
ช่วงนี้มาต่อได้แค่เรื่องเดียว ซิกๆ
4 หวานเกินกว่าหวาน
‘อร่อยไหม’ คนตัวน้อยหัวใจเต้นตึกตักๆ ตอนเห็นพี่ชายข้างบ้านตักเค้กที่ทั้งสองช่วยกันทำเข้าปาก เหล่าผู้ปกครองที่เตรียมตัวออกไปเที่ยวกันมองกิริยาท่าทางของทั้งคู่ยามอยู่เคียงกันแล้วก็ต้องอมยิ้มออกมาอย่างชื่นใจ
แจ็คสันเข้ามาพังทลายกำแพงความหวาดกลัวผู้คนของแบมแบมได้อย่างรวดเร็วจริงๆ
‘อร่อย’ แจ็คสันเขียนตอบข้อความน้องยื่นให้อ่านก่อนจะก้มหน้าช้อนมองคนที่เขินเพราะคำชม ส่งเสียงหัวเราะน้อยๆ เมื่อใบหน้านั้นแดงไปหมด เห็นแล้วก็หมันเขี้ยว จัดการปากครีมที่เค้กป้ายหน้าไปหนึ่งที คนที่เขินอยู่เบิกตาตกใจส่งเสียงในลำคอออกมาเบาๆ ให้คนแกล้งได้ยิ้มกว้างมากขึ้น
“กินเร็ว” ฉุดมือน้องลงนั่งลงที่เดิมแต่ดูเหมือนจะไม่พอใจตน อุ้มน้องตัวเล็กทำเหมือนเป็นเด็กอายุแค่ 10 ขวบมาวางแหมะไว้ที่ตักตนเองแล้วตวัดมือรัดรอบเอวบาง หัวคิ้วขมวดมุ่นอย่างขัดใจนิดๆ ที่น้องใบ้ของตนตัวผอมบางเกินไป
“กินไปเลย...ตัวเล็กไปแล้ว” แจ็คสันดุคนที่ขยุกขยิกๆ ขยับตัวให้เข้าที่เข้าทางแล้วส่งค้อนมาให้เขาโป๊กหนึ่ง แบมแบมเบะปากขัดใจที่โดนสั่งแต่ก็อ้าปากรับเค้กพูนช้อนเข้าปากไปเคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อยถูกใจเจ้าตัวสุดๆ
“ไม่เอาแล้ว” แจ็คสันส่ายหน้าพัลวันตอนที่น้องแย่งช้อนจากมือไปตักเค้กจากจานมาจ่อที่ปากตนมั่ง แค่คำเมื่อกี้คำเดียวก็เลี่ยนคอจะตาย ถึงจะอร่อยแค่ไหนก็ยังไม่ถูกกับของหวานอยู่ดี
“ฮึ” แบมแบมยู่จมูกขัดใจ พ่นลมหายใจเสียงดังให้รู้ว่างอน ทำท่าจะลุกออกจากตักหนีจากอ้อมแขนแกร่งก็ถูกโอบกระชับแน่นเช่นเดิมก่อน คนถูกกักตัวเลยเอี้ยวตัวไปเอากระดาษดินสอมาเขียนตัดพ้อพี่ชาย
‘กินหน่อย แบมตั้งใจทำให้พี่ ทำให้คนเดียวเลย’ เห็นข้อความที่คนหน้ามุ่ยรีบเขียนไวๆ แล้วก็ใจอ่อน คว้าเอาดินสอของตนมาเขียนข้อความตอบกลับไปมั่ง
‘น้องใบ้ทำขนาดนี้ พี่จะขัดได้ไง’ ล้ออีกคนอย่างอารมณ์ดี ก่อนถูกทุบที่อกอย่างแรง เจ็บนิดหน่อยแต่ก็ได้เค้กหอมๆ หวานๆ มาปลอบประโลม ตักป้อนกันไปตักป้อนกันมาก็จนเค้กหมดชิ้น แบมแบมเลยจะขยับกายออกไปเก็บจานให้เรียบร้อย เพราะบรรดาผู้ปกครองต่างพากันไปสังสรรค์ข้างนอกทิ้งพวกเขาไว้บ้านสองคนได้สักพักแล้ว
“เดี๋ยวค่อยเก็บ” ตอนแรกก็กอดแค่แขนเดียว สักพักเลยโอบรัดแน่นด้วยทั้งสองแขน ตัวน้องแทบจมมิดเข้ามาในอก ใบหน้าก็แนบลงกับไหล่หนาข้างหนึ่ง
“กินเลอะด้วย” แจ็คสันขำน้องน้อย แบมแบมเลิกคิ้วเหมือนย้อนถามคำบอกเล่านั้น ก่อนจะยื่นหน้ามาใกล้พี่เป็นเชิงว่าให้เช็ดให้หน่อย
แจ็คสันชะงักไปนิดก่อนจะเช็ดครีมที่ติดอยู่ตรงริมฝีปากให้น้อง
...
ไล้เลียด้วยริมฝีปากของตน
“อื้อ” คนถูกเช็ดครีมที่เปื้อนหลับตาพริ้มกำชายเสื้อเบาะอุ่นของตนแน่น เงยหน้าแล้วเอียงหน้าตามทิศทางที่อีกคนเป็นคนควบคุม เปิดปากอุ่นที่หอมหวานให้พี่ไล้ลิ้มรสชาติด้วยปลายลิ้นที่พันเกี่ยวกระวัดกัน
แจ็คสันถอนริมฝีปากออกตอนที่คนในอ้อมแขนหายใจหนักและริมฝีปากที่เคยชมพูกลับเป็นแดงระเรื่อและดูอวบอิ่มน่ากัดขึ้นมาอีกนิด
“ฮื่อ” ว่าแล้วว่าน่ากัดก็ก้มลงไปขบเม้มใหม่อีกที ใช้ริมฝีปากไล้เม้นข้างบนก่อนจะเปลี่ยนที่มาเป็นริมฝีปากล่าง ดูดดึงออกมาเบาๆ ให้คนประท้วงสั่นสะท้านด้วยความมวลท้อง
‘หวานไหม’แบมแบมใช้สองมือที่สั่นประคองกระดาษและดินสอให้มั่นในยามเขียนคำถาม
‘หวานมาก...หวานยิ่งกว่าหวาน’
แล้วแจ็คสันก็เอนกายน้องลงให้ราบไปกับโซฟานุ่ม จัดการลิ้มชิมความหวานที่ดูจะหวานอบอวลน่ากัดกินขึ้นเรื่อยๆ
ไม่พอ...
ไม่เพียงพอเสียที...
********
“แบมขอไปนอนกับแจ็คนะครับ...ทำไมไปเรียกพี่เขาด้วยชื่อเฉยๆ ล่ะครับลูก เรียกพี่แจ็คสิเด็กคนนี้นี่” ผู้เป็นป้าเอ่ยท้วงเอาตอนอ่านประโยคหนึ่งในสมุดที่หลานรักยื่นออกมาให้อ่านหลังกินข้าวเย็นกันเสร็จ ผู้เป็นลุงเลยชะโงกหน้ามาอ่านบ้างแล้วหัวเราะน้อยๆ กับอาการยู่ปากของหลานตน
“แล้วนี่พี่เขาจะไม่รำคาญเราหรือไงนะ ตัวติดพี่เขาจริงเชียว” ป้าเอ่ยแซวอีก ทำเอาคนอยากไปนอนค้างบ้านคนอื่นใจเสียขึ้นมา หน้าหวานเจื่อนลงนิดๆ ด้วยใจก็คิดว่าพี่แจ็คสันคงจะเริ่มเบื่อตนแล้วบ้างเหมือนกัน
“ไม่เบื่อหรอกครับ...น้องใบ้ไปอยู่ด้วยก็วุ่นวายดี” เจ้าของหัวข้อสนทนาเดินเข้ามาในบ้านก่อนก้มหัวทำความเคารพผู้ใหญ่ทั้งสอง เดินเข้ามาหยิกปากบานๆ ของน้องน้อยที่เชิดรั้นขึ้นอย่างขัดใจกับคำพูดของตนสักครู่ ก่อนจะหลุดหัวเราะออกมาเมื่อคนพูดไม่ได้สะบัดหน้าหนีจนกลัวคอจะเคล็ดแทน
“ไปๆ น้องใบ้ เตรียมตัวเสร็จแล้วก็ไปครับ” ฉุดมือคนงอนขึ้นให้ยืนตรง เอ่ยปากบอกกับผู้ใหญ่ทั้งสองว่าพ่อแม่ตนไม่อยู่เลยจะขอเอาหมอนตัวนุ่มนิ่มไปนอนกอดเป็นเพื่อนหน่อย ลุงป้าหัวเราะรับคำหนุ่มข้างบ้านและหยอกเย้าคนตัวเล็กที่ยืนหน้าแดงอยู่ข้างๆ กัน
“พรุ่งนี้ก็ไปส่งน้องที่โรงเรียนให้ป้าหน่อยนะแจ็คสัน”
“ครับ”
เด็กหนุ่มรับคำกระตุกแขนบางเบาๆ ให้เดินอุ้มกระเป๋าใส่เสื้อผ้ากับไดอารี่แล้วก็อุปกรณ์การสื่อสารอย่างสมุดกับดินสอตามหลังมา คล้อยหลังจากปิดประตูบ้านตัวเองก็โอบเอวบางให้เข้ามาใกล้ก่อนแย่งเอากระเป๋าใบน้อยไปวางลงไว้บนโซฟา
“ฮื่อ...” ก้มลงงับจมูกรั้นเสี้ยววิก่อนประทับริมฝีปากลงตรงริมฝีปากหยุ่นนุ่ม บดเบียดเคล้าคลึงไม่ได้ล่วงล้ำ ก่อนจะโอบร่างเล็กให้เข้ามาใกล้แล้วทิ้งกายตัวเองลงบนโซฟานุ่ม โดยที่คนที่โดนรั้งมาก็นั่งทับลงที่ตักพอดี
“พรุ่งนี้มีเรียนทำไมไม่บอกก่อน พี่จะได้ไม่นัดกับเพื่อน” เสียงทุ้มเอ่ยตำหนิตอนผละใบหน้าออกมา น้องน้อยยิ้มทะเล้นให้ลืมเรื่องปากมอมของคนตรงหน้าเมื่อครู่ใหญ่ไปหมดสิ้น ก้มดวงหน้าหวานซบลงกับอกแกร่งแล้วใช้มือนุ่มลูบไล้เล่นอย่างเพลินมือ
“ซนหรอเรา” แจ็คสันกดจมูกลงตรงกลุ่มผมนิ่ม ละมือข้างหนึ่งที่โอบเอวคนตัวเล็กไว้ขึ้นมาหยิกแก้มนุ่มแล้วก้มลงหอมปิดท้ายฟอดใหญ่
“ไปอาบน้ำเร็วเด็กใบ้” คนเป็นที่นั่งอุ้มแบมแบมให้ลุกขึ้นยืน หันไปคว้าเอากระเป๋าแล้วจูงมืออีกคนให้เดินตามขึ้นบันไดพาไปยังส่วนห้องนอนตน
“รีบอาบล่ะ อยากกอดไวๆ” บอกว่าอยากกอดไวๆ แต่แขนแกร่งก็ตวัดเอวบางมากอดไว้และซบหน้าลงกับซอกคอหอมไปแล้ว ก่อนจะคลายมือออกให้คนที่ตัวเริ่มร้อนได้เข้าไปอาบน้ำเสียที
แบมแบมอาบน้ำบวกใส่ชุดคุณหมีบวกปะแป้งไม่เกินสิบนาที เดินออกมานอกห้องน้ำถือสมุดกับดินสอมาเขียนตัวอักษรขยุกขยิกยื่นให้พี่ดู
‘รีบอาบน้ำนะ แบมแบมง่วง’เขียนเสร็จยื่นให้อ่านเสร็จก็ล้มตัวลงนอนตาแป๋วมองเจ้าของห้อง แจ็คสันเขกหัวให้โปกหนึ่งก่อนจะคว้าเอาผ้าเช็ดตัวกับเสื้อผ้าตัวเองไปบ้าง
แบมแบมมานอนด้วยทีไร ตัวเล็กตั้งกฎห้ามใส่เสื้อผ้าข้างนอกทุกที...เขินจริงเขินจังเจ้าเด็กอายุ 18 นี่...
แจ็คสันใช้เวลาทำทุกอย่างไวกว่าแบมแบมหน่อยหนึ่ง ตอนออกมาเห็นเด็กน้อยของตนนอนคว่ำหน้าตีขาไปมาอย่างอารมณ์ดี คางที่เกยอยู่ตรงหมอนนุ่มขยับไปมาอย่างอารมณ์ดี มือน้อยตวัดดินสออย่างรวดเร็วในการเขียนไดอารี่ประจำของเจ้าตัว
แต่เดี๋ยวนี้คงจะเป็นประจำอาทิตย์เสียมากกว่า เพราะแบมแบมใช้มือเขียนตอบโต้กับแจ็คสันจนเมื่อยจนไม่มีแรงจะจับดินสอเขียนไดอารี่ซะอย่างนั้น
“วันนี้มานอนบ้านพี่แจ็คสัน...อ้าว...ปิดทำไม พี่อ่านหน่อยก็ไม่ได้” แจ็คสันที่ย่องเข้าไปแอบอ่านหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่งเพราะมือน้อยกำลังยกหมอนทุบเขาไม่ยั้ง หน้าหวานๆ กำลังขึ้นสีแดงกล่ำเพราะถูกแอบอ่านไดอารี่ที่แจ็คสันไม่อยากจะบอกว่าแอบอ่านมานานโขแล้ว
แต่มันก็เป็นเรื่องที่แจ็คสันรู้ดีหมดแล้ว...แบมแบมเป็นคนที่คิดอย่างไรก็บอกอย่างนั้น แสดงอย่างนั้น...ไม่จำเป็นต้องแอบอ่าน...ใช้ ‘ตา’ มอง ใช้ ‘สมอง’ รับรู้ และใช้ ‘ใจ’ เข้าใจ ได้อย่างง่ายดาย
และถึงแม้ว่าสถานะที่เป็นอยู่จะไม่มีใครเอ่ยออกมา แต่ก็เหมือนจะรับรู้กัน...ไม่ใช่แค่สอง หากแต่คนรอบข้างก็มองมาอย่างเข้าใจ...
‘นิสัยไม่ดี’โดนน้องว่าเข้าให้...คนตัวเล็กเลิกใช้หมอนทุบพี่ เขียนตัวอักษรยุกยิกว่าไปหนึ่งประโยคก่อนเอนกายลงนอนแล้วกระตุกแขนอีกคนให้ลงมานอนด้วยกันเพราะดวงตาใกล้ปิดเต็มทน
แจ็คสันพยักหน้าลูบหัวนุ่ม เดินไปปิดไฟเตรียมตัวนอนทั้งๆ ที่พึ่งจะสามทุ่ม เปิดโคมไฟตรงหัวเตียงไว้ เพราะเดี๋ยวพอน้องรับตัวเองก็ตื่นขึ้นมาอ่านหนังสืออยู่ดี สอดตัวเข้าไปในผ้าห่มก่อนรับคนที่ขยับตัวเข้ามาใกล้ตวัดแขนเล็บโอบเอวเข้าไว้มาไว้ในอ้อมกอด สอดแขนให้น้องนอนหนุนแทนหมอนจัดที่จัดทางเสร็จก็ก้มลงงับปากอิ่มเบาๆ สอดเรียวลิ้นเกี่ยวกระหวัดพันรั้ง โอบร่างกายให้แนบแน่นกันมากขึ้นจนแทบไม่มีที่ว่าง เคล้าคลึงริมฝีปากกันและกันจนได้ยินเสียงอีกฝ่ายผ่อนลมหายใจอย่างสม่ำเสมอจึงได้ละริมฝีปากออกมา
“หึ” หัวเราะอย่างเอ็นดูคนที่หลับง่ายเหลือเกินแล้วประทับจูบลงที่หน้าผากมน ไล่มายังจมูกโด่งและสองแก้มนุ่มนิ่มและจบลงประทับรอยแผ่วเบาตรงปากอิ่ม กอดให้ความอบอุ่นแก่ร่างกายน้องน้อยอีกกว่าร่วมชั่วโมงก่อนผละกายออกมาหยิบหนังสือที่อ่านค้างไว้มาอ่านต่อ
ชีวิตทุกวันนี้ก็มีแค่นี้...วันไหนมีเรียนที่มหาลัยก็ไป วันไหนไม่มีคลาสก็มาขลุกอยู่กับตัวเล็กของตน วันไหนน้องต้องไปเรียนพิเศษที่เป็นคลาสสำหรับเด็กผิดปกติทางร่างกายก็จะไปเฝ้า ไปเดินเที่ยวเล่น ไปซื้อข้าวของ แล้วก็กลับมานอนกอดก่ายกันที่บ้าน ก่อนถึงเวลาเข้านอนก็แยกย้ายใครมัน เว้นเสียนานๆ ครั้งจะค้างบ้านคนใดคนหนึ่ง
สี่เดือนที่ผ่านมาก็ใช้ชีวิตมาอย่างนี้ตลอด และแจ็คสันก็ตัดสินใจแล้วว่า...อยากจะใช้ชีวิตอย่างนี้กับคนข้างกายตลอดไป
********
ช่วงนี้มีแรงมาปั่นได้แค่เรื่องเดียว ทํางานทุกวันเลยยย สลบบบ แอร๊ก!!