10 CM : รักที่ส่วนต่าง 10 CM 3/5/2016 จบแล้วครับ + มีเวบตูนแล้วครับ ลิ่งอยู่เม้นสุดท้าย
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: 10 CM : รักที่ส่วนต่าง 10 CM 3/5/2016 จบแล้วครับ + มีเวบตูนแล้วครับ ลิ่งอยู่เม้นสุดท้าย  (อ่าน 83572 ครั้ง)

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9405
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
เจกับต้องไปแอบต่อยกันทำไม :hao5:

ออฟไลน์ diction

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 18
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :sad4: อุ้ย ผู้ชาย2คนต่อยแย่งผู้ชายกัน กรี๊ดดดด #ต้องสู้ๆ #ทีมต้อง

ออฟไลน์ DREAM COME TRUE

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 379
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
หายไปนาน พอกลับมาอีกที มีสองตอนให้อ่านเลย
พวกเด็กๆนี่ชอบทำอะไรคลุมเคลือจริงๆเลยนะ

ออฟไลน์ Monet

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-0
ตัวตนและคำสารภาพ ตอนพิเศษ : หน้าบ้าน

ต้องยืนมองเก้าพาเจในสภาพยับเยินเดินมุ่งหน้าออกไปบนถนนเงียบๆ แสงไฟสีส้มที่ส่องมายังร่างสองคนให้เห็นเป็นจังหวะพลิ้วไหว ไฟใหญ่บนถนนที่ติดดวงเว้นดวง เหมือนสองคนนั้นผลุบโผล่ในความมืด ค่อยๆเดินไกลออกไป

แต่ที่ต้แงยืนอยู่หน้าบ้านนั้นมืดสนิท

ดึกขนาดนี้ ถ้าไม่ใช่ว่าบ้านเก้าอยู่ใกล้ แมคคงไม่ปล่อยให้กลับกันไปทั้งสภาพอย่างนี้แน่

เพื่อนในกลุ่มนี้ถึงจะสนิทกันมาก่อนขนาดไหน การลงไม้ลงมือ เป็นสิ่งที่จะพบเห็นได้ยาก อย่างมากก็แค่เล่นๆกัน

ครั้งนี้ต่างออกไป มันมีเก้าเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย

ของมึนเมามันลดทอนสติของต้อง ของแถมคือมันพ่วงด้วยความอดทน จะเรียกว่าความหน้าบางดีกว่า 

ต้องโมโหขาดลงมือกับเจที่หน้าห้องน้ำ

"ต้องมันเกิดไรขึ้นวะ"

แมคทักมาจากข้างหลัง

"อ้าว สร่างแล้วเรอะ"

ต้องไม่ตอบคำถาม

"กูก็ไม่ได้เมาขนาดนั้นปะ"

แมคยืนมองตัวต้องในสภาพ เสื้อผ้าหลุดลุ่ย ถ้ามันไม่ใช้ผู้ชายคนคงคิดว่าโดนข่มขืนมา

"..."

ไม่มีคำใดเล็ดลอดออกมา

"มึงไปต่อยกับไอ้เจทำไมวะ"

แมคลองเปลี่ยนคำถาม

ต้องส่ายหัว

ปิดไม่ได้สินะ ท่าทางแมคจะดูออก

"เรื่องเก้า?"

ร่างสูงสะดุ้งห้นมามองแมคตรงๆ

"กูว่านะ มึงจะเอายังไงก็ทำไปเถอะ"

???

"เจ มันมายั่วกูน่ะ"

"เรื่อง?"

แมคทำท่าเบื่อหน่าย

"เก้า... มันว่ามันจะเอาเก้าเป็นเมียคืนนี้"

แมคทำหน้าตกใจ

"ไอ้เจเนี่ยนะ"

ต้องพยักหน้า

"มันเลิกกับเมียมาเอาเก้าเหรอเนี่ย"

"ไม่รู้"

เรื่องนี้ไม่เคยได้ยินมาก่อน เจน่ะเหรอเลิกกับนุ่น

"ต้อง มึงเชื่อกู จะทำอะไรก็รีบทำ หมาคาบไปแดกนะเว้ย"

แมคยืนเกาะประตูเหล็กที่อยู่เหนือหัวขึ้นไป เปิดวงแขนดำ แว่นเลื่อนลงต่ำจะหลุดจากหน้า ใันยังจ้องมองตรงมาที่ต้อง ผู้ซึ่งตอนนี้ดูราวกับต้นไม้เหี่ยวแห้ง และแมคเหมือนจะเป็นน้ำที่พอจะให้ความชุ่มชื้นได้บ้าง

ต้องนิ่งเงียบปล่อยให้เสียงรถบนถนนที่นานๆจะมาที แทรกกลางเข้ามา

ตอนนี้ก็น่าจะแดกไปหลายรอบแล้ว ขณะที่เก้ายืนรอแมคอยู่ข้างล่าง เป็นต้องต่างหากที่เดินลงไปหา เมื่อเห็นว่าเก้าอยู่คนเดียว

ความกล้าจากแอลกอฮอล์ก็เข้ามาถาโถมอีกครั้ง มันสั่งให้ต้องทำในสิ่งที่ธรรมดาต้องจะไม่กล้าทำอย่างเด็ดขาด

ครั้งแรกที่เอาตัวเข้าไปใกล้ชิดเก้าขนาดนี้ ต้องเผลอเอื้อมมือออกไปกอด กลิ่นหอมจากตัวทำให้ต้องรู้สึกอยากจะเข้าไปลิ้มลองดมใกล้ๆ

อยากจะกดร่างกายเข้าไปหา แต่ยังคงเก็บความรู้สึกนี้ไว้ได้

คำพูดของเก้าที่ทำเอาต้องหน้าหงายเอาไว้

มันไม่ได้พูดกับต้อง แสดงว่ามันกำลังพูดถึงคนอื่น  จะเป็นใครไปได้

เจ?

มันทำเอาต้องตกใจ สิ่งที่คิดเอาไว้มันเป็นจริง จากไม่แน่ใจ

ยิ่งบนชั้น 2 ต้องมั่นใจ เจพูดออกมาอย่างไม่อายว่าคืนนี้จะเปิดซิงเก้า มันเป็นความตั้งใจจริง ไม่ใช่แค่แกล้งขู่ คนอย่างต้องที่ได้แต่เก๊กนี่แทบจะหมดสิทธิ์

ต้องทำหน้าเจ็บปวด ก่อนจะหันไปมองตาไอ้เจ

เมื่อถามกลับว่า เจ จริงจังหรือไม่

คำตอบคือ 'กูมีแฟนอยู่แล้ว'

นั่นทำเอาต้องฉุนขาด เผลอปล่อยหมัดตรงเข้าใส่หน้าเจ แต่แลกมาด้วยลูกถีบกลับมาจากขาตันๆของมัน ต้องจึงโถมร่างสูงกว่าเข้าใส่ เสียงคงดังลงไปถึงชั้นล่าง

บนชั้นสองที่เกิดเหตุต่อยตีนั้น ไม่ใช่ว่าเจจะเมาจนสู้ไม่ได้ ต้องเองก็โดนไปหลายทีอยู่ พอเห็นว่าเก้าจะขึ้นมาเจจึงรีบลงไปนั่งกับพื้น

เจเล่นบทสำออยต่อหน้าเก้า
.
.
.

"ตามใจมึงนะ"

เสียงแมคแทรกเข้าไปในผวังค์

ต้องไม่ตอบสนองกับคำพูด ไม่รู้จะพูดว่ายังไง ได้แต่ปล่อยใจออกไปที่ไหนสักแห่ง เก็บความรู้สึกเอาไว้เหมือนเดิม

แมคเห็นท่าว่าคงไม่รู้จะสรรหาคำพูดใดออกมาอีก กำลังจะหันหลังเดินเข้าบ้าน

"มึงว่าจะดีเหรอวะ"

ต้องเค้นคำออกมา

"แล้วมีใครบอกยังว่าไม่ดีละ"

"ที่ไอ้เจกล้าทำเพราะมันเป็นคนอย่างนี้ไง ตรงข้ามกับมึงไอ้เสาหลักครอบครัว ทำไรคิดเยอะตลอด ไอ้ขี้เก๊กด้วย"

ต้องหันหลังกลับไปมองตามแมค

"มึงว่ามันคบกันป่าววะ"

แมคพ่นลมหายใจแรงๆ

"ไม่รู้เว้ย ของแบบนี้มึงต้องถามมันเอง ทีต่อยกันละกล้า ถามมันแค่นี้มึงจะตายมั้ย"

คำตอบแมคกระแทกเสียง

คราวนี้ต้องเป็นฝ่ายพ่นลมหายใจออกบ้าง

"มึงทำตัวเหมือนมีกำแพงให้เก้าตลอด มันคงกล้าอะนะ"

"กูเนี่ยนะ?"

"เออ"

"มึงไม่รู้ตัวเหรอ กูว่ารีบๆนะมึงจะเอาเก้าหรือไม่เอา"

"จีบผู้ชายยากมั้ยวะ"

"ไม่รู้กูไม่ชอบผู้ชายนี่" แมคทำท่าขนลุกใส่

"แต่ถ้าเป็นเก้ากูว่าไม่ยาก"

"ไมวะ" ต้องเงยหน้าขึ้นจ้องตา

"มึงไม่รู้จริงเหรอว่าเก้าคิดไงกับมึง"

ต้องไม่ตอบ

แมคส่ายหัวหน่าย

"ควาย กูมีเพื่อนเป็นควาย หลายตัวเลยด้วย"

"ทำตามความรู้สึกมึงเถอะ ม.ปลายมีครั้งเดียวนะมึง"

มือเอื้อมดึฃประตูเหล็กลงมาเสียงดังก๊องแก๊ง
 
แมคทำมือ ชี้นิ้วโป้งข้ามหัวเข้าไปในบ้าน

ต่องส่ายหัวตอบ

"ถ้ามึงยังไม่ทำอะไรให้อีกฝ่ายรู้หมาคาบไปแดกนะมึง ไม่สิ หมาไม่คาบไปแดกแต่มึงจะอดแดก"

แก้ง

เสียงประตูเหล็กเลื่อนลงมาปิดใส่หน้าต้อง ถูกทิ้งให้ยืนอยู่หน้าบ้านคนเดียว ปล่อยให้เสียงกังวาลของเหล็กสะท้อนใส่หู ความมืดบนถนนกับเสียงดังตรงหน้า ทำเอาต้องขนลุกขึ้นมา

ถ้าไม่ทำอะไรสักอย่างจะเสียเก้าไปแน่ๆ  ถึงต้องจะไม่มีประสบการณ์ในเรื่องของการจีบผู้ชายมาก่อน ครั้งนี้เป็นเที่ยวบังคับที่จะต้องหาทางทำให้ได้

ต้องถอนหายใจยาว

'จะมาพลาดเรื่องอย่างนี้น่ะเหรอ'

พ่นกลิ่นแอลกอฮอล์ออกมา

'เป็นไงเป็นกันวะ'

ออฟไลน์ Monet

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-0
29/10/2015
«ตอบ #124 เมื่อ03-11-2015 23:01:52 »

ตอนหน้าจะเป็นตอนสุดท้ายของภาค 2 แล้ว

สั้นไปมั้ย?

บทสรุปของเก้า เจ ต้อง จะเอากันยังไง? ที่ผ่านมาต้องทำอะไรไม่เป็นได้แต่ยืนมอง คอยกันท่าห่างๆ ยิ่งกัน เจยิ่งเข้าใกล้
เจก็กำลังติดใจเก้าอย่างหนัก แต่มันแค่เรื่องอย่างว่า?

ภาค 3 กำลังจะมา...

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
อย่าได้ถาม
ถ้าจะตามหาหัวใจ

อย่าได้ใส่ใจ
ถ้าแค่ความใคร่ให้กัน

เข้าใจเหมือนกันนะ
ต้อง..เก้า..เจ

+1
รอภาค 3
หุหุ

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
ไอ้เจ...พุดไม่ออกเลย
นี่เย้ยต้องเฉยๆหรือว่าหมายความตามที่พูด?
เหมือนเจจะไม่จริงจังกับเก้า
น้องต้องก็คงรู้อะไรแหละถึงมีอาการกับเก้า

ติดหงึบหงับเลยเรา

ออฟไลน์ Monet

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-0
ตัวตนและคำสารภาพ : ตอนที่ 8.0 บอกลาม.4
ตอนนี้เจกลับเข้ามาในบ้านผมแล้ว เราสองคนเข้าบ้านแบบหลบๆซ่อนๆ เพราะว่ากลัวคนที่บ้านตื่น ดึกป่านนี่แล้วถ้าใครเห็นเข้าแล้วเห็นว่าผมกลับมาบ้านแบบเมาๆ แถมยังพาผู้ชายเข้ามาอีก แล้วไอ้ผู้ชายคนนั้นนี่เมายิ่งกว่าผม คงจะโดนเทศนายาวเหยียดแน่ๆ

ตัวไอ้เจเองก็ท่าทางแย่จริงๆมันเดินกอดคอผมมาตลอด เอาแต่ก้มหน้ามองพื้นไม่เงยหน้ามองทางเลย ในใจผมเลยคิดว่ามันจะอ้วกออกมาตอนไหนก็ไม่แปลกแล้ว ตอนนี้มันเดินมาพร้อมผมได้ไม่อ้วกไปเดินไป โวยวายไประหว่างทางผมก็ขอบคุณมันมากแล้ว

รู้สึกเหมือนแบกกระสอบทรายหนักๆไปตลอดทาง

ผมพยายามลากมันอย่างทุลักทุเล พามันขึ้นห้องนอน ตอนนี้เข้าห้องล็อคประตูเรียบร้อย เป็นอันว่าปลอดภัยในระดับนึง

ห้องนอนเดิมที่มันมาทิ้งกองเสื้อผ้าเอาไว้ ที่บ้านคงยังไม่มีใครรู้

ผมจึงบรรจงทิ้งร่างเจลงบนโซฟา ใช้คำว่าบรรจงก็คงไม่ถูก ท่าทางของมันหมดแรง เสื้อผ้าก็ยังคงหลุ่ดลุ่ยอยู่ยังงั้น ตอนนี้สติผมเริ่มกลับมาหน่อยนึง

นี่มันเดินกางเกงหลุดตูดโชว์กางเกงในครึ่งก้นมาตลอดทางเลยเหรอเนี่ย

เจถูกทิ้งอยู่บนโซฟายังงั้น ดูท่าทางจะยังไม่ได้สติดีแต่ไม่เท่ากับที่บ้านป๋าแล้ว

ขวดน้ำเปล่ายังเหลืออยู่ ผมเดินไปกินน้ำสักหน่อย
   
ป่านนี้พวกต้องกับป๋าคงจะอาบน้ำแล้วนอนกันละมั้ง ถ้ายังอาบน้ำไหวอะนะ

‘คราวหน้าเราไปที่บ้านมั่งนะ’  คำนี้มันช่างสะดุดใจผมจริงๆ

คนที่นอนอยู่นี่อาจจะไม่ใช่เจ ถ้าต้องบอกอย่างนี้ตั้งแต่แรก ไม่สิมันเป็นไปไม่ได้ ท่าทางของต้องกับผมมันไม่ได้เข้ากันเลย บางทีคนเราเวลาเมาๆมันทำอะไรก็ได้ พูดอะไรออกมาก็ไม่รู้ตัว

คิดมากไปแล้ว

ถึงตรงนี้คนที่นอนอยู่ตรงนี้คือเจ ยังไงมันก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปได้
   
“บ้านแล้วเหรอ” เสียงคนเมาดังขึ้นมา แต่ก็ดูดีขึ้น

“อือ ไหวมั้ยมึง”

ผมหันไปเช็คสภาพมัน

“ไหวๆ เดี๋ยวกูอาบน้ำก่อน”

ขี้เมาพยายามยันตัวลุกขึ้น

“เดี่ยวกูช่วย” ผมกำลังเดินเข้าไป

“ไม่เป็นไร” มันโบกมือห้ามไว้

ผิดกับทุกที
   
มันค่อยๆถอดเสื้อออกช้าๆ เสื้อกล้ามที่มันใส่ทั้งๆที่มีแค่สามรู แต่ดูทำไมถอดยากเย็นยิ่งนัก แค่สามช่อง แต่เหมือนถอดไม่ออก ถูกรูบ้างผิดรูบ้าง บางทีก็ใส่เข้าไปอีกทั้งๆที่ถอดออกมาแล้ว

ตอนนี้มันลุกขึ้นมาโดยจำกัดเศษผ้าเน่าๆบนตัวมันไปได้แล้ว มันยืนแบบเซๆ ถอดกางเกงพรวดเดียว ทั้งกางเกงและกางเกงใน

เอ่อ มันไม่แคร์แล้วเหรอว่าผมอยู่ตรงหน้า

หันตูดมาโชว์หราเลย

ตัวมันแดงเป็นจุดๆ เวลาคนเมามันก็คงประมาณนี้ แขนส่วนที่พาดคอผมมาก็แดง ดังนั้นคอผมก็คงแดงจากการกดทับเหมือนกัน ตามตัวเหมือนมีรอยเกาเป็นเส้นยาวๆ มันคงจะรำคาญตัว

ถัดไปส่วนนั้น ไม่มีอาการอะไรแสดงออก มันหมดอารมณ์อย่างแน่แท้แล้ว คืนนี้ไม่มีกิจกรรมแน่ๆ ผมสบายใจ
   
“กูอาบน้ำก่อนน”

มันหันหลังแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป

“อาบดีๆมึง ระวังลื่น”

ผมหมายความว่ายังงั้นจริงๆ
   
หายไปนาน เสียงน้ำก็ยังไม่เปิด สงสัยมันคงกองอยู่ที่พื้นอีกแล้ว หรือไม่ก็อ้วกอยู่

ไม่รุ้ว่าอะไรเข้าสิง ภาพเจถอดเสื้อผ้าต่อหน้าผมเมื่อกี้ ตามมาด้วยความรู้สึกนุ่มสบาย ตอนที่ต้องกำลังเขี่ยผมของผมเล่น

ความคิดชั่วร้ายเป็นคลื่นแทรกเข้ามา

ผมถอดเสื้อผ้าทั้งหมด กองไว้ตรงนั้นข้างๆชุดเน่าๆของเจ

แล้วเดินเข้าห้องน้ำไป

เมื่อเปิดประตูห้องน้ำผมเห็นภาพไม่น่ามอง รูปปั้นวีนัสที่ปราศจากแขนมันคงให้ความงามแบบแปลกประหลาดเช่นเดียวกับภาพเจตอนนี้แน่ๆ

เจยืนพิงกำแพงอยู่ในที่อาบน้ำ ตัวยังคงเปลือยเปล่า

เมื่อเจหันมาเห็นผมเข้า มันสะดุ้งไปเฮือกหนึ่ง
   
“เก้า มึงเข้ามาทำไมวะ”

มันพยายามรวบรวมแรงถามผม

“ถ้ามึงอาบเองไม่ไหวแน่ๆ”

ผมตอบ

“กว่ากูจะได้อาบน้ำ พรุ่งนี้พอดี” พูดจบผมเดินเข้าไปหามัน

เจผงะถอยไป

มันไม่เคยคิดว่าผมจะกล้า ... ถ้าไม่ทำผมคงไม่ได้นอนสักที

“หลบไป กูจะเปิดน้ำแล้วนะ” ผมเตือนเจ
   
ก๊อกถูกไข ดังเอี๊ยดไปทางซ๊าย สายน้ำอุ่นไหลออกมาจากฝักบัวที่แขวนไว้อยู่บนผนัง

“เย็นไปมั้ยมึง” ผมถามมัน

“ไม่อะ” ตอนนี้มันเลิกมองพื้นๆแล้ว

หันมามองหน้าผมแล้ว

“อือ” มันว่าง่ายอย่างผิดคาด
   
ผมสีดำของเจ เมื่อโดนน้ำกลับยิ่งดำเข้มขึ้น ฟองแชมพูเต็มหัวไปหมด สงสัยผมคงจะใส่เยอะไป

“หลับตาละมึง เดี๋ยวเข้าตา”

ตัวมันโยกคลอนตามแรงผม หลายครั้งที่ตัวเราสัมผัสกัน แต่ว่า มันสลับด้าน ด้านหน้าผมไปชนกับด้านหลังของเจ สร้างความรู้สึกแปลกๆ ด้านนี้ผมไม่เคยได้จับต้อง คิดว่าเจเองก็คงรู้สึกไม่ต่างกัน ผมเองเร่งมือสระให้มันดีกว่า ปล่อยไว้นานจะไม่ดี
   
“สะอาดแล้วมึง” เจพูดขึ้น ท่าทางเริ่มมีสติ
   
มันเริ่มดีขึ้นเมื่อโดนน้ำอุ่นๆเข้าไป

“มึงล้างหน้าเองนะ” ผมหันหลังไปสระผม

เสียงน้ำไหลลงท่อกังวาลอยู่ในห้องน้ำ เราสองคนคุยกันน้อยมาก น้อยกว่าทุกที ถ้าเป็นเจปกติมันคงจะกวนตีนผมไม่ก็ปล้ำผมไปแล้ว เวลามันเมานี่ว่าง่ายจริงๆ

“มึงล้างหน้าแล้วยัง กูจะเอาน้ำ”

มันส่งฝักบัวมาให้จากด้านหลัง

ผมล้างหัวเสร็จหันหน้าไปหามัน

“อะ ล้างหน้าดิ”  ผมบอกมัน

มันหลับตาปี๋

โอเค เข้าใจละ

“ล้างให้ก็ได้”

ผมราดน้ำใส่หน้ามัน น้ำอุ่นๆ ที่สาดใส่ตั้งแต่หัว ผมดำเปียกลู่ลงมาตามใบหน้า ตอนนี้สีหน้ามันดีขึ้นหน้าหายแดงแล้ว ดวงตาตี่จากเหล้าก็เริ่มอ้ากว้างขึ้นอีกหน่อย
   
ดี เวลานอนมันจะได้ไม่โวยวาย เพราะถ้ายังเมาไม่รู้มันจะทำอะไรบ้าง ขี้เกียจมานั่งจัดการปัญหากับคนเมา มันดูแลยาก

 “อะ”

มันโผเข้ามากอดผมก่อน

แรงกอดแน่นมาจากด้านหลัง

“ขอบใจนะมึง”  เจพูดขึ้น คำพูดดูเลื่อนลอย

“เฮ้ย ก็มึงเมานี่”

ผมก็ตอบรับอย่างขอไปที

“อือ”
   
มันเงยหน้าขึ้นมาหาผม สายตาเราประสานกันชั่วขณะก่อนที่มันจะไม่พูดอะไร ค่อยๆเคลื่อนหน้าเข้ามาใกล้ ใบหน้าที่ให้ความรู้สึกต่างกับต้อง

มันค่อยๆประทับริมฝีปากของมันกับปากของผม แผ่วเบา แต่เนิ่นนาน ตอนนี้ส่วนล่างของเจตื่นเต็มที่แล้ว

ตัวขาวๆ เริ่มเบียดบดเข้ามาแน่นขึ้น เหมือนๆกับปากของมัน เสียงน้ำดังกว่าเสียงจูบของเรา รสชาติจูบมันขมแปลกๆ เหมิอนกื่มน้ำชา

เป็นเพราะเบียร์หรือจิตใจกันแน่นะ

นาน... เนิ่นนานอยู่ใต้ฝักบัวกับสายน้ำอุ่นๆ เวลานี้น่าจะเลยเที่ยงคืนไปแล้ว เป็นวันใหม่แล้วสินะ วันสุดท้ายของปิดเทอม

เจกดหัวลงมาที่คอผม ซุกไซร้วนเวียนอยู่แถวนั้น เรียกเอาสติผมกลับคืนมา สงสัยคนที่ยังไม่สร่างเมาจะเป็นผมมากกว่า

ลิ้นเจ ลามเลียไปทั่วคอ มันรุ้สึกลื่นๆแล้วก็อุ่นๆยังไงพิกล แถมยังจักกะจี้ดีอีกต่างหาก

“อะ...”

พอยกหน้าขึ้นเสียงมันเลยหลุดรอดออกไป

แย่ละผมเผลอครางออกไป

“ชอบเหรอ” เจ ถาม

ผมไม่ตอบอะไร แค่พยักหน้าช้าๆ

“งั้นต่อนะ”

ไม่ทันผมจะได้ตอบมันก็เริ่มลุกต่ำลงมาวนเวียนกับอวัยวะบนหน้าอกผม จริงๆแล้ว ไม่ต้องบอกก็ได้มันเล่นไปทุกส่วนที่สัมผัสจับต้องได้เลยทีเดียว

มันยืดตัวกลับขึ้นมากอดผมอยู่อย่างนั้น เสียงหัวใจของมันเต้นรัวกว่าทุกที ผมเองก็เช่นกัน

ท่อนล่างกระทบกันรู้สึกร้อนฉ่า กระตุกตามจังหวะสูบฉีดของหัวใจ

นานอยู่เหมือนกัน จนผมเกือบจะอ้าปากถามอะไรเจออกไป ระหว่างที่ปล่อยให้ความเงียบเข้าทำหน้าที่ ฝแข่งกับเสียงน้ำ มันไม่ได้ยืนกอดเฉยๆ ขยับตัวดันเข้าน้องเล็กน้อยพอให้รู้สึก เสียงน้ำเจสะแจะเวลาเสียดสีกันดังเบาๆ

ยังทำอยู่นะ

“เก้าสัญญาแล้วนะ”

เจชิงพูดขึ้น 

“แต่.... จะดีเหรอ”

ผมมีท่าทีครุ่นคิดนิดนึง

ในใจลังเล มันอยากจนอะไรก็ยอมแล้วในตอนนี้ แต่....

“ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้ แต่ว่า ....​ทำให้เรานะ”

มันคงเห็นผมลำบากใจ

ผมสงสัย มันคืออะไรกันแน่

แต่คำตอบมันก็ออกมาแล้วจากท่าทางของเจ

มันจับผมพลิกหันหลังอย่างรวดเร็วจนผมต้องเอามือสองข้างดันกำแพงไว้ จากที่มันซุกไซร้คอกลายเป็นว่ามัน มาลามเลียที่แผ่นหลังแทน

“ขาวจัง”  เจ พูดขึ้น

จะทำก็ทำ อย่าพูดแบบนี้สิ ผมเขินนะ

มือมันก็ลูบไล้ไปตามแผ่นหลังขาวๆ ลูบขึ้นลง สักพักมันวนมาเวียนอยุ่แถวบั้นท้ายผม

“ก้นก็ขาว” 

พอ สัก ที!!!!!
           
มันจะทำอะไรกันแน่

ของแข็งทิ่มแทงที่ก้นผม พยายามดันส่วนนั้นเข้าไปให้ได้ มันไม่เคยทำกับผู้ชายเลยไม่รู้ว่าต้องทำยังไงก่อน ผมเองก็ใช่ว่าเคย แต่ยัดๆเข้าไปเนี่ยไม่เข้าแน่ๆ

ไม่ง่ายนักหรอกครับ ก็คนไม่เคยนี่นา

อย่างไอ้เจเหรอจะหยุดแค่นี้

แป๊ก เสียงเปิดขวดดังขึ้น

“มึงเอาสบู่เหรอ”

“แล้วมึงจะเอาสดๆเหรอไง” คราวนี้มันตอบเสียงหนักแน่นชัดเจน

เป็นอันว่า มันหายเมาแล้วล้านเปอร์เซนต์

ตอนนี้ทั้งตัวผมลื่นไปหมด มันละเลงสบู่ทั้งตัวเลย

จากนั้นมันก็เริ่มเอาตัวเข้ามาบดขยี้ถูไถ ไปตามตัวผม ส่วนนั้นของมันท่าทางจะสู้ไม่ถอยเลยทีเดียว ไม่ว่าตัวมันจะถูกับด้านหลังผมยังไง ด้านไหนมุมไหน มีส่วนนั้นเพียงอย่างเดียวที่มันจะไม่ยอมให้ห่างจากร่องก้นผมเลย ราวกับว่าถ้ามันถอยห่างออกไปมันจะไม่ได้เข้าใกล้อีก

“เอาละนะ” มันพูด

มันดันเข้ามาอย่างหนักหน่วง ถึงผมจะไม่ได้ตอบอะไรออกไป ถึงคำตอบจะเป็นได้หรือไม่ได้ มันก็ไม่หยุดแน่แล้ว

“อะ..​เจ็บนะ” ผมพยายามบอกมัน

“ทนหน่อยนะ” มันยังฝืนต่อ
   
โอ้ย ไม่เข้าหรอก ครั้งแรกนี่ยากเหมือนกันนะ

ไม่มีทางเลือกผมพยายามหมุนตัวกลับมาอีกด้าน เพื่อแสดงว่าผมเปลี่ยนใจแล้ว

“ขออีกทีนะ” มันยันผมกลับไปที่เดิมอย่างรวดเร็ว

“ทนหน่อย” มันค่อยๆฝืนทำต่อ

ผมเริ่มรู้สึกว่ามันกำลังจะได้แล้ว เริ่มๆจะเข้าแล้ว

ผมก็แค่ยืนเฉยๆให้มันทำไปจนเสร็จสินะ ไม่รู้ว่าความรู้สึกที่โดนมันทำจะเป็นอย่างไร ผมจะมีอารมณ์ร่วมแค่ไหน อาจจะสนุกหรือไม่สนุกเลยก็ได้ มันจะพอใจมั้ย ผมสัญญาไปแล้วนี่นา

ผมเริ่มรู้สึกกลัว

‘ไว้กูมาที่บ้านบ้างนะ’ คำพูดนี้คำเดียว หยุดความคิดของผมทันที

มันรู้สึกผิด จะให้หยุดก็คงไม่ได้ มาถึงขนาดนี้แล้ว

“กูเจ็บวะ พอเหอะ” ผมหันไปมองมัน

มันจ้องมาที่หน้าผม สายตาเราสองคนปะทะกันอยู่ชั่วครู่ ก่อน... ผมจะหลบตา

“อือ ก็ได้” มันค่อยๆหยุดแล้วถอยห่าง

“เดี๋ยว..​กูทำอย่างอื่นละกัน” ผมบอกมัน

ตอนนี้กลับกันกลายเป็นฝ่ายผมที่ไปไซร้คอมันบ้าง เริ่มทำแบบเดี๋ยวกับที่มันทำกับผมก่อนหน้านี้

ส่วนนั้นของเจยังทิ่มแทงผมอยู่ แต่เป็นด้านหน้าของเราสองคนมากกว่าที่ฟาดฟันกัน
   
ผมค่อยๆ ก้มตัวลงเรื่อยๆ ต่ำลงๆ จนกระทั่ง....

มันเอามือจับหัวผมค่อยๆดึงหัวผมกลับไปซุกที่คอมัน

ผมเลยเลียนแบบมัน ไซร้คอแรงๆ แต่ดูดที่คอเบาไปเรื่อยๆ จนมันเริ่มครางออกมาบ้าง

“อา.. เก้า ต่ำลงอีกๆ เอาแบบเมื่อกี้”
   
ผมเริ่มลงไปที่หน้าอก ด้านซ้าย ขวา แล้วก็ตรงกลาง หัวใจของเจเต้นอยู่ในนั้น เสียงดังชัดเจน

“ตะ... ต่ำลงไปอีก”

ผมเริ่มซุกที่พุงขาวๆของมัน ไม่ยักกะรู้ว่า พุงขาวๆของมันนี่นิ่ม ให้ความรู้สึกดีแล้วก็น่ากัดเป็นบ้า

เผลอกัดไปเบาๆ

“อะ....” สงสัยมันจะเจ็บ

กำลังจะเงยหน้าไปถามมันเลย กลับกลายเป็นว่า มันยังกดหัวผมลงไปอีก

“อือ”  นั่นคือคำตอบของผม
   
รู้แล้วว่า มันต้องการให้ทำอะไรให้ แบบเดียวกับที่ผมจะชดเชยให้มันอยู่พอดี

นี่เป็นครั้งแรกของผม และการใช้ปากครั้งแรก

ยิ่งกว่านั้นตอนนี้ได้จ้องมองส่วนนั้นของเจชัดๆ แถมใกล้ขนาดนี้ ส่วนนั้นผงกหัวให้ มันคงกำลังเรียกร้องอยู่ เจ้าของมันเองก็เช่นกัน สีแดงแปร๊ด น้ำใสๆออกมาเต็ม

ในเมื่อมันต้องการแล้วละก็  แถมผมสัญญาไปแล้วนี่นา

เอาวะ

ผมก้มลงต่ำลงไป ครอบจุดนั้น หวังว่าคงไม่กัดโดนนะ

“อา....” ตั้งแต่ทำมา เจไม่เคยครางดังให้ผมได้ยินยังงี้เลย

“เก้าๆๆ”

ผมเริ่มจากช้าๆ เป็นเร็วขึ้นๆ เมื่อผมชินกับท่าทางใหม่นี้แล้ว จึงค่อยๆเสริมเข้าไป
   
มันคงเป็นสัญชาติญาณ ไม่ต้องสอน

“ลิ้นเก้า ให้ความรุ้สึกดีจริง”
   
ผมเลยกัดมันเข้าไปทีนึงให้มันหุบปาก ถึงผมจะทำให้มันได้ แต่ไม่ได้แปลว่าผมจะไม่อายนะ

“อย่าหยุดนะ”  เสียงเจเริ่มสั่น
   
ตัวมันก็สั่นไม่แพ้กัน

ขามันที่เคยยืนไม่อยู่ตอนนี้เปลี่ยนไป ไม่รุ้เรี่ยวแรงมาจากไหน เริ่มโยกช้าๆ แล้วก็เร็วๆขึ้นๆ

“อา... เก้าๆ กูขอนะๆ อย่าหยุดๆๆๆ” เจเริ่มแย่แล้ว

“อือ” ผมพยายามพูดทั้งอย่างนั้น

“อา...ๆๆ” ตัวมันกระตุกอยู่หลายที

ดีว่าผมเอาออกมาทัน มันจึงเลอะแค่หน้าผม

แต่แทนที่เจจะหยุด มันกลับเอามาถูหน้าผมใหญ่เลย

พอผมเงยหน้าขึ้นไป กลับเจอ เจ คนที่ผมไม่รุ้จัก

สีหน้ามันสะใจอย่างบอกไม่ถูกเหมือนคนได้ของรางวัลยังไงยังงั้น

“พอแล้ว เดี๋ยวกูทำให้มึงมั่ง” มันดึงผมขึ้นมา

ตอนนี้ผมเหนื่อยหอบ คงไม่ต่างกับมันเท่าไร

มันจับผมผลิกหันหลังแล้ว กอดผมจากด้านหลังอย่างรวดเร็ว

สองมือมันเกาะกุมส่วนนั้นของผมแล้วก็เริ่มปฎิบัติการ

ถึงตัวมันจะแนบตัวผมจากด้านหลัง แต่มันกลับต่างกัน รู้สึกได้ว่าอารมณ์มันหดหายไปแล้ว และส่วนนั้นดูจะอ่อนลง ไม่ต้องสัมผัสหรือมองก็รับรู้ได้

“เอาละนะ” มันบอกผม ไม่รู้จะบอกทำไม

มือมันเริ่มหวุนวนไปรอบๆ จากบนลงล่าง แล้วกลับมาที่ส่วนบนสุด

ตรงนี้ผมตัวเกร็ง จากมือที่แบดันกำแพงไว้ เพราะน้ำหนักตัวของมันกลายเป็น กำแน่น ขาเริ่มลอยจากพื้น ผมเขย่งปลายเท้าแทน

“อา... เจ.... อา...” ตอนนี้ช่างมันแล้ว ความอายก็ไม่เหลือ

มันยังทำต่อไป แล้วเปลี่ยนจากส่วนบนลงมายังส่วนต่ำกว่าที่ห้อยอยู่ แล้วเริ่มคลึงเบาๆ มืออีกข้างกำลังขยับขึ้นลงช้าๆ

ผมผ่อนลมหายใจออก มันอาจจะไม่เท่าเมื่อกี้แต่ก็รู้สึกดีไม่ต่างกัน

“ลื่นนะ แต่กูไม่ได้ทาสบู่ตรงนั้นของมึงนี่” มันยิ้ม

“มึง..” ผมกำลังหันไปด่ามัน
   
มันรีบรัวมือทันที จนผมต้องหันหน้ากลับไปมองกำแพงดังเดิม

“เอาละนะ” มันยังพูดต่อ

“อือ”

“อ้า...” ตอนนี้ภาษาอะไรก็ไม่รู้แล้ว

ไม่นานตัวผมยิ่งเกร็งขึ้นๆ มันเอามือข้างนี่ไม่ได้ขยับนั้นมาลูบไล้ก้นผมจากผ่านจากหลังอ้อมลงไปข้างหน้า ไม่เจอกับมืออีกข้าง

ผมแทบจะยืนไม่อยู่แล้วคิดว่าผมคงจะพิงมันมากกว่า แขนผมลอยจากกำแพงตัวแอ่นไปทับมัน

“อ้า.. .​เจ เจ มาแล้ว”
   
มันยิ่งทำเร็วขึ้นๆ จนกระทั่ง...

“พอยัง” มันถามผม เสียงเหนื่อยหอบ

“อือ” ผมที่เหนื่อยกว่าไม่รู้จะพูดอย่างไรได้

“เต็มกำแพงเลยมึง”

   ขาผมอ่อนแรงเกินกว่าจะถีบมันไหว จึงเอามือตบหัวมันแทน

“เดี๋ยวกูล้างเอง มึงล้างตัวเหอะ”

“อือ”

สภาพก้อนเนื้อกลมๆยืนล้างร่างกายลวกๆ ดูหมดสภาพต่างกับก่อนหน้านี้

ผมยืนดุมันล้างตัวจนสะอาด นี่ก็ครั้งแรกเช่นกันที่ผมมองดูผู้ชายด้วยกันอาบน้ำให้ดูต่อหน้าต่อตา แบบไม่มีไรปิด ไม่ปิดบัง และไม่เขิน

“งั้นกูออกไปแต่งตัวก่อนน”มันบอก

“ถ้าไม่ง่วงก็ไปเล่นเกมเลยนะ” ผมตะโกนไล่หลังไป
   
เอาละ งานล้างห้องน้ำเป็นของผม

หลังจากล้างออกหมดแล้ว คราวทั้งหมดไหลลงท่อไปพร้อมกับอารมณ์ของเราสองคน อารมณ์ที่มันกระเจิดกระเจิงไปคนละทิศละทาง แต่เมื่อทุกอย่างจบลงเหมือนมันจะกลับมารวมกันอย่างเก่า

ถ้าบรรยายออกมาเป็นสีละก็ เหมือนเราสองคนสาดสีที่ไม่เข้ากันใส่กัน ฟุ้งออกไปในอากาศ วนเวียนอยุ่ในห้องน้ำ แต่เมื่อกิจกรรมจบลง สีนั้นไหลกลับมากองรวมกัน กลายเป็นสีอื่น สีที่ไม่สดใสเหมือนตอนแรก คล้ายๆสติที่ขาดหายไปกลับคืนมา

ถ้าต้องมาบ้านผม.......

ผมจะกล้าทำอย่างนี้มั้ย....

แล้วมันจะขอผมทำมั้ย....

ความคิดชั่วร้ายแทรกเข้ามา จนต้องสะบัดหัวไล่ความรู้สึกออกไป ตอนนี้แอลกอฮอล์ไม่มีอำนาจเหนือผมแล้ว ความอยากก็หายไป

ไม่มีทางเด็ดขาด.....

นี่คือ คืนสุดท้ายของปิดเทอม

ผมออกมาจากห้องน้ำ สงสัยจะใช้เวลานานไปหน่อย ตัวผมยังไม่แห้ง หัวก็ยังเปียกอยู่ ตอนนี้ผมเดินออกมาตัวเปลือยเปล่า ตอนเข้าไปก็ไม่ได้เอาเสื้อผ้าที่จะเปลี่ยนเข้าไปด้วย ดังนั้นนอกจากผ้าขนหนูที่ใช้เช็ดหัวแล้ว จึงไม่มีอย่างอื่นอีก มาถึงตรงนี้ จะอายก็คงกระไรอยุ่

“หลับทั้งยังงี้เนี่ยนะ”
   
   หรือจริงๆแล้วมันเป็นคนแบบนี้อยู่แล้วกันแน่

ร่างอวบขาวของมันนอนเหยียดอยู่บนโซฟา ผมควรจะปล่อยมันไว้อย่างนั้นดีมั้ย

นาฬิกาในห้องผมบอกว่า ตีหนึ่งกว่าแล้ว

“ลุกหน่อยดิ ไปนอนที่เตียง”

“ลุกดิมึง เดี๋ยวหวัดแดกหรอก”

ได้ผลสักพักมันลุกขึ้นเดินงงๆ ไปที่เตียงแล้วล้มตัวลงนอน  เหมือนถุงข้าวสารเหี่ยวๆ

“เฮ้อ”
   
ผมหันหลังเดินไปปิดไฟ แล้วขึ้นเตียง

ผมต้องจัดท่าทางให้เจมันนอนอย่างหันไปทางโซฟาแล้วหันหลังมาทางผม ถ้ามันหันหน้าเกิดมาอ้วกใส่หรือว่า ละเมอขึ้นมาจะได้ไม่หนวกหูผมมาก

จัดท่ามันนอนตะแคงสบายห่มผ้าให้มันเรียบร้อย ส่วนผมนอนหงายอยู่อย่างนั้น นึกขึ้นมาได้ว่า ผมเองก็ยังไม่ได้ใส่อะไรเลยเหมือนกัน 

ช่างมันเหอะ เหนื่อยแล้ว

ปิดเทอมนี้มีเรื่องเกิดขึ้นมากมายจริงๆ

ตั้งแต่ผมเรียนพิเศษ เจอ บูม จนกระทั่ง ไหงไอ้เจมานอนแก้ผ้าข้างผมได้

เปิดเทอมที่ผ่านมา แค่มีใครสักคนเป็นเพื่อนกับผมก็พอแล้ว แต่นี่ดูเหมือนจะเกินความคาดหมายอยุ่

ผมได้เพื่อนใหม่ สี่ คน หนึ่งใในนั้นก็ไอ้บ้านี่ที่มันนอนอยู่ข้างๆ ท่าทางมันจะหลับสนิทซะด้วย ผมพลิกลับมานอนหงาย แล้วจู่ๆเจก็พลิกมาซบผมจากข้างๆ
   
“เฮ้อ” ผมพ่นลมหายใจเบา
   
ผมจึงนอนลูบหัวมันอยู่อย่างนี้ สงสัยต้องใช้เวลาอีกสักพักกว่าผมจะหลับได้

ครืดดดดดดดดด  ครืดดดดดดดด
   
มือถือ?? เจ ไม่ได้ปิดมือถือเหรอ แล้วใครโทรมาดึกป่านนี้

ผมเลยค่อยๆดันเจออกไปเบาๆแล้วลุกขึ้นไปรับสาย

ผิดคาดไม่ใช่โทรศัพท์มา แต่เป็น ข้อความ

‘ทำไมมึงไม่กลับบ้านคนที่บ้านเป็นห่วงนะ มึงยังโกรธพวกพี่ๆเรื่องนุ่นเหรอวะ’

โทรศัพท์ขึ้นชื่อ    ...แจ๊ค พี่ชายเจ???

“เจ มึงคิดว่ายังไงผู้ชายก็เป็นแฟนกันไม่ได้ใช่มั้ย”

“อือ...” มาครางตอบพร้อมพยักหน้า

ความรู้สึกพังทลายราวกับตัวต่อเลโก้ที่โดนเด็กเตะล้มพังครืนไม่เป็นท่า เราโง่เอง มันยังไม่ได้เลิกกับคนชื่อนุ่นซักหน่อย ไอ้แมคมันก็ทักขึ้นมาแล้ว

 ทำไมนะ ผมรู้สึกเสียใจ แต่ในเวลาพร้อมๆกัน มันก็ดีใจไปด้วย เหมือนโดนคัดออกจากการเป็นนักแสดงนำ ไม่อยากได้แต่ก็เสียดาย ถ้าได้ก็คงปวดใจที่มันยังไม่เลิกและก็รู้สึกผิดไปด้วย ไม่ได้ก็ดีไปหน่อย...

 งี้ก็แปลว่า ผมเป็นแค่คู่ขามันสิเนี่ย

เหนื่อยแล้ว สมองไม่ทำงานมันกลายร่างเป็นก้อนเนื้อสีชมพูอยู่ในกระโหลกหนาของผม ชักรู้สึกปวดหัวแล้วสิ

ผมลุกขึันไปกินยาแก้ปวด 2 เม็ด

...ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ออกมาดู

ผมเลือกเบอร์ต้อง ไม่กล้าจะกดออก ปุ่มเหมือนมีหนามแหลมคมปิดซุกซ่อนอยู่

 กดปิดหน้าจอ

'เราคงไม่ได้ชอบเจจริงๆหรอก.... ไม่งั้นคงเสียใจกว่านี้'

เดินกลับไปซุกตัวลงนอนที่เดิม

พยายามสงบใจ... คนข้างๆไม่ใช่คนที่ชอบเรา

--------------------------------------------------

จบภาค 2 ปิดเทอม

ตอนนี้แปลกๆนิดหน่อย เนื่องจากเอาลงเวบแล้วมันไม่เหมือนที่ทำไว้ใน pages

แล้วเจอกัน ภาค 3
           
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-11-2015 22:49:37 โดย Monet »

ออฟไลน์ ordkrub

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-12
เริ่มโตขึ้นแล้วเก้า
ประสพการณ์จะเป็นบทเรียน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-11-2015 15:11:11 โดย ordkrub »

ออฟไลน์ Monet

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-0
นิดหนึ่งก่อนขึ้นภาค 3
«ตอบ #129 เมื่อ08-11-2015 00:31:56 »

ช่วงนี้เห็นฮอโมนกำลังมาเรื่องงานกีฬาสี พอเห็นในฟีดปุ๊บ สะดุ้งนิดหน่อยว่า ภาค 3 เกี่ยวกับกีฬาสี เป็นเรื่องของม. 5 ที่ต้องเข้ามาช่วยรุ่นพี่ ม. 6 ทำงานใหญ่ของโรงเรียน คือ กีฬาสี

ที่สะดุ้งเพราะเดี๋ยวจะชนกัน (มีคนทักมาว่า เดี๋ยวเค้าหาว่ามาจากฮอโมนหรอก) เลยขอออกตัวก่อน

ไหนๆก็มาแล้ว ภาค 3 ม. 5 กีฬาสี ชื่อตอน เสียงพลุกับวงเหล้า ใบ้นิดนึง ทีมต้องรัวๆได้เลย

                   ภาค 4 ขอแค่ 5 นาที เป็นเรื่องที่เกิดขนาดกับภาค 3 (แต่ขอนับเป้นเรื่องที่ 2 แล้วกัน) ใครๆที่รอ น้องต่ออยู่ ภาคนี้น้องต่อเป็นพระเอกนะครับ...

                   ขอบคุณทุกคนที่ติดตามอ่านกันว่า หวังว่าคงไม่เบื่อกันก่อนนะครับ

                   เรื่องนี้มีความหมายกับทั้งคนแต่งและตัวละครทุกตัวในเรื่อง แน่นอนว่ามันไม่ใช่ไดอารี่มันจึงดูโดดไปมานิดหน่อย ผมพยายามเก็บภาพที่เป็นจริงให้ได้มากที่สุด เพราะเชื่อว่า อะไรที่ใกล้ความจริง มันเข้าถึงได้ง่าย ทุกคนมีประสบการณ์ร่วมได้ อาจจะตัวเอง คนรอบข้าง เพื่อน...
                   
                   สำหรับผม เรื่องมันยังชัดเหมือนเพิ่งเกิดมาเมื่อปีที่แล้ว สองปีที่แล้ว แม้ว่าคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องคงจะไม่ใส่ใจจำแล้ว

                   แด่ ผู้ซึ่งเคยพบ และ ผู้ที่จากไป (ไม่ว่าจะเป็นรูปธรรมหรือนามธรรม) และ ... ผู้ที่เปลี่ยนไป

           

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

นิดหนึ่งก่อนขึ้นภาค 3
« ตอบ #129 เมื่อ: 08-11-2015 00:31:56 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ magic-moon

  • magKapleVE
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 496
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-2
    • Freedom of meetups, no obligations
ขอให้เก้าคิดดีๆก่อนจะลงมือทำอะไรนะคะ อย่าให้ความเหงามาบงการนะ เข้มแข็งน้าาา ส่วนต้อง รีบ! มา! เดี๋ยวนี้!

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
คนเคยพบ ก็ต้องจบ พบแล้วจาก
คนที่พราก มาจากไป ให้คิดถึง
แต่คนเปลี่ยน เพี้ยนจากเดิม เริ่มอื้ออึง
ใจสับสน ปนตะลึง คือตัวเรา

เก็บอดีต ที่หวานหอม ตอมตัวอยู่
ทิ้งอดีต ที่ยับยู่ จากตัวเขา
อนาคต หนข้างหน้า อย่ามัวเมา
ไม่มีเขา ไม่มีเรา เท่านั้นเอง

..เป็นกำลังใจให้คนแต่ง(เก้า??)..
ยิ้มสู้นะ

ออฟไลน์ Monet

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-0
คนเคยพบ ก็ต้องจบ พบแล้วจาก
คนที่พราก มาจากไป ให้คิดถึง
แต่คนเปลี่ยน เพี้ยนจากเดิม เริ่มอื้ออึง
ใจสับสน ปนตะลึง คือตัวเรา

เก็บอดีต ที่หวานหอม ตอมตัวอยู่
ทิ้งอดีต ที่ยับยู่ จากตัวเขา
อนาคต หนข้างหน้า อย่ามัวเมา
ไม่มีเขา ไม่มีเรา เท่านั้นเอง

..เป็นกำลังใจให้คนแต่ง(เก้า??)..
ยิ้มสู้นะ

ขอบคุณนะครับ กลอนเพราะมาก ผมไม่มีความสามารถเรื่องกลอนแฮะ

ตอนนี้ก็ต้องขอกำลังใจละ เพราะว่าไฟล์หาย ต้องมานั่งพิมพ์ใหม่จากที่ปริ้นเก็บไว้ ฮ่าๆๆๆ งานช้างเลย

ออฟไลน์ Monet

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-0
เสียงพลุกับวงเหล้า : 1.0 ม. 5   

        ปิดเทอมแสนสั้นผ่านไปแล้ว ถ้าจะปิดสั้นขนาดนี้ก็อย่าเรียกว่าปิดเทอมเลยเหอะ สรุปเวลาที่ปิดเทอมคนอื่นเค้าไปเรียนพิเศษกัน ตรงข้ามกับตัวผมที่พอเรียนเป็นพิธีไปอย่างนั้นเอง พอกำลังจะคิดว่าอยากจะทำอะไรสักอย่างกับผมการเรียน

    รู้ตัวอีกทีก็เปิดเทอม กลายเป็นเด็กม. 5 แล้ว

   เปิดเทอมปีที่แล้วผมยังคิดว่าไม่รอดแน่เลย ต้องอยู่ท่ามกลางฝูงซอมบี้ที่น่าชัง ผสมกับวิชาเรียนที่น่าเบื่อ จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่ามันคุ้มมั้ยกับที่ผมหนีปัญหามาอยู่ห้องนี้ สุดท้ายแล้วปัญหามันก็ยังตามผมมาถึงอยู่ดี แต่เพราะพวกมันนี่แหละที่ทำให้ผมรู้สึกเปลี่ยนไป

   สำหรับไอ้เจ เรื่องมันเกิดขึ้นอย่างที่ผมไม่อยากให้มันเกิด ทั้งหมดเพียงเพราะความอยากในตอนแรก จะว่าไป เราสองคนไม่ได้ตกลงเป็นอะไรกันซะหน่อย ความอยากเพียงอย่างเดียวที่หลังๆ ชักนำให้ผมกับเจมาแนบแน่นกันมากขึ้น แน่นจนบางทีก็ต้องบังคับไม่ให้เผลอใจไปคนเดียว

    สำหรับไอ้เจแล้วมันน่าจะสรรหาคำอื่นมาแทนดีกว่า เพราะมันถี่เหลือเกิน ทำบ่อยเกินไปแล้ว

   หลังจากเย็นงานวิทย์แล้ว ในห้องวิทย์ที่ทุกวันนี้ผมกับเจ ยังต้องใช้ห้องนั้นเรียนวิชาเคมี ทุกอย่างมันไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว มันกลายเป็นห้องแห่งความทรงจำ (ที่ไม่น่าจะจำเลย) ตอนนี้ร่างกายของผมเวลาอยู่ในห้องนี้เป็นเหมือนที่ระบายความใคร่ของเจ

   จะมีใครรู้มั้ยว่า ห้องวิทย์เองที่เหม็นจากกลิ่นสารเคมี กลายเป็นกลิ่นเหม็นอับของเด็กผู้ชายสองคนที่หยิบยืมสถานที่นี้ใช้เป็นเวที ฟาดฟันเพื่อปลอดปล่อยอารมณ์ของกันและกัน

   คำว่าฟาดฟันดูจะถูกที่สุดแล้ว

   ไม่รวมที่มันลามไปตามจุดต่างๆในโรงเรียนเวลาห้องวิทย์ไม่ว่าง แล้วก็ที่บ้านผม ตอนปิดเทอม

   ยิ่งมันขอให้ผมทำให้อย่างเป็นเมียมันในคืนสุดท้ายนั้น ผมดีใจอยู่ไม่น้อยที่มันเมาจนมันไม่มีสติเพราะมันจะบังคับให้ผมหันหลังให้มันไม่ได้ ถ้ามันไม่เมามาก่อนแล้วละก็  ผมคงจะได้เป็นเมียมันโดยสมบูรณ์แล้ว ที่หยุดไม่ใช่เพราะผมเล่นตัว

   แต่เป็นไอ้เจต่างหากที่บอกความสัมพันธ์ของผมกับมัน เรายังเป็นเพื่อนกัน แล้วจะไม่มากไปกว่านั้น ผู้หญิงที่มันชอบ ชื่อ นุ่น

   ดีแล้วที่ผมไม่ทำ อีกไม่กี่สิบนาทีต่อมา ผมก็ต้องมานั่งเสียใจแน่ๆ เพราะคืนนี้เองหลังจากเจหลับอย่างเหนื่อยอ่อน เหนื่อยสิ โดดขึ้นเตียงนอนเลย เสื้อผ้าก็ไม่ใส่ มันบอกผมเองว่าเวลาที่ทำอย่างว่ากับผม มันรู้สึกเหมือนกับว่า ผมเป็นผู้หญิงคนนั้นของมัน

   แปลว่า มันมองไม่เห็นผมที่ยืนอยู่ตรงหน้า ผมเป็นแค่ที่ระบายของมันเท่านั้น

   มันหลับไปปล่อยให้ผมใช้มือช่วยมันอยู่อย่างนั้น พอมันเสร็จก็หลับไปเลย ลำบากผมอีก

   คืนนั้นผมก็นอนคิดอยู่ทั้งคืน ผมต้องทำให้เรื่องนี้มันจบลง ก่อนที่ เจ ไม่สิ ผมจะมีปัญหากับมันขึ้นมา ไม่ว่าด้วยอะไรก็แล้วแต่ ความเป็นเพื่อนก็ยังไม่เสียไป   

   ตรงกันข้ามความรู้สึกแปลกๆที่มีต่อไอ้ต้องต่างหากที่มันโผล่แทรกออกมา ทำให้ความพยายามผมสูญเปล่า ทั้งที่ผมเก็บเอาไว้มานาน ความไม่คุ้นชินกับความขี้เก๊กของมัน แต่ไม่ได้แปลว่า มันจะไม่หล่อนะครับ แค่บางครั้งที่มันทำตัวระรานให้รำคาญ คนอย่างผมไม่มีทางเดาอารมณ์มันออกได้เลย

   แต่ทำไมเวลาแค่สั้นๆไม่ถึงเดือน มันกลับ.... อย่างกับว่า มันพยายามเข้าหาผมให้มากขึ้น ยิ่งมันพยายามเข้ามาหาเท่าไรก็ยิ่งเหมือนไปจุดระเบิดให้กับกองความรู้สึกที่ผมซ่อนเอาไว้ให้กระจุยออกมา

   คนอย่างต้องเนี่ยนะ จะมาสนใจผม

   ขืนมันทำอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆ ผมจะเผลอหลุดปากบอกมันออกไปจริงๆมั้ยนะ

   ส่วนไอ้แมค วันที่พวกเราไปถล่มบ้านมันฉลองปิดเทอม ทำไมมันดูซึมๆไป ไหล่สองข้างของมันยังกับว่า ถูกบางอย่างกดทับไว้ ไม่ให้ยึกยักได้เหมือนทุกที มันที่เป็นเด็กแนว มีชีวิตที่ผมอิจฉา ผลการเรียนมันก็ใช้ได้ (ผลการเรียนผมกลับแย่) วันนี้มันกลายเป็นว่า มันที่เคยมั่นใจ ทำไมดูราวกับว่า มันแก้ปัญหาบางอย่างไม่ออก ไม่สิ ไม่ได้อยากแก้ แต่รับสภาพมากกว่า
   
   สุดสัปดาห์สุดท้ายที่น่าจดจำ เลยลงเอยด้วยไอ้เจกับไอ้ต้องทะเลาะกันหน้าห้องน้ำ

   ม.5 มันเป็นปีที่อยู่กลางของชีวิตม.ปลาย กำลังจะเป็นพี่ใหญ่ คล้ายๆกับลูกคนกลาง เวลาทำกิจกรรม สิทธิ์ขาดจะอยู่ที่รุ่นพี่ เวลามองขึ้นไป ผมไม่เคยเข้าใจชีวิตพวกเค้าเท่าไรนัก เวลาเรียนก็น้อย กิจกรรมก็มี งานใหญ่สุดเห็นจะเป็นกีฬาสี ไหนจะสอบเข้าอีก เวลาทำอะไรก็สบายๆ ไม่ค่อยมีครูมาว่า มันเลยเหมือนพวกเค้าเป็นผู้ใหญ่กว่า ไม่ใช่แค่พี่ที่โตกว่า 1 ปี

   ถ้าม.6 เรียกว่าทะลึ่งแล้วละก็ อืม... พวกผมก็เริ่มเป็นกันละนะ สมัยม.ต้นนี่ทุกคนทำตัวสงบเสงี่ยมคำถามที่เคยๆถามจากเด็กม. ต้น ก็เปลี่ยนไป จำได้ว่ามีครั้งหนึ่ง เคยมีเพื่อนสมัยม.ต้นถามว่า ขนขึ้นรึยัง เอ่อ... มันคงประหลาดถ้ามาถามตอนนี้ แต่ตอนนั้นมันเป็นเรื่องใหม่มาก

    พอ สัก ม.4 ก็จะเปลี่ยนเป็น เคยชักว่า.. ยัง สำหรับรุ่นพี่ม.6 เคยได้ยินแต่ถามว่า เมื่อคืนเอากับเมียเหนื่อยมั้ย  มันพัฒนาการไปอย่างรวดเร็วจริงๆ ก้มหน้าลองมองตัวผมเอง อะไรๆก็เปลี่ยนไปเยอะ จากเด็กชาย มาจนใช้คำนำหน้าว่านาย ตอนเปลี่ยนชื่อนี่รู้สึกจักะจี้ดีพิลึก มันบ่งบอกว่า พวกเราโตแล้ว ไม่ใช่เด็กอีกต่อไป

   "ครูครับ คนที่ใช้นาย นี่ต้องโตจนขนขึ้นใช่มั้ยครับ" มันมีเด็กเปรตคนนึงถามขึ้น

   "เกี่ยวอะไรด้วย ใครสั่งสอนเธอมาเนี่ย"

   "ก็ครูเป็นครูประจำชั้นผมนี่"

   "งั้นครูจะลงโทษเธอฐานะครูประจำชั้นดีมั้ย"

   ทั้งห้องฮา

   ตอนนั้นน่าจะสักม. 2 เรียนเรื่องสุขศึกษาแล้วครูเล่าถึงว่า พอขึ้น ม.1 อย่าไปเขียนคำนำหน้าชื่อว่า เด็กชายนะ อายเค้าโตแล้ว เสียดายคนถามไม่ใช่เจ ถ้าใช่นี่ผมนึกหน้ามันออกเลย

   เอ... แล้วผมเป็นนายตอนไหนนะ ผมกับเจเองก็คงทำกันเกินคำว่านายและคำว่าเพื่อนไปเยอะแล้ว

   นอกจากเด็กที่เรียนจะมีพัฒนาการที่เปลี่ยนไปแล้ว ห้องก็..... อ้าว ห้องเรียนเป็นห้องเดิม เกิดอะไรขึ้นเนี่ย ได้ยินตอนเดินมาว่า ครูใช้วิธีสลับป้ายเอา จะได้ไม่ต้องจัดโต๊ะใหม่ แค่สลับป้าย พวกม.ปลายมันไม่ม่การย้ายสาขาอยู่แล้ว ดังนั้นสลับป้ายบอกหน้าห้องง่ายกว่า พอเงยหน้าขึ้นมอง ใช่จริงด้วย ม.4/1 กลายเป็น       
   ม.5/1 มิน่าพอเดินขึ้นไปชั้น 5 ถึงไม่เจอ ต้องเดินวนกลับลงมา ผมเลยคิดอะไรฟุ้งซ่านไปเรื่อยเปื่อย สงสัยวันนี้จะมีอารมณ์คิดแต่เรื่องใต้สะดือซะเป็นส่วนใหญ่ กลับไปต้องระบายหน่อยแล้ว

   "เฮ้ ซัน" ผมเห็นมันยืนอยู่หน้าห้อง

   "เก้าาาาาาา" ซันวิ่งมากอดผม

   เอ่อ ทำไมเอ็งสูงขึ้นอีกแล้ววะ ตอนนี้หน้าผากผมอยู่ที่คอแล้ว เสียงก็แหบลงอีก

   "หุบๆ แขนหน่อย ขนจักแร้โผล่แล้ว"

   ผมก็ยังแอบเห็นนะ แม้ว่ามันจะเพิ่งมีหรอมแหรม

   "เฮ้ยๆๆ ปิดเทอมเป็นไงวะ มีไรอัพเดทมั่ง"

   "ไม่มีอะ ก็เรียนพิเศษบ้างนิดหน่อย มึงละ"

   ระหว่างคุยมันมองหาที่นั่ง เอะ... มีการย้ายที่เหรอ

   "กูเหรอ ก็เหมือนกันแหละ มีไปเตะบอลกับห้องอื่นบ้าง อ้อ ได้เกมใหม่มาด้วย"

   "เหรอ เกมไรวะ"

   ไอ้ซันมันเล่นเกมเหมือนกันเหรอเนี่ย ท่าทางมันจะสนใจ

   "ต่อสู่น่ะ ไว้เล่าให้ฟัง” ซันมองหาที่นั่งต่อไป

   "นี่ มึงนั่งไหนอะ”

   ผมว่าจะลากมันมานั่งใกล้ๆ

   "ยังไม่รุ้เลยอะ ว่าจะแอบย้ายระหว่างที่คนยังไม่มากัน"

   "มาแถวพวกกูดิ"

   “มุมเดิมปะ" มุม?

   “เออ ย้ายมาดิ ว่าง มาเลย"

   แปะ

   “เปิดมาก็มีเด็กม.ต้น มาวุ่นวายไรหน้าห้องละเนี่ย"

   หือ
   ใครวะ

   "ต้.. ต้อง"

   ผมเอามือจับหัวตัวเอง เข้าใจว่าจะเป็นสมุดหรือกระเป๋า กลับเป็น... มือ มันน่ะ  มือผมจึงวางอยู่มบนมือนุ่มๆของมัน

   "แน่ะ แต๊ะอั๋งกูเหรอ"

   "บ้าเหรอ"

   ผมก้มหน้า แต่แอบเหลือบมองหน้ามัน มือก็คาเอาไว้อย่างนั้น

   มันยิ้มให้

   ซันเดินเข้าไปวางกระเป๋าปล่อยผมกับต้องเอาไว้

   เปิดเทอมมา ได้เจอต้องที่กำลังอารมณ์ดีตั้งแต่วันแรกนี่ สงสัยปีนี้จะเป็นที่น่าจดจำแน่ๆ

   "เฮ้ย นี่มึงสูงขึ้นปล่าวเนี่ย 180  แล้วยังไม่พอเหรอ"

   "โอ้ย"

   คราวนี้มันเคาะด้วยมือข้างเดิม

   "ใครว่ากูสูงถึงละ 177 เอง มึงน่ะเตี้ยดว่าปกติ ไปเอาไม้ที่ไหนวัดมาวะ"

   "เออ ใช่สิ ก็เอาไม้ในห้องพยาบาลไง” ไอ้เสาไม้ที่มีเลขบอกความสูง แล้วเอาแผ่นไม้อีกอันกดหัว

   เอะ งี้ก่อนนั้นผมก็ 167 อะสิ นี่หลอกตัวเองมาตลอดเหรอเนี่ย

   แม่ง เซ็งวุ้ย

   “ไม้ห้องนั้นเคยตรงที่ไหนละ เดี๋ยวมหาลัยมึงก็ไม่สูงแล้วนา”

   ผมสังเกตุเห็นชายเสื้อหลุดของมัน

   "เอ้ย มึงจะย้ายที่นั่งรึเปล่าวะ"

   ชายเสื้อมันหลุดจริงน่ะแหละ จับยัดเข้าไปในกางเกงให้ดีมั้ย

   “เก้า" ต้องเรียกชื่อผม

   “หา อะไรนะ มึงอยากให้กูย้ายเหรอ"

   เสียงสงสัย

   "ป่าว กูแค่ถาม"

   "หรือมึงไม่อยากนั่งกับกู"

   มันเดินเอาตัวเบียดเข้ามาเรื่อยๆ ตอนนี้หลังผมติดขอบประตูแล้ว จะกดดันกันทำไม

   มันหยุดแล้วหัวเราะ

   "รีบเข้าห้องไปเลยต้อง"

   "มึงดึงชายเสื้อกูอยู่"

   เสียงกังวาลอยู่เหนือหัวผม

   "เอ้อ โทดที"

   ผมไปดึงเสื้อมันทำบ้าอะไรวะ ตอนไหวนะ

   “สงสัยจะมีไรดีๆแฮะ" มันเดินผิวปากเข้าไป

   หนอย ถ้าจะพูดยังงี้ มาพูดกับกูนี่ๆๆๆๆๆๆ อยากมีไรดีๆใช่มั้ย ฮ่าๆ

   “ต้องๆ" ผมตะโกนเข้าไป

   ร่างสูงขาวหันมา ผมมันยังไม่ตัดเหรอวะ ยาวปิดหน้าเชียว

   ผมชูนิ้วกลางให้มัน

   "หึหึ อันนิดนึงอะนะ"

   "สัสสสสส กูเกลียดมึง"

   ผมรีบเดินไปที่นั่งเดิม มันยังนั่งหัวเราะอยู่ข้างๆ ที่โต๊ะตัวเดิม

   เอ้อ ซันละ

   ไอ้อ้วนแว่นมันย้ายไปนั่งหน้าห้อง ที่นั่งมันอยู่ก่อนแถวไอ้ต้องที่ว่างอยู่

   ผมบอกให้ซันวางกระเป๋าลง ถึงไม่ใกล้มาก แต่ก็ยังดีกว่าให้ไอ้อ้วนแว่นนั้นมานั่งขวางหูขวางตาแทน เอ้อ ไอ้สองตัวที่เหลือก็ยังไม่มา สายสินะ เปิดเทอมวันแรกก็สายแล้ว หึหึ สมเป็นพวกมันจริงๆ แปลกๆดีเหมือนกัน ทั้งๆที่เพิ่งเจอกันมาไม่กี่วันที่แล้ว พอต้องมาเจอกันในห้องเรียน มันรู้สึกราวกับว่า ปิดเทอมกับเปิดเทอมเวลามันไม่ต่อเนื่องกัน ยังกับไม่ได้เจอกันเลยยังงั้น

   เสียงเอะอะ ดังขึ้น

   "กูบอกแล้ว ว่าอย่าตื่นสาย"

   "มึงอะสาย อาบน้ำนาน มัวชักว่า.. เหรอไง แต่เช้าเลยนะมึง"

   เดาจากรูปประโยคแล้วไม่พ้นไอ้เจแน่ๆ

   "ไอ้สายเอ้ย เสียงดังมาเลย"

   ผมร้องทักมันจากที่โต๊ะ ซอมบี้บางคนเงยหน้ามามองเคืองๆ

   "มึงคุยกับใครวะ"

   "อ้อ เพื่อนห้องอื่นน่ะ พอดีนัดเจอกันปากซอย"

   "อ้อ เหรอ"

   กลื่นบุหรี่???

   “หึงเหรอ" เจเดินมาเอานิ้วมาสะกิดตูดผม

   "ขอตบกบาลฉลองม. 5 หน่อยเหอะ"

   ผมกำลังจะเอื้อมมือไปตบ

   มีของดำๆ วางบนหัวมันแทนก่อน

   "น้อยๆหน่อย แต่เช้าเลย กลิ่นมันออกนะ” กระเป๋านักเรียนแมควางอยู่บนหัวเจ

   "อ้าว แมคมาแล้วเหรอ"

   "เออดิ หวัดดีเก้า ต้อง"

   "เออ ดี"

   ต้องนั่งท้าวคางกับโต๊ะตอบ

   "ไอ้อ้วนนั่นไปแล้วเหรอ"

   เจถาม

   "หึหึหึ"
   
   “หัวเราะน่าเกลียดน่าเก้า"
   อ้าว ผมเผลอหัวเราะดังไปเหรอ

   ไอ้อ้วนแว่นที่ล้มหายตายห่าไปแล้ว ต้องขอบคุณไอ้ต้องจริงๆ ตอนนี้มันเลยกระเด็นไปนั่งไกลจากที่ของพวกผม นั่งหน้าสุดติดกระดานเลย เหมาะสมกับมันแล้ว

   "แล้วใครจะมาแทนวะ"

   "ซันไง มันวางของแล้วเนี่ย"

   “งั้นเก้ามานั่งตรงกลางมะ"

   เจย้ายของผมไปวางตรงกลางระหว่างมันกับแมค

   "ไม่เอาอะ ตรงนี้ดีอยู่แล้ว”

   ผมย้ายกลับ

   "ไรวะ นั่งกลางสิดี จะได้อยู่ในความดูแลของกู"

   "พอเหอะ เรื่องมากนักกูจะไปนั่งกับซันนะ"

   ผมแอบมองไปทางต้อง มันไม่มีปฎิกริยาอะไร

   "เอออ ก็ได้ว้า"

   พูดจบ เจเดินมากอดคอผม

   “วันนี้เอาอีกมั้ย" เสียงมาพร้อมกลิ่นบุหรี่

   มันกระซิบ

   ผมเบี่ยงตัวออก นี่มันขนาดกระซิบกลางวงเลยเหรอ

   เสียงออดดังขึ้น แต่ไม่ดังไปกว่าเสียงเก้าอี้ถูกดันครืดออกไป ไอ้ต้องเอาอีกแล้ว

   ผมต้องห้ามให้ต้องกลับลงไปนั่ง

   ตั้งแต่วันนั้น ไอ้ต้องกับไอ้เจ ไม่ค่อยคุยกันอีกเลย ถ้าจะว่ามันทะเลาะกันก็คงไม่ผิด ไอ้แมคดูแล้วท่าทางจะหนักใจน่าดู ทำไงได้อะนะ คนเคยอยู่ด้วยกันสามคน จู่ๆต้องมามีปัญหากัน

    ไอ้แมคมันถอนหายใจบ่อยๆ ผมเองก็ไม่เคยคุยกับมันเรื่องนี้จริงจังซักที ไว้วันไหนจะหาทางคุยกับมัน

   พอเห็นพวกมันเป็นแบบนี้ ผมก็พลอยรู้สึกผิด ปล่อยไว้แบบนี้ต่อไปจะมีปัญหามั้ย ไอ้เจนี่แหละ ตัวปัญหาเลย

   กับไอ้เจ เย็นนี้เหรอ

   ไอ้อยากก็อยากอะนะ ไม่ทำหลายวันแล้ว

   ผมยอมรับว่า เรื่องอย่างว่าไอ้เจเนี่ยจัดว่าไม่เบาเหมือนกัน ขนาดผมเป็นผู้ชายด้วยนะ ครั้งแรกๆมันดูไม่เป็นงานเอาเลย

   ดูออกว่า แรกๆมันเป็นทำเหมือนกล้าๆกลัว แต่ด้วยอารมณ์อยาก จึงทำให้มันเป็นไปอย่างนั้น สัญชาตญาณละมั้ง ผู้ชายทุกคนเองก็คงจะมีความโหยหาในเรื่องอย่างว่าอยู่แน่ๆ ถึงไม่เป็นสุดท้ายมันก็เป็น

   ตอนนี้ทุกคนมากันครบแล้ว เรื่องที่นั่งก็คงจะต้องจบ เข็มยาวมาถึงเลข 12 แปลว่า 8 โมงตรงแล้ว จะเข้าเรียนวิชาแรก ของม.5 ไม่ใช่วิชาสิ คงเป็นการแนะนำตัวครูประจำชั้นเหมือนทุกที ถ้าดูแล้วไม่เคี่ยวมาก พวกผมก็จะสบายทำอะไรได้ตามสะดวก

   เรื่องที่นั่งได้ข้อสรุปว่า ทุกคนนั่งที่เดิม แค่ซันย้ายมาใกล้ต้องอีกหน่อย ตอนนี้ซันนั่งอยู่หน้าต้องแล้ว เปิดมาพวกซอมบี้ยังงงๆผมเลยให้ซันรีบย้ายเลย ใกล้เข้ามาอีก จะได้มีเพื่อนคุยเพื่อมันสองตัวแถวนี้วิญญาณหมาบ้าเข้าสิงขึ้นมา

   เสียงออดดังขึ้น ครูประจำชั้นคนใหม่เดินเข้าห้องมา เป็นผู้หญิงรูปร่างเล็ก บอบบาง ผิวค่อนข้างคล้ำหน่อย ท่าทางใจดี

   "เอาละ ยินดีต้อนรับสู่ ม.5/1 ครูเป็นครูประจำชั้นของพวกเธอ แนะนำตัวก่อนเลย ครูชื่อ ขนิษฐา เดี๋ยวอธิบายเรื่องสำคัญต่อไปนี้จบแล้วถึงจะเช็คชื่อกันสักหน่อย จะได้จำหน้ากันได้"

   "เรื่องแรก ครูอยากให้ทุกคนมที่มีปัญหาอะไร อยากปรึกษาอะไร มาพูดคุยกับครูได้ ไม่ว่าช่วงพัก หรือถ้าอยากเป็นส่วนตัวก็บอกล่วงหน้า หลังเลิกเรียนก็ได้ หรือถ้าไม่กล้าจริงๆให้ส่งจดหมายมา แต่อย่าเก็บเรื่องไว้ พอเป็นปัญหาใหญ่ขึ้นมา จะแก้ไขยาก"

   "สอง ม.5 แล้ว ครูรู้ว่าพวกเธอเองก็โตขึ้นมากจากเด็กม.ต้น ตอนนี้กลางชีวิตของม.ปลายแล้ว มีความรับผิดชอบมากขึ้นแล้ว เรื่องสอบครูก็รู้ว่าทุกคนอยากอ่านหนังสือให้สอบได้ แต่กิจกรรมก็ต้องทำ ต่อไปปีหน้าพวกเธอก็จะเป็นรุ่นพี่ ม.6 โตที่สุดในโรงเรียนแล้ว กีฬาสีพวกเธอจะเป็นหัวเรือใหญ่ ครูจึงอยากให้พวกเธอเรียนรู้เอาไว้ ปีหน้าจะได้ทำได้ ใครที่ไม่อยากร่วมครูก็ห้ามอะไรไม่ได้ ยังไงก็ขอให้คิดว่าเป็นกิจกรรมร่วมกัน เชื่อว่าคงมีหลายคนอยู่ที่อาจจะจบม.5 แล้วไม่ได้ตามไปขึ้นม.6 บางคนอาจจะสอบตรงออกไปก่อน ก็ถือซะว่าเป็นกิจกรรมสุดท้ายที่ได้ทำร่วมกับเพื่อนซะ"

   กิจกรรมสุดท้ายของพวกผมด้วยมั้ยนะ

   “ปีที่แล้วงดกีฬาสีไปเพราะมีเหตุฉุกเฉินบางอย่าง ปีนี้เลยจะจัดให้ใหญ่กว่าทุกที ช่วยๆกันนะ”

   ปีที่แล้วรู้สึก พ่อผอ. เสียรึไงเนี่ย งดงานรื่นเริงไปเลย มันตรงกับช่วงนั้นพอดี

   "แล้วก็เรื่องโดดเรียนไปทำงานกีฬาเนี่ย มีปัญหาทุกปี จะไปก็หาข้ออ้างเนียนๆหน่อยนะ"

   ผมละชอบจริงๆ ครูที่พูดกันตรงๆคุยกันรู้เรื่องเนี่ย งานกีฬาเหรอ คงไม่เละเท่างานวิทย์ละมั้ง กว่าจะหาคนมาทำได้ เคี่ยวเข็นกันแทบตาย เรียนกับซอมบี้นี่นะ

   ว่าแต่ผมจะต้องร่วมมั้ย หางานไรให้ตัวเองดีกว่า

   ไม่อยากไปนั่งร้อนๆร้องเพลงเน่าๆเลย
   
   รู้สึกแปลกๆที่ขา นั่นไง ไอ้เจ เริ่มอีกแล้วมันนั่งเขย่าขา คราวนี้มันไม่เอาขามาซ้อนขาผม แต่มันเอามือวางบนเข่ามัน แล้วพยายามเอามาใกล้ๆขาผม พอเวลาเขย่าทีจะแกล้งลูบเข้าไปในกางเกงผมทีนึง

   นับวันไอ้บ้านี่จะเล่นหนักขึ้นเรื่อยๆ จนผมต้องปัดมือมันออก

   สักเดี๋ยวมันเอาอีกแล้ว คราวนี้มันพยายามเอานิ้วลอดเข้าไปในกางเกงผมผ่านทางขากางเกง แย่ละสิ ของผมก็ตื่นแล้วด้วย พอหันไปมองหน้ามัน แล้วก้มลงมองส่วนล่าง เอ่อ... มันก็ตื่นแบบชัดเจน ไอ้บ้านี่ใครเห็นทำไงวะ

   ผมขยับตัวหลบออกมาด้านข้าง

   "เย็นนี้ห้องวิทย์นะมึง ฉลองเปิดเทอมกัน"

   "เพิ่งกลับไปวันก่อนทำเป็นพูดนะมึง"

   ผมกระซิบเสียงต่ำ ส่งสัญญาณไม่พอใจ

   "มาละกันน่า กูอยากอะ"

   "ไม่ไปได้มะ"

   "ไม่ได้ อย่าลืมดิ กูเป็นเพื่อนคนสำคัญสุดของมึงนะ"

   เพื่อน? เน้นคำนี้จังนะ

   พอละ ผมปัดมือมันออกแล้วนั่งเรียน

   ออด พักเที่ยงดังขึ้น

   "ซันไปด้วยกันป่าว"

   ผมชวน ตั้งแต่เรียนกันมายังไม่เคยไปกินข้าวกลางวันด้วยกันเลย

   "อือ เราไปกับอีกกลุ่มอะ"
   
   “โอเค"

   ซันเดินออกไปกับซอมบี้อีกกลุ่ม

   "เดี๋ยวนี้หาเด็กเพิ่มนะ"

   "อะไรของมึง ไอ้เจ"

   "ป๊าว"

   มันเอาขาเตะตูดผมแล้วเดินไป

   "ต้อง แมค ไปกินกันเหอะ"

   พวกผมเลยเดินขึ้นไปห้องอาหารกัน ช่างหัวไอ้เจ

   วันแรกเปิดเทอมท่าทางจะยังไม่ได้สติดี ผู้คนยังสับสนวุ่นวาย ไม่เหมือนมาโรงเรียนเลย เอะอะโวยวาย ยังกับปิดเทอม มีแค่พวกม.ปลายเท่านั้นเอง ไม่ต้องแย่งที่กันในโรงอาหารละดิ ... เออ งี้ก็คงไม่เจอ ต่อ สินะ

   อาหารมื้อแรกบทสนทนากลับมาเรื่องเรียนแล้ว ทำไมคนถึงได้อยากรีบเข้ามหาลัยกันจังนะ มันสนุกกว่ายังงั้นเหรอ หรือว่ามีดีกว่ยังไงกัน ชีวิตคนเราจะเร่งรีบกันไปไหนนะ

   "เออ นี่แมค มึงว่าห้องเรา ม.6 จะเหลือคนเยอะมั้ยวะ"

   เจหันไปถาม

   "อือ ทุกปีก็หายไปเกือบครึ่งห้องนะ จากสมัยพี่กูน่ะ"

   พอฟังงี้แล้ว ถึงมันจะไม่มีอะไรน่าจดจำ นอกจากมุมเล็กของผมที่อยู่ด้านในสุดของห้อง กับแก๊งเด็กๆสามสี่คน (ถ้านับซันก็คงจะเป็น 5 แล้วละนะ) มันก็อดรู้สึกเบาๆ โหวงๆ ไม่ได้แฮะ บางทีมันก็อดคิดถึงไม่ได้ ห้องที่เคยนั่งกันเต็ม จะเหลือแต่โต๊ะเปล่าๆ เกือบครึ่งห้องเลยเหรอเนี่ย

   ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไป จะมีผมคนเดียวมั้ยที่ยังคิดถึงเรื่องพวกนี้อยู่

   "มึงอะต้อง จะรีบออกไปก่อนป่าว มึงมันเก่งนี่ออกๆไปก็ดีนะ พอตาพวกกูสอบจะได้มีที่ว่างมากขึ้น"

   เจหันไปเหย้าต้อง แรงดีเนอะ

   "ไม่รู้ ดูผลกับมหาลัยก่อน แล้วมึงจะอยู่เกะกะจนม.6 เรอะ"

   ต้องกินไปตอบไป

   "มึงอะเก้า" เจหันมาทางผม

   "หือ กูเหรอ ไม่รุ้ว่ะ ไอ้เจ กูคงไม่ปัญญาหรอก เรียนไปเรื่อยจนเค้าให้กูออกนี่แหละ"

   "งั้นอยู่เป็นเมียกูได้อีกปีดิ"

   หือออ ขอเอาช้อนเคาะกบาลหน่อยเหอะ ยังไม่เลิกอีก หื่นมาจากไหนเนี่ยยย

   "นี่ พอได้แล้ว ม.5 แล้วยังกัดกันอยุ่ได้"

   แมคชักรำคาญ

   “เป็นไรป่าววะแมค” ผมถาม

   "เออ ไม่รุ้วะ คิดเยอะน่า" แมคมันดูอารมณืไม่จอยเลยวันนี้

   "ไปๆๆ กินๆแล้วลงกันดีกว่า" ผมเปลี่ยนเรื่อง

   เจ รีบจ้วงแล้ว มันอ้วนขึ้นจริงๆนะเนี่ย

   บ่ายหลังจากอาหารเที่ยง พวกผมเดินคุยสัพเพเหระ เข้าห้องมาก็เห็นสิ่งนี้อยู่บนกระดาน คงมีรุ่นพี่มาเขียนไว้

   ตำแหน่งที่ต้องการ

   1. ดรัมเมเยอร์ (มันคืออะไรวะ)

   2. นักกีฬา บอล บาส ว่ายน้ำ หรืออื่นๆ

   3. สตาฟเชียร์

   4. ฝ่ายศิลป์

   เสาร์ต้นเดือนหน้าให้มารวมที่สนามกีฬา เพื่อคัดตัว


   ไม่มีฝ่ายนั่งอู้บ้างเหรอ ไม่งั้นจะได้นั่งหลบแดดสบายๆ รุ่นพี่คงเอาไปทำกันเองสินะ

   นักกีฬาเหรอ หึหึ ใครจะลงว่ายน้ำวะ พวกห้องอื่นคงกินขาด บอล กับ บาสก็น่าจะไม่ไหว แต่มันไม่ใช่ห้องผมห้องเดียวนี่ มันต้องไปรวมกับชั้นอื่นด้วย

   หาเรื่องส่งเจลงว่ายน้ำดีกว่า แต่คิดอีกทีถ้าจะส่งเจลงว่ายน้ำ ผมอยากเห็นต้องมากกว่านะ คิดถึงรูปร่างสูงยาวของมันตอนที่มันไปจัดการกับไอ้อ้วนนั่นแล้วก็ได้อารมณ์อยู่

   มันใส่ชุดว่ายน้ำตัวเล็กๆ หุ่นสูงเพรียว โอ้ย ….. กูเป็นบ้าไปแล้ว เข้าห้องน้ำดีมั้ยเนี่ย

   “เฮ้ย ต้องมีงจะลงกีฬาอะไรป่าว” ผมหันไปถามมัน

   “มึงจะบ้าเหรอ กูไม่ลงหรอก”

   “ไม่ต้องถามกูเก้า กูไม่ลง อย่างมากก็ทำฝ่ายศิลป์เหมือนเดิม ปีนี้กูขอ”  แมคชิงตอบก่อน

   “กูว่า กูลงสตาฟเชียร์ดีกว่า จะได้ไประบายอารมณ์ใส่เด็กๆ”

   “นิสัยมึงนะเจ” แมคหันไปว่า

   “แล้วมึงละเก้า” เจ ถามผม

   “ไม่รู้สิ อาจจะไม่ทำไรเลยมั้ง”

   “บนแสตนด์ร้อนนา”

   ดูก่อนถ้างานศิลป์ปีนี้ที่ทำเกี่ยวกับแสตนด์น่าสนใจก็จะทำ แต่ถ้ามันน่าเบื่อรูปแบบซ้ำซากก็คงขอผ่านละ ปีนี้แล้วเป็นอะไรน้า... อ้อ สีเหลือง ทำเป็นอียิปต์ จำได้ว่าตอนนั้นจ้างคนนอกทำ โดนปรับแพ้เลย แสตนด์ออกมาอลังการมาก พ่นควันได้ด้วย สุดท้าย โดนปรับแพ้ฟาวไป

   “งั้นมึงลงว่ายน้ำดี ใครเห็นรุปร่างมึงก็ตะลึงทั้งนั้น”

   “ขอถีบปากมึงหน่อยเหอะ เจ” ปากแม่งหมาจริง

   “มึงเห็นแล้วรึไง” ต้องพูดขึ้นลอยๆ เพราะมันไม่ได้มองหน้าใคร

   “มึงคิดว่าไงละ ของดีนะเว้ย” เจ เอามือไปเขี่ยๆต้อง

   “ก็ดีกว่าอ้วนๆอย่างมืงน่ะแหละเจ” ผมไม่ทนมันแล้ว

   “แหงสิ มึงเห็นแล้วนี่ถึงรู้ดี”

   มันเดินมาเอานิ้วเขี่ยๆเสื้อผม

   มันเป็นบ้าไรของมันวะ

   “มึงอย่าเอาความคิดอุบาทว์ๆ ออกมาอีกได้มั้ย กูเบื่อจะฟังแล้ว”

   แมค กลับมาแล้ว

   ไอ้ห่าเจก็ชอบไปกวนตีนไอ้ต้องนะ แล้วทำไมต้องเอาเรื่องผมมาเป็นประเด็นด้วย ยิ่งทำไอ้ต้องยิ่งไม่ชอบ ไอ้ต้องเองก็ไม่รู้จะไปโมโหตามมันทำไม

   “ต้องถ้ามึงหวงไอ้เก้ามากทำไมไม่ขอมันเป็นแฟนไปเลยวะ”

   มันหันไปมองต้อง

   ก่อนมันเองจะก็หันมายักคิ้วให้ผม

   แล้วยิ้มให้

   ‘มีงรู้เหรอกูคิดอะไร’

        ผมขยับปาก มองหน้าแมคกับต้องสลับกัน

   ไอ้ต้องกลับจ้องหน้าแมคนิ่งๆ

   แล้วหันมามองหน้าผม

   ‘รู้’

        ไอ้ต้องขยับปาก ทำให้คำตอบนี่ผมคงไม่ได้คิดเข้าข้างตัวเองแน่ๆ

   ผมเลยยักคิ้วตอบ

   ไอ้ต้องนั่งหัวเราะแต่ไม่มีเสียงออกมา...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-11-2015 12:16:41 โดย Monet »

ออฟไลน์ Monet

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-0
เสียงพลุกับวงเหล้า : ตอนที่ 2.0 ห้องมืด

หลังจากนั้นมา อีกหลายที ที่ไอ้เจพยายามปลุกอารมณ์ผมขึ้นมาให้ได้ มันใช้ตั้งแต่นิ้วมือ ขา คำพูด เอาตัวเข้าถู สารพัดวิธีที่จะให้ผมทนไม่ได้ แล้วก็มีส่วนร่วมกับมัน

มันไม่ได้ผล   

ทุกครั้งที่ผมปฏิเสธมัน มันจะดูหงุดหงิดอารมณ์เสีย แต่มันก็ไม่ได้มาลงไม้ลงมือกับผมเลยสักครั้ง ในหลายๆ ทีที่ผมรอดตัวไปได้เพราะต้อง มันเลยลงกับต้องซะมากกว่า ไอ้สองคนนั้นมันทะเลาะกันประจำอยู่แล้ว ดัง นั้นถึงมันจะตีกันเพิ่ม ก็คงไม่หนักไปกว่านี้เท่าไร

ต้องก็รับเคราะห์จากความหื่นของไอ้เจไป

มานึกดูทุกวันนี้ผมเห็นเจ เป็น ประเภทแบบเดียวกับบูมไปแล้ว

ตอนนั้น บูม มันก็เป็นคล้ายๆกับเจแบบนี้ ไม่รู้ว่าทำไมมันถึงอยากจะ 'ทำอย่างว่ากับผม' ยิ่งเด็กอย่างนั้นก็ไม่ใช่ ว่าจะทำกันจนเสร็จ จะเรียกว่าอะไรดี เหมือนกับทำให้แต่ละฝ่ายพอจะรู้สึกดีมากกว่า

นิสัยบูมมันก็เป็นแบบนี้อยู่แล้ว เพื่อนร่วมห้องร่วมชั้นมีเยอะแยะ แต่ทำไมมันต้องมาเจาะจงที่ผมด้วย ตอนนั้นที่อยู่ห้องเดียวกัน มันก็พยายามทำยังไงก็ได้ให้เห็นว่ามันเหนือกว่าผม แต่ถ้าพอมีเวลาว่างมันกลับ เปลี่ยนไป

ใช้เวลาที่ลับตาคน เข้าหาเพื่อให้ผมลูบคลำของมัน มันพึงพอใจแค่นั้น ตอนนั้นมันยังขนไม่ขึ้นเลย ของมันก็เล็กจะใช้ทำอะไรได้

ย้อนไป สมัย ม.ต้น ผมเองต้องไปอยู่ห้องบ๊วยที่มีแต่เด็กเกเร ผมเลยเอาตัวรอดด้วยการเป็นหนึ่งในบรรดาพวกนั้นไปซะเลย ยกเว้นเรื่องเรียนที่ทำยังไงดูผลจะออกมาดีกว่าพวกนั้น

บูมเนี่ยอยู่ในกลุ่มเดียวกับผมและคนอื่นอีก 2-3 คน ซึ่งนอกจากกีฬาแล้ว มันไม่มีอะไรโดดเด่นแค่เด็กที่ทำตัวหล่อไปวันๆ

สำหรับม.ต้นที่เพิ่งเริ่มจะเป็นวัยรุ่น ไอ้บูมมันพยายามทำทุกอย่างให้เป็นคนที่เด่นดังให้ได้ เริ่มจากเข้าหาครูประจำชั้น แล้วไปพูดให้ครูประจำ ชั้น ลงโทษผมเสมอๆ (สมัยนั้นครูก็หูโคตรเบา) แล้วไม่รู้ยังไง มันติดใจเรื่องอย่างว่าที่ได้ยินได้ฟังคนอื่นคุยกันมา มันก็เลยมาลงกับผม (ผมเองก็ผิดที่ไปยอมมันเรื่องนี้)

'ครั้งสุดท้ายตอนไหนนะ' ผมต้องนึกอยู่สักหน่อย

อา.. ครั้งสุดท้ายที่ผมยอมมัน คือ ถัดจากนั้นไปอีก 1 ปี รูปร่างมันเปลี่ยนไปแล้ว ท่อนล่างของมันก็โตขึ้น เป็นแบบของผู้ใหญ่ คราวนี้เป็นครั้งแรกที่มันให้ผมใช้มือให้ จนกระทั่ง .. มันเกือบจะเสร็จ

ของผมดันเสร็จไปก่อนนหน้ามัน มันเลยรีบให้ผมทำให้มันบ้าง ความรู้สึกผิดที่มาจากไหนไม่รู้เข้ามาเคาะหัวผม ผมหันหลังกลับสะบัดตัว วิ่งออกจากห้องน้ำไป

ความรู้สึกผมบอกว่า ผู้ชายกับผู้ชายไม่ควรจะมีอะไรกับแบบนี้ ผมกลับขึ้นไปเรียนเหมือนไม่มีอะไร แล้วมันก็คงจะต้องการแก้แค้นผม ด้วยการที่ไปป่าวประกาศกลางห้องเรียนวิชาอะไรสักอย่าง ที่ดันมาสอนการไหว้ แล้วครูให้ผมออกไปทำทีละคนหน้าห้อง

'ครูครับ ผู้หญิงไหว้อย่างนี้เหรอ'

'ทำไมว่าเพื่อนเธอเป็นผู้หญิง'

'ก็มันชอบผู้ชาย ก็ต้องเป็นผู้หญิงสิ'

แล้วเรื่องก็ดังไปทั่วโรงเรียน

มันจบชีวิตม.ต้น ผมด้วยการออกไปบอกว่า ผมเป็นนักเรียนหญิงบ้าเซ็กของโรงเรียน ตั้งแต่นั้นมาก็รู้กันไปทั่วทุกห้อง คนก็ยิ่งเข้ามาหามันเพื่อถามเรื่องราว มันเลยได้ใจ ยิ่งพูดหนักขึ้นๆ

‘เก้า แม่งของใหญ่วะ’

‘แม่งลีลาดีนะเว้ย ชอบทำให้ผู้ชายด้วย’

‘กูได้มาแล้วนะ พวกมึงลองรึยัง’

รู้กันไปทั่วจนถึงหูพวกครู มันเลยยิ่งกระจายกันเข้าไปอีก

“เก้า พักแล้ว หาไรกินป่าว”

ผมสะดุ้ง เสียงต้องเรียกเอาสติผมที่ไปวนเวียนอยู่แถวห้องน้ำกลับมา

“ไม่วะ วันนี้ไม่หิวอะ มึงไปก่อนเลย กูกะรอกินเที่ยงทีเดียว” ต้องออกไปกับแมค

ผมนั่งคิดอะไรต่อไปอีกหน่อย

พี ไม่สิ เจ มันเคยเป็นคนที่ช่วยเหลือผมมาตลอด ตั้งแต่เข้าม.4 มา ไม่รู้ว่ามันคิดเอาไว้แล้วหรือไม่ แต่ถ้าวันนั้นมันไม่ทักผมก่อน ผมก็คงไม่ทักใครแล้วก็ไม่ได้คุยกับใครอีกเลย ที่จริงผมตั้งใจจะไม่ยุ่งกับใครเลยต่างหากคงเป็นเพราะความคุ้นหน้าของมันที่ทำให้ผมอยากพูดคุยด้วย

แล้วก็กลายเป็นเพื่อนกัน

เดี๋ยวนี้มันก็ดูแปลกไป ผมไม่รู้ว่ามันมีเรื่องอะไร หลายๆครั้งที่โทรเข้าไปหา มันมักจะปิดโทรศัพท์ ช่วงหลังๆนี้ กลิ่นบุหรี่จากตัวมันมาแทนที่กลิ่นตัวที่ผมจดจำและได้กลิ่นเป็นประจำไปแล้ว

แฟนมันที่มันเคยแอบไปหาบ่อยๆ จนพวกแมคยังแซวตอนนี้หายไปแล้ว มันไม่ได้พูดให้ฟังอีกเลยว่า ไปทำไรกันมาบ้าง อันที่จริงมันก็ซักพักนึงแล้วที่มันไม่พูดถึงและก็ไม่มีโทรศัพท์มาให้เห็น

น่าจะเป็นช่วงเดียวกับที่มันเริ่มพาผมไปตามที่ต่างๆในโรงเรียน ยิ่งทำเหมือนมันก็ยิ่งจะติดใจ จนกระทั่งผมอดคิดไม่ได้ว่า 'หรือว่ามันจะเปลี่ยนใจมาชอบผู้ชายแล้วจริงๆ' คืนนั้นถ้ามันไม่เมาแล้วพูดออกมา ผมก็คงจะคิดว่า มันเป็นเหมือนแฟนผู้ชายของผมไปแล้ว

เมื่อผมรู้ ผมก็ยิ่งจะหาทางเลี่ยงออกจากมัน เพื่อตัวมันและตัวผมเอง ไม่ให้มันถลำลึกลงไปกว่านี้

“เฮ้ย ไม่ไปกินข้าวเหรอ”

กลิ่นน้ำหอมฉุนกึก

“มึง ฉีดเยอะไปแล้ว เดี๋ยวครูก็ว่าหรอก”

ไอ้เจ ขยับเสื้อไปมา ยกขึ้นมาดม

“ทำไงได้”

ผมมองขึ้นไป ไอ้เจยืนอยู่ข้างโต๊ะผม เอาเป้านูนดันขึ้น มาวางบนโต๊ะ

“งั้นไปห้องน้ำกันมั้ย”

ัมันถามขึ้นเมื่อเห็นว่าผมจ้องลงไปที่เป้าของมัน

“มึง กูไม่อยากวะ”

แน่นอน มันไม่ชวนไปฉี่แน่ๆ

“อะไรวะ”

เสียงมันเกินคำว่าอารมณ์เสียไปแล้ว หน้าตาเริ่มดูไม่สบอารมณ์

ผมแหงนมองหน้ามัน มันทำหน้าอย่างกับว่า ผมไปทำเรื่องอะไรไม่ดีมา มันทั้งเสียใจแล้วก็รู้สึก เหมือนโดนคนขัดใจ ปนๆกัน เด็กที่โดนแย่งของเล่นจะเป็นแบบนี้มั้ยนะ

มันเอื้อมมือมาดึงแขนผม

“เฮ้ย”

ผมสะบัด มันยังไม่หยุดดึง

ผมออกเดินไปหน้าห้อง

“ต้อง มีไรกินมั่งวะ กูหิว”

ผมตะโกนออกไปหาร่างสูง ที่กำลังเดินมา

คนที่ผมรู้สึกพึ่งได้ที่สุดในยามนี้

“วิ่งหน้าตั้ง มีไรวะ”

ไอ้ต้องคว้าตัวผมเอาไว้ มันเหวี่ยงตัวผมเข้าไปใกล้จนเกือบจะเป็นกอด

“กูหิวมึง พากูไปกินหน่อย”

ผมพยายามทำหน้าอ้อนมัน

“กินไรวะ กูเหรอ” ต้องเอานิ้วชี้หน้าตัวเอง

“ไอ้บ้า”

ผมคว้าแขนมันแล้วออกเดินไปข้างล่าง

ทิ้งเจไว้เบื้องหลัง

“เป็นไรไป”

“พากูไปไหนก็ได้ ไป”

“ปะ ห้องกู” ไอ้บ้าต้องก็พูดเล่นอยู่ได้

เจไม่ได้ตามมา ที่จริงแล้วไม่ได้ไปไหนเพราะว่ามันจะหมดเวลาพักอยู่แล้ว เดินลงไปตอนนี้ก็ไม่ทัน ผมกับต้องก็เลยเดินวนเวียนไปมา อยู่แถวชั้น 2 แล้วกลับห้องเรียน

มันก็คงสงสัย แต่ผมไม่อยากเล่าอะไรให้มันฟัง ไม่ควรจะเล่าอะไรให้มันฟังทั้งนั้น ผมไม่อยากเป็นไอ้บูมคนที่ 2 คนปากหมาอย่างมันมีในรร.นี้คนเดียวก็พอแล้ว

ผมได้แต่ทนนั่งเรียนทำเป็นไม่สนใจไป เมื่อถึงพักเบรคช่วงบ่าย

“เก้า มีคนมาหามึงแน่ะ”

เด็กห้องอื่น

“ครูให้มึงลงไปห้องวิทย์น่ะ เค้าถามเรื่องการบ้าน มึงไปลอกใครมา”

เฮ้ย มันก็ลอกกันทั้งนั้นป่าววะ ทำไมเรียกกูคนเดียวละ

วันซวยอะไรวะเนี่ย

'โดนด่าแน่กู'

ผมเดินลงบันไดไปชั้นหนึ่ง ในใจก็คิดหาคำแก้ตัวเอาไว้ด้วย จะบอกว่ามันลอกกันทั้งห้องดีมั้ยหรือจะอ้างไปเลยว่าต้นฉบับมาจากใคร จะได้ชิบหายกันให้หมด ไหนๆวันนี้มันก็เฮงซวยแล้ว เพิ่มเข้าไปอีกจะเป็นอะไรไป

ตอนนี้พักบ่าย คนเริ่มทะยอยออกมาเดินหาขนมกินกัน โดนด่าต่อหน้าประชาชีแน่ๆ

“เก้า มานี่ก่อน”

เสียงคุ้นๆ

“เฮ้ย มึงมาทำเหี้ยไรตรงนี้วะ ครูเรียกกูไปด่าอยู่ มีไรไว้ทีหลัง”

“เออน่ามาเหอะ”

ผมสู้แรงมันไม่ไหว

“เฮ้ย เหี้ยมืด”

มันผลักหลังผมเข้าไปในห้องที่มืดสนิท พอสายตาเริ่มชินกับความืดได้สักพัก ก็เริ่มเห็นแสงที่ลอดเข้า มาทางหน้าต่าง นี่มันหลังเวทีห้องประชุมใหญ่นี่

“เจ มึงทำห่าไร”

ไม่มีคำตอบ มือเย็นๆ ชื้นเหงื่อของมันค่อยลูบผ่านต้นขาผม ล้วงเข้าไปในกางเกง ตอนนี้มือนั้นวนเล่นอยู่แถวๆส่วนปลายแท่งที่ยังไม่ตื่นเต็มที่ มีเพียงกางเกงชั้นในเท่านั้นที่กั้นอยู่

“มึง ครูเรียกไง”

ผมผลักมันออก

“กูนี่แหละเรียก”

“สัส มึงหลอกกูเหรอ”

ผมอยากรู้ว่ามันจะทำหน้ายังไง แต่ในความืดแบบนี้ช่างสังเกตุได้ยาก

“ไม่หลอกมึงจะมาเหรอ”

ผมว่าไอ้เจมันชักจะเลยเถิดไปแล้วนะ ผมไม่ใช่เมียมันนะ

ผมพยายามดันมือมันกลับไป แต่ไม่เป็นผล คราวนี้มันถาโถมมาที่คอเริ่มจากประทับรอยจูบเบาๆที่ ซอกคอ ไล่ไปถึงหลังหู ลิ้นเปียกชื้นนิดๆ ได้ปลุกอารมณ์ในตัวผมขึ้นมา จริงๆอารมณ์มันก็มีมาตั้งแต่เช้าแล้ว

“อา...”

ผมกำลังเคลิ้มได้ที่ การกระทำทั้งหมดก็หยุด

ผมสับสนกับสิ่งที่เกิดขึ้น ขณะเดียวกันท่อนล่างก็แทบจะชี้ทะลุออกมาจากกางเกง อะไรบางอย่างเปียกลื่นที่กางเกงในผม แสดงว่าของผม มันถึงจุดที่ต้องการเต็มที่แล้วสินะ ถึงได้เริ่มมีน้ำออกมา

ไอ้คนทำถอยห่างไป

'อะไรของมันวะ'

เงาดำๆวูบไหวเร็วๆ

คราวนี้มันเข้ามาใหม่ ผมเห็นร่างนั้นเลือนลาง ร่างขาวๆโชว์ให้เห็นจางๆตั้งแต่ตัวจนถึงขา

เฮ้ย พอผมมองดีๆ มันถอดเสื้อผ้าออกหมดเลย ผมทำตาโต

มันถาโถมเข้ามา

การจู่โจมครั้งที่สองกำลังเริ่ม

มันปลดเข็มขัดผมออกอย่างรวดเร็ว ใช้มือรูดลงทีเดียวไปทั้งกางเกงและกางเกงใน เหลือแต่ส่วนนั้นที่ชี้หน้ามันอยู่ พอเจลูบคลำส่วนนั้นของผมมันก็ตอบสนองด้วยการปล่อยน้ำลื่นๆเหนียวๆออกมา

มันทำเสียงได้ใจ

“อยากแล้วนี่"

เจ เอามือสาวขึ้นลงอย่างรวดเร็ว

“ช้าๆดิวะ”

มือมันถึงยอมแผ่วลงบ้าง แต่ยังคงวนเวียนเล่นอยู่แถวส่วนนั้น ส่วนที่ให้ความรู้สึกที่สุดของผม ไอ้เจมันรู้ว่าผมชอบตรงไหน
ปากมันก็ลามเลียจากคอลงมาถึงซอกอก ท้อง ข้ามไปที่ต้นขา มันจับผมหันหลัง

แล้วเรื่มไล่ใหม่จากหลังลงมาที่เอว แล้วกัดก้นผมทีนึง มันเริ่มพยายามจะเอามือมาอ้าก้นผมออก

'ไม่'

ไม่มีทางแล้วก็ไม่ใช่ที่นี่ด้วย ผมขยับตัวเดินขึ้นไปข้างหน้า

มันดันตาม แต่ไม่ใช่นิ้ว เอาตรงนั้นกระแทกเข้าก้นผมอย่างจัง

ยังครับ มันไม่ได้เข้าง่ายๆ

ถึงยังงั้นเจมันก็ไม่หยุด โยกเข้าออกอยู่อย่างนั้น ทำเหมือนกับว่ามันจะทะลุเข้าไปได้ มือมันก็โอบเอว ผมไว้ไม่ยอมปล่อย เสียงหายใจหอบไม่เป็นจังหวะ เข้ามาที่ข้างหูเป็นช่วง

“เดี๋ยวออดดังแล้วนะมึง”

มันค่อยๆเอามือลูบหัวผม (หัวจริงๆ) ลูบไล้อยู่พักนึง มันเริ่มออกแรงกดลงหัวผมให้ก้มลงไป มันอยากให้ทำแบบนี้สินะ ทำไงได้ มาถึงขั้นนี้แล้ว ก็ได้แต่ก้มหัวอ้าปากละนะ

เริ่มจากขยับขึ้นลงช้า เสียงเจ เริ่มเปลี่ยนไป จากที่ผมต้องขยับเอง มันเป็นฝ่ายขยับเข้าออกเร็วขึ้นๆ

มันหยุดส่ายเอวแล้วดึงหัวผมขึ้นมา จากนั้นเริ่มไซร้ที่ซอกคอ หู ลามลงมาที่หน้าอก มันพยายามใช้ มือ บีบเค้น เนื้อขึ้นมาแล้วละเลงลิ้น

ผมไม่มีนม!!!

วิธีนี้ที่ใช้ทำกับผู้หญิง

ตอนนี้ตัวผมชื้นไปด้วยน้ำลายเจ แล้วก็กลิ่นบุหรี่จากมัน มันไปแอบสูบที่ไหนมา

“เจ... มึงว่า ผู้ชายมันทำกันยังงี้ มันเรียกว่าอะไรวะ”

ความกล้าที่รวมมาเพื่อพูดประโยคปัญญาอ่อนนี้

“... คู่ขาไงมึง มึงคงไม่ใช่เกย์จริงๆหรอกนะ” มันหัวเราะ

คำพูดนี้ตอกย้ำเข้าไปอีก เหมือนเอาตะปูทิ่มเข้ามากลางหัว

“อือ ป่าว” ผมตอบไป

มันยังวนรอบหน้าอกผมไม่ยอมหยุด

“ยังไงผู้ชายมันก็เป็นแฟนกันไม่ได้อยู่แล้ว”

ใช่ มึงพูดถูก

มันดูหยุดนิดนึง ท่าทีลังเลแปลกๆ

"มึงจะเป็นเกย์เหรอเก้า กูว่าคิดดีๆนะ เรื่องอย่างว่าก็เรื่องอย่างว่า แต่ถ้ามึงชอบด้านนี้จริงๆกูรับไม่ได้วะ"

ความอยากผมแทบจะหดหายทันที ถ้าไม่ใช่มือมันยังจับรูดรั้งไว้

กับผม เจมันคงคิดว่าเป็นแค่เรื่องอย่างว่า บ่อยๆเข้าผมเริ่มชินกับมันแล้วก็ยอมรับในตัวผม วันนี้ในเมื่อมันกล้ายอมรับว่าไม่มีอะไรเกินเลยไปนอกจากเรื่องเซ็ก

ผมก็กล้ารับความรู้สึกตัวเองตรงๆ ความรู้สึกที่ผมคิดว่าผมลังเลมาตลอด มันอาจจะแค่ที่ผ่านมาผมไม่ยอมรับ ผมแยกไม่ได้ว่า เพื่อน แฟน คนรัก คู่ขา เซ็ก มันต่างกันยังไง

'ผมก็ไม่ได้ชอบมัน'

ตอนนี้ผมแน่ใจ

'แค่คู่ขาสินะ'

“จะหมดเวลาแล้ว” ผมบอก

ผมเร่งทำให้มัน ขยับหัวขึ้นลงเร็วๆ

มันใช้มือรีบจัดการให้ผมอย่างเร็วไปด้วย พร้อมๆกับเอามือผมไปช่วยมัน ผมทำให้มันทั้งมือและปาก

เราขยับรัวของกันและกัน เร็วขึ้น แน่นขึ้น

ไม่นาน ส่วนนั้นแข็งเกร็งร้อนผ่าว และน้ำลื่นๆ ไหลเยิ้มจนแทบละล้นมือผม เสียงเจที่เปล่งออกมาเบาๆอยู่ข้างหู เสียงมันสั่นจนผมแทบฟังไม่ออกว่ามันพูดอะไร

“เก้า ลึกลงมาหน่อย” ผมทำตามอย่างว่าง่าย

มันใกล้จะจบแล้ว

ตัวเจแข็งเกร็ง ส่วนนั้นตึงแน่น มือเคลื่อนไหวเร็ว เล่นเอาผมเจ็บปากเลย เอาตัวขึ้นดีกว่า มันคงใกล้แล้ว

มันกดหัวผมต่อไป

แย่ละ ส่วนนั้นกระตุกอยู่ในปากผม ผมสะบัดหัวออก แต่ไม่ทัน เลอะเต็มหน้าผมไปหมด บางส่วนพุ่งเข้าไปในปาก รสชาติฝาดแปลกๆจนต้องรีบคายออก

ในห้องประชุมที่มืด และเงียบนี้ ไม่รู้ว่าใครจะได้ยินมั้ย เสียงตอนที่เจเสร็จนั้นมันฟังชัดมาก มันครางกระเส่าราวกับไม่ได้ทำมานานเป็นเดือน

ไม่รู้เลยว่าน้ำขาวๆของมันจะเลอะไปถึงไหนบ้าง แต่ที่หน้าและผมของผมรู้สึกอุ่นๆ หนืดๆไปหมด

"ผ้าเช็ดหน้ามีมั้ย” เจถามเสียงเหนื่อยหอบ

“มึงเคยเห็นกูใช้มั้ยละ”

'จะออกไปยังไงละเนี่ย'

“แล้วของมึงละเก้า”

มือเจยังพยายามขยับอยู่ แต่มันเหมือนหมดแรงจะทำให้อีกฝ่ายแล้ว มันขยับช้าลงจนแทบจะเป็นกำนิ่งแทน ปล่อยให้น้ำใสๆเหนียวละเลงเลอะมือมันไว้อย่างนั้น

“ไม่เป็นไร ช่างเหอะ”

เราสองคนจึงรีบแต่งตัวเท่าที่ความมืดจะอำนวย ชั้นนี้ยังไงคนก็น้อย เสี่ยงดวงเอาละกันวะ ออกไปจะเจอใครหรือไม่ ขอให้ไม่ใช่ครูก็แล้วกัน ไม่งั้นดังแน่

เจ แต่งตัวเสร็จคนแรก เห็นแวบๆเป็นเงาดำๆ ว่ามันเอามือไปลูบตามกำแพง

เช็ดมือกันยังงี้เลย

ส่วนผมไม่รู้จะเอาไปป้ายตรงไหน เลอะไปหมดทั้งมือ ปาก หน้า ผม ที่ก้นผมยังมีน้ำอะไรลื่นๆของมัน ถึงเสื้อผ้าจะใส่เสร็จแล้วแต่มันก็ไม่เหมือนตอนก่อนถอด มันรู้สึกไม่เข้าที่

แสงลอดเข้ามา

มันเปิดประตู ช้าๆ เงียบๆ ค่อยๆโผล่หน้าออกไปมอง ซ้ายขวา

ผมกำลังเดินตามออกไป มือมันดันที่ท้องให้ผมถอยกลับเข้าไปในห้องมืด

เห็นเงาคนแรกเดินเร็วๆผ่านไป ผมมองไม่ทัน ผมผงะถอยกลับเข้าไป แต่ไม่ทันได้ถอยเข้าไปดีคนที่สองที่เดินผ่านมาหันมามองทางผมเต็มๆ ไม่ทันแล้ว

สายตาประสานกัน รู้แน่ว่าต่างฝ่ายต่างเห็นกันแล้ว

“หึ... เลอะหัวมึงแน่ะ”

เสียงที่ผมรู้จักดี ถึงจะไม่ได้ยินมานานแล้ว แล้วก็ไม่อยากได้ยินด้วย … สัสบูม

เจ ดึงตัวผมออกจากหลังห้องประชุมแล้ว รีบกอดคอเดินพาผมลงไปห้องน้ำชั้นล่างอย่างรวดเร็ว ปล่อยไอ้บูมไว้อย่างนั้น มันจะพูดอะไรไล่หลังมาผมก็ไม่สนใจแล้ว เจทำท่ากอดคอแนบสนิทก้มหัวเข้ามาใกล้ เพื่อบังเอาไว้ ไม่ให้คนอื่นสังเกตุ

พอเข้าห้องน้ำไปได้ ที่หน้ามันเลอะนิดหน่อยดูไม่ออก หน้าผมตอนนี้ที่ขาวอยุ่แล้ว ยิ่งซีดลงไปอีก ดีแล้ว มันเลยดูออกยาก แต่ที่หัวผมนี่สิ มันมีอะไรขาวๆเลอะอยู่ที่ปลายผม

ความคิดมันกำลังเตลิด คนทำผิดแล้วโดนจับได้

คนที่เห็นเหตุการณ์อย่างบูมก็คงเดาได้ว่ามันคืออะไร ตอนนี้ทำอะไรไม่ได้แล้วนอกจากล้างออก มือสั่นๆค่อยๆลูบผมที่ละปื้น ดึงน้ำขาวๆออก

เสียงออดดังขึ้น คาบสุดท้ายมาแล้ว

“เฮ้ย เก้า คือ กู...”

คำพูดหดหายไป

“ล้างออกหมดรึยัง”

มันเปลี่ยนประโยคใหม่

“อือ หมดแล้ว”

มันเดินเข้ามาเอามือปัดๆผมของผมให้เข้าที่ แล้วถาเข้ามากอด

“กูขอโทษ”

“ช่างมันเหอะ”

ผมดันมันออกจากตัว ชี้ให้มันขึ้นเรียนไปก่อน ส่วนผมได้แต่ขยี้ผมให้หมาดๆแล้วหันหลังเดินออกจากห้องน้ำตามมันไป

บันไดลงชั้น 3 มันแค่ชั้นเดียว มันชั้นละ 13 ขั้นรวมชานพักเป็น 27 ขั้น จากชั้น 3 ไปชั้น 5 ไม่น่าเกิน 100 แต่ทำไมผมนับได้รวมกันมี 300 ขั้นบันได ทุกครั้งที่ยกขาขึ้น แล้ววางลงบนขั้นแต่ละขั้น มันเบาหวิวอย่างบอกไม่ถูก หลังผมเปียกชื้น อาจจะรู้สึกไปเอง เพราะเสื้อยังแห้ง

เมื่อผมหันหลังกลับไปก็เจอทางเข้าห้องประชุมเปล่าที่ตอนนี้ถูกปิดไว้ ไม่มีคนมาใช้  ไม่มีวี่แววของไอ้เจ มันคงจะขึ้นอีกบันไดนึงเพื่อไม่ให้คนเห็นว่าเข้ามาพร้อมกัน จากทางเดียวกัน

เด็กที่กำลังจะเข้าเรียนสาย คงจะไปพักที่สวนฝั่งตึกประถมมา รีบวิ่งขึ้นบันไดผ่านผมไปอย่างรวดเร็ว ผมหันหน้าหลบ

สูดหายใจเข้าลึก

‘ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว สำหรับผมและเจ’

ถึงที่ผ่านมามันจะดีกับผมมากแค่ไหน

แต่... ต่อไปนี้ คงต้องหยุดแล้ว

----------------------------------

อันนี้เคยหลุดสปอยส์ไปเพราะหยิบผิดมาลง ได้ทีเลยแก้ไขใหม่ซะด้วยเลย

ตอนที่ 1 ต้องมีไรผิดแน่ๆ ทำไมมันลงวันที่ 11/11 รู้สึกเหมือนลงมานานก่อนหน้านั้นมาก

หรือจะเบลอแล้ว... :hao4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-11-2015 12:24:28 โดย Monet »

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
มีอารมณ์ ชมสวาท ชายฟาดเพื่อน
ไม่เลอะเลือน ก็ต้องบ้า หาสวรรค์
ไม่ใช่เกย์ ไม่ชอบชาย คือไรกัน
ผู้หญิงมี นับหมื่นพัน ให้ฟันฟรี

แต่นี่เมิง กลับหมกมุ่น วุ่นกับเจี๊ยว
ชอบหาเสียว เจี๊ยวเพื่อนชาย ส่ายเสียดสี
ไม่รังเกียจ ชอบเบียดกาย ง่ายดี๊ดี
เรื่องแบบนี้ น่ะไอ่เจ เกย์อย่างเดียว

เมิงสับสนอะไรกับชีวิตหรือเปล่า..ไอ่เจ
กร๊ากกกกกกก

+1 ให้อีก
อยากอ่านทุกวันเลย
ติดหนึบ

ออฟไลน์ Monet

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-0
เสียงพลุกับวงเหล้า : ตอนที่ 3.0 ฝัน

หลังจากเหตุการณ์นั้นไป ท่าทีของไอ้เจดูจะสงบลงจนผมเองก็ยังต้องสงสัย ถึงสภาพภายนอกมันยังดุร่าเริงเหมือนปกติ แต่ว่าระยะห่างของเราทั้ง 2 มันเป็นช่องว่างที่แตกร้าวรู้สึกได้ รอยห่างที่เริ่มกว้างขึ้นตามความอยากของมัน ดูแล้วท่าทางจะถมให้เต็มคงไม่ง่าย

ต้องอาศัยความร่วมมือของผมกับมัน อ้อ แล้วก็ฮอโมนวัยหนุ่มด้วย

แน่นอนว่ามันไม่กล้าเข้ามาถึงเนื้อตัวผมอีกเลย จากที่เคยนั่งเขย่าขาถี่แๆ แล้วเอาขาผมไปพาดราวกับอุปกรณ์อย่างหนึ่งเพื่อความรื่นเริงของมัน จริงๆมันก็ทำให้ผมแอบแปล๊บขึ้นมาไม่ได้

มือที่้เคยพาดคอกับขาโตๆของมัน กระเถิบหายไปทางแมคหมด

ที่ว่างระหว่างผมกับมันเริ่มกลายเป็นรูปธรรมมากขึ้นเมื่อมันถอยออกไปทางไอ้แมค ช่องว่างดูน่าสบายที่เกิดจากความอึดอัดของพวกผม

บางทีก็กว้างจนไอ้แมคต้องถาม

"เป็นเหี้ยอะไรเนี่ย นั่งเบียดมาทางกูจัง"

ไอ้เจได้แต่ขำ

ผมเท่านั้นที่รู้ว่าทำไม

เจไม่เคยจะออกปากเล่าถึงเรื่องของนุ่นให้ผมได้ยิน จะเข้าไปถามก็ดูแปลกๆอยู่ มันรู้สึกพิกลเหมือนผมเป็นเมียน้อยมันแล้วไปแอบถามถึงเมียหลวง ในความเป็นจริงมันห่างไกลกันกว่านั้นมาก แฟนมันที่เลิกลากันไปไม่ได้ช่วยให้ผมรู้สึกดี

คนสำคัญของผม มันจบคำนิยามไปลงอยู่ที่คำว่าเพื่อน ไม่ไปไกลกว่านั้น

มันก็ถือว่าแฟร์ดี ผมที่เบนความสนใจจากต้องมาหาเจ ในเมื่อผมกับต้องเป็นอะไรกันไม่ได้ นั่นก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ชัดเจน

ทำไมเรื่องของพ่อกับแม่ผมไม่ชัดเจนกันอย่างนี้บ้างนะ

ที่ผ่านมาเรารู้สึกสนุกด้วยกันมาตลอด มันก็เป็นอย่างนั้นแหละนะ คิดอีกทีมันก็เหมือนผมไปเอาเปรียบมัน เพราะนอกจากจะไม่เคยช่วยอะไรมันได้แล้ว ยังต้องให้มันคอยมาเป็นเพื่อนผมอีก

พอ!!! ... ไม่มีอะไรดีขึ้น

เอาเป็นว่า มันรู้ตัว ผมก็รู้ตัว

ตอนนี้นักเรียนม.ปลาย 2 คนที่ทำผิดในเรื่องอย่างว่าต่อกันในโรงเรียนแห่งนี้กำลังกลุ้มใจเพราะผลของการกระทำนั้นมันจะค่อยๆย้อนกลับเข้ามาหาตัวเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ เวลาเรียนแล้วลืมเอาหนังสือมา ต้องคอยก้มหน้าหลบๆซ่อนๆ ระทึกใจไปด้วยว่าจะโดนครูเรียกออกไปตอนทำโทษตอนไหน

ผมมันขี้ลืมเป็นประจำอยู่แล้ว กระเป๋านักเรียนบางจ๋อยนั้นไม่ค่อยจะมีคล้ายๆกับสติของผมที่เวลาโดนเจมันล่วงละเมิดจนเกิดอารมณ์แล้วมักจะหยุดไม่อยู่

อารมณ์อยาก เอ่อ เงี่ยนสิ มันพาไปไกลไหนต่อไหน ผลที่ตามมาก็นี่ยังไงละั มีคนจับได้จนได้

บูม คนที่เห็นก็ไม่ใช่คนที่ผมอยากจะคุยด้วย ป่านนี้มันจะเริ่มเอาไปกระจายข่าวแล้วหรือยังนะ จะเดินเข้าไปถามมันซะเลยดีมั้ย

"เฮ้ย วันนั้นมึงเห็นอะไรวะ"

"เฮ้ย มันไม่ใช่อย่างที่คิดนะ"

ผมว่ามันดูปัญญาอ่อนสิ้นดี


นิสัยบูมที่ผมรู้จักมันไม่ได้น่าคบหาเดินเข้าไปพูดคุยด้วยเลย อารมณ์เหวี่ยงยิ่งกว่าไอ้ต้อง ขึ้นลงแบบเดาไม่ถูก ไอ้บ้านี่วันหนึ่งพูดอย่าง อีกวันทำอย่าง ตัวเตี้ยๆตันๆของมัน ทำตัวเหมือนเป็นเด็กมีปม คิดว่าหล่อ เท่กว่าคนอื่น เหนือกว่า แค่ม.ต้นปีเดียวผมก็นับไม่ถ้วนแล้วว่าโดนอะไรไปบ้าง

ชีวิตม.ต้น...

เช้า

"สัส เก้า ไอ้ตุ๊ด ไปไกลๆกูเลย"

บ่าย

"เก้า .. จับKกูหน่อยดิ"


ตอนนั้นมันก็เหมือนกับตอนนี้ ไม่รู้จักจำ ไอ้เก้า

สุดท้ายผมก็ต้องมานั่งระแวงกับสิ่งที่ทำลงไป ถ้าบูมมันไม่เอาไปพูดก็ถือว่าโชคดี

ที่ผมห่วงที่สุดคือ พวกไอ้ต้องมากกว่า เรื่องถึงห้องพักครูนี่ พ่อแม่คงเอาผมตายที่บ้าน แต่ยังไงมันก็ไม่ได้ไปทำให้ใครเดือดร้อน พวกแมค ซัน ความรู้สึกของพวกมันนั่นแหละที่จะเปลี่ยนไป แล้วผมจะเดือดร้อนของจริง

ไอ้เจมันพยายามที่จะแหย่ผมบ้างบางครั้ง ทำให้ดูเป็นปกติ ไม่อยากให้ผมคิดมาก แต่มันก็เพียงแค่นั้น

"ไม่เป็นไรหรอกมึง ยังไงมันคงเล่นกูแน่ๆ"

"คิดมาก ไม่หรอก"

นั่นคือประโยคที่เจบอกผมบ่อยๆระยะหลังนี้


เมื่อผมไม่ได้มีโอกาสเล่นกับแบบถึงเนื้อถึงตัวกับไอ้เจแล้ว ผมจึงเอาเวลาไปหาไอ้ต้องมากขึ้น ในเมื่อผู้ชายมันเป็นแฟนกันไม่ได้ ต้องเองก็เป็นผู้ชายเหมือนกัน อยู่กับมันก็ดี จะได้ไม่มีปัญหาอะไร ลำบากตรงเก็บความรู้สึกสักหน่อยเท่านั้น

ไอ้บ้าต้องนี่มันจะเข้าอะไรกันวะ ทำไมมันมานั่งวาดรูปเล่นอยู่ละเนี่ย ลายเส้นแบบพวกเด็กเตคนี่นา

"หัดไว้จีบสาวเหรอจ๊ะพี่ต้อง" ไอ้เจ ก้มมองรูปที่ต้องวาด

"ลองเล่นๆ เห็นเพื่อนกูที่เรียนพิเศษมันหัดวาดอยู่"

"นี่ไม่ใช่งานเตคละนะ มันเป็นพวกมันนะป่าว" แมคชะโงกหน้ามาดู

เออวะ ไอ้แมคมันจะเข้าถาปัตนี่

"เก้า มึงวาดเป็นมั้ย" ต้องหันมาทางผม

"นิดหน่อย กูชอบวาดรุปก็เลยลองๆหัดบ้าง ปิดเทอมก็ไปเรียนมานิดนึง แต่ดูๆแล้วอาจจะไม่เวิร์คเท่าไรวะ"

"มึงอยากเข้าปะละ ไว้มาเรียนกับพวกกูดิ กุว่าจะเข็นไอ้ต่อมันเข้าอยู่"

ให้ผมไปเรียนกับต่อเนี่ยนะ เด็กไปรึเปล่า จะรีบกันไปไหน

"แล้วต่อจะเข้าอะไรละ"

"เออ นั่นดิ ปีนี้มันม. 3 แล้วนี่หว่า ไว้กลับไปถามมันอีกทีว่ามันชอบอะไร"

อ้าว มึงไม่รู้แล้วมาชวนกูไปเรียนทำซากอะไรละ

แล้วผมละ ... จะไปด้านไหนกัน

"ต้่อง มึงบ้าป่าวนั่น" แมคพูดขึ้น

"ใช่ๆๆๆๆๆ มันอะบ้า ตัวจะเข้าเสดสาดยังมีเวลามานั่งวาดรุปเล่นเพื่อติวน้องที่ไม่รุ้จะเรียนอะไรอีก เสือกเรื่องมึงด้วยเก้า"

นั่นปากเหรอไอ้เจ เอาอีกแล้ว

ร่างเพรียวสูงลุกเร็วๆ ดันเก้าอี้ออกไปข้างหลัง

"เลิกกวนตีนมันซะทีดีมั้ย" ผมเดินเข้าไปเอาตัวดันต้องออกห่าง

"อ่าว กูผิดเรอะ"

"เออ มึงอะผิด"

ขอบใจนะแมค ฝากด่าไอ้เจต่อแทนด้วย ด่าเยอะๆเลยนะ

"มึงก็มีเวลามาเล่นนะ ไม่อ่าหนังสือเตรียมตัวกันสอบกันเหรอไง เดี๋ยวเข้ามหาลัยไม่ได้จะทำยังไงวะ มึงก็ด้วยเก้า จะสอบแล้วอ่านสือบ้าง"

อ่าว กูก็เลยโดนไปด้วย

"กูว่านะต้อง มึงไปนัดเก้าติววิชาที่จะใช้สอบก่อนดีกว่ามั้ย"

แมคพูดจบลงไปนั่งที่นั่งมัน หันหน้ามองออกไปทางหน้าต่าง

"หมาลัยละ เดี๋ยวก็แยกกันกันไปแล้ว จะเอาอะไรวะ"

เจเดินออกนอกห้องออกไป

"ต้อง เป็นไรป่าววะ"

ผมเห็นมันก้มหน้ามองพื้น

"ป๊าว" ต้องตอบเสียงสูง

นั่นไง ไอ้โรคเซ็งแล้วไม่อยากพูดเนี่ยมันกลับมาอีกแล้ว

"เอางี้ ถ้าอยากให้กูเรียนด้วยก็ได้ แต่มึงติววิชาจะสอบก่อนดีมั้ย"

ต้องไม่ตอบ

ผมเขย่งเอามือตบหน้าผากมัน

อยู่ๆกางเกงผมรู้สึกรัดแน่น มันลู่เข้าไปถึงร่องขา รัดแก้มก้น จนข้างหน้ามันมันแน่นตึงต้องเอามืดปิด

"ไอ้ต้อง ปล่อยจะดึงเข็มขัดกูขึ้นมาทำไมวะ"

"เออ กูจัดให้ เอาวิชาอะไร"

มันหัวเราะ ปล่อยเข็มขัดลง แต่ยังจับเอาไว้ดึงตัวผมเข้าไปใกล้

"เออะ แค่หลักๆ อยากพวกเลขก็พอมั้ง"

วิชาที่อ่อนที่สุดของผม เข็นไม่ขึ้นจนเลิกเข็นขึ้นเขาไปนานแล้ว อ่อนปวกเปียกเหมือนขาผมตอนนี้เลย

ปล่อยสิวะ

"แล้วสุขศึกษาละ"

ต้องหรี่ตาถาม

"ไม่ต้องติว ไม่มีสอบ แล้วกูก็โตพอชักว่าวเป็นแล้ว ไอ้บ้า"

อึ้งอะดิ มันคงไม่คิดว่าผมจะย้อนมันแบบนี้

"งั้นค่าตัวกูจ่ายทีหลังนะ"

มันจะเอามือบีบตูดผม

แต่คราวนี้รู้ทัน

รีบวิ่งหนีดีกว่า

"เออ"

พูดเสร็จมันหันหลังกลับไปจะนั่ง

ผมเอามือบีบตูดมันกลับ

แฟบเชียว

ไอ้ต้องหน้าแดง

"เออ เสาร์นี้มีคัดตัวนักกีฬานี่ รุ่นพี่เค้านัดไม่ใช่เรอะ"

"มึงจะมาป่าว"

ผมสงสัยไอ้ต้องจะลงอะไร

"ดูก่อน"

มันพ่นลมออกมา

สองมือผมกับต้องยังประกบกันอยู่ราวกับกำลังจะเต้นลีลาศ ต่างคนจะประลองกำลังไม่ยอมกัน เพราะว่าคนที่แพ้จะต้องโดนจับตูดอีกรอบแน่ๆ ผมก็สู้นะ

เย็นๆ เรื่องของไอ้บูมก็วนเวียนเข้ามาในหัวช่วงคาบเรียนสุดท้าย จะจัดการกับไอ้บูมอย่างไรดีหรือจะปล่อยๆมันไป ทำอะไรไปก็ไม่มีประโยชน์ ไหนๆมันก็รู้แล้ว เอาตัวเข้าแรก ยอมๆมันไปสักทีซะเลยจะดีมั้ย มันอาจจะไม่กล้าเอาไปพูดก็ได้ว่ามันก็ทำกับผมในโรงเรียนเหมือนกัน

ได้ทั้งคู่

นึกภาพไปได้หน่อยเดียวของผมก็จะขึ้นซะแล้ว

มีพี่คนหนึ่งเดินเข้ามาในห้องผม

"ห้องน้องได้สีฟ้านะ รู้กันแล้วใช่มั้ย รุ่นพี่ที่เป็นแม่สีคือห้อง 6/5 เป็นสายศิลป์นะครับ ปีนี้ให้ศิลป์กับวิทย์มาเจอกัน ในม. 5 ทั้งหมด 9 ห้อง จะแยกกันไป 4 สี แต่สีพี่มีห้องน้องที่เป็น ม.5 ห้องเดียว เพราะได้ม.4 มา 3 ห้อง เรื่องนี่้พวกน้องไม่ต้องรู้นี่นะ"

ไม่รู้แล้วพูดทำไมวะ แถมบนกระดานก็เขียนตำแหน่งที่ต้องการไว้ล่วงหน้าตั้งกะเปิดทอมเลย รีบกันไปไหนวะ

"เสาร์นี้ให้น้องๆทุกคนมารวมกันที่สนามนะ พี่ขอดูนักกีฬากับบางหน้าที่หน่อย ใครอยากมีส่วนร่วมก็มา ยังไงก็ถือว่าช่วยๆกันหน่อยนะ ปีหน้าน้องๆเองก็ต้องมาทำตรงนี้เหมือนกัน แล้วถ้าน้องๆไม่ได้รับความร่วมมือจากรุ่นน้องอีกทีบ้าง ก็คงจะรู้สึกนะว่าเป็นอย่างไร เสาร์นี้นะ เพราะเสาร์หน้าสีอื่นแย่งไปแล้ว"

เอ่อ พูดดักคอแบบครูประจำชั้นผมเลยวุ้ย

แล้วเสาร์นี้จะมาคัดอะไรวะ ไม่เห็นบอก

แย่ละ

"ป๋าค๊าบ ป๋าจะทำอะไรค๊าบ"

"ไม่รู้ว่ะ ดูรมณ์ก่อน"

"อ้าว อย่าทิ้งกูดิ เอากูไปอยู่ด้วยนะ"

"มึงไม่เลือกจะไปอยู่กับต้องหรือเจบ้างเหรอ"

มันมองหน้าผมแปลกๆ

"ไม่เอาอะ กูจะอยู่กับมึง"

ผมเอามือเขี่ยๆขามัน

"เออ อาจจะทำแสตนด์ละมั้ง"

"งั้นบอกกูด้วยนะ เอาด้วย"

ผมอยากทำนะ จะได้มีข้ออ้างโดดเรียน แล้วก็ไม่ต้องไปนัง่ตรบมือด้วย

"โน่น ต้องมาแล้ว ไปถามมันบ้างสิ"

มาตอนกำลังกลับพอดีเลยนะมึง

"มึงอะ ทำไรต้อง"

"ไม่ทำเว้ย เสาร์ก็ไม่มาด้วย ขี้เกียจ" มันทำหน้ารำคาญ

เออ ง่ายดีวุ้ย

"ลงว่ายน้ำดิมึง" ผมอยากเห็น

"มึงว่ายเป็นมั้ยละเก้า" มันย้อน

ผมส่ายหัว

"เออ ไม่เป็นวะ ฮ่าๆๆ" คิดเหรอว่าผมจะว่ายเป็น แล้วคิดเหรอว่าผมจะใส่ชุดว่ายน้ำตัวเล็กๆสั้นๆโชว์ของ

คิดภาพต้องในชุดว่ายน้ำแล้วน่าสนใจแฮะ จะติวเลขกูเหรอ ขอเป็นติวว่ายน้ำก่อนได้มั้ย

"มึงจะสอนกูมั้ยละ"

มันทำหน้างง

ไม่เข็ดเนอะกู เรื่องไอ้ห่าบูมเพิ่งจะเกิดขึ้นมาไม่นาน หาเรื่องใหม่ให้ตัวเองอีกแล้ว เจ็บไม่จำจริงๆ

"ป่าว ไม่มีไรพูดเล่น"

"เออ งั้นกูตามแมคละกัน ถ้าไม่ทำได้โดนลากไปนั่งร้องเพลงเย้วๆ ไม่ไหววะ" ผมกลับมาเรื่องเดิม

"เจ หายไปไหนอะเก้า"

"ไม่รู้วะแมค ไหงมึงมาถามกูละ"

"ป่าว เผื่อมึงรู้ ปะ กลับบ้านกับเหอะ ช่างหัวมัน"

พวกผมเดินออกจากห้องไป

หันหลังกลับไปมอง โต๊ะเรียนสามตัวที่อยู่ใกล้กัน บนโต๊ะไม้เก่าๆ ที่ใช้เรียนกันมาหลายรุ่น  รอยขีดข่วนจากคัดเตอร์ คราบลิควิด ตอนนี้สะท้อนแสงยามเย็นออกมาเห็นเป็นข้อความลาง กระเป๋านักเรียนหนังสีดำโดดเด่น ดูอ้างว่างอยู่ที่เก้าอี้ ถูกทิ้งไว้รอเจ้าของอย่างนั้น

ปีหน้า ...ถ้าพวกมันสอบได้กันหมดก็คงเป็นของผมคนเดียวสินะ

"ต้อง มานะ กูอยากให้มึงมาเป็นเพื่อน"

หือ

ต้องยักคิ้ว ก่อนพยักหน้า
.
.
.
คืนนั้นโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เบอร์ไม่คุ้น

"ครับใครครับ"

"กูเอง เป็นไงน้ำว่าวเลอะเต็มหัวเลย ไปทำกันท่าไหนละ"

น้ำเสียงเยอะเย้ย

สัก ไอ้บูมแน่แล้วอย่างนี้ มันเห็นแน่ๆ ชัดเจนเลยด้วยว่าอะไรเป็นอะไร

"ต้องการอะไร"

"ระลึกความหลังไง ไว้ทำกับกูมั่งดิ ท่าทางจะเด็ดขึ้นนะ"

แค่เสียงก็ไม่อยากระลึกแล้ว

"น่าๆ นานแล้วนะ"

"K มึงบ้าไปแล้วรึไง"

"นั่นดิ ถ้ากูเอาไปบอกครูจะเป็นไงนะ" มันคิดว่าอยู่ชั้นประถมเหรอ เอาครูมาขู่เนี่ย

"ไม่ใช่เด็กแล้วนะ" ผมพยายาทำเสียงเป็นไม่สนใจมัน

"ใช่ๆ มึงพูดถูก งั้นกูเอาไปบอกต่อละกัน"

"ต่อ???"

"น้องไอ้ต้องไง"

"...."

เกี่ยวอะไรกับต่อด้วยวะ

"ก็เผื่อมันจะไปถึงหูไอ้ต้อง น้องมันเกลียดมึงน่าดูเลยนะ"

ทำไมมันรู้ดีจังวะ มันรู้ได้ยังไงว่า ต่อไม่ชอบผม แล้ว.. เรื่องของต้องละ

"มึงไปเอาเรื่องนี้มาจากใคร"

"..." ปลายสายเงียบไปชั่วครู่

"เอาเป็นว่า ถ้ามึงไม่ยอมทำแบบนั้นกับกูละก็ รู้กันทั้งโรงเรียนแน่"

"ขอกูคิดก่อนละกันนะ"

ยังไงผมก็ต้องเล่นตัวไว้ก่อน ถึงผมกับมันจะเคยๆกัน แต่ตอนเด็กมันก็ไม่ได้ขนาดนั้น

"เอาเป็นว่า มึงก็ระวังตัวแล้วกัน ไอ้เจช่วยไรมึงไม่ได้ตลอดหรอกนะ"

สายตัดไป อะไรของมันวะเนี่ย เฉลยให้กูนิดนึงเหอะ ไม่ใช่มาพูดทิ้งกันเอาไว้ คิดว่ากูจะง้อมึงเรอะ ไม่มีทาง!!! ผมทิ้งโทรศัพท์ลงข้างเตียง พลางนอนคิดเรื่องของมันไปด้วย

เอาไงดี จะโทรไปบอกไอ้เจดีมั้ย ไม่ดีกว่า ยิ่งถ้าจะดักคอไอ้ต้องยิ่งไม่ใช่ใหญ่ ปล่อยมันไปสักพักก่อน ถ้าต่อรู้ละ ... คนอื่นน่ะปล่อยไป ถึงหูต้องละไม่รู้จะแก้ตัวยังไงเลย

ผมกับค้องเป้นเพื่อนกันนี่นะจะอะไรนักหนา ไอ้เก้า

ไว้หาวิธีอื่นจัดการกับบูมดีกว่า อะไรละ ให้มันลอกการบ้านเหรอ เรียนก็คนละสาย หรือทำการบ้านให้มัน หรือเป็นเด็กรับใช้มันเหรอ ไม่ๆๆ มันต้องการแค่เรื่องอย่างว่า

ผมหันไปมองโทรศัพท์

นิ้ววางจะที่ปุ่มจะกดโทรออก

ความคิดยังวนเวียนอยู่ พอใช้สมองหนักๆ ความง่วงงุนก็เข้าครอบงำ

คืนนั้นผมเลยหลับไปพร้อมฝันแปลกๆ

มันเป็นฝันที่พอผมตื่นมาก็จำอะไรไม่ได้ พยายามนึกย้อนกลับไปก็นึกไม่ออก มีแค่ภาพตัดเป็นช่วงๆ ที่ลอยคว้างอยู่ในสมองเล็กๆของผมอันนี้

ฝันคล้ายๆกับว่า ผมไปเรียนตามปกติ แต่.. ไม่ได้ใส่กางเกงไป มีแต่เสื้อ ขายเสื้อนักเรียนยาวปิดส่วนสำคัญเอาไว้ ตามมาด้วยถูกครูเรียกต้องออกไปยืนหน้าห้องทั้งอย่างนั้น

ผมมองไม่เห็นหน้าใครนอกจากเสื้อขาวๆ แต่ส่วนนั้นค่อยๆชี้ขึ้น โผล่หัวให้คนในห้องเรียนทุกคนเห็น ผมจำได้แค่นั้น

รู้ตัวอีกที ตัวผมเขย่า เขย่าเฉพาะส่วนล่าง มันกระตุกแล้วรู้สึกเสียวขึ้น

เหมือนกับว่าผมมีอะไรกับใครสักคนที่ไม่เห็นหน้า แต่ทำไมผมถึงรู้ว่าคนนั้น คือ บูม บูมที่กำลังทำอย่างเมามันจากด้านหลัง เราอยู่ในห้องเรียนที่ผมเรียนประจำนี่แหละ

ผมก้มลงมองข้างล่าง ไม่เห็นอะไรนอกจากขาของผมแล้วก็ส่วนนั้นของผมที่แข็งตึงชูชัน สีแสดงสด คนข้างหลังกำลังขยับเอวอย่างรวดเร็วหายใจหอบถี่

ผมไม่มีเสียงจะพูดอะไรได้แต่รอให้อีกฝ่ายผละจากไป

แล้วความเสียวก็ไล่มาจากขา ขึ้นมาเรื่อยๆผ่านก้น ออกมาที่ส่วนปลายข้างหน้า

แล้ว ... ต้องก็มาเห็น ห้องเรียนไม่ได้ปิดประตู เปิดอ้ากว้างต้อนรับคนมาดู

แสงแดดส่องสว่าง

ต้องหันมามอง

มันเห็นชัด

แต่ผมห้ามใครไม่ได้ ห้ามต้องไม่ให้ดู ห้ามคนนั้นไม่ให้ทำ ห้ามตัวผมเองก็ไม่ได้

ร่างขาวข้างหลังผมก็กระตุกเกร็ง กระแทกเข้าสองสามทีช้าๆ หนักแน่นแล้วนิ่งไป รู้สึกถึงแรงส่งอะไรบางอย่างเข้ามาในตัว ส่งต่อมาให้ แล้วก็พุ่งทะลุออกจากตัวผมไปไกลบนพื้นห้องเรียน ไกลจนเกือบถึงที่ต้องยืนอยู่

สุดท้าย น้ำขาวข้นก็ทะลุออกจากตัวผม ปลดปล่อยออกมาต่อหน้าต้อง ยาวเป็นสายเหมือนภาพสโลโมชั่น สาดใส่พื้นเป็นระลอกๆช้าๆ

คนที่อยู่ข้างหน้ากำลังจ้องตรงมาทางผม

แล้วผมก็ตื่น

นอนหายใจหอบอยู่บนเตียง

มันก็แค่ฝันไป

ในฝันกับเรื่องจริงมีอย่างเดียวที่ตรงกัน คือ ในความจริงท่อนล่างผมกำลังกระตุกพ่นน้ำขาวๆออกมา เต็มกางเกงนอนบ้างๆของผม

แม่งเอ๊ย

นี่สินะที่ปลุกกูตั้งแต่เช้ามืด

เป็นฝันเปียกที่หอกหักสิ้นดี

ไม่ได้ทำมาเป็นอาทิตย์แล้วนี่นะ

นอนต่อดีกว่า...














ออฟไลน์ Loste

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 430
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
น่าสงสารเก้า  น่าจะมีพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วย  ตอนนี้ไม่ชอบเจแหละ เกลียดเลยด้วย :katai1:

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
รอยหม่นหมอง จับจองใจ ใช่เพิ่งเกิด
ใจเตลิด เปิดเปิงไป ใช่สวรรค์
เป็นจุดด่าง อยู่กลางใจ ใช่ทุกวัน
ล้างไม่ออก ติดอยู่นั่น พรั่นพรึงใจ

+1 อยากอ่านต่อ
ว่า..ต้อง จริงๆแล้วคิดยังไงกับเก้า
สู้หรือไม่สู้

ออฟไลน์ diction

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 18
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
บูมนี่มันน่านัก! เจก็ด้วย!!  :fire: #ทีมต้อง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ DREAM COME TRUE

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 379
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
คือต้องทำตัวไม่ชัดเจน อึดอัดนะ เจแม่ง... รออ่านต่อดีกว่า

ออฟไลน์ DREAM COME TRUE

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 379
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
ลืมบอกชอบตอนจบของตอนล่าสุด อิอิ วาบหวิวดี

ออฟไลน์ Monet

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-0
 เสียงพลุกับวงเหล้า : ตอนที่ 4.0 วันเสาร์ที่ 1

   แรงสั่นถี่ๆรัวๆให้ความรู้สึกแปลกๆกระตุ้นประสาทตื่นตัวขึ้นมา มันรัวเสียงครืดยาวอยู่หลายครั้งกว่าผมจะตื่น ที่ตื่นไม่ใช่เพราะเสียงมันดัง แต่เป็นจากแรงสั่นน่ารำคาญจากอุปกรณ์ที่ยังคาอยู่ในมือผมก่อนหลับ ไม่รู้ผมหลับไปได้ยังไงทั้งๆที่โทรศัพท์ยังอยู่ในมือผม

    แรงสั่นๆเบาๆถี่นี่จักะจี้อยู่แฮะ สมัยก่อนเคยมีหมามาเลียมือเวลาเช้า (ตอนนี้มันโดนแม่เอาไปเลี้ยงไว้ที่ทำงานแทน)ถ้าผมรู้ว่าโทรศัพท์มันสั่นในมือแล้วรำคาญขนาดนี้ ผมน่าจะปิดๆไปซะเลย

   “ใครมันโทรมาวันเสาร์วะ” นาฬิกาแสดงเวลา 6.30 am

   “แม่งจะเช้าไปไหนวะ”

   “ครับ” เสียงเพิ่งตื่นชัดเจน แต่จะทำไมละ ก็นี่มันวันเสาร์นี่นะ

   “เก้า วันนี้มึงจะมามั้ยเนี่ย”

   “หือ” ผมหยีตาดูเบอร์ที่โชว์

   แต่ผมทำไม่ได้ เลยลืมตาดีๆดู

   อ้าว ชื่อไอ้แมคหราอยู่นี่หว่า

   “ว่าไงวะ โทรมาทำห่าไร” ขอหน่อยเหอะ

   “วันนี้เค้านัดมาคัดตัวไง มึงจะมาป่าว”

   “ใครไปมั่งวะ อื้ออออออออออ” โอ้ย นี่ผมลืมไปจริงๆนะเนี่ย  แถมยังเผลอบิดขี้เกียจให้มันได้ยินอีก

   "โห สามตัวห้าบาทอะ บิดขี้เกียจใส่หูกู มึงเป็นคนชวนไอ้ต้องไปนะ มันไปกับน้องมันที่โรงเรียนแล้ว" แมค ทำเสียงรังเกียจ

   

        "ว่าไง ตกลงไปมั้ย" มันยังอยากรู้คำตอบ

   

        "เอาสิ เดี๋ยวกูแต่งตัวละ" เสียงผมมันตอนงัวเงียเซ็กซี่แน่ๆ

   

        โอ้ย ตื่นก็ตื่น แต่บางส่วนมันตื่นก่อนผมอีกแฮะ

   

         "งั้นกูรอหน้าบ้านนะ เร็วๆละ"

   

         “เออ บาย”

   มืออีกข้างของผมยังกำอยู่ที่ตรงนั้น เพราะมันนี่แหละ ทำผมตื่นตอนเช้ามืด อยู่ๆมากระตุกแรงๆสามสี่ที เล่นเอาผมต้องตื่นมาเอามือจับส่วนปลายมันไว้ไม่ให้เลอะกางเกงนอน ไม่งั้นจะซักยังไงละเนี่ย

   แต่ความง่วงก็ดันมีมากซะจนผมหลับไป

   ไม่ล้างมือแล้วเอาไปป้ายหน้าไอ้แมคดีมั้ย   

        โทรมาปลุกดีนัก
 

   ผมดีดตัวทีเดียวไปถึงห้องน้ำ อาบน้ำ แปรงฟันให้เร็วที่สุด กระจกในห้องน้ำ สะท้อนภาพคนเพิ่งตื่นหน้าตา งัวเงีย หัวฟู กระจกเดียวกับทีเคยใช้มองภาพตัวเองตอนอาบน้ำ

         ตอนนี้ร่างกายเดียวกัน แต่หน้าตาคนละอารมณ์

   ยกเว้นส่วนนั้นยังชี้หน้าไม่แคร์สายตาผมที่มองสะท้อนจากกระจกลงไป มันชี้มาตั้งแต่กอ่นลุกจนตอนนี้ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะสงบ

   ซ่านักนะ

   

        ไม่มีเวลาแล้ว

   

        ไว้ทำทีหลังเดี๋ยวแมครอ คืนนี้ละกัน ค่อยมาทำโทษมัน ทำผิด 2 กระทงแล้ว

   

        ออกจากห้องน้ำรีบเปิดตู้คว้าชุดอะไรก็ได้ง่ายๆ ผมเลยแต่งขาสั้นเสื้อยืด รองเท้าแตะออกจากบ้าน ไม่รู้จะใส่อะไรไปดี ผมไม่ลงคัดกีฬาแน่ๆ (รูปร่างอย่างผมจะเอาไปทำไรได้) ดังนั้นถุงเท้า รองเท้าผ้าใบไม่จำเป็น

   ถ้าจะแต่งหล่อไปมันก็ออกจะดูเสร่อเข้าไปอีกในเมื่อคนอื่นคงมากันในชุดพละหรือชุดกีฬาอย่างใดอย่างหนึ่ง ผมเลยใส่ขาสั้นไปได้ (อ้อ ส่วนนั้นสงบแล้วครับ มันโดนน้ำเย็นก็หายซ่าละ)

   วิ่งลงบันไดออกจากบ้านที่ว่างเปล่า เช้าวันเสาร์บ้านผมก็ยังเงียบเหมือนเคย พ่อแม่คงออกไปทำงานแล้ว แอบมองนาฬิกาเจ็ดโมงกว่าแล้วนี่ เช้าไปนะ

   

         เช้านี้อากาศกำลังดี แต่ทำไมปากซอยมันไกลขนาดนี้วะ เวลาคนรีบๆ แค่อึดใจก็ดูเหมือนเนื่นนาน

   มองไปเห็นแมคยืนรออยู่หน้าบ้านไกลๆ ผมรีบวิ่งข้ามถนนไป

   

        "ป๋า โทดนะๆๆๆๆ" แมคมันยืนรอหน้าบูด

   “เออๆๆ ปะ”

   

        "เก้า ไปกับแมคเหรอ"  เสียงดังมาจากในชั้นล่าง บริเวณหน้าร้านของบ้านมัน

   พ่อแมคคนผอมสูง สูงมากๆทักผมก่อน

 ผมรู้เลยว่ามันเริ่มจะสูงเหมือนใคร

   "หวัดดีครับ พ่อ"

   

        "ใช่ครับ" ผมพูดต่อ


   "ไปดีๆ เย็นนี้ว่างแวะมาเล่นที่บ้านนะ”

   “ได้ครับ” ยิ้มแก้มปริ เย็นนี้ถ้าเบื่อจะลากพวกต้องมาเล่นกัน


   ร้านประดับยนต์วันนี้เปิดแฮะ ทุกทีมามักจะเป็นตอนปิดไปแล้ว ถ้าเย็นๆก็จะแค่รีบๆเดินผ่านๆ นานๆครั้งจะได้เห็นพ่อของแมคทีหนึ่ง มากี่ทีๆก็ไม่เคยอยู่เลย วันนี้เจ้าของร้านก็ดูสดใสดี

   

         "ปะๆ รถมาแล้ว" แมคกวักมือเรียกริมถนน

   

          แท๊กซี่เขียวเหลืองเปิดประตูอ้ารออยู่

   

          "ไม่คิดว่ามึงจะตื่นเช้านะเนี่ย" ผมทักมัน

     พร้อมขยับไปนั่งเบาะหลังข้างไอ้แมค

   

          "แน่นอน หมาตัวไหนมันไปลากไอ้ต้องมาละ มันเลยมาปลุกกูอีกที" มันทำหน้าระรื่น

   

           "ที่บ้านมึงเป็นไงมั่งวะ" ผมเปลี่ยนคำถาม เดี๋ยวมันจะเริ่มบ่น

   

        จำได้ว่าครั้งหนึ่ง แมคมันดูเครียดๆ พอผมไปถาม มันก็เล่าคร่าวๆว่า ธุรกิจบ้านมันกำลังมีปัญหาอยุ่ เดี๋ยวนี้ลูกค้าที่แต่งรถหดหายไป แถมพ่อมันก็ยังใจดี คิดราคาถูกอีกต่างหาก

   ยิ่งบางทีลูกค้าเป็นเด็กโรงเรียนเดียวกัน พ่อมันคิดถูกแสนถูก ตึกบ้านมันก็จะโดนเอาไปจำนอง เพื่อให้พี่สาวคนที่สองคนเรียนมหาลัย  ส่วนอีกคนจบแล้วจึงต้องรีบมาทำงาน

   ตอนนี้ไม่รู้ดีขึ้นรึยัง

   จริงๆก็ไม่อยากไปถามมันมาก เดี๋ยวมันเครียดขึ้นมาอีก ถ้าดีก็ดีไป แต่มันจะหาว่าผมไปยุ่งเรื่องมันเกินไปมั้ย บางเรื่องเจ้าตัวก็ยังไม่อยากพูดถึง จะไปคะยั้นคยอถาม คนไม่อยากตอบก็จะอึดอัด

    ผมเคยเจอสภาพนี้มาแล้ว

   ‘เก้า เป็นเกย์รึเปล่าลูก’

   เรื่องตัวเองยังไม่รอดเลย

   “ไม่รู้วะ พ่อกูไม่ค่อยเล่า” มันตอบในที่สุด

   

.       "เออ ป๋า มึงรู้จักคนชื่อบูมมั้ย"

 ผมลองเลียบเคียงถามดู

   

        "เคยเห็นหน้าวะ แต่ไม่เคยคุย ลองถามเจดูดิ"

   

        "เออ จริง"

   “มีไรเหรอ มันมาหาเรื่องมึงเรอะ ถ้างั้นบอกต้องดีกว่านะ” แมคเสนอ

   เป็นคำแนะนำที่ดี

   “เอออ ไม่ใช่ๆ เคยรู้จักกันสมัยม.ต้นน่ะ”

   “มีไรป่าววะเก้า” มันจ้องหน้าผม

   “อ้อ ป่าวๆ”

   ปากหมาอย่างไอ้บูมเนี่ย ขืนไอ้ต้องไปจัดการมีหวังมันพล่ามหมดทุกอย่างแน่

   

        หวังว่าแมคจะยังไม่รู้อะไรเหมือนกัน

 สายเมื่อคืนของบูมผมยังคาใจอยู่ มันเอาจริงเหรอวะเนี่ย คิดๆดูก็ชักรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีแล้วสิ เอาไงดี เดี๋ยวมันต้องโทรมากวนอีกแน่ แล้วผมจะตอบมันว่ายังไง

   คราวนี้จะทำเป็นไม่สนก็คงไม่ได้ แล้วผมไม่ยอมมัน

        เออ ใช่ ยังไม่เมมเบอร์มันเลย เวลามันโทรมาจะได้รู้

   

        เออว่ะ มันเอาเบอร์ผมมาจากไหนวะ

 ใครให้มันไป นี่มันไม่ใช่เบอร์บ้านนี่ มันเอามือถือผมมาได้ไง ผมเพิ่งมีโทรศัพท์มือถือตอนก่อนขึ้น ม.ปลายนี่นา เบอร์ก็ยังไม่ได้บอกใคร

   แท๊กซี่พาพวกผมมาทิ้งหน้าปากซอยแล้ว

   “แวะซื้อขนมกับน้ำมะ กูหิว”

   “ด้วยๆ” แมคเห็นด้วย

   เป็นว่าผมสองคนลงรถกันหน้าโรงเรียนแวะร้านสะดวกซื้อมันนี่แหละง่ายดี

   ขนมปังกับนมแล้วก็น้ำสองขวดใหญ่ แมคมันถือสองขวดใหญ่ๆไป ส่วนผมใช้สิทธิ์ของคนที่ยังไม่ได้กินข้าว เดินกินขนมปังกับนมไปเรื่อย กว่าจะไปถึงสนามกีฬาหลังโรงเรียน ก็คงพอดีหมด

    วันเสาร์โรงเรียนโล่ง ตึกดูมืดและเงียบ วันกีฬาสีก็คงไม่ต่างกัน เพราะว่าส่วนใหญ่คนจะอยู่ข้างล่างและไปกองกันที่สนามกีฬา เด็กที่ได้รับอนุญาตขึ้นตึกจะเหลือแค่รุ่นพี่เท่านั้น ดังนั้นข้างบนจึงเหมือนแหล่งเสียตัวอย่างถูกระเบียบ

   เดินผ่านตึกประถม ที่ตอนนี้ปิดเพราะหยุดวันเสาร์ มันทำให้ผมนึก สมัยม.ต้น สภาพตึกเงียบๆ มืดๆ ทึมๆแบบนี้ เหมือนตอนสอบวัดผลทั่วประเทศ ซึ่งแน่นอนผมไม่ได้ให้ความสำคัญกับมันเลย

   นั่นเป็นครั้งแรกที่เจอแมค

   แสงแดดอ่อนยามเช้า และลมโชยอ่อนๆมาปะทะเข้าที่หน้าในวันนี้ ต่างกับบ่ายวันนั้น ที่แดดจ้า แต่ไม่ร้อนเท่าไร กองหิน ทราย ที่ถูกวางกองไว้หน้าตึก น่าจะมีการซ่อมแซมอะไรซักอย่าง

   เด็กร่างเล็กตัวขาว ใส่แว่นหนาทักขึ้น

   ‘สอบเสร็จแล้วเหรอ’ เสียงแหลมสูง

   ‘อือ นายก็ด้วยเหรอ’ เสียงผมที่ตอบไปตอนนั้นคงไม่ต่างกัน

   ‘เราก็ทำๆไปงั้นเองแหละ’

   สอบวัดผลทั่วประเทศมันสำคัญกับโรงเรียนมากกว่าเด็กนักเรียนซะอีก ตอนนั้นเราสองคนรูปร่างใกล้เคียงกัน ทำไมตอนนี้มันต่างกันจังวะ

   ‘นายเรียนห้องไหนเหรอ’ เด็กคนนั้นยังถาม

   ‘5 น่ะ นายละ’

   ‘ห้อง 2’

   ‘นายชื่ออะไรอะ’  ผมชิงถามก่อนมั่ง

   ‘แมค’

   ‘เราเก้านะ’

   ‘มาเล่นกับพวกเราดิ’ แมคยิ้มเห็นฟันให้

   ‘เราไม่รู้จักใครเลยนะ’ ผมยังลังเล

   ‘ไม่เป็นไร เดี๋ยวเราบอกให้’

   เป็นอันว่ารู้จักกันแล้วก็ไปวิ่งเล่นกันเลย พวกผมวิ่งเล่นกันอยู่พักหนึ่งกับเด็กห้องอื่น จนกระทั่งรถคนใหญ่มารับแมคกลับไป หลังจากขึ้นม.ต้น ผมก็ไม่ได้เจอกับแมคอีกเลย อาจจะเดินสวนทางกันบ้าง ก็โรงเรียนเดียวกันนี่นะ แมคไปอยู่ห้องเรียนดีตั้งแต่ม.ต้น ส่วนผมอยู่ห้องห่วย

   ผลการเรียนมันก็คงดีพอๆกับส่วนสูงของมันที่เพิ่มขึ้น

   วันแรกของม.ปลาย ที่แมคแนะนำตัว อดคิดแปลกๆไม่ได้ว่า ตกลงเราเพิ่งรู้จักกันหรือทำความรู้จักใหม่กันแน่ แมคที่เสียงเปลี่ยนไป รูปร่างก็เปลี่ยนไป แต่รอยยิ้มยังคงเป็นคนเดิม คนเดียวกับที่ชวนไปเล่นตอนนั้นแล้วก็คนเดิมกับที่ชวนผมไปที่บ้านวันแรก คนเดียวกับที่อยู่กับผมมาจนถึงตอนนี้ 

   แมคมันสูงกว่าผมไป 5 เซนแล้ว โดดไปได้ไงขนาดนั้นวะ มีผมนี่แหละที่ไม่โตไปไหน สงสัยเอาความสูงไปทิ้งไว้ตามโรงหมอหมด นอกจากแขนพรุนน้ำเกลือแล้วยังทำให้ไม่สูงด้วยเหรอเนี่ย

   “แมค หิวป่าว”

   “ไม่อะ เอาเลย” แมคยิ้มให้

   “คนจะเยอะมั้ยนะ”  ผมตั้งข้อสังเกตุ ถ้าคนน้อย พวกผมได้ทำงานกันทุกคนทุกหน้าที่แน่ๆ

   “นั่นดิ”

   เราสองคนก้าวเดินต่อไปช้าๆ เดินรับลมไปด้วย

   โรงเรียนเราต้นไม้เยอะ เสียงลมตีใบไม้ไหวให้เกิดเสียง เป็นอีกอย่างที่ผมชอบจะฟัง เวลาเข้าหน้าฝน เสียงจะได้ยินบ่อยและดังเป็นพิเศษ เมื่อฝนเริ่มตก เสียงหยาดฝนกระทบกับหลังคา พื้น ผสมกับเสียงใบไม้ไหว มันช่างน่าฟังยิ่งนัก แต่ในเมื่อวันนี้ไม่มีเค้าฝน ก็ฟังแต่เสียงลมไปก่อนแล้วกัน 

   แมคเดินมองข้างหน้าไปเงียบๆ

   ผมลืมเอามือป้ายหน้ามันเลย ตอนนี้มือก็ไม่ว่างซะอีก

   จมูกเล็กสั้นของมัน เมื่อเทียบกับแว่นแล้ว ทำให้กรอบแว่นหนาสีดำดูตัดกับใบหน้าขาวใหญ่แต่จมูกเล็กอย่างบอกไม่ถูก  ผมสีดำที่ตอนนี้เริ่มมีสีขาวแซมแล้ว มันผมขาวขึ้นเร็วแฮะ

   “มึงไม่ทำจริงงะ ดีกว่าไปนั่งร้อนๆนะ” ผมทำลายความเงียบ

   “ยังไงซ้อมร้องก็ต้องเข้าบ้างอยู่ดี นักกีฬาหรือสตาฟอะไรอะ กว่าจะได้แยกไปเลยก็ตอนแข่งโน่น”

   “โห เซ็งวะ กะว่าไม่ต้องซ็อมเลยนะเนี่ย” ไม่งั้นผมจะลงสตาฟด้านไหนก็ได้จริงๆนะ

   “ง่ายงั้น ก็หนีหมดแล้วดิ” แมคส่ายหัว

   สนามกีฬาโรงเรียนมีคนวิ่งเล่นอยู่หลายคนน่าจะเป็นสีผมทั้งนั้น มากันตั้งแต่รุ่นพี่ยันม.ต้น ที่มันดูคนน้อยๆเพราะว่ารวมตัวกันแล้วนี่เอง

   เป็นสนามกีฬาที่ดูวุ่นวาย ทั้งบาส บอล ใช้ลานบนสนามได้เต็มพื้นที่ ไอ้คำว่าสนามกีฬาที่ผมพูดถึงเนี่ย มันไม่ใช่ลานอย่างดีเหมือนของสนามกีฬาแห่งชาติอะไรแบบนั้น แต่เป็นลานปูนขัดเงาทาสีแบบทีสามารถทนฝนทนแดดได้ สนามสีเขียว บางปีซ่อมแซมก็กลายเป็นสีอื่น ปีก่อนดูจะเป็นน้ำเงิน

   ด้านซ้ายขวามีแป้นบาสแบบมาตรฐานที่สามารถเคลื่อนที่ได้เพราะมีล้อ ในความเป็นจริง ไม่เคยได้ย้าย มีแท่นปูนใหญ่ทับอยู่เพื่อไม่ให้โยก ด้านที่เหลืออีกสองข้างจะเป็นแสตนด์ใหญ่ สำหรับขึ้นแสตนด์เชียร์ วันจริงไม่ต้องบอกเลยว่าร้อนขนาดไหน ถ้าสีไหนออกแบบไม่ดีได้นั่งเป็นกล้วยตากกันยันบ่ายแน่ๆ

   พวกม.6 ก็แบ่งกันไปยืนประจำตามจุด คัดตัว บาส บอล ส่วนวิ่ง อยู่บนลานถนนติดกับสนามนั่นแหละ บางคนยืนวัดแสตนด์ ขีดๆเขียนๆอะไรบางอย่าง ยังหาคนเป็นแม่สีไม่เจอเลย  เปะปะวุ่นวายไปหมด ปีหน้าถ้าพวกผมจะต้องทำจะเป็นอย่างนี้ไหมนะ ไอ้แมคคงจะไปยืนวัดแสตนด์แล้วก็ชี้นิ้วสั่งๆบ่นๆแน่ๆ (ถ้ามันยังอยู่อะนะ)

   หันซ้ายแลขวา ไม่เจอไอ้ต้องเลย สูงตระง่านงั้นน่าจะหาง่ายนะ แต่เปล่าเลย พอเทียบกับพวกม.6 แล้ว ความสูงของต้องถือเป็นเรื่องปกติ เด็กม.ต้นเดี๋ยวนี้เองก็ดูเหมือนจะสูงกันทุกคน แปลว่าผมเตี้ยกว่ามาตรฐานแล้วสินะ

   ผมเดินไปทางที่พวกนั้นกำลังซ้อมเตะบอลอยู่ ซันน่าจะอยู่แถวนั้นถ้ามันมาแล้ว

   “ต้องมายัง”  ผมถามแมคดู เผื่อมันจะรู้

   “มันก็คงอยู่แถวนี้แหละมึง อยากเจอเหรอไง”

   “แล้วไงละ ก็กูเห็นมึฃสนใจมันนี่”

   “ทำไมมึงไม่ลองคุยกับมันดูละ โทรหามันดิ มันไม่กัดหรอก แค่เสียค่าโทรเฉยๆ” แมคเสนอ

   “เดี๋ยวมันก็หาเรื่องกูอีก”

   “พ่อแง่แม่งอนสินะ”

   หือ มันพูดอะไรนะ ฟังไม่ถนัด พ่อเล่นแง่ อะไรนะ

   “หือ... พูดอีกทีดิแมค”

   “ได้หนเดียวเว้ย”

   “โน่นๆ” นิ้วชี้มันนำสายตาผมไปทางปลายสนามด้านซ้าย

   “กำลังจะคัดบอลแล้ว”

   “ไอ้ต้องมันน่าจะเล่นด้วยนะ เจก็มา”

   เอาละสิจะเดินไปยังไงละเนี่ย บนถนนก็มีเสียงนับ เข้าที่ ระวัง เตรียมตัว วนกันอยู่นั่น แล้วเด็กก็วิ่งพรวดกันไปมา ขืนทะเล่อทะล่าเข้าไปละชนกันกระจายแน่ แสตนด์ด้านหลัง ประตูบอลก็รุ่นพี่กำลังชี้ๆวัดๆอยู่จะไปขอทำเลยดีมั้ยนะ ลองลากไอ้แมคไปน่าจะดีกว่า จะได้มีเพื่อน

   ระยะทางไม่ไกลสัก 300 เมตรได้ แต่กว่าจะเดินไปถึง ไหนจะหลบลูกบอล ไหนจะหลบคนวิ่ง ไหนจะโดนกั้นชั่วคราวกว่าจะไปถึงได้ ตอนนี้ซันว่างแล้ว บอลถูกเตะอยุ่อีกด้านหนึ่งของสนาม ลูกบอลถูกเคาะส่งกันไปมา คงจะหาตัวกองหน้ากันละมั้ง ซันมันเล่นรักษาประตูนี่

   “เฮ้ เป็นไงวะ”  ผมเดินขึ้นไปนั่งบนแสตนด์เยื้องๆกับประตู เดี๋ยวบอลจะลอยมาโดนหน้า

   “ดี ยังไม่ถึงคิวกูเลย”

   “มึงเล่นประตูแล้ว เค้าจะคัดมึงยังไงอะ” ผมสงสัย

   “ไม่ต้องคัด ม.5 ห้องเรามีกูคนเดียว”

   “แล้วผีตัวอื่นละ” แมคถาม

   “นอนอ่านสืออยู่บ้าน มากันไม่ถึงครึ่งห้อง”  แมคนั่งขำ เหมือนมันรู้อยู่แล้ว

   “มึงเห็นต้องป่าว”  ผมลองถามซันดู

   “แวบๆนะ”

   สักพักมันชี้นิ้วไปที่แถวบริเวณที่คนมะรุมมะตุ้มกันตรงลูกบอล

   “นั่นไง ส่งบอลอยู่”  แมคร้องขึ้น

   “เออวะ พอมองไกลๆแล้วหาไม่เจอเลย มันเอากองหน้าเหรอ”

   “ไม่รู้ ไว้ถามมันดิ” ซันลงไปนั่งยืดขา

   “เมื่อคืนเป็นไงวะ”  ผมเริ่มก่อน

   “ดีมึง ฝันเรื่องเดิมเลย”  มันยังตอบทั้งๆที่ยืดขา ขากางเกงอ้าซ่าขนาดนั้น

   “เรื่อง???”

   “ที่กูเล่าไง แม่งก่อนนอนเล่นเกมอีกรอบ โคตรเจ๋งเลย เวลาสู้ๆไปนี่นมเด้งด้วย”

   ผมสงสัยนิดๆเหมือนกันว่า มันเรียกเข้าข่ายโรคจิตมั้ยเนี่ย ชอบตัวละครหญิงในเกมเนี่ย คล้ายๆกับพวกชอบผู้หญิงนมโตๆตามการ์ตูนรึเปล่าหว่า

   ซันนี่ สมชื่อมัน เด็กผู้ชายผิวสีแทนจากแดด ผมเพิ่งมารู้ทีหลังว่าซันชอบเตะบอลมาก รูปร่างผอมสูง สูงไม่เท่าต้องแต่ก็สูงกว่าผม (ก็ทุกคนน่ะแหละ) ตอนม.ต้น ซัน ตัวเล็กเตี้ย ไหงพอมาม.ปลายแซงหน้าผมไปซะได้ เจ้าของร่างสูงสีแทนนี้ เสียงทุ้มต่ำผิดกับหน้าตาจิ้มลิ้ม ถึงไม่จัดว่าหล่อ แต่ก็ดูได้ไม่เบื่อ
   
   ใบหน้าของซันไม่ค่อยแสดงความรู้สึกเท่าไร จะหัวเราะหรือยิ้มน้อยๆ ไม่ทะเล้นแบบไอ้เจมองแล้วไม่น่าเบื่อเลย มันเองก็ไม่ใช่คนพูดมากแต่ถ้าชวนคุยถูกจุดละก็พูดไม่หยุดเลย

   ปีที่แล้วผมยังจำได้ดี ครูวิชาเลข เรียกซันออกมาทำโจทย์หน้าห้อง พอซันบอกคำตอบไปด้วยเสียงต่ำนั้น ทำเอาครูอึ้งไปถนัด ครูเลยแซวแรงๆหน้าห้องว่า เสียงแตกหนุ่มแล้วสิ ร่างกายตรงไหนเปลี่ยนไปน้า             

        ซันหน้าแดงผิวแทนจากแดดยังเห็นได้เลยว่า แดงขึ้น แต่แทนที่จะโต้ตอบหรือทำอะไร ซันเพียงแค่หัวเราะแล้วยิ้มตอบแค่นั้น

   ว่าแต่ตรงไหนที่เปลี่ยนไปน้า

   “ก็เริ่มจากว่า กูนอนฝันว่าได้เข้าไปในเกมแล้วเจอตัวละครตัวนี้แหละ กำลังจะมาสู้กับกู แทนที่จะสู้นะ กลับเอานมวิ่งไล่บี้กูแทน กูเลยเอาหน้าซุกเลย แล้วมันไม่หนีนะ ความรู้สึกโคตรนุ่มอะ...”

   มันยังคงเล่าอยู่ เรื่องแบบนี้มันคงจะไม่หยุดเล่าจนกว่ามันจะถึงไคลแมกซ์สินะ

   ผมนั่งดูขายาวๆของมันไป นั่นไง ส่วนสำคัญชี้พ้นกางเกงออกมาแล้ว ขนาดไม่เบานี่หว่า แสดงว่ามันมีอารมณ์กับเรื่องที่มันเล่าจริงๆนะเนี่ย ไม่ใช่เล่าเอาฮาแล้ว

        ขายาวๆที่มันชอบบอกว่ามีประโยชน์เวลาเล่นบอล ดูๆแล้ว อย่างอื่นก็น่าจะยาวและมีประโยชน์เหมือนกัน

   ผมกับซันเริ่มสนิทกันมากขึ้นจากเรื่องอย่างนี้แหละ เวลามาเตะบอลกระชับมิตรกับห้องอื่น ผมก็จะได้ซันมาเป็นเพื่อนนั่งคุยด้วย ผมมันพวกกองหลังไร้ประโยชน์ บอลส่วนใหญ่ถ้าไม่กลิ้งๆอยู่หน้าสนามเวลาโดนยิงยาวมาด้านหลังก็ ไม่ค่อยจะพ้นมือซันอยู่แล้ว เวลาว่างก็จะมาคุยเรื่องพวกนี้กัน แล้วมันก็จะออกอาการอย่างนี้เสมอ

   พวกเจมันชอบลากผมมาเตะบอล แต่เจกับต้องจะหายไปข้างหน้า เหลือผมกับแมคแล้วก็ซัน 3 คนไว้ข้างหลัง

   ถึงตอนนี้ผมก็ยังหาเจไม่เจอ แล้วก็ยังไม่อยากเจอด้วย แค่ในห้องเรียนก็อึดอัดพอแล้ว มองๆไปท่าทางเจน่าจะอยู่ในวงฟุตบอลนั้นแหละ เจมันเอากีฬาเกือบทุกประเภทนี่นา แต่บอลดูแล้วมันจะอ่อนที่สุด หลายครั้งขาใหญ่ๆหนักๆของมัน ไม่ได้ใช้เตะบอล เอาไปใช้ไล่เตะกันซะมากกว่า

   แล้วคู่ขาประจำฟาดแข้งก็จะเป็นไอ้ต้อง ดีที่ฟุตบอลมันห้ามใช้มือ เอะ … ฟาดแค่แข้งนะนะไม่ใช่ฟาดฟันอย่างอื่น

   ผมดึงสมาธิกลับมาฟังเรื่องเล่าของไอ้ซันต่อ

   มันยังเล่าแบบผู้ชายๆ ให้พวกผมฟัง

   “ตื่นเช้ามานะ โคตรแข็งเลย รู้ตัวอีกทีกำลังขยี้กับหมอนข้างอยู่”

   “มึงขยี้ท่าไหนวะ” แมคถาม

   ผมเหลือบไปมอง แม่งไอ้แมคเสือกใส่กางเกงยีนขาสั้นมาดูไม่ออกเลย

   “ก็นอนคว่ำทับหมอนข้างเลยมึง แล้วขยับเอวขึ้นๆลงๆ โห คิดตามนะมึงนมโตๆทับหน้าอยู่ รู้ตัวลุกขึ้นมาดูนะ เปียกแฉะเลย”

         เรื่องนี้หลุดมาหน้าตาเฉยจากไอ้ซันผู้ดูติ๋มๆเนี่ยนะ

   เวลามันเล่าอะไรแล้วถูกปากกำลังมันเนี่ยมันพล่ามได้ไม่หยุดจริงๆแฮะ มันเลยสาธยายท่าทางในฝันก็ผู้หญิงนมโตคนนั้นต่อไปอีกสักนิด

   “โตป่านนี้มึงยังฝันเปียกอีกเหรอ หมกหมุ่นนะเนี่ยเอาไปฝันน่ะ” แมคพูดต่อ

   “แล้วทำไมมึงถึงเอาไปฝันวะ เลอะกางเกงหมด”

   “แล้วมึงทำยังไงกับกางเกงมึงอะ”

   “กูก็ต้องแอบเอาไปซักน่ะสิ น้ำเยอะแฉะยังกะฉี่แน่ะ” มันทำหน้ารังเกียจ

   “ก็มึงดองไว้จนเยอะนี่นา ลองเอาออกเองดูดิ” แมคพูด

   “ก็กูไม่เคยทำนี่ ไม่อยากทำด้วย ผู้ชายต้องมาจับไอ้นั่น ยี้ มือกูมีไว้ขยี้นมผู้หญิงเท่านั้น” ซันร้องยี้ ทำไมผมรู้สึกเหมือนมันโกหกมากกว่าวะ

   “แล้วไง บ่อยละสิพวกมึงน่ะ” 

   พวกผมส่ายหน้า เรื่องแบบนี้ถามกันยังงี้ใครจะตอบละวะ

   “ไม่บ่อยอะ แต่ทำเองเสียวกว่านะมึง”

   “ไปดูไอ้เจสิทำเช้าเย็นเลยนะมึง” เสียงใครน่ะ???

   เป็นเพราะเรื่องที่มันเล่าหรือเปล่า ทำให้ผมชักร้อนๆแล้วสิ เมื่อเช้าก็มีอาการนิดหน่อยด้วย แย่ละ ดีที่ไม่ได้ตั้งใจฟังมากไม่งั้นลุกไม่ได้แน่ๆ ไอ้ซันเองก็เหอะ เล่าเรื่องอย่างนี้  คิดว่าเสื้อยาวๆทีม แมนยู ของมันจะปิดเป้ามิดรึไง

   ส่วนแมคถึงผมจะไม่เห็น แต่ หึหึหึ ว่าแล้ว แข็งไม่แข็งไม่รู้แฮะ ไอ้แมคไม่ยอมลุกเลย ตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว แกล้งให้มันลุกดีกว่า

   ผมเริ่มสังเกตแล้ว เออวะ ลมมันหายไปไหน แถมกลิ่นอะไรโชยมาวะ กลิ่นเหงื่อเหรอ กลิ่นคุ้นๆด้วยนะ คนแถวนี้ยังไม่มีใครได้ออกกำลังเลยนะ สงสัยต้องลุกเปลี่ยนที่ซะละ มุมไม่ดี เดี๋ยวแกล้งฉุดไอ้แมคยืนดีกว่าเพื่อมันจะชี้หน้าใส่ไอ้ซัน ฮ่าๆๆๆๆ

   โป้ก

   “อู๊ยยยย” กูชนไรวะ

   “เจ็บนะมึง ลุกเบาๆดิ”

   ผมหันไปมองต้นเสียง

   “มึง...มาตั้งแต่เมื่อไหร่วะ” ไอ้บ้าต้อง มันมายืนค้ำหัวผมตั้งแต่ตอนไหน

   “นานแล้วมึง นานพอฟังว่าไอ้ซันมันเล่าบ้าอะไรให้พวกมึงฟัง”

   “เมื่อกี้ก็เสียงมึงสินะ”

   ผมเดาว่ามันต้องเอาก้มมาฟังเอาค้างมาวางอยู่ใกล้ๆหัวผมแน่เลย ไม่งั้นจะโดนคางมันได้ไง

   “แล้วมึงมานั่งอะไรข้างหลังกูละ”

   “จะให้กูอยู่ข้างหน้ามึงรึไง”

   มันเดินลงแสตนด์มาหนึ่งขั้น หน้ามันเกือบจะเท่าหน้าผมพอดี เสื้อยืดสีขาวบาง ชุ่มเหงื่ออีกแล้ว มันขยับเสื้อเข้าออก ลมจากการขยับพัดเอากลิ่นตัวอ่อนๆ ผสมกลิ่นเหงื่อ มาแตะจมูกผม

   “ด้านนี้เหรอ”

   ผมเอามือผลักอกมันออก

   “คว.. เล่นเหี้ยไรเนี่ย กูเป็นผู้ชายนะ” เออ ขนาดนี้แล้วผมยังเป็นอยู่มั้ย

   ถึงจะยังงี้ผมก็เรียนชายล้วนมาตลอดแล้วการที่จะให้ยอมรับกับตัวเองและคนอื่นๆน่ะ มันก็เหมือนกับการสารภาพว่า วันนี้ไม่ใส่กางเกงในมาโรงเรียนนั่นแหละ ใครอยากดูมาดูได้เลย มันแปลกๆ จะรู้สึกผิดที่ไม่ใส่ก็ไม่ใช่ จะยอมรับว่าไม่ใส่ก็ไม่ใช่ ยิ่งกว่านั้นเกิดบอกไปว่าไม่ใส่คนอื่นจะรับได้มั้ย บ้าบอขึ้นไปอีก แล้วผมไม่ใส่มาจริงมั้ย

   ตั้งแต่ห้องวิทย์กับไอ้เจ มันทำให้ผมกลับมาคิดเรื่องนี้หนักขึ้น ถึงเรื่องไอ้บูมจะผ่านไปนานแล้ว แต่ผมก็ไม่เคยยอมรับว่าผมชอบมัน หรือผมชอบมีอะไรกับผู้ชายเลย มันก็แค่เรื่องเด็กๆที่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป แต่กับเจ นั่นมันโตแล้ว

   “แล้วมึงอะต้องชักบ่อยปะ” แมคถาม

   “ถามเหี้ยไรเนี่ย”

   “บ่อยแน่เลย หน้าอย่างมึงต้องจัดชัวร์” ซันมันลุกขึ้นมาแล้ว ส่วนนั้นก็หายไปด้วย

   “ห่า ไอ้บ้าไม่จริง”

   “จริงป่าว คนนิ้วยาว ไอ้นั่นมักจะยาวไปด้วย นิ้วมึงยาวนะ” แมคคว้ามือต้องไปดู

   ต้องสะบัดออก

   “เฮ้ย เล่นไรวะ”

   “ตอบดิ ผู้ชายด้วยกันอายไรวะ”

   “งั้นมึงตอบก่อนมั้ยแมค มึงชักบ่อยมั้ย วันละกี่รอบ ทำกี่วันต่อสัปดาห์ น้ำเยอะมั้ย ขนเยอะมั้ย มึงด้วยซัน ถ้าพวกมึงพูดกูจะพูด” ไอ้ต้องหน้าแดง

   เวลามันอายมันจะพูดเยอะนี่เอง ทำเป็นเหมือนไม่พอใจ แหมๆ

   แมคเอามือจะไปคว้าไข่ต้อง

   มันหลบได้

   ผมออกเดินไปทางด้านขวาของแสตนด์ กะว่าจะแอบแกล้งไอ้ต้องมั่ง เสียงลมหวีดหวิว ลอยมาด้านข้าง ไอ้ต้องวิ่งมาหลบสินะ

   ตึง

   แสตนด์สั่นสะเทื่อน โครงร่างเหล็กสั่นไหวเบาๆ ลูกขาวดำกลิ้งกระดอนกลับไป

   ลูกบอลหนัง...

   “เก้าอย่าออกด้านนี้ มันซ้อมยิงประตูแล้ว” ซันตะโกนมาบอก

   มันย้ายฝั่งมาตอนไหนวะ แล้วใครมันเตะวะ ขอกูดูหน้ามันหน่อยดิ

   ผมหันไปมอง เด็กรูปร่างสูงเท่าผมหน้าขาวๆ … เด็กม.ต้น พอดูดีๆ หน้ามีโครงเหมือนไอ้ต้องอยู่บางส่วน

   น้องของต้องเหรอ

   “ต่อ ระวังหน่อยสิ” ต้องรีบเดินมายืนข้างผม

   ผมหันกลับไปมอง ต่อใบหน้าเฉยเมย แต่อะไรบางอย่างมันบอกให้ผมรู้สึกได้ 
   
   'รอดไปนะมึง'

   มันมาเกลียดอะไรผมนักหนาวะเนี่ย

   ผมเห็นไอ้เจอยู่แถวนั้น พูดอะไรบางอย่างกับต่อแล้วก็บูม ก่อนจะวิ่งมาทางเรา

   “รีบทำตัวเป็นพระเอกเลยนะมึง”

   “นั่นเด็กกูนะ ไปไกลๆเลย”

   มันใช่เวลามั้ยเนี่ยไอ้เจ

   “เค้ายิงลูกโทษกันอยู่ไปทำไรตรงนั้นวะ” เสียงรุ่นพี่ตะโกนมา ท่าทางอารมณ์ไม่ดีแบบหน้าตาเลย

   พวกเราสี่คนจึงรีบพาร่างออกจากหลังประตูเป็นการด่วน

   “ต้องน้องมึงลงบอลเหรอ”  ผมอยากรู้มันตั้งใจลงหรือแค่ไปเตะเฉยๆ

   “ใช่ มันชอบมั้ง ปล่อยมันไป”

   พอกำลังจะลงจากแสตนด์ รุ่นพี่คนนึงวิ่งเข้ามาหา

   “พวกน้องจะลงอะไรรึเปล่า ว่างอยู่มั้ย”

   “เอ่อ... ผมลองบอลไปแล้วพี่สองคน” ไอ้เจตอบก่อน

   “แล้วอีกสองคนละ” หน้าตาพี่ท่าทางเด็กกิจกรรมจริงๆ ดูไม่ใช่เด็กเรียนเห็นๆ

   “พวกผมกะว่า ทำแสตนด์น่ะพี่” ผมสะกิดไอ้แมค

   มันพยักหน้า

   “เคยทำ?”

   “ก็งานวิทย์ที่ผ่านมาพวกผมช่วยกันทำน่ะ” 

   “งี้มาอยุ่ฝ่ายศิลป์ได้ดิ” พี่ยื่นมือมาตบไหล่ไอ้แมคสองที

   ในใจผมลิงโลดสุดๆ ไม่ต้องซ้อมร้องเพลงแล้ว

   “งั้นเด๋ยวน้องเดินไปลงชื่อกับทางพี่ๆแถวนั้นนะ บอกชื่อ ก้อง ส่งมา”

   “ครับ” ผมกับแมคทำท่าจะเดินออกไป

   “น้องรู้จักใครว่ายน้ำได้มั้ย เจอแต่ม.ต้นกลัวสู้ม.ปลายไม่ไหว”

   “นี่ไงพี่ เพื่อนผมมันว่ายน้ำเก่งมาก เปลี่ยนชุดทีคนตะลึงแน่”

   “งั้นน้องมาคัดตัวตอนนี้เลยนะ”  พี่ก้องเอามือคว้าแขนผมลากออกไปทางสระว่ายน้ำ

   หือ ผมมองหน้าเลิกลัก เฮ้ย ทำไมมันเป็นกูละ

   “เดี๋ยวพี่เข้าใจผิดแล้ว”

   “น่าๆช่วยๆกันหน่อย” พี่ยังคงลากต่อไป
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-11-2015 22:52:39 โดย Monet »

ออฟไลน์ Monet

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-0
มาช้าไปหน่อย ช่วงนี้ป่วยเป็นหนักเกือบโดนแอดมิท

จะพยายามให้จบก่อนสิ้นปีให้ได้ ทั้ง3 และ4 ตอนนี้ 3 ก็ไปได้จะครึ่งทางแล้ว

้เย้


ออฟไลน์ Dominic

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 8
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
คงจะได้เห็น
ได้ดูเก้า
เป้าตุงนะ

ฮ่าฮ่า

ออฟไลน์ Monet

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-0

   ผมหันมามองเห็นพวกมันหัวเราะคิกคักกัน ตอนนี้เดินไปจะถึงสระแล้วนะ ไม่คิดจะมาช่วยกูหน่อยเหรอ

   “เดี๋ยวพี่ ชุดก็ไม่มี”  ผมหาข้ออ้าง
   
   “นี่ไง ของม.ต้น ยืมๆไปก่อนใส่แปบเดี๋ยวไม่ติดโรคหรอก”

   “ไม่ใช่ๆๆๆๆๆ”

   “งั้นน้องใส่เกงในก็ได้ หรือบอกเซอร์ก็ได้ ไม่มีใครสนหรอก” ไม่ฟังเหตุผลกูหน่อยเหรอพี่

   “ไม่ใช่พี่ ผมว่ายไม่เป็น”

   “ลองดูก่อนน่า”

   “อายทำไม ผู้ชายด้วยกัน ไม่มีใครมาสนหรอก เค้าดูผลแข่งกัน”

   นั่นก็ไม่ใช่ประเด็นอีกพี่

   โอ้ยยยย ทำไมนักกีฬาว่ายน้ำมันหายากยังงั้นเลยเรอะ ผมเคยว่ายแค่ประถมเองพอโตมาก็เลิกแล้วจะเอาไรไปสู้เค้า

   “อะ น้องถอดเลยเดี๋ยวพี่ช่วย เค้าคัดกันจะเสร็จแล้ว เสื้อผ้าวางนี่เลยนะเดี๋ยวพี่เฝ้าให้”

   ผิดประเด็นอีกแล้วพี่

   เดี๋ยว แล้วพี่มารูดเสื้อยืดผมขึ้นไปทำไม เหลือแต่เกงขาสั้นตัวเดี๋ยวแล้ว นี่จะปลดเข็มขัดให้เลยมั้ยเนี่ย

   “พี่ๆๆ มันว่ายไม่ได้หรอก ถ้ามันว่ายเก่งหุ่นมันจะยังงี้เหรอ”

   “เออวะ ขาวเชียว ผอมด้วย”

   นี่พี่เพิ่งสังเกตุเหรอ

   ครั้งแรกเลยนะ ที่ผมถอดเสื้อให้พวกมันเห็นในที่สาธารณะ

   “ไม่เป็นแล้ว เพื่อนน้องชี้มาทำไม”  เออ พี่ก้องเห็นสักที

   “ขอบคุณครับ พี่เพิ่งสังเกตุเหรอ” ผมถามตรงๆ

   “ปกติพวกเล่นตัวมันเยอะ พี่ก็คิดว่าเล่นตัวไง”

   ผมจะมีอะไรให้เล่นครับพี่ก้อง เล่นคว.. ยังพอได้

   “โน่นคนว่ายเป็นน่ะมาโน่นแล้ว”

   ไอ้เจ มาในชุดว่ายน้ำพร้อม นี่มันใจคอจะลงกีฬาให้หมดทุกอย่างเลยใช่มั้ย ถึงตัวมันจะอวบขึ้นจากตอนปิดเทอมนิดหน่อย เอ่อ อวบขึ้นเยอะจากปีที่แล้ว พอมันถอดเสื้อผ้าออก มันก็ไม่ได้ถึงขั้นแย่จนไม่คิดว่าจะว่ายน้ำไม่ได้นะ ที่จริงมันดูผอมลงนิดนึงแล้วด้วย

   แล้วชุดว่ายน้ำแบบกางเกงในนี่มันไปเปลี่ยนมาตอนไหนวะ ผมไม่ได้อยากเห็นมันในชุดว่ายน้ำเท่าไรหรอกครับ มันเห็นมาหมดแล้ว คนอื่นอาจจะรู้สึกประหลาดใจหน่อยๆ ที่เจมันกล้าใส่แบบนี้ สำหรับผมแล้วมันเฉยๆไปละ เล่นเห็นมาหมดแล้วนี่ รู้แล้วว่าของที่อยู่ในเกงว่ายน้ำตัวจิ๋วนั้นเป็นแบบไหน ขนาดเท่าไร เอ้ย พอ

   “มึงว่ายเป็นเหรอไง ทำไมไม่ลงแต่แรกวะ” ผมจะเดินเข้าไปถีบมัน

   มันหลบได้ทำท่าร่าเริง

   ไอ้ต้องรีบคว้าแขนผมกลับเข้ามา

   “เดี๋ยวตกสระหรอก”

   “แล้วมึงไปเปลี่ยนชุดมาตอนไหนวะเจ” แมคขยับแว่น

   “ก็กูใส่มาข้างในแต่เช้าแล้ว”

   “มึงจะลงทั้งบอลทั้งว่ายน้ำรึไง” ต้องโยนเสียงถาม

   “แน่นอน กูมีรางวัลที่อยากได้อยู่” เจยักคิ้วให้

   โลภมากจะเอาเหรียญไปสมัครตรงละสิ

   “หึหึหึ” ไอ้เจหัวเราะ

   “งั้นมาวัดกับพี่มา”

   ผมหันไปพี่ก้องถอดเสื้อกับเกงลงข้างสระแล้วทำท่าจะโดดตูม หุ่นพี่ก้องนี่ดูไม่ถึงกับกล้ามแน่นชัด แต่ผิวสีแทนตัดกับสีขาวเป็นรอยเสื้อนักเรียนเนี่ย ผมว่าน่าจะเป็นพวกเล่นกีฬาแน่ๆ

   แอ่ม เสียงไอมาจากไหนวะ

   “นี่มันเล่นใส่กันมาจากบ้านรึไงวะ” ไอ้แมคสงสัย

   “ไปถามพี่เค้าสิ” ไอ้ต้องตอบให้

   แมคหันไปมองหน้า

   ตูม

   ไอ้เจโดดตามลงไปแล้ว

   ตูม

   พี่ก้องว่ายเร็วเหมือนกันแฮะ ผมเลยนึกสงสัยเหมือนกันว่าทำไม ไม่ลงเองซะเลยละ ส่วนไอ้เจดูออกจะช้ากว่าหน่อย กำลังเร่งขึ้นมาเรื่อยๆ พอแตะขอบสระอีกฝั่ง พี่ก้องกับไอ้เจกลับตัวพร้อมกัน (นี่มันว่ายเป็นจริงๆเหรอวะเนี่ย) ถีบขาออก ส่งตัวมาไม่กี่อึดใจ ก็มาถึงครึ่งสระแล้ว ทั้งคู่ว่ายตีเสมอกัน ขอบสระอยู่ไกลออกไปอีก หนึ่งช่วงตัว

   ผมไม่ได้เชียร์ใครทั้งนั้นแหละครับ (ถ้าอยากรู้แล้วละก็) เรื่องกีฬาผมมันไม่มีสิทธิ์คิดอยู่แล้ว ตั้งแต่เกิดมาเล่นอะไรเป็นที่ไหน เพราะอย่างนี้ให้คนเล่นได้แข่งไปเถอะ ผมอยู่เฉยๆดีกว่า  เหตุนี้ผมเลยไม่ค่อยรู้สึกสนุกไปกับมันเท่าไร

   แปะ แตะขอบสระ

   เสียงตีน้ำหยุดลงแล้ว ไอ้เจน่าจะช้ากว่านิดหน่อย

   “ใช้ได้นี่น้อง งั้นน้องลงนะ” พี่ก้องยิ้มให้เจ

   ไอ้เจไม่ตอบอะไรทำหน้าตาเหนื่อยหอบอยู่

   ทำไมพี่ก้องไม่ลงวะ ผมสงสัยจริงจัง

   เออ ตอนนี้ผมยังไม่ได้ใส่เสื้อกลับคืนเลย จู่ๆลมที่มาประทะตัวผมมันก็เปลี่ยนไป กลายเป็นแขนหนักๆ ยาวๆสองข้างเข้ามาแทน
   
   ไอ้ต้องเอาแขนสองข้างพาดบ่าผมเอาไว้ ตัวติดอยู่ข้างหลัง นี่เป็นครั้งเรกที่มันมาโดนตัวผมแบบนี้ ไม่มีเสื้อผ้ากั้น มันทำท่าสบายๆเหมือนคนกำลังพักแขน เสื้อเปียกเหงื่อของมันแห้งแล้วสินะ

   กลิ่นน้ำยาซักผ้าบ้านไอ้ต้องแรงวุ้ย แต่ผมก็ไม่ได้ถอยหนี นานๆจะเห็นมันทำยังงี้ที ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ไปดีกว่า

   ไอ้เจ ยันตัวขึ้นมาจากขอบสระน้ำไหลเปียกลู่ไปตามตัว ทำเอากางเกงว่ายน้ำตัวเล็กอยู่แล้วยิ่งเล็กเข้าไปอีก พอกางเกงแนบตัวก็เน้นส่วนนั้นของมันออกมา

   แต่ตอนนี้ผมไม่ได้สนใจไอ้นั่นของมัน

   ผมเงยหน้าไปมองต้องที่อยู่ข้างหลังผมอย่างอารมณ์ดี

   ไม่ทันไร ความสุขมันแสนสั้น ไอ้เจมันเห็นเข้า มันปรี่เดินเข้ามาทางผม เอาตัวเปียกๆถาโถมเข้ามา มาพยายามแยกผมกับไอ้ต้องออกจากกัน แต่เดี๋ยวก่อน ตัวมันเปียกซกมายังงั้น เสื้อผ้าผมก็เปียกหมดสิ

   “เฮ้ย เจ ทำไรวะ” ผมร้อง

   “อย่าเข้ามาเว้ย”  มันยังคงเดินเข้ามา ไม่ฟังเสียง

   มันมาหยุดยืนอยู่ข้างหน้าผมสองคน ไอ้ต้องยังคงเอาแขนพาดไว้ยังงั้น

   “เฮ้ยๆๆๆ อย่า”

   ไม่ทันแล้ว มันเอาตัวมันกอดแนบตัวผม ตอนนี้ถึงผมจะใส่แต่กางเกงขาสั้นมันก็เปียกหมดแล้ว แถมเหม็นกลิ่นคลอรีนจากสระด้วย ไอ้ต้องผงะถอยออกไปก่อน ตั้งแต่ตอนที่เจมายืนอยู่ข้างหน้า แถมหลบไปหัวเราะอยู่ข้างหลังอีกต่างหาก

   ไอ้แมคก็ดูท่าทางแล้วจะช่วยอะไรไม่ได้ ยืนสั่นหัวยิกๆอยู่

   ผมพยายามผลักไอ้เจออกไป

   ไอ้เจหลบได้ เอามือดันหลังผมหนึ่งที

   “เฮ้ย สัส”

   ตูม ….

   เรียบร้อยผมลงไปอยู่ในน้ำ

   ผมปีนขึ้นจากสระอย่างทุกลักทุเล กางเกงขาสั้นสีครีม มันโดนน้ำแล้วบางนะ ทีนี้จะทำยังไงละเนี่ยกว่ามันจะแห้ง ไอ้ห่านี่ก็เล่นอะไรไม่รู้เรื่องตลอด ผมว่ามันชักจะเกินไปแล้ว ถ้ามันจะเล่นกันยังงี้ต่อไปผมว่าไม่ไหวแน่ นี่ครั้งที่สองแล้ว ถ้านับไอ้ตอนที่บูมมาเห็นด้วย เอ่อ เรื่องนั้นก็ยังไม่หาย เรื่องนี้มาอีก อุตส่าห์ไม่คิดถึงเรื่องบูมไปชั่วคราวแล้วนะ

   “มาๆ” มือถูกยื่นออก

   “มาไรละมึง ฝีมือมึงนะ” มันนั่งยองๆ เอามือยื่นมาให้ผมเกาะ

   นั่งงี้ไอ้นั่นมันยิ่งชี้มาที่หน้าผม เบ้อเร่อเลย ใส่ซะเล็กแยกออกหมดอันไหนไข่อันไหน....

   ผมว่าผมรู้นะว่ามันต้องการอะไร ไอ้ท่านั่งหันเป้ามาทางผมในกางเกงว่ายน้ำเนี่ย ไม่ใช่ไอ้เจไม่รู้ตัวนะ แต่ผมว่ามันตั้งใจ

   “ไหนๆก็เปียกแล้ว ไปอาบน้ำกัน”

   “มึงบ้าเหรอ กูเอาชุดมาที่ไหน” ผมไม่สนมือมัน ปีนขึ้นมาเอง

   “นะๆ จะได้ทำกันอีกไง ในห้องน้ำสระเลย”

   “....” มันไม่เหมือนคำเชิญชวนแล้ว มันเหมือนมันกำลังกวนตีนมากกว่า

   ผมได้แต่พยายามเอามือบิดๆ กางเกงไล่น้ำออกให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ แน่นอนว่ามันเปียกไปถึงกางเกงในแล้ว ดีที่วันนี้ใส่สีดำมาถึงมันจะเห็นก็ยังดีกว่าสีขาววะ ไม่งั้นมันคงเหมือนไม่ได้ใส่

   “ก็กูไง เดี๋ยววกูใส่ชุดเดิม แล้วมึงก็... เออ มึงจะเกงไรวะ”

   ผมกำลังจะเดินเข้าไปตบกบาลมัน

   “เก้า เอาของเราก็ได้ เกงบอล เมื่อเช้าใส่เล่นไปแปบเดียว” ต้องทำท่าหันหลังจะออกเดิน

   “เดี๋ยวเราไปเอามาให้”

   “ไม่ต้องๆ มาเล่นกันดีกว่า” ร่างาขาวๆวิ่งไปทางไอ้ต้อง

   “ไม่” ต้องพูดเสียงแข็ง

   เจพยายามผลักไอ้ต้องลงน้ำให้ได้

   “มึงลงไปเองอีกรอบไป”

   ต้องผลิกตัวหลบ เอามือเกี่ยวกางเกงเจลงมา กางเกงว่ายน้ำตัวน้อย ปิดแต่ส่วนหน้าด้านหลังถูกดึงถกลงมาเห็นก้นขาวๆสองข้าง เต็มตา แล้วขายาวๆก็ถีบมาลงสระไป

   “สันดาน” เสียงด่าลอยขึ้นมาจากในสระ

   ไอ้แมคยืนหัวเราะอยู่ตรงนั้น ที่เดิม ยังไม่มีใครไปยุ่งกับมัน

   “หนอย เหลือมึงสินะ”

   ไอ้เจ เอามือวักน้ำ สาดขึ้นมาจากสระไปทางไอ้แมค ผมกับต้องโดดหนี

   “เล่นคว... ไร”

   “โตแล้ว พอซะที”

   นั่นไอ้แมคองค์ลงเป็นที่เรียบร้อย เห็นมันบ้าบอ เวลาอะไรที่มันไม่เล่นเนี่ยมันก็ไม่เล่นจริงๆนะ อย่าได้คิดจะไปแหย่มันเลย

   “งั้นกูรอนี่ละกัน” ผมบอกไอ้ต้อง

   รูปร่างสูงของมันค่อยๆเล็กๆลงเมื่อเดินไกลออกไปทางสนามบอล เดี๋ยวมันก็คงเอาชุดมาให้ ไอ้เจขึ้นจากสระแล้วเดินไปทางห้องน้ำ

   “ไปป่าว เก้า”

   “ไม่ไป ไม่มีผ้าเช็ดตัว ไม่อยากอาบด้วย”

   มันโบกมือแล้วเดินไปคนเดียว

   “เก้า เดี๋ยวมึงได้เป็นหวัดแน่” แมคเอานิ้วมาสะกิดๆแขนผม

   “ตัวเย็นเชียว”

   ใกล้สิ้นปีแล้วสินะ

   “ก็แหงดิ ตากลมอยู่เนี่ย เมื่อไหร่ไอ้ต้องจะมานะ”  ผมทำหน้าเซ็ง

   “เดี๋ยวให้ต้องไปส่งบ้านป่าว”

   “ไม่เป็นไรเดี๋ยวเปลี่ยนชุดแล้วก็กลับได้” ผมเกรงใจไอ้ต้องมัน เดี๋ยวมันต้องนั่งรถเลยไปอีก

   “แล้วมึงจะเอาเกงในไหนมาใส่วะ” แมคถาม

   เออวะ ชักคันยุบยิบละ หรือจะให้ทนไปจนถึงบ้านดี

   “สังคังจะแดกเอานะ”

   “ปากเหรอนั่น”  ผมเอามือตบกบาลมัน

   “มึงจะช่วยทำแสตนด์ป่าว กูจะได้เอาด้วย” ผมถามมัน ตาเหม่อมองออกไปทางสนามบอล รอความหวังน้อยๆ

   “เอาดิ ดีกว่าไปนั่งร้องเพลงละวะ”

   “ไอ้ต้องมันลงบอลเหรอ”

   “ต้องถามมันดูวะ แต่ไอ้ต่ออะน่าจะลงแน่”

   เออ ใช่ ถ้ามันเตะได้ดีขนาดนั้นแล้วละก็ ดีนะที่ไม่โดนเข้าไป

   ไอ้ต้องเดินกลับมาแล้ว พร้อมๆกับไอ้เจที่นุ่งแต่ผ้าเช็ดตัวอยู่ตรงลาน ทำไมไม่ไปใส่เสื้อผ้าซะวะ มันสองตัวเลยแวะยืนคุยอะไรกันบางอย่าง ไม่นานไอ้ต้องเดินดุ่มๆมาที่ผม แล้วโยนเสื้อกับกางเกงมาให้

   “ไปเปลี่ยนไป”

   ผมรับของแล้วลุกออกเดินทางห้องน้ำ

   “เก้า อย่าใส่เกงในนะ เดี๋ยวคัน ฮ่าๆๆ” เสียงแมคไล่หลังมา ผมทำอะไรได้นอกจากชูนิ้วกลางจากข้างหลังให้มัน

   “เก้า ถ้ากูได้เหรียญมึงจะให้รางวัลอะไรกู” เจถามผม

   “กูว่า มึงถามกูก่อนมั้ยว่ากูหายโกรธมึงยัง”

   “โอ๋ๆๆ น่าๆๆๆๆๆๆๆ กูลงสองอย่างเลยนะมึง”

   ผมมองตัวเปลือยเปล่าของมัน หลังจากมันปลดผ้าขนหนูออกข้างในก็ไม่ได้ใส่อะไร ส่วนนั้นชี้ใส่หน้าผม ขนหรอมแหรมของมันเริ่มแห้งแล้วแสดงว่ามันเช็ดตัวเสร็จนานแล้วสินะ (แล้วทำไมมันชี้หน้าผมได้วะ มันไปทำให้ขึ้นมาตอนไหน)

   “ใส่เสื้อผ้ามั้ยเดี่ยวคนเห็นนะมึง”

   “มันไปกันหมดแล้ว จะเที่ยงแล้วนะ”

   ผมเอาเสื้อตัวเองที่ยังไม่เปียกเพราะโดนพี่ก้องถอดไว้ริมสระก่อนมาใส่

   “ตกลงถ้ากูได้เหรียญมามึงจะว่าไง”

   “พี่ก้องละมึง”

   “พี่เค้าไปแล้ว”

   มันยังจ้องหน้าผมด้วยตัวขาวๆซีดๆ เปลือยเปล่า มีเพียงตรงนั้นที่มีสีแดงเรื่อกับขนสีดำที่มีอยู่น้อยนิด กระดกใส่หน้าผมตลอดเวลาตามจังหวะสูบฉีดของหัวใจมัน

   “มึงต้องได้สองเหรียญ อะไรก็ได้แต่อย่างน้อยต้องทองหนึ่งเหรียญ”

   “ยากวะ”

   ผมไม่สนใจ หยิบกางเกงต้องออกมาดู เกงขาสั้นตัวใหญ่กว่าที่ผมใส่

   “งั้นเอาเป็นว่าถ้าทำได้ มึงต้องเป็นเมียกูนะ”

   ห่านี่ เสียงดัง

   “ถ้ามึงได้อะนะ”

   ผมตัดสินใจอยู่นาน แล้วถอดกางเกงตัวเองออกทั้งสองชั้นเลย ใส่ไปงี้ทั้งชื้นทั้งอับ ช่วยไม่ได้วะ ผมเลยต้องใส่กางเกงของไอ้ต้องแบบไม่มีกางเกงใน เสื้อผมคงจะสั้นไป สงสัยต้องเอาเสื้อต้องแล้วคงยาวอยู่บ้าง ปิดๆเอาละกัน

   “ไม่มีเกงในเหรอ” พอเจรู้ว่าผมไม่ได้ใส่กางเกงในแล้ว

   ของแข็งของมันก็มาถูไถอยู่ที่ก้นผมผ่านผ้ากางเกงบางๆ สักพักมันเริ่มเลื่อนออกมาข้างๆแล้วก็มาที่มือ มันยังไม่หยุด ดูจากทรงแล้วมันน่าจะกำลังคันได้ที่เลยสิ นี่มันจะทำครบทุกที่ในโรงเรียนเลยมั้ยเนี่ย ส่วนหัวแดงๆ มาสะกิดกับปลายนิ้วมือผม ไม่ดีละ เดี๋ยวของผมตื่นขึ้นมาจะเดินออกไปไม่ได้ ตอนนี้ก็นิดๆแล้ว

   มันเอาอ้อมมือมาลูบไล้ของผม แล้วซุกหน้าลงที่คอ

   “เฮ้ย คราวก่อนกูขอโทษนะ กูจะน้อยลงแล้วนะ”

   แล้วไอ้ที่กระดิกอยู่ในมือกูนั่นอะไร ลื่นแล้วเนี่ย

   ผมเลยลูบของมันเล่นจากส่วนหัวไล่ไปเรื่อย ลงไปถึงลูกกลมๆน้อยๆของมันที่ตอนนี้เต่งตึงราวกับจะระเบิดออกมา มันครางเสียงเบาๆอยู่ข้างหูผม

   อะไรเหลวๆลื่นๆออกมามากขึ้น ผมขยับมือเข้าออกอยู่สักหน่อย

   “ให้ได้มาก่อน” ผมพูดจบแล้วเดินออกจากห้องน้ำไป

   ต้องเอาเสื้อของต้องมาใส่แล้วละ แม่งชี้ขึ้นซะจนกางเกงออกมาเป็นสามเหลี่ยมแล้ว

   นี่คือความพยายามของผมที่จะหลีกเลี่ยงปัญหา ในความคิดของผม สิ่งเดียวที่ทำให้ผมยังเป็นเพื่อนกับมันต่อ เพราะ มันยังไม่เคยทรยศต่อผมเลยและมันก็ดีกับผมมาตลอด

    ไม่เหมือนไอ้บูมที่พยายามทำอย่างไรก็ได้ให้แกล้งผมให้ได้ ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่าอย่างผมมันมีความสุขที่ได้แกล้งด้วยเหรอ ทั้งแกล้งทั้งเอาผมเป็นที่ระบายความเงี่....น

   สรุปผลการคัดตัวนักเตะเป็นอย่างไรบ้าง ผมไม่ได้อยู่ตามต่อ เดินไปเรียกรถแท๊กซี่แล้วมุ่งหน้ากลับบ้าน ชุดที่แสนประหลาดเป็นเสื้อยืดลายสีสดสำหรับใส่ไปเที่ยว มาคู่กับกางเกงบอลตัวยาว หลวมนิดหน่อย แถมไม่มีกางเกงใน ขามาเดินมาอย่างสบายใช้เวลาไม่นาน แต่ขาออกทำไมมันไกลอย่างนี้  เสื้อผ้าเปียกๆรวมทั้งกางเกงในก็รวมกันอยู่ในถุงเซเว่นที่ซื้อมาเมื้อเช้า (แถมต้องเอามือดึงกางเกงกับเสื้อไปตอลดทาง)

   เนื้อผ้าบางลื่นที่เสียดสีไปด้วยนี่ เดินแล้วช่างทรมานยิ่งนัก ถ้ามันจะกระตุ้นอารมณ์กันอย่างนี้อยากจะเอาออกมาทำให้รู้กันไปเลย ต้องเป็นคนเรียกรถแท๊กซี่ให้ เมื่อแวะไปส่งแมคเสร็จแล้ว ต้องเลยนั่งต่อมาถึงหน้าบ้านผมแบบวันนั้น กลิ่นตัวมันผสมกับกลิ่นผ้าที่จดจำได้ดี ตอนนี้มันอยู่บนตัวผมแล้ว ส่วนเจโดนพวกเราปล่อยเอาไว้อย่างนั้นแหละ (สงสัยมัวแต่ชักว่า.. อยุ่เลยออกมาช้า)

   อยากแกล้งคนอื่นดีนัก

   “เดี๋ยวแวะบ้านมึงก่อนละกัน” ต้องเปิดประตูลงจากรถ

   “เฮ้ย ไม่รีบกลับเหรอ”

   “ป่าว บ่ายๆนี้กูว่าง”  ถ้ารู้ว่าต้องว่างน่าจะชวนแมคมาด้วย

   “อีกอย่าง ต้องเอากางเกงคืนด้วย”  มันก้มหน้าลงมองมาที่ผมใส่อยู่

   เฮ้ย ผมรีบปิด

   อย่ามองนักจะได้มั้ยเนี่ยยยยยย

   “เออ ขอบใจนะที่ให้ยืม”

   “จริงๆเดี๋ยวกูเอาไปคืนวันจันทร์ก็ได้นะ”  ว่าจะได้อยู่กับกางเกงมันต่อไปอีกหน่อย

   “ไม่เป็นไร แต่เหม็นมั้ยมึง”

   “ไม่รู้ดิวะ ไม่ได้ยกขึ้นมาดม ตอนใส่ก็ใส่เลย”

   อยากให้กูดมเรอะไงไอ้ต้อง

   “กูง่วงแล้ว เข้าบ้านละจะอาบน้ำนอน”

   “ตอนนี้เนี่ยนะ เพิ่งกี่โมง”

   “งั้นกูถูหลังให้ปะ” ต้องยังหันมามองจากบนรถแท๊กซี่

   “ไม่ต้อง ขอบใจ”  จบคำ ปิดประตูรถส่งมันแล้วรีบเข้าบ้าน

   ไอ้บ้าเอ้ย ไม่กล้าหันหน้าไปสู้มันหรอก ชี้ออกมาซะขนาดนี้แล้ว ผมต้องเอามืออีกข้างกุมเอาไว้กันมันเห็น ยังดีที่ตอนนี้ไม่มีคนอยู่บ้าน พอเข้าบ้านเสร็จก็ปล่อยมันละ อยากชี้หน้าใครก็เอาเลย เดินมันยังงี้จนเข้าห้องนอนไปนั่นแหละ

   ติ๊ด...

   ข้อความ

   'จันทร์เจอกันที่โรงเรียน กางเกงกูฝากไว้ก่อน
   อ้อ ขาว เนียน นะมึง'

   ผมหยิบมือถือ กดส่งกลับ
   'ไอ้สัส เดี๋ยวกูหวั่นไหว'

   ผมเล่นแรงไปมั้ยวะ ถ้าต้องมันรู้ตัวขึ้นมา มันต้องเกลียดผมแน่ๆ

   เข้าไปอาบน้ำแล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าดีกว่า

   น้ำเย็นๆ ตอนบ่าย หลังจากตากแดดร้อนๆมานี่ใช้ได้อยู่มันกันมันรู้สึกสบายอย่างบอกไม่ถูก อาบน้ำเสร็จผมกะว่าจะไปอ่านหนังสือสักหน่อยไม่ก็ หาอะไรก็ได้ทำ ถ้าไม่มีอารมณ์จะอ่านหนังสือ อ้อ ยังติดค้างเมื่อเช้าอยู่นี่นะ หึหึ

   เอาซักกี่ยกดีละเนี่ย

   ออกจากห้องน้ำมา ผมยังไม่ใส่เสื้อผ้าเลย เอาผ้าเช็ดตัวขยี้ๆหัวไว้ก่อนให้ผมแห้ง  ใจอยากรู้ว่าจะมีข้อความส่งมาหรือไม่

   กดโทรศัพท์ดู   

            ว่างเปล่า...

   'เอาวะ งั้นช่างมัน เอาซักยกก่อน'

   ไปล้มตัวนอนบนเตียง กางเกงต้องยังพาดอยู่ที่เก้าอี้โซฟา พอนึกแล้วของมันขึ้นดีจริงๆ งั้นจัดการเลยดีมั้ย ถ้ามันจะแข็งขืนเรียกร้องมือผมซะขนาดนี้แล้ว

   ผมนอนพาดอยุ่บนเตียง จะว่านอนก็ไม่ถูก แค่ส่วนที่อยุ่เหนือก้นเท่านั้นที่อยู่บนเตียง นอกนั้นอยู่เลยออกไป มันเหมือนคนนอนไม่เต็มตัว ขาเหยียดออก ท้องเริ่มเกร็ง ครึ่งบนขนานไปกับเตียง ขายันพื้นไว้ มีแค่ตรงนั้นที่ตั้งฉากกับพื้น ตอนนี้มันไม่ตั้งแล้ว แข็งเกินจนแทบจะชี้ใส่หน้าผมเลย

    มือขวาขยี้หัวแดงๆ ส่วนมือซ้ายขยี้ที่หน้าอก หน้าท้องขาวเนียนเริ่มขยับขึ้นลงแรงขึ้น ตามลมหายใจเข้าออกที่แรงเป็นช่วงๆ จากความรู้สึกแปล๊บ มันทะยอยไล่ขึ้นมาจากขามาที่ท้องน้อย

   ตาเหลือบมองไปที่กางเกงต้อง

   ‘ไอ้บ้าเอ้ย'

   อยากให้มันใส่ให้ดูแบบไม่มีกางเกงในจัง

   ตอนนี้มือไม่ขยี้แล้ว แต่เปลี่ยนการกำมือหลวมๆแล้วเคลื่อนไหวเป็นขยับขึ้นและลงช้าๆแทน

   ในห้องน้ำผมเองก็แทบจะทนกับไอ้เจไม่ไหว

   อา... ผมเองตัวเกร็ง ส่วนนั้นตึงแล้วก็ร้อนจัด สีแดงที่เข้มขึ้นจนเหมือนเลือด

   ไอ้ต้องจะขนาดเท่าไรเป็นยังไงนะ
   
   ผมรูดขึ้นไปสุดแล้วลงมาลึกๆจนตัวโยนขึ้นมาจากเตียง

   อา.... ความเสียวระลอกสองมาแล้ว อีกไม่นานก็คงจะประทุออกมานอกร่างกาย

   ติ๊ด

   'ใครวะ'

   1 ข้อความใหม่

   'งั้นกูรับผิดชอบเอง'

   ไอ้ต้อง

   ผมส่งกลับ

   'olo'

   มันมีสองความหมายอ้อมๆ

           1. ผมด่ามัน 2. ผมมีอารมณ์กับมัน

   แต่มันไม่มีทางรู้หรอก เพราะผมคิดของผมเองคนเดียว มันจะไปตีความอะไรก็เรื่องของมัน

   โทรศัทพท์หน้าจอสลับมืดไป ก่อนจะส่งแสงสว่างจ้า พร้อมตัวเลข

   'ไม่มีชื่อคนโทร แต่.. เบอร์เหมือนเคยเห็น'

   “ครับ” ใครมันขัดจังหวะวะ จะเสร็จอยู่แล้วเชียว

   ผมลุกมานั่งคุย ส่วนนั้นยังชี้ขึ้นมาที่สะดือ แต่ความยาวน่ะไม่ถึง

   “วันอาทิตย์ว่างมั้ย”

   บูม???

   “ไม่ว่าง”

   “มึงมีอะไร” อยากรู้ว่ามันโทรมาทำไม

   “ได้ข่าวมึงจะลงแข่งกีฬาด้วยเหรอ” บูมถามขึ้น

   “ปัญญาอ่อน กูไม่ลง”

   “....”

   “อะไรของมึง” หงุดหงิดแล้ว มันโทรมาเรื่องบ้าอะไรเนี่ย

   “มึงห้ามลงแข่ง ไม่งั้นกูจะเอาเรื่องมึงไปบอกทุกคน” บูมทำเสียงจริงจัง

   “ก็กูบอกว่า กูไม่ลงไง” ผมชักสงสัยผมเป็นบ้าหรือมันโง่วะ

   “เออ อย่าลืมที่กูบอกละ วันไหนมึงว่างก็บอก”

   “ไม่มีทาง”

   “ไม่งั้นมึงโดนกูแน่”

   สายตัดไป....

   เซ็งชิบหาย

   คว... หดหมดแล้ว

ออฟไลน์ Anonimo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 4
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
แปลกใจตัวเอง ว่าทำไมยังเชียร์เจอยู่ก็ไม่รู้

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
ไอ่เจอ่ะ..ก็แค่เพื่อนกันมันส์ดี

แต่กับต้อง..มันต้องมีมากกว่านั้น
เน๊อะ..เก้า
ฮ่าฮ่า

ออฟไลน์ magic-moon

  • magKapleVE
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 496
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-2
    • Freedom of meetups, no obligations
ไม่ชอบเจ ไม่ชอบเจมากๆ ต้องปรับปรุงตัวซะนะ จะได้เป็นพระเอกดีๆ เคร?

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด