3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [เปิดขายแล้วน้า]1/2/60 P.46
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

ชอบใครมากที่สุด (ถามอีกแล้ว 55)

พี่ภูคนโหด เรื่องหื่นไว้ใจได้
61 (25.2%)
น้องเกรียนฟิก ผู้มีสามี2คน
98 (40.5%)
พี่ตินคน(แอบ)โหด อย่าให้โมโหเชียว
83 (34.3%)

จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 242

ผู้เขียน หัวข้อ: 3P[ฉบับพิเศษ]เมื่อผมเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน [เปิดขายแล้วน้า]1/2/60 P.46  (อ่าน 293491 ครั้ง)

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1909
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3

ออฟไลน์ sindy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 42
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

ออฟไลน์ DuenTwinBII

  • ♥ “If you can't explain it simply, you don't understand it well enough.”♡
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 369
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +624/-4

ตอนที่๔ โกรธ






ผมเริ่มจะปล่อยวางเรื่องอาการคิดมากเพราะงานของผมที่เริ่มกลับมาสุมอีกครั้ง เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกดีใจเพราะมันจะทำให้ผมไม่ต้องคิดอะไรบ้าๆอีก ช่วงที่มีโปรเจคผมตัดสินใจไปทำงานที่บ้านไอ้เคนกับไอ้ชาย ไอ้สองคนนั่นก็ดูเหมือนจะไม่ยอมจนผมสวนกลับไปว่าทีพวกมันยังทำได้เลย พวกมันก็ไม่ได้ว่าอะไรอีก  ผมเองก็เล่าระบายเรื่องนี้ให้เพื่อนสองคนฟังอยู่บ้าง มันก็บอกพร้อมกันว่าไม่มีอะไรหรอก ไอ้ภูไม่นอกใจผมแน่ๆ กับไอ้ปั๊มมันเงียบๆไปไม่ค่อยได้ส่งข่าวคราวมาเท่าไหร่ อาจจะเพราะว่ามันยุ่งๆล่ะมั้ง ผมก็ไม่ได้เซ้าซี้แต่อย่างใด ออกจะสบายใจเพราะแสดงว่าไอ้ภูไม่ได้ออกนอกลู่นอกทาง ช่วงพักผมเลยไลน์ไปหาไอ้ภู

ฟิก:ไปกินข้าวกัน

ภู:อ้าว กูกินมาแล้วว่ะ ต้องประชุมงานคณะต่อ

ฟิก:เหรอ โอเค แล้วไปกินกับใคร

ภู:เพื่อนกูดิ ถามแปลกนะ

เพื่อนมันก็พวกไอ้นนท์น่ะสิ

ฟิก:ตอนเย็นมึงไปวิ่งไหมวะ กูจะไปด้วย

ภู:ไปดิ ดีเลยกูกลัวมึงจะเป็มหมู

ฟิก:หล่อๆแบบนี้เหมือนหมูได้ไง

สรุปว่ามันให้ผมออกไปเจอที่อ่างเก็บน้ำหลังมอ.ที่เดิมตามปกติ นี่จะเป็นครั้งที่สามที่ผมจะได้เจอไอ้นนท์กับไอ้เป้ ผมกลับไปที่หอเพื่อเปลี่ยนชุด ผมเอากางเกงบอลและเสื้อยืดของไอ้ตินมาใส่ ไม่แปลกใจที่ไอ้ภูมันไม่ได้กลับมาเปลี่ยนชุดที่หอเพราะมันชอบเอาชุดออกกำลังกายติดรถไปด้วย

“เออ พวกมึงออกไปกันยัง”ได้ยินเสียงพูดคุยดังแทรกมา

[ไปแล้วๆ]

“อือ แวะมารับกูหน่อยก็ไม่ได้นะ”ผมเผลอพูดออกมาจนไอ้ภูเงียบลง

[คิดมากไปได้ เดี๋ยวกูไปรับก็แล้วกัน]

“โห่ แฟนพี่ขาด้วนเหรอ”เสียงใครบางคนแทรกมาก่อนที่สายจะตัดไป ทิ้งให้ผมยืนหงุดหงิดอยู่คนเดียว รอไม่นานรถสปอร์ตคุ้นตาก็จอดที่หน้าหอ ผมเปิดประตูข้างคนขับตามความเคยชินแต่ก็ผงะไปเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าเป็นไอ้นนท์นั่งหน้าสลอนอยู่ ผมเลยเปลี่ยนไปนั่งเบาะหลังกับไอ้เป้และอีกสองคนแทน

“เด็กหอยเหรอ"ไอเป้ถามพลางมองเสื้อยืดทีมเชลซีที่ผมใส่อยู่

“เปล่าอ่ะ ของเพื่อน”ผมตอบก่อนจะสังเกตุไอ้นนท์ สาเหตุที่ทำให้ผมคิดมากคือ หนึ่งไอ้นนท์เด็กกว่าไอ้ภูหนึ่งปี(ตามปกติไอ้ภู
ควรจบแล้ว) สองไอ้นนท์หน้าใส ดูซื่อๆ สเป็คไอ้ภู สามปกติไอ้ภูไม่สนิทกับใครง่ายๆแบบนี้ แต่เพราะความที่ชอบอะไรคล้ายๆกันเลยซี้กันเร็ว ผมไม่รู้ว่าสนิทกันขั้นไหนแต่คงจะซี้กันพอดูเพราะถึงขั้นไปทำงานที่คอนโดไอ้ภูได้ก็แสดงว่าไม่ธรรมดา และตั้งแต่ผมเข้ามานั่งในรถไอ้นนท์ยังไม่เลิกจ้อกับไอ้ภูเลย

“ชอบทำหน้าบึ้งจัง”เสียงเบาๆดังขึ้น ไม่ใช่ไอ้เป้แต่เป็นใครอีกคนที่นั่งถัดจากไอ้เป้ แต่เพราะมันเอนตัวไปด้านหน้าผมเลยมองเห็นว่าไอ้คนที่พูดเสียงเบาๆปานพิกุลจะร่วงนี่คือไอ้ฉัตรเพื่อนกลุ่มเดียวกันกับไอ้ภูแต่คงไม่ค่อยซี้กันมาก ผมมองไอ้ฉัตรครั้งแรกก็รู้สึกได้ว่ามันแปลกๆ ลักษณะไอ้นี่มันคล้ายๆพี่อันแต่ดูแข็งแรงกว่าและสีหน้าดูเอาเรื่องด้วย ผมแค่ยิ้มแห้งๆให้ก่อนจะนั่งกดโทรศัพท์ไปพลาง รู้สึกระยะเวลาไปอ่างเก็บน้ำหลังมอมันไกลมาก ผมรู้สึกเหมือนตัวเองแปลกแยกมาจากพวกนี้ชอบกล เหมือนคุยกันคนละภาษากลุ่มเพื่อนไอ้ภูคราวนี้ไม่เหมือนกลุ่มพี่ปาเอาซะเลย ไอ้พวกนี้ดู...รวยๆคุณชายๆ ต่างจากลุคลุยๆของพี่ปาและพวกไอ้เนมจริงๆ

“ฟิก มึงได้ล็อคห้องป่ะ”ไอ้ภูเหลียวมาถามผมเป็นครั้งแรก

“ล็อคดิ ทำไม”น้ำเสียงของผมดูฉุนเฉียวจนไอ้พวกที่เหลือหันมามองผมกับไอ้ภู

“ถามเฉยๆ นึกว่ามึงลืม”มันตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงปกติ ทำผมอารมณ์ดีขึ้นมาเล็กน้อย อย่างน้อยไอ้ภูก็ปฏิบัติกับผมไม่เหมือนกับคนอื่น ถ้ามีรุ่นน้องมาทำเสียงแบบนี้ใส่มัน ก็คงไม่วายโดนด่าแน่ๆอยู่แล้ว ผมเอนหลังพิงเบาะ รอยยิ้มผุดขึ้นมาบนใบหน้าเป็นครั้งแรกหลังจากที่เข้ามาในรถคันนี้เป็นครั้งแรก

“เด็กว่ะ”เสียงพึมพำเสียงเดิมทำให้ผมชักสีหน้า แล้วมึงจะมายุ่งอะไรกับกูล่ะวะ ผมทำเมินไม่สนใจมัน เมื่อถึงที่หมายแล้วผมก็รีบลงมาจากรถก่อนจะบิดตัวไปมา

“เป็นอะไร ทำหน้าหงิกตั้งนาน”ไอ้ภูเข้ามาดันหน้าผากผมเบาๆ ผมเหลือบมองเห็นไอ้นนท์มองมาทางผมอยู่ จากการคาดเดาของผมไอ้เวรนี่มันต้องพิศวาสไอ้ภูชัวร์ ผมฟันธง

“เปล่าหรอก แต่กูแค่หงุดหงิดตัวเองนิดหน่อย”ไอ้ภูมองหน้าผมก่อนจะลูบหัวผมเบาๆ ปกติผมไม่ชอบให้มันลูบหัวผมหรอกเพราะผมจะดูเหมือนเด็กในปกครองของมัน แต่วันนี้ช่างมันก่อนผมอนุญาต

“ป่ะๆ วิ่งกัน มัวแต่จุกกรู้กันเดี๋ยวกูเตะเลย”อีกคนชื่อย้ง จากคำพูดคำจาขึ้นกูแบบนี้แสดงว่ามันต้องรุ่นเดียวกับไอ้ภูแน่ ผมชอบพี่เขานะ แนวดี ต้องทำความรู้จักไว้สอดแนมหน่อยล่ะ

“เอางี้ใครถึงหม้อน้ำตรงนั้นคนสุดท้ายโดน...!”ไอ้เป้พูดขึ้นและจากนั้นพวกมันก็พากันวิ่งไปเลย รวมถึงไอ้ภูด้วย

“มึงโดนแกล้งแน่”มันกระซิบก่อนจะวิ่งออกไป เหลือผมรั้งท้าย เชี่ยเอ้ย ผมคนสุดท้ายชัวร์ๆอยู่แล้ว ผมเห็นไอ้นนท์วิ่งขึ้นไปตีคู่กับ
ไอ้ภู ทำไมไอ้นี่ต้องมาตีซี้ไอ้ภูตลอดเลยวะ ผมเห็นแล้วหงุดหงิดเลยต้องรีบวิ่งขึ้นไปแต่ตามได้ครู่เดียวผมก็หอบแดกสปีดตกตามเคย ไอ้ฉัตรหัวเราะเบาๆมันวิ่งนำผมเยื้องๆไปนิดหน่อย ผมนึกภาพออกเลยถ้าหากว่าไอ้ภูเชื่อฟังคำสั่งพ่อแม่มัน มันเองคงต้องเป็นแบบนี้แน่ๆ คือตอนอยู่กับไอ้พวกนี้ไอ้ภูไม่ค่อยทำตัวเถื่อนเท่าไหร่

“คิดอะไร”ไอ้ฉัตรสุดท้ายก็ตีคู่มาวิ่งข้างๆผม ไอ้ภูกับไอ้นนท์ที่นำโด่งอยู่ไม่สนใจผมเลย จนตอนที่ไอ้ฉัตรมันมาคุยกับผมไอ้ภูถึงหันมามองแล้วชี้หน้าไอ้ฉัตรทำไม้ทำมือให้ถ่อยห่างผม แต่นอกจากไอ้ฉัตรมันจะไม่ทำตามเเล้ว มันยังคว้าผมไปกอดคออีก

“มึงจะกวนโมโหกูเหรอ”สุดท้ายไอ้ภูก็ต้องวิ่งกลับมาหาผม ผมถึงกับยิ้มออกเลย

“ชอบล่ะสิ โดนผู้ชายกอด”มันมองผมโกรธๆแล้ววิ่งนำไปเลย อ้าว ไอ้บ้านี่แม่ง...

“ไปกวนโมโหพี่เขาเดี๋ยวเจอดีหรอก”ไอ้ฉัตรหัวเราะเบาๆ ก่อนจะเอาแขนออกจากลำคอของผม

“มึงนั่นแหละไปยั่วโมโหมัน”ผมขึงตามอง

“เฮ้ย มึงได้ไง ต้องเรียกพี่สิ”มันทำหน้าเหมือนไม่ชอบใจนัก โอ๊ย ไอ้นี่มันร่างโคลนของไอ้เนมชัดๆ แต่ผูกมิตรไว้หน่อยก็ดีเหมือนกัน

“เออๆ พี่ก็พี่ แล้ว...พี่มากับพวกไอ้ภูบ่อยไหมอ่ะ”ผมถามในเรื่องที่เดาได้อยู่แล้ว

“ก็ไม่ค่อยบ่อยหรอก ส่วนมากไอ้นนท์กับไอ้เป้จะชอบมากับไอ้ภู พวกอยากได้หน้า”ไอ้พี่ฉัตรเบ้หน้า

“เอาหน้ายังไงอ่ะ”ผมวิ่งเหยาะๆแหยะๆตาม

“ก็...มันคงอยากซี้กับพี่ภูล่ะมั้ง แต่ก่อนใครๆก็ไม่ค่อยกล้าเข้าใกล้พี่เขาก็ไอ้ช่วงที่พี่ภูมาเรียนปีสามเทอมสองใหม่อ่ะ แต่พอนานๆไปก็เริ่มกล้าคุยกับพี่เขามากขึ้น ไอ้พวกนั้นก็จะประมาณว่าสนิทกับพี่เขาได้ก็ดูเจ๋งอะไรทำนองนี้”พี่ฉัตรดูจะไม่ชอบไอ้สองคนนั่นสักเท่าไหร่ ผมมีพวกแล้วว่ะ ฮ่าๆ

“แบบนี้นี่เอง”

“ระวังไอ้นนท์ไว้นะ ไอ้นี่ตัวดีเลย ทำมาซื่อใส่พี่ภู มันกำลังพยายามทำตัวให้ตรงกับเด็กในสเป็คพี่ภูอยู่”ผมฟังไปก็หงุดหงิดไป ที่แท้ก็อยากได้ไอ้ภูนี่เอง

“ไอ้ภูมันไม่ได้โง่นะพี่ ที่จะมองไม่ออกว่าใครเป็นยังไง”

“พี่ก็ว่างั้น แต่ไอ้นนท์คงไม่ได้ทำอะไรล้ำเส้นหรอก ไม่อย่างนั้นพี่ภูคงเตะมันออกจากกลุ่มไปแล้ว ไม่ต้องคิดมากนะ พี่เป็นหูเป็นตาให้”มันยักคิ้วหลิ่วตาให้ผม

“ผมเอาจริงนะ พี่จะช่วยดูให้ผมจริงดิ”ผีมารยาทดีเข้าสิงผมทันใด

“เออดิ แต่ดูๆไปพี่ภูท่าจะชอบให้คนเอาใจนะ”ผมย่นคิ้วทันที

“ก็ปกติพี่เขาเองก็เคยมีเด็กในปกครองที่แนวๆใสๆว่าง่ายใช่ไหมล่ะ แต่พอมาตอนนี้กลับได้เด็ก....”พี่เขาเหลือบมองผมก่อนจะหัวเราะเบาๆ ผมคิดตามก็เออ น่าจะมีส่วนเพราะผมไม่เคยเอาใจหรือตามใจไอ้ภูเลย นอกจากเรื่องสันดานแย่ๆของผมแล้วเรื่องอื่นผมไม่เคยปรับตัวเข้าหามันเลย และตามธรรมชาติของไอ้ภูแล้วมันคงจะชอบพวกเด็กๆขี้อ้อนเอาใจเก่งๆแน่ๆ แต่ถ้าจะให้คนแบบผมไปทำอะไรแบบนั้นมันก็อุบาทว์เกินไปอ่ะ

“ผมรู้ว่าผมไม่ใช่สเป็คมัน”เครียดขึ้นมาอีกล่ะ

“เฮ้ย ไม่ต้องเครียด พี่จัดการเอง พี่จะคอยแยกๆไอ้นนท์จากพี่ภูเอง”ผมหรี่ตามองพี่ฉัตรอย่างนึกสงสัย

“ชอบไอ้นนท์เหรอ”

“ตายห่า คิดอะไรเนี่ย”ภาพลักษณ์ดูนิ่งๆสุภาพๆพอมาพูดคำหยาบแล้วมันจี้จริงๆ

“ก็พูดเหมือนชอบ”ผมทำหน้าตลกๆ

“บ้าแล้ว ไม่ใช่เว้ย พี่แค่ไม่ชอบพวกที่ไปยุ่งกับคนที่มีเจ้าของแล้ว หัวอกคนเคยโดนทิ้งก็แบบนี้แหละ”ผมยิ้มแห้งให้พี่ฉัตรผมยิ้มแห้งให้พี่ฉัตร ดีนะที่พี่เขาไม่รู้ว่าผมเคยกิ๊กกับเมียคนอื่นไม่อย่างนั้นผมคงไม่ได้สายสืบอีกคนแน่ สงสัยคุยมากไปหน่อยเพราะทั้งผมกับพี่ฉัตรรั้งท้ายแถมหอบแฮ่กอีก วิ่งได้แค่รอบเดียวไอ้ภูก็เหวี่ยง ใช้อำนาจมืด บอกว่าจะกลับแล้ว

“เราเพิ่งมาเองนะพี่ภู”ไอ้นนท์พูดพลางเช็ดเหงื่อมันส่งผ้าขนหนูผืนเล็กให้ไอ้ภู แต่มันกระชากออกมาจากมือไอ้แอ๊บจนมันเเอบหน้าเสีย หึๆ สมน้ำหน้ามึงจริงๆว่ะ ต้องตีหน้าขรึมเดี๋ยวไอ้ภูหาว่าผมระริกระรี้ผิดปกติ

“แต่กูจะกลับแล้ว อยู่นานๆคนแถวนี้นอโผล่”อ้าว ไอ้นี่ด่าผมนี่หว่า ผมทำหน้าเอ๋อๆมองไปรอบๆตีมึนเหมือนไม่รู้ว่ามันด่าใคร

“วันหลังก็ไม่ต้องพามาสิ”ไอ้นนท์พูดพลางมองหน้าผม

"ไอ้นนท์"ไอ้ภูหันไปขึงตามองอย่างหงุดหงิด

“อย่าสะเออะไม่เข้าเรื่อง”ผมขึงตามองมัน ไอ้นี่มันหน้าต่อยจริงๆครับ ไอ้กิตชิดซ้ายเลย

“น้องฟิกพูดสุภาพๆกับพี่หน่อยสิ”ไอ้ภูแค่ปรายตามองให้มันหุบปากก่อนที่มันจะพยักหน้าให้ผมเดินไปกับมัน

“มึงชอบมันเหรอ ไอ้ฉัตรน่ะ”มันกระซิบถาม ตอนนี้ผมกลับมานั่งที่ตำแหน่งเดิมแล้ว ไอ้นนท์ต้องไปนั่งอัดกับพวกไอ้เป้ด้านหลัง ผมเหลือบมองไอ้ภูที่มีสีหน้าบึ้งตึง

“บ้าดิ กูไม่ได้ชอบ”ผมตอบเบาๆเช่นกัน

“แล้วมึงหน้าระรื่นเวลาคุยกับมันทำไม”

“ก็หน้ากู ไม่ใช่หน้ามึงนี่”ผมกวนตีนมันเล่น แต่คิดผิดครับ เพราะมันเบรกกะทันหัน จนไอ้พวกเบาะหลังตัวโยนมาด้านหน้าเลย ผมก็เช่นกันดีที่คาดเข็มขัดไว้

“กวนตีนแบบนี้ มึงเดินกลับเลยไป”มันพูดเสียงดัง จนผมแอบตกใจ

“เฮ้ย กูแค่ล้อเล่น ขับต่อนะ”ผมพูดเสียงอ่อนพยายามทำให้มันใจเย็นเหมือนเดิม มันพ่นลมหายใจออกมาแรงๆก่อนจะขับต่อไป ผมหยิบขวดน้ำที่อยู่ใกล้ๆมาแกะ ขวดใหม่ด้วยสบายใจได้ว่าไม่ใช่ของไอ้นนท์ แกะฝาเสร็จผมก็เอาหลอดใส่ก่อนจะยื่นให้ไอ้ภู มันหันหน้าหนีเหมือนเล่นตัว ผมก็ยื่นไปใกล้ๆอีก ในที่สุดมันก็ยอมกินน้ำที่ผมยื่นให้ สวีทต่อหน้าคนอื่นนี่เขินจัง ไอ้ภูมันก็ไปส่งไอ้พวกนั้นที่หอพี่ย้งแล้วให้คนอื่นกลับเองเพราะมันยังหงุดหงิดอยู่ (เข้าทางผมเลย) พออยู่กันสองคนมันก็เริ่มหันมาทำหน้าบูดใส่ผม


“ต่อไปมึงไม่ต้องมาแล้วนะ ถ้ามาแล้วเป็นแบบนี้”มันถอนหายใจเฮ้อใหญ่

“กูยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ”

“มึงฉีดน้ำหอมมารึเปล่า”มันยื่นหน้ามาดมๆซอกคอผม

“บ้าดิ น้ำหอมไม่ใช้น้ำมันพราย ถ้าฉีดแล้วมีคนหลงจริงกูฉีดให้มึงดมทุกวันเลยอ่ะ”พูดเอาใจมันหน่อย

“ถุย”แต่มันก็ยิ้มนะ วันนี้สบายใจจริงเลยว่ะ เห็นไหมครับว่าไอ้นนท์น่ะไว้ใจไม่ได้

ผมกลับมาที่ห้องก็พบว่าไอ้ตินพาไอ้ชัยกับไอ้เบลล์มาทำโครงงานด้วย ผมเหวอไปเล็กน้อยเมื่อเห็นพวกมัน ดีนะไม่ถอดกางเกงก่อน

“หวัดดีพี่ภู”พี่เบลล์กับไอ้ชัยทักไอ้ภู ไอ้ตินนั่งเท้าแขนอยู่กับพื้นห้องกำลังเล่นเกมส์อยู่

“ไหนงานมึงอ่ะ”ผมเดินไปนั่งบนหลังของมัน แต่ไม่ได้ทิ้งน้ำหนักลงไปเยอะกลัวศอกมันพัง

“เล่นคลายเครียดไง”มันตอบโดยไม่เงยหน้าจากโน้ตบุ๊ก

“หนักไหม”ผมก้มไปถามมัน

“ไม่เท่าไหร่”

“เออ งั้นกูนั่งอยู่แบบนี้เลยนะ หลังมึงแข็งดีเนอะ”ว่าแล้วก็แกล้งมันซักหน่อย ผมเลยทิ้งแรงลงไปมากขึ้น

“เฮ้ย พวกมึงมาขย่มอะไรกันตอนนี้”คำพูดแบบนี้มาจากไอ้ภูคนเดิม ไอ้ตินถึงกับทรุด ทำเอาผมไถลลงจากหลังมันไปด้วยเลย

“มึงพูดอะไรของมึง”รู้สึกหน้าร้อนวาบๆ ไอ้พี่เบลล์ถึงกับเบียร์พุ่ง ผมก็ไม่ได้อยู่ในท่าทางล่อแหลมอะไรเลยนะ ผมรีบเดินหนี
เข้าไปหาอะไรกินในครัวทันที ไปๆ มาๆมีไอ้ภูมาร่วมวงด้วยแบบนี้ จากวงทำงานกลายเป็นวงเหล้าไปซะแล้ว ผมตักข้าวออกมานั่งรวมกลุ่มด้วย ไอ้ชัยมันไปเอากีต้าของไอ้ตินมาเล่น ร้องเพลงกันเสียงดัง

“กินบ้างดิ”ไอ้ตินกระซิบเบาๆ

“ไวรัสตับอักเสบเอบีซีดีนะมึง”

“ไวรัสไรเยอะแยะ ถ้าเป็นคงเป็นไปนานแล้วว่ะ”ผมเลยจำต้องตักข้าวคำโตเข้าปากมัน

“อี๋”เสียงมาจากไอ้ชัย

“เป็นไร กวนตีนกูมาก เดี๋ยวกูหาผัวให้มึงแน่”เดี๋ยวจะเอาเฟสมันไปหย่อนในกลุ่มเพื่อนเกย์ เก้ง ของผม ไอ้ชัยเดือดขึ้นมาทันที

“มึงคิดจะทำอะไร อย่ามาทำเหี้ยๆกับกูนะ”มันทำท่าจะลุกเข้ามาหาผม

“พอๆ พวกมึงจะกัดกันทำไม”ไอ้ภูผลักไอ้ชัยให้กลับไปนั่งที่เดิม ผมเบ้หน้าใส่มัน

“มึงดูไอ้ชัยดิ ทำมาอี๋ใส่มึง”ผมกระซิบกับไอ้ตินเบาๆ มันหัวเราะ

“ช่างมันเถอะ”


แล้วคืนนั้นพี่เบลล์กับไอ้ชัยก็นอนค้างที่ห้อง แปลกๆนิดหน่อยเพราะไม่ค่อยชิน ผมนี่ต้องขนเสื้อผ้าไปเปลี่ยนในห้องน้ำเลยเพราะไอ้สองตัวมันไม่ยอมให้ผมออกมาเปลี่ยนด้านนอก มันก็บ้านะ ผู้ชายเหมือนกันแท้ๆ ยังจะมาหวงอีก คืนนั้นผมนอนไม่ค่อยหลับเลยเอาโทรศัพท์ออกมาเล่น ปรับแสงหน้าจอให้น้อยสุดเพราะกลัวมันสองคนตื่น ผมเข้าไปในเฟสไอ้ภู เพื่อหาเฟสพี่ฉัตร ผมว่าพี่เขาไว้ใจได้แถมยังดูรู้ตื้นลึกหนาบางอีก ผมเหลือบมองไอ้ภูที่นอนหลับสนิทอยู่ก่อนจะกดแอดเฟสพี่เขาไป และพี่เขาเองก็รับอย่างรวดเร็ว

ฉัตร: อ้าว ดึกขนาดนี้ยังไม่นอนอีกเหรอ

ฟิก: นอนไม่หลับอ่ะพี่

ฉัตร: คิดถึงพี่ล่ะสิ

ฟิก:เพ้อเจ้อว่ะ ที่ผมแอดมาเพราะเรื่องไอ้นนท์นะ

ฉัตร: โอเคๆ พี่ไม่ลืมหรอก พี่จะดูให้ ถ้าไอ้นนท์มันอ่อยมากๆพี่เตะมันเอง

ผมนอนมองดาวบนเพดานห้อง แสงของพวกมันจางลงแล้ว สงสัยต้องซื้อใหม่ ผมนอนคิดอะไรเพลิน ๆอยู่ ไอ้ปั๊มก็ทักไลน์มา ปกติมันไม่เคยทักมาดึกๆดื่นๆแบบนี้เลย

ปั๊ม: พี่ฟิก นอนยังอ่ะ

ฟิก: ละเมอตอบมั้ง

ปั๊ม: นอนกับผู้ชายมันเป็นยังไงอ่ะ

ผมถึงกับเบิกตากว้างๆเพื่ออ่านข้อความของมันซ้ำ

ฟิก: มึงถามทำไมวะ

ปั๊ม: แค่อยากรู้เฉยๆ

ฟิก: โหลดคลิปดูเลย เยอะแยะ

ผมว่ามันต้องมีอะไรแน่ๆไม่อย่างนั้นมันไม่ถามขึ้นมาหรอก แล้วจากนั้นมันก็เงียบไป แต่ผมนี่คิดไปไกลแล้ว มันเคยบ่นๆว่าช่วงนี้มันช็อตๆหาเงินไม่ทัน …ผมกลัวมันจะตัดสินใจผิดๆจัง อย่างไอ้ปั๊มก็ดูแมนเต็มร้อย ให้ไปทำอะไรแบบนั้น…เฮ้อ

ฟิก: กูไม่รู้ว่ามึงถามทำไม แต่มึงคิดดีๆนะ กูไม่อยากเห็นคนที่กูรู้จักเดินไปในทางผิดๆ ถ้ายังเห็นกูเป็นพี่ล่ะก็ มีอะไรก็ปรึกษากูดิ ถ้ามึงพร้อม ไอ้ปั๊มอ่านแล้วแต่ไม่ได้ตอบกลับมา ผมได้แต่บอกตัวเองซ้ำๆว่า เรื่องของมันอย่าไปยุ่งเลย






..................................................................................





ช่วงพักกินข้าวเที่ยงส่วนใหญ่ผมจะแวะเวียนไปหาพวกมันที่คณะแทน ไอ้นนท์ช่วงนี้ก็ไม่ได้อะไรกับไอ้ภูมาก สายของผมรายงานมาแบบนั้นวันนี้ผมมีนัดกินข้าวเที่ยงกับไอ้ตินเช่นเคย ถ้าวันไหนไอ้ภูไม่ว่างมันจะส่งข้อความมาเสมอว่า คิดถึงมึงเหมือนเดิมนะ
วันนี้อาจารย์ปล่อยช้าเพราะวิจารณ์งานกลุ่มผมซะยับเหมือนเสื้อของผม กว่าจะคลำทางออกห้องได้แทบลมจับ จิตใจผมหวั่นไหวง่ายเสมอหากมีคนพูดร้ายแรงมากระทบกระเทือนจิตใจ (เหรอ) ไลน์เด้งอีกครั้งผมก็นึกว่าไอ้ตินตามจิกที่แท้เป็นไอ้ปั๊มเวลาไลน์มันเด้งผมจะใจเสียทุกทีเลย

ปั๊ม:งานโคตรเยอะอ่ะพี่ฟิก กิจกรรมนะ พี่ภูลงว้ากด้วย ปีสี่แหละยังจะมายุ่งอีก

ผมเฮ้อออกมาเลยเพราะว่ามันไลน์มาบ่นกับผม ไอ้นี่ทำผมใจหายใจคว่ำหมด

ฟิก:กูไม่ใช่โถขี้นะ

ปั๊ม:อะไรอ่ะ

ฟิก:ที่ระบายไง ไอ้สัด

ปั๊ม:อ๋อ..ก็ไม่เก็ทอ่ะ พี่ไปกินข้าวกัน

ฟิก:กูจะไปกินกับแฟนกู มึงไปคนเดียวไป

ปั๊ม:ไม่เอา ผมรอ เสร็จแล้วพี่ไลน์มานะ

มาแนวๆนี้ผมว่ามันแดกแกลบแน่ๆ

ฟิก: หมุนเงินไม่ทันเหรอ

ปั๊ม: เปล่าแต่ผมจะเลี้ยงขอบคุณพี่ ผมจะรอนะ

มันว่างั้นก็ตามนั้นล่ะกันถึงจะสงสัยว่ามันไปเอาเงินมาจากไหนก็เถอะ เดินไปนิดเดียวก็ถึงคณะเกษตร คนยังเยอะอยู่เลย มีเด็กคณะมันยกมือไหว้ผมด้วย

“มาช้าจนกูกินจนจะเสร็จแล้วเนี่ย”ผมเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกงก่อนจะส่งยิ้มกว้างให้มัน รอบโต๊ะมีพี่เบลล์ ไอ้ชัยและใครอีก
ก็ไม่รู้ ผมยกมือไหว้ปะลกๆ ก่อนจะหยิบจานข้าวที่ไอ้ตินมันซื้อให้ ข้าวมันไก่อีกแล้ว

“พวกกูไปก่อนนะ เฝ้าเมียเสร็จก็ตามมาล่ะ”ไอ้ชัยเป็นคนพูด เหอะ ผมเหล่มองมันอย่างไม่ชอบใจนัก ไอ้ตินผลักหัวผมเบาๆ

“รีบๆกินเลย”

“ขอบใจนะเว้ย ที่รอกูอ่ะ”ผมรู้สึกดียังไงไม่รู้เหมือนผมยังสำคัญกับมันอยู่ ไอ้ตินเท้าคางมองผม

“มึงยังคิดมากเรื่องพี่ภูใช่ไหม กูให้คนดูมาแล้ว ช่วงนี้พี่เขายุ่งจริงๆ แต่ก่อนมึงไม่เห็นจะแคร์เลย”มันมองหน้าผมพลางเคาะนิ้วลงกับโต๊ะ ผมมุ่นคิ้วทำหน้างงๆ

“ก็เรื่องกินข้าวไง ปกติเมื่อก่อนอ่ะ พวกกูก็ไม่ได้ว่างกินข้าวกับมึงทุกวันนี่”ใช่เมื่อก่อนผมไม่คิดมากอะไรเลย

“เมื่อก่อนมันไม่เหมือนตอนนี้นี่”ผมรู้สึกอิ่มๆขึ้นมาก่อนจะวางช้อนลง

“เวลาของกูกับพวกมึงมันไม่เท่ากัน แต่ก่อนกูไม่สนก็จริงแต่ตอนนี้กูคิดมากไงกูเลยสน”ไอ้ตินพยักหน้าเบาๆ เลื่ิอนมือมาแตะหลังมือผม

“ถึงกูจะไม่มีเวลาให้มึงเหมือนเมื่อก่อน แต่กูคิดถึงมึงเหมือนเดิมนะ”คำพูดของมันทำให้ผมยิ้มออก ต่างจากข้อความจากไอ้ภู เริ่มเกลียดตัวเองที่เป็นแบบนี้ ผมไม่เคยเอาพวกมันมาเปรียบเทียบเพราะมันค่อนข้าง..อ่อนไหว ผมรู้ว่าพวกมันก็คงไม่ชอบ ผมปัดความคิดไร้สาระออกไป ไอ้ตินกลับขึ้นตึกไปแล้ว เหลือผมนั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยอยู่คนเดียว จนนึกได้ว่าไอ้ปั๊มมันรออยู่นี่หว่า

ฟิก:มึงกินข้าวยัง

ปั๊ม:ยังเลยดิ มารับผมเลย

ฟิก:ไม่เอา

เดี๋ยวเจอไอ้ภูอีก มันยิ่งคิดบ้าๆอยู่ด้วย ผมกลัวจะมีเรื่องเลยไม่อยากไปซิ่งแถวคณะมัน

ปั๊ม:ลืมไป ว่าพี่ฟิกกลัวพี่ภู งั้นมารับผมที่หอสมุดนะ รถผมน้ำมันหมด

ผมถอนหายใจเฮ้อเลย แต่ก็ไปรับมันที่หอสมุดเพราะไหนๆมันก็ไปรอแล้ว ไอ้ปั๊มยืนเอามือโบกลมให้ตัวเอง ใบหน้ามันมู่ทู่เหมือนคนที่กำลังหงุดหงิดกับอะไรสักอย่าง พอมันเห็นผมมันก็เดินมาหาอย่างว่องไว อ้าปากเหมือนจะพูดอะไรสักอย่างแต่มันก็ไม่พูด มันขึ้นมาซ้อนท้ายผมแทน

“รถมึงใช้น้ำมันอะไร”

“ถามไมอ่ะ”มันทำเสียงสงสัย

“กูจะออกเงินให้ก่อนแล้วมึงค่อยเอามาใช้กูทีหลัง”

“เฮ้ยไม่เป็นไรพี่ ผมมีเงินแล้ว ได้งานใหม่ ไอ้ที่เรียกพี่มาก็ไม่ใช่อะไร จะเลี้ยงตอบแทนพี่ไง”ผมแอบสงสัยว่ามันได้งานอะไร มันเองก็เรียนอยู่จะมีเวลาว่างไปทำงานพาร์ทไทม์เหรอ

“จอดร้านนี้ๆ”มันตบไหล่ผมเมื่อขี่ผ่านร้านก๋วยเตี๋ยว ผมก็จอดตามที่มันบอก

“ป่ะ ผมเลี้ยงเอง”

“กูกินข้าวมาแล้ว เดี๋ยวกูนั่งเป็นเพื่อนล่ะกัน”ผมตบพุงให้มันดู ไอ้ปั๊มนิ่วหน้าแต่ก็ไม่พูดอะไร เข้าไปในร้านได้มันก็เดินดุ่มๆหาโต๊ะนั่งก่อนเลย ผมขี้เกียจมานั่งดูมันกินก็เลยสั่งเกาเหลามารองท้อง ในระหว่างที่ไอ้ปั๊มลุกไปเอาเครื่องดื่มผมก็หยิบกระเป๋าเงินบนโต๊ะของมันมาดู มีแบงค์พันอยู่หลายใบเลย ผมวางกลับตามเดิม มันไปทำอะไรมาถึงได้เงินเยอะขนาดนี้ ในหัวผมเริ่มคิดไปถึงเรื่องไม่ดีๆขึ้นมาอีกแล้ว ผมเป็นห่วงมันนะ มันก็เหมือนน้องคนหนึ่งของผม ซึ่งผมไม่อยากให้มันทำผิดๆเหมือนไอ้คิม ไอ้ปั๊มกลับมานั่งที่โต๊ะพร้อมกับเลื่อนขวดน้ำโค้กกับแก้วน้ำแข็งมาให้ผม แต่ตอนนี้ผมไม่มีอารมณ์จะกินแล้ว

“ปั๊มกูถามจริงๆนะ มึงทำงานอะไรถึงได้เงินมาเยอะขนาดนี้ ตอบกูมาตรงๆ”มันดูอึกอีกขึ้นมาทันที มันเม้มปากมองผมก่อนจะหันไปทางอื่น

“คือผม...ไม่ได้ทำอะไรที่ไม่ดี”มันตอบไม่เต็มเสียงนัก

“แล้วยังไงวะ”ผมอยากถามมันนะว่ามึงขายตัวรึเปล่า แต่นี่ก็กลางร้านก๋วยเตี๋ยวผมไม่อยากจะพูด

“เดี๋ยวผมบอก พี่กินก่อนเถอะ”มันเปลี่ยนเรื่องแต่ผมยังคงนิ่งอยู่เพราะผมกินไม่ลงหรอกถ้าหากว่ามันทำแบบนั้นจริง ผมก็ไม่กล้าใช้เงินมัน ผมเบนสายตามองไปรอบๆร้านเป็นครั้งแรก เหมือนมีความรู้สึกว่าถูกจ้องมอง แต่พอผมมองรอบๆร้านก็ไม่เห็นใครที่น่าสงสัย

“คืองี้นะพี่ฟิก”มันเริ่มพูดอีกครั้งเมื่อเห็นผมนั่งเงียบไม่ยอมกินเกาเหลาตรงหน้า

“ผมไม่ได้ทำแบบที่พี่คิดหรอก ผมแค่ทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟในร้านอาหารอ่ะ เจอพวกหื่นหน่อยแต่ก็ไม่เป็นปัญหาเพราะทิปหนัก ผมโอเคดีพี่ฟิก”ผมโล่งอกขึ้นมาที่มันไม่ได้ทำอะไรแบบนั้น

“อืม ดีแล้ว”

“ผมไม่กล้าทำแบบนั้นหรอกพี่”มันหัวเราะแห้งๆ

“แล้วมึงแบ่งเวลายังไงวะ”งานพวกนี้ก็เลิกดึกใช่ย่อย

“ผมถึกจะตายแค่นี้จิ๊บๆ”มันไหวไหล่ ผมมองเกาเหลาในถ้วยตรงหน้า ลองชิมไปสองสามคำก็ยัดไม่ลงแล้ว ก็เลยดูดน้ำโค้กไป
พลาง ผมมองไปรอบๆอีกครั้งก่อนจะเจอเจ้าของสายตาที่มองผมอยู่…มันคือไอ้โจ ดวงซวยจริงๆเลยผม ไอ้โจยักคิ้วให้ก่อนจะหันไปคุยกับแฟนมันต่อไป ผมไม่เห็นหน้าแฟนมันว่าหน้าตาแบบไหน เพราะเห็นแค่ด้านหลัง แต่ผมเดาว่าคงไม่ใช่คนเดิมแน่ๆ


RRRRR

'ไอ้เคน'

“ว่าไงเพื่อน”

[มึงอยู่ไหนวะ รึหลงทางอยู่ตึกเกษตร]

“กูออกมากินก๋วยเตี๋ยว”ผมบอกไปตามตรง

[คนเดียวเหรอวะ]

“กับไอ้ปั๊ม”เรื่องไอ้ปั๊มนี่ผมก็เล่าให้พวกมันฟังแล้วเหมือนกัน ไอ้เคนเงียบไปอยู่นาน

[ไอ้ฟิก มึงกิ๊กกับมันเหรอวะ] ผมตาโตทันทีเมื่อได้ยินที่มันพูด ผมเลยเดินไปคุยโทรศัพท์ที่ท้ายร้านตรงทางเข้าห้องน้ำ ไอ้ปั๊ม
มองตามแต่ไม่ได้พูดอะไร

“มึงพูดบ้าอะไรออกมาวะ กูไม่ได้กิ๊กกับมัน มึงคิดได้ไงเนี่ย มึงเห็นกูเป็นคนยังไงวะ”

[ให้กูพูดวันนี้ คงไม่พออ่ะ] เสียงมันดูขบขัน

“ไอ้นี่หนิ มึงคิดว่ากูจะจับผู้ชายทุกคนทำเมียรึไง”ผมพูดเสียงหงุดหงิด ไม่รู้ไอ้เคนติดโรคมาจากไอ้ภูกับไอ้ตินรึไง ถึงได้คิดอะไรคล้ายๆกัน

[เออ...กูแค่พูดเฉยๆ โวยวายทำไม แค่นี้แหละ โทรมาถามเฉยๆเห็นหายหัวไปนาน]

หลังจากวางสายจากไอ้เคน ผมเลยแวะเข้าห้องน้ำแคบๆของร้าน ระหว่างที่กำลังล้างมืออยู่นั้นก็มีคนเข้ามาพอดี

“ว่าไงฟิก”ผมสะดุ้งตกใจเล็กน้อย

“ไงมึง สบายดีล่ะสิไอ้โจ”ผมเหลือบมองมัน

“ก็สบายดี ตอนแรกก็คิดว่ามึงจะเปลี่ยนแล้วซะอีก”มันยกยิ้มมองผม เป็นรอยยิ้มที่ผมเกลียด ยิ้มเหมือนว่ารู้ทันความคิดของผม

“มึงหมายความว่าไง”ผมหยิบทิชชูมาเช็ดมือก่อนจะหันไปมองมันตรงๆ

“ก็กิ๊กมึงที่นั่งอยู่ด้านนอกไง”ผมหลุดหัวเราะออกมาทันที

“มันไม่ใช่กิ๊กกู แล้วมันก็ไม่ใช่เรื่องอะไรของมึงด้วย”ผมเดินเบียดมันออกไปจากห้องน้ำแต่มันผลักผมกลับจนผมเริ่มหงุดหงิดขึ้นมา

“ไม่ใช่แน่…แต่พอดีกูมีนี่ว่ะ”มันยกโทรศัพท์ที่มีรูปของผมกับไอ้ปั๊มนั่งคุยกันอยู่ มันเลิกคิ้วมองผมเหมือนกับว่ามันมีอาวุธลับอยู่ในมือ

“แล้วไง กูบริสุทธิ์ใจ จะทำอะไรก็เรื่องของมึง”แต่ผมก็แอบกังวลอยู่เหมือนกันเพราะไอ้ภูกับไอ้ตินมันไม่ค่อยเหมือนคนอื่นเขา แต่ผมไม่ได้คิดอะไรจริงๆ กับไอ้ปั๊มก็คงไม่คิดหรอก ผมออกมาจากห้องน้ำด้วยสีหน้าหงุดหงิด ไอ้ปั๊มนั่งรออยู่ที่โต๊ะ

“ผมอิ่มแล้ว พี่อิ่มรึยัง”มันถามผมเบาๆ สีหน้าดูไม่ค่อยสู้ดีนัก

“เออ อิ่มแล้ว”ผมมองมันอย่างแปลกใจ ไอ้ปั๊มลุกไปจ่ายเงิน ผมก็ออกไปรอด้านนอก

“พี่ไปส่งผมที่หอหน่อยดิ ผมง่วงว่ะ เมื่อคืนเลิกดึก”ผมอ้าปากจะบ่นมัน แต่ก็ฉุกคิดได้ว่าไม่ใช่เรื่องของผม ก็เลยปิดปากเงียบไป
ส่งมันที่หอ มันอยู่หอพักเล็กๆสามชั้น คนละทิศกับหอผมเลย

“เอ่อ พี่ฟิก”มันเรียก จนผมต้องหยุดรถ

“ไรวะ”

“เปล่าพี่”สีหน้าของมันดูลังเล มันยิ้มเฝื่อนๆให้ผมก่อนจะเดินเข้าไปในหอ ผมสังเกตตั้งแต่ที่ร้านก๋วยเตี๋ยวแล้วว่ามันมีท่าทาง
แปลกๆ เฮ้อ ช่างหัวมันเถอะ




(ต่อด้านล่าง)

ออฟไลน์ DuenTwinBII

  • ♥ “If you can't explain it simply, you don't understand it well enough.”♡
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 369
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +624/-4
ช่วงบ่ายผมมีเรียน แต่โดดมานั่งชิวกับพวกพี่ปาที่ร้านนมสด เปลี่ยนบรรยากาศบ้าง หน้าอย่างผมก็เข้าร้านมุ้งมิ้งๆได้เหมือนกัน

“คิดไงมานั่งคุยกับพวกกูวะ”พี่ปาถาม ระหว่างที่ตักไอติมเข้าปาก ไอ้เนมก็มาด้วย มันนั่งพิงเก้าอี้จ้องหน้าผมด้วยท่าทางกวนตีน

“เหงาๆว่างๆเลยแวะมาหาไง”ผมจิ้มปังปิ้งช็อคโกแลตเข้าปากคำโต

“เวอร์เหอะ มึงโดดเรียนมา”ไอ้เนมแทกขึ้นมา ผมชักสีหน้าขุ่นๆใส่มันก่อนจะหันไปคุยกับพี่ปาต่อ

“ช่วงนี้พี่ได้ติดต่อไอ้ภูอยู่ไหมอ่ะ”ผมถามด้วยน้ำเสียงเรื่อยๆ

“ไม่ค่อยบ่อยหรอก พวกกูก็มีงาน มันก็มีงาน ไม่ได้ทำตัวเหมือนว่างอย่างมึง”พี่ปาชี้หน้าผมด้วยช้อนเล็ก ๆ

“คืนนี้กูว่าง มาเที่ยวไหมล่ะ หรือต้องขออนุญาตไอ้ภูกับไอ้ตินก่อน”ไอ้เนมนี่ต้องแขวะผมให้ได้ตลอดเวลาเลย

“ไม่ต้องหรอก พักนี้พวกมันวุ่นๆอ่ะ เหงาว่ะ”ผมถอนหายใจออกมาอีกครั้ง ไอ้พี่ปาหัวเราะทันที

“เออเฮ้ย มึงนี่พัฒนาขึ้นนะ ปกติไม่กล้ายอมรับหรอก ไอ้เรื่องแบบนี้”

“เหงาหรือเงี่ยนพูดมาตรงๆ”ผมสำลักนมปั่นทันทีที่ได้ยินไอ้เนมพูด พี่ปาหันไปมองหน้ามันเหมือนกัน

“พูดอะไรเกรงใจเจ้าของร้านบ้างไอ้นี่”ผมหันไปมองพี่สาวคนสวยเจ้าของร้านที่ยืนคิดเงินอยู่หน้าเคาน์เตอร์ ร้านมันค่อนข้างจะ
เล็ก ๆกะทัดรัด แถมพวกผมก็คุยกันเสียงดังด้วย ไม่มีมารยาทจริงๆ

“ตกลงมึงจะมาไหมวะ”ไอ้เนมเซ้าซี้ถามต่อ

“มาดิ”

“เจ๋งสัด เริ่มออกลายไม่กลัวไอ้ภูล่ะ กูสนับสนุนนะอย่าไปยอมมันมาก เดี๋ยวมันเคยตัว”พี่ปาตบมืออย่างพอใจ

“กูจะฟ้องมันว่ามึงสนับสนุนให้ไอ้ฟิกพยศ”ไอ้เนมตีหน้าชั่วร้าย แปลกเหมือนกันได้คุยกับมันแล้วค่อยโล่งหน่อย



ณ ผับ

“คนนั้นเด็ดสัด มึงเห็นไหม”

“เออ นมทะลักขนาดนั้น”

ประโยคด้านบนนั่นคือคำพูดของพี่ปาและไอ้เนม ผมได้แต่ฟังเอือมๆ รู้สึกไม่ค่อยสนุกเท่าไหร่ ผับแถวนี้ผมไม่เคยมา เพราะส่วนใหญ่ผมจะเที่ยวอีกโซนหนึ่ง

“อ้าว ไอ้ฟิก ชวนมาเที่ยว ไม่ใช่มานั่งซึมกะทือแบบนี้”ไอ้เนมตบบ่าผมแรงๆก่อนจะเลื่อนแก้วเหล้าที่มันชงเองให้ผม ผมไม่ค่อยอยากรับหรอก มันมือหนักจะตาย

“กูเคยคิดนะ…”มันโน้มตัวเข้ามากระซิบใกล้ๆหูผม ทำเอาขนลุกวาบขึ้นมาเลย ผมเอนตัวออกห่างจากมันเนียนๆ

“คิดไรวะ”ผมมองพี่ปาลุกไปเต้นกับกลุ่มสาวๆด้วยท่าเฟี้ยวๆ

“มึงจำตอนนั้นได้ไหม ที่กูเจอมึงใหม่ๆอ่ะ กูเคยคิดว่าอยากได้มึงเหมือนกันเพราะตอนนั้นไอ้ภูมันบอกว่ามันจะแบ่งมึงให้กูด้วย”ผมเหลือกตามองไอ้เนมที่ยกยิ้มอยู่ รู้สึกร้อนๆหนาวๆขึ้นมาเลย แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องแปลกก็ตอนนั้นไอ้ภูมันเอาเรื่องผมไปโพนทะนาให้คนในกลุ่มเพื่อนฟัง มันก็ต้องมีบ้าง…แต่เป็นไอ้เนมคิดนี่ สยองจริงๆ

“แต่ตอนนี้กูไม่อะไรหรอก มึงไม่ต้องทำหน้าตาแบบนั้น”มันยกแก้วเหล้ามาจิบก่อนจะเคาะนิ้วตามจังหวะเพลง

“กูถามจริงๆเลยนะว่าตอนนี้อ่ะถ้าให้มึง One night stand กับใครสักคนมึงทำได้ไหมวะ”ไอ้เนมถามด้วยสีหน้าอยากรู้ ผมมองไปรอบๆอย่างครุ่นคิด

“ตอบตามตรงก็…ได้นะ แต่ผมแคร์ความรู้สึกของไอ้สองคนนั่นไง ผมเลยจะไม่ทำ”

“มึงดีนะ ได้เจอคนที่รักมึงจริงตั้งสองคน”ผมมองไอ้เนมที่เริ่มจะเพ้อขึ้นมา

“มึงอย่าพากูดราม่าได้ป่ะ มาเที่ยวนะเว้ย ไม่ใช่มานั่งเหี่ยว”ผมตบบ่ามันบ้าง มันก็สะบัดมือผมออก

“ลามปามแล้วนะมึงเนี่ย”มันยิ้มจางๆก่อนจะเร่งให้ผมกระดกให้หมดรวดเดียว แต่ผมกลัวเมาแล้วสติหลุดก็เลยค่อยๆจิบ

“เปิดเพลงให้กูเหงาอีกล่ะ”ไอ้เนมพึมพำเบาๆ ผมเห็นด้วยนะ เพลงมันส์ๆมีไม่เปิด ดันมาเปิดเพลงไม่เคยจะห่างกันซะงั้น


อยู่ตรงนั้นเธอคิดถึงฉันมากเท่าไร อยู่ตรงนี้เธอรู้ไว้เลยว่าคิดถึงเธอจนล้นหัวใจ
ได้โปรดเธอจงมั่นใจว่า ฉันคนนี้รักเพียงแต่เธอ อยู่ตรงนั้นเธอเองจะเหงาซักเท่าไร
อยู่ตรงนี้ยิ่งเหงาเท่าไรก็ยิ่งรู้ว่าฉันรักเธอ ต่อให้เนิ่นนานที่เราไม่เจอะเจอ
แต่ทุกนาทีหัวใจเรานั้นไม่เคยจะห่างกัน



ไปๆมาๆผมกับไอ้เนมกอดคอร้องเพลงด้วยกันไปแล้ว นึกถึงไอ้สองคนนั่นขึ้นมาเลย ผมคิดถึงพวกมันอีกล่ะ เซ็งจริงๆ

“นู่น คู่นั้นจูบกันแล้ว”ไอ้เนมบุ้ยปากไปยังมุมมืดที่มีร่างสองร่างนัวเนียกันอยู่ ผมมองเลยไปบนชั้นลอยของผับ เห็นเด็กเสิร์ฟท่าทางเก้ๆกังๆอยู่ ผมจ้องอยู่สักพักถึงจำได้ว่าเป็นไอ้ปั๊ม ผมโบกมือให้มันเผื่อมันจะเห็นผม

“ใครวะ”ไอ้เนมมองไปทางไอ้ปั๊มด้วยสายตาสงสัย

“กิ๊กมึง?”มันทำเสียงตกใจ

“บ้ารึไง รุ่นน้องกู หลานรหัสไอ้ภูมัน”ไอ้ปั๊มเห็นผมแล้วแต่แทนที่มันจะทักผมเหมือนเคย มันกลับมองเมินเหมือนไม่เห็นผม

“ดูเหมือนเขาจะรังเกียจมึงนะ”ไอ้เนมหัวเราะหึๆ ผมว่ามันอาจจะอายผมล่ะมั้ง ผมหยิบโทรศัพท์ออกมาเล่นแก้เซ็ง เพราะไอ้เนมหายไปจากโต๊ะแล้ว เห็นไอ้ตินถ่ายรูปทำงานกับเพื่อนๆลงเฟส ผมกดไลค์พอเป็นพิธี แล้วสักพักมันก็โทรมา เอ้า ซวยจริงๆ ผมไม่ได้บอกพวกมันสองคนว่ามาเที่ยว ผมเลยรีบเดินไปเข้าห้องน้ำ แต่กว่าจะไปถึงมันก็โทรมาตั้งสองรอบ

[รับช้า]บ่นทันทีที่ผมรับ

“เออ มีไรคิดถึงเหรอ”มีคนอยู่ในห้องน้ำสองสามคน

[อยู่ไหนอ่ะฟิก]

“อยู่ห้องน้ำ”ในผับ

[ว่าวอยู่เหรอมึง]เสียงหัวเราะของมันดังมา

“ระดับฟิกไม่จำเป็นเว้ย”เสียงหัวเราะของไอ้ตินเงียบไป

[หมายความว่าไง จะเอาเด็กมากกรึไง]

“เด็กเดิกที่ไหน กูไม่มีสักคน”มีสายตาในห้องน้ำมองมายิ้มๆ จนผมต้องหันหน้าเข้าหากำแพงแทน

[ใครจะรู้ล่ะ มึงเล็มนู่นเล็มนี่ตลอด]ฟังเหมือนผมเป็นวัวเป็นควายเลยว่ะ

[บางเรื่องกูก็รู้นะแต่กูไม่ได้พูด วันไหนกูนึกบ้าเช็คไลน์มึงขึ้นมาก็ทำให้เนียนเข้าไว้นะไอ้ฟิก]

“บ้าเหรอ”ผมหัวเราะแหะๆ คุยกับมันสักพักมันก็ขอไปทำงานต่อ ผมแชร์เพลงที่เพิ่งฟังมาลงเฟส แต่ไม่ได้แท็กพวกมันสองคนหวังว่าจะรู้ตัวกันนะ ผมกำลังจะออกจากห้องน้ำแต่ได้ยินเสียงโวยวายเบาๆดังมาจากด้านในห้องน้ำ

“ไหนบอกว่าแค่นี้ไง”เสียงคุ้นๆเหมือนไอ้ปั๊มเลยนะ

“ก็ผมจ่ายเงินให้คุณตั้งเยอะก็ต้องเอาให้คุ้มสิ”ได้ยินเสียงตึงตังและร้องเท้าดังเอี๊ยดอ๊าด

“เอาเงินมึงคืนไปเลย อีตุ๊ด”

“มึงว่าใคร หากินกับพวกกูแล้วยังมาปากดีอีกนะ วันนี้มึงเสร็จกูแน่”

“เหี้ย!”แล้วก็ได้ยินเสียงเหมือนกำปั้นกระทบผิวเนื้อดังตุบ มีเสียงร้องดังมา ไม่รู้ว่าใครโดนเล่น ผมยืนด้อมๆมองๆอยู่หน้าห้องน้ำก่อนจะเคาะประตูเบาๆ แต่เสียงจากด้านในก็ยังไม่หยุด ผมเลยเคาะแรงขึ้น

“เฮ้ย ปล่อยน้องผมออกมานะเว้ย”ผมทุบประตูห้องน้ำ

“พี่ฟิกช่วยผมด้วย”เสียงไอ้ปั๊มดังอู้อี้ออกมา ผมกดข้อความหาไอ้เนมให้มาช่วยเคลียร์ รออยู่สักพักมันก็เข้ามาหาผมในห้องน้ำสีหน้าตื่นๆ

“มึงเป็นไรวะ”มันกวาดตามองผมงงๆ

“มึงช่วยน้องกูหน่อยดิ”แต่ไอ้เนมกลับตั้งท่าจะเดินหนีจนผมต้องดึงให้มันกลับเข้ามาช่วย

“ช่วยมันหน่อย มันกำลังแย่นะ”

“มึงนี่แส่จริงๆว่ะ”มันทำเสียงหงุดหงิดก่อนจะเอาเท้าถีบประตูโครมๆจนผมตกใจ

“เปิดประตู!”เสียงมันดังมากจนหลายๆคนมองเหตุการณ์ด้วยสายตาหวาดๆ

“อย่ามายุ่งเรื่องของกู”เสียงเดิมตอบกลับมา

“กูก็ไม่ได้อยากยุ่งกับพวกมึงแต่หมาบางตัวมันขอไว้ มึงจะไม่เปิดจริงๆใช่ไหม ได้”ไม่รู้ว่ามันเมาด้วยรึเปล่าแต่มันถอยห่างจากประตูไปหลายก้าวก่อนจะพุ่งเข้าหาประตูเต็มเหนี่ยว

“สัดเนม”ผมมองอย่างหวาดเสียว แต่ประตูกลับเปิดออกทำให้มันพุ่งถีบผู้ชายร่างใหญ่เต็มตีน ผมวิ่งเข้าไปดูไอ้เนมเพราะมันเซล้มลงด้วย แต่ก็ซวยเพราะผมดันโดนลูกหลงจากไอ้ถึกนั่นเต็มตีนเหมือนกัน เล่นเอาแขนผมชาไปพักใหญ่

“เชี่ยเอ้ย”ไอ้เนมสบถอย่างหัวเสีย ผมมองเข้าไปในห้องน้ำเห็นไอ้ปั๊มทรุดตัวกับพื้นห้องท่าทางเจ็บหนักเหมือนกัน สีหน้าของมันทำให้ผมถอนหายใจออกมา

“มึงเป็นอะไรเปล่า”ผมถามแต่มันก็ส่ายหน้าเป็นคำตอบ ไอ้เนมขยับตัวยืนเซๆ มันมองผมกับไอ้ปั๊มด้วยสายตามึนตึง

“ไม่เป็นไรก็ออกมา”ผมยืนมองมันจากหน้าประตู แต่มันก็ยังคงไม่ขยับเขยื้อน ผมมองไปด้านนอก มีคนอออยู่เยอะเหมือนกัน มันคงไม่กล้าออกมา เพราะสภาพของมันดูไม่ดีเอาซะเลย มีรอยช้ำบนหน้า มุมปากแตก เสื้อผ้าหลุดลุ่ย ผมมองสำรวจว่ามันเสร็จไอ้นั่นไปรึยัง แต่กางเกงมันก็ยังอยู่ในสภาพดี

“กูออกไปรอด้านนอกนะ”ไอ้เนมบอกเบาๆก่อนจะออกไป แต่สีหน้าของมันกลับทำให้ผมแอบหวั่น ผมเคยบอกว่ามันมีบางอย่างคล้ายๆไอ้ภู น่ากลัวเหมือนกันเลยว่ะ

“มึงจะอยู่ในนี้ อีกนานไหมวะปั๊ม มึงทำตัวเองนะ”ผมพูดติดรำคาญนิดหน่อยเมื่อเห็นมันนั่งน้ำตานองหน้าอยู่

“กูกลับล่ะ คราวหน้าคราวหลังก็ระวังตัวดีๆ”ผมหมุนตัวกลับ แต่มือสั่นๆของมันก็แตะข้อมือผม

“ขอบคุณมาก”มันพูดเสียงแผ่ว

“มึงไปบอกไอ้คนนู้นนู่น”ผมพยักเพยิดไปทางไอ้เนม มันยืนสูบบุหรี่มองมาที่ผมกับไอ้ปั๊มด้วยสายตาจับผิด พี่ปาเองก็อยู่ข้างๆมันด้วย ไม่รู้ว่ามาตั้งแต่ตอนไหน ไอ้ปั๊มเดินหมดสภาพไปขอบคุณไอ้เนม มันแค่พยักหน้าส่งๆ ไม่วายหันมาจ้องหน้าผมอีก

“มองอะไร”ผมถามเสียงนิ่งเมื่อเห็นสายตาของไอ้เนม

“มันเป็นหลานรหัสไอ้ภูแน่นะ”

“เออดิ”ผมยืนจ้องหน้ากับมันอยู่นาน พี่ปาถอนหายใจ

“งั้นก็โทรบอกไอ้ภูซะหน่อยไหม”ผมรีบห้ามทันที

“เฮ้ย พี่อย่าโทรนะ”คือไอ้ภูมันไม่รู้ว่าผมสนิทกับไอ้ปั๊มน่ะสิ ถ้ามันรู้มันก็ต้องซักผมยาวแน่ ผมไม่อยากให้มันรู้เรื่องที่ผมสอดส่องมัน

“แสดงว่าไอ้ภูมันไม่รู้ใช่ไหมว่ามึงสนิทกับมัน”พี่ปาเริ่มทำเสียงน่ากลัวใส่ผม

“ไม่ใช่แบบที่พี่คิดนะเว้ย”ผมรีบอธิบายเดี๋ยวจะเข้าใจผมผิดๆอีก

“ไม่ใช่ได้ไง มึงทำท่าห่วงมันขนาดนั้น มันคงไม่ใช่แค่น้องมึงหรอกมั้ง แล้วยิ่งไอ้ภูไม่รู้ว่ามึงสนิทกับมันแบบนี้... กูรู้สึกแย่กับมึงขึ้นมาเลยว่ะ”ไอ้เนมมองหน้าผมด้วยสายตานิ่งๆ ผมเริ่มจะเครียดขึ้นมาทันที ไอ้ปั๊มมองผมสลับกับอีกสองคน

“ผมกับพี่ฟิกไม่ได้เป็นแบบที่พวกพี่คิด”มันพูดขึ้นเบาๆ

“เหรอ แน่จริงมึงก็ไปพูดต่อหน้าไอ้ภูดิ ไปตอนนี้เลย”ไอ้เนมคว้าคอเสื้อไอ้ปั๊มไว้ก่อนจะหันมามองหน้าผมให้เดินตามมันมา

“ไอ้เนม มึงอย่าทำให้เป็นเรื่องดิ มันอาจจะไม่มีอะไรก็ได้”พี่ปาดึงมือไอ้เนมออกจากคอเสื้อไอ้ปั๊ม

“ได้ไงวะ มึงอยากเห็นไอ้ภูโดนหลอกซ้ำซากเหรอ”มันตะคอกใส่พี่ปา

“ผมไม่ได้หลอกมัน ถ้ามึงจะคิดแบบนั้นก็แล้วแต่เหอะว่ะ”ผมพูดโดยไม่มองหน้ามัน ได้ยินมันทำเสียงเหอะกลับมา

“เรื่องของพวกมันก็ให้พวกมันจัดการกันเอง”พี่ปาพูดเสียงเหนื่อยหน่าย พี่ปาอาสาไปส่งไอ้ปั๊มเองส่วนผมก็กลับหอเกือบๆตีหนึ่งกว่าๆ เพิ่งรู้สึกปวดแขนก็ตอนนี้เอง เข้าไปดูในห้องน้ำก็เห็นว่าบสมและขึ้นเป็นรอยช้ำจางๆแล้ว ผมทายาเสร็จก็เข้านอน กำลังจะหลับไอ้ปั๊มก็ไลน์มาบอกขอบคุณผมอีกครั้ง

ฟิก:มึงโดนมันตุ๋ยยัง

ถามเพราะอยากรู้ล้วนๆ

ปั๊ม:เกือบๆแล้ว สมเพชตัวเองว่ะ ผมเองขอโทษด้วยนะที่เป็นต้นเหตุให้พี่ทะเลาะกับเพื่อนพี่ภูอ่ะ

ผมอ่านข้อความของมันเเล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่

ฟิก:ช่างเถอะ กูเคลียร์ได้

ปั๊ม:พรุ่งนี้ผมมีเลี้ยงสายรหัส ต้องโดนถามแน่ว่าไปโดนอะไรมา...ผมยังนึกข้อแก้ตัวดีๆไม่ออกเลยว่ะ พี่อย่าเอาเรื่องผมไปบอกใครนะ

ฟิก:กูไม่บอกหรอก มึงสบายใจได้

ผมนอนมองเพดานห้องด้วยสายตาครุ่นคิด เฮ้อ ช่วงนี้มีแต่ปัญหาสงสัยต้องเข้าวัดทำบุญบ้างแล้วล่ะ





………………………………………………………………..



“ฟิกตื่น...”รู้สึกว่ามีคนเรียก ผมปรือตามองก่อนจะพลิกตัวหนี กลิ่นแบบนี้ ไอ้ตินชัวร์

“ลุกเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นกูปล้ำนะ”มุกนี้ของมันก็ไม่ทำให้ผมตื่น มันถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะลงไปจากเตียง แต่มันกลับมาอีกครั้งพร้อมกับน้ำเย็นๆที่ไหลเข้าหูผม

“เล่นไรของมึงวะติน”ผมเด้งตัวขึ้นมาทันที

“ก็มึงไม่ยอมตื่น”มันยิ้มก่อนจะดึงผมเข้าไปกอดเสียแน่น ผมกัดฟันข่มความเจ็บที่แขนไว้เมื่อมันรวบตัวผมไปกะทันหัน

“กูจะไปอาบน้ำแล้ว”ผมบอกมันเสียงอู้อี้เมื่อนิ้วมือมันไต่เข้ามาในเสื้อ

“อาบพร้อมกัน”มันทำสายตาแวววาว

“หาเรื่องหื่นใส่กูอีกล่ะสิ”มันหัวเราะเบาๆ

“ก็คิดถึง พี่ภูยังไม่กลับเหรอ”มันถามพลางมองไปรอบๆ

“อือ”เรื่องวุ่นเมื่อคืนทำผมลืมกังวลเรื่องไอ้ภูไปเลย มันไม่ได้กลับมาที่หอ มันอาจจะค้างที่คอนโดของมันล่ะมั้ง ผมว่าวันนี้จะแวะไป ผมมีกุญแจผีอยู่เเล้ว เคยเอาไปปั๊มเมื่อตอนปีสอง ตอนนั้นกลัวมันจะซุกกิ๊ก

“มึงไม่มีเรียนเหรอ”มันถามเมื่อเห็นผมคว้าเสื้อยืดแขนยาวมาใส่

“มีตอนบ่าย กูจะไปหาไอ้ภูที่คอนโด มึงไปเป็นเพื่อนกูหน่อยดิ”

“มึงมีกุญแจเหรอ”ผมยิ้มพร้อมชูพวงกุญแจให้มันดู ไอ้ตินหาเสื้อคลุมมาใส่ก่อนจะไปกับผม คอนโดไอ้ภูเนี่ยต้องใช้คีย์การ์ดเข้า ผมกับไอ้ตินรอคนที่จะออกมาข้างนอกเมื่อเห็นประตูกระจกเปิดผมกับไอ้ตินก็รีบแทรกตัวเข้าไปในทันที

“ตื่นเต้นว่ะ”ผมพึมพำเบาๆเมื่อเข้ามาในลิฟท์แล้ว มันยืนพิงผนังอีกฝั่งก่อนจะมองผมงงๆ

“ตื่นเต้นทำไม”ผมไหวไหล่ รู้สึกมีลางสังหรณ์แปลกๆ ผมเดินมาหยุดที่หน้าห้องมัน ก่อนจะหันไปมองไอ้ตินมันยืนมองรอบๆระหว่างที่ผมไขกุญแจเข้าไปลุ้นว่ายังใช้ได้อยู่ไหม

คลิ๊ก

ผมถอนหายใจอย่างโล่งอกที่ไขออก ก่อนจะค่อยๆดันประตูเข้าไป โชคดีอีกต่อที่มันไม่ได้ล็อคกุญแจจากด้านใน ทันทีที่เข้าไปผมก็ต้องย่นจมูกเมื่อกลิ่นเหล้าฟุ้งไปทั่วห้อง

“นี่ทำงานหรือแดกเหล้า”ไอ้ตินพึมพำก่อนจะใช้เท้าดันขวดเหล้าให้พ้นทาง สภาพห้องเละๆของมันทำให้รู้ว่าเคยมีหลายๆคนเข้ามาใช้ ห้องค่อนข้างมืด เพราะม่านปิดสนิทหมด ผมค่อยๆย่องมาที่เตียงนอนเห็นไอ้ภูนอนอยู่ใต้ผ้าห่มผืนโต ผมยิ้มชั่วก่อนจะกวาดตามองหาอาวุธแกล้งมัน เห็นมีขวดน้ำเปล่านอนกลิ้งอยู่ ผมเลยใช้มุกเดียวกับไอ้ติน แต่เทน้ำลงบนเปลือกตาของมัน

“เหี้ย”มันสะดุ้งโหยง มือรวบผมไปกอดจนผมเซล้มไปกองกับพื้นและนั่นทำให้ผมรู้สึกว่า...มีใครอีกคนนอนซุกอยู่ในผ้าห่ม ผมเด้งตัวขึ้นมาเพราะเสียงร้อง ก่อนจะกระชากผ้าห่มออก ผมใจหายวูบเพราะไอ้ภูมันใส่แค่บ็อกเซอร์ตัวเดียว ส่วนไอ้คนที่นอนอยู่ในสภาพเดียวกันคือไอ้เหี้ยนนท์ ผมรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างพังครืนลงต่อหน้าต่อตา

“ฟิก”ไอ้ตินแตะข้อศอกผมเบาๆ ไอ้ภูลืมตามอองผมงงๆ

“อ้าว...”มันชี้ผม ก่อนจะมุ่นคิ้วมองคนข้างๆมันเมื่อเห็นว่าเป็นใคร มันก็ถีบลงจากเตียงเต็มแรง

“ไม่ใช่แบบที่มึงคิดนะเว้ย”มันคว้าเสื้อยืดที่กองอยู่ที่พื้นมาใส่ ผมสูดลมหายใจเข้าลึกๆพยายามจะตั้งสติ

“พี่จูบผมแล้วลากผมมานอนบนเตียงนะ จะไม่มีอะไรได้ไง”ไอ้นนท์เสร่อพูดขึ้นมา ผมสังเกตุว่าบนแผ่นอกเปลือยๆขาวๆของมันมีจ้ำจางๆเห็นชัดเจน เหมือนมีกรงเล็บมากรีดหน้าอกผมจนรู้สึกแสบร้อน

“มึงหุบปากเลยกูไม่ได้พิศวาสมึง”ไอ้ภูตวาด มันขยี้ผมอย่างหงุดหงิด

“แล้วเมื่อคืนพี่ทำทำไม”

“ทำอะไร”ผมตะคอกถาม ก่อนจะเหลือบมองไอ้ภู เหมือนตัวผมจะระเบิดออกให้ได้เพราะอาการเดือดในอก

“กูเมาคิดว่ามันเป็นมึง กลิ่นน้ำหอมแม่งเหมือนกัน”มันพึมพำเบาๆ  ผมจุกเหมือนคนพูดไม่ออกผมเดินเข้าไปหามัน

“มึงได้...มึงนอนกับมันรึเปล่า”ผมถามเสียงสั่น

“เปล่า..”มันตอบเสียงไม่แน่ใจ ผมพยายามไม่นึกภาพตามไอ้ภูเวลาเมาหื่นจะตาย ไม่...ผมต้องไม่คิด

“มึงมากับกู”จู่ๆไอ้ตินที่ยืนเงียบอยู่นานก็กระชากไอ้นนท์ขึ้นมาจากพื้น

“เฮ้ย มึงปล่อยกูนะเว้ย”ไอ้นนท์โวยวาย

“มึงกูกับใคร”มันถามเสียงเย็นก่อนจะลากไอ้นนท์เข้าห้องน้ำ

“มึงเชื่อกูนะฟิก”มันคว้ามือผมไปจับ สีหน้ามันดูไม่ค่อยดี ผมเห็นจ้ำจางๆอยู่บนคอมันก็เลยฟาดมือไปเต็มแรง มันก็นั่งนิ่งให้ผมตี

“กูบรรยายไม่ถูกว่ะ”นี่สินะ ความรู้สึกที่พวกมันได้รับตอนที่ผมเคยทำชั่วๆ ผมได้แต่นั่งนิ่งๆให้ไอ้ภูกอด ตัวมันอุ่นๆเหมือนจะเป็นไข้ ผมได้ยินเสียงโวยวายของไอ้นนท์ดังมาจากในห้องน้ำ ไอ้ภูถอนหายใจยาวๆ มันพูดอะไรสักอย่างแต่ผมไม่ได้ยินเหมือนหูมันอื้ออึงไปด้วยเสียงวิ้งๆ

“กูจะไล่มันออกจากกลุ่มเอง”ไอ้ภูพึมพำ ผมกระพริบตา เมื่อเห็นว่าใบหน้าของมันอยู่ใกล้ๆ

“มึงรู้ใช่ไหมว่ามันคิดยังไงกับมึง”

“กูรู้ กูขอโทษที่ปล่อยให้มันล้ำเส้นขนาดนี้”ผมถอนหายใจ อยากมองไปทางอื่นแต่มันจับหน้าผมไว้ให้มองมาที่มันคนเดียว

“มึงคงชอบให้มันเอาใจมึงล่ะสิ”จู่ๆผมก็นึกภาพมันออเซาะเอาใจไอ้ภูขึ้นมา

“กูเปล่า”มันถอนหายใจ ก่อนจะเอาหน้าซบบ่าผม ไอ้ตินกับไอ้นนท์ยังไม่ออกมาเลยแต่เสียงโวยวายของมันก็เงียบไปแล้ว

“กูยังไว้ใจมึงได้ใช่ไหมวะภู”ผมพูดขึ้นมาเบาๆ เหมือนคำถามของผมทำให้เกิดความเงียบจนได้ยินเสียงติ๊กต๊อกของเข็มนาฬิกา

“แล้วมึงล่ะฟิก กูยังไว้ใจมึงได้รึเปล่า”มันย้อนถามเบาๆ มันยังไม่ได้เงยหน้าขึ้นมาแต่ฝามือของมันบีบแขนผมแน่น และดันเป็นข้างที่เจ็บอยู่แล้วอีก ผมกัดฟันข่มความเจ็บที่เกิดขึ้นก็พอดีกับที่ไอ้ตินเดินกลับมา สีหน้าของมันดูเรียบจนน่ากลัว

“พี่รอดตัวไปนะ ยังดีที่ไม่ได้เมาจนนอนกับมัน ไม่งั้นเรื่องคงไม่จบแค่นี้แน่”ไอ้นนท์ยังไม่ได้ออกมาจากห้องน้ำ แต่ก็ดีแล้วผมไม่อยากเห็นหน้ามัน

“มึงอย่ามาทำน้ำเสียงแบบนี้กับกูนะ”ไอ้ภูปล่อยแขนผมก่อนจะหันไปหาไอ้ตินด้วยสีหน้าเอาเรื่อง

“ทำไมจะไม่ได้ ผมเคยพูดเเล้วว่า ใครที่ทำให้ไอ้ฟิกเจ็บ มันก็ต้องเจ็บเหมือนกัน”

“มึงจะมีเรื่องกับกูให้ได้ใช่ไหม”ไอ้ภูลงมาจากเตียง ยืนเผชิญหน้ากับไอ้ติน

“อย่ามีเรื่องกัน กูขอล่ะ”ผมเข้าไปดึงให้ไอ้ภูถอยออกมา ไอ้นนท์ออกมาถูกจังหวะพอดี เพราะไอ้ภูเข้าไปเล่นงานมันแทน

“มึงออกไปจากห้องกูเดี๋ยวนี้ กูบอกแล้วใช่ไหมว่าอย่าล้ำเส้นกู”

“ก็พี่เมาแล้วจูบผมก่อนนี่”มันหันมามองหน้าผมเหมือนอยากให้ผมได้ยินที่มันพูด ไอ้ภูผลักให้ไอ้นนท์หันกลับมามองหน้ามัน

“กูเมา กูอาจจะผิด กูขอโทษ”มันยืนจ้องหน้าไอ้นนท์จนอีกฝ่ายหลบตาไปเอง ไอ้นนท์คว้าเสื้อยืดของมันไปใส่ แต่กางเกงของมันผมคว้ามาถือในมือ

“เอาของกูมา”มันถลึงตามองผม

“ไม่ มึงด้านนักก็ไปทั้งแบบนี้แหละ”ผมเดินไปที่ถังขยะก่อนจะเอากางเกงมันยัดลงไป เทกับแกล้มอะไรสักอย่างในจานตามลงไป
ด้วย ไอ้นนท์ขึงตามองผมอย่างโกรธเคืองมันคงเข้ามาหาเรื่องผมแน่ถ้าหากว่าไอ้ตินไม่ได้ยืนอยู่ข้างๆผมด้วย มันจำต้องปึงปังออกไป เกิดความเงียบขึ้นมาเมื่อมันออกไปแล้ว ผมระบายลมหายใจออกมาช้าๆ ผมพยายามทำใจให้สงบ ในเมื่อมันไม่มีอะไรก็
ช่างมันเถอะ

“ถ้าไม่เกิดเรื่องนี้ขึ้นมาพี่จะเลิกคบมันไหมวะ ถามจริง”ไอ้ตินเอ่ยแทรกขึ้นมา ไอ้ภูไม่ได้ตอบอะไร จนผมต้องถอนหายใจอีกรอบ

“ก็มันไม่ได้ทำอะไรล้ำเส้นกูนี่”

“มันเอาใจมึงนี่ไม่ล้ำเส้นใช่ไหม”ผมพูดขึ้นมาอย่างเหลืออด ใครจะว่าผมใจแคบก็ช่าง แต่เห็นจากที่ไปวิ่งเมื่อวันนั้น ก็รู้แล้ว ขนาดผมอยู่ด้วยไอ้นนท์มันยังเอาหน้าขนาดนั้นแล้วลับหลังผมล่ะ

“แล้วมึงล่ะ มึงเองก็มีเรื่องนะฟิก”มันหันมาเล่นงานผมแทน

“ทีละเรื่องดิสัด ตอนนี้กูด่ามึงอยู่”ไอ้ภูทิ้งตัวนั่งลงกับเตียง ก่อนจะยกมือลูบหน้าลูบตาตัวเอง

“กูขอโทษที่เกิดเรื่องแบบนี้”มันมองผมด้วยสายตาจริงจัง

“ถ้ากูไม่แอบย่องมามึงคงเก็บเรื่องนี้ไว้เงียบๆแน่แล้วมึงก็จะทำเหมือนไม่เกิดอะไรขึ้น มึงคงคบกับมันต่อแน่ๆ”เสียงของผมดังขึ้นทุกที ไอ้ภูผุดลุกขึ้นมาอีกครั้ง

“มึงเห็นกูเป็นคนยังไงวะ มึงก็รู้ว่ากูไม่ปล่อยคนที่ล้ำเส้นให้มาลอยหน้าลอยตาได้อยู่หรอก มีเหตุผลหน่อยดิวะ”ผมนี่แทบพ่นคำว่าเหอะใส่หน้ามันเลย

“เข้าใจความรู้สึกเวลาโดนแบบนี้แล้วใช่ไหม คราวหน้าคราวหลังมึงช่วยมีเหตุผลกับกูด้วยล่ะกัน”ไอ้ภูเถียงต่อไม่ได้ มันก็เลยเงียบ ก่อนจะหันมองทางอื่น ทั้งห้องก็เลยมีแต่ความเงียบอีกครั้ง

“ไอ้ติน กูขอคุยกับมันหน่อยได้ไหม กูรู้ว่ามึงโมโห เสร็จเรื่องแล้วมึงจะต่อยกูก็ได้”ไอ้ภูกับไอ้ตินจ้องหน้ากันอยู่นาน ก่อนที่ไอ้ตินจะออกไปรอที่ห้องนั่งเล่น ไอ้ภูเดินเข้ามาหาผมพร้อมกับดึงเข้าไปกอด

“กูขอโทษนะที่ทำให้มึงรู้สึกแย่”

“...อือ ช่างเถอะ”ทั้งๆที่ในใจของผมตอนนี้เหมือนมีไฟลุก

“ช่างได้ไง มึงอย่ามองกูแย่ๆเพราะเรื่องนี้เลยนะ มึงบอกมาดิว่าทำยังไงให้มึงหายโกรธ”มันเอาคางเกยไหล่ผมระหว่างที่พูด ผมหลับตาลงพร้อมกับลูบหลังมันเบาๆ

“มึงทำได้เหรอ”ไม่รู้หรอกว่าจะให้มันทำอะไร

“เออ คุกเข่าให้มึงมาแล้วกูยังทำได้เลย”

“กูไม่ได้เป็นอะไร ให้เวลากูหน่อยเดี๋ยวกูก็หายโกรธเองเเหละ”มองหน้ามันแล้วนึกถึงไอ้เหี้ยนนท์ทุกทีพลอยทำผมหงุดหงิดไปด้วย ไอ้ภูได้แต่ยืนเงียบผมเลยผละมาจากมันก่อนจะเดินออกไปนั่งด้านนอกกับไอ้ติน

“ไม่ต้องคิดมากนะ เดี๋ยวกูมา”มันลุกไปหาไอ้ภูด้านใน ผมขี้เกียจห้าม และคงห้ามไอ้ตินไม่ได้ด้วย ผมนั่งพิงพนักโซฟาคิดอะไรไปเงียบๆ เอาตามตรงผมโกรธมากกว่าผิดหวังในตัวมัน โกรธที่มันยอมให้ไอ้นนท์เข้าใกล้ ผมไม่อยากถามว่ามันทำอะไรบ้างเพราะไม่อยากรู้ ไม่อยากนึกถึง ผมพึ่งเคยเจอเรื่องแบบนี้เป็นครั้งแรก ความรู้สึกตอนที่ผมเห็นไอ้นนท์ยังแจ่มชัดอยู่เลย ผมคงต้องขอเวลาทำใจเพื่อลืมเรื่องบ้าๆนี่ให้ได้ หวังว่ามันจะเข้าใจผม














TBC.
ว่าจะมาลงวันศุกร์แล้วนะ แต่เอามาลงให้ก่อน ตอนนี้ยาวมากก ความจริงมีเยอะกว่านี้แต่ต้องตัดมาลงแบ่งไว้ตอนหน้า
ซึ่งตอนหน้าก็คงหมดเรื่องแล้ว จะเอาตอนหวานๆมาแทรกบ้าง
ตอนนี้แอบเครียด ๆ เขียนตอนนี้ไปก็แอบหวั่นไปด้วย :hao5: อาจงงๆ เขียนวนไปเวียนมาขออภัยเน้อ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-09-2015 07:36:59 โดย DuenTwinBII »

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5591
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
เรื่องน้องปั๊มจะตามมาไหม

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
เห็นใจฟิกมันนะ จะทำอะไรคุยกับใครก็มีแต่คนจ้องจะเสี้ยมให้ทะเลาะกับผัว
โกรธแทนฟิกเลย สภาพนั้นก็ต้องคิดอะ เมาด้วยแต่ดีนะที่พี่ภูเอาตัวรอดได้
ขอบคุณที่มาต่อค่ะ :L2:

ออฟไลน์ pepopyj

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 28
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
คือพี่ภูก็รู้ว่านนท์คิดยังไงแล้วพี่ภูก็ทำเหมือนให้ความหวัง หากวันนี้ฟิกไม่มาเจอพี่ภูนอนบนเตียง ถามจริงพี่ภูจะบอกฟิกกับตินไหม หรือจะเงียบแล้วให้ความหวังนนท์ต่อจนลึกซึ้งกว่านี้ เช๊คเรตติ้งหรืออย่างไร ความรักที่มีต่อฟิกทำให้ฟิกเหมือนของตาย

ออฟไลน์ Pittabird

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 796
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
เข้าข้างฟิก. จากรุกนะเปลี่ยนเป็นรับ แถมเจอ2คนนะ. ยอมกันขนาดนี้. ไว้ใจฟิกหน่อย. 

ฟิกเค้าเปลี่ยนแล้วนะ. ทำไมไม่เชื่อใจฟิกล่ะ.  คนกลับใจแล้วแต่ไม่มีใครเชื่อมันน่าเสียใจนะ

เรื่องนนท์ภูคิดว่าคุมอยู่แล้วเป็นไง.  หวังว่าจะทั้งเรื่องนนท์กับปั้มจะไม่สร้างปัญหาให้ฟิก เซ็งแทนเลย

เราไม่ชอบเลยบรรยากาศอึมครึม. อยู่กันแบบระแวงมันไม่มีความสุขอะ. อินเกิน

ออฟไลน์ wann

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 151
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ร้องไห้ :heaven

เศร้าอ่าาาา แต่ฟิกก้เคยทำให้สองคนเสียใจแบบนี้เหมือนกัน สู้ๆนะะ ทั้งสามคนนน  :katai1:

ปั๊มมีเรื่องไรอ่ะะ อยากรุ :z2:

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
อดีตของฟิกนี่จะตามติดตัวฟิกไปชั่วชีวิตเลย  คือความเชื่อใจมันเคยเสียไปแล้วไง
แต่ตินกับภูก็จะมีความมั่นใจมากกว่าคนอื่นอยู่ส่วนหนึ่งนะว่าฟิกไม่น่าจะทำเพราะว่ารักและเกรงใจสามี 2 คนนั้น   แต่เพื่อนก็อย่างว่าแหละ  จะให้พูดว่าเชื่อใจเต็มปากก็ไม่ได้     จริงๆแล้วของแบบนี้ดูได้จากเจตนานะ แต่ต้องตัดสินจากจิตที่เป็นกลาง  คนกอดกันจูบแก้มกันสามารถดูความสัมพันธ์ออก จากเจตนาท่าทางที่ทำออกมาจริงๆ แต่อย่างที่บอกต้องทำใจเป็นกลางจริงๆ

เรื่องภูนั้นเราคิดว่าภูไม่ได้คิดอะไรกับนนท์  คือบางทีเส้นที่ขีดคั่นระหว่างเพื่อนกับคนที่อยากเป็นมากกว่าเพื่อนมันก็ดูไม่ชัดเจนโดยเฉพาะคนที่ไม่คิดอะไรอย่างภู  อีกอย่างนนท์เองก็ไม่ได้ออกตัวชัดเจนด้วย     การที่นนท์ทำตัวเป็นสเป็คที่ภูชอบนั้นเราว่าทำให้ภูรู้สึกดี แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าภูจะต้องเอานี่  ภู-ฟิก-ตินผ่านอะไรด้วยกันมามากเหลือเกิน    ไม่งั้นฟิกคงไม่ใจเย็นแบบนี้หรอกตอนที่มาเจอภูกับนนท์บนเตียง   แต่ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันนะว่าภูจะบอกฟิกหรือเปล่าถ้าหากว่าฟิกไม่มาเจอเอง   

คะแนนตินนำลิ่วเลยตอนนี้

ยกปั๊มให้เนมได้ไหม?

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ boonpa

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-9
 :เฮ้อ: มีแต่เรื่องไม่ได้หยุดจริง ๆ

ออฟไลน์ ลิงน้อยสุดเอ๋อ

  • ถึงจะเหงา แต่ไม่ได้ง่าย
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1993
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-2
    • Fanpage
เอาใจช่วยให้ฟิกเข้มแข็ง และสู้ๆ

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4365
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
ตาม 3 หนุ่มมา

อ่านแล้วหวั่นใจเรื่องปั๊มอ้ะ ฟิกบอกภูเหอะ

ออฟไลน์ sindy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 42
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
 
 :hao5: โกรธแทนฟิกเลย สู้ๆนะ

ออฟไลน์ manutty

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 846
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-0
ไหนบอกไม่ม่าไง ฮือออออออออออออออออ แล้วนี่อัลไลลลลลลล  :ling1: ตอนนี้ภูผิดเต็มๆ ถึงจะไม่ได้ตั้งใจก็เถอะ เราเชื่อว่าภูรักฟิก รักมากด้วย ภูไม่ได้นอกใจนอกกายฟิก เหตุมันเกิดจากน้ำเมาและน้ำหอมที่คล้ายกับฟิกใช้ (สรุป กรูผิดหรืออีเจ๊:  :beat: โดนฟิกตบ) ทำให้ภูคิดว่าเป็นฟิกด้วยเพราะความคิดถึง แบบไม่เคยอยู่ห่างกัน ยังดีที่ไม่มีอะไรมากกว่านั้น แต่ก็แปลกนะเมาและจูบนัวเนีย ภูกลับไม่เลยเถิดกับนนท์ไปมากกว่านั้น แสดงว่าภูต้องมีสติอยู่บ้างพอรู้ว่าไม่ใช่ก็เลยไม่เอา แต่ไอ้นนท์นี่คงจะแอบขึ้นมานอนต่อหลังจากนั้นแน่ ไม่งั้นภูไม่ถีบลงจากเตียงหรอก เพราะดูเหมือนจะไม่รู้เรื่องด้วยซ้ำว่าไอ้นนท์นอนอยู่ข้างๆ เราเชื่อภูนะ แต่ตอนนี้ถ้าเป็นฟิกมาเห็นแบบนี้ก็ต้องเสียใจและโกรธเป็นธรรมดา เพราะฟิกรักภูเหมือนที่ภูรักฟิก ภูยังไม่ชอบใจ หึงหวง เวลาฟิกสนิทกับใคร หรือใครมาสนิทกับฟิก ดูอย่างแค่ตอนนี้สิที่ไปวิ่ง และฟิกคุยกับฉัตร ภูยังออกอาการเลย และถ้าเกิดภูรู้เรื่องฟิกคุยกับปั๊ม นี่จะขนาดไหน แต่ฟิกมีคำตอบที่ภูต้องพูดไม่ออกแน่ และจะโกรธก็ไม่ได้เพราะตัวเองมีความผิดติดตัวอยู่ ไม่อยากให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับทั้งสามคนเลย มันไม่นอกใจก็เหมือนนอกใจ ถึงจะไม่ได้ตั้งใจก็เถอะ มันบั่นทอนความเชื่อมั่นฟิกที่มีต่อภูไปเยอะเลย การกระทำของภูกับตินต่างกัน เพราะนิสัยไม่เหมือนกัน ภูชอบคนเอาใจ ชอบคนยอม แต่ฟิกไม่ใช่ แต่ถ้าเราเป็นฟิกเราจะภูมิใจตัวเองกับความรักของภูนะ เพราะภูรักฟิกที่เป็นฟิก ฟิกไม่เคยเปลี่ยนภูก็ยังรักและไม่เคยบอกให้ทำอย่างที่ตัวเองต้องการถึงจะมีพูดบ้างแต่ก็แค่นั้น ฟิกไม่ทำภูก็ไม่ว่า กลับรัก หวงมาก ภูพูดอะไรซึ้งๆสวยๆไม่ค่อยได้ แต่ก็พยายามชดเชยด้วยการแสดงออกแทน ถึงจะห่ามเถื่อนไม่อ่อนโยนเหมือนติน แต่นั่นก็คือภู ภูที่รักฟิก ตอนนี้สงสารภูจังเลย คะแนนติดลบมาก  :hao5:  ถ้าฟิกไม่มา ภูคงไม่บอกหรอก เราคิดว่าที่ไม่บอกไม่ใช่เพราะจะเก็บนนท์ไว้ต่อ ภูต้องจัดการนนท์ และระวังตัวมากขึ้นอาจจะถึงขั้นไม่คบด้วยอีกต่อไป ภูรู้แต่เพราะคิดว่าตัวเองไม่ได้มีใจให้ แค่คิดว่าเหมือนรุ่นน้องให้ความเคารพ นนท์เอาใจเพราะหวังจะได้ภู แต่ภูไม่คิด คิดแค่มึงอยากทำก็ทำไปแต่อย่าให้มากกว่านั้น ภูไม่ชอบคนล้ำเส้นอยู่แล้ว แต่ไม่คิดว่าน้ำเมาจะทำให้เกิดเรื่อง และ ไม่คิดว่านนท์จะกล้า แต่ภูก็โทษตัวเองมากกว่าที่เป็นฝ่ายเริ่ม แต่ก็เพราะเมา ถ้าปกติภูไม่เอาอยู่แล้ว ถ้าจะมีจริงๆ ภูคงมีตั้งแต่ตอนห่างฟิกไปอยู่เมืองนอกแล้ว จำได้ว่ามีคนหน้าเหมือนฟิกมาคุยด้วย ภูยังไม่เอาเลย และไอ้นนท์ที่แอ๊บภูจะเอามาให้เป็นปัญหาเหรอ แต่ตอนนี้จะให้พูดอะไรคงไม่มีอะไรดี เพราะฟิกกำลังโกรธและเสียใจ คงต้องให้เวลา และภูก็ควรรอก่อน ใจเย็นและอย่าเอาเรื่องฟิกมาต่อรองเรื่องนี้ บอกเลยไม่มีผลดี ตินจะโกรธภูไม่แปลกเพราะตินรักฟิก ใครทำฟิกเจ็บตินก็ต้องให้เจ็บ และถ้ากลับกันเป็นตินทำ ภูก็ไม่อยู่เฉยแน่ คงได้ต่อยก่อนจะคุยกันไม่ใจเย็นอย่างนี้หรอก หวังว่าจะเคลียร์กันได้นะ ถึงตอนนี้เขาจะเสียใจที่พี่ภูทำแบบนี้ แต่ก็ให้อภัยได้เพราะความดี ความน่ารักของภูก็มีอยู่ และภูไม่ได้ตั้งใจให้เป็นแบบนี้ ก็เอาไว้เป็นบทเรียนนะภู อึดอัดอ่ะ อยากให้ต่อวันนี้ พรุ่งนี้เลย  :ling1:

ออฟไลน์ ♥♥ดอกช่อบานสะพรั่ง♥♥

  • เหรียญยังมีสองด้าน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 279
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-2

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
 :katai1: :katai1: กร๊าดดดดด กะแล้วเชียวว่าพี่ภูต้องเกิดเรื่องแบบนี้จนได้ งือออ นี่ยังดีนะที่ไม่เกินเลยอะไรกัน คนแต่งบอกว่าจะจบดราม่าแล้วตอนหน้าแต่ยังกลัวใจจริงๆไหนจะเรื่องปั๊มอีกจะมีอะไรตามมาอีกรึเปล่าเนี่ย สงสารฟิก โกรธพี่ภูเล็กน้อยและกลัวใจพี่ติน รายหลังนี่ยังดาร์กไม่สุดนะ  :ling3: :ling3: จะมีอะไรตามมาอีกมั้ยเนี่ย

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1909
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
หน่วงวะ  อ่านแล้วคือน้ำตจะไหลแต่มันไหลย้นนะ อัดแน่นอยู่ข้างใน

สงสารฟิกนะ  นางก็คิดมากของนางอยู่แล้ว แล้วมาเจอแบบนี้อีก  สุดๆอ่ะ

แล้วเรื่องต่อไปอะคืออะไร  กลัวจะผิดใจกันเรื่องอื่นอีก 

ก็รู้น่ะว่าแต่ก่อนฟิกไม่ใช่คนดี แต่ตอนนี้นางเปลี่ยนไปแล้วนะ   สงสารนางอะ

ออฟไลน์ NB

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 41
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 o22 พี่ภู ทำไมทำแบบนี้ เข้าใจว่าเมา แต่สงสารฟิกจัง

ออฟไลน์ lovetogether

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 52
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
 :katai1: ทำไหมภูทำอย่างนี้ ทำร้ายจิตใจหนูฟิกของเราได้ไง ไม่ยอมนะ   :z6:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ปัญหานี้จบปัญหาใหม่มา

ออฟไลน์ ชอร์ปสติ๊ก

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 106
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
อ๋ออยย ติดตามเรื่องนี้มานานมากกก ดีใจมากกกกที่มีต่อค่ะ  :hao7:

ส่วนตัวเราชอบภูนะ ดูเป็นตัวปัญหาดี 55555 อันนี้เราชมนะ เราชอบที่ภูเป็นคนตรงๆ วู่วามๆ อาจจะทำอะไรผิดพลาดจากความวู่วามแต่ก็ทำให้เห็นว่าภูตั้งใจและอยากให้ปัญหาจบ

เราว่าเรื่องคราวนี้อยู่ที่ฟิกแล้วล่ะ ฟิกดีขึ้น ห้าวน้อยลงบ้าง แต่เพราะยังไม่มีปัญหามาพุ่งชนฟิกจริงๆ เลยจัดการอะไรผิดพลาดไปบ้าง เรื่องปั๊มเราว่าพลาดสุดเลย ฟิกไม่คิดอะไร แต่ปั๊มอาจจะคิดก็ได้ มันก็เหมือนกับกรณีของนนท์กับภูนี่แหละ ถ้าเรื่องมันกลับกัน ตินกับภูคงโกรธฟิก แต่สุดท้ายก็ยกโทษให้เหมือนเดิม

คราวนี้แค่มันเกิดกับภู เลยรู้สึกว่ามันไม่ค่อยแฟร์เท่าไหร่

ยังไงก็ตาม ขอเป็นแฟนคลับเรื่องนี้อย่างเหนียวแน่น ติดตามตอนต่อไปอย่างใจจดใจจ่อค่ะ  :3123:

ออฟไลน์ DuenTwinBII

  • ♥ “If you can't explain it simply, you don't understand it well enough.”♡
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 369
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +624/-4

ตอนที่๕ ไม่มีตรงกลาง






ผมไปเรียนคาบบ่ายด้วยใจที่สงบลงกว่าเดิมมากอย่างน่าประหลาด ทั้งๆที่ผมเจอเรื่องหนักมาแท้ๆ ตอนนี้ผมระแวงคิดมากจนเหนื่อยแล้ว ก็เลยไม่อยากจะคิดอะไร ปล่อยหัวให้ว่างๆบ้างก็ดี ส่วนเรื่องไอ้ปั๊มมันก็เงียบหายไปเลย ผมก็ปล่อยไปไม่ได้สนใจเท่าไหร่  แต่ระหว่างที่กำลังอยู่ในคาบพี่ฉัตรก็ส่งข้อความมา บอกว่าไอ้นนท์ไม่มาเข้าเรียน หายหัวไปไหนไม่รู้ ไอ้ภูก็สีหน้าไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่ ผมจ้องข้อความของพี่ฉัตรอยู่นาน จนไอ้เคนสะกิด

“เป็นไรวะ เหม่อๆ”ผมว่าผมเก็บอาการเนียนๆแล้วนะ มันยังสังเกตุได้อีกเหรอ ผมถอนหายใจออกมา

“กู...”ผมไม่รู้จะพูดอะไร และแปลกมากที่เสียงของผมมันสั่นขนาดนี้ ไอ้ชายกับไอ้เคนเบนความสนใจมาที่ผมเต็มที่

“กู...”

“มึงใจเย็น ค่อยๆเล่า”ไอ้เคนวางมือบนบ่าของผม เมื่อตั้งสติทำใจได้แล้วผมก็เริ่มเล่าให้พวกมันฟังทั้งหมดอย่างไม่คิดปิดบัง ผมพูดออกมาจนหมดทั้งความรู้สึกของผมในตอนนี้

“ตอนนี้กูเหนื่อยๆยังไงไม่รู้”ผมนั่งนวดขมับที่เต้นตุบๆด้วยสีหน้าว้าวุ้น ไอ้ชายกอดคอผมหลวมๆ

“มึงหนักมึงก็วาง กูเชื่อว่ามันรักมึงนะ ไม่งั้นมันไม่อยู่ติดทนนานกับมึงขนาดนี้หรอก อย่าร้องไห้นะมึง”ไอ้ชายเอามือมาดึงแก้มผม

“กูไม่ร้องหรอกเว้ย”ผมปัดมือมันออกก่อนจะซบหน้าลงกับท่อนแขน เหมือนไม่อยากให้พวกมันเห็นสีหน้าของผม ผมได้ยินไอ้ปลาคุยกับไอ้เคนแว่วๆเรื่องคอนเสิร์ตสล็อต แมทชีน แต่ผมคงไม่มีอารมณ์จะไปเที่ยวแล้ว เพราะถึงผมไปก็ทำให้เพื่อนๆหมดสนุกเปล่าๆ ไอ้ภูติดต่อผมมาอยู่หลายรอบแต่ผมบอกมันไปว่า ถ้าหายโกรธผมจะคุยกับมันเองตอนนี้ผมขออยู่เงียบๆคนเดียวก่อน ไอ้ภูมันก็เข้าใจดี คิดว่างั้นนะ เพราะตอนเย็นมันไม่ได้กลับหอ ไม่ได้กลับไปที่คอนโด แต่มันกลับไปที่บ้าน ผมรู้เพราะแม่มันโทรมาหาผม

[หนูฟิก มีเรื่องทะเลาะอะไรกับภูรึเปล่าลูก] เสียงจากปลายสายเต็มไปด้วยความเป็นกังวล

“ก็...นิดหน่อยครับ ลูกชายแม่ทำให้ผม...”เกิดอาการจุกพูดไม่ออกขึ้นมาทันที ผมได้ยินอีกฝ่ายถอนหายใจเบาๆ

[แม่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นนะ แต่ภู...ปกติภูไม่ค่อยจะกลับบ้าน ทั้งพ่อทั้งแม่เลยตกใจ ถ้าไม่หนักหนาสาหัสจริง ภูคงไม่กลับมานอนที่บ้านแน่ แม่อยากให้หนูคุยกับมันดีๆนะลูก แม่ไม่สบายใจเลยที่เห็นเราสองคนเป็นแบบนี้]ผมพอจะนึกภาพออก คนที่ไม่ชอบกลับบ้านแบบมัน คงทำให้สองคนนั่นตกใจน่าดู

“ครับ ถ้าผมดีขึ้นแล้วผมจะคุยกับมันเอง ฝากบอกมันด้วยนะแม่ว่าดูแลตัวเองด้วย”ผมกลัวมันจะปล่อยเนื้อปล่อยตัวจนป่วย

[ไว้แม่จะบอกให้เนาะ]แล้วจากนั้นก็วางสายไป ผมจ้องมองหน้าจอดำๆนั้นอยู่นาน ไอ้ตินเองก็ไม่ได้กลับมาที่หอมันคงจะรู้ล่ะมั้งว่าผมอยากอยู่เงียบๆคนเดียว แต่เสียงเคาะประตูปังๆก็ทำให้ผมต้องลุกไปเปิดประตูทั้งๆที่ยังแปลกใจอยู่ว่าใครมา

“ไอ้นนท์”ผมหน้าตึงทันทีที่เห็นมันยืนอยู่หน้าห้อง วินาทีต่อมาก็เปลี่ยนเป็นสะใจเมื่อเห็นสภาพยับเยินของมัน ไม่รู้ว่าฝีมือใครระหว่างไอ้ตินกับไอ้ภู

“มึงมาทำไม”ผมถามด้วยน้ำเสียงชิงชัง

“กูมาคุยกับมึง”มันพูดนิ่งๆ

“แต่กูไม่อยากคุย”

“กูแค่อยากมาอธิบาย”มันตอบด้วยสีหน้าที่เหมือนถูกบังคับมา ผมเม้มปากก่อนจะเบียดออกมาจากประตูห้อง ก่อนจะนำไอ้นนท์ไปยังโถงใต้หอ ผมไม่อยากให้มันเข้ามาในห้องหรืออีกนัยนึงคือผมไม่อยากให้มันเห็นข้าวของไอ้ภู ไม่อยากให้มันเห็นร่องรอยการดำเนินชีวิตซกมกของมัน

“ว่ามาเลย”ผมนั่งลงที่โต๊ะหินอ่อน ไอ้นนท์นั่งตามก่อนจะลูบแขนที่มีรอยช้ำ

“ก็เป็นความจริงที่กูกับพี่ภูไม่ได้มีอะไรกัน เมื่อคืนจู่ๆพี่เขาก็เป็นบ้าอะไรไม่รู้ อยากจะเมาขึ้นมาดื้อๆ ก็เลยตั้งวงกันจนดึก ไอ้พวก
นั้นก็กลับบ้านแต่กูยังไม่อยากกลับก็เลย...”

“เล่าคร่าวๆ กูไม่อยากฟังรายละเอียด”ผมขัดขึ้นมา มันคิดว่าผมอยากรู้เหรอว่ามันทำอะไรกันบ้าง ไอ้นนท์สูดหายใจลึกๆเหมือนข่มความโกรธ

“กูจงใจใช้น้ำหอมแบบเดียวกับมึงเอง พี่ภูเมา กูเลยเข้าหาพี่เขาก่อน แต่พี่เขาคงคิดว่ากูเป็นมึงล่ะมั้งถึงยอม แต่พอผ่านไปซักพักพี่เขาก็รู้ว่าไม่ใช่มึง ก็เลยไล่กูกลับ แต่กูดึงดันไม่ยอม ...เรื่องก็แบบนี้แหละ”ไอ้นนท์เม้มปากเหมือนกำลังชั่งใจอะไรอยู่

“กู กูขอโทษก็แล้วกัน”มันพูดเสียงเบา

“ใครให้มึงมา”อย่างมันคงไม่คิดจะมาอธิบายให้ผมฟังหรอก

“ไอ้ติน”ผมถึงบางอ้อทันที เดาว่าไอ้ตินคงเค้นเรื่องทั้งหมดมาจากไอ้นนท์แล้วแน่ๆ

“แล้วมึงมายุ่งกับของๆกูทำไม ทั้งๆที่รู้ว่ามันมีเจ้าของแล้ว”ผมมองมันด้วยสายตาชิงชังเหมือนเดิม ความรู้สึกของผมอัดแน่นอยู่ในอก ไอ้นนท์ยิ้ม ผมฉุนขึ้นมาทันที คว้าแขนข้างที่มีรอยช้ำของมันมาบีบแน่น

“มีแล้วก็เลิกได้ นั่นคือที่กูคิด”มันตีหน้าไม่สะทกสะท้าน ผมลุกขึ้นทันที

“ไปให้พ้นหน้ากู แล้วก็นะ...”ผมจ้องหน้ามันตรงๆ

“กูกับมันไม่เลิกกันง่ายๆหรอก ตอนนี้มึงอาจจะคิดว่ามึงมีหวังแต่ความจริงแล้วมันไม่ใช่ ถ้ามึงยังมาวุ่นวายกับมันอีกล่ะก็...มึงโดนหนักกว่านี้แน่”ขู่มันเสร็จผมก็เดินปึงปังขึ้นห้องทันที เชี่ยเอ้ย ว่าจะไม่หงุดหงิดแล้วนะ ผมใจชื้นขึ้นเล็กน้อยที่รู้ว่าไอ้ภูไม่ได้เริ่มก่อน



วันนี้ผมอยู่คนเดียวอีกตามเคย ไม่ได้เหงา แต่รู้สึกสงบมากขึ้น ไอ้ปั๊มไปกินเลี้ยงสายรหัสเพราะมันบอกว่าได้กินฟรี และมันเตรียมข้อแก้ตัวไว้แล้ว มันถ่ายรูปหมูเนื้อย่างมาอวดผมเรื่อยๆ ผมแอบแปลกใจอยู่เหมือนกันที่รู้ว่าไอ้ภูยังมางานเลี้ยงสายรหัส มันมีอารมณ์ไปลั้นลาอีกเหรอ เหอะ  ผมชั่งใจก่อนจะพิมพ์ถามมันไป

ฟิก:ไอ้ภูเป็นยังไงบ้าง

ปั๊ม:หน้าตาขวางโลกมาก อารมณ์ขึ้นๆลงๆ แถมยังมองผมแปลกๆอีก ผมกลัวพี่เขาว่ะ

ผมบอกให้มันลบแชทออกให้หมดด้วย เพราะผมเริ่มสังหรณ์ใจตงิดๆขึ้นมา ผมว่า...มันคงรู้ว่าผมคุยกับไอ้ปั๊มแล้วแน่ๆ ที่มันไปงานเลี้ยงอาจจะเพราะต้องการดูให้แน่ใจรึเปล่า ผ่านไปสองชั่วโมงไอ้ปั๊มก็ไลน์มาหาผมอีกแล้ว

ปั๊ม:ผมโดนต่อยอ่ะพี่ฟิก

ผมมองรูปถ่ายที่มันแนบมาด้วย ตามเดิมหน้ามันก็แย่อยู่แล้ว แต่ยิ่งโดนซ้ำเข้าไปแบบนี้ สงสารหนังหน้ามันเลยอ่ะ

ฟิก:มึงกลับได้ไหมวะนั่น แล้วใครทำมึง

ปั๊ม:ถ้ามึงมาก็รู้เอง

ข้อความนี้ผมรู้เลยว่าใครพิมพ์ มีอยู่คนเดียวที่เป็นไปได้มากที่สุด ...คือไอ้ภู ผมรีบไปร้านหมูกระทะที่พวกมันไปเลี้ยงกันทันที รู้สึกแย่เหมือนกันที่เป็นต้นเหตุทำให้มันเจ็บตัวเพิ่มแบบนี้ เมื่อมาถึงร้านแล้วผมก็กวาดตามองรอบๆ ร้านหมูกระทะปิดไปแล้ว แต่เงาดำตะคุ่มๆของหลายๆร่างตรงลานจอดรถด้านในสุดก็ทำให้ผมเดินเข้าไปหา ผมใจเต้นตึกๆ เมื่อเห็นคนที่นั่งคุกเข่าอยู่กับพื้นกรวดคือไอ้ปั๊ม ตามใบหน้าของมันมีรอยช้ำสีม่วง น่ากลัวกระจายอยู่เต็มใบหน้า ร่างสูงคุ้นตาที่ยืนกระดกเบียร์อยู่คือไอ้ภูสีหน้าของมันดูเหมือนใกล้จะฆ่าคนได้เลย แล้วข้างๆมันคือพี่ปากับไอ้เนม

“มาไวดีนี่ ทำไมกลัวกิ๊กมึงเจ็บมากนักเหรอ”มันเมาแล้วชัวร์ๆ มันโยนกระป๋องเบียร์ทิ้งก่อนจะสาวเท้าเข้ามาหาผม แต่มันก็ถูกพี่ปาดึงตัวกลับจนมันเซแทบยืนไม่อยู่

“มึงอย่าหาเรื่องกูได้ไหม มึงมีคดีติดตัวอยู่นะ”ผมชี้หน้ามันก่อนจะเข้าไปพยุงไอ้ปั๊มให้ลุกขึ้นมา

“เออ ใช่สิ กูมีคดี กูมันเหี้ยเองแหละ เพราะแบบนี้มึงถึงจะทิ้งกูใช่ไหมวะ”มันไม่ได้ตะคอกผมแล้ว แต่พูดด้วยเสียงอ้อแอ้เหมือนคนหมดเรี่ยวแรง มันเมามากเสียจนยืนด้วยตัวเองไม่ไหว แสดงว่าที่ไอ้ปั๊มเจ็บตัวต้องเป็นฝีมือของพี่ปากับไอ้เนมแน่ๆ

“มึงเมาแล้วพูดไม่รู้เรื่องว่ะ กูไม่อยากคุยกับมึง”คุยไปก็คงทะเลาะกันแน่ๆ

“มึงเลยแอบคุยกับมันใช่ไหม มึงบอกกูมาดิ ว่ามึงทำแบบนี้มานานหรือยัง หลอกกูมานานหรือยัง ห๊ะ”มันจะเดินเข้ามาหาผม แต่ก็ถูกไอ้เนมดึงๆไว้ก่อน

“ภูมึงตั้งสติหน่อยดิวะ”

“พวกมึงด้วย ปิดบังกู”มันยืนเซๆสะบัดแขนของไอ้เนมออก ผมไม่เคยเห็นมันเมามากขนาดนี้เลย เมาจนแทบยืนเองไม่ไหว หมดสภาพจริงๆ

“กูกับไอ้ปั๊มไม่ได้มีอะไรแบบมึงกับไอ้นนท์ก็แล้วกัน”ไอ้ปั๊มเขย่าแขนผมอย่างนึกกลัวๆ ไอ้ภูก้มหน้าลง จนผมมองไม่เห็นสีหน้าของมัน

“มึง...เลิกพูดเรื่องนี้เหอะว่ะ แค่นี้กูก็เจ็บมากพอแล้วนะฟิก”เสียงของมันอ่อนจนน่าใจหาย ผมมองหน้าพี่ปาอย่างหมดคำพูด

“กูก็เจ็บนะภู แต่ตอนนี้กูเหนื่อย มึงอย่าเป็นแบบนี้เลยนะ เพราะถ้ามึงเอาแต่ใช้อารมณ์และกำลังแบบนี้ กูบอกไว้เลยว่ากูจะไม่รักมึงแล้ว”ผมพูดเพื่อให้มันได้สติสักที แต่ไอ้ภูเดินเซๆเข้ามาหาผมก่อนจะคว้าไหล่ผมไว้เหมือนเป็นที่ยึดจนผมเซถอยหลังไปเหมือนกันเพราะน้ำหนักตัวของมัน

“กูขอโทษ กูไม่ดีเองแหละ ไม่มีเวลาให้มึง ไม่เคยนึกถึงจิตใจมึง กูขอโทษนะ แต่มึงอย่าเลิกรักกูเลย กูรักมึงมากนะฟิก มึงไม่รู้หรอกว่ากูทุกข์ใจมากแค่ไหน มึงอย่า...เลิกกับกูนะ กูสัญญาว่าจะไม่ทำให้มึงเสียใจ”มันโถมตัวเข้ามากอดผมที่ยังคงมึนงงอยู่จนผมล้มไปกองกับพื้นพร้อมๆกับมัน ผมตกใจมากจริงๆเมื่อเห็นว่ามันร้องไห้ สัมผัสเปียกแฉะอยู่ที่ข้างแก้มของผมทำให้รู้ว่าน้ำตาของมันเป็นของจริง ไม่ใช่เพราะผมตาฝาด ผมเม้มปากสั่นๆของตัวเอง

“ไอ้ภู มึงอย่าร้องดิ มึงขี้แงตั้งแต่เมื่อไหรวะห๊ะ”ผมกอดมันแน่นจนรับรู้แรงสั่นมาจากตัวของมัน

“กูมีแค่มึงคนเดียวนะ ฟิก มึงอย่าทิ้งกูเลยนะ มึงไม่ต้องรักกูก็ได้ แค่อยู่กับกู”

“ไอ้ภู กูรักมึงนะ ได้ยินไหมเนี่ย หึ เลิกร้องไห้ได้แล้ว”ผมประคองหน้ามันให้มองหน้าผม ผมปวดใจหนึบๆเมือเห็นมันน้ำตาไหลเหมือนเด็กๆ

“กูรักมึง เข้าใจไหม”ผมต้องพูดคำเดิมซ้ำๆจนมันหยุดร้องไห้ ตอนนี้เหมือนผมได้เห็นสภาพที่แท้จริงของมันเลย ผมเช็ดน้ำตา
ออกจากใบหน้าของมันอย่างเบามือก่อนจะประกบจูบเบาๆที่ริมฝีปากเย็นชื้นของอีกคน มันกดท้ายทอยของผมแน่นก่อนจะกดจูบย้ำลงมาอยู่นาน จนได้ยินเสียงลากเท้ากรอบแกรบดังอยู่ข้างๆ ผมถึงดันให้มันปล่อยผม เหลือบมองพี่ปากับไอ้เนม ที่ยืนหันหลังลากเท้าไปมาเหมือนทำตัวไม่ถูก

“กลับบ้าน”ผมพูดกับมันเบาๆ ไอ้ภูส่ายหน้า

“กูจะกลับหอ กูกลับได้ไหม”ผมมองหน้ามันได้ไม่นานก็พยักหน้าเบาๆ ก่อนจะดึงให้มันลุกขึ้น มันเซน้อยๆแต่ก็คว้าตัวผมไปจับเหมือนเป็นไม้เท้า เรื่องไอ้ปั๊มคงต้องเคลียร์พรุ่งนี้ตอนที่มันฟื้น

“ฝากพาไอ้ปั๊มไปส่งหอหน่อยดิพี่”ผมพูดกับพี่ปา ไอ้ปั๊มทำหน้าตกใจก่อนจะส่ายหน้ากลัวๆ

“กูไม่ทำอะไรมึงหรอก ตอนนี้สถานการณ์ปกติแล้ว โทษทีว่ะ”พี่ปายกมือขึ้นเป็นเชิงขอโทษ

“โห...แม่งพูดง่ายจริงๆ”ได้ยินไอ้ปั๊มพึมพำ

“เดี๋ยวพวกกูไปส่ง ไอ้ฟิกมันต้องกลับกับผัวตัวจริงของมัน”นี่ถ้าไม่ใช่สถานการณ์ประดักประเดิกล่ะก็ ผมสวนไอ้เนมไปแล้ว มันสบตากับผมก่อนจะพึมพำเบาๆ

“มึงสุดยอดนะ ทำไอ้ภูร้องไห้ขี้มูกโป่งได้เนี่ย”ผมหลุดขำออกมา แต่ตอนนี้ไอ้ภูสิ้นฤทธิ์แล้ว มันยืนตัวอ่อนปวกเปียกอยู่ข้างๆผม

“เพื่อนร้องไห้ มึงดีใจเหรอ”พี่ปาเอ็ดเบาๆ ผมหันไปมองไอ้ปั๊ม

“มึงกลับกับพวกพี่เขานะ ไม่เป็นไรหรอก”ผมยิ้มให้มันวางใจ ก่อนจะค่อยๆพยุงไอ้ภูไปที่รถของมัน

“ผมฝากรถผมด้วยนะ”ผมโยนกุญแจรถของตัวเองไปให้พี่ปา แล้วหันมาจัดการกับไอ้ภูแทน ล้วงเอากุญแจรถมาจากมันได้อย่างยากลำบาก ก่อนจะจับมันยัด เข้าไปในรถ

“มึงจะไปไหน”มันคว้าข้อมือผมไว้ เมื่อผมจะเดินอ้อมไปอีกฝั่ง

“พามึงกลับหอไง ปล่อยก่อน”ผมแกะมือของมันออก โชคดีที่มันยอมปล่อยง่ายๆ เข้ามาในรถแล้วผมก็คาดเข็มขัดให้มัน

“มึงนั่งดีๆดิวะ”เหมือนลิงเลยว่ะ กว่าจะถึงหอได้ก็เล่นเอาลำบากเพราะต้องคอยจอดรถให้มันอ้วกตลอด ผมจอดรถที่หน้าหอ แสงจากไฟหน้ารถส่องให้เห็นว่าไอ้ตินนั่งรออยู่ที่โต๊ะด้านหน้าเหมือนรอผมอยู่

“เมาใช่ไหม”ไอ้ตินถามเหมือนรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ตอนที่ไอ้ตินเข้าไปคุยกับไอ้ภูผมไม่รู้ว่ามันคุยอะไรบ้าง แต่ตอนที่มันออกมาสีหน้ามันนิ่งจนผมเดาไม่ออก ที่เดาได้คือมันต่อยไอ้ภูไปสามหมัด

“มึงรู้ได้ไง”

“พี่ปาโทรบอกกูให้ไปเล่นงานกิ๊กมึง”ผมทำหน้างง

“แต่เดี๋ยวค่อยเคลียร์กันพรุ่งนี้”มันยิ้มให้ผม แต่เป็นรอยยิ้มที่ทำผมขนลุกแปลกๆขึ้นมา จากนั้นมันก็ไม่พูดอะไรอีกเพราะมันมาช่วย
ผมลากพี่ภูขึ้นไปบนห้อง พอถึงห้องแล้วไอ้ตินก็ปล่อยไอ้ภูลงบนเตียงเต็มแรงก่อนที่มันจะถอนหายใจ

“ที่เหลือมึงจัดการเองนะ”มันหายเข้าไปในห้องน้ำ ผมเลยต้องดึงกางเกงยีนส์แน่นๆของไอ้ภูออกอย่างยากลำบาก มันนอนนิ่งเหมือนศพเลย อย่าลุกมาอ้วกตอนนี้ก็แล้วกัน ผมนั่งมองสภาพของไอ้ภูอย่างเหม่อลอย ถ้าถามว่าตอนนี้ผมยังโกรธมันไหมก็ยังโกรธอยู่แต่ก็ลดน้อยลงแล้ว ถ้าผมยกโทษให้มันง่ายๆเดี๋ยวมันก็ได้ใจน่ะสิ ต้องทำให้มันรู้ว่าเรื่องครั้งนี้ร้ายแรงมาก จะได้ไม่เกิดพลาดแบบนี้ขึ้นมาอีก ไอ้ตินออกมาจากห้องน้ำพอดี ผมนึกไปถึงเรื่องไอ้ปั๊ม มันเองรู้เรื่องนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ตอนที่พี่ปาโทรบอกหรือรู้มานานแล้ว

“มองอะไร”มันถามเสียงนิ่งๆ ท่าทางแบบนี้แสดงว่าอารมณ์ของมันยังไม่คงที่แน่

“กำลังคิดอยู่ว่ามึงรู้เรื่องไอ้ปั๊มนานยัง”ผมเสี่ยงถามไป มันหยุดมือที่กำลังเช็ดผม

“รู้พร้อมๆกับเรื่องไอ้เบลล์ ตอนแรกกูก็เฉยๆเพราะมึงคงอยากส่องพี่ภูเพื่อความสบายใจ แต่กูเริ่มหงุดหงิดที่มึงกับมันเริ่มไปไหนมาไหนด้วยกัน กินข้าวกับกูไม่อิ่มเหรอฟิก ถึงต้องไปแดกก๋วยเตี๋ยวกับมันต่อ”ไอ้ตินพูดด้วยเสียงนิ่งๆพลางเช็ดผมไปด้วยเหมือนกำลังคุยเรื่องดินฟ้าอากาศธรรมดา ผมแอบกลืนน้ำลายเริ่มจะกลัวๆมันขึ้นมาแล้ว

“มันบอกว่าจะเลี้ยงขอบคุณกูไง แค่นั้นแหละ กูไม่ได้คิดอะไรกับมันจริงๆ”ผมจ้องหน้ามันตรงๆ ไอ้ตินเดินเข้ามาใกล้ผมก่อนจะหรี่ตามองเพื่อจับพิรุธของผม

“ไว้ค่อยคุยพรุ่งนี้”ผมกระพริบตาเมื่อมันผละออกไป มันปิดไฟก่อนจะเปิดไฟที่หัวเตียงไว้ ผมทิ้งตัวนอนข้างๆไอ้ภู มันสลบไปเรียบร้อยแล้ว ท่าทางเหมือนเด็กที่นอนหลับอย่างเป็นสุข มาคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นผมไม่คิดจริงๆเลยนะว่าผู้ชายอย่างมันจะเสียน้ำตาเพราะเรื่องนี้ จะเพราะว่ามันเมาหรืออะไรก็แล้วแต่ แต่มันทำให้ผมตกใจมาก ไปเล่าให้ใครฟังคงไม่มีใครเชื่อแน่ๆ ผมกลับมาคิดเรื่องไอ้นนท์อีกครั้ง...จากรอยยิ้มครั้งล่าสุดของมัน ก็คงจะประมาทมันไม่ได้ มันคงหาโอกาสเข้ามาป่วนอีกแน่

“ฟิก...”ไอ้ตินเรียกขึ้นมาในระหว่างที่ผมใกล้จะหลับเต็มแก่

“หือว่าไง”ผมพึมพำตอบ

“มึงเข้าใจแล้วใช่ไหมว่าเป็นยังไงเวลาที่ถูกคนที่ไว้ใจทำร้าย”คำพูดของมันทำเอาผมตาสว่าง ก่อนจะหันไปมองเสี้ยวหน้าของมัน

“อือ เข้าใจแจ่มแจ้งเลยว่ะ”มันเหมือนมีไฟมาสุมอก เหมือนมีคมเล็บมากรีดแทงจนใจเจ็บแสบ พวกมันสองคนทนมาได้ยังไงก็
ไม่รู้เวลาที่ผมทำตัวแย่ๆแบบนั้น คิดแล้วน้ำตาก็รื้นขึ้นมาทันที

“ที่ผ่านมากูไม่เคยนึกถึงใจพวกมึงเลย...กูขอโทษนะ”

“เรื่องแย่ๆกูไม่อยากจำ”ไอ้ตินลูบหัวผมเบาๆก่อนจะขยับมาจูบหน้าผากผม

“นอนได้แล้ว”คงฟังดูอบอุ่นถ้ามันไม่ต่อด้วยประโยค

“พรุ่งนี้ค่อยเคลียร์กัน”




เป็นเช้าที่ค่อนข้างแปลก ผมตื่นก่อนพวกมันเสียอีก ผมค่อยๆเลื่อนตัวลงจากเตียงแต่ก็ถูกอ้อมแขนของไอ้ภูคว้าไปกอดแน่น

“ปล่อยกูนะ ไอ้ภู”ผมทำเสียงนิ่ง ก่อนจะตีหน้าเรียบเฉยใส่มัน ไอ้ภูทำตามที่ผมบอกอย่างว่าง่าย

“มึงยังโกรธกูอยู่เหรอ”มันถามเสียงเบา

“มึงคิดว่าไงล่ะ เมื่อวานก่อนกูเจอมึงนอนกับไอ้นนท์มาวันนี้จะให้กูยิ้มระรื่นเหรอ”ไอ้ภูเม้มปากก่อนจะมองหน้าผม

“มึงเกลียดกูมากเลยใช่ไหม”

“อือ กูเกลียดมึง โดยเฉพาะเมื่อวาน กูโคตรเกลียด”ผมรู้สึกถึงหน้าอกที่สะท้อนขึ้นลงของมัน ไอ้ภูเหมือนจะพูดอะไรออกมาสักอย่าง ดูท่ามันคงจำเหตุการณ์เมื่อคืนไม่ค่อยได้แน่

“แล้ววันนี้ ตอนนี้มึงยังเกลียดกูอยู่ไหม”มันถามเสียงเบา สีหน้าดูน่าสงสาร แต่ผมต้องใจแข็ง จะมาอ่อนให้มันง่ายๆไม่ได้หรอก

“เกลียดแต่น้อยกว่าเมื่อวาน”ผมขยับลุกมาจากตัวมัน

“เดี๋ยว...แขนมึงโดนอะไรมา”มันคว้าแขนบวมๆช้ำๆของผมไปดู มันขยับตัวลุกขึ้นก่อนจะใช้มือลูบเบาๆ สีหน้าของมันดูครุ่นคิด ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นขุ่นน้อยๆ เหมือนเริ่มจะจำอะไรได้

“ตื่นกันแล้วเหรอ”เสียงไอ้ตินแทรกมา มันบิดตัวไปมา

“ดี จะได้คุยกันให้รู้เรื่อง วันนี้ไม่มีข้าวเช้า”มันพูดเสียงตึง ไอ้ภูดูขุ่นเคืองอยู่เหมือนกันเวลามองไอ้ติน มันมีเรื่องอะไรกันแน่นะ ไอ้สองคนนี้...ผมเข้าไปล้างหน้าล้างตา ไอ้ภูตามเข้ามาด้วยสภาพหน้ามันๆหัวยุ่งๆแบบเดิม มันมองหน้าผมแต่ไม่ได้พูดอะไร ผมก็แปรงฟันไปเงียบๆก่อนจะบ้วนปาก ผมแอบเหล่มองไอ้ภูเห็นมันลูบตรงโหนกแก้มสีหน้าดูเจ็บๆ ไอ้ตินคงต่อยโดนตรงนั้นล่ะมั้ง มันยกยิ้มก่อนจะพูดเมื่อจับได้ว่าผมมองอยู่

“ไอ้ตินมือหนักใช่เล่นเหมือนกันนะ”ผมแค่หัวเราะเยาะใส่มันก่อนจะออกมาจากห้องน้ำ ไอ้ตินกำลังจิบโอวัลตินควันฉุยอยู่เมื่อมันเห็นผมออกมามันก็ชี้ไปที่โซฟา ผมถอนหายใจก่อนจะทำตาม ส่วนไอ้ภูเดินเลยไปชงกาแฟในครัว

“เรื่องไอ้ปั๊มกูจะบอกไว้เลยว่ากูไม่ได้กิ๊กกับมัน ถ้าพวกมึงไม่เชื่อกูก็อย่ามาถาม กูรำคาญ!”ผมกระแทกเสียงใส่ แวบนึงผมเห็นสีหน้าตกใจของไอ้ติน มันคงไม่คิดว่าผมจะใช้น้ำเสียงแบบนี้กับมัน ไอ้ภูเดินมานั่งที่โซฟาอีกตัว มันเลื่อนโทรศัพท์ของมันมาให้ผม

“มีคนส่งมาให้กู”ผมเหลือบมองโทรศัพท์ของไอ้ภู เป็นรูปผมกินก๋วยเตี๋ยวกับไอ้ปั๊ม

“ไอ้โจส่งให้ใช่ไหม”ผมมองหน้าไอ้ติน ผมคิดว่ามันน่าจะได้รับเหมือนกัน

“อย่างที่กูพูดไปแล้ว มันแค่อยากเลี้ยงขอบคุณกู กูไม่ได้คิดอะไรกับมัน”ไอ้ภูขมวดคิ้วเหมือนสงสัย

“ขอบคุณเรื่องอะไร”

“กูให้มันคอยส่องมึง”ผมมองหน้ามันตรงๆ ไอ้ภูอึ้งไปพักหนึ่งก่อนจะหัวเราะออกมาทั้งๆที่ไม่มีอะไรตลกเลย สีหน้าของมันแสดงออกอย่างชัดเจนว่ามันเสียใจ

“นี่กูไว้ใจไม่ได้ในสายตาของมึงขนาดนั้นเลยเหรอวะ”ผมไม่ได้ตอบ

“แล้วพวกมึงล่ะ ไว้ใจกูกันรึเปล่า”ผมมองพวกมันสองคนสลับไปมา

“ตั้งแต่คบกับพวกมึง กูไม่เคยคิดจะมีคนอื่นเลยนะ อาจจะจริงที่กูแซวคนนู้นคนนี้แต่มันก็แค่นั้น ไม่มีอะไร”เกิดความเงียบขึ้นอีกครั้ง ก่อนจะก้มมองโทรศัพท์ของไอ้ภู

“มึงได้รูปนี่ตอนไหน”ไอ้ภูถอนหายใจ

“ก็คืนที่มีเรื่องนั่นแหละ กูเห็นรูปแล้วโมโห ก็เลยกินเหล้า...”ผมเริ่มปะติดปะต่อเรื่องได้ คล้ายๆเหมือนผมเป็นต้นเหตุเลยนะ หึๆ

“โอเค เรื่องไอ้ปั๊มกูเคลียร์แล้ว ถ้ามึงยืนยันว่าไม่มีอะไร กูเชื่อมึง แต่ถ้ามึงจะออกไปไหนกับมัน มึงช่วยบอกกูก่อนได้ไหม กูไม่ชอบที่ได้ยินมาจากคนอื่น”ไอ้ตินพูดเบาๆ ผมได้แต่พยักหน้าให้มัน จนถึงตอนนี้ไอ้ภูกับไอ้ตินยังไม่คุยกันเลย ผมไม่ชอบ
บรรยากาศอึดอัดแบบนี้จึงพูดเสริมขึ้นมา

“กูไม่รู้ว่ามึงสองคนทะเลาะอะไรกันนะ แต่กูอึดอัด”ไอ้ภูตวัดตามองไอ้ติน ที่ยืนตีหน้าเรียบเฉยอยู่

“มึงก็บอกแฟนมึงสิว่าอย่าล้ำเส้นกู”ไอ้ภูใช้น้ำเสียงประชดประชัน ซึ่งผมไม่ชอบคำว่าแฟนของมันจริงๆ

“ผมไม่ได้ล้ำเส้น แค่พูดตามความจริง”ไอ้ภูลุกมาเผชิญหน้ากับไอ้ตินแล้วตอนนี้ ผมใจตุ้มๆต่อมๆ กลัวพวกมันมีเรื่องกัน

“สำหรับกูนั่นเรียกว่าล้ำเส้น กูเข้าใจว่ามึงรักไอ้ฟิก แต่ระวังคำพูดของมึงด้วย”ไอ้ตินชักสีหน้าโกรธเคือง

“ผมแค่เตือนพี่เฉยๆ ว่าถ้าพี่ทำมันเจ็บอีก พี่ก็ไม่สมควรอยู่ข้างมัน”

“เชี่ยติน มึงคิดว่ามึงประเสริฐนักเหรอ”ไอ้ภูเข้าไปกระชากคอเสื้อไอ้ตินเต็มแรง แต่โอวัลตินร้อนๆก็ถูกเทใส่หน้าอกไอ้ภูจนมันต้องถอยออกมา แต่แค่ครู่เดียวมันก็ต่อยไอ้ตินไปเต็มหมัด

“พวกมึง...”ผมลุกจากโซฟาจะเข้าไปห้ามมันสองคนแต่ก็ไม่กล้าพอ กลัวโดนลูกหลงด้วยเพราะตอนนี้มันสองคนไม่ยอมแพ้กันเลย แต่มีแววว่าไอ้ตินจะเจ็บหนัก เพราะมันตัวบางกว่าไอ้ภู

“เฮ้ย พวกมึงคุยกันดีๆ”ผมไม่ชอบเห็นมันสองคนมาตีกันเพราะผมเลยจริงๆ ผมหันไปมองรอบๆเพื่อหาอาวุธมาหยุดหมาบ้าสองตัว ไอ้ตินก็รู้ว่าสู้แรงไอ้ภูไม่ได้ก็ยังไม่ยอมหยุดอีก มีเสียงดังตุบ เพราะไอ้ตินล้มกระแทกกับพื้นเสียงดัง ข้าวของในห้องพวกมันก็ทำพังหมด ผมปาแก้วกาแฟลงพื้นเสียงดังเพล้ง แต่ก็ไม่เป็นผล ไอ้ตินคว้าโคมไฟมาปาใส่ไอ้ภูแต่มันหลบทัน ผมปรี่เข้าไปในห้องน้ำ หมากัดกันต้องเอาน้ำสาด ผมต่อสายยางกับก็อกน้ำก่อนจะลากสายยางออกมาจากห้องน้ำฉีดใส่พวกมันรัวๆ

“พวกมึงจะหยุดไหม”ผมฉีดใส่หน้าพวกมันอยู่นานจนเมื่อเห็นพวกมันสงบแล้วผมจึงหยุด สภาพห้องเละสิ้นดี มันสองคนยังมองหน้ากันอยู่ ผมเลยเข้าไปยืนกั้นกลางระหว่างพวกมันก่อนจะประเคนฝามือใส่พวกมันไปคนละเพี๊ยะ

“หายบ้ากันรึยัง”ผมขึงตามองพวกมันสองคน อย่าให้กูเล่นบทโหดบ้างนะ

“พวกมึงก็รู้ว่าไม่ชอบให้ทะเลาะกัน ก็ยังมาทำต่อหน้ากูอีก”ผมมองสภาพมันสองคนอย่างระอาใจ แต่ดูเหมือนการใช้กำลังจะทำให้พวกมันได้ปลดปล่อย สีหน้าขัดเคืองเริ่มหายไป

“ผมขอโทษแล้วกันที่พูดยั่วโมโหพี่”ไอ้ตินมองหน้าไอ้ภูก่อนที่มันจะเดินกะเผลกๆไปที่เตียง ผมกลับมามองไอ้ภูมันกำลังเช็ดแผลเลือดออกที่หน้าผาก รอยฝามือที่ผมประเคนไปให้เห็นเด่นชัด นอกนั้นก็มีรอยช้ำๆเขียวๆ ผมถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ให้พวกมันจัดการตัวเองกันไปล่ะกัน ผมออกมารับลมที่นอกระเบียง เดี๋ยวนี้ระเบียงหอพักมีมุ้งลวดมากั้นระเบียงเพื่อความปลอดภัยแล้ว ไอ้เรื่องปีนไปมาหากันนี่ ใช้ไม่ได้แล้ว




ออฟไลน์ DuenTwinBII

  • ♥ “If you can't explain it simply, you don't understand it well enough.”♡
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 369
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +624/-4




หลังจากที่พวกมันวางมวยกันมันก็กลับมาคุยกันตามปกติเหมือนเรื่องที่มันทำห้องพังไม่เคยเกิดขึ้น ผมก็งงๆอยู่แต่ก็ดีแล้ว ผมไม่อยากอึดอัด ไอ้ภูยังคงอยู่ที่หอตามปกติแต่มันระวังพฤติกรรมมากขึ้น ไม่ค่อยมากวนใจผมเท่าไหร่ ซึ่งก็ดีไปที่มันยังภาษาคนรู้เรื่อง ผมกับไอ้ปั๊มเริ่มไม่ได้ติดต่อกันแล้ว คงเพราะไม่มีเรื่องอะไรให้รายงาน ได้ยินมาว่าไอ้นนท์ไปขอโทษไอ้ภู แต่มันไม่ชอบพฤติกรรมล้ำเส้นของไอ้นนท์ และมันจงใจสร้างเรื่องมาป่วนความสัมพันธ์ของผมกับไอ้ภู เชี่ยนี่แม่งร้ายมากๆ มันส่งรูปภาพที่นอนกับไอ้ภูมาให้ผมดูด้วย

และนั่นเป็นฟางเส้นสุดท้ายของไอ้ภู มันเล่นงานไอ้นนท์และลากมันมาขอโทษผมในสภาพระบมไปทั้งตัว และไอ้ภูย้ายตัวเองออกมาจากพวกคุณชายเหล่านั้น บางทีมันก็ไปไหนมาไหนคนเดียวหรือไม่ก็ไปกับเพื่อนคนใหม่ของมันที่ชื่อเปากับกร ไอ้สองคนนี้สไตล์เดียวกับไอ้ภูเลย ห่ามๆเหมือนกัน ทำผมเบาใจไปได้เยอะ มันเองก็พยายามมาคุยกับผมบ่อยๆจนนี่ก็ปาไปสามอาทิตย์แล้วที่ผมทำทีเหมือนยังโกรธมันอยู่ 

จนวันหนึ่งที่ผมอยู่หอกับไอ้ตินสองคนและไอ้ภูหายหัวไปกับพวกพี่ปา เบอร์แปลกๆก็โทรเข้ามาหาผม พักนี้ผมเป็นโรคหลอนเบอร์แปลกๆครับ ไม่รู้ทำไม

“เฮ้ย เบอร์ใครก็ไม่รู้อ่ะ”ผมสะกิดๆไหล่ให้ไอ้ตินรับแทน มันขมวดคิ้วละสายตามามองผมแว๊บนึง ก่อนจะสนใจหนังยิงสะนั่นเมืองต่อไป

“มึงก็รับดิ เผื่อกิ๊กพี่ภูโทรมา”เดี๋ยวนี้มันกล้าล้อจุดดับในชีวิตของผมแล้ว ยิ่งรู้ว่าผมไม่ชอบใจ มันก็ยิ่งชอบแหย่ ผมมองมันอย่างไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ก่อนจะกดรับโทรศัพท์

“สวัสดีครับ”เบอร์แปลกต้องพูดเพราะๆหน่อย

[ฟิกใช่ไหม] ผมสะดุ้งโหยงเลย ใจหล่นลงไปอยู่ที่ตาตุ่มเลยเพราะคนที่โทรมาด้วยเสียงวางอำนาจแบบนี้คือพ่อไอ้ภู ไอ้ตินหันมามองผมด้วยสายตาตกใจเมื่อผมอ้าปากพะงาบๆบอกมันว่าใครโทรมา

“เอ่อ ใช่ครับ คุณลุง เอ้ย คุณพี่”ไอ้ตินถีบผมไปหลายดอก

“ครับ คุณพ่อ ผมฟิกเอง”ผมหัวเราะแห้งๆ เมื่อปลายสายเงียบไปนาน

[ฉันไม่ใช่เพื่อนเล่นเธอนะ]เสียงนั้นดุมา

“ขอโทษครับ พอดีผมตื่นเต้นไปหน่อย ไม่รู้จะเรียกพ่อแบบไหนดี กลัวจะไม่ถูกใจ”ได้ยินเสียงเหอะดังมาเบาๆ

“ว่าแต่มีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับ”ใจจริงสงสัยมากว่าคุณพ่อโทรหาผมทำไม

[เลิกกับไอ้ภูแล้วเหรอ] ผมใจหายแวบอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงพ่อมัน

“ก็…เปล่านี่ครับ”ผมเริ่มใจเสียแล้วสิ

[เหรอ แล้วทำไมมันถึงเมาเหมือนหมากลับมาบ้านแบบนี้ล่ะ มันเป็นแบบนี้เกือบทุกวันเลย] ไหนมันบอกผมว่ากลับไปนอนที่คอนโด ไอ้ตินหรี่เสียงโทรทัศน์ลงก่อนจะหันมาสนใจผมแทน

“ก็…”

 [แต่ก็ดีแล้ว ถ้ารักแบบนี้มันไม่ยืดยาวอะไร ก็เลิกๆกันไปตอนนี้เลย ก็คงดีกว่า]

“ผมกับมันยังไม่ได้เลิกกันนะครับ ผมแค่ขอเวลาทำใจเฉยๆเอง ที่มันเมาแบบนั้น…ผมก็”

[เธอไม่สนใจมันล่ะสิ ฉันพูดตามตรงเลยนะ ถ้าไม่อยากคบกับมันก็เลิกกันไปตอนนี้เลย] ผมสูดหายใจเข้าลึกๆ

“ผมแคร์มันมากนะพ่อ ผมไม่เลิกกับมันหรอก”ปลายสายเงียบไปอยู่นาน

[ไม่เข้าใจจริงๆว่ามันชอบอะไรเธอนักหนา] เหมือนพึมพำกับตัวเองมากกว่าคุยกับผม แล้วสายก็ตัดไป ผมนั่งจ้องโทรศัพท์มึนๆ ก่อนจะเงยมองไอ้ตินที่พยายามปกปิดรอยยิ้มด้วยหมอนอิง

“มึงยิ้มอะไร กูเครียดนะ พ่อมันโทรหากูแบบนี้เนี่ย มาพูดถึงเรื่องเลิกอีก อย่าบอกนะว่าจะสั่งให้มันเลิกกับกูอ่ะ ลูกตัวเองทำผิดแท้ๆ ยังเข้าข้างอีก มันเมาเป็นหมาไม่ใช่ความผิดกูซะหน่อย”ผมกดโทรศัพท์โทรหามันไปด้วย รออยู่นานมันก็รับสายด้วยเสียงมึนๆ

[คิดถึงภูเหรอออ]

“มึงเมาอีกแล้วเหรอ”ผมถามมันเสียงอ่อน

[กูแค่จิบแก้เครียดเฉยๆ ไม่ได้เมาหรอกจริงๆ] แต่เสียงมัน ผมว่ามันจิตหลุดไปไกลแล้วนะ

“ตับแข็งตายก่อนก็ไม่รู้ด้วยนะ”ไอ้ภูนี่ไม่รักตัวเองเอาซะเลย

[กูรู้น่าาา กูคิดถึงมึงว่ะ ไม่กล้าไปเจอมึง เดี๋ยวโกรธกูอีก กูไม่อยากมองหน้าบึ้งๆของมึง พักหลังมานี้มึงไม่ยิ้มให้กูเลยนะ] มันพูดเสียงเบาๆ

“ทำตัวดีๆสิ”

[เออ วันพรุ่งนี้…] แล้วมันก็เงียบไปพร้อมเสียงถอนหายใจ

“พรุ่งนี้ทำไม”ผมเงยหน้ามองไอ้ตินที่ยิ้มอยู่ มันบอกผมเบาๆว่าพรุ่งนี้มีงานเกษตร

[เปล่า แค่นี้นะ กูนอนฝันดีแล้ว] ผมยังไม่ทันได้พูดอะไรมันก็วางสายไปในทันที

“พรุ่งนี้ไปเที่ยวงานด้วยกันป่ะ กูต้องเฝ้าบู๊ธขายต้นไม้”มันพูดงงๆนะ

“จะเที่ยวได้ไง มึงต้องเฝ้าบู๊ธนี่”ไอ้ตินตบหัวผมเบาๆ

“เดี๋ยวกูขอแลกกะกับเพื่อน”แต่รอยยิ้มของมัน ดูเหมือนมีอะไรมากกว่านั้น

“ดูก่อน ถ้างานกูเสร็จทันก็จะแวะไปแล้วกัน”


งานเกษตรที่คณะไอ้ตินจัดทั้งหมดสี่วัน ทำให้รถติดมากเป็นพิเศษเพราะใช้ถนนสายหนึ่งของมอ.มาจัดตั้งร้านขายของ ผมยังไม่มีโอกาสได้ไปเลยสักวัน ทั้งที่รับปากมันไว้แล้ว และวันนี้ก็เป็นวันสุดท้ายแล้วด้วย มันย้ำว่าต้องมาให้ได้ แต่เพราะโปรเจคงานวิชาผังเมืองทำให้ผมต้องขยันเป็นพิเศษหากต้องการเกรดดีกว่านี้ ผมเหม่อมองไปนอกอาคารเรียน เสียงเพลงจากซุ้มขายของดังแว่วมา สามวันแล้วที่ไอ้ภูไม่ได้ติดต่อมา

“ไปเดินงานป่ะ กูหิว”ไอ้เคนชวนขึ้นมา ผมหันไปมองมันที่ลุกจากโต๊ะมาบิดขี้เกียจ ผมก้มมองผังรอบมอ.ที่ปริ้นออกมาดูแบบด้วย
สายตาเบลอๆ คงต้องพักจริงๆแล้วล่ะ ไอ้ชายทำเสียงประหลาดๆระหว่างที่ยืดแข็งยืดขา

“มึงเป็นไรวะ ฟิก สองสามวันนี้สีหน้ามึงดูไม่ดีเลย”

“เปล่านี่”ผมรู้สึกเหมือนแห้งเหี่ยวยังไงก็ไม่รู้

“โหย กูล่ะเบื่อคำตอบนางเอกนี่จริงๆ มึงเป็นอะไรวะ เพื่อนกูปกติไม่ใช่หมาหงอยแบบนี้นะเว้ย”ไอ้ชายนั่งลงข้างๆผม สีหน้าดูเป็นห่วง ผมถอนหายใจออกมาอีกครั้ง ก่อนจะเล่าให้มันฟัง

“เล่นตัวมาก มันไปคั่วไอ้นนท์จริงๆแล้วมั้ง”

“สัดชาย อย่ากวนตีนกู”ผมปาขวดกาวตาช้างใส่มัน ไอ้พวกนี้ก็เหมือนกันรู้ว่าผมเกลียดชื่อนี้ ยังจะพูดถึงอยู่ได้

“เอาเหอะ มึงอย่าเพิ่งคิดมาก ไปหาอะไรทำให้สบายใจก่อนดีกว่า”มันฉุดผมจากเก้าอี้ให้ตามพวกมันไป

“เดี๋ยวๆ”ผมหันไปคว้าเสื้อคลุมมาใส่

“แดดหมดแล้วพ่อคุณ จะมากลัวดำอะไรตอนนี้”ไอ้เคนตบหัวผมไปหนึ่งที ผมรู้สึกสดชื่นขึ้นมาบ้าง เพราะกลิ่นหอมๆของอาหารที่
ขายในงาน คนเยอะตามปกติทั้งเด็กในมอและคนจากด้านนอก

“ว่าไงตัวเอง”ผมสะดุ้งโหยงเมื่อมีมือมาตะปปที่ไหล่ผมเต็มแรง พอหันไปเจอก็……

“เหี้ย”พ่นคำหยาบใส่ทันที มันคือไอ้เนมครับ

“สัดนี่ทักกูดีๆไม่ได้เหรอ”

“แล้วมึงมาทักกูอะไรแบบนี้ล่ะ มาตัวองตัวเอง”ผมทำท่าขนลุกจนพองใส่มัน ไอ้เนมนี่คงเส้นคงวาเหมือนเดิมคือสไตล์การแต่งตัว ผมมองไปรอบๆตัวมันเหมือนหวังว่าจะได้เห็นคนอื่นด้วย

“มองหาใครเหรอ”มันแย้มยิ้มอย่างรู้ทัน

“มาทางนี้ ไอ้ตินให้กูมาตามมึง”ผมย่นคิ้วก่อนจะตามไปงงๆ ไอ้เคนกับไอ้ชายเดินรั้งท้าย เจอไอ้ขวัญและแก๊งค์สามปอ.ด้วย มันดูตื่นเต้นเป็นพิเศษ แถมไอ้ขวัญยังถือป้ายชื่อของใครมาด้วย ผมคงตาฝาดไปแน่ๆ

“ไปไหนวะ”ผมถามเมื่อมันเดินมายังโซนเวทีร้องเพลงขนาดเล็กๆ

“เออน่า”มันยังคงลากผมต่อไป ผมเหลียวมองไอ้สองตัวที่เดินตามหลังผมมา ไอ้เนมพาผมเบียดแทรกผู้คนมายังที่นั่งด้านหน้า
ไอ้ตินนั่งรออยู่แล้ว กับพี่ปา

“มึงมาดูใคร”ก็นี่มันเวทีร้องเพลงนี่นา ผมมองไปรอบ ๆไอ้ขวัญยืนอยู่อีกด้านโบกมือให้ผม สังเกตุๆดูแล้ว แถวนี้มีแต่เด็กวิศวะนี่
หว่า ผมกวาดตามองหาใครอีกคนอย่างมีความหวัง แต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงาหัวของไอ้ภูเลย ไอ้ตินยื่นแก้วน้ำปั่นมาให้ผม

“คนที่มึงมองหาอยู่นู่น”มันพยักเพยิดไปที่บนเวที เกิดเสียงกรี๊ดและเสียงตบมือเกรียวกราวจากกลุ่มวิศวะ ผมอ้าปากค้างน้อยๆเพราะอาการมึนงง ไอ้ภูมันขึ้นไปทำอะไรบนนั้น สีหน้ามันดูแช่มชื่นดี มันใส่เสื้อยืดของคณะมันกับกางเกงยีนส์ขาสั้นธรรมดาๆ แต่ทำไมมันดูดีจังวะ เฮ้ย ไม่ได้ๆ ผมจะใจอ่อนไม่ได้

“มันไปทำอะไรบนนั้น”ผมเห็นไอ้ขวัญยกป้ายชื่อไอ้ภูขึ้มาโบกเย้วๆ ผมก็เริ่มพอจะเข้าใจลางๆ ไอ้ภูมันคงลงประกวดร้องเพลง แต่อย่างไอ้ภูเนี่ยนะ มันกระแอมกระไอเล็กน้อยก่อนจะนำตัวเอง ไม่มองหน้าผมด้วย หยิ่งเหรอไอ้สัด หมั่นไส้มันครับ คนกรี๊ดเยอะ

“สวัสดีครับ ผมเป็นตัวแทนจากวิศวะ ภูผา ไตรวิทย์ หรือภูนะครับ”ผมมองรอบตัว จากสีหน้าไอ้เพื่อนสองตัวและคนอื่นๆนั้นคงจะรู้อยู่แล้ว

“มึงเล่นอะไรของพวกมึงเนี่ย”ผมทำท่าจะลุกขึ้นยืน แต่ไอ้ตินก็ฉุดให้ผมนั่งลงต่อ

“ไม่ได้เล่น พี่เขาอยากให้มึงมาดูนะ คิดถึงไม่ใช่เหรอ มาอยู่ตรงหน้าแล้วยังมาวางท่าอีก”ไอ้ตินพูดพลางหัวเราะ

“ก็กูโกรธมันอยู่ มึงนี่เปลี่ยนข้างไวจริงๆนะ มันให้สินบนมึงเยอะล่ะสิ”

“กูเบื่อเวลามึงนั่งซึมๆ ยังไงพี่เขาก็สำนึกแล้ว วางท่ามากเดี๋ยวพี่ภูไปจริงๆอย่ามาร้องไห้ล่ะ”มันตบบ่าผมเบาๆ ก่อนจะใช้มือดันคางผมให้หันไปมองไอ้ภู

“กูไม่ร้องหรอก ไม่ใช่เด็กขี้แยเหมือนไอ้ภู”ไอ้ตินเบิกตาโตเลย

“มึงว่าไงนะ”ผมไม่ทันได้ขยายความไอ้ภูก็กระแอมขึ้นมาอีกครั้ง

“ให้กำลังใจผมด้วยนะครับ”คราวนี้มันหันมามองผม พอได้ยินอินโทรเพลงขึ้น ผมนี่อยากจะลุกหนี หรือไม่ก็หายตัวไปซะตอนนี้เลย

“ผมอยากมอบเพลงนี้ให้คนสำคัญของผม”




จะบอกอีกทีว่าฉันรักเธอ จะบอกให้ฟังว่าฉันค้นเจอ ความหมายของการมีชีวิตอยู่ ก็รู้จากเธอไม่ใช่ใคร

จะบอกอีกทีถ้าไม่เชื่อกัน จะบอกอีกทีว่าความสำคัญ เธอนั้นเป็นที่หนึ่ง เหนือผู้ใด และไม่มีใครนอกจากเธอ

อย่ากลัวกับคนที่เขามานินทา อย่ากลัวว่าในแววตาฉันมีใคร เชื่อในรักเรา เชื่อในหัวใจที่ฉันให้เธอได้ไหม

ใครจะพยายามแทรกกลางระหว่างเรา รู้ไว้นะว่าเขาไม่มีวันเข้ามาได้ จะไม่มีตรงกลางที่เหลือว่างเผื่อใคร ถ้าใจเรายังผูกกัน

ใครจะพยายามยุยงให้สั่นคลอน รู้ไว้นะทุกครั้งฉันนอนหลับตาฝัน เห็นแค่ภาพเรารักกันยาวนาน จนถึงวันที่ฉันแต่งงานกับเธอ




ระหว่างที่มันร้องมันก็มองหน้ามองตาผมไปด้วย ผมก้มดูดน้ำแก้อาการอายที่เริ่มจู่โจมเข้ามา ไอ้ภูนี่หน้าด้านเสมอต้นเสมอปลายจริงๆ มึงอย่าลงมาหากูนะ ผมคิดอย่างหมดหวัง เมื่อเห็นมันกระโดดจากเวทีเตี้ยๆลงมาหาผมแล้ว 

“เฮ้ย”ผมขยับตัวหันข้างไปทางไอ้ติน ที่ตีหน้าเหมือนไม่รู้จักผม เชี่ยแล้ว มันเดินมาหาผมแล้ว ผมถลึงตาใส่ไอ้เนมเพราะมันกำลัง
อัดวิดีโออยู่ ผมเลยจำต้องหันหน้าหนีกล้องของเนม ไอ้สัด ไอ้พวกนี้แม่งเตี๊ยมกันมา

“คิดว่ากูจะยอมยกโทษให้มึงง่ายๆเหรอ”ผมพูดใส่หน้ามันเมื่อมันมายืนตรงหน้าผมแล้ว

“มึงใจร้ายกับกูขนาดนั้นเลยเหรอ”มันทำหน้าเศร้า

“เออ มึงทำแบบนี้กูยิ่งโกรธอ่ะ”ผมเม้มปากแน่นเพื่อกลั้นไม่ให้หลุดยิ้มออกมา ผมไม่ชอบตกอยู่ในสถานการณืแบบนี้เลย

“โห จริตจกร้านไอ้ฟิกนี่พัฒนาขึ้นจริงๆ”ไอ้ชายพึมพำเบาๆมาให้ผมได้ยิน

“พี่เขาตั้งใจร้องให้มึงเลยนะ ที่หายไปนานๆเพราะไปฝึกร้องมา”ไอ้ตินแทรกขึ้นมา นี่มันก็รู้ว่าไอ้ภูหายหัวไปไหน แล้วก็ปล่อยให้ผมเป็นห่วงเนี่ยนะ

“ฟิก กูขอโทษสำหรับเรื่องที่เกิดขึ้น ความรู้สึกที่กูมีให้มึงไม่เคยเปลี่ยนเลยนะ ต่อจากนี้กูจะเชื่อใจมึง ขอสักครั้งมึงกลับมาเชื่อใน
ตัวกูได้ไหม”มันพูดด้วยสีหน้าจริงจัง จนผมไม่กล้าเล่น

“กู…กลัว มึงรู้ใช่ไหม กูเคยบอกมึงแล้ว”ผมพูดเบาๆ

“กูไม่เคยคิดแบบนั้นเลย มึงก็รู้ ตอนที่มีเรื่องกูก็ไม่อยากทิ้งมึงไปหรอก แต่มึงก็ผลักไสทำให้กูต้องออกห่างจากมึงไปเอง ขอโอกาสให้กูนะ ฟิก”มันไม่รอคำตอบของผม มันสวมสร้อยคอให้ผมแทน จี้รูปเกียร์ที่สลักชื่อรุ่นของมันห้อยอยู่บนคอของผม ผมจับ
มาดูอย่างมึนงง

“ตอบดิ”มันกระซิบเร่งผมเบาๆ จนผมต้องหัวเราะออกมาเหมือนคนประสาทเสีย

“เออ กูยกโทษให้มึงตั้งนานแล้ว”ผมมองหน้าไอ้ภูก่อนจะยิ้มออกมา จู่ๆไอ้พี่ปาก็โรยกลีบกุหลาบลงมา

“เฮ้ย ทำไรของมึง”ไอ้ภูปัดเศษกลีบกุหลาบออกจากหัว

“เออ พอเลยๆ แย่งซีนผมหมดแล้วเนี่ย”ไอ้ตินลุกขึ้นมาบ้าง เพราะกลีบกุหลาบเต็มตักมันเลย

“กูเองก็มีของจะให้มึงเหมือนกันนะ”ไอ้ตินดูเหมือนกำลังกลั้นยิ้ม อะไรอีกเนี่ยจะทำให้ผมหน้าด้านกลางฝูงคนหรือไง

“อะไร”ผมหยิกแขนมันให้รีบๆให้มาซะ กูอายโว้ย

“หัวใจกูไง กูให้มึงหมดเลย”มันชี้ไปที่อกข้างซ้ายของมัน ใครบางคนทำเสียงกลองเพื่อรับมุกไอ้ติน ผมรู้สึกเหมือนจะเป็นลม
ตอนนี้หน้าผมจะระเบิดแล้ว ทำไมพวกมันทำกับผมแบบนี้

“มุกอะไรของมึงวะ พอเลย”ผมรีบเบียดแทรกตัวออกมาจากตรงนั้นทันที

“ป่ะๆ กลับครับ ผัวเมียเขาคืนดีกันแล้ว”ไอ้ชายพูดเสียงดัง ตบมือเปาะแปะเหมือนไล่คนที่มามุงดูกลับ

“มึงนี่โคตรหน้าด้านเลย พวกมึงนี่เข้ากันดีเชียวนะ”ผมมองพวกมันสองคนเหวี่ยงๆ ตอนนี้ผมโล่งอกโล่งสมองสุด ๆแม้แต่ไอ้นนท์ก็มาทำลายอารมณ์ดีๆของผมไม่ได้ ผมเจอันด้วยล่ะเมื่อกี้ แต่มันเลือกจะเดินหลบไปทางอื่นเพราะสายตาเอาเรื่องของไอ้ภูกับไอ้ติน ผมกับพวกมันเดินเที่ยวงานกันต่อ

“เออ พ่อมึงโทรหากูด้วยนะ เขาบอกว่า--”

“ช่างเถอะ”ไอ้ภูบอกปัดยิ้มๆ

“ทำไม…”ผมมองหน้าไอ้ภูกับไอ้ตินแล้วก็ฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า….

“กูให้พ่อกูโทรมาเองแหละ กูเจ๋งไหม ที่บังคับให้พ่อถามตามสคริปได้”แล้วมันก็หัวเราะเสียงดัง ถึงว่าพ่อมันพูดเสียงแข็งเชียว

“มาที่ซุ้มกูก่อน”ไอ้ตินดึงให้ผมไปที่ซุ้มขายต้นไม้ของมัน มีพี่เบลล์กับไอ้ชัยเฝ้าอยู่สองคน มีพวกป้าๆลุงๆกำลังเดินเลือกต้นไม้อยู่

“หายไปนานเลยนะมึง”ไอ้ชัยทักไอ้ตินก่อนจะมองผมด้วยสายตากวนตีน

“อื้อหือ หน้าบานเป็นกระด้งเลยนะไอ้ฟิก”

“เสือก”คำด่าของผมเรียกเสียงหัวเราะจากพี่เบลล์ ไอ้ชัยมองเพื่อนมันเหวี่ยงๆก่อนจะหลบฉากไปหาลุงกับป้าคู่นั้น ตอนแรกผมก็คิดว่ามันจะมาช่วยเพื่อนมันเฝ้าซุ้ม แต่ที่ไหนได้มันมาเอากระเป๋ากับขนมที่มันซื้อไว้ต่างหาก

“มึงจำไว้นะ ไอ้ภู ถ้ามีเหตุการณ์แบบนี้อีกล่ะก็…”ผมทำเสียงดังฉับ

“มึงจะตัดน้องกูเหรอ”

“ไม่ใช่ กูจะเลิกกับมึง กูพูดจริงๆนะ”ไอ้ภูยิ้มก่อนจะดึงมือผมไปจับ

“เออ กูไม่ยอมเลิกกับมึงแน่”

“แล้วถ้ามึงซุกกิ๊กนะ กูก็ฉับเหมือนกัน”เสียงของไอ้ตินทำเอารอยยิ้มเลือนหายไปจากหน้าของผม อุตส่าห์จะทำเข้มใส่ไอ้ภูซะหน่อย ไอ้ตินดันมาทำเข้มข่มผมอีกต่อ

“ว่าแต่มึงบอกว่าพี่ภูร้องไห้เหรอ”ไอ้ตินวกกลับมาประเด็นเดิม ผมหัวเราะทันทีเมื่อนึกขึ้นได้ แต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่ยอมรับ

“มึงมั่วแล้ว คนอย่างกูไม่ทำอะไรแบบนั้นหรอก”มันถลึงตาใส่ผม

“อ้าว ไม่เชื่อมึงก็ถามพี่ปา ไอ้เนมก็ได้ ไอ้ปั๊มอีกคนอ่ะ”ผมหันไปหัวเราะกับไอ้ติน ไอ้ภูทำหน้าเหมือนไม่เชื่อว่าตัวเองจะทำอะไร
แบบนั้น แต่คนอย่างมันคงไม่ไปถามเพื่อนตัวเองหรอก เพราะมันต้องโดนล้อกลับมาแน่ๆ



ฟ้าหลังฝนนี่สดใสจริงๆ เห็นด้วยไหมครับ






TBC.
อัพต่อแล้ว ตอนหน้าก็กลับมาหวานบ้าๆบอๆเหมือนเดิมแล้วค่ะ
กินมาม่ามากไปมันก็น่าเบื่อเนาะ เอามาแจมให้พอมีสีสันก็พอ ขอให้มีความสุขกับการอ่านค่ะ  :กอด1:






ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
แอร๊ยยยยยย อิจฉาฟิกมากนะบอกเลย พี่ตินก็ดี พี่ภูก็น่ารัก ดีใจที่หมดมาม่าโดยเฉพาะเรื่องปั๊มตอนนี้คงหวานกันไปอีกสักพัก แต่ไม่รู้คนแต่งจะเสิร์ฟมาม่าอีกเมื่อไหร่นี่สิ นี่กลัวอย่างเดียวเรื่องพี่ตินดาร์กนี่แหละถึงแม้ในใจลึกๆจะชอบอยู่สักหน่อยก็เถอะนะ  :o8:

ออฟไลน์ Maewjunsu

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 325
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-2
หวังว่าภูคงจำบทเรียนครั้งนี้ไปจนวันตายนะ รู้ทั้งรู้ว่านนท์คิดอะไรกับตัวเองแต่ก็ยังเอาตัวเข้าไปยุ่งไปยั่วมันทำตัวเหมือนเช็คเรทติ้งตัวเองว่ายังมีคนชอบอยู่ อ่านแล้วรู้สึกเหมือนฟิกมันจะรักภูมากกว่าตินเลยสงสารตินจัง ตอนหน้าก็คงเรื่องอดีตของตินใช่ไหมจะรอนะว่าอดีตของตินจะร้ายแรงแค่ไหน

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :L2:   ขอบคุณคนเขียนค่ะ ในที่สุดก็จบเรื่องอย่างสวยงามตามสไตล์ภูตินฟิก
คุณพ่อน่ารักจังเลยค่ะ  o13.
ไม่มีตรงกลาง อย่าหวังจะแทรก เพราะแค่สามคนก็เหนียวแน่นพอแล้ว.  :mew1: 
ฟินไปกับฟิกดัวยว่าแต่ครบสองเดือนที่สั่งงดหรือยังน้อ

ออฟไลน์ manutty

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 846
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-0
อ๊ายยยยยยยยยยยยยยยย มาแล้ววววววววว ขอบคุณคนเขียนที่ใจดีรุ้ใจคนอ่านกลัวอกแตกเลยมาต่อให้  :z2:  ในที่สุดก็คลี่คลายได้สักที ฟิกทำถูกแล้วล่ะที่ยังไม่ยกโทษให้ง่ายๆ ฟิกใช้วิธีที่ดีนะ ไม่วู่วาม เหมือนแต่ก่อน ดูใจเย็นขึ้นเยอะ คงเพราะรักและรู้นิสัยภูด้วยแหละว่าเป็นยังไง ถึงจะเห็นภาพไม่ดี แต่ก็ยังเลือกที่จะใช้วิธีสงบสยบความรุนแรง ทีนี้เชื่อได้เลยภูเข็ดและหลาบจำเลยล่ะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพราะภูรักฟิกจริง รักมาก รักจนร้องไห้ออกมาแค่ฟิกพูดว่าจะไม่รัก ทำเอาฟิกตกใจ แม้แต่เพื่อนที่ไม่เคยเห็นยังอึ้งไปด้วย ฟิกใจอ่อนต้องโอ๋เลย กลายเป็นเคะเลยเน๊าะพี่ภู  :laugh:  ชอบตอนภูกับตินตีกันอ่ะ มันเหมือนผัวเมียทะเลาะกันเลย ส่วนฟิกเป็นเหมือนคนห้าม อย่าโกรธเขานะฟิกที่จิ้นผัวสองคนของหนูอ่ะ มันให้อารมณ์นั้นจริงๆ  :-[ แต่ดีนะเขาตีกันเสร็จก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แถมยังมีเซอร์ไพรสขอโทษฟิกอีก พี่ภู พี่ด้านมากค่ะ ยอมเลย แต่ภูน่ารักตรงนี้แหละ คิดอะไรมันก็ทำอย่างนั้น แต่เฉพาะกับฟิกนะที่ทำอ่ะ ตินก็น่ารักมีเล่นมุกเสี่ยวๆแต่ออกจากใจซะด้วย อิจฉาฟิกจริงจริ๊งๆๆๆๆ มีผัวรักผัวหลงตั้งสองคน อยากได้บ้างอ่ะ  :ling1:  ไอ้นนท์สมควรจะโดนตีน เป็นไงยังคิดจะมายุ่งกับภูอีกไหม ยุ่งกับภู มึงไม่ได้โดนแค่ภูนะ พี่ตินเขาแท็คด้วย ฟิกก็ปราณีมึงมากแล้วนะ มาขอโทษยังมีหน้าพูดกวนตีนอีก ไม่มีสำนึก ฟิกน่าจะกระโดดถีบหน้ามันสักหลายๆที  :z6:  เอาล่ะมาม่าพี่ภูก็จบแล้ว เหลือแต่พี่ตินสินะ ยังไงก็อย่ามาม่ามากนะ แค่ภูก็พาจิตตกแทนฟิกแล้ว กลัวใจตินเหมือนกัน คนแบบนี้เวลาโกรธหรือมีอะไรขึ้นมารุนแรงไม่ใช่น้อย แต่เชื่อว่า ทั้งสามคนเอาอยู่  :katai2-1:

ออฟไลน์ lovetogether

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 52
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
 :impress2: เย้!!!! กลับมาคืนดีกันแล้ว คู่กันแล้วไม่แคล้วกันหรอก
ภูกับตินนี่ชอบทำฟิกเขินจัง ฮิฮิ น่ารัก
รอติดตามอยู่นะคะ รีบมาต่อนะ
 :katai2-1:

ออฟไลน์ P★RiTŸ

  • he's mine
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1282
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +70/-5
จบลงได้ด้วยดี ครั้งนี้ก็สอนอะไรทั้ง3คนได้เยอะเลย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด