<<พี่ไม่หยิ่ง รักจริงหวังฟัน>>
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: <<พี่ไม่หยิ่ง รักจริงหวังฟัน>>  (อ่าน 167986 ครั้ง)

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
งานนี้อาจจะมีพลิกนะ. สลับๆกันก็ได้นี่นา ฮ่าๆ

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
มะตูมจัดหนักเลย หมั่นไส้คนชอบใช้กำลัง

ออฟไลน์ pachth

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-5
เสนอตัวเป็นเป้าเดี๋ยวโดนพี่เมฆเตะตาเหลือกหรอก

ออฟไลน์ แมวดำ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove


                                                      น้องมันบ้า หาเรื่องฟันพี่

                                                                 บทที่ 2

                                                  ทำยังไงพี่เมฆถึงจะหายโกรธนะ


               โหนกแก้มช้ำแดงเห่อจากฤทธิ์หมัดสะท้านโลกันตร์ของพี่เมฆทำให้ผมต้องนั่งหน้ามุ่ยอยู่กับไอ้ว่านและพี่ริว เพื่อนสนิทมอง

หน้าผมตาขุ่นในขณะที่พี่ริวแฟนไอ้ว่านและพี่คณะของผมนั่งกลั้นยิ้มอยู่ ยิ้มของพี่ริวชัดเจนขึ้นเรื่อยๆจนกลายเป็นเงยหน้าหัวเราะก๊าก

อกมา


              “พี่ริว หัวเราะอะไรขนาดนั้น”


               ไอ้ว่านตีไหล่พี่ริวดังป๊าบ พี่ริวพยายามกลั้นหัวเราะจนตัวสั่น


               “เออๆขอโทษ กูแค่ขำเฉยๆ แต่กูขอชมมึงเลยนะมะตูม แม่งเหี้ยสุดๆกูล่ะนับถือจริงๆ”


               “โถ่ พี่ริว” ผมโอดครวญ

   
               “ก็ไม่ได้กะว่าจะทำแบบนั้น แต่พี่เข้าใจแมะว่าคนมันเมา”


               “น่าสงสารพี่เมฆเค้านะ ป่านนี้คงจะสูญเสียความมั่นใจไปหมดแล้ว”


               ไอ้ว่านตอกย้ำความผิดของผมให้เลวร้ายเข้าไปอีก  ยิ่งคิดผมก็ยิ่งรู้สึกผิดทั้งที่เคยหมั่นไส้พี่เมฆอยู่ไม่น้อย แต่ก็ไม่เคยคิด

โค่นเขาด้วยวิธีการนี้เลยเป็นความสัตย์จริง


               “เออ กูแม่งเหี้ยเอง แล้วจะเอาไงต่อดีวะ พี่เมฆไม่ยอมมองหน้ากูเลย กูควรจะทำไงให้พี่เมฆยกโทษให้กู”


               อย่างน้อยถ้าพี่เมฆเข้าใจว่าผมไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เขารู้สึกแย่แบบนั้นก็ยังดี ผมไม่อยากรู้สึกผิดว่าสร้างตราบาปให้ผู้ชายอก

กว้างเกินสามศอกอย่างพี่เมฆไปตลอดชีวิต


               “มึงต้องอดทน” ไอ้ว่านให้กำลังใจ


                “อดทนยื่นหน้าไปขอโทษพี่เมฆบ่อยๆเดี๋ยวเขาก็คงยกโทษให้มึงเข้าสักวันแหละ”


               “เหี้ยว่าน ยื่นหน้าเข้าไปให้พี่เมฆมันต่อยกูอีกแบบตะกี้เหรอ มึงคิดว่าเบ้าหน้ากูใส่หน้ากากไอออนแมนเอาไว้รึไงถึงจะทนหมัด

ของพี่เมฆได้ มึงลองมาโดนเองเอาไหม”


               “ทำไมกูต้องโดน กูไม่ได้เหี้ยเหมือนมึงนี่ คนทำผิดก็ต้องยอมรับโทษสิวะ”


               ไอ้ว่านว้ากใส่ ตั้งแต่เป็นเมียพี่ว้ากนี่แม่งเสียงดังขึ้นทุกที


               “ไม่รู้ล่ะ มึงต้องทำให้พี่เมฆยกโทษให้มึงให้ได้ ไม่งั้นกูตัดมึงออกจากกองมรดก”


               เพื่อนสนิทขู่ผมยิ่งกว่าพ่อเสียอีกมันทำให้ผมต้องกลับมาครุ่นคิดว่าทำอย่างไรดีถึงจะให้พี่เมฆยอมให้อภัยในสิ่งที่ผมทำลงไป

ผมว่าผมคงต้องหาตัวช่วย และตัวช่วยที่ดีที่สุดก็น่าจะเป็นพี่พล เพื่อนที่สนิทที่สุดของพี่เมฆ นั่นเองที่ทำให้ผมย่องไปหาพี่พลเมื่อเขามา

ถึง


               “พี่พล ถามไรหน่อยสิ พี่พลเป็นเพื่อนพี่เมฆมาตั้งแต่มอปลายเลยปะ”


               “เออ แล้วทำไม” พี่พลมองผมแบบงงๆเมื่อเปิดประเด็น


               “คืองี้ ผมน่ะเป็นเพื่อนไอ้ว่านมัน แล้วพี่ก็รู้แล้วใช่ไหมว่าเพื่อนผมมันคบอยู่กับพี่ริว ทีนี้ผมเห็นพี่ริวกับพี่เมฆไม่ค่อยถูกกันก็เลย

อยากรู้ที่มาน่ะว่าเรื่องมันเป็นไง ได้ข่าวว่ามันเริ่มจากเรื่องผู้หญิงไม่ใช่เหรอ”


               ผมสาธยายโดยใช้ชื่อเพื่อนมาอ้าง พี่พลพยักหน้าหงึกๆ


               “จะว่างั้นมันก็มีส่วนถูกแต่มึงก็ต้องเข้าใจไอ้เมฆมันด้วยว่าทำไมมันถึงแค้นไอ้ริวนัก ก็ตอนเรียนมอปลายน่ะไอ้เมฆมันไม่ใช่

แบบนี้นะมึง มันเนิร์ดจะตายห่า ผมงี้หวีแสกกลางใส่แว่นหนาเตอะผอมแห้งเหมือนไม้เสียบลูกชิ้น”


               เดี๋ยวนะ พี่เมฆเนี่ยนะเนิร์ด


               ผมเท้าคางอ้าปากหวอฟังพี่พลเล่าอย่างคาดไม่ถึง


               “วันๆเอาแต่เรียน กีฬาก็เล่นไม่เป็นสักอย่าง ทีนี้ก็มีผู้หญิงย้ายมาจากโรงเรียนอื่นไง ย้ายมาอยู่ห้องกูกับไอ้เมฆมานั่งข้างมัน ผู้

หญิงเขาเรียนหนังสือไม่ทันไอ้เมฆก็ช่วยสอนให้ ไปๆมาๆก็สนิทกัน แล้วก็กลายเป็นแฟนกันไปซะงั้น”


               พี่พลเล่าได้อย่างมีอรรถรส ผมตั้งใจฟังจนเกือบลืมหายใจ


               “แต่อย่างว่า ส่วนใหญ่ผู้หญิงแม่งชอบพวกดิบๆเซอร์ๆ พอถึงวันกีฬาสีแฟนไอ้เมฆมันก็ได้เจอกับไอ้ริวที่อยู่คนละห้อง ไอ้ริวมัน

เด็กเล่นกีฬาเก่งอยู่แล้ว แฟนไอ้เมฆเห็นเข้าก็เสือกชอบไอ้ริวแล้วก็ตัดรอนไอ้เมฆว่าที่ผ่านมาไม่ได้รักไอ้เมฆสักหน่อย แต่เพราะไม่มี

เพื่อนก็เลยต้องคบกับมันไปก่อน ไอ้เมฆมันเสียใจมากเพราะเป็นรักครั้งแรก หลังจากนั้นมันเลยลุกมาเปลี่ยนแปลงตัวเองใหม่ เริ่มฝึกเล่น

เทควันโด เริ่มแต่งตัวดูแลตัวเองจนกระทั่งกลายเป็นงี้แหละ”


               ความหลังของพี่เมฆก็น่าสงสารนะ


               “แต่พี่ริวก็ไม่ได้ผิดนี่พี่พล เขาก็ไม่ได้คบกับผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่หรือไง พี่เมฆก็ไม่น่าเกลียดพี่ริวขนาดนั้นนี่นา”


               ผมยังเสือกเรื่องของพี่เมฆต่อ


               “มันก็ใช่ แต่มึงเข้าใจไหมไอ้คำว่าไม่ถูกชะตา อะไรนะ ศรศิลป์ไม่กินกันน่ะ ไอ้ริวหน้ามันหยิ่งๆไม่ค่อยแยแสคนอื่นไง ไอ้เมฆ

มันก็เลยหมั่นไส้ก็แค่นั้นแหละ”


               “แล้วไอ้เรื่องที่พี่เมฆเคยแย่งแฟนพี่ริวที่เป็นนักว่ายน้ำคนนั้นล่ะ”


               พี่พลเบ้ปากเมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ท่าทางพี่พลจะไม่ค่อยชอบคนที่ชื่อเท็ดดี้สักเท่าไหร่


               “ไม่ได้แย่งแต่ไอ้เหี้ยเท็ดดี้มันมาอ่อยเอง นี่ไม่ได้เข้าข้างเพื่อน กูนะไม่อยากจะพูด คันไงผัวเอาแต่ซ้อมกีฬาแล้วไอ้เมฆมันก็

ไม่อยากเสียศักดิ์ศรีลูกผู้ชาย ไอ้เท็ดดี้มันเสนอไอ้เมฆมันก็สนองให้ หลายครั้งอยู่นะมึงที่เอากันแต่อยู่มาวันนึงไอ้ริวมันเสือกมาเจอก็เลย

โป๊ะเชะ จากนั้นต่างคนก็ต่างเขม่นกัน”


               เรื่องที่พี่พลเล่าทั้งหมดทำให้ผมเข้าใจพี่เมฆมากขึ้นกว่าแต่ก่อน จริงๆแล้วพี่เมฆก็เป็นแค่คนที่สร้างความมั่นใจขึ้นมาเพื่อกลบ

อดีตของตัวเอง มันทำให้ผมยิ่งเห็นใจเขา


               “มึงรู้แล้วจะทำอะไรได้วะไอ้มะตูม” พี่พลถามอย่างสงสัย ผมเลยได้แต่ยิ้มแห้งๆตอบกลับ


               “พี่พล คืองี้”


               ผมขยับเข้าไปใกล้แล้วกระซิบเบาๆ


               “รู้แล้วเหยียบนะพี่ คือว่าวันที่เราไปผับกันแล้วพี่ให้ผมไปส่งพี่เมฆที่หอ ผมน่ะเผลอปล้ำเขาไปน่ะสิ”


               “เออ เหรอ ฮะ ว่าไงนะ!”


               พี่พลตกใจจนหน้าตื่น เขาหันขวับมาจ้องหน้าผมทันที


               “มึงปล้ำไอ้เมฆ”


               “ก็พี่เมฆแม่งเมาแล้วโคตรเรื้อนเลยอะ แล้วผมก็แดกไปเยอะเหมือนกัน”


               สีหน้าของผมมันคงสลดจนพี่พลเห็นใจ


               “ป่ายกันไปป่ายกันมาผมก็เลยทนไม่ไหวเสียบเข้าไป แล้วจะให้ทำไงก็มันเสียบเข้าไปแล้วมันก็ต้องทำให้มันเสร็จใช่ปะ”


               “แล้วเสร็จไหมวะ” พี่พลถามเสียงแห้ง


               “ก็เสร็จสิพี่ จากนั้นผมก็ถูกถีบตกเตียงเลย”


               ผมอยากจะร้องไห้เมื่อเห็นพี่พลทำหน้าเหมือนกินยาขม


               “ตอนนี้พี่เมฆยิ่งเกลียดขี้หน้าผมหนักกว่าเดิมอีก ทำไงดีล่ะพี่พล ผมสำนึกผิดจริงๆนะ ทำไงให้พี่เมฆถึงจะยกโทษให้”


               “ยาก บอกเลย” พี่พลพูดทำร้ายจิตใจของผม


               “เหี้ยเมฆ บอกแล้วอย่าแดกเหล้า ไงล่ะเสียซิงให้รุ่นน้องซะงั้น มึงนี่ก็เนาะไอ้มะตูม”


               “อย่าด่าเยอะสำนึกผิดไม่ทันแล้วพี่พล ในฐานะเป็นเพื่อนพี่เมฆ พี่ต้องช่วยผมนะ ช่วยกล่อมให้พี่เมฆหายโกรธที”


               ผมเกาะแขนขอร้อง พี่พลถอนหายใจเฮือกใหญ่


               “ก็ได้ กูจะลองช่วย แต่ไม่รับปากนะโว้ยมึงเองก็ต้องหาทางช่วยเหลือตัวเองแล้วล่ะไอ้มะตูม”









               เมื่อไปถึงลานซ้อมเทควันโด ผมเห็นพี่เมฆกำลังยืนโปรยยิ้มให้สาวๆกลุ่มใหม่ที่เพิ่งจะมาสมัครเข้าชมรม มันเป็นควันหลงจาก

กีฬามหาวิทยาลัยที่ใครๆก็อยากจะเข้าใกล้นักกีฬาเหรียญทอง ผมคิดว่าพี่เมฆเห็นผมเดินเข้าไปแล้วเพราะสายตาของเขาชะงักไปจังหวะ

หนึ่งก่อนจะหันไปสอนพวกสาวๆด้วยยิ้มมหาเสน่ห์โดยที่ไม่สนใจผมสักนิด

               ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันกับความรู้สึกเจ็บจี๊ดๆเคืองๆเหมือนตอนที่ถูกน้องชายแย่งของเล่นไปตอนเด็ก ความรู้สึกหวงของมัน

วิ่งมาเป็นริ้วจนอยากจะเข้าไปกระชากไหล่พี่เมฆออกมาจากกลุ่มสาวๆแล้วตะโกนใส่หน้าว่าพี่เป็นของผมแล้วนะ แต่ไอ้ที่ทำได้คือเดิน

เข้าไปรวมกลุ่มแล้วฉีกยิ้ม


                “ท่าเตะพื้นฐานของเทควันโด้ที่ต้องฝึกคือฟร้อนท์คิกนะครับน้องๆ จะเตะข้างไหนก็ยกเข่าข้างนั้นให้สูงแล้วย่อเข่าอีกข้างลง

เพื่อทรงตัว เหยียดขาข้างที่เตะให้เต็มที่ใช้กำลังเราจะสะโพกและใช้หลังเท้าเป็นอาวุธ จากนั้นก็ให้รีบพับขากลับมาให้เร็ว เคล็ดลับคือยิ่ง

ยกเข่าเร็วมากเท่าไหร่เราก็จะเตะเร็วขึ้นเท่านั้น”


               พี่เมฆในชุดเทควันโดคาดสายสีดำกำลังทำท่าเตะฟร้อนท์คิกให้ดูเป็นตัวอย่าง สาวๆกรี๊ดเบาๆเมื่อเห็นท่าเตะเท่ๆ ผมงี้ยิ่งหมั่น

ไส้ ไม่รู้จะเนื้อหอมไปถึงไหนสิน่า


               “ให้ผมช่วยถือเป้าให้ไหมครับพี่เมฆ เธอๆพวกนี้เขาจะได้ดูชัดๆว่าฟร้อนท์คิกต้องทำไง”


               เสนอตัวเข้าไปทันที หรือพวกคุณๆจะเรียกว่าเสือกก็ได้นะครับ ผมไม่ถือ คริคริ


               พี่เมฆมองหน้า ตาโคตรดุ แต่กดยิ้มลึกที่มุมปากเมื่อมองผม


               “เอาสิครับน้องมะตูม ถ้าน้องมะตูมอยากจะเป็นเป้าพี่ก็จะช่วยสนอง”


               ผมยักไหล่ก่อนจะเดินไปคว้าเป้าเตะมาสวมที่แขนทั้งสองข้าง สาวๆที่มาเข้าชมรมใหม่รีบพากันเดินออกไปนั่งล้อมวงรอบนอก

ตั้งตาดูพี่เมฆโชว์ท่าเตะ ประธานชมรมสุดหล่อดึงชายเสื้อให้เข้าที่ เขาตั้งการ์ดและส่งเสียงเรียกพลังและจากนั้นเขาก็บุกเข้ามา


               เดี๋ยวสิ เฮ้ย!


               ไหนบอกจะสาธิตฟร้อนท์คิกไงวะ แล้วทำไมถึงเต้นฟุตเวิร์กเข้ามาหาผมแบบนี้ล่ะ


               แววตาเหี้ยมจ้องหน้าผมพร้อมกระตุกยิ้ม พี่เมฆสับเท้าหลอกแล้วยกขาซ้ายฟร้อนท์คิกทันที ดีที่ผมฉากหลบได้ทัน เสียงเชียร์

ของสาวๆดังวี้ดว้ายอยู่รอบๆยิ่งทำให้ผมนึกเคืองพี่เมฆตงิดๆ


               “พี่เมฆ นี่หาเรื่องกันใช่ไหม”


               ผมสืบเท้าฟุตเวิร์กเข้าใกล้แล้วถามเขาเสียงเข้ม พี่เมฆเลิกคิ้วเย้ยหยันจนผมหมั่นไส้


               “แล้วแต่มึงจะคิด ไอ้เหี้ยมะตูม”


               ไอ้คนหน้าไหว้หลังหลอก ทีตะกี้ต่อหน้าสาวๆเรียกกูน้องมะตูมทุกคำ พอคนอื่นไม่ได้ยินเรียกกูไอ้เหี้ย ฮึ่ยยย


               “พี่คิดจะแก้แค้นผมใช่ไหมที่ผมฟันพี่ เอาดิ จะเตะผัวให้คว่ำต่อหน้าคนอื่นก็ลองดู”


               ผมยักคิ้วท้าทาย ส่วนไอ้พี่เมฆน่ะเหรอ เหอะเหอะ ควันออกหูแล้วครับท่านผู้โช้ม


               พี่เมฆส่งเสียงคำรามดังลั่นลานซ้อม เขาบุกเข้ามาเหมือนตอนกำลังแข่งขัน ผมรีบตั้งเป้าเตะขึ้นการ์ดรับได้อย่างทันท่วงที

หลายกระบวนท่า เห็นอย่างนี้ก็ได้เหรียญทองแดงมานะครับอย่าคิดว่ากระจอก ไอ้พี่เมฆยิ่งหงุดหงิดเมื่อทำอะไรผมไม่ได้ เสียงสาวๆกรี๊ด

กร๊าดหนักมากขึ้นเมื่อเห็นพวกเราทั้งสองสู้กันอย่างดุเดือดราวกับจะชิงดินแดนประเทศราช มันทำให้ผมได้ใจจนกระทั่งพี่เมฆต้องกลับไป

หยุดยืนตั้งการ์ดอีกครั้ง ตอนนี้ใบหน้าหล่อๆกำลังเดือดเลยฮะ แล้วผมจะทำอะไรได้นอกจากยิ่งเติมเชื้อไฟเข้าไปอีก


               “คิดจะล้มผัวมันไม่ง่ายนะครับพี่เมฆ ยิ่งเป็นผัวที่พี่เมฆสั่งสอนมากับมืออย่างผมแล้วล่ะก็ ไม่งั้นจะได้เหรียญทองแดงมาเหรอ

ผมว่าทางที่ดีพี่เมฆควรจะ...”


               ผลัวะ!!


               ฟร้อนท์คิกระดับเร็วกว่าแสงที่คุณอาจมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า มันพุ่งเข้ามาโดยที่คุณตั้งตัวไม่ทันแม้แต่ตั้งการ์ด ฟร้อนท์คิก

ของนักกีฬาที่ครั้งหนึ่งเคยติดทีมชาติไปแข่งซีเกมส์มาแล้ว

               รู้สึกตัวอีกทีคือนอนแผ่สองสลึงอยู่กลางลานซ้อม จะร้องก็ร้องไม่ออกเพราะหลังตีนหนักๆกระแทกเข้าที่ลิ้นปี่แบบไร้ความ

ปรานี เป้าเตะที่แขนกระเด็นกระดอนคนละทิศละทางในขณะที่ผมกำลังนอนนับดาวทั้งที่ยังไม่ได้หลับ เสียงอุทานของพี่พลที่เพิ่งมาที่

ลานซ้อมดังแว่วเข้าหูก่อนจะวิ่งมาประคองผม ส่วนไอ้เมียสายโหดหันไปโปรยยิ้มให้สาวๆที่เพิ่งจะส่งเสียงกรี๊ดอีกครั้งเมื่อหายตกใจแล้ว


               “เห็นไหมครับน้องๆ แค่ท่าพื้นฐานที่สุดเราก็สามารถจัดการคนที่มากวนใจเราได้  เพราะฉะนั้นเดี๋ยวเรามาฝึกฟร้อนท์คิกกันดี

กว่านะครับ”








               ผมกลับมาเยียวยาตัวเองที่หอด้วยความกรุณาจากพี่พลที่บ่นผมเป็นกระบุงตอนแว้นมอเตอร์ไซค์มาส่ง ผมงี้ฟังจนหูชา


               “ไอ้เวรมะตูม ไหนบอกจะขอโทษให้ไอ้เมฆมันยกโทษให้ แล้วไหงไปกวนประสาทให้มันเตะโชว์สาวอีกวะ”


               “แม่งเล่นทีเผลอ ใครจะมองทันล่ะพี่พล จุกชิบหาย นี่ยืดตัวตรงไม่ได้เลย”


               “กูควรจะสมน้ำหน้ามึงดีไหม เล่นกับใครไม่เล่นไปเล่นกับไอ้เมฆ ไป ถึงหอมึงแล้ว อาบน้ำเสร็จก็หาน้ำใบบัวบกแดกแก้ช้ำใน

ซะล่ะ”


               ซมซานเดินขึ้นบันไดไปยังห้องที่เสือกอยู่ชั้นสี่ ทุกทีก็ไม่อะไรนะ แต่วันนี้ทรมานยิ่งกว่าเดินขึ้นดอยสุเทพวันรับน้องขึ้นดอย

เสียอีก เข้าไปเจอไอ้คิงที่สิงอยู่ในห้องมันถึงกับตกใจเมื่อเห็นสารรูปของผม รูมเมทไล่ให้รีบไปอาบน้ำก่อนจะมาแผ่หราให้มันทายาคลาย

กล้ามเนื้อแก้ฟกช้ำ สักพักไอ้ว่านก็กลับมาจากกินข้าวกับพี่ริวพอมันเห็นก็รีบซักไซ้ว่าเกิดอะไรขึ้น

               ผมเล่าเรื่องให้เพื่อนฟัง คราวนี้ไอ้คิงเลยรู้ไปด้วยว่าวันที่มันไปรับผมที่หอพี่เมฆแล้วผมมีแต่กางเกงกลับมานั่นคือวันที่ผม

เผด็จศึกประตูหลังคนดังของมหาวิทยาลัยมาสดๆ มันถึงกับตาเหลือก


                “คุณพระก็ไม่ช่วยมึงแล้วไอ้มะตูม” ไอ้คิงครางเสียงหลง


               “แล้วก็เสือกไปยั่วโมโหเขา โธ่ ไอ้ปากหมา” นี่คือคำปลอบโยนของไอ้ว่าน


               “ไหนบอกว่าจะทำให้พี่เมฆเขายกโทษที่มึงไปทำเหี้ยไว้ แล้วนี่อะไร มึงก็รู้สันดานว่าพี่เมฆเขาแม่งฆ่าได้หยามไม่ได้ แล้ว

อย่างนี้เขาจะยกโทษให้มึงไหม”


               ผมก้มมองรอยตีนฝากรักบนหน้าอกเขียวช้ำ ความจุกเสียดที่ยังคงมีอยู่แม้ว่าจะเบาลงไปบ้างแล้วช่วยตอกย้ำให้ผมครุ่นคิด

ความยโสโอหังที่ปรากฏบนใบหน้าของพี่เมฆทำให้ผมตัดสินใจ


               พี่เมฆหลงตัวเองเกินไปแล้ว เขาทำทุกอย่างเพื่อความสะใจโดยไม่แคร์ว่าคนอื่นจะรู้สึกอย่างไร มันไม่เป็นผลดีต่อเขาในระยะ

ยาวสักนิด น่าแปลกที่ผมไม่นึกโกรธ แต่กลายเป็นว่าผมอยากจะทำให้เขาหันมาสนใจความรู้สึกของคนอื่นบ้าง ผมเชิดหน้าผายอกโดยที่

ลืมว่าตัวเองยังเจ็บอยู่


               “กู อ๋อย เจ็บว่ะ เอาใหม่ กูเปลี่ยนใจแล้วไอ้ว่าน กูจะไม่ทำงั้นแล้ว”


               ผมพูดด้วยความตั้งใจจริงเป็นการสัญญากับตัวเอง


               “กูจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้พี่เมฆเอ่ยปากยอมรับว่ากูน่ะเป็นผัวและยอมอยู่ในโอวาทของผัวที่ดีอย่างกูให้ได้ ถ้ากูทำไม่ได้ กูจะ

ยอมให้มึงเอาดาบไล่จิ้มกูเลยไอ้ว่าน”



              TBC



Hard Sale

ขายนิยายจ้า

ช่วยกันซื้อหน่อย เรื่องสั้น 6 เรื่อง 6 รส สุดแสนอีโรติก

อ่านกันได้ที่นี่เลย



X-Theme the series Season2


               
                :pig4: :pig4: :pig4:
               

[attachment deleted by admin]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-02-2016 20:57:58 โดย Belove »

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
สู้ๆนะมะตูม  พี่เมฆต้องกลับไปเอ๋อเหมือนเดิมซะบ้าง
บางทีนั่นอาจเป็นตัวตนจริงๆของพี่เขา

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
เรื่องรุก/รับนี่ควรจะต้องตกลงกันทีหลังป่ะ
ประเด็นคือทำยังไงให้พี่เมฆยกโทษให้มะตูม แล้วทำยังไงให้สองคนนี้รักกัน

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
เห็นทีมะตูมจะต้องพลีกายถวายชีวิตเสียแล้ว
ขอขมาเลย แต่ไปคิดมาดีๆว่าจะเซ่นสังเวยด้วยอะไร

ออฟไลน์ Kelvin Degree

  • ถ้าวันนั้นเลือกที่จะเดินออกไป คงไม่เจ็บมาจนถึงทุกวันนี้...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-2
ท้ายที่สุดใครจะง้อใครนะ อยากรุ้

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
กว่าเมียจะอยู่ในโอวาท มะตูมไม่ต้องไปหยอดน้ำข้าวต้มที่โรงพยาบาลก่อนรึงัย :laugh:

ออฟไลน์ =นีรนาคา=

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2546
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +296/-6
สู้ๆนะมะตูม
อย่าเพิ่งช้ำในตายก่อนล่ะ

ออฟไลน์ kms

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-14

ออฟไลน์ jillongame

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 65
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
 :ling1: มะตูม กำหลาบเลยเอาให้อยู่หมัด เอาให้ครางใต้ตัวเราให้ได้ อืมมะหื่นไปใช้มะอิอิ

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove


                                                            น้องมันบ้า หาเรื่องฟันพี่

                                                                       บทที่ 3

                                                       คำท้าทายจากพี่เมฆทำให้ของขึ้น             


               คนอย่างไอ้มะตูมไม่ชอบความคลุมเครือครับ

               การให้โอกาสพี่เมฆด้วยการเคลียร์ปัญหาให้จบอาจเป็นวิธีแก้ปัญหาที่ดีที่สุด ดังนั้นผมจึงฝืนตื่นนอนตั้งแต่เช้าแล้วแว้นไป

หลับรอที่ใต้หอของพี่เมฆ ผมรอจนกระทั่งมองเห็นเป้าหมายเดินออกจากหอตรงไปที่รถยนต์ของเขา


               “พี่เมฆ”


               ผมบุกเข้าไปที่ประตูด้านข้างคนขับทันทีที่พี่เมฆก้าวเข้าไปนั่งแล้ว ผมรีบเชิญตัวเองเข้าไปนั่งข้างพี่เมฆโดยที่เจ้าของรถยัง

ตั้งตัวไม่ทัน ผมมั่นหน้าพอที่จะทำไม่รู้ไม่ชี้ใส่พี่เมฆที่มองผมตาเขียว


               “ลงไป”


               “คุยกันก่อนดิพี่”


               “กูจะรีบไปเรียน วันนี้กูยังอารมณ์ดีพอที่จะไม่ถีบมึงร่วงรถไอ้มะตูม เพราะฉะนั้นมึงลงไปซะ”


            “พี่รีบก็ขับรถไปดิ ผมอาศัยไปด้วยน้ำมันรถพี่ก็ไม่ได้เผาผลาญเพิ่มสักเท่าไหร่หรอก ยังไม่รีบไปอีก มีเรียนคาบเช้าไม่ใช่เหรอ”


               ไอ้เรื่องหน้าด้านไว้ใจไอ้มะตูมเหอะ


               พี่เมฆมองผมตาขุ่น แต่เพราะนี่ใกล้จะถึงเวลาเรียนคาบแรกแล้วก็เลยจำใจขับรถออกจากหอโดยมีผมติดรถมาด้วย


               “พี่เมฆ”


               “หุบปาก”


               “ถามจริงเหอะ ถ้าไม่นับเรื่องที่ผมเป็นเพื่อนไอ้ว่านซึ่งมันเป็นแฟนพี่ริวที่พี่ไม่ชอบหน้า แล้วก็เรื่องที่ผมกวนตีนพี่บ้างในบาง

ครั้งเนี่ย ทำไมพี่ถึงเกลียดขี้หน้าผมนักวะ”


               พี่เมฆอึ้งไปเหมือนกันเมื่อเจอคำถามของผม แม้ว่าสายตาของเขาจะยังจ้องไปยังถนนข้างหน้า


               “ผมทำอะไรผิดวะพี่เมฆ ถึงแม้ว่าจะมาเข้าชมรมเพราะกะหลีสาว แต่พอสาวหนีไปที่อื่นผมก็ยังอยู่ต่อนะครับพี่ แถมยังตั้งใจ

ฝึกไอ้ที่พี่สอนทุกอย่างอะ เหรียญทองแดงกีฬามหาลัยไม่ใช่ได้มาเพราะฟลุคนะพี่”


               สีหน้าครุ่นคิดของพี่เมฆทำให้ผมใจชื้นขึ้นมาบ้าง บางทีคำพูดของผมอาจจะไปสะกิดต่อมโพสเทสแกรนด์ของพี่เมฆก็ได้

(หือ โพสเทสแกรนด์คือต่อมลูกหมากเหรอ ต่ายห่ะ นึกว่าต่อมใต้สมองมาตั้งนานแล้วกู)


               “กูบอกให้มึงหุบปากไอ้มะตูม”


               เสียงเหี้ยมชัดถ้อยชัดคำ พี่เมฆกัดฟันกรามจนเห็นชัดอยู่ตรงแนวคาง ผมกลืนน้ำลายอึกใหญ่ทำใจดีสู้เสือ


               ตายเป็นตายโว้ย มะตูมสู้ๆ


               “แล้วไอ้เรื่องวันนั้นน่ะมันเป็นเพราะเหล้าหรือเปล่าครับ ใช่ว่าผมจงใจจะกดพี่สักหน่อย ผมก็เมาพี่ก็เมา แล้วพี่น่ะเมาแล้วโคตร

เรื้อนมากอดผมอีกต่างหาก เรียกผมว่าสังข์ทองนู่นนี่นั่น โหพี่ จู๋ผมน่ะของจริงไม่ใช่ปลัดขิกถูกจู่โจมมากๆมันก็ลุกทำงานนะครับ แต่จะว่า

จริงๆแล้วเราก็ฟินด้วยกันแบบวินๆทั้งคู่ไม่ใช่เหรอ พี่น่าจะเข้าใจว่ามันเป็นเรื่องธรรมชาติ...”


               “ไอ้เหี้ยมะตูม!”


               พี่เมฆหันขวับมาทันที ตาแม่งดุอย่างกับเสือจนผมสะดุ้งงับปากตัวเองแทบไม่ทัน


               “พี่เมฆ มองถนนสิ...”


               “ถ้ามึงพูดอีกคำเดียว กูจะฆ่ามึง”


               “เหวอ พี่เมฆ ระวังมอไซค์!”


               โครมมม!!


               ไม่ทันแล้วครับท่านผู้ชม

               เพราะมัวแต่หันหน้ามาด่าผมพี่เมฆไม่ทันได้มองรถมอเตอร์ไซค์ที่เลี้ยวซ้ายตีโค้งกว้างออกมาจากซอย และเพราะความตกใจ

พี่เมฆเลยหักพวงมาลัยหลบ ผลคือไม่ได้ชนไอ้มอเตอร์ไซค์คันที่ว่าแต่รถกลับพุ่งไปชนเกาะกลางถนนแทน ไอ้คนขี่มอเตอร์ไซค์บิดรถ

หนีไปแล้วตอนที่ผมโงหัวขึ้นมา ดีที่ว่าคาดเข็มขัดนิรภัยหัวเลยไม่ไปชนกับกระจก


               “โอ๊ย!”


               “พี่เมฆ!”


               เสียงครางเบาๆของคนที่นั่งข้างๆเรียกสติของผมกลับคืนมาได้ ผมหันไปมองพี่เมฆอย่างตกใจ พี่เมฆกัดฟันครางอ๋อยๆเมื่อ

หน้าผากกระแทกคอนโซลรถและแขนขวากระแทกกับประตูรถที่ยุบเข้ามา


                “เป็นไงบ้างพี่”


                 คราวนี้ผมนึกเป็นห่วงขึ้นมาจริงๆเมื่อเห็นเลือดที่ขมับของใบหน้าหล่อๆ พี่เมฆใช้มือซ้ายประคองแขนขวาตัวเองด้วยความ

เจ็บปวด


               “อย่ามายุ่งกับกูอีก ไอ้ตัวซวย”


              เจ็บขนาดนี้พี่เมฆยังหยิ่งในศักดิ์ศรีจนผมโมโหตวาดใส่เขาบ้าง


             “พี่โยนศักดิ์ศรีที่ค้ำคออยู่ทิ้งไปก่อนเหอะน่า เจ็บจะตายห่าอยู่แล้ว ย้ายที่นั่งเดี๋ยวนี้ ผมจะขับรถพาพี่ไปโรงพยาบาล”





             ผมพาพี่เมฆมาถึงห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยในอีกสิบนาทีต่อมา ดีที่ว่ารถของพี่เมฆไม่ได้เป็นอะไรมาก

นอกจากประตูฝั่งคนขับบุบเล็กน้อย พอมาถึงพวกพี่ๆพยาบาลห้องฉุกเฉินก็รีบพาพี่เมฆเข้าไปทันที ส่วนผมก็ต้องติดต่อเรื่องเอกสารให้พี่

เมฆ ระหว่างนั้นผมก็รีบโทรไปหาพี่พลเล่าให้ฟังคร่าวๆว่าเกิดอะไรขึ้น พี่พลตกใจมากรีบมาที่โรงพยาบาลทันที


                “ไอ้เมฆเป็นไงมั่ง”


                 พี่พลถามเมื่อเขามาถึงและเจอกับผมที่นั่งรอพี่เมฆอยู่ด้านนอกห้องฉุกเฉิน ผมส่ายหน้ากับพี่พลแทนคำตอบ รู้สึก

กระวนกระวายและเป็นห่วงพี่เมฆอย่างไม่น่าเชื่อ

               เราทั้งคู่ผุดลุกขึ้นยืนเมื่อพี่เมฆถูกเข็นออกมาจากห้องฉุกเฉินด้วยรถเข็นนั่ง ดวงตาของพี่เมฆดูอิดโรย ที่ขมับมีผ้าก็อซปิดอยู่

และแขนขวาของเขามีเฝือกสีขาวหุ้มอยู่


                  “ญาติคุณเมฆ กุลพงศ์ค่ะ”


                พี่พยาบาลที่เดินตามมาประกาศเรียก ผมรีบก้าวเข้าไปแสดงตัว


              “ผมครับ ผมเป็นเอ่อ..ญาติ”


              พี่พยาบาลส่งประวัติการรักษาของพี่เมฆให้ผมพร้อมกับอธิบายให้ฟัง


            “หัวแตกเย็บสามเข็ม อย่าให้แผลเปียกน้ำนะครบเจ็ดวันมาตัดไหม ส่วนแขนส่งไปพบหมอกระดูกแล้วจ้ะ กระดูกไม่ได้หักแต่มี

รอยร้าวนิดเดียว คุณหมออยากให้พักแขนไว้ก่อนก็เลยใส่เฝือกให้กระดูกติดสักเดือนนึง ระหว่างนี้คอยดูอาการของคนไข้ด้วย ถ้าปลาย

นิ้วซีดบวมหรือว่าปวดมากก็พามาโรงพยาบาลนะ นี่ใบสั่งยาไปเบิกที่ห้องยาก่อนกลับ พี่เพิ่งจะฉีดยาแก้ปวดให้ พาเขาไปนอนพักก่อน

เถอะ”


                      พี่พยาบาลพูดจบก็เดินจากไป พี่พลมองพี่เมฆอย่างเห็นใจและเป็นห่วง


                    “ไงล่ะมึง ซวยชิบหาย ไปทำบุญอาบน้ำมนต์ล้างซวยบ้างนะ”


                   พี่พลพูดขึ้นมาเกริ่นนำให้พี่เมฆมองผมด้วยความโมโห


                    “ไม่ต้องอาบน้ำมนต์เหี้ยไรหรอก แค่มึงถีบไอ้เด็กเวรนี่ไปจากชีวิตกูก็พอแล้ว”


                   คราวนี้ผมหัวหดจริงๆครับ ได้แต่ส่งยิ้มแหยสู้ตาดุของพี่เมฆ พี่พลถอนหายใจแล้วเอ่ยถามเพื่อนสนิท


               “แขนมึงใส่เฝือกแบบนี้จะอยู่หอคนเดียวไหวเหรอ กลับไปอยู่บ้านมึงก่อนไหม”


                  “กูไม่กลับ” พี่เมฆปฏิเสธทันควัน


                  “กูจะอยู่หอ”


                 “แต่มึงกำลังเจ็บ หัวมึงแตก แขนมึงก็หัก”


                “แค่กระดูกร้าวไม่ใช่ใกล้ตายสักหน่อย”


                  “แล้วมึงจะอยู่ได้ไงคนเดียว ไหนจะขี้จะเยี่ยวจะแดกโน่นนี่นั่นอีกล่ะไอ้เมฆ”


                 ผมมองพี่พลกับพี่เมฆยืนเถียงกันอยู่พักหนึ่ง ดูท่าทางพี่เมฆจะรั้นไม่ยอมกลับไปบ้านด้วยสาเหตุอะไรผมก็ไม่รู้หรอก แต่

อะไรบางอย่างแวบเข้ามาในหัว


                  “ผมจะไปอยู่กับพี่เมฆเอง”

                   .....

                  เงียบ...


                   ทำไมต้องมองหาผมพร้อมกันแบบนี้ล่ะฮะ ไม่เข้าใจเลย ผมมันเด็กไร้เดียงสา


                  ผมตีหน้าเหรอหราขณะที่พี่พลค่อยๆเบะปากยิ้มออกมา พี่พลยกมือตีไหล่ผมแปะๆ


                 “เออ ทำไมกูมองข้ามมึงไปได้นะไอ้มะตูม”


                “เลิกเสือกเรื่องของกูเสียทีได้ไหม”


                 พี่เมฆกัดฟันขู่กรอด เขาไม่กล้าเสียงดังมากเพราะคงอายคนที่เดินผ่านไปมาในโรงพยาบาล ผมยักไหล่อย่างไม่แยแสคำด่า

ของเขา


                 “อย่าตีค่าน้ำใจของผมเป็นคำว่าเสือกสิครับพี่ พี่จะหาใครที่เสียสละตัวเองไปดูแลพี่อย่างผมได้ล่ะ”


                “ใช่ ไอ้เมฆ มึงก็อย่าทิฐิมานะให้มันมาก แวร์แวร์อิสแวร์แวร์ ไหนๆก็ไหนๆแล้ว มึงกับไอ้มะตูมก็ตกร่องปล่องชิ้นกันไปแล้วนี่”


                 กระทืบเท้าห้ามปากพี่พลไม่ทัน พี่เมฆเบิกตากว้างเมื่อได้ยินพี่พลพูด หน้าขาวเปลี่ยนสีแดงก่ำอย่างเห็นได้ชัด


                 “มึงรู้เรื่องนี้ได้ไงไอ้พล”


                 สะดุ้งเฮือกกันทั้งพี่ทั้งน้องสิครับ พี่พลยกมือเกาหัวยิ้มแหยยกมือเขกหัวผมแก้เขิน


                “ก็ไอ้มะตูมมันกลุ้มใจไง มันเลยมาปรึกษากูว่าจะทำไงให้มึงหายโกรธ น่า มึงก็อย่าคิดมาก ให้ไอ้มะตูมมันไปอยู่เป็นเพื่อนที่

หอก็ดีแล้ว หรือว่ามึงอยากจะกลับไปอยู่บ้าน”


              พี่พลตัดบทเป็นคำตอบสุดท้ายก่อนจะบอกให้ผมไปเบิกยาให้พี่เมฆ ส่วนพี่พลก็เข็นรถเข็นของพี่เมฆไปที่รถยนต์ ไม่รู้ว่า

ระหว่างนั้นพี่พลพูดอะไรกับพี่เมฆ แต่เมื่อผมหิ้วถุงยากลับมาถึงรถพี่เมฆที่นั่งเหยียดขาอยู่ด้านหลังก็หลับตานิ่งและไม่ได้ว่าอะไรอีกเมื่อ

พี่พลขับรถไปส่งที่หอพัก





                  ในที่สุดผมก็หอบข้าวของมาอยู่ที่หอพักเลิศหรูอลังการดาวล้านดวงของพี่เมฆ

                 โทรศัพท์ไปเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ไอ้ว่านฟัง มันด่าจนผมหงอยว่าผมเป็นต้นเหตุให้พี่เมฆบาดเจ็บ ไอ้เพื่อนบังเกิดเกล้าย้ำนัก

ย้ำหนาว่าไปอยู่กับพี่เมฆก็ต้องดูแลพี่เมฆให้ดี อะไรวะ นี่เพื่อนผมกำลังแปรพักตร์ไปอยู่ข้างพี่เมฆหรือไง

                  นั่งรถกลับมาพร้อมพี่พล ผมก็แว้นมอเตอร์ไซค์กลับไปหอพักในมอแล้วยัดเสื้อผ้าและหนังสือใส่เป้ก่อนจะแว้นกลับมา

ระหว่างนี้พี่พลรับหน้าที่อยู่เป็นเพื่อนพี่เมฆจนกระทั่งผมไปถึง เมื่อเปิดประตูเข้าห้องก็เห็นเพื่อนสนิทสองคนคุยกันด้วยสีหน้าเครียด


                “แขนเดาะใส่เฝือกไปอีกเป็นเดือนแบบนี้ แล้วไอ้เรื่องแข่งชิงแชมป์ประเทศไทยทำไง”


                พี่พลมองพี่เมฆอย่างเห็นใจ


                 “มึงซ้อมไม่ได้อยู่แล้ว ต่อให้ถอดเฝือกทันแต่มันกระชั้นชิดเกินไปที่จะลงแข่ง”


               “แม่งเอ๊ย!”


               พี่เมฆสบถอย่างหงุดหงิด ใบหน้าหล่อเครียดจัดจนคิ้วแทบจะชนกันอยู่แล้ว


               “แต่ก็สมัครจนได้โควตาลงแข่งแล้วนะ ถ้ามึงจะสละสิทธิ์โควตาก็น่าเสียดาย”


               พี่พลที่มีตำแหน่งรองประธานชมรมเองก็เครียดไม่แพ้กันกับเรื่องการแข่งขันเทควันโดที่จะจัดในอีกสองเดือนข้างหน้า


               “กูอุตส่าห์อยากจะได้เหรียญอีกสักเหรียญก่อนเรียนจบ ชีวิตกูนี่มันจะเหี้ยอะไรขนาดนี้วะ”


               “มีอยู่อีกทางที่จะรักษาโควตาไว้”


               พี่พลเสนอความเห็น


               “หาใครมาแข่งแทนมึง”


               พี่เมฆนิ่งคิด ใบหน้าหล่อเหลาที่มีผ้าก็อซแปะหัวเงยหน้ากรอกตาไปมาก่อนจะสบตากับพี่พลเหมือนรู้กัน


               “กูไม่ยอม”


               “มันเป็นคนเดียวนะไอ้เมฆที่ลุ้นขึ้นที่สุด”


               ใครวะ?

               อยากรู้ว่าพูดถึงใครที่ทั้งคู่จะให้แข่งแทนพี่เมฆ


               “แต่ว่า...”


               “แยกเรื่องส่วนตัวออกจากเรื่องส่วนรวมหน่อย มันถึงคราวจำเป็นแล้วนะ”


               พี่เมฆอึ้งกับคำพูดเตือนสติของพี่พล เขาก้มหน้าเม้มปากแน่นจนทั้งห้องเงียบงัน และเมื่อเขาเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้งพี่เมฆก็

ถอนหายใจยาวยืดเหมือนกำลังตัดสินใจอะไรบางอย่าง อยู่ๆเขาก็หันขวับมามองหน้าผม


               “ไอ้เหี้ยมะตูม”


               มะตูมเฉยๆนะ ตอนพ่อตั้งชื่อให้ไม่เห็นบอกว่ามีเหี้ยเลย


               “เพราะมึงเป็นต้นเหตุที่ทำให้กูเป็นแบบนี้ มึงต้องรับผิดชอบ”


               เปิดมีดดดดด

               เหมือนกูยืนลุ้นอยู่ที่ศาลไคฟงเลยวุ้ย


               “มึงต้องทำน้ำหนักขึ้นแล้วมาแข่งแทนกู”




มีต่ออีกนิด...

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-03-2016 14:04:26 โดย Belove »

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove


ต่อกันตรงนี้...




                พี่พลกลับไปแล้วหลังจากซื้อเสบียงมายัดใส่ตู้เย็นไว้ให้ ส่วนผมยังอึ้งอยู่กับคำสั่งที่ให้ผมไปแข่งชิงแชมป์ประเทศไทยแทน

พี่เมฆ โดยสัดส่วนร่างกายแล้วพี่เมฆสูงร้อยแปดสิบสี่หนักเจ็ดสิบห้ากิโลกรัมเขาจึงแข่งอยู่ในรุ่นเวลเธอร์เวท ส่วนผมสูงร้อยแปดสิบสอง

หนักเจ็บสิบกิโลกรัมอยู่ในรุ่นไลท์เวทที่ต่ำกว่าพี่เมฆลงไปหนึ่งรุ่น ถ้าหากพี่เมฆจะให้ผมไปแข่งแทนพี่เมฆก็หมายความว่าผมต้องทำน้ำ

หนักให้ขึ้นไปอีกอย่างน้อยสองกิโลกรัม

               แต่ที่สำคัญนี่คือการแข่งขันชิงแชมป์ประเทศไทยนะครับ ไม่ใช่เทควันโดกีฬาสีโรงเรียนวัด


               “พี่เมฆ คิดดีแล้วเหรอที่จะให้ผมแข่งแทน”


               ถึงเวลาที่ผมต้องเสียงอ่อยแล้ว ความมั่นใจหายไปไหนหมดก็ไม่รู้


               “ผมเล่นเทควันโด้มายังไม่ถึงปีเลยนะ ถ้าจะให้ผมไปแข่งรายการใหญ่ผมว่า...”


               พี่เมฆที่นั่งอยู่ปลายเตียงทิ้งตัวลงไปนอนแผ่ ดวงตาของเขาจ้องมองเพดานและกรอกไปมาอย่างใช้ความคิด


               “มึงเรียกร้องการยอมรับจากกูไม่ใช่เหรอไอ้มะตูม”


               เออ งวดนี้ไม่มีเหี้ยนำ


               “มึงอยากรู้ไหมล่ะว่ากูชอบคนแบบไหน กูชอบคนเก่งไงล่ะ ถ้ามึงอยากให้กูยกโทษให้มึง ยอมรับมึง มึงก็ลองทำตัวให้กู

ยอมรับสิวะ”


               ท้าทายผมเหรอพี่เมฆ


               “พี่กำลังท้าผมอยู่นะ”


               พี่เมฆกดยิ้มที่มุมปากตอนที่หันมามองผม สายตาของเขากึ่งเหยียดหยามกึ่งท้าทาย


               “ใช่ กูท้ามึงอยู่ ลองทำให้กูรู้สิว่าน้ำหน้าอย่างมึงยังมีดีอย่างอื่นนอกจากปากดีชวนโดนตีนของมึง”


               ศักดิ์ศรีของมะตูมพุ่งวาบเลยสิฮะ


               ผมตรงเข้าไปนั่งอยู่บนเตียงก้มหน้าลงไปสบตาพี่เมฆ เราประสานสายตากันนิ่งนาน


               “ผมรับคำท้า”


               พี่เมฆจะต้องยอมรับในตัวผม


               “ผมจะไปแข่งแทนพี่และเอาเหรียญมาให้พี่ดูเป็นขวัญตา แต่ผมขอเรียกร้องโค้ชเป็นพิเศษ”


               คิ้วเข้มของพี่เมฆขมวดลงอย่างสงสัย คราวนี้ผมเป็นฝ่ายคลี่ยิ้มอย่างได้เปรียบบ้างเมื่อใช้นิ้วจิ้มไปที่หน้าอกของพี่เมฆ


               “ในฐานะที่พี่เป็นประธานชมรม พี่ต้องเป็นโค้ชให้ผม พี่ต้องสอนผมให้เก่งโดยเร็วที่สุด ไม่อย่างนั้นคนขายขี้หน้าต้องเป็นพี่ที่

สอนให้ผมชนะไม่ได้”


               พี่เมฆหรี่ตามองผม


               “มึงกำลังท้ากูอยู่นะ”


               ผมยักคิ้วให้พี่เมฆแทนคำตอบว่าสิ่งที่เขาเข้าใจนั้นถูกต้องแล้ว


               “ได้มะตูม กูรับคำท้าของมึง”



               TBC


 :hao3: :hao3:
               

แม่ค้าขายของจ้า

เปิดขายนิยายนะคะ สนใจไปอ่านในลิงค์นี้ X-theme season 2 http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45021.0

อุดหนุนกันเยอะๆนะคะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-03-2016 15:57:20 โดย Belove »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :katai2-1:  ท้ากันไปกันมาระวังจะได้กันอีกรอบนะพี่เมฆ

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
มะตูมสู้สู้ เอาเหรียญมาให้พี่เมฆให้ได้นะ

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
เอ้า...ผลัดกันท้า งั้นก็ขอผลัดกันชนะ อิอิ

ออฟไลน์ patchylove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1585
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-4

ออฟไลน์ Kelvin Degree

  • ถ้าวันนั้นเลือกที่จะเดินออกไป คงไม่เจ็บมาจนถึงทุกวันนี้...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-2

ออฟไลน์ =นีรนาคา=

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2546
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +296/-6

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7

ออฟไลน์ van16

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 875
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
 :o8: จะว่าไปพี่เมฆก็น่ารักเหมือนกันนะเนี่ย  :-[

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด