ผมหันไปตามเสียงเรียกที่ค่อนข้างดัง เป็นการเรียกที่สนิทสนมและดูตื่นเต้นดีใจ พอหันไปก็พบคุณตุลกำลังกึ่งเดินกึ่งวิ่งตรงมาหา ผมจึงลุกขึ้นยืน เดี่ยวลุกตามเช่นกัน
“คุณไฟจริง ๆ ด้วย” ตุลยิ้มกว้าง
“มาเที่ยวเหรอครับ ไม่นึกว่าจะได้เจอกันที่นี่” ตุลถาม มองหน้าผมสลับกับเดี่ยว
“ครับ” ผมยิ้มตอบ
“รู้จักกันด้วยเหรอครับ” ตุลถาม
“ไม่เชิงมั้งครับ” ผมยิ้มตอบ เหลือบหางตามองไปยังเดี่ยวที่มีสีหน้างุนงง
“นี่เดี่ยวเพื่อนตุลเองครับ แบบว่า.. เพื่อนในวงการธุรกิจเฉย ๆ นะครับ ไม่มีอะไรมากกว่านั้น” ตุลพูดทีเล่นทีจริง
“ทางนี้ก็ไม่ได้อยากมีเหมือนกันแหละน่า” เดี่ยวทำน้ำเสียงไม่พอใจ ตุลหัวเราะคิกคัก การแซวกันเช่นนี้คาดเดาได้ว่าทั้งคู่รู้ตื้นลึกหนาบางของชีวิตกันและกันพอสมควร
“เมียนายมาน่ะ” ตุลยักคิ้ว ส่งสัญญาณไปทางล็อบบี้ด้านใน เดี่ยวหันไปมองผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งผมเคยเห็นเธอผ่านรูปถ่าย นั่นเป็นคู่หมั้นของเขา
“งั้นผมขอตัวสักครู่นะครับ” เดี่ยวหันมาบอกผมก่อนรีบวิ่งกลับเข้าไปในโรงแรม ผมนั่งลงที่เก้าอี้ตัวเดิมอีกครั้ง
“ดีใจจังที่ได้เจอกันอีก ตุลนึกว่าเจอกับคุณไฟแบบนี้แล้วจะโดนหลบหน้าซะแล้ว” ตุลนั่งลงตรงหน้าทั้งที่ไม่ได้ถูกเชิญ
“มาเร็วขนาดนี้ หลบทันซะที่ไหน” ผมอมยิ้ม ตุลเม้มปากหน้ามุ่ย ผมหัวเราะน้อย ๆ อีกฝ่ายเงียบไปดื้อ ๆ
“คืนนี้ว่างไหมครับ” ตุลถาม
“มีธุระน่ะครับ” ผมตอบ โกหก อีกฝ่ายเบะปากด้วยสีหน้าไม่ชอบใจนิดหน่อย
“มาทำอะไรที่นี่เหรอครับ” ผมเป็นฝ่ายถามบ้าง
“มาติดต่อเรื่องงานที่นี่ครับ แล้วก็.. เดี๋ยวต้องรอรับรองลูกค้าด้วย”
“คนนั้นเป็นลูกน้องคุณไฟสินะครับ” ตุลมองไปทางพี่ธานที่กำลังยืนคุยอยู่กับเจ๊ลิลลี่
“ใช่รึเปล่านะ” ผมเองก็ลังเล
“ดูดีจังนะครับ” ตุลออกปากชมเขิน ๆ
“..ก้นแซ่บสุดยอดเลย ~~” เขาขยายความเสียงกระเส่า จ้องมองท่อนล่างของพี่ธานที่มีเพียงกางเกงกระชับกล้ามเนื้อขายาวสำหรับใส่วิ่ง ทำให้เห็นรูปก้นชัดเจน
“พรืดดด !” ผมกัดฟันแน่น ก้มหน้าลง เกือบกลั้นหัวเราะเอาไว้ไม่อยู่
“อารมณ์ดีนี่” ผมเงยหน้ายิ้มแซว
“ก็นะ” ตุลยิ้มเขิน
“มือไปโดนอะไรมา” ผมถามถึง เห็นมือของเขาปิดผ้าพันแผลขนาดใหญ่เอาไว้ ซึ่งมันสะดุดตาจนอดทักถามไม่ได้
“หัดทำกับข้าวแล้วน้ำร้อนลวกครับ เจ็บมากเลย ตรงนี้...” ตุลขยับเข้ามาใกล้ด้วยน้ำเสียงออดอ้อน ผมยิ้มมองเพราะเขาทำเสียงแบบที่ฟังแล้วตลกดี ผมจับมือของตุลมาดูโดยไม่พูดอะไร ก็ไม่รู้จะพูดอะไรน่ะนะ
“แต่หายแล้ว” ตุลบอก ผมเงยหน้าขึ้น
“หายเมื่อกี้นี้เลย” เขากะพริบตาใส่ปริบ ๆ กรีดนิ้วชี้ลงที่ฝ่ามือผมเบา ๆ ผมหลุดหัวเราะอีกครั้ง เข้าใจในความหมาย
“เลิกบุหรี่รึยัง” ผมถามถึง
“ยังหรอกครับ มันเลิกยากพอ ๆ กับผู้ชายเลยอะ” ตุลตอบด้วยสีหน้าหนักใจ ผมยิ้ม เขาน่ารักดี
“คุณนี่...” ผมฉุกนึก สิ่งที่เขาเป็นในตอนนี้ต่างจากที่ผมเคยพบเมื่อครั้งก่อนที่เคยหลับนอนด้วยกัน
“มีความรักอยู่งั้นเหรอ” ผมถาม
“เอ๊ะ” ตุลอุทานตาโต
“ก็คุณดูเปลี่ยนไปจากตอนที่เราเคยเจอกัน” ผมพูด ตุลไม่ตอบ แต่ใบหน้ากลับแดงเห็นได้ชัดเจน ท่าทางอึกอักดูท่าว่าเรื่องที่ผมพูดทักนี้น่าจะเป็นความจริง
“ก็ไม่เชิงหรอกครับ นี่ผมออกอาการขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย” ตุลอุทานด้วยสีหน้าตกใจ
“เปล่า.. คุณดูมีความสุขน่ะ” ผมตอบ
“ดีแล้วนี่ครับ ความสุขคนละความหมายจากที่ผมเคยเห็น” ผมยังคงจับมืออีกฝ่ายไว้หลวม ๆ นิ้วโป้งลูบบนหลังมือของเขาเบา ๆ ตุลเงียบไปแล้ว
“คุณตุลคะ ลูกค้าจะเดินทางมาถึงในอีกห้านาทีค่ะ” ผู้หญิงมีอายุคนหนึ่งเดินเข้ามาทักด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม เธอมองมาที่มือของตุลที่ถูกผมจับอยู่ แต่ตุลก็ไม่มีทีท่าที่จะชักมือกลับไป การที่เขาชอบผู้ชายคงไม่ได้ถูกเก็บเป็นความลับต่อหน้าเธอล่ะมั้ง
“เพื่อนตุลเอง หล่อไหม” ตุลแนะนำพร้อมยิ้มกว้าง
“ค่ะ” เธอผงกหัวยิ้มรับ หันมาโค้งทักทายผมอย่างเป็นทางการ
“ไปก่อนเลยครับเดี๋ยวผมตามไป” ตุลบอก เธอโค้งให้พวกเราอีกครั้งก่อนกลับเข้าไปในตัวโรงแรม
“มีชาวต่างชาติหัวสีน้ำตาล จ้องผมเอาเป็นเอาตายมาจากด้านในโรงแรมตั้งแต่เมื่อครู่นี้แล้ว ความรักนี่ น่ากลัวจังนะ” ผมมองหน้าตุล อีกฝ่ายชะงัก ไม่ได้หันกลับไปมองทางฝั่งของโรงแรม แต่กลับจ้องผมเขม็งพร้อมจะดึงมือของตนออก แต่ถูกผมกระชับจับไว้แน่น
“ขี้แกล้ง” ตุลว่าหน้ามุ่ย
“ฮึ” ผมหัวเราะขึ้นจมูก
“ทั้ง ๆ ที่คุณเป็นคนบอกว่าคืนนี้ไม่ว่างแท้ ๆ” ตุลบ่น
“ผมขอตัวก่อนนะครับคุณไฟ ต้องไปรับลูกค้า” อีกฝ่ายตัดบทพร้อมลุกขึ้นยืน ผมลุกตาม ปล่อยมือเขาออก
“ใช่สิ...” ตุลหันกลับมามอง แววตาเจ้าเล่ห์เปลี่ยนไปจากเดิม
“ไม่ใช่ว่าเมื่อกี้กำลังตกลงธุรกิจอะไรกันอยู่หรอกนะครับ รายนั้น.. อึดเอาเรื่องอยู่นะ” ตุลอมยิ้มมุมปาก การเปิดประเด็นของเขาถึงบุคคลที่สามเป็นการยืนยันข้อมูลที่ผมวิเคราะห์ไว้ก่อนหน้านี้
“เคยลองงั้นเหรอ” ผมถาม
“เปล่า ..หึ เราไม่กินกันเองน่ะ ไม่สิ ถึงหมอนั่นจะได้ทั้งหน้าทั้งหลังและเก่งสุด ๆ แต่ตรรกะเพี้ยนไปหน่อยครับ ผมไม่ยินดีกับการอ้าขาให้คนแบบนั้นน่ะ ยังพอมีขอบเขตอยู่บ้าง” ตุลเบะปากพร้อมยักไหล่ครั้งหนึ่ง
“ขอบเขตทางธุรกิจน่ะ ฮ่า ๆ ๆ” ตุลหัวเราะ
“บอกผมทำไมล่ะ” ผมยิ้ม
“ก็.. ดูจากทรงแล้ว คุณไฟไม่น่ารอดนี่ครับ เขาคงรู้แล้วแหละว่าผมกับคุณรู้จักกันในฐานะไหน แล้วคงยิ่งเพิ่มความสงสัยในตัวคุณเข้าไปอีก” ตุลหุบยิ้มลงทีละนิด
“แต่หมอนั่น ไม่ได้นิสัยน่ารักเหมือนตุลหรอกนะบอกไว้ก่อน” ตุลขยิบตาหน้าทะเล้น
“เอาเป็นว่า ไม่ว่าจะติดต่อกับเขาเรื่องอะไร ก็ขอให้โชคดีนะครับ” ตุลบอกลา
“คุณก็เหมือนกัน” ผมบอก ตุลวางมือแนบลงมาที่หน้าท้องของผมทันที เขาหัวเราะคิกคักโจ่งแจ้งก่อนเดินจากไป ผมนั่งลงที่เดิม หยิบน้ำขึ้นดื่มอีกครั้ง ความบังเอิญไม่มีบนโลกหรอก ทุกอย่างมันเชื่อมโยงถึงกันหมด บุคคลที่กำลังเวียนอยู่ตรงหน้านี่ก็ด้วย
พี่ธานบอกลาเจ๊ลิลลี่เป็นที่เรียบร้อย ยาวนานอย่างกับจะลาไปตายอย่างนั้น เดี่ยวกับคู่หมั้นของเขาไม่ได้อยู่ตรงหน้าล็อบบี้แล้ว เจ๊ลิลลี่หันมาโบกมือลาให้ผมจากที่ไกล ๆ ขณะที่พี่ธานเดินกลับมา
“เธอสุดยอดไปเลยใช่ไหมล่ะ ขนาดโดนของพี่เข้าไป แต่ยังเดินไหวได้อยู่” ผมเริ่มเปิดประเด็นหาเรื่องกวนใจพี่ใหญ่
“........” พี่ธานไม่ตอบ ยืนกุมมือทำสุภาพสยบทุกอย่าง
“อิจฉาพี่ใหญ่จังน้า ~” ผมแกล้งทำเสียงยานคาง เท้าแขนเอนตัวไปทางด้านหลัง
“รายนั้นพากันเข้าไปในห้องน้ำฝั่งโซนซาวน่าของผู้ชายน่ะครับ” พี่ธานเปลี่ยนเรื่อง คงหมายถึงเดี่ยวกับคู่หมั้นของมัน
“ไอ้เหี้ยนั่น เป็นแบบที่น่ารำคาญ” ผมพูด หยิบเสื้อตัวเดิมขึ้นสวมใส่อีกครั้ง พี่ธานลดรอยยิ้มลง
“เจ๊ลิลลี่บอกว่าเดี่ยวมักทำงานที่นี่เป็นหลักครับ ห้องของเขาคงมีทุกอย่าง”
“เอาเถอะ ผมก็ไม่ได้มีเซ็กซ์กับใครหุ่นเต็มไม้เต็มมือมาสักพักแล้ว” ผมรวบรัด อย่างน้อยก็มีประโยชน์อยู่บ้าง
“ถึงผม จะอยากได้แบบพี่มากกว่าก็เถอะ” ผมยิ้ม เหล่มองหุ่นของพี่ธานที่เป็นแบบที่ชอบ
“คุณไฟครับ ผมขอเถอะครับ เลิกเปรียบเทียบกับผมสักที นึกถึงหัวอกของคุณท่านบ้างสิครับ” พี่ธานถอนหายใจ ผมพ่นหัวเราะ ลุกขึ้นยืนพร้อมหยิบขวดน้ำติดมือเดินมา อีกฝ่ายตามหลังมาไม่ห่าง ทุกวันนี้ก็ยังไม่เข้าใจเรื่องกลุ้มใจทำนองนี้ของพี่ใหญ่อยู่ดี
พนักงานต้อนรับที่ยืนอยู่ตรงล็อบบี้ชำเลืองมองคล้ายสังเกตการณ์ลูกค้าว่าต้องการความช่วยเหลือหรือไม่ ผมตรงไปทางห้องน้ำโซนห้องซาวน่า นั่นคือจุดหมายปลายทาง ไม่มีแขกเข้ามาใช้บริการในเวลานี้ ขนาดสระว่ายน้ำก็เงียบสงบกลายเป็นสถานที่ส่วนตัว
ประตูห้องน้ำแยกเป็นห้อง ๆ บรรยากาศด้านในเงียบสนิท มีเพียงเสียงเพลงบรรเลงที่ทางโรงแรมเปิดคลอไว้ ขาก้าวเดินตรงไปตลอดทางเดิน ห้องน้ำที่อยู่ด้านในสุดเป็นห้องเดียวที่ถูกล็อกจากด้านใน หากตั้งใจฟังให้ดีจะได้ยินเสียงพูดคุยกระซิบกระซาบมาจากในนั้น
“เดี่ยว.. อย่าเพิ่งสิ”
“นิดเดียวน่า” เสียงฝ่ายชายกระซิบ น้ำเสียงเต็มไปด้วยความรีบร้อน
“เดี๋ยวคุณมีประชุมไม่ใช่เหรอคะ” ฝ่ายหญิงปราม
“อืมมม..” อีกฝ่ายหนึ่งขานรับอย่างปัดไปที การเคลื่อนไหวของร่างกายเริ่มดังชัดขึ้น เสียงถกเถียงเงียบลงแล้ว แต่มีบางอย่างที่กำลังคืบหน้า
“อย่าใส่เข้ามานะ รอบก่อนฉันเกือบแย่” เธอห้ามเสียงหลง ขณะเดียวกันก็ได้ยินเสียงเครื่องมือที่เคยคุ้นหูเป็นอย่างดี ตามตรงก็ไม่แปลกใจนักที่มันถูกนำมาใช้ แต่ในสถานที่แบบนี้ก็อดทำให้นึกยิ้มในใจไม่ได้
“เดี่ยว อะ ! โทรศัพท์ดังค่ะ” เธอร้องบอก ทันทีนั้นเสียงโทรศัพท์ก็ดับไปคล้ายถูกกดรับ
“ค่ะ กำลังจะไปแล้วค่ะ ค่ะ แป๊งนึงนะคะ”
ผมเดินกลับไปยังโซนอ่างล้างมือ พี่ธานยืนกุมมือจังก้าอยู่กลางห้องน้ำ เสียงประตูห้องน้ำถูกผลักออกอย่างแรง นิ้วชี้กดเปิดก๊อกน้ำทำลายความเงียบ
ซ่า ~ มาพร้อมกับเสียงสับเท้าอย่างเร่งรีบของรองเท้าส้นสูง คู่หมั้นของเดี่ยวชะงักงันเมื่อเห็นว่ามีคนอยู่ร่วมในนี้ด้วย เราสบตากันผ่านกระจกตรงหน้าผม อีกฝ่ายหน้าถอดสี รีบหลบหน้าแล้วเดินออกจากห้องน้ำไปทันที
“อีเวรเอ๊ย !” เสียงสบถด้วยความหงุดหงิดดังมาจากท้ายห้อง ก๊อกน้ำถูกปิดลง ฝ่ายชายไม่มีท่าทีว่าจะออกมาจากห้องน้ำเร็ว ๆ นี้ อาจมีปัญหา พี่ธานยังคงยืนอยู่ที่เดิม ผมเดินตรงไป หยุดยืนอยู่ที่หน้าประตูห้องน้ำห้องสุดท้าย ครั้งนี้บานประตูไม่ได้ถูกปิดไว้อย่างก่อนหน้าจึงเห็นทุกอย่าง เข็มขัดของอีกฝ่ายถูกปลดออกอย่างครึ่ง ๆ กลาง ๆ คนในนั้นหันมา ตาเบิกกว้างที่เห็นว่ามีคนอยู่ที่นี่ด้วย
ครู่หนึ่ง... มันก็เผยรอยยิ้มให้เห็น
ห้องน้ำโรงแรมหรูมีขนาดกว้างพอในการรองรับผู้ชายมากกว่าสามคน ประตูถูกเดี่ยวปิดลงอีกครั้ง เสียงลงกลอนดังชัดเจน ผมกวาดตามองใบหน้าของเดี่ยวที่ยืนประจันหน้าอยู่อย่างพินิจพิเคราะห์ อีกฝ่ายพุ่งเข้าหาอย่างไม่รีรอ ปลายจมูกแตะลงที่ริมฝีปากผมเบา ๆ ก่อนที่จะถูกลิ้นอีกฝ่ายเกลี่ยริมฝีปากล่างคล้ายหยอกล้อ ผมยืนเฉย เดี่ยวเลื่อนหน้าลงไปที่กลางอก เสียงสูดดมรุนแรงจนรับรู้ได้ถึงลมหายใจของอีกฝ่ายที่กระทบผ่านเนื้อผ้า ผมแตะมือลงที่ข้างแก้ม เดี่ยวหลับตาลงพลางถูใบหน้าสู้ตอบฝ่ามือ นิ้วถูกกดน้ำหนักลงอย่างเท่าเทียม ไล้ผ่านใบหูและท้ายทอยอย่างเนิบช้า อีกฝ่ายชะงัก เสียงครางหลุดลอดออกมา
ผลัวะ !ฝ่ามือฟาดลงที่ศีรษะของอีกฝ่ายอย่างแรงด้วยความรำคาญ เดี่ยวตัวเซล้มลง หลังกระแทกเข้ากับประตูห้อง มันเงยหน้าขึ้นมองผมตาขวางเมื่อได้สติ ครู่เดียวอีกฝ่ายก็ขยับตัวพุ่งเข้าหาอีกครั้ง มือทั้งสองข้างจับเข้ามาที่ต้นขาของผมทั้งสองข้างเพื่อเป็นหลักให้ตน หน้าซุกเข้ามาที่ง่ามขาอย่างเอาเป็นเอาตาย
“อะ !” อีกฝ่ายร้องครางหนักกว่าเดิม ผมกระชากศีระของมันออก เดี่ยวร้องด้วยความเจ็บปวด หน้าหงายขึ้นสบตาผม ดวงตาจ้องมองมาไม่ละความพยายามที่กระทำอยู่ อีกทั้งไม่มีความเกรงกันแม้น้อยนิด
“อัปรีย์จังนะ” ผมพูด
“หึ ๆ ๆ ๆ” เดี่ยวแสยะยิ้ม
“้ถุ้ย !”
“........” อีกฝ่ายสะดุ้ง หลับตาหลบหลีก ไฟหรี่ที่ประดับอยู่ทำให้เห็นเศษน้ำลายกระจายอยู่บนใบหน้า ก่อนที่เจ้าตัวจะลืมตาขึ้นอีกครั้ง เส้นผมที่อยู่ในมือกระชับแน่นขึ้นจนอีกฝ่ายทำสีหน้าเหยเก
“ยืน” ผมสั่งพร้อมคลายมือออก เดี่ยวลุกขึ้นยืนทุลักทุเล ท่อนล่างของมันแข็งจนปูดนูนดันกางเกงในออกมาชัดเจน เราประจันหน้ากันอีกครั้ง ผมนิ่งมอง ลูกกระเดือกของอีกฝ่ายขยับลงทันทีที่มันกลืนน้ำลายลง ครั้งนี้อีกฝ่ายลังเลที่จะเข้าหา เดี่ยวซุกหน้าลงที่ซอกคอผมและเริ่มซุกไซ้อีกครั้ง เหงื่อไคลจากการออกกำลังกายที่แห้งหายไปไม่ได้หมายความว่าความสกปรกได้หายไปด้วย
นิ้วโป้งและนิ้วชี้จิกเข้าที่ลำคอส่วนที่จะทำให้อีกฝ่ายหายใจลำบาก การจะบอกให้อีกฝ่ายหยุดในอารมณ์เช่นนี้ไม่ใช่เรื่องที่จะควบคุมได้ง่าย
“อึก” เดี่ยวผงะ หน้าแหงนขึ้นตามแรงที่ถูกกด มือดันศีรษะของมันไปติดกับผนังห้องน้ำอีกฝั่งเพื่อตักเตือนความตะกละตะกลามของมัน เสียงหัวกระแทกดัง
ตึง ! เดี่ยวหลับตาต่อสู้กับความเจ็บที่ได้รับ ลำตัวของผมแนบเข้าประชิด ทำให้เดี่ยวกระแทกก้นสู้กลับอย่างไม่รีรอ น่าหัวเราะ สะโพกของผมกระแทกกลับไปอย่างแรง อีกฝ่ายครางไม่ได้ศัพท์ ปลายจมูกกดลงที่หัวไหล่ของมันก่อนปล่อยตัวออก เดี่ยวทรุดตัวคุกเข่ากับพื้นห้องน้ำอีกครั้ง ผมปิดฝาชักโครกก่อนหย่อนตัวนั่งลง ตั้งศอกข้างหนึ่งเท้าลงบนที่หน้าขา
เดี่ยวจูบปากลงที่หัวเข่าผมเบา ๆ ก่อนแลบลิ้นเลียออกมาอย่างระมัดระวัง
“ผม.. อึก มีประชุม” อีกฝ่ายร้องขอ
“เชิญ” ผมบอก ไม่ได้คิดจะรั้งตัวไว้อยู่แล้ว เดี่ยวชะงัก สบตาผมครู่หนึ่งก่อนหลบตาลง มืออีกฝ่ายของมันถือไวทเบรตอยู่แต่แรก ไวทเบรตส่งมาตรงหน้าผมอย่างเก้ ๆ กัง ๆ ปลายนิ้วสั่นชัดเจน
“........” ผมนั่งเงียบ
“ช่วย ใส่นี่ ให้ผม หน่อย” เดี่ยวพูด เสียงเบาจนแทบหายขาดไปเป็นบางช่วง
“เป็นหมารึไง” ผมยิ้ม ถามถึงอาการที่ควบคุมตัวเองไม่ได้ของมัน เดี่ยวสบตาเขม็ง ไม่เลิกอ้อนวอน
“ใส่เองสิ” ผมพูด
เดี่ยวปลดกางเกงออก เผยให้เห็นท่อนลำที่อยู่ใต้กางเกงในที่เด้งออกมา น้ำเยิ้มไหลเป็นทาง อีกฝ่ายอ้าขาออกอีกเล็กน้อย ไวทเบรตถูกสอดผ่านไปจากด้านหน้าอย่างทุลุกลุเล ครู่หนึ่งอีกฝ่ายก็เริ่มแสดงสีหน้าเหยเก แก้มแดงเถือก ใบหน้ากระตุกเบา ๆ
“อะ”
ลำตัวของมันสั่นสะท้าน แม้ภายใต้ดวงตาคู่นี้จะซ่อนกลิ่นน่าอัปรีย์เอาไว้ไม่มิด แต่ร่างกายกลับเต็มไปด้วยความยั่วยวน เสียงของเดี่ยวขาดหายไป อีกฝ่ายอ้าปากออกจนเห็นลิ้นในช่องปากที่เกร็งชัด มืออีกข้างที่ว่างอยู่แตะลงที่ด้านหน้าพร้อมชักอย่างรีบร้อน
“อะ..
อ้า !!!!!” เดี่ยวหลุดครางดังลั่นอย่างไม่คิดอดกลั้นความต้องการ น้ำของมันพุ่งขึ้น กระเด็นโดนหน้าผมเต็ม ๆ ผมหลับตาก่อนช้อนขึ้นมองขวาง กลิ่นคาวคลุ้ง เสียงครางเบาลงไปแล้ว เดี่ยวตัวสั่นไม่ได้สติ มันหรี่ตา พยายามที่จะมองผมไม่ให้คลาดสายตา
“ไปหาผมที่ห้อง ..ได้ไหม” เดี่ยวพูดขึ้นเสียงแหบพร่า
“........” ผมมองเฉย
“หึ.. กูจะทำยังไงกับผู้หญิงที่มึงอยากได้ก็ได้” เดี่ยวเหล่ตาขึ้นมองพร้อมแสยะยิ้ม
“ดี.. กูชอบ” ผมตอบรับ ตบลงที่แก้มมันเบา ๆ พร้อมผลักหัวมันออก อีกฝ่ายเซไปเกือบล้ม
“ส่วนกฎของกูคือ.. กูจะเอามึงยังไงก็ได้” ผมยื่นหน้าลงไปกระซิบก่อนลุกขึ้นยืน
“คุณก็รู้ห้องพักผมอยู่แล้วนี่ ให้คนมาตามแล้วกัน” ผมมองต่ำลงไปที่มัน เลือกที่จะตัดบทข้อตกลงด้วยคำสุภาพ เดินออกจากห้องมาพร้อมปาดน้ำของมันที่เปื้อนหน้าอยู่ออก พี่ธานตรงไปหยิบกระดาษทิชชู่มายืนรอขณะที่ผมกำลังล้างมือ เดี่ยวเดินทุลักทุเลออกจากห้องน้ำไปพร้อมกับชุดสูทที่มีรอยยับเพิ่มขึ้น
“บอกให้ไอ้หินเตรียมตัว ผมจะให้มันเข้าไป” ผมสั่ง
“ครับ” พี่ธานขานรับ
“เตรียมตัดสัญญาณกล้องวงจรปิดด้วย”
“ครับ” พี่ธานผงกหัวรับทราบ
.
.
16:40 น. “จะไปแล้วเหรอ” เดี่ยวสะดุ้งตื่น ลุกขึ้นนั่งมองผมที่กำลังแต่งตัวอยู่ ผมพยักหน้าตอบพร้อมรูดซิปกางเกง ความเงียบภายในห้องก่อตัวขึ้น ผมช้อนตาขึ้นมองไปยังคนบนเตียง เดี่ยวนั่งนิ่ง ตาดำเป็นส่วนเดียวที่กำลังขยับคล้ายว่ามีเรื่องจะพูด
“เอ่อ ให้ผมสั่งอาหารขึ้นมาไหม” อีกฝ่ายถาม
“ไม่ล่ะ ผมมีธุระน่ะ” ผมตอบ มองไปทางไหนก็มีแต่ซากถุงยางที่ทิ้งเกลื่อนพื้น ทั้งแบบเสร็จ ทั้งแบบไม่เสร็จแต่มีเหตุจำเป็นต้องทิ้ง ความต้องการที่รุนแรงมากของคนบนเตียง เป็นฝ่ายติดต่อมาหาผมทั้งที่เจ้าตัวประชุมยังไม่จบ ถุงยางถูกแกะใช้หลายกล่องเพราะความพิสดารและพลังความใคร่ที่มีมากเกินมนุษย์ปกติทั่วไป
“........” เดี่ยวเงียบไป
“ขอบคุณ” ผมขอบคุณที่อีกฝ่ายชวนกินข้าว มันเงียบอีกครั้ง ผมเหล่มองดูอาการ
“ค่าตัวผู้หญิงคนนั้นเท่าไหร่ แล้วเธอต้องจ่ายค่าเสียเวลาคุณเพิ่มอีกเท่าไหร่ ก็คิดมาแล้วกัน” ผมบอก
“ที่ผมพูดก่อนหน้านี้น่ะ...” เดี่ยวเอ่ย
“ไม่เป็นไรหรอก” มันว่า เป็นการพูดด้วยความหมายกำกวมแต่ก็พอจะเดาความหมายได้
“ไม่จำเป็น” ผมย้อน
“งั้นคุณก็ต้องจ่ายส่วนของผู้หญิงคนอื่นทั้งหมดที่ผมต้องซื้อภายในลอตนี้ด้วย” เดี่ยวแสดงน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ขึ้นทันที ผมหยุดเคลื่อนไหว หันกลับไปจ้องมองแววตาที่ขึงขังของมัน
“ผมจะจ่ายแค่ส่วนของผู้หญิงที่ผมต้องการเท่านั้น” ผมพูดชัดเจน กระดุมเสื้อเชิ้ตถูกติดจนครบ เดี่ยวไม่พูดอะไรอีก ผมเดินกลับไปที่เตียงพร้อมก้มตัวเข้าไปหา หอมลงที่ข้างแก้มอีกฝ่ายเบา ๆ
“คุณอยากได้อะไรผมก็ให้ ดังนั้น.. อย่าทำให้เรื่องมันวุ่นวาย ผมไม่ชอบ” ผมกระซิบบอก สบตาและจูบลาลงที่หน้าผากของเดี่ยวอีกครั้งก่อนผละตัวออก ปืนที่วางอยู่บนหัวเตียงถูกนำเก็บเข้าที่ด้านหลังพร้อมเดินกลับพื้นที่ของตัวเองโดยไม่มีการร่ำลาอีก
ที่ห้องพักพร้อมไปด้วยคนของผมที่รออยู่ครบ..
“มีอะไร” ผมถาม ได้กลิ่นไม่ปกติ
“คนของเราเจอไอ้บูรณ์แล้วครับ มันกำลังตามพวกไอ้กายไป แต่มีอุบัติเหตุเลยทำให้คลาดกัน” พี่ธานลุกขึ้นจากโซฟาทันที
“พี่ทัพล่ะ” ผมถาม
“เห็นว่าจะไม่กลับมาแล้ว เกรงว่าเราจะเดือดร้อน” พี่ธานตอบ
-- ข่าวด่วน –
“บุกเข้าตรวจค้นผับชื่อดังในพัทยา ตรวจพบยาเสพติดภายในร้าน” “ดูซิว่ามีข้อมูลที่ตรงกับของไอ้เดี่ยวรึเปล่า” ผมสั่ง หันตัวจะเดินกลับจะเข้าห้องเพื่ออาบน้ำ
“คุณไฟครับ ! สายจากบูรณ์” พี่ธานพูดขึ้น ผมเอื้อมมือออกไปรับโทรศัพท์มือถือมา
“กูไม่ได้บอกมึงเหรอว่าให้ทำตัวดี ๆ” ผมพูด
“ไฟ.. ช่วย ช่วยด้วย” ...............(ไฟ)..............