Private party ที่นี่ก็เหมือนเป็นปาร์ตี้ย่อส่วนจากด้านนอก เพิ่มเติมคือสามารถทำอะไรดั่งใจได้ แม้ห้องจะถูกตกแต่งเรียบ ๆ แต่ข้าวของที่ใช้และเครื่องดื่ม รวมไปถึงการให้บริการจากพนักงานในนี้ก็อยู่ในระดับมาตรฐาน มันสามารถเสิร์ฟบรั่นดีนำเข้าของแท้ราคาแพงขนาดนี้ให้ผมได้ แสดงว่าไอ้ที่ทั้งกำลังนั่ง ๆ ยืน ๆ มั่วสุม เมามาย มีเซ็กซ์กันอยู่ ต้องเงินหนาไม่ธรรมดา สังเกตดูดี ๆ แล้ว ทั้งหน้าตาและผิวพรรณ รวมไปถึงการแต่งกายก็ดูออกว่ามาจากครอบครัวที่มีฐานะดีโดยพื้นฐาน ของแบบนี้มันดูออกไม่ยาก อาจมีผิดพลาดบ้างนาน ๆ ครั้งแต่มักเป็นเปอร์เซ็นต์ที่เกิดขึ้นต่ำ เรื่องของบารมีทางฐานะมันจะมีกลิ่นจาง ๆ ติดตัวคน ๆ นั้นอยู่ กลิ่นของความแพงที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับรูปลักษณ์ภายนอกที่พ่อแม่ให้มา
ประตูถูกเปิดออกอีกครั้ง เจ๊ลิลลี่กับเดี่ยวกลับมาถึง ทั้งสองแยกกัน เดี่ยวเดินผ่านโต๊ะของผมกลับไปยังโต๊ะของตน ทั้งผู้หญิงและผู้ชายที่นั่งอยู่ที่โต๊ะนั้นประมาณสิบคนซึ่งผลัดกันลุกออกจากโต๊ะไปบ้างครั้งคราว ส่งเสียงต้อนรับการมาถึงของเขา ผมพยักหน้าให้พี่ธาน อีกฝ่ายลุกขึ้นอย่างรู้หน้าที่ ตรงเข้าไปผายมือให้เจ๊ลิลลี่นั่งลงข้าง ๆ ตน เธอเผยความเขินอายออกมาอย่างโจ่งแจ้ง ดูท่าว่าจะถูกใจคนของผมจริง ๆ
“ชุน ไปหาเขาเถอะ” เจ๊ลิลลี่พยักหน้าไปทางโต๊ะของเดี่ยว
“ครับ” ชุนผงกหัวรับทราบ
“ผมขอตัวก่อนนะครับ” เขาลุกขึ้น โค้งลาพวกผมก่อนเดินไปหาเดี่ยวที่โต๊ะ เดี่ยวดึงแขนของชุนเข้าหาโดยทันที ฝ่ายที่ถูกดึงด้วยความแรงหย่อนตัวนั่งลงข้าง ๆ
“คนโปรดค่ะ ก็เลยหวงเป็นพิเศษ” เจ๊ลิลลี่ขยิบตา หมายถึงชุนกับเดี่ยว เธอขยับตัวเข้ามาใกล้ ๆ ผม
“ตกลงว่าได้เรื่องไหมครับ” ผมเข้าประเด็น
“ก็ได้อยู่หรอกค่ะ..”
“ก็อย่างที่ลิลลี่บอก ว่าลิลไม่มีปัญหาถ้าจะรับเธอ แต่เดี่ยวก็ไม่ได้ถูกใจแก้มเป็นพิเศษ ตามจริงแล้ว ทางคุณกายเขาเสนอให้เดี่ยวรับเธอไว้น่ะค่ะ แต่เดี่ยวไม่อยากรับเพราะติดที่คุณกริด อย่างที่ลิลเล่าให้คุณไฟฟังนั่นแหละค่ะ เขาเป็นประเภทกินฟรีซะด้วย” เจ๊ลิลลี่บ่นอุบอิบ
“ช่วงนี้ลิลไม่ได้เป็นคนรับงานจากทางนั้นด้วยตัวเองแล้ว คงมีอะไรเปลี่ยนไปเยอะมาก แล้วก็คงมีอะไรลับหลังลิล ลิลก็ไม่ได้ถามเจาะลึกเขาหรอกค่ะ ในเมื่อเขาไม่เล่าออกมาเอง ลิลก็จะไม่ถาม”
ขณะที่เธอพูดอยู่ พนักงานเสิร์ฟนำแก้วเปล่าสำหรับดื่มบรั่นดีมาวางเพิ่มให้อีกแก้วหนึ่ง
“ขอน้ำแข็งด้วย” เจ๊ลิลลี่พูดก่อนที่พนักงานจะเดินไป
“ครับ” พนักงานผงกหัวรับ
“อย่าว่าลิลนะ ลิลดื่มแบบนี้ไม่ได้หรอกค่ะ คอไม่ถึง” เธอบ่นเขิน ๆ พร้อมชี้มือไปที่แก้วของผม ทำท่าอย่างกับเด็ก พี่ธานหลุดอมยิ้มเล็กน้อย เจ๊ลิลลี่เหลือบไปเห็นเข้าพอดี
“หลงรักลิลเหรอ” เธอหยอกแซว นำนิ้วสะกิดแขนพี่ธานเบา ๆ ฝ่ายที่ถูกสะกิดช้อนตามอง รอยยิ้มหุบลงโดยทันที เจ๊ลิลลี่ชะงัก เบือนหน้ากลับมาหาผมอีกครั้ง สีหน้าเลิ่กลั่กด้วยอาการเขินอายมากกว่าเดิม ผมยิ้มกว้างกับสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า เจ๊ลิลลี่ตีมือลงมาที่ตัวผมเบา ๆ ปรามให้หยุดยิ้ม ถูกพี่ใหญ่มองแบบนี้ คนของผมต่างหากที่กำลังเอาจริง
พนักงานเสิร์ฟนำน้ำแข็งมาเสิร์ฟและถูกพี่ธานปัดมือไล่ พี่เขาลุกขึ้น จัดการรินบรั่นดีให้เจ๊ลิลลี่ด้วยตัวเอง
“ทางนั้นเขาจะอยู่พัทยาอีกกี่วัน” ผมกลับเข้าเรื่อง
“เขาเพิ่งกลับจากต่างประเทศ คราวนี้คงอยู่ไทยนานแหละค่ะ ปกติเขาจะมาอยู่ประจำที่พัทยานะคะ แต่ตามตารางนัดหมายแล้ว เห็นว่าน่าจะเดินทางเข้ากรุงเทพฯ พรุ่งนี้เย็น” เจ๊ลิลลี่ตอบ
“พรุ่งนี้ เจ๊จะลองนัดเขาให้คุณไฟอีกทีที่โรงแรมดีไหมคะ รอให้อารมณ์ดีก่อน เหมือนวันนี้เขาจะหงุดหงิด อะไรก็เลยขัดหูขัดตาไปหมด” เจ๊ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ต้องการหลบมุมเพื่อบอกเรื่องนี้ให้ผมทราบเป็นการส่วนตัว
“ครับ” ผมตอบ
“รายนั้นเขาชอบเห็นอะไรเป็นรูปธรรมน่ะค่ะ แล้วก็...หยิ่งใช้ได้เลย” เธอว่า สายตาดูประชดประชันเมื่อพูดถึง
“เขาเป็นนักธุรกิจนี่นะ จะมองหาผลประโยชน์อย่างเดียวผมก็ไม่แปลกใจหรอก ผมว่า...เขาเหมาะกับธุรกิจแบบนี้ดี” ผมเหลือบมองไปยังเดี่ยว เสียงเพลงเริ่มดังมากขึ้นจนรบกวนการสนทนา ประกอบกับเสียงครวญครางของผู้คน แสงไฟด้านในถูกเปลี่ยนสี มันแดงสลัวชวนให้ไร้สติ
“แล้วแบบนี้ คุณไฟจะยกเลิกธานกับลิลลี่ไหมคะ” เธอยื่นหน้ามากระซิบถาม ผมยิ้มมอง สอดมือเข้าไปยังท้ายทอยของเธอ อุ่นมือดี
“เดี๋ยวส่งให้ถึงที่เลย” ผมตอบ เจ๊ลิลลี่แสดงความพอใจออกทางสีหน้า เธอหันกลับไปนั่งตัวตรง ยกบรั่นดีขึ้นดื่ม และไม่รู้ว่าเอาความกล้าจากไหนมาถึงได้กล้าเป็นฝ่ายเข้าหาพี่ธานก่อน
ผมนั่งเฉย ปล่อยให้พี่ธานรับหน้าที่ไป สงครามทางเพศสัมพันธ์กำลังเริ่มขึ้น โต๊ะของเดี่ยวกำลังสวาปามอย่างกับอดอยากมานาน บางคนหน้าคุ้น คล้ายคนในวงการบันเทิง แต่นึกไม่ออกว่าใครเพราะปกติไม่ได้ใส่ใจในเรื่องทำนองนี้เท่าไหร่นัก ดูเหมือนชุนจะรับหน้าที่หนักไม่เบา เขาชำเลืองมองมาทางผมบ้างเป็นระยะ
อะ ! อ้า ! อ้างงงง !กลิ่นผิดแปลกในห้องเริ่มชัดมากขึ้น สิ่งที่เป็นตัวบอกว่าที่กำลังรื่นเริงในตอนนี้ไม่ใช่จากเครื่องดื่มมึนเมาโดยอย่างเดียว พนักงานเสิร์ฟสบตาเข้ากับผมพอดี ผมกวักมือเข้าหา อีกฝ่ายรีบสับเท้าเข้ามา Blinder บุหรี่ยี่ห้อดั้งเดิมจากเวอร์จิเนีย รสเข้ม กลิ่นหอมที่จะช่วยเบาสิ่งที่ไม่ต้องการสูดดมลงไปได้ถูกสั่งออกไป ไม่นานนักบุหรี่ซองหรูพร้อมไฟแช็กอย่างดีก็ถูกนำมาวางลงตรงหน้า
.
พวกมันมีของนำเข้าที่ต้องการทุกอย่างอย่างกับเลานจ์ระดับห้าดาวก็ไม่ปาน ไอ้เด็กเวรพวกนี้มันน่าจับไปถ่วงลงอ่าวเบงกอลจริง ๆ
บุหรี่ที่ไม่ได้แตะต้องมานานถูกจุดสูบตามความเคยชินของร่างกาย ผู้หญิงผมยาวประบ่า รูปร่างสูงยาวเข่าดี สวมใส่รองเท้าส้นสูงยิ่งเสริมความสูงที่มีเข้าไปอีก ชุดชั้นในผ้าไหมปิดทับไว้เฉพาะยอดอกเล็ก ๆ โชว์ความใหญ่โตของหน้าอกที่มีโดยธรรมชาติด้วยความมั่นใจ สะโพกผาย สวมใส่บิกินี่ทรงสามเหลี่ยมที่ปกปิดไว้เฉพาะส่วนสำคัญเล็ก ๆ ทุกส่วนเรียบเนียนอย่างจงใจให้มันเป็น ผมเหลือบมอง พ่นควันออกเล็กน้อยทั้งที่ยังคาบบุหรี่อยู่ เธอก้มตัวลงมาหา เท้ามือลงบนเบาะ
“คุณเดี่ยวให้มาเชิญไปนั่งด้วยกันค่ะ” เธอพูด ผมจ้องมองเธอครู่หนึ่งก่อนจะนำบุหรี่ออก
“ไม่ล่ะ ขอบคุณ” ผมตอบ ขณะเดียวกันก็รับรู้ได้ถึงเศษเสี้ยวของตุ้มของความหงุดหงิดรำคาญใจที่กำลังทำท่าจะแตกออกเป็นประกายทีละเล็กทีน้อย จู่ ๆ มันก็เกิดขึ้น อาจเพราะลึกลงไปตัวตนกำลังแสดงความไม่พอใจที่ดันเอาอะไรที่ไม่ชอบเข้าปอด
อีกฝ่ายหลบตาลงด้วยสีหน้าแปลกใจก่อนจะลุกเดินกลับไปที่โต๊ะของเธอโดยดี ดูเหมือนว่าคนที่สั่งให้เธอมาจะมองสถานการณ์อยู่ก่อนแล้ว อีกฝ่ายแสยะยิ้มให้ผมพร้อมเบือนหน้าหนี คนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ หัวเราะคิกคักคล้ายเย้ยหยันเช่นกัน
เซ็กซ์ที่อยู่รอบตัวหลายคู่ไม่ได้ส่งผลกระทบใด ๆ ต่อระบบท่อนล่างเลยแม้แต่น้อย กระทั่งไม่ได้ดึงความสนใจได้เท่ากับสิ่งที่พี่ธานกำลังปฏิบัติต่อเจ๊ลิลลี่ในตอนนี้ ผมนั่งมองจังหวะการพรมจูบที่พี่ใหญ่ของผมเป็นผู้นำอยู่อย่างน่าสนใจ การหยอกเย้าด้วยการทำท่าว่าจะจูบอย่างครั้งคราวและหยุด ทำให้เจ๊ลิลลี่เป็นผู้ตามอย่างชัดเจน แต่ถึงอย่างนั้นดูเหมือนว่าเธอจะพอใจ รอยยิ้มปรากฏอยู่บนใบหน้าของเธอตลอด
ผมคว้าบรั่นดีขึ้นดื่มจนหมดแก้ว พอใจที่เห็นว่าพี่ใหญ่ถูกใจอยู่ หูของพี่ธานที่ทำงานดีอย่างกับสัตว์ ส่งสัญญาณให้เจ้าตัวได้สติ พี่เขาเหลือบมองมายังแก้วบรั่นดีของผมที่ว่างเปล่าและผละตัวออกจากเจ๊ลิลลี่โดยทันที ลุกขึ้นมาคว้าแก้วของผมไปเพื่อเติมบรั่นดีให้
“ธาน !” เจ๊ลิลลี่ร้องอุทานด้วยน้ำเสียงงอน ๆ พี่ธานหลุดยิ้มกว้าง ไม่ได้มองหน้าเธอ เอาแต่จับจ้องบรั่นดีที่ไหลออกจากขวดอย่างใจเย็น
“นิสัยไม่ดีเลย” เจ๊ลิลลี่หันมาค้อนพาลว่าผมด้วย
“หึ ๆ ๆ” ผมหัวเราะ คาบบุหรี่ไว้อย่างเดิม สอดมือเข้าไปดึงเอวของเจ๊ลิลลี่พร้อมเป็นฝ่ายขยับตัวเข้าหาเธอด้วย ตอนนี้เธอจึงนั่งอยู่ในตำแหน่งคั่นกลางระหว่างผมกับพี่ใหญ่ ความงอนลดระดับลงแล้ว
พี่ธานลดตัวนั่งมอง เท้าแขนไว้บนหน้าขา พลางใช้นิ้วชี้ดันหัวเข่าของเจ๊ลิลลี่ข้างที่อยู่ใกล้มือตนออก กึ่งบังคับให้ขาข้างดังกล่าวฉีกอ้าออกไป ความอวบอิ่มของร่องอกชวนให้อยากปลดกระดุมเสื้อสูท แต่ผมไม่ทำ เลือกที่จะใช้นิ้วโป้งเกลี่ยยอดอกของเธอผ่านเนื้อผ้า ครั้งสองครั้งอย่างเบาบาง ร่างกายของเจ๊ลิลลี่ขยับตาม ริมฝีปากสีแดงฉาดของเธอเผยอออกอย่างยั่วยวน
ผมคีบบุหรี่ออก ควันถูกพ่นออกมาพร้อมกัน ปะทะเข้ากับร่างกายของคนตรงหน้า มือข้างที่ถือบุหรี่อยู่จึงเกลี่ยลงไปที่กลางร่องอก กรีดจากบนลงล่างก่อนดึงออก ไม่ทันให้มือของผมพ้นร่างกายออกไปไกล เจ้าของร่างกายก็คว้ามือผมไปขย้ำลงที่หน้าอกของเธออย่างแรง ไม่กลัวถูกก้นบุหรี่จี้เอา เธอร้องครางออกมาเบา ๆ ด้วยสีหน้าสุขสม ผมอมยิ้ม พึงพอใจกับปฏิกิริยาที่ไม่เคยผิดหวังของเธอคนนี้ ทันทีที่ผมตอบสนองความต้องการของเธอโดยการบีบหน้าอกของเธออีกครั้ง ขาข้างที่พี่ธานบังคับให้อ้าออกก่อนหน้านี้ก็กระตุกอ้ามากขึ้นกว่าเดิม
มือผละออกมาจากอกแล้ว บุหรี่ใกล้หมดมวนเต็มที จึงตั้งใจจะสูบให้หมด พี่ธานรับหน้าที่จัดการต่อ ผมดับก้นบุหรี่พร้อมยกบรั่นดีขึ้นดื่มอีกครั้งเพื่อดับกระหาย รับรู้ได้ถึงสายตาหลายคู่ที่กำลังจับจ้องมา ผมจึงช้อนตามองไปยังเดี่ยว ไม่แปลกใจที่สบตาเข้าพอดี มุมปากยกยิ้มให้โดยอัตโนมัติ อีกฝ่ายนิ่งเฉย ละสายตาไปทำกิจกรรมของตนต่อ วัยรุ่นหลายคู่ที่อยู่ในบริเวณโต๊ะของเดี่ยว มีเซ็กซ์ดุเดือดชนิดที่ว่าเสียพลังงานทางร่างกายอย่างมากจนน่าใจหาย เป็นแบบที่ค--วยผมจะไม่ตั้ง...
ชุนยังคงนั่งอยู่ที่เดิม ข้าง ๆ เดี่ยว เขาเป็นคนเดียวในโต๊ะนั้นที่ยังมีเสื้อผ้าอยู่ครบหัวจรดเท้า จู่ ๆ เสียงครวญครางคล้ายถูกขัดใจจากเจ๊ลิลลี่ก็ดังหนักขึ้น ผมหันกลับไปมอง พี่ธานผละริมฝีปากออกจากเธอกะทันหัน น้ำลายยืดเป็นทาง เจ๊ลิลลี่ทิ้งหลังพิงพนักโซฟาคล้ายหมดแรง ดูเหมือนว่าคนของผมจงใจที่จะขัดใจเธออย่างนั้น สายตาที่พี่ธานมองเจ๊ลิลลี่เปลี่ยนไปอีกความหมายหนึ่ง มือปาดเช็ดปากก่อนยกบรั่นดีกระดกขึ้นดื่มจนหมดแก้วด้วยสีหน้าเรียบเฉย เสี้ยววินาทีนั้นที่ผมแอบสังเกตเห็นเจ๊ลิลลี่ชำเลืองมองไปยังโต๊ะของเดี่ยวและมุมปากก็เผยรอยยิ้มออกมา
“นิสัย” ผมเข้าไปล็อกปลายคางของเธอพร้อมกระซิบว่า
“........” เจ๊ลิลลี่กะพริบตาปริบ ๆ ทำใสซื่อ
“ไม่ชอบเขา ก็ขายหุ้นทิ้งไปซะสิ” ผมพูด อีกฝ่ายอมยิ้มกรุ้มกริ่ม ดูพอใจที่ผมรู้ทันและไม่เถียงกลับสักคำ เธอเข้ามาคว้าท้ายทอยผมพร้อมประกบจูบตัดบทโดยทันที ผมปล่อยให้เธอทำตามใจจนเธอเป็นฝ่ายผละปากออกก่อน ลิ้นตวัดกลับเข้าไปอย่างยั่วยวน สายตามองลงต่ำ นิ้วกลางแตะลงที่กลีบกลางส่วนสำคัญของร่างกายผ่านเนื้อกางเกง เจ๊ลิลลี่สะดุ้ง แต่สะโพกกลับขยับสู้นิ้วของผมเสียอย่างนั้น ผมอมยิ้มมอง นิ้วทำหน้าที่แตะเกลี่ยเบา ๆ หยอกล้อเท่านั้น ไม่ได้จริงจังอะไร แต่ดูเหมือนจะทำให้อีกฝ่ายรำคาญ เธอจับข้อมือผมแล้วออกแรงกดเพื่อให้นิ้วของผมสัมผัสกับของของเธอมากขึ้น เสียงครางหวาน ๆ หลุดลอดออกมาอีกครั้ง
ผมจึงกดนิ้วกลางย้ำลงไปด้วยนึกมันเขี้ยวขึ้นมา ลิ้นเกลี่ยไปตามไรฟันด้านในพลางมองร่างของเจ๊ลิลลี่ที่กำลังสั่นเทิ้ม ผมดึงมือออก เธอมองตามตาปรือ
“ปลดกระดุม” ผมสั่ง เหลือบมองไปยังกางเกงของเธอ ขณะเดียวกันมือก็จุ่มลงไปในถังน้ำแข็งและแช่ไว้ เจ๊ลิลลี่ทำตามคำสั่งอย่างว่าง่าย กระดุมกางเกงถูกปลดออกแล้ว ทันทีที่ความเย็นปกคลุมไปทั่วนิ้วเป็นที่น่าพอใจ จึงล้วงมือเข้าไปในกางเกงผ้าเนื้อดี ความเย็นของนิ้วที่สัมผัสโดนส่วนสำคัญอย่างใกล้ชิดมากขึ้นทำให้เจ้าของร่างกายเกร็งตัว อ้าปากกว้าง หลับตาพริ้ม นี่ยังไม่ใช่การล้วงเข้าไปโดยตรง ผมแตะผ่านกางเกงชั้นในของเธออีกที แต่ถึงอย่างนั้นก็คงไม่ต่างอะไรมากนัก เพราะดูเหมือนว่าชั้นในที่เธอใส่จะเป็นบิกินี่ผ้าลูกไม้เนื้อบาง ๆ เท่านั้น
ผมรอมอง ไม่ขยับร่างกายแม้แต่น้อย พอเห็นว่าเธอเริ่มได้สติแล้วจึงเริ่มขยับปลายนิ้ว
“อะ อ้า ~~” เจ๊ลิลลี่ร้องครางออกมาดังลั่นอย่างไม่คิดอดกลั้น สะโพกกดบิดไปกับเบาะโซฟา ขาอ้าออกเองโดยอัตโนมัติ ผมจึงหยุดขยับนิ้วลงดื้อ ๆ
“อื้ออออ” เจ๊ลิลลี่ขมวดคิ้วเป็นปมที่ถูกขัดใจ และเริ่มเป็นฝ่ายขยับสะโพกบดเบียดนิ้วของผมเสียเอง ข้อมือของผมถูกเจ๊ลิลลี่กดล็อกเอาไว้ทั้งสองมือ คล้ายระแวงว่าผมจะดึงออกไปทั้งอย่างนี้
“เอาสิ เสร็จให้ดูหน่อย” ผมกระซิบที่ข้างหู หอมลงที่เส้นผมของเธอเบา ๆ สิ้นคำท้าทายจากผม นิ้วก็ถูกบุกรุกอย่างไม่มีความเกรงใจอีก เสียงร้องจากเจ๊ลิลลี่สะท้อนสู้กับเสียงเพลง ท่าทางที่เชิญชวญของเธอทำให้อดไม่ได้ที่จะขยับนิ้วสะกิดตอบกลับไปบ้างบางครั้ง
เซ็กซ์หลากหลายประเภทที่ผ่านมาในชีวิต โดยภาพรวมแล้วความต้องการของแต่ละคนมีแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง สำหรับเจ๊ลิลลี่ในมุมที่ผมได้สัมผัส ระดับความต้องการของเธอจัดอยู่ในหมวดเงี่-ยนขั้นสุดยอดมานานแล้ว ไม่ได้แปลว่าไม่ดี ผมว่าเธอเซ็กซี่มากกว่าผู้หญิงแท้ที่ผมเคยนอนด้วยบางคนเสียอีก
“อะ ! แฮก ๆ”
เสียงร้องสุดท้ายจางหายไปแล้ว ทันทีที่แน่ใจว่าเธอได้ถึงจุดหมายอย่างแน่นอน ผมจึงดึงมือออก ร่างกายของเจ๊ลิลลี่ยังกระตุกปะทะกับอากาศสองสามทีคล้ายติดลมบน โทรศัพท์มือถือของผมสั่นเตือนอย่างกับรู้จังหวะ พี่ธานนำกระดาษทิชชู่มาให้ ผมเช็ดทำความสะอาดมือก่อนกดรับสาย
“นายครับ ไอ้เต้ถูกคนของที่นี่ลากเข้าห้องน้ำไปเมื่อกี้นี้ครับ” ไอ้เด่นรายงานด้วยน้ำเสียงทุ้ม ๆ ไม่เป็นเดือดเป็นร้อน
“เหมือนจะแย่ครับ ให้ผมเอายังไงดีครับ”
“ปล่อยไว้งั้นแหละ เดี๋ยวกูออกไปแล้ว” ผมตอบ
“ครับนาย” ไอ้เด่นขานรับ คิดว่ามันก็คงไม่ได้อยากเข้าไปช่วยเหลือให้เสียพลังงานอยู่แล้วน่ะนะ
“เจอกันที่โรงแรมนะครับ” พี่ธานเป็นฝ่ายบอกลาเจ๊ลิลลี่ที่นั่งหมดแรงอยู่ในท่าเดิม ผมอมยิ้มมอง พี่ใหญ่ถึงขนาดออกปากเองอย่างนี้ คืนนี้เป้าหมายถูกโจมตีด้วยปืนกลแน่นอน
เราต่างลุกขึ้นยืน ผมโยนกล่องบุหรี่ให้พี่ธานเป็นคนเก็บ แล้วคว้าขวดบรั่นดีราคาหลายหมื่นที่ยังดื่มไม่ถึงครึ่งติดมือมาด้วย เป้าหมายคือการเดินไปยังโต๊ะข้างเคียงเพื่อบอกลาตามมารยาท ไม่ได้ตั้งใจมาเพราะจบเรื่องไว้แค่นี้อยู่แล้ว ชุนเงยหน้ามองผมกะหลับกะเหลือก เขาลุกขึ้นยืนและหลบออกมาเล็กน้อย เดี่ยวสบตาผม มือก็กดหัวผู้ชายที่กำลังอมของลับของตนคล้ายออกคำสั่งให้อมลงไปลึกมากกว่าเดิม
“นั่งก่อนไหมครับ” อีกฝ่ายพูด แววตาเต็มไปด้วยความท้าทาย
“ไม่ล่ะครับ ผมจะกลับแล้ว” ผมตอบ
“งั้นเหรอครับ” เดี่ยวเบะปาก เล่นหน้าเล่นตาใส่ กลิ่นไม่พึงประสงค์ปะทะเข้ามากวนใจขึ้นฉับพลัน มันรุนแรงมากกว่าตรงที่ที่ผมนั่งอยู่เมื่อครู่นี้
“ผมจะขอคุยกับคุณต่อพรุ่งนี้ เรื่องข้อเสนอ” ผมพูด
“ข้อเสนอ ?!” อีกฝ่ายสบถ คิ้วทั้งสองข้างเลิกขึ้นจงใจยั่วโมโห
“ตามจริง ผมก็ไม่ได้มีของที่อยากได้หรอกนะครับ ผมดูเหมือนขาดอะไรงั้นเหรอ” เดี่ยวอมยิ้ม
“........” ผมไม่ตอบ จ้องมองจนอีกฝ่ายหุบยิ้มลงและสบตาผมกลับเขม็งไม่ลดละ ขาเดินตรงเข้าหา กระชากหัวผู้ชายที่อมค--วยอีกฝ่ายอยู่ขึ้นอย่างแรง น้ำลายกระเด็นเป็นทาง
“เหี้ยอะไรวะ ! โอ๊ยยยย !” มันร้องลั่น เซ็กซ์ในบริเวณนี้หยุดเคลื่อนไหวลงชั่วขณะ
“อย่ามาใช้กำลังที่นี่” เดี่ยวพูดเสียงเย็น ศีรษะของชายแปลกหน้ายังถูกจิกอยู่ในมือและแรงมากขึ้นจนเจ้าของมันร้องประท้วง ดิ้นพล่าน
“ทีแรก ผมตั้งใจมาเจรจาดี ๆ” ผมพูด
“แน่ใจเหรอว่าคุณไม่มีของที่อยากได้น่ะ ?” ผมย้อนถาม โน้มตัวเข้าไปใกล้ จ้องมองลึกลงไปยังดวงตาคู่ตรงหน้า เดี่ยวเบิกตาออกกว้าง
“...สายตามึงมันบอกทุกอย่าง” ผมกระซิบ
“ปล่อยกู !” ไอ้เหี้ยตัวที่ผมถือหัวอยู่ส่งเสียงน่ารำคาญ ผมหันกลับไป ออกแรงดึงหัวมันแล้วลากติดมือมาก่อนเหวี่ยงออกไปสุดแขน ร่างกายของคนที่ถูกเหวี่ยงกระเด็นไปอีกมุมหนึ่งจนวงแตกกระจาย ผมจ้องมอง มองดูว่ามันจะหมดฤทธิ์ไว้เท่านั้นหรือจะต่อ อีกฝ่ายลดระดับสายตา ทุกอย่างสงบลงท่ามกลางเสียงเพลงที่ยังดังกระหึ่ม
.
ผมมองต่ำกลับไปยังค--วยของเดี่ยวที่ยังคงความแข็งอย่างไม่มีท่าว่าจะลดลง เมื่อขยับตัวเข้าหา ลูกกระเดือกของอีกฝ่ายก็ขยับขึ้นลงเห็นเด่นชัด
“คู่หมั้นรู้รึเปล่าว่าดอกทองขนาดนี้” ผมเลิกคิ้วข้างหนึ่ง ทำหน้าฉงน
“เธอรู้รึเปล่าว่าที่จริงแล้วมึงชอบให้เลียตรงไหน ? หึ…ขนาดกูยังรู้เลย” ผมแสยะยิ้ม กดก้นขวดบรั่นดีลงบนเป้าของเดี่ยว หน้าของอีกฝ่ายเหยเก ดวงตาเปลี่ยนความหมายไปจากก่อนหน้า พยายามที่จะดันขวดบรั่นดีออก
“มึงอยากขี่อยู่บนตัวกู ...นั่นคือสิ่งที่กูเห็น” ผมกวาดตามอง
“ไว้เจอกันครับ” ผมตัดบท ผลิยิ้มให้เล็กน้อยเพื่อสงบศึก
“เหม็นคาวน่ะ
..จะอ้วก”
การบอกลาได้จบลงทิ้งไว้อย่างนั้น ผมเดินจากมา กลิ่นน่าหงุดหงิดฉิบหาย ไอ้เข้มกับไอ้เด่นที่ยืนรออยู่รีบพาผมตรงไปยังห้องน้ำชายด้านนอก ใกล้กับโซน VIP เสียงโหวกเหวกดังมาจากด้านใน ผู้ชายร่างสูงใหญ่สามคนที่ผมไม่รู้จักพากันหยุดชะงัก
“คุณไฟ” พวกมันอุทานพร้อมเบี่ยงตัวออก ทำให้ผมเห็นไอ้เต้ที่กำลังนอนด้วยสภาพที่ดูไม่ได้อยู่บนพื้นกลางห้องน้ำ กางเกงยีนของมันถูกปลดลงจนเกือบครึ่งแก้มก้น ไอ้เต้นอนตาลอยมองมาทางผมพร้อมร้องขอความช่วยเหลือ ผมมองเฉย เดินตรงไปยังอ่างล้างมือ เปิดก๊อกน้ำออกเพื่อทำความสะอาดมืออีกครั้ง ทุกอย่างเงียบสนิทจนผมทำธุระเสร็จ
“มันบอกว่าเป็นคนของคุณไฟน่ะครับ แล้วจะเข้าไปในพื้นที่ของคุณลิลลี่ให้ได้” ผู้ชายหนึ่งในสามพูดขึ้น
“...ไม่เชิง” ผมตอบ ใช้ปลายเท้าเขี่ยขาของไอ้เต้กางออก
“ไอ้สัส !” เจ้าตัวสบถด่าดังลั่น พร้อมสะบัดขาหนี
“หึ ยังไม่หมดฤทธิ์นี่” ผมยิ้ม
“ฉันขอแล้วกัน” ผมบอกทั้งสามคน พวกมันผงกหัวรับทราบและยอมจบเรื่อง
ผมปัดมือส่ง ๆ ไปทางพี่ธานเพื่อให้อีกฝ่ายจัดการให้เรียบร้อย พวกเราออกมาจากร้าน สมุทรดูตกใจที่เห็นไอ้เต้กลับออกมากับพวกเราด้วยสภาพที่มีไอ้เข้มกับไอ้เด่นพยุงอยู่ เราเคลื่อนตัวออกจากร้านทันที ไอ้เต้กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่ข้าง ๆ ผม มันเกือบไม่ได้สติ สงสัยว่าไอ้สามคนเมื่อครู่นี้คงให้มันกินอะไรเข้าไปแน่
น่าเสียดายที่คนโดนไม่ใช่สมุทร แต่หมอนั่นจิตแข็ง ไม่แน่ว่าสภาพอาจต่างจากไอ้เต้ก็ได้..
“ไงล่ะ ได้อะไรจากการตามก้นผมบ้าง” ผมพูด รถยนต์จอดสนิทอยู่ที่ลานจอดรถของโรงแรมเรียบร้อย สมุทรเปิดประตูรถฝั่งของไอ้เต้ออก
“หึ เกือบเสียสาวแล้วไหมล่ะ” ผมพ่นหัวเราะ
“ถุย !” ไอ้เต้สบถ
“สัส !” ผมพุ่งเข้าหา ล็อกปลายคางของมันช้อนขึ้นเต็มแรง ศีรษะของไอ้เต้ดันติดไปกับเบาะรถจนสุด
“อย่าให้กูต้องหมดความอดทนกับมึงนะ หัดเจียมกะลาหัวซะบ้าง” ผมกัดฟันแน่น ความโมโหที่มียิ่งชวนให้หงุดหงิดไปใหญ่
“อุ้มมันไป !” ผมผลักหน้าไอ้เต้ไปทางสมุทรเต็มแรง
“ครับ” สมุทรขานรับ รีบโผเข้ามารับตัวไอ้เต้ไว้ก่อนที่มันจะตกจากที่นั่ง ไอ้เข้มเปิดประตูรถฝั่งของผมออก
“พนักงานถามก็บอกว่ามันเมา” ผมตัดรำคาญ สับเท้าเดินนำออกมา หงุดหงิดฉิบหาย มีแต่เรื่องน่ารำคาญเต็มไปหมด สมุทรอุ้มตัวไอ้เต้พาดบ่าเดินตามมา พนักงานโรงแรมออกมาต้อนรับขับสู้อย่างดี พี่ธานจัดการกั้นพวกเธอออกไป อีกไม่นาน เดี๋ยวลูกพี่มันก็คงได้มาเห็นสภาพลูกน้องกับตาตัวเอง
...............(ไฟ)..............
ผู้เขียน :ขออภัยที่มาต่อล่าช้านะคะ
ขอบคุณสำหรับทุก ๆ คอมเมนต์ เหนื่อยล้ายิ่งนักก็จะเข้ามาอ่าน ช่วยได้มากเลย <3
สุดท้ายนี้.. สุขสันต์วันปีใหม่ไทยนะคะ ขอให้มีความสุขทุกคนค่าาา ^ . ^
#สมุทรค่าตัวแพงไปไหนนนน ???
ขอบคุณค่ะ
เบบี้