• Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • END l หนังสือ #พี่กายหลงฝน l P.12
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • END l หนังสือ #พี่กายหลงฝน l P.12  (อ่าน 190786 ครั้ง)

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8

ออฟไลน์ thanza1970

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 533
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
แย่แน่ๆ รุกหนักขนาดนี้

 :o8: :-[ :impress2:

 :o8: :-[ :impress2:

ออฟไลน์ fangiily

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +741/-12

แต่หน้าตาพี่เรนตอนทำตาวาวๆ เหมือนเคืองผมตอนนั้นก็โคตรน่ารักอ่ะ เลยจับมาฟัดแก้มไปที อิอิ
Kamin
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #น้องกายหลงฝน ด้วยนะคะ





โชคครั้งที่ • 17 •
 





น้องกาย
 



“แฟน~ แฟนครับ แฟนคร้าบ”



ผมเรียกคนที่ก้มหน้าก้มตาไม่สนใจโลกภายนอก ยื่นมือไปจิ้มแขนอีกคนด้วยเบาๆ



“หะ... หืม อะไรเหรอ” แฟนผมเงยหน้าขึ้นมามองอย่างงงๆ แว่นตาอันโตหล่นมาอยู่ปลายจมูก น่ารักชะมัด!!



“เปล่าครับ อยากเรียกแฟนเฉยๆ คิดถึงอยากได้ยินเสียง” ผมตอบพร้อมกับยิ้มหวานไปให้



แฟนผมยิ้มเขินๆ ตอบกลับมาก่อนจะก้มหน้าลงไปทำงานต่อ



แฟนผมนี่น่ารักจริงๆ!



อ่ะๆ อย่ามองผมด้วยสายตาขุ่นเคืองเช่นนั้น ผมไม่ได้นอกใจพี่เรนแล้วมีแฟนใหม่นะครับ แฟนสุดที่รักของผมคนนี้ก็คือพี่เรนนี่แหละ อิอิ



น้องกายมีความสุขสุดๆ ไปเลย อะคึอะคึ



วันนั้น... วันที่ผมขอพี่เรนเป็นแฟนที่ห้องของผม หลังจากคุยกันผมก็ไม่ได้เร่งรัดเอาคำตอบอะไร พี่เรนก็ไม่ได้พูดอะไร ผมเลยเปลี่ยนเรื่องคุยชวนพี่เรนดูงานถ่ายภาพของผมแล้วก็เล่นกับหมีกันจนกระทั่งถึงตอนเย็น เพราะฝนหลงฤดูทำท่าจะตกผมเลยตั้งใจจะไปส่งพี่เรนที่หอ



ตอนที่พี่เรนยืนรอผมอยู่หน้าประตูห้องอยู่ๆ พี่เขาก็พูดขึ้นมา



‘ตกลงนะ’



ไอ้ผมก็งงเป็นไก่ตาแตกเลยครับว่าอะไร อยู่ๆ ก็พูดตกลงออกมา ไม่มีประธาน ไม่มีกรรม ไม่มีรูปประโยคใดๆ ทั้งสิ้น



‘ตกลง... อะไรเหรอครับ’



‘ตกลง เราเป็นแฟนกัน!’




พูดจบพี่เรนก็กอดหมีเอาไว้แล้ววิ่งดุ๊กๆ หนีไปเลย ส่วนผมก็กำลังอึ้งครับ อึ้งแดก ใช้เวลาเกือบๆ ห้านาทีในการประมวลผลคำพูดของพี่เรน พอสมองทำงานครบถ้วนสมบูรณ์เท่านั้นแหละครับไอ้กายแทบจะไปนอนโรงพยาบาลเพราะร้องลั่นด้วยความดีใจจนเพื่อนห้องข้างๆ แทบจะออกมากระทืบเพราะทำเสียงดัง



แต่ทำไงได้อ่ะครับ คนมันดีใจนี่น่า



และตอนนี้... ไอ้กายคนเดิม เพิ่มเติมมีแฟนแล้ว แฟนน่ารักด้วย! ไม่อยากจะอวด ไม่อยากจะอวด!



วันนี้วันเสาร์ ผมคบกับพี่เรนมาจะครบหนึ่งอาทิตย์แล้วละครับ ที่จริงอยากจะพาแฟนไปเดทแต่อาทิตย์หน้าพี่เรนมีส่งโมเดลผมก็เลยมาสิงอยู่ห้องแฟนแทน เอาหนังสือเรียนมาอ่านไปด้วยเพราะอีกไม่นานก็จะสอบไฟนอลกันแล้ว



พูดถึงสอบไฟนอล... พอหลังสอบเสร็จก็มีจัดนิทรรศการ... นิทรรศ... เหี้ย!!!



ผมยังไม่มีรูปไปจัดนิทรรศการเลยครับ ยังไม่ได้คุยกับแฟนเรื่องเป็นแบบเลยด้วย



ผมหันไปมองแฟนที่กำลังประกอบโมเดลอย่างตั้งใจแล้วก็ไม่อยากจะกวนเวลา เอาไว้ตอนกลางวันค่อยอ้อนก็ได้ ยังไงพี่เรนก็ยอมอยู่แล้วล่ะเนอะ!



ที่จริงก็อยากจะเข้าไปช่วยแฟนประกอบโมเดลนะ เคยช่วยด้วย แต่ผมประกอบโซฟาของพี่เรนจนกลายเป็นเตียงนอน ประกอบเตียงนอนเป็นตู้ แล้วก็บิดๆ เบี้ยวๆ หลังจากนั้นพี่เรนก็ไม่ให้ผมแตะต้องโมเดลอีกเลย



แต่หน้าตาพี่เรนตอนทำตาวาวๆ เหมือนเคืองผมตอนนั้นก็โคตรน่ารักอ่ะ เลยจับมาฟัดแก้มไปที อิอิ



เป็นแฟนแล้ว ฟัดได้แล้วด้วย นี่ไม่ได้อวดนะ แต่แก้มพี่เรนอย่างนิ่ม หอมด้วย อิอิ



พอฟัดเสร็จแก้มขาวๆ ก็แดงก่ำ โอ๊ย!! ยิ่งโคตรจะน่ารักเลยละครับ นี่ไม่ได้หลงแฟนเลยนะ ไม่หลงเลยจริงๆ เชื่อผมสิ



“อ่า... เสร็จแล้ว...” แฟนผมพูดก่อนจะเงยหน้าขึ้นจากโมเดลที่วุ่นวายมาตั้งแต่เช้า พี่เรนดันโมเดลที่เสร็จสมบูรณ์แล้วขยับออกห่างจากตัว แล้วก็ฟุบหน้าลงกับโต๊ะ ดวงตากลมโตใต้แว่นสายตาอันใหญ่โตนั้นฉายแววเหนื่อยล้าเพราะโหมทำงานมาหลายวัน



“หิวหรือยังครับ” ผมถาม ขยับไปนั่งข้างๆ



พี่เรนพยักหน้าหงึกหงักทั้งๆ ที่ยังฟุบหน้าอยู่แบบนั้น ผมจุกน้ำพุที่มัดเอาไว้ไม่ให้ผมปรกหน้าปรกตาตอนตัดโมเดลขยับตามดูแล้วน่ารักน่าฟัดสุดๆ เลยละครับ



“อยากกินอะไรครับ”



“อะไรก็ได้...” พี่เรนตอบเสียงยานคาน คงจะเหนื่อยน่าดู



ผมหัวเราะก่อนจะดึงพี่เขาให้นั่งดีๆ แก้มขาวๆ มีเศษกระดาษติดเต็มไปหมดเพราะฟุบไปเมื่อกี้ ผมเลยยื่นมือไปจะเกลี่ยกระดาษออกให้



“อยู่นิ่งๆ ก่อนครับ กระดาษติดเต็มแก้มไปหมดแล้วเนี่ย” ผมดุหน่อยๆ เมื่อพี่เรนขยับตัวยุกยิกไม่ยอมอยู่นิ่งๆ



แฟนผมทำหน้าอูมใส่แต่ก็ยอมอยู่นิ่งๆ ให้ผมเกลี่ยกระดาษออก พอหมดหน้าแฟนผมก็กลับมาใสน่ารักตามเดิม อดใจไม่ไหวเลยยื่นหน้าไปหอมแก้มขาวสักที



พี่เรนยกมือกุมแก้มเอาไว้ เม้มปากมองผมอย่างเคืองๆ ที่โดนผมเอาเปรียบ



“น่ารักว่ะ พี่เรนโคตรน่ารักเลย” ดึงมากอดแน่นๆ สักทีแล้วก็ปล่อยออก “ไปครับ ไปหาอะไรกินกันดีกว่าเนอะ”



เนื่องจากพี่เรนทำงานเสร็จแล้ว และก็ไม่มีงานอื่นแล้วผมเลยพาพี่เรนไปห้างใกล้ๆ กับมหา’ลัย เพื่อหาอะไรกินกันอีกอย่างก็เป็นการพาพี่เรนมาผ่อนคลายหลังจากทำงานหนักด้วยละครับ



แล้วก็นะ... ผลพลอยได้อีกอย่างก็คือ... ได้มาเดทกับแฟนสุดที่รักของผมเองนั่นแหละครับ



เอาจริงๆ ก็ยังนึกแปลกใจว่าทำไมพี่เรนถึงตอบตกลงคบกับผม ดูก็รู้ครับว่าพี่เรนอาจจะยังไม่ได้รักผมขนาดนั้น แต่ก็คงหวั่นไหวกับผมอยู่ไม่น้อย แต่ก็เอาเถอะครับ ผมสนไหมละ ก็ไม่สนยังไงละครับ ผมสนใจแค่ว่า ตอนนี้พี่เรนเป็นแฟนผม และผมเป็นแฟนพี่เรนก็เท่านั้นแหละ



ถึงพี่เรนจะยังไม่รักผม แต่อย่างน้อยก็ยอมคบกับผม ถ้าไม่รัก ผมก็จะทำให้รักเอง แล้วก็จะเอาให้รักผมจนไม่สามารถทิ้งผมไปไหนได้เลยด้วย อิอิ



ผมเลี้ยวรถเข้าไปจอดในลานจอดรถของห้างก่อนที่จะจูงมือพี่เรนเข้าไปในห้างหลังจากจัดการล็อครถเอาไว้เรียบร้อยแล้ว ก่อนอื่น... ก็ต้องไปหาอะไรกินกันก่อนเพราะนี่ก็บ่ายโมงกว่าแล้วละครับ



“อยากกินอะไรครับ อาหารญี่ปุ่นไหม ข้าวแกงกะหรี่” ผมหันไปถาม พี่เรนชอบอาหารญี่ปุ่นครับ โดยเฉพาะข้าวแกงกะหรี่ครับ



พอผมเสนอเมนูไปแบบนั้นพี่เรนก็พยักหน้ารับหงึกงักทันที ผมเลยพาพี่เรนไปที่ร้านขายข้าวแกงกะหรี่จากญี่ปุ่นทันที คนไม่เยอะครับเพราะเป็นวันธรรมดาแล้วก็ไม่ใช่เวลาเที่ยงด้วย เราเลยได้ที่นั่งกันทันทีที่เดินไปถึงร้าน



ผมเลือกที่นั่งแบบโต๊ะกลมที่อยู่มุมร้านด้านใน ดันพี่เรนให้เข้าไปนั่งก่อน ส่วนตัวเองก็นั่งต่อทีหลัง รับเมนูจากพนักงานมาส่งให้พี่เรนไปเปิดดู ผมสั่งข้าวแกงกะหรี่หน้าไข่เพิ่มท็อปปิ้งเป็นไก่ชุบเกล็ดขนมปัง ส่วนพี่เรนก็สั่งข้าวแกงกะหรี่หน้าไก่ย่างไป โค้กอีกคนละแก้ว



“พี่มีส่งงานอะไรอีกหรือเปล่าครับเนี่ย” ผมถาม ชวนพี่เรนคุย พอเป็นแฟนกันแล้วเหมือนแฟนผมจะขี้อายกว่าเดิมนะ



“ไม่มีแล้วล่ะ เหลือแต่พรีเซนต์อย่างเดียว แล้วก็รอสอบไฟนอลตามตารางนั่นแหละ”



“อย่างนั้นอาทิตย์หน้าหลังวันพุธพี่เรนก็ว่างน่ะสิ ใช่ไหมครับ” ผมถามอีกรอบ จำได้ว่าพี่เรนเคยบอกเอาไว้ว่าพรีเซนต์ตัวสุดท้ายคือวันพุธ แล้วคณะพี่เรนเขาก็ไม่มีการสอนแล้วละครับ แต่ถ้าลงวิชานอกคณะก็ยังมีเรียนตามปกติอีกประมาณสองอาทิตย์



ส่วนสอบไฟนอลตามตารางก็อีกประมาณสามอาทิตย์จากนี้ ส่วนไฟนอลโปรเจคของผมก็จะเหลืออีกสองอาทิตย์ เราจะจัดนิทรรศการกันก่อนสอบไฟนอลตามตารางครับ



พี่เรนพยักหน้ารับ พร้อมกับอ้าปากงับหลอดดูดน้ำโค้กไปด้วย “ว่างแล้ว เหลือเรียนพวกวิชานอกแค่นั้นแหละ แต่มีแค่สองวิชาเอง”



ผมท้าวคางเอียงคอมองพี่เรนที่นั่งดูดน้ำอยู่ พี่เรนชอบดูดน้ำเข้าไปจนแก้มป่องแล้วค่อยกลืน น่ารักดีครับเหมือนหนูแฮมเตอร์ตอนอมอาหารไว้ในปากเลย



ยื่นนิ้วไปจิ้มแก้มป่องๆ นั้นซะเลย มันเขี้ยวอยากกัด “พี่เรน จำที่ผมเคยบอกได้ไหม ว่าผมมีโปรเจคจัดนิทรรศการตอนไฟนอลล่ะ”



“จำได้ มีอะไรเหรอ” ตาแป๋วๆ มองมาที่ผม



“ผมมีเรื่องอยากให้พี่เรนช่วย ที่ผมเคยบอกไง... ผมอยากให้พี่เรนมาเป็นแบบให้ผมหน่อย ได้ไหม” ผมทำหน้าอ้อน ไม่รู้ว่าจะอ้อนใจหรืออ้อนตีนนะครับ ไม่เคยส่องกระจกด้วยว่าหน้าตาเป็นแบบไหน



พี่เรนทำตาปริบๆ ไม่รู้ว่าเพราะผมทำหน้าอ้อนได้แย่มาก หรือว่ากำลังคิดถึงคำขอร้องของผมอยู่กันแน่ ผมขยับไปกอดแขนพี่เรนเอาไว้ “นะพี่เรนนะ ช่วยเป็นนายแบบให้ผมหน่อยนะ นะแฟนนะ นะครับ”



“พี่ไปเป็นแบบให้... น่าจะทำให้งานของกายเละมากกว่านะ”



ผมส่ายหน้าทันทีที่ได้ยินพี่เรนพูด “ไม่หรอกครับ เชื่อผมสิ เป็นแบบให้ผมนะ”



ถึงพี่เรนจะยอมให้ผมถ่ายรูปบ่อยๆ เวลาออกไปเที่ยว หรือแม้แต่ตอนผมชวนไปถ่ายรูปเล่น แต่นั่นก็เพราะว่าพี่เรนไม่ต้องเก๊ก หรือทำท่าทางอะไร อีกอย่างผมก็มักจะถ่ายทีเผลอของพี่เรนด้วย พี่เรนเลยไม่ว่าอะไร แต่พอขอให้มาเป็นแบบให้ ก็ยังคงไม่ยอมอยู่สินะ



“ทำไมต้องเป็นพี่ด้วยล่ะ คนอื่นหน้าตาหล่อๆ สวยๆ มีตั้งเยอะตั้งแยะนี่นา”



ก็จริงอย่างพี่ที่เรนพูดครับ คนสวยๆ หล่อๆ กว่าพี่เรนมีเยอะ แต่ว่า... “คนอย่างพี่เรนมีแค่คนเดียวนี่ครับ”



พี่เรนทำหน้างง แต่เห็นแก้มแดงอ่ะ แฟนผมนี่เขินง่ายจริงๆ เลย



“ตอนที่ผมได้ยินคำสั่งของอาจารย์ ตอนที่กำลังคิดหัวข้อ ผมก็คิดถึงพี่เรนคนแรกเลย พี่เรนเป็นคนเดียวที่เหมาะกับคอนเซ็ปที่ผมคิดนะ”



“แต่พี่ไม่เคยทำอะไรแบบนี้ พี่กลัวจะทำให้กายลำบากมากกว่าได้งานนะ” แฟนผมยังคงทำหน้าเครียด โถ่... นี่เป็นห่วงผมมากขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย จับมาหอมแก้มได้ไหมอ่ะครับ



อ๋อ... ไม่ได้สิเนอะ อยู่ในที่สาธารณะเนอะ ทำแบบนั้นไม่ได้ เอาไว้กับสู่รโหฐานก่อนเถอะ น้องกายจะจับมาหอมแก้มให้ช้ำเลยคอยดู!



“เป็นแบบให้ผมไม่ยากหรอกครับ แค่เป็นตัวของตัวเองก็พอ แค่เป็นอย่างที่พี่เรนเป็นแค่นั้นแหละครับ นะ... เป็นแบบให้ผมนะ” ผมเริ่มอ้อนอีกรอบ ไม่สนพนักงานที่ยกข้าวแกงกะหรี่มาเสิร์ฟ “ถ้าพี่เรนไม่ช่วยผม... ผมต้องติดเอฟ แล้วก็ต้องเรียนซ้ำอีกปี จบไม่พร้อมเพื่อนด้วย”



“ย อย่างนั้น... คอนเซ็ปที่กายว่าคือ อ อะไรเหรอ” พี่เรนไม่ได้เขินที่ผมอ้อนหรอกครับ แต่คงเขิน อายกับสายตาของพนักงานเสิร์ฟมากกว่า ดูสิ แก้มแดงก่ำเลยอ่ะ



เห็นแล้วก็อยากฟัด ยื่นมือไปบีบแก้มแดงเบาๆ พี่เรนพูดแบบนี้ก็แสดงว่าใกล้จะตอบตกลงเป็นแบบให้ผมแล้วแน่นอน ก็แฟนผมน่ะใจดีจะตายไปครับ ไม่ใจร้ายกับผมหรอก



“คอนเซ็ปของผมคือเรนครับ” พี่เรนทำหน้าแปลกใจตอนได้ยิน ผมยิ้มแล้วก็อธิบายต่อ “ถ้าให้เข้าใจง่ายๆ คอนเซ็ปของผมคือพี่ครับ พี่เรน”



“ผมเชื่อว่าคนหลายคนชอบตีความหมายของฝนเป็นความเศร้า ความเหงา เมื่อก่อนผมก็เคยคิดแบบนั้นเหมือนกัน แต่ความคิดของผมก็เปลี่ยนไปตอนที่ผมได้เจอคนคนหนึ่ง” ผมอธิบายความหมายเพิ่มเติม โดยไม่ได้ละสายตาไปจากพี่เรน “เขาคือความอบอุ่น คือความสุขท่ามกลางสายฝน และนั่นก็ทำให้ความคิดของผมที่มีต่อฝนเปลี่ยนไป ผมเลยอยากนำเสนอความคิดของผมออกมาผ่านรูปภาพ”



“และเพราะพี่เรน คือคนคนนั้น คนที่ทำให้ผมเปลี่ยนทัศนคติ ผมถึงได้บอกว่าพี่เรนเป็นคนเดียวที่เหมาะกับคอนเซ็ปนี้”



หน้าแฟนผมตอนนี้แดงกว่าเดิมอีกครับ ก็นะ... คำพูดของผมก็ไม่ต่างจากคำสารภาพรักยาวๆ เลยนี่ครับ พี่เรนจะเขิน จะหน้าแดงก็ไม่แปลกจริงไหม



“เพราะอย่างนั้น... พี่เรนมาเป็นแบบให้ผมเถอะนะ นะครับนะ”



พี่เรนยังคงทำหน้าไม่แน่ใจ “เชื่อผมนะครับ พี่เรนจะไม่ทำให้งานของผมเสียแน่นอน”



พอผมยืนยันไปแบบนั้นสีหน้าพี่เรนก็เริ่มเปลี่ยนไป แต่ก็ยังคงแฝงไปด้วยความไม่มั่นใจอยู่ดี แต่งานนี้ไม่ว่ายังไง... นายแบบของผมก็ต้องเป็นพี่เรนเท่านั้นแหละครับ ถ้าไม่ใช่งานของผมก็คงไม่มีทางออกมาสมบูรณ์แน่นอน



“แต่ถ้าพี่เรนลำบากใจก็ไม่เป็นอะไรครับ... เอาไว้ปีหน้าผมคิดคอนเซ็ปใหม่ก็ได้”



พี่เรนตาโตทันทีที่ผมพูด “ท ทำไมอย่างนั้นล่ะ ก กายลองให้คนอื่นมาเป็นแบบดูดีไหม”



ผมส่ายหน้ากับคำแนะนำของพี่เรน “ไม่ครับ คอนเซ็ปนี้เป็นของพี่เรน ถ้าเป็นคนอื่นมาก็ไม่มีทางออกมาดี ออกมาสมบูรณ์แน่นอน สู่ดรอปเอาไว้แล้วไปทำใหม่ปีหน้าดีกว่าดันทุรังทำออกมาแล้วเกรดไม่ได้ดี”



พี่เรนเม้มปาก ช้อนตามองผมอย่างลังเล “ต้องพี่... คนเดียวเหรอ”



“ครับ ต้องพี่เรนคนเดียว คนเดียวเท่านั้น คนอื่นไม่มีทางมาแทนได้”



“ถ้า... ต่อให้เป็นพี่แล้วเกรดของกายออกมาไม่ดีล่ะ”



“ผมเชื่อ และผมมั่นใจว่าไม่มีทางเป็นแบบนั้นแน่นอน หรือถ้าเป็นแบบนั้น ผมไม่มีทางโกรธหรือโทษพี่เรนครับ เพราะผมเป็นคนเลือกนายแบบเอง ผมจะโทษนายแบบของผมไม่ได้ ถ้าจะโทษก็ต้องโทษที่ผมไม่มีฝีมือเอง”



“ได้เกรดน้อยมา... พี่ไม่รู้ด้วยนะ” พี่เรนพึมพำเสียงเบา แต่ผมก็ยังได้ยิน



พอได้ยินคำตอบตกลงของพี่เรนผมก็ยิ้มกว้างออกมาทันที อยากจะดึงพี่เรนมากอดแน่นๆ สักทีแต่ก็ต้องอดใจเอาไว้ เก็บไปทบต้นทบดอกตอนอยู่ในห้องแล้วกันนะ



“ขอบคุณนะครับ พี่เรนของผมนี่น่ารักที่สุด!”



แล้วคนน่ารักของผมก็เขินแก้มแดงใหญ่เลยครับ ฮ่าๆๆ






************************************************
มาแล้วค่าาาา มาพร้อมกับความกรีดร้องและความหมั่นในตัวพระเอก นางไม่นกนาจา...

นางได้พี่เรนเป็นแฟน แถมอวดแล้วอวดอีก หมั่นจริงอะไรจริงผู้ชายคนนี้ ฮ่าาาาาาาา

แต่น้องกายก็น่าอิจฉาเนอะ ได้พี่เรนเป็นแฟนแล้วอ่ะ แถมพี่เรนน่ารักมากด้วย อยากจะเป็นน้องกายเลย อยากกอด อยากฟัด อยากหอมพี่เรนบ้าง ฮึ่ม!!   อิจฉาเจ้ากายเสียจริงๆ เลยค่ะ

ยังไงก็อย่าลืมติดตามกันต่อไปนะคะ

อ่านแล้วอย่าลืมให้กำลังใจคนแต่งนะคะ จะได้มีกำลังใจแต่งนิยายให้อ่านกันค่ะ อย่าเงียบนะคะใจคอไม่ดีเลยค่ะ คอมเมนต์คือกำลังใจของคนเขียนนะคะ ^^

สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi

สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC

เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)

รักน้องกายพี่เรนกันเยอะๆ นะคะ กดเฟบ กดเมนต์ กดโหวด กดแชร์ แล้วแต่สะดวกเลยน๊า คนละนิดคนละหน่อยเป็นกำลังใจให้น้องกายพี่เรนนะคะ จุ๊บๆ ขอบคุณค่ะ


ออฟไลน์ cchompoo

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-4
ในที่สุดก็เป็นแฟนกัน o7 o7

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
พี่เรนน่ารัก

ออฟไลน์ Rumraisin

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 673
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
เจ้ากายยยยยยย ไอเด็กขี้อวด หมั่นไส้จริงๆ
พี่เรนน่ารักตลอดเลย ขอบคุณค่ะฟาง  :กอด1:

ออฟไลน์ tear0313

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 318
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

ออฟไลน์ thanza1970

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 533
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
ขอบคุณมากๆ ที่มา นึกว่าจะหายไปอีกเรื่อง

                  พูดแล้วเศร้า

 :sad11: :monkeysad: :m15:

                  แต่ก็มาแล้ว

 :-[ :-[ :-[

ออฟไลน์ ชัดเจนกาบ

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1695
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-23
ก็นะ  เขาก็ยังตะมุตะมิกันเหมือนเดิม

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ meyj4ever

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 344
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
สักทีเนาะ กว่าจะขอพี่เรนเป็นแฟน
ดีใจด้วยนะน้องกาย
แต่ตอนนี้แอบหมั่นไส้คนอวดแฟนเบาๆ  :mew4:

ออฟไลน์ wichta

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 44
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
 :z3: มานั่งรอให้ฝนตก รอพี่เรนกะน้องกาย วิถีคนอวดแฟน

ออฟไลน์ fangiily

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +741/-12

แต่หน้าตาพี่เรนตอนทำตาวาวๆ เหมือนเคืองผมตอนนั้นก็โคตรน่ารักอ่ะ เลยจับมาฟัดแก้มไปที อิอิ
Kamin
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #น้องกายหลงฝน ด้วยนะคะ





โชคครั้งที่ • 17.2 •
 




• • • ต่อค่ะ 100% • • •







พี่เรน




‘ตกลงนะ’



‘ตกลง... เราเป็นแฟนกัน!’




ผมยกมือปิดหน้าเมื่ออยู่ๆ คำพูดนั้นก็ลอยเข้ามาในความคิดที่ว่างเปล่าของผม รู้สึกหน้าร้อนแก้มร้อนไปหมดเลย ทำไมตอนนั้นถึงได้พูดแบบนั้นไปกันนะ



ในใจส่วนหนึ่งผมรู้สึกผิดเพราะผมยังไม่สามารถบอกความรู้สึกของตัวเองได้เลยว่าผมคิดอย่างไรกับน้องกายกันแน่ แต่ผมก็... ไม่อยากให้เขาไปไหนนี่ ผมสบายใจเวลาอยู่กับน้องกาย



น้องเป็นอีกคนนอกจากพวกตินาที่ไม่สนว่าผมหน้าตาเป็นยังไง ผมไม่ได้หล่อ ไม่ได้น่ารัก ใส่แว่นหนาเตอะ แต่งตัวก็เชยๆ แต่น้องก็ยังชอบผม ผมเลยรู้สึกดีใจที่มีคนเห็นตัวตนของผม



แล้วก็ดูเหมือนว่าน้องกายเองก็จะรู้ถึงความไม่มั่นใจในความรู้สึกของผม แต่น้องก็ยืนยันที่จะทำให้ผมมั่นใจให้ได้ บอกตรงๆ เลยว่าผมดีใจมาก ดีใจที่มีคนจริงใจกับผมมากมายขนาดนี้



ผมมีประสบการณ์ไม่ค่อยดีเกี่ยวกับคนรัก ตอนมัธยมผมเองก็เป็นวัยรุ่นคนหนึ่งที่แอบชอบผู้หญิง ผมก็ตามจีบเธอ ดูแลเธอเท่าที่จะทำได้ แต่เพราะผมหน้าตาไม่ดี แต่งตัวก็เชย พอผมไปสารภาพรักนอกจากจะไม่ได้รับความรักแล้วผมยังโดนต่อว่าแล้วก็โดนตบมาด้วย เธอบอกว่าเพราะผมไปชอบเธอ ทำให้เธอขายหน้า มีแต่คนล้อเลียนและหัวเราะเยาะที่คนหน้าตาแย่ๆ อย่างผมไปชอบ



หลังจากนั้นผมก็เก็บตัว ไม่คิดเรื่องความรักอีกเลย ที่บ้านผมก็รู้เรื่อง พ่อกับแม่ผม รวมไปถึงพี่สาวพี่ชายผมก็ไม่ได้ว่าอะไร แม้ทุกคนจะบอกว่าผมไม่ได้หน้าตาแย่ ไม่ได้หน้าตาไม่ดี แต่ผมก็ไม่คิดเชื่อ แล้วก็ไม่คิดจะชอบใครอีก



“แฟน”



ผมเงยหน้าขึ้นมองเมื่อได้ยินเสียงเรียก อ่า... มันก็จะเขินๆ หน่อยนะครับที่ผมมักจะเงยหน้าหรือมีปฏิกิริยาทุกครั้งที่กายเรียกผมว่า ‘แฟน’ แบบนี้ เหมือนผมกำลังชินเลย



แล้วพอผมนึกได้ว่ากายเรียกผมว่าอะไร ผมก็จะหน้าแดง แล้วกายก็จะยิ้มเหมือนจะล้อเลียนผม



“ม มีอะไรหรือเปล่า” ผมอ้อมแอ้มถามกลับไป



“เปล่าครับ แค่อยากเห็นแฟนหน้าแดงเลยเรียก” น้องกายพูดก่อนจะหัวเราะ ให้ผมหน้าแดงกว่าเดิม “พี่เรนเหลืองานอีกเยอะไหม”



ผมก้มหน้ากวาดสายตามองงานของตัวเองแล้วจึงตอบ “ไม่หรอก เหลือใส่รายละเอียดอีกนิดหน่อยน่ะ”



ผมไม่มีเรียนแล้วครับ เหลือแต่ทำงานส่งก่อนที่จะสอบไฟนอล วันๆ ของผมเลยว่างมานั่งเคลียร์งาน อ่อ... แต่ถ้าเป็นวิชานอกก็ยังมีเรียนอยู่นะครับ แต่ตอนปีหนึ่งปีสองผมเก็บวิชาไปเยอะแล้ว เลยมีแค่สองวิชาเท่านั้นตอนเทอมนี้



“อย่างนั้นพอจบงานนี้พี่เรนไปเป็นแบบให้ผมนะครับ” น้องกายพูด



อ่า... จริงสินะ ผมตกลงจะไปเป็นนายแบบให้น้องเขาถ่ายรูปนี่เนอะ “อือ ได้สิ”



“โอเคครับ พี่เรนทำงานต่อเถอะผมไม่กวนแล้ว” เจ้าตัวพูดแบบนั้นแล้วก็เรียกน้องหมีไปเล่น ไปนอนกอดด้วยกัน



งืออออ ผมก็อยากจะกอดน้องหมีเล่นกับน้องหมีบ้างอ่ะ



“รีบทำให้เสร็จสิครับ จะได้มาเล่นด้วยกัน” เหมือนจะรู้ว่าผมคิดอะไร เพราะน้องกายเงยหน้าขึ้นมองบอกแล้วก็ยิ้มให้



ผมเลยตั้งใจทำงานต่อ จะได้เสร็จเร็วๆ แล้วก็จะได้ไปเล่นกับน้องหมี



ผมลงไปกลิ้งกับพื้นเมื่องานเสร็จเรียบร้อยแล้ว เมื่อยมากเลยครับ... เงยหน้ามองเมื่อเห็นน้องกายยันตัวลุกขึ้น น้องมายกโมเดลผมไปวางเอาไว้บนชั้นวางโมเดลสำหรับเตรียมส่งให้ ผมไปซื้อชั้นมาวางจะได้เป็นสัดส่วนแล้วก็ไม่เผลอทำโมเดลของตัวเองพัง



“ขอบคุณนะ” ผมยิ้มเมื่อเห็นน้องกายกำลังเก็บกวาดเสร็จกระดาษบนโต๊ะให้ผม รวมไปถึงยกโต๊ะญี่ปุ่นไปเก็บให้ด้วย



“ไม่เป็นอะไรครับ นี่งานสุดท้ายแล้วหรือยัง”



ผมส่ายหน้า “เหลือพวกงานดรออิ้งน่ะ แต่โมเดลเรียบร้อยหมดแล้ว”



ผมสะดุ้งร้องออกมาอย่างตกใจเมื่ออยู่ๆ น้องกายก็เข้ามานอนข้างๆ แล้วก็กอดผมไว้ รู้สึกว่าหน้าตัวเองร้อนวูบวาบแล้วก็หัวใจเต้นเร็วยังไงก็ไม่รู้สิ กายดึงแว่นที่ผมมักจะใส่เวลาทำงานออกจากหน้าผม ทำเอาภาพตรงหน้าของผมเบลอไปเลย ก่อนที่ผมจะเห็นน้องชัดขึ้นเมื่อน้องยื่นหน้ามาใกล้จนอยู่ในระยะที่เห็นได้ชัด ซึ่งมันก็... ใกล้มาก



“อยากจูบพี่เรนจัง” น้องกายพูดพร้อมยิ้ม แต่ผมหน้าแดงก่ำ



ตกลงคบกับน้องกายไป ผมเคยโดนจุ๊บไปบ้าง หอมแก้มบ้าง กอดบ้าง แต่ก็ไม่บ่อย และทุกครั้งที่โดน ผมรู้สึกเหมือนตัวเองจะไหม้เลย หน้าร้อนไปหมด



“รักผมเร็วๆ นะพี่แมวเหมียว” พูดจบก็กอดผมแน่นๆ เหมือนจะมันเขี้ยวผมยังไงก็ไม่รู้สิ



“งืออออออ” ผมร้องประท้วง ซุกหน้าแดงๆ ไม่ให้น้องเห็น ได้ยินเสียงน้องหัวเราะด้วย ผมเลยทุบแขนไปหนึ่งทีโทษฐานล้อเลียนผม



“ได้กอดพี่เรนแบบนี้ดีจัง รู้สึกดีสุดๆ ไปเลย” น้องกายพูด กอดผมแน่นขึ้นอีกเหมือนจะทำให้ผมจมไปกับตัวเขาเลย



งืออออออ



ผมก็ไม่อยากจะบอกหรอก แต่ก็... รู้สึกอุ่นๆ ดีเหมือนกันนะ







ผมนอนกลิ้งไปกลิ้งมาบนเตียงหลังจากที่ตื่นนอนได้สักพักแล้วแต่ยังไม่อยากจะลุกไปไหน แต่เดี๋ยวตอนบ่ายก็ต้องเอางานไปส่ง เมื่อคืนพวกตินาส่งข้อความมานัดกินข้าวกลางวันกันก่อนจะไปส่งงาน



ช่วงนี้พอไม่มีเรียนก็ไม่ได้เจอกับพวกตินาเลยครับ เพราะสาวๆ ก็เก็บตัวทำงานกันหมด อีกทั้งพวกเธอก็ไม่ได้อยู่หอ อยู่ใกล้มหา’ลัย ก็เลยไม่ได้เจอกัน อ่า... จะว่าไปผมยังไม่ได้บอกกับเพื่อนๆ เลยนี่นาว่าผมคบกับน้องกายแล้ว



เมี๊ยว~



ผมหันไปมองเมื่อได้ยินเสียงร้องของน้องหมี โอ๊ะ... นั่งจ้องกดดันผมอยู่ตรงชามข้าว ลืมไปเลยว่ายังไม่ได้ให้ข้าวน้องหมี



“อ่ะ ร้องแปบนึงนะ จะไปตักข้าวให้เดี๋ยวนี้แหละ” ผมรีบลุกจากเตียงทันที ตรงไปหยิบอาหารแมวมาเทใส่ชามข้าวน้องหมีให้ เติมน้ำให้ด้วย



“เดี๋ยววันนี้เราออกไปส่งงานนะ บ่ายๆ ก็กลับ เดี๋ยวตอนเย็นไปถ่ายรูปกับน้องกาย เราจะพาไปด้วยนะไปเที่ยวข้างนอกกันบ้างเนอะ” ผมนั่งกอดเข่ามอง แต่น้องหมีไม่สนใจผมเลยแหะ เอาแต่กินอย่างเดียวเลย สงสัยจะหิวมาก



“อย่างนั้นกินไปก่อน เราไปอาบน้ำก่อนนะ” ก้มลงหอมเหม่งไปทีแล้วจึงลุกไปอาบน้ำ



ออกมาจากห้องน้ำน้องหมีก็กินข้าวเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผมเดินไปอุ้มน้องมาเล่นด้วยอีกสักพักก็หอบหิ้วโมเดลเข้าไปในมหา’ลัย



นัดกับพวกตินาเอาไว้ที่คณะ ตกลงกันว่าจะเอางานไปส่งกันก่อนแล้วจึงค่อยไปหาอะไรกินกันทีหลัง



“เรน~ ทางนี้~” ผมยิ้มเมื่อได้ยินเสียงเรียกของใบหม่อนก่อนจะเดินตรงเข้าไปหาพวกสาวๆ วางโมเดลเอาไว้บนโต๊ะข้างๆ แล้วค่อยนั่งลงข้างใบหม่อนที่นั่งริมสุด



“เป็นไง ทำงานเสร็จหมดยัง” พอนั่งลงปุ๊บสาก็ถามทันที



ผมส่ายหน้า “ยัง เหลือพวกงานดรออิ้งยังไม่ได้ทำเลย แต่เดี๋ยวว่าจะทำพรุ่งนี้นี่แหละ แล้วทำกันหรือยัง”



“ยังเหมือนกัน ยังคิดไม่ออกเลยด้วยว่าจะวาดอะไรดี” ตินาพูด เอามือท้าวคางแล้วถอนหายใจออกมา



จะว่าไปผมก็ยังคิดไม่ออกเหมือนกันว่าจะวาดอะไรดี งานดรออิ้งคราวนี้ไม่ใช่ภาพงานภายใน ไม่ใช่ภาพอาคาร ไม่มีหัวข้อที่แน่ชัด คือจะวาดอะไรก็ได้ จะเป็นหมาแมว อาหาร คน สิ่งของได้หมดทุกอย่าง ซึ่งผมเองยังไม่รู้เลยจะวาดอะไรดี



“เราก็เหมือนกัน” ผมบอก “เอ่อ... ที่จริงเรามีเรื่องอยากจะบอกทุกคนด้วย แต่เอาไว้ค่อยบอกตอนกินข้าวก็แล้วกันนะ”



สาวๆ ดูจะแปลกใจเพราะปกติแล้วผมไม่ค่อยมีเรื่องอะไรเท่าไหร่ ส่วนใหญ่จะเป็นฝ่ายฟังสาวๆ คุยมากกว่า พอได้ยินผมพูดแบบนั้นพวกสาวๆ ก็พยักหน้ารับ เรานั่งคุยกันไปเรื่อยๆ เพื่อรอเวลาให้ถึงเวลาส่งงาน คณะผมก็แปลกนะครับ อย่างสมมติว่าอาจารย์ให้ส่งงานตั้งแต่บ่ายโมงไปจนถึงหกโมงเย็น ถ้ามาก่อนบ่ายโมงก็จะไม่สามารถส่งได้ แต่ถ้าเลยหกโมงเย็นไปส่ง ก็ยังส่งได้ นอกจากว่าจะเลทนานจนอาจารย์กลับกันไปหมดแล้ว แต่ก่อนบ่ายโมงอาจารย์ก็อยู่กันนะครับ แต่ไม่รับงาน ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม



“ไปเถอะ ได้เวลาส่งงานแล้วล่ะ” สาพูดเมื่อก้มลงดูเวลา



พวกผมเลยหอบหิ้วโมเดลของตัวเองขึ้นไปส่งกันครับ ไม่ต้องพรีเซ้นงานครับแค่เอาโมเดลมาส่งเฉยๆ พอส่ง ลงชื่อส่งงานเรียบร้อยพวกผมก็ตรงไปหน้ามหา’ลัยกันทันทีครับ ไปหาอะไรกินกัน เราเลือกร้านสเต็กสั่งสเก็ตมาคนละจาน แล้วก็สั่งเฟรนฟราย สลัด แล้วก็ไก่บาร์บีคิวมาทานเล่นกัน สาวๆ กินกันไม่กลัวน้ำหนักขึ้นเลยละครับ



“ไหนที่บอกว่ามีเรื่องจะบอก คือเรื่องอะไร” ตินาเริ่มประเด็นเมื่อของกินเล่นทยอยมาเสิร์ฟ



ผมมองหน้าทุกคนสลับกันไปมา ซึ่งทุกคนก็มองผมไม่ละสายตาไปไหนเลย ผมไล่มองแต่ละคนอีกรอบก่อนจะพูดออกมา



“เรา... ตกลงคบกับน้องกายแล้วนะ”



ทุกคนนิ่งไปนิดก่อนจะพยักหน้ารับกับสิ่งที่ผมพูด แต่ผ่านไปไม่ถึงนาทีก็...



“ห๊ะ!!! ว่าอะไรนะ”



ผมหดคอทันทีที่ทุกคนร้องออกมาพร้อมกัน คนอื่นๆ ในร้านหันมามองกันเต็มไปหมด ตินาเลยหันไปขอโทษขอโพยทุกคนที่เผลอส่งเสียงดัง ส่วนคนอื่นๆ ก็ส่งสายตากดดันผมไม่หยุดเลย



งืออออ



มากดดันผมทำไมอ่ะ



“อ อะไรอ่า...”



“เมื่อกี้ว่ายังไงนะ ไหนพูดใหม่อีกรอบสิ” ใบหม่อนพูด เหมือนไม่ได้ยินที่ผมพูดเมื่อกี้ แต่ผมว่าผมก็พูดเสียงดังปกติอยู่นะ น่าจะได้ยินกันสิ



“เราบอกว่า เราคบกับน้องกายแล้วนะ” ผมตอบไปอีกรอบ สาวๆ ทำตาปริบๆ เหมือนประมวลผลไม่ทัน หรือว่าฟังไม่ชัดนะ “เราคบกับน้องกายแล้ว”



“พอๆ ไม่ต้องย้ำแล้ว ได้ยินแล้ว” สายกมือห้ามผมเมื่อผมจะพูดอีกรอบ



“คบกันเมื่อไหร่” ใบหม่อนถาม



“ก็... เมื่ออาทิตย์ สองอาทิตย์ก่อนนั่นแหละ”



“มั่นใจแล้วเหรอเรน ฉันไม่ถามหรอกว่ามั่นใจหรือเปล่าที่จะคบกับผู้ชายด้วยกัน เดี๋ยวนี้โลกมันเปิดกว้างมากแล้ว แต่มั่นใจในความรู้สึกตัวเองแล้วหรือยัง” ตินาถามผมด้วยสีหน้าจริงจัง



เพื่อนๆ ทุกคนรู้ครับว่าผมมีความหลังไม่ค่อยดีเรื่องความรัก อีกทั้งผมยังตีความรู้สึกไม่เก่งด้วย ไม่แปลกอะไรถ้าตินาจะถามผมแบบนี้



ผมส่ายหน้ากับคำถามของตินา “เรารู้นะว่าทำแบบนี้มันเห็นแก่ตัว แล้วน้องกายก็น่าสงสารด้วย เราน่ะ... ยังไม่มั่นใจหรอกว่ามันคืออะไร แต่ถ้าถามว่าเรารู้สึกดีไหม เรารู้สึกดี เราสบายใจเวลาอยู่กับน้อง ความรู้สึกมันไม่รุนแรง แต่มันก็... ไม่ได้จางๆ มันกำลังดีน่ะ”



“รู้สึกดี แต่ไม่มั่นใจว่าใช่ความรักหรือเปล่า” ใบหม่อนถาม ผมเองก็พยักหน้ากับคำถามนั้น



“อือ เราไม่มั่นใจ”



“แล้วเจ้าเด็กนั่นว่ายังไงบ้างล่ะ”



“ก็... ไม่ว่าอะไร น้องกายบอกว่า... ยังไม่รู้ก็ไม่เป็นไร ยังไม่รักก็ไม่เป็นไร ด เดี๋ยว... ทำให้เรารักเอง” พูดไปก็รู้สึกว่าแก้มตัวเองร้อนๆ ยังไงบอกไม่ถูก แล้วก็กลายเป็นคนติดอ่างพูดไม่คล่องด้วย แถมยังไม่กล้าสบตาเพื่อนๆ ที่ทำตาระยิบระยับแพรวพราวนั้นด้วย



งืออออออออออ...



“พวกเราไม่ห้ามหรือไม่ว่าอะไรหรอก ยังไงเรื่องแบบนี้การตัดสินใจก็อยู่ที่ตัวเรนเองนั่นแหละ ยังไงพวกเราก็จะสนับสนุน เห็นด้วยกับการตัดสินใจนะ” ตินาพูด



“ส่วนเรื่องรักไม่รัก เดี๋ยวเจ้าเด็กนั่นก็คงจัดการให้กระจ่างได้เองนั่นแหละเนอะ”



“แล้วพวกเราควรประกาศไหม พวกจ้องจะเข้ามาจะได้ล่าถอยไป หรือปล่อยให้คนของเขาจัดการเองดี”



“ปล่อยเอาไว้ก็ได้นะ น่าจะมีอะไรสนุกๆ ให้ดูอยู่นะ”



แล้วพวกสาวๆ ก็พูดอะไรกันก็ไม่รู้ครับ ผมไม่เข้าใจเลย คุยเรื่องผมกับน้องกายอยู่ดีๆ ทำไมกลายเป็นเรื่องประกาศไม่ประกาศไปได้นะ ว่าแต่... มีประกาศอะไรกันนะ ทำไมผมไม่เห็นรู้เรื่องเลยล่ะ แต่ก็เอาเถอะครับ ถ้ามีประกาศสำคัญจริงๆ สาวๆ ก็บอกผมเองนั่นแหละ นี่ไม่บอกก็แสดงว่าไม่สำคัญเท่าไหร่ ปล่อยให้เขาคุยกันไปครับ ผมกินต่อดีกว่า



พวกเรานั่งกินกันไปคุยกันไป มีเรื่องคุยกันเยอะเลยครับเพราะไม่ได้เจอกันหลายวันเพราะต่างคนต่างเก็บตัวทำงาน มีคุยไลน์กันบ้าง แต่ผมก็ไม่ค่อยได้ตอบเท่าไหร่เพราะเอาแต่ทำงาน



“อ๋อ... จริงสิ ตอนเย็นไปไหนไหมเรน ไปดูหนังกันไหม” สาชวนหลังจากที่จัดการกับสเต็กกันเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้นั่งย่อยกันอยู่ครับ อิ่มมากเลย



“เราไม่ว่างอ่า... พอดีสัญญากับน้องกายเอาไว้แล้วว่าเราจะไปเป็นแบบให้”



สาวๆ ดูสนใจทันทีที่ผมพูด ผมเลยอธิบายเพิ่มเติม “พอดีว่าน้องกายขอให้เราไปเป็นนายแบบโปรเจคให้เขา เย็นนี้ก็จะไปถ่ายรูปกันน่ะ เราก็ไม่เข้าใจหรอกว่าทำไมถึงเลือกเรา แต่น้องเขาบอกแล้วก็ขอร้อง เราก็เลยตกลงไปน่ะ”



“พวกฉันไปดูด้วยได้ไหม” ใบหม่อนถามอย่างสนใจ



“ก็น่าจะได้นะ น้องกายคงไม่ว่าอะไรหรอก”



“โอเค... อย่างนั้นเราไปดูเรียนถ่ายแบบกัน อย่างนั้นไปนอนเล่นอยู่หอเรนแล้วกันนะ ได้ใช่ไหม”



ผมพยักหน้ารับทันที ได้อยู่แล้วล่ะครับ ถึงห้องผมจะไม่ใหญ่โต แต่ก็ไปอยู่ด้วยกันได้นะ ตอนปีหนึ่งปีสองเราก็เคยไปทำงานอยู่ห้องผมเลยครับ



พอตกลงกันได้ก็เรียกพนักงานมาเก็บเงินก่อนจะพากันไปที่ห้องผม แล้วตอนเย็นค่อยออกไปตรงที่นัดกันกับน้องกายอีกที ระหว่างนี้... ผมขอพักเอาแรงก่อนแล้วกันนะครับ






************************************************
หายไปนานตลอดเลย ต้องขอโทษด้วยนะคะ งานมันเยอะจริงจังเลยค่ะช่วงนี้ นิยายก็กำลังเร่งแต่งตอนพิเศษอุ้มรักอยู่ด้วย เลยไม่ค่อยได้มาอัพนิยายเลย ต้องขอโทษทุกคนด้วยนะคะ มาอัพช้าไปบ้าง แต่ยังไงฟางไม่หายไปไหนแน่นอนค่ะ อยู่ติดตามกันไปเรื่อยๆ จนจบนะคะ

สำหรับเรื่องนี้อีกไม่กี่ตอนก็คงอวสานแล้วล่ะค่ะ เป็นเรื่องใสๆ ไม่มีดราม่า เนื้อหาก็ไม่หวือหวามาก อีกไม่นานก็จบค่ะ ติดตามกันไปนะๆ

ยังไงก็อย่าลืมติดตามกันต่อไปนะคะ

อ่านแล้วอย่าลืมให้กำลังใจคนแต่งนะคะ จะได้มีกำลังใจแต่งนิยายให้อ่านกันค่ะ อย่าเงียบนะคะใจคอไม่ดีเลยค่ะ คอมเมนต์คือกำลังใจของคนเขียนนะคะ ^^

สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi

สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC

เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)

รักน้องกายพี่เรนกันเยอะๆ นะคะ กดเฟบ กดเมนต์ กดโหวด กดแชร์ แล้วแต่สะดวกเลยน๊า คนละนิดคนละหน่อยเป็นกำลังใจให้น้องกายพี่เรนนะคะ จุ๊บๆ ขอบคุณค่ะ


ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ cchompoo

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-4

ออฟไลน์ Rumraisin

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 673
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ขอบคุณค่ะฟาง พี่เรนน่ารักอีกแล้ว เอาใจช่วยให้รู้ความรู้สึกไวๆน้าาา ส่วนเจ้ากายหมั่นไส้จริงๆ  :ling1:

ออฟไลน์ thanza1970

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 533
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
ไม่เป็นไรครับน้อง ยังไงก็จะรอให้กำลังใจครับ
ขออย่างเดียว อย่าทิ้งกันก็พอ

ออฟไลน์ HanATarO

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2141
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-2
เข้ามารอ พี่เรนกับน้องกาย

ออฟไลน์ fangiily

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +741/-12

สบายใจได้ครับ ม๊ากับป๊าผมไม่ว่าอะไรหรอก
Kamin
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #น้องกายหลงฝน ด้วยนะคะ





โชคครั้งที่ • 18 •
 





น้องกาย
 



ผมเก็บของทุกอย่างลงกระเป๋าเมื่ออาจารย์เดินออกจากห้องไปแล้ว ก้มดูเวลาที่นาฬิกาข้อมือเย็นนี้ผมมีนัดกับพี่เรนครับ นัดถ่ายรูปกัน ผมจะเริ่มทำโปรเจคของตัวเองอย่างจริงจังแล้วครับ เพราะอีกแค่ไม่กี่อาทิตย์ก็จะถึงไฟนอลแล้ว



“มึง เจอกันที่บ้านกูนะ” ผมหันไปบอกเพื่อนในกลุ่ม พวกมันก็จะไปด้วยครับ ไม่ได้ไปถ่ายรูปหรอกไปเป็นผู้ช่วยผมอีกที



เพราะมันเริ่มเข้าหน้าหนาวแล้วผมเลยไม่แน่ใจว่าจะมีฝนหลงมาหรือเปล่า แต่ที่ดูพยากรอากาศเมื่อเช้าเขาบอกว่าจะมีฝนตกเพราะมีพายุเข้า แต่ถ้าไม่มีฝนตกผมก็ต้องทำฝนเทียมจากสายยางนี่แหละครับ เลยต้องให้พวกมันไปช่วยเซ็ตฉากให้



“เออ เดี๋ยวพวกกูตามไป”



“เออ เจอกันมึง กูบอกม๊าให้เตรียมมื้อใหญ่ไว้ให้แล้ว” ผมบอกก่อนจะคว้ากระเป๋ามาสะพายแล้วก็เดินออกจากห้องไป



ผมตรงไปที่รถของตัวเองก่อนจะขับออกจากมหา’ลัย วันนี้ตื่นสายครับเลยต้องขับรถมาไม่อย่างนั้นคงมาไม่ทันเช็คชื่อ ผมขับรถไปจอดเอาไว้ที่หอของพี่เรนเลยครับก่อนจะกดโทรศัพท์โทรหาพี่เรน ส่วนอุปกรณ์ถ่ายรูปผมเตรียมเอาไว้ในกระเป๋าแล้วเรียบร้อย



[กาย...]



เสียงพี่เรนในโทรศัพท์โคตรจะน่ารักเลยครับ



“พี่เรน ผมอยู่ข้างล่างแล้วนะ พี่เรนลงมาได้เลยนะครับจะได้ไปบ้านผมกัน” จะว่าไปผมยังไม่ได้บอกพี่เรนเลยนี่หว่าว่าจะไปถ่ายรูปที่บ้านผม “เอาหมีมาด้วยนะพี่”



[อ้าว... ไม่ได้ถ่ายในมอหรอกเหรอ]



“ครับ ผมไม่แน่ใจว่าฝนมันจะตกไหม ถ้าไม่ตกมันก็ต้องทำฝนปลอมไง ใช้สายยางฉีดน้ำเอาถ้าถ่ายในมอเดี๋ยวไปทำเลอะหมด ก็เลยจะไปถ่ายที่บ้านผมน่ะครับ”



เหมือนได้ยินเสียงพี่เรนคุยกับใครก็ไม่รู้ แล้วก็ได้ยินเสียงผู้หญิงคงจะเป็นพวกพี่ตินาแน่ๆ เลยล่ะครับ



[อ่า... อย่างนั้นเดี๋ยวพี่ลงไป รอแปบนึง]



“คร้าบผม~”



ผมลงจากรถไปยืนรอพี่เรน หยิบโทรศัพท์มาตอบแชทเพื่อนๆ ระหว่างรอ เงยหน้ามาอีกทีก็เห็นคนน่ารักกำลังอุ้มแมวตัวอ้วนสีขาวมาหาผม มีพวกพี่ตินาเดินตามมาด้วย แสดงว่าคนที่พี่เรนคุยด้วยตอนคุยโทรศัพท์กับผมก็เป็นพวกพี่เขาจริงๆ สินะ



“สวัสดีครับพี่ๆ” ผมยกมือไหว้ทักทายพวกพี่ตินาก่อนจะดึงกระเป๋าของพี่เรนมาถือเอาไว้เอง



“ตอนแรกพวกตินาจะไปดูด้วย แต่คิดว่าถ่ายในมอ” พี่เรนบอกผมเสียงแจ้วๆ วันนี้ใส่แว่นตากลมๆ ใหญ่ๆ ด้วย ยิ่งดูน่ารักเข้าไปใหญ่



“อ่อ ที่จริงจะไปด้วยกันก็ได้นะครับ เพราะพวกเพื่อนๆ ผมก็ไปกัน” ผมหันไปตอบกับพวกพี่ตินา



“ไม่ดีกว่า ยังไงพี่ก็ฝากเจ้านี่ด้วยแล้วกัน” พี่ตินาพูดพร้อมกับยกมือขึ้นยีผมพี่เรน



ผมหัวเราะก่อนจะพยักหน้ารับ พี่เรนนี่ดูเป็นที่รักที่เอ็นดูของคนในกลุ่มมากเลยนะ พวกพี่เขาคงเห็นพี่เรนเป็นน้องเป็นลูกเป็นหลาน มากกว่าเป็นเพื่อนนะ



“อย่างนั้นไปเถอะครับ เดี๋ยวจะมืดก่อน” ผมหันไปบอกกับพี่เรน เปิดประตูรถให้พี่เรนขึ้นไปนั่ง หันไปลาพวกพี่ๆ เขาอีกรอบแล้วเดินอ้อมมาขึ้นรถก่อนจะขับพาพี่เรนไปที่บ้าน



บ้านผมอยู่นนทบุรีครับ ขับรถไม่นานก็ถึงแล้วแต่ผมขี้เกียจขับรถไปกลับก็เลยขอที่บ้านมาอยู่หอแทน



“พี่เรนเตรียมชุดมาแล้วใช่ไหมครับ วันนี้คงต้องเปียกกันเยอะเลย” ผมหันไปถามในระหว่างรอสัญญาณไฟ



พี่เรนพยักหน้าหงึกหงักกับคำถามของผม “เอามาแล้วล่ะ”



“โอเคครับ ผมบอกม๊าให้เตรียมมื้อใหญ่ไว้ด้วยนะ” ผมพูดไปถึงม๊าของผม พี่เรนหันมามองผมตาโตทันทีที่ได้ยินแบบนั้น



“ม๊า... แม่ของกายน่ะเหรอ”



“ครับผม ใช่แล้วล่ะ”



“อ่า... แล้วพี่... แม่กาย ครอบครัว อือ... ง่า...” พี่เรนพูดปนกันมั่วไปหมด ฟังแล้วจับใจความไม่ค่อยจะได้



แต่ผมว่าผมรู้นะว่าพี่เรนเป็นอะไร น่าจะกังวลเรื่องที่ตัวพี่เขาจะได้เจอกับม๊าผมล่ะมั้ง เอาจริงๆ ผมบอกกับที่บ้านไปแล้วล่ะครับว่าผมมีแฟนแล้วก็คือพี่เรน ที่บ้านผมรู้เรื่องที่ผมชอบพี่เรนมาตั้งแต่แรกแล้วล่ะครับ



เอาจริงๆ ตอนนั้นก็ไม่ได้ตั้งใจจะบอกหรอกครับ แต่พอดีม๊ามาเห็นรูปพี่เรนที่ผมถ่ายเอาไว้ ไม่ใช่แค่รูปสองรูปไงครับ มันมีเป็นคอลเลคชั่น แล้วใครเห็นก็ต้องนึกสงสัยทั้งนั้นแหละครับ ผมก็เลยเล่าให้ม๊าฟัง



ตอนแรกป๊ากับม๊าก็ทำใจไม่ค่อยได้หรอกครับ แต่ก็ไม่ถึงกับกีดกันแล้วก็ห้าม แต่ผมก็คอยเล่าเรื่องพี่เรนให้ป๊ากับม๊าฟังนะ อยากให้พวกท่านได้รับรู้ถึงความน่ารักของพี่เรน จนหลังๆ นี่ถามผมกันใหญ่ว่าผมได้จีบพี่เรนหรือยัง แล้วยิ่งพอรู้ว่าผมเริ่มจีบพี่เรนแล้วก็คอยถามตลอดว่าคบกันหรือยัง เมื่อไหร่จะพาพี่เรนมาที่บ้าน



“ทำไมเหรอครับ กังวลเรื่องที่คบกับผมเหรอ กลัวที่บ้านผมรับไม่ได้เหรอครับ”



“อ่ะ” พี่เรนสะดุ้ง แต่ก็พยักหน้ารับ “ก็... ใช่”



ผมเอื้อมมือไปจับมือของพี่เรนมากุมเอาไว้ เขย่ามือเบาๆ สลับกับบีบมือนิ่มๆ นั้น “สบายใจได้ครับ ม๊ากับป๊าผมไม่ว่าอะไรหรอก”



พี่เรนเม้มปากแน่นแต่ก็ยอมพยักหน้ารับ ผมยิ้มให้พี่เขา เลื่อนมือไปเล่นผมนุ่มของพี่เรนอย่างที่ชอบทำก่อนจะขับรถตรงไปที่บ้าน ใช้เวลาไม่นานก็ถึงบ้านผมครับ



บ้านของผมอยู่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง หลังไม่ใหญ่แต่ก็ไม่เล็ก แต่บริเวณบ้านกว้างครับ มีสวน มีต้นไม้เยอะ ม๊าผมเขาชอบ



“บ้านสวยจัง”



“แล้วบ้านพี่เรนเป็นยังไง” ผมหันไปถามบ้าง



“ก็... หลังไม่ใหญ่หรอก แต่ว่ามีบริเวณแบบนี้เหมือนกัน”



ผมยิ้ม ก่อนจะพยักหน้าให้พี่เรนลงจากรถ พวกไอ้เป้มาถึงแล้ว ผมเห็นรถพวกมันจอดอยู่ในที่จอดรถ แล้วก็ไม่ต้องให้เดาอะไรมาก พวกมันแม่งต้องยึดตัวม๊าผมเอาไว้แน่นอน ไม่อยากจะโม้นะครับแต่ม๊าน่ะทำอาหารอร่อยมาก ขนมก็อร่อย พวกไอ้เป้มันเคยได้กินบ่อยๆ พอเวลามาบ้านผมพวกมันถึงชอบยึดตัวม๊าเอาไว้



“ไปครับ พวกไอ้เป้คงรออยู่ข้างในกับม๊าผมแล้ว แวะไปหาม๊าก่อนแล้วจะได้เริ่มถ่ายรูปกัน” ผมหันไปหาพี่เรน ช่วยถือกระเป๋าให้รวมถึงรับหมีมาอุ้มเอาไว้ด้วย



พี่เรนดูประหม่าอย่างเห็นได้ชัด น่ารักดีนะครับ เห็นแบบนี้แล้วรู้สึกดีใจ เพราะถ้าพี่เรนไม่คิดหรือไม่รู้สึกอะไรกับผมเลยคงไม่ประหม่าหรอกที่จะได้เจอม๊า แต่พี่เรนก็คิดว่าตัวเองเป็นแฟนผม เป็นคนรักของผม ถึงได้มีท่าทีประหม่าแบบนี้



ผมอุ้มหมีด้วยมือข้างเดียว อีกข้างก็คว้ามือพี่เรนมากุมเอาไว้ก่อนจะพาเข้าไปในบ้าน



“ม๊า~ ม๊าคร้าบบบบ” ผมตะโกนเสียงลั่น



“สัสกาย! เสียงดังนะมึงน่ะ” ไอ้เพื่อนไม้ตัวดีโผล่หน้ามาจากในครัว



“สลัด! บ้านกูไหมล่ะ กูจะเสียงดังแค่ไหนก็~ ด้าย~” ตะโกนใส่หน้าแม่งเลย



“เสียงดังกันจริงเชียว” มาแล้วครับม๊าคนสวยของผม



“ม๊า~ สวัสดีคร้าบ” ผมเข้าไปคลอเคลียม๊าก่อนจะผละออก นานไม่ได้ครับอุ้มหมีอยู่ “นี่ๆ พี่เรนครับม๊า พี่เรนนี่ม๊าผมเอง”



ผมแนะนำทั้งสองคนให้รู้จักกัน พี่เรนยกมือไหว้ม๊าผมทันที “ส สวัดสีครับ”



“สวัสดีจ้ะ นี่สินะพี่เรนของเราน่ะ น่ารักจริงๆ ด้วยนะ” ม๊าหันมาชมพี่เรนกับผม เห็นไหมล่ะ ผมบอกแล้ว! ใครเห็นพี่เรนก็ต้องรักด้วยกันทั้งนั้นแหละ



ส่วนพี่เรนยืนแก้มแดงอยู่ครับ คงเขินที่โดนม๊าผมชม ถ้าอยู่กับผมสองคนคงร้องงื้อ~ ออกมาแล้วล่ะ ฮ่าๆๆ



“นี่จะกินอะไรกันก่อนไหม” ม๊าถาม



“พี่เรนหิวหรือยังครับ” ผมหันไปถามพี่เรนแทน พี่เขาสะดุ้งก่อนจะส่ายหน้าน้อยๆ เห็นแบบนั้นผมเลยหันไปคุยกับม๊า “อย่างนั้นเอาไว้ก่อนดีกว่าครับ รอป๊าด้วย พวกผมออกไปถ่ายรูปก่อนดีกว่า เดี๋ยวมืดแล้วจะถ่ายไม่สวย



“โอเค เดี๋ยวม๊ายกพวกน้ำ ขนมไปให้ ถ่ายในสวนกันใช่ไหม”



“ครับผม” ผมตอบ ก่อนจะหันไปเรียกเพื่อนตัวดีทั้งหลาย “ไปพวกมึง ทำงานก่อนโว้ย ไปครับพี่เรน เดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟังว่าจะถ่ายอะไรยังไงบ้าง”



ผมเดินนำพี่เรนออกไปที่สวนข้างๆ บ้าน ไม่ได้กว้างใหญ่อะไรหรอกครับ แต่ก็มีทั้งต้นไม้ใหญ่ ต้นไม้เล็ก แล้วก็พื้นที่โล่งๆ น่าจะถ่ายได้หลายมุมอยู่



ผมให้พวกไอ้ไม้เตรียมสายยาง ส่วนผมจะบรีฟงานกับพี่เรนก่อน พี่เรนไม่ใช่มืออาชีพ แล้วก็ไม่ชอบถ่ายรูปด้วยน่าจะเป็นเรื่องยากสำหรับพี่เรน



“พี่เรนครับ ภาพที่ผมอยากได้น่ะคือภาพตัวพี่เรนเอง ไม่ต้องกังวลหรือเกร็งนะครับ ปล่อยตัวตามสบายเลย เดี๋ยวพวกไอ้ไม้จะใช้สายยางฉีดทำเป็นน้ำฝนให้” ผมเดินไปคุยกับพี่เรนที่ยืนมองพวกเพื่อนๆ ผมเตรียมสถานที่กันอยู่ “ผมจะถ่ายพี่เรนเล่นน้ำก่อน แล้วเดี๋ยวจะให้หมีเข้าฉากด้วย คงจะต้องทนเปียกทนหนาวหน่อย... ไหวใช่ไหมครับ”



“อ่า... พี่เกร็งๆ...” พี่เรนทำหน้าเหมือนจะร้องไห้เลย งุ้ย! น่ารักอ่ะ แต่ไม่ใช่สิ ไม่ใช่เวลามาเพ้อนะไอ้กาย!



“ไม่เป็นไรครับ ไม่ต้องเกร็งนะ ทำตัวตามสบายเหมือนเวลาผมชวนพี่เรนไปถ่ายรูปเล่นกันไง อันนี้ก็เหมือนกัน เนอะ”



พี่เรนพยักหน้ารับอย่างว่าง่าย น่ารักจริงๆ วุ้ยแฟนกูเนี่ย



“โอเคครับ เรามาลองกันเนอะ ไม่ต้องกังวลนะ” ผมบอก รับหมีมาจากพี่เรนแล้วเอาวางไว้ในตะกร้าที่พวกไอ้ไม้หยิบออกมา



เอาหมีวางไว้ในนี้จะได้ไม่เที่ยววิ่งไปไหน แต่ตะกร้าก็ไม่ได้สูงหรอกครับ เตี้ยๆ แต่อย่างน้อยก็มีที่มีทางให้มันหน่อย เดี๋ยวหมีมันน้อยใจ



ผมเดินไปเตรียมกล้องของตัวเอง เอาแฟลชแยกมาปรับก่อนจะหยิบขาตั้งมาวางเอาไว้ไม่ลืมใส่อุปกรณ์กันน้ำเอาไว้ด้วย ทดสอบแสงด้วยการกดถ่าย หันไปพยักหน้าให้พี่เรนมายืนตรงกลางที่พวกเราเตรียมเอาไว้ พี่เรนยังดูเกร็งๆ แต่ผมเชื่อครับ เดี๋ยวพี่เรนก็ปรับตัวได้ ผมส่งสัญญาณให้ไอ้ไม้กับไอ้เป้ที่รับผิดชอบทำฝนจากสายยางให้มันเปิดน้ำเพื่อฉีดทำฝนได้เลย



พี่เรนสะดุ้งน้อยๆ ตอนที่น้ำตกลงมาโดนตัว ผมเก็บภาพพี่เรนเอาไว้ทุกภาพ ไม่ว่าจะเป็นตอนสะดุ้ง ตอนยืนเกร็งๆ อย่างไม่รู้จะทำอย่างไรดี เพราะนั่น... ก็เป็นธรรมชาติอย่างหนึ่งของพี่เรน ความเป็นธรรมชาติที่ออกมาจริงๆ จากข้างในไม่ได้เสแสร้งแกล้งทำ






************************************************
หายไป 1 เดือนเต็ม ขอโทษคร้าบบบ ไม่รู้ว่าทุกคนลืมพี่เรนน้องกายกันไปหมดหรือยัง ฮืออออ ไม่มีข้อแก้ตัวใดๆ ครับผม เพราะฟางหายไปนานจริงๆ ถึงแม้จะมีเหตุผลในการหายตัวไปก็เถอะค่ะ จากนี้ไป... จะพยายามนะคะ จะพยายามไม่หายไปไหนนานๆ อีกแล้วกันเนอะ

มาที่เนื้อเรื่องค่า ตอนนี้คือก็ไม่มีอะไรมากนะ แค่น้องกายพาพี่เรนไปบ้าน พี่ได้เจอม๊า ได้ฝากตัวเป็นสะใภ้(?)แล้วแค่นั้นเอง วันนี้น้องกายเขามาแบบมีสาระนะเออ ทำงานค่ะทำงาน น้องเขาพาพี่มาทำงาน ส่วนพี่เรนจะรู้ใจตัวเองแล้วหรือยังนี่ก็ต้องรอติดตามกันต่อไปนะคะ อีกไม่ใกล้ไม่ไกลก็คงต้องโบกมือลาเรื่องนี้เป็นเรื่องต่อไปแล้วล่ะค่า

ยังไงก็อย่าลืมติดตามกันต่อไปนะคะ

อ่านแล้วอย่าลืมให้กำลังใจคนแต่งนะคะ จะได้มีกำลังใจแต่งนิยายให้อ่านกันค่ะ อย่าเงียบนะคะใจคอไม่ดีเลยค่ะ คอมเมนต์คือกำลังใจของคนเขียนนะคะ ^^

สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi

สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC

เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)

รักน้องกายพี่เรนกันเยอะๆ นะคะ กดเฟบ กดเมนต์ กดโหวด กดแชร์ แล้วแต่สะดวกเลยน๊า คนละนิดคนละหน่อยเป็นกำลังใจให้น้องกายพี่เรนนะคะ จุ๊บๆ ขอบคุณค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-07-2017 21:12:37 โดย fangiily »

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Rumraisin

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 673
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ขอบคุณค่ะฟาง  :กอด1: กลับมาให้หายคิดถึงแล้ว พี่เรนรู้จักม๊าแล้ว ดีใจด้วยจ้า ถ่ายแบบสู้ๆนะพี่เรน อยากเห็นแล้ว

ออฟไลน์ Cacao

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 22
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เจอแบบน้องกายพี่เรนไม่ชอบให้มันรู้ไปสิ! ทั้งเอาอกเอาใจดูแลทุกอย่าง
นี่ยังหลงจงอยากมีน้องกายเป็นของตัวเอง ชอบพี่เรนที่มึนๆตลอดเวลา
แต่ก็ยังแอบเขินเนอะ 555 เขินแบบงงๆ แบบไม่รู้ว่าตัวเองเขิน และเขินอะไร
อู้ยยย เป็นพี่หน่อยละก็ กระโดดจูบน้องกายเองแล้วค่ะ 555

รอตอนต่อไป กำลังกรุบกริบเลย ฝากเนื้อฝากตัวกับแม่แฟนนาจา

ออฟไลน์ fangiily

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +741/-12

สบายใจได้ครับ ม๊ากับป๊าผมไม่ว่าอะไรหรอก
Kamin
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #น้องกายหลงฝน ด้วยนะคะ





โชคครั้งที่ • 18.2 •




• • • ต่อค่ะ 100% • • •





พี่เรน



ผมได้แต่ยืนหันซ้ายหันขวาอย่างไม่รู้จะทำยังไง ก่อนจะสะดุ้งเมื่อน้ำจากสายยางตกลงมาโดนตัว หันกลับไปมองก็เห็นว่าเพื่อนน้องกายกำลังฉีดน้ำจากสายยางขึ้นไปบนฟ้าจนมันตกลงมาเหมือนกับฝน



หันไปมองน้องกายที่ถือกล้องอยู่ ผมเกร็งมากทีเดียวเพราะปกติแล้วผมไม่ชอบถ่ายรูป แม้จะยอมให้น้องกายถ่ายรูปผมเล่นบ่อยๆ ก็เถอะ แต่มันไม่เหมือนกันนี่นา... อันนั้นรู้ว่าถ่ายเล่นๆ แต่อันนี้น้องเอาไปส่งเป็นโปรเจคใหญ่เลยนะ ผมเลยค่อยข้างกังวลมากทีเดียว



“พี่เรนครับ ปล่อยตัวตามสบายนะครับ ไม่ต้องกังวลอะไร” น้องกายเงยหน้าจากกล้องที่ถืออยู่ขึ้นมาบอกผม



ผมได้แต่พยักหน้าแต่ก็ยังเกร็งอยู่ดี น้ำที่ตกลงมาโดนตัวเยอะขึ้นจนผมรู้สึกเปียกไปหมด ผมชอบน้ำนะ ชอบน้ำ ชอบฝน มันให้ความรู้สึกสดชื่นดี บ้านน้องกายก็ต้นไม้เยอะ พอมีน้ำแบบนี้กลิ่นไอดิน กลิ่นเย็นๆ ก็ลอยฟุ้งไปทั่ว ผมยื่นแขนออกไปรองรับน้ำที่ตกลงมา มองหยดน้ำที่ตกลงบนมือแล้วก็แตกออกก่อนจะยิ้มออกมา



“อย่างนั้นแหละครับ แค่เป็นตัวของตัวเอง” น้องกายพูด



ผมหันไปมอง เขาไม่ได้เงยหน้าขึ้นจากกล้อง นิ้วของน้องยังคงกดอยู่ที่ชัตเตอร์ ผมเพิ่งสังเกต เวลาน้องถ่ายรูปน้องดูจริงจังมาก ต่างจากเวลาปกติที่ชอบยิ้มร่า แล้วก็... ชอบทำให้ผมคันแก้มแปลกๆ



ผมเผลอมองน้องกายที่ยืนถือกล้องอยู่ ไม่แน่ใจว่ามองนานแค่ไหนแต่ก็มองอยู่แบบนั้น น้องกายในตอนนี้ดู... ยังไงล่ะ ดึงดูดสายตาจนละไปไหนไม่ได้ แล้ว... ผมก็รู้สึกคันๆ ที่แก้มอีกแล้ว



ไม่รู้ทำไมแต่ผมรู้สึกว่าน้องกายกำลังมองผม มองผ่านเลนส์ตัวนั้นที่น้องเขาถืออยู่ แม้จะรู้สึกคันๆ แก้มจนอยากจะหันหน้าไปทางอื่น แต่ก็ทำไม่ได้ ได้แต่มองน้องเขาอยู่แบบนั้น จนรู้สึกว่าเริ่มมองไม่ชัดเพราะน้ำเกาะอยู่เต็มแว่น ผมเลยถอดแว่นออกมาเช็ดก่อนจะสวมกลับไปอีกรอบ ยิ้มออกมาเมื่อเห็นน้องหมีวิ่งดุกดิ๊กมาหา



น้องหมีเป็นแมวที่ชอบน้ำมาก ไม่กลัวน้ำเหมือนแมวตัวอื่นๆ เพราะอย่างนั้นถึงได้วิ่งมาหาผมเพราะผมกำลังเล่นน้ำอยู่



“ฮึบ!” น้องหมีตัวขาวๆ กลมๆ หายไปแล้ว เหลือแต่น้องหมีตัวแบนๆ เพราะขนลูบแนบลำตัวไปหมด แต่ถึงอย่างนั้นน้องหมีของผมก็น่ารักที่สุดในโลกเลย



ผมทำหน้าเหวอตอนที่น้องหมีดิ้นจนหลุดจากมือของผม พยายามจะตามจับน้องหมีที่วันนี้ดูคึกมากเป็นพิเศษ เล่นสนุกกับแมวของตัวเองจนผมลืมไปเลยว่ากำลังเป็นแบบให้น้องกายถ่ายรูป



ผมหัวเราะตอนที่เห็นน้องหมีลื่นล้ม ก่อนจะตามไปอุ้ม น้องหมีร้องแง๊วๆ เหมือนจะฟ้อง



“ล้มเลย น้องหมีล้มเลย ไม่เจ็บน้า โอ๋ๆ นะ” ผมกอดน้องหมีที่ตัวเปียกลู่เอาไว้ โยกไปมาเหมือนกล่อมเด็ก ก่อนจะยิ้มเมื่อน้องหมีแลบลิ้นเลียที่มือของผม



“อ่ะ” ผมเงยหน้าขึ้นมองเมื่อไม่รู้สึกถึงน้ำที่ตกลงมาโดนตัวแล้ว น้องกายกำลังกางร่มให้ผมอยู่



“พอแล้วครับ นานกว่านี้เดี๋ยวไม่สบาย” น้องกายพูดใช้ผ้าขนหนูคลุมหัวผมเอาไว้ ก่อนจะแย่งน้องหมีไปส่งให้น้องแม็ครับไป “กูฝากเช็ดตัวเช็ดขนให้หมีด้วย”



“เออ เดี๋ยวจัดการให้” น้องแม็คใช้ผ้าขนหนูห่อน้องหมีก่อนจะพาเดินเข้าไปในบ้าน



ผมเพิ่งสังเกตว่าตอนนี้ฝนตกจริงๆ แล้ว พวกเพื่อนๆ น้องกายก็ขนของเข้าบ้านกันไปเกือบหมด



“แล้ว... งานเป็นยังไงบ้าง พี่มัวแต่เล่นกับหมีอย่างเดียวเลย” ผมถามเมื่อนึกขึ้นได้ว่าผมมาทำงานให้กับน้องกาย



“เรียบร้อยแล้วครับ เอาไว้ผมแต่งรูปอะไรเรียบร้อยจะส่งให้พี่เรนดูนะ สวยมากทุกรูปเชื่อมือผมได้เลย”



น้องกายยิ้มกว้าง แบบที่ผมเองก็เผลอยิ้มตามแล้วก็พยักหน้ารับ “อื้ม!”



“ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้ากันครับ เดี๋ยวไม่สบายไปเสียก่อน” น้องกายดันผมให้เดินกลับเข้าไปในบ้าน ผมใช้ผ้าขนหนูเช็ดผมเช็ดตัวก่อนจะเอาห่อตัวเองไว้เพราะเริ่มรู้สึกหนาวแล้ว



“รีบไปอาบน้ำกันลูก เดี๋ยวม๊าชงนมอุ่นๆ เอาไว้ให้” แม่ของน้องกายพูดตอนผมกับน้องโผล่เข้าไปในบ้าน



“ครับม๊า ไปครับพี่เรน” ผมเดินตามน้องกายที่จูงมือผมขึ้นมาบนชั้นสอง



น้องให้ผมเข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน “แต่กายก็เปียกเหมือนกันนะ”



“ไม่ต้องห่วงครับ เดี๋ยวผมไปใช้ห้องน้ำห้องม๊าได้ พี่เรนรีบเข้าไปอาบน้ำได้แล้ว” น้องดันหลังผมให้ตรงไปที่ห้องน้ำ “ถ้านับถึงสามยังไม่เข้าไปนะ ผมจะช่วยพี่เรนอาบน้ำ หนึ่ง...”



ไม่ต้องรอถึงสามผมก็แทบจะวิ่งเข้ามาในห้องน้ำ ได้ยินเสียงน้องกายหัวเราะด้วย ผมเลยหันไปย่นจมูกใส่ แต่ย่นใส่ประตูห้องน้ำนะ


อ่า... คนในกระจกนั่นใคร ทำไมหน้าแดงจัง



แถมหัวใจก็เต้นเร็วด้วย น้องกายแกล้งผมอีกแล้วสินะ ทำให้ผมรู้สึกแปลกๆ อีกแล้ว



ผมอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า พอออกจากห้องน้ำไปก็เจอน้องกายนั่งสำรวจกล้องอยู่บนเตียง ผมยังเปียกลู่อยู่เลยไม่ยอมเช็ด



“พี่เรนเช็ดผมให้แห้งด้วยครับ เดี๋ยวไม่สบาย” เงยหน้ามาบอกผม แล้วก็ก้มลงไปเช็ดกล้องต่อ



ตัวเองยังไม่ยอมเช็ดผมเลย! ฮึ่ม



“กล้องเปียกเหรอ”



“นิดหน่อยครับ อีกอย่างผมก็เอามาเช็ดทำความสะอาดเป็นปกติอยู่แล้วด้วย แล้วทำไมพี่เรนไม่เช็ดผมให้แห้งเนี่ย”



อ่ะ!



น้องกายดึงผมไปนั่งข้างๆ วางกล้องเอาไว้บนเตียงก่อนจะคว้าผ้าขนหนูที่คอของผมมาเช็ดผมให้ “กายก็ยังไม่ยอมเช็ดผมเลย”



“เช็ดให้ผมหน่อยสิ”



ผมเม้มปากตอนที่น้องยื่นหน้ามาใกล้ รู้สึกแก้มร้อนๆ อีกแล้ว แต่ก็ยอมยกมือขึ้นเช็ดผมให้ ตอนนี้เลยกลายเป็นว่าเราเช็ดผมให้กันอยู่ แถมน้องกายก็อยู่ใกล้ผมมากเลย นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ผมได้เห็นน้องใกล้ๆ แบบนี้ ปกติเวลาน้อง... อ่า... มาหอมแก้ม ห หรือ จ จุ๊บ! ผมไม่ค่อยกล้ามองเท่าไหร่



น้องเองก็มองผมอยู่ แถมยังยิ้มให้ด้วย งือ... หน้าผมร้อนมากๆ มากๆ แบบมากๆ เลยด้วย รู้สึกว่าถ้ายังมองหน้าน้องต่อหน้าผมต้องไหม้แน่ๆ เลย เลยได้แต่ก้มหน้าลง



“อ๊ะ”



ผมถูกคว้าตัวไปกอดจนแน่น มือสองข้างมันดูเกะกะไปหมดจนไม่รู้จะเอาไปวางไว้ตรงไหน



“ผมน่ะ... รักพี่มากขึ้นทุกวันๆ เลยรู้ไหม”



น้องกอดผมแน่นมาก แต่ก็น่าแปลกที่ผมไม่ได้รู้สึกอึดอัดกับอ้อมกอดของน้องกาย



“พี่ถามได้ไหม...ทำไมถึง... อือ... ช ชอบพี่”



“ผมน่ะชอบพี่เรนตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอเลย ผมน่ะไม่ได้เพิ่งชอบพี่นะ แต่ผมชอบพี่มาเป็นปีแล้วนะ” ผมได้แต่ทำตาโตตอนที่ฟัง แล้วก็รู้สึกว่าแก้มตัวเองชักจะร้อนขึ้นเรื่อยๆ แล้วด้วย



“งืออออออ”







น้องกาย



ผมอมยิ้มตอนมองพี่เรนที่หน้าแดงก่ำไปหมดแล้วตอนนี้ เห็นแล้วอยากฟัดมากเลย คนอะไรทำไมไม่ว่าจะทำอะไรก็น่ารัก น่าเอ็นดูไปหมดก็ไม่รู้



“ผมน่ะ เห็นพี่ครั้งแรกตอนวันแบบนี้แหละ” ผมบอก ชี้ไปที่หน้าต่างที่สายฝนยังคงตกกระหน่ำไม่หยุด “ผมเจอพี่วันฝนตก พี่น่ะเป็นคนเดียวที่นั่งตากฝนเพื่อหาลูกแมวที่ส่งเสียงร้องอยู่”



ผมยังจำได้อยู่เลย วันแรกที่ผมเห็นพี่เรน วันที่ฝนตกหนัก เสียงของลูกแมวร้อง และคนแปลกๆ ที่เดินตากฝนไปนั่งที่พื้นฟุตบาทแล้วก็อุ้มลูกแมวมา ภาพแรกที่ผมถ่ายพี่เรนเอาไว้ แล้วก็เป็นภาพแรกที่ผมรู้สึกว่า... ผมถ่ายได้ดีที่สุด



“แล้วผมก็บังเอิญเจอพี่อีกเรื่อยๆ ไหนจะห้องที่เราอยู่ตรงข้ามกัน ผมน่ะ... คอยมองพี่มาตลอดนั่นแหละ ตอนแรกก็แค่คิดว่าพี่น่ารักดี แต่พอมองไปมองมาก็กลายเป็นชอบไปตอนไหนก็ไม่รู้ พอรู้ตัวอีกที...”



ผมมองพี่เรนที่เอาแต่ก้มหน้า แต่แก้มแดงๆ กับหูแดงๆ ก็บอกผมได้ว่าพี่เรนกำลังเขินมากแค่ไหน



“ผมก็รักพี่... จนถอนตัวไม่ขึ้นแล้ว”



“งืออออออ”



พี่เรนยกมือปิดหน้าตัวเองพยายามจะเดินหนีผม แต่ผมก็คว้าเอวเขาเอาไว้ก่อน รั้งเข้ามาใกล้แล้วกอดเอาไว้แน่นๆ พี่เรนเหมือนตุ๊กตา... ให้ความรู้สึกนุ่มนิ่มน่ากอดเป็นที่สุด แล้วผมก็ชอบกอดพี่เรนแบบนี้ด้วย มันให้ความรู้สึกดีสุดๆ ไปเลยล่ะ



“พ พอแล้ว” พี่เรนพูดเสียงสั่น เพิ่มความน่าเอ็นดูเข้าไปอีกหลายเท่าตัว เห็นแล้วอยากฟัดอ่ะ ฟัดได้ไหม



ได้สิ ก็เป็นแฟนผมแล้วนี่เนอะ ผมจะฟัดแฟนตัวเองผิดตรงไหน



“งือออออ” พี่เรนร้องออกมาเมื่อผมก้มลงไปหอมแก้มฟอดใหญ่



อย่างฟินอ่ะครับ พี่เรนอาบน้ำห้องผมใช้สบู่กลิ่นเดียวกับผม แต่ทำไมโคตรหอมเลย หอมกว่าผมอีก อ้ากกกก ไอ้กายฟิน อยากฟัดให้จมเตียงเลย จับพี่เรนโยนลงเตียงเลยได้ไหม คร่อมเลยได้หรือเปล่า อยากจะเห็นหน้าแดงๆ ของพี่เรนให้ชัดๆ



“พี่เรนน่ารัก รักพี่เรนนะ” ผมบอก พลางมองพี่เรนที่นอนอยู่ใต้ตัวผม ถึงแม้ท่าทางของเราจะสุ่มเสี่ยง แต่ไม่มีอะไรเกินเลยแน่นอน



มีใครให้มากกว่าซอสมะเขือเทศสุดเข้มข้นไหม ตอนนี้แก้มพี่เรนแดงมากเลย แฟนผมนี่ขี้เขินเหมือนกันนะเนี่ย



“แล้วพี่เรนล่ะ... เริ่มชอบผมบ้างหรือยัง” ผมถามด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง อยากจะรู้ว่าความรู้สึกของพี่เรนที่มีต่อผมนั้นเพิ่มขึ้นบ้างหรือยัง แล้วเพิ่มขึ้นมากน้อยแค่ไหนกัน



พี่เรนเม้มปาก พร้อมทั้งหลบสายตาไม่ยอมมองหน้าผมด้วย ผมไม่ยอมแพ้หรอกนะ ตามไปมองหน้าพี่เรนต่อ



“ว่ายังไงครับ เริ่มชอบผมบ้างหรือยัง” ใช้จมูกคลอเคลียแก้มแดงๆ หอมๆ นั้นอย่างรักใคร่ แต่ไปๆ มาๆ ก็เริ่มใคร่... แก้มพี่เรนอย่างหอมเลยครับ



“... ลุกก่อน” พี่เรนพูดเสียงเบาพร้อมกับดันไหล่ผมด้วย ไม่รู้ว่าพี่เรนแรงน้อย หรือไม่ออกแรงกันแน่ ผมถึงไม่ค่อยรู้สึกถึงแรงผลักของพี่เขาเลย “งืออออ ลุกก่อน”



พอผมไม่ยอมลุกก็ส่งเสียงงอแงทันที ผมยิ้มขำก้มลงหอมแก้มนิ่มๆ หอมๆ ไปฟอดใหญ่สองฟอดแล้วก็ยอมขยับตัวออกจากพี่เรน คว้ามือพี่เขามากุมเอาไว้หลวมๆ



“พี่ถามอะไรหน่อยสิ...” พี่เรนพูด “ถ้า... ถ ถ้าสมมติว่าพี่ไม่ได้คิดอะไรกับกาย... กายจะทำยังไงเหรอ อ่า... คือพี่สมมตินะ” พี่เรนบอกเสียงรัวเหมือนกลัวว่าผมจะคิดมากแล้วก็เข้าใจผิดไป



“ผมก็ไม่ทำยังไงหรอกครับ ถ้าพี่เรนยังยอมคบกับผมต่อผมก็จะพยายามให้มากขึ้น มากขึ้นเพื่อทำให้พี่เรนรักผมให้ได้ แต่ถ้าพี่เรนไม่คบกับผม ผมก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากรักพี่เรนแบบนี้ไปเรื่อยๆ นั่นแหละครับ” ผมตอบ



ผมคิดและรู้สึกอย่างที่ตอบพี่เรนไปจริงๆ ถ้าผมมีโอกาส ผมก็จะพยายามอย่างหนักเพื่อให้พี่เรนชอบผม แต่ถ้าไม่มีโอกาสผมก็แค่ปล่อยพี่เรนไปแล้วก็รักพี่เรนต่อไปเรื่อยๆ ถ้าเกิดมันเป็นแบบนั้นจริงๆ แม้ว่าผมจะต้องอยู่อย่างเหงาๆ ผมก็คงเลือกที่จะรักพี่เรน ไม่เลิกรักง่ายๆ หรอกครับ



“พี่ก็... คิดนะ แต่พี่ก็ไม่เห็นจะเข้าใจเลยว่าทำไมน้องกายถึงมาชอบพี่ได้” พี่เรนหันมามองผม “กายเป็นถึงเดือนคณะ หน้าตาก็ดี คงมีคนมาชอบตั้งเยอะ แล้วดูพี่สิ เฉิ่มก็เฉิ่ม เชยก็เชย ใส่แว่นหน้าเตอะ ไม่เห็นมีอะไรให้น่าชอบเลย”



“แต่เพราะพี่เรนเป็นพี่เรนไง ผมถึงชอบ ผมชอบที่พี่เรนใส่แว่นหนาเตอะ ผมชอบที่พี่เรนปล่อยผมหน้าม้าบังหน้าบังตา” ผมตอบ ใช้มือจับไปที่ผมหน้าม้าของพี่เรนที่มันเริ่มยาว “ไม่มีใครเห็นว่าพี่เรนที่ผมชอบน่ะ น่ารักแค่ไหน”



“ผมชอบพี่เรนที่ทุกอย่างคือพี่เรน”



คำตอบแค่นี้เพียงพอไหมครับ ผมไม่ได้ชอบพี่เรนเพราะพี่เรนน่ารัก แต่ผมชอบทุกอย่างที่เป็นพี่เรน ชอบความโก๊ะ ความซุ่มซ่าม ความเป็นเด็กเนิร์ด ชอบทุกอย่างจริงๆ



“พี่น่ะ...”



ก๊อกๆ ก๊อกๆ



“สัสกาย พี่เรน ม๊าเตรียมมื้อเย็นเสร็จแล้ว ลงไปกินข้าวกัน”



เสียงไอ้ไม้ตะโกนมาพร้อมกับเสียงเคาะประตูห้อง ทำให้พี่เรนที่กำลังจะพูดอะไรสักอย่างชะงักไปทันที ผมนี่นึกเคืองมันชิบหาย เข้าใจมาขัดจังหวะชะมัดเลย



“ไอ้กาย มึงได้ยินไหมเนี่ย” มันตะโกนมาอีกรอบเมื่อผมกับพี่เรนไม่มีใครตอบอะไรกลับไป “ไอ้กายโว้ยยยยยย”



“เออ! กูได้ยินแล้วไอ้สลัด!” ด่ามันไปครับ หงุดหงิด มาขัดจังหวะซะได้



ผมหันไปหาพี่เรนที่นั่งห้อยขาอยู่บนเตียงก่อนจะชวนลงไปข้างล่าง “ไปครับ ไปกินข้าวกันดีกว่า”



ผมชะงักเมื่อรู้สึกว่าเสื้อของตัวเองโดนดึงอยู่แล้วคนที่ดึงก็คงไม่พ้นคนรักของผมนั่นแหละครับ ผมหันไปมองอย่างจะถามว่ามีอะไรหรือเปล่า แต่พี่เรนไม่ตอบอะไรนอกจากออกแรงดึงผมมากขึ้นจนผมต้องขยับไปใกล้ๆ สุดท้ายก็นั่งลงข้างพี่เรนอีกรอบนั่นแหละครับ



“มีอะไรหรือเปล่าครับ”



พี่เรนยังคงนิ่ง ริมฝีปากเม้ม ท่าทางเหมือนคนที่กำลังคิดแล้วก็ตัดสินใจอะไรอยู่ ดูเคร่งเครียดแต่ในสายตาผม พี่เรนก็ยังน่ารักเสมอนั่นแหละครับ



จุ๊บ!



“พี่ก็ชอบกายนะ”




แล้วพี่เรนก็วิ่งออกจากห้องของผมไป



ส่วนผมก็ได้แต่นั่งนิ่ง สมองกำลังทำงานประมวลผลเรื่องราวที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อครู่ เหมือนได้ยินเสียงสองเสียง เสียงแรกเป็นเสียงจุ๊บ แน่นอนว่าผมไม่ได้จุ๊บพี่เรน แล้วในห้องมีแค่ผมกับพี่เขา ถ้าผมไม่ได้จุ๊บ ก็แสดงว่าพี่เรนจุ๊บผม



ส่วนอีกเสียง... มันเบามากจริงๆ เบาแบบเบ้าเบาเลยครับ ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเสียงที่เบาขนาดนั้นผมกลับได้ยินอย่างชัดเจน มันเป็นประโยคที่ฟังแล้วลื่นหูมากเลยทีเดียว



แล้วกว่าสมองของผมจะประมวลคำตอบเสร็จ...



พี่เรนจุ๊บแก้มผม! แถมยังบอกชอบผมด้วย!!



ผมตะโกนโวยวายลั่นห้อง คว้าหมอนมากอดแล้วฟัดๆ ไปที่หมอน ขึ้นไปกลิ้งสองสามตลบอยู่บนเตียง ปากงี้ฉีกยิ้มถึงหู โคตรจะมีความสุขเลยล่ะครับ นี่เป็นครั้งแรกเลยที่พี่เรนพูดอะไรแบบนี้ เพราะปกติพี่เขาจะไม่ค่อยพูดอะไร โดยเฉพาะเรื่องควารักของผมกับพี่เรน แต่ถ้าเป็นเรื่องอื่นละคุยเก่งมาก



นี่เป็นวันแห่งประวัติการณ์เลยนะเนี่ย



ผมเชื่อว่าผมยิ้มไม่หุบเลยตั้งแต่ออกจากห้อง จนเจอป๊า แนะนำพี่เรนให้ป๊ารู้จักอีกรอบ แล้วก็กินข้าว พูดคุยกับพวกไอ้เป้ จนพวกมันกลับกันไปหมดแล้ว เหลือผม ป๊า แล้วก็ม๊านั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น ผมก็ยังไม่สามารถหุบยิ้มได้เลย



มันคือความสุขครับ ความสุขมันล้นมากจนแสดงออกทางสีหน้าหมดแบนี้ แล้วไหนจะมีแก้มแดงๆ ของพี่เรนประกอบฉากเพิ่มความสุขเข้าไปอีก



ไอ้กายโคตรจะมีความสุขเลยโว้ยยยยยยยยยย!!!







************************************************
ได้กลิ่นอะไรเหม็นๆ ไหมคะ นี่เหม็นคนมีความรักมากเลยค่ะ หลังจากที่น้องกายรอคอยมาแสนนาน สุดท้ายก็ได้คำตอบจากพี่เรนแล้วเนอะว่าอะไรยังไง ซึ่งก็ปล่อยเจ้ากายเพ้อไปค่ะ อย่าไปขัดความสุขนางเลย ฮ่าๆๆ อ๋อ... เรื่องนี้ไม่มี NC นะคะ ใสๆ จ้า ใสๆ ไร้ดราม่า ของจริง แล้วก็จะจบแล้วด้วย

ตอนแรกว่าไม่เกิน 25 ตอน ไปๆ มาๆ จะไม่ถึง 21 ตอนแล้วจ้า จะจบแล้วยังไงก็ฝากติดตามจนจบเลยเนอะๆๆ แล้วเจอกันตอนหน้าค่า

ยังไงก็อย่าลืมติดตามกันต่อไปนะคะ

อ่านแล้วอย่าลืมให้กำลังใจคนแต่งนะคะ จะได้มีกำลังใจแต่งนิยายให้อ่านกันค่ะ อย่าเงียบนะคะใจคอไม่ดีเลยค่ะ คอมเมนต์คือกำลังใจของคนเขียนนะคะ ^^

สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi

สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC

เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)

รักน้องกายพี่เรนกันเยอะๆ นะคะ กดเฟบ กดเมนต์ กดโหวด กดแชร์ แล้วแต่สะดวกเลยน๊า คนละนิดคนละหน่อยเป็นกำลังใจให้น้องกายพี่เรนนะคะ จุ๊บๆ ขอบคุณค่ะ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-07-2017 21:19:22 โดย fangiily »

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
โอ้ยยย อิจน้องกายจัง พี่เรนน่ารัก

ออฟไลน์ Rumraisin

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 673
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
งืออออออออออออ ทำไมน่าฟัดอย่่างนี้นะพี่เรน หมั่นไส้เจ้ากายจริงๆ ขอบคุณค่ะฟาง :กอด1:

ออฟไลน์ cchompoo

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-4

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ thanza1970

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 533
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
น้องเรนน่ารักจังเลย

 :z1: :z1: :z1:

ออฟไลน์ fangiily

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +741/-12

“ช... ชอบ... ชอบนะ”
Ramin
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #น้องกายหลงฝน ด้วยนะคะ





โชคครั้งที่ • 19 •
 



พี่เรน
 



งืออออออออ



ผมโดนแกล้ง ใครก็ได้ช่วยผมด้วย น้องกายกำลังแกล้งผม แกล้งผมหนักด้วย ผมได้แต่เดินหนีน้องกายไปเรื่อยๆ ถึงแม้จะเดินวนอยู่ในห้องนอนของเขาก็เถอะ งือออ... เวลานี้ผมควรจะกลับไปนอนที่หอแล้วสิ ก็... ม แม่กับพ่อ... ของน้องน่ะ หลังจากกินข้าวมื้อเย็นเรียบร้อยก็ชวนให้ผมอยู่ค้างด้วยกันที่บ้าน อีกอย่าง... น้องกายก็ตั้งใจจะค้างที่บ้านด้วย ไม่อย่างนั้นน้องก็ต้องขับรถไปส่งผมที่ห้องแล้วก็กลับมาที่บ้านอีก อีกอย่าง ผมก็ไม่รู้จะปฏิเสธยังไง ก็เลยเผลอพยักหน้าตอบรับไป



น้องหมีชิ่งหลับไปนานแล้ว แต่ผมกับน้องกายน่ะยังไม่หลับ หลังจากที่กินข้าวเสร็จ อยู่คุยกับพ่อแม่น้องสักพักก็ขึ้นมาข้างบน แล้วพอมาถึงน้องก็กักตัวผมแล้วถามเรื่องที่ผมพูดเมื่อตอนก่อนจะลงไปกินข้าวทันที



ทำไมต้องมาถามย้ำด้วยล่ะ!



“พี่เรน... จะเดินหนีผมไปไหนละครับ” ผมยกมือปิดหู เม้มปากไม่ยอมพูดอะไร พร้อมกับเดินหนีน้องกายไปด้วย “พี่เรนคร้าบบบบ”



“งืออออ อะไรอ่ะ” ผมหันไปมอง เดินไปอีกฝั่งของห้อง น้องกายก็เดินตามมา



“มาคุยกันให้รู้เรื่องก่อนสิครับ” ไม่ต้องมายิ้มเลยนะ วันนี้... ไม่สิ เย็นนี้น้องกายจะยิ้มเยอะเกินไปแล้วนะ “มาจุ๊บแก้มผม มาบอกชอบผมแล้วจะเดินหนีผมแบบนี้ไม่ได้นะ ผมเสียหายนะคร้าบ”



ผมทำตาโตใส่ เบ้ปากใส่ด้วย เสียหายอะไรกันแล้วทีน้องมา...ห หอมแก้มผม จ จูบผมล่ะ ผมไม่เสียหายหรือยังไงกัน งือออ!! ผมจะงอนแล้วนะ



“โอ๋ๆ ไม่แกล้งแล้วก็ได้ แต่มาคุยกับผมก่อนครับ เร็วๆ” ผมมองมือที่ยื่นมาตรงหน้า ลังเลว่าจะยื่นไปจับดีไหม แต่สุดท้ายก็ยื่นมือไปจับมือของน้องกาย



“อ่ะ!”



ผมร้องออกมาทันทีเพราะเพียงแค่พอยื่นมือไปจับน้องก็ดึงผมเข้าไปหาแล้วก็กอดเอาไว้ทันทีจนผมแทบจะจมลงกับอกของน้อง



“พี่เรน... พูดจริงใช่ไหม ไม่ได้หลอกผมเล่นนะ” ผมได้แต่ซุกหน้ากับอกของน้อง



“ค ใครเขาล้อเล่นกันเรื่องแบบนี้น่ะ” ผมตอบเสียงเบา อยากจะหายไปจากตรงนี้จริงๆ นะ น้องกายแกล้งผมหนักมากเลย หน้าผมร้อนไปหมดแล้ว รู้สึกเหมือนหน้าตัวเองกำลังจะไหม้เลย



“วันนี้นี่เป็นวันที่โคตรจะดีของผมเลย” แค่ฟังก็รู้ ไม่ต้องมองหน้าก็รู้ว่าน้องมีความสุขมากแค่ไหน “ได้พาพี่เรนมาแนะนำให้พ่อกับแม่รู้จัก งานโปรเจคผมเสร็จเรียบร้อย ได้อยู่กับพี่เรน กอดพี่เรน บอกรักพี่เรน แล้วยังได้ยินพี่เรนบอกรักผมอีก ผมโคตรจะมีความสุขเลย”



“อือ...”



วันนี้... ที่จริงแล้วผมได้คุยกับพวกตินา ปรึกษากับพวกสาวๆ เรื่องของผมกับน้องกาย ช่วงหลังจากที่คบกับน้องกายผมก็รู้สึกแปลกๆ ตลอดเลย ยิ่งเวลาที่อยู่ใกล้น้อง ใจผมเต้นแรงมาก รู้สึกแก้มมันร้อนเกือบจะตลอดเวลา แล้วพอบังเอิญได้เห็นน้องอยู่กับคนอื่น ผมก็รู้สึกแปลกๆ อีก เหมือนจะไม่ชอบใจ ไม่พอใจ ผมไม่แน่ใจว่าสิ่งที่ผมรู้สึกนั้นคืออะไรกันแน่ ก็เลยลองคุยกับพวกตินา



“ถ้าถามพวกฉัน พวกฉันก็บอกได้เลยว่าเรนน่ะชอบเด็กนั่นไปแล้ว แต่เรนก็ต้องถามใจตัวเองด้วย ไม่ใช่ถามพวกฉันแบบนี้”



“แล้ว... เราจะรู้ได้ยังไง ว่าใช่จริงๆ เราก็... คิดอยู่นั่นแหละ แต่เราก็แค่อยากจะมั่นใจจริงๆ”



“ก็ไม่รู้จะพูดยังไงดี เอาเป็นว่าลองจินตนาการตามแล้วก็ตอบคำถามมาละกันนะ ตอนอยู่กับน้องมันเรนมีความสุขไหม”



“มีสิ... แม้แต่ตอนที่อยู่ด้วยกันเฉยๆ แต่ต่างคนต่างทำงานเราก็คิดว่ามันดี”



“แล้วตอนที่น้องมันมากอดมาอ้อนล่ะ”



“อ่า... ก็ดี...”



“แล้วถ้าเห็นน้องมันอยู่กับคนอื่นล่ะ ผู้หญิงสวยๆ สนิทสนมกัน เรนจะรู้สึกยังไง”




ตอนที่ได้ยินคำถามนั้นผมก็เงียบไปเพราะผมไม่รู้จะตอบว่าอะไรลองนึกตามที่ใบหม่อนพูด ถ้าผมเห็นน้องกายอยู่กับผู้หญิงที่สวยๆ ใกล้ชิดกัน สนิทสนมกัน ตอนที่นึกถึงแบบนั้นผมรู้สึกแปลกๆ มันแปลกไปจากทุกที แค่คิดว่าถ้าน้องกายสนิทกับคนอื่นผมก็... ไม่พอใจแล้ว



“แล้วยังต้องถามอะไรอีกไหมว่าเรนชอบหรือไม่ชอบน้องเขาน่ะ”



อือ... ไม่ต้องถามอะไรแล้วล่ะ เพราะผมคงชอบน้องกายเข้าแล้วจริงๆ ไม่รู้ว่าตั้งแต่ตอนไหนด้วย เห็นไหม! น้องกายนิสัยไม่ดี แกล้งผมหนักมากเลย



“อูย... ดูทำหน้าสิ ทำไมทำหน้าแบบนั้นละครับ” ผมสะดุ้งจากความคิดเงยหน้ามองน้องกายที่ยังกอดผมอยู่แล้วก็ก้มลงมามองผม “ทำหน้าเหมือนงอนผมเลย งอนผมเรื่องอะไรครับ หือ...”



“กายชอบแกล้งพี่...” ผมพูดเสียงเบา พยายามจะขืนตัวหนีแต่มือน้องเหนียวมากเลย กำลังแกล้งผมอีกแล้วนะ!



“โอ๋ๆ ไม่แกล้งแล้วครับ”



ผมทำหน้างอใส่ แล้วก็โดนกอดแน่นขึ้น ไหนว่าไม่แกล้งแล้วไง แบบนี้น่ะแกล้งกันชัดๆ เลย ขาผมก้าวตามน้องกายที่พาผมเดินไปที่เตียงทั้งๆ ที่ยังกอดผมไม่ปล่อย ผมร้องออกมาอย่างตกใจตอนที่ถูกรั้งให้ลงไปนอนบนเตียงทั้งแบบนั้น น้องกายให้ผมนอนทับอยู่บนตัวแล้วก็กอดผมเอาไว้ เป็นท่าเดียวกับที่ผมชอบจับน้องหมีมานอนเลย แล้วน้องหมีก็ชอบมากด้วย ซุกอกผมใหญ่เลย ผมก็เคยสงสัยนะว่าทำไมถึงดูชอบ มันอุ่นหรือยังไงกัน



ก็... อุ่นจริงๆ นั่นแหละครับ



“พี่เรน”



“หือ...” ผมขานรับ เปลี่ยนเป็นแนบแก้มลงกับอกของน้องกาย



“ขอบคุณนะครับ”



ผมเงยหน้าขึ้นมองอย่างไม่เข้าใจว่าน้องขอบคุณผมเรื่องอะไร



“ขอบคุณครับที่ชอบผม ขอบคุณที่คบกับผมแบบนี้ ขอบคุณนะครับ”



ผมส่ายหน้าไปมา ไม่เห็นต้องขอบคุณเลย ที่จริงต้องเป็นผมสิที่พูดแบบนั้น ผมสิต้องขอบคุณน้องกายที่มองเห็นคนแบบผม คนที่ไม่ได้โดดเด่นอะไรเลย แต่ย้องก็ยังมองเห็นผมแล้วก็ชอบผมแบบนี้ เป็นผมสิ... ที่ต้องขอบคุณ



“พี่ต่างหากที่ต้องขอบคุณ... ขอบคุณที่มองเห็นพี่”



“ผมสิต้องขอบคุณ”



“งือออ พี่สิ”



“ผมสิ”



“พี่สิ”



“ผมสิ”



“พะ...”



ยังไม่ทันที่ผมจะได้พูดต่อผมก็ถูกจับให้พลิกลงไปนอนติดเตียงก่อนที่น้องกายจะก้มลงมาจูบผมแบบไม่ให้ตั้งตัว



“อย่างนั้น...  เราขอบคุณกันคนละครึ่งแล้วกันนะครับ” น้องกายพูด ทั้งๆ ที่ยังไม่ยอมขยับไปไหน หน้าของผมกับน้องอยู่ใกล้กันมาก



ใกล้จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจของน้อง ที่สัมผัสนั้นก็ชัดเจนมากขึ้นเมื่อน้องก้มลงมาหาผมอีกรอบ แล้วก็จูบผมอีกครั้ง ผมไม่รู้ว่าตัวเองโดนจูบนานแค่ไหน มันเบลอๆ ไปหมด ได้แต่ปล่อยให้น้องทำตามใจโดยที่ผมก็ไม่ได้ปัดป้องอะไร



ผมหายใจหอบเพราะจูบที่ยาวนานกว่าทุกครั้ง ไม่รู้ว่าปากผมจะบวมหรือเปล่า แต่มั่นใจว่าหน้าผมต้องแดงมากแน่นอน



น้องขยับไปนอนข้างๆ ผม แต่ก็ยังรั้งผมเข้าไปกอดเอาไว้เหมือนเดิม กายมองผมแบบไม่ละสายตา ผมอยากจะเบือนหน้าหนีแต่ก็ทำไม่ได้ ได้แต่เผลอมองตอบกลับไป จ้องมองเข้าไปในตาของน้องที่กำลังสะท้อนภาพของผมอยู่



“ผมรักพี่เรนนะ รักมากที่สุดเลย” น้องพูด แม้จะไม่ได้พูดเสียงดังแต่ผมก็ได้ยินอย่างชัดเจนเพราะเราอยู่ใกล้กันมาก



มือของกายสัมผัสไปทั่วใบหน้าของผม ก่อนจะดึงแว่นที่ผมสวมอยู่ออก อ่า... เมื่อกี้ตอนที่จูบกันผมยังไม่ได้ถอดแว่นออก ทั้งๆ ที่แว่นสายตาถูกดึงออกไปแล้ว ทั้งๆ ที่ผมควรจะมองหน้าน้องกายไม่ชัด แต่มันไม่เป็นแบบนั้น ผมเห็นหน้าของน้องชัดเจน น้องต้องอยู่ใกล้ผมแค่ไหนผมถึงได้เห็นชัดแบบนั้น



ผมเผลอกลั้นหายใจเมื่อปลายจมูกของน้องแตะที่จมูกของผม



“ไม่เม้มปากสิ” นิ้วของกายเกลี่ยไปมาที่ปากของผม แล้วน้องก็จูบผมอีกแล้ว



จูบเยอะไปแล้วนะ เอาเปรียบ นิสัยไม่ดี ขี้แกล้ง!



“หึหึ แก้มแดงปากแดงหมดแล้ว”



เพราะใครกันล่ะ!



“ครับๆ เพราะผมเองครับ” ถึงแม้ผมจะไม่ได้พูดออกไปแต่น้องกายก็เหมือนจะเข้าใจ เพราะยอมรับผิดแต่โดยดี ไหนเมื่อกี้ยอมรับผิดแล้วไง มาหอมแก้มกันทำไม



“เฮ้อ... พี่เรน ถ้าพี่ยังเอาแต่ทำตัวน่ารักแบบนี้สักวันต้องแย่แน่ๆ เลย” อยู่ๆ กายก็พูดเรื่องอะไรก็ไม่รู้ออกมา ผมไม่เห็นจะเข้าใจเลย ผมขมวดคิ้วอย่างงงๆ กับสิ่งที่น้องกายพูด “ทำหน้าแบบนี้ก็น่ารัก”



“ทำหน้างอก็น่ารัก ทำหน้าบึ้งก็น่ารัก ทำหน้างอนก็น่ารัก ทำหน้าเฉยๆ ก็น่ารัก”



น้องกายพูดไม่หยุด ก่อนจะเอียงหน้า ผมรู้สึกถึงปลายจมูกที่กดลงมาที่แก้มของผม พร้อมกับเสียงทีพูดอยู่ข้างหู



“ทำหน้าน่ารักก็ยิ่งหลงรัก”



ผ ผมว่าหน้าผมไม่ได้กำลังไหม้แล้วล่ะ แต่ผมรู้สึกว่า... ผมกำลังจะละลายรวมเป็นเนื้อเดียวกับผ้าปูที่นอนแล้ว



“ไหนบอกชอบผมหน่อยสิ”



ผมไม่ตอบซุกหน้าลงกับหมอนเพื่อหนีน้องกาย คนนิสัยไม่ดีชอบแกล้งผม



“บอกชอบผมหน่อยครับ นะ ผมอยากได้ยินอีก” น้องยื่นมือมาจิ้มแก้มผมเบาๆ ระหว่างพูด “นะครับนะ บอกชอบผมหน่อย”



“นะครับ... นะ”



ท ทำไมต้องมาทำเสียงอ้อนด้วย ผมหันไปมองก็เห็นน้องนอนมองมาทางผมแล้วก็ยิ้มจนผมต้องหันหน้ากลับมาซุกหมอนเหมือนเดิม



“นะครับพี่เรน บอกชอบผมหน่อยนะ”



“ช...”



“อะไรนะครับ ผมไม่ได้ยินเลย”



ผมจะทำยังไงกับสถานการณ์ตรงนี้ดี ผมไม่เคยเจอกับเรื่องแบบนี้เลยผมรับมือไม่ถูกด้วย ผมหายตัวไปตอนนี้เลยได้ไหม



“...”



“...”



พอผมไม่ตอบไม่พูด น้องกายก็เงียบ แต่พอหันไปมองก็เห็นว่ายังมองมาอยู่ จ จะมากดดันกันเหรอ



งืออออ ยอมแพ้ก็ได้!



“ช... ชอบ... ชอบนะ”






************************************************
งุ้ยๆๆๆ ทำไมตอนนี้มันดูน่าหมั่นไส้น้องกายแบบนี้น้า เจ้าเด็กคนนี้ชักจะทำตัวน่าอิจฉาเกินไปแล้วนะ รู้สึกอยากจะเข้าไปแยกทั้งสองคนออกจากกันแล้วก็กอดพี่เรนเอาไว้ในอ้อมอกเอง ขอขโมยตัวพี่เรนไปก่อนได้ไหมอ่า ชักจะไม่อยากจะยกให้น้องกายแล้ววววว ฮ่าๆๆๆๆ

ใกล้จบแล้วเน้อเรื่องนี้ อยู่กันจนจบเลยน้าาาาาาา

ยังไงก็อย่าลืมติดตามกันต่อไปนะคะ

อ่านแล้วอย่าลืมให้กำลังใจคนแต่งนะคะ จะได้มีกำลังใจแต่งนิยายให้อ่านกันค่ะ อย่าเงียบนะคะใจคอไม่ดีเลยค่ะ คอมเมนต์คือกำลังใจของคนเขียนนะคะ ^^

สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi

สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC

เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)

รักน้องกายพี่เรนกันเยอะๆ นะคะ กดเฟบ กดเมนต์ กดโหวด กดแชร์ แล้วแต่สะดวกเลยน๊า คนละนิดคนละหน่อยเป็นกำลังใจให้น้องกายพี่เรนนะคะ จุ๊บๆ ขอบคุณค่ะ


 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด