ช่วงบ่ายผมมีเรียน แต่โดดมานั่งชิวกับพวกพี่ปาที่ร้านนมสด เปลี่ยนบรรยากาศบ้าง หน้าอย่างผมก็เข้าร้านมุ้งมิ้งๆได้เหมือนกัน
“คิดไงมานั่งคุยกับพวกกูวะ”พี่ปาถาม ระหว่างที่ตักไอติมเข้าปาก ไอ้เนมก็มาด้วย มันนั่งพิงเก้าอี้จ้องหน้าผมด้วยท่าทางกวนตีน
“เหงาๆว่างๆเลยแวะมาหาไง”ผมจิ้มปังปิ้งช็อคโกแลตเข้าปากคำโต
“เวอร์เหอะ มึงโดดเรียนมา”ไอ้เนมแทกขึ้นมา ผมชักสีหน้าขุ่นๆใส่มันก่อนจะหันไปคุยกับพี่ปาต่อ
“ช่วงนี้พี่ได้ติดต่อไอ้ภูอยู่ไหมอ่ะ”ผมถามด้วยน้ำเสียงเรื่อยๆ
“ไม่ค่อยบ่อยหรอก พวกกูก็มีงาน มันก็มีงาน ไม่ได้ทำตัวเหมือนว่างอย่างมึง”พี่ปาชี้หน้าผมด้วยช้อนเล็ก ๆ
“คืนนี้กูว่าง มาเที่ยวไหมล่ะ หรือต้องขออนุญาตไอ้ภูกับไอ้ตินก่อน”ไอ้เนมนี่ต้องแขวะผมให้ได้ตลอดเวลาเลย
“ไม่ต้องหรอก พักนี้พวกมันวุ่นๆอ่ะ เหงาว่ะ”ผมถอนหายใจออกมาอีกครั้ง ไอ้พี่ปาหัวเราะทันที
“เออเฮ้ย มึงนี่พัฒนาขึ้นนะ ปกติไม่กล้ายอมรับหรอก ไอ้เรื่องแบบนี้”
“เหงาหรือเงี่ยนพูดมาตรงๆ”ผมสำลักนมปั่นทันทีที่ได้ยินไอ้เนมพูด พี่ปาหันไปมองหน้ามันเหมือนกัน
“พูดอะไรเกรงใจเจ้าของร้านบ้างไอ้นี่”ผมหันไปมองพี่สาวคนสวยเจ้าของร้านที่ยืนคิดเงินอยู่หน้าเคาน์เตอร์ ร้านมันค่อนข้างจะ
เล็ก ๆกะทัดรัด แถมพวกผมก็คุยกันเสียงดังด้วย ไม่มีมารยาทจริงๆ
“ตกลงมึงจะมาไหมวะ”ไอ้เนมเซ้าซี้ถามต่อ
“มาดิ”
“เจ๋งสัด เริ่มออกลายไม่กลัวไอ้ภูล่ะ กูสนับสนุนนะอย่าไปยอมมันมาก เดี๋ยวมันเคยตัว”พี่ปาตบมืออย่างพอใจ
“กูจะฟ้องมันว่ามึงสนับสนุนให้ไอ้ฟิกพยศ”ไอ้เนมตีหน้าชั่วร้าย แปลกเหมือนกันได้คุยกับมันแล้วค่อยโล่งหน่อย
ณ ผับ
“คนนั้นเด็ดสัด มึงเห็นไหม”
“เออ นมทะลักขนาดนั้น”
ประโยคด้านบนนั่นคือคำพูดของพี่ปาและไอ้เนม ผมได้แต่ฟังเอือมๆ รู้สึกไม่ค่อยสนุกเท่าไหร่ ผับแถวนี้ผมไม่เคยมา เพราะส่วนใหญ่ผมจะเที่ยวอีกโซนหนึ่ง
“อ้าว ไอ้ฟิก ชวนมาเที่ยว ไม่ใช่มานั่งซึมกะทือแบบนี้”ไอ้เนมตบบ่าผมแรงๆก่อนจะเลื่อนแก้วเหล้าที่มันชงเองให้ผม ผมไม่ค่อยอยากรับหรอก มันมือหนักจะตาย
“กูเคยคิดนะ…”มันโน้มตัวเข้ามากระซิบใกล้ๆหูผม ทำเอาขนลุกวาบขึ้นมาเลย ผมเอนตัวออกห่างจากมันเนียนๆ
“คิดไรวะ”ผมมองพี่ปาลุกไปเต้นกับกลุ่มสาวๆด้วยท่าเฟี้ยวๆ
“มึงจำตอนนั้นได้ไหม ที่กูเจอมึงใหม่ๆอ่ะ กูเคยคิดว่าอยากได้มึงเหมือนกันเพราะตอนนั้นไอ้ภูมันบอกว่ามันจะแบ่งมึงให้กูด้วย”ผมเหลือกตามองไอ้เนมที่ยกยิ้มอยู่ รู้สึกร้อนๆหนาวๆขึ้นมาเลย แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องแปลกก็ตอนนั้นไอ้ภูมันเอาเรื่องผมไปโพนทะนาให้คนในกลุ่มเพื่อนฟัง มันก็ต้องมีบ้าง…แต่เป็นไอ้เนมคิดนี่ สยองจริงๆ
“แต่ตอนนี้กูไม่อะไรหรอก มึงไม่ต้องทำหน้าตาแบบนั้น”มันยกแก้วเหล้ามาจิบก่อนจะเคาะนิ้วตามจังหวะเพลง
“กูถามจริงๆเลยนะว่าตอนนี้อ่ะถ้าให้มึง One night stand กับใครสักคนมึงทำได้ไหมวะ”ไอ้เนมถามด้วยสีหน้าอยากรู้ ผมมองไปรอบๆอย่างครุ่นคิด
“ตอบตามตรงก็…ได้นะ แต่ผมแคร์ความรู้สึกของไอ้สองคนนั่นไง ผมเลยจะไม่ทำ”
“มึงดีนะ ได้เจอคนที่รักมึงจริงตั้งสองคน”ผมมองไอ้เนมที่เริ่มจะเพ้อขึ้นมา
“มึงอย่าพากูดราม่าได้ป่ะ มาเที่ยวนะเว้ย ไม่ใช่มานั่งเหี่ยว”ผมตบบ่ามันบ้าง มันก็สะบัดมือผมออก
“ลามปามแล้วนะมึงเนี่ย”มันยิ้มจางๆก่อนจะเร่งให้ผมกระดกให้หมดรวดเดียว แต่ผมกลัวเมาแล้วสติหลุดก็เลยค่อยๆจิบ
“เปิดเพลงให้กูเหงาอีกล่ะ”ไอ้เนมพึมพำเบาๆ ผมเห็นด้วยนะ เพลงมันส์ๆมีไม่เปิด ดันมาเปิดเพลงไม่เคยจะห่างกันซะงั้น
อยู่ตรงนั้นเธอคิดถึงฉันมากเท่าไร อยู่ตรงนี้เธอรู้ไว้เลยว่าคิดถึงเธอจนล้นหัวใจ
ได้โปรดเธอจงมั่นใจว่า ฉันคนนี้รักเพียงแต่เธอ อยู่ตรงนั้นเธอเองจะเหงาซักเท่าไร
อยู่ตรงนี้ยิ่งเหงาเท่าไรก็ยิ่งรู้ว่าฉันรักเธอ ต่อให้เนิ่นนานที่เราไม่เจอะเจอ
แต่ทุกนาทีหัวใจเรานั้นไม่เคยจะห่างกันไปๆมาๆผมกับไอ้เนมกอดคอร้องเพลงด้วยกันไปแล้ว นึกถึงไอ้สองคนนั่นขึ้นมาเลย ผมคิดถึงพวกมันอีกล่ะ เซ็งจริงๆ
“นู่น คู่นั้นจูบกันแล้ว”ไอ้เนมบุ้ยปากไปยังมุมมืดที่มีร่างสองร่างนัวเนียกันอยู่ ผมมองเลยไปบนชั้นลอยของผับ เห็นเด็กเสิร์ฟท่าทางเก้ๆกังๆอยู่ ผมจ้องอยู่สักพักถึงจำได้ว่าเป็นไอ้ปั๊ม ผมโบกมือให้มันเผื่อมันจะเห็นผม
“ใครวะ”ไอ้เนมมองไปทางไอ้ปั๊มด้วยสายตาสงสัย
“กิ๊กมึง?”มันทำเสียงตกใจ
“บ้ารึไง รุ่นน้องกู หลานรหัสไอ้ภูมัน”ไอ้ปั๊มเห็นผมแล้วแต่แทนที่มันจะทักผมเหมือนเคย มันกลับมองเมินเหมือนไม่เห็นผม
“ดูเหมือนเขาจะรังเกียจมึงนะ”ไอ้เนมหัวเราะหึๆ ผมว่ามันอาจจะอายผมล่ะมั้ง ผมหยิบโทรศัพท์ออกมาเล่นแก้เซ็ง เพราะไอ้เนมหายไปจากโต๊ะแล้ว เห็นไอ้ตินถ่ายรูปทำงานกับเพื่อนๆลงเฟส ผมกดไลค์พอเป็นพิธี แล้วสักพักมันก็โทรมา เอ้า ซวยจริงๆ ผมไม่ได้บอกพวกมันสองคนว่ามาเที่ยว ผมเลยรีบเดินไปเข้าห้องน้ำ แต่กว่าจะไปถึงมันก็โทรมาตั้งสองรอบ
[รับช้า]บ่นทันทีที่ผมรับ
“เออ มีไรคิดถึงเหรอ”มีคนอยู่ในห้องน้ำสองสามคน
[อยู่ไหนอ่ะฟิก]
“อยู่ห้องน้ำ”ในผับ
[ว่าวอยู่เหรอมึง]เสียงหัวเราะของมันดังมา
“ระดับฟิกไม่จำเป็นเว้ย”เสียงหัวเราะของไอ้ตินเงียบไป
[หมายความว่าไง จะเอาเด็กมากกรึไง]
“เด็กเดิกที่ไหน กูไม่มีสักคน”มีสายตาในห้องน้ำมองมายิ้มๆ จนผมต้องหันหน้าเข้าหากำแพงแทน
[ใครจะรู้ล่ะ มึงเล็มนู่นเล็มนี่ตลอด]ฟังเหมือนผมเป็นวัวเป็นควายเลยว่ะ
[บางเรื่องกูก็รู้นะแต่กูไม่ได้พูด วันไหนกูนึกบ้าเช็คไลน์มึงขึ้นมาก็ทำให้เนียนเข้าไว้นะไอ้ฟิก]
“บ้าเหรอ”ผมหัวเราะแหะๆ คุยกับมันสักพักมันก็ขอไปทำงานต่อ ผมแชร์เพลงที่เพิ่งฟังมาลงเฟส แต่ไม่ได้แท็กพวกมันสองคนหวังว่าจะรู้ตัวกันนะ ผมกำลังจะออกจากห้องน้ำแต่ได้ยินเสียงโวยวายเบาๆดังมาจากด้านในห้องน้ำ
“ไหนบอกว่าแค่นี้ไง”เสียงคุ้นๆเหมือนไอ้ปั๊มเลยนะ
“ก็ผมจ่ายเงินให้คุณตั้งเยอะก็ต้องเอาให้คุ้มสิ”ได้ยินเสียงตึงตังและร้องเท้าดังเอี๊ยดอ๊าด
“เอาเงินมึงคืนไปเลย อีตุ๊ด”
“มึงว่าใคร หากินกับพวกกูแล้วยังมาปากดีอีกนะ วันนี้มึงเสร็จกูแน่”
“เหี้ย!”แล้วก็ได้ยินเสียงเหมือนกำปั้นกระทบผิวเนื้อดังตุบ มีเสียงร้องดังมา ไม่รู้ว่าใครโดนเล่น ผมยืนด้อมๆมองๆอยู่หน้าห้องน้ำก่อนจะเคาะประตูเบาๆ แต่เสียงจากด้านในก็ยังไม่หยุด ผมเลยเคาะแรงขึ้น
“เฮ้ย ปล่อยน้องผมออกมานะเว้ย”ผมทุบประตูห้องน้ำ
“พี่ฟิกช่วยผมด้วย”เสียงไอ้ปั๊มดังอู้อี้ออกมา ผมกดข้อความหาไอ้เนมให้มาช่วยเคลียร์ รออยู่สักพักมันก็เข้ามาหาผมในห้องน้ำสีหน้าตื่นๆ
“มึงเป็นไรวะ”มันกวาดตามองผมงงๆ
“มึงช่วยน้องกูหน่อยดิ”แต่ไอ้เนมกลับตั้งท่าจะเดินหนีจนผมต้องดึงให้มันกลับเข้ามาช่วย
“ช่วยมันหน่อย มันกำลังแย่นะ”
“มึงนี่แส่จริงๆว่ะ”มันทำเสียงหงุดหงิดก่อนจะเอาเท้าถีบประตูโครมๆจนผมตกใจ
“เปิดประตู!”เสียงมันดังมากจนหลายๆคนมองเหตุการณ์ด้วยสายตาหวาดๆ
“อย่ามายุ่งเรื่องของกู”เสียงเดิมตอบกลับมา
“กูก็ไม่ได้อยากยุ่งกับพวกมึงแต่หมาบางตัวมันขอไว้ มึงจะไม่เปิดจริงๆใช่ไหม ได้”ไม่รู้ว่ามันเมาด้วยรึเปล่าแต่มันถอยห่างจากประตูไปหลายก้าวก่อนจะพุ่งเข้าหาประตูเต็มเหนี่ยว
“สัดเนม”ผมมองอย่างหวาดเสียว แต่ประตูกลับเปิดออกทำให้มันพุ่งถีบผู้ชายร่างใหญ่เต็มตีน ผมวิ่งเข้าไปดูไอ้เนมเพราะมันเซล้มลงด้วย แต่ก็ซวยเพราะผมดันโดนลูกหลงจากไอ้ถึกนั่นเต็มตีนเหมือนกัน เล่นเอาแขนผมชาไปพักใหญ่
“เชี่ยเอ้ย”ไอ้เนมสบถอย่างหัวเสีย ผมมองเข้าไปในห้องน้ำเห็นไอ้ปั๊มทรุดตัวกับพื้นห้องท่าทางเจ็บหนักเหมือนกัน สีหน้าของมันทำให้ผมถอนหายใจออกมา
“มึงเป็นอะไรเปล่า”ผมถามแต่มันก็ส่ายหน้าเป็นคำตอบ ไอ้เนมขยับตัวยืนเซๆ มันมองผมกับไอ้ปั๊มด้วยสายตามึนตึง
“ไม่เป็นไรก็ออกมา”ผมยืนมองมันจากหน้าประตู แต่มันก็ยังคงไม่ขยับเขยื้อน ผมมองไปด้านนอก มีคนอออยู่เยอะเหมือนกัน มันคงไม่กล้าออกมา เพราะสภาพของมันดูไม่ดีเอาซะเลย มีรอยช้ำบนหน้า มุมปากแตก เสื้อผ้าหลุดลุ่ย ผมมองสำรวจว่ามันเสร็จไอ้นั่นไปรึยัง แต่กางเกงมันก็ยังอยู่ในสภาพดี
“กูออกไปรอด้านนอกนะ”ไอ้เนมบอกเบาๆก่อนจะออกไป แต่สีหน้าของมันกลับทำให้ผมแอบหวั่น ผมเคยบอกว่ามันมีบางอย่างคล้ายๆไอ้ภู น่ากลัวเหมือนกันเลยว่ะ
“มึงจะอยู่ในนี้ อีกนานไหมวะปั๊ม มึงทำตัวเองนะ”ผมพูดติดรำคาญนิดหน่อยเมื่อเห็นมันนั่งน้ำตานองหน้าอยู่
“กูกลับล่ะ คราวหน้าคราวหลังก็ระวังตัวดีๆ”ผมหมุนตัวกลับ แต่มือสั่นๆของมันก็แตะข้อมือผม
“ขอบคุณมาก”มันพูดเสียงแผ่ว
“มึงไปบอกไอ้คนนู้นนู่น”ผมพยักเพยิดไปทางไอ้เนม มันยืนสูบบุหรี่มองมาที่ผมกับไอ้ปั๊มด้วยสายตาจับผิด พี่ปาเองก็อยู่ข้างๆมันด้วย ไม่รู้ว่ามาตั้งแต่ตอนไหน ไอ้ปั๊มเดินหมดสภาพไปขอบคุณไอ้เนม มันแค่พยักหน้าส่งๆ ไม่วายหันมาจ้องหน้าผมอีก
“มองอะไร”ผมถามเสียงนิ่งเมื่อเห็นสายตาของไอ้เนม
“มันเป็นหลานรหัสไอ้ภูแน่นะ”
“เออดิ”ผมยืนจ้องหน้ากับมันอยู่นาน พี่ปาถอนหายใจ
“งั้นก็โทรบอกไอ้ภูซะหน่อยไหม”ผมรีบห้ามทันที
“เฮ้ย พี่อย่าโทรนะ”คือไอ้ภูมันไม่รู้ว่าผมสนิทกับไอ้ปั๊มน่ะสิ ถ้ามันรู้มันก็ต้องซักผมยาวแน่ ผมไม่อยากให้มันรู้เรื่องที่ผมสอดส่องมัน
“แสดงว่าไอ้ภูมันไม่รู้ใช่ไหมว่ามึงสนิทกับมัน”พี่ปาเริ่มทำเสียงน่ากลัวใส่ผม
“ไม่ใช่แบบที่พี่คิดนะเว้ย”ผมรีบอธิบายเดี๋ยวจะเข้าใจผมผิดๆอีก
“ไม่ใช่ได้ไง มึงทำท่าห่วงมันขนาดนั้น มันคงไม่ใช่แค่น้องมึงหรอกมั้ง แล้วยิ่งไอ้ภูไม่รู้ว่ามึงสนิทกับมันแบบนี้... กูรู้สึกแย่กับมึงขึ้นมาเลยว่ะ”ไอ้เนมมองหน้าผมด้วยสายตานิ่งๆ ผมเริ่มจะเครียดขึ้นมาทันที ไอ้ปั๊มมองผมสลับกับอีกสองคน
“ผมกับพี่ฟิกไม่ได้เป็นแบบที่พวกพี่คิด”มันพูดขึ้นเบาๆ
“เหรอ แน่จริงมึงก็ไปพูดต่อหน้าไอ้ภูดิ ไปตอนนี้เลย”ไอ้เนมคว้าคอเสื้อไอ้ปั๊มไว้ก่อนจะหันมามองหน้าผมให้เดินตามมันมา
“ไอ้เนม มึงอย่าทำให้เป็นเรื่องดิ มันอาจจะไม่มีอะไรก็ได้”พี่ปาดึงมือไอ้เนมออกจากคอเสื้อไอ้ปั๊ม
“ได้ไงวะ มึงอยากเห็นไอ้ภูโดนหลอกซ้ำซากเหรอ”มันตะคอกใส่พี่ปา
“ผมไม่ได้หลอกมัน ถ้ามึงจะคิดแบบนั้นก็แล้วแต่เหอะว่ะ”ผมพูดโดยไม่มองหน้ามัน ได้ยินมันทำเสียงเหอะกลับมา
“เรื่องของพวกมันก็ให้พวกมันจัดการกันเอง”พี่ปาพูดเสียงเหนื่อยหน่าย พี่ปาอาสาไปส่งไอ้ปั๊มเองส่วนผมก็กลับหอเกือบๆตีหนึ่งกว่าๆ เพิ่งรู้สึกปวดแขนก็ตอนนี้เอง เข้าไปดูในห้องน้ำก็เห็นว่าบสมและขึ้นเป็นรอยช้ำจางๆแล้ว ผมทายาเสร็จก็เข้านอน กำลังจะหลับไอ้ปั๊มก็ไลน์มาบอกขอบคุณผมอีกครั้ง
ฟิก:มึงโดนมันตุ๋ยยัง
ถามเพราะอยากรู้ล้วนๆ
ปั๊ม:เกือบๆแล้ว สมเพชตัวเองว่ะ ผมเองขอโทษด้วยนะที่เป็นต้นเหตุให้พี่ทะเลาะกับเพื่อนพี่ภูอ่ะ
ผมอ่านข้อความของมันเเล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่
ฟิก:ช่างเถอะ กูเคลียร์ได้
ปั๊ม:พรุ่งนี้ผมมีเลี้ยงสายรหัส ต้องโดนถามแน่ว่าไปโดนอะไรมา...ผมยังนึกข้อแก้ตัวดีๆไม่ออกเลยว่ะ พี่อย่าเอาเรื่องผมไปบอกใครนะ
ฟิก:กูไม่บอกหรอก มึงสบายใจได้
ผมนอนมองเพดานห้องด้วยสายตาครุ่นคิด เฮ้อ ช่วงนี้มีแต่ปัญหาสงสัยต้องเข้าวัดทำบุญบ้างแล้วล่ะ
………………………………………………………………..
“ฟิกตื่น...”รู้สึกว่ามีคนเรียก ผมปรือตามองก่อนจะพลิกตัวหนี กลิ่นแบบนี้ ไอ้ตินชัวร์
“ลุกเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นกูปล้ำนะ”มุกนี้ของมันก็ไม่ทำให้ผมตื่น มันถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะลงไปจากเตียง แต่มันกลับมาอีกครั้งพร้อมกับน้ำเย็นๆที่ไหลเข้าหูผม
“เล่นไรของมึงวะติน”ผมเด้งตัวขึ้นมาทันที
“ก็มึงไม่ยอมตื่น”มันยิ้มก่อนจะดึงผมเข้าไปกอดเสียแน่น ผมกัดฟันข่มความเจ็บที่แขนไว้เมื่อมันรวบตัวผมไปกะทันหัน
“กูจะไปอาบน้ำแล้ว”ผมบอกมันเสียงอู้อี้เมื่อนิ้วมือมันไต่เข้ามาในเสื้อ
“อาบพร้อมกัน”มันทำสายตาแวววาว
“หาเรื่องหื่นใส่กูอีกล่ะสิ”มันหัวเราะเบาๆ
“ก็คิดถึง พี่ภูยังไม่กลับเหรอ”มันถามพลางมองไปรอบๆ
“อือ”เรื่องวุ่นเมื่อคืนทำผมลืมกังวลเรื่องไอ้ภูไปเลย มันไม่ได้กลับมาที่หอ มันอาจจะค้างที่คอนโดของมันล่ะมั้ง ผมว่าวันนี้จะแวะไป ผมมีกุญแจผีอยู่เเล้ว เคยเอาไปปั๊มเมื่อตอนปีสอง ตอนนั้นกลัวมันจะซุกกิ๊ก
“มึงไม่มีเรียนเหรอ”มันถามเมื่อเห็นผมคว้าเสื้อยืดแขนยาวมาใส่
“มีตอนบ่าย กูจะไปหาไอ้ภูที่คอนโด มึงไปเป็นเพื่อนกูหน่อยดิ”
“มึงมีกุญแจเหรอ”ผมยิ้มพร้อมชูพวงกุญแจให้มันดู ไอ้ตินหาเสื้อคลุมมาใส่ก่อนจะไปกับผม คอนโดไอ้ภูเนี่ยต้องใช้คีย์การ์ดเข้า ผมกับไอ้ตินรอคนที่จะออกมาข้างนอกเมื่อเห็นประตูกระจกเปิดผมกับไอ้ตินก็รีบแทรกตัวเข้าไปในทันที
“ตื่นเต้นว่ะ”ผมพึมพำเบาๆเมื่อเข้ามาในลิฟท์แล้ว มันยืนพิงผนังอีกฝั่งก่อนจะมองผมงงๆ
“ตื่นเต้นทำไม”ผมไหวไหล่ รู้สึกมีลางสังหรณ์แปลกๆ ผมเดินมาหยุดที่หน้าห้องมัน ก่อนจะหันไปมองไอ้ตินมันยืนมองรอบๆระหว่างที่ผมไขกุญแจเข้าไปลุ้นว่ายังใช้ได้อยู่ไหม
คลิ๊ก
ผมถอนหายใจอย่างโล่งอกที่ไขออก ก่อนจะค่อยๆดันประตูเข้าไป โชคดีอีกต่อที่มันไม่ได้ล็อคกุญแจจากด้านใน ทันทีที่เข้าไปผมก็ต้องย่นจมูกเมื่อกลิ่นเหล้าฟุ้งไปทั่วห้อง
“นี่ทำงานหรือแดกเหล้า”ไอ้ตินพึมพำก่อนจะใช้เท้าดันขวดเหล้าให้พ้นทาง สภาพห้องเละๆของมันทำให้รู้ว่าเคยมีหลายๆคนเข้ามาใช้ ห้องค่อนข้างมืด เพราะม่านปิดสนิทหมด ผมค่อยๆย่องมาที่เตียงนอนเห็นไอ้ภูนอนอยู่ใต้ผ้าห่มผืนโต ผมยิ้มชั่วก่อนจะกวาดตามองหาอาวุธแกล้งมัน เห็นมีขวดน้ำเปล่านอนกลิ้งอยู่ ผมเลยใช้มุกเดียวกับไอ้ติน แต่เทน้ำลงบนเปลือกตาของมัน
“เหี้ย”มันสะดุ้งโหยง มือรวบผมไปกอดจนผมเซล้มไปกองกับพื้นและนั่นทำให้ผมรู้สึกว่า...มีใครอีกคนนอนซุกอยู่ในผ้าห่ม ผมเด้งตัวขึ้นมาเพราะเสียงร้อง ก่อนจะกระชากผ้าห่มออก ผมใจหายวูบเพราะไอ้ภูมันใส่แค่บ็อกเซอร์ตัวเดียว ส่วนไอ้คนที่นอนอยู่ในสภาพเดียวกันคือไอ้เหี้ยนนท์ ผมรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างพังครืนลงต่อหน้าต่อตา
“ฟิก”ไอ้ตินแตะข้อศอกผมเบาๆ ไอ้ภูลืมตามอองผมงงๆ
“อ้าว...”มันชี้ผม ก่อนจะมุ่นคิ้วมองคนข้างๆมันเมื่อเห็นว่าเป็นใคร มันก็ถีบลงจากเตียงเต็มแรง
“ไม่ใช่แบบที่มึงคิดนะเว้ย”มันคว้าเสื้อยืดที่กองอยู่ที่พื้นมาใส่ ผมสูดลมหายใจเข้าลึกๆพยายามจะตั้งสติ
“พี่จูบผมแล้วลากผมมานอนบนเตียงนะ จะไม่มีอะไรได้ไง”ไอ้นนท์เสร่อพูดขึ้นมา ผมสังเกตุว่าบนแผ่นอกเปลือยๆขาวๆของมันมีจ้ำจางๆเห็นชัดเจน เหมือนมีกรงเล็บมากรีดหน้าอกผมจนรู้สึกแสบร้อน
“มึงหุบปากเลยกูไม่ได้พิศวาสมึง”ไอ้ภูตวาด มันขยี้ผมอย่างหงุดหงิด
“แล้วเมื่อคืนพี่ทำทำไม”
“ทำอะไร”ผมตะคอกถาม ก่อนจะเหลือบมองไอ้ภู เหมือนตัวผมจะระเบิดออกให้ได้เพราะอาการเดือดในอก
“กูเมาคิดว่ามันเป็นมึง กลิ่นน้ำหอมแม่งเหมือนกัน”มันพึมพำเบาๆ ผมจุกเหมือนคนพูดไม่ออกผมเดินเข้าไปหามัน
“มึงได้...มึงนอนกับมันรึเปล่า”ผมถามเสียงสั่น
“เปล่า..”มันตอบเสียงไม่แน่ใจ ผมพยายามไม่นึกภาพตามไอ้ภูเวลาเมาหื่นจะตาย ไม่...ผมต้องไม่คิด
“มึงมากับกู”จู่ๆไอ้ตินที่ยืนเงียบอยู่นานก็กระชากไอ้นนท์ขึ้นมาจากพื้น
“เฮ้ย มึงปล่อยกูนะเว้ย”ไอ้นนท์โวยวาย
“มึงกูกับใคร”มันถามเสียงเย็นก่อนจะลากไอ้นนท์เข้าห้องน้ำ
“มึงเชื่อกูนะฟิก”มันคว้ามือผมไปจับ สีหน้ามันดูไม่ค่อยดี ผมเห็นจ้ำจางๆอยู่บนคอมันก็เลยฟาดมือไปเต็มแรง มันก็นั่งนิ่งให้ผมตี
“กูบรรยายไม่ถูกว่ะ”นี่สินะ ความรู้สึกที่พวกมันได้รับตอนที่ผมเคยทำชั่วๆ ผมได้แต่นั่งนิ่งๆให้ไอ้ภูกอด ตัวมันอุ่นๆเหมือนจะเป็นไข้ ผมได้ยินเสียงโวยวายของไอ้นนท์ดังมาจากในห้องน้ำ ไอ้ภูถอนหายใจยาวๆ มันพูดอะไรสักอย่างแต่ผมไม่ได้ยินเหมือนหูมันอื้ออึงไปด้วยเสียงวิ้งๆ
“กูจะไล่มันออกจากกลุ่มเอง”ไอ้ภูพึมพำ ผมกระพริบตา เมื่อเห็นว่าใบหน้าของมันอยู่ใกล้ๆ
“มึงรู้ใช่ไหมว่ามันคิดยังไงกับมึง”
“กูรู้ กูขอโทษที่ปล่อยให้มันล้ำเส้นขนาดนี้”ผมถอนหายใจ อยากมองไปทางอื่นแต่มันจับหน้าผมไว้ให้มองมาที่มันคนเดียว
“มึงคงชอบให้มันเอาใจมึงล่ะสิ”จู่ๆผมก็นึกภาพมันออเซาะเอาใจไอ้ภูขึ้นมา
“กูเปล่า”มันถอนหายใจ ก่อนจะเอาหน้าซบบ่าผม ไอ้ตินกับไอ้นนท์ยังไม่ออกมาเลยแต่เสียงโวยวายของมันก็เงียบไปแล้ว
“กูยังไว้ใจมึงได้ใช่ไหมวะภู”ผมพูดขึ้นมาเบาๆ เหมือนคำถามของผมทำให้เกิดความเงียบจนได้ยินเสียงติ๊กต๊อกของเข็มนาฬิกา
“แล้วมึงล่ะฟิก กูยังไว้ใจมึงได้รึเปล่า”มันย้อนถามเบาๆ มันยังไม่ได้เงยหน้าขึ้นมาแต่ฝามือของมันบีบแขนผมแน่น และดันเป็นข้างที่เจ็บอยู่แล้วอีก ผมกัดฟันข่มความเจ็บที่เกิดขึ้นก็พอดีกับที่ไอ้ตินเดินกลับมา สีหน้าของมันดูเรียบจนน่ากลัว
“พี่รอดตัวไปนะ ยังดีที่ไม่ได้เมาจนนอนกับมัน ไม่งั้นเรื่องคงไม่จบแค่นี้แน่”ไอ้นนท์ยังไม่ได้ออกมาจากห้องน้ำ แต่ก็ดีแล้วผมไม่อยากเห็นหน้ามัน
“มึงอย่ามาทำน้ำเสียงแบบนี้กับกูนะ”ไอ้ภูปล่อยแขนผมก่อนจะหันไปหาไอ้ตินด้วยสีหน้าเอาเรื่อง
“ทำไมจะไม่ได้ ผมเคยพูดเเล้วว่า ใครที่ทำให้ไอ้ฟิกเจ็บ มันก็ต้องเจ็บเหมือนกัน”
“มึงจะมีเรื่องกับกูให้ได้ใช่ไหม”ไอ้ภูลงมาจากเตียง ยืนเผชิญหน้ากับไอ้ติน
“อย่ามีเรื่องกัน กูขอล่ะ”ผมเข้าไปดึงให้ไอ้ภูถอยออกมา ไอ้นนท์ออกมาถูกจังหวะพอดี เพราะไอ้ภูเข้าไปเล่นงานมันแทน
“มึงออกไปจากห้องกูเดี๋ยวนี้ กูบอกแล้วใช่ไหมว่าอย่าล้ำเส้นกู”
“ก็พี่เมาแล้วจูบผมก่อนนี่”มันหันมามองหน้าผมเหมือนอยากให้ผมได้ยินที่มันพูด ไอ้ภูผลักให้ไอ้นนท์หันกลับมามองหน้ามัน
“กูเมา กูอาจจะผิด กูขอโทษ”มันยืนจ้องหน้าไอ้นนท์จนอีกฝ่ายหลบตาไปเอง ไอ้นนท์คว้าเสื้อยืดของมันไปใส่ แต่กางเกงของมันผมคว้ามาถือในมือ
“เอาของกูมา”มันถลึงตามองผม
“ไม่ มึงด้านนักก็ไปทั้งแบบนี้แหละ”ผมเดินไปที่ถังขยะก่อนจะเอากางเกงมันยัดลงไป เทกับแกล้มอะไรสักอย่างในจานตามลงไป
ด้วย ไอ้นนท์ขึงตามองผมอย่างโกรธเคืองมันคงเข้ามาหาเรื่องผมแน่ถ้าหากว่าไอ้ตินไม่ได้ยืนอยู่ข้างๆผมด้วย มันจำต้องปึงปังออกไป เกิดความเงียบขึ้นมาเมื่อมันออกไปแล้ว ผมระบายลมหายใจออกมาช้าๆ ผมพยายามทำใจให้สงบ ในเมื่อมันไม่มีอะไรก็
ช่างมันเถอะ
“ถ้าไม่เกิดเรื่องนี้ขึ้นมาพี่จะเลิกคบมันไหมวะ ถามจริง”ไอ้ตินเอ่ยแทรกขึ้นมา ไอ้ภูไม่ได้ตอบอะไร จนผมต้องถอนหายใจอีกรอบ
“ก็มันไม่ได้ทำอะไรล้ำเส้นกูนี่”
“มันเอาใจมึงนี่ไม่ล้ำเส้นใช่ไหม”ผมพูดขึ้นมาอย่างเหลืออด ใครจะว่าผมใจแคบก็ช่าง แต่เห็นจากที่ไปวิ่งเมื่อวันนั้น ก็รู้แล้ว ขนาดผมอยู่ด้วยไอ้นนท์มันยังเอาหน้าขนาดนั้นแล้วลับหลังผมล่ะ
“แล้วมึงล่ะ มึงเองก็มีเรื่องนะฟิก”มันหันมาเล่นงานผมแทน
“ทีละเรื่องดิสัด ตอนนี้กูด่ามึงอยู่”ไอ้ภูทิ้งตัวนั่งลงกับเตียง ก่อนจะยกมือลูบหน้าลูบตาตัวเอง
“กูขอโทษที่เกิดเรื่องแบบนี้”มันมองผมด้วยสายตาจริงจัง
“ถ้ากูไม่แอบย่องมามึงคงเก็บเรื่องนี้ไว้เงียบๆแน่แล้วมึงก็จะทำเหมือนไม่เกิดอะไรขึ้น มึงคงคบกับมันต่อแน่ๆ”เสียงของผมดังขึ้นทุกที ไอ้ภูผุดลุกขึ้นมาอีกครั้ง
“มึงเห็นกูเป็นคนยังไงวะ มึงก็รู้ว่ากูไม่ปล่อยคนที่ล้ำเส้นให้มาลอยหน้าลอยตาได้อยู่หรอก มีเหตุผลหน่อยดิวะ”ผมนี่แทบพ่นคำว่าเหอะใส่หน้ามันเลย
“เข้าใจความรู้สึกเวลาโดนแบบนี้แล้วใช่ไหม คราวหน้าคราวหลังมึงช่วยมีเหตุผลกับกูด้วยล่ะกัน”ไอ้ภูเถียงต่อไม่ได้ มันก็เลยเงียบ ก่อนจะหันมองทางอื่น ทั้งห้องก็เลยมีแต่ความเงียบอีกครั้ง
“ไอ้ติน กูขอคุยกับมันหน่อยได้ไหม กูรู้ว่ามึงโมโห เสร็จเรื่องแล้วมึงจะต่อยกูก็ได้”ไอ้ภูกับไอ้ตินจ้องหน้ากันอยู่นาน ก่อนที่ไอ้ตินจะออกไปรอที่ห้องนั่งเล่น ไอ้ภูเดินเข้ามาหาผมพร้อมกับดึงเข้าไปกอด
“กูขอโทษนะที่ทำให้มึงรู้สึกแย่”
“...อือ ช่างเถอะ”ทั้งๆที่ในใจของผมตอนนี้เหมือนมีไฟลุก
“ช่างได้ไง มึงอย่ามองกูแย่ๆเพราะเรื่องนี้เลยนะ มึงบอกมาดิว่าทำยังไงให้มึงหายโกรธ”มันเอาคางเกยไหล่ผมระหว่างที่พูด ผมหลับตาลงพร้อมกับลูบหลังมันเบาๆ
“มึงทำได้เหรอ”ไม่รู้หรอกว่าจะให้มันทำอะไร
“เออ คุกเข่าให้มึงมาแล้วกูยังทำได้เลย”
“กูไม่ได้เป็นอะไร ให้เวลากูหน่อยเดี๋ยวกูก็หายโกรธเองเเหละ”มองหน้ามันแล้วนึกถึงไอ้เหี้ยนนท์ทุกทีพลอยทำผมหงุดหงิดไปด้วย ไอ้ภูได้แต่ยืนเงียบผมเลยผละมาจากมันก่อนจะเดินออกไปนั่งด้านนอกกับไอ้ติน
“ไม่ต้องคิดมากนะ เดี๋ยวกูมา”มันลุกไปหาไอ้ภูด้านใน ผมขี้เกียจห้าม และคงห้ามไอ้ตินไม่ได้ด้วย ผมนั่งพิงพนักโซฟาคิดอะไรไปเงียบๆ เอาตามตรงผมโกรธมากกว่าผิดหวังในตัวมัน โกรธที่มันยอมให้ไอ้นนท์เข้าใกล้ ผมไม่อยากถามว่ามันทำอะไรบ้างเพราะไม่อยากรู้ ไม่อยากนึกถึง ผมพึ่งเคยเจอเรื่องแบบนี้เป็นครั้งแรก ความรู้สึกตอนที่ผมเห็นไอ้นนท์ยังแจ่มชัดอยู่เลย ผมคงต้องขอเวลาทำใจเพื่อลืมเรื่องบ้าๆนี่ให้ได้ หวังว่ามันจะเข้าใจผม
TBC.
ว่าจะมาลงวันศุกร์แล้วนะ แต่เอามาลงให้ก่อน ตอนนี้ยาวมากก ความจริงมีเยอะกว่านี้แต่ต้องตัดมาลงแบ่งไว้ตอนหน้า
ซึ่งตอนหน้าก็คงหมดเรื่องแล้ว จะเอาตอนหวานๆมาแทรกบ้าง
ตอนนี้แอบเครียด ๆ เขียนตอนนี้ไปก็แอบหวั่นไปด้วย
อาจงงๆ เขียนวนไปเวียนมาขออภัยเน้อ