และแล้วก็มาถึงวันที่ทุกคนรอคอย...
ความมืดมิดรอบด้านบ่งบอกว่ายังไม่เช้า มันควรเป็นเวลาที่ทุกคนกำลังนอนหลับสบายใจแต่กลับมีชายหนุ่มกลุ่มใหญ่กำลังยืนรวมตัวกันอย่างคึกคักตาสว่างหน้าหอพักชาย S
ใช่... ตาสว่าง
“ หาวววว ใครมันนัดตีสามแล้วยังไม่เสนอหน้ามาวะ ” เสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากตรงบันไดหน้าหอกำลังนอนซบกระเป๋าจากสำเพ็งใบใหญ่ “ ไอ้อุ่นนน แล้วดินของกูอยู่ไหนนนน ”
“ กำลังออกจากบ้านใหญ่ ” ผมพูดไปพลางหาววอดๆ ปาดน้ำตาที่คลออยู่ออก หัวผมโงนเงนไปมาเพราะความง่วง ไม่มีแรงจะทรงหัวแล้ว คิดว่าคงเอาหัวไปกระแทกกับพื้นปูนแข็งๆ แต่ที่ไหนได้... อะไรบางอย่างที่แข็งเหมือนกัน แต่ก็นิ่มกว่าพื้น แล้วก็อุ่นกว่า
เป็นแค่พื้นทำไมมีปาก “ บอกให้นอน แล้วพี่จะจัดกระเป๋าให้ก็ไม่เอา ”
“ ยุ่งน่า ” ผมบ่นแล้วทิ้งน้ำหนักหัวซบมันไปเลย “ มึงนี่ก็บ้า เคืองกูเรื่องหมา แต่ก็ยังไม่เลิกยุ่งกับกู ”
“ เรื่องแค่นั้น กูคิดมากไป กูก็เสียมึงไง กูพยายามจีบมึงให้ลืมไม่ดีกว่ารึไง ” ไอ้นี่แลจะเครียดจริงจังเรื่องชื่อหมา แต่ผมไม่มีทางพูดเรื่องน่าอายพรรค์นั้นออกมาหรอกน่า
“ พูดหล่อดี ไม่เหมือนหน้ามึงเลย ” ส่งเสียงหัวเราะหึไปที
ไอ้วินโอบไหล่ผมไว้หลวมๆ “ เงียบแล้วหลับไปเลยเมีย ปากดีเดี๋ยวจับจูบเลย ”
“ ก็ไม่ได้ห้าม ” ผมเงยหน้าขึ้นไปแล้วประกบปากมันทันทีไม่ทันให้มันได้ตั้งตัว... บดจูบเบาๆละเลียดละไมไปตามปากสวยก่อนจะผละออก “ เลิกคิดเรื่องชื่อหมาได้แหละ ไม่ใช่ชื่อใครทั้งนั้น จบ ”
“ อ่อยพี่ขนาดนี้ เดี๋ยวปล้ำตรงนี้ซะเลย ” วินร้องโอดโอยก่อนจะทำท่าจะจูบผมอีกรอบ ดีที่เอามือยันไว้ทัน “ ไรวะ นี่เสียเปรียบนะ มึงจูบกูอยู่ฝ่ายเดียว ”
“ แต่ก็ได้จูบมั้ย ”
“ เออว่ะ ” มันว่าเอ๋อๆ ผมส่ายหน้าแล้วถอนหายใจพรืด ทิ้งหนักตัวซบมันต่อแล้วปิดตาลง แต่หูยังคงได้ยินมันพึมพำ “ จูบแบบไม่รู้สึกอะไร ไม่ต้องจูบก็ได้นะมึง ให้ความหวังคน รู้มั้ย ” มันบีบจมูกผมเบาๆ
โง่ๆอย่างมึง เดาไม่ออกหรอก กูคิดหรือไม่คิด ต่อให้กูคิด มึงก็เสือกโง่ไม่รู้...
ยังไม่เลิก “ จับปล้ำจริงๆเลยดีมั้ยวะ อ่อยเค้าขนาดนี้ ”
“ ตีนสิ หุบปาก จะนอน ”
แล้วก็เงียบอีกครั้ง... ผมเริ่มทิ้งตัวลงเข้าสู่นิทรา แต่สักพักก็รู้สึกถึงแรงขยับเขยื้อนตัว ลำตัวผมสัมผัสพื้นเย้นๆก่อนหัวจะถูกวางลงบนตัก... ไม่นานผ้าหรือเสื้อใครสักคนถูกเอามาคลุมให้ผม...
...ใครสักคนที่ทำแบบนี้นอกจากไอ้หมาบ้าสามตัว
ในเวลานี้ก็คงเป็นมัน... ไอ้เชี่ยวิน
ไหนๆก็มืด มองไม่เห็น กูขอหน้าแดงหน่อยแล้วกัน
“ อุ่น ขอถ่ายรูปหน่อยนะ ”
กูหลับ กูไม่รู้
“ ไอ้ฟราน มาถ่ายกูกับเมียให้หน่อยดิ! ”
ผมพยายามมุดหน้าลงเสื้อแล้วหลับพยายามบังคับให้จิตใจสงบ แต่ที่ไม่สงบเลบยก็คงเป็นก้อนเนื้อในตัว... ที่เต้นร้องส่งเสียงไม่หยุด...
เฮ้อ... กระเพาะนี่แหละ ร้องโหยหวนด้วยความหิว...
.
.
เวลาผ่านไปเรื่อยๆไม่รู้นานเท่าไหร่ที่ผมหลับ ก่อนจะตื่นขึ้นเพราะเสียงโหวกเหวกโวยวายตัวถูกกระชากออกจากที่นอนแล้วถูกกอดรัดแน่น
“ หือ.. อะไรวะ ” ผมถามอย่างงัวเงีย ปรือตาลืมขึ้นอย่างมึนๆ ปรับสายตาให้ชินกับความมืดสักหน่อยก่อนจะประเมินสถานการณ์ได้ว่าตอนนี้มากันครบแล้ว
“ อุ่น อุ่นเป็นอะไรมั้ย มันวางยาอุ่นใช่มั้ย ” เสียงคุ้นๆเหมือนจะเป็นไอ้ลม ผมไม่ตอบเพราะง่วงและมึนอยู่ “ ไอ้เชี่ยดิน มึงมาดูน้องดิ! โดนไอ้เชี่ยนี่วางยาแน่ๆ ถึงมึนขนาดนี้ ”
“ ไอ้เหี้ย มึงทำพี่กูเหรอ! ”
“ ไอ้พี่ปาย มึงปล่อยกูดิว่ะ! กูจะดูน้อง! ”
“ ดินนน สนใจชุดเค้าก่อนนน น่ารักเปล่า! ”
“ ไม่น่ารักเว้ยยยยยยย ปล่อยยยยยย ” แม้สภาพตัวเองยังเอาไม่รอดแต่ก็ยังห่วงผม “ ไอ้เชี่ยวิน มึงออกห่างจากน้องกูเดี๋ยวนี้นะเว้ยยยย ”
มีรางวัลพี่ดีเด่นแห่งชาติมั้ย
ผมสะบัดหัวไล่ความง่วงก่อนจะเห็นเหตุการณ์ชัดๆ ผมลุกพรวดสลัดตัวออกจากมือไอ้ลม ตรงไปหาไอ้ไฟกับไอ้คุณผัวก่อนที่เริ่มจะฟัดกันแล้ว
“ แยกๆ ” เดินเข้าไปคั่นกลางดันให้ห่างกัน “ ไม่แยกกูกระทืบ! ”
รีบหลบกันไปคนละทิศเลยทีนี้ ไอ้ไฟเดินไปรวมกับลมที่ยังทำหน้าฟึดฟัดไม่เลิก เอาจริงๆพวกมันรู้ว่าอะไรเป็นอะไร แต่แค่พยายามหาความผิดมายัดเยียดให้เพื่อจะได้กระทืบอย่างมีเหตุผล คิดว่าจะมีใครบ้าแบบนี้มั้ยล่ะ ส่วนวินก็เดินไปหาน้องตัวเองที่มองอย่างเป็นห่วง แล้วก็มีผู้ชายอีกสองคนที่ผมยังไม่เคยเห็นหน้า
“ ไอ้คิม ไอ้เหี้ย มึงแย่งข้าวกูไม่พอ ยังเอาขวดน้ำกูไปอีกเหรอ! ”
“ ไรวะ กูกินหน่อยเดียวเอง ”
“ หน่อยพ่อง! ”
หันไปอีกทางก็เห็นไอ้คิมไอ้ไผ่กำลังแย่งข้าวกล่องกันแดก เอิ่ม เพิ่งตีสามจะตีสี่ มึงหิวกันแล้วเหรอ
พอมองไปอีกด้านก็เห็นพี่ปายกำลังตบตีกับดิน มองเลยไปอีกหน่อยก็เห็นแฝดญาติของผมกำลังนั่งแกว่งขาอยู่บนรถกระบะให้ฟีลลิ่งกุมารทองมากมาย
“ เฮียไทม์อยู่ไหน ” ขมวดคิ้วด้วยความหงุดหงิด นี่ก็ส่ายแล้วนะ “ พี่ปาย โทรตามเฮียให้หน่อยดิ ”
คนโดนใช้ชะงักการกลั่นแกล้งเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้ารับแล้วควานหน้าโทรศัพท์ที่สวมด้วยเคส...เคสเหี้ยอะไรของมันก็ไม่รู้ต่อสายหาคนนำทันที
ส่วนผมก็บอกให้คนอื่นๆขนของขึ้นรถ เราทั้งหมดจะนั่งรถไปก่อนแล้วเดี๋ยวเช้าค่อยเริ่มปั่น ปั่นตั้งแต่ตีสาม มีตายสิครับ มองไม่เห็นทาง
พอขนของขึ้นรถหมดเราก็มายืนรอไอ้เฮียไทม์ผู้นัดเวลา ระหว่างรอก็ชวนกันคุยเล่นไปพลางๆ...
“ วิน ไม่แนะนำน้องกับเพื่อนมึงหน่อยเหรอ ” ไอ้พี่ปายผู้เป็นมิตรกับทุกคนว่า ก่อนจะเพ่งสายตาไปที่น้องเวียร์ “ เฮ้ย ทำไมมองชุดกูงั้นวะน้อง มึงจะแย่งเหรอวะ! ดินดิน มาปกป้องชุดเขาหน่อย ”
ได้ทีก็หาทางเอาตัวไปกระแซะกับพี่หมอเถื่อนไม่ให้เสียโอกาส ไหนๆก็ไหนๆล่ะ ขอพูดถึงชุดมันหน่อยแล้วกัน... จะเรียกว่าชุดอะไรดีล่ะ ผมก็อธิบายไม่ถูก เอาง่ายๆ เคยเห็นชุดประดาน้ำป่ะที่แนบเนื้อแขนขาขายาวมิดชิด ถูกสวมทับด้วยกางเกงลายดอกสีพื้นเป็นสีแดงกับลายดอกสีพาสเทลที่ดูแล้วมันน่าจะทำเองเลย ส่วนเสื้อก็ใส่ทับด้วยเสื้อยืดสกรีนตัวโดเรมอนนั่งแดกโดรายากิ หัวก็มีงอบใส่ ไม่รู้มันไปขโมยชาวบ้านที่ไหนมา
จบเพียงเท่านี้กับชุดของมัน
น้องเวียร์ทำหน้าเหวอ “ เอ่อ... ”
“ ใครมันจะไปสนใจชุดประหลาดของมึงวะพี่! ”ดิน สะบัดตัวสลัดผลักออกจากอย่างแรง
ผมว่าเสียงเรียบก่อนจะยกน้ำเปล่าขึ้นกระดก
“ ทำใจน้อง มันบ้า ” ชี้ไปสองคนข้างหลัง “ แล้วนั่นใคร ”
“ คนนี้ไอ้ฟราน มึงน่าจะเคยเห็นหน้านะ อยู่หอเดียวกัน ” วินชี้ไปคนที่ทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก ดูก็รู้ว่าโดนหลอกมา “ ส่วนคนนี้เพื่อนสนิทพี่เอง ชื่อ ไต้ฝุ่น อยู่อักษร ”
อ้อ... คณะเดียวกับไอ้น้องซีแอ๊บใสน่ะเหรอ
“ เฮ้ยยย งั้นพี่ก็คือเดือนมหาลัยปี 3 อ่ะดิ!! ”ไอ้ไผ่ร้องขึ้นรีบถลาไปประชิดตัวแล้วเขย่าๆ “ วันนั้นพี่หล่อโคตร ร้องเพลงเพราะชิบหาย ”
“ ขอบคุณครับ ” รอยยิ้มใจดีถูกส่งมาให้จนไอ้ไผ่หน้าร้อนแดงวูบวาบ
ไอ้คิมหน้างออย่างเห็นได้ชัด “ มึงมานี้เลยไอ้ไผ่ ”
“ อะไรของมึงวะ! ”
“ เรื่องของกู! ”
ไต้ฝุ่นมองเพื่อนคู่นี้ด้วยสายตาไม่เข้าใจแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรนอกจากยิ้มเรี่ยราดกระจายความหล่อไปเรื่อย จะว่าไปเรื่องคืนวันเฟรชชี่ไนท์ของที่นี่ เขาค่อนข้างฟรี เด็กนอกก็เข้ามาได้ แต่ก็ต้องแบบมีรุ่นพี่เป็นคนพาเข้ามา ไอ้ผมก็โดนไอ้เหี้ยดินลากมาดูมันประกวด แต่แน่นอน แพ้... สมน้ำหน้า
“ คนนี้ชื่อ ปาย ปีสี่ ” ผมไล่แนะนำบ้าง “ แต่ไม่ต้องเคารพมันหรอก มันบ้า ”
“ อ้าว ไอ้หลานรหัสเชี่ย ”
“ สองคนนั่น คนผมยาวชื่อ ไผ่ ผมสั้นชื่อ คิม ” ชี้ไปที่ไอ้เพื่อนสองคนกำลังกัดกันได้ที่ “ อย่าไปสนใจ มันไม่ปกติ ”
“ อ้าว ไอ้เพื่อนเหี้ย ” นิ่งค้างหยุดการหยอกกันทันที
“ สามตัวนั่น เป็นพี่น้องกูเอง ” ผมกวาดตามองไปแล้วถอนหายใจ “ อย่าไปสน ไม่สำคัญ ”
“ อุ่นอ่า (T^T) (TOT) (Y_Y) ”
“ ส่วนสองคนนั้น ” ชี้ไปที่ฝาแฝดโคตรจะหล่อบรรลัย “ เป็นญาติกู ชื่อท้องฟ้า กับฟ้าคราม หน้ามันคล้ายกัน เรียกๆไปเถอะ ”
“ แนะนำเฮียได้แย่จริงๆนะ ” ท้องฟ้าว่าเสียงเอ็นดูก่อนจะก้มลงมาคล้องคอผมแล้วกวาดตามองคนอื่นๆ “ คนไหนชื่อวินวะ ”
“ ผมครับ ” ไอ้วินมันทำหน้าครุ่นคิดเล็กน้อยก่อนจะเข้าใจบางอย่าง คงตรัสรู้แล้วมั้งว่าไอ้แฝดฟ้านี่พี่กู
ฟ้าครามพยักหน้ารับแล้วมุ่ยปากไปทางสามหมา “ เออ ดูแลน้องกูด้วยล่ะ กูไม่กัดเหมือนไอ้สามหน่อนั่น ”
“ ครับ ” อมยิ้มหน้าบานเป็นจานดาวเทียมเลยนะมึง แล้วมันก็หันมามองผม
เสียงขุ่นมัว “ มองห่าไร ”
“ มองเมีย ”
“ ไม่อยากแดกข้าวแบบอร่อยๆแล้วใช่มั้ย ” ท่าทางผมคือจะเข้าไปตะครุบแล้วขย้ำหัวมันแล้ว แต่ติดที่ไอ้ไฟมาดึงตัวไว้ก่อน
“ พี่อุ่น พี่มากับไฟดีกว่า อย่าไปสนใจมัน มาทาครีมกันแดดก่อน ถึงตอนนี้จะตีสี่ แต่แสงไฟก็มีผลต่อผิวสวยๆ เฮ้ย! ไอ้เชี่ยวิดวะ มึงนี่ไม่เลิกนะ มึงตัดหน้ากู! เอาครีมมา!”
“ ตังค์กู ไอ้น้องเหี้ย ครีมก็ของกู มึงขโมยจากห้องกูมา อย่าคิดว่าไม่รู้ ”
“ มึงได้แปะชื่อไว้มั้ยล่ะ ห่า! ”
“ นี่กูพี่มึงนะ ”
“ กูน้องมึงนะ เคารพกูดิ! ”
ผมคิดว่าบ้านผมกำลังมีสมองที่ไม่ค่อยจะปกติกันสักเท่าไหร่ ผมเลยคว้าแขนทุกคนลากตัวแยกออกมาจากสามหน่อสี่หน่อบ้าบอ
หยุดเมื่อไกลพอจากคนบ้า ผมเลยจับหัวเวียร์แล้วโยกเล่นด้วยความเอ็นดู ไอ้เวียร์มันน่ารักนะ ตัวเล็กๆ แต่ไม่ได้เตี้ยก็แคระ คือผมสูงไง “ คนพวกนี้ประสาทหน่อยนะ ทางที่ดีอย่าไปใกล้ เดี๋ยวติดเชื้อ ” ว่าไปพลางเหลือบไปทางไต้ฝุ่นกับฟรานด้วยเหมือนจะเตือนกลายๆ
เวียร์ส่ายหน้าแล้วคลี่ยิ้ม “ ไม่ประสาทนะครับ ทุกคนดูรักใคร่สนิทกันดีนะครับ น่ารักจะตาย ”
...ผมว่าเวียร์มีความผิดปกติทางสายตาอยู่มากนะ...
“ แล้วพวกมึงโอเคมั้ย ” เงยหน้าไปถามสองคนที่ดูเงียบๆ
ไต้ฝุ่นพยักหน้า“ เป็นทริปที่น่าสนุกดีนะ ” เหลือบไปทางหมาบ้าสามตัวที่มีไอ้พี่ปายผนวกผนึกความบ้าเข้าไปอีกแล้วค่อยๆขยับมุมปากยิ้ม คนบ้าอะไร ทำห่าอะไรก็ดูดีไปหมด ไอ้วินนี่แทบไม่ได้ครึ่ง
ไอ้ฟรานทำหน้าทำตาเหมือนจะกัดลิ้นตาย ชกไปที่ไหล่ไอ้วินดังปั้ก “ มึงมันเชี่ย หลอกกู มึงจะพากูมาทำเหี้ยอะไร กูไม่อยากปั่นนนนนนนนนน ไอ้เชี่ยยยย ”
เสียงร้องโหยหวนดังเรียกเสียงหัวเราะได้เป็นอย่างดีก่อนจะชะงักเมื่อมีอีกเสียงแทรกมา... และคนที่เรารอคอยก็มาถึงสักที
“ เฮ้ยยยยยยยย ขอโทดดดดดเว้ยยยย รถติด!! ”
ผมสวนกลับทันที “ รถติดบ้านป้าสิไอ้เฮีย! ”
“ ชะอุ๊ย แก้ตัวไม่ผ่าน แย่จัง ” หน้าตาหงอยซึมลงทันควัน ใบหน้าเข้มคมเต็มไปด้วยเหงื่อ คงรีบปั่นจักรยานมาสุดฤทธิ์ มันลงจากจักรยานแล้วทิ้งตัวโยนกระเป๋าใบเท่าช้างออก “ เหนื่อยชิบหาย ”
“ ทำไมสาย ”
ทำหน้าอึกอัก “ เอ่อ คือ แบบว่า ” เหลือกตาไปมา “ กูหลงทางว่ะมึง แหะๆ ”
...กูจะไปถึงเพชรบูรณ์มั้ย ไหนตอบ
“ เดี๋ยวเอาของเก็บให้น่ะครับ ” ไอ้วินว่าขึ้นแผ่ซ่านความใจดีไปทั่ว
“ ทำดีมาก ว่าที่น้องเขยของน้องรหัสกู ”ไอ้เฮียไทม์ยกนิ้วให้ แสร้งทำอารมณ์ดีหลบสายตาจ้องจะต่อยของผม
ช่างแม่ง หลงไหนก็พักนั่นแหละ
ส่วนไอ้คนถูกชมเช่นไอ้วินก็หัวเราะอย่างชอบใจ ยกกระเป๋าไปเก็บท้ายรถ ส่วนจักรยาน ไต้ฝุ่นเป็นคนยกไปขึ้นรถให้... สรุปรวมทริปหรรษาของเรามีกัน... สิบสี่คนถ้วน
คนปั่นนำทริปพักหายใจก่อนจะมองกวาดสายตาสาดส่องดูทุกคนแล้วเห็นสี่คนที่ยังกัดตีกันไม่เลิกก็ขยับคิ้วมองดูด้วยความสนใจ
“ เฮ้ย พี่น้องมึงปะอุ่น น่ารักดีว่ะ ”
ควรพาพวกมันไปตัดแว่นเช็คประสาทใหม่เนอะ...
สามหน่อหมาเถื่อนหยุดง้องแง้งใส่ไอ้พี่ปายหันควับมามองทางต้นเสียงแล้วถลามาจะต่อย
“ มึงว่าใครน่ารัก พูดอีกทีดิ!! ”
“ พวกมึงไง ” ตีหน้าอึนกลับ กระตุกต่อมบ้าไอ้ลมให้หนัก
“ อย่างกูเขาเรียกหล่อเว้ย ไอ้หน้าแป๊ะ!! ”
“ อ้าวพี่ ไหงว่ากันงี้วะ ”
ผมถอนหายใจครั้งที่เจ็ดร้อยแปดสิบเอ็ดแล้วยกมือไล่ๆต้อนๆทุกคนที่ยังมีสติครบให้ขึ้นรถ บ้างก็นั่งท้ายรถ บ้างก็นั่งในรถ... ผมเลือกขึ้นรถของไอ้เฮียฟ้าคราม นั่งหลังกับไอ้วินสองคน มองลงไปก็ยังเห็นไอ้พี่รหัสกับพี่คนโตของบ้านกำลังวางมวยไม่เลิก
“ จะไม่ไปใช่มั้ย!! ”
ตะโกนลงไปให้สองคนนั้นหยุดใช้สายตาฟาดฟันกัน
พี่รหัสผมก็เปรี้ยว “ ระวังตัวไว้เถอะมึง ” ก่อนจะสะบัดก้นขึ้นไปนั่งในรถของไอ้พี่ท้องฟ้า
“ มึงนั่นแหละระวังไว้ เดี๋ยวตายไม่รู้ตัว ” ไม่วายชูของดีให้อีก ก่อนที่ไอ้ลมจะผละไปนั่งบนหลังกระบะอีกคนสุมหัวกับสองหมาที่เหลือ มันซุบซิบกันแล้วหันมามองหน้าไอ้วินจากนั้นก็ขยับยิ้มชั่ว พอผมมองจ้องกลับ รีบหันไปมองนกมองไม้ทันที... ไอ้พวกเสแร้ง
“ กูว่าทริปนี้กูคงต้องระวังตัวสุดๆ ” เสียงข้างๆเรียกสติผมให้หันไปมอง “ เผลอที กูคงไปนอนอยู่วัด ”
“ เออ...แต่แม่ง..."
แค่คิดก็ปวดหัวแล้ว...
“ มันคงเป็นทริปที่วุ่นวายสัดๆแน่ๆ ”
กลิ้งตาไปมาแล้วเงยหน้ามองพระจันทร์และส่ายหัว...
เช้าเมื่อไหร่... ความชุลมุนบังเกิดชัวร์
พาราสามโหลที่เอามา... จะพอมั้ยวะ เฮ้อ
**************************
ก่อนอื่นกราบขอโทาที่หายไปเนิ่นนาน ส่วนหนึ่งที่หายไปเพราะงมหารหัสไม่เจอ
เมลก็ตายดับ งมหารหัสอยู่เหมือนกัน
มาได้ก็ครบรอบ 3 เดือนพอดี ฮือ ขอโทษค่า
เว็บนี้ลงช้าที่สุดก็ขอโทษด้วยค่า ตอนนี้เขียนถึงตอนที่ 19 แล้ว จะรีบทยอยลงนะคะ
ขอโทษด้วยค่ะ