- - - ใจแตก (Broken man) - - - [THE END]=เปิดพรีออเดอร์= (Up!ตอนพิเศษ Men Talks)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [THE END]=เปิดพรีออเดอร์= (Up!ตอนพิเศษ Men Talks)  (อ่าน 165711 ครั้ง)

ออฟไลน์ vivacestory

  • Mare Mara
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-1
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #ตอนที่39][100659]
«ตอบ #420 เมื่อ10-06-2016 19:30:46 »



ชายที่ปูนรักกำลังเดินมากับเพื่อนสนิทที่ปูนเคยเห็นหน้าอยู่ครั้งหนึ่ง รัตติกาลในวันนี้ดูสดใส เดินคุยไปหัวเราะไปจนผู้คนที่พบเห็นต่างก็หันกลับมามองคนที่โดดเด่นเสมอไม่ว่าจะไปที่ไหน ไวกว่าความคิดปูนลุกขึ้นจากโต้ะแล้วเดินตามรัตติกาลกับนิลไปจนเห็นว่าทั้งคู่หายเข้าไปในร้านอาหารแห่งหนึ่งซึ่งใกล้ๆกับร้านที่เขากับแมนนั่งอยู่ พี่กาลอยู่ที่นี่...พี่กาลกลับมาแล้ว



“มีอะไรรึเปล่าปูน ลุกออกมาทำไม”



“มึงกินข้าวเสร็จรึยัง กูมีธุระจะไปทำต่อ”



ปูนอยากจะไปหารัตติกาล อยากจะไปถามว่าร่างสูงหายไปไหนมาทำไมไม่เคยติดต่อมาหาเขาเลย โทรศัพท์หลายสาย ข้อความทั้งหมดที่ปูนส่งไปรัตติกาลเคยได้รับมันบ้างไหม เคยมีความคิดจะกลับมาหาเขาบ้างรึเปล่า...ภายในหัวของปูนมีแต่คำถามเหล่านี้วิ่งเวียนอยู่ไปมา จนแมนที่เห็นช่องว่างนั้นแปลกใจ



“ผู้ชายคนนั้นเป็นใครหรอ...เขาเป็นแฟนของปูนใช่ไหม”



“...นั่นไม่ใช่เรื่องของมึงไม่ใช่หรอ”



ร่างเล็กบอกปัดเพราะเขาไม่อาจตอบคำถามของแมนได้ ปูนไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ในสถานะอะไรหรือว่ายืนอยู่ตรงไหนในชีวิตของชายคนนั้น เขารู้แค่ว่าตอนนี้รัตติกาลคงมีคนอื่นที่ดีกว่าคอยดูแลแล้ว แต่เขาล่ะ...เขาควรทำยังไงต่อไป



“แมน กูขออะไรสักอย่างได้ไหม”



“อะไรหรอ”



“ช่วยเดินไปแล้วก็ไม่ต้องพูดอะไร...แค่ยิ้มให้กูอย่างเดียวก็พอ”



ยังไม่ทันที่แมนจะได้ตอบ ปูนก็คว้าแขนของคนข้างกายมากอดไว้แล้วออกแรงลากให้เดินไปด้วยกัน เขาพยายามมองเข้าไปในร้านจนเห็นว่ารัตติกาลและนิลนั่งอยู่ตรงไหน ปูนหยุดขาที่กำลังก้าวเดินแล้วไตร่ตรองถึงสิ่งที่ตัวเองกำลังจะทำ



เขากำลังหวังอะไรจากมัน...และเขาจะได้อะไรจากมัน...ปูนไม่รู้คำตอบสักอย่าง เขารู้แต่ว่าขอแค่เพียงสักครั้งที่จะยืนยันกับตัวเองว่าสำหรับรัตติกาลแล้วปูนยังเป็นคนที่สำคัญอยู่



“ปูนจะทำมันหรอ”



แมนพูดขึ้นพร้อมกับมองร่างเล็กอย่างรู้ทัน รอยยิ้มแบบที่ปูนไม่ชอบใจมันเท่าไหร่นักถูกจุดขึ้นมา...รอยยิ้มที่ทำเหมือนกับว่ารู้ทุกอย่าง



“พูดมากน่า...”



ปูนพูดก่อนจะหันมาส่งยิ้มหวานหยดให้แมนทั้งที่ในใจนั้นไม่ใช่ เท้าสองคู่ก้าวเดินออกไป แสร้งทำเป็นหัวเราะแล้วเบียดกายเข้าหากันเหมือนกับคนรัก...ยิ่งเดินเข้าไปใกล้เท่าไหร่ปูนก็ยิ่งทำเป็นร่าเริงมากขึ้นเท่านั้นในขณะที่ดวงตาก็พยายามเหลือบมองเข้าไปในร้านที่มีรัตติกาลนั่งอยู่



“เขามองปูนใหญ่เลยนะ ดูท่าจะโมโหมากด้วย”



แมนบอกหลังจากที่พวกเขาเดินพ้นออกมาแล้ว แต่ดูเหมือนว่าปูนจะไม่พอใจแค่นั้น ทำไมพี่กาลไม่เดินออกมา เมื่อกี้ก็มองเขาอยู่ไม่ใช่รึไง



“ปูน”



“อะไร”



“รู้ไหม ว่าทำไมผมถึงชอบปูนมาก”



“พูดบ้าอะไรของมึง”



ปูนบ่นอย่างหงุดหงิด เพราะภายในหัวเอาแต่คิดถึงเรื่องของรัตติกาลเลยทำให้ไม่สามารถเห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปของคนข้างๆ



“แค่อยากจะบอกน่ะว่าผมชอบปูนมาก โดยเฉพาะเวลาที่ปูนทำตัวร้ายกาจ ชอบปั่นหัวผู้ชายเล่นแบบนี้...ปูนน่ารักมากเลยนะรู้ตัวไหม”



ปูนรู้สึกขนลุก เขารีบหันมาแล้วเบี่ยงตัวหนีมือของแมนที่เอื้อมเข้ามาใกล้หมายจะจับแก้มของตนไว้ แต่คนที่ถูกปฏิเสธกลับไม่ได้ว่าอะไร แมนทำแค่หัวเราะเล็กน้อยแล้วเดินนำหน้าไปยังส่วนของร้านค้าเท่านั้น



“ไหนๆก็มาถึงแล้ว ไปเดินซื้อของเป็นเพื่อนเราหน่อยสิ”



“คือกู...”



“น่า ผมไม่ทำอะไรหรอก แค่อยากได้แก้วไวน์สวยๆไปตอบแทนพี่ชายเรื่องเสื้อผ้าน่ะ ปูนน่าจะเลือกเก่งกว่าผมช่วยหน่อยไม่ได้หรอ”



ปูนไม่อยากช่วยเลยสักนิด แต่ความรู้สึกบางอย่างกลับทำให้เขาปฏิเสธแมนออกไปไม่ได้ พวกเขาพากันเดินไปยังร้านขายแก้วรูปทรงต่างๆ โดยปูนจัดการเลือกแก้วสำหรับไวน์และอย่างอื่นอีกสองสามชิ้นให้ก่อนที่แมนจะเป็นคนจ่าย มันควรเป็นช่วงเวลาดีๆใช่ไหม...แต่ตลอดเวลาที่เดินเลือกของด้วยกันปูนกลับรู้สึกแย่จนอยากจะเดินหนีไปให้พ้นๆ



“แมน กูอยากกลับบ้านแล้ว”



“เอาสิ น่าจะได้เวลาพอดี”



“...?”



“เราหมายถึง เวลาที่พี่ชายเราจะกลับบ้านน่ะ”



ปูนพยายามไม่ใส่ใจมันแล้วเตรียมจะหมุนตัวกลับไปยังหน้าห้างเพื่อขึ้นรถเมล์ แต่เขากลับโดนแมนรั้งตัวไว้ด้วยเหตุผลว่าจะขับรถไปส่งเพื่อตอบแทนน้ำใจที่ปูนยอมมาซื้อของด้วยทั้งที่ไม่ได้ตกลงกันไว้ ร่างเล็กพยายามปฏิเสธ แต่ด้วยลูกตื้อที่ทั้งน่ารำคาญและมีแรงคุกคามอย่างที่อธิบายไม่ได้ กว่าจะรู้ตัวอีกทีทั้งปูนและแมนก็มาถึงลานจอดรถที่ไม่มีใครอยู่แถวนี้สักคน



“มาเถอะ อย่ากลัวไปเลยเราไม่ทำอะไรปูนหรอก”



แมนว่าแล้วปล่อยให้ปูนเดินนำไปทั้งๆที่ความจริงปูนอยากจะเดินตามหลังแล้วแอบเนียนชิ่งหนีไปเลยมากกว่า แต่ลานจอดรถเงียบๆที่แม้แต่เสียงการก้าวเดินยังได้ยินอย่างชัดเจนแบบนี้ต่อให้ปูนพยายามจะหนีก็คงทำไม่ได้ง่ายๆ ร่างเล็กมองซ้ายมองขวา พยายามหาว่าที่นี่มีคนอื่นนอกจากพวกเขาอยู่ไหม แต่ยังไม่ทันที่ปูนจะได้ทำอะไรริมฝีปากเล็กๆนั่นก็ถูกมือของแมนบีบเข้าเต็มแรง



“อื้อ!”



ปูนถูกผลักจนกระแทกเข้ากับฝากระโปรงรถอย่างแรงจนร่างเล็กต้องนิ่วหน้า แต่ปูนไม่มีเวลาแม้แต่จะโอดครวญเมื่อเสื้อผ้าบางส่วนของเขากำลังถูกแมนพยายามกระชากมันออกมาด้วยแรงที่มากอย่างไม่น่าเชื่อ



“หยุดนะ มึงจะทำอะไร!”



“ก็ค่าตอบแทนสำหรับเรื่องวันนี้ไง ไม่เห็นต้องถาม”



“...!!”



“ทั้งๆที่คิดว่าจะยอมปล่อยปูนไปแล้วเชียว แต่ก็ช่วยไม่ได้นะ...ผมบอกแล้วไม่ใช่หรอว่าปูนเวลาทำตัวร้ายๆน่ะ ผมชอบมันมากจริงๆ”



ร่างเล็กพยายามเบี่ยงหนีริมฝีปากที่หมายจะก้มลงมาจูบเขา แต่ด้วยพละกำลังที่ต่างกันมากเกินไปปูนจึงไม่อาจปัดป้องสัมผัสของแมนได้ทุกอย่าง เขาทำได้เพียงแค่ขัดขืนแต่มันก็จบลงที่เป็นการเปิดโอกาสให้ไอ้สารเลวนี่สัมผัสตัวเขาได้มากขึ้นเท่านั้น ใจของปูนสั่นด้วยความกลัวร่างกายก็เช่นกัน



“ปล่อยนะ อื้อ พอ บอกให้พอไง!”



“ปฏิเสธให้มากกว่านี้หน่อยสิ ทำแบบนี้ปูนหนีผมไม่พ้นหรอกนะรู้ไหม”



ลิ้นสากๆลากไล่ไปตามลำคอขาว น้ำตาของปูนแทบจะระเบิดออกมาด้วยความกลัวและตกใจแต่แมนก็ไม่หยุด ความขยะแขยงแล่นริ้วขึ้นมาจนปูนแทบจะเป็นบ้า ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยผมด้วย



“อย่า อื้อ อย่านะ”



“ฉิบหาย ไอ้กาลใจเย็นๆ!”



เสียงโยนของโครมใหญ่ดังขึ้นก่อนตัวของแมนจะถูกกระชากออกจากปูน ในเสี้ยววินาทีนั้นปูนยอมสาบานด้วยทุกสิ่งทุกอย่างว่าเขาเห็นอีกฝ่ายกำลังยิ้มราวกับว่าเป็นผู้ชนะ...ก่อนที่ปูนจะเห็นว่าคนที่เข้ามาช่วยเขาไว้คือใคร



“พะ พี่กาล”



“นี่มันเรื่องอะไรกันวะ ปล่อยกูนะเว้ย!”



คนที่ทำหน้าสะใจอยู่เมื่อครู่แสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องและโวยวายเสียงดัง แต่สายตาของรัตติกาลตอนนี้ไม่ได้จับจ้องไปที่ใครอื่นนอกจากปูน..มันเป็นสายตาที่มีแต่ความผิดหวังและแค้นใจ ฝ่ามือที่แข็งแกร่งของรัตติกาลบีบลำคอของแมนแน่นด้วยโทสะจนคนที่หมายให้ปูนได้ผิดใจกับคนรักเริ่มเกิดอาการหายใจไม่ออก



“ปูนทำแบบนี้ได้ยังไง ทำอะไรลงไปห๊ะปูน!”



“ไอ้กาล ปล่อยเขาก่อน ใจเย็นๆสิวะ!”



นิลซึ่งเดินตามมาพยายามดึงรัตติกาลออกจากแมนที่ทรุดลงไปหายใจหอบกับพื้นแล้วหันมามองปูนอย่างคาดโทษโดยที่ไม่ได้ตระหนักถึงสิ่งที่ตัวเองทำลงไปเลยสักนิด แมนสบถอย่างหัวเสีย ทำไมเขาต้องมาเจ็บตัวเพราะคนอย่างปูนอีกครั้งทั้งๆที่ตอนแรกกะว่าจะเข้ามาใกล้ชิดเพื่อหาทางแก้แค้นให้สะใจ ช่วยไม่ได้ อย่างน้อยขอเอารูปพวกนั้นกลับคืนมาก่อนแล้วกัน



“ทำอะไร มึงจะเอาของกูไปไหน!”



แมนที่เพิ่งหลุดจากรัตติกาลมาได้ตรงเข้าไปยื้อกระเป๋าของปูนแล้วควานหาแฟรชไดร์ฟที่เขาเพิ่งให้ร่างเล็กไปเมื่อก่อนหน้านี้ ปูนที่รู้ดีว่าคนคนนี้กำลังหาอะไรพยายามขัดขวางแต่ด้วยสรีระที่ต่างกันมากทำให้การต่อสู้ไม่ยืดเยื้อจนเกินไป แมนผลักปูนจนล้มลงกับพื้นแล้ววิ่งหนีไปทั้งๆที่รถของตัวเองก็อยู่ตรงนั้น โดยทิ้งปูนไว้ให้มองตามความหวังริบหรี่ที่ค่อยๆจางหายไปจนเหลือแต่ความมืดมิด



“เป็นเด็กแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ปูน ทำอะไรอยู่รู้ตัวบ้างไหม!”



ปูนนั่งกองอยู่กับพื้นด้วยความผิดหวังโดยมีเสียงของคนที่ไม่เคยรู้เรื่องอะไรสักอย่างกำลังด่าทอปูนด้วยคำพูดที่ปูนเกลียดมันที่สุดที่สุด...คำพูดที่สื่อว่าปูนนั้นสกปรกเกินกว่าที่รัตติกาลจะรับได้ ที่ลุงพูดไว้เป็นความจริง...พี่กาลไม่เคยเชื่อสักนิดว่าเขาไม่ใช่คนแบบนั้น



สุดท้ายรัตติกาลก็ไม่ต่างจากคนอื่น



คนที่บอกว่าเขาเลวทั้งๆที่ไม่เคยมองมาที่เขาเลย







“รู้สิครับ...อย่างน้อยก็มากกว่าที่พี่รู้”



“พี่ควรรู้อะไรมากกว่านี้อีกหรอปูน ยังมีอะไรทุเรศมากกว่าสิ่งที่พี่เห็นอีก!”



“พี่กาล!”



“ไอ้กาลมึงพูดแรงไปแล้วนะเว้ย!”



นิลเข้ามาผลักรัตติกาลออกไปเพื่อให้ทั้องสองคนหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า หากแต่มันก็ไม่อาจปิดกั้นสายตาที่มามองยังปูน สายตาที่เหมือนกับว่าครั้งหนึ่งเราไม่เคยรู้สึกดีต่อกัน



“ทำไมพี่พูดแบบนี้...ใจร้าย ฮึก ต่อให้พี่ไม่เคยรักผมแต่แบบนี้มันเกิดไปแล้วนะ!!”



ปูนเดินฝ่านิลไปหารัตติกาล ร่างเล็กใช้หมัดที่ไร้เรี่ยวแรงของตัวเองกระหน่ำต่อยไปที่ไหล่ขวาของคนที่เคยรักอย่างบ้าคลั่ง...เขาไม่ได้หวังให้มันเป็นแบบนี้สักหน่อย...ปูนอยากจะชกเข้าใจที่หัวใจดำๆดวงนั้นแต่เพราะน้ำตาทำให้การมองเห็นของปูนมันพร่าเลือนเต็มที



“ผมทำอะไรผิด บอกผมสิพี่กาลว่าผมทำอะไรผิด!”



“...พี่ว่าปูนน่าจะรู้ตัวอยู่แล้วนะ”



“หึ ใช่ ผมรู้ตัวว่าผมผิด แล้วพี่ล่ะครับ...รู้ตัวบ้างรึเปล่าว่าตัวเองก็เลวพอๆกัน”



แม้มันจะเป็นความเลวที่ปูนไม่ได้ก่อ แต่มันก็ทำให้เขารู้ตัวถึงความอยุติธรรมที่โหดร้าย...ในขณะที่ปูนร้องไห้รัตติกาลกำลังหัวเราะอยู่กับคนอื่น...ในขณะที่ปูนกำลังทรมานเพราะความโดดเดี่ยวรัตติกาลกลับมีคู่คิดอยู่เคียงข้าง



ปูนปารูปถ่ายที่ทำให้ปูนตระหนักถึงความจริงข้อนี้เข้าที่ใบหน้าของรัตติกาลเต็มแรง ภาพของคนที่ครั้งหนึ่งเขาเคยรักและเชื่อใจปรากฎขึ้นมาพร้อมๆกับชายที่ครั้งหนึ่งเขาเคยคิดว่ารัตติกาลเกลียดชังนักหนา แต่ตอนนี้กลายเป็นทุกอย่างมันกลับตาลปัตร



คนที่รัก...กลายเป็นไม่รัก



คนที่เกลียด...กลายเป็นผูกพัน



หากว่านี่เป็นความฝันมันก็คงเป็นฝันร้ายที่สุดเท่าที่ปูนเคยเจอ



“ผมไม่เคยเรียกร้องอะไร ผมยินดีเดินไปจากพี่ถ้าพี่ต้องการ...แต่มันต้องไม่ใช่แบบนี้ พี่ปล่อยให้ผมรอ พี่ทิ้งผมไว้คนเดียวแล้วไปมีความสุขกับมัน ฮึก พี่คิดบ้างไหมว่าผมจะรู้สึกยังไง!”



“...”



“พี่เคยบอกผมว่าเกลียดการทรยศ ฮึก แล้วทำไมถึงทำมันซะเองล่ะครับ ทำไม...พี่กาลต้องทรยศผมด้วย”



“ปูน...”



“แค่พี่บอกผมก่อน...แค่บอกผมเท่านั้นพี่กาล”







แค่เพียงพี่บอกผมว่าต้องไป แค่เพียงพี่บอกว่าพี่ไม่เคยเชื่อผม...







“ผมคงจะไม่...รู้สึกเกลียดพี่มากขนาดนี้”





ปูนเงยหน้าขึ้นมามองสบตากับคนที่ทำลายความเชื่อใจของเขาจนป่นปี้ ชายที่ปูนเคยคิดว่าเข้าใจตัวเขามากที่สุด...ชายที่ปูนเคยคิดว่าต่อให้ไม่ได้เป็นคนรักรัตติกาลก็จะไม่มีวันทรยศความเชื่อใจที่เขามีให้



“พี่อธิบายได้”





“มันสายไปแล้วครับ...พี่ทำอะไรไม่ได้อีกแล้ว”



ปูนลุกขึ้นยืนอีกครั้งด้วยขาสองข้างของตัวเอง แม้ว่ามันจะเจ็บจนเขาอยากกรีดร้องออกมา แต่ปูนกลับเก็บมันไว้ กลั้นน้ำตาแล้วเอ่ยคำสาปแช่งออกไป



“สักวันพี่จะต้องชดใช้...ด้วยทั้งหมดที่พี่มี”


.

.

.

.

.

.

.



“พี่ปูนๆ หรี่ไฟหน่อยจะไหม้แล้วพี่”



เสียงหวานๆของปิ่นปลุกปูนที่กำลังจมดิ่งไปกับอดีตของตัวเองให้กลับมาได้สติ เขารีบหรี่ไฟที่กำลังเคี่ยวน้ำเชื่อมให้เบาลง เกือบไปแล้ว...



“แปลกจัง ปกติปิ่นไม่เคยเห็นพี่เหมอเวลาทำขนม”



“พี่แค่เหนื่อยๆน่ะ ขอบใจนะที่เข้ามาบอก”



ปูนยิ้มให้กับปิ่นน้อยๆก่อนจะส่งลูกชุบที่เพิ่งทำเสร็จไปให้ปิ่นชิม



“อื้มมม อร่อยเหมือนเดิมเลย ว่าแต่พี่ปูนคิดเรื่องอะไรอยู่หรอคะ บอกปิ่นได้ไหม เห็นทำหน้ายุ่งเชียว”



“ก็...เรื่องสมัยก่อนน่ะ ไม่มีอะไรหรอก”



ร่างเล็กยิ้มหวานแล้วบอกปัด เขาไม่มีทางบอกให้ปิ่นรู้ถึงเรื่องราวโสมมในอดีตที่เกิดขึ้นกับตัวเองเป็นอันขาด ไม่ว่าจะด้วยเพราะอะไร แต่ดูเหมือนว่าปิ่นจะยังไม่รู้เรื่องนั้นแม้ว่าแมนจะได้คลิปคืนไปแล้วซึ่งปูนก็ไม่มีโอกาสได้เจออีกฝ่ายอีกจนกระทั่งวันที่เขากับคณิตพาขิงกับโต้งไปที่ผับ



“พี่ปูนมีอะไรก็เล่าให้ปิ่นฟังได้นะ ปิ่นอยากจะถามอยู่หรอกแต่รู้ว่าพี่ปูนคงไม่ยอมตอบ งอนจะเลิกงอนไปแล้วเนี่ย”



“ฮ่าๆ ไม่มีอะไรหรอกน่า แค่เรื่องไร้สาระน่ะ”



“เรื่องไร้สาระแล้วทำไมเล่าไม่ได้ล่ะคะ ปิ่นอยากรู้มาตลอดเลยนะว่าพี่ปูนไปเจออะไรมา ทำไมถึงหายไป...แล้วก็ไปทำอะไรมาบ้าง”



มือที่กำลังหยอดไข่แดงลงไปในน้ำเชื่อมชะงักค้างกับคำถามข้อสุดท้ายที่เลวร้ายที่สุด...ใช่ เลวร้ายมาก...มันคือการตัดสินใจที่ผิดพลาดที่ทำให้เขากับคณิตต้องมีจุดจบแบบนี้



หลังจากรู้ซึ้งถึงคำว่าทรยศที่รัตติกาลมอบให้ ปูนก็กลับมาเก็บข้าวของเท่าที่จำเป็นแล้วทิ้งทุกอย่างที่เคยมีไว้เบื้องหลังก่อนจะออกเดินทางไปใช้ชีวิตที่เละเทะไม่ต่างจากหัวใจของเขา...ปูนรู้สึกทรมานกับการมีชีวิต เพียงแค่หลับตาลงเรื่องราวเลวร้ายมากมายก็ย้อนกลับเข้ามาจนปูนไม่อาจข่มตาหลับลงได้ ปูนรอคอยปาฏิหารย์ที่สามารถทำให้เขารู้สึกดีกับตัวเองอีกครั้ง...แต่มันก็ไม่มี จนสุดท้ายหัวใจที่อ่อนล้าดวงนั้นก็ทำให้ปูนตัดสินใจทำอะไรบางอย่าง





เขาทำร้ายชีวิตของตัวเองด้วยวิธีที่โง่ที่สุด



ปูนก้าวลงไปในโคลนตมแห่งตัญหานั้นให้สมกับที่คนอื่นตีค่า



เขากรีดร้องออกมาผ่านเสียงครางที่สุขสม หากแต่แท้ที่จริงแล้วยิ่งปูนระบายมันออกไปมากเท่าไหร่ ช่องว่างในตัวของเขาก็ยิ่งขยายมากขึ้นเท่านั้น เขาไม่เชื่อใจใครอีก แม้แต่ตัวเองปูนก็ไม่เชื่อมัน ไม่ต้องพูดถึงความรักที่กลายมาเป็นเรื่องโง่เง่าที่เลวร้ายที่สุดซึ่งเขาไม่คิดจะมีมันอีก...จนกระทั่งวันที่คณิตก้าวเข้ามา



“ขอบใจนะที่เป็นห่วง แต่พี่ไม่เป็นไรแล้วล่ะ...อย่างน้อยพี่ก็คิดว่าตัวพี่เองได้เปลี่ยนไปบ้างแล้ว”



“...?”



“พี่ไม่อ่อนแอเหมือนเมื่อก่อน และจะไม่มีวันกลับไปเป็นแบบนั้นอีก”



ใช่...ตัวเขาที่เอาแต่กล่าวโทษโลกใบนี้แล้วหนีปัญหาไม่มีอยู่อีกแล้ว คณิตได้ทำลายมันลงไปในวันที่ทำให้ปูนเข้าใจว่าความรักแท้จริงนั้นเป็นยังไง







‘ความรักที่ไม่ทำร้ายตัวเอง’





“ฟังแล้วไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ แต่แบบนี้ก็ดีแล้วล่ะค่ะ”



ปิ่นยิ้มออกมาก่อนจะเดินเข้าไปกอดปูนไว้จากทางด้านหลัง ร่างเล็กหัวเราะออกมาน้อยๆ ให้กับความโง่เง่าของตัวเองในสมัยก่อนและโชคชะตาที่เล่นตลกกับชีวิตเขามาจนถึงทุกวันนี้



ไม่เป็นไรนะปิ่น เราจะต้องผ่านมันไปให้ได้...ปูนบอกกับตัวเองแบบนั้นแล้วพยายามหาทางมีชีวิตต่อไปโดยไม่ทำให้คณิตเดือดร้อนอีก แน่นอนว่าตอนที่คณิตพยายามมาพาเขากลับไปปูนรู้สึกเหมือนกับว่าแสงสว่างในชีวิตมันโชติช่วงขึ้นอีกครั้ง แต่โคลนตมที่ฝั่งกลบเท้าของเขาไว้มันกลับหนักหนาเกินกว่าจะทานทัน...



เขาจะทำให้คณิตเดือดร้อนไม่ได้



เขาจะไม่มีวันให้ลุงมาทำร้ายคนที่เขารักได้เป็นอันขาด



“คุณ เห็นหนังสือพิมพ์ของวันนี้รึเปล่า ผมหาไม่เจอเลย”



เสียงของวิทยาที่นั่งอยู่ในห้องรับแขกดังขึ้น ทำให้ปูนและปิ่นที่กำลังให้ความสนใจอยู่กับการทำขนมหันไปมอง



“อยู่ในครัวค่ะ ให้ลูกหยิบไปให้ไหมคะ”



“ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมเดินไปหยิบเอง”



วิทยาเดินเข้ามาในห้องครัวก่อนจะหยิบเอาหนังสือพิมพ์ที่วางอยู่บนโต๊ะไปโดยแอบเหลือบมองหน้าปูนเล็กน้อย แต่ร่างเล็กก็แสร้งทำเป็นไม่เห็นมัน เขาหันกลับไปให้ความสนใจกับสิ่งที่ตัวเองกำลังทำอยู่โดยมีปิ่นคอยช่วยอยู่ไม่ห่าง



ปัง!



“นี่มันอะไรกัน!!”



ยังไม่ทันที่ไข่แดงจะสุกดี จู่ๆวิทยาก็ตะโกนขึ้นมาด้วยความโกรธเกรี้ยวพร้อมกับปาหนังสือพิมพ์ทิ้งจนมันกระจายไปทั่ว ปานจิตที่รดน้ำอยู่หลังบ้านรีบเดินเข้ามาดูเมื่อได้ยินเสียงเอะอะ ในขณะที่ปูนกับปิ่นได้แต่ยืนงง ไม่มีใครรู้ว่าประมุขของบ้านเป็นอะไร พวกเขาจึงทำได้แค่ช่วยกันก้มลงเก็บกระดาษพวกนั้นเพื่อหาคำตอบแต่ก่อนที่ปูนจะได้สัมผัสมัน คนที่เป็นฝ่ายปาหนังสือพิมพ์ทิ้งเองในตอนแรกกลับก็กระชากเอามันมาไว้ในมือของตัวเองอีกครั้ง



“พ่อทำอะไรน่ะ”



ปิ่นถามออกมาด้วยความไม่เข้าใจกับพฤติกรรมที่แปลกไปของบิดา แต่วิทยากลับไม่ตอบหนำซ้ำยังเดินมาปิดเตาแก๊สทั้งที่ยังทำขนมที่จะนำไปถวายพระในวันพรุ่งนี้ไม่เสร็จดีลงแล้วหันมาพูดกับลูกสาวและหลานชายด้วยเสียงสั้นห้วน



“ไม่มีอะไร พวกแกขึ้นไปบนบ้านได้แล้ว”



“อะไรกันพ่อ ปิ่นกับพี่ปูนยังทำขนมไม่เสร็จเลยนะ แล้วนี่มันเพิ่งจะเก้าโมงเช้าเองพ่อจะให้ปิ่นขึ้นไปข้างบนทำไม”



“ฉันบอกให้ขึ้นก็ขึ้นไปสิ!!”



ปิ่นสะดุ้งเฮือกก่อนจะปล่อยให้น้ำตาเอ่อคลอเพราะมันเป็นครั้งแรกที่พ่อตะคอกเธอรุนแรงแบบนี้ ปานจิตที่เห็นท่าไม่ดีรีบเดินเข้ามาปลอบลูกสาวแต่ก็ไม่วายส่งสายตาตำหนิมาให้ปูนทั้งๆที่ร่างเล็กยังไม่รู้เลยว่ามันเกิดอะไรขึ้น



“ลุงเป็นอะไรก็ค่อยๆพูดกันสิครับ มาตะคอกปิ่นทำไม”



“ไม่ต้องพูดมาก พาน้องขึ้นไปบนห้องแล้วไม่ต้องลงมาจนกว่าฉันจะสั่ง”



“แต่...”



“ฉันบอกให้ขึ้นไปไง!”



ปูนไม่มีทางเลือกเขาไม่อยากให้น้องสาวต้องมาเห็นอารมณ์ร้ายๆของพ่อตัวเองมากไปกว่านี้ ปูนจึงพูดปลอบปิ่นเท่าที่จะทำได้แล้วพาน้องขึ้นไปนั่งเล่นในห้องนอนของตัวเองโดยที่ไม่รับรู้อะไรสักอย่าง



“พ่อตะคอกปิ่นทำไม...ทำไมพ่อถึงอารมณ์เสียแบบนี้”



ปิ่นพูดออกมาด้วยความน้อยใจ ไม่ใช่ว่าเธอถูกเลี้ยงมาอย่างทะนุถนอมจนใครแตะต้องไม่ได้หากแต่เรื่องครั้งนี้มันเกินไป



“ใจเย็นๆนะ พ่อปิ่นคงทำไปเพราะมีเหตุผล”



“ปิ่นว่ามันต้องเกี่ยวกับหนังสือพิมพ์นั่นแน่ๆ ตอนเช้าพ่อยังดีๆอยู่เลย”



ปูนเห็นด้วยกับข้อสันนิษฐานนั้น แต่พวกเขาไม่มีหลักฐานที่จะพิสูจน์มันได้ มือถือของปิ่นถูกพ่อยึดไปตั้งแต่อยู่ข้างล่าง แถมพวกเขาทั้งคู่ก็ถูกสั่งให้อยู่ในห้องของปูนที่ไม่มีแม้แต่คอมพิวเตอร์สักตัวให้เปิดดูว่าอะไรที่ถูกพิมพ์ลงบนกระดาษพวกนั้น ปูนได้แต่เก็บความสงสัยเอาไว้ ในขณะที่ปิ่นแสดงมันออกมาอย่างชัดเจนว่าเธอต้องการที่จะรู้ให้ได้ เด็กสาวกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนเตียงของปูนสักพัก แล้วเธอก็คิดออก



“จริงด้วย วันนี้วันอาทิตย์นี่ งั้นตั้มก็ต้องอยู่บ้าน!”



“ตั้มงั้นหรอ”



ไม่ใช่คนอื่นคนไกลที่ไหน ตั้มคือผู้ชายอายุรุ่นราวคราวเดียวกันกับปิ่นที่อยู่บ้านข้างๆ หญิงสาวรีบเดินตรงไปยังหน้าต่างห้องของปูนด้านที่อยู่ติดกับบ้านของตั้มแล้วโชคก็เข้าข้าง เพราะเด็กหนุ่มคนที่ว่ากำลังเล่นอยู่กับสุนัขพันธุ์ไซบีเรียนตัวใหญ่อย่างสบายอารมณ์



“ตั้มๆ ทางนี้!”



ปิ่นพยายามร้องบอกด้วยเสียงที่ไม่ดังมาก แต่โชคดีที่เจ้ากะทิ สุนัขหน้าหล่อตัวนั้นมันหูไวพอที่จะได้ยินเสียงของปิ่นได้





โฮ่งๆ



“เห่าอะไรกะทิ อ้าว ปิ่นกับพี่ปูนเองหรอ มีอะไรรึเปล่า!!”



ตั้มตะโกนถามอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราวจนทำให้สองศรีพี่น้องรีบทำท่าบอกให้ตั้มหุบปากแทบไม่ทัน ปูนจึงตัดสินใจเดินไปที่โต๊ะเขียนหนังสือของตัวเองแล้วเขียนข้อความว่า ‘ช่วยไปซื้อหนังสือพิมพ์ของวันนี้มาให้หน่อย’ ก่อนจะห่อมันลงบนตุ๊กตาเซรามิกที่เป็นของประดับอยู่บนโต๊ะของเขา



“รับนะ”



ปูนพูดกับตั้มโดยไม่ออกเสียง ก่อนจะโยนมันลงไปโดยที่ตั้มสามารถรับมันไว้ได้ทันพอดี ในขณะที่เจ้ากะทิทำท่าขัดใจที่อดเล่น



“หนังสือพิมพ์หรอ เอามาทำไมอ่ะ”



“อย่าเพิ่งถามมากได้ไหม ไปซื้อมาให้หน่อย เดี๋ยวจะแบ่งขนมฝีมือพี่ปูนไปให้ โอเคไหม”



“โอเค งั้นรอแปปนึงนะ กะทิมาเร็วเดี๋ยวพ่อแบ่งทองหยอดให้ลูกหนึ่ง!”



ปูนแทบอยากจะตบกบาลตัวเอง พอพูดเรื่องขนมเข้าหน่อยก็ร่าเริงจนเสียงดังทั้งคนทั้งหมา แต่นั่นก็ถือเป็นข้อดีเพราะใช้เวลาเพียงไม่นาน ทั้งตั้มและเจ้ากะทิก็กลับมาพร้อมถุงใส่กระดาษหนังสือพิมพ์...และไม้สอยมะม่วงอันใหญ่



“รับนะพี่ อย่าให้ตกไปซะก่อนล่ะ”



“อื้อ ขอบใจมาก”



โชคดีที่ชั้นสองของบ้านหลังนี้ไม่สูงมากนักทำให้ภารกิจลอบส่งหนังสือพิมพ์ของพวกเขาผ่านพ้นไปได้อย่างราบรื่น ปูนบอกขอบคุณตั้มและเจ้ากะทิอีกครั้ง ในขณะที่ปิ่นแทบจะกระโจนเข้าใส่หนังสือพิมพ์เล่มนั้นทันทีที่ได้มา



 ปิ่นรับมันไปแล้วเปิดอ่านไปอย่างลวกๆ เธอพยายามมองหาหน้าที่มีเนื้อหาที่พอจะทำให้พ่อของเธอโมโหได้ ข่าวประท้วงหรอ หรือข่าวน้ำมันขึ้นราคากัน ในระหว่างที่ปิ่นกำลังควานหานั้นสายตาของเธอก็ไปสะดุดกับรูปของคนสองคนที่ถูกพิมพ์ลงในหน้าข่าวของแวดวงไฮโซ



“เฮ้ย นี่มันรูปพี่ปูนนี่!”



ปูนที่กำลังง่วนกับการปิดหน้าต่างหันมาทันทีที่ปิ่นเอ่ยถึงชื่อตน แต่ไม่ต้องรอให้ปูนเดินเข้าไปหาเพราะปิ่นรีบนำหนังสือพิมพ์ที่ว่ามาให้ร่างเล็กดูถึงที่





‘ทายาทโรงแรมดังเปิดตัวหวานใจ – แฟนผมเป็นผู้ชายครับ’





“ป๋า...”



----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

คุยกับเช่!!

พาร์ทย้อนอดีตหมดลงที่ตอนนี้นะคับ ต่อจากนี้จะเป็นการสะสางเรื่องในปัจจุบันแล้ว อันนี้อยากพูดคุยกันนิดนึงเพราะเห็นหลายคนบอกว่าเหมือนเช่ยังไม่แก้ปมเลย คือ ปมในเรื่องนี้มันออกแนวบอกเล่าเรื่องราวของตัวละครมากกว่า มันเป็นอดีตที่แก้ไขอะไรไม่ได้ จะมีก็แค่ตัวละครในปัจุบันอย่างป๋าจะทำยังไงเมื่อรับรู้อดีตที่ไม่สวยงามของปูนเท่านั้นล่ะคับ และที่บางคนบอกว่ามันดูเยิ่นเย้อเกินไป อยากบอกว่าเช่ก็คิดเหมือนกันคับ เช่คิดว่าทำไมชีวิตคนคนหนึ่งถึงเจ็บปวดได้ขนาดนี้เมื่อตอนที่ได้รับรู้ว่าเพื่อนคนหนึ่งของเช่เขาใช้ชีวิตมาแบบไหน ความรุนแรงในครอบครัวและผลที่เกิดขึ้นเพราะมันเป็นสิ่งที่เช่ต้องการใส่ลงไปในนิยายเรื่องนี้ เพราะคงไม่ใช่ทุกคนที่จะได้เห็นอีกมุมหนึ่งของคนที่สังคมมองว่าเขาทำตัวไม่ดีหรือมีชีวิตที่ผิดไปจากเรา ทุกการกระทำมีเหตุผลไม่ว่าเรายอมรับมันได้แค่ไหนก็ไม่มีใครเปลี่ยนแปลงมันได้ ดังนั้นเช่จึงรู้สึกว่าเรื่องราวของเพื่อนเช่คนนี้มีค่ามากจนทำให้พยายามไม่ตัดเนื้อหาบางส่วนออกไปจนมันผิดเพี้ยน

ส่วนคำถามที่ว่าทำไมลุงของปูนถึงได้ทำตัวแบบนั้นในตอนจบเราจะได้รับรู้คำตอบที่อาจไม่สมเหตุสมผลเท่าไหร่ในความรู้สึกของคนบางคน เพราะปัจจุบันนี้เช่ก็ยังไม่อาจหาคำตอบให้กับพฤติกรรมของคนคนนั้นได้เหมือนกัน แต่ก็อย่าคิดมากคับ มันไม่ได้ค้างอะไรขนาดนั้นหรอก55555 แค่พูดเผื่อไว้ก่อนเนอะๆ^^


ออฟไลน์ kdds

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #ตอนที่39][100659]
«ตอบ #421 เมื่อ10-06-2016 20:30:17 »

ปูนจะประชดชีวิตแบบนั้นไปเพื่อ? โอยอยากจะจับหัวมาเขย่าแรงๆ สมองจะได้เข้าที่เข้าทาง

ออฟไลน์ hpimmc

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #ตอนที่39][100659]
«ตอบ #422 เมื่อ10-06-2016 20:47:30 »

อิลุงนิสงสัยจะชอบปูนจริงๆ อยากเก็บไว้กับตัวเองไรงี้
ปูนนิก็โชกโชนจนนน แต่ก็นะ
สู้ๆ นะ ปูน
ภาวนาให้ผ่านไปได้ด้วยดี

ออฟไลน์ Fujung

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 180
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #ตอนที่39][100659]
«ตอบ #423 เมื่อ10-06-2016 20:53:20 »

ตอนแรกไม่รู้สึกไรกับพี่กาลนะ
แต่อ่านตอนนี้แล้วอยากพุ่งเข้าไปตบ
ปะ   มันควรจะจบได้ละเมื่อคนสองคนใจตรงกัน
ให้จบด้วยดีเถอะ

ออฟไลน์ ZYSQ_

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 226
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #ตอนที่39][100659]
«ตอบ #424 เมื่อ10-06-2016 21:12:57 »


สรุปปมอดีตที่เราไม่รู้ว่าปูนทำอะไรไว้ ก็คือ ปูนไม่ได้ทำอะไรเลย
เป็นแพะรับบาป โดนลุงชักใย โดนสังคมพิพากษา
ต้องกลายเป็นเหยื่อของความรุนแรง จนสุดท้ายก็ลงเอยที่ประชดชีวิต
"ในเมื่อเขาคิดว่าเราขายตัว เราก็ขายตัวไปจริงๆเสียเลยสิ" อะไรแบบนั้นสินะ

ออฟไลน์ THiiCHA

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1840
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-4
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #ตอนที่39][100659]
«ตอบ #425 เมื่อ10-06-2016 22:35:55 »

ป๋าาาาาาาาาาา ลงมือแล้ว > /////  <

ออฟไลน์ Inwoสูs

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1214
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #ตอนที่39][100659]
«ตอบ #426 เมื่อ10-06-2016 23:00:22 »

โอ๊ยยย ป๋าณิต รอบนี้รักป๋ามากกกก (เอ่อ ทำไมรู้สึกเสียวสันหลัง) ป๋าเล่นหนังสือพิมพ์งี้ รู้กันทั่วเมืองเลยนะป๋า รักป๋าอะ  :hao7: (#หันหลังกลับ) เด็กป๋าจะฆ่าป้าไหมลูกทำหน้าน่ากลัวเชียว :hao4:

ออฟไลน์ นอนกินแรง

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-4
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #ตอนที่39][100659]
«ตอบ #427 เมื่อ10-06-2016 23:43:50 »

สงสารปูน แล้วก็คิดถึงป๋าด้วย...อยากอ่านต่ออ รอนะคะ

ออฟไลน์ mass

  • "Smile! It increases your face value." -Steel Magnolias (1989)
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 58
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #ตอนที่39][100659]
«ตอบ #428 เมื่อ11-06-2016 01:39:53 »

อดีตมีแต่คนเลวๆทำร้ายปธน สงสารปูนอะ แต่ดีใจที่ป๋านิดไม่ยอมแพ้ สู้นะช่วยปูนให้ได้

ออฟไลน์ kanomjeeb

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 101
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #ตอนที่39][100659]
«ตอบ #429 เมื่อ11-06-2016 08:22:29 »

กับกาลเหมือนปูนแค่ผิดหวังที่ไม่เชื่อใจ เฮ้อ ไปล่ะคู่จิ้นเค้า :ling3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #ตอนที่39][100659]
« ตอบ #429 เมื่อ: 11-06-2016 08:22:29 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Toho48

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 46
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #ตอนที่39][100659]
«ตอบ #430 เมื่อ11-06-2016 20:15:15 »

คุณคณิตเล่นใหญ่มากคร่า แต่ได้ใจอิชั้นไปเต็มๆเลย :katai2-1:

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #ตอนที่39][100659]
«ตอบ #431 เมื่อ11-06-2016 20:42:55 »

จะมีใคร ทำเพื่อเราอย่างนี้บ้างนะ ฮี่่ ฮี่ ฮี่
 :really2: :really2: :really2:

ออฟไลน์ loveview

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1912
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-10
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #ตอนที่39][100659]
«ตอบ #432 เมื่อ12-06-2016 07:34:44 »

บทนี้คณิตได้ใจไปเต็มๆ

ออฟไลน์ КίmY

  • BJYX♥
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-3
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #ตอนที่39][100659]
«ตอบ #433 เมื่อ14-06-2016 22:03:32 »

โอ้ยๆ จำเป็นต้องเปิดตัวกันขนาดนี้เลยหรอป๋าาา อิจค่ะอิจๆ     :-[

ออฟไลน์ plugie

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #ตอนที่39][100659]
«ตอบ #434 เมื่อ16-06-2016 05:30:04 »

กอดปูน ไม่เป็นไรนะป๋ามาช่วยแล้ว

สงสารปูน ทุกอย่างดูเข้ามาพร้อมกันไปหมด ทั้งความรัก สังคม แม้แต่คนที่เหมือนจะเป็นครอบครัว ทุกอย่างดูทำร้ายปูนไปหมด แต่กลับไม่มีใครอยู่ข้างๆปูนเลย เราดีใจมากนะที่ปูนไม่คิดฆ่าตัวตายไปซะก่อน(เดี๋ยวไม่ได้เจอป๋า)

ออฟไลน์ FOUR EYES

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 33
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #ตอนที่39][100659]
«ตอบ #435 เมื่อ16-06-2016 20:24:20 »

ติดตามค่ะ

หูยย สงสารอดีตของนุ้งปูนจัง ช็อตนี้ป๋าเอาใจหนูไปเต็มๆ
 :-[

เป็นกำลังใจให้นะคะ

ออฟไลน์ vivacestory

  • Mare Mara
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-1
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #ตอนที่39][100659]
«ตอบ #436 เมื่อ17-06-2016 19:16:29 »



แตกที่ 40

…สารภาพ...

 







หลังจากเล่าเรื่องทุกอย่างให้คณิตฟังบอยก็บอกลาร่างสูงพร้อมกับทิ้งท้ายไว้ด้วยว่าหากเขาพาปูนกลับมาได้ ให้คณิตช่วยพาปูนไปขอโทษพลัสในสิ่งที่สองคนนั้นร่วมกันกระทำลงไป แม้ว่าผลของมันจะกลายบาดแผลที่ไม่มีวันหายบนหัวใจของใครบางคน แน่นอนว่าคณิตรับปากบอยอย่างเป็นมั่นเป็นเหมาะเพราะลึกๆเองเขาก็รู้สึกผิดกับพลัสอยู่ไม่น้อย แม้สุดท้ายเรื่องราวระหว่างสามคนนั้นจะลงเอยด้วยการแยกกันไปคนละทิศคนละทาง แต่หากมีโอกาสคณิตก็อยากให้ตัวต้นคิดอย่างปูนได้ชดใช้ในสิ่งที่กระทำลงไปอย่างเหมาะสม



“นม? กูนึกว่ามึงแดกเหล้าอยู่ซะอีก”



นิลที่เพิ่งซัดมาม่าไปถ้วยใหญ่ชนิดไม่เกรงใจเจ้าของบ้านเอ่ยขึ้น เมื่อเห็นว่าแก้วที่วางอยู่ตรงหน้าคณิต เป็นของเหลวสีขาวแทนที่จะเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เหมือนอย่างที่พวกอกหักมักจะทำกัน



“กูขี้เกียจฟังมึงด่า อีกอย่างปูนไม่ค่อยชอบให้กูกินเหล้าด้วย”



แม้ว่าจะมีอาชีพเสริมเป็นบาร์เทนเดอร์แต่ปูนกลับชอบบอกให้คณิตอย่าดื่มมากและดูแลสุขภาพของเขาอยู่เสมอ คณิตเคยถามร่างเล็กว่าถ้าไม่ชอบโรคร้ายที่อาจเกิดขึ้นเพราะมันแล้วทำไมถึงมาทำอาชีพนี้อยู่อีก ปูนฟังแล้วก็ได้แต่หัวเราะอแล้วตอบกับเขาว่า เวลาเห็นคนเมาแล้วรู้สึกสนุกดี...ตัวแสบจริงๆเลยเห็นไหมล่ะ



“หึ มานั่งเพ้อถึงเมียเก่าแบบนี้ไปได้ข้อมูลดีๆมารึไง”



“เมียเฉยๆ ไม่ใช่เมียเก่า”



“อ้าวหรอ กูนึกว่ามึงโดนเขาเขี่ยทิ้งแล้วซะอีก ฮ่าๆ”



คณิตส่ายหัวให้เพื่อนอย่างไม่ถือสาแต่ว่าในใจคาดโทษไปแล้ว นิลที่เพิ่งล้างจานเสร็จนั่งลงข้างๆแล้วมองไปยังจุดที่เพื่อนของตัวเองมองอยู่ รูปของปูนและคณิตที่กำลังยิ้มให้กันเหมือนโลกนี้ไม่มีความทุกข์ใดๆ



“แล้วตกลงว่าไง ไปคุยกับคนคนนั้นมาได้อะไรมั้ง”



“ได้โดนเขาด่า แต่ก็สนุกดี”



“จริงดิ รู้งี้กูไปด้วยดีกว่าจะได้ผสมโรงกับเขาด้วย”



“พอเหอะสัด แค่นี้มึงก็ด่าจนกูเบื่อจะฟังแล้ว”



นิลยิ้มขึ้นมาน้อยๆเมื่อเห็นว่าเพื่อนของตนดูไม่เคร่งเครียดเท่ากับตอนแรก แม้ปากจะด่ามันไปบ้างแต่นิลจะไม่โกหกหรอกนะว่าไม่ได้เป็นห่วง



“เขาเล่าเรื่องของลุงแล้วก็เรื่องที่ร้านนั่นให้กูฟัง แต่ว่าที่สำคัญกว่านั้นคือบอยทำให้กูคิดอะไรได้อยู่อย่าง”



“...?”



“ยิ่งกูรู้เรื่องของปูนมากเท่าไหร่ กูก็ยิ่งรู้สึกว่าเรื่องพวกนั้นมันสำคัญกับกูน้อยลงทุกที”



ความอยากรู้ที่คณิตเคยมีมันลดน้อยถอยลงแล้วแปรเปลี่ยนไปเป็นความรู้สึกห่วงใยที่ท่วมท้น เขาอยากไปหา อยากกอดปูนให้แน่นๆจนเด็กคนนั้นบ่นว่าอึดอัด อยากอยู่ด้วยกันถึงเช้าเพื่อที่จะทำให้ปูนรู้ว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเขาจะไม่ทิ้งปูนไปไหน คณิตรู้สึกว่าตัวเองโง่เง่า ที่เฝ้ามองหาแต่อดีตจนเผลอทำให้ปูนหลุดมือไป ถ้าหากวันนั้นเขาเข้มแข็งและจับมือปูนให้แน่นพอ ปูนคงไม่ต้องฝืนใจเอ่ยคำลากับเขาแบบนี้



“คิดได้สักทีนะ เพื่อนกูเปลี่ยนสถานะจากควายมาเป็นวัวแล้ว”



“ห่า มันต่างกันตรงไหนวะ”



“เขามันสั้นกว่าหน่อย แต่เอาเถอะ ฉลาดขึ้นยังดีกว่าโง่ลง ถ้าเด็กนั่นมาได้ยินที่มึงพูดแบบนี้คงร้องไห้น้ำตาเป็นเผาเตา”



คำพูดของนิลทำให้คณิตอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ ใช่แล้ว นั่นแหละปูนเลย พอเป็นเรื่องเขาทีไรก็หวั่นไหวจนร้องไห้ตลอด



“แต่กว่าจะไปถึงขั้นนั้นมึงต้องไปช่วยเด็กนั่นออกมาก่อน ตามที่ไอ้ชาติบอกลุงนั่นน่าจะพาปูนกลับไปที่บ้านแล้วไม่ยอมให้ออกมาเหมือนกับก่อนหน้านี้ แต่ว่าเราก็คงไปถึงตัวเด็กมึงไม่ง่ายอย่างตอนแรกหรอกนะ”



“เรื่องนั้นมันไม่ใช่ปัญหาหรอก สิ่งที่เป็นปัญหาจริงๆคือการตัดสินใจของปูนมากกว่า...ถ้าปูนยังคิดจะปกป้องกูแค่ฝ่ายเดียวต่อให้กูทำยังไงเขาก็คงไม่กลับมา ดื้อชะมัดเลยให้ตายสิ”



“ก็ตามนั้น แต่ดูเหมือนว่ามึงจะไม่เครียดเท่าไหร่เลยนะ”



นิลพูดไปตามสิ่งที่เห็น เพราะระหว่างพูดคุยกันคณิตดูมีท่าทางผ่อนคลายอย่างเห็นได้ชัดทั้งที่กำลังคิดอะไรตลอดเวลา...มันเหมือนคนที่ตัดสินใจได้แล้วอย่างไรอย่างนั้น และเขาก็เดาถูก



“อืม กูรู้แล้วล่ะว่าจะต้องทำยังไง เพียงแค่...มันทำได้ค่อนข้างยาก”



“หึ จะยากสักแค่ไหนเชียว อย่างน้อยก็คงไม่ยากเท่าไปบอกป๊ามึงว่ามึงมีเมียเป็นผู้ชายหรอกมั้ง”



“...”



“ไอ้สัดเอาจริงดิ”



ไม่ใช่แค่นิลที่ตกใจ คณิตเองก็ไม่อยากจะเชื่อตัวเองเหมือนกัน เพียงแต่หากคิดดูให้ดีๆ เขาก็รู้อยู่แล้วว่าตัวเองมีจุดอ่อนอะไรบ้าง



“ต่อให้คิดยังไง จุดอ่อนที่อีกฝ่ายสามารถยกมาขู่กูได้มันก็มีแค่อย่างเดียว”



ถึงจะไม่ใหญ่โตเท่าThe Pilot แต่โรงแรม The Next ของครอบครัวคณิตก็ถือเป็นโรงแรมชื่อดังที่ถ้าถามคนในจังหวัดนี้คงไม่มีใครไม่รู้จัก โดยเฉพาะเมื่อเขามีคู่แข่งตามฐานะอย่างเมษาที่ถือเป็นคนดังระดับประเทศชื่อของคณิต จึงกลายมาเป็นชื่อที่มักจะถูกกล่าวถึงบ้างเป็นบางครั้งถ้าหากเขายินยอมให้เป็นข่าว



“กูไม่เคยมีข่าวเสียหายๆ โรงแรมของพ่อก็เหมือนกัน ถ้าหากว่ามันมีหลักฐานว่ากูกำลังคบกับผู้ชาย ต่อให้จะไม่ใช่เรื่องผิดแต่ก็คงเป็นเรื่องที่ชาวบ้านจะเก็บไปพูดกันได้สนุกปาก”



คณิตรู้ความจริงข้อนี้ดีอยู่แล้ว เขาถึงไม่เคยเอ่ยเรื่องปูนให้คนในบ้านฟังนอกจากน้องสาวของตัวเอง ไม่ใช่ว่าเขาไม่รัก แต่ถ้าหากพวกเขาประกาศออกไปโดยไม่คิดหน้าคิดหลังคนที่จะเจ็บปวดจากความโหดร้ายของโลกใบนี้ก็คือปูน



“แล้วมึงยังคิดจะทำอีกนะ มึงคิดถึงเมียจนเพี้ยนไปแล้วรึไง มึงอย่าลืมนะไอ้นิด ว่าเรื่องของมึงกับไอ้กาลจะลงเอยไม่เหมือนกัน ไอ้กาลมันเปิดตัวมาแต่แรกและมันก็ไม่เคยเอาตัวเองเข้าไปร่วมวงไฮโซไฮซ้อกับใครแต่กับมึงมันไม่ใช่ไหนจะอาชีพการงานมึงด้วย”



“กูรู้ แต่ถ้าหากกูคิดจะอยู่กับปูน สักวันคนข้างนอกก็ต้องรู้อยู่ดี ถึงจะไม่เคยพูดถึงมาจนกระทั่งตอนนี้แต่กูก็ไม่อยากให้ปูนจะต้องหลบอยู่ในมุมมืดเพื่อกูตลอดไปหรอกนะ”



“...”



“เอาตรงๆกูก็ไม่มั่นใจนักหรอกว่าทุกคนจะรับได้ โดยเฉพาะป๊ากับม๊า แล้วก็อาม่าที่เขาหวังกับกูไว้มาก แต่ว่านะนิล...ถ้าสุดท้ายพวกเขาจะต้องรู้ กูอยากให้พวกเขารู้ความจริงที่ออกมาจากปากกูมากกว่า...ความจริงที่ว่าผู้ชายที่กูเลือกเป็นคนยังไง เขาเคยทำอะไรไว้และรู้สึกยังไงกับสิ่งที่ตัวเองเป็นอยู่ กูอยากให้เขารู้ว่ากูเลือกคนที่จะก้าวเข้ามาเป็นครอบครัวเดียวกันได้แล้ว”



มือของคณิตสั่นในทุกๆคำที่เขาพูดออกมา ถ้าหากเป็นเมื่อก่อน คณิตคงไม่แม้แต่จะกล้าทำอะไรให้พ่อกับแม่ของตัวเองผิดหวัง แต่เด็กผู้ชายตัวเล็กๆคนนั้นทำให้เขาคิดได้...ว่าขนาดปูนที่ไร้ซึ่งอำนาจและกำลังกลับพยายามปกป้องคนที่รักอย่างเขาสุดความสามารถโดยไม่คิดถึงสิ่งอื่นแม้แต่ตัวเอง



“อาม่าสอนกูว่าลูกผู้ชายต้องรักษาคำพูด เพราะฉะนั้นมันคงถึงเวลาที่กูจะรักษาสัญญาที่เคยให้ไว้กับปูนสักที”







‘สัญญา...ถ้าหากเธอต้องการฉันจะอยู่กับเธอในทุกๆที่’





รออีกนิดนะปูน...พี่กำลังจะไปรับ




.

.

.

.

.

.



คณิตมองบ้านเจริญวัฒนะของตัวเองด้วยความรู้สึกที่ไม่เคยเกิดขึ้นเลยตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา มันทั้งประหม่าและกดดันแต่ก็ไม่ใช่ความรู้สึกที่แย่ขนาดนั้นเมื่อนึกถึงใบหน้าของปูนที่กำลังส่งยิ้มอยู่ในหัวใจของเขา



“อ้าวคุณคณิต วันนี้กลับบ้านหรอคะ”



สาวใช้คนหนึ่งซึ่งทำงานที่นี่มาตั้งแต่รุ่นแม่เอ่ยทักทายาทคนโตของบ้านที่ไม่ได้กลับบ้านมาสักพักใหญ่ จนอาม่าของคุณคณิตบ่นคิดถึงหลานชายคนโปรดแทบทุกวัน



“ครับ แล้วนี่ป๊าอยู่ไหม”



“อยู่ค่ะ แต่ติดรับแขกอยู่”



“วันเสาร์เนี่ยนะ ใครมากัน”



“คุณเมษาค่ะ เข้ามาตั้งแต่ช่วงสายๆแล้ว”



คณิตงงหนักเมื่อเพื่อนของตนมาโผล่อยู่ที่นี่ทั้งๆที่ถ้าปกติคณิไม่อยู่เมษาก็ไม่เคยคิดจะมา ร่างสูงเก็บความสงสัยนั้นไว้แล้วเลือกที่จะเดินเข้าไปดูด้วยตาของตัวเองซึ่งตามคำบอกเล่าของสาวใช้ บรรพตและเมษากำลังพูดคุยกันอยู่ในห้องหนังสือของบ้านที่กว่าครึ่งเป็นหนังสือที่คณิตสะสมไว้ตั้งแต่สมัยเรียน



“ป๊า ไอ้เมษ”



เสียงของคณิตทำให้บทสนทนาของทั้งสองคนที่กำลังคุยกันอย่างออกรสชะงักไป บรรพตหันมามองลูกชายที่จู่ๆก็โผล่มาแบบงงๆผิดกับอีกคนที่ทำหน้าเหมือนรู้อยู่แล้วว่าคณิตจะต้องมาที่นี่



“กลับมาบ้านได้แล้วรึไงเจ้าตัวดี วันก่อนป๊าไปหาที่โรงแรมไม่เห็นเจอ”



“ขอโทษครับ แต่ผมมีเรื่องด่วนจะคุยด้วย...เมษ มึงกลับไปก่อนได้ไหม”



บรรพตส่งสายตาตำหนิไปให้ลูกชายทันทีที่คณิตแสดงมารยาทไม่ดีกับแขกถึงแม้ว่าทั้งสองจะเป็นเพื่อนกันก็ตาม เมษามองหน้าคณิตนิ่งๆอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหันมาหาเจริญวัฒนะคนพ่อแล้วเอ่ยคำลา



“ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวกลับก่อนนะครับ ไว้มีโอกาสจะมาคุยเรื่องงานที่สิงค์โปรด้วยใหม่”



“ขอโทษแทนเจ้าคณิตมันด้วยนะเมษ ลูกของลุงมันไม่มีมารยาท”



“ฮ่าๆ ไม่เป็นไรหรอกครับ คณิตมันคงมีธุระสำคัญจริงๆ”



เมษาส่งยิ้มที่เต็มไปด้วยไมตรีให้ก่อนจะพนมมือไหว้ด้วยท่าทางนอบน้อมจนบรรพตต้องเอ่ยชม ชายหนุ่มหมุนตัวกลับมาหาเพื่อนตัวเองที่มีสีหน้าแน่วแน่ไม่ต่างจากตอนที่มาขอตัวบอยไปจากเขาเลยสักนิด



“จะทำอะไรก็คิดให้ดีๆ ชีวิตมึงไม่ได้มีมันแค่คนเดียวรู้ใช่ไหม”



มันเป็นแค่ช่วงเวลาสั้นๆที่เมษาพูดออกมาโดยไม่ได้มองหน้าใคร หากแต่คณิตก็รู้ดีว่าคำพูดเหล่านั้นคือสิ่งที่เพื่อนคนนี้ต้องการจะย้ำเตือนกับเขา



“ขอบใจ แต่กูเลือกแล้วว่ะ”



เมษายืนนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนใบหน้าที่เต็มไปด้วยความมั่นใจและหยิ่งผยองนั้นจะตั้งตรงแล้วเดินออกไปจากห้องโดยไม่ได้พูดอะไรอีก คณิตลอบถอนหายใจ อาการเหนื่อยเล็กๆที่เกิดขึ้นทำให้เขาเริ่มรู้สึกกลัวชายผู้เป็นพ่อที่ทำสีหน้าอ่านยากรอเขาอยู่ตรงนั้น...แต่มันคงถอยไม่ได้แล้ว



“พูดมาซะว่าแกมีเหตุผลอะไรถึงได้ทำตัวแบบนี้ นี่ถ้าเป็นแขกคนสำคัญที่ไม่ใช่เมษา เราจะเสียหายแค่ไหนแกรู้บ้างไหม”



“ขอโทษครับป๊า แต่ผมมีเรื่องสำคัญอยากจะพูด”



“งั้นก็ว่ามา ส่วนมันจะสำคัญพอไหมฉันจะเป็นคนตัดสินใจเอง”



บรรพตว่าแล้วเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ในขณะที่คณิตเกร็งจนไม่กล้าแม้แต่จะขยับ ให้ตายสิ ความรู้สึกแบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นมานานแล้วนะ ตั้งแต่มอหกได้มั้ง ตอนที่เขาเดินมาบอกกับพ่อว่าตัวเองสอบติดอักษรไม่ใช่บริหารอย่างที่ท่านต้องการ



“ป๊า...ไม่สิ พ่อครับ”



“...”



“ผมมีคนที่ผมรักแล้วนะ”



“...!!”



“ถึงจะไม่ใช่คนที่ดีพร้อม แต่เขาคือคนที่ทำให้ผมมีความสุข เขาคือคนที่ผมอยากอยู่ด้วยในทุกๆวันนับจากนี้ไม่ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม ถึงแม้มันจะไม่นานที่ผมกับเขาได้พบกัน แต่หลายๆสิ่งที่เราผ่านมันมาด้วยกันนั้นมันก็ทำให้ผมมั่นใจแล้วว่าผมจะไม่มีวันเปลี่ยนใจไปรักคนอื่น”



พอคณิตพูดสิ่งที่ตัวเองต้องการพูดออกไปจนหมดทำให้ทั้งห้องก็ตกอยู่ในความเงียบ เขามองใบหน้าของพ่อที่ไม่ได้แสดงความโกรธเกลียดหรือผิดหวังออกมา แต่ติดออกจะงงๆเสียด้วยซ้ำ



“ก็ดีแล้วนี่ อายุแกก็ขนาดนี้จะมีแฟนก็ไม่เห็นแปลกอะไร ส่วนเรื่องดีพร้อมไหมป๊าไม่ว่าแต่อย่างน้อยก็ลองพามาให้ม๊ากับอาม่าได้รู้จักกันก่อนที่จะไปติดต่อผู้ใหญ่ทางนั้นแล้วกัน”



คณิตยิ้มเศร้า...ก็ไม่แปลกหรอกถ้าป๊าจะเข้าใจว่าปูนเป็นผู้หญิง เพราะตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยเป็นในสิ่งที่ตัวเองกำลังเป็นอยู่ ความรู้สึกกลัวแล่นริ้วออกมาเกาะกุมหัวใจ คณิตอยากจะลุกขึ้นแล้วเดินหนี ทำเหมือนกับว่าไม่เคยมาที่นี่ ไม่เคยทำให้พ่อกับแม่เสียใจ...แต่คณิตก็ทำอย่างนั้นไม่ได้...เขาหลอกพ่อกับแม่ต่อไปไม่ได้ว่าหัวใจนี้ไม่ได้มีใครทั้งที่มันมี



“ป๊าครับ...”



“ว่าไง?”







“ปูน...คนที่ผมรักเขาไม่ใช่ผู้หญิง”





“...!!”





“ผมขอโทษนะครับป๊า ผมขอโทษจริงๆ แต่ว่าผมโกหกทุกคน...โกหกตัวเองต่อไปไม่ได้อีกแล้ว”



ออฟไลน์ vivacestory

  • Mare Mara
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-1
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #ตอนที่40][170659]
«ตอบ #437 เมื่อ17-06-2016 19:17:55 »


‘แล้วเป็นยังไงบ้างครับ หลังจากบอกกับทางบ้านไปแบบนั้นมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้างรึเปล่า’



‘อย่างแรกเลยก็คือสบายใจขึ้นครับ ผมรู้สึกดีที่ไม่ต้องทำตัวหลบๆซ่อนๆทั้งที่ไม่ได้ทำอะไรผิดอีกแล้ว แน่นอนว่าทางบ้านผมก็ยังต้องการเวลาแต่ผมก็เชื่อว่าสักวันพวกเขาจะเข้าใจและรับเรื่องของพวกเราได้’



‘แสดงว่าตอนนี้ยังไม่ยอมรับหรอครับ’



‘อืม...มันก็พูดยากนะครับ จะให้ออกมาสนับสนุนทุกทางมันก็ยังไม่ใช่ แต่ว่าพวกเขาก็อนุญาตให้ผมกับน้องได้พิสูจน์ตัวเองกันต่อไป แค่นั้นก็ดีมากแล้วครับ’



‘ฟังอย่างนี้แล้วรู้สึกอิจฉาคนที่คุณคณิตเรียกว่า ‘น้อง’ จริงๆเลยนะครับ ไม่อยากเชื่อก็ต้องเชื่อ ว่าเด็กผู้ชายที่รู้จักกันด้วยความบังเอิญจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงชีวิตของผู้ชายอย่างคุณได้’



‘ผมก็ผู้ชายธรรมดาเนี่ยแหละครับ แต่พูดตรงๆก็คิดไม่ถึงเหมือนกันว่าตัวเองจะได้รักใครสักคนแบบนี้’



‘ถ้าอย่างนั้นก็ถือว่าเรื่องครอบครัวโอเคแล้ว แต่เรื่องงานล่ะครับ คุณคณิตคิดว่าการที่คุณออกมาให้สัมภาษณ์แบบนี้มันจะมีผลกระทบอะไรต่อโรงแรม The Next บ้างรึเปล่า ได้ข่าวว่ากำลังจะเปิดสาขาใหม่ด้วย’



‘ผมก็คงปฏิเสธไม่ได้นะครับว่ามันจะไม่มีผลกระทบ แต่ว่าแรกเริ่มเดิมทีโรงแรมแห่งนี้คุณพ่อสร้างขึ้นมันมาก็เพื่อให้เป็นของขวัญกับคุณแม่ The Next จึงเป็นเหมือนกับตัวแทนความรักของท่านทั้งสอง ด้วยเจตนารมณ์นี้คุณพ่อกับผมก็ได้บริหารโรงแรมเรื่อยมาด้วยความรู้สึกที่ว่าอยากให้แขกทุกท่านที่ได้มาพักที่นี่มีความสุขและสบายใจเหมือนกับได้อยู่บ้านของตัวเองไม่ว่าเขาจะเป็นใครก็ตาม ดังนั้นการที่ผมมีคนรักเป็นเพศเดียวกันนั้นน่าจะเป็นเครื่องยืนยันได้ดีว่า ไม่ว่าคนเราจะเป็นยังไง เหมือนหรือแตกต่างกันแค่ไหน สุดท้ายทุกๆท่านก็จะได้รับความเอาใจใส่และความรักอย่างเท่าเทียมกันแน่นอนครับ’



‘คุณคณิตจะบอกว่าเพราะเรื่องของตัวเองจะมีส่วนทำให้แขกที่มาพักได้รับความสุขสะดวกสบายที่มากขึ้นหรอครับ’



‘ฮ่าๆ ต่อให้ไม่มีเรื่องนี้ทางเราก็ดูแลแขกทุกคนอย่างดีอยู่แล้วล่ะครับ แค่อยากให้มั่นใจขึ้นเท่านั้นเองว่าไม่ว่าผมจะเป็นยังไง ที่ The Next ก็พร้อมที่จะให้บริการทุกท่านด้วยความรู้สึกดีๆอย่างเดิมแน่นอน’



‘ได้ยินอย่างนี้แล้วทุกคนก็มั่นใจกันได้เลยนะครับ ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร โรงแรม The Next ก็พร้อมที่จะดูแลคุณแน่นอน สุดท้ายนี้คุณคณิตมีอะไรอยากจะบอกกับ ‘น้อง’ และท่านผู้อ่านหน่อยไหมครับ’



‘ครับ...สำหรับการออกมาบอกเล่าเรื่องราวความรักของผม มันคงจะสร้างความรู้สึกที่แตกต่างกันไปในแต่ละคนนะครับ มันแน่นอนอยู่แล้วที่จะมีทั้งคนที่ชอบไม่ชอบ หรือแม้แต่จะรู้สึกเฉยๆกับมัน แต่ไม่ว่าพวกคุณจะรู้สึกยังไง สิ่งหนึ่งที่ผมอยากบอกให้ทุกคนรู้ก็คือความรักไม่มีถูกผิด...ผมจะไม่บอกว่าความรักของผมกับน้องเป็นเรื่องถูกต้อง เพราะสิ่งที่ใช้ตัดสินเรานั้นไม่มีคำว่าถูกผิดมาตั้งแต่แรกแล้ว ผมคงไม่ออกมาเรียกร้องให้ทุกคนยอมรับและเข้าใจตัวตนของพวกผม ผมแค่ต้องการให้พวกคุณเฝ้าดูพวกเราต่อไปเรื่อยๆไม่ว่าสุดท้ายแล้วเรื่องราวมันจะจบลงที่ตรงไหนก็ตาม เป็นกำลังใจให้ด้วยนะครับ แล้วส่วนที่จะฝากถึงน้อง...’



“ปูน...พี่กำลังจะไปรับนะ”



กระดาษหนังสือพิมพ์แผ่นบางเปียกเป็นดวงๆเพราะหยดน้ำตาที่ไหลรินออกมาไม่ขาดสาย ปูนมองรูปของคณิตบนกระดาษแผ่นนั้น และรูปคู่ของพวกเขาที่ถูกถ่ายในวันที่เขากับร่างสูงช่วยกันลองทำอาหารเป็นครั้งแรก ปูนกอดมันไว้แนบอกราวกับว่าสิ่งที่ตัวเองกำลังไขว่คว้าอยู่นี้คือร่างกายของคณิตที่มีทั้งเลือดเนื้อและจิตใจ...คิดถึง คิดถึงเหลือเกิน ทำไมนะ ทำไมหัวใจถึงได้เต้นรัวแบบนี้



“พี่เขารักพี่ปูนมากเลยเนอะ”



ปิ่นที่นั่งอ่านทุกอย่างอยู่ข้างๆกันเอ่ยขึ้นมาพร้อมกับยิ้มให้พี่ชายที่เอาแต่ร้องไห้ไม่หยุด ถึงแม้จะอายุน้อยกว่าแต่หญิงสาวก็ส่งมือขึ้นไปลูบหัวของปูนเบาๆอย่างอ่อนโยนจนคนที่พยายามเข้มแข็งมานานต้องโผเข้าหาแล้วกอดเธอไว้



“พี่รักเขาปิ่น ฮึก พี่รักเขา”



“ปิ่นรู้แล้วน่า แถมอิจฉาด้วยนะรู้ไหม ฮ่าๆ”



ปูนคิดไม่ถึงว่าคณิตจะกล้าทำเพื่อเขามากถึงขนาดนี้ มันมากจนปูนไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะมีโอกาสได้รับมันจากใคร การออกมายอมรับความจริงแบบนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย อย่างที่คณิตบอกไม่ใช่ว่าทุกคนพร้อมจะเข้าใจในสิ่งที่พวกเขาเป็น แค่ลองคิดว่าร่างสูงต้องใช้ความกล้าแค่ไหนในการพูดมันออกไป...ความรักที่ปูนมอบให้กับคณิตก็เพิ่มมาขึ้นอีกเป็นเท่าตัว



“เขาบอกว่าจะมารับ แสดงว่าพี่ปูนหนีเขามาหรอ”



“พี่...”



“ไม่ได้นะไม่ได้ คนรักกันต้องอยู่ด้วยกันสิเข้าใจไหม เอ้า! เก็บของเลยดีกว่า เดี๋ยวปิ่นช่วย”



ไม่พูดเปล่า ปิ่นรีบไปหยิบกระเป๋าเป้ของปูนลงมาจากหลังตู้แล้วช่วยหยิบเสื้อผ้าบางชุดมาใส่ลงไปในนั้นโดยไม่ฟังความคิดเห็นของปูนแม้แต่น้อย แต่ว่าถึงจะเป็นอย่างนั้นปูนก็ไม่ได้เอ่ยปากห้ามเธอแต่อย่างใด อาจจะเป็นเพราะลึกๆแล้วเขาอยากจะไปจากที่นี่ก็ได้ อยากจะไปหา...ไปที่ที่คณิตอยู่



“เอาของไปแค่นิดเดียวก็พอเนอะ แล้วถ้าพี่ปูนอยากได้อะไรอีกปิ่นจะเอาไปให้ที่หลังนะ”



“ปิ่น...”



“แล้วก็นี่! ลืมไม่ได้เลยนะเอกสารเรื่องเรียนเนี่ย พี่ปูนต้องกลับไปเรียนหนังสือนะรู้ไหมจะเรียนอยู่ที่นู้นก็ได้เขาก็สอนดีเหมือนกัน แฟนพี่เขามีหน้ามีตา อย่าให้คนอื่นเขามาดูถูกได้นะว่าพี่ชายปิ่นเกาะทางนั้นกิน พี่ปูนต้องเรียนให้เยอะๆจบมาจะได้มีงานดีๆทำแล้วก็มีความสุขมากๆนะ”



ปูนมองน้องสาวที่พูดด้วยรอยยิ้มแต่น้ำตากลับไหลออกมาไม่หยุด เธอพร่ำบอกพี่ชายต่างสายเลือดให้ดูแลตัวเองมากๆ แม้ในวันนั้นเธอจะไม่ได้อยู่ด้วย



“พี่ปูนสัญญากับปิ่นได้ไหม ฮึก ว่าพี่จะมีความสุขกว่าตอนนี้ พี่ปูนสัญญานะ ฮึก ว่าพี่จะต้องมีความสุขมากกว่าตอนอยู่ที่นี่แล้วอย่าให้ใครมาทำร้ายพี่ได้อีก”



ปิ่นขอร้องในสิ่งที่เธอต้องการที่สุดก่อนจะดึงแขนเสื้อของปูนขึ้นจนเธอสามารถเห็นร่องรอยที่พ่อของตัวเองฝากเอาไว้บนตัวพี่ชายเป็นครั้งแรก ปูนพยายามขืนไม่ให้ปิ่นมองมัน แต่หญิงสาวก็เอาแต่ส่ายหน้าแล้วบอกว่าเธอไม่เป็นไร



“ปิ่นขอโทษนะที่ปกป้องพี่ปูนไม่ได้ แต่พี่ปูนอย่าโกรธพ่อเลยนะ...ปิ่นขอโทษแทนพ่อด้วย”



“ฮึก พี่ไม่โกรธหรอก พี่ไม่เป็นไร เพราะถ้าไม่มีคุณลุงพี่เองก็คงไม่มีวันนี้”



ปิ่นยิ้มออกมาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสุขแต่แววตากลับรู้ทัน



“ขอบคุณนะคะ...ที่ยอมโกหกเพื่อปิ่นจนนาทีสุดท้าย”



ปิ่นปาดน้ำตาออกจากใบหน้าของตัวเองและปูน ก่อนเธอจะออกแรงจูงพาพี่ชายลงมายังชั้นล่าง ปิ่นไม่เห็นพ่อแล้ว เห็นแต่แม่ที่กำลังจัดการกับขนมด้วยท่าทางไม่สนใจสิ่งใด แม้กระทั่งตอนที่ปูนและปิ่นเดินผ่านไปเธอก็ไม่คิดจะมอง



“พี่ปูนออกไปทางนี้นะ เดินไปแปปนึงแล้วไปโบกแท็กซี่เอา”



“เดี๋ยวปิ่น แน่ใจหรอว่าจะให้พี่ทำแบบนี้ ถ้าหากว่าพี่ไม่อยู่ ลุงอาจจะมาว่าปิ่นอีกก็ได้”



“ไม่เป็นไรหรอกพี่ปูน ถึงพ่อจะเป็นแบบนั้นเขาก็เป็นพ่อของปิ่นนะ และถึงจะว่าก็ไม่เป็นไร พี่ปูนปกป้องปิ่นมามากเกินไปแล้วล่ะ”



ได้ยินอย่างนั้นปูนก็ตกใจและมีเรื่องราวมากมายที่อยากจะถาม แต่ปิ่นกลับปิดโอกาสนั้นด้วยการโบกมือลาปูนแล้ววิ่งกลับไปที่บ้านโดยไม่ได้พูดอะไรอีก ปูนยืนกำสายสะพายของกระเป๋าแน่นแล้วมองไปยังบ้านที่เขาเติบโตมาภายใต้การเลี้ยงดูของคนที่ให้โอกาสเขามากที่สุดในชีวิต ถึงแม้สุดท้ายทุกอย่างจะถูกทำลายลงอย่างไม่เหลือชิ้นดีก็ตาม



“ขอบคุณนะครับ...แล้วก็ขอโทษด้วย”



ปูนเริ่มออกวิ่งโดยไม่คิดจะหันหลังกลับไปมอง เขามองถนนใหญ่เบื้องหน้าซึ่งเป็นจุดหมายแรกของอิสรภาพที่ต้องไขว่คว้าเอาไว้ให้ได้ น่าเสียดายที่ถนนตรงนี้ไม่ค่อยมีรถผ่านไปมาเลยทำให้กว่าปูนจะเห็นแท็กซี่ก็ปาไปเก็บสิบนาที ร่างเล็กรีบเดินไปชิดขอบถนน เขายกมือขึ้นหวังให้รถยนต์คันสีเขียวเหลืองนี่จอดแต่ก่อนที่มันจะเกิดขึ้น จู่ๆรถญี่ปุ่นคันคุ้นตาก็แทรกตัวเข้ามาจอดเทียบท่าแทน





“ขึ้นรถมาเดี๋ยวนี้ ถ้ามึงไม่อยากให้คนอื่นเดือดร้อน”




.

.

.

.

.

.



คณิตเดินถอนหายใจออกมาจากประตูบ้าน แน่นอนว่าทันทีที่หนังสือพิมพ์ฉบับนั้นวางแผง ทั้งแม่และอาม่าก็ต่างเข้าห้องของตัวเองแล้วล็อคประตูไม่ยอมให้คณิตได้เข้าไปพูดคุยเลยสักครั้ง แต่เขาก็เข้าใจดีว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายและมันคงจะไม่มีทางง่ายขึ้นกว่านี้ถ้าหากว่าเขายังไม่จัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย...คณิตต้องพาปูนกลับมาที่นี่ แล้วทำให้ทุกคนได้เขาใจว่าการตัดสินใจของเขานั้นไม่ใช่เรื่องผิด



“จะออกไปแล้วหรอคะเฮีย ไม่กินข้าวด้วยกันก่อนหรอ”



หน่อยเดินมาหาพี่ชายซึ่งกำลังทำหน้าซังกะตายก่อนที่เธอจะเอ่ยปากทัก แน่นอนว่าเธอรักและเป็นห่วงคณิตมาก แต่สำหรับเรื่องที่ร่างสูงตัดสินใจทำหน่อยเองก็ยังไม่อยากออกความเห็นใดๆ



“อืม เดี๋ยวเฮียจะเข้ากรุงเทพนะ จะไปจัดการเรื่องบางอย่างให้เรียบร้อย”



“เรื่องพาตัวปูนกลับมาหรอคะ”



“เรารู้??”



“ป๊าบอกมาน่ะค่ะ แถมบอกหน่อยอีกนะคะว่าถ้าหากไม่มีเรื่องการกักขังหน่วงเหนี่ยวนั่นป๊าไม่มีทางยอมให้เฮียไปสัมภาษณ์ลงหนังสือแน่ๆ”



คณิตยิ้มเจื่อนเมื่อได้ยินความจริงข้อนั้น แต่มันก็ถือว่าดีแล้วที่พ่อของเขานึกถึงสวัสดิภาพของปูนมากกว่าอะไร







‘ฉันยังไม่ยอมรับเรื่องของพวกแกหรอกนะ แต่ฉันขอสั่งว่าแกต้องไปช่วยเด็กคนนั้นให้ได้”







“นักเลงเก่าจริงๆนะป๊าเรา ยอมไม่ได้เลยไอ้เรื่องข่มเหงคนอื่นเนี่ย”



หน่อยว่าพลางขำออกมาน้อยๆ โดยเฉพาะเมื่อได้เห็นว่าความจริงแล้วพี่ชายของเธอก็ได้เชื้อนักเลงโตมาจากพ่อเหมือนกัน



“ช่วยน้องเขาให้ได้นะคะ ไม่ว่าจะมีเหตุผลอะไรการทำร้ายร่างกายคนอื่นก็ไม่ใช่เรื่องที่สมควรทำ แม้ว่านั่นจะเป็นคนในครอบครัวก็เถอะ”



“อืม ไม่ต้องห่วงนะ เฮียฝากหน่อยดูม๊ากับอาม่าด้วย เดี๋ยวถ้าเรื่องเรียบร้อยเมื่อไหร่ เฮียจะพาปูนมาพบพวกท่านอีกที”



“ค่ะๆ ปล่อยสองคนนั้นไว้เถอะ งอนเฮียได้ไม่นานหรอกเดี๋ยวก็หาย”



“ก็หวังว่านะ”



คณิตพูดออกมาแบบนั้นทั้งๆที่รู้ว่าความจริงมันคงไม่ง่าย เพราะนอกเหนือจากการเป็นลูกชายคนโต คณิตยังถูกหวังให้มีทายาทซึ่งหากเขาคบกับปูนเรื่องนั้นคงต้องพับโครงการไปชนิดไม่มีทางสานต่อ แต่ก็อย่างว่าต่อให้ไม่มีปูนเขาก็ไม่คิดจะมีลูกอยู่ดี



“ฮัลโหลไอ้นิล กูออกมาจากบ้านแล้วนะ มึงเตรียมตัวเลย”



ร่างสูงโทรไปหานิลที่ยังคงพักอยู่ที่บ้านของเขา และเพราะเรื่องครั้งนี้ทำให้คณิตรู้ซึ้งถึงน้ำใจของเพื่อนมากพอๆกับค่าน้ำค่าไฟที่เจ้านักเขียนนั่นมาอาศัยใช้จนมิตเตอร์ไหลเร็วยิ่งกว่าน้ำตกวังตะไคร้ซะอีก



“เออ มึงถึงแล้วค่อยโทรมาอีกทีแล้วกัน แค่นี้นะ กูแช่น้ำอยู่”



นิลวางสายไปดื้อๆ จนคณิตได้แต่บ่นอุบคนที่ไม่มีท่าทีรีบร้อนทั้งๆที่พวกเขานัดกับโต้งและขิงแล้วว่าจะเข้าไปเจอกันที่กรุงเทพตอนบ่ายนี้ ร่างสูงมองดูแผนที่บ้านของปูนที่ฤทธิชาติแฟกซ์มาให้ตั้งแต่เมื่อคืนซึ่งมันถูกยืนยันแล้วว่าปูนและครอบครัวอาศัยอยู่ที่นั่นอย่างแน่นอน



“รอพี่นะปูน วันนี้พี่จะไปรับเราแล้ว”



คณิตพูดกับคนที่ไม่ได้อยู่ตรงนี้ หากแต่เขารู้ว่าถ้าปูนได้อ่านบทสัมภาษณ์นั้นร่างเล็กจะต้องยอมกลับมากับเขาแน่ๆ แค่คิดถึงร่างสูงก็ยิ้มออกมาแล้วเลี้ยวรถเข้าไปเทียบจอดหน้าบ้านของตนที่มีนิลยืนหน้ามึนอยู่



“กูบอกแล้วไม่ใช่หรอว่าถ้าจะถึงให้โทรมาก่อน”



“จะโทรทำไม กูรู้นิสัยบ้าความตรงต่อเวลาของมึงดีหรอกน่า”



นิลจิ๊ปากอย่างขัดใจ ก่อนจะยัดตัวเองเข้ามาในรถซึ่งพุ่งทะยานออกไปแทบจะทันที โดยที่จุดหมายในครั้งนี้ก็คือที่ที่หัวใจของคนขับกำลังรออยู่



ตื๊ดๆ



ขับรถออกมาสักพัก เสียงโทรศัพท์ของนิลก็ดังขึ้น คนที่นั่งฟังเพลงไปบ่นไปได้ฤกษ์หุบปากแล้วหยิบมันขึ้นมา แต่แล้วจู่ๆสีหน้าของนิลก็เปลี่ยนไปเป็นมึนงงจนคณิตที่มองอยู่แปลกใจ



“เป็นอะไรวะ ทำไมไม่รับสาย”



“ไอ้กาลโทรมาว่ะ”



“...!!”



จริงอยู่ที่คณิตไม่ได้เคืองใจเรื่องปูนกับรัตติกาลแล้ว แต่การที่จู่ๆเพื่อนที่ซึ่งกำลังพักอยู่ในแดดไกลโทรมาทั้งๆที่ทางนั้นน่าจะอยู่ในเวลากำลังนอนคงไม่ใช่ปกติแน่นอน นิลมองสีหน้าแปลกใจระคนลำบากใจของคณิตแล้วลังเลว่าจะรับมันดีไหม บางทีไอ้กาลมันอาจจะเห็นข่าวของคณิตกับปูนแล้วโทรมา หรืออาจจะแค่มีธุระอย่างอื่นที่ไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้ก็ได้ แต่ในขณะที่เขากำลังสับสน คณิตก็ช่วยให้คำตอบ



“รับเถอะ เผื่อมันมีธุระกับมึง”



“แน่ใจนะ?”



“อืม ยังไงมันก็เพื่อนป่ะวะ ถึงกูจะโกรธไอ้กาลเรื่องที่มันทำไม่ดีกับปูน แต่ยังไงกูก็ตัดเพื่อนกับมันไม่ลงว่ะ”



คณิตพูดออกมาตามจริง โดยที่คนฟังก็รู้สึกพอใจกับคำตอบนั้น จนนิลอดที่จะลองคิดมุมกลับไม่ได้ว่าถ้าหากคนที่กำลังเผชิญกับสถานการณ์ชวนลำบากใจแบบนี้คือรัตติกาล หมอนั่นคงพยายามสับคณิตเป็นชิ้นๆแน่



“ฮัลโหล มีอะไรวะ”



“นิล มึงอยู่กับไอ้นิดรึเปล่า”



“เอออยู่ กูบอกไว้ก่อนเลยนะว่าถ้ามึงจะโทรมาวีนมันเรื่องเด็กปูนช่วยโทรมาตอนอื่นเพราะกูขี้เกียจรับรู้ด้วย แต่ไม่ต้องห่วงกูมีบริการโทรไปฟ้องไอ้รัณย์ให้ฟรีๆชนิดที่ว่ามึงไม่ต้องคอยรายงานผัวมึงเองเลย”



นิลจัดการปิดประตูโต้เถียงของรัตติกาลทุกทาง โดยมีคณิตนั่งหัวเราะอยู่ข้างๆ แต่เขาเห็นนะ...ว่ามันแอบแสยะยิ้มด้วย



“เฮ้อ มึงเลิกเพ้อเจ้อแล้วส่งโทรศัพท์ให้ไอ้นิดซะ กูมีธุระ”



“ธุระ? ธุระอะไร?”



นิลหยุดฟังปลายสายพูดไปสักครู่แล้วก็เกิดอาการสีหน้าเปลี่ยนอีกครั้ง จากที่เคยพูดหยอกเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียดเสียจนคณิตรู้สึกว่าอากาศในรถมันเย็นขึ้นกว่าเก่า เขาได้ยินเสียงนิลรับคำคนปลายสายอยู่สองสามประโยคก่อนที่โทรศัพท์ในมือของนิลนั้นจะถูกส่งผ่านมาให้



“ไอ้กาลมีเรื่องจะคุยด้วย”



“เรื่องอะไร?”



“คุยกับมันเอง แล้วเอาโทรศัพท์มึงมานี่ กูจะใช้โทรหาชาติหน่อย”



นิลหยิบมือถือของคณิตที่วางไว้หน้าคอนโซนรถมากดเบอร์โทรศัพท์ของคนรักที่น่าจะยังทำงานอยู่ที่โรงพัก คณิตที่เห็นท่าทางที่เปลี่ยนไปของนิลก็รู้สึกไม่สบายใจและสังหรณ์ใจขึ้นมาอย่างประหลาด แต่สิ่งที่เขาทำได้ดีที่สุดตอนนี้คือขับรถต่อไปพร้อมกับรับสายรัตติกาลไปด้วย



“กูเองกาล มีอะไรรึเปล่า”



“ปูนถูกพาตัวไปแล้ว มึงต้องไปช่วยปูนเดี๋ยวนี้”



“มะ มึงว่าอะไรนะ!”






แล้วแสงแห่งความหวังในใจของคณิตก็ถูกดับไปในเสี้ยววินาที





-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

คุยกับเช่!!

แล้วพี่กาลก็โผล่มา....แต่เสียง 55555555555 ค่าตัวแพ๊งแพงงงงงงงงง

ก่อนอื่นขอตอบคำถามที่หลายคนถามมาเยอะเลยนะคับคือลุงได้ขืนใจปูนไหม คำตอบคือ ไม่ได้ทำนะคับมีแค่ทำร้ายร่างกายเฉยๆ อย่าได้ดาร์กไปกว่านี้เลยชีวิต  :hao5:

อีก3ตอนก็จบแล้วนะครัช! คิดว่าอาจจะจบค้างในความรู้สึกใครหลายๆคน แต่สไตล์เดียวกับพี่กาลคับ คือจะมีตอนพิเศษที่เป็นลักษณะของตอนเสริมมาช่วยไขความไม่เข้าใจและจัดการปมต่างๆให้สมบูรณ์มากขึ้น เรื่องของป๋าปูนไม่ได้ซับซ้อนเท่าเรื่องพี่กาล แต่ปมมันมีหลายมุมจากหลายๆตัวละครซึ่งค่อนข้างกระจายบทได้ยากพอสมควรคับ รู้จุดด้อยตัวเองเลย แต่ยังไงก็จะพยายามทำมันออกมาให้ดีที่สุดนะคับ



ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #ตอนที่40][170659]
«ตอบ #438 เมื่อ17-06-2016 20:09:25 »

คนที่ปูนคุยด้วยคือพี่กาลสิน่ะ  โอ้ยยย..เรื่องมันช่างซับซ้อนนนนน

รีบไปช่วยน้องเร็วเข้า!!

ออฟไลน์ farfarneenee

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 365
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #ตอนที่40][170659]
«ตอบ #439 เมื่อ17-06-2016 21:31:52 »

อะไรยังไง!!!!! ไปช่วยปูนเร็วววววว  :katai1: :katai1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #ตอนที่40][170659]
« ตอบ #439 เมื่อ: 17-06-2016 21:31:52 »





ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #ตอนที่40][170659]
«ตอบ #440 เมื่อ17-06-2016 21:58:01 »

 :katai5: :katai5: :katai5: :katai5:

รีบด่วนเลยคุณนิด น้องตกอยู่ในอันตราย

ออฟไลน์ mass

  • "Smile! It increases your face value." -Steel Magnolias (1989)
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 58
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #ตอนที่40][170659]
«ตอบ #441 เมื่อ17-06-2016 22:14:19 »

ป๋าๆๆ ป๋าต้องรีบช่วยปูนนะ

ออฟไลน์ Inwoสูs

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1214
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #ตอนที่40][170659]
«ตอบ #442 เมื่อ17-06-2016 22:34:34 »

เอ้า รีบเลยป๋า  น้องจะแย่แล้ว

ออฟไลน์ mur@s@ki

  • อยากรัก..แต่ใจไม่กล้า
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1899
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-5
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #ตอนที่40][170659]
«ตอบ #443 เมื่อ17-06-2016 23:18:32 »

อิลุงนี่ยังไง ไม่ไปทำงานทำการบ้างเรอะ  :fire:

ออฟไลน์ kdds

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #ตอนที่40][170659]
«ตอบ #444 เมื่อ17-06-2016 23:25:29 »

ทำไมกาลรู้ล่ะว่าปูนโดนจับตัวไปแล้ว

ออฟไลน์ ZYSQ_

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 226
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #ตอนที่40][170659]
«ตอบ #445 เมื่อ17-06-2016 23:50:26 »


ตอนแรกเราก็คิดนะว่าจะไปอ่านไนท์แมร์ด้วย เพราะเห็นว่ามีปูนไปเอี่ยวนิดหน่อย แบบว่าถ้าไปอ่านเรื่องนั้นด้วยล่ะก็ มันอาจทำให้เรารู้อะไรเกี่ยวกับตัวละครในนิยายเรื่องนี้มากขึ้น แต่พอมาตอนนี้... รู้สึกว่าคงทำใจอ่านเรื่องนั้นไม่ไหวซะละ5555555555 ก็นะ ลองคิดดูว่าแค่นี้เราก็คันไม้คันมือ อยากกระโดดตบอิกาลเสียเต็มที่แล้ว คือก็ไม่ได้ถึงกับเกลียดชังสาปแช่งอะไรหรอกนะ แต่ก็มีความรู้สึกค่อนข้างติดลบอยู่ กลัวว่าถ้าต้องไปอ่านเรื่องนู้นที่พี่มันโผล่มาเต็มๆบทเต็มๆเรื่อง แทนที่จะทำใจรักและสงสารพี่มันได้ลง(เพราะเรื่องนู้นก็คงดราม่าพอตัว) มีหวังเราคงได้สบถคำหยาบทั้งเรื่องซะมากกว่า

ออฟไลน์ Toho48

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 46
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #ตอนที่40][170659]
«ตอบ #446 เมื่อ18-06-2016 11:00:02 »

Happy แต่ก็ยังมีความหน่วงนะ
ตแนป๋าบอกพ่อนี่เกร็งแทนมาก เข้าใจเลยว่าพูดลำบาก

ออฟไลน์ КίmY

  • BJYX♥
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-3
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #ตอนที่40][170659]
«ตอบ #447 เมื่อ18-06-2016 14:22:52 »

เดี๋ยว!!!! มันผู้นั้นใช่เมษารึป่าววว   :z3:

ออฟไลน์ colorofthewind21

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #ตอนที่40][170659]
«ตอบ #448 เมื่อ18-06-2016 14:41:19 »

ปูน  เมื่อไหร่จะได้มีความสุขสักที เจอเรื่องร้ายๆไม่หยุดไม่หย่อน
คณิตรีบไปช่วยปูนเร็ว

ออฟไลน์ kanomjeeb

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 101
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: - - - ใจแตก (Broken man) - - - [Up #ตอนที่40][170659]
«ตอบ #449 เมื่อ23-06-2016 10:06:04 »

อ่านบทสัมภาษณ์ป๋าอล้วน้ำตาไหลเลยจ้า

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด