Limited Book [สิปป์-นิช] (1)
ทุกคนสามารถเข้าไปในโลกของศิลปะ
แต่ไม่ใช่ว่าทุกคนจะ ‘เข้าถึง’ ศิลปะ ผู้ชายคนนี้ตาสวย
...จนน่ากลัว
นั่นคือสิ่งแรกที่ผุดขึ้นมาในหัวยามเปิดไฟล์แนบ ผมกดเซฟรูปภาพไว้ในโฟลเดอร์งานภาพเหมือนของเดือนนี้ กลับมานั่งไล่ดูรายละเอียดที่ลูกค้าสั่งมาอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ โลกออนไลน์เพิ่มวิธีการหารายได้ให้อาชีพนักวาดรูปบนมากกว่าสมัยก่อน
และนี่ก็เป็นหนึ่งในลูกค้าที่มาใช้บริการโดยไม่เกี่ยงเรื่องราคาค่างวด
ส่งงานภายในสองสัปดาห์ ใช้สีน้ำตามที่ผมถนัด รายละเอียดไม่จู้จี้จุกจิกเหมือนลูกค้าบางราย
กลับมาเปิดไฟล์ที่เพิ่งเซฟลงเครื่องเมื่อกี้อีกครั้ง ภาพผู้ชายผิวขาวกำลังเอียงหน้าไปข้างหนึ่ง ผมสีดำตัดสั้นเปิดข้างเผยให้เห็นรอยไถเป็นรูปตัว D อยู่บริเวณเหนือใบหู ที่โดดเด่นไม่แพ้กันคือจิวหลากหลายรูปแบบเรียงไล่ลำดับกันไปตาม แถมยังเจาะด้านในอีกด้วย
โครงหน้าเรียกว่าสวยไร้ที่ติ คิ้วที่ไม่รกหรือบางจนเกินไป จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากบางเฉียบกำลังเหยียดยิ้ม ผมไล่ดูโครงสร้างของใบหน้าอีกครั้งเพื่อจำลองรูปวาดคร่าวๆ พยายามเลยผ่านนัยน์ตาสีดำสนิทที่สบมาราวกับกำลังท้าทายความอดทนกับคนที่ดูภาพนี้อยู่ ตาสองชั้นรีสวยแบบคนตะวันตก คงเป็นพวกลูกครึ่งไม่ก็ลูกเสี้ยว
ไม่เคยวาดรูปเหมือนของใครที่นัยน์ตาสวยได้ขนาดนี้มาก่อน
“Happy Birthday to Dix”
ผมทวนคำที่ลูกค้ารีเควสมา นั่นคงบอกได้ว่าผู้ชายในรูปชื่อ Dix และคงเป็นที่มาของรอยไถตัวดี มันอ่านว่ายังไงนะ เหมือนไม่ใช่ภาษาอังกฤษเลย
ความจริงยังมีงานอื่นที่ค้างอยู่บนโต๊ะ ผมเลือกที่จะปล่อยงานเดิมให้วางทิ้งไว้อย่างนั้น จัดการปริ๊นท์ภาพสีต้นแบบออกมาอย่างรวดเร็ว เตรียมพร้อมที่จะร่างดินสอลงกับกระดาษปอนด์แผ่นใหญ่
ถามตัวเองเหมือนกันว่าอะไรที่ทำให้ยอมลัดคิวเอาภาพนี้ขึ้นมาทำก่อน ทั้งที่บอกกับตัวเองเสมอว่าจะไม่มีการลัดคิวใดๆ ทั้งสิ้นเพื่อเป็นมาตรฐานในการทำงานของตัวเอง
ร่างรูปด้วยดินสอเฮชบีจนโครงรูปปรากฎอย่างรวดเร็ว ยิ่งประหลาดใจมากเข้าไปอีกที่เหลียวกลับมามองดูภาพต้นฉบับนับครั้งได้ การร่างภาพของคนที่ไม่รู้จักต้องกลับมาจดจำลักษณะเด่นต่างๆ บ่อยครั้ง แต่ไม่ใช่กับเขา
เหมือนตรึงทั้งภาพไว้แล้วในความทรงจำ เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ก็ไม่รู้ ใช้สมาธิทั้งหมดไปกับกระดาษขาวที่ถูกแต่งแต้มจนเต็มไปด้วยสีโทนหม่น จุดเด่นของงานผมคือใช้สีเข้มเป็นหลัก งานเกือบร้อยเปอร์เซนต์ไม่เคยมีการใช้สีสว่าง ประจวบเหมาะกับสมัยนิยมที่ใช้การแต่งรูปโดยเพิ่มค่าเฟด (Fade) เข้าไป งานของผมเลยมีลูกค้าต่อเนื่องไม่สะดุด
วางพู่กันลงบนถาดสีหลังจากตวัดลายเซนต์รูปตัวอนันต์ลง ผมชื่อ ‘นิช’ ที่แปลว่า ‘นิรันดร์’ เพราะงั้นสัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึงความเป็นอมตะเลยกลายมาเป็นโลโก้ประจำตัว
“สุขสันต์วันเกิดล่วงหน้านะ...”
อวยพรผ่านกระดาษสีหม่น เอื้อมมือไปหยิบซองสีน้ำตาลเตรียมจัดส่งให้กับผู้ว่าจ้าง ผมใช้บริการขนส่งเอกชนแทนที่จะเป็นบริการจากไปรษณีย์ไทยจึงไม่ต้องกังวลเรื่องสภาพของหลังจากจัดส่ง กระดาษถูกสอดลงไปเกือบครึ่งแผ่นแล้วหยุดลงเสียดื้อๆ ยามที่สายตาสะดุดกับนัยน์ตาสีแปลกนั้นอีกครั้ง
กวาดมือข้างที่ว่างสะเปะสะปะลงบนโต๊ะตัวเก่ง ขวานหาโทรศัพท์มือถือด้วยความตั้งใจที่จะถ่ายภาพนี้เก็บไว้ก่อน มือสไลด์เลื่อนหาโปรแกรมถ่ายรูปอย่างรวดเร็ว ผมมองภาพที่ปรากฎอยู่บนหน้าจอของตัวเองด้วยความรู้สึกหลากหลาย อะไรบางอย่างกำลังเตือนผมว่ากำลังถลำตัวเข้าไปในโลกที่ไม่ควรไป
“...ไม่ดีกว่า”
วางโทรศัพท์ลง รีบเก็บภาพลงซองให้เร็วที่สุด
มันก็แค่งานๆ หนึ่งอย่าไปให้ความสำคัญจนเกินไป เขาให้เงินเราส่งงานเท่านั้นเอง
ต้องท่องไว้ให้ขึ้นใจ
≡≡≡≡≡≡≡≡≡≡≡≡≡≡≡≡≡≡≡≡≡≡≡≡≡≡≡≡≡≡
คุณมีข้อความใหม่ 348 ข้อความ
ตื่นมาพร้อมกับความประหลาดใจขั้นสุด เมื่อหน้าจอแมคที่ไม่เคยปิดโชว์ว่าโปรแกรมไลน์ของผมมีข้อความใหม่มากกว่าสามร้อยข้อความในช่วงเวลาหนึ่งคืนที่ผมหลับไป ส่วนอินสตาแกรมในมือถือก็มีการแจ้งเตือนว่ามีผู้ติดตามไอจีร้านวาดรูปเพิ่มขึ้นมาเกือบสี่พันคน แน่นอนว่ารวมถึงจำนวนไลค์ที่นับไม่ถ้วน
เกิดอะไรขึ้น?
ผมปล่อยให้ไลน์ค้างเป็นหลักร้อยไว้อย่างเดิม หันมาให้ความสนใจกับแอพพลิเคชั่นที่ให้ลงรูปพร้อมแคปชั่นอย่างไอจี จริงอยู่ว่าเป็นเรื่องปกติที่จะมีการแจ้งเตือนเรื่องคนติดตาม แต่มันก็ไม่เคยเยอะขนาดนี้ในเวลาชั่วข้ามคืน ผมมั่นใจว่าต้องมีอะไรเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
จะเริ่มจากคนติดตามที่เพิ่มขึ้นมาคงไม่ใช่ทางเลือกที่ดีนัก และยอดไลค์รวมถึงคอมเมนท์ก็เป็นตัวเลือกที่ตัดทิ้งไปเลยได้เช่นกัน ผมเลยเริ่มจากคำสั่งเรียกดูภาพที่ถูกแท็กขึ้นมาเผื่อว่าจะเจอคำใบ้สักอย่างที่ทำให้ผมพ้นจากทางเดินที่มืดบอดนี้ มีคนแท็กไอจีผมใหม่มาเป็นจำนวนไม่น้อย น่าสังเกตคือเกือบทั้งหมดเป็นรูปเดียวกัน
รูปวาดสีน้ำของผู้ชายคนนั้น
ผมเริ่มตงิดใจแปลกๆ ไล่ดูทีละรูปเผื่อว่าจะเจอเบาะแส บางรูปมีไลค์เพียงหลักหน่วยจึงตัดทิ้งไปได้เลยว่าไม่มีทางเป็นต้นเหตุของปรากฎการณ์นี้อย่างแน่นอน ไล่ลงไปเกือบสามสิบภาพถึงจะเจอสิ่งที่ตามหา
_Dix_ : Thank you ps.ใครรู้จักคนวาดช่วยแท็กให้หน่อยนะครับ
กดเข้าไปดูหน้าโปรไฟล์ของเจ้าของ รูปตัวแทนเป็นเพียงช่วงนัยน์ตาที่ผมไม่มีทางลืมความสวยงามนั้นได้ คงเพิ่งเลยวันเกิดมาได้ไม่กี่ชั่วโมงเพราะสามสี่รูปหลังสุดคือปาร์ตี้ในร้านอาหาร กองของขวัญใหญ่โต จะมีก็แต่รูปเจ้าปัญหานี่แหละที่เขาถ่ายเดี่ยวไม่รวมกับของขวัญชิ้นอื่น
จากส่วนไบโอเขียนว่าเป็น singer ถึงว่าคนติดตามเป็นแสน เมื่อได้ข้อสรุปให้ตัวเองว่าปรากฎการณ์นี้เกิดขึ้นได้อย่างไรผมก็ปิดแอพไอจีลง มาให้ความสนใจกับไลน์ที่ยังคงเด้งอย่างต่อเนื่อง ไล่ดูคร่าวๆ แบบที่ไม่เข้าไปอ่านเนื้อความ เกือบทั้งหมดคือติดต่อจ้างให้วาดรูป
ดูท่าว่าเดือนนี้งานผมคงแน่นเอี๊ยด
ใช้เวลาเกือบทั้งวันในการเคลียร์ข้อความทั้งหมดในไลน์และไอจี ผมวางปากกาลงเมื่อจดข้อความสุดท้ายลงไปในสมุดเรียบร้อย หลับตาลงเพื่อไล่ความเหนื่อยล้าที่สะสมมาตั้งแต่เช้า นี่สินะที่เขาเรียกกันว่างานเข้า
ผ่อนลมหายใจเข้าออกเป็นจังหวะช้าๆ บอกตัวเองว่าเลิกคิดเรื่องงานแล้วดูแลสุขภาพตัวเองให้ดีก่อน
บอกอย่างนั้นแต่ไม่อาจลบสายตาคู่สวยนั้นออกไปได้เลย
“Dix...”
จนถึงตอนนี้ผมก็ยังไม่รู้ว่าคำนี้อ่านว่ายังไง ในเมื่อไล่ภาพให้ออกไปจากความคิดมากเท่าไหร่ก็ไม่เป็นผลผมเลยหยิบสมาร์ทโฟนเครื่องเก่งของตัวเองขึ้นมาเปิดโปรแกรมบราวเซอร์อินเทอร์เน็ต พิมพ์คำว่า Dix พร้อมกับ Singer ลงไปจึงพบสิ่งที่ต้องการอยู่ลำดับต้นๆ เป็นแฟนเพจในเฟสบุ๊คมีคนไลค์ครึ่งล้าน
นั่งตามอ่านหาข้อมูลของผู้ชายคนนั้น ชื่ออ่านว่าดิซ แปลว่าเลขสิบในภาษาฝรั่งเศส ไม่แปลกใจเท่าไหร่เพราะเค้าหน้าก็ไม่ใช่แนวคนไทยเสียทีเดียว เป็นนักร้องใต้ดินที่มีผลงานเพลงออกมาต่อเนื่อง บางเพลงผมเคยฟังด้วยซ้ำแต่ไม่เคยรู้ว่าเป็นเสียงของเขา ไม่อยากจะเชื่อว่าเป็นนักร้องที่ไม่มีสังกัดค่ายเพลง
รูปภาพในอิริยาบทต่างๆ เรียกไลค์ได้เป็นอย่างดี และยอดจะพุ่งขึ้นไปมากกว่าเดิมถ้ารูปนั้นเป็นรูปที่เขาโชว์กล้ามหน้าท้องเรียงตัวสวยอย่างคนที่ออกกำลังกายเป็นประจำ
หืม?
หยุดตากับรูปที่เห็นเพียงเสี้ยวหน้าดูจากโลเคชั่นแล้วคงไม่พ้นร้านหรูสักแห่ง ดิซในชุดสูทพอดีตัวยืนหลบอยู่หลังมุมกำแพง ถ้าเป็นผู้ชายคนอื่นที่ทำตัวร็อคตลอดเวลาคงไม่เหมาะกับชุดทางการได้ขนาดนี้ โลกไม่ยุติธรรมกับคนบางคนเลยจริงๆ มือขวาที่จับเมาส์จัดการเซฟรูปนี้ลงเครื่องต่างหากโดยไม่เอาไปปะปนกับไฟล์ตารางงานอื่น
หยิบกระดาษแผ่นหนาขึ้นมาไว้บนโต๊ะ กะโครงร่างคร่าวๆ ของรูปที่เพิ่งจะบันทึกล่าสุดว่าต้องใช้พื้นที่ส่วนไหนยังไงแล้วเริ่มร่างแบบทันที เป็นอีกครั้งที่ผมจำภาพของเขาได้ขึ้นใจทั้งที่ใช้เวลาดูเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น
แล้วผมจะวาดไปทำไมน่ะเหรอ
ในเมื่อเขาพาลูกค้ามาให้ผมขนาดนี้จะให้ผมรับทรัพย์ไปหน้าตาเฉยก็ไม่ใช่ล่ะมั้ง
...และผมน่าจะยอมเป็นคนเนรคุณ
ในไอจีเต็มไปด้วยยอดไลค์สมกับมีผู้ติดตามเป็นแสน เขาลงรูปที่ผมวาดแล้วฝากส่งไปทางไปรษณีย์ลงในไอจีเมื่อสิบสองชั่วโมงที่แล้ว แท็กร้านของผมตรงกลางรูป แคปชั่นใช้เพียงอีโมติค่อนรูปหัวใจสีแดงสามดวงติดต่อกัน
หัวใจอย่างนั้นเหรอ
ไล่อ่านคอมเมนท์ตั้งแต่ต้น ส่วนมากเป็นแฟนคลับที่ตั้งข้อสังเกตว่าคนที่ให้จะต้องเป็นคนพิเศษของนักร้องหนุ่มอย่างแน่นอน เพราะเขาให้ความสำคัญกับรูปวาดสีน้ำนี้เป็นครั้งที่สองแล้ว และครั้งนี้พิเศษยิ่งขึ้นโดยการใส่แคปชั่นรูปหัวใจที่มักเกี่ยวข้องกับเรื่องของความรัก
“ทำบ้าอะไรของเขา...”
ผมไม่ได้เขียนข้อความอะไรลงไปมากมายในการส่งครั้งล่าสุด ถ้าพูดให้ถูกคือเขียนเพียงแค่ ‘Thanks for support’ ลงไปเท่านั้นเอง
“งานเก่ายังเคลียร์ไม่หมดเลยนะเว้ย”
บ่นกับตัวเองอย่างไม่จริงจังนัก พอเขาลงรูปโปรโมตให้ผมแบบไม่เสียเงินสักบาทมันก็จะตามมาด้วยสมาชิกที่ทักผ่านช่องทางไลน์มาติดต่อเรื่องงานเป็นจำนวนไม่น้อย ได้เงินมันก็เป็นเรื่องที่ดี แต่ผมไม่ได้ทำเป็นอาชีพเต็มตัวขนาดนั้น เป็นงานอดิเรกที่ทำตอนว่างจะเป็นนิยามที่ถูกต้องมากกว่า
จริงอยู่ว่าผมเรียนต่อในโรงเรียนศิลปะแทนที่จะเข้ามหาวิทยาลัยตามค่านิยมของเด็กไทย มันไม่ได้หมายความว่าผมเรียนไม่เก่งหรอกนะเพราะผมเป็นหนึ่งในห้าของเด็กเรียนดีเสมอสมัยอยู่มัธยมปลาย ก็แค่ไม่ชอบที่ต้องเข้าไปใช้ชีวิตอยู่กับโลกที่ไม่ใช่ของเรา สังคมที่ไม่ใช่ของเรา สี่ปีอาจไม่ใช่เวลายาวนาน ...และก็ไม่ใช่ช่วงเวลาที่สั้นเช่นกัน
โชคดีที่พ่อกับแม่เคารพการตัดสินใจของผม ทั้งคู่จบปริญญาในต่างแดนเลยทำให้ความคิดความอ่านต่างจาก ‘คนอื่น’ ค่อนข้างมาก อีกอย่างงานศิลปะเองก็ไม่ใช่งานที่ได้รับการยอมรับจากคนในสังคมมากเท่าไหร่นัก แต่พ่อแม่ผมก็บอกแค่เพียงว่า
‘หน้าที่ของหนูคือใช้ชีวิตให้คุ้ม หน้าที่ของพ่อแม่คือคอยสนับสนุนให้หนูได้ใช้ชีวิตอย่างที่อยากทำ’ บุพการีใครก็ไม่รู้โคตรเท่
ถามว่าเหงาไหมที่เห็นเพื่อนสนิทเกือบยกกลุ่มไปเรียนต่อในมหาวิทยาลัยเดียวกัน ก็เหงาแหละ เพียงแค่ว่าผมมีอิสระกว่าพวกเขาในการใช้ชีวิตที่ไม่โดนตีกรอบให้เรียนตามตาราง สอบปลายภาค ทำงานกลุ่ม วนเวียนไปเรื่อยๆ
อาจเป็นเพราะผมชื่อนิช
ที่แปลว่าผู้เป็นตัวเองได้เช่นกัน
หลังจากที่ส่งรูปไปขอบคุณให้นักร้องไร้สังกัดคนนั้นผมก็คอยเตือนตัวเองว่าให้ลืมไปซะว่าทำอะไรลงไป ให้กลับมาอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงเสียที ผมว่าผมทำมันได้ดีมาตลอดนะ จนกระทั่งอีกฝ่าย ‘จุดเชื้อไฟ’ ขึ้นมาอีก
คราวนี้ผมไม่รู้จะดับกองเพลิงนี้ได้อย่างไรจริงๆ
ใช้ชีวิตอยู่กับความว้าวุ่นในหัวใจจนพอควรแก่เหตุ ผมสะบัดหัวไล่ความฟุ้งซ่านออกไปแล้วเดินไปนั่งหน้าคอมแมคเครื่องใหญ่ ไลน์ร้านบอกว่ามีมากกว่าร้อยข้อความใหม่ ผมไล่เพียงให้ผ่านตา ไม่มีอะไรน่าสนใจ
เอ๋...?
Di[X] : ขอจ้างวาดรูปหน่อยครับ ผมเปิดเข้าไปอ่านข้อความโดยไม่คิด เป็นพวกคลั่งนักร้องเข้าขั้นรึไงถึงใช่ชื่อไลน์เป็นชื่อนี้ รูปตัวแทนก็เป็นรูปของนักร้องเจ้าปัญหาที่นำพามาซึ่งความปวดประสาทให้ผมไม่หยุดหย่อน
infiNITy.gallery : ขอทราบรายละเอียดครับผม ; )
Di[X] : รูปนี้ ขนาดเอสี่ ขอเลขบัญชีด้วย รูปที่เขาส่งมาไม่ต่างจากที่คาดไว้ รูปของดิซในอิริยาบทที่ผมว่าเป็นส่วนตัวไปสักหน่อย เขานั่งอยู่บนเตียงหลังพิงกับพนัก ท่อนบนเปลือยเปล่าที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อมีผ้าห่มสีขุ่นบังท่อนล่างไว้ ปากคาบแท่งนิโคตินสีดำสนิทไว้ มือข้างหนึ่งกำลังจุดไฟแช็คส่วนอีกข้างก็ยกขึ้นมาบังลม จากความรู้สึกไม่คิดว่าเป็นรูปถ่ายแบบด้วยความเป็นธรรมชาติจนเกินไปหลายประการ
ถ้าให้เดาคงเป็นแฟนคลับที่คลั่งไคล้ไม่ใช่น้อยถึงมีรูปแบบนี้ได้
infiNITy.gallery : มีรีเควสอะไรเป็นพิเศษไหมครับ หรือว่าให้วาดตามต้นฉบับเลย
infiNITy.gallery : นี่ครับเลขบัญชี ผมถามตามสเต็ป ลูกค้าบางคนก็ชอบให้ปรับนู่นแต่งนี่ตามความชอบส่วนตัว จากทรงแล้วคงเป็นลูกค้าที่ไม่เรื่องมากถึงขอเลขบัญชีไวอย่างนี้ จัดการส่งภาพที่เต็มไปด้วยรายละเอียดเกี่ยวกับขั้นตอนการโอนเงินและวิธีการจัดส่งให้ตามไปอย่างไม่รอช้า
การซื้อขายบนโลกออนไลน์ต้องเร็ว ทุกอย่างพร้อมที่จะเปลี่ยนไปในทุกนาที
คำว่ารี้ดขึ้นทันทีที่รูปส่งไปถึง ไม่รู้ว่ารีบอะไรนักหนาขนาดนั้น ผมเปิดหน้าต่างสนทนาค้างไว้เผื่อว่าเขาจะตอบกลับมาว่าต้องการให้เพิ่มเติมอะไรพิเศษอีกไหม
รอไม่ถึงห้านาทีเสียงข้อความเข้าจากโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
ผมหยิบมือถือขึ้นมาสไลด์ดูข้อความใหม่ การแจ้งเตือนอัตโนมัติที่จะส่งทันทีที่มีการโอนเข้าของเงินจากธนาคารแห่งหนึ่ง จำนวนเงินที่ถูกโอนเข้ามามันมากผิดปกติจนผมต้องกระพริบตาซ้ำ
มีอะไรผิดพลาดแล้วแน่
หันกลับไปมองหน้าจอคอมที่เปิดค้างไว้ ลูกค้าปริศนาตอบกลับมาเมื่อนาทีที่แล้ว
Di[X] : อยากวาดแบบไหนก็วาด
Di[X] : โอนเงินแล้ว เช็คด้วย ภาพที่เขาส่งแนบกลับมาคือหลักฐานการโอนเงินบนธนาคารออนไลน์ ผมเทียบเลขบัญชีกับวันเวลาในการโอน พบว่าตรงกันทุกประการ
infiNITy.gallery : คุณโอนเงินมาเกิน รบกวนขอเลขบัญชีเพื่อคืนเงินด้วยครับ
Di[X] : ขอรับรูปวันเสาร์หน้า ที่ร้าน X-ART
Di[X] : มาส่งเอง “...”
สายตายังคงจ้องมองที่กระดานสนทนา ในใจเต็มไปด้วยความยุ่งเหยิงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน อย่างแรกเลยคือผมไม่ชอบการออกไปพบปะผู้คนมากนัก อย่างที่สองคือผมสังหรณ์ในแปลกๆ ว่าอีกฟากไม่ได้เพียงแค่ชื่นชอบดิซเท่านั้น
infiNITy.gallery : ขอเลขบัญชีดีกว่าครับ คนวาดไม่สะดวกในการเดินทางเท่าไหร่ ความจริงบ้านของผมตั้งอยู่บนแหล่งทำเลทองของเมืองหลวง แต่ถ้าไม่อยากออกไปก็มีค่าเท่ากับไม่สะดวกในการเดินทางนั่นแหละ
Di[X] : เจอกันเที่ยงตรง “คนบ้าอะไรเนี่ย”
ผมยังคงทักตามไปอีกสองสามประโยค ลูกค้าแสนพิลึกเพียงแต่รี้ดแล้วไม่มีการตอบกลับใดๆ นั่นไง อยู่ดีไม่ว่าดี ดันเจอลูกค้าแปลกๆ อีกต่างหาก
เปิดไฟล์รูปขึ้นมาดูอีกครั้ง ยอมรับเลยว่าผู้ชายคนนี้ดูดีจนน่าอิจฉาทั้งหน้าตารูปร่างและรสนิยมในเรื่องของแฟชั่น กลุ่มผมไม่มีใครบ้าแฟชั่นอย่างนี้สักคนเดียว ขนาดคนที่ดูเข้าสังคมมากที่สุดอย่างแบล็คเองก็จะมีรูปแบบการแต่งกายที่เป็นแพทเทิร์นเดิมซ้ำๆ วนไปมา กางเกงยีนส์แบรนด์ดังกับเสื้อยืดพอดีตัว พอดีมันเป็นพวกดูแลหุ่นตลอดเวลาไงเลยไม่ต้องมากังวลเรื่องรูปร่างขนาดนั้น
สูดลมหายใจเข้าออกยาวๆ
เงินก็เข้าบัญชีมาแล้วอีก จะทำยังไงได้ล่ะ
≡≡≡≡≡≡≡≡≡≡≡≡≡≡≡≡≡≡≡≡≡≡≡≡≡≡≡≡≡≡