อลันด์ถอนหายใจหนักพลางจ้องหน้าตัวเองผ่านกระจกในห้องน้ำของที่คอนโด ตอนนี้สี่ทุ่มกว่าแล้วเขากับโธมัสเพิ่งกลับมาจากการถ่วงเวลา เอ๊ย แวะกินมื้อเย็นแถวบ้านนภ
ตอนแรกเขาบอกโธมัสไปว่าอยากนอนพักที่โรงแรมริมแม่น้ำดูบ้าง โดยมีเหตุผลลับๆ คือที่โรงแรมต่อให้ดึกแค่ไหนก็มีคนเยอะ ถ้าเกิดอะไรไม่คาดฝันขึ้นมามีคนช่วยแน่ๆ แต่ไอ้หมาทอมน่ะสิบอกว่าอยากนอนห้องเขา จะแกล้งบอกว่าแอร์ยังไม่ซ่อมก็ไม่ได้อีกเพราะวันอังคารโธมัสตามมากินมื้อเย็นด้วยที่ห้องและพบว่าแอร์ทุกตัวกลับมาใช้งานได้ดีเหมือนเดิม (แหงล่ะ มันไม่ได้เสียตั้งแต่แรกอยู่แล้วนี่!)
ตาสีฟ้าซีดก้มมองเครื่องช็อตไฟฟ้าในมือ ทำใจไว้อาลัยให้พ่อโกลเด้นในห้องนอนที่อาจจะเป็นหมาเกรียมได้ทุกเมื่อ ครู่เดียวจึงค่อยยัดวัตถุอันตรายใส่กระเป๋ากางเกงนอน
ตอนที่เขากลับเข้าไปข้างในโธมัสนอนแผ่เต็มเตียงเล็กๆ ของเขา ปล่อยฟูกและอุปกรณ์การนอนบนพื้นไว้ไม่ไยดี พ่อหนุ่มอดีตกัปตันชมรมรักบี้เปลือยท่อนบนโชว์ขนสีทองรกครึ้มและแผงอกที่ฟิตแน่นกว่าครั้งล่าสุดที่เห็นเมื่อสามสี่เดือนที่แล้ว พอบวกรวมกับหนวดเคราบนใบหน้าแล้วดูยุ่งเหยิงแต่ปฏิเสธไม่ได้ว่ามีเสน่ห์ชวนน้ำลายหยดติ๋งๆ
เขาเอียงคอพิจารณาเพื่อนรักเล่นโทรศัพท์เงียบๆ ครั้งหนึ่งเขาเคยชอบโธมัสที่สัมผัสเขาแบบนั้น มันดีมากจนเหมือนลอยขึ้นไปอยู่บนสวรรค์
ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่เปลี่ยนเป็นความกลัว“โอ้ อัล!” หนุ่มผมทองสังเกตเห็นเพื่อนตัวเล็ก เขารีบโยนโทรศัพท์ทิ้งก่อนเบี่ยงตัวให้เกิดที่ว่างบนเตียงแค่พอแมวมุดไปนอนได้ “มานอนข้างฉันสิ”
“ถ้านายต้องการเตียงเดี๋ยวฉันนอนฟูกเอง”
“นอนด้วยกันก็ได้น่า ถ้าที่มันไม่พอก็นอนบนตัวฉันเลย”
“ไม่เอาน่าทอม นายไม่อึดอัดหรือไง”
“ทีนายนอนกอดกับด็อกกลมดิกฉันยังไม่เห็นนายบ่นเลย อย่าให้ฉันหงุดหงิดน่าเรากอดกันออกบ่อยจะมาหวงตัวอะไรกันตอนนี้”
“แค่ - นอน - กอด” เขายื่นคำขาด ทิวากานต์บอกว่าเขาต้องคุยกับโธมัสให้รู้เรื่องและจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวคนเดียว ผู้ชายคนนั้นทั้งที่ไม่ชอบหน้าเพื่อนเขาเท่าไหร่แต่ก็ให้โอกาสเขาจัดการปัญหาเรื่องนี้เอง เพราะฉะนั้นเขาไม่อยากทำให้ทิวากานต์ผิดหวังกับการทำตัวอ่อนแอซ้ำซาก
“อย่าตัดรอนกันแบบนั้นสิ นายไม่คิดถึงฉันอย่างที่ฉันคิดถึงนายบ้างอย่างนั้นเหรอ”
โธมัสลุกขึ้นจากเตียงตรงเข้ามาจูงมือเพื่อนไปนั่งด้วยกัน เขาแตะนิ้วบนแก้มใสขึ้นสีแดงฝาดเพราะน้ำอุ่น เจ้าตัวดูน่ารักน่ากินเอามากๆ ตอนอยู่ในเสื้อนอนผ้าฝ้ายนุ่มนิ่มเหมือนปุยนุ่น ไม่รอให้สมองสั่งการเขาก้มลงฝังจมูกกับริมฝีปากเข้าหาก้อนเนื้อนุ่ม สูดกลิ่นหอมจากครีมอาบน้ำเข้าเต็มปอด
“อื๊อ ไม่นะ...ทอม” อลันด์ร้องเสียงหลงเมื่อโธมัสจับเขากดลงกับเตียงและเริ่มปล้ำจูบไปตามใบหน้าเขา มือหนาหยาบกร้านล้วงเข้ามาใต้เสื้อนอนลูบไล้กักขฬะ
“คิดถึง... คิดถึงอัลมากๆ อยากจูบ อยากกอด อยากทำกับนาย”
“อย่าทอม!” เด็กหนุ่มตัวเล็กร้องเสียงหลง สองมือพยายามดันหน้ากับมือของโธมัสออกจากตัว เหมือนไม้ซีกงัดไม้ซุงอย่าว่าแต่จะขยับเขายังถูกเจ้าของความสูงหกฟุตกว่าทับลงมามากกว่าเดิมอีกต่างหาก
“I need you” แล้วโธมัสก็จัดการปิดเสียงร้องประท้วงของอลันด์ด้วยจูบร้อนแรงราวกับเผาร่างกายอีกคนให้ไร้แรงต่อต้านได้อีก เขาสอดลิ้นเข้าควานลึก ดูดดึงลิ้นน้อยๆ นั้นให้เจ้าของเสียววาบไปทั่วท้องน้อย รู้ดีว่าอีกคนชอบให้สัมผัสตรงไหนยังไง รับรองว่าคืนนี้อลันด์ไม่มีทางหลุดรอดมือเขาไปได้หรอก
เขาจะใช้ทุกเทคนิคที่เรียนรู้มาตลอดช่วงเรียนมหาวิทยาลัยทำให้อัลยอมเป็นของเขาให้ได้! แน่นอนว่าถ้าพ่อเขารู้ความคิดเมื่อครู่นี้โธมัสคงโดนตบหัวเน้นๆ พร้อมกับคำถามว่า
‘กูส่งมึงไปเรียนวิศวะหรือวิชาบนเตียงกันแน่วะ’ แต่พ่อคงกำลังนั่งด่าลูกน้องป่าวๆ อยู่ที่ลอนดอนจะตามมาตบเขาถึงนี่ไม่มีทางแน่ๆ
แป๊บเดียวเขาก็จับอลันด์ลอกคราบทั้งตัว เจ้าตัวน้อยหน้าซีดเผือดคงหนาว ไม่เป็นไรเขาจะกอดให้ความอบอุ่นเอง
หนาวเนื้อต้องห่มเนื้อ! โธมัสกระชากกางเกงนอนทิ้งแล้วโถมตัวเข้ากอดรัดฟัดอีกฝ่ายจนน้ำลายเปรอะทั่วหน้า ถดตัวลงไปจูบอีกฝ่ายตั้งแต่ปลายเท้าขึ้นมาถึงต้นขาด้านในจนอลันด์ร้องเสียงหลง
“ไม่! ไม่ๆ ไม่ทำแบบนี้นะทอม ไม่!!!”
“แต่ฉันอยากทำนี่ ตามใจฉันหน่อยซี่ ทีแต่ก่อนนายยังไม่ว่าอะไรเลยทำไมตอนนี้ดื้อจังห๊ะ”
“มันไม่เหมือนกันนี่!” อลันด์ตะโกนหน้าแดง “ตอนนั้นฉันยังไม่รู้แต่ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าคนที่เป็นเพื่อนกันเขาไม่ทำแบบนี้หรอก ไม่มีเพื่อนคนไหนที่ฉันรู้จักอยากจูบอยากมีเซ็กส์กับฉันสักคน”
“ก็เพื่อนแบบฉันไง!!!”
“ถ้านายทำฉันก็จะไม่คิดว่านายเป็นเพื่อนอีกแล้ว!!!” เสียงแหบสั่นตลอดเวลาที่พูดน้ำตาคลอดูน่าสงสาร แต่โธมัสหงุดหงิดที่เพื่อนเขาไม่ว่าง่ายเหมือนเดิม
“มันสำคัญเหรอว่าเพื่อนจะมีอะไรกับเพื่อนไม่ได้น่ะในเมื่อถ้าเราทำแล้วเราต่างมีความสุขด้วยกันทั้งคู่”
“ฉัน - ไม่ - มี - ความ - สุข - ทอม!” เด็กหนุ่มย้ำช้าชัดทีละคำ ก่อนน้ำเสียงจะอ่อนลงเมื่อเห็นใบหน้าหล่อตรงหน้าหงอยลงไป “เมื่อก่อนฉันมีความสุขนะทอม ฉันชอบให้นายกอดฉันแน่นๆ จูบฉัน ทำเหมือนฉันเป็นคนสำคัญที่สุดในชีวิตนาย แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แล้ว... นายมีคนรักของนาย ถ้านายยังทำกับฉันแบบนี้นายจะกลายเป็นผู้ชายเลวๆ คนหนึ่งที่ทำร้ายทั้งฉันและผู้หญิงคนนั้น”
“ฉันยินดีเลิกกับเขาตอนนี้เพื่อนายเลย”
อลันด์ส่ายหน้าอาศัยช่วงที่โธมัสสับสนลุกไปหยิบกางเกงมาใส่ แอบแตะตรงกระเป๋าดูว่าเครื่องช็อตไฟฟ้ายังอยู่ดี “ต่อให้นายเลิกกับเขาตอนนี้ฉันก็จะไม่นอนกับนาย”
“ทำไม”
“ตอนนี้ฉันแค่อยากเป็นเพื่อนกับนาย...ตลอดไป”
“ฉันไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจสิ่งที่นายพูดมาเลยแม้แต่นิดเดียวอัล ไม่ยอมให้ฉันกอดถ้าฉันยังมีแฟนอยู่ แต่จะให้ฉันเลิกกับเขานายก็ไม่เอา นายต้องการอะไรกันแน่”
“ความรัก ฉันอยากได้ความรักแบบที่ไม่ใช่สำหรับเพื่อน นายให้ฉันได้ไหมล่ะ”
“ฉัน...”
“ขนาดนายยังไม่รู้ตัวเองเลย แล้วเราจะทำทั้งที่เราไม่รักกันงั้นเหรอ ฉันรักนายนะ นายเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดในชีวิตฉันและฉันพร้อมจะรักนายในแบบอื่นถ้านายรักแบบนั้นบ้าง ตอนนี้ฉันมีอะไรกับนายไม่ได้เพราะสิ่งที่ฉันอยากได้คือความรักไม่ใช่แค่ร่างกาย”
“งั้นเหรอ... แต่ฉันรักนายนะ ฉันรู้แค่นั้น แต่ถ้านายบอกว่ารักของฉันไม่เหมือนกับของนาย... ก็คงเป็นฉันที่บ้าไปคนเดียว”
“ทอม...”
“ขอโทษนะที่ทำให้ลำบากใจ” เขาแตะนิ้วบนริมฝีปากอิ่มจิ้มลิ้มห้ามไม่ให้อีกคนพูดอะไรออกมาอีก แม้รู้ว่าคำเหล่านั้นคือคำปลอบใจแต่ตอนนี้เขาไม่ต้องการ “นอนซะ ฉันไม่มีอารมณ์จะทำอะไรนายแล้ว”
ร่างสูงใหญ่ลุกออกไปจากเตียง โธมัสก้มลงหยิบกางเกงนอนมาสวมไม่ลืมคว้าเสื้อผ้าฝ้ายตัวนุ่มโยนใส่หัวอลันด์งึมงำบอกให้ใส่ซะ ก่อนรวบฟูกกับหมอนขึ้น
“จะไปไหนน่ะ”
“ไปนอนข้างนอก ใต้บันไดดีไหม เวลานายเดินลงมาฉันจะได้รู้ไง”
“ทำไมไม่นอนในนี้ล่ะ”
“อยากให้ฉันเป็นบ้าลุกขึ้นมาปล้ำนายอีกทีหรือไง” เขาว่าติดฉุนแต่ใบหน้ากำลังเผยรอยยิ้ม “ตอนนี้ฉันจะปล่อยนายไปก่อน จนกว่าความรักของฉันกับนายจะตรงกัน ตอนนั้นนายไม่รอดแน่”
อลันด์สวมเสื้อแล้วยกนิ้วเกาแก้มแก้เขินมองโธมัสอุ้มอุปกรณ์การนอนออกไปจากห้องนอนไป ได้ยินเสียงอีกคนตะโกนมาว่าราตรีสวัสดิ์ก็รีบเปิดหน้าต่างชะโงกหน้าออกไปดูตรงบันไดเห็นเพื่อนตัวโตกำลังเดินอยู่
“ราตรีสวัสดิ์ทอม” หมอนั่นไม่คิดจะเงยหน้ากลับขึ้นมามองเขาด้วยซ้ำ แต่อลันด์คิดว่าเป็นแบบนั้นน่ะดีแล้ว
เขารีบปิดหน้าต่างเหมือนเดิมเมื่อเพื่อนรักลับสายตา ร่างเล็กหงายหลังกับเตียงเสียงดังกลบเสียงหัวเราะไปจนหมด อลันด์ยิ้มกว้างขณะเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มากดส่งข้อความไปหาทิวากานต์ ต้องบอกคุณหมอเสียหน่อยว่าไอ้วัตถุอันตรายที่ให้มาเป็นหมันเสียแล้ว โดยลืมไปสนิทว่าหนนี้โธมัสแค่ยอมรามือแต่ไม่ได้บอกว่าจะถอดใจจากเจ้าตัวสักนิดเดียว
.
.
.
คุณหมอวัยสามสิบค่อนข้างอารมณ์ดีไปถึงดีมากแม้จะผ่านช่วงอดนอนเพราะอยู่เวรมาทั้งคืนก็ตาม อารมณ์ดีถึงขึ้นนักศึกษาแพทย์กับนางพยาบาลจับกลุ่มปรึกษาหาสาเหตุกันเลยทีเดียว เป็นที่รู้กันทั่วว่าคุณหมอทิวากานต์เป็นพวกร้ายหน้าตาย เห็นยิ้มๆ แบบนี้แค่ปล่อยให้นักศึกษาตายใจแต่เชือดพวกทำงานไม่ได้ดั่งใจมาแล้วหลายราย บางคนถึงขั้นอยากเลิกเป็นหมอไปเลยก็มี
“อาจารย์รันไม่อยู่เลยไม่มีใครรู้ว่าอาจารย์วาเป็นอะไรกันแน่ บางทีอาจารย์อาจจะแค่ถูกหวยก็ได้นะ” เรสสิเดนท์นายหนึ่งกล่าวไว้หลังนักศึกษาตัวเปี๊ยกตามที่ทิวากานต์นิยามผ่านช่วงวัดใจตอนเช้ามาได้แบบประสาทเสียกันทั้งกรุ๊ป
ส่วนเป้าสนทนาวันนี้ยังคงยิ้มแย้มอารมณ์ดีพูดคุยกับคนไข้โปรยรอยยิ้มจนสาวน้อยสาวใหญ่สาววัยใกล้ฝั่งเดินหน้าแดงออกจากห้องตรวจมาเป็นแถว แน่นอนว่าไม่มีใครรู้นอกจากเจ้าตัว และต่อให้การันต์มาถามก็คงไม่เข้าใจ เพราะถ้าบอกว่าอลันด์เพิ่งฝึกหมาที่บ้านให้เชื่องได้ทุกคนคงหาว่าเขาบ้า
พอเลิกงานเขาก็นั่งเรือข้ามฟากไปหาอลันด์ ไอ้หมาขนทองก็นั่งรออยู่ด้วย อยากจะทักเหลือเกินว่าไม่เจอกันแค่คืนเดียวเชื่องขึ้นเยอะนะแต่เก็บปากไว้กินข้าวเย็นนี้ดีกว่า โดนต่อยมาดั้งหักไม่คุ้มกัน ที่มีอยู่นี่ของแท้พ่อให้มาเสียด้วย
เขาพาหนุ่มลูกเสี้ยวเยอรมันไปเลี้ยงสุกี้แบบพรีเมี่ยมเป็นการส่งท้ายก่อนที่อีกคนจะต้องกลับไปมิวนิคคืนนี้ ลงทุนสั่งเนื้ออย่างดีมาให้โดยเฉพาะแม้หนุ่มน้อยนักกีฬาจะขอเพิ่มแบบไม่บันยะบันยังเลยก็ตาม แต่เงินแค่นี้แลกกับการไม่ต้องเจอหน้าอีกคนไปนานๆ ถือว่าคุ้มมาก
“อัลรู้ไหม เจมส์ได้เป็นสมาชิกบูลลิงดอนคลับด้วยนะ” หนุ่มผมทองเม้าท์เพื่อนอีกคนที่สถิตอยู่อังกฤษขึ้นมากลางวงสุกี้ เด็กลูกครึ่งพยักหน้ารับรู้ก่อนคีบชิ้นเนื้อเข้าปากเคี้ยวตุ้ยเหมือนไม่ได้สนใจ
“โฮ่ เขารับเด็กโรงเรียนเราด้วยหรือไง ฉันนึกว่าเขาจะเอาแต่พวกอีตั้น เวสต์มินสเตอร์ หรือเซนต์พอลซะอีก”
“นั่นเป็นเหตุผลที่แด๊ดดี้ของนายกับแด๊ดดี้ของฉันเห็นพ้องต้องกันในการเลือกโรงเรียนมัธยมให้เราไงล่ะ”
โธมัสหัวเราะเบาๆ ตักลูกชิ้นกุ้งแสนอร่อยใส่ถ้วยใบเล็กแล้วค่อยเอาส้อมจิ้มเข้าปาก ตาสีน้ำเงินเข้มมองเลยไปหาทิวากานต์ที่เคี้ยวเนื้อจนแก้มตุ่ย ไม่อยากยอมรับเลยว่าสภาพคุณหมอตอนเอ็นจอยอีทติ้งมีแสงไฟสีเหลืองนวลอาบใบหน้าจะมีเสน่ห์เย้ายวนสวยเซ็กซี่มากจนน่าขย้ำพอๆ กับเนื้อในหม้อ แต่ก่อนความคิดจะไปไกลกว่านั้นเขาก็ดึงสายตากลับมาหาคนตัวเล็กข้างๆ
“เจมส์มีครบทุกอย่างที่พวกนั้นต้องการ เขาไม่สนใจหรอกว่าเจมส์จะจบมาจากโรงเรียนไหน”
“นั่นก็เหมาะกับเขาดี” อลันด์สรุปสั้นๆ ปากเล็กอ้าออกกว้างรองรับเกี๊ยวปลาชิ้นใหญ่เข้าไปทั้งอัน “นายเองถ้าไปเรียนอ็อกฟอร์ดก็ต้องได้อยู่ชมรมปัญญาอ่อนนั่นเหมือนกันแน่ๆ บางทีคงได้เป็นถึงประธานและขึ้นเป็นตำนาน คึคึ”
“ฉันถือว่านั่นคือคำชมนะ” หนุ่มผมทองกลั้วหัวเราะเบาๆ ในลำคอ เอื้อมมือข้างหนึ่งวางบนหัวเพื่อนตัวเล็กขยี้เบาๆ “แต่ไฮโซวัยกระเตาะที่ขอเงินพ่อแม่เที่ยวเตร่เบ่งใส่คนอื่นไปทั่วไม่ใช่สไตล์ฉันหรอกนะ”
“ไอซี... อย่างนายคงได้เป็นกัปตันชมรมเรือพายมากกว่า”
“พวกบ้าพลังกล้ามโตเท่าก้ามปู” เสียงกระเซ้ามาจากคนแก่สุด ทิวากานต์แกล้งเอามืออุดปากทำท่ากลั้นหัวเราะ
“เทรนด์สาวนิยมเดี๋ยวนี้เขาชอบหนุ่มล่ำมีซิกแพกไม่ใช่หนุ่มหน้าละอ่อนผอมแห้งกันแล้วด็อก”
“นิยมทั้งสาวๆ และกลุ่มไม้ป่าเดียวกัน”
“วา!” อลันด์ต้องรีบปรามคนแก่สุดให้เลิกยั่วเพื่อนรักเขาเป็นเด็กๆ เสียทีก่อนถูกพ่อนักกีฬาหุ่นทรมานใจสาวคว่ำโต๊ะสุกี้เสียก่อน กระนั้นเด็กลูกครึ่งกลับอมยิ้มกับตัวเอง เขาชอบบรรยากาศแบบนี้ อยากเก็บความรู้สึกนี้ไปนานๆ มีคนรักอยู่ข้างหนึ่งและเพื่อนรักอยู่อีกข้าง พูดคุยกันได้เรื่อยๆ เหมือนไม่มีวันจบ แต่เขารู้ดีว่าทุกงานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกลา
เที่ยวบินตรงไปมิวนิคมีเพียงเที่ยวเดียวต่อวันและเป็นเวลาเที่ยงคืนเพื่อถึงที่นู่นตอนเช้าพอดี ตอนออกจากร้านสุกี้หนุ่มลูกเสี้ยวเยอรมันต้องกลับไปอาบน้ำเตรียมตัวเดินทางกลับที่โรงแรมเสียก่อน พวกเขาเลยนัดแนะให้ไปเจอกันอีกทีที่สนามบินตอนห้าทุ่ม
อลันด์ดูหงอยตอนนั่งรถกลับคอนโด ไม่ต้องหาสาเหตุมากก็รู้ว่ามาจากการที่เพื่อนตัวโตจะต้องกลับไปเรียนต่อ ทิวากานต์มองแล้วทั้งห่วงทั้งหมั่นไส้ ไม่รู้จะอาลัยอาวรณ์อะไรกันนักหนา แต่พอเห็นอีกคนทำหน้าซึมเป็นแมวป่วยก็อดดึงมากอดมาลูบหัวไม่ได้ “เดี๋ยวก็ได้เจอกันอีกน่า”
“ไอ - ซี แต่แบบว่า...ไม่อยากให้ทอมกลับไปเลยอ่ะ”
“รักกันมากใช่ไหม” คุณหมอแกล้งทำเสียงเข้มขู่ฟ่อๆ สองมือขยุ้มผมตรงกกหูอีกคนจนยุ่ง ก่อนบดจูบบนหน้าผากแรงๆ จนเจ็บปากไปหมด “นี่แน่ะๆ ริรักคนอื่นมากกว่าฉันงั้นเหรอ”
“โอ๊ย ไม่ได้รักแบบเดียวกันสักหน่อย มันแค่ใจหายอ่ะ เข้าใจม่ะ”
ทิวากานต์เลื่อนริมฝีปากลงจนชิดกับปากอีกฝ่าย กระซิบบอกเสียงแหบ “รู้น่า แกล้งเล่นหรอก”
อลันด์สอดแขนเข้ากอดช่วงเอวสอบได้รูปของคุณหมอแล้วซุกหน้าลงบนอกกว้างหวังช่วยถมช่องว่างในใจ กลิ่นน้ำหอมราคาแพงผสมกับกลิ่นมื้อเย็นที่เพิ่งกินเข้าไปลอยเข้ามาในจมูก ไม่มีกลิ่นบุหรี่ติดตามตัวเหมือนเช่นทุกวันนับแต่ตอนที่สัญญาว่าจะเลิกบุหรี่เป็นเพื่อนเขา จะว่าไปพอตั้งใจเลิกบุหรี่มันทรมานแค่สามวันแรกเท่านั้น หลังจากนั้นก็ไม่รู้สึกอยากอะไรอีก แต่ช่วงที่ทรมานนั่นแหละอยากจนมือสั่นรู้สึกปากว่างต้องรีบหาของกินยัดเข้าปากตลอดเวลา
“ไปล้างหน้าล้างตาป่ะจะได้เตรียมไปส่งทอม” มือใหญ่ตบก้นอีกคนเบาๆ ไล่ไปทางห้องน้ำหลังเห็นนาฬิกาบนผนังว่าใกล้จะได้เวลานัดกันแล้ว
พวกเขามาถึงสนามบินก็เห็นโธมัสยืนอยู่ข้างรถของโรงแรมรอพนักงานยกกระเป๋าเดินทางใส่รถเข็นอยู่พอดี หนุ่มผมทองเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดสูททางการสีดำสนิทของฮิวโก้ บอสเข้ากับรองเท้าหนังแก้วมันขลับแบบอ็อกฟอร์ดเหมือนตอนมา ดูเป็นไฮโซวัยกระเตาะแม้เมื่อตอนมื้อเย็นจะพูดว่าไม่ใช่สไตล์ของตัวเองก็ตาม แต่เพราะถูกอบรมมาแบบนี้ต่อให้ใส่เสื้อยืดกับกางเกงยีนส์หากกริยาท่าทางทุกอย่างก็บอกได้อยู่ดี เรียกได้ว่าเป็นผู้ดีอังกฤษจากกมลสันดานโดยแท้
โธมัสหรี่ตาสีฟ้าสดมองดูพอร์เช่ 911 Turbo S เปิดหลังคาที่แล่นเข้ามาจอดท้ายรถของโรงแรมด้วยความสงสัยก่อนคลี่ยิ้มออกกว้างเมื่อเห็นเพื่อนรักเอี้ยวตัวโบกมือมาให้จากในรถ ประหลาดใจไม่น้อยหากไม่หยุดขายาวๆ ให้ก้าวเข้าไปหาคนทั้งคู่ได้ ตาสีฟ้ามองคนขับสลับกับรถซูเปอร์คาร์คันหรูพลางกัดปากครุ่นคิด มั่นใจว่าตอนมาไทยครั้งที่แล้วทิวากานต์ไม่มีรถคันนี้แน่ๆ
“นี่มันรถคันที่จอดอยู่ข้างๆ รถอัลเมื่อเช้านี่”
“น้องกบ ลูกสาวคนสวยของฉันเอง ทำความรู้จักไว้สิ” คนขับที่กระแดะใส่แว่นกันแดดทั้งที่เป็นตอนกลางคืนยักไหล่ตอบท่าทางไม่ยี่หระ
“สวยมาก โฮ่ ผมคงต้องขอพ่อให้เปลี่ยน M6 เป็นเจ้าตัวนี้บ้างแล้ว”
“ไหนบอกไม่ชอบขอเงินพ่อแม่ไงวะ”
“พูดมากน่า คันนี้พ่อก็ซื้อให้วาไม่ใช่หรือไง” เจออลันด์ขายแบบนี้เล่นเอาคุณหมออยากเตะโด่งไอ้เด็กข้างตัวออกไปให้พ้นๆ ทิวากานต์เกาหัวแก้เก้อบ่นอุบอิบว่าโดนยัดเยียดให้ต่างหากแล้วรีบถีบอลันด์ลงไปหาโธมัสเขาจะได้รีบเอารถไปจอดก่อนถูกตำรวจมาไล่ แต่ความจริงคือเปิดโอกาสให้สองเพื่อนซี้หมาแมวเขาได้ลากันแบบเป็นส่วนตัวมากกว่า
เด็กฝรั่งสองคนเดินเคียงกันข้ามสะพานคอนกรีตเข้าสู่ตัวอาคารเงียบๆ มีพนักงานของสายการบินบริการเข็นสัมภาระตามหลังมาให้ประสาคนใช้บริการที่นั่งโดยสารชั้นหนึ่ง
“กว่าจะได้เจอกันอีกทีก็คริสต์มาสเลยมั้งเนี่ย” โธมัสเปรยขึ้นเบาๆ ตาสีฟ้าสดเหลือบมองเพื่อนตัวเท่าอกข้างกาย หน้าขาวติดเรียบนิ่งไม่แสดงอาการอะไร แต่กับคนที่คบกันมานานก็ดูออกว่าเจ้าตัวกำลังหงอย
“คริสต์มาสนี้ฉันคงไม่ได้กลับลอนดอน”
“ไม่ต้องห่วง นายไม่กลับบ้านเดี๋ยวฉันมาหาเอง สอบเสร็จจะรีบบินมาหาเลย ตอนนายผ่าตัดฉันก็จะมาหานายด้วยไง เราจะได้เจอกันเร็วขึ้น อีกแค่เดือนเดียวเอง”
“ให้มันจริงเถอะ”
“ฉันเคยโกหกนายด้วยเหรออัล” อลันด์ส่ายหน้าแทนคำตอบ โธมัสเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดในชีวิตของเขา เจ้าตัวไม่เคยทำให้เขาผิดหวังเลย(ยกเว้นเรื่องผู้หญิงที่กลาสตันเบอรี่ แน่นอนว่าเด็กหนุ่มจดจำฝังใจไปจนวันตาย)
“ฉันคงคิดถึงนายน่าดู”
“อีกไม่กี่เดือนก็เจอกันแล้ว ฉันจะใช้เวลาช่วงนั้นทำความเข้าใจกับตัวเองอีกที นายจะได้ไม่ลำบากใจเพราะฉันอีก หวังว่าจะยังพอมีโอกาสให้ฉันบ้างนะ”
ตาสีซีดมองรอยยิ้มของผู้ชายตรงหน้าแล้วลอบถอนหายใจ อยากจะบอกอีกฝ่ายว่าโอกาสนั้นถูกคุณหมอศัลยกรรมที่แก่กว่าเขารอบหนึ่งคว้าไปแล้ว สิ่งที่เขาจะมีให้กับอีกคนต่อจากนี้ไปเหลือแค่คำว่าเพื่อนเท่านั้น แต่พอเห็นอีกคนมองมาด้วยประกายความหวังในสายตาเขาก็ใจร้ายบอกตัดไม่ลง
“ฉันรักนายนะทอม นายเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉันเลย”
“ไอ - ซี”
หนุ่มผมทองหุ่นทรมานใจสาวแค่นยิ้ม พอจะเข้าใจที่อีกคนพูดแต่ไม่อยากรับรู้ เขาชักเกลียดตัวเองที่เหมือนจะเป็นคนฉลาดแต่สุดท้ายก็โง่อยู่ดี แขนแข็งแรงดึงไหล่อีกคนเข้ามากอดซุกกับตัว หวงแหนไม่อยากปล่อยไปไหนแต่เวลาบีบให้เขาต้องจากอีกคนไปเสียที ตาสีฟ้าสดมองทิวากานต์หยุดฝีเท้าอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลคล้ายจะต่อเวลาให้เขาได้ร่ำลาเพื่อนรักอีกหน่อย
“ดูแลตัวเองด้วยนะ”
“นายก็เหมือนกัน อย่าใช้ชีวิตสุดเหวี่ยงเกินไปล่ะ”
“ฉันรักนาย” โธมัสพูดเร็วพอกับการฉกลงไปขโมยจูบจากเพื่อนตัวเล็ก เขาบดปากหนักๆ ดูดดึงเนื้ออ่อนบางด้านล่างจนขึ้นสีแดงถึงผละออกมา “แล้วเจอกัน อัล”
“อะ อื้อ” เด็กหนุ่มรับคำงงๆ รู้สึกตัวอีกทีตอนทิวากานต์โผล่มาจากด้านหลังกอดลากับโธมัสตบหลังตบไหล่แรงๆ ใส่กัน เขารีบเอามือปิดปากหวังว่าเมื่อกี้ทิวากานต์จะไม่เห็นหรอกนะ
“โชคดี เดินทางปลอดภัย”
“ฝากดูอัลด้วยนะด็อก”
“ไม่ต้องห่วง จะดูแลอย่างดียุงไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอม
หมาไม่ให้กัด” คุณหมอหนุ่มจงใจเน้นหนักเป็นพิเศษตรงคำว่าหมา เขากอดฟัดกับโธมัสตบกันดังตุ้บตั้บอีกครู่ใหญ่ถึงยอมผละออกจากกัน ให้ตายเถอะโธมัสมือหนักชะมัดเขาช้ำไปแทบทั้งตัวแล้วมั้งเนี่ย
เมื่อถึงเวลาที่ต้องจากกันจริงๆ โธมัสก็ฉีกยิ้มกว้างออกมา เขาโบกมือให้เพื่อนเผื่อไปถึงคุณหมอหน้าดุ นัยน์ตาสีฟ้าสดหมองลงเพียงครู่เดียวจนไม่มีใครสังเกตเห็น “บายอัล”
“บาย เดินทางปลอดภัย”
ซูเปอร์คาร์เปิดประทุนจากเมืองชตุทท์การ์ทแล่นไปตามถนนพระรามเก้าเพื่อกลับที่พักตอนเวลาเที่ยงคืน ทิวากานต์เห็นว่ายังพอมีเวลาอีกสักหน่อยบวกกับถนนกรุงเทพยามนี้ก็น่าซิ่งเหลือเกินเลยชวนคนข้างๆ นั่งรถเล่นรับลมเสียเลย
ช่วงสมัยที่ยังไม่เจอกับเด็กตัวแสบห้องตรงข้ามทิวากานต์ชอบทำแบบนี้บ่อยๆ เวลาออกเวรหรือเพิ่งเสร็จเศสหนักๆ ขับรถไปรอบกรุงจุดบุหรี่เผาปอดให้ร้อนรุ่ม ก่อนจบลงที่ร้านเหล้าสักร้าน หาสาวถูกใจสักคนไปช่วยคลายเหงาต่อที่ห้องนอน
หากวันนี้ทุกอย่างมันเปลี่ยนไป... เขาไม่เหงาอีกแล้ว ไม่ต้องวิ่งไปไกลๆ หาที่พักใจตั้งแต่มีคนข้างตัวโผล่เข้ามาในชีวิต ไม่จำเป็นต้องตัวติดกันตลอดเวลาแค่ตื่นมาเจอหน้ากัน ยิ้มให้ หัวเราะ แลกเปลี่ยนเรื่องราวในแต่ละวัน ล้มตัวลงนอนเคียงกันบนเตียงกว้างแค่นี้จริงๆ
คิดแล้วก็ขำ ตอนแรกรำคาญไอ้เด็กนี่แทบตาย สุดท้ายกลับเป็นเขาเองที่หวงอีกคนยิ่งกว่าอะไร อยากให้อยู่กับเขาไปเรื่อยๆ ไม่ต้องจากไปไหน
ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าวันหนึ่งเจ้าตัวต้องกลับไปในที่ที่จากมาทิวากานต์มองอลันด์ชูแขนหงายไปด้านหลัง ลมพัดเส้นผมสีช็อกโกแลตนมจนปลิวยุ่ง ใบหน้าที่มักเรียบนิ่งปรากฏรอยยิ้มกว้างจนเห็นฟันกระต่าย พอเห็นอะไรน่าสนใจก็ชวนเขาคุยต่อบทสนทนาไปเรื่อยไม่ปล่อยให้หูว่าง อาการซึมเพราะจากเพื่อนแทบไม่เหลือ นับว่าคุ้มจริงๆ ที่ยอมเสียสละเวลานอนพาเด็กนั่งรถเล่น
น้องกบขาวอายุไม่ครบขวบปีดีพาสองหนุ่มตระเวนตั้งแต่ทางด่วนพระรามเก้าไปพญาไท ข้ามไปสาทรแล้ววกมาลงทางด่วนที่คลองเตยวิ่งเข้ารัชดาภิเษกกลับคอนโดย่านอโศก
คุณหมอล้มตัวลงนอนหลังแนบพื้นเตียงยังไม่สนิทดีไอ้เด็กแสบก็กลิ้งเข้ามากอด ทำหน้ากระเง้ากระงอดใส่ให้จับฟัดไปที “พรุ่งนี้ต้องนอนคนเดียวอีกล่ะ”
“พูดดี ไปปาร์ตี้ไม่ใช่หรือไง”
“วาห้ามกลับเกินสี่ทุ่มนี่”
“กลับเกินฉันก็ไม่รู้หรอก”
“ถือว่าอนุญาตแล้วนะ”
เด็กตัวแสบยิ้มแป้นคิดว่าหลอกคุณหมอได้ แต่ทิวากานต์ตั้งใจพูดแบบนั้นจริงๆ เขาอยู่เวรทั้งคืนไม่มีเวลาโทรเช็คหรอกว่าอีกคนทำอะไร ที่ไหน นอนหรือยั ง
“จะทำอะไรก็ทำเถอะ”
“งอนเหรอ”
“ตลก” พูดจบก็ได้กำปั้นเขกให้ทีจนร้องโอย แต่ร่างสูงแค่ห้าฟุตกับอีกหกนิ้วไม่ได้กลิ้งหนีกลับยิ่งกระแซะหน้าเข้ามาใกล้จนได้กลิ่นยาสีฟันรสมิ้นต์ ทิวากานต์ดึงคออีกคนให้โน้มลงมารับกู๊ดไนท์คิสเบาๆ จะว่าไปเขาห่างหายเรื่องบนเตียงนานพอดู เจอเด็กอ้อนใส่แบบนี้มีของขึ้นบ้างก็ได้แต่ท่องคุกๆ ในใจ รอเด็กมันโตอีกหน่อยเขาได้ลองประสบการณ์ใหม่แน่ๆ แต่เด็กสิบแปดช่างไม่ให้ความร่วมมือเลยเหอะ
“อืม... วา” ปลายนิ้วเล็กสากจนแข็งไต่ตามท่อนแขนแข็งตึงของคุณหมอศัลยกรรมคนเก่ง ปากยังมุ่งมั่นจูบอีกคนจนพาร่างขึ้นมานอนคร่อมคนโตกว่า ไม่รู้ทำไมวันนี้ทิวากานต์น่ากินกว่าทุกวัน พอคิดว่าถ้าคืนนี้จะต้องเสียตัวก็ยอมง่ายๆ ผิดกับตอนอยู่กับโธมัสเพื่อนซี้ แสดงถึงข้อแตกต่างระหว่างเพื่อนรักกับคนรักชัดเจน
เสียงจูบดังจ๊วบจ๊าบอยู่นานจนคนเด็กกว่ายอมแพ้ถอนหน้าออกมาเพราะหายใจไม่ทัน ไฟหัวเตียงบอกชัดว่าอลันด์หน้าแดงจัดน้ำตาคลอ เด็กแสบเผยอปากหอบหายใจน้อยๆ ดูน่าแกล้งให้ร้องไห้งอแง
“พรุ่งนี้ทำงาน”
ประโยคปฏิเสธห้วนสั้นจากปากคุณหมอดูดพลังออกจากร่างเด็กฝรั่งเสียเกลี้ยง ร่างเล็กๆ กลิ้งหล่นจากตัวทิวากานต์ลงไปนอนแผ่ อยากจะดีดเท้าโวยวายให้อีกคนเลิกทำงานแล้วหัดมาทำการบ้านกับเขาบ้าง นอนกอดกันมาเป็นเดือนๆ แล้วยังไม่มีอะไรมากกว่าเฟรนช์คิส คิดว่าที่นัวเนียใส่กันทุกวันนี้จะไม่รู้สึกอะไรเลยหรือไง เขาก็เป็นผู้ชายวัยเจริญพันธุ์มีอารมณ์ความรู้สึกคนหนึ่งนะเว้ย
ทิวากานต์ทำแบบนี้จนเขาชักคิดแล้วนะว่าอีกฝ่ายไม่กล้ามีอะไรกับผู้ชายจริงๆ เขาเองพอจะเข้าใจในฐานะเคยนอนแต่กับผู้หญิงมาก่อน จู่ๆ จะให้มีอะไรกับผู้ชายมันทำใจยาก ขนาดเขายังมีอะไรกับโธมัสไม่ลงเลย แต่แบบ...นี่มันคนรักกันนะ ทำไมรับไม่ได้ล่ะ!
“วาอ่ะ” หากประโยคต่อว่ากลับมีสั้นๆ แค่นี้ เอาจริงอลันด์กลัวชายหนุ่มวัยสามสิบหงอ ไม่กล้าโวยวายมากหรอกเดี๋ยวถูกถีบตกเตียง
“ถ้าไม่ไหวไปห้องน้ำซะ” แล้วดูอีกคนพูดตัดรอนไร้เยื่อใยเย็นชาประหนึ่งน้ำแข็งในขั้วโลกใต้ เด็กหนุ่มฟังแล้วขัดใจพลิกตัวนอนหันหลังดึงผ้าห่มคลุมหัวให้ซะเลย ไม่วายได้ยินเสียงคุณหมอหัวเราะคิกคักอีกจงใจแกล้งกันชัดๆ
งอนได้ไม่นานก็ถูกอีกคนดึงไปกอดแนบเข้ากับอก ชิดสนิทกันจนรู้ว่าชายหนุ่มเองมีอาการตื่นตัวไม่ต่างจากเขา เป็นอย่างนี้ทุกทีจนต้องยอมแพ้พลิกตัวกลับมาซุกหน้าเข้ากับอกกว้างฟังเสียงหัวใจเต้นขับกล่อมจนหลับสนิทอีกคืน
TBCเห็นไหมคะว่าทอมออกจะเป็นหมา เอ๊ย คนที่ดี พี่วาต่างหากที่เป็นตัวร้ายน่ะ! #เดี๋ยวนะ
แต่ FC พี่เขาเยอะพี่เขาจะแคร์อะไร คนแก่ตายด้าน(?)ย่อมเร้าใจกว่าหนุ่มหล่อล่ำกล้ามโตอยู่แล้ว
ตอนหน้าเตรียมพบกับบทเรียนแสนแพงของน้องอัลที่แม้แต่นาฬิกาปาเต๊ะ ฟิลลิปก็สู้ราคาและช่วยอะไรไม่ได้
ปาเต๊ะเกี่ยวอะไร พี่วาจะใจร้ายกับน้องอัล(?)ได้ถึงขั้นไหน
เจอกันตอนหน้าค่า
ขอบคุณทุกคอมเม้นต์นะคะ เอฟซีพี่วาแสดงตัวกันหลายคนเลย หุหุ
ปล. เราลงเรื่อง Love|Hate ไปเมื่อวาน ฝากตามอ่านได้ที่ลิงค์ด้านล่างตรงลายเซ็นได้เลยค่ะ
ตัวละครจากเรื่องนั้นใกล้จะมาโชว์(แวบๆ)ในนี้แล้วอีกไม่นาน ><
------------------
1 Bloodstream - Ed Sheeran