ตอนที่ 5 ครึ่งหลัง (สั้นๆ)
“มีเรียนอีกทีตอนบ่ายสามถึงหกโมง ...เราไปกินข้าวข้างนอกกันเถอะ” เสียงของขิมเอ่ยขึ้นเมื่อเวลาเรียนของวิชาที่เราเรียนมาตั้งแต่เช้าหมดลง ตอนนี้มันพึ่งจะ 11 โมง และเรามีเรียนกันอีกตอนบ่าย 3 โมง
“ก็ดีเหมือนกัน พวกมึงว่าไง” กริมพยักหน้าอย่างเห็นตัว ก่อนจะหันมาถามพวกผม
“เออ เอางั้นก็ดี” อลันพยักหน้าอย่างเห็นด้วย ส่วนผมยังไงก็ได้
“ไปกินร้านคาเฟ่แมวเหมียวป่ะ มีข้าวด้วยนะมึง กูจะไปนั่งเล่นกับแมว” เบสว่าพลางทำหน้าราวกลับเคลิ้มๆเมื่อพูดถึงแมว ดูท่าว่าเขาคงจะชอบแมวมากๆ
“มีแอร์ไหม อยากนั่งที่เย็นๆ” ขิมถาม
“มีดิวะ”
“งั้นตามนี้ โอเค??” กริมว่าอย่างสรุป
“ก็ตามนั้นแหละ เอารถมึงไปนะ” อลันหันไปบอกกริม
“เออ งั้นไปกัน” สรุปข้าวเที่ยงของวันนี้ พวกเราไปคาเฟ่แมวที่อยู่ไม่ไกลจากที่นี่มากนัก ตอนแรกที่คิดผมก็นึกว่าจะเป็นร้านเล็กๆ แต่พอเข้ามาก็พบว่าใหญ่เหมือนกัน และมันก็ไม่ได้มีแมวเดินไปเดินมาอย่างที่คิด แต่มันก็อยู่ในมุมของมัน นอนเฉยๆ สามารถให้คนเข้าไปถ่ายรูปได้ แถมร้านนี้เขายังเป็นธุรกิจขายลูกแมวด้วย มีอยู่ 2-3 สายพันธุ์ แต่ราคานี้สามารถออกรถมอเตอร์ไซด์ได้คันนึงหรืออาจจะมากกว่านั้นได้เลยล่ะ มันเหมือนเป็นร้านอาหารที่เอาแมวมาดึงดูดลูกค้าประมาณนั้น แถมร้านก็ไม่ได้เหม็นอะไร แอร์ก็เย็นดี
“ดอมกินอะไร” อลันถาม แต่ตาเขายังคงจ้องไปที่เมนู
“ดูก่อน..” ผมว่าพลางอ่านเมนูไปเรื่อยๆ
“ผมเอาสปาเก็ตตี้ซอสเห็ด กุ้งชุบแป้งทอด แล้วก็บีลักกี้พันเบค่อน” ขิมเอ่ยบอกกับพนักงานเป็นคนแรก ดูท่าทางจะหิวมาก
“ผมเอาต้มยำกุ้งกับข้าวเปล่าจานนึง” เบสสั่งอาหารเป็นคนถัดมา
“ผมเอาสเต็กหมู กับสลัดไก่ทอด” อลันว่าก่อนจะหันไปคุยกับขิม
“ผมเอา...เอาอะไรดีวะ” กริมว่าพลางทำหน้ายุ่ง เหมือนยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะกินอะไรดี
“อย่าชักช้า พี่เขารออยู่” ขิมว่า
“งั้น...ผมเอามักกะโรนีกุ้งกับสลัดกุ้งทอด”
“มักกะโรนีหมูครับ” ปิดท้ายด้วยผม
“ค่ะ รับเครื่องดื่มเป็นอะไรดีคะ?”
“น้ำเปล่าครับ!” ทุกคนยกเว้นผมตอบอย่างพร้อมเพรียง
“ค่ะ” แล้วพนักงานก็เดินจากไป สี่คนนั่นหันไปคุยกันเสียงดัง ส่วนผมก็...เล่นโทรศัพท์เหมือนเดิม
ตัวผมเองก็ไม่รู้หรอกนะว่าคิดอะไรอยู่ แต่มือกลับกดไปที่แอปพริเคชั่นเฟสบุ๊คก่อนที่จะเช็คอินที่ร้านนี้ ทั้งที่ผมไม่เคยทำมาก่อน
แค่คิดว่า...ลองเช็คอิน ลองบอกที่อยู่ของตัวเองตอนนี้ แล้วดูสิว่า...จะมีใครตามมาหรือเปล่า
“ไม่คุยกับไอ้จินมันหรือไง” เสียงไอ้คนที่หน้าตาเหมือนผมเอ่ยถามขึ้นครับ
“อยากให้คุยเหรอ” ผมถามกลับอย่างกวนๆหน่อยๆ
“ก็ไม่ได้อยาก แต่เห็นปกติคุยกันตลอดหนิ หรือว่ามันไปกิ๊กกับคนอื่นแล้ว” อลันว่าพลางจิกจินเล็กน้อย
“จะไปรู้ไหม” ผมตอบไป แต่ในใจก็ไม่ได้กังวลไปตามคำพูดของอลันหรอก ไม่ใช่ว่าผมมั่นใจว่าจินจะชอบผม จีบผมแค่คนเดียวหรอก แต่เรื่องแบบนี้ คิดเองเออเองมากไปก็ทำให้เครียดไปซะเปล่าๆ ไว้ให้เห็นกับตาหรือได้ยินจากปากของจินเองดีกว่า
“ก็ไม่ได้อยากจะพูดให้เครียดหรอกนะ แต่เผื่อใจไว้บ้างก็ดี ดอมยังไม่รู้จักไอ้จินดีเลย” อลันพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง และแสดงความเป็นห่วงผ่านสีหน้าอย่างชัดเจน
“รู้แล้ว” ผมตอบกลับไป เผื่ออลันจะคลายกังวลบ้าง ไอ้โรคหวงน้องนี่เมื่อไหร่จะหายสักทีนะ
“รู้แล้วก็ดี” อลันว่าอย่างยิ้มๆ ก่อนจะยกมือขึ้นว่าโยกหัวผมเบาๆ แล้วหันไปคุยกับขิม
ส่วนผมก็หันกลับมานั่งเล่นโทรศัพท์เหมือนเดิม
Jirawat Thanasub และคนอื่นๆอีก 378 คน กดถูกใจโพสต์ของคุณ
กดถูกใจ แต่ไม่มีข้อความหรือคอมเม้นต์อะไร บางทีจินอาจจะเรียนอยู่มั้ง
********************************************************************************
มาแบบโคตรสั้น แต่แบบ...กลัวทุกคนจะลืมผมไปเสียไง ต้องรีบมา
ช่วงนี้เรียนหลังครับ งานเยอะ นอนตีสามตีสี่ทุก แล้วต้องตื่นไปเรียนแต่เช้าไง พึ่งรู้ว่าชีวิตมหาลัยมันเหนื่อยขนาดนี้
มาช้า แต่ดีกว่าไม่มาเนาะ อีกเดี๋ยวต้องเตรียมงานกระทงแล้ว อาจจะไม่ว่างจนถึงสิ้นเดือนเลย
แงงงงงง คิดถึงทุกคนจัง
FANPAGE
นี่แหละที่เขาเรียกว่า 'ความรัก'
เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว จบแล้ว
ซีรี่ย์ เผลอใจ ‘รัก’ หมดใจ