The Real Me อย่าท้าให้บ้ารัก ตอนที่ 61 - ตอนจบ [ส. 11 ธ.ค 64 หน้า 82]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: The Real Me อย่าท้าให้บ้ารัก ตอนที่ 61 - ตอนจบ [ส. 11 ธ.ค 64 หน้า 82]  (อ่าน 446392 ครั้ง)

ออฟไลน์ NINNILL

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 27
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
กริ๊ดดดดดดด เจอช๊อตสุดท้ายเข้าไป ตายอย่างสงบศพสีชมพู  ก็อย่างว่าแหละเนาะ ไฟยังไงก็เป็นไฟ ไม่ยอมใครนอกจากสมุทร ฉากสุดท้ายสมุทรดูอ่อนโยนจนคนอ่านอ่อนระทวยไปด้วยแล้วหื้อออออออ

ปล.ขอบคุณคุณเบบี้มากนะคะที่มาต่อ

ออฟไลน์ punthipha

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-0

ออฟไลน์ Mura_saki

  • แค่เรารู้จักกัน...มันก็ดีที่สุดแล้ว :)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +179/-9
คิดถึงพี่ไฟ :)

ออฟไลน์ zakker

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 1
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
 :hao6: สมัครสมาชิกเพื่อมารอเลยครับ ชอบอ่านเเนวนี้มาก +1 กำลังใจ

ออฟไลน์ sexysunn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-0
สมุทรรรรร  คิดถุง  มาลูบเค้าต่อเลย  :z13:

ออฟไลน์ KIDSPARN

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 3
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
สิงอยู่กับนิยายของเบบี้มานานมากแล้วคับ
ตามอ่านมาหลายเรื่องแระ
นั่งกด F5 ทุกวัน วันละหลายๆครั้ง
ตอนนี้อยากรู้ว่าสมุทรกะไฟไปถึงไหนกันแระ
สมัครสมาชิกมาเพื่อสิ่งนี้
 :monkeysad:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-04-2018 20:13:47 โดย KIDSPARN »

ออฟไลน์ Mura_saki

  • แค่เรารู้จักกัน...มันก็ดีที่สุดแล้ว :)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +179/-9
คิดถึงพี่ไฟค่ะ

ออฟไลน์ Pam_ban

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1086
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +109/-2
คิดถึงน้องมืดมน  กับพี่ไฟแล้วอ่ะค่ะ  มามะคนดี  :man1:


 :o11: :o11: :o11:

ออฟไลน์ NINNILL

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 27
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
แงงงงงง คิดถึงน้องเมฆ :hao7: :hao7: :z10:

ออฟไลน์ mamacub

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1034
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ kanj1005

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-1
หัวใจผมที่กำลังเต้นผิดจังหวะ  มันดังเหมือนจวนจะระเบิด  เมื่อสมุทรเกลี่ยนิ้วโป้งลงที่ข้างแก้มของผมอย่างเบาบาง ... 

กุก ๆ กุก ๆ

.............................

หัวใจผม   ช่างเต้นผิดจังหวะ   นานเหลือเกิน
เป็นกำลังใจให้เบบี้นะคะ    กุกๆกุกๆ

ออฟไลน์ punthipha

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-0

ออฟไลน์ Goldenfishja

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 10
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
รอ ไฟ - สมุทร  :hao3:

ออฟไลน์ rosekiller

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 12
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
     เข้ามาอ่านช้าได้เหลือเกิน คิดถึงเป็นอย่างมาก :hao5: ด้วยเพราะงานมันสุมหัว(และคิดว่าคุณเบ้บี้ก็คงยุ่งมากๆเช่นกัน)
รีบปั่นตัวเองให้ว่างเพราะอยากมีสมาธิซึมซับกับคุณๆได้เต็มที่ แล้วก็ได้ดื่มด่ำสมใจหมายจริงๆค่ะ
เพราะตอนที่ผ่านมาช่างยาวจุใจ เนื้อหาละเอียดและกระชับเช่นเคย แถมมีตัวละครสำคัญมาให้ลุ้นเพิ่ม
เดาว่าตัวละครนี้จะต้องมีบทบาทในงานของไฟและความสัมพันธ์ของเขาและสมุทรแน่นอน
เหมือนเรื่องงานของคุณไฟกำลังเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆเลยค่ะ ได้กลิ่นอันตรายอย่างไรก็ไม่รู้ แต่บอกตรงๆว่าเรายังคงเดาทางไม่ได้อยู่ดี ว่าต่อไปครอบครัวใหญ่ของคุณไฟจะต้องเผชิญอะไรอีก และนอกจากเดาทางเรื่องนี้ไม่ถูก จนตอนนี้ก็ยังเดาคู่รองไม่ได้เช่นกัน(เศร้า)  :sad4:
    ส่วนทางด้านความรัก? ไม่สิ เรื่องของหัวใจของคุณไฟและสมุทรดูเหมือนจะค่อยๆเปิดเผยขึ้นที่ละเล็กทีละน้อย รักในความสัมพันธ์ของใจคู่นี้จังเลยค่ะ ดูเผินๆนั้นเหมือนกับทั้งคู่ไม่ได้พัฒนาไปไหนเลย หากแต่ถ้าสังเกตุจากการแสดงออกเพียงเล็กน้อยที่แปรไป แล้วจากลักษณะนิสัยของทั้งคู่แล้วล่ะก็ เราสัมผัสได้ถึงความแน่นแฝ้นที่ก่อตัวเป็นมวล เจือจางแต่จะหนาแน่นมั่นคง
   มันไม่ได้เป็นความรักที่รีบร้อนรวดเร็ว แต่กลับทำให้เราเชื่อได้ว่าต่อไปคนสองคนนี้เขาจะรักกันมาก และรักกันชนิดตายแทนกันได้
ความเป็นสมุทรไม่ได้ทำให้ไฟกลัวหรือหงอ ไฟก็ยังคงเป็นไฟ แต่ความเป็นสมุทรกำลังทำให้ไฟซึมซับ เรียนรู้ในมุมที่ตัวไฟเองก็คงไม่คุ้นชินมาก่อน เรายังมองว่าสมุทรคือคนที่ไฟมีความเกรงใจให้เล็กๆ (เล๊กกกกก)
ส่วนสมุทรก็ค่อยๆเปิดรับไฟเข้ามาทีละนิดๆ ทั้งความเชื่อใจที่เรามองเห็นว่าสมุทรมีให้คุณไฟมากขึ้น ทั้งความนับถือ ทั้งความเข้าใจ คงเพราะเมื่อเจออะไรมาด้วยกันและนิสัยแท้จริงของไฟที่สมุทรได้เรียนรู้
   แม้กระทั่งความห่วงใยที่มีตอนนี้ มันก็ดูไม่ไคร่เหมือนแค่ห่วงเจ้านายนัก บางครั้งแค่การกระทำเล็กๆน้อยๆก็บอกอะไรได้อย่างเลยล่ะค่ะ ....

ฮือ ผ่านไปอึดใจเดียวก็เผลอเม้นท์ยาวไปจนได้  :ling3: เฮ้อ แต่จริงๆแล้วตอนเรากำลังอ่านนั้น เรามีความเห็นและอารมณ์หลากหลายอยากจะบอกคุณเบ้บี้เยอะแยะไปหมด แต่พอตอนพิมพ์มันก็ลืมไปเยอะซะแล้ว
   ท้ายสุดก็ยังอยากบอกคุณเบ้บี้เช่นเดิมว่า เรารักนิยายเรืองนี้จริงจริง พวกเขาคือมายเอเนอจี้ของเรา
และคุณเบ้บี้ก็คงเหนื่อยมากๆในการที่จะเขียนเรื่องราวที่ดีแบบนี้ออกมาในแต่ละตอน ขอบคุณค่ะ และ สู้ๆนะคะ :mew1: :katai2-1:

ฟิ้วววววว -เจอกันใหม่ เมื่อคุณไฟต้องการ- :z6:

ออฟไลน์ ♥แมวจอมซน♥

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 129
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
เข้ามาบอกว่ายังคิดถึงสมุทรกับไฟอยู่นะค่ะ
คนเขียนสู้ๆ ค่ะ เข้าใจว่าคงจะยุ่ง
รอได้เสนองับ

ออฟไลน์ เบบี้

  • Take up an Hobby.
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2072
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4336/-15

ตอนที่ 49
..ไฟ..




ผมกดโทรศัพท์ติดต่อหาเฮียกานต์  เมื่อจู่ ๆ ก็นึกถึงเรื่องบางเรื่องขึ้นมา

“ว่าไง” ปลายสายทักอย่างกันเอง 

“อยู่ไหนครับ” ผมถาม

“Xintiandi.” เฮียกานต์ตอบ  น้ำเสียงฟังดูซังกะตาย

“พูดให้ลึกลงไปกว่านั้น อันที่จริง...กูกำลังนั่งดื่มกาแฟอยู่ในคาเฟ่คนเดียว วิวทิวทัศน์ของกูคือการนั่งมองหนวดลูกน้องที่แม่งหาความเสน่หาไม่ได้ รอครอบครัวของมึงที่จูงมือกันไปชอปปิงด้วยบัตรเครดิตของกูอย่างไร้จุดหมาย ซึ่งกูกำลังตั้งคำถามกับตัวเองอยู่พอดี ว่ากูมาที่นี่ทำไม” เฮียพรรณนาให้ฟัง  ผมหัวเราะขึ้นจมูก

“ดีออกครับ” ผมชม

“อะไร ?” เฮียถามงง ๆ

“ผมหมายถึงหนวดน่ะ” ผมตอบ

“สัส” เฮียกานต์สบถขำ ๆ  เราต่างหยุดสนทนาลงครู่หนึ่ง

“แต่ก็...ดีแล้วที่มึงให้พายุกับดินมาที่นี่ รายนั้นยิ้มได้มากกว่าตอนที่อยู่กับกูน่ะนะ” เฮียพูดให้ฟัง 

“งั้นเฮียก็ต้องขอบคุณผมสิ” ผมแซว

“ก็นะ” ปลายสายถอนหายใจ

“ที่นั่นเป็นไงบ้างล่ะ ได้ข่าวแว่วมาว่าเครื่องกำลังอุ่นได้ที่เลยนี่”

“ก็นะ” ผมเลียนแบบคำพูดของเฮียกานต์ตอบเพื่อปัดประเด็นไปที 

“ที่นั่นขาดเหลืออะไรไหม เดี๋ยวผมส่งเงินไปให้” ผมพูดถึงค่าใช้จ่ายส่วนของน้องตัวเอง

“เลิกพูดเรื่องเงินกับกูสักทีเถอะน่า กูดูจนรึไง ?!” เฮียกานต์ต่อว่าอย่างรำคาญ  เฮียแกไม่ชอบให้ใครมาจุกจิกกวนใจเรื่องเงิน

“อีกอย่าง พายุดูแลยูดียิ่งกว่าแม่บ้านระดับเอคลาสซะอีก นี่น้องมึงโตมายังไงวะ” เฮียชมด้วยน้ำเสียงแปลกใจ

“เออ กูได้ข่าวมาว่าไอ้เหี้ยปรีดาได้ไปพักผ่อนในนรกแล้วงั้นเหรอ” ปลายสายเปลี่ยนหัวข้อ

“ครับ” ผมตอบ

“น่าสงสาร” เฮียเล่นเสียงกึ่งประชด 

“คนอย่างพวกเราไม่ได้ขึ้นสวรรค์อยู่แล้ว ไม่น่ารีบตายเลย” เฮียพึมพำ  ผมได้แต่ยิ้มฟัง  ว่าไปแล้วเฮียกานต์ก็อยู่บนความเป็นจริงดี  จะมีสักกี่คนล่ะที่คิดว่าตัวเองจะได้ลงนรกน่ะ  ทุกคนก็คิดเข้าข้างตัวเองว่าจะได้ขึ้นสวรรค์กันทั้งนั้น  ทั้ง ๆ ที่แต่ละวันก็ไม่ได้ทำเรื่องที่เป็นกุศลมากมายอะไร  ไม่คิดสนใจจะทำจนกระทั่งนาทีสุดท้าย  สำหรับผม สวรรค์มันก็เหมือนการสอบเข้าห้อง King สมัยมัธยมปลายอะไรเทือกนั้น  จำเป็นต้องอ่านหนังสือทุกวันให้พังกันไปข้าง  แน่วแน่  ไม่คิดวกกลับ  ถ้าผ่านเกณฑ์ก็ถูกคัดเลือกให้เข้าไปอยู่ในห้องนั้น  แตกต่างอยู่อย่าง  การจะเรียนให้เก่งมันไม่ต้องอาศัยความดีอะไรมากมาย 

“มึงก็ด้วยล่ะ ไม่ต้องรีบ” เฮียวกมาที่ผม

“หึ ๆ ๆ” ผมหัวเราะในลำคอ

“กลับมากันแล้ว” ปลายสายกระซิบเสียงลง  ผมได้ยินเสียงของไอ้ดินแว่วดังมาแต่ไกล 

“งั้นเท่านี้ก่อนดีกว่า สบายดีก็ดีแล้วครับ ผมฝากพวกมันด้วย” ผมตัดบท

“อืม ไม่ต้องห่วง ถ้ามีอะไรให้ช่วยก็โทรมาแล้วกัน” เฮียกานต์ตอบ  เราต่างตัดสายลงโดยทันที  คล้ายกับว่าต่างฝ่ายต่างรู้ทันว่าไม่ต้องการให้คนที่เพิ่งมาถึงทราบว่าผมติดต่อมา 

ไม่ทันให้ผมได้วางโทรศัพท์มือถือลง  สายหนึ่งก็ติดต่อสวนเข้ามา..

“ว่า ?” ผมทัก

“นี่มึงอยู่ไหน” พี่ทัพถาม 

“ทำไมพี่ไม่ลองถามลูกหมาของพี่ดูล่ะ” ผมย้อน 

“เฮ้อออออ” พี่ทัพถอนหายใจทิ้งเต็มแรง

“ปล่อยให้มันตามมึงไปแล้วกัน รั้นดีนัก” อีกฝ่ายว่าปัดไปที

“กูอยู่พัทยาเหมือนกัน ช่วงนี้กูต้องตามน้ำไปก่อน หัวหน้าสั่งไม่ให้กระโตกกระตากพักใหญ่ ๆ”

“พักงานเหรอ” ผมว่า

“ไม่ใช่โว้ย” อีกฝั่งหนึ่งทำเสียงไม่พอใจที่ถูกผมพูดใส่อย่างนั้น

“ก็เหมือนกันแหละน่า” ผมถอนหายใจ

“มันรู้ไหมว่าผมกำลังจะไปร้านแบบไหน”

“รู้...กูห้ามมันแล้วนะ” พี่ทัพตอบ

“รู้ก็ดี ไม่ต้องห่วง ไม่ใช่ปัญหาหรอก” ผมตอบ

“ฝากมันด้วยแล้วกัน” ปลายสายสั่งเสียด้วยน้ำเสียงที่นุ่มลง 

“ครับ ...ท่าน” ผมตอบรับกึ่งประชด  ก่อนตัดสายวางลงก่อน  สมุทรเดินออกมาจากห้องนอนของผม 

“เตรียมชุดไว้เรียบร้อยแล้วครับ”


- - - - - - - - - - - - - - -


21:30 น. : WALL SECTION

“สมุทรกับรุ่งอยู่ที่รถ ห้ามไปไหนล่ะ” พี่ธานย้ำสั่งอีกครั้งหนึ่ง   

“ครับ” ทั้งคู่ขานรับ  ไอ้เด่นที่ขับรถตามมาอีกคัน  ตรงมาเปิดประตูฝั่งที่ผมนั่งอยู่  เมื่อผมลงจากรถ  ประตูจึงถูกปิดในทันที  พี่ธานเดินตรงเข้ามาหา  เอี้ยวใบหน้ามาใกล้ที่ข้างหู

“ชุนโทรมาแล้วครับ บอกว่าเดี่ยวกับเจ๊ลิลลี่เข้าไปที่ร้านแล้ว แก้มกับผู้หญิงคนอื่นก็มาถึงแล้วด้วย”

ผมพยักหน้ารับทราบ  มองไปยังไอ้เข้มกับไอ้เด่นยืนรออยู่ด้านข้าง   

“อย่าบุ่มบ่ามล่ะ ถือซะว่า มันเป็นหนึ่งในเพื่อนร่วมงานพวกมึงก็แล้วกัน” ผมแซว  นำหลังมือสะกิดหน้าอกไอ้เด่นทีนึงอย่างหยอก ๆ  มันคงทราบว่าผมหมายถึงใคร 

ขาก้าวนำตรงไปโดยทันทีที่คำสั่งถูกวางเสร็จเรียบร้อย  Wall Section เป็น Nightclub ของเจ๊ลิลลี่  คนรู้จักในวงการสถานบริการกลางคืน  Nightclub แห่งนี้มีชื่อเสียงมากในแวดวงเหล่าคนมีเงิน  ไม่แปลก ถ้ามาที่นี่แล้วจะเจอแต่คนมีชื่อเสียง  เดิมทีเจ๊ลิลลี่ก็เติบโตมาในครอบครัวที่มีฐานะ  เธอเป็นลูกชายคนโตของตระกูลดังในเมืองพัทยา  ก่อนจะเปิดตัวเองและเป็นสาวประเภทสองเต็มตัว  ได้ข่าวว่าเธอเพิ่งแปลงเพศแบบเต็มกำลังเมื่อสองสามปีก่อนนี่ล่ะมั้ง  ผมจำไม่ได้แน่ชัด  เพราะไม่ได้พบหน้าเธอมาพักใหญ่แล้ว

“ว๊าย ! คุณไฟฟฟฟ !”

ผมมองไปยังเจ้าของเสียงที่ร้องอุทานซะดังลั่น  เจ๊ลิลลี่ที่กำลังยืนต้อนรับลูกค้าอยู่หันมาสบตากับผมเข้าพอดี  ทันทีนั้น เธอก็ผละออกจากลูกค้าและพุ่งมาหาผมด้วยสีหน้าดีใจ  ผมหยุดยืนมอง  เธอแปลกตา  เส้นผมยาวตรงสีดำสนิท  กางเกงขายาวรัดรูปสีน้ำเงินเข้ม  ตัดกับเสื้อสูทสีเดียวกันกับกางเกง  เสื้อสูทที่สวมใส่แหวกให้เห็นกลางอก  อวดของที่มีอย่างเต็มที่  ชุดเข้ารูปร่างสวยทีเดียว  การตัดเย็บและเนื้อผ้าที่ดูผ่าน ๆ ตาก็รู้ว่าได้รับการออกแบบมาเพื่อหุ่นของเธอโดยเฉพาะ  เธอยังสวยเหมือนเดิมทั้งที่อายุก็ไม่ใช่น้อยแล้ว  แก่กว่าผมห้าหกปีได้ล่ะมั้ง

เจ๊ลิลลี่ตรงเข้ามาหอมแก้มผมซ้ายขวา  ก่อนจะวางตัวด้วยท่าทางเขินอายเมื่อทำเสร็จ  ผมยิ้ม  จ้องมองไปยังกลางอกอันอวบอิ่มของเธออย่างสงสัย

“มองอะไรคะ” เจ๊ลิลลี่ตีมือลงที่หน้าอกผมเบา ๆ

“นี่คือชุดเหรอ” ผมแซวเธอ  มองใกล้ ๆ ถึงได้แน่ใจว่าไม่มีชุดชั้นในหรืออะไรสวมทับภายใต้เสื้อสูทนั้น  ถูกใจจริง  ผู้หญิงใส่สูทแบบนี้น่ะ  เรียกว่าสูทได้ไหมนะ  คงไม่มีใครใส่ชุดแบบนี้ไปทำงานบริษัทได้จริง ๆ

“อันนี้แบบเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ต้องโชว์หน่อยสิคะ เสียหายไปตั้งเยอะ หมอจะได้ภูมิใจด้วย” เธอยักไหล่อย่างเย่อหยิ่ง

“หึ” ผมหลุดหัวเราะ 

“ชอบไหม” เจ๊ลิลลี่ขยิบตาหน้าทะเล้น  ผมอมยิ้ม  ไม่ได้ตอบอะไรกลับไป  ผมชอบหน้าอก  จะของผู้ชายหรือผู้หญิงผมก็ชอบ  ถ้ามันเป็นแบบที่ชอบ  ของที่เจ๊ลิลลี่มีอยู่ตอนนี้ก็ถูกใจอยู่  อวบอิ่มแต่ไม่มากเกินงาม  เธอเป็นคนมีรสนิยม  หน้าอกที่ทำมาก็ดูมีรสนิยม  ผมไม่สนหรอกว่าของปลอม  ก็ถ้ามันสวย  แล้วยังไงล่ะ... 

“ธานก็มาด้วย” เธอเหลือบมองไปทางพี่ธานที่ยืนอยู่ทางด้านขวามือของผม  พี่ธานผงกหัวน้อย ๆ ทักทาย 

“ลมอะไรเหาะมาคะ ไม่เจอหน้ากันจะเป็นปีได้มั้งเนี่ย”

“มาดูที่ดินแถวนี้น่ะครับ ก็เลยแวะมาหา ร้านยังสวยเหมือนเดิมเลยนะ” ผมตอบ  ครึ่งหนึ่งคือเรื่องโกหก

“ขอบคุณค่ะ เดี๋ยวลิลจัดโต๊ะให้คุณไฟเป็นพิเศษเลยนะคะ มากี่ที่เหรอคะ” เธอเข้ามาควงแขนผม

“เท่าที่เห็นนี่แหละครับ” ผมตอบ

“หมายความว่า คืนนี้...ไม่ได้นัดใครไว้เหรอ” เธอเงยหน้าขึ้นยิ้มกรุ้มกริ่มจนผมอดหัวเราะไม่ได้  สีหน้าของเธอออกโจ่งแจ้งมาก

“ว่างทั้งคู่แหละครับ” ผมยิ้ม  เจ๊ลิลลี่นำมือปิดปาก  กลอกตาวนไปมาทำหน้ามีเลศนัย

“แต่แค่พี่ชายผมคนเดียว เจ๊ก็แย่แล้วมั้ง นี่เครื่องผลิตไวอากร้าเลยนะ” ผมกระซิบ  ชี้นิ้วไปทางพี่ธานเพื่อจงใจแกล้งอีกฝ่าย

“บ้า ~~” เจ๊ลิลลี่นำมือตีปรามผมเขิน ๆ  ครู่หนึ่งเธอเม้มปาก  ทำตาโต  แอบชำเลืองมองไปยังพี่ธานที่ยืนนิ่งเฉย  ก่อนหันมาสบตาผมอีกครั้ง

“จริงเหรอ ?” เธอกระซิบถามย้ำ  เล่นตอบผมด้วย  ผมหัวเราะในลำคอ

“สวัสดีค่ะคุณไฟ”

ผมเหลือบมอง  ใครคนหนึ่งที่ผมไม่รู้จักเข้ามาทักด้วยน้ำเสียงกันเอง  ถ้าสังเกตให้ดี  ดูเหมือนว่าเธอก็เป็นสาวประเภทสองเหมือนกัน 

“ออกไป ! นี่แขกของฉัน ฉันยังไม่ได้เรียกสักหน่อย เสนอหน้า” เจ๊ลิลลี่กระชับกอดแขนผมแน่นขึ้น  เธอจ้องคนของเธอเขม็ง  ผู้หญิงอีกสองคนเข้ามาประกบ

“เจ๊อะ แต่คุณ ๆ เขามากันตั้งหลายคน เจ๊จะกินคนเดียวเลยเหรอ” เธอโวย  กะพริบตาปริบ ๆ อ้อนมองมาทางผมกับพี่ธาน  รวมไปถึงไอ้เข้มกับไอ้เด่นที่ยืนอยู่ทางด้านหลัง

“โอ๊ยยยย มันเรื่องของฉัน ฉันกินไหว !” เจ๊ตอบเสียงแข็ง  พี่ธานถึงกับหลุดยิ้มออกมาในประโยคนี้

“เจ๊อะ !” ทั้งสามคนประสานเสียงงอน ๆ

“แต่เจ๊แก่แล้วนะ ปกติมันเป็นหน้าที่ของพวกหนูอะ สี่ทุ่มครึ่งเจ๊ก็เข้านอนแล้วไม่ใช่เหรอ” ผู้หญิงหนึ่งในนั้นว่าด้วยสีหน้าตกตะลึง

“เอ๊ะ อี...” เจ๊ลิลลี่กัดฟัน  ทำท่าเหมือนจะด่าออกไปแต่ก็ไม่ด่าซะทีเดียว

“นี่ผัวเก่าฉัน ฉันต้องบอกหล่อนไหมว่าฉันต้อนรับเองได้” เจ๊นำมือทาบอก  ลดเสียงเย็นลงพร้อมถลึงตาใส่คู่ต่อสู้ 

“เชอะ !” สามคนทำงอนใส่เจ้านายอีกครั้ง   

“ฉันจะไม่พูดไม่เพราะต่อหน้าผู้ชาย ...เชิญ” เจ๊ย้ำเสียงพร้อมผายมือไล่ส่ง  ทั้งสามคนขยับขาไปยืนรวมตัวกอดกันเป็นกลุ่มเดียว  และพากันมองค้อนคนเป็นนายด้วยสายตาขุ่นเคือง 

“ผู้ชายเขากินฉันตั้งแต่ฉันยังมีสิ่งที่พ่อให้มาอีกจ้ะ แค่อยากบอกอะ เฮอะ ! สวยมากกก ก็ไม่ได้แปลว่าจะได้กินทุกอย่างหรอกนะจ๊ะ คิก ๆ ๆ” เจ๊ลิลลี่แสยะปากใส่เด็ก ๆ ของเธอด้วยท่าทางประชดประชันในความสวยสาวที่พวกเธอมีมากกว่า  ก่อนที่จะพาผมเดินจากมา  อร๊ายยยยย ! เสียงกรีดร้องไล่หลังดังลั่นไปทั่วบริเวณ  ทำเอาเจ๊ลิลลี่หัวเราะคิกคักชอบใจที่ได้รับปฏิกิริยาตอบโต้อย่างนั้น 

.
ผมได้ที่นั่งด้านในและเป็นส่วนตัว  ถูกจัดให้พิเศษ  เจ้าของร้านรู้ดีว่าผมไม่ชอบพลุกพล่าน  พี่ธานจัดการสั่งเครื่องดื่ม  ไอ้เข้มกับไอ้เด่นยืนประกบห่างจากโต๊ะไปพอประมาณ  พนักงานเสิร์ฟนำเครื่องดื่มมาเสิร์ฟให้  ในขณะที่เจ๊ลิลลี่ก็คอยดูแลต้อนรับขับสู้อย่างดี  เธอเป็นอย่างนี้มานานแล้ว  ชอบบริการไม่ว่ากับใคร  ดูมีความสุขที่ได้เอาใจลูกค้า  คนลักษณะอย่างเธอทำให้ผมเห็นว่า  บางคนก็เกิดมาเพื่อทำอาชีพอย่างนี้  มันไม่ใช่ว่าใครก็จะทำได้น่ะนะ     

เมื่อผมกับพี่ธานได้รับเครื่องดื่มเรียบร้อย  เจ๊ลิลลี่ก็ขอตัวออกไปต้อนรับแขกโต๊ะอื่น  ลูกค้าเริ่มหนาตา  ผมกวาดตามองทุกมุมร้าน  และสบตาเข้ากับชุนที่เพิ่งเดินออกมาจากทางประตูหลังร้านพอดี  อีกฝ่ายโค้งทักทายพอเป็นพิธีก่อนเดินผ่านผมไปหาเจ๊ลิลลี่  พูดคุยกันอยู่สองสามประโยค  เจ๊ลิลลี่ก็ตรงกลับมาหาผมอีกครั้ง

เธอหย่อนตัวนั่งลงด้านข้าง  วางมือข้างหนึ่งลงบนตักผมเบา ๆ 

“วันนี้มีน้อง ๆ มาใหม่น่ะค่ะ คุณไฟอยากให้มานั่งบริการไหมคะ หรือว่า...จะรับลิลที่เดียวดี” เธอขยิบตาทีเล่นทีจริง  ผมไม่ตอบ  เพียงมองหน้าเธอ 

“สายตาคุณมองเหมือนว่าลิลสวยมาก แบบนี้ ลิลจะคิดเข้าข้างตัวเองเอานะคะว่าตัวเองยังสดมากอยู่” เธอโน้มหน้าเข้ามาใกล้  ผมหัวเราะ  ไม่ปฏิเสธว่าเธอสวย

“ได้ข่าวว่ามีหนุ่มมาตามจีบกันเป็นฝูงเลยนี่ครับ ไม่รับไว้พิจารณาสักคนล่ะ” ผมพูด  คนที่มาตามจีบเจ๊ลิลลี่แต่ละคนประวัติไม่ธรรมดา  ทั้งหนุ่มเล็ก  หนุ่มใหญ่  นักธุรกิจ  นักกอล์ฟ  กระทั่งพวกระดับล่างที่จ้องจะงาบเธอตลอดเวลา  ก็เธอน่างาบออกครับ  คนระดับเธอใครที่มีรสนิยมมาทางนี้ก็อยากได้ทั้งนั้นล่ะ

“ก็ถ้าพฤติกรรมมันเปิดเผยแบบคุณไฟก็ว่าไปอย่าง” เธอเบะปากคล้ายไม่แยแส

“มีแต่พวกคิดว่าตัวเองมีดี เพราะภูมิใจที่มีไอ้ตรงนั้นน่ะค่ะ แหม ลิลก็อายุมากแล้วนะ เสียเงินทำทั้งข้างบนทั้งข้างล่างไปตั้งเยอะ ก็ต้องมีสติเลือกบ้างสิ” เธอยักไหล่ 

“คนที่เคยสูบวิญญาณผมไป พูดแบบนี้ได้ด้วยเหรอ” ผมแกล้งทำหน้าแปลกใจจงใจกวนเธอ

“คุณไฟอะ !” เจ๊ลิลลี่หันมาตีผม  ยิ้มเขินไปไม่เป็น  มาตรฐานเอวเธอน่ะ  ถ้าเป็นเครื่องเล่นในสวนสนุกก็เรียกว่าจัดอยู่ในหมวดหวาดเสียว A+ 

“ไหนละครับเด็กที่ว่าน่ะ” ผมถามถึง

“ตามจริง เป็นเด็กใหม่น่ะค่ะ ยังไม่ได้รับเข้าร้านหรอก เอามาดูงานก่อนเฉย ๆ  ถ้าพอใจร่วมงานด้วยกันทั้งสองฝ่าย ก็จะตกลงรับค่ะ” เจ๊ลิลลี่บอก 

“ธุรกิจไปได้ไม่สวยเหรอครับ” ผมแกล้งถาม

“เฮ้อ ก็เรื่อย ๆ แหละค่ะ งานประเภทนี้ จะหวังให้ราบรื่นห้าสิบเปอร์เซ็นต์ก็ไม่ได้ พูดก็พูดเถอะ เหมือนมันถึงจุดอิ่มตัวของเจ๊มั้ง เบื่อแล้วล่ะค่ะ เด็กมันก็ชอบทะเลาะกันแย่งแขก ไอ้พวกผู้ชายก็ตีกันเอง นักดนตรีเบี้ยวงานบ้าง สร้างปัญหาได้ทุกวัน น่าเบื่อสุด ๆ” เจ๊บ่นซะยาว

“แต่ช่วงนี้มีหุ้นส่วนมาช่วย ภาระเจ๊ก็ลดไปบ้าง”

“ก็ดีแล้วนี่ครับ” ผมพูด  ไม่คิดถามซอกแซกมากไปกว่านี้ 

“อยากแนะนำให้คุณไฟรู้จักอยู่หรอกค่ะ แต่ตอนนี้เขากำลังยุ่งอยู่ อีกอย่าง อารมณ์หุ้นส่วนเจ๊เขาเข้า ๆ ออก ๆ” เธอพูดปนหัวเราะ 

“ว่าแต่...คืนนี้คุณไฟ จะไปไหนต่อเหรอคะ” เธอกรีดนิ้วเกลี่ยลงที่กลางฝ่ามือของผมบางเบา 

“นอนครับ พรุ่งนี้ผมมีซ้อมเช้า” ผมตอบ

“คุณไฟอะ” เจ๊ลิลลี่เม้มปากหน้างอ  ผมใช้มือข้างที่ตั้งข้อศอกไว้กับโซฟาเกลี่ยเส้นผมของเธอเบา ๆ  อีกฝ่ายอมยิ้มน้อย ๆ 

“เอาพี่ชายผมไปแทนแล้วกัน” ผมพูด  เจ๊ลิลลี่เหลือบมองไปทางพี่ธานกะหลับกะเหลือก

“แต่ว่า ไอ้ที่เพิ่งไปทำมามันจะไหวเหรอ ของพี่ผมเขาเกือบเท่าขวดไวน์เลยนะ” ผมถลึงตาโตประกอบ 

“คุณไฟฟฟฟ !” เจ๊ลิลลี่อ้าปากยิ้มกว้าง  ซบหน้าลงบนบ่าผมทันที  ช่วงที่ผมนอนกับเธอก่อนหน้านี้  ไอ้ด้านล่างของเธอยังมีเหมือนผู้ชายปกติทั่วไป  มีแต่ด้านบนที่นูนเป็นภูเขาเหมือนของผู้หญิง  เธอขัดเขินคล้ายกลัวว่าผมจะรับไม่ได้  สำหรับผม ผมไม่เห็นถึงปัญหาที่เห็นนมกับเห็นงวงช้างพร้อมกัน  และได้เคยบอกกับเธอไปว่าไม่ต้องแปลงหรอก  แต่ผมคิดว่า เธอก็คงมีเหตุผลส่วนตัวของเธอ  สำหรับผมเจ๊ลิลลี่ไม่ได้เปลี่ยนไป  เธอสวยขึ้นก็จริง  แต่สิ่งที่เธอเป็นภายใต้ร่างกายนี้ต่างหากที่เป็นตัวกระตุ้นว่าอยากให้หลับนอนด้วยรึเปล่า  ไอ้พวกฝูงหมาป่าที่จ้องจะงาบเธอก็คงคิดเหมือนกัน 

“เจ๊ครับ คนที่นัดไว้มาขอพบครับ” ผู้จัดการร้านตรงเข้ามาบอก

“อ้าว มาแล้วเหรอ” เจ๊ลิลลี่ดีดตัวลุกขึ้น

“งั้นเดี๋ยวขอตัวแป๊บนะคะ เดี๋ยวลิลลี่มา คุณไฟมีอะไรก็เรียกพนักงานได้เลยนะคะ” เธอหันมาบอกผมแล้วสับเท้าไปด้วยความรีบร้อน  ผมหยิบไวน์ขึ้นดื่มพลางเหลือบมองพี่ธานที่กำลังมองตามเจ๊ลิลลี่ไป 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-04-2018 23:44:13 โดย เบบี้ »

ออฟไลน์ เบบี้

  • Take up an Hobby.
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2072
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4336/-15

“เธอสวยนะครับ” พี่ธานชม  ผมอมยิ้มมุมปาก  ไม่ตอบรับ

“คืนนี้พี่ไปกับเธอแล้วกัน” ผมพูดแกมสั่ง 

“แล้วคุณไฟล่ะครับ”

“ดูสถานการณ์ก่อน” ผมปัด 

“ครับ”

.
ดีเจเริ่มเปลี่ยนทำนองเพลงชวนเร้าอารมณ์ผู้ฟังมากขึ้น  เวลาเดินหน้าดึกขึ้นนาทีต่อนาที  ลูกค้าเริ่มหนาตา    ทุกโต๊ะหาที่ว่างไม่พบ  ทุกคนแต่งตัวดีหัวจรดเท้า  พนักงานชายที่สวมชุดพนักงานเสิร์ฟแต่ดูเหมือนจะทำหน้าที่อื่นอยู่ในคราบของพนักงานเสิร์ฟมากกว่า  บอดี้การ์ดเดินเข้าเดินออกทั่วบริเวณ  ไม่มีหยุด  บางสายตาชำเลืองมองมายังโต๊ะของผม  สาเหตุคงเพราะไอ้ผู้พิทักษ์สองตัวที่ยืนประกบอยู่   

“ขอโทษครับคุณไฟ” ชุนเดินมาหาผมที่โต๊ะพร้อมผงกหัวคล้ายขออนุญาต  ผมเหลือบมองผู้หญิงที่อีกฝ่ายพามาด้วย  เธอยืนอยู่ด้านหลัง   

“นี่แก้มครับ” ชุนแนะนำ  ผู้หญิงที่ชื่อแก้มยกมือไหว้  ไม่ยอมสบตา 

“นั่งสิ” ผมสั่ง  ยกแขนข้างหนึ่งวางพาดขึ้นบนพนักโซฟาเพื่อส่งสัญญาณให้เธอนั่งลงด้านข้าง 

“ค่ะ” แก้มผงกหัวน้อย ๆ  เดินมานั่งลงอย่างวางท่าที  ผมจ้องมองอย่างพิจารณา  เธอสวยอย่างที่สมุทรเคยพูดไว้นั่นแหละ  ธรรมชาติตั้งแต่หัวจรดเท้า  ไม่มีอะไรให้ต้องติ

“รับอะไรเพิ่มไหมครับ” ชุนถาม

“ดื่มรึเปล่า” ผมถามผู้หญิงตรงหน้า

“........” เธอไม่ตอบ 

“ขอน้ำส้มแล้วกัน” ผมบอกชุน

“ได้ครับ” ชุนผงกหัวรับทราบ  เดินจากไปสั่งเครื่องดื่มกับพนักงานให้อีกทอดหนึ่ง  แก้มพยายามที่จะหันหน้ามามองผม  แต่พอเธอเห็นว่าผมมองอยู่  เธอก็เบือนหน้ากลับไป  ดวงตากลมโตชำเลืองมองผมกับพี่ธานด้วยสีหน้าไม่ไว้ใจ  ไม่นานนัก  น้ำส้มก็ถูกยกนำมาเสิร์ฟ  ชุนตรงกลับมาหาผมอีกครั้งหนึ่ง  เขายืนรอจนพนักงานเสิร์ฟเดินจากไป

“มีเวลาสิบนาทีนะครับ” ชุนบอกและทิ้งความเป็นส่วนตัวไว้ให้  แก้มเริ่มขยับร่างกายทำหน้าที่  เธอยกแก้วไวน์ของผมมาให้

“ดื่มของเธอเถอะ” ผมพูด 

“ขอโทษค่ะ” เธอรีบวางแก้วไวน์ลงบนโต๊ะและยกน้ำส้มของตัวเองขึ้นจิบ  ผมขยับแขนข้างที่พาดอยู่บนพนักโซฟาเกลี่ยเส้นผมสาวสลวยของเธอออก  มันถูกดัดเป็นลอนตรงปลาย  แก้มสะดุ้งด้วยความตกใจแต่ก็นิ่งไปโดยไม่พูดห้าม  ที่ท้ายทอยพบรอยแผลที่ยังไม่หายดี  ชุดเกาะอกที่ใส่อยู่เผยแผ่นหลังเนียนสะอาด  เหมือนกับว่ารอยแผลนั้นถูกจงใจทำในที่ที่จะสามารถปกปิดไว้ได้  ที่ข้างแก้มใกล้ใบหูพบรอยช้ำ  เจ้าตัวพยายามก้มหน้าลงหลบแสงไฟเพื่อปกปิดสิ่งดังกล่าว

ผมมองเฉย  จงใจเกลี่ยนิ้วโป้งลงที่แผลของเธอเพื่อยืนยันว่ามันเห็นชัด  ตาผมไม่ได้บอด...

“ปกติเขาจ่ายเท่าไหร่” ผมถาม  ถามเพราะแต่ละที่ตั้งราคาไว้ไม่เท่ากัน 

“อย่า...อย่าต่อว่าฉันเลยนะคะ ฉันขอร้อง” แก้มเอ่ยกลับคนละเรื่องด้วยสีหน้าร้อนรน  ครั้งนี้เธอยอมหันมามองผมตรง ๆ แล้ว 

“ฉันอยากทำงานที่นี่” เธอพูด 

“ฉันยังไม่ได้พูดอะไรสักคำ” ผมตอบ  อีกฝ่ายนิ่งไป  ผมใช้นิ้วดันปลายคางของเธอขึ้น  เพื่อให้มองหน้าเธอได้ถนัดเต็มตา  คนเดียวกันไม่ผิดแน่

“มีคนรักรึเปล่า” ผมถาม 

ดวงตาของแก้มเบิกกว้างและจ้องมองผมด้วยสีหน้าฉงนสงสัย  ไม่เข้าใจในสิ่งที่ผมพูด  เธอไม่ได้ตอบ  ผมสอดแขนไปที่เอวของเธอแล้วดึงเข้าหาตัว  แก้มดูตกใจแต่ก็ไม่ได้ออกปากทักท้วง  เธอนั่งประชิด  ไม่มีท่าทียั่วยวนอย่างที่ควรปฏิบัติต่อลูกค้า  กลิ่นหอมของเส้นผมปะทะโสตประสาท  ผมจูบลงที่หัวไหล่ของเธอเบา ๆ  ครู่เดียวก็ได้ยินเสียงของการมาถึงของเจ๊ลิลลี่อีกครั้ง

“ถูกใจคนนี้หรือคะ” เจ๊ลิลลี่ยิ้มกว้าง 

“กำลังคิดอยู่ว่าจะรับเข้ามาทำงานที่ร้านดีไหม แต่ถ้าขนาดคุณไฟยังชอบ ลิลจะเก็บเอาไปคิดดูนะคะ”

“เอ่อ ลิลจะขอรับตัวน้องเข้าไปก่อนน่ะค่ะ คือว่า น้องเธอมีธุระต้องไปทำต่อ ขอโทษนะคะ” เจ๊ลิลลี่ร้องขอด้วยท่าทางเกรงใจและรู้วิธีการพูดหลบหลีกในแบบฉบับของเธอ 

“เชิญ” ผมไม่รั้งไว้  แก้มหันมายกมือไหว้ผมอีกครั้งก่อนลุกไปโดยมีชุนเข้ามาประกบตัวไม่ห่าง 

“ผมมีเรื่องจะคุยด้วยนะครับ ส่วนตัว” ผมเข้าประเด็น  เจ๊ลิลลี่นิ่งไปครู่  สีหน้าของเธอก็รู้งานเช่นกัน

“แหม ลิลก็ว่าอยู่ว่าคงไม่ใช่แค่การแวะมาเที่ยวหาเฉย ๆ” เธออมยิ้มมีเลศนัย 

“งั้นก็เชิญค่ะ” เจ๊ลิลลี่ผายมือ 

การลุกจากโต๊ะ  เดินไปตามทางด้านหลังร้านไม่ถูกเป็นที่สังเกตนอกจากบอดี้การ์ดที่จับตามองอยู่ห่าง ๆ  ประตูบานแรกผ่านไป  ด้านหน้าเขียนกำกับไว้ “ห้ามบุคคลภายนอกเข้า”  บอดี้การ์ดยืนประจำอยู่สองคน  เป็นชาวต่างชาติ  ประตูถูกปิดลงโดยทันทีที่พ้นหลังของไอ้เด่น  เสียงเพลงด้านนอกแทบไม่สามารถเล็ดลอดเข้ามาในนี้ได้  ตัดขาดอย่างกับคนละโลก  ทางเดินกว้างสองเมตร  ทั้งสองฝั่งข้างเป็นห้องทำงาน  ห้องประชุม  แต่ละห้องเป็นกระจกใสทั้งหมด  สามารถมองเห็นถึงกันได้  มีเพียงห้องที่อยู่ลึกสุดที่ถูกปิดเป็นส่วนตัว  เจ๊ลิลลี่เปิดประตูห้องดังกล่าวออก  เธอเป็นฝ่ายเดินนำเข้าไปก่อน  พี่ธานจัดการปิดประตูให้เมื่อผมเข้ามาในบริเวณห้องแล้ว

เจ้าของห้องจูงมือผมไปนั่งที่เก้าอี้ตรงโต๊ะทำงานของเธอ  ผมจึงนั่งลงพร้อมคว้าเอวเธอให้นั่งลงบนตักผมด้วย  อีกฝ่ายหัวเราะน้อย ๆ  นำแขนคล้องคอผมไว้  แตะปลายจมูกลงที่ปลายจมูกของผมอย่างเย้าหยอกก่อนยิ้มกว้างออกมา

“เข้าเรื่องเลยค่ะ จะได้รีบไปทำอย่างอื่น” เธอพูด

“หึ” ผมหัวเราะ 

“ผมอยากได้ผู้หญิงที่นั่งกับผมเมื่อกี้นี้” ผมเข้าเรื่องตามที่เธอขอ

“........” เจ๊ลิลลี่นิ่งไปโดยทันที  สีหน้าของเธอโจ่งแจ้งว่าตกใจ  เธอหลบตาลงและทำท่าจะลุกหนี  ผมกดมือลงที่สะโพกของเธอกึ่งบังคับว่าเธอยังไม่ได้รับอนุญาต 

“ทำไมต้องเป็นเธอ” เจ๊ลิลลี่ถาม  ครั้งนี้ทั้งน้ำเสียงและสีหน้าเปลี่ยนไปจากก่อนหน้า  ทั้งจับผิดและไม่ไว้ใจ

“เป็นคนรักของลูกน้องผมน่ะ” ผมตอบ
 
“งั้นเหรอคะ” เจ๊พยักหน้าครั้งหนึ่ง 

“ทำไมครับ” ผมถาม

“ไม่ได้มีอย่างอื่นใช่ไหมคะ”

“........” ผมไม่ตอบ  เลือกที่จะจ้องมองเธอไม่วางตา

“คุณกำลังทำให้ลิลลี่ลำบากใจ ไม่ใช่ว่าลิลไม่อยากรับตัวเธอมาทำงานที่นี่หรอกนะคะ แต่ตอนนี้ลิลมีหุ้นส่วนแล้ว อย่างที่บอก ลิลตัดสินใจอะไรคนเดียวไม่ได้แล้วค่ะ” เธออธิบาย

“แล้วก็ ผู้หญิงคนที่นั่งกับคุณไฟ ก็ดูเหมือนจะเป็นเด็กโปรดของคุณกริดซะด้วย” เธอว่า

“ในเมื่อเป็นเด็กไอ้กริด แล้วทำไมทางนั้นเขาถึงเสนอมาล่ะ” ผมถาม

“ผู้หญิงเป็นของคุณกายค่ะ คุณกายเป็นคนตัดสินใจ” เจ๊ลิลลี่ตอบ

“ทางเด็กคนนี้ก็ดูเหมือนอยากมาทำงานที่นี่ด้วย แต่เจ๊ก็ไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไหร่ คุณก็รู้ฤทธิ์คุณกริดนี่คะ รายนี้พอเกิดยังติดใจอยู่ก็เป็นหมาหวงก้าง เจ๊ไม่อยากรับมือด้วยหรอกนะคะ” เจ๊ลิลลี่ขมวดคิ้วเป็นปม 

“เด็กคนนี้กำลังราคาตก หุ้นส่วนเจ๊เขาก็ไม่ค่อยถูกใจ อีกอย่าง ลิลไม่อยากเอามือเข้าไปแตะพื้นที่ที่พวกคุณอยู่ คุณไฟเข้าใจใช่ไหมคะ”

“ผมไม่ได้ให้เจ๊ทำอะไรเลยครับ ในเมื่อทางนั้นเขาเสนอผู้หญิงมาแล้ว ก็รับไว้หน่อยไม่ได้เหรอครับ”

“ถ้าหุ้นส่วนเจ๊ตกลง เจ๊ก็ไม่ว่าอะไรค่ะ” เจ๊ลิลลี่ตอบเสียงเบาลง

“โอเคครับ” ผมผลิยิ้มให้เล็กน้อย 

“แล้ว...เจ๊จะได้อะไรตอบแทนคะ” เจ๊ลิลลี่ประชิดตัวเข้าใกล้  ผมหลุดยิ้ม  โน้มตัวเข้าไปจูบลงที่ร่องอกเธอเบา ๆ  ก่อนเงยหน้าขึ้นมอง  เจ๊ลิลลี่ก้มหน้าลง  มือทั้งสองข้างของเธอโอบใบหน้าผมไว้  ปลายจมูกถูกอีกฝ่ายประทับริมฝีปากลงมาเบาบาง 

“คุณไฟกับธานพร้อมกันเลยไม่ได้เหรอคะ” เธอกระซิบด้วยน้ำเสียงออดอ้อน 

“หึ..” ผมหลุดหัวเราะในลำคอ  ครั้งนี้เกือบขำออกมาจริง ๆ

“เจ๊ไม่ได้รับปากผมนี่ว่าจะช่วยคุยกับหุ้นส่วนให้” ผมตอบ

“ก็.. รายนั้นเอาใจยากจะตายไปค่ะ” เธอเบะปากด้วยสีหน้ารำคาญใจ 


แกรก

“ลิล ! หน้าห้องนี่คนของใครน่ะ เข้ามาได้ยังไง !”

ประตูถูกผลักเข้ามาอย่างรีบร้อน  คนที่เพิ่งเดินเข้ามาถามด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์  ผมกับเจ๊ลิลลี่หันไปมอง  เดี่ยวยืนอยู่ตรงหน้าพร้อมกับลูกน้องอีกสองคน  หน้าตาลูกน้องมันเหมือนรองเท้าหนังสีดำโล้น ๆ  เก่า ๆ เมื่อสมัยยี่สิบปีก่อน  เดี่ยวหยุดชะงัก  จ้องผมเขม็ง  ก่อนเหสายตาไปทางอื่นคล้ายไม่ต้องการเป็นฝ่ายเอ่ยทักทายก่อน  ผมกับอีกฝ่ายไม่เคยพบหน้ากันโดยตรง  นี่เป็นครั้งแรก  ทราบแต่ว่าประวัติมันในวงการธุรกิจกลางคืนก็ไม่ธรรมดา 

เจ๊ลิลลี่เองก็ดูไม่พอใจที่ถูกขัดจังหวะ  เธอลุกขึ้นยืน  ดึงสูทของตัวเองให้เข้าที่พร้อมสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดชัดเจน 

“คนของคุณไฟ นายนั่นแหละควรจะเคาะห้องก่อน นี่มันห้องส่วนตัวของฉันนะ” เจ๊ลิลลี่บ่น 

“เธอให้คนนอกเข้ามาได้ยังไง” เดี่ยวว่า

“คุณไฟเป็นแขกของฉัน” เจ๊ลิลลี่ตอบเสียงแข็ง  ผมกวาดตามองเดี่ยวโดยรวมก่อนลุกขึ้นยืน  ร่างของมันสูงใหญ่  รูปร่างที่บ่งบอกชัดเจนว่าได้รับการออกกำลังกายมาเป็นอย่างดี  หน้าตาในรูปดูเหมือนจะดูดีกว่าตัวจริงในตอนนี้  นอกนั้นไม่มีอะไรเพิ่มเติม

“นี่คุณไฟ คุณไฟคะ นี่เดี่ยวค่ะ หุ้นส่วนที่เจ๊เล่าให้ฟัง” เจ๊ลิลลี่ที่ยืนระหว่างกลางเอ่ยปากแนะนำ

“ยินดีที่ได้รู้จักครับ” ผมเป็นฝ่ายผายมือออกไปก่อน

“สวัสดีครับ” อีกฝ่ายจับมือผมตอบ  มือถูกกระชับจับตอบเล็กน้อยก่อนปล่อยออก

“คุณไฟ ลูกชายคนโตของตระกูลเลิศประสงค์สินะครับ ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับ” เดี่ยวอมยิ้ม  สายตาที่ถูกมองยังเป็นไปในความหมายที่เหนือกว่า 

“ครับ” ผมผลิยิ้ม 

“แล้ว...มีอะไรงั้นเหรอ” เดี่ยวหันไปถามเจ๊ลิลลี่พร้อมปัดมือไล่ลูกน้องของตนให้ออกจากห้องไป  คนของเดี่ยวผงกหัวรับทราบ  ประตูถูกปิดสนิทอีกครั้ง  ในห้องมีเพียงผม เจ๊ลิลลี่และเดี่ยว

“ผู้หญิงที่ชุนพามาวันนี้มีที่ถูกใจบ้างไหมล่ะ” เจ๊ลิลลี่ถาม

“คิดว่าจะรับไว้แค่ผู้หญิงที่ชื่อเบียร์ นอกนั้นมีตำหนิเต็มตัวไปหมด ไม่รู้ไอ้ชุนไปเอามาได้ยังไง ทำไม เธอมีปัญหาเหรอ” เดี่ยวตอบห้วน ๆ

“เปล่า” เจ๊ลิลลี่ตอบเสียงห้วนเช่นกัน 

“คุณไฟอยากได้เด็กที่ชื่อแก้มน่ะ” เจ๊ลิลลี่เข้าประเด็น  เดี่ยวเหลือบมองมาทางผมครู่หนึ่ง  ไม่มีความหมายที่จะตอบตกลงแม้เล็กน้อยในดวงตาของอีกฝ่าย 

“ชอบแบบนั้นเหรอครับ” อีกฝ่ายแสยะยิ้ม  เย้ยหยันมากกว่าจะสนใจ 

“........” ผมมองเฉย  ผลิยิ้มมุมปากตอบให้เล็กน้อย  อีกฝ่ายนิ่งไป  เบือนหน้าไปทางขวาคล้ายทราบว่าผมไม่ต้องการต่อบทสนทนา

“คงจะไม่ได้หรอกครับ ผมคิดว่าจะไม่รับเธอ คุณไปติดต่อคนอื่นเถอะ” เดี่ยวตอบส่ง ๆ  เดินออกจากห้องไปทั้งอย่างนั้น 

“เอ่อ ขอโทษนะคะ เขาเป็นคนอย่างนั้นแหละค่ะ” เจ๊ลิลลี่ยิ้มเจื่อน 

“แบบ...กวนตีนน่ะค่ะ” เจ๊ลิลลี่นินทาพลางยักไหล่  ผมอมยิ้ม  ท่าทางที่เธอทำนั้นทะเล้นดี  เจ๊ลิลลี่ยืนเงียบไป  เธอไม่ได้มองมาคล้ายกับกำลังคิดอะไรอยู่

“ระดับคุณ ลิลคงไม่ต้องบอกหรอกใช่ไหมคะว่าประวัติเขาเป็นยังไง” เธอหันหน้ามามองผม 

“........” ผมจ้องมองเธอ  ไม่ตอบ  หรือคือการไม่ปฏิเสธ

“วันนี้มี Private party  คุณไฟอยากไปนั่งดื่มด้วยกันสักแก้วก่อนกลับไหมคะ”

“ยินดีครับ” ผมตอบ

“ว่าแต่ ลิลยังไม่ได้ถามเลยว่าคุณไฟพักที่ไหน”

“THE 11 CONCEPTS ครับ” ผมตอบ

“อ้าว บังเอิญจังค่ะ เจ้าของโรงแรมก็ไอ้คนที่กวนตีนเมื่อกี้นี้แหละ” เจ๊ลิลลี่ว่ายิ้ม ๆ  ผมไม่ปฏิเสธอีกครั้ง  ทั้งเรื่องบังเอิญหรือไม่บังเอิญและเรื่องที่เจ้าของโรงแรมดูกวนส้นตีนก็ด้วย

เจ๊ลิลลี่ตรงเข้ามาควงแขนผมออกมาจากห้อง  เธอพาเดินไปจนสุดทางเดิน  พบประตูบานหนึ่ง  มีคนเฝ้าอยู่หนึ่งคน  เลี้ยวไปทางขวามือ  เจอทางเดินความกว้างขนาดสองเมตร  และพบห้องทำงานอีกห้องหนึ่งซึ่งไม่ต่างจากห้องทำงานของเจ๊ลิลลี่นัก  บอดี้การ์ดที่เฝ้าอยู่หน้าประตูมองมายังผมและคนของผม 

“มึงสองคนออกไปรอข้างนอก” ผมสั่งไอ้เข้มกับไอ้เด่นที่ยืนอยู่ด้านหลัง

“ครับนาย” มันขานรับแล้วเดินจากไป  ประตูที่ถูกปิดอยู่จึงถูกเปิดออก  ห้องทำงานขนาดสามคูณหกเมตรโดยประมาณ  มองเผิน ๆ แล้วเป็นห้องทำงานปกติทั่วไป  ที่ไม่ปกติก็คงเป็นลูกน้องหน้าตาเหมือนรองเท้าหนังสีดำของไอ้เดี่ยวสองคนเมื่อครู่นี้กำลังนั่งเฝ้าอยู่ในห้อง  มันลุกแล้วเดินไปเปิดประตูด้านในออก...

แสงจากฝั่งของห้องทำงานและหลังประตูบานดังกล่าวแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง  ประตูถูกปิดลงทันที  ทั่วบริเวณมืดสลัว  เสียงเพลงถูกเปิดคลอเป็นปาร์ตี้ขนาดย่อม  การตกแต่งห้องโดยส่วนใหญ่ไม่ผิดไปจากห้องทำงานและห้องประชุมมากนัก  ห้องค่อนข้างกว้างมากทีเดียว  ความมืดด้านในทำให้สายตาต้องใช้เวลาในการปรับการมองเห็น  ชุนเห็นผม  เขาเดินตรงมาหาโดยทันที

“เชิญทางนี้ครับ” ชุนผายมือ  นำผมและเจ๊ลิลลี่ไปยังโซฟาที่อยู่มุมหนึ่งของห้อง  เดี่ยวที่กำลังนั่งดื่มลุกขึ้นยืนโดยทันทีแล้วเดินออกจากห้องนี้ไป 

“ลิลขอตัวสักครู่นะคะ” เจ๊ลิลลี่กระซิบบอกผม  ผมพยักหน้าตอบ  เธอเดินตามเดี่ยวออกไปติด ๆ  ผมเลือกนั่งลงที่โซฟาฝั่งเดียวกับที่หันหน้าไปทางที่นั่งของเดี่ยว  เพื่อที่จะสังเกตโดยรอบให้ถนัด 

“คุณไฟจะดื่มอะไรดีครับ” ชุนถาม

“ฉันเตรียมเอง” พี่ธานสวนขึ้นแล้วตรงไปที่เคาน์เตอร์เครื่องดื่มอย่างไม่รีรอ  ผมขยับนิ้วมือที่วางอยู่บนโซฟาส่งสัญญาณให้อีกฝ่ายนั่งลงข้าง ๆ  ชุนทำตามด้วยทีท่าสงบเสงี่ยมผิดกับรูปลักษณ์ภายนอกของเขาอย่างมาก  ตาเหยี่ยว  คิ้วบาง  ตัดสกินเฮด  ใครจะรู้ว่าแบบนี้มันโคตรดีตอนอยู่บนเตียง

โต๊ะประชุมขนาดใหญ่  น่าจะรองรับได้เกือบยี่สิบที่นั่งในตอนนี้กลายเป็นพื้นที่สำหรับการมีเซ็กซ์และมั่วสุม  ด้านข้างเป็นมินิเคาน์เตอร์  ประดับไปด้วยเครื่องดื่มมีราคานา ๆ ชนิด  แม้กระทั่งพนักงานที่เคาน์เตอร์ก็สวมชุดแบบเต็มยศ  ให้บริการไม่ต่างจากด้านนอก  โต๊ะพูลอยู่ถัดมา  มุมโซฟาซึ่งดูเหมือนจะรองรับให้แขกพิเศษแบ่งออกเป็นสองฝั่ง  ฝั่งหนึ่งก็คือด้านที่เดี่ยวนั่งเมื่อครู่นี้และอีกด้านหนึ่งก็คือที่ผมนั่งอยู่  เป็นโซฟาหรูขนาดใหญ่ครึ่งวงกลม  ตั้งอยู่ถัดจากกันไม่มากนัก

“ผู้หญิงไปไหนแล้ว” ผมถามถึง

“ส่งกลับโรงแรมแล้วครับ แค่มาให้คุณเดี่ยวกับเจ๊ดูตัว พวกนั้นจำกัดเวลาอย่างกับไข่ในหิน เราต้องพาพวกเธอกลับกรุงเทพฯ พรุ่งนี้ เพื่อตกลงเซ็นสัญญากันอีกที” ชุนตอบ 

“........” ผมนั่งมองหน้าเขา  อีกฝ่ายหันมาสบตาแล้วหันหน้ากลับไปตั้งคอตรงโดยไม่พูดอะไร  การที่เขาถูกมองเฉยยิ่งทำให้ตรงกลางระหว่างคิ้วตึงจนเห็นชัด  เจ้าตัวไม่ทักถามถึงเหตุผลที่ถูกมอง 

“รู้ไหมครับว่าคุณเป็นคนน่าโมโห” ชุนพูดเสียงเรียบ 

“งั้นมั้ง” ผมอมยิ้มมุมปาก  จะปฏิเสธได้ยังไง  ก็ในเมื่ออีกฝ่ายกำลังโมโหอะไรผมสักอย่างอยู่แบบที่ไม่รู้สาเหตุ 

.
พี่ธานเดินกลับมาพร้อมเครื่องดื่มขวดหรูที่ถูกออกแบบเฉพาะของยี่ห้อดังกล่าว  ผู้คนในห้องต่างมองไปยังพี่เขาเป็นจุดเดียว  บรั่นดีนำเข้ายี่ห้อดังจากฝรั่งเศสที่ผมมักดื่มเป็นประจำถูกถือมาอย่างรู้ใจ  น่าแปลก ที่บรั่นดีราคาแพงหูฉี่  หาพบได้ยากตามท้องตลาดในไทย  ที่นี่ก็มีด้วย  ชักสงสัยแล้วว่ามันไม่มีอะไรบ้าง  พนักงานเดินตามหลังพี่ธานมา  วางแก้วบรั่นดีให้สองแก้ว  โค้งตัวเล็กน้อยก่อนจากไป

พี่ธานเปิดขวดบรั่นดี  รินในปริมาณที่พอเหมาะ  แก้วหนึ่งถูกนำมาวางตรงหน้าผม  ผมคว้ามาดมก่อนยกดื่มเมื่อแน่ใจว่าไม่ได้ถูกย้อมแมว  แก้วถูกวางลงที่เดิม  พี่ธานรินเติมให้อีกครั้งโดยทันที

“มีอะไร”

ผมหันไปมองชุน  อีกฝ่ายพูดขึ้นเสียงห้วน  ผู้หญิงแปลกหน้า  ผมสั้น  แต่งตัวฉูดฉาด  สวมใส่ชุดเกาะอกรัดรูปร่างอวดหุ่นอวบจนแน่นตึงไปทั่ว  ผมกวาดตามองโดยนิสัย  เป็นผู้หญิงเจ้าเนื้อที่มีหุ่นสมส่วนมากทีเดียว  เพื่อนของเธอที่มาด้วยกันยืนอยู่ด้านข้าง  น่าจะไม่ใช่คนไทยแท้

“ไม่เห็นต้องดุเลยค่ะพี่ชุน” เธอว่า

“คือ...เพื่อน ๆ ให้มาถามน่ะค่ะ ว่าอยากไปสนุกด้วยกันไหมคะ” เธอละสายตาจากชุนมาทางผม

“ไม่ล่ะ ขอบคุณ” ผมมองเธอ  อีกฝ่ายอมยิ้มน้อย ๆ โดยไม่ละสายตาแม้แต่นิดเดียว 

“ไปได้แล้ว คุณเขาใช่คนที่เธอจะมาทำท่าแบบนี้ใส่รึไง” ชุนขึ้นเสียงว่าด้วยสีหน้าเหลอหลา  เธอสองคนเบะปากใส่ชุน  หันไปส่งจูบให้พี่ธานก่อนเดินจากไป  ไร้ปฏิกิริยาจากพี่ธาน   
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-04-2018 23:51:37 โดย เบบี้ »

ออฟไลน์ เบบี้

  • Take up an Hobby.
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2072
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4336/-15

Private party ที่นี่ก็เหมือนเป็นปาร์ตี้ย่อส่วนจากด้านนอก  เพิ่มเติมคือสามารถทำอะไรดั่งใจได้  แม้ห้องจะถูกตกแต่งเรียบ ๆ  แต่ข้าวของที่ใช้และเครื่องดื่ม  รวมไปถึงการให้บริการจากพนักงานในนี้ก็อยู่ในระดับมาตรฐาน  มันสามารถเสิร์ฟบรั่นดีนำเข้าของแท้ราคาแพงขนาดนี้ให้ผมได้  แสดงว่าไอ้ที่ทั้งกำลังนั่ง ๆ ยืน ๆ มั่วสุม  เมามาย  มีเซ็กซ์กันอยู่  ต้องเงินหนาไม่ธรรมดา  สังเกตดูดี ๆ แล้ว  ทั้งหน้าตาและผิวพรรณ  รวมไปถึงการแต่งกายก็ดูออกว่ามาจากครอบครัวที่มีฐานะดีโดยพื้นฐาน  ของแบบนี้มันดูออกไม่ยาก  อาจมีผิดพลาดบ้างนาน ๆ ครั้งแต่มักเป็นเปอร์เซ็นต์ที่เกิดขึ้นต่ำ  เรื่องของบารมีทางฐานะมันจะมีกลิ่นจาง ๆ ติดตัวคน ๆ นั้นอยู่  กลิ่นของความแพงที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับรูปลักษณ์ภายนอกที่พ่อแม่ให้มา

ประตูถูกเปิดออกอีกครั้ง  เจ๊ลิลลี่กับเดี่ยวกลับมาถึง  ทั้งสองแยกกัน  เดี่ยวเดินผ่านโต๊ะของผมกลับไปยังโต๊ะของตน  ทั้งผู้หญิงและผู้ชายที่นั่งอยู่ที่โต๊ะนั้นประมาณสิบคนซึ่งผลัดกันลุกออกจากโต๊ะไปบ้างครั้งคราว  ส่งเสียงต้อนรับการมาถึงของเขา  ผมพยักหน้าให้พี่ธาน  อีกฝ่ายลุกขึ้นอย่างรู้หน้าที่  ตรงเข้าไปผายมือให้เจ๊ลิลลี่นั่งลงข้าง ๆ ตน  เธอเผยความเขินอายออกมาอย่างโจ่งแจ้ง  ดูท่าว่าจะถูกใจคนของผมจริง ๆ

“ชุน ไปหาเขาเถอะ” เจ๊ลิลลี่พยักหน้าไปทางโต๊ะของเดี่ยว

“ครับ” ชุนผงกหัวรับทราบ 

“ผมขอตัวก่อนนะครับ” เขาลุกขึ้น  โค้งลาพวกผมก่อนเดินไปหาเดี่ยวที่โต๊ะ  เดี่ยวดึงแขนของชุนเข้าหาโดยทันที  ฝ่ายที่ถูกดึงด้วยความแรงหย่อนตัวนั่งลงข้าง ๆ 

“คนโปรดค่ะ ก็เลยหวงเป็นพิเศษ” เจ๊ลิลลี่ขยิบตา  หมายถึงชุนกับเดี่ยว  เธอขยับตัวเข้ามาใกล้ ๆ ผม 

“ตกลงว่าได้เรื่องไหมครับ” ผมเข้าประเด็น

“ก็ได้อยู่หรอกค่ะ..”

“ก็อย่างที่ลิลลี่บอก ว่าลิลไม่มีปัญหาถ้าจะรับเธอ แต่เดี่ยวก็ไม่ได้ถูกใจแก้มเป็นพิเศษ ตามจริงแล้ว ทางคุณกายเขาเสนอให้เดี่ยวรับเธอไว้น่ะค่ะ แต่เดี่ยวไม่อยากรับเพราะติดที่คุณกริด อย่างที่ลิลเล่าให้คุณไฟฟังนั่นแหละค่ะ เขาเป็นประเภทกินฟรีซะด้วย” เจ๊ลิลลี่บ่นอุบอิบ

“ช่วงนี้ลิลไม่ได้เป็นคนรับงานจากทางนั้นด้วยตัวเองแล้ว คงมีอะไรเปลี่ยนไปเยอะมาก แล้วก็คงมีอะไรลับหลังลิล ลิลก็ไม่ได้ถามเจาะลึกเขาหรอกค่ะ ในเมื่อเขาไม่เล่าออกมาเอง ลิลก็จะไม่ถาม”

ขณะที่เธอพูดอยู่  พนักงานเสิร์ฟนำแก้วเปล่าสำหรับดื่มบรั่นดีมาวางเพิ่มให้อีกแก้วหนึ่ง

“ขอน้ำแข็งด้วย” เจ๊ลิลลี่พูดก่อนที่พนักงานจะเดินไป

“ครับ” พนักงานผงกหัวรับ

“อย่าว่าลิลนะ ลิลดื่มแบบนี้ไม่ได้หรอกค่ะ คอไม่ถึง” เธอบ่นเขิน ๆ  พร้อมชี้มือไปที่แก้วของผม  ทำท่าอย่างกับเด็ก  พี่ธานหลุดอมยิ้มเล็กน้อย  เจ๊ลิลลี่เหลือบไปเห็นเข้าพอดี

“หลงรักลิลเหรอ” เธอหยอกแซว  นำนิ้วสะกิดแขนพี่ธานเบา ๆ  ฝ่ายที่ถูกสะกิดช้อนตามอง  รอยยิ้มหุบลงโดยทันที  เจ๊ลิลลี่ชะงัก  เบือนหน้ากลับมาหาผมอีกครั้ง  สีหน้าเลิ่กลั่กด้วยอาการเขินอายมากกว่าเดิม  ผมยิ้มกว้างกับสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า  เจ๊ลิลลี่ตีมือลงมาที่ตัวผมเบา ๆ  ปรามให้หยุดยิ้ม  ถูกพี่ใหญ่มองแบบนี้  คนของผมต่างหากที่กำลังเอาจริง 

พนักงานเสิร์ฟนำน้ำแข็งมาเสิร์ฟและถูกพี่ธานปัดมือไล่  พี่เขาลุกขึ้น  จัดการรินบรั่นดีให้เจ๊ลิลลี่ด้วยตัวเอง

“ทางนั้นเขาจะอยู่พัทยาอีกกี่วัน” ผมกลับเข้าเรื่อง

“เขาเพิ่งกลับจากต่างประเทศ คราวนี้คงอยู่ไทยนานแหละค่ะ ปกติเขาจะมาอยู่ประจำที่พัทยานะคะ แต่ตามตารางนัดหมายแล้ว เห็นว่าน่าจะเดินทางเข้ากรุงเทพฯ พรุ่งนี้เย็น” เจ๊ลิลลี่ตอบ

“พรุ่งนี้ เจ๊จะลองนัดเขาให้คุณไฟอีกทีที่โรงแรมดีไหมคะ รอให้อารมณ์ดีก่อน เหมือนวันนี้เขาจะหงุดหงิด อะไรก็เลยขัดหูขัดตาไปหมด” เจ๊ยื่นหน้าเข้ามาใกล้  ต้องการหลบมุมเพื่อบอกเรื่องนี้ให้ผมทราบเป็นการส่วนตัว

“ครับ” ผมตอบ 

“รายนั้นเขาชอบเห็นอะไรเป็นรูปธรรมน่ะค่ะ แล้วก็...หยิ่งใช้ได้เลย” เธอว่า  สายตาดูประชดประชันเมื่อพูดถึง

“เขาเป็นนักธุรกิจนี่นะ จะมองหาผลประโยชน์อย่างเดียวผมก็ไม่แปลกใจหรอก ผมว่า...เขาเหมาะกับธุรกิจแบบนี้ดี” ผมเหลือบมองไปยังเดี่ยว  เสียงเพลงเริ่มดังมากขึ้นจนรบกวนการสนทนา  ประกอบกับเสียงครวญครางของผู้คน  แสงไฟด้านในถูกเปลี่ยนสี  มันแดงสลัวชวนให้ไร้สติ

“แล้วแบบนี้ คุณไฟจะยกเลิกธานกับลิลลี่ไหมคะ” เธอยื่นหน้ามากระซิบถาม  ผมยิ้มมอง  สอดมือเข้าไปยังท้ายทอยของเธอ  อุ่นมือดี 

“เดี๋ยวส่งให้ถึงที่เลย” ผมตอบ  เจ๊ลิลลี่แสดงความพอใจออกทางสีหน้า  เธอหันกลับไปนั่งตัวตรง  ยกบรั่นดีขึ้นดื่ม  และไม่รู้ว่าเอาความกล้าจากไหนมาถึงได้กล้าเป็นฝ่ายเข้าหาพี่ธานก่อน 

ผมนั่งเฉย  ปล่อยให้พี่ธานรับหน้าที่ไป  สงครามทางเพศสัมพันธ์กำลังเริ่มขึ้น  โต๊ะของเดี่ยวกำลังสวาปามอย่างกับอดอยากมานาน  บางคนหน้าคุ้น  คล้ายคนในวงการบันเทิง  แต่นึกไม่ออกว่าใครเพราะปกติไม่ได้ใส่ใจในเรื่องทำนองนี้เท่าไหร่นัก  ดูเหมือนชุนจะรับหน้าที่หนักไม่เบา  เขาชำเลืองมองมาทางผมบ้างเป็นระยะ         


อะ ! อ้า ! อ้างงงง !

กลิ่นผิดแปลกในห้องเริ่มชัดมากขึ้น  สิ่งที่เป็นตัวบอกว่าที่กำลังรื่นเริงในตอนนี้ไม่ใช่จากเครื่องดื่มมึนเมาโดยอย่างเดียว  พนักงานเสิร์ฟสบตาเข้ากับผมพอดี  ผมกวักมือเข้าหา  อีกฝ่ายรีบสับเท้าเข้ามา  Blinder บุหรี่ยี่ห้อดั้งเดิมจากเวอร์จิเนีย  รสเข้ม  กลิ่นหอมที่จะช่วยเบาสิ่งที่ไม่ต้องการสูดดมลงไปได้ถูกสั่งออกไป  ไม่นานนักบุหรี่ซองหรูพร้อมไฟแช็กอย่างดีก็ถูกนำมาวางลงตรงหน้า 

.
พวกมันมีของนำเข้าที่ต้องการทุกอย่างอย่างกับเลานจ์ระดับห้าดาวก็ไม่ปาน  ไอ้เด็กเวรพวกนี้มันน่าจับไปถ่วงลงอ่าวเบงกอลจริง ๆ 

บุหรี่ที่ไม่ได้แตะต้องมานานถูกจุดสูบตามความเคยชินของร่างกาย  ผู้หญิงผมยาวประบ่า  รูปร่างสูงยาวเข่าดี  สวมใส่รองเท้าส้นสูงยิ่งเสริมความสูงที่มีเข้าไปอีก  ชุดชั้นในผ้าไหมปิดทับไว้เฉพาะยอดอกเล็ก ๆ  โชว์ความใหญ่โตของหน้าอกที่มีโดยธรรมชาติด้วยความมั่นใจ  สะโพกผาย  สวมใส่บิกินี่ทรงสามเหลี่ยมที่ปกปิดไว้เฉพาะส่วนสำคัญเล็ก ๆ  ทุกส่วนเรียบเนียนอย่างจงใจให้มันเป็น  ผมเหลือบมอง  พ่นควันออกเล็กน้อยทั้งที่ยังคาบบุหรี่อยู่  เธอก้มตัวลงมาหา  เท้ามือลงบนเบาะ

“คุณเดี่ยวให้มาเชิญไปนั่งด้วยกันค่ะ” เธอพูด  ผมจ้องมองเธอครู่หนึ่งก่อนจะนำบุหรี่ออก

“ไม่ล่ะ ขอบคุณ” ผมตอบ  ขณะเดียวกันก็รับรู้ได้ถึงเศษเสี้ยวของตุ้มของความหงุดหงิดรำคาญใจที่กำลังทำท่าจะแตกออกเป็นประกายทีละเล็กทีน้อย  จู่ ๆ มันก็เกิดขึ้น  อาจเพราะลึกลงไปตัวตนกำลังแสดงความไม่พอใจที่ดันเอาอะไรที่ไม่ชอบเข้าปอด
 
อีกฝ่ายหลบตาลงด้วยสีหน้าแปลกใจก่อนจะลุกเดินกลับไปที่โต๊ะของเธอโดยดี  ดูเหมือนว่าคนที่สั่งให้เธอมาจะมองสถานการณ์อยู่ก่อนแล้ว  อีกฝ่ายแสยะยิ้มให้ผมพร้อมเบือนหน้าหนี  คนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ หัวเราะคิกคักคล้ายเย้ยหยันเช่นกัน 

เซ็กซ์ที่อยู่รอบตัวหลายคู่ไม่ได้ส่งผลกระทบใด ๆ ต่อระบบท่อนล่างเลยแม้แต่น้อย  กระทั่งไม่ได้ดึงความสนใจได้เท่ากับสิ่งที่พี่ธานกำลังปฏิบัติต่อเจ๊ลิลลี่ในตอนนี้  ผมนั่งมองจังหวะการพรมจูบที่พี่ใหญ่ของผมเป็นผู้นำอยู่อย่างน่าสนใจ  การหยอกเย้าด้วยการทำท่าว่าจะจูบอย่างครั้งคราวและหยุด  ทำให้เจ๊ลิลลี่เป็นผู้ตามอย่างชัดเจน  แต่ถึงอย่างนั้นดูเหมือนว่าเธอจะพอใจ  รอยยิ้มปรากฏอยู่บนใบหน้าของเธอตลอด 

ผมคว้าบรั่นดีขึ้นดื่มจนหมดแก้ว  พอใจที่เห็นว่าพี่ใหญ่ถูกใจอยู่  หูของพี่ธานที่ทำงานดีอย่างกับสัตว์  ส่งสัญญาณให้เจ้าตัวได้สติ  พี่เขาเหลือบมองมายังแก้วบรั่นดีของผมที่ว่างเปล่าและผละตัวออกจากเจ๊ลิลลี่โดยทันที  ลุกขึ้นมาคว้าแก้วของผมไปเพื่อเติมบรั่นดีให้

“ธาน !” เจ๊ลิลลี่ร้องอุทานด้วยน้ำเสียงงอน ๆ  พี่ธานหลุดยิ้มกว้าง  ไม่ได้มองหน้าเธอ  เอาแต่จับจ้องบรั่นดีที่ไหลออกจากขวดอย่างใจเย็น   

“นิสัยไม่ดีเลย” เจ๊ลิลลี่หันมาค้อนพาลว่าผมด้วย

“หึ ๆ ๆ” ผมหัวเราะ  คาบบุหรี่ไว้อย่างเดิม  สอดมือเข้าไปดึงเอวของเจ๊ลิลลี่พร้อมเป็นฝ่ายขยับตัวเข้าหาเธอด้วย  ตอนนี้เธอจึงนั่งอยู่ในตำแหน่งคั่นกลางระหว่างผมกับพี่ใหญ่  ความงอนลดระดับลงแล้ว

พี่ธานลดตัวนั่งมอง  เท้าแขนไว้บนหน้าขา  พลางใช้นิ้วชี้ดันหัวเข่าของเจ๊ลิลลี่ข้างที่อยู่ใกล้มือตนออก  กึ่งบังคับให้ขาข้างดังกล่าวฉีกอ้าออกไป  ความอวบอิ่มของร่องอกชวนให้อยากปลดกระดุมเสื้อสูท  แต่ผมไม่ทำ  เลือกที่จะใช้นิ้วโป้งเกลี่ยยอดอกของเธอผ่านเนื้อผ้า  ครั้งสองครั้งอย่างเบาบาง  ร่างกายของเจ๊ลิลลี่ขยับตาม  ริมฝีปากสีแดงฉาดของเธอเผยอออกอย่างยั่วยวน 

ผมคีบบุหรี่ออก  ควันถูกพ่นออกมาพร้อมกัน  ปะทะเข้ากับร่างกายของคนตรงหน้า  มือข้างที่ถือบุหรี่อยู่จึงเกลี่ยลงไปที่กลางร่องอก  กรีดจากบนลงล่างก่อนดึงออก  ไม่ทันให้มือของผมพ้นร่างกายออกไปไกล  เจ้าของร่างกายก็คว้ามือผมไปขย้ำลงที่หน้าอกของเธออย่างแรง  ไม่กลัวถูกก้นบุหรี่จี้เอา  เธอร้องครางออกมาเบา ๆ ด้วยสีหน้าสุขสม  ผมอมยิ้ม  พึงพอใจกับปฏิกิริยาที่ไม่เคยผิดหวังของเธอคนนี้  ทันทีที่ผมตอบสนองความต้องการของเธอโดยการบีบหน้าอกของเธออีกครั้ง  ขาข้างที่พี่ธานบังคับให้อ้าออกก่อนหน้านี้ก็กระตุกอ้ามากขึ้นกว่าเดิม 

มือผละออกมาจากอกแล้ว  บุหรี่ใกล้หมดมวนเต็มที  จึงตั้งใจจะสูบให้หมด  พี่ธานรับหน้าที่จัดการต่อ  ผมดับก้นบุหรี่พร้อมยกบรั่นดีขึ้นดื่มอีกครั้งเพื่อดับกระหาย  รับรู้ได้ถึงสายตาหลายคู่ที่กำลังจับจ้องมา  ผมจึงช้อนตามองไปยังเดี่ยว  ไม่แปลกใจที่สบตาเข้าพอดี  มุมปากยกยิ้มให้โดยอัตโนมัติ  อีกฝ่ายนิ่งเฉย  ละสายตาไปทำกิจกรรมของตนต่อ  วัยรุ่นหลายคู่ที่อยู่ในบริเวณโต๊ะของเดี่ยว  มีเซ็กซ์ดุเดือดชนิดที่ว่าเสียพลังงานทางร่างกายอย่างมากจนน่าใจหาย  เป็นแบบที่ค--วยผมจะไม่ตั้ง...

ชุนยังคงนั่งอยู่ที่เดิม  ข้าง ๆ เดี่ยว  เขาเป็นคนเดียวในโต๊ะนั้นที่ยังมีเสื้อผ้าอยู่ครบหัวจรดเท้า  จู่ ๆ เสียงครวญครางคล้ายถูกขัดใจจากเจ๊ลิลลี่ก็ดังหนักขึ้น  ผมหันกลับไปมอง  พี่ธานผละริมฝีปากออกจากเธอกะทันหัน  น้ำลายยืดเป็นทาง  เจ๊ลิลลี่ทิ้งหลังพิงพนักโซฟาคล้ายหมดแรง  ดูเหมือนว่าคนของผมจงใจที่จะขัดใจเธออย่างนั้น  สายตาที่พี่ธานมองเจ๊ลิลลี่เปลี่ยนไปอีกความหมายหนึ่ง  มือปาดเช็ดปากก่อนยกบรั่นดีกระดกขึ้นดื่มจนหมดแก้วด้วยสีหน้าเรียบเฉย  เสี้ยววินาทีนั้นที่ผมแอบสังเกตเห็นเจ๊ลิลลี่ชำเลืองมองไปยังโต๊ะของเดี่ยวและมุมปากก็เผยรอยยิ้มออกมา

“นิสัย” ผมเข้าไปล็อกปลายคางของเธอพร้อมกระซิบว่า

“........” เจ๊ลิลลี่กะพริบตาปริบ ๆ  ทำใสซื่อ 

“ไม่ชอบเขา ก็ขายหุ้นทิ้งไปซะสิ” ผมพูด  อีกฝ่ายอมยิ้มกรุ้มกริ่ม  ดูพอใจที่ผมรู้ทันและไม่เถียงกลับสักคำ  เธอเข้ามาคว้าท้ายทอยผมพร้อมประกบจูบตัดบทโดยทันที  ผมปล่อยให้เธอทำตามใจจนเธอเป็นฝ่ายผละปากออกก่อน  ลิ้นตวัดกลับเข้าไปอย่างยั่วยวน  สายตามองลงต่ำ  นิ้วกลางแตะลงที่กลีบกลางส่วนสำคัญของร่างกายผ่านเนื้อกางเกง  เจ๊ลิลลี่สะดุ้ง  แต่สะโพกกลับขยับสู้นิ้วของผมเสียอย่างนั้น  ผมอมยิ้มมอง  นิ้วทำหน้าที่แตะเกลี่ยเบา ๆ หยอกล้อเท่านั้น  ไม่ได้จริงจังอะไร  แต่ดูเหมือนจะทำให้อีกฝ่ายรำคาญ  เธอจับข้อมือผมแล้วออกแรงกดเพื่อให้นิ้วของผมสัมผัสกับของของเธอมากขึ้น  เสียงครางหวาน ๆ หลุดลอดออกมาอีกครั้ง

ผมจึงกดนิ้วกลางย้ำลงไปด้วยนึกมันเขี้ยวขึ้นมา  ลิ้นเกลี่ยไปตามไรฟันด้านในพลางมองร่างของเจ๊ลิลลี่ที่กำลังสั่นเทิ้ม  ผมดึงมือออก  เธอมองตามตาปรือ 

“ปลดกระดุม” ผมสั่ง  เหลือบมองไปยังกางเกงของเธอ  ขณะเดียวกันมือก็จุ่มลงไปในถังน้ำแข็งและแช่ไว้  เจ๊ลิลลี่ทำตามคำสั่งอย่างว่าง่าย  กระดุมกางเกงถูกปลดออกแล้ว  ทันทีที่ความเย็นปกคลุมไปทั่วนิ้วเป็นที่น่าพอใจ  จึงล้วงมือเข้าไปในกางเกงผ้าเนื้อดี  ความเย็นของนิ้วที่สัมผัสโดนส่วนสำคัญอย่างใกล้ชิดมากขึ้นทำให้เจ้าของร่างกายเกร็งตัว  อ้าปากกว้าง  หลับตาพริ้ม  นี่ยังไม่ใช่การล้วงเข้าไปโดยตรง  ผมแตะผ่านกางเกงชั้นในของเธออีกที  แต่ถึงอย่างนั้นก็คงไม่ต่างอะไรมากนัก  เพราะดูเหมือนว่าชั้นในที่เธอใส่จะเป็นบิกินี่ผ้าลูกไม้เนื้อบาง ๆ เท่านั้น 

ผมรอมอง  ไม่ขยับร่างกายแม้แต่น้อย  พอเห็นว่าเธอเริ่มได้สติแล้วจึงเริ่มขยับปลายนิ้ว 

“อะ อ้า ~~” เจ๊ลิลลี่ร้องครางออกมาดังลั่นอย่างไม่คิดอดกลั้น  สะโพกกดบิดไปกับเบาะโซฟา  ขาอ้าออกเองโดยอัตโนมัติ  ผมจึงหยุดขยับนิ้วลงดื้อ ๆ 

“อื้ออออ” เจ๊ลิลลี่ขมวดคิ้วเป็นปมที่ถูกขัดใจ  และเริ่มเป็นฝ่ายขยับสะโพกบดเบียดนิ้วของผมเสียเอง  ข้อมือของผมถูกเจ๊ลิลลี่กดล็อกเอาไว้ทั้งสองมือ  คล้ายระแวงว่าผมจะดึงออกไปทั้งอย่างนี้   

“เอาสิ เสร็จให้ดูหน่อย” ผมกระซิบที่ข้างหู  หอมลงที่เส้นผมของเธอเบา ๆ  สิ้นคำท้าทายจากผม  นิ้วก็ถูกบุกรุกอย่างไม่มีความเกรงใจอีก  เสียงร้องจากเจ๊ลิลลี่สะท้อนสู้กับเสียงเพลง  ท่าทางที่เชิญชวญของเธอทำให้อดไม่ได้ที่จะขยับนิ้วสะกิดตอบกลับไปบ้างบางครั้ง 

เซ็กซ์หลากหลายประเภทที่ผ่านมาในชีวิต  โดยภาพรวมแล้วความต้องการของแต่ละคนมีแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง  สำหรับเจ๊ลิลลี่ในมุมที่ผมได้สัมผัส  ระดับความต้องการของเธอจัดอยู่ในหมวดเงี่-ยนขั้นสุดยอดมานานแล้ว  ไม่ได้แปลว่าไม่ดี  ผมว่าเธอเซ็กซี่มากกว่าผู้หญิงแท้ที่ผมเคยนอนด้วยบางคนเสียอีก 

“อะ ! แฮก ๆ”

เสียงร้องสุดท้ายจางหายไปแล้ว  ทันทีที่แน่ใจว่าเธอได้ถึงจุดหมายอย่างแน่นอน  ผมจึงดึงมือออก  ร่างกายของเจ๊ลิลลี่ยังกระตุกปะทะกับอากาศสองสามทีคล้ายติดลมบน  โทรศัพท์มือถือของผมสั่นเตือนอย่างกับรู้จังหวะ  พี่ธานนำกระดาษทิชชู่มาให้  ผมเช็ดทำความสะอาดมือก่อนกดรับสาย

“นายครับ ไอ้เต้ถูกคนของที่นี่ลากเข้าห้องน้ำไปเมื่อกี้นี้ครับ” ไอ้เด่นรายงานด้วยน้ำเสียงทุ้ม ๆ  ไม่เป็นเดือดเป็นร้อน

“เหมือนจะแย่ครับ ให้ผมเอายังไงดีครับ”

“ปล่อยไว้งั้นแหละ เดี๋ยวกูออกไปแล้ว” ผมตอบ 

“ครับนาย” ไอ้เด่นขานรับ  คิดว่ามันก็คงไม่ได้อยากเข้าไปช่วยเหลือให้เสียพลังงานอยู่แล้วน่ะนะ

“เจอกันที่โรงแรมนะครับ” พี่ธานเป็นฝ่ายบอกลาเจ๊ลิลลี่ที่นั่งหมดแรงอยู่ในท่าเดิม  ผมอมยิ้มมอง  พี่ใหญ่ถึงขนาดออกปากเองอย่างนี้  คืนนี้เป้าหมายถูกโจมตีด้วยปืนกลแน่นอน

เราต่างลุกขึ้นยืน  ผมโยนกล่องบุหรี่ให้พี่ธานเป็นคนเก็บ  แล้วคว้าขวดบรั่นดีราคาหลายหมื่นที่ยังดื่มไม่ถึงครึ่งติดมือมาด้วย  เป้าหมายคือการเดินไปยังโต๊ะข้างเคียงเพื่อบอกลาตามมารยาท  ไม่ได้ตั้งใจมาเพราะจบเรื่องไว้แค่นี้อยู่แล้ว  ชุนเงยหน้ามองผมกะหลับกะเหลือก  เขาลุกขึ้นยืนและหลบออกมาเล็กน้อย  เดี่ยวสบตาผม  มือก็กดหัวผู้ชายที่กำลังอมของลับของตนคล้ายออกคำสั่งให้อมลงไปลึกมากกว่าเดิม

“นั่งก่อนไหมครับ” อีกฝ่ายพูด  แววตาเต็มไปด้วยความท้าทาย

“ไม่ล่ะครับ ผมจะกลับแล้ว” ผมตอบ 

“งั้นเหรอครับ” เดี่ยวเบะปาก  เล่นหน้าเล่นตาใส่  กลิ่นไม่พึงประสงค์ปะทะเข้ามากวนใจขึ้นฉับพลัน  มันรุนแรงมากกว่าตรงที่ที่ผมนั่งอยู่เมื่อครู่นี้   

“ผมจะขอคุยกับคุณต่อพรุ่งนี้ เรื่องข้อเสนอ” ผมพูด 

“ข้อเสนอ ?!” อีกฝ่ายสบถ  คิ้วทั้งสองข้างเลิกขึ้นจงใจยั่วโมโห

“ตามจริง ผมก็ไม่ได้มีของที่อยากได้หรอกนะครับ ผมดูเหมือนขาดอะไรงั้นเหรอ” เดี่ยวอมยิ้ม 

“........” ผมไม่ตอบ  จ้องมองจนอีกฝ่ายหุบยิ้มลงและสบตาผมกลับเขม็งไม่ลดละ  ขาเดินตรงเข้าหา  กระชากหัวผู้ชายที่อมค--วยอีกฝ่ายอยู่ขึ้นอย่างแรง  น้ำลายกระเด็นเป็นทาง   

“เหี้ยอะไรวะ ! โอ๊ยยยย !” มันร้องลั่น  เซ็กซ์ในบริเวณนี้หยุดเคลื่อนไหวลงชั่วขณะ 

“อย่ามาใช้กำลังที่นี่” เดี่ยวพูดเสียงเย็น  ศีรษะของชายแปลกหน้ายังถูกจิกอยู่ในมือและแรงมากขึ้นจนเจ้าของมันร้องประท้วง  ดิ้นพล่าน

“ทีแรก ผมตั้งใจมาเจรจาดี ๆ” ผมพูด

“แน่ใจเหรอว่าคุณไม่มีของที่อยากได้น่ะ ?” ผมย้อนถาม  โน้มตัวเข้าไปใกล้  จ้องมองลึกลงไปยังดวงตาคู่ตรงหน้า  เดี่ยวเบิกตาออกกว้าง

“...สายตามึงมันบอกทุกอย่าง” ผมกระซิบ

“ปล่อยกู !” ไอ้เหี้ยตัวที่ผมถือหัวอยู่ส่งเสียงน่ารำคาญ  ผมหันกลับไป  ออกแรงดึงหัวมันแล้วลากติดมือมาก่อนเหวี่ยงออกไปสุดแขน  ร่างกายของคนที่ถูกเหวี่ยงกระเด็นไปอีกมุมหนึ่งจนวงแตกกระจาย  ผมจ้องมอง  มองดูว่ามันจะหมดฤทธิ์ไว้เท่านั้นหรือจะต่อ  อีกฝ่ายลดระดับสายตา  ทุกอย่างสงบลงท่ามกลางเสียงเพลงที่ยังดังกระหึ่ม 

.
ผมมองต่ำกลับไปยังค--วยของเดี่ยวที่ยังคงความแข็งอย่างไม่มีท่าว่าจะลดลง  เมื่อขยับตัวเข้าหา  ลูกกระเดือกของอีกฝ่ายก็ขยับขึ้นลงเห็นเด่นชัด 

“คู่หมั้นรู้รึเปล่าว่าดอกทองขนาดนี้” ผมเลิกคิ้วข้างหนึ่ง  ทำหน้าฉงน

“เธอรู้รึเปล่าว่าที่จริงแล้วมึงชอบให้เลียตรงไหน ? หึ…ขนาดกูยังรู้เลย” ผมแสยะยิ้ม  กดก้นขวดบรั่นดีลงบนเป้าของเดี่ยว  หน้าของอีกฝ่ายเหยเก  ดวงตาเปลี่ยนความหมายไปจากก่อนหน้า  พยายามที่จะดันขวดบรั่นดีออก

“มึงอยากขี่อยู่บนตัวกู ...นั่นคือสิ่งที่กูเห็น” ผมกวาดตามอง

“ไว้เจอกันครับ” ผมตัดบท  ผลิยิ้มให้เล็กน้อยเพื่อสงบศึก

“เหม็นคาวน่ะ ..จะอ้วก

การบอกลาได้จบลงทิ้งไว้อย่างนั้น  ผมเดินจากมา  กลิ่นน่าหงุดหงิดฉิบหาย  ไอ้เข้มกับไอ้เด่นที่ยืนรออยู่รีบพาผมตรงไปยังห้องน้ำชายด้านนอก  ใกล้กับโซน VIP  เสียงโหวกเหวกดังมาจากด้านใน  ผู้ชายร่างสูงใหญ่สามคนที่ผมไม่รู้จักพากันหยุดชะงัก 

“คุณไฟ” พวกมันอุทานพร้อมเบี่ยงตัวออก  ทำให้ผมเห็นไอ้เต้ที่กำลังนอนด้วยสภาพที่ดูไม่ได้อยู่บนพื้นกลางห้องน้ำ  กางเกงยีนของมันถูกปลดลงจนเกือบครึ่งแก้มก้น  ไอ้เต้นอนตาลอยมองมาทางผมพร้อมร้องขอความช่วยเหลือ  ผมมองเฉย  เดินตรงไปยังอ่างล้างมือ  เปิดก๊อกน้ำออกเพื่อทำความสะอาดมืออีกครั้ง  ทุกอย่างเงียบสนิทจนผมทำธุระเสร็จ 

“มันบอกว่าเป็นคนของคุณไฟน่ะครับ แล้วจะเข้าไปในพื้นที่ของคุณลิลลี่ให้ได้” ผู้ชายหนึ่งในสามพูดขึ้น

“...ไม่เชิง” ผมตอบ  ใช้ปลายเท้าเขี่ยขาของไอ้เต้กางออก

“ไอ้สัส !” เจ้าตัวสบถด่าดังลั่น  พร้อมสะบัดขาหนี

“หึ ยังไม่หมดฤทธิ์นี่” ผมยิ้ม

“ฉันขอแล้วกัน” ผมบอกทั้งสามคน  พวกมันผงกหัวรับทราบและยอมจบเรื่อง

ผมปัดมือส่ง ๆ ไปทางพี่ธานเพื่อให้อีกฝ่ายจัดการให้เรียบร้อย  พวกเราออกมาจากร้าน  สมุทรดูตกใจที่เห็นไอ้เต้กลับออกมากับพวกเราด้วยสภาพที่มีไอ้เข้มกับไอ้เด่นพยุงอยู่  เราเคลื่อนตัวออกจากร้านทันที  ไอ้เต้กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่ข้าง ๆ ผม  มันเกือบไม่ได้สติ  สงสัยว่าไอ้สามคนเมื่อครู่นี้คงให้มันกินอะไรเข้าไปแน่ 

น่าเสียดายที่คนโดนไม่ใช่สมุทร  แต่หมอนั่นจิตแข็ง  ไม่แน่ว่าสภาพอาจต่างจากไอ้เต้ก็ได้.. 

“ไงล่ะ ได้อะไรจากการตามก้นผมบ้าง” ผมพูด  รถยนต์จอดสนิทอยู่ที่ลานจอดรถของโรงแรมเรียบร้อย  สมุทรเปิดประตูรถฝั่งของไอ้เต้ออก

“หึ เกือบเสียสาวแล้วไหมล่ะ” ผมพ่นหัวเราะ

“ถุย !” ไอ้เต้สบถ   

“สัส !” ผมพุ่งเข้าหา  ล็อกปลายคางของมันช้อนขึ้นเต็มแรง  ศีรษะของไอ้เต้ดันติดไปกับเบาะรถจนสุด

“อย่าให้กูต้องหมดความอดทนกับมึงนะ หัดเจียมกะลาหัวซะบ้าง” ผมกัดฟันแน่น  ความโมโหที่มียิ่งชวนให้หงุดหงิดไปใหญ่

“อุ้มมันไป !” ผมผลักหน้าไอ้เต้ไปทางสมุทรเต็มแรง 

“ครับ” สมุทรขานรับ  รีบโผเข้ามารับตัวไอ้เต้ไว้ก่อนที่มันจะตกจากที่นั่ง  ไอ้เข้มเปิดประตูรถฝั่งของผมออก 

“พนักงานถามก็บอกว่ามันเมา” ผมตัดรำคาญ  สับเท้าเดินนำออกมา  หงุดหงิดฉิบหาย  มีแต่เรื่องน่ารำคาญเต็มไปหมด  สมุทรอุ้มตัวไอ้เต้พาดบ่าเดินตามมา  พนักงานโรงแรมออกมาต้อนรับขับสู้อย่างดี  พี่ธานจัดการกั้นพวกเธอออกไป  อีกไม่นาน  เดี๋ยวลูกพี่มันก็คงได้มาเห็นสภาพลูกน้องกับตาตัวเอง



...............(ไฟ)..............


ผู้เขียน :

ขออภัยที่มาต่อล่าช้านะคะ

ขอบคุณสำหรับทุก ๆ คอมเมนต์  เหนื่อยล้ายิ่งนักก็จะเข้ามาอ่าน  ช่วยได้มากเลย <3
สุดท้ายนี้.. สุขสันต์วันปีใหม่ไทยนะคะ ขอให้มีความสุขทุกคนค่าาา ^ . ^

#สมุทรค่าตัวแพงไปไหนนนน ???
   


ขอบคุณค่ะ
เบบี้


 :L2: :L2: :L2:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-06-2020 16:31:27 โดย เบบี้ »

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4
มาแล้ว คิดถึงมากกกกก  :mew1: :mew1: :กอด1: :กอด1: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ NOPKAN

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 172
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-1
คุณไฟโหดดีจริง ๆ 55555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Smirnoff

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
ตอนนี้พี่ไฟแบบว่า อือออออออ อยากได้คนนี้อะ จริงๆแล้วเต้สมควรโดนสักทีอะ ขอบคุณเบบี้สำหรับนิยายคุณภาพแบบนี้นะคะ
สวั สวัสดีปีใหม่ไทยค่ะ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
อยากรู้จังว่าถ้าเป็นเรื่องจริงไฟจะมีเงินกี่ล้าน แล้วจะรอดไปได้ตลอดไหม

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
เต้โดนอย่างนี้จำหรือยัง เข็ดหรือยัง  :hao3:

ออฟไลน์ ซีเนียร์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0

ออฟไลน์ ANIKI.

  • 兄貴
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 190
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-1
อ้ากกกก ไม่ได้ตาฝาดดดดด มาแล้วๆ นี่ช็อคนะ นึกว่าเดี่ยวจะแบบรุกอะ... 555555555555555 ตอนนี้สมุทรมาน้อยมาก แต่ไม่เป็นไร สลับกันไปได้ เต้นี่ควรโดนไฟหรอยตูดซักทีอะ... จะได้เข็ด 55555 เข้าใจว่าคุณคนแต่งไม่ว่าง และขอบคุณมากๆที่ยังไม่ทอดทิ้งดัน รักษาสุขภาพด้วยจ้า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-04-2018 08:01:10 โดย ANIKI. »

ออฟไลน์ KIDSPARN

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 3
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ route rover

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-7
ตอนนี้สมุทรค่าตัวแพง

ออฟไลน์ Nankoong

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 754
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-5
แพงจริง..แพงจัง...แพงหลายตังค์จนประมาณค่าไม่ได้ก็สมุทรนี่ล่ะค่ะ

ไฟคนขี้หงุดหงิด..จะคอยดูว่าจะอารมณ์ดีขึ้นยังไง

รอติดตาม...ตามติดชีวิตไฟ....อย่างใกล้ชิดค่ะ

ออฟไลน์ punthipha

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-0
สุขสันต์วันสงกรานต์ ทุกคน ไฟบันเทิงคนเดียวจนจบตอน  o13 o13   เปิดตัวเดี่ยวได้ดีชอบชอบ
คุณเบบี้สู้ๆ รอรอน้า :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ MyLavenderLand

  • ฉันสุขใจ เมื่อได้ Log in เล้า
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
กรี๊ดดดดดด ดีใจที่ได้เจอ คุณไฟมาาาาา~~~ คิดถึงจริมๆ / พี่ไฟของเดี๊ยน ยังคงเส้นคงวาความปาก...จัด ไม่มีตกหล่น ไม่ผิดหวังค่ะพี่ไฟฟฟ  :m12:  5555 แต่ๆๆๆๆ ในความแซ่บ! ของพี่ธานนั้น ไยเป็นเจ๊ลิลลี่คะที่ได้ไปรับทาน ทำมายยยยย   :dont2:  ทำไมไม่ใช่เรา #ผิด เราจิ้นพี่ธานกับพายุอยู่น้าาาา #เดี๋ยว ถามไฟยัง?

และในความแพงของสมุทรนั้น ยังแพงคงเส้นคงวาเหลือเกิน จากที่คาดหวังและรอความหวานความฟิน สมุทร&ไฟ พบว่าตอนนี้พบบทสนทนาระหว่างคู่นี้ 3 ประโยคถ้วนค่ะ! #ยิ้นอ่อน #ยังคงรอต่อไป  คิดถึงเบบี้นะคะ รอมาตลอดแต่ไม่อยากเข้ามาทวงบ่อยกลัวคุณเบบี้เครียด ให้กำลังใจน้าาาา นานก็รอค่าาาา #กอด

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด