันก็ยอมลุกขึ้นอย่างรู้ตัว

เพิ่งได้ยินเสียงประตูปิดลง ประตูคอนโดก็ถูกเปิดขึ้นอีกครั้ง ก่อนที่ผู้ชายร่างสูงกำยำจะเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่น

ยังไม่ทันได้เอ่ยทักด้วยคำพูดไร้มารยาท คนตัวเล็กที่เคยนั่งอยู่ข้างกาย เอาแต่คลอเคลียผมไม่ต่างจากลูกแมวเมื่อครู่ จู่ๆ ก็ยอมปล่อยมือออกจากท่อนแขนของผม ผุดลุกขึ้นแล้วโผเข้าไปซุกอยู่ในอ้อมกอดของผู้ชายคนนั้นแทน
           
เจ็บชะมัด...
           
ในสายตาธาร พี่ชายอย่างผมคงไม่เคยเทียบพ่อสุดรักสุดหวงของเขาได้เลย แต่จะโทษใครได้ถ้าไม่ใช่ตัวผมเองที่เอาแต่ทำร้ายจิตใจน้อง มันก็ถูกแล้วที่เขาจะรักคนอื่นมากกว่า

ส่วนผม...ก็ทำได้แค่อิจฉาผู้ชายคนนั้นไปวันๆ
           
[End Phupha’s Part]


Pie2Na

ตอนนี้เครียดๆ น่าเบื่อไปหน่อย
ตอนหน้าหวานละมุนอบอุ่นหัวใจแน่นอน...พ่อมาละไง 5 5 5 5  5

สปอยล์ว่า...พ่อต้องเห็นรอยบนตัวน้องธารแน่ๆ แต่จะว่าไรไหมนั้นรออ่านนะ ^^

ตอนนี้มีคนอ่านอยู่กี่คน ช่วยแสดงตัวหน่อยได้ไหมคร้าบ เงียบเหงาเกินไป  :hao5:

ขอบคุณทุกคอมเม้นนะครับ ด้วยรักและอาลัยยิ่ง รออ่านคอมเม้นเธอที่ท่าน้ำทุกวันเลยหนา  :oo1:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
โอ๋ๆ......รักนะ อย่าน้อยใจนะ ไร้ท   :L1: :L1: :L1:
เร้ว.....อ่านๆ กันแล้ว ช่วยกันเม้น
ให้กำลังใจไร้ท กันนะ :mew1: :mew1: :mew1:
กฤษ ยื้อรักธาร ทั้งที่ใจมีณัฐ
ที่ตามตื๊อธาร คงเพราะไม่อยากยอมแพ้
พอรู้ว่าณัฐ โดนภู จัดการ
เลยแสดงความห่วงณัฐออกมา
ธาร รักจริงๆ คือภู
กับพ่อ รักเพราะผูกพันใกล้ชิด หรือเปล่า
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-10-2016 19:14:56 โดย ทฟเืนสรฟ »

ออฟไลน์ Jeyibee

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 32
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
สู้ๆค่ะ เรื่องสนุกดี ยังเดาไม่ถูกว่าพระเอกคือใครกันแน่ แต่เชียร์คนพ่อนะคะ 555  คนพี่เหมือนจะดีแต่ก็..ชอบคนพ่อมากกว่า555 นี่เอาความรู้สึกตนเองเป็นที่ตั้งมาก ธารอาจจะรักภูแต่ธารจะยอมทิ้งพ่อเลือกภูเหรอ บางทีความผูกพันธ์ก็น่ากลัวที่สุดนะคะ หรือคุณพ่อจะยอม3p แต่เราไม่เชียร์นะ5555

ออฟไลน์ เจเจจัง

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
อ่านมาตั้งนาน สรุปกฤษ ชอบนัฐหรอกเหรอ

เชียร์พ่อกะภูนะ

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :L2: :katai5:

รอความละมุน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ pie2na

  • ติดตามข่าวสารได้ที่เพจ Pie2Na นะครับ ^^
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-2
Chapter 23
ออดอ้อน

   
“เป็นอะไรครับ”
   
น้ำเสียงทุ้มต่ำที่ผมเฝ้าคิดถึงกระซิบถาม แต่ผมทำเพียงส่ายหน้าอยู่กับอกของพ่อ เอาแต่เงียบไม่ยอมตอบ จะให้บอกไปได้ยังไงล่ะว่าวันนี้ผมเจออะไรมาบ้าง ถ้าพ่อรู้ต้องกลายเป็นเรื่องใหญ่แน่ๆ แล้วผมก็ไม่อยากให้พ่อต้องคิดมากด้วย ยังไงพี่ภูก็จัดการปัญหาพวกนั้นไปหมดแล้ว พี่ณัฐคงไม่มายุ่งกับผมอีก
   
“.....”

ผมผละออกจากอ้อมกอดอุ่น เงยมองใบหน้าหล่อคมคายแล้วก็ต้องเสหลบสายตาที่จ้องตอบมา เผลอเม้มปากด้วยความประหม่า รู้สึกเหมือนกำลังถูกล้วงความลับทั้งที่ยังไม่ได้อ้าปากพูดสักคำ

“ขึ้นไปข้างบนกันครับ เราคุยกันหน่อยดีกว่า” พ่อโอบไหล่ผม พาออกเดินพร้อมกัน แต่ขณะที่พวกเรากำลังก้าวขึ้นบันไดเพื่อไปยังห้องนอนของผมบนชั้นสอง น้ำเสียงเฉยชาของพี่ภูก็ดังขึ้นจากด้านหลัง

“เปิดประตูห้องทิ้งไว้ด้วย”

ผมเงยหน้า แอบเหลือบมองสีหน้าคนข้างๆ มุมปากของอีกฝ่ายโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มบางเบา



ภายในห้องนอนของผม เราสองคนนั่งข้างกันบนเตียง ถึงบรรยากาศจะนิ่งเงียบไปหน่อยแต่ไม่ได้ทำให้อึดอัด กลับรู้สึกอบอุ่นใจมากกว่าเพราะคนที่นั่งอยู่ข้างๆ คือพ่อ

“วันนี้ธารร้องไห้ใช่ไหม” หลังจากผ่านไปหลายนาทีแต่ผมยังไม่เล่าอะไรให้ฟัง พ่อจึงเป็นฝ่ายถามขึ้นก่อน

“.....” ผมพยักหน้า เพราะต่อให้ปฏิเสธ พ่อก็รู้อยู่ดีว่าโกหกในเมื่อตาทั้งสองข้างบวมซะขนาดนี้ แต่ตอนนี้ผมไม่ได้อยากร้องไห้อีกแล้ว ถึงแม้ไม่กี่นาทีก่อนจะยังรู้สึกแย่กับเรื่องที่เกิดขึ้นและภาพพวกนั้นยังติดตา แต่พอได้อยู่ใกล้ๆพ่อ ความกังวล อึดอัดใจทุกอย่างก็หายไปเกือบหมด มันทำให้ผมวางใจและรู้สึกปลอดภัยเพราะมีคนคอยปกป้อง

“ร้องไห้ทำไมครับ”

“ธาร...ทะเลาะกับเพื่อนนิดหน่อยน่ะครับ แต่ตอนนี้ดีกันแล้วนะ”

“หืม?”

ปล่อยให้พ่อซักต่อไม่ดีแน่ เพื่อหาทางเปลี่ยนประเด็น ผมเลยใช้แขนทั้งสองข้างโอบรอบเอวหนาๆ นั่นไว้ ซุกหน้าเข้ากับแผงอกกำยำ พูดเสียงอู้อี้อย่างออดอ้อน

“พรุ่งนี้ธารไม่อยากไปโรงเรียนเลย ขอหยุดหนึ่งวันนะ” เรื่องนี้ผมขออนุญาตพี่ภูไว้แล้ว พี่ภูเองก็ไม่ใจร้ายพอจะบังคับให้คนที่เพิ่งเจอเรื่องแย่ๆ มาต้องไปโรงเรียน

“ได้สิครับ”

“อือ แต่พ่อต้องมาหาธารด้วย”

ที่จริงไปคอนโดพ่อคงทำอะไรๆ ได้สะดวกกว่า แต่ถ้าคนที่รู้สึกแย่จนไปโรงเรียนไม่ไหวดันออกไปตะลอนข้างนอก มันคงไม่เนียนเท่าไหร่ แล้วผมก็เชื่อว่าพี่ภูต้องโทรเข้าเบอร์คอนโดเพื่อเช็คดูแน่ๆ ว่าผมอยู่ห้องรึเปล่า

“พรุ่งนี้พ่อมีนัดเซ็นสัญญากับลูกค้ารายใหญ่ด้วยสิ”

“.....”

ถูกฝ่ามือนุ่มๆ สอดเข้าไปใต้เสื้อเชิ้ต ลูบวนอยู่ที่หน้าท้อง ตัวของพ่อถึงกับเกร็งไปเล็กน้อย

“แต่ยังไงพ่อจะเคลียร์งานให้เสร็จช่วงเช้า แล้วมาหาธารตอนบ่ายโมงดีไหม?”

ผมชะงักมือที่ลูบอยู่บนหน้าของแข็งเกร็ง เงยหน้าขึ้นส่งยิ้มจนตายิบหยีให้พ่อ “ดีครับ”

“เอามือออกมาได้แล้วครับ เดี๋ยวพี่ภูก็เห็นหรอก” พ่อพูดเหมือนจะปราม แต่กลับไม่ได้ดึงมือของผมออกมาจริงๆ แถมยังยิ้มขำที่ผมลูบๆ ท้องของพ่อต่อ

เหลือบตามองไปทางประตูที่ถูกเปิดค้างไว้ ไม่เห็นเงาใครสักคนตรงนั้น ผมก็ทิ้งตัวลงนอนบนเตียงโดยไม่ลืมที่จะคว้าแขนคนข้างๆ ลงมานอนด้วยกัน ซึ่งพ่อก็ไม่ได้ขืนตัวไว้ ยอมนอนลงแล้วยังคว้าตัวผมไปกอดซะแน่น
   
“พรุ่งนี้รีบมานะครับ ธารมีอะไรจะเซอร์ไพรซ์พ่อด้วย” ผมเงยหน้าพูด ระดับสายตาอยู่ที่ปลายคางของพ่อพอดี ด้วยความหมั่นเขี้ยวเลยใช้นิ้วชี้จิ้มปลายคางอีกฝ่ายเล่น ตอหนวดเล็กๆ ที่ถูกโกนจนแทบมองไม่เห็น ให้ความรู้สึกระคายผิวนิดหน่อย
   
“เซอร์ไพรซ์อะไรเหรอ”
   
“ไม่บอกหรอก”
   
“งั้นบอกเรื่องอื่นได้ไหม”
   
“อะไรครับ” ผมเลิกคิ้ว ยังไม่หยุดจิ้มปลายคางสากๆ เล่น
   
“รอยที่คอกับที่ข้อมือได้มายังไง”

คำพูดของพ่อทำให้ผมชะงักไปเล็กน้อย มาวกเข้าเรื่องเดิมอีกจนได้...ผมซุกหน้าเข้ากับอกพ่อ ถูแก้มลงบนแผงอกตึงแน่นที่อยู่ภายใต้เสื้อเชิ้ต ระหว่างนี้ก็เค้นความคิดหาขออ้างดีๆ มาอธิบาย

“ตอนที่ทะเลาะกับเพื่อน...บาสน่ะครับ” ผมอ้างชื่อเพื่อนสนิทเพื่อให้ฟังดูสมจริงมากขึ้น “ก็ต้องมีชกต่อยกันบ้างตามประสาเด็กผู้ชายใช่ไหมล่ะ แต่ธารสู้แรงบาสไม่ได้เลยบีบคอมัน มันก็ทำกลับ ข้อมือก็โดนบีบด้วยนะ” ทำเป็นฟ้องซะ บาสยิ่งขี้ประจบพ่ออยู่ด้วย ใส่ร้ายให้มันดูแย่ขึ้นนิดหน่อยในสายตาพ่อก็แอบสะใจเล็กๆ นะ  “แต่จริงๆ ธารไม่ได้เจ็บหรอกครับ ผิวธารโดนอะไรนิดหน่อยก็เป็นรอยแล้ว พรุ่งนี้คงจางไปเอง”
   
“.....” พ่อเลิกคิ้ว ทำหน้าเหมือนยังไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่
   
“จริงๆ นะ โทรถามบาสดูก็ได้” ทำท่าจะล้วงหาไอโฟน ผมก็นึกขึ้นได้ว่าโดนปาเละไปแล้ว

คืนนี้ต้องออกไปซื้อมือถือกับพี่ภูด้วยสิ อีกเดี๋ยวพี่ภูคงมาตาม เพราะพี่ภูบอกเอาไว้ตั้งแต่ตอนบ่ายว่าจะพาไปหลังจากคุยกับพี่กฤษเสร็จ ถ้าขอไปกับพ่อแทนพี่ภูคงไม่ยอมแน่...เสียดายจัง ได้คุยกับพ่อแค่แป๊บเดียวเอง
   
“แล้ว...” สายตาภายใต้กรอบแว่นมองสำรวจบริเวณคอและหน้าอกของผมอยู่นานเกือบนาที “...รอยคิสมาร์กพวกนี้ล่ะครับ” ปลายนิ้วสากแตะลงบนรอยจ้ำแดงสองสามรอยที่อยู่นอกร่มผ้า

...ลืมไปสนิทเลยแฮะว่านอกจากรอยช้ำ ยังมีรอยคิสมาร์กที่พี่กฤษกับพี่ณัฐทำเอาไว้ด้วย ก็จู่ๆ พ่อดันโผล่มาผมจะตั้งตัวทันได้ไง...อืม หรือบางทีพ่ออาจจะโทรมาก่อนแล้ว แต่มือถือผมใช้ไม่ได้นี่สิ

“ธาร...โดนพี่กฤษฉวยโอกาสตอนหลับน่ะครับ แต่เมื่อกี้เราคุยกันรู้เรื่องแล้ว ต่อไปจะไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก” ข้ออ้างที่พูดไปยังพอมีเค้าความจริงอยู่บ้าง หวังว่าพ่อจะเชื่อนะ

ปกติพ่อไม่ใช่คนช่างซักอะไร แต่ที่จู่ๆ ก็พูดเรื่องพวกนี้ขึ้นมาอีกทั้งที่ผมเบี่ยงประเด็นได้แล้ว คงเพราะเป็นห่วงและกลัวว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นกับผม
   
“.....”
   
อาการนิ่งเงียบของพ่อทำให้ผมเริ่มกังวล พอเงยหน้ามองถึงเห็นว่าสีหน้าอีกฝ่ายดูไม่ค่อยพอใจ

“พ่อโกรธธารเหรอ”
   
“โกรธคนที่ทำรอยพวกนี้ต่างหาก”
   
ผมยิ้มออก กระซิบเสียงเบากลัวว่าคนด้านนอกจะได้ยิน “งั้นทำยังไงให้พ่อหายโกรธดีครับ”
   
“นั่นสิ...ทำยังไงดี”
   
โดนพ่อจ้องเอาๆ ผมก็ชักเขิน แต่เพราะอยากทำให้พ่ออารมณ์ดี ผมจึงกล้าพอที่จะผงกหัวมองไปทางประตูให้มั่นใจว่าไม่มีใครยืนอยู่บริเวณนั้น ก่อนจะยืดตัวขึ้น แล้วกดจมูกลงบนแก้มขวาของพ่อ

แค่หอมแก้มนิดๆ หน่อยๆ ดูเหมือนจะยังไม่ทำให้พ่อพอใจ เพราะคิ้วเข้มๆ นั่นเลิกขึ้นเล็กน้อยเป็นเชิงถามว่า ‘แค่นี้เองเหรอ?’
   
ชอบแกล้งกันดีนักใช่ไหม เห็นผมกังวลกลัวว่าพี่ภูจะเห็นเข้าก็แกล้งผมใหญ่เลย!
   
ผมปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตเม็ดบนของพ่อออกสามเม็ด พวกเราสองคนนอนตะแคงข้างอยู่ในท่าที่พ่อหันหลังเข้าหาประตู เลยได้ร่างสูงกำยำของพ่อช่วยบังไว้ ผมจึงทำ ‘อะไรๆ’ ได้สะดวกขึ้น

แผงอกเปล่าเปลือยยั่วยวนอยู่ตรงหน้า ผมไม่รีรอที่จะแนบริมฝีปากลงไป ไล้เล็มดูดเม้มอย่างเนิบช้า...มือแอบปลดกระดุมออกอีกเม็ดไม่ให้อีกฝ่ายทันรู้สึกตัว จากนั้นก็แหวกสาบเสื้อออกกว้างขึ้น ก่อนจะเลื่อนริมฝีปากลงมาครอบครองจุดสีแดงอมชมพูที่เด่นชัดอยู่บนแผงอกกำยำ ตวัดด้วยปลายลิ้นแลบเลียและดูดเม้มแรงๆ จนเกิดเสียงน่าอาย

ลมหายใจของพ่อติดขัด ส่วนกลางลำตัวแข็งขืนจนผมสัมผัสได้...นั่นแหละผมจึงหยุดทุกอย่าง แล้วผละออกมา

“ง้อแค่นี้พอแล้วดีกว่า”

เห็นสีหน้าที่มักจะเรียบเฉยและประดับด้วยรอยยิ้มบางๆ อยู่ตลอด ดูกล้ำกลืนฝืนทนเต็มที ผมก็อดหัวเราะคิกเบาๆ ไม่ได้
ไงล่ะ แกล้งกันดีนัก โดนเอาคืนซะบ้าง

“ร้ายนะเรา” พ่อบีบจมูกผมอย่างมันเขี้ยว

Pie2Na

โอ้วพี่ภู ตกกระป๋องเบย 5  5 5 5 5
ตอนหน้าช่วยเรียกคะแนนหน่อยนะฮะ เผื่อมีคนย้ายทีม หุหุ
ขอบคุณครับ บุย ^^

 :impress2:

ออฟไลน์ zaturday

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-1
 ไม่เคยชอบพี่ภู ตอนนี้ก็ยังไม่ชอบ เชียร์ตะวันตะวันสู้ๆๆๆ อยากให้เค้าได้กันนนนนน เรื่องนี้สนุกมากกกกก แหวกแนวทุกอย่าง ปกติไม่อ่านแนวฮาเร็มนะ แต่เรื่องนี้ต้องยกให้เลย แซ่บมาก :z3:

ออฟไลน์ Littlefox

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 37
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
อ่านแล้วเกลียดณัฐกับกฤษมาก

ออฟไลน์ Roman chibi

  • Death is not the end. Death can never be the end. Death is the road. Life is the traveller. The soul is the guide.
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-3
สนุกมาก รอตอนต่อไปค่า :katai4: :hao6:

ออฟไลน์ angelninae

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 200
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
พ่อตะวันกับน้องธารหยอดกันน่ารักค่ะ
เอากฤษกะณัฐไปไกลๆเลยยย สงสารธาร
ว่าแต่ยังงงๆนิดนึงค่ะ คือธารเป็นลูกอติณใช่มั้ย?

ออฟไลน์ กบกระชายไทยนิยม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 502
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
ถ้าจะมุ้งมิ้งขนาดนี้นะคะ +++เป็ดเลยค่ะ
มาตาม +เป็ด

ออฟไลน์ pie2na

  • ติดตามข่าวสารได้ที่เพจ Pie2Na นะครับ ^^
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-2
อัพเดทปกเต็มครับ
หมดเขตโอน สิ้นเดือนนี้น้า


ปกเต็ม (ปกหน้าหลัง+สันหนังสือ)




โปสการ์ดลายปก (สี)




โปสการ์ดขาวดำ (ภาพจริงไม่เซนเซอร์)
เอามาจากภาพประกอบในเล่มนะครับ




ที่คั่นลายพี่ภู




:: หมายเหตุ ::

อันว่าที่คั่นนั้น ได้ฟรีมา พายแถมให้ทุกเล่มนะครับ
แต่โปสนั้น ตอนแรกพายแถมให้กับคนที่โอนเงินมาภายใน 31 ต.ค. ซึ่งหลายคนที่โอนมาภายหลังถามหาอยากได้โปสกัน พายเลยหลุดแถมไป แถมไปแถมมา คำนวณดู...แกรบขั้นมาม่ายังแพงแล้วตอนนี้...
ดังนั้นหากใครอยากได้โปส พายไม่สามารถแถมให้ได้แล้วนะ  TT

ถ้าต้องการโปสเพิ่มด้วย ภาพสีใบละ 15 บาท ขาวดำ 10 บาทนะครับ (ภาพขาวดำ มีเป็นภาพประกอบอยู่ในเล่มแล้วนะครับ)

คนที่โอนมาหลังจากนี้ หากอยากได้โปสจริงๆ ให้บวกค่าโปสเพิ่มมา แล้วแจ้งกับพายว่าจะเอาลายไหนนะครับ
ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย
ขอบคุณครับ




ออฟไลน์ pie2na

  • ติดตามข่าวสารได้ที่เพจ Pie2Na นะครับ ^^
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-2
Chapter 24
ผิดคน
(ครึ่งแรก)


7: 56 P.M.
@Central Festival
ผมกับพี่ภูนั่งอยู่ในร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อดัง บนโต๊ะเต็มไปด้วยอาหารหน้าตาน่าทาน แต่ผมกลับไม่ได้สนใจมันมากไปกว่าไอโฟนเครื่องใหม่ที่พี่ภูซื้อให้เมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน ขณะก้มหน้าก้มตาเล่นมือถือพร้อมกับจับตะเกียบคีบปลาดิบขึ้นมา  ไอโฟนในมือก็สั่นครืดเตือนว่ามีสายเรียกเข้า บนหน้าจอโชว์รูปหน้าหล่อๆ ของบาส
   
“ว่าไง” ผมกดรับ แล้วเอ่ยทักคนปลายสาย   

“มึงใส่ไฟอะไรกูกับพ่อมึงไว้ฮะ! น้าตะวันบุกมาถึงบ้านเลยเนี่ย”
   
เสียงตะโกนของบาสทำให้ผมต้องดึงไอโฟนออกห่างจากหูเล็กน้อย ปลาดิบที่เพิ่งคีบขึ้นมาถูกวางกลับลงไปในจาน “ตอนนี้พ่อกูอยู่บ้านมึงเหรอ”
   
“เออ! มาถึงสักพักละ นี่นั่งคุยกับพ่อแม่กูอยู่”

“แล้วนี่มึงพูดอะไรไปแล้วบ้าง” บาสไม่ใช่คนขี้ฟ้องหรอก แต่ที่ถามแบบนี้ เพราะผมยังไม่ได้เล่าอะไรให้บาสฟัง เลยกลัวว่ามันจะตามเรื่องไม่ทัน แล้วหลุดให้พ่อจับได้ว่าโกหก

“พูดอะไรได้วะ น้าตะวันว่าอะไรมากูก็เออๆ ออๆ ขอโทษแล้วขอโทษอีก แค่นั้น”

“อืม ขอบใจ”

“แค่นี้?” ได้ยินเสียงถอนหายใจยาวเหยียดจากปลายสาย ก่อนที่บาสจะพูดต่อ “น้าตะวันบอกว่ามึงโดนบีบคอ เรื่องมันเป็นไงมาไง เล่ามา กูเป็นห่วง”

ผมเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้บาสฟังตามความจริง ระหว่างนั้นก็ใช้ตะเกียบเขี่ยอาหารในจานเล่น แต่จู่ๆ ก็มีไข่หวานถูกยื่นมาจ่อตรงปาก ผมเลยอ้าปากงับโดยไม่ทันคิดอะไร พอกลืนลงคอแล้วถึงนึกขึ้นได้ เลยเงยหน้ามองคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม เขากำลังคีบปลาดิบอยู่พอดี แล้วเนื้อปลาชิ้นนั้นก็ถูกยื่นมาจ่อที่ปากผมเหมือนเดิม

“.....”

มันถูกวางลงบนจานเล็กๆ ตรงหน้าแทนเมื่อผมไม่ยอมงับเข้าปากสักที คนที่ป้อนผมเมื่อกี้ทำราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น คีบอาหารกินต่อโดยไม่สนใจผมอีก แต่ผมน่ะใจเต้นแรงจนแทบทะลุอกอยู่แล้ว

พี่ภูไม่เคยอ่อนโยนแบบนี้กับผมเลยนะ พอมาลองคิดดูดีๆ ว่าวันนี้เขาปฏิบัติตัวกับผมแปลกไปยังไงบ้าง ผมก็รู้สึกดีใจจนหลุดยิ้มออก...พยายามกัดปากก็แล้ว แต่กลับกลั้นยิ้มไม่อยู่

“แล้วไงต่อวะ...ธาร...ฮัลโหล”

“หา...อ๋อ ก็...” เสียงของบาสดึงสติผมกลับมาอีกครั้ง  ผมจึงเริ่มเล่าเรื่องที่ค้างอยู่ให้จบ จากนั้นก็โดนบาสบ่นยาว บอกให้เลิกยุ่งกับคนนู้นคนนี้ บอกให้ผมระวังตัวมากขึ้น แถมยังบ่นด้วยว่าเดี๋ยวตัวเองจะต้องถูกเฆี่ยนเพราะโดนใส่ร้าย

“กูเพื่อนมึงนะ แค่นี้ไม่ได้เหรอ”

“เออ ได้ แค่โดนพ่อตีด้วยไม้หวาย กูทนได้” ไอ้บาสถอนหายใจแรงๆ อีกรอบ “ว่าแต่มึงอะ เป็นไรมากป่าว พรุ่งนี้ให้กูไปอยู่เป็นเพื่อนไหม”

“เป็นไรมากแล้วจะคุยกับมึงได้ป่ะ ไม่ต้องมาอะ กูมีคนอยู่เป็นเพื่อนแล้ว” หลุดปากพูดประโยคนี้ผมก็รีบเหลือบมองพี่ภู เห็นเขายังก้มหน้าก้มตาเล่นมือถือไปกินไปโดยไม่ได้สนใจผม ผมก็โล่งใจไปเปราะหนึ่ง “มึงอะไม่ต้องหาเรื่องโดดเรียนเลย ยิ่งไม่ค่อยฉลาดอยู่ด้วย”

“ด่าว่าโง่เลยก็ได้ครับ”

“โง่...แค่นี้นะ”

“เดี๋ยว...”

“อะไรอีก”

“กูบอกน้าตะวันไปว่าเราทะเลาะกันเพราะมึงไม่ช่วยทำรายงานกลุ่ม มึงเอาแต่โดดเรียนแถมยังสั่งให้กูลอกการบ้านส่งแทน...ถ้าน้าตะวันถามก็ตอบให้ตรงด้วยล่ะ”

ที่บอกว่าบาสไม่ใช่คนขี้ฟ้องน่ะ ขอถอนคำพูด! และใช่...ทั้งหมดนั้นมีความจริงอยู่แปดสิบเปอร์เซ็นต์ อีกยี่สิบเปอร์เซ็นต์ที่โกหกคือเราทะเลาะกัน

“ไอ้เหี้ย” อดด่าไม่ได้เลยจริงๆ

“จะว่าเหี้ย เหี้ยก็ไม่ผิด ต้องด่ากูว่าไอ้ธาร”

“ฮะ?”

“ด่าไอ้ธาร ก็เหมือนโดนด่าว่าไอ้ชั่วนั่นล่ะ เจ็บ!”
แล้วมันก็ตัดสายทันที...



11: 15 A.M.
@The Attribute Condominium

วันต่อมา

พ่อบอกว่าจะเคลียร์งานให้เสร็จและมาถึงที่นี่ประมาณบ่ายโมง ผมเลยนอนขลุกอยู่บนเตียงตั้งแต่เช้าจนเบื่อ ถึงเพิ่งลุกไปอาบน้ำเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน กำลังแต่งตัวอยู่ก็ได้ยินเสียงคนเดินขึ้นบันไดมาจากชั้นล่าง
พ่อมาถึงแล้ว?

ตอนแรกผมกะจะไปดักรอที่ข้างประตู ยัดตัวเข้าไปในตู้รองเท้า แล้วโผล่ออกมาให้พ่อหัวใจวายเล่น (นี่แหละแผนเซอร์ไพร์ของผม) แต่พ่อมาก่อนเวลาแบบนี้ ผมก็อดเซอร์ไพร์เลยน่ะสิ

ผมรีบสวมเสื้อผ้าให้เสร็จ กำลังจะเปิดประตูห้องออกไปก็นึกอะไรดีๆ ได้ (?) ...อีกเดี๋ยวกางเกงก็ต้องโดนถอดอยู่ดีใช่ไหม งั้น...ถอดรอไว้ตั้งแต่ตอนนี้คงไม่เป็นไรมั้ง

บ้าสิ! น่าอายชะมัด...ถึงพ่อจะเห็นไปหมดทุกส่วนแล้ว แต่มาทำอะไรแบบนี้มันเขินนี่นา แต่...แต่ก็ยังอยากแกล้งพ่อมากกว่า
สุดท้ายผมก็ทำใจกล้าถอดกางเกงโยนทิ้งไปบนเตียง ข้างในยังสวมอันเดอร์เอาไว้ แถมเสื้อยืดตัวนี้ก็หลวมโคร่งจนคลุมสะโพก เลยไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกอายมากนัก

ก๊อก...ก๊อก...

ยังไม่ทันได้ทำใจเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น ผมที่ยืนอยู่หน้าประตูพอดีแอบสะดุ้งเล็กน้อย มือหนึ่งจับดึงชายเสื้อลงมาอีกนิด ส่วนอีกมือก็เอื้อมไปเปิดประตู

“พ...พี่ภู?”

ผมเบิ่งตากว้างด้วยความตกใจ ไหนพี่ภูบอกว่ามีเรียนตั้งแต่เช้าจนถึงห้าโมงเย็นไง ในเฟสบุ๊กพี่ภู เพื่อนเขายังโพสต์บอกเลยว่าวันนี้มีควิสสองวิชาห้ามโดด แล้วไหงดันกลับมาคอนโดตอนนี้ได้

พี่ภูขมวดคิ้วนิดๆ กับสีหน้าแตกตื่นตกใจจนเกินเหตุของผม “พี่ซื้อของกินมาให้ ออกมากินข้าวเที่ยงด้วยกันสิ”

“เดี๋ยวธ...ธารตามไป” ผมบอกเสียงตะกุกตะกัก มือก็แอบดึงชายเสื้อลงมาบังสะโพกไว้เพราะกลัวว่าพี่ภูจะเห็น แต่การกระทำนั้นสะดุดสายตาอีกฝ่ายเข้าเต็มๆ ใจผมหายวูบตอนที่พี่ภูมองต่ำลงมา...

Pie2Na
งานเข้าน้องธารแล้วไง O_o!
อนึ่งมีคอมเม้นถามว่า ธารเป็นลูกตะวันใช่ไหม
เรื่องนี้ยังมีอธิบายอย่างละเอียดในตอนที่ 26 ครับ
เพราะงั้น พายขออุบอิบไม่ตอบเนาะ ไว้อ่านเฉลยกันเอาเอง

อ่านแล้วคอมเม้นบ้างน้า พายจะรีบมาอัพไวๆ ^^
อีกวันสองวันเจอกัน
ขอบคุณครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-11-2016 14:50:34 โดย pie2na »

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
ไม่รู้จะงานเข้าใครละทีนี้

ออฟไลน์ padloms

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
โถ หนูธารขี้อ่อยจริงๆ :m25:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด