Chapter 2 : รับน้องเสียงกลองและเสียงร้องเพลงดังก้องไปทั่วมหาวิทยาลัยตั้งแต่ไก่ยังไม่ทันตื่นขึ้นมาขัน พวกรุ่นพี่แต่ละคณะพานักศึกษาชั้นปีที่หนึ่งมารวมตัวกันและแบ่งแยกออกไปตามกลุ่มที่จัดไว้ จากนั้นจึงเริ่มเดินทางออกไปทำกิจกรรมตามแต่ละฐาน
กิจกรรมสำหรับการรับน้องรวมในวันนี้ เป็นกิจกรรมง่ายๆ สนุกสนาน บางฐานก็ออกไปทางทะลึ่งตึงตังบ้าง หากก็เพื่อลดความเคอะเขินและสร้างความคุ้นเคยกันให้กับเหล่านักศึกษาใหม่
ในฐานแรกๆ นั้น กลุ่มของเมฆก็ยังมีเขินอายกันอยู่บ้าง แต่หลังจากผ่านไปได้สองสามฐาน ความความเกร็งก็ลดลง ประกอบกับที่เมฆและตำลึงเป็นคนสนุกสนาน จึงพาให้เพื่อนในกลุ่มเฮฮาไปด้วย เกมที่พวกเขาเล่นกันนั้น มีทั้งป้ายสี ร้องเพลง ออกแบบท่าเต้น คิดเพลงประจำกลุ่ม จับคู่ส่งไพ่ทางปาก ปิดตาควานหาของโดยให้เพื่อนๆ บอกทิศทาง และอื่นๆ อีกมากมาย
จนกระทั่งเวลาล่วงเลยไปถึงเที่ยง ทุกคนนั่งล้อมวงรับประทานอาหารกัน เพื่อเติมพลังให้พร้อมสำหรับกิจกรรมฐานในตอนบ่าย ซึ่งสำหรับกลุ่มของเมฆนั้น ฐานที่เหลือทั้งหมดอยู่ริมทะเล รวมทั้งฐานของรุ่นพี่คณะวิศวะด้วย
จะว่าไป เขายังไม่เห็นกลุ่มรุ่นพี่คณะหน้าโหดกับคนชื่อน้ำอะไรนั่นเลย ไม่มาเข้าร่วมทำกิจกรรมหรือยังไงกันนะ เมฆอดนึกถึงไม่ได้ หากก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร จนช่วงเวลาทำกิจกรรมเริ่มขึ้นอีกครั้ง ยาวไปจนถึงเวลาบ่ายแก่ๆ
เสียงกรีดร้องดังแว่วมาจากฐานแถวริมทะเลแทบจะตลอดเวลา จนกลุ่มของเมฆเริ่มสงสัย สำหรับพวกเขานั้น กำลังจะเคลื่อนไปยังฐานที่ว่าเป็นฐานสุดท้าย และฐานนั้น ก็เป็นฐานของรุ่นพี่วิศวะนั่นเอง
ขณะที่เคลื่อนย้ายไปฐานสุดท้าย สายตาของเมฆก็เหลือบไปเห็นกลุ่มรุ่นพี่วิศวะหน้าโหดกลุ่มเดียวกับเมื่อวานนั่งรวมกันไม่ไกลจากที่ตั้งฐานสุดท้ายนัก พวกเขานั่งนิ่งๆ ไม่ได้พูดคุยกันสักเท่าไหร่ ดูเหมือนว่าจะมานั่งคุมเชิง ดูลาดเลาอะไรสักอย่าง
...แต่วันนี้รุ่นพี่คนนั้นไม่ยักกะอยู่ด้วยแฮะ
กิจกรรมของฐานสุดท้าย เริ่มจากการส่งผ้าให้รุ่นน้องผู้ชายใช้ผูกตารุ่นน้องผู้หญิง แล้วจัดให้พวกเธอยืนเรียงหน้ากระดาน จากนั้นจึงจัดให้ลูกน้องผู้ชายไปยืนรออยู่ห่างๆ โดยที่ห้อยเงาะสองลูกกับมะเขือยาวไว้ที่เอว แล้วให้รุ่นน้องผู้หญิงควานหาลูกเงาะมาปอกเปลือกป้อนให้
แรกๆ เริ่มเกมก็ยังเฮฮากันอยู่ แต่ไม่นานดราม่าก็บังเกิด เมื่อเด็กสาวหลายๆ คนรับไม่ได้ หลังจากที่ลูบๆ คลำๆ ไปแล้วไปเจอของสำคัญของหนุ่มๆ เข้า
จนกระทั่งมาถึงอีกเกมซึ่งทางพี่ฐานอ้างว่าเป็นเกมที่พิเศษสุดและคัดมาให้เล่นเฉพาะกลุ่มสุดท้ายนี้เท่านั้น ซึ่งฝ่ายเด็กสาวจะต้องกลิ้งไข่เข้าไปในขากางเกงเพื่อนชาย แล้วกลิ้งจนมันออกมาอีกข้าง โดยที่ใครที่ใช้เวลานานที่สุด จะถูกรุ่นพี่จับโยนลงน้ำทะเล
แค่ฟังคำอธิบายสีหน้าของพวกเธอก็ดูย่ำแย่จนน่าสงสาร ประกอบกับที่เหนื่อยมาตลอดทั้งวันแล้ว จะปฏิเสธรุ่นพี่ก็ไม่กล้า
“เหนื่อยกันแล้วใช่มั้ย เอางี้ พี่ขอแค่สี่คู่เท่านั้น ใครจะเป็นผู้เสียสละครับ”
สิ้นคำสั่งให้จับคู่ไปแล้วทว่าก็ยังไม่มีใครยอมขยับเขยื้อน สำหรับพวกผู้ชายน่ะ ไม่มีปัญหากันหรอก หากพวกเด็กสาวเอาแต่สบสายตากันไปมา หันมองหน้ากันเลิ่กลั่ก เมฆเห็นท่าไม่ค่อยดีจึงยกมือขึ้นแย้ง
“พี่ครับ เกมสุดท้ายนี่ ให้ผู้ชายเล่นกันเองก็ได้นี่ครับ”
“หืม” รุ่นพี่ฐานเลิกคิ้วขึ้นอย่างสนใจ เขาลดสายตาลงมองด้ายสีแดงที่ผูกอยู่ตรงข้อมือของเด็กหนุ่ม “โอ้ วิศวะซะด้วย” จากนั้นจึงหันไปทางกลุ่มรุ่นพี่หน้าโหดที่นั่งอยู่ไม่ไกลออกไปแล้วผงกศีรษะ คล้ายจะส่งสัญญาณเรียกเรียก
ไม่นานรุ่นพี่กลุ่มนั้นก็ก้าวเข้ามายืนในบริเวณฐาน สายตาเย็นเยือกและใบหน้าเคร่งขรึมส่งผลให้กลุ่มรุ่นน้องในฐานเงียบกริบลงทันควัน แต่ละคนก้มหน้านิ่ง รุ่นน้องผู้หญิงหัวไหล่สั่นน้อยๆ ด้วยความกลัว แม้กระทั่งพี่ฐานเองก็ปิดปากสนิท เสียงกลองที่ตีดังอย่างสนุกสนานในตอนแรกหายไป ทำให้รุ่นน้องแต่ละคนเริ่มกลัวว่าจะมีปัญหากับรุ่นพี่ จะมีก็แต่ตำลึงที่ยังเงยหน้ามองเพื่อนอย่างห่วงๆ “เมฆ” หากสายตาของเมฆยังคงจ้องพี่ฐานเขม็ง
“มีปัญหาอะไรเหรอ คุณน่ะ”
"เกมมันไม่เหมาะกับผู้หญิงนะครับ เล่นแบบนี้มันคุกคามทางเพศแล้วนะครับพี่ แล้วเพื่อนผมก็ไม่ไหวกันแล้วด้วย"
“แต่นี่มันฐานสุดท้ายแล้วนะ เกมสุดท้ายแล้วด้วย เล่นอีกเกมแค่นี้จะเป็นอะไรไป”
“พวกเขาทนมาตั้งแต่เช้าแล้ว ก็พอแล้วไม่ได้เหรอครับ” เด็กหนุ่มเถียงกลับไปทันควัน เขาพยายามไม่หันไปสนใจกลุ่มรุ่นพี่หน้าโหดทางด้านหลัง สองมือกำเข้าหากันแน่น เพื่อเรียกความกล้าหาญให้กับตัวเอง
ในขณะเดียวกันนั้น มีใครบางคนเดินเข้ามาภายในฐานอย่างเงียบๆ ในมือถือกล้องถ่ายรูปหากไม่ได้ใช้งาน เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อพบว่าบรรยากาศในฐานดูแปลกๆ
“มีอะไรกันเหรอ”
การมาถึงของน้ำช่วยให้บรรยากาศในฐานเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นเล็กน้อย รอยยิ้มบางๆ บนใบหน้ากับท่าทางสงบนิ่ง ส่งผลให้รุ่นน้องปีหนึ่งรู้สึกดีขึ้นบ้าง จนได้ยินเสียงผ่อนลมหายใจแว่วมาอย่างแผ่วเบา
“พี่น้ำ เอ้อ...” รุ่นน้องที่คุมฐานหันมองระหว่างชายหนุ่มที่เพิ่งเข้ามาสมทบกับรุ่นพี่คณะตนที่อยู่ข้างหลังอย่างชั่งใจ แต่ก็คิดว่าเก็บพวกหลังไว้สำหรับน้องๆ ในคณะหลังเปิดเทอมไปแล้วจะดีกว่า อีกอย่าง พี่น้ำ แม้จะอยู่ต่างคณะ แต่ก็ใจดีและใจเย็นกว่าเยอะ “มีปัญหานิดนึงน่ะครับ”
น้ำพยักหน้า ก่อนจะหันไปส่งสัญญาณมือกับกลุ่มเพื่อนหน้าโหดของตนให้ถอยไป ส่วนตัวเขาก้าวเข้าไปช่วยรุ่นน้อง “ปัญหาอะไร”
พอเห็นใบหน้าของคนที่เข้ามาใหม่เท่านั้น หนังตาของเมฆก็กระตุกแปล๊บๆ เขาทำหน้าถมึงทึงใส่ชายหนุ่ม “....” ไอ้ที่สาดโคลนใส่เขาเมื่อวานน่ะ ยังไม่ได้ชำระความกันเลยนะโว้ย!
“น้องเขาว่า ไม่อยากให้น้องผู้หญิงกลิ้งไข่ อยากให้ผู้ชายด้วยกันกลิ้งให้น่ะครับ”
“เฮ้ย! ผมไม่ได้พูด” เมฆเบิกตาโพลง “ผมแค่บอกว่าเกมแบบนี้มันไม่เหมาะกับผู้หญิง”
รุ่นพี่ปีสี่รับฟังพลางยิ้มรับ รอยยิ้มของเขาช่วยผ่อนคลายความตรึงเครียดในฐานไปได้อีกนิดหน่อย แต่ก็เพียงแค่ชั่ววูบเท่านั้น เมื่อเขาหันไปทางเมฆแล้วพูดตอบ “ผมไม่ได้ถามคุณ”
เด็กหนุ่มชะงักกึก เขาปิดปากลงแล้วเม้มริมฝีปากแน่น สายตาจ้องมองรุ่นพี่อย่างเคียดแค้น พลางนึกสาปแช่งอีกฝ่ายอยู่ในใจ
ชายหนุ่มดูจะอ่านสายตาของเมฆออก เขาสอดมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงแบบสบายๆ แล้วพูดเสียงเรียบ “แต่เขาก็พูดถูกนะ” น้ำหันไปบอกกับรุ่นน้องที่ทำหน้าที่คุมฐาน “สงสารน้องผู้หญิง... งั้นพวกนายก็จับคู่เล่นกับน้องเขาเองก็แล้วกัน คลึงไข่กันให้เต็มที่ไปเลย” พอพูดจบเขาก็หันหลังจะเดินออกไปจากฐาน ทว่าน้ำเสียงประชดประชันจากใครบางคนเรียกให้เขาหยุดไว้เสียก่อน
“สั่งคนอื่นแบบนั้นน่ะ พี่กล้าเล่นเองรึเปล่า”
“เฮ้ย! ไอ้เมฆ!” ตำลึงกระตุกแขนเพื่อนรัวๆ “พอเหอะว่ะ”
เรียวปากบางกระตุกยิ้ม เขาหันกลับมาสบสายตากับเด็กหนุ่ม “คุณท้าผมเหรอ”
“ผมถามเฉยๆ” เมฆยังไม่ยอมแพ้ แม้ในใจตัวหดเหลือเท่ากุ้งแห้งเกรด D แล้ว เพราะรู้สึกว่ารุ่นพี่คนนี้... มีบรรยากาศผิดแผกไปจากที่เขาคาดไว้เล็กน้อย
“ก็ได้ ผมจะจับคู่เล่นกับคุณเอง” น้ำส่งกล้องในมือให้กับรุ่นน้องที่คุมฐาน แล้วจึงก้าวเข้าไปประจันหน้ากับเมฆ “กล้ารึเปล่า”
“กล้าสิ” เด็กหนุ่มตอบทันที
“โอเค งั้นออกไปบนหาดกันเลย”
สองหนุ่มยืนเผชิญหน้ากันอยู่บนชายหาด โดยที่มีพี่ฐานกับเพื่อนในกลุ่มรุมล้อมอยู่ห่างๆ ครั้งนี้เมฆได้เปรียบเทียบความสูงของตนเองกับรุ่นพี่ชัดๆ อีกฝ่ายตัวโตกว่าที่คิดไว้ ความสูงพอๆ กับตัวเขาเลยทีเดียว
สีหน้าของน้ำไม่ได้บ่งบอกถึงอารมณ์ใดๆ เป็นพิเศษ เขาหยิบไข่ไก่สดมาจากมือของรุ่นน้องที่คุมฐาน แล้วโยนให้เมฆ “ผมให้คุณก่อน”
เด็กหนุ่มรับไข่ไว้ในมือ พร้อมกับลดสายตาลงมองกางเกงยีนส์ที่น่าจะมีราคาแพงไม่ใช่น้อยของอีกฝ่าย ซึ่งดูจะมีพื้นที่ให้กลิ้งไข่ได้ไม่มากสักเท่าไหร่ เขาจะกลิ้งถูกกลิ้งผิดไหมนะงานนี้
“คุณจะเริ่มได้รึยัง” รุ่นพี่ถามเสียงเย็น
เมฆส่งสายตาขุ่นๆ ใส่ พลางย่อตัวลงนั่งตรงหน้าชายหนุ่ม เขาค่อยๆ สอดไข่เข้าไปในขากางเกงข้างซ้าย ขณะที่เคลื่อนไข่ไปตามท่อนขาก็เหลือบมองใบหน้าที่นิ่งเฉยจนน่าหมั่นไส้ของอีกฝ่ายไปด้วย
“ชอบให้ผู้ชายคลึงไข่ให้รึไง” เด็กหนุ่มพึมพำ เขากลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงคอเมื่อไข่เคลื่อนไปถึงจุดสูงสุดของกางเกง พยายามไม่ให้มือไปถูกของสงวนของอีกฝ่ายเข้า แต่พอพลาดแตะไปโดน ก็กลับเป็นตัวเขาเสียเองที่เหงื่อตก
“เร็วเข้าสิ ชอบคลึงไข่ให้ผู้ชายรึไง” น้ำยิ้มมุมปาก เร่งเด็กหนุ่มด้วยน้ำเสียงกึ่งเย้ยหยัน
“รู้แล้วน่ะ” มือของเด็กหนุ่มสั่นน้อยๆ ยิ่งพยายามเร่ง ก็ยิ่งเคลื่อนไข่ได้ช้าลง เมื่อถึงทางลงก็ต้องคอยประคองไข่ไว้ให้ดี อาจจะช้าไปสักหน่อย แต่สักพักเขาก็ทำได้สำเร็จ
เมฆส่งไข่ในมือคืนให้รุ่นพี่ “เสร็จแล้ว ตาคุณล่ะ” สำหรับเด็กหนุ่มนั้น เขาใส่กางเกงชาวเลตามที่คณะกำหนดมาให้ กางเกงขากว้างขนาดนั้น อีกฝ่ายคงเคลื่อนไข่ได้ไม่ยากนัก
แล้วก็เป็นอย่างที่เมฆคิดไว้ รุ่นพี่นั่งลงตรงหน้าเขา สอดไข่เข้าไปในขากางเกง เพียงแค่แป๊บเดียวก็เคลื่อนขึ้นมาจนถึงจุดสูงสุดแล้ว อาจจะจั๊กจี้ไปนิด แต่เขาก็พอจะเกร็งตัวยืนนิ่งและกลั้นไม่ให้หลุดหัวเราะออกมาได้
น้ำเคลื่อนไข่ไปหยุดอยู่ที่ตรงเป้ากางเกง เขาเงยหน้าขึ้นสบสายตากับเจ้าของกางเกงนั้นพลางยิ้มมุมปาก
เมฆขมวดคิ้ว รอยยิ้มแบบนี้อีกแล้ว... “เดี๋ยว!” ยังพูดไม่ทันจบ อีกฝ่ายก็ตบไข่สดดังป้าบใหญ่ “เฮ้ย!” เด็กหนุ่มเบิกตาโพลง ไข่ไก่ถูกตีผสมกับไข่เขาเรียบร้อยแล้ว ความรู้สึกเย็นวาบเหนียวหนึบเข้าไปถึงกางเกงชั้นใน แล้วยังมีน้ำเหนียวไหลลงไปตามท่อนขาอีกด้วย
น้ำลุกขึ้น พร้อมกับหันไปสั่งกับรุ่นน้องที่คุมฐาน “พาเขาไปล้างไข่ในทะเลหน่อยสิ” เพียงเท่านั้นพวกที่คุมฐานก็จัดการเข้ามาล้อม แล้วอุ้มรุ่นน้องผู้น่าสงสารที่ยังช็อกกับไข่ไม่หายไปโยนลงในน้ำทะเลตรงตื้นๆ
“ไอ้... ไอ้...” เมฆโกรธจนปากสั่น มองตามชายหนุ่มที่เดินฉับๆ ออกไปอย่างคาดโทษ “เมื่อวานก็ทีนึงแล้ว ไอ้รุ่นพี่เฮงซวย!”
น้ำหันหน้ากลับไปมอง “เมื่อวานอะไร”
“รถพี่น่ะ สาดโคลนใส่ผม ลืมแล้วรึไง!”
“อ้อ! งั้นเรอะ” ชายหนุ่มตอบรับด้วยสีหน้าเฉยชา ก่อนจะเดินจากไปโดยไม่หันหน้ากลับมาฟังเสียงโวยวายของเมฆอีก
เด็กหนุ่มกัดฟันกรอด “...แม่ง...”
“เมฆเป็นอะไรรึเปล่า / ไอ้เมฆลุกไหวมั้ย” หากเสียงที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วงเป็นใยจากเพื่อนๆ ในกลุ่มที่กรูกันเข้ามาช่วยพยุงให้ลุกขึ้นก็ทำให้เมฆยิ้มออกมาได้อีกครั้ง แต่ละคนลุยลงมาในน้ำโดยไม่กลัวเปียก บรรยากาศเคร่งเครียดผ่อนคลายลง เขาได้ยินคำขอบคุณจากเพื่อนหญิงในกลุ่มจนเมื่อยหูเลยทีเดียว พวกเพื่อนผู้ชายก็ชื่นชมในความกล้าหาญและเสียสละของเขา
รุ่นพี่คุมฐานเดินเข้ามาตบไหล่เมฆเบาๆ หากไม่ได้พูดอะไร แต่การกระทำแบบนั้นก็ส่งผลให้หัวใจพองโต ลืมความโกรธเคืองในตอนแรกไปทั้งหมดเลยทีเดียว เขายกมือขึ้นไหว้รุ่นพี่อย่างนอบน้อม “ขอบคุณครับ”
...แต่ถึงยังไง เขาก็ไม่ยกโทษให้ไอ้รุ่นพี่ต่างคณะคนนั้นหรอกนะ ไอ้รุ่นพี่สองบุคลิคนั่น!
TBC~*เขาว่ายิ่งกัดกัน จะยิ่งทำให้รักกันม้ากมาก จริงมั้ยหนอ
งานนี้ก็ได้แต่หวังว่า ไข่น้องเมฆจะปลอดภัย 5555555 ไม่เค็มเกลือขึ้นไปซะก่อน
ตอนนี้สั้นเนอะ เค้ารู้ตัว /ล้มตัวลงนอนให้ทุกคนฟาดแส้ อร๊างงง~
ขอบคุณทุกคนที่แวะมาอ่านนะคะ
ปล. ขอบคุณคุณ rayaiji ที่ทักค่ะ โอโต้ซังที่กล่าวถึงในบทที่แล้ว หมายถึงคุณพ่อค่ะ หลานๆ ของน้ำเรียกน้ำว่าคุณพ่อเพื่อกันสาวๆ ค่ะ