<<พี่ไม่หยิ่ง รักจริงหวังฟัน>>
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: <<พี่ไม่หยิ่ง รักจริงหวังฟัน>>  (อ่าน 168041 ครั้ง)

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove

                                                         น้องมันบ้า หาเรื่องฟันพี่

                                                                  บทที่ 4

                                                   บางทีพี่เมฆก็ทำตัวให้น่าเป็นห่วง             


                แต่ก่อนจะไปถึงเรื่องที่เราต่างรับคำท้าซึ่งกัน ผมว่าเราควรจะผ่านคืนนี้ที่ต้องอยู่ด้วยกันเป็นคืนแรกไปให้ได้ก่อนดีกว่า วันนี้

ผมและพี่เมฆจำเป็นต้องโดดเรียนทั้งวันเพราะเรื่องยุ่งๆที่เกิดขึ้น ช่วงเช้าไปโรงพยาบาลกว่าจะกลับมาหอก็บ่ายจัด หลังจากนั้นพี่เมฆก็ยัง

ต้องลงไปด้านล่างเพื่อคุยกับเจ้าหน้าที่จากบริษัทประกันรถ

               ผมยืนมองเขาอยู่ห่างออกไป พี่เมฆที่คุยเรื่องความเสียหายของรถมีสีหน้าอิดโรยอย่างเห็นได้ชัด เขาขยับยกแขนขวาข้างที่

หักบ่อยๆคงเป็นเพราะปวดมาก คิ้วเข้มๆของพี่เมฆแทบจะชนกันจนกระทั่งเสร็จเรื่อง เจ้าหน้าที่ประกันขับรถของพี่เมฆไปไว้ที่อู่รถให้

ท่าทางที่คุยกับพี่เมฆดูนอบน้อมเหลือเกิน

               ผมเดินตามร่างสูงของพี่เมฆเข้าไปในลิฟท์เพื่อกลับห้อง พี่เมฆหลับตาลงและพิงหลังไปกับลิฟท์จนผมนึกเป็นห่วงอย่างบอก

ไม่ถูก


               “ปวดมากหรือเปล่าพี่เมฆ ปวดแผลที่ขมับหรือแขนที่หักล่ะ”


               เขาลืมตาขึ้นมามองพลางขยับปากจะพูดอะไรสักอย่าง แต่เมื่อสบตากับผมเขากลับเงียบไปเฉยๆ


               “อือ ปวดว่ะทั้งหัวทั้งแขนนี่แหละ”


               เป็นครั้งแรกที่พี่เมฆพูดกับผมด้วยน้ำเสียงที่ปกติที่สุด ไม่ยียวนหยิ่งยะโสหรือดูถูกเหยียดหยาม มันทำให้ผมสบายใจและมอง

พี่เมฆในแง่ดีขึ้นมาอีกสามสิบเปอร์เซ็นต์ขณะเดินตามหลังเขาออกจากลิฟท์กลับเข้าไปที่ห้อง


               “มีเรื่องยุ่งๆจนถึงตอนเย็น หิวหรือยังพี่เมฆ”


               โครกกก ครากกก


               ไม่ต้องถามซ้ำ เสียงท้องร้องดังลั่นออกมาเป็นคำตอบจนหน้าหล่อๆชักเปลี่ยนสี ผมต้องแอบยิ้มเพราะเริ่มเรียนรู้ว่าคนอย่างพี่

เมฆไม่ชอบให้ใครมองเป็นตัวตลก จากนั้นก็จัดแจงคว้าข้าวกล่องที่พี่พลซื้อมาไว้ให้วางลงบนโต๊ะตัวเล็กฟากหนึ่งของห้อง


               “พี่เมฆมากินข้าวจะได้กินยาแก้ปวดแล้วนอนพัก หน้าพี่ตอนนี้เหลือแค่สองขีดเองนะ”


               ไม่ดื้อแฮะ สงสัยหิวจัด


               เจ้าของห้องเดินมานั่งอยู่ตรงกันข้ามพลางจ้องมองอาหารในกล่องแล้วถอนหายใจเบาๆหนึ่งเฮือก สงสัยแม่งอยากกินซูชิ

มากกว่ากะเพราะไข่ดาวที่วางอยู่ตรงหน้า แต่พี่เมฆก็ใช้มือซ้ายคว้าช้อนมาตักข้าวเข้าปากในที่สุด

               เพราะไม่ถนัดมือซ้ายข้าวจึงเข้าปากช้าๆหกบ้างเลอะบ้างอย่างกับเด็กสามขวบตักข้าวกิน ไอ้มะตูมนั่งมองแล้วเกิดอาการทน

ไม่ไหวสิฮะ กว่ามึงจะกินหมดข้าวแม่งเกลื่อนโต๊ะแน่


               “ผมช่วยดีกว่า”


               คว้าช้อนจากมือซ้ายของพี่เมฆมาแล้วตักข้าวป้อนเข้าปาก พ่อเจ้าประคุณเหลือบตามองหนึ่งแวบก่อนจะอ้าปากรับข้าวไป

เคี้ยวตุ้ยๆแป๊บเดียวหมดกล่อง เมื่อเขาเคี้ยวคำสุดท้ายกลืนลงท้องจึงเอ่ยปากถามผม


               “แล้วมึงไม่กินหรือไงไอ้มะตูม มึงเองก็ยังไม่ได้กินอะไรเหมือนกูนี่”


               แหม เพิ่งจะสนใจกูนะครับพี่เมฆ ไม่เป็นไร กูยกให้พี่วันนึง อยากให้พี่เมฆกินอิ่มนอนหลับหายปวดก่อนแล้วผมค่อยจัดการตัว

เอง


               “เดี๋ยวค่อยกินก็ได้ ไม่ค่อยหิวเท่าไหร่หรอกน่า”


               “ไม่หิวก็ต้องแดก แดกเยอะๆด้วย เวย์โปรตีนที่กองอยู่ตรงโน้นน่ะแดกซะ อย่าลืมว่ามึงต้องทำน้ำหนักสร้างกล้ามเนื้อขึ้นมาอีก

สองกิโลนะ”


               อ้อ ที่แท้ห่วงเพราะเรื่องนี้

               น่า ช่างแม่ง ยังไงก็นับว่าห่วงนั่นแหละ

               ผมหยิบเม็ดยาแก้ปวดที่พิมพ์ฉลากหน้าซองว่ากินหลังอาหารทันทีมายื่นให้พี่เมฆกิน เขาก็ไม่อิดออดนะคงปวดจริงๆ


               “อาบน้ำแล้วนอนเลยไหม หน้าตาพี่เพลียระดับสิบเลเวล”


               พยักหน้าเห็นด้วย พี่เมฆเดินไปที่โต๊ะกระจกแล้วจึงคว้ากล่องเล็กๆที่วางอยู่ขึ้นมา


               “กูต้องถอดคอนแทคเลนส์”


               อ้าว พี่เมฆใส่คอนแทคเหรอเนี่ย ความรู้ใหม่


               เขาขยับยกแขนทั้งสองข้างถอดคอนแทคเลนส์อย่างเก้ๆกังๆโดยที่ผมไม่สามารถช่วยได้เลย กว่าจะถอดออกได้ทั้งสองข้างพี่

เมฆก็ต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่


               “ใส่คอนแทคไม่ถนัดเลย สงสัยช่วงนี้คงต้องใส่แว่นไปก่อน”


               ว่าแล้วก็ใช้มือคลำกล่องแว่นที่วางอยู่ไม่ไกลเพื่อคว้ามาใส่ พอพี่เมฆหันหน้ากับมาผมก็ขำพรืดจนกลั้นไม่อยู่


               “หัวเราะเหี้ยอะไรไอ้มะตูม”


               ไอ้ที่พี่พลเคยเล่าให้ฟังว่าพี่เมฆเคยเป็นเนิร์ดมาก่อนคงจะเป็นเรื่องจริง เมื่อตอนนี้ใบหน้าหล่อสาวกรี๊ดวัวตายควายล้มกลับมา

แว่นสายตาทรงกลมอันใหญ่ประดับอยู่ มันทำให้ประธานชมรมเทควันโดแสนเท่กลายเป็นไอ้หนุ่มหน้าจืดขึ้นมาทันที


               “ไม่มีอะไรพี่เมฆ ว่าแต่พี่มีแว่นอันอื่นอีกไหมเนี่ย”


               “ไม่มี ก็หลังจากเปลี่ยนไปใส่คอนแทคก็ไม่ได้ตัดแว่นใหม่อีกเลย อันนี้คืออันสุดท้ายตั้งแต่มัธยม”


               “สั้นเท่าไหร่อะพี่” ผมถามตอนที่กำลังเมียงมองความหนาของแว่น


               “สี่ร้อย”


               มิน่าล่ะ แว่นถึงได้หนาขนาดนั้น

               แต่บางทีผมว่าพี่เมฆใส่แว่นแบบนี้ก็น่ารักไปอีกแบบนะ

               ชิบหายละ นี่กูคิดว่าพี่เมฆน่ารักได้ไงวะ!


               “มึงจะมองหน้ากูอีกนานไหมไอ้เหี้ยมะตูม”


               ไอ้เหี้ยเพื่อนสนิทนำหน้าเรียกสติจนผมต้องยิ้มแหยและพุ่งตัวไปคว้าผ้าเช็ดตัวของพี่เมฆที่แขวนอยู่ที่ราวตากผ้าตรงระเบียง

มาส่งให้พี่เมฆ


               “เดี๋ยวสิ พี่พยาบาลคนสวยที่ห้องฉุกเฉินบอกว่าห้ามแผลที่หัวเปียกน้ำ เฝือกที่แขนก็ห้ามเปียกนะพี่เมฆ”


               “อาบน้ำมันก็ต้องเปียกไหมวะ บ้านมึงอาบน้ำไม่เปียกหรือไง”


               ผมชักย่นคิ้วใส่เมื่อพี่เมฆเริ่มกวนตีนผมอีกครั้ง


               “ไม่ได้ ไม่ได้ ถ้าแผลพี่เปียกมันก็หมักหมม พอแผลหมักหมมก็จะติดเชื้อ ติดเชื้อเสร็จพี่ก็อาจตายก่อนที่จะเห็นผมได้เหรียญ

ชิงแชมป์เปี้ยนโลกนะพี่”


               “กูว่าเอาให้ไม่โดนเขาเตะสลบที่งานชิงแชมป์ประเทศไทยก่อนไหม แล้วชิงแชมป์โลกค่อยว่ากัน”


               ดับฝันบรรเจิดของกูซะย่อยยับเลยครับไอ้พี่เมฆ ฮึ่ยย


               “ผมจะช่วยพี่อาบน้ำ”


               “มึงจะบ้ารึไง!”


               ถามสวนกลับมาเสียงดังลั่นห้อง พี่เมฆมองผมอย่างกับเห็นผีปอบ


               “กูแค่หัวแตกและแขนหัก กูไม่ได้เป็นง่อยนะ”


               “แต่มันก็ลำบากที่จะทำเองไง ในเมื่อตอนนี้มีผมช่วยแล้วพี่อย่าอิดออดให้มากเรื่องเลย ถอดเสื้อผ้าเดี๋ยวนี้”


               สีหน้าไม่ไว้วางใจยังไม่คลายลงไปจนผมชักจะโมโห


               “แค่ผมกดพี่ทีเดียวตอนเมาอย่าเอามาเป็นปมด้อยในชีวิตดิพี่ ตอนนี้สติพี่ก็ครบไม่เมาไม่แฮงค์แล้วผมจะไปทำอะไรพี่ได้ไง

ผมยังไม่อยากเป็นเป้าให้พี่ถีบเล่นตอนนี้หรอก ว่าไง จะถอดหรือไม่ถอด”


               “มึงมันเหี้ย”


               พี่จะต้องตอกย้ำทำไมนักหนาครับ กูรู้แล้วครับ

               พี่เมฆถอดเสื้อนักศึกษาที่ใส่ตั้งแต่เช้าออก ผมช่วยตอนที่แขนเสื้อติดเฝือก ไม่นานร่างสูงที่หน้าอกมีกล้ามแน่นๆก็เหลือแค่

ผ้าเช็ดตัวห่อไข่ เอ๊ย ห่อท่อนล่างไว้พลางสะบัดสะบิ้งเดินเข้าไปในห้องน้ำ


                “มานี่ผมช่วย”


               จัดแจงบีบยาสีฟันใส่ให้ก่อนยืนมองไอ้หน้าเนิร์ดยืนสีฟัน หลังจากนั้นควรจะเป็นหน้าที่ของผมที่ลงทุนมานอนที่นี่เสียที

               ขยับเข้าใกล้พี่เมฆแล้วดึงแว่นเนิร์ดออกวางไว้ ผมวักน้ำล้างหน้าให้พี่เมฆโดยไม่ให้แผลที่ไรผมเปียกน้ำก่อนจะบีบ    โฟม

ล้างหน้ากลิ่นผู้ชายใส่มือแล้วค่อยๆนวดไปที่ใบหน้าของพี่เมฆที่ยอมยืนนิ่งให้ผมได้ทำ ดวงตาที่จ้องมองมาทางผมคงจะมองอะไรไม่ชัด

แต่ความใกล้ชิดที่เกิดขึ้นมันเริ่มทำให้หัวใจของผมเต้นผิดจังหวะ

               ไม่ได้ ไอ้มะตูม นี่มึงกำลังหวั่นไหว

               ผมเรียกสติกลับมาพลางล้างโฟมออกด้วยน้ำเปล่า จากนั้นก็ถึงขั้นตอนสำคัญ


               “เอาผ้าเช็ดตัวออกสิพี่ ไปอาบน้ำกันได้แล้ว”


               “กูทำเองได้”


               หยิ่งอีกนะไอ้พี่เมฆ


               “เออๆ ผมรู้พี่เก่งแต่มือพี่จะยาวจนถึงถูหลังตัวเองได้ไหม อ้อ แล้วไอ้ที่ใส่เฝือกช่วยยกสูงๆด้วยครับพี่”


               พี่เมฆละล้าละลังแต่ก็ดึงผ้าเช็ดตัวโยนออกไปอีกทางเหลือแต่ตัวล่อนจ้อน เมื่อผมเห็นเต็มตาด้วยสติสัมปชัญญะเต็มเปี่ยมก็

ถึงกับกลืนน้ำลาย


               อื้อ ก็นะ


               “เอางี้ เดี๋ยวผมใช้ฝักบัดรดน้ำให้พี่ ข้างหน้าพี่ก็จัดการตัวเองไป ล้วงแคะแกะเกาก็เอามือซ้ายจัดการ ข้างหลังเดี๋ยวผมช่วย”


               ตกลงกันได้แล้วผมก็คว้าฝักบัวมาเปิดน้ำให้สายน้ำละเอียดรดลงไปบนตัวของพี่เมฆ คว้าขวดสบู่เหลวมากดใส่ฝ่ามือพ่อตัวดี

ให้ถูด้านหน้า ส่วนผมก็กดสบู่แล้วถูไปกับแผ่นหลังแน่นปั๋งของพี่เมฆ


               “ถ้าจับตูดกูมึงตายแน่”


               แหม กำลังจะทำเลยครับ


               อุตส่าห์มองไอ้สองลูกแน่นๆ กะว่าจะละเลงสบู่เสียหน่อยเสือกห้ามเสียก่อน ไม่งั้นไอ้มะตูมจะลองบีบเล่นว่าจะมันมือแค่ไหน


               “จะรีดไอ้จู๋อ๊ะป่าว ให้ผมช่วยก็ได้นะ”


               “เสือก!”


               นั่นล่ะฮะ ท่านผู้ชม

              ชอบข่าวมะตูมโดนด่า(ที่สุด)


               ผมทำปากขมุบขมิบแล้วใช้น้ำล้างสบู่ออกจนหมดก่อนจะหยิบผ้าเช็ดตัวมาเช็ดอย่างประชดประชัน แต่เมื่อเงยหน้ามองพี่เมฆ

อีกครั้งหัวใจก็เต้นตึกตักเมื่อเห็นเขาอมยิ้มน้อยๆ


               “เอ้า เสร็จแล้ว”


               “เดี๋ยว มะตูม”


               เสียงนุ่มไปไหมฮะ ผิดธรรมชาตินะครับคุณเมฆ


               “หยิบแว่นให้กูด้วย”


               พี่เมฆที่มีเพียงผ้าเช็ดตัวพันท่อนล่างกับแว่นตาอันโตและเฝือกที่แขนขวาเป็นเครื่องประดับเดินออกไปจากห้องน้ำ เขาเปิดตู้

เสื้อผ้าคว้าชุดนอนยับๆมาใส่ก่อนจะทิ้งตัวลงไปบนเตียงแล้วหลับตาพริ้ม อาจเป็นเพราะฤทธิ์ของยาแก้ปวดที่กินไปก่อนหน้าทำให้พี่เมฆ

หลับลงไปอย่างง่ายดาย เมื่อเห็นว่าพี่เมฆหลับแล้วผมจึงเริ่มจัดการตัวเอง กินข้าว อาบน้ำ และล้มตัวลงนอนเคียงข้างเขา

               ผมตะแคงตัวนอนใช้มือหนุนหัวตัวเองเพื่อจะมองพี่เมฆ ใบหน้าถือดียามหลับสนิทลมหายใจสม่ำเสมอกลายเป็นใบหน้าของ

ผู้ชายที่ไร้พิษสง คิ้วเข้มย่นเข้าหากันนิดหน่อยคงจะเป็นเพราะปวดแขน ผมจึงขยับแขนขวาของเขาแล้วให้หมอนรองข้างใต้ให้มันสูงขึ้น

เปลือกตาของพี่เมฆขยับไปมาก่อนจะปรือตาอย่างง่วงงุน


               “ขอบใจนะมะตูม”


               เสียงนั้นแผ่วเบาราวกับเสียงละเมอจนผมต้องจ้องมองคนที่หลับอยู่ด้วยจิตใจลิงโลด อย่างน้อยในจิตใต้สำนึกของพี่เมฆอาจ

จะไม่ได้เกลียดผมมากเท่าที่ผมคิดก็ได้

               ผมจ้องมองใบหน้านั้นแล้วหลับตาลงด้วยความอิ่มเอม







               ภาพแปลกตาในเช้าวันรุ่งขึ้นคืออดีตเดือนคณะรัฐศาสตร์ที่ตอนนี้เป็นประธานชมรมเทควันโดนั่งซ้อนมอเตอร์ไซค์คันเก่งของ

ผมเข้ามาในมหาวิทยาลัย เพราะพี่เมฆไม่มีรถยนต์ขับก็เลยต้องให้ผมแว้นมาส่งที่คณะของเขาก่อนที่ผมจะไปเรียนที่คณะของผม แถม

สภาพที่หนุ่มสุดหล่อใส่แว่นสายตาปิดบังใบเสียครึ่งหน้าก็กลายเป็นที่โจษจันกันในหมู่สาวๆโลกโซเชียลทันที


               “เลิกเรียนกี่โมงก็โทรหาผมนะ จะได้มารับไปชมรม”


               “เหี้ย ข้าวใหม่ปลามันกันนะพวกมึง”


               พี่พลที่เดินมาหาเพราะห่วงเพื่อนเอ่ยปากแซว พี่เมฆหันไปแยกเขี้ยวใส่แล้ววิ่งไล่เตะตูดพี่พลทำให้ผมนึกขำ ความจริงถ้าพี่

เมฆไม่เก๊กเขาก็เหมือนคนธรรมดาที่จับต้องได้อย่างเราๆนี่เอง

               หมดกังวลเรื่องพี่เมฆแล้วผมก็ขี่มอเตอร์ไซค์ไปคณะวิดวะ ผมเห็นไอ้ว่านนั่งอยู่กับพี่ริวและพี่ฝนเจ้าแม่สาววายอยู่ที่โต๊ะหิน

อ่อนใต้ต้นไม้ผมจึงเดินเข้าไปรวมกลุ่ม


                “แหมๆๆๆ เดี๋ยวนี้เป็นสารถีให้หนุ่มหล่อนะมะตูม”


               พี่ฝนเอ่ยปากแซวทันทีที่ผมหย่อนตูดนั่ง เมื่อผมทำหน้าเหรอหราผู้หญิงคนเดียวของโต๊ะก็ชูรูปในมือถือให้ดูทันที


               “ก็พี่เมฆคณะรัฐศาสตร์นั่งซ้อนท้ายไอ้แก่ของแกมาไม่ใช่เหรอ”


               “รถพี่เมฆเข้าอู่ ผมเลยอาสารับส่งช่วงนี้น่ะ”


               ไม่อยากบอกว่าขนเสื้อผ้าข้าวของไปอยู่ด้วยกันที่หอแล้ว เดี๋ยวคนงามปากลำโพงจะเอาไปขยายความอีก นี่แค่เรื่องไอ้ว่านกับ

พี่ริวเป็นแฟนกันพี่ฝนก็ตั้งตัวเป็นผู้สื่อข่าวประจำกลุ่มชายได้ชายคือนิพพานแล้ว ไม่อยากจะคิดเรื่องตัวเองกับพี่เมฆเลยว่าถ้าหลุดไปถึงหู

พี่ฝนจะเนื้อเต้นแค่ไหน


               “มึงก็เก่งนะไอ้มะตูม” พี่ริวมองผมอย่างนับถือ


               “ทำให้ไอ้คุณชายอย่างไอ้เมฆมันลดตัวมาติดดินได้”


               คุณชายเหรอ เท่าที่เห็นแล้วก็จริงอย่างที่พี่ริวพูด เพราะไม่ว่าจะเป็นเครื่องใช้หรือเสื้อผ้าของพี่เมฆเห็นธรรมดาเสื้อกล้าม

กางเกงขาสั้นแบบนั้นของแบรนด์เนมทุกชิ้นนะครับ ผมงี้โคตรอายไอ้กางเกงสามตัวร้อยของผมจริงๆ


               “ทำไมไปเรียกเขาคุณชายล่ะพี่ริว นี่แอบด่าพี่เมฆอีกแล้วอะสิ”


               ไอ้ว่านถามได้ดี ผมเองก็สงสัยที่พี่ริวพูด


               “นี่ไม่ได้ด่ามัน พูดเรื่องจริงนะเนี่ย อ้าว ไม่รู้กันเหรอว่าไอ้เมฆน่ะมันคุณหนูของแท้ ตระกูลของมันเป็นตะกูลของเจ้าผู้ครอง

นครสมัยก่อนโน้น แล้วตอนนี้พ่อของมันก็มาเล่นการเมืองท้องถิ่นไงล่ะ บ้านไอ้เมฆรวยอย่างกับพระราชวัง ว่างๆก็ลองให้มันพาไปสิ ถ้า

มันยังอยากจะกลับบ้านอยู่น่ะนะ”





มีต่ออีกนิด....

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-03-2016 23:17:01 โดย Belove »

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove


ต่อกันตรงนี้...



                 มันเป็นความรู้อีกเรื่องที่ต้องจดจำเอาไว้ แต่ผมก็ไม่ได้สนใจอะไรมากมายกับเรื่องอดีตของพี่เมฆมากกว่าเรื่องที่เขาบาดเจ็บ

และเรื่องเทควันโด พอถึงตอนเย็นผมก็ขี่มอเตอร์ไซค์ไปรับพี่เมฆที่คณะเพื่อไปที่ชมรม และวันนี้เป็นวันแรกที่พี่เมฆกับพี่พลช่วยกัน

วางแผนเรื่องการฝึกซ้อมและการขุนน้ำหนักให้ผม ผมก็เลยเหนื่อยแทบตายเมื่อเจอตารางซ้อมมหาโหด

               จนกระทั่งซ้อมเสร็จและแวะกินข้าวกันแล้วผมกับพี่เมฆจึงกลับมาถึงหอในตอนค่ำ พอมาถึงหน้าหอพี่เมฆก็มีสีหน้าเปลี่ยนไป

เมื่อเห็นรถยนต์หรูคันหนึ่งจอดอยู่ สีหน้าของพี่เมฆขรึมลงเมื่อก้าวไปยังรถยนต์คันนั้นที่มีผู้ชายวัยกลางคนใบหน้าคล้ายพี่เมฆรออยู่

               พี่เมฆยืนนิ่งเป็นฝ่ายรับฟัง ผมเดาจากรูปร่างหน้าตาก็น่าจะเป็นพ่อของพี่เมฆนั่นแหละ แม้จะไม่ได้ยินบทสนทนาแต่ผมมอง

ออกว่าพี่เมฆกดดันอยู่ไม่น้อยจากสีหน้าของเขาซึ่งผมก็ทำได้เพียงยืนลุ้นอย่างเป็นห่วง

               พักใหญ่กว่าพ่อของพี่เมฆจะก้าวขึ้นรถแล้วขับกลับไป พี่เมฆยืนซึมอยู่ที่เดิมจนผมต้องเดินเข้าไปหา


               “พี่เมฆ เป็นอะไรหรือเปล่า”


               ใบหน้าซึมกระทือหมดอาลัยตายอยากหันมามองผม พี่เมฆเม้มปากแน่นก่อนก้าวเดินนำขึ้นไปบนห้องพัก เขาทรุดตัวนั่งลงที่

ปลายเตียงแล้วทิ้งตัวลงไปนอนมองเพดานกรอกตาเป็นเลขแปดหัวคิ้วขมวดเข้าหากันจนหน้าย่น


               “พี่เมฆ หน้าย่นเป็นคนแก่เลยว่ะ”


               อยากจะถามว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ผมก็ยังรู้จักกาลเทศะว่าเป็นเรื่องในครอบครัวก็เลยไม่ได้เอ่ยปากถาม ทำได้แค่นั่งใกล้ๆแล้วยื่น

นิ้วโป้งกับนิ้วชี้ไปขยายรอยย่นตรงหัวคิ้ว


               “มะตูม” เสียงพี่เมฆดูเหนื่อยๆ เขาหันมาสบตากับผมก่อนจะหลับตาลง


               “มึงเคยรู้สึกกดดันมากๆกับคำว่าหวังดีของคนอื่นไหมวะ”


               ผมอึ้งกับคำถาม รู้สึกเหมือนเจอความกดดันถาโถมมาใส่พร้อมกับพี่เมฆ เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วจึงดันตัวเองลุกขึ้นมา


               “เฮ้อ อย่าสนใจเลยวะ กูก็ถามอะไรมึงไปเรื่อยเปื่อย เหนียวตัวว่ะอยากอาบน้ำแล้ว”


               เขาคว้าผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำ


               “มึงจะช่วยกูอาบน้ำหรือเปล่าไอ้เหี้ยมะตูม”


               ผมลุกขึ้นเดินตามแผ่นหลังนั้นไป อาการของพี่เมฆทำให้ผมนึกเป็นห่วง


               บางทีพี่เมฆอาจจะไม่ได้เข้มแข็งอย่างที่คนอื่นๆคิดก็ได้นะ



                                      TCB
 

              อ่านมาถึงตรงนี้ก็คงจะรู้จักพี่เมฆกันมากขึ้นแล้วเนอะ

               รักพี่เมฆกันเถอะน้า
                :sad4: :sad4:

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
มะตูมดูแลพี่เมฆอย่างดีเดี๋ยวพี่เมฆก็ใจอ่อน

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6

ออฟไลน์ van16

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 875
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
 :hao6: อยากอยู่ด้วยตอนมะตูมช่วยพี่เมฆอาบน้ำ :hao6:

ออฟไลน์ =นีรนาคา=

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2546
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +296/-6

ออฟไลน์ Kelvin Degree

  • ถ้าวันนั้นเลือกที่จะเดินออกไป คงไม่เจ็บมาจนถึงทุกวันนี้...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-2
มะตูมเข้าใกล้พี่เมฆอีกนิดละ

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove


                                                                 น้องมันบ้า หาเรื่องฟันพี่

                                                                          บทที่ 5

                                                             ทำไมพี่เมฆถึงทำกับผมได้ลงคอ               


               “ไอ้เวรมะตูม มึงทำเหี้ยอะไรไว้”


               หลังจากที่ผมมาเกาะพี่เมฆอยู่ในหอพักสุดหรูเว่อร์วังอลังการได้อาทิตย์นึงความสัมพันธ์ของเราก็ดีขึ้นครับ (เหรอ)

               เมื่อได้อยู่ด้วยกันหลายๆวันผมก็เรียนรู้ว่าพี่เมฆเป็นคนมีระเบียบ ข้าวของต้องวางให้ตรงที่ พอมีผมมาอยู่ด้วยพี่เมฆก็กลายเป็น

ตาแก่ขี้บ่นและชอบลงมือลงไม้กับร่างกายของผมเป็นประจำเวลาที่ผมทิ้งโน่นทิ้งนี่กองไว้ นี่ไม่รู้ว่าลืมไปแล้วหรือเปล่าว่าผมน่ะเป็นผัว

               ส่วนผมน่ะต้องอยู่ในสายตาของพี่เมฆตลอดเวลา พี่เมฆควบคุมแกมบังคับให้ผมกินแต่โปรตีนและคาร์โบไฮเดรต แถมยังจัด

ตารางซ้อมให้ผมจนหืดขึ้นคอ ถึงแม้ว่าแขนจะหักแต่พี่เมฆก็ยังฝึกผมได้แถมยังให้ผมซ้อมสู้กับพวกพี่ๆที่เขาเล่นกันมานานอีกด้วย จน

ตอนนี้คนให้ชมรมล้อกันใหญ่ว่าผมกลายเป็นศิษย์คนโปรดของประธานชมรม แหม สมควรจะยืดไหมล่ะ นี่ถ้ารู้ว่าผมควบอีกตำแหน่งนึงน่ะ

นะ คนในชมรมยิ่งต้องกราบตีนผมแน่ๆ

               วันนี้ครบเจ็ดวันแล้วที่เกิดอุบัติเหตุ ตอนกลางวันผมพาพี่เมฆไปตัดไหมแผลที่ขมับตามนัด แผลเรียบร้อยดีครับ ต้องชมผมนะ

ที่คอยดูแลจนแผลไม่ติดเชื้อ นี่ถ้าพี่เมฆไม่ได้ผมนะแผลเน่าตายไปนานแล้ว เนี่ย ต้องสำนึกบุญคุณกันบ้าง ไม่ใช่ไม่พอใจก็ใช้แต่กำลัง

ไอ้ผมน่ะไม่อะไรหรอกที่ไม่ตอบโต้เพราะไม่อยากทำร้ายคนพิการแขนหัก ฮ่าๆๆๆ

             พอตกเย็นเราก็ไปชมรมเพื่อซ้อมเทควันโดตามปกติและกลับหอพี่เมฆหลังกินอาหารเย็นแล้ว ผมก็รีบชิงเข้าไปอาบน้ำก่อน

เพราะเหนียวตัวจากคราบเหงื่อตอนซ้อม หลังจากนั้นก็มานอนพังพาบเล่นเกมเศรษฐีอยู่บนเตียงรอให้คุณพ่อเมฆที่เข้าห้องน้ำต่อเรียกให้

ไปช่วยหากจำเป็น อันที่จริงพี่เมฆก็ปรับตัวกับไอ้เฝือกที่กลายเป็นเครื่องประดับแขนได้แล้ว ผมก็ควรจะกลับหอตัวเองแล้วปะ แต่ทำไม

ไม่รู้ที่ทำให้ผมเกิดไม่อยากจะกลับ การได้อยู่กวนตีนพี่เมฆกลายเป็นความคุ้นชินในชีวิตประจำวัน แต่พี่เมฆก็ยังไม่ได้ไล่ผมด้วย เพราะ

ฉะนั้น ผมไม่กลับ!

                  แต่ตอนนี้ ผมควรจะรับมือกับเสียงตะโกนที่ดังออกมาจากห้องน้ำก่อนน่ะนะ ไม่รู้จะเอะอะเอ็ดตะโรทำไม


                “อะไรอีกล่ะพี่เมฆ”


                ผมทำเสียงเหนื่อยหน่ายตอบกลับ แค่ชั่วอึดใจพี่เมฆก็วาร์ปจากในห้องน้ำมายืนปลายเตียงค้ำหัวผมอยู่ด้วยสภาพนุ่ง

ผ้าเช็ดตัวผืนเดียว


               “มึงทำเหี้ยอะไรไว้ที่ผนังห้องน้ำ”


               กระพริบตาปริบๆนึกว่าตัวเองทำเหี้ยอะไรไว้สิครับ เมื่อพอจะนึกออกก็ตีหน้าซื่อหัวเราะแหะๆออกมา


               “อ๋อออ ตะกี้เผลอปล่อยลูกๆออกมาชมโลกแรงไปหน่อยน่ะพี่”


              ก็ แหม ฮอร์โมนวัยพลุ่งพล่านนี่ครับ รีดแป๊บเดียวก็พุ่งออกมาจนลูกๆนับล้านตัวของผมรดอยู่กับผนังห้องน้ำแสนงดงาม แล้ว

ทีนี้ลืมเอาน้ำล้างออกไง


              “สัส”


              เน้นๆชัดถ้อยชัดคำ


              “แล้วทำไมมึงไม่ล้างออก ปล่อยเป็นคราบติดผนังแบบนั้น ใครจะล้าง”


             “พี่เมฆก็ล้างให้หน่อยไม่ได้ไง้ ตัวเองเป็นเมียนะก็ต้องดูแลผัวบ้าง นี่อะไร ให้ผัวทำให้ทุกอย่าง ซักผ้า ล้างจาน ขัดตูด อ๊ะ เหี้ย

พี่เมฆ ทำอะไร”


              ตกใจจริงๆเมื่อพี่เมฆทำหน้าถมึงทึงจนแว่นที่ใส่อยู่กระดิกริกๆอยู่บนดั้งจมูก พี่เมฆกระโจนขึ้นมาบนเตียงคร่อมอยู่บนตัวผม เขา

ใช้เฝือกปูนค้ำคอผมไว้จนดิ้นไม่หลุด


             “กูรำคาญปากมึงชิบหายไอ้มะตูม พูดมากปากพล่อยที่สุด กูพลาดให้มึงแค่ครั้งเดียวเพราะกูเมาแต่มึงเสือกเอามาเป็นเยาะเย้ย

จนกูทนไม่ไหว”


            “พะ พี่เมฆ ปล่อยผมก่อน หะ หายใจไม่ออก แคกๆ”


            พี่เมฆทับผมไว้ทั้งตัว เฝือกก็ค้ำอยู่ตรงคอจนหายใจไม่ออก แต่ตอนนี้เหมือนพี่เมฆจะโมโหจนหยุดไม่อยู่ไปแล้ว


           “กะแค่ผมว่าวใส่ผนังห้องน้ำ ไม่เห็นต้องโกรธขนาดนี้เลย”


             ไม่รู้ว่าที่ผมเข้าใจมันถูกต้องหรือเปล่า แต่แค่เรื่องนี้จะทำให้เขาฆ่าผมแล้วแล่เนื้อเป็นชิ้นยัดใส่ชักโครกหรือไม่ เราต้องติดตาม

กันต่อไปนะครับคุณผู้ชมครับ


            “เหี้ยเอ๊ย โง่จนกูจะเรียกว่าควายกูยังสงสารควาย แค่ว่าวใส่ผนังห้องน้ำเหรอ แค่ฮอร์โมนวัยพลุ่งพล่านเหรอ พลุ่งพล่านนักใช่

ไหม ได้ กูจะจัดให้มึงจนหายพลุ่งพล่านเลยไอ้เหี้ยมะตูม”


              กรี๊ดดด

             เหี้ยจริงๆแล้วไง!


            ไอ้ที่หายใจไม่ออกเพราะถูกเฝือกกดตรงคอตอนนี้ก็ยิ่งหายใจไม่ออกหนักเข้าไปอีกเมื่อพี่เมฆกดหน้าลงมาจูบปากของผม มัน

แรงจนเจ็บรอบปากไปหมดแต่ไอ้โหดก็ไม่ปรานีสักนิด ผมพยายามผลักพี่เมฆออกไปแต่เพิ่งจะรู้เดี๋ยวนี้เองว่าเขาแข็งแกร่งมากจากการ

ออกกำลังกายมานาน และชั้นเชิงของพี่เมฆมีมากกว่าที่ผมคิดไว้

               เขานอนทับแขนข้างหนึ่งของผม และกดน้ำหนักลงไปด้วยร่างกายของเขา มือของพี่เมฆอีกข้างก็ยึดมือของผมแน่นหนายิ่ง

กว่ากาวตราตุ๊กแก และพอผมพยายามจะใช้แขนข้างนั้น พี่เมฆก็จัดการดึงแขนของผมให้สอดเข้าไปที่เอวของผมเองและใช้น้ำหนักตัว

ผมเองนี่แหละกดทับลงไป กลายเป็นว่าตอนนี้ผมไม่มีทางต่อสู้ได้เลย และด้วยอากาศที่ใกล้จะหมดทำให้ผมผวาอ้าปาก ทันใดนั้นไอ้งู

ร้ายชื่อพี่เมฆก็ฉกลิ้นตามเข้ามาทันที

              พี่เมฆดึงแว่นสายตาแสนเกะกะของตัวเองแล้วเหวี่ยงทิ้ง ลิ้นของพี่เมฆตอนกวาดต้อนให้ผมจนมุมแม่งโคตรเชี่ยว และมันกำลัง

ทำให้ผมถึงกับเคลิ้มโดยไม่ได้ตั้งใจเมื่อเผลอตวัดลิ้นสู้ ช่วงล่างตอนนี้กำลังถูกโจมตีด้วยการทิ้งตัวกดทับให้ไอ้น้องชายถูกบดเบียดจาก

เอวของพี่เมฆ ทุกอย่างที่เขาทำอยู่ทำให้ผมสติกระเจิดกระเจิง


               “อื้อ อึก อี้เอ้ก อ่า อีบ แอง” (พี่เมฆอย่าบีบแรง ...คนแต่งแปลให้ หุหุ)


              สะดุ้งสุดตัวเมื่อไข่โดนบีบ พี่เมฆกำมันไว้ทั้งอุ้งมืออยู่นอกบอกเซอร์บางๆที่ผมใส่อยู่ เขาเค้นมือคลึงอยู่แป๊บนึงก็เลื่อนมาที่ไอ้

น้องชายสุดหล่อแล้วบี้หัวรบทันทีทันใด


              “อ๊างงงง”


             หมดฤทธิ์เหมือนปิดก๊อกเลยสิครับงานนี้ ผมได้แต่ระทดระทวยอย่างกับขี้ผึ้งถูกไฟลน ได้ยินเสียงพี่เมฆหัวเราะอยู่ในลำคอให้

เจ็บใจเล่นเมื่อเขายอมปล่อยปากของผมแต่ไม่ยอมปล่อยส่วนอื่น พี่เมฆงับลงไปที่ซอกคอจนผมผวา


              “พี่เมฆคร้าบ พี่เมฆจ๋า อย่าทำผมเลย”


              อ้อนวอนเสียงอ่อนระโหยโรยแรงเมื่อทำท่าว่าจะไม่รอดแน่แล้วงานนี้ พี่เมฆกดน้ำหนักลงไปที่หว่างขาของผมแล้วแหกขา

กางเกงบอกเซอร์ออกโดยที่ไม่รอถอดออกด้วยซ้ำ ส่วนพี่เมฆน่ะเหรอ ไอ้ผ้าเช็ดตัวผืนปะติ๋วนั่นมันหลุดออกไปนานแล้วครับ และไอ้ปลา

ช่อนปลาชะโดของพี่เมฆก็กำลังจ่ออยู่ที่ตูดของผม


             “เสียใจว่ะมะตูม”

       
             พี่เมฆตอบมาด้วยเสียงสั่นๆให้ผมร้าวราน


             “กูก็กำลังพลุ่งพล่านยิ่งกว่ามึงอีก ยอมกูเถอะนะมะตูม อย่าให้ถึงขั้นเสียเลือดเสียเนื้อกันเลย”


             พูดจบก็บีบน้องชายผมเสียอีกหนึ่งทีแต่คราวนี้ไม่ยอมผ่อนน้ำหนักมือแล้วครับ พี่เมฆดึงมือชักเย่อไอ้น้องชายผมอย่างเมามัน

จนผมถึงกับสูดปาก พี่เมฆใช้คางร่นขอบแขนที่เว้าโค้งของเสื้อยืดตราห่านที่ผมใส่อยู่จนเห็นร่องอกแล้วเขาก็งับหัวนมของผมเข้าไปทึ้ง

เล่น


                “เหี้ยเอ๊ย ไอ้พี่เมฆ กูยอมแล้วครับ มึงจะทำอะไรก็ทำเหอะ”


                ผมตะโกนลั่นอย่างร้าวรานที่ต้องตกเป็นเบี้ยล่างของชายโฉด ฮือๆ แต่คิดว่าจะทำให้พี่เมฆยอมอ่อนข้อให้เหรอครับ

                โนเวย์!


               “จ๊ากกก พี่เมฆ กูจะฆ่ามึงงง”


             สะดุ้งสุดตัวเมื่อปลาชะโดตัวใหญ่แทงทะลุเข้ามาให้ข้องน้อยของผม เจ็บจริงๆให้ดิ้นตาย ถึงขั้นน้ำตาไหลพรากของแท้ พี่เมฆ

ที่กำลังพยายามจะกดมันเข้าไปถึงกับหงุดหงิดงุ่นง่าน คราวนี้เขายอมมองหน้าของผมเสียที


            “อย่าเกร็งสิวะ กูอุตส่าห์ออมแรงแล้วเนี่ย”


             ออมเหี้ยอะไร ตูดกูกำลังจะฉีกอยู่แล้ว


             เขาโน้มใบหน้าลงมาแล้วจูบผมอย่างนุ่มนวลกว่าครั้งแรก เอวหยุดขยับเพื่อรอให้ผมปรับสภาพได้ และตอนนี้ผมก็กำลังเงยหน้า

รับจูบ พี่เมฆใช้มือข้างที่ใส่เฝือกช้อนเข้าใต้คอของผมให้จูบของเราบดเบียดรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ มืออีกข้างลูบคลำไปตามเนื้อตัว เดี๋ยวก็

เลื้อยเข้าไปในเสื้อกล้ามสีขาวตุ่นเดี๋ยวก็ลงไปบีบไอ้น้องชายของผมให้ยอมจำนน พี่เมฆกำลังทำให้ผมจนมุมถึงขึ้นหอบลึกและยินยอม

ให้เขากดเอวเข้ามามากขึ้นเรื่อยๆ และในที่สุด...


              “เหี้ย กว่าจะสุด”


               เขาสบถอยู่ในลำคอเมื่อดันส่วนกว้างที่สุดผ่านเข้ามาได้ แม้จะอยู่ในห้องแอร์เย็นฉ่ำแต่เหงื่อของพี่เมฆก็ชื้นเต็มแผ่นหลัง แต่

ผมรู้ได้ไงเหรอ อ้าว ชิบหายละ นี่ผมเผลอยกแขนกอดพี่เมฆตั้งแต่เมื่อไหร่?


            “พี่เมฆ เบาๆนะ”

     
             “เออ กูรู้แล้วน่า”


              ร้องขอชีวิตจนพี่เมฆชักจะสงสาร เขาขยับแยกขาของผมออกให้กว้างเพื่อรับท่วงท่าที่กำลังจะเริ่มต้น ผมนิ่วหน้าเมื่อมันถูกดึง

ออกมาเสียครึ่งค่อนแล้วกดคืนเข้ามาอย่างรวดเร็ว


             “อื้อ พี่เมฆ”


               กัดฟันรับเมื่อมันเสียดสีกันจนรู้สึกร้อนวูบวาบ ทั้งเจ็บทั้งเสียวจนไม่รู้ว่าจะครางหรือจะร้องไห้ดี พี่เมฆก้มหน้ามาจูบอีกครั้ง

พร้อมกับยกเอวของผมเพื่อรับกับความสั่นสะเทือนระดับเก้าจุดแปดริกเตอร์ ตอนนี้แหละครับที่สึนามิถาโถมจนผมเริ่มจะต้องขยับสวนไป

บ้าง


                “เหี้ย ไอ้มะตูม เสียวชิบ”


               ตับ ตับ ตับ แชะ แชะ แชะ

               นี่ผมกับพี่เมฆไม่ถูกกันอยู่ไม่ใช่หรือไงวะ

              แต่ทำไมตอนนี้เราทั้งสองคนถึงได้เข้ากันได้ดีเหลือหลายเมื่อความเจ็บปวดหายไปทิ้งไว้แต่ความต้องการที่จะไปให้ถึงเป้า

หมาย พี่เมฆแม่งก็พุ่งชนไม่ยอมหยุดในขณะที่ผมเองก็ไม่ยอมนอนนิ่งเฉย ผมกอดก่ายพี่เมฆเป็นลูกลิงเมื่อร่างกายกำลังจะแตก


             “อ้างงง พี่เมฆ มันโคตรๆ ขอตรงนั้นแจ่มๆเลยพี่”


               ผมปรือตาขมวดคิ้วจือปากด้วยความเสียว พี่เมฆเห็นดังนั้นก็ซอยเอวไม่ยั้ง แข็งแกร่งเกินไปแล้วครับไอ้พี่เมฆ


              “ไอ้มะตูม กูจะทำให้มึงรู้ว่าสวรรค์มีจริงโว้ย”


                ตะโกนใส่หน้าส่งเสียงดังลั่นห้องก่อนจะกระซวกเข้ามาจนผมหน้ามืด น้ำคาวทะลักออกมาทันทีแม้ว่าจะเพิ่งรีดตัวเองออกไป

ในห้องน้ำก่อนหน้าถูกปล้ำ เมื่อพี่เมฆเห็นผมตาลอยคว้างเขาก็หัวเราะอย่างย่ามใจ เขาถือโอกาสตอนผมยังมึนจับผมกพลิกคว่ำทันที


              “หะ เหี้ยอะไรอีกวะ พี่เมฆ”


             ผมอุทานอย่างตกใจ พี่เมฆก้มหน้าลงมากระซิบข้างหู


            “กูยังไม่หายพลุ่งพล่านเลย ขออีกยกนะโว้ย มะตูม”


             สายตาสั้นสี่ร้อยแต่ไอ้เรื่องลูบๆคลำๆทำไมมันโดนจังวะ หรือเพราะกิจกรรมเข้าจังหวะมันไม่ต้องอาศัยสายตา พี่เมฆดึงให้ก้น

ผมลอยสูงแล้วเขาก็จัดการผมต่อ ขนาดว่าแตกไปแล้วเขาก็เสือกปลุกผมได้อีกรอบ


             “โอย พี่เมฆ สุดๆ”


               ครางอยู่กับหมอนที่ซุกหน้าลงไปเมื่อบั้นท้ายถูกโจมตีขนานใหญ่ พี่เมฆสอดมือมาปลุกปั่นไอ้น้องชายของผมให้สู้มือจนมัน

แตกอีกครั้ง คราวนี้เขาจึงกระแทกมาไม่มียั้งก่อนที่ผมจะอุ่นวาบอยู่ในช่องทางเมื่อพี่เมฆดึงออกมาไม่ทัน ได้ยินเสียงคำรามต่ำดังแว่วมา

แต่ตอนนี้ผมหมดแรงทุกสิ่งอย่างแล้วแม้แต่ตอนที่พี่เมฆดึงปลาชะโดออกมาจนน้ำหกเรี่ยราด

               ผมคว่ำหน้าอยู่กับหมอน รู้สึกถึงแรงยวบด้านข้างเมื่อพี่เมฆทิ้งตัวลงมานอนเคียงข้าง เขาคว้าแว่นสายตาที่เหวี่ยงทิ้งอยู่บน

เตียงขึ้นมาใส่จนกลายเป็นเด็กเนิร์ดอีกครั้ง

              เนิร์ดเหี้ยอะไร ตะกี้ล่อกูโครมๆ!

                ผมตวัดสายตาด่าเพราะไม่มีแรงจะพูดอะไรอีกแล้วนอกจากหอบหนักๆพี่เมฆมองหน้า สบตา แม่ง อย่ามาทำตาพราวใส่กูครับ

กูไม่ถูกกับมึง


               “มะตูม”


               อย่ามา...

              ทำกระแดะจับคางกูเล่นทำไมครับ


               “ถ้ารู้ว่าเอามึงแล้วมันแซบแบบนี้ กูคงไม่ปล่อยมึงไว้เป็นอาทิตย์หรอก”


                กวนตีน


               ผมยกเท้าขึ้นมาหวังจะถีบไอ้คนที่กำลังดึงผมไปกอด แต่พอยกเท้ามารูก็ระบมทันที


              “โอ๊ย!”


                เจ็บจี๊ดถึงใจ ไอ้ที่เคยล้อเลียนไอ้ว่านไว้ตอนที่มันตกเป็นของพี่ริวใหม่ๆกลับมาตกเป็นของผมแล้วทีนี้ ผมใช้มือคลำตูดตัวเอง

อย่างเจ็บใจ

                 แล้วตอนเช้ากูจะขี้ยังไงวะ


                 “ทำไมพี่ถึงทำผมได้ลงคอ พี่เมฆ พี่เกลียดขี้หน้าผมมากนักหรือไง”


                  ประท้วงพลางผลักแม่งออกจากตัว ไม่ต้องมายุ่งกับกูเลยครับ แต่ยิ่งผลักไอ้พี่เมฆแม่งก็ยังเฉยแถมยังยิ้มอย่างที่ผมไม่เคย

เห็นมาก่อน


                  “เฮ้อ มะตูม มึงนี่ก็นะ คนเกลียดกันเขาเอากันขนาดนี้เลยหรือวะ”


                  แล้วไงอะ พูดแบบนี้หมายความว่าไง


                “บางทีกูก็นึกว่ามึงโง่ แล้วมึงก็โง่จริงๆนั่นแหละ”


                อ้าวยิ่งพูดกูยิ่งโง่มั้งเนี่ย


                 “ไปอาบน้ำดีกว่า เหนียวตัวจัง”


                พี่เมฆยิ้มพราวให้ผม แถมยังหยิกแก้มผมอีก ไปไป๊ จะไปไหนก็ไป


               “ผัวไปอาบน้ำก่อน และจะมาช่วยเมียอาบน้ำนะเมียนะ ฮ่าๆๆ”


               ไปแล้วครับ เดินอวดปลาชะโดเข้าห้องน้ำไปแล้ว ทิ้งผมให้พลิกกลับมานอนหงายตามองเพดาน

               ตกลงกูจะเป็นผัวหรือกูจะเป็นเมีย

               คิดแล้วกลุ้ม

              ผมคว้าหมอนมาปิดหน้าเพราะไม่อยากจะคิดอะไรอีกแล้ว พี่เมฆนะพี่เมฆ ทำผมลงคอได้ไงวะ ฮึ่ยยย
   
                     TBC


สมน้ำหน้าอีมะตูม

ชอบแหย่เสือ วะ ฮ่ะ ฮ่า

 :laugh: :laugh: :laugh:

โปรโมทนิยายใหม่จ้า

แนวเทพอียิปต์นะ ใครสนใจอ่านกันได้เลย
     
อนูบิส จ้าวแห่งแดนมรณะ

           
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-03-2016 19:37:05 โดย Belove »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :oo1:   มะตูมจ๋าแบบไหนถึงใจกว่าล่ะจ๊ะ

ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ kms

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-14

ออฟไลน์ jillongame

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 65
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
 o18 เหอะ สะใจอีช้อยนัก เหอะๆ อืมพลัดกันหนุกดีน่าอิอิ หรือจะกลายเป็นแบบนี้ตลอดไปดีน่า แต่ท่าทางพี่เค้าจะรุกเก่งนะอิอิ

ออฟไลน์ Kelvin Degree

  • ถ้าวันนั้นเลือกที่จะเดินออกไป คงไม่เจ็บมาจนถึงทุกวันนี้...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-2

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ =นีรนาคา=

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2546
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +296/-6

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8

ออฟไลน์ ordkrub

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-12

ออฟไลน์ Apple_matinie

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1564
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove


                                                         น้องมันบ้า หาเรื่องฟันพี่

                                                                    บทที่ 5

                                                     คนไม่ถูกกันเขาทำกันแบบนี้เหรอ               


               เดินผิวปากหวือนัยน์ตาใสวิ้งออกมาจากห้องน้ำเลยนะครับ ไอ้เหี้ยพี่เมฆ

               ผมขมุบขมิบปากแอบด่าเมื่อร่างสูงของพี่เมฆเดินออกมาจากห้องน้ำพร้อมกับผ้าเช็ดตัวผืนเดิมที่เกาะเกี่ยวหมิ่นเหม่ อยู่ตรง

เอว แว่นตาอันโตเปียกหยดน้ำอยู่นิดหน่อยตอนที่เขามองมาทางผมอย่างเวทนา ใช่สิ กูยังลุกไม่ขึ้นเลยครับ


               “ไหวไหมวะมะตูม”


               ถามหาพ่องงง


               “กูช่วยดีกว่า”


               พี่เมฆเดินมาที่เตียง เขาดึงแขนให้ผมลุกนั่ง ผมงี้หน้าเหยเกยิ่งกว่าตอนเริ่มซ้อมเทควันโด้ใหม่ๆเสียอีก


               “ไม่ต้อง ผมไหวน่าอย่ามาดูถูก จ๊าก ตูดกู”


               พอลุกนั่งเท่านั้นแหละความเจ็บระบมก็มาเยือนทันที พี่เมฆที่เท้าเอวมองอย่างระอาในความดื้อของผมหลุดยิ้มออกมาเมื่อเห็น

สภาพย่ำแย่


               “แค่นั่งยังไม่ไหว มานี่ ขี่โก่งกูไปล้างในห้องน้ำ”


               ว่าแล้วคนหยิ่งผยองอย่างพี่ก็เมฆกลับหันหลังย่อตัวให้ผม ไอ้ผมก็อึ้งสิครับเมื่อเจอมุกนี้ ใครจะนึกว่าในชีวิตจะมีโอกาสได้ทำ

เช่นนี้กับคุณชายในตระกูลเจ้าอย่างพี่เมฆ ผมจะเก็บเรื่องนี้ไปเล่าให้เป็นเกียรติเป็นศรีแก่วงศ์ตระกูลแน่ๆ

               พี่เมฆให้ผมขี่หลังเข้าไปในห้องน้ำแล้ววางผมลงที่ชักโครก เขาทำท่าคว้าสายยางจะมาชำระล้างคราบคาวและคราบเลือดที่

กรังอยู่ให้ผม ผมรีบหยุดมือนั้นไว้ด้วยความละอาย


               “พี่เมฆ ให้ผมทำเองดีกว่า”


               พี่เมฆเงยหน้ามาสบตา ดวงตาที่มองผ่านเลนส์แว่นทอแสงอบอุ่นเป็นครั้งแรกที่ผมเคยเห็น มันทำให้ผมตะลึงจนไม่อยากละ

สายตา


               “กูล้างให้มึงเอง ไอ้ที่มึงเป็นงี้ก็เพราะฝีมือกูนี่หว่า แล้วกูจะได้ตอบแทนมึงด้วยที่มึงมาช่วยกูตอนที่กูเจ็บ”


               แมนไปแล้วม้างพี่เมฆ


               ก็เพราะมัวแต่ตะลึงนั่นแหละพี่เมฆจัดแจงล้างตัวให้ผมจนสะอาดเอี่ยมอีกรอบ จากนั้นเขาก็ให้ผมขี่หลังกลับมาที่เตียงแล้วใส่

บอกเซอร์กับเสื้อกล้ามคืนให้ ผมที่ยังปรับสภาพไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้แต่นอนกรอกตาแล้วพูดในสิ่งที่คิด


               “พรุ่งนี้ผมจะกลับไปนอนหอผม”


               พี่เมฆที่ใส่ชุดนอนยืนหวีผมอยู่หน้ากระจกชะงักมือทันที เขาหันขวับมามองด้วยตาดุ


               “ทำไมต้องกลับไปหอมึงด้วย”


               ดุกูทำเหี้ยอะไรครับ ก็พี่ปล้ำผมนะโว้ย


               “เราไม่ถูกกันไม่ใช่หรือไง พี่ไม่ชอบหน้าผมที่ผมมาวุ่นวายกวนใจพี่ ผมก็จะกลับแล้วพี่ควรจะดีใจสิ”


               พี่เมฆเหวี่ยงหวีไว้ที่โต๊ะกระจกแล้วก้าวอาดๆมาที่เตียง เขาล้มตัวลงนอนและดึงให้ผมตะแคงตัวมาเผชิญหน้ากับเขา เรา

สบตากันพักหนึ่งก่อนที่พี่เมฆจะยิ้มขำ

               ขำพ่องงง กูไม่ใช่เท่งเถิดเทิงนะไม่ต้องขำเลยครับ


               “มึงแหยงกูใช่ไหมไอ้มะตูมที่กูฟันมึงตะกี้แทนที่มึงจะได้ฟันกูอย่างที่มึงวางแผนมาเกาะกูอยู่ที่นี่”


               ฉึก!

               แทงใจดำ

               พี่เมฆหลุดหัวเราะเป็นครั้งแรก วันนี้มันเป็นวันอะไรวะ ครั้งแรกตลอด พูดดีกับกูครั้งแรก ยิ้มให้กูครั้งแรก หัวเราะครั้งแรก แถม

กูยังเสียซิงครั้งแรกอีกต่างหาก


               “ถ้ากูไม่ให้มึงกลับไปล่ะ”


               ถ้าไม่รักอย่ารั้ง อย่าให้ความหวังด้วยการหักหลังตอบแทนใจ เอ้า...ซู้ดด...เพลงมา


               “แล้วทำไมผมจะกลับไม่ได้ล่ะ พี่ก็น่าจะดีใจสิที่ไม่ต้องมีใครอยู่กวนตีนพี่อีกแล้ว”


               เฮ้ย นี่ผมกำลังตัดพ้อเขาอยู่ใช่ไหมเนี่ย เกิดอะไรขึ้นฮะท่านผู้ชม


               พี่เมฆนิ่งมอง มือที่ไม่ได้ใส่เฝือกเอื้อมมาวางอยู่ตรงหลังเอวของผม รู้สึกอบอุ่นแปลกๆแฮะ


               “อย่าลืมว่ามึงต้องอยู่ในสายตาของกูจนกว่าจะไปแข่งชิงแชมป์ประเทศไทย และที่สำคัญ กูว่าการที่มีมึงอยู่กวนตีนกูแบบนี้

ทำให้กูหายเหงาดีนะ เพราะฉะนั้นกูไม่ให้มึงไป”


               คิ้วเข้มของเขาเลิกขึ้นแบบเท่ๆ แถมน้ำเสียงยังนุ่มเกินกว่าที่ผมจะคัดค้านได้อีก และเมื่อใบหน้าของเราใกล้ชิดกันหัวใจของ

ผมแม่งก็เสือกรัวซะเร็วเลย ห่านจิก!


               “งั้นมาทำข้อตกกลงกันใหม่ ถ้าพี่จะให้ผมอยู่กับพี่ ห้ามพี่แม่งจับผมกดอีก พี่ก็รู้ว่าการที่ผมตูดแหกบ่อยๆมันมีผลต่อการซ้อม

นะพี่ และถ้าผมซ้อมไม่ได้บ่อยๆผมจะชนะได้ไง”


               เขามองจนผมชักเขิน นี่กำลังสงสัยว่าตัวเองเป็นอะไรกันแน่ถึงได้หน้าร้อนวูบๆชอบกล ยิ่งเวลาพี่เมฆค่อยๆคลี่ยิ้มพร้อมกับ

ดวงตาวาววับนั่นอีก ผมชักไม่กล้าสบตาด้วยแล้วนะ


               “ก็ได้ กูสัญญา”


               แถมยังยื่นนิ้วก้อยขึ้นมา ทำอย่างกับผมเป็นเด็กน้อย โถ่ ไอ้พี่เมฆ

               แล้วกูยกมือไปเกี่ยวก้อยด้วยทำไมวะเนี่ย


                “ใครผิดสัญญาเป็นลูกหมาด้วย”


               ผมสะบัดมือหนีแล้วพลิกตัวหันหลังให้เขาพร้อมกับหลับตาลง ได้ยินเสียงพี่เมฆเดินไปปิดไฟจนห้องมืดมิดและแรงยวบของ

ที่นอนเมื่อเขากลับมาทิ้งตัวนอนเคียงข้างอย่างเช่นทุกคืนที่ผมมาอาศัยพี่เมฆอยู่ แต่คืนนี้มันมีอะไรที่พิเศษกว่านั้นเมื่อมีวงแขนหนาสอด

มาที่เอวและรั้งให้ผมเข้าไปอยู่ใกล้จนชิดกับแผงอกหนาของพี่เมฆ

               ไม่กล้าเขยิบออกห่างเพราะมันไม่ได้จาบจ้วงแต่กลับทำให้ผมต้องแอบยิ้มอยู่ในความมืด และความอ่อนเพลียที่ผ่านศึกหนัก

ทำให้ผมเคลิ้มหลับอย่างรวดเร็ว

               รู้สึกถึงสัมผัสเบาๆที่แก้มตอนครึ่งหลับครึ่งตื่นพร้อมเสียงกระซิบข้างๆหูก่อนที่สติของผมจะปิดลงในคืนนี้


               “หลับซะ ไอ้ตัวกวนตีนของกู”
               





               ร้าวระบมไปจนถึงตอนเช้าสิครับ คือมันเดินได้แต่ก็เสียวก้นกบโดยเฉพาะเวลาที่ซ้อนมอเตอร์ไซค์ที่วันนี้พี่เมฆกลายเป็นคนขี่

มาส่งผมที่ตึกเรียนรวม ผมเดินกระย่องกระแย่งเข้าไปในห้องเรียนที่ไอ้ว่านนั่งอยู่ก่อนแล้ว เมื่อผมทรุดตัวลงนั่งข้างมันพร้อมกับท่าทาง

แปลกๆ ไอ้เพื่อนเหี้ยจ้องมองผมด้วยสายตาของผู้อาบน้ำร้อนมาก่อนอย่างโชกโชน


               “ว่าไงเพื่อนมะตูม”


               กูละเกลียดสายตารู้ทันของมึงซะจริง ไอ้เพื่อนสารเลว


               “โดนฉมวกแทงตูดมาเหรอ”


               เหี้ย!


               “จะสารภาพเลยไหม หรือจะให้กูต้องตั้งคำถามกับจำเลยก่อน”


               “สัสว่าน มึง เออ ชิบหายนี่อย่าย้ำให้กูเจ็บกว่านี้จะได้ไหม”


               ไอ้เหี้ยว่านทำตาโตยกมือปิดปากหัวเราะคิกๆ เห็นแล้วอยากจะยกตีนถีบจริงๆถ้าไม่ติดว่าตูดระบมอยู่


               “เฮ้ย มันยังไงวะ ก็ตอนแรกมึงไปปล้ำเขาเพราะเมาแล้วมึงก็วางแผนจะไปปราบเขาให้ได้ไม่ใช่เหรอ แล้วนี่ยังไง ทำไมกลับ

ไปเสียท่าพี่เมฆได้ล่ะ สมน้ำหน้าว่ะ ฮ่าๆๆ”


               ผมยกมือผลักหน้าไอ้ว่านอย่างหมั่นไส้


               “อย่าตอกย้ำให้มาก คนอย่างไอ้มะตูมนะโว้ยเสียท่าก็ยอมรับว่าเสียท่า ก็แม่งพอไม่เมาไม่รู้เอาเรี่ยวแรงมาจากไหน กูแค่แม่ง

เผลอว่าวใส่ผนังห้องน้ำหน่อยเดียว มึงคิดดูสิเหี้ยว่าน โทษทัณฑ์ที่ได้รับมันถึงขนาดนี้เลยเหรอวะ ฮะ มึงตอบกูซิ”


               ผมดราม่าใส่ไอ้ว่านที่ยังนั่งขำกับการสูญเสียพรมจรรย์ของเพื่อนสนิทอย่างผมไม่เลิก ไอ้ว่านกลั้นหัวเราะพยักหน้าหงึกหงัก


               “สมควรแล้วมึง กูว่าพี่เมฆเขาทนมึงมานานแล้วไง มึงรู้จักฟางเส้นสุดท้ายปะ พอมันระเบิดตู้มมึงก็กลายเป็นโกโก้ครันซ์ สะใจ

โว้ย”


               ผมได้แต่แอบด่ามันเพราะอาจารย์เดินเข้ามาในห้อง เลยต้องนั่งเงียบตั้งใจฟังสอนจนกระทั่งเรียนจบคาบ ไอ้ว่านแม่งรู้ทันพอ

อาจารย์ปล่อยปุ๊บมันก็รีบวิ่งหนีผมออกไปจากห้อง ส่วนผมก็มัวแต่ก้าวเดินอย่างขัดๆตามไปเจอมันหยุดยืนคุยกับพี่เมฆอยู่ที่หน้าตึกเรียน


               “เพิ่งรู้ว่าเดี๋ยวนี้เพื่อนผมมีสารถีกิตติมศักดิ์”


               กูเกลียดมึง ไอ้เหี้ยว่าน


               “ก็ช่วยกันครับว่าน มะตูมช่วยพี่ พี่ก็ช่วยมะตูม”


               แหม ไอ้...กูไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาอธิบายจริงๆ พออยู่ต่อหน้าคนอื่นนี่แม่งเก๊กหล่ออมยิ้มน้อยๆโปรยเสน่ห์ อยู่กับกูนี่ด่ากูทุก

คำ


               “อ๋อ ครับพี่เมฆ อาศัยอยู่ด้วยกันก็แบบนี้แหละครับ ก็ต้องให้ความอบอุ่นกันด้วยเนอะ หุหุ”


               “เหี้ยว่าน จะไปไหนก็ไปไป๊”


               “เดี๋ยวนี้ไล่เพื่อนนะครับมะตูม นี่พอคุณมีคนขี่มอไซค์ให้คุณถีบหัวเพื่อนส่งแบบนี้ใช่ไหมครับ”


               ไอ้ว่านกวนตีนทำหน้าทะเล้นใส่ ผมง้างตีนใส่มันอย่างหมดความอดทน แต่มันหัวเราะร่าวิ่งหนีผมไปอย่างรวดเร็วปล่อยให้ผม

ง้างเท้าค้างจนกระดูกสะโพกลั่นกร๊อบ


               “โอ๊ย!”


               “เป็นไรมึง”


               พ่อคนดีคว้าแขนผมไว้ อีตอนนี้ผมชักหน้าเจื่อนเมื่อตกเป็นเป้าสายตาของสาวๆที่เดินผ่านไปมา เพราะไอ้เรื่องที่ผมไปไหนมา

ไหนกับพี่เมฆมาตลอดสัปดาห์กลายเป็นที่พูดถึงในวงการโซเชียลของมหาวิทยาลัยอยู่ไม่น้อย


               “ปล่อยน่าพี่เมฆ อายคนอื่นเขามั่งดิ”


               “อ๋อ เดี๋ยวนี้หน้าบาง”


               ค่อนขอดกูอีก


               “เดี๋ยวกูจับจูบแม่งหน้าตึกเรียนรวมซะดีไหม”


               ไอ้...

               สรุปคือได้แต่ส่ายหน้าแล้วเดินหนีสิครับ พ่อคุณชายหัวเราะเบาๆแล้วเดินตาม ไอ้พี่เมฆพอถึงบทเอาจริงขึ้นมาผมนี่ถึงกับยอม

แพ้เลยสิครับ แต่สุดท้ายก็ต้องยอมซ้อนมอเตอร์ไซค์ตัวเองไปกับพี่เมฆจนได้






               มีต่ออีกนิด...

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-03-2016 23:08:09 โดย Belove »

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove


ต่อกันตรงนี้...




               ความสัมพันธ์ของผมกับพี่เมฆก็ยังลุ่มๆดอนๆมาเรื่อยๆจนเวลาผ่านไปเดือนนึง พี่เมฆไปที่โรงพยาบาลตัดเฝือกออกเป็นที่

เรียบร้อย ผลการตรวจกระดูกติดดีไม่ต้องผ่าตัดซ้ำ พี่เมฆถึงกับถอนหายใจโล่งอกกับความเบาสบายของแขนหลังจากที่ต้องยกเฝือก

หนักๆมาตลอดเดือน

               พี่พลเพื่อนสนิทพี่เมฆเป็นอีกคนที่รู้เรื่องของเราหลังจากวันที่ผมโดนพี่เมฆจับปล้ำไปไม่นานนัก ท่าทางพี่พลไม่แปลกใจเท่า

ไหร่ที่รู้เรื่องนี้


               “ขอให้ถือไม้เท้ายอดทอง กระบองยอดเพชร อ้าว ไม่ใช่เหรอ”


               พี่พลขำกลิ้งในวันที่ถามพี่เมฆแล้วเขายักคิ้วแทนคำตอบว่าเผด็จศึกผมไปแล้ว


               “กูคิดไว้แล้วโว้ยว่ายังไงผลมันก็ต้องออกมาอีแบบนี้ ไหนๆก็ไหนๆไง มึงก็คอยดูแลเพื่อนของกูต่อไปเหอะไอ้มะตูม”


               ฝากฝังเรียบร้อยเลยฮะ ถามกูหรือยังว่าสมยอมหรือเปล่า


               แต่ว่านะ พี่เมฆแกก็รักษาสัญญาดีอยู่หรอก เมื่อตลอดเดือนที่ผ่านมาเขาก็ไม่ได้จับผมกดให้ช้ำตูดเล่นอีก ก็อย่างที่บอกว่าพี่

เมฆจริงจังเรื่องการแข่งขันมาก เขาทุ่มเทสอนและเป็นคู่ซ้อมให้ผมจนผมเองก็เริ่มจะนับถือใบหน้ายามเอาจริงของเขา ใกล้ถึงวันแข่งน้ำ

หนักของผมขึ้นมาสองกิโลกว่าพร้อมกล้ามเนื้อฟิตแอนด์เฟิร์มพอดีกับรุ่นของพี่เมฆที่ให้ผมแข่ง แถมยังได้ความสูงมาอีก ตอนนี้ผมว่าผม

จะสูงพอกับพี่เมฆแล้วนะ

               มาถึงตอนนี้เหลืออีกแค่อาทิตย์เดียวสำหรับเวลาเตรียมตัว หลังจากนั้นผมและคนในชมรมที่สมัครแข่งขันไว้ก็ต้องเดินทางไป

ที่กรุงเทพแล้ว พวกเราซ้อมกันหนักโดยมีพี่เมฆเป็นคนคุม ผมนี่กลับถึงหอเว่อวังอลังการดาวล้านดวงก็สลบเป็นตายทุกวัน

               รถยนต์ของพี่เมฆซ่อมเสร็จแล้ว ช่วงนี้ผมเลยได้โอกาสชูคออยู่ในรถของพี่เมฆกลับหอในตอนเย็น วันนี้ก็เช่นกันเมื่อเรากินมื้อ

เย็นกันเสร็จพี่เมฆก็ขับรถกลับมาที่หอ แต่วันนี้มันมีความไม่ปกติเกิดขึ้นเมื่อมีรถยนต์ที่ผมคลับคล้ายคลับคลาแต่จำไม่ได้ว่าเคยเห็นตอน

ไหนจอดอยู่ที่ลานจอดรถ พอพี่เมฆมองเห็นสีหน้าของเขาก็บึ้งตึงทันทีเมื่อก้าวลงจากรถ

               จำได้แล้ว รถพ่อพี่เมฆนั่นเอง ชายวัยกลางคนที่ยืนพิงรถสูบบุหรี่หน้าเคร่งนั้นจ้องมองพี่เมฆที่ก้าวตรงไปหา ส่วนผมที่เพิ่งจะ

ลงจากรถเตรียมหลบฉากเมื่อเห็นสีหน้าบึ้งตึงของพ่อพี่เมฆที่หันขวับมามองผม


                “มะตูมจะไปไหน”


               “เอ่อ ให้ผมกลับห้องก่อนก็ได้ครับ”


               เรียบร้อยขึ้นมาสิครับกู บรรยากาศมาคุจนผมยืนตัวลีบอยู่ระหว่างเสือกับสิงห์ที่หน้าคล้ายกันอย่างกับแกะ แล้วตกลงจะเป็น

แกะหรือเสือหรือสิงห์วะ


               “ไม่ต้องไป อยู่นี่แหละ”


               เสียงดุของพี่เมฆหยุดเท้าของผมไว้ได้ พ่อพี่เมฆยิ่งมองตาเขียวหนักกว่าเดิมอีกครับตอนนี้


               “เมฆ เมื่อไหร่จะเลิกทำตัวเหลวไหลเสียชื่อเสียง”


               พ่อพี่เมฆเปิดฉากเสียงเข้ม พี่เมฆยืนกัดฟันฟังพ่อตัวเองต่อว่าด้วยความอดทน


               “ไอ้เรื่องชอบผู้ชายด้วยกัน พ่อคิดว่าเมฆจะเลิกเมื่อเมฆโตขึ้น แต่นี่เมฆก็ยังทำตัวเหมือนเดิมอีก รู้ไปถึงไหนอายไปถึงนั่นว่า

ในตระกูลเรามีคนเป็นเกย์”


               โหย พ่อครับ แรงเว่อร์


               สงสารพี่เมฆขึ้นมาจับใจเมื่อเห็นเขากัดกรามจนขึ้นเปนแนว


               “แล้วไอ้เรื่องเทควันโดบ้าบอนี่อีก มันทำให้ผลการเรียนเสียลงเพราะมัวแต่เอาเวลาไปทุ่มเทให้มันเกินไป แล้วเห็นหรือเปล่า

ว่าผลเป็นไง เกียรตินิยมอันดับสองยังทำไม่ได้เลย รู้หรือเปล่าว่าพ่อขายหน้าคนอื่นเขาแค่ไหน”


               เกินไปแล้วนะครับ


               พี่เมฆก้มหน้ากัดฟัน ดวงตาแดงก่ำ แถมมือยังกำแน่นเพราะไม่อยากตอบโต้คนเป็นพ่อทำให้ผมหมดความอดทน ผมใช้ตัว

เข้าไปขวางระหว่างเขากับพ่อ


               “ขอโทษนะครับคุณลุง ผมว่าคุณลุงกำลังทำร้ายลูกของคุณลุงเองนะครับ”


               “มึงอย่าเสือกเรื่องของคนในครอบครัว”


               พ่อพี่เมฆชี้หน้าด่าผม


               “มึงรู้ไหมว่ากูเป็นใครไอ้เด็กกระจอก”


               “คุณลุงยังไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใครแล้วผมจะรู้ได้ไงล่ะครับ ผมรู้แต่ว่าคุณลุงทำให้คนในครอบครัวของคุณลุงเสียใจ พี่เมฆน่ะเวลา

ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรักเขามีความสุขมากๆ คุณลุงไม่ดีใจเหรอครับที่เห็นลูกมีความสุข”


               ผมเถียง จะหาว่าก้าวร้าวก็ยอมแล้ว


               “แล้วเรื่องชอบผู้ชาย ก็ทำไมล่ะ มันก็เรื่องความรักปกตินี่แหละ เพียงแต่คนที่ชอบเป็นเพศเดียวกันมันผิดตรงไหน”


               “ไอ้เด็กบ้า”


               พ่อพี่เมฆโมโหจัดที่ผมเถียง เขาเงื้อมือสูงและฟาดลงมาโดยที่ผมไม่ทันตั้งตัว

            เพียะ

                เต็มๆครับ แต่ไม่ใช่ผม

               ฝ่ามือนั้นฟาดไปที่ใบหน้าของลูกชายตัวเอง พี่เมฆผลักผมออกห่างและก้าวมารับฝ่ามือของพ่อจนใบหน้าสีขาวซีดเผือดแดง

ไปซีกหนึ่ง บรรยากาศเงียบราวกับป่าช้า


            “พอใจแล้วใช่ไหมครับพ่อ”


              เสียงพี่เมฆเบาเหลือเกิน


              “ถ้าพอใจแล้วผมขอตัวก่อน ไป มะตูม กลับขึ้นไปบนห้อง”


             พี่เมฆคว้าแขนให้ผมเดินตามเข้าไปในหอพักโดยไม่ได้สนใจพ่อตัวเองอีก แต่ผมรู้ว่าเขาเสียใจมากแค่ไหน

   
            นี่สินะที่เคยได้ยินพี่ริวบอกว่า พี่เมฆไม่อยากกลับบ้านของตัวเอง มาถึงตอนนี้ผมได้แต่สงสารพี่เมฆที่ดึงแขนให้ผมเดินตาม



              TBC


            ตอนหน้าก็จบแล้วนะ

                :กอด1: :กอด1: 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-03-2016 23:16:08 โดย Belove »

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
จะจบแล้วเหรอ เรื่องพ่อยังไม่เคลียร์เลยนะ

ออฟไลน์ Kelvin Degree

  • ถ้าวันนั้นเลือกที่จะเดินออกไป คงไม่เจ็บมาจนถึงทุกวันนี้...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-2
ดราม่าตอนท้าย. เมื่อไหร่พ่อพี่เมฆจะเข้าใจนะ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด