♥ . . . HEART ATTACK . . . ♥ --- SPECIAL TRACK : พรหมลิขิต+แจ้งข่าว P. 25
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

ไหนๆ นิยายใกล้จะจบแล้ว เลยสอบถามความสนใจรวมเล่มค่ะ

สนใจ
ไม่สนใจ
รวมก็ดี ไม่รวมก็ได้

ผู้เขียน หัวข้อ: ♥ . . . HEART ATTACK . . . ♥ --- SPECIAL TRACK : พรหมลิขิต+แจ้งข่าว P. 25  (อ่าน 279209 ครั้ง)

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ทอมเริ่มน่ากลัวแล้วเนี่ย

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
อลันเอ๊ย เพื่อน ทอมนายไม่น่าคบนะ ป้าว่า มันดูโรคจิตชอบกล






หมอต้องดึงเด็กมึนให้หลุดพ้นจากเพื่อนโรคจิตนะ

ออฟไลน์ magarons

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 967
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +68/-6
หือ เจมส์คือพระรองจริงๆใช่มั้ย ไม่มีบทเลยย
แล้วหมอแก่ๆจะจีบเด็กมันยังไงเนี้ยยย

ออฟไลน์ ren

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
    • " Welcome To Y Entertainment "
หมอวาเริ่มฉายแววพระเอกแล้ว^^

ออฟไลน์ mimasopu

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
คือฉากทอมกับหนูอลันก็น่ารักนะมองเผินๆนี่อยากจะเปลี่ยนบทพระเอกซะ ง้อกันน่ารักและsmดี
แต่ถ้าหมอวาเป็นพระเอกงั้นส่งทอมไปคู่เจมส์ได้มะ คิดว่าคู่นี้น่าจะสมน้ำสมเนื้อ ตัวใกล้ๆกันแรงพอกัน

ออฟไลน์ NiTRoGeN14

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-1
    • คอนโดแมว
♥ . . . HEART ATTACK . . . ♥ --- TRACK 10 [17.10.15]
«ตอบ #95 เมื่อ17-10-2015 15:03:01 »


หมาแมวละเหี่ยใจ...



TRACK 10



กลับเข้าไปในงานอีกครั้งโธมัสถูกมารดาตัวเองลากไปทำความรู้จักกับผู้ใหญ่ทั้งหลายทันที ได้ยินแว่วๆ ว่าซีอีโอที่เป็นประธานจัดงานวันนี้เห็นเด็กหนุ่มแล้วสนใจชวนไปเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับคอลเลคชั่นเสื้อผ้าปีหน้า อลันด์จึงพอหายใจได้คล่องขึ้น

เจ้าเด็กแสบหันซ้ายมองขวาหาตัวช่วยตั้งใจจะเกาะติดฮิวโก้กับนิคตลอดงาน หากกลับถูกคุณหมอลากไปหลังบาร์ไม้เสียก่อน ตอนพวกเขาเข้าไปมีบริกรสองสามคนกำลังเดินขนลังเครื่องดื่มเข้าด้านใน ทิวากานต์รอจนทั้งหมดขนของเสร็จถึงเปิดปาก “เมื่อกี้ทอมทำอะไรหรือเปล่า”

“ยัง...แต่ก็เกือบ”

“เผลอไม่ได้จริงๆ แป๊บเดียวลากกันหายไปไกลถึงคอกม้า ถ้าฉันหาไม่เจอนายเสร็จหมอนั่นแน่” เขาว่าเสียงขรม มือใหญ่จับข้อมืออีกคนเลิกแขนเสื้อเบลเซอร์กับเสื้อเชิ้ตด้านในขึ้น รอยแดงปรากฏขึ้นกลางสายตา “ไม่มียั้งแรงเลยนะ เจ็บไหม”

“ไม่เท่าไหร่ แต่...”

“แต่อะไร”

“ทอมขอให้ไปนอนค้างด้วยคืนนี้ถ้าทำแต้มได้เยอะกว่าเจมส์”

ชายหนุ่มนิ่งไปหลังจบประโยคนั้น ตาคมกวาดมองอลันด์ตั้งแต่หัวจรวดเท้า ตัวก็แค่นี้ หน้ามึนยิ้มยาก ไม่เห็นจะน่ารักตรงไหน “ทำไมจู่ๆ หมอนั่นเกิดพิศวาสเธอขึ้นมาฉันล่ะอยากรู้จริงๆ”

“อยากรู้เหมือนกันแหละน่า เฮ้อ...”

“ฉันว่าเธอไม่ต้องกลัวไปหรอก ทอมเพิ่งหัดเล่นได้แค่สามสี่เดือนเองไม่ใช่หรือไง คงสู้เจมส์ที่เป็นกัปตันทีมโปโลมาก่อนไม่ได้”

“ด็อกไม่รู้อะไร ทอมมีพรสวรรค์เรื่องกีฬาจะตาย เกิดหมอนั่นฮึดเอาชนะเจมส์ได้ขึ้นมาผมไม่แย่หรือไง”

“ฉันจะไปรู้ได้ไงเล่า นายไปรับปากทอมเองเรื่องนี้ฉันก็ช่วยไม่ได้หรอกนะ นอกเสียจากว่าเจมส์จะชนะทอมได้น่ะ”

อลันด์ทำหน้าบูด เตะหญ้าตรงหน้ากระจุย นี่มันเกิดเรื่องบ้าอะไรกับเขากัน เพื่อนสนิทวัยเด็กที่ไว้ใจที่สุดดันคิดไม่ซื่อหวังล่อทะลวงประตูหลังเขา ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้รู้แต่ว่าเขาไม่อยากให้มันเกิดขึ้น แถมปฏิเสธอีกคนจริงจังไม่ได้อีกเพราะแอบชอบอยู่ลึกๆ หรือทางที่ดีเขาควรยอมทอมไปซะจะได้จบเรื่อง ได้ทั้งเพื่อนได้ทั้งแฟน เหมือนมีแต่ได้นะว่าไหม หรือเปล่าวะ ไม่ดิ! ก็เมื่อสัปดาห์ก่อนทอมมันยังได้กับผู้หญิงอยู่เลย ถ้ามันแค่อยากสนุกลองกับผู้ชายงี้เขาไม่เสียตัวฟรีเหรอ แบบนี้มันมีแต่เขาที่เสียกับเสียส่วนคนได้มีแค่ทอมต่างหาก!!!

“โอ๊ะโอ! นึกว่าเด็กน้อยอารมณ์บูดที่ไหน อัลเองหรอกเหรอ” เสียงหญิงสาวปริศนาดังขึ้นระงับความคิดฟุ้งซ่านของอลันด์นอกจากนั้นยังเรียกสายตาสองคู่ให้หันไปหาได้ทันที

“ซาร่า!”

“ไม่เจอกันนานนะอัล หุหุ” สาวสวยนามว่าซาร่ากระโดดพรวดเดียวก็มายืนตรงหน้าอลันด์กับทิวากานต์ ผมสีดาร์กบลอนด์สะบัดไปมาตามศรีษะที่เอียงซ้ายทีขวาทีมองเด็กหนุ่ม ก่อนตาสีเขียวจะเหลือบมองคุณหมอตัวสูง “ใครอ่ะ หล่อจัง ตัวสูงด้วย ชีวิตนายไม่เคยขาดผู้ชายหน้าตาดีล้อมรอบเลยนะ”

“ด็อกเตอร์ทิวากานต์เพื่อนฉัน”

“หนุ่มไทยเหรอ ว้าว ฉันซาร่าเป็นแฟนเก่าของอัล ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ”

“ยินดีที่ได้รู้จักครับ เรียกวาก็ได้” ทิวากานต์จับมือกับสาวน้อยที่เพิ่งแนะนำตัวว่าเป็นแฟนเก่าเด็กข้างตัวเขางงๆ ยัยเด็กนี่ดูเยอะจนล้นไปถึงส่วนสูงชะลูดเหมือนนางแบบ ส่วนอลันด์ก็น้อยเหมือนขาดจนแหว่ง ไม่น่ารู้จักกันได้ด้วยซ้ำ ที่สำคัญเขารู้สึกคุ้นหน้าเธอชะมัด

“ชิ ไม่นึกว่าเธอจะมางานนี้ ได้ข่าวว่างานยุ่งมากไม่ใช่หรือไง”

“โดนพ่อลากมาน่ะสิบอกให้หัดพบเชื้อพบเจ้าบ้าง ฉันละเบื่อชะมัด” ซาร่าทำหน้าเซ็งจัด เด็กนี่รู้สึกยังไงก็แสดงออกมาหมดทางสีหน้า ดูแล้วเป็นคนตรงๆ ไม่แอ๊บดี สักพักก็ก้มหน้าลงไปล้วงกระเป๋าสะพายใบเล็กหยิบบุหรี่ออกมายื่นให้อลันด์ “สักหน่อยม่ะ”

“ก็ดี” รับมาแล้วถึงค่อยเงยหน้ามองคนโตสุด “ด็อกเอาด้วยไหม”

“ได้”

ไปๆ มาๆ เลยกลายเป็นว่าสองหนุ่มกับหนึ่งสาวยืนสูบบุหรี่คุยกันอยู่หลังบาร์ไม้ ทิวากานต์เพิ่งรู้ว่าที่คุ้นหน้าสาวน้อยซาร่าก็เพราะเธอกำลังเป็นนางแบบดาวรุ่งมาแรงแซงโค้ง เป็นเซเลบที่คนทั้งเกาะบริเทรนรู้จักหมด แก่กว่าอลันด์หนึ่งปี เคยคบกันระยะสั้นสามเดือนก่อนเลิกกันไปเพราะอลันด์รักกีตาร์มากกว่าเธอ แต่ความจริงแล้วเธอทนไม่ได้ที่ต้องคบกับผู้ชายที่ตัวเล็กกว่าเธอตั้งสองนิ้ว! อ่อ แล้วซาร่าก็เป็นญาติห่างๆ ของเจมส์อีกที ถือได้ว่าเป็นคุณหนูลูกผู้ดีเก่าแต่ชอบทำตัวนอกคอก (ข้อหลังนี้อลันด์แอบกระซิบบอก)

“เด็กนี่เอาแต่ขลุกอยู่กับกีตาร์ แมว แล้วก็ทอม อ่อ ใช่...วันนี้ทอมลงแข่งด้วย หมอนั่นหล่อชะมัด ราศีจับจนสาวๆ ข้างนอกจ้องตาเป็นมัน น่าเสียดายจริงๆ ตอนนั้นฉันน่าจะขอคบกับเขามากกว่าเด็กแบบอัล” ซาร่าในชุดเดรสลูกไม้สีขาวบริสุทธิ์ของชาแนลพูดไปปล่อยควันไป เป็นภาพคอนทรานแปลกตาสุดๆ “เจมส์เองยิ่งโตก็ยิ่งหล่อ นึกภาพวันนี้สิผู้ชายหน้าตาดีสองคนบนหลังม้าต่อสู้กันเพื่อแย่งชิงสาวสวยแบบฉัน ผู้หญิงทั้งอังกฤษต้องอิจฉาฉันแน่”

“ค่อกๆ” เด็กแสบสำลักควันที่เพิ่งสูดเข้าปอดไปไอค่อกแค่กหน้าแดงไปหมด ส่วนคนที่รู้สาเหตุอย่างทิวากานต์ได้แต่อมยิ้มกลั้นขำเงียบๆ สองมือลูบหลังลูบไหล่อีกคนไม่ให้ขาดใจตายไปเสียก่อน เป็นใครก็คงนึกไม่ถึงหรอกว่าชายหนุ่มสองคนที่ว่ากำลังจะแข่งกันจริงๆ แต่ไม่ได้แย่งสาวสวยนะ แย่งเด็กผู้ชายข้างๆ เขาคนนี้ต่างหาก

“อะไรกัน แค่นี้ทำมาเป็นสำลัก ฉันออกจะฮอตนะยะจะมีผู้ชายมาแย่งกันบ้างเลยไม่ได้หรือไง”

“ก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่”

“นายก็เป็นแบบนี้ตลอดจืดชืดน่าเบื่อ กับพวกผู้หญิงหัดเถียงซะบ้าง ไม่ใช่เอาแต่ยอมหงอให้เขาตลอด ทีกับพวกผู้ชายล่ะเอาตาย แต่ฉันก็ไม่เข้าใจว่าทำไมผู้ชายดีๆ แบบนั้นถึงได้อยู่รอบตัวนายนัก ทั้งเจมส์ทั้งทอมแล้วก็คุณหมอวาด้วย” ท้ายประโยคไม่ลืมหันมาทำตาปิ๊งๆ ใส่คุณหมอพอรวมกับคิ้วหนาเป็นปื้นแล้วตลกจนเผลอยิ้มออกมา

“สุภาพบุรุษที่ไหนเขาเถียงกับผู้หญิงกัน” อลันด์แก้ตัว เขาสูบบุหรี่ที่ซาร่าให้มาเข้าปอดอีกอึกใหญ่ก่อนทิ้งลงพื้นหญ้า “เรากลับเข้างานกันดีกว่าด็อก อยู่กับยัยนี้มากๆ เดี๋ยวติดเชื้อบ้า”

“ได้ยินว่าเมื่อกี้เพิ่งบอกสุภาพบุรุษไม่เถียงกับผู้หญิง แล้วซาร่าไม่ใช่ผู้หญิงหรือไงถึงได้แขวะซะ”

“หึ ผู้หญิงงั้นเรอะ” ตาสีซีดกวาดมองซาร่าตั้งแต่หัวทองๆ จรดรองเท้าแบรนด์เนมส้นเตี้ย “ถ้าซาร่าเป็นผู้หญิง สาวๆ ที่เหลือก็น่าสงสารแล้วล่ะ เพราะคงไม่มีผู้หญิงที่ไหนจูบปากกับผู้หญิงด้วยกัน จริงไหม”

“อัล” ซาร่าแกล้งกัดฟันกรอดทำตาดุ ทิวากานต์ได้ยินหล่อนบ่นงุบงิบว่าจูบผู้หญิงแล้วไง อย่างน้อยพวกผู้หญิงก็ยังมีอารมณ์มากกว่าผู้ชายแบบอลันด์ คนใกล้วัยกลางคนอย่างเขาฟังแล้วหน้ามืดอยากเป็นลม

เด็กแปลกพวกนี้... ผู้ชายหน้าตาดีๆ โปรไฟล์เลิศอย่างเจมส์ดันไปชอบอลันด์ ส่วนทอมได้ผู้หญิงมาแล้วก็จริงแต่ยังหวังฟันเพื่อนรัก สาวสวยอย่างซาร่าก็นิยมเล่นดนตรีไทย ครบเลยทั้งเกย์ ไบฯ เลสเบี้ยน

กลับเข้างานมาอีกหนทั้งโธมัสและเจมส์ก็ไปรวมกลุ่มอยู่กับตัวเด่นของงานอย่างดยุกแห่งเคมบริจด์และพระอนุชาที่เสด็จมาถึงงานได้พักใหญ่แล้ว จากสีเสื้อแสดงว่าโธมัสได้ร่วมทีมกับเจ้าชายคนน้อง ส่วนเจมส์อยู่กับคนพี่ร่วมกับเซเลบอีกสองคน บรรยากาศเป็นกันเองเหมือนมาเล่นโปโลที่สนามหลังบ้านเพื่อนสักคน สาวๆ แต่งตัวสวยถือแก้วแชมเปญเดินไปเดินมา บ้างโพสท่าให้นักข่าวถ่ายรูปไปลงสื่อสังคม

ทิวากานต์มีโอกาสได้พูดคุยกับเชื้อพระวงศ์ทั้งสองด้วยการลากตัวเข้าไปร่วมวงของมาดามโอเนลล์ เขาเกร็งเล็กน้อยผิดกับอลันด์ที่ดูสบายๆ ท่ามกลางงานแบบนี้ เจ้าตัวเล็กวางตัวได้ดียามพูดคุยตอบโต้กับผู้สูงศักดิ์ โธมัสก็เช่นกันแม้จะติดนิสัยขี้เล่นอยู่บ้างแต่ดูเหมือนทุกคนจะคุ้นชินดีอยู่แล้ว ส่วนคนที่กลมกลืนมากสุดคงเป็นพ่อเฮนรี่ที่สาม เหมือนตอนที่อยู่กับซาร่าหลังบาร์ไม้จะได้ยินมาว่าพ่อหนุ่มโปโลเป็นญาติห่างๆ ของราชวงศ์อังกฤษจึงไม่น่าแปลกใจนัก

เมื่อใกล้เวลาเริ่มเกม นักกีฬาทั้งแปดคนถึงขอตัวไปวอร์มร่างกาย ม้าโปโลถูกจับใส่อานเรียบร้อยเยาะย่างมาคอยข้างสนาม ผู้ชมเดินหลบเข้าประจำที่นั่งตนเองมีทั้งตรงชุดโซฟาข้างสนามและบนบาร์ไม้ ครอบครัวโอเนลล์ได้ที่นั่งข้างๆ กับบ้านกริฟฟิธส์ เจ้าหนูนิคย้ายจากการเกาะฮิวโก้มานั่งตักอีฟดูดอมยิ้มไปทำตาหวานให้สาวๆ ไปแววเจ้าชู้ส่อมาแต่เด็ก

อลันด์นั่งกำหมัดแน่นบนหน้าตักหัวใจเต้นโครมครามยามเห็นนักกีฬาโปโลในสนามปีนขึ้นหลังม้า ตาสีซีดมองเจมส์บนหลังอาชาสีขาวตัวเขื่อง มันชื่ออเล็กซ์ตัวเดียวกับที่เคยทำเขาแขนหักเล่นกีตาร์ไม่ได้หลายสัปดาห์ เด็กหนุ่มไม่เคยชอบขี้หน้ามันโดยเฉพาะเจ้านายของมัน หากวันนี้เขาภาวนาให้มันพาเจ้านายกำชัยชนะเหนือเพื่อนรักให้ได้

ความคิดสะดุดลงเมื่อโธมัสควบเฮอร์มีสเข้ามาใกล้ผมสีทองถูกมัดเป็นหางม้าเล็กๆ ใต้หมวก เขาโบกมือให้ครอบครัวพร้อมฉีกยิ้มกว้างพาลเอาสาวน้อยสาวใหญ่แถวนั้นใจเต้นไม่เป็นจังหวะ ก่อนปรายตาสีน้ำเงินเข้มมองเพื่อนซี้“อัล ถ้าฉันชนะอย่าลืมข้อตกลงของเรานะ”

“อะ เอ้อ!” เด็กหนุ่มขานกลับไปแบบไร้สติ ใจเต้นแรงกว่าเก่าตอนโธมัสยกยิ้มแบบร้ายๆ ส่งมาให้ หรือว่าเขาจะรักโธมัสเกินเพื่อนไปแล้วจริงๆ จากที่ไม่เคยคิดอะไรพอถูกทิวากานต์สะกิดมันเลยพุ่งขึ้นมาแบบนี้เหรอ? บ้าชะมัด

โธมัสขี่ม้าจากไปไม่ทันไร เจมส์ก็ควบอเล็กซ์เข้ามาแทนที่ เด็กหนุ่มกระโดดลงจากหลังม้าเดินตรงเข้ามาหาอลันด์ ตาสีมรกตจ้องจริงจังชวนใจเต้นแรงอีกคน

“อัล ถ้าฉันชนะฉันขอรางวัลจากนายอย่างนึงได้ไหม”

“หา? เหอๆ ขอผิดคนหรือเปล่า ไปขออีฟนู่น” อลันด์แกล้งหัวเราะกลบเกลื่อนหัวใจที่เต้นผิดจังหวะขึ้นมา ยิ่งพอคิดได้ว่าเจมส์แอบชอบตัวเองอยู่หน้ามันเห่อร้อนทันที

“ขอจากนายนี่แหละ ถ้าฉันชนะทอมฉันจะมาขอรางวัล”

“นายชนะทอมอยู่แล้วน่าไม่ต้องมาแกล้งทำเป็นขอรางวัลทั้งที่รู้ผลอยู่แล้วเลย”

“ฉันไม่ประมาทเขาหรอกทอมเก่งจะตาย ถ้าหมอนั่นเอาจริงกับกีฬานี้แต่แรกเสื้อเบอร์สาม1ตัวนี้คงตกเป็นของเขา” ตาสีมรกตเหลือบมองหนุ่มผมทองในสนามก่อนหันกลับมาย้ำคำเดิมกับอลันด์ “ที่ฉันขอไม่ยากหรอก ไม่ต้องกลัว”

“ฉันไม่รับปากหรอกนะ ไปได้แล้วชิ้วๆ จะได้เริ่มเกมสักที ฉันเบื่ออยากกลับบ้านแล้ว” มือเรียวยกขึ้นโบกไล่อีกคนไปไกลๆ แม่เขายังนั่งอยู่ด้วยกันตรงนี้แท้ๆ มาพูดจาแปลกๆ อยู่ได้ เดี๋ยวโป๊ะแตกขึ้นมาโดนพ่อเขาไล่กระทืบเอาไม่รู้ด้วยนะเว้ย

เจมส์ยิ้มบางคงหวังเอาอะไรกับคนที่เกลียดขี้หน้าเขามากไม่ได้ ร่างสูงโปร่งหันหลังกลับไปที่ม้าสีขาวปลอดปีนขึ้นหลังท่าทางเงื่องหงอย เห็นแล้วท่าไม่ดีนักกีฬาหมดกำลังใจก่อนแข่งแบบนี้ได้ไง เกิดเจมส์แพ้ขึ้นมาคืนนี้มีหวังเขาไม่รอดมือโธมัสแหง ทำไงดีๆ

“เชียร์เจมส์หน่อยสิ” เสียงกระซิบจากผู้ชายนั่งข้างกันดั่งบัญชาจากนรกเลยทีเดียว จะให้เชียร์เจมส์เนี่ยนะ ความคิดนี้ไม่เคยอยู่ในหัวเลยเถอะ แต่แบบ...

“เจมส์!”

มือหนาชะงักบังเหียนกึก เจ้าอเล็กซ์ก็ยกขาหน้าค้างกลางอากาศ ทั้งคนทั้งม้าหันมองหน้าอลันด์พร้อมเพรียงเหมือนกดปุ่มบังคับ ตาสีเขียวสดเบิกกว้างนิดๆ รอลุ้นด้วยใจระทึกว่าคนที่แอบชอบเรียกตัวเองไว้ทำไม ก่อนเด็กหนุ่มจะอมยิ้มแก้มแทบแตกหน้าแดงจัดควบม้าออกไปตอนได้ยินเสียงทุ้มห้าวตะโกนข้ามสนามมา

“สู้ๆ นะ”

แค่คำสั้นๆ แต่ต่อให้เจอทีมชาติชุดใหญ่เขาก็มั่นใจว่าจะเอาชัยชนะมาครองได้ กำลังใจจากคนที่แอบชอบ เจมส์ สเปนเซอร์ขอสู้แค่ตายเว้ย!



ทิวากานต์ไม่รู้หรอกว่าไอ้กีฬาขี่ม้าตีคลี เอ๊ย ขี่ม้าโปโลนี่เขาเล่นกันยังไงมีกฎกติกาอะไร รู้แต่ว่าเกมนี้น่าจะเดือดสุดๆ เพราะเริ่มเกมไปได้ไม่เท่าไหร่ลูกทีมฝั่งเจ้าชายคนพี่นายหนึ่งก็ตกม้ากลิ้งหลุนๆ ไปกับพื้นหญ้าท่ามกลางเสียงฮือฮาของผู้ชมโดยเฉพาะโต๊ะข้างๆ เพราะตัวต้นเหตุคือโธมัสที่ขี่ม้าเบียดแย่งลูกกับอีกฝ่ายนั่นเอง

“แค่งานการกุศลแต่เหมือนทอมจะเอาจริงมากเลยนะ เกิดอะไรขึ้นกันล่ะเนี่ย” ซาร่าที่โผล่มาจากไหนไม่รู้ให้ความเห็น หล่อนปรายตามองอดีตแฟนหนุ่มคล้ายจะโทษว่าสาเหตุก็นั่งอยู่นี่ไง

“หมอนั่นคงร้อนวิชาอยากโชว์ฝีมือละมั้ง” มาร์โก้ที่เพิ่งย้ายก้นจากที่นั่งฝั่งครอบครัวตัวเองตามซาร่ามาให้ความเห็น

“ไม่ก็อยากเอาชนะเจมส์” มาริโอ้เสริมก่อนตบท้ายให้ทั้งโต๊ะหัวเราะครืน “ตอนนี้พี่คงอยากลากเจมส์ไปสู้บนสนามรักบี้สุดๆ เลยล่ะ”

เล่นกันได้ไม่เท่าไหร่กรรมการก็เป่าพักครึ่ง นักกีฬากระโดดลงจากหลังม้าหาน้ำดื่มกันยกใหญ่ โธมัสดูหงุดหงิดหน้าแดงก่ำ เพื่อนร่วมทีมไม่มีใครกล้าเข้าใกล้แม้แต่เจ้าชายคนน้องที่ตัวสูงไล่เลี่ยกันที่สุดก็ยังดูกระดูกห่างจากอีกฝ่ายไปหลายเบอร์

“นี่ถ้านายเป็นผู้หญิงฉันคงนึกว่ามีศึกชิงนางจริงๆ นะเนี่ย” ซาร่าให้ความเห็นอีกครั้งตอนที่ผู้ชมลงไปในสนามช่วงพักครึ่งตามธรรมเนียม ทำเอาเด็กแสบที่กำลังจิบแชมเปญถึงกับสำลักอีกรอบของวัน

“สองคนนั้นแค่อยากเอาชนะกันมากกว่า ถ้าเป็นเรื่องกีฬาการต่อสู้ทอมอารมณ์ร้อนจะตาย”

“แต่วันนี้เจมส์ก็เอาจริงนะ ฉันไม่เห็นหมอนั่นจริงจังกับการแข่งโปโลออกงานแบบนี้มาก่อนเลย นึกว่าแข่งนามทีมชาติอยู่งั้นแหละ”

“เธอคิดมากไปแล้วมั้ง”

เด็กหนุ่มรีบปัดให้พ้นตัว จะเรียกทิวากานต์มาช่วยคุณหมอวัยสามสิบก็หายไปอยู่ท่ามกลางสาวสวยในสนามเสียแล้ว ใบหน้าหล่อเหลาคมเข้มแบบหนุ่มเอเชียแท้บวกรูปร่างสูงใหญ่ไม่แพ้เจ้าถิ่นเรียกสายตาได้ปลื้มจากผู้หญิงในงานมากพอๆ กับนักกีฬาเลยทีเดียว ไหนจะรอยยิ้มการค้าอีก เอาเป็นว่าสาวๆ ตอนนี้แทบเลือกไม่ถูกแล้วว่าจะเลือกใครดี

เกมเริ่มต้นอีกครั้งพร้อมองศาเดือดที่เพิ่มขึ้นทุกขณะ เสียงฮือฮาดังขึ้นทุกทีที่ม้าสองตัวปะทะกัน โปโลเป็นกีฬาอันตรายอยู่แล้วเพราะต้องควบอยู่บนหลังม้าด้วยความเร็วหากพลาดขึ้นมาสามารถบาดเจ็บหนักได้ โดยปกติแข่งงานกุศลแบบนี้จะออกแนวเล่นกันสบายๆ เหมือนซ้อมมากกว่า แต่วันนี้ดาวเด่นกับมือใหม่ของแต่ละทีมดูจะเอาจริงเอาจังจนสนามหญ้าร้อนระอุ

ตอนนี้แต้มฝั่งดยุกแห่งเคมบริจด์ดูจะนำอยู่เล็กน้อย แต่โธมัสยังคงหน้าเคร่งไล่ตามลูกบอลเอาเป็นเอาตายผิดกับเจมส์ที่ดูผ่อนคลายขึ้น กระซิบถามเอาจากอลันด์ที่นั่งชมเกมตาไม่กระพริบถึงได้ความว่าโธมัสยังทำแต้มน้อยกว่าเจมส์อยู่สองแต้มแม้จะหักแต้มต่อแล้วก็ตาม

ในฐานะมือใหม่ถือว่าเก่งมากแล้ว แต่กับเกมแรกที่ลงและมีของรางวัลชิ้นงามเป็นรางวัล เห็นทีโธมัสจะยอมแพ้ไม่ได้

“กรี๊ด” ซาร่ากับอีฟถึงกับหลุดอุทานมาพร้อมกันเมื่อม้าของโธมัสปะทะกับม้าของเจมส์อีกครั้ง และครั้งนี้ดูจะรุนแรงกว่าเดิมเพราะเจมส์ถึงกับกลิ้งตกจากหลังม้า อลันด์หน้าซีดจับแขนตัวเองหมับภาพตอนที่ตัวเองตกหลังม้าย้อนกลับเข้ามาในหัวอีกครั้งความเจ็บตอนนั้นเขายังจำได้ดีแต่พอเห็นเจมส์ลุกขึ้นมาแทบจะในทันทีก็โล่งอก

“ทอมเล่นแรงเกินไปแล้ว” อีฟว่าท่าทางหัวเสียเป็นที่สุด

“คงไม่อยากแพ้ล่ะมั้ง แต่เมื่อกี้ผมอดเสียวแทนเจมส์ไม่ได้เลย ดีว่าหมอนั่นตกหลังม้าบ่อยจนชิน ไม่งั้นละ...” มาริโอ้หยุดไว้แค่นั้นให้ทุกคนจินตนาการต่อ

เกมเริ่มขึ้นอีกครั้ง ม้าทุกตัวในสนามเหมือนจะรับรู้ได้ถึงความร้อนแรงพวกมันดูคึกคักขึ้นตะบึงห้อไล่กวดตามลูกบอลเอาเป็นเอาตายนักกีฬาที่เหลือจึงพลอยฮึดไปด้วย อาจจะยกเว้นดยุกแห่งเคมบริจด์ไว้คนที่ยังมีรอยยิ้มประดับใบหน้าควบม้าสบายๆ และคงเป็นโชคดีที่เจ้าชายองค์น้องเติบโตขึ้นมากจนควบคุมอารมณ์ได้ดีขึ้น ไม่งั้นอาจมีช็อตไม้โปโลปลิวได้ยามเจ้าตัวกลิ้งตกหลังม้าตามเจมส์ไปอีกคน

กว่าจะจบเกมเล่นเอาคนดูหายใจไม่ทั่วท้องไปเป็นแถว โธมัสเหวี่ยงตัวลงหลังม้าก่อนเขวี้ยงไม้โปโลทิ้ง น่าเสียดายอุตส่าห์ฮึดช่วงท้ายแทบตายก็ยังทำแต้มไล่ตามเจมส์ไม่ทัน แถมถูกทิ้งห่างไปอีกสามคะแนนให้น่าขายหน้า ความคิดที่จะได้กินกระต่ายตัวขาวเนื้อแน่นคืนนี้เป็นอดกัน!

หากหนุ่มลูกเสี้ยวเยอรมันหงุดหงิดได้ไม่นานต้องรีบปั้นหน้ามายืนถ่ายรูปมอบถ้วยรางวัล พี่น้องกริฟฟิธส์เข้าไปรุมพี่ชายคนโตพลางพูดปลอบใจเรียกรอยยิ้มกลับคืนมาทีละน้อย แต่คนที่เรียกรอยยิ้มกลับมาได้มากที่สุดคงไม่พ้นเพื่อนรักตัวเล็กที่เดินมาบอกว่าเจ้าตัวทำได้ดีมาก

หลังเสร็จพิธีมอบรางวัลลำดับต่อไปคือรับประทานมื้อเที่ยงที่บาร์ไม้ นักกีฬาเริ่มทยอยไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อมาร่วมมื้อเที่ยง เหลือเพียงคนที่ทำแต้มสูงสุดในเกมนี้อย่างเจมส์ยังละล้าละลังไม่ยอมไปเสียที หัวใจที่อกด้านซ้ายของอลันด์กลับมาเต้นตึกตักอีกครั้งตอนเห็นร่างสูงโปร่งของนักโปโลเบอร์สามย่างสุขุมเข้ามาหา ตาสีเขียวมรกตคู่นั้นฉายความยินดีไม่มิดพาลให้คนถูกขอรางวัลขนลุกซู่

“ฉันมาทวงรางวัล”

“รางวัลอะไรล่ะ ถ้ามากเกินไปฉันไม่มีให้หรอกนะ” ลูกผู้ชายรับปากไปแล้วต้องรักษาสัญญา ในฐานะลูกผู้ชายคนหนึ่งอลันด์จะไม่บิดพริ้วให้เสียศักดิ์ศรี แต่ถ้าเจมส์ขออะไรที่ไม่ต่างจากโธมัสเขานี่แหละจะส่งหมัดไปให้แทน

เจมส์เงียบไปอึดใจ จู่ๆ ใบหน้าหล่อปรากฏริ้วแดงขึ้น เขากระแอมเรียกความมั่นใจหนึ่งทีก่อนยื่นมือออกไปข้างหน้า “ฉันขอโทษกับทุกเรื่องที่ผ่านมา นายจะยกโทษให้ฉันได้ไหม”

โอ้ว - มาย - ก็อด - !!!
มั่นใจได้ว่าทุกคนที่รู้จักสองคนนี้และได้ยินประโยคเมื่อกี้ต้องอุทานคำนี้ออกมาแน่นอน

อีฟช็อคถึงขั้นหน้ามืดเซแถ่ดๆ ไปหาฮิวโก้ที่ช็อคตาตั้งไปแล้ว หากคนที่มีปฏิกิริยาแปลกมากสุดกลับเป็นโธมัส เด็กหนุ่มปรายตามองคู่แข่งก่อนยักไหล่แล้วเดินไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ทิวากานต์ถึงกับถอนหายใจโล่งอกตอนแรกนึกว่าอีกคนจะไม่พอใจเดินเข้ามาชกเจมส์แล้ว ที่ไหนได้ดูยอมปล่อยชิ้นเนื้อที่หมายตาไว้ให้เพื่อนง่ายดายจนต้องถามตัวเองว่ามันง่ายไปเปล่าวะ!

พอลับหลังกว้างของโธมัสไปสายตาทุกคู่กลับมาจ้องว่าที่อดีตคู่กัดรอลุ้นคำตอบจากปากอลันด์อีกครั้ง ดูเหมือนว่าเจ้าตัวแสบเองช็อคไม่แพ้ใครดีไม่ดีอาการจะหนักกว่าด้วยซ้ำ แหงล่ะ ในเมื่อรู้อยู่แก่ใจว่าอีกคนชอบตัวเองอยู่มาทำอะไรที่เหมือนขอโอกาส(เพื่ออะไรก็ไม่รู้)อีกสักครั้ง หน้าขาวซีดเหมือนคนเมายาตลอดเวลาถึงกับซับสีเลือดไปทั่วหน้า

“เมื่อกี้ตอนตกหลังม้าหัวนายไม่ได้กระแทกกับอะไรใช่ไหม” ถึงจะเขินแต่ขอถามอีกทีเพื่อความมั่นใจ เจอเจมส์มาดนี้เข้าไปบอกตรงๆ รับมือไม่ถูก

“ที่พูดเมื่อกี้ฉันจริงจังนะอัล ไหนๆ จะไม่ได้เจอหน้ากันอีกนานอย่างน้อยฉันอยากให้เราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันมากกว่าคู่กัดแบบนี้”

“ถ้าแค่เพื่อน... ” เด็กหนุ่มเน้นคำว่าเพื่อนเป็นพิเศษ “ก็ได้ ฉันยกโทษให้”

เท่านั้นหนุ่มน้อยจากตระกูลสเปนเซอร์ก็ฉีกยิ้มกว้าง จับมืออลันด์ที่ยื่นมาหารวบไว้แน่น “ฉันดีใจที่สุดเลย นึกว่าจะไม่ได้คุยดีๆ กับนายแบบนี้ซะแล้ว”

อลันด์เกือบอ้าปากเถียงกลับไปแล้วว่าไม่ใช่นายหรือไงที่คอยหาเรื่องเขาก่อนตลอดเวลาที่ผ่านมา แต่พอคิดว่านั่นเป็นวิธีเข้าหาเขาแบบผิดๆ ของเจมส์และเพื่อกันไม่ให้อะไรมันยุ่งยากไปกว่านี้เลยตัดสินใจหุบปากเงียบเสีย

เขายอมให้อีกคนลากไปหาเจ้าอเล็กซ์ อึกอักนิดหน่อยตอนที่อีกคนคะยั้นคะยอให้ขึ้นขี่หลังมันความกลัวตอนตกลงมายังฝังใจ ยิ่งเมื่อไม่กี่นาทีก่อนเจมส์เองเพิ่งถูกม้าสีขาวตัวนี้สะบัดตกด้วยซ้ำ หากพอถูกอีกฝ่ายตื๊อหนักเข้าพร้อมรับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะอย่างดีว่าจะคอยจูงอเล็กซ์ไว้รับประกันด้วยเกียรติของตระกูลว่าจะไม่มีวันปล่อยให้อลันด์ตกหลังม้าเป็นครั้งที่สองอีกเป็นอันขาด ซ้ำเจ้าอเล็กซ์เหมือนจะรู้ตัวว่าเคยทำเขาเจ็บมันร้องฮี้เบาๆ ก้มหัวคอตกทำตาอ่อนตาหวานใส่ สุดท้ายร่างเล็กค่อนไปทางอวบจึงยอมปีนขึ้นนั่งหลังม้าเป็นครั้งแรกในรอบสามปี

เจมส์จูงอเล็กซ์พาอลันด์เดินไปรอบสนามโปโล พวกเขาคุยเล่นกันเหมือนทำความรู้จักกันใหม่ บรรยากาศผ่อนคลาย สถานที่เป็นใจ อะไรๆ ดูลงตัวเข้ากันได้ดีไปหมดเหมือนภาพในนิตยสาร

“เจมส์มันร้ายลึกเหมือนกันนี่ ได้ทีรุกอัลหนักเลยนะ” โธมัสให้ความเห็นกับทิวากานต์หลังเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้ว ตาสีน้ำเงินเข้มมองสองคนบนสนามหญ้าเรียบเฉยจนเดาอารมณ์ไม่ถูก คุณหมอไม่อยากแย้งหาเรื่องเข้าตัวว่าคนที่ร้ายลึกมันน่าจะนายมากกว่า พอเห็นคนแก่กว่าไม่พูดโธมัสเลยหันหน้ามาหาเสียเลย “ด็อกคิดว่าไง”

“ว่าไงล่ะ”

“เจมส์กับอัลไง”

ทิวากานต์กรอกตาขึ้นฟ้า เขาทำเป็นเดินให้เด็กหนุ่มตามเข้าไปในบาร์ไม้ “ก็ไม่ไงนี่ ดีกันก็ดีแล้ว อีกอย่างเจมส์ดูจริงใจดีนายไม่คิดอย่างนั้นหรือไง ฉันจำได้นะว่าตอนนั้นนายพยายามเปิดทางให้เจมส์จีบไอ้ตัวแสบน่ะ”

“ใช่ ผมทำ” เขายอมรับ “ด็อกรู้ใช่ไหมว่าผมกับอัลรักกันมากแค่ไหน แล้วเจมส์เป็นคนดีอย่างที่ด็อกว่านั่นแหละ ผมดูเขามานาน ถ้าเขาจะรักอัลจริงๆ จนอยากคบกัน ผมยอม”

“อ่าฮะ”

“แต่ถ้ากับคนอื่น... ผมคิดว่าผมคงไม่อยากแบ่งอัลไปให้ใคร” โธมัสกดเสียงต่ำ ตาสีน้ำเงินเข้มมองคุณหมอไม่เป็นมิตรนัก

คนอื่นที่ว่าปรายตามองเด็กตัวใหญ่นิ่ง รอยยิ้มบางจุดขึ้นบนใบหน้า ทำไมจู่ๆ โธมัสถึงคิดว่าเขาจะมาแย่งอลันด์ไปจากเจ้าตัวกัน ขอบอกเลยว่าทิวากานต์ไม่เคยคิดกับเด็กนั่นในแง่นั้นสักนิด แต่ไม่รู้อะไรดลใจให้เขาอยากยั่วไอ้เด็กยักษ์ขึ้นมาคำพูดประหนึ่งสานส์ท้ารบจึงหลุดออกมาจากริมฝีปากบางสวยของคุณหมอ

“มั่นใจก็ดี แต่ถ้ามั่นมากไปจนไม่แคร์อะไรระวังจะเสียของรักไปไม่รู้ตัวนะ”

บอกเลยไม่ได้พิศวาสอลันด์จริงๆ แค่อยากสั่งสอนเด็กตามประสาคนอาบน้ำร้อนมาก่อนเท่านั้นแหละ เชื่อทิวากานต์เถอะ!

.
.
.

-------------------------------

1 - ในกีฬาโปโลเสื้อหมายเลขสามหมายถึงผู้เล่นที่เก่งที่สุดของทีม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-10-2015 15:10:13 โดย บัวน้อย ไร่แตงโม »

ออฟไลน์ NiTRoGeN14

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-1
    • คอนโดแมว
♥ . . . HEART ATTACK . . . ♥ --- TRACK 10 [17.10.15]
«ตอบ #96 เมื่อ17-10-2015 15:08:00 »

เผลอแป๊บๆ วันพักร้อนของคุณหมอกำลังจะหมดลง หลังงานแข่งโปโลเขาเกาะติดอลันด์แจคล้ายจะยั่วโธมัสเล่น เจ้าเด็กยักษ์ดูหงุดหงิดพอควร เวลาทำกิจกรรมอะไรเป็นอันต้องปะทะให้ได้เจ็บตัวกันบ่อยๆ แล้วคิดว่าผู้ชายบอบบางอย่างทิวากานต์จะสู้ได้เหรอ... ไม่มีทางเสียล่ะ

เขามองรอยช้ำตามตัวแล้วนึกเป็นห่วงอลันด์ขึ้นมา ขนาดเขามีโครงร่างใหญ่ยังเจ็บขนาดนี้แล้วกับอลันด์ที่ตัวนิดเดียวจะขนาดไหน

ที่พอจะช่วยให้หายห่วงได้คงเป็นการที่เจมส์แวะเวียนมาหาเจ้าเด็กแสบบ่อยๆ ไม่ว่าเขากับเด็กแสบจะไปไหนพ่อหนุ่มเชลซีเป็นอันต้องพาตัวเองพ่วงไปด้วยเสมอ ทั้งขับรถพาคุณหมอเที่ยว ไปว่ายน้ำเล่นที่คฤหาสน์ตระกูลกริฟฟิธส์ หรือตามติดไปเยี่ยมบ้านคุณตาคุณยายของโธมัสที่มิวนิค ทุกครั้งที่เจมส์ผูกตัวติดอยู่กับอลันด์ โธมัสจะไม่เข้ามาใกล้ ไม่ทำตัวนัวเนียเด็กหนุ่มเหมือนเปิดทางให้เพื่อนรุกเต็มที่

ดูเป็นความสัมพันธ์ยุ่งเหยิงแปลกๆ แต่ทิวากานต์ตั้งใจให้อลันด์อาศัยจุดนี้ดูแลตัวเองในตอนที่เขาต้องกลับกรุงเทพไปก่อน

ตาคมก้มมองเด็กตัวเท่าไหล่ เห็นท่าทางหงอยๆ แล้วใจมันฟูเหมือนเป็นคนสำคัญของใครสักคนจนอดยกมือไปขยี้ผมอีกคนไม่ได้ ถูกตาซีดๆ ตวัดมองมาไม่ชอบใจก็ยังไม่ยอมหยุด

“เอามือออกไปเลยนะ”

“อะไรกัน แค่นี้ทำมาเป็นโวยวาย” แต่ก็ยอมเอามือออกโดยดี “ฉันจะไปแล้วเหงาล่ะสิ”

“เหงาอะไร เข้าข้างตัวเองไปหรือเปล่า หึ!”

“จ้า ไม่เหงาไม่หงอย แมวตัวไหนไม่รู้เป็นต่างหากเนอะ”

“ด็อกกวนตีนว่ะ” ได้หมัดแถมมาหนึ่งทีก่อนกลับเต็มอก อลันด์หน้าแดงแจ๋ทำเป็นหันหน้าไปหาเจมส์ “เรากลับบ้านไปนอนต่อกันดีกว่า ปล่อยด็อกเถื่อนนี่เข็นกระเป๋าไปเช็คอินเองเหอะ”

“ไม่เอาน่าอัล รับปากคุณแม่ว่าจะมาส่งคุณหมอกลับเองนะจะมาทิ้งไปเฉยๆ ได้ไง”

“ใช่ๆ เป็นเด็กไม่ดีเลยนะ”

ใช่แล้วล่ะ วันนี้ทิวากานต์จะกลับกรุงเทพเมืองฟ้าอมรแล้ว มีเด็กแสบกับเจ้าเฮนรี่ที่สามตามมาส่ง ส่วนโธมัสมีธุระเรื่องมหาวิทยาลัยที่มิวนิคต้องไปจัดการตั้งแต่เมื่อวานซืนกลับมาส่งไม่ทัน

“หนอย... ทำไมจู่ๆ เข้าขากันดีอย่างนี้นะน่าเบื่อจริง อัลเบิร์ตเข็นกระเป๋าคุณหมอไปที่เคาน์เตอร์เช็คอินเลย” ท้ายประโยคอลันด์หันไปสั่งพ่อบ้านส่วนตัว อัลเบิร์ตก็ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ยกกระเป๋าใบสุดท้ายของทิวากานต์ขึ้นรถเข็นเดินนำหน้าไปที่เคาน์เตอร์เช็คอิน

“ฉันว่าน่าจะหมายถึงเธอกับเจมส์มากกว่านะ ตัวติดกันเป็นปาท่องโก๋เชียว” ทิวากานต์แกล้งก้มลงไปกระซิบกับเด็กตัวเท่าไหล่ เรียกอาการฮึดฮัดขัดใจขึ้นมาได้ทันที

“อะไร!? ตัวติดกันที่ไหน หมอนั่นมาวุ่นวายเองต่างหาก น่ารำคาญจะตาย” เขากระซิบกลับ จงใจกระแทกส้นรองเท้าหนังลงบนหน้าเท้าคุณหมอเต็มแรงก่อนหันไปหาเพื่อน “เจมส์ฉันอยากกินน้ำ ไปซื้อให้หน่อยสิ”

“หืม? น้ำอะไรล่ะ” ถึงจะงงๆ แต่อะไรที่อลันด์ขอเจมส์ทำให้ได้หมด

“กาแฟอะไรก็ได้ ฉันรู้สึกง่วงๆ”

“โอเค งั้นรอแป๊บนึงนะ คุณหมอเอาอะไรด้วยไหมครับ”

“ไม่เป็นไร ผมไม่ค่อยหิว”

พอเหลือกันสองคนทิวากานต์เปลี่ยนสีหน้าจริงจังลากแขนไอ้ตัวแสบเข้ามาใกล้ “ฉันไปแล้วไม่มีไม้กั้นหมาบ้าให้แล้วนะ เพราะฉะนั้นอย่ารำคาญเจมส์ทำตัวติดหมอนั่นไว้”

“ทำไมต้องเจมส์ ผมหาทางหนีทอมได้เองน่าไม่เห็นต้องพึ่งหมอนั่นเลย”

“ให้มันจริงเถอะ” นิ้วยาวดีดหน้าผากอีกคนไปที “อยู่กับเจมส์อ่ะดีแล้วโดยเฉพาะเวลาไปไหนมาไหน ไม่สังเกตเลยหรือไงว่าถ้าอยู่กับหมอนั่นทอมจะไม่เข้ามาวุ่นวายน่ะ”

“ก็...”

“หรือถ้าเธอชอบที่ทอมทำก็ไม่ต้องทำตามที่ฉันบอกก็ได้”

“ไม่ใช่แบบนั้น”

“งั้นทำตัวเป็นเด็กดีทำตามที่ฉันบอก อย่าไปค้างบ้านทอมหรือไปไหนมาไหนกันแค่สองคนเด็ดขาด ถ้าเจมส์ไม่ว่างอย่างน้อยทำตัวติดคนอื่นไว้ยังดี เข้าใจไหม”

“อืม” ศีรษะกลมขยับขึ้นลงเบาๆ เอาจริงแล้วถ้าให้เลือกอยู่ติดกับใครเขาอยากอยู่กับด็อกเถื่อนนี่มากกว่าเจมส์ ตลอดเวลาเกือบเดือนที่ผ่านมาเขาได้รู้จักเพื่อนบ้านคนนี้มากขึ้นจนยอมรับว่าอีกฝ่ายเป็นผู้ใหญ่ที่ไว้ใจได้มากพอๆ กับพ่อแม่ ถึงจะขี้แกล้งและกวนตีนไปหน่อยก็เถอะแต่ทิวากานต์ทำให้เขารู้สึกปลอดภัยทุกครั้งที่อยู่ใกล้

“ไม่ต้องกังวลไปน่า เจมส์จะดูแลเธอได้ดี”

“ดีเกินจนน่าขนลุกเลย ก่อนหน้านั้นหาแต่เรื่องแขวะ บอกตรงๆ ผมรับไม่ค่อยได้”

“เพราะเขาชอบเธอไงล่ะ”

“เฮ้อ...” อลันด์ถอนหายใจเหนื่อยๆ

“เลิกทำหน้าเหม็นเบื่อได้แล้ว นู่น เจมส์มาแล้ว”

มือหนาแตะกลุ่มผมนุ่มลูบเบาๆ จัดทรงให้ ทิวากานต์ตบไหล่อีกคนคล้ายให้กำลังใจ รอจนเจมส์เดินมาพร้อมแก้วกาแฟให้อลันด์ถึงชวนกันไปหาอัลเบิร์ต พอไปถึงแถวเช็คอินถึงรู้ว่ามิสเตอร์เอเดลมาร์อัพเกรดที่นั่งจากบิสซิเนสคลาสเป็นเฟิร์ตสคลาสให้ ไม่ต้องรอเข้าคิวเช็คอินยาวเหยียดกับผู้โดยสารคนอื่นและสามารถเข้าไปในเกทได้เลยเพราะอัลเบิร์ตจัดการเช็คอินให้แล้ว

“ฝากขอบคุณพ่อเธอด้วยนะ”

“อ่าฮะ”

“แล้วเจอกันที่คอนโด รีบๆ มาล่ะ” ตาสีซีดมองกำปั้นตรงหน้าแล้วค่อยคลี่ยิ้มออกมาเต็มใบหน้าในที่สุด เด็กหนุ่มชกกลับคืนไปหาคุณหมอ... สัญลักษณ์ของสัญญาลูกชาย

“แค่เดือนเดียวอย่าเพิ่งเหงาล่ะที่ไม่มีผมไปป่วนน่ะ”

“โถ่ หลงตัวเอง ฉันมีสาวๆ ให้แก้เหงาเยอะแยะ เด็กผู้ชายแบบเธอไม่อยู่ในสายตาหรอก”

“จิ๊”

ทิวากานต์ยิ้มกว้างเต็มใบหน้า จงใจแกล้งขยี้หัวสีช็อกโกแลตนมให้ยุ่งอีกครั้งทั้งที่เป็นคนจัดมันไปแหม็บๆ “ฉันไปล่ะ เจมส์ฝากดูแลอลันด์ด้วยนะ”

“คะ ครับ ผมจะดูแลอลันด์ให้ดี” หนุ่มนักกีฬารับคำตะกุกตะกักหน้าแดงแจ๋ (เด็กนี่พอหลุดมาดแล้วก็น่ารักดี เหมือนวัยรุ่นหัดรัก) เขาชูนิ้วโป้งให้เป็นการยืนยันว่าจะทำตามที่รับปากอย่างแน่นอนแม้จะงงๆ อยู่หน่อยก็เถอะ

“บาย”

“บาย”

พวกเขาโบกมือเป็นพิธีอีกเล็กน้อยถึงยอมปล่อยให้คุณหมอตัวสูงเดินเข้าไปด้านใน แล้วอีกหนึ่งเดือนค่อยเจอกันใหม่ หวังแต่ว่าช่วงนี้อลันด์จะเอาตัวรอดจากโธมัสได้ละนะ

.
.
.

ต้องถือว่าโชคดีจริงๆ ที่ทิวากานต์สอบทุกอย่างผ่านในรอบเดียวไม่ต้องรอสอบใหม่ปีหน้า จบการเทรนศัลย์เฉพาะทางได้อย่างรวดเร็วภายในอายุสามสิบปี นับว่าเร็วแซงหน้าเพื่อนร่วมอาชีพวัยไล่เลี่ยกันไปหลายคน แต่เพราะชายหนุ่มเข้ามาเทรนแบบไร้ต้นสังกัดเมื่อสอบเสร็จจึงเคว้งคว้างว่างไปอีกสักพักระหว่างรอบรรจุเข้าทำงานที่โรงพยาบาลเดิมกับที่จบมา ปกติไม่ค่อยมีกรณีแบบนี้มากนักหากทิวากานต์นับได้ว่ามีผู้ใหญ่เอ็นดูหลายคนแถมยังเส้นใหญ่พอตัว ชีวิตจึงไม่ลำบากลำบนไปประจำโรงพยาบาลต่างจังหวัดหรือโรงพยาบาลเอกชนที่มีมาจีบอยู่เนืองๆ

พอมาเป็น young staff แม้งานจะหนักแต่ยังดีกว่าตอนเทรนเยอะมาก(เติมก. ไก่ล้านตัว) อย่างน้อยชั่วโมงนอนต่อสัปดาห์ก็นับได้เกินสองมือสองเท้า แถมโรงพยาบาลที่ประจำอยู่ก็มีขนาดใหญ่มาก อุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้ครบครับเนื่องด้วยเป็นโรงเรียนแพทย์แถวหน้า บุคลากรมีเพียงพอทุกแผนกทุกสาขาจนเขาไม่ต้องอยู่เวรรัวๆ อีกต่อไป แลกกับการสอนนักศึกษาแพทย์ตัวเปี๊ยกที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดี และชายหนุ่มกะจะอยู่ที่เดิมที่เดียวจนเกษียณ(ถ้าไม่ถูกเขาไล่)นั่นแหละ

วันนี้หลังเลิกงานตบตีกับคนไข้และนักศึกษาทิวากานต์จึงมีเวลาว่างพอนัดสาวๆ(?)สุดที่รักมากินมื้อเย็นได้ หลังไม่เจอกันนานเกือบครึ่งปี

“อันนี้ของป้าหมอ อันนี้ของป้าอิง ชิ้นนี้ให้ป้าก้อย ส่วนนี่ของป้าเต็ม กล่องนี้ของป้าแอน ถุงนี้ให้น้าตา” ชายหนุ่มรื้อถุงของฝากหยิบขึ้นมาให้เหล่าสว. ทีละคน

“ขอบคุณค่ะ” ป้าหมอรับถุงใส่กระเป๋าแบรนด์เนมชื่อดังไปเก็บไว้ข้างตัว นิ้วเล็กๆ ดันแว่นพลางหรี่ตามองหลานชายนอกสายเลือดตัวโต “แล้วนี่เป็นไงบ้าง”

“เที่ยวก็สนุกดี” ชายหนุ่มว่า สองมือจัดการเทลูกชิ้นลงหม้อสุกี้

“ฉันหมายถึงงานที่โรงพยาบาล”

“เหมือนเดิมแหละป้า”

“หนอยปาก พวกฉันบอกกี่ครั้งแล้วว่าให้เรียกพี่”

“แก่กว่าแม่เรียกป้าถูกแล้ว” ชายหนุ่มเพียงคนเดียวบนโต๊ะฉีกยิ้มทะเล้น พอถูกเหล่าป้าค้อนเข้าหน่อย แขนยาวๆ พลันเลื้อยกอดเอวอ้อนคนแก่เสียงอ่อนเสียงหวาน “ป้าเต็มชอบของฝากที่วาซื้อให้ไหม”

“ชอบจ้า สวยดีๆ”

“อันนี้วาตั้งใจเลือกให้เลยนะ รู้ว่าป้าเต็มชอบมากโดยเฉพาะพรีเซ็นเตอร์” ทิวากานต์ยิ้มหวานประจบ ถึงจะอายุสามสิบเข้าไปแล้วแต่กับป้าๆ กลุ่มนี้เขาจะทำตัวเด็กใส่เสมอ และเขาก็รักผู้หญิงพวกนี้ไม่แพ้แม่แท้ๆ ของตัวเอง ทั้งหมดรุมกันช่วยเลี้ยงเขามาตั้งแต่อยู่ในท้องนู่นแน่ะ แต่ละคนตั้งใจเลี้ยงเขาเกินไปกว่าจะรู้ตัวว่าต้องหาพ่อของลูกตัวเองบ้างก็ไม่ทันซะแล้ว อ้อ ยกเว้นป้าอิงไว้คน คนนี้แต่งงานก่อนแม่จะมีเขาเสียอีก

“แล้วนี่จะออกไปทำเอกชนหรือเปล่า” ป้าหมอผู้อาวุโสสุดซ้ำยังเป็นคนช่วยผลักดันเขาให้เดินทางนี้ได้อย่างสมบูรณ์ถามขึ้น แกคงเป็นห่วงเพราะอีกไม่กี่ปีจะเกษียณแล้วตอนนั้นคงช่วยอะไรเขาไม่ได้มาก อะไรที่ทำได้ตอนนี้ก็รีบๆ ทำเสียให้เสร็จ

“คงยังอ่ะครับ ไปอังกฤษรอบนี้วาไปดูหาลู่ทางเรียนต่อด้วย ตอนแรกสนใจเยอรมันอยู่แต่ต้องเรียนภาษาอีกวาขี้เกียจ ทำอยู่นี่แหละดีแล้วรอทุนดีกว่าจะได้ไม่ต้องทำงานหาเงินส่งตัวเองเรียนแบบตอนเทรน เหนื่อยจนเหมือนจะตายให้ได้”

“น้องวาขยันเนอะ เห็นเรียนตลอดเลย”

“ชีวิตมันว่างๆ ไม่รู้จะทำไรดีอ่ะครับป้าอิง ไหนๆ เลือกเดินทางนี้แล้วอยากไปให้มันสุด ตอนนี้ก็ก้มหน้าก้มตาทำงานเก็บเงิน พอรวยแล้วจะได้มาเลี้ยงป้าๆ ไง”

“โถ ไม่ต้องมาเลี้ยงฉันหรอกย่ะ ไปเลี้ยงลูกตัวเองเถอะ ได้ข่าวว่าพ่อแกซื้อมาให้ใหม่อีกคันไม่ใช่หรือไง”

“โหย ไอ้นั่นตัวสูบเงินเลยน้า ขนาดไม่ค่อยเอามาใช้ยังเปลืองน้ำมันอิ๋บอ๋าย แต่น้องกบโคตรน่ารักจะปล่อยทิ้งไว้ให้ฝุ่นเกาะก็น่าเสียดาย” เขาตอบคุณน้าเพียงคนเดียวของกลุ่มพลางตักลูกชิ้นที่สุกแล้วให้

“ในเมื่อรถมันเยอะจนใช้ไม่ทันทำไมไม่ขายไปสักคันล่ะ” ป้าก้อยสาวเปรี้ยวหน้าเด็กแม้วัยจะล่วงเข้าห้าสิบกลางๆ แต่ยังคงนุ่งยีนส์เช้งวับเหมือนสาวรุ่น ไม่อยากจะเม้าท์ว่าคนสอนคุณหมอหัดเที่ยวก็ป้าคนนี้แหละ

“คิดอยู่ครับ ว่าจะขายแซดโฟร์ไปแต่คันนั้นแม่ก็ซื้อให้ทำใจยากนิดนึง อยากได้คนซื้อต่อดีๆ ไว้ใจได้อ่าครับ”

“งั้นเดี๋ยวป้าไปถามขิงให้ไหม เห็นเจ้าขิงบ่นวอยากได้รถใหม่พอดี เห็นมองรุ่นนี้แหละกับอะไรนะ SLK ป่ะ ถ้าซื้อต่อจากวาก็ดีมั่นใจว่าได้รถสภาพดี”

“ดีครับป้าอิง ถ้าน้องขิงจะเอาเดี๋ยววาลดให้พิเศษเลย”

น้องขิงหรือขัตติยาเป็นลูกสาวป้าอิงคนสวย เด็กกว่าทิวากานต์ไม่เท่าไหร่ เรียกได้ว่าโตมาด้วยกันสนิทมากถึงขั้นแม่กับป้าๆ แซวเล่นว่าจะให้แต่งกันตอนโต แต่หลังจากทิวากานต์เอนท์ติดหมอนานๆ ทีถึงจะเจอหน้ากันสักครั้ง แต่อีกคนน่าจะมีแฟนเป็นตัวเป็นตนได้แล้วละนะสวยขนาดนั้นไม่มีทางโสดหรอก

“งั้นเดี๋ยวป้าไปบอกเจ้าขิงให้นะ แล้วว่าไงให้เขามาติดต่อวาเอง”

“ครับ”

“แล้วนี่เราไม่คิดจะมีแฟนเป็นตัวเป็นตนกับเขาบ้างเหรอ ฉันเห็นเพื่อนๆ เธอแต่งงานกันไปหลายคนแล้วนะ” อดีตคุณครูอย่างป้าแอนโพล่งขึ้นกลางวงทำเอาสายตาทุกคู่จับจ้องที่ชายหนุ่มเพียงคนเดียวของกลุ่ม ทิวากานต์ยิ้มแหยไม่คิดว่าจะโดนคำถามคลาสสิกกับตัว

“ยังไม่เจอคนที่ถูกใจเลยครับป้าแอน อีกอย่างงานวาก็ยุ๊งยุ่งจะเอาเวลาไปมองสาวที่ไหน”

“ฉันได้ยินเขาเม้าท์กันทั้งโรงบาลว่าวาควงสาวไม่ซ้ำหน้า ยังบอกไม่มีเวลาหา” ถูกป้าหมอพูดดัก คุณหมอจอมกะล่อนเลยได้แต่ยิ้มหวาน

“แค่คุยเล่นเฉยๆ เองครับ”

“ทำตัวเป็นหล่อเลือกได้ ระวังเลือกมากจะไม่เหลือให้เลือก เลี้ยงมากับมือทำไมจะไม่รู้ว่าแกมันขี้เหงาขนาดไหน”

“แต่วามันก็หล่อจริงๆ นี่นาพี่แอน ยิ่งโตยิ่งหน้าเหมือนพ่อมันจะเลือกมากบ้างไม่เห็นเป็นไร ผู้ชายน่ะแต่งงานตอนสี่สิบก็ไม่สาย”

ถึงสิ่งที่น้าตาพูดจะเป็นความจริงแต่ก็ไม่ได้ช่วยให้ทิวากานต์รู้สึกดีขึ้นเท่าไหร่ เขารู้ว่าพวกป้าๆ เป็นห่วงเขาที่ต้องอยู่ตัวคนเดียวหลังจากแม่ตาย ถึงจะเหงาไปบ้างแต่เขาอยู่คนเดียวได้จริงๆ ไม่ได้ขี้เหงาขนาดที่ป้าแอนพูดสักหน่อย“ตอนนี้วายังไม่เจอคนที่วารัก เพราะงั้นตอนนี้ขอวาโสดเป็นเพื่อนพวกป้าๆ ก่อนนะ เดี๋ยวถ้าเจอคนนั้นจริงๆ วาจะพาไปกราบเลย ให้ป้าหมอไปสู่ขอให้ด้วยเอ้า”

“อย่านานเกินจนฉันเดินไม่ไหวล่ะ” สิ้นเสียงคุณหมอรุ่นเก๋าเสียงหัวเราะก็ดังลั่นโต๊ะสุกี้ กลุ่มป้าพวกนี้เป็นแบบนี้เสมอ เครียดกันได้ไม่เท่าไหร่ต้องมีคนตบมุกตลอด ถ้าจะเห็นเครียดกันจริงจังคงมีอยู่เรื่องเดียวคือจองบัตรคอนเสิร์ตเกาหลีไม่ได้นี่แหละ

หลังจบมื้อเย็นที่ทิวากานต์ไม่ต้องจ่ายสักบาท(เพราะป้าๆ เลี้ยง) ชายหนุ่มส่งเหล่าสว. กลับบ้านทีละคน วันนี้เขาอุตส่าห์เอาซีรีส์ไฟว์มากะขับรถให้ป้านั่งแท้ๆ แต่ป้าแอนเอารถมาเลยรับอาสาไปส่งป้าหมอกับป้าอิงที่อยู่ทางเดียวกัน น้าตาก็เอารถมา ส่วนป้าก้อยจะนั่งแท็กซี่กลับเองเพราะบ้านอยู่คนละทางกับทิวากานต์เลยเหลือป้าเต็มคนเดียว รู้งี้เขาเอาน้องกบมาให้ป้าเต็มลองนั่งก็ดีหรอก

ชายหนุ่มไปส่งป้าเต็มที่คอนโดแถวพระรามสี่ก่อนวกรถกลับมาอโศก พรุ่งนี้วันเสาร์แต่เขามีจ็อบนอกที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งเดิม ตอนนี้ยังมีเวลาว่างเหลือเยอะเข้านอนตั้งแต่สองสามทุ่มคงดีไม่น้อย

ตาคมปรายมองประตูห้องฝั่งตรงข้ามที่ปิดเงียบมาได้สองสัปดาห์กว่าแล้วพลันนึกถึงเด็กแสบตัวสูงเท่าไหล่ ไม่รู้ตอนนี้จะเป็นไงบ้าง เอาตัวรอดจากโธมัสได้ไหม เจมส์รุกหน้าจีบไปถึงไหนแล้ว อยากรู้ความเป็นไปแต่จะให้ติดต่อไปก่อนเขาคิดว่ามันไม่ได้จำเป็นขนาดนั้น เวลาโทรไปหามีแค่คุยเรื่องรถที่ฝากเขาจัดการให้ก็เท่านั้น เลยได้รู้ว่าเจ้าตัวคงไม่เหงามากเพราะมีเพื่อนล้อมหน้าล้อมหลังตลอด ได้ยินมาว่าเจ้านภลูกเพื่อนวิคเตอร์ยังใช้ช่วงว่างงานโปรโมตเพลงใหม่บินไปเยี่ยมถึงนู่น

แล้วคิดว่าผู้ชายฮอตๆ อย่างทิวากานต์จะอิจฉาเหรอ ไม่หรอกเขาเองก็มีแต่คนเข้าหาทั้งนั้นแหละ แค่เท้าแตะเมืองไทยเจ้าลูกลิงลียอนก็โทรหาเขาทันทีแถมขอแอดเฟซบุ๊คแชทมาทั้งวัน เล่าเรื่องตัวเองให้ฟังนู่นนี่นั่นพอหมดไม่รู้จะพูดอะไรต่อก็เอาเรื่องพี่ๆ มาแฉ เอ๊ย แบ่งปัน ตอนนี้เลยรู้ว่าโธมัสกำลังเป็นที่กล่าวถึงจากสาวๆ หลังข่าวงานโปโลถูกเผยแพร่ออกไป งานพรีเซ็นเตอร์วิ่งเข้าชน แว่วๆ ว่าจะได้เดินแบบให้เบอเบอร์รี่สำหรับคอลเลคชั่น Spring/Summer ของปีหน้าด้วย เจ้าตัวดูลัลล้าดีบอกว่าทำแก้เบื่อก่อนไปเยอรมัน ถ้าจะให้อิจฉาใครสักคนคงเป็นเจ้าโธมัสนี่แหละ จิ๊!

“อ้าวหมอวา ไม่เจอกันนานนะครับ”

“สวัสดีครับคุณเมษ” ใบหน้าหล่อเหลาหันไปหาเมษานายธนาคารหนุ่มโสด รู้สึกเหมือนไม่ได้เจอหน้ากันมาเกือบสองเดือนได้แล้วมั้งจากล่าสุดที่เจอกันในลิฟต์ก่อนไปสอบ

“ขอบคุณสำหรับของฝากด้วยนะครับ ไปเที่ยวสนุกไหม”

“ดีครับ พักผ่อนชาร์จแบตหน่อย”

“แล้วนี่เด็กห้องตรงข้ามหมอไปไหนแล้วล่ะครับ เห็นเงียบเป็นเดือนแล้วไม่มีเสียงกีตาร์ตอนกลางคืนเลย หรือกลับประเทศไปแล้ว”

“คิดถึงเหรอครับ”

“เพลงที่น้องเขาเล่นก็เพราะดีหรอกครับ จะเหงาหูบ้างคงไม่แปลก”

“คุณเมษไม่ต้องกลัวเหงาไปเดี๋ยวก็กลับมาแล้วล่ะครับ”

“ดูสนิทกันดีนะครับ ที่ไปเที่ยวนี่ก็ไปบ้านน้องเขาด้วยหรือเปล่า”

ทิวากานต์แกล้งยิ้มกว้างตอบเฉไฉไปว่าแม่เด็กแสบฝากฝังเอาไว้เลยได้ค่าจ้างไปพักบ้านเขาฟรีๆ แค่นั้น พูดคุยกันอีกเล็กน้อยถึงค่อยแยกเข้าห้องใครห้องมัน

คิดถึงเหรอครับ...

ลองเอาคำถามที่ใช้หยอกคนอื่นไปเมื่อกี้ย้อนกลับมาถามตัวเองดูบ้าง ไม่มีเสียงกีตาร์ไม่ได้ยินใครบางคนตะแง้วๆ อยู่ข้างตัว ไม่มีเด็กมานอนกลิ้งกลางห้องท่ามกลางกองหนังสือท่วมหัวโวยวายว่ายากอย่างนั้นยากอย่างนี้ คงไม่คิดถึงหรอกแต่เหงาหูน่ะไม่แน่ เห็นทำหน้ามึนเหมือนง่วงตลอดเวลาแบบนั้นแต่ทิวากานต์พิสูจน์แล้วว่าเด็กแสบน่ะตัวพูดมากเลย

เขายกมือหยิกแก้มตัวเองแรงๆ เพราะรู้สึกชักจะยิ้มมากไปจนแก้มตึง เอาน่า...อีกแค่สองสัปดาห์เดี๋ยวเจ้าเด็กนั่นก็มาป่วนเขาเหมือนเดิม ตอนนั้นคงได้รำคาญจนอยากให้ห้องมันเงียบอย่างตอนนี้แน่ๆ



TBC

ใครที่คิดถึงพ่อพระรองตัวประกอบของเรา
ตอนนี้มาแล้วนะคะ พร้อมทำคะแนนกะน้องอัลเต็มที่
ส่วนทอมจะยอมรามือแค่นี้หรือไม่โปรดติดต่อตามกันต่อไป
เอาใจช่วยคุณพระเอกด้วยนะคะ

ขอบคุณทุกความคิดเห็นค่ะ
แล้วเจอกันเร็วๆ นี้

จุ๊บ

 :mew1:

ออฟไลน์ magarons

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 967
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +68/-6
อุก พระรองน่ารักอ่ะ

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
โอ้ยยยย...ยิ่งอ่านยิ่งรู้สึกกลัวทอม  งื้ออออ...อัลต้องอยู่โน้นคนเดียวอีกนานเลยอ่ะ งานนี้จะรอดไหมน่ะ  รีบๆกลับมาหาพี่หมอเร็วแมวน้อย

ออฟไลน์ boobooboo

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-2
สนุกมากเลยครับ  แต่หมอยังไม่รักกันซะทีเลยยย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ VarainDark

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
คิดถึงไอตัวแสบก็ยอมรับมาดีๆเลยเถอะหมอวา
ก๊ากกกกกกก

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
หลงรักเฮนรี่ ที่สามอะทำไงดี

ออฟไลน์ NiTRoGeN14

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-1
    • คอนโดแมว
♥ . . . HEART ATTACK . . . ♥ --- HIDDEN TRACK 02 [21.10.15]
«ตอบ #102 เมื่อ21-10-2015 17:14:35 »

HIDDEN TRACK 02

*หมายเหตุ - กดที่รูปเพื่อขยายให้ครบทั้ง 4 รูปก่อนเพื่ออรรถรสในการอ่านค่ะ














TBC

 :o8:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-10-2015 17:24:23 โดย บัวน้อย ไร่แตงโม »

ออฟไลน์ ka[ze]na

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-6
กรี๊ด~~~~~ ใครมาซื้แ Z4 อ่ะ เค้าจอง!!!!!!! ราคารถ +เจ้าของได้เลยค่ะ

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
แหมะ คุณหมอพึ่งพาได้จริง ๆ สมกับที่น้องอัลไว้วางใจ
ชอบเจมส์ คืนดีกันแล้วน่ารักจมเลย
ให้ทอมยุ่ง ๆ ไว้แหละดีแล้วจะได้ไม่มายุ่งกับอัลอีก

ออฟไลน์ black sakura

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-8
คุณหมอน่ารักอ่ะเหมือนจะไม่ค่อยสนใจน้อง
แต่ก็แอบห่วงแอบช่วยตลอดเลย

ออฟไลน์ kyungploy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
หมอวาน่ารัก ฮื้อออ

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ waterlily

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 150
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
แสบเอ้ยรักหมอวาดีกว่า  รักทอมแล้วช้ำใจตายเลยหนูอลัน :hao5:

ออฟไลน์ boobooboo

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-2
หมอหายไปนาน  อ่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ sweetyswtcou

  • R.Chek SwtCou
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 155
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
อยากรู้จริงๆว่าพระเอกนายเอกจะรักกันได้ยังไง?
 :pig4:

ออฟไลน์ NiTRoGeN14

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-1
    • คอนโดแมว
♥ . . . HEART ATTACK . . . ♥ --- TRACK 11 [25.10.15]
«ตอบ #111 เมื่อ25-10-2015 16:28:02 »

TRACK 11



ยามบ่ายแสนเงียบสงบ ณ โรงพยาบาลชื่อดังริมแม่น้ำปรากฏเสียงฮัมดนตรีลอดออกมาจากห้องพักของคุณหมอหนุ่มรูปหล่ออันเป็นที่หมายปองของสาวๆ ดูท่าวันนี้นายแพทย์ทิวากานต์จะอารมณ์ดีเผื่อแผ่ไปถึงพยาบาลสาวน้อยสาวใหญ่ให้ใจสั่นเป็นแถบกับรอยยิ้มสวยเจิดจ้า แม้แต่ผู้ชายบางคนยังอดใจเต้นไม่ได้

“วา”

“ครับ” คนถูกเรียกเงยหน้าขึ้นจากแผ่นกระดาษเขียนรายงานการรักษา ตาเรียวดุจ้องคนไร้มารยาทวิสาสะเปิดประตูห้องเข้ามาไม่เคาะก่อน ถ้าเป็นวันปกติรองศาสตราจารย์นายแพทย์การันต์คงถูกเจ้าของห้องชักสีหน้ายู่ใส่ข้อหามาไม่ให้สุ่มไม่ให้เสียง หากวันนี้กลับยังมีรอยยิ้มหวานระบายเต็มใบหน้าหล่อพร้อมกับโค้งให้น้อยๆ แทนคำทักทายเล่นเอานายแพทย์รุ่นพี่ที่เห็นกันมาตั้งแต่ยังใส่ชุดนักศึกษาเลิกคิ้วฉงน

“ซื้อขนมมาฝาก” นายแพทย์การันต์ชูกล่องกระดาษบรรจุขนมปังอบกรอบของโปรดคนตรงหน้าขึ้น ส่งยิ้มโชว์ฟันขาวกลับคืนไปให้ “จำได้ว่าชอบ ความจริงไม่ได้ซื้อเองหรอกฝากพยาบาลที่ข้ามไปกินข้าวฝั่งนู้นซื้อมาน่ะ”

“ขอบคุณครับพี่รัน”

“เล็กน้อยน่า ว่าแต่วันนี้มีอะไรพิเศษหรือเปล่าอารมณ์ดีนะเรา พยาบาลเม้าท์กันให้แซ่ดว่าหมอวาแจกยิ้มเรี่ยราด”

“ไม่มีอะไรหรอกครับ โอ๊ะ แป๊บนึงนะพี่มีสายเข้า” ชายหนุ่มวางปากกาหยิบโทรศัพท์ที่ตั้งระบบสั่นไว้ขึ้นดูชื่อคนโทร พอเห็นว่าเป็นใครก็ยิ่งฉีกยิ้มกว้าง “ครับคุณน้า”

หมอการันต์ตัดสินใจเดินเข้ามาในห้องวางกล่องขนมปังบนโต๊ะใกล้แฟ้มงาน ก่อนเดินไปพิงผนังอีกด้านทำเป็นมองสำรวจไปทั่วห้องแต่หูแอบเงี่ยฟังบทสนทนาของหมอศัลย์หน้าใสกับคนปลายสาย

“เอ๋? ไม่สบายเหรอครับ เป็นอะไรมากหรือเปล่า อืม...” ทิวากานต์ลากเสียงยาว หัวคิ้วย่นเข้าหากันพลันดวงตาเรียวคมก็วาวแสงน่ากลัว “ครับ ไม่เป็นไรครับ ให้หายดีแล้วค่อยมาดีกว่าเดี๋ยวจะแย่กว่าเดิม ได้ครับ แล้วเจอกันครับ”

เขาวางโทรศัพท์ไปแล้วหากใบหน้ากลับเคร่งเครียดขึ้นกว่าเดิมเหมือนไม่พอใจอะไรสักอย่าง นิ่งไปอยู่นานมือหนาถึงได้หยิบปากกาขึ้นมาถือไว้อีกครั้ง แต่เหมือนจะลืมอะไรไปพอเงยหน้าขึ้นมาเห็นนายแพทย์รุ่นพี่ยักคิ้วให้ หน้าดุๆ เลยรีบเปลี่ยนเป็นยิ้มหวานจ๋อย

“ขอโทษครับ นึกว่าพี่รันออกไปแล้วซะอีก”

“ถูกสาวเบี้ยวนัดเหรอ ทำหน้าน่ากลัวเชียว”

“ไม่ใช่สาวหรอกครับ คนรู้จักน่ะ” ทิวากานต์ตอบเลี่ยงๆ เซ็งนิดหน่อยที่แผนการเย็นนี้ต้องพับเก็บ หากสาเหตุสำคัญที่ทำให้เครียดเพราะไอ้ตัวแสบที่จู่ๆ ป่วยเอาไอ้วันจะบินกลับมานี่แหละ แถมพอได้ยินจากปากมาดามโอเนลล์ว่าอลันด์ไม่ยอมให้หมอเข้าไปตรวจล็อคห้องขังตัวเองไว้ เขาพอจะเดาสาเหตุได้ทันทีว่าต้องไม่พ้นไปเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดจ้องฟันตูดอย่างไอ้หมาโธมัสแน่ๆ

“งั้นเย็นนี้วาก็ว่างน่ะสิ ไปกินข้าวกับพี่ไหม”

ตาสีน้ำตาลเข้มเหลือบคนชวน ทำหน้าลังเลเล็กน้อย “ถ้าพี่รันเลี้ยง...”

“หนอยไอ้ขี้งก” การันต์กอดอก มันเขี้ยวคนตรงหน้าอยากจะขย้ำผมสีดำหนาๆ ให้กระจุย “เออ ฉันเลี้ยงก็ได้”

“ป๋ารันใจป้ำอีกล่ะ ขอบคุณคร้าบ”

“งั้นสักห้าโมงเจอกัน ไปรถพี่นะ”

“ได้ครับ”

“ไปทำงานต่อล่ะ” ตกลงกันเรียบร้อย หมอการันต์จึงขอตัวกลับไปจัดการงานตัวเองต่อ

ห้าโมงเย็นเลยเวลาเลิกงานมาหน่อย ทิวากานต์พาตัวใหญ่ๆ ของตัวเองมายืนรอนายแพทย์รุ่นพี่ที่ประตูทางออกลานจอดรถ ไม่นานตาคมเห็นการันต์เดินตัวเปล่าออกมาพลางชูพวงกุญแจในมือโบกล่อตรงหน้าหมอหนุ่มจนคนชอบรถตาวาว

“โหย ก็ว่าอยู่ๆ จะพาไปกินข้าวที่แท้อยากอวดรถนี่เอง”

“ชอบไหม” การันต์กดปลดล็อคให้ทิวากานต์ได้เข้าไปสำรวจเจ้าแอสตัน มาร์ติน แวนควิชสีดำได้ใกล้ชิด

“สวยมากเห็นแล้วน้ำลายหก โหย... เท่สุดๆ ไปเลยพี่” ตาของหมอหนุ่มเป็นประกาย การันต์มองอาการดีใจนั้นแล้วเดินเข้าไปกอดคออีกคนไว้

“ไม่เท่าน้องกบเราหรอก เห็นขับมาอวดอยู่นี่”

“เจมส์ บอนด์ของพี่รันดีกว่า ยิ่งพี่ขับเองนะรถหล่อขึ้นจม” เขาประจบแต่ก็ออกมาจากใจจริงๆ ที่ว่าตัวคนขับเสริมให้รถดูหล่อขึ้นเป็นผู้ใหญ่ภูมิฐาน แต่รถสปอร์ตใจป๋าแบบแอสตัน มาร์ตินมันเหมาะกับการันต์สุดๆ

“ปากหวานนะเรา ลองไหม”

“ได้เหรอ” การันต์ยิ้มขำเหมือนเห็นหางยาวๆ ส่ายริกๆ อยู่ด้านหลังรุ่นน้อง

“ได้ แต่ถ้าชนช่วยจ่ายค่าทำสีให้พี่ด้วยนะ คันนี้คาร์บอน”

“โหย งั้นวันนี้น้องยอมเป็นอีหนูหน้ารถสวยๆ ดีกว่า ไม่กล้าเล่นของแพง”

“ล้อเล่น เอ้า เอาไปขับให้พี่นั่งหน่อย” ยัดเยียดกุญแจใส่มือทิวากานต์เสร็จการันต์พาตัวเองเข้านั่งที่ข้างคนขับ รอจนทิวากานต์เดินมาประจำที่ถึงบอกจุดหมายที่จะไปทานมื้อเย็นกันวันนี้

พวกเขาเลือกร้านกินดื่มแถวทองหล่อเป็นที่ฝากท้องในคืนนี้ แม้จะอยู่ในแหล่งชุกชุมไปด้วยซูเปอร์คาร์ แต่เจ้าเจมส์ บอนด์ของการันต์กลับโดดเด่นเรียกสายตาใครต่อใครให้เหลียวมอง แม้แต่ทิวากานต์ที่ได้ลองขับยังรู้สึกชอบใจจนอยากเอาน้องกบไปเปลี่ยนให้รู้แล้วรู้รอด แต่ไม่รู้ว่าถ้าไปเอามาขับจริงจังจะดูเท่ได้เท่ารุ่นพี่ข้างตัวหรือเปล่า อาจต้องรอให้เขามีอายุอีกสักหน่อยรถคันนี้คงเหมาะกับเขามากขึ้น

“สั่งตามสบายนะวา มื้อนี้พี่เลี้ยงเอง”

“ขอบคุณครับป๋า” ทิวากานต์แซวขำๆ เขาเปิดเมนูสั่งอาหารมาสองสามอย่างพร้อมเครื่องดื่มเอาใจเจ้ามื้อ ระหว่างรออาหารมาเสิร์ฟทั้งคู่ก็หาเรื่องคุยไปเรื่อย ตั้งแต่เรื่องงาน เรื่องเพื่อน เรื่องรถ ไปจนถึงเรื่องแฟน

“ยังไม่มีหรอกพี่ หาถูกใจไม่เจอ” ตอบเหมือนที่เคยตอบเหล่าป้า

“ช้านะเรา ได้ข่าวว่าเจ้ากวินจะแต่งแล้วไม่ใช่หรือไง”

“ครับ ได้ฤกษ์แล้วด้วยมกรานี่แหละ ตอนเมษามันยังมาขอซื้อเวรเก็บเงินไปแต่งเมียอยู่เลย”

“อย่าเศร้าไปน่า ค่อยๆ หาเดี๋ยวก็เจอเองรีบร้อนไปใช่ว่าจะเจอคู่แท้เมื่อไหร่ ดูอย่างพี่สิขนาดมีครบทุกอย่างแต่ยังหารักแท้ไม่เจอเลย” นายแพทย์รุ่นพี่ปลอบอย่างผู้มีประสบการณ์แม้คำพูดคำจาดูน่าหมั่นไส้แต่ทิวากานต์รู้ดีว่าเจ้าตัวแฝงความเจ็บปวดเอาไว้ในนั้น เขาชูแก้วเบียร์ขึ้นหวังชนกับอีกคน พอแก้วกระทบกันก็ยกซดพร่องไปครึ่งแก้ว

“ผมไม่เศร้าหรอกน่า โสดก็สบายดีออก ทำอะไรไม่ต้องคิดมากอยากไปไหนก็ไปไม่ต้องห่วงไม่มีภาระ”

“เด็กน้อยเอ๊ย” การันต์หัวเราะ “การมีภาระมีคนให้ห่วงมันทำให้เราเป็นผู้ใหญ่ขึ้นนะวา ชีวิตก็มีจุดหมายมากขึ้นด้วย ใช้ชีวิตไปวันๆ มันก็ดีอยู่หรอกแต่มันเหงามันเคว้งไม่คิดงั้นเหรอ ที่พูดไม่ได้ให้รีบหาแฟนนะแค่จะบอกว่ามีความรักมันดีกว่าไม่มี”

ทิวากานต์มองคนเคยมีความรักด้วยสายตาเห็นใจ ในฐานะที่รู้จักกันมานานและรู้เรื่องส่วนตัวอีกฝ่ายมาก่อน เขายกมือแตะไหล่ให้กำลังใจอีกคนเบาๆ แต่การันต์ยังคงเป็นราชสีห์เสมอ เขาดึงมือรุ่นน้องวางลงไว้บนโต๊ะคล้ายปฏิเสธการให้กำลังใจจากเด็กน้อยที่ยังเอาตัวไม่รอดแต่ริอาจสงสารเจ้าป่า

ทิวากานต์ได้เจอการันต์ครั้งแรกตอนเป็นนักศึกษาแพทย์ปีสองแต่ไม่ได้พูดคุยกันมากนัก พอขึ้นชั้นคลีนิคที่ต้องเวียนเรียนตามวอร์ดต่างๆ ก็ได้การันต์นี่แหละเป็นชีฟ เรสซิเดนท์ศัลยกรรมในตอนนั้นช่วยเหลือสั่งสอน ได้ยินชื่อเสียงมานานว่าที่บ้านทำโรงพยาบาลเอกชนมีชื่อแต่มุ่งมั่นให้กับการทำงานโรงพยาบาลรัฐ หน้าตาดี สมาร์ท โปรไฟล์ระดับเอลิสต์ หากทำตัวธรรมดาไม่อวดไม่เบ่ง ยกเว้นเรื่องรถตามประสาผู้ชาย เก่งจริงเป็นที่นับถือและรักของคนใกล้ชิดไม่เว้นแม้แต่ทิวากานต์จนยึดเอาเป็นแบบอย่างเลือกเรียนต่อทางด้านนี้บ้าง

ดีขนาดนี้แน่นอนว่าสาวๆ ติดเกรียว เป็นหมอศัลย์ด้วยแล้วยิ่งเนื้อหอมไปกันใหญ่ แต่การันต์กลับรักมั่นคงเพียงกับแฟนสาวที่คบกันมาตั้งแต่วัยกระโปรงบานขาสั้น ไม่เคยนอกลู่นอกทางให้คนรักต้องเสียใจ มีข้อนี้แหละที่ทิวากานต์ทำไม่ได้เพราะเขามันขี้เบื่อ คบใครได้ไม่เท่าไหร่ก็เลิก

ตอนนั้นเขาติดการันต์แจ ไม่ว่ามีปัญหาเรื่องอะไรทั้งเกี่ยวไม่เกี่ยวกับเรื่องเรียนจะโทรหาอีกฝ่ายตลอด มาห่างๆ ไปตอนเขาขึ้นอินเทิร์นก่อนไปใช้ทุนสามปี ส่วนการันต์แต่งงานกับแฟนสาวหลังคบกันมาสิบกว่าปี ทิวากานต์เองก็ได้ไปร่วมแสดงความยินดีที่งานแต่งใหญ่โต ณ โรงแรมหรูริมแม่น้ำ

ชีวิตนายแพทย์รุ่นพี่เหมือนจะไปได้ดี รุ่งทั้งงานรุ่งทั้งรัก แต่แต่งได้แค่สามปี ชีวิตรักกลับล่มแบบไม่มีใครคาดฝัน การันต์เป็นโสดอีกครั้ง ในขณะที่อดีตภรรยาแต่งงานใหม่กับเศรษฐีเจ้าของธุรกิจอสังหาฯ หลังหย่าได้ไม่ถึงปีดี ชีวิตคนมันไม่แน่ไม่นอนจริงๆ กระนั้นถึงจะเจ็บมากแค่ไหนนายแพทย์รุ่นพี่คนนี้ยังคงทำหน้าที่รักษาคนไข้เต็มที่ ไม่เคยเอาเรื่องส่วนตัวมาปนกับเรื่องงานสักครั้ง

“พี่รันหาสาวใหม่สิ ถ้าพี่รันมีแฟนเดี๋ยวน้องขี้อิจฉาคนนี้มันก็หามาเกทับคืนบ้างแหละ”

“หึ บอกตรงตอนนี้ไม่อยากมองสาวที่ไหนเลย มองวาดีกว่าน่ามองกว่าเยอะ”

“เฮ้ยพี่ เล่นงี้ผมไม่ขำนา”

“วาไม่สนใจเป็นเด็กป๋าเหรอ มาอยู่กับป๋าได้ขับมาร์ตินด้วยนะ”

“พี่รันเมาแล้วป่ะเนี่ย เดี๋ยวนี้คออ่อนเหรอเพิ่งซดเบียร์ไปแก้วเดียวเองนะ” ตาคมเสมองไปทางอื่นไม่กล้าสู้สายตาอีกคนที่มองมา ชักเข้าใจแล้วว่าทำไมอลันด์มันหนีโธมัสไม่พ้น เจอสายตาหวานเชื่อมมองแบบนี้ ไม่หวั่นไหวบ้างให้มันรู้ไป!

“เฮ้ย เขินจริงเหรอวะ แกล้งเล่นเว้ย ใครจะบ้าเอาเอ็งมาทำเมีย ตัวสูงเก้งก้างอย่างกับเสาไฟฟ้า เห็นแล้วหมดอารมณ์ว่ะ อย่างน้อยถ้าจะเอาผู้ชายขอตัวเล็กๆ น่ารักเหมือนผู้หญิงเหอะ” เห็นรุ่นน้องเขินจริงจังการันต์ถึงกับหัวเราะก๊าก เขาตบโต๊ะเบาๆ ด้วยอารมณ์ดีจัด ในวัยเกือบสี่สิบแต่มองตาผู้ชายแล้วทำให้อีกฝ่ายหวั่นไหวได้ ถ้าเอาไปใช้กับผู้หญิงคงไม่มีใครรอดมือเขา

“ก็พี่เล่นมองงี้ผมก็เสียวดิ นึกว่าจะเปลี่ยนแนว หูย ขนลุกเลย” ทิวากานต์ลูบแขนประกอบอาการ หน้าเหนอเบะหมด

“หึ แสดงว่าเสน่ห์ฉันยังใช้ได้ดีสินะ” แต่ขอเล่นไอ้เด็กนี่อีกหน่อยเถอะ ทำมาบอกไม่เจอใครถูกใจแต่ข่าวมันลอยเข้าหูตลอดว่าควงสาวไม่ซ้ำหน้า “แต่ฉันยังจำงานปาร์ตี้นั้นได้นะ ที่แกแต่งหญิงอ่ะ สวยจนนึกว่าผู้หญิงแท้ๆ”

“ลืมมันไปซะทีเหอะพี่” ทิวากานต์แทบกราบอีกฝ่าย เป็นความอัปยศสุดในชีวิตเขาเลยก็ว่าได้ ทุกวันนี้ยังอยากกระทืบเพื่อนตัวดีที่คิดธีมงานด้วยซ้ำ เพื่อนร่วมรุ่นไม่ค้านไม่เท่าไหร่ แม่กับป้าๆ ยังเห็นดีเห็นงามจับเขาแต่งตัวอีก วินาทีนั้นรู้ซึ้งเลยว่ากว่าจะสวยมันต้องทุ่มเทเสียน้ำตาไปเท่าไหร่ แค่ขนหน้าแข้งที่ถูกแว็กซ์ออกไปหมดน้ำตาเป็นปี๊บ

จากนั้นบทสนทนาก็เปลี่ยนไปเรื่อย อัพเดทข่าวสารระหว่างกัน บ้างก็ยกเคสคนไข้มาถกหาแนวทางรักษา จนอาหารและเบียร์บนโต๊ะหมดเกลี้ยงถึงได้ฤกษ์แยกย้าย

เกือบห้าทุ่มแอสตัน มาร์ตินคันสวยเลี้ยวเข้าจอดหน้าคอนโดย่านอโศกของทิวากานต์ ชายหนุ่มยกมือไหว้ขอบคุณอีกฝ่ายที่นอกจากจะให้ลองขับรถใหม่แล้วยังเป็นเจ้ามือเลี้ยงข้าวและมาส่งถึงที่ทั้งที่บ้านอยู่คนฝั่งกัน ไม่ว่าจะนานแค่ไหนหรือคุยกันน้อยลงแต่การันต์ยังคงเป็นพี่ที่ดีกับน้องๆ เหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน

“ขอบคุณมากพี่ ไว้วันหลังให้ผมเลี้ยงข้าวคืนบ้างนะ”

“เออ ไว้ว่างๆ นัดกัน ไม่ก็เลี้ยงข้าวเที่ยงแถวโรงบาลก็ได้”

“เดี๋ยวซื้อหมูทอดในตลาดให้กินซะเลยนิ”

“ให้มันจริงเหอะ พี่ได้หมดแหละ ไปๆ ไปนอนซะ พรุ่งนี้ไม่มีรถขับเองต้องออกแต่เช้านะเว้ย มาไม่ทันตรวจเด็กราวน์พ่อจะด่าให้”

“ครับป๋า ขับรถกลับดีๆ นะ” ถึงรู้ว่าอีกคนไม่ได้เมา(แค่เบียร์สองแก้วมันจะไปเอาที่ไหนเมา) แต่ทิวากานต์มักพูดกับคนรอบตัวที่ขับรถด้วยคำนี้เสมอ

การันต์โบกมือให้อีกคนบอกว่าไหวแน่นอน เขายืนรอส่งแอสตัน มาร์ตินสีดำหน้าคอนโดดูเจ้าเจมส์ บอนด์กลับตัวอย่างงดงามพร้อมไฟท้ายสีแดงตัดกับท้ายสีดำสนิทสวยบาดจิตอย่าบอกใคร หากก่อนพุ่งออกไปกระจกรถฝั่งคนขับก็ลดลงพร้อมใบหน้าหล่อไม่สร่างของคุณหมอรุ่นพี่

“วา ถ้าหาคนถูกใจไม่เจอทำไมไม่เลือกหาแล้วลองมองคนใกล้ๆ ตัวบ้างล่ะ”

“หา?”

“แบบพี่ไง”

เขารู้ว่าการันต์แค่แซวเล่นเลยหัวเราะเสียงดังก่อนมองส่งไฟท้ายสีแดงจนลับตา แต่คำพูดของนายแพทย์รุ่นพี่ก็ฝังติดอยู่ในหัว คนใกล้ตัว...เขาก็ไม่ค่อยมีเพื่อนสนิทผู้หญิงเสียด้วยสิจะให้มองใครที่ไหนกัน แต่แล้วแรงสั่นเบาๆ จากกระเป๋ากางเกงทำให้เขาต้องล้วงโทรศัพท์ขึ้นมา เห็นชื่อคนใกล้ตัวที่เพิ่งเพิ่มเข้ามาแล้วรอยยิ้มมันเผลอฉีกออกอัตโนมัติ คำนวณเวลาแล้วที่นู่นน่าจะเกือบหกโมงเย็น ที่ไม่สบายน่ะหายแล้วเหรอถึงมีแรงลุกมาโทรศัพท์หาเขาได้

“ว่าไงไอ้ตัวแสบ”

‘ด็อก...’

“หืม” ชายหนุ่มครางในลำคอ เขาเดินไปที่สวนส่วนกลางของคอนโด แนบโทรศัพท์ไว้ที่ซอกคอแล้วใช้สองมือว่างล้วงหาบุหรี่ในกระเป๋ากางเกง

‘ไม่... ไม่มีอะไรหรอก’

“ไม่มีอะไรแล้วโทรมาทำไม ไม่สบายไม่ใช่หรือไง ทำไมไม่นอนพัก กินข้าวกินยาหรือยัง”

‘กินแล้ว แต่...ไม่ค่อยหิว’

“อดข้าวเดี๋ยวหายไม่ทันกลับมามอบตัวหรอก” พอหาที่นั่งได้ทิวากานต์จึงค่อยจุดบุหรี่ พอจะเข้าใจว่าทำไมอลันด์ถึงโทรมา ไม่อยากคาดคั้นให้คนป่วยช้ำใจไปกว่านี้เลยพยายามทำตัวเหมือนปกติให้คนเด็กกว่าหลุดออกมาเองน่าจะดีที่สุด

‘อยากไปกรุงเทพแล้วเดี๋ยวนี้เลย แต่มัมกับแด๊ดไม่ให้ไป อยากไปมากจริงๆ นะ’

“แล้วทำไมไม่ให้หมอมาดูล่ะ เขาจะได้สั่งยาให้ถูก ถ้าเจ็บมากจะได้ฉีดยาจะได้หายไวๆ ไง”

‘ด็อก...’

“ว่า”

‘อยาก... แค่กๆ ช่างมันเถอะ แล้วเจอกันนะ’

“เฮ้!” ทิวากานต์ส่งเสียงประท้วงไปตามสายหากได้รับแต่ความเงียบตอบกลับมา อลันด์ชิ่งวางสายทิ้งไปแล้วหลังจากปล่อยให้เขาเงียบรออีกคนพูดตั้งนาน พอจะพูดดันไอแล้วก็บอกว่าไม่มีอะไรเฉย แต่จะให้โทรกลับไปเซ้าซี้มันก็ไม่ใช่เขาอีกนั่นแหละ

เหอะ! คนอุตส่าห์เป็นห่วงแต่ดูสิ่งที่เด็กนั่นทำสิ น่าปล่อยให้โธมัสขย้ำให้เละไปเลยจริงๆ

.
.
.

“มัมจะไปไหน” เด็กฝรั่งทำหน้ายุ่ง มือกระชับเสื้อแจ็คเก็ตเข้าหาตัวเพราะเริ่มรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ เมื่อกี้ตากแอร์เย็นเจี๊ยบในห้องประชุมแป๊บเดียวก็ออกมาเดินตากแดดตามคนเป็นแม่เข้าไปในตรอกแคบๆ เต็มไปด้วยร้านขายอาหารข้างทาง คนที่เพิ่งสร่างไข้แถมเท้าเพิ่งแตะเมืองไทยได้ไม่ถึงหกชั่วโมงดีมีมึนหน้าแดงแจ๋

“ไปทานข้าวจ้ะ” มาดามโอเนลล์เดินนำลูกชายไปท่าเรือ หยิบเหรียญบาทออกมาให้เขาสามเหรียญก่อนอธิบายเพิ่ม “เราจะนั่งเรือข้ามไปฝั่งนู้น”

“หา?” อลันด์ตาโตแค่จะกินข้าวต้องนั่งเรือข้ามแม่น้ำไปเลยเหรอ อยากจะเถียงมารดาแต่ทำได้แค่เดินตามแม่ผ่านตู้ขายตั๋วเข้าไปเงอะๆ งะๆ ตาสีฟ้าซีดมองโป๊ะเรือสภาพค่อนข้างใหม่พอใจชื้น แต่พอเรือแล่นเข้ามาเทียบเท่านั้นขาพาลสั่นงั่กๆ

“อัลยืนรออะไรละ ตามแม่มาสิ” มาดามโอเนลล์กวักมือเรียกลูกชายหลังจากที่หล่อนโชว์สเต็ปก้าวขึ้นเรือไปแล้วพร้อมรองเท้าส้นสูงสามนิ้ว

“มัม มันน่ากลัว”

“กลัวอะไรล่ะอัล ข้ามมานี่”

“มัม...” อลันด์ครางเรียกแม่เสียงอ่อน ผู้โดยสารคนอื่นเดินขึ้นเรือกันไปหมดแล้ว บางคนเพิ่งผ่านช่องขายตั๋วมายังวิ่งแซงหน้าเขากระโดดขึ้นเรือ เหลือแต่เด็กลูกครึ่งหน้าฝรั่งจ๋ายืนขาสั่นหน้าซีดอยู่กลางโป๊ะ

“ยู ควิกๆ” เด็กประจำท่าเรือตะโกนเสียงดัง ไอ้ตัวแสบที่แสบไม่ออกจึงสะดุ้งโหยง หลับหูหลับตาจับมือใครสักคนที่ยื่นมาให้กระโดดขึ้นเรือตามแม่ไป คนก็เยอะแยะต้องยืนเบียดกันแถมเรือนี่ไม่มีที่กั้นให้อีกต่างหากนอกจากเชือกเส้นเดียว เขาเกาะแขนแม่แน่นแทบจะซุกกอดไปแล้ว รู้ทั้งรู้ว่าเขาว่ายน้ำไม่แข็งยังจะชวนขึ้นเรือมาอีก อยากรู้นักไอ้ร้านอาหารที่จะไปกินนี่มันอร่อยระดับสามดาวมิชลินหรือไงถึงต้องบังคับเขาขึ้นเรือมาเนี่ย!

พอถึงคราวลงเรืออลันด์เกาะแขนแม่แน่นให้พาเขากระโดดขึ้นโป๊ะไปด้วย ขาสั้นๆ ก้าวฉับรีบไปเหยียบพื้นปูน เขาตีหน้าบูดกอดอกใส่มาดามโอเนลล์บอกชัดว่าไม่พอใจมาก หากมาดามเพียงเดินมาบีบแก้มเขาแล้วลากแขนไปตรงทางออก หวังว่าขากลับคงไม่ให้เขาขึ้นเรือนั่นกลับไปอีกหรอกนะ ถ้าทำอีกเขาจะโกรธจริงๆ ด้วย

“สวัสดีครับคุณน้า เดินทางมาเหนื่อยไหมครับ”

ตาสีซีดกระพริบปริบตอนได้ยินเสียงคุ้นหูก่อนหน้าเล็กๆ จะหันไปมองด็อกเถื่อนในชุดเชิ้ตสีอ่อนผูกไทเหมือนพนักงานออฟฟิซมากกว่าคุณหมอยืนยกมือไหว้แม่เขาอยู่ตรงหน้า เดี๋ยวสิ...ไม่ทำงานหรือไง แล้วทำไมถึงมาโผล่อยู่นี่ได้ นึกว่าจะเจอกันเย็นนี้เสียอีก

“สวัสดีค่ะคุณหมอ ไม่เหนื่อยเท่าไหร่หรอกค่ะชินแล้วแต่คนนี้น่ะสิเพิ่งจะหายไข้เมื่อคืนเอง อัลจ๊ะสวัสดีคุณหมอสิ”

“ด็อก... ทำไมมาอยู่นี่ล่ะ” เขาทำเป็นเฉไฉประโยคเมื่อกี้จากปากแม่ เงยหน้ามองคนตัวสูงกว่างงๆ

“ทำงานอยู่นี่จะให้ไปอยู่ไหนล่ะ” ทิวากานต์หัวเราะชี้นิ้วไปที่ตึกด้านหลัง สถานที่เดียวกับที่เขาเห็นจากมหาวิทยาลัย อลันด์ไม่ได้ความจำสั้นเสียจนจำไม่ได้ว่าเป็นที่เดียวกับที่เขาเคยไปหาอีกฝ่ายเมื่อตอนมาไทยแรกๆ แต่ออกจะงงๆ มากกว่า เด็กหนุ่มพยักหน้ารับหงึกหงักเดินตามคุณหมอไปร้านอาหารแถวนั้นแบบไม่มีปากไม่มีเสียง

แปลกจริง... แค่ได้เจอหน้าทิวากานต์อีกครั้งความอบอุ่นจากไหนไม่รู้อาบท่วมร่างกายอย่างกับว่าคุณหมอตัวโตนี่เป็นพระอาทิตย์อย่างนั้นแหละ แล้วทำไมเขาต้องร้อนๆ ที่หน้าด้วยนะหรือว่าไข้จะขึ้นอีกแล้ว!



ร้านอาหารที่ทิวากานต์พามาเป็นร้านอาหารธรรมดาที่ดูดีสุดในย่านนั้น ประกอบกับเป็นเวลาพักเที่ยงจึงมีคนแน่นร้าน ส่วนใหญ่เป็นคนทำงานแถวนี้ทั้งนั้นดีว่าคุณหมอจองโต๊ะและสั่งอาหารล่วงหน้าไว้แล้ว ทันทีที่ไปถึงอาหารมากมายจึงวางเต็มพื้นที่ เท่าที่ดูในจานล้วนเป็นอาหารไทยรสอ่อนสำหรับคนลิ้นแมวแบบอลันด์โดยเฉพาะ มีอาหารหน้าตาแปลกๆ ที่มาดามโอเนลล์เห็นแล้วถึงกับออกปากว่าไม่ได้กินมานานมาแล้วอย่างแหนมเนืองด้วย

“หน้าแดงแจ๋ ไข้กลับอีกหรือเปล่าน่ะ” ทิวากานต์เลื่อนขวดน้ำเปล่าไปให้เด็กหนุ่ม เขามองหน้าใสขึ้นสีแดงจัดไปทั่ว ใบหน้าเล็กๆ มีเหงื่อผุดตามไรผม ดูเหมือนจะร้อนแต่เจ้าตัวแสบกลับไม่ยอมคลายเนคไทหรือถอดแจ็คเก็ตออก

“ไม่รู้ อือ...มัม ทำไมมือเย็นจัง”

“เราตัวร้อนน่ะสิ” มาดามโอเนลล์ทำหน้ายุ่งหลังแตะมือกับแก้มลูกชายแล้วเจ้าตัวสะดุ้ง “ดีเลย ไหนๆ มานี่แล้วทานข้าวเสร็จไปหาหมอเลย”

“ไม่เอา กินยาเดี๋ยวก็หาย มัมอย่าทำให้มันยุ่งน่า”

“แม่ตามใจเราตั้งแต่ที่นู่นแล้วนะ แด๊ดโทรตามหมอมาให้ตรวจก็ล็อคห้องหนีไม่ยอมให้หมอเข้าไป บอกอยู่นั่นแหละถ้าไม่ใช่หมอวาจะไม่ยอมให้ตรวจ”

“งั้นเหรอครับ” ทิวากานต์ขำกิ๊ก ทำท่ากวักมือเรียกเจ้าตัวยุ่งให้เข้ามาหา “มาๆ เดี๋ยวตรวจให้ฟรีเลย ลัดคิวให้ด้วย”

“มัม ผมไม่ได้พูดอย่างนั้นสักหน่อย”

“งั้นเหรอจ๊ะ” เธอหยิกแก้มลูกชายอีกทีก่อนชวนให้ทุกคนลงมือกินมื้อเที่ยง ตลอดเวลาบนโต๊ะอาหารตาสีซีดเอาแต่ลอบมองทิวากานต์ตลอด ชายหนุ่มยังดูมนุษยสัมพันธ์ดียิ้มแย้มแจ่มใสร่าเริงเกินจนน่าหมั่นไส้ เชื่อเถอะนอกจากอลันด์แล้วยังมีสายตาจากสาวๆ อีกนับสิบที่ลอบมองคุณหมออยู่เป็นระยะ

หลังจบมื้อทิวากานต์อาสาเป็นคนจ่ายค่าอาหารทั้งหมดเอง ทำให้เด็กฝรั่งรู้ว่าแม่ตัวเองเป็นคนจัดการนัดกับทิวากานต์ไว้ก่อนแล้วเพราะเห็นว่าอยู่ใกล้กันแค่แม่น้ำกั้น

“งั้นเดี๋ยวมื้อเย็นน้าจะเตรียมอาหารรอนะจ๊ะ”

“ครับ ผมจะรีบกลับไปเลย” ชายหนุ่มยิ้มประจบพลางลุกเดินตามมาดามโอเนลล์ออกจากร้านรั้งท้ายอยู่กับเด็กแสบสองคน พอพ้นสายตาผู้ใหญ่ฝ่ามือใหญ่นุ่มนิ่มจัดการขยี้หัวสีช็อกโกแลตเล่นทันที

“ด็อก!” อลันด์ดุเสียงเบา “หัวยุ่งหมดแล้ว”

“ตัวร้อนนะเรา” นอกจากไม่นำพากับคำต่อว่าแล้วยังเลื่อนฝ่ามือไปฝังตรงหลังคอคนเด็กกว่า “กลับไปกินยานอนซะนะ แล้วตอนเย็นจะไปดูให้”

เด็กฝรั่งพยักหน้ารับหงึกหงักก่อนเอื้อมมือดึงแขนเสื้ออีกฝ่ายไว้จนคนตัวสูงกว่าต้องก้มลงมอง ทิวากานต์หยุดเท้าเลิกคิ้วเชิงสงสัยดูเจ้าเด็กแสบทำหน้าแดงเดี๋ยวเม้มปากเดี๋ยวคลายเหมือนอยากพูดอะไรบางอย่างออกมา เขาไม่ชอบคนลังเลอมพะนำแต่เหมือนอลันด์จะเป็นข้อยกเว้นเพราะสายตาขอบคุณที่จ้องมาไม่มีหลบพูดแทนความในใจหมดแล้ว

“รู้แล้วน่า” มือข้างว่างยกขึ้นลูบหัวสีช็อกโกแลตที่ตัวเองทำยุ่งให้เข้าทรง ก่อนเริ่มเดินตามหลังมาดามโอเนลล์อีกครั้ง

คุณหมอส่งสองแม่ลูกขึ้นรถที่มารับ อลันด์ดูมีสีหน้าโล่งอกที่รู้ว่าไม่ต้องนั่งเรือข้ามฟากกลับไปอีกรอบ ได้ยินมาดามโอเนลล์พูดว่าจะพาลูกชายไปทำธุระบ้านคุณยายแถวสายสองก่อน สงสารแต่คนป่วยตะลอนทั้งวัน พรุ่งนี้มีหวังนอนซมแน่

“ขอบคุณมากนะคะคุณหมอ”

“ไม่เป็นไรครับ เราก็อย่าลืมกินยาล่ะแล้วเจอกันเย็นนี้” เขาโบกมือลาสองแม่ลูก ปิดประตูรถให้และรอจนซีดานคันใหญ่เคลื่อนตัวออกไปถึงค่อยข้ามถนนกลับไปทำงาน แต่ยังไม่ทันได้ก้าวเท้าเข้าเขตโรงพยาบาลหมอการันต์ก็โผล่หน้ามาพอดี

“ใครอ่ะ”

“ครับ?”

“ที่ส่งขึ้นรถไปตะกี้ ไม่ธรรมดานะเนี่ยนั่งเอสคลาสด้วย”

“อ๋อ” ทิวากานต์ลากเสียงยาวยิ้มเจ้าเล่ห์ “เอสคลาสนี่เด็กๆ ครับพี่ ปกติอยู่บ้านน้องเขานั่งโรลส์-รอยซ์”

“จริงป่ะเนี่ย แล้วพาแม่เขามานั่งกินข้าวงี้เนี่ยนะ”

“มันกะทันหันนี่นา ไปทำงานเหอะเดี๋ยวสายละโดนบ่น”

“เฮ้ยๆ อย่ามาเฉไฉนะเว้ย ตอบมาก่อนว่าหนุ่มน้อยน่ารักคนนั้นเป็นใคร ไหนบอกตอนนี้หาๆ อยู่ไง ทำไมเข้าหาแม่เขาแล้ว แล้วนี่ชอบผู้ชายตั้งแต่เมื่อไหร่ หนอย ทีวันก่อนละเล่นตัว ใช่ซี่ แอสตัน มาร์ตินกระจอกๆ จะสู้โรลส์-รอยซ์ได้เหรอ”

“ไปกันใหญ่แล้วพี่รัน พูดเสียงดังงี้เดี๋ยวคนอื่นเขาเข้าใจผมผิดกันพอดี” ชายหนุ่มหัวเราะเสียงใส เดินนำหนุ่มรุ่นพี่เข้าโรงพยาบาล

“อ้าว งั้นก็ตอบมาดิวะ”

“คำถามไหนก่อนดีครับ”

“ชอบผู้ชายตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมพี่ไม่รู้วะ”

“ผมยังชอบผู้หญิงอยู่พี่”

“อ้าว แล้วน้องคนนั้นเป็นใคร ทำไมมีจับขงจับแขนกระซิบเล่นหัว สนิทไปป่ะทีกับพี่ไม่เห็นมีงี้”

“พี่รันจำไอ้เด็กแสบที่ผมเคยเล่าให้ฟังตอนใกล้สอบได้ไหม ไอ้เด็กนั่นแหละ ทีนี้มีเรื่องกันอยู่ให้แม่เขารู้ไม่ได้เลยต้องกระซิบคุย แล้วพี่อย่ามาทำเป็นน้อยใจ ตอนผมเรียนกับพี่พี่ก็ชอบเล่นหัวผมออกบ่อย”

“เอ๊าะ ฉันลืมไปว่าแกเคยน่ารัก” การันต์หัวเราะ หากยังไม่หยุดจับผิดคนข้างตัว “แล้วทำไมมากินข้าวด้วยกันได้ล่ะ”

“วันนี้มีมอบตัวพอดี แม่เขาเลยพานั่งเรือข้ามฟากมากินข้าวด้วยแค่นั้นแหละพี่ หายข้องใจยัง มีคำถามอะไรอีกม่ะ”

“น้องเขามีแฟนยัง”

“เฮ้ย!” ถึงกับร้องเสียงหลง หันไปมองหน้าคนถามก็ดูกึ่งเล่นกึ่งจริงพาลเอาตอบกลับไม่ถูก “ถามทำไมเนี่ย”

“น่ารักดี”

“น่ารักตรงไหนกวนตีนจะตาย”

“อย่ามาทำหวงก้าง ฉันบอกแล้วถ้าจะสนผู้ชายขอแบบตัวเล็กน่ารัก น้องคนนั้นใช่เลยลูกครึ่งด้วยใช่ไหม”

“พี่รันครับผมไหว้ล่ะ ขอไอ้เด็กนี่ไว้คนแค่นี้มันกลุ้มใจจะแย่แล้วที่มีผู้ชายมาชอบมัน นะ...พี่รัน อีกอย่างพี่คงไม่อยากเสี่ยงเอาขาแหย่ตารางใช่ไหม”

“หึ หวงเหลือเกินนะคนนี้ ฉันจะเชื่อแล้วกันว่าแกไม่ได้คิดอะไรกับน้องเขา แค่ถามไปเล่นๆ ลองใจคนแถวนี้เท่านั้นแหละ ไม่เคยเห็นทำแบบนี้กับใครเลยนึกว่าแกใกล้จะสละโสด”

“พี่ไม่ต้องมาลองใจหรอก เดี๋ยวถ้ามีตัวจริงเมื่อไหร่จะพามาให้รู้จักเอง โอเคไหม”

“เออ ให้มันจริง”

ทิวากานต์ส่ายหัวพลางยิ้มขำ นายแพทย์รุ่นพี่ดูจะจริงจังกับการหาแฟนให้เขาเหลือเกิน ไม่รู้จะให้รีบไปไหนอายุเขาเพิ่งจะสามสิบมีเวลาหาอีกนาน

.
.
.

ออฟไลน์ NiTRoGeN14

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-1
    • คอนโดแมว
♥ . . . HEART ATTACK . . . ♥ --- TRACK 11 [25.10.15]
«ตอบ #112 เมื่อ25-10-2015 16:35:18 »

ตาสีซีดมองกริ่งหน้าประตูห้องฝั่งตรงข้ามลังเลครู่ใหญ่ ไม่แน่ใจว่าควรกดแบบมารยาทดีแค่ทีเดียวหรือทำอย่างเคยคือกระหน่ำรัวให้คนข้างในวิ่งตาลีตาเหลือกมาเปิดประตูให้ อยากเป็นเด็กดีอยู่บ้างหรอกนะแต่พอนิ้วแตะผิวพลาสติกมันก็เผลอย้ำถี่จนได้ยินเสียงคนข้างในวิ่งตึงตังออกมาถึงข้างนอก

ทิวากานต์เปิดประตูออกมาต้อนรับด้วยใบหน้าบูดบึ้งหัวเปียกน้ำหยดบนบ่าเปลือยติ๋งๆ ชายหนุ่มแยกเขี้ยวใส่แขกก่อนดีดหน้าผากไปหนึ่งที “บอกกี่ครั้งแล้วว่าให้กดกริ่งแค่ทีเดียวพอ แล้วนี่รหัสเปิดประตูก็ให้ไปแล้วทำไมไม่เข้ามาเลย”

“เข้าบ้านคนอื่นไม่เคาะประตูก่อนมันไม่ดีนี่นา”

“กดกริ่งแบบนี้ก็ไม่ดีเหมือนกันนั่นแหละ แล้วนี่มาทำไม แม่เรียกแล้วเหรอ” ปากบ่นไม่หยุดแต่เบี่ยงตัวใหญ่ๆ เปิดทางให้เด็กหนุ่มเข้ามาด้านใน ตาเรียวมองตามหลังอลันด์ที่เข้าไปนั่งแหมะตรงชุดโซฟาสุดโปรดของแม่เขา สีหน้าเด็กหนุ่มดูดีขึ้นกว่าตอนกลางวันนิดหน่อย ปลายจมูกแดงเหมือนกวางเรนเดียร์จนกังวลว่าอาจได้จ่ายยาลดน้ำมูกและเสมหะให้อีกคน

“ยังอ่ะ มัมเพิ่งเอาหมูไปอบเมื่อกี้เอง”

“แล้วรีบมาทำไมเนี่ย” บ่นเป็นคนแก่อีกรอบ พอเห็นว่าเด็กแสบไม่สนใจแถมยังหยิบรีโมทมาเปิดดูทีวีประหนึ่งเป็นบ้านตัวเองถึงยอมถอยก้าวกลับขึ้นไปข้างบน แต่งตัวเรียบร้อยลงมาอีกทีเห็นเด็กฝรั่งนอนกอดหมอนดูละครเย็นไปแล้ว

“ละครปัญญาอ่อน” ปากว่างั้นแต่เห็นตาสีซีดจ้องไม่กระพริบ

“แล้วจะดูทำไม เอารีโมทมานี่ ฉันจะดูข่าว” เขาตรงเข้าไปแย่งรีโมทมาจากมือเด็กอีกคน ใช้เท้าเขี่ยขาตันๆ ของอลันด์ให้เขยิบไปก่อนนั่งลงแทนที่ แล้วภาพละครเย็นก็เปลี่ยนเป็นรายงานข่าวต่างประเทศ

พวกเขาปล่อยให้เสียงผู้รายงานข่าวบนหน้าจอลอยผ่านหูเป็นเวลาหลายนาทีก่อนคนแก่กว่าจะทำลายความเงียบขึ้น ปลายนิ้วเนียนแตะบนหลังคอไอ้ตัวแสบก่อนลูบเบาๆ คล้ายลูบขนแมวเมื่ออีกฝ่ายสะดุ้งตกใจแล้วกลับไปนั่งนิ่งเหมือนเดิมปล่อยให้เขาจับเล่น

ทิวากานต์ทั้งหนักใจทั้งอ่อนใจ เด็กฝรั่งปากหนักเก็บปัญหาไว้กับตัวทุกคนแบบนี้เลยหรือเปล่า คราวนี้เจ็บถึงขั้นป่วยเป็นสัปดาห์ยังไม่ยอมปริปากบอกเขาสักคำต้องให้เขาเริ่มก่อนทุกทีจนกลัวว่าบางทีจะจุ้นจ้านกับชีวิตอีกคนเกินไป แต่ถ้าปล่อยไว้เฉยๆ เขาก็ทำไม่ได้อยู่ดี

“มานั่งนี่มา” เขาตบตรงที่ว่างข้างตัว มืออีกข้างจับข้อเท้าขาวดึงให้อลันด์ลุกขึ้นมานั่งดีๆ

ไอ้ตัวแสบอิดออดนิดหน่อยแต่ก็ยอมมานั่งเบียดต้นขาข้างเขาทั้งที่โซฟาออกใหญ่ปล่อยให้คุณหมอจับนู่นดูนี่ ทิวากานต์ไม่ได้แตะลงเต็มแต่ใช้วิธีแตะเพียงผิวเผินลากไปตามส่วนอื่น หากเพราะปลายนิ้วยังเย็นด้วยเพิ่งอาบน้ำเสร็จพอมาโดนคนอุณหภูมิสูงกว่าปกติร่างขาวจึงสะดุ้งทุกทียามสัมผัสกัน

สำรวจแผลส่วนพ้นร่มผ้าได้พักใหญ่ เสียงถอนหายใจจึงดังขึ้นท่ามกลางเสียงพูดจากในทีวี อลันด์หน้าเสียเกิดความกลัวไม่รู้สาเหตุขึ้นมาลึกๆ ในใจ เขารู้ดีว่าแผลมันแย่มาก ขนาดผ่านมาหลายวันแล้วแต่สิ่งที่เขาเห็นจากกระจกยังน่ากลัวเหมือนเพิ่งเกิด

ไม่ได้ชอบที่เป็นแบบนี้ ไม่ใช่ไม่ได้ห้าม เขาพยายามปกป้องตัวเองอย่างที่สุดแล้วแต่ก็ยังสู้อีกคนไม่ได้ มันน่าเจ็บใจจนไม่กล้าบอกใครให้รู้ถึงความอ่อนแอของตัวเอง

“ร้องไห้ทำไม ยังไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย”

“ใครร้องไห้ ไม่ได้ร้องสักหน่อย”

คุณหมอวัยสามสิบยิ้มอ่อนอกอ่อนใจ ไอ้ที่จะโกรธๆ เมื่อกี้หายวับ เขาแกล้งขยี้กลุ่มผมนุ่มจนฟู แขนยาวเอื้อมออกไปข้างหน้ารั้งคอคนเด็กกว่าเข้ามากอด “อย่าหาว่าเสือกเลยนะ แต่บอกได้ไหมว่ามันเกิดอะไรขึ้น”

“ผมไม่รู้จะพูดยังไงดี ผมทำอย่างที่ด็อกบอกแล้ว เอาตัวไปติดกับเจมส์ พยายามไม่อยู่กับทอมสองคน มันโอเคเลย แต่ว่า...” เสียงแหบห้าวเงียบไปพร้อมกับหัวทุยซุกเข้าหาอกคุณหมอมากกว่าเดิม “คืนก่อนบินทอมขอมานอนที่บ้านด้วย หมอนั่นมีไฟลท์ไปมิวนิควันรุ่งขึ้นเหมือนกัน ผมไม่อยากให้ทอมมาแต่ไม่รู้จะเลี่ยงยังไง จะชวนเจมส์มาค้างด้วยหมอนั่นดันติดธุระไปเยี่ยมคุณยายที่เอดินเบอระพอดี”

“...”

“ผมถ่วงเวลาแล้วนะแต่หมอนั่นทำให้ผมทำอะไรไม่ได้ ด็อกเข้าใจใช่ไหมผมไม่เคยสู้ทอมได้เลย ผมไม่รู้เขาไปโมโหใครมาจากไหน อาจจะโกรธผมก็ได้ที่ละเลยเขามากเกินไปในช่วงเวลาที่เหลือ เขาลงโทษผม กัดผมทำรอยทิ้งไว้ทั้งตัว  ทอมน่ากลัวมากเหมือนไม่ใช่คนที่เคยจูงมือผมไปโรงเรียนอีกแล้ว ไม่ว่าผมจะร้องไห้อ้อนวอนแค่ไหนเขาก็ไม่สนใจ เอาแต่พูดว่าถ้าปล่อยผมไปตอนนี้เขาต้องโง่มากแน่ๆ บอกว่าผมเป็นของเขา...จะทำให้ผมเป็นของเขา”

ทิวากานต์กัดกรามจนปวดหนึบหัวใจเขาเต้นแรงไปด้วยความโกรธ สิ่งที่อลันด์เล่าไม่ได้แตกต่างจากเคสคนไข้ถูกข่มขืนที่เขาเคยเจอสักนิด เด็กหนุ่มตัวสั่นตลอดเวลาที่พูดถึงช่วงเวลายากลำบากออกมา หากเขาทำได้เพียงกอดเอาไว้เท่านั้น

“ทะ ทอมพยายาม...”

“พอแล้วๆ ฉันรู้แล้ว ชู่ว... ไม่ร้องนะ” ชายหนุ่มกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้น มือข้างหนึ่งลูบผมอลันด์เบาๆ

“ทอมทำร้ายมิวมิวด้วย มิวมิวพยายามมาช่วยผมเลยถูกไอ้บ้านั่นจับเขวี้ยง ตอนนี้มันยังเดินกะเผลกอยู่เลย” พอหยุดร้องไห้ก็ฟ้องฉอดๆ กลับมาปากกล้าเหมือนเดิม ตาสีซีดเงยขึ้นมองหน้าคุณหมอ ปากหยักเชิดขึ้น เจ็บตัวไม่เท่าไหร่แต่มาทำร้ายแมวรักมันน่าโมโหที่สุด

“เธอควรแจ้งความนะ”

“นั่นเป็นเรื่องที่ยากที่สุดเลยรู้ไหม ช่างมันเถอะ...อย่างน้อยเขาก็ไม่ได้สอดใส่เข้ามา”

“อ้าว ฉันนึกว่า...” ทิวากานต์อ้าปากค้าง เห็นร้องห่มร้องไห้ไหนจะรอยแผลเต็มตัวอีกเขาก็นึกว่าไอ้ตัวแสบเสร็จหมาบ้าพลังอย่างโธมัสไปแล้วน่ะสิ คุณหมอถอนหายใจเฮือกหลงคิดไปแล้วว่าเด็กแสบมันถูกทะลวงประตูหลังจนเจ็บหนัก ที่ไหนได้...

“ไอ้นั่นทอมใหญ่มากผมเจ็บชิงช็อคสลบไปก่อน ถ้ารู้ว่าเป็นแบบนี้ผมยอมสลบตั้งแต่ตอนทอมเริ่มปล้ำแล้วล่ะ”

เขาตบหัวอีกคนเบาๆ ก่อนลุกไปหยิบอุปกรณ์ตรวจกับกล่องยามาเตรียมตรวจคนไข้นอกเวลา งานนี้ตรวจฟรีขาดทุนสุดๆ นี่เห็นว่าสงสารหรอกนะไม่งั้นไม่ยอมหรอกปกติเขาค่าตัวแพงจะตาย

ไม่นานร่างสูงใหญ่เดินกลับมาพร้อมอุปกรณ์ตรวจ สั่งให้อลันด์ถอดเสื้อดูรอยแผลที่เริ่มแห้งตกสะเก็ดเหลือเพียงรอยม่วงช้ำ ใบหน้าหล่อเครียดขึงทุกครั้งที่เจอรอยฟันตามตัวเด็กหนุ่ม เขาบอกว่ารอยพวกนี้อาจทิ้งแผลเป็นได้ พยายามอย่าแกะแผลรอให้แห้งแล้วลอกไปเองค่อยเอายาทาแก้แผลเป็นมาทาอีกทีแล้วตรวจวัดไข้ตามปกติ คิ้วหนาขมวดเข้าหากันนิดหน่อยตอนฟังเสียงปอดแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา 

“มียากินอยู่แล้วหรือเปล่า”

“ไม่มีอ่ะ”

“งั้นเดี๋ยวสั่งยาให้ ค่อยไปซื้อที่ร้านขายยาเอา”

“ไม่กินได้ไหม ไม่ชอบกินยา”

“งั้นต้องงดใช้เสียงเกินความจำเป็น ช่วงนี้ห้ามร้องเพลง ไม่ดื่มน้ำเย็น ทำคอให้อุ่น นอนเยอะๆ โอเคไหม”

“โอเค” เจ้าตัวแสบรีบพยักหน้าหงึกหงักก่อนทำหน้าแหยเมื่อคุณหมอพูดคำว่า ‘แต่’ ขึ้นมา “แต่อะไรอีก”

“ตรวจสุขภาพประจำปีบ้างหรือเปล่า”

“อ่าฮะ”

“แล้วหมอไม่พูดอะไรเลยเหรอ”

“ไม่นิ”

“เมื่อกี้ตอนตรวจได้ยินเสียงหัวใจดังแปลกๆ นะ แต่ยังไม่แน่ใจจะขอฟังอีกที”

“หา?” เด็กหนุ่มทำหน้ามึน “หลอกผมหรือเปล่าเนี่ย”

“จะหลอกไปเพื่ออะไรเงินก็ไม่ได้ เอ้า นั่งหลังตรง หายใจเข้าช้าๆ ลึกๆ นะ” คุณหมอศัลย์รีบสั่งแต่อีกคนไม่ให้ความร่วมมือเอาเสียเลย ทิวากานต์จำต้องออกแรงจัดท่านั่งเด็กแสบให้นั่งดีๆ แล้วเอาสเตธใส่หูอีกครั้ง “ไม่ต้องตื่นเต้นเพราะเห็นว่าฉันหล่อล่ะ”

“ใครมันจะไปใจเต้นกับด็อกกัน” เถียงกลับไปก่อนมองอีกฝ่ายที่ดูจะจริงจังเกินกว่าเป็นเรื่องล้อเล่นแล้วต้องหุบปากเงียบยามคุณหมอแนบเครื่องมือเข้ากับหน้าอกตรงที่มีก้อนเนื้อเท่ากำปั้นเต้นตุบๆ อยู่ข้างใน ทิวากานต์หรี่ตาลงเหมือนคิดอะไรอยู่ เกือบนาทีถึงยอมถอยออกไป

“อืม... น่าจะเป็นผนังห้องบนซ้ายรั่ว”

“อะไรนะด็อก! อะไรรั่ว!!!” เสียงทุ้มแหบแผดขึ้นมาทันทีที่ได้ยินคำว่ารั่ว

“ผนังกั้นห้องหัวใจรั่ว เสียงมันดังฟู่ๆ แต่ยังเบาอยู่ อยากให้แน่ใจคงต้องไปตรวจละเอียดที่โรงพยาบาลอีกที อันนี้ซีเรียสนะ”

“มันน่ากลัวมากไหมด็อก ผมจะตายหรือเปล่า”

ฟังคำถามแล้วอยากจะหัวเราะ ทิวากานต์กลั้นขำจนตัวงอ “ไม่ตายหรอกน่าถ้ารักษาทัน แล้วดูเหมือนจะรั่วไม่มาก แต่บอกแล้วว่าต้องไปตรวจที่โรงพยาบาลให้แน่ใจก่อน จะที่โรงพยาบาลลุงเธอก็ได้ที่นั่นมีอาจารย์ที่เชี่ยวชาญด้านนี้เยอะอยู่ หรือจะที่ทำงานฉันก็มีอาจารย์ที่นับถือถนัดเรื่องนี้”

“จริงเหรอ”

“แล้วกัน นี่หมอหัวใจนะไม่เชื่อหมอแล้วจะให้ไปเชื่อใคร”

“มันดูน่ากลัวนี่นา ใครจะไปคิดล่ะว่าจู่ๆ จะเป็นโรคหัวใจขึ้นมา”

“ไม่ต้องห่วงไม่มีอะไรน่ากลัว แต่ถ้าปล่อยปละไม่สนใจได้น่ากลัวของจริงแน่ ส่วนนี่เดี๋ยวฉันไปบอกแม่เธอให้”

“อย่าเพิ่งบอกได้ไหม” เด็กหนุ่มทำเสียงอ่อยทำท่าหางลู่หูตก “เดี๋ยวมัมตกใจรอตรวจละเอียดก่อนค่อยบอกก็ได้ อีกอย่างถ้าไปตรวจตอนนี้หมอต้องเห็นเอ่อ... ไอ้รอยพวกนี้แน่เลย แล้วก็ไปตรวจที่โรงพยาบาลด็อกได้ใช่ไหม ต้องทำยังไงบ้างอ่ะ ไม่ไปโรงบาลคุณลุงนะเดี๋ยวมัมรู้”

“ก็โทรไปจองคิวตรวจ แต่เดี๋ยวฉันนัดอาจารย์เขาให้ดีกว่า เธอสะดวกวันไหนก็บอกมาแล้วกัน”

“ขอหลังมัมกลับลอนดอนไปแล้วนะ สักต้นเดือนหน้าได้ไหม”

ทิวากานต์พยักหน้ารับแล้วค่อยจับอลันด์นั่งนิ่งๆ อีกครั้งเพื่อใช้ไฟฉายส่องตรวจช่องปากก่อนบอกให้เด็กหนุ่มรักษาสุขภาพฟันให้ดีเป็นพิเศษในช่วงนี้ ถ้ามีเหตุไปหาหมอฟันก็ให้มาแจ้งเขาก่อน แม้จะไม่ค่อยเข้าใจว่าสุขภาพช่องปากเกี่ยวอะไรกับโรคที่คิดว่าเขาน่าจะเป็นแต่อลันด์พยักหน้ารับฟังแต่โดยดี

คุณหมอตัวสูงลุกเก็บอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่เอาออกมาไว้ที่เดิม ตาเหลือบดูนาฬิกาจะทุ่มครึ่งแล้วมาดามโอเนลล์น่าจะทำมื้อค่ำเสร็จพอดีเลยชวนกันไปห้องฝั่งตรงข้าม ไม่ลืมลูบหัวอีกคนเล่นเบาๆ ผมเจ้าเด็กนี่นุ่มเหมือนขนแมวทำเอาเขาเพลินมือทุกที

หลังกินมื้อค่ำเสร็จอลันด์ถึงนึกได้ว่าฝากคุณหมอจัดการเรื่องรถให้ เด็กฝรั่งหน้าขาวตาวาวตอนชายหนุ่มบอกว่ารถจอดอยู่ข้างล่าง รบเร้าจะให้พาไปดูไปลองขับเสียเดี๋ยวนั้น ขนาดแม่มันบอกไว้พรุ่งนี้ก็ไม่ฟังจะรีบวิ่งออกจากห้องไปดูแล้วทิวากานต์จะห้ามอะไรได้ เขาเดินกลับไปเอากุญแจรถที่ห้องมายื่นให้เด็กหนุ่มแล้วพากันกระเตงลงไปดูรถที่ลานจอด

ทันทีที่เห็นรถส่งนมคันสีขาวล้วนตรงหน้าเจ้าเด็กฝรั่งแทบวิ่งไปกอด ชูพวงกุญแจรถขึ้นมองงงๆ หาปุ่มกดปลดล็อคจนเจอถึงได้พุ่งเข้าไปเปิดประตูนั่งประจำที่คนขับรอยยิ้มฉาบเต็มใบหน้า ดีใจมากจนหน้ากับหูแดงแจ๋

“ว้าว กว้างสุดๆ” ว่าแล้วก็จัดการเสียบกุญแจสตาร์ทเครื่องทันที ทิวากานต์มองทั้งขำทั้งอ่อนใจ แกล้งกระแอมหนักๆ ไปสองที

“แน่ะๆ แม่เขาให้แค่ลงมาดูไม่ใช่หรือไง”

“ลองขับนิดเดียวน่า”

“มีใบขับขี่แล้วหรือไง”

“ระดับนี้สอบรอบเดียวผ่าน”

“ขี้โม้ วันนี้ขับแค่ในคอนโดก่อนแล้วกัน” ถึงจะว่าอย่างนั้นแต่ก็ยอมให้เด็กแสบได้ลองรถตามประสาเข้าใจหัวอกผู้ชายเหมือนกัน เขาเปิดประตูเข้าไปนั่งที่นั่งข้างคนขับ คาดเข็มขัดเรียบร้อยดูเจ้าเด็กขี้โม้ออกรถด้วยความนิ่มนวล

“โอ๊ะ เกียร์ๆ”

เจ้าตัวร้องออกมานิดหน่อยเพราะยังไม่คุ้นชินกับเกียร์ที่อยู่ตรงพวงมาลัยรถ หากเพียงครู่เดียวก็ขับเจ้ารถส่งนมได้คล่อง ทิวากานต์ถึงกับต้องออกปากห้ามเมื่ออลันด์ได้ใจถึงขั้นจะออกไปข้างนอก เด็กแสบอิดออดนิดหน่อยแต่พอเอาแม่มาขู่ก็ยอม

“มีแต่รถสีขาวเนอะ” อลันด์ว่าหลังจากลงรถมาดูฝีมือการจอดของตัวเอง ข้างๆ รถส่งนมก็เป็นรถอีกสามคันของทิวากานต์นั่นแหละ ดูแล้วเด่นสะดุดตาดีรถขาวล้วนจอดเรียงสี่คันติดล่อเป็นรถยุโรปไปซะสามมีรถญี่ปุ่นเล็กๆ แทรกกลางมาคันเดียว

“เดี๋ยวจะขายคันนู้นแล้ว” ทิวากานต์ชี้นิ้วไปที่บีเอ็มดับบริวซีโฟร์ หลังจากแยกกับป้าอิงวันถัดมาขัตติยาก็โทรมาคุยเรื่องรถ ตกลงราคากันเรียบร้อยรอมาดูสภาพจริง อีกไม่กี่วันข้างหน้านี้คงได้ฤกษ์ลา

“อ้าว ขายทำไมล่ะ”

“อยู่คนเดียวจะมีรถไว้ใช้ทำไมตั้งสามคัน เปลืองจะตาย อีกอย่างจะได้ไม่ต้องเบียดเบียนที่จอดรถเธอด้วยไง”

“น่าเสียดายเหมือนกันเนอะ ผมว่ามันก็เท่ดี”

“ช่างมันเถอะ ทุกอย่างมีพบก็ต้องมีจากเป็นเรื่องธรรมดา” เขาขยี้หัวเด็กตัวเท่าไหล่จนยุ่งก่อนชวนกันกลับขึ้นไปบนห้อง ไม่ลืมกำชับให้อีกคนงดใช้เสียงเกินความจำเป็นและพักผ่อนเยอะๆ เอาเรื่องรถมาล่ออีกทีว่าถ้าหายแล้วจะยอมนั่งรถเล่นเป็นเพื่อน เท่านั้นเจ้าเด็กแสบก็รีบวิ่งเข้าห้องไปนอนทันที

เด็กหนอ...เด็ก เจอของเล่นใหม่ก็ลืมความทุกข์ง่ายดายเหลือเกิน



TBC

เห็นคอมเม้นต์ถามบ่อยมากว่าจะรักกันยังไงจะรักกันเมื่อไหร่ไม่เห็นแววสักที (ฮา)
ใกล้แล้วค่ะ เขาใกล้จะรักกันแล้วค่ะ ;-;

คืออยากให้เข้าใจหน่อยเนอะว่าอิพี่วาอายุไม่ใช่น้อยๆ แล้ว อยู่ในวัยจะสร้างครอบครัวเป็นหลักแหล่งเสียที
จะให้มาแบบเจอหน้าปุ๊บปิ๊งเลย รักกันจิ๊จ๊ะคงไม่ใช่เพราะพี่แกก็ผ่านมาเยอะ แก่ทั้งอายุและประสบการณ์
แถมช่องว่างระหว่างวัยของคู่นี้มันน้อยเสียทีไหน ขอเวลาปรับจูนกันนิดนึงค่ะ
แต่รับรองว่าจูนกันติดแล้วจะน่าหมั่นไส้น่าถีบไม่น้อยทีเดียว

ตอนนี้ขอฝากนิยายอีกเรื่องนึงด้วยนะคะ LOVE | HATE : ลวงใจ เพราะตัวละครจากเรื่องนู้นจะมีโผล่มาสร้างสีสันเล็กน้อยในเรื่องนี้ด้วยค่ะ
เรื่องลวงใจเคยลงไปแล้วครั้งนึงแต่หยุดไม่ได้ต่อจนโดนลบ(เพราะมัวแต่เขียนอิพี่วากะน้องอัล) คราวนี้จะลงให้จบ
ฝากด้วยนะคะ *กราบ*

วันนี้เม้าท์ยาวอ่ะ แล้วเจอกันใหม่ตอนหน้าค่ะ
ขอบคุณทุกความคิดเห็น

จุ๊บ

 :mew1:

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
เฮ้อ....ถ้าอัลโดนข่มขืน ก็จะไม่สงสารหรอกนะ






ในเมื่อเวลาดื้อจะมาเรียนร้องเพลงยังดื้อได้ทำได้






ก็แค่บอกพ่อ บอกแม่ ให้รับรู้ว่าตัวเองจะโดนข่มขืน ทำไมบอกไม่ได้






หมอวาเข้าข้างอัล เลยมองว่าอัลไร้เดียงสา






แต่ ป้าว่า อัลมันก็ให้ท่าทอมเหมือนกันแหละ เรื่องมันถึงมาใกลเกือบกู่ไม่กลับแบบนี้






ไม่ปลื้มอัลแล้ว ที่เอาแต่ปกป้องเพื่อนที่รังแกตัวเองจนบาดเจ็บยังไม่ให้ใครรู้อีก :ling1:

ออฟไลน์ waterlily

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 150
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
อย่างหนูอัลอ่ะเขาเรียกว่ารักเพื่อนมากจนเกินไป จนทำร้ายตนเอง เพราะอย่างที่โธมัสทำกับอัลเขาไม่เรียกว่าความรักหรอก เขาเรียกว่า "  ต้องการเอาชนะ "  o22

ออฟไลน์ coupdetat

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 5
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :katai1: :katai1: ขัดใจจจจ!! ทั้งหมอวา ทั้งอัลเลย

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
คือแบบทอมน่ากลัวไปน่ะ เข้าใจว่าอัลรักเพื่อนแต่แบบนี้มันเกินไปแล้วจริงๆ งานนี้พี่หมอคงต้องค่อยๆสอนอัลลาะ  ถึงจะแสบและดื้อขนาดไหนแต่อัลใสมาก มากขนาดที่ยอมทอมมานานขนาดนี้ไงล่ะ ถ้าไม่ใช่ว่าเพราะมีหมอสอนหมอเตือป่านนี้คงเสร็จทอมไปแล้ว...แล้วอาการป่วยตอนนี้อีก  โอ้ย....จะสงสารก็สงสารไม่สุดอ่ะ

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
ทอมน่ากลัวมาก คงไม่ได้เจอกันอีกแล้วนะ
การกระทำเข้าขั้นรุนแรงเกินจะเป็นเพื่อนแต่ก็เข้าใจอัลอีกนั่นแหละ
ทั้งรักทั้งกลัว ถ้าบอกผู้ใหญ่ก็กลัวเสียเพื่อน ได้แต่อดทน
ได้ใจก็ตรงน้องอัลคิดถึงหมอวาและไว้ใจพี่หมอมาก
เอิ่ม...ส่วนหมอรันนี่ยังไง เดี๋ยวหยอด ๆ หมอวา แถมมาเล็งเด็กแสบอีก

ออฟไลน์ Nunun_B2UTY

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2

ออฟไลน์ pim-lovemj

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
 :hao5: สงสารน้องอัลจังเลยอ่ะ ทอมโหดร้ายมาก พี่หมอวาดูแลน้องดี ๆ ล่ะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด