• Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • END l หนังสือ #พี่กายหลงฝน l P.12
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: • Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก • END l หนังสือ #พี่กายหลงฝน l P.12  (อ่าน 190775 ครั้ง)

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
หมั่นไส้น้องกายจริง อิจมากกก พี่เรนน่ารักจัง

ออฟไลน์ Rumraisin

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 673
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
รู้สึกแบบเดียวกับฟางเลย หมั่นไส้เจ้ากาย  :fire:อยากไปนอนแทรกกลางมาก ฮ่าๆๆ ขอบคุณมากค่ะฟาง  :กอด1:

ออฟไลน์ thanza1970

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 533
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
ขอบคุณมากน่ะ
 o18 o18

ออฟไลน์ fangiily

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +741/-12

“ช... ชอบ... ชอบนะ”
Ramin
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #น้องกายหลงฝน ด้วยนะคะ





โชคครั้งที่ • 19.2 •
 




• • • ต่อค่ะ 100% • • •







น้องกาย




จะมีใครมีความสุขไปมากกว่าผมอีกไหม ผมว่าตอนนี้ผมกลายเป็นคนที่มีความสุข แล้วก็โชคดีที่สุดในโลกแล้วล่ะครับ คิดดูว่าผมมีความสุขขนาดไหน ตอนนี้เกือบจะตีสองอยู่แล้วผมยังเอาแต่นอนยิ้มไม่หุบแล้วก็มองพี่เรนที่นอนหลับปุยอยู่ข้างๆ ผม



ผมนอนมองพี่เรนแบบมาตั้งแต่สี่ทุ่ม ไม่สามารถละสายตาไปไหนได้เลย แล้วผมก็ไม่แน่ใจด้วยว่าคืนนี้ผมจะสามารถหลับลงได้หรือเปล่า



มองไปตรงไหนของห้องก็รู้สึกว่ามีลูกโป่งสีชมพูลอยเต็มไปหมด นึกเพลงในใจก็มีแต่เพลงรักหวานซึ้ง นี่มันคืออาการของคนที่กำลังมีความรัก แล้วก็สมหวังในความรักใช่ไหมครับ



แม้ว่านี่จะไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมได้เห็นพี่เรนตอนนอน เพราะหลังจากเป็นแฟนกันผมก็อาศัยความหน้าด้านของพี่เรนนอนค้างด้วย นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมนอนมองพี่เรนตอนนอน แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ผมมองพี่เรนด้วยความรู้สึกที่มันเอ่อล้นไปหมด



ยื่นมือไปปัดปรอยผมหน้าม้าที่มันตกลงมาปิดหน้าของพี่เรนออก ผมพี่เรนนิ่ม เหมือนกับแก้มนิ่มๆ แล้วก็... ปากนิ่มๆ นั่นด้วย พี่เรนที่หลายคนเห็นคงเป็นแค่ผู้ชายเฉิ่มๆ เชยๆ เป็นเด็กเนิร์ด เด็กเรียน แม้ว่าหลังๆ มานี้พวกพี่ตินาจะพาพี่เรนไปเปลี่ยนลุคมาก็เถอะ



แต่สำหรับผม... พี่เรนเป็นคนที่น่ารัก ไม่ใช่ที่หน้าตาที่น่ารัก แต่ทุกการกระทำของพี่เรนนั้นน่ารัก เพราะความเป็นธรรมชาติในตัวของพี่เรน ไม่มีการเสแสร้ง ไม่มีการแกล้งทำ ทุกอยางที่พี่เรนแสดงออกมาคือความรู้สึกจริงๆ ข้างใน ผมถึงได้บอกว่าผมโชคดีที่สุดในโลก ที่ได้รับความรักจากคนที่ใส บริสุทธิ์อย่างพี่เรน และผมก็จะรักษาความโชคดีของผมนี่เอาไว้ตลอดไป



ผมไม่แน่ใจว่าสุดท้ายแล้วผมเผลอหลับไปตอนไหน แต่ผมรู้ว่าคืนนี้เป็นคืนที่ผมนอนหลับฝันดีที่สุดเลยล่ะครับ



ผมตื่นขึ้นมาในตอนเช้าโดยไม่ต้องใช้เสียงนาฬิกาหรือแสงอาทิตย์อันร้อนแรง ทั้งๆ ที่น่าจะนอนได้ไม่กี่ชั่วโมงแต่ผมรู้สึกว่าผมนอนหลับเต็มอิ่มมาก อย่างกับนอนยาวแปดชั่วโมงเลยล่ะครับ ตอนผมตื่นพี่เรนยังหลับอยู่ นอนหลับอยู่ข้างๆ ผม หลับปุยเหมือนเด็ก ท่าทางหลับสบายมากด้วยจนผมไม่กล้าปลุก ปล่อยให้พี่เขานอนไปแล้วผมก็นอนมองหน้าพี่เรนต่อ



มองได้ไม่เบื่อเลยทั้งๆ ที่เมื่อคืนก่อนนอนผมก็นอนมองพี่เรนอยู่ตั้งนานสองนาน ผมว่าผมสามารถนอนมองหน้าพี่เรนแบบนี้ได้ทั้งวันเลยนะเนี่ย



“อือ...” พี่เรนขยับตัวไปมาเหมือนกับเด็กๆ ก่อนจะพลิกตัวลงนอนคว่ำ ดูเหมือนจะตื่นแล้วละครับ ท่าประจำของพี่เขาเวลาจะตื่นนอนจะต้องนอนคว่ำก่อนแล้วค่อยตื่น



ตาโตๆ กระพริบปริบๆ ก่อนจะลืมขึ้นเต็มตา พี่เรนทำหน้างงๆ เหมือนกำลังคิดอยู่ว่าตอนนี้อยู่ที่ไหน ก่อนจะหันมามองหน้าผม



จุ๊บ



ก้มลงจุ๊บปลายจมูกของพี่เรนไปเบาๆ “อรุณสวัสดิ์ครับ”



แก้มขาวๆ แดงแต่เช้าเลยครับ พี่เรนหันหน้าซุกหมอนต่อ “งือ... ง่วง...”



ผมขำ แต่ก็ไม่ได้หัวเราะออกมา มาบ่นง่วงอะไรกัน คว้าเอวพี่มากอดเอาไว้ หลังพี่เรนแนบกับอกของผม ซุกหน้าลงกับผมนุ่มๆ ของพี่เรน “ถ้ายังง่วงอยู่ก็นอนต่อครับ ยังเช้ามากอยู่เลยครับเอาไว้อีกชั่วโมงสองชั่วโมงค่อยตื่นอีกรอบก็ได้”



พี่เรนพยักหน้ารับ ขยับตัวยุกยิกก่อนจะนิ่งไปแต่ก็ยังไม่หลับหรอกครับเพราะพี่เรนยังดูเกร็งๆ อยู่เลย ผมก็นอนนิ่งๆ กอดเอวพี่เรนเอาไว้แล้วก็ปล่อยให้เขานอนไป ร่างที่เกร็งเมื่อครู่ผ่อนคลายลงหลังจากผ่านไปสักพัก คงหลับไปแล้วอีกรอบ พอชะโงกหน้าไปมองก็เห็นว่าเป็นจริงอย่างที่คิด พี่เรนหลับไปอีกรอบแล้ว



ผมนอนกอดพี่เรนต่ออีกแปบก็ลุก ดึงผ้าคลุมตัวพี่เขาให้ พี่เรนซุกตัวกับผ้าห่มทันทีเหมือนกับแมวเวลาขดตัวนอนเลยล่ะครับ เดินไปหยิบกล้องถ่ายรูปมากดถ่ายรูปพี่เรนตอนนอนเอาไว้อีกหลายรูป เอาไว้ดูคนเดียว หรือไม่ก็... เอาไว้จัดแสดงในวันที่ผมมีแกลเป็นของตัวเองแล้ว



ผมคิดเอาไว้นะว่าสักวันผมจะจัดแสดงภาพถ่ายคอลเลคชั่นพี่เรน จะอวดให้คนทั่วโลกรู้ไปเลยว่าแฟนผมน่ะน่ารักที่สุดในโลก



ถ่ายรูปพี่เรนจนพอใจก็เดินไปอาบน้ำแต่งตัว ก่อนจะเดินมาปลุกคนที่ยังนอนหลับไม่ยอมตื่น พี่เรนซุกเข้าไปในผ้าห่มจนเห็นเพียงแค่ผมยุ่งๆ โผล่ออกมาเท่านั้น แถมยังนอนขดตัวเป็นก้อนกลมด้วย คงเพราะเมื่อคืนฝนตกไปด้วยเช้านี้เลยอากาศเย็นยิ่งบวกเข้ากับแอร์ในห้องผมอีก พี่เรนคงหนาวถึงได้ซุกตัวอยู่แบบนั่น



แมวขี้เซา...



นอนท่าเดียวกันกับหมี นี่นึกว่าพี่เรนเป็นเจ้าหมีเวอร์ชั่นคนนะเนี่ย



“พี่เรน... พี่เรนครับตื่นได้แล้วนะ เช้าแล้ว” พอผมปลุก คนที่นอนอยู่ใต้ผ้าห่มก็ขยับตัวดุกดิกไปมาก่อนจะนิ่งไปอีกรอบ



“พี่เรนครับ พี่เรน” ดึงผ้าห่มออก เห็นแมวเวอร์ชั่นคน หรือคนเวอร์ชั่นแมวดี... นอนขดตัวเป็นก้อนเลย น่ารัก



พอไม่มีผ้าห่มให้ความอบอุ่นคนหนาวก็ขยับตัวก่อนจะลืมตามองผมแล้วทำหน้าบึ้งใส่ เห็นแล้วมันเขี้ยว ของับแก้มหนึ่งทีถ้วน ตามด้วยหอมแก้มอีกสองทีถ้วน!



“อรุณสวัสดิ์ครับ เช้าแล้วนะ” ผมยิ้มทักทายคนที่ลืมตาขึ้นมามอง



“งือ...”



“ลุกเร็วครับ ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเดี๋ยวจะได้ลงไปกินข้าวกัน วันนี้พี่เรนมีนัดหรือมีธุระอะไรที่ไหนหรือเปล่าครับ”



พี่เรนส่ายหน้ากับคำถามของผม ก่อนจะขยับลงจากเตียง ผมอมยิ้มตอนมองพี่เรนล้มตัวลงนอนกอดหมี ได้ข่าวว่าเพิ่งลุกจากเตียงนอนไหมครับนั่น



“พี่เรนคร้าบบ ตื่นแล้วก็ลุกสิ ไปนอนกับหมีอีกทำไมละครับเนี่ย” ผมเดินไปจับแขนพี่เรนเอาไว้ รั้งให้ลุกขึ้นดีๆ “ไปล้างหน้าเลยครับ เดี๋ยวลงไปกินข้าวกัน เร็วๆ ครับ”



“ฮื่อ...” พี่เรนงอแงแต่ก็ยอมเดินไปเข้าห้องน้ำแต่โดยดี



ผมอุ้มหมีที่ตื่นแล้วเพราะว่าพี่เรนไปกวนมาเมื่อกี้ลงไปข้างล่างพร้อมกับหามื้อเช้าให้ด้วยเรียบร้อย ป๊ากับม๊าผมตื่นแล้วครับ ม๊ากำลังทำมื้อเช้าอยู่ในครัว ส่วนป๊าคงออกไปเดินเล่นในสวนข้างบ้าน



ขึ้นมาบนห้องอีกทีพี่เรนก็เดินออกมาจากห้องน้ำพอดี หน้าตาดูสดชื่นขึ้นไม่งอแงเหมือนตอนตื่นนอนแล้ว



“ไม่งอแงแล้ว” ผมยิ้มให้ หยิบผ้าขนหนูมาเช็ดผมที่ชื้นนิดๆ ของพี่เรนให้



“เปล่าสักหน่อย” พี่เรนแย้งแต่ก็ทำหน้ามุ่ย ผมเลยบีบจมูกไปทีอย่างมั่นเขี้ยว แฟนผมนี่น่ารักจริงๆ “วันนี้ไม่มีธุระอะไรใช่ไหมครับ”



พี่เรนพยักหน้า “อย่างนั้นไปเที่ยวกันนะ วันนี้ผมก็ว่าง”



“ไปเที่ยว... ที่ไหนเหรอ”



“ไปวาดรูปกัน ผมอยากลองวาดรูปดูพี่รนสอนผมวาดรูปหน่อยได้ไหมครับ” ผมอ้อน ตอนนี้เริ่มรู้แกวพี่เรนแล้วครับ ที่จริงก็รู้มาสักพักแล้วล่ะ พี่เรนน่ะขี้ใจอ่อน อ้อนหน่อยก็ยอมหมดแล้ว



“อ่า... แต่พี่ก็วาดรูปไม่ค่อยเก่งหรอกนะ ไม่รู้จะสอนอะไรได้หรือเปล่า”



“ไม่เป็นไรครับ ผมอยากให้พี่เรนสอน นะ ไปวาดรูปกัน ไปสวนหลวงกันดีไหมครับ”



“อือ อย่างนั้นก็ได้”



“ครับผม” ผมยิ้มกว้าง “อย่างนั้นไปกินข้าวกันดีกว่า ม๊าน่าจะทำข้าวเสร็จแล้วล่ะ”



ผมกับพี่เรนลงไปข้างล่าง อย่างที่คิดครับม๊าทำข้าวต้มเป็นมื้อเช้าเสร็จพอดี เลยให้ผมไปเรียกป๊ามากินข้าว พอจัดการมื้อเช้ากันเสร็จป๊าม๊าก็จะออกไปข้างนอก ผมกับพี่เรนก็เลยว่าจะออกกันเลยเหมือนกัน



ใช้เวลาพักใหญ่ก็มาถึงสวนหลวงครับ เรามาถึงกันช่วงเกือบสิบเอ็ดโมงเพราะแวะกลับไปเอากระดานวาดรูปของพี่เรนที่หอมาก่อนเลยทำให้มาถึงช้า แต่ก็ยังมีที่จอดรถอยู่เยอะ ผมว่าคนน่าจะเยอะช่วงเช้ากับตอนเย็นเพราะมาออกกำลังกายกัน ผมเคยมาแค่ครั้งเดียวตอนปีหนึ่งมาถ่ายรูปช่วงวันหยุด ตอนบ่ายๆ ก็มีคนเยอะเหมือนกันครับ แต่เพราะว่ามันกว้างแล้วก็มีหลายส่วนก็เลยดูคนไม่แน่น



ผมที่ถือกระดานวาดรูปสองอันกับพี่เรนที่อุ้มหมีอยู่เดินไปเรื่อยๆ ในสวน บรรยากาศข้างในดีมากครับ เพราะว่ามีต้นไม้เยอะเลยไม่รู้สึกร้อนเท่าไหร่ แล้วก็อากาศค่อนข้างเป็นใจไม่มีแดด เราแวะเข้าไปดูพันธุ์ไม้ในทะเลทรายกัน เจ้าหมีเกือบแย่เพราะมันกระโดลงจากแขนพี่เรนจะวิ่งเข้าใส่ต้นกระบองเพชรหนามแหลมๆ ดีที่พี่เรนคว้าตัวไว้ทัน ทำเอาพี่เรนหน้าซีดเลย แล้วเจ้าหมีก็โดนพี่เรนดุไปไม่น้อย มันทำหน้าหงอยแล้วก็คลอเคลียพี่เรนจนพี่เขาใจอ่อน เห็นแล้วน่าหมั่นไส้ เราเลยออกจากอาคารนี้โดยด่วนเพราะกลัวว่าหมีจะวิ่งซนจนได้เลือด



เราเดินกันไปเรื่อยๆ ผมปล่อยให้พี่เรนหาสถานที่นั่งวาดรูป ตามใจแฟนเลยครับ ผมเป็นคนตามใจแฟนอยู่แล้ว ได้ที่ตรงสนามหญ้าที่รอบๆ มีต้นไม้ใหญ่แล้วก็ดอกไม้พันธุ์แปลกๆ อยู่ ตอนแรกจะไปนั่งริมสระแต่กลัวว่าหมีจะนึกอยากเล่นน้ำวิ่งลงสระอีก เราเลยเลือกให้ห่างออกมา



“แล้วผมต้องเริ่มยังไง” ผมถามพี่เรน ตอนนี้กระดานวาดรูปพร้อมอยู่ในมือแล้ว



“อ่า... พี่ก็ไม่รู้อ่ะ” พี่เรนยิ้มแหะๆ ใส่



“แล้วตอนพี่เรนวาดรูปครั้งแรกพี่เรนทำยังไงเหรอ”



“อือ... ตอนนั้นพี่ก็ดูของจริงแล้วก็วาด จำได้ว่าวาดสวนเป็นอย่างแรก สวนที่บ้านน่ะ ก็มานั่งมองแล้วก็วาดไปเรื่อยๆ ไม่ได้มีเทคนิคหรือไปเรียนอะไร พี่ก็เลย... ไม่รู้จะแนะนำให้เริ่มยังไงดี” พี่เรนเล่า “แต่ตินาเคยไปเรียนพื้นฐานมา เห็นบอกว่าให้เริ่มจากการลากเส้นอะไรพวกนี้ก่อนแล้วก็... วาดพวกรูปทรงเลขาคณิตน่ะ แต่พี่ว่ามันไม่เห็นน่าสนุกเลย พี่มองของจริงแล้ววาดสนุกกว่า แม้ว่ามันจะไม่สวยก็เถอะตอนแรกๆ น่ะ”



“อย่างนั้นผมทำตามพี่เรนดีกว่า”



พี่เรนหันซ้ายหันขวาก่อนจะหยิบดอกไม้ที่มันหล่นอยู่บนพื้นมาให้ผม “ถ้าจะวาดพวกต้นไม้เลย หรืออาคารใหญ่ๆ เลยก็คงจะยากอยู่ อย่างนั้นลงวาดดอกไม้ดอกนี้ดูก่อนแล้วกัน ไม่สวยไม่เป็นไร มันต้องฝึกบ่อยๆ ฝีมือก็พัฒนาเอง”



“โอเคครับคุณครู” ผมยิ้มกว้าง รับดอกไม้จากพี่เรนมาวางบนกระดาน ก่อนจะลองวาดดู จริงๆ ผมก็เคยวาดรูปอยู่ครับ ไม่สวยแต่ก็ไม่น่าเกลียด วาดเล่นๆ ตอนเบื่อที่จะฟังอาจารย์พูด



จะว่าไปวาดรูปแบบนี้ก็เพลินดีนะครับ พอผมเริ่มวาดแล้วก็ไม่สนใจอย่างอื่นเลย วาดเสร็จหนึ่งดอกก็วาดใหม่ ดอกเดิมนั่นแหละครับ พี่เรนบอกให้วาดซ้ำๆ ไปก่อนจะได้เป็นการพัฒนาลายเส้นไปด้วย



เรานั่งกันเงียบๆ วาดรูปไป วิ่งจับหมีบ้างบางครั้ง มีลมเย็นๆ พัดมาให้รู้สึกดี มันก็โอเคดีนะครับ เราแชร์เวลาร่วมกัน ไม่ต้องหาเรื่องมาพูดคุยกัน แค่รู้ว่าอยู่ข้างกันแบบนี้ ผมว่าเท่านั้นมันก็โอเคแล้วสำหรับผม



ผมวางดินสอลงหลังจากวาดดอกไม้ดอกที่ห้าเสร็จ ไม่อยากจะอวดแต่ฝีมือผมดีขึ้นนะเออ คิดดูวาดไปแค่ห้าดอกฝีมือก็พัฒนาแล้ว ถ้าฝึกอีกหน่อยฝีมือผมนี่ระดับศิลปินแห่งชาติแน่นอน ไม่อยากจะโม้



บิดขี้เกียจไปทีเพราะนั่งนาน ก่อนจะคว้าหมีที่นอนขดอยู่ข้างๆ มาอุ้มไว้บนตักมันเงยหน้าขึ้นมองแต่พอเห็นว่าเป็นผมก็ซุกนอนต่ออย่างสบายใจ



พี่เรนยังคงตั้งหน้าตั้งตาวาดรูปอย่างตั้งใจ ผมก็เลยเผลอมองอยู่แบบนั้น ไม่รู้ว่าวาดรูปอะไรอยู่เพราะพี่เรนยกกระดานเอียงขึ้นแล้ววาด แต่ก็ไม่เห็นเงยหน้าขึ้นมองอะไรเลย



ก่อนหน้านี้ผมเคยคิดนะว่าการที่ต้องมานั่งมองใครบางคน หรืออะไรสักอย่างเป็นเวลานานๆ มันคงจะน่าเบื่อมาก แต่ตอนนี้ผมรู้แล้วว่ามันขึ้นอยู่กับว่าเรามองใครและมองอะไร ถ้าหากคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าผมเป็นคนอื่น ผมก็คงจะเบื่อแล้วก็เซ็งมากทีเดียว แต่พอดีว่าคนตรงหน้าผมนั้นเป็นพี่เรน ผมเลยไม่รู้สึกเบื่อหรือรำคาญอะไร



ผมอุ้มหมีแล้วก็ขยับตัวไปใกล้พี่เรน หยิบโทรศัพท์มาเสียบหูฟังก่อนจะใส่หูฟังข้างหนึ่งให้พี่เรน พี่เขาสะดุ้งตอนที่มือผมไปแตะโดนหู พอเห็นว่าเป็นผมก็ยิ้มให้ก่อนจะรับหูฟังข้างนั้นไปใส่เอง



นั่งอยู่ตรงนี้ข้างกายฉันก็มีเธออยู่
ก็ลองมาคิดดู เรานั้นโชคดีกว่าใคร



เพราะมีเธอคนนี้เป็นที่รัก
และฉันไม่ได้ฝันไป ขอให้ลมช่วยพัดพาหัวใจ
สองเราให้ลอยไป ในคืนนี้ โอ้ โอ



Oh Baby ฉันรักเธอเท่านั้น
ใต้แสงจันทร์มีเพียงเราสอง
นั่งมองแสงดาวที่พรั่งพราว
บนฟ้าไกลไปด้วยกัน
เปรียบดั่งความฝันในเวลานี้
เมื่อฉันมีเธออยู่แนบชิดกาย
ด้วยสายตาและสัมผัสด้วยรักที่เรามีให้กัน
โอ้ฉันจะจูบเธอ

(จูบ – Jetset’er)



ผมไม่ได้จะบอกว่าอยากจูบพี่เรนนะ แต่ผมแค่อยากจะให้พี่เรนฟังเพลงเฉยๆ เถอะ ไม่ได้คิดอะไรเลยจริงจริ๊ง ผมแค่อยากจะบอกว่าผมชอบเวลานี้ ที่เรานั่งอยู่ข้างกันแบบนี้



“วาดรูปเสร็จแล้วเหรอ” พี่เรนกอดกระดานวาดรูปเอาไว้ เมื่อกี้ผมก็ไม่ทันมองเลยไม่เห็นว่าพี่เรนวาดรูปอะไรอยู่



“ครับผม วาดไปได้ห้าดอก นี่ไงพี่เรนดูสิ ฝีมือผมเป็นยังไงบ้าง” ผมบอกก่อนจะหยิบกระดานวาดรูปส่งให้พี่เรน



พี่เขารับไปดูก่อนจะยิ้มออกมา “สวยนี่นา... เก่งเหมือนกันนะเนี่ยนี่ขนาดแค่วาดแปบเดียวเองนะ ถ้าฝึกบ่อยๆ นี่คงเก่งมากแน่เลย”



ผมหัวเราะ พอได้ยินพี่เรนชมแบบนี้ก็แอบเขินนะครับ “ก็... วาดไปเรื่อยๆ ตามคำแนะนำของพี่เรนนั่นแหละครับ แต่คงอีกนานถ้าผมจะวาดให้ได้อย่างพี่เรน”



“ฝึกบ่อยๆ เดี๋ยวก็วาดเก่งกว่าพี่แล้ว”



“แล้วพี่เรนวาดรูปอะไรอยู่ครับ”



พอผมถามแบบนั้นพี่เรนก็กอดกระดานวาดรูปแน่นขึ้น “อย่าเพิ่งแอบมองนะ หลับตาไปก่อนเลยยังไม่ให้ดูหรอกพี่ยังวาดไม่เสร็จเลย”



“ขอผมดูหน่อยไม่ได้เหรอครับ” ผมถาม พี่เรนส่ายหน้าขวับๆ ทันที



“ไม่ได้ นั่งหันหลังเลยห้ามแอบดูด้วย ถ้าแอบดูจะโป้ง”



“คร้าบๆ ไม่แอบดูครับ” ผมหัวเราะ ก่อนจะขยับนั่งหันหลังพิงพี่เรน แบบที่พี่เรนก็พิงหลังผมอยู่เหมือนกัน



ผมนั่งลูบขนหมีเล่นไปเรื่อยๆ พร้อมกับฟังเพลงจากหูฟังเพียงข้างเดียว เพราะอีกข้างยังอยู่ที่หูของพี่เรน ได้ยินเสียงดินสอขีดเขียนลงบนกระดาษ อยากรู้ว่าวาดอะไรแต่ในเมื่อพี่เรนยังไม่อยากให้รู้ ผมจะไม่แอบดูก็ได้



ผมเปิดเพลงฟังไปเรื่อยๆ ร้องคลอตามไปเมื่อเจอเพลงเพราะๆ ที่ถูกใจ บางทีพี่เรนก็หันมาขอเพลงเองก็มี ผมก็เปิดให้ครับ บอกแล้วว่าผมตามใจแฟน ไม่มีขัดแฟนอยู่แล้ว



“พี่เรนชอบฟังเพลงแนวไหนเหรอครับ” ผมถามหลังจากเปิดเพลงให้พี่เรนไปอีกเพลง



“อือ... พี่ชอบเพลงช้า เพลงเร็วๆ ไม่ค่อยฟังเท่าไหร่พี่ว่าเพลงช้ามันทำให้พี่มีสมาธิมากกว่าน่ะ แต่ก็ไม่ค่อยได้ฟังเท่าไหร่ เวลาทำงานก็เปิดทิ้งไว้แต่ก็ไม่ได้ฟังหรอกว่าเพลงอะไรเป็นเพลงอะไร”



“เหมือนผมเลย เวลานั่งทำงานผมก็ชอบเปิดเพลงทิ้งไว้ แค่ไม่ให้มันเงียบเกินไปก็เท่านั้นแต่ไม่ค่อยได้ฟังหรอกว่าเปิดเพลงอะไรอยู่ นอกจากเป็นเพลงที่ผมชอบจริงๆ นั่นแหละถึงจะรู้”



“อือ... อ่ะ... เสร็จแล้ว” พี่เรนยื่นกระดานวาดรูปมาให้ผม แต่ว่ายื่นมาแบบคว่ำนะครับ



“รูปที่พี่เรนวาด... เหรอครับ”



“อือ... ใช่แล้วล่ะ”



ผมรับมา ก่อนจะพลิกกระดานขึ้นเพื่อดู หัวใจผมเต้นรัวตอนที่เห็นภาพบนกระดานนั้น เป็นภาพของผมครับ ภาพตอนที่ผมกำลังนั่งวาดรูปดอกไม้อยู่



“รูปผม... วาดตอนไหนกันครับ”



“ก็... ตอนที่กายเริ่มวาดรูปนั่นแหละ ดูมุ่งมั่นดีพี่ก็เลยวาดออกมา” พี่เรนตอบ



“แต่ตอนที่ผมนั่งมองพี่เรน ไม่เห็นพี่เรนจะเงยหน้าขึ้นมามองผมเลยนี่ครับ” ใช่ครับพี่เรนไม่ได้มองผมเลยนะ ผมนั่งมองพี่เขาอยู่ตั้งนาน ขนาดผมวาดดอกไม้มาห้าดอกแล้วยังต้องละสายตาจากรูปที่กำลังวาดเพื่อมองของจริงเลย



แต่พอได้ยินคำตอบพี่เรน ผมก็ชักจะไม่อยากได้ยินแล้วละครับ เพราะคำตอบของพี่เรนทำเอาหัวใจผมจะระเบิด



“ก็... พี่จำภาพกายได้จนขึ้นใจ ก็เลยไม่ต้องเงยหน้ามองไง”



มีใครสอนไหมว่าอย่าพูดจาอะไรแบบนี้ เพราะมันทำให้คนฟังหวั่นไหวที่สุด...






************************************************
รู้สึกเหม็นๆ อะไรไหมอ่ะคะ ฟางรู้สึกว่ามันเหม็นๆ นะ เหม็นความรักคนแถวนี้อ่ะ น้องกายยังคงน่าหมั่นไส้ลากยาวมาจนจบตอนนี้เนอะ ฮ่าๆๆๆๆ แต่เราก็ยินดีที่เขาได้รักกันค่า คาดว่า... ตอนหน้าก็จะจบแล้วล่ะค่ะสำหรับเรื่องนี้ ต้องเตรียมบอกลากันอีกแล้ว ใจหายเลยทีเดียว...

ยังไงก็อย่าลืมติดตามกันต่อไปนะคะ

อ่านแล้วอย่าลืมให้กำลังใจคนแต่งนะคะ จะได้มีกำลังใจแต่งนิยายให้อ่านกันค่ะ อย่าเงียบนะคะใจคอไม่ดีเลยค่ะ คอมเมนต์คือกำลังใจของคนเขียนนะคะ ^^

สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi

สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC

เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)

รักน้องกายพี่เรนกันเยอะๆ นะคะ กดเฟบ กดเมนต์ กดโหวด กดแชร์ แล้วแต่สะดวกเลยน๊า คนละนิดคนละหน่อยเป็นกำลังใจให้น้องกายพี่เรนนะคะ จุ๊บๆ ขอบคุณค่ะ


ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ uyong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
น่ารักกกกกก :impress2: :impress2: :impress2: :-[ :-[ :-[

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ Cacao

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 22
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
แค่นี้กายก็หลงพี่เรนจนหาทางออกไม่เจอละ เจอพี่เรนวาดรูปตัวเองแบบไม่ได้มองแบบอีก
กายจะไปไหนรอด ยอมทุกอย่างแล้ว อยากมีน้องกายเป็นของตัวเอง
ดูแลเทคแคร์ขนาดนี้ยยยยย โอ้ยยยย น่ารักกกกกก :ling1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ fangiily

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +741/-12

“Lucky Love ของผมครับ”
Kamin
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #น้องกายหลงฝน ด้วยนะคะ





โชคครั้งที่ • 20 •
 



น้องกาย





 
“ตรงนี้นี่มันคิดยังไงนะ ไหนมึงอธิบายอีกทีดิไอ้เป้” ไอ้เกลียวหันไปคว้าคอไอ้เป้ที่กำลังนั่งทำแบบทดสอบคณิตศาสตร์อยู่ มันทำตาขวางใส่แต่ก็ยอมอธิบายให้ไอ้เกลียวฟัง



ตอนนี้พวกผมกำลังสุมหัวกันอยู่ที่ร้านกาแฟครับ มาติวหนังสือกันเพราะตอนนี้พวกเราเหล่านักศึกษาเข้าสู่เทศกาลสอบปลายภาคแล้วครับ มหา’ลัยเราเริ่มสอบมาตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้ว ละจะสิ้นลงในอาทิตย์หน้า ยาวนานมากมาย ผมเองก็สอบไปแล้วสองวิชาแต่ก็ยังเหลืออีกหลายวิชาเหมือนกัน ทั้งวิชาในคณะ และวิชานอกคณะ เนื่องจากวันนี้พรุ่งนี้ไม่มีสอบ เราเลยมาติววิชาคณิตกันครับ เพราะวันถัดไปมีสอบ



ซึ่งผู้มีพระคุณในการติวครั้งนี้ก็คือไอ้เป้กับไอ้ไม้ครับ เป็นบุคคลที่ไม่น่ารอดวิชาคำนวณแบบนี้แต่แม่งโคตรเก่ง อธิบายเข้าใจง่าย พวกผมที่หัวเหมือนจะรอดแต่ก็เกือบเอาตัวไม่รอดก็สามารถเข้าใจและสอบผ่านมาได้ในเทอมที่แล้ว รวมไปถึงเมื่อกลางภาคที่ผ่านมาด้วย



และเพราะว่าสอบแบบนี้ผมเองก็ไม่ได้เจอแฟนผมเลยครับ พี่เรนมีทั้งงานที่ต้องส่งแล้วก็ต้องอ่านหนังสือสอบด้วย มีไปติวกับเพื่อนๆ ที่คณะบ้าง ห้องเพื่อนบ้าง แถมวันเวลาสอบก็ไม่ตรงกันเลยวันไหนผมไม่มีสอบพี่เรนก็มีสอบ พอวันไหนพี่เรนไม่มีสอบผมก็มีสอบ ก็เลยไม่ได้เจอกันเลยครับ นึกแล้วก็คิดถึงไม่ได้เจอหลายวันแล้วไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง



ก็มีโทรหา คุยไลน์กันบ้างแหละครับ แต่เพราะต่างคนต่างเตรียมสอบก็เลยไม่ค่อยได้คุยได้ตอบกันเท่าไหร่ พี่เรนจะเป็นยังไงผมไม่รู้ แต่ที่รู้ว่าผมนี่เริ่มจะห่อเหี่ยวครับ คิดถึงแฟนมากเข้าใจไหมครับว่าคิดถึงแฟนมากที่สุดในโลกเลย



ผมวางดินสอลงหลังจากทำแบบทดสอบที่ไม่รู้ว่าไอ้ไม้ไปหามาจากไหน มาให้พวกผมลองทำ คำนวณเยอะเริ่มมึนแล้วครับ หัวสมองผมไม่สามารถคำนวณอะไรออกมาได้อีกแล้วในตอนนี้ ขอพักหน่อยแล้วกัน หยิบโทรศัพท์มากดส่งข้อความหาพี่เรน พรุ่งนี้พี่เรนมีสอบตอนบ่าย ป่านนี้คงกำลังอ่านหนังสืออยู่แน่เลย ไม่รู้ว่ากินข้าวหรือยัง



คิดถึงแฟน คิดถึงพี่เรน
ตอนนี้อยู่ไหนครับ ที่ห้องหรอ หรือไปอ่านหนังสือกับเพื่อนที่ไหน
ผมอยู่กับเพื่อนที่ร้านกาแฟ 24 ชม.
พี่เรนกินข้าวหรือยังครับ? อ่านหนังสือเป็นยังไงบ้าง
สู้ๆ นะครับ




ส่งรัวไปเลยครับ ไม่รู้ว่าพี่เรนจะได้อ่านไหมแต่ก็ส่งไปก่อน พอส่งข้อความหาพี่เรนเสร็จผมก็เปลี่ยนไปเข้าเฟสบุ๊คแล้วก็อ่านนู้นอ่านนี่ไปเรื่อยๆ ระหว่างรอคนอื่นทำแบบทดสอบกัน มีไอ้แม็คเสร็จแล้วอีกคน มันกำลังนอนฟุบไปกับโต๊ะแล้วบ่นพึมพำอะไรของมันก็ไม่รู้ครับ



โอ๊ะ!



พี่เรนตอบกลับมาแล้ว



มาอ่านหนังสือกับตินาที่ห้องสมุดในมอ
แต่ว่ากำลังจะย้ายแล้ว พวกนี้บอกว่าหิวเลยว่าจะไปร้าน 24 ชม. เหมือนกัน




พอเห็นแบบนั้นผมนี่ลุกขึ้นนั่งเลยครับ ตาโตด้วยความดีใจก่อนจะส่งข้อความตอบพี่เรนไป



มาสิมา มาๆ ผมอยากเจอพี่เรน เดี๋ยวจองที่โต๊ะข้างๆ ให้เลย
ถึงแล้วโทรหาผมนะ
จุ๊บ




ส่งหัวใจปิดท้ายข้อความไปด้วย ผมรีบหันไปมองโต๊ะข้างๆ ทันทีว่าว่างหรือเปล่า ขอบคุณอะไรก็แล้วแต่ที่ทำให้โต๊ะข้างๆ ผมว่าง ผมเลยรีบพุ่งตัวไปนั่งจองเอาไว้จนพวกเพื่อนๆ หันมามองอย่างงงๆ



“อะไรของมึงวะไอ้กาย ทำข้อสอบจนเพี้ยนหรือไงมึง” ไอ้ไม้หันมาถาม



“กูมาจองที่ เดี๋ยวแฟนกูจะมาอ่านหนังสือกันที่นี่ กูเลยจะจองโต๊ะนี้เอาไว้ให้แฟน” หันไปตอบมัน



“อ๋อ... มิน่าดูดี๋ด๋าขึ้นมาทันที น่าหมั่นไส้ อ่ะ เอาข้อสอบไปทำอีกสอบข้อเลยไป ข้อหากูหมั่นไส้มึง” ไอ้ไม้ว่าก่อนจะโยนชีทข้อสอบมาให้ผมอีกชุด



ผมมองมันตาขวาง แต่ก็ยอมทำครับ ตอนนี้อะไรก็ได้หมดเพราะจะได้เจอพี่เรนแล้ว เอาข้อสอบคำนวณมาอีกร้อยข้อก็ทำไหวครับบอกเลย



เอ่อ... ผมล้อเล่นน่ะครับ ไม่ต้องเอามาจริงนะ



ระหว่างที่ผมกำลังก้มหน้าก้มตาทำอยู่นั้นก็เหมือนมีอะไรมาสะกิดที่แขน เหลือบมองก็เห็นเป็นแขนตุ๊กตา แต่พอเงยหน้าขึ้นมอง อุ๊ย! นี่มันคนน่ารักที่เป็นแฟนผมนี่นา



“มาแล้วเหรอ แล้วพี่คนอื่นๆ ล่ะครับ” ผมถามขยับให้พี่เรนมานั่งข้างๆ พร้อมถามถึงพี่คนอื่นๆ เพราะไม่เห็นมาด้วยกัน



พี่เรนหันไปทักทายพวกเพื่อนๆ ของผมที่ส่งเสียงทักทายกันมา ก่อนที่พวกมันจะก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือกันต่อ ช่วงนี้กำลังจริงจังกับชีวิตครับมันเลยไม่กวน ไม่แซวอะไร ถ้าปกตินี่ส่งเสียงเห่าหอนกันไม่หยุด



“กลับกันไปแล้ว” พี่เรนหันมาตอบผม



“อ้าว...”



“ก็ตอนแรกก็จะมาด้วยกัน แต่เหมือนจะเหนื่อยกันมากกว่าก็เลยแยกย้ายกันไป ค่อยมาทบทวนกันเช้าพรุ่งนี้อีกที” พี่เรนตอบ นั่งลงข้างๆ ผมก่อนจะฟุบหน้าลงกับกระเป๋าดินสอที่เป็นรูปตุ๊กตา ก็อันที่เอาแขนตุ๊กตามาสะกิดผมนั่นแหละครับ



“แล้วนี่พี่เรนมายังไง ง่วงไหม จะกลับไปนอนพักไหมครับ ผมไปส่งไหม” ผมรัวคำถาม ก็พี่เรนน่ะจอมหลงทางยิ่งกว่าเด็กประถม มาถึงนี่ได้ก็สงสัยสิครับ



“ตินาขับรถมาส่ง กายอ่านไปก่อนก็ได้ พี่ก็ว่าจะอ่านต่ออีกหน่อย”



“เดี๋ยวผมไปสั่งอะไรมาให้กินดีกว่า ช็อคโกแลตปั่นเนอะ ขนมปังด้วยไหม” ผมถามแต่ก็ไม่พอให้พี่เรนตอบอะไร ลุกขึ้นไปสั่งของกินให้พี่เรนทันที ไม่ลืมที่จะถามไอ้พวกนั้นด้วยว่าจะเอาอะไรไหม จะได้สั่งเลยทีเดียว พวกมันก็ดีครับ เพราะเขียนเมนูกันแล้วเรียบร้อย ผมยังถามไม่จบประโยคไอ้แม็คก็ยื่นกระดาษที่เขียนออเดอร์มาให้แล้ว



หลังจากสั่งเสร็จ จ่ายเงินเรียบร้อยก็เดินกลับมาหาพี่เรนที่ยังเอาหน้าฟุบอยู่กับกระเป๋าดินสอของตัวเองอยู่ ดูท่าจะง่วงแล้วก็เพลียมากเลยนะเนี่ย



“ไหวไหมครับ เดี๋ยวกินอะไรเสร็จแล้วกลับกันดีกว่าเนอะพี่เรนจะได้รีบกลับไปนอนพักด้วย เดี๋ยวสอบพรุ่งนี้ไม่รู้เรื่องนะ” ผมนั่งท้าวคางมอง



พี่เรนพยักหน้าหงึกหงักอย่างว่าง่าย ตาปรือๆ เหมือนคนใกล้จะหลับเต็มที่ แว่นตาอันใหญ่ก็หล่นมาอยู่ปลายจมูก เห็นแล้วมันเขี้ยว นี่ถ้าอยู่ห้องละก็... จับฟัดไปแล้วนะเนี่ย



รอไม่นานทั้งน้ำทั้งขนมปังก็มาเสิร์ฟ ผมให้พี่เรนนั่งกินไปเรื่อยๆ ส่วนผมก็นั่งทำข้อสอบต่อไป เหลือไม่กี่ข้อก็เสร็จแล้วละครับ ตั้งใจว่าเสร็จตรงนี้ก็จะพาพี่เรนกลับแล้ว ดูท่าจะไม่ไหวแล้วจริงๆ นะนั่น ผมยังมีวันว่างพรุ่งนี้อีก ไว้ค่อยอ่านอีกรอบ



ผมพาพี่เรนกลับห้องหลังจากที่ทำข้อสอบเสร็จแล้ว พวกไอ้แม็คก็เตรียมตัวแยกย้ายเหมือนกันเพราะแต่ละคนสมองก็ไม่รับรู้อะไรเท่าไหร่แล้ว พวกเราก็เลยพากันกลับไปนอน พรุ่งนี้ค่อยนัดกันอีกที ผมดันหลังพี่เรนให้เข้าไปอาบน้ำให้เรียบร้อยจะได้มานอน ผมเลยถือโอกาสนอนห้องพี่เรนด้วยเลยครับ เพราะตั้งใจว่าพรุ่งนี้จะไปส่งพี่เรน



ผมเข้าไปอาบน้ำต่อจากพี่เรน ออกมาอีกทีก็เห็นพี่เรนหลับไปแล้ว นอนกอดหมอนข้างหลับปุย ผ้าก็ไม่ห่ม ผ้าเช็ดผมยังวางอยู่ข้างๆ อยู่เลย ผมเลยเดินไปเก็บให้ สำรวจห้องให้เรียบร้อยก่อนจะปิดไฟแล้วเดินไปนอนข้างพี่เรน ดึงพี่เรนเข้ามานอนกอด



“ฝันดีครับผม”







การสอบปลายภาคของผมเสร็จสิ้นไปแล้วครับ แต่ของมหา’ลัยยังไม่เสร็จ แต่ถึงแม้ว่าจะสอบเสร็จแล้วแต่ก็ยังไม่สามารถโอ้ลัลลาได้ เพราะว่ายังเหลืออีกหนึ่งวิชาครับ นั่นก็คือ... โปรเจคของเทอมนี้ครับ เหลือเวลาอีกสามวันก็จะถึงวันจัดนิทรรการแล้ว จัดที่ห้องแกลลอรี่ของตึกคณะนั่นแหละครับ แถมวันนั้นนอกจากจะมีอาจารย์มาดูแล้ว ยังมีอาจารย์พิเศษอีกครับ เห็นอาจารย์ธีร์บอกว่ามีทั้งอาจารย์จากมหา’ลัยอื่น แล้วก็ช่างภาพชื่อดังอีกหลายคน ตื่นเต้นได้อีกครับ



สองสามวันมานี้ผมเลยฝังตัวเองอยู่กับห้อง แล้วก็ทำโปสเตอร์พรีเซ็นต์ รวมไปถึงเช็ครูปที่จะใช้แสดงด้วย ส่วนพี่เรนยังสอบไม่เสร็จครับ เหลืออีกหนึ่งวิชา สอบวันที่ผมมีจัดงานพอดีเห็นว่าเป็นวิชาที่ยากที่สุดด้วย ผมกับพี่เรนเลยไม่ได้เจอกันเลยครับ ต่างคนต่างยุ่งกับงานของตัวเอง



ผมนั่งตรวจดูโปสเตอร์อีกรอบว่าเรียบร้อยดีแล้วใช่ไหม เดี๋ยวจะเอาไปปริ้นแล้วล่ะครับ รวมถึงรูปของพี่เรนด้วย ผมถ่ายรูปพี่เรนมาเยอะมาก ใช้เวลาเป็นวันกว่าจะเลือกรูปพี่เรนออกมาได้จนเหลือเพียงแค่ประมาณสิบรูป เพราะว่าต้องอัดรูปออกมา ขนาดมันค่อนข้างใหญ่ถ้าใช้หลายรูปมันจะเยอะไปหมดแล้วก็จัดไม่สวย รูปนู้นก็ดูดี รูปนี้ก็ดูใช่ อยากจะแสดงทุกรูปให้ทุกคนเห็นถึงความน่ารักของพี่เรนเลย



ผมหยิบกระเป๋า กุญแจห้องมาถือเอาไว้ ตั้งใจจะเอารูปที่ทำเสร็จแล้วไปอัดที่ร้านใกล้ๆ หอนี่แหละครับ รีบเอาไปทำให้เรียบร้อยจะได้ดูได้ว่าควรจะปรับหรือแก้อะไรตรงไหนอีกหรือเปล่า ถ้าต้องแก้ไขจะได้ทันก่อนวันจัดงาน เพราะเดี๋ยววันมะรืนนี้พวกผมก็ต้องเข้าไปจัด ไปเตรียมสถานที่กันแล้วล่ะครับ



พวกเพื่อนๆ ผมก็คงกำลังหัวหมุนกับการเตรียมรูปอยู่เหมือนกัน ไม่รู้ว่าไอ้ไม้เป็นอย่างไรบ้าง เมื่อวันก่อนคุยมันบอกว่าภาพที่มันถ่ายมายังไม่ค่อยโดนใจเท่าไหร่ บอกจะไปถ่ายมาใหม่ แล้วมันก็หายไปเลยครับ ไลน์ไปก็ไม่อ่านไม่ตอบ คงไปบิ้วอารมณ์ถ่ายรูปอยู่ที่ไหนสักที่นั่นแหละครับ ส่วนคนอื่นๆ ก็เห็นว่ากำลังทำโปสเตอร์กันอยู่เหมือนกัน



“พรุ่งนี้มารับรูปได้นะคะ ก่อนเที่ยงน่าจะเสร็จ” พี่พนักงานที่ร้านบอกกับผม



“โอเคครับ ขอบคุณนะครับ” กว่าผมจะมาร้านก็ใกล้ปิดแล้วล่ะครับ ผมบอกขอบคุณก่อนจะเดินออกจากร้าน



แวะซื้อข้าวมันไก่ก่อนกลับ ซื้อไปให้พี่เรนด้วยดีกว่าไม่รู้ว่าจะกินข้าวหรือยัง ไม่ได้โทรถามด้วยสิ แต่ไม่เป็นอะไรหรอกครับ อีกอย่างผมก็อยากเจอพี่เรน คิดถึงที่สุดเลยตอนนี้



ยืนรออยู่หน้าประตูไม่นาน ประตูห้องพี่เรนก็เปิดออก หัวจุกน้ำพุโผล่ออกมาจากหลังประตู ตาโตๆ ที่อยู่หลังแว่นสายตาอันใหญ่กระพริบปริบๆ ก่อนจะยิ้มออกมา



ผมดันพี่เรนเข้าไปก่อนจะเดินเข้าไปในห้อง ปิดประตูล็อคให้เรียบร้อย วางถุงข้าวเอาไว้บนตู้ก่อนจะดึงพี่เรนมากอดเอาไว้แน่น



“คิดถึง คิดถึงพี่เรน คิดถึงที่สุดเลย” ผมว่าก่อนจะรัดพี่เรนแน่นขึ้น ทั้งๆ ที่หออยู่ใกล้กันแค่นี้ แต่ไม่ได้เจอเลย มันเลยยิ่งคิดถึงมากกว่าเดิมไม่รู้กี่เท่าต่อกี่เท่า



ผมกอดพี่เรนแล้วโยกไปโยกมา พี่หัวเราะยกมือกอดผมตอบกลับมา “งือ...”



ฟอด!



หอมแก้มไปอีกทีเน้นๆ แก้มพี่เรนยังหอม ยังนุ่มเหมือนเดิมเลย ฟัดต่อได้ไหมอ่ะครับ คิดถึงแก้มป่องๆ ขาวๆ นี้ที่สุดเลยอ่ะครับ



“พี่เรนกินข้าวหรือยัง” หลังจากกอดจนพอใจแล้วก็ปล่อยให้พี่เรนเป็นอิสระ



“ยังไม่ได้กิน”



“อย่างนั้นกินข้าวกันก่อนดีกว่า ผมซื้อข้าวมันไก่มาฝากด้วย” ผมบอกก่อนจะเดินไปหยิบจาน ชามมา ส่วนพี่เรนก็เดินไปเคลียร์โต๊ะญี่ปุ่นที่วางหนังสือเรียนเอาไว้เต็มโต๊ะ เพื่อที่เราจะได้มีที่นั่งกินข้าวกัน ผมแวะทักทายหมีที่นั่งเลียขนไม่สนใจโลกแปบนึง มันหันหน้ามามองผมชั่ววินาทีก่อนจะหันกลับไปสนใจแต่งตัวต่อ



“ทำงานเสร็จแล้วเหรอ” พี่เรนถาม พร้อมกับช่วยผมเอาข้าวออกมาเทใส่จาน



“ครับผม เรียบร้อยแล้วเลยแวะมาหาพี่เรนนี่แหละครับ แล้วพี่เรนเป็นยังไงบ้าง อ่านหนังสือไปได้เยอะหรือยัง”



“ก็เกือบจบแล้วล่ะ แต่คงต้องอ่านอีกหลายรอบหน่อย เนื้อหามันเยอะมากเลย” พี่เรนว่า หน้าขาวๆ งอง้ำเมื่อคิดว่าจะต้องอ่านหนังสืออีกหลายรอบ



ผมยิ้ม ยื่นมือไปจิ้มแก้มที่ป่องออกมา พี่เรนตัวเล็กนิดเดียว แต่มีแก้ม แถมแก้มนุ่มด้วย ขาวด้วย หอมด้วย ผมเลยชอบจิ้ม ชอบจับ ชอบฟัดแก้มพี่เรนที่สุด เอาจริงๆ ตั้งแต่คบกันมาผมกับพี่เรนเราไปไกลสุดก็แค่จูบนั่นแหละครับ ใจจริงก็อยากไปให้ไกลกว่านี้นะ แต่ผมว่าพี่เรนยังไม่พร้อม เลยต้องอดใจเอาไว้ก่อน



“สู้ๆ นะครับ ยังไงพี่เรนก็ทำได้ ผมเชื่อแบบนั้น”



“อือ! ขอบคุณนะ” พี่เรนยิ้มกว้างมาให้



“คืนนี้ผมนอนนี่นะ พรุ่งนี้พี่เรนอยู่ห้องใช่ไหมครับ” ผมถาม พอพี่เรนพยักหน้าผมก็เลยพูดต่อ “อย่างนั้นพรุ่งนี้ผมอยู่กับพี่เรนด้วยดีกว่า เพราะเดี๋ยวมะรืนนี้ผมต้องไปจัดงานแล้ว คงยุ่งทั้งวันเลย แล้วพี่เรนสอบเสร็จกี่โมงครับ”



“เที่ยงน่ะ อาจารย์คงไม่ให้นานกว่านี้หรอก” วิชาสุดท้ายของพี่เรนเป็นการสอบนอกตาราง เป็นวิชาในคณะเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ พี่เรนบอกว่ายากมากเพราะเป็นข้อเขียนทั้งหมด



“ถ้าอย่างนั้น... สอบเสร็จแล้วไปดูงานผมนะ”



“อ่า... ตกลงกายยังใช้รูปพี่อยู่ใช่ไหมอ่ะ” พี่เรนทำหน้าแปลกๆ ตอนผมชวน



ผมหัวเราะ พยักหน้ารับ “ใช่ครับ ไปดูนะ ผมอยากให้พี่เรนได้เห็น ได้เห็นพี่เรนในแบบ ในมุมมองที่ผมเห็นแล้วต้องการจะถ่ายทอดมันออกมา”



“พี่เขินอ่ะ... มันต้องแปลกๆ มากแน่เลย”



“ไม่หรอกครับ เชื่อผมสิ ไปดูนะครับนะ” ผมอ้อน แล้วพี่เรนก็มักจะใจอ่อนเสมอเวลาผมอ้อน แบบนี้ผมก็ยิ่งได้ใจไงครับ “นะครับ นะ”



“ก... ก็ได้”



“ขอบคุณครับ พี่เรนน่ารักที่สุดเลย รักพี่เรนที่สุดอ่ะ” ผมว่าก่อนจะกอดพี่เรนเอาไว้แน่น



แฟนใครเนี่ย น่ารักที่สุดเลยอ่ะ อ๋อ... แฟนผมนี่เอง เนอะ







************************************************
ไม่อยากจะบอกเลย... ว่าตอนนี้เป็นตอนจบของเรื่องนี้แล้วค่ะ ครั้งหน้าเราจะต้องโบกมือลาน้องกายพี่เรนกันแล้ว แต่ฟางจะพาทั้งสองคนแวะเวียนมาหาเท่าที่จะมาได้นะคะ ตอนนี้ยังไม่ขอบคุณดีกว่า เอาไว้ขอบคุณทีเดียวครั้งหน้าเลยเนอะ ^^ แล้วเจอกันค่าาาาาาา

อ่านแล้วอย่าลืมให้กำลังใจคนแต่งนะคะ จะได้มีกำลังใจแต่งนิยายให้อ่านกันค่ะ อย่าเงียบนะคะใจคอไม่ดีเลยค่ะ คอมเมนต์คือกำลังใจของคนเขียนนะคะ ^^

สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi

สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC

เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)

รักน้องกายพี่เรนกันเยอะๆ นะคะ กดเฟบ กดเมนต์ กดโหวด กดแชร์ แล้วแต่สะดวกเลยน๊า คนละนิดคนละหน่อยเป็นกำลังใจให้น้องกายพี่เรนนะคะ จุ๊บๆ ขอบคุณค่ะ


ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
พี่เรนน่ารักที่สุดอ่าา

ออฟไลน์ Rumraisin

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 673
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
เจ้ากายยังคงทำตัวน่าหมั้นไส้ได้เสมอตนเสมอปลายมาก ฮ่าๆๆ  :hao7: พี่เรนก็น่าฟัดทั้งเรื่องเลย รอดูพี่เรนตอนเห็นงานเจ้ากาย พี่เรนต้องเขินตัวม้วนแน่เลย ขอบคุณค่ะฟาง ตอนหน้าจะจบซะแล้ว กอดๆ :กอด1:

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
น่ารักมุ้งมิ้งกันจริงคู่นี้   :mew1:

ออฟไลน์ fangiily

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +741/-12

“Lucky Love ของผมครับ”
Kamin
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #น้องกายหลงฝน ด้วยนะคะ





โชคครั้งที่ • 20.2 •





• • • ต่อค่ะ 100% • • •





พี่เรน



เมี๊ยว เมี๊ยว



ผมขยับตัวตื่นเพราะเสียงร้องของน้องหมีที่มาปลุก จับน้องหมีมากอดเอาไว้ก่อนจะหยิบโทรศัพท์มาดูเวลา นาฬิกาปลุกยังไม่แจ้งเตือน แต่ก็อีกไม่กี่นาทีผมก็ต้องตื่นอยู่ดี กอดฟัดน้องหมีอยู่ไม่นานก็ต้องลุกไปอาบน้ำ เพื่อเตรียมตัวไปสอบวิชาสุดท้ายของเทอมนี้



ผมมีสอบตอนเก้าโมงที่คณะ เพราะว่าวิชานี้สอบนอกตารางของมหา’ลัยครับ เป็นวิชาประวัติศาสตร์ ยากมากๆ เลยด้วย รายละเอียดเยอะมาก ผมอ่านหนังสือไปหลายรอบก็ยังไม่มั่นใจเลยว่าจำได้ทั้งหมด ไม่รู้ว่าข้อสอบจะยากแล้วก็เยอะแค่ไหน เดามั่วไม่ได้ด้วยเพราะเป็นข้อเขียน



ผมอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็เตรียมข้าวเอาไว้ให้น้องหมี กว่าจะกลับมาที่ห้องก็คงตอนเย็นเลยเพราะหลังจากสอบเสร็จ... ผมสัญญากับน้องกายว่าจะไปดูงานของเขา เอาจริงๆ ผมไม่กล้าไปอ่ะครับ ไม่กล้าเห็นรูปตัวเอง ผมว่ามันต้องประหลาดมากแน่ๆ เลย ไม่รู้น้องกายคิดยังไงถึงได้เอาผมไปเป็นแบบ จากที่จะได้เกรดสูงๆ จะแย่เอาน่ะสิครับ แต่ท่าทางของเขาก็มั่นใจมากเลยทีเดียว



“เราไปสอบแล้วนะ อยู่ห้องเป็นเด็กดีนะเข้าใจไหม เดี๋ยวเรากลับมานะ” ผมพูดกับน้องหมี อุ้มมากอดมาหอมอีกรอบก่อนจะปล่อย



เช็คดูของให้แน่ใจว่าไม่ลืมอะไรก็เดินออกจากห้อง เดี๋ยวตินาจะมารับที่หอครับ ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาจะโทรหาตินา แต่ก็เห็นข้อความของน้องกายที่ส่งมา



คิดถึงพี่เรนอีกแล้ว วันนี้สอบก็ตั้งใจนะครับ สู้ๆ นะ
ผมเชื่อว่าพี่เรนต้องทำได้อยู่แล้ว
พี่เรนของผมน่ะเก่งจะตายไป เนอะ
ผมเอาใจช่วยครับ
สอบเสร็จแล้วก็... อย่าลืมที่นัดกับผมนะ
ผมอยากให้พี่เรนมาดูจริงๆ
แล้วเจอกันครับ




คงส่งมาตอนที่ผมกำลังอาบน้ำอยู่เลยไม่ได้ยินเสียง ผมเลยส่งข้อความตอบกลับไปนิดหน่อย ก่อนจะเห็นรถของตินาเลี้ยวเข้ามาพอดี ถึงได้เก็บโทรศัพท์แล้วเดินไปขึ้นรถ



“เป็นไง พร้อมไหมวันนี้” ตินาหันมาถามผม



ผมทำหน้ายุ่งก่อนจะส่ายหน้า “ไม่พร้อม เราไม่มั่นใจเลยว่าจะจำรายละเอียดได้”



“ถ้าอย่างเรนจำไม่ได้ อย่างฉันคงเทละค่ะวิชานี้ สอบกี่ทีก็บอกว่าจำไม่ได้ๆ ตลอด แต่คะแนนสอบออกมาก็ท็อปตลอด น่ามันเขี้ยวจริงๆ!” ตินาพูดก่อนจะยื่นมือมาบีบแก้มผม



“งือ...” ผมร้อง ยกมือลูบแก้มตัวเองเบาๆ ทุกคนเลย... ชอบเล่นแก้มผม น้องกายก็เหมือนกัน แก้มผมจะช้ำหมดแล้วเนี่ย



“สอบเสร็จแล้วพวกเราจะไปฉลองที่ไหนกันดี” ตินาถาม ปกติเวลาสอบเสร็จพวกเราจะไปหาของอร่อยๆ กินกันครับ แต่ว่าวันนี้...



“เรานัดกับน้องกายเอาไว้” ผมตอบ “วันนี้น้องกายมีจัดนิทรรการ ไฟนอลโปรเจคน่ะ น้องอยากให้เราไปดู แล้วเราก็... ตกลงไปแล้ว”



“หือ... โปรเจค ที่ว่าให้เรนไปเป็นนายแบบให้น่ะเหรอ” ผมพยักหน้ากับคำถามของตินา “ว้าว! อย่างนั้นเปลี่ยนแผนดีกว่า สอบเสร็จเราไปหาอะไรกินง่ายๆ ที่โรงอาหารแล้วไปดูภาพของแฟนเรนดีกว่า”



อ่า... ยังรู้สึกแปลกแล้วก็เขินๆ ทุกครั้งเวลาที่มีคนเรียกน้องกายว่าเป็น ฟ... แฟน ผม ถึงแม้ว่าจะเป็นเรื่องจริง แต่ผมก็เขินนี่นา



“หึหึ หน้าแดงแล้วเรนจัง” ตินาส่งเสียงล้อเลียน “เขินเหรอ เขินเหรอ เวลาเขินนี่น่ารักจริงๆ เลยนะ นี่เรน... ถามจริงๆ เลยนะ กับน้องกายน่ะ ไปถึงขั้นนั้นกันยัง”



ผมหันไปมองตินาตาโตทันที ถ ถามอะไรน่ะ... ขั้นนั้นน่ะ ม หมายถึงอะไรกัน



“อย่ามาทำไม่รู้เลยน่าว่าฉันหมายถึงอะไร ว่าไง... ไปถึงไหนกันแล้ว”



“ม ม ไม่ถึงขั้นไหนทั้งนั่นแหละ!” ผมร้องโวยวาย เห็นหน้าตัวเองที่สะท้อนอยู่บนกระจกรถแล้วก็อยากจะหายตัว ทำไมหน้าผมแดงขนาดนี้นะ



“หว้า... ยังไม่ถึงขั้นนั้นอีกเหรอ จะว่าไปกายนี่ก็ช้าเหมือนกันนะเนี่ย อิอิ”



“น นี่!... ข ขับรถไปเลยนะ เราไม่คุยกับตินาแล้ว อ่านหนังสือดีกว่า” ผมว่าหยิบชีทขึ้นมาอ่าน งือ... ทำไมถึงได้ถามอะไรแบบนี้ก็ไม่รู้ ม มันยังไม่ถึงขั้นนั้นกันสักหน่อย



อ่า... แล้วนี่ผมคิดอะไรอยู่เนี่ย จะสอบอยู่แล้วนะต้องอ่านหนังสือสิ ต้องทบทวนที่โน้ตมาสิ เดี๋ยวก็เข้าสอบไม่รู้เรื่องกันพอดี งือ...



กว่าผมจะเรียกสติของตัวเองให้กลับมาได้ก็เหลือเวลาอีกไม่นานก็จะเข้าห้องสอบแล้ว ถ้าผมทำข้อสอบไม่ได้นะ... ผมจะ ผมจะโทษ... จะโทษตินาเลย จะโป้งตินาด้วย



ข้อสอบยากอย่างที่คิดเอาไว้เลย แถมมีตั้งหลายข้อ แล้วทุกข้อก็เป็นข้อเขียนทั้งหมด ทั้งให้อธิบายความหมาย เขียนรายละเอียดงานศิลปะแต่ละช่วง แต่ละยุคสมัย แล้วก็มีโจทย์มาให้ว่าจะมีครอบครัวหนึ่งจะตกแต่งบ้านใหม่ แต่ละคนชอบสไตล์นี้สไตล์นี้ ให้เขียนบรรยายว่าเราจะดึงงานศิลปะ การตกแต่งในช่วงยุคสมัยไหนมาใช้ในการตกแต่งบ้านหลังนี้ มีแต่ยากๆ ทั้งนั้นเลยครับ



กว่าจะเสร็จก็หมดเวลาทำข้อสอบพอดี อ่า... ยังทวนไม่ครบทุกข้อเลย หวังว่าที่ผมเขียนไปจะถูกบ้างนะ



แต่ละคนที่เดินออกจากห้องสอบสภาพไม่ต่างกันเท่าไหร่เลยครับ



“ไงเรน ทำข้อสอบได้ไหม” ผมเงยหน้าขึ้นมองเพื่อนในคณะที่เดินเข้ามาทัก อยากจะเบะหน้าเลยครับ



“ข้อสอบยากมากเลย ดินทำได้ไหม”



“ได้บ้างมั่วบ้าง แต่เรนเก่งอยู่แล้วนี่นะ ยังไงก็ท็อปอยู่แล้วละสิ” ดินว่า ยกมือขึ้นยีหัวผมเบาๆ ก่อนจะยิ้มให้



“เราขอแค่ผ่านก็พอใจแล้วล่ะ” ผมบอก ดินหัวเราะก่อนจะชวนผมรวมไปถึงพวกตินาไปหาอะไรกินกัน “ไม่ได้หรอก พอดี... เรามีนัดแล้วน่ะ”



ดินเองก็ไม่ได้ว่าอะไรนอกจากพยักหน้ารับ แล้วก็โบกมือให้ก่อนจะเดินแยกไปอีกทาง ผมนั่งรอพวกตินาอยู่หน้าห้อง สาวๆ ยังไม่ออกมาครับคงกำลังเก็บของกันอยู่ พอพวกตินาออกมาเราก็เลยไปหาอะไรกินที่โรงอาหารของคณะ กินกันไปคุยถึงข้อสอบกันไป แต่ถึงจะคุยกันไปเราก็กลับไปแก้คำตอบไม่ได้อยู่ดี



“เรนเคยเห็นรูปที่น้องกายถ่ายหรือยัง ที่จัดวันนี้น่ะ” ใบหม่อนหันมาถามผม ระหว่างที่พวกเรากำลังย้ายไปคณะนิเทศกัน ไปด้วยรถของตินาครับ มีสานั่งอยู่ข้างๆ ส่วนผม ใบหม่อน แล้วก็แป้งนั่งอยู่ด้านหลัง



ผมส่ายหน้า “ยังไม่เคยเห็นเลย น้องกายไม่เคยเอามาให้ดู เราก็ไม่ได้ขอดูด้วย เราว่ามันต้องตลกแน่ๆ เลย”



“ไม่ตลกหรอก” สาพูด พร้อมกับยื่นโทรศัพท์มาให้ผมดู “ในเพจคิ้วบอยลงรูปเอาไว้ เป็นงานของเด็กนิเทศนั่นแหละ ติดรูปของเรนมาด้วย ฉันว่าสวยมากเลยนะ”



ผมรับโทรศัพท์ของสามาดู มีสองสาวชะโงกหน้ามาดูด้วย ก่อนจะร้องวีดว้ายกันใหญ่ ผมมองรูปในจอแล้วก็ได้แต่กระพริบตาปริบๆ อ่า... นั่นผมจริงๆ เหรอครับ ดูเหมือนจะไม่ใช่เลย...



“กายถ่ายรูปสวยมากอ่ะ ชักอยากจะไปเห็นรูปจริงๆ แล้วสิ ดูสิมีแต่คนมาเมนต์อิจฉาเรนกันใหญ่เลย” ใบหม่อนพูดพร้อมกับเลื่อนดูคอนเมนต์ใต้รูปนั้น



รูปที่สาเอาให้ดู เป็นรูปตอนที่น้องกายกำลังยกรูปของผมขึ้นติดเอาไว้ ข้างๆ ก็มีรูปผมแขวนเอาไว้อีกหลายรูปเลย เห็นแล้วมันแปลกๆ เขินๆ ยังไงก็ไม่รู้ คนหน้าตาธรรมดาๆ เฉยๆ อย่างผมเนี่ยนะจะได้เป็นนายแบบ ถึงแม้จะเป็นนายแบบให้น้องกายก็เถอะครับ



ไม่นานเราก็ถึงคณะนิเทศ ผมเดินก้มหน้าก้มตาตามสาวๆ เข้าไปในอาคาร เพราะรู้สึกเหมือนหลายคนจะจ้องมาทางผมไม่หยุดเลย นี่งานพรีเซ็นโปรเจคของนักศึกษาจริงๆ เหรอครับ ทำไมคนเยอะขนาดนี้เนี่ย ดูใหญ่มากเลย ห้องที่จัดงานก็ใหญ่มาก ทำไมดูจริงจังไปหมดเลย เหมือนเห็นคนดังๆ เดินผ่านไปผ่านมาในห้องนั้นด้วย



ตินาลากผมเข้าไปในห้องที่จัดงาน ภาพเยอะมากครับ แต่ละภาพสวยๆ ทั้งนั้นจนไม่อยากจะเชื่อว่านี่เป็นฝีมือของนักศึกษา เจ้าของภาพยืนประจำจุดของตัวเองแล้วก็คอยอธิบาย ตอบคำถามของคนที่มาดู อ่า... บรรยากาศแบบนี้ผมเคยเห็น ตอนที่น้องกายมีพรีเซ็นต์งานครั้งก่อน พวกตินาพาผมเดินไปเรื่อยๆ เพื่อหาว่าน้องกายอยู่ตรงไหน รูปของผมอยู่ตรงไหน



ยิ่งเดินอยู่ในห้องทุกคนก็ยิ่งหันมามองผมกันใหญ่ ผมว่าหลายๆ คนในนี้คงเห็นรูปที่น้องกายแสดงแล้วแน่ๆ เลยถึงได้มองผมแบบนี้



โปสเตอร์ที่วางอยู่ตรงหน้าทำให้พวกเราหยุด ผมเองก็หยุดมอง เป็นภาพของผู้ชายคนหนึ่งที่นั่งอยู่ท่ามกลางสายฝนที่ตกกระหน่ำ การกระทำของคนนั้นแปลกมาก เพราะเขายิ้มกว้างแล้วก็กอดลูกแมวเอาไว้ มีตัวอักษรอะไรไม่อยู่ตรงพื้น ทั้งๆ ที่ฝนตกหนักมากแล้วท้องฟ้าก็มืดสนิท แต่รอยยิ้มของคนในภาพนั้นก็ดูสว่างไสว คนนั้นน่ะ... ก็เป็นผมเอง แต่จำไม่เห็นได้เลยว่าตอนถ่ายรูป ผมทำท่านั้นด้วย...



อ่ะ... ลูกแมวนั่น... น้องหมีตอนเด็กๆ นี่ครับ จำได้แล้ว... ภาพนี้น่าจะเป็นตอนที่ผมเจอน้องหมีครั้งแรก น้องหมีถูกปล่อยทิ้งไว้ใต้เก้าอี้ ผมได้ยินเสียงน้องร้องเลยเดินเข้าไปดูทั้งๆ ที่ฝนตก แล้วก็พาน้องหมีกลับมา แต่นั่นมันก็... ตั้งเป็นปีแล้ว



“ผมไม่เคยมองว่าฝนเป็นตัวแทนของความเหงา ความเศร้า หรือความเดียวดายเลยสักครั้งเดียว” เสียงน้องกายกำลังพูดอธิบาย ทำให้ผมหันไปมอง “คำว่า ‘ฝน’ ในความหมายของผม คือ ‘ความสุข’ ครับ ฝนเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ก็เหมือนกับคนนั่นแหละครับ คนเราทุกคนมีความเป็นธรรมชาติอยู่ในนั้น และธรรมชาตินั้น... เป็นความสุขอย่างหนึ่งครับ”



“ในระหว่างที่มีคนกำลังเศร้า กำลังทุกข์อยู่ในระหว่างที่ฝนตก ก็มีคนที่มีความสุข และสนุกสนานอยู่เหมือนกัน ผมเลยต้องการจะถ่ายทอดออกมาว่าฝนเป็นอะไรได้มากกว่าความเหงา เหมือนกับ ‘ฝน’ ในรูปของผม ที่เขามีแต่ความสุข มีแต่ความเป็นธรรมชาติ ความเป็นตัวตนของเขา”



ผมไล่สายตามองภาพแต่ละภาพของน้องกาย เป็นภาพของผมที่อยู่ท่ามกลางสายฝน ภาพที่ผมยืนเก้ๆ กังๆ อย่างไม่รู้จะว่าตัวหรือทำตัวยังไงดี ภาพที่ผมก้มลงจับน้องหมีที่วิ่งมาหา ภาพที่ผมวิ่งเล่น นั่งเล่นกับน้องหมี ภาพผมที่ยิ้มกว้างจนตาแทบจะปิด ภาพที่ผมมองตรงเหมือนกับว่ากำลังมองกล้อง แต่ไม่ใช่หรอกครับ... ผมไม่ได้มองกล้อง ผมกำลังมองคนที่กำลังถ่ายรูปของผมอยู่



“ไม่ต้องแต่งเติม หรือเสริมอะไร เขาแค่แสดงออกอย่างตรงไปตรงมา อย่างเป็นธรรมชาติ เหมือนกับฝนที่ตกลงมาโดยไม่มีอะไรแอบแฝง แต่คนเรานั่นเองแหละครับที่ตีควมหมายยามเวลาฝนตกไปเองต่างๆ นาๆ ทั้งๆ ที่ฝนตก ก็คือฝนตก”



“ผมว่าคุณแสดงออกมาได้ดีทีเดียว” ผมไม่รู้ว่าใคร แต่คงเป็นอาจารย์ที่พูดแบบนั้นกับน้องกาย “คุณสื่อออกมาได้ดีว่าฝนกำลังมีความสุข ผมก็สงสัยนะว่าทำไมคนถึงชอบตีความหมายเวลาฝนตกเป็นความเหงา ความเศร้าไปได้ ทั้งๆ ที่มันจะเป็นความสุขอย่างที่คุณว่าก็ได้”



“ครับ แต่ผมเอง... ก็เพิ่งจะมองว่าฝนคือความสุขเมื่อไม่นานมานี้เองครับ เมื่อประมาณปีที่แล้วได้ ที่ความคิดของผมที่มีต่อฝนเปลี่ยนไป” น้องกายตอบ ก่อนจะหันมามองผมเหมือนกับรู้อยู่แล้วว่าผมยืนอยู่ตรงนี้



“วันนั้นผมกำลังเซ็งและเบื่อหน่ายที่ฝนตกลงมาเพราะทำให้ผมไม่สามารถถ่ายรูปได้ การถ่ายรูปเวลาฝนตกของผม ผมว่ามันยุ่งยากเพราะภาพมันไม่สวย ไม่ชัด แต่วันนั้นกลับเป็นวันที่ผมได้รูปที่สวยที่สุดเท่าที่ผมเคยมาถ่าย ภาพของ ‘ฝนที่กำลังยิ้มอย่างมีความสุข’ เป็นภาพที่ดีที่ของผม” น้องกายหันไปตอบ แต่ก็หันมามองผมเรื่อยๆ “และนั่นแหละครับที่ทำให้ผมมองฝนแตกต่างออกไป”



“เพราะผมมองเห็นความหมายของฝนในมุมที่แตกต่าง ผมถึงได้คิดคอนเซ็ปนี้ขึ้นมา เพื่อที่จะถ่ายทอดมุมมองใหม่ๆ ของสายฝน ฝนตกไม่จำเป็นต้องเจ็บ ต้องเหงา ต้องเศร้าหรือว่าอ้างว้าง แม้ว่าคุณจะอยู่คนเดียว แม้ว่าจะคุณไม่มีใคร แต่อย่างน้อยคุณก็ยังมีสายฝนที่อยู่ข้างๆ แล้วทำไม... คุณถึงไม่มีความสุขแทนละครับ เพราะคิดแบบนั้นผมเลยนำเสนอผลงานของผมออกมาในรูปแบบนี้ครับ”



“พอผมคิดใหม่ ผมก็เลยตกหลุมรักช่วงเวลาฝนตก และถ้าถามว่า... ฝนในความหมายของผมคืออะไร”



อยู่ๆ หัวใจของผมก็เต้นแรง ตอนที่น้องกายหันมาทางผม ทำให้คนอื่นๆ ก็หันมาทางผมด้วยเหมือนกัน ผมไม่รู้ว่าพวกตินาหายไปไหนแล้ว เหมือนตอนนี้ผมกับน้องกายกำลังยืนหันหน้าเข้าหากัน มีคนอื่นๆ เป็นวงล้อมอยู่ด้านนอก



“ฝน... ในความหมายของผมคือ... ความรัก ครับ”



“ฝน... ในความหมายของผมคือ... ความโชคดี คือ Lucky Love ของผมครับ”








กายยืนมองพี่เรนของเขาก่อนจะยิ้มออกมา เพราะว่าเขาเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อสายฝนที่ตกลงมาจากฟากฟ้า เพราะอย่างนั้นสายฝนจึงเปรียบเสมือน Lucky Love ของเขา เพราะว่าเขามองแตกต่างออกไป เขาถึงได้เจอความรักที่พิเศษ เป็นความรักที่ไม่มีใครมองเห็น ไม่มีใครที่สามารถจับต้อง และครอบครอง



เรน... จึงเป็นเหมือนความโชคดีของกาย



และกาย... ก็เป็นเหมือนความโชคดีของเรน



ความโชคดีที่พวกเขามองเห็นกันและกัน เป็นความโชคดีที่พวกเขาได้รู้จักกัน เป็นความโชคดีที่พวกเขาได้รู้จักคำว่ารัก ได้เรียนรู้ และได้ใช้ความรักนั้น



เป็นเหมือน Lucky Love ที่วิเศษที่สุดที่พวกเขาเคยเจอ






************************************************
จบลงแล้วค่ะสำหรับนิยายเรื่องนี้ เหมือนจะนานเพราะฟางหายไปนานแต่เอาจริงๆ ก็ไม่นาน ที่เรื่องนี้จบเร็วเป็นเพราะว่านิยายเรื่องนี้ไม่มีดราม่าค่ะ ไม่มีปม ไม่มีเหตุการณ์อะไร ถ้าจะยืดเรื่องราวออกไปอีกฟางก็กลัวว่าตัวฟางเองจะจบไม่ลง ฟางก็เลยขอจบนิยายเรื่องนี้ลงตรงนี้ดีกว่า ซึ่งฟางจะพาน้องกายกับพี่เรนมาหาอีกแน่นอนในรูปแบบของตอนพิเศษนะคะ อาจจะต้องให้เวลาฟางนิดหนึ่ง เพราะช่วงนี้งานค่อนข้างเยอะ แล้วก็จะเคลียร์ตอนพิเศษเรื่องนี้สำหรับในรูปเล่มด้วย ซึ่งรวมเล่มเนี่ย ฟางจะส่งสำนักพิมพ์ค่ะ ถ้ามีรายละเอียดอะไรแล้วฟางจะแจ้งอีกทีนะคะว่ารวมเล่มกับสำนักพิมพ์อะไร แล้วเปิดจองอะไรเมื่อไหร่

ส่วนตอนจบสำหรับเรื่องนี้... ก็อย่างที่น้องกายบอกเนอะ Lucky Love เปลี่ยนลุค เลยได้รัก นี้ ไม่ได้หมายถึงแค่เฉพาะพี่เรนที่เปลี่ยนโฉมตัวเองถึงได้เจอรักอย่างน้องกาย แต่ก็หมายถึงน้องกายเอง ที่เปลี่ยนมุมมอง เปลี่ยนความคิด เขาถึงได้มองเห็นความรักที่เกิดขึ้น มันเป็นลัคกี้ เป็นความโชคดีที่น้องได้เจอ ซึ่งถ้าเราเองได้ลองเปลี่ยนมุมมอง เปลี่ยนความคิด เราอาจจะเจอความโชคดีอะไรบ้างก็ได้ มันก็เลยเป็นที่มาอีกอย่างหนึ่งสำหรับชื่อเรื่องของเรื่องนี้ค่ะ

แล้วก็... ก่อนจะจบกันไป ฟางต้องขอขอบคุณคนอ่านทุกๆ มากค่ะ ที่ติดตามนิยายเรื่องนี้ แม้อาจจะไม่ได้เยอะเทียบเท่าเรื่องอื่นๆ แม้ว่านิยายเรื่องนี้จะไม่ได้มีอะไรมากแต่ฟางก็ขอบคุณมากค่ะที่ยังรอฟาง แล้วก็อยู่ด้วยกันมาจนถึงตอนจบนี้ ฟางต้องขอบคุณจริงๆ ค่ะ แล้วเราก็จะยังไม่จากไปไหนนะคะ ทุกคนยังสามารถติดตามนิยายเรื่องอื่นๆ ของฟางได้อีก บอกเลยว่ามีอีกหลายเรื่องค่ะ

นอกจากฝากนิยายเรื่องนี้แล้ว ฟางก็ขอฝากนิยายเรื่องอื่นๆ ของฟางด้วยนะคะ มีทั้งที่จบไปแล้ว รวมถึงที่กำลังอัพเดท อยากลองให้ติดตามกันค่ะ ขอบคุณมากนะคะ แล้วพบกันใหม่ค่ะ ^^

สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi

สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC

เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)

รักน้องกายพี่เรนกันเยอะๆ นะคะ กดเฟบ กดเมนต์ กดโหวด กดแชร์ แล้วแต่สะดวกเลยน๊า คนละนิดคนละหน่อยเป็นกำลังใจให้น้องกายพี่เรนนะคะ จุ๊บๆ ขอบคุณค่ะ


ออฟไลน์ Rumraisin

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 673
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
 :L2: :L2: :L2: จบไปอีกเรื่องแล้ว ยินดีกับเจ้ากายแล้วพี่เรนด้วยนะคะ ที่ได้เจอตัวจริงของตัวเอง คนอ่านก็หวังว่าจะเจอมั้ง แม้เจ้ากายจะน่าหมั่นไส้และพี่เรนจะน่าฟัดทั้งเรื่องก็ตาม ขอบคุณฟางมากค่ะ แม้จะหายไปบ้างแต่ก็ยังติดตามอ่านตลอดนะ รอติดตามตอนพิเศษจ้า  :กอด1:

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
น่ารักทั้งคู่อ่ะ ฟินเลย!

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
น่ารักมากกกก

ออฟไลน์ uyong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
น่ารักมากกกกกกก ขอบคุณคะ :L2: :L2:

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5
                             :-[ :-[ :-[ :-[ :-[
                   :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8
ขอบคุณ ขอบคุณ ขอบคุณ :)

ออฟไลน์ AngPao1932

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 155
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
กรี๊ดดดดดดดดด อยากเห็นพี่เรนโดนน้องกายกิน ขอตอนพิเศษค่าาาาาาาาาาาา  :hao7: :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ บีเวอร์

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 392
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1

ออฟไลน์ duckka

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 209
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
 :hao7:จบแล้ววว จบแบบละมุน
พี่หมีมีความเป็นตัวหลักในเรื่องสูง
ฮ่าาา

ออฟไลน์ monoo

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1957
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +101/-4

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
หวานๆ กันปิดท้าย  ทำคนอ่านเขินตัวแตกไปเลย   ขอบคุณนะคะ   :กอด1:

ออฟไลน์ thanza1970

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 533
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
มีตอนพิเศษมั้ยอ่า

ออฟไลน์ mouymai

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 54
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
หวานปิดท้ายมากเลยคะ เขิน :-[

ออฟไลน์ miwmiwzaa

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 94
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
หวานมากกกก ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ van16

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 875
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
สนุกค่ะ ชอบ มันหวานๆ อบอุ่นดีค่ะ  :pig4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด