♥ มหา'ลัย มาหารัก ♥ THE END
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ♥ มหา'ลัย มาหารัก ♥ THE END  (อ่าน 552257 ครั้ง)

ออฟไลน์ premierfour

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 62
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
Re: ♥ มหา'ลัย มาหารัก ♥
«ตอบ #30 เมื่อ09-09-2015 22:17:39 »

 :katai3:

ออฟไลน์ megatef4

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 82
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
Re: ♥ มหา'ลัย มาหารัก ♥
«ตอบ #31 เมื่อ11-09-2015 00:33:32 »

เราชอบวิศวะกรรมประสาทมาก ฮ่าๆ 
ติดตามและเป็นกำลังใจให้นะคะ  สู้ๆค่าาา  :L2:

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4015
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
Re: ♥ มหา'ลัย มาหารัก ♥
«ตอบ #32 เมื่อ11-09-2015 18:35:18 »

สร้างแลนด์มาร์คคค

ออฟไลน์ May@love

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 828
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-2
Re: ♥ มหา'ลัย มาหารัก ♥
«ตอบ #33 เมื่อ12-09-2015 05:22:43 »

ปูเสื่อรอ :katai3:

ออฟไลน์ hoshichi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1
Re: ♥ มหา'ลัย มาหารัก ♥
«ตอบ #34 เมื่อ12-09-2015 05:28:11 »

ปูเฉื่อๆๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ bigcat1889

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 24
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: ♥ มหา'ลัย มาหารัก ♥
«ตอบ #35 เมื่อ12-09-2015 19:19:16 »

ปูเสื่อรอ ต้องสนุกแน่ๆเลย ;p

ออฟไลน์ kiyomine

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 181
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
Re: ♥ มหา'ลัย มาหารัก ♥
«ตอบ #36 เมื่อ12-09-2015 21:20:43 »

ยังอยู่ช่วงเตรียมเอนท์ยังไม่เข้ามหาลัย????????
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-09-2015 07:37:15 โดย kiyomine »

ออฟไลน์ Wordslinger

  • แป้งจี่รีรีข้าวสาร
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2384
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1180/-5
Re: ♥ มหา'ลัย มาหารัก ♥
«ตอบ #37 เมื่อ13-09-2015 13:37:01 »

ขอเข้ามารอในคลังเรื่องสั้นน่าอ่านของคุณจิตติด้วยคนค่ะ  :katai2-1:

ออฟไลน์ oss_tw

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 154
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
Re: ♥ มหา'ลัย มาหารัก ♥
«ตอบ #38 เมื่อ13-09-2015 16:30:44 »

 :กอด1:

รอลุ้น

รอลุ้น

จ้า

ออฟไลน์ BeeQ

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 59
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
Re: ♥ มหา'ลัย มาหารัก ♥
«ตอบ #39 เมื่อ16-09-2015 12:05:13 »

รอค่าาาา :hao7:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ♥ มหา'ลัย มาหารัก ♥
« ตอบ #39 เมื่อ: 16-09-2015 12:05:13 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ bpyt

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1340
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
Re: ♥ มหา'ลัย มาหารัก ♥
«ตอบ #40 เมื่อ16-09-2015 21:34:23 »

มาลงชื่อรอด้วยคนค่ะ ^^

ออฟไลน์ Zelsy

  • เพราะ "รัก" คำเดียวเท่านั้น
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-2
Re: ♥ มหา'ลัย มาหารัก ♥
«ตอบ #41 เมื่อ17-09-2015 05:58:14 »

เข้ามารออ <3

ออฟไลน์ MinkMinkiie

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 15
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: ♥ มหา'ลัย มาหารัก ♥
«ตอบ #42 เมื่อ24-09-2015 08:08:22 »

รอ ร้อ รอ

ออฟไลน์ cchompoo

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-4
Re: ♥ มหา'ลัย มาหารัก ♥
«ตอบ #43 เมื่อ24-09-2015 21:23:14 »

รอค่ะรอ  :mew3:

ออฟไลน์ Tatangth

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 432
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: ♥ มหา'ลัย มาหารัก ♥
«ตอบ #44 เมื่อ29-09-2015 13:45:24 »

มารอฮะ  :katai5:

ออฟไลน์ snoopy

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 726
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-1
Re: ♥ มหา'ลัย มาหารัก ♥
«ตอบ #45 เมื่อ29-09-2015 17:05:19 »

รออ่านน้าา

ออฟไลน์ khwanruen

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1051
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-3
Re: ♥ มหา'ลัย มาหารัก ♥
«ตอบ #46 เมื่อ29-09-2015 23:54:49 »

รอพยายามศาสตร์จ้า

ออฟไลน์ yearrayoeng

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
Re: ♥ มหา'ลัย มาหารัก ♥
«ตอบ #47 เมื่อ30-09-2015 00:29:39 »

รอพยายาม รอ รอ ร้อ รอ

ออฟไลน์ screaminoflve

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 59
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: ♥ มหา'ลัย มาหารัก ♥
«ตอบ #48 เมื่อ30-09-2015 01:08:38 »

เห็นชื่อพี่จิตติปุ๊บจิ้มเข้ามาปั๊บเลย
มารอลงชื่อทวง เอ้ย! ลงชื่อให้กำลังใจค่าาา

ออฟไลน์ Toon_TK

  • เ ด็ ก อ้ ว น
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 742
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
Re: ♥ มหา'ลัย มาหารัก ♥
«ตอบ #49 เมื่อ30-09-2015 10:55:06 »

ปูเสื่อรอจ้าาาาา~

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ♥ มหา'ลัย มาหารัก ♥
« ตอบ #49 เมื่อ: 30-09-2015 10:55:06 »





ออฟไลน์ packy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 176
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: ♥ มหา'ลัย มาหารัก ♥
«ตอบ #50 เมื่อ30-09-2015 20:43:38 »

 :ruready   เข้ามาปูเสื่อรอ

ออฟไลน์ Wtftt

  • โอกาสก็เหมือนไอติมถ้าไม่กินมันก็ละลาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 253
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: ♥ มหา'ลัย มาหารัก ♥
«ตอบ #51 เมื่อ02-10-2015 01:34:58 »

 :impress2: น่าติดตามค่า

ออฟไลน์ Miiso

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 51
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: ♥ มหา'ลัย มาหารัก ♥
«ตอบ #52 เมื่อ05-10-2015 19:22:22 »

จิตติ  มารออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออ

ออฟไลน์ Tatangth

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 432
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: ♥ มหา'ลัย มาหารัก ♥
«ตอบ #53 เมื่อ05-10-2015 23:39:10 »

เข้ามารอฮะ  :katai5:

ออฟไลน์ QXanth139

  • ♡동해 #Always13
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
Re: ♥ มหา'ลัย มาหารัก ♥
«ตอบ #54 เมื่อ06-10-2015 01:47:09 »

รออยู่ :กอด1:

ออฟไลน์ ที่เดิมในหัวใจสาววาย

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
Re: ♥ มหา'ลัย มาหารัก ♥
«ตอบ #55 เมื่อ08-10-2015 01:32:22 »

 :katai5: :katai5: :katai5:

ออฟไลน์ littlegift

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: ♥ มหา'ลัย มาหารัก ♥
«ตอบ #56 เมื่อ10-10-2015 17:21:23 »

ปักรอเลยค่ะ  :katai4: :katai2-1:

ออฟไลน์ นางสาวกานาเลส

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 236
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
Re: ♥ มหา'ลัย มาหารัก ♥
«ตอบ #57 เมื่อ10-10-2015 21:59:58 »

อยากอ่านมากกกกก ก็คิดอยู่ว่าเมื่อไหร่คุณจิตติจะมาต่อเรื่องที่ 3 ตอนนี้ มีอัพเดทเพิ่มเป็น 10 เรื่อง โฮกกกกกกกกกกก ติดตามตามติดสุดๆเลยค่ะ   :hao7:   :katai2-1:

ออฟไลน์ Jittirain12

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1238/-18


พยายามศาสตร์



“ดากานดา...ฉันรักแกว่ะ”
“แกมาทำอะไรเอาตอนนี้”




ฮึก...ซีนอารมณ์ เข้าถึงจิตวิญญาณ นี่สินะหัวใจของคนแอบรักแล้วไม่สมหวัง

ผัวะ!!

“มึงร้องไห้ทำเหี้ยอะไรเนี่ย” เสียงตะโกนโหวกเหวกโวยวายของเพื่อนในกลุ่มทำให้ผมหลุดจากภวังค์แห่งความซาบซึ้งของหนังเรื่องเพื่อนสนิท เงยหน้าขึ้นมาผสานสายตากับไอ้พวกวิปริตนี่แทน แม่งทำไมตอนกูจะอินชอบมาขัดฟีลตลอดเลยวะ

“พวกมึงไม่เข้าใจอารมณ์ของฮิปสเตอร์หรอก”

“ฮิปห่าอะไรของมึง กูเห็นมึงดูเรื่องนี้เป็นร้อยรอบละ ทำไม! มึงเป็นญาติกับผู้กำกับหนังเหรอ”

“มึงรู้ได้ไง”

“สัด!” อ้าว...ทีกูกวนตีนกลับเสือกไม่รับมุก

พอเห็นว่าพูดไปผมก็ไม่ฟัง เพื่อนในกลุ่มเลยหันไปเล่นเกมกันต่อ ทิ้งให้ผมล้วงมันฝรั่งทอดรสกะเพรามากินสร้างบรรยากาศต่อไป ลืมไปเถอะเรื่องที่พูดกันก่อนหน้านั้น ต่อให้โลกจะแตก แผ่นดินจะแยก โดนธรณีสูบตายห่ายังไงผมก็ต้องเอาแผ่นหนังเรื่องเพื่อนสนิทเหน็บจั๊กกะแร้หนีไปด้วยกันให้ได้ เพราะมันเป็นของรักของหวงที่สุดในชีวิต

ของรักที่เข้ากับอารมณ์ในตอนนี้สัดๆ ไม่สิ! เข้ากับอารมณ์ทุกช่วงของชีวิตมหา’ลัยกูเนี่ยแหละ

“เฮ้ยพวกมึง! เดี๋ยวเล่นเกมเสร็จแล้ว ออกไปอ่อยสาวข้างนอกมั้ย”

“จัดเลย!!”

“กูขอบายว่ะ” ผมแทรกขึ้น วันนี้หมดอารมณ์ ขอกูดื่มด่ำและซาบซึ้งกับหนังเพื่อนสนิทก่อนนะ

“เออ เรื่องของมึง” พวกแม่งสามตัวยังคงคุยกันสนุก ส่วนผมก็ดูหนังต่อไปไม่ได้สนใจอะไรหรอก แต่เสียงแหบๆ ของเพื่อนรักหักเหลี่ยมแค้นมันเสือกดังเข้าหูแค่นั้นเอง

“ไปที่ไหนดีวะ”

“บังอรโภชนามั้ย”

“สัด! ร้านแม่งเปิดดึก เอาที่เปิดตอนนี้ดิวะ”

“ร้านกาแฟ”

“กูว่ามันไม่ค่อย...”

“ไป!!”

“กูไม่ได้ชวนมึงไอ้สัด”

เพื่อนในกลุ่มหันมาด่าพร้อมกัน ทำไม? ก็แค่อยากจิบกาแฟเบาๆ ตามสไตล์ฮิปสเตอร์ กูผิดด้วยเหรอ

แต่ความจริงมันมีอะไรมากกว่านั้นครับ และพวกมันก็รู้ดีว่าผมอยากไปร้านกาแฟเพราะอะไร แปลกดีเนาะ...ในหนังเพื่อนสนิทแม่งบอกรักแท้แพ้วิศวะ แต่กูนี่รักแท้เลย...แพ้ใจศิลปกรรมแต่เสือกโดนพยาบาลคาบไปแดก

แม่งฮิปสเตอร์ว่ะ

แฮปปี้แอนนิเวอร์แซรี่ ครบรอบสองปีที่แอบรักมัน











กรุ๊งกริ๊ง...

เสียงกระดิ่งดังเป็นสัญญาณทันทีที่ผมผลักประตูเข้าไปภายในร้าน สุดท้ายแม่งก็มาเองอีกจนได้ เพราะเดอะแก๊งสุดที่รักเสือกโดนเมียตาม ตายห่ากันไปหมดแล้ว ผู้รอดชีวิตเพียงหนึ่งเดียวอย่างผมเลยต้องแกรนด์โอเพนนิ่งเอง

“อินดี้คาเฟ่สวัสดีครับ”

เสียงใหญ่อย่างกับควายออกลูกนี่แหละครับคนที่ทำให้ผมดูหนังเพื่อนสนิทได้อินสัดๆ ดูทีไรน้ำตาคลอ ดูทีไรแล้วแทบบิดเจี๊ยวงอเป็นเลขแปดเพราะความฟิน

“หวัดดี” ผมทักทายกลับ ก่อนตรงดิ่งไปนั่งโซฟามุมสุดของร้านติดกับเคาน์เตอร์ ซึ่งแม่งเป็นที่นั่งของเจ้าของร้านและพนักงาน

ร้านกาแฟนี้ดีครับ พนักงานนั่งได้ อยู่ด้วยกันเสมือนเพื่อน เพราะบางทีผมก็ยกคอมมาเล่นดอทเอกับพวกมันที่นี่เนื่องจากเปิด 24 ชั่วโมงไม่มีวันหยุดอีกต่างหาก ก็...สนุกไปอีกแบบ แต่ถ้าไม่มีพนักงานคนนี้กูไม่มาหรอก สนุกยังไงก็ไม่มา

ร่างสูงในชุดนิสิตผูกผ้ากันเปื้อนนี่ชื่อเปอร์ (อ่านออกเสียงเหมือนคำว่าเบอร์) เออ...หน้าตาโคตรกวนตีนพอๆ กับชื่อ แถมเล่นไถผมข้างตามสไตล์แบดบอยให้สาวกรี๊ดตามอีกต่างหาก ยอมรับเลยไอ้เนี่ยตัวดูดลูกค้าอย่างดี พี่เจ้าของร้านเลยปลดหนี้เพราะขายดีเป็นเททิ้งเทขว้าง แม้กาแฟจะรสชาติเสมือนใช้ส้นตีนคนแทนช้อนก็ตาม

ผมเป็นเพื่อนกับมันมาสองปีแล้ว เจอกันครั้งแรกที่บังอรโภชนาร้านเหล้าสุดฮิตใกล้มหา’ลัยตอนปีหนึ่ง ไอ้เปอร์ก็เป็นหนึ่งในกลุ่มเพื่อนร้านเหล้าครับ ไม่ได้สนิทอะไรกันมากมาย รู้จักมันจากเพื่อนของเพื่อนของเพื่อนอีกทีนึง แต่ถ้าถามว่าผมอยากสนิทกับมันมั้ย ตอบได้คำเดียวเลย โคตรอยาก!

ผมถึงชอบไปเดินผ่านคณะมันบ่อยๆ เพื่อหวังจะได้เจออีกฝ่ายบ้าง แต่ไปทีไรก็ไม่เห็นเจอ ทั้งที่เป็นเด็กศิลปกรรม แท้ๆ คนแม่งก็มีแค่นั้นป่ะวะ มันเรียนดุริยางคศิลป์เอกกีตาร์ไฟฟ้าซึ่งเป็นเอกที่ทำกิจกรรมค่อนข้างเยอะ แต่ที่ดีมากๆ และสาวกรี๊ดตรึมคงหนีไม่พ้นชมรมดนตรีสากลที่เด็กดุริยางค์ทุกรุ่นต้องแบกรับชื่อเสียงเอาไว้สุดความสามารถ

โดยเฉพาะงาน Music Contest ของมหา’ลัยปีก่อน ไอ้สัดเปอร์ดังเป็นพลุแตก เวลากล้องแพนไปที่มันแต่ละทีผู้หญิงในฮอลล์ก็พากันกรี๊ดสลบ หนักสุดคือพากันแย่งปิ๊กกีตาร์ที่มันเล่นคาเวทีจนเป็นข่าวดังกระหน่ำโซเชียลไปพักใหญ่ นี่ขนาดตอนมันเป็นเฟรชชี่ไม่ปลดระเบียบนะ แล้วดูตอนนี้ดิ ขึ้นมาเป็นปรินซ์ของดุริยางค์ปีสองไม่ใช่เรื่องธรรมดาเลยเว้ย

หล่อวัวตายควายล้ม

เออ มานั่งแนะนำคนอื่นตั้งนานลืมแนะนำตัวเองไปโดยปริยาย ผมชื่อตั้ม เรียนเศรษฐศาสตร์ ปีสอง ไม่มีเหตุผลอะไรในการตั้งทั้งนั้น แม่แค่คิดว่าอยากได้ชื่อตั้ม หลังจากนั้นกูก็ชื่อตั้มเลย จบนะ

“หือ...ไม่เห็นหน้าเห็นตามาหลายวัน เรียนหนักเหรอตี่” อีกฝ่ายถาม

“ตี่พ่องดิ กางเกงในไม่แห้งเลยไม่อยากออกมา”

“สัด! แล้วนี่จะแดกอะไร”

“เหมือนเดิม”

“โกโก้เย็นเหมือนเดิม?”

“ไม่สั่งเหมือนเดิม กูจะมานั่งเฉยๆ”

“เมื่อไหร่มึงจะเลิกกวนตีนวะ”

“ไว้มึงเลิกหายใจเมื่อไหร่ค่อยมาถามกูนะ”

“ไอ้ห่า แก้ยากว่ะนิสัย”

“โหย น่ารักจะตาย”

“มึงห่างไกลจากคำนี้เยอะ”

เห็นมั้ยครับ ผมก็เป็นแบบนี้จะเอาอะไรไปสู้เขา ไอ้เปอร์มันชอบเรียกผมว่าตี่เพราะตาแม่งจะปิดอยู่รอมร่อ แต่ขอร้องเถอะ กูมีดีนะครับ อย่างน้อยรุ่นพี่ก็ปลื้มกันหลายคนล่ะว้า ส่วนมันชอบคนตาโตๆ ที่เรียนอยู่คณะพยาบาลโน่น ชื่อห่าอะไรนะ ส.เสือ สองหรือเสือก

ตอนที่รู้ว่ามันเองก็แอบชอบคนอื่นอยู่ หัวใจไอ้ตั้มถึงกับร่วงลงไปกองที่ตาตุ่ม ความหวัง ความฝันที่อยากปลุกปล้ำมันหมดสิ้นแล้วในวินาทีนั้น แต่ตอนนี้ผ่านไปสามเดือนผมก็ไม่เห็นว่าไอ้เปอร์มันจะเดินหน้าจีบไอ้สองคณะพยาบาลเลยสักนิด

แม่งล่อเดือนพยาบาล ผู้ชายยิ่งน้อยๆ อยู่ยังเสือกจะไปฟาดฟันจากคณะเขา ต้องหันมามองเศรษฐศาสตร์นี่ดิบเถื่อนเกินบรรยาย กูหายไปคนนึงประชากรชายคณะกูไม่ร่อยหรอมากหรอก

คือพยายามพูดดีเข้าตัว พูดชั่วให้ตัวเหี้ยอยู่ครับ แต่ขอบอกก่อนเลยว่าผมกับไอ้เด็กพยาบาลน่ะต่างกันราวฟ้ากับก้นเหวลึก กูนี่แมนๆ เตะบอลกัน ไปไหนไปกันตลอด แต่เด็กที่ชื่อสองเฟรชชี่ปีหนึ่งมันกลับเป็นคนใสๆ เพราะหน้าตามันไสยศาสตร์ไง ผมถึงไม่อยากจะไฝ้ว์ กูขอเตะบอลต่อไป

แต่ความจริงก็คือ...คู่แข่งแม่งน่ารักว่ะ

จริงๆ ผมมีความคิดที่จะบอกชอบไอ้เปอร์มาตลอด ก่อนเด็กพยาบาลนั่นจะโผล่มาซะอีก แต่เพราะกลัวว่าความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนจะเปลี่ยนไป ถ้าเกิดเราใจไม่ตรงกันจริงๆ ผมก็คงไม่ได้อยู่ใกล้กับมันอีก ซึ่ง...กูทนไม่ได้แน่ๆ

“งานหนักมั้ยมึง” ผมหันไปถามไอ้หัวไถข้างซึ่งยืนชงโกโก้อยู่ ก็กูบอกว่าไม่สั่งไงสัด!

“ไม่ค่อยอ่ะ”

“คิดยังไงมาทำงานร้านกาแฟ ตังค์ไม่พอใช้เหรอ”

“โง่อีกละ น้องสองชอบมาอ่านหนังสือที่นี่ กูก็เลยสมัครมาทำงานแม่งเลย” อ๋อ...กูเพิ่งรู้ความจริงในวันนี้ ที่แท้ก็จะจีบเด็กพยาบาลนี่เอง ถึงว่าทำไมมันขยันแปลกๆ

แล้วทำไมกูต้องเสียใจด้วยวะ

“ลำบากไปป่ะ มากินเฉยๆ ก็ได้มั้ง”

“เขาอยู่นานจนเกือบเช้าอ่ะ บางทีมันก็ต้องลงทุนนิดหน่อย”

เจ็บจึ้กๆ กูก็เคยคิดเหมือนมึงเว้ยไอ้ห่าเปอร์ นั่งเฝ้าจนถึงเช้า แต่กูง่วงไงจะให้มานั่งเฝ้าพนักงานก็ดูยังไงอยู่

“แล้วได้คุยกันบ้างป่ะ”

“เยอะแยะ”

“คุยว่าอะไร”

“รับอะไรดีครับ”

“ถุย!” สันขวานเอ๊ย

“มึงมาช่วยกูหน่อยดิ” อะไร...ไม่ได้สนิทกับมึงขนาดนั้นครับไอ้เปอร์ ทำไมต้องมาขอให้กูช่วยด้วย

อย่าคิดว่าชีวิตกูจะเข้าสู่พล็อตน้ำเน่าปาดน้ำตามองเธอและเขาซั่มกันในโกดังร้าง ส่วนกูร้องไห้น้ำตาตกในปักตะไคร้จนฝนแล้งไปสามชาติเพราะมึงไม่สนใจ บ้าแล้วครัชไอ้โรเบิร์ต กูไม่ใช่คนดีพ่วงความน้ำเน่าขนาดนั้น

“ไม่ช่วย กูไม่ว่างมาทำงานกับมึงหรอก” แต่ว่างมาอ่อยมึง แล้วมึงก็เสือกไม่ยอมติดเบ็ดกูสักทีไอ้สัด

“ไม่ได้ให้มาทำงานสักหน่อย แค่คิดแผนตีสนิทอ่ะ”

“แปลกเนาะ แบดบอยอย่างมึงจีบคนมาก็เยอะ มีสาวมาเสนอตัวถึงที่ก็แยะ แต่ทำไมถึงป๊อดกับคนแค่คนเดียววะ”

“มึงไม่เข้าใจหรอก การที่มึงคิดจะรักใครจริงๆ สักคน มันเป็นเรื่องยากที่จะเข้าหาคนคนนั้นนะเว้ย” ไม่เข้าใจเหรอ โหง่ยพูดมาได้ ทำไมกูจะไม่เข้าใจวะไอ้สันขวาน การที่กูชอบมึงมาสองปีกูไม่เข้าใจอะไรเล้ยยยยยย

“มึงก็ให้เพื่อนก๊วนศิลปกรรมมึงช่วยสิไอ้ควาย”

“มันบอกหมดแล้ว แต่กูคิดว่าไม่เวิร์กว่ะ อยากถามมึงเผื่อมีความคิดดีๆ บ้าง” โอ๊ยยยยย ถ้ากูมีความคิดดีๆ กูคงจีบมึงติดไปชาติกว่าแล้วครับ ไม่มาเนียนนั่งร้านกาแฟเหมือนตอนนี้หรอก มันไม่ใช่กิจกรรมของคนแมนๆ เว้ย

“โนไอเดีย” ผมรีบตัดบททันที

“ช่างเหอะ อ่ะนี่โกโก้ของมึง”

“กูไม่ได้สั่ง”

“กูให้”

“มึงเลี้ยงเหรอ”

“เปล่า ให้มึงไปจ่ายตรงเคาน์เตอร์ด้วย” ไอ้บัดซบ!! ไอ้เพื่อนเลว นี่กูชอบมึงไปได้ยังไงวะ ไม่รู้ว่าตอนนั้นกูใช้สมองหรือสะดือคิดกันแน่ เหยดเข้เอ๊ย

ระหว่างที่นั่งเล่นชิลๆ ในร้าน ผมก็หยิบมือถือขึ้นมาแชตหาเพื่อนในแก๊งอย่างไอ้เก่ง แม่งเก่งทุกอย่างแหละครับโดยเฉพาะปาก นอกนั้นโหลยโท่ยหมด แต่ผมก็ยังเชื่อมั่นในตัวของมันเพราะเป็นคนคารมแพรวพราวที่สุดในแก๊ง แม่งเมียเป็นสิบ งานนี้ผมเลยต้องหวังพึ่งมันอยู่บ่อยๆ

ไอ้เก่งก็แนะนำดีครับ พอเห็นว่าคำแนะนำค่อนข้างใช้ได้เลยลองทำบ้าง

“ไอ้เปอร์” เอาแล้ว กูจะเอาจริงแล้วนะ เขินสัดเอ๊าะ!

“อะไร” ร่างสูงตอบกลับ

“ตรงๆ”

“อะไรของมึงเนี่ย”

“ก็...มีคนเคยบอกว่าถ้าชอบใครให้บอกตรงๆ” ง้อวววววววววว

“งั้นมึงมาตรงนี้เลย” มันกระดิกนิ้วเรียกผมยิกๆ

“ตรงไหนเหรอ”

“ตรงตีนกูเนี่ย!!”

“ว้ายยยยยยตายแล้ว หยาบคายที่สุด” ผมทำท่าสะดีดสะดิ้งกลบเกลื่อนความหน้าแตกของตัวเอง

จบ มุกนี้ล่มอีกตามเคยว่ะไอ้ฟวยเก่ง!

“ไม่ขำ”

“แม่ง ไม่คิดจะรับมุกกูเลยเหรอ”

“ใจเย็นตี่ กูรู้ว่ามึงอยากช่วยกู แต่แบบเด็กพยาบาลไม่ชอบมุกเสี่ยวว่ะ มันกาก” เออกูก็เพิ่งรู้ เด็กดุริยางค์อย่างมึงก็ไม่ชอบเหมือนกัน อายตัวเองว่ะ ทำไปได้

ไอ้เปอร์เดินอ้อมเคาน์เตอร์ตรงดิ่งมาหาผมพร้อมกับทิ้งตัวนั่งลงตรงโซฟาเน่าประจำร้าน ดีหน่อยที่ตอนนี้ลูกค้ากำลังเข้าสู่โหมดซุ่มส่องมือกีตาร์ประจำมหา’ลัยอยู่ อีกฝ่ายก็เลยว่างได้อู้งานอีกนานโข

“เพื่อนมึงไม่มาเหรอ” ไอ้กร๊วก! กูนั่งอยู่ตรงนี้ถามหาเพื่อน เดี๋ยวกูต่อยฟันกรามแทงเหงือกเลยดีมั้ย

“เมียโทรตาม”

“สงสาร”

“กูว่าสมเพช โดยเฉพาะไอ้เก่งด่าเช้าด่าเย็นนังยักษ์บ้าง อีงูพิษบ้าง แต่ตอนอยู่ด้วยกันนี่ตะเองเตรงๆ ตลอด บ้านพ่องเป็นระนาดหรือไงไม่รู้”

“ฮ่าๆ แล้วมึงไม่คิดจะหาเมียหรือใครสักคนมาอยู่แก้เครียดบ้างเหรอวะ เพื่อนแม่งก็มีแฟนกันหมด”

“ไม่อ่ะ”

“เบื่อ?”

“มันไม่ฮิปสเตอร์”

“ซื้อทิ้งได้มั้ยคำนี้”

“ควาย คนเราก็ต้องมีคำพูดติดปากบ้าง ว่าแต่มึงเหอะเรียนเป็นไง”

“เรื่อยๆ ยากบ้าง ง่ายบ้าง”

“เออรู้ แม่งเก่งแต่ปฏิบัติ ทฤษฎีห่วยแตก” หมายถึงการเล่นกีตาร์ครับอย่าคิดลึก สัดเปอร์มันเป็นคนมีพรสวรรค์เรื่องดนตรี เชื่อแล้วว่าอนาคตมันไปได้ไกลกว่านี้ แต่เวลาถามอะไรที่เป็นวิชาการทีไร สมองของมันเนี่ยแหละคือจุดบอดของโลกเลย

“โห...กูอยากจะขอท้าให้มาเรียนเอง ใครว่าดุริยางค์เรียนง่ายแค่เล่นดนตรี แม่งกูอยากจะต่อยให้ฟันร่วงเหมือนเกรดมหา’ลัยเลยนิ” เอ่อ...ที่มึงด่าอ่ะ กู!!

“ใส่อารมณ์เกินไปละห่า”
“แล้วมึงอ่ะ”
“เรื่อยๆ ไปจนจบ”
“กูเกลียดคณิตศาสตร์ เกลียดคำนวณ” ไอ้เปอร์พูด



ความจริงเราก็มีส่วนที่ไม่สนิทกันบ้าง



“เหรอวะ กูเพิ่งรู้ แต่กูก็ไม่ชอบเล่นกีตาร์นะ เจ็บมือว่ะ”
“จริงดิ กูนึกว่ามึงจะถึกกว่าที่คิด”



หรือมีมุมที่ไม่รู้จักกันเลย



“เตะบอลก็งานถึก ว่างๆ ก็มาเล่นด้วยกันสิวะ”
“เล่นทีไรกูก็ไปเป็นโกวล์ มึงจะชวนกูทำห่าอะไรวะตี่”
“เรียกตั้มได้ป่ะไอ้ฟาย กูชื่อตั้มไม่ได้ชื่อตี่”
“ก็อยากเรียก ชื่อนี้กูเรียกได้คนเดียว”



บางมุมของมันทำให้ผมใจเต้นแรง



“เอาที่มึงสบายใจแล้วกัน”
“กูสบายใจอยู่แล้ว โชคดีเกิดมาหล่อ”
“เออ หล่ออย่างเดียวไม่ได้ ต้องกินข้าวด้วยนะครับ อย่ามัวแต่อ่อยสาว”
“ซื้อให้หน่อยดิ”
“กะเพราหมูกรอบใส่พริกสามเม็ดเหมือนเดิม?”
“อืม...ซื้อของชอบมึงมาด้วยก็ได้ ผัดคะน้าใส่ตับ”
“รู้ดี”
“หล่อ จบป่ะ”
“ซื้อคำนี้ทิ้งได้มั้ย”
“ไว้มึงทิ้งคำว่าฮิปสเตอร์เมื่อไหร่ค่อยมาซื้อคำว่าหล่อจากกูนะ ไอ้เวร”



แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า แม่งเราก็มีส่วนที่รู้ใจกันและกัน...













สวัสดีวันจันทร์วันฉ่ำปอด ตอนนี้ผมกับเดอะแก๊งกำลังนั่งแดร๊กข้าวกันอยู่ใต้ตึกคณะบริหาร ชีวิตเด็กเศรษฐศาสตร์เหมือนเกิดมามีกรรม ต้องมาแดกข้าวคณะอื่นประจำเพราะโรงอาหารคณะกูไม่มี

ความจริงก็อยากโผล่ไปกินตึกศิลปกรรมอยู่หรอก แต่แม่งดันถูกเร่งรัดด้วยวิชาเรียนคาบบ่ายเราถึงต้องกินที่ตึกใกล้ๆ แทน แต่โลกของผมที่ไม่มีไอ้เปอร์ก็ใช่ว่าจะไร้สีสันไปซะทุกอย่าง เพราะกูกำลังนั่งอยู่กับแก๊งบันลือโลกอย่างพวกแม่งอยู่ เรามีกันอยู่สี่คนครับ มีผม ไอ้เก่ง ไอ้โก้ แล้วก็ไอ้จั๋ง สนิทกันตั้งแต่ปีหนึ่งแล้วเพราะเรียนด้วยกัน

และผมก็ยังมีเพื่อนอีกหลายแก๊งที่สนิทกันตามโอกาสด้วย ไม่ว่าจะเป็นแก๊งร้านเหล้า แก๊งเตะบอล แก๊งดอทเอ สารพัดเพื่อนแหละครับ แต่ต้องยอมรับเลยว่าที่สนิทมากๆ ก็คือไอ้สี่ตัวนี้เนื่องจากเจอกันทุกวัน แถมมันยังคุยกันไร้สาระตามสไตล์อีกต่างหาก ชอบครับ ชอบอะไรที่ไม่มีสาระ

“เนี่ยมึง รุ่นพี่แก๊งคิตตี้เขากำลังรับสมัครทายาทอสูรอยู่เว้ย คิตตี้ซีซั่นสอง” ไอ้จั๋งโพล่งขึ้น ขณะมือข้างหนึ่งจับช้อน ส่วนมืออีกข้างก็เลื่อนมือถือระรัว คิตตี้ห่าอะไรเนี่ย...

อย่าบอกนะว่าคือก๊วนแก๊งวิศวะที่มีรุ่นพี่ปีห้าเป็นหัวหน้าน่ะ กูไม่เอาด้วยหรอก

“คิตตี้ไหน” ผมถามกลับ

“คิตตี้วิศวะ ที่มีพี่เดือนเป็นหัวโจกไง” กูว่าละ ถ้าซื้อหวยกูคงรวยยันชาติหน้า

“แล้วยังไง”

“ก็ไปสมัครไง คิตตี้แม่งดังจะตาย ปีนี้เขาเรียนจบแล้วเราก็จะได้สืบทอดความฮอตของพี่ๆ กันต่อ กูเนี่ยแหละคิตตี้เดอะเน็กซ์เจน”

“ปัญญาอ่อน” ไอ้เก่งพูดบ้าง

“มึงด่ากูทำไมเนี่ย”

“มึงดูข้อความครับ เขาหมายเหตุว่าขอรุ่นน้องวิศวะ มึงเป็นใครจะเข้าก๊วนเขา”

“อ้าววววว”

จบเห่ เก็บศพไอ้จั๋งเสร็จก็รีบแดกข้าวกันต่อ จะมีก็แต่ไอ้เก่งที่ยังเล่นมือถืออยู่ สักพักมันก็ทำตาโตสะกิดไหล่ผมยิกๆ แน่นอนเราไม่ได้คุยกันดังมาก และท่าทางของมันก็ไม่ได้กระโตกกระตากเหมือนทุกทีด้วย

“อ่ะ เอาไปดู” ไม่พูดเปล่า รีบยื่นโทรศัพท์มือถือมาให้ผมทันที

“อะไรอ่ะ”

“ถ้าไม่รีบ ต่อไปมึงจะเสียใจกว่านี้”

ไม่รอให้ความสงสัยอยู่นาน ผมจึงรับมือถือของไอ้เก่งมาดูก่อนจะเห็นข้อความหนึ่งซึ่งปรากฏบนหน้าไทม์ไลน์ของใครคนหนึ่งที่ผมไม่คุ้นตา

...เด็กพยาบาลที่ชื่อสอง...



Hi Per >> Tawipark Maneewong
น้องครับ พี่ชื่อเปอร์ จำกันได้ป่ะ



แค่ประโยคสั้นๆ ทำไมถึงทำให้ใจมันวูบโหวงขนาดนี้วะ กูล่ะเกลียดโมเมนต์แบบนี้ที่สุดเลย มึงไปฮิปสเตอร์ไกลๆ ไอ้ตั้ม ยังอีก...ยังจะเลื่อนอ่านข้อความเขาอีก

ผมเห็นรุ่นน้องพยาบาลคนนั้นตอบกลับมาเมื่อ 35 นาทีก่อน ซึ่งข้อความบทสนทนาของทั้งคู่ก็ยาวเหยียดไปจนถึงสนามบินสุวรรณภูมิพอดี



Tawipark Maneewong สวัสดีครับผมชื่อสอง พี่เป็นพนักงานร้านอินดี้ใช่มั้ย
Hi Per ใช่ ดีใจที่น้องจำได้
Tawipark Maneewong ผมไปกินบ่อยไง เจอตลอดโดยเฉพาะกะดึก
Hi Per พี่ทำกะดึกครับ



โหยยยยยยยยยยย ไอ้กระแดะ มึงไม่ได้กะดึกหรอก มึงกะแดกเขาไอ้เปอร์ ไอ้หัวฟวย



Tawipark Maneewong อ้อถึงว่า...วันนี้ไม่ไปเรียนเหรอครับ
Hi Per เรียนครับ กำลังอยู่ตึกพยาบาล
Tawipark Maneewong จริงดิ มาทำอะไรครับ
Hi Per มาหาใครบางคน
Tawipark Maneewong ...
Hi Per วันนี้จะมาที่ร้านมั้ย
Tawipark Maneewong ไม่แน่ใจครับ
Hi Per มาเถอะ วันนี้ที่ร้านมีโปรโมชั่นด้วย ส่วนลด 10% สำหรับลูกค้าประจำ
Tawipark Maneewong งั้นไป 5555555



โอ๊ย!! หัวใจกูหน่วง ไอ้เปอร์เดินหน้าจีบแล้ว และเหมือนเหยื่อเองก็เล่นตามด้วย เป็นไงล่ะกู ซาบซ่านถึงใจมั้ย จะร้องก็เสือกร้องไม่ออกเพราะวิถีคนแมนไม่ได้สอนให้ร้องไห้ให้ใครเห็น แม้ตอนดูหนังเพื่อนสนิทกูจะร้องไม่หยุดเลยก็ตาม ดากานดา...กูโดนหมาคาบไปแดกว่ะ

หลังจากข้อความนั้น ไอ้เปอร์กับรุ่นน้องปีหนึ่งก็ไม่ได้พูดอะไรกันต่อ แต่เพื่อนของไอ้น้องสองสิครับที่พากันมาถล่มหน้าไทม์ไลน์ด้วยความตื่นเต้นเหมือนกำลังเปิดประเด็นให้เป็นทอล์กออฟยูนิเวอร์ซิตี้อยู่



‘สอง พี่เปอร์ทักแก’
‘กรี๊ดดดดดดดดดด ปรินซ์แห่งดุริยางคศิลป์’
‘อะไรเหรอ เกิดอะไรขึ้นเล่าด่วน’



ผมยื่นมือถือกลับไปให้ไอ้เก่งด้วยสีหน้าละห้อยเหมือนหมาโดนขโมยเพดดิกรี หมดกัน! นี่ตอนจบของกูจะต้องเป็นเหมือนในหนังเพื่อนสนิทเหรอวะ ทำใจไม่ได้ว่ะ อยากกระโดดท้องเรือตายแต่ก็กลัวตาย สรุปเลยได้แต่นั่งกลั้นตดอยู่ที่โรงอาหารแทน

“มึงโอเคป่ะวะ” หืม ยังมีหน้ามาถามอีกว่าโอเคมั้ย รักข้างเดียวสองปีของกูกำลังจะหลุดลอยไปนะเว้ย มึงยังคิดว่ากูจะมีความสุขอยู่เหรอวะไอ้เก่ง แต่สิ่งที่คนแมนนิสัยฮิปสเตอร์ตอบได้ก็มีแค่...

“สบาย!!”

“เอาจริงดิ”

“อืม”

“งั้นปล่อยแม่งไปเลยมะ เลิกชอบเหอะว่ะ” สลด! ทำใจหนักยิ่งกว่าโดนแม่ด่าว่ากำลังส่งควายเรียนเศรษฐศาสตร์อีก

“ทำได้ง่ายอย่างปากพูดก็ดีดิ”

“ก็มึงบอกโอเคดี เห็นมั้ยมึงยังยิ้มอยู่เลย” กูฝืนไอ้สัด! แม่งไม่เข้าใจความฮิปของกูเลยหรือไง คนฮิปเวลาเศร้ามันจะยิ้มเว้ย ขวางโลกไปหมดเลยตอนนี้ ขวางอารมณ์หน่วงๆ ในใจกูด้วย

“ที่แสดงออกว่าเข้มแข็ง ไม่ได้หมายความว่ากูไม่เสียใจนะ”

“สรุปคือเสียใจ?”

“นิดหน่อย”

“เอาความจริง”

“แม่งอยากจะร้อง มันจีบคนอื่นแล้วว่ะ” ผมเบะปากเหมือนเตรียมระเบิดความอัดอั้นตันใจ จนพาลให้เพื่อนอีกสองคนหันมามองด้วยความสงสัย

“อย่าร้องดิ ฮิปสเตอร์แม่งไม่ร้องไห้กันนะเว้ย”

“กูคนครับ ถ้าไม่ร้อง มึงจะให้กูนั่งขี้ระบายความเสียใจเหรอวะ”

“ที่จริงมันก็มีวิธีนะถ้ามึงพยายาม”

“ยังไง”

“แผนของกูไง!”














แผนของไอ้เหี้ยเก่งแม่งบอกได้คำเดียวว่าเก่งสัดๆ เก่งแต่คิด แต่ตอนทำอ่ะกูออกโรงคนเดียวตลอด คืองี้ครับ เรามีก๊วนแก๊งสมาคมร้านเหล้ากันอยู่ ซึ่งใช้ชื่อกลุ่มว่า ‘บังอรโภชนา’ เพราะเป็นชื่อร้านประจำที่เราพบปะสังสรรค์กันอยู่บ่อยๆ และที่สำคัญเรามีไอ้เปอร์แห่งดุริยางค์เป็นหนึ่งในก๊วนด้วย

ดังนั้นไอ้เก่งมันเลยนัดแนะเพื่อนกลุ่มร้านเหล้าให้มาสังสรรค์ตามอารมณ์อินดี้ ซึ่งแน่นอนทุกคนต้องมา แต่ที่แตกต่างไปจากทุกครั้งก็คือเราไม่ได้กินกันที่ร้าน แต่ย้ายมาจัดที่ห้องของผมแทน เป็นไงล่ะแผนของไอ้เก่งสูงพอมั้ย

“เฮ้ยดี!” เสียงทุ้มต่ำของไอ้เปอร์ทักทายเพื่อน เพราะมันเดินเข้ามาในห้องเป็นคนสุดท้าย

เรานั่งขัดสมาธิล้อมกันเป็นวงกลม ด้านหน้ามีขวดเหล้า โซดา น้ำอัดลม และสารพัดมิกซ์เซอร์ตัวดี ที่เพียงพอสำหรับการดื่มยาวนานตลอดทั้งคืน

“มาช้าไอ้สัด” เพื่อนในกลุ่มบ่นอุบ

“พอดีไปส่งเด็กน่ะ”

“โว้วววววว ที่ไหนครับ เด็กที่หน้าใสๆ มีดีกรีเป็นเดือนพยาบาลป่ะ”

“รู้ดี”

ฮ่อลลลลลลลล สิ่งเดียวที่กูทำได้คือการหันไปมองหน้าไอ้เก่งและได้แต่ตั้งคำถามว่า ‘ล้มเลิกทุกอย่างเลยดีมั้ยวะ’ แต่ในเมื่อมันมาถึงขนาดนี้ผมก็คงต้องดันทุรังต่อไป ดราม่าซีน กูเกลียดดดดดดดดดด

“อ้าวไอ้ตั้ม ดีใจที่เจอ หายไปไหนมาเป็นอาทิตย์วะ” ไอ้เปอร์หันมาถามผมด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

มันถามกู!!

มันถามกูเว้ยยยยยยยยยยยย ร้อนหน้าร้อนตา เขินสัดอ่ะ

“เรียนหนักว่ะ”

“เออ แล้วมึงอ่ะไอ้เบส ไม่ได้เจอกันเลย ติดเมียเหรอมึง”

“พอๆ กับมึงแหละไอ้คนฮอต”

อ้าวไอ้ห่า แม่งมันก็ถามคนอื่นเหมือนกัน สรุปกูไม่มีอะไรพิเศษต่อความรู้สึกมันเลย ปฏิบัติกับกูเหมือนกับเพื่อนคนอื่นๆ แบบนี้ยังจะหวังอะไรอีกวะ

“มึงไม่ต้องแดกมากนะสัดตั้ม แค่ชวนไอ้เปอร์มันชนแก้วตลอดก็พอ” ไอ้เก่งเอี้ยวตัวมากระซิบ นี่แหละครับแผนของมัน มอมเหล้าปรินซ์แห่งดุริยางค์ นี่มันคือยุคต้อยต่ำทางความรักของกูแล้วเหรอเนี่ย ดีหน่อยที่ไอ้เพื่อนเวรมันไม่พาขับรถออกไปยังสำนักหมอผีเพื่อทำน้ำมันพราย ไม่งั้นกูตายแน่ๆ

แล้วไอ้เปอร์มันก็ยิ่งเป็นพวกบ้าจี้ซะด้วย ใครชวนมันชนแม่งกระดกหมดแก้วตลอด งานนี้เราเลยพอเห็นทางสว่างอยู่รำไร

“มึงว่ามันจะโอเคมั้ยวะไอ้เก่ง”

“เชื่อกูเหอะน่า”

“กูไม่อยากจะเชื่อมึงเลยจริงๆ แต่กูไม่มีทางเลือก”

“เอาน่า มันเมาปุ๊บ กูเคลียร์เพื่อนมันเอง พอทางสะดวกก็รีบลากมันเข้าห้องนอนจัดการปล้ำเลย”

“ปล้ำพ่องดิ” ที่คิดไว้ก็มีแค่ตัดสินใจสารภาพรักเท่านั้น ถึงแม้ว่าตอนนั้นมันจะรู้หรือไม่รู้ก็ตาม แต่สิ่งนี้แหละคือเป้าหมายในการแอบรักของผม ขอแค่ความกล้าที่จะบอกมันก็พอแล้ว

“ทำไม มึงไม่กล้าเหรอ อ้อ ลืมไป มึงเป็นรับ ทางวันเวย์สินะ”

“ไอ้ควาย”

“ไม่งั้นแค่จูบก็พอ เก็บกำไรมึงไปก่อนที่หมาปีหนึ่งจะคาบไปเคี้ยวกรุบกรับ”

“ไม่อ่ะ กูไม่ได้ด้านขนาดนั้น กูแค่จะบอกชอบมันเฉยๆ”

“อื้อหือ ทารกมากมึงอ่ะ บอกรักตอนเมา”

“ก็ดีกว่าไม่ได้บอกเลยป่ะวะ”

“เออเรื่องของมึง แต่ตอนนี้อย่าลืมดึงกางเกงบอลขึ้นสูงๆ หน่อย แบบโชว์ขาอ่อนอ่อยมันอ่ะ”

“โวะ! ปัญญาอ่อนละ พอๆ กระซิบนานกูแสบคอไปหมดแล้วเนี่ย”

“ตี่” สักพักไอ้เปอร์ก็แทรกขัดจังหวะ

“อะไร”

“มึงดูหนังแบบนี้ด้วยเหรอวะ” มือหนาหยิบกล่องดีวีดีของหนังเรื่องเพื่อนสนิทที่ตกอยู่แถวโซฟาขึ้นมา เพราะแผ่นมันยังค้างคาในเครื่องเล่นอยู่เลย

“นานๆ ทีว่ะ มึงถามทำไม” เอาความจริงเลยมั้ย

ดูทุกวัน! ร้องไห้ทุกวัน!

“เปล่าหรอก กูก็เคยดู”

“จริงดิ มึงชอบป่ะ”

“เคยดูครั้งเดียวในโรงหนัง ถามว่าชอบมั้ยเหรอ...จำความรู้สึกตอนนั้นไม่ได้แล้วว่ะ” แม่ง อย่างนี้เรียกไม่ชอบเว้ย มึงคงไม่มีโมเมนต์แอบรักเพื่อนเหมือนกูสินะ

“มึงสองคนจะทำตัวฮิปอีกนานมั้ยครับ แดกเหล้าเถอะ อย่าลีลา!!”



อ่านต่อด้านล่างค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-11-2015 09:18:36 โดย Jittirain12 »

ออฟไลน์ Jittirain12

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1238/-18
เกร๊ง!!

หลังจากนั้นมหกรรมชนแก้ว มอมเหล้า เอาเพื่อนไปปล้ำก็เริ่มต้นขึ้น เวลาล่วงเลยจากสามทุ่มจนถึงเที่ยงคืนอย่างรวดเร็ว แต่ก็ไม่มีท่าทีว่าใครจะน็อคตายก่อน กูล่ะเกลียดอารมณ์คอแข็งของแก๊งนี้จริงๆ ไม่รู้ว่าตอนเด็กแม่มันต้มเหล้าขาวให้แดกแทนนมหรือเปล่า มันถึงใส่กันไม่บันยะบันยังขนาดนี้

กระทั่งตีสาม...

นอนตายไปแล้วสี่ศพ หนีกลับบ้านไปอีกสาม เหลือก๊งเหล้ากันอีกสามนั่นคือผม ไอ้เก่ง และไอ้จั๋ง ทางสะดวกเสร็จกู!! เพราะหนึ่งในสี่คนที่นอนตายอยู่นั้นมีไอ้เปอร์อยู่ด้วย ฮ่าๆๆๆ

“กูไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ” ผมบอกกับเพื่อน ก่อนจะเดินตรงดิ่งไปยังห้องน้ำเพราะอั้นเยี่ยวเอาไว้นาน กลับมาอีกทีไอ้สองตัวก็ชิงนอนตายไปแล้วครับ สรุปกูคือผู้รอดชีวิตที่กระดกเหล้าไปแค่สองแก้วถ้วน ดังนั้นผมจึงพยายามสอดส่ายสายตามองหาเป้าหมาย จำได้ว่าเมื่อกี้ไอ้เปอร์มันยังนอนกองกับเพื่อนมันอยู่เลย แต่ตอนนี้ไปไหนแล้ววะ

“ตี่”

“เชี่ย! ตกใจหมด” มาสะกิดกูข้างหลัง นึกว่าผีโซฟา ที่แท้ก็ไอ้เปอร์

“ปวดเยี่ยวว่ะ”

“ก็ไปเยี่ยวดิ”

“แม่งมึนสัด”

“รีบไปเยี่ยวไกลๆ เลยป่ะ” ผมดันหลังของมันให้เดินไปยังห้องน้ำ ส่วนตัวเองก็มานั่งคิดอะไรเพลินๆ สรุปไอ้เปอร์มันก็ไม่ได้เมาถึงขนาดนอนตายเป็นหมาขี้เรื้อนขนาดนั้นหรอก

“ตี่”

“อะไรอีก”

“ง่วง”

“นอนสิไอ้สัด”

“โอเค ฝากชีวิตไว้ที่ห้องมึง อึก! คืนนึงนะ”

“เออๆ” ขนาดพูดมันยังสะอึกเลย ผมจึงแสร้งยกมือปัดๆ ให้มันไปนอนซะ แต่สายตากลับยังเหลือบมองอยู่ไม่ห่าง เพราะร่างสูงกำลังเดินโซซัดโซเซไปที่โซฟาและล้มตัวลงในวินาทีนั้น

ฟู่!!

สุดท้ายก็ไม่มีความกล้าพอจะบอกความในใจกับมัน ผมคิดว่าคืนนี้มันคงจบลงแค่รอพระอาทิตย์ขึ้นเท่านั้นแหละ เช้าวันต่อมาเราก็ยังเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม เพราะไม่ว่ายังไงความรักของผมก็คงไม่สมหวังอยู่ดี

ผมพยายามโกยขวดเหล้าที่วางเรี่ยราดไปทั่วห้องไว้เป็นจุดเดียวอีกครั้ง ก่อนทิ้งตัวลงนั่งคิดอะไรเพลินๆ จนเวลาล่วงเลยเกือบตี 4 แน่นอนว่าไม่มีหมาตัวไหนตื่นหรอก มีแต่กูเนี่ยแหละตาสว่างอยู่คนเดียว ดังนั้นมันควรเป็นเวลาที่ผมต้องปิดไฟและเข้านอนได้แล้ว

แต่ก่อนที่จะตรงดิ่งไปยังห้องนอน ผมกลับเผลอเดินไปยังโซฟาห้องนั่งเล่นแบบไม่รู้ตัว มองดูหน้าคนหลับสนิทโดยไม่คิดปลุกขึ้นมา ไอ้เปอร์ตอนหลับแม่งยังหล่อเลยว่ะ ผมถึงไม่ค่อยสงสัยเท่าไหร่ว่าทำไมผู้หญิงถึงชอบมันนัก จริงๆ แล้วมันก็เป็นคนนิสัยดีด้วยแหละ หลายอย่างประกอบให้มันเป็นมัน

คนที่ผมแอบชอบมาตลอดสองปี

ผมย่อเข่าลงจนหน้าของเราอยู่ในระดับเดียวกัน บางทีก็ไม่ค่อยเข้าใจการกระทำของตัวเองนักหรอก สงสัยเป็นอารมณ์ฮิปสเตอร์

ในเวลานั้นสิ่งเดียวที่พุ่งเข้ามาในหัวของผมคือหนังเรื่องเพื่อนสนิท และมันก็มาพร้อมกับฉากนั้น...ฉากที่ผมอยากลองทดสอบกับมันมาตลอด



‘มีคนเคยบอกว่า ถ้านับเลขหนึ่งถึงสิบในใจแล้วระหว่างนั้นเขาตื่นขึ้นมา แสดงว่าเขาชอบเรา’



‘สิบ’

โอ๊ยยยย กูเกลียดความคิดตัวเอง เร็วมาก

‘เก้า’

มันยังคงหลับตาพริ้ม

‘แปด’

ผมเลื่อนหน้าเข้าไปใกล้เรื่อยๆ จนได้กลิ่นของแอลกอฮอล์จางๆ ปะทะกับจมูก

‘เจ็ด’

หลับธรรมดาไม่เท่าไหร่ นี่เมาด้วยคงจะตื่นอยู่หรอก

‘หก’

เกือบครึ่งแล้ว

“ห้า”

คราวนี้ผมนับออกเสียงเบาๆ หัวใจเต้นตึกตักไม่เป็นจังหวะ อาจเพราะกลัวว่ามันจะไม่ตื่นขึ้นมาล่ะมั้ง

“สี่”

ทำไมรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังร้องไห้อยู่เลยวะ

“สาม...”

ถ้าเป็นน้องคนนั้น มึงอาจตื่นขึ้นมาตั้งแต่เริ่มต้นนับสิบ

“สอง...”

ไม่เป็นไร ยังไงกูก็ยังชอบมึงเหมือนเดิม

ความจริงอยากนับต่อเป็น 1.5 หรือ 1.3 ต่อไปเรื่อยๆ แต่ก็เหมือนคนดันทุรังเกินไป

ไอ้เปอร์...

“หนึ่ง”



กูรักมึงนะเว้ย



“ทฤษฎีในหนังใช้ได้ด้วยเหรอวะ” ผมเบิกตาโพลงทันทีที่เสียงทุ้มต่ำพูดเบาๆ และจากนั้นเปลือกตาของคนตรงหน้าก็ลืมขึ้น

“มะ...มึงตื่นตั้งแต่เมื่อไหร่”

“ตอนมึงนับสาม”

“มึงรู้ได้ไงว่า...มันเป็นทฤษฎีในหนัง”

“กูจำความรู้สึกตอนดูหนังเพื่อนสนิทไม่ได้ แต่กูจำฉากนี้ได้นะเว้ย ถึงมันจะดูเลือนรางไปสักหน่อย เพราะงั้นกูก็เลยอยากถามมึงต่อ...”

“...”

“ทฤษฎีในหนังมันได้บอกหรือเปล่าวะ ว่าถ้าตื่นขึ้นมาจูบเพื่อนมันจะเกิดอะไรขึ้น”

มือหนารั้งต้นคอของผมให้โน้มหน้าเข้ามาประชิด ก่อนจะจรดริมฝีปากได้รูปลงบนปากของผมในทันที เวลานั้น...สมองของผมนับเลขหนึ่งถึงสิบเรื่อยๆ ไม่มีวันจบสิ้น…

และผม

ไม่อยากให้มันจบเลย














หนึ่งสัปดาห์ต่อมา...

ผมกับไอ้เปอร์ไม่ได้เจอกันเลย คือ...จะพูดยังไงดี เรามองหน้ากันไม่ติด เพราะเช้าวันต่อมาต่างคนต่างก็ไม่มีใครพูดถึงเรื่องจูบอีก ใจจริงอยากถามความรู้สึกในใจของมันแต่ผมไม่กล้าพอ จนมารู้ว่าหลังจากนั้นมันก็ยังตามจีบรุ่นน้องพยาบาลอยู่ เพราะงั้นผมเลยต้องหยุดความสงสัยไว้เพียงเท่านี้

คืนนั้นมันแค่เมา มันจูบผมเพราะเมา ไม่ใช่เพราะรัก

ตอนนี้ชีวิตของไอ้ตั้ม เศรษฐศาสตร์สุดหล่อได้เข้าสู่โหมดดราม่าอย่างเต็มขั้นแล้วล่ะ ความพยายามของกูสูญเปล่าเว้ยเพื่อน ฮ่าๆ ฮิปสเตอร์มั้ยล่ะมึง

ไอ้เก่งก็ได้แต่ตบบ่าปุๆ บอกไม่เป็นไร ไม่ตายห่าหรอก เออ...ไม่ตายเว้ย ก็แค่เกือบ

ผมเลิกคลาสตอนห้าโมงเย็น กลับห้องไปเล่นเกมและก็นอนดูหนังเหมือนทุกวัน ตกดึกหน่อยก็นั่งทำรายงานที่จะส่งในอีกสามวันแบบไฟลนตูด แต่มันดันมาซวยเพราะไฟล์งานสำคัญที่อยากได้เสือกอยู่ที่ไอ้โก้ ที่สำคัญเพื่อนสุดเลิฟของกลุ่มดันกระแดะลืมกระเป๋าไว้ที่รุ่นพี่ก๊วนนักบอล ซึ่งทุกอย่างคงจะดีกว่านี้ถ้าไอ้พี่เหี้ยนั่นมันไม่ได้อยู่ที่อินดี้คาเฟ่

สัด! อยู่ใกล้หอก็จริง แต่ปัญหาใหญ่คือผมไม่อยากเจอไอ้เปอร์ไง

พอนั่งคิดไปคิดมา กูลืมอะไรไปอย่าง ไอ้เปอร์มันทำงานกะดึกนี่หว่า ถึงยังไงซะเราก็คงไม่เจอกัน คิดได้อย่างนั้นก็คว้าแค่กุญแจห้องเดินออกไปเลย ด้วยระยะทางจากหอถึงร้านกาแฟไม่ไกลกันมาก ดังนั้นผมจึงใช้วิธีเดินกินลมชมบรรยากาศไปเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงร้าน

“หวัดดีครับ”

“เออ หวัดดีไอ้ตั้ม ช่วงนี้ไม่เห็นมาเตะบอลเลย”

“ขี้เกียจว่ะพี่ ไว้มีอารมณ์อยากเตะจะไปขอแจมนะ”

“อืม...นี่กระเป๋าเพื่อนมึง มันบอกไดรฟ์อยู่ในนี้”

“ขอบคุณครับ” ผมเอื้อมมือไปรับกระเป๋าเป้เน่าๆ ของไอ้โก้ขึ้นมา พลางมองหาใครบางคนไปทั่วร้านด้วย แต่สิ่งที่เห็นก็คือความว่างเปล่า ไอ้เปอร์ยังไม่มาจริงๆ

“นั่งคุยกันก่อนดิ เนี่ยไอ้อาร์ควิศวะมันอยากให้มึงไปคัดตัวนักเตะมหา’ลัย สนใจมั้ย”

“ดูก่อนพี่ ไม่ได้เก่งขนาดนั้น”

“ลองก่อนก็ได้”

“เมื่อไหร่ครับ”

“วันที่ 11 เดือนหน้า” ผมกลอกตาไปมา ก่อนจะตอบกลับไปทันที

“ไม่ได้แล้วว่ะ วันนั้นมันตรงกับวัน Music Contest ผมต้องไปเชียร์เพื่อน มันฟอร์มวงประกวด”

“ใครวะ พวกปรินซ์เหรอ” ปรินซ์หมายถึงไอ้เปอร์ซึ่งพี่ก็เข้าใจถูกเผง ความจริงผมไม่ได้อยากเตะบอลอะไรขนาดนั้นหรอก แค่เล่นคลายเครียดเท่านั้น พอมีเหตุผลอะไรสักอย่างที่ผมต้องเลือก ผมก็คงเลือกเพื่อนอยู่ดี

“ครับ”

ผมใช้เวลาคุยกับรุ่นพี่อยู่นานจนเกือบสามทุ่ม ฝนห่าฝนเหวก็เสือกไม่เป็นใจตกลงมาอีก ผมเลยต้องนั่งติดแหงกอยู่ที่นี่เพื่อรอให้ฝนหยุดตกก่อน แต่เหมือนโชคจะไม่เข้าข้างเพราะนอกจากฝนไม่หยุดแล้วไอ้เปอร์ยังเสือกมาร้านก่อนเวลางานอีกต่างหาก

“ไปก่อนนะพี่” ผมรีบลุกขึ้นเต็มความสูง คว้ากระเป๋าของไอ้โก้มากอดเอาไว้

“เฮ้ย จะรีบไปไหนวะ ฝนยังตกหนักอยู่เลย”

“เหอะน่า หออยู่แค่นี้เอง ไว้เจอกันนะพี่ หวัดดีครับ” ยกมือไหว้เสร็จผมก็รีบวิ่งพรวดพราดออกไปทันที โชคดีที่ร้านกาแฟล้อมรอบด้วยกระจกใส ดังนั้นผมจึงเห็นร่างสูงกับใครอีกคนยืนกางร่มอยู่อีกฝั่งถนนตั้งแต่แรก หากมันทำให้เราไม่ต้องเจอกันได้ ผมก็คงเลือกที่จะฝ่าความเย็นออกไปอยู่ดี

เราจะได้สบายใจด้วยกันทั้งคู่ เพราะมันถึงเวลาแล้วที่ผมควรยอมรับความจริง

แม้แต่คำว่าเพื่อนเรายังให้กันไม่ได้...

วินาทีที่สองเท้าก้าวไปข้างหน้า รองเท้าย่ำเหยียบกับความเปียกชื้นของพื้นดิน ไอ้เปอร์กับรุ่นน้องปีหนึ่งอย่างสองก็ข้ามถนนมาพอดี เรามองกันนิดหน่อย แค่เสี้ยววินาทีเท่านั้นก่อนผมจะเร่งฝีเท้าและกลับถึงหอในเวลาต่อมา

ไม่มีคำทักทาย ไม่มีรอยยิ้ม ไม่มีอะไรเลยนอกจากหยดน้ำที่เปียกชื้นอยู่บนเสื้อผ้า

ผมคว้าโทรศัพท์มือถือบนหัวเตียงเพื่อต่อสายหาไอ้เก่ง...

แต่มันกลับพ่วงไอ้โก้กับไอ้จั๋งมาปลอบใจด้วย เรายืนกันอยู่หน้าระเบียงและสาบานได้ว่ากำลังทำตัวฮิปสเตอร์เต็มที่ ไอ้เก่งหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบ ส่วนไอ้ห่าสองตัวก็เป็นสิงห์รมควัน ผมเป็นแค่คนเดียวในกลุ่มที่ไม่สูบ แต่วันนี้เสียใจว่ะ...

อยากลอง

“ขอบุหรี่หน่อยดิ” ผมพูดขึ้น

“สูบเป็นเหรอ”

“ต้องลอง”

“โอเค” ไอ้เก่งยื่นบุหรี่มาให้ผมโดยไม่คิดห้ามปราม ก่อนผมจะหยิบไอ้มวนสีขาวขึ้นมาใส่ปาก รอให้เพื่อนจุดไฟแช็กที่ส่วนปลาย และหลังจากนั้น...

“อะแค็กๆ โอ๊ยยยยยยย อะแค็ก!” ควันอัดเข้าไปเต็มปอดกูเลอออออออ ผมจึงเลือกเอาไปยัดใส่ปากไอ้โก้ต่อเพราะกลัวมันจะเสียดายของ

เหยดครก บุหรี่ไม่ใช่ทาง

“อะไรจะขนาดนั้น ทำอะไรไม่ได้ก็ไม่ต้องฝืนหรอก ถามจริง มึงกับมันซั่มกันยัง” ไอ้จั๋งถามผม

“พ่องดิ”

“กูก็นึกว่าซั่มกันแล้วมึงถึงเสียใจขนาดนี้ ที่แท้ก็โด่...ไม่ลุ้นเลย”

“แค่นี้ก็จะตายห่าอยู่แล้ว”

“มึงยังฮิปอยู่มั้ยสัดตั้ม” ไอ้โก้ถามบ้าง

“กูพยายามฮิปอยู่ พวกฮิปจะเข้มแข็งและไม่ร้องไห้” นิยามห่าอะไรวะ ไร้สาระสิ้นดี

“มันเป็นไงบ้าง หมายถึงไอ้เปอร์อ่ะ”

“ก็ดูมีความสุขดี คงคืบหน้าไปเยอะแล้วมั้ง”

“...”

“มึง”

“หืม...”

“กูอกหักจริงๆ แล้วว่ะ”

พูดแค่นั้นไอ้สามตัวมันก็รุมเข้ามาตบบ่าตบหัวผมปุๆ ไอ้สัด! นี่มึงปลอบใจหรือกำลังทำร้ายร่างกายกูกันแน่ จากที่ไม่อยากร้องน้ำตางี้ไหลพรากเลย กูเจ็บ!

แปลกเนาะคนเรา...อกหักทั้งที่ยังไม่รู้เลยว่าไปคบกับมันตอนไหน ได้แต่คิดไปไกล สุดท้ายก็ต้องอยู่กับความจริงว่าเรื่องทั้งหมดเป็นเพียงแค่รักข้างเดียวของผม

รักข้างเดียวที่ยาวนานถึงสองปี












เวลาผ่านไปเกือบเดือน ฝนยังคงตกหนักเกือบทุกวันจนทำให้ทางเดินเปียกแฉะ แม้แต่รองเท้าผ้าใบคู่โปรดก็ยังแทบเน่าเพราะน้ำซึมเข้าไปภายใน ผมยืนอยู่หน้าหอสมุด มองดูสายฝนโปรยปรายลงมาไม่ขาดสาย

ผมเกลียดตัวเองที่ไม่ชอบพกร่ม ใช่! ผมเป็นผู้ชายที่ไม่พกร่มหรืออะไรที่เป็นภาระตอนไปไหนมาไหน ดังนั้นจึงทำได้แค่รอ และมองดูร่มหลากสีของนิสิตในมหา’ลัยเดินผ่านไปผ่านมาแทน

“ไม่ได้เอาร่มมาเหรอตี่” เสียงทุ้มต่ำแสนคุ้นหูพูดขึ้น ผมรีบหันหน้าไปเผชิญกับคนที่สูงกว่าไม่กี่เซน ก่อนอีกฝ่ายจะหยุดยืนอยู่ข้างๆ พร้อมกับร่มสีเทาในมือ

นานมาแล้วที่เราไม่ได้คุยกัน...

ไอ้เปอร์

“อืม กูไม่ชอบพกของอะไรพวกนี้อยู่แล้ว” ผมตอบกลับไป ถ้าฝนตกเบาๆ ก็เอากระเป๋าบังหัว แต่ถ้าวันไหนตกหนักก็แค่ยืนรอฝนหยุด ไม่เห็นจะยากอะไรเลย

“มึงเป็นยังไงบ้าง” อีกฝ่ายถามต่อ

“ก็ไม่ไง กูก็ยังโอเคดี มึงล่ะ”

“มีเรื่องให้คิดนิดหน่อย เออ...ตอนนี้กูไม่ได้ทำงานที่ร้านกาแฟแล้วนะ”

“ดีใจด้วย มึงจีบน้องเขาติดแล้วสิท่า”

มันไม่ตอบนอกจากยิ้มออกมา โอเค...พอรู้

“พี่เปอร์รอนานมั้ยครับ” สักพักใครคนหนึ่งก็เดินเข้ามา ผมหันไปมองคนมาทีหลังชั่วครู่ ก่อนจะกลับไปจดจ่อกับเม็ดฝนที่ยังคงโปรยปรายลงมาไม่ขาดสาย ก็แฟนมันนั่นแหละจะเป็นใครไปได้

“ไม่หรอก”

“เฮ้ยไอ้เปอร์ กูต้องไปก่อนนะเว้ย ขืนรอแบบนี้ต่อไปฝนคงไม่หยุดตกแน่เลย” ผมแสร้งเปลี่ยนเรื่องเพื่อพาตัวเองออกไปจากสถานการณ์ที่น่าอึดอัด

“ไปกับกูก็ได้ กูมีร่ม”

“ไม่ต้องหรอก ร่มของมึงก็คันเล็กนิดเดียว เดี๋ยวจะเปียกกันหมด” คงไม่มีใครอยากเข้าไปแทรกกลางระหว่างคนสองคนหรอกมั้ง ผมฉลาดพอที่จะไม่ทำอย่างนั้น

“มึงจะไปไหน” มันยังคงถามต่อ

“ลานจอดรถ”

“กูก็ไปที่ลานจอดรถ ถ้าอย่างนั้นไปด้วยกันก็ถูกแล้ว”

“เดี๋ยวน้องเขาเปียก มึงจะให้กูมาแย่งพื้นที่ในร่มของน้องเหรอ”

“กูไม่ได้อยากให้สองเปียก กูแค่บอกว่าเราควรไปด้วยกัน”

ไม่พูดพร่ำทำเพลงไอ้เปอร์ก็รั้งข้อมือของผมเอาไว้และเดินออกมาจากชายคาของตึก ร่างกายในชุดนิสิตเปียกปอนทันทีที่ปะทะกับฝน ผมหลับตาแน่นเพราะถูกละอองน้ำสาดเข้ามาตรงเปลือกตาพอดิบพอดี ผมมองไม่เห็นอะไรเลย จึงทำได้แค่เดินตามแรงรั้งจากฝ่ามือของอีกฝ่าย

กระทั่งสายตาเริ่มปรับเข้ากับสภาพแวดล้อมโดยรอบได้ ผมจึงพยายามลืมตาขึ้นแม้เท้าสองข้างจะไม่หยุดเดินก็ตาม

“ไอ้เปอร์”

“เอาน่า ใกล้ถึงแล้ว”

มันไม่ได้อยู่ใต้ร่มอย่างที่คิด ร่างสูงเปียกม่อลอกม่อแลกไม่ต่างจากผม พลางส่งยิ้มให้ขณะที่มืออีกข้างก็ถือร่มให้รุ่นน้องตัวเล็กอย่างสองไปด้วย ใช่! น้องไม่เปียกเพราะไอ้เปอร์กางร่มให้ แต่สำหรับผมกับมัน...

“ขอบคุณนะ”

ผมยอม...

ยอมเดินตัวเปียกปอนไปกับอีกฝ่าย เพราะอย่างน้อยเราก็ได้จับมือกัน

อย่างน้อยผมก็ไม่ได้เปียกฝนเพียงคนเดียว

“ไอ้ตี่”

“...”

“กูกับสองเป็นแค่พี่น้องกันนะ”

“...”

“กูเป็นแค่พี่น้องกันจริงๆ”













วันนี้มีงานใหญ่ประจำมหา’ลัยอยู่หนึ่งงานนั่นก็คืองาน Music Contest และก็ยังมีงานเล็กๆ ประจำชมรมบอลอีกงานคือการคัดตัวนักเตะเข้าทีมมหา’ลัย ดูเหมือนความสำคัญจะต่างกันมาก แต่ผมกลับเริ่มวิตกกังวลว่าจะเลือกทางไหนดี ทั้งที่เมื่อเดือนก่อนผมยังตัดสินใจได้โดยไม่ต้องคิดอยู่เลย

“ไปวอร์มร่างกายที่สนามก่อนป่ะ” รุ่นพี่ชมรมบอลบอก

สุดท้ายผมก็สวมเสื้อบอลและเลือกมาที่สนามแทนที่จะเป็นฮอลล์สำหรับประกวดงานดนตรี

“ครับ”

ผมใช้เวลาวอร์มร่างกาย 10 นาที เดินกลับมาดื่มน้ำแก้กระหายเล็กน้อยก่อนรุ่นพี่วิศวะอย่างพี่อาร์ค ซึ่งเป็นหนึ่งในคนคัดเลือกนักเตะจะเดินมานั่งอยู่ใกล้ๆ

“พร้อมมั้ยไอ้ตั้ม”

“ก็นิดหน่อยครับ ไม่ค่อยได้เตรียมตัวมา”

“ไม่ค่อยเหรอ กูว่ามึงไม่เตรียมตัวมาเลยมากกว่า กูดูฟอร์มในสนามเมื่อกี้แล้ว มึงดูวอกแวกนะ”

“มีบ้างครับ พี่อาร์ค ผมขอถามอะไรหน่อยสิ”

“ว่ามา”

“พี่เคยรู้สึกว่าตัวเองไม่มีสมาธิมั้ย เหมือนจิตใจเราไม่อยู่กับลูกบอลเพราะมีเรื่องให้คิดตลอดเวลา”

“เคยดิ”

“ตอนไหน” เจ้าของฉายาเหนือเดือนหันมายิ้มให้ผม

“ตอนกูมีความรัก”

“แล้วระหว่างบอลกับความรักพี่เลือกอะไร”

“เลือกความรัก บอลมันหลุดมือแล้วกลับมาเล่นใหม่ได้ แต่คนรักหลุดมือน่ะกลับมาไม่ได้แล้วนะเว้ย”

“พี่...”

“ไม่ต้องถามกูแล้วไอ้ตั้ม จะไปตายห่าที่ไหนก็ไป ไปเลือกสิ่งที่ทำให้มึงวอกแวกเถอะ เชื่อกูสิ ตอนมึงไปที่นั่นมึงจะไม่คิดถึงบอลเลย เพราะสิ่งที่อยู่ตรงหน้ามึงมันสำคัญกว่า”

โอ้โห ฟังคนหล่อพูดแล้วฮึกเหิม อารมณ์อย่างกับหนังกู้ชาติกำลังแทรกซึมเข้าสู่กระแสเลือด ผมถอดรองเท้าสตั๊ดก่อนจะเปลี่ยนไปใส่คอนเวิร์สคู่เดิม ขับรถจากสนามบอลไปยังฮอลล์ประกวดซึ่งห่างออกไปไม่ไกลนัก แต่ถ้าไม่รีบก็กลัวว่าจะไม่ทันเพราะวงของไอ้เปอร์เป็นวงแรกที่เปิดการแข่งขัน

ไม่สนแม่งแล้ว ไอ้เปอร์มันจะรักหรือไม่รักใครก็ปล่อยมันไป

ผมเป็นเพื่อน ผมมีหน้าที่แค่รักมันอย่างที่อยากทำมาตลอด จะอยู่ช่วยเหลือ นั่งกินเหล้า คอยชวนคุย ไปดูไลฟ์ จะทำทุกอย่างเหมือนเมื่อก่อน เหมือนเพื่อนคนเดิมที่เฝ้าดูอยู่ห่างๆ แค่นี้ก็พอแล้ว

แต่พอไปถึงแทนที่กูจะได้เข้าแม่งเสือกโดนกันตัวออกอีก

สัด! ขัดอารมณ์ฮิปสเตอร์

“เดี๋ยวน้อง ขอบัตรนิสิตก่อน” จะมาขออะไรตอนนี้ ไม่เคยดูละครเหรอ นายเอกต้องไปให้ทันงานนะเว้ย

“ลืมเอามาอ่ะ เอาบัตรประชาชนได้มั้ยพี่”

“ไม่ได้ดิน้อง เขากันให้เด็กมหา’ลัยนี้เข้างานเท่านั้น”

“ก็เนี่ย ผมเรียนอยู่ที่นี่ รู้จักอาร์คเหนือเดือนมั้ย ผมเป็นรุ่นน้องที่รู้จักกันนะ”

“ใครก็เนียนบอกได้ดิ”

“โหยยยยยยพี่ เพื่อนผมร้องเพลงไปแล้วมั้ง ให้ผมเข้าไปเถอะ” เข้ายากเข้าเย็นขนาดนี้ กูใช้ฟันเฉาะหน้าให้สลบก่อนดีมั้ยจะได้ไม่เป็นภาระต่อความรักเพื่อนของกู

“งั้นบอกรหัสนิสิตมา จะเช็ค REG”

“56001xxx”

“โอเค ผ่าน!!”

เฮ้อ...กูเพลีย กว่าจะฝ่าด่านสต๊าฟได้ผมก็ต้องมาฝ่าด่านคนที่แออัดยัดเยียดจนเต็มฮอลล์อีก แน่นอนว่าผมไม่สามารถพาตัวเองไปยืนอยู่ข้างหน้าเวทีได้ ดังนั้นผมจึงทำได้แค่ยืนอยู่ในมุมมืดๆ ตรงปากทางเข้าเท่านั้น

“เพลงต่อไปเป็นเพลงที่ผมอยากร้องให้กับใครคนหนึ่ง เพลงที่ผมอยากเปลี่ยนหน้าที่จากเล่นกีตาร์มาเป็นนักร้องนำบ้าง” เสียงไอ้เปอร์...

“กรี๊ดดดดดดดดดดดด”

ผมมองไปยังด้านหน้าเวที ถึงแม้จะมองเห็นไม่ชัด แต่ก็รู้ดีว่าคนคนนั้นคือมัน แม่งไม่ใช่เพราะจำลักษณะท่าทางของมันได้หรอก คือกูดูในจอโปรเจคเตอร์ครับ เหยดดดดดดดดดดดด

เสียดายที่มาไม่ทัน วงหนึ่งจะต้องร้องเพลงช้าและเพลงเร็ว คิดว่าตอนนี้มันคงร้องเพลงเร็วจบไปแล้วล่ะ พลาดมั้ยล่ะมึง มัวแต่ไปถามห่าอะไรไม่รู้กับพี่อาร์คมัน

“เราเป็นเพื่อนกันครับ”

ทุกคนในฮอลล์ตั้งใจฟังไอ้เปอร์พูดอย่างจดจ่อ

“ตอนแรกเราไม่ได้สนิทกันมากมาย แต่พอได้คุย ได้เจอ ได้รู้จัก จากวันเป็นเดือน จากเดือนเป็นปี ผมกลับค้นพบว่าผมขาดมันไม่ได้”

หัวใจของผมเต้นกระหน่ำแทบทะลุอก หมายถึงใครเหรอไอ้เปอร์...มึงหมายถึงใคร

“ผมพยายามจะหายไปจากชีวิตของมัน และเริ่มต้นกับใครสักคนหนึ่ง แต่รู้อะไรมั้ยครับ ผมยังไม่ทันได้เริ่มต้นกับคนใหม่เลย เพราะไอ้เพื่อนคนนี้แหละทำให้ผมไปไหนไม่ได้ ฉะนั้น...ผมเลยอยากมอบเพลงนี้ให้กับเพื่อนที่ผมรู้สึกพิเศษที่สุด ความรู้สึกที่ผม...รู้แน่ๆ แล้วว่ามันเรียกว่าความรัก”




ในแววตาทั้งคู่ไม่รับรู้อะไร…



“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด”

ทันทีที่ไอ้เปอร์กรอกเสียงผ่านไมค์ ก็ทำเอาใครหลายๆ คนส่งเสียงกรี๊ดขึ้นมาไม่ขาดสาย เพราะความหมายของเพลงนี้มันมากกว่าเพื่อน...เพื่อนที่คิดไม่ซื่อ



เธอคงยังไม่เข้าใจ ว่าฉันไม่ใช่คนเก่า
เรายังคงเหมือนเพื่อน หยอกล้อเหมือนวันวาน
แต่ฉันคือคนใจสั่น แต่ฉันคือคนหวั่นไหว

ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย…ในความคุ้นเคยกันอยู่
มันแฝงอะไรบางอย่างที่มากกว่านั้น
ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย ว่าเพื่อนคนหนึ่งมันแอบมันคิดอะไรไปไกล
กว่าเป็นเพื่อนกัน




ทุกคนร้องตามกึกก้องไปทั่วพื้นที่ ผมเป็นคนที่ชอบดูหนังเพื่อนสนิทและก็มักจะอินกับเพลงรวมถึงเนื้อเรื่องไปซะทุกฉาก แม้จะดูเป็นครั้งที่ร้อยก็ตาม แต่ไม่ใช่กับครั้งนี้...เสียงของไอ้เปอร์ทำให้ผมอยากร้องไห้ออกมาจริงๆ

หลังจากเพลงจบลง เสียงปรบมือก็ดังเกรียวกราวขึ้นมาก่อนจะเงียบลงอีกครั้งเพื่อรอให้นักร้องนำสุดฮอตอย่างมันได้พูดอะไรบางอย่าง บางอย่างที่ผมหวัง...ให้มีผมอยู่ในนั้น

“ขอบคุณทุกคนมากครับที่ช่วยกันร้องจนจบเพลง สุดท้ายนี้ผมแค่อยากบอกอะไรกับเพื่อนคนนั้นอีกสักหน่อย ถ้าเกิดมึงบังเอิญผ่านมา ถ้าเกิดมึงบังเอิญอยู่ใกล้ๆ กันตรงนี้ กูอยากจะบอกว่า...”

“...”

“ไอ้ตี่...กูรักมึงว่ะ”

“แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยย >///<”

เสียงกรี๊ดถล่มทลายดังแทรกเข้าไปในโสตประสาท ผมแทบล้มทั้งยืนทันทีที่เห็นมันประกาศผ่านไมค์ และดูเหมือนทุกคนจะจดจ้องไปยังนักร้องนำไม่คลาดสายตา

“สิบ!”

ไอ้เปอร์เริ่มนับ เป็นเลขที่เราต่างรู้ดีว่ามันหมายถึงอะไร

“เก้า”

“แปด”

“เจ็ด”

“หก”

ผมยังคงนิ่งไม่ยอมขยับไปไหน ยืนอยู่ที่เดิม แค่...ยืนอยู่ที่เดิมในความมืด

“ห้า”

รู้สึกเหมือนกันมั้ย ตอนนั้นที่ผมนับถึงครึ่งทาง ผมเหมือนกำลังร้องไห้ และแววตาของไอ้เปอร์ก็กำลังเอ่อรื้นเหมือนรอความหวังอะไรสักอย่าง

“สี่”

ผมเกลียดมัน

“สาม”

ผมเกลียดที่มันเรียกผมว่าตี่

“สอง”

ผมเกลียดมันมากๆ

“หนึ่ง!”



เกลียดที่มันทำให้ผมไม่สามารถหยุดรักมันได้เลย



“เอ่อ!! กูก็รักมึง”

วินาทีที่ผมตะโกนออกไปสุดเสียง สายตานับพันก็หันมาจ้องผมเป็นจุดเดียว แต่ไม่แคร์หรอก สำหรับผมแล้ว...คนที่อยู่ในสายตาก็คงมีแค่ไอ้เปอร์เพียงคนเดียว

มันยิ้ม ยิ้มให้ผมเหมือนรู้คำตอบดีอยู่แล้วว่าเราเนี่ยแหละ

เพื่อนสนิท คิดไม่ซื่อ



THE END





เกร้ดดดดดดดดดดดด จิตติดาวมอกลับมาแล้วนะ
1.เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สามของเรื่องสั้นแก้บน แต่กว่าจะแก้เสร็จก็นานเลยเนาะ
2.ขอโทษที่ทำให้รอนานค่ะ มัวแต่กลับไปเคลียร์นิยายเรื่องเก่า ตอนนี้ใกล้จบหมดแล้ว
3.พยายามศาสตร์ไม่เน้นฮานะ บางช่วงเศร้า และก็อยากให้เพื่อนหวานกันบ้าง
4.ไอ้ตี่ เอ้ย! ตั้มมันพยายามจะเป็นเพื่อนที่ดีมาตลอด เพราะกลัวจะเสียเปอร์ไปเพราะงั้นตอนนี้ความพยายามสัมฤทธิ์ผลแล้วนะ
5.น้องสองคณะพยาบาลนี้พร็อพชัดๆ
6.ชอบเพื่อนสนิทมาก ทุกวันนี้ก็ยังกลับไปดูเรื่อยๆ (รักไข่ย้อย รักดากานดา รักนุ้ย)
7.คิดถึงทุกคนมากเลย ขอบคุณที่ติดตามกันเสมอนะคะ
8.ใครเล่นแท็กในทวิตสามารถแท็ก #มหาลัยมาหารัก หรือแท็ก #พยายามศาสตร์ ได้เลยนะ
9.ถ้ารักพยายามศาสตร์ฝากให้กำลังใจจิตติดาวมอด้วยนะคะ รักซัมเหมอออออ
10.เรื่องหน้าไปคณะไหนดีน๊า ใบ้ให้นิดหน่อย คือเป็นคณะที่มีคนหน้าตาดีเยอะที่สุด ติดโผทุกมหา’ลัยแหละ เชื่อสิ!!
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-11-2015 09:25:40 โดย Jittirain12 »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด