♥ . . . HEART ATTACK . . . ♥ --- SPECIAL TRACK : พรหมลิขิต+แจ้งข่าว P. 25
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

ไหนๆ นิยายใกล้จะจบแล้ว เลยสอบถามความสนใจรวมเล่มค่ะ

สนใจ
ไม่สนใจ
รวมก็ดี ไม่รวมก็ได้

ผู้เขียน หัวข้อ: ♥ . . . HEART ATTACK . . . ♥ --- SPECIAL TRACK : พรหมลิขิต+แจ้งข่าว P. 25  (อ่าน 266897 ครั้ง)

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
นั่นแน่หมอวาตามไปเที่ยวถึงอังกฤษเชียว แถมเด็กแสบนอนเกยบนอกอีกแหนะ หนิดหนม ๆ

ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
รายละเอียดงานเทศกาลดนตรีมาเต็ม
เหมือนได้ไปร่วมงานด้วยเลย

ออฟไลน์ magarons

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +68/-6
ไม่เห็นทางที่จะรักกันเลนอ่ะ
แต่เป็นคนสองคน ที่แตกต่างกันจริงๆ เลยนะ

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
ติดตามค่ะ อ่านถึงตอนที่5 แล้ว ^^

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ ma-prang

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 469
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
อารมณ์คุณลุง(?)มาพักผ่อนกับหลานๆมากก 555
#เปล่าว่าหมอวานะ
เห็นการกินของอัล แล้วกังวลกับรอบเอวแทนจังเลยยยยย

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
คุณลุงพาหลานเที่ยว แบบว่ามันเหมาะมาก * แอบคิดถึงเฮนรี่ ที่สาม

ออฟไลน์ p_phai

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +154/-6

ออฟไลน์ NiTRoGeN14

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-1
    • คอนโดแมว
♥ . . . HEART ATTACK . . . ♥ --- TRACK 08 [10.10.15]
«ตอบ #68 เมื่อ10-10-2015 18:45:56 »

TRACK 08



ทิวากานต์กับอลันด์ตัดสินใจไม่ไปดูการแสดงของ Bombay Bicycle Club แต่เลือกวิ่งไปจองที่หน้าเวทีให้คนอื่นที่เวทีใหญ่เพื่อรอดูการแสดงสองวงสุดท้ายของงานแทน

อลันด์อารมณ์ดีขึ้นมากแม้จะเจอหน้าหงอยๆ ของโธมัสให้รำคาญสายตาอยู่บ้างหากคราวนี้ยอมขี่คอเพื่อนรักตอน Kasabian เล่นเพลงฮิตอย่าง Fire ก่อนจะกลับมาอารมณ์เสียอีกครั้งเมื่อแม่สาวน้อยลูกครึ่งจีน-อังกฤษนามว่า ‘ยูจีน’ จะขอติดรถกลับลอนดอนด้วย

“แต่เรายังไม่ได้กลับลอนดอนคืนนี้นี่นา” มาริโอ้ผู้ซ่อนใบหน้าไว้ใต้หน้ากากรูปหัวกะโหลกของแจกจากกลุ่มแฟนคลับวง Kasabian ว่าเสียงขรึม เพราะถ้าโธมัสยอมให้เธอไปด้วยเขากับคุณหมอจะต้องเสียเงินสิบปอนด์ที่พนันไว้น่ะสิ

“ขอฉันค้างด้วยไม่ได้หรือไง” หญิงสาวผมสีดำสนิททำตาโตจ้องมองพี่น้องบ้านกริฟฟิธส์แต่ละคนก่อนหันไปอ้อนใส่โธมัส “ทอม ฉันไปค้างกับคุณได้ใช่ไหม”

“เอ่อ...”

“แต่เราไม่มีแผนจะเข้าลอนดอนภายในพรุ่งนี้เหมือนกัน มาดามโอเนลล์บอกว่าถ้าอัลจะกลับบ้านก็ให้โทรบอกอัลเบิร์ตมารับ” ที่ฮิวโก้ช่วยพูดไม่ใช่เพราะพนันข้างมาริโอ้ไว้ แต่เขาไม่อยากเจออลันด์เวอร์ชั่นหน้าเป็นตูดอีกน่ะสิ

“งั้นฉันก็ขอติดรถอัลกลับลอนดอนด้วยสิ”

“รถฉันนั่งได้แค่สองคนเท่านั้น คือ ฉัน และ ด็อกเตอร์วา ถ้าเธอไม่มีปัญญากลับลอนดอนเองหัดลองเพิ่งขาตัวเองบ้างนะดีกว่าทำตัวเป็นกาฝากเกาะคนอื่นไปวันๆ” พูดจบปุ๊บ ไอ้คนพูดก็รีบกระโดดขึ้นรถไปนั่งประจำที่ตอนขามาอย่างไว ปล่อยคนฟังหน้าชากันเป็นแถบ ขนาดไม่ได้โดนด่าเองยังเจ็บแทนยิ่งบวกสายตาดูแคลนอันเป็นเอกลักษณ์ของเจ้าตัว หญิงสาวเพียงหนึ่งเดียวถึงกับกรี๊ดแตก

“อัล ทำไมพูดแบบนั้น ไม่น่ารักเลย นั่นผู้หญิงนะถึงเขาจะทำนายควรให้เกียรติเขาบ้าง” โธมัสกระชากประตูรถออกเข้าไปโวยวายกับเพื่อนซี้ ถึงจะรู้กิตติศัพท์ปากร้ายของเพื่อนดีแต่ไม่เคยมีครั้งไหนจะด่าได้เจ็บจี๊ดถึงทรวงและด่าผู้หญิงแบบนี้

“ฉันให้เกียรติกับคนที่สมควรเท่านั้นทอม”

“ฉันรู้ว่าฉันกับยูจีนทำให้นายโมโห แต่นายก็ควรควบคุมอารมณ์สิ นายโตแล้วนะอัล”

“ถ้าฉันมันงี่เง่านัก ปล่อยฉันไว้ที่นี่แล้วเชิญไปต่อกับผู้หญิงของนายเถอะ!” อลันด์ตวาดใส่หน้าเพื่อนตัวโตก่อนกระโดดลงจากรถแล้วปิดประตูให้หน้าอีกฝ่ายเสียงดังสนั่น เหล่าฮิปปี้ศตวรรษที่ยี่สิบโดยรอบหันมามองเป็นตาเดียว “ด็อกจะว่าอะไรไหมถ้าเราจะยืนแกร่วอยู่ที่นี่อีกสักสามชั่วโมงเพื่อรออัลเบิร์ตมารับ”

คุณหมอยักไหล่ วันนี้ไม่ต้องตากฝนเหมือนวันแรกเขามีพลังเหลือเฝือ ให้โต้รุ่งยังไหว แต่คนอื่นคงไม่เห็นด้วย ฮิวโก้รีบวิ่งมาดึงศอกเพื่อนพี่ชายไว้ก่อนเจ้าตัวจะพาคุณหมอเดินไปที่อื่น

“ไม่เอาน่าอัล กลับด้วยกันเถอะ”

“อย่าเลย โธมัสคงไม่อยากให้ฉันไปเป็นกอ - ขอ - คอ ฉันยอมออกไปเองดีกว่าถูกไล่เหมือนหมาแบบเมื่อคืน” คำพูดของอลันด์เป็นเหมือนปฏิกิริยาอัตโนมัติที่ทำให้สามพี่น้องกริฟฟิธส์ที่เหลือหันไปมองหน้าพี่ใหญ่ของบ้านแทนการกดดันด้วยคำพูด โดยเฉพาะฮิวโก้ที่ติดเจ้าเด็กตัวเปี๊ยกมากที่สุดถ้าตรงเข้าไปซัดหน้าพี่ชายได้คงทำไปแล้ว

“ไม่ต้องไปไหนทั้งนั้นถ้าฉันกลับมาไม่เจอ นายตายแน่!”

สุดท้ายก่อนที่เด็กแสบจะเดินไปไกล โธมัสที่ทึ้งผมสีทองตัวเองไปหลายหนก็วิ่งไปดึงแขนเพื่อนตัวเล็กจับยัดใส่ในรถ เอ่ยสำทับเสียงห้วนเข้มชวนคนฟังน้ำตาร่วง หากอลันด์กลับนั่งคอตรงใบหน้าเฉยชาไม่แสดงอาการอะไร ทิวากานต์คิดว่าเหตุการณ์ตรงหน้าเหมือนหนังเข้าไปทุกทีและอลันด์ก็ดูร้ายกาจเอามากๆ ผิดกับภาพหนุ่มน้อยที่ตาวาวเป็นเด็กเล็กยามเมื่อพูดถึงดนตรี แต่ถ้าโธมัสไม่แคร์อลันด์เจ้าตัวคงไม่หงุดหงิดแบบนี้ ส่วนคนที่ดูไม่แคร์น่าจะเป็นคนที่นั่งเชิดหน้าอยู่ในรถมากกว่า

เอาเถอะ...งานนี้โธมัสผิดก็สมควรแล้ว(มั้ง)

เด็กหนุ่มตัวสูงหกฟุตกับอีกห้านิ้วย่ำเท้าไปหาแฟนสาวหมาดๆ โต้เถียงเสียงดังกันพอเป็นพิธี ถูกตบแก้มอีกหน แล้วสาวน้อยลูกครึ่งสุดเซ็กซี่ก็เดินจากไปพร้อมตะโกนคำทิ้งท้ายหยาบคายสลักใจคนฟัง “F*ck!”

“เดี๋ยวเธอก็หาคนฟัคใหม่ได้” มาริโอ้ให้ความเห็น เขาแบมือไปตรงหน้าพี่ชายฝาแฝด “สิบปอนด์”

“เที่ยงคืนกว่าแล้ว หมดเวลา”

“ฉันบอกว่าภายในคืนนี้ ใช่ไหมด็อกเตอร์”

“ใช่ คืนนี้” คุณหมอหนุ่มฉีกยิ้มกว้างแบมือเลียนแบบมาริโอ้ทันที เงินตั้งสิบปอนด์ตีเป็นเงินไทยก็ห้าร้อยกว่าบาทเลยนะ

มาร์โก้มีท่าทีหงุดหงิด เจ้าตัวยักไหล่ตอบเร็วๆ ว่าค่อยไปเอาที่บ้าน แล้วรีบขึ้นรถก่อนที่แฝดน้องจะตามไปครองเบาะหลังสุดเหมือนขามา ทิวากานต์เลยตามไปนั่งที่เดิม ส่วนฮิวโก้ก็เปลี่ยนที่จากคนขับมาเป็นผู้โดยสารตามที่ตกลงกันไว้ตั้งแต่แรกว่าจะให้โธมัสขับตอนกลับ

พี่ใหญ่บ้านกริฟฟิธส์ดูจะหงุดหงิดมากกว่าน้องชายฝาแฝดเสียอีก ตาสีน้ำเงินเข้มจ้องเพื่อนตัวเปี๊ยกเขม็ง จงใจปิดประตูเสียงดังให้สะเทือนไปถึงอลันด์ที่นั่งอยู่ข้างหลัง

BMW X5 M50d F15 สีดำขับแหวกความมืดขึ้นไปตามมอเตอร์เวย์สาย M3 ถนนมุ่งหน้าเข้าลอนดอนด้วยความเร็วสูงสุดเท่าที่กฎหมายกำหนด และเหวี่ยงตัวทิ้งท้ายให้ผู้โดยสารตื่นจากการแอบงีบสะดุ้งตกเบาะกันเล่นๆ เมื่อโธมัสจงใจดริฟต์ตรงโค้งลงเนินเข้าโรงรถ เสียงล้อเบียดพื้นถนนดังเอี๊ยดเสียดแก้วหูพร้อมกับไฟในตัวบ้านที่สว่างวาบออกมาจากห้องนอนของพ่อและแม่พี่น้องบ้านกริฟฟิธส์

“เป็นบ้าหรือไงทอม นายจะปลุกพ่อแม่นายขึ้นมาตอนตีสามเพื่ออะไร เงียบๆ ไม่เป็นหรือไง!” ปากบอกให้อีกคนเงียบแต่กลับอลันด์โวยวายใส่คนขับเสียงสนั่นทันทีที่ลงจากรถ เมื่อกี้ตอนลงเนินหัวเขาโขกเข้ากับหน้าต่างรถเสียงดัง เจ็บจนมึน

“นายนั่นแหละที่บ้า ต้องให้ฉันทำอะไรอีกห๊ะถึงจะเลิกทำหน้าเบี้ยวๆ ใส่ฉันสักที ฉันเลิกกับผู้หญิงที่เพิ่งคบกันได้แค่วันเดียวก็เพราะนายยังไม่พอใจหรือไง” โธมัสก็ไม่แพ้กัน เจ้าของส่วนสูงหกฟุตห้านิ้วปิดประตูรถดังโครม สาวเท้าเข้าไปหาคนตัวแค่อกท่าทางคุกคามชัดเจน ถ้ามีเรื่องชกต่อยกันจริงอลันด์เป็นฝ่ายเข้าโรงพยาบาลอย่างไม่ต้องสงสัย และทุกคนคงคิดเช่นเดียวกันถึงได้ยืนคุมเชิงอยู่ห่างๆ

“ฉันไม่ได้บอกให้นายเลิกกับหล่อนสักหน่อย นายเลิกเองนี่”

“Suck my dick! YOU - DID!!!” ทั้งที่รู้ว่าโธมัสกำลังโกรธ คนตัวเล็กกลับยิ่งเติมเชื้อไฟให้ลุกโชน อดีตกัปตันรักบี้หน้าแดงจัด ภายในพริบตาเดียวแขนกำยำเต็มไปด้วยมัดกล้ามก็คว้าไหล่อลันด์ไว้แน่นและคงจะแรงมากเพราะไอ้ตัวแสบถึงกับเบ้หน้า ฮิวโก้เตรียมพุ่งเข้าชาร์จพี่ชายตัวเองแล้วพอๆ กับทิวากานต์ที่เริ่มรู้สึกว่าสถานการณ์มันแย่ขึ้นทุกที

“ไปตายซะ ไอ้งี่เง่าโธมัส แค่คำว่าขอโทษพูดไม่เป็นหรือไง!” ยามนี้ผมสีช็อกโกแลตนมของอลันด์ส่องประกายเป็นสีทองเมื่อต้องกับแสงสปอร์ตไลท์ มือข้างที่ไม่ถูกยึดไหล่ไว้ยกขึ้นปิดใบหน้า พอยืนเทียบใกล้ๆ กันแบบนี้แล้วยิ่งดูตัวเล็กเข้าไปใหญ่

“เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่าทำไมเสียงดังแบบนี้ล่ะทอม?”

พี่ใหญ่บ้านกริฟฟิธส์ชะงักไปทั้งตัว เขามองแม่ที่ตื่นขึ้นมากลางดึกเพราะเขาทำเสียงดังก่อนก้มลงมองเพื่อนรักที่ยังคงปิดหน้าไว้ด้วยมือข้างเดียว

“ทำไมไม่ตอบแม่ แล้วนี่ทะเลาะกันหรือไง” แม่ของเด็กเจ็ดคนเริ่มเสียงดัง คุณนายกริฟฟิธส์มีผมสีทองและดวงตาสีฟ้าเหมือนลูกๆ และดูน่ากลัวมากในตอนนี้

โธมัสฉุดแขนอลันด์เดินเข้าไปในบ้าน พูดเสียงดังพอจะให้ทุกคนในโรงรถได้ยิน “เรามีเรื่องต้องคุยกันนิดหน่อย”

“ให้ตายเถอะ ฉันนึกว่าทอมจะต่อยอัลแล้วด้วยซ้ำ” พอลับหลังพี่ชายคนโตมาร์โก้ก็ระบายออกมาทันทีด้วยความอึดอัด ตั้งแต่เกิดมาเขาไม่เคยเห็นสองคนนั้นทะเลาะกันจริงจังขนาดนี้มาก่อน

“แล้วทอมก็ทำให้อัลร้องไห้สองวันติด หมอนั่นต้องถูกเจมส์ฆ่าแน่ถ้าพ่อหนุ่มโปโลนั่นรู้เข้า”

“สรุปว่าสองคนนั้นมีเรื่องทะเลาะกันใช่ไหม” แม่สองแฝดเริ่มหงุดหงิด เธอสะดุ้งตื่นมาตอนตีสามเพื่อพบว่าไม่มีใครอธิบายสาเหตุให้เข้าใจเลย

“ครับ แต่...คงไม่มีอะไรแล้วมั้ง” ฮิวโก้ตอบแทนน้องชายทั้งสอง เขาบิดตัวนิดหน่อยทำทีเป็นหาวเหมือนอยากพักเต็มที “อ่อ แม่ครับ นี่ด็อกเตอร์วาเพื่อนอัลที่เมืองไทย”

“สวัสดีจ๊ะ”

“สวัสดีครับ”

หนุ่มไทยยิ้มแหย จับมือกับหญิงสาวในชุดนอนเนื้อบางใต้เสื้อคลุมพอเป็นพิธี ก่อนถูกเธอไล่ให้ทุกคนไปพักผ่อนแล้วค่อยมาว่ากันใหม่พรุ่งนี้ ฝาแฝดมาร์โก้กับมาริโอ้เกาะติดคุณแม่คนสวยเดินพันแข้งพันขาไปตลอดทางเข้าบ้าน ปากขยับเจื้อยแจ้วฟ้องว่าพี่ชายคนโตทำอะไรบ้าง

“ห้องนอนสำหรับแขกยังไม่ได้ทำความสะอาด คืนนี้ด็อกเตอร์นอนห้องผมไปก่อนแล้วกัน เดี๋ยวผมไปนอนห้องน้องชายเอง เสื้อผ้าในตู้หยิบใช้ได้เลยนะครับ”

“ขอบคุณนะ เอ่อ...ที่นี่สูบบุหรี่ได้ไหม”

“คุณแม่ไม่ว่า แต่ยังไงในห้องน้ำดีกว่าครับ”

“โอเค ราตรีสวัสดิ์ฮิวโก้” คุณหมอโบกมือให้คนที่มาส่งจนถึงหน้าห้องนอน

หลังอาบน้ำสระผมจนตัวหอมฟุ้งสติถึงค่อยกลับเข้าที่เข้าทางจะว่าไปบ้านหลังนี้ช่างใหญ่โต กว่าจะเดินถึงห้องนอนฮิวโก้ก็นานอยู่ แถมห้องนอนนี้ยังกว้างกว่าห้องนอนเขาที่กรุงเทพสักสองเท่าได้ ระลึกไปอีกหน่อยที่โรงจอดรถเมื่อกี้เหมือนจะเห็นรถเหมือนไอ้คันที่เขานั่งเข้าลอนดอนมาเมื่อวานด้วย

เอิ่ม...ถ้าบ้านนี้มีลูกเจ็ดคน แล้วเมื่อกี้ฮิวโก้บอกว่ามีห้องสำหรับแขกอีกก็ต้องมีห้องนอนไม่ต่ำกว่าแปดห้องสินะ งี้ไม่เรียกว่าบ้านล่ะ นี่มันคฤหาสน์ชัดๆ!

ให้ตายเถอะจอร์จ เด็กพวกนี้มันจะรวยจนน่าอิจฉาเกินไปแล้ว

ชายหนุ่มวัยสามสิบเป๊ะเสยผมเปียกลวกๆ หยิบบุหรี่กับไลท์เตอร์กลับเข้าไปในห้องน้ำอีกรอบหลังแต่งตัวเสร็จ จะตีสี่แล้วเขายังไม่รู้สึกง่วงเท่าไหร่ แต่สาบานได้ว่าไม่ได้กังวลเรื่องไอ้คู่ซี้หมาแมวนั่นจริงๆ นะ ความจริงก็แค่เป็นห่วงอลันด์นิดหน่อย โดนลากไปแบบนั้นไม่รู้จะทะเลาะกันต่ออีกหรือเปล่ายิ่งตัวเล็กๆ อยู่ด้วยจะสู้เขาไหวไหม

เสียงถอนหายใจดังลั่นห้องน้ำกว้าง ถ้าไม่ได้เห็นกับตาว่าลูกชายของมาดามโอเนลล์ปลอดภัยดีทิวากานต์คงนอนไม่หลับไปทั้งคืน แต่จะให้ไปเคาะประตูเรียกก็ไม่รู้อีกว่าอยู่ห้องไหน

“แล้วนี่กูมาคิดเรื่องไอ้เด็กแสบทำไมเนี่ย เพ้อใหญ่แล้วไอ้วา ไม่ใช่พ่อมันซะหน่อยจะห่วงมันทำไมเนี่ย”

.
.
.

“อัล...”

น้ำเสียงที่โธมัสเปล่งออกมาช่างอ่อนหวานต่างจากท่าทีแข็งกร้าวเมื่อไม่กี่นาทีก่อนสิ้นเชิง ตาสีน้ำเงินเข้มจับจ้องเพื่อนรักด้วยความรู้สึกหลากหลาย ทั้งเสียใจ รู้สึกผิด อ้อนวอน และเอ็นดูไอ้ตัวแสบที่เอาแต่ยืนปิดหน้าปิดตา เขายอมรับว่าจิตใจเขาตอนนี้ไม่ค่อยปกติเท่าไหร่ เหมือนพวกซาดิสม์แต่อลันด์ตอนร้องไห้น่ารักมากจริงๆ

“คุยกันดีๆ เถอะนะ ฉันขอโทษ” เมื่อเจ้าคนสูงแค่อกเอาแต่เบี่ยงตัวหนีไปมา ฝ่ามือใหญ่จึงจับล็อคคางมนไว้ ผิวหน้าอลันด์นุ่มละเอียดมือต่างจากผิวกร้านของพวกยุโรปแม้แต่ขนยังไม่ค่อยจะขึ้นคงได้ส่วนนี้มาจากแม่ที่เป็นเอเชียมามาก เขาอดฉวยโอกาสใช้ปลายนิ้วลูบไล้ไม่ได้ เจ้าแมวพยศเริ่มสะบัดหน้าเขากลัวว่าจะพลาดเอามือไปฟาดหน้าอีกคนให้ได้โกรธขึ้นมาอีกเลยจำใจบีบปลายคางแรงๆ ให้อยู่นิ่งก่อนแต้มจูบตรงมุมปากแทนการปลอบ

อลันด์เลิกดิ้นแล้วหลังถูกอดีตกัปตันชมรมรักบี้มอบจูบปลอบขวัญให้หลายครั้ง ทั้งที่มุมปาก ปลายคาง แก้มนุ่มๆ ไรผมเหนือหน้าผาก หรือกระทั่งใบหูขาวๆ ที่โผล่พ้นกลุ่มผมนุ่มสีช็อกโกแลตนมออกมา ทว่าแม้กายจะอ่อนยวบกับความอ่อนโยนที่ได้รับแค่ไหนฝ่ามือสวยยังคงทำหน้าที่ปิดหน้าต่างความคิดอย่างดวงตาไว้แน่นหนา

หนุ่มอังกฤษเชื้อสายเยอรมันอมยิ้มจนแก้มปริ คำว่าน่ารักลอยอยู่เต็มหัว อยากจะแกล้งให้มากกว่านี้อีกหน่อยแต่ถ้าเกิดเจ้าแมวอ้วนโกรธขึ้นมาจริงๆ คงแย่

“อัล...ฉันขอโทษ ฉันเสียใจจริงๆ นายจะไม่ยกโทษให้ฉันหน่อยเหรอ” โธมัสจงใจกระซิบเสียงเบาชิดริมฝีปากหยัก สัมผัสได้ถึงลมหายใจขาดห้วงของคนตัวเล็กกว่า ออดอ้อนอีกนิดถูไถอีกหน่อยยอมขนาดนี้แล้วอลันด์จะใจร้ายโกรธเขาลงก็เย็นชาเกินไปแล้ว

“นะ นายทิ้งฉัน ...ไล่ฉัน” เสียงทุ้มแหบหอบสั่นยามเอ่ยออกมา ไม่รู้ว่าเพราะกลั้นสะอื้นหรือเพราะสัมผัสกอดรัดไม่ห่างจากเพื่อนตัวใหญ่กันแน่

เพื่อนที่คบกันมานานสิบกว่าปีมีหรือจะไม่รู้ว่าอลันด์ใกล้ใจอ่อนยกโทษให้เขาเต็มที โธมัสแกล้งยิ้มจ๋อยจงใจทำท่าหางตกหูลู่ให้เพื่อนซี้เห็น เบียดตัวชิดเข้าไปอีกนิดกอดเอวอีกคนไว้ด้วยแขนข้างเดียวลูบแถวกระดูกสันหลังเบาๆ ไล้ลงมาถึงสะโพกหนั่นเนื้อ เชยคางมนให้ใบหน้าอ่อนเยาว์เงยขึ้นจนมือที่ปิดดวงตาสีซีดไว้หลุดออกเพื่อยึดแขนเขาไว้แทน

“ฉันผิดไปแล้ว ยกโทษให้ฉันนะ” ฟังแล้วได้แต่เม้มปากแน่นกว่าเดิม ตาสีซีดจ้องหมาหงอยตัวโตเหมือนเจ้าของไม่เล่นด้วยเขม็ง ชักนึกเกลียดตาสีน้ำเงินเข้มช่างเอาใจที่ละลายความโกรธเขาได้ดีเหลือเกิน หากที่เกลียดยิ่งกว่าคงเป็นจูบที่ทั้งเอาใจและเอาแต่ใจของโธมัส กำแพงที่ตั้งไว้ทลายลงทีละนิดทุกครั้งที่ปลายลิ้นตวัดเลียริมฝีปากเขาเหมือนกำลังชิมโลลิป๊อบสีหวาน โดยเฉพาะยามที่ฟันขาวงับดึงผิวเนื้ออ่อนบริเวณนั้น กริยาดื้อด้านราวกับบังคับจะให้เขาเปิดปากไปเล่นสนุกด้วยกันเสียให้ได้ วินาทีนั้นอลันด์แทบลืมไปแล้วว่าเคืองอะไรเพื่อนตัวโตไว้ เหลือแต่ความต้องการอยากให้อีกคนพะเน้าพะนอเอาใจเขามากกว่านี้ มากขึ้น...มากขึ้นอีกราวกับเขาเป็นคนสำคัญที่สุด

โธมัสจูบเขาไปทั่วทั้งหน้าลามไปจนถึงหูและลำคอที่โผล่พ้นคอเสื้อโปโลขึ้นมา ลิ้นหนาแลบเลียแก้มนุ่มช่วยเช็ดคราบน้ำตาให้ ถ้าชายหนุ่มเป็นไอ้ตัวสี่ขาที่อยู่กันเป็นฝูงยั้วเยี้ยข้างนอกบ้านนั่นหน้าอลันด์คงเต็มไปด้วยคราบน้ำลายสกปรก แต่เพราะคนตัวสูงหกฟุตห้านิ้วเป็นชายหนุ่มผมทองรูปงามเด็กลูกครึ่งจึงยอมให้อีกคนเลียเอาแต่พอใจ

“ไปอาบน้ำกันนะ” ปากขอแต่มือจับสาบเสื้อแจ็คเก็ตคนตัวเล็กกว่าดันออกจากไหล่ปล่อยให้หล่นพื้นไปแล้ว ก่อนวกกลับมาจับชายเสื้อโปโลของเบอเบอร์รี่ถลกขึ้นดึงออกทางศีรษะทุย อลันด์ก็ว่าง่ายยกแขนให้ความช่วยเหลือกับอีกคนโดยดี ไม่ถึงสองนาทีร่างกายก็ล่อนจ้อนกันทั้งสองคน



น้ำอุ่นจากฝักบัวถูกปล่อยรดร่างต่างขนาดสองคนที่นัวเนียอยู่ข้างใต้ บางส่วนกระทบพื้นกระเบื้องหินกาบสีดำ ควันสีขาวลอยทั่วห้องอาบน้ำเมื่อน้ำอุ่นปะทะกับอากาศเย็นจัดจากเครื่องปรับอากาศที่ทำหน้าที่จากห้องนอนลอดผ่านประตูที่เปิดอ้าไว้เข้ามา

อลันด์พยายามลืมตาฝ่าม่านน้ำมองดูหมาตัวโตที่กอดฟัดเขาไม่ห่าง รอบคอเขาต้องเป็นรอยช้ำแดงแน่เพราะโธมัสกัดย้ำตรงนั้นไม่ยอมปล่อยเสียที ใบหน้าขาวเชิดขึ้นยามลิ้นหนาลากจากสะดือผ่านร่องอกขึ้นมาถึงปลายคาง เขาอ้าปากค้างปล่อยให้เสียงครางขรมในคอลอยออกมา

“ชอบไหมอัล” คนถูกถามตอบด้วยเสียงคำรามต่ำในลำคอยามเอียงใบหน้าให้อีกฝ่ายครอบครองใบหูเขาได้ถนัด

ฝ่ามือใหญ่และหยาบกร้านจากการเล่นกีฬาลูบต่ำลงถึงหน้าท้องให้หดเกร็งหนีสัมผัสหวามไหว แต่ยิ่งหนีโธมัสยิ่งเอาร่างกายใหญ่โตกว่าและแข็งแรงกว่าเข้าเบียด ส่วนนั้นของคนตัวสูงแข็งขืนเป็นท่อนลำเสียดสีกับท้องเขาจนได้

โธมัสใช้เพียงมือเดียวจับอลันด์ชิดผนังใต้ฝักบัว ร่างสูงกำยำย่อตัวคุกเข่ากับพื้น กระนั้นใบหน้าหล่อเหลาใต้เรือนผมสีทองเปียกลู่แนบโครงหน้ากลับอยู่ระดับหน้าอกคนยืนพอดี ริมฝีปากบางร้อนจัดนาบไปทั่วแผ่นอกขาวที่เคยชิมมาแล้วหลายครั้งและพบว่าน่ากินทุกครั้งไป โดยเฉพาะส่วนติ่งไตสีชมพูอ่อนที่พอสัมผัสไอ้ตัวแสบเป็นต้องหลุดเสียงครางน่าอายออกมาทุกที ปล่อยให้ปลายนิ้วเรียวสอดเข้ากลุ่มผมสีทองสว่างขยุ้มขย้ำตามจังหวะรัญจวนที่ได้รับ

เขาเอื้อมมือออกไปหยิบขวดครีมอาบน้ำมาวางไว้ข้างตัว กดหัวปั๊มสองสามทีให้ครีมอาบน้ำกองเต็มฝ่ามือก่อนลูบไล้ไปทั่วตัวขาวๆ อวบๆ เหมือนลูกหมู แต่ก่อนไม่อ้วนขนาดนี้จับไปทีไรเจอแต่เนื้อแข็งๆ แบบผู้ชาย แต่ไปอยู่ไทยได้ไม่ถึงครึ่งปีอลันด์ตัวนุ่มนิ่มขึ้นเยอะ โธมัสต้องขอบคุณอาหารที่นั่นสินะ

ฝักบัวถูกปิดชั่วคราวเพื่อให้โธมัสช่วยเจ้าแมวหน้าตายอาบน้ำขัดถูตัว ไม่ได้แตะน้ำเต็มๆ มาสองวันที่กลาสตันเบอรี่ทั้งเขาทั้งไปตัวแสบมอมแมมสิ้นดี อลันด์เองก็ช่วยสระผมให้หมาโกลเด้นผมทองเสียฟองแชมพูฟูฟ่องเต็มศีรษะ

เสียงหัวเราะคิกคักดังก้องห้องน้ำกว้างยามคนตัวโตกว่าแกล้งฟัดจมูกลงบนหน้าท้องขาว ก่อนทุกอย่างจะเงียบลงและแทนที่ด้วยเสียงฮึมฮัมในลำคอเพียงพริบตาที่โธมัสหยัดตัวยืนขึ้นอีกครั้งและจับพลิกตัวเพื่อนรักหันหน้าเข้าหาผนัง ริมฝีปากอิ่มหยักเม้มแน่นกลั้นเสียงครางยามฝ่ามือหยาบหนาเลื่อนต่ำจับส่วนสำคัญ ปลายนิ้วแตะส่วนหัวคลึงเบาๆ แล้วรูดรั้งจนทั้งร่างผวาตัวงอให้แนบชิดคนยืนซ้อนด้านหลัง ศีรษะทุยสะบัดหงายเปิดช่องให้หมาตัวโตขบกัดซ้ำรอยเดิมจนห้อม่วง

เสียงขยับข้อมือกระทบผิวเนื้อดังเป็นจังหวะก้องห้องน้ำชวนแข้งขาอ่อน แม้แต่มือที่ยันผนังไว้ยังอ่อนแรงทำได้เพียงจิกผนังไว้แทนการระบายอารมณ์ หากไม่ได้อ้อมกอดแข็งแรงโอบรัดช่วงเอวไว้เด็กแสบมีหวังลงไปนั่งกองกับพื้นแน่ๆ

ทุกอย่างที่โธมัสทำมันไม่ได้อ่อนหวานสักนิด เขารุนแรงเอาแต่ใจรังแกคนตัวเล็กกว่าให้ทรมานแทบขาดใจครั้งแล้วครั้งเล่าด้วยการสัมผัส แม้จะปฏิเสธการกระทำนี้ทุกครั้งด้วยการส่ายหน้าและหยาดน้ำตา แต่ลึกๆ แล้วเขาชอบมันร่างกายถึงไม่เคยปฏิเสธสักครั้งที่โธมัสเริ่มต้นปฏิบัติกิจกรรมที่ชักเกินเพื่อนไปทุกที

คนตัวขาวจัดสะดุ้งโหยงเบิกตาโพล่งเมื่อฟันคมกัดเข้ากกหูข้างขวาเต็มแรง ‘เจ็บ’ อยากอ้าปากบอกไปอย่างนั้น ทว่าทำได้เพียงส่งเสียงครางลั่นห้องน้ำเมื่อมือของเพื่อนรักไม่ยอมหยุดรังแกกันง่ายๆ หนำซ้ำยังเร่งเร้าเสียจนเขาตัวลอยขาไม่ติดพื้น

หลังมือขาวถูกยกขึ้นอุดปากตัวเองกลั้นเสียงน่าอายที่ชักจะร้องดังเกินควรเข้าไปทุกที น้ำตาไหลเป็นทางเมื่อมือใหญ่ไม่ยอมผ่อนแรงลงแม้แต่น้อยซ้ำยังกัดไหล่เขาเสียจมเขี้ยวเหมือนแกล้งที่เขากลั้นความรู้สึกเอาไว้ สุดท้ายยามถึงจุดที่ทนไม่ได้ต่อไปจึงยอมเสียศักดิ์อ้าปากร้องขอความเมตตา

“ทอม... พอ... ทอม... ฉัน...จะไม่ไหว อึ๊ก... ทอม!”

“ฮิล...เรียกฮิล อืม...เรียกชื่อฉัน”

“จูบฉัน...ฮิล”

ทันทีที่ได้ยินเสียงแหบห้าวครางออกมาเป็นชื่อตัวเองอีกครั้งหนุ่มนักกีฬาก็จับร่างเล็กกว่าพลิกอุ้มเข้าเอวขาลอยจากพื้น แผ่นหลังขาวถูกกระแทกติดผนังห้องน้ำอีกครั้งเพื่อให้โธมัสป้อนจูบให้ตามคำขอ ปลายลิ้นร้อนเกี่ยวกระหวัดกันรุนแรงท่ามกลางสายน้ำอุ่นที่ไหลลงมาล้างฟองตามเนื้อตัว

อลันด์คำรามลั่นในคอทั้งที่ยังติดพันจูบกับเพื่อนรัก ท่อนแขนอวบขาวตวัดโอบรอบลำคอหนาแน่นพร้อมเกร็งตัวเบียดอีกคนจนสั่นระริกเมื่อมาถึงปลายทางสิ้นสุด หยาดน้ำสีขุ่นถูกรีดออกจนหมดละลายหายไปกับสายน้ำ

เสียงหอบหายใจของตัวเองดังก้องอยู่ในหูเมื่อทุกอย่างจบลง โธมัสยังคงจูบเขาแม้จะไม่ได้จูบปากเหมือนเมื่อครู่แล้วก็ตาม อลันด์ปล่อยมือข้างหนึ่งจากลำคอหนามาลูบเส้นขนสีทองที่แผงอกกำยำแบบนักกีฬาไปมา ผู้ชายตัวสูงจูบเขาไปทั่วทั้งใบหน้า ฟันคมฉกลงขบริมฝีปากเขาอีกครั้งและอีกครั้งอย่างไม่รู้จักพอ ตาสีน้ำเงินเข้มจ้องเขาประหนึ่งเป็นอาหารอันโอชะและวันนี้ตาคู่นั้นวาววาบเกินปกติ กลายเป็นอลันด์เองที่ต้องหลุบสายตาซ่อนใต้ขนตาสีอ่อน

ท่อนเนื้อแข็งตึงของคนที่อุ้มเขาไว้เสียดสีส่วนล่างไม่ห่าง รู้ดีว่าไอ้ไส้กรอกจากเยอรมันอันใหญ่มันจะไม่เข้ามาในตัวแน่ๆ แต่คนถูกอุ้มก็อดเสียววูบในช่องท้องไม่ได้ทุกทีที่คิดถึงขนาดของมัน สุดท้ายเพื่อหลบซ่อนความกระดากอายและอาการกลัวจึงแกล้งซบใบหน้าลงกับซอกคออีกคนเสีย

“หายโกรธฉันแล้วนะอัล” หนุ่มผมทองกระซิบชิดริมใบหูขาวที่ขึ้นรอยฟันเขาจนเป็นปื้นแดง เห็นแล้วมันเขี้ยวอยากงับลงไปอีกสักทีแต่กลัวเพื่อนรักจะพิการหูขาดไปเสียก่อนยอมเปลี่ยนใจมากัดหลังคอแทนเล่นเอาคนในอ้อมกอดสะดุ้ง

“อืม” พยักหน้าให้ด้วยแม้ว่าโธมัสจะไม่เห็นก็เถอะ

หนุ่มตัวสูงอุ้มอลันด์ออกมาจากห้องน้ำด้วยท่าเดิม ผ้าขนหนูผืนใหญ่ถูกดึงมาคลุมหัวอีกคนไว้ ช่วยเช็ดผมหนานุ่มสีช็อกโกแลตนมให้พอหมาดก็จับโยนลงเตียงหลังกว้างก่อนร่างใหญ่โตจะกระโจนตามลงไปทับเสียแทบจุก ริมฝีปากบางพรมจูบไปทั่วใบหน้าขาวจนอลันด์ต้องหลับตาปี๋กับการจู่โจมไม่ทันตั้งตัว

“ฉันช่วยนายเสร็จแล้ว ต่อไปก็ตาฉันบ้างล่ะ”

ตาสีซีดลืมขึ้นมองคนพูดเสียงเจ้าเล่ห์เลยไปถึงนาฬิกาบนโต๊ะข้างเตียง ตอนนี้ตีสี่แล้ว กว่าหมาโธมัสจะเสร็จเขาคงได้นอนตอนหกโมงเช้าพอดี คำนวณแผนตารางชีวิตสำหรับวันใหม่ บวกลบดูแล้วคงไม่เป็นไรถ้าเขาจะตื่นสายสักนิดแล้วให้อัลเบิร์ตมารับตอนบ่าย ส่วนตอนนี้ก็เตรียมตัวเตรียมใจนอนให้หมาตัวโตฟัดเอาจนกว่าจะพอใจ แม้จะเจ็บและเหนื่อยอยากพักมากแค่ไหนแต่อลันด์ไม่เคยปฏิเสธทอมได้เลยสักที

.
.
.

กว่าแมวอ้วนตัวขาวจะฟื้นนั้นเวลาล่วงเข้าเที่ยงวันไปแล้ว ท้องร้องโครกครากประท้วงให้หาอะไรเติมเต็มอลันด์จึงลากสังขารยับๆ ลงจากเตียงไปอาบน้ำอีกรอบ เปิดตู้เสื้อผ้าคว้าเสื้อเชิ้ตสีดำขนาดโอเวอร์ไซส์ของเจ้าของบ้านกับกางเกงขาสั้นสมัยโธมัสอายุสิบสามมาใส่ ส่วนตัวการที่ทำให้เขาตื่นสายโด่งหายไปไหนตั้งแต่เมื่อไหร่เขาก็ไม่รู้ แต่พอจะเดาได้ว่าคงเล่นกับฝูงหมาอยู่ข้างล่างไม่ก็วุ่นวายพาหมอวาชมบ้านอยู่แน่ๆ

“อูย...” ปากอิ่มห่อตัวเบาๆ เมื่อคอเสื้อกระทบรอยกัดที่หลังคอ เขาพาตัวเองไปยืนหน้ากระจก สำรวจร่องรอยความเสียหายที่มีมากกว่าปกติ พอเอามือแตะๆ หลังคอกับกกหูก็มีเลือดติดมา ตาสีซีดเบิกกว้างด้วยความตกใจ รีบคุ้ยหาเสื้อสเวตเตอร์มาคลุมทับไหล่อีกทีขณะที่กระดุมเสื้อก็ติดจนถึงคอพรางร่องรอยถูกทำร้ายเอาไว้

เมื่อคืนโธมัสทำรุนแรงกับเขาจนผวา เพื่อนรักตัวโตกัดเขาจมเขี้ยวให้ได้ร้องเสียงหลงน้ำตาไหลอยู่หลายหน ยอมรับตรงๆ ว่าเขากลัวโธมัสเวอร์ชั่นเมื่อคืนพอสมควร เหมือนคนแปลกหน้าที่เขาไม่รู้จักสักนิด ทุกทีที่ทำแบบนี้ด้วยกันถึงโธมัสจะรุนแรงไปบ้างแต่ก็อ่อนโยนไม่ทำท่าเหมือนจะกินเขาเข้าไปทั้งตัวแบบนี้ และที่ร้ายที่สุดคือโธมัสพยายามจะสอดตัวเข้ามา ถ้าเขาไม่ร้องไห้เสียงดังน้ำตาไหลพรากขู่ว่าจะตัดเพื่อนไอ้หมาขนทองคงไม่หยุดแน่

แน่นอน...เขาไม่ใช่เกย์ เขาเคยคบกับผู้หญิง ยังมองผู้หญิง รู้สึกกับผู้หญิง แต่ก็อธิบายสิ่งที่ทำกับโธมัสไม่ได้ มันรู้สึกดี ผู้ชายคนนั้นสอนให้เขารู้จักความสุขอีกรูปแบบของเซ็กส์ แต่เขาไม่สามารถให้อีกฝ่ายได้มากกว่านั้น

สิ่งที่มากกว่าเพื่อน

ตาสีซีดเหลือบมองรูปถ่ายบนโต๊ะเขียนหนังสือ รูปถ่ายเก่าๆ เมื่อสิบกว่าปีที่แล้วที่เขาก็มีมันแปะอยู่บนหัวเตียง ภาพของเขาที่จับมือกับโธมัสพากันเดินเข้าโรงเรียนอนุบาลด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

ในเมื่อตอนนั้นโธมัสเป็นคนพูดเองว่าแค่เพื่อนแล้วจะมาเรียกร้องในสิ่งที่มากเกินกว่านั้นไปเพื่ออะไร สิ่งที่พวกเขาสองคนทำมันก็แค่เซ็กส์เฟรนด์เท่านั้นแหละ...


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-10-2015 18:56:29 โดย บัวน้อย ไร่แตงโม »

ออฟไลน์ NiTRoGeN14

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-1
    • คอนโดแมว
♥ . . . HEART ATTACK . . . ♥ --- TRACK 08 [10.10.15]
«ตอบ #69 เมื่อ10-10-2015 18:54:34 »

ตอนที่อลันด์ผลักประตูห้องนอนออกมาคิ้วสีน้ำตาลเป็นต้องเลิกขึ้นด้วยความฉงนเมื่อเห็นน้องคนที่หกของบ้านยืนจังก้าขวางทางอยู่

ลียอน แคมป์เบลล์ กริฟฟิธส์ ลูกคนเดียวในบรรดาพี่น้องเจ็ดคนที่ไม่มีนามสกุลเฮอร์มานน์ของตาในชื่อ แต่ได้นามสกุลแคมป์เบลล์ของย่าทวดอดีตนักแสดงชื่อดังมาใส่แทน

“มีอะไร”

“ทอมให้มาเรียก เห็นว่าไม่ลงไปข้างล่างสักที”

“แปลกใจนะที่เป็นนาย” เขาแสยะยิ้มไปให้ ใครๆ ก็รู้ว่าอลันด์กับลียอนไม่ถูกกันเท่าไหร่ “มีอะไรอีกหรือเปล่าที่ทำให้นายลงทุนมาหาฉัน”

“คุณหมอคนนั้น...”

“ทำไม”

“เขามีแฟนหรือยัง”

คำถามของลียอนเล่นเอาตาสีซีดเบิกกว้าง ถึงจะตะหงิดมานานแล้วแต่ก็อดแปลกใจไม่ได้เมื่อได้ยินกับหูจากปากเจ้าตัว “อย่าบอกนะว่านายเป็น...เกย์”

คนถูกถามหยักไหล่แทนคำตอบซ้ำยังเร่งให้อลันด์ตอบคำถามอีกด้วย หนุ่มผมน้ำตาลพรูลมหายใจแรงก่อนผลักหัวเด็กสิบห้าที่บังอาจเริ่มสูงกว่าเขาไปสองเซ็นแล้วจ้ำเท้าลงไปข้างล่าง ถึงตอนนี้หมอวายังว่างแต่ใช่ว่าเขาอยากเห็นศัตรูสมหวังเสียเมื่อไหร่ เพราะงั้นอยากจีบก็ทำเองเถอะ เขาไม่ช่วยหรอก แบร่~

“เดี๋ยวสิอัล อัล!”

อลันด์วิ่งหนีลียอนจนมาถึงชั้นล่าง เหล่าแม่บ้านกำลังทำความสะอาดห้องนั่งเล่นเพราะงั้นโธมัสกับคนอื่นก็น่าจะอยู่ที่สวน ร่างเล็กออกไปทางอวบจึงรีบออกไปข้างนอกก่อนเด็กแก่แดดตามมาทัน สุนัขพันธุ์โกลเด้น รีทีฟเวอร์เจ็ดตัวพากันเห่าขรมเมื่อเห็นเพื่อนรักของเจ้านายวิ่งออกมาจากตัวบ้าน ใบหน้าขาวจัดขึ้นสีแดงเรื่อเพราะออกกำลัง ในขณะที่โธมัสกับคนอื่นต้องช่วยกันฉุดหมาทั้งเจ็ดไว้ไม่ให้พุ่งชาร์จอลันด์ได้เจ็บตัว

“ไงอัลหลับเป็นตายเลยนะ เมื่อคืนทะเลาะกับทอมจนไม่ได้นอนเลยสิ” แฝดน้องทักพลางลากคอเจ้ามาร์ตินไว้สุดแรง คนถูกถามก็แค่ทำหน้าบอกว่าประมาณนั้นไม่ได้ว่าอะไรเพิ่ม ฝ่ามือสวยเอื้อมไปลูบหัวโกลเด้นตัวแก่สุดของบ้านที่ชื่อมาร์ติน ไม่ได้เจอมาพักใหญ่เหมือนว่ามันจะผอมลงนิดหน่อย

“สวัสดีมาร์ติน คิดถึงฉันไหม” มาร์ตินโกลเด้นวัยสิบสองขวบตอบรับคำทักทายด้วยการยื่นใบหน้าไปแตะจมูกกับคนทัก มันหลับตาพริ้มครางหงิงๆ กวักหางไปมาอารมณ์ดีเป็นที่สุด

“แล้วนี่ทะเลาะอะไรกับลียอนอีกหรือเปล่า หมอนั่นเดินหัวฟัดหัวเหวี่ยงมานี่แล้ว”

“นิดหน่อย” เขาตอบมาร์โก้ก่อนพุ่งไปกอดหมาตัวอื่นๆ ที่ถูกล่ามคอเอาไว้ แทกมือเหมือนเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน “ไฮล์(สวัสดี) เลนนอน จอห์น สตาร์ จอร์จี้ บีเทิล แล้วก็ริงโก้ คิดถึงพวกแกทุกตัวเลย”

เด็กแสบกอดริงโก้หมาเด็กสุดแต่ตัวใหญ่พอๆ กับคนกอดแน่น ทิวากานต์ที่ดึงสายจูงเจ้าริงโก้ก้มลงมองหาร่องรอยบาดแผลที่น่าจะมี(ถ้าเมื่อคืนอลันด์กับโธมัสตีกันจริงๆ) พอไม่เห็นอะไรผิดปกติก็วางใจ เอาลูกเขามาดูแลแต่ถ้ากลับไปคืนไม่ครบสามสิบสองมีหวังโดนยิงไส้กระจุย

ร่างสูงทรุดตัวนั่งยองๆ หน้าเด็กแสบแกล้งเป็นยุ่งกับหมาที่อลันด์กอดอยู่แต่ความจริงคือจะไปกระซิบถามให้ได้ยินกับหูว่าไม่มีอะไรจริงๆ พูดง่ายๆ ก็เป็นห่วงนั่นแหละ ข้างนอกไม่มีรอยแต่ข้างในอาจจะมีก็ได้

“เมื่อคืนไม่ได้ตีกันใช่ไหม”

“อาฮะ”

“ดีกันแล้วใช่ไหม”

“อืม เป็นห่วงเหรอ”

“แหงสิ” เป็นห่วงก็พูดตรงๆ ทิวากานต์ไม่ใช่ผู้ชายซับซ้อนปากแข็ง “ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว”

ฝ่ามือใหญ่ตบกลุ่มผมสีช็อกโกแลตนมเบาๆ ก่อนลุกขึ้นยืนกระชากสายจูงบีเทิลเอาไว้เมื่อเจ้าหมาโกลเด้นอายุสามขวบทำท่ากระโจนใส่ลียอนที่วิ่งตามมาสมทบ

เมื่อเช้าเขาตื่นตอนเจ็ดโมงหลังนอนไปแค่สามชั่วโมง ตอนนั้นคิดว่าไม่ง่วงแต่พอหัวแตะหมอนก็หลับเป็นตาย ถ้าฮิวโก้ไม่มาเคาะประตูเรียกคงไม่ตื่น ได้เจอพ่อแม่ของพี่น้องกริฟฟิธส์ที่โต๊ะอาหาร คุณแม่ยามแต่งหน้าทำผมใส่เสื้อผ้าของชาแนลนั้นสวยกว่าเมื่อตอนตีสี่มาก ส่วนคุณพ่อเป็นผู้ชายร่างใหญ่ผมสีน้ำตาลเข้มท่าทางเคร่งขรึม ร่วมโต๊ะได้ไม่เท่าไหร่ทั้งคู่ก็ไปทำงาน มาริโอ้บอกว่าปกติแล้วพ่อกับแม่จะอยู่อพาร์ทเม้นต์ที่เคนชิงตัน เสาร์ - อาทิตย์ถึงกลับมานอนที่คฤหาสน์นอกเมือง

บนโต๊ะอาหารเช้านอกจากพ่อแม่โธมัสแล้วยังมีอีฟกับลียอนอีกสองสมาชิกของบ้านกริฟฟิธส์ร่วมอยู่ด้วย

อีฟหรือเอเวอลีนเป็นสาวสวยเพียงหนึ่งเดียวในบรรดาพี่น้องทั้งเจ็ด เรียนอยู่โรงเรียนประจำหญิงล้วนในลอนดอน ตอนนี้กำลังขึ้นชั้น sixth form แก่กว่าเจ้าสองแฝดปีเดียว พอพ่อแม่ออกจากบ้านไปเจ้าหล่อนก็สะบัดผมบลอนด์ยาวถึงบั้นเอวสั่งงานสาวใช้ให้ยกกระเป๋าเดินทางลงมาจากห้องนอนเพื่อเตรียมรอเพื่อนมารับไปวาเคชั่นที่กรีซ มาริโอ้กระซิบบอกทิวากานต์ว่าอีฟชอบเจมส์มากเลยไม่ค่อยชอบอลันด์ที่มักทะเลาะกับเจมส์เท่าไหร่

ส่วนน้องอีกคนที่มาร์โก้บอกว่าเป็นคู่ปรับตลอดกาลของอลันด์คือลียอน คนนี้เป็นน้องหกของบ้าน หน้าตาไม่ค่อยเหมือนพี่ๆ เท่าไหร่เพราะสวยหวานกระเดียดไปทางผู้หญิงเสียเยอะ ตัวไม่สูงใหญ่เท่าพี่น้องคนอื่น น่าจะสูงพอๆ กับอลันด์ ตัวผอมบางเอวเล็กนิดเดียวยิ่งมองรวมกับผมสีทองตัดบ็อบยาวประบ่าแล้วนึกว่าเป็นเด็กผู้หญิง ตอนนี้กำลังมีชื่อเสียงในวงการบันเทิง ได้ถ่ายงานหลายตัวและกำลังได้เซ็นสัญญาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับเสื้อผ้าไฮเอนด์ยี่ห้อหนึ่ง

และตอนนี้คู่ปรับของไอ้ตัวแสบก็กำลังวิ่งตรงมาทางนี้ อลันด์ตีหน้าบูดทันทีไม่ลืมตวัดตาสีซีดมองคุณหมอให้ได้งงกันอีกด้วยว่ากูทำอะไรผิด

“อัลไม่รอเลย” ลียอนย่นปากย่นจมูกทำหน้าน่ารักใส่อลันด์ ก่อนตวัดตากลมโตสีน้ำเงินเข้มมาทางทิวากานต์ “หมอวาชอบบีเทิลไหม บีเทิลเป็นตัวโปรดของผมเลยนะ”

อลันด์เบะปากแลบลิ้นใส่หลังเด็กแก่แดดที่พออยู่ต่อหน้าคนที่ชอบก็แกล้งทำตัวน่ารัก มารยายิ่งกว่าผู้หญิงแบบอีฟ คนตัวเล็กสุดลุกขึ้นยืนก่อนเดินเตะดินไปหาสองแฝด

“หิวไหม อัลเบิร์ตบอกว่าจะมาถึงตอนบ่าย นายควรหาอะไรรองท้องก่อนนะ”

คำถามที่มาพร้อมน้ำเสียงนุ่มทุ้มและสัมผัสรอบเอวทำคนถูกกอดไม่รู้ตัวสะดุ้งโหยง ตาสีซีดจ้องหน้าโธมัสหวาดๆ แผลที่คอปวดจี๊ดขึ้นมาทันที เขาหมุนตัวหนีท่อนแขนแข็งแรงก่อนเค้นเสียงตอบออกไปตะกุกตะกัก “หะ หิวมาก”

“งั้นให้แม่บ้านตั้งโต๊ะมื้อกลางวันเลยดีไหม คุณหมอจะได้กินข้างเที่ยงกับพวกเราด้วยไง คุณหมอหิวหรือยังครับ เมื่อเช้าเห็นกินไปนิดเดียวเอง” เจ้าลูกลิงลียอนเกาะแขนคุณหมอวัยสามสิบแกว่งไปมาตาสีน้ำเงินมองแป๋ว ถ้าใจร้ายปฏิเสธลงก็เย็นชาเกินไปล่ะ แล้วคิดว่าชายหนุ่มหน้าตาดีแบบทิวากานต์จะใจร้ายได้ลงคอเหรอ

พอตกลงกันได้ว่าจะให้แม่บ้านตั้งโต๊ะมื้อเที่ยงลียอนก็รีบวิ่งเข้าไปสั่งงานทันที คนที่เหลือช่วยกันลากสายจูงคอแก๊งโกลเด้นเข้าไปขังในส่วนของสุนัขที่กั้นไว้

มื้อเที่ยงง่ายๆ ของบ้านกริฟฟิธส์ถูกจัดการหมดภายในเวลารวดเร็วพอดีกับที่อัลเบิร์ตมารับคุณชายของตนพอดี ลียอนทำหน้าหงอยชัดเจนเมื่อรู้ว่าถึงเวลาจะต้องแยกจากคุณหมอรูปหล่อแล้ว

“ก็พาพี่เที่ยวสิ” ทิวากานต์อดยกมือลูบหัวเจ้าลูกลิงไม่ได้ เคยบอกหรือยังว่าเขาแพ้คนหน้าตาดีเห็นแล้วอดตามใจไม่ได้เลย ยิ่งมาเกาะแขนอ้อนนะอยากได้อะไรบอกมาป๋าจัดให้หมด

“ผมอยากพาคุณหมอเที่ยวให้ทั่วเกาะเลยนะ แต่ว่าช่วงนี้มีงานถ่ายซีรีส์แทบทุกวัน”

คุณหมอฉีกยิ้มกว้างกับประโยคหงอยๆ จากคนน่ารัก มือหนาลูบผมสีทองเส้นเล็กของอีกคนทันทีเป็นปฏิกิริยาอัตโนมัติ “พี่อยู่นี่อีกตั้งหลายวันไม่ได้จะกลับวันนี้แล้วเสียหน่อย ถ้าเธอไม่ยุ่งเกินไปเราคงได้เจอกันอีก”

“จริงนะครับ”

“จริงสิ” พยักหน้าเป็นการยืนยันอีกที รอยยิ้มกว้างจนตาหยีจากน้องหกของบ้านกริฟฟิธส์พลันสว่างขึ้นทันที ลียอนเขย่งปลายเท้าให้ใบหน้าสูงเท่ากับแก้มคร้านของคุณหมอแล้วจัดการหอมฟอดใหญ่แทนคำขอบคุณ

“คุณหมอน่ารักจัง”

ไอ้ตัวแสบมองภาพตรงหน้าแล้วเบะปากสะพายเป้ขึ้นไหล่กระโดดขึ้นเบาะหลังรถเบนท์ลีย์ มูซานสีดำที่อัลเบิร์ตขับมารับ ทำทีเป็นไม่สนใจทิวากานต์ที่ยังโบกมือร่ำลากันกับลียอนไม่เลิก เกือบนาทีร่างสูงใหญ่ของหนุ่มวัยสามสิบถึงได้ก้าวตามคนเด็กกว่าขึ้นรถหรู

หากยังไม่ทันได้ไปไหนไกลเสียงเคาะกระจกก็ดังขึ้นเรียกผู้โดยสารด้านหลังสองคนให้หันไปหาต้นตอ โธมัสยืนอยู่ฝั่งอลันด์ทำมือบอกให้อีกฝ่ายลดกระจกรถลง เด็กหนุ่มดูลังเลเล็กน้อยแต่เพื่อไม่ให้ผิดสังเกตจึงยอมลดกระจกลง หนุ่มผมทองฉีกยิ้มก่อนชะโงกหน้าเข้ามาด้านใน ตาสีน้ำเงินเข้มมองอลันด์ที่ย่นคอหนีเขาไปได้ไม่ไกลเพราะติดเบาะก่อนจงใจโน้มใบหน้าลงจูบมุมปากเพื่อนซี้แนบแน่น “เจอกันวันพฤหัสนี้นะ ฉันมีอะไรจะเซอร์ไพรส์นาย”

ตาสีซีดเหลือบขึ้นมองคนพูดหวาดๆ ในหัวพยายามนึกว่าวันพฤหัสที่จะนี้มีอะไรที่โธมัสจะเซอร์ไพรส์เขาได้แต่ก็นึกไม่ออก พฤหัสนี้มีงานโปโลการกุศลซึ่งครอบครัวโอเนลล์และกริฟฟิธส์ได้รับเชิญเช่นเดียวกับครอบครับสเปนเซอร์ของเจมส์ เพราะงั้น... “คงไม่ได้คิดจะทำตัวเป็นคู่แข่งเจมส์ใช่ไหม”

“คอยดูแล้วกัน” อลันด์จ้องหน้าหล่อๆ ของหมาตัวโตที่ยิ้มจนตาปิดถอยกลับไปก่อนปิดกระจกลงเหมือนเดิม คิ้วสวยขมวดเข้าหากันน้อยๆ จนในที่สุดริมฝีปากหยักก็หลุดรอยยิ้มออกมาเพราะเพื่อนรักได้เป็นครั้งแรกของวัน

“stupid”

“มีอะไรหรือไง”

คนเด็กกว่าเลิกคิ้วขึ้นกวนๆ ไม่ตอบแล้วยังหันมาถามกลับ “ด็อกคิดว่านักรักบี้จะทำได้ดีแค่ไหนบนหลังม้า”

ทิวากานต์พยายามคิดตามในสิ่งที่อีกคนถาม แต่ดูเหมือนเจ้าตัวเองก็ไม่ได้ต้องการคำตอบจริงจังเพราะอลันด์ปรับเบาะให้เอนไปด้านหลังเตรียมนอนเรียบร้อยแล้วตอนที่เครื่องยนต์ทะยานออกจากคฤหาสน์ตระกูลกริฟฟิธส์

คุณหมอส่ายหน้าพลางพ่นลมหายใจ เด็กพวกนี้อารมณ์แปรปรวนกันเสียจริง เมื่อคืนยังตีกันแทบตายตอนนี้กลับจูบปากคุยเล่นกันได้แล้ว (อดจั๊กจี้ไม่ได้ที่เห็นผู้ชายจูบกันต่อหน้าต่อตา แต่เห็นคนอื่นแม้กระทั่งอัลเบิร์ตยังเฉยเลยคิดว่าคงเป็นเรื่องปกติของเพื่อนรักคู่นี้) เขาถามอัลเบิร์ตว่าอีกนานไหมกว่าจะถึง เมื่อได้คำตอบว่าประมาณสี่สิบนาทีเขาก็ปรับเบาะของีบเอาแรงตามเด็กแสบไปอีกคน

.
.
.

อัลเบิร์ตแจ้งแก่พวกเขาสองคนว่ามิสเตอร์เอเดลมาร์ โอเนลล์หรือพ่อของเด็กแสบได้จองดินเนอร์ไว้ที่ภัตตาคารกอร์ดอน แรมซีย์ตอนหนึ่งทุ่มตรงเพื่อเป็นการต้อนรับคุณหมอทิวากานต์ ฉะนั้นช่วงเวลานี้ขอให้พักผ่อนเต็มที่และระหว่างนี้หากประสงค์สิ่งใดให้ร้องขอกับสาวใช้ที่เดินอยู่ทั่วบ้านได้ทันที

ส่วนอลันด์ก็ไม่ได้ทำหน้าที่ลูกชายเจ้าของบ้านที่ดีเท่าไหร่ เจ้าตัวไม่สนใจจะพาแขกทัวร์บ้านด้วยซ้ำเอาแต่เดินจ้ำขึ้นบันไดเวียนหินอ่อนขึ้นข้างบน แต่คงกลัวคุณหมอจะเบื่อเลยกวักมือเรียกชวนไปนั่งเล่นที่ห้อง

ห้องนอนเด็กแสบมีขนาดพอๆ กับห้องเขาที่กรุงเทพ มีเตียงเดี่ยวขนาดสามฟุตครึ่งหลังหนึ่งตั้งอยู่มุมในสุดชิดผนังห้อง พื้นที่ที่เหลือเต็มไปด้วยตู้หนังสือ กีตาร์ กีตาร์ แล้วก็กีตาร์ อ้อ มีกลองชุดด้วยอีกตัวมุมห้องตรงข้ามกับเตียง ผนังห้องมีโปสเตอร์นักบอลเชลซีประปราย แต่ที่เยอะสุดคงเป็นโปสเตอร์นักดนตรีที่มีทั้ง Oasis The Beatles Kasabian แปะเต็มไปหมด เว้นบนหัวเตียงไว้ให้รูปถ่ายขนาด 4x6 แปะอยู่สี่ห้ารูป

“หาที่นั่งตามสบาย” เมื่อเจ้าของห้องว่าอย่างนั้นคุณหมอเลยวิสาสะกระโดดขึ้นไปนั่งเอนหลังพิงกำแพงบนเตียงข้างอลันด์ที่ปีนขึ้นนั่งก่อนหน้า เด็กตัวเท่าไหล่นั่งคุกเข่าจัดการรวบเปิดผ้าม่านให้แสงแดดที่หาได้ยากส่องเข้ามาในห้อง พอห้องสว่างขึ้นทิวากานต์จึงได้เห็นโทนสีในห้องชัดขึ้น

“ห้องนี้เก็บเสียงหรือเปล่า”

“แน่นอน” ไม่ทันไรกีตาร์โปร่งตัวหนึ่งก็วางบนตัก “ตอนแรกจะขอห้องว่างชั้นบนสุดทำเป็นห้องซ้อมดนตรี แต่มัมไม่ให้ต้องเก็บไว้รับแขก ก็นะบ้านนี้มีแค่สี่ห้องนอนเองนี่”

ทิวากานต์พยักหน้ารับอือออไปตามเรื่อง เขามองนู่นมองนี่แล้วหลับตาฟังเด็กแสบข้างตัวดีดกีตาร์ไปเรื่อย จนรู้สึกถึงอะไรนุ่มๆ หนักๆ บนหน้าขาถึงลืมตาขึ้นมอง เจ้าแมวลายวัวตัวเดียวกับที่เขาเห็นเมื่อวันแรกที่มาบ้านหลังนี้กำลังใช้ตาสีเหลืองจ้องเขาเขม็ง มันย่ำเท้าผ่านตักเขาไปหาอลันด์ใช้หัวกลมๆ ถูไถกับข้อศอกอีกคนราวอ้อนให้เล่นด้วย

อลันด์วางกีตาร์ลง อุ้มเจ้าแมวตัวอ้วนขึ้นนั่งบนตักเกาคางมันเบาๆ คนที่มักตีหน้าเฉยฉีกยิ้มกว้างก้มหน้าลงแตะจมูกกับเจ้าเหมียวส่งเสียงงุ้งงิ้งทักทายอยู่ในโลกส่วนตัวกันสองคน

“คิดถึงฉันละสิ”

ม้าววว...

“นี่เพื่อนใหม่ฉัน ด็อกเตอร์วา” แมวลายวัวถูกอุ้มตัวลอยมาตรงหน้าคุณหมอ มันมองหน้าหล่อๆ เขม็งก่อนสะบัดไปทางอื่น “มิวมิวเหมือนจะไม่ชอบหน้าด็อกเท่าไหร่นะ”

คนถูกแมวเมินหน้ายุ่ง อยากเบิ๊ดกะโหลกแมวอ้วนสักทีแต่กลัวถูกเตะออกจากบ้าน ทิวากานต์ได้แต่นั่งฮึดฮัดดูเด็กแสบเล่นกับแมวชื่อยี่ห้อเสื้อผ้าแบนด์หรู อลันด์ปล่อยมิวมิวลงบนตักตามเดิมมันก็ทิ้งตัวนอนแหมะอยู่อย่างนั้นไม่ลุกไปไหนประหนึ่งจะจองที่ตรงนี้ไว้เป็นของมันตัวเดียวห้ามเจ้านายเอากีตาร์ขึ้นมาวางเด็ดขาด เจ้านายก็เอาใจไล้ปลายนิ้วลูบขนนุ่มๆ ตรงช่วงท้องแทนการเกากีตาร์

“ด็อกเชื่อไหม มิวมิวอายุเท่ากับมาร์ตินเลยนะ”

“หืม? แก่แล้วนะเนี่ย” เขาแตะนิ้วที่ปลายคางมันก่อนลากตามแนวขนลงไปที่ช่วงท้อง ลูบเอาใจแมวไปมาหวังให้มันยอมรับเขาเป็นทาสอีกสักคนก็ชนเข้ากับมือของอลันด์ที่วางอยู่บนพุงแมวพอดี

“มือด็อกนุ่มจัง” ทิวากานต์เงยหน้ามองคนพูด หากอลันด์ก้มลงมองมือเขาด้วยความสนใจ ตาสีซีดฉายแววใคร่รู้ชัดเจน เด็กหนุ่มจับมือเขาพลิกหงายไล้ปลายนิ้วลูบสำรวจไปมา “นุ่มเหมือนขนมิวมิวเลย”

“ใครจะไปมือสากแบบเธอ” ทิวากานต์ว่าออกแรงหน่อยก็กลับเป็นฝ่ายจับมืออีกคนหงายแล้วลูบส่วนปลายนิ้วที่ด้านกว่าส่วนอื่นเป็นพิเศษของอลันด์

“ดีดกีตาร์จะให้มือนุ่มนิ่มเป็นผู้หญิงแบบนี้ได้ยังไงกัน ด็อกนั่นแหละแปลก ขนาดลียอนมือยังไม่นิ่มแบบนี้เลย” ฟังประโยคนั้นแล้วเขาก็หัวเราะ ริมฝีปากบางขยับเอ่ยคำพูดอธิบายให้คนเด็กกว่าฟัง

“สิ่งสำคัญของศัลยแพทย์อย่างแรกๆ ก็คือมือนี่แหละ เราใช้มือทำหลายอย่างเพื่อช่วยชีวิตคน” ว่าที่ศัลยแพทย์ทรวงอกจับข้อมืออีกคนเข้ามาใกล้ แตะปลายนิ้วตรงกลางฝ่ามือก่อนลากไล่ขึ้นไปถึงข้อมือใต้แขนเสื้อเชิ้ตตัวโคร่ง กดย้ำเบาๆ ตรงจุดชีพจร “หลายครั้งต้องใช้มือสัมผัสแทนการมองด้วยตาในการผ่าตัด เพื่อจะรู้สึก...ได้ถึงสิ่งที่วิ่งผ่านปลายนิ้วอยู่ข้างใน”

“แล้วจำเป็นต้องมือนิ่มขนาดนี้เลยหรือไง”

“ความจริงก็เป็นผลพลอยได้ตอนล้างมือก่อนเข้าห้องผ่าตัดน่ะ” ทิวากานต์หัวเราะ นึกถึงตอนที่ต้องทั้งล้างทั้งขัดมือเป็นสิบนาทีเพื่อฆ่าเชื้อ “อีกอย่างมือเนียนๆ แบบนี้ก็ดี ถ้ามันหยาบเกินไปจะสัมผัสยาก ทุกวินาทีมีค่าเราไม่อยากเสียเวลาไปกับการคลำหานานๆ หรอกเพราะเราไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นข้างหน้าบ้าง”

“I see” เด็กฝรั่งพยักหน้าเข้าใจแต่ทิวากานต์ไม่ยอมปล่อยมือเขาออก แถมยังเลื่อนมาจับเต็มสองมืออีกต่างหาก

“สำหรับนักกีตาร์แล้วมือก็สำคัญมากเหมือนกันใช่ไหมล่ะ”

“แน่นอน”

“สิ่งที่ทำให้มนุษย์แตกต่างจากสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ก็คือมือนี่แหละ มันแตกต่างมันทำให้เราทำอะไรได้มากมายเกินกว่าสัตว์ตัวไหนๆ ทำได้ทั้งสร้างและทำลาย แล้วเธอเลือกที่จะใช้มือคู่นี้กับกีตาร์ทำสิ่งไหน เคยถามตัวเองหรือยัง”

อลันด์ส่ายหัวแทนคำตอบ ตาสีซีดจ้องคุณหมอพลางเม้มปากแน่น “ผมแค่อยากถ่ายทอดสิ่งที่ผมพบเจอมาให้คนอื่นได้รู้”

“โอเค แล้วมีความสุขไหม”

“อืม”

“แล้วทำให้ใครรู้สึกแย่หรือเปล่า”

“ไม่ ยกเว้นแด๊ดตอนที่ผมบอกว่าจะออกจากโรงเรียนไปเป็นนักร้อง” เงียบไปพักใหญ่หลังได้ยินคำตอบ ตาต่างสีสองคู่จ้องมองกันเงียบๆ ก่อนเปล่งเสียงหัวเราะออกมาดังลั่นจนเจ้าเหมียวรำคาญ มิวมิวสะบัดก้นลุกหนีจากตักอุ่นไปนอนบนหมอนแทน ผู้ชายสองคนที่เกิดเส้นตื้นขึ้นมากะทันหันเลยหยุดหัวเราะไม่ได้ไปกันใหญ่ กว่าจะหยุดกันได้ท้องแข็งน้ำตาเล็ดทั้งคู่

ทิวากานต์กระแอมในคอเบาๆ เรียกสติกลับตัว ตาเรียวคมฉ่ำน้ำจากการหัวเราะมากเกินไป “ฉันเชื่อว่าถ้าสิ่งที่ทำมันไม่ไปเดือดร้อนใครนั่นถือว่าเป็นการสร้างแล้ว” มือใหญ่กว่าจับมืออลันด์คว่ำลง ลูบหลังมือเบาๆ “มือเธอสวยนะ... รักษามือคู่นี้ไว้ดีๆ ล่ะ”

“แน่นอนอยู่แล้วน่า”

“แล้วนี่ไปเอาเสื้อใครมาใส่ อย่างกับเด็กแอบเอาเสื้อพ่อมาเล่นงั้นแหละ” คุณหมอแกล้งกระตุกปลายแขนเสื้อที่ถูกพับขึ้นไปสองทบ ปกเสื้อที่ติดกระดุมถึงคอเลยรั้งตามลงมา เหมือนจะตาฝาดเห็นรอยอะไรม่วงๆ บนลำคอขาว

“เสื้อทอม”

“โฮ่ งั้นเรอะ ว่าแต่เมื่อคืนเคลียร์กันยังไงล่ะ แน่ใจนะว่าไม่มีตุ้บตั้บกันอ่ะ”

เด็กฝรั่งส่ายหน้าหวือผมกระจาย ตุ้บตั้บอ่ะไม่มีแต่ฟัดกันอ่ะไม่แน่

“ปกติทะเลาะกันแบบนี้บ่อยหรือเปล่า”

“ไม่”

“น่าอยู่หรอก ดูเอาอกเอาใจกันจะตาย” อย่างกับสามีภรรยาแบบที่ฝาแฝดพูดเด๊ะ ทิวากานต์เบะปาก ปล่อยมืออลันด์ทิ้งแล้วถอยกลับไปนั่งพิงกำแพงเหมือนเดิม ตาคมดุมองตาสีซีดเหลือบมองที่ตัวเองเล็กน้อยก่อนเจ้าของจะหยิบกีตาร์ขึ้นมาวางบนตักอีกครั้ง

เสียงกีตาร์ดังขึ้นเบาๆ ท่ามกลางแสงแดดของฤดูร้อนที่ส่องผ่านหน้าต่างเข้ามา เขาจ้องท้ายทอยอลันด์ดูเจ้าเด็กแสบตั้งหน้าตั้งตาซ้อมดนตรีฆ่าเวลาไปเรื่อย ทุกโน้ตที่ปล่อยออกมาช่างเต็มไปด้วยอารมณ์ ทั้งอ่อนหวาน ดุดัน และเกรี้ยวกราดตามแต่ที่บทเพลงจะนำพา อลันด์มีพรสวรรค์ด้านนี้อย่างเห็นได้ชัดน่าเสียดายที่มีอุปสรรคเยอะเหลือเกิน ไม่อย่างนั้นป่านนี้เจ้าตัวอาจได้ไปโลดแล่นอยู่บนเวทีใหญ่แล้วก็เป็นได้

เขานั่งฟังอลันด์ดีดกีตาร์ร้องเพลงไป ตาก็มองหลังคอขาวๆ ไป คอขาวจั๊วะเหมือนน้ำนม มองไปมองมาชักรู้สึกว่าน่ากัดให้จมเขี้ยว... เดี๋ยวนะ “คอไปโดนอะไรมาน่ะ”

เพียงแค่ทิวากานต์ทักขึ้นมาเรียบๆ ประโยคเดียวจะทำให้เด็กแสบปล่อยกีตาร์ยกมือขึ้นมาปิดท้ายทอยหมับ คุณหมอขมวดคิ้วเมื่อจับความผิดปกติของไอ้ตัวแสบได้ เขามองอีกคนหันหลังเล่นกีตาร์ให้ฟังมาเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว จ้องท้ายทอยอีกฝ่ายจนแน่ใจว่ามันมีรอยม่วงช้ำๆ ซ่อนอยู่ใต้ไรผมกับปกคอเสื้อจริงไม่ได้ตาฝาดไปเองถึงได้ทักขึ้นมา

“มะ ไม่มี ไม่มีอะไร nothing at all”

“ไม่มีอะไรได้ไง มันอยู่ข้างหลังเธอเลยไม่เห็นน่ะสิ ช้ำขนาดนี้ไม่เจ็บเลยหรือไง” พูดจบปุ๊บทิวากานต์ก็อาศัยช่วงแขนยาวเอื้อมไปเกี่ยวหลังคอเสื้อลงจนเห็นรอยกัดรอยขบเต็มต้นคอ เขาถึงกับผงะเพราะอลันด์ขาวมากมันเลยขึ้นเป็นรอยช้ำเลือดทั้งม่วงทั้งเขียวน่ากลัว หนำซ้ำบางรอยยังมีเลือดซึมออกมาอยู่เลย

อลันด์ดิ้นปัดๆ จะดึงเสื้อไม่ให้อีกคนเห็นก็ไม่ทันแล้ว แถมยังถูกคุณหมอจับหันมาปลดกระดุมเม็ดบนจนเห็นรอยกัดที่โธมัสฝากไว้เต็มแผ่นอกอีก เด็กหนุ่มได้ยินคุณหมอร้องเฮือกออกมาเหมือนคนจะเป็นลม หัวกลมๆ หดคอฉับเมื่อหางตาเห็นคุณหมอยกมือขึ้น

“เจ็บมากไหม”

เด็กหนุ่มกระพริบตาช้าๆ มองคุณหมอใช้ปลายนิ้วแตะรอยกัดบนไหปลาร้าเขาเบาๆ ทิวากานต์ทำหน้าทำตาเจ็บปวดเหมือนเป็นคนโดนกัดเสียเอง จู่ๆ ก็รู้สึกตื้อขึ้นมาในอก พอจ้องกับตาคมดุที่ทอดมองมาเหมือนจะร้องไห้ผมสีน้ำตาลอ่อนจึงสะบัดกระจายแทนการปฏิเสธ

ทิวากานต์เงียบไป เสื้อสเวตเตอร์ที่ใช้คลุมไหล่ถูกโยนทิ้งไว้ข้างเตียง ชายหนุ่มเม้มปากแน่นและกัดริมฝีปากล่างแน่นขึ้นทุกทีที่แกะกระดุมเสื้อเชิ้ตออกเผยให้เห็นผิวเนื้อขาวใสเปรอะเปื้อนไปด้วยรอยช้ำและรอยฟัน เห็นแค่นี้ก็รู้แล้วว่าเกิดจากอะไร คำถามที่เอ่ยออกไปจึงเรียบนิ่งเหมือนรอบางอย่างมาใช้ประกอบการตัดสินใจ

“ทอมใช่ไหม”

หัวกลมๆ พยักขึ้นลงแทนคำตอบ

“เต็มใจหรือเปล่า”

อลันด์พยักหน้าแล้วก็ส่ายหน้า ทำแบบนี้ซ้ำๆ อยู่สองสามครั้งจนทิวากานต์ต้องจับประคองสองแก้มไว้ในอุ้งมือ หัวแม่มือลูบผิวเนื้ออุ่นนิ่มเบาๆ ราวปลอบประโลม

“ถามอีกที เจ็บไหม”

“เจ็บ”

“งั้นไปเอายามา เดี๋ยวทำแผลให้”



TBC

โหดร้ายมากนะคะบอกว่าหมอวาเป็นคุณลุงพาหลานมาเที่ยว
เฮียแกเพิ่งสามสิบเองนะกำลังน่ากินเลย ฮ่าๆๆๆ
ส่วนคนที่คิดถึงพ่อเฮนรี่ที่สามคงต้องบอกว่าตอนหน้าได้เจอแน่ค่ะ
แต่...พระรองเรื่องนี้มีสถานะเป็นตัวประกอบนะคะ อุ๊ปส์

ขอบคุณทุกความคิดเห็นและคนที่เข้ามาอ่านนะคะ
แล้วเจอกันค่า ^^

ปล. ถ้าอยากรู้ว่างานกลาสตันเบอรี่ที่เด็กๆ และลุงวาไปดูกันเป็นยังไง จิ้ม ได้เลยค่า

ปล. 2 เราใส่เป็นคลิปไม่เป็น ใครรู้วิธีใส่ช่วยกระซิบมาบอกจะเป็นพระคุณมากค่ะ *กราบ*

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

♥ . . . HEART ATTACK . . . ♥ --- TRACK 08 [10.10.15]
« ตอบ #69 เมื่อ: 10-10-2015 18:54:34 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ coupdetat

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 5
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เด็กอวบบบบบบทำไมใจง่ายอย่างนี้ล่ะลูกกกกก
ลุ้นต่อไปว่าเมื่อไหร่หมดกับเด็กจะสปาร์คกัน

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
อ่า เพื่อนกันเขาเล่นกันยังงี้เลยเหรอ นี่ขนาดบอกว่าไม่ได้เป็นเกย์ทั้งสองฝ่ายอะนะ

ออฟไลน์ kyungploy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
คุณหมออ่อนโยนจังเลย ฮื่ออ
เริ่มสปาร์คกันทีละนิดแล้ว

ออฟไลน์ princessrain

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 190
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
อ่านซีนเข้าพระของ ทอม-อัล แล้วยกมือทาบอกเลยค่ะ
ตกใจมาก นึกว่าเปลี่ยนพระเอก เป็นเด็กหนุ่ม
เพราะพระเอกตัวจริงอายุเยอะไปหน่อย อาจจะหมดไฟแล้ว 555555555

สนุกมากเลยยยย แบบทุกรายละเอียดดูสมจริงไปหมด
ชอบนิยายแบบนี้มาก แบบที่ได้สัมผัสไปพร้อมกับตัวละคร

รอตอนต่อไปอย่างใจจดจ่อมากๆค่ะ
ปล. แต่งจบแล้วลงวันละตอนเลยตัวเอง นี้มโนจนเหนื่อยว่าลุงวาจะจีบเด็กยังไง ฮ่าๆ

ออฟไลน์ black sakura

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-8
หมอวาดูแลเด็กอ้วนดีๆนะ
รู้สึกจะมีคู่แข่งเยอะเกินไปแล้วนะ

ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
เข้าใจแล้วว่าทำไมอัลถึงได้โกรธขนาดนั้น

ออฟไลน์ ดาวโจร500

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 643
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-3
มาต่อเร็วๆน๊าาา

คือบับพี่หมอจะเริ่มเป็นห่วงอัลมากกว่าแต่ก่อนใช่ม๊าาา


ออฟไลน์ ma-prang

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 469
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
คือ ฟัดกันขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย  :o แบบนี้มันเกินเพื่อนไปไกลแล้วน้าา

เมื่อไหร่อัลกับหมอวาจะต่อสัญญาณกันติด

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ p_phai

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +154/-6

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ NiTRoGeN14

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-1
    • คอนโดแมว
♥ . . . HEART ATTACK . . . ♥ --- TRACK 09 [14.10.15]
«ตอบ #80 เมื่อ14-10-2015 17:27:06 »

TRACK 09



มิสเตอร์เอเดลมาร์ โอเนลล์ พ่อของอลันด์เป็นชาวอังกฤษแท้วัยห้าสิบสอง สูงหกฟุต ไหล่กว้าง ตาสีฟ้าอ่อน ใบหน้าคมสันมีรอยเหี่ยวย่นเล็กน้อยเพิ่มความภูมิฐาน ผมสีเดียวกับลูกชายเริ่มมีสีขาวแซม โดยรวมแล้วจัดได้ว่าดูดีมากและมีบรรยากาศรอบตัวบางอย่างให้ต้องรู้สึกเกรงใจบวกกับสิ่งที่เคยได้ยินจากปากอลันด์ทำให้คนที่เพิ่งเคยเจออย่างทิวากานต์เกร็ง

คุณหมอวัยสามสิบปั้นหน้ายิ้มประจบขณะเอื้อมมือจับทักทายกับเจ้าของบ้านที่ใจดีให้เขาพักฟรีๆ ตลอดทริปพักร้อน แนะนำตัวคร่าวๆ แล้วค่อยถูกเชิญให้นั่งลง

“ได้ยินจากปากอลิสามาหลายหนว่าเป็นคนที่พึ่งพาได้ก็อยากเจอตัวมาตลอด วันนี้ได้เจอแล้วไม่ผิดหวังเลยจริงๆ ผมต้องขอบคุณคุณหมอมากที่ช่วยดูแลเจ้าเด็กนี่ให้ช่วงอยู่ที่กรุงเทพ”

“ไม่เป็นไรครับ ความจริงแล้วผมก็ไม่ได้ดูแลเขาสักเท่าไหร่ อลันด์โตแล้วเขาดูแลตัวเองได้แทบไม่ต้องพึ่งผมเลย”

ร่างสูงนั่งลงบนเก้าอี้ที่บริกรดึงให้ หางตาเหลือบมองคนในบทสนทนานั่งนิ่งให้บริกรอีกคนคลี่ผ้าเช็ดปากวางบนตัก ใบหน้าเรียบเฉยหันไปหาคนเป็นพ่อเบะปากให้เหมือนเด็กงอแง

“ผมสิบแปดแล้ว” อลันด์แย้ง “หาเงินเองได้แล้วด้วย”

“ถ้าลูกยังต้องให้แด๊ดจ่ายค่าเทอมให้ลูกก็ยังเด็กอยู่ดีจ้ะ” มาดามโอเนลล์พูดมาจากอีกฟากโต๊ะอาหาร วันนี้เธออยู่ในชุดเดรสสีส้มดำเพนท์ลายรถม้าของแอร์เมส ผมสีดำถูกรวบเป็นมวยอยู่ด้านหลัง

“ก็แค่ค่าเทอม”

“ค่าห้องพัก ค่าน้ำ ค่าไฟ ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่คุณตาช่วยจ่ายให้” คนเด็กสุดบนโต๊ะต้องหุบปากฉับเมื่อถูกแด๊ดดี้สาธยายค่าใช้จ่ายทั้งหลายออกมา ตาสีฟ้าซีดตวัดมองคนเป็นพ่อเคืองๆ

ตอนแรกทิวากานต์นึกว่าสองพ่อลูกจะเริ่มตีกันเสียแล้วเพราะจากคำบอกเล่าดูเหมือนอลันด์จะไม่ค่อยชอบพ่อตัวเองเท่าไหร่ที่ห้ามไม่ให้เป็นนักร้อง แต่พอเห็นเอเดลมาร์หยิกแก้มอิ่มของลูกชายแล้วยิ้มเอาใจให้เป็นต้องรีบเปลี่ยนความคิด

มื้ออาหารค่ำไม่น่ากลัวอย่างที่คิดและสนุกเกินคาด มิสเตอร์เอเดลมาร์เป็นนักธุรกิจที่มีอารมณ์อย่างที่เรียกได้ว่าตลกร้าย เป็นสุภาพบุรุษอังกฤษที่ทำงานหนักแต่ไม่ลืมทุ่มเทเวลาให้ครอบครัวเท่าๆ กัน หลายครั้งคุณหมอจะเห็นภาพการหยอกล้อของคู่พ่อลูกอันเป็นภาพประกอบของครอบครัวสุขสันต์ที่สมบูรณ์ แต่พอมาคิดว่าถ้าต้องมาทำอะไรแบบนี้กับวิคเตอร์ละก็...ทิวากานต์ขออยู่คนเดียวแบบนี้ดีกว่า

หลังจบมื้ออาหาร มิสเตอร์และมาดามโอเนลล์จะแยกขึ้นรถไปอีกคัน เจ้าตัวแสบทำหน้าที่ลูกที่ดีอยู่ส่งพ่อแม่ เขาช่วยคลี่ผ้าคลุมไหล่ห่มให้มาดามโอเนลล์และเอียงแก้มให้แม่จูบแบบลูกที่น่ารักในหนังสือ

“เจอกันที่บ้านนะฮันนี่” เอเดลมาร์คล้องผ้าคลุมไหล่ให้ลูกชาย ไม่ลืมหอมแก้มราวอีกฝ่ายเป็นเด็กเล็กๆ ฝากฝังอลันด์กับทิวากานต์อีกเล็กน้อยถึงยอมขึ้นรถตามมาดามโอเนลล์ไป ทำเหมือนจะไม่ได้เจอกันอีกหลายปีทั้งที่มีจุดหมายปลายทางเป็นบ้านหลังเดียวกันแท้ๆ

พวกเขายืนรอส่งจนท้ายรถโรลส์-รอยซ์ลับสายตา เท่านั้นเสียงถอนหายใจก็ดังขึ้นจากปากคุณหมอทันที “ฉันนึกว่าพ่อเธอจะน่ากลัวกว่านี้เสียอีก”

“หืม?”

“ก็เธอบอกว่าเขาขัดขวางไม่อยากให้เป็นนักร้อง เลยคิดว่าจะเป็นพวกหัวโบราณน่ะสิ”

“ถ้าแด๊ดผมน่ากลัว แด๊ดทอมก็ปีศาจดีๆ นี่แหละ” มือเรียวจัดการกระชับผ้าคลุมไหล่แน่นขึ้นเมื่อมีลมวูบมา ปลายจมูกโด่งขยับฟุดฟิด “เหมือนฝนจะตก รีบกลับบ้านเถอะ พรุ่งนี้ด็อกจะออกไปดูมหาวิทยาลัยแต่เช้าไม่ใช่เหรอ”

“อ่าฮะ” ตาคมมองโรลส์-รอยซ์อีกคันที่เพิ่งมาจอดเทียบตรงหน้าไม่ใช่เบนท์ลีย์คันเดิมกับที่นั่งขามาพร้อมพ่อบ้านคนที่เขาไม่คุ้นหน้าลงมาเปิดประตูรถให้ ทิวากานต์รอให้อลันด์ขึ้นไปก่อนเขาถึงก้าวตามขึ้นไป เมื่อทุกคนพร้อมรถก็เริ่มขับเคลื่อนอีกครั้ง ยังไม่ทันพ้นไฟแดงตรงหน้าเม็ดฝนก็ตกกระทบหน้าต่างรถแล้ว

พวกเขาจมเข้าโลกส่วนตัวของตนเองมาตลอดทางจากเชลซีถึงเมย์แฟร์ เพราะฝนตกจึงจำเป็นต้องเข้าไปที่โรงจอดรถ ทิวากานต์เลยได้โอกาสสำรวจบ้านหลังนี้อีกครั้งด้วยการเดินตามอลันด์จากโรงจอดรถเข้ามาห้องครัวด้านหลังแล้วไปโผล่ที่ห้องทานอาหาร ก่อนทะลุมาห้องนั่งเล่นขึ้นบันไดเวียนและแยกย้ายกันไปเมื่อถึงห้องของทิวากานต์

อลันด์ถอนหายใจเฮือกใหญ่หลังแยกจากคุณหมอเข้าห้องตัวเองได้สักพัก เขาถอดผ้าคลุมไหล่โยนลงตะกร้า ถอดสูทใส่ไม้แขวนเก็บไว้ในตู้ตามเดิมก่อนเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดนอน ตาสีซีดมองรอยแผลกับรอยช้ำบนร่างกายตัวเอง รอยยาที่แต้มไว้เด่นชัด แผลบางอันเริ่มตกสะเก็ด เขานึกไปถึงตัวการจนคำพูดคุณหมอที่บอกกับเขาตอนทำแผลเหล่านี้ให้

‘ไม่มีใครทำร้ายคนที่เรารักได้ลงหรอก’

ปลายนิ้วเรียวเลื่อนแตะรอยแผลตามต้นคอ มันไม่เจ็บแล้วแต่ในใจกลับปวดจี๊ดไม่รู้สาเหตุ ถ้าที่ด็อกพูดเป็นเรื่องจริงทอมคงไม่รักเขาหรอก ไม่งั้นจะทำร้ายเขาถึงขนาดนี้เหรอ

เดินออกมาจากห้องแต่งตัว ยังไม่ทันได้นั่งบนเตียงเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นมาก่อน คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันว่าใครมาเคาะประตูหาเอาตอนนี้แต่ยอมเดินไปเปิดประตูให้อยู่ดี ยังเดินไม่ถึงกลางห้องเจ้ามิวมิวก็ลอดประตูเล็กข้างล่างเข้ามาคงขอนอนด้วยเหมือนเคย สองมือจับคอฮู้ดเสื้อแขนยาวปิดแถวต้นคอไว้ก่อนเปิดประตูออกไป

ทิวากานต์ยืนตัวสูงให้ต้องแหงนคอมองอยู่ข้างหน้าในมือถือแก้วใส่น้ำแข็งไว้ เด็กหนุ่มเบี่ยงตัวให้อีกคนเข้ามาในห้องเมื่อน้ำเสียงทุ้มต่ำบอกให้หลบ เขามองคุณหมอวางแก้วบนโต๊ะเขียนหนังสือข้างหัวนอน ใช้เท้าเขี่ยพุงแมวที่เข้ามาก่อน บ่นงึมงำเป็นคนแก่ พอปิดประตูก็ถูกเรียกไปนั่งบนเตียงทำเหมือนเป็นเจ้าของห้องเสียเอง

“จะทำอะไร”

“ถอดเสื้อแล้วนั่งเฉยๆ ซะ จะประคบเย็นให้ แล้วก็กินยานี่ด้วยคืนนี้จะได้ไม่ปวดมาก”

เขากระพริบตามองอีกคนปริบๆ แล้วยอมถอดเสื้อลงไปนั่งให้อีกคนประคบรอยช้ำไม่ปริปากบ่น พอทิวากานต์ส่งยาให้ก็รับมากลืนลงคอโดยดี ไม่รู้จะตั้งแง่อิดออดไปทำไมในเมื่ออีกคนดีกับเขาเสียขนาดนี้

แปลกดีเหมือนกันพวกเขาไม่ได้สนิทกันขนาดรู้เรื่องของอีกฝ่ายไปทุกเรื่องรู้จักกันได้ไม่เท่าไหร่เริ่มต้นก็ไม่ประทับใจแล้ว แต่ผู้ชายคนนี้ทำอะไรให้เขาตั้งหลายอย่างทั้งหาห้องซ้อมให้ คอยถามไถ่ความเป็นอยู่ ไปรับไปส่ง ช่วยติวหนังสือ แล้วตอนนี้ก็ยังมาทำแผลน่ากลัวๆ พวกนี้ให้อีก

พาลนึกไปถึงตอนบ่ายหลังจากทิวากานต์บอกให้ไปเอายามาทำแผล เขาได้แต่นั่งนิ่งๆ เปลือยท่อนบนให้ผู้ชายวัยสามสิบแตะยาให้ตามรอยกัดที่โธมัสทำทิ้งไว้ คิ้วเข้มเป็นปื้นของคุณหมอขมวดเข้าหากันทุกครั้งที่ย้ายแผลจากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่งกว่าจะหมดแผลด้านหน้าคิ้วคู่นั้นก็ผูกกันไปเสียแล้ว ไม่ต่างจากตอนนี้ที่กำลังเอาก้อนน้ำแข็งเย็นๆ ห่อผ้าขนหนูผืนเล็กประคบตามตัวเขาเลย

“ให้กินยาดักไว้แล้ว คืนนี้คงไม่ปวด พรุ่งนี้ถ้าเป็นไปได้ก็ทำแบบนี้อีก แล้วตอนเย็นถ้ามันเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเขียวค่อยเอาอะไรอุ่นๆ ประคบแทน” ปลายนิ้วนุ่มนิ่มไล้รอยขบกัดบนหลังคอเขาแผ่วเบาจึงค่อยเลื่อนมาแตะหลังใบหู“นี่คงกัดเล่นๆ สินะ ถ้ากัดจริงหูคงหลุดไปแล้ว”

คำพูดคุณหมอเรียกขนอ่อนตามตัวพลันลุกซู่ด้วยความสยองต้องรีบตะบปหูตัวเองไว้ให้รู้ว่ามันยังอยู่กับเขา เท่านั้นทิวากานต์ก็หัวเราะออกมาผ่อนคลายความตึงเครียดไปได้ไม่น้อย

“ทอมคงมันเขี้ยวมากตรงกกหูแผลใหญ่กว่าเพื่อนเลย ระวังอย่าให้โดนน้ำจนกว่าแผลจะแห้งแล้วกัน ไม่จำเป็นอย่าเพิ่งสระผมเดี๋ยวแผลเน่าเป็นหนอง คราวนี้ได้ตัดหูทิ้งจริงแน่”

เด็กฝรั่งเบะปากรับเสื้อแขนยาวจากทิวากานต์มาสวม พอเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นคุณหมอกำลังจ้องรูปบนหัวเตียง

“ฉันไม่อยากพูดมากเพราะถือว่าเป็นคนนอก แต่ในฐานะไม่ว่าจะหมอ เพื่อนบ้าน คนที่แม่เธอฝากฝังไว้ หรือคนที่รู้จักกัน อยากให้รู้ว่าเป็นห่วง” ใบหน้าหล่อเหลาหันกลับมามองคนเด็กกว่าพร้อมสายตาสื่อชัดว่าห่วงใยชัดเจน เขาจับมืออีกคนขึ้นมากุมไว้หลวมๆ ลูบหลังมือเบาๆ แทนการปลอบให้สงบใจ “ไม่ได้ต้องการพูดขู่ให้รู้สึกกลัว แต่รู้หรือเปล่าว่าสิ่งที่ทอมทำมันไม่ปกติ”

อลันด์ส่ายหัว “ปกติก็แบบนี้ คือ...ทอมชอบกัด บางทีก็มันเขี้ยวเกินไป แต่ไม่เคยกัดจนเป็นแผลเยอะขนาดนี้ อีกอย่างทอมก็ตัวใหญ่ เขาคงออมแรงไม่ไหว”

ตาคมก้มลงมองมือที่จับไว้ ฟังคนพูดแก้ตัวให้เพื่อนรักทั้งที่เจ็บขนาดนั้น เจ้าตัวคงไม่รู้แต่เขาที่เป็นคนทำแผลให้เห็นทุกอย่าง ทั้งรอยนิ้วมือตามลำตัวและท่อนแขนไหนจะรอยที่หายต่ำไปตรงขอบกางเกงอีกล่ะ ถึงอลันด์จะบอกว่าไม่ถึงขั้นสอดใส่แต่ก็ไม่ปฏิเสธตอนที่เขาถามว่าโธมัสได้ทำอะไรส่วนล่างบ้างหรือเปล่าและไม่ยอมเปิดให้เขาดูเพื่อทำแผลเด็ดขาด

ทิวากานต์ยอมปล่อยมือจากเด็กหนุ่มดึงสายตากลับมามองรูปบนหัวเตียง เด็กฝรั่งอายุน่าจะสักสี่ห้าขวบสองคนใส่ชุดนักเรียนสวมหมวกแก็ปเดินจูงมือกันหันมายิ้มให้กล้อง อีกรูปเป็นตอนโตขึ้นมาอีกหน่อยเล่นน้ำที่ไหนสักที่ มองปราดเดียวก็เดาได้ว่าเด็กผมทองที่ขี่คอโธมัสอยู่คืออลันด์เพราะตาสีฟ้าซีดกับใบหน้าติดจะมึนๆ รูปตอนขึ้นมัธยมสวมชุดนักเรียนสีกรมท่า บนหัวมีหมวกฟางวางอยู่ รูปที่เหลือก็โตขึ้นมาหน่อย ผมอลันด์กลายเป็นสีน้ำตาลแล้วแต่ยังถ่ายรูปคู่กับโธมัสเหมือนเดิม

เพราะผูกพันธ์มาก รักมาก แคร์มาก ถึงได้ยอมใช่ไหม

“เธออาจคิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย ทอมไม่ได้ตั้งใจ เขายั้งแรงไม่ได้ แค่มาสเตอร์เบชั่นที่รุนแรงนิดหน่อย แต่ในเคสของผู้ป่วยที่ประสบกับ DV (Demestic Violence) ก็มักจะเริ่มต้นจากเรื่องเล็กๆ แบบนี้ เธอรักเขาแคร์เขาเลยบอกว่าไม่เป็นไร มากกว่านี้ก็ให้ได้ถูกไหม”

“ถึงผมรักทอมก็แค่เพื่อน ผมไม่ใช่เกย์”

“แต่เธอยอมให้เขาสัมผัส” อลันด์ปฏิเสธคำพูดของทิวากานต์ไม่ออก “นานเท่าไหร่แล้ว”

“ตั้งแต่สิบห้า”

“เป็นแผลอย่างนี้ทุกครั้งเลยหรือเปล่า”

อลันด์สะบัดผมตัวเองแทนคำตอบ “ไม่เลย... ถึงบางครั้งจะรุนแรงไปบ้างแต่ก็ไม่เคยทิ้งแผลไว้อย่างนี้ มากสุดคงเป็นแค่รอยช้ำตามตัว” เสียงแหบห้าวหยุดไปครู่ “แต่เมื่อคืนทอม...เขาน่ากลัว น่ากลัวมาก ทำเหมือนอยากจะกินผมไปทั้งตัว แต่ผมไม่อยากให้เขาโกรธ ไม่อยากให้เราทะเลาะกันอีก ในเมื่อเขาขอโทษแล้วผมเองไม่ควรจะขัดใจเขา ถ้าผมปฏิเสธเขาอาจลงโทษผมมากกว่านี้ หรือไม่เราคงแตกหักกัน ผมกลัวเราเลิกเป็นเพื่อนกัน”

คงเป็นครั้งแรกที่เด็กหนุ่มลูกครึ่งได้เห็นคนที่ยิ้มได้เศร้าที่สุด ทิวากานต์หันหน้ากลับมาส่งยิ้มแบบนั้นให้เขา “เธอพูดเหมือนคนไข้ที่ฉันเคยเจอ”

ตาคมมองเด็กหนุ่มตรงหน้าเม้มริมฝีปาก ตาสีซีดหลุบตาลงจนเขามองไม่เห็นความคิดในนั้น ทิวากานต์ส่ายหัวค่อยๆ รั้งไหล่อีกคนเข้ามากอด

“ไม่รู้ตัวเลยใช่ไหมว่ารักทอม รักมากกว่าตัวเองอีก”

“ผม...”

เด็กหนอเด็ก...

“ตอนนี้ยังรักตัวเองไม่เป็นก็ไม่เป็นไร แต่อยากให้รู้ไว้ว่ายังมีพ่อแม่ที่รักเธอมาก และฉันเป็นห่วงเธอมากก็พอ”

แม้จะรู้จักกันได้ไม่นานแต่อลันด์มั่นใจว่าผู้ชายคนนี้ปรารถนาดีต่อเขา เหมือนเจอที่ที่สามารถพักพิงได้อย่างสบายใจ ความอบอุ่นที่ถ่ายทอดมาไม่ใช่ของปลอมแน่นอน เขาถึงกล้ากอดตอบกลับแน่นๆ และยอมร้องไห้กับไหล่กว้างของอีกคนอย่างที่ไม่เคยทำกับใครนอกจากพ่อ

“ผมกลัว ด็อก...ผมกลัวทอม”

.
.
.

ทิวากานต์เข้าใจแล้วว่าทำไมทั้งทอมและเจมส์ชอบแกล้งอลันด์ เวลาเด็กนี้ร้องไห้มันน่ารักน่าแกล้งให้ยิ่งร้องแง้ๆ จริงๆ นั่นแหละ หน้าขาวปากหยักแดงจัดทำตาปรอยช้อนมองอ้อนวอนขอร้องให้หยุดรังแก มองยังไง๊ยังไงก็ยิ่งน่าแกล้ง เป็นเด็กที่มีความสามารถพิเศษปลุกพลัง S ในตัวคุณขึ้นมาจริงๆ

เขานั่งพิงหัวเตียงบริจาคหน้าขาให้หนึ่งคนกับหนึ่งแมวนอนหนุน ไล้ปลายนิ้วลูบเส้นผมสีช็อกโกแลตนมไปมากล่อมให้คนเด็กกว่าหลับฝันดี กะว่ารอให้อลันด์หลับลึกอีกนิดค่อยกลับห้องตัวเอง ถ้าเตียงห้องนอนไม่ใช่เตียงเดี่ยวเขาคงขอค้างที่นี่อยู่ปลอบใจเด็กขวัญเสียทั้งคืนแล้ว ความจริงเตียงนี้ออกจะใหญ่สำหรับอลันด์ด้วยซ้ำ แต่พอมีผู้ชายตัวใหญ่แบบเขาเบียดอยู่ด้วยเลยคับแคบไปถนัดตา

ตาคมสำรวจห้องฆ่าเวลาไปเรื่อยจนเห็นว่าเที่ยงคืนแล้ว มือใหญ่จึงตบก้นแมวลายวัวตัวอ้วนให้ลุกจากตัก เขามองมันเดินซึมๆ ไปล้มตัวนอนบนหมอนเรียบร้อยถึงค่อยประคองศีรษะกลมขึ้นจากหน้าขาไปวางบนหมอน จัดท่าทางนอนอีกคนให้สบายตัวที่สุด ห่มผ้าให้ถึงค่อยปิดไฟหัวเตียงแล้วออกจากห้องมา

พอตอนเช้าอลันด์ก็มีสีหน้าสดใสขึ้นมากแม้ตาจะช้ำเป็นหมีแพนด้าก็ตาม เจ้าเด็กตัวอวบเดินลงมาจากชั้นบนพร้อมมิวมิวทักทายแม่บ้านแต่ละคนเสียงใสและเอ่ยขอมื้อเช้าแบบจัดหนักจากแม่ครัว ไม่ลืมบอกให้พวกหล่อนเทอาหารให้แมวรักด้วย

“แล้วเรื่องสอบเป็นยังไงบ้างคะ เห็นอัลบอกว่าคุณหมออ่านหนังสือหนักน่าดูแต่ก็ยังเจียดเวลามาช่วยทบทวนบทเรียนให้” มาดามโอเนลล์ที่วันนี้อยู่ในชุดทำงานเรียบแต่หรูของคริสเตียน ดิออร์เอ่ยขึ้นกลางโต๊ะอาหารเช้า เรียกสายตาจากผู้ชายอีกสองคนให้หันมามองคนถูกถามได้ทันควัน

“เรียบร้อยแล้วครับรอแค่ประกาศผล ดูแล้วไม่น่าจะมีปัญหาอะไรผมเลยบินมาพักผ่อนที่นี่”

“หมอวาเรียนต่อด้านไหนหรือ”

“ศัลยกรรมทรวงอกเน้นด้านหัวใจครับ ที่มานี่ก็ว่าจะมาหาที่เรียนต่อด้วย วันนี้คงได้ไปดู”

“วันนี้คุณหมอเรียกใช้อัลเบิร์ตได้ตามสะดวกเลยนะ อยากไปที่ไหนก็ให้เขาขับรถพาไป”

“ไม่เป็นไรครับเดี๋ยวผมไปทิวบ์ (tube) เองสะดวกกว่า” ทิวากานต์ปฏิเสธความช่วยเหลือจากเอเดลมาร์ ถ้าต้องไปไหนมาไหนในลอนดอนกับรถที่มีแต่มหาเศรษฐีใช้เป็นได้ถูกจ้องแน่ๆ

“งั้นหรือ แล้วอัลจะไปกับคุณหมอด้วยหรือเปล่า ไหนๆ ช่วงนี้ก็ว่างนี่” เขาหันไปหาลูกชาย มองเด็กตัวอวบจิ้มไส้กรอกเข้าปากเคี้ยวตุ้ยๆ พลันดวงตาสีซีดก็หันมองทิวากานต์เหมือนขอความเห็น คุณหมอก็ไม่ได้ช่วยอะไรนอกจากยักไหล่ให้

“ถ้าด็อกอยากให้ไป จะไปเป็นเพื่อนด้วยก็ได้”

สุดท้ายคำถามก็มาตกที่ทิวากานต์อยู่ดี ตอนนี้พวกเขา(หมายถึงทิวากานต์กับอลันด์)จึงกำลังเดินจากบ้านไปสถานีรถไฟใต้ดินกรีนพาร์คเพื่อไปเปลี่ยนขบวนจากสายพิคาดิลลี่เป็นสายเหนือที่สถานีเลสเชสเตอร์ สแควร์ไปลงสถานีวอร์เรนสตรีทที่อยู่ใกล้ยูนิเวอร์ซิตี้ออฟลอนดอนมากที่สุด ฟังดูงงแต่ความจริงคือนั่งแค่สี่สถานีเท่านั้น

พวกเขาใช้เวลาช่วงเช้าในการสอบถามข้อมูลเรื่องเรียนต่อ เดินดูบรรยากาศอันเงียบสงบในช่วงปิดเทอมรอบมหาวิทยาลัย เสร็จแล้วก็หามื้อเที่ยงง่ายๆ กินแถวนั้น อลันด์ดูร่าเริงตอนที่แนะนำร้านนู้นร้านนี้ให้คุณหมอรู้จัก แม้ใบหน้าจะเรียบเฉยตามสไตล์แต่แววตาฉายชัดว่ามีความสุข พอออกจากร้านอาหารทิวากานต์ที่ยังไม่มีแผนจะไปไหนต่อนอกจากเดินเล่นไปเรื่อยก็ถูกเจ้าเด็กตัวเท่าไหล่ชวนนั่งรถเมล์สองชั้นเที่ยวลอนดอน ก่อนจบวันด้วยการเดินทอดน่องที่สวนสาธารณะไฮด์ปาร์คหน้าบ้านเจ้าตัวแสบนั่นเอง

อลันด์บอกว่าตอนนี้กำลังเตรียมตัวสอบใบขับขี่อยู่ แล้วพอกลับไปกรุงเทพฯ รอบนี้เจ้าตัวจะซื้อรถไว้ขับไปไหนมาไหนสักคัน ทิวากานต์ลองแย็บๆ ถามว่าอยากได้แบบไหนเขาจะได้ช่วยหาโชว์รูมรถที่ไว้ใจได้ให้ไอ้ตัวแสบก็บอกว่าอยากได้นิสสัน คิวบ์ เท่านั้นคุณหมอแทบพ่นน้ำที่ดื่มอยู่ออกมา “รถกระเทย!”

“น่าเกลียด เขาเรียกรถส่งนมต่างหาก” ปากหยักยู่เข้าหากันทันทีที่ถูกปรามาสว่ารถในฝันเป็นรถกระเทย

“ก็รถมันกึ่งๆ นี่หว่า ไม่แมนไม่สาว กระเทยชัดๆ” แต่พอเห็นอลันด์ส่งสายตาเคืองๆ กึ่งเสียใจมาให้คุณหมอเลยรีบเปลี่ยนประเด็น “ว่าแต่ทำไมถึงอยากได้รุ่นนี้ล่ะ นึกว่าจะเอาโรลส์-รอยซ์ไม่ก็เบนท์ลีย์ซะอีก”

“รถพวกนั้นมีไว้นั่งไม่ได้มีไว้ขับเองสักหน่อย”

โอเค เขาผิดที่ลืมไปว่าไอ้เด็กนี่มันลูกคุณหนูมีคนขับรถและพ่อบ้านส่วนตัว

“ความจริงก็ชอบมินิ แต่เคยเห็นคนขับคิวบ์ที่นู่นเขาเอากีตาร์ใส่ไว้ข้างหลัง พอเข้าไปดูพวกรีวิวยิ่งชอบอ่ะมีที่ให้ใส่กีตาร์ได้ตั้งเยอะ”

ทิวากานต์พยักหน้าหงึกหงัก ที่แท้ชอบเพราะมีที่ไว้พาลูกรักตะเลงๆ ไปไหนมาไหนด้วย “อืม…ถ้าชอบแบบนั้นจะช่วยหาเกรย์ที่เขานำเข้ามาให้แล้วกัน บวกภาษีไปหน่อยก็เกือบสองล้าน”

“หา? ทำไมในเว็บบอกคันละไม่กี่แสนเองล่ะ”

“พวกนั้นมันจดประกอบไม่ถูกกฎหมาย อันตรายด้วย นำเข้าดีกว่าภาษีสามร้อยเปอร์เซ็นต์ เวลามีปัญหาจะได้ไม่ยุ่งยาก”

“บ้าไปแล้ว ภาษีตั้งสามร้อย ขูดสุดๆ”

“ไปบอกสรรพากรบ้านฉันสิ” เจ้าเด็กแสบทำเสียงฮึดฮัด บ่นงึมงำว่ามัมต้องบ่นแล้วให้เปลี่ยนเป็นคันอื่นที่ราคาเท่ากันแหงๆ

สี่โมงเย็นแล้วแต่ท้องฟ้ายังสว่างจ้าและคงมีแสงสว่างเช่นนี้ไปจนเกือบเที่ยงคืนตามลักษณะที่ตั้งของประเทศนี้ ผู้ชายต่างวัยสองคนเดินเลียบสระน้ำหาเรื่องพูดคุยกันได้ไม่หยุด ยิ่งได้สนทนากันก็ยิ่งรู้จักกันมากขึ้น อลันด์ไม่ใช่ลูกคุณหนูจอมเหวี่ยงที่ทำอะไรไม่เป็น แต่เป็นเด็กผู้ชายธรรมดาที่ออกจะน่าเตะ ชอบเล่นฟุตบอลกับปิงปอง เคยมีแฟนสาวอยู่โรงเรียนหญิงล้วนชื่อดังแต่เลิกกันไปเพราะหล่อนหาว่าอลันด์สนใจกีตาร์มากกว่าเธอหลังจากคบกันได้แค่สามเดือน ผลการเรียนดีพอจะเข้าอ็อกบริจด์1ได้แต่อยากออกจากโรงเรียนตั้งแต่สิบหกไปเป็นนักดนตรีเลยถูกพ่อเตะโด่งให้ไปลองใช้ชีวิตคนเดียวที่กรุงเทพฯ

“ด็อกรู้ไหม วินาทีที่แด๊ดบอกว่าจะให้ไปอยู่คนเดียวที่กรุงเทพผมช็อกพูดไม่ออกไปหลายนาทีเลย เหมือนถูกตัดหางปล่อยวัด แด๊ดไม่รักผมแล้ว โกรธกันเกือบเดือนผมก็ยอมเพราะแด๊ดบอกว่าถ้าอยู่คนเดียวที่ต่างประเทศได้จนเรียนจบแสดงว่าผมเก่งพอโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว หลังจากนั้นจะไปเป็นนักร้องเป็นอะไรแด๊ดก็จะไม่ขวางอีก”

“เขาทำไปเพราะเป็นห่วง แต่ถ้าเป็นแม่ฉันนะอยากทำอะไรก็ทำเถอะ แต่ถ้าทำไม่ได้แล้วซมซานกลับมาจะเยาะเย้ยซ้ำเติมให้อีก”

“เป็นผู้หญิงที่แปลกดีนะ น่าเสียดายที่ไม่มีโอกาสได้เจอ”

“ความจริงถ้าอยากเจอเดี๋ยวพาไปหาที่สุสานก็ได้นะ ฮ่าๆๆๆๆ” ทิวากานต์หัวเราะลั่นหลังแกล้งคนเด็กกว่าจนหน้าเหวอ เขายกมือลูบหัวอีกคนเล่นก่อนตบไหล่ให้เดินนำ “พ่อแม่ทุกคนรักแล้วก็เป็นห่วงทั้งนั้นแหละแต่อาจจะแสดงออกไม่เหมือนกัน แต่ยังไงก็รักใช่ไหมล่ะ”

“อืม”

“เพราะฉะนั้นอย่ารักคนอื่นจนทำร้ายตัวเอง เขาจะเสียใจแค่ไหนถ้ารู้ว่าชีวิตที่เขาสร้างมาเพราะความรักต้องเจ็บปวดเพราะคนอื่น จำที่ฉันบอกเมื่อคืนได้ไหมอลันด์ หัดรักตัวเองให้เป็น ฉันไม่ได้บอกให้รักตัวเองจนเห็นแก่ตัว แค่รักตัวเองทำตัวเองให้มีความสุข แคร์ความรู้สึกตัวเองให้มากๆ ถ้ามันเจ็บก็ถอยออกมาอย่ารักคนอื่นเกินจนกลัว”

“ถึงผมจะกลัวทอมแต่ผมไม่อยากเลิกเป็นเพื่อนกับทอม มันบอกไม่ถูก... รักก็คงใช่แต่ไม่ได้รักมากกว่าเพื่อน แต่ถ้าปฏิเสธทอมแล้วทำให้เสียเขาไป ผม...”

“งั้นจะเล่าอะไรให้ฟังแล้วกัน สมัยมัธยมฉันเรียนโรงเรียนชายล้วนแล้วก็มีเพื่อนสองคนที่คล้ายนายกับทอม”

“แล้ว?”

“โรงเรียนชายล้วนแสดงว่าไม่มีเด็กผู้หญิงใช่ไหมล่ะ ไอ้สองคนนี้ก็สนิทกันมากอ่ะแหละแต่บางทีก็มากเกินไป ไปไหนมาไหนด้วยกัน ตัวติดกันตลอด มิตรภาพโคตรแน่นแฟ้นนึกภาพตอนที่มันสองคนทะเลาะกันไม่ได้เลย แล้วมันก็...วัยรุ่นแหละนะ ฮอร์โมนกำลังพลุ่งพล่านอยากรู้อยากลองเริ่มทำอะไรเลยเถิด ตอนแรกๆ ก็งี้แหละแค่ใช้มือช่วย ช่วยกันไปช่วยกันมาเผลออีกทีก็นอนด้วยกันแล้ว ปากก็บอกว่าแค่ช่วยเพื่อน ไม่มีอะไรไม่ใช่เกย์ แค่รสนิยมเป็นเซ็กส์เฟรนด์แบบหนึ่ง”

อลันด์เดินไปฟังไปเงียบๆ ตาสีอ่อนหลุบต่ำมองพื้น เหมือน... ทุกอย่างที่ด็อกเตอร์ว่าเหมือนเขากับทอมมาก

“ถ้ามันแค่นั้นจริงๆ ก็ดี แต่ถ้าวันหนึ่งความรู้สึกของอีกคนมากเกินกว่านั้นล่ะ อยากเป็นมากกว่านั้น ไม่อยากเป็นแค่เพื่อนในขณะที่อีกคนชอบแค่รสสัมผัส”

“ถึงจะเป็นแบบนั้นก็เป็นเพื่อนกันต่อไปไม่ได้แล้วเหรอ”

 “ความสัมพันธ์ที่เกินเพื่อนไปแล้วมันเรียกกลับคืนมาเหมือนเดิมไม่ได้ มันก็เหมือนกระดาษที่ถูกขยำ รีดให้เรียบยังไงก็ยังมีรอยยับ สุดท้ายถ้าทนกับความสัมพันธ์ครึ่งๆ กลางๆ อธิบายไม่ได้ก็ต้องขาดกันไป สองคนนั้นสุดท้ายก็เป็นแบบนั้น คนหนึ่งรักอีกคนมากแต่อีกคนไม่ได้คิดอะไร ปัจจุบันเป็นไง...เป็นเพื่อนรักกันมาตั้งสิบปีสุดท้ายหน้าแทบไม่มองกันเลย”

“ฟังดูเจ็บปวดนะ ถ้าเขาสองคนคิดตรงกันคงดี”

คุณหมอหนุ่มมองใบหน้าเจ็บปวดของอลันด์แล้วแอบอมยิ้ม นึกในใจว่าไอ้เด็กฝรั่งนี่ซื่อดีเหมือนกัน เขาเล่าอะไรให้ฟังเสือกเชื่อหมดไม่มีสงสัยเลยไม่รู้ว่าถูกเขาตอแหลใส่เต็มๆ ไอ้เรื่องที่เล่าน่ะ base on true story อยู่หรอก แต่ถ้าถามว่าอันไหนเกิดขึ้นจริงบ้างคงสารภาพได้แค่เรื่องเรียนชายล้วนจนถึงตอนนอนด้วยกัน เพราะทุกวันนี้ไอ้เพื่อนสองตัวนั้นมันรักกันดีเป็นคู่ผัวตัวเมียที่น่าหมั่นไส้อีกคู่ของเพื่อนร่วมรุ่นเรียนแพทย์

แต่ถ้าถามว่าทำไมถึงตีไข่ใส่สีเปลี่ยนเรื่องรักโรแมนติกมุ้งมิ้งเป็นดราม่า Club Friday ก็เพราะทิวากานต์เริ่มเกลียดขี้หน้าไอ้หมาขนทองโธมัสไงล่ะ ตัวโตซะเปล่าแทนที่จะปกป้องดูแลเพื่อนตัวกระเปี๊ยกดันทำร้ายได้ลง แถมยังร้ายหน้าซื่อตาใสแอบขายเพื่อนแบบนี้มันต้องถูกดัดสันดานซะที!

“ฉันไม่กังขาในความรักของเธอกับทอมหรอกนะ ฉันเพิ่งรู้จักพวกเธอได้ไม่นานแต่บอกได้เลยว่าทอมรักและแคร์เธอมากจริงๆ ไม่งั้นเขาคงไม่ทิ้งผู้หญิงคนนั้นหรอก” คุณหมอรูปหล่อยังตีหน้าจริงจังแกล้งพูดชมโธมัสให้อีกคนฟังแล้วค่อยตลบหลังแฉ “แต่มันแย่ตรงที่เขาไม่ซื่อสัตย์กับทั้งเธอและตัวเขาเอง เขาไม่รู้ว่ารักเธอแบบไหนต้องการเธอยังไง แล้วกำลังโยนเธอไปให้คนอื่นในขณะที่ทำอะไรๆ กับเธอแบบนั้น”

“คนอื่น? ใคร?” คิ้วสีน้ำตาลเข้มขมวดหากันฉับ ยังมีใครอีกหรือไงที่ชอบเขา หรือจะเป็น... “ฮิวโก้?”

ทิวากานต์ส่ายหน้า ฮิวโก้ก็อาจจะเป็นไปได้แต่เด็กหัวซีดนั่นออกแนวทาสแมวมากกว่า “นี่ไม่ได้เอะใจเลยสินะว่าใครชอบมาป้วนเปี้ยนมองตัวเองบ้างน่ะ”

“ไม่คิดว่ามันแปลกหรือไงเล่าที่เป็นผู้ชายแล้วยังมีผู้ชายมาชอบอีกน่ะ ใครจะไปรู้ไม่ได้มีรสนิยมแบบนั้นสักหน่อย ถ้าเป็นพวกผู้หญิงนะมองตาก็รู้แล้ว ยัยพวกนั้นดูง่ายจะตายไป” พูดไปก็งงตัวเอง มั่นใจว่าแมนเต็มร้อย หน้าตาออกจะหล่อ ผู้หญิงก็เคยผ่านมาแล้ว มีตรงไหนที่ทำให้ผู้ชายชอบกัน

ตาคมเหล่มองเจ้าเด็กตัวสูงเท่าไหล่ ในสายตาเขาอลันด์หน้าตาจัดว่าดีถ้าเทียบกับผู้ชายต่างชาติทั่วไป แต่ไม่ได้หล่อถึงขั้นน่าตามกรี๊ดแบบโธมัสหรือเจมส์ บางทีมิสเตอร์เอเดลมาร์ยังดูหล่อกว่าด้วยซ้ำ จะว่าหน้าสวยแบบเอาไปแต่งหญิงก็พอผ่าน หากเมื่อเทียบกับลียอนแล้วนั่นน่ะหนุ่มหน้าสวยของจริง ส่วนน่ารัก...ให้เขามองใหม่อีกทีตั้งแต่หัวจรดเท้ามองยังไงหาส่วนไหนยังไม่รู้สึกว่าน่ารักเลย ชอบทำหน้ามึนตาหยิ่ง ผู้หญิงมองคงคิดว่าไม่รับแขกแต่ผู้ชายมองแล้วสายตาหาเรื่องกันชัดๆ แถมยังกวนตีนเก่งเป็นที่หนึ่ง

เออ... ยกเว้นตอนยิ้มไว้หน่อย พอยิ้มแล้วน่ารักมากยอมรับจากใจเลย ที่เหลือก็อย่างที่บอกไม่น่ามีส่วนไหนดึงดูดให้ผู้ชายมาชอบได้เลย

“ลองเดาสิว่าคนแบบเธอเนี่ยจะมีผู้ชายคนไหนมาชอบอีก” ยิ่งคุยทิวากานต์ชักยิ่งสนุก หลอกปั่นหัวเด็กเนี่ยหรรษาสุดๆ แล้ว

นายแพทย์หนุ่มกลั้นขำสุดตัวยามเห็นไอ้ตัวแสบกรอกตาขึ้นฟ้าท่าทางหมดอาลัยตายอยาก เมื่อกี้ยังซีเรียสกันอยู่เลย แป๊บเดียวกลายมาเป็นเล่นเกมทายปัญหากันซะงั้น

“ถ้าเป็นคนที่ด็อกรู้จักด้วยแล้วไม่ใช่ฮิวโก้ก็นึกไม่ออกแล้ว จะบอกว่ามาร์โก้กับมาริโอ้อันนั้นตัดไปได้เลย เจ้าฝาแฝดกำลังจีบเด็กโรงเรียนอีฟอยู่ ลียอนเป็นเกย์ก็จริงแต่ไม่ใช่แน่ เจ้านั้นชอบ... เอ้อ ช่างมันเถอะ” พอพูดถึงศัตรูแสนรักก็หยุดไปเฉยๆ แล้วบอกว่าช่างมัน หากสายตาวิบวับมองมายังคุณหมอก็บอกได้ว่ามันเกี่ยวกับเขาแหง “หรือจะเป็น...เจมส์? ไม่ใช่ใช่ม่ะ ผมทะเลาะกับเจมส์บ่อยยิ่งกว่าลียอนอีก”

“บิงโก! คนที่เธอทะเลาะด้วยกันบ่อยๆ นั่นแหละ”

-------------------------------

1 - อ็อกฟอร์ดกับเคมบริจด์

ออฟไลน์ NiTRoGeN14

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-1
    • คอนโดแมว
♥ . . . HEART ATTACK . . . ♥ --- TRACK 09 [14.10.15]
«ตอบ #81 เมื่อ14-10-2015 17:34:22 »

ตุ้บ!

ขวดน้ำแร่ที่อลันด์ถืออยู่ตกกลิ้งไปกับพื้นแทบในทันที เด็กหน้าตายตาเบิกโพล่งอ้าปากพะงาบๆ เหมือนขาดอากาศหายใจ ทิวากานต์มองอยู่นานกว่าอีกคนจะหาลิ้นเจอ

“โก - หก - น่า! NO - WAY! ไม่มีทาง! เป็นไปไม่ได้ พระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตกแล้วเหรอ!!”

“หมอนั่นจูบเธอด้วย”

“โอ้ว - มาย - ก็อดดดดดดดดดดดดดด”

จะว่าเลวก็ยอมรับนะ แต่ตอนนี้ทิวากานต์กลั้นหัวเราะไม่ไหวแล้ว เขาปล่อยเสียงก๊ากออกมาดังลั่นตอนที่อลันด์เอาหลังมือถูกปากไปมาทำหน้าเหมือนจะร้องไห้

“ด็อกโกหกแกล้งผมใช่ไหม เจมส์เนี่ยนะจูบปากผม ไม่มีทาง เป็นไปไม่ด้ายยย!” อลันด์ทำหน้าเจ็บปวดเหลือทน ถ้าลงไปนั่งเอากำปั้นทุบพื้นตุ้บๆ อย่างในการ์ตูนได้คงทำไปแล้ว

“ฉันจะโกหกทำไมเห็นเต็มสองตา แล้วนี่จะโวยวายให้คนอื่นเขารู้กันหมดเลยหรือไงกะอีแค่จูบยังไม่ได้เสียตัวให้สักหน่อย ทีจูบกับทอมไม่เห็นจะรังเกียจรังงอนอะไรเลยนี่”

“ก็นั่นทอม ส่วนนี่เจมส์นะ เจมส์ เฮนรี่ เดอะ เติร์ด สเปนเซอร์ จอมเก๊กนั่นน่ะนะ” อลันด์ยังคงทำหน้าช็อกโลกถล่มอยู่ ในตอนที่คุณหมอกำลังคิดว่าจะทำอะไรต่อดีตาสีซีดก็ตวัดมองเขาฉับ “เดี๋ยวนะ ด็อกบอกว่าด็อกเห็นเจมส์จูบผมงั้นเหรอ เห็นตอนไหนทำไมไม่ห้ามปล่อยให้หมอนั่นมาจูบผมได้ยังไง”

“เอ่อ... นี่แหละที่ฉันกำลังบอกว่าทอมพยายามโยนเธอให้อื่น”

“ด็อกกำลังบอกว่าทอมทำตัวเป็นพ่อสื่อให้เจมส์?”

“ประมาณนั้น” ชายหนุ่มยักไหล่ก่อนก้มตัวลงเก็บขวดน้ำมาถือไว้ “ในขณะที่ทอมพยายามยัดไส้กรอกเยอรมันใส่ก้นเธอพร้อมๆ กับหาสาวควงไปด้วย เด็กนั่นก็เปิดโอกาสให้เจมส์เข้าหาเธอแบบสุดๆ”

“เจมส์บังคับทอมให้ทำแบบนั้นหรือเปล่า”

“เสียใจที่ต้องบอกว่า...ไม่” ต่อให้ทอมทำร้ายมากแค่ไหนอลันด์ยังคงปกป้องเพื่อนรักอยู่ดี “ฉันคิดว่าเจมส์ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทอมเปิดโอกาสให้อยู่ จำวันแรกที่ฉันพาไปเล่นน้ำสงกรานต์ได้ไหม พอกลับมาเธอก็เล่นกับทอมต่อจนเหนื่อยหลับไปก่อน ตอนนั้นแหละที่ทอมลากฉันไปแอบดูเจมส์จูบนาย แล้วก็เล่าว่าเจมส์แอบชอบนายมานานแล้วแต่ไม่รู้จะทำให้นายชอบยังไงดี แถมนายยังเกลียดเขาอีกต่างหาก”

“ผมจะไปฆ่าเจมส์ ไอ้สารเลวนั่น! ไอ้บ้าทอมอีกคน ทำไมถึงไม่เข้ามาขวาง”

“ฉันถึงบอกไงว่าทอม...เอิ่ม...” บรรยากาศกลับมาแย่อีกรอบเพราะอลันด์หน้าซึมไปแล้ว ดีว่าเขายั้งปากทันไม่บอกไปหมดว่าโธมัสเห็นเรื่องนี้เป็นเรื่องสนุกอย่างหนึ่งด้วยซ้ำ

ตาสีซีดหลุบมองพื้น ถ้าเด็กหนุ่มมีหูมีหางคงเป็นมันลู่ตกอย่างน่าสงสาร “ทำไมกลายเป็นแบบนี้ไปได้ล่ะ”

คนที่เราคิดว่ารู้จักดีที่สุดดันกลายเป็นคนที่เราไม่รู้อะไรเกี่ยวกับตัวเขาเลย ในขณะที่เราเข้าหาเขาอย่างเปิดเผยจริงจัง คนๆ นั้นก็แอบซ่อนอะไรไว้ตลอดเวลา

“ด็อก... บางทีทอมอาจจะไม่ได้รักผมจริงๆ ก็ได้ แต่เป็นผมต่างหากที่รักเขาอยู่ฝ่ายเดียวน่ะ ไม่งั้นมันคงไม่เจ็บขนาดนี้หรอก”

.
.
.

โธมัสหายหน้าหายตาขาดการติดต่อไปหลายวัน ตัวอลันด์เองไม่ใช่ประเภทเข้าหาใครก่อนอยู่แล้วเขาจึงใช้เวลานี้พาทิวากานต์เที่ยวลอนดอนจนพรุน บางครั้งจะให้อัลเบิร์ตขับรถพาไปชานเมืองตามแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อ แต่สถานที่ไปบ่อยสุดคงไม่พ้นสถานศึกษาและสวนสาธารณะไฮด์ปาร์คที่สองหนุ่มชอบออกไปเดินเล่น ในขณะที่อลันด์แบกกีตาร์ออกไปนั่งเล่นหาแรงบันดาลใจเขียนเพลง คุณหมอก็จะเอาหนังสือจากห้องสมุดบ้านโอเนลล์ติดมือมานอนอ่าน

หากวันไหนฝนตกทั้งคู่จะหมกตัวอยู่ตามห้องต่างๆ ของบ้าน ก่อนที่ว่าที่ศัลยแพทย์ทรวงอกจะค้นพบว่าสระว่ายน้ำที่ชั้นใต้ดินของบ้านนี้สุดยอดมาก เขาแทบใช้เวลาครึ่งวันไปกับการว่ายน้ำในสระผิดกับเด็กตัวเท่าไหล่ที่เอาแต่นั่งดีดกีตาร์บนเตียงไม่ยอมลงเล่นน้ำด้วยกันทั้งที่ใส่ชุดว่ายน้ำแล้วก็ตาม ทำตัวเป็นแมวกลัวน้ำไปได้

ใช้เวลาเที่ยวเล่นไม่ทันไรวันพฤหัสฯ ที่โธมัสเตรียมเซอร์ไพรส์ไว้ให้ก็มาถึง มาดามโอเนลล์แจ้งทิวากานต์ล่วงหน้าแล้วว่าวันนี้จะมีการแข่งขันโปโลการกุศลหารายได้เข้ามูลนิธิอะไรสักอย่างซึ่งจัดโดยแบรนด์เสื้อผ้าชื่อดังยี่ห้อหนึ่ง เธอกับลูกชายต้องไปร่วมงานนี้อยู่แล้วดั่งเช่นทุกปี และถ้าทิวากานต์ไม่ติดขัดอะไรก็อยากพาไปเปิดหูเปิดตาด้วย

ทีแรกคุณหมอที่ไม่ชอบงานเข้าสังคมกะปฏิเสธขอเดินเที่ยวคนเดียวแถวนี้ดีกว่า แต่พอหันไปเจอสายตาช้อนมองหงอยๆ ของเด็กข้างตัวเลยยอมพยักหน้าตัดสินใจไปด้วย เขาไม่ได้ทำตัวติดกับอลันด์นะก็แค่กลัวว่าโธมัสจะรังแกอะไรเด็กนี่อีกต่างหากเลยไปคอยดูท่าทีไว้! จริงๆ นะสาบานเลย!!

ด้วยเหตุนั้นเช้านี้เขาจึงตื่นมาแต่งองค์ทรงเครื่องเสียหน่อย หลายวันก่อนเพิ่งได้เสื้อเบลเซอร์สีกรมสวยถูกใจมาตัวจะได้ลองใส่วัดเรตติ้งรวดเร็วทันใจไม่ต้องรอไปใช้ที่เมืองไทยเลย

หลังรับประทานมื้อเช้าเสร็จ มาดามโอเนลล์ส่งสามีไปทำงานเรียบร้อย พวกเขามีเวลานั่งย่อยอีกนิดหน่อยก่อนถูกต้อนขึ้นรถเพื่อไปสนามกีฬาโปโลนอกเมือง และตามธรรมเนียมคนรวยก็ต้องทำอะไรเว่อร์ๆ แบบคนรวยคือใช้รถถึงสองคันทั้งที่คนจะไปงานจริงๆ มีแค่สาม

วันนี้มาดามโอเนลล์อยู่ในชุดสวยของอีฟส์ แซงต์ โลร็องต์คอลเลคชั่นสปริงส์/ซัมเมอร์ปีล่าสุดจะนั่งโรลส์-รอยซ์ แฟนธ่อมไปกับคนขับรถและพ่อบ้านส่วนตัวอีกหนึ่งคน ส่วนอลันด์กับทิวากานต์ต้องนั่งเบนท์ลีย์ มูซานคันที่ได้ใช้งานพาไปเที่ยวบ่อยๆ ไปอีกคันพร้อมอัลเบิร์ต คุณพ่อบ้านที่ควบคู่ตำแหน่งคนขับรถส่วนตัวของเจ้าหนูนี่ไปด้วย (เขาเพิ่งรู้ว่าจริงๆ แล้วโรลส์-รอยซ์สองคันนั้นเป็นรถใช้งานส่วนตัวของมิสเตอร์และมาดามโอเนลล์ เพราะฉะนั้นเบนท์ลีย์ มูซานคันนี้จึงเป็นรถของอลันด์ที่บิดาซื้อไว้ให้ใช้งานสำหรับไปไหนมาไหนในกรณีที่รถพ่อแม่ไม่ว่าง บ้านนี้เขารวยกันจริงๆ แค่รถลูกอายุสิบแปดก็ให้ใช้เท่ากับรัฐมนตรีบางประเทศแล้ว)

จากคำบอกเล่าของอลันด์สถานที่จัดงานอยู่ไม่ไกลจากบ้านพวกกริฟฟิธส์เสียเท่าไหร่ ลงจากรถเดินเข้าไปในงานก็เห็นกลุ่มคนผมทองรูปร่างใหญ่ยืนกระจุกกันอยู่แทบจะในทันที ดูเหมือนว่าวันนี้บ้านกริฟฟิธส์จะยกขบวนมากันทั้งบ้านขาดเพียงแต่คนเป็นพ่อและลูกชายคนโต

“ไฮล์ อลันด์ ด็อกเตอร์วา” เจ้าสองแฝดแทบจะประสานเสียงกันต้อนรับ วันนี้มาร์โก้กับมาริโอ้ยังคงแต่งตัวเหมือนกันหากต่างแค่สีเช่นเคย

“หวัดดี ไฮล์ นิค ไม่เจอกันนานนะ” เด็กผมน้ำตาลเพียงคนเดียวในกลุ่มเอ่ยทักเด็กเล็กอายุไม่น่าจะเกิดแปดขวบน้ำเสียงร่าเริง อลันด์รับเจ้าหนูนิคจากอกฮิวโก้มาอุ้มไว้เองกับตัว ถึงค่อยหันมาแนะนำตัวให้ทิวากานต์ได้รู้จัก คุณหมอมองแล้วก็คิดไปว่าพี่น้องบ้านนี้หน้าตาเหมือนกันหมดจริงๆ ขนาดเจ้าหนูนิคเองยังถอดแบบโธมัสบนหัวเตียงอลันด์มาเด๊ะๆ

นิคโคลัสเป็นเด็กอารมณณ์ดีไม่กลัวคนแปลกหน้า เขาแตะมือกับน้องเล็กบ้านกริฟฟิธส์ทักทายกันได้นิดหน่อยก็ฉีกยิ้มกว้างให้คุณหมอชาวเอเชียเสียแล้ว

พวกเขาทักทายพูดคุยกันอยู่พักใหญ่ๆ แม่ของพี่น้องกริฟฟิธส์จึงพามาดามโอเนลล์ไปคุยกับพวกผู้ใหญ่บนบาร์ไม้ เพราะว่าเป็นงานการกุศลแบบไพรเวทจึงมีสื่อไม่เยอะมาก ผู้ร่วมงานบางคนทิวากานต์ว่าคุ้นหน้าเหมือนเคยเห็นในโทรทัศน์หรือนิตยสารอยู่บ้าง

“แล้วทอมไปไหนซะละ” คุยเล่นกันอยู่นานอลันด์ก็เกิดอาการเมื่อยแขน เด็กหนุ่มส่งนิคคืนให้ฮิวโก้ไปอุ้มเหมือนเดิมพร้อมกับตาสีฟ้าซีดมองหาเพื่อนสนิทที่ไม่โผล่หัวมาสักที

“ไปเตรียมตัวทำเซอร์ไพรส์อัลไง”

“โฮ่ หมอนั่นจะแข่งโปโลกับเจมส์จริงๆ น่ะเหรอ” เด็กหนุ่มตอบ ตาสีซีดฉายแววตื่นเต้นขึ้นมาเล็กน้อย ไม่สนใจหน้าเซ็งๆ ของฝาแฝดที่อลันด์ดันรู้ความลับเข้า “ตัวยักษ์ขนาดนั้น หวังว่าม้าจะไม่หลังหักก่อนนะ”

“พ่อให้คุณตาส่งม้าตัวที่ดีที่สุดจากฟาร์มที่เยอรมันมาให้เลยล่ะ พวกเราก็ตื่นเต้นกันมากวันนี้เลยมาเชียร์ทอมทั้งครอบครัว ขนาดอีฟยังมาเลยนะ” มาริโอ้พูดเร็วๆ หน้าแดงแจ๋ ดูท่าจะตื่นเต้นเสียยิ่งกว่าพี่ชายคนโตที่ต้องลงแข่งเสียอีก แต่ไม่น่าแปลกใจเพราะโธมัสไม่เคยสนใจกีฬาบนหลังม้ามาก่อนทั้งที่ขี่เป็นตั้งแต่เด็ก ส่วนอีฟ...อลันด์คิดว่าสาวน้อยน่าจะมาดูเจมส์เสียมากกว่า

“โอ๊ะ นั่นไงพ่อหนุ่มโปโลของเรามาแล้ว”

ทุกคนหันมองตามนิ้วแฝดคนพี่แทบจะพร้อมกันยามโธมัสปรากฏตัวในชุดนักกีฬาโปโลเบอร์สี่ก้าวเข้ามาในวงสนทนา ร่างสูงกำยำดูจะเข้ากับเครื่องแบบขี่ม้าได้ดีจนสาวๆ หลายคนในงานมองตามเป็นตาเดียว ผมสีบลอนด์ยาวประบ่าสว่างสะท้อนกับแสงแดดเป็นประกายรวมกับดวงตาเรียวคมสีน้ำเงินเข้มให้ยิ่งทำน่ามองเป็นเท่าตัว มุมปากหยักยกขึ้นน้อยๆ ยามเห็นเพื่อนซี้ตัวเล็กพร้อมกับโถมร่างใหญ่โตเข้าใส่ไม่ต่างจากหมาตัวโต

“เซอร์ไพรส์!” โธมัสกอดรัดร่างเล็กกว่าเกือบครึ่งจนอลันด์จมหายไปกับอกกว้าง เด็กหนุ่มเผลอสูดกลิ่นน้ำหอมแบบสปอร์ตอัดเข้าเต็มปอดไปแบบไม่ตั้งใจ

“เซอร์ไพรส์…” เขาครางเสียงอ่อย คอย่นอัตโนมัติเมื่อเพื่อนรักพยายามก้มลงจูบปากต่อหน้าคนมากมาย

“นายว่าไง ฉันเท่ไหม ความจริงชุดขี่ม้านี่ก็ไม่ได้แย่เท่าไหร่เนอะ”

“แน่นอน สาวๆ ทั้งสนามมองนายตาแทบถลน บางทีจบงานนี้นายอาจจะได้ผู้หญิงที่ดีกว่ายูจีนกลับบ้านก็ได้นะ” เด็กหนุ่มวิจารณ์ตามที่เห็น สาวไฮโซบางคนจ้องเพื่อนรักเขาราวกับเห็นเหยื่ออันโอชะ และในเมื่อตอนนี้โธมัสได้ผ่านมือผู้หญิงมาแล้วคงจะหาแฟนใหม่ได้ไม่ยากเท่าไหร่

“นั่นสินะ” โธมัสยักไหล่ ตาสีน้ำเงินกดลงมองอลันด์ที่หลบสายตาเขาก่อนเงยขึ้นฉีกยิ้มให้ทิวากานต์ “ด็อก... ผมดูเป็นไงบ้าง”

“ฉันนึกว่านายแบบที่ไหนมาเดินยั่วสาวแถวนี้ซะอีก” ทิวากานต์ชมตามตรง โธมัสดูดีมากจริงๆ มากจนผู้ชายแบบเขายังรู้สึกหมั่นไส้ คุณหมอถอนสายตาจากนักโปโลมือใหม่ก่อนหันมาแตะหลังอลันด์ลูบปลอบเบาๆ คนอื่นอาจไม่ทันสังเกตแต่เขาเห็นอาการแววตาวูบไหวทั้งที่หน้ายังนิ่งอยู่ก็พอเข้าใจ อลันด์คงไม่รู้จะทำตัวให้เป็นปกติยังไงต่อหน้าเพื่อนรักที่เผลอไปล่วงรู้ความลับเข้า

และอาจเป็นโชคดีที่ในจังหวะนั้นเจมส์ก็เดินตามมาสมทบพร้อมกับอีฟและลียอนพอดี วงสนทนาจึงต้องขยับขยายให้คนอีกสามคน อลันด์ได้ทีอาศัยจังหวะนั้นขยับตัวยืนไปหลบข้างร่างสูงของฮิวโก้หวังใช้น้องคนรองของบ้านกับนิคโคลัสเป็นที่กำบังแสร้งทำเป็นคุยกับเด็กสองคนไปเรื่อยฆ่าเวลา

น้องหกบ้านกริฟฟิธส์ดูดีใจจนออกนอกหน้าที่ได้เจอคุณหมออีกครั้ง ร่างเล็กๆ เหมือนลูกลิงรีบวิ่งถลามาเกาะแขนให้คุณหมอก้มหน้าก้มตาฟังลียอนพูดเรื่องนู้นเรื่องนี้เสียงใส จะให้เขาเสียมารยาทตัดบทก็ทำไม่ลงเพราะหน้าสวยๆ กับตาสีฟ้าใสกลมแป๋วคู่นั้นรั้งตัวเขาไว้อยู่หมัด พอเงยหน้าขึ้นมาอีกทีอลันด์ก็หายไปกับโธมัสเสียแล้ว ทิวากานต์มองเจมส์ที่ถูกอีฟเกาะติดแน่นสภาพไม่ต่างจากเขา ถามไปคงไม่รู้แน่ว่าสองคนนั้นหายไปไหน จะถามคนอื่นฮิวโก้ก็อุ้มน้องสุดท้องไปหาแม่แล้ว สองแฝดเองก็กำลังเดินไปคุยกับสาวๆ

ให้ตายเถอะ...เผลอแค่แป๊บเดียวหมายักษ์อย่างโธมัสก็คาบอลันด์หายไปจากสายตาจนได้



มองซ้ายก็ม้า มองขวาก็ม้า นิ้วชี้ถูกยกขึ้นเกาคางตัวเองแก้เก้อก่อนเหลือบขึ้นมองเพื่อนตัวโตข้างกาย ใจแอบเต้นผิดจังหวะยามต้องอยู่กับโธมัสสองต่อสอง ยิ่งมารู้ว่าอีกฝ่ายพยายามยกเขาให้เจมส์ทั้งที่ทำแบบนั้นกับเขามันก็ยิ่งรู้สึกแปลกๆ น้อยใจคงใช่แล้วก็กลัวด้วย เพราะงั้นพอโธมัสมองกลับมาตาสีซีดจึงรีบหลบมองไปทางอื่นแกล้งเดินดูม้าไปเรื่อย ปากงุบงิบด่าทิวากานต์ที่มัวแต่สนใจลียอนจนเผลอปล่อยให้เขาถูกโธมัสลากมาจนได้ สารภาพตามตรงเลยว่าไม่พร้อมอยู่กับเพื่อนซี้สองต่อสองเท่าไหร่ ขอเวลาทำใจอีกนิดนึงไม่ได้หรือไงเล่า

“ยังโกรธฉันเรื่องยูจีนอีกเหรอ”

“หา?” ถ้อยคำกล่าวหาที่ไม่เป็นจริงเรียกตาสีซีดหันกลับไปมองคนถามได้แทบจะทันที โธมัสทำหน้าเศร้าแต่ตาวาววับชวนขนอ่อนลุกซู่

“นายโกรธฉันอยู่ใช่ไหม?” เขาถามย้ำ ร่างสูงใหญ่เดินเข้ามาใกล้คว้าข้อมือเล็กไว้ ออกแรงกระชากทีเดียวอลันด์ก็ถลาเข้าไปซบกับแผงอกกำยำ ใบหน้าหล่อคมโน้มต่ำลงจนปลายจมูกแทบชิด ใกล้จนเห็นหน้าตาตื่นตระหนกของตัวเองสะท้อนผ่านดวงตาสีน้ำเงินเข้มคู่นั้น

“มะ...ไม่ ฉันเลิกโกรธตั้งแต่วันนั้นแล้ว”

“ไม่จริง นายไม่ยอมมองหน้าฉันเลย มีอะไรหรือเปล่า”

“ไม่มีทั้งนั้นแหละ แล้วตอนนี้ไม่ได้มองอยู่หรือไง” เมื่อหนีไปไหนไม่รอดเด็กหนุ่มจึงเลือกโวยวายกลบเกลื่อนอาการผิดปกติของตัวเอง ใช้ประโยชน์จากหน้านิ่งๆ กับตาสีซีดแกล้งทำเป็นโมโห ดิ้นอีกหน่อยเดี๋ยวโธมัสก็ยอมปล่อยอย่างเช่นทุกครั้ง ทว่าคราวนี้ดิ้นเท่าไหร่ก็ไม่ยอมปล่อยเสียที ซ้ำยิ่งดิ้นยิ่งจับแน่นจนเจ็บขึ้นมาจริงๆ “ทอม...ฉันเจ็บ ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ”

“นายโกหกไม่เก่งนะอัล คิดว่าเรารู้จักกันมากี่ปีฉันถึงไม่รู้ว่าเวลานายมีเรื่องอะไรปิดบังหูนายจะแดง ไม่ยอมมองตา แล้วก็หายใจผิดจังหวะ”

“ฉันบอกว่าไม่มีนายจะเซ้าซี้ให้ได้อะไร นายต่างหากมีอะไรหรือเปล่าถึงลากฉันมาที่คอกม้าเหม็นๆ นี่”

นัยน์ตาสีน้ำเงินเข้มจ้องคนตัวเล็กกว่าเขม็งก่อนยอมปล่อย อลันด์ทำทีฮึดฮัดต่อยแผ่นอกแข็งๆ เป็นการทิ้งท้าย หน้าขาวขึ้นสีแดงจัดบอกว่ากำลังจะโกรธจริงๆ แล้วนะถ้านายยังเอาแต่เซ้าซี้แบบนี้ สุดท้ายก็เป็นโธมัสเองที่ยอมแพ้ ไม่รู้สิ...บอกไม่ถูกเหมือนกัน เขาคงคิดมากไป

“จะพามาดูม้า”

“มาริโอ้บอกว่าพ่อนายสั่งส่งตรงมาจากเยอรมันเลยนี่ ซ้อมมานานหรือยัง”

“ตั้งแต่กลับจากกรุงเทพ” โธมัสว่า เขาเดินนำเพื่อนตัวเล็กเข้าไปด้านในจนเจอม้าโปโลโพนี่สีน้ำตาลแดงตัวใหญ่รูปร่างปราดเปรียวอยู่ในคอก มันกระแทกกีบเท้ากับพื้นแรงๆ ยามเห็นหน้าเจ้าของ อลันด์ตาวาวยกมือขึ้นจะลูบหัวมันก็ยอมก้มให้ง่ายดาย “ปกติเฮอร์มีสไม่ชอบคนแปลกหน้านะ แต่มันคงชอบอัลมากถึงยอมให้ลูบหูด้วย”

“ซุ่มนี่นา ไม่ยอมบอกกันเลย”

“เดี๋ยวไม่เซอร์ไพรส์ อยากลองขี่ไหม” ผมสีช็อกโกแลตนมสะบัดแทบจะในทันที มือที่ลูบอยู่ตามช่วงคอเจ้าเฮอร์มีสลดลง

“ไม่เอาอ่ะ”

“ไม่ตกหรอก เดี๋ยวฉันคอยจับให้” แต่ก่อนอลันด์ชอบขี่ม้ามาก โปโลก็เคยเล่นแต่พอตกจากหลังม้าคราวนั้นก็ไม่ยอมขึ้นขี่อีกเลย คงฝังใจกลัวแขนหักแล้วจะไม่ได้เล่นกีตาร์ที่รักอีก

“ไว้ชนะเจมส์ก่อนเถอะค่อยมาพูด แค่สามสี่เดือนคิดว่าจะสู้หมอนั่นได้หรือไง นั่นน่ะทีมชาตินะ”

“ก็ไม่แน่” อดีตนักรักบี้ที่ผันตัวมาลองเล่นโปโลยักไหล่ทำหน้ายียวน “ไม่ว่ากีฬาอะไร ฉันก็ทำได้ดี”

“จะคอยดู”

“รอดูเลย...” โธมัสฉีกยิ้มหวานเหมือนหลอกให้ตายใจก่อนฉกริมฝีปากลงหอมแก้มใสเข้าเต็มรัก “ขอกำลังใจหน่อย”

ร่างเล็กสะดุ้งโหยงมือตะปบแก้มข้างที่โดนขโมยหอมหมับ หากตำหนิเพื่อนรักเสียงเบาเพราะกลัวม้าตื่น “ทอม! ตกใจหมด”

“ฉันทำออกจะบ่อยทำมาเป็นตกใจ”

“ไอ - ซี แต่ช่วยบอกให้รู้ก่อนได้ไหม”  เขาฟังแล้วลอยหน้าลอยตาเหมือนไม่รู้สึกอะไร ฝ่ามือหนาแตะไหล่เล็กใต้เสื้อเบลเซอร์สีฟ้าอ่อน ออกแรงเพียงนิดให้อลันด์ขยับเข้ามาชิดอก ใช้ตาสีสวยจ้องอีกคนร้อนแรงราวต้องการหลอมละลาย ใบหน้าขาวซีดขึ้นสีจัด พวกเขาใกล้จนสัมผัสถึงลมหายใจกันอีกครั้ง “ทอม... จะทำอะไร”

“ฉันขอรางวัลได้ไหมถ้าวันนี้ฉันทำแต้มได้เยอะกว่าเจมส์”

“จะ... จะเอาอะไรล่ะ” อลันด์ถามหวั่นๆ สายตาโธมัสตอนนี้ร้อนแรงเหมือนครั้งล่าสุดที่พวกเขาใช้เวลาขลุกอยู่ด้วยกันค่อนคืนก่อนจบลงด้วยการที่เขาหมดแรงสลบไสลคาอ้อมอกกำยำนั่น

ทิวากานต์บอกว่าถ้าเขาไม่อยากให้ทอมทำแบบนั้นกับร่างกายอีกก็ตั้งระยะห่างออกมาซะ แต่เอาเข้าจริงพอถูกจ้องเอาๆ แบบนี้ร้อยทั้งร้อยต้องอ่อนใจยอมให้ง่ายดาย รวมถึงเขาที่ทั้งกลัวทั้งหวาดแต่รสสวาทมันหอมหวานยากเกินห้ามใจจริงๆ

“คืนนี้ไปค้างกับฉันนะ ฉันคิดถึงนาย”

เด็กหนุ่มได้ยินเสียงกลืนน้ำลายตัวเองดังอึก ตาสีอ่อนเผลอสบตากับอีกคนจนไม่รู้ตัวว่าริมฝีปากของอีกคนเข้ามาคลอเคลียอยู่ไม่ห่าง นานทีเดียวกว่าสติจะค่อยกลับคืนมา สองแขนดันอกโธมัสออกช้าๆ ไม่ให้ดูปฏิเสธเกินไปจนน่าเกลียดคว้านหาลิ้นตัวเองพักใหญ่ๆ คำพูดถึงหลุดออกมาได้ “เอ่อ มะ ไม่ ไม่ดีม้างงง”

“...”

“คือ...ถ้าฉันไปแล้วด็อกล่ะ”

“เรื่องของเขาสิ”

“เขาเป็นแขกฉันนะ จะให้ฉันทิ้งเขาได้ไง จริงไหม” อลันด์ยกข้ออ้างที่ดูมีเหตุผลสุดขึ้นมา โธมัสหน้ามุ่ยไปทันทีก่อนยอมพยักหน้า

“งั้นให้เขาไปด้วยก็ได้ ที่บ้านยังมีห้องเหลืออีกตั้งเยอะ”

โอ้ - มาย - ก็อด ไม่ว่ายังไงก็จะเอาเขาไปด้วยให้ได้เลยใช่ไหม อลันด์หัวหมุนติ้ว พยายามนึกหาข้ออ้างอะไรก็ได้มาปฏิเสธเพื่อนรัก แต่ถ้ามากไปเดี๋ยวก็ทะเลาะกันอีก ทำไงดีฟร่ะ มันต้องมีสักวิธีสิ แต่เดี๋ยวนะมันก็แค่รางวัลที่ถ้าชนะเองไม่ใช่หรือไง “ขอเหมือนชนะเจมส์แล้วงั้นเหอะ!”

“จิ๊! แค่ชนะเจมส์ใช่ไหม เดี๋ยวจะทำให้ดู”

“มั่นใจจริงนะ”

“แน่นอน ไม่มีอะไรที่ฮิลเลียร์ทำไม่ได้” เด็กหนุ่มยกชื่อกลางตัวเองขึ้นมาเช่นทุกครั้งที่ต้องการเรียกความมั่นใจ ชื่อที่ได้มาจากคุณปู่ที่เป็นทหารอากาศ “แต่ตอนนี้ขอกำลังใจหน่อยได้ไหม”

“กำลังใจอะไรเล่า”

“Kiss, Huh kiss me please”

คอขาวย่นหนีอัตโนมัติยามใบหน้าหล่อเหลาโน้มลงมา โธมัสทำจมูกฟุดฟิดเหมือนสุนัขขณะพยายามซุกไซ้ไปตามใบหน้าของเพื่อนซี้ ริมฝีปากบางได้รูปยิ้มกริ่มชอบใจนักเชียวที่ได้ไล่ต้อนอลันด์ เจ้าตัวคงไม่รู้ว่าเวลาทำหน้าตื่น ริมฝีปากบนจะเผยอออกโชว์ฟันกระต่าย ตาสีซีดจะขยาย แก้มใสจะแดงจัดไปถึงใบหู ตัวก็นุ่มนิ่ม น่ารักน่าชังเหมือนกระต่ายตัวน้อยชวนไล่ฟัดเอามากๆ

...และโธมัสก็เป็นหมาประเภทชอบเล่นกับเหยื่อเสียด้วยสิ

โธมัสยิ้มทั้งตาทั้งปาก อ้าฟันขาวหมายงับผิวเนื้ออ่อนนุ่มสีแดงสดล่อสายตา วันนี้จะมีรสอะไรติดมานะ เมื่อกี้ดมๆ ดูเหมือนจะได้กลิ่นเนย อืม...อัลของเขาน่ากินชะมัด

“โอ๊ะ เหม็นขี้ม้าชะมัด อ้าวทอมกับไอ้แสบมายืนดมขี้ม้าอะไรอยู่แถวนี้” เสียงทุ้มนุ่มดังขึ้นพร้อมใบหน้าบ๊องแบ๊วไม่รู้ไม่ชี้ของคุณหมอวัยสามสิบ ทิวากานต์ทำตาโตกระพริบปริบๆ ก่อนเดินเข้ามาหาเด็กทั้งคู่ “ที่นี่กว้างจนหลงทางซะได้ เจอเธอสองคนที่นี่ก็ดีเลยพาออกไปหน่อยสิ”

“โอเค๊” คนตัวเล็กสุดร้องเสียงสูง สะบัดตัวออกจากอกโธมัสง่ายดายผิดกับก่อนหน้านี้ราวฟ้ากับเหว เจ้าตัวหอบหายใจแรงหน้าเหนอแดงไปหมด

“ว่าแต่มาทำอะไรกันแถวนี้อ่ะ”

“พาอัลมาดูม้า” โธมัสตอบเสียงเรียบไม่ต่างจากตาสีน้ำเงินเข้มยามจ้องมองคนขัดจังหวะ ใบหน้าคมชวนมองหันไปทางม้าสีน้ำตาลแดงตัวใหญ่ ตบแผงคอมันเบาๆ แนะนำให้ทิวากานต์รู้จัก “นี่เฮอร์มีส ม้าที่ผมจะใช้ลงเล่นวันนี้”

“สวยดีนะ”

“พ่อกับตาคัดมาอย่างดีเพื่องานนี้โดยเฉพาะเลย” น้ำเสียงติดจะภูมิใจหน่อยๆ ก่อนปรายหางตามองทิวากานต์กับอลันด์ที่เขยิบตัวชิดกัน “ด็อกบอกว่าหลงทางไม่ใช่เหรอ งั้นออกไปกันเถอะอีกสักพักคนงานคงจะเข้ามาเอาม้า ผมเองก็ต้องไปเตรียมตัวแล้ว”

“อ่าฮะ งั้นไปเลยแล้วกัน เดี๋ยวกลิ่นขี้ม้าจะติดเสื้อหมด” คุณหมอแกล้งทำมือปัดเสื้อเบลเซอร์บนตัวเดินนำเด็กทั้งคู่ออกไปทางเดิมกับที่เข้ามาเหมือนลืมไปว่าเมื่อกี้บอกว่าหลงทาง แหงล่ะ...นี่ทิวากานต์นักซิ่งที่ไม่เคยหลงทิศมีเหรอจะหลงทางในสนามม้าได้ เขาเดินตามหาอลันด์จนเจอไอ้ตัวแสบกำลังถูกปล้นจูบเลยเข้าไปขัดจังหวะเถอะ บอกเลยยกนี้อลันด์ติดหนี้คุณหมอเต็มๆ



TBC

อิลุงมันร้ายค่ะทั่นผู้โชมมม ฮ่าๆๆๆๆๆ

วันนี้ฤกษ์ดีเลิกงานไวได้กลับบ้านก่อนหกโมงเย็นเลยรีบเอามาลง
ใครที่ช็อคกับคู่หมาแมวใจร่มๆ ก่อนนะคะ
ยังยืนยันว่าพระเอกเป็นลุง เอ๊ย พี่วาคนหล่อเหมือนเดิม ไม่มีเปลี่ยนกลางคันเพราะแก่แน่นอน โฮะๆๆๆ

ขอบคุณทุกความเห็นนะคะ
แล้วเจอกันตอนหน้าค่า

 :mew1:

ปล. แต่งจบแล้วลงวันละตอนเลยตัวเอง นี้มโนจนเหนื่อยว่าลุงวาจะจีบเด็กยังไง ฮ่าๆ

ตั้งใจอยากลงสัปดาห์ละสองตอนค่ะ
แต่ว่าช่วงนี้งานรุนเร้ามากเลย จะแอบลงตอนทำงานเครื่อง iMac ก็ไม่มีเวิร์ดอีก ฮึกๆ
ยังไงจะหาเวลามาอัพถี่ๆ ไม่ทิ้งช่วงเกินเจ็ดวันนะคะ TTATT
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-10-2015 17:37:24 โดย บัวน้อย ไร่แตงโม »

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
ทำไมรู้สึกเหมือนหมอวาเป็นก้าง เอ๊ะ หรือตัวประกอบ ส่วนทอมเหมือนจะเป็นพระเอกไปซะได้
ก็ตอนนี้อลันด์(ผู้ครองตำแหน่งนายเอก)ชอบทอมนี่นะ แล้วดูสองคนนี้ก็ยังไงกันอยู่

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
อ่านล่ะลุ้นเหมือนจะใจขาด... สงสารอลันด์แฮะ
เป็นช่วงชีวิตหวั่นไหวได้ง่าย

ส่วนผู้รอบๆ ตัวน่ากลัวทุกนายเลย จากโธมันที่คิดว่าเพื่อนกลายเป็นน่ากลัวที่สุด

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
ขอบอกเลยว่าตอนนี้เนากลัวทอมมาก   คือตอนนี้มีอาการเหมือนอัลแล้วอ่ะ ขนลุกทุกครั้งที่นึกถึงเรื่องของทอมกะอัล   นี่เหรอสิ่งตอบแทนของความไว้ใจและมิตรภาพที่อัลมอบให้  โอ้ยยย...คือถ้าหมอไว้ช่วยชี้ทางน้องอัลเด็กแสบคงหลงผิดและเป็นแบบนี้ำปอีกนาน   งื้อออออ




ปล.ในเรื่องราวร้ายๆก็แอบเห็นน่ะว่าอัลหวงหมอ หมอห่วงอัล  งื้ออออ..
.ชอบเรื่องนี้อ่ะ

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
หนูอัลกลัวแต่ไม่ยอมถอยออกมาก็ไม่เปลี่ยนอะไรให้ดีขึ้นหรอก ทอมนับวันจะน่ากลัวมากขึ้น ขืนไปค้างด้วยอีกทีไม่รอดแน่ ๆ ตอนนี้หมอวาเป็นทั้งพี่เลี้ยงและบอดี้การ์ด ถ้าเจมส์รู้ว่าทอมทำอะไรกับอัลจะเป็นไงนะ

ออฟไลน์ suck_love

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
ละโทมัสกับเจมส์จะมีคู่ของตัวเองไหมคะ

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
 :hao3:


เสี้ยมดี สอนดี น่ะ

ออฟไลน์ Gapompom

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 136
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
ทอมนี่ไม่เหมือนแรกๆเลย ที่ขี้เล่น
ยิ่งรู้จักสันดารยิ่งออกสินะ
แต่ว่าอลันจะรอดไหมนะคืนนี้

ออฟไลน์ pim-lovemj

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
 o22 ต๊าย พ่อเฮนรี่ ที่ 3 ไม่ได้มาแต่ชื่อค่ะ แต่ไม่มีบทพูดเลย อิอิ
น่าสงสารพระรองเรื่องนี้เจง ๆ 

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด