Chapter 3 : พี่ว้ากฝึกหัดนักศึกษาชั้นปีสามและปีสี่ของคณะวิศวกรรมศาสตร์ที่จะรับหน้าที่เป็นพี่ว้ากในตอนเปิดเทอมมาประชุมรวมกันตั้งแต่ท้องฟ้ายังไม่ทันสาง งานนี้ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับน้ำ ชายหนุ่มชั้นปีที่สี่คณะมนุษยศาสตร์ หากเขาโดนเพื่อนในกลุ่มลากถูลู่ถูกังมาช่วยฝึกซ้อมและเป็นหนูทดลองด้วย
“เฮ้ย! พี่น้ำมา สวัสดีครับพี่” กลุ่มพี่ว้ากปีสามร้องทัก โดยไม่ได้แปลกใจถึงการมาถึงของชายหนุ่มต่างคณะ ก็พวกเขาเห็นภาพนี้มาตั้งแต่ปีหนึ่งแล้วนี่ แม้แต่ข่าวคราวการไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่ญี่ปุ่นของน้ำ รุ่นเขาก็รู้กันทั้งรุ่น ราวกับชายหนุ่มเป็นส่วนหนึ่งของคณะอย่างไรอย่างนั้น
“โหย จำเกือบไม่ได้เลยว่ะ นี่ก็ไว้หนวดไว้เคราเตรียมไว้รับน้องเหมือนกันสินะ” น้ำทักตอบ
“อร๊าย! พี่น้ำขา หล่อขึ้นเป็นกอง” มดดำ หนุ่มน้อยแต่สาวมากของชั้นปีที่สามก็มาเป็นพี่ว้ากกับเขาด้วย เจ้าหล่อนวิ่งเข้าไปสวมกอด แล้วกรีดร้องเสียงดัง กิริยาตรงข้ามกับภาพลักษณ์ร่างถึกบึกบึน ผมยาวหนวดจัดเต็มแบบฟ้าเหว “พี่น้ำอ้ะ จู่ๆ ก็โผล่มาแบบนี้ น้ำหนูเดินแจ๊ะๆ เลยค่า วันนี้ไม่ได้พกโซฟีมาด้วยนะเนี่ย”
คนมาใหม่ถึงกับผงะ แทบจะใช้เท้ายันอีกฝ่ายออกไป “เฮ้ย! นี่ใครกันวะ”
“มดดำเองค่ะพี่” หล่อนจีบปากจีบคอตอบ
น้ำเบิกตาโพลง “เย้ย! มาเป็นพี่ว้ากได้ไงน่ะเรา”
“โดนล่อลวงมาน่ะสิคะ ก็เพื่อนพี่น้ำน่ะแหละ ล่อลวงหนู เอาปีหนึ่งมาล่อ” มดดำค้อนประหลับประเหลือกใส่กลุ่มชายหนุ่มหน้าโฉดที่ยืนอยู่ด้านหลังน้ำ ซึ่งพวกเขากำลังกลั้นหัวเราะกันจนสีหน้าบูดเบี้ยว
“ก็ลุคมึงให้ ถึงใจมึงจะไม่รักก็เหอะ” เสียงรุ่นพี่ตอบกลับมาแบบทีเล่นทีจริง “แค่ยืนเฉยๆ ก็น่ากลัวแล้ว”
น้ำกวาดสายตาสแกนกรรมพี่ว้ากชั้นปีสามแต่ละคน ก่อนจะหันไปมองหน้าเพื่อนพ้องของตน คือถ้าเขาไม่รู้จักไอ้พวกนี้มาก่อน ก็คงจะนึกกลัวเกรงอยู่ แต่นิสัยของไอ้พวกนี้น่ะสิ... จะไปว้ากใครไหวเหรอวะเนี่ย ชายหนุ่มยิ้มเจื่อนๆ พร้อมกับเดินเข้าไปในกลุ่มเพื่อนพ้อง “พวกมึงใช้เกณฑ์อะไรเลือกปีสามมาเป็นพี่ว้ากวะ” น้ำไม่ได้อยู่ร่วมกับเพื่อนๆ ในตอนชั้นปีสาม จึงไม่รู้ว่าสมัยที่เพื่อนตนเป็นพี่ว้ากตอนนั้นเป็นอย่างไร เขาเคยเห็นเพียงแค่รูปที่ทุกคนถล่มส่งมาให้ดูเท่านั้น
เต้าหู้ใช้นิ้วโป้งชี้เข้าไปที่อกตัวเอง “ใช้ใจโว้ย พวกกูไม่ได้หลับตาเลือกมานะ แต่เพราะพวกกูเคยทำหน้าที่นี้มาก่อน”
“ทำตัวให้ดูน่ากลัว ใครๆ ก็ทำได้โว้ยไอ้น้ำ สำคัญที่ใจน้องมันด้วย ว่ามันมีสปิริตพอรึเปล่า พี่ว้ากไม่ได้เป็นกันง่ายๆ นะมึง มันต้องพร้อมที่จะเสียสละ พร้อมที่จะยืนเคียงข้างและลุยไปกับปีหนึ่งด้วย”
...โอ้... พวกเพื่อนๆ เขานี่มีหลักการจนน่าใจหาย เวลาหนึ่งปีที่ห่างหายกันไป ไอ้พวกนี้เป็นผู้ใหญ่ขึ้นเยอะอย่างไม่น่าเชื่อเลย น้ำนึกชื่นชมอยู่ในใจ
“พวกมันพิสูจน์ตัวเองด้วยการวิ่งรอบสนามบาสมาแล้วห้าสิบรอบ สนามบอลสามสิบรอบ วิดพื้นกับสควอทจัมพ์อีกอย่างละสองร้อยครั้ง ทุกวิธีที่พวกมันจะใช้ลงโทษน้อง มันฝึกซ้อมด้วยตัวเองกันมาหมดแล้ว” ใบตองพูดต่อ
...อา... ช่างน่าชื่นชม
น้ำเลิกคิ้วขึ้นอย่างสนใจ เพราะทุกครั้งที่เคยได้พบรุ่นน้องปีสามกลุ่มนี้ ก็มีแต่พากันเฮฮาไปดื่มเหล้าด้วยกันทั้งนั้น “งั้นเหรอ” พอได้ยินแบบนี้แล้ว เขาก็รู้สึกกระตือรือร้นไปด้วยกับทุกคนเลยนะเนี่ย “ว่าแต่พวกมึงซ้อมกันไปถึงไหนแล้ว โชว์หน่อยสิ อยากเห็นว่ะ”
ตั้งใจ ผู้รับตำแหน่งเฮดว้ากปีสี่หันไปตะโกนบอกปีสาม “เฮ้ย! พวกเอ็ง ซ้อมว้ากโชว์ไอ้น้ำหน่อยซิ!”
“อูย... เขินว่ะพี่” พวกปีสามลูบท้ายทอยบิดตัวไปมา ท่าทางที่ไม่ได้เข้ากับใบหน้าเหี้ยมๆ เอาเสียเลย
“เฮ่ย ไม่ต้องเขิน พวกมึงเต็มที่เลย ไอ้น้ำมึงดูนะ รุ่นน้องกูน่ะ เห็นแบบนี้ น่ากลัวมากเลยจะบอก รับถ่ายทอดวิชาจากพวกกูไปเต็มๆ” พูดจบกลุ่มพี่ว้ากปีสี่ก็เดินไปตั้งแถว ยืนรอให้ปีสามเข้ามาออกคำสั่ง
...ถ่ายทอดวิชาจากพวกมึงงั้นเชียวหรือ น้ำเฝ้ารอดูอย่างตื่นเต้น
เฮดว้ากปีสามสูดหายใจเข้าปอดลึกหลายๆ รอบ จากนั้นจึงก้าวเข้าไปยืนตรงหน้ากลุ่มพี่ปีสี่ แล้วพูดเสียงดังยิ่งกว่าใช้โทรโข่ง “ปี 1 ฟังเรียกแถว ทั้งหมด!จัดแถว!”
“แถวอะไรของพวกคุณกัน! เลื้อยเป็นงูขนาดนี้ ที่ผมสอนๆ ไปคุณไม่จำกันเลยรึไงครับ!”
“ปีหนึ่ง บูมคณะสองรอบพร้อม... 3! 4!”
“พวกคุณมีเสียงกันเท่านี้เหรอครับ พวกคุณตั้งกี่ร้อยเสียงยังดังสู้พวกผมไม่ได้เลย!” เฮดว้ากหน้าโฉดยกมือขึ้นกอดอก แล้วเดินวนไปมาด้วยท่าทีแบบนักเลง เขาเดินซ้อมหน้ากระจกมาเป็นร้อยรอบแล้ว ท่าพอยต์เท้า เหวี่ยงแขน หมุนตัว แม่นยิ่งกว่านางแบบวิคตอเรียซีเคร็ตเสียอีก “ก้มหน้าลงไป แล้วบูมใหม่ครับ!”
...อืม เริ่มต้นมาน่ากลัวใช้ได้เลย น้ำจ้องมองไปด้วยความประหลาดใจ แต่ก็รู้สึกทึ่งได้ไม่นานสักเท่าไหร่
"ปีหนึ่ง ลุก!"
"ปีหนึ่ง ลุก! ผมบอกให้ลุก พวกคุณไม่ได้ยินรึไงครับ" เฮดว้ากปีสามตะโกนเสียงดัง แต่เพราะรุ่นพี่ไม่ทำตามคำสั่ง เขาจึงก้าวเข้าไปประชิด "หรือพวกคุณฟังภาษาไทยไม่รู้เรื่องกันครับ ลุกขึ้นสิครับ!”
รุ่นพี่ปีสี่ชักทนไม่ไหว ไอ้รุ่นน้องตรงหน้านี่ ตะคอกเขาจนขี้หูสั่นไปหมดแล้ว เขาจึงเงยหน้าขึ้นเพื่อเตือนสติ “ไอ้เหี้ย! พวกกูก็ลุกอยู่นี่ไง มึงจะสั่งให้นั่งรึเปล่าวะ!”
ปีสามชะงัก “เออว่ะ... ผมมึน... มันต้องสั่งให้นั่งก่อนนี่หว่า...” พูดจบก็หยิบโพยที่จดไว้ขึ้นมาดู
เต้าหู้ตะโกนด่าเสียงดังลั่น “ไอ้ห่า มึงเป็นเฮดว้ากได้ไงวะเนี่ย”
“ไอ้พวกนั้นมันโหวตมาว่ะพี่” รุ่นน้องหัวเราะแหะๆ
ป๊อกเด้งทำมือไล่ “ไปๆ มึงออกไปท่องโพยของมึงก่อน เอายัยมดดำมาว้ากก่อนมา”
“มดดำพร้อมแล้วค่า” มดดำยกมือขึ้น สลัดจริตทั้งหมดกองไว้เบื้องหลัง แล้วเดินอาดๆ เข้าไปยืนตรงหน้าพี่ปีสี่ “ปีหนึ่ง ฟังเรียกแถว แถวตอนเรียงยี่สิบ ทั้งหมดจัดแถว! ปฏิบัติ!”
“ปีหนึ่ง นั่ง! ปีหนึ่ง หมอบ! เอ้า! หมอบลงไปครับ!”
“สงสัยหมอบจะสบายไม่พอ พวกผมกลัวคุณจะโดนยุงกัดด้วย เพราะงั้น ปีหนึ่ง กางมุ้ง!”
มดดำทำได้ดีไม่ใช่เล่น เสียงทุ้มต่ำห้าวแบบที่ไม่ค่อยมีใครได้ยินนัก “แต่ผมว่าถ้าจะให้นอนสบายก็ต้องหนุนหมอนด้วยนะครับ เอ้า! ปีหนึ่ง หนุนหมอนด้วย”
“หนุนหมอนสูงๆ ครับ”
“ไม่เอาแล้วเว้ย เหนื่อย” คราวนี้ใบตองรับบทรุ่นน้องที่ดื้อไม่ยอมทำตามคำสั่ง เขานอนแผ่ลงไปกับพื้น
“005 คุณทำอะไร ผมบอกให้กางมุ้งแล้วหนุนหมอนสูงๆ ไม่ได้ยินรึไงครับ” มดดำเดินเข้าไปยืนตรงหน้ารุ่นพี่ที่นอนแผ่หลาอยู่ เจ้าหล่อนแลบลิ้นเลียริมฝีปากอย่างลืมตัว “ถ้าคุณไม่ทำตาม... จะโดนจกปลาไหลนะฮ้า~ ว้าย!” ทว่าก่อนที่จะก้มลงไปจกปลาไหลได้ เธอก็โดนเพื่อนที่เป็นพี่ว้ากด้วยกันจิกผมออกไปเสียก่อน
“อีมดดำ! มึงนี่ ลืมตัวทุกสามนาทีเลยโว้ย”
“พวกมึงจะให้กูทำยังง้ายยย ผู้ชายนอนตรงหน้ากูแบบนี้ กูจะไม่ทน!” มดดำเถียงเสียงแหลมปรี๊ด
ปีสี่ทั้งหลายลุกขึ้นนั่งอย่างปลงๆ เอาเข้าจริงๆ การใส่อารมณ์ การจ้องจับผิด หาข้อผิดพลาดเพื่อสั่งสอนคนอื่น ทำสีหน้าเคร่งเครียด หงุดหงิดเหมือนประจำเดือนขาดอยู่ตลอดเวลามันก็ไม่ใช่นิสัยของพวกเขา ขนาดเตรียมบทเตรียมโพยไว้หนาเป็นรีมแล้วเชียวนะ “อีกสองอาทิตย์จะเปิดเทอมแล้ว จะรอดมั้ยวะเนี่ย”
“ตอนปีสามพวกมึงก็เคยเป็นพี่ว้ากไม่ใช่เหรอวะ ที่พวกมึงไว้หนวดกันน่ะ กูจำได้” น้ำย่อตัวลงนั่ง ให้สายตาอยู่ในระดับเดียวกันกับเพื่อนตน
ไข่ย้อยตอบพลางส่ายหน้าไปมา “ตอนนั้นพี่ปีสี่แม่งโหดว่ะ โหดซะจนพวกกูยืนเป็นไม้ประดับฉากเลยมึง”
“พวกมึงไม่ได้รับถ่ายทอดวิชามาจากรุ่นพี่มึงบ้างเลยเหรอวะ” ...มิน่า ไอ้พวกนี้เลยไม่มีอะไรถ่ายทอดไปถึงปีสามเลย ดูจากสภาพแล้ว...
“ก็มีบ้างนิดนึง” ตั้งใจเถียงเสียงแผ่ว พร้อมกับจีบปลายนิ้วให้เพื่อนดูว่าที่ว่านิดนึงน่ะ มันนิดขนาดไหน “แต่มันไม่แข็งแรง นี่กูเลยต้องไว้ผมยาว เอาทั้งหนวดทั้งเคราเข้าข่มด้วย”
น้ำพลอยหนักใจไปกับเพื่อนๆ ด้วย “นี่พวกมึงซ้อมกันมากี่วันแล้ววะ”
“สองอาทิตย์แล้วว่ะ “
ชายหนุ่มส่ายหน้าไปมา “สปิริตของพวกมึงจะกลายเป็นโจ๊กให้ปีหนึ่งขำมั้ยวะเนี่ย”
“มึงอย่าพูดสิ พวกกูยิ่งกลัวๆ อยู่”
“เอางี้ พวกมึงก็โทรไปขอให้รุ่นพี่ที่เป็นพี่ว้ากของพวกมึงมาเทรนให้อีกทีสิ”
“พวกกูต้องโดนด่าหูยานแน่ๆ” เสียงโอดครวญดังระงม “วันก่อนเพิ่งคุยกันเอง พี่แม่งก็ถามหลายหนแล้วว่าจะไหวมั้ย แต่พวกกูปากเก่งปฏิเสธไป... แล้วอย่างนี้มึงจะให้พวกกูแบกเอาหน้าที่ไหนไปขอร้องพี่เขาวะ”
“โดนด่าหูยาน กับประชุมเชียร์ล่มไม่เป็นท่า พวกมึงจะเลือกอย่างไหน ไอ้พวกห่านี่ ไหนวะสปิริตพวกมึง ติดๆ ดับๆ ฉิบหาย! ใครเป็นเฮดว้ากปีสี่วะ”
ตั้งใจยกมือขึ้น ตอบเสียงอ่อยแล้วยังอ้อยอิ่งไม่ยอมขยับ “กูเอง แต่ไม่เอานะ กูไม่โทร”
“ไปโทรซะ” น้ำพูดเสียงขรึม
“จะดีเหรอมึง~ นี่เดี๋ยวต้องเตรียมกิจกรรมกับปีสองปีสามอีก นัดน้องๆ ไว้แล้วอะ”
“ก็รีบไปโทรสิ”
“แต่กูว่า~”
น้ำกระชากคอเสื้อเพื่อนรักแล้วดึงเข้าหาตัว “ไอ้เหี้ย! อยากโดนกูจับทุ่มรึไง ไปโทรนัดพี่มึงเดี๋ยวนี้! ปฏิบัติ!”
“ครับ!” ตั้งใจเบิกตาโพลง ลุกขึ้นวิ่งปรู๊ดไปคว้าโทรศัพท์ทันที
พวกปีสามมองตาม พร้อมกับคิดอยู่ในใจ... ที่จริงไม่ต้องไปตามรุ่นพี่ที่จบไปแล้วมาให้ลำบากก็ได้ เอาพี่น้ำนี่แหละ มาฝึกให้ดีกว่า น่ากลัวกว่าใครเพื่อนเลย
“พวกมึงด้วย นั่งทำอะไรกัน ลุกขึ้น!” น้ำขมวดคิ้ว พร้อมตะโกนเสียงดังลั่น “ไปรวบรวมปีสองปีสามมาช่วยเตรียมกิจกรรมได้แล้ว ไป!”
“ครับ!” พี่ว้ากปีสี่ทุกคนลุกขึ้นโดยพร้อมเพรียง ก่อนจะวิ่งแตกฮือออกไป
ชายหนุ่มตะโกนไล่หลัง “รีบกลับมาภายในห้านาทีด้วยโว้ย!”
...งานนี้ เหนือพี่ว้ากปีสี่ ก็คงจะมี ไอ้สัตว์น้ำ ของทุกคนนี่แหละ
TBC~*ตอนนี้สั้นๆ ให้น้องเมฆพักรบก่อนนะคะ ตอนหน้าจะพามาส่งค่ะ แล้วจะยาวกว่านี้ด้วยยย ไม่โกหก ฮ่าๆๆๆ
ทุกคนรู้จักท่านอนกางมุ้งใช่มั้ยคะ? แต่อธิบายอีกทีดีกว่า คือนอนยกแขนขาขึ้นมานั่นแหละค่ะ หนุนหมอนก็คือยกศีรษะขึ้นค่ะ
สปอยล์~ ตอนหน้าจะแนะนำให้รู้จักกับประธานรุ่นปีหนึ่งวิศวะค่า
ขอบคุณทุกคนที่ติดตามค่า ขอกำลังใจแรงๆ แล้วจะรีบเอามาลงต่อน้า